เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]  (อ่าน 306491 ครั้ง)

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
สองสาวนี่ ก็เล่นใหญ่ไฟกระพริบจริงๆ เลย
คีรีดีใจมากละสิที่รู้ว่าหมอเต้หึง
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
เอ็นดุ หมอเต้งอแง  :hao7:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เคลียร์ไปหนึ่งแต่เหลืออีกเยอะอดทนเอานะคีรี หมอเต้น่าแกล้งดีจริงๆ :laugh:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
วุ่นวายดีแท้  แต่ก็ดีนะ  :mew1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ป๊าดดดดดดด เห็นแว่วว่าเลยว่าหมอเต้จะเป็นรับก็ตอนนี้นั่นแหล่ะ คีรีอุ้มแบกได้แบบนี้คงเป็นอื่นไม่ได้แล้วล่ะพี่หมอเต้ อุตส่าห์หวังว่าคีรีอาจจะเป็นรับให้หมอเต้ซะหน่อย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โถ่ คุณหมออออ ไม่น้อยใจคีรีน้าาาาาาา

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
สองสาวเล่นใหญ่ไฟกระพริบเลย 5555

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ตลก 2 สาวมากค่ะ
ในที่สุดก็เคลียร์กันสักที :mew1:

ออฟไลน์ toomild

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ตลกแก๊งค์เด็กดอย เล่นใหญ่มาก555555555555 แต่สุดท้ายก็ผิดใจกันเล็กๆอีก ท้อค่ะ :z3:

ออฟไลน์ Kiseri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หมอเต้คนซึนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
นี่ซึนไปน้อยไปก็ได้เหรอพี่หมอเต้!

ขำทีมเพื่อนคีรี โดยเฉพาะสองสาวเล่นใหญ่ แท็กทีมกันรุมเหยื่อปากแข็ง555555

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องคีรีไม่ต้องไปง้อตาแก่เต้หรอกลู้กก ปล่อยให้เค้าทุรนทุราย ทนไม่ไหวเดี๋ยวก็มาให้เรากินถึงที่เอง คึคึ
ปล ชอบซีนเพื่อนคีรีแอบด่าหมอเต้เบาๆ กร๊ากกก ปากแข็งดีนัก โดนซะบ้าง ไรบ้าง~ ~   :laugh:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ขำความเล่นใหญ่ของเด็กแก้งนี้มาก 5555

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
หมอเต้เริ่มใจอ่อนแล้วนะคีรี

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่หมอเต้คนซึน

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ปล่อยให้เด็กมันอุ้มได้ขนาดนี้ อีพี่อย่าหวังว่าจะพลิกโพกลับมาเป็นรุกได้อีกเลย  :laugh:

ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่เต้ใจอ่อนให้น้องเร็วๆนะ สงสารน้องงง

ทีมเต้คิรี 55555555555

ออฟไลน์ SunnyB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนนี้ชอบเจนี่กับยุ้ยจัง นึกอะไรไม่ออกกอดไว้แล้วส่งเสียงก่อนเลย
หมอเต้คงตกใจน่าดู
แต่ถ้าไม่ทำขนาดนี้สงสัยหนีไปเข้าใจผิดคนเดียวอีก
ถ้าเรามีเพื่อนแบบแก๊งนี้รักตายเลย ทุ่มสุดตัวเพื่อเพื่อน

แต่หมอเต้คะ ถ้ายังทำซึนแบบนี้อีกหน่อย ระวังเด็กหนีนะคะ
แค่นี้ก็หงอยเป็นลูกหมากลัวเจ้าของเลย ไม่กล้าเข้าไปวอแวแล้วเห็นมั้ย :katai1:


ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยย บางทีก็เซ็งเต้ เคืองกันงอนกันไปมา

เต้ได้เจอวินจัดหนักแน่คราวนี้ ช้าดีนัก
แต่ก็เอ็นดูเต้นะ รักก็รักอยู่ แต่ก็กลัวมาก
เพราะเจ็บมาเยอะ แถมคีรีเข้าหาแบบหลอกๆ ด้วย

คีรีพยายามต่อไป กำลังหนุนเยอะมาก
ทำคนซึนหายซึนได้แน่นอน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
มารอค่ะๆๆๆๆๆ  :mew1:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 29 : งานไนต์ของวิศวะ




บ่ายวันเสาร์ หลังเสร็จจากคลินิก ทันตแพทย์หนุ่มทั้งสองก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นจึงไปรับแซนดี้ที่บ้านเช่า ไปกินมื้อเย็นรองท้องเล็กน้อย แล้วจึงเข้าไปที่คณะวิศวกรรมศาสตร์กัน


“กูไปหาพิงค์ก่อนนะ มึงก็ควงแซนดี้เดินเล่นรอเปิดงานไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยโทรหาขิงหรือดิวให้มาพาไปยืนตรงที่ของสตาฟฟ์ กูเป็นพิธีกรครึ่งแรก เล่นเกมตอนสามทุ่มนะ อย่าลืมที่สัญญาไว้ด้วย”


“โอเคๆ ครับ” เตชิตพยักหน้าหงึกๆ


แซนดี้สบตากับรวินท์แล้วยิ้มกว้าง จัดการควงแขนเตชิตไว้ทันที “ไปๆ พี่เต้ หาไรกินให้ท้องแตกไปเลย”



คีรีและเพื่อนอีกสี่ชีวิตนั่งรวมกันอยู่ที่ด้านหลังเวที เมื่อเด็กหนุ่มชะเง้อคอมองออกไปทางด้านนอกก็เห็นแค่เพื่อนในกลุ่มของภูพิงค์วิ่งไปวิ่งมา ดูท่าจะยุ่งกันมาก ส่วนพวกเขาก็แต่งตัวพร้อม แต่งหน้าเสร็จสรรพด้วยฝีมือพี่ช่างจากร้านสปอนเซอร์ ตอนนี้ก็ได้แต่รอเวลาขึ้นเวทีกัน


เด็กหนุ่มถือโพยเพลงที่จะร้องไว้ในมือเพื่อทบทวนเนื้อเพลง แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ทั้งตื่นเต้น ทั้งเป็นกังวลจนไม่ได้แม้แต่จะชำเลืองมองเนื้อเพลงเลย ได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆ ส่วนเพื่อนๆ ก็กำลังซักซ้อมท่าเต้นกัน เอาจริงเอาจังชนิดที่ว่าถ้าสโมฯ ของคณะพวกเขามาเห็นต้องเคืองอย่างแรง


เสียงด้านหลังเวทีดังอื้ออึงอยู่ตลอดเวลา แต่สักพักก็มีเสียงโวยวายปนผิวปากวี้ดวิ้วดังขึ้นกลบทุกเสียงในตอนแรก คีรีจึงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็สบตาชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทสีขาวเข้าพอดี เขาอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง “หมอวิน โอ้โห!”


เพื่อนๆ ของคีรีหยุดชะงัก หันไปมองทันตแพทย์หนุ่มกันเป็นตาเดียว


“ไง นั่งหน้าเครียดเชียว” รวินท์ก้มลงไปหาคนที่นั่งอยู่ ทว่าเด็กหนุ่มเอาแต่จ้องเขา อ้าปากหวอ ไม่ยอมพูดยอมจา เขาจึงโบกมือไปมารัวๆ ข้างหน้าอีกฝ่าย “เฮ้ยๆ เป็นอะไรวะ”


คีรีกะพริบตาปริบๆ “ตะลึงครับ หมอวินเหมือนไม่ใช่คนเลย”


“เดี๋ยวๆ ไม่ใช่คนแล้วตัวอะไรวะ”


“เทวดา... ตอนตกลงมาจากบนฟ้าเจ็บมั้ยอะครับ”


“น้อยๆ หน่อยเว้ย นี่แฟนผม” คนพูดเอามือกันทันตแพทย์หนุ่มออก แล้วก้าวเข้าไปยืนขวาง


“พี่พิงค์ โห พี่พิงค์ก็โคตรหล่อเลยครับ”


ภูพิงค์อยู่ในชุดสูทสีดำทั้งตัว ส่วนรวินท์อยู่ในสูทชุดขาว ดูแล้วอย่างกับคู่บ่าวสาวอย่างไรอย่างนั้น


“ไม่ต้องมาชมเว้ย ผมรู้ตัวอยู่แล้ว”


รวินท์ยื่นหน้าออกมาจากทางด้านหลังภูพิงค์ “เต้อยู่ข้างนอกนะ เต็มที่ไปเลยนะคุณน่ะ”


คนอ่อนวัยกว่ายิ้มออกมาได้เล็กน้อย “ครับ”


“เดี๋ยวตอนเล่นเกมก็จะมีการประมูล คนชนะประมูลจะมีสิทธิจับฉลาก เลือกคนบนเวทีมาทำตามในฉลาก ซึ่งผมก็คิดว่า แขกรับเชิญน่าจะมีสิทธิโดนเหมือนกัน เพราะงั้นคุณเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้พร้อมนะ” ทันตแพทย์หนุ่มอธิบาย


“ครับ พี่ซันก็บอกไว้คร่าวๆ แล้ว”


“อย่าลืมเซอร์วิสสาวๆ เพื่อเร่งไฟให้การประมูลตามที่เตี๊ยมกันไว้ด้วย”


“ครับ ไม่ลืมแน่นอน”


“โอเค แล้วคุณมีคำถามอะไรจะถามผมมั้ย”


“คุณเตชิตจะเห็นผมร้องเพลงมั้ยครับ”


“ผมให้ถามเรื่องเกมโว้ย”


“เรื่องเกมผมไม่มีปัญหา ทำอะไรก็ได้ครับ ผมขอแค่ให้คุณเตชิตได้เห็นผมร้องเพลงก็พอ”


“เออๆ งั้นก็ดี ไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้เต้ได้เห็นคุณแน่” รวินท์เบ้ปาก บางทีก็สงสัยเหมือนกันว่าไอ้เด็กนี่ต้องหน้ามืดตาบอดขนาดไหน ถึงได้รักได้หลงเพื่อนเขาขนาดนี้


ปิ๊กกับฟลุคทำหน้าระรื่น ยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาเอาหน้ากับรุ่นพี่ต่างคณะบ้าง “นี่พวกผมขนพรรคพวกมาจากคณะด้วยนะครับพี่พิงค์”


“กลัวไม่มีคนกรี๊ดรึไง”


“โธ่ ระดับพวกผมนี่ยังต้องกลัวอะไร ตั้งใจจะมาร่วมทำบุญกับพี่ๆ ต่างหากคร้าบ”


ภูพิงค์หัวเราะพลางตบไหล่รุ่นน้องเบาๆ “เออๆ ขอบใจทุกคนมากนะ”


“พี่พิงค์ หมอวินคะ ถ่ายรูปกับพวกเราหน่อยสิคะ” ยุ้ยกับเจนี่ถือโทรศัพท์มือถือมารอแล้ว แววตาของพวกเธอเป็นประกาย


“เอาสิ มาๆ”


แล้วทั้งเจ็ดคนก็ยืนขึ้นถ่ายรูปด้วยกัน สลับที่กันไปมา มีรูปคู่แต่ละคน รูปคู่ของรุ่นพี่ และที่แน่ๆ ก็มีรูปของคีรี รวินท์และภูพิงค์ด้วย


“เสียดาย ถ้ามีหมอเต้อีกคนก็คงดี จะได้ครบคู่” เจนี่เปรย


รวินท์ขยิบตาให้ “เดี๋ยวก็มีโอกาส ไม่ต้องห่วง” จากนั้นก็โบกมือลาพวกรุ่นน้อง “เดี๋ยวผมกับพิงค์จะขึ้นเวทีละ ขอไปเตรียมตัวก่อน แล้วเจอกันนะ”



ภายในงานคึกคัก ซุ้มร้านค้าและอาหารเปิดขายกันแล้ว มีคนมาร่วมในงานมากมายทั้งที่ยังไม่เปิดงานอย่างเป็นทางการเลย เสียงเพลงจากลำโพงดังลั่นไปทั่วบริเวณ


เตชิตและแซนดี้เดินดูทีละซุ้ม ซื้อนู่นซื้อนี่ชิมกันไปตลอดทาง


“นั่นตึ๋งนี่พี่เต้ โบกไม้โบกมือซะแรง ขนจั๊กแร้ปลิวลงอาหารแล้วมั้งนั่น” แซนดี้ชี้บอก


“โห บรรยายให้อยากกินหรืออยากหนีกันวะ” เตชิตพึมพำ ก่อนพวกเขาทั้งสองจะเดินเข้าไปหา


“พี่แซนดี้พี่เต้ มาๆ ผมเลี้ยงหม่าล่าคนละไม้ครับ ย่างเองกับมือเลยน้า” เด็กหนุ่มจัดแจงส่งอาหารให้พี่ๆ ทั้งสอง “พี่ๆ เพิ่งมางานไนต์วิดวะครั้งแรกใช่มะ เป็นไงบ้างครับ”


“งานยังไม่เริ่มเลย ผมจะรู้ได้ไงวะ เอาไว้ถามอีกทีตอนจบงานนะ” ทันตแพทย์หนุ่มหัวเราะ พอตึ๋งหันไปคุยกับแซนดี้ เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู


บนหน้าจอว่างเปล่าเหมือนเคย ไม่มีข้อความแจ้งเตือนใดๆ จากคนที่เขารอคอย เงียบสนิทเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อวันสุดท้ายที่เจอกัน


คีรีบอกว่าความรู้สึกที่มีต่อเขายังคงเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง อย่างน้อยก็น่าจะส่งข้อความมาหาเขาสักหน่อยไหมวะ ไม่ใช่กริบแบบนี้


เตชิตขมวดคิ้ว แล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ


“พี่เต้ ผมว่าเราเดินไปที่เวทีกันเหอะ ใกล้เวลาแล้ว ถ้าพี่วินขึ้นเวทีแล้วไม่เห็นพี่กับผม โดนด่าหูชาแน่”


ทันตแพทย์หนุ่มพยักหน้า “เออๆ”



เสียงกรีดร้องต้อนรับพิธีกรคู่ขวัญในชุดสูทที่ก้าวขึ้นมาบนเวทีดังก้องจนพื้นดินสะเทือน วันนี้ทั้งสองหล่อเนี้ยบเป็นพิเศษ และต้องยืนโปรยยิ้มอยู่นานกว่าสาวๆ บริเวณด้านหน้าเวทีจะยอมสงบลง


“สวัสดีครับ ภูพิงค์ วิศวะปีสี่ครับ”


“ส่วนผมรวินท์ พิธีกรรับเชิญของคณะวิศวะ เราเคยพบกันเมื่อปีที่แล้ว จำได้ใช่มั้ยครับ”


“จำได้ค่า/คร้าบ” เสียงตอบรับดังก้องอย่างพร้อมเพรียง


หลังจากแนะนำตัวแล้ว ภูพิงค์กับรวินท์ก็กล่าวเชิญประธานขึ้นมาเปิดงาน เชิญประธานสโมฯ ขึ้นมาพูดจุดประสงค์ของงานอีกเล็กน้อย ตามด้วยแนะนำซุ้มร้านค้าและอาหารในงาน จากนั้นก็แนะนำวงของนักร้องรุ่นพี่ตามเสต็ปที่วางไว้


ส่วนเตชิตและแซนดี้ยืนอยู่ที่หน้ารั้วกั้นที่ด้านข้างเวที ซึ่งขิงเป็นคนมาพาไปที่ตรงนั้นให้ แล้วปล่อยให้ทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันท่ามกลางสตาฟฟ์ในงานอีกหลายคน


“ไม่น่าเชื่อว่าไอ้พิงค์จะเป็นงานขนาดนี้ แต่พี่วินนี่โคตรคล่องเนอะพี่เต้” แซนดี้เปรย


“งานถนัดมันแหละ มันเรียกแขกเก่งจนแบบ... ผมว่ามันฝังอยู่ในดีเอ็นเอแล้วว่ะ แต่ว่าทำไมต้องแต่งตัวเหมือนเป็นคู่บ่าวสาวด้วยวะ หล่อกันตายห่าล่ะ น่าหมั่นไส้โคตรๆ เว่อร์ฉิบหาย”


“พี่เต้ บ่นเบาๆ หน่อย พวกเราอยู่ในดงตีนวิดวะนะเว้ยพี่”


เตชิตถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง แล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกงไปด้วยสีหน้าเซ็งๆ


ทั้งสองยืนๆ นั่งๆ อยู่ที่ด้านข้างเวที เตชิตหันไปฟังเพลงบ้าง คุยกับขิงและดิวที่แวะเข้ามาหาเป็นพักๆ บ้าง ดูแซนดี้เต้นดึงดาวสลับต่อนยอนเอนเตอร์เทนคนแถวนั้นบ้าง ไม่นานวงดนตรีก็เงียบเสียงไป และพิธีกรคู่ขวัญก็ก้าวขึ้นมาบนเวทีให้เตชิตได้หมั่นไส้อีกครั้ง


เพียงแค่คู่จิ้นประจำคณะขึ้นมายืนยิ้มคุยเล่นกันก็ทำให้บรรยากาศในงานคึกคักมากขึ้นไปอีก ด้านหน้าเวทีมีคนมายืนออกันหนาตาขึ้นเรื่อยๆ


“ตามที่ได้แจ้งไว้แล้ว วันนี้ทางคณะเรามีเซอร์ไพรส์นะครับ เรามีแขกรับเชิญจากต่างคณะ คิดว่าหลายๆ คนก็น่าจะรู้จัก” ภูพิงค์พูดนำ แล้วหันไปทางคนที่ยืนอยู่ข้างกัน


“ผมก็รู้จักนะครับ น้องๆ เขาน่ารักมากเลย”


“พี่วินครับ อะแฮ่ม!” ภูพิงค์เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเข้ม พร้อมส่งสายตาดุๆ ใส่ เรียกเสียงกรี๊ดได้รอบเวทีเลยทีเดียว จากนั้นก็พูดต่อ “เชิญพบกับน้องเจนี่ น้องยุ้ย น้องปิ๊กและน้องฟลุค จากคณะบริหารปีสองครับ” พูดจบก็จูงรวินท์ถอยออกไปให้ทั้งสี่คนเข้ามาครอบครองพื้นที่บนเวทีกันได้อย่างเต็มที่


รุ่นน้องต่างคณะก้าวเข้ามาบนเวทีด้วยท่าทีเขินๆ ในคราวแรก แต่พอเสียงดนตรีดังกระหึ่มขึ้นก็ออกเสต็ปกันเหมือนจะไม่มีวันพรุ่งนี้ให้เต้นกันอีก ในขณะเดียวกันพรรคพวกหน้าม้าที่มาเชียร์ก็จัดการชูป้ายไฟส่งเสียงกรีดร้องกันดังสนั่น


เตชิตอ้าปากค้าง “เฮ้ย!”


“พี่เต้ เพื่อนๆ ของเด็กพี่นี่ แล้วเด็กพี่ไปไหนวะ ทำไมไม่มาแสดงด้วยกันอะ”


“ผมก็ไม่รู้ คีรีไม่ได้บอกอะไรเลย” ทันตแพทย์หนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่ก็ยังไม่มีข้อความใดๆ จากคีรีเหมือนเคย


อะไรกันวะเนี่ย แล้วคีรีไปไหน น่าจะอยู่ที่นี่เหมือนกันไม่ใช่หรือไง


คิดไปคิดมาก็ชักเป็นกังวล เขาจึงกดโทรศัพท์ออกไป


เสียงเรียกเข้าที่ปลายสายดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่มีคนรับสาย


เตชิตชักจะยืนไม่อยู่สุข จะขยับออกไปจากตรงที่ยืนอยู่ก็ไม่ได้เพราะมีคนยืนล้อมไว้แน่น แล้วแซนดี้เองก็เกาะแขนเขาไว้ ไม่ยอมให้เขาขยับไปไหนได้


เมื่อการแสดงแรกของรุ่นน้องจากต่างคณะทั้งสี่คนจบสิ้นลงก็เป็นการฉายเดี่ยวบนเวทีของเจนี่ ใบหน้าน่ารักและน้ำเสียงใสแจ๋วของเธอชวนให้คนที่ได้ฟังเพลงยิ้มกว้างและร้องเพลงคลอตาม หลังจบสองเพลงเธอก็กล่าวขอบคุณและถอยออกไป จากนั้นไฟบนเวทีก็ดับมืดลง คงเหลือไว้แต่เสียงปรบมือและผิวปากที่ยังคงดังกระหึ่ม


เตชิตจ้องขึ้นไปบนเวทีเขม็ง หัวใจเต้นผิดจังหวะ เขากำลังคาดหวัง... ว่าจะคีรีจะมาที่นี่


ต้องมาสิ เขารู้ คีรีต้องมาแน่ๆ เพราะถ้าหากเด็กหนุ่มมีโอกาสทำให้เขาประทับใจได้ อีกฝ่ายต้องทำแน่


ไฟสปอตไลต์ค่อยๆ สว่างขึ้น ส่องตรงไปยังเด็กหนุ่มซึ่งยืนอยู่บนเวทีหลังขาไมโครโฟนที่ตั้งไว้ตามลำพัง มีกีต้าร์โปร่งติดสายหนังคล้องไหล่ไว้ เขายกมือขึ้นจับไมโครโฟนพลางยิ้มบาง “สวัสดีครับ ผม นคินทร์ จากคณะบริหารปีสองครับ”


แม้จะแต่งตัวแสนธรรมดา ใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนที่เตชิตเป็นคนซื้อให้ สวมทับด้วยแจ็กเก็ตยีนกับหมวกแก๊ปสีดำ เครื่องประดับมีเพียงแค่สร้อยข้อมือเท่านั้น แต่ใบหน้าหล่อเหลากับรูปร่างสูงโปร่งก็เพียงพอที่จะเรียกเสียงกรีดร้องดังก้องแบบเซนเซอร์ราวด์


“Acc-ba! Acc-ba!” เสียงเชียร์จากรุ่นพี่รุ่นน้องคณะบริหารที่เจนี่ ยุ้ย ฟลุคและปิ๊กไปเกณฑ์มาดังขึ้นแข่งกับเสียงกรีดร้องของสาวๆ


“ขอบคุณครับ ขอบคุณ” คีรีโปรยยิ้มให้อย่างทั่วถึง พลางยกมือขึ้นลูบท้ายทอย “เขินจังเลยครับ อยู่บนเวทีคนเดียวแบบนี้” จากนั้นก็เด็กหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ เวที ตอนที่เขาเดินออกมาสวนทางกับพี่พิงค์ อีกฝ่ายบอกให้มองไปทางขวา เขาจึงหันไปหยุดมองตามนั้น


แซนดี้กระโดดเหยงๆ ชูไม้ชูมือพร้อมตะโกนเสียงดัง “น้องคีรี้~ ทางนี้ค่า!”


เจ้าของชื่อมองหาที่มาของเสียงทันที เขาผงกศีรษะเล็กน้อยให้แซนดี้ สบสายตากับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ อีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มกว้าง แล้วก้มลงจับคอร์ดกีต้าร์ไว้ให้พร้อม


ปลายนิ้วของเด็กหนุ่มที่วางอยู่บนสายกีต้าร์ขยับเพียงเล็กน้อย ตามมาด้วยเสียงทุ้มนุ่ม เพลงแรกที่เขาเลือกร้องเป็นเพลงสากล เจ้าของเพลงคือนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ นอกจากนั้นก็ยังเป็นนักกีตาร์ด้วย เป็นคนที่เขาชอบมาก



"I'm thinking 'bout how people fall in love in mysterious ways” (ผมครุ่นคิดถึงวิธีการพิศวงต่างๆ ที่ทำให้คนเราตกหลุมรักกัน)


"So baby now 
Take me into your loving arms

Kiss me under the light of a thousand stars

Place your head on my beating heart

I'm thinking out loud

That maybe we found love right where we are”** (ในเวลานี้ ที่รัก โอบกอดผมไว้ในอ้อมแขนแห่งรักของคุณ จูบผมภายใต้แสงระยิบระยับของดวงดาวนับพัน ซบศีรษะคุณลงตรงเหนือหัวใจที่กำลังเต้นของผม
ผมเปรยกับตัวเองว่า พวกเราอาจได้พบความรักแล้ว ณ ที่ตรงนี้)
**(Thinking out loud : Ed Sheeran)



ผู้คนข้างหน้าเวลาส่งเสียงฮือฮากันแค่เบาๆ เพราะต่างก็อยากจะฟังเสียงของคนที่อยู่บนเวทีให้ชัดๆ เสียงก็เพราะ หน้าก็หล่อ ท่าดีดกีต้าร์ก็เท่ มีเสียงชมเชยหวีดร้องดังแว่วมาเป็นระยะๆ จากทั้งผู้หญิงและผู้ชาย


แซนดี้ยิ้มกว้างราวกับว่าเด็กหนุ่มบนเวทีเป็นแฟนของตัวเอง เขาหันไปหยิกแขนเตชิตเบาๆ “ปลื้มอ้าพี่เต้ น้องแม่งเท่โคตร”


ทันตแพทย์หนุ่มยืนนิ่ง นัยน์ตาจับจ้องไปที่คนอ่อนวัยกว่า จะว่าไป นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาได้เห็นเด็กหนุ่มในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เสื้อผ้าบ้านๆ ที่เขาเคยซื้อให้ดูดีไปถนัดตา แล้วสำเนียงการร้องเพลงภาษาอังกฤษนั่น อย่างกับเจ้าของภาษามาเองอย่างไรอย่างนั้น เสียงก็เพราะเป็นบ้า สะดุดใจเขาตั้งแต่...ครั้งแรกที่ได้ยินในโรงแรมที่เชียงราย


“แหม ตะลึงอะ” แซนดี้อดเบ้ปากไม่ได้ เลยต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอไว้สักหน่อย


เมื่อเพลงแรกจบลง ไฟบนเวทีก็สว่างขึ้น แล้วเหล่านักดนตรีก็ก้าวเข้ามาประจำที่ ตามมาด้วยพิธีกรทั้งสอง


รวินท์และภูพิงค์เดินเข้าไปยืนประกบเด็กหนุ่มรุ่นน้อง “เพลงเพราะมากเลย” รวินท์พูดพลางหันไปถามผู้คนที่อออยู่ข้างหน้าเวที “เพราะใช่มั้ยครับ”


“เพราะมากค่า!”


รวินท์โอบไหล่คนอ่อนวัยกว่า “งั้นขอเสียงตบมือดังๆ ให้น้องนคินทร์อีกทีนะครับ”


“เขินจังเลยครับ” คีรียิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นไหว้ไปรอบๆ “ขอบคุณครับ ขอบคุณ อุ่ย...” แต่พอหันไปเจอหน้าภูพิงค์ก็ชะงัก ทำเป็นยิ้มแห้งตามบทบาท เพื่อเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ


ภูพิงค์ทำหน้าดุ “เพลงเมื่อกี้ความหมายดีจังนะครับ ขนาดผมฟังไม่ค่อยออกยังซึ้งไปด้วยเลย ไม่ทราบว่าร้องให้คนพิเศษรึเปล่าเนี่ย”


“คนพิเศษไม่มีครับ มีแต่คนที่อยากให้เป็นคนพิเศษ” รุ่นน้องตอบพลางส่งสายตาให้รวินท์ “หมอวินล่ะครับ มีคนพิเศษรึยัง”


ภูพิงค์ก้าวเข้าไปขวางระหว่างทั้งสองคนทันที “ใจเย็นครับน้องนคินทร์ เดี๋ยวจะไม่ได้ร้องต่ออีกเพลงนะครับ”


เสียงหวีดร้องคละเคล้าเสียงตะโกนเชียร์ดังแว่วมาจากทุกทิศราวกับอยู่ในสนามมวย มีทั้งบอกให้ภูพิงค์อย่ายอมและบอกให้คีรีสู้ เป็นผลให้ทั้งสามหนุ่มบนเวทีหลุดเก๊ก หัวเราะออกมาเบาๆ


แต่น่าแปลกที่เตชิตยิ้มไม่ออก บอกตรงๆ ก็ไม่ชอบให้เด็กหนุ่มไปเต๊าะคนอื่น ถึงแม้จะคิดว่าเป็นการเตี๊ยมกันมาก็ตามที


ภูพิงค์ยกนิ้วขึ้นจุ๊ปากเพื่อให้สาวๆ แฟนคลับสงบลง แล้วอมยิ้ม “เอาล่ะๆ พอแล้วๆ น้องนคินทร์ยังมีอีกเพลงมาฝากพวกเราใช่มั้ยครับ ให้น้องเตรียมตัวแป๊บนึง ตอนนี้พักคุยกับผมกับพี่วินไปก่อนนะครับ”


“ขอบคุณครับพี่พิงค์” เจ้าของชื่อรับบทต่อ ในระหว่างที่พิธีกรพูดคุยฆ่าเวลาไปก็มีสตาฟฟ์ถือกีต้าร์ไฟฟ้าออกมาให้เขาเปลี่ยนกับกีต้าร์อะคูสติกที่ใช้อยู่ ส่วนรุ่นพี่นักดนตรีก็ทยอยเดินไปประจำที่เช่นกัน


“พี่เต้ ติดต่อกับยานแม่อยู่เหรอวะ สนใจผมบ้างไรบ้าง” แซนดี้ตบแขนทันตแพทย์หนุ่มดังเพี้ยะ! “พี่เต้! ปวดขี้อ่อ!”


เตชิตหันขวับ “เฮ้ย เปล่า ทำไมจู่ๆ ก็ถามแบบนั้นวะ!”


“ก็พี่เต้เอาแต่จ้องน้องคีรีอะ จ้องเหมือนจะขึ้นเวทีไปแดกน้องเขาแล้วเนี่ย”


“คุณจะบ้าเรอะ!” ทันตแพทย์หนุ่มรีบเถียงด้วยความร้อนตัว “ผมเปล่าสักหน่อย อย่ามาหาเรื่อง...” พูดยังไม่ทันจบ แซนดี้ก็หันขวับไปโบกไม้โบกมือไปทางเวที


“อุ๊ย น้องคีรี~”


เตชิตหันตามไปทันที


“ผมล้อเล่น วูบเลยอะดิ”


“นี่คุณ!” ทันตแพทย์หนุ่มอยากจะจับแซนดี้ถอนฟันแล้วตอนนี้


“น้องคีรีเท่เนอะพี่เต้” แซนดี้ยิ้มกริ่ม “พอเปลี่ยนมาคล้องกีต้าร์ไฟฟ้าก็เท่ไปอีกแบบ”


“เออๆ”


“แน้~ ทำหน้าเครียด เดี๋ยวน้องคีรีมองมาไม่หล่อนา”


เตชิตยกมือขึ้นกุมขมับ เกิดปวดศีรษะขึ้นมาตุบๆ


เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้งเมื่อแสงไฟบนเวทีหรี่ลง คีรียืนประจำที่อยู่ที่ด้านหลังที่ตั้งไมโครโฟนตรงกลางเวทีแล้ว เขาปรับสีหน้าให้นิ่งสงบ มือข้างหนึ่งจับคอร์ด มืออีกข้างจับปิ๊กกีต้าร์วางไว้เหนือสายกีต้าร์เล็กน้อย


“ผมเลือกเพลงนี้มาร้องโดยเฉพาะ ขอมอบให้ทุกคน...ที่กำลังพยายามจะชนะใจคนที่คุณรัก” เขาพูดพลางหันไปหยุดสบสายตากับทันตแพทย์หนุ่มที่ยืนอยู่ทางด้านขวาของเวที


คีรีหลุบตาลงต่ำ แตะปิ๊กลงบนสายกีตาร์แล้วเผยอริมฝีปาก “พยายามจะทำวิธีต่างๆ ให้เธอนั้นรักฉัน พยายามทุกวันมอบให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ เหมือนเดินบนสะพานที่มีปลายทางคือใจของเธอ ยังคงคิดและหวัง จะนำเอารักแท้นี้ไปให้”**


ไฟบนเวทีหรี่ลงจนเหลือเพียงสลัว มีเพียงสปอตไลต์ส่องไปที่เด็กหนุ่ม เสียงของคีรีฟังดูเศร้าเสียจนทำให้ผู้คนข้างหน้าเวทีนิ่งเงียบไป


“แต่ทำไม เดินมาเนิ่นนานไม่ถึงสักที แต่ทำไม มองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป อยากรู้ว่าฉันต้องทำตัวอย่างไร”**


เสียงตีกลองหนักๆ ดังขึ้น ฟังดูราวกับเป็นเสียงหัวใจของคนที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวที น้ำเสียงที่แสดงถึงความเจ็บปวดในอกเป็นผลให้แววตาของเตชิตสั่นไหว กลืนน้ำลายฝืดลงคอ



“อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้ บอกที อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉันเสียที มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจ ได้โปรด บอกกับฉันให้รู้ที ว่าสุดท้ายแล้วฉันยังมีความหมาย”**
**(ไกลแค่ไหนคือใกล้ : เก็ทสึโนว่า)



ถึงแม้บรรยากาศที่รายล้อมตัวเด็กหนุ่มจะดูเศร้าไปสักหน่อย แต่เมื่อมองไปทางด้านหน้าเวทีก็เห็นว่าคนดูยกโทรศัพท์มือถือขึ้นเปิดแฟลช โยกไปตามทำนองเพลงเพื่อเป็นกำลังใจให้ เขาจึงยิ้มออกมาได้เล็กน้อย


“ขอบคุณมากนะครับ ผมจะพยายาม”


เตชิตยืนนิ่ง ใบหน้าเคร่งขรึม เขารู้ตัวว่าเป็นคนที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องเสียใจและเสียน้ำตาเสมอๆ แต่ถึงอย่างนั้น อีกฝ่ายก็ยังไม่ท้อ พยายามเข้าหา ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้รับคำตอบรักจากเขา


ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มบาง บอกกับตัวเองว่ามันคงถึงเวลาแล้ว ที่เขาควรจะตัดสินใจทำอะไรให้ชัดเจนสักที



(มีต่อค่ะ)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2019 02:55:15 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4



เสียงปรบมือดังกึกก้องทันทีที่เพลงจบลง แสงไฟบนเวทีสว่างขึ้น ในขณะที่พิธีกรทั้งสองก้าวเข้ามาบนเวทีอีกครั้ง


รวินท์แตะมือลงบนหัวไหล่ของเด็กหนุ่ม “น้องคีรีร้องเพราะมาก แต่เป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกเศร้าจังเลยนะครับ”


คีรีไม่ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้มบางเท่านั้น


“ให้เวลาน้องคีรีพักสักครู่ พวกเรามาเตรียมเล่นเกมประจำงานไนต์กันดีกว่านะครับ” ภูพิงค์พูดพลางหันไปส่งสายตาให้แซนดี้ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ ขณะเดียวกันคีรีก็เดินไปถอดกีตาร์ไฟฟ้าคืนให้รุ่นพี่นักดนตรี


ส่วนเตชิตนั้น ตอนแรกเขายืนอยู่กับแซนดี้ แต่ไปๆ มาๆ ขิง ดิวและซันก็เดินเข้ามาล้อมอยู่ห่างๆ ทำทีเป็นยืนตรวจดูความเรียบร้อยแถวด้านข้างเวที


“หลายๆ คนคงจำกันได้ แต่ผมจะขออธิบายเกมนี้อีกครั้ง เอาแบบง่ายๆ เลยก็คือเราจะประมูลเงินบริจาคกันภายในเวลาสิบนาที ใครให้ยอดเงินสูงสุดก็จะได้ขึ้นมาจับฉลากบนเวที และเลือกใครก็ได้บนเวทีหนึ่งหรือสองคนมาทำตามฉลากครับ”


“ให้เวลาตั้งหลักสามนาทีนะครับ” รวินท์ขยิบตาให้สาวๆ ด้านหน้าเวที เมื่อเขาพูดจบ ภูพิงค์ก็ยกแขนขึ้นโอบไหล่เขาไว้ทันที เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ทุกคนอยากประมูลกัน


แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากเห็นคู่จิ้นของตัวเองเซอร์วิสบนเวที แต่คนที่เพิ่งมาตกหลุมเสน่ห์คีรีก็มีไม่ใช่น้อย แล้วก็ยังมีพรรคพวกนักศึกษาจากคณะบริหารที่มาร่วมงานด้วย งานนี้แพ้กันไม่ได้ แต่ละกลุ่มจึงหันไปลงขันกันยกใหญ่


“มีเกมแบบนี้ด้วยแฮะ ไอ้วินไม่เคยเล่าให้ฟังเลย” เตชิตเปรยกับแซนดี้ ก่อนจะหันมองไปทางด้านหน้าเวที “โอ้โห นี่มันสงคราม”


“พี่เต้ก็ประมูลด้วยดิ จะได้ขึ้นไปเลือกให้ไอ้พิงค์กับพี่วินทำตามฉลากไงค้า”


“ผมจะทำแบบนั้นทำไมวะ!”


“งั้นพี่ก็เลือกเด็กพี่สิ”


ทันตแพทย์หนุ่มชะงัก “ฮะ?”


“น้องคีรีก็อยู่บนเวทีนะพี่เต้ พี่จะทนได้เหรอ ถ้ามีใครเลือกให้น้องเขาทำเรื่องในฉลากกับคนอื่น หรือที่ร้ายกว่านั้น เกิดมีสาวๆ ประมูลมาขอเล่นเกมกับน้องคีรีเอง หนักเลยนะพี่”


“ได้เหรอวะ” เตชิตส่ายหน้าไปมา “แล้วใครจะเลือกคีรีกัน ส่วนใหญ่เขาก็เลือกพิงค์กับไอ้วินกันมะ ที่นี่มันคณะวิศวะนะคุณ ไม่ใช่บริหาร”


“มันก็ไม่แน่น้าาาา น้องคีรีก็ดังเหมือนกันนะเว้ยพี่ นี่พี่เต้รู้เปล่าว่าฉลากปีที่แล้ว ให้ทำอะไรบ้าง” แซนดี้ยิ้มกริ่ม “มีหอมแก้ม ผลัดกันอุ้ม แล้วก็กินป๊อกกี้ พี่วินกับไอ้พิงค์น่ะ โดนให้หอมแก้มกัน ดูสิพี่ กลายเป็นแฟนกันจริงๆ เลย”


“ไร้สาระว่ะคุณ ถึงพวกเขาไม่ได้หอมแก้มกันบนเวทีก็เป็นแฟนกันอยู่ดี” ทันตแพทย์หนุ่มตอบไปเช่นนั้น แต่ในใจก็ชักจะเป็นกังวลอยู่เหมือนกัน อย่างที่แซนดี้ว่า ดูเหมือนคีรีเองก็มีคนรู้จักเยอะ แถมตอนร้องเพลงน่ะ ดูเท่ มีเสน่ห์มาก แล้วบนเวทีก่อนหน้าก็ดูเหมือนจะพยายามชงรักสามเส้ากับไอ้วินและไอ้พิงค์ซะด้วยสิ


ถ้าเกิดใครเลือกให้คีรีหอมแก้มกันกับไอ้พิงค์หรือไอ้วิน เขาจะทำไงดีวะเนี่ย ฟ้าผ่าตายห่า


เสียงจากบนเวทีดังขึ้นแล้ว เตชิตรีบเงยหน้าขึ้น สีหน้าแฝงไว้ด้วยความวิตกกังวล ไม่ทันได้สนใจคนที่ยืนยิ้มร้ายอยู่ข้างกัน และยังหันไปส่งสัญญาณให้ขิง ซันและดิวอีก


“เอาล่ะ ครบสามนาทีแล้ว จะจับเวลาแล้วนะครับ หนึ่ง...สอง...สาม! เริ่มที่หนึ่งร้อยบาทครับ!” สิ้นเสียงของภูพิงค์ จำนวนเงินก็พุ่งขึ้นพรวดๆ จากหลักร้อยกลายเป็นหลักพันในพริบตา


เตชิตไม่รู้ว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่า แต่เขาได้ยินเสียงหลายๆ คนหวีดเรียกชื่อคีรีดังแว่วมาเป็นระยะ


รวินท์รายงาน “สี่พันสองร้อยแล้วครับ ยังเหลืออีกห้านาทีนะครับ”


“พี่เต้! ผมว่าผมได้ยินเสียงผู้หญิงกลุ่มนั้นเรียกชื่อน้องคีรีนะ สงสัยจะชอบน้องเขาแน่ๆ เลยว่ะ ดูดิ ประมูลกันใหญ่เลยอ้ะ!” แซนดี้เร่งใส่ไฟ


ทันตแพทย์หนุ่มหันไปประสานสายตากับแซนดี้ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร แซนดี้ก็จับมือเขายกขึ้น “เฮ้ย!”


“บอกจำนวนเงินเร็วพี่เต้!”


เจ้าของชื่อทำหน้าเหรอหรา แต่ปากก็ตะโกนจำนวนเงินออกไป “สี่...สี่พันห้า!”


ภูพิงค์รับช่วงต่อทันควัน “สี่พันห้าจากสุภาพบุรุษหน้าตาดี๊ดีที่ด้านข้างเวทีครับ เหลือสามนาทีแล้ว~” พอเขาพูดเช่นนั้นคีรีก็หันไปสบสายตากับเตชิตทันที


เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เพราะไม่นึกว่าเตชิตจะร่วมเล่นเกมกับเขาด้วย


ทว่าก็ดีใจไปได้เพียงแค่แวบเดียว พอลองคิดไปคิดมา ก็ใช่ว่าคุณเตชิตจะเลือกเขานี่หว่า? แล้วถ้าเลือกเขา จะเลือกเขากับใคร? ไอ้ปิ๊ก ไอ้ฟลุค พี่พิงค์ หรือหมอวินหรือไง


“สี่พันเจ็ด!” กลุ่มหญิงสาวแฟนคลับรวินท์ตะโกนมาจากอีกฝั่งของเวที


“เฮ้ย! Accba ของเราจะน้อยหน้าใครไม่ได้เว้ย! สี่พันแปด!” เพื่อนๆ และรุ่นพี่รุ่นน้องจากคณะบริหารตะโกนสู้


แซนดี้หันขวับ จับมือเตชิตเขย่ารัวๆ “พี่เต้! เร็ว!”


“ฮะ? ผมอีกแล้วเรอะ!”


“สี่พันเก้า!” เสียงจากกลุ่มอื่นแว่วมาอีก


เตชิตทำหน้าเลิ่กลั่ก พอแซนดี้จับมือเขายกขึ้นก็ตะโกนบอก “หะ...ห้าพันครับ!”


“เหลือสามสิบวินาทีสุดท้ายแล้ว เร่งหน่อยครับ” เมื่อรวินท์ประกาศเช่นนั้น ยอดเงินก็พุ่งทะยานขึ้นไปอีก


“หกพัน!”


“เจ็ดพันห้า!”


ทันตแพทย์หนุ่มเบิกตากว้าง “แปดพัน!” คราวนี้เขาตะโกนพร้อมยกมือเองแบบไม่ต้องให้แซนดี้ช่วย


“เหลือสิบวินาทีแล้วนะครับ” ภูพิงค์ประกาศ แล้วเริ่มนับถอยหลัง “สิบ... เก้า...”


เตชิตมั่นใจว่าตัวเขาชนะแน่แล้ว แต่ในวินาทีสุดท้ายนั้น แซนดี้ก็ยกมือขึ้น



“หมื่นนึงครับ!”



ทันตแพทย์หนุ่มหันขวับ “เฮ้ย! เดี๋ยวๆ ทำไมคุณตัดหน้าผมอย่างนี้วะ!”


คีรีเองก็ตกใจ เขาหันไปประสานสายตากับเตชิตด้วยสีหน้าตื่นๆ พลางพึมพำเสียงเบา “คุณเตชิต”


เจ้าของชื่อหน้าเสีย “คีรี”


แต่ไม่ทันแล้ว ภูพิงค์ประกาศผู้ชนะให้ทุกคนได้ยินทั่วกันทันที “ผู้ชนะคือคุณผู้ชายเสื้อยืดสีส้มทางขวาของเวทีนะคร้าบ เชิญขึ้นมาบนเวทีเลยครับ”


แซนดี้ยิ้มกว้าง หันไปขยิบตาให้เตชิตก่อนจะก้าวออกไปอย่างผู้ชนะ ทิ้งให้ทันตแพทย์หนุ่มยืนเจ็บแค้นอยู่เพียงลำพัง


รวินท์เดินเข้าไปหา ส่งยิ้มให้กันเล็กน้อย “จับฉลากก่อนเลยนะครับ อยู่ในซองสามซอง เลือกเลยครับ” พอแซนดี้เลือกซองออกมา ภูพิงค์ก็รับซองไปเปิดอ่าน


“สารภาพรักอย่างเกรี้ยวกราด แล้วหอมแก้มกัน”


“เลือกพี่วินกับน้องคีรีค่า! อยากเห็นคนหึง!” แซนดี้พูดขึ้นทันที ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงโวยวายจากรอบๆ เวที


“เฮ้ย!” ภูพิงค์ทำหน้าตกใจตามที่เตี๊ยมกันไว้ “เดี๋ยวๆ ครับ”


รวินท์เองก็เล่นสมบทบาทไม่แพ้กัน เขาทำหน้าเครียดใส่ “เอ่อ... คือ...” แล้วหันไปมองหน้าภูพิงค์


“พี่วินลำบากใจเหรอ” แซนดี้ถาม


“คือผม... ผมไม่คิดว่า... เอ่อ...” รวินท์ทำหน้าน่าสงสาร ตีบทแตกยิ่งกว่าดาราจากทุกช่องทีวี งวดนี้เขาจะต้องได้ออสการ์มาครองแน่ๆ จากนั้นก็เอื้อมมือไปจับแขนภูพิงค์ไว้ แล้วหันกลับมาทางแซนดี้ “คือผมทำแบบนั้นได้กับพิงค์เท่านั้น ขอโทษนะครับ เราสัญญากันไว้” หลังทันตแพทย์หนุ่มพูดจบ เหล่าแฟนคลับของเขากับภูพิงค์ก็เริงร่า กรีดร้องสนับสนุนทันที แถมยังเสนอให้ประมูลต่ออีกด้วย พวกเธอจะสู้สุดใจ ไม่ให้แก้มของรวินท์ตกเป็นของใครนอกจากภูพิงค์เท่านั้น


แซนดี้ทำท่ายืนคิดแบบที่คิดไปเองว่าน่ารักที่สุด “ถ้างั้น...พี่วินหาใครมาทำแทนพี่ละกัน”


“ได้เหรอครับ”


“ก็หยวนๆ อะครับ แต่ต้องเป็นคนที่สูสีกับพี่ และผมโอเคด้วยนะ ไม่งั้นผมจะขอเล่นกับน้องคีรีเอง”


ภูพิงค์รีบหันไปขอเสียงเชียร์จากบรรดาแฟนคลับ “ทุกคนโอเคมั้ยครับ” เสียงตอบรับมีทั้งโอเคบ้าง อิดออดบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าพวกเขาได้ไปต่อ


“ถ้าจะเอาแบบสูสีกับผม ก็มีคนเดียว เพราะงั้น... ผมขอให้เพื่อนรักของผมมาทำหน้าที่แทนผมละกันครับ” รวินท์หันขวับไปยิ้มเผล่ให้เตชิตที่ยืนอยู่ตรงข้างเวทีทันที “เต้ ขึ้นมาเล่นเกมกับน้องคีรีหน่อยนะ”


เตชิตเบิกตากว้าง สัส! นี่มันแผนของไอ้พวกนี้ชัดๆ!


“สัญญากันแล้วไงว่าจะขึ้นมาเล่นเกมบนเวทีอะ” รวินท์ทวง


“ไอ้...ไอ้พวก...”


ขณะที่เตชิตมัวแต่ตกใจ ซัน ขิงและดิวก็พุ่งเข้าชาร์จ พาตัวทันตแพทย์หนุ่มเข้ามาในรั้วกั้น แล้วกึ่งลากกึ่งจูงไปยังเวทีอย่างรวดเร็ว


ทว่าเตชิตก็ไม่ได้ขัดขืนสักเท่าไหร่ เพราะอันที่จริงเขาก็ไม่อยากให้คีรีต้องรับบทนั้นกับใคร นอกจากเขา

TBC


งานไนต์วิดวะเป็นยังไงม่างค้า คราวนี้พี่หมอเต้กับเด็กดอยได้โดนเข้ากับตัวบ้างแล้ว แต่ผลจะออกมาเป็นยังไงก็คงต้องรอตอนหน้านะคะ อิอิ ที่แน่ๆ ขึ้นเวทีงานไนต์แล้วไม่ได้แฟนไม่ได้น้า พิหมอวินกับน้องพิงค์คอนเฟิร์ม

ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ จุ๊บๆ

ปล. ขอโทษที่เอามาลงช้านะคะ ฮัสกี้ออนทัวร์อยู่ค่ะ เน็ตกากมากกกก แล้วจะเที่ยวเผื่อทุกคนน้าาาาา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
โอ้ยยย ค้างงงง กว่าพี่เต้จะรู้ว่าเป็นแผนของเพื่อนและน้องๆ ก็ต้องขึ้นเวทีแล้ว อยากอ่านต่อแล้ว อยากเห็นคนเขินตอนโดนสารภาพรัก :-[

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

โอย......ทำไมภาพตัดจบไปที่โคมไฟหัวเตียง?

ลุ้น ๆ ตอนต่อไป  สองหนุ่มจะเซอร์วิสสาววายข้างล่างยังไงน้อ?

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แล้วใครจะเป็นคนสารภาพรักคะ ขอทั้งสองคนเลยนะ แต่ให้พี่เต้พูดก่อนบ้าง น้องคีรีพยายามมามากพอแล้ว พี่เต้ต้องแสดงให้ชัดเจนว่าตัวเองก็ต้องการน้องเหมือนกัน ไม่ใช่รอให้น้องเป็นฝ่ายทุ่มเทอยู่ฝ่ายเดียว

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แผนการร้ายกาจ

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
"สารภาพรักอย่างเกรี้ยวกราด แล้วหอมแก้มกัน” ...หอมแก้มอ่ะไม่เท่าไร แต่สนใจว่าจะสารภาพรักอย่างเกรี้ยวกราดกันขนาดไหน :mew4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด