Re: บุพเพอาละวาด (อิสตรีฤาจะมีดีเท่าตุ้ด) ตอนที่ 21-23 4/6/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: บุพเพอาละวาด (อิสตรีฤาจะมีดีเท่าตุ้ด) ตอนที่ 21-23 4/6/62  (อ่าน 7294 ครั้ง)

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เรียน   ท่านสมาชิกทุกท่านทราบและโปรดดำเนินการอย่างเคร่งครัด

เรื่อง  กฎกติกาและมารยาท

          กรุณาอ่านข้อความข้างล่างที่แนบมาด้วยข้าล่างนี้   ด้วยความระมัดระวังยิ่ง

เพราะเป็นบรรทัดฐานที่พึงยึดและปฏิบัติตามอย่างไม่สามารถพิจารณาเป็นอื่นได้

หากผู้ใดฝ่าฝืน  ทางเราจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป


      จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน

                                                                                 นับถือ

                                                                            อิเจ้  โมดุเรเตอร์


..................................................................................................
หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าคงได้รับความร่วมมือจากทุกท่านนะครับ

ถ้าพบเห็นกระทู้ได้ละเมิดกฎข้างต้น Webmaster,Administrator,Moderator สามารถลบกระทู้ดังกล่าวได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

หากผู้ได้ฝ่าฝืน การทำการดังกล่าว ทาง Webmaster,Administrator,Moderator จะมี message ไปแจ้งเตือน

หากยังกระทำความผิดดังกล่าวอีก ทางWebmaster,Administrator,Moderator จะลบaccoutสมาชิกท่านนั้นออกจากระบบทันที

ขอบคุณในความร่วมมือ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2019 09:40:19 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
                                   

ข้าขอสาบานว่านิยายเรื่องนี้ หาสาระอันใดได้ไม่ นอกเสียจาก ความฮา




                                      ตอนที่ 1
                                 ชวนฝัน

   ผมชื่อวันพุธ ผมเป็นคนที่หน้าตาดีและมีเสน่ห์มาก ขอเติมกอไก่อีกสักล้านตัว คุณลองคิดเอาเองก็แล้วกันว่าผมหน้าตาดีมากขนาดไหน ถ้าคุณๆยังนึกไม่ออกผมจะขอบอกให้ก็แล้วกัน ผมหน้าตาดีระดับที่เรียกว่าถ้ายืนเทียบกับณเดช หรือมาริโอ้ ผมกินขาดแบบวินๆ ชนะแบบใสๆไร้ข้อกังขา เพราะหน้าตาอันโดดเด่น รูปร่างกำยำสูงใหญ่ และอายุที่กำลังจะย่างเข้าสู่วัยเบญจเพส เรียกว่าเป็นหนุ่มเต็มตัวกำลังน่ากินเต็มขั้น จึงไม่แปลกที่ผมจะเป็นพวกหล่อเลือกได้ แน่นอนผมนี่แหละ ซุปเปอร์สตาร์ที่ดังที่สุดแห่งยุคนี้

   แต่ เดี๋ยวก่อน

   “อีพุด ตื่นได้แล้ว”ผมสะดุ้งสุดตัว เมื่อเสียงแหลมจนแสบแก้วหูของใครคนหนึ่งดังเข้ามาภายในโสตประสาท หมดกันความฝันอันสวยหรูวิจิตรบรรจงของผม ผมรวบหนังสือนิยายย้อนยุคย้อนสมัยที่ผมชอบอ่านเป็นชีวิตจิตใจบรรจุลงในกระเป๋า
   “กินแล้วก็นอนจนอ้วนเป็นหมูตอนแล้วนะแก ขี้เกียจแบบนี้ระวังพี่สัญญาเขาจะไล่ออก ตกงานแล้วจะหาว่าขุ่นแม่ไม่เตือนไม่ได้นะยะ”นั่นคือเจ๊มีมี่ สาวประเภทสองวัยเฉียดสี่สิบที่ผมสนิทสนมเป็นที่สุดจนถึงขั้นนับถือเป็นพี่สาว ความจริงแกไม่ได้ชื่อมีมี่หรอก หากแต่สมัยแกเป็นผู้ชายแกชื่อว่าไอ้หมู แต่พอทำนมเข้าหน่อยก็ดัดจริตเปลี่ยนชื่อเป็นมีมี่ แต่บรรดาเพื่อนสาวของแกชอบเรียกแกสนุกปากว่า
อีมี่มีงู  พี่หมู เจ๊มีมี่ หรือว่าคุณแม่มีมี่ แกเป็นคนใจดี ไม่เคยโกรธใครหรอก ใครจะเรียกแกอย่างไรก็เรียกไป นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมรักและนับถือแกอย่างที่สุด
   “ถ้าผมได้เป็นดาราบ้าง ผมจะให้เจ๊เป็นผู้จัดการส่วนตัว”ผมบอกพร้อมลุกขึ้นยืน หากแต่คนฟังหัวเราะลั่น
   “อีพุด แกพูดไม่ดูสาระรูปตัวเองเอาซะเลย ทั้งอ้วน ทั้งดำ หน้าตาเหมือนหมูมาเกิด ใครเขาจะเอาแกไปเป็นดาราวะ”แกส่งกระจกเงามาให้ผม
   “ตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้างนะยะ”
   นั่นแหละครับคือตัวตนที่แท้จริงของผม แน่นอนผมชื่อวันพุธจริงดังเคยบอก แต่ใครๆต่างเรียกผมว่า อีพุด คงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าเพราะอะไร และผมกำลังจะอายุครบยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในปีนี้ ส่วนเรื่องที่ผมหน้าตาดี หล่อล่ำกล้ามใหญ่ ทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องมโนของตัวผมเอง ความจริงผมเป็นชายหนุ่มร่างท้วม อวบใหญ่เกินพิกัดที่จะเรียกว่า หล่อ แถมยังตัวดำและหน้าตาแสนจะธรรมดา ดีนะที่ผมไม่ได้ใส่แว่นตาหนาเตอะอย่างที่ตัวละครที่หน้าตาแสนจะอุบาทว์ในละครที่เขาชอบทำกัน และที่สำคัญผมไม่ได้เป็นดาราซุปเปอร์สตาร์ หากแต่ผมเป็นเพียงคนหาของประกอบฉากในรายการอาหารชื่อดัง ที่ซึ่งมี คุณเพลิงเพชร ดาราหนุ่มรูปหล่อกล้ามใหญ่ขวัญใจของผมเป็นผู้ดำเนินรายการ แต่ผมก็รักงานของผมนะครับ เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะทุกครั้งที่ผมต้องหาอุปกรณ์และวัตถุดิบมาประกอบการถ่ายทำรายการ มันทำให้ให้ผมได้ลิ้มลองรสชาติอาหารใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นไม่ว่าใครจะว่างานของผมต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างไร ผมก็แสนจะภาคภูมิใจในอาชีพของผม แต่ถ้าหากผมได้เป็นดาราแบบคุณเพลิงเพชร มีคนมาให้ความสนใจบ้าง มันก็คงจะดีเหมือนกัน
   “เดี๋ยวถ่ายงานเสร็จไปทำบุญด้วยกันไหม พุด”เจ๊มีมี่ถามขึ้น เมื่อจัดเตรียมชุดที่จะให้คุณเพลิงสุดหล่อสวมใส่ถ่ายทำในวันนี้
   “ทำบุญ”ผมทวนคำ
   “เออสิวะ นี่แกก็กำลังจะเข้าเบญจเพส ทำบุญไว้หน่อยก็ดีนะแก โบราณเขาบอกว่าคนเข้าเบญจเพสมักจะมีเคราะห์”
   “ก็ดีเหมือนกันนะเจ๊ งั้นผมไปด้วย”
   “เริ่ดที่สุด ลูกสาว”เจ๊มีมี่ยิ้มกว้างก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่จะก้าวฉับเข้ามา ผิวขาวผ่องเป็นประกายวาววับที่เขาเรียกว่าออร่าส่องระยับเข้าตาผมจนพร่ามัว คิ้วเข้มใต้ดวงตาคมกริบบนใบหน้ารูปไข่คมสัน แทบหาที่ติไม่ได้

โอ้!!พระเจ้าช่างสร้างสรรค์พี่ท่านมาได้งามหมดจด 
ยิ่งกล้ามแกร่งภายใต้เสื้อยืดสีขาวตัวนั้น มันแน่นนูนจนอีพุดอดเคลิ้มไม่ได้
   
“อีพุด”เจ๊มีมี่ตบหลังผมเรียกสติสตังค์ผมจึงได้หวนกลับคืนมา
   “เป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไงแก น้ำลายไหลย้อยเชียว เก็บอาการหน่อยสิยะหล่อน”
   หล่อขนาดนี้ใครจะเก็บอาการไหวล่ะเจ๊จ๋า
   “ขอน้ำดื่มสักแก้วได้ไหมพุด”เสียงเข้มกังวานราวกับเสียงระฆังดังออกมาจากริมฝีปากปีกนกสีกลีบกุหลาบของชายร่างสูงใหญ่ ผมขนลุกซู่ ราวกับตัวของเขามีแม่เหล็กขนาดใหญ่ดึงเอาร่างของผมไปประกบผสมผสานกับร่างกำยำของเขา ก่อนที่มันจะหล่อหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
   “อีพุด คุณเพลิงเขาขอน้ำดื่ม”คราวนี้เจ๊มีมี่พลาดฝ่ามือลงที่กลางศีรษะของผมเต็มแรง
   “น้ำๆๆ”ผมลนลานไปรินน้ำดื่มมาส่งให้ชายหนุ่มในฝันของสาวๆค่อนประเทศ เขาหัวเราะหึๆในลำคอ แล้วยกแก้วน้ำไปดื่ม ไรหนวดเขียวครึ้มใต้จมูกโด่งงามมีหยดน้ำติดอยู่เมื่อเขาลดแก้วน้ำลง
   “ขอบใจนะพุด”ดวงตาคมกริบจ้องมาที่ผม
   “ไม่ไหวแล้ว หล่อเหลือเกิน หล่อเกินมนุษย์มนา หล่อพิฆาต หล่อบาดหัวใจ”ผมรู้สึกตัวสั่น ถ้าหากยังฝืนนั่งอยู่ตรงนั้นต่อไป มีหวังใจขาดตายแดดิ้นอย่างแน่นอน ผมจึงรีบวิ่งหลบออกมา ทั้งๆที่หัวใจยังเต้นระส่ายไม่เป็นจังหวะ
   “พิลึกคน”เจ๊มีมี่ส่ายหน้า หากแต่ใบหน้าคมสันราวเทพบุตรกรีกของคุณเพลิงเพชรกลับมีเพียงรอยยิ้มกริ่มด้วยความขบขัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2019 11:39:21 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะไปเป็นคู่แข่งกับแม่การะเกดหรือป่าวจ๊ะ ออเจ้า แม่พุดกรอง  :hao3:

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
                                                   


                                                                                             ตอนที่ 2
                             ตามรอยออเจ้า
   วันพุธนั่งจ้องโลงศพสองโลงที่ตั้งอยู่ภายในวัดหัวลำโพง บางทีเขาก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมมนุษย์ถึงต้องให้ความสำคัญกับความรักขนาดนั้น ยอมที่จะปลิดลมหายใจของตัวเองทิ้งเพียงเพราะไม่สมหวังในความรัก เขาก้มลงกราบโลงศพที่ตั้งเคียงคู่กันอยู่ตรงเบื้องหน้า แต่ก็ต้องตกใจจนลืมตัวร้อง ว้าย ออกมาดังลั่น เจ๊มีมี่วิ่งแจ้นเข้ามาหา
   “เป็นอะไรร้องลั่นวัด จะปลุกพระปลุกเณรทั้งวัดหรือไงยะหล่อน”
   “ก็ไอ้บ้าเทรดนี่สิเจ๊ โผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียง ตกใจแทบตาย”คนพูดยกมืออวบใหญ่ขึ้นทาบอก
   “ขวัญอ่อนนะยะเธอ”
   “สวัสดีครับเจ๊”ชายหนุ่มร่างสูงผู้มาใหม่พนมมือไหว้
   “ผมไปหาไอ้พุดที่กอง แต่เขาบอกว่าไอ้พุดออกมาไหว้พระกับเจ๊ที่นี่ ผมเลยตามมา”
   “เอาเถอะ ตามสบาย เดี๋ยวเจ๊ขอตัวไปไหว้พระทางโน้นก่อนนะจ๊ะ”ผู้มากจริตจ้องดวงหน้าคมสันเจ้าของผิวเข้มจัดแบบชายไทยขนานแท้ พร้อมยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู หล่อนรู้ดีว่าเทรดเป็นเพื่อนกับวันพุธมาตั้งแต่สมัยอนุบาล และยังเป็นเพื่อนผู้ชายเพียงคนเดียวที่คบหาวันพุธ โดยที่ไม่ได้สนใจว่าวันพุธจะผิดแปลกแตกต่างจากบุคคลอื่นอย่างไร
   “ทุกวันนี้คงไม่มีแล้วมั้ง เรื่องที่กะเทยรักกับผู้ชายแล้วไม่สมหวัง ถึงขนาดต้องฆ่าตัวตาย แต่พูดไปเทรดก็นับถือน้ำใจเขานะ ที่เขาทั้งสองบูชาความรักมากขนาดนี้”ชายหนุ่มพูดถึงตำนานความรักของสาวประเภทสองกับชายคนรักที่ซึ่งเป็นต้นเหตุของตำนานโลงคู่ที่โด่งดังของวัดหัวลำโพง
   “ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน กะเทยหรือว่าเพศที่สาม ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับในสังคมอยู่ดี ดังนั้นถ้าหากสังคมไม่ยอมรับ แล้วความรักมันจะสมหวังได้อย่างไร เทรดไม่ใช่เกย์เทรดไม่เข้าใจหรอก”คนฟังหันมาอมยิ้ม
   “พูดจามีหลักการกับเขาก็เป็นแฮะ”
   “ไอ้บ้า แกกำลังว่าฉันไร้สาระใช่มะ”วันพุธหันมาแหวใส่
   “แต่เทรดว่าบางทีอาจจะมีผู้ชายที่มองข้ามเรื่องเพศ มองข้ามรูปลักษณ์และร่างกายภายนอก และรักในความเป็นตัวตนของคนที่เขารักอยู่ก็ได้นะ”คราวนี้ดวงตากลมใหญ่คมกริบดูจริงจังขึ้นมา
   “แหวะ”ร่างอ้วนทำท่าทางราวกับจะอาเจียนออกมาด้วยความเลี่ยน
   “เอ้า พอพูดเรื่องจริงก็ไม่เชื่ออีก”
   “พอเถอะ ว่าแต่นี่จะตามฉันมาทำไม”
   “ไม่ได้ตาม เทรดแค่จะมาติดรถกลับบ้านเท่านั้น”คนพูดยักคิ้วหนาเข้มขึ้นสูง
   “เหรอ...................”วันพุธลากเสียงยาว เพราะรู้จักเทรดมานาน นานจนเข้าใจแม้อีกฝ่ายไม่ต้องปริปากพูดอะไรออกมา
   “ก็ได้ ความจริงวันนี้พ่อกับแม่ของเทรดไม่อยู่บ้าน เทรดเลยอยากจะขอติดรถไปกินข้าวเย็นบ้านพุด เทรดคิดถึงฝีมือทำอาหารของคุณยายและคุณแม่ของพุด”ชายหนุ่มร่างสูงทำเสียงอ่อน ราวกับเด็กน้อยที่พึ่งถูกจับได้ว่าทำเรื่องผิดเอาไว้
   “ก็แค่นั้นแหละ ทำเป็นอ้างโน่น นี่ นั้น”วันพุธยิ้ม
   “ขอบใจนะ”เทรดยังทำท่าทางออดอ้อนคล้ายลูกแมวตัวยักษ์
   “แม่กับยายก็บ่นคิดถึงเทรดอยู่เหมือนกัน”บทสนทนาของชายหนุ่มทั้งสองจบลงแค่นั้น เมื่อร่างสูงในอาภรณ์ของอิสตรีก้าวฉับกลับมายืนตรงหน้า
“จีบกันเสร็จหรือยังยะ เจ๊มีธุระต้องไปทำต่อนะ”
   “พูดบ้าๆน่าเจ๊”วันพุธสะบัดร่างอวบอ้วนลุกขึ้นยืนพร้อมกับเทรด เขาเอื้อมมือมาดึงกระเป๋าสัมภาระที่บรรจุหนังสือนิยายย้อนยุคย้อนสมัยมาถือเอาไว้เสียเอง เจ๊มีมี่มองด้วยความเอ็นดูในน้ำใจของชายหนุ่ม
   “ไปกลับกันเร็ว”หล่อนพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินนำสองหนุ่มที่ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวไปยังลาดจอดรถตรงเบื้องหน้า

   หลังจากโบกมือลาเจ๊มีมี่ วันพุธก็ก้าวขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยคนขับภายในรถเก๋งคันเก่งที่เขาได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง
โดยมีเทรดก้าวขึ้นนั่งด้านข้าง ชายหนุ่มดึงเข็มขัดนิรภัยมารัดอย่างเรียบร้อย แล้วจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังคว้านหาขนมที่บรรจุเอาไว้จนเต็มเบาะผู้โดยสารด้านหลังรถ ร่างอวบแกะห่อขนมส่งเข้าปาก ด้วยความเอร็ดอร่อย
   “กินอยู่นั่นแหละ คาดเข็มขัดนิรภัยสักทีสิ”เขาเตือน พร้อมทำท่าจะจัดการรัดเข็มขัดนิรภัยให้
   “ไม่ต้องหรอกน่า มันติดพุง อึดอัด ใกล้แค่นี่เอง เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”วันพุธยังส่งขนมเข้าปากด้วยความหิว
   “ตามใจ”อีกฝ่ายลดมือกลับมากอดอกเอาไว้ ใบหน้าอวบหันมาจ้อง
   “เอ่อๆ คาดก็ได้ บ่นเป็นตาแก่ไปได้”รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าคมสัน
   “ปลอดภัยเอาไว้ก่อนดีแล้ว อนาคตเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจริงมั๊ย”รถเก๋งสีขาวค่อยๆขับเคลื่อนออกจากลานจอดรถของวัดหัวลำโพง วันพุธเอื้อมมือไปเปิดวิทยุก่อนที่เสียงจะดังคลอขึ้นมา
   
“เพื่อนเท่านั้น แค่เพื่อนเท่านั้น
   เท่านั้นจริงๆ ไม่ได้คิดอะไร”
   “ปิดทำไมอ่ะ”เขาหันมาถามชายหนุ่มที่นั่งด้านข้าง
   “เวลาเทรดอยู่ใกล้ๆพุด เทรดสบายใจที่สุด”คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง เขาเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่จะพูดเรื่องจริงจัง
   “อะไร....”วันพุธรู้สึกขนลุกซู่
   “ที่เทรดบอกพุดว่าบางทีอาจจะมีผู้ชายที่มองข้ามเรื่องเพศ มองข้ามรูปลักษณ์และร่างกายภายนอก และรักในความเป็นตัวตนของคนที่เขารักอยู่ก็ได้ เทรดหมายถึง เอ่อ....”เขาหยุดประโยค ใบหูสีเข้มที่โผล่พ้นเส้นผมสีดำที่ตัดสั้นยิ่งดูเข้มจัดขึ้นไปอีก
   “แกจะพูดอะไรของแก”คนฟังเริ่มหัวใจเต้นแรง มือไม้เย็นเฉียบ หากแต่เหงื่อกาฬกับผุดขึ้นมาเต็มใบหน้าอวบที่ค่อนข้างกร้านแดด
   “เทรดหมายถึง ตัวเทรดเอง”ประโยคนั้นแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินความหมาย
   “ห๊า ว่าไงนะ”วันพุธรู้สึกเหมือนกำลังจะตกลงไปในหลุมสีดำขนาดใหญ่ ที่จู่ๆก็โผล่มาขวางอยู่ตรงเบื้องหน้า
   “เทรดคิดว่าเทรดชอบพุด”เท้ากลมใหญ่แตะเบรกอย่างกะทันหัน ทุกอย่างเงียบสงัดไร้เสียงไปชั่วขณะ ราวกับเวลานั้นเข็มนาฬิกาหยุดนิ่งอยู่ ก่อนที่หลุมดำขนาดใหญ่ตรงเบื้องหน้าจะเปิดออก แล้วดูดกลืนเอาร่างของวันพุธให้ดำดิ่งลงไป เขาหันมาจ้องใบหน้าคมสันของเทรดเป็นครั้งสุดท้าย ทุกอย่างค่อยๆมืดมิด และมืดดับลงไป ไม่มีแม้แสงน้อยนิดเล็ดลอดให้เห็นในสายตา หลุมดำหลุมนั้นนอกจากจะมืดมิด ยังเงียบสงัด และหนาวเย็น วันพุธได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของตัวเองเท่านั้น
   มันเกิดอะไรขึ้น เขาถามตัวเอง รู้สึกถึงหยาดเหงื่อบนปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง แสงสีขาวสว่างวูบขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยายามจะเปิดเปลือกตาขึ้นมา แต่ก็รู้สึกถึงแสงนั้นจ้าจนเกินไป ใบหน้าที่สว่างไสวของเพลิงเพชรผุดขึ้นมาในห้วงความนึกคิด มันสว่างไสวราวหลอดไฟเรืองแสง เสียงผู้คนจอแจเซ็งแซดแว่วเข้ามา
   “แม่หญิงเจ้าขา”
   “แม่พุดซ้อน แม่พุดซ้อน”
วันพุธค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมาเชื่องช้า ใบหน้ารูปไข่ที่แสนจะน่าเสน่หา ก้มลงมาใกล้ รอยยิ้มนั้นแย้มยิ้มออกด้วยความยินดี
   “แม่พุดซ้อนฟื้นแล้วขอรับ”เพลิงเพชรหันไปบอกผู้คนกลุ่มใหญ่ที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ด้านข้าง
   “แม่หญิงเจ้าขา”หญิงวัยกลางคนสวมผ้าแถบสีน้ำตาลอ่อนสองคนโผเข้ามาสวมกอดเขาเอาไว้ พร้อมร้องไห้ออกมา
   “คุณพระ คุณเจ้าคุ้มครองนะเจ้าคะ ทูนหัวของบ่าว”

ใครกันวะ คุณพุดซ้อน
เขาถามตัวเอง พลางดันร่างให้ลุกขึ้นนั่ง รู้สึกมวนในช่องท้อง คล้ายอาเจียนกำลังจะพุ่งออกมา
   “นั่นประไร น้ำยาว่านรางจืดของท่านออกยาได้ผลชะงัก”เสียงแฝงด้วยอำนาจบารมีของหญิงผู้หนึ่งดังขึ้น
   “รีบเอากระโถนให้นายมึงสิวะ อีแกลบ อีน้อย”หล่อนออกคำสั่งต่อ วันพุธรับกระโถนลงยาด้วยลายไทยสวยงามมาโก่งคออาเจียน พลางเหลือบมองเพลิงเพชรที่แอบเบือนหน้าหล่อเหลาไปทางอื่น
   “ประคองนายมึงเข้าหอนอนไปเสีย อีน้อย อีแกลบ”เขาหันมาออกคำสั่งบ้าง
   “เดี๋ยวก่อน”วันพุธพยายามผืนตัวออกจากอ้อมกอดของเขา หากแต่เหมือนจะไม่มีผู้ใดสนใจ หญิงวัยกลางคนในชุดผ้าแถบทั้งสองรีบเข้ามาประคองร่างของผู้ที่พึ่งคืนสติให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะกึ่งประคองกึ่งลากถูเข้าไปภายในห้องนอนที่มีบานประตูทำจากไม้สักทองบานใหญ่
   “นี่มันเรื่องอะไรกันวะ แล้วไอ้เทรดล่ะ ไอ้เทรดหายไปไหน”เขาถามขึ้น หญิงทั้งสองมองหน้ากับราวกับฉงนในคำพูดของวันพุธ
   “แม่หญิงนอนพักเสียก่อนนะเจ้าคะ”
   “แม่หญิง แม่หญิงอย่างนั้นหรือ”วันพุธยกมือขึ้นมาทุบท้ายทอยของตนเอง รู้สึกเบาโหวงราวกับไร้ชีวิต
   ท่อนแขนขาวจัดเรียวงามสวมใส่กำไลทองวงใหญ่ปรากฏต่อสายตา
“ทำไมแขน แขนเราถึงเหลือนิดเดียววะ”เขาเพ่งพิศมองร่างกายของตนเอง ที่สวมใส่ชุดไทยสวยงาม ห่มสไบสีเหลืองทองถักทออย่างประณีต ชายหนุ่มยกมือขึ้นมากุมหน้าอกกลมงามของตนเอง
“นม ทำไมเราถึงมีนม”เช่นเคยหญิงทั้งสองที่นำเขาเข้ามาภายในหอนอนมองหน้ากันอีกครั้ง
“แม่หญิงพูดอันใดหรือเจ้าคะ ฟังไม่ได้ความ”วันพุธมองไปรอบหอนอน ที่ถูกตกแต่งไว้อย่างวิจิตรบรรจง
“ที่นี่มันที่ไหนกัน”เขาเลื่อนร่างลุกขึ้นไปยืนหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ภาพที่สะท้อนตรงเบื้องหน้าคือภาพของหญิงสาวร่างระหง อยู่ในชุดไทยงดงาม ประดับประดาด้วยเครื่องทองจากช่างฝีมือเยี่ยม ดวงหน้าผุดผ่องงดงามราวภาพเขียน เรือนผมยาวสลวยดกดำขับดวงตาคู่งามให้ทอระยับ
“ใครกันวะ”เขารำพัน ไม่เคยเห็นหญิงสาวคนไหนสวยงามอย่างนี้มาก่อนในชีวิต หล่อนงดงามราวกับนางในวรรณคดีที่เขาเคยอ่าน
“เราหรือ นี่คือตัวเราเอง”วันพุธจับใบหน้าตัวเอง มองไปยังผู้หญิงสองคนตรงหน้า ที่ซึ่งบัดนี้พาตัวเองไปแอบอยู่ใต้โต๊ะไม้สักใบใหญ่
หัวใจของวันพุธเต้นแรงขึ้น แรงขึ้น และแรงขึ้นอีก
“เป็นไปไม่ได้”เขาเพ่งพิศอิสตรีผู้เลอโฉมภายในกระจกเงาตรงหน้าอีกครั้ง
“เราย้อนยุคกลับมาเหมือนแม่หญิงการะเกด จากนิยายบุพเพสันนิวาส เหมือนแม่มณีจันทร์จากหนังสือเรื่องทวิภพ แถมยังกลายเป็นชะนี มีนม มีจิมิเป็นของตัวเอง โดยที่ไม่ต้องไปผ่าตัด”ฝ่ามือที่มีนิ้วเรียวงามเป็นลำเทียนยกขึ้นมาตบใบหน้าตัวเองสุดแรง
“โอ้ย”เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บ

ไม่ใช่ความฝัน แกมีจิมิเป็นของตัวเองแล้ว อีพุธแกมีจิมิ
ได้ยินไหม อีพุธแกมีจิมิแถมยังสวยอีกด้วย
มันเป็นเรื่องที่ควรดีใจใช่ไหมวันพุธ ที่จู่ๆก็มีจิมิเป็นของตัวเอง

วันพุธหันไปยังหญิงวัยกลางคนทั้งสอง ที่บัดนี้เริ่มนั่งตัวสั่นเทา
“ตอนนี้พศ.อะไรหรือพี่”
หญิงสองคนมองตากันแล้วส่ายหน้าราวกับไม่เข้าใจคำถามของเขา
จู่ๆวันพุธคิดไปถึงฉากในละครย้อนยุคที่เขาชอบอ่าน

เอาวะ เอาไงก็เอา


เขาควรจะเลือกใช้คำพูดให้มันเหมาะสมมากกว่านี้
“ในหลวงชื่ออะไรหรือครับ”หญิงทั้งสองน้ำตาคลอคล้ายกำลังจะร้องไห้
“พี่อย่าพึ่งร้องไห้ ผมแค่อยากรู้ว่าในหลวงชื่ออะไร”หญิงทั้งสองส่ายใบหน้าไปมา
“ฉันอยากทราบว่าขุนหลวงชื่ออะไร”เขานึกขึ้นมาได้ว่า บางทีคนเหล่านั้นน่าจะเรียกขานในหลวงว่าขุนหลวงเหมือนในนิยายเรื่องบุพเพสันนิวาสที่เขาพึ่งจะอ่านมันจบไป
“ขุนหลวงนารายณ์เจ้าคะ”บ่าวคนหนึ่งตอบเบาๆ
“พระนารายณ์มหาราช”วันพุธหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่ผิดแล้ว เขาย้อนกลับมาในอดีตเหมือนในนิยายที่เขาชอบอ่านจริงๆ มันคือเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันของคนที่โหยหาอดีตในยุคของเขาอีกต่อไป
สมองของวันพุธเริ่มหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยหินก้อนใหญ่ เสียงหวีดหวิวดังขึ้นในหู ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเขาจะขาดลงเอาดื้อๆ เพราะความช๊อคสุดขีด
“แม่หญิง แม่หญิงเจ้าขา”เสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินดังขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดมิดลงไปอีกหน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2019 11:40:28 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2

                                                                         ตอนที่ 3
                         จากชายอ้วนสู่หญิงงาม
   วันพุธนั่งลงบนเตียงตั่งทำจากไม้สักทองฝีมือประณีตหาช่างในยุคสมัยของเขาเปรียบเทียบได้ เขาไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอย่างไรที่มาโผล่ในร่างของหญิงงามในสมัยกรุงศรีอยุธยาเช่นนี้  เขาจินตนาการเล่นๆตอนที่เขาอ่านนิยายย้อนยุคว่าถ้าหากเขาหลุดเข้ามาบ้างมันคงจะสนุกไม่ใช่น้อย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง เขากลับรู้สึกตรงกันข้าม จะเป็นอย่างไรถ้าหากคนพวกนั้นไม่ชอบเขา และจะเป็นอย่างไรถ้าหากเขาไม่สามารถกลับไปยังที่ซึ่งเขาจากมาได้ แล้วที่สำคัญเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาถึงได้มาโผล่ใน ร่างของหญิงสาวคนนี้ หรือเขาจะตายไปแล้ว และเป็นเพียงวิญญาณ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเขายังรู้สึกว่าเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น  ชายอ้วนในร่างของหญิงงามถอนหายใจออกมา เขาจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเขาคือไอ้วันพุธผู้ซึ่งมาจากรัชสมัยของในรัชกาลที่10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หากแต่เขาจะใช้ความรู้ทั้งหมดจากทั้งการศึกษาภาควิชามนุษย์ศาสตร์ที่เขาได้ร่ำเรียนมา รวมไปถึงความรู้จากเหล่านิยายย้อนยุคที่เขาเคยอ่านมามากมาย นำมาปรับใช้ ไม่ให้ใครหน้าไหนสงสัยในตัวของเขาได้เป็นอันขาด
    “พี่ทั้งสองชื่ออะไรนะจ๊ะ”

มองในแง่ที่ดีเถิด อีพุด
นี่ไง ในที่สุดแกก็ได้กลายเป็นหญิงสาวสมใจ
แถมสวยหยาดฟ้ามาดินอีกด้วย
   
YES ในที่สุดฉันก็กลายเป็นผู้หญิงจริงๆจนได้
   
“แกลบเจ้าค่ะ”
   “น้อยเจ้าค่ะ”
วันพุธอดที่อมยิ้มไม่ได้ เมื่อนึกไปถึงฉากหนึ่งในหนังสือ ฉากที่แม่การะเกดนางเอกพบกับพี่ผิน พี่แย้ม บ่าวคู่ใจทั้งสอง มันช่างเหมือนกันราวกับแกะ

ขอบคุณนะคะ ไม่ว่าท่านผู้ใดก็ตามที่ทำให้อีพุดได้เดินทางมาอยู่ตรงนี้ ขอให้ช่วยเหลืออีพุดต่อไปด้วยเถิด
   
ความตื่นเต้นทำให้เขาลืมไปเสียสิ้นว่า ถ้าหากเขาเข้ามาอยู่ภายในร่างของแม่หญิงคนงามผู้นี้ แล้วแม่หญิงงามตัวจริงหายไปไหน
   “พี่น้อย พี่แกลบ ออกไปก่อนนะ ฉันขออยู่คนเดียวก่อน”วันพุธพยายามใช้ถ้อยคำให้ดูเป็นหญิงและโบราณที่สุด พร้อมยิ้มหวานหยดย้อย
   
ฉันสวยแล้ว ฉันสวยแล้ว
เสียงหัวใจของเขาร้องเพลงอย่างลิงโลด
   
“แม่หญิงจักทำอันใดฤาเจ้าคะ”อีแกลบถาม พร้อมขยับเข้ามาใกล้ ดูเหมือนจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง
   “เอาน่า ออกไปก่อน”วันพุธโบกมือไล่ ทำให้บ่าวทั้งสองค่อยๆคลานเข่าออกไปจากหอนอน
   
ไหนขอสำรวจร่างกายก่อนสิ ว่าจะสวยแค่ไหน
   
วันพุธค่อยๆปลดเปลื้องชุดไทยที่สวมใส่ออก เผยผิวเนื้อและเรือนกายงดงามของอิสตรีที่สะท้อนกระจกเงาบานใหญ่อยู่ตรงเบื้องหน้า
   
“โอ้โห อีพุธ แกช่างโชคดีจริงๆ นมก็สวย จิมิก็สวย เริ่ดสะแมนแตนไปเลย ขอบใจนะแม่หญิง รับรองอีพุดจะใช้ร่างกายของแม่หญิงให้คุ้มค่าที่สุด”

ถ้าหากคุณเพลิงเพชรได้เห็นร่างกายของเขาในตอนนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้คุณเพลิงรูปหล่อหลงรักเขาได้
   
ในที่สุดความฝันของแกก็จะเป็นจริงแล้วนะอีพุธ
แกกำลังจะได้กินคุณเพลิงเพชรดาราหนุ่มสุดฮอต
มันช่างสมใจกูนัก
ไม่เสียแรงที่กูฝากตัวเป็นแฟนนิยายย้อนยุคมานาน
   
ความนึกคิดแบบคนรักสนุกและเพ้อฝันของวันพุธลิงโลดไปเรื่อย ก่อนที่จะสะดุดลงตรงที่ใบหน้าคมสันของเพลิงเพชร
   ทำไมตอนที่เขาฟื้นขึ้นมา เขาถึงเห็นเพลิงเพชร ในเมื่อเขาย้อนเวลากลับมา เสียงท้องของวันพุธร้องจ๊อกขึ้นมาด้วยความหิวแทนคำตอบน ผู้ที่เห็นว่าเรื่องปากเรื่องท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดสลัดความคิดอื่นทิ้งไปจนหมดสิ้น
   “ตายแล้วหิวข้าวจังเลย นี่แกไม่ได้กินอะไรมากี่วันแล้ววะอีพุด”เขาบอกตัวเอง พลางรีบดึงผ้าผ่อนขึ้นมานุ่ง
   
“มันนุ่งยังไงวะเนี่ย ยุ่งยากฉิบหาย” ชายหนุ่มในร่างของหญิงสาวคว้าผ้ามาพันรอบร่างกายเอาไว้ ก่อนจะเปิดประตูออกมา
   “พี่น้อย พี่แกลบ ช่วยผม ไม่ใช่สิ ช่วยฉันแต่งตัวหน่อยได้ไหม”
   “ว้ายตาเถร ยายชี แม่หญิงเจ้าขา เปิดประตูออกมาเยี่ยงนี้ มิงามเลยเจ้าค่ะ”อีแกลบรีบกระโจนเข้ามาปิดประตู
   ระหว่างที่สองบ่าวกำลังวุ่นวายนุ่งผ้าผ่อนให้ผู้เป็นนายอยู่นั้น วันพุธก็คิดได้ว่าเขาควรจะหาข้อมูลจากบ่าวทั้งสองของเขา เขาจะได้ไม่ต้องไปทำเรื่องหน้าแตกต่อหน้าผู้อื่น
   “ฉันชื่ออะไรนะพี่”เขาถาม อีน้อยกับอีแกลบมองหน้ากัน
   “ไม่ต้องงงหรอกน่า ตอบๆฉันมาก่อนเถอะ”
   “แม่หญิงพุดซ้อนเจ้าค่ะ”
   “แล้วฉันเป็นอะไร....”วันพุธอยากจะถามว่าแม่หญิงพุดซ้อนเป็นอะไรตาย แต่ก็ยั้งปากเอาไว้ทัน ชายหนุ่มจากแดนไกลจึงเปลี่ยนประโยคเสียใหม่ให้มันถูกต้อง
   “ตอนที่ฉันสลบอยู่ระเบียง ฉันเป็นอะไร”
อีแกลบมองหน้าอีน้อยตามเคย
“ไม่เข้าใจ”คุณพูดแทบอยากจะกรี้ดออกมา

เย็นไว้อีพุธ ใจเย็นเอาไว้

“ฉัน เป็น อะไร ถึง ไม่ได้ สติ”เขาลากเสียงยานคาง
“บ่าวพูดมิได้ดอกเจ้าคะ ประเดี๋ยวบ่าวจักถูกลงหวาย”ร่างงามยกมือขึ้นมาเกาหัวแกรก

หรือว่าแกต้องเล่นบทเจ้านายข่มลูกน้องวะอีพุด
ลองดูก็ได้

“ฉันอยากรู้ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ”วันพุธตีสีหน้าเข้ม พร้อมเปล่งน้ำเสียงหนักแน่นออกมา
“แม่หญิงเจ้าขา”อีแกลบกับอีน้อยพนมมือขึ้นท่วมหัว น้ำตาเริ่มไหลพราก
เหมือนระฆังช่วยอีบ่าวทั้งสอง เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ด้วยความเคยชินวันพุธจึงลุกขึ้นหมายจะไปเปิดประตูเสียเอง แต่อีน้อยรีบไถลร่างไปเสียก่อน
“บ่าวเปิดเองเจ้าคะ”
เพียงประตูไม้สักทองบานใหญ่เปิดออก ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวผู้หนึ่ง หล่อนนั่งคุกเข่าลงหน้าประตู วันพุธสังเกตว่าหล่อนสวมผ้าแถบสีอ่อนไม่เหมือนสีผ้าแถบของอีแกลบอีน้อย หญิงคนนั้นมีหน้าตาสะสวย รูปร่างอวบงามในแบบที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชื่นชอบ หรือจะเรียกตามประสาพวกหน้าหม้อว่า เต็มไม้เต็มมือก็ได้
“ท่านออกญากับคุณหญิงรอรับทานอยู่”หล่อนพูดขึ้นห้วนๆ พร้อมปรายตามองมาด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร  มันบ่งบอกถึงความเกลียดชังได้อย่างชัดเจน
“อีบัว มึงจักพูดจาอันใดกับนายของกู มึงพึงจักรู้ตัวมึงเองเสียบ้าง”อีแกลบตวาด
“กูกล่าวอย่างใจกูต้องการ มึงจะทำอันใดกูเล่าอีแกลบ”ใบหน้าชวนมองถลึงตาให้อีแกลบทันที
“อีนี่ เดี๋ยวแม่ตบล้างน้ำเสีย”อีน้อยกล่าวออกมาบ้าง

หรือว่าแกจะข้ามภพข้ามชาติมาเป็นนางร้ายเหมือนแม่หญิงการะเกดวะ อีพุด
วันพุธถามตัวเอง

ไม่นะ คนอย่างวันพุธต้องเป็นนางเอกแบบ แอฟ ทักษอรเท่านั้น ไม่มีทาง ไหนๆก็จะเป็นผู้หญิง ก็ต้องเป็นผู้หญิงในฝันแบบแอฟ ทักษอร คนอย่างอีพุดจะไม่มีวันเป็นนางร้ายแบบ กิ๊ก สุวัจนี อย่างเด็ดขาด

วันพุธโบกมือให้หญิงทั้งสามหยุด
“เดี๋ยวฉันตามไป”เขาบอกแม่บัวคนสวย หญิงผู้นั้นยกปลายริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะลุกพรวดออกไป
“มันน่าตบให้คว่ำ”อีแกลบยังมีน้ำโห ที่อีบัวไม่ยอมให้ความเคารพยำเกรงนายของมัน
“แม่หญิงพุดซ้อนร้ายมากหรือจ๊ะ พี่ ทำไมพี่บัวเขาถึงดูเกลียดแม่หญิงพุดซ้อนมากนักล่ะ”อีน้อยจ้องผู้เป็นนายเขม็ง
“ไยไปเรียกขานมันว่าพี่เจ้าคะ มันเกลียดแม่หญิงก็เพราะแม่หญิงมีเหนือกว่ามันทุกด้าน หาใช่แม่หญิงเป็นคนเลวร้ายไม่ มันถือว่ามันเป็นเมียของขุนท่าน มันจึงกำเริบเสิบสานนัก”
“สรุปฉันเป็นนางเอกใช่ไหมพี่ ฉันไม่ใช่นางร้ายใช่ไหม”คนพูดดูจะตื่นเต้น และมีความสุขขึ้นมากโข
“นางเอกอันใดกันเจ้าคะ”อีแกลบสอดขึ้นมา
วันพุธในร่างของแม่หญิงพุดซ้อนทำท่าทางครุ่นคิด เขาค่อยๆนั่งลงไปที่เตียงตั่งอีกครั้ง วางมือทั้งสองข้างไว้บนตัก ทำท่าทีงามสง่าราวกับเป็นนางหงส์

นี่แหละ สิ่งที่เขาอยากจะทำมานานแสนนาน
เป็นผู้หญิงที่งามสง่าและเป็นกุลสตรีดุจเพชรแท้

“ฉันเป็นคนดีใช่หรือไม่”
เงาชายหนุ่มร่างอวบในร่างอิสตรีผู้งามยิ่งหัวเราะคิกคัก
“แม่หญิงของบ่าวมีเมตตาหาผู้ใดเปรียบเจ้าคะ”อีแกลบกับอีน้อยพูดเกือบพร้อมกัน
“เยี่ยงนั้นดอกฤา”ดวงหน้างามหยดพึงใจยิ่งนัก
“เยี่ยงนั้นเจ้าคะ”
“จ๊อก ๆ ๆ”เสียงท้องของแม่หญิงพุดซ้อนร้องขึ้น
“หิวอ่ะ”ใบหน้าแดงซ่านขึ้นด้วยความเขินอาย ต่อสายตาของสองบ่าวที่จับจ้อง ก่อนที่ทั้งคู่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา
“ไปกินข้าวกันเถอะพี่”วันพุธลุกพรวดขึ้น แล้วรีบเดินออกจากห้องไป เขาเริ่มจะเปลี่ยนเป็นวิ่งเหยาะๆด้วยความหิวที่บังเกิดขึ้นมามากมาย แต่แล้วก็หยุดฝีเท้าเอาดื้อๆ สองบ่าวที่เดินตามมาจึงชนโครมเข้าให้ ผลคือทั้งสามคนล้มลงไปกองที่พื้นเรือน
“แม่หญิงหยุดทำอันใดฤาเจ้าคะ”อีแกลบรีบลุกขึ้นมาประคองร่างแม่หญิงพุดซ้อนให้ลุกขึ้นยืน
วันพุธยิ้ม ตรวจสอบความเรียบร้อยของร่างกาย

อีพุดแกต้องจำไว้ว่า แกคือ แอฟ ทักษอร

เขาค่อยๆเอามือมาประสานกันตรงช่วงเอว คิดว่าท่านี้ดูเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมมากที่สุดแล้ว
“ฉันสวยไหมพี่น้อย พี่แกลบ”
“สวย”อีน้อยทวนคำ
“หมายถึงงามไหม”วันพุธแก้ให้
“ระหว่างฉันกับเบลล่าใครงามกว่ากัน”อีแกลบตีมึน ในขณะที่อีน้อยหัวเราะคิกคัก
“แม่หญิงของบ่าวงามหาใครเปรียบเจ้าค่ะ”เกิดอาการนายว่าขี้ข้าพลอยขึ้นมาทันใด
“ขอบใจ”วันพุธยักไหล่ ความภาคภูมิใจมาเต็ม
“เยี่ยงนั้น Go”เขาซอยเท้าสั้นๆเดินนำบ่าวคนสนิททั้งสองไป ท่าทางเดินเหินราวกับเกอิชาของชนชาติญี่ปุ่นก็ไม่ปาน
อีน้อยกับอีแกลบหัวเราะชอบใจ ก่อนเลียนแทบท่าทางนายสาวของพวกมันทันที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2019 11:41:12 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น่าจะเปลี่ยนเป็นเดินแบบแทนนะ คงเก๋ไม่เบา  o18

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2


                                 ตอนที่ 4
                     ห่าลงแม่หญิง
เรือนไทยหลังใหญ่กว้างขวางแทบไม่น่าเชื่อ พื้นเรือนถูกขัดด้วยกะลามะพร้าวชุบเทียนไขจนขึ้นเงาวาววับ ซุ้มดอกไม้และข้าวของหลายอย่างกำลังถูกขนลำเลียงนำลงไปจากเรือน ราวกับบนเรือนไทยหลังนี้พึ่งจะผ่านการจัดงานใหญ่โตมา ตรงกลางเรือนยกพื้นขึ้นสูงมีชายสูงวัยท่าทางใจดีนั่งเคียงข้างหญิงวัยกลางคนหน้าตาแย้มยิ้ม ถัดมามีชายหนุ่มสองคนนั่งหันหลังอยู่ คนทั้งสี่แต่งกายด้วยชุดไทยตัดจากผ้าเนื้อดี ต่างจากพวกบ่าวที่นั่งรายล้อมอยู่ด้านล่าง ตรงกึ่งกลางคือสำรับอาหารคาวหวาน กลิ่นหอมของอาหารลอยมาปะทะจมูกของผู้ที่ชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ จนร่างบางปรี่เข้าไปนั่งทันที ลืมหมดสิ้นว่าตนเองต้องรักษาภาพพจน์ให้เป็นเหมือน แอฟ ทักษอร
“วันนี้มีอะไรกินบ้างครับ”วันพุธมักลืมตัวทุกครั้งที่เกิดอาการหิว หรือที่เขามักเรียกมันว่า หิวจนตาลาย  หนุ่มอ้วนในร่างสาวงามชะโงกหน้าไปมองอาหารที่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างวิจิตรบรรจง
“เดินเหินราวม้าดีดกะโหลก”เสียงสตรีนางนั้นกล่าวขึ้น
“น่ารังเกียจยิ่งนัก”
“ออเจ้าพึ่งฟื้น คงจักหิวมากโข”คราวนี้ชายสูงวัยเป็นฝ่ายกล่าว น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเมตตา
“หิวมากครับ..หิวมากเจ้าค่ะ”วันพุธสำนึกได้ทันที
“มัวรออะไรตักข้าวให้แม่หญิงสิ แม่ใบ”หญิงวัยกลางคนผู้งามสง่าออกคำสั่ง
“นี่แกงคั่วหรือครับ”วันพุธเอื้อมไปตักแกงคั่วมาใส่ชามข้าวสวย

ไม่มีช้อน ไม่มีส้อม
อ่อ รู้แล้วคนยุคนี้เข้าใช้มือกินข้าวกัน

ชายหนุ่มผู้มากจริตหันไปมองบ่าวคู่ใจ อีแกลบพยักหน้าให้เขา พร้อมมองไปที่ขันเงินบรรจุน้ำ วันพุธรีบยกน้ำขึ้นมาดื่มทันที ท่ามกลางความตกใจของผู้คนที่เฝ้ามองดูอยู่
“ออเจ้าเป็นอันใดไปฤา น้ำในขันใบนั้น เขาใช้ล้างมือหาได้มีไว้ดื่มกินไม่”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้น วันพุธรู้สึกอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองผู้พูด เขาวางขันน้ำลงแล้วค่อยๆล้างมือ ก่อนจะลงมือหยิบอาหารเข้าปาก
“อร่อยมาก กอไก่ ล้านตัว”ชายหนุ่มทำเสียงสูงอย่างลืมตัว
“น้ำพริกถ้วยนี้ก็อร่อย”พูดทั้งๆที่ข้าวเต็มปาก
“แม่พุดซ้อน”สตรีนางนั้นกระแอมเสียงดัง วันพุธจึงค่อยๆวางจานข้าวลงไป
“กินเข้าไปเยี่ยงนั้น ประเดี๋ยวก็ปวดท้องปวดไส้กันพอดี ออเจ้าลืมไปแล้วฤาว่าออเจ้าพึ่งจะโดนวางยาพิษ”
“วางยาพิษ”คราวนี้วันพุธเงยใบหน้างามของแม่หญิงพุดซ้อนขึ้นมา มองไปยังบุรุษหนุ่มทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงเบื้องหน้า
“สงสัยห่าจะลงนางขอรับคุณแม่”ชายหนุ่มผิวเข้มกล่าวขึ้น
“พ่อเทิด ไยกล่าวเยี่ยงนั้นเล่า”ผู้เป็นบิดาเอ็ดเบาๆ  วันพุธจ้องใบหน้าคมสันสีเข้มนั้น เขาถึงกับอ้าปากค้างและเบิกสองตากว้าง
“ไอ้เทรด”
“ไอ้ อี ที่ใดกัน นี่หมื่นเทิดเทศา ลูกชายคนเล็กของข้า ออเจ้าจำมิได้ดอกฤา”คุณหญิงพร้อมจ้องแม่หญิงที่ดูผิดแผกไป
“ลูกกล่าวมิผิดคำ ห่ากินนางแน่แท้ขอรับ”
“หมื่นเทิด”วันพุธทวนคำ ความยากอาหารหายไปหมดสิ้น
“เหมือนราวกับคนเดียวกัน หรือว่าไอ้เทรดจะสืบเชื้อสายมาจากตระกูลนี้กันแน่ จู่ๆถ้อยคำบางอย่างก็ผุดขึ้นมาภายในความคิดของวันพุธ

“ที่เทรดบอกพุดว่าบางทีอาจจะมีผู้ชายที่มองข้ามเรื่องเพศ มองข้ามรูปลักษณ์และร่างกายภายนอก และรักในความเป็นตัวตนของคนที่เขารักอยู่ก็ได้ เทรดหมายถึง เอ่อ..“เทรดหมายถึง ตัวเทรดเอง”

“ออเจ้า”เสียงเรียกขานจากชายหนุ่มอีกคนดังขึ้น ดึงวันพุธออกมาจากภวังค์
“ออเจ้า เป็นอันใดไปฤา”คราวนี้เมื่อวันพุธหันไปสบสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของผู้พูด หัวใจที่อ่อนหวานประดุจอิสตรีก็ถึงกับระทวย  เขายกมือขึ้นมาจับหน้าอกของตนเอง หน้าอกที่มีปทุมถันงามเต่งตรึงซ่อนอยู่ภายใต้สไบผืนสวย
“คุณเพลิงเพชร”เขารำพันออกมา ใบหน้าคมสันขาวจัด ยิ้มละไม
“ไยกับขุนท่าน ออเจ้าถึงจำได้ แต่กับข้าออเจ้ากับจำไม่ได้ เยี่ยงนี้จักมิให้ข้ากล่าวว่าออเจ้าหลงขุนท่านได้เยี่ยงไร”หมื่นเทิดเทศาประชดประชัน พลางยกชามข้าวขึ้นมาหยิบใส่ปากด้วยท่าทีงดงาม

อีตาหมื่นบ้า

 วันพุธเชื่อแล้วว่าเขาไม่ใช่คนๆเดียวกับไอ้เทรดอย่างแน่นอน เพราะไอ้เทรดนั้นเป็นคนสุภาพ และพูดจาให้เกียรติเขาเสมอ ในขณะที่ไอ้ตาหมื่นบ้าผู้นี้ คอยจิกกัดเขา ทั้งๆที่พึ่งจะเจอหน้ากันไม่ถึงชั่วโมง  วันพุธอยากแหวใส่ให้มันรู้แล้วรู้แรดไปเลย แต่ก็ได้แต่พึมพำกับตัวเองว่า

 แอฟ ทักษอร แอฟ ทักษอร

“ออเจ้าเรียกพี่ว่าเยี่ยงใดฤา”ดวงหน้าคมสันโน้มเข้ามาใกล้
“คุณ หรือ ขุน เพลิง ฤา พี่ฟังมิถนัดนัก”
“เออ....”
ตายละว้า อีพุด ตายแน่คราวนี้

คราวนี้วันพุธหัวใจเต้นราวกับเสียงกลอง ไม่เคยคิดว่าจะได้ใกล้ชิดคุณเพลิงเพชรชายเดียวในดวงใจใกล้ขนาดนี้มาก่อน ชายหนุ่มในร่างงาม จึงทำได้เพียงหัวเราะกลบเกลื่อน
“ออเจ้าจักต้องเรียกพี่ว่าคุณพี่ ออเจ้าจักเรียกขานพี่ว่าขุนเพลิงเหมือนผู้อื่นมิได้ เพราะถ้าหากมิเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นเสียก่อน ป่านฉะนี้พี่และออเจ้าคงจักได้ร่วมหอกันเสียแล้ว”
“ร่วมหอ หมายถึง เป็นผัวเมียกันนะหรือ”วันพุธตาโต หมายความว่าแม่หญิงพุดซ้อนกำลังจะแต่งงานกับคุณเพลิงเพชร ถ้าอย่างนั้นร่องรอยที่เขาพึ่งจะเห็นบนเรือนว่าคล้ายการจัดงานพิธี มันก็คืองานแต่งงานของเขากับคุณเพลิงสุดหล่อนี่เอง

ตายแล้ว ตายแล้ว อกอีแป้นจะแตก
อีพุดแกเป็นเจ้าสาวของคุณเพลิงเพชร
นั่นหมายถึง แกจะได้มีเซ็กซ์กับคุณเพลิงเพชร พระเอกชื่อดัง

จู่ๆฝ่ามือเรียวยาวของแม่หญิงพุดซ้อนก็ถูกยกขึ้นมาตบใบหน้าตัวเองเต็มแรง

เรื่องจริงซะด้วยอีพุด แกไม่ได้กำลังฝันไปอย่างแน่นอน

“นอกเสียจากห่ากิน นางยังวิปลาสไปเสียแล้ว”หมื่นเทิดเทศาพูดแทรกขึ้นมา วันพุธหันไปจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่องราว
“ฉันไม่ได้บ้า”ผู้ฟังยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจคำตอบนั้น
“แม่พุดซ้อนโดนพิษดอกลั่นทม หมดสติไปเสียนาน มิแปลกดอกพ่อเทิดที่นางจักลืมเลือนเรื่องราวไปบ้าง”ขุนเพลิงพานยังกล่าวด้วยท่าทางรักใคร่ อย่างที่วันพุธไม่เคยได้เห็นจากท่าทีของคุณเพลิงเพชรที่เขาคลั่งไคล้
“ใช่ ทุกอย่างเป็นเพราะว่าข้าถูกพิษดอกลั่นทม”คนพูดเชิดหน้าสวยๆ
แม่หญิงพุดซ้อนถูกวางยาพิษดอกลั่นทม ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่าแม่หญิงพุดซ้อนตายแล้ว

ตายแล้ว เสียชีวิตแล้ว แม่หญิงตายแล้ว อีพุด

“เยี่ยงนั้นพี่จะบอกกล่าวออเจ้า เพื่อฟื้นความทรงจำให้แก่ออเจ้า ออกญาพัชระมีศักดิ์เป็นลุงของออเจ้า ออเจ้าต้องเรียกขานท่านว่า คุณลุง”ชายผู้งามสง่าด้วยวัยวุฒิ เผยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตา วันพุธก้มลงกราบออกญาพัชระ อดที่จะคิดถึงคุณยายพรสว่าง คุณยายของตนเองไม่ได้
“เป็นเด็ก ต้องรู้จักเคารพผู้ใหญ่มันถึงจะน่ารักนะลูก”ถ้อยคำสอนของคุณยายไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำของวันพุธ
“คุณหญิงพร้อม ออเจ้าจักเรียกขานว่า คุณป้าย่อมได้”วันพุธก้มลงกราบคุณหญิงพร้อมเฉกเช่นเดียวกัน
“ท้ายสุดก็คือ หมื่นเทิดทเศษ น้องชายคนเดียวของพี่”วันพุธจ้องมองเข้าไปยังดวงตาของชายผิวเข้มตรงหน้า

พี่น้องอะไรหน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิด
แถมสีผิวก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เขาคิดพลางย่นจมูกแล้วพนมมือขึ้นหมายจะไหว้ชายหนุ่มตรงหน้า
“มิต้องไหว้ข้าดอก ข้าอายุอานามเพียงออเจ้า แถมข้ายังมีศักดิ์เป็นน้องออเจ้า”หมื่นขี้เก๊กรีบห้าม
“ย่ะ...”วันพุธหลุดปากออกมาด้วยความหมั่นไส้
“อย่ามัวแต่เสวนากันอยู่เลย ข้าหิวเต็มประดาแล้ว”ออกญาพัชระกล่าว
จริงด้วยตอนนี้วันพุธเริ่มรู้สึกหิวจนแสบท้อง เพราะปกติแล้วข้าวสวยหนึ่งหม้อจะถูกพิมพาผู้เป็นมารดาหุงหาเอาไว้ให้เป็นมื้อเย็น บ่อยครั้งที่ผู้เป็นมารดาจะบอกกล่าวว่า
“มื้อเย็นไม่ควรกินเยอะเกินไปนะพุด มันไม่ดี”แต่ชายหนุ่มก็มักจะเถียงขึ้นมาทันทีว่า
“มื้อไหนก็เหมือนกันแหละแม่ พุดไม่ถือ”

หากแต่ไม่ทันที่เขาจะส่งข้าวเข้าปาก ขุนเพลิงพานก็รวบชามข้าวออกจากมือของเขา
“เอ๋.....”เขาชะงักถ้อยคำ

จะกระชากทำไม
กูหิวจะตายอยู่แล้ว
ตอนนี้จะช้าง ม้า วัว ควาย อีพุดกินได้หมดไม่มีเกี่ยง

“ประเดี๋ยวจะเสาะท้องเอา”ท่านขุนรูปงามยิ้มพราวราวกับจะรู้เท่าทัน
“อีแกลบอีน้อย พานายมึงกลับหอนอน ประเดี๋ยวกูจะให้อีใบยกสำรับเข้าไปให้ในหอนอน”
ถึงคำพูดเหล่านั้นมันจะไม่สามารถลดทอนความหิวลงไปได้ หากแต่ความจริงใจและความห่วงใยจากหนุ่มรูปหล่อก็ทำให้วันพุธยอมทำตามอย่างว่าง่าย เขาเดินตามบ่าวคู่ใจไป พลางนวยนาดหันกลับมามองชายหนุ่ม ท่าทางการเดินหยดย้อยเพราะในใจยังคงท่องคาถากุลสตรีไทยอยู่ตลอด

แอฟ ทักษอร แอฟ ทักษอร

ท่านออกญายิ้ม คุณหญิงพร้อมส่ายใบหน้า ขุนเพลิงพานยิ้มมุมปากให้นางเช่นเดียวกับบิดา ในขณะที่หมื่นเทิดเทศา หัวเราะออกมาเสียงดัง ด้วยเขาไม่เคยเห็นท่าทางการยุรยาตรที่แสนประหลาดเยี่ยงนั้นมาก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-05-2019 09:14:14 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะมีเหตุอะไรให้พบเจออีกบ้างเนี่ย  o18

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตอนอ่านเจอชื่อเรื่องก็หัวเราะก๊าก.......  :katai2-1:
มันให้ความรู้สึกเชื่อมโยงเรื่องบุพเพสันนิวาสเลย  :-[

พุธ พอเป็นพุดซ้อนดูจริตป้ำเป๋อตามร่างเดิมแท้ๆเป๊ะ
แต่ขุนเพลิง  ขุนเทิด อาการกลับตรงข้ามกันซะงั้น น่าสนุก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2018 05:53:06 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2



                                 ตอนที่ 5
                        เขินจุงเบยกะเทยโดนจีบ


สายลมแผ่วเบาพัดเอื่อยเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดอ้าเอาไว้ กลิ่นหอมรวยรินจากดอกลั่นทมโชยเข้ามา ผ้าม่านลายฉลุสีขาวกำลังปลิวไสว แสงจันทร์สีทองผ่องจ้าสาดเข้ามากลบความมืดมิด เทียบไขหลายเล่มถูกนังบ่าวทั้งสองจุดเอาไว้
 หากแต่บรรยากาศที่งดงามเหล่านั้นก็ไม่ลดทอดความหิวอันร้ายกาจที่กำลังรุมเล่นงานวันพุธ
กระจกเงาบานใหญ่ยังตั้งเด่นอยู่ข้างเตียงตั่งไม้สักทอง ร่างสูงอรชรได้สัดส่วนเดินวนเวียนไปมา
 ท่ามกลางสายตาสองคู่ที่จับจ้องด้วยความภักดี

“กระจก”จู่ๆหญิงงามก็กล่าวออกมาลอยๆ

“กระจกอันใดเจ้าคะ”อีแกลบคลานเข้ามาใกล้  วันพุธชี้มือไปยังกระจกเงา

“คันฉ่อง”อีน้อยคลานเข่าเข้ามาสมทบ

“ใช่ คันฉ่องนั่นแหละ”ผู้เป็นนายกล่าว
แล้วพุ่งตรงไปยังหน้ากระจกเงาบานใหญ่ล้อมกรอบด้วยไม้เต็งแกะสลักลายไทยกนก

“มณีจันทร์ ผ่านเข้าออกทางกระจก จริงด้วยบางทีเราอาจจะทำแบบนั้นได้เหมือนกัน”
ร่างบางกำมือแน่น คิดถึงมณีจันทร์นางเอกนิยายเรื่องทวิภพที่ผ่านเข้าออกมิติด้วยกระจกเงา

“ลองดู”ผู้พูดบอกตัวเอง ก่อนกระแทกร่างไปที่กระจกเงาสุดแรง

“โอ้ย เจ็บ”ร่างสูงโปร่งล้มคว่ำลงทันที โชคดีที่กระจกเงาบานนั้นไม่แตกเสียหาย ไม่งั้นร่างสวยคงจะบาดเจ็บมากกว่านี้

“แม่หญิง”บ่าวทั้งสองตรงเข้ามาช่วยเหลือทันที วันพุธลุกขึ้นนั่ง พลางยิ้มแห้งกลบเกลื่อน

“แม่หญิงทำอันใดฤาเจ้าคะ ไยจึงวิ่งชนคันฉ่องเยี่ยงนั้น”

ผ่านไม่ได้แฮะ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง

“อีใบคงจักยกสำรับมาให้แล้วกระมังเจ้าคะ”อีน้อยว่า
 พร้อมคลานเข้าไปเปิดประตู หากแต่ผู้ที่ถือสำรับอยู่หาใช่อีใบไม่ แต่กลับเป็นอีบัว

“ท่านขุนเพลิงให้อิฉันยกสำรับมาให้”คำพูดและท่าทียังเต็มไปด้วยความเกลียดชังเช่นเดิม

“วางไว้เสียตรงนั้นเล่า”อีน้อยชี้มือ

“รออันใด ออกไปได้แล้ว”อีแกลบทำเสียงข่ม

“ท่านขุนสั่งให้กินให้หมด”ผู้พูดจ้องวันพุธเขม็ง

“อีนี่”อีน้อยขึ้นเสียงบ้าง

“ขอบใจนะพี่บัว”วันพุธรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เพราะไม่ว่าแม่บัวจะเกลียดเขาเพราะสาเหตุอะไร
มันไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย เพราะคนที่แม่บัวเกลียดคือแม่หญิงพุดซ้อน หาใช่เขาไม่

อีบัวดูจะตกตะลึงพอๆกับอีแกลบและอีน้อย หากแต่หล่อนไม่ได้หลุดคำใดออกมาตอบโต้ เพียงก้าวออกไปจากหอนอนอย่างเงียบเชียบ




“แม่หญิง ไปกล่าวเยี่ยงนั้นได้อย่างใดเจ้าคะ”

“กล่าวอะไร”ร่างบางเดินมานั่งลงข้างสำรับ

“แม่หญิงเป็นนายมิบังควรไปกล่าวขอบใจบ่าวเยี่ยงอีบัว”อีน้อยคลานเข้ามา

“จริงเจ้าคะ”

“เขายกข้าวมาให้ ฉันก็ขอบใจเขา ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยพี่”วันพุธยังเถียง

“มิบังควรเจ้าคะ”อีแกลบพูดพร้อมเปิดสำรับอาหารตรงหน้าวันพุธ
ชายหนุ่มนักกินชะโงกมอง มีเพียงข้าวต้มเปล่าๆ กับปลาสลิดปิ้งจนแห้งเท่านั้น

“แหวะ ข้าวต้มกับปิ้งปลาสลิดใครจะกินลง”บ่าวทั้งสองจ้องหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่อีแกลบจะพยักหน้าให้อีน้อยเป็นผู้พูด

“ข้าวต้มกับปลาใบไม้ปิ้งแห้งเจ้าคะ จักได้มิเสาะท้อง”

“กินไม่ลง”วันพุธเบือนหน้าหนีไปทางอื่น พลันคิดถึงอาหารคาวหวานที่พิมพาทำให้กินทุกวัน

“มิบังควรเจ้าคะ ท่านขุนกำชับให้ทานให้หมดก็จักต้องทานให้หมด”อีแกลบว่า

“ไม่เยี่ยงนั้น บ่าวสองคนจักแย่”

“ไม่กิน พี่สองคนช่วยกินแทนฉันที”

“มิบังควรเจ้าคะ”บ่าวทั้งสองตะโกนขึ้นพร้อมเพียง

“มิบังควรๆๆๆๆ  มันอะไรกันนักหนา”วันพุธถอนหายใจ

“ทานเถิดเจ้าคะ”อีน้อยเกลี่ยกล่อมราวกับเขาเป็นเด็กชายตัวน้อย

“ถ้างั้นฉันจ้าง”พูดพร้อมควานลงไปในกำปั้น ดึงสร้อยทองเส้นเล็กขึ้นมาสองเส้น แล้วยื่นให้บ่าวคนละเส้น
อีน้อยอีแกลบก้มหน้านิ่ง

“อย่าบอกอีกนะว่ามิบังควร”

“มิบังควรเจ้าคะ”บ่าวทั้งสองพูดตาม

“พี่ทั้งสองดีต่อฉันมาก ถือซะว่าฉันตอบแทนน้ำใจพี่ ช่วยฉันกินไอ้ข้าวต้มบ้าๆนี่ทีนะ
ถ้าพี่ไม่ทำตามที่ฉันขอร้อง ฉันจะถือว่าพี่ทั้งสองไม่รักฉัน”

คราวนี้เขาเล่นไม้ตาย ที่เขาใช้กับคุณยายและคุณพิมพาบ่อยครั้ง

และมันก็ได้ผลดีเกินคาด







“ท่านขุนมาเจ้าคะ”อีแกลบดึงสำรับหลบไป ขุนเพลิงพานเข้ามาภายในหอนอน
ก่อนจะนั่งลงที่เตียงตั่งใกล้กับแม่หญิงพุดซ้อน

“พี่เอายามาให้”เขายื่นถ้วยบรรจุยาต้มมาตรงหน้า

“กินเสียเถิด ยาน้ำว่านรางจืดของคุณพ่อ ออเจ้าจักได้หายสิ้น”
สายตาคมกริบคู่นั้นยังโลมเลียร่างงามอย่างเสน่หา ขนาดวันพุธเป็นผู้ชายเขายังรู้สึกสะท้าน
หัวใจเริ่มเต้นแรง และหายใจหอบถี่
เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่าที่ได้อยู่ใกล้เพลิงเพชร
เขาไม่ใช่คุณเพลิง แค่คนหน้าเหมือนเท่านั้น
ชายหนุ่มผู้มีจริตบอกตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อให้ความตื่นเต้นเหล่านั้นหายไป

“ประเดี๋ยวพี่จักป้อนยาออเจ้า”เขาขยับเข้ามาใกล้จนวันพุธได้กลิ่นหอมของเขา
แม้แต่กลิ่นกายก็ยังหอมเหมือนกลิ่นกายของเพลิงเพชร
กลิ่นชายแท้ ช่างหอมยวนใจจริงๆไอ้พุดเอ้ย
แทนที่หัวใจจะสงบลง คราวนี้ยิ่งเต้นถี่จนแทบจะหลุดออกมาจากทรวงอกคู่งาม
อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม เมื่อเห็นท่าทีสะเทิ้นอายที่แสดงออกเกินหญิง
ส่วนอีบ่าวสองคนหลับตาปี๋ ทั้งๆที่ยิ้มแก้มแทบปริ

“จักให้บ่าวออกจากหอนอนหรือไม่เจ้าคะ”อีแกลบถามขึ้น

“อย่านะพี่แกลบ พี่น้อย”วันพุธร้องห้าม ทั้งๆที่หัวใจเต้นแรง แต่ขุนเพลิงพานหาสนใจไม่ เขาขยับเข้ามาใกล้ พลางยกถ้วยยาขึ้นมา

“กินเองได้ ไม่ต้องป้อน”วันพุธรีบดึงถ้วยยามาซดจนหมด รสขมปี๋ของยาทำให้เขาเจือหน้าแทบไม่ทัน

“ขมฤา”ใบหน้าคมสันยังลอยเด่นอยู่ใกล้ ใกล้จนเขาได้กลิ่นลมหายใจอ่อนบางของอีกฝ่าย

“หวานเป็นลม ขมเป็นยา ถ้าหากออเจ้าหายดีแล้ว พี่จักให้คุณพ่อคุณแม่จัดงานแต่งงานของเราขึ้นใหม่ในเร็ววัน
 พี่ใจจักขาด อยากร่วมหอลงโลงกับออเจ้า”
ขุนเพลิงพานคว้ามือของแม่หญิงพุดซ้อนมาเกาะกุมเอาไว้ มันประหลาดนักที่วันพุธรู้สึกถึงความอบอุ่นนั้น
 เขารู้สึกขนลุกเกรียว สะท้านไปทั้งร่าง นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีผู้ชายหล่อระดับพระเอกมาโอ้โลมเขา
หากแต่เขากลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาดื้อๆ เขาขยับร่างออกมาให้ห่างบุรุษหนุ่มรูปงาม

เอาน่าไอ้พุด ผู้ชายหล่อขนาดนี้ แกจะปล่อยไปหรือวะ เสียชาติกะเทยไทยหมดนะโว้ย กินท่านขุนรูปหล่อไปเลย
ถ้าแกกินท่านขุน ก็เท่ากับแกได้กินคุณเพลิงด้วยนะโว้ย กินเลย ไล่อีชะนีสองตัวออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้
 วันพุธภาคซาตานออกคำสั่งอยู่ข้างหู

ในขณะเดียวกันวันพุธภาคเทพธิดาก็กระซิบเขาว่า เขาไม่ควรทำ เพราะตอนนี้เขาอาศัยอยู่ในร่างของแม่หญิงพุดซ้อน
 คนที่จะเสียหายคือแม่หญิงพุดซ้อนหาใช่ตัวเขาไม่
 ท่องเอาไว้ ว่า เขาต้องงามอย่างแอฟ ทักษอร


ขุนเพลิงพานก้มลงจุมพิตที่มือของแม่หญิงพุดซ้อนแผ่วเบา ก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามาสวมกอดเอาไว้
โน้มใบหน้าเข้ามาหมายจะจุมพิตให้ชื่นใจสักครา หัวใจวันพุธแทบจะหยุดเต้นในนาทีนั้น
เขารีบเบี่ยงตัวหนีทันที



และแล้ววันพุธฝ่ายเทพธิดาชนะค่าคุณ


“ฉัน...ข้า ..ง่วงนอนแล้ว”
ขุนเพลิงพานถอนใบหน้าออกมา ดวงหน้าขาวจัดยังยิ้มละไม ชายหนุ่มพาร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืน

“พี่จักจัดการออกเรือนกับออเจ้าในเร็ววัน อีแกลบ อีน้อย ดูแลนายของพวกมึงแทนกูด้วย”

“เจ้าคะ ท่านขุน”สองบ่าวพนมมือไหว้ ชายหนุ่มผู้นั้นส่งยิ้มให้คู่หมายอีกครั้ง

“ฝันดีนะออเจ้า”คำหวานนั้นละมุนจนวันพุธแทบจะล่องลอย


ไอ้พุด ทำไมมึงโชคดีแบบนี้ เขาบิดชายผ้าแถบจนผ้าปริแตกอย่างไม่รู้ตัว

“แม่หญิง ท่านขุนไปนานโขแล้วเจ้าคะ”
เสียงหัวเราะของอีแกลบและอีน้อย ทำให้วันพุธดึงตัวออกมาจากความฝันได้


คุณพระคุณเจ้า ถ้าจะเอาลูกกลับไปยังยุคที่ลูกมา ขอให้ลูกได้ร่วมหอลงโลงกับคุณพี่ขุนสักครั้งนะขอรับ
 แล้วลูกจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลยตลอดชีวิต





ความเพ้อฝันกับกะเทยอ้วน แถมขี้เหร่ มักเป็นของคู่กัน ในเมื่อในชีวิตจริงมีความสุขไม่ได้
วันพุธจึงมักมีความสุขอยู่ในโลกแห่งความฝันมาตลอด นั่นก็คือการอ่านหนังสือนิยายย้อนยุค
ที่เขาทำมาตั้งแต่เด็กจนโต และท้ายที่สุดพระเจ้าก็เข้าข้างเขา ทำให้เขาได้สัมผัสประสบการณ์จริงในวันนี้


“แล้วทำไมงานแต่งงานของขุนเพลิงกับแม่พุดซ้อนถึงล่มละพี่แกลบ พี่น้อย”
ผู้ที่กำลังหวีผมยาวสลวยของแม่หญิงพุดซ้อนอยู่ชะงักมือทันที

“มิบังควร”วันพุธทำสำเนียงล้อเลียน

“แต่ฉันอยากรู้จริงๆนะพี่”วันพุธยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิ

“แม่หญิงจำอันใดมิได้เลยฤาเจ้าคะ”คนถูกถามส่ายหน้า

“อาจจะเป็นเพราะพิษดอกลั่นทม”เขารีบหาเหตุผลมาอ้าง

“เล่าตั้งแต่แรกเลยนะพี่นะ เอาตั้งแต่ทำไมฉันถึงต้องมาแต่งงานกับขุนเพลิง”

“คุณพี่เจ้าคะ”อีน้อยแก้คำให้ เริ่มชินกับภาษาแปลกประหลาดของเจ้านาย

“นั้นแหละ”วันพุธดึงหมอนขิดทรงสามเหลี่ยมมากอดไว้ ใช้สองแขนเท้าคางทำท่าทีตั้งใจฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2018 09:20:45 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
วันนี้อัพให้ 2 ตอนครับ ตอนที่ 6 และตอนที่ 7 เพราะเสาร์ อาทิตย์นี้ผมติดภาระกิจ
ชอบคุณที่ให้กำลังใจนะครับผม


                           


                       ตอนที่ 6
          อดีตมาเป็นลำๆมันช่างน่าจดจำเป็นที่สุด

“ว่าไงล่ะ พี่น้อยพี่แกลบ”ดวงหน้าแฉล้มคาดคั้น เมื่อสองบ่าวยังนิ่งเงียบ

“ออกยาชเยนทร์กับคุณหญิงศรีท่าน ถูกพวกโจรใจทรามมันฆ่าเจ้าคะ”อีน้อยก้มหน้าต่ำ น้ำตาเริ่มไหลนองหน้า

“ใช่เจ้าคะ พวกโจรมันจักมาปล้นเรือน และฉุดคร่าแม่หญิง”

“พ่อกับแม่แม่หญิงพุดซ้อนตายเพราะช่วยลูกสาวตัวเองหรือพี่”อีแกลบและอีน้อยปล่อยโฮออกมา

“แม่หญิงมิต้องเสียใจไปดอกเจ้าคะ อีแกลบ และอีน้อยจักมิยอมให้แม่หญิงต้องเดียวดายดอก”

“โอเค งั้นไม่ต้องเล่าต่อก็ได้”วันพุธตัดบทเพราะพอจะคาดเดาเอาได้ว่า หลังจากที่พ่อและแม่ของแม่หญิงพุดซ้อนตาย
 แม่หญิงจึงต้องเดินทางมาอาศัยอยู่เรือนออกยาพัชระ เพื่อที่จะแต่งงานออกเรือนไปกับขุนเพลิงพาน

“แม่หญิงเจ้าขา”บ่าวทั้งสองยังร่ำไห้อยู่

“ฉันขอบใจพี่ทั้งสองมาก ที่รักฉันขนาดนี้”ความจริงวันพุธขอบใจแทนแม่หญิงพุดซ้อนมากกว่า

“ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทิ้งพี่ทั้งสอง”อีแกลบและอีน้อยโผเข้ามาสวมกอดผู้เป็นนาย

“หนแรกที่อีบุญมันวางยาพิษดอกลั่นทมแก่แม่หญิง บ่าวนึกว่าจักสิ้นที่คุ้มกะลาหัวเสียแล้ว”อีน้อยละล่ำละลัก

“ทำไมเขาต้องวางยาพิษฉันด้วยล่ะพี่ ในเมื่อพี่บอกฉันเองว่าฉันเป็นนางเอก”
อีน้อยเช็ดน้ำตาที่แก้มทิ้ง

“แม่หญิงคงลืมสิ้นแน่แท้”

“อีบุญมันเป็นบ่าวเจ้าคะ มันเป็นแม่ของอีบัว และอีบัวมันเป็นเมียของขุนท่านมาก่อน”

“ขุนเพลิงนะหรือพี่”คนฟังตกใจไม่น้อย

“เจ้าคะ”

“หมายความว่าฉันมาแย่งแฟนชาวบ้านหรือพี่”อีน้อยส่ายหน้า ไม่เข้าใจความหมายที่ผู้เป็นนายกล่าวออกมา

อีตาขุนเพลิงรูปหล่อที่ก็ร้ายใช่ย่อยนะจ๊ะ



“เล่ามา”วันพุธตั้งใจฟังอีกครั้ง
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยหน

“เมื่อแม่หญิงเข้ามา ขุนท่านก็เปลี่ยนใจจากอีบัว เพลานั้นอีบัวมันกำลังจักมีลูกกับขุนท่าน ทำให้มันระทมทุกข์จน......”

“แท้งลูก”วันพุธครุ่นคิด มิน่าเล่าอีบัวจึงได้มองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ลูกตาย”เขาแก้คำใหม่

“เจ้าคะ”

“อีบุญมันเจ็บแค้นแทนลูกสาว มันโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของแม่หญิง มันจึงวางยาพิษดอกลั่นทน
 ในไข่มงคลที่ซึ่งแม่หญิงต้องกินในเพลามงคล”อีน้อยเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

เป็นแบบนี้นี่เอง แม่หญิงพุดซ้อนกินไข่ใส่ยาพิษดอกลั่นทมจนตายในวันแต่งงาน ทำให้เขามาเข้าร่างของหล่อนแทน
 แล้วตอนนี้ร่างของวันพุธจะเป็นอย่างไรบ้าง ชายหนุ่มอดใจหายไม่ได้ เขาจำอะไรไม่ได้
 นอกจากใบหน้าของไอ้เทรดที่เหมือนหมื่นเทิดเทศาราวกับคนเดียวกัน
หรือว่าเราจะตายแล้วจริงๆ
เขาหยิกแขนตัวเอง แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี

หลังจากคิดถึงตัวเอง เขาก็อดคิดถึงอีบัวไม่ได้ อีบัวคงช้ำใจมากที่ต้องเสียทั้งลูกและผัวในเวลาเดียวกัน
ส่วนที่ขุนเพลิงพานก็ใจดำใช่ย่อย แบบนี้เขาควรยังจะปลื้มกับหน้าตาที่หล่อเหลาของอีตาขุนนั้นอยู่อีกไหม

*งานดีแต่ใจดำก็ไม่ไหวนะแก

แกรู้แบบนี้แล้ว แกจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะวันพุธ ถ้าเป็นยุคสมัยของแก ป่านนี้แกคงโดนรุมด่า
 หรือโดนรุมประณามเต็มเพสบุ๊ค เพราะถึงอย่างไรแกก็ได้ชื่อว่ากำลังจะแย่งผัวคนอื่น







อีบัวกระแทกร่างนั่งลงบนพาลัยของโรงครัว หล่อนเอื้อมมือไปคว้าผักหลายชนิด
ในกระจาดสานจากหวายตรงเบื้องหน้าขว้างลงกระจายจนเต็มพื้น

“ข้าชังน้ำหน้ามันยิ่งนัก ไยมันไม่ตายตกไปเพราะพิษดอกลั่นทม ไยมันยังอยู่เป็นมารหัวใจของข้า”

“อีบัวจักกล่าวคำอันใด หัดระวังปากระวังคำเอาไว้เสียบ้างเถิด เอ็งต้องรู้จักเจียมตนเสียบ้าง
 เอ็งฤามันก็เป็นเพียงแค่บ่าว แล้วอีกประการเอ็งฤาก็รู้ความอยู่แก่ใจว่าแม่หญิงพุดซ้อนปราณีเอ็งมากโขอยู่”
ยายพิศออกโรงเตือนสติผู้อ่อนวัยกว่า

อีบัวกวาดสายตามองไปยังพวกบ่าวที่อยู่โรงครัวที่ซึ่งบัดนี้กำลังจ้องมองหล่อนเป็นตาเดียว

“มองอะไรกัน”หล่อนตลาด พวกบ่าวเหล่านั้นจึงก้มหน้าก้มตาทำงานของตนเองต่อไป

“ถึงเยี่ยงไรข้าก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียของขุนท่านนะจ๊ะยาย แถมยังเป็นเมียก่อนที่อี...”อีบัวชักสีหน้าก่อนจะกล่าวถ้อยคำต่อ

“ก่อนที่แม่หญิงพุดซ้อนจักมาถึงเรือนเสียด้วยซ้ำ  ขุนท่านเคยเมตตาข้าเยี่ยงใดผู้ใดก็รู้กันทั่ว
หากแต่เพียงพบเจอแม่หญิงพุดซ้อน ขุนท่านกลับลืมข้าเสียสิ้น”คราวนี้ผู้พูดเริ่มสะอื้นไห้

“ข้าต้องสูญเสียทั้งแม่บุญแม่ของข้า ข้าต้องสูญเสียลูกในท้องของข้า แล้วไยข้าต้องสูญเสียผัวของข้าด้วยเล่ายาย”

“อีบุญมันเลือกที่จะตัดช่องน้อยแต่พอตัว ป่านนี้มันคงไปสบายแล้ว
 เอ็งอย่าคิดอันใดให้ตนเองต้องเป็นทุกข์ใจไปกว่านี้เลยอีบัว ข้าเวทนาเอ็งยิ่งนัก”
ยายพิศว่าพร้อมหันไปสั่งให้อีหอมที่นั่งอยู่ใกล้ ช่วยนำหอมแดง
กระเทียมมาแกะและปลอกเปลือกเพื่อตะเตรียมไว้ทำสำรับเย็น

“แม่ของข้าจักต้องมิตายเปล่าดอก”อีบัวกัดกรามแน่น หล่อนเสียทุกอย่างจนไม่มีอันใดจะเสียอีกต่อไปแล้ว
 หล่อนจะไม่ยอมเสียขุนเพลิงพานให้แม่หญิงพุดซ้อนเป็นหนที่สอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หล่อนจะต้องเป็นผู้ชนะ
 และได้เป็นเมียที่ออกหน้าออกตาของขุนเพลิงพาน หญิงสาวชายตามายังผู้ชราวัย

“ยายคอยดูก็แล้วกัน”อีบัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะก้าวกระแทกออกไปจากโรงครัว





ดวงจันทร์ลอยเด่นโผล่พ้นขึ้นมาตรงขอบหน้าต่าง งดงามราวกับลูกพลับลูกใหญ่
 ถึงแม้ลมจะพัดโชยจนอากาศแสนจะเย็นสบาย แต่บนใบหน้าวงรีก็มีเหงื่อผุดออกมา

“มืดโขแล้ว แม่หญิงไปอาบน้ำเถิดเจ้าคะ”อีแกลบพูดพร้อมเดินไปถือตะเกียงชูหราขึ้นมา

“ที่ไหน”

“ท่าน้ำฝั่งโน้นเจ้าคะ ใช้เป็นที่อาบน้ำของนาย  ส่วนท่าน้ำถัดจากโรงครัวเป็นที่อาบน้ำของพวกบ่าวเจ้าคะ”อีแกลบอธิบาย

“โรงครัว”จู่ๆเหล่าพยาธิในท้องก็เริ่มส่งเสียงร้องขออาหารอีกครั้ง

“ไปเถิดเจ้าคะ บัดเดี๋ยวจักหนาวไปกว่านี้”วันพุธพยักหน้าเดินตามบ่าวทั้งสองที่ถือตะเกียงจุดด้วยขี้ใต้เดินนำไปยังท่าน้ำ







แสงจันทร์สีนวลยังส่องกระจ่างให้เห็นราวกับเวลากลางวัน วันพุธพยายามขยับผ้าแถบที่นุ่งให้กระชับ
เพราะเขาไม่เคยชินกับการต้องระมัดระวังนมต้มมาก่อน ผ้าคลุมอบกลิ่นร่ำหอมกรุ่นอีกผืนถูกใช้คลุมแผ่นหลังขาวผ่องเอาไว้
   

“ไอ้มากมึงมายืนทำอันใดอยู่ตรงนี้”อีแกลบยกตะเกียงขึ้นสูง ส่องร่างตะคุ่มที่นั่งอยู่ตรงชานเรือนก่อนจะถึงท่าน้ำ
 แสงตะเกียงกระทบใบหน้าก้านดำของบ่าวผู้ชายที่ชื่อไอ้มาก มันสวมเพียงโจงกระเบนผืนเก่าเท่านั้น
   

สงสัยไอ้มากจะมาคอยอีนาก
พี่มาคอยเจ้าที่ท่าน้ำทุกวัน อีนากเอ้ย

 วันพุธคิดแล้วหลุดขำออกมาก๊ากใหญ่  เมื่ออีน้อยหันมามอง เขาจึงพยายามที่จะกลั้นหัวเราะเอาไว้


“ท่านขุน กับท่านหมื่นกำลังอาบน้ำ”ไอ้มากบอก
เมื่อมองเห็นร่างของแม่หญิงพุดซ้อน มันจึงค่อยๆลดตัวนั่งลงพนมมือไหว้

“แม่หญิงจักอาบน้ำฤาขอรับ”

“เออสิวะ”อีน้อยตบอกฉาด

“เพลานี้ยังมิบังควรขอรับ”ไอ้มากบ่าวคนสนิทของหมื่นเทิดบอกเล่า

“แม่หญิงกลับหอนอนไปกับอีแกลบก่อนเถิดเจ้าคะ ประเดี๋ยวบ่าวจักไปตามเมื่อท่าน้ำพร้อมอาบ”อีน้อยออกความเห็นบ้าง

“ทำไมฉันถึงจะอาบน้ำพร้อมคุณพี่ไม่ได้เล่าพี่น้อย”วันพุธนึกสนุกขึ้นมา ถ้าได้เห็นขุนเพลิงรูปหล่ออาบน้ำ คงจะฟินไม่น้อย
 ไหนๆมีโอกาสแล้ว ทำไมเขาจึงจะทิ้งมันไปง่ายๆเล่า

“มิบังควรดอกเจ้าคะ”อีแกลบรีบสอดขึ้นมา

“แต่ฉันอยากเห็นนี่พี่แกลบว่าระหว่างขุนเพลิงกับหมื่นเทิดซิกแพคใครจะเริ่ดกว่ากัน”

“แม่หญิงกล่าวอันใดเล่าพี่แกลบ”ไอ้มากถามด้วยความสงสัย หากแต่ร่างบางกับวิ่งตรงไปยังท่าน้ำในบันดล

“แม่หญิงไปมิได้ดอกขอรับ”ไอ้มากรีบวิ่งตามมา โดยมีอีบ่าวทั้งสองวิ่งตามมาติดๆ

“แม่หญิงเจ้าขา มิบังควรดอกเจ้าคะ”






แสงจากตะเกียงส่องอาบไล้ร่างกำยำท่ามกลางแสงจันทร์นวลงาม สายน้ำไหลอาบร่างกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
แน่นล่ำสันของชายหนุ่มผู้ที่มีรูปร่างกำยำสูงใหญ่ ชายหนุ่มผู้พี่กำลังก้าวขึ้นมาผลัดผ้าผ่อน
เช่นเดียวชายหนุ่มผู้น้องผู้มีผิวสีแทนเรียบเนียน  เขาถอดเอาผ้าเตี่ยวผืนเล็กที่นุ่งอาบน้ำทิ้งไป
 คว้าผ้าผืนยาวมานุ่งเอาไว้หลวมๆ



งามเหลือเกินไอ้พุดเอ้ย ซิกแพคเป็นลอนงามยามต้องกระทบแสง
ทั้งคนพี่ทั้งคนน้อง *งานดีจนคำบรรยายได้ไม่
วันพุธตาค้าง จ้องมองเขม็งอย่างลืมตัว
แอฟ ทักษอร เขาไม่ได้บ้าผู้ชายอย่างหล่อนนะยะอีพุด



ชั่วครู่ที่สายตาคมกริบของหมื่นเทิดหันมาสบสายตากับวันพุธ

“แม่พุดซ้อน”ฝ่ายชายซะอีกที่ตกใจจนปล่อยชายผ้าในมือหลุดร่วงลงไปกองที่พื้น เช่นเดียวกันกับผู้พี่
ที่เมื่อหันมามองด้วยความตกใจผ้าผืนงามหลุดลงไปกองที่พื้นเช่นเดียวกัน
 ด้วยไม่เคยนึกคิดว่าพวกตนจะตกเป็นเป้าสายตาของแม่หญิงคนงาม

“แม่พุดซ้อน”

แทนที่จะเหนียมอายหากแต่หญิงสาวผู้งดงามกับกำลังจ้องมองร่างกำยำเปลือยเปล่าทั้งสองร่างเขม็ง

“ว้าย”อีแกลบ อีน้อย ร้องลั่น พลางหันหน้าหนีเป็นพัลวัน


มีเพียงวันพุธในร่างของแม่หญิงพุดซ้อนที่จ้องมองโลมเลียร่างเปลือยกำยำด้วยความหื่นกะหาย
 จนลืมไปสิ้นว่าในขณะนี้หล่อนเป็นหญิงสาว หาใช่กะเทยไม่

“แม่หญิงหันไปเถิดขอรับ”ไอ้มากวิ่งเข้ามาเตือนสติ

ไม่หัน เรื่องอะไรจะยอมพลาดของดี
ไม่ได้เห็นแค่ซิกแพค แต่ได้เห็นทั้งลำพี่ลำน้องเลยไอ้พุด
 บุญตาของมึงจริงเชียว
วันพุธถึงกับละเมอออกมากับภาพตรงเบื้องหน้า

“*ก้ามปู *กิ๊บเก๋ยูเรก้า * กิ๊บบี้ๆๆ”
ภาษาวิบัติหลุดออกมาจากปากโดยมิได้เจตนา

“พี่แกลบพี่น้อย ฉันขอเหมาทั้งสองดุ้นเลยได้ไหม”ชายหนุ่มทั้งสองรีบดึงผ้านุ่งขึ้นมาสวมใส่

“แม่หญิงว่าอันใดหรือขอรับ”ไอ้มากยังฟังไม่ได้ความ

“ฉันบอกว่า *ก้ามปู *กิ๊บบี้ ๆ ไงเล่า”ไอ้มากเกาหัว งงเป็นไก่ตาแตก

เมื่อนุ่งผ้าผ่อนแล้ว หมื่นเทิดจึงตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง

“อีแกลบอีน้อย ลากเจ้านายพวกมึงออกไปจากท่าน้ำบัดเดี๋ยวนี้”ในหูของวันพุธยังดังอื้ออึง
 เขายืนตัวแข็งทื่อ ไม่ใช่เพราะความตกใจ หากเป็นเพราะอารมณ์พิศวาสที่พวยพุ่งขึ้นมากกว่า


ร่างของแม่หญิงพุดซ้อนถูกบ่าวทั้งสองลากออกไปจากท่าน้ำอย่างรวดเร็วตามคำสั่งของหมื่นเทิด
 ทั้งๆที่ร่างแข็งทื่อราวกับเป็นรูปปั้น ริมฝีปากบางสวยยังพร่ำออกมาไม่ขาดสาย

“ขอสอง เหมาหมด เอาทั้งคู่  ใหญ่ทั้งสองลำ งามทั้งสองดุ้น”
                           
                       

               *ภาษากะเทยวันละคำ
ก้ามปู = เกย์ล่ำ เล่นกล้าม                กิ๊บเก๋ยูเรก้า = คำซึ่งบ่งบอกว่าสิ่งนั้นดีเลิศประเสริฐศรี
กิ๊บบี้ = อร่อยน่ากิน                           งานดี = ผู้ชายหล่อถึงหล่อมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2018 21:02:23 โดย นลระชาย »

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
                                       


                              ตอนที่ 7
                        ผีกระสือชอบกินอาจม


กว่าสติสตังของวันพุธจะหวนกับคืนมา อีแกลบกับอีน้อยก็อาบน้ำให้ร่างของแม่หญิงพุดซ้อนจนแล้วเสร็จ
สองบ่าวต่างช่วยกันลงเครื่องหอมบนผิวเนียนของหญิงสาวรอบแล้วรอบเล่า

“แม่หญิงเจ้าขา คราวหน้ามิทำเยี่ยงนี้อีกนะเจ้าคะ มิเยี่ยงนั้นบ่าวทั้งสองคงโดนเฆี่ยนเสียหลังลาย”
อีแกลบว่าพร้อมนุ่งห่มผ้าผืนงามบนร่างของแม่หญิงพุดซ้อน วันพุธสลัดภาพดุ้น
 เอ้ย!! ภาพเปลือยของชายหนุ่มทั้งสองออกไปจากความคิด เมื่อจู่ๆท้องของแม่หญิงคนงามก็ส่งเสียงร้องจ๊อกขึ้นมา

“หิวจังเลยพี่”เขาบอกบ่าวทั้งสอง

“ยามนี้จักทานมิได้ดอกเจ้าคะ มันมิบังควร”อีน้อยว่า

เห้อ ทำไมจะทำอะไรทีมันต้องมีกฎมีเกณฑ์ไปหมด
สมัยที่เขาอยู่ที่บ้าน ตีสามตีสี่เขายังลุกขึ้นมากินบะหมี่ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
ตราบใดที่เขาไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน เกิดเป็นคนโบราณนี่มันก็ลำบากได้ใจเหมือนกันแฮะ

“นอนเถิดเจ้าคะ แม่หญิง”วันพุธถอนหายใจ
 ทำตามที่อีน้อยบอกเพราะรู้สึกสงสารบ่าวทั้งสองที่ต้องคอยดูแลเขามาตลอดทั้งวัน
เขาล้มตัวลงไปนอน ปล่อยให้บ่าวทั้งสองดับฟืนดับไฟ แล้วย่องออกไปนอนเฝ้าตรงหน้าหอนอน

วันพุธพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงไป หากแต่ความหิวที่มากล้น
ทำให้เขาไม่สามารถที่จะหลับตาลงไปได้ เขาลุกขึ้นนั่งมองไปยังโรงครัวที่ซึ่งบ่าวคนสนิทเคยชี้ให้มอง
มันต้องมีอะไรเหลือให้กินบ้างแหละน่าไอ้พุด

วันพุดลุกดึงผ้ามาห่มไหล่ และไม่ลืมที่หยิบอีกผืนมาคลุมศีรษะเอาไว้ ก่อนที่เขาจะค่อยๆย่องออกมาจากหอนอน
อีน้อยและอีแกลบยังนอนหลับสนิทอยู่ตรงหน้าหอนอน




เขาปิดประตูหอนอนเบามือ รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมองดูเขาอยู่
หากแต่เมื่อเขาจ้องมองไปยังหน้าตาต่างบานใหญ่ที่อยู่ตรงกันข้ามก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกไป

วันพุธหิ้วเอาตะเกียงเดินตามทางเล็กๆลัดมาข้างแม่น้ำ เงาต้นไม้ร่มครึ้มทาบทับแสงจันทร์มองดูน่ากลัวไม่น้อย
 ถ้าหากเป็นหนังสยองขวัญเขาคงต้องเจอผีอย่างแน่นอน
 แต่นี่มันหนังคอมมาดี้จ๊ะ ผีก็คือตัวเขาเองนี่แหละ
ผีอีพุดน่ากลัวขนาดไหนใครก็รู้ วันพุธปล่อยสมองให้คิดไปเรื่อยเปื่อย



กลิ่นหอมจากดอกลั่นทม ดอกจำปี รวมไปถึงดอกนมแมว กระจายอยู่เต็มอากาศ
ชายหนุ่มในร่างหญิงสาวทำจมูกฟุตฟิต เขาชอบกลิ่นหอมอ่อนจากดอกไม้พวกนี้เต็มกลืน
หากแต่กลิ่นหอมจากอาหารต่างหากที่เขายกให้เป็นกลิ่นหอมอันดับหนึ่งในหัวใจ

พวกบ่าวเข้านอนกันหมดแล้ว จะเหลือเพียงบ่าวผู้ชายสามสี่คนที่ยืนยามเฝ้ารักษาความปลอดภัยอยู่
 วันพุธจึงต้องเบี่ยงร่างบางหลบสายตาบ่าวยามเหล่านั้นอยู่บ่อยครั้ง
กว่าที่จะเข้ามาภายในโรงครัวได้เป็นผลสำเร็จ ผู้ที่กำลังหิวจัดลงมือรื้อค้นข้าวของหาอาหารเพื่อนำมาประทังความหิว

“ข้าวต้มมัด”วันพุธมองอาหารที่ถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อย

“บ้านก็ออกจะรวย มีแค่ข้าวต้มมัดนี่นะ ถ้าได้บะหมี่สักซองคง*เก๋ไก๋สไลเดอร์ไปลยเนาะวันพุธ
 เอาวะดีกว่านอนไส้กิ่วทั้งคืน”เขาวางตะเกียงในมือลงไป ดึงผ้าคลุมศีรษะเอาไว้
 พร้อมนั่งยองๆฉีกใบตองห่อข้าวต้มมัดออกมา พลางส่งเข้าปากอย่างตะกละตะกาม
ด้วยความหิวสุดพลังใบตองห่อข้าวต้มมัดจึงยังติดห้อยอยู่เต็มริมฝีปาก
มองดูคล้ายกับผีปอบกับลังจกไส้กินก็ไม่ปาน



ดูเหมือนว่าความซวยกำลังเดินทางมาเยือนวันพุธเข้าแล้ว เมื่อยายพิศหัวหน้าโรงครัวเกิดสะดุ้งตื่นขึ้นมา
 หญิงชราวัยเกือบหกสิบเห็นแสงไฟเรืองรองสว่างวูบวาบมาจากโรงครัว
 ยายพิศจึงหิ้วตะเกียงลากสังขารถ่อมาดูว่ามันคืออะไรกันแน่ หากเพียงเปิดประตูโรงครัว
 แสงตะเกียงก็สาดส่องไปยังดวงหน้าใต้ผ้าคลุม ริมฝีปากมีใบตองติดระโยงระยางแลคล้ายตับไตไส้พุง
 ดวงหน้าดวงแม่หญิงพุดซ้อนแสยะยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย
 แต่ในเพลานั้นมันกลับส่งให้หล่อนดูน่าสยดสยองยิ่งขึ้น หญิงชราเบิกตาโพลก
ตาถลนด้วยความตระหนกสุดขีด ตะเกียงในมือร่วงลงบนพื้นทันที

“ผีกระสือ”สุดท้ายก็แหกปากร้องตะโกนเสียงดัง ก่อนที่แกจะเป็นลมล้มพับลงไป

ผู้ที่กำลังเคี้ยวตุ้ยอยู่ก็ตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นบ่าวยามเริ่มวิ่งกันวุ่น ทั่วทั้งเรือนไทยถูกจุดไฟจนสว่างจ้าไปหมด

“ตายแล้ว ตายแล้ว ไอ้พุด นี่แกทำอะไรลงไป ทำไมแกถึงเป็นกะเทยที่*กังกาแบบนี้”
วันพุธยืนขึ้นมองหาทางหนีทีไล่ หากแต่ก็ไม่เห็นทางออก เมื่อบ่าวยามสองคนกำลังถือคบไฟวิ่งตรงมายังโรงครัว
 ตามด้วยพวกบ่าวอีกจำนวนหนึ่ง หากแต่แค่เสี้ยววินาทีนั้นเอง

 มืออุ่นแข็งแรงของใครบางคนก็คว้าเข้าที่ข้อมือของแม่หญิงพุดซ้อน
 ลากเอาร่างบางให้วิ่งตามไปด้านหลังโรงครัว ก่อนที่ค่อยๆลัดเลาะอ้อมมาด้านหลังเรือนไทยด้วยความชำนาญเส้นทาง
 เมื่อโผล่มาจนถึงหอนอน วันพุธก็เห็นแจ้งว่าผู้ที่ช่วยเหลือเขา
 หมื่นเทิดเทศา



“ไอ้เทรด”เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเพื่อนรัก ที่จริงเขาควรจะบอกว่าเขากำลังคิดถึงไอ้เทรดมากกว่า





“กลับเศษคูณส่วน กลับส่วนคูณเศษ มันคืออะไรวะเทรด เราไม่เข้าใจ”
วันพุธเท้าคางมองเด็กหนุ่มผิวเข้มที่นั่งทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์บนเสือกกทอมือที่ปูอยู่ใต้ร่มต้นมะม่วงต้นใหญ่

เทรดส่ายหน้า พร้อมหัวเราะขำขัน

“เวลาอาจารย์สอนไม่เคยตั้งใจฟัง”

“ก็มันยากนี่หว่า ถึงฟังก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”ร่างอวบทำปากจู๋
เพราะคิดว่าตนเองทำแล้วหน้าตาละม้ายคล้าย แอน ทองประสม นางเอกละครชื่อดัง

“ขอลอกการบ้านหน่อยได้ไหม”

“ไม่ได้”อีกคนทำเสียงดุ

“การบ้านของตัวเอง ก็ต้องทำด้วยตัวเอง มานี่เลย เดี๋ยวเทรดจะอธิบายให้ฟัง ตั้งใจฟังด้วยนะ
 เพราะเทรดจะอธิบายให้พุดฟังแค่รอบเดียวเท่านั้น”




ภาพนั้นค่อยๆเลือนหายไป มีเพียงดวงหน้าคมสันในวัยหนุ่มเต็มตัวของไอ้เทรดที่กระจ่างชัดอยู่ตรงหน้า
“รีบขึ้นเรือนไปเสียเถิดออเจ้า บัดเดี๋ยวใครจักทราบความแท้เสียหมดว่าออเจ้า เป็นผีกระสือ”
น้ำเสียงทุ้มแฝงด้วยความเอ็นดูมากกว่าขบขัน

“อีตาหมื่นบ้า”วันพุธด่าออกมาอย่างหมดความอดทน

“พูดจาฟังมิได้ความ”อีกคนส่ายหน้า หากแต่แววตายังเป็นประวาววับ

“เรื่องของข้า สมน้ำหน้าที่ฟังไม่รู้เรื่อง คราวหน้าถ้ายังจิกกัดข้าไม่เลิก
ข้าจะด่าเป็นภาษาตุ้ดให้หาทางกลับบ้านไม่เจอเลย”พูดจบก็หันหลังกลับ กำลังจะก้าวขาขึ้นหอนอน

“บัดเดี๋ยว”หากแต่มืออบอุ่นนั้นก็รีบคว้าข้อมือเอาไว้อีกครั้ง เมื่อร่างงามหันกลับมาเขาจึงปล่อยมือออก
 สายตาทั้งสองคู่สบประสานกันจังเบ้อเร่อ หัวใจทั้งสองดวงเต้นระส่ายเป็นจังหวะเดียวกัน

“จักมิขอบใจข้าสักคำฤา ที่ข้าอุตส่าห์ช่วยเหลือออเจ้า”รอยยิ้มกระจ่างนั้นผุดมา
 ริมฝีปากรูปกระจับคลี่ออก มันคือรอยยิ้มเดียวที่วันพุธเคยเห็นบนใบหน้าของไอ้เทรดมาโดยตลอด

“ขอบคุณ”เขาพูดออกมาด้วยความจริงใจ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่สุด

“ขอบคุณ”อีกฝ่ายทวนคำ

“ขอบใจนั่นแหละ”คราวนี้รีบหันหน้ากลับ หมายจะก้าวขึ้นหอนอน

“บัดเดี๋ยว”น้ำเสียงนั้นทำให้วันพุธหันกลับมาอีกหน พร้อมกับแหวออกมาทันที

“อะไรอีกล่ะ”

“ฝันหวานนะออเจ้า”
น้ำคำนั้นดังก้องกังวานจนผู้ฟังยืนนิ่งงัน คล้ายต้องมนต์มหาเสน่ห์ สรรพสิ่งรอบกายเงียบงันลงไปหมด
มีเพียงเพียงกังวานราวเสียงระฆังที่ดังก้องอยู่วนเวียนไปมา



“แม่หญิงไปที่ใดมาฤาเจ้าคะ”อีแกลบกับอีน้อยวิ่งหน้าตื่นลงมาจากหอนอน

“หมื่นท่าน”สองบ่าวรีบทรุดลงไปนั่งเมื่อแลเห็นร่างสูงสง่าของหมื่นเทิดยืนอยู่

“ขึ้นหอนอนเถิดเจ้าคะ บ่าวได้ยินว่าพวกบ่าวยามเขากำลังตามจับผีกระสือ มันหลอกหลอนยายพิศเสียหัวโกรน”
อีน้อยมองไปทางโรงครัวด้วยท่าทางหวาดกลัว

“ผีกระสือมันคงมาหาอาจมกินกระมัง”อีแกลบเสริมขึ้น ดวงตาลอกแลกไม่แพ้บ่าวคู่หู




หมื่นเทิดหัวเราะเสียงดัง ทำเอาใบหน้ารีงามของแม่หญิงพุดซ้อนหักคว่ำลงในทันที



“อีแกลบ อีน้อย พานายของพวกมึงขึ้นหอนอนไปเสีย ก่อนที่ผีกระสือมันจักออกไปหาอาจมกินอีกหน”
พูดจบก็เดินจากไป โดยที่ไม่สนใจมองว่าผู้ที่อยู่ในร่างบางระหงกำลังตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธจัด



*ภาษากะเทยวันละคำ
เก๋ไก๋สไลเดอร์  = ดีมาก ยอดเยี่ยม
กังกา = ผู้ที่ขาดคุณสมบัติผู้ดี

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
จริงๆต้อง มิสมควร มิได้ นะคะ  มิบังควรนี่ จะใช้กับราชวงศ์นะ  ปล.ถ้าเข้าใจไม่ผิด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
จริงๆต้อง มิสมควร มิได้ นะคะ  มิบังควรนี่ จะใช้กับราชวงศ์นะ  ปล.ถ้าเข้าใจไม่ผิด
[/quote

ขอบคุณที่ชี้แนะครับ แต่ที่เขียนถูกแล้ว เพราะเป็นสมัยอยุธยา ไม่ใช่ ร 5 ครับผม

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นายเอก เอ้ย นางเอกของฉานนนน กลายเป็นกระสือออออออ ไปแล้ว  :z3:

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
                   



                                            ตอนที่ 8
                                   Go เรือนออกยาโหราธิบดี
   

       เสียงไก่ขันปลุกวันพุธให้ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า หากเขาก็ยังตื่นช้ากว่าบ่าวประจำตัวทั้งสองคน
อีแกลบเตรียมกิ่งข่อยกับเกลือเอาไว้ให้สีฟัน ในขณะที่อีน้อยจัดเตรียมผ้าผ่อนที่จะนุ่งห่มให้แก่แม่หญิงพุดซ้อน
   
       เสียงอึกทึกของบ่าวไพร่ที่กำลังตะเตรียมข้าวของเพื่อนำไปกำนัลแก่ผู้ที่มีศักดินาสูงกว่าตามทำเนียมของไทยแท้
ทำให้วันพุธต้องยื่นดวงหน้าไปมองที่หน้าต่าง เขาเร่งให้บ่าวทั้งสองแต่งองค์ทรงเครื่องให้ไวขึ้น แล้วจึงเยื้องย่างออกจากหอนอนอย่างรวดเร็ว
   

          ออกยาพัชระ ขุนเพลิงพาน และหมื่นเทิดเทศา อยู่ในชุดไทยเต็มยศ โดยมีคุณหญิงพร้อมคอยชี้ไม้ชี้มือสั่งพวกบ่าวให้ยกข้าวของลงจากเรือนไทยไปอย่างเบามือ
   
          “จะไปไหนหรือเจ้าคะ”แม้จะกระอักกระอ่วนใจที่ต้องพูด เจ้าคะ เจ้าขา แต่วันพุธก็รู้ว่ามันควรต้องเป็นเช่นนั้น ณ ด้วยเวลานี้
 เขาคือแม่หญิงพุดซ้อน ผู้หญิงแท้ที่มีมดลูกเป็นของตนเอง
   
“ไม่ใช่เรื่องของแม่หญิงเยี่ยงออเจ้า”ใบหน้าคมสันสีเข้มหันมาทำเสียงเข้ม
   
“แล้วถ้าข้าไม่ใช่ผู้หญิงคุณหมื่นจะบอกได้หรือไม่เล่า”เสียงแหลมเถียงเสียงสูง
   
“ถ้ามิใช่แม่หญิง แล้วออเจ้าเป็นอันใดฤา”ชายผู้นั้นยังต่อปากต่อคำ
   
“เ........”เขาเกือบจะหลุดตอบออกไปว่า เกย์ ด้วยความปากไว แต่ก็ยั้งปากเอาไว้ทัน
   
“ออกยาเจ้าจักไปเจรจางานราชการแก่ท่านออกยาโหราธิบดี”
ชายหนุ่มผู้มีผิวขาวราวหลอดนีออนเรืองแสงตอบพร้อมรอยยิ้มกริ่มที่ฆ่าวันพุธให้ตายแดดิ้นได้แทนอาวุธนานัปการ
   
“ออกยาโหราธิบดี”
   
“ออเจ้ารู้จักฤา”น้ำเสียงของหมื่นเทิดเทศาแฝงด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
   
“ข้าจักลืมไปเสียสิ้นว่าออเจ้ารู้จักทุกสิ่งอย่าง เว้นเสียแค่กาลเทศะ”
   
“คนปากหมา”วันพุธทำปากขมุบขมิบ ก่อนจะหันไปทำเสียงออดอ้อนออกยาพัชระแทน
   
“คุณลุงเจ้าขา ข้าขอไปด้วยได้ไหมเจ้าคะ”
วันพุธรู้สึกตื่นเต้น เพราะถ้าหากเขาจำไม่ผิด
ออกยาโหราธิบดีมีศักดิ์เป็นถึงพระมหาราชครูของพระนารายณ์มหาราชและยังเป็นผู้ประพันธ์หนังสือจินดามณี
 ซึ่งเป็นตำราเรียนภาษาไทยเล่มแรก
 และที่สำคัญออกยาโหราธิบดีคือบิดาของหมื่นสุนทรเทวาสามีสุดที่รักของแม่หญิงการะเกด
จากนิยายเรื่องบุพเพสันนิวาส หรือว่าแม่หญิงการะเกดจะมีตัวตนอยู่จริง
 ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่า เขาจะได้คุยกับคนที่อยู่ในยุคสมัยเดียวกันกับเขา
 บางทีเขาอาจจะกลายเป็นเพื่อนรักกับแม่หญิงการะเกดก็เป็นไปได้
   
ก็อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนต้นว่า
ความเพ้อฝันมันมักคู่กับกะเทยอ้วนเสมอ

“มิบังควรที่ออเจ้าจักติดสอยห้อยตามไปดอก”
ออกยาพัชระกล่าวด้วยความเอ็นดู
ส่วนอีตาหมื่นหน้าเป็นกำลังแกล้งยักคิ้วล้อเลียน เหมือนจะบอกเป็นเลศนัยว่า วันนี้ไม่ใช่วันของวันพุธ

“ออเจ้าประสงค์สิ่งใด บัดเดี๋ยวพี่จักนำมาฝาก”ดวงหน้าหล่อเหลาเผยยิ้มอีกครั้ง

“ข้าไม่อยากได้อะไรแค่อยากไปดูออกยาโหราธิบดีตัวเป็นๆ”

“พูดจาฟังมิรู้ความ”หมื่นเทิดทำเสียงเข้มอีกครั้ง

“ออเจ้ามาช่วยป้ากรอกมาลัยเถิด เพลานี้ยังมีอีกหลายที่จักต้องกรองให้แล้วเสร็จ”
คุณหญิงพร้อมเอ่ยขึ้นบ้าง เมื่อเห็นว่าจนมุม ไม่มีทางชนะ เด็กดื้อจึงยอมจำนน
วันพุธยกมือไหว้ลาออกยาพัชระ ขุนเพลิงพาน หากแต่กลับแลบลิ้นปลิ้นตาให้หมื่นเทิดเทศาราวกับเป็นพวกลิงหลอกเจ้า






เมื่อขบวนเรือของออกยาพัชระเคลื่อนออกไปจากบริเวณศาลาท่าน้ำแล้ว
อีใบก็ยื่นเข็มกรอกมาลัยมาให้ผู้ที่ถูกบังคับให้นั่งลงข้างพานบรรจุดอกมะลิและดอกไม้ที่ใช้สำหรับร้อยมาลัย

ตายละว้า ร้อยมาลัยไม่เป็น

วันพุธมองไปทางบ่างคู่ใจที่นั่งก้มหน้าอยู่ไม่ห่างนัก

ทำไงดีวะไอ้พุด
ไม่ได้ แกต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้
แม่หญิงพุดซ้อนเริ่มนั่งบิดลำตัวไปมา จนผู้ที่อาวุโสกว่าต้องเอ่ยปากถาม
   
“เป็นอันใดไปฤาออเจ้า”วันพุธชักสีหน้า
   
“ปวด....เจ้าคะ”นึกไม่ออกว่าควรพูดว่าอย่างไรดี ถ้าจะบอกปวดอุจจาระคุณหญิงพร้อมก็คงไม่เข้าใจ
 แต่ถ้าจะบอกปวดขี้ ก็อาจจะหยาบคายไปก็ได้
   
“ปวดเวดฤาเจ้าคะ”สวรรค์โปรด ที่อีแกลบยื่นปากเข้ามาช่วย
   
“ใช่เจ้าคะ ข้าปวดเวด”เขารีบพูดตามอีบ่าว
   
“พานายมึงไป  อีกแกลบ อีน้อย”วันพุธยกมือไหว้ แล้วรีบลุกตามบ่าวทั้งสองไป
   
ผู้อาวุโสมองตามด้วยความเอือมระอา

   




“ทางนี้เจ้าคะ”อีแกลบผายมือเมื่อเห็นวันพุธหยุดมองเรือแจวที่จอดอยู่ตรงศาลาท่าน้ำ
   
“พี่แกลบ พี่น้อย รู้จักเรือนออกยาโหราธิบดีไหม”ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในสมอง
   
“เจ้าคะ”อีน้อยตอบ
   
“แล้วพายเรือเป็นไหม”คนพูดอมยิ้ม
   
“เจ้าคะ”
   
“ดี งั้นลงเรือตามฉันมา”พูดพร้อมรีบก้าวลงไปนั่งตรงกลางลำเรือ
   
“แม่หญิงจักไปที่ใดฤาเจ้าคะ แล้วมิไปเวดแล้วฤาเจ้าคะ”
   
“ก็ไปเรือนออกยาโหราธิบดีไง”ผู้ที่นั่งอยู่ในลำเรือกวักมือเรียก
   
สองบ่าวส่ายหน้าพร้อมเพียงกัน
   
“มิบังควรเจ้าคะ”
   
“พี่จะลงมาพายเรือให้ฉัน หรือจะให้ฉันพายไปเอง”ผู้เป็นนายเปลี่ยนแผนการ มาทำเสียงเข้ม พร้อมหยิบไม้พายขึ้นมา
   
“ว่าไง จะลงมาไหม”
   
“ลงแล้วเจ้าคะ ลงแล้ว ไปอีน้อย”อีแกลบผลักไหล่อีน้อยเบาๆ
 จนเมื่อบ่าวทั้งสองก้าวลงมานั่งหัวเรือคน และท้ายเรือคน วันพุธจึงหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ
   
“ครานี้โดนหวายหลังขาดแน่มึงอีแกลบ”อีน้อยยื่นหน้ามาบอกคู่หู
   
“เอาน่า พี่ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง พร้อมแล้วนะ สถานีต่อไป เรือนออกยาโหราธิบดี GO”
   
“โก เจ้าคะ”อีแกลบกับอีน้อยทวนคำพูดผู้เป็นนาย แล้วจึงออกแรงจ้ำฝีพายด้วยความวิตกกังวล
 แต่อีกคนกลับแสดงพฤติกรรมตรงกันข้าม ร่าเริงจนน่ากระชากเส้นผมขึ้นมาตบแล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำไปซะ

   



อีบัวโผล่ออกจากพุ่มกอไม้ ดวงหน้าของเจ้าหล่อนเต็มไปด้วยแผนการอันร้ายกาจ
หล่อนได้ยินทุกถ้อยคำที่แม่พุดซ้อนเอื้อนเอ่ยกับอีน้อย อีแกลบ ถึงแม้จะฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าบ้างเป็นบางประโยค
แต่หล่อนก็พอจะจับใจความได้ว่า แม่พุดซ้อนกำลังจะเดินทางไปยังเรือนของออกยาโหราธิบดี
ถ้าหากหล่อนนำความนี้ไปแจ้งแถลงไขแก่คุณหญิงพร้อม หล่อนเชื่อว่าแม่หญิงพุดซ้อนจักต้องถูกโดนลงหวายมิมากก็น้อย
 อีบัวยิ้มที่มุมปาก
   
หล่อนพลาดเองดอกอีพุดซ้อน
   
ร่างอวบอิ่มรีบสาวเท้าขึ้นไปบนเรือนไทยหลังใหญ่ ข่าวนี้คุณหญิงพร้อมจักต้องได้รับฟังจากปากของตัวหล่อนเอง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
งานการไม่รู้จักทำ ชอบสอดรู้สอดเห็นจริง ๆ นะ นังบัวเหี่ยว  :z6: :beat:

ออฟไลน์ fanhy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 
   

                                         ตอนที่ 9
                                        บุพเพสันนิวาส
   แม่หญิงพุดซ้อนกับอีแกลบอีน้อยกำลังด้อมๆมองอยู่หน้าเรือนไทยแฝดริมน้ำหลังใหญ่
ผู้ที่อยู่ภายในร่างอรชรยืนแอบอยู่หลังพุ่มไม้ ยื่นดวงหน้าแฉล้มมองขึ้นไปบนเรือน
   
“กำลังล้อมวงคุยกันอยู่ ฉันอยากรู้จริงๆเลยพี่แกลบพี่น้อยว่าเขาคุยอะไรกัน”
   
บุรุษหนุ่มรูปร่างล่ำสัน ท่าทีทะมัดทะแมงก้าวมายืนด้านหลังพร้อมผู้ติดตามเป็นบ่าวชายหญิงอีกสี่คน
   
“อีแกลบ....”อีน้อยหันไปเห็นเป็นคนแรก
ชายผู้นั้นไว้หนวดเหนือริมฝีปากในมือกำดาบเอาไว้ส่งให้เขาน่าเกรงขามยิ่งขึ้น
 เขายกนิ้วชี้ขึ้นวางกึ่งกลางตรงริมฝีปากหนา พลางส่ายใบหน้าไม่ให้อีน้อยส่งเสียงดัง
   
“อีแกลบ”อีน้อยใช้เท้าสะกิดที่ข้อเท้าอีแกลบ
   
“อันใดเล่าของเอ็งเล่าอีน้อย”อีแกลบหันมา ชายผู้มียศโบกมือให้บ่าวทั้งสองหลบฉากไป
ก่อนที่จะก้าวมายืนด้านหลังแม่หญิงพุดซ้อน
   
“ฉันอยากขึ้นไปฟังบนเรือนจังเลยพี่ อยากรู้ที่สุดว่าเขากำลังคุยเรื่องอะไรกัน”
   
ใครคนหนึ่งสะกิดที่หัวไหล่ของแม่หญิง หล่อนค่อยๆหันกลับมา ดวงหน้าเข้มนั้นส่งยิ้มมาให้
   
“อยากขึ้นไปบนเรือนฤาแม่หญิง”สายตาคมกริบสำรวจร่างงามอย่างพึงใจ
   
“ออเจ้าเป็นผู้ใด ไยมาทำลับๆล่อๆอยู่ราวกับพวกขโมยขโจรเยี่ยงนี้ ฤาออเจ้าจักเป็นหัวขโมย
 แต่ถ้าหากออเจ้าเป็นหัวหัวขโมย ก็คงเป็นหัวขโมยที่งามที่สุดในพระนคร”
วาทะคมกริบบอกถึงความชาญฉลาดของผู้กล่าวออกมา
 เพราะเขาสามารถตำหนิและเอ่ยชมผู้ที่กล่าวถึงได้ในเวลาเดียวกัน
   
“แม่หญิงมิใช่หัวขโมยดอกเจ้าคะ แม่หญิงพุดซ้อนเป็นหลานของออกยาพัชระท่าน”
อีแกลบป้องนายของมันทันควัน
   
“แม่หญิงพุดซ้อน หลานสาวออกยาพัชระเยี่ยงนั้นฤา งามสมคำเล่าลือ”
ชายหนุ่มยังจ้องมองหญิงงามตรงหน้าไม่วางตา
 ผู้ที่ถูกจ้องก็จ้องกลับอย่างท้าทาย หาได้เหนียมอายเยี่ยงอิสตรีทั่วไปไม่
   

อีตาหน้าเข้มนี่เป็นใครอีกล่ะ ถึงหน้าจะดุไปหน่อย หากแต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
*ผู้กรุงเก่านี่มันจะหล่อและ*งานดีทุกคนเลยใช่ไหมวะ ไอ้พุดเอ้ย
คราวนี้แกคงได้อิ่ม*ผู้จนพุงกลางแน่
 ถ้าหากเจ๊มีมี่สามารถย้อนอดีตมาด้วยก็คง*กิ๊บเก๋ยูเรก้าไม่ใช่น้อย
   

วันพุธนึกพลางอมยิ้ม เขาพนมมือไหว้ชายหนุ่มตรงเบื้องหน้า สายตาคู่นั้นยังจับจ้องด้วยความแปลกใจ
 ที่หญิงสาวตรงหน้าไม่มีท่าทีเคอะเขินต่อสายตาจาบจ้วงที่เขาจับจ้องเรือนกายของหล่อน
   
“หรือว่าท่านจะเป็นหมื่นพ่อเดช คู่หมายของแม่หญิงการะเกด”วันพุธนึกขึ้นมาได้
ถึงอีตาหมื่นตรงหน้าจะหน้าตาไม่เหมือนพี่โป๊ป ธนวรรธน์
หากแต่เขาก็ทราบดีว่าคนหลังเป็นเพียงดาราหนุ่มที่รับสวมบทบาทเท่านั้น
แต่ตรงเบื้องหน้าของเขาคือพ่อเดช พระเอกจากนิยายบุพเพสันนิวาส
 นิยายเรื่องดังที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในห้วงเวลาปัจจุบันที่เขาจากมา
   
“ข้าหาใช่ผู้ที่ออเจ้ากล่าวมาไม่ ข้าชื่อด้วง เป็นหลานชายของออกยาโหราธิบดีท่าน
 ว่าแต่ออกเจ้าเถิด จักขึ้นเรือนไปพร้อมข้าหรือไม่ ข้าได้ยินออเจ้าพร่ำว่าอยากขึ้นไปบนเรือนออกยาท่าน”
   
“ไม่ ไม่ เจ้าคะ”ร่างงามถอยหลังไปชิดอีแกลบอีน้อย
ถ้าหากขึ้นไปมีหวังโดนอีตาหมื่นขี้เก๊กเล่นงานหนักอย่างแน่นอน
 ลำพังออกยาพัชระกับขุนเพลิงพานคงจะไม่ว่าอะไรเขาอย่างแน่นอน วันพุธมั่นใจเช่นนั้น
   
“ออเจ้ากลัวอันใดดอกฤา ฤาออเจ้ากำลังทำผิดด้วยเรื่องอันใด จึงมิกล้าขึ้นเรือนออกยาท่าน”
ใบหน้ารูปไข่ส่ายไปมาแทนคำตอบ
   
ร่างสูงใหญ่ก้าวฉับเข้ามายืนจังก้าตรงเบื้องหน้า
   

จะเอาอะไรกับฉันวะ บอกว่าไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้นสิ เดี๋ยวแม่ก็จับทำผัวซะเลย


วันพุธห่อไหล่เข้าหากัน อีน้อย กับ อีแกลบดันตัวขึ้นมายืนบังร่างของนายสาวพวกมันเอาไว้

“อย่าทำอันใดแม่หญิงของบ่าวนะเจ้าคะ”

“ออเจ้าจักขึ้นเรือนออกยาท่านไปพร้อมข้า หรือออเจ้าจักให้ข้าให้พวกบ่าวลากตัวออเจ้าขึ้นไป”
พ่อด้วงหันไปพยักหน้าที่พวกบ่าวที่ตามมา คนเหล่านั้นขยับพร้อมจะเข้าถึงตัวแม่หญิงพุดซ้อนในทันที

“อย่านะ”อีแกลบร้องเสียงหลง

“ขึ้นก็ได้ เจ้าคะ”วันพุธยอมจำนน เริ่มรู้สึกเกลียดขี้หน้าชายหน้าดุตรงหน้าขึ้นมา


คนอะไรใจร้ายกับชะนีตัวเล็กตัวน้อยก็ไม่มีละเว้นให้
พูดได้ไม่อายปาก ว่าตนเองคือชะนีน้อยที่น่าทะนุถนอม
ทั้งๆที่ความเป็นจริง แกมันแค่ กะเทยควาย อีพุด


“เชิญ”ชายหนุ่มเชื้อเชิญให้แม่หญิงพุดซ้อนและบ่าวเดินนำหน้าขึ้นไป
เขาหันไปโบกมือให้ผู้ติดตามแยกย้ายกันไปทำงาน
 แล้วจึงเดินตามหรือจะเรียกว่าเดินคุมหญิงสาวขึ้นขึ้นเรือนไปแต่โดยดี
โดยไม่ยอมให้ออกนอกลู่นอกทางไปไหนได้อีก







ชายสูงวัยผู้งามสง่าที่นั่งข้างออกยาพัชระคงจะเป็นออกยาโหราธิบดี
ส่วนผู้ที่นั่งถัดมาน่าจะเป็นคุณหญิงจำปา ภริยาของท่านออกยา
 ส่วนหญิงสาวสวยเกล้าผมสูง เครื่องหน้างามแบบหญิงไทย หล่อนสวมชุดไทยและห่มสไบสีม่วงทั้งชุด
 ถ้าหากเขาเดาไม่ผิดหล่อนคงจะเป็นแม่หญิงการะเกด
ตอนนี้วิญญาณเกศสุรางศ์มาเข้าร่างแม่หญิงการะเกดหรือยังนะ วันพุธคิด
ได้แค่คาดหวังให้เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยเขาก็จะได้อุ่นใจที่มีมนุษย์อีกหนึ่งคนที่มาจากห้วงเวลาเดียวกันกับเขา

ชายหนุ่มอีกสองคนจ้องมองแม่หญิงพุดซ้อนด้วยแววตาประหลาดใจ

“ออเจ้ามาได้เยี่ยงไร”ขุนเพลิงพานเอ่ยถามก่อน

“คุณพี่จักถามเยี่ยงไร คุณพี่ควรจักถามว่านางมาทำอันใดเสียมากกว่า”
หมื่นเทิดทำน้ำเสียงขุ่น ไม่พอใจอย่างแรงในความขาดกาลเทศะของแม่พุดซ้อน

“ข้าพบแม่หญิงทำลับๆล่อๆอยู่หน้าเรือน จึงได้เชิญให้ขึ้นมาเสียบนเรือนขอรับ”
พ่อด้วง หลานชายของออกยาโหราธิบดีกล่าวรายงาน

“ข้าแค่อยากเห็นเรือนของออกยาโหราธิบดีท่าน จึงให้อีแกลบกับอีน้อยพายเรือพามา
ข้าแค่จะมาแอบดูไม่ได้คิดจะขึ้นมาบนเรือนเลยนะ พ่อด้วงอะไรนี่ต่างหากที่บังคับข้าให้ขึ้นมา”

“แม่หญิงเจ้าขา”อีแกลบสะกิดนายสาว หันไปมองอีน้อยที่กำลังยืนตัวสั่นเทาไม่แพ้กัน

“แม่หญิงพุดซ้อน”หมื่นเทิดเอ็ดขึ้น ด้วยหวังดีอยากให้นางหุบปาก
เพราะเป็นการมิบังควรอยากมากที่จักยืนเท้าหัวผู้หลักผู้ใหญ่แล้วเถียงคำไม่ตกฟากเยี่ยงนั้น

“ข้าพูดจริงนะเจ้าคะ”ผู้แฝงร่างงามแค่พยายามจะอธิบาย หารู้ความไม่ว่าตนเองกำลังทำผิดอย่ามหันต์

“เอาเถิด เข้ามานั่งข้างๆลุงนี่แม่พุดซ้อน”ออกยาพัชระกล่าวด้วยท่าทีสุขุม ร่างของแม่พุดซ้อนจึงรุดไปนั่งลงตามคำบอก
 โดยมีอีสองบ่าวติดสอยห้อยตามมาด้วย

“ที่ออเจ้าเรียกพ่อด้วงมันมิบังควร ออเจ้าต้องเรียกหมื่นท่าน เพราะท่านมียศเป็นถึงหมื่นเดชาชาญ
และเป็นถึงหลานชายของออกยาท่าน”

“ข้ามิถือสาหาความดอกขอรับออกยาท่าน”ดวงหน้าดุเข้ม คลายยิ้มออกมา



เชอะ ตบหัวแล้วลูบหลังหรือยะ ไม่มีทางซะหรอก
คนอย่างไอ้พุดเกลียดใครแล้วเกลียดเลยไม่มีเปลี่ยนใจ


“ไหว้ออกยาโหราธิบดีกับคุณหญิงจำปาเสียเถิดแม่พุดซ้อน”
วันพุธจ้องมองออกยาโหราธิบดีเขม็ง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า
 เขากำลังเห็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในประวัติศาสตร์ตัวเป็นๆ ออกยาท่านยิ้มบางให้ด้วยเมตตา
 เขาจึงก้มหลบสายตาไป ก่อนจะก้มลงกราบด้วยความน้อมน้อม

“แล้วหมื่นสุนทรเทวาบุตรชายของออกยาท่านไม่อยู่หรือเจ้าคะ”
วันพุธชักเริ่มคุ้นชินกับการพูดคะ ขาแล้ว เพราะเวลานี้เขาไม่ได้รู้สึกกระดากปากแต่ประการใด
 ชายหนุ่มอวบในร่างสาวสวยมองหาพ่อเดชของแม่หญิงการะเกด
 หากแต่มีเพียงแม่หญิงการะเกดที่นั่งสงบเสงี่ยมเป็นสง่าอยู่ข้างคุณหญิงจำปา

“ออเจ้ากล่าวความอันใดเล่า ข้าไม่เคยมีบุตรชาย ข้าและออกยาท่านมีบุตรสาวเพียงผู้เดียวก็คือ
 แม่หญิงลำดวนผู้นี้ อายุอานามก็คงพอๆกับออเจ้ากระมัง”คุณหญิงจำปาหันไปจับมือผู้เป็นลูกสาว
หล่อนยิ้มให้แม่หญิงพุดซ้อน วันพุธจึงส่งยิ้มเก้อเขินตอบคืนหล่อนไป

“ไม่มีลูกชาย มีแต่ลูกสาว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีแม่หญิงการะเกด
 มันก็ต้องเป็นแบบนั้นป่ะ วันพุธ
เพราะเรื่องนั้นมันเป็นแค่นิยายที่เขาแต่งขึ้นมา มันไม่ใช่ความจริง”วันพุธบ่นพึมพำ

“ออเจ้าว่ากระไรฤา”ออกยาโหราธิบดีเอ่ยถามขึ้น

“ข้าต้องขออภัยแทนนางด้วยขอรับออกยาท่าน นางพึ่งจักพ้นอาการปางตายจากพิษดอกลั่นทม
 สติสตังค์นางจึงยังมิปกตินักดอกขอรับ”ออกยาพัชระก้มศีรษะให้ออกยาโหราธิบดี

“บ้าก็บ้าวะ”วันพุธคิดในใจ แต่ก็รีบก้มลงไปกราบขอโทษแก่ออกยาโหราธิบดีกับคุณหญิงจำปา

“ขยับเข้ามาใกล้ข้าได้ไหมเล่า ออกเจ้า”
ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักโหราศาสตร์ที่แม่นยำที่สุดแห่งดินแดนกรุงศรีอยุธยาร้องขอ
ออกยาพัชระพยักหน้า วันพุธในร่างของแม่หญิงพุดซ้อนจึงค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ผู้สูงวัย
หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงเพราะความตื่นเต้น และตื่นตระหนก

“ยื่นมือมาเถิด”วันพุธยืนมือออกไป
 ผู้ประพันธ์หนังสือ จินดามณี หนังสือเรียนภาษาไทยเล่มแรกเพ่งพิศลายบนฝ่ามืออยู่ชั่วครู่

“สิ่งที่นำพาให้ออเจ้ามาพบประสบนั้นคือบุพเพสันนิวาสของออเจ้าเอง
 เมื่อได้พบก็ย่อมได้จาก เป็นเรื่องธรรมดา ออเจ้าจงอย่ายึดมั่นถือมั่นอันใด
หากอันใดจักเกิดก็มิไม่ผู้ใดไปทัดทานได้”ออกยาโหราธิบดีวางมือแม่พุดซ้อนลง
 ก่อนที่ร่างนั้นจะก้มลงไปกราบออกยาท่านอีกหน

“จำเอาไว้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดเอาไว้แล้ว”
วันพุธอยากจะถามออกยาท่านใจแทบขาด ว่าเขาจะสามารถกลับไปยังที่เขาจากมาได้ไหม
หากแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นถามคำถามได้อย่างไร จึงทำได้เพียงนิ่งเงียบเท่านั้น

“บุพเพสันนิวาสของแม่พุดซ้อนคือขุนเพลิงพานมิผิดแน่ขอรับออกยาท่าน
แล้วหมื่นเทิดเทศาจักมีบุพเพสันนิวาสร่วมกับแม่ลำดวนหรือไม่ครับออกยาท่าน”ออกยาพัชระเอ่ยเสียงทุ้ม

ออกยาโหราธิบดีหัวเราะชอบใจ มองไปทางบุตรสาวเพียงผู้เดียว
ดวงหน้าขาวส่งให้เห็นพวงแก้มแดงปลั่งชัดเจน

“ว่าเยี่ยงใดเล่าแม่ลำดวน”เขาพูดเสียงใสทีเล่นทีจริงกับลูกสาว
 หญิงสาวเมียงมองไปยังชายหนุ่มผิวเข้ม เมื่อเห็นหมื่นเทิดจ้องมองหล่อนตอบเช่นเดียวกัน
หล่อนจึงรีบก้มหลบสายตาคมกริบคู่มัน
 ไม่อยากให้เขาเห็นว่าหล่อนไม่ขัดข้องสักน้อยนิดที่จะได้มีบุพเพสันนิวาสร่วมกันกับเขา

“พ่อกับขุนเพลิงยังมีเรื่องปรึกษาหาลือกับออกยาท่านอีกมาก พ่อเทิดช่วยพาแม่พุดซ้อนกลับเรือนไปเสียก่อน”

“ข้าขอไปเที่ยววัดใหญ่ชัยมงคลได้หรือไม่เจ้าคะ”
วันพุธนึกขึ้นมาได้ว่า เรือนของออกยาโหราธิบดีตั้งอยู่ใกล้กับวัดใหญ่ชัยมงคล

“ถามเจ้าตัวเขาเองดีไหมเล่าออเจ้า”
ผู้มีศักดิ์เป็นลุงยังตอบด้วยความเอ็นดู หมื่นเทิดจ้องมองมาด้วยความระอาเต็มประดา

“แล้วออเจ้าเล่ามิอยากไปฤา”
ออกยาหันไปถามแม่หญิงลำดวน ด้วยอยากจะให้บุตรชายได้ผูกสัมพันธ์กับบุตรสาวของออกยาโหราธิบดี

แม่หญิงลำดวนจ้องผู้เป็นมารดาราวกับกำลังขออนุญาต
“ไปเสียด้วยกันเถิด แม่หญิง”หมื่นเทิดกล่าวอย่างสุภาพ



แม้ อีตาหมื่นเทิด เห็นท่าทางนิ่งๆ แต่ก็แอบหน้าหม้อไม่เบานะยะ


“ข้าแล้วแต่คุณแม่เห็นสมควรเจ้าคะ”

“อยากไปก็ไปเถิด”คุณหญิงจำปากล่าว

“ข้าขอไปด้วยนะขอรับ ท่านหมื่นเทิด ข้าเองก็อยากจักไปเดินชมวัดชมตลาดเช่นกัน”
ชายหนุ่มหน้าดุพูดขึ้นบ้าง หากดวงตาเข้มหาได้มองหมื่นเทิดไม่ หากแต่ยังจับจ้องไปยังร่างงามด้วยความพึงใจ

“ไปกันเสียทั้งหมดปะไร”ออกยาโหราธิบดีสรุปความให้

 มีเพียงขุนเพลิงพานเท่านั้นที่นั่งมองตามร่างของคู่หมาย
 เขาออกจะเสียดายอยู่บ้างที่ไม่ได้เป็นผู้นำพาแม่หญิงพุดซ้อนเที่ยวชมวัดใหญ่ชัยมงคลด้วยตัวของเขาเอง
 แต่อีกประการที่เขากำลังรู้สึกรำคาญใจก็คือท่าทีของหมื่นเดชาชาญที่มีต่อคู่หมายของเขา

*ภาษาเกย์วันละครับ
ผู้ = ผู้ชาย
งานดี = หล่อ ล่ำ น่ากิน



                                       

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีผู้งาม ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องหลายเลย แล้วคนไหนเป็นของพุดซ้อนน่ะ  :hao4:

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 



                           ตอนที่ 10
                          วัดใหญ่ชัยมงคล

ขบวนเที่ยวชมวัดใหญ่ชัยมงคลประกอบไปด้วยหมื่นเทิดเทศาที่เดินเคียงคู่นำหน้าไปพร้อมแม่หญิงลำดวน

 ตามมาด้วยหมื่นเดชาชาญที่พยายามหาเรื่องราวมาพูดคุยกับแม่หญิงพุดซ้อน และรั้งท้ายด้วยอีแกลบ อีน้อย ไอ้มาก

 รวมไปถึงอีไย อีพิศบ่าวของแม่หญิงลำดวน และไอ้จากบ่าวของหมื่นผู้เข้มแข็ง

 แม่หญิงผู้ที่มีชายร่างอ้วนซ่อนเร้นอยู่ภายในดูจะตื่นเต้นจนออกหน้าออกตากว่าผู้อื่น

 ความตื่นเต้นเหล่านั้นคงมาจากการตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นวัดใหญ่ชัยมงคล วัดที่สำคัญที่สุดวัดหนึ่งแห่งกรุงศรีอยุธยา

 จากพระพุทธรูปเหลืองอร่ามที่ตั้งเรียงรายอยู่ จนผ่านประตูเข้ามาด้านในก็พบวิหารพุทธไสยาสน์

ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่สร้างโดยสมเด็จพระนารายณ์เจ้าเพื่อให้พรองค์ใช้เป็นที่สักการะ

วันพุธพนมมือไหว้  อธิฐานขอพรให้คุณยายพรสว่างและคุณแม่พิมพาของเขามีความสุขและปลอดภัย

 รวมไปถึงขอพรให้เขาได้มีโอกาสเดินทางกลับไปยังบ้านของเขา ถึงแม้เขาจะเริ่มชอบร่างของแม่หญิงพุดซ้อน

 และผู้คนที่รายล้อมอยู่ในขณะนี้ แต่เบื้องลึกชายหนุ่มก็ยังต้องการกลับบ้านที่แท้จริงของตนเอง




เมื่อผ่านพระอุโบสถที่บรรจุพระพุทธรูปทำจากทองคำเอาไว้ ก็มาถึงพระเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา

 ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าพระตำหนักของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วันพุธก้มไปกราบก่อนที่อีกหลายคนจะทำตามเขา

 รวมไปถึงพวกบ่าวทั้งหมดที่ติดตามมา



ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองพระเจดีย์ที่สูงเสียดฟ้า แค่เคยเห็นซากปรักหักพังว่างดงามแล้ว เมื่อได้เห็นเต็มสองตา

ช่างงดงามมากกว่าหลายเท่านัก ยากที่เขาจะสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ทั้งหมด

“งดงามจริงๆ”ชายหนุ่มบอกตัวเบาๆ

หมื่นเทิดเทศาจ้องมองมาที่เขาแวบหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเคียงคู่แม่หญิงลำดวนเลียบองค์พระเจดีย์อ้อมไปทางด้านหลัง

“เชิญเถิด ออเจ้า”ชายหนุ่มอีกคนกล่าวขึ้น วันพุธก้าวตามไป
 ก่อนที่จู่ๆจะวิ่งล้ำหน้าหมื่นเดชาชาญไปสบทบกับหมื่นเทิดและแม่หญิงลำดวน
 ฝ่ายชายนึกขันในท่าทีประหลาดนั้น ในขณะที่อีน้อยอีแกลบต้องรีบวิ่งแจ้นตามผู้เป็นนายไป

“คุณหมื่นจะพาพวกเราไปไหนต่อ”วันพุธยื่นดวงหน้าแฉล้มผ่านแม่หญิงลำดวนไปถาม

“กริยาน่ารังเกลียดยิ่งนักออเจ้า”หมื่นเทิดยังวางฟอร์มนิ่ง

“ไม่ต้องโยกโย้ จะพาไปไหนต่อบอกมาก่อน”ร่างสูงยกมือขึ้นกอดอก เชิดหน้าหนี

“ตลาด”หากแต่ก็ยังตอบออกมาสั้นๆ

“ออเจ้าเหนื่อยแล้วฤา ฤาอยากกลับเรือนเสียแล้ว”หมื่นเดชาชาญถามขึ้นมาบ้าง

“ไม่เหนื่อย ข้าอยากไปตลาด”วันพุธยิ้ม

“แล้วแม่หญิงลำดวน เหนื่อยหรือยังคะ”เขาหันไปถามหญิงสาวผู้เรียบร้อย


แม้ นังชะนี ทำเนียมอายต่อหน้าผู้ชายนะยะหล่อน เชอะ

จู่ๆก็เกิดริษยาท่าทางที่ดูดีและสง่างามของแม่หญิงลำดวนขึ้นมาซะงั้น

“ยังดอกค่ะ”แม่หญิงลำดวนตอบอย่างสงวนท่าที
ให้เกิดใหม่อีกกี่ชาติ วันพุธจะสามารถวางท่าทางให้สง่างามสมเป็นผู้ดีมี
ตระกูลสูง และดูเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วแบบนั้นได้บ้าง


เขารีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาวางตรงสะเอวอีกครั้ง
   

ฉันก็เป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง ฉันจะแสดงให้หล่อนดู

   
“นำไปสิคะ คุณหมื่น”หล่อนกระแทกเสียง บางครั้งยังหลงลืมว่าเขาคือ ไอ้เทรดเพื่อนรัก
   


หมื่นเทิดเทศาเดินนำไปก่อนอีกครั้ง บัดนี้สาวงามที่พยายามจะเป็นนางหงส์บาง ก็สาวๆเท้าเดินสั้นหากแต่เร็ว
 จนเกิดท่าเดินแปลกประหลาดขึ้นอีกหน หากแต่ผู้ทำกลับคิดว่าตัวเองงดงามเสียเต็มประดา
   
“แม่หญิงของพวกมึง เป็นอันใดไปเล่า อีแกลบ อีน้อย”ขุนเดชาชาญถามทั้งๆที่พยายามจะกลั้นหัวเราะเอาไว้
   
“กุน ละ สา ติม เจ้าคะ”อีแกลบตอบ พร้อมทั้งส่งสัญญาณให้อีน้อย
ก่อนจะลงมือทำท่าทาง กุน ละ สา ติม(กุลสตรี) ตามเจ้านายของพวกมัน
ปล่อยให้หมื่นเดชาชาญ ไอ้มาก และบ่าวจากเรือนออกยาโหราธิบดีหัวร่อจนท้องคัดท้องแข็ง

ออฟไลน์ นลระชาย

  • ขอบคุณที่ติดตาม
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2


                                         ตอนที่ 11
                                 ตลาดมีปลา มีผ้า แต่ไม่มีไห
   
ถัดจากวัดใหญ่ชัยมงคลข้างลำคลองคือตลาดขนาดใหญ่ มีข้าวของหลากหลายจากเจ๊กบ้าง ไทยบ้าง
นำมาวางขายทั้งบนบกและที่ลอยลำเรือพายอยู่ริมตลิ่ง เช่นเคยความตื่นเต้นเข้าครอบงำแม่หญิงผู้มากลีลาอีกครั้ง
จนลืมสิ้นกับการรักษาลุคของกุลสตรีศรีสยาม วันพุธเที่ยวมองอาหารที่ถูกนำมาวางขาย ขอชิมโน้นชิมนี่ไปเรื่อย
บางครั้งก็ซื้อมากินเอาดื้อๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะแบ่งปันให้แก่อีน้อยและอีแกลบ รวมถึงบ่าวต่างเรือน ทั้งหมื่นเทิด แม่หญิงลำดวน
และหมื่นเดชาชาญต่างประหลาดใจไม่น้อยเพราะไม่มีผู้ใดเคยเอื้อเฟื้อและมีน้ำจิตน้ำใจต่อพวกบ่าวเยี่ยงนี้มาก่อน
   

เมื่อเดินมาถึงร้านขายผ้า แขกตัวสูงใหญ่ผู้เป็นเจ้าของก็ออกมาต้อนรับขับสู้ เขานำผ้าผืนงามหลายผืน
 ออกมาให้หมื่นเทิดและแม่หญิงลำดวนได้ชื่นชม หากแต่วันพุธกลับหาได้สนใจไม่
 เพราะสิ่งที่เขาให้ความสนใจคืออาหารมากมายที่วางขายอยู่ มีทั้งอาหารและขนมไทยที่เรารู้จักดี
 ส่วนที่เขาไม่รู้จัก อีน้อยและอีแกลบก็คอยเป็นผู้บอกกล่าวให้ฟัง
   
“ขนมทองเอกเจ้าคะ แม่หญิง”
   
หมื่นเดชาชาญเกิดความพึงใจอย่างที่สุดต่อแม่หญิงพุดซ้อน นอกจากนางจะงามหาใครเปรียบ
นางยังประหลาด หากแต่กลับรู้สึกสนุกสนานและมีความสุขเบิกบานหัวใจ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดนาง
 เขาเลือกที่จะเดินตามนางมาติดๆ แทนที่จะยืนอยู่กับหมื่นเทิดและแม่หญิงลำดวน
   
แวบหนึ่งวันพุธแอบมองหมื่นเทิดที่ตกลงใจซื้อผ้าผืนงามมอบเป็นของขวัญแก่แม่หญิงผู้เรียบร้อยอ่อนหวาน
   

ทำตัวเป็นพ่อเป็นทุ่ม สงสัยอีตาหมื่นขี้เก๊กจะเป็นพวกสายเปย์
   

วันพุธนึกหมั่นไส้ขึ้นมา เขาเดินแหวกฝูงชนมายืนที่หน้าร้านขายผ้าบ้าง เมื่อหมื่นเดชาชาญเดินตามมา
เขาจึงแสร้งพูดออกไปเสียงดัง
   
“คุณพี่ด้วงเจ้าขา ผ้าผืนนั้นงามเหลือเกินเจ้าคะ”หางตายังลอบมองใบหน้าเข้มจัดของหมื่นเทิด
   
 
แต่อีตาบ้านั่น ไม่ยักสนใจ
   

หมื่นเทิดสะดุ้งเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าแม่หญิงพุดซ้อนจะอาจหาญกล้าชม้อยชายตาให้แก่หมื่นเดชาชาญต่อหน้าผู้คนทั้งตลาด
   
“ออเจ้าอยากได้ฤา”ผู้ที่ถูกเรียกคุณพี่ด้วงรีบหยิบผ้าผืนนั้น และส่งเบี้ยให้แก่แขกผู้เป็นพ่อค้า
   
“พี่ให้ถือเป็นสินน้ำใจ ที่เจ้าเรียกขานพี่ว่าคุณพี่ด้วง”ดวงตาคมเข้มเงาระยับ
บอกความหมายได้หลากหลายจนไม่สามารถอ่านออกได้หมด
   
วันพุธยกมือไหว้แล้วรับผ้าผืนงามส่งให้อีแกลบเป็นผู้ถือ หากยังอดปรายตามองหมื่นเทิดไม่ได้อยู่ดี
 แต่มีเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่ใจตน จึงเดินกระแทกเท้าเบาๆฉีกออกไปอีกทาง
   
“แม่หญิงเจ้าขา รอบ่าวด้วยเจ้าคะ”อีแกลบ อีน้อย รีบวิ่งตามไปอีก
   
ดวงตาคมสันละไปจากใบหน้าของแม่หญิงลำดวน มองตามไปด้วยความอ่อนใจ
ท่าทีที่เขาสังเกตเห็นมันแทบไม่ใช่แม่หญิงพุดซ้อนผู้ที่เขาเคยให้ความเคารพ ยำเกรง
 ในฐานะว่าที่พี่สะใภ้ แม่พุดซ้อนผู้ที่เคยสง่างาม จิตใจดี วางตัวดุจนางพญาอยู่ตลอดเวลา
 เขาไม่เคยมองหรืออ่านความนึกคิดนางออกด้วยซ้ำไป
   
แม่พุดซ้อนในเพลานี้ กลับดูวิปลาสเกินหญิง หากแต่กับแสดงทุกอย่างออกมาจากใจ คิดอะไรอยู่ ก็แสดงออกมาเช่นนั้น
   
มันจะเป็นไปได้หรือ ที่พิษของดอกลั่นลมจะสามารถเปลี่ยนนิสัยของคนคนหนึ่งได้
   
นอกเสียจากว่า แม่หญิงพุดซ้อน ไม่ใช่ แม่หญิงพุดซ้อนอีกต่อไป

   


วันพุธหยุดตรงแม่ค้าวัยชราผู้ซึ่งมีเส้นผมเป็นสีดอกเลาทั้งศีรษะ นุ่งโจงและผ้าแถบเก่าจนขาด
บนแผ่นหลังเต็มไปด้วยร่องรอยของแผลเป็นจากรอยหวาย
 บอกให้เขารู้ว่าหญิงชราผู้นี้คงผ่านความลำเค็ญในชีวิตมานักต่อนัก
ชายหนุ่มรู้สึกถึงน้ำอุ่นที่เอ่อขึ้นมาชิดขอบตาคู่ใส
   
ดวงหน้าอันปราณีทำให้เขาคิดถึงคุณยายพรสว่างของเขามากเหลือเกิน
   
“ยาย ขายอะไรจ๊ะ”หญิงชราผู้นั้นชี้มือไปที่ตะกร้าที่มีปลาขาวตัวบางอยู่ครึ่งค่อนตะกร้า
   
“ยายเอาปลามาจากไหนหรือจ๊ะ”
   
“ยายหามาเองเจ้าคะ แม่หญิง”
   
ความสงสารและเห็นใจเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
   
“ยายขายเท่าไหร่”หญิงชราหาปลาชูนิ้วขึ้น 10 นิ้ว
   
“10 บาทหรือจ๊ะ”ใบหน้าเหี่ยวย่นส่ายไปมา
   
“10 เบี้ยใช่ไหมจ๊ะ ยาย”อีแกลบตัดสินใจยื่นมือเข้ามาช่วย ยายแก่พยักหน้ารับ
   
“ออเจ้าจักซื้อปลาไปทำอันใด พวกบ่าวในเรือนมันสามารถหาได้มากกว่านี้โข”
หมื่นเทิดพูดขึ้นเมื่อพาแม่หญิงลำดวนเดินมาสมทบ
   
คนไม่มีหัวใจ พูดด้วยก็เทานั้น
   
วันพุธไม่สนใจ เขาส่งอัฐให้แก่หญิงชราผู้นั้น
   
“1บาท เชียวหรือนั่นเจ้าคะ”อีน้อยว่า
   
“ฉันให้ยายจ๊ะ ยายเก็บเอาไว้นะจ๊ะ”วันพุธพูด พลางชี้มือให้อีแกลบช่วยยกตะกร้าปลาไปถือ
 หญิงขายปลาพนมมือไหว้
   
“ไม่ต้องไหว้ฉันหรอกจ๊ะยาย”
   
“ข้าลืมไปสิ้น ว่าออเจ้าเป็นเศรษฐี มีเบี้ยมีอัฐมากโข”ชายหนุ่มหุ่นแซ่บยังแขวะไม่เลิกรา
หากแต่อีกฝ่ายไม่ได้ใส่ใจจะฟัง หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังเขาเองก็รู้สึกชื่นชมในความมีน้ำจิตน้ำใจและความมีเมตตาของหล่อน
 เช่นเดียวกันกับแม่หญิงลำดวนและหมื่นเดชาชาญ วันพุธหันไปพูดจากับอีน้อยอีแกลบแทน
ราวกับบุคคลสูงศักดิ์ทั้งหลายไม่มีตัวตนในสายตาของเขา
   
“ฉันอยากซื้อไหสักใบ ฉันจะหาซื้อได้จากที่ไหนพี่”
   
“ตะวันคล้อยแล้ว คงได้เพลากลับเรือน บัดเดี๋ยวออกยาท่านจักห่วงใยแม่หญิงลำดวน”หมื่นเทิดเทศากล่าว
 แล้วสะบัดร่างเดินนำขบวนกลับมายังเรือที่จอดอยู่ตรงบริเวณท่าน้ำใกล้กับทางเข้าวัดใหญ่ชัยมงคล

   


หมื่นเดชาชาญและแม่หญิงลำดวนพร้อมพวกบ่าวแยกย้ายเดินทางกลับไปอีกเส้นทาง
ในขณะที่วันพุธนั่งอยู่ภายในเรือลำที่หมื่นเทิดเป็นฝีพาย โดยมีเรือของไอ้มาก อีน้อย อีแกลบตามมาอีกลำ
 ตลอดระยะเวลาที่นั่งเรือคนทั้งสองไม่ได้ปริปากพูดความใดต่อกันอีกเลย
 จนกระทั่งเรือมาจอดจนท่าน้ำเรือนออกยาพัชระ อีบัวก็มายืนดักคอยอยู่ที่ท่าน้ำ
   
“ออกยากับขุนท่านกลับเรือนมานานโขแล้ว คุณหญิงสั่งให้บ่าวมาตามแม่หญิงและหมื่นท่านไปพบบนเรือนเจ้าคะ”
หล่อนพูดสายตาจับจ้องอยู่แค่หมื่นเทิดเพียงผู้เดียว หล่อนเกลียดชังแม่พุดซ้อนเสียจนไม่อยากจะมองหน้า
   

วันพุธรู้สึกอึดอัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติแล้วเขาจะมีนิสัยร่าเริง และทำให้ผู้ที่อยู่รอบข้างมีความสุขและสบายอกสบายใจ
หากแต่วันนี้เขากลับรู้สึกประหลาด ไม่มีแม้อารมณ์จะยิ้มหรือหัวเราะให้ผู้ใด
 ยิ่งเขาเห็นคนหน้าเหมือนไอ้เทรดไปเอาอกเอาใจหญิงคนอื่น มันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดใจมากยิ่งขึ้น
เขาก้าวขาฉับจากลำเรือ แล้วสาวเท้ายาวๆขึ้นเรือนไป โดยที่ไม่ยอมพูดจากับฝีพาย
 รวมไปถึงไม่ยอมเยื้องย่างรอคอยอีแกลบและอีน้อยเช่นที่เคยทำมีโดยตลอด

   



“เฆี่ยนแม่พุดซ้อนหรือขอรับคุณแม่”หมื่นเทิดเดินเข้ามานั่งลงทันเวลาที่ผู้เป็นพี่ชายพูดพร้อมลุกขึ้นยืน
   
“ใช่ แม่พุดซ้อนจักได้หลาบจำ คราวหน้าจักต้องมิทำอันใดตามอำเภอใจอีก คราวนี้ดีหนักหนาที่ออกยาโหราธิบดีท่านเมตตา
 ไม่เยี่ยงนั้นคุณพ่อของพวกเจ้าคงมิรู้จักเอาหน้าไปไว้ที่ใดได้อีก”
   
“อีใบไปเอาหวายมา แล้วเฆี่ยนแม่หญิงพุดซ้อน 10 หน บัดเดี๋ยวนี้”
   
ป่าเถื่อนที่สุด วันพุธคิด หากแต่เมื่อลองตรึกตรองดูก็เห็นว่าสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปมันเป็นความผิดจริงดังว่า
   
“ข้ายอมรับว่าข้าผิดเจ้าคะ คุณป้า”เขาพูดพร้อมถอนหายใจ

เอาวะ ถ้าอยากเป็นนางเอก ก็ต้องเล่นให้มันสุด เข้าใจนะไอ้พุด
   
“คุณแม่ขอรับ”หมื่นเทิดลุกขึ้นยืนบ้าง
   
“หยุดเถิด มิต้องกล่าวอันใดแล้วพ่อเทิด ในเมื่อเจ้าตัวเขาก็ยอมรับความผิดของตนเองแล้ว ยืนขึ้นแม่พุดซ้อน”
คุณหญิงจำปาว่าเมื่ออีใบไปหยิบหวายยาวประมาณหนึ่งมาออกมา
   
“คุณหญิงเจ้าขาเฆี่ยนบ่าวแทนเถิดเจ้าคะ บ่าวเองที่เป็นผู้พายเรือพาแม่หญิงไป”
อีแกลบโผเข้าไปสวมกอดขาของนายสาวเอาไว้
   
“บ่าวด้วยเจ้าคะ”อีน้อยรีบทำตาม
มีเพียงออกยาพัชระที่ยังนั่งอยู่ด้วยท่าทีสุขุม 
ส่วนอีบัวกลับแสยะยิ้มด้วยความสาแก่ใจ
   
“คุณแม่ขอรับ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง ที่ข้าไม่สามารถจักดูแลคู่หมายของข้าได้
ข้าขอรับโทษทั้งหมดแทนแม่พุดซ้อนขอรับ”ขุนเพลิงโพล่งออกมา
อีใบที่กำลังจะเอาหวายลงหลังเนียนงามจึงชะงักมือเอาไว้
   
คุณหญิงพร้อมถอนหายใจ
   
“ถ้าหากเป็นเยี่ยงนี้ข้าจักไว้โทษให้สักครา หากมีอีกคราข้าจักโบยออเจ้าด้วยตัวของข้าเอง
จำเอาไว้เถิดแม่พุดซ้อน จักทำการใดมันต้องคิดถึงผลเสียที่มันจักตามมาด้วย มิใช่จักสนุกสนานตามใจตนเท่านั้น”
   
วันพุธถอนหายใจออกมาเช่นเดียวกัน
   
รอดตายแล้วไอ้พุดเอ้ย นึกว่าแกต้องได้ชิมรสหวายเป็นครั้งแรกซะแล้ว
 ว่าแต่อีตาขุนเพลิงนี่ก็แมนดีเหมือนกันเนาะ
แต่อีตาหมื่นคนน้องนี่สิคงจะสมใจมากกว่า ไม่ยักจะออกโรงปกป้องเราบ้าง
   
ชายหนุ่มค่อยๆนั่งลง
   
“ขอบพระคุณคุณป้าที่เมตตาข้าเจ้าคะ”เขาก้มลงไปกราบคุณหญิงพร้อม
 ดวงตาคมกริบของขุนเพลิงพานจ้องมาด้วยความรัก
พร้อมๆกับความเกลียดชังที่แสดงออกบนใบหน้าของอีบัวอย่างชัดเจน
   
“พาเจ้านายของพวกมึงกลับหอนอน ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วมารับข้าวเย็นได้แล้วอีน้อย อีแกลบ”ขุนเพลิงพูด
 ก่อนจะนั่งลงด้วยความโล่งใจ
 เช่นเดียวกับผู้เป็นน้องชาย ถึงเขาจะไม่ได้พยายามช่วยเหลือนาง
หากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้เป็นห่วงนาง
 โดยเฉพาะนางที่ซึ่งเป็นแม่พุดซ้อนคนใหม่ที่เขาพึ่งจะสัมผัสได้ด้วยหัวใจของเขาเอง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เลยไม่รู้ ว่าต้องการไหไปทำอะไร  :hao4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด