「 คู่รักสีน้ำเงิน 」 ❥ บทส่งท้าย : the real end > [ จบแล้ว ] | 14/2/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 「 คู่รักสีน้ำเงิน 」 ❥ บทส่งท้าย : the real end > [ จบแล้ว ] | 14/2/2019  (อ่าน 5127 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจากการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



คู่รักสีน้ำเงิน



- HAMSTER -

แด่ใครสักคน
ที่ไม่อยากเสียใครอีกคนไป

9/11/2018

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2019 21:20:44 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: 「 คู่รักสีน้ำเงิน 」 ❥ Intro. | 11/9/2018
«ตอบ #1 เมื่อ11-09-2018 00:11:49 »

Intro.


   ความสัมพันธ์ของเราไม่เคยมีชื่อเรียก

   มันเกิดขึ้นเร็วโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว

   และจนถึงวันนี้... ก็ยังหาจุดจบไม่ได้...




   ผมเองเคยคิดที่จะนิยามมันอยู่หลายครั้ง พยายามคิดหาคำจำกัดความที่ดีที่สุดที่จะสามารถอธิบายเรื่องราวบ้าๆ บอๆ ของ ‘ไอ้เด็กมัธยมปลายสองคนนั้น’ ได้

   ไอ้เด็กสองคนที่... ถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยเกมการแข่งขันที่ไร้ซึ่งถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะ...

   ต้องใช้เวลาอยู่เป็นปีทีเดียวกว่าที่ผมจะหา ‘ป้ายชื่อ’ ที่ใช้เรียกความสัมพันธ์ของผมกับ ‘ไอ้เงิน’ ได้

   มันถูกหยิบยืมมาจาก ‘ทฤษฎีกงล้อสีแห่งความรัก’ (The Color Wheel of Love Theory) ของนักจิตวิทยาชาวแคนาดานามว่า จอห์น อัลเลน ลี (John Allen Lee) โดยจอห์นได้แบ่งความรักออกเป็นสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แดง น้ำเงิน เหลือง เขียว ส้ม และม่วง

   
   ‘นี่ไง คู่เรา’


   ผมค่อนข้างจำทฤษฎีดังกล่าวได้แม่นยำทีเดียว เหตุเพราะในความทรงจำของผมในการจดจำข้อมูลเรื่องนั้นมีไอ้เงินอยู่ด้วยกันกับผมด้วย วันนั้นเราสองคนอยู่ในชุดนักเรียน  ไอ้เงินนั่งอยู่บนเตียงในท่าที่มันชอบทำ อ้าขาออกกว้าง มือจับโทรศัพท์ ในขณะที่ผมนั่งเอาไหล่เบียดกันอยู่ข้างๆ
   

   ‘ไหน’


   ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้จอไอโฟนในมือไอ้เงินให้มากขึ้น จนกระทั่งได้เห็นสีที่ไอ้เงินมันชี้แล้วนั่นล่ะ ถึงได้ขมวดคิ้วถอยหลังกลับมานั่งพิงกำแพงตามเดิมอย่างไม่เข้าใจ


   ‘ทำไมวะ?’


   ทำไมต้องเป็นสีน้ำเงินด้วย?


   ‘ลองอ่านดูดิ’


   ‘ความรักสีน้ำเงิน หรือที่มีชื่อว่า Ludus อันนี้เป็นความรักแบบเล่นเกมครับ คำว่า Ludus ในภาษากรีกเนี่ยแปลว่าเกมอยู่แล้วด้วย คนที่มีความรักแบบนี้จะมองว่าความรัก การจีบ การคบ การอะไรๆ ต่างๆ เนี่ย ไม่ต่างอะไรจาก “เกมการละเล่น” เลย!

   ลองนึกภาพเวลาไปจีบหนุ่มตอนเที่ยวกลางคืนหรืออะไรทำนองนั้นดูนะครับ ฟีลลิ่งตอนนั้นไม่ต่างอะไรจากการลงไปเล่นเกมในสนาม ทุกคนจะต้องมีทีเด็ด มีกลวิธี มีทริคอะไรต่างๆ นานา เพื่อพิชิตใจเป้าหมายให้ได้ คนรักสีน้ำเงินเนี่ยเก่งสุดๆ ด้านการจีบและการเฟลิร์ต

   เรื่องโรแมนติกอะไรไม่สนหรอก สนใจแค่ความสนุกอย่างเดียว พวกเขามักจะไม่สนใจความรักที่จริงจัง และอาจคบหลายๆ คนพร้อมกัน แล้วถ้ามีใครอยากจะขอเป็นตัวจริงขึ้นมา คนรักสีน้ำเงินมีแนวโน้มจะชิ่งสูงมากๆ ครับ’




   ยิ่งอ่านก็ยิ่งเห็นภาพผมกับมัน

   ยิ่งอ่านยิ่งเห็นภาพ ‘เกมความสัมพันธ์’ ที่เราสร้างขึ้น

   

   น่าแปลกที่ผมไม่เคยคิดถึงเหตุการณ์นี้อีกเลย ทั้งที่มันเป็นความทรงจำที่ชัดเจนมาก เหมือนกับ... มีใครจงใจเอาไปเก็บซ่อนไว้ก่อน แล้วถึงค่อยอนุญาตให้ผมได้คิดถึงมันอีกครั้งหลังจากนั้น

   และมันก็ทำให้ผมสามารถหาคำนิยามของเกมความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้เงินได้ว่า...

   

   ...คู่รักสีน้ำเงิน



   ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ?

   ใช่ครับ มันฟังดูดีทีเดียว

   แต่รู้อะไรไหม ความจริงที่เกิดขึ้นน่ะมันไม่ได้สวยหรูอย่างชื่อที่ถูกนำมาใช้เรียกหรอกนะ ขึ้นชื่อว่า ‘เกม’ ยังไงก็ย่อมจะต้องมี ‘แพ้’ มี ‘ชนะ’ อยู่วันยังค่ำ

   เราสองคนปล่อยให้เกมนี้ถูกเล่นมานานเกินไปแล้ว

   คงถึงเวลา... ที่ผมจะต้องจบมันเสียที...

   




   ชล : กูมาถึงแล้วนะ


   ผมส่งข้อความหาไอ้เงินทันทีที่มาถึง ตั้งใจให้มันเซอร์ไพรส์ เพราะไม่เคยคิดที่จะมาก่อนเวลาเลยสักครั้ง ตรงเวลาก็ไม่เคย


   เงิน : จริงดิ

   เงิน : แปลกแฮะ

   เงิน : ถึงเร็วจัง




   ก็... วันนี้มันไม่เหมือนกับวันอื่นๆ ไง ยิ่งกูมาเร็วเท่าไหร่ กูก็ยิ่งมีเวลาตัดสินใจเรื่องมึงมากขึ้นเท่านั้น ไม่แน่นะ บางที...กูอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้

   

   ชล : มึงล่ะ ถึงไหนแล้ว

   เงิน : ยังดิ ยังไม่เลิกเรียนเลย

   เงิน : อีกนานกว่าจะถึง

   เงิน : มึงรอได้นะ?

   ชล : รอได้




   ปีนึงกูยังรอมาแล้วเลย แค่นี้สบายมาก



   เงิน : โอเค เลิกเรียนแล้วกูจะรีบไป

   ชล : ได้ ไว้เจอกันมึง




   ผมเก็บไอโฟนเข้ากระเป๋ากางเกงนิสิตทันทีที่คุยกับไอ้เงินรู้เรื่องดีแล้ว ก่อนจะหันกลับมาสนใจตู้กระจกใหญ่ยักษ์ตรงหน้าที่เฝ้าโอบกอดสิ่งแวดล้อมจำลองทางธรรมชาติใต้ท้องทะเลไว้ คอยไล่สายตาไปกับการแหวกว่ายของเหล่าสัตว์น้ำที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และพยายามอย่างยิ่งที่จะจินตนาการว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของมัน



   'ทำไมต้องอควาเรียมวะ?'



   คำถามของไอ้เงินผุดขึ้นในหัวเมื่อปลากระเบนตัวหนึ่งว่ายผ่านไป ผมยิ้ม จำได้แม่นเลยว่ามันถามสวนกลับขึ้นมาแทบจะในทันทีที่ผมบอกว่าอยากจะนัดเจอมันที่ไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ดีนะ แต่ตอบยาก เพราะเอาเข้าจริงผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องที่นี่ รู้แค่ว่าอควาเรียมคือสถานที่แรกที่แวบเข้ามา ก็เลยเลือกบอกออกไปแบบนั้น

   กระทั่งได้มาจริง ผมถึงได้รู้เหตุผล

   ว่าผมชอบบรรยากาศของที่นี่มาก ชอบการจัดไฟมืดๆ ของมันแบบนี้ แบบที่ทำให้เนื้อตัวผมกลายเป็นสีน้ำเงินด้วยแสงที่ตกกระทบลงมา มัน...ทำให้ผมรู้สึกสงบอย่างน่าประหลาด คล้ายกับคนได้แหวกว่ายไปมาในน้ำอย่างอิสระโดยที่ไม่ต้องการอากาศหายใจอีกต่อไป

   ขณะเดียวกัน...การที่เหมือนได้ตกอยู่ในช่วงเวลา Blue Hour อย่างไร้ข้อจำกัดแบบนี้ ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเศร้าไปกับมันด้วย

   ซึ่งนั่นหมายถึงว่า ‘ดี’ นะ

   ผมชอบเวลาที่ตัวเองรู้สึกเศร้าจริงๆ เพราะมันจะยิ่งทำให้คนเราได้รู้ ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขน่ะ คือสิ่งวิเศษที่ล้ำค่ามากขนาดไหน

   ก็เหมือนผมกับไอ้เงินไง ถ้าไม่เสียมันไปครั้งนั้น...ก็คงไม่รู้ว่าตัวเองต้องการมันมากขนาดนี้...

   อีกอย่าง ที่นี่ก็สวยดีด้วย ลองคิดดูสิ ผมยืนตรงนี้ ไอ้เงินยืนหันหน้าเข้าหากันอยู่ตรงนั้น และมีฉากหลังเป็นอควาเรียม โห... มันคงจะเป็นฉากจบที่สวยงามที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้ผมจะหาได้เลยแหละ จริงไหม?

   “...”

   แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น จุดที่ตัวละครสุดท้ายจะมาถึงและปิดฉากทุกอย่างโดยสมบูรณ์ ผมจะขอใช้เวลาทั้งหมดที่เหลืออยู่ ลองคิดทบทวนดูอีกครั้ง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

   ว่าผมควรจะอยู่ หรือควรที่จะไป

   ในความสัมพันธ์สีน้ำเงินของเรา


จบตอน



หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป

ฝากแสดงความคิดเห็นติชมสำหรับเพื่อเป็นกำลังใจและการปรับปรุงในครั้งถัดไปด้วยนะครับ

นอกจากนี้ ฝาก #คู่รักสีน้ำเงิน เสียงดังๆ 555+

หากต้องการพูดคุยถึงนิยายเรื่องนี้ในทวิตเตอร์นะครับ



ขอบคุณครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2018 02:34:09 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: 「 คู่รักสีน้ำเงิน 」 ❥ Intro. | 11/9/2018
«ตอบ #2 เมื่อ11-09-2018 12:20:04 »

เหมือนจะเศร้า...รอติดตาม  :hao5:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Chapter One

โต๊ะปิงปองสีน้ำเงินเข้มสามโต๊ะหน้าห้องพยาบาลคือความทรงจำที่ดีที่สุดที่ผมจะหวนนึกถึง...ในสมัยที่ยังคงศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลาย...

ไม่ใช่เพราะว่ามันพิเศษสำหรับผมมากกว่าอย่างอื่นหรอกนะ แต่เป็นอย่างอื่นต่างหากที่ไม่เคยทำให้ผมได้เห็นความพิเศษของสิ่งเหล่านั้นเลย

ผมควรจะต้องนึกถึงครูเป็นอย่างแรกหรอ?

ไม่ล่ะ ไม่เห็นจะน่าสำคัญตรงไหน ผมเคยโง่มาแล้วครั้งหนึ่งที่คิดว่าคุณครูทุกคนจะจดจำลูกศิษย์ทุกคนได้ แต่พอถึงวันที่เด็กทั้งสายชั้นวิ่งเข้าหาพวกเขาเพื่อแสดงตนเป็นศิษย์ผู้กตัญญูต่อครูบาอาจารย์ ผมกลับได้รับคำถามกลับมาว่า...

“นี่เธอชื่อว่าอะไรนะ?”

...ทั้งที่ผมคิดว่าคุณครูท่านนั้นคือคุณครูที่ผมสนิทที่สุดในโรงเรียน

เท่านั้นล่ะ ผมก็ขอลาขาด ไม่สนว่าใครจะดีแค่ไหน สนแค่ว่าใครจะให้เกรดอะไรเท่านั้นพอ

แล้วเพื่อนล่ะ? ผมควรให้ความสำคัญกับพวกมันไหม?

‘ไม่จำเป็นเลย’ นั่นคือคำตอบที่ผุดขึ้น

ผมไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกลุ่มหญิงหรือว่ากลุ่มชาย สถานะของผมกับพวกเขาคือ ‘เพื่อนร่วมห้อง’ ที่ดีต่อกันเท่านั้น

ซึ่งง่ายดี

การไม่สนิทกับใครเป็นพิเศษทำให้ผมได้รับผลกระทบไม่มากนักในวันปัจฉิมนิเทศ เพื่อนคนอื่นเขาวิ่งเข้าหากัน กอดกัน แล้วก็ร้องไห้ แต่ผมกลับนั่งห้อยขาอยู่บนเวทีหน้าเสาธง สำรวจพวกมันไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดสายตานิ่ง...นาน... อยู่ที่โต๊ะปิงปองสีน้ำเงินเข้มทั้งสามโต๊ะ

รู้สึกใจหายที่คงจะไม่ได้กลับมาเล่นกับมันอีกแล้ว

“ไอ้สัสชล มึงแม่งไม่คิดจะแพ้บ้างเลยหรือไงวะ!”

กติกาการใช้โต๊ะปิงปองไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ‘ใครแพ้’ คนนั้นออก ให้คนที่รอต่อคิวอยู่เข้ามาแข่งขันกับผู้ชนะคนล่าสุดแทน

ซึ่งผมเนี่ยล่ะ คือ ‘ไอ้สัสชล’ ผู้ที่ไม่เคยแพ้ใคร และก็ยากที่ใครจะสามารถโค่นให้ออกจากโต๊ะหมายเลขหนึ่งได้ เว้นเสียแต่ว่าผมจะเป็นคนขอออกไปจากการแข่งขันซะเอง

“เอ้า ก็แล้วทำไมกูต้องแพ้ด้วยวะ”

มันไม่ได้ผิดนะที่ผมไม่คิดจะแพ้ ถ้าเล่นแล้วไม่พยายามที่จะชนะ เราจะเล่นกันไปทำไม? ผมเลยคิดว่าการปาไม้ปิงปองทิ้งหลังจากที่เสียแต้มสุดท้ายของไอ้มนตรีออกจะเป็นอะไรที่หัวร้อนไปสักหน่อย

“งั้นมึงก็เล่นไปคนเดียวเลยเลยไป!”

เลยปล่อยให้มันกระฟัดกระเฟียดจากไปอย่างไม่คิดที่จะตามไปง้อ

ช่างหัวแม่งเหอะ ผมเล่นกับคนอื่นก็ได้

“คนต่อไป”

“...”

“ไม่มีหรอ?”

“...”

“เออ งั้นกูกลับก็ได้”

แต่นั่นล่ะปัญหา เมื่อคุณเก่งอะไรสักอย่างจนไม่มีใครสามารถต่อกรกับคุณได้ คุณจะกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนเล่นในทันที...

ทุกคนเอาแต่ยืนนิ่ง ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าใครคือคิวต่อไป มันเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และเกมการแข่งขันบนโต๊ะหมายเลขหนึ่งก็จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อผมจากไป

เยี่ยมไปเลย

“เดี๋ยวสิ”

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้คว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพาย เสียงของใครสักคนที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนก็เอ่ยรั้งตัวผมไว้ ผมเลยเลือกที่จะหันกลับไปหาแค่ครึ่งตัวเท่านั้น ตั้งใจแค่จะถามว่ามีอะไร ถ้าไม่น่าสนใจก็คงจะกลับเลย เพราะชักรู้สึกเซ็งเต็มทนแล้ว

“มีอะไร...”

แต่ผมกลับต้องชะงัก...

“กูขอเล่นกับมึงหน่อยดิ”

และนั่นล่ะ... คือครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับมัน...

ผมแทบละสายตาจากมันไม่ได้

เงินมันเป็นเหมือนกับเด็กมหา’ลัยร่างกายสมบูรณ์พร้อมที่ยังคงอยู่ในชุดนักเรียนม.ปลาย นั่นล่ะที่ทำให้มันดูโดดเด่นกว่าคนรอบข้าง

สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือความหล่อแบบดิบๆ เถื่อนๆ ที่ยากจะหาได้ในเด็กวัยนั้น การอยู่ใกล้มันจึงเหมือนได้อยู่กับบุคคลอันตรายที่เคยออกมาเผชิญโลกกว้างมานับครั้งไม่ถ้วน

คุณไม่รู้หรอกว่ามันกบฏแค่ไหน

และคุณก็ไม่รู้หรอกว่ามันทำอะไรได้บ้าง

ความจริงที่แน่นอนก็คือคุณจะไม่สามารถปฏิเสธมันได้

คุณจะไม่มีวันก้าวออกมาจากมันได้

ไม่ใช่เพราะว่ามันดีกับคุณ

แต่เป็นเพราะมันคือมัน

รอยยิ้มและเสน่ห์ของมันเหมือนกับดักที่คุณไม่เคยหวั่นกลัว

ไม่ใช่ว่าคุณเก่งนะ คุณรู้แน่ว่ากับดักนั้นอันตรายมาก

แต่คุณก็พร้อมที่จะถลำลึกลงไป... เหมือนคนโง่...

นั่นล่ะ คือความน่ากลัวของมัน

และทั้งหมดนั้นคือมุมมองที่คุณจะได้รับรู้เหมือนกันกับผม...ภายหลังจากที่คุณได้รู้จักมันมาเป็นอย่างดีแล้ว...

“เอาสิ”

ผมตอบรับ ไม่รู้อะไรดลใจให้หยิบไม้กลับมาลงสนามอีกครั้ง ทั้งที่คิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็จะไม่กลับไปเล่นต่อเด็ดขาด

“มึงเริ่มก่อนไหม”

“ไม่ มึงเริ่มก่อนเลย”

พอได้ยินแบบนั้น ไอ้เงินก็พยักหน้า ยิ้ม และเริ่มเสิร์ฟ

จากจุดนั้นเอง มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกคนต่างเรียกไอ้เงินว่า...

...คู่แข่งตัวจริงของไอ้ชล

ใช่ครับ ทุกคนพากันเรียกมันแบบนั้น ซึ่งผมไม่เคยไม่คิดที่จะเห็นด้วย การได้แข่งปิงปองกับมันจุดไฟนักสู้ในตัวผมให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง

การแข่งระหว่างผมกับมันเป็นไปอย่างสนุกสนานและท้ายทาย ผมรู้สึกใจเต้นแรงเมื่อรับรู้ได้ถึงความเสี่ยงที่ตัวเองอาจ ‘พ่ายแพ้’ ทว่าในขณะเดียวกันความสูสีสมน้ำสมเนื้อก็ทำให้ยากที่จะคาดเดาผลลัพธ์

ทุกครั้งที่ผมกับไอ้เงินแข่งกัน โต๊ะหมายเลขหนึ่งของเราจะถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนที่มากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันร้องเฮทุกครั้งที่ทั้งสองฝ่ายสามารถตีโต้กลับมาที่อีกฝั่งได้ มันทั้งชวนตื่นเต้น ชวนติดตาม และช่างเป็นเกมการแข่งขันที่ยาวนานจนไม่รู้จักจบจักสิ้น

เราต้องวัดผลกันด้วยการยอมแพ้ และคนที่ยอมแพ้ก็มักจะเป็นคนที่ ‘หมดแรงก่อน’ ซึ่งไม่เคยเป็นผมเลย ผมกัดฟันสู้เสมอ จนไอ้เงินนั่นล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายยกธงขาวไปเอง

“แล้วสรุปว่าใครเก่งกว่ากันวะ?”

เกมของผมกับไอ้เงินสนุกมากจนกระทั่งคำถามนี้เกิดขึ้น ปกติเราไม่เคยคิดเอาจริงเอาจังกันถึงขนาดให้ตายกันไปข้าง แต่หลังเลิกเรียน วันที่คำถามกระตุ้นให้หาคำตอบผมกับไอ้เงินก็นัดมาแข่งกันอย่างไม่ออมมือ

ผมตีไป มันตีกลับ

แรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น

เหมือนอยากจะเอากันให้ตาย

ชั่วโมงเกมยืดเยื้อยาวนานนับหลายชั่วโมง จนกว่าที่จะรู้ตัวอีกที... เราก็ไม่เหลือผู้รับชมการแข่งขันอีกต่อไป...

ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการโต้กลับ ในขณะที่ไอ้เงินยังดูสบายเหมือนกับตอนเริ่ม

ผมคงต้องแพ้แน่ ผมคิดในใจ

แม้ไม่อยากที่จะยอมรับ แต่ยังไงวันนี้ก็คงจะต้องเกิดขึ้น

ผมเห็นภาพไอ้มนตรีเฮลั่นเมื่อรู้ข่าว มันคงวิ่งบอกทั้งสายชั้นว่าไอ้เงินล้มไอ้ชลได้ แสงสปอร์ตไลต์ทั้งหมดจะหันไปที่ไอ้เงิน และผมก็จะกลายเป็นแค่ ‘ไอ้ชลเพื่อนร่วมห้อง’ ที่ไม่มีอะไรพิเศษอีกต่อไป

ก็... ไม่เห็นจะน่าแปลกใจอะไรนี่เนอะ

ทว่า...

“เชี่ย หมดแรงว่ะ กูแพ้มึงจนได้”

ผมอึ้ง

ไม่ทันได้ตั้งตัวว่าอีกฝ่ายจะรับลูกที่ผมตีโต้กลับไปไม่ได้!?

“กลับบ้านกันเถอะ”

ไอ้เงินยิ้ม เดินไปหยิบเป้มาส่งให้ผม แล้วชวนผมกลับบ้านด้วยกันเหมือนกับทุกเย็นที่ผ่านมา

“ทำไมวะ?”

แต่ผมยังคงไม่เดินตาม

“ทำไมอะไร?”

“มึงจะยอมแพ้กูทำไม?”

ในเมื่อก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าผมกำลังจะแพ้

“รู้ด้วยหรอ?”

“รู้สิวะ!”

ผมขึ้นเสียง ยิ่งเห็นว่ามันยังยิ้ม ดูไม่ซีเรียสกับเกมที่ยื้อยุทธกันมาอย่างนาน ผมยิ่งอยากโวยมันให้เสียงดังกว่านี้

“ก็ไม่มีอะไร” แต่มันก็ยังยิ้ม ยิ้มแบบที่ละลายโลกทั้งใบได้ “กูแค่ไม่รู้ว่าจะชนะไปทำไมก็เท่านั้นเอง” ก่อนที่มันจะก้าวยาวๆ เดินนำผมไปอย่างไว ชนิดที่ว่าผมต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งถึงจะตามทัน

“มึงนี่ก็แปลกคนจริง มีแต่คนเขาอยากชนะ มึงดันอยากแพ้”

“กูไม่ได้อยากแพ้ แค่ไม่เห็นประโยชน์ที่จะชนะ”

“ก็เพื่อได้ชนะไง”

ไม่จริงหรอ ชนะก็เพื่อชนะ เพื่อไม่ต้องเป็นผู้แพ้ ไม่ถูกหรือไง?

“ฟังดูไม่มีความหมายเลยว่ะ”

เชี่ย... มันทำเอาผมอึ้งไปเลย...

ชนะก็เพื่อให้ได้ชนะ เท่ากับ... ไม่มีความหมาย...งั้นหรอ?

“...”

ผมเงียบ... ทำเพียงแค่หันไปมองมันที่กำลังดึงชายเสื้อออกจากกางเกง ก่อนที่มันจะหันกลับมาหาผม...ที่หันหน้าหนีมาแล้ว แล้วเปลี่ยนบทสนทนาไปเรื่องอื่นเลย

“แล้วนี่มึงจะกลับบ้านเลยไหม หรือไปห้างต่อ?”

“คงไปห้างอะ” ผมก้มดูนาฬิกาข้อมือ “กะว่าจะไปหาหนังดูสักเรื่อง”

“อะไรวะ ไปห้างอีกละ”

“เอ้า ก็กูยังไม่อยากกลับบ้านนี่หว่า”

ไอ้เงินมันก็รู้ดีว่าทำไม ผมเคยบอกมันไปแล้วครั้งนึง ว่าแม่ผมย้ายไปทำงานอยู่ที่ใต้ ผมเลยต้องอยู่บ้านคนเดียว และมันไม่ใช่อะไรที่น่าสนุกนัก

มันเองก็เหมือนกัน มันเล่าให้ผมฟังว่าพ่อไม่ค่อยจะกลับบ้าน หายตัวไปอาทิตย์เว้นอาทิตย์ พอถามก็ได้แต่คำด่ากลับมา หลังจากนั้นไอ้เงินมันก็ไม่เคยคิดที่จะถามอีกเลย

“งั้นมึงไปบ้านกูไหม”

อะไรนะ?

ผมถึงกับหันมองหน้าคนชวน รู้สึกไม่เข้าใจในคำถาม ทั้งที่ประโยคก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นการชวนให้ผมไปที่บ้านของมัน

ผมแค่... ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงชวนผม...

ไม่รู้ว่ามันชวนผมไปเพื่อที่จะทำอะไร?

“เฮ้ย อย่าทำหน้าเหมือนกูจะหลอกมึงไปฟันสิวะไอ้ชล”

“พ่อมึงสิ!” ผมถึงกับต้องศอกใส่ให้กับความกวนตีน แต่คนข้างๆ กลับไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังระเบิดหัวเราะลั่นซอยโรงเรียน “กูไม่ได้คิดงั้นซะหน่อย แค่ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรที่บ้านมึงเว้ย หรือไง หรือมึงมีแผนจะชวนกูทำอะไร?”

“ไม่อะ” มันส่ายหน้าจริงจัง “ไม่มี”

“แล้วยังจะมาชวนกูไปอีก”

ปกตินอกจากเล่นปิงปองและก็เดินคุยออกมาที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยโรงเรียนด้วยกัน เราก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นด้วยกันเลยนะ เวลาอื่นในโรงเรียนที่ไม่ใช่หลังเลิกเรียนก็ยังกะคนแปลกหน้า ขืนไปอยู่ด้วยกันที่บ้านสองคน ผมว่ายังไงก็ไม่พ้นคงต้องรู้สึกอึดอัดกันไปข้าง

“ก็ไม่รู้เว้ย” มันยักไหล่ ดูเท่กว่าที่คนอื่นๆ ทำเยอะเลย “กูแค่คิดว่าถ้าคนเหงาสองคนมาอยู่ด้วยกัน มันน่าจะมีอะไรให้ทำบ้าง มึงว่างั้นไหว?” ก่อนที่จะหันมาถามตาซื่อเหมือนไม่ได้รู้เลยว่าประโยคธรรมดาๆ นั้นจะส่งผลต่อจิตใจคนฟังอย่างผมที่เดินอยู่ข้างๆ กัน

โอเค

หนึ่งเลยนะ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็น ‘คนเหงา’ จนกระทั้งคำนั้นได้ออกมาจากปากมัน

และสอง...ผมไม่รู้เลยว่าถ้าคนเหงาสองคนมาอยู่ด้วยกัน มันจะไปมีอะไรให้ทำได้?

แต่รู้ไหม

ความไม่รู้มันมีข้อดีอยู่อย่างนึงนะ

“โอเค งั้นกูไปบ้านมึงก็ได้”

คือมันทำให้เราเองก็อยากรู้

และนั่นคือเหตุผลที่ผมยอมไปกับมัน






การมาถึงบ้านของไอ้เงินไม่มีอะไรพิเศษ

บ้านผมกับบ้านมันก็บ้านจัดสรรเหมือนกัน หน้าตาแทบจะเหมือนกับเป็นบ้านหลังเดียวกันอยู่แล้ว อีกทั้ง...บ้านก็เงียบเหมือนกันอีก... ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากผมกับมัน ไฟทุกดวงปิดมืด รอบตัวกลายเป็นสีน้ำเงินปนเทาเข้ม... แทบมองไม่เห็นทาง ไอ้เงินเลยบอกให้ผมเกาะหลังมันไว้ (แทนที่จะไล่เปิดไฟ) ก่อนที่มันจะพาเดินขึ้นไปยังห้องนอนของมันที่ดูแปลกตา

“กูนึกว่าจะรกกว่านี้”

“มันก็ไม่ได้เรียบร้อยตลอดหรอก”

เจ้าของห้องหันมายิ้ม ยิ้มที่ผมเองก็ไม่รู้ความหมาย แต่กลับยิ้มตอบกลับไปอย่างโง่ๆ

“มึงนั่งก่อน กูฉี่แป๊บ”

“เออ”

ผมตอบรับ ค่อยๆ วางกระเป๋าเป้ลงตรงที่นั่งปลายเตียง ก่อนจะเริ่มทำการเดินสำรวจเพื่อรอเวลาที่เจ้าของห้องขอไปทำธุระส่วนตัว ถึงได้รู้เดี๋ยวนี้เองว่ามันบ้านารูโตะมากขนาดไหน ทั้งหนังสือการ์ตูน ดีวีดี ไปจนถึงโมเดลที่ถูกจัดวางอยู่ตามจุดต่างๆ หันไปทางไหนก็มีแต่นินจาเต็มไปหมด โอตาคุสัสอะ

“อ่านไหม ยืมกูไปอ่านได้นะ”

“ไม่อะ” ผมไม่ได้ตกใจเท่าไหร่นักที่จู่ๆ มันก็กลับออกมาจากห้องน้ำแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง คงเพราะเตรียมตัวจะล้อมันอยู่แล้วมั้ง ถึงได้ไม่สะดุ้งสะเทอนอะไร “มึงนี่แม่งโอตะคุชิบหาย”

“เชี่ย อย่าแซวกู มึงรู้ไหมว่ากว่ากูจะได้นั่นมา กูหมดไปเท่าไหร่”

ผมแกล้งทำท่านับถือไอ้เงินผู้เป็นโอตาคุนารูโตะแบบแซวๆ ไม่รู้หรอกว่าไอ้ลายเซ็นของ ‘มาซาชิ คิชิโมโต้’ นั่นจะได้มาด้วยการเสียไปเท่าไหร่ แต่เชื่อว่ามันคงมีมูลค่าที่สูงมาก และคงเป็นสิ่งที่สำคัญกับมันมากทีเดียว

อะไรแบบที่... ผมไม่เคยมีมาก่อน...

“หิวไหม”

“ก็นิดนึงนะ”

“งั้นเดี๋ยวกูโทรสั่งบอนชอนดีกว่า”

“อืม เอาสิ”

มื้อเย็นนั้นจบลงที่บอนชอนตามที่เราได้ตกลงกัน เป็นมื้อที่อิ่มมาก ไอ้เงินนี่ถึงกับทิ้งตัวลงนอนไปครึ่งเตียง ในขณะที่ผมเดินตัวง้อเป็นกุ้งเพราะอิ่มจนแน่นแต่ก็ยังต้องไปลากหาเก้าอี้มานั่งคุยกับมัน

“เฮ้ย มานั่งบนเตียงดิ สบายกว่าเยอะ”

“ได้หรอ”

ผมไม่ลังเล ไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่ดีไหม เพราะปกติไม่เคยมีเพื่อนคนไหนไปเที่ยวบ้าน เลยไม่รู้ว่าไอ้การขึ้นเตียงคนอื่นมันเป็นเรื่องปกติรึเปล่า?

“ได้ดิ กูไม่หวงหรอก มาๆ”

เจ้าของห้องตบพื้นที่เตียงที่ยังว่างอยู่เป็นการเชิญชวน ก่อนที่มันจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดเล่น คงกำลังคุยกับสาวสักคนนั่นล่ะ

เออ ก็ได้วะ

ผมบอกกับตัวเองแบบนั้น ก่อนที่จะขึ้นไปนอนข้างๆ มันบนเตียง ไอ้เงินนี่แปลกนะ ชอบแหกแข้งแหกขาชะมัด ใหญ่นักหรือไง จะนั่งจะนอนแม่งแหกหมดเลย ไอ้ห่า

แล้วทีนี้ไงต่อล่ะ มันเล่นโทรศัพท์แบบเนี้ย ผมก็ต้องเล่นด้วยใช่ไหม?



ชลที่แปลว่าน้ำ @saichon • 1s
แปลกดีเหมือนกัน




ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาทวีตเล่น รู้สึกอยากเขียนถึงความรู้สึกในตอนนี้ลงไป ‘ความรู้สึกที่แปลก’ เหมือนเป็นประสบการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกับตัวผม การมาบ้านเพื่อน การกินข้าวเย็นที่สั่งมากับเพื่อน และการนอนเล่นมือถือข้างๆ เพื่อน มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมทีเดียว

“กระดุมมึงหลุดอะ”

“อะไรนะ?”

“กูบอกว่ากระดุมมึงหลุด เนี่ย”

ผมหันไปมองมัน ไอ้เงินที่เลิกสนใจไอโฟนตอนไหนไม่รู้ชี้มายังกระดุมเม็ดแรกของผมที่หลุดออก ผมถึงได้วางไอโฟนลงข้างๆ เพื่อที่จะติดกระดุมของตัวเอง

ทว่า...!

“เชี่ยเงิน มึงทำไรเนี่ย!!”

“หอมแก้มมึงไง”

ผมถึงกับเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกตกใจสุดขีด! เพราะไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอกับอะไรแบบนี้ กับการที่...ถูกผู้ชายด้วยกันหอมเข้าที่แก้ม... ยิ่งอีกฝ่ายลุกขึ้นนั่งบ้างด้วยหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย ผมยิ่งไม่เคยคาดคิดใหญ่!

“แล้วมึงมาหอมกูทำไม!”

แต่แทนที่ไอ้เงินจะตอบ มันกลับดึงผมเข้าไปประกบปาก!

ผมพยายามที่จะยื้อตัวเองออก ตั้งท่าเตรียมลุกหนีจากเตียงเต็มที่ แต่กลับสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้!

“อื้ออออออออ!”

มันขบเม้มริมฝีปากล่างของผมแน่น ก่อนจะสลับกับจูบย้ำๆ ซ้ำๆ ทั้งที่ผมไม่เต็มใจ ขณะที่มืออีกข้างที่ไม่ได้ล็อกแขนผมไว้ก็เริ่มปะป่ายไปทั่วทั้งร่าง

ผมคิดว่าผมพยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่แล้วในวินาทีนั้นเพื่อที่จะเอาตัวรอด และนั่นยิ่งทำให้ได้เห็นถึงความเอาแต่ใจของอีกฝ่ายที่ค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

มันไม่ได้ทะนุถนอมผมเลยสักนิด ทั้งดึงรั้ง ทั้งกระชาก บ้างกดทับกระแทกกระทั้นรุนแรง

หากแปลก... ยิ่งมันดิบขึ้น เถื่อนขึ้น ผมกลับยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเอง...กลายเป็นนกเก็บปีกขึ้นมา...

“เงิน...”

กะ...การพูดแบบนั้นมันหมายความว่าผมมีปีกนะ...

ใช่ ผมมีปีก ผมไม่ได้กำลังปีกหัก ไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงจนไม่สามารถที่จะบินหนีหรือตีปีกสู้กับศัตรูได้

แต่ผมกลับเก็บมันแนบลำตัวชิด ทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าผมไร้ทางสู้ และค่อยๆ ปล่อยกายให้ไอ้เงินมันได้ละเลงอารมณ์ความรู้สึกในสิ่งที่มันอยากทำอย่างเต็มที่

ผมเริ่มไหลไปกับมัน

เริ่มชอบสัมผัสและกลิ่นกายของมัน

ไอ้เงินกำลังทำให้ผมรู้สึกถึงบางอย่างมี่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน

มันเกิดขึ้นเร็วและไม่ทันได้ตั้งตัว

เป็นสิ่งที่ไม่อยากจะยอมรับ

แต่กลับยากที่จะปฏิเสธ


จริงๆ... ผมจะถือว่าสิ่งที่มันทำในคืนนั้นเป็นการข่มขืนก็ยังได้

ทว่า... ผมกลับถือว่าเรื่องนั้น... เป็นการสมยอมของผมเสียเอง...



จบตอน

หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป
ฝากแสดงความคิดเห็นติชมสำหรับเพื่อเป็นกำลังใจและการปรับปรุงในครั้งถัดไปด้วยนะครับ
นอกจากนี้ ฝาก #คู่รักสีน้ำเงิน เสียงดังๆ 555+
หากต้องการพูดคุยถึงนิยายเรื่องนี้ในทวิตเตอร์นะครับ

ขอบคุณครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2018 02:15:02 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ Lookpla14

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตามๆๆ  :z2: :กอด1:

ออฟไลน์ Phabphimismew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Phabphimismew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Chapter Two



   ผมเปลือยเปล่า...

   สีผิวที่เคยขาว... ถูกย้อมทับด้วบสีฟ้าเข้ม...




   ผมชอบช่วงเวลาแบบนี้นะ ช่วงเวลาที่ความมืดกับความสว่างตัดกัน

   ลักษณะเหมือนฝ่ายหนึ่งอยากจะยื้อไว้ แต่ก็ไม่อาจที่จะต้านทานอีกฝ่ายได้

   ทำเอาใจผมโหวงเป็นบ้า...

   

   Nothing’s gonna hurt you baby~

   

   เพลงจากไอโฟนไอ้เงินที่เสียบชาร์จอยู่ยังคงไม่หยุดเล่น

   มันดังวนต่อเนื่องหลายต่อหลายรอบ ไม่มีทางหยุดจนกว่าที่ใครจะเดินไปกดปิดมัน



   As long as you’re with me, you will be just fine~



   ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเพลงของใครหรือมีชื่อว่าอะไร

   รู้แค่ว่ารู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถที่จะลืมเพลงนี้ได้อีกแล้ว



   ไอ้เงินมันฉลาดนะ

   มันฉลาดที่จะปลุกเร้าผมด้วยเพลงที่ฟังดูเศร้า... ขยับกายเข้าออกด้วยจังหวะเนิบช้าอย่างไม่คิดเร่งรีบ และก้มลงมาจูบผมทุกครั้งที่เนื้อเพลงเล่นมาจนถึงท่อน ‘Nothing’s gonna hurt you baby’ ที่เป็นชื่อของเพลงๆ นี้

   เหมือนมันต้องการที่จะบอกว่า ไม่มีอะไรที่จะทำร้ายผมได้ทั้งนั้น นานตราบเท่าที่ผมยังมีมันอยู่ด้วยกันตรงนี้

   ซึ่งมันได้ผล ผมเชื่อมันหมดใจ

   เชื่อจนลืมนึกไปเลยว่า มันนั่นไง... คือบอสใหญ่ที่กำลังทำร้ายผมอยู่...

   “ตื่นแล้วหรอ”

   ผมสะดุ้ง ไม่ทันได้ตั้งตัวว่าคนที่หลับอยู่จะพลันตื่นขึ้นมา

   “อือ”

   “หิวไหม หน้าหมู่บ้านมีร้านข้าวมันไก่นะ”

   “ไว้ก่อนแล้วกัน”

   ไอ้เงินไม่ได้ดูเปลี่ยนไปเลยสักนิด มันยังคงเป็นปกติอยู่ได้ ทั้งที่เนื้อตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อน และก็นอนอวดหุ่นที่โตเกินวัยของมันอยู่ในระยะประชิดแบบนี้

   “มองไร”

   “เปล่า”

   ผมเลือกหันหน้าหนี ไม่อยากให้มันติดใจเรื่องที่ผมพยายามมองมันในแสงสีฟ้าเข้มของธรรมชาติ



   ภาพของมัน...ที่ผมจำไม่เคยลืม...



   ไอ้เงินเดินลงจากเตียงเพื่อไปเปิดไฟ ผมเผลอกำมือแน่น รู้สึกขัดใจไม่น้อยที่แสงสว่างเข้าทำลายบรรยากาศสีฟ้าเข้มระหว่างเราให้หายไปชั่วพริบตา

   “งั้นวันนี้มึงใส่ชุดกูก็แล้วกันนะ”

   ผมไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่นัก “จะดีหรอวะ”

   “ดีดิ”

   แต่ไอ้เงินยืนยันอย่างนั้น ก่อนที่มันจะหยิบเอาชุดนักเรียนชายกางเกงน้ำเงินสองตัวออกจากตู้มาพาดพักไว้ที่พนักเก้าอี้

   ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี การเดินกลับมานั่งที่เตียงอีกครั้งของมันทำให้ผมอึดอัด... ทำไมมันถึงไม่พูดอะไรเลย มันน่าจะพูดอะไรออกมาบ้าง ไม่ใช่เอาแต่จ้องมองผมในความเงียบแบบนี้

   “…”

   นี่มันคิดอะไรของมันอยู่นะ

   กำลังคิดอะไรอยู่ตอนที่มันมองมา

   ผมได้แต่เดาไปเรื่อย ไม่กล้าถาม

   เลือกปล่อยให้ ‘ความคิด’ ของไอ้เงินกลายเป็นความลับอยู่อย่างนั้น

   ไม่ใช่เพราะกลัวคำตอบ แต่เป็นความรู้สึกที่อยากจะเอาชนะมันให้ได้ในการแข่งขันที่เกิดขึ้นภายในใจของตัวผมเองมากกว่า

   “…”

   ถ้านี่คือการแข่งตีปิงปองระหว่างมันกับผม เราคงอยู่ในช่วงของการตีโต้ไปมาด้วยความเงียบ

   ไม่มีชัยชนะที่ขาวสะอาดหรอก

   มีแต่ใครสักคนที่จะต้องยอมแพ้อีกฝ่ายอย่างทุกครั้งที่ผ่านมาเท่านั้น

   ซึ่งผมคิดว่าควรที่จะเป็นมันนะ

   “เป็นไร ทำไมเงียบ”

   แล้วก็เป็นมันจริงๆ

   “กูก็แค่...” เมื่อมันยอมพูดก่อน ผมจึงยอมหันมาสบตากับมันบ้าง “กำลังใช้ความคิด” และไม่คิดที่จะปิดบังสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเอง

   “เรื่องไรวะ”

   “เรื่องเมื่อคืน ที่เรา...”

   “เอากัน?”

   สัด อันนี้ก็ตรงเกิน

   “เออ เรื่องที่มึงเอากูนั่นล่ะ” ผมเลยต้องตรงไปกับมันด้วย “มึงไม่คิดที่จะพูดอะไรหน่อยหรอวะ”

   “แล้วมึงอยากให้กูพูดอะไรล่ะ” คราวนี้ไอ้เงินขยับตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นกว่าเดิม จนผมได้กลิ่นของมัน กลิ่นที่ผมไม่ควรชอบ แต่กลับชอบ... ทำให้ใจที่เคยสงบพลันกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง... “ชมว่ามึงรับเก่ง?”

   “สัด มึงข่มขืนกูนะเงิน”

   “เปล่าสักหน่อย”

   “มึงทำ!”

   “งั้นทำไมมึงไม่ขัดขืนกูล่ะวะ”

   ใจผมถึงกับเต้นแรงกว่าเดิม หากคราวนี้ไม่ใช่เพราะความหวั่นไหว แต่เป็นความโกรธที่ปะทุขึ้นจากคำพูดของอีกฝ่าย มันพูดออกมาได้ยังไงวะด้วยสีหน้าและท่าทางแบบนั้น เหมือนทุกอย่างเป็นแค่เรื่องเล่นๆ ไม่ใช่เรื่องหนักหนา ทั้งที่มันไม่ตลกเลยสักนิด!

   “เดี๋ยว” มันรีบคว้ามือผมไว้ “มึงจะไปไหน”

   “กูจะกลับบ้าน”

   “เชี่ย นี่มึงซีเรียสหรอวะ”

   “แล้วกูควรซีเรียสไหมล่ะ”

   มันส่ายหน้า ทำเอาผมไม่อยากที่จะเชื่อสายตาตัวเอง “เว้นแต่มึงจะอยากให้กูรับผิดชอบ อันนั้นถึงจะถือว่าเป็นเรื่องซีเรียส” นี่ไอ้เงินมันไม่ได้คิดว่าตัวเองทำอะไรผิดเลยสินะ จนผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมสามารถโกรธมันได้ไหม หรือจริงๆ แล้วคือมันไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต่อผมจริงๆ? “เอาไง อยากให้กูรับผิดชอบรึเปล่า”

   ผมเม้มริมฝีปากแน่น

   หน้าตาตอนนี้คงปนเปไปด้วยอารมณ์หลากหลายที่โหมมากองรวมกันอยู่ “แล้วถ้า... สมมติว่าถ้ากูอยาก มึงจะรับผิดชอบยังไง” จึงควรที่จะได้รู้อะไรจากมันสักอย่าง ก่อนที่จะอึดอัดใจกันไปมากกว่านี้

   “ก็คง...” มันเว้นจังหวะคิด “คบกับมึงมั้ง”

   ทำเอาผมต้องรีบปฏิเสธทันที “กูไม่เอาด้วยหรอก” อย่าว่าแต่คบเป็นแฟนเลย “ให้เป็นเพื่อนต่อตอนนี้กูยังคิดหนักเลยว่ะ” แค่หลับตาลงก็เห็นภาพมันที่โยกอยู่บนตัวผมแล้ว จะให้เป็นเพื่อนได้ยังไงกัน

   “ทำไมวะ”

   “ก็มึงกับกู...มีอะไรกันแล้วนะเว้ย” จะพูดว่า ‘เอา’ อีกรอบก็กระดากปาก “เพื่อนที่ไหนเขาเอากันบ้าง”

   “กลัวหวั่นไหวสิท่า : )”

   สัด มึงไม่ต้องมายิ้มแบบนั้นเลยนะ คิดว่าตัวเองกำลังถือไพ่เหนือกว่าหรือไง กูนี่ กูต่างหากที่ควรจะต้องถือไพ่เหนือกว่ามึง มึงทำกู กูคือเหยื่อ กูต้องมีอำนาจในการต่อรองมากกว่าสิวะ

   ผมสะบัดมือมันทิ้ง ทำตัวเองให้เป็นอิสระด้วยการชู้นิ้วกลางให้กับไอ้เงินที่ยังคงยิ้มไม่เลิก และเริ่มยืนยันว่าผมไม่ใช่คนที่จะต้องกลัวความหวั่นไหว แต่เป็น... “มึงต่างหากที่จะหวั่นไหว”

   

   [/i]ตอนนั้นผมมั่นใจมาก

   ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน

   แต่มันรู้สึกมั่นใจจริงๆ ว่าไอ้เงินคือคนที่จะต้องหวั่นไหวกับผม

   ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเข้าใจผิดตลอดมา[/i]



   “หึ มั่นใจจังนะ”

   “เออ กูไม่เคยมั่นใจอะไรมากเท่านี้”

   ผมตัดสินใจที่จะตัดจบแค่นั้น อยากคว้าชุดนักเรียนของมันไปเข้าไปในห้องน้ำแล้วจัดการกับทุกอย่างที่ยังคงฝังแน่นอยู่บนร่างกาย ทว่า...

   “พิสูจน์สิ”

   ผมชะงัก หันกลับมาสบตากับไอ้เงินอีกครั้ง

   สายตาของมันเต็มไปด้วยความท้าทาย...

   ไอ้เงินกำลังกระตุ้นสัญชาตญาณการแข่งขันในตัวผม สัญชาตญาณที่ผมไม่เคยคิดที่จะหลบซ่อน ยิ่งรู้ว่ามีอีกฝ่ายที่พร้อมจะชิงชัยด้วย ผมยิ่งอยากแข่งขัน ยิ่งอยากเอาชนะ

   ทั้งที่มันไม่มีความจำเป็นเลยแม้แต่น้อย

   “ยังไง”

   แต่ผมก็ยังเอาด้วย ผมอยากรู้กติกาของเกมนี้

   “ไม่ยาก” มันเปลี่ยนเป็นลุกขึ้นมายืนประจันหน้ากับผม “เป็นเพื่อนกันต่อไป แต่ทำอะไรได้มากกว่าที่เพื่อนเขาจะทำกัน”

   “เช่นอะไรบ้าง”

   มันไม่ได้ตอบผมออกมาเป็นคำพูด แต่ไอ้เงินมันสาธิตให้ดูเลยว่าสามารถทำอะไรที่ ‘มากกว่าเพื่อน’ ได้บ้าง โดยเลือกที่จะดึงผมเข้าไปจูบแบบไม่บอกกล่าว ผมที่มีอาการตกใจอยู่บ้างจึงเผลอขืนตัวเองในตอนแรก กระทั่ง...คิดได้ว่านี่คือส่วนหนึ่งของเกมนั่นล่ะ... ถึงได้ปล่อยให้เป็นไปตามที่อีกฝ่ายต้องการ

   รสจูบของไอ้เงินทำให้ผมแทบคลั่ง ผมต้องฝืนตัวเองอย่างเต็มที่ในตอนนั้นเพื่อไม่เคลื่อนตัวตามอีกฝ่ายที่ค่อยๆ ถอนจูบออกไป “เราจะทำกันทุกอย่างที่เราอยากทำ โดยมีข้อแม้เพียงข้อเดียวเท่านั้น”

   “อะไร” ผมถามกลับแบบไม่ค่อยจะเต็มเสียงนัก เพราะยังคงติดอยู่กับรสจูบที่ยังคงไม่จืดจาง
   “ใครบอกรักอีกฝ่ายก่อน คนนั้นแพ้”

   “หึ” ผมที่เคลิ้มๆ อยู่ถึงกับแค่นหัวเราะออกมา มันเป็นการหัวเราะแบบหัวเราะเยาะเย้ย เพราะรู้สึกผิดหวังกับกฎของเกมที่ฟังดูปัญญาอ่อนและโคตรจะน้ำเน่า ฟังดูไม่สมกับเป็นไอ้เงินเลยสักนิด “แล้วใครมันจะไปโง่พูดคำว่ารักเพื่อให้ตัวเองแพ้กันวะ”

   “นั่นสิ ใครมันจะไปโง่กัน” มันเองก็เริ่มพยักหน้าเห็นด้วยบ้าง แต่ก็ยังคงความมั่นใจในกติกาของเกมที่คิดขึ้นต่อไป จนผมอดหงุดหงิดไม่ได้กับความมั่นใจที่ฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้น

   “งั้นมึงจะใช้เงื่อนไขนี้ทำไม”

   “กูว่ามันสนุกดี”

   “ตรงไหนวะ”

   ผมยังคงไม่เห็นด้วย ไม่เห็นว่าจะสนุกตรงไหน มีแต่จะทำให้ต่างฝ่ายต่างปิดปากเงียบเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ มันตัดสินผลยาก และไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง

   จนกระทั้งได้ฟังคำอธิบายของไอ้เงิน...

   “ก็ตรงที่... ยิ่งอยากชนะมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งต้องทนเก็บความรู้สึกเอาไว้มากขึ้นเท่านั้น ถึงปากมึงจะไม่ยอมพูดอะไรออกมา แต่ใจมึงก็ยังต้องทนรู้สึกกับมันอยู่ดี กูว่านั่นล่ะ ความสนุกของเกมที่เรากำลังจะเล่นกัน : )”

   ...ทำเอาผมเกือบยิ้มไม่ออก

   แต่ก็เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นนะ

   เสี้ยววินาทีก่อนที่ผมจะยิ้มออกมาอย่างมั่นใจในชัยชนะของตัวเอง มันเป็นรอยยิ้มอย่างคนที่ไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้ และพร้อมทะยานลงสู่สนามแข่งโดยไม่ลังเล

   “กูเอาด้วย เริ่มกันวันนี้เลย”

   “ตกลง”

   

   หึ...

   ผมจะแพ้ได้ไง ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่เริ่มก้าวข้ามเส้นแบ่งความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก่อน
   มันต่างหากที่ดึงผมให้มาอยู่อีกด้านของความสัมพันธ์ที่หาทางออกไม่ได้

   เพราะฉะนั้น อย่าว่าแต่จะต้องทนเก็บความรู้สึกเพื่อชัยชนะเลย

   ผมอาจไม่มีวันที่จะรู้สึกอะไรกับมันเลยด้วยซ้ำ



   ตอนนั้นผมคิดกับตัวเองแบบนี้
   กระทั่งเกมบ้าๆ นั่นเริ่มต้นขึ้นมาจริงๆ

   ผมถึงได้รู้...

   ว่าผมคิดผิด...



   คิดผิดเหลือเกิน...







   หลายๆ ครั้งที่ผมเกลียดเกมที่เราสองคนกำลังเล่นอยู่
   ไม่ใช่เพราะมันไม่ได้สนุกอย่างที่ผมคิด
   แต่เป็นเพราะมันเอื้อความสนุกให้กับอีกฝ่ายมากกว่า
   ซึ่งก็คือไอ้เงิน




   การเล่นเกมความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งคู่มีข้อเสียที่เห็นได้ชัดที่สุดอย่างหนึ่ง คือการที่เปิดโอกาสให้ไอ้เงินสามารถตักตวงความต้องการของมันจากนร่างกายของผมได้อย่างเต็มที่

   กฎที่เพิ่มเข้ามาภายหลังคือเราไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของกันและกันได้ ผมต้องปล่อยให้มันกอดจูบลูบคลำผมทุกครั้งที่มันต้องการ และยิ่งไปกว่านั้น ผมต้องถูกมันลากขึ้นเตียงครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่เห็นถึงความแฟร์
   
   อะไรมันจะไปแฟร์ได้
   ในเมื่อมันคือฝ่ายที่กระทำผม
   ปลดปล่อยความต้องการของตัวเองได้อย่างเต็มที่
   ในขณะที่ผมได้แต่นอนรองรับอารมณ์เหล่านั้น

   และกระดากอาย... เกินกว่าที่ร้องขอให้มันช่วย...



   แต่นั่นก็เป็นข้อเสียเพียงไม่กี่เรื่องที่เกิดขึ้น

   และผมต้องยอมรับว่ามีข้อดีอีกมากมายที่เกิดขึ้นจากการที่ผมได้อยู่กับมัน




   ผมยอมรับว่าการได้เล่นเกมกับมันเปลี่ยนชีวิตผมไปโดยปริยาย ผมแทบจำไม่ได้ว่า ‘ก่อนเคยเป็นมายังไง’ ในวันที่ยังไม่มีไอ้เงินเข้ามาในชีวิต

   การได้มีความสัมพันธ์พิเศษกับคนอย่างไอ้เงินช่วยเปิดโลกใบใหม่ให้กับผมหลายต่อหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการที่ผมได้รู้ว่าตัวเองเป็นพวก ‘ขี้เหงา’ ซะจนเข้าขั้นดราม่า

   การอยู่เพียงลำพังในบ้านกลายเป็นสิ่งไม่คุ้นชินอีกต่อไป

   พอไม่มีไอ้เงินอยู่ด้วย จากสถานที่ที่คุ้นเคยก็กลายเป็นสถานที่ที่น่าหวาดหวั่นไปได้

   

   จริงๆ อาจฟังดูไม่ดีนัก

   แต่ผมยอมรับว่าการไม่มีแม่ในบ้านไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไปแล้ว

   เพราะผมมีไอ้เงิน

   และไอ้เงินก็จะมีผมเสมอ

   นั่นล่ะ คือสิ่งที่ผมรู้สึกว่าโลกของผมเปลี่ยนไป

   และผมก็ยังไม่เคยคิดที่จะแก้ไขเลยสักที

   ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องดีที่จะเอาชีวิตไปผูกติดกับใครไว้

   เนื่องจากวันใดถ้าไม่มีเขาขึ้น เราอาจจะอยู่ลำพังไม่ได้




   “ไปเที่ยวกัน”

   นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่นับว่าการมีเงินในชีวิตคือการเปิดโลกใบใหม่ให้กับตัวของผมเอง

   การตอบรับการไปเที่ยวกับไอ้เงินเหมือนเป็นการเปิดประสบการณ์ที่ลำพังแค่ตัวผมก็อาจจะยังไม่สามารถหามาให้กับตัวเองในช่วงก่อนจบมัธยมได้

   สถานที่นั้นมีชื่อว่า... 蓝

   มันเป็นภาษาจีนที่ผมไม่เคยรู้ความหมาย รู้แค่ว่าบางคนก็อ่านว่า ‘หลัน’ ในขณะที่บางคนก็อ่านว่า ‘หลาน’

   บางคนและบางคนที่ว่าก็คือผมกับไอ้เงิน

   

   ผมอ่านว่าหลัน มันอ่านว่าหลาน

   

   มันเป็นผับใต้ดินที่อยู่ชั้นใต้ดินในย่านๆ หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของผมนัก ไอ้เงินค้นพบที่นี่เพราะมีรุ่นพี่ที่สนิทกันแนะนำมา มันบอกว่า...

   “ร้านนี้อายุไม่ถึงก็เข้าได้”

   “จริงหรอวะ”

   “จริงสิ แถมไฟในร้านเป็นสีน้ำเงินด้วย มึงต้องชอบแน่”

   แล้วก็เป็นจริงอย่างที่มันว่าทุกประการ

   อายุไม่ถึงไม่ใช่ปัญหาของร้านหลัน และคนเฝ้าประตูก็กังวลกับการแฝงตัวมาของตำรวจนอกเครื่องแบบ มากกว่าที่จะสนใจว่าคนที่มาอาจจะยังอายุไม่ถึงเกณฑ์

   จริงๆ ผมไม่ควรที่จะชอบที่นี้เลยแม้แต่น้อย มันร้อนนิดๆ และแออัดไปด้วยกลุ่มชายรักชายจำนวนมากที่เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อปลดปล่อยไปกับค่ำคืนที่ไม่อาจเปิดเผยให้คนภายนอกรับรู้ได้

   แต่ผมก็ชอบมัน

   ชอบที่มันเป็นสีน้ำเงินอย่างที่ผมชอบ

   และชอบที่ไอ้เงินมันรู้ว่าผมต้องชอบเพราะเป็นร้านที่เต็มไปด้วยสีที่ผมชอบมาตลอดทั้งชีวิต

   มันแสดงให้เห็นว่าไอ้เงินจำในสิ่งที่ผมบอกมันได้

   มันใส่ใจผม

   และผมก็มีโอกาสที่จะชนะเกมที่เราต่างเล่นกันอยู่ในตอนนี้



   ก็ถ้าคนมันไม่คิดอะไร มันจะมาใส่ใจกับอีแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ทำไม จริงไหม?



   ความคิดนั้นทำให้ผมเผลอยิ้มกับตัวเอง และจำต้องสะดุ้งเมื่อถูกคนข้างๆ ถามขึ้นมาในระหว่างที่กำลังคิด

   “ไอ้ชล”

   “อะ...อะไร”

   “จะแดกอะไร”

   “มึงแดกอะไรล่ะ”

   ผมถามมันกลับ ไม่ใช่อะไรหรอก ผมไม่รู้ว่าผมต้องแดกอะไร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สิ่งที่ผมคุ้นเคยและจะสามารถบอกชื่อออกไปเพื่อสั่งตามความต้องการของตัวเองได้

   “กูอยากกินจิน”

   “งั้นหรอ” ผมแกล้งทำเป็นเออออ แต่ไม่แน่ใจเลยสักนิดว่าไอ้เครื่องดื่มที่ชื่อว่า ‘จิน’ ที่มันพูดถึงอยู่คืออะไร “งั้นกูเอาด้วย”

   ไอ้เงินเลิกคิ้วสูง ดูไม่ค่อยอยากจะเชื่อนักว่าผมต้องการเครื่องดื่มแบบเดียวกับมัน

   “เออ เอาเหมือนมึงนั่นแหละ กูขี้เกียจเรื่องมาก”

   ผมจึงต้องตัดจบด้วยการกวักมือไล่ ให้มันไปให้พ้นๆ ผมจะได้ไม่ต้องหลบซ่อนความอายจะการพยายามทำเป็นคนรู้เรื่องเหล้าของตัวเอง

   พอไอ้เงินไม่อยู่ ผมก็พยายามสำรวจไปรอบๆ ร้าน ดูเหมือนว่าคืนนี้จะมีคนมามากกว่าทุกคืน ไม่ใช่แค่ทุกโต๊ะที่เต็ม แต่พื้นที่ระหว่างโต๊ะเองก็แทบจะไม่มีที่เหลือให้ยืนอีกต่อไปแล้ว

   ผมกับไอ้จินเองก็ยืนอยู่ในมุมเล็กๆ ระหว่างเสากลางร้าน ตรงจุดนี้มีคนพลุกพล่านซะจนผมอยากจะชวนให้ไอ้เงินเปลี่ยนไปยืนกันที่อื่นแทน

   เสียงดนตรีจากดีเจคนดังของ 蓝 ดังกระหึ่มขึ้นเมื่อถึงเวลา ผู้คนในร้ายเริ่มวาดลวดลายการเต้นไปกับแสงสีน้ำเงินของร้าน

   จะว่าไปที่นี่ก็ไม่ต่างอะไรจากอควาเรียมขนาดใหญ่ที่มีฝูงปลาแหวกว่ายอยู่ เพียงแต่ในอควาเรียมของสัตว์ทะเลนั้น...

   “บะ...เบาหน่อย โอ๊ยยยยย”

   ไม่ได้มีเสียงสมสู่ของมนุษย์แบบนี้



   มันเริ่มแล้ว…



   พอเสียงดนตรีจากดีเจคนดังเริ่มบรรเลงขึ้น การมั่วเซ็กส์ที่ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมโดยปกติทั่วไปของ 蓝 ก็เริ่มบรรเลงตาม

   ผมจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาเลย ถ้าเกิดว่าผมที่ยืนอยู่เฉยๆ เพื่อรอไอ้เงินจะโดนประกบด้วยผู้ชายสองคนที่พุ่งตรงเข้ามา

   พวกเขาหน้าตาดีทีเดียว ทำเหมือนอยากที่จะเต้นกับผม แต่สักพักเข้า พวกเขาก็เริ่มแสดงออกชัดในสิ่งที่ต้องการ

   “ขอโทษนะครับ”

   ผมเลือกที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพ เพราะเข้าใจดีว่าการมาที่นี่อาจถูกมองเป็นคนที่มีความต้องการที่จะมั่วเซ็กส์ได้ หากแต่ผู้ชายสองคนนี้กลับไม่ฟัง เริ่มใช้ความแออัดเข้ามาประชิดผมมากขึ้น และก็เริ่มต้อนผมให้จนอยู่ในมุมที่เกือบจะลับตา

   พวกเขาไม่มีใครพูด ไม่แม้แต่จะเอ่ยขอว่าต้องการอะไร ทำเพียงแค่ช่วยกันบดเบียดผมให้โอนอ่อนผ่อนตามไปกับความต้องการนั้น

   นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่ผมเริ่มมองหาไอ้เงิน เพราะรู้สึกกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับตัวเอง และก็คงที่จะมีมันเท่านั้นที่จะช่วยเหลือผมได้ ท่ามกลางผู้คนที่เปลือยเปล่ากันซะเป็นส่วนใหญ่อยู่ในตอนนี้

   ทว่า...

   “ปล่อย!”

   ผมกลับมองหามันไม่เจอ

   มันไม่ได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่

   มองไปทางไหนก็ไม่เจอมันเลย

   ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้

   มันโดดเด่นจะตาย

   แล้วมันก็ตัวสูงมาก

   แต่ผมกลับมองไม่เห็นแม้แต่เงาของมันอยู่ในที่แห่งนี้!

   “ปล่อยนะพี่!”

   ไม่มีใครฟังผมเลย

   “ชะ...ช่วยด้วย!!”

   ต่อให้ผมร้องขอความช่วยเหลือเท่าไหร่ก็ไม่มีใครฟังผม

   ทุกคนสนใจอยู่กับความต้องการของตัวเอง บ้างติดพันอยู่กับการกระแทกคนตรงหน้า บ้างก็ก้มๆ เงยๆ อยู่ที่หว่างขาของคนอื่น และบ้าง...ก็กำลังติดพันอยู่ระหว่างการถูกกระแทกกระทั้นทั้ง ‘หน้า’ และส่วนหลังของตัวเอง

   ผมพยายามสะบัดตัวสุดแรงเพื่อให้พ้นจากมือที่รุมทึ้งตัวผมเหมือนฝูงซอมบี้ ดูก็รู้ว่าพวกมันไม่เกรงกลัวที่จะข่มขืนใครสักคนให้หนำใจ

   ตอนนั้นผมทำได้แค่ดิ้นรนต่อสู้

   เหมือนเหยื่อที่พยายามจะแหวกว่ายออกไปให้ไกลจากขมเขี้ยวของมฤตยู

   “ปล่อยนะเว้ย!!!”

   มึงอยู่ไหนวะเงิน

   มึงช่วยกูด้วย

   ช่วยด้วย

   ช่วย...

/ ต่อด้านล่าง /


ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
“ขอโทษนะพี่ ผมขอแฟนผมคืนหน่อย”

   มันมาแล้ว...

   ไอ้เงินที่หายหัวไปกลับมาแล้วอย่างที่ผมต้องการ!

   ผมไม่ได้รู้สึกประหลาดอะไรที่มันใช้คำว่า ‘แฟน’ เรียกแทนตัวผม เพราะเข้าใจดีว่าถ้าไม่อ้างอย่างนั้นก็คงจะดึงตัวผมออกไปไม่ได้

   ผู้ชายสองคนนั้นตอนแรกก็เหมือนว่าจะไม่ยอมหรอกนะ แต่พอไอ้เงินเริ่มวางหน้านิ่ง และแผ่รังสีอำมหิตออกมา พวกเขาทั้งคู่ที่เป้ากางเกงกำลังโป่งนู่นก็จำต้องล่าถอยไป เหลือไว้เพียงผมที่ซัดหมัดเข้าที่อกของไอ้เงินเต็มแรง

   “กูเกือบโดนพวกมันข่มขืนแล้วรู้ไหม!”

   “กูก็มาช่วยแล้วนี่ไง”

   ไอ้เงินยื่นเครื่องดื่มให้ผม ดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดที่ผมเกือบโดนหลุมโทรมโดยคนแปลกหน้า

   เชื่อมันเลย ไอ้เหี้ยนี่

   “แล้วนี่มึงไปไหนมา”

   ผมกระชากแก้วว่าดื่มรอคำตอบอย่างไม่สบอารมณ์

   สัด ขมเหี้ยๆ นี่น่ะหรอจิน ไม่อร่อยเลยสักนิด รสชาติทุเรศมาก ขอแช่งให้คนคิดค้นที่อาจจะตายห่าไปแล้วและอาจจะมาเกิดใหม่แล้วตายห่าไปอีกรอบ!

   “กูก็ไปเอาเหล้าให้มึงนี่ไง”

   “แล้วทำไมกูถึงไม่เห็นมึงอยู่ที่บาร์”

   “สงสัยวันนี้คนเยอะมั้ง” มันยักไหล่ ดูไม่จริงจังกับสิ่งที่ผมถาม “เมื่อกี้นี้กูเองก็เกือบจะมองหามึงไม่เจอเหมือนกัน”

   “ดีจริง”

   ผมอดที่จะประชดไม่ได้ เมื่อคิดว่าถ้ามันเห็นผมช้ากว่านี้ คงได้เจออีกทีตอนถูกรุมเอาทั้งหน้าและหลังแน่

   หงุดหงิดว่ะ!

   หงุดหงิดที่มันไม่แสดงอาการเป็นห่วงผมเลย มันทำเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จนผมต้อข่มอารมณ์ของตัวเองแล้วหันหน้าหนีมากระดกจินอยู่เงียบๆ



   พยายามไม่คิดว่าถ้าผมถูกคนอื่นข่มขืนเข้าจริงๆ มันก็คงไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร



   “เฮ้ย ไม่เอาดิ”

   เออ ดีหน่อยที่อย่างน้อยมันก็ยังจับสังเกตความผิดปกติจากผมได้ จึงรีบย้ายตัวมายืนอยู่ตรงหน้าผมอีกครั้ง และรั้งไว้เพื่อไม่ให้ผมหันหนีไปอีกทาง

   “ไม่ต้องมายุ่งกับกูเลยสัด”

   “โห่ อย่างอนดิวะ กูเองก็ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนะเว้ย”

   จริงหรอวะ?

   “กูรู้ แต่... กูก็ยืนอยู่ที่เดิมเปล่าวะ ทำไมมึงถึงมองไม่เห็นกู กูไม่เข้าใจ”

   จริงนะเว้ย ไอ้ผมน่ะจะมองไม่เห็นไอ้เงินมันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก เพราะมันอาจย้ายตัวไปนู่นมานี่จนผมจับสายตาหาไม่เจอ แต่มันเนี่ยดิ ผมยืนอยู่ตรงนี้แท้ๆ ขยับถอยมาไม่ถึงสามก้าวด้วยซ้ำ มันจะไม่เห็นผมให้เร็วกว่านี้ได้ยังไง

   “ก็กูไม่เห็นจริงๆ นี่หว่า กูไม่ได้แกล้งนะเว้ย” ไอ้เงินพยายามแสดงความบริสุทธิ์ใจเต็มที่ ”งั้นเอางี้” แล้วก็เหมือนว่ามันจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงคว้าแก้วไปจากมือผมกระดกทั้งสองในมือจนเกลี้ยง และวางพวกมันเอาไว้ที่พื้นแถวนั้น ก่อนจะเริ่มลากผมไปแถวๆ บริเวณเวที

   “อะไรของมึงเนี่ย”

   ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูกเลยที่จู่ๆ ก็ถูกลากให้มายืนหันหน้าเข้าหากันตรงนี้ ในขณะที่อีกฝ่ายดูจะจริงจังมากกับการที่จะบอกไรกับผม

   สัด คงไม่ใช่ว่ามันจะบอกรักผมหรอกนะ?

   “กูจะสอนอะไรให้มึงอย่าง”

   “อะ...อะไร”

   โอเค อย่างน้อยก็ไม่ใช่การบอกรัก

   ไม่ใช่ว่าไม่อยากชนะเกมหรอกนะครับ

   แต่คิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่เห็นมันแพ้ตอนนี้จริงๆ

   ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

   “จำไว้นะ ถ้ามึงหากูไม่เจอเมื่อไหร่ ให้มึงทำตัวเด่นเข้าไว้ แล้วกูสัญญาว่ากูจะรีบมา โอเคไหม”

   “หมายความว่าไง” ให้ทำตัวเด่นเนี่ยนะ ต้องทำไงเล่า

   “ทำแบบนี้”

   พูดจบแค่นั้น มันก็ดึงผมให้ขึ้นไปอยู่บนเวทีที่ถูกจับจ้องโดยคนทั้งร้าน ส่งผลให้ดีเจชี้ไม้ชี้มือมาที่พวกเราเหมือนต้องการให้ผมกับไอ้เงินเต้นโชว์

   ผมไม่ทำแน่ ผมบอกเลย ผมไม่ใช่คนกล้าแสดงออกขนาดนั้น ในขณะที่ไอ้เงินเริ่มขยับไปตามจังหวะของเพลงที่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งร้าน

   ความโดดเด่นของมันจับทุกสายตาของนักเที่ยว ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มที่กำลังมั่วเซ็กส์กันอยู่ก็ยังไม่วายที่จะหันมาสนใจ

   ผมว่ามันตลกสิ้นดีที่ไอ้เงินมันเลือกที่จะแนะนำผมแบบนั้น ไอ้การให้ทำตัวเด่นโดยการขึ้นมาเต้นบนเวทีเพื่อมันจะได้มองหาผมเจอเนี่ย ช่างเป็นวิธีที่สิ้นคิดเสียจริง



   แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังยิ้มนะ

   แม้ว่าจะผละหนีลงมาจากเวทีแล้ว

   แต่ก็ยังคงยิ้มให้กับไอ้เงินอยู่ที่ขอบเวทีตรงนี้ไม่ไปไหน



   มันเองก็เหมือนกัน

   ถึงจะเต้นโชว์เท่จนตกเป็นอาหารตาชั้นดีของพวกหื่นกระหายทั่วทั้งร้าน

   หากแต่มันก็ยังคงมองมาที่ผมอยู่เรื่อยๆ

   คอยส่งยิ้มมาให้

   และทำเหมือนกับว่าจะไม่ยอมให้ผมหายไปจากสายตา...




   ผมยอมรับว่าในคืนนั้นผมไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

   การเที่ยวร้าน 蓝 กับมันในคืนนี้ทำให้ผมได้รู้ว่า โอเค... ผมคิดผิดอีกครั้งที่ว่าตัวเองจะไม่มีทางรู้สึกอะไรกับไอ้เงินเหมือนอย่างที่เคยคิดไว้



   เพราะผมรู้สึก

   รู้สึกมากด้วย



   แม้ว่าจะไม่ได้แสดงอะไรออกไป

   แต่ผมก็รู้สึกกับมันเข้าแล้วจริงๆ



   เพียงแค่...

   มันยังไม่มากพอที่จะทำให้ผมอยากพูดคำว่า ‘รัก’ ออกไปเท่านั้น

   มันก็แค่นั้น



   แค่นั้นจริงๆ







   ผมยอมรับว่าผมไม่ใส่ใจ

   ไม่เคยคิดที่จะต้องทำตัวให้เด่นเข้าไว้เพื่อที่ไอ้เงินมันหาเจอ



   ก็เราอยู่ด้วยกันตลอดนี่

   เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปแล้ว




   ถ้าไม่เกิดเหตุขึ้นอย่างในคืนนั้น ผมก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลัวอะไร ในเมื่อหันไปทางไหนก็เจอมันอยู่ดี มันอยู่ในทุกๆ ที่ผมอยู่ ไปในทุกที่ที่ผมไป ไม่ต้องอะไรนะ ขนาดในวันที่ไม่คิดอยากเจอก็ยังต้องเจอกันตั้งแต่ตื่นลืมตา



   เราเกือบที่จะตัวติดกันตั้งแต่ตื่นจนหลับใหล



   ผมไม่รู้สึก ‘เหงา’ หรือว่า ‘โดดเดี่ยว’ อีกต่อไป เพราะผมรู้ดีว่าผมจะมีมันอยู่ข้างๆ กันเสมอนับจากนี้

   จนกระทั่ง...

   “มาอะไรตอนนี้วะเนี่ย”

   ไอ้เงินมาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าบ้านตอนเกือบจะห้าทุ่ม ตอนนี้เราทั้งคู่เรียนจบ ม.6 แล้ว เราใช้เวลาช่วงปิดเทอมใหญ่ด้วยกันอย่างยาวนานจนลืมนึกไปเลยว่าต้องเข้ามหา’ลัยต่อไปในอนาคต

   “โทษที” ผมตั้งใจจะเปิดประตูรั้วให้มัน ไม่ได้รู้สึกสักนิดว่ามันต้องขอโทษ เพราะถ้าวันนี้แม่ที่มาจากใต้ไม่ขอให้ผมอยู่บ้านเพื่อออกไปหาอะไรกินข้างนอกด้วยกัน ผมเองก็คงต้องไปนอนกับมันอยู่ดี “เฮ้ยไม่ต้อง เดี๋ยวกูก็กลับแล้ว แค่จะมาถามอะไรมึงนิดนึง”

   “อะไรวะ” ทำไมมันถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วย

   ยิ่งตอนที่ไอ้เงินขยับเข้ามาประชิดรั้ว ก้าวพ้นจากความมืดมาต้องกับแสงจากหลอดไฟหน้าบ้าน ผมยิ่งสังเกตความผิดปกติจากมันได้มากขึ้น

   มันยิ้มให้... แต่กลับดูแปลกไปถนัดตา...

   ผมอ่านความรู้สึกของมันไม่ได้ ผมไม่เก่งเรื่องนี้ ไม่เก่งเลยที่จะบอกว่าไอ้เงินมันคิดหรือว่ารู้สึกอะไร ซึ่งมันแปลกมาก มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ผมอ่านความรู้สึกของคนหลายคนได้ แต่กลับอ่านใจของ ‘เพื่อนสนิท’ คนนี้ไม่เคยออกเลย



   เหมือนพื้นที่ส่วนนั้นถูกปิดไว้ไม่ให้ผมล่วงรู้

   ปิดไว้ให้เป็นความลับของจักรวาล

   ยากที่จะหาคำตอบ

   และผมก็ปากหนักเกินกว่าที่จะถามออกไป



   ทั้งที่มันคือทางเดียว ที่จะทำให้ผมสามารถเข้าถึงความจริงส่วนนั้นได้

   แต่ผมก็ไม่ทำ...



   ผมนี่แม่ง...




   “กูแค่จะมาถามว่า พรุ่งนี้มึงจะไปส่งกูไหม”

   “ไปส่ง?” อะไรวะ จู่ๆ ก็มาถามแบบนี้ ไม่เข้าใจว่ะ “มึงจะไปไหน”

   “กูจะไปเชียงใหม่ว่ะ”

   “ไปเที่ยว?” ถ้าแค่นั้นไม่ส่งนะเว้ย ขี้เกียจ ขอนอนอยู่บ้านดีกว่า

   แต่ไอ้เงินกลับส่ายหน้า

   ส่ายหน้าและเงียบไป

   เงียบไปทั้งที่ยังยิ้ม

   เป็นยิ้มที่ดู... ไม่มีความหมายของการยิ้มเลย...

   “เปล่า” ไอ้เงินหันกลับมาสบตาผมอย่างจริงจัง จนผมเริ่มรับรู้ได้ถึงสัญญาณบางอย่างที่ตัวเองอยากจะวิ่งหนีให้ห่างออกไป... “กูไม่ได้จะไปเที่ยว”

   “แล้วมึง...”

   “แต่กูจะไปเรียนต่อ”

   “...”

   

   ผมถึงกับเงียบ...



   ยืนเงียบอยู่อย่างนั้นนานนับนาที

   กว่าที่จะสามารถถามอีกฝ่ายกลับไปว่าเป็นมายังไงก็เกือบนาทีหนึ่งเข้าไปแล้ว...




   สรุปคือ... มันติดหมอของมหา'ลัยดังที่นั่นตั้งแต่ก่อนจะมาตีปิงปองกับผมด้วยซ้ำ

   มันไม่เคยบอกผมเลย

   และผมเองก็ไม่เคยถามถึงเรื่องนี้

   ผมคิดมาตลอดว่ามันคงเรียนในกรุงเทพฯ

   คิดมาตลอดว่าการที่มันไม่พูด อาจเป็นเพราะมันอายที่จะบอกกับใครต่อใครว่ามันเรียนมหา'ลัยที่ไม่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ



   แต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น



   ไอ้เงินไม่ได้เรียนต่อในกรุงเทพฯ แต่กำลังจะไปเรียนต่อที่เชียงใหม่ ไปอยู่ในคณะดีๆ ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ

   ผมผิดถนัด

   และรู้สึกว่าไม่ควรที่จะเดานั่นเดานี่ในชีวิตอีกต่อไป

   ผมมันเป็นพวกสันนิษฐานแย่

   แย่มากเหลือเกิน

   “ตกลงว่ามึงจะไปส่งกูไหมวะ”

   โอเค... คำถามเดิมย้อนกลับมาอีกครั้งหลังจากที่มันเล่าให้ฟังถึงรายละเอียดเรื่องการไปเรียนต่อมหา'ลัยที่ผมไม่เคยรู้

   “ไปสิ ทำไมจะไม่ไป สิบโมงใช่ไหม”

   “ใช่ สิบโมง สุวรรณภูมิ”

   “เออ” ผมพยักหน้าเป็นอันว่ารับรู้ “งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้”

   “...”

   แต่ไอ้เงินกลับเงียบ...

   มันทำเหมือนว่าจะพูดอะไรตอนที่โน้มตัวข้ามรั้วระดับอกมา

   ทว่าสุดท้ายก็ชะงัก... ถอยกลับไปยืนเป็นปกติดังเดิม และตอบกลับมาเพียงแค่คำว่า...

   “โอเค”

   ...คำเดียวเท่านั้น



   ก่อนที่มันจะเดินจากไปโดยไม่หันกลับมา



   “...”

   ผมกำมือแน่น

   บอกกับตัวเองว่ามันยังไม่ได้ไปไหน

   มันยังอยู่จนถึงพรุ่งนี้

   นี่เป็นแค่การเดินจากไปเพื่อกลับบ้านของมันเท่านั้น

   ไม่ใช่การลาจากจริงๆ อย่างที่ผมหวาดกลัว



   ผมต้องเข้มแข็ง

   ผมบอกกับตัวเองแบบนั้น

   แต่เพราะไม่ได้จับยึดรั้วเอาไว้แต่แรก

   ผมถึงได้ทรุดนั่งลงกับพื้น

   

   นั่งลง... ภายใต้แสงไฟที่ไม่อาจส่องสว่างเข้ามาในใจของผมได้...



   ผมไม่ได้ร้องไห้ออกมาเลยในคืนนั้น

   แต่การจินตนาการว่าหลังจากนี้จะไม่มีมันอยู่ด้วยกันอย่างที่ผ่านมาแล้ว



   ผมกลับฝันว่า... ตัวเองแตกสลายไปตลอดกาล...


จบตอน

หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป
ฝากแสดงความคิดเห็นติชมสำหรับเพื่อเป็นกำลังใจและการปรับปรุงในครั้งถัดไปด้วยนะครับ
นอกจากนี้ ฝาก #คู่รักสีน้ำเงิน เสียงดังๆ 555+
หากต้องการพูดคุยถึงนิยายเรื่องนี้ในทวิตเตอร์นะครับ

ขอบคุณครับ



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เศร้า..จะไปเรียนต่อไม่บอกกันเลย  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 「 คู่รักสีน้ำเงิน 」 ❥ Chapter Two | 9/11/2018
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-11-2018 17:36:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
[ ขออนุญาตลบเนื้อหา ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2020 23:34:13 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
 :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Phabphimismew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :z6: :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
[ ขออนุญาตลบเนื้อหา ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2020 23:34:37 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
[ ขออนุญาตลบเนื้อหา ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2020 23:34:50 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
 :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ Phabphimismew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ภาษาสวยมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
[ ขออนุญาตลบเนื้อหา ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2020 23:35:01 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อะไรกันเนี่ย..ยยยยยยยยย    :fire: :fire: :fire:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เศร้ารับวาเลนไทน์ไปเลย   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Phabphimismew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เศร้าาาเลยยยยยย

ออฟไลน์ CRMMIIMII

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อ่านจบแล้วก็คือหน่วงมากเป็นความสัมพันธ์ที่อึดอัดใจจริงๆ บางทีเงินก็เหมือนแคร์ชลนะบางทีก็ไม่ อย่างเรื่องที่ผับหลันทำไมเรารู้สึกว่าเงินจงใจก็ไม่รู้ จากที่อ่านมาเราคิดว่าแรกๆคือเงินมองมันเป็รแค่เกมจริงๆน่าจะมารู้ตัวว่าคิดไงกับชลก็ตอนที่ย้ายไปเชียงใหม่แล้วแต่ก็ยังลังเลไม่แน่ใจถึงได้กลับมาในคืนนั้น และที่จากไปอีกรอบโดยไม่ติดต่ออีกเลยก็เพื่อให้แน่ใจ คิดว่าที่กลับมาครั้งนี้อาจจะตั้งใจมาบอกชลว่ารักแต่พอเห็นชลแล้วถึงรู้ว่าสายไป ส่วนชลนี่เราค่อนข้างเข้าใจเลยนะว่าคนเหงาๆไม่มีใครข้างๆแม้แต่ครอบครัวอะพอมีคนเข้ามาในชีวิตแล้วมันก็ยึดติดเป็นธรรมดาไม่แปลกเลยที่ชลจะตัดเงินอแกไปไม่ได้ แต่ด้วยความเจ็บแลพความทรมานจากการรอแบบไม่สิ้นสุดชลเลยเลือกที่จะตัดออกไปดีกว่าต้องจมกับอะไรแบบนั้นอีก

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เศร้าแต่ดีงาม

ออฟไลน์ NormalVee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่า เศร้าจัง ขอให้ชลมีความสุขจากสิ่งที่ชลเลือกและมีความสุขในชีวิตจากนี้ไป ประเด็นของแม่ชลเราช็อคกว่าประเด็นไหนเลย  สงสารชลที่สุด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด