<<รอยบาป The Series>> บาปที่ไม่ได้ก่อ บทนำ [06/11/63]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<รอยบาป The Series>> บาปที่ไม่ได้ก่อ บทนำ [06/11/63]  (อ่าน 12663 ครั้ง)

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลงหรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ดการกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับนิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม








                                     :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1:





             ยินดีต้อนรับสู่ Series ชุดใหม่ของ Belove จ้า

                                          :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13:



สารบัญ


บาปที่ 1: ตราประทับบาป บทนำ
บาปที่ 1 : ตราประทับบาป บทที่ 1
บาปที่ 1 : ตราประทับบาป บทที่ 2
บาปที่ 1 : ตราประทับบาป บทที่  3 (จบตอน)
บาปที่ 2 : บาปกตัญญู บทนำ
บาปที่ 2 : บาปกตัญญู บทที่ 1
บาปที่ 2 : บาปกตัญญุู บทที่ 2
บาปที่ 2 : บาปกตัญญู บทที่ 3(จบตอน)
บาปที่ 3 : บาปที่ไม่ได้ก่อ บทนำ










Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2020 22:48:13 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                          ตราประทับบาป

                                                                บทนำ




           ฟุจิคิรับรู้ถึงไฟร้ายที่กำลังเกาะกุมทั้งหัวใจและร่างกายของเขา เปลวไฟร้อนแรงสีแดงสดคืบคลานเข้ามาทำลายความเงียบเหงาหนาวเย็นราวกับหิมะหนาบนยอดเขาที่ฟุจิคิอยู่กับมันมาตลอดชีวิตให้ละลายลงอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองต้นเหตุแห่ง
ไฟเบื้องหน้าด้วยกายสั่นระริก


             “ท่านต้องการผม”


             มืออุ่นจนร้อนเอื้อมมาแตะแค่เพียงแผ่วเบาตรงบั้นเอวฟุจิคิก็ถึงกับสะดุ้ง เขาปัดมือร้อนออกแต่กระนั้นมันก็ยังคงกลับมาวางที่เดิมอย่างเอาแต่ใจ


            “ออกไป”


            เสียงของฟุจิคิสั่นพร่า แหบต่ำ หาได้กังวานอย่างในเวลากล่าวคำสอนแก่ชาวบ้านให้ระลึกถึงบุญคุณของเทพเจ้า และสำนึกอยู่เสมอว่ามนุษย์ทุกนามล้วนแล้วแต่มีที่มาจากสรรพสิ่งในธรรมชาติของโลกที่ให้กำเนิด


            “จะโกหกหัวใจตนเองไปทำไม ในเมื่อตอนนี้แม้แต่แรงห้ามท่านยังไม่มี”


             ฮายากาวะ ไทโย บุรุษผู้มีบุคลิกร้อนแรงเจิดจ้าสมกับชื่อของเขาที่แปลว่าดวงอาทิตย์ จ้องมองฟุจิคิด้วยดวงตาคมปลาบล้ำลึกดุจจะถาโถมเข้าไปสู่กลางก้นบึ้งของหัวใจและกระชากฟุจิคิลงไปสู่หลุมดำมืดที่มีไฟร้อนแห่งบาปรออยู่ หากแต่ไฟอย่างไทโยนั้นก็ช่างเย้ายวนชวนให้กระโดดโลดแล่นไปกับความร้อนนั้น จนฟุจิคิหลงลืมไปแล้วว่าเขากำลังห่างไกลจากความถูกต้องมากขึ้นทุกที


               “ได้โปรดเถอะ ไทโย อย่าให้ผมต้องทำบาปไปมากกว่านี้เลย”


              น้ำแข็งอย่างฟุจิคิละลายหมดสิ้นแล้วเมื่อร่างของเขาทอดกายลงไปกับพื้นเย็นเยียบของศาลเจ้าที่เขามีหน้าที่ดูแลอยู่ รูปปั้นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ที่ตั้งตระหง่านกำลังเพ่งมองเมื่อไทโยถอดชุดนักบวชสีดำของฟุจิคิออกทีละชิ้นโดยที่เขาไม่อาจห้ามปรามได้ ลมหนาวลอดช่องว่างเล็ก ๆ ใต้ประตูเข้ามาอาบไล้ผิวกายเมื่อเขาและไทโยมีเพียงเนื้อหนังแนบสนิท แปลกที่แม้ภายนอกจะหนาวเหน็บเพราะละอองหิมะโปรยปราย แต่เขากลับร้อนรุ่มไปทั้งตัว


            “อะไรคือบาป”


            ไทโยกระซิบถามข้างหู ร่างกายแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยพละกำลังและอำนาจของหัวหน้ากลุ่มที่มีอิทธิพลสูงสุดในเขตคันไซกำลังบดเบียดลงมาด้วยแรงปรารถนา


               “เรากำลังทำผิดธรรมชาติ ผมกับคุณเป็นผู้ชายทั้งคู่ เรากำลังทำผิดคำสอนของเทพเจ้า”


               ฟุจิคิหลับหูหลับตาส่งเสียงโต้เถียง เขารู้สึกถึงการตื่นตัวเบื้องล่างที่ไทโยปลุกมันขึ้นมา


              “ท่านจงมองตาผม”


              ไทโยออกคำสั่งและไม่มีผู้ใดกล้าขัดขืนแม้แต่ฟุจิคิในตอนนี้ เขาเบิกตาอย่างหวาดหวั่นเพื่อจะพบกับนัยน์ตาที่แสดงถึงความต้องการอันแรงกล้าที่จะได้ครอบครองร่างกายของเขา


             “ผมนี่แหละคือธรรมชาติของท่าน ท่านนับถือดวงอาทิตย์ไม่ใช่หรือ ผมนี่แหละคือดวงอาทิตย์ และท่านกำลังจะทำในสิ่งที่ใจของท่านต้องการ”


              “ไม่!”


            ฟุจิคิพลันหลับตาลงเมื่อไทโยล่วงล้ำเข้าสู่ร่างกายของเขา และดึงให้นักบวชเช่นเขาตกลงไปในห้วงแห่งบาปที่จะประทับไว้ในใจตลอดกาล



                                                                                                               TBC

                                                            มาแล้วจ้า Series ชุดใหม่ อาจจะไม่แซบจัดจ้านเท่า X-theme นะ                                                                  
                                   เพราะจะเน้นเรื่องผิดศีลธรรมและบาปที่อยู่ในใจ                                         
                                 
                                 ใครอยากอ่านบาปแบบไหน เสนอมาเป็นไอเดียได้เลยจ้า

                                                     



                            :interest: :interest: :interest: :interest: :interest: :interest: :interest: :interest:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2018 22:02:05 โดย Belove »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :L2:  แวะมาเจิมเรื่องใหม่จร้าาา  มันกร้าวววใจมากกก 

ปล.เราชอบบาปหลายผัว 555

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
นี่สิที่ต้องการ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มาปูเสื่อรอ~

ออฟไลน์ saythong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปักหมุดรอเลย :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
มิ๊วๆๆๆๆ เคะพระยากูซ่าเมะโฮ๊ยยยยยชอบ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ใจบาปเหลือนเกินนะออเจ้า หุหุ อยากอ่านต่อมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                              ตราประทับบาป

                                                                  บทที่ 1




                    เสียงพูดคุยเซ็งแซ่หลังพิธีไหว้ดวงอาทิตย์เสร็จสิ้นลงของชาวบ้านที่มาศาลเจ้าในวันนี้เรียกความสนใจได้จาก ยามามัตสึ ฟุจิคิ จนเขาต้องก้าวเข้าไปสู่วงสนทนาและเอ่ยถามขึ้น


                “มีอะไรกันอย่างนั้นหรือ”


               “ก็ครอบครัวโคจิมาถูกขู่ให้ขายที่ดินอีกแล้วน่ะสิหลวงพี่”


                หนึ่งในกลุ่มสนทนาหันมาตอบเขาด้วยท่าทีนอบน้อม เพราะฟุจิคินั้นเป็นนักบวชและยังเป็นเจ้าอาวาสในศาลเจ้าแห่งนี้อีกด้วย ชาวบ้านในพื้นที่นับถือนิกายชินโตที่บูชาเทพเจ้าซึ่งเกี่ยวข้องกับธรรมชาติหลายองค์ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าเก่าแก่มีคนนับถือกราบไหว้จำนวนไม่น้อย บิดาของฟุจิคิเองก็เป็นนักบวชและยังเป็นเจ้าอาวาสรุ่นที่แล้ว เมื่อความชราเข้ามาเยือนบิดาของเขาก็ยกตำแหน่งเจ้าอาวาสให้แก่ฟุจิคิที่เพิ่งจะเป็นนักบวชหลังจากที่เรียนจบมาไม่นานมานี้เอง


                “พวกนั้นอีกแล้วหรือ ตระกูลฮายากาวะ ใช่ไหม”


                ยามามัตสึ ทาเคชิ บิดาของฟุจิคิเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย ฟุจิคิที่จากบ้านเกิดไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเมืองหลายปีจึงถามด้วยความสงสัย


               “พวกนั้นทำอะไรครับพ่อ”


               ทาเคชิถอนหายใจแล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงกลัดกลุ้ม


                “ฮายากาวะรุ่นพ่อนั้นไม่เท่าไหร่หรอก แต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมาคงจะพอ ๆ กับที่ลูกไปเรียนต่อ ฮายากาวะรุ่นลูกก็ขึ้นมาบริหารงานต่อ พวกเขาคิดจะกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านเพื่อไปสร้างแหล่งประโยชน์ของพวกเขา”


               “ใช่ อย่างที่หลวงพ่อพูด พอใครไม่ขายก็หาวิธีกลั่นแกล้งจนต้องยอม”


               ชาวบ้านต่างช่วยกันออกความเห็น


               “นี่ยังกลัวว่าพวกนั้นจะมาลุกล้ำเขตศาลเจ้าด้วยน่ะสิ ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเราเกือบทั้งหมู่บ้านต้องแย่แน่ ๆ”


                ฟุจิคิขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาเพิ่งจะโกนผมเป็นนักบวชได้ไม่กี่เดือน เรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านก่อนหน้านี้เขาไม่เคยรู้เลยว่าจะมีผู้มีอิทธิพลมารังแกชาวบ้าน


                “ทำไมพวกเราไม่ช่วยกันต่อต้านล่ะครับ” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม


               “ถ้าพวกเราช่วยกันผมว่าต้องสู้ได้แน่”


                “ใครจะสู้กับเขา คน ๆ นั้นโหดร้ายยิ่งกว่ารุ่นพ่อและรุ่นปู่เสียอีก อำนาจของเขาแผ่ขยายไปถึงเขตข้างเคียงเสียด้วยซ้ำ ถ้าคิดสู้พวกเราคงตายกันหมด”


                 น้ำเสียงและสีหน้าหวาดกลัวของชาวบ้านทำให้ฟุจิคิชิงชังคนโหดร้ายคนนั้นตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า


                “เขาชื่ออะไรนะครับ นายฮายากาวะคนนั้น”


                 “ไทโย เขาชื่อ ฮายากาวะ ไทโย ที่แปลว่าดวงอาทิตย์ยังไงล่ะ”


                 ทาเคชิผู้เป็นบิดาตอบเขา ฟุจิคิเดาว่าคน ๆ นี้ต้องหน้าตาดุดันโหดเหี้ยม แต่ถึงอย่างไรฟุจิคิจะไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่บังคับให้เขาต้องขายที่ดินบริเวณศาลเจ้าเป็นแน่


                 ยามามัตสึ ฟุจิคิ คนนี้จะต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี คอยดูสิ!



                 



                   ก้นบุหรี่ที่ยังมีประกายไฟถูกขยี้ลงไปในที่เขี่ยบุหรี่แสนสวยอย่างแรงด้วยอารมณ์หงุดหงิด บุรุษหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทานั่งหลังตรงสง่าอยู่บนเก้าอี้หนังเนื้อดี ใบหน้าคมเข้มจนดูน่าเกรงขามสมกับที่เป็นประมุขรุ่นล่าสุดของตระกูลฮายากาวะที่มีอำนาจมากที่สุดในเขตนี้


                       แต่ถึงกระนั้นเป้าหมายของฮายากาวะ ไทโยก็ยังไม่สัมฤทธิ์ผล เขาต้องการพื้นที่สำหรับสร้างรีสอร์ทขนาดใหญ่ระดับห้าดาว และยังเหลือพื้นที่อีกเล็กน้อยที่เขาต้องการซึ่งตรงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตรงเชิงเขา
เขาส่งลูกน้องไปหลายคนหลายครั้งเพื่อขอซื้อที่ตรงนั้น ผู้ดูแลศาลเจ้าควรจะขายให้เขาเพราะมันเป็นแค่ส่วนเล็กน้อยจากพื้นที่ทั้งหมดที่ศาลเจ้าครอบครองอยู่ แต่ลูกน้องของไทโยกลับคว้าน้ำเหลวกลับมาทุกครั้ง


                    “เจ้าอาวาสคนใหม่มันไม่ยอมครับนาย มันสู้ยิบตาและก็มีฝีมือมากด้วย”


                    ดวงตาคมแค่ตวัดมองลูกน้องของเขาก็ถึงกับสะดุ้งสุดตัวก้มหน้าหลบตาพัลวัน


                    “พวกแกไปกันครั้งหนึ่งก็หลายคน แค่นักบวชคนเดียวยังสู้ไม่ได้ หมายความว่าพวกแกต่างหากที่ไม่ได้เรื่อง”


                    “แต่นายครับ เจ้าอาวาสหนุ่มคนนี้เก่งจริง ๆ นะครับ”


                   ลูกน้องอีกคนข่มความกลัวยืนยัน และนั่นทำให้ฮายากาวะ ไทโย หมดความอดทน เขาอยากรู้นักว่าเพียงแค่นักบวชคนเดียวที่ปกป้องศาลเจ้าเล็ก ๆ แห่งนั้นจะเก่งกล้าสมกับที่ลูกน้องของเขาขยาดหรือไม่


                  ไทโยอาจจะต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองสักครั้ง







                   ตั้งแต่ตระกูลฮายากาวะส่งตัวแทนมาขอซื้อที่ดินส่วนหนึ่งของศาลเจ้าที่อยู่ติดกับพื้นที่ที่พวกเขาต้องการแต่ฟุจิคิไม่ยอมขายนั้น เขาก็ต้องย้ายมาอาศัยอยู่ในวิหารกลางวัดแทนบ้านหลังเล็กที่อยู่ลึกเข้าไปในเขตศาลเจ้า


                 “ระวังตัวด้วยนะฟุจิคิ”


                   ทาเคชิบิดาของเขาและมารดาที่มีอายุมากแล้วเตือนด้วยความเป็นห่วงก่อนจะพากันเดินกลับไปที่บ้านพักของพวกท่าน เมื่อไม่มีงานพิธีใดๆ บริเวณวัดก็เงียบสงัด มีนักบวชเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และมีเพียงฟุจิคิที่จะปกป้องที่ดินของศาลเจ้าเก่าแก่นี้ไว้ได้


                  เขาใช้เวลาในยามบ่ายอันแสนสงบศึกษาหลักคำสอนของนิกายชินโต ฟุจิคิเกิดและเติบโตช่วงวัยเด็กที่วัดแห่งนี้ก็จริง แต่เขาย้ายไปเรียนในเมืองตั้งแต่วัยรุ่นจนจบมหาวิทยาลัย เพราะเป็นลูกชายคนโตฟุจิคิรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องมาสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากบิดาซึ่งฟุจิคิก็ไม่ได้เดือดร้อน


                   นิกายที่เขานับถือนั้นนักบวชสามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ พวกเขาให้ความนับถือเทพเจ้าที่ให้ความอุดมสมบูรณ์แก่พืชพันธุ์ทั้งหลาย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือพิธีบูชาดวงอาทิตย์ซึ่งจะจัดเป็นประจำทุกปี


                 ขณะกำลังใช้สมาธิอ่านหนังสืออยู่นั้น หูของเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าแว่วมาจากด้านหน้าวิหาร ฟุจิคิบอกตัวเองให้ระมัดระวังทันที เขาวางหนังสือลงและลุกขึ้นยืนพอดีกับสายตาที่มองเห็นบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในเขตวิหารด้วยท่าทีสง่างาม เมื่อได้เห็นรูปร่างหน้าตาชัดเจนฟุจิคิก็ถึงกับอึ้ง


                 รูปร่างสูงเกินร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรแน่ ๆ เพราะเทียบด้วยสายตาแล้วเขาคนนี้ต้องสูงกว่าฟุจิคิที่สูงร้อยแปดสิบ ไหล่กว้างรับกับอกแกร่งที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตด้านในโดยมีเสื้อสูทเรียบหรูทับอยู่ด้านนอก หน้าตานั้นแทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบไปทุกส่วนโดยเฉพาะดวงตาคมดุดันคู่นั้นที่อาจทำให้ผู้คนละลายได้ด้วยความหวาดเกรง


                    เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาฟุจิคิต้องรับมือกับคนของฮายากาวะส่งมาก่อกวนหลายครั้งและได้รับชัยชนะทุกครั้ง บิดาของเขาเอ่ยปากเตือนว่าให้ระวังโทสะของฮายากาวะ ไทโยให้ดี และในวินาทีนี้กับบุคคลตรงหน้า ความสง่างามบวกกับท่าทีน่าเกรงขามทำให้ฟุจิคิเดาได้ทันทีว่าเขาคือประมุขคนปัจจุบันของตระกูลที่มีอิทธิพลนี้


                ส่วนไทโยเองก็ยังอดยืนนิ่งและจ้องมองนักบวชหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ ฟังจากลูกน้องแล้วรู้มาว่าเจ้าอาวาสคนใหม่ของศาลเจ้ายังหนุ่มมากและเพิ่งกลับมาจากเล่าเรียนในเมือง แต่ไทโยก็คาดไม่ถึงว่ารูปร่างหน้าตาของนักบวชชื่อฟุจิคิที่แปลว่าภูเขาที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งจะหน้าตาดีเกินคาดคิด รูปร่างสูงโปร่งผิวกายผุดผาด ศีรษะที่ปราศจากเส้นผมได้รูปทรงจนบดบังความงดงามได้ไม่มิด ดวงตาที่จ้องมองมาอย่างเยือกเย็นไม่มีหวาดหวั่นนั่นก็ทำให้ไทโยไม่อาจละสายตาได้เลย







มีต่ออีกนิด...





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2018 00:10:42 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้....




                 ลูกน้องของเขาที่ยืนด้านหลังทำท่าจะกรูกันเข้ามาภายในวิหาร ไทโยยกมือขึ้นห้ามในทันทีทั้งที่เขายังคงประสานสายตากับฟุจิคิไม่ยอมหลบ


                 “หยุด อย่าเข้ามา รออยู่ด้านนอกฉันจะตกลงกับท่านนักบวชตามลำพัง”


                  คำสั่งของเจ้านายถือเป็นเด็ดขาด บรรดาลูกน้องของเขาโค้งรับคำสั่งก่อนจะถอนตัวไปยืนคุมเชิงอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า เหลือเพียงเจ้านายของพวกเขากับนักบวชเจ้าของสถานที่เท่านั้น


                 “ผมไม่คิดจะขายที่ดิน เชิญคุณกลับไปได้แล้ว”


                 ฟุจิคิไม่อ้อมค้อม เขารู้ดีว่าทำไมประมุขของฮายากาวะถึงได้ลงทุนมาที่นี่ ฟุจิคิพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นไหวขณะกำลังสู้กันด้วยสายตากับไทโย แปลกที่รู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นจนเกือบหายใจไม่ทัน


                 “โครงการรีสอร์ทที่ผมจะสร้างนั้น จะช่วยทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น และไม่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างที่มีคนปล่อยข่าว ไม่มีเหตุผลที่ท่านจะปฏิเสธเลย”


                  ไทโยขยับเท้าก้าวตรงเข้าใกล้ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดนักบวชมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่วงท่าของเขายังคงความสง่างามและมีพละกำลังราวกับดวงอาทิตย์ฉายแสงยามเที่ยง ดวงตาดุดันเมื่อแรกเข้ามาปรับเปลี่ยนเป็นความสนใจในฝ่ายตรงข้าม ฟุจิคินึกเปรียบเทียบกับสิงโตเจ้าป่าที่กำลังสร้างความยำเกรงต่อหน้าสัตว์ป่าน้อยใหญ่ แต่ไม่มีทางที่เขาจะเป็นกระต่ายตื่นตูมทำท่าหวาดกลัวให้เห็นเด็ดขาด


             “พื้นที่แห่งนี้เป็นของเทพเจ้า เพื่อให้เราได้กราบไหว้บูชาและเป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้คนที่นับถือ เราอยู่กันอย่างนี้มานานหลายชั่วคนและผมจะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้ถูกทำลายในรุ่นของผม”


                  น้ำเสียงที่ยังคงไว้ซึ่งความเยือกเย็น ท่าทีองอาจแม้จะดูออกว่าซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ช่างเรียกร้องความสนใจจากไทโยยิ่งนัก ไม่เคยมีใครที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาเช่นนี้จนไทโยอยากจะรู้นักว่านักบวชธรรมดาคนหนึ่งจะมีพิษสงอะไรที่ทำให้ลูกน้องของเขาต่างกริ่งเกรง


               แค่คิดได้ไทโยก็ไม่รอช้า เขาพุ่งกายเข้าหาฟุจิคิอย่างรวดเร็ว วินาทีนั้นฟุจิคิเบิกตากว้างวูบหนึ่งก่อนจะพลิกกายกลับไปยังที่นั่งด้านหลังและคว้าดาบไม้โบคุโตะขึ้นมากระชับในมือ โดยที่ไทโยไม่คาดคิดความเร็วเพียงลมพัดวูบหนึ่งดาบไม้โบคุโตะในมือของฟุจิคิก็ฟาดลงที่ไหล่และหลังเข่าของไทโยก่อนที่มันจะมาหยุดจ่ออยู่ตรงซอกคอของเขา


                  เร็ว!


                 นักบวชคนนี้ฝึกเคนโด้ แถมยังเก่งกาจถึงกับหยุดไทโยได้เพียงดาบเดียว ฝีมือฉกาจนัก


                 แม้จะได้เปรียบในการจู่โจมครั้งแรกแต่ฟุจิคิกลับมีผิวหน้าร้อนเห่อเมื่อเห็นสายตาของไทโยที่จ้องมองมา รวมถึงมุมปากที่จุดรอยยิ้มแม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็เห็นได้ชัด ความวาววามนั้นทำให้มือที่จับด้ามดาบไม้สั่นไหว และการเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้เห็นจุดอ่อนก็ช่างโง่เขลาสิ้นดีเพราะไทโยฉวยจังหวะนี้ใช้การโจมตีแบบประชิดตัวของยิวยิตสูเข้ามาใช้


                   มือแกร่งไล่ไปตามดาบไม้และบิดข้อมือของฟุจิคิอย่างชำนาญในการต่อสู้แขนงนี้ ฟุจิคิร้องลั่นเมื่อดาบไม้หลุดจากมือร่วงลงพื้นจากนั้นไทโยก็หักแขนเขาไปทางด้านหลัง แค่เพียงไม่กี่ท่วงท่าไทโยก็รวบแขนทั้งสองข้างของฟุจิคิไว้ได้


                 “ท่านเก่งกว่าที่คิดนะครับที่เอาชนะผมด้วยดาบไม้”


                  ร่างสูงที่ยืนควบคุมอยู่เบื้องหลังก้มหน้ากระซิบอยู่ข้างหูยิ่งทำให้ฟุจิคิเจ็บใจ เขาพยายามไม่ส่งเสียงร้องเพราะความเจ็บปวดเมื่อแขนทั้งสองข้างถูกรวบไว้ด้านหลัง ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดอยู่ตรงท้ายทอยทำให้ฟุจิคิร้อนวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า


                  “ท่านเป็นคนแรกที่ทำให้ผมเพลี่ยงพล้ำ ช่างน่าสนใจจริงๆ”


                  ดูเหมือนจุดประสงค์ในการมาเยือนศาลเจ้าวันนี้จะเปลี่ยนไปแล้ว ไทโยลืมเรื่องที่ดินหมดสิ้นและความสนใจของเขาเบนเป้ามายังนักบวชหน้าตาดีที่เขาควบคุมตัวอยู่


                   ไทโยปล่อยมือที่จับกุมให้ฟุจิคิหลุดออกไปได้ ร่างโปร่งนั้นหันกลับมาหาเขาพร้อมกับความกรุ่นโกรธ แต่ไทโยไม่ปล่อยให้ฟุจิคิเป็นอิสระนานนักเมื่อเขาใช้ความแข็งแรงและรวดเร็วกระชากข้อมือของฟุจิคิจนร่างนั้นถลาเข้ามากระแทกแผงอกของเขาดังพลัก ไทโยใช้ท่อนแขนโอบไปรอบเอวของฟุจิคิขังเขาไว้ในอ้อมกอดทันที


                   “คุณทำอะไร ปล่อยผม”


                    คราวนี้ฟุจิคิรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาจริง ๆ เสียแล้ว เขาไม่สงสัยเลยว่าทำไมชายผู้นี้ถึงสามารถทำให้ผู้อื่นกลัวเกรงได้ ขนาดว่าฟุจิคิมั่นใจในฝีมือตนเองระดับหนึ่งกับเคนโด้ดั้งห้า แต่เมื่อต้องต่อสู้กันไทโยก็เก่งและแกร่งจนยากที่จะล้ม


                  แต่ที่ไม่เข้าใจเลยก็คือ เพราะเหตุใดไทโยถึงต้องเหนี่ยวรั้งเขาไว้ใกล้ชิดเช่นนี้ด้วยเล่า


                  ยิ่งใกล้จนได้กลิ่นโคโลญจน์อ่อน ๆ จากร่างกำยำนี้ฟุจิคิก็ยิ่งระส่ำระสาย หัวใจของเขาเต้นแรงและเร็วจนอกกระเพื่อม ฟุจิคิพยายามแล้วที่จะรวบรวมสติสมาธิ แต่มันก็ยังเตลิดหนีหาย


                    “ผมคิดว่า ผมคงจะสนใจท่านมากกว่าที่ดินเสียแล้ว”


                   ไทโยพูดออกมาโดยง่ายราวกับพูดเล่น แต่การกระทำกลับไม่ได้เล่นไปด้วย มือที่โอบกระชับเอวของฟุจิคินั้นรั้งเข้ามาจนท่อนล่างบดเบียด ฟุจิคิเจ็บใจที่แม้แต่จะดิ้นรนยังทำไม่ได้


                “คุณบ้าไปแล้ว” ฟุจิคิต่อว่าเสียงสั่น


                “คุณแค่อยากเอาชนะซึ่งก็สำเร็จแล้วไงล่ะ”


                 สายตาของไทโยเลื่อนลงมองปากอิ่มสีแดงเรื่อที่กำลังขยับต่อว่าเขาอยู่ น่าแปลกที่ผู้ชายโกนผมคนนี้ทำให้คนอย่างฮายากาวะ ไทโย มิอาจละสายตาได้เลย นอกจากนั้นมันทำให้เขาอยากจะรู้ว่าหากได้ครอบครองทั้งกายและใจของฟุคิจิแล้วจะดีต่อหัวใจของเขาแค่ไหน


                “ชนะแค่นี้คงไม่พอสำหรับผม”


                ไทโยพูดกลั้วหัวเราะ ดวงตาของเขาเป็นประกายจนใบหน้าคมนั้นยิ่งหล่อเหลา ไม่ ฟุจิคิเตือนตัวเองว่าเขาจะต้องไม่หวั่นไหวไปกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าใช้อิทธิพลต่อผู้อื่นเด็ดขาด


                  “คุณต้องการอะไร ต่อให้คุณฆ่าผมคุณก็ไม่ได้ที่ดินไปแน่”


                  ยืนกรานเด็ดเดี่ยวแม้จะรู้ว่าไม่มีทางชนะชายคนนี้แน่ ๆ ฟุจิคิได้แต่เอียงหน้าหนีเมื่อไทโยก้มหน้าลงมาจนจมูกโด่งชนอยู่กับแก้มของเขา


                 “ถ้าผมบอกว่า ผมต้องการชัยชนะโดยเด็ดขาด ทั้งที่ดินและร่างกายของท่าน ท่านจะว่ายังไง”


                    ฟุจิคิเบิกตากว้าง ไทโยทำลายความเยือกเย็นของเขาหมดสิ้น ตอนนี้ฟุจิคิเดือดปุด ๆ เมื่อรู้ความต้องการของไทโย เขาสะบัดหน้าไปหาเตรียมจะเปิดปากต่อว่า แต่กลายเป็นว่าเข้าทางของไทโยพอดีเมื่อไทโยปิดปากของเขาลงด้วยปากของไทโย


                  “อื้อ อึก”


                  จะดิ้นก็ดิ้นไม่หลุด จะสะบัดหน้าหนีก็ทำไม่ได้ ฟุจิคิยืนตัวแข็งเมื่อกลีบปากของเขาถูกบดขยี้จนร้อนเห่อ จมูกโด่งของไทโยแนบชิดกับจมูกของเขาจนเกือบจะหายใจไม่ออก ตอนนั้นเองที่เขาผวาอ้าปากหายใจไทโยก็สอดลิ้นเข้ามาอย่างชำนาญจนฟุจิคิแทบสำลัก


                    “ปละ ปล่อย”


                   เสียงของเขาฟังดูอ่อนแรงเต็มที ตัวที่แข็งอยู่ตอนแรกบัดนี้อ่อนแรงจนอาจจะร่วงไปกองกับพื้นได้หากไม่มีอ้อมกอดของไทโยรั้งไว้ ลิ้นของไทโยตวัดไปมาอยู่ในช่องปากตามอำเภอใจ ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหนกว่าเขาจะยอมถอนลิ้นออกช้าๆ พร้อมกับสายตาวาวราวกับสิงโตที่รอขย้ำเหยื่อ ฟุจิคิหอบหนัก เขาไม่เคยพบเจอจูบที่เร่าร้อนหนักหน่วงขนาดนี้มาก่อน เขาเงยหน้ามองไทโยอย่างไม่คาดคิด


                   ไทโยเลียริมฝีปากตนเองอย่างติดใจ รสจูบของนักบวชช่างหอมหวานจนเขาอยากรู้ว่าถ้าได้ชิมไปทุกส่วนจะหวานเช่นริมฝีปากหรือไม่


                  “ท่านจูบตอบผม แสดงว่าท่านเองก็ต้องการผม ใช่หรือไม่ท่านเจ้าอาวาสฟุจิคิ”


                  ฟุจิคิสะดุ้งเฮือก เขาผลักร่างของไทโยออกห่าง


                  “ไม่จริง”


                  “อยากพิสูจน์อีกสักรอบไหม”


                 ฟุจิคิรีบก้าวถอยหลัง สีหน้าตระหนกของเขาทำให้ไทโยต้องยอมล่าถอย


                 “วันนี้ผมจะกลับ แต่ถ้าผมมาอีกครั้งผมจะต้องได้ทั้งตัวท่านและที่ดิน”


                  ไทโยหัวเราะอยู่ในดวงตาก่อนจะหมุนกายเดินตรงไปยังประตูทางออก เมื่อเขาก้าวออกไปจนพ้นวิหารฟุจิคิก็หมดแรงขาแข้งอ่อนจนต้องทรุดตัวนั่งกับพื้น เขายกมือวางแนบหัวใจตนเองที่เต้นแรง


                     คำสอนที่ฟุจิคิจำมาตลอดชีวิตนั่นคือทำตัวกลมกลืนไปกับธรรมชาติ และธรรมชาติของมนุษย์คือชายกับหญิง


                    ดังนั้นฟุจิคิจะไม่ประพฤติบาปด้วยการหวั่นไหวไปกับเพศเดียวกันเด็ดขาด!




                                                                       TBC


                                          บทแรกมาแล้วจ้า เริ่มต้นกันแบบบาปเบา ๆ ก่อนนะจ๊ะ

                                          :o11: :o11: :o11: :o11: :o11: :o11: :o11:








                                           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2018 00:17:40 โดย Belove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ชั้นรักชายโฉด

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                              ตราประทับบาป

                                                                   บทที่ 2



                 วันรุ่งขึ้นที่มีงานทำบุญที่ศาลเจ้าในเทศกาลไหว้ขอพรดวงอาทิตย์ ชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญต่างก็จับกลุ่มซุบซิบกันด้วยสีหน้าหวาดหวั่นระคนแปลกใจเมื่อเห็นฮายากาวะ ไทโยมาร่วมงานด้วย เขาพาลูกน้องมาไม่กี่คนเมื่อมาถึงก็ได้แต่คว้าเก้าอี้มานั่งมองอยู่ด้านหลังวิหารโดยไม่ได้เข้ามาร่วมการทำบุญเลย

               การตกเป็นเป้าสายตาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกวิตกแม้แต่น้อย ร่างสูงนั่งนิ่งสูบบุหรี่พ่นควันขาวละเอียดสู่อากาศราวกับมาผ่อนคลายที่ศาลเจ้าแห่งนี้ คนที่รู้สึกเป็นกังวลและตื่นเต้นกลับกลายเป็นฟุจิคิเจ้าอาวาสหนุ่มที่กำลังยืนเทศนาอยู่ด้านหน้าของวิหารต่างหากเล่า

                ฟุจิคิมองเห็นไทโยตั้งแต่ร่างสูงเดินนำลูกน้องเข้ามาในวิหาร หัวใจของเขาพลันเต้นรัวขึ้นมาเหมือนทุกครั้งที่เขาคิดถึงจุมพิตเมื่อวานนี้ ฟุจิคินอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งคืนเมื่อใบหน้าคมดุนั้นเฝ้าตามมาหลอกหลอนเขา ท้ายที่สุดก็ต้องลุกมานั่งปวดศีรษะตั้งแต่ย่ำรุ่ง ผู้ชายที่จ้องมองโดยมีฟุจิคิเป็นเป้าสายตานั้นช่างมีอิทธิพลต่อความคิดความรู้สึกเหลือเกิน

                เจ้าอาวาสหนุ่มเทศนาตะกุกตะกัก ในขณะที่ชาวบ้านก็ไม่มีสมาธิ ต่างก็เหลือบมองไปยังฮายากาวะ ไทโยด้วยความหวาดระแวงที่เขามาในที่ชุมชนเช่นนี้ ทุกคนที่รู้กิตติศัพท์ต่างก็กลัวว่าเขาจะมาด้วยจุดประสงค์เลวร้าย ฟุจิคิตัดสินใจหาทางจบการเทศนาให้เร็วขึ้น ชาวบ้านจึงพากันลุกลี้ลุกลนออกจากศาลเจ้าจนเหลือเพียงนักบวชไม่กี่รูปรวมถึงทาเคชิบิดาของฟุจิคิ


               “เขามาทำไม”


               “ไม่ใช่จะมาทำร้ายพวกเราหรอกนะ”


                 นักบวชต่างก็เข้ามารวมกลุ่มกันและซุบซิบเบาๆ แม้แต่ทาเคชิก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อยจนฟุจิคิต้องเอ่ยให้ทุกคนสบายใจ


               “เขาจะมาทำไมก็ช่างเขาเถอะครับ พวกหลวงพี่กับพ่อไปพักผ่อนก่อนเถอะ ทางนี้ผมจะจัดการเอง”


               ฟุจิคิฝืนยิ้มให้นักบวชทุกคน พ่อของเขามองไทโยอย่างไม่ไว้ใจ


               “ต้องระวังให้มากนะฟุจิคิ ถึงวันนี้เขาจะมาอย่างสงบแต่เขาก็เป็นคนมีอำนาจอยู่ดี”


              “ครับพ่อ พ่อพาทุกคนกลับไปเตรียมงานด้านในเถอะ เรายังมีงานต่อเนื่องกันอีกหลายวันนะครับ”


               เมื่อเหลืออยู่เพียงคนเดียวแล้วฟุจิคิจึงได้เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของไทโยที่ยังมองเขาด้วยสายตาที่ฟุจิคิไม่กล้าคาดเดาความหมาย


               “คุณไม่ควรมาที่นี่”


                ไทโยลุกขึ้นยืนอวดความสง่างาม เขาโบกมือเบา ๆ ลูกน้องสองคนที่ติดตามมาก็รีบก้าวออกไปยืนด้านหน้าทางเข้าวิหารแถมยังปิดประตูทางเข้าอีกด้วย ฟุจิคิได้แต่มองไทโยอย่างไม่ไว้ใจ


               “คนอยากมาทำบุญห้ามได้ด้วยงั้นหรือ”


                ผิวแก้มของฟุจิคิร้อนซู่เมื่อไทโยมองเขาด้วยนัยน์ตาพูดได้ มันแวววาวเกินไป ท้าทายเกินไป และมันทำให้ฟุจิคิไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย


               “คุณทำให้ชาวบ้านที่มารู้สึกหวาดกลัว เพราะคุณเคยทำร้ายพวกเขา”


               ส่งเสียงเข้มออกไป หวังจะปรามให้ไทโยสำนึกได้ แต่อีกฝ่ายแค่ยักไหล่อย่างไม่นึกแยแส


               “กลัวก็เรื่องของพวกเขา ไม่ใช่เรื่องของผม”


                “นี่ คุณ!”


                “ไทโย เรียกผมว่าไทโยสิ ผมอยากได้ยินเสียงท่านเรียกชื่อผมด้วยเสียงนุ่ม ๆ เหมือนตอนท่านเทศนาเมื่อครู่นี้”


                  ฟุจิคิยืนตัวสั่น ทั้งโกรธทั้งอายแต่ก็ต้องระงับอารมณ์เหล่านั้นไว้ให้ได้ เขาเป็นนักบวชนะ อย่าลืมสิว่าต้องอดทนกับสิ่งยั่วยุทั้งปวง


                   “อย่ามายุ่งกับผม ขอร้องล่ะ”


                 ไทโยมองตอบเขาด้วยสายตาจริงจัง มือข้างหนึ่งคว้าข้อมือของฟุจิคิมายึดไว้


               “ผมเป็นคนจริงจังและเอาแต่ใจ ถ้าผมอยากได้อะไรไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ต้องได้”


                “ปล่อย”


                 ฟุจิคิพยายามบิดข้อมือให้พ้นจากไทโยแต่ไม่สำเร็จ มือแกร่งคู่นั้นเหนียวและแข็งแรงเกินไป ฟุจิคิคิดถึงดาบไม้ของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้เทวรูปองค์ใหญ่ หากมีมันฟุจิคิคงพอจะช่วยเหลือตนเองได้ แต่มันอยู่ไกลเกินกว่าจะเอื้อมถึง ไทโยมองเขาอย่างรู้ทัน


               “ไม่มีดาบท่านก็หมดทางสู้”


                เจ็บใจจนทนไม่ไหวฟุจิคิส่งกำปั้นด้วยมือข้างที่เหลือเข้าใส่ ในมหาวิทยาลัยนอกจากเป็นนักกีฬาเคนโด้แล้วเขาก็พอจะฝึกการต่อสู้มาบ้าง แต่ไม่นึกว่ามันจะใช้ไม่ได้ผลกับผู้ชายร่างสูงตรงหน้า กลายเป็นว่าไทโยรับหมัดของเขาได้และฉวยโอกาสยึดข้อมือเขาอีกข้าง ตอนนี้ฟุจิคิตกเป็นเบี้ยล่างโดยสมบูรณ์


                 “ปล่อยนะ”


                ฟุจิคิตกใจเป็นอย่างมาก  เขาดิ้นรนขัดขืนแต่มือของไทโยก็ยังยึดข้อมือเขาไว้ได้ ฟุจิคิจึงเปลี่ยนมาใช้ขาเตะเข้าที่ใต้เข่าของไทโย ฟุจิคิมองเห็นสายตาของไทโยสว่างจ้าขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนที่ไทยโยจะล้มลงมาบนตัวของฟุจิคิจนฟุจิคิกลับเป็นฝ่ายหงายหลังลงไปบนพื้นโดยมีไทโยทับลงมา


                  คราวนี้ฟุจิคิเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง ลำตัวหนาหนักทาบทับอยู่บนร่างของเขา แขนทั้งสองตรึงอยู่เหนือหัว ใบหน้าของไทโยอยู่ใกล้แค่คืบจนได้ยินเสียงลมหายใจของเขา ที่สำคัญดวงตาคู่นั้นเอาแต่จ้องมองใบหน้าของเขาทีละส่วนพร้อมประกายวาววาม


                  “ผมบอกให้ปล่อยผมไง คุณกำลังคุกคามผมอยู่นะ”


                 ฟุจิคิฝืนส่งเสียงแข็งหมายจะขู่ให้ไทโยปล่อย แต่ไทโยกลับคลี่ยิ้มอ่อนจนหัวใจของฟุจิคิเต้นระรัว


                 “ท่านต่างหากที่คุกคามผม เมื่อครู่ท่านเตะขาผมนะ ผมก็เลยเสียหลักล้ม”


                  พูดได้หน้าตาเฉยทั้งที่ความจริงฟุจิคิรู้ว่าไทโยจงใจ ฟุจิคิเกลียดความใกล้ชิดนี้ เพราะมันทำให้เขาเกือบจะลืมคำสอนทุกสิ่งที่เคยเรียนรู้ปฏิบัติมา


                  “ปล่อยนะ”


                  เสียงของฟุจิคิแผ่วเบาพลิ้วไหวเหลือเกิน คงเป็นเพราะใบหน้าที่ก้มต่ำลงมาเรื่อย ๆ


                 “ท่านชอบให้ผมกอด”


                 “ไม่จริง!”


                 ฟุจิคิเอียงหน้าหนีใบหน้าของไทโย แต่จมูกโด่งนั้นกลับคลอเคลียบนแก้มของเขาจนฟุจิคิตัวสั่น


                “อย่าปฏิเสธเลย ท่านมีปฏิกิริยาตอบโต้ผม”


                เกลียดน้ำเสียงยั่วเย้านั้นเหลือเกิน ฟุจิคิคิดจะหันใบหน้ากลับมาต่อว่า แต่กลายเป็นเข้าทางคนที่รอจังหวะนี้อยู่แล้ว ไทโยประทับริมฝีปากลงไปบนกลีบปากหยุ่นชื้นของฟุจิคิทันที เขากดน้ำหนักลงไปจนศีรษะได้รูปของฟุจิคิไม่สามารถเลื่อนหนีได้ ไทโยขบเม้มริมฝีปากนั้นและดูดเบา ๆ หลอกล่อให้ฟุจิคิคล้อยตามก่อนที่เขาจะช่วงชิงสอดลิ้นตามเข้าไปได้

                 ไทโยเองก็แปลกใจเหมือนกัน เขาไม่นึกว่านักบวชหนุ่มที่ไม่ประสีประสาคนนี้จะทำให้เขาติดใจจนเก็บไปคิดถึงตลอดทั้งคืน ไม่เคยมีใครมีอิทธิพลต่อเขาและทำให้ไทโยปรารถนารุนแรงเหลือเกิน


               “อึก อื้อ”


              ฟุจิคิดิ้นขลุกขลัก ไทโยก็ยังจูบเขาอย่างติดใจ คนถูกทับไว้ดิ้นรนด้วยความตกใจอยู่ครู่หนึ่งก็เริ่มหลงกลในรสจูบ แรงดิ้นลดน้อยถอยลงและยังเผลอไผลจูบตอบอีกด้วย ไทโยทดลองกดน้ำหนักลงไปที่สะโพก เขารับรู้ถึงการตื่นตัวของฟุจิคิไม่ต่างจากเขา มือแกร่งที่ตรึงฟุจิคิไว้จึงปล่อยท่อนแขนปวกเปียกนั้นเปลี่ยนมาวางอยู่ตรงผ้าคลุมจีวรผืนหนาและสอดมือเข้าไปช้า ๆ จนถึงเนื้อใน


                 “ยะ อย่า”


                 เสียงกระเส่าห้ามอย่างยากเย็น ไทโยไม่รู้ว่าฟุจิคิห้ามเขาหรือห้ามใจตนเองกันแน่ แต่ถ้าหากห้ามเขาก็คงจะห้ามยากสักหน่อย เพราะเขาเป็นคงมุ่งมั่นเสียด้วย

                มือร้อนหาทางสอดลึกเข้าไปในชุดนักบวชด้วยความไม่คุ้นเคย แต่ในที่สุดไทโยก็ทำสำเร็จ เขาสัมผัสถึงจุดอ่อนไหวในร่มผ้าของฟุจิคิและครอบครองมันไว้ด้วยมือของเขา ไทโยถอนปลายลิ้นออกจากปากและปล่อยให้ฟุจิคิพ่นลมหายใจออกมา ส่วนเขานั้นซุกหน้าอยู่ตรงซอกคอของนักบวชหนุ่มและเม้มปากลงไป


                 “อื้อ ไม่”


                 ฟุจิคิผวาเมื่อกลางกายถูกไทโยโยกรั้ง เขายกมือผลักไสไหล่กว้างที่หนักแน่นราวกับกำแพง ไทโยลากปลายลิ้นแตะต้องลงมาตามรอยแยกของจีวรจนพบเจอตุ่มไตเหนือทรวงอกของเขา ไทโยไม่รอช้าเขางับมันทันที

                   เสียงครางดังลึก ฟุจิคิไม่สามารถต่อกรได้อีกแล้ว เขาเพิ่งเคยประสบกับแรงราคะเป็นครั้งแรกและไม่นึกว่ามันจะหักห้ามใจได้ยากขนาดนี้ เขาหลงกลไปกับบาปที่ไทโยกำลังยัดเยียดให้เขา แต่บาปนั้นช่างหวานหอมเหลือเกิน


                  “ฮึก คะ คุณ”


                   ดิ้นรนอย่างทรมานในจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อ เบื้องหน้าคือสวรรค์ของร่างกายแต่คือประตูนรกเพราะโบยยินไปกับกิเลส ไทโยยิ่งผลักดันให้เขากระโจนลงหลุมแห่งบาปเมื่อปลายนิ้วร้อนบดบี้อยู่ตรงจุดอ่อนไหว


                 “ทรมานอย่างนั้นหรือครับท่าน ปลดปล่อยออกมาสิครับ ความสุขรอท่านอยู่แค่นี้เอง”


                “ไม่ ผมไม่... อย่านะ”


                  มือนั้นเร่งเร้าจังหวะแรงขึ้น ปลายลิ้นที่โลมเลียยอดอกก็ตวัดรัวเร็วมากขึ้น ฟุจิคิหมดความอดทน เขาเกร็งกายบิดเบี้ยวกัดฟันกลั้นเสียงอย่างยากเย็น


                     “ไม่ อ๊า”


                 ร่างเบื้องล่างเกร็งค้าง ดวงตาเบิกกว้าง เหงื่อหยดพราวเต็มหน้าผากเมื่อไทโยรู้สึกถึงความเปียกชื้นลื่นมือ เขาลอบยิ้มอย่างยินดีอยู่เหนือทรวงอกที่สอนให้ฟุจิคิได้รู้จักรสชาติแห่งความสุขสม เขาถอนมือออกมาจากร่างนั้นที่ยังหอบหนักอยู่บนพื้น ปลายนิ้วเปียกชื้นของเขาแตะลงไปที่มุมปากของฟุจิคิ


                “ผมบอกท่านแล้วว่าอะไรที่ผมต้องการ ผมจะไม่ปล่อยให้หลุดมือ”


                  ไทโยดันปลายนิ้วเข้าไปในโพรงปากของฟุจิคิดและกวาดมันไปทั่ว เขากระซิบเสียงทุ้มสะกดเข้าไปในจิตใจของฟุจิคิ ให้มันได้ฝังรอยลึกอยู่ในใจของนักบวชหนุ่ม


                “ท่านเองก็ต้องการผม จะหลอกตัวเองให้เหนื่อยทำไม หนีไปก็เท่านั้นเพราะยังไงผมก็จะตามหาท่านเพื่อให้ท่านเป็นของผมอยู่ดี”


                 ไทโยดึงนิ้วกลับ เขาลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าเข้าที่ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากวิหาร ทิ้งให้ฟุจิคินอนตัวสั่นอยู่ที่เดิม ฟุจิคิได้แต่แหงนหน้ามองเทวรูปที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ความรู้สึกของเขาทะเลาะกันเองจนปวดร้าว

                 ผู้ชายที่เดินหนีไปแล้วนั้นคือปีศาจร้าย เขามองเห็นถึงก้นบึ้งหัวใจของฟุจิคิและใช้มันหลอกล่อจนหลงกล ความละอายแก่ใจอาบอยู่ในหัวใจเมื่อฟุจิคิยอมรับว่าเขาปรีเปรมไปกับรสสัมผัสทั้งที่รู้ว่ามันผิด

                     ฟุจิคิไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรกับบาปที่เกาะอยู่ในหัวใจตอนนี้ดี




มีต่ออีกนิด...





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2018 02:24:38 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...



               “สรุปว่าฮายากาวะรุ่นลูกเขามาที่นี่ทำไมหรือฟุจิคิ นี่ ฟุจิคิ”


              ฟุจิคิสะดุ้งสุดตัวเมื่อบิดาเรียกชื่อเขาเสียงดังให้พ้นจากอาการเหม่อลอย ฟุจิคิปรับสีหน้าให้สนิทก่อนฝืนยิ้มให้บิดา


              “เอ่อ  ก็มาคุยเรื่องที่ดินนั่นแหละครับพ่อ”


              “ไม่ไหวเลย คิดจะเอาที่วัดไปเป็นของตัว บาปเหลือเกินคน ๆ นี้”


               ทาเคชิส่ายหน้าไปมา ฟุจิคิเม้มริมฝีปากเมื่อคิดถึงผู้ชายคนนั้นทั้งที่ผ่านมาหลายชั่วโมงจนถึงยามค่ำแล้ว ภาพใบหน้าแสนถือดีก็ยังปรากฏอยู่ในความคิดคำนึง


               “พ่อครับ ถ้าเรารักกับคนเพศเดียวกันจะบาปไหม”


                ทาเคชิขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำถามจากฟุจิคิ


                “ทำไมถามแบบนั้น”


                “ตอนนี้โลกของเราก็เจริญมากขึ้น อะไรมันก็เปลี่ยนไปหมด เอ่อ อย่างเรื่องความรัก ผมเห็นเขารณรงค์กันเรื่องความรักกับเพศเดียวกันไปทั่วโลก ก็เลยสงสัยว่าคำสอนของเราที่บอกว่าชายคู่กับหญิงเท่านั้นมันยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า”


                 ผู้เป็นบิดานิ่งคิดตามคำถามของบุตรชายพักใหญ่


                “ชินโตสอนให้เราอยู่กับธรรมชาติ มนุษย์คือธรรมชาติ และธรรมชาติสร้างให้มนุษย์มีสองเพศคือชายกับหญิง หากผิดจากนั้นมันไม่ใช่ธรรมชาติ ถือว่าเราทำบาปต่อคำสอน”


               ฟุจิคิกัดริมฝีปากตนเอง การต่อสู้ในจิตใจช่างยากเหลือเกิน


               “ที่พ่อพูดมันคือกายภาพที่ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง แต่เราจะไม่พูดถึงความรู้สึกนึกคิดบ้างหรือครับ ว่าบางครั้งเราอาจจะรักใครสักคนโดยบังเอิญว่าเขาเป็นเพศเดียวกับเรา รักที่เลือกไม่ได้ อย่างนั้นถือเป็นบาปไหมครับ”


                ทาเคชิจนต่อคำถามของบุตรชาย เขาเป็นแค่นักบวชสูงอายุที่เล่าเรียนสืบต่อกันมาจากรุ่นอดีต แต่กับคนที่ได้รับการศึกษาและได้รู้จักโลกที่กว้างกว่าอย่างฟุจิคิย่อมมีมุมมองที่คนแก่อย่างเขามองไม่เห็น


                “เฮ้อ พ่อตอบคำถามนี้ไม่ได้ ไม่เคยมีใครตั้งคำถามเช่นนี้มาก่อน แต่ตอนนี้พ่อคิดว่าเราควรจะเข้านอนกันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีแรงทำงานในวันสุดท้ายของเทศกาลไหว้ขอพรดวงอาทิตย์นะ”


                 ฟุจิคิก้มศีรษะให้บิดาก่อนจะก้าวเข้าสู่ห้องส่วนตัว เขานอนมองเพดานพลางยกมือก่ายหน้าผาก


                 ภาพของฮายากาวะ ไทโย ยังไม่เลือนหาย ฟุจิคิยอมรับว่าเขารู้สึกพิเศษกับชายผู้มากด้วยอำนาจคนนั้น เขาควรจะต้องตัดใจเพื่อไม่ให้มันลุกลามกลายเป็นบาปอันเลวร้ายยิ่งกว่าวันนี้

                ฟุจิคิปิดเปลือกตาลงอย่างยากเย็น







               สีหน้าของฟุจิคิไม่ดีนักในวันรุ่งขึ้น คงเป็นเพราะเขานอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน อาการปวดศีรษะแล่นมาเป็นริ้วแต่เขาจำเป็นต้องฝืนมาประกอบพิธีในวันสุดท้ายของเทศกาลที่มีชาวบ้านมารวมกันเกือบทั้งหมู่บ้าน เสียงสนทนาดังก้องอยู่ในวิหารกับหัวข้อสำคัญคือพฤติกรรมของฮายากาวะ ไทโย


                 “ท่านนายอำเภอบอกกับฉันว่า โครงการของฮายากาวะรุ่นลูกน่ะ จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นำเงินมาให้แถบนี้นะ แสดงว่าเขาก็ไม่ใช่คนเลวอย่างที่พวกเราคิดน่ะสิ”


                  “แต่เขาบังคับซื้อที่ดินนี่นา คนที่ทำแบบนี้ยังไงก็เลว”


                 “จะว่าไป ที่ดินที่เขาซื้อไปมันก็เป็นที่ดินที่เพาะปลูกอะไรไม่ได้อยู่แล้วนะ แถมเขาก็ให้ราคาสูงอยู่”


                “อ้าว แล้วสรุปว่าเขาดีหรือเลวกันแน่”


               ฟุจิคิเดินหนีบทสนทนานั้นเพื่อไปตีกลองเริ่มพิธี ขณะที่เขาจะเดินไปยังที่นั่งของนักบวชทุกคนในวิหารก็ต้องมองไปยังประตูเป็นตาเดียวเมื่อฮายากาวะ ไทโย ก้าวเข้ามาอีกครั้งในวันนี้ ฟุจิคิสะดุ้งเฮือกเมื่อสบตากับดวงตาที่จ้องมองมาที่เขา ชายหนุ่มรีบก้าวไปหาทาเคชิทันที


                “พ่อมาทำหน้าที่แทนผมที”


                ทาเคชิมองบุตรชายอย่างสงสัย ฟุจิคิรีบชี้ให้บิดาเห็นว่าใครที่ก้าวเข้ามาเป็นคนล่าสุด


                “ผมจะไปจัดการขั้นเด็ดขาดกับเขา จะได้จบกันไปเสียที”


                 พูดจบฟุจิคิก็รีบเดินไปขวางหน้าร่างสูงสง่านั้น


                “มาทำไมอีก”


                ไทโยกดยิ้มมุมปาก เขามองฟุจิคิอย่างมีนัย


                  “มาหาท่าน คิดถึง”


                ฟุจิคิหน้าร้อนเห่อ เขาคว้าแขนของไทโยได้ก็รีบลากให้คนบ้าคนนี้เดินตามออกมาจากวิหารทันที




                                                              TBC



                                                           จะรอดไหมน้า

                                            :m26: :m26: :m26: :m26: :m26: :m26:







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2018 02:29:30 โดย Belove »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โดนไทโยจับกินแน่

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รักแรกพบใช่ป่าวแบบเจอปุ๊บรักปั๊บ วู้อีโรติก

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อุ๊ย! จะรอดไหมน้า~ :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                            ตราประทับบาป

                                                                  บทที่ 3




               วัดแห่งนี้เป็นวันเก่าแก่มาหลายชั่วอายุคน มีการปรับปรุงมาหลายครั้ง วิหารด้านหน้าที่ใช้ประกอบพิธีกรรมอยู่ในตอนนี้สร้างขึ้นมาใหม่ไม่เกินสิบปี ถัดจากนั้นมีวิหารเก่าหลังเล็กทรุดโทรมที่ไม่ได้ใช้งานแล้วตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ฟุจิคิลากแขนให้ร่างสูงของฮายากาวะ ไทโยเดินตามเข้ามาในที่แห่งนี้โดยหวังเพียงจะเจรจาให้สถานที่เงียบสงบจากเสียงพิธีกรรมในวันสุดท้ายของเทศกาลไหว้ขอพรดวงอาทิตย์

              ฟุจิคิปิดประตูวิหารแล้วหันกลับไปเผชิญหน้า เขาสะดุ้งสุดตัวเมื่อสบตากับไทโยที่แวววาวเกินกว่าเหตุ เนื้อตัวของฟุจิคร้อนผ่าวไปหมดเพราะเขารู้ความนัยนั้นได้ และรสมือที่ส่งเขาไปสู่ขุมนรกแห่งราคะก็คือไทโยคนนี้


              “ทำยังไงคุณถึงจะเลิกมายุ่งกับผมเสียทีคุณฮายากาวะ”


               ฮายากาวะ ไทโยมองชายหนุ่มในชุดนักบวชพร้อมกับความปรารถนาที่พุ่งแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมความต้องการในตัวฟุจิคิถึงมากมายขนาดนี้ เขากลับไปนอนเพียงลำพังกับจินตนาการถึงนักบวชตรงหน้าด้วยความหงุดหงิด คนอย่างไทโยไม่เคยต้องอดทนแค่กระดิกนิ้วก็พร้อมจะมีคนทอดกายให้ตลอดเวลา แต่เขากลับมาต้องการนักบวชที่ไม่มีแม้แต่เส้นผมบนศีรษะได้รูปคนนี้


                   “ท่านยอมผมสิ แค่นั้นเอง”


                   “จะบ้าหรือไง คุณมันบ้าอำนาจ คิดจะใช้อำนาจของคุณข่มขู่เพื่อให้ได้ทั้งที่ดินและตัวผมอย่างนั้นหรือ”


                   ยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของชายผู้มีอิทธิพลทำให้ฟุจิคิใจสั่น ไทโยแข็งแกร่งเกินกว่าจะต้านทานได้ทั้งร่างกายและความรู้สึกที่พร้อมจะดึงไปสู่กิเลสตัณหา


                  “ใช่แล้ว ผมพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทั้งที่ดินและตัวท่าน”


                 การที่ฟุจิคิลากเขามาที่นี่ช่างเข้าทาง วิหารร้างปราศจากผู้คน มีเพียงสายตาของเทวรูปเก่าที่ตั้งโดดเดี่ยวเท่านั้นที่จ้องมองการกระทำของเขาอยู่ แต่ไทโยไม่ได้สนใจนัก บาปบุญคุณโทษอยู่ที่ใจหากเขาไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นบาปมันก็เป็นเพียงแรงปรารถนาที่เขาจะต้องคว้ามันมาให้ได้ ร่างสูงของเขาจึงก้าวเข้าไปหานักบวชในนิกายต่อหน้าเทวรูปนั่นเอง

                 ฟุจิคิเกลียดตัวเองที่เขายืนขาแข็งราวกับหุ่นเมื่อไทโยก้าวเข้ามาหยุดยืนในระยะประชิด จมูกโด่งของไทโยพอดีกับหน้าผากของเขาจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดลงมา ฟุจิคิถึงกับกลั้นหายใจเมื่อไทโยใช้ปลายนิ้วแตะที่ปลายคางและบังคับให้เขาเงยหน้าขึ้นสบตา บัดนี้ดวงอาทิตย์สว่างจ้ากำลังแผดเผาจนฟุจิคิร้อนรุ่มไปหมด

             ไทโยจ้องมองริมฝีปากอิ่มสีแดงสดด้วยความกระหาย หลังจากเคยลิ้มรสมาแล้วครั้งหนึ่งเขาจึงรู้ว่ามันหอมหวานเพียงใด มันทำให้ไทโยอยากจะครอบครองมันอีกสักครั้งและเขาก็ทำอย่างที่ต้องการ นิ้วสากเลื่อนจากปลายคางมนมาแตะต้องอยู่ตรงมุมปาก เขาลากนิ้วสัมผัสความหยุ่นชื้นนุ่มมือช้า ๆ ก่อนที่เขาจะบังคับให้ขากรรไกรนั้นเปิดทางเมื่อเขาประกบปากตนเองลงไป

               ฟุจิคิเบิกตากว้าง สัมผัสนั้นบางเบาไม่รีบร้อน แต่ทว่าแทรกความหนักหน่วงลงมาทีละนิด ปลายลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาตวัดพาลิ้นของเขาให้พลิกซ้ายพลิกขวาอยู่ในช่องปากจนฟุจิคิแทบจะลืมเลือนทุกอย่างแม้กระทั่งเสียงสวดมนต์ของพิธีที่ดังมาจากวิหารด้านหน้า หัวใจของเขาโบยบินไปกับการเรียกร้องจากไทโยให้เขาได้รับรู้ถึงความต้องการของตนเอง


                 “จูบนี้ของผมเป็นยังไงบ้าง”


                 ไทโยผละปลายลิ้นออกอย่างเสียดายเพื่อเปิดทางให้ฟุจิคิได้พักหายใจบ้าง หลังจากเขาจูบเนิ่นนานจนอีกฝ่ายเหมือนจะขาดใจ หากแต่เขาก็ยังไม่ยอมหนีหายเมื่อไล่ขบเม้มกลีบปากนุ่มอย่างติดใจ


                  “พอจะทำให้ท่านตัดสินใจได้ง่ายขึ้นไหมว่าท่านก็ต้องการผมเช่นกัน”


                  “ไม่ ไม่จริง”


                 ฟุจิคิหลับตาลงอย่างไม่ยอมรับความจริง ทั้งที่เขาเคลิ้มไปกับรสจูบเชี่ยวชาญนั่นจนอ่อนระทวย หากไม่ได้วงแขนของไทโยที่โอบรัดเอวของเขาไว้ ป่านนี้ฟุจิคิคงร่วงไปกองอยู่กับพื้นแล้ว


                 “ผมไม่....”


                 ปลายนิ้วอุ่นร้อนของไทโยแตะอยู่ตรงซอกคอ เขาไล่ปลายนิ้วลงมาตามชุดนักบวชจนถึงเชือกมัดเอว ฟุจิคิสะดุ้งเมื่อไทโยดึงมันออกจากกัน วันนี้เขาชำนาญในการถอดกว่าเมื่อวานจนในที่สุดเขาก็ทำให้ผ้าคลุมชั้นนอกหลุดออกจากนักบวชหนุ่มจนเหลือแต่ชุดสีขาวด้านในเท่านั้น


                  “ไม่ ฮายากาวะ”


                 “เรียกผมว่าไทโย” เจ้าของชื่อรีบแก้คำเรียก “ผมอยากให้ท่านครวญครางด้วยชื่อของผม”


                 ไทโยไม่สนว่าฟุจิคิต้องต่อสู้กับตนเองแค่ไหน เขารู้เพียงแค่ฟุจิคิเองก็มีใจให้เขา ไทโยมีหน้าที่ดึงให้ฟุจิคิยอมรับว่าทั้งคู่ปรารถนาซึ่งกันและกัน


                   ชายหนุ่มผู้มากไปด้วยเสน่ห์ท่วมท้นถอดเสื้อสูทราคาแพงของเขาโยนทิ้งลงพื้นอย่างไม่แยแส เสื้อเชิ้ตของไทโยถูกถอดออกจากกายท่อนบนจนมองเห็นรูปร่างสมบูรณ์แบบราวกับเทพเจ้า ดวงตามุ่งมั่นเอาชนะทำให้ฟุจิคิตกอยู่ในภวังค์ขณะที่ไทโยดึงแขนให้เขาขยับเข้าใกล้เพื่อจะปลดกระดุมชุดนักบวชสีขาวด้านในออกจนหมด เมื่อสาบเสื้อคลุมแยกออกจากกันเนื้อกายสีขาวนวลที่ซ่อนอยู่ในชุดนักบวชปรากฎให้เห็นชัดต่อสายตา ไทโยมองร่างขาวนั้นอย่างพอใจ เขาต้องการฟุจิคิจนแทบจะขาดใจแล้ว


              เขาช้อนอุ้มร่างที่ยืนแข็งทื่อของฟุจิคิขึ้นแล้วไปวางไว้บนแท่นสี่เหลี่ยมหน้าเทวรูปที่มีไว้สำหรับวางของบูชาเทวรูป หากแต่บัดนี้ทดแทนด้วยร่างของนักบวชในนิกาย ฟุจิคิเพิ่งจะรู้สึกตัวถึงการคุกคามเขาพยายามจะลุกจากแท่นนั้นแต่กลับมืออุ้งมือใหญ่มาบีบเบา ๆ ที่คอของเขาเพื่อปรามไม่ให้กระทำดังใจคิด


                   “ท่านหนีผมไม่รอดหรอกครับ”


                    ไทโยมองเขาด้วยดวงตาแห่งไฟ มือที่รัดอยู่ตรงคอร้อนผ่าว รวมถึงมืออีกข้างที่กอบกุมจุดอ่อนไหวของฟุจิคิไว้เป็นตัวประกันพร้อมกับเร่งเร้าความต้องการด้วยการบีบนวดไปมา ฟุจิคิเจ็บใจที่มันตื่นขึ้นมาจนเต็มอุ้งมือของไทโย


                   “ไม่ได้ มันเป็นบาป ผมจะทำบาปไม่ได้”


                  ฟุจิคิรับรู้ถึงไฟร้ายที่กำลังเกาะกุมทั้งหัวใจและร่างกายของเขา เปลวไฟร้อนแรงสีแดงสดคืบคลานเข้ามาทำลายความเงียบเหงาหนาวเย็นราวกับหิมะหนาบนยอดเขาที่ฟุจิคิอยู่กับมันมาตลอดชีวิตให้ละลายลงอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองต้นเหตุแห่งไฟเบื้องหน้าด้วยกายสั่นระริก


                  “ท่านต้องการผม”


                  มืออุ่นจนร้อนยอมปล่อยจากลำคอเอื้อมมาแตะแค่เพียงแผ่วเบาตรงบั้นเอวฟุจิคิก็ถึงกับสะดุ้ง เขาพยายามปัดมือร้อนออกแต่กระนั้นมันก็ยังคงกลับมาวางที่เดิมอย่างเอาแต่ใจ


                  “ออกไป ปล่อยผมเถอะ ผมไม่อยากทำบาป”


                  เสียงของฟุจิคิสั่นพร่า แหบต่ำ หาได้กังวานอย่างในเวลากล่าวคำสอนแก่ชาวบ้านให้ระลึกถึงบุญคุณของเทพเจ้า และสำนึกอยู่เสมอว่ามนุษย์ทุกนามล้วนแล้วแต่มีที่มาจากสรรพสิ่งในธรรมชาติของโลกที่ให้กำเนิด


                  “จะโกหกหัวใจตนเองไปทำไม ในเมื่อตอนนี้แม้แต่แรงห้ามท่านยังไม่มี”


                  ฮายากาวะ ไทโย บุรุษผู้มีบุคลิกร้อนแรงเจิดจ้าสมกับชื่อของเขาที่แปลว่าดวงอาทิตย์ จ้องมองฟุจิคิด้วยดวงตาคมปลาบล้ำลึกดุจจะถาโถมเข้าไปสู่กลางก้นบึ้งของหัวใจและกระชากฟุจิคิลงไปสู่หลุมดำมืดที่มีไฟร้อนแห่งบาปรออยู่ หากแต่ไฟอย่างไทโยนั้นก็ช่างเย้ายวนชวนให้กระโดดโลดแล่นไปกับความร้อนนั้น จนฟุจิคิหลงลืมไปแล้วว่าเขากำลังห่างไกลจากความถูกต้องมากขึ้นทุกที


                “ได้โปรดเถอะ ไทโย อย่าให้ผมต้องทำบาปไปมากกว่านี้เลย”


                  น้ำแข็งอย่างฟุจิคิละลายหมดสิ้นแล้วเมื่อในที่สุดร่างของเขาก็ทอดกายลงไปกับพื้นเย็นเยียบของแท่นประทับกลางวิหารเก่าที่เขามีหน้าที่ดูแลอยู่ รูปปั้นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ที่ตั้งตระหง่านกำลังเพ่งมองเมื่อไทโยถอดชุดนักบวชของฟุจิคิออกทีละชิ้นโดยที่เขาไม่อาจห้ามปรามได้ ลมหนาวลอดช่องว่างเล็ก ๆ ใต้ประตูเข้ามาอาบไล้ผิวกายเมื่อเขาและไทโยมีเพียงเนื้อหนังแนบสนิท แปลกที่แม้ภายนอกจะหนาวเหน็บเพราะละอองหิมะโปรยปราย แต่เขากลับร้อนรุ่มไปทั้งตัว


                 “อะไรคือบาป”


                  ไทโยกระซิบถามข้างหู ร่างกายแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยพละกำลังและอำนาจของหัวหน้ากลุ่มที่มีอิทธิพลสูงสุดในเขตคันไซกำลังบดเบียดลงมาด้วยแรงปรารถนา


                  “เรากำลังทำผิดธรรมชาติ ผมกับคุณเป็นผู้ชายทั้งคู่ เรากำลังทำผิดคำสอนของเทพเจ้า”


                    ฟุจิคิหลับหูหลับตาส่งเสียงโต้เถียง เขารู้สึกถึงการตื่นตัวเบื้องล่างที่ไทโยปลุกมันขึ้นมา


                     “ท่านจงมองตาผม”


                    ไทโยออกคำสั่งและไม่มีผู้ใดกล้าขัดขืนแม้แต่ฟุจิคิในตอนนี้ เขาเบิกตาอย่างหวาดหวั่นเพื่อจะพบกับนัยน์ตาที่แสดงถึงความต้องการอันแรงกล้าที่จะได้ครอบครองร่างกายของเขา


                  “ผมนี่แหละคือธรรมชาติของท่าน ท่านนับถือดวงอาทิตย์ไม่ใช่หรือ ผมนี่แหละคือดวงอาทิตย์ และท่านกำลังจะทำในสิ่งที่ใจของท่านต้องการ”


                  “ไม่!”


                  ปากปฏิเสธแต่การกระทำกลับตรงข้ามเมื่อไทโยที่ยืนอยู่บนพื้นโน้มตัวลงมา เขากว้านวงปากไปกับลานนมสีสวยบนแผงอกเนียนเรียบ มือไม้เกาะกุมจุดอ่อนไหวโยกคลึงอีกครั้งเพื่อให้ฟุจิคิลืมเรื่องทั้งหมด รู้สึกถึงร่างกายสั่นระริกแดงก่ำไปด้วยเลือดลมของวัยหนุ่มไทโยรู้ว่าฟุจิคิน่าจะพร้อมให้เขาได้ครอบครองทั้งกายและใจแล้ว





มีต่ออีกนิด....







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2018 14:30:08 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้...




               มือใหญ่ของไทโยโอบรัดต้นขาของฟุจิคิและดึงร่างนั้นเลื่อนต่ำจนเอวของฟุจิคิหยุดอยู่ตรงขอบของแท่นสี่เหลี่ยม จากนั้นไทโยจึงผลักต้นขาของฟุจิคิไปด้านบนจนมองเห็นช่องทางที่เขาจะพาตนเองไปสู่จุดหมาย ไทโยคว้าท่อนเนื้อของตนมาจ่ออยู่หน้าทางนั้นและเมื่อไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้เขาก็ดันเอวเข้าไปทันที


                “อึก เจ็บ”


                 ฟุจิคิกัดฟันกลั้นน้ำตากับการถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตจนไทโยต้องหยุดเมื่อเขาเข้าไปได้เพียงครึ่งทาง


                  “ใจเย็นนะ”


                   เขาปลุกปลอบพลางโน้มกายลงไปบดจูบกับกลีบปากแดงจัดเพราะแรงขบเม้มหนีความเจ็บปวด


                   “ผมจะไม่ทำให้ท่านเจ็บไปกว่านี้อีกแล้ว”


                      เมื่อส่วนที่กว้างที่สุดผ่านช่องทางเข้าไปได้แรงเกร็งกล้ามเนื้อจึงพอบรรเทาลงบ้าง ความคับแน่นของช่องทางและความไม่ประสาในการโต้ตอบทำให้ไทโยรู้ว่าเขาคือคนแรกที่ได้ครอบครองร่างกายนี้ ยิ่งทำให้เขาฮึกเหิมและต้องการฟุจิคิมากขึ้นไปอีก


                   “กอดผมไว้ ผมจะนุ่มนวลกับท่าน หนทางที่เราจะไปคือสวรรค์ไม่ใช่นรกอย่างที่ท่านเข้าใจ”


                    ไทโยแก้ความเข้าใจใหม่เมื่อฟุจิคิกำลังตกอยู่ในแรงปรารถนาที่เขาควบคุมอยู่ ดวงตาคู่หวานล่องลอยเจือไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยง ไทโยขยับเอวช้า ๆ เขาดึงแขนให้ฟุจิคิโอบรัดรอบลำคอ ท่อนขาเรียวนั้นเกาะเกี่ยวรอบเอวแกร่งเมื่อเขาเสียดแทงเข้าไปสู่ความร้อนระอุนั้น


                      “อึก ฮายา..”


                      “ไทโย เรียกชื่อผม”


                       “อ๊า ไทโยครับ ตรงนั้นเสียวมาก”


                     ฟุจิคิลืมเลือนไปหมดแล้ว ดวงตาของเขาลอยคว้างแม้จะสบตาอยู่กับเทวรูปที่ประทับเหนือแท่นนี้ ราวกับเขากำลังทำพิธีกรรมโดยใช้ตัวเองเป็นเครื่องบูชา


                  “ซี้ด แน่นมาก”


                  ไทโยเองก็แทบจะลืมทุกอย่าง ลืมว่าสิ่งที่เขาต้องการคือที่ดินส่วนหนึ่งของวัด ลืมว่าชายใต้ร่างคือนักบวช เขารู้แต่ว่าตอนนี้เขาหลงใหลไปกับเส้นทางสู่สวรรค์สำหรับเขาเสียแล้ว


                 “ไทโย อ๊า ทรมานเหลือเกิน”


                  ร่างกายของฟุจิคิบิดพล่านไปหมด เขาไม่รู้ว่าควรจะเรียกความรู้สึกในตอนนี้ว่าอะไร เหมือนเขากำลังตะกายออกจากที่คุมขังดิ้นรนสู่อิสรเสรีภาพ แรงกระแทกที่ไทโยกำลังทำอยู่คือหนทางนั้น ฟุจิคิเรียนรู้ที่จะพาตนเองให้พบแสงสว่างด้วยการขยับเอวรับแรงส่งจากไทโยจนได้ยินเสียงกระทบสะท้อนไปรอบวิหาร


                    “อา ฟุจิคิ ดีมาก โยกเอวแรง ๆ เลย”


                    ลมหายใจกระเส่าปะปนกับเสียงลมหนาวพัดหวิวไหวเบื้องนอก หากภายในวิหารร้อนรุ่มด้วยไฟแห่งราคะ ฟุจิคิสบตากับเทวรูปตรงหน้าอีกครั้ง


                    “ขออภัยที่ลูกหลงไปกับบาป แต่ลูกห้ามใจไม่ไหวแล้ว ตราบาปเหล่านี้มันหอมหวานเหลือเกิน”


                     ฟุจิคิส่งเสียงครางกระเส่า เขาผวาโอบรัดทั้งแขนและขาไปกับร่างของไทโย ดวงตาของเขาเบิกกว้างลอยคว้างขณะที่ร่างกายกระตุก น้ำแห่งบาปท่วมท้นทะลุจนเปียกชื้น


                      “อา สวรรค์”


                     ไทโยกลั้นใจเร่งจังหวะอีกไม่กี่ครั้งเขาก็ดึงกายออกมาจนน้ำทะลักเปรอะเปื้อนต้นขา เขาทิ้งกายไปกับร่างของนักบวชหนุ่มเมื่อพิธีกรรมบูชาดวงอาทิตย์เช่นเขาสิ้นสุดลง





            6 เดือนต่อมา


                   งานพิธีเปิดรีสอร์ทท่องเที่ยวเชิงนิเวศของเมืองนี้เป็นงานใหญ่ที่ใคร ๆ ก็อดพูดถึงไม่ได้ พื้นที่ของรีสอร์ทในส่วนการเรียนรู้ด้านเกตรกรรมส่วนหนึ่งได้การช่วยเหลือของวัดท้องถิ่นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คน


                  “ฮายากาวะรุ่นลูกก็ไม่เลวนะ”


                  “ที่ผ่านมาเข้าใจเขาผิดว่าจะฮุบที่ดินไปเสียทั้งหมด เฮ้อ พวกเรามันซื่อบื้อจริง”


                    เสียงพูดคุยของชาวบ้านที่ร่ำลือกันทำให้เจ้าอาวาสหนุ่มอดยิ้มไม่ได้ เมื่อนักบวชในวัดได้รับเชิญให้มาทำพิธีในงานนี้ด้วย


                   “ต้องเป็นเพราะท่านเจ้าอาวาสแน่ ๆ ที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป”


                   ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยชื่นชมให้ฟุจิคิได้ยิน


                   “ระยะหลังเขาเข้าวัดบ่อยขึ้น สนิทกับท่านด้วยนี่นา ท่านคงสอนศีลธรรมให้เขากลับใจเป็นคนดีใช่ไหม”


                   “นั่นสิ ระยะหลังพ่อเห็นเขามาไหว้พระที่วิหารเก่าบ่อย ๆ”


                    ทาเคชิผู้เป็นบิดาก็อดปลื้มไม่ได้ เมื่อได้ยินเสียงชื่นชมบุตรชายจากชาวบ้าน


                   “ทำไมไม่ให้เขาไปไหว้ที่วิหารหลังใหม่ล่ะ”


                   ฟุจิคิส่ายหน้าให้บิดา


                  “เขาศรัทธาเทวรูปที่วิหารเก่าน่ะครับ ไม่เป็นไร ขอให้เขาเชื่อในความดีจะวิหารเก่าหรือใหม่ก็ไม่เป็นไร”


                   “ดีแล้ว ขอให้เขาเป็นคนดี ไม่ว่าที่ไหนย่อมดีเสมอ พ่อภูมิใจในตัวลูกนะที่เปลี่ยนแปลงคน ๆ หนึ่งให้เข้าใจคุณงามความดีได้”


                    นักบวชหนุ่มลอบยิ้มให้ตนเอง เมื่อความจริงแล้วไม่ใช่ว่าไทโยเปลี่ยนแปลงเพราะเขา แต่เขาต่างหากที่เข้าใจชีวิตมากขึ้นเพราะไทโย บทสนทนาหยุดลงเมื่อชายหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลก้าวเข้ามาเอ่ยทักทายกับทาเคชิรวมถึงชาวบ้านที่เขาให้มาทำงานในรีสอร์ทช่วงหยุดจากงานเกษตรกรรม


                  “งานเสร็จแล้วผมจะไปไหว้พระนะครับท่าน”


                   เขาหันมากล่าวกับฟุจิคิ และในช่วงบ่ายร่างสูงก็เดินเข้ามาในวิหารเก่าที่มีฟุจิคิรอคอยอยู่แล้ว


                      เมื่อประตูวิหารปิดลง ฟุจิคิก็ก้าวเข้าสู่อ้อมกอดนั้นท่ามกลางสายตาของเทวรูปที่เป็นพยานรักกับพิธีกรรมบูชาดวงอาทิตย์ในแบบฉบับของไทโยเท่านั้นที่เป็นผู้ประกอบพิธีร่วมกับนักบวชที่เขาทั้งรักและหลงใหล ส่วนฟุจิคิก็ปล่อยให้ไทโยได้ตอกย้ำตราประทับบาปที่เขายินยอมทั้งร่างกายและหัวใจตลอดไป




                                                                     จบตอนจ้า



                                                  ฟินกับบาปบ้างหรือเปล่าเนี่ย รอบาปเรื่องใหม่เร็ว ๆ นี้

                                       
                                                                      :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10:







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2018 14:36:21 โดย Belove »

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มีความฟินกับฉากอัศจรรย์ คุณไทโยแอบมาทำบาปในวัด :katai3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เป็นเหมือนรวมเรื่องสั้นหรอไรท์ :hao4:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ขอไปชะโงกหน้าดูพิธีด้วยคนได้ไหมคะ 5555

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
บาปที่แสนหวาน เคลิ้มเหมือนติดที่ปลายลิ้น

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                          บาปกตัญญู

                                                              บทนำ



              นภวางมือลงไปแผ่วเบาบนร่างจ้อยที่อยู่ใต้ร่าง ยิ่งเปลือยเปล่าเช่นนี้เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าตะวันสมควรได้รับการทะนุถนอมแค่ไหน แล้วใครเล่าจะปฏิบัติเช่นนั้นได้หากไม่ใช่เขา

             ผิวกายขาวนวล หอมกรุ่นด้วยโลชั่นทาผิวทาทับด้วยแป้งเด็กกรุ่นกลิ่นหอมติดจมูก นภโน้มกายจูบที่ซอกคอหวานละมุนจนเจ้าตัวสะท้าน ดวงตากลมโตเหมือนมารดาจ้องมองอย่างสับสน แต่เขาจะไม่ปล่อยให้ตะวันคิดมากไปกว่านี้


              “คิดมากหรือซัน”


              นภกระซิบถามใกล้ใบหูก่อนจะขบเม้มเบาๆ มือร้อนของเขาลูบไล้ร่างที่เขาเคยอาบน้ำอุ้มชูตั้งแต่แบเบาะจนโตพอที่เจ้าของร่างจะดูแลตนเองได้ แต่ถึงกระนั้นบางครั้งเขาก็จะเข้าไปทำให้เหมือนเช่นก่อนหน้านี้


              “ครับ ซัน ซันรู้ว่ามันไม่ถูก เรา ไม่ควรจะ...”


                 เขาปิดปากช่างเจรจานั้นเสีย ตะวันพูดเก่งตั้งแต่จำความได้ นภคิดถึงปากแดงระหว่างแก้มยุ้ยที่มักจะคุยเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้เขาต้องตั้งใจฟังอยู่เสมอ

                 ปากเล็กเม้มหนีเล็กน้อยก่อนจะยอมเปิดทางให้นภตวัดลิ้นเรียวเล็กมาครอบครอง ร่างสูงใหญ่ของนภทาบทับจนร่างเล็กต้องยอมหยุดนิ่ง เขาจูบตะวันด้วยความหวงแหนอย่างเช่นทุกครั้งที่เขาสอนให้ตะวันจูบจนเคยปาก

               เขารักตะวัน เด็กน้อยคือแสงสว่างของชีวิต รักและห่วงจนกลายเป็นหวงแหนสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ สมบัติที่ไม่อาจแลกมาด้วยสิ่งใด สมบัติที่ภรรยายอมยกชีวิตตนเองให้เพื่อเป็นสิ่งแทนใจ นภรักษาสัจจะว่าจะดูแลสมบัติของเขาไปจนตาย


                สมบัติที่มีเลือดเนื้อของเขาอยู่ครึ่งหนึ่ง!


               “เจ็บไหมครับซัน”


                 นภปลอบประโลมเหมือนทุกครั้งที่ตะวันร้องไห้โยเย แต่วันนี้ตะวันเจ็บเพราะการกระทำของเขา รอให้ตะวันหายเจ็บเขาจะทดแทนด้วยความสุขสมในครั้งแรกที่จะสอนให้เด็กน้อยได้รู้จัก


                “อื้อ ซันเจ็บ แต่ อึก ตอนนี้มัน ฮือ...”


                 เขาจูบจนตะวันคล้อยเคลิ้ม ก่อนจะสอนบทเรียนเพื่อให้คนที่เขารักสุดหัวใจได้เรียนรู้ รู้ว่าร่างกายนี้คือของเขาทั้งตัวและหัวใจ ถึงแม้จะเป็นความผิดบาปแต่ตะวันจะเข้าใจในภายหลังว่าทุกอย่างคือความรัก นภมั่นใจว่าความกตัญญูที่เด็กน้อยมีต่อเขาจะทำให้เรื่องราวจบลงอย่างมีความสุข


                “เราทำความผิดกันนะครับ”


                เด็กน้อยในอ้อมกอดกระซิบเสียงแหบพร่าเมื่อเรียนรู้บทเรียนสำคัญในชีวิต


                “ซันไม่ชอบหรือครับที่เรามีความสุขกัน”


                 นภโอบกอดตอบขณะที่ตะวันหน้าแดงก่ำ


               “ซันมีความสุข แต่ซันรู้ว่ามันผิด ผิดเพราะเรา เราเป็นพ่อลูกกัน”


                นภเองก็รู้ แต่ใครเล่าจะดูแลหวงแหนตะวันได้ดีกว่าเขาที่เป็นพ่อแท้ๆและเลี้ยงตะวันมาตั้งแต่เกิด นภสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าเขาจะดูแลตะวันตลอดไป



                                                   TBC


                                             บาปอีกแล้วกู เฮ้ออออ


                            :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2:









ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
กรี้ดๆๆ ชอบค่ะ พ่อนภกับน้องตะวัน  :mew1:

ออฟไลน์ orloftin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรามันเป็นคลลลลลบาปปปปปปป
เราชอบอะไรบาปๆ หุหุหุหุ รอติดตามตอนต่อไปปป   
:katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด