{ เรื่องยาว } ♥ วิศวกรรมประสาท ♥ THE END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { เรื่องยาว } ♥ วิศวกรรมประสาท ♥ THE END  (อ่าน 1968941 ครั้ง)

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
อาร์มมมมม รู้ตัวสักที

ออฟไลน์ pan27

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :L2:พี่อาร์คของน้องงงง  ขำบรรดาเหล่าแฟนบอยของพี่อาร์คมากบอกเลย :ling1:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทุกคนรู้หมดแล้วยกเว้นอาร์มจ้าาา อาร์มโว้ยยยย จะเรียกซึนหรือบื้อดีเนี่ย คนอ่านเขินจะตายแล้วว อาร์มควรรู้ตัวได้แล้วว่าพี่อาร์คชอบแกมากกกกกกกกก :katai1:

ออฟไลน์ Mamieweiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คนรอบตัวเขารู้กันหมดแล้วน้องอาร์มมม555555 รอวันที่น้องยับกว่านี้ อร้ายยย

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
กว่าอาร์มจะรู้เราจะแก่ก่อนป่าววะ5555555

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ตายกูตายไปเลยยย

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
โอ้ยยยย น่ารักมากกกก
พี่อาร์คคคคค น้องอาร์มลูกกก ไม่เล่นตัวละเน้ออออ

ออฟไลน์ Timber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตามอ่านทันล่ะ :o12:

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่อาร์คเค้าชัดเจนขนาดนี้แล้วนะคะลูกกกกกกก

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
น้องอาร์มคะ พี่แนะนำว่าปล่ำไอ้พี่อาร์คไปเลยค่ะ

ถ้าจะละมุนละไมขนาดนี้


น้องอาร์ม น้องควรเข้าข้างตัวเองบ้างค่ะ ถ้าพี่อาร์คจะบอกชอบหลายรอบขนาดนี้ได้

เป็นนี่ได้กันตั้งแต่ สองวันแรกแล้วค่ะ



5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mtrain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านรอบสองค่อยมีสติกลับมาตอบ  :laugh: ดูทุกคนจะทดท้อกับอาร์มจริงจริง #โลกรู้อาร์มไม่รู้ 
แต่นะ ความถี่ในการหยอดการอ่อย การหลอกล่อน้องมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ ใกล้จะหมดความอดทนแล้วใช่ป่ะ

รออาร์คมันฟิวส์ขาดนะจ๊ะ อิอิอิอิอิ

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
พี่อาร์คยังคงเนียนต่อไปเรื่อยๆ 55

ออฟไลน์ skykick

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทุกคนรู้ โลกรู้ ยกเว้นอาร์มมมมม   :hao7:

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่อาร์คสู้ๆ เดียวน้องก็หายบื้อแล้ว

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โอยยยยย..โลกรู้แต่อาร์มไม่รู้
ชัดเจนมากๆๆๆๆๆๆๆ  :o8:

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่อาร์คแบบ รอมึงรู้ตัวกูอดแดกพอดี ขอทำก่อนเลยละกัน จะรู้ตัวไม่รู้ตัวก็ช่าง กว่าจะรู้ตัวก็โดนจับกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวแล้วอาร์มเอ้ย

ออฟไลน์ namzagirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน   

ปล. โลกรู้แต่อาร์มยังไม่รู้ 5555555555555

ออฟไลน์ WPinyourarea

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 o18 คืออาร์มจะโง่แบบนีี้ต่อไปหรออ ไม่ได้นะ พี่เค้าชัดเจนขนาดนี้แล้วอ่ะลู๊กกกก

ออฟไลน์ WPinyourarea

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 o18 คืออาร์มจะโง่แบบนีี้ต่อไปหรออ ไม่ได้นะ พี่เค้าชัดเจนขนาดนี้แล้วอ่ะลู๊กกกก

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
อยากอ่านต่อจังงงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Suchananbeam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องงงงงงงงงงงงงงง  :-[

ออฟไลน์ Rungsai

  • ใครบอกว่ารุ้งมีเจ็ดสี :D
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สามารถซื้อพี่อาร์คได้ที่ไหนบ้างคะ อยากซื้อมาไว้ข้าง ๆ ตัว
ชอบผู้ชายไทป์นี้จริง ๆ ชอบมาก ฮือ ยอมเลย
ยกทั้งใจให้พี่มันไปเลยยยยย

 o18

ออฟไลน์ Luxfern

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
งืออออ มารอออ

ออฟไลน์ Jittirain12

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1238/-18

ตอนที่ 12
รักพี่เสียดายความเป็นน้อง



   “ไอดอลกูมาส่งเหรอ”

   คำทักทายแรกจากรูมเมทเอ่ยขึ้น หลังผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง

   “อือ”

   ไอ้แซนด์กำลังกลัดกระดุมชุดนิสิต ขณะที่ผมยังอยู่ในสภาพเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นของพี่อาร์ค อย่างว่าแหละครับ เนื่องจากวันนี้มีเรียนคาบแรกตอนสิบโมงเลยไม่มีใครเร่งรีบเท่าไหร่ นั่นยิ่งทำให้ไอ้เพื่อนตัวดีมีเวลาซักผมมากขึ้นด้วย

   “คอไปโดนอะไรมาวะ”

   “พี่อาร์คแม่งนอนดิ้น เสือกเอาเล็บมาข่วนกูอ่ะดิ” อย่างที่รู้กันดีว่าเพื่อนผมมันฉลาดอย่างกับหมา แถมรู้ทันผมไปซะทุกก้าว การจะโกหกด้วยเหตุผลปัญญาอ่อนคงไม่ได้ผล ผมเลยเลือกบอกความจริงมันไปแบบครึ่งๆ กลางๆ อย่างน้อยแผลโดนข่วนก็ดีกว่าโดนกัดล่ะว้า

   “แล้วเมื่อคืนเป็นไงบ้าง” กูถึงกับพ่นลมหายใจออกมา ดูเหมือนว่าไอ้แซนด์จะไม่ได้ติดใจสงสัยถึงร่องรอยที่ประทับอยู่บนคออีก

   “ก็ดี ลิเวอร์พูลชนะ”

   “ไม่ใช่ กูหมายถึงไอดอลเว้ย สรุปพี่อาร์คเป็นไง เท่มั้ยเวลาอยู่บนเตียง”

   คำพูดมึงนี่โคตรชวนคิดลึกสัดๆ

   “ใจคอมึงกะจะให้พี่มันเท่ทุกท่วงท่าเลยหรือไง”

   “เอ้า! ก็เหนือเดือนอ่ะ”

   “ไร้สาระว่ะ” ผมไม่คิดต่อความยาวสาวความยืด รีบหมุนตัวเข้าตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบชุดนิสิตที่อยู่บนไม้แขวนออกมาเตรียมสวม ทว่าระหว่างนี้ผีก็ยังเจาะปากรูมเมทของผมไม่มีหยุดหย่อน

   “ถามจริง มึงไม่รู้สึกแปลกๆ กับลุงรหัสตัวเองเลยเหรอ” คำถามนี้พุ่งจู่โจมฉับพลัน และมันก็ทำให้ผมใจเป๋ภายในเสี้ยววินาที

   “ปะ...แปลกยังไง”

   “เหมือนช่วงนี้มึงกับพี่อาร์คจะตัวติดกันแจเลย”

   “เป็นสายรหัสเดียวกัน มีอะไรก็แชร์กันตลอดแปลกตรงไหน”

   “พี่กูไม่เห็นเคยทำแบบนี้หนิ”

   “คนเราไม่เหมือนกัน”

   “เออเนาะ เพราะบางคนก็ไม่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง” สิ้นสุดประโยคนั้นผมหันกลับไปมองยังคนพูด ไอ้แซนด์นั่งอยู่ตรงขอบเตียงด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะเบนสายตาไปยังช่อดอกกุหลาบที่แห้งเหี่ยวตามกาลเวลาตรงโต๊ะหนังสือของผมด้วย

   “มองอะไร”

   “ดอกไม้เหี่ยวแล้ว ทิ้งเถอะ”

   “เสือก”

   “พี่อาร์คไม่ได้ตั้งใจเอาให้มึงสักหน่อย”

   “กะ...ก็แล้วจะทำไม ถ้าไอดอลเอาให้เป็นมึงจะกล้าทิ้งเหรอ”

   “มันคนละกรณีกัน กูอ่ะชื่นชมเขา แต่มึงไม่ใช่ไง หรือจริงๆ แล้วมึงคิดอะไรไม่ซื่ออยู่” คิดเชี่ยไรล่ะ เอะอะก็วกเข้าประเด็นให้กูคิดอยู่ได้ ก็รู้อยู่ว่าผมกับพี่อาร์คอ่ะเป็นแค่พี่น้องก๊านนนนนนนน

   “กูต้องคิดอะไรด้วยเหรอ เราเป็นพี่น้องในสายแถมยังเป็นผู้ชายด้วย”

   “แล้วไง”

   “กูชอบผู้หญิงเว้ย”

   “แล้วไง”

   “นี่มึงกวนตีนกูป่ะเนี่ย ที่พูดไปเข้าหูมึงบ้างหรือเปล่า”

   “ก็แค่สงสัย บางครั้งเหมือนปากมึงไม่ตรงกับใจ” ผมไม่คิดโต้ตอบ นอกจากฟังคนตรงหน้าพล่ามไปเรื่อยๆ “ถามหน่อย ถ้าสมมติพี่อาร์คเกิดชอบมึงขึ้นมาแล้วมึงก็ดันรู้สึกดีกับเขา สุดท้ายแล้วมึงจะยอมเปิดใจคบให้เขามั้ยวะ”

   บรรลัยมันเข้าไป!!

   “มึงรู้อยู่แล้วว่าข้อสันนิษฐานนี้ไม่มีทางเป็นจริง”

   “สัดเอ๊ย มึงแม่งเข้าใจคำว่าสมมติมั้ย”

   “ไม่”

   “ไม่เข้าใจหรือไม่เปิดใจมึงเอาดีๆ”

   “ไม่มีทางเกิดขึ้นโว้ย”

   “สมมติ”

   “ไม่”

   “ไอ้อาร์ม”

   “ไม่!”

   ก๊อกๆๆ

   เสียงเคาะประตูเป็นเหมือนระฆังช่วยชีวิตของผม คนด้านนอกไม่รอให้เอ่ยตอบรับมันก็เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาทันที

   “แดกข้าวกัน” ไอ้โป้พูดทั้งปากยังเคี้ยวแซนด์วิชกากๆ อยู่ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกรักมันมากกว่าทุกวัน

   “รอแป๊บกูกำลังใส่เข็มขัด” ปากว่า มือก็คว้าเอาเข็มขัดนิสิตขึ้นมาคาด หากแต่ในใจยังคงรัวกระหน่ำด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกถามซ้ำอีก

   ไอ้แซนด์ทิ้งคำถามตกค้างในความรู้สึก มันเป็นสิ่งที่ผมเองก็ให้คำตอบไม่ได้ว่าถ้าเกิดเรื่องสมมตินั้นมันเกิดขึ้นจริงจะเป็นยังไง แต่ที่น่าสงสัยกว่านั้นก็คือ พี่อาร์คมันจะเอาอะไรมาชอบคนเหี้ยๆ อย่างกูได้วะ

   “เดี๋ยวๆ ไอ้อาร์ม คอมึงเป็นอะไรอ่ะ” สัด!!

   หลุดจากคนหนึ่งอีกคนก็ติดสปีดความเสือกใส่ทันที ทำไมพวกมันถึงได้ตาดีกันจังวะ ตอนแรกผมไม่คิดว่ารอยมันจะชัดถึงขนาดมองออกด้วยซ้ำ เลยไม่ได้หยิบเอาพลาสเตอร์ยาติดมือมาด้วย

   “เลิกถามเรื่องขอกูเถอะน่า ไปกินข้าวกันกูหิวแล้ว”

   “มีพิรุธ”

   “ประสาท”

   “เคๆ กินข้าวก็กิน” ผมเดินไปลูบคอตัวเองไปจนกระทั่งถึงโรงอาหารหน้าหอใน

   ชีวิตประจำวันยังคงดำเนินไปอย่างที่มันเคยเป็น กินข้าว ไปเรียน กิจกรรมก็เริ่มลดน้อยลงแล้วเนื่องจากเข้าใกล้ช่วงสอบมิดเทอมเข้ามาทุกที จะมีก็แต่กีฬามหา’ลัยเท่านั้นที่ใช้เวลาแข่งขันยาวนานหลายเดือน จนตอนนี้ก็ยังไม่จบไม่สิ้นกันสักที

   “พี่อาร์คคคคคคคค”

   “พี่อาร์ควิศวะหรือเปล่า โคตรเท่” เสียงอื้ออึงฉุดความสนใจจากข้าวไข่เจียวในจานไปยังอีกฝั่งของโรงอาหาร

   ถึงแม้จะเห็นแผ่นหลังไกลลิบๆ แต่ผมก็รู้ได้ทันทีว่าคนคนนั้นเป็นใคร รูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อช็อปสีกรมท่าตัวใหม่ สะพายกระเป๋าเป้ Calvin Klein ใบเดิม ในมือถือจานข้าวและกำลังยืนงงในดงปีหนึ่ง นั่นยิ่งทำให้เจ้าตัวกลายเป็นจุดสนใจมากยิ่งขึ้น

   “ไอ้เหี้ยเหนือเดือนมา” เพื่อนร่วมโต๊ะสบถอย่างตื่นเต้น หลายคนดูเหมือนจะแปลกใจ ผมเองก็ด้วยเพราะพี่อาร์คไม่ค่อยโผล่มากินข้าวที่นี่เท่าไหร่ ยิ่งในตอนเช้าที่คนพลุกพล่านด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย

   “ต้องเรียกมั้ยวะ”

   “พี่มันอาจจะมากับคนอื่นก็ได้” ผมรีบแย้ง แต่ก็ยังจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจดจ่อ

    “ยืนหมุนตัวไปมาอยู่อย่างนั้นคงจะมากับใครได้หรอก ถ้ามึงไม่เรียกเดี๋ยวกูจัดการเอง” ว่าแล้วไอ้โป้ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง โบกไม้โบกมือพร้อมกับตะโกนเรียกคนตัวสูงด้วยน้ำเสียงร่าเริงเกินปกติ “พี่อาร์คครับ มานั่งด้วยกันมั้ยครับ”

   เจ้าของชื่อหันหน้ามามองนิ่งๆ เล่นเอาคนโดยรอบขนลุกเกลียวเพราะแม่งหล่อแบบไม่เกรงใจใครเลย

   “ไอ้อาร์มก็นั่งตรงนี้นะพี่”

   เจ้าตัวไม่ได้ตอบอะไรนอกจากก้าวเท้าตรงมายังจุดที่เรานั่ง ท่ามกลางผู้คนนับร้อยที่อยู่รายล้อม แปลกดีที่พี่อาร์คกลับเป็นคนเดียวที่โดดเด่นที่สุด แถมยังดึงความสนใจของผมไปจนหมด

   “อะไรดลใจให้พี่มาหอในเนี่ย” หลังมือหนาวางจานข้าวลงบนโต๊ะพลางแทรกตัวลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ผมก็จู่โจมคำถามไปทันที

   “มาเช็กเรตติ้ง”

   “โหย เคยมีโมเมนต์แบบนี้ด้วยเหรอ” ปกติเห็นแต่วิ่งหนี หงุดหงิดงุ่นง่านเวลาเห็นคนเยอะๆ ทว่าคราวนี้กลับทำตรงกันข้าม

   “ก็นี่ไง”

   “บอกเลยว่าได้ผล เพราะทุกคนมองแต่พี่ ดูโน่น...โน่นด้วย สิบนาฬิกาดาวคณะสังคม หลังพี่ก็อีกคน นิ่งไว้นะอย่างเพิ่งหัน” ผมโน้มตัวไปกระซิบคนตัวสูง “พิมฐาเวอร์ชั่นมหา’ลัยเรา น่ารักโคตรๆ”

   “อือน่ารัก”

   “รู้ได้ไง พี่มีตาหลังเหรอ”

   “มองแค่นี้ก็รู้แล้ว”

   “เก่งเกินมนุษย์มนา” ผมเอนตัวกลับมานั่งตรงจุดเดิมแล้วพูดต่อ “แต่ผมไม่สนับสนุนให้พี่ชอบใครหรอก เพราะพี่มีคนที่ชอบแล้ว”

   “ก็จริง แถมน่ารักกว่าด้วย”

   “โหย พูดมาขนาดนี้ก็ขอเขาเป็นแฟนเถอะว่ะ” มันจะได้จบๆ ซะที มัวแต่เวิ่นเว้อให้ฟังจนหูชาไปหมดแล้ว

   “แม่งโง่อ่ะ กลัวแป้ก”

   “ลองถามไปก่อนสิ ไม่ลองไม่รู้”

   “งั้น...เป็นแฟนกันมั้ย”

   “อร๊ายยยยยยยยยยต๋ายแล่ววววววว อะแค่กๆ”

   “...”

   “ขอโทษครับ พอดีข้าวติดคอ” ไอ้แซนด์รีบแก้ต่าง ก่อนจะตบหลังไอ้โป้ที่ไอออกมาไม่หยุด “เป็นไงบ้างเพื่อน แดกข้าวเสร็จแล้วใช่มั้ย เอ่อ...สงสัยกูต้องรีบไปก่อนแล้วว่ะ รู้สึกว่าไอ้โยจะรอเคลียร์เรื่องรายงานอยู่ด้วย ยังไงเจอกันที่คณะนะ พี่อาร์คหวัดดีครับ”

   ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก รู้ตัวอีกทีเพื่อนผมก็เผ่นแน่บไม่เหลือแม้แต่เงา ทิ้งไว้ให้กูนั่งงงในโรงอาหารกับลุงรหัสของตัวเอง แถมในหัวของผมยังประมวลผลช้าจนไม่รู้ว่าก่อนหน้ามันเกิดอะไรขึ้นด้วย

   “เพื่อนกูมันเป็นบ้าอ่ะ พี่อย่าใส่ใจเลย”

   “เฮ้อ”

   “พี่ถอนหายใจทำไมวะ”

   “ที่มึงเอาแต่ถามว่ากูชอบใครน่ะ” จู่ๆ ก้อนเนื้อในอกซ้ายก็เต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของลุงรหัส ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันผมถึงได้นั่งนิ่ง และจดจ่อกับท่าทางของคนตรงหน้าไม่กะพริบ “กูบอกมึงก็ได้”

   “ตื่นเต้นว่ะ”

   “...”

   “พี่อาร์ค”

   ปากพูดว่าจะบอกแต่ดันเงียบ ผมจึงตัดสินใจถามกลับไป เพื่อลดความประหม่าให้กับตัวเองและพี่อาร์ค ทั้งที่ไม่รู้หรอกว่าในตอนนี้ใครกำลังประหม่ามากกว่ากัน

   “เค้าอยู่ปีหนึ่งใช่มั้ย”

   “ใช่”

   “เรียนวิศวะ”

   “อือ”

   “ผมรู้จักด้วย”

   “มึงรู้จักดีเลยล่ะ”

   “ขอถามหน่อยได้มั้ยว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”

   “มึงคิดว่าไงล่ะ” สายตาที่มองกลับมาราวกับธารน้ำแข็งเย็นเยือก ร่างกายของผมชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อเห็นคำตอบที่แต่เดิมเลือนรางในความรู้สึกกำลังค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

   “พี่ชอบผู้ชายเหรอวะ”

   “กูไม่เคยชอบผู้ชาย จนกระทั่งเจอคนคนนี้”

   ผิดคาดไปหน่อยแต่โคตรหล่อเลยไอ้เหี้ย!! เปิดเผยความรู้สึกต่อหน้าน้องท่ามกลางเสียงกระทะและกลิ่นผัดกะเพรา

   “พี่อาร์ค” น้ำเสียงที่เปล่งออกไปแกว่งไกว ในใจไหวเอนราวกับถูกพายุหนักโหมกระหน่ำจนเสียจังหวะ ผมว่าผมพอจะเดาออกว่าคนคนนั้นเป็นใคร ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำไมผมถึงไม่เอะใจอะไรเลย

   “พี่อย่าบอกนะว่า…”

   “...”

   “พี่ชอบไอ้แซนด์”

   ไม่น่าเชื่อออออออออออ

   “กูอิ่มละ” พอจบประโยคนั้นพี่อาร์คก็ลุกพรวดพราดตั้งท่าจะผละออกไป แต่ผมไวกว่านั้นตรงที่คว้าข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้ได้ทัน

   “พี่จะไปไหนวะ”

   “กูจะไปให้รถชนตาย”

   “เฮ้ยพี่เสียใจไร ยังไม่ได้บอกรักมันเลยนะ”

   “กูบอกแล้วแต่มันโง่”

   “ไอ้แซนด์รู้แล้วเหรอ”

   “...!!” หน้างี้ถมึงทึงจนกลัวว่าผมนี่แหละที่จะถูกขย้ำให้ตายคาตีน   

   “พี่โกรธอะไร”

   “โกรธมึง”

   “ขอโทษได้มั้ยอ่ะ” ไม่ทันแล้วครับ เพราะลุงแกเล่นสะบัดข้อมือแล้วก้าวฉับๆ ไปพร้อมกับจานข้าวเรียบร้อย “กลับมาก่อนพี่อาร์ค...ไม่เอาไม่งอแงงี้ดิ ใจเสียนะเนี่ย”

   “...”

   “ผมช่วยปลอบได้นะเว้ยอยากได้อะไรบอกมา”

   “ช่วยไปไกลๆ” ผมวิ่งตามอีกฝ่ายไปติดๆ ในใจก็เริ่มกระวนกระวายแล้ว ไม่รู้ว่าสาระแนพูดถึงเรื่องที่ไม่สมควรไปหรือเปล่า ทว่าตอนนี้แม่งดันรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาจริงๆ

   “พี่อาร์ค”

   “กูไม่ได้ชอบเพื่อนมึง ไม่ว่าจะไอ้แซนด์หรือไอ้โป้”

   “ขอโทษ ผมปากไม่ดีเอง” ช้าเหมือนอย่างเคยเพราะเหนือเดือนมันไวเท่าแสง รู้ตัวอีกทีผมก็ได้แต่ยืนเคว้งมองดูรถยนต์ของพี่มันเคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตาซะแล้ว

   ผมไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งที่ได้ยินและเข้าใจในวันนี้มีสิ่งไหนที่เป็นจริงบ้าง หนึ่งคือพี่อาร์คชอบผู้ชาย สองคือคาดเดาว่าคนๆ นั้นต้องเป็นคนที่ผมรู้จัก และสาม...ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร รู้แค่ว่าจะต้องบากหน้าด้านๆ ของตัวเองไปขอโทษเขาให้ได้

   ไอ้อาร์มเอ๊ย~ กูล่ะอยากตีปากตัวเองแรงๆ สักที

   ไม่น่าเลย ไม่น่าเลยกู...










   ผมไม่ได้เจอพี่อาร์คมาหลายวันแล้วนับตั้งแต่มีเรื่อง

   เวลาเราก็ว่างไม่ตรงกัน พอเลิกเรียนแล้วรีบวาร์ปไปหาถึงช็อปโยธาเจ้าตัวก็ชิงกลับไปก่อนเสมอ เหนือเดือนกลายเป็นบุคคลหายากเหมือนแต่ก่อน หรือบางทีตอนนี้อาจเตรียมขึ้นทะเบียนเป็นบุคคลสูญหายได้อีกหนึ่งกรณี

   ผมไปรอที่สนามซ้อมพี่อาร์คก็ไม่ยอมมา จากความกังวลในคราแรกตอนนี้กลายเป็นเหมือนก้อนหินหนักหลายร้อยตันที่หล่นลงมาทับตัว เรื่องในวันนั้นผมไม่ได้พูดกับเพื่อนสนิททั้งสอง นอกจากเก็บเอาไว้คนเดียวจนกว่าจะเคลียร์กับมนุษย์เหนือเดือนได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...

   จะให้ไปหาที่ห้องก็ไม่กล้าพออีก กลัวว่าจะโดนไล่กลับมาแบบโหดร้าย ถึงตอนนั้นผมคงเสียใจกว่าตอนนี้หลายเท่า

   Rrrr...!

   เสียงนาฬิกาปลุกยังคงดังขึ้นเหมือนทุกวัน ผมชันตัวนั่งขยี้ตาพักหนึ่ง ก่อนจะเห็นคนตรงข้ามนั่งกดโทรศัพท์ไปยิ้มไปอย่างมีความสุข

   “คุยกับใคร”

   “ที่รักกูไง” ผมอ้าปากหวอ

   “คบกันแล้วเหรอ”

   “ยัง แต่อีกไม่นานหรอก” ดาวคณะพยาบาลน่ะครับ

   ดูเหมือนความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะไปได้สวย ดีที่พี่อาร์คบอกก่อนว่าไม่ได้ชอบไอ้แซนด์ ไม่อย่างนั้นเรื่องราวอาจจะวุ่นวายไปมากกว่านี้

   “ถามหน่อยดิ ช่วงนี้มึงเห็นพี่อาร์คบ้างมั้ยวะ”

   “ไม่นะ” อีกฝ่ายตอบกลับอย่างรวดเร็ว ขณะสองตายังคงจดจ้องที่หน้าจอมือถืออยู่

   ผมพยายามแล้ว ทำทุกทางเพื่อติดต่อกลับไป แต่ลุงแกดันเล่นหายเข้ากลีบเมฆราวกับคนไม่มีตัวตน โทรไปก็ปิดเครื่อง เฟซบุ๊ก ไอจี ไลน์ ทุกอย่างหยุดชะงักไม่มีความเคลื่อนไหวจนรู้สึกหวาดหวั่น

   ก๊อกๆๆ

   สเต็ปเดิม เสียงเคาะประตูห้องพร้อมกับการโผล่หน้ามาทักทายในตอนเช้าของไอ้โป้ วันนี้มันยังอยู่ในชุดนอนแถมกำลังวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาผมพร้อมกับยื่นมือถือมาให้

   “เหนือเดือนมีการเคลื่อนไหว”

   “เหยดดดดดดดด” รูมเมทผมแทบจะโยนมือถือทิ้งแล้ววิ่งมาสุมหัวตรงกลางห้องอย่างรวดเร็ว

   “อะไรยังไงเล่าด่วน”

   “หลังจากที่กูตามติดชีวิตไอดอลมาตลอดอาทิตย์ วันนี้พี่มันก็ได้กดหัวใจในไอจีของคนคนนึงเว้ย” มือถือถูกยื่นมาไว้ตรงหน้า ซึ่งปรากฏหน้าจออินสตาแกรมของผู้หญิงคนหนึ่งที่แสนคุ้นตา เธอเป็นเจ้าของยอดฟอลโลว่หลักแสนในตำนาน และที่สำคัญครั้งหนึ่งก็เคยเป็นบัดดี้ของพี่อาร์คด้วย

   “เนี่ย เขามีรูปคู่กันกระหนุงกระหนิงเลยมึง”

   ผมทักไปพี่ไม่เคยตอบ แต่กับอีกคนเขากลับมีเวลามานั่งกดหัวใจใต้รูป

   แม้วิศวะสัมพันธ์จะจบลงไปพักใหญ่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่จะไม่จบลงตาม เพราะบริ๊งบริ๊งยังคงโพสต์รูปคู่พี่อาร์คอยู่เป็นระยะ แถมที่พีคกว่านั้นตรงที่พี่มันดันมีรีแอคกลับมาด้วยนี่แหละ

   ก็ยังดูมีความสุขอยู่นี่หว่า

   “แค่รู้ว่ายังไม่ตายก็ดีแล้ว กูไปอาบน้ำก่อนนะ”

   “เออรีบเลย มีเรียนแปดโมง ไปสายก็โดนเช็กขาดอีกเซ็งฉิบ!” เสียงบ่นงึมงำของเพื่อนดังตามหลัง ผมคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำด้วยความรู้สึกวูบโหวง มองดูหน้าตัวเองในกระจกตอนนี้แม่งโคตรหมาหงอยเลยว่ะ นี่กูนอยด์อะไรวะ

   พี่แฮปปี้ก็ควรดีใจสิวะ ถึงแม้เราจะไม่ได้เคลียร์กันแต่คิดว่าพี่อาร์คคงลืมความขุ่นข้องหมองใจไปหมดแล้ว

   “อาบน้ำนะมึงไม่ใช่หนีไปร้องไห้” คนด้านนอกตะโกนเข้ามา

   “ร้องเหี้ยไรล่ะ เพ้อเจ้อ”

   “ไม่เสียใจใช่มั้ย”

   “เสียใจอะไร”

   “พี่อาร์คคุยกับคนอื่นแต่ไม่คุยกับมึง”

   “เป็นแค่พี่น้องในสายมีสิทธิ์เสียใจด้วยเหรอ ไม่มี๊ ไม่ควรมีเลย...” มือขวาเอื้อมไปหมุนก๊อกฝักบัว ปล่อยให้น้ำชโลมลงมาบนร่างกายอย่างต่อเนื่อง นี่ถ้าเปิดเพลงเศร้าอีกหน่อยก็ตัดต่อเป็นเอ็มวีได้เลยนะ

   ผมคิดว่าวันนี้บรรยากาศมันดูขมุกขมัวไปนิดหน่อย เพราะหลังจากเดินเข้าคณะมันก็มีเรื่องไม่สบายใจเข้ามาอยู่ตลอดไม่ว่าจะตอนอยู่ในห้องเรียน…

   “พี่อาร์คคุยกับบัดดี้ที่อยู่ MEU ว่ะ สุดยอดดดดดดดด”

   “กิ่งทองใบหยกชัดๆ”

   “เสียดายพี่อาร์ค”

   “ไอ้สัด บริ๊งบริ๊งนี่น่ารักงี้เลยนะโว้ย อิจฉาทั้งคู่นั่นแหละ” ไอ้เพื่อนตัวดีก็ยังหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็น จนทั้งภาคเต็มไปด้วยเรื่องราวของคนทั้งคู่

   “มึงล่ะไอ้อาร์ม รู้เรื่องนี้มั้ย” ผมสะดุ้งทันทีเมื่อถูกสะกิด

   “ฮะ? ว่าไงนะ เรื่องอะไร”

   “สองคนนั้นจีบกันหรือเปล่า”

   “ไม่รู้”

   “มึงลองแชตไปถามให้พวกกูหน่อยนะ อยากเสือกอ่ะ”

   “ถามได้ แต่ไม่รู้ว่าพี่อาร์คจะตอบกูมั้ย” เพราะตั้งแต่วันนั้นอีกฝ่ายก็ไม่เคยอ่านหรือตอบข้อความผมอีกเลย เนี่ย...พูดแล้วเศร้า

   ขอเหล้ามาย้อมใจหน่อยเถอะ











   ตอนอยู่ในห้องเรียนว่าหนักแล้วที่โรงอาหารหนักกว่า…

   “พี่ญี่ปุ่นครับ”

   “อ้าวอาร์ม ไม่เจอกันหลายวันเลย”

   “นั่นสิ คือ...ผมมีเรื่องจะถามหน่อย”

   “ว่ามา”

   “ได้เจอพี่อาร์คบ้างมั้ยครับ”

   “ไม่เจอเลย” ฟู่~ โล่งใจ อย่างน้อยผมก็ไม่ใช่คนเดียวที่ถูกหนีหน้า “แต่เมื่อวานเพิ่งโทรคุยกันไป วันก่อนแกก็เพิ่งไปนั่งกินเหล้ากับพี่เจตอยู่เลย อาร์มมีอะไรเหรอ”

   ตุบ!

   คุณเคยตกจากที่สูงมั้ย ตอนนี้แหละที่เป็นความรู้สึกของผมหลังได้ยินคำตอบของพี่ญี่ปุ่น









   หรือจะเป็นตอนเข้าส้วม…

   “เห็นที่แคปมายังวะ แฟนกูนี่กรี๊ดเป็นบ้าเลย”

   “แคปอะไร”

   “เหนือเดือนคุยกับดาวคณะ MEU”

   “เห็นละ โคตรเหมาะกัน กูล่ะอยากมีแฟนสวยแบบนั้นบ้าง”

   “มึงต้องเกิดมาหน้าเหมือนไอ้พี่อาร์คก่อนถึงจะได้แบบนั้น”

   “ถุย”

   ขี้ไม่ออกแล้ว น้ำตาไหลแทน...









   แล้วอินสตาแกรมของพี่อาร์คก็มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง วันนี้เขาอัปโหลดรูปท้องฟ้าแสนธรรมดา แต่แคปชั่นแม่งโคตรบาดจิตบาดใจ

   
   Arc_nol
   รักแฟนมากครับอย่าคิดจีบ แฟนหวง


   มันคงจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีผู้หญิงคนหนึ่งตอบกลับมา


   BrinkBrink    เขินนะ


   ผมคิดว่าเขาคงไปได้ดีกันแล้ว ไม่ได้หวังสักนิดว่าควรรับรู้เรื่องนี้เป็นคนแรกๆ เพราะตัวเองก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น เพียงแต่...คงดีกว่านี้ถ้าสิ่งที่เห็นเป็นแค่เรื่องล้อเล่นของเขากับเพื่อน

   แม้มันจะเป็นไปได้ยากก็ตาม

   







   เรื่องของพี่อาร์คยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด ตอนปลีกวิเวกไปดูหนังก็ยังไม่น้อยหน้า...

   คิดถึงป๊อปคอร์นที่พี่ซื้อให้

   “กูเห็นพี่อาร์ค” ผมร้องออกมาหลังจากเห็นแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูงอยู่ลิบๆ สองขารีบก้าวตามไปอย่างไม่ลดละจนกระทั่งถึงตัวของอีกฝ่าย

   “พี่อาร์ค”

   “ไอ้อาร์มใจเย็น ขอโทษแทนเพื่อนด้วยครับมันทักคนผิด”

   ไอ้โป้วิ่งตามเข้ามาพูดแก้ต่างให้ ก่อนผมจะยืนคอตกอยู่ในโรงหนังทั้งที่ยังไม่ทันได้ฉีกตั๋ว

   “ตาลายเหรอมึง”

   “อือ”

   เมื่อก่อนไม่เคยรับรู้นะ แต่พอไม่มีอยู่ดันรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ

   คิดถึงพี่อาร์คว่ะ










   แม้แต่วันที่สายรหัสเทวดารวมพลเลี้ยงสายกันอีกครั้งในรอบเดือน ผมก็ยังคาดหวังว่าจะได้เจอลุงรหัสที่โคตรกวนตีนคนนั้น ทว่า...

   “สั่งเลยจ้า อาร์มอยากกินอะไรก็จิ้มเลย” พี่ญี่ปุ่นยังใจป้ำเหมือนเดิม แม้เงินที่จ่ายนั้นจะถูกควักมาจากกระเป๋าพี่เจตก็ตาม

   “งั้นเอาอันนี้ครับ”

   “หมูมะนาวเหรอ เอาอะไรอีกมั้ย”

   “ให้พี่สั่งเลย” ปากว่า แต่สายตากลับสอดส่องไปทั่ว

   ในใจได้แต่ภาวนาว่าขอให้พี่อาร์คหนีไปเข้าห้องน้ำหรืออะไรก็ตามแต่ สักพักก็จะกลับมานั่งข้างๆ ผมเหมือนที่เคยทำ

   “อาร์มมองอะไร” ดูเหมือนคนที่สังเกตเห็นจะเป็นพี่เจต และผมก็ไม่เก่งพอที่จะปกปิดความรู้สึกเอาไว้นอกจากถามออกไปตามตรง

   “พี่อาร์คล่ะครับ”

   “อ๋อ มันไม่มา”

   “ติดงานเหรอครับ”

   “ไม่ได้บอกไว้นะ ทำตัวผลุบๆ โผล่ๆ จนชินแล้ว ช่างมันเถอะ”

   “ผมโทรหาพี่อาร์คไม่ติด” น้ำเสียงที่เปล่งออกไปเริ่มแผ่วลงเรื่อยๆ จนกระทั่งคนตรงข้ามหยุดชะงักและพากันจ้องผมเป็นตาเดียว

   “ปกติมันก็ไม่รับสายใครอยู่แล้ว”

   “วันก่อนพี่ญี่ปุ่นบอกว่าเพิ่งคุยไป แล้วพี่เจตก็ยังไปกินเหล้าด้วยกันอีก” ผมเริ่มพูดไปเบะปากไป เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ฉิบหาย แต่ก็ฝืนให้ตัวเองปั้นหน้ากวนตีนเหมือนเดิมไม่ได้

   “อันนั้นคือบังเอิญเจอกันที่ร้านเหล้าเฉยๆ”

   “ทำไมผมไม่บังเอิญเจอบ้างอ่ะ”

   “อาร์ม”

   “ผมอยากเจอพี่อาร์ค พี่มีเบอร์คุณรังสรรค์มั้ยครับ”

   “ไม่จ้า เดี๋ยวสงบสติอารมณ์ก่อนเนาะ อย่าให้เรื่องถึงพ่อเลยกลัวว่าจะไปกันใหญ่”

   สุดท้ายผมก็ไม่ได้อะไรเลยนอกจากรอยยิ้มแห้งๆ ตอบกลับมา แม้แต่คุณรังสรรค์ผมก็ไม่มีปัญญาติดต่อหา และลูกชายเขาอย่างไอ้พี่อาร์คที่หาตัวจับยาก ผมจะทำยังไง








   อินสตาแกรมลุกเป็นไฟ!

   เรื่องทอร์กออฟเดอะทาวน์โด่งดังอีกครั้งเมื่อบริ๊งลงรูปกับพี่อาร์คอีกรอบ แม้จะเป็นรูปที่ถ่ายเอาไว้นานแล้ว แต่ผมก็รู้สึกอิจฉาอยู่ดีเพราะคราวนี้พี่ไม่ได้กดหัวใจให้เขาอย่างเดียว แต่เจ้าตัวดันตอบข้อความกลับไปด้วย


   BrinkBrink
   วิศวะสัมพันธ์ ที่ทำให้ความสัมพันธ์สวยงาม


   ใครไม่คิดกูคิด!

   ขึ้นแคปชั่นขนาดนี้คนนอกกัดฟันแล้วครับ เพราะดูยังไงแล้วก็ต้องมีซัมธิงกันแน่นอน


   Arc_anol       รูปนี้ไม่หล่อ
   BrinkBrink @Arc_anol   หล่อแล้วค่า กับพี่มีมุมไหนไม่หล่อด้วยเหรอ
   Arc_anol @BrinkBrink   มุมที่อยู่กับเธอไง
   BrinkBrink @Arc_anol   โอ๊ยยยยยยย เสียใจนะเนี่ย


   ผมคันไม้คันมืออยากตอบกลับมากๆ แต่เมื่อมองดูแล้วมันไม่ได้อยู่ในจุดที่ผมต้องเสือกเลยได้แต่ห้ามใจ แล้วกดเพียงหัวใจเห็นด้วยกับบทสนทนานั้นเหมือนกับคนอื่นๆ อีกหลายร้อยคน

   พอสังเกตเห็นข้อความที่คนทั้งคู่เพิ่งคุยกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ในใจผมก็อยากเสี่ยงอีกรอบด้วยการกดไปยังหมายเลขที่บันทึกเอาไว้ จากนั้นก็กดโทรออก

   สายไม่ว่าง

   ผมคิดว่า พี่อาจจะบล็อกเบอร์ผมไปแล้วจริงๆ


อ่านต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2018 00:32:45 โดย Jittirain12 »

ออฟไลน์ Jittirain12

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1238/-18
   พี่อาร์คฝากเพื่อนมาบอกอยู่หลายครั้งไม่ให้ผมไปเฝ้าที่สนามบอลอีกแต่ผมก็ยังไป วันนี้จะเป็นการซ้อมรอบสุดท้ายก่อนหยุดช่วงยาว เนื่องจากติดสอบมิดเทอมและการแข่งขันฟุตบอลมหา’ลัยต้องเลื่อนออกไปอีกพักใหญ่

   “ไอ้น้องอาร์ม มึงมาอีกแล้วเหรอวะ”

   “ครับ”

   คราวนี้ก็ไม่ได้มามือเปล่าด้วย ผมซื้อน้ำเปล่า เครื่องดื่มชูกำลัง ผ้าเย็น และพลาสเตอร์ยาติดมือมาด้วย

   มุมประจำของผมก็คือเบาะนั่งข้างสนาม เฝ้ามองดูพวกรุ่นพี่เตะบอลจนเหงื่อท่วมตัวแม้จะไร้วี่แววของคนที่รู้ว่าใครก็ตาม

   “ขอน้ำหน่อย” พี่บลูมวิ่งมาจากกลางสนาม พอประชิดตัวผมได้ก็รีบยื่นมือมาขอทันที

   “อ่า ผมซื้อมาให้พี่อาร์ค ถ้าของพี่...”

   “วันนี้เพื่อนกูไม่มาหรอก”

   “ทำไมอ่ะ กำลังหนีหน้าผมเหรอ”

   “ไม่รู้ว่ะ มึงก็รอเคลียร์กันเองแล้วกัน”

   “จะเคลียร์ได้ไงพี่อาร์คยังไม่ยอมมาเจอหน้าผมเลย”

   “เดี๋ยวกูบอกมันให้”

   “จริงดิ” ผมยิ้มออกมาทันที

   “เออ สงสารหมาหงอยฉิบหาย”

   “ผมไม่ใช่หมานะเว้ย”

   “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง สรุปกูจะได้แดกน้ำมั้ย” สิ้นสุดประโยคนั้นผมรีบยื่นขวดน้ำไปให้อีกฝ่ายทันที

   พวกรุ่นพี่ซ้อมบอลที่สนามเกือบสามชั่วโมงก่อนจะแยกย้าย ผมเองก็ด้วย ยังดีที่ช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอเขา ผมยังมีรูปถ่ายอีกหลายสิบรูปซึ่งเก็บเอาไว้ในมือถือคอยปลอบใจ พอนึกถึงเมื่อไหร่ก็แค่เปิดขึ้นมาดู

   ความรู้สึกแบบนี้เรียกว่าอะไร ผมไม่รู้ รู้แค่ว่า...

   พี่สำคัญกับกูมากนะ











   มิดเทอมใกล้มาถึงแล้ว มหกรรมอ่านหนังสือมาราธอนเองก็เพิ่งเริ่มเมื่อไม่กี่วันก่อน

   ทุกวันผมกับเพื่อนหอชายจะรีบพากันตื่นแต่เช้า แล้วส่งตัวแทนไปหามุมอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะร้านกาแฟหรือหอสมุด จากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นครึ่งค่อนวัน

   สำหรับวันนี้ทุกคนไม่ตื่น แต่เลือกนอนอืดตายอยู่ที่เตียงแล้วตั้งนาฬิกาปลุกตอนเย็นสำหรับกินข้าวเพื่อโกทูหอสมุดซึ่งคลาคล่ำไปด้วยนิสิต

   ไอ้กายจองหลืบมุมสำหรับอ่านหนังสือได้ ทุกคนเลยแฮปปี้ที่ไม่ต้องหัวหมุนกับการเดินวนหาโต๊ะครึ่งค่อนชั่วโมงอีก สมุดเลคเชอร์ อุปกรณ์เครื่องเขียน ชีทเรียน หนังสือฟิสิกส์ รวมไปถึงไอแพดถูกวางจนเกลื่อนโต๊ะ ก่อนเวลาแห่งการจมจ่อมกับมหากาพย์ข้อสอบมิดเทอมจะเริ่มขึ้นในเวลาสี่ทุ่มนิดๆ

   แต่ยังไม่ถึงเที่ยงคืนดีบางคนก็เริ่มลุกเข้าห้องน้ำ บ้างก็หนีไปเต๊าะสาวโต๊ะข้างๆ หรือบางส่วนหมดความอดทนแอบวาร์ปกลับไปลุยเกมก่อนแล้วอีกสองชั่วโมงให้หลังก็โผล่หัวกลับมาอีก แต่ผมไม่ใช่ ยังคงตะลุยอ่านอย่างตั้งใจจนกว่าพลังที่ชาร์ตมาในร่างจะหมดลง

   ตีสาม...

   ผมรู้สึกง่วงมากๆ

   “ตาปรือแล้วไอ้อาร์ม เขียนจดหมายลาตายก่อนมั้ย” เพื่อนแซนด์เริ่มทักท้วง ผมเองก็เห็นด้วยเลยปัดมือให้มันก่อนฟุบหน้าลงกับโต๊ะ กะงีบพักสายตาสักสิบห้านาที ใครจะคิดว่าผมเสือกหลับยิงยาวเป็นช่วงโมง ดูได้จากนาฬิกาบนหน้าจอมือถือ แถมตอนนี้ตัวเองก็กำลังนอนพิงลงบนไหล่ของใครสักคนอยู่

   “อืออออ” ผมยังรู้สึกเวียนหัว ภาพตรงหน้าพร่าเบลอจนต้องยกมือขึ้นมาขยี้ ทว่ากลับถูกคนเคียงข้างรั้งเอาไว้

   “อย่าขยี้เดี๋ยวตาแดง”

   เสียงนี้...

   เสียงทุ้มต่ำที่แสนคุ้นเคยและไม่ได้ยินมานาน ผมเงยหน้าขึ้น กะพริบตาถี่ก่อนจะพบว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นลุงรหัสที่ผมอยากเจอมาตลอด พอรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้เท่านั้นแหละเขื่อนแตกเลยครับ

   “อาร์ม”

   “ฮือออออออ” แม่งเอ๊ย เกลียดตัวเองที่เอาแต่ซบหน้าลงกับอกพี่มันแล้วร้องไห้ออกมาเฉยเลย

   “ขี้แยจังวะ”

   “พี่ทิ้งกู พี่ทิ้งกู พี่ทิ้งกู!”

   “ก็มึงดื้อ”

   “กูไม่ได้ดื้อแต่พี่ทิ้งกู” ผมยังคงพูดคำเดิมไม่หยุดจนพี่อาร์คต้องรวบตัวเอาไว้แล้วจับโยกไปมา เสื้อยืดสีดำที่คนตัวสูงสวมตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา แต่ผมก็ไม่คิดหยุด ความจริงต้องบอกว่ากูหยุดร้องไห้ไม่ได้แล้วต่างหาก

   “อายคนอื่นบ้าง”

   “ไม่อาย พี่หายไปไหน บล็อกเบอร์กู ไม่ตอบข้อความ แต่หนีไปคุยกับคนอื่นได้” ต้องจมกับความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้อยู่นาน “โคตรเสียใจอ่ะ”

   มือหนากอบกุมใบหน้าของผมเอาไว้จนเราได้สบตากันตรงๆ พี่อาร์คใช้นิ้วโป้งเกลี่ยคราบน้ำตาออกจากแก้มให้ ขณะริมฝีปากได้รูปยังคงแต้มไปด้วยรอยยิ้ม

   “เป็นเด็กที่โคตรรุงรังเลยมึง”

   “พี่ก็เป็นคนที่นิสัยโคตรแย่เหมือนกัน” ผมขืนตัวออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย เหลียวมองซ้ายแลขวาก็ไม่เจอเพื่อนที่เคยนั่งด้วยกันแล้ว ข้าวของเองก็ไม่อยู่เลยรู้ว่าถูกชิ่งหนีตั้งแต่กลางดึก แต่ผมก็ไม่คิดโกรธเพราะมีคนที่น่าโกรธกว่าอยู่ข้างๆ

   “กลับไปนอนที่ห้องได้แล้ว อยู่ตรงนี้มันหนาว”

   “รู้แล้ว” ผมกวาดข้าวของลงในกระเป๋า โดยมีคนเคียงข้างคอยเก็บด้วย นานไปก็กลายเป็นพี่มันนั่นแหละที่จัดการทุกอย่างรวมถึงหยิบกระเป๋าของผมขึ้นมาสะพายแทนด้วย

   “เดี๋ยวไปส่ง”

   “ไม่ต้อง ผมมากับเพื่อน”

   “เพื่อนมึงกลับหมดแล้ว”

   “ผมก็จะเดิน”

   “เก่งจ้าเก่ง มึงกล้าเดินจากหอสมุดไปหอในตอนตีสามจริงเหรอ”

   “กะ...กูก็จะโทรหาเพื่อน”

   “ปากเก่งตลอดนะ กูบอกจะไปส่งก็คือไปส่งดิ” ไม่ปล่อยให้มีโอกาสโต้เถียงพี่อาร์คก็คว้าข้อมือผมให้เดินตามไป ระหว่างนี้แหละที่น้ำตาไม่รักดีเสือกไหลลงมาอีกรอบราวกับเขื่อนแตก ผมควบคุมตัวเองไม่ได้จึงเอาแต่ก้มหน้าไปตลอดทาง ขณะเดียวกันพี่อาร์คก็ไม่ได้มีท่าทีรำคาญใดๆ นอกจากพามาส่องถึงรถ

   หลังแทรกตัวเข้าไปภายในผมก็ยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดหน้าลวกๆ ก่อนไอ้คนพี่จะโยนกระเป๋าผมไว้ด้านหลังพร้อมกับปรับเบาะข้างคนขับให้ผมได้นั่งสบายขึ้น

   “ไม่ต้องร้องแล้ว”

   “กูหาว”

   “หาวนานจังวะ น้อยใจเหรอที่กูไม่ตอบข้อความ”

   “ใคร? ใครน้อยใจพี่ โคตรมั่วเลย”

   “งั้นพรุ่งนี้ไม่ต้องโทรมานะ”

   “ได้ไงอ่ะ”

   “ได้ดิ”

   ผมกัดปากตัวเอง มองดูคนเคียงข้างสตาร์ทรถและจดจ่อกับการขับโดยไม่สนใจผม

   มีหลายอย่างที่อยู่ในหัว อยากพูด อยากบอก แต่ผมก็โง่เกินกว่าจะเรียบเรียงคำพูดเหล่านั้นออกมาเลยได้แต่เก็บเงียบ มองดูถนนตรงหน้าที่ไม่คุ้นเคยไปทีละนิด

   “พี่จะพากูไปไหนอ่ะ”

   “ห้องกู” พี่อาร์คตอบเสียงเอื่อย โดยไม่หันมามองผมแม้แต่เสี้ยว

   “ไม่ไป กูจะกลับหอ”

   “หอในปิดแล้ว”

   “ช่วงสอบเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่รู้อะไรซะแล้ว”

   “คนบางคนก็ไม่รู้อะไรเหมือนกัน”

   “ผมรู้มากกว่าพี่แล้วกัน รู้แม้กระทั่งว่าพี่กำลังกิ๊กกับใคร โห...สนุกเลยอ่ะดิคุยกับคนดัง อยู่กับเธอมุมไหนพี่ก็ไม่หล่อ จริงๆ จะบอกว่าเธอน่ารักจนกลบความหล่อของตัวเองอ่ะดิ”

   “เพ้อเจ้อ”

   “ผมเสือกอยู่หรอก แต่ก็เหมาะกันดีนะ”

   “ได้ยินแบบนี้แล้วมีกำลังใจเลย” พี่อาร์คไม่ได้ปฏิเสธแต่กลับยอมรับง่ายๆ

   “คบกันแล้วเหรอ”

   “ยัง”

   “แล้วคนที่พี่เคยชอบอ่ะ”

   “ช่างแม่งเหอะ ไม่ได้สำคัญ”

   “ทำไมเปลี่ยนใจง่ายจัง”

   “บางทีก็ไม่อยากรอความไม่ฉลาดของใครบางคน”

   “เขาจะเสียใจนะ”

   “กูเสียใจกว่าอีก”

   “ผมเองก็ด้วย” ไม่รู้ทำไมถึงเอ่ยประโยคนี้ออกมา แต่ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่ถ้าเทียบกับช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอเขา พี่อาร์คหันมามองหน้าผม จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “แล้วมึงเสียใจอะไรล่ะ”

   “เสียใจที่พี่หลบหน้า”

   “เหอะ!”

   “เสียใจที่พี่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ เสียใจที่พี่ไปกินเหล้ากับพี่เจตแต่ไม่บอกกู เสียใจที่พี่ไม่ยอมตอบข้อความกูแต่กลับตอบใครอีกคน”

   “...”

   “เกลียดตัวเองที่เป็นแค่น้องแต่ก็คิดแย่ๆ”

   “อาร์ม”

   “พี่อย่าเพิ่งด่านะ มันมีอะไรให้ด่ากว่านี้อีกเยอะถ้าพี่ได้รู้ว่าผมคิดยังไง”

   “แล้วมึงคิดยังไง”

   “กูหึงพี่ว่ะ หึงจริงๆ”

   ในคืนนั้น ผมเพิ่งรับรู้ว่าพี่อาร์คก็ขับรถโคตรแย่เหมือนกัน แทบลงข้างทางเลย...












   ผมมุดหน้าลงกับหมอน ไม่กล้าสู้หน้าเจ้าของห้องที่ยืนกอดอกอยู่ตรงขอบเตียง และพยายามลากถูผมลงมาอาบน้ำและเตรียมตัวไปมหา’ลัย

   แน่นอนว่าผมเองก็มีนัดอ่านหนังสือกับเพื่อน แต่แล้วไง มันต้องไม่ใช่เวลานี้

   ช่วงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับเหนือเดือนตรงๆ หลังได้รู้ความจริงว่าหลานรหัสอย่างผมเสือกรู้สึกหวั่นไหวกับเขา ทั้งที่พี่อาร์คเองก็มีใครคนอื่นอยู่แล้ว แถมกำลังไปด้วยกันได้ดีซะด้วย

   “ลุกขึ้นมา”

   “ไม่!”

   “อย่าลีลาน่า วันนี้กูมีนัดอ่านหนังสือกับเพื่อนนะ”

   “พี่ก็ไปก่อนดิ เดี๋ยวกูล็อกห้องให้”

   “คิดว่าตลกเหรอ”

   ผมยังคงดึงผ้าข่มขึ้นมาคลุมโปง จนสุดท้ายพี่มันคงทนไม่ไหวดึงผ้าออกจากตัว จากนั้นก็อุ้มผมขึ้นมาพาดบ่าแล้วสาวเท้าไปยังห้องน้ำ คือจุดนี้โยนกูลงถังขยะได้มันคงทำไปแล้วล่ะ

   ครึ่งชั่วโมงให้หลังผมก็ต้องมานั่งทำหน้าโง่ๆ อยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เป็นตุ๊กตาให้เหนือเดือนคอยเป่าผมให้

   “เงยหน้าขึ้นมา”

   “กูไม่กล้ามองหน้าพี่หรอก”

   “เก่งมาตลอดเสือกมากากตอนนี้ได้ไงวะ”

   “กูรู้สึกผิดกับพี่มากๆ ขอโทษนะ” พี่อาร์คถอนหายใจแต่ไม่ยอมตอบอะไร

   ช่วงสายเราออกไปหาข้าวกินง่ายๆ ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธทว่ายังไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายเต็มตา ปล่อยให้เขาจับลากไปตรงโน้นทีตรงนี้ที สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่ร้านกาแฟซึ่งมีเพื่อนในกลุ่มของเขาจับจองอยู่ก่อนแล้ว

   “วันนี้พาเด็กดื้อมาอ่านหนังสือด้วยนะ” พี่มันพูดแค่นั้นก่อนทิ้งตัวลงนั่งยังโต๊ะอีกฟากหนึ่ง จากนั้นก็รั้งให้ผมนั่งลงข้างๆ

   “แม่งได้ว่ะ ทำไมวันนี้น้องมันหงอๆ วะ”

   “โดนกูดุ ดื้อเก่ง”

   “ผมเปล่านะเว้ย หวัดดีครับพี่ๆ” ผมยกมือไหว้ทีละคน

   “หวัดดีไอ้น้องอาร์ม”

   ทุกคนกางหนังสือ เตรียมตัวอ่านเนื้อหาที่กำลังออกสอบ ทว่าตั้งใจได้ไม่นานพี่ปอนด์หนุ่มเนิร์ดของกลุ่มก็ถามขึ้น ผมเองก็ตั้งใจฟังมากเพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพี่อาร์คโดยตรง

   “ไอ้อาร์ค คืนนี้ไปร้านเหล้ากัน”

   “ไปทำไม”

   “กวนตีนป่ะเนี่ย คืนนี้มีบอล”

   “อ๋อ”

   “สรุปจะไปด้วยกันมั้ย กูจะได้รีบจองโต๊ะ”

   “ขออาร์มก่อน”

   “เกี่ยวอะไรกับผมอ่า” นี่ก็พยายามอยู่เฉยที่สุดแล้วนะ ทำไมพี่มันถึงได้ดึงผมเข้าไปเกี่ยวด้วยวะ

   “ถามมึง เพราะถ้ามึงไปกูก็จะพาไปด้วย”

   “งั้นก็ต้องถามเดอะแก๊ง ไอ้แซนด์ ไอ้โป้ ไอ้โย แล้วก็เพื่อนหอชาย”

   “หาพวกเก่ง”

   “แน่นอน”

   “หึงเก่งด้วย”

   เชี่ยแม่ง...

   “ขอโทษได้มั้ยล่ะ ที่พูดไปไม่คิดอะไรจริงๆ” อยากให้ลืมๆ ไปซะ มันก็แค่ความรู้สึกน้อยใจของคนถูกเมินเท่านั้นเอง ความจริงก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก อีกอย่างพี่อาร์คก็จะได้ไม่รู้สึกแย่กับน้องในสายอย่างผมด้วย

   “แต่ถ้าไอ้อาร์มมาด้วยก็ดีนะ คืนนี้หงส์กับปืนใหญ่ มึงเชียร์ทีมไหน” หลังปล่อยให้ผมเถียงกับพี่อาร์คพักหนึ่งพี่คอปป์ก็หาโอกาสแทรกถามด้วยรอยยิ้ม ซึ่งผมรู้เลยว่าถ้าเลือกทีมไหนเขาก็จะเชียร์ฝั่งตรงข้ามทันที ใช่ซี้ กูมันตัวซวยนี่หว่า

   “ผมก็ต้องเชียร์ทีมของตัวเองอยู่แล้ว”

   “แต้มเท่าไหร่ดี”

   “ยี่สิบสองต่อหนึ่ง”

   “ไอ้สัด เว่อร์เสมอต้นเสมอปลายมาก เดี๋ยวรอดู”

   “จัดไป”

   “ไม่เข็ดอีกเหรอ ปากดีทีไรเจ็บใจทุกที” คราวนี้พี่อาร์คพูดบ้าง ผมเลยไม่รู้จะตอบอะไรนอกจากก้มหน้า หยิบชีทเรียนขึ้นมาอ่านแม้ข้อความเหล่านั้นจะไม่เข้าหัวสักนิดก็ตาม

   เวลาแม่งโคตรเดินช้า ผมจมจ่อมอยู่ที่ร้านกาแฟนานมาก แม้ไม่รู้สึกอัดกับใครแต่ก็ไม่กล้ามองหน้าเหนือเดือนได้เต็มตา เลยหาเรื่องออกไปเข้าห้องน้ำบ้าง โทรศัพท์คุยกับเพื่อนบ้างจนได้เข้าประเด็นเรื่องร้านเหล้าคืนนี้นี่แหละ จะสอบอยู่ละยังหาเรื่องไปเชียร์บอลนะมึง

   ไอ้พวกหอชายมันเคยปฏิเสธใครที่ไหน ยิ่งได้ยินว่าพี่อาร์คชวนยิ่งระริกระรี้อยากไปจนตัวสั่น ส่วนผมน่ะอยากหาเรื่องหนีกลับไปนอนที่หอ แต่ไม่รู้ทำไมสุดท้ายกลับพบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้าแล้ว

   “อาเซนอลๆๆ”

   “ไอ้อาร์คมายัง”

   “หายหัว ปล่อยให้เพื่อนให้น้องมันรอ”

   เหล้าถูกเด็กเสิร์ฟยกมาบริการถึงโต๊ะ ถังน้ำแข็ง กับแกล้ม ทุกอย่างเตรียมพร้อมเพื่อบอลในคืนนี้

   พวกพี่ปีสามเป็นฝ่ายจองโต๊ะแถมนั่งรออยู่ก่อนแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง พวกปีหนึ่งอย่างผมกับเพื่อนเพิ่งตามมาไม่นานแต่ถึงจะช้าขนาดนี้พี่อาร์คก็ยังไม่โผล่หัวมา

   “ไอ้คอปป์มึงโทรตามไอ้อาร์คดิ ตายห่าที่ไหนแล้ววะ”

   “กูว่าไม่ต้องตามซะล่ะมั้ง มาโน่นแล้ว” พูดไม่ทันขาดคำร่างสูงของเหนือเดือนก็เดินเข้ามา ก่อนจะได้ยินเสียงโห่ร้องดังลั่นร้านเพราะความไม่ชินตาสักเท่าไหร่

   หลายคนหัวเราะลั่น เพื่อนพี่มันบางคนตกใจถึงขนาดหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอเป็นที่ระทึก

   ไอ้สัด พี่มันใส่เสื้อลิเวอร์พูลมา

   ถือเป็นปรากฏการณ์ที่จะพบได้ในทุกๆ พันปีเลยทีเดียว

   “โหยยยยยยย อะไรว้า”

   “เราได้สาวกลิเวอร์พูลคนใหม่เหรอ ยอมแร้วจ้า” ผีต้องเข้าสิงลุงแกแน่ๆ ถึงได้หยิบเสื้อทีมคู่แข่งขึ้นมาใส่

   “อาร์คเปลี่ยนไป หรือใครเปลี่ยนเธอ ฮิ้ววววววววว”

   “เสื้อไม่ได้ส่งซัก ไม่มีใส่แล้วเลยหยิบมา”

   “ข้ออ้างว่ะ จำได้ว่าในตู้มึงไม่เคยมีเสื้อทีมนี้ อย่ามาเนียน”

   “ปากดีมึงอ่ะ ตู้กูมีเสื้อทุกทีมนั่นแหละ” พี่อาร์คพูดหน้าตาย จากนั้นก็หยิบเก้าอี้มานั่งแทรกระหว่างผมกับเพื่อนของเขาอย่างหน้าตาเฉย

   “มาทีหลังก็ไปนั่งตรงโน้น”

   “กูจะนั่งตรงไหนก็ได้ถ้าใจกูอยากนั่ง”

   “งั้นไอ้อาร์มมึงขยับไปนั่งตรงโน้นดิ ตรงนี้มันอึดอัด” พี่คอปป์ออกคำสั่ง ผมจึงพยักหน้าหงึกหงักแต่พี่อาร์คไม่ยอมเถียงกลับไปทันที

   “กูว่าคนที่ต้องย้ายคือมึง”

   “สัด นี่เพื่อนไง”

   “นี่อาร์มไง”

   “อะไรยังไงวะ เดี๋ยวนี้ออกตัวแทนหลานรหัสเหรอมึง”

   “ผมไม่เกี่ยวนะแค่จะมาเชียร์บอล” คือกูรีบตัดประเด็นเลยก่อนจะโดนลากไปด่ามากกว่านี้

   แอลกอฮอล์ถูกเติมเข้ากระแสเลือดทีละน้อย ผมดื่มได้ไม่มากเนื่องจากถูกลุงแก่ๆ สั่งห้ามไว้ว่าไม่ให้แดกเยอะ เลยนั่งจิบไปดูบอลไปพลางๆ

   ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงผมก็ได้เฮลั่นร้านหลังนักเตะสุดรักทำประตูแรกให้กับทีม

   “โอ๊ยยยยยสุดยอด”

   “โห่ไรวะ”

   “ผมขอล่ะในฐานะแฟนบอลเหมือนกัน อย่าขึ้นอะไรสถานะที่เกี่ยวกับอาเซนอลนะครับขอร้อง กูกดไลค์ไม่ทันเลยยย ฮ่าๆๆ”

   “เดี๋ยวมึงเจอดีไอ้อาร์ม”

   “กลัวจังเลย กลัวๆ”

   ใครจะคิดว่าอาถรรพ์แม่งมีจริง กร่างใส่เขาได้ไม่นานกลับโดนตีเสมอในสิบนาทีหลังจากนั้น

   “ว้ายยยยยยย อะไรนะตีเสมอเฉยเลย ปล่อยให้ดีใจได้แค่แป๊บเดียวเอง”

   “งงจัง”

   เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างต่อเนื่อง แถมยังเป็นเคราะห์แบบคอมโบ เพราะหลังตีเสมอได้หนึ่งลูกพี่ปืนใหญ่เขาก็ระดมยิงไม่ขาด ยิงจนตาข่ายขาดรู รู้ตัวอีกทีเขาก็นำไปถึงสามต่อหนึ่งแล้วอ่ะ

   “จะร้องไห้เหรอ” พี่อาร์คกระซิบถาม ผมเลยส่ายหัว

   มีหวังนะ แต่แบบ...จนวินาทีสุดท้ายกูก็ยังแพ้ ร้องเหี้ยหนักมาก ยี่สิบสองต่อหนึ่งที่เคยคาดคะเนไว้สลายกลายเป็นผุยผง

   ผมโดนล้อจนหน้าแหกซ้ำซาก แถมคราวนี้พี่อาร์คก็ถูกลากมาด้วยเพราะโชว์เก๋าใส่เสื้อทีมมาอย่างมั่นหน้า เป็นไง แพ้คาบ้านเลยว่ะ

   “พี่กูขอโทษ”

   “ขอโทษอะไร”

   “กูเป็นตัวซวย”

   “กล้ามองหน้ากูแล้วเหรอ” พอถูกทักแบบนั้นผมก็รีบหลุบตาลงโดยอัตโนมัติ

   “คือ...”

   “เดี๋ยวกูมา” เขาไม่รอให้ผมได้พูดอะไร แต่กลับหายไปหลังร้าน

   รอจนกระทั่งเดอะแก๊งเตรียมแยกย้ายกลับพี่อาร์คก็ยังไม่กลับมา ไอ้อนณคนไม่มีหนี้จึงเป็นตัวแทนหมู่บ้านเดินแหวกกลุ่มแฟนบอลออกไปด้านนอกเพื่อตามหาลุงรหัส ก่อนจะเห็นคนตัวสูงยืนสูบบุหรี่อยู่ไม่ไกล

   ปกติผมไม่ค่อยเห็นเขาสูบ พอเป็นแบบนี้เลยรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

   “พี่อาร์ค” ดวงตาคู่เดิมปรือเล็กน้อย ตอนอยู่ข้างในก็ไม่ได้สังเกตว่าเจ้าตัวดื่มไปมากเท่าไหร่ ทว่ากลิ่นแอลกอฮลอ์ที่แผ่กระจายไปทั่วก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาคงดื่มไปมากพอสมควร

   “หืม”

   “คืนนี้ผมกับเพื่อนต้องกลับแล้ว”

   “อืม”

   “พี่โอเคมั้ย” ดูอาการตอนนี้แล้วไม่โอเคเลยว่ะ

   “โอเค”

   “พี่เมาหรือเปล่า ขับรถกลับได้ป่ะ”

   “กลับไม่ได้มึงจะขับพาไปส่งเหรอ”

   “ใช่ที่ไหนล่ะ พี่ต้องเป็นภาระให้เพื่อนพาไปส่งเองสิ”

   “ไม่อยากอยู่ใกล้กูล่ะสิ ขนาดมองหน้ามึงยังไม่อยากมองเลย” ซีนดราม่าจัดเต็ม เฮ้ย! ปกติเวลาพี่มันเมาไม่เคยเห็นดราม่าสักครั้ง มีแต่ทำตัวกวนตีนจนน่าปวดหัว

   “ผมเปล่านะเว้ย”

   “แล้วทำไมไม่มองหน้ากูตรงๆ” บุหรี่ในมือถูกทิ้งลงบนพื้น คนตัวสูงใช้เท้าขยี้จนควันสีขาวดับลงก่อนเอื้อมมือมาจับไหล่ทั้งสองข้างของผมแน่น

   “กะ...กูมองแล้ว ก็แค่คิดว่ามันไม่เหมาะที่พูดแบบนั้น” เขากำลังบีบบังคับให้ผมทำในสิ่งที่ไม่ควร “พี่มีคนที่ชอบแล้ว และพี่อาจจะมีใครอีกหลายคน”

   “รู้ได้ไง”

   “พี่คบกับเขาแล้วด้วยกูเห็นในไอจี แต่ที่ผ่านมา นานมากแล้ว...ที่กูบอกตัวเองว่าห้ามคิดอะไร ตอนพี่ซ้อมบอกรักคนอื่น ตอนที่ทำดีกับกู พี่ทำให้กูเอาแต่คิดเข้าข้างตัวเองทั้งที่มันไม่ใช่”

   “แล้วทำไมถึงคิดว่าไม่ใช่ มึงแม่งโง่ว่ะ”

   “กูไม่ได้โง่”

   “ดื้อด้วย”

   “ไม่ได้ดื้อ”

   “ชอบเถียง ถ้ายังเถียงอีกกูไม่ใจดีแล้วนะ”

   “พี่ก็ไม่ได้ใจดีอยู่แล้ว”

   “ที่ผ่านมาเคยรู้อะไรบ้าง รู้หรือเปล่าว่ากูชอบใคร” พี่อาร์คถามเสียงจริงจัง แต่ผมก็ยังเผชิญหน้าตอบในสิ่งที่ตัวเองเห็นมากับตา

   “พี่ชอบคนเยอะมาก พี่ชอบบัดดี้ของตัวเอง”

   “ไม่ได้ชอบ ไอจีนั่นเพื่อนกูเล่น บริ๊งก็เล่น” คำตอบนั้นทำเอาอึ้งไปประมาณศูนย์จุดสองวิ แต่ก็สามารถดึงสติกลับมาให้เถียงต่อได้อีก

   “มีอีกคน พี่ชอบมานานมาก พี่บอกเขาโง่”

   “ก็เออไง”

   “เรียนอยู่ปีหนึ่งวิศวะ เป็นคนที่ผมรู้จัก แล้วจะให้ผมกล้ามองหน้าพี่ได้ไงในเมื่อผมคิดไม่ซื่อกับพี่”

   “อาร์ม...” น้ำเสียงของเขาดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

   “...”

   “ถ้าโง่อีกจะทำให้ยับคาตรงนี้แหละ”

   “ก็กูโง่จริง”

   พี่อาร์คดันหลังผมติดกำแพง ใบหน้าหล่อเหลาฝังลงข้างลำคอของผมพร้อมกับพรูลมหายใจยาวเหยียด นานเหมือนกันที่เขาไม่ยอมขยับ แต่เลือกเอ่ยประโยคผะแผ่วที่ได้ยินเพียงสองคนออกมา

   “กูเหนื่อยแล้วนะอาร์ม อ่อยขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”

   “อะ...อะไร”

   “ก็อ่อยอยู่เนี่ย รู้ตัวสักที”

 

ตอนนี้ลุงหลานเค้ามึนงงกันไปพักใหญ่ แต่ก็เข้าใจกันแล้วนะคะ
ตอนหน้าจัดความสดใสกลับไปเต็มๆ วิ้วๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2018 01:24:04 โดย Jittirain12 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao7:  :hao6:  o13 มาต่อแบบหวานๆด่วยค่ะ.....  :mc4: จุดพลุฉลองความสำเร็จของคนพี่  :mc4:

ออฟไลน์ NEPTUNE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1

ออฟไลน์ Josett

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จริงๆก็สงสารอิพี่มันนะ แต่ก็สงสารน้องเหมือนกันอะ ก็คนมันโง่พี่อาร์คก็อย่าไปโกรธมันเลย
ถอนหายใจตามพี่อาร์ค :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด