(จบ) ❀ A day with Our Match ー Last Match ♥ (31/10/2561)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบ) ❀ A day with Our Match ー Last Match ♥ (31/10/2561)  (อ่าน 35801 ครั้ง)

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
หนูกิซึนจริงๆเลยลูก ปากจะแข็งไปไหนน

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โง้ยยยยยยยยยยยยยย ตั้ลล้ากกกกก :hao7:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น้องกิคงไม่กล้ารับคำท้ากับเพื่อนฮอนอีกเลย 5555

ออฟไลน์ peary

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากให้หนูกิชนะ เพราะอยากรู้ว่า ถ้าฮอนกลับบ้านไป ไม่อยู่ด้วย แล้วหนูกิจะรู้สึกยังไง อิอิ

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Looking forward to the best metch ever  :z1: //ฮอนน่ารัก แต่หนูกิน่ารักกว่า  :mew1:

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ー 3rd Match ♥
   




ทันทีที่บอลนัดสำคัญเริ่ม คนข้างๆ ก็เข้าสู่ร่างแฟนบอลประหนึ่งว่าตัวเองกำลังอยู่ในสนามเชียร์จริงๆ กิหยิบพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนรสโปรดขึ้นมากัดกินไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน เขาไม่ได้เชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษเพราะดูบอลไม่เป็นและไม่ได้เป็นแฟนของฝั่งไหนทั้งนั้น เขาจึงนั่งมองหน้าจอโทรทัศน์สลับกับจอโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย



จนกระทั่งในนาทีที่ 17 ของการแข่งขัน คนตัวขาวสะดุ้งตกใจอย่างแรงถึงขนาดทำโทรศัพท์หล่นลงตักเมื่อเพื่อนสนิทตะโกนดังลั่นห้อง



“เชี่ย!! โหม่งเข้าประตูตัวเองก็ได้เหรอวะ!” แต้มแรกตกเป็นของฝรั่งเศสที่ได้คะแนนมาจากฝั่งตรงข้ามอย่างง่ายดายเพราะอีกฝ่ายดันโหม่งเข้าประตูตัวเองเสียอย่างนั้น



“เบาๆ” กิพูดเอ็ดเมื่อแฟนบอลข้างๆ ร้องตะโกนเสียงดัง ฮอนไม่ได้ตอบกลับอะไรเพราะสติยังคงจดจ่ออยู่บนหน้าจอโทรทัศน์



“เอ้อออออ! ได้อยู่ มาสวย”คะแนนขึ้นนำเสมอเมื่อแต้มสองเป็นของโครเอเชียที่โหม่งส่งลูกต่อบอลกันเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้จังหวะเตะเข้าประตูในที่สุด กิปรายตามองคนที่กำมือยกขึ้นทำท่าเยสๆ ขณะพูดอยู่คนเดียวอย่างระอาใจ



“กูบอกว่าเบาๆ” ฮอนพยักหน้าตอบงึกงักขณะยกเบียร์ขึ้นดื่ม



“ดีโว้ย!! สองหนึ่ง!” แต้มที่สามมาจากลูกโทษของทางฝรั่งเศส ฮอนยืนขึ้นชูกระป๋องเบียร์ในมือ ร้องเฮดีใจยกใหญ่



กิมองคนที่เขากำลังจะด่าให้เบาเสียงลงเป็นครั้งที่สามแล้วถอนหายใจ



“เบาๆ”



“โทษๆ มันดีใจจนลืมตัวไง”



“นี่มึงเชียร์ทีมไหนกันแน่เนี่ย” ชายหนุ่มสงสัยเพราะแฟนบอลคนนี้ดูจะเฮมันทุกครั้งที่แต้มขึ้นโดยไม่สนใจว่าทีมไหนทำคะแนนกันแน่



“กูเชียร์ทีมที่ชนะไง อะไรก็ได้อะ ลงไว้ทั้งสองทีม”



“อีกแล้วเหรอ บอกว่าให้เลิกได้แล้วไง” กิช้อนสายตามองอีกคนเขม็ง



“เอาน่า สี่ปีครั้ง”



“อย่าให้กูรู้ว่าแมตช์แข่งอื่นมึงก็ลงนะ”



“แหะๆ ดูต่อกันดีกว่าเนอะ” มนุษย์แฟนบอลบอกปัดเปลี่ยนเรื่องเพื่อหนีความผิด



จวบจนการแข่งขันดำเนินมาถึงช่วงกลางเกมแข่งขัน คะแนนตอนนี้ฝรั่งเศสถือว่าทิ้งห่างพอสมควรเพราะได้มา 4 ประตูต่อ 1 เรียบร้อยแล้ว แฟนๆ ที่เชียร์ฝรั่งเศสจึงพอจะพักหายใจหายคอได้บ้าง



“เชี่ย! ยอริสมึงทำอะไรเนี่ย โว้ยยยย!” เสียงตะโกนดังลั่นกว่าทุกครั้ง เมื่อผู้รักษาประตูฝั่งฝรั่งเศสทำพลาด ปัดลูกเข้าประตูตัวเองเป็นเหตุให้โครเอเชียมีแต้มเพิ่มขึ้นมาจาก 1 เป็น 2 ตามไล่หลังมาทันที



หนุ่มแฟนบอลขยี้หัวตัวเองจนผมยุ่ง ต่างฝ่ายต่างผิดพลาดกันเป็นว่าเล่น บอกทีว่านี่นัดชิงแชมป์โลก!



กิถอนหายใจพร้อมมองอีกฝ่ายขยี้หัวตัวเองจนอยากเข้าไปช่วยดึงแรงๆ เขาเหนื่อยจะเตือนให้อีกฝ่ายเบาเสียงแล้ว



----------



จบเกมด้วยคะแนน 4 ประตูต่อ 2 ฝรั่งเศสหอบถ้วยแชมป์กลับไปนอนกอด มนุษย์แฟนบอลเฮรอบห้องยกใหญ่ก่อนจะคว้ารีโมทปิดโทรทัศน์



“กิ จริงๆ แล้วกูลงฝรั่งเศสไปมากกว่านิดหน่อย” ร่างสูงยืนค้ำเอวอยู่ข้างหน้าคนตัวขาว พร้อมรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนหน้า



“แล้ว?”



“ฉลองแชมป์กัน” น้ำเสียงทะเล้นแต่การกระทำช่างอุกอาจ เพราะพอพูดจบเขาก็ผลักคนที่นั่งอยู่ให้นอนลงไปแล้วขึ้นคร่อมทันที



“ฮอน มึงไม่ได้พูดแบบนี้”



“หือ พูดอะไร”



“กูยังไม่ได้ยอมตกลงพนันกับมึงนะ!” กิร้องโวยวายเสียงดังเมื่อโดนตรึงร่างไว้กับโซฟาด้วยมือของคนขี้โกง



“เรามาทำตามข้อเสนอของแต่ละฝ่ายดีไหม แบบกูเก็บของกลับบ้าน ส่วนมึงก็…” คนฉลาดแกมโกงใช้ปลายนิ้วมือเกลี่ยผมที่ปรกตาออกจากหน้าผากให้อีกฝ่าย



“ไม่เอาไอ้เหี้ยฮอน ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”



“หรือว่าจริงๆ แล้วมึงอยากให้กูอยู่กับมึงไปนานๆ ใช่มะ” ฮอนพูดติดตลก



“ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”



“ถึงโครเอเชียจะแพ้แต่ก็ยังทำไปได้ตั้งสองประตู คืนนี้พี่ฮอนขอสักประตูไม่ได้หรอคะหนูกิ”



“มึงจะไม่หยุดใช่ไหมเนี่ย!” กิตวาดด้วยใบหน้างอง้ำ



ชายหนุ่มจับข้อมืออีกฝ่ายตรึงไว้ไม่ให้ขยับขณะมองคนหน้าบูดบึ้งพร้อมหัวเราะในลำคอ “งั้นขอแค่จูบได้ไหมคะ”



กิมองคนเจ้าเล่ห์ด้วยสายตาเคลือบแคลง เขาชั่งใจว่าจะยอมเสี่ยงจูบไปให้เสร็จๆ หรือดิ้นขัดขืนจนหลุดจากการจับกุมไปให้ได้ แต่เมื่อชั่งน้ำหนักจากตัวเลือกทั้งสองฝ่าย แรงเขาสู้มันไม่ได้แน่ๆ จึงตัดสินใจผงกตัวเองขึ้นจูบริมฝีปากอีกฝ่ายไปหนึ่งที



“จูบแล้วไง ปล่อยได้แล้ว”



“แบบนี้ไม่เรียกจูบนะคะ อะไรมาเฉียดปากเฉยๆ ก็ไม่รู้ สอนไปหลายทีแล้วทำไมไม่จำคะหนูกิ” ผู้ที่ช่ำชองการจูบก้มลงประกบริมฝีปากตัวเองกับคนใต้ร่างทันทีที่พูดจบ



“อื้อ!” ยังไม่ทันได้โต้เถียงอะไรปากก็โดนปิดก่อนเสียแล้ว ลิ้นร้อนของคนบนร่างค่อยๆ ไล้เลียริมฝีปากอิ่มของเขาไปมาเพราะเจ้าตัวเม้มปากแน่นไม่ยอมให้รุกล้ำเข้าไปข้างใน จนกระทั่งรู้สึกถึงแรงฝ่ามือที่กำลังบีบเคล้นบริเวณสะโพกเบาๆ ก่อนจะไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึงบั้นท้ายของเขา



กิตกใจจนเผลอคลายริมฝีปากของตนเอง ปล่อยให้อีกฝ่ายใช้ลิ้นรุกล้ำเข้ามาข้างในจนได้ ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันไปมาอยู่นานจนผู้บุกรุกยอมล่าถอยออกไปก่อน



“แบบนี้ถึงจะเรียกว่าจูบนะคะหนูกิ” ร่างสูงยกยิ้มเจ้าเล่ห์



เสื้อผ้าเสียดสีกันยามที่คนตัวใหญ่กว่าขยับร่างกายเคลื่อนไหวไปมา ฝ่ามือคลำสะเปะสะปะปัดป่ายไปทั่วเรือนร่างชายที่ส่งเสียงครางกระเส่าอยู่ข้างใต้ พร้อมกับบดจูบริมฝีปากของตนเองลงบนริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่ายเหมือนคนไม่รู้จักพอ



…ใช่ เขายอมรับว่าตัวเองเป็นคนตะกละ โดยเฉพาะยามใดที่เจออาหารรสเลิศอยู่ตรงหน้าแบบนี้



ปลายนิ้วสากค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตัวขาวในอ้อมกอดไปทีละเม็ด ขณะเดียวกันก็ใช้ปากพรมจูบลงบนหน้าอีกฝ่ายไปด้วย



“ไหนว่าแค่จูบไง” กิหอบหายใจแรงเพราะรสจูบอันดุเดือด เอ่ยทักขึ้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมหยุดตามข้อตกลง



“ก็จูบไงคะ”



“หลายครั้งเกินไปแล้ว”



“ไม่ได้บอกว่าครั้งเดียวนี่” กิมองเหวอ …โดนคนหัวหมาหลอกอีกแล้ว!



ฮอนรับรู้ได้ว่าตนเองกำลังโดนด่าในใจอยู่แน่นอน แต่เลือกที่จะไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดนั่นเพราะสติของเขากำลังจดจ่อกับการตีตราหนูกิ แสดงความเป็นเจ้าของในทุกพื้นที่อยู่ในตอนนี้



“หนูกิน่ารัก”



“จุ๊บ หนูกิน่ารัก จุ๊บ หนูกิน่ารัก” เสียงจุ๊บเบาๆ บริเวณหน้าผากและแก้ม ทำคนโดนแกล้งให้เขินเสียวท้องวูบขึ้นมาอย่างประหลาด



“จุ๊บ หนูกิน่ารัก” ครั้งนี้เป็นสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปาก เสียง จุ๊บ ที่ได้ยินกี่ครั้งก็ยังไม่ชินทำให้เหล่าผีเสื้อเริ่มกระพือปีกบินวนในช่องท้องของเขาอีกครั้ง กิขยุ้มมือกับหนังโซฟาเมื่อตัวเองกำลังสยิวกับสัมผัสอีกฝ่าย



จวบจนกระทั่งปลายนิ้วมือข้างซ้ายแกะเม็ดกระดุมออกจนหมด ฮอนแหวกสาบเสื้อและยกตัวอีกฝ่ายขึ้นเปลื้องเสื้อเชิ้ตทิ้งไว้ข้างโซฟา



แป้งโกกิสีขาวที่ใช้ห่อหุ้มร่างแท้จริงถูกสลัด ภาพที่เขาเห็นตอนนี้มีเพียงแป้งโกกิที่ขึ้นสีแดงระเรื่อไปทั้งตัวเท่านั้น



“หนูกิแดงไปทั้งตัวเหมือนครั้งนั้นเลยนะคะ” ภาพในจินตนาการถูกรีรันขึ้นมาในหัวยามที่โดนพูดถึง ใครว่าครั้งต่อมาจะเขินน้อยลง ไม่จริงเลย



“อย่าพูดมากได้ปะ” สัมผัสชื้นบริเวณยอดอกทำให้เจ้าของห้องตัวเล็กต้องลืมตาตื่นผงกหัวขึ้นมาดู อีกฝ่ายกำลังประทับจูบลงบนยอดอกแข็งชูชันหลายๆ ที จนเขาต้องกำโซฟาแน่นเพราะความเสียวซ่าน



ริมฝีปากหนาค่อยๆ เลื่อนไล้ลงต่ำไปกว่าบริเวณหน้าท้องเนียน คนบนร่างถอยลงไปจูบบริเวณกลางลำตัวที่ถูกปลุกปั่นจนแข็งชันด้วยแรงอารมณ์อยู่ใต้ชั้นในสีดำ



“อะ ไอ้เหี้ยฮอน!”



“ชู่ว เบาๆ สิคะ”



คนตัวขาวกัดริมผีปากล่างของตัวเองแน่นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสบนส่วนอ่อนไหวที่สุดในร่างกาย ฮอนหยัดตัวขึ้นถูไถความเป็นชายของตนเองลงบนหน้าท้องของคนใต้ร่างไปมา เขาแหงนคอขึ้นทำหน้าเสียวซ่าน ครางแผ่วในลำคอ



“อืม… หนูกิ”



“มะ มึงจะพอได้รึยัง” กิพูดเสียงกระท่อนกระแท่น



“หนูกิทนได้หรอคะ”



“…”



“ถ้าทนได้ กูก็จะพอนะกิ”



“…”



“หืม ว่าไง”



“…”



“ไม่ตอบกูจะถือว่ามึงทนไม่ได้นะ” ไร้เสียงตอบรับจากคนที่หลับตาแน่น ริมฝีปากเจ่อแดงเพราะแรงบดจูบ เขาพยายามทำเป็นใจสู้ทั้งที่แท้จริงแล้วอ้าปากปฏิเสธไม่ออก



…หรือจริงๆ แล้วเขาไม่อยากปฏิเสธมันกันแน่



เสียงถอดเสื้อผ้าของคนบนร่างดึงสติให้กลับมาในที่สุด เขารู้ว่าตัวเองถอยกลับมาที่เดิมไม่ได้แล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่หลวมตัวยินยอมรับข้อเสนอสัปดนนั่นไป



คนถูกรังแกค่อยๆ ลืมตามองอีกฝ่ายที่กำลังคลอเคลียบริเวณหน้าอกขณะใช้ฝ่ามือร้อนลูบไล้บริเวณต้นขาเนียนไปด้วย สายตาหื่นกระหายจ้องมองรอยกุหลาบสีจางที่เคยทำไว้ ก้มลงแลบเลียและทำรอยประทับใหม่ให้มีสีสันกลับมาดังเดิม



ฝ่ามืออยู่ไม่สุขค่อยๆ ไล้ไปตามเรียวขา ยกมือปัดผ่านจุดอ่อนไหวอยู่หลายทีแต่จงใจไม่จับต้อง ปล่อยให้คนโดนแกล้งครางฮืออยู่ในลำคอด้วยความทรมาน ตากลมรื้นไปด้วยหยดน้ำสีใส จ้องเขม็งมาทางคนที่ตั้งอกตั้งใจรังแกคนไม่มีทางสู้แบบเขา ทำให้ทรมานแล้วยังจะแกล้งกันอีก บอกเลยว่าถ้าเขารอดไปได้มันไม่ตายดี!



พอทำใจกล้าเคลื่อนมือตัวเองจะไปจับให้คลายความทรมาน มันก็ปัดมือเขาไม่ให้แตะพร้อมหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์



“หนูกิจะทำอะไรคะ”



“ไอ้เหี้ยฮอน”



“ชู่ว บอกแล้วว่าเวลาแบบนี้ไม่พูดไอ้เหี้ยค่ะ เรียกฮอนเฉยๆ ก็พอแล้ว”



“มึงแกล้งกู”



“ก็ใครให้หนูกิน่ารักน่าแกล้งแบบนี้ล่ะคะ” สายตาจ้องเขม็งมาที่เขาอย่างอาฆาตแค้นแต่ทำไมถึงได้ดูน่ารักเวลาที่เห็นเจ้าตัวทำพร้อมกับริมฝีปากบูดบึ้งแบบนั้น



“ไม่ช่วยก็อย่ามาขัดกูไอ้เหี้ย”



“อยากให้ช่วยอะไร ไหนหนูกิลองบอกพี่ฮอนสิคะ” กิมองคนแกมโกงอย่างเคียดแค้น ให้ตายเขาก็ไม่พูดให้มันได้ใจหรอก



คนขี้แกล้งนึกสนุก ใช้ฝ่ามือที่ควรช่วยอีกฝ่ายมาช่วยตัวเองแทน มือซ้ายที่ไม่ได้จับอะไรก็คอยล็อกแขนของอีกคนที่หมายจะทุบตีเขาให้เลิกแกล้งเสียที



“อืม… หนูกิ” เสียงครางใกล้บริเวณใบหูเรียกสีเลือดฝาดขึ้นใบหน้าคนฟังอีกครั้ง



“เลิกแกล้งกูสักที”



“จะเลิกแล้วค่ะ” ปลายลิ้นชื้นแลบเลียใบหูขาวส่งท้ายการแกล้งนี้เพื่อกระตุ้นเสียงกระเส่าของอีกคน และมันก็ได้ผล เมื่อคนใต้ร่างครางเสียงแผ่วออกมาทันที



ฮอนอดทนรอไม่ไหวอีกต่อไป เขาควานหาซองถุงยางที่ตัวเองซ่อนไว้ตามซอกหลืบโซฟาออกมาสวมใส่ให้ตัวเอง ไม่ได้สนใจท่าทีตื่นตะลึงของเจ้าของห้องแต่อย่างใด



กิเบิกตากว้าง ทำไมถึงมีซอกถุงยางตามซอกโซฟาในห้องของเขาได้!



“เผื่อเกิดแอคซิเดนท์แบบตอนนี้ไงคะ เราต้องป้องกันไว้ก่อนนะ” ชายหนุ่มพูดแก้ตัวเหมือนรู้ว่าอีกคนเกิดคำถามอะไรขึ้นมาในใจ ทั้งที่แท้จริงแล้วเขาเอามาซ่อนไว้เพราะหวังว่าสักครั้งหนึ่งจะได้รังแกอีกฝ่ายบนโซฟาตัวนี้ต่างหาก



แล้ววันที่เขารอคอยก็มาถึง ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้เพราะเพิ่งเอามาซ่อนไว้เมื่อวานนี่เอง!



“อ๊ะ!” ยังไม่ทันได้เอ่ยปากด่า ส่วนอ่อนไหวชั้นล่างก็ถูกนิ้วอีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาเบิกทาง ช่องทางคับแคบยังคงรัดแน่นเหมือนครั้งแรกไม่มีผิด ทั้งสองฝ่ายต่างครวญครางตามห้วงอารมณ์ที่ค่อยๆ ทะยานสูง



“จะเอาจริงแล้วนะคะ” คนตัวเล็กไม่แน่ใจว่าบริบทคำว่า ‘เอา’ ของอีกฝ่ายเป็นแบบไหน แต่ตอนนี้ความหมายในหัวของเขามันช่างฟังดูหยาบโลนเสียเหลือเกิน



ความเป็นชายของอีกคนค่อยๆ ดุนดันเข้ามาอย่างเชื่องช้าก่อนจะแช่นิ่งเมื่อถูกรัดรึงไว้ทั้งหมด



หนูแป้งโกกิขึ้นสีระเรื่อมากกว่าเก่าเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับบั้นเอวช้าๆ เนิบนาบไปเรื่อยๆ เป็นจังหวะ



“หนูกิคะ”



“…”



“ตอนนี้หนูกิน่ารักมากเลยค่ะ”



“อึก…กูบอก ฮื่อ ให้เลิกพูดแบบนี้ด้วย” เสียงสั่นเครือเพราะแรงกระแทกทำให้เขาพูดไม่เป็นจังหวะ



“หนูกิไม่ชอบแบบ Sweat talk หรอคะ งั้นชอบแบบไหน Dirty talk?”



คนถูกถามส่ายหัวเบาๆ เป็นคำตอบแต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าสั่นหัวเพราะแรงกระแทกข้างล่างต่างหาก



“ชอบแบบเดอร์ตี้หน่อย ทำไมไม่บอกแต่แรกคะเมีย” สรรพนามเปลี่ยน ความหมายยิ่งลึกซึ้งไปมากกว่าเดิม กิส่ายหัวเมื่อคำนั้นฟังแล้วช่างขัดหู เขาจ้องตาอีกฝ่ายเขม็งให้รู้ว่าไม่ชอบ แม้จะรู้ว่าใบหน้าตัวเองตอนนี้คงไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก



“แล้วเมียชอบแบบ Do dirty บ้างรึเปล่าหืม” ฮอนไม่รอฟังคำตอบที่ถาม เขาค่อยๆ ไต่จังหวะจากเนิบช้าไปรัวเร็วอย่างเอาแต่ใจ



“ฮื่อออ” เสียงครวญครางในลำคอดังถี่ขึ้นเมื่อจังหวะขยับด้านล่างกระแทกกระทั้นเข้ามาเหมือนคนอดอยาก



“ว่าไงคะ เมียชอบแบบนี้รึเปล่า” ไร้เสียงตอบรับจากอีกคน ทว่าเสียงสูดปากด้วยความกระเส่ายังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ในห้องนั่งเล่นสีขาว



“เมียชอบที่ผัวทำแรงๆ แบบนี้ไหมคะ” กิส่ายหัวรัวเร็วเป็นคำตอบ



“โอ้ยกิ มึงรัดกูแน่นเกินไปแล้ว” ฮอนร้องเสียงดังเพราะเสียวจนจะขาดใจ เมื่อดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาพูดมันไปกระตุ้นต่อมความรู้สึกของคนใต้ร่างเข้า



เขากลั้นใจหยุดขยับบั้นเอว ปล่อยให้ช่องทางคับแคบตอดรัดความเป็นชายถี่ยิบ



“ไหนเมียบอกไม่ชอบไงคะ ทำไมรัดผัวแน่นแบบนี้ฮึ” ร่างสูงก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูอีกฝ่ายเสียงพร่า ใช้สองมือกกกอดอีกคนมาไว้ในอ้อมอกก่อนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง



“ฮื่อออ มึงจะทำอะไร” ทันทีที่ฮอนเปลี่ยนให้คนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตัก ส่วนแข็งขืนที่ยังคงฝังอยู่ข้างในร่างกายก็ขยับเข้ามาลึกมากกว่าเดิมจนเขาต้องครางฮือในลำคอ



“ทำเมีย ไม่ใช่สิ ให้เมียทำตามที่ตกลงไงคะ”



“กูบอกว่ากูไม่ได้ตกลงอะไรกับมึงไว้นะไอ้เหี้ยฮอน”



“จุ๊ๆ อย่าพูดทั้งที่รัดแน่นขนาดนี้สิคะ” ฮอนมองหน้าคนที่ยังด่าเขาเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าตัวเองจะตกเป็นรองอยู่ก็ตาม



ดวงตากลมมีน้ำใสคลออยู่ข้างในเพราะความเจ็บ ทว่าเวลาที่อีกคนมองพร้อมจมูกแดงๆ กับแก้มขึ้นสีฝาด มันช่างปลุกอารมณ์เขาให้ทะยานขึ้นสูงเสียจริง



ชายหนุ่มจับเอวคอดไว้ด้วยสองมือ ก่อนจะขยับกระแทกรัวเร็วเข้าไปชักพาอารมณ์อีกฝ่ายให้ต่อเนื่องจากเมื่อครู่



คนตัวเล็กกว่าร้องครวญครางออกมาเสียงดัง จิกมือลงบนแผ่นหลังของคนที่เขานั่งทับเสียแน่นเพื่อระบายอารมณ์



“ไม่ไหวแล้วหนู ค่อยโชว์ประตูหน้านะ” ชายหนุ่มหยัดเอวเข้าไปกระแทกกระทั้นตามแรงอารมณ์ที่ใกล้จะได้ทำประตู อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาเลี้ยงลูกจากอีกฝั่งมาถึงประตูฝ่ายตรงข้ามแล้ว



“ฮ้า!” เสียงร้องครวญจากหนุ่มวัยรุ่นสองคนดังขึ้นพร้อมกันทันทีที่เสร็จสมถึงที่หมาย น้ำสีขาวขุ่นของคนตัวขาวพุ่งกระฉูดหยดเปรอะลงบนหน้าท้องตนเองและคนตรงข้าม



ฮอนยกตัวอีกฝ่ายขึ้นเล็กน้อยเพื่อถอดถุงยางที่เต็มไปด้วยน้ำรักของเจ้าตัว เขารวบแกนกายของตัวเองเข้ากับของคนบนร่างอย่างไม่รังเกียจน้ำสีขุ่นที่เปรอะเปื้อนอยู่ รูดรั้งเบาๆ เรียกแรงอารมณ์ที่เพิ่งถูกดับไปขึ้นมาอีกครั้ง



“พรุ่งนี้กูมีเรียน” น้ำเสียงอ่อนแรงของเด็กขยันดังขึ้นข้างหู



“ขออีกสักประตูให้เท่าโครแอตได้ไหมคะ”



แม้ในใจคนเอ่ยท้วงจะปฏิเสธไปหลายสิบครั้งแค่ไหน แต่ร่างกายกลับไม่ยอมฟังเพราะแกนกายที่ถูกปลุกปั้นกำลังแข็งชันสู้มือของอีกคน



คนตัวขาวในอ้อมกอดนิ่งเงียบไม่ตอบรับ มีเพียงเสียงหอบหายใจถี่ดังออกมาเท่านั้น ฮอนอนุมานเอาเองว่าได้ จึงควานหาซองถุงยางตามซอกอีกครั้ง



ริมฝีปากหนาเริ่มอยู่ไม่สุขขณะที่สวมใส่ถุงยางไปด้วย เขาอ้างับยอดอกที่เบ่งชูชันอยู่ตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว ใช้ปลายลิ้นแลบเลียจนกระทั่งตัวตนของเขาเข้าไปได้จนหมด



ทันทีที่ช่องทางด้านหลังถูกเติมเต็มเข้ามาอีกครั้ง เสียงร้องครางของคนบนตักก็ดังลั่น จนเขาต้องคว้าคออีกฝ่ายเข้ามาประกบจูบเพราะกลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไปนอกห้อง



“เมียชอบให้ผัวทำแรงๆ รึเบาๆ คะ” ถอนจูบออกมาเห็นใบหน้าน่ารังแกของอีกฝ่าย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากแกล้งอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเขาจะโดนอีกคนแกล้งกลับ เพราะทันทีที่พูดจบช่องทางข้างในก็ตอดรัดความเป็นชายของเขาอย่างแรง



“ไม่… ฮึก ไม่ชอบ” เสียงพูดแหบพร่าตอบกลับ



“ไม่ชอบสักแบบเลยหรอคะ งั้นคงต้องโชว์เองซะแล้ว” ว่าจบ ชายหนุ่มก็ใช้มือที่ก่อนหน้าจับอยู่บั้นท้ายขาวมาพาดยาวบนพนักโซฟาพร้อมปรายตามองคนตรงหน้าท่าทีสบายใจ



คนบนตักทำท่าฮึดฮัด มันจงใจแกล้งเขาให้เขินอายโดยการทำแบบนี้ ตอนนี้คงต้องเลือกว่าจะตามเกมหรือลุกขึ้นต่อยหน้าให้มันสลบไปเลยดี



นิ่งไปอยู่สักครู่ ก็ดูเหมือนว่ากิจะคิดอะไรได้เมื่อปรายตาเห็นเข็มขัดนักศึกษาที่ตกอยู่หน้าโซฟา เขาก้มหยิบมันขึ้นมา จับแขนแกร่งที่พาดยาวบนพนักโซฟามาไขว้บนหัวก่อนจะใช้เข็มขัดมัดมือคู่นั้นแน่น



“หนูกิจะทำอะไรคะ ชอบแนวรุนแรงทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า” คนถูกถามไม่ตอบ แต่ส่งยิ้มบางไปให้แทน



ฮอนตีความรอยยิ้มนั้นไม่ออก เขาไม่ได้สงสัยอะไรมากนักเพราะพอโดนมัดเสร็จ เจ้าตัวก็จับบ่าเขาแล้วพยายามขยับเอวไปมาอย่างช้าๆ



“ฮ้า... หนูกิ” เขาร้องครางออกมาเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายยกตัวเองขึ้นสูงก่อนจะค่อยๆ นั่งทับลงมา คนตัวขาวขยับตัวเองแบบนี้อยู่หลายครั้งจนกระทั่งเริ่มชินกับสิ่งแข็งขืนในร่างกายตนเอง จังหวะขยับเอวจึงค่อยๆ แรงและเร็วขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งทะยาน



ฮอนหอบหายใจถี่ให้กับความร้อนแรงบนร่างกายเขาตอนนี้ หนูกิขึ้นสีแดงไปทั้งตัว ดูเหมือนจะทำใจกล้าฝ่าความอายของตัวเองกลายร่างเป็นฝ่ายบุกในแมตช์นี้บ้าง ร่างสูงหยัดเอวขึ้นสวนทันทีที่อีกคนกดบั้นท้ายลงมา เสียงหวีดครางดังขึ้นเป็นระลอก



“หนูกิคะ ปลดเข็มขัดให้ก่อนได้รึเปล่าหือ” เขาอยากจับยึดเอวของอีกฝ่ายไว้แล้วรัวกระหน่ำใส่แรงๆ แต่เข็มขัดกลับมัดเขาหนาแน่น แค่จะหมุนข้อมือก็ยังไม่ได้ ทำได้เพียงดึงแขนลงข้างตัวไม่ให้เมื่อยเพียงเท่านั้น



คนขี้อายที่ตอนนี้กลายร่างเป็นนางแมวทำใจดีสู้เสือส่ายหัวรัวๆ แม้จะเขินอายอยู่ไม่น้อยแต่เพราะตอนนี้แรงอารมณ์ขึ้นถึงขีดสุด เขาจึงทำใจกล้ายกสะโพกขึ้นสูงก่อนจะกดลงจนสุดซ้ำไปซ้ำมา อีกนิดเดียวก็จะทำประตูขึ้นเสมอได้แล้ว



กิรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังบ้าคลั่ง เขาทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ เสียงกระทบบนหน้าขาดังขึ้นอย่างหยาบโลน เขาขยับเอวขึ้นรัวเร็วก่อนจะกดสะโพกลงมาอย่างแรงเป็นครั้งสุดท้าย



เสียงหวีดครางดังลั่นห้องไม่มีใครกลั้นเสียงอีกต่อไป น้ำสีขุ่นไหลลู่ลงบนกล้ามเนื้อท้องของอีกฝ่าย



ฮอนมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาหื่นกระหาย แรงอารมณ์พุ่งทะยานถึงขั้นสูงสุด เขาได้แต่พยายามหยัดเอวใส่เพราะยังไม่เสร็จ แต่อีกคนกลับหยุดนิ่งไม่ขยับ ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิด เขาควรได้จับเอวขาวๆ นั่นแล้วกระแทกขึ้นไปแรงๆ ให้สมใจอยาก



กิมองหน้าคนที่ค้างคาแล้วหัวเราะอยู่ในใจ เขาหมุนควงเอวที่ยังมีแก่นกายแข็งขืนอยู่ข้างในเป็นการส่งท้ายก่อนจะค่อยๆ ยกตัวเองออกมา



“ซี้ด หนูกิ มึงไปเรียนท่าควงนี้มาจากไหนเนี่ย” คนที่กลายมาเป็นฝ่ายโดนกระทำบ้างสูดปากร้องอย่างเสียวซ่าน



“มึงไม่เคยดูหนังโป๊หรอ” เขากล่าวพร้อมส่งรอยยิ้มละมุนละไมให้



“ถอดเข็มขัดให้หน่อยหนูกิ เร็วเข้า” ชายหนุ่มทนรอไม่ได้อีกต่อไป เขาต้องการทำประตูเดี๋ยวนี้!



“หลับตาก่อน”



“หลับทำไม”



“หลับตาแล้วนับหนึ่งถึงร้อย ห้ามลืมตาก่อนเด็ดขาด ทำได้เดี๋ยวกูถอดเข็มขัดให้” ฮอนหลับตาตามคำสั่งเพราะความอยากจนหน้ามืด ให้ทำอะไรตอนนี้เขาก็ทำได้หมดทั้งนั้นแหละ



ตอนที่เสียงทุ้มของหนูกิเริ่มนับเลข ชายหนุ่มรู้สึกว่าอีกคนลุกออกจากตักเขาไป ก่อนจะมีเสียง ตุ้บ แปลกๆ เกิดขึ้น



“ห้ามลืมตานะ!”



กิแข้งขาอ่อนแรง ทันทีที่เขาลุกขึ้นยืนขาดันเปลี้ยลงจนเขาล้ม สะโพกกระแทกกับพื้นทำให้เจ็บขึ้นมากกว่าเดิม



“มึงเป็นอะไร กูยังไม่ได้ลืมนะ ยังไม่ได้ทำผิดข้อตกลงเลย” ฮอนรีบบอกทันทีเพราะกลัวโดนหาว่าโกง



“นับถึงเท่าไหร่แล้ว”



“สามสิบเจ็ด”



ยังพอมีเวลา กิพยายามพยุงตัวเองขึ้นโดยใช้มือค้ำโซฟาและผนังห้องไปเรื่อยๆ เขาเดินได้ไม่เร็วนักเพราะแรงเสียดสีที่สะโพกเจ็บแปลบ



คนตัวขาวย่องเดินเบาๆ ไม่ให้อีกคนรู้ตัว จนกระทั่งมาถึงห้องนอนที่เป็นจุดมุ่งหมายได้สำเร็จ



ปัง! กริ๊ก



เสียงกระแทกประตูดังปิดอย่างแรง ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งนับเลขบนโซฟาเบิกตากว้าง เขาวิ่งไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว



ปึงๆๆๆๆ



ชายหนุ่มรัวมือทุบประตูทันทีที่รู้ว่าอีกคนล็อกประตูจากด้านในเรียบร้อยแล้ว



“เชี่ยเอ๊ย กิ! เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!!”



ไร้วี่แววของอีกคน หลังประตูเงียบกริบเหมือนไม่มีคนอยู่ข้างในนั้น



ฮอนร้องเรียกชื่ออีกคนซ้ำไปซ้ำมา สลับกับทุบประตูเป็นระยะ



ค่ำคืนร้อนสำหรับนัดชิงแชมป์บอลโลกวันนี้ฝรั่งเศสชนะโครเอเชียไป 4 ประตูต่อ 2 แต่ในห้องสีขาวแห่งนี้กลับทำแต้มประตูเสมอกันไปด้วยคะแนน 1 ต่อ 1



ตอนนี้ชายหนุ่มร่างสูงเข้าใจความรู้สึกตอนโดนแกล้งให้ทรมานแล้วว่ามันเป็นยังไง



พระเจ้า! ขอบคุณที่ยังมีห้องน้ำ!







☁  TBC.

ー #AdaywithWCM

ー จริงๆตอนแรกตั้งใจแต่งนัดชิงเสร็จแล้วจบเลย แต่เปลี่ยนใจแล้ววว;_; ยังไงฝากเอ็นดูสองคนนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะยอมเป็นแฟนกันด้วยนะคะ ♥
 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2018 18:16:10 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ palm-metto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
หนูกิ แก้เผ็ดฮอนได้รุนแรงเหลือเกิน
สงสารเลย แต่แอบสะใจนิดๆ
 :mew4:

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
 :haun4: หนูกิเผ็ซซซซซซทิ้งฮอนกลางคัน

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ว้ายสมน้ำหน้านังฮอน โดนหนูกิเอาคืน55555555555555 :hao6:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ร้อนแรง..งงงง ได้เลือด  :oo1: :jul1: :oo1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ praewypn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ๊ยย แซ่บบๆ ผัวๆเมียๆอะไรเนี่ยฮอนน พิเขินนะ อร๊ายย  :o8 :-[

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
หนูกิทำไมร้ายยยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
หนูกิลูกกกกกกกก
ไปทำเค้าค้างแบบนั้น
ครั้งหน้าโดนเอาคืนชุดใหญ่แน่

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ถือว่าเสมอกัน  :o8: :o8:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
จนกว่าจะเป็นแฟนกัน!!!!!   :jul1: แปลว่าจะมีต่อไป้เรื่อยๆใช่มะะะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ SN_sanook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ค้างไปดิ555. น่าสงสาร o13

ออฟไลน์ Cloudnine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 730
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0

ออฟไลน์ กวังกีเมย์บี

  • วาย ว๊าย วาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่ารักกกกก

ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ー 4th Match ♥



ยามสายของวันใหม่ยังคงเงียบสงบ วันนี้อากาศดูปลอดโปร่งกว่าทุกวันเพราะมีแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องแทนเสียงฝนพรำ ร่างสูงที่นอนขดอยู่บนโซฟามาทั้งคืนตื่นมาด้วยความไม่สบายตัว แขนขาของเขามันเกะกะและยาวเกินขนาดโซฟาไปหลายคืบ ฮอนกวาดสายตามองห้องนั่งเล่นสีขาว รวมถึงเงี่ยหูฟังเสียงน้ำไหลในห้องน้ำ ทว่ากลับไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงรถบนถนน ไร้วี่แววเจ้าของห้องตัวป่วนที่ก่อคดีไว้เมื่อคืน



ก๊อกๆ



“กิ”



ชายหนุ่มเดินมาเคาะประตูห้องนอนที่ยังคงล็อกปิดสนิท เขานึกว่าตัวป่วนจะรีบไปออกจากห้องไปเรียนเพราะกลัวโดนแก้แค้นเสียอีก แต่คนขี้เซายังไงก็ยังคงขี้เซาอยู่วันยังค่ำ เวลานี้คงยังนอนอุตุสบายใจเฉิบอยู่แน่ๆ



“กิ”



ปึงๆ !



จากแค่เคาะธรรมดา ตอนนี้ฮอนเริ่มร้อนใจเมื่อเห็นว่าหลายนาทีแล้วแต่ข้างในห้องยังคงเงียบ เขาเปลี่ยนมาทุบประตูห้องระรัวสลับกับตะโกนเรียกชื่อจอมดื้อเป็นระยะ



“กิ!”



“อื้อ” น้ำเสียงงัวเงียดังตอบรับหลังเปิดประตู เผยให้เห็นคนหน้าง่วงกำลังขยี้ตาไปมาหลายที



“เด็กขี้เซา กูยืนเคาะประตูตั้งนานจนนึกว่ามึงเป็นอะไร” ฮอนทนไม่ไหว คว้าเจ้าตัวเข้ามากอดในอ้อมอก สองมือกอดรัดเอวแน่นขึ้นแสดงความรู้สึกห่วงใยเพื่อยืนยันคำพูดของตนเอง



“ไม่ได้เป็นอะไร” น้ำเสียงแหบพร่าพยายามฝืนพูดทำให้ฮอนฉงนใจ ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดและใช้หลังมือทาบเข้าที่หน้าผากของอีกฝ่าย สัมผัสอุ่นๆ แตกต่างจากยามปกติทำให้รู้ว่ามีคนไม่สบายเข้าแล้ว



“ไม่เป็นอะไรได้ยังไง ตัวรุมๆ” ชายหนุ่มดันหลังคนป่วยให้เดินกลับไปนอนซุกผ้าห่มบนเตียงเหมือนเดิม



“กูมีเรียน แคกๆ” ประโยคสั้นๆ พร้อมเสียงไอ พยายามเอื้อนเอ่ยปฏิเสธที่จะกลับไปนอนอีกครั้ง เพราะกลัวว่าถ้าหัวถึงหมอนเขาคงหลับยาวไปถึงเย็น



“โดดสักวันน่า ใช้โควตาหยุดเรียนให้มันคุ้มบ้าง” ถ้าเป็นยามปกติตัวเขาคงโดนกิด่ายับ แต่ตอนนี้คนสิ้นฤทธิ์ไม่แม้แต่จะหันมามองตาขวางใส่เขาด้วยซ้ำ



“ต้องส่งงาน”



ฮอนจิ๊ปากไม่พอใจเมื่อได้ยินคำตอบเพราะไม่ว่ายังไงคนตรงหน้าเขาก็ต้องไปมหา’ลัยสินะ



“ยังพอมีเวลา มึงนอนลงไปก่อน เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้”



“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูอาบน้ำเอง” เสียงทุ้มดังขัดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังจะเดินไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้เขา



“ไม่ได้ มึงไม่สบาย”



“เดี๋ยวเช็ดเองก็ได้” กิพยักหน้าตอบรับเพื่อตัดบท ยกมือทำท่าไล่ให้อีกคนออกไปจากห้อง เขาไม่อยากพูดเยอะเพราะเจ็บคอ แต่ต้องฝืนตัวเองเพื่อขัดคนที่พยายามจะเช็ดตัวให้ อยากตะโกนบอกออกไปดังๆ ว่านี่แค่ไม่สบายนะไม่ได้เป็นง่อย



ฮอนทำท่าคิดอยู่สักครู่ก่อนจะพยักหน้ารับคล้อยตาม “งั้นเดี๋ยวกูไปหาอะไรให้กิน จะได้กินยาด้วย”         



ชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปทั้งที่ตั้งใจว่าพอตื่นมาจะรีบลุกไปแก้แค้นที่เมื่อคืนนี้ปล่อยเขาทิ้งกลางทางไว้คนเดียว แต่กลับกลายเป็นว่าตื่นมาดูแลผู้ป่วยแทนเสียได้



----------



ชายหนุ่มผมยุ่งตัดสินใจเดินออกจากห้องไปเซเว่นใกล้ๆ คอนโด หลังจากค้นตู้เย็นในห้องแล้วพบว่ามีแค่น้ำเปล่ากับกระป๋องเบียร์วางเรียงรายอยู่เท่านั้น ซองโจ๊กสำเร็จรูปกับแผงไข่ถูกเลือกหยิบมาเป็นผู้ช่วยชีวิตในยามสายของวันนี้ ฮอนมองหม้อเปล่าด้วยความหนักใจ เขาไม่รู้ว่าต้องใส่น้ำเท่าไหร่ถึงจะพอดีให้โจ๊กไม่ออกมาอืดหรือเหลวจนกลายเป็นข้าวต้ม เขาตัดสินใจเปิดน้ำใส่ถ้วยเพื่อตวงปริมาณแล้วเทลงใส่หม้อ วัดดวงตอนเสร็จว่าจะออกมาเป็นอย่างไรก็แล้วกัน



เสียงเปิดประตูพร้อมร่างโปร่งที่สวมชุดนักศึกษาเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว เดินมานั่งบนโซฟาห้องนั่งเล่น กวาดสายตามองสภาพห้องที่เต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์ กล่องพิซซ่าและไก่ทอดวางอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ย เสื้อผ้าชุดที่ใส่เมื่อวาน รวมไปถึงเศษซากถุงพลาสติกสีใสที่วางกระจายอยู่บนพื้น นั่งนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์สมรภูมิรบขนาดย่อมที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง อยู่ดีๆ ใบหน้าของเขาก็รู้สึกร้อนผ่าว แก้มขึ้นสีระเรื่อขึ้นมาเสียอย่างนั้น กิไม่คิดว่าตัวเองจะทำอะไรแบบนั้นลงไปได้ รู้สึกว่าเมื่อคืนนั่นไม่ใช่ตัวเอง อาจจะโดนสิงหรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์เบียร์หลายกระป๋องที่ดื่มไปแน่ๆ !



กิสะบัดหัวหลายๆ ทีเพื่อไล่ภาพเหตุการณ์ที่ย้อนเข้ามาในหัวออกไปให้หมด กลิ่นหอมฉุยของโจ๊กลอยมาตามก้าวเดินของหนุ่มพ่อบ้านมือใหม่จนเขาต้องหันไปมอง



ดวงตากลมเบิกมองถ้วยโจ๊กใส่ไข่ที่วางอยู่ตรงหน้า ชี้มือไปที่ถ้วยและเอียงคอฉงนสงสัยว่าใครทำ



“ครั้งแรกที่ทำ กูก็ว่าหน้าตามันออกมาดูดีใช้ได้นะ”



กิเบ้ปากเล็กน้อยตอบกลับคนอวยตัวเอง ก่อนจะยกถ้วยขึ้นมาเป่าให้หายร้อน



“เป็นไง กูไม่รู้ว่ามันต้องใส่น้ำเท่าไหร่” พ่อบ้านมือใหม่ทำหน้าตาคาดหวังทันทีที่อีกคนตักโจ๊กเข้าปากไปเรียบร้อย



คนไม่สบายนั่งนิ่งก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา “เหลวไปนิด”



ฮอนทำสีหน้าผิดหวังนิดหน่อยจนกระทั่งคนตัวเล็กกว่าพูดประโยคต่อมา



“แต่ก็พอกินได้”



“งั้นก็กินเยอะๆ นะคะ จะได้โตไวๆ” ชายหนุ่มกลั้นยิ้มขณะเอื้อมมือไปลูบหัวคนป่วยเบาๆ ก่อนจะโดนมือเรียวตีเปี๊ยะปัดตกจากหัว



“โอ๊ยกิ เจ็บนะคะ”



กิมองคนที่เบ้ปากทำหน้าเหมือนเด็กน้อยโดนคุณแม่ตีแล้วนึกหมั่นไส้ เลยเบะปากคว่ำพยายามทำให้คล้ายอินเนอร์พี่กิ๊กสุวัจนีตอบกลับ



“ฮ่ะๆ ทำไมป่วยแล้วร้ายหื้อ” อดใจไม่ไหวเอื้อมมือไปลูบเรือนผมสีดำของคนตัวเล็กอีกครั้ง เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าท่าทางที่ทำให้ดูร้ายกาจนั้นช่างน่ารักขนาดไหน ริมฝีปากปากแดงๆ เบะคว่ำน่าจับมาบีบเล่นสักทีสองทีให้หายมันเขี้ยว



“ปวดหัวมากไหม”



คนตัวเล็กกว่าส่ายหัวเป็นคำตอบก่อนจะชี้คอตัวเองแล้วส่ายหัวอีกครั้ง



“เจ็บคอ?”



“ฮื่อ” เสียงครวญตอบกลับในลำคอ



“เพราะเมื่อคืนซ่าไง เนี่ยบอกกูให้เฮเบาๆ แต่มึงน่ะครางดังกว่ากูอีก”



เปี๊ยะ!



“โอ๊ยกิ มันเจ็บนะโว้ย” มือเรียวเล็กของอีกคนฟาดเข้าที่หน้าขาของเขาอย่างแรงทันทีที่พูดจบ ก่อนจะยกมือชี้หน้าส่งสัญญาณว่าถ้าพูดอะไรเทือกนั้นได้เจ็บอีกแน่



ฮอนชูมือขึ้นเหนือหัวท่าทำผู้ร้ายยอมจำนน



“เดี๋ยวกูไปส่ง กินหมดแล้วกินยาด้วย กูไปเปลี่ยนชุดแป๊บนึง”



กิยักไหล่ทำท่าไม่สนใจ ก้มหน้าก้มตาตักโจ๊กใส่ปากด้วยความรวดเร็วทั้งที่ในใจตรงข้ามกับการกระทำ



…ถ้าไอ้บ้าฮอนเดินกลับมาตอนนี้ มันคงเห็นว่าพวงแก้มของเขาตอนนี้ขึ้นสีแดงแค่ไหน



--------



เมื่อใกล้หมดช่วงเวลาปิดเทอมอันแสนสุขของใครหลายคน บรรยากาศมหา’ลัยตอนนี้ก็เริ่มกลับมาคึกคักเพราะนักศึกษาหลายคณะเริ่มเตรียมตัวจัดกิจกรรมรับน้องที่ใกล้จะถึง สัปดาห์นี้เองก็เป็นสัปดาห์สุดท้ายในการเรียนภาคฤดูร้อนของกิ เขาเองเลยไม่อยากขาดเท่าไหร่ ทั้งต้องมาส่งงาน ทั้งกลัวพลาดแนวข้อสอบที่อาจารย์อาจจะบอกในคลาสไป



“หน้าตึกไม่มีที่จอดเลยว่ะ เดี๋ยวกูวนไปหาที่จอดก่อน มึงนั่งรอกูแถวนี้นะอย่าเพิ่งขึ้นห้อง โอเค้?” ฮอนตัดสินใจจอดรถหน้าทางเข้าตึกคณะบัญชีที่กิเรียนอยู่เพื่อให้อีกฝ่ายไม่ต้องเดินไกล



“รอทำไม”



“เหอะน่า รีบลงไปเร็วเข้า คันข้างหลังด่ากูแล้วมั้งเนี่ย” กิเปิดประตูลงจากรถเมื่อเห็นว่ามีรถตามมาข้างหลังจริง แม้ในใจจะอยากให้ฮอนกลับห้องไปเลยไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถก็เถอะ



ชายหนุ่มมองหาโต๊ะที่ยังไม่มีใครจับจองก่อนจะเห็นเพื่อนสนิทโบกมือเรียกอยู่ไหวๆ กิค่อยๆ ก้าวขา เดินไปหาอีกฝ่ายเพราะยังเจ็บสะโพกจากเหตุการณ์เมื่อคืนอยู่ ทั้งทำใจกล้าก่อเรื่องเอง ไหนจะล้มตอนยังไม่ทันตั้งตัวอีก คิดแล้วก็ยังไม่ได้ตรวจดูว่ามีรอยช้ำตรงไหนบ้างรึเปล่า



“ทำไมมาเร็ว” กิเอ่ยทัก ‘เต็งหนึ่ง’ เพื่อนสนิทที่ปกติเข้าห้องเรียนหลังอาจารย์เกือบทุกครั้ง



“แฟนโทรปลุกจ้า ปลุกกูตั้งแต่ตีห้าให้มาอ่านหนังสือ กูแบบว้อทเดอะฟ้าคอะไรวะเนี่ย”



“สาวใหม่?”



“เออดิ น่ารักดีถึงจะเนิร์ดไปนิดก็เหอะ ช่วงโปรโมชั่นกูต้องตามใจหน่อยเลยถึงมอก่อนมึงนี่ไง”



กิยักคิ้ว “แล้วถ้าไม่โปร?”



“ก่อนนอนกูจะปิดโทรศัพท์ไว้”



‘ไอ้เหี้ย’ กิขยับปากแต่ไม่เปล่งเสียง



“ฮ่ะๆ อย่าด่าเยอะเพราะกูรู้ตัว” เต็งหนึ่งหัวเราะชอบใจที่โดนด่า ก่อนจะกวาดตามองเพื่อนสนิทที่วันนี้ดูโทรมกว่าทุกวัน



“ทำไมมึงโทรมจังเนี่ย ไปทำไรมา”



“ดูไม่ออกเหรอว่าไม่สบาย แคกๆ” ชายหนุ่มมองคนกระแอมไอออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา ปกติเพื่อนเขามันแข็งแรงจะตาย ป่วยแทบนับครั้งได้



“ไหนกูขอพิสูจน์ซิ” พูดจบ เขาก็ใช้หลังมือทาบเข้าที่หน้าผากคนป่วย ไล่ลงมาที่ซอกคอเพื่อวัดอุณหภูมิ



ฮอนที่เพิ่งจอดรถเสร็จ เดินมาเห็นว่าตัวป่วนของเขาโดนจับนู่นนี่ไปทั่ว เดินรี่ไม่รีรอเข้ามาปัดมือที่บังอาจแตะคนของเขาอย่างแรง



“ไอ้หนึ่งมึง” ฮอนทำหน้าถมึงทึงใส่ทันที



“อะไรเนี่ยเชี่ยฮอน คลามดาวน์เพื่อน นั่งลงก่อน กูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แค่จะวัดไข้เนี่ย!” เต็งหนึ่งลูบมือตัวเองที่ถูกปัดป้อยๆ โดนตีมาอย่างแรงจนขึ้นรอยแดงเป็นปื้น



“ห้าม มึงน่ะไม่มีสิทธิ์แตะตัวกิจำเอาไว้”



“ทำแมะ แล้วมึงมีเหรอฮะ เจ้าตัวเขายังไม่เห็นว่าอะไรเลย” กิยังไม่ทันได้เอ่ยปากห้าม เสียงทุ้มจากคนข้างๆ ก็ดังขึ้นเสียก่อน



“มีสิ! ก็กูน่ะเป็นผะ เอ๊ยอิ อ่อยอูๆๆๆ อูเอ็บ” ยังไม่ทันได้พูดให้จบประโยค มือเรียวก็ตวัดตบเข้าที่ปากฮอนอย่างแรง ไม่ให้คนที่กำลังจะโม้ได้ตั้งตัวเลยแม้แต่นิด



“อะไรของพวกมึงสองคนวะ” เต็งหนึ่งเลิกคิ้วทำหน้าฉงน



“เถียงกันเป็นเด็ก อย่าให้กูด่าพวกมึงเยอะได้ไหม กูเจ็บคอ” กิพยายามตัดบทเพื่อเฉไฉไปเรื่องอื่น ชำเลืองมองคนข้างๆ ที่ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ด้วยความหมั่นไส้



“เออไอ้ฮอน มึงนั่นแหละตัวดี” เต็งหนึ่งโบ้ยมาให้คนที่ยังโดนปิดปากแน่นเพราะรู้ว่ามันยังเถียงเขากลับไม่ได้



คนโดนโบ้ยชี้หน้าคาดโทษก่อนจะแกะมือเรียวที่ปิดปากเขาออก



“ทำไมกูได้กลิ่นสบู่ มึงอาบน้ำเหรอกิ”



“ก็… อือ”



“กูบอกให้เช็ดตัวไม่ใช่เหรอฮึ”



“มาเรียนนะ ใครจะกล้าไม่อาบน้ำมาล่ะ”



“ไอ้เด็กดื้อ กูบอกอะไรไม่เคยจะฟังหรอก” ฮอนนึกมันเขี้ยว ลงโทษคนดื้อโดยการตบเข้าที่สะโพกของอีกฝ่ายเบาๆ ไม่แรงมากนัก



“โอ๊ย! เจ็บ!” กิร้องออกมาเมื่อรู้สึกว่าตำแหน่งที่โดนตีจะเป็นรอยช้ำจากที่ล้มเมื่อวาน



“เห้ย กูตีแรงไปเหรอ ขอโทษๆ” ฮอนทำท่าทีเลิกลักเมื่อได้ยินอีกคนร้องเสียงดัง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนทำอะไรกับคนดื้อไว้



“ขอโทษ กูลืมว่ากูทำมึงเจ็บเอง” กิไม่ตอบกลับแต่เบะปากใส่ หันหน้าไปอีกทาง



“ขอโทษนะคะ หันมาพูดกับกูก่อนเร็วเข้า”



อีกคนพยายามยื่นหน้าเข้ามาหา อีกคนก็พยายามเบี่ยงหลบ เต็งหนึ่งมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาฉงน จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าไม่แปลกก็ใช่ เขาสนิทกับทั้งสองคนมาตั้งแต่ปีหนึ่งก็พอจะมองออกว่าสองคนนี้มันมีซัมติงอะไรบางอย่างอยู่แล้ว รู้ด้วยว่าไอ้ฮอนที่ทำกะลิ้มกะเหลี่ยนี่มันชอบเพื่อนสนิทของเขา แต่จริงจังขนาดไหนนี่ก็ไม่รู้ ส่วนไอ้คนตัวขาวที่มัวแต่ทำหน้าแดงก็ไม่รู้เป็นอะไร ปล่อยให้ตัวเองโดนรังแกอยู่ได้ ฟาดมันไปสักครั้งมันก็คงเลิกแกล้งแล้ว



เต็งหนึ่งมองภาพตรงหน้าด้วยความขัดตา ก็ดูเหมือนเล่นกันปกติแต่ออร่าสีชมพูนี่ดันฟุ้งกระจายไปทั่วเชียว



“แฮ่ม” ชายหนุ่มทำเป็นกระแอมไอเพื่อขัดจังหวะพวกคนที่เข้าสู่โหมดมีฉันและเธอสองเราบนโลกใบนี้ด้วยความรำคาญ



“กูว่าถึงเวลาเข้าเรียนแล้วว่ะกิ” ทันทีที่พูดจบ สายตาปีติยินดีจากเพื่อนสนิทตัวเล็กก็ส่งมาให้เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยชีวิต เต็งหนึ่งเลือกที่จะไม่สนใจและทำเป็นมองไม่เห็นดวงตาทะมึนของเพื่อนอีกคนที่มองเขาเขม็ง



กิพยักหน้าเออออ ขณะลุกขึ้นหยิบกระเป๋ามือข้างซ้ายก็ถูกคว้าไปกอบกุมไว้หลวมๆ



“เดี๋ยวกูรอแถวนี้ เลิกแล้วโทรมานะคะ” ฮอนไล้นิ้วลูบหลังมือของเด็กดื้อเบาๆ กิก้มต่ำหันหน้าหนีอีกครั้ง ไม่อยากให้ใครรู้เลยว่าตอนนี้เขากำลังเขิน …เพราะไม่เคยชินกับด้านอ่อนโยนของไอ้บ้าฮอนสักที



“ถามจริง มึงคิดว่าสรรพนามคำว่ากูมันเข้ากับคำว่านะคะมากเหรอ” เต็งหนึ่งอดไม่ไหวเอ่ยปากแซะอีกครั้งเมื่อออร่าสีฟุ้งเริ่มแผ่กระจายอีกรอบ



“เสือก”



กิสลัดมือทิ้ง ส่ายหัวทำท่าว่าห้ามด่ากันอีก ก่อนจะลากแขนเต็งหนึ่งขึ้นห้องเรียนทันที



---------



“ไม่สบายเหรอ ไปหาหมอรึยัง” เสียงทุ้มจากคนที่เดินขนาบข้างดังขึ้นมาถามไถ่อาการ กิเอี้ยวใบหน้าหันไปมองขณะก้าวขาลงบันได



“หื่อ ยังเลย”



“อ้าว กลับรถไฟฟ้าเหมือนเดิมใช่ปะ งั้นเดี๋ยวเราไปส่ง พาไปหาหมอด้วย” เล็กเอ่ยด้วยความหวังดี



“ไม่เป็นไรๆ” เขาปฏิเสธพร้อมส่งรอยยิ้มแทนคำขอบคุณ



“ไม่เป็นไรได้ไง เผื่อวูบตอนโหนรถอยู่ล่ะ เนี่ยเดี๋ยวเราไปส่ง ไม่ต้องเกรงใจหรอก”



กิหันไปส่งรอยยิ้มแห้งๆ ให้ ก่อนจะปฏิเสธอีกครั้ง “ไม่เป็นไรจริงๆ”



“แต่ว่า--” ยังไม่ทันได้พูดจบ คนที่เขากำลังถามไถ่ก็โดนกระชากแขนให้ถอยห่างทันที



“บอกว่าไม่หลายครั้งแล้ว เข้าใจยากจังเลยนะครับ” น้ำเสียงห้วนบ่งบอกอารมณ์ของผู้มาใหม่ได้เป็นอย่างดี ฮอนมองชายที่สูงน้อยกว่าเขาด้วยความไม่พอใจ พวกชอบเกาะแกะนี่น่ารำคาญแบบนี้กันทุกคนเลยรึเปล่า



“อ่า ผมแค่เป็นห่วงกลัวกิกลับไม่ไหว”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมดูแลเขาได้” เล็กรับรู้ถึงแววตาไม่เป็นมิตรส่งมาหาตนเองอย่างต่อเนื่องจากชายหนุ่มที่จำได้ว่าเคยเจอที่หน้าคอนโดของกิ ถ้าสายตาของมนุษย์เราเป็นมีดคม ตอนนี้ร่างของเขาคงถูกแทงพรุนจนตายไปแล้ว



“พอดีเพื่อนมารับน่ะเล็ก ขอบใจนะ” กิเอ่ยแก้สถานการณ์อึดอัดตรงหน้า เล็กยิ้มแหย ก่อนจะผงกหัวตอบรับและยอมล่าถอยออกไปแต่โดยดี



ฮอนสะอึกเล็กๆ กับคำว่า ‘เพื่อน’ ที่คนตัวเล็กกว่าเอ่ยออกมา ก่อนหน้าเขาคงไม่อะไรกับคำนี้หรอก แต่พอผ่านคืนนั้นมาแล้ว คำนี้ก็ดูเป็นคำที่น่าหงุดหงิดชะมัด แม้ใจจะกระวนกระวายแค่ไหน แต่เขาก็คงทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อสถานะของเราสองคนในตอนนี้มันเป็นแบบนั้นจริงๆ



“ไอ้หนึ่งมันไปไหนเนี่ย ทำไมไม่รู้จักดูแลมึง” น้ำเสียงแฝงความหงุดหงิดเอ่ยขึ้นมาขณะเดินไปที่รถ



“รีบไปรับแฟนตั้งแต่อาจารย์บอกปล่อย”



“ไอ้เวรนี่ เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน เดี๋ยวถึงห้องกูจะโทรไปด่ามัน”



กิส่ายหัวอย่างระอาใจ



“แวะร้านขายยาให้กูหน่อย”



“แวะทำไม กูจะพามึงไปหาหมออยู่แล้ว”



“ไม่ต้อง ไม่ได้เป็นไรมาก ไปซื้อยาพอ”



“ไม่เป็นไรได้ไงวะ แค่มึงไม่สบายนี่ก็ถือว่าเป็นแล้ว”



“ฮอนขอร้อง กูไม่อยากพูดเยอะ”



ชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่เป็นสารถีพยักหน้ายอมจำนน เขาแวะร้านยาระหว่างทางกลับคอนโดเพื่อความรวดเร็ว มองจากข้างหน้าดูเป็นร้านขายยาเล็กๆ แต่พอเดินเข้ามาข้างในกลับใหญ่กว่าที่คิดมาก กิเดินตรงไปหาเภสัชหญิงประจำร้านทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในร้าน



“อาการเป็นยังไงบ้างคะ”



“คันคอมากครับ เวลากลืนน้ำลายแล้วมันเจ็บคอ อ่า มีเสมหะด้วย”



“มีไข้ ปวดหัวรึเปล่าคะ”



“เมื่อเช้าเขาตัวร้อนนิดหน่อยครับ” ฮอนเอ่ยตอบคำถามแทน



“แต่ตอนนี้ไม่ปวดหัวเท่าไหร่แล้วครับ”



หลังจากบอกอาการเสร็จ เภสัชก็หันหลังไปเพื่อจัดเตรียมยาให้คนไข้รายใหม่ในวันนี้



“ช่วงนี้มีสอบรึเปล่าคะ”



“ใช่ครับ”



“พยายามนอนให้มากกว่าเดิมนะคะ ช่วงสอบอ่านหนังสือดึกๆ นี่แหละทำให้ร่างกายอ่อนแอง่าย อากาศก็เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน มาซื้อยากันหลายคนแล้ว” กิพยักหน้าพร้อมส่งรอยยิ้มบางๆ ตอบกลับ



“นั่นไง ช่วงนี้เขาทั้งปั่นงานทั้งอ่านหนังสือไม่ยอมนอนสักทีเลยครับหมอ มียาแก้ดื้อด้วยไหมครับ” ฮอนพูดติดตลก แต่อีกคนไม่ขำด้วย มือเรียวฟาดเข้าไปที่แผ่นหลังกว้างอย่างไม่ออมแรง จนคนถูกตีสะดุ้ง



“ไม่มีหรอกค่ะ เพื่อนต้องช่วยแก้แล้วล่ะค่ะอาการนี้” เธอส่งยิ้มหวานมาให้



กิหันไปหัวเราะแหยๆ ก่อนจะรับถุงยาที่มีพ่อบ้านจ่ายเงินให้เรียบร้อย ดึงแขนเสื้อของอีกคนที่ทำเป็นลีลาหวังว่าจะเห็นเขาอายม้วนต่อหน้าคุณเภสัชออกจากร้าน



----------



กลับถึงห้องได้สักพัก ฮอนก็ปล่อยให้อีกฝ่ายไปอ่านหนังสือทั้งที่ในใจอยากให้นอนสักงีบมากกว่า แต่คนดื้อยังไงก็ดื้ออย่างนั้น เถียงกันไปมา เจ้าตัวบอกว่ารีบอ่านจะได้รีบนอน เขาถึงยอมปล่อยให้คนตัวเล็กกว่านั่งอยู่หน้าชีทเรียนได้สองชั่วโมงแล้ว



ชายหนุ่มนั่งเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปมา ตอบข้อความในไลน์จนหมด กดไลก์รูปในไอจีไปแล้วไม่รู้กี่รอบ สลับกับกดเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ อย่างเบื่อหน่าย เปิดมาเจอซีรีส์สอบสวนแนวที่เจ้าของห้องชอบก็อดคิดถึงอีกฝ่ายไม่ได้ เขากดปิดโทรทัศน์แล้วค่อยๆ แง้มประตูเสียงเบา ไม่ให้รบกวนสมาธิเด็กขยัน



กิไม่รู้ว่ามีคนกำลังบุกรุกห้องนอนของเขา จนกระทั่งรู้สึกว่ามีมือปลาหมึกมาโอบรัดเอวเข้า ฮอนโน้มตัวลงกอดคนตัวเล็กว่าที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ลำตัวของทั้งคู่ถูกพนักเก้าอี้คั่นกลาง แต่ฮอนไม่คิดว่านั่นเป็นอุปสรรคเท่าไหร่นัก เขาวางคางของตัวเองลงบนไหล่ของอีกฝ่าย ไล้จมูกบนซอกคอสูดดมความหอมจากกลิ่นกายของอีกคน



“อะไรเนี่ยไอ้เหี้ยฮอน”



ฮอนอมยิ้ม ตั้งแต่เช้าเขายังไม่โดนด่าเลยรู้สึกจิตใจอยู่ไม่สุข พอโดนเรียกด้วยคำสร้อยนำหน้าเหมือนเดิมเลยอดยิ้มออกมาไม่ได้



“ไม่มีบอลให้ดูแล้ว กูเหงา”



“มึงออกไปเลย กูจะอ่านหนังสือ”



“มึงนี่นะ” ชายหนุ่มผละตัวเองออก ก่อนจะหมุนเก้าอี้ให้อีกฝ่ายหันมาเผชิญหน้า วางมือค้ำลงบนพนักพิงแขนเหมือนกำลังกักขังคนบนเก้าอี้เอาไว้



“ถึงเวลากินข้าวแล้วค่ะ หนูกิอยากกินอะไรคะ”



กิช้อนตามอง “อะไรก็ได้”



“กูไม่ชอบคำตอบแบบนี้เท่าไหร่” ฮอนหลุดถอนหายใจ



“กูหากินเองได้ มึงอยากกินไรก็กินเถอะ” กิพยายามผลักอีกฝ่ายออก แล้วหมุนตัวกลับไปทางเดิม



“หืม งอนเหรอ” ฮอนออกแรงแขนจับล็อกเก้าอี้ไว้



“งอนเหี้ยไร ออกไปได้แล้ว” กิมองอีกคนตาเขม็ง



“งั้นรอแป๊บ เดี๋ยวกูไปซื้อไรมาให้กิน”



กิพยักหน้ารับ สัมผัสอุ่นๆ จากฝ่ามือที่กำลังลูบไล้อยู่บนหัวทำให้เขาต้องช้อนตามองอีกฝ่ายอีกครั้ง



“เดี๋ยวมานะคะ” ว่าจบก็เดินออกจากห้องไป



กิหมุนตัวกลับมาที่หน้าโต๊ะหนังสือ รอยยิ้มละมุนของอีกคนที่ส่งมาให้ก่อนผละออกไปทำให้ใบหน้าของเขาร้อนขึ้นมาอย่างประหลาด



…เขาไม่ชินกับไอ้ฮอนโหมดอ่อนโยนจริงๆ นะ




☁  TBC.
ー #AdaywithWCM
ー เปลี่ยนชื่อเรียกจาก A day with World Cup Match เป็น Our Match แทนนะคะ แต่ใช้แท็กเดิมเลยยย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่าาา
 :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2018 18:24:12 โดย Mayongchees »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เมื่อไหร่จะใจอ่อนคะ หนูกิ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Maybe_common

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
รุกหนักๆเลยฮอนนนนนนนน

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ชอบมากกกกก ชอบที่ฮอนเรียกกิว่าหนูกิ เมมชื่อว่าหนูแป้งอีก เอ็นดูหนูกิ  :-[
อยากให้ทำเป็นเรื่องยาววว สนุกมากค่ะะ  o13

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เขินนอ่ะะะะะ  มันดขินแบบดาร์คๆๆๆๆๆ55555. คือมาแบบรว้ายๆ_ๆๆงี้.  เพิ่งได้มาอ่านนนนนน น่ารักกดีจังงง อารมณ์แบบเพื่อนกูรักมึงนะคะ5555555

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
พี่ฮอนนี่ควรเป็นของเราาา เอ้าหนูกิอย่าตบป้าลูก 5555555

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ー 5th Match ♥
 





กลิ่นหอมของโจ๊กลอยมาแตะจมูกทันทียามที่ก้าวออกมาจากประตูห้องนอน คนที่เพิ่งหายป่วยหยุดมองหนุ่มพ่อบ้านในชุดผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้สีชมพูสดกำลังตักโจ๊กออกจากหม้อด้วยท่าทางคล่องแคล่วกว่าเมื่อวานก่อน



“อะไรวะเนี่ย” กิมองลายผ้ากันเปื้อนที่ดูขัดกับใบหน้าคนใส่ด้วยแววตาสงสัย



“หือ กำลังทำกับข้าวไงคะ”



“ไม่ หมายถึงที่มึงใส่อยู่เนี่ย”



ฮอนก้มมองตัวเองก่อนจะหัวเราะ “สวยปะ ซื้อจากโลตัส เหลือลายนี้ลายเดียวอะ”



“โคตรเข้ากับมึงเลย”



“ใช่ปะ กูใส่อะไรก็หล่อไปหมดแหละ”



กิส่ายหัว “ดอกเหมือนกัน”



“อ้าว กิ!” ฮอนกระแทกหม้อลงบนโต๊ะเสียงดัง มองคนวิ่งดุ๊กๆ ออกจากโซนห้องครัวไปนั่งรอทานข้าวที่โซฟาสบายใจเฉิบ หลังจากไม่ค่อยพูดไปสองสามวัน วันนี้กลับมาปากเก่งเหมือนเดิมได้แล้ว ท่าทางคงจะหายเป็นปกติแล้วแน่ๆ



กิมองพ่อบ้านที่กำลังยกถ้วยโจ๊กออกมาวางตรงหน้าด้วยความพึงพอใจที่ตื่นนอนขึ้นก็มีข้าวมาเสิร์ฟให้ทันที แม้ว่าเขาจะต้องทนกินโจ๊กสลับกับข้าวต้มเป็นอาหารมื้อแรกมาสามวันติดแล้วก็เถอะ



“มาแล้วค่ะคุณหนูกิ วันนี้มีเมนูใหม่ด้วยนะคะ” พ่อบ้านมือสมัครเล่นเอ่ยทักคนที่นั่งก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์เพื่อรอเวลากินข้าวอยู่เฉยๆ ไม่ช่วยทำอะไรเหมือนคุณหนูเอาแต่ใจในละครหลังข่าวเสียไม่มี



อาหารถ้วยสุดท้ายที่พ่อบ้านยกมาเสิร์ฟนอกเหนือจากโจ๊กเหลวๆ คือไข่ตุ๋นนมสดสีเหลืองฟูที่เจ้าตัวทำท่าทางภูมิใจนำเสนอสุดๆ



“เป็นไง ครั้งแรกก็ออกมาดูดีแล้วใช่ไหม” กิมองไข่ตุ๋นตรงหน้าแล้วพยักหัว ชายหนุ่มคว้าช้อนตักเนื้อไข่ขึ้นชิมทันที



“แอะ เค็ม” พ่อบ้านหนุ่มเริ่มใจเสียเมื่อเห็นคนกินทำหน้าแหย เหมือนอยากจะคายไข่ที่เพิ่งแตะลิ้นออกมาเสียอย่างนั้น



“เฮ้ย มันเค็มขนาดนั้นเลยเหรอ”



แม้ปากจะบอกว่าเค็มแต่เจ้าตัวก็กล้ำกลืนมันลงท้องไปจนหมด กิส่งช้อนให้อีกฝ่ายพิสูจน์เอาเอง



“เค็มจริงด้วยว่ะ” ฮอนหันมายิ้มแห้งตอบกลับเมื่อลองพิสูจน์แล้วมันเป็นดังว่าจริงๆ



“กูใส่นมเข้าไปแล้วกลัวมันจะจืด เลยใส่น้ำปลาเข้าไปเพิ่มอีก สงสัยกูจะทำขวดน้ำปลาหกแหง” ชายหนุ่มพูดติดตลก



“มึงกินโจ๊กไป เดี๋ยวกูกินไข่เอง”



ร่างสูงนั่งลงบนพื้นข้างโต๊ะตัวเตี้ย หยิบถ้วยโจ๊กขึ้นมาเป่าให้หายร้อนแล้วส่งให้คุณหนูแสนสบายบนโซฟา ก่อนจะหยิบช้อนตัวเองขึ้นมาตักไข่ตุ๋นกินไปเรื่อยๆ



“แล้วมึงไม่กินข้าวเหรอ”



“ไม่ได้หุง เบื่อโจ๊กเลยไม่ได้ต้มเผื่อตัวเอง”



กิเลิกคิ้วสงสัย “แล้วมึงไม่คิดว่ากูเบื่อบ้างเหรอ”



“ก็มึงเจ็บคอ กินโจ๊กมันกินง่ายลื่นคอไง มึงจะได้ไม่เจ็บเวลากลืนมาก”



“มึงรู้ได้ไงว่าไม่เจ็บ”



“เอ้า” คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน



กิมองหน้าคนที่นั่งบนพื้นแล้วหัวเราะชอบใจ อีกฝ่ายมองสงสัยว่าเขาขำอะไร ก็หน้าเหวอๆ พร้อมสายตาสงสัย คล้ายอยากถามว่า ‘ตกลงคุณหนูต้องการอะไรจากไอ้ทาสคนนี้กันแน่’ มันตลกมากจริงๆ นี่นา



คนตัวเล็กขยับตัวจากโซฟาลงมานั่งพื้นตรงข้าม วางถ้วยลงกับโต๊ะแล้วตักไข่ตุ๋นพร้อมโจ๊กเข้าปากตัวเอง



“ไหนบอกว่าเค็ม”



“ก็ใช่ไง กินด้วยไม่ได้เหรอ รึมึงจะให้กูกินแต่โจ๊กอย่างเดียวสี่วันติดเลยล่ะ”



“เปล่า กูยังไม่ได้พูดเลย”



“อีกอย่างกินกับโจ๊กมันก็ไม่ค่อยเค็มเท่าไหร่ละ”



“อือฮึ อย่างนี้นี่เอง” ฮอนมองริมฝีปากสีแดงพูดขมุบขมิบ สายตาเฉไฉไปทางอื่นไม่ยอมหันมาสบตาด้วย



“…มึงลองกินดูก็ได้” มือเรียวเลื่อนถ้วยโจ๊กให้ขยับมาใกล้ถ้วยไข่ตุ๋นมากขึ้น



ฮอนมองคนตรงหน้าแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ เขารู้ทันหรอกน่า... ก็คนตัวขาวที่กำลังทำซึนอยู่ตอนนี้อยากแบ่งโจ๊กให้เขากินด้วยแต่สงสัยไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ ท่าทีที่ออกมาถึงได้ดูขัดกับความตั้งใจเสียอย่างนี้ไง



พ่อบ้านหนุ่มตัดสินใจไม่พูดอะไร เอื้อมมือไปตักไข่ตุ๋นมาผสมโจ๊กตามคำแนะนำของคุณหนู



“อร่อยขึ้นจริงๆ อะแหละ”



“กูบอกแล้ว”



“งั้นหนูกิก็กินให้หมดเลยนะคะ” ฮอนดันถ้วยทั้งสองไปฝั่งตรงข้าม



“อ้าว แล้วมึงไม่กินเหรอ”



“หื่อ” ชายหนุ่มส่ายหัวปฏิเสธ



“…แค่มองมึงกินก็อิ่มแล้ว”



แน่นอนว่าคุณพ่อบ้านคงไม่ได้นั่งมองสบายๆ ตามที่ใจอยากหรอก ทันทีที่พูดจบ หมอนอิงสีน้ำตาลบนโซฟาก็ถูกคว้ามาโดยคุณหนูแสนซึน ก่อนจะยกขึ้นฟาดเข้าที่หัวของพ่อบ้านไปหลายทีด้วยความสะใจ



“โอ๊ยๆๆ พอแล้วกิ เขินแล้วชอบทำร้ายร่างกายกูตลอดเลยนะมึงเนี่ย”



“มันน่ารึเปล่าล่ะ”



“น่าอะไร น่ารัก? อย่าๆๆ กูหยุดแล้วก็ได้” ฮอนร้องขัดเมื่อเห็นอีกคนยกหมอนขึ้นเตรียมจะฟาดเขาอีกครั้ง



กิยอมวางหมอนไว้ข้างตัว เผื่อเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อสักครู่อีกจะได้หยิบขึ้นมาฟาดได้ง่ายๆ ค้อนสายตามองอีกฝ่ายก่อนจะลงมือกินข้าวมื้อแรกของวันโดยไม่คิดสนใจว่าใครจะนั่งมองอีกต่อไป



แชะ



ชามโจ๊กพร่องลงไปครึ่งถ้วย กิก็ได้ยินเสียงชัตเตอร์กล้องโทรศัพท์ดังขึ้นจากฝั่งตรงข้าม เขาเงยหน้าขึ้นมองคนที่แอบถ่ายรูปเขาไม่บอกไม่กล่าวทันที



“อุ้ย ลืมปิดเสียง” ฮอนแสร้งทำเป็นหัวเราะ



“ไอ้เหี้ยฮอน ถ่ายอะไร ลบเดี๋ยวนี้เลย”



“ไม่ลบค่ะ ดูสิไม่เห็นหน้าหนูเลยนะคะ”



กิมองหน้าจอโทรศัพท์ที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ดู ในรูปเห็นใบหน้าเขาเพียงแค่เสี้ยวเดียว ตั้งแต่ริมฝีปากจนถึงปลายคาง ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ถ้วยโจ๊กกับไข่ตุ๋นบนโต๊ะมากกว่า



กิเบือนหน้าหนีไม่พูดอะไรเป็นท่าทีว่ารูปนี้ผ่านได้เพราะคงไม่มีใครรู้ว่าคนในรูปคือเขา ฮอนยิ้มให้กับท่าทางที่เห็น แก้มนิ่มตุ่ยขึ้นมาเพราะชอบอมข้าว ยิ่งมาหันไปทำหน้าซึนๆ ทำปากงุ้ยๆ ยิ่งน่ารักจนน่าเอื้อมมือไปหยิกเสียจริง



เหตุผลหนึ่งที่ไม่ถ่ายให้เห็นเต็มหน้าก็เพราะเขาหวงแก้มตุ่ยๆ นี่ด้วยแหละ อยากเก็บไว้ดูคนเดียวไม่แบ่งปันใครหน้าไหนทั้งนั้น อมยิ้มอยู่กับตัวเองเสร็จ ก็คว้าโทรศัพท์มาแต่งรูปที่ถ่ายเมื่อครู่เตรียมลงไอจี พอคิดแคปชั่นได้ก็กดอัปโหลดลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวทันที



ฮอนเงยหน้ามองเห็นอีกคนกินเกือบจะหมดแล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมแก้วน้ำไว้ในห้องครัว



“น้ำค่ะคุณหนู” หนุ่มพ่อบ้านยกแก้วน้ำเปล่ากับแก้วน้ำผึ้งผสมมะนาวออกมาเสิร์ฟ พร้อมแกะยาออกจากแผงให้เสร็จสรรพเพื่อที่เพื่อนตัวเล็กของเขาจะได้ทานให้เรียบร้อย



“ไม่กินยาได้ไหมอะ กูว่ากูไม่ค่อยเจ็บคอแล้วนะ”



“ไม่ได้ค่ะ คุณหมอบอกว่ายังไงหื้อ”



“ให้กินจนหมดแผง…”



“ใช่ไง กินเข้าไปห้ามเกเรค่ะ”



ริมฝีปากนิ่มของคนตัวเล็กเบะลงเล็กน้อยแสดงอาการขัดใจ เจ้าตัวรับยามาถือในมือก่อนจะตวัดเข้าปากตัวเองแล้วดื่มน้ำตามอึกใหญ่



“เก่งมากค่ะเด็กดี” ฮอนถือโอกาสเอ่ยปากชม เอื้อมมือไปลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ มองดวงตากลมไหวระริกพร้อมแก้มนิ่มที่ค่อยๆ ขึ้นสีฝาด



แสงแดดยามสายส่องผ่านเข้าทางหน้าต่างบานเกล็ดทะลุผ่านผ้าม่านโปร่งแสงสีฟ้า เสียงนางเอกละครในโทรทัศน์ดังขึ้นต่อเนื่องไม่มีผู้ใดสนใจลุกขึ้นไปกดปิดแม้แต่น้อย ต่างคนต่างปล่อยให้สายลมจากเครื่องปรับอากาศพัดผ่านเส้นผมของตนเองปลิวไสวไปเรื่อยๆ เหมือนทุกครั้ง



...ดูเป็นกิจวัตรธรรมดาทั่วไปเหมือนหลายๆ วันที่ผ่านมาในห้องสีขาวแห่งนี้



----------



“กิ มีกระดาษเปล่าปะ”



เสียงทุ้มดังขึ้นหลังเปิดประตูมาเห็นอีกฝ่ายนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ เจ้าของห้องผงกหัวตอบรับ ก่อนจะก้มลงหยิบแผ่นกระดาษในลิ้นชักโต๊ะส่งให้



“ดินสอยางลบด้วย” กิช้อนตามองขวางเล็กน้อยแต่ก็ยอมหยิบให้แต่โดยดี



“กูขอเล่นกีตาร์ได้ไหมอะ”



“ก็เล่นไปสิ”



“ได้ใช่ไหม กลัวมึงไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ” กิไม่ตอบแต่โบกมือไล่แทน



เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ คล้อยกับแสงอาทิตย์ที่เริ่มลางเลือน เสียงดีดกีตาร์ทีละท่อนไม่ปะติดปะต่อเป็นเพลงดังทะลุเข้ามาในห้องนอนของเขา กิหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะเช็กข้อความต่างๆ ในไลน์ ดวงตาเหลือบเห็นเวลาทุ่มกว่าๆ บนมุมหน้าจอโทรศัพท์ทำให้รู้ว่าตนเองนั่งอยู่ตรงนี้มาค่อนข้างหลายชั่วโมงแล้ว เขายืดเหยียดแขน บีบนวดคอตัวเองเพื่อคลายความเมื่อยล้าไปมา



อินสตาแกรมเป็นแอปฯสุดท้ายที่เขาตั้งใจกดเข้าไปดู ไล่กดไลก์รูปเพื่อนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเลื่อนมาเห็นรูปที่โดนแอบถ่ายเมื่อเช้าถูกอัปโหลดลง



hhxonn จีบได้ ทำอาหารเป็น



แค่รูปถ้วยอาหารกับกายปริศนาของเขาก็มีคนกดไลก์ไปหลายพัน เลื่อนลงกดอ่านคอมเมนต์เมื่อเห็นว่ามีชื่อไอจีของเพื่อนตนเองเข้าไปเมนต์ตอบกลับด้วย



marrkkywat เหรอครับ

Tenngtotheone ดูแลคนป่วยได้ด้วยใช่ไหมครับ

ABCDCuteboys ต่อคิวจีบได้ที่ไหนค้า



กิเบ้ปากเล็กน้อยเมื่อเห็นคำบรรยายใต้รูปขณะกดอ่านคอมเมนต์ที่นอกจากเหล่าเพื่อนๆ ของเจ้าตัว ก็มีเหล่าสาวๆ ทั้งแฟนคลับและเหล่า(อยากเป็น)แฟนค่ะของหนุ่มคิวต์บอยประจำมหา’ลัยมาแสดงความเห็น



เขากดล็อกโทรศัพท์เมื่อไม่รู้ว่าจะข้อความเหล่านี้ต่อไปทำไม เปิดประตูออกจากห้องมาหวังว่าจะได้กลิ่นอาหารหอมๆ ตั้งอยู่บนโต๊ะรอแล้ว แต่กลับต้องผิดหวังเมื่อคุณพ่อบ้านยังนั่งดีดกีตาร์อยู่บนโซฟาหน้าตาเฉย



“วันนี้พี่ไม่ได้ร้องเพลงนะคะน้องพิงค์ ว่างๆ นั่งแกะคอร์ดเพลงอยู่เลยมาไลฟ์ค่ะ”

“แหน้ น้องเพชรไม่ต้องทำมาเป็นแซวพี่ ตัวเองล่ะ เห็นลงรูปคู่กันอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”

“ขอมุกเสี่ยวๆ เหรอ แป๊บนึงนะคะ ขอถามสิริก่อน ฮ่าๆ”

“อะไรแฮม ไม่อ่านหนังสือเหรอ ไปอ่านหนังสือไป๊”



เสียงทุ้มเอ่ยตอบคอมเมนต์ที่มีคนกระหน่ำส่งเข้ามาหา สายตาคมจ้องมองจอไอแพดสลับกับกีตาร์ในมือ หูก็ฟังเพลงที่กำลังใช้แกะคอร์ดในโทรศัพท์ไปด้วย เลยไม่รู้ตัวว่ากำลังมีคุณหนูเดินหิวโซตรงเข้ามาใกล้ จนกระทั่งรับรู้ถึงแรงยวบของผิวเบาะโซฟาข้างๆ เขาจึงเอี้ยวตัวหันไปมอง



“หิว” กิไม่ทันได้เห็นว่าอีกคนกำลังไลฟ์สดให้คนเป็นร้อยดูอยู่ ถ้ารู้มาก่อนเขาคงไม่เดินเข้ากล้องมานั่งตรงนี้หรอก



“อยากกินไรอะ สั่งดิ” ฮอนหยิบโทรศัพท์ของตัวเองส่งไปให้



“มึงเลี้ยง?”



“กูก็เป็นคนจ่ายทุกมื้ออยู่แล้วรึเปล่าฮึ” กิยักไหล่ตอบ ก่อนจะเปิดแอปฯเดลิเวอรี่ขึ้นมาจิ้มสั่งอาหาร



ฮอนบอกเมนูที่อยากทานกับเจ้าตัวเสร็จก็เบนสายตากลับมาอ่านคอมเมนต์ต่อ



ABCDCuteboys เอ๊ หน้าคุ้นจังเลยน้าาาาา

Joyiixzz มั่ยใช่แฟนใช่ไม๊ค่ะ

ttttttttttsibhatua เมื่อไหร่จะได้ยินมุกเสี่ยวง่า

Ingnotinkokey ใครเหรอคะคุณทวด @ABCDCuteboys

yesyisbetterr ใครรู้จักขอวาร์ปหน่อยค่า น่ารักจุงๆๆๆๆๆ

cheeseislife พี่กิใช่ม้ายยยยยยย

Marrkkywat สายเปย์จังเลยนะครับ กับเพื่อนกับฝูงล่ะงกจัง



“เหี้ยไรไอ้มาร์ค” ฮอนหัวเราะก่อนจะเอ่ยทักหลังจากเห็นคอมเมนต์ของเพื่อนสนิทในคณะ



กิเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ มือกำลังจะกดยืนยันรายการอาหาร แต่กลับหยุดชะงักเพราะได้ยินเสียงคนข้างๆ ดังขึ้นเสียก่อน



“ทำไรอะ”



“ฮะ อ๋อ ไลฟ์อยู่”



ทันทีที่ชะโงกหน้าไปเห็นจอไอแพด กิก็ดีดตัวลุกขึ้น เดินออกมาจากมุมกล้องอัตโนมัติทันที



“อ้าว ไปไหน” ฮอนร้องทัก



“ทำไมไม่รีบบอกเล่า!”



“ก็นึกว่าเห็นแล้ว”



กิมุ่ยหน้าไม่ชอบใจ เขาไม่รู้ว่ามีไอแพดวางตั้งไว้อยู่ด้านข้างเพราะกีตาร์บังเสียมิด จึงไม่ทันได้ระวังตัวไปโผล่ในไลฟ์เฉยเลย



“มานั่งนี่” ฮอนกวักมือเรียก แต่อีกคนสั่นหัวปฏิเสธ



คนตัวสูงกว่าตัดสินใจคว้าไอแพดเดินมาหาคุณหนูที่หลบมุมกล้องอยู่ข้างโทรทัศน์



“สวัสดีก่อน เอ้าๆๆ มีคนอายว่ะทุกคน” ฮอนยื่นหน้าจอไอแพดให้อีกคนเข้ามาอยู่ในมุมกล้องด้วย แต่เจ้าตัวดันไม่ยอม แม้จะหนีออกจากตรงนี้ไม่ได้เพราะโดนกักตัวเอาไว้ ทว่าไม่นึกยอมแพ้ เบี่ยงตัวมาหลบหลังให้อีกฝ่ายบังเขาแทน



noobbooy เพื่อนน่ารักจังค้าบพี่ฮอน

Marrkkywat คนร้ายรว้าย

ABCDCuteboys ทำไมเด็กบัญชีมาอยู่กับเด็กนิเทศได้น้าาาา เอ๊ ไหนเล่าซิ

yesyisbetterr เปิดวาร์ปหน่อยค่ะคุณทวดดด แงๆๆๆๆ

Tenngtotheone แกล้งเพื่อนกูเหรอ



“กิดูไอ้หนึ่งมันมาเมนต์” ฮอนหัวเราะในลำคอเรียกคนแอบอยู่ข้างหลังให้โผล่หน้ามามอง



กิชะโงกหน้าออกมาเพียงเสี้ยว คนดูในไลฟ์จึงได้เห็นเพียงผมหน้ากับดวงตาโผล่ออกมาเท่านั้น



ABCDCuteboys โอ๊ย น้องกิน่าเอ็นดูจังเลยลูก โผล่หน้ามาให้คุณทวดเห็นหน่อยเร๊ววว

Tenngtotheone มันแกล้งมึงเหรอกิ เดี๋ยวกูจัดการให้เอง!!

Joyiixzz เพื่อนหรอค่ะ ตอบหน่อย



“เพื่อนครับ เพื่อนสนิท” เสียงทุ้มเอ่ยตอบคอมเมนต์ กิเหลือบตามองใบหน้าด้านข้างของคนที่พูดคำว่าเพื่อนสนิทโดยไม่มีทีท่าลังเลเลยแม้แต่น้อยอยู่ครู่หนึ่ง เขานิ่งเงียบไม่พูดอะไรก่อนจะกระตุกเสื้อของอีกฝ่าย กระซิบบอกให้รีบปิดไลฟ์สักที อยู่ตรงนี้นานๆ ชักเริ่มอึดอัดแล้ว



honeesweattys มีแฟนรึยังคะ

Marrkkywat เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อรึเปล่าน้ออออ อิอิ

yesyisbetterr พี่ฮอนยังไม่มีแฟนค่ะ

honeesweattys หมายถึงคนข้างหลังค่า



“ไอ้มาร์ค พิมพ์ไรเกรงใจกูด้วยไอ้นี่” ฮอนพูดเสียงเข้มทำเป็นตำหนิเพื่อนสนิทในคณะ



“โสดครับ หล่อและโสดมาก จีบได้กำลังหัดทำกับข้าว หัดทำงานบ้านไว้ดูแลคนในอนาคตครับ อันนี้ที่พูดนี่หมายถึงใคร อ๋อ หมายถึงผมเองครับ ถุ้ย ฮ่าๆ” ฮอนพูดติดตลกพร้อมหัวเราะให้กับมุกชงเอกตบเองของเจ้าตัว



แรงกระตุกเสื้อยิกๆ จากคนข้างหลังเริ่มแรงขึ้นเมื่อหนุ่มหน้าหล่อยังคงพูดโม้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะกดปิดไลฟ์เสียที



“ผมต้องไปละ นานกว่านี้เดี๋ยวโดนคนบางคนด่า ไม่รู้ว่าจะได้มาอีกทีตอนไหน นานๆ เจอกันทีเนอะทุกคน เดี๋ยวมาอีกทีตอนประเทศไทยได้เลือกตะ-- อุ๊ย โทษครับ ไปจริงละ บายคร้าบ” ฮอนโบกมือลาให้กล้องก่อนจะกดปิดแอปพลิเคชัน คว้ามือคนตัวเล็กด้านหลังมานั่งที่โซฟาก่อนจะขยับเอาหัวตัวเองมาวางบนไหล่อีกคน



สายตายังคงจดจ่ออยู่บนหน้าจอไอแพด มองข้อความของเต็งหนึ่งที่ส่งมาด่าเขาจริงๆ อย่างที่บอกเอาไว้ก่อนหน้าแล้วก็ได้แต่หัวเราะ



“กิ ไอ้หนึ่งมันส่งข้อความมาด่ากู มึงดูดิ แม่งบอกด้วยว่าเปิดตัวขนาดนี้ทำไมไม่บอกเป็นแฟนไปเลยวะ เอ้าไอ้นี่ เสือกไรกับกูฮึ” ฮอนพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก เขาพิงไหล่ของคนตัวเล็กกว่าอยู่เลยมองไม่เห็นว่าตอนนี้อีกคนทำสีหน้าอย่างไร



“นั่นดิกิ เมื่อไหร่เราจะได้เป็นแฟนกันสักทีวะ” ฮอนพูดแหย่



คนถูกถามนั่งเงียบไม่ตอบคำถาม พยายามปล่อยให้เรื่องผ่านไปเหมือนทุกที



“หันหนีไปไหนล่ะ ตอบกูก่อน” ฮอนยืดตัวไปล็อกคออีกคนมาไว้ในวงแขน ใช้มือขยี้มือเบาๆ อย่างมันเขี้ยว



กิเอียงหัวหลบให้รู้ว่าเขาไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขาโดนคำถามแบบนี้ เริ่มตั้งแต่มัธยมจนมาถึงปัจจุบัน ทุกครั้งน้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่เคยจริงจัง แม้กระทั่งครั้งแรกที่พูดมันออกมา ประโยคหยอกล้อทำทีขอเป็นแฟนของอีกคนก็ยังเต็มไปด้วยความคลุมเครือ วันนั้นใจเขาโอนอ่อนไปตามแล้วด้วยซ้ำ แต่สัปดาห์ต่อมาคนชอบแกล้งดันมาบอกว่าเป็นแฟนกับรุ่นพี่ที่ตามจีบแล้วนะ ตอนนั้นเขาจะทำอะไรได้ ทำได้แค่ยิ้มรับพร้อมแสดงความยินดีเท่านั้นแหละ



“มึงน่ะ…” ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตนอกจากการกระทำที่ดูเอาอกเอาใจมากขึ้นกว่าเดิมหน่อย น้ำเสียงหยอกล้อยังคงชอบแกล้งยังไงก็ยังคงแกล้งหยอกล้อให้เขาเขินอายอยู่อย่างนั้นเหมือนเดิม



“ฮึ อะไร กูทำไม”



“มึงชอบทำเป็นเล่นๆ แบบนี้ไง” บางครั้งก็ดูไม่ออกว่าอะไรที่พูดหยอกหรืออะไรที่พูดจริงกันแน่



ฮอนคลายวงแขนลงเมื่อเห็นคนในอ้อมกอดพูดเสียงแผ่ว



“มึงน่ะใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ตั้งแต่มัธยมแล้วนะ รู้ตัวบ้างรึเปล่า”



“อะไรวะกิ เป็นอะไรคะ” คิ้วหนาเริ่มขมวดเข้าเป็นปมเมื่อได้ยินประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน



“ตอนนั้นมึงก็มีพี่แป้งแล้วแต่ก็ยังทำเป็นหยอกทำเป็นเล่นแบบนี้กับกู จะให้กูคิดยังไงเหรอฮอน กูถามหน่อย”



“กับพี่แป้งก็จบไปนานแล้วไงคะ ตอนนั้นมันไม่มีอะไร แค่แบบปั๊บปี้เลิฟอะ แค่ความอยากรู้อยากลองของเด็กวัยรุ่นเฉยๆ เปล่า” ฮอนพยายามพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทั้งที่กำลังทำหน้าสงสัยว่าจู่ๆ คนตรงหน้าเป็นอะไรขึ้นมา



“อ๋อ งั้นตอนนี้มึงอยากรู้อยากลองอีกแล้วใช่ไหมถึงได้มาทำแบบนี้กับกู” กิไม่รู้ว่าการกระทำรวมถึงคำพูดทุกอย่างที่อีกคนแสดงออกมาสิ่งไหนที่เรียกว่าความจริง การกระทำดูชัดเจนก็ใช่อยู่แต่ไม่เคยได้ยินอะไรที่มันชัดเจนบ้างเลย



“กิไม่เอาน่า มึงเป็นอะไรเนี่ย”



“เหตุผลที่กูปฏิเสธมึงมาตลอดไง”



“อะไรวะกิ มึงปฏิเสธแต่มึงก็ยอมกูมาตลอดนี่”



“…” กิเหมือนคนกำลังลอยเคว้งอยู่ในมหาสมุทรใหญ่ก่อนจะดำดิ่งลงสู่ใต้ทะเลลึก คำพูดที่ดูไม่ได้คิดก่อนจะเอ่ยออกมาของใครบางคนทำเขาสะอึก พอได้ย้อนกลับไปคิดเรื่องราวที่ผ่านมา มันก็ถูกต้องอย่างที่อีกฝ่ายพูดแล้วนี่



“ชิบ กิกูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ฮอนเผลอสบถเมื่อเห็นแววตาของอีกฝ่ายสั่นระริก



“ก็จริง ที่มึงพูดก็ถูกแล้ว”



“ขอโทษ กูหมายถึง--”



“อย่ามาจับ” กิสะบัดมือของอีกฝ่ายที่กำลังเอื้อมมาลูบหัวเขาออก



“กิ…”



“บอกตรงๆ นะฮอน กูไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของเราเลยว่ะ ถ้าเราเป็นแฟนกันแล้วยังไงต่อ กูไม่รู้ว่ามึงจริงจังมากแค่ไหน แต่กูไม่คิดจะเล่นๆ กับความสัมพันธ์แบบนี้หรอกนะ กูไม่รู้ว่าตัวเองจะโดนทิ้งวันไหนด้วยซ้ำ เดือนนี้เราเป็นแฟนกัน เดือนหน้าถ้ามึงเบื่อกูแล้วจะทำยังไง” น้ำเสียงพร่าสั่นด้วยความหวาดกลัวจนต้องยกขาตัวเองขึ้นมากอดเป็นโล่กำบังให้ตนเอง



“มึงคิดมากไปแล้ว นี่กูยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ”



“อะไรที่มึงเรียกชัดเจนวะ ทำมาเป็นหยอกกูแต่มึงก็ยังทำตัวอ่อยเขาไปทั่วอยู่เลยเนี่ยนะ ยอมเป็นทาสกูก็เพราะไม่อยากกลับบ้านเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ ไหนอะไรเรียกว่าชัดเจนวะไอ้เหี้ยเอ๊ย แคกๆ”



“โอเค กูเข้าใจแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว พูดไปมึงก็เจ็บคอ ส่วนกูก็เจ็บที่ใจ ไม่มีอะไรดีเลย” ฮอนมองอีกฝ่ายไอจนน้ำตาเล็ด ไหนบอกว่าหายเจ็บคอแล้วไง ทำไมถึงยังไอได้อยู่อีก



เขาคว้าตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดพร้อมลูบหลังให้เบาๆ ภาพที่อีกคนนั่งก้มหน้ากอดเข่ายังคงติดตรึงอยู่ในหัว หนูกิเวลาปกติเคยตัวเล็กแค่ไหน เวลานี้ยิ่งดูตัวเล็กมากกว่าเดิมเสียอีก



“แต่เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมใช่รึเปล่า”



“…กูแค่ต้องการเวลา”



“ไม่เป็นไรกูเข้าใจ เข้าใจแล้ว ดีใจที่อย่างน้อยมึงก็พูดออกมานะ”



บรรยากาศสีเทาน่าอึดอัดในห้องสีขาวถูกทำลายด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ หน้าจอแสดงเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้ ฮอนเดาว่าคงเป็นเดลิเวอรี่มาส่งอาหารที่สั่งไป เมื่อเขากดรับสาย ถึงรู้ว่าคาดเดาไว้ถูกจริงๆ



“กิมากินข้าว” ชายหนุ่มยกอาหารวางบนโต๊ะเสร็จก็เรียกชื่อคนที่ยังคงนั่งอยู่มุมโซฟาเสียงขรึม กิขยับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยต่างจากเมื่อหลายนาทีก่อน



“แล้วมึงไม่กินเหรอ” เจ้าของห้องเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าอีกคนเดินออกไป ไม่นั่งร่วมโต๊ะเหมือนเดิม



“กินไปก่อนเลย”



แล้วคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เจ้าของห้องได้นอนเหยียดสบายบนเตียงคนเดียวโดยไม่มีใครมานอนเบียดแย่งพื้นที่กลิ้งเกลือกอีกครั้ง



…ปกติเขาต้องดีใจไม่ใช่เหรอ ทำไมมันถึงหน่วงอยู่ข้างในใจแบบนี้แทนกันล่ะ



----------



เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งดับไปเมื่อมีคนเอื้อมมือกดปิด เจ้าของห้องตื่นขึ้นมาเหยียดแข้งขาด้วยความสบาย แต่ทว่าความอึดอัดข้างในใจยังคงอยู่ ไม่รู้ว่าถ้าเปิดประตูออกไปเผชิญหน้าเพื่อนสนิทแล้วต้องทำตัวแบบไหน นิ่งเฉยหรือทำตัวแบบเดิมเหมือนที่เคยเป็นดี



กิค่อยๆ เปิดประตูพร้อมชะโงกหน้าออกไปทีละนิด ทว่าห้องนั่งเล่นกลับเงียบสงัด บนโซฟาว่างเปล่า แตกต่างจากภาพที่นึกกลัวมาก่อนหน้าว่าจะได้เห็นใครบางนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาหนัง



ชายหนุ่มเดินมาที่ห้องครัวหวังว่าจะเจอคนที่มองหากำลังทำข้าวเช้าอยู่ข้างใน แต่ทว่ากลับเงียบสงบ ไม่มีวี่แววของคนตัวสูงกว่าเลยสักนิด กำลังจะเอี้ยวตัวหันกลับ แต่หางตาดันเหลือบไปเห็นกระดาษสีเหลืองที่แปะไว้หน้าตู้เย็นเสียก่อน ไม่รอช้า เขารีบเดินไปหยิบขึ้นมาอ่านทันที



…ดูแลตัวเองดีๆ อย่าอยู่กับตัวเองจนลืมกินข้าว อย่ามัวแต่ทำงานอ่านหนังสือจนไม่ได้นอน อยู่คนเดียวห้ามไม่สบายเด็ดขาดเลยนะ เจอกันครั้งหน้าหวังว่าเวลาเราจะเดินตรงกันสักทีเนอะ เป็นห่วงนะคะ…



กิวางกระดาษลงโดยไม่ได้พูดรำพึงรำพันอะไร ทำแค่เพียงกวาดสายตามองห้องที่เงียบลงไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อต้องกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง







TBC.

ー #AdaywithWCM
ー ไม่โดนด่าหรอกเนอะแง ._. ขอโทษที่หักโค้งมาแบบนี้ค่ะ ถนนขรุขระต้องหลบหลุม แต่ตอนหน้าถนนลาดยางขี่ตรงได้เหมือนเดิมแล้วววว


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2018 22:01:20 โดย Mayongchees »

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ฮือออออออ
คิดไว้แล้วว่ามันต้องมีมาม่าแน่ๆ
แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ TT

สงสารหนูกิงจังเลยค่ะ
ฮอนไม่ชัดเจนจริงๆนั่นละ
มาทำเป็นเหมือนหมาหยอกไก่
รีบๆปรับปรุงตัวเลยนะฮอน

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ขอให้รู้ใจตัวเองทั้งสองคน.. :call:

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องขอม่าแหน่อยเดียวได้ไห มมมมมมม555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด