ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)  (อ่าน 27283 ครั้ง)

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เสียงใคร???  :katai1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ค้างงงงงง
อยากอ่านต่อออ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
อ้าววว คู้นนนน ตัดเเบบนี้เลือดพุ่งออกจากตัวตายได้เลยนะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 o9

อะไรเนี่ย ค้าางงงงง

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 33



#ไม่เหลืออะไร


 
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ห้ามทำอะไรม่อนเด็ดขาด” แรงฉุดจากด้านหลังดึงผมเข้าไปแนบตัว ภาคมันดันตัวผมให้หลบด้านหลังมัน

ผมอยากให้มันรู้ว่าผมดีใจแค่ไหนที่มันเข้ามาปกป้องผม แต่มันคงไม่ใช่สำหรับตอนนี่และต่อหน้าครอบครัวมันเอง

“แกเห็นมันดีกว่าฉัน กว่าแม่แกที่ต้องโทรไปข้อร้องไห้มันเลิกยุ่งกับแกงั้นหรอ”

“ที่พ่อพูดหมายความว่าไงครับแม่”

“แม่ขอโทษนะภาค แม่ทนเห็นลูกทะเลาะกับพ่อเขาไม่ได้”

“ถึงกับต้องทำแบบนี้เลยหรอครับ ทำให้ผมต้องเลิกกับคนที่ผมรัก”

“คนที่แกรัก? กับไอ้ผิดเพศเนี่ยนะที่แกบอกว่ารัก”

“ผิดเพศแล้วยังไงครับ แล้วคนอย่างคุณดียังไงถึงกล้ามาตัดสินคนอื่น คุณคิดว่าการดูถูกคนจะทำให้คุณอยู่เหนือคนอื่นอย่างนั้นหรอครับ” มันมากเกินไปที่ผมจะทนให้เขามาดูถูกผม ผมทนยืนฟังอยู่เฉยๆ ไม่ได้แล้วครับ

ผมแกะมือภาคออก เดินออกไปประจันหน้ากับเขา ผมไม่มีอะไรต้องกลัวคนอย่างเขาอีกแล้ว

“คุณมันก็แค่สัตว์โลกตัวหนึ่งที่ไม่มีหัวใจ แค่คนที่เกิดมามีแค่สมองไว้ใช้แค่ดูถูกคนอื่น”

“แก…” เขาง้างมือเดินตรงเข้ามาหาผม

“เอาสิครับ ถ้าคุณกล้าทำร้ายผม คุณมันก็ไม่ต่างจากพวกนักเลงข้างถนน”

“ม่อน” ท่ามกลางสายตาของทุกที่กำลังตกใจกับสิ่งที่ผมพูด รวมถึงภาคที่กำลังจับมือผมไว้แน่น

“มึงปล่อยกูได้แล้ว และกลับไปเป็นลูกแบบที่เขาต้องการเถอะ” ผมดึงมือตัวเองออกจากมัน เดินหันหลังกลับไปที่รถ แล้วขับออกจากที่นั่นทันที

ผมกลัวว่าถ้าผมยังขืนอยู่ให้เขาดูถูกแบบนั้นอีก ผมคงทนไม่ไหวและอาจทำมากกว่าที่ผมทำไป

เรื่องระหว่างผมกับภาคมันคงเป็นไปไม่ได้แล้วจริงๆ มันเกินกว่าคำว่าผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่มันเป็นเรื่องของการรังเกียจ การดูถูก การไม่ยอมรับความรักในแบบของเรา



หลังจากขับรถออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ไม่นาน ตอนนี้ผมคงขับรถต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมเลี้ยวรถเข้าข้างทาง

ท่ามกลางแสงไฟสลัว ถึงแม้จะดึกมากขนาดนี้ก็ยังมีผู้คนเดินสวนไปสวนมา หนุ่มสาวที่เดินจับมือกันโดยที่ไม่ต้องอายสายตาคนรอบข้าง ผมอยากจะทำแบบนั้นกับภาคดูบ้าง แต่มันคงไม่มีทางเป็นไปได้

“ฮึกๆ ๆ ...ฮือ...” ผมปล่อยน้ำตาให้ไหล

‘เขาห้ามบอกว่าขออะไร เดี๋ยวมันจะไม่เป็นจริง’ มันมากเหรอครับที่ผมขอให้ได้อยู่กับมันตลอดไป เป็นเพราะผมบอกคำอธิษฐานนั้นไปเหรอครับ

“ปึกๆ ๆ ๆ” ผมเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงทุบที่กระจกรถ ผมคิดว่าผมก็ไม่ได้จอดในที่ห้ามจอดนะครับ แล้วใครกันที่มาเคาะกระจกรถผมตอนนี้

“ภาค” ผมเบิกตามองมันที่กำลังทุบกระจกรถอยู่

มันตามผมมาเหรอครับ มันตามผมมาแบบนี้แล้วเรื่องที่บ้านมันล่ะครับ ผมไม่อยากให้ความรู้สึกตอนนั้นกลับมาอีก เราสองคนห่างกันแบบนี้คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

ผมสตาร์ทรถเหยียบคันเร่งพุ่งตัวไปข้างหน้า

‘ปึก’

เสียงรถผมชนเข้ากับอะไรบางอย่าง ผมหันกลับไปมองกระจกข้างตัวรถ ภาคมันหายไปไหน มันไม่ได้อยู่ตรงเมื่อกี้แล้ว

ผมเปิดประตูวิ่งลงไปด้านหน้ารถทันที ผมหวังว่าสิ่งที่ผมชนเมื่อกี้คงไม่ใช่ภาคมันนะครับ

ผมก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า 

“ภาคๆ มึงเป็นอะไรไหม กูขอโทษ” ผมยื่นตัวสั่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ผมวิ่งตรงเข้าไปหามันที่นอนกองอยู่กับพื้น ผมรวบตัวมันขึ้นมาที่ตัก ท่ามกลางวงล้อมของคนที่เข้ามาดูเหตุการณ์

“มึงตื่นขึ้นมาสิภาค มึงอย่าเป็นอะไรนะ ฮึกๆ ๆ กูขอโทษ” ผมโน้มตัวลงไปกอดมันไว้ น้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้ม

“ใครก็ได้ช่วยที่ ช่วยแฟนผมด้วย” ผมร้องตะโกนเหมือนคนเสียสติ คิดแค่ว่าทำยังไงถึงจะช่วยภาคมันได้ ผมไม่อยากเสียมันไปแบบนี้



“มึงรักกูไหม”

“รัก กูรักมึงภาค"

“รักแล้วมึงทิ้งกูไปทำไม”

“กูขอโทษ กูไม่ได้อยากทิ้งมึง มึงกลับมาหากูนะ อย่าทิ้งกูไปแบบนี้”

“มึงสัญญากับกูไหม”

ผมไม่รู้ว่าตัวเองเสียสติไปขนาดไหน ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคุยอยู่กับใคร ผมก้มลงมองเจ้าของเสียงที่กำลังเงยหน้ามองผมอยู่

“ฮือๆ ๆ มึงไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม มึงตอบกูสิว่ามึงไม่เป็นอะไร” ผมสวมกอดมันไว้แน่น น้ำตาที่กำลังไหลจากข้างแก้มซึมลงเสื้อของมันจนชื้นไปหมด ผมกลัว กลัวว่าจะเสียมันไปแล้วจริงๆ ผมอยากจะร้องตะโกนดีใจตอนที่เห็นว่ามันไม่เป็นอะไร แต่ทำไมถึงเอาแต่ร้องไห้ออกแบบนี้

“กูไม่เป็นไร กูไม่ทิ้งมึงไม่ไปไหนแล้ว” ผมจับแก้มทั้งสองข้างมันสำรวจดูว่ามันไม่เป็นไรแล้วจริงๆ

“มึงตอบกูก่อนได้ไหมว่ามึงจะไม่ทิ้งกูไปอีก” เป็นมันที่จับแขนผมไว้ ถามคำถามที่ผมน่าจะเป็นฝ่ายถามมันมากกว่า

“กูสัญญากูจะไม่ทิ้งมึงไปไหนอีก มึงก็ห้ามทิ้งกูไปไหนด้วย” มันดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น ผมเองก็ไม่ต่างจากมัน อยากกอดมันไว้แบบนี้จนกว่าจะแน่ใจว่ามันจะไม่ทิ้งผมไปอีก

“หยุดร้องได้แล้ว ขี้แยเป็นเด็กไปได้” มันเช็ดน้ำตาที่เกาะอยู่ข้างแก้ม แต่มันคงไม่หมดหรอกครับ เพราะยิ่งมันเช็ดน้ำตาผมยิ่งไหลออกมา ผมกลั้นมันไว้ไม่ได้จริงๆ ครับ

“กลับห้องกันเถอะ”

“มึงไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม ไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า” ผมคลำตามร่างกายของมันเพื่อเช็คให้แน่ใจว่ามันไม่เป็นอะไรจริงๆ

“กูไม่เป็นอะไรจริงๆ กลับห้องกันเถอะกูคิดถึงมึงจะแย่อยู่แล้ว” มันคว้ามือให้ผมเดินตามไปที่รถ ผมเองก็โทรหามิกซ์ให้ช้อปมาเอารถกลับไป มิกซ์เองมันก็ยังงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่ที่ผมรีบออกมาจากผับ แต่มันก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรผมต่อ เพราะผมบอกมันไปว่าผมกำลังอยู่กับภาค



เราสองคนจับมือกันมาตลอดทางกลับคอนโด จากหัวใจที่กำลังฝ่อ ตอนนี้มันกลับมาพองโตเหมือนกับว่ามันกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าอกผม

“คุณภาคครับ คุณท่านให้ผมมารับรถไปครับ” ผู้ชายคนที่ผมเห็นที่บ้านหลังนั้นวิ่งเข้ามาที่รถทันทีที่รถของเราจอดสนิท ภาคมันคงตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับผม คุณท่านที่เขาพูดถึงก็คงเป็นพ่อของภาคมันนั่นแหละครับ คงเป็นอย่างที่ผมกลัวละครับว่าหากผมไม่ยอมเลิกกับภาค มันคงโดนเขาตัดขาดแน่ๆ

ผมบีบมือภาคขณะที่มันยืนมือส่งกุญแจคืนไป มันเพียงหันกลับมายิ้มให้ผมเท่านั้น

“กูมีแค่ตัวมึงยังจะรักกูอยู่ไหม” มันหันกลับมาถามหลังส่งกุญแจนั้นกลับไปแล้ว

ผมว่าภาคมันเลือกแล้วที่จะอยู่กับผม มันยอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อมาหาผม ต่อจากนี้ไปผมเองจะไม่ยอมปล่อยมือและทิ้งมันไปอีกเด็ดขาด

“ขอแค่มีมึงก็พอแล้ว” ผมขอแค่นั้นจริงๆ



สิ่งเดียวที่ภาคมันมีตอนนี้ก็คือคอนโด เพราะผู้ชายคนนั้นบอกว่าแม่ของภาคเธอขอไว้

เราเดินเข้าห้องมาพร้อมกัน มันดูไม่ต่างจากตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ภาคเองมันก็เพิ่งได้กลับมาที่นี่เพราะตั้งแต่วันที่เราเลิกกันมันก็ไม่ได้เข้ามาในห้องนี้อีกเลย

“เดี๋ยวกูทำแผลให้” เสื้อตรงขอศอกข้างซ้ายของมันมีรอยเลือดเปื้อนอยู่

“เอาไว้ทีหลัง ตอนนี้มึงมาให้กูกอดก่อน” มันเดินเข้ามารวบตัวผม แล้วทิ้งตัวให้เราทั้งสองล้มลงไปนอนที่เตียง

นานแล้วที่ผมไม่ได้สัมผัสความอบอุ่นจากอ้อมกอดของมัน มันช่วยทำให้ความเศร้าความกังวลก่อนหน้านี้หายไป คงจะเป็นอย่างที่เขาบอกกันว่าอ้อมกอดจากคนที่เรารักจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง ผมได้รู้ด้วยตัวเองก็วันนี้แหละครับ วันที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ผมรู้ว่าระหว่างเราสองคนคงมีอุปสรรครออยู่ข้างหน้า แต่แค่มีมันอยู่ข้างๆ ผมก็ไม่กลัวอะไรแล้วครับ

“แล้วมึงจะเอายังไงต่อไป” ผมถามมันทั้งที่ยังอยู่ในอ้อมกอดมัน

“ไม่รู้เดี๋ยวค่อยคิด ตอนนี้ขอนอนกอดมึงให้หายคิดถึงก่อน” มันดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นขึ้น

“นอนกอดเฉยๆ หรอ” มันดันตัวผมออกแล้วจ้องหน้าผม

“กูหูฝาดไปรึเปล่า” ผมพยายามหลบสายตามัน แต่ก็สู้แรงมือมันที่จับให้ผมหันไปสบตามัน

“เออ งั้นไม่ต้องก็ได้” ผมอายจนต้องมุดหน้าหนีมัน ผมไม่ได้หื่นแบบภาคมันนะครับ แต่ที่ผมพูดแบบนั้นก็เผื่อว่ามันจะช่วยให้ภาคมันคลายเครียดลงไปบางก็เท่านั้น

“ใครบอกว่ากูไม่อยาก กูแค่เห็นมึงเหนื่อย แต่ถ้ามึงเสนอกูขนาดนี้มีหรอที่กูจะไม่สนอง”

“อื้อ...อ้า”

นี่แหละครับความสุขครั้งแรกหลังจากที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันสองอาทิตย์ ถึงมันจะดูไม่นานแต่สำหรับผมแค่ต้องรู้ว่าไม่มีมันแค่นาทีเดียวมันก็นานเกินกว่าที่ผมจะทนไหวแล้วละครับ

“กูรักมึงนะภาค”

“กูก็รักมึงเหมือนกันม่อน"



ผมลุกขึ้นจากที่นอนบิดตัวไปมาคลายความเมื่อยล้า

“ภาค” ผมเดินตามหามันเพราะตื่นมาก็ไม่เห็นมันแล้ว ผมเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ ห้องแต่งตัว หรือแม้แต่ห้องนั่งเล่นกับห้องครัวก็ไม่เจอมัน มึงหายไปไหนภาค

ผมทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา น้ำตาผมเริ่มไหลลงมาเรื่อยๆ

“มึงหายไปไหนภาค ฮึกๆ ๆ ..ฮือๆ ๆ”

“มึงเป็นไร ร้องไห้ทำไม” เสียงประตูหน้าออกเปิดออกพร้อมกับภาคที่รีบวิ่งตรงมาหาผมอย่างรวดเร็ว

“มึง...ฮึกๆ ๆ มึงหายไปไหนมา ฮึก...” ผมสะอื้นพร้อมโผเข้าไปกอดมัน

“กูลงไปซื้อโจ๊กมาให้มึง” มันชูถุงหูหิ้วที่มีถุงโจ๊กอีกสองถุงอยู่ข้างใน

“มึงไปไหนทำไมไม่บอกกู” ผมทุบเข้าที่อกมันหลายที

“กูขอโทษม่อน กูขอโทษ” มันดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น ถึงมันจะบอกว่าแค่ไปซื้อโจ๊กข้างล่างมา มันก็ยังทำให้ผมกลัว กลัวว่ามันจะไม่กลับมาหาผม



“กลัวกูจะหายไปขนาดนั้นเลยหรอ” มันเดินยิ้มในมือถือชามโจ๊กมาวางตรงหน้าผม

“ต่อไปนี้มึงจะออกไปไหนต้องบอกกูก่อน” ผมทำหน้าดุใส่มัน

“คร้าบๆ ผมจะรายงานคุณแฟนทุกฝีก้าวเลยครับ” มันยื่นมือมายีหัวผม แล้วนั่งลงตักโจ๊กในชามเข้าปาก

ต่อไปนี้เราคงต้องคุยกันให้มากขึ้นแล้วครับ ผมเองก็จะไม่เก็บปัญหาไว้แค่คนเดียวอีกต่อไป และที่สำคัญผมกับมันต้องมาช่วยกันคิดแล้วละครับว่าภาคมันจะอยู่ยังไงโดยที่ไม่มีเงินจากพ่อมันเหมือนที่ผ่านมา



“เปลี่ยนชุดแล้วลงไปกับกู” ผมเดินไปเรียกมันที่นอนเอกเขนกอยู่ที่โซฟา พร้อมกับถุงมันฝรั่งทอดกับน้ำอัดลมวางอยู่ที่โต๊ะ

“ไปไหน” มันงอแงไม่ยอมลุกจากโซฟา จนผมต้องไปดึงหูมันให้ลุกขึ้นมา

“ไปหาเงินไง นอนอยู่แบบนี้มึงจะเอาเงินที่ไหนใช้”

“ก็...แต่กูขอพักหน่อยนะ” มันยังคงอิดออดไม่ยอมทำตามที่ผมบอก

เรื่องนี้ผมคิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนครับ ว่าจะพาภาคมันไปสมัครงาน แต่ถ้ามันยังนอนอยู่แบบนี้ไหนจะค่าเทอมค่าใช้จ่ายอื่นอีก มันจะเอาที่ไหนไปจ่ายครับ

“ถ้ามึงไม่ลุกกูจะกลับจะไปอยู่หอ” มันลุกพรวดวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที

ถ้าไม่ใช้ไม้ตายแบบนี้มันคงไม่ยอมทำตามที่ผมบอกแน่ๆ



“ว่าไงม่อน ไหนวันนี้มิกซ์บอกว่าลางานไม่ใช่หรอ” ผมเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับลากไอ้ตัวถึกให้เดินตามหลังผมมา

เมื่อวานผมฝากให้มิกซ์มันลางานให้ครับเพราะตอนนั้นยังไม่รู้จะเอายังไงกับภาคมันดี แต่ตอนนี้ผมว่าอย่างน้อยต้องหางานให้มันทำซะก่อน

“พี่รับพนักงานเพิ่มไหมครับ” ผมถามพี่แมนที่ยืนกดเครื่องคิดเลขอยู่หลังเค้าเตอร์

นี่แหละครับงานที่ผมจะพามันมาทำ ผมนึกได้ว่ามันเคยช่วยผมทำมาก่อน ยังไงซะมันคงไม่หนักเกินไปสำหรับภาคมัน

“พี่รับพนักงานมาเต็มแล้วคงรับอีกไม่ไหว” ถ้านับพนักงานร้านรวมทั้งผมและมิกซ์ก็ห้าคนแล้ว มันมากพอที่จะบริการลูกค้าในร้านได้อย่างทั่วถึงละครับ แต่ผมจะทำยังไงละครับก็อุตส่าห์พาภาคมันมาสมัครงานทั้งที่

“พี่ช่วยรับภาคมันอีกสักคนได้ไหมครับ”

“อ่าว ที่บอกให้พี่รับนี่คือภาคหรอ งั้นพี่รับ” ผมหันไปมองหน้าภาคมันแบบงงๆ ทำไมพอรู้ว่าเป็นภาคพี่แกถึงได้รับเร็วขนาดนี้

“รับหรอพี่?” ผมหันกลับไปถามพี่แมนอีกครั้ง

“รับสิ พี่จะไม่รับได้ไง ครั้งที่แล้วที่ภาคมาช่วยม่อนเสิร์ฟวันนั้น ลูกค้าแทบจะล้นร้าน วันหลังยังมีลูกค้ามาถามหาภาคอีกเพียบเลย” เป็นเพราะความหล่อเรี่ยราดของมันนี่เองครับ แต่ก็ดีแล้วอย่างน้อยมันก็ได้ที่ทำงานมาแล้วหนึ่งที่

“งั้นวันจันทร์เริ่มงานเลยนะ” ภาคมันพยักหน้ารับพี่แมน หวังว่ามันคงไหวนะครับ

ผมนั่งคร่อมมอเตอร์ไซต์ยานพาหนะประจำตัวผมก่อนที่จะคบกับภาค เพราะหลังจากที่คบกับภาคมันก็กลายเป็นรถประจำตัวของมิกซ์ไป เพราะส่วนใหญ่ผมเองจะไปไหนมาไหนด้วยรถของภาคมันตลอด

แต่ตอนนี้คงต้องได้กลับมาใช้มันอีกครั้งแล้วละครับ ส่วนมิกซ์ก็ปล่อยให้แฟนมันค่อยไปรับไปส่งแทน ก็รายนั้นเขามีบุญได้นั่งรถเบนซ์คันหรู ส่วนผมก็ต้องมาขับมอเตอร์ไซต์ให้แฟนที่กำลังตกกระป๋องของผมนั่ง

“มึงจะไปไหน ก็สมัครงานเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ” ผมยื่นหมวกกันน็อคให้ภาคที่ตอนนี้กำลังทำหน้างอ อยู่ที่เบาะด้านหลังผม

“งานเดียวมันไม่พอหรอก” ผมบิดรถขับตรงมาร้านสะดวกซื้อที่ผมทำงานช่วงเสาร์-อาทิตย์

นี่แหละครับอีกงานหนึ่งที่ผมจะพามันมาสมัคร เพราะที่นี่เขารับพนักงานพาร์ทไทม์ตลอด

“มึงจะให้กูทำงานที่นี่จริงๆ หรอ” มันเงยหน้ามองป้ายร้าน หันกลับมามองผมด้วยสายตาเหนื่อยๆ

ผมพยักหน้ารับมันไป ก็ต้องเป็นที่นี่แหละครับ ผมจะมีปัญญาพามันไปสมัครงานที่ไหนได้อีก แต่ดูมันเหมือนไม่อยากจะทำที่นี่เลยครับ

สรุปงานของวันนี้คือ ภาคมันได้งานที่เดียวกับผมทั้งสองที่และเวลางานเราก็ตรงกันทั้งด้วย งานเสิร์ฟจะเป็นวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่สี่โมงเช้ายาวไปจนถึงสี่ทุ่ม ส่วนงานที่ร้านสะดวกซื้อจะเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ตั้งแต่สี่โมงเช้าถึงหกโมงเย็น ผมหันไปมองมันที่กำลังทำหน้าหงอยอยู่บนเบาะรถไม่ยอมเดินลงสักที

“เป็นไร ทำไมทำหน้าหงอยแบบนี้” ผมเดินกลับไปหามันที่รถ

“มึงจะให้กูทำงานที่เซเว่น จริงหรอ”

“ถ้าไม่ทำแล้วเงินมึงจะมีพอใช้หรอ”

“มึงว่ากูจะขายคอนโด แล้วก็ย้ายไปอยู่กับมึงดีไหม”

“ถ้ามึงคิดได้แคนี้กูว่ามึงกลับไปหาครอบครัวมึงดีกว่า ไม่ต้องมายอมทนเหนื่อยกับกูหรอก” มันคงถูกเลี้ยงมาแบบตามใจจนชินแล้วล่ะครับ

“มึงไม่อยากให้กูอยู่ด้วยแล้วหรอ”

“มึงฟังกูนะภาค มึงคิดว่าเงินที่ขายคอนโดมันจะใช้ได้นานแค่ไหน ปีหนึ่งสองปี? แล้วหลังจากนั้นล่ะ ถ้ามึงไม่ทำงานมึงจะเอาเงินไหนใช้ มึงเป็นคนบอกเองว่าอยากอยู่กับกูไปนานๆ แต่ถ้าเงินหมดมึงจะกลับไปอยู่ที่บ้านหรอ มึงไม่อยากอยู่กับกูแล้วงั้นหรอ ถ้ามึงคิดได้แค่นั้นก็กลับไปซะตอนนี้เลยดีกว่า” มันเองที่บอกว่าอยากอยู่กับผม แต่ผมยังไม่เห็นความกระตือรือร้นของมันเลย ผมก็เข้าใจอยู่นะครับว่ามันคงหนักสำหรับมัน แต่ผมแค่อยากให้มันลองทำลองสู้ดู ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ถึงตอนนั้นเราค่อยมาหาทางออกกันอีกที่ก็ได้หนิครับ

“กูขอโทษม่อน เอาเป็นว่ากูจะทำงานกับมึงทุกอย่างเลย”

“ลองสู้ด้วยกันก่อน เรื่องอื่นเราค่อยคิดกันอีกที”



เช้านี้ผมขับรถมอเตอร์ไซต์ออกมาจากคอนโด โดยมีภาคที่นั่งกอดเอวผมอยู่ด้านหลัง ผมออกมาตั้งแต่เก้าโมงครึ่งเพราะเราต้องเข้างานกันก่อนเวลา ผมไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ภาคมันนี่สินั่งตาลอยอยู่ข้างหลัง สงสัยมันจะนอนไม่พอ

“งั้นพี่ฝากม่อนสอนงานเพื่อนด้วยนะ” ผมพยักหน้ารับพี่ที่ทำงานด้วยกัน

งานแรกของภาคมันคือการจัดสินค้าเข้าชั้นวาง มันเดินถือตะกร้าขนมปังเดินตามหลังผมมา ท่าทางมันดูเก้ๆกังๆครับ หยิบจับอะไรก็ดูขัดไปหมด จนมันทำถุงขนมปังหล่นลงพื้นไปหลายห่อ เฮ้อ จะไหวไหมเนี่ยแฟนผม

“เอ่อ...ทั้งหมด...ทั้งหมด” งานถัดมาคือการยืนคิดเงินหน้าเค้าเตอร์ ดูแล้วมันน่าจะยากกว่างานที่แล้วอีกครับ

ผมเดินเข้าไปจับมือมันที่กำลังหยิบของใส่ถุงให้ลูกค้าด้วยอาการสั่น สงสัยมันคงจะยากไปสำหรับมันจริงๆ ครับ

“ทั้งหมด 135 บาทครับ” ผมยื่นมือไปรับเงินจากลูกค้าแล้วเปิดลิ้นชักหยิบเงินขึ้นมาทอนแทนมัน

“มึงไหวไหม” ผมหันไปถามมันที่กำลังพยักหน้ารับ แต่กลับไม่ยอมมองหน้าผม

“ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวกูบอกผู้จัดการให้เอง แล้วมึงก็คอยทำงานที่ร้านนมอย่างเดียว” สงสารมันครับ มันคงจะไม่เหมาะกับงานแบบนี้จริงๆ ผมพามันมาลำบากไหมครับแบบนี้

“ไม่เป็นไร กูไหว” มันเงยหน้ามายิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนหันกลับไปรับสินค้าจากลูกค้าด้วยอาการสั่นเหมือนเดิม

กว่าจะเสร็จง่ายวันนี้เหนื่อยครับและก็มีคนที่ดูจะเหนื่อยกว่าผม กำลังนั่งรอผมอยู่ที่ท้ายรถ

“เหนื่อยไหม” ผมเดินถือขวดน้ำเปล่ายื่นให้มัน มันรับขวดน้ำไปพร้อมกับส่ายหน้า มันนี้โกหกไม่เนียนเลยครับ

“เหนื่อยก็บอกว่าเหนื่อยกูไม่ว่าอะไรมึงหรอก”

“มึงยังทำได้กูก็ต้องทำได้สิ” ดูมันจะเริ่มสู้ขึ้นมาแล้วครับ

ผมหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวมให้มัน

“แฟนเค้าเก่งจังเลย” ผมยกมือประคองหน้ามันไว้ ก่อนยื่นหน้าไปใช้จมูกตัวเองถูกับจมูกมัน ทำเอามันยิ้มขึ้นมาเลยครับ

สิ่งที่ผมช่วยมันได้ตอนนี้ก็มีแค่การให้กำลังใจมันเท่านั้นแหละครับ



‘สู้ๆ นะไอ้คุณชายของม่อน’

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
สู้ๆๆๆนะภาคค

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ประกาศ

เรื่อง ขายครับ!!!! ....ไม่ฟรี [MONEY MAN]

ภาคแรกจะจบในอีกสามตอนนะครับ



ส่วนใครที่ถามหาคู่ #ช้อปมิกซ์

ตอนนี้ผมเริ่มลงไปได้แล้วสองตอน เป็นแนวฟิลกู๊ดไม่ดราม่าเหมือนเรื่องนี้ ยังไงก็ฝากติตามเรื่องใหม่ด้วยนะครับ

Knocked Out ช่วยที!!! ...กูโดนยิงดาวน์ #ช้อปมิกซ์

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68077.0







#ช้อปมิกซ์

Part

ช้อป




“ไม่ต้องเป็นห่วง ม่อนอยู่กับภาคแล้ว”

มิกซ์นี่เวลากวนก็กวนจริงๆ แต่เวลาเป็นห่วงใครก็ห่วงเอามากๆ โดยเฉพาะพี่ชายคนเดียวของน้องนั่นแหละครับ

ผมเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ที่ม่อนเข้ามาขอยืมรถผมที่ร้านเหล้าแล้ว ทำเอาไอ้ตัวดีของผมนั่งแทบไม่ติด ต้องเป็นหน้าที่ของผมต้องคอยปลอบน้องอยู่ตลอด

“วันนี้ไปนอนคอนโดพี่นะ พี่ไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว”

“ไม่!!” ดูมิกซ์จะตกใจมากตอนที่ผมบอก ปฏิเสธผมทันทีเลยครับ

“งั้นบอกเหตุผลพี่มาสักข้อก่อน”

“เอ่อ...ผมบอกว่าไม่ก็ไม่สิ”

“โอเค งั้นนอนที่คอนโดพี่” ผมขับรถตรงไปตามทางกลับคอนโด โดยที่มีมิกซ์นั่งงอแงบอกว่าไม่ยอมไปนอนคอนโดผมเป็นอันขาด ไม่รู้น้องมันกำลังคิดอะไรอยู่ถึงไม่ยอมแบบนี้



ผมขับรถเข้ามาจอดที่ชั้นจอดรถของคอนโด“จะออกหรือไม่ออก” ผมยืนกอดอกมองหน้ามิกซ์ที่กำลังนั่งกอดเบลล์ไว้แน่น เฮ้อ จะเอายังไงกับน้องดีครับ

“ถ้าไม่ออกมางั้นพี่อุ้มนะ” ผมเดินเข้าไปช้อนตัวมิกซ์ขึ้นมา มิกซ์เบิกตากว้าง มือเกาะเบลล์ไว้แน่นกว่าเดิม

“ปะ...ปล่อยผมก่อน ผมเดินเองได้”

ผมยืนส่ายหน้ามองมิกซ์ที่กำลังปลดเบลล์อย่างช้าๆ ช้าจนผมต้องก้มลงไปปลดเอง ถึงอย่างนั้นมิกซ์ก็ยังไม่ขยับตัวลุกจากเบาะเลย

“เป็นอะไรไหนบอกพี่ซิ” มือข้างหนึ่งผมเกาะที่ตัวรถ โน้มตัวเข้าไปหายมิกซ์ที่นั่งก้มหน้าอยู่

“พี่พาผมมาที่นี่พี่คิดจะทำอะไรผม” ผมถึงกับร้องอ๋อ ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองฉาดหนึ่ง

นี่มิกซ์กำลังคิดว่าผมจะพามาทำอย่างว่าเหรอครับ ผมเองยังคิดไม่ถึง ที่ผมพามิกซ์มาที่นี่ก็แค่ไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียว

แต่ตอนนี้ผมเริ่มจะคิดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วละครับ หึๆ

“กลัวแฟนตัวเองเนี่ยนะ”

“ก็ผมยังไม่เคยกับผู้ชายพี่ก็รู้”

“พี่รู้ พี่ก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเราหรอก แค่ไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว”

“พี่พูดจริงๆ นะ” ผมพยักหน้ายื่นมือไปดึงตัวมิกซ์ให้ลุกออกมาจากรถ



ผมเดินนำมิกซ์ขึ้นมาบนห้อง น้องก็ยังมีอาการระแวง เดินช้าซะจนผมต้องเดินเข้าไปรวบตัวบังคับให้เดินเร็วขึ้น

“ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวพี่จะไปหาชุดมาให้ใส่” ผมยื่นผ้าเช็ดตัวให้มิกซ์ที่นั่งอยู่ที่โซฟา

เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก มิกซ์เดินออกมาโดยมีผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวพันอยู่รอบเอว ผมเพิ่งเคยเห็นน้องถอดเสื้อเป็นครั้งแรกเลยครับ ไม่คิดว่ามิกซ์จะซ้อนรูปขนาดนี้ กล้ามบวกกับซิกแพคที่นูนชัดไม่ต่างจากของผมเลย ไม่รู้ว่าผมชอบมองหุ่นผู้ชายด้วยกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงได้มองว่าตอนนี้มิกซ์ดูเซกซี่มากเลยครับ

“มองอะไร ไหนล่ะชุด” มิกซ์เดินอายๆเข้ารับเสื้อผ้าไปโดยที่ไม่ยอมมองหน้าผม

“พี่ว่าไม่ต้องใส่แล้วก็ได้มั้ง” ผมลุกขึ้นจับมิกซ์เหวี่ยงลงไปที่โซฟา ก่อนที่จะตามลงไปคร่อมตัวน้องไว้

“พี่ทำไร ไหนบอกจะไม่ทำอะไรผม” มิกซ์ยกมือดันตัวผมไว้

“พี่บอกอย่างนั้นหรอ”

“พี่ช้อปอย่า”

“ฟอด!!!" ผมกดหน้าลงหอมแก้มมิกซ์

"จะหลับตาอีกนานไหม” ดูน้องจะกลัวหลับตาปี๋ ขนาดผมถอนหน้าออกมาตั้งนานแล้วแต่มิกซ์ก็ยังไม่ยอมลืมตาสักที สงสัยจะกลัวจริงๆ ครับ

“พี่เล่นอะไรของพี่เนี่ย” มิกซ์ทุบเข้าที่อกดันตัวผมออก แล้วเดินหนีผมเข้าไปในห้องนอน

“เปิดประตูให้พี่หน่อย” ผมยืนเคาะประตูห้องอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากมิกซ์เลย งอนผมแล้วแน่ๆครับ ไม่น่าไปแกล้งน้องมันเลย

“มิกซ์ครับ เปิดประตูให้พี่หน่อยนะๆ” ผมยังคงยืนเคาะประตูแบบนั้น แต่ไม่มีทีท่าว่ามิกซ์จะเปิดประตูให้ผมเข้าไปเลยครับ

ไม้อ่อนไม่ได้ผล คงต้องใช้ไม่แข็งกันบ้างละครับ

“จะไม่เปิดใช่ไหม? พี่เตือนเราไว้ก่อนนะถ้าพี่เข้าไปได้พี่อาจไม่ใจดีเหมือนที่โซฟาแล้วก็ได้” ผมกดเสียงต่ำในลำคอเป็นการขู่

เงียบ?

งั้นผมคงต้องแบบนั้นจริงแล้วสิครับ ผมถอยหลังสามก้าวยืนในท่าเตรียม สายตามองตรงที่บานประตู เอาแล้วนะครับผมพร้อมที่จะพังประตูแล้ว

ผมพุ่งตัวเข้าหาบานประตูด้วยความเร็ว “แกร็ก” ประตูห้องนอนค่อยเปิดออกพร้อมกับมิกซ์ที่กำลังยืนทำตาโต เมื่อเห็นว่าผมกำลังพุ่งเข้าใส่

“ฟึบ” ผมพยายามรั้งตัวเองไว้แล้ว แต่คงไม่ทันเพราะตอนนี้ผมชนเข้ากับตัวมิกซ์จนล้มลงไปนอนทับบนตัวน้อง ดีนะครับที่ผมยังรั้งตัวเองไว้ได้หน่อยไม่งั้นมิกซ์คงได้เจ็บหนักแน่ๆ

“เป็นอะไรรึเปล่า” ผมสำรวจรอบตัวมิกซ์ทั้งที่ยังคร่อมอยู่บนตัวน้อง กลัวว่าน้องจะเจ็บ

มิกซ์เพียงแค่ส่ายหน้าตอบ ทำผมโล่งอกไปเลยครับ

ผมประคองตัวมิกซ์ขึ้นมากอด ผมเกือบทำให้น้องเจ็บแล้วครับ

“พี่ขอโทษ เราไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ผมลูบหัวเป็นการปลอบ ค่อยๆ ประคองตัวมิกซ์ให้มานั่งที่เตียง

“พี่คิดจะทำอะไรของพี่” มิกซ์ทำเสียงดุใส่ผม

“ก็มิกซ์ไม่ยอมเปิดประตูให้พี่เอง” ผมทำหน้าเศร้าเผื่อว่าน้องจะเห็นใจ

“ใครบอกให้พี่แกล้งผมละ” มิกซ์กอดอกหันหลังให้ผม สงสัยจะงอนผมจริงๆครับ

“พี่ขอโทษ” มือผมรวบตัวมิกซ์เข้ามากอด คางเกยอยู่ที่ไหล่

ผมแค่จะลองแกล้งมิกซ์ดูเท่านั้น ไม่คิดว่าน้องจะกลัวผมจะทำอะไรขนาดนี้

“มิกซ์กลัวพี่หรอ”

“ก็ผมบอกว่าไม่เคย” มิกซ์ขยับตัวหนีผมเล็กน้อย

“พี่ขอโทษ พี่แค่อยากแกล้งเรา ดีกันนะๆ ๆ ๆ” ผมทำเสียงอ้อนๆ ส่งนิ้วก้อยไปตรงหน้าน้อง

“เราต้องทำแบบนั้นกันจริงๆหรอ”

มิกซ์คงคิดมากกับเรื่องนี้มากๆเลยครับ ก็ตั้งที่ผมชวนน้องมากห้องแล้ว มิกซ์ดูจะกังวลเอามากๆ

“ถ้ามิกซ์กลัวพี่ไม่ทำก็ได้” ผมพลิกตัวมิกซ์ให้หันกลับมา

“ไม่ทำก็ได้หรอ?” ผมพยักหน้าให้มิกซ์มั่นใจ

ผมเองก็ไม่คิดเรื่องมีอะไรกับมิกซ์นั้นเป็นเรื่องง่าย เพราะกว่ามิกซ์จะยอมเป็นแฟนผมก็เล่นเอาผมถอดใจไปแล้วครั้งหนึ่ง และกับเรื่องอย่างว่ากับมิกซ์ที่คบกับผู้หญิงมาตลอด มันคงยากที่จะทำใจไม่ให้กลัวไม่ได้ แต่สำหรับผมไม่เป็นไรหรอกครับแค่ได้อยู่กับมิกซ์ก็พอ

ผมโอบตัวมิกซ์ให้ล้มลงนอน ให้หน้าน้องหน้าซุกที่อกผม

“พี่รอผมหน่อยนะ” ผมกดจูบลงที่หน้าผากมิกซ์

“พี่จะรอนะ”

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
รอกันด้วย ..

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
พ่อตัดขาดจริงจัง เด็ดมาก สู้ๆ นะทั้ง2คนเลย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สู้ๆนะภาค

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 34


#พ่อตาแม่ยาย


เสียงกุกกักดังมาจากนอกห้องนอนปลุกให้ผมตื่นขึ้น ผมก้าวขาลงจากเตียง ยืนบิดตัวเล็กน้อยเพื่อไล่ความง่วงออกไป

ผมเดินตามเสียงนั้นออกมาจนถึงห้องครัว

“มึงทำอะไร”

ผมเดินเข้าไปด้านหลังภาคที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าเตาทำอาหาร

“กูจะทำอาหารเช้าให้มึงไง” มันเงยหน้าขึ้นมาตอบผม ในมือถือกระทะอยู่

ที่มาของเสียงก็มาจากภาคมันนี้แหละครับ ไม่รู้อะไรดลใจมันให้ตื่นเช้าเพื่อมาทำอาหารให้ผมทาน

ผมเพียงยิ้มให้ เดินตรงเข้าไปหามันที่หน้าเตา

“แล้วจะทำอะไรให้กูกิน” ผมยืนหันหลังมือเท้าไว้กับโต๊ะ

“กะเพราที่มึงชอบไง” มันพยักหน้าไปที่วัตถุดิบและเครื่องปรุงที่เตรียมไว้เสร็จสับ ข้างๆ มีแท็บเลตเปิดวิดีโอการทำกะเพราวางอยู่

สงสัยจะจริงจังละครับคราวนี้

“แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มทำล่ะ” สายตามันดูเลิ่กลั่กเหมือนไม่อยากบอกผม

“ม่อน...” มันมองหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง

“มีอะไร” ผมทนมองดูมันที่ทำหน้าเลิกลั่กจะทำอะไรก็ไม่ยอมทำ

“เตาเนี่ยมันเปิดยังไง” มันยกกระทะขึ้นมาบังหน้าตัวเอง

คุณชายภาคเขาเปิดเตาไม่เป็นครับ ทำเอาผมนี่ขำกร๊ากเลยครับ

“มานี่ เดี๋ยวกูช่วย” ผมเดินเข้าไปกดปุ่มเปิดเตา หยิบกระทะจากมือมันวางลงไป

“กูเปิดให้แล้ว มึงทำต่อเลย” ผมบ่ายหน้าไปที่่เตายืนกอดอกมองภาคมันกำลังทำท่าเก้ๆ กังๆ ตอนเทน้ำมัน

จะรอดไหมครับงานนี้

“โอ๊ย!!!” นั้นไงครับผมยังพูดไม่ทันขาดคำ

ภาคมันร้องเสียงดังหลังจากที่เทพริกกับกระเทียมลงไป สงสัยจะโดนน้ำมันกระเด็นใส่

ผมรีบเดินเข้าไปหยิบตะหลิวจากมือมัน เพราะกลัวว่าน้ำมันที่ติดอยู่จะไหลมาโดนมันอีก เดี๋ยวจะเจ็บกันเข้าไปใหญ่

“เป็นไงบ้าง” ผมจับมือมันขึ้นมาดู มันไม่เป็นไรมากครับ น่าจะโดนแค่สะเก็ดน้ำมันเล็กน้อย แต่เสียงมันร้องนี่สิครับทำเอาผมตกใจ

ก็ผมเป็นห่วงมันหนิครับ

“เดี๋ยวกูทำให้เอง”

“แต่กูอยากเป็นคนทำให้มึง”

“แค่กูรู้ว่ามึงตั้งใจทำให้ กูก็ดีใจแล้ว” ผมยิ้มให้ จับไหล่ดันตัวมันให้นั่งรอที่โต๊ะ

ผมหยิบเนื้อหมูใส่ลงไปผัดในกระทะจนเกือบสุก ใส่เครื่องปรุงทุกอย่างจนครบ สุดท้ายก็ใส่ใบกะเพราพระเอกของงานลงไป เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ กะเพราหมูสับสำหรับเช้านี้

“หอมจัง” ภาคเดินเข้ามาเบียดผมจากด้านหลัง สูดลมหายใจข้างหูผมซะเสียงดัง

“แต่ไม่ใช่กะเพรานะ” มันแอบฉกแก้มผมไปทีหนึ่ง มือสองข้างโอบที่เอวผมไว้

“ปล่อยได้แล้ว กูจะไปตักข้าว”

กลิ่นหอมลอยออกมาจากจานผัดกะเพราที่วางอยู่บนโต๊ะ ด้านข้างมีจานข้าวอีกสองใบ ด้านบนมีไข่ดาวที่ผมทำเพิ่มวางอยู่

ภาครับช้อนกับส้อมที่ผมส่งให้ตักข้าวเข้าปาก ตักคำแรกก็เงยหน้ามาชมผมตักคำที่สองก็เงยหน้ามาชมผมอีก มันทำแบบนี้จนข้าวในจานแทบไม่เหลือสักเม็ด ผมแอบคิดนะครับว่ามันอร่อยจริงๆหรือแค่แกล้งเอาใจผมเท่านั้น

ผมเองก็ทานในส่วนของตัวเองหมดแล้วเหมือนกัน ผมยกจานทั้งหมดวางลงที่อ่างล้างจาน เปิดน้ำบีบน้ำยาล้างจานเตรียมพร้อมทำความสะอาด

“เดี๋ยวกูล้างจานให้” ภาคมันแย่งฟองน้ำล้างจานในมือผมไป จัดการล้างจานที่เหลืออยู่

ผมได้แต่ยืนยิ้มให้กับความกระตือรือร้นของมัน

ขอให้เป็นแบบนี้ไปตลอดละกันครับ



หลังจากทำงานทั้งที่ร้านสะดวกซื้อกับร้านนมปั่นมาได้เกือบสองอาทิตย์ ดูภาคมันจะปรับตัวได้แล้วครับ ทุกวันมันจะตื่นพร้อมผมทุกเช้ามาช่วยผมทำอาหารเช้าทุกวัน ผมไม่อยากซื้ออาหารมาทานครับทำทานเองจะได้ลดค่าใช้จ่ายลงได้บ้าง ภาคเองก็เห็นด้วยกับผมและดูท่าว่ามันจะชอบทานอาหารฝีมือผมซะด้วย

“พี่แมนอาทิตย์หน้าพวกผมขอลาสักสามวันนะครับ”

“ได้ๆ แต่หลังจากนั้นต้องรีบกลับมาทำนะเพราะเดี๋ยวนักศึกษาทยอยกลับมอแล้ว” ผมพยักหน้ารับ

“อาทิตย์หน้ามึงจะไปไหน” ภาคเดินมาถามหลังจากที่ได้ยินผมคุยกับพี่แมน

ผมคุยกับมิกซ์ไว้ว่าจะกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ก่อนเปิดเทอม เพราะท่านก็โทรมาบ่นว่าคิดถึงผมสองคนอยู่บ่อยๆ ยิ่งมิกซ์มันมาอยู่กับผมด้วย พวกท่านยิ่งโทรหาผมบ่อยขึ้นคงเป็นห่วงมันแหละครับและอีกอย่างคงคิดถึงที่ไม่มีลูกชายให้บ่นสักคน ผมเลยตกลงกับมิกซ์ว่าจะกลับบ้านไปหาท่านให้หายคิดถึงสักหน่อย

“กูจะกลับบ้าน”

“กูไปด้วย” ภาคทำหน้าอ้อนๆ ผม

“กูไปสามวันเอง”

“แล้วมึงจะให้กูอยู่คนเดียวหรอ”

เอาจริงๆ แล้วผมก็อยากให้มันไปด้วยนะครับ แต่ไม่รู้จะบอกพ่อกับแม่ว่ามันกับผมเป็นอะไรกันยังไงดี ถ้าพวกท่านรู้คงได้ช็อกกันแน่ๆ ยิ่งแม่ผมไม่ค่อยสบายอยู่ด้วยผมกลัวว่าท่านจะไม่สบายใจจนป่วยไปอีก

“เออๆ ไปก็ได้” ดูมันดีใจจนกระโดดโลดเต้นเลยแหละครับ

สรุปแล้วว่าอาทิตย์หน้าผมจะกลับบ้านครับ มีผม มิกซ์ ภาค และก็ช้อปครับ ช้อปเองก็ไม่ยอมบอกว่าจะไปด้วย ถึงกับเสนอว่าจะเป็นคนขับรถพากลับเอง ผมกับมิกซ์ได้แต่ส่ายหน้ากับทั้งภาคและช้อป

แค่พาภาคมันไปด้วยผมก็ไม่อยากจะคิดแล้วครับว่าพ่อกับแม่ผมจะช็อกกันขนาดไหน ที่ลูกชายทั้งสองคนพาแฟนที่เป็นผู้ชายด้วยกันกลับบ้าน ผมว่างานนี้คงต้องเตรียมยาดมยาหอมสักโหลติดมือไปฝากพ่อกับแม่แล้วล่ะครับ

สองสามวันที่ผ่านมาที่ผมไปขอลางานที่ร้าน ผมถึงกับต้องเรียกมิกซ์มันมาปรึกษาเรื่องที่จะเอายังไงกับภาคและช้อปดี จะให้บอกกับพ่อแม่ว่ายังไง แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบครับ คงต้องดูปฏิกิริยาของพ่อกับแม่ตอนที่เรากลับถึงบ้านซะก่อน งานนี้จะหัวจะก้อยคงต้องมาลุ้นกันดูครับ



“เตรียมของเสร็จยัง” ผมเดินมาดูภาคที่กำลังจัดเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ผมรีบจัดตั้งแต่คืนนี้เลยครับเพราะพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางกันแต่เช้า

“กูต้องมีของไปฝากพ่อกับแม่มึงไหม”

“ไม่ต้องก็ได้”

“จะดีหรอวะ ไปเจอพ่อตากับแม่ยายทั้งที ยะ...อย่า” มันยกมือขึ้นมากันตัวเองจากมือของผมที่กำลังง้างเตรียมจะฟาดมัน

เล่นอะไรไม่รู้เรื่องคนยิ่งเครียดๆ อยู่

“พ่อกับแม่มึงจะโหดไหม”

“แล้วถ้าท่านรู้ว่ากูคบกับมึงท่านจะว่ายังไง” มันพูดกับผมที่กำลังนอนหนุนแขนมันอยู่

เห็นมันพูดกวนๆ ผม แต่มันเองก็คงเครียดไม่ต่างจากผมหรอกครับ

“ถ้าท่านไม่ให้กูคบกับมึง แบบที่พ่อกูทำล่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมันตอนที่กำลังพูดประโยคนี้

“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“แล้วถ้า....”

“กูไม่ทิ้งมึงหรอก กูจะอยู่กับมึง กูเชื่อว่าพ่อกับแม่กูต้องเข้าใจ” ผมรู้ว่ามันกำลังพูดอะไร มันคงกลัวเป็นแบบพ่อของมัน ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่าพ่อกับแม่ผมจะรับได้ไหม แต่ผมมั่นใจว่าท่านรักผมและพร้อมที่จะรักคนที่ผมรักด้วย

ผมกระชับกอดมันแน่นขึ้นอย่างน้อยมันก็ช่วยเป็นกำลังใจให้เราสองคนได้ในเวลานี้





“แต่งตัวซะหล่อเลยนะมึง” ภาคร้องทักช้อปที่เดินลงมาจากรถพร้อมกับมิกซ์

“ก็ต้องหล่อสิวะ ไปเจอพ่อตาแม่ยายทั้งที โอ้ย...” มิกซ์ศอกเข้าที่กลางท้องช้อปเต็มแรงจนช้อปถึงกับกุมท้องตัวงอ ถอยหลังไปพิงกับตัวรถ

ผมเองก็หันไปค้อนแฟนตัวเองที่กำลังยืนขำอยู่ ไม่รู้จะขำอะไรนักหนา สงสัยกลัวว่าถึงที่บ้านผมแล้วจะไม่มีเวลาให้ขำมั้งครับ





รถของเรากำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคอีสานของประเทศ เดาสิครับว่าผมเป็นคนจังหวัดอะไร ผมใบ้ให้หน่อยละกันครับว่ามีภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง..........ใช่ครับ โคราชบ้านเองนั่นแหละครับ ผมกับมิกซ์เกิดและโตที่นี่ รวมถึงต้นตระกลูของทั้งพ่อและแม่ผมก็เป็นคนโคราชทั้งคู่ เรียกได้ว่าเป็นหลานย่าโมแบบเต็มตัวเลยครับ

“เกือบถึงแล้วแม่” เสียงมิกซ์ดังมาจากเบาะด้านหน้า

เราเดินทางกันได้สามชั่วโมงนิดๆ แล้วครับ อีกครึ่งชั่วโมงน่าจะถึงบ้านผมแล้ว แม่ผมคงจะตื่นเต้นครับก็ไม่ได้เจอลูกชายสองคนนาน ถึงกับต้องโทรมาถามผมกับมิกซ์ว่าถึงไหนเกือบทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

คงจะคิดถึงพวกผมมากๆ



เราขับรถต่อมาอีกเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง

“เลี้ยวซ้ายข้างหน้านะพี่” มิกซ์ชี้มือบอกเส้นทางช้อป

ช้อปหักพวงมาลัยเลี้ยวรถตามเส้นทางที่มิกซ์บอก สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นตามสไตล์บ้านแถวชนบท

รถค่อยๆ เคลื่อนไปจอดตรงลานว่าง เบื้องหน้าเป็บ้านสองชั้นสีฟ้าครามตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้หลากหลายชนิด ตัวบ้านไม่ใหญ่มาก ถึงจะเล็กแต่ก็อบอุ่นครับ

ที่หน้าบ้านมีหญิงชายวัยกลางคนยื่นคู่กันอยู่ นั้นพ่อแม่ผมเองครับสงสัยยื่นรอตั้งแต่ตอนที่โทรมาหามิกซ์มันตอนนั้น

“พ่อแม่สวัสดีครับ” มิกซ์วิ่งตรงเข้าไปกอดพ่อกับแม่ทันทีที่รถจอดสนิท ผมเองก็ไม่ต่างกันครับ วิ่งตรงเข้าไปโอบจากทางด้านหลังมิกซ์ไว้ คิดถึงมากๆ ครับเกือบปีแล้วที่ผมไม่เจอท่านทั้งสอง

“กว่าจะกลับมาหาพ่อกับแม่ได้นะ พวกตัวดี” แม่บ่นทั้งๆ ที่ยังกอดผมกับมิกซ์อยู่ ถึงแม่ผมจะขี้บ่นแต่ก็ใจดีมากเลยครับ

“แล้วนั้นมากับใครล่ะ” พ่อคงจะสังเกตเห็นภาคกับช้อปที่ยื่นมองพวกเราอยู่ที่รถ

“สวัสดีครับ/สวัสดีครับ” ภาคกับช้อปเดินเข้ามายกมือไหว้พ่อกับแม่ผม ดูทั้งสองคนนั้นเกร็งนะครับ เป็นผมที่พยักหน้าเรียกทั้งสองคนให้เดินเข้ามา

“เอ่อๆ สวัสดีพ่อหนุ่มเป็นเพื่อนเจ้าสองคนนี้หรอ แล้วชื่ออะไรกันบ้าง”

“ผมชื่อภาคครับเป็น...แฟนม่อนครับ” ผมถอยหลังเดินเข้าไปหาภาคมันทันที ไม่คิดว่ามันจะกล้าบอกพ่อกับแม่ผมเร็วขนาดนี้

พ่อกับแม่ผมดูอึ้งไปสักพัก หันหน้ามองกันเองก่อนหันกลับมามองผมกับภาค

“ไม่ยอมกลับบ้านซะนาน กลับมาคราวนี้จะแกล้งอะไรพ่อกับแม่อีกล่ะ” แม่ยืนขำ ยิ้มให้พวกผม

“แล้วนี่อย่าบอกนะว่าพ่อหนุ่มคนนั้นเป็นแฟนเจ้ามิกซ์มัน”

“ครับ” มิกซ์เองก็ถอยหลังเดินมายืนคู่กับช้อป

“เลิกแกล้งพ่อกับแม่แล้วเข้าไปในบ้านดีกว่า”

“พ่อ แม่ คือว่า...”

“แม่ว่าเราเข้ามาคุยกันข้างในดีกว่า” แม่ผมที่กำลังเดินเข้าไปในบ้านหันกลับมามองพวกเราด้วยสีหน้าเรียบ ต่างจากก่อนหน้านี้

ผมคิดว่ายังไงพวกท่านคงรู้เรื่องของพวกเราเข้าสักวัน อย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้บอกพวกท่านแล้ว เป็นไงเป็นกันครับ

“เข้าไปกันเถอะ” แต่เป็นภาคครับที่คว้ามือผมให้เดินเข้าไปในตัวบ้าน ช้อปเองก็เหมือนกันเดินจับมือมิกซ์ตามพวกผมเข้ามา

“กินข้าวกินปลากันก่อนนะ” พวกผผมเดินเข้ามาในห้องครัวที่มีอาหารจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมกับพ่อที่นั่งกอดอกรอตรงหัวโต๊ะ

ทุกคนจัดแจงหาที่นั่งกันเรียบร้อย มีเพียงผมที่ลุกขึ้นไปช่วยแม่ตักข้าวใส่ในจาน

บรรยากาศตอนนี้เงียบมากครับ เงียบจนได้ยินเสียงกระทบกันของทัพพีในมือผมกับหม้อหุงข้าว

“จะกินหรือจะคุยกันก่อนดี” พ่อพูดทำลายความเงียบ ทำเอามิกซ์สะดุ้งเฮือกมือปัดช้อนในจานจนเกือบหล่น

“คือผมกับม่อนคบกันมาหลายเดือนแล้วครับ” เป็นภาคที่ตอบออกไปก่อน

“ผมเองเพิ่งคบกับมิกซ์ได้ไม่นานครับ” ช้อปพูดสมทบ

ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับจากพ่อกับแม่ผม ผมกับมิกซ์เองก็ทำได้เพียงนั่งก้มหน้าไม่กล้าสบตาท่านทั้งสอง

“แกสองคนเป็นแบบนี้กันตั้งแต่เมื่อไร”

“พ่อใจเย็นๆ” แม่พูดปรามพ่อเพราะเหมือนว่าพ่อจะมีอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อย

ผมกับมิกซ์ส่ายหน้าเป็นคำตอบไป ผมเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร รู้อีกที่ก็รักภาคมันไปแล้ว และอีกอย่างผมก็รู้สึกแบบนี้กับภาคมันคนเดียวเท่านั้น

“ไม่รู้? หมายความว่ายังไง”

“ผมไม่ได้เป็นเกย์นะพ่อ ผมรู้สึกกับภาคแค่คนเดียว” ผมตอบตามความจริงไป

“ผมก็เหมือนกัน” มิกซ์เงยหน้าขึ้นมาตอบ มันเองก็คงรู้สึกแบบเดียวกับผม

“แกสองคนรู้ใช่ไหมว่าพ่อกับแม่อยากอุ้มหลาน” ผมรู้ครับเพราะแม่มักบอกผมกับมิกซ์เสมอ ผมเองก็เคยคิดว่าถ้าเรียนจบได้งานทำดีๆ คงต้องหาแฟนสักคน แต่งงานสร้างครอบครัวมีหลานให้พ่อกับแม่ตามที่ท่านต้องการ

แต่ตอนนี้ผมไม่คิดแบบนั้นแล้ว ตั้งแต่ภาคมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต

“รู้ครับ/รู้ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นพ่อขอให้พวกแกสองคนเลิกกับสองคนนั้น แล้วกลับมาเป็นลูกชายให้พ่อเหมือนเดิมล่ะพวกแกจะทำให้พ่อได้ไหม”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2018 16:05:03 โดย TONYZZYUKI »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คุณพ่อไม่เข้าใจอ่ะ!!!

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
หลานเหรอ เหอๆๆ เอากี่คนอ่ะพ่อ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 35



#ขอบคุณที่ทิ้งไป



“ถ้าพ่อขอให้พวกแกเลิกกับสองคนนั้น แล้วกลับมาเป็นลูกชายให้พ่อเหมือนเดิมล่ะ พวกแกจะทำให้พ่อได้ไหม”

“ไม่ครับ” ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ตอบ ทั้งภาค มิกซ์และช้อปก็ตอบออกไปพร้อมๆกันด้วยประโยคนี้

ไม่ว่าพ่อจะขออะไร ผมเองก็สามารถทำให้ได้หมด ยกเว้นเรื่องเดียวครับ ผมไม่อยากเลิกกับภาคมันอีกแล้ว ไม่อยากกลับไปทรมานแบบตอนนั้นอีก

ความเงียบกลับมาอีกครั้ง เราทั้งหมดนั่งจ้องที่พ่อเป็นสายตาเดียวกัน รอฟังสิ่งที่พ่อจะพูดต่อไป

พ่อยังคงนั่งกอดอกนิ่งเงียบมองหน้าพวกผมสี่คนสลับกัน แม่ก็ยื่นมือไปจับแขนพ่อสายมองมาที่พวกเราเหมือนกัน

“คิดดีแล้วหรอที่ตอบแบบนี้” พ่อพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ

ผมเองได้แค่พยักหน้ารับไปเท่านั้น ไม่ว่าจะถามอีกกี่ครั้งผมก็มีแค่คำตอบเดียวสำหรับคำถามนี้

“พรุ่งนี้แม่เตรียมของไปวัดด้วยนะ” พ่อหันกลับไปคุยกับแม่

ไปวัด? ทำไมพ่อถึงพูดเรื่องไปวัดทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เราพูดกันตอนนี้เลย

“พ่อไม่คุยเรื่องนี้ต่อหรอ” ผมขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย มิกซ์เองก็หันมามองหน้าผมส่ายหน้าไม่เข้าใจเหมือนกัน

“ข้าก็พูดเรื่องนี้อยู่”

“เรื่อง?”

“พรุ่งนี้ตื่นกันแต่เช้าข้ากับแม่แกจะพาไปหาหลวงลุงที่วัด ให้ท่านผูกข้อไม้ข้อมือให้”

“พ่อหมายความว่า”

ถึงหน้าพ่อจะไม่ยิ้มแต่ผมก็รับรู้ว่าพ่อกับแม่ยอมรับความรักของพวกเราแล้ว

การผูกข้อไม้ข้อมือถือเป็นการรับขวัญอีกแบบหนึ่ง พ่อกับแม่มักจะผมกับมิกซ์ไปไหว้หลวงลุงอยู่บ่อยๆ ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่ผมเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯ ท่านก็พาผมมาผูกข้อมือขอพรจากหลวงลุงเหมือนกัน

ผมดีใจจนโผเข้าไปกอดภาค ที่กำลังทำหน้าสงสัยว่าที่ผมคุยกับพ่อหมายความว่าไง

“หมายความว่าไงวะ” ภาคถามผม

“พ่อกับแม่ยอมให้เราคบกันแล้ว” คราวนี้เป็นภาคมันที่ดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น ผมเองแอบเห็นมิกซ์กับช้อปจับมือกันด้วย สองคนนั้นคงยังไม่กล้าแสดงออกกันมากเหมือนคู่ผม แต่ดูออกครับว่าสองคนนั้นก็ดีใจไม่ต่างจากผม

อย่างน้อยก็ยังมีครอบครัวผมที่เข้าใจความรักในแบบของพวกเรา

“ข้ายอมให้พวกแกคบกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้พวกแกมากอดกันกลมต่อหน้าข้าแบบนี้” ภาคสะดุ้งปล่อยมือที่โอบผมไว้ออก ก้มหน้าไม่กล้าหันไปสบตาพ่อผม เป็นใครๆ ก็กลัวครับเพราะพ่อแกมักจะทำเสียงดุแบบนี้ตลอด

ถึงจะไม่ได้กอดกันแต่ผมก็ยังดึงมือภาคมันมากุมไว้ใต้โต๊ะ

“กินข้าวกันได้แล้ว กินเสร็จจะได้เอาของขึ้นไปเก็บบนห้อง” เราลงมือทานข้าวตามคำสั่งของแม่

ถึงพ่อกับแม่จะยอมให้พวกเราคบกัน แต่ผมก็ยังกังวลเรื่องหลานที่แม่มักจะพูดกับผมอยู่บ่อยๆ ไม่รู้ว่าแม่จะรู้สึกยังไงที่ผมกับมิกซ์มีหลานให้แม่ไม่ได้

“แม่ แล้วเรื่องหลานล่ะ” แม่หันมามองหน้า

“แม่ก็พูดไปงั้นแหละ ไม่มีก็ไม่เป็นไร แค่เลี้ยงพวกแกสองคนก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว” ผมจะถือว่าเป็นการช่วยเบาแรงแม่ไปอีกทางละกันนะครับ

“แล้วพ่อหนุ่มสองคนเรียนอะไรกันจ๊ะ” แม่เปลี่ยนเรื่อง หันไปถามภาคกับช้อป

“ผมเรียนหมอครับ”

“โห เรียนหมอเลยหรอจ๊ะ แล้วมารู้จักกับเด็กซนๆ อย่างเจ้ามิกซ์ได้ยังไง”

“แม่ มิกซ์ซนที่ไหน” มิกซ์มันยังคงอ้อนแม่แบบที่เคยทำมา ถึงมันจะดูเป็นเสือในสายตาผู้หญิงหลายคน แต่เวลาอยู่กับแม่มันก็ยังทำตัวเป็นเด็กๆ เสมอ กับช้อปอีกคนเวลาที่อยู่กับมิกซ์จากเสือมิกซ์มันก็กลายเป็นลูกแมวเท่านั้นแหละครับ

“นี่แหละที่เขาเรียกว่าซน ยังไงแม่ก็ฝากดูเจ้ามิกซ์มันด้วยนะ ถ้าดื้อถ้าซนยังไงจัดการได้เต็มที่เลยนะแม่อนุญาต”

“ครับผม ถ้าดื้อขึ้นมาผมจัดการแน่ๆ ครับ” ช้อปตอบ หันมองมิกซ์อย่างมีเลศนัย

อยากรู้จังว่ามิกซ์มันจะกดช้อปอย่างที่มันพูดได้รึเปล่า แต่ดูท่าแล้วผมว่ายังไงมิกซ์มันคงไม่มีปัญญากดคนอย่างช้อปได้แน่ ผมจะรอดูน้ำหน้าคนอวดเก่งอย่างมิกซ์มันดู

“แล้วพ่อหนุ่มล่ะ” แม่หันมาสนใจภาคต่อ

“ผมเรียนคณะเดียวกับม่อนครับ”

“งั้นก็ดีเลยแม่ฝากดูแลม่อนด้วยนะ”

“ครับ”

เราลงมือกินข้าวกันต่อหลังจากที่ให้สองคนนั้นตอบคำถามแม่จนเสร็จ อาหารที่แม่ทำยังอร่อยเหมือนเดิมครับ

“แม่ลืมถามเรื่องสำคัญไปเลย แล้วครอบครัวเราสองคนรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหม”

‘เพล้ง!!!’ ผมสะดุ้งจนเผลอทำช้อนในมือหล่น

ผมกับภาคหันหน้าสบตากันทันที มิกซ์กับช้อปเองก็หันมามองผมสองคนด้วยสายตาเป็นกังวลเช่นเดียวกัน

จะบอกกับพ่อแม่เรื่องเรื่องนั้นดีไหม แล้วถ้าผมบอกไปพ่อกับแม่จะว่ายังไง ผมมั่นใจว่าถ้าบอกความจริงไปท่านคงไม่ยอมให้เราคบกันแน่ๆ

“รู้แล้วครับ” เป็นภาคที่ตอบออกไป ถึงมันจะยิ้มตอนที่ตอบแต่ผมรู้ว่ามันเองก็กังวลไม่ต่างจากผม

ภาคกุมมือผมไว้แน่น พยักหน้ายิ้มให้ผมคลายกังวล

ถึงจะผ่านด่านพ่อกับแม่ผมได้ แต่ก็ยังเหลือกำแพงอีกชั้นที่ไม่รู้ว่าผมกับภาคจะข้ามผ่านมันได้ยังไง

แต่เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังละกันครับ ตอนนี้แค่พ่อกับแม่ผมเข้าใจพวกเรา มันก็มากพอแล้วครับ

เราเดินกลับไปเอาของในรถขึ้นไปเก็บบนห้องตามที่แม่บอก ห้องนอนผมถูกจัดทำความสะอาดอย่างเรียบร้อย น่าจะเป็นฝีมือแม่ผมครับ คงจะดีใจที่ลูกชายกลับบ้าน ทั้งหมอนทั้งผ้าปูที่นอนถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด

“มึงนอนได้ไหมวะ” ผมมองภาคที่เดินสำรวจห้องนอนผมอยู่

มันเดินหยิบนู้นจับนี่ของผมจนแทบจะครบทุกชิ้นแล้วมั้งครับ

“นี่รูปมึงหรอ” มันไม่ตอบคำถามผม ยกรูปถ่ายใบเล็กให้ผมดู

ผมพยักหน้ารับ

รูปที่มันถืออยู่เป็นรูปผมตอนมอหกครับ ตอนนั้นกำลังหัวเกรียนเลย

“งั้นกูขอนะ” มันไม่รอคำตอบจากผม หยิบกระเป๋าสตางค์จากกางเกงขึ้นมาเสียบรูปใบนั้นเข้าไป

แล้วมึงจะถามกูเพื่อ

“แล้วตกลงนอนได้ไหม” มันไม่ตอบ

เพียงหันกลับมาพร้อมกล่องกระดาษในมือ มันเปิดดูโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผมเลย

“ห้ามเปิด” ผมพุ่งตรงเข้าไปแย่งกล่องในมือมัน มันดึงกล่องกลับไปซ่อนไว้ด้านหลัง ดันตัวผมออกห่างจากกล่อง

ผมไม่มีทางให้มันเห็นของในกล่องนั้น มันเป็นความลับของผมครับ

“ทำไม”

“กูบอกว่าห้ามก็คือห้าม”

“ไม่บอกงั้นกูเปิด” มันเอื้อมมือไปหยิบซองจดหมายสีชมพูขึ้นมาเปิดอ่าน

‘คนที่เราแอบมองมาตลอด คนที่เราแอบตามไปส่งที่บ้าน คนที่เราเป็นห่วงมากที่สุด และคนที่เรารักมากที่สุด เป็นแฟนกันนะโบว์’

ภาคอ่านข้อความในจดหมายนั้นจนจบ มันเป็นจดหมายบอกรักแฟนเก่าคนล่าสุดของผม มันอ่านจะเชยนะครับที่สมัยนี้ยังมีการส่งจดหมายจีบสาว แต่ผมว่ามันน่ารักดีนะครับและเพราะแบบนี้ผมกับเธอเราถึงได้เป็นแฟนกัน แต่อย่างที่เคยบอกว่าเหตุผลที่ผมเลิกกับเธอก็เพราะว่าเธอแอบเห็นว่าผมทำงานที่ร้านสะดวกซื้อ เธอเลยเก็บของที่ผมเคยให้เธอทั้งหมดส่งคืนกลับมา รวมถึงจดหมายฉบับนี้ด้วย

“สมัยนี้ใครเข้าส่งจดหมายจีบสาวกันวะ” มันยิ้มเยาะผม

“เรื่องของกู เอาคืนมานี่”

“มึงยังไม่ลืมเขาหรอ” ผมหยุดยื้อแย่งกับมัน เงยหน้ามองมัน

ผมยอมรับว่าก่อนหน้านี้ยังลืมเธอไม่ได้จริงๆ เธอไม่ได้เป็นรักแรกสำหรับผม แต่ตอนนั้นผมอยากให้เธอเป็นรักสุดท้ายของผม แต่มันก็ต้องจบลงด้วยเหตุผลเดียวกับคนก่อนๆ หน้า เหตุผลเพราะผม ‘จน’ พวกเธอถึงทิ้งผมไป

แต่หลังจากที่ผมคบกับภาค มันทำให้ผมลืมพวกเธอเหล่านั้นและลืมไปด้วยว่าตัวเองยังเก็บของแบบนี้ไว้อยู่ 

ที่ไม่อยากให้ภาคมันเห็นเพราะกลัวว่ามันจะคิดว่าผมยังไม่ลืมเธอแบบที่มันกำลังคิดอยู่ตอนนี้ครับ

“กูลืมเขาไปแล้ว กูแค่ไม่อยากให้มึงเห็น”

“ถ้ามึงลืมเขาแล้วงั้นกูทิ้งนะ” มันคว้ากล่องโยนทิ้งออกทางหน้าต่างทันที

ผมยืนอึ้งมองสิ่งที่มันทำ

โยนทิ้งง่ายๆ แบบนี้ก็ได้เหรอครับ

“มึงโยนทิ้งแบบนั้นทำไม” ผมชะโงกหน้าออกไปมองกระดาษที่ปลิวเกลื่อนพื้น

“ไหนมึงบอกว่าลืมเขาได้แล้ว”

“กูลืมเขาไดแล้วจริงๆ มึงจะเอาไปทิ้งที่ไหนก็ได้แต่ไม่ใช่ที่นี่”

“ไอ้ตัวไหนวะมันทิ้งขยะเกลื่อนแบบนี้ จับได้เดี๋ยวจะฟาดให้หวายขาดเลย” เสียงพ่อผมตะโกนดังมาจากสวนหลังบ้าน

นี่แหละครับที่ผมเป็นห่วง ผมไม่สนใจของพวกนั้นแล้ว แต่ที่ผมห่วงก็เพราะพ่อผมเป็นคนรักความสะอาดมาก แกไม่ยอมปล่อยให้รอบบ้านมีขยะสักชิ้น ผมเองเคยทิ้งห่อขนมไว้ ยังจำได้ว่าวันนั้นโดยไม้เรียวฟาดซะก้นลาย จำมาจนถึงทุกวันนี้เลยครับ

ภาคเองมันคงรู้ตัวแล้วครับ รีบวิ่งหลบจากหน้าต่างเข้ามาเกาะแขนผมไว้

เป็นไงล่ะ หึงไม่ดูตาม้าตาเรือ นี่แค่เสียงดุยังกลัวหัวหดขนาดนี้ ถ้าโดนฟาดแบบผมคงนอนร้องไห้เดินไม่ได้เป็นวันแน่เลยครับ

“เป็นไงล่ะมึง งานเข้าเลยไหม”

“มึงไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ แล้วทีนี้เอาไง” มันยังมีหน้ามาถามผมอีกครับ ทีตอนทำไม่คิดตอนนี้ร้องไห้ผมช่วยซะงั้น

ผมถอนหายใจ ส่ายหน้ามองดุมันไปเล็กน้อย

“ของม่อนเองพ่อ พอดีเผลอทำหล่น เดี๋ยวม่อนลงไปเก็บเอง” ผมตะโกนบอกพ่อที่อยู่ข้างล่าง คว้ามือภาคมันวิ่งลงไปสวนหลังบ้าน ถ้าช้ากว่านี้ได้โดนไม่เรียวแน่เลยครับ



ผมกับภาคกลับมานอนพักที่ห้องหลังจากเก็บทำความสะอาดและเอากล่องใบนั้นไปทิ้ง ผมไม่ได้ทิ้งเองหรอกครับ ภาคมันนั่นแหละที่วิ่งถือกล่องนั้นไปทิ้งกองขยะที่อยู่ใกล้ๆ

‘ก๊อกๆ ๆ’

ผมเดินไปเปิดประตูห้อง

มิกซ์ครับ มันยืนอยู่หน้าห้องผมพร้อมกับช้อป

“แม่ให้ออกไปช่วยกันซื้อของที่ตลาด เอาไว้เตรียมทำกับข้าวไปวัดพรุ่งนี้” มิกซ์ยื่นกระดาษรายการของที่ต้องซื้อกับเงินจำนวนหนึ่งมาให้ผม

มิกซ์เองมันก็ไปกับผมครับ แต่มันจ่ายตลาดไม่เป็น ทุกครั้งที่มาตลาดมันก็จะวิ่งตรงไปม่อลูกสาวร้านขายยาหน้าตลาดนู้นครับ ทิ้งให้ผมต้องเดินซื้อของแค่คนเดียวตลอด ผมว่าวันนี้ต้องเอาคืนมันซะหน่อยละกันครับ

ช้อปขับรถตามเส้นทางที่มิกซ์บอกจนมาถึงตลาดที่ผมเคยมาซื้อของอยู่เป็นประจำ

“ช้อปเห็นร้านขายยานั่นไหม” ผมชี้นิ้วไปที่ร้านขายยาทันทีที่ลงจากรถ

ช้อปมองตามนิ้ว หันกลับมาพยักหน้าตอบ

“ไอ้เชี่ยม่อน” มิกซ์วิ่งเข้ามาใช้มือปิดปากผม

“มีอะไรกัน” ช้อปยังยืนงงว่าผมสองคนกำลังทำอะไร

“มิกซ์ปล่อย พี่บอกให้ปล่อย” ช้อปสั่งมิกซ์ ประโยคหลังของทำเอามิกซ์สะดุ้งปล่อยมืออกจากปากผมอย่างเร็ว

“ม่อนจะบอกอะไรเรา” ช้อปคุยกับผมแต่ตากลับจ้องที่มิกซ์มัน สงสัยช้อปจะรู้แล้วว่าผมจะพูดเรื่องอะไร

“ช้อปเห็นร้านยานั้นไหม เมื่อก่อนมิกซ์มันชอบมาม่อลูกสาวร้านนี้ประจำ เห็นว่าสนิทกันมากด้วย นั้นไงคนนั้นไง” เธอมาได้ตรงเวลาพอดีเลยครับ สาวสวยตัวเล็กๆ ขาวๆ เดินออกมาหน้าร้านพอดี ผมว่าเธอคงเห็นมิกซ์มันแล้วด้วยครับ โบกมือวิ่งตรงมาที่กลุ่มเรา

หมดหน้าที่ของผมแล้วครับ ผมคว้ามือภาควิ่งตรงเข้าไปในตลาดทิ้งให้มันชดใช้เวรใช้กรรมของมันไป นี่แหละครับพี่ชายตัวอย่างฮาๆ ๆ

“กูฝากไว้ก่อนนะไอ้เชี่ยม่อน” เสียงมันด่าไล่ตามหลังมา ผมไม่สนใจมันหรอกครับปล่อยให้ช้อปจัดการมันไป

โชคดีนะมิกซ์น้องรัก พี่ชายคนนี้จะจดจำมึงไปตลอด

“ไปแกล้งน้องมันทำไม”

“เอาคืนมันนิดหน่อย”

“มึงนี่แสบจัง หวังว่าจะไม่เจอบรรดาแฟนเก่ามึงที่นี่เหมือนกันนะ”

‘กึก’

ผมหยุดเดินกะทันหันจนภาคที่เดินตามมาชนเข้าอย่างจัง

“มึงหยุดทำไม” ผมยิ่งนิ่งสายตาจดจ้องอยู่กับคนที่อยู่ตรงหน้า

ไม่คิดเลยว่าจะเจอเธอที่นี่

โบว์แฟนเก่าที่เคยทิ้งผมไปเธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าผมตอนนี้ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีครับที่ได้มาเจอเธอ ผมต้องทำตัวยังไงดีครับ ควรทักเธอดีรึเปล่า

“หวัดดีม่อน” ผมยังไม่ทันคิดเสร็จ เธอก็เดินตรงเข้ามาทักผม

ตอนนี้ประหม่ามากเลยครับ ไม่รู้จะตอบเธอยังไงดี

“อะ...อืมหวัดดี”

“ม่อนเป็นไงบ้าง ไม่เจอกันนานหล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย” เธอเดินเข้ามาเกาะแขนสำรวจร่างกายผม เธอทำเหมือนว่าระหว่างเราสองคนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

“บะ...โบว์ก็สวยขึ้นเยอะเลยนะ” ผมตอบกลับด้วยเสียงสั่นๆ

“หล่อแบบนี้คงมีสาวๆ เยอะเลยล่ะสิ”

“ไม่มีหรอก” จะตอบเธอไปว่ามีแต่หนุ่มๆ คงจะดูแปลกๆ ไปครับ

“ถ้างั้นม่อนก็ยังไม่มีแฟนสินะ ตอนนี้เราเองก็โสด” เธอส่งยิ้มหวานมาให้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงใจอ่อนยอมทำตามที่เธอบอกหมดทุกอย่างไปแล้วครับ

“เราลองกลับมา...”

“ไม่ได้หรอกครับ” ภาคที่ยืนฟังเราอยู่ด้านหลังเดินเข้ามาจับมือผม มันคงรู้ว่าโบว์กำลังจะพูดอะไร ถึงได้รีบเข้ามาขัดไว้ก่อน

“ทำไมหรอคะ” โบว์ที่เพิ่งจะเห็นว่าผมไม่ได้มาแค่คนเดียว หันไปถามภาค

“ไม่มีผู้หญิงมาจีบม่อนหรอกครับ มีแต่...ผู้ชาย”

“อย่าบอกนะว่า...” โบว์มองหน้าผมสลับกับภาค เธอคงเข้าใจแล้วละครับว่าผมกับภาคเป็นอะไร

“ครับ ผมกับม่อนเป็นแฟนกัน” ภาคชูมือที่จับกับผมอยู่ชูขึ้น โบว์ดูจะตกใจจนต้องเดินถอยหลังไปเล็กน้อย

“คุณคงเข้าใจแล้วนะครับ งั้นผมขอตัวก่อน” ภาคดึงผมให้เดินตามหลังมัน

“อีกอย่างผมขอบคุณที่เลิกกับม่อนนะครับ” มันหยุดพูดกับโบว์ตอนที่กำลังเดินผ่านเธอ

ไม่ใช่แค่โบว์ที่อึ้งผมเองก็อึ้งไม่ต่างจากเธอ ไม่คิดว่าภาคมันจะพูดแบบนั้น

“ทำไมมึงพูดแบบนั้น” ผมถามมันหลังจากที่เดินห่างจากโบว์มาพอสวมควร

“ก็ขอบคุณที่เขาไม่เห็นค่ามึงในวันนั้น จนวันนี้มึงกลายเป็นคนมีค่าที่สุดของกู” เขินมากครับ เขินจนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหล่าสาวน้อยที่มิกซ์มันเคยตามจีบเลยครับ เขินซะจนตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก

“ม่อน” มันเรียกผมจากด้านหลัง

“มึงไม่ต้องพูดแล้ว” ผมยังไม่หยุดเขินมันเลยครับตอนนี้ เขินจนต้องเดินหนีมัน

“กูแค่จะถามว่ามึงไม่ซื้อปลาทูหรอ” เฮ้อ...มัวแต่เขินจนเดินเลยร้านขายปลาทูมาซะได้ครับ





Part

มิกซ์



ทำไงดีครับก็คนที่ยืนประกบผมอยู่ตอนนี้ ข้างหนึ่งก็แฟนผม อีกข้างก็สาวสวยที่ผมเคยม่อไว้

ก็ไอ้ม่อนพี่ชายตัวแสบของผมนะสิครับ มันดันแกล้งผมแล้ววิ่งหนีไป ทิ้งผมไว้กับระเบิดเวลาลูกใหญ่กับสาวสวยที่ยืนเกาะแขนผมอยู่

ตายแน่มิกซ์เอ๊ย

“พี่มิกซ์เป็นไงบ้าง หายไปตั้งนานไม่มาหาแพรเลย” แพรรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าผมและก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ผมเคยไปม่อไว้ เธอทักผม

“พี่ไปอยู่กับพี่ม่อนมา”

“ทำไมไม่ยอมบอกแพรเลย รู้ไหมว่าแพรคิดถึง” แพรซบเข้าที่ไหล่ ผมหันกลับไปมองพี่ช้อปที่ยืนกอดอกตาเขียวมองผมกับแพร

ผมพยายามแกะมือไม้ของเธอออก แต่เธอไม่วายเกาะเข้ามาใหม่แถมแน่นกว่าเดิมเสียอีก

“พี่ว่าแพรปล่อยพี่ก่อนดีกว่านะ”

“ทำไมแพรต้องปล่อย ปกติแพรก็ทำแบบนี้อยู่แล้ว”

‘เกร๊ง!!!’ เสียงเตะกระป๋องจากด้านหลัง มันคงเป็นสัญญาเตือนจากคนที่คุณก็รู้ว่าใครแน่ๆ

นั้นไงครับ ตาเขียวยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ตายแน่ครับงานนี้

แล้วนี่เมื่อไรน้องแพรเธอจะปล่อยแขนผมสักทีครับ เธอไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ชะตาผมกำลังจะขาด

“รีบคุยให้เสร็จ แล้วตามพี่มาที่รถ” คราวนี้เป็นเสียงประกาศิตส่งมาแทนครับ สงสัยผมต้องรีบเคลียตรงนี้แล้วกลับไปเคลียกับพี่มันให้เร็ว จะเป็นการดีที่สุดสำหรับผมตอนนี้

ผมคุยกับแพรเธออยู่นาน จนผมตัดสินใจบอกเธอว่ามีแฟนแล้วเธอถึงยอมปล่อย แต่ผมไม่ได้บอกหรอกนะครับว่าใครเป็นแฟนผม เพราะถ้าบอกว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชายแพรเธอคงไม่ยอมเชื่อผมแน่ๆ

“มีอะไรจะพูดไหม” คำถามพุ่งเข้าหน้าผมตั้งแต่ผมเปิดประตูรถเลยครับ

“ผมยอมรับว่าเคยคุยกับน้องเขา แต่ตอนนี้ไม่ได้คุยแล้ว”

“มีคนอื่นอีกไหม”

“ไม่มีแล้ว”

“แน่ใจ”

“เอ่อ...ก็มีอีกหลายคน แต่มิกซ์ไม่ได้ติดต่อแล้ว” จะโกหกก็ไม่กล้าเพราะพี่แกดูฉลาดเกินกว่าที่คนโง่ๆ อย่างผมจะหลอกได้

“ห้ามให้พี่เห็นแบบนี้อีก” นี้คงเป็นคำขาดจากพี่ช้อป ดูจากน้ำเสียงกับสีหน้าที่ดูจริงจังมาก

“ครับ”

“ยื่นหน้ามา” พี่ช้อปสั่ง

“ยื่นไปทำไมอ่ะ”

“พี่ก็จะทำโทษไง”

“ได้ไงอ่ะ”

“จะยื่นมาเองหรือจะให้พี่ช่วย” ผมรีบยื่นหน้าไปหาพี่แก แต่ถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าจะโดนทำโทษด้วยวิธีแบบไหน

‘จุ๊บ’ ผมเบิกตากว้างตอนที่พี่ช้อปยื่นหน้าเข้ามาจูบผม นี่คือวิธีการทำโทษเหรอครับ

“ถ้าพี่เห็นแบบวันนี้อีก พี่ทำมากกว่านี้แน่” 

ผมไม่ทำแล้วคร้าบบบบบ



ตอนหน้าก็จะจบเล่มแรกของเรื่องนี้แล้ว ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องใหม่ของผมกันด้วยนะครับ


ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
น่ารักกันไป

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
นานๆทีม่อนถึงจะได้เอาคืนมิกซ์555

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
สนุกกกกกกกกก
ตอนแรกพระเอกอย่างแบด ตอนนี้หล่ะอ้อนเก่งนัก
เหลือแค่พ่อของภาคยอมรับ
ปล. แล้วเพื่อนภาคนี้หายไปหมดเลย?หมดบทละ เพราะภาคติดเมีย
แล้วอาการของแม่ที่ผ่าตัดคือหายเลย?

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
มาถึงตอนสุดท้ายของเล่มนี้แล้วนะครับ แต่เรื่องนี้ยังไม่จบนะครับเหลือต่อเล่มสอง ผมสปอยล์ไว้ก่อนนะครับว่าเล่มสองยังมีดราม่าเตรียมไว้ให้อีก ฉะนั้นขอพักสมองไปคลายเครียดกับคู่ #ช้อปมิกซ์ กันก่อน ถ้าจบเรื่อง Knocked Out ช่วยที!!!...กูโดนยิงดาวน์ ผมจะมาต่อให้นะครับ ฝากติดตามนิยายทั้งสองเรื่องนี้ด้วย ระหว่างนี้ผมอาจจะมีเรื่องสั้นแทรกเข้ามาด้วย ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ 

ปล.อย่าลืมเม้นติชมเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ


ตอนที่ 36


#ไม่มีทาง



“มองกูทำไม” ผมขยับตัวถอยหลังขึ้นไปใกล้หัวเตียง

ไม่ต้องถามครับว่าใครที่กำลังมองผม ภาคกระโดดตามขึ้นมาคร่อมผมบนเตียง

“ภาคอย่า นี่บ้านกูเดี๋ยวพ่อแม่ได้ยิน” ผมดันหน้ามันไว้ตอนที่มันกำลังโน้มตัวลงมา

ผมไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ ทำไมถึงหื่นได้ตลอดเวลาแบบนี้

“สัญญากูจะทำเบาๆ” มันชูสามนิ้วทำหน้าเหมือนเด็กกำลังอ้อน

“ไม่ได้...อื้อ” มันไม่ฟังคำปราม โน้มตัวลงมาไซร้ที่ต้นคอผม

“อื้อ...อ้า...ภาคมะ...ไม่เอา”

“ร้องดังเดี๋ยวพ่อแม่มึงได้ยินนะ” มันไซร้มากระซิบที่ข้างหู

ผมรีบใช้มือปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็ว กลัวว่าพ่อกับแม่จะขึ้นมาได้ยิน

เสื้อผ้าผมถูกถอดออกไปทีละชิ้น ไม่ต่างจากภาคมันที่ตอนนี้แทบจะเปลือยเปล่าอยู่บนตัวผม

ลิ้นเย็นแตะลงที่ยอดอกจนผมเสียวสะท้าน ต้องดึงผ้าห่มมากัดแทนมือที่ใช้ปิดปากตัวเอง มันเสียวซะจนผมกลัวจะเผลอครางเสียงดังจนเล็ดลอดออกไปข้างนอก

มันดูดเลียที่หัวนมผมอยู่นาน ภาคใช้มือง้างปากเพื่อเอาชายผ้าห่มที่ผมกัดอยู่ออก มันสอดลิ้นและประกบริมฝีปากหนาปิดไว้แทน

มันเลื่อนมือสอดเข้าไปสัมผัสน้องชายผม ที่กำลังตื่นตัวเต็มที่อยู่ภายใต้กางเกงในสีขาว มือผมเองก็อยู่ไม่เป็นสุขคอยลูบคลำแผ่นหลังของมันเช่นกัน

“รอเดี๋ยวนะ” มันละปากออกจ ลุกขึ้นเดินไปเปิดกระเป๋าเป้ของมันที่วางอยู่ใกล้ๆ

มันเดินถือกระป๋องพลาสติกขนาดใหญ่กว่าแขนผมเล็กน้อยวางไว้ข้างๆตัวผม มันบีบเจลลงที่น้องชายผมแทนที่จะเป็นน้องชายของมัน กระป๋องพลาสติกที่วางไว้ถูกมันหยิบขึ้นมา

“อ้า…” ผมร้องครางออกมาทันที มันสวมกระป๋องนั้นเข้ากับน้องชายผม มันเป็นกระป๋องช่วยตัวเองของผู้ชายครับ ผมไม่คิดว่ามันจะเตรียมของแบบนี้มาด้วย

ครืดๆ ครืดๆ

มันไม่เพียงแค่สวมสิ่งนั้นเข้ามา มันยังกดปุ่มที่อยู่ด้านข้างกระป๋องนั้นด้วย

“อ้า…” ซิลิโคนด้านในเริ่มขยับตัวขึ้นลงบีบรัดน้องชายผมแน่น ผมร้องเสียงดังจนต้องหยิบหมอนที่วางอยู่ข้างๆมาปิดหน้าตัวเองไว้

“เอาหมอนออก กูอยากมองหน้ามึงตอนเสียว” ภาคดึงหมอนที่ปิดหน้าผมออก โน้มตัวลงมาจูบผมแทน

“เซ็กซี่ฉิบหาย” มันเงยหน้าส่งยิ้มหื่นแบบที่มันทำประจำ

“จะทำอะไรก็รีบทำ อื้อ...กูจะไม่ไหวแล้ว อ้า...” ผมเริ่มจะต้านทานความเสียวจากของเล่นที่มันกำลังขยับกระตุ้นความเสียวผมอย่างต่อเนื่องนี่ไม่ไหว

“พร้อมนะ”

“ภาคเดี๋ยว ถุงยางล่ะ” ผมดันตัวมันไว้เพราะจนถึงตอนนี้ผมยังไม่เห็นมันหยิบถุงยางขึ้นมาใส่เลย

“ขอสดนะ” มันก้มลงมากระซิบที่ข้างๆ หู พร้อมกับดันน้องชายของมันเข้ามาโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว

มันเริ่มขยับสะโพก มันเสียวจนผมเผลอครางออกมาเสียงดัง ความเสียวที่ถาโถมเข้ามาทั้งด้านหน้าและด้านหลังผมตอนนี้ มันเสียวมากที่สุดตั้งแต่ผมเคยมีอะไรกับภาคมา คงเป็นเพราะไอ้กระป๋องนั้นของมันช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมได้เป็นอย่างดี

“ร้องดังเดี๋ยวพ่อแม่มึงได้ยินนะ” มันส่งยิ้มกวนๆมา

ผมโน้มคอมันลงมาจูบ คิดว่าทำแบบนี้น่าจะช่วยลดเสียงครางของผมลงได้บ้าง

“อื้อ...” ถึงปากผมจะประกบอยู่กับปากภาคมัน แต่ก็ยังไม่วายมีเสียงครางที่เล็ดลอดออกมาจากลำคอผมอยู่ตลอดเวลา

หวังว่าพ่อกับแม่ผมจะไม่ได้ยินนะครับ

“ภาคเร็วอีกหน่อย กูไม่ไหวแล้ว” ผมพูดข้างหูมันด้วยเสียงสั่น กอดคอมันไว้แน่น

“กูก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”

มันขยับสะโพกเร็วขึ้น จนตอนนี้ผมเริ่มทนไม่ไหว รีบดึงกระป๋องเสียวออกจากน้องชายตัวเอง เพราะถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้ผมคงได้เสียวจนใจขาดตายตอนนี้แน่ๆ

“อ้า…” เสียงครางของเราสองคนประสานกัน หลังจากดึงกระป๋องนั้นออกน้ำรักผมก็พุ่งออกมาเลอะเต็มตัว แม้แต่หน้าอกภาคเองก็เลอะเต็มไปด้วยน้ำรักของผมที่กระเด็นไปโดนตัวมัน

ภาคทิ้งตัวลงมาทับผม เสียงหอบหายใจแรงไม่ต่างจากผม

“เอาออกไปได้แล้ว” ผมตีหลังมันไปเบาๆมันไม่ยอมดึงน้องชายของมันออกไป มันปล่อยให้น้องชายมันกระตุกและปล่อยน้ำรักของมันพุ่งเข้ามาในตัวผม

“แตกในแบบนี้ พ่อกับแม่มึงคงไม่ต้องห่วงเรื่องหลานแล้วล่ะ” มันดึงน้องชายออก ลุกขึ้นไปหยิบทิชชูที่วางอยู่หัวเตียง มาเช็ดน้ำของมันที่กำลังไหลออกจากด้านหลังผม

“มึง….”



ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า นั่งมองไอ้หื่นที่ยังนอนหลับอยู่ข้างๆ ยังดีนะครับที่เมื่อคืนมันจัดผมแค่รอบเดียว ไม่อย่างนั้นวันนี้ผมคงไม่มีแรงลุกขึ้นมาแบบนี้หรอกครับ

“ยังเช้าอยู่เลยมึงรีบตื่นไปไหน” หลังๆมานี่ภาคมันมักจะตื่นพร้อมผม เพราะทุกครั้งที่ผมตื่นมันก็จะตื่นตามเป็นแบบนี้ทุกวัน ตั้งแต่ที่มันเริ่มทำงานพิเศษกับผม

“นอนต่ออีกนิดนะ” มันคว้าเอวผมเข้าไปกอด ซุกหน้าเข้ากับต้นขาผม

“กูจะลงไปช่วยแม่ทำกับข้าว” วันนี้ที่พ่อบอกว่าจะพาพวกเราไปไหว้ขอพรจากหลวงลุง ผมเลยรีบตื่นจะได้ลงไปช่วยแม่เตรียมจัดของไปทำบุญที่วัด

“จริงสิ” มันลุกพรวดขึ้นมานั่งมองหน้าผม

“ปะ รีบไปล้างหน้าลงไปช่วยแม่ดีกว่า” เป็นมันที่กระโดดลงจากเตียง จูงมือผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ

“ไม่นอนต่อแล้วหรอ” ผมหันไปถามมันที่ยืนขยับแปรงสีฟันอยู่ข้างๆ

“ก็กูอยากทำคะแนนกับแม่ยายหน่อย” มันยิ้มกวนๆ ทั้งที่ฟองยาสีฟันยังติดอยู่รอบปากมัน

“เอองั้นก็ดี”

“มึงก็รีบๆแปรง แล้วตามกูลงไปเร็วๆล่ะ” มันบ้วนปาก ล้างหน้าเสร็จแล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่างทันที

สงสัยมันคงกลัวพ่อกับแม่ผมเปลี่ยนใจละมั้งครับ ถึงได้ขยันรีบวิ่งลงไปช่วยแม่ผมทำงานแบบนี้



ผมเดินตามภาคมันลงมาที่ห้องครัว ดูสองคนนั้นจะเข้ากันได้ดีครับเห็นคุยกันถูกคอเชียว แต่แปลกใจที่เห็นภาคมันหยิบจับทำนู่นทำนี้ดูแล้วไม่ขัดตาเหมือนตอนที่ช่วยผมทำ

“อยู่ที่กรุงเทพฯ เจ้าม่อนทำกับข้าวให้เรากินบ่อยไหม”

“แรกๆก็ไม่ค่อยได้ทำหรอกครับส่วนใหญ่ซื้อทานเอา แต่หลังๆผมติดใจฝีมือลูกแม่ เลยต้องให้ม่อนทำอาหารให้ทานทุกวันเลยครับ” ผมยืนยิ้มมองภาคกับแม่คุยกัน

“ภาคมาช่วยแม่ชิมดูหน่อย” แม่ใช้ช้อนตักน้ำแกงส่งให้ภาค

“ผมรู้แล้วครับว่าม่อนทำอาหารเก่งเหมือนใคร” มันยิ้มทะเล้น

“ปากหวานนะเนี่ยเรา”

ดูมันประจบแม่ผมครับ แม่ผมเองก็บ้ายอเสียด้วยยืนยิ้มหน้าบานตัวแทบจะลอยติดเพดานแล้วครับ

“อ่าว มึงมาแล้วหรอ” มันเดินเข้ามาลากแขนเข้ามาไปในครัว ใช้ช้อนตักแกงเขียวหวานยื่นมาจ่อปากผม

“มึงลองชิมดู” ผมอ้าปากงับช้อนนั้น

พรูด!!!

ผมคายน้ำแกงนั้นออกทันที ร้อนครับ ก็มันเล่นตักน้ำแกงร้อนๆจากเตาส่งเข้าปากผมโดยที่ไม่เป่าเลยสักนิด

“โทษที อะนี่น้ำ” มันยื่นแก้วน้ำมาให้ผม แล้วเดินกลับไปตักแกงมาใหม่

ฟูๆ ๆ ๆ

“น้ำลายมึงลงไปหมดแล้วมั้ง” ครั้งนี้มันยืนเป่าอยู่นานครับ ถ้าผมไม่ทักมันคงไม่หยุดเป่าแน่ๆ ครับ

“เดี๋ยวมันลวกปากมึงอีก อะนี่” มันยื่นช้อนมาอีกครั้ง ผมอ้าปากงับช้อนนั้นเข้าไป

มันยืนจ้องปาก ทำท่ากลืนไปพร้อมๆกับผม มันยืนมองหน้าเหมือนกำลังลุ้นคำตอบ

“เป็นไงบ้าง”

“อืม...อร่อย” ผมพยักหน้าตอบ

“นั้นไงฝีมือการใส่มะเขือเปราะของกู” ผมยืนขำท่าทางเหมือนเด็กของมัน ดูมันจะภูมิใจมากกับการใส่มะเขือเปราะลงในหม้อ แต่อย่างว่าครับคุณชายอย่างมันทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้วแหละครับ

“แฟนกูเก่งจังเลย” ผมก็เล่นกับมัน เดินเข้าไปดึงแก้มทั้งสองข้างของมันส่ายไปส่ายมา คิดซะว่ากลับไปกรุงเทพฯ คราวนี้มันจะได้มีกำลังใจทำงาน

“อะ...แฮ่ม หวานกันเกรงใจแม่บ้าง” แม่ยืนยิ้มมองผมสองคนหยอกล้อกัน

“ขึ้นไปเรียกมิกซ์กับช้อปให้แม่หน่อย แล้วเราสองคนก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วจะได้ออกไปเลยเดี๋ยวสาย”

ผมเดินขึ้นมาข้างบนตามที่แม่สั่ง

‘เมื่อคืนสองคนนั้นทำอะไรกันรึเปล่า’ ผมยืนคิดอยู่หน้าประตูห้องมิกซ์

“มึงรอกูตรงนี้ก่อนนะ” ผมบอกภาค รีบวิ่งลงไปหาที่ชั้นล่าง ผมมีแผนแล้วครับ

ผมวิ่งกลับขึ้นมาหน้าห้องมิกซ์อีกครั้งหลังจากที่ได้ของที่ผมต้องการมาเรียบร้อย

“มึงจะทำอะไร” ภาคมันยืนขมวดคิ้วมองผม

“มึงอยู่เฉยๆ แล้วเงียบๆหน่อย”

ผมหยิบกุญแจสำรองห้องมิกซ์ที่ผมเพิ่งลงไปขอจากแม่มา นี่แหละครับแผนของผม จู่โจมโดยที่ไม่ให้เหยื่อรู้ตัว จะได้รู้กันไปเลยว่าสองคนนั้นเสร็จกันรึยังและสิ่งที่ผมอยากรู้ที่สุดคือมิกซ์มันกดช้อปได้อย่างที่มันพูดรึเปล่า

ผมค่อยๆหมุนลูกบิดเปิดประตูให้เบาที่สุด ผมเดินย่องเข้าไปในห้อง ภาคเองก็ย่องตามผมเข้ามาเหมือนกัน

เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆครับ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือมิกซ์กับช้อปกำลังนอนกอดกันอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้สองคนมีอะไรกันมากกว่านอนกอดกันรึเปล่า

“ภาคมึงเอาโทรศัพท์มาด้วยใช่ไหม” ภาคพยักหน้าตอบ

“งั้นก็ดี ถ่ายรูปสองคนนี้เก็บไว้ให้กูหน่อย” ภาคมันยังงงๆทำหน้าสงสัยว่าผมกำลังทำอะไร แต่มันก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปตามที่ผมสั่ง

ผมจะเก็บรูปนี้ไว้แบล็กเมล์มิกซ์มันครับ เวลามันดื้อผมจะได้เอารูปนี้ไว้ขู่มัน

เรื่องรูปเอาไว้ก่อน ตอนนี้ขอแกล้งมันก่อนละกันครับ

“อะ...แฮ่ม” ผมกระแอมเสียง

“ม่อน/เชี่ยม่อนมึงเข้ามาได้ยังไง” มิกซ์กับช้อปลืมตาขึ้นมามองผม

“นี่ไง” ผมยกกุญแจในมือให้มันดู

“แล้วมึงจะเข้ามาทำไม” มิกซ์มันโวยวาย

“ก็จะเข้ามาดูไงว่ามึงกับช้อปได้กันยัง”

“ไอ้สัส!!!”

“แต่นอนกอดกันขนาดนี้กูว่า...คงไม่เหลือแล้วมั้ง”

“มึงออกไปเลยนะ” มิกซ์ปาหมอนมาใส่ผมทั้งๆที่มีแขนของช้อปพาดตัวมันอยู่

“ไม่ออก มึงต้องบอกกูก่อนว่ามึงได้กันยัง” ผมปาหมอนใส่มันกลับ

“แล้วเกี่ยวอะไรกับมึง”

“ก็กูอยากรู้ว่ามึงจะกดช้อปได้อย่างที่มึงพูดรึเปล่า” มิกซ์มันหันไปมองช้อปทันที ช้อปเองก็เช่นกันหันไปขมวดคิ้วมองหน้ามิกซ์มัน

“นี่เราจะกดพี่หรอ”

“เอ่อ...ม่อนมันก็พูดมั่ว” มิกซ์มันพยายามเฉไฉไม่ตอบช้อป

ผมคงต้องได้ใช้รูปที่ให้ภาคถ่ายให้เมื่อกี้แล้วครับ ไม่คิดว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้

“ภาคเอารูปเมื่อกี้ขึ้นมาให้มันดู” ผมสั่งภาคที่กำลังทำตามผมอย่างงงๆ

“ถ้ามึงไม่อยากให้คนอื่นเห็นรูปนี้ มึงก็ตอบมาว่ามึงกับช้อปได้กันรึยัง” ผมงัดไม้ตายออกมาขู่มันครับ ต้องทำแบบนี้แหละครับมิกซ์มันถึงจะยอม

“หึๆ” มิกซ์หัวเราะ ลุกจากเตียง เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ

แปลกครับ มันไม่กลัวคำขู่อย่างที่ผมคิดไว้

“มึงคิดว่ามึงขู่กูได้คนเดียวงั้นหรอ” มันยกยิ้มมุมปาก เดินตรงเข้ามาหาผม

มันกดโทรศัพท์ยื่นเข้ามาใกล้หูผม

‘อื้อ...ภาคเร็วอีกหน่อย กูไม่ไหวแล้ว...อ้า’ ผมยื่นนิ่งเบิกตากว้าง เสียงที่ได้ยินคือเสียงผมกับภาคกำลังมีอะไรกันเมื่อคืน

ผมได้สติพยายามรีบคว้าโทรศัพท์จากมือมิกซ์มา แต่ไม่ทันความเร็วของมิกซ์มัน มันรีบดึงโทรศัพท์กลับทันที

“นี่มึงแอบฟังกูหรอ” ผมชี้หน้าคาดโทษมัน

“แอบฟังหรอ? กูไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน เสียงครางมึงดังซะขนาดนั้น มึงลืมแล้วหรอว่าห้องกูกับมึงอยู่ติดกันแค่นี้”

“แล้วมึงจะอัดเสียงกูทำไม”

“กูแค่อยากจะเก็บไว้แก้แค้นมึงเรื่องเมื่อวาน แต่ไม่คิดว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้”

“มึงลบเลยนะ”

“ไม่” มันยืนยันเสียงแข็ง

“งั้นกูจะปล่อยรูปมึง” ผมขู่ หวังว่ามันจะกลัวนะครับ

“ก็แล้วแต่นะ รูปกูแค่นอนกอดกัน ส่วนของมึงครางซะขนาดนั้น มึงคิดเอาเองละกันว่าใครจะอายกว่า” ผมคิดตามที่มิกซ์มันพูด จริงครับผมแพ้มันทุกทางจริงๆ

“ม่อนกลับเถอะ กูว่ามึงแพ้มิกซ์มันแล้ว” ภาคเดินเข้ามาโอบไหล่ผมเดินไปที่ประตู

“กูฝากไว้ก่อนนะ” ผมหันไปไปชี้หน้ามัน

“รีบมาเอาคืนนะ” เสียงหัวเราะของมิกซ์ดังไล่หลังผมมา

ไม่น่าพลาดเลยครับ คิดจะแกล้งมันกลับโดนมันซ้อนแผนซะงั้น รอบนี้ผมยอมแพ้มันแต่รอบหน้าผมต้องชนะมันแน่ๆครับ ฝากไว้ก่อนนะมึงมิกซ์



หลังจากที่ผมแพ้มิกซ์มันไปอย่างราบคาบ ตอนนี้อาหารที่เตรียมไว้เสร็จเรียบร้อย เราทุกคนก็มาพร้อมหน้ากันแล้ว เราขนของขึ้นรถยนต์ของช้อป ขับมุ่งตรงไปวัดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก

เรานั่งรกกันได้ซักพักก็มาถึงวัดที่เราจะมาทำบุญกันวันนี้ ผม ภาค มิกซ์และช้อป ต่างช่วยกันถือปิ่นโต หม้อกับข้าวที่แม่เตรียมไว้เดินตามพ่อกับแม่เข้าไปที่ศาลาการเปรียญ

อาหารถูกยกเข้ามาจัดเตรียมใส่จานเรียบร้อย พระสงฆ์รูปหนึ่งเดินเข้ามานั่งตรงหน้าถาดอาหารที่เราเตรียมไว้ หลวงลุงผมนั้นเองครับ ท่านเป็นพี่ชายของพ่อผมเอง ท่านบวชตั้งแต่ยังหนุ่มๆครับตอนนี้ก็หลายพรรษาแล้ว ผมเองก็เคยมาหาท่านอยู่บ่อยๆ ตอนที่ยังเรียนอยู่ที่นี่

พ่อบอกให้พวกผมสี่คนเข้าไปยกถาดอาหารถวายหลวงลุง เราลุกขึ้นทำตามที่พ่อบอก

“ไหนล่ะแฟนเอ็งสองคนที่บอกจะพามาให้ลุงผูกข้อมือให้” หลวงลุงท่านถามหลังจากที่ฉันอาหารเสร็จเรียบร้อย

“นี่ครับ” ผมมองไปที่ภาค มิกซ์เองก็มองที่ช้อปเหมือนกัน

“จริงหรือวะ” หลวงลุงท่านหันไปถามพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ด้านหลัง

พ่อกับแม่เพียงพนมมือพยักหน้าตอบท่านไปเท่านั้น

หลวงลุงนั่งนิ่งเงียบไปสักพัก มองหน้าเราสี่คนสลับกัน ท่านคงจะตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆ หลายชายทั้งสองคนพาแฟนที่เป็นผู้ชายกลับบ้านมาแบบนี้

“ไหงเอ็งสองคนพาผู้ชายกลับมาแบบนี้วะ” ผมไม่มีคำตอบให้กับท่าน

“เออๆ...ช่างมันเถอะยื่นมือมา” หลวงลุงหยิบสายสิญจน์ขึ้นมาผูกข้อมือเราทีละคนจนครบ

“ถ้าพวกเอ็งรักกันจริงลุงก็ไม่ว่าหรอก ยังไงต่อจากนี้ก็ดูแลกันและกันนะ”

“พวงเอ็งล่ะเป็นไงบ้าง จะมีหลานให้อุ้มไหมล่ะที่นี้” หลวงลุงหันไปถามพ่อกับแม่

“ไม่มีก็ดีแล้วเจ้าค่ะ แค่เลี้ยงไอ้เจ้าสองคนนี้ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว แค่ลูกมีความสุขฉันก็ดีใจแล้ว” ผมหันไปยิ้มให้แม่ คลานเข่าเข้าไปกอดพ่อกับแม่พร้อมกับมิกซ์

ผมโชคดีมากครับที่มีครอบครัว มีพ่อกับแม่ที่เข้าใจ ที่รักเราแม้ว่าเราจะไม่เหมือนคนอื่นก็ตาม ผมไม่สนว่าใครจะมองว่ายังไงขอแค่มีครอบครัวที่เข้าใจเราแค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ



“แม่เดี๋ยวตอนเย็นม่อนพาภาคกับช้อปไปเดินเล่นที่เขื่อนนะ” ผมคิดไว้ว่าก่อนกลับจะพาภาคมันไปดูเขื่อนที่อยู่ไกลจากบ้านผมครับ ผมกับมิกซ์เองก็เคยไปเดินเล่นที่นั่นอยู่บ่อยๆ ตอนเย็นนี่สวยมากๆ

“ไปแล้วก็อย่าอยู่เย็นนักล่ะ”

“ครับ”



ช้อปขับรถตรงขึ้นไปจอดบนสันเขื่อน

ผมเดินลงจากรถเดินนำภาคมันไปกลางสันเขื่อน มุมนี้จะเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้ชัดและสวยที่สุด ภาคเดินตามเข้ามากุมมือผมไว้ มิกซ์กับช้อปเองก็เดินจับมือเดินตามพวกผมมาห่างๆ

“สวยไหม” ผมหันไปถามภาค

“สวยสิ สวยมากๆ ยิ่งได้มองข้างๆมึงยิ่งสวยเข้าไปใหญ่” มันหันมายิ้มให้ผม

“หลังจากนี้มึงกับกูจะเป็นยังไง พ่อมึงจะยอมรับพวกเราไหม” ผมยอมรับครับว่ายังกังวลเรื่องนี้อยู่

“มึงไม่ต้องเป็นห่วงนะ กูจะพยายามทำให้เขายอมรับเราให้ได้”

“แล้วถ้าไม่ได้ล่ะ” ภาคปล่อยมือผมลง จับไหล่หันตัวผมให้ตรงกับมัน

“ถึงจะเป็นอย่างนั้น กูก็ยืนยันว่ากูจะอยู่กับมึง”

“กูรักมึงนะภาค”

“กูก็รักมึงเหมือนกัน” เราต่างโน้มตัวเข้ามาจูบกัน

ความรักของเรามันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ต่อจากนี้มันจะเป็นบทพิสูจน์ว่าเราจะรักและจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคที่เข้ามาได้รึเปล่า ผมเองก็หวังว่าจะไม่มีอะไรมาทำให้ความรักของเราสองคนลดลง ผมอยากจะรักษาความรักของเราให้อยู่แบบนี้ไปให้นานที่สุด



“มึงห้ามจูบกันนะ” ผมหันไปห้ามมิกซ์กับช้อปที่ยืนกอดกันอยู่ไม่ไกล



Part

มิกซ์




“มึงห้ามจูบกันนะ” เสียงม่อนมันร้องห้าม

“กูไม่ทำแบบมึงหรอก” ผมตะโกนตอบมันไป

ผมไม่มีทางมายืนจูบกันในที่แบบนี้เหมือนคู่มันหรอกครับ ไม่มีทาง อื้อ...ไอ้พี่ช้อป....อื้อ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอภาคสอง  อยากรู้ว่าภาคจะได้กลับบ้านไหม

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
จบได้น่ารัก ชอบพ่อแม่ฝั่งม่อนนะ หายากที่จะเข้าใจลูกๆ ได้ขนาดนี้
ขอบคุณคนเขียนที่มีเรื่องดีๆ มาให้ได้อ่าน จะรอตอนของภาคกับทางพ่อแม่นะ
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ขอบคุณสำหรับ เรื่องราวสนุกๆ อีก 1 เรื่อง

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
เดี๋ยว พ่อยังไม่ยอมรับเลยยยย

ภาคแม่งโคตรของโคตรหื่น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด