~ มิว ~
มันออกไปได้สักพัก แต่คำถามของพวกขี้เสือกที่โถมเข้ามายังไม่มีทีท่าจะซาลง และดูเหมือนว่าเขากำลังกลายเป็นระเบิดเวลาที่ใกล้หมดความอดทนแล้ว จะให้กูเล่าที่มาที่ไปให้หมดเปลือกเลยเอาไหม แต่กูบอกไม่ได้ไง ขืนพูดไปมีหวังความนิยมในฐานะหนุ่มหน้าหวานที่ฮอตที่สุดในมอก็มลายหายไปกับลมปากที่เขาเล่าแน่
“หยุด เงียบเลย กูจะทำงาน” เขาปรามพวกมันด้วยเสียงแข็งกร้าว ดัดมันให้น่ากลัวที่สุด ทว่าเขาดันดูถูกต่อมเสือกของคณะตัวเองไปเสียได้
“มึงไม่ได้ทำงานแน่ถ้าไม่เคลียร์กับกู รู้ไหมลูกเพจเขารอฟังคำตอบ อีกอย่างถ้ามึงไม่พูดมา กูจะลดปริมาณการลงรูปมึงเท่าตัวหนึ่ง” แอดมินเพจคิ้มบอยตั้งกล้องเตรียมอัดคลิปคำตอบของเขา พร้อมคำขู่ที่เหมือนจะปิดเส้นทางการเป็นหนุ่มหน้าหวานยอดนิยมในอนาคต
“กูไปซบอีกเพจก็ได้” ใช่จะกลัว ในมอมีเพจเป็นสิบ และเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่เรียกยอดไลก์ให้เพจมัน
“อีสัด อีคนเนรคุณ มึงไม่สำนึกเลยหรือไงว่าที่มีกินมีใช้ทุกวันนี้เพราะใคร” มึงใช่พ่อแม่กูไหม เพจมึงไม่ได้ทำเงินให้กูเลย เพราะกูเป็นคนดังที่ไม่รับงานฮาฮาฮา เพราะเสียเวลาอ่านนิยาย แค่เศษเงินไม่กี่บาทกับความเหนื่อยที่ต้องแลก สู้เอาเวลาไปดูหุ้นในตลาดสบายกว่าอีก
“ตอบมา” ยังไม่ยอมแพ้ กลายเป็นกูที่อยากยอมแพ้มึงแทนแล้วเนี่ย
“ไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่เจอกันโดยบังเอิญเข้าใจไหม” ตอบส่งๆ ไปก่อน รำคาญเสียงนกเสียงกาและหูตาที่สอดส่องมาโดยให้อีป้าแนนแอดมินเพจดังเป็นหน่วยกล้าตายมาหาข้อมูลลับ
“อะไรอีนี่ แบบนั้นมันจะสนุกได้ยังไง มึงต้องตอบว่า ‘สถานะตอนนี้ยังไม่ชัดเจน’หรือไม่ก็ ‘น้องเขายังไม่อยากบอก’แบบนี้สิยะมันถึงจะปัง” อะไรมันยัดอยู่ในหัวมึง สมองน่ะมีไหม
“กูจะทำงาน รอมันกลับมามึงก็ไปถามเองแล้วกัน” โยนขี้ไปให้เลยแล้วกัน
“ได้ กูจะง้างปากน้องกาลด้วยปากกูเอง” ทุเรศ เคยมีบ้างไหมคำว่าศีลธรรมในใจมึง เออจะว่าไปกูก็ไม่มีเหมือนกัน ช่างแม่ง
“นั่นไงมาแล้ว” เขาหันไปตามเสียงของอีป้า มันเดินเข้ามาพร้อมของในมือที่ยิ่งกว่านิยามของคำว่าเยอะ โคตรเยอะเลย ซื้อหรือไปเหมาเซเว่นมากันว่ะ
“เห็นพี่ๆ ทำงานเหนื่อยก็เลยเอามาฝากครับ” มันวางของไว้บนเก้าอี้ตัวยาวที่เชื่อมติดกับโต๊ะ พร้อมโปรยยิ้มแจกความสดใสให้พวกนิเทศได้หลงความป๋า แหมมมมมมมซื้อพื้นที่โฆษณาเต็มคณะกูเลยนะ กลัวขายไม่ออกหรือไง
“น้องกาลใจดีจังเลย ใจดีแบบนี้คงไม่ใจร้ายหรอกนะถ้าพี่บอกว่ารัก” มันยิ้มหน้าเจื่อนให้กับฝูงแร้งที่บินโฉบเข้ามารุมถุงขนมตรงหน้า
“แต่พี่มีคำถามหนึ่งอยากถามน้องกาลมากๆ เลย พอดีว่าคนแถวนี้มันไม่ยอมตอบ” กูตอบไปแล้ว มึงไม่ให้น้ำหนักกับคำตอบกูต่างหาก
“อะไรเหรอครับ” จะเหล่มาทางกูทำไมไอ้เด็กนี่ กูไม่ใช่ต้นเรื่อง
“น้องกาลเป็นอะไรกับอีมิว” มันเกียรติกูหน่อยป้า กูคณะเดียวกันกับมึงนะ
“ไม่ได้เป็นอะไรกันครับ” ตรง ชัด แล้วจบไหมมึง กูก็บอกไปแล้ว
“สักนิดก็ไม่มีเหรอคะ” ยังไม่หยุดและไม่คิดจะยอมแพ้ กูละยอมใจ
“ไม่ครับ” มันก็ตอบไปตามจริง
“แล้วทำไมต้องซื้อของมาเยอะแยะ มาเฝ้ามาคอยกันแบบนี้ด้วย” เพราะกูทำแสบไว้เยอะไง มันต้องมาคุมความประพฤติ
“นิดหน่อยครับ” เออนิดหน่อยเอง ไม่ได้มีอะไรกันลึกซึ้งขนาดนั้น
“ยังไม่เคลียร์ค่ะ นิดหน่อยนี่ขนาดไหน” ใหญ่พอดูก็คับปากกูเลย ล้อเล่น
ส่วนอีแอดมินเพจมึงหัดมีความเกรงใจกันบ้าง นั่นเด็กปีหนึ่งเองนะ มึงจะมาสอบปากคำเขาเหมือนผู้ต้องหาไม่ได้
“ไว้มันชัดเจนกว่านี้ผมจะมาบอกนะครับ” ฉลาดตอบ ให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับคนแก่ไปแบบนั้นแหละดีแล้ว อยู่เป็น อยู่เป็น เพราะไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้อยู่ดี พวกสายมโนต้องมีลุ้นละว่ะ โดยเฉพาะอีป้าซึ่งต้องยอมตกลงกับการรอคอยนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
“พี่จะรอนะ”นั่นไง
“ครับ”มาเหนือว่ะ
.
.
.
Cute BOYYY : //แนบรูป // มันมีกลิ่นค่ะท่านผู้ชม
แถมฝ่ายวิศวะตอบกับแอดว่าอะไรมันยังไม่ชัดเจน ขอเวลาหน่อย
ก็ให้เวลาเขากันหน่อยนะคะดอกสีทองไม่เหลืองแล้ว : นั่นไง #กาลมิว #ทีมกาล #ทีมมิว
เด็กหญิงม้าลายกับแมวของเธอ : เปิดตัวก่อนประกวดเดือนจะกระทบไหมนะ
นางงามมาเอง : ตอบข้างบน ส่วนตัวพี่ว่าไม่มีผลค่ะ เพราะนี่มันไทยแลนด์ 4.0 ถึงยังไม่มีเลือกตั้งก็ตาม
ประชาธิปไตยเท่านั้น : เมื่อไหร่จะได้เลือกตั้ง ใครให้สัญญาไว้ว่ะ
Cute BOYYY : แอดว่ากลับเข้าประเด็นดีกว่า ยังไม่อยากปิดเพจ
น้องแนน อยากให้ผู้ชายรักกัน : แบบนี้มันเหมือนการเปิดตัวหรือเปล่าคะ #กาลมิว#ได้กัน
ภรรยาของสามีทุกคน : ในที่สุดน้องมิวก็เป็นฝั่งเป็นฝา#ทีมมิว
แรดมาก็สวยกลับ : อีมิวมีผัวแล้วหรอ แห้งมาตั้งนาน ที่แท้ก็เลือกผู้นี่เอง#มิวแรด
สวยสวยสวย : อาจแค่สร้างกระแสก็ได้ อีกไม่กี่เดือนนิเทศจะมีงานใหญ่นี่ #มิวแรด
รวยรวยรวย : น้องกาลไม่น่าใฝ่ต่ำเลย เสียดายของ #มิวแรด
เด็กนิเทศสายหวาน : เห็นน้องกาลซื้อขนมมาให้พี่มิวเยอะเลย
น้องแก้ว สายซับ : เสียดายทั้งคู่เลย ตามพี่มิวมาตั้งสามปีเป็นเกย์เหรอเนี่ย #ทีมกาล อย่าได้กันเลย
ชาววิศวะรวมใจ : ใครจะได้กันก็เรื่องของเขาสิ มาเสือกกันทำไม
หัวหน้าสมาคมสาวโสด : น้องกาลของพี่
ดอกสีทองไม่เหลืองแล้ว : ไม่ชอบก็ส่วนไม่ชอบสิคะ มาว่าเขาเสียๆ หายๆ ที่บ้านสอนมายังไง
รวยรวยรวย : พื้นที่ส่วนตัว
ดอกสีทองไม่เหลืองแล้ว : เปิดพจนานุกรมเป็นไหมค่ะ เฟซบุ๊กนะไม่ใช่ห้องนอน จะส่วนตัวได้ไง
รวยรวยรวย : ฉันรวย
ดอกสีทองไม่เหลืองแล้ว : เออ กูก็รวยเหมือนกัน แน่จริงบินไปขี้ที่ปารีสกับกูไหม
Cute BOYYY : เอิ่ม... ใจเย็นๆ ทุกคน แอดว่าอย่าพึ่งไปขี้ไกลถึงปารีสเลย
.
.
.
มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ไม่ใช่สัจธรรม แต่มันเป็นธรรมดาของโลกนี้ไปแล้ว แค่นี้ไม่ทำให้เขาเป็นโรคซึมเศร้าหรอก ตั้งแต่จำความได้และรู้ตัวว่าชอบผู้ชาย ก็ทำใจมาระดับหนึ่งแล้วว่าต้องมีคนไม่เห็นด้วย นับตั้งแต่ที่บ้านไปจนถึงสังคมข้างนอก แต่จะให้เขามาปิดตัวเองแล้วปรับให้ไปชอบผู้หญิงตามความคาดหวังของสังคมก็ใช่เรื่อง ไม่ยอมรับก็ช่างสิ ไม่ได้ง้อใครอยู่แล้ว
“ช่างแม่ง” เขาส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่าน กลับมาสนใจงานตรงหน้าก่อน นี่ก็ดึกมากละยังไม่คืบเลย ส่วนไอ้เด็กที่มาตามเฝ้าก็นั่งสัปหงกไม่ห่วงภาพลักษณ์เลย แต่มันหล่อไง ขนาดหลับยังมีคนกรีด แถมชมว่าน่ารักอีก
“กูส่งส่วนของกูไปให้แล้วนะ” ไอ้นัทเงยหน้าจากหน้าจอตัวเองเพื่อบอกกับเขาที่พยักหน้ารับคำ ทันทีหลังเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นยืนยันว่างานของมันส่งมาถึงแล้ว
ไอ้ตัวสูงลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วก้มมองเด็กปีหนึ่งที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ข้างเขาไม่วางตา มันคงจำได้เพราะว่าวันนั้นเขาขอให้มันไปส่งที่คณะวิศวะเพื่อคืนของให้ไอ้เด็กนั่น
“มีอะไรเหรอ” ผมถามมันไป เพราะไอ้นัทยังจ้องคนที่ไม่สนโลกอยู่อย่างนั้น หรือแอบไปมีเรื่องกันลับหลัง ปกติเพื่อนคนนี้ต้องไม่สนใจใครอยู่แล้วนอกจากนอนกับหนังสือปรัชญาที่มันอ่าน
“เปล่า” มันปฏิเสธพร้อมเบือนหน้าไปอีกทาง เอากับมันสิ
“แล้วไปจ้องมันทำไม” ไม่ได้คิดจะปกป้องคนที่หลับอยู่หรืออะไรเทือกนั้น แค่สงสัย
“เปล่า” เปล่าอีกละ แต่กูเห็นมึงจ้องมันตาแทบถลน
“แค่สงสัยว่ามันเล่นเกมหรือเปล่า กูเจอเด็กวิศวะในเกม พอดีมีเรื่องกันนิดหน่อย” มันว่า
“มึงเล่นเกมด้วยเหรอ แต่มีเรื่องอะไรถึงขั้นจ้องเขม็งขนาดนั้น” ว่าไอ้ตัวสูงสองคนจะไม่มีซัมติงกันหรอกนะ เอะ หรือว่ามันแอบกิ๊กกัน
“ไม่ไม่ไม่” เขาพูดกับตัวเอง ไอ้เด็กนี่เกลียดเกย์จะตาย
“เป็นอะไร” กลายเป็นเขาที่ถูกถามแทน
“คงไม่ใช่มันหรอก” มันว่าต่อ ก่อนปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้เขางุนงงอยู่คนเดียว
ใกล้เที่ยงคืนแล้วควรปลุกมันกลับหอไปพักผ่อนดีไหมว่ะ หรือปล่อยให้นอนแบบนั้นต่อไป แต่ไม่ใช่ความผิดเขานี่ มันเลือกจะมาเอง
“มึงเอาอะไรไปตกมันมาว่ะ” อีจอยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเปิดประเด็นเป็นครั้งแรก เห็นนั่งเงียบที่แท้ก็เก็บข้อมูลอยู่ กูมองพวกมึงในแง่ดีไม่ได้เลยจริงๆ
“ซื้อมา” พูดทีเล่นทีจริงไป ทว่าในนั้นก็แอบมีความจริงอยู่ เพราะน้ำแรกของเขากับมันก็เสียไปเกือบหมื่น ถือว่าเป็นค่าทำขวัญเด็กน้อยละกัน
“ถ้ามึงซื้อจริงกูว่างานนี้คุ้ม” กูก็คิดแบบมึงเลยทุ่มไม่อั้นไปตั้งแต่ต้น
“ฮาฮาฮา ระดับกูไม่เอาหรอกพวกเกรดต่ำ”
“กระแสมาแรงมาก มึงก็เห็นแล้วใช่ไหมพวกแอนตี้มึงหลังมีข่าวกับน้องมัน” เห็นชัดเต็มสองตาเลย เหลือแค่หูที่ยังไม่ได้ยินใครนินทาให้ฟัง
“อืม”
“ตัวเต็งเดือนมหา’ลัยเลยล่ะ เท่าที่กูไปเซอร์เวย์มา มันทั้งหล่อและเพียบพร้อมกับตำแหน่งที่สุดแล้ว ไม่มีใครเทียบได้นาทีนี้” นางยังร่ายยาวต่อ ได้ข่าวว่ากูกับมึงยังทำงานไม่เสร็จ
“อืม”
“แต่ไม่รู้ว่ากระแสนี้จะโดนเอาไปต่อยอดบนเวทีไหม กลัวน้องมันโดนกดคะแนนเพราะพวกแอนตี้น่ะสิ”
“อืม”
.
.
.
แยกย้ายจากพวกที่คณะเมื่อย่างเข้าวันใหม่ เขาปลุกมันกลับเพราะเห็นว่าพรุ่งนี้มันมีเรียนเช้า ไม่ได้เสือกหรอก แค่ถามตอนมันตื่น ถ้าไม่มีเรียนก็อาจขออยู่ต่อให้งานเสร็จ แต่พอรู้แบบนั้นเลยพามันเดินมาที่ลานจอดรถแบบนี้
“พรุ่งนี้กูก็ใช้โน๊ตบุ๊กนะ แต่มึงไม่ต้องมาเฝ้าก็ได้ หลังเลิกเรียนเดี๋ยวกูไปเอาที่มึงเอง” เขายื่นโน๊ตบุ๊กของตัวเองให้มัน
“เอาไว้ที่มึงนั่นแหละ แล้วก็นี่” มันเปิดประตูรถตัวเอง หยิบไอโฟนและไอแพดของเขาคืน
“งั้นเหรอ” แสดงว่ามันเลิกสงสัยในตัวเขาแล้วสินะ ก็เห็นกันอยู่ว่าเขาดีเลิศขนาดไหน เด็กนั่นต้องรับรู้สิ ความดีงามที่แผ่ซ่านขนาดนี้
“หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว” มันว่า
“อืม ขอโทษละกันที่เล่นแรงไปหน่อย” เขาพูดจากใจ เพราะมาคิดดูแล้วก็จริงตามที่ว่ามา เขาคงเล่นแรงเกินไป สมควรแล้วที่มันจะตัดพี่ตัดน้องแล้วขึ้นกูมึงอย่างนี้
“ช่างเถอะ ไปละ” มันขึ้นรถแล้วออกตัวไป ทิ้งเขาไว้ลำพังที่ลานจอดรถ
“ก็นะ ในนิยายเขาไม่ได้บอกว่าให้เริ่มแบบนี้นี่ ดันเดินผิดตั้งแต่ต้นก็สมควรแล้วล่ะ” สำหรับเขามันสมควรได้รับสายตาเย็นชาแบบนั้น
มันไม่ใช่พระเอกและเขาก็คงไม่ใช่นายเอก มันไม่ชอบเกย์ส่วนเขาเป็นเกย์ มันคงเกลียดเขาและแน่นอน เขาไม่ได้เกลียดมันขนาดนั้น ก็เป็นคนที่ซื่อตรงต่อตัวเอง หน้าตาดี มีฐานะ เรียนวิศวะ แม้สเปคจะตรงตามพล็อตเรื่อง แต่มันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว เขาทำให้มันเป็นแบบนี้ด้วยตัวเอง โทษมันก็ไม่ได้ที่เกลียดเกย์ พื้นฐานของสังคมเกินครึ่งก็ต้องคิดแบบนั้น ชายหญิงเกิดมาควรเป็นตัวผู้และตัวเมียตามปกติของธรรมชาติ เขาแค่ปลีกตัวออกมาจากกฎเกณฑ์การเลือกสรรของธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่กำหนดขึ้นก็เท่านั้น
โสดมาทั้งชีวิตกับแค่เด็กคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาไม่กี่อาทิตย์มันจะไปยากอะไร เดี๋ยวก็คงลืม ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้น พรุ่งนี้ก็ลืมละ แค่คนๆ หนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตพอให้เป็นสีสัน ใช่ ต้องใช่สิ
“เอาล่ะ เริ่มต้นใหม่พรุ่งนี้”ใ นฐานะหนุ่มหน้าใสแห่งมหาวิทยาลัยจุดจุดจุด ต้องรีบกลับไปนอนเพื่อความอ่อนเยาว์ของผิวหน้า
.
.
.
ลาก่อนมึง