ตอนที่ 1
น้อง พี่ ขี้แซะ
“น้องสกลชัยได้พี่รหัสเกียร์ 0128”
“เฮ่!!!”
“น้องแพรพลอยได้พี่รหัสเกียร์ 0036”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด นั่นมันเดือนวิศวะปีสองเลยนะ โอ๊ย อิจฉาอ่ะ”
“พี่กังฟู ชอบนะคะ”
โอ้โห แก๊งผู้หญิงที่นั่งแถวตอนส่งเสียงกรี๊ดลั่น จนคิดว่าอีกไม่นานก็พร้อมแอดมิดเข้าโรงพยาบาลทันที
วันนี้เป็นวันจับสายรหัสซึ่งพี่ๆ เขาบอกว่ามันสำคัญมาก เพราะเราต้องอยู่เกื้อกูลกันไปอีกสี่ปีจนกว่าจะจบ ผมก็เลยต้องแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาแต่เช้า อาบน้ำ แต่งตัว แต่ไม่ได้กินข้าวเพราะเขาบอกว่าเดี๋ยวพี่จะพาไปเลี้ยง แต่นี่ปาไปเกือบ 11 โมงแล้วก็ยังไม่ถึงคิวตัวเองสักที
ไม่เข้าใจว่าพวกผู้บริหารจะรับปีหนึ่งเข้ามาทำบ๊วกอะไรนักหนาตั้งสามสี่ร้อยคน นี่ถ้าผมไม่ถูกบังคับให้มาเรียนคงไม่ต้องเครียดขนาดนี้หรอก เกียร์ปลวกอะไรวะ นี่ยังลุ้นอยู่เลยว่าจะได้สายป่วยมั้ย ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าขอคนดีๆ เข้ามาในชีวิตบ้างเถอะ
ขอสวยๆ ครับ สวยมากๆ ผมจะได้รู้สึกปลาบปลื้มใจ
อยู่ชายล้วนมาตลอด 6 ปีชีวิตบัดซบมาก หัวใจห่อเหี่ยวแล้วห่อเหี่ยวอีกเพราะแต่ละคนแม่งไม่มีความละมุนในจิตใต้สำนึกกันเลย
“อาร์ม มึงอยากได้คนไหนเป็นพี่รหัสบ้างวะ” เสียงของไอ้คนที่นั่งด้านหลังแทรกขึ้น ไม่พอมันยังสอดหน้ามาวางคางไว้บนไหล่ผมอีกต่างหาก
“ไม่รู้ มึงล่ะอยากได้ใคร”
“กูชอบพี่คนนั้นอ่ะ ที่มัดดังโงะน่ารักๆ ขวามือ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ชี้นิ้วไปยังเป้าหมายอย่างเร็วรี่
เชี่ยนี่มันชื่อ ‘แซนด์’ ครับ เป็นเพื่อคนแรกในมหา’ลัย ที่สำคัญตอนนี้มันก็ได้กลายมาเป็นรูมเมทของผมแล้วด้วย
ไอ้แซนด์ถือว่าค่อนข้างป๊อบในคณะพอสมควร เนื่องจากเคยเป็นนักแสดงเด็ก เล่นละครกับดาราดังๆ ตอนสมัยอายุ 5-6 ขวบ พอโตขึ้นแม่ก็ไม่ได้พามันเร่ไปตามกองอีก เลยได้ใช้ชีวิตวัยเด็กที่โหยหาและไม่หันกลับไปจับงานแสดงแม้แต่ชิ้นเดียว
“มึงชอบแบบนี้เหรอวะ เข้าใจมาตลอดว่ามึงชอบแบบสวย เผ็ด ดุ” ผมพูดเป็นทีเล่นทีจริง
“เจอคนสวยๆ ในวงการมาเยอะแล้ว เลยเบื่อนิดนึง”
“หล่อเลือกได้มากเลยจ้า”
“มึงรู้จักชมพู่ อารยาใช่มั้ย”
คราวนี้ผมพยักหน้า ก่อนเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น
“มึงเคยแสดงละครกับเขาเหรอ”
“เปล่า กูแค่ถามเฉยๆ”
โว๊ะ!! มีเพื่อนแบบนี้กูประสาทจะแดก
เกลียดสุดคือนิสัยรักสุขภาพของมัน ลองคุยๆ ไปเถอะ แค่บ่นบอกว่าปวดหัวนิดหน่อย แม่งก็วินิจฉัยแทนหมอว่ากูเป็นมะเร็งซะแล้ว
นี่ยังแค่ไอ้แซนด์นะครับ ผมยังมีเพื่อนสนิทอีกคนที่นอนอยู่ห้องข้างๆ เราเรียนภาคเดียวกัน มันชื่อ ‘ปีโป้’ แค่ฟังก็รู้สึกน่ารักน่ากินแล้วใช่มั้ย แต่ตัวจริงหน้าแม่งโคตรทรยศชื่อเล่นสัดๆ
เถื่อนถ่อยนี่สายพี่เขาล่ะ เป้าหมายคือการไว้เคราให้เท่เหมือนรุ่นพี่ แต่พอก้าวเท้าเดินเข้ามาในคณะก็โดนปีสองสั่งให้ไปโกนหนวดเคราซะเกลี้ยง ฮ่าๆ ความฝันดับวูบภายในไม่กี่วินาที ทว่านั่นไม่สำคัญหรอก สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดสำหรับมันคืออะไรรู้มั้ย
การคีบตุ๊กตา
ห่านี่ไม่รู้เป็นอะไรนักหนา ทุกครั้งเวลาเจอกันมันก็จะพูดแต่เรื่องนี้ไม่หยุด ตั้งแต่ขั้นตอนการคีบ ประโยชน์ของการคีบ โรงงานผลิตตุ๊กตา กลุ่มลับพันธมิตรห่าปลวกอะไรเยอะแยะไปหมด
พอเราสามคนมารวมตัวกันแล้ว ไม่อยากจะพูดเลยว่านี่มันคือสามหนุ่มเนื้อทองของคณะวิศวะที่แท้ทรู สาบานได้ว่าเวลาเดินไปไหน ต้องฉิบหายวายวอดที่นั่น
“น้องแถวต่อมาครับ” รุ่นพี่ประกาศเสียงดัง
อ้าว! แถวกูแล้วนี่หว่า ผมเลยรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินตามหลังเพื่อนคนหน้าเพียงคนเดียวต้อยๆ แถวหนึ่งมีเพียง 10 คนเพื่อความรวดเร็วในการจับสลาก
ส่วนสาเหตุที่เห็นนายอนณยืนอยู่คนแรกๆ ก็คือ...กูเตี้ยครับ
ร้อยเจ็ดสิบนิดๆ ความจริงถ้าวัดดีๆ ก็ตั้ง 173 เถอะ ถามว่าไอ้แซนด์ที่ยืนอยู่หลังผมก็สูงพอๆ กันเหรอ เหอะเปล่า! แต่มันโดดไปโน่นเลย 181 เซนต์ สรุปผู้ชายภาคไฟฟ้าปีหนึ่งที่สูงไม่ถึง 180 ก็มีอยู่แค่สองคนเท่านั้นแหละ
พาลให้นึกเสียดายว่าตอนเด็กน่าจะแดกหนองโพเยอะๆ รู้สึกเสียชาติเกิดยังไงชอบกล
แต่ตอนนี้อย่าไปสนใจมันเลย ถึงตาผมต้องจับสายรหัสพอดี
“น้องอาร์มจับเลยครับ”
งุ้ยยยยย ตื่นเต้น
-_-
กูประชด แค่หยิบส่งๆ ล้วงมือแตะได้อันไหนก็หยิบอันนั้น กระทั่งผมยื่นกระดาษม้วนสีขาวส่งให้รุ่นพี่มัดแกละคนหนึ่งไป
“น้องอนณได้พี่รหัสเกียร์ 0498 ค่ะ”
“โฮ่ลลลลลลลลล” เสียงหอนของรุ่นพี่ปีสองดังอื้ออึงทั่วห้องโถง พวกปีหนึ่งเลยหันหน้าหันหลังมามองว่าพี่รหัสผมจะเป็นใคร จนกระทั่งมีผู้หญิงสวยสัดๆ คนหนึ่งลุกขึ้นมาจากแถวพร้อมพวงมาลัยดอกดาวเรือง
เอิ่ม...กูเกลียดกลิ่นดอกดาวเรือง
“น้องโชคดีมาก ได้ดาวปีสองเป็นพี่รหัสเลยนะ”
“ดาว?”
เรอะ! โอ้โห ต้องเนื้อเต้นมั้ยอ่ะ คือคนอื่นเขาฮือฮาแทนกันหมดแล้ว ผมเลยไม่รู้จะทำยังไงนอกจากมองดูร่างบางที่น่าจะสูงไม่เกิน 165 เซ็นต์ เดินดุ่มๆ มาหาถึงหน้าแถว พร้อมกับคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรืองและสายสะพายที่เขียนข้อความว่า ‘สายรหัสเทวดา’
“พี่ชื่อญี่ปุ่นนะเว้ย เรียนวิศวะสิ่งแวดล้อม”
“อ้อ ผะ...ผมชื่ออาร์มครับ วิศวะไฟฟ้า”
“ดีใจจังเลย เดี๋ยวถ้าเลิกจากกิจกรรมแล้ว เรามาเจอกันก่อนเนาะ”
“ครับ”
ผมพยักหน้าหงึกหงัก ใจสั่นเลยอ่ะ ดูใกล้ๆ แล้วสวยฉิบหาย ไม่รู้ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรมาชาตินี้ถึงได้พี่รหัสระดับห้าดาวให้คนอื่นหมั่นไส้เล่น นึกถึงหน้าพ่อขึ้นมาทันทีเลย
อาร์มรักวิศวะมากๆ ครับพ่อ
ผมพูดกับพี่ญี่ปุ่น คิมูจิ อาโออิไม่กี่ประโยค ก่อนจะถูกรุ่นพี่ต้อนให้กลับแถวและเริ่มจับรหัสสายต่อไป
เวลาล่วงเลยจนเที่ยงวันโน่นกว่าจะได้แยกย้าย ไอ้แซนด์ไปทาง โป้ก็ไปอีกทาง ส่วนผมหนีกลับไปไหนไม่ได้เพราะต้องมายืนไข่เบี้ยวรอพี่รหัสสุดสวยอยู่ที่เดิม จนกระทั่งเจ้าตัวเดินเข้ามาพร้อมกับของเทคมากมาย
แฟ้ม สมุด ดินสอ โต๊ะเขียนหนังสือ ตะกร้าผ้า ไม้หนีบ ที่ปัดขนไก่
แม่ครับ นี่กูมาเรียนวิศวะหรือมาฝึกทำงานบ้านกันแน่
“อันนี้พี่ซื้อให้รับขวัญ ปีหนึ่งต้องอยู่หอในใช่มั้ย”
“ใช่ครับ ขอบคุณครับพี่”
“พี่ปีสี่ฝากของมารับขวัญด้วยนะ นี่เลย” นอกเหนือจากของใช้แล้วผมก็ได้รับสบู่ซักถุงเท้าเพิ่มขึ้นอีกหลายก้อน ก่อนมือบางจะล้วงมือลงไปในกระเป๋าอีก
ยังไม่หมดอีกเหรอ
“ส่วนอันนี้ของลุงรหัสปีสาม” ผมยื่นมือไปรับของจากพี่รหัส
“อันนี้คืออะไรเหรอครับพี่ญี่ปุ่น”
“อ๋อ ยาแนวกระเบื้องน่ะ”
ว็อท! นี่ล้อเล่นหรือจริงจังเนี่ย คือนั่งอ่านหนังสือเหงาๆ อยู่แล้วก็หยิบมาชงแดกแก้เครียดงี้เหรอ ไอ้ปีสามมึงบ้าหรือเปล่า
ปล่อยให้ผมก่นด่าในใจได้ไม่นาน พี่ญี่ปุ่นก็เอ่ยพึมพำอย่างต่อเนื่อง
“เดี๋ยวเอาของไปใส่ท้ายรถก่อน แล้วเราไปกินข้าวกัน มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง” มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วครับพี่ดาวสุดสวย อุตส่าห์มานั่งรอปล่อยความหิวเค้นกระเพาะเป็นชั่วโมง ผมคงไม่รีบแจ้นกลับไปนอนหรอก
ก็ปกติแหละครับ ผมยังไม่เคยเรียนรู้ชีวิตปีหนึ่ง รับน้อง ห้องเชียร์ ล่ารายชื่อ ลืมมันไปซะเถอะ นี่ก็กะโดดๆ อยู่ พี่ญี่ปุ่นก็บอกนะว่าวิศวะของเราชาวประชาค่อนข้างโหด คิดในใจ จบมากูก็เป็นวิศวกรป่ะวะ ไม่ได้ไปสมัครงานเป็นหน่วยคอมมานโดสักหน่อย จะโหดอะไรนักหนา
“อาร์มชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“ผมกินหมดอ่ะพี่”
“เนี่ย อาทิตย์หน้าเรามีนัดเลี้ยงสายใหญ่ รวมพี่ปีสามกับปีสี่ด้วย ยังไงเดี๋ยวพี่นัดอีกทีนะ”
“ครับ” เจอพี่รหัสไม่พอ ต้องมาเจอลุงรหัส ปู่รหัสอะไรอีกเหรอวะ จากที่ฟังแล้วพี่ญี่ปุ่นบอกว่าสายเราเขียม (ขาดแคลน) ผู้หญิงเข้าขั้นวิกฤต เพราะมีแค่พี่แกที่เป็นเพศแม่อยู่คนเดียว แต่จะว่าก็ว่าเถอะ ไปๆ มาๆ ผมนึกว่าดาวคณะแม่งเป็นทอมซะอีก สวยนะแต่กวนตีนมากครับ พูดออกมาทีนี่คำหยาบบานเบอะ แค่ตอนนี้ยังไม่ใช้กับผมเท่านั้นเอง
“เออพี่ ทำไมเขาถึงเรียกสายเราว่าสายรหัสเทวดาอ่ะ”
“อ๋อ ก็หน้าตาดีไง” โหย...เกิดกูขี้เหร่ขึ้นมา สายนี้ไม่เป็นอันล่มจมเหรอวะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมแม่งก็หล่อไม่เบาเลยจริงๆ
“พี่ปีสามปีสี่ก็หน้าตาดีเหรอ”
“ปู่รหัสปีสี่เป็นเดือนมหา’ลัย ส่วนลุงรหัสปีสามเป็นเหนือเดือน”
“อะไรเหรอพี่ที่เรียกว่าเหนือเดือน”
“เป็นนักบอล”
“ฮะ?”
“นักบอลที่หล่อกว่าเดือนมหา’ลัย” คนตรงหน้ายักคิ้วหลิ่วตา แหม...อยากเห็นลุงรหัสปีสามเลยครับว่าจะหล่อโหดเหี้ยอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า
“อาร์มเคยกดเข้าไปเพจเอนจิเนียร์คิวท์บอยป่ะ”
“เคยเห็นผ่านๆ ครับ” อะไรของพี่แกวะ
“ถ้าอยากเห็นปู่รหัสปีสี่ก็ลองกดเข้าไปดูนะ ชื่อพี่เจต อีกอย่างพี่ก็เป็นแอดมินเพจนี้ด้วย”
“ฮะ!”
“นั่นแหละ ไม่มีใครรู้หรอก แต่พี่เคยบอกกับตัวเองไว้ว่าถ้ามีน้องสายรหัสมา พี่จะมอบตำแหน่งแอดมินคนที่สองให้ เราจะได้ดูแลเพจที่มีคนกดไลค์เป็นแสนไปพร้อมกันไง ” แล้วแกก็ยิ้มครับ ถามกูยังว่าอยากเป็นทายาทอสูรกับเจ๊หรือเปล่า
โหยยยยยยย ใครบอกว่าได้สายนี้แล้วโชคดีเหมือนถูกหวย นี่อะไรกัน ให้ไปดูแลเพจหนุ่มวิศวะห่าปลวกอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่ผมไม่มีความรู้เรื่องใครในคณะเลยแม้แต่คนเดียว แถมความเสือกยังไม่มากเท่าคนอื่นอีกต่างหาก ง่ายสุดคือลงรูปโปรโมตตัวเองนี่ยังพอไหวอยู่
“เมื่อสองอาทิตย์ก่อนตอนผมเข้ามาสัมภาษณ์ เคยเจอรุ่นพี่ที่ทำเพจนี้อยู่ครับ สรุปมีแอดมินกี่คนกันแน่”
“อ๋อ จิ๊บน่ะเหรอ ตอนนี้ออกไปทำเพจของมหา’ลัยแล้ว เหลือพี่ทำอยู่คนเดียว”
“เข้าใจแล้วครับ”
“รูปอาร์มในเพจก็น่ารักน้า ตอนถ่ายชุดนักเรียนนี่เรียกยอดไลก์บานเลย”
“โถ่พี่ก็ชมผมเกินไป”
“เปล่าจ้า พี่ซื้อโฆษณา”
ตายโหง!
“เรื่องให้ไปเป็นแอดมินเพจ ผมว่าไม่ดีมั้งพี่”
“ดีสิ เนี่ยถ้ามีคนในมอเสนอหนุ่มฮอตเข้ามา อาร์มก็แค่เอารูปไปลงแล้วเขียนแคปชั่นลงไปแค่นั้นเอง”
“แต่ผมว่า...”
“อ้อ มีอยู่คนนึงนะเป็นข้อยกเว้น ห้ามลงเด็ดขาด...”
“เฮ้ย ญี่ปุ่นสุดสวย มากินข้าวกับใครเนี่ย”
เอ่อ...เข้าใจอารมณ์คนกำลังฟังดีๆ แล้วถูกใครสักคนขัดป่ะ
ยาวครับคราวนี้ หนุ่มที่ไหนไม่รู้เข้ามาทักเจ๊แกจนหัวกระไดแทบไม่แห้ง ประตูร้านอาหารเปียกโชกจนเราแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย เพราะต้องเจียดเวลาแดกข้าวอันน้อยนิดไปคุยกับพวกผู้ชายนิสัยม่อ
ซึ่งผม...ก็เคยเป็น
สุดท้ายนายอนณผู้ไม่มีหนี้ก็ได้รับภารกิจอันยิ่งใหญ่ ที่จะช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีความหน้าตาดีของชาววิศวะ นั่นคือการเป็นแอดมินเพจที่มีคนไลก์หลักแสนอย่างงงๆ
Engineer Cute Boy ผมเปิดแม็คลูกรัก เคาะมือลงกับโต๊ะอยู่สองสามครั้ง ส่วนมืออีกข้างหยิบชาเขียวขึ้นมากินขณะนั่งอยู่ในสตาร์บัคส์ ทำใจอยู่นานก่อนจะกดรับเป็นผู้ดูแลเพจคนที่สองเมื่อสามวันก่อน เพราะช่วงนี้เจ๊ญี่ปุ่นเล่นหายต๋อม ปล่อยเพจไม่เคลื่อนไหวมาร่วมสัปดาห์
ติดแฟนครับ เพิ่งเห็นว่าแฟนก็คือปู่รหัสปีสี่นั่นแหละ โด่...
พี่เจตแม่งโคตรหล่อสมกับที่เป็นเดือนมหา’ลัย เห็นรูปครั้งแรกทำเอาตะลึงไปสามสิบห้าวิได้ แต่พอเจอตัวจริงเข้าไปถึงกับอิจฉาเหงือกแทบบิด คนเหี้ยอะไรไม่รู้ครับ หล่อไม่ปรึกษาโลกหน้า หล่อโหดสาด หล่อจนอายเบ้าหน้าตัวเอง พอมายืนข้างกัน กูนึกว่าตัวเองเป็นโปโรโระ สำเหนียกได้ว่าควรเนรเทศตัวเองออกจากสายรหัสเทวดาเร็วพลัน
ความหล่อที่แทงทะลุตาของพี่เจต ทำให้พี่จิ๊บแอดมินคนก่อนต้องโปรโมตให้แกทางเพจอยู่เป็นประจำ เราใช้ระบบคนไหนดังให้ลงบ่อยๆ คนไหนไม่ยังค่อยเท่าไหร่ก็ใช้วิธีการดันเช่นซื้อโฆษณา
และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น รูปนักเรียนอันเป็นตำนาน และสาบานได้ว่าตราบใดที่ผมเป็นแอดมิน ใครหน้าไหนก็ไม่มีทางเอารูปกูไปลงได้ทั้งนั้น
ตึ่ง!!
ผมกดแจ้งเตือนที่ปรากฏอยู่ในแอคเคานท์ชื่อของตัวเอง ความจริงมันเป็นความเคลื่อนไหวบนหน้าไทม์ไลน์ปกติเท่านั้น แต่มีอยู่แจ้งเตือนหนึ่งที่ปรากฏเป็นกล่องข้อความรูปธงสีส้ม ซึ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามาจากเพจคิวท์บอยที่ผมกำลังดูแลอยู่
‘แอดมินคะ อยากให้ลงรูปพี่อาร์ควิศวะบ้าง ไม่เห็นลงเลย หล่อฮอตที่สุดในสามโลก’ จากนั้นน้องนางก็ส่งรูปมาให้ผมดู
แว้บแรกหัวใจผมเต้นกระหน่ำราวกับรัวกลองชุดพร้อมวงดนตรีสายร็อค
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนี้ มือผมสั่น ร่างกายเริ่มขยับตัวอย่างยากลำบาก
แบตเตอรี่อ่อน ไอ้หรรมเอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ตอนช่วงสำคัญดันจะมาง่อยซะงั้น
ผมจึงหันไปหยิบสายชาร์จในกระเป๋าออกมาเสียบ กว่าจะตั้งสติกลับมาได้ ผู้หญิงรูปโปรไฟล์สุดน่ารักก็หายไปซะแล้ว ทิ้งไว้แค่รูปและประวัติเล็กน้อย ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องไปหาว่าไอ้อาร์คคือใคร
ผมกวาดสายตาเลื่อนอ่านไปทีละบรรทัด ไอ้คนนี้แปลก
ชื่ออาร์ค ชื่อจริงคืออนล แม่งงงงงงงงงง ชื่อเดียวกับผมเลยเว้ย เพียงแต่สะกดกันคนละตัว ของผม ณ.เณร ส่วนไอ้คนนี้เป็น ล.ลิง เรียนอยู่วิศวกรรมศาสตร์ เอกโยธาปีสาม
ส่วนรูปที่คนน่ารักแนบมานั้น...
ทำเอาผมนิ่งไปชั่วครู่ เลื่อนเมาส์ขึ้นลงอ่านข้อความใหม่แล้วจึงกลับมาดูรูปอีกรอบ ทำแบบนี้ซ้ำๆ โดยไม่เข้าใจตัวเอง เพียงแต่ภาพของไอ้อาร์คปีสามมันทำให้ผมมือเย็น นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในสตาร์บัคส์นับสิบนาที
คนห่าอะไรวะ โคตรของโคตรหล่อเลย มหา’ลัยผมคนหน้าตาดีเยอะครับ แต่ก็ไม่เคยเห็นใครเป็นเหมือนมัน เวลาหลายวันที่ใช้ไปกับเพจคิวท์บอยเพื่อศึกษาคนดังคนฮอต ก็ไม่ยักจะมีคนคนนี้อยู่ในรายชื่อหนุ่มที่สาวๆ เรียกร้องเลย มันทำให้ผมแปลกใจว่าทำไมถึงหลุดรอดสายตาของเจ๊ญี่ปุ่นไปได้
แต่เอาวะ หน้าที่ของผมคือการโปรโมตไอ้หล่อนี่ให้ชาวมอได้รับรู้
และมันก็ควรขอบใจผม ที่แม่งเสือกเป็นคนแรกให้กูประเดิมเลย
Engineer Cute Boyแมนๆ เตะบอลกัน
อาร์ค วิศวะโยธาปีสาม #นักบอลหล่อบอกต่อด้วย // แอดมิน อ.อ่างรูปที่น้องคนนั้นฝากมาเป็นรูปที่มันใส่เสื้ออินเตอร์มิลานนั่งอยู่ข้างสนาม โดยมีมือดีถ่ายให้ราวกับนายแบบแค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรมากครับ แต่ที่มากคือ…
ตึ่ง!!
‘พี่อาร์คคคคคคคคคคค ฮือหล่อค่ะ ฮือ...’ เร็วมากกกกกกกกกกกกก แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นตัวแทนคนแรกก็โผล่มาแล้ว แถมไลค์ปาไปเกือบ 40 เฮ้ย! ไม่กี่วิเองนะเว้ย อะไรมันจะฮอตเหี้ยขนาดนี้ครับ ใจไม่ดี ใจสั่น เฟซบุ๊กไม่เคยขึ้นเตือนถี่ขนาดนี้มาก่อน ชีวิตกูเปลี่ยนไปพร้อมกับข้อสงสัยที่ว่า...ทุกคนก็รู้จักมันนี่หว่า แล้วทำไมถึงไม่มีรูปโผล่ในเพจเลยวะ
‘โคตรหล่อเลยค่ะ มาเป็นพ่อของลูกได้มั้ย’
‘ปลื้มมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังปลื้มต่อไป’
‘อยากเป็นลูกบอลให้พี่เตะ’
‘ขอไอจีพี่อาร์คหน่อยค่ะ พี่เขาปิดเฟสไม่รับเพื่อนเลย ใครมีช่วยบอกต่อด้วยนะ’
‘IG : Ask_anol ไปส่องความหล่อสัดของพี่เขาซะ แต่ปัญหาคือจะได้ส่องมั้ยแค่นั้น’ด้วยความอยากเสือกเต็มรูปแบบ ผมเลยกดมือถือเข้าไปดูไอจีชื่อดังกล่าวอย่างไวว่อง ปกติผมไม่เคยเป็นขนาดนี้นะ ขนาดไอ้พี่เจตที่บอกว่าเป็นเดือนมหา’ลัยปีสี่ ผมก็แค่ตะลึงป่ะวะ แต่กับไอ้อาร์คนี่แปลกมากที่ปลุกความเสือกในตัวกูออกมาจนหมดสิ้น
โอ้แม่ครับ ไอ้นี่มันเศษเล็บจริงๆ ด้วย
คนติดตามในไอจี 220 คนพอดีเป๊ะ น้อยกว่าผมเยอะมาก แต่ไปๆ มาๆ ถึงได้เข้าใจว่ามันตั้งค่าไพรเวทเอาไว้ จะเปิดให้ฟอลโลว์ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตเท่านั้น ผมเลยลองเสี่ยงกดขอติดตามดู แม้รู้ดีว่ามันแม่งคงไม่มีทางรับแน่นอน
ตึ่ง!!
เสียงเหมือนข้อความเข้า ผมหยุดเลื่อนมือถือกลับมายังหน้าไทม์ไลน์อีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ผู้หญิงคนไหนที่ส่งอินบ็อกเข้ามาทางเพจ แต่เป็น...
Anol Paraminphisanลบรูปผมในเพจหน่อยครับ ผมไม่ได้อนุญาตให้ลง
หน้าชาตั้งแต่หน้าผากลามลงมาจนถึงปลายคาง ถึงกับมือสั่นเมื่อเจ้าของแจ้งมาบอกให้ลบรูป โดยปกติแล้วในเพจสาธารณะ ใครแชร์รูปหรือลงรูปโชว์ความหล่อ ถ้าไม่ดีใจก็ควรปล่อยผ่านหรือเปล่าวะ แล้วนี่อะไร ทำเหมือนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
Engineer Cute Boy
ทำไมถึงไม่อนุญาตครับ
ผมแค่ลงรูปเอง ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย
ผมไม่รู้ว่าถ้าเป็นพี่ญี่ปุ่นจะตอบกลับไปว่ายังไง หรือลบรูปทันที แต่ผมเลือกที่จะถามเหตุผลไอ้รุ่นพี่คนนี้ซะก่อน ไม่รู้จะหวงอะไรกันนักหนา คนอื่นก็ไม่เห็นมีใครด่า มีแต่คนชมเบ้าหน้าว่าหล่อเหี้ยๆ เท่านั้น
คือทนอ่านคำว่าเหี้ยในคอมเมนต์ไม่ได้เหรอวะ
Anol Paraminphisan แอดมินเป็นผู้ชาย?
ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องเข้าใจสิว่าผมต้องการความเป็นส่วนตัว
ไม่อยากให้ใครเผยแพร่รูปของผม หรือวิพากษ์วิจารณ์ทั้งนั้น
Engineer Cute Boy
โอเค ผมจะลบ
Anol Paraminphisan เดี๋ยวนี้!
Engineer Cute Boy
ก็ผมบอกจะลบไง ทำไมคุณเอาแต่เร่งแบบนี้วะ
น็อตหลุดเลยกู คำตอบห้วนๆ ของไอ้คนนี้มันทำให้ผมอารมณ์ขึ้น จากที่จะลบดีๆ กลายเป็นหงุดหงิดไม่อยากลบเพื่อแกล้งมันซะอย่างนั้น
Anol Paraminphisan ถ้าอย่างนั้นรีบเลย ผมจะรอดู ก่อนที่ยอดแชร์จะมากกว่านี้
Engineer Cute Boy
โอเคๆ
แต่ด้วยความที่อินบ็อกส่วนตัวแทรกขึ้นมาเสียก่อน ผมเลยหันไปให้ความสนใจกับคนมาใหม่ ซึ่งก็คือพี่ญี่ปุ่นที่หันมาโวยวายว่าผมไม่ควรเอารูปไอ้อาร์ควิศวะปีสามมาลง เพราะเป็นข้อยกเว้น
ทีนี้ยาวเลยครับ พิมพ์แก้ต่างกับพี่รหัส แคะขี้มูก แดกขี้เล็บ ปล่อยให้แจ้งเตือนอินบ็อกแฟนเพจเด้งขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ไม่คิดกดอ่าน จนกระทั่งเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยหมด ถึงได้เปิดเพจเข้าไปลบภาพดังกล่าว ซึ่งมียอดไลค์ไปแล้วเกือบเจ็ดพัน หนึ่งร้อยกว่าคอมเมนต์ และอีก 42 การแชร์
จากนั้นก็ตั้งใจกดอินบ็อกเข้าไปเพื่อบอกว่าลบรูปเรียบร้อยแล้ว แต่ข้อความที่ปรากฏในม่านสายตาทำให้ผมนิ่งค้างแบบนั้นนับนาที ความโกรธพลันแล่นไปทั่วเส้นประสาท และสาบานได้ว่าผมจะเกลียดไอ้รุ่นพี่คนนี้ไปจนตายเลย
Anol Paraminphisan คุณลบหรือยัง
คุณจะไม่ลบใช่มั้ย
ตอบด้วย
ผมให้เวลาอีก 2 นาทีถ้าคุณยังไม่ลบ
เฮ้ย!
*รูปชูนิ้วกลาง*
*รูปชูนิ้วกลาง*
*รูปชูนิ้วกลาง*
*รูปชูนิ้วกลาง*
เล่นเอากูเมาฟวยกันเลยทีเดียว
ถ้ามึงจะอารมณ์ร้อนขนาดนี้กูลบให้ก็ได้โว้ย นึกว่าหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ เออ! มึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้
Deleteอ่านต่อด้านล่างค่ะ