[ เ รี ย ล อั ล ฟ า ] #รอฟ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ เ รี ย ล อั ล ฟ า ] #รอฟ  (อ่าน 691150 ครั้ง)

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #930 เมื่อ09-07-2018 17:27:56 »

โอ้ยยย หรือว่าแพงกับนทีจะไม่ใช่คู่กัน :fire:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #931 เมื่อ09-07-2018 18:58:18 »

หลังจบโมเม้นท์งามๆของพี่น้องเราต้องมาต่อกันที่ ICU สินะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #932 เมื่อ09-07-2018 19:23:41 »

แล้วกัน

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #933 เมื่อ09-07-2018 19:39:59 »

สามีนอนไป... ปล่อย ให้ เป็น หน้าที่ ของ... เมีย... เมีย... เค้าเคลียร์ไป

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #934 เมื่อ09-07-2018 20:34:00 »

เละอีกแล้ว คราวนี้ทั้งพี่ทั้งน้อง  :เฮ้อ:   

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #935 เมื่อ09-07-2018 22:30:45 »

พี่น้องก็คือพี่น้อง ช่วยกันสุดจิตสุดใจ ดีที่ไปช่วยกันทัน
ครอบครัวนี้อันตรายมาก อย่าเข้าใกล้ดีไหม แพงเป็รคนสั่งเหรอ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #936 เมื่อ10-07-2018 00:37:39 »

รบจะทำอะไรน้อ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #937 เมื่อ10-07-2018 04:42:03 »

รบเดือดขนาดนี้ ต้องตายกันไปข้างอะบอกเลย
นริศจบแน่ๆ ส่วนแพงจะรู้เรื่องยัง
แล้วใครเป็นคนพาส่งรพ.?

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #938 เมื่อ10-07-2018 08:59:47 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ซวยแน่ไอ่นริศ  เอ็งไปทำร้ายนทีคนที่เจ้านายแพงแอบชอบอยู่ หุหุ

เผลอ ๆ อาจโดนนุ้งรบเมียแอลฟ่าจัดการ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #939 เมื่อ10-07-2018 09:51:13 »

รบจะจัดการเรื่องนี้ยังไงเนี่ย แล้วแพงรู้เรื่องที่นริศมาจัดการพี่นทีรึป่าว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
« ตอบ #939 เมื่อ: 10-07-2018 09:51:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #940 เมื่อ10-07-2018 11:21:17 »

เดาๆนะว่าแพงไม่น่าจะรู้เรื่องที่เรียกพี่นทีมารุมยำ อิตาเลขาน่าจะจัดการเอง เล่นซะอ่วมเลย แล้วใครพาส่ง รพ.? รบจัดการคนทำดิ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #941 เมื่อ10-07-2018 16:50:40 »

พอกันทั้งพี่ทั้งน้องเลย


ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #942 เมื่อ10-07-2018 17:26:05 »

โอ๊ยยยยยย ขอให้ปลอดภัยทั้งคู่เลยตอนนี้
ส่วนเรื่อวล้างแค้นค่อยไปคิดบัญชีกันทีหลัง ><

ออฟไลน์ Mazaaki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #943 เมื่อ10-07-2018 23:12:56 »

 :katai1:ขอให้ทั้งสองคนไม่เป็นอะไรมากเลยนะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #944 เมื่อ10-07-2018 23:25:57 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maminmeaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #945 เมื่อ12-07-2018 02:39:07 »

งานนี้รบต้องจัดการให้ราบคาบได้แน่นอน ชัวร์!!!! มั่นใจอย่างมากเลย แอลฟาก็แอลฟาเถอะ เจอเมียของแอลฟาเข้าให้ ตาย.....

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #946 เมื่อ12-07-2018 05:55:35 »

ตามทันแระ

รอตอนต่อๆไปนะครับ

ออฟไลน์ thanyabhorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #947 เมื่อ13-07-2018 01:03:56 »

น่ารักมากเลยค่ะ พึ่งได้มาอ่านตอนนี้เอง เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ เขียนนิยายน่ารักไแบบนี้ออกมาเยอะๆนะคะ จะคอยตามค่ะ   :mew1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #948 เมื่อ14-07-2018 10:47:03 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #949 เมื่อ15-07-2018 00:42:35 »

หรือพี่นทีจะได้กับแพงคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
« ตอบ #949 เมื่อ: 15-07-2018 00:42:35 »





ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #950 เมื่อ15-07-2018 01:01:38 »

ตอนนี้คือดีมากกกกกก ทั้งตลก ทั้งโรแมนติก5555555555 ธนูรบจากที่เคยถูกแอบดู ตอนนี้มาแอบดูลูกน้องวนสถานที่เก่าๆของตัวเอง น่ารักกกกก ไหนจะก้องการ์ด กีสสส คุ่นี่คือน่ารีกอ่ะ ฮือออ ก้องคือดีเด้อ การ์ดก็น่ารักกก ดีต่อใจจ

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #951 เมื่อ15-07-2018 01:09:35 »

โอ้ย ตระกูลแพงพีมนี่มันยังไงกัน!!!

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #952 เมื่อ16-07-2018 03:39:00 »










Ep. 24




[การ์ด]

ตอนนี้ผมกับคนอื่นๆ กำลังอยู่หน้าห้อง ICU ที่ที่พี่นทีกับไอ้ธนูกำลังเข้ารับการรักษา

ผมไม่เคยเห็นรบตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ขนาดนี้มาก่อน มันแย่กว่าทุกๆ ครั้งที่ผมเคยประสบพบเจอ มันไม่โวยวายหรือโอดครวญสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เอาแต่นั่งเงียบๆ อยู่ในมุม ปล่อยให้ผมกับคนอื่นๆ หงุดหงิดหัวร้อนที่เกิดเรื่องแบบนี้กับท่านหัวหน้าของเรา

เราทุกคนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่…หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง หรือว่าสามชั่วโมง เราได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบนั้นเรื่อยๆ เหมือนคนไร้วิญญาณ...ต้องการแค่ข่าวดีจากปากของหมอว่าพี่นทีกับธนูปลอดภัย
   
ระหว่างที่ก้องมันกำลังจับมือผมและก็บีบนิ้วมือของผมอยู่…คนในชุดสูทกลุ่มหนึ่งก็โผล่มา

ผมจำได้แทบจะในทันทีว่าคนพวกพวกนั้นเป็นคนของพี่นที

ยังไม่ทราบข่าวเหรอครับ” คนที่เป็นหัวหน้าถามพวกผม เราทุกคนส่ายหน้าเบาๆ เป็นคำตอบ “ผม…ผม…ไม่รู้จะทำยังไง”

“ฝีมือใคร” รบเป็นคนส่งเสียงออกมาในระหว่างที่ทุกคนกำลังเงียบ

“คนของคุณแพงครับ…ชื่อว่านริศ”

“…”

“มันมีปัญหากับคุณนทีเพราะคุณนทีมีอะไรกันกับคุณแพง…นริศเกิดความหึงหวงจึงได้หลอกล่อให้นายออกมาคนเดียวแล้วก็จัดการรุมกระทืบ”

“ไอ้คุณแพงนี่…เป็นพี่ชายของไอ้พีม คนที่มีปัญหากับไอ้นทีใช่มั้ย”

“ครับ”

“…”

“คุณธนูบุกไปช่วยคุณนทีคนเดียว…มันก็เลยเป็น…อย่างที่เห็น”

คนของพี่นทีคนนี้ก็ดูสะเทือนอกสะเทือนใจพอๆ กันกับเราทุกคน…ผมหันไปมองไอ้รบ เห็นมันกำลังคิดอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าที่นิ่งเกินกว่าที่ผมจะเข้าไปกวนได้

แม่งน่ากลัว…ยังไงก็ไม่รู้

จริงๆ นะครับ…ไอ้รบแม่งน่ากลัวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“เล่าเรื่องไอ้แพงให้ผมฟังหน่อย”

คนของพี่นทีมีไหวพริบมากพอที่จะรู้ว่ารบเป็นคนสำคัญ…เขาจึงเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับไอ้คุณแพงให้รบฟัง เราทุกคนนั่งฟังกันอย่างเงียบๆ ระหว่างที่รอให้หมอออกมาจากห้อง







พี่นทีพ้นขีดอันตรายแล้ว

ธนูยังมีอาการน่าเป็นห่วงและไม่มีวี่แววว่าจะฟื้น…คุณสุชาติเล่าว่าอาจเป็นเพราะธนูเป็นเป้าหมายหนักกว่าพี่นที เพราะมาทีหลังอีกทั้งยังมีความเก่งกล้าสามารถซะจนต้องใช้คนหลายสิบคนเพื่อที่จะเอาตัวมันให้อยู่

ยิ่งมีคนเข้ามาสู้กับมันมาก มันก็ยิ่งต้องป้องกันตัวเอง กลายเป็นว่ามันบาดเจ็บมากกว่าคนที่มันเข้าไปช่วยซะอีก

คุณสุชาติเล่าให้ฟังว่าพ่อของทั้งสองคนทราบเรื่องแล้ว…กำลังบินกลับมาอย่างเร่งด่วนด้วยความโมโหอย่างรุนแรงเนื่องจากลูกชายทั้งสองได้รับบาดเจ็บพร้อมกันทั้งคู่

คิดว่าบ้านไอ้คุณแพงต้องเตรียมรับการกระแทกอย่างหนัก เพราะถ้าหากมันคิดว่านทีกับธนูโหดมากพอแล้ว…มันก็คงจะอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์เกินไป

พ่อของคนโหดสองคน…มันจะต้องเป็นอะไรที่โคตรโหด…ไม่ใช่หรือไง

รบฟังอาการของธนูอย่างนิ่งๆ จากนั้นก็หันมามองผม

“กูฝากมันด้วย”

หา…ทำไมต้องฝากไว้กับผม

เท้าของรบก้าวออกไปจากบริเวณหน้าห้อง ICU ผมกับเพื่อนๆ เริ่มมองตากัน ทุกคนได้กลิ่นตุๆ ว่ารบมันจะต้องทำอะไรบางอย่างที่ขาดสติ

“เวรแล้ว” โฮมพึมพำ รีบก้าวเท้าออกไปเพื่อตามไอ้รบให้ทัน “ไอ้ยุ ไอ้ก้อง เร็วๆ เข้า…”

มือของผมคว้าข้อมือไอ้ก้องก่อนที่มันจะเดินออกไปได้ไกล

“ดูแลรบด้วย” ผมรีบระล่ำระลักบอก “แล้วก็อย่าลืม…ดูแลตัวเอง”

ก้องใช้ริมฝีปากประกบริมฝีปากของผมด้วยความรวดเร็วจนผมถึงกับตกตะลึงงัน…ก่อนที่มันจะรีบเร่งก้าวเท้าให้ทันพวกที่นำไปก่อนหน้านี้แล้ว

“คุณสุชาติ” รบเรียกผู้ช่วยของพี่นทีด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “คุณมานำทางผม”

“หา”

แม้ว่าเขาจะดูงงๆ แต่เขาก็ตามไอ้รบไปอยู่ดี ตอนนี้ทุกคนทั้งงุนงงและก็สงสัยว่ารบจะทำอะไร แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เหมือนมันมีอำนาจสูงสุดในที่แห่งนี้ มันคิดจะสั่งอะไรมันก็ทำได้หมดทั้งนั้นนั่นแหละ…

ผมเห็นคุณสุชาติหันหน้ากลับมาหาลูกน้องตัวเอง ก่อนจะทำมือส่งสัญญาณให้คนพวกนั้นตามมา…โดยไม่ลืมที่จะทิ้งคนไว้เฝ้าหน้าห้อง ICU นี้ทั้งหมดทั้งสิ้นสี่คน

เชี่ย…

ผมคิดว่าผมเริ่มได้กลิ่นสงครามแล้วว่ะ









[ก้อง]

คำถามเกิดขึ้นในใจของพวกเรานั่นก็คือรบมันต้องการจะทำอะไรกันแน่

กลายเป็นว่ามีรถตามหลังรถเรามาถึงสี่คัน…โดยที่คุณสุชาติบอกว่าคนพวกนั้นคือคนของพี่นที ซึ่งการที่มีคนมาเยอะแบบนี้ย่อมหมายความว่าแม่งจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

เป็นแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน…ผมคันไม้คันมือตั้งแต่รู้ข่าวว่าธนูมันเจ็บหนักเพราะคนที่ชื่อว่าไอ้แพงแล้ว

ยังไงผมก็ไม่มีทางให้ฝ่ายเราโดนแค่ฝ่ายเดียวหรอก

“ฝากร้านด้วย” ผมได้ยินเสียงไอ้โฮมคุยโทรศัพท์กับพวกไอ้ชู้ต “ถ้าดูแลไม่ไหวก็ปิดร้านเร็วๆ ไปเลย…หืม ไม่ต้องหรอก พวกกูจัดการได้ ได้…ไม่ต้องบอกก็รู้ ถ้าพวกกูไม่ดูแลไอ้รบไอ้ธนูมันเอาพวกกูตายแน่ๆ เออ แค่นี้แหละ”

รบเป็นคนขับรถ…มันนิ่งมากซะจนคุณสุชาติที่นั่งอยู่ข้างๆ ยังต้องทำหน้าขยาด

ผมนั่งนิ่งๆ รวบรวมสมาธิอยู่นาน…ถึงแม้จะได้จูบไอ้การ์ดแล้ว แต่มันก็เป็นจูบที่อยู่ในหน้าสิ่วหน้าขวาน ใจผมนึกอยากจะจูบมันนานกว่านี้ก่อนออกมาด้วยซ้ำ แต่ก็นะ…เมียท่านผู้นำมันรีบ ผมจะทำอะไรได้อีกนอกจากต้องตามมาเป็นมือเป็นตีนให้มันอีกทีหนึ่ง

สถานที่ที่รบพาทุกคนมาคือร้านที่เป็นร้านเด่นของที่บ้านไอ้คุณแพง พอมันจอดรถได้มันก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงหรือสั่งการอะไรทั้งสิ้น…

แม่งเดินบุกเข้าไปในร้านนั้นคนเดียว…เฉยเลย

นึกว่ามีแต่ธนูที่มีนิสัยบ้าระห่ำชอบบุกเดี่ยว…เมียมันก็ไม่ต่างอะไรจากมันเลยแม้แต่นิดเดียว

ลำบากพวกผมสามคนที่จะต้องรีบก้าวเท้าให้ทันมัน…ไอ้ยุกับไอ้โฮมมีสมาธิเกินกว่าที่จะคุยอะไรกับคนอื่น ผมจึงหันไปหาคุณสุชาติ จากนั้นก็ส่งสัญญาณบอกให้มาเฟียรุ่นใหญ่พวกนี้เตรียมตัว

ไอ้รบโกรธจนเลือดขึ้นหน้าแบบนี้…วินาทีต่อจากนี้ไปมันก็จะมีแต่สงครามเกิดขึ้นเท่านั้นนั่นแหละ

ผมมาทันตอนที่รบมันทำคนในร้านแตกตื่นเพราะมันพาคนน่ากลัวมากับมันตั้งเยอะ เวลานี้เป็นเวลาห้าทุ่มครึ่ง ผู้คนกำลังสนุกสนานและก็กำลังเมามาย…

คนของไอ้คุณแพงเริ่มทำท่าจะเข้ามาใกล้ตัวไอ้รบ…ไอ้ยุกับไอ้โฮมรีบเดินเข้าไปขวางอย่างรู้หน้าที่

แม่งปฏิบัติกับไอ้รบไม่ต่างอะไรจากไอ้ธนูเลยสักนิด

“คนไหนคือไอ้พีม” รบเอียงใบหน้าไปถามคุณสุชาติ เขาใช้เวลามองหาแป๊บเดียวก็เจอตัว

“อยู่ตรงนั้นครับ”

มันทำท่าจะพุ่งตรงไปหาไอ้พีมที่เต้นอยู่กลางฟลอร์ทันที แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น…คุณสุชาติเล่าให้เราทุกคนฟังแล้วว่าไอ้คุณแพงมันหวงน้องมาก การ์ดที่คุ้มครองไอ้พีมอยู่มีมากกว่าสิบ ซึ่งพวกมันกำลังกรูกันเข้ามาหาไอ้รบเพราะรู้ว่ารบมันไมได้คิดดีกับไอ้พีมแน่ๆ

หลังจากนั้น…ภาพที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นก็พลันเกิดขึ้น

รบแม่งอย่างกับหมาบ้า

มันจัดการล้มคนทุกคนที่เข้ามาใกล้มันซะจนคนที่เก่งเรื่องใช้กำลังอย่างผมยังต้องอึ้ง ไอ้ยุกับไอ้โฮมก็มีสภาพไม่ต่าง ทุกคนอ้าปากค้างเติ่งมองดูไอ้รบจัดการคนจนล้มลงไปกองทีละคนๆ

ลบภาพแฟนหนุ่มของไอ้ธนูที่มีนิสัยน่ารักน่าเข้าใกล้ไปจนหมด…

พอเห็นรบเป็นแบบนั้นผมก็คึกบ้าง…คนของพี่นทีเองก็รู้สึกไม่แตกต่าง ทุกคนจัดการคนที่เข้ามาจัดการพวกเรา แต่พี่พวกนั้นจะพิเศษกว่าหน่อยก็คือ…พวกเขาจัดการกับร้านของบ้านนี้ด้วยอย่างไม่คิดจะไว้หน้า

พวกนักเที่ยวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เริ่มส่งเสียงกรี๊ด เฮละโลกันหนีเอาตัวรอด…ทุกอย่างในร้านมีแต่เสียงแก้วแตก เสียงร่างกายกระทบกับข้างของต่างๆ เสียงกำปั้นชกเข้าไปที่ใบหน้า และก็มีเสียงลูกเตะที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมก้มหัวให้กันและกันโดยง่าย

ในที่สุด…รบที่นิ่งเหมือนมีวิญญาณผีโหดเข้าสิงก็ถึงตัวไอ้พีม

เจ้าเด็กนั่นตัวเล็กเท่ากุ้งแห้ง ช่างแปรผกผันกับความแสบทั้งหลายแหล่ที่ผมเคยได้ยินมา

ผมนึกว่ารบจะจัดการจับตัวไอ้พีมเฉยๆ แต่เปล่าเลยครับ…วิญญาณผีโหดที่เข้าสิงรบไม่ได้จิตใจดีมีเมตตาขนาดนั้น

มันกระทืบไอ้พีมซะจนพวกลูกน้องของไอ้คุณแพงที่โดนสั่งมาให้ดูแลไอ้พีมถึงกับต้องหลั่งน้ำตา

ไม่มียั้งมือยั้งเท้าอะไรทั้งสิ้น

ไอ้เหี้ย…น่ากลัวเป็นบ้า

ยุกับโฮมกระพริบตาปริบๆ มองดูภาพนั้นก่อนจะหันมามองผม…พวกมันก็คงคิดเหมือนกันว่าไม่คิดว่ารบจะโหดและก็บ้าคลั่งขนาดนี้
เสียใจด้วยนะเว้ยไอ้พีม…

ถ้ามึงกับพี่มึงไม่มายุ่งกับแฟนและก็พี่ชายของแฟนไอ้รบก่อน…มึงคงไม่เละเทะแบบนี้

ใครใช้ให้มึงไปยุ่งกับของรักของหวงของเขากันว้า…








[โฮม]


ไอ้รบน่ากลัวมากกกก

ฉากที่มันจัดการคนในร้านรวมไปถึงจัดการไอ้พีม…ก็ยังไม่น่ากลัวเท่าตอนที่มันลากคอไอ้พีมที่เลือดไหลเต็มหน้าไปยังส่วนออฟฟิศของที่นี่ มันไม่ยอมพูดอะไรเลย เอาแต่ทำในสิ่งที่มันคิดไว้ด้วยตัวเองนิ่งๆ

ผมกับเพื่อนอีกสองคนมีหน้าที่เดินตามมัน คอยจัดการไอ้พวกที่เข้ามาขวาง ส่วนพี่ๆ ลูกน้องของพี่นที…คนเหล่านั้นมีหน้าที่จัดการพังทุกอย่างที่ขวางหน้า…พังชนิดที่ว่าไม่สนใจว่าเรื่องนี้จะเกิดผลกระทบตามมามากมายขนาดไหน

ผมเพิ่งเห็นว่าไอ้รบเองก็มีเลือดไหลไปทั้งตัว…แต่มันก็ไม่แสดงออกว่าตัวเองเจ็บเลยสักนิด ซึ่งนั่นทำให้ผมกับเพื่อนใจสั่นมาก…ไอ้ธนูมาเห็นภาพนี้มันจะว่ายังไงกันนะ จะด่ารบหรือจะฆ่าพวกผมก่อน

ผมว่าพวกมันต้องฆ่าพวกผมก่อนว่ะ

ดูก็รู้ว่ามันไม่ชอบให้รบมายุ่งเกี่ยวกับความรุนแรงทั้งหมดทั้งมวล…แต่มันไม่รู้หรอกว่าตอนนี้รบได้แสดงออกให้พวกผมเห็นแล้วว่ามันเองก็โหด…โหดฉิบหายอย่างกับยืมพลังไอ้ธนูมา ดีไม่ดีอาจจะไปยืมพลังของพี่นทีมาด้วย

น่ากลัว น่าหวั่นเกรงไปหมด

ผมกับเพื่อนถึงกับคอหดทุกครั้งที่มันตวัดสายตาหันกลับมามอง…

ตอนนี้ก็เช่นกัน…

“คนไหนชื่อแพง” มันถามพวกผม

ฉิบหาย…ถ้าตอบว่าไม่รู้มันจะพุ่งเข้ามาฆ่าผมมั้ย

รบกำลังทำให้พวกที่อยู่ในส่วนออฟฟิศตกอกตกใจ ฉากหลังของมันกับพวกผมยังคงเป็นการต่อสู้กันระหว่างคนของพี่นทีกับคนของไอ้คุณแพงอะไรนั่น…ไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ เลยสักนิด

“มึงไปเรียกพี่มึงมา” รบโยนพีมลงไปกับพื้นอย่างไม่คิดจะมีเมตตาอะไรทั้งสิ้น

โอย…คิดถึงธนูขึ้นมาเลยว่ะ

บางทีเมียมึงน่ากลัวกว่ามึงอีก…โธ่เว้ยยยย

“เกิด…เกิดอะไรขึ้น” ผมได้ยินเสียงคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คนนี้น่าจะเป็นคนที่ชื่อว่าแพง ดูจากการแต่งตัวและก็ดูจากคนที่ตามมันมาอีกหลายสิบ ดูก็รู้ว่าพี่คนนี้แม่งเป็นผู้นำของที่นี่

ทำไมเพิ่งมาถึง…นี่เขาหายไปไหนมาน่ะ

“พีม!” คุณแพงร้องลั่นเมื่อเห็นสภาพน้องชายตัวเอง ตั้งท่าจะเดินเข้ามาใกล้…แต่ไอ้รบไปยืนขวางเอาไว้   

หนำซ้ำแม่งยังกระทืบน้องชายให้ไอ้คุณแพงได้ดูอีกทีเป็นขวัญตา

“เฮ้ย” คุณแพงเงื้อมหมัดเตรียมชกหน้ารบ…แต่รบกระทืบพีมซ้ำอีกครั้งจนเด็กนั่นไอออกมาเป็นเลือด ไอ้คุณแพงมันถึงได้หยุดชะงัก “มึงเป็นใคร…ต้องการอะไร”

“ไม่รู้จริงๆ เหรอว่ากูเป็นใคร”

“…”

“นึกหน้าดูดีๆ สิ”

ถ้าไอ้คุณแพงมันใส่ใจเรื่องน้องชาย มันก็คงรู้ว่าน้องชายมันเคยกลั่นแกล้งน้องของพี่นทีกับแฟนของคนคนนั้นอยู่…ซึ่งผมเชื่อว่ายังไงคนคนนี้แม่งก็ต้องใส่ใจ เพราะถ้าไม่รู้ว่าน้องกำลังเล่นอยู่กับอะไรอยู่ คงไม่ส่งการ์ดมาดูแลน้องมากมายขนาดนี้หรอก

“แฟนน้องไอ้นทีเหรอ” คุณแพงตกใจจนหน้าซีดเผือด

“เออ” รบเหยียบไปที่อกพีม…ตอนนี้มันกำลังร้องไห้โยเยอย่างน่าสงสารจนไม่เหลือคราบน้องชายมาเฟียที่น่าเกรงขามอีกต่อไป

“ต้องการอะไร”

รบยังคงกระทืบเข้าไปที่อกของพีมอีกทีหนึ่ง…

โอย…กูรู้สึกเจ็บแทน

“มึง…อย่าทำน้องกู กูขอร้อง” เสียงของอีกฝ่ายสั่นมากเพราะเป็นห่วงคนที่อยู่ใต้เท้าของไอ้รบ

“พวกมึงมาทำคนของพวกกูก่อน” รบตวัดสายตามองดูไอ้คุณแพง “นทีกับแฟนกูต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะคนของมึง…มึงจะให้กูอยู่เฉยๆ เหรอ”

“ว่าไงนะ” ไอ้คุณแพงมองไปทางคนของตัวเองซึ่งก้มหน้าก้มตา “ใครสั่งให้ไปจัดการพวกไอ้นที กูไม่ได้สั่ง!”

เท้าของเขาถีบเข้าที่อกของลูกน้องอย่างจังจนลูกน้องคนนั้นต้องระล่ำระลักบอก

“คุณนริศสั่งครับคุณแพง…”

“หา”

“คุณนริศพาคนเกือบสามสิบคนไปจัดการคุณนที…และก็น้องชายของเขา คนที่เข้ามาช่วยพี่ชายทีหลัง”

“แม่ง…” ถ้าไอ้คุณแพงอ่อนแอกว่านี้สักนิด…ผมคิดว่าเขาคงตกใจจนเข่าทรุดลงไปกับพื้นแล้วล่ะ

“พี่แพง…พี่แพงช่วยผมด้วย” ไอ้พีมส่งเสียง

“มึงหุบปาก” รบใช้เท้ายันไม่ให้พีมลุกขึ้นมาจากพื้นได้

“เอ่อ…มึง…คือ…” ผมเพิ่งเห็นว่าตอนนี้ไอ้คุณแพงมันกำลังจนตรอก “มึงต้องการอะไรวะ”

“แก้แค้น”

“ตอนนี้ทุกอย่างพังไปหมดแล้ว…มึงพอแล้วได้มั้ย”

“ไม่”

“โอ๊ย!” ไอ้พีมร้องลั่นเพราะรบออกแรงกระทืบมันอีกรอบ ไอ้ยุที่อยู่ข้างๆ ผมถึงกับจะยกมือขึ้นมาบอกให้รบพอเลยทีเดียว

“พีม…” ไอ้คุณแพงตอนนี้แทบจะกราบอ้อนวอนไอ้รบอยู่แล้ว “สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของกู กูดูแลน้องและก็ลูกน้องไม่ดี…”

“พี่แพง พี่ครับ…ไอ้หมาบ้านี่มันจะฆ่าผมแล้ว”

“กูไม่ได้บอกให้มึงพูด” รบเตะร่างของไอ้พีมให้พลิกไปอีกทางหนึ่ง

ผมเอื้อมมือไปจับแขนไอ้ก้องเอาไว้…เพราะตอนนี้ผมกลัวไอ้รบมาก…กลัวฉิบหาย

“มึงดูผลงานของกูและก็คนของ…พวกกู” รบเริ่มพูดแล้วมองไปรอบๆ มันคงจะกระดากปากถ้ามันเหมารวมว่าคนที่กำลังสู้อยู่พวกนี้คือคนของมัน…เพราะมันไม่ใช่เลยสักนิด

มันเป็นแค่แฟน…แฟนของน้องชายนายของคนพวกนี้เท่านั้น

“รู้แล้วใช่มั้ยว่าถ้ายุ่งกับคนของพวกกูอีกจะเป็นยังไง”

“…”

“มึงยังไม่รู้เหรอ” ไอ้รบหันไปหาพีม…จับตัวมันให้ยืนขึ้นแล้วก็ถีบมันซ้ำจนตัวของมันเด้งไปถึงตัวพี่ชาย

“เป็นไงบ้าง” ไอ้คุณแพงรีบถามสวัสดิภาพน้องชายตัวเองทันที

“มันบ้า…มันจะฆ่าผม” ใบหน้าของไอ้พีมเต็มไปด้วยเลือดและก็น้ำตา “พี่ทำอะไร…พี่สั่งให้คนของพี่ทำอะไร ทำไมผมต้องมาโดนอะไรแบบนี้”

“คือพี่…”

“คุณสุชาติ” ไอ้รบร้องเรียกคุณสุชาติที่กำลังบู๊อยู่ “ตรงนี้ยังไม่พังเลยครับ”

“ได้ครับคุณรบ!” คุณสุชาติรับคำไอ้รบอย่างแข็งขัน…ไอ้คุณแพงมองตามก่อนจะยกมือห้าม

“พอแล้ว…ขอร้อง พอเถอะ”

“พวกมึงเริ่มก่อน” รบกัดฟันพูด

“กูไม่ได้สั่งคนของกู”

“นั่นมันเป็นปัญหาของมึง!” รบตะคอก “คนของกูเจ็บเจียนตายยังไม่รู้สึกตัวตั้งสองคน…หนึ่งในนั้นมีคนสำคัญ…” มันเริ่มหายใจหอบอย่างน่าเป็นห่วง ไอ้ก้องต้องไปจับตัวของมันเอาไว้เพื่อให้มันยืนได้ไหว 

“…”

“คนที่สำคัญเท่าชีวิต”

“กูจะรีบจัดการรับผิดชอบทุกอย่าง”

“มึงต้องสาบานว่ามึงจะไม่ยุ่งกับพวกกู”

“กู…สาบาน”

“ไม่ได้ยิน!” รบพุ่งตัวเข้าไปถีบไอ้พีมที่ส่งเสียงร้องโอดโอย “พูดใหม่”

“กูสาบานว่าบ้านการันต์วิสุทธิ์ของกูจะไม่ยุ่งกับพวกบ้านสุนทรสุทธิรักษ์อีก”

“ได้ยินใช่มั้ยครับ” รบหันไปหาคุณสุชาติ

“ครับ…อัดเสียงไว้แล้วด้วย” คุณสุชาติตอนนี้ทำตัวอย่างกับเป็นมือขวาของไอ้รบ

“ดี” รบนั่งยองๆ ลงเพื่อที่จะได้อยู่ในระดับเดียวกันกับไอ้พีม “มึงล่ะ…ไอ้ตัวดี”

ไอ้พีมกลัวไอ้รบซะจนต้องไปหลบหลังขาทั้งสองข้างของพี่ชาย…

“ไม่ยุ่ง…ไม่ยุ่งแล้ว”

“ทั้งคนน้องคนพี่นะ”

“รู้แล้ว…รู้แล้วครับ”

รบมองไอ้คุณแพงเป็นครั้งสุดท้าย…มันเดินลิ่วไปข้างหน้าโดยที่ไม่คิดจะเรียกพวกผมให้ตามไปด้วย พวกผมต้องรีบตามมันไปเองเพราะกลัวว่าจะมีใครเข้ามาทำร้ายร่างกายของมันอีก

“นี่แค่เมียสุนทรสุทธิรักษ์คนน้องเท่านั้นนะ…” ไอ้ก้องทิ้งคำขู่ไว้ให้กับคุณแพง “จำความน่ากลัวนี้เอาไว้”

คนที่โชคร้ายที่สุดของวันได้แต่ทอดถอนใจ…เขาหันไปสนใจดูแลความปลอดภัยของไอ้พีม แล้วก็รีบสั่งให้คนของเขาเลิกต่อสู้กับคนของเราเป็นที่เรียบร้อย

เราชนะศึกนี้ก็เพราะไอ้รบ…








“มันไปไหนวะ” ไอ้ก้องทึ้งหัวตัวเองเพราะหาตัวรบไม่เจอ ผมเองก็มีสภาพไม่ต่างจากมัน

“ฉิบหายแล้ว” ยุร้อง

“รีบหาเลย…นี่ดงตีน…ดงตีนของศัตรูชัดๆ” ผมโอดครวญ

ก่อนที่เราสามคนจะไปหาตัวไอ้รบไกลๆ ไอ้ก้องก็สะกิดให้เราทุกคนหยุด…เพราะเราเห็นแล้วว่ารบมันอยู่ไหน

มันกำลังร้องไห้…เอาใบหน้าของมันซุกกับเข่าตัวเองพร้อมกับพิงล้อรถด้วยสภาพน่าเวทนาเป็นที่สุด

ไม่เหลือคราบคนโหดที่เพิ่งถล่มรังของมาเฟียไปจนราบเมื่อตะกี้เลยสักนิด…ไม่เหลือเลยจริงๆ

ผมกับเพื่อนไม่กล้าแม้แต่ที่จะขยับตัว…

ราวกับว่าความเข้มแข็งที่มันเพิ่งแสดงออกไปทั้งหมดนั่นละลายหายไปกับตา เหลือเพียงแต่ความอ่อนแอที่มันเพียรพยายามจะหนีหลายต่อหลายชั่วโมง

...แต่ไม่ว่าจะยังไงมันก็หนีความอ่อนแอนั้นไม่พ้น

“มันจะฟื้นใช่มั้ย” รบหันมาถามเราสามคนทั้งน้ำตา “ธนู…มันจะฟื้นใช่มั้ย”

ไม่มีใครกล้าให้การยืนยันเรื่องนี้กับมันแม้แต่คนเดียว…

ผมรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างรุนแรง และผมก็เชื่ออย่างสุดใจว่า…เพื่อนคนอื่นๆ ก็คงรู้สึกไม่แตกต่างกันกับผม











[ก้อง]


02.14 น.

เราทุกคนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ยุกับโฮมต้องหว่านล้อมไอ้รบสารพัดเพื่อให้มันยอมไปทำแผล ส่วนผมรีบมายังหน้าห้อง ICU ทันทีที่มาถึง

การ์ดอ้าปากค้างเติ่ง...มันนั่งอยู่คนเดียวโดยที่มีคนของพี่นทียืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“ทำไม...เละ” มันมองสภาพผมพร้อมกับทำสีหน้าเป็นห่วง

“รบมันโหดมาก...อาจเป็นเพราะมันโกรธ” ผมเล่าให้ฟัง “มันทำทุกอย่างเพื่อที่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราอีก”

“ปลอดภัยทุกคนใช่มั้ยวะ”

“ใช่”

“...”

“ตอนนี้ไปทำแผลกันอยู่”

“มึงก็ต้องไปทำแผล” การ์ดร้องเสียงดังลั่น

“เดี๋ยวค่อยไป” ผมตอบ “มึงอยู่คนเดียว...บางทีมึงอาจจะ...”

การ์ดคว้าตัวผมไปกอดเอาไว้ทั้งตัว...ใบหน้าของมันที่ฝังอยู่กลางอกของผมกำลังมีน้ำตาอยู่

“กูเห็น...หมอวิ่งเข้าวิ่งออกหลายรอบ...”

“...”

“กูกลัว...กลัวว่าธนูมันจะ...”

“มันจะต้องไม่เป็นอะไร” ผมรีบปลอบมัน...แม้ว่าเสียงของตัวเองจะสั่นมากก็ตาม “มันจะต้องตื่นขึ้นมาดูแลแฟนของมันสิวะ”

“กูกลัวมากเลย” มือของไอ้การ์ดขยุ้มเสื้อของผมจนยับยู่ยี่

“ไม่เป็นไรนะ”

“...”

“กูอยู่ตรงนี้แล้ว”

การบาดเจ็บของธนูทำเอาหัวใจของพวกเราทุกคนรู้สึกเหมือนกำลังถูกลอบโจมตี...จนเกือบจะพังย่อยยับป่นปี้

พวกผมยังรู้สึกแย่ขนาดนี้...แล้วไอ้รบล่ะ...ตอนนี้มันจะรู้สึกแย่ขนาดไหน

แค่ผมจินตนาการถึงความรู้สึกของรบ...ผมเองก็เจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมซะจนผมต้องกอดการ์ดอย่างแนบแน่นมากยิ่งขึ้น

เมื่อไหร่เรื่องบ้าๆ นี่จะผ่านจะพ้นไปสักที...








To be continued

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #953 เมื่อ16-07-2018 03:56:10 »






Ep. 25






[รัน]


ฉันรักพี่ชายของฉันมากที่สุดในโลก

พี่ชายของฉันเป็นพี่ชายที่สุดแสนจะพิเศษ เขาเป็นเกย์ที่เท่มากสำหรับฉัน เขาชอบที่จะฟังฉันพูดจาเพ้อเจ้อไปเรื่อยโดยที่ไม่บ่น ทั้งๆ ที่เรื่องที่ฉันพูดนั้นมันออกจะไร้สาระมากมายเหลือเกิน

ฉันสนิทกับพี่ชายมากถึงแม้ว่าเราสองคนจะอายุห่างกัน อาจเป็นเพราะพี่รบชอบฟังสิ่งที่ฉันพูด ไม่เคยตัดสินฉันหรือเรื่องราวที่ฉันเล่าให้ฟัง...ถึงแม้ว่าจะมีบางครั้งที่เขาบ่นว่าเรื่องเราของฉันมันน่าเบื่อหรือว่าฉันเป็นเด็กที่เอาแต่ชอบคิดจินตนาการไปเรื่อย แต่ฉันรู้ดีว่าเขาแกล้ง พี่รบของฉันน่ะนิสัยดีจะตายไป

ตอนที่พี่ชายของฉันเปิดอกกับพ่อแม่ว่าเขาเป็นเกย์ ตอนนั้นฉันอายุเพียงแค่สิบเอ็ดขวบ ส่วนพี่รบอายุสิบเจ็ดสิบแปด ฉันไม่เข้าใจคำว่าเกย์ ไม่เข้าใจคำว่าเพศทางเลือกหรือความรักที่เกิดกับคนที่เป็นเพศเดียวกัน ฉันรับรู้ได้แค่ว่าพี่รบต้องทรมานเก็บงำสิ่งที่ตัวเองเป็นมานานตั้งแต่เด็กๆ พี่เขาต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากเพื่อที่จะบอกแดดดี้กับแม่ว่าพี่เขาเป็นเกย์ ไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆ

ฉันแอบเห็นว่าแดดดี้กับแม่แอบคุยกันแล้วก็ร้องไห้...พวกท่านบอกว่าสงสารพี่รบที่ต้องทนทุกข์กับการเก็บความลับมานานหลายปี
และฉันก็แอบเห็นว่าพี่รบเองก็ร้องไห้...พี่ชายของฉันแอบไปร้องไห้คนเดียวเพียงเพราะเขาคิดไปเองว่าเขานั้นทำให้แดดดี้กับแม่นั้นผิดหวัง

ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายฉันต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่พี่ชายของฉันเป็น

เขาไม่ได้ฆ่าคนตาย...ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเลยสักนิด...

เขาก็แค่...เป็นในสิ่งที่เขาเป็น แค่นั้นเองไม่ใช่เหรอ

นับตั้งแต่วันนั้นฉันจึงเปิดใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง...แถมยังเอ่ยปากบอกพี่รบอีกด้วยว่า ‘พี่รบไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครอยู่เคียงข้างพี่ พี่จะต้องเป็นเกย์ที่โชคดีที่สุดในโลกเพราะมีน้องสาวอย่างหนู!’

หลังจากที่ได้ยินประโยคนั้นจากฉัน พี่ชายของฉันก็เริ่มสดใสและอารมณ์ดีมากขึ้น อีกทั้งยังสอบติดมหา’ลัยในฝันของเขาอีกต่างหาก พี่ชายของฉันเป็นคนเก่งอยู่แล้ว เขาต้องการแค่แรงสนับสนุนอีกแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง...

หลายครั้งที่พี่รบบอกว่าเขาโชคดีทีได้เกิดมาอยู่ในครอบครัวนี้ เขามีแดดดี้เป็นฝรั่งที่ใจดีแถมยังอ้วนตุ้ยนุ้ยน่ารัก เขาแม่เป็นผู้หญิงสุดติสต์ที่นานๆ ทีจะอยู่บ้านแต่ก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวลูกๆ ทั้งสอง และเขาก็มีฉัน...น้องสาวที่อายุยังน้อยแต่ความคิดความอ่านก้าวหน้าไปไกลกว่าอายุเยอะ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดี พี่รบบอกว่าเขาคุยกับฉันรู้เรื่องก็เพราะฉันเป็นเด็กที่ฉลาดเกินวัย

ฉันแอบสังเกตพี่ชายของฉันอย่างต่อเนื่อง...ในช่วงเข้ามหา’ลัยช่วงแรกๆ พี่ชายของฉันฮอตมากทีเดียว เขาควงเพื่อนที่เป็นหนุ่มตัวเล็กบ่อยมาก (ฉันมักจะแอบไปเห็นเองตอนที่พี่ชายของฉันพาคนพวกนั้นไปเดินห้าง) นับวันเขาก็ยิ่งหล่อและดึงดูดเพศเดียวกันเข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่เคยมีใครที่เขาคิดจะควงหรือคบอย่างจริงจังเลย

ในใจฉันก็แอบสงสัย...ว่าใครกันนะที่จะได้หัวใจพี่ชายของฉันไปได้

พี่ชายของฉันเป็นคนดี...ฉันเชื่อว่าคนที่จะได้หัวใจของพี่รบนั้นจะต้องเป็นคนดี

...และแล้ว...ฟ้าก็ส่งพี่ธนูลงมาหาพี่รบ

พูดถึงพี่ธนูแล้วฉันรู้สึกอยากจะเป็นลม...

พี่เขาโซแดมน์ฮอต เวรี่ฮอต ฮอต ฮอตตตตต โคตรจะฮอตเลย...

พี่เขาเหมือนแอลฟาในจินตนาการของฉันแทบจะทุกอย่าง นอกจากลักษณะภายนอกรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ แล้ว (ฉันหมายถึงเพื่อนๆ ของเขาน่ะ) นิสัยพี่เขายังเหมือนแอลฟาของฉันมากๆ อีกต่างหาก โดยเฉพาะเรื่องความรักเนี่ย...

ทำไมฉันถึงรู้น่ะเหรอ...เพราะฉันได้ยินเวลาที่พี่รบคุยโทรศัพท์กับพี่ธนูก่อนนอนน่ะ

พวกพี่เขาพูดจากันหวานมากๆ เลย




‘มึงพูดคำว่าคิดถึงสามรอบแล้วนะตั้งแต่กูมาถึงบ้านน่ะ...เราเพิ่งแยกกันเมื่อตะกี้เองนะเว้ย’

‘อยากได้ยินคำว่าคิดถึงจากปากกูเหรอ ฝันไปเถอะ...พูดคิดถึงเมื่อกี้ไม่นับสิวะ เมื่อกี้อีกทีก็ไม่นับ!’

‘ธนู...ส่งรูปเซลฟี่มาให้ดูหน่อยสิ ไม่เอารูปเก่า เอารูปตอนนี้ดิ’

‘กินอะไรส่งมาให้ดูด้วย’


‘มึงอ่ะชอบบ่นไอ้การ์ดไง...มันทำงานดีจะตาย หา...มึงอยากให้กูเป็นคนไปพูดกับมันดีๆ แทนมึงเหรอ มึงก็ไปพูดเองสิ ไอ้คนปากไม่ตรงกับใจ’

‘จะบ้าเหรอ ไม่มีกิ๊กโว้ย มีแต่มึง...’

‘ยังไม่เลิกดื่มกันอีกเหรอ...เมาแล้วก็อย่าไปยุ่งกับลูกค้าล่ะ เออ กูหวง!’

‘ร้องเพลงให้ฟังหน่อย’

‘คิดถึงก็บอกกันมาตรงๆ เฮ้ย...ไม่ต้องบุกมาถึงหน้าบ้าน พรุ่งนี้เดี๋ยวก็เจอกันแล้ว!’


‘ร้ากก รักมึงที่สุด’

ทั้งหมดนั่นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ฉันไม่ต้องสาธยายเลยใช่มั้ยว่าพี่รบของฉันนั้นมีความสุขแค่ไหน ต้องขอบคุณคนบนฟ้าที่ส่งพี่ธนูลงมาให้พี่รบ...ตั้งแต่พี่รบมีความรัก พี่รบก็มีความสุขมากซะจนพลอยทำให้คนในครอบครัวมีความสุขไปด้วย

โดยเฉพาะฉัน...น้องสาวที่สนับสนุนทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้พี่ชายของฉันมีความสุข

จนกระทั่งวันนี้...ความสุขที่ฉันได้บรรยายไว้...ก็ดันมีความทุกข์ที่อยากมีซีนหรือยังไงก็ไม่รู้โผล่เข้ามากวนใจคนดีๆ อย่างพี่รบ
หัวใจฉันแทบหล่นลงไปกองกับพื้นเมื่อเห็นสภาพพี่ชายตัวเอง

ใบหน้าและเนื้อตัวของพี่รบเต็มไปด้วยแผล ถึงแม้ว่าจะผ่านการปฐมพยาบาลมาแล้ว แต่มันก็ดูหนักหนาสาหัสมากสำหรับฉันอยู่ดี
พี่รบไม่เคยมีเรื่องกับใครแบบหนักหน่วงทั้งสิ้น...แต่ทำไมวันนี้...พี่รบถึงได้มีสภาพที่เละเทะขนาดนี้

แดดดี้มีปากเสียงกับพี่รบทันทีที่พี่รบเข้ามาในบ้านตอนเช้าตรู่ เท่านั้นยังไม่พอ...แม่ยังเข้าไปผสมโรงกับแดดดี้ กลายเป็นว่าทั้งคู่สั่งสอนพี่รบใหญ่โต หาว่าทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของแดดดี้กับแม่...ทั้งคู่ปล่อยให้พี่รบได้ใช้ชีวิตอย่างที่พี่รบต้องการก็จริง แต่ก็ต้องอยู่ในพื้นฐานของการดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วย

พี่รบเองก็เถียงแดดดี้กับแม่...ฉันที่ยืนมองจากชั้นสองดูก็รู้ว่าพี่รบเจอเรื่องหนักมาทั้งวันทั้งคืนจึงได้เผลอขึ้นเสียงใส่ผู้มีพระคุณของเราทั้งคู่

จนในที่สุด...พี่รบก็ได้รับโทษกักบริเวณจนกว่าจะถึงวันเปิดเทอมของมหา’ลัยซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองอาทิตย์

พี่รบระเบิดลงอีกรอบ...พร้อมกับพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่าพี่เขาต้องไปเฝ้าพี่ธนูที่โรงพยาบาลเนื่องจากพี่ธนูยังไม่ฟื้นเลย

แดดดี้กับแม่ใจแข็งมาก...ทั้งคู่ยืนกรานให้พี่รบต้องอยู่บ้าน ห้ามออกไปไหนทั้งสิ้น

ฉันเผลอร้องไห้โดยไม่ยอมให้ใครเห็น...เวลาที่พวกผู้ใหญ่ทะเลาะกัน พวกเขาไม่รู้ว่าคนที่เด็กที่สุดในบ้านอย่างฉันก็เจ็บปวดเป็น ฉันเช็ดน้ำตาตัวเองให้เรียบร้อย เพราะเห็นว่าพี่รบเดินขึ้นมาบนบ้านด้วยสภาพที่เหนื่อยอ่อนมาก ฉันไม่อยากให้พี่เขาต้องมาเหนื่อยกับความอ่อนแอของฉันอีก

“ไง” พี่ชายทักฉัน...น้ำเสียงของเขาอ่อนแรงมากซะจนฉันไม่อยากให้เขาพูดประโยคถัดไป “เมื่อตะกี้ขอโทษที่เสียงดังนะ”

“พี่รบ...รีบไปพักผ่อนเถอะนะ” ฉันบอก

เขาพยักหน้าให้ฉันแล้วเดินกลับเข้าห้องตัวเอง ก่อนที่เขาจะส่งเสียงร้องเรียกให้ฉันไปหา

“รัน...นี่มัน...”

ฉันร้องไห้จ้า...ฉันทำบางสิ่งบางอย่างลงไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

ฉันแอบถ่ายรูปพี่รบนอนอยู่บนเตียงกับพี่ธนู ทั้งคู่ศีรษะชนกันอีกทั้งยังหลับสนิท...ฉันนำภาพนั้นไปขยายใหญ่จากนั้นก็เอามาใส่กรอบ แล้ววางทิ้งไว้ในห้องของพี่รบกะที่จะเซอร์ไพรส์

รูปนั้นมันไม่ควรจะมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้เลย...

“ขอบใจนะ” พี่รบบอกกับฉันเสียงสั่น “บอกมาซิว่าแค่แอบเข้ามาถ่ายรูปนี้รูปเดียวเท่านั้น”

ฉันพยักหน้าแรงๆ ไม่ว่าฉันจะเป็นสาววายเลือดเข้มข้นมากมายขนาดไหน ความเป็นส่วนตัวของพี่ชายฉันก็ต้องมาก่อน...

“มานี่สิ” พี่รบตบที่นั่งว่างข้างๆ เขาบนเตียง ฉันเข้าไปในห้องของพี่รบพร้อมๆ กับปิดประตูลงกลอน

เราสองคนนั่งอยู่บนเตียง...มองดูรูปพี่ธนูกับพี่รบด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง

“มันยังไม่ฟื้นเลย” พี่รบตัดสินใจเล่าให้ฉันฟัง “มันเจ็บหนักมาก...”

“แล้วพี่รบล่ะ” ฉันมองดูสภาพพี่ชายตัวเองอย่างเป็นกังวล “พี่รบเจ็บมั้ย”

“ไม่เท่าไหร่”

“...”

“แค่ไประบายความโกรธนิดหน่อย...มันไม่ได้เสียหายอะไรมากอย่างที่แดดดี้กับแม่แพนิค”

“พวกท่านเป็นห่วงพี่รบนะ”

“พี่เข้าใจ” พี่รบฝังใบหน้าลงกับฝ่ามือของตัวเอง “แต่พี่ไม่อยากโดนกักบริเวณตอนนี้...พี่ต้องไปเยี่ยมธนูที่โรงพยาบาล”

“...”

“พวกท่านคิดว่าพี่เป็นเด็กมัธยมหรือยังไงกัน”

“หนูขอพูดตรงๆ เลยนะพี่รบ” ฉันกลืนน้ำลาย “ไม่มีคนในบ้านเคยชินกับการเห็นพี่รบในสภาพนี้...”

“หา”

“พี่รบไม่เคยทำให้เราเป็นห่วง...แม้จะมีบางครั้งที่กลับดึกบ้าง แต่ถ้าหากพี่รบมีอะไร พี่รบจะบอกพวกเราเสมอ พี่เป็นพี่ชายที่อยู่ในกรอบมากเลยนะ”

“งั้นก็แสดงว่า...”

“อยู่ดีๆ พี่รบก็เจ็บไปหมดทั้งตัวแบบนี้...ยังไงแดดดี้กับแม่ก็ต้องฟิวส์ขาด พวกท่านคงอยากสั่งสอนไม่ให้พี่รบทำตัวแบบนี้อีกน่ะ”

“พี่เข้าใจ เข้าใจทุกอย่างนะรัน” พี่ชายของฉันย่นคิ้ว “แต่แฟนพี่มันยังไม่ฟื้น...พี่อยากจะไปดูมัน”

“หนูรู้” ฉันพยักหน้าอย่างแข็งขัน “เพราะงี้ไงคนเราถึงต้องมีน้องสาว”

ดวงตาของพี่รบเบิกกว้าง “รันจะช่วยพี่เหรอ”

“แหงสิ...ก็พี่รบเป็นพี่ชายของหนูนี่”

“พี่ขอบคุณมากนะ” ร่างอันใหญ่โตของพี่ชายฉันสวมกอดฉันอย่างรวดเร็วแถมยังแน่นซะจนฉันหายใจไม่ออก

“เก็บแรง...ไว้กอดพี่ธนูเถอะ” ฉันผลักพี่ตัวเองออกไป

“รันเป็นสาววายที่ดีจริงๆ”

“ไม่...หนูไม่อยากได้รับคำชมนั้นจากปากพี่รบ” ฉันแกล้งทำท่าสะบัดหน้างอนใส่

“อะไรกัน...พี่ต้องชมแบบไหน” พี่รบนิ่งคิดไปนิดหน่อยก่อนจะทำสีหน้ารับรู้ในที่สุด “อ๋อ”

“...”

“รันเป็นน้องสาวที่ดีจริงๆ”

ฉันยิ้มแฉ่ง...ก่อนจะกอดพี่รบเอาไว้ทั้งตัว

“พี่ธนูจะต้องดีขึ้น...”

“อืม”

“...”

“แอลฟาแข็งแรงมากใช่มั้ย”

“ใช่ แอลฟาแข็งแรงมากๆ”

“...”

“เขาจะต้องรอดเพื่อกลับมาหาคนที่เขารัก...เพราะงั้นพี่รบไม่ต้องห่วงนะ”

พี่รบกอดฉันแน่น... “มันเป็นแอลฟาที่ดีของรันเสมอ”

“...”

“มันต้องไม่ทำให้รันผิดหวัง” เขาพูดให้กำลังใจฉันทั้งๆ ที่น้ำเสียงเขาสั่นจนไม่รู้จะสั่นยังไง

ฉันรู้สึกสะเทือนใจจนจะบ้าตายอยู่แล้ว... “หนูไม่อยากเห็นพี่รบร้องไห้เลย”

“พี่จะจำไว้นะ”









[ยุ]


รบมันไม่เคยต้องมาพิสูจน์กับเราว่ามันเป็นแฟนที่ดีของธนู...แต่ทว่าเหตุการณ์ในช่วงนี้กลับทำให้ผมรู้สึกว่าเราทุกคนกำลังทดสอบรบอยู่ว่ารบมันจะเป็นคนรักที่ดีของท่านผู้นำของเราหรือไม่

ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ล่ะก็...ไอ้รบมันสอบผ่าน ผ่านซะยิ่งกว่าผ่าน

ไม่ใช่แค่สามผ่าน...แต่เป็นหนึ่งล้านผ่าน

ทุกวันพวกผมจะสลับเวรกันมาอยู่เฝ้าไอ้ธนูที่โรงพยาบาลเนื่องจากเรามีร้านที่ต้องดูแล รบเป็นข้อยกเว้นไปตั้งนานแล้วสำหรับการไปดูแลร้าน เนื่องจากหนึ่ง...มันเป็นเจ้านาย และสอง...ตอนนี้ได้ข่าวมาว่ามันถูกแดดดี้กับแม่ของมันสั่งกักบริเวณ

แม้ร้านจะขาดคนไปแต่เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง...พวกไอ้ชู้ตเข้ามาช่วยผมกับเพื่อนๆ อย่างเต็มเวลาเพราะพวกมันรู้ว่าหัวหน้าแก๊งมันอย่างรบกำลังมีปัญหา ทำให้ร้านของเรายังดำเนินไปได้ถึงแม้ว่าจะขาดเจ้านายทั้งสองไปก็ตาม

ด้วยความรักหรือด้วยอะไรก็ไม่รู้...ไอ้รบมันถึงได้รอดสายตาพ่อแม่แล้วมาอยู่กับไอ้ธนูที่หลับอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ซึ่งนั่นมันทำให้พวกผมอึ้งมาก

มันไม่เคยเหนื่อยที่จะมาหาไอ้ธนู...

ไม่เคยเหนื่อยกับการนั่งเฝ้าผู้ที่นอนหลับใหลไม่รู้เรื่อง...

อาการของธนูทรงตัว อวัยวะภายในฟกช้ำและมีกระดูกบางส่วนที่หัก หมอบอกว่าถ้าหากธนูฟื้น...มันจะเป็นสัญญาณบอกว่าอาการของธนูจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้พวกเราแทบจะไปบนบานศาลกล่าวกับวัดชื่อดังต่างๆ นานาขอให้ธนูมันฟื้นแล้วครับ...ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงไอ้รบเลยว่ามันจะลุ้นอย่างหนักขนาดไหน

มันดูแลธนูได้ดีกว่าใครๆ...เราทุกคนชอบปล่อยให้มันอยู่กับธนูสองต่อสองในห้องที่ไอ้ธนูนอนภายใต้สายระโยงระยาง...หลายต่อหลายครั้งที่ผมแอบเห็นไอ้รบปาดน้ำตา ยิ่งผมมองผมก็ยิ่งสะเทือนใจอย่างหนัก

กลายเป็นว่าการที่เห็นรบอ่อนแอกลับทำให้ผมกับเพื่อนเข้มแข็งมากขึ้น...เราต้องเป็นเสาให้มันยึดก่อนที่ธนูมันจะฟื้น เพราะถ้าทุกคนอ่อนแอกันไปหมด...ผมเชื่อว่ากลุ่มเรามีแต่จะพังและก็พัง

แม้บางครั้งผมจะแอบเห็นไอ้การ์ดหลบไปร้องไห้อยู่ในมุมโดยที่มีไอ้ก้องตามไปปลอบ หรือแม้บางครั้งผมจะเห็นไอ้โฮมทำอาหารเช้าที่ธนูมันชอบอย่างซึมกะทือก็ตาม...

ไม่ว่าจะยังไงเราก็ต้องทำเป็นเข้มแข็งเมื่ออยู่ต่อหน้ารบ...

พวกเราทำได้แค่เพียงเท่านี้แหละ








[ มีต่อนะคะ ]






ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #954 เมื่อ16-07-2018 03:56:31 »








[รบ]


โว้ยยยย ธนู มึงช่วยฟื้นขึ้นมาสักทีเถอะ!

ธนู มึงช่วยฟื้นขึ้นมาสักทีจะได้มั้ย กูคิดถึงมึงจะแย่จนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว...


ทุกๆ วันผมมักจะมีความคิดหงุดหงิดสลับกับความคิดอ้อนวอนร้องขอ...ไม่แน่ใจว่าผมใกล้จะกลายเป็นคนบ้าแล้วหรือยัง แต่การที่ธนูมันไม่ยอมฟื้นขึ้นมาเลยมันทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจจวนเจียนจะคลั่ง

ไม่รู้ว่าชาติที่ไหนผมไปพรากคนรักของใครเขามาหรือเปล่า...ทำไมเจ้ากรรมนายเวรถึงได้กลั่นแกล้ง ไม่ยอมให้แฟนของผมฟื้นขึ้นมาแล้วกลับมาหาผม...

ผมยังคงคิดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ถึงแม้ว่าผมกำลังอยู่ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ย่องเบาลงบันไดเพื่อแอบแดดดี้กับแม่...ผมต้องแกล้งทำเป็นขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดทั้งวันโดยที่มีรันคอยช่วยหาเรื่องไม่ให้แดดดี้กับแม่มาตรวจว่าผมอยู่ในห้องหรือเปล่า ซึ่งน้องผมนับว่าทำหน้าที่ได้ดี เพราะนี่ผ่านมาจะครบอาทิตย์อยู่แล้ว แดดดี้กับแม่ยังจับไม่ได้เลยว่าผมไปไหน

“จะไปไหน” เสียงของแม่ดังขึ้นจนผมตัวแข็ง...

ท่าทางวันนี้จะเป็นวันแรกที่แม่ของผมจับได้ซะแล้ว

ผมหันไปมองแม่ที่ยืนกอดอกพิงประตูในชุดสบายๆ

“ผมจะไปหาธนู”

แม่มองผมนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจ

“ไปทุกวันเลยนะเรา”

“แม่รู้เหรอ”

“ทำไมจะไม่รู้...คิดว่ารันจะปิดบังแดดดี้กับแม่ได้นานขนาดนี้เหรอถ้าเราสองคนไม่แกล้งทำเป็นเชื่อ”

ผมหลับตาลงอย่างน้อมรับชะตากรรม...

“แม่ขอโทษที่จะบอกว่าวันนี้แม่อนุญาตให้รบไปเยี่ยมธนูเป็นวันสุดท้าย”

“แม่!” ผมร้องลั่นอย่างเหลืออด “ทำไมแม่ต้องทำกับผมแบบนี้ด้วย...นี่ผม...”

“I don’t want to hear it” แม่โบกมือคล้ายกับให้ผมหยุดพูด “แม่กับแดดดี้รู้ว่าลูกกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่หน้าที่ของเราก็คือปกป้องลูก...ลูกเพิ่งจะทำผิดมา แต่ลูกกลับเดินเข้าๆ ออกๆ ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาแห่งการลงโทษ แบบนี้มันเกินไปแล้ว”

“แต่แฟนผมมันนอนอยู่โรงพยาบาล!” ผมอยากจะเขย่าตัวแม่ของผมเหลือเกิน

“แม่รู้”

“มันอาจจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้”

“อันนี้แม่กูรู้”

“ผมอยากอยู่กับมัน...เพราะถ้ามันไม่ฟื้น...” ให้ตายเถอะ เสียงของผมเริ่มสั่นเครืออีกแล้ว “ผมก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับมันให้ได้มากที่สุด แม่เข้าใจผมมั้ยครับ”

“ลูกถลำลึกมากจนเกินไปแล้ว”

“ก็ผมรักมัน”

“นี่เคยคิดเผื่อใจเอาไว้บ้างมั้ย”

“ไม่...ยังไงมันก็ต้องตื่นแล้วก็กลับมาหาผม”

“รบ”

“...”

“ลูกต้องเผื่อใจ...ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่แน่นอน”

“การเผื่อใจของผมไม่จำเป็นต้องถูกกักบริเวณจนครบกำหนดนี่”

“นี่ฟังแม่กับแดดดี้บ้างมั้ยเนี่ย!”

ผมตัดสินใจเดินลงบันไดมาอย่างไม่คิดจะฟังอะไรอีกแล้วทั้งสิ้น...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมดื้อกับครอบครัวมากมายขนาดนี้

ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกผิดนะ...แต่ไอ้ธนูมันอยู่ในความเป็นความตาย จะมาลงโทษอะไรเอาตอนนี้

แดดดี้กับแม่นี่ไม่เข้าใจอะไรเลย

“แม่ให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายนะรบ!”







ผมมาถึงโรงพยาบาลในสภาพที่แย่กว่าทุกๆ วัน

จะมีใครซวยเท่าผมอีกมั้ยครับ...แฟนหลับยาวยังไม่ตื่นไม่พอ ยังทะเลาะรุนแรงกับครอบครัวที่สุดแสนจะอบอุ่นเป็นครั้งแรกอีก...ชีวิตช่วงนี้ของผมนี่มันยังไงกัน

ก่อนจะถึงห้องพักของธนู...ผมถึงกับตัวชาแข็งทื่อเมื่อเห็นว่ามีอะไรอยู่หน้าห้อง

ปกติแล้วจะมีแต่คนของนทีมาเฝ้าหน้าห้องของธนู ถ้าจัดเต็มหน่อยก็สี่คน ถ้าจัดไม่เต็มหน่อยก็สองคน...แต่ทว่าคราวนี้...ผมเห็นคนยืนเฝ้าอยู่เป็นสิบ และเมื่อดูจากลักษณะภายนอกแล้ว...ทุกคนดูน่าเกรงขามกว่าลูกน้องของนทีมาก มากชนิดที่ว่าทำให้คนของนทีกลายเป็นเด็กที่ชอบกระโดดยางหรือเด็กที่ชอบเป่ากบไปเลย

“ตัวพ่อมาว่ะ” การ์ดที่เป็นเวรในวันนี้กระซิบบอกผม

พ่อธนู...พ่อธนูอยู่ในห้องกับธนูตอนนี้ โอย หัวใจจะวาย

จริงๆ แล้วท่านมาถึงเมืองไทยนานแล้วครับ แต่คุณสุชาติเล่าให้ฟังว่าท่านหายไปจัดการพวกบ้านของไอ้แพงซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพราะที่ผมกับคนอื่นๆ ทำไปนั้นถือว่าอย่างกับระดับเด็กอนุบาลทำ...ผมไม่อยากเซ้าซี้อะไรให้มากเพราะใจผมนึกแต่เป็นห่วงธนู จึงได้ลืมเรื่องพ่อของมันไปจนหมดสิ้น

วันนี้เห็นทีว่าผมจะได้เผชิญหน้ากับพ่อของมันจริงๆ จังๆ

คนของพ่อธนูเปิดประตูให้ผมอย่างรู้หน้าที่...ผมพยักหน้าขอบคุณน้อยๆ ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ แล้วเดินเข้าไปในห้อง

ธนูยังคงหลับอยู่อย่างเช่นทุกวัน ข้างๆ มันก็คือชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ผมเริ่มมีสีเทา

“สวัสดีครับ” ผมกล่าวพร้อมๆ กับไหว้อย่างนอบน้อม

ชายคนนั้นหันมาก่อนจะเรียกผมเข้าไปใกล้

“รบ...ใช่มั้ย”

“ครับ”

“มานี่สิ”

ผมไปนั่งข้างๆ พ่อของธนูอย่างว่าง่าย ตอนเป็นหนุ่มท่านคงหล่อมากมายเลยทีเดียวเพราะผมเห็นว่าท่านมีแววคล้ายไอ้ธนูกับนทีอยู่มาก

ไม่ใช่สิ...พวกมันสองคนมีแววคล้ายท่านอยู่มากต่างหาก

“ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับรบมาบ้างแล้ว”

“เหรอครับ” ผมเกร็งเล็กน้อย...เพราะนึกไปถึงเรื่องที่ท่านมีภรรยาสองคนและลูกอีกสองคน แต่ก็นั่นแหละ...มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว ผมไม่ควรจะใช้เรื่องนี้มาตัดสินใครว่าเป็นคนยังไงทั้งสิ้น

“ขอบใจมาก” ท่านหันมาหาผมด้วยนัยน์ตาเศร้า “ทั้งเรื่องที่เป็นแฟนธนู แล้วก็เรื่องที่ไปถล่มพวกการันต์วิสุทธิ์”

“เป็นสิ่งที่ผมต้องทำครับ”

“ธนูสอนเหรอ”

“เปล่าครับ...ผมแค่คิดว่าผมต้องทำ” ใครมันจะไปยอมให้เป็นฝ่ายโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวกัน...

“ถือว่ากล้าบ้าบิ่นมาก แต่ที่จริง...วิถีมาเฟียเขาไม่ทำกันแบบนั้น”

“...”

“มันต้องค่อยๆ ตัดแข้งตัดขา ในที่นี้ก็คือค่อยๆ พรากธุรกิจของมันไปทีละอย่างสองอย่าง”

ไอ้เหี้ย...ขนหัวลุกเลย

“พ่อเพิ่งทำไปเหรอครับ” ผมเผลอเรียกท่านว่าพ่อไปซะแล้ว แต่ดูเหมือนท่านจะไม่ถือ

“ใช่”

“...”

“และก็ไม่ได้ทำแค่อย่างสองอย่างด้วย”

พ่อก็คือพ่อว่ะ...ผมเริ่มรู้แล้วว่าธนูกับนทีเรียนรู้ความโหดมาจากใคร

“เรื่องนั้นช่างมันเหอะ ปล่อยให้พ่อเป็นคนจัดการเอง” ดวงตาของท่านมองไปที่ธนูด้วยสายตาห่วงหา “รู้ใช่มั้ยว่าเด็กนี่ชอบทำตัวมีปัญหา”

“รู้ครับ”

“มันเอาแต่ใจ เป็นพวกชอบปิดกั้น”

“อันนั้นก็รู้ครับ”

“บางครั้งมันก็หงุดหงิดง่าย”

“รู้ครับ”

“อารมณ์ร้อน ไม่ค่อยชอบฟังคนในครอบครัว”

“ครับ ผมรู้” ผมยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อนึกถึงความเก่าความหลัง...



เฮ้อ ธนู กูคิดถึงมึงจังเลย...



“รับมันได้ทุกอย่างเลยเหรอ” พ่อหันมามองผมด้วยสายตาทึ่งเล็กน้อย

“ไม่ใช่ว่ามันไม่รู้ตัวนะครับ มันเองก็เตือนผมว่ามันเป็นคนผิดปกติ”

“ยังไง”

“มันชอบบอกว่ามันขี้หึงน่ะครับ”

“แล้วมันขี้หึงจริงๆ มั้ย”

“สุดๆ เลยครับพ่อ” ผมเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองพูดมาก...ก็เลยคอตกและสงบปากสงบคำ

พ่อหันไปมองดูหน้าลูกชายตัวเองอีกครั้ง... “หวังว่ามันจะดีขึ้นเร็วๆ”

“ผมก็หวังแบบนั้นครับ”

“เอาล่ะ”

“...”

“พ่อต้องไปเยี่ยมลูกชายอีกคน”

“ครับ” ผมรีบลุกขึ้นเพื่อยืนส่งพ่อ

“โชคดีที่มันไม่เป็นอะไรมาก”

“...”

“สู้ๆ นะรบ”

“ครับ” ผมก้มหน้าก้มตา “คุณพ่อก็สู้ๆ นะครับ”

ผมพูดเพราะรู้ดีว่าพ่อเองก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน...ท่านตบบ่าของผมแปะๆ ก่อนจะเอ่ย “ฝากขอบคุณครอบครัวเรื่องดอกไม้ด้วย”

“อะไรนะครับ”

“ส่งมาวันละกระเช้าเลย...นามสกุลสมิธใช่มั้ยเราน่ะ”

ผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะผมมัวแต่อึ้ง...หลังจากที่พ่อเดินออกจากห้องไปแล้ว ผมจึงถือโอกาสไปดูกระเช้าดอกไม้ที่วางอยู่ในห้องมานานแต่ที่ผมไม่ได้สนใจที่จะดูเลยสักนิด

ส่วนใหญ่มักจะมาจากคนที่ทำงานกับนทีไม่ก็พ่อ...แต่มีกระเช้าอยู่หลายอันที่มีการ์ดเขียนโดยลายมือของคนคนเดียวกัน




Get well soon from Smith family




“ตอนเช้าแดดดี้กับแม่มึงก็มาเยี่ยม...ก่อนที่มึงจะมาน่ะ” การ์ดเดินเข้ามาเล่าให้ฟัง “พวกท่านเป็นห่วงไอ้ธนูมากเลย”

“กูนึกว่าเขาจะไม่เห็นใจหรือสนใจเรื่องที่ว่าแฟนกูเข้าโรงพยาบาลซะอีก” ผมยังคงมองกระเช้าดอกไม้พวกนั้นด้วยความอึ้ง

“แม่มึงเขาแอบบ่นกับกู เขาเป็นห่วงมึงก็เลยต้องทำโทษมึง ไม่อยากให้มึงมองว่าการที่มึงเจ็บตัวคือสิ่งปกติที่ควรเกิดขึ้น มึงเองก็ควรจะเคารพการลงโทษของเขาบ้าง”

“แต่ไอ้ธนู...”

“กูรู้เพื่อน” การ์ดมองธนูที่นอนอยู่บนเตียงแล้วถอนใจ “แต่ไม่ว่ามันจะฟื้นหรือยังไม่ฟื้น คนที่มันอยากเจอเป็นคนแรกก็คือมึงอยู่แล้ว...ถึงมึงจะไม่อยู่ก็เถอะ”

“นี่มึงสนับสนุนให้กูถูกขังอยู่บ้านหรือไง”

“ไม่ใช่ กูแค่อยากให้มึงเข้าใจในมุมพ่อแม่ของมึงบ้างก็เท่านั้นเอง”

“...” ผมทำหน้าบึ้งตึงใส่มัน

“เอาอย่างนี้...ถ้าธนูมันฟื้นในระหว่างที่มึงไม่อยู่ กูจะรีบโทรบอกมึงเลย มึงโอเคมั้ย”

“แต่ว่า...”

“มึงเป็นคนเดียวที่ดูแลไอ้รบจนแทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยนะ ปล่อยให้พวกกูได้ทำหน้าที่บ้างเถอะ เราทุกคนอยากเฝ้าธนูกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งไอ้ก้อง”

“...”

“มึงพักบ้างก็ได้ไอ้รบ”

ผมเริ่มรู้สึกว่าป่วยการที่จะเปลี่ยนความคิดของการ์ด...ทุกคนรอบตัวผมต่างก็ผลักไสไล่ส่ง ไม่ยอมให้ผมได้อยู่เฝ้าไอ้ธนูอย่างที่ผมปรารถนา

แต่ผมก็ไว้ใจการ์ดเกินกว่าที่ผมจะเก็บสิ่งเล็กๆ น้อยๆ มาคิด...

“อีกสามวันกูพ้นโทษแล้ว”

“...”

“ถ้ามันยังไม่ฟื้น...กูมาหามันใหม่ก็ได้นี่เนอะ”

“ใช่” การ์ดส่งยิ้มเบาๆ ให้ผมอย่างให้กำลังใจ










[นที]


แม่งเอ๊ย...ผมเกลียดช่วงเวลาแบบนี้ชะมัด

หลังจากที่คุยกับพ่อผู้ซึ่งกลับไปแล้ว...ผมก็เอาแต่ถามสุชาติว่าธนูเป็นยังไงบ้าง สาบานได้ว่าผมถามเรื่องนี้กับผู้ช่วยของผมทุกๆ ห้านาทีซะจนสุชาติคงเหนื่อยที่จะตอบ

“แล้วเมื่อไหร่กูจะหาย”

“อาการของนายเบากว่าคุณธนูมากเลยครับ เพราะฉะนั้น...”

“กูไม่ได้ดีใจเรื่องที่กูบาดเจ็บน้อยกว่าน้องชายของกู!”

“ครับ ผมทราบดีครับ”

“มัน...ฟื้นหรือยัง”

“นายเพิ่งถามผมไปเมื่อ...”

“มันฟื้นหรือยัง!”

“ยังครับนาย”

“ไปดูมาใหม่ให้แน่ใจ”

“อะไรนะครับ”

“ไปดูถึงหน้าห้อง ไม่ใช่ถามใครต่อใครมาแล้วเอามาบอกกู...กูจะไม่เชื่อถ้ามึงไม่ไปเห็นกับตาตัวเอง”

“ได้ครับนาย...ได้ครับ”

สุชาติออกจากห้องไปแล้ว...แม้ผมจะรู้สึกสงสารสุชาติจับใจที่ผมทำตัวเหี้ย แต่ผมก็อารมณ์ดีกับสิ่งที่ผมเจออยู่ ณ ตอนนี้ไม่ไหว ธนูมันต้องมาเจ็บหนักเพราะผม ผมแม่งเป็นพี่ที่โคตรไม่ได้เรื่องเอาซะเลย

หลังจากที่สุชาติหายไปจากห้องประมาณห้านาที...คนสุดท้ายที่ผมคิดอยากจะเจอก็มาปรากฏตัวอยู่ในห้อง

ไอ้แพง

“มาทำเหี้ยอะไร ออกไป!” ถ้าไม่ติดสายระโยงระยางพวกนี้...ผมคงพุ่งไปชกหน้าสวยๆ ของไอ้แพงให้มันเจ็บเล่นๆ แล้ว

มือของมันถือช่อดอกไม้ขนาดเล็กเอาไว้...

“มึง...ไม่เป็นไรนะ” มันถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

“ไม่เป็นไรพ่องดิ...เฮ้ย ไอ้พวกที่อยู่ข้างนอกนั่นน่ะ!”

“พวกมันไม่อยู่แล้ว”

“...” ว่าไงนะ

“มึงคิดว่าคนอย่างกูจะเข้ามาหามึงได้ง่ายๆ เหรอถ้าคนของกูไม่จัดการพวกที่เฝ้าหน้าห้องมึงน่ะ”

ผมกัดฟันมองไอ้แพง...คนที่ผมเผลอคิดว่ามันอาจจะมีใจให้ผม ถึงได้ส่งข้อความเรียกผมออกไปหาแบบนั้น

ความโง่ของผมเป็นสาเหตุที่ทำให้ธนูมันหลับยาวนานถึงหนึ่งสัปดาห์...

แน่นอนว่าผมต้องโกรธไอ้ตัวการสาเหตุหลักที่ทำให้ผมกลายเป็นคนโง่อย่างไอ้แพงคนนี้

“คราวนี้ฝั่งของกูเป็นฝ่ายผิด” ไอ้แพงกระแอม

“ไม่บอกก็รู้”

“กูมาขอโทษ”

“กูไม่รับ”

“รู้อยู่แล้วว่ามึงไม่รับ” แพงไม่กล้าแม้แต่จะยื่นช่อดอกไม้ในมือมันส่งมาให้ผม “ถือว่าหายกันได้มั้ยกับการที่มึงสวมรอยเป็นคนอื่นเพื่อมานอนกับกู”

ผม...พูดไม่ออก เรื่องนั้นผมเองก็เป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน...แต่ให้ตายเถอะ น้องชายของผมเจ็บนะ จะให้ผมหายโกรธเลยผมก็ทำไม่ได้

“กูแค่ต้องการคำว่าสงบศึกจากปากของมึง” มันกลืนน้ำลาย “คนของกูจะไม่ยุ่งกับคนของมึงอีก...ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องหรือครอบครัว อันนี้กูหมายถึงไอ้พีมด้วย มันจะไม่ยุ่งกับมึงอีกแล้ว...”

“มึงคิดเรื่องนี้ได้ว่าเพราะพ่อกูไปจัดการธุรกิจของมึงมาหรือเปล่า”

“ไม่ใช่”

“...”

“กูคิดได้ตั้งนานแล้ว” มันหลุบสายตาลงต่ำ

“มึงโดนหนักเลยล่ะสิ”

“ร้านพังไปมากกว่าครึ่ง แถมหุ้นส่วนบางร้านถอนตัวไปมากกว่าครึ่งอีก...เรียกได้ว่าโคตรวิกฤติ”

ถ้าพ่อผมเอาจริงก็โหดสัดแบบนี้นั่นแหละ...

“ดูมึงไม่สลดเท่าไหร่เลยนี่” ผมตั้งข้อสังเกต

“กูไม่อยากอ่อนแอให้คนอย่างมึงเห็น”

“เหรอ” ผมสวนกลับอย่างยียวน “มึงเคยอ่อนแอให้กูเห็นนะแพง...ตอนที่มึงอ้อนขอต่ออีกรอบตอนอยู่บนเตียงน่ะ”

“เชี่ย หุบปากไปเลย” มันทำท่าจะยกช่อดอกไม้มาตีผม แต่เมื่อเพ่งมองสภาพผมดีๆ มันก็ทำไม่ลง “หายไวๆ ก็แล้วกัน”

มันลุกขึ้นยืนเตรียมตั้งท่าจะออกไปจากห้องผม...

“แพง”

“อะไรวะ”

“ดอกไม้น่ะ...ทิ้งไว้นี่ก็ได้”

“...” มันมองดอกไม้ในมืออย่างลังเล

“คำขอโทษของมึงกูไม่รับ...แต่ดอกไม้มันไม่มีความผิดเหมือนมึง กูจะรับไว้ก็ได้”

แพงทำสีหน้าอดทนถึงขีดสุด...มันวางดอกไม้ไว้บนโต๊ะข้างๆ เตียงของผม จากนั้นก็เดินจากไปโดยที่ไม่ยอมหันกลับมามองแม้แต่น้อย

เหอะ มันเย่อหยิ่ง...สมกับใบหน้างามๆ ของมันนั่นแหละ

จะว่าไปก็คิดถึงช่วงเวลาที่มันร้องครวญครางใต้ร่างของผมเหมือนกันนะ แม่งต่างจากสิ่งที่มันแสดงออกเมื่อตะกี้อย่างมากเลยทีเดียว...









01.14 น.

หลังจากที่ซุ่มวางแผนอยู่ในใจมาหลายคืน...ในที่สุดคืนนี้ผมก็ได้ฤกษ์แอบไปหาน้องชายของผมสักที

ผมรอให้สุชาติกับพวกที่เฝ้าอยู่ด้านนอกหลับปุ๋ย (สุชาติสั่งคนชุดใหม่มาเฝ้าแล้ว) ก่อนที่ผมจะปลดสายออกบางส่วนแล้วลากเฉพาะเสาน้ำเกลือไปกับผม ผมเอาแต่นอนมาหลายวัน...ทำให้การเคลื่อนไหวของผมนั้นทำได้ยากเป็นอย่างยิ่ง บางจุดบนร่างกายผมก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ แต่ผมก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจมัน

ผมอยากไปหาน้องชายของผมด้วยตัวของผมเอง

โชคดีที่ห้องของธนูอยู่ไม่ไกลจากห้องของผม...ผมจึงไม่ลำบากเท่าไหร่นัก หน้าห้องของธนูไม่มีใครอยู่ อาจเป็นเพราะคนของผมมันกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนกะก็ได้

ผมฉวยโอกาสหมุนลูกบิดประตูแล้วค่อยๆ เปิดมันออก...

สิ่งแรกที่ผมเห็นคือร่างใต้ผ้าห่มที่นอนเหยียดยาว...และสิ่งที่ผมเห็นต่อมาก็คือนัยน์ตาใสแจ๋วที่กำลังลืมตาอยู่ท่ามกลางแสงสลัวของธนู

ผมอ้าปากค้างจนต้องเอามือมาปิดปากตัวเอง

นิ้วชี้ของธนูเลื่อนมาปิดปากของมันคล้ายกับต้องการบอกให้ผมอย่าส่งเสียง...รบกำลังนั่งหลับซบกับอกของธนูซึ่งนอนอยู่บนเตียง น้องของผมมันคงไม่อยากรบกวนเวลานอนของรบมันจึงสั่งให้ผมห้ามส่งเสียงแบบนี้

ผมดีใจจนน้ำตาของผมปริ่มขอบตา...

รู้ดีทีเดียวว่าหากมันฟื้น...อาการของมันก็จะดีขึ้นตามลำดับ

ธนูยิ้มมุมปาก...ส่งสายตาบอกผมว่ามันไม่เป็นอะไร แต่ผมก็น้ำตาปริ่มขอบตาไปแล้ว ผมยินดีจนห้ามความรู้สึกนี้ไม่ได้


 
เอาล่ะ...ผมควรจะไปบอกหมอกับพยาบาลใช่มั้ยว่าน้องชายของผมฟื้นแล้วน่ะ








To be continued


ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #955 เมื่อ16-07-2018 04:11:18 »







Ep. 26







[รบ]


เปิดเทอมชั้นปีที่สี่...

ผมมาเรียนในสภาพที่ไม่ต่างอะไรจากซอมบี้เดินได้ แม้ว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวจะเต็มไปด้วยความสดใสของน้องๆ เพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งพี่ๆ บางคน...แต่ผมก็ไม่สามารถทำใจสดใสกับคนอื่นๆ ได้อยู่ดี

สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมตลอดช่วงเวลาปิดเทอม...มันผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นความฝัน

ผมได้แฟนมาหนึ่งคน ได้เพื่อนกลุ่มใหม่มาอีกหนึ่งกลุ่ม...แต่ไม่มีสิ่งใดมายืนยันได้เลยว่าคนเหล่านั้นแม่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม ทั้งๆ ที่วันนี้พวกมันก็เปิดเทอมเหมือนกัน...

ไม่มีใครจากร้านแบล็คแพ็คที่มาเรียนตอนวันเปิดเทอมเลยหรือยังไงกัน

วันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงเช้า (ครับ...มอผมมีเรียนตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอม) ไอ้เบียร์มันเป็นคนลงทะเบียนให้ผมกับคนอื่นๆ ในกลุ่มเพราะพวกเราจะได้เรียนเสกเดียวกันอีกทั้งมันก็ยังรู้อีกด้วยว่าผมยุ่งมาก...มันลงให้ผมโดยที่ไม่ถามผมสักคำว่าผมอยากเรียนวิชาเลือกอะไรบ้างในเทอมนี้ ซึ่งถ้ามันถามล่ะก็...ผมก็คงจะตอบไปอย่างง่ายๆ นั่นแหละว่าเรียนอะไรก็ได้ที่เหมือนเพื่อนในกลุ่ม

“สวัสดีครับ” ชู้ตทักผมพร้อมกับขนมเต็มอ้อมแขน “เป็นยังไงบ้าง”

“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ผมตอบ “เดี๋ยวช่วยแจกนะ”

“ขอบคุณมากครับ”

ชู้ตกับแม่ทำขนมมาแจกคนในคณะเพราะรู้ว่าคนในคณะมีส่วนช่วยมันกับแม่อย่างมาก...ไอ้เบียร์กับไอ้จุนบอกขอบคุณใครหลายๆ คนอย่างไม่ถือตัวพร้อมๆ กับแจกขนมไปด้วย ผมเองก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน การได้คุยกับคนในคณะที่ใต้ถุนทำให้ผมลืมความกังวลเรื่องแฟนตัวเองไป

...แต่มันก็เป็นเพียงแค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น



“นี่รบ...ได้ข่าวว่าช่วงนี้สนิทกับธนูเอกดนตรีเหรอ”

“ทำไมจู่ๆ ถึงกลายไปเป็นพนักงานร้านของพวกเอกดนตรีได้ล่ะ”

“ธนูหล่อล่ำมากเลยใช่มั้ย กรี๊ดดดด”

“ทำไมถึงอยู่กับธนูได้อ่ะ...ใส่ชุดเกราะไปทำงานทุกวันหรือเปล่า อารมณ์ธนูขึ้นๆ ลงๆ สุดๆ ไปเลยนะ”



คำถามเหล่านั้นเป็นสิ่งยืนยันเพียงสิ่งเดียวว่าเรื่องราวของผมกับพวกเอกดนตรีที่เกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมมันเป็นเรื่องจริง ไอ้เบียร์ ไอ้ชู้ต และก็ไอ้จุนเป็นคนตอบคำถามเหล่านั้นแทนผม เพราะผมยังไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาแจกแจงว่าผมกับคนพวกนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เพราะผมมีเรื่องให้เครียดอยู่มาก...มากจนผมรู้สึกเหมือนตัวจะระเบิดอยู่แล้ว

“อุ๊ย”

“กรี๊ดดดดดด พวกเอกดนตรีมาแล้ว”

“โอ๊ยยย หล่อขึ้นกันมากเลยอ่ะ”

“เดี๋ยวก่อนนะ ธนูเป็นอะไร!”

“ใครทำอะไรธนู เอ๊ะ หรือเขาไปขี่รถล้มมา”

“ทำไมธนูถึงได้...”





ผมค่อยๆ หันไปมองหน้าคณะช้าๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงเหล่านั้น...ก่อนที่น้ำตาผมจะไหลช้าๆ เมื่อผมเห็นว่าใครคนหนึ่งยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนของมันโดยใช้ไม้ค้ำยันเพื่อการทรงตัว

แฟนผม...กลับมาแล้ว

ผมส่งถาดขนมไปให้เพื่อนก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาธนู...เพื่อนๆ ของมันหลีกทางให้ผมอย่างรู้งาน

ธนูส่งไม้ค่ำไปให้ไอ้ก้องได้ทันในระหว่างที่ผมกำลังจะถึงตัวมัน จากนั้นมันอ้าแขนรอผมได้ทันอย่างพอดิบพอดี...

“ไง” ธนูกระซิบข้างหูผม...พร้อมๆ กับฝังใบหน้าของมันเข้ากับซอกคอของผม

“คิดถึง” ผมผละออกพร้อมกับจับใบหน้าของมัน...น้ำหูน้ำตาของผมไหลเต็มไปหมดอย่างไม่อายใคร “คิดถึงมากๆ เลย”

“กูก็...”

ปากธนูยังไม่ได้ขยับเป็นคำพูด...แต่ผมก็พุ่งใบหน้าเข้าไปจูบมันอย่างดูดดื่มแล้ว

ผมไม่รู้ว่าธนูต้องกวักมือเรียกให้ไอ้ก้องเข้ามาช่วยมันทรงตัว...ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ผมอยากทำก็เท่านั้น

ผมดีใจ...ที่มันกลับมา

ดีใจ...จนบรรยายเป็นคำพูดไม่ไหว







[โต๊ะผู้หญิงปีสอง เอกทัศนศิลป์]
   
“กรี๊ดดดดดดด”

“อะไรนั่นน่ะ”

“เป็นแฟนกันเหรอ”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”








[โต๊ะผู้หญิงปีสี่ เอกการแสดง]


“อ้าว อิรบมันได้กับธนูได้ยังไง”

“มันได้กับธนู...ธนูเนี่ยนะ”

“งงในงงเลยกู...”

“แล้วคนที่มันเคยควงทั้งหลายทั้งแหล่นั่นล่ะ”

“ธนูไม่ใช่สเป็กมันไม่ใช่เหรอ”

“มันต้องขยายความเรื่องนี้แล้ว...”








[โต๊ะผู้ชายปีสี่ เอกดนตรี]


“เฮ้ย ดูนั่นสิ”

“ธนูแม่งไม่เบาว่ะเฮ้ยยย”

“เหยดโด้...ได้ลูกครึ่งเฉย”

“เพื่อนกูโคตรไม่ธรรมดา”

“อยากฮอตให้ได้สักครึ่งของธนูมัน...ดูซิ เจ็บไปทั้งตัวแม่งก็ยังดูดี”







[โต๊ะเพศทางเลือก คณะศิลปกรรมศาสตร์ หลายๆ เอกรวมกัน]

“ผีแหกกกกกก”

“โอ้มายก็อด”

“ว็อทเดอะฟัค”

“กรี๊ดดดดดดดด อิลิตเติ้ลบี มึงมาดูเร็ว รบกับธนู รบกับธนู กรี๊ดดด กรี๊ดดดดด”

“โซแดมน์ฮอตสุดๆ ไปเลยค่ะคุณขา...”

“โอ๊ย อิทิงกี้วิงกี้ กูอยากไปจูบกับเขาบ้าง”

“ทำไมร้อนแรงอะไรกันขนาดนั้นน่ะ...ดูการแลกลิ้นอย่างมีชั้นเชิงนั่นสิ”

“รู้สึกอยากมีผัวเลยค่ะ”

“ใจแม่มาเหลือเกิน”

“กูอิจฉาตาร้อนนนนนนนนน”










[การ์ด]


ในที่สุดรบก็กลับมายิ้มกว้างได้อีกครั้งหนึ่ง

ธนูมันตั้งใจปิดบังรบเรื่องที่มันฟื้นในช่วงเวลาสามวันสุดท้ายก่อนเปิดเทอม เนื่องจากมันต้องการพักร่างกายให้ได้มากที่สุดเพราะมันอยากมาเซอร์ไพรส์รบที่มหา’ลัย...และแล้วเพื่อนผมมันก็ได้เซอร์ไพรส์รบจริงๆ

หลังจากฉากจูบดูดดื่มได้จบลงไป...เรา...กี่คนวะ ผมนับแป๊บ...

เราทั้งหมดเก้าคนก็ได้มานั่งอยู่ในโรงอาหารติดแอร์ที่เกือบจะว่างเปล่าเพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ไปเรียนกันหมด สิ่งแรกที่พวกเราทำคือถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน โดยเฉพาะรบกับธนูที่โดนถามจากเพื่อนของอีกฝ่ายมากที่สุด

เพื่อนรบเป็นฝ่ายถามธนู

เพื่อนธนูเป็นฝ่ายถามรบ

ผมไม่ลืมที่จะเล่าถึงวีรกรรมที่สุดแสนจะน่ากลัวของรบให้ไอ้ธนูมันฟังก่อนหน้าที่มันจะมาเจอรบ...ตอนแรกมันก็ทำสีหน้าไม่เชื่อ แต่เมื่อก้อง ยุ และก็โฮมมาช่วยผมยืนยัน มันก็ได้แต่อึ้ง

คงไม่คิดว่าแฟนตัวเองจะซ่อนอิทธิฤทธิ์เอาไว้แบบนั้นล่ะสิท่า...

“ให้อีกชั่วโมงนึงเท่านั้นนะ” หลังจากที่รบมันรู้ว่าธนูขอหมอออกมาชั่วคราว มันก็เอาแต่มองนาฬิกา เพื่อที่ธนูจะได้กลับไปนอนให้หมอรักษาตามเดิม

“ไม่เอา” เพื่อนผมเอียงคอไปซบกับไหล่ของรบ “อยากอยู่กับมึงนานๆ”

“ถ้ามึงหายมึงจะได้อยู่กับกูอีก...ตราบนานเท่านานเลย”

“...”

“นะ รีบกลับโรงพยาบาลได้แล้ว”

“มึงไปส่งกูได้มั้ย”

ผมกับเพื่อนโดนไอ้ธนูเทเฉยเลย...

“นะ อยากให้มึงไปส่งกู” หัวหน้าแก๊งของผมแม่งโคตรอ้อน

“เบียร์ วันนี้กูคงต้องโดดเรียนว่ะ” รบหันไปบอกกับเพื่อนของมัน

เบียร์ยักไหล่ “ไม่ต้องบอกก็รู้”

“งั้นไปกันเถอะ” รบเริ่มพยุงธนูให้ลุกขึ้นยืน...

“ธนู แล้วพวกกู...” ผมส่งเสียงถาม...แต่ผมก็ไม่กล้าถามต่อเมื่อเห็นสายตาของรบ ขอย้ำ...สายตาของรบนะครับ ไม่ใช่ธนู
มันทำเรากลัวมันจนหัวหด...ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่รบหัวร้อนจนขาดสติ แต่ผมก็รู้ว่าเพื่อนๆ มันไม่ได้พูดเว่อร์เกินจริงเท่าไหร่นักหรอก

“กูไปนะ” รบบอกลาเราทุกคน...

ผมหันไปมองก้องแล้วบ่นเบาๆ “กลัวธนูคนเดียวชีวิตมันสนุกไม่พอใช่มั้ยพวกเรา”

“ทำไงได้” ก้องเอื้อมมือมาจับมือผม “คนที่มีอะไรเหมือนๆ กันย่อมเกิดมาคู่กัน ไอ้สองคนนั้นมันมีความน่ากลัวเหมือนกัน”

“มึงกับกูมีอะไรเหมือนกันวะ” ผมอดสงสัยไม่ได้

ใบหน้าที่ใช้ความคิดอย่างหนักของก้องทำเอาผมหลุดยิ้ม

“เรารักกันไง”

“...”

“รักกับรักมันก็เป็นสิ่งที่เหมือนกันนะ”

“กล้าใช้คำว่ารักแล้วเหรอ” ผมแซว

“มึงยังไม่รักกูหรือไงเล่า”

“ก็...” ผมทำท่าคิด “คิดว่าน่าจะเริ่มๆ รักแล้วนะ...”

“มึงเป็นความรักของกูหรือเปล่าวะยุ”

“แล้วมึงเป็นความรักของกูหรือเปล่าวะโฮม”


ก้องหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้ยุกับไอ้โฮมที่ส่งเสียงล้อเลียนผมกับก้อง...ก่อนที่มันจะลุกขึ้นไล่เตะไอ้สองคนนั้นอีกครั้ง เหมือนกับตอนที่มันทำอยู่ร้านไม่มีผิดเพี้ยน

ไอ้เบียร์ ไอ้ชู้ต และก็ไอ้จุนได้แต่มองตามพวกเราด้วยความงุนงงว่าพวกเราเล่นอะไรกันอยู่...








[รบ]


ผมเดินไปเดินมาในห้องพักของธนูหลังจากที่มันกลับมาอยู่ในลุคคนป่วยบนเตียงอีกครั้งหนึ่ง

มันแม่งก็ดื้อ...ไม่รู้จะอยากเซอร์ไพรส์ผมทำไมกัน ทั้งลำบากและก็อันตรายมากแต่แม่งก็ทำ

นี่นทีไม่ได้บอกไม่ได้เตือนมันเลยหรือยังไง

“มึงใส่ชุดนักศึกษาแล้วหล่อดีจัง” คนบนเตียงผู้ป่วยชมผม...มันยังคงมีร่างกายที่ไม่ปกติ ฉะนั้นการออกเสียงของมันจึงยังฟังดูเหนื่อยๆ อยู่ “ไม่ได้เห็นนานแล้ว”

“แค่เกือบสามเดือนเอง” ผมยิ้มตอบ

“นั่นสิเนอะ”

“มึงอยู่ในชุดคนป่วยแล้วก็หล่อดีนะ”

“...”

“แต่อย่าใส่อีกเลยจะดีกว่า...”

มันยิ้มเบาๆ เพราะรู้ความหมายคำพูดของผม ใครจะไปอยากให้มันใส่ชุดคนป่วยกัน เพราะนั่นหมายความว่ามันไม่สบายและต้องอยู่ใกล้ๆ หมอให้หมอรักษา

“ตอนกูหลับ...กูฝันด้วย”

“อื้อ ฝันว่าไงบ้าง” ผมลดเสียงทีวีลงเพื่อที่จะได้ฟังคำพูด

“ฝันว่าเราแต่งงานกัน”

ผมหันไปมองไอ้ธนูอย่างทึ่งๆ “จริงป่ะวะ”

“จริง”

“...”

“แม่งดูมีความสุขมากเลย”   

“ในความฝันของมึงมีอะไรบ้างที่ต่างจากตอนนี้” ผมดึงเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ เตียงผู้ป่วยเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดธนูมากที่สุด

“มึงแก่ขึ้น”

“กูไม่น่าถามเลย” มันคือความผิดพลาดชัดๆ

“มึงแก่ขึ้นกูก็แก่ขึ้นเหมือนกัน”

“แล้วยังไงอีก”

“เราอยู่ในบ้านที่มีสนามหญ้ากว้าง”

“...”

“พวกไอ้การ์ดชอบมาแฮงก์เอาท์บ่อยๆ ทำเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลย โคตรไม่มีความเกรงใจ”

“เป็นความฝันที่แม่งไม่ต่างจากความจริงเท่าไหร่เลยนะ”

“นั่นสิ” ธนูเอื้อมมือมาจับมือผม “ในความฝันเราทั้งคู่แค่โตขึ้น...แต่เราก็ยังอยู่ด้วยกัน แบบเดิม เหมือนเดิม”

“...”

“เราทำแบบความฝันของกูได้มั้ยวะ เพราะในความฝันกูมีความสุขมากเลยนะ”

“มึงกำลังขอให้กูอยู่กับมึงไปจนแก่เหรอวะธนู” ผมแกล้งเลิกคิ้วสูงเพื่อกระเซ้าเย้าแหย่อีกฝ่าย “แบบนี้นี่มันขอแต่งงานทางอ้อมชัดๆ”

“ถ้าเป็นแบบนั้นมึงจะตอบว่าไงล่ะ”

“ไอ้น้อง!” เสียงของนทีทำให้ผมกับธนูต้องรีบปล่อยมือกัน จู่ๆ นทีก็โผล่เข้าในห้องโดยไม่มีการเคาะประตู ซึ่งนั่นทำให้ธนูหัวเสียมาก

มันกำลังหาของเพื่อที่จะเขวี้ยงไปใส่พี่มัน...

“โทษที” นทีขอโทษน้ำเสียงแห้ง “ขอรบกวนเวลานิดหน่อย”

“มีเหี้ยอะไร” ธนูกลับมามีเสียงโหดอีกครั้งหนึ่ง

ให้ตาย...ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ยินเสียงนี้มานานมาก...มากจริงๆ

แปลกแต่จริงที่ผมคิดถึงเสียงนี้แฮะ

“มีคนจะขอโทษมึงน่ะ”

ผมได้ยินเสียงตึงตังดังมาจากนอกห้อง ทันใดนั้น...ร่างปวกเปียกของใครคนหนึ่งก็เข้ามานอนแอ้งแม้งอยู่ในห้องในสภาพที่ถือว่าแย่โคตรๆ

คนคนนี้โดนซ้อมจนสะบักสะบอม...

“คุกเข่าซะ” นทีสั่งคนคนนั้น...มันค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งพร้อมๆ กับคุกเข่าต่อหน้าเตียงของธนู “นริศ ลูกน้องไอ้แพง”

คนที่เป็นตัวการที่ทำให้ธนูกับนทีต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเจ็บหนักนี่เอง...

ผมกัดฟันกรอด...มือของผมกำหมัดแน่นพร้อมจะเข้าไปเสยคางไอ้นริศห่านี่ แต่ธนูเป็นคนเอื้อมมือมาคลายกำปั้นของผม

“จะเท่ไปไหนวะแฟนกู” ธนูแซวพร้อมกับยิ้มมุมปาก

“มันทำมึงเจ็บ”

“ต่อไปให้กูจัดการเรื่องนี้เองนะ มึงไม่ต้องเข้าไปยุ่งแล้ว”

“แต่ว่า...”

“กูคือคนที่ต้องดูแลมึง ดูแลเพื่อน...”

“...”

“ขอบคุณที่ทำหน้าที่นั้นแทนกูนะ...แต่มันจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว”

คำว่าแอลฟาลอยเข้ามากระแทกหัวผมอย่างจัง...มันต่างหากคือแอลฟาหรือจ่าฝูงที่แท้จริง ผมก็แค่เป็นคนรักของมันทีเผลอทำหน้าที่แทนมันไปครั้งหนึ่งก็เท่านั้นเอง

ท่าทางมันจะซีเรียสเรื่องนี้มาก เพราะงั้นผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว...

“เอาไง” นทีถาม

ผมแอบเห็นสายตาที่ธนูมันมองนริศ มันเป็นสายตาน่ากลัวเกินกว่าสายตาที่มันใช้ข่มขู่เพื่อนๆ ของมันมากหลายต่อหลายเท่านัก
เชื่อว่าเป็นสายตาที่มันไม่เคยที่จะใช้มองผม...

มันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ข่มขู่ โมโห และคาดโทษ จนนทีเองถึงกับต้องกระแอมเพื่อไล่บรรยากาศที่สุดแสนจะน่าอึดอัด

นริศสบตากับธนูไม่ถึงสามวินาที...หลังจากนั้นมันก็หงอจนคอมันตก

“ว่ายังไง” นทีถามย้ำ

“เอามันไปให้พ้นๆ หน้ากู” ธนูสั่งน้ำเสียงเด็ดขาด

นทีพยักเพยิดสั่งคนให้มาเก็บร่างของนริศ...มันโบกมือลาผม จนธนูต้องกระชากเสียงใส่

“มึงก็ออกไป คนเขาจะสวีตกัน”

“รู้แล้วล่ะน่า”

แม้แต่พี่มันก็ยังโหดใส่...นี่ถ้าวันเวลาผ่านไป...ผมจะโดนมันโหดใส่ผมบ้างมั้ยเนี่ย

“เราคุยกันถึงไหนแล้วนะ” ธนูหันมาคุยกับผมต่อ

เสียงหวานๆ ของไอ้ธนูนี่มันยังไงกัน...ทำไมแม่งเปลี่ยนเสียงได้ไวขนาดนั้น

“หา”

“มึงจะตอบว่าไง จะอยู่กับกูไปตลอดทั้งชีวิตมั้ย”

“คือ...กูยังปรับตัวไม่ทัน”

“อะไรวะ” มือของธนูเริ่มเอื้อมไปหาของกิน...ผมจึงช่วยมันหยิบเอาจานผลไม้ส่งไปให้

“เมื่อตะกี้มึงโหดมากนะ”

“โหดเหรอ” มันเคี้ยวชมพู่ด้วยท่าทางสบายๆ “ตรงไหน”

พ่อง...มันทำคนอื่นเขาขนหัวลุกแบบที่ไม่รู้ตัวเลยเหรอ

“โหดจนมึงกลัวเลยหรือเปล่า”

เอาอีกแล้ว...เกมของผมกับธนูมันเริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว “กูจะกลัวมึงทำไม”

“ก็นั่นน่ะสิ ในเมื่อมึงไม่เคยกลัวอยู่แล้ว มึงก็ไม่เห็นต้องปรับตัวอะไร”

“...”

“ยังไงกูก็ไม่กล้าโหดกับมึงอยู่ดี”

ผมยิ้มก่อนจะเขย่งตัวไปกัดเสี้ยวชมพู่อีกฝั่งที่ธนูมันยังไม่ได้กัด...ทำให้ใบหน้าของเราสองคนใกล้กันมาก

ธนูส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะโยนชมพู่ทิ้ง...แล้วเราสองคนก็จูบกัน...ซึ่งเป็นจูบอีกครั้งของวัน









“ถามอะไรหน่อยสิ” ธนูเอ่ยขึ้นตอนเวลาเกือบสามทุ่ม...ผมกับมันจัดการไล่คนที่คิดจะมาเยี่ยมทั้งหมดออกไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเรา

ครับ...รันลากแดดดี้กับแม่ของผมมาเยี่ยมธนูแล้วเมื่อช่วงเย็น ส่วนพ่อของธนูกับนทีก็มากันแล้วในช่วงหัวค่ำ

ส่วนเพื่อนๆ นั้นผมใช้เวลาหว่านล้อมค่อนข้างเหนื่อย โดยเฉพาะพวกฝูงของไอ้ธนูนี่แหละ พวกมันติดจ่าฝูงของมันมากจนผมต้องเผลอส่งสายตาขู่ไป...ในที่สุดพวกมันก็ยอมจนได้

เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่าผมก็มีสายตาที่ใช้ข่มขู่ได้เหมือนกัน...

“ว่าไง” ผมเอียงใบหน้าขึ้นไปมองคนป่วย...มันเรียกให้ผมมานอนบนเตียงกับมัน ซึ่งผมก็ขัดใจมันไปแล้ว แต่ธนูมันไม่ยอม

“แอลฟาคืออะไรวะ”

ผมเผลอยิ้มออกมา... “ทำไมจู่ๆ ถึงได้ถามล่ะ”

“กูเห็นมึงเขียนไว้ที่ใต้รูปโพลารอยด์ของกู”

“...”

“มันหมายถึง...จ่าฝูงใช่มั้ยวะ”

“ใช่”

“เท่ดีนะ”

“จริงๆ แล้วรันเป็นคนเริ่มน่ะ” ผมเล่าให้ฟัง...ธนูเริ่มกอดผมแน่นขึ้น “มันชอบดูซีรี่ส์ที่มีมนุษย์หมาป่า จากนั้นมันก็ปลื้มจ่าฝูงซึ่งเขาเรียกกันว่าแอลฟา พอมันเห็นมึง...มันก็ฝังใจไปเลยว่ามึงคือแอลฟาในจินตนาการของมัน”

“มึงก็ด้วยนี่” ธนูทักท้วง

“หา”

“ถ้ามึงไม่คิดว่ากูเป็นแอลฟา...มึงคงไม่เขียนคำว่ามายแอลฟาใต้รูปกูหรอก”

โอย...ช่างเป็นเรื่องที่น่าอาย ทำไมไอ้บ้านี่ต้องเก็บรายละเอียดขนาดนี้ด้วย ให้ตายสิ

“ก็มึงเหมือนแอลฟาจริงๆ” ผมอดที่จะบ่นอุบไม่ได้

“ยังไงบ้าง”

“นี่มึงจะฟังจริงๆ เหรอ” ผมเฉไฉ “นอนดีกว่ามั้ย...จะได้หายไวๆ แล้วก็ออกไปข้างนอกไง”

“จะอยู่ในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาลมันก็ไม่ต่างกันถ้ามีมึง...” ธนูลอยหน้าลอยตา “มึงคงไม่ทิ้งกูให้อยู่ในนี้อย่างโดดเดี่ยวอยู่แล้ว มึงติดกูจะตาย”

ไอ้ห่านี่... “สรุปก็คือมึงจะไม่ยอมหายไวๆ”

“ไม่ใช่” มันรีบพูด “กูจะหายไวๆ เพื่อมึงอย่างแน่นอน”

“...”

“ตอบมาสิ อยากฟังจริงๆ นะ”

“ก็...มึงเป็นผู้นำของเพื่อน” ผมตัดสินใจพูดในที่สุด

“แล้วไงอีก”

“เพื่อนๆ รักและก็เคารพมึง”

“อ่าฮะ”

“มึงแข็งแรง คล่องแคล่ว ฉลาด...รักพรรคพวก”

“แอลฟามีคุณสมบัติแค่นั้นจริงๆ น่ะเหรอ ไม่เห็นจะน่าสนใจเลย”

“มันยังมีอีก” ผมกระแอมแล้วพูดต่อ “แอลฟาจะรักเดียวใจเดียว”

“...”

“รักแบบผูกใจ ผูกจิตวิญญาณ”

“...”

“เหมือนกับจะมีคู่แค่คนเดียวไปตลอดชีวิต” ผมหันไปมองธนูที่กำลังมองใบหน้าของผมอยู่ “ฟังดูคล้ายกับมึงมั้ย”

ยอมรับว่าผมลุ้นกับคำตอบของธนูมาก...

“คิดว่าไงล่ะ”

โอย...ยังจะย้อนถามอีก

“ไม่รู้” เสียงของผมฟังดูกระเง้ากระงอดไปซะฉิบ

“หึ” ธนูยิ้ม “มันก็ฟังดูเป็นกูดีนะ”

ผมปลื้มมากซะจนเผลอหอมแก้มธนูเป็นรางวัล

“ที่จริง...กูว่าผู้นำที่แท้จริงไม่ใช่แอลฟาหรอก” ธนูลูบแก้มของผมเล่นๆ

“ทำไมคิดงั้น”

“ก็ถ้ากูเป็นแอลฟาจริงๆ ทำไมกูยังรู้สึกอยู่ใต้บัญชาของใครบางคนอยู่ได้”

“มึงหมายถึง...พ่อของมึงเหรอ”

โป๊ก

ธนูเคาะหัวของผมเบาๆ

“มึงต่างหาก” มันพูดกับผมพร้อมกับเอานิ้วจิ้มที่อกของผม “มึงต่างหากคือแอลฟาที่แท้จริง เรียลแอลฟา...”

“...”

“คนที่เป็นคนรักของแอลฟาแม่งยิ่งใหญ่กว่าแอลฟาอีก กูขอนั่งยันนอนยันเลย”

มันทำผมปลื้มอีกแล้ว... “จริงเหรอวะ”

“ก็เออสิ”

“...”

“ผู้นำที่แท้จริงคือเมียแอลฟาเว้ย ไม่เชื่อลองไปถามแอลฟาทุกคนบนโลกดูสิ”

“บังเอิญว่ากูรู้จักแอลฟาอยู่คนเดียว” ผมต่อปากต่อคำยิ้มๆ

“แต่...มึงไม่ควรเอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อนๆ กู คนในฝูง...”

“...”

“มันออกจะ...น่าอายนิดหน่อย”

“...”

“รู้กันแค่สองคนก็ดีนะ”

ผมเชื่อว่าผมเข้าใจมันเป็นอย่างดี... “ถ้ากูคิดจะปากสว่างเรื่องนี้ล่ะ...”

“มึงก็เดินมาหากูก่อน” ธนูเอ่ย “เพราะกูจะจูบปิดปากมึงเอง”

เราสองคนหัวเราะให้กันและกันฟังในความมืด...จากนั้นเราทั้งคู่ก็เริ่มคุยกันไม่หยุดไม่หย่อนถึงเรื่องแอลฟาต่างๆ นานา ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกมากและก็เพลินจนลืมเวลาซะจนผมต้องสะกิดเตือนธนูให้มันหลับพักผ่อน...

ผมมองมันที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ ผม...

แม้จะปลื้มใจมากกับสิ่งที่มันเพิ่งพูดกับผม...หาว่าผมเป็นแอลฟาที่แท้จริง แต่เชื่อมั้ยครับว่าสำหรับผมแล้ว...มันต่างหากที่คือผู้นำ คือคนที่ผมยอมรับว่าทั้งเท่ ฉลาดและก็มีความสามารถ ผมมันก็แค่ฝ่ายสนับสนุนมันคนหนึ่งที่บังเอิญเป็นคนรักของมันและมันก็แค่เกรงใจเฉยๆ

สุดท้ายแล้ว...ผมก็จะยังคงเป็นแค่ผู้ตามของมันอยู่ดี

เฮ้อออออออ จากเมื่อก่อนที่แข่งฉิบหายว่าใครจะอยู่เหนือกว่าใคร บัดนี้มันยกให้ผมอยู่เหนือมัน แต่ผมกลับยอมที่จะอยู่ใต้มัน...กลายเป็นคนที่อยู่รองมันลงไปซะงั้น

ทุกอย่างมันเริ่มมาจากคืนนั้น...คืนที่เป็นวันเกิดของผมอย่างนั้นใช่มั้ย...




ผมขอบอกเลยว่าธนูแม่งเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลย








to be continued







ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Re: [ เ รี ย ล แ อ ล ฟ า ] _ Ep. 23 _ p. 31 _ 0 9 . 0 7 . 1 8
«ตอบ #956 เมื่อ16-07-2018 04:26:37 »




บทส่งท้าย




[ธนู]

ผมกลับมาเรียนได้แล้วครับ...

ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มกลับเข้าที่...ร้านของผมถูกพนักงานที่นทีเป็นคนคัดมาเองกับมือดูแลอยู่ มันสั่งให้คนทำบ้านขึ้นมาอีกหลังซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากร้าน เป็นบ้านที่มีลานกว้างแถมยังมีหลายห้อง เหมาะสำหรับผม...คนที่มีเพื่อนร่วมอาศัยอยู่ด้วยหลายคนได้ย้ายเข้าไปอยู่

บ้านหลังนั้นน่าจะเสร็จภายในต้นปีหน้า...

มหา’ลัยก็ยังคงเป็นมหา’ลัยเหมือนอย่างเคย แต่ที่แปลกออกไปก็คือผมไม่ต้องแอบมองรบข้างเดียวอีกต่อไปแล้ว เราทั้งคู่ไปเรียนพร้อมกันเนื่องจากผมขับรถไปรับมันที่บ้านทุกวัน...มันให้รางวัลผมทุกเช้าด้วยการจูบทักทายเป็นประจำ

ร่างกายของผมดีขึ้นตามลำดับ จากที่เคยใช้ไม้ค้ำยันก็ไม่ต้องใช้ และจากที่เคยใช้ผ้าพันแผลตามลำตัวก็กลายเป็นไม่ต้องใช้อีกต่อไป...แม้จะยังเดินเหินด้วยท่าที่ยังไม่ปกติเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าผมกำลังใกล้จะเป็นปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความปิติยินดีให้กับรบมาก

ผมชอบรอยยิ้มตอนที่ผมบอกว่าผมดีขึ้นมากของมันมากจริงๆ...

น่ารักฉิบ...

ส่วนไอ้การ์ดกับไอ้ก้อง...ตอนนี้พวกมันกำลังอยู่ในช่วงที่หวานชื่นมื่น มันเป็นคู่ที่เพิ่งรู้ว่าเคมีเข้ากันและยิ่งมาคบกัน พวกมันก็ต้านทานแรงดึงดูดของกันและกันไม่ได้ ทุกๆ วันผมต้องมองดูพวกมันสวีตกัน และผมก็จะรู้สึกเซ็งทุกครั้งเพราะแฟนผมมันเรียนอยู่คนละเอก...

สวรรค์แม่งโคตรจะไม่ยุติธรรมเลย

สำหรับนที...ตอนนี้มันกำลังมีความสุขอยู่กับการทำธุรกิจของที่บ้าน มันเอ่ยปากถามผมหลายครั้งว่าอยากจะมาช่วยงานมันมั้ย ซึ่งผมได้แต่ส่ายหน้า ถ้าผมจะช่วยจริงๆ ก็ขอเป็นในอนาคตก็แล้วกัน ตอนนี้ผมยังรักแฟนหลงแฟน...อยากอยู่กับแฟน

จำได้เลยว่าไอ้นทีมันตวาดกลับมาพร้อมๆ กับต่อว่าผม

‘จะตอนนี้หรือตอนไหนมึงก็รักแฟนหลงแฟนทั้งนั้นนั่นแหละไอ้ฟายธนู!’

ก็จริงของพี่มันนะ...ไม่เคยมีวันไหนหรือเสี้ยววินาทีไหนที่ผมไม่เคยรู้สึกไม่รักรบเลย

อ้อ...ผมหมายถึงการหึงหวงมันด้วยครับ

การกลับมาเรียนมหา’ลัยของเราอีกครั้งทำเอาผมปวดหัวจัด...รบมันเป็นมนุษย์ที่ฮอตมากจนผมปวดหัว มันมีคนเข้ามาคุยด้วยไม่เว้นแต่ละวัน...บางคนแม่งก็ยังไม่รู้ว่ารบมีแฟนแล้ว ไม่รู้ว่าไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมา

ตอนปิดเทอมผมว่าผมขี้หึงแล้ว ตอนเปิดเทอมนั้นผมบอกเลยว่าผมขี้หึงหนักกว่ามากเป็นสิบเป็นร้อยเท่า

“ธนู” ไอ้รบมันลงทุนเดินมาหาผมที่โต๊ะเอกดนตรีที่ใต้ถุนตึกคณะทั้งๆ ที่นี่เป็นกลางวันแสกๆ นั่นย่อมหมายความว่ามันมีเรื่องที่จะคุยกับผมจริงๆ

“ว่าไงครับ” ผมยิ้มแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้

“ฮิ้ววววววววววว”

“ฮิ้วพ่อฮิ้วแม่มึงเหรอ” รบด่าเพื่อนๆ ของผม...ไอ้พวกคนแซวซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเอกของผมมันไม่รู้กิตติศัพท์ความโหดที่ซุกซ่อนอยู่ของรบอย่างพวกไอ้การ์ด จึงกล้าแซวรบอย่างออกนอกหน้า

ส่วนพวกไอ้การ์ดน่ะเหรอ...แม่งถอยหลังกรูดไปนั่งไกลๆ เพื่อหลีกทางให้ไอ้รบคุยกับผมได้สะดวกๆ ตั้งนานแล้ว

“มีอะไรครับ”

“มีคนชวนไปดูหนัง”

“ใคร” เสียงของผมโหดขึ้นแทบจะในฉับพลันทันที

“เจแปน...เพื่อนตุ๊ด”

“พวกไอ้เบียร์ไปด้วยหรือเปล่า”

“พวกมันไม่ว่าง”

ผมส่งยิ้มให้รบ...ก่อนจะหุบยิ้มฉับทันควัน “ไม่ให้ไป”

“อะไรกัน” รบโวยวาย

“หนังเรื่องอะไร...เอาไว้กูพาไปดูวันหลัง”

“อยากดูวันนี้”

“หา”

“ไม่เคยได้ยินคำนี้เหรอ...คนจริงต้องเดย์วัน”

อะไรวะ...ผมหันไปขอความเห็นเรื่องนี้กับการ์ด ไอ้การ์ดได้แต่ทำสีหน้าอ่อนใจคล้ายกับอยากอธิบาย แต่ก็ไม่กล้าพูดแทรกไอ้รบ

“กูอยากดูเรื่องนี้...หนังมันเพิ่งเข้าวันนี้ด้วย” อ๋อ...คนจริงต้องเดย์วันนี่หมายถึงคนที่ดูหนังตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายในโรงอย่างนั้นใช่มั้ย

“ไม่ได้ เสียใจด้วยรบ”

“เฮ้ย”

“เจแปนเพื่อนผู้ชายเยอะ...กูไม่ชอบพวกนั้น”

“มันบอกว่ามันจะชวนไปแค่คนสองคน”

“คนสองคนก็ถือว่าเยอะไป”

รบหน้าบึ้งใส่ผม...ก่อนที่มันจะเดินหนีไปด้วยท่าทางหงุดหงิดอารมณ์เสีย ผมมองตามอย่างพินิจพิจารณา...แล้วหันมาหาเพื่อนที่เริ่มขยับกลับมานั่งที่เดิม

“กูเอาแต่ใจไปเหรอ” ผมถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

“มึงทำถูกแล้วเพื่อน” ยุตอกย้ำความมั่นใจของผม “เจแปนเพื่อนผู้ชายมันเยอะจริงๆ”

“แล้ว...”

ผมเพิ่งเห็นว่าเพื่อนของผมถอยหลังไปอีกรอบจนเบียดพวกเพื่อนในเอกคนอื่นๆ

รบกลับมาอีกรอบพร้อมกับใบหน้าแดงจัด...มันทำให้เพื่อนผมต้องปรับตัวแค่ไหน มันรู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ย

“ทำไมมึงต้องไม่ว่างวันนี้ด้วยวะ” รบโวยวาย

“ขอโทษ”

“...”

“พ่อกำลังจะไปเที่ยวอีกรอบแล้ว กูกับนทีอยากใช้เวลาอยู่กับท่านหน่อย”

รบทำสีหน้าเข้าใจแล้วค่อยๆ เอ่ย “มึง...จะไปดูหนังเป็นเพื่อนกูมั้ย”

“วันนี้เหรอ...กูไปไม่ได้แล้วไง ต้องไปกินข้าวกับพ่อ”

“กูหมายถึง...วันอื่น”

“...”

“กูไม่เป็นคนจริงต้องเดย์วันแล้วก็ได้” รบถอนหายใจอย่างนึกเสียดาย “แต่มึงต้องรีบว่างแล้วพากูไปดูนะ”

“ทำไมถึงเปลี่ยนใจล่ะ”

“เพื่อนผู้ชายของเจแปนมันเยอะจริงๆ นั่นแหละ”

“...”

“เดี๋ยวมึงก็จะหึงอีก โกรธอีก”

“...”

“กูชอบเห็นมึงสบายใจ”

รบตั้งท่าจะเดินหนีราวกับว่ามันเขินกับคำพูดของมัน...พวกการ์ดทำท่าจะขยับกลับมานั่งข้างๆ ผมที่เดิม แต่พวกมันก็ต้องเปลืองแรง...ถอยหลังกลับไปเบียดพวกเพื่อนเอกดนตรีอีกรอบจนพวกมันร้องโอดครวญว่าจะอะไรนักหนา

เพราะผมดึงรบให้เข้ามาใกล้ผมอีกครั้ง...จากนั้นก็จูบมันให้เพื่อนๆ กับคนอื่นๆ ในคณะได้เห็นเป็นขวัญตา

ผมชอบที่มันยอมทำทุกอย่างที่ผมสบายใจ

ผมรักที่มันรักในสิ่งที่ผมเป็น...ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนที่มีด้านที่ไม่เพอร์เฟกต์

รบหน้าแดงก่ำ...เขินอายกับสายตาของผม...เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ตั้งแต่เราคบกัน

“ฮิ้วววววววววว”

“ฮิ้วพ่อฮิ้วแม่มึงสิ!” รบหันมาด่าเพื่อนๆ ผมแก้เขิน

ครับ...แล้วทั้งหมดนี่ก็คือเรื่องราวความรักของผมกับคนคนหนึ่ง

คนที่ผมไม่เคยนึกฝันมาก่อน...ว่ามันจะรักผมมากมายขนาดนี้





ไม่สิ...คนที่ผมไม่เคยนึกฝันมาก่อน...ว่ามันจะรักผมเหมือนกัน








จบบริบูรณ์






จบไปแล้วนะคะสำหรับเรียลแอลฟา
นิยายที่โดนถามหนักมากว่าเป็น Omegaverse หรือเปล่า 555
นักอ่านหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้คงจะเข้าใจที่มาของชื่อเรื่องแล้วใช่มั้ยเอ่ยยย


ที่จริงคำว่า 'เรียลแอลฟา' ในทีแรกมาจากรบค่ะ
รบคือจุดเริ่มต้นของชื่อเรื่อง
เป็นมนุษย์ mia ผู้ที่กำราบจ่าฝูงอยู่หมัด
สามารถอยู่สูงกว่าจ่าฝูงได้เลยแบบที่ไม่ต้องทำอะไรมากมาย
เพราะแอลฟาเกรงใจมากมาย


แต่ชื่อเรื่องนั้นก็สามารถตีความได้อีกความหมายหนึ่งค่ะ
ซึ่งการตีความนี้มาจากคนอ่านที่น่ารักเมื่อตอนกลางๆ เรื่อง
นั่นก็คือธนู เป็นผู้ที่โคตรจะเป็นเรียลแอลฟา
เป็นผู้นำ เป็นคนรักเมีย เป็นคนขี้หึงเข้าขั้นบ้าคลั่ง (นางโดนติไม่ใช่น้อยในเรื่องนี้ 555)
แอบกระซิบอีกนิดว่าที่จริงคนเขียนแอบวางไว้ให้นางหึงหนักมากกว่านี้อีกค่ะ
แต่จะไม่แสดงออกด้วยการทำให้เกิดโค้ดเรด
เป็นการแสดงด้านอ่อนแอให้เห็น อารมณ์ประมาณ 'ขาดรบไม่ได้หัวใจขอสารภาพพพพ'
ด้วยอะไรหลายๆ อย่างก็ไม่รู้...โมเมนต์ตรงนั้นก็ได้ตกไปโดยที่ไม่ได้เอามาใส่ในเรื่อง



หวังว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นนิยายอีกเรื่องที่คนอ่านได้รับอะไรกลับไปนะคะ
ิสิ่งที่คนเขียนย้ำกับตัวเองมาตลอดนั่นก็คืออยากแต่งนิยายที่คนอ่านได้รับบางสิ่งที่มากกว่าเวลาที่สูญเสียไปกับการอ่าน
ความบันเทิง ความฟิน การได้รู้จักสองหนุ่ม ได้รู้จักเพื่อนๆ รอบตัว ได้รู้จักคนที่มีด้านไม่เพอร์เฟ็กต์หลายๆ คน



ลึกๆ แล้ว...คนเขียนอยากให้เขาเหล่านี้มีตัวตนเหลือเกินค่ะ
แต่ถึงแม้จะมีตัวตนที่จับต้องไม่ได้
อย่างน้อยก็ให้หนุ่มๆ เหล่านี้ได้อยู่ในจินตนาการของคนอ่านและก็คนเขียน
นั่นก็ถือว่าเป็นอะไรที่มีตัวตน : )



แล้วพบกันใหม่ในนิยายเรื่องหน้าค่ะ



ป.ล. ถ้าอนาคตมีโอกาส
ไม่แน่ว่าคู่นที + แพง อาจได้มีเรื่องเป็นของตัวเองนะคะ

ป.ล. 2 นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ everY ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ช่วงเดือนตุลาคม 2561 นะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2018 04:30:32 โดย Chiffon_cake »

ออฟไลน์ tuuili

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอทั้งหนังสือและคู่ของนทีแพงนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ยังไม่ทันไรก็คิดถึงเสียแล้ว

เป็นสามสี่ตอนสุดท้ายที่เข้มข้น
ทำให้คุณเจ้ยิ้ม หัวเราะ และน้ำตาซึมเบาๆ
นึกภาพน้องรบไปลุยแล้วเจ็บมาก
โอเคล่ะมันดูเท่ที่จัดการอะไรต่อมิอะไรได้
แต่ฉากที่รบร้องไห้ตอนทุกอย่างจบมันบอกได้ดี

คนที่ไปลุยทั้งๆที่ใจขาดวิ่นมันโคตรช้ำ
เหนื่อยมากแต่ก็ต้อง ตอนนั้นอ่อนแอมากแต่ก็สู้
ทุกอย่างมันจะกลายเป็นศูนย์ไปเลยถ้าธนูไม่ฟื้น
เข้าใจความเจ็บปวดของรบมากๆ

คุณพ่อของธนูและแด๊ดดี้กะแม่รบ
เท่มากๆเลยนะ ยิ่งบ้านรบคือเป็นตัวอย่างเลยล่ะ

ส่วนเรื่องนทีกับแพง
คิดว่าแพงเองก็ต้องสนใจนทีบ้างล่ะ
คนมันศีลเสมอกัน มักดึงดูดกันอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะมาเป็นแค่ตอนพิเศษ
หรือมาเป็นเล่มเลยเจ้ก็อยากติดตามนะ
อยากอ่านคู่รักที่อยู่ในวัยทำงานจากฝีมือหนูนุ่น
ต้องออกมาดีและไม่ทิ้งสไตล์แน่ๆ

สำหรับเรื่องนี้ เสน่ห์อีกอย่างที่ชัดมากๆคือเรื่องเพื่อน
เจ้ชอบที่มีเพื่อนวนเวียนอยู่รอบตัวเอก
ชอบที่ได้ให้เพื่อนเป็นส่วนหนึ่งของการเล่า
การได้รู้เรื่องจากมุมมองของคนใกล้ตัวนี่ดีเลยล่ะ
และความเป็นเพื่อนของทีมนี้ก็แน่นแฟ้นมากๆ

ขอบคุณมากๆสำหรับหลายเดือนที่ผ่านมา
ขอบคุณที่เป็นรอยยิ้มกว้างๆของเจ้ได้ทุกตอน
เจ้ชอบนะ นิยายของหนูสอนอะไรหลายๆอย่างโดยไม่จำเป็นต้องเขียนเรื่องให้ดราม่าเป็นวรรคเป็นเวร

ชอบสไตล์และฝีมือหนู
เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ
เจอกันในเพจและเรื่องใหม่จ้าาาา

ปล.เดี๋ยวจิแวะมาอ่านซ้ำเรื่อยๆ รักเรื่องนี้มากเลย

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จบแล้ว มาทีเดียวจบเลย
สนุกมากกกกกค่ะ
แล้วจะรอเปย์แบบเป็นเล่มแน่นอนค่ะ
จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยู่ในmy bestของเราค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด