น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 12 100%] 3/05/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 12 100%] 3/05/61  (อ่าน 28102 ครั้ง)

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 8 100%] 11/03/61
«ตอบ #120 เมื่อ11-03-2018 23:54:38 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 8 100%] 11/03/61
«ตอบ #121 เมื่อ12-03-2018 00:14:27 »

แท๊นนนนนนน

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 8 100%] 11/03/61
«ตอบ #122 เมื่อ12-03-2018 08:27:22 »

มิลค์ลูกกกกก อะไรจะซื่อเบอร์นั้นเนี่ย 5555

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #123 เมื่อ14-04-2018 00:28:04 »







09



                     คำพูดของแทนทำเอามิลค์ถึงกับนอนไม่หลับ... คนตัวเล็กได้แต่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง เพราะแค่ประโยคเดียวเท่านั้น แทนชอบพูดก้ำกวม จะชัดเจนเลยก็ไม่ใช่ ทำให้มิลค์ไม่มั่นใจว่าคู่จริงที่อีกฝ่ายว่าพูดจริงหรือว่าล้อเล่น



                นับตั้งแต่วันนั้นมิลค์ก็คิดว่าตนเองกำลังป่วยเป็นโรคประหลาด... เพราะแค่เห็นหน้าแทน เขาก็รู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมาแปลก ๆ มันไม่เหมือนกับบอยและก้อง เขามองแทนบ่อยขึ้น แต่มองได้ไม่นานนัก แค่ถูกแทนจับได้ว่าแอบมองอยู่ มิลค์ก็แทบอยากกลับหอทันที



                “อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าแอบมองเราอะ” จู่ ๆ แทนก็พูดขึ้นมา พร้อมกับหันมาสบตามิลค์กึ่งล้อเลียน ทำเอาคนมองถึงกับรีบโวยวายทันควัน



                “บ้า แทนมั่ว!” มิลค์เบิกตากว้างรีบปฏิเสธทันที



                “แน่ะ หูแดงด้วย” พอได้ยินอีกฝ่ายท้วงเข้าหน่อย คิวท์ บอยตัวเล็กรีบจับหูทันควัน ท่าทางเงอะงะของมิลค์ ทำเอาคนมองถึงกับอมยิ้ม “ทำเป็นสาวน้อยขี้อายไปได้ ชอบกันบอกกันดิ คนกันเอง”



                “แทนอย่าพูดมั่ว” คนอย่างมิลค์น่ะเหรอ จะตกหลุมรักแทนก่อน ไม่มีทางและถึงแม้จะมีวันใดที่เขาพลาดตกหลุมรักแทนก่อน มิลค์ก็จะไม่มีวันเป็นฝ่ายยอมพูดความในใจก่อนเป็นอันขาด



                 วันนี้ช่วงบ่ายเราต้องออกงานคู่กัน เป็นงานเปิดตัวร้านค้าที่เปิดสาขาใหม่ในห้างดัง ดารา คนดังมากมายต่างมาร่วมงานนี้ มิลค์และแทนไทก็ถูกเชิญเช่นกัน เพราะคนค่อนข้างให้ความสนใจกระแสคู่จิ้นเรา ชุดที่ทางทีมงานจัดเตรียมไว้ให้ เป็นชุดคู่กันสีขาวและดำ มิลค์ได้ชุดสีขาว แต่เขาอยากได้สีดำเลยงอแงยกใหญ่ ทำไมแทนถึงได้สีดำไป



                จริง ๆ ชุดสีขาวมิลค์ก็ไม่ได้มีปัญหาเท่าไร แต่ชุดสีดำที่ว่ามันเท่กว่ามาก เขาก็อยากใส่แบบเท่ ๆ เช่นอีกฝ่าย แต่เหมือนทีมงานไม่เห็นด้วย สุดท้ายแทนก็ยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ไม่ต้องพูดอะไรทุกคนก็พูดแทนความในใจเขาไปหมดแล้ว ของเท่ ๆ จะไปเหมาะกับคนน่ารักอย่างมิลค์ได้ยังไง



                 “พี่น้องมิลค์ยิ้มหน่อยค่า”



                “มองกล้องนี้หน่อยครับ”



                “พี่แทนพี่น้องมิลค์ชิดกันกว่านี้หน่อยนะคะ”



                “กรี๊ด เขินพี่แทน”



                “พี่น้องมิลค์น่ารักมากค่า” อีกหลายประโยคมากมายถูกพูดออกมา ซึ่งมิลค์ก็ฟังทันบ้าง ไม่ทันบ้างเช่นกัน ก่อนถึงเวลาเปิดงาน เราทั้งคู่จึงตัดสินใจมาหากลุ่มน้อง ๆ ที่แวะมาหาก่อน เป็นไปตามคาดเราถูกจับให้ถ่ายรูปคู่กัน บ้างก็ขอให้แทนบิดแก้มมิลค์ แต่เขาไม่ยอม เพราะนั่นไม่ต่างจากการเปิดช่องทางให้แทนได้แกล้ง



                “วันนี้พี่น้องมิลค์น่ารักมากค่ะ พี่น้องมิลค์เหมาะกับสีขาวมาก ๆ เลย”



                “ขอบคุณครับ แต่เมื่อกี้พี่เพิ่งงอแงอยากได้ชุดดำของแทนอะ มันเท่กว่าเยอะ” หลังจากถ่ายรูปคู่แทนพอเป็นพิธีเสร็จ มิลค์ก็เดินมาหากลุ่มแฟนคลับของตนเอง ซึ่งแทนก็แยกออกไปเช่นกัน



                “ชุดนี้เหมาะแล้วค่ะพี่ พี่น้องมิลค์มองกล้องนี้หน่อยนะคะ”



                “ครับบบ” คนตัวเล็กขานรับเสียงยืด พร้อมกับส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้กับกล้องที่น้องคนหนึ่งบอก บางคนเคยบอกว่ามิลค์หยิ่ง มิลค์ไม่รู้ว่าเขาเคยทำเช่นนั้นหรือเปล่า บางทีก็อาจจะใช่ แต่บางครั้งเขาก็ไม่ได้เดินเข้ามาเล่นกับกลุ่มแฟนคลับเช่นนี้ เพราะเพื่อความปลอดภัยของตนเอง



                “พี่น้องมิลค์ช่วงนี้ไปกับพี่แทนบ่อยไหมคะ” น้องคนหนึ่งถามขึ้นมา มิลค์ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบตามความเป็นจริง



                “ช่วงนี้ก็ไปไหนด้วยกันบ่อยนะ เพื่อนกลุ่มเดียวกันอะ” มิลค์ว่าตามความจริง ทำเอาน้อง ๆ ถึงกับอมยิ้มกันหมด



                “แล้วพี่น้องมิลค์ว่า พี่แทนไทหล่อไหมคะ”



                “หืม....” คราวนี้คิวท์ บอยตัวเล็กถึงกับลากเสียงยาว จะให้มิลค์เอ่ยชมแทนงั้นเหรอ “ก—ก็ดีครับ หล่อดี” คนตัวเล็กว่าเสียงแผ่ว พูดดังมากไม่ได้เดี๋ยวแทนรู้ว่ากำลังชมอยู่



                “เพิ่งเคยได้ยินจากปาก เขินจัง”



            “....!!” มิลค์ถึงกับหันขวับมองไปตามเสียงทันที แทนไทที่บอกว่าจะเดินออกไปคุยกับแฟนคลับกำลังยืนยิ้มละมุน มองเขาด้วยสายตาแพรวพราว



                 “ไหนบอกจะไปคุยกับแฟนคลับตัวเอง ฝั่งนู้นอะ” มิลค์ถามหน้านิ่ว พยายามเบี่ยงประเด็นออก แต่ดูเหมือนจะหลอกอีกคนไม่ได้ หน้าเขาเริ่มเห่อร้อนอีกครั้ง อาการใจเต้นแรง หูแดงกลับมาอีกแล้ว



                “คิดถึงคนฝั่งนี้เลยเดินมาหา”



                “กรี๊ด เขินแทนพี่น้องมิลค์”



                “หูยยย”



                “.....” แค่แทนพูดเช่นนั้น กลุ่มน้อง ๆ แฟนคลับก็ถึงกับหวีดวายทันที มิลค์ถึงกับพูดไม่ออกเหมือนน้ำท่วมปากไปแล้ว



                ยิ่งแทนส่งยิ้มมาให้ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกหน้าเห่อร้อนแปลก ๆ  มิลค์ก็ไม่ได้รับรู้อะไรอีกแล้ว หูอื้ออึงไปหมด



                “จะคิดถึงทำไม ก็เจอกันอยู่แล้ว” มิลค์ก้มหน้าลง พูดเสียงแผ่วเกาหลังคอแก้เก้อ พักหลัง ๆ ทำไมอีกคนถึงชอบพูดจาแปลกพิลึก หรือเพราะรู้ว่ามิลค์เริ่มคุยกับพี่ไบรต์ แทนที่กลัวถูกแย่งเพื่อนเลยพูดจาเช่นนี้ มิลค์ยอมรับว่าเขาไม่ชินจริง ๆ ปกติเรากัดกันทุกที พอแทนมาพูดเช่นนี้ทำเอาเขารู้สึกแปลก ๆ มันคล้าย ๆ ว่าเขิน

         

                “เข้างานเถอะ น้อง ๆ เจอกันงานหน้านะครับ อย่าลืมมาหาพวกพี่ด้วย ไม่ก็เจอกันเลิกงานวันนี้” แทนเป็นฝ่ายพูดคุยกับแฟนคลับก่อน เพราะมิลค์กลายเป็นใบ้ไปแล้ว อาการหน้าเห่อร้อนเล่นงานเข้าอย่างจัง ทำเอามิลค์ถึงกับพูดไม่ออก วางตัวไม่ถูก



                “ทำไมชอบพูดจาแบบนี้ ทีหลังห้ามพูดแล้วนะ” หลังจากที่เราเดินเข้ามาโซนจัดงานแล้ว มิลค์ก็พูดกับแทนทันที เขาไม่ชอบจริง ๆ ที่แทนพูดแบบนี้ สู้ไปพูดกัดกันเหมือนเดิมดีกว่า ถ้าจะทำให้เขาสูญเสียความเป็นตัวเองบ่อยเช่นนี้



                “อ้าว ไม่ชอบเหรอ” แทนไทถามหน้ายิ้ม



                “ไม่ชอบ... นี่เพราะเราไปคุยกับพี่ไบรต์ใช่ไหม แทนเลยเปลี่ยนไปน่ะ กลัวถูกแย่งเพื่อน? เพื่อนตั้งเยอะแยะจะหวงทำไม ทีพวกบอยก้องไปจีบสาวทำไมไม่หวงบ้าง” มิลค์ถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย มันต้องใช่แน่ ๆ



                “เปล่า เราหวงมิลค์ต่างหาก”

























                ในเวลางานมิลค์แทบไม่สนใจแทนเลย คนตัวเล็กหันไปมองกล้องตรงนั้นตรงนี้ หันไปยิ้มให้กับแฟนคลับ แต่ไม่คิดจะหันมาพูดกับเพื่อนคู่จิ้นสักประโยค ฝั่งแทนเองก็ไม่ได้กระเซ้าเย้าแหย่อะไร เราไม่ค่อยหยอกล้อกันในเวลางาน จะมีบ้างที่แทนแอบเป่าลมร้อนใส่หูมิลค์ ให้อีกคนสะดุ้งเล่น



                ประโยคหวงมิลค์ของแทน อย่าคิดว่าคิวท์ บอยตัวเล็กไม่รู้สึกอะไรเชียว เพราะเขารู้สึกมากจนไม่กล้าหันกลับไปมองต่างหาก แทนต่างจากเมื่อก่อน สังเกตได้จากคำพูดจาที่มักจะทำให้มิลค์เกิดอาการหน้าแดงได้เสมอ หากเป็นปกติคงได้แยกเขี้ยวใส่กันอยู่ร่ำไป



                “แน่ะ... ไม่หันมองกันเลย เขินเหรอ” ระหว่างที่กำลังนั่งดูโชว์จากศิลปินในงาน แทนไทก็กระซิบถามให้เราได้ยินกันแค่สองคน ใบหน้าหล่อผุดยิ้มขึ้นมา แม้มิลค์จะทำเป็นหูทวนลม ไม่ได้ยิน ไม่สนใจ แต่ใบหูของคนตัวเล็กกำลังอมชมพูระเรื่อ



                “.....”



                “หรือต้องพูดอีกทีว่าหวงจริง ๆ”



                “หยุดเลยแทน นี่เวลางาน” ในที่สุดมิลค์ก็หันกลับไปมองค้อนคนขี้แกล้งอย่างแทน อุตส่าห์จะไม่สนใจ แต่แทนกลับเย้าแหย่ไม่เลิกจนน่าโมโห



                หลังจากงานจบเราก็ออกมาพูดคุยกับคนที่มารอเราอีกเกือบสิบนาที มิลค์อยากจะขอบคุณทุกคนจริง ๆ เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนทุ่มเท รอพวกเขาจนถึงเวลาเลิกงานเช่นนี้ หลังร่ำลาแฟนคลับ ขอให้ทุกคนเดินทางถึงบ้านอย่างปลอดภัย ก็เป็นอีกครั้งที่แทนอาสามาส่งมิลค์ที่หอ



                ระหว่างทางกลับหอ แทนก็เป็นสารถีขับรถให้มิลค์นั่งตามเคย คนตัวเล็กก็นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างเมามัน ขณะที่แทนก็ขับรถไปเรื่อย ๆ



                “นี่ไม่คิดจะชวนคุยหน่อยเหรอ เราเหมือนคนขับรถให้เลยอะ” แทนพูดขึ้นขณะที่มองถนนข้างหน้าด้วย หลังเห็นมิลค์นิ่งก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์อย่างเดียว



                “อ้าว ก็ไม่ใช่เหรอ” มิลค์ถามเสียงซื่อพลางจอหน้าจอโทรศัพท์ไม่กะพริบ



                “เดี๋ยวเหอะ ขอมือหน่อยดิ”



                “จะเอาไปทำไรอะ โว้ย! มันดูไหมเนี่ย วิ่งเข้าไปตายเหรอ!” ขณะที่ถามแทนไป มิลค์ก็บ่นให้คนร่วมทีมไปด้วย เล่นเกมนี้ทีไรเขามักจะอารมณ์เสียทุกครั้งไป



                “เอามาช่วยตัวเองมั้ง”



                “อี๋! แทนทุเรศ” สาบานว่าหากมิลค์ไม่ติดว่ากำลังเล่นเกมอยู่ตอนนี้ เขาจะตบกบาลแทนเข้าให้ ข้อหาพูดจาลามก



                “เร็ว....ขอมือหน่อย” แทนไทเร่งเร้าให้อีกคนรีบส่งมือมือมา ชายหนุ่มแบมือข้างหนึ่งออกคล้ายจะขอมือมิลค์



                “แป๊บนะ จะจบเกมแล้ว” ช่วงโค้งสุดท้ายของเกม มิลค์ก็เร่งสปีดอย่างเต็มที่ ดวงตาเรียวจ้องหน้าจอโทรศัพท์อย่างขมักเขม่น ก่อนจะทิ้งตัวเอนลงเบาะเมื่อเกมสิ้นสุดลง คนตัวเล็กเหลือบมองมือที่ยื่นมาของแทนครู่หนึ่ง เกิดความลังเลว่าควรจะให้ดีไหม แต่สุดท้ายมิลค์ก็ส่งมือข้างหนึ่งให้ เพราะอยากรู้ว่าอีกคนจะทำอะไร



                “แทน!” มิลค์ถลึงตาใส่อีกฝ่าย ทันทีที่แทนได้มือมิลค์ไป อีกฝ่ายก็ทำท่าจะดึงมือคิวท์ บอยตัวเล็กไปลูบคล้ำบริเวณเป้ากางเกง ฝั่งแทนไทก็ถึงกับหัวเราะออกมา ชอบใจที่ได้แกล้งมิลค์ได้สำเร็จ



                “ล้อเล่น”

                “เดี๋ยวเถอะ” คนตัวเล็กมองอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ ก่อนจะหลุบมองมือของตนเองที่ถูกอีกฝ่ายจับไว้ข้างหนึ่งตลอดเส้นทางกลับหอ...



                อาการใจเต้นแรงของมิลค์มันเกิดขึ้นถี่จนน่ากลัวและมันเกิดขึ้นแค่กับแทนเท่านั้น จากที่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไร ตอนนี้เรากลับตัวติดกัน ไปกินข้าว ซื้อของก็เริ่มไปกันสองคนจนกลายเป็นว่าเพื่อนไม่ใช่สื่อชักนำอีกต่อไป



                “มิลค์...” แทนไทเรียกรั้งคนตัวเล็กไว้ มิลค์หันมองพร้อมกับทำหน้างง คนตัวเล็กสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีลังเล เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่กล้า



                “มีอะไร?” มิลค์ถามหน้างง เห็นแทนอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดเสียที เมื่อได้ยินเช่นนั้นฝั่งแทนไทสูดลมหายใจเข้าหนึ่งทีเพื่อตั้งหลัก ก่อนจะชูมือข้างหนึ่งขึ้นเอานิ้วหัวแม่มือมาจรดข้อแรกของนิ้วชี้ จนกลายเป็นการจีบมือคล้ายรำไทย



                  “จีบได้ปะ”



          “.....” ฝั่งมิลค์เมื่อเห็นถามแบบโต้ง ๆ ของแทนก็ถึงกับไปไม่ถูก ดวงตาเรียวจ้องหน้าแทนอย่างอึ้ง ๆ คิดไม่ถึงว่าแทนจะกล้าพูดออกมา ฝั่งแทนไทเองเห็นมิลค์เงียบไปก็เริ่มใจไม่ดี คงไปว่ามิลค์คงไม่โอเค



                 “ก็รีบลงมือสักทีดิ”

       

                   “.....”



                “รอนานแล้ว”



                มิลค์ - แทน

                1 - 0



                พอแทนไทได้ยินเช่นนั้นเขาถึงกับอมยิ้มทั้งคืน ในที่สุดก็มีความกล้าพูดมันออกไปเสียที หลังลังเลมานานว่าจะพูดไปดีหรือเปล่า หรือจะปล่อยให้มิลค์งง ๆ แบบนั้นตลอดไป



                จากตอนแรกที่คิดว่าจะไม่จีบเพราะคิดว่าตนเองแค่เอ็นดูเพื่อนต่างมหา’ลัยเท่านั้นก็แปลกไป ตั้งแต่ได้ยินว่ามีคนเข้าหามิลค์ เขาก็เริ่มใจไม่ดี แอบหยอดมาตั้งนาน ถูกใครไม่รู้มาแสดงความเจ้าข้าวเจ้าของ มิหนำซ้ำเพื่อนเวรยังเชียร์ออกหน้าออกตา ใครจะไปยอม



 

                นับตั้งแต่วันนั้นมามิลค์ก็ตั้งท่าหลบหน้าหลบตาแทนตลอด คืนวันนั้นคนตัวเล็กถึงกับนอนไม่หลับ เขาได้แต่ถามตัวเองในใจว่ามันดีแล้วหรือยังที่ยอมเปิดทางให้แทนจีบขนาดนั้น



                 เขาคิดไปต่าง ๆ นานาหากวันหนึ่งความสัมพันธ์เราพัฒนาไปถึงคนรักแล้วมันต้องจบลง เราจะมองหน้ากันติดไหม? เพื่อน ๆ จะเป็นยังไง เพราะความรักไม่ได้มีแค่เรา



                นานมากแล้วที่มิลค์ไม่ได้เปิดโอกาสให้ใครเข้ามา มีคนแวะเวียนเข้ามาในชีวิตมิลค์อยู่บ่อยครั้ง แต่เขาไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครจริงจังเสียที ด้วยทั้งเวลาและความไม่พร้อมด้วย



                 มิลค์ไม่ได้อ่อนหัด เขาเคยมีความรัก เคยมีแฟนสมัยมัธยม แต่ก็ไม่ได้มากมายเพราะตัวมิลค์เองไม่ชอบความรักแบบฉาบฉวยหรือการแข่งขันจีบกัน



                หลายคนที่เข้ามาเพราะอยากอวดเพื่อนว่าได้คุยกับมิลค์ เอาไว้ประดับโปรไฟล์ตัวเอง บ้างก็แข่งจีบกัน ดังนั้นมิลค์จึงไม่ค่อยอยากเปิดใจกับใคร เพราะบางคนก็เข้ามาเล่น ๆ ไม่ได้คิดจริงจัง ต่างจากมิลค์..เพราะบางทีมิลค์ก็เผื่อจริงจังไปกับความสัมพันธ์จอมปลอมแบบนั้นด้วย จนสุดท้ายเขาก็เจ็บคนเดียว



                เมื่อมิลค์เติบโตขึ้น เขาก็ได้เรียนรู้บางอย่างว่าอยู่คนเดียวมันก็ดี มิลค์มีเพื่อน มีแฟนคลับที่คอยดูแลกันตลอด ทำให้เขาไม่เหงาเท่าไรนัก ความรักมันจะดีจริงก็ต่อเมื่อมันทำให้ชีวิตพัฒนาขึ้น แต่หากการมีความรักแล้วไม่ช่วยอะไร หนำซ้ำยังบั่นทอนจิตใจกันอีก มิลค์ว่าเขาขออยู่คนเดียวดีกว่า





                การที่มิลค์เปิดทางให้แทนไทจีบใช่ว่าอีกฝ่ายจะมีโอกาสมากกว่าใคร ที่มิลค์เปิดทางจีบแบบนั้นก็เพื่อให้แทนเลิกคลุมเครือการเป็นเพื่อนหรือคนจีบเสียที ทุกครั้งที่แทนจีบ แทนหยอดใช่ว่าเขาไม่รู้ มิลค์รู้มาตลอด เขาอายุยี่สิบปีแล้ว ทำไมจะรู้ว่าคนไหนอยากเป็นเพื่อน คนไหนคิดจะจีบ เขาก็แค่ทำเป็นตามไม่ทัน เพื่อบังคับให้อีกคนชัดเจน และพูดมันออกมาว่าจะเอายังไงก็เท่านั้น























                “หลบหน้าแทนอีกละเหรอ ทะเลาะกัน?”





                “เปล่า ไม่ได้ทะเลาะ”



                “แน่นะ?” บอยหรี่ตามองอย่างจับผิด หลังสังเกตเห็นว่าสองคนนี้มักมีอาการแปลก ๆ ยามเจอกัน จึงอดคิดไปทางนั้นไม่ได้สองคนนี้ชอบตีกัน พอมิลค์บอกว่าไม่ได้ทะเลาะมันเลยดูแปลกไปหน่อย



                “อืม ไม่ได้ทะเลาะจริง ๆ” มิลค์ยืนยันอย่างไม่คิดอะไร พลางดูดน้ำดับร้อน เป็นแบบนี้ทุกที พอเข้าหน้าร้อนทีไหน ต้องหาน้ำติดตัวไม่ตลก ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือเมืองไทย มิลค์คงคิดว่าเป็นนรกแน่ ๆ





                แม้มิลค์จะบอกว่าไม่ได้ทะเลาะกับแทน แต่บอยก็ยังหรี่ตามองอย่างจับผิดอยู่ดี จนเขาต้องหันไปสบตาเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกันจริง ๆ บอยจึงก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ



                “งั้นก็ดีแล้ว นี่คุยกับพวกเพื่อน เราว่าจะจัดทริปไปเที่ยวทะเล”



                “เที่ยวทะเลเหรอ” มิลค์ถามอย่างสนใจ



                “อืม เราว่าพวกเราไม่ค่อยได้ไปไหนกันอะเลยว่าช่วงหยุดยาวไปเที่ยวกันตามต่างจังหวัดน่าจะดี มิลค์ว่าไง ที่บ้านจะติดไรปะ?”



                “อืม...น่าจะไม่มีนะ ว่าแต่จะไปเที่ยวทะเลไหน”



                “ไม่ระยองก็ภูเก็ตแหละ”













               

                “แหม...ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยน้า”



                “เสือก”



            “......” ตอนแรกจ็อบก็ตั้งใจจะแซวแทนไทเล่น แต่ไม่ทันได้อ้าปากเจอเพื่อนรักสวนกลับาก่อน ทำเอาชายหนุ่มถึงกับหุบปากฉับ ฝั่งแทนก็มองเพื่อนตาขวาง ก่อนจะก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังสนทนากับใครบางคนค้างไว้ต่อ



                “แทน”



                “ไร”



                “มึงคุยกันใครอะ”



                “คนรู้จัก”



                “ใครวะ”



                “กูว่ากูด่ามึงไปแล้วนะ ไม่สะทกสะท้านเลยหรือไง” แทนไทเงยหน้าขึ้นถาม ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องของเขา เพื่อนถึงได้ชอบสนใจนัก



                “ก็กูอยากรู้ สรุปมึงคุยกับใคร ยิ้มเขินแบบนี้คุยกับมิลค์หราจ๊ะ” จ็อบทำเสียงล้อเลียน คนที่ทำให้แทนเขินได้ พิมพ์ไปยิ้มไปก็คงมีอยู่ไม่กี่คนหรอก



                “ไม่ใช่เรื่องของมึง” ทว่าแทนไทก็ยังคงรักษาคาแร็กเตอร์ผู้ชายปากแข็งอย่างต่อเนื่อง เขาจะไม่มีวันบอกเด็ดขาดว่าตอนนี้กำลังคุยกับใครอยู่ เพราะขืนหลุดปากออกไป เจ้าพวกนี้คงแซวไม่หยุดแน่ ขนาดไม่ได้ทำอะไร ยังหาเรื่องแซวได้ทุกวี่ทุกวัน



                ว่าแล้วก็นึกเสียดาย หากเขาเลือกที่พูดคุยกับมิลค์ในเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจังตั้งแต่แรก คงไม่ต้องเสียเวลาทำคะแนนถึงขนาดนี้ ถ้ารู้ว่ามันจะดีแบบนี้เขาก็คงพูดไปตั้งแต่แรก เราจะได้เข้าใจตรงกันว่าแทนไม่อยากเป็นเพื่อนมิลค์



                 ยอมรับว่าช่วงแรก ๆ แทนก็เกิดความลังเลเหมือนกัน เขาไม่แน่ใจว่าตนเองแค่เอ็นดูมิลค์หรือมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันแน่ จนกระทั่งรู้ข่าวว่ามีคนมาจีบมิลค์ เป็นรุ่นพี่ต่างคณะที่คงฮอตน่าดู หนำซ้ำเพื่อนของเขายังเล่นด้วยนี่แหละถึงได้รู้ใจตัวเองว่าหวงมิลค์มากกว่าเพื่อน



                พอได้รู้ว่าตัวเองรู้สึกดีกับมิลค์มากแค่ไหน แทนก็ยิ่งหลง เขายังยืนยันว่ามิลค์เป็นคนน่ารักทั้งหน้าตาและนิสัย อีกฝ่ายสามารถทำมันออกมาได้โดยไม่ต้องเติมแต่ง แค่มิลค์แสดงความมีน้ำใจ เป็นห่วงเพื่อนก็ถือว่าน่ารักมาก ๆ แล้ว



                พอรู้จากกลุ่มเพื่อนมาบ้างว่ากลุ่มเรากำลังจะมีทริปเที่ยวด้วยกัน เห็นบอกว่าจะไปทะเล ตอนแรกแทนก็ว่าจะปฏิเสธ เพราะเขาไปบ่อยแล้ว แต่พอบอยบอกว่ามิลค์ไปด้วย มิหนำซ้ำยังสนใจทริปเที่ยวนี้มาก ๆ แทนจึงไม่ปฏิเสธคำชวน



                ปกติเจอกันก็ทะเลาะกันทุกที เถียงกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะ พอถูกเปลี่ยนเป็นสถานะไป การกระทำและอารมณ์ก็เปลี่ยนตาม แทนไม่สามารถปล่อยให้ความน่ารักของมิลค์ ไร้เจ้าของได้อีกต่อไป เขาก็ได้แต่หวังว่าทริปนั้นจะเป็นทริปทำคะแนนของเขา กระชับของเขา



                ....เผื่อความสัมพันธ์จะเลื่อนไปมากกว่าเพื่อน



                มิลค์อ่านข้อความแทนแล้วเผลอยิ้มมุมปากอย่างผู้เหนือกว่า คนตัวเล็กอ่านประโยคคำถามของแทนสองครั้ง ก่อนจะตอบกลับไป แม้ต่อหน้าเราจะไม่ค่อยได้พูดคุยกัน ต่างฝ่ายต่างทำตัวไม่ถูก แต่เราก็ยังคุยไลน์กันอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่มีแต่แทนทักมาก่อนทั้งนั้น ชนิดที่ว่าได้ทีแล้วเอาใหญ่



                แก้มเนียนถึงกับร้อนฉ่า เมื่ออีกฝ่ายพิมพ์ตอบกลับมาว่า ‘เย็นนี้ไปกินข้าวกันไหม ไม่ได้เห็นหน้าหลายวัน อยากเจอหน้า’ ดวงตาเรียวอ่านประโยคนั้นซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองหรอก แต่มิลค์คิดว่านี่ประโยคบอกคิดถึงกัน



                คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่ง คิดว่าจะต่อบทสนทนายังไงดี มิลค์เองก็อยากเจอหน้าแทนเหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากตกลงง่าย ๆ



     
          ‘เหมือนจะมีเรียนถึงเย็นอะ ขอดูก่อน’
[/i]



‘ไหนก้องบอก มิลค์ไม่มีเรียนตลอดบ่ายนี้’







                อ้าว...ก้อง



            เมื่อเห็นแทนตอบกลับมาเช่นนั้น มิลค์ก็ถึงกับหน้าเหวอไปชั่วขณะ แสดงว่าอีกฝ่ายศึกษามาดีแล้วว่าเขาว่างถึงได้ชวนกินข้าวแบบนี้

            ‘เหรอ’



           ‘ก็คงงั้นมั้ง เรารู้แค่ว่าไม่ค่อยว่างอะ’ มิลค์พิมพ์ตอบกลับไป แม้จะถูกก้องหักหน้าแล้ว แต่ไม่เป็นไร เขายังสามารถไปต่อได้


‘งั้นก็ไม่เป็นไร ไว้ไปกินวันอื่นก็ได้’



   
        ‘ไม่เป็นไร ถ้าแทนอยากกินข้าวกับเรามาก...’



            ‘เดี๋ยวเรายอมไปด้วยก็ได้’













_________________

#พี่แทนน้องมิลค์

ตอนแรกว่าจะมีอีกฉาก แต่ขอยกไปบทอื่นแล้วกัน

ฮือออ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2018 00:52:46 โดย Papa614 »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #124 เมื่อ14-04-2018 01:34:30 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #125 เมื่อ14-04-2018 06:47:13 »

ทำดีค่ะพี่แทนน้องมิลล์ :L2:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #126 เมื่อ14-04-2018 07:38:52 »

ความน้องมิลค์นี้ น่าเอ็นดูละเกินนนนน

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #127 เมื่อ14-04-2018 08:07:53 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #128 เมื่อ14-04-2018 10:14:40 »

ใครมันร้ายกว่ากันคะคุณพี่่่

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #129 เมื่อ14-04-2018 16:31:30 »

น้องมิลค์ก็ซึนเอาเรื่องอยู่นะคะ  :hao6: :hao6: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
« ตอบ #129 เมื่อ: 14-04-2018 16:31:30 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #130 เมื่อ14-04-2018 20:53:54 »

ทำดีมากน้องมิลค์ :mew1:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #131 เมื่อ15-04-2018 10:16:13 »

งื้อออออ น่ารักอ่าาาาาา เข้ามาลุ้นด้วยยยยย :impress2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #132 เมื่อ15-04-2018 21:53:31 »

ไอ้เราก้อนึกว่าน้องมึนจริง..ที่แท้ต้องการความชัดเจน  น่ารัก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 9 100%] 14/04/61
«ตอบ #133 เมื่อ16-04-2018 00:57:41 »

สู้ต่อไปครับน้องแทน น้องมิลค์ก็อย่างอนบ่อยนะ ^^

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 50%] 16/04/61
«ตอบ #134 เมื่อ16-04-2018 23:32:26 »



10

                เหมือนเหตุการณ์ฉายวนอีกครั้ง เมื่อเรานั่งกินข้าวกัน ทว่าครั้งนี้กลับต่างไปจากทุกที ต่างฝ่ายต่างเก้อเขินทำตัวกันไม่ถูก มิลค์ได้แต่นั่งทานข้าวอย่างเงียบ ๆ ส่วนแทนก็พูดน้อยจนนับคำได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามากันเพียงลำพัง แต่ทำไมทุกอย่างเหมือนกลับไปเริ่มต้นใหม่ ย้อนไปในจุดที่เราได้กินข้าวด้วยกันครั้งแรก



                แก้มนุ่มนิ่มสั่นไหวเล็กน้อยตามแรงเคี้ยว มันทำให้มิลค์ดูเหมือนเด็กอ้วน ดูเหมือนมิลค์เองก็เขินอยู่ไม่น้อย สังเกตได้จากอีกฝ่ายก้มหน้างุดจัดการอาหารตรงหน้าลูกเดียว



                เอาวะ!



                 “เรียนเป็นไงบ้าง” แทนเป็นฝ่ายชวนคุยขึ้นมาก่อน เมื่อเห็นว่าบทสนทนาบนโต๊ะดูเงียบเกินไป อะไรที่เคยคิดไว้ว่า หากเจอหน้ามิลค์จะชวนคุยเรื่องอะไร จะทำยังไงให้หวั่นไหว กลับกลายเป็นว่าเขาแทบลืมสิ้นไปหมด แค่ได้เห็นหน้าคนตัวเล็ก



                “ก็....เรื่อย ๆ”



                “แล้วเหนื่อยไหม?”



                “.....”



                “ถ้าเหนื่อย มิลค์ยังมีเราอยู่ข้าง ๆ นะ”



              “แทนพอเถอะ” นานนับนาทีกว่ามิลค์จะยอมพูดอะไรออกมา คิวท์ บอยตัวเล็กเงยหน้าขึ้นสบตาแทนไทอย่างเป็นจริงเป็นจัง “ถ้าจะจีบแล้วเปลี่ยนคำพูดเป็นหวานเลี่ยนแบบนี้ อย่าเลย เราขนลุก” มิลค์ว่าพลางลูบแขนตัวเอง เขายอมให้แทนกัด แซะเหมือนแต่ก่อนยังสบายหูกว่าอีก



                “ถ้ากลับเป็นคุยแบบเดิม เราก็ยังอยู่ในFriend zoneอะดิ”



                “จะกลับไปอยู่โซนนั้นได้ยังไง” มิลค์ทำหน้างง กลายเป็นว่าอาหารตรงหน้าเป็นหมันไป เมื่อเรื่องที่กำลังคุยสำคัญกว่า



                “ถ้ากลับไปคุยแบบเดิม เราก็จะเป็นเพื่อนกันตลอดไป มิลค์จะไปหวั่นไหวตอนไหน”



                “โอ้ย...ไม่เกี่ยวเลยคุยแบบเดิม เราก็หวั่นไหว” มิลค์โบกมือปัด ก่อนจะเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ดวงตาเรียวเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก หลังเผลอเผยไต๋ออกไป พอ ๆ กับแทนก็ชะงักไปครู่หนึ่ง



                “.....”



                “เอ่อ...เราหมายถึง ถ้ามีใจให้ ต่อให้คุยแบบเดิมก็หวั่นไหว” คิวท์ บอยตัวเล็กรีบขยายความ



                “แล้วตอนนี้มิลค์มีใจให้เราปะ” เหมือนยิ่งอธิบาย ทุกอย่างก็ยิ่งแย่ลง จนในที่สุดมิลค์ก็ถูกแทนไล่ต้อน จนเขาจวนจนมุมอยู่รอมร่อ คนตัวเล็กมีท่าทีอึกอักอย่างเห็นได้ชัด เริ่มลนลานว่าจะตอบยังไงดี ครั้นจะตอบว่ามี เดี๋ยวก็หาว่าใจง่าย หากตอบว่าไม่ เดี๋ยวก็บั่นทอนกำลังใจอีกฝ่าย



                “ก็ม—ไม่รู้ดิ” มิลค์ตอบเสียงแผ่ว หลุบตามองจานข้าวตัวเองแทนที่จะสบตาฝั่งตรงข้าม “ยังให้คำตอบไม่ได้”



                “.....”



                “เราไม่อยากให้ความหวังและก็ตัดกำลังใจนะ....แต่ว่าตอนนี้อย่าเพิ่งรุกหนักได้ไหม ขอเวลาตั้งหลักก่อน” มิลค์เอ่ยขอ หากแทนยังรุกหนักแบบนี้ต่อ เขาคงแย่....



            หัวใจพังแน่ ๆ



                 “ให้เวลาเราหน่อยนะ” เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะเป็นเพื่อนแล้ว แต่มันก็รวดเร็วไปหากจะพัฒนาไปถึงขั้นคนรัก มิลค์ไม่ได้หวงความโสด ใครเข้ามาเขาก็คุยได้ แต่ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้คบก็เพราะมีแต่คนไม่ชัวร์ทั้งนั้น ไม่ก็มีแต่คนแปลก ๆ และกับแทนเราเป็นเพื่อน(?)กันมาก่อน จะให้เป็นแฟนปุ๊บปั๊บเลยก็ไม่ใช่ ยิ่งเคยเป็นเพื่อน ยิ่งต้องดูให้นาน ดูให้ดี เพราะมิลค์เองไม่อยากเสียเพื่อนไป หากวันหนึ่งเราไปกันไม่รอด















                 

                การกินข้าวแบบเขิน ๆ ของเราสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี จนกระทั่งกินข้าวเสร็จต่างฝ่ายก็ต่างเขินกันไม่หยุด มันเป็นความสุขแบบเล็ก ๆ เพราะมันทำให้ทั้งมิลค์และแทนต่างยิ้มอย่างไร้เหตุผล



                หลังออกจากร้านอาหาร มิลค์ก็แวะไปซื้อสมุดบันทึกที่ช็อปญี่ปุ่นต่อ ตอนแรกคิวท์ บอยตัวเล็กก็บอกให้แยกกันตรงนี้ก็ได้ มิลค์อาจเดินไปซื้อของอื่น ๆ ต่อ แทนอาจไม่สะดวก แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอม ยืนยันว่าสะดวกและจะไปส่งมิลค์หอเอง จึงกลายเป็นว่าแทนเดินตามมิลค์ต้อย ๆ



                นอกจากของกินที่มิลค์ชื่นชอบ สิ่งหนึ่งที่เขาโปรดปรานตั้งแต่สมัยมัธยมก็คือเครื่องเขียน เขาชอบซื้อสมุดบันทึก เทปตกแต่งหรือไม่ก็ปากกาเน้นคำ ปากกาจดน่ารัก ๆ อยู่เสมอ มันเป็นความชื่นชอบโดยบังเอิญ เพราะช่วงมัธยมปลายมิลค์ต้องอ่านหนังสืออย่างหนัก ก็ได้เจ้าพวกนี้เป็นตัวช่วยจดช่วยจำถึงสอบได้



                “เพิ่งรู้ว่าชอบของแบบนี้ด้วย” แทนเดินตามเข้ามาในร้านอย่างงง ๆ ก่อนจะว่ามิลค์กำลังหยิบจับพวกเครื่องเขียนราวกับถูกใจนักหนา



                “อือ แต่นาน ๆ ซื้อทีอะ”



                “เออ ชอบของมุ้งมิ้งเข้ากับหน้าตาดี”



                “หน้าเราไม่ได้มุ้งมิ้งสักหน่อย” คิวท์ บอยตัวเล็กหันไปเถียงอีกฝ่าย



                “คนอะไรก็ไม่รู้ หนวดเคราก็ไม่ค่อยขึ้น ทอมปลอมตัวมาปะเนี่ย” แทนถามอย่างติดตลก



                “ตลกล่ะ” เรื่องหนวดเครานี่มิลค์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมของเขาถึงไม่ขึ้นเหมือนเพื่อน เวลาขึ้นทีก็ขึ้นนิดเดียว ซึ่งนั่นก็นาน ๆ เช่นกัน มิลค์มองว่าเป็นเรื่องดีเพราะมันทำให้เขาดูเหมือนเด็กมัธยม แต่มันทำให้เพื่อนเขามักแซวว่ามิลค์ยังไม่แตกหนุ่ม



                มิลค์เลือกซื้อของอีกสองสามชิ้น ก่อนจะเอาไปจ่ายเงิน เขาสั่งให้พนักงานแยกเป็นสองถุง ส่วนแทนไทก็ยืนรออยู่หน้าร้าน



                “ซื้อครบยัง”



                “ครบแล้ว”



                “ยังห้ามเลิกนะ”



                “ไม่ตลก” มิลค์เอ่ยเสียงแข็ง แทนไทนี่เผลอทีไรหยอดตลอด ฝั่งคนตัวสูงก็ได้แต่อมยิ้ม ก่อนจะชักชวนมิลค์ให้ไปที่รถ



                 ยิ่งช่วงเย็นคนก็ยิ่งมาห้างเยอะ บ้างก็เป็นนักเรียนนักศึกษา บ้างก็เป็นคนที่เพิ่งเลิกงาน ทำให้ห้างใจกลางเมืองเต็มไปด้วยผู้คน แทนได้แต่จับข้อมือมิลค์ไว้กันไม่ให้ล้ม เมื่อคนเบียดเสียดขณะที่กำลังข้ามถนนไปอีกฝั่งที่เราจอดรถเอาไว้



                แทนตัวสูงกว่ามิลค์มากเกิน เกิดปีเดียวกันทำไมขนาดตัวต่างกันเช่นนี้ ตอนประถมมิลค์จำได้ว่าเขาอยู่ปลายแถวตลอด เพราะตัวสูงกว่าใคร แต่ไม่รู้ทำไมพอถึงมอปลายมา ความสูงของเขาถึงหยุดไป รู้ตัวอีกทีก็ตัวเตี้ยกว่าเพื่อน สูงไม่ถึงร้อยแปดสิบด้วยซ้ำ



                “เหม่ออีกแล้ว คิดไรอยู่” แทนไทเอ่ยถามขณะที่เราอยู่บนรถ มุ่งหน้าไปส่งมิลค์ที่หอ



                “กำลังคิดว่าตัวเองหยุดสูงตอนไหนอะ ทำไมโลกไม่ยุติธรรม ไม่ให้ผู้ชายสูงเท่ากันหมด” มิลค์ตอบพร้อมกับบ่นอย่างตัดพ้อ หากโลกนี้ผู้ชายสูงเท่ากันหมด ไม่มีใครสูงกว่า ไม่มีใครเตี้ยกว่าก็คงจะดี



                “ก็โลกนี้สร้างผู้ชายอีกกลุ่มหนึ่งให้ถูกดูแลไง”



                “ตลกแล้ว โลกนี้สร้างผู้ชายทุกคนให้ดูแลผู้หญิงต่างหาก”



                “แล้วใครบอก” แทนเอ่ยถาม



                “ไม่มีใครบอก ของอย่างนี้ต้องรู้อยู่แล้วไหม”



                “ไม่เห็นยุติธรรมเลย... เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวจะได้ตีกัน....โลกนี้แบ่งผู้ชายออกเป็นสองส่วน” แทนพูดขึ้นมา ก่อนที่จะได้เปิดฉากตีกันบนรถ “ส่วนแรกคือผู้ชายที่มีหน้าที่ดูแลผู้หญิง ส่วนที่สองคือดูแลทั้งหญิงและชาย”



                “.....”



            “มิลค์คือส่วนแรก เราคือส่วนที่สอง”



            เราไม่ได้พูดกันหลังจากนั้น เมื่อจอดแทนมาจอดหน้าหอพอดี คิวท์ บอยตัวเล็กเกาจมูกแก้เก้อ ก่อนจะหยิบเอาถุงที่สั่งให้พี่พนักงานแยกให้ส่งให้แทน



                “....ให้” คนตัวเล็กล่าวเพียงสั้น ๆ มองถุงของแทนที่จะมองหน้าแทน



                “อะไร”



                “สมุด... เราซื้อให้ ขอบคุณที่กินข้าวเป็นเพื่อน มาส่งหอด้วย” มิลค์ว่าทั้งเขิน ๆ เพราปกติเรากัดกันตลอด พอให้มาพูดดีใส่กัน มันเลยดูแปลกไป



                “มิลค์เอาไปใช้เถอะ ไม่เป็นไร”



                “เราซื้อลายนี้แล้ว” คิวท์ บอยตัวเล็กว่าก่อนจะยัดเจ้าถุงนั่นใส่มือแทน



                “งั้นเหรอ...แสดงว่าใช้คู่กันน่ะสิ” แทนถามทั้ง ๆ ที่กำลังยิ้มอยู่



                “อืม คู่กันก็ได้”













 

                มิลค์กลับมาถึงห้องแล้ว คำพูดของแทนยังวนอยู่ในหูของเขาอย่างซ้ำ ๆ หัวใจมิลค์รู้สึกพองโตอย่างประหลาด นานเท่าไรแล้วที่มิลค์ไม่ได้รู้สึกกระชุ่มกระชวยเช่นนี้ คิวท์ บอยตัวเล็กได้แต่อมยิ้มอย่างไร้สาเหตุ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะอ่านหนังสือ เอาสมุดที่เพิ่งถอยใหม่ออกมากาง แล้วเขียนพฤติกรรมของแทนว่าวันนี้ทำอะไรให้เขาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการจับมือข้ามถนน เลี้ยงข้าว คำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกดี มิลค์จดลงไปหมดเลย



            แค่ได้ทบทวนทุกอย่างในวันนี้ หัวใจเขาก็อิ่มเอม หากวันหนึ่งมิลค์คบกับผู้ชายขึ้นมา มิลค์ไม่ต้องการให้มาดูแลเขาเหมือนผู้หญิงก็ได้ ขอแค่อีกฝ่ายอยู่ข้างกัน ให้กำลังใจกัน เพิ่มพลังงานให้กันและสม่ำเสมอเท่านี้ก็จะน่าเป็นคุณสมบัติแฟนมิลค์ได้แล้ว



                ขณะที่เขากำลังทบทวนเรื่องราวของวันนี้ลงใส่สมุดโน้ตอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีสายโทรมาพอดี มิลค์กดรับสายโดยไม่ทันได้มองหน้าจอ เวลาหัวค่ำแบบนี้น่าจะเป็นแม่โทรมา



                “สวัสดีครับ มิลค์พูดครับ”



                [มิลค์เหรอ.... มิลค์จริง ๆ เหรอ!] ปลายเสียงเป็นผู้ชายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทำเอามิลค์ถึงกับขมวดคิ้ว



                “ค—ครับ” มิลค์ขานรับอย่างไม่เต็มเสียง เขาไม่คุ้นเสียงของปลายสายเลย




                [อะ...อา] มิลค์ถึงกับนิ่งไป เมื่อได้ยินเสียงกระเส่าจากปลายสาย นอกจากนั้นยังได้เสียงขยับอะไรสักอย่างเป็นจังหวะ เหมือนอยู่ท่ามกลางน้ำที่เจิ้งนอง นั่นทำให้รู้ทันทีว่าเจอดีเข้าแล้ว คนตัวเล็กผละออกมามองหน้าจออีกครั้ง มันเป็นเบอร์แปลก หรือเพื่อนอาจแกล้ง? ซึ่งเขาอยากจะบอกว่ามันไม่ตลกเลย จังหวะที่กำลังกดตัดสาย ปลายสายก็ชิ่งตัดไปก่อน











____________

สกรีมแท็ก #พี่แทนน้องมิลค์

คนอ่านเขินไหม พาไม่รู้

แต่พาเขินมาก เขียนเองเขินเอง ขมวดคิ้วเป็นบ้าคนเดียว 55555

เรื่องนี้น่าจะมี20บทนะคะ /ยิ้ม

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 50%] 16/04/61
«ตอบ #135 เมื่อ17-04-2018 00:08:24 »

เจอโรคจิตซะแล้ว 5555555

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 50%] 16/04/61
«ตอบ #136 เมื่อ17-04-2018 01:05:11 »

อ๋าาา น้องมิลค์เจอดีซะแล้ว ทำยังไงดีเนี่ย

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 50%] 16/04/61
«ตอบ #137 เมื่อ19-04-2018 15:44:12 »

ใครอ่ะโครตน่ากลัวเลยนะถ้าเจอแบบนี้

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 50%] 16/04/61
«ตอบ #138 เมื่อ19-04-2018 16:59:04 »

พี่แทนช่วยด้วยยยน้องมิลค์เจอโรคจิต :z6:

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 50%] 16/04/61
«ตอบ #139 เมื่อ20-04-2018 00:27:25 »

ใครอ่าาาาา  :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 50%] 16/04/61
« ตอบ #139 เมื่อ: 20-04-2018 00:27:25 »





ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 100%] 22/04/61
«ตอบ #140 เมื่อ22-04-2018 16:57:29 »

     นับตั้งแต่วันนั้นมิลค์ก็นอนไม่ค่อยหลับ เรื่องนี้เขาไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนสนิท อย่างบอยและก้อง เอาจริง ๆ มิลค์รู้สึกว่าไร้สาระ ในใจก็แอบคิดในแง่ดีว่าเพื่อนอาจแกล้ง แต่ยังจับมือใครดมไม่ได้ก็เท่านั้น มิลค์คิดว่าหากเขาไม่ตอบโต้อะไรไป ไม่รับโทรศัพท์เบอร์แปลกหรือด่าไป ให้ฝั่งนั้นสนิทที่กวนประสาทมิลค์ ก็คงจะหายไปเอง



                ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่มิลค์ไม่กล้ารับเบอร์แปลก เขาลังเลทุกครั้งที่เห็นสายเข้าจากเบอร์แปลก พักหลัง ๆ มานี้มาเบอร์แปลกแบบไม่ซ้ำเบอร์ โทรเข้ามามิลค์ในแต่ละวัน ทุกครั้งที่โทรเข้ามา มิลค์ก็จะไม่รับสาย จนเพื่อนมักถามว่าใครโทรเข้ามา



                “อ้าว ไม่รับเหรอ” แทนไทเอ่ยถาม หันเห็นมีสายเข้ามาสองครั้งแล้วมิลค์กดตัดสายทิ้งทั้งสองครั้ง ท่าทางที่ต่างออกไป ทำเอาคนมองรู้สึกเป็นห่วงอย่างอดไม่ได้



                “สงสัยโทรผิด”



                “อ้าว... ยังไม่ได้รับเลย ไม่ใช่เขามีเรื่องเร่งด่วนเหรอ”



                “ไม่หรอก อย่าไปสนใจเลย ถ้ามีเรื่องเร่งด่วนคงโทรมาอีกล่ะมั้ง” มิลค์บอกปัด ๆ ไม่อยากบอกรายละเอียดอะไรให้มาก เพราะไม่อยากให้เป็นห่วง ฝั่งแทนก็พยักหน้าตามนั้น แม้จะสงสัยอยู่ไม่น้อย แต่ก็เลือกที่จะไม่ซักไซ้ต่อ



                “ถ้ามีอะไรก็บอกเราได้นะ” ลึก ๆ แล้วแทนก็ยังไม่สบายใจอยู่ดีเลยเลือกบอกแบบนั้นไป นี่ไม่ใช่การทำคะแนน แต่เพราะเขาเป็นห่วงมิลค์จริง ๆ



                “อืม ขอบใจมากนะ....ถ้ามีอะไร เราจะบอกแทนคนแรกเลย”



               

              “ถ้ามีโรคจิตโทรมา ให้ด่า”



            “ร้องซี๊ดกลับเลยค่ะ ซี๊ดดดมาซี๊ดกลับไปเลย”



            “เปลี่ยนเบอร์หนีมัน”



            “โทรแจ้งศูนย์”



            มิลค์อ่านข้อความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ในกระทู้หนึ่งที่มีโรคจิตลักษณะคล้าย ๆ กันแบบเขา ยิ่งที่เขาแย่กว่าเจ้าของกระทู้คือ โรคจิตที่ว่าโทรมาเข้ามาชนิดไม่ซ้ำเบอร์ หนำซ้ำน้ำเสียงยังแตกต่างกันไป เหมือนไม่ใช่คนเดียวกันอีก มิลค์ไม่รู้ว่าเบอร์เขาหลุดไปหรือยังไง แต่ที่แน่ ๆ ช่องทางการติดต่อเขาจะมีเฉพาะกับคนที่สนิทเท่านั้น



                อดคิดไม่ได้ว่าอาจมีคนโพสเบอร์เขาไว้ในเว็บเสียวอะไรเถือกนั้นหรือเปล่า มันทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ในเวลาเดียวกัน แล้วถ้ามีใครล่ะ? ทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร มิลค์เข้าใจมาตลอดว่าพวกโรคจิตแบบนี้ มักเจอในหมู่สาวสวย ๆ แต่ผู้ชายอย่างเขากลับโดนไปด้วยซะงั้น



                ยังไม่ได้คิดอะไร เบอร์มาที่ว่าก็โทรมาอีก คราวนี้มิลค์สะดุ้งจนนิ้วเผลอไปกดรับสาย คิวท์ บอยตัวเล็กเตรียมใจไว้เลยว่าต้องเจอเสียงซี๊ดซ๊าดอย่างที่เคยแน่นอน แต่ในขณะเดียวกันมิลค์ก็อยากรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร เอาเบอร์เขามาจากไหนกันแน่ จะได้จัดการได้ถูก



                บทจะเข้มแข็งก็เข้มแข็งขึ้นมาเสียอย่างนั้น เป็นไปตามที่คิด เสียงเหมือนคนขยับของบนน้ำเจิ่งนองดังขึ้น พร้อมกับเสียงคนสูดปากแล้วครางชื่อว่า...มิลค์ คนตัวเล็กปิดเสียงไว้ รอเวลาจนมั่นใจว่าปลายสายเสร็จแล้ว จึงเปิดสายแล้วถามทันที



                “ใครอะ”



                [น—น้องมิลค์ ซี๊ดดดดด อยากรู้จักกับพี่เหรอจ๊ะ อะ...อา] มันน่าสะอิดสะเอียดมิลค์รู้สึกเช่นนั้น แค่ได้ยินเสียงจากปลายสาย คิวท์ บอยตัวเล็กก็หน้าเหยเกโดยอัตโนมัติ



                “แหม่พี่....ถ้าอยากให้รู้จัก ต้องตอบคำถามผมมาก่อน.....” มิลค์มีสติมากพอที่จะไม่กดตัดสายไปก่อน เขาพูดเสียงอ้อน



                […..]



                “เอาเบอร์ผมมาจากไหนอะ”



            ติ้ด...ติ้ด...ติ้ด...

            ไม่ทันที่จะได้รู้ความจริง ปลายสายก็ตัดสายมิลค์ไปเสียงก่อน คิวท์ บอยตัวเล็กถึงกับทำหน้างง อุตส่าห์ใจดีเล่นเดียว แต่อีกฝ่ายกลับไม่หลงกลซะงั้น เขาลองโทรกลับดู ก็พบว่าปลายสายเข้าสู่ระบบฝากข้อความเสียงเสียแล้ว



                “อะไรวะ”



                คราวนี้ยิ่งทำให้มิลค์เครียดไปใหญ่ ตอนแรกอยากเป็นคนแมนจับโจรโรคจิตเพียงลำพัง แต่ดูเหมือนมันจะล้มเหลวและมิลค์ก็ไม่ได้เบาะแสอะไรคืบหน้าเลย นอกจากปล่อยให้เบอร์ตัวเองเป็นสนามความเสียวให้กับใครบ้างก็ไม่รู้



                มิลค์รู้ว่าหากปล่อยไปแบบนี้เขาจะแย่ เพราะบางครั้งคนที่ติดต่อเรื่องงานบางส่วนก็ชอบโทรเข้ามา มากกว่าการคุยกันผ่านไลน์ ซึ่งเพราะเกิดปัญหาทำให้มิลค์รับสายบ้าง ไม่รับสายบ้าง



                “หน้าตาเครียดจัง มีเรื่องอะไร” แทนทักถามอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ามิลค์ไม่เหมือนเดิม จริง ๆ ก็นับตั้งแต่วันนั้นที่มีเบอร์แปลกโทรมาเข้ามา แล้วมิลค์ไม่รับสาย เขาสังเกตอาการเพื่อนตัวเล็กมาโดยตลอด อีกฝ่ายชอบเผลอขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว พอถามก็บอกว่าไม่มีอะไรและครั้งนี้ก็เช่นกัน



                “ไม่มีอะไร”



                “แน่นะ? เหมือนมิลค์กำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่หรอก” มันไม่ใช่เหมือนอย่างเดียว แต่แทนมั่นใจว่ามิลค์มีเรื่อง จะให้พูดตรง ๆ คือช่วงนี้ เราตัวติดกันตลอด แค่คนข้างกายแปลกไปนิดเดียว เขาก็รู้สึกได้แล้ว



                “.....”



                “ยังได้ใช่ไหม มิลค์บอกว่าถ้ามีอะไรจะบอกเราเป็นคนแรก”



                “อือ เราจำได้”











               

                ตอนนี้สถานการณ์เริ่มหนักกว่าเดิม เมื่อฝั่งโรคจิตแอดไลน์มิลค์มา ซึ่งเขาเดาว่าแอดมาจากเบอร์ที่ได้ไป เขาเริ่มมีความคิดอยากเปลี่ยนเบอร์ แต่เบอร์ที่ใช้อยู่หากเปลี่ยนตอนนี้ก็เสียดาย เพราะมิลค์ใช้มันมานาน อีกทั้งเป็นเบอร์ที่เพื่อน ๆ รู้จักกันแล้ว



                อยากจะทำเป็นไม่เห็นไป ไม่ใส่ใจ ทำเหมือนโรคจิตไม่มีตัวตนในโลกเหมือนกัน แต่มิลค์ทำไม่ได้ แค่เรียนก็หนักเกินพอแล้ว เขายังต้องมาต่อกรกับเจ้าพวกนี้อีก



                คืนนี้เจ้าพวกเพื่อนขาเที่ยวออกไปอีกแล้ว กลุ่มเที่ยวว่ารวมถึงแทนด้วย มิลค์ก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากไปก็ไป แต่เขาเลือกอ่านหนังสืออยู่ในหอเหมือนอย่างเคย ใครจะเที่ยวก็เที่ยวไป แต่ถ้าเมาจนขับรถไม่ไหว ต้องมานอนห้องมิลค์ เขาจะบ่นเข้าให้



                ในขณะที่มิลค์กำลังอ่านสรุปอยู่นั้น เสียงไลน์ก็ดังขึ้นมาพอดี มิลค์เอือมไปเปิดดู ขณะสายตายังคงจ้องเลคเชอร์ของตัวเองอยู่ ตอนแรกมองในแง่ร้าย คิดว่าพวกโรคจิตส่งรูปของลับมาอีกแน่ ๆ แต่ในความจริงมันแย่กว่านั้น เมื่อฝั่งโรคจิตที่ไม่เปิดเผยตัว ส่งรูปหน้าห้องมิลค์มา



                ‘ใช่ห้องน้องมิลค์ คนสวยป่ะคั้บ’



            ‘จะมาหาน้องมิลค์ทุกคืนเลย’



            ‘อาบน้ำรอพี่ได้’



                คนตัวเล็กหัวใจกระตุกวูบ แค่ส่งรูปบ้า ๆ มาก็ประสาทจะกินแล้ว ยิ่งมาโดนคุกคามแบบนี้มันน่ากลัวเกินไป เขาไม่รอช้า มิลค์รีบปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วไปส่องตาแมวมองข้างนอกทันที เขาพบกับความว่างเปล่า ไม่มีใครยืนอยู่หน้าห้อง แต่ในตอนนี้มิลค์รู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว โรคจิตไม่มีได้รู้แค่เบอร์อย่างเดียว มันรู้ว่ามิลค์พักอยู่ที่ไหน แล้วอาจรู้ไปถึงข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ของมิลค์ด้วย



            ‘เดี๋ยวอีกสิบนาที จะไปหานะ’



            ‘เปิดประตูรอพี่ได้เลย’



            เมื่ออ่านข้อความจบ มิลค์ทั้งอึ้งและตกใจ นิ้วเรียวไล่รายชื่อผู้โทรออก กดหาแทนไทอย่างที่ใจนึก ความกลัวเริ่มเกาะกินใจมิลค์ จนในที่สุดขอบตาก็เริ่มร้อนผ่าวขณะเดียวกันก็รอให้แทนไทรับสายด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารายนั้นจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ไหม เพราะได้ยินคุยกันว่าจะไปผับ



                [ฮัลโหล ว่าไงมิลค์!] แทนไทตะโกนโหวกเหวกแข่งกับเสียงฟัง เจ้าตัวสบถคำหยาบนิดหน่อย ก่อนจะหาที่สงบ ๆ เพื่อคุยกับมิลค์



                “แทน! มาหาเราหน่อยได้ไหม” มิลค์ว่าทั้งน้ำตา เขามองประตูห้องอย่างหวาดระแวง มิลค์มองประตูห้องทุก ๆ สองนาทีด้วยซ้ำ



                [มีอะไรหรือเปล่า มิลค์ร้องไห้เหรอ] แทนไทถามเสียงตื่น



                “ฮือ...เราเหมือนมีโรคจิตกำลังตามเลยอะ แทนช่วย.....!”



                ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!


                มันมาแล้ว!







สกรีมแท็ก #พี่แทนน้องมิลค์


เอาแล้วววว ฮือ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 100%] 22/04/61
«ตอบ #141 เมื่อ22-04-2018 20:49:46 »

โอว..วววว โน!!!! แทนรีบมาด่วน  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 100%] 22/04/61
«ตอบ #142 เมื่อ22-04-2018 21:49:01 »

หืออออ เป็นโรคจิตที่น่ากลัวเกินไปแล้ว
รีบมาเร็วๆเลยแทน

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 100%] 22/04/61
«ตอบ #143 เมื่อ22-04-2018 22:15:12 »

:katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 100%] 22/04/61
«ตอบ #144 เมื่อ22-04-2018 22:46:13 »

แทนมาช่วยน้องงงงงงงงง

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 10 100%] 22/04/61
«ตอบ #145 เมื่อ22-04-2018 22:52:29 »

แทนช่วงเวลาทำคะแนนมาถึงแล้ว

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 11 100%] 23/04/61
«ตอบ #146 เมื่อ23-04-2018 22:00:12 »




11



                เมื่อได้ยินเสียงมิลค์ถึงกับถอยกรูไปชิดกำแพงห้อง ดวงตาเรียวมองประตูห้องอย่างหวาดหวั่น ขอบตาร้อนผ่าวเพราะความกลัวจับใจ พยายามตั้งสติแล้วคว้าโทรศัพท์มือถือที่เผลอปล่อยไปเมื่อครู่มาพูดคุยกับแทนต่อ เพราะอีกฝ่ายยังถือสายเขาไว้



                [มิลค์! มิลค์เป็นไรหรือเปล่า!] ฝั่งคนที่อยู่ในสาย ตะโกนเรียกชื่อมิลค์ด้วยความเป็นห่วง หลังเห็นว่าคนปลายสายเงียบไปยิ่งกังวล ประกอบกับเห็นความผิดปกติมาตั้งแต่วันก่อน ทำให้แทนเลือกที่จะออกจากผับ ตรงดิ่งไปยังรถ เพื่อไปหามิลค์ทันที



                “ท—แทน รีบมานะ ๆ” มิลค์ละล่ำละลักบอกปลายสาย พยายามควบคุมสติตัวเองให้มากที่สุด แต่มันน่ากลัวกว่าที่มิลค์เคยคิดไว้ เมื่อโรคจิตที่ว่ารุกล้ำความเป็นส่วนตัวของมิลค์มากเกินไป จนกลายเป็นว่าเขาหาความปลอดภัยในชีวิตแทบไม่ได้



                [แทนกำลังไปนะ อย่าเพิ่งวางสายจนกว่าแทนจะไปถึง]



                “อ—อือ รีบมา”  คิวท์ บอยตัวเล็กพูดกับปลายสาย ขณะที่จ้องประตูห้องไปด้วย



                ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!



                “อื้อ แทน!” มิลค์ตะโกนเรียกชื่อแทนไทอีกหน เมื่อเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นอีกแล้ว คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงเคาะธรรมดา แต่รวมไปถึงการเขย่าประตูห้องอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้มิลค์ประสาทเสียยิ่งกว่าเดิม



            ‘เปิดประตูสิ น้องมิลค์ของพี่’



            ‘พี่บอกแล้วไงว่าจะมาหา เล่นตัวไปได้’



                มิลค์เปิดอ่านข้อความแล้วแทบเป็นลม ใช่มันแน่ ๆ! ไอ้โรคจิตนั่นอยู่หน้าห้องเขาตอนนี้แน่ ๆ มิลค์กลัวจนไม่รู้จะกลัวยังไงแล้ว



                ตอนนี้มิลค์อยากเจอแทนให้เร็วที่สุด แต่ก็ไม่อยากเร่งอีกฝ่าย เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยด้วย คนตัวเล็กพยายามเค้นหาทางออกอีกครั้ง เขาควรจะทำอะไรได้บ้าง นอกจากขอความช่วยเหลือจากแทนเพียงฝ่ายเดียว ก่อนจะควานหาสมุดเล็ก ๆ ที่จดเบอร์ผู้ดูแลหอ หมายจะแจ้งให้อีกฝ่ายขึ้นมาจัดการ



                [มิลค์ แทนอยู่หน้าหอแล้วนะ] ไวอย่างใจอยาก รอเพียงไม่นาน คนที่มิลค์อยากเจอตัวมากที่สุดก็มาถึงหน้าหอแล้ว คนตัวเล็กรีบเปิดประตูหน้าต่าง โยนคีย์การ์ดอย่างที่เคยทำไปให้แทนทั้งน้ำตา



                เสียงเคาะประตูนั่นเงียบไปแล้ว มิลค์รวบรวมความกล้าลุกขึ้นไปส่องตาแมวดู เผื่อจะได้รู้ว่าไอโรคจิตนั่นเป็นใคร จะได้แจ้งความได้ถูกคน ทว่าเขาพบกับความว่างเปล่า ไม่มีใครรอเขาอยู่หน้าห้องเหมือนที่กลัว รอเพียงไม่นานแทนไทก็มาถึงห้องพร้อมกับป้าเจ้าของหอ



                “มิลค์!” แทนไทกระชากประตูห้องออก สวมกอดเพื่อนตัวเล็กเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง แค่เห็นว่ามิลค์ปลอดภัยเขาก็โล่งอกแล้ว รอยน้ำตา จมูกแดง ๆ คงบอกได้เป็นอย่างดีว่ามิลค์กลัวแค่ไหน



                “เกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มกระซิบถามคนตัวเล็กที่ยังอยู่ในอาการสั่นอยู่



                “เหมือนมีโรคจิตตามเราอยู่ มันรู้จักห้องเรา เมื่อกี้...เหมือนมันมาเคาะห้องเรา เขย่าประตูเหมือนจะบุกเข้ามา” มิลค์ว่าตามที่เจอ ให้ทั้งแทนและคนดูแลหอได้ยินพร้อม ๆ กัน



                “โรคจิตที่ว่า....คือคนที่ชอบโทรเข้ามา แล้วมิลค์ไม่รับสายใช่ไหม” แทนตั้งข้อสันนิษฐาน มันต้องเป็นคนเดียวกันแน่ ๆ



                “อือ...” มิลค์ขานรับไม่เต็มเสียงนัก ยอมจำนนแต่โดยดี หากตอนนี้มิลค์มีหูบนหัวเหมือนลูกหมา คงได้เห็นมันลู่ลงเป็นหมาหงอยแน่



                “แฟนผมโดนรุกล้ำความเป็นส่วนตัว หอไม่มีความปลอดภัยเลยเหรอครับ” แทนยังไม่เล่นงานมิลค์ แต่หันไปคุยกับคนดูแลหอแทน



                “อ—เอ่อ ทางหอเราจะมีกล้องวงจรปิดนะคะ แต่มีแค่หน้าประตูหอ เวลาเข้ามาในหอ ถ้าไม่มีคีย์การ์ดก็เข้ามาไม่ได้” คนดูแลหอพูดเสียงแผ่ว ทั้งยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะเข้ามาในหอ หน้าหอก็มียามรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว



                “แสดงว่าเป็นคนในหอ?” แทนว่า ก่อนจะหันหน้ามาถามคนข้างตัว “มีคนในหอที่มิลค์รู้จักไหม?”



                ฝั่งมิลค์เองก็นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่มีหรอก เราไม่ได้สุงสิงไปใครด้วย มาถึงหอก็เข้าห้องอย่างเดียวเลย” คราวนี้ถึงกับงานหยาบ หากคนนอกเข้ามาไม่ได้ ก็ชัดเจนว่าเป็นคนในแล้วจะหาคนร้ายได้ยังไง



                “งั้นเอางี้... พรุ่งนี้ต้องไปแจ้งความก่อน เก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ อย่าเพิ่งลบเอาไปแจ้งตำรวจ” มันเป็นสิ่งเดียวที่แทนพอจะคิดออกในตอนนี้ นี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้วจะปลุกคนทั้งหอ เพื่อตามหาไอ้โรคจิตนั่นก็ใช่เรื่อง  “แล้วป้าครับ ช่วงเวลาไม่นานมานี้ มีคนเพิ่งย้ายเข้ามาไหมครับ”



                “ช่วงสองสามเดือนมานี้ ไม่มีคนเข้ามาพักใหม่ค่ะ ตอนนี้หอเราก็เต็มด้วย”



                สุดท้ายทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันก่อน เพราะมันดึกแล้ว พรุ่งนี้เช้าแทนจะพามิลค์ไปแจ้งตำรวจไว้ก่อน หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันทัน คนตัวสูงเดินเข้าห้องพร้อมกับมิลค์ เพราะคิวท์ บอยตัวเล็กอ้อนขอให้ค้างด้วยสักคืน เนื่องจากยังขวัญผวาไม่หาย



                 หากเป็นปกติมิลค์คงอิดออดไม่ยอมให้แทนค้างที่หอแน่ แต่ตอนนี้คนตัวเล็กกลับพยักหน้ารับ กวักมือให้แทนเข้ามาในห้อง นอนเป็นเพื่อนซะงั้น



                “มิลค์ผิดสัญญานะ ไหนบอกว่ามีอะไรจะบอกคนแรกไง”



                “.....”



                “ต้องให้เกิดเรื่อง จนมันจะบุกเข้าห้องก่อนใช่ไหม ถึงยอมบอก” หลังเข้าห้องเรียบร้อย แทนก็จัดการสอบสวนมิลค์ทันที เพื่อนตัวเล็กได้แต่ก้มหน้าสำนึกผิด ไม่คิดจะเถียงอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพราะมิลค์ผิดคำสัญญาจริง ๆ



                “ก็ไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่แล้วมันจะรู้เรื่องเราเยอะขนาดนี้”



                “.....”



                “เราแค่คิดว่าเราจัดการเองได้ ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงก็เท่านั้นเอง”



                “แล้วเป็นไง จัดการได้ไหมล่ะ” แทนยืนกอดอก ย้อนถามเสียงเข้ม ทั้งห่วงและโมโหมิลค์ในเวลาเดียวกัน



                “...ไม่ได้” คิวท์ บอยตัวเล็กว่าเสียงแผ่ว เพราะเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ จึงก้มหน้าลงมองพื้นสำนึกผิดแต่โดยดี พยายามอย่างคิดที่จะกลั้นน้ำตา ผู้ชายที่เข้มแข็งต้องไม่ร้องไห้ “ทำอะไรเอง ไม่เคยได้สักอย่าง”



                ทันทีที่พูดจบประโยค น้ำตาหยดแรกหลังเพิ่งร้องไห้เสร็จ ก็ไหลหยดลงพื้นอย่างห้ามไม่ไหว ก่อนหยดที่สอง สามจะตามลงมาติด ๆ มิลค์เม้มปากแน่น ตัวเริ่มสั่นหลังร้องไห้ออกมาอีกครั้ง บางทีมิลค์เองก็รู้สึกเกลียดตัวเอง จัดการอะไรเองไม่เคยได้ ต้องให้คนอื่นเข้ามาช่วยจัดการ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นชีวิตของเขาเอง



                เหมือนมิลค์ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง....



            “ไม่ต้องร้อง ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ตอนแรกก็อยากดุมากกว่านี้เหมือนกัน แต่พอเห็นน้ำตาอีกคน แทนไทกลับดุไม่ลง สุดท้ายก็ดึงตัวมิลค์เข้ามากอดแล้วลูบหัวปลอบเหมือนเด็กน้อย “ก็แค่เป็นห่วง ที่หลังมีอะไรต้องพูดออกมาเข้าใจไหม”



                “.....”



                “อย่าคิดทำอะไรคนเดียว เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ ไม่ใช่มีแค่มิลค์ที่ควบคุมมันไม่ได้ ทุกคนก็เหมือนกัน มันอันตรายเกินกว่าที่จะจัดการเรื่องนี้เพียงลำพัง เข้าใจไหม” แทนอธิบายเหตุผลให้ฟัง หากเป็นสัตว์เราอาจรู้วิธีรับมือ แต่กับใจมนุษย์เราไม่มีทางรู้ว่าอันตรายมากสุดได้เท่าไหน โดยเฉพาะกับคนที่จิตใจไม่ปกติ



                “ถ้าไม่เป็นห่วง คงไม่โมโหแบบนี้หรอกนะ มิลค์มีแค่คนเดียวในโลกนะ” แทนว่าต่อ “อยากเป็นฮีโร่หรือไง จับโจรโรคจิตคนเดียว” เขาว่าติดตลก เพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กคิดมาก



                “ก็เปล่าสักหน่อย แค่คิดว่าจัดการได้”



                “ตัวกระเปี๊ยกเท่านี้ ยังอยากจับโจรโรคจิตด้วยตัวเองอีก”



                “ฮือ เราแค่สูงน้อยเอง แต่เราขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ” มิลค์เงยหน้าขึ้นสบตาอีกคน ปล่อยให้แทนเช็ดคราบน้ำตาออกแต่โดยดี “ต่อไปนี้จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว จะบอกแทนทุกเรื่องเลย”



                “เชื่อคำได้ไหมเนี่ย”



                “ได้ดิ คืนนี้เรานอนกอดกันนะ ๆ ขอโทษที่ทำให้โมโห”



                “พูดแล้วนะ ห้ามคืนคำและก็เลิกขอโทษได้แล้วไอ้ตัวเปี๊ยก พรุ่งนี้ก่อนไปเรียน เดี๋ยวจะพาไปแจ้งความ”





 

                “พอเห็นว่าโมโหแล้วอ้อนใหญ่เลยนะ” แทนว่าพร้อมกับยีหัวมิลค์ด้วยความเอ็นดู อ้อนที่ว่าไม่ใช่เอาหัวมาถูไถเหมือนลูกแมวเหมียว แต่เป็นการว่านอนสอนง่าย พูดเพราะไม่เถียง ไม่ดื้อ มองแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ



                ยิ่งมิลค์เสนอตัวให้เรานอนกอดกัน ยิ่งน่ารัก...



                “เปล่าสักหน่อย” มิลค์ปฏิเสธ



                “รู้งี้น่าจะโมโหทุกวัน จะได้อ้อนบ่อย ๆ”



                “ให้อ้อนบ่อย ๆ ก็ไม่ตื่นเต้นดิ” คิวท์ บอยตัวเล็กอมยิ้ม นาน ๆ ทีถึงได้อ้อนหนหนึ่ง ถ้าอ้อนทุกวันคงไม่ตื่นเต้นแน่ มิลค์สามารถอ้อนได้ทุกคน ไม่ใช่แค่กับแทน แต่บอย ก้องเขาก็ชอบอ้อน เวลาอยากให้พวกนั้นตามใจ



                ความหวาดกลัวโรคจิตเริ่มทุเลาลง เมื่อมิลค์รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว เสียงเคาะประตู ข้อความคุกคามทางเพศไม่ได้ส่งเข้ามาอีกแล้ว จริง ๆ แทนสามารถกลับที่พักเลยก็ได้ แต่มิลค์ก็อยากให้อีกคนอยู่ เพราะหากไอ้โรคจิตบุกรุกยามวิกาล อีกฝ่ายจะได้ช่วยเหลือเขาทัน



                กลีบปากเล็กเม้มแน่น เมื่อนึกถึงประโยคที่แทนพูดกับคนดูแลหอ แทนนี่เนียนได้โล่ อย่าคิดว่ามิลค์ไม่ได้ยิน เขาได้ยินเต็มสองรูหู อีกฝ่ายเรียกเขาว่าแฟน ฟังเผิน ๆ แล้วจั๊กจี้ยังไงไม่รู้ ถือว่าหยวน ๆ ยอมให้ไป เพราะอย่างน้อยอีกฝ่ายก็อุตส่าห์ละออกจากความสนุก มาหาเขา



                “รีบไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มานอนกอดกันสักที” แทนว่าด้วยสายตาแพรวพราวทำเอาคนมองถึงกับขนลุกซู่ ก่อนที่มิลค์จะพยักหน้ารัก ก้มหน้างุดเดินเข้าห้องด้วยใบหน้าแดงซ่าน



                เราเคยนอนกอดกันมาแล้ว แม้มันไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมมิลค์ถึงใจเต้นแรง แทนนอนรอเขาเหมือนครั้งก่อน  มองดูแล้วเหมือนเสี่ยนอนรอเด็กอย่างไงอย่างงั้น



                พักหลัง ๆ มานี้ ความเขินของมิลค์เกิดขึ้นบ่อยเหลือเกิน ตัวการเป็นคนเดียว คนเดียวเท่านั้นที่มิลค์คุยอยู่ จริง ๆ ก็ไม่เรียกว่าคุยเท่าไร เหมือนเพื่อนกัน แค่เรารู้กันว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดมากกว่าเพื่อนแล้ว



                “เสร็จยัง” คิดไปไม่นานเท่าไร แทนไทก็ตบที่ว่างข้าง ๆ ตัว เรียกมิลค์ถึงมานอน เป็นตุ๊กตานุ่มนิ่มให้ตัวเองได้กอด ฝั่งมิลค์เองก็เพิ่งอ่านเลกเชอร์จบ คิวท์ บอยตัวเล็กอยู่ชุดนอนของตัวเอง กางเกงขาสั้นกับเสื้อบอลตัวโปรด ทำเอาคนมองอย่างแทนถึงกับใจกระตุกวูบ อยากสวมบทเป็นหมาป่ากระครุบกระต่าย แต่ก็กลัวจะถูกงอนเข้า



                มิลค์รู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าเห่อร้อน เพราะถูกย่างก้าวที่เดินไปยังเตียง แทนก็จ้องตาไม่กะพริบ ไอ้ตัวเปี๊ยกของแทนเริ่มขบริมฝีปากยามรู้สึกประหม่า มิลค์จัดแจงที่นอนเสร็จสรรพ เรานอนแบบเดิมเหมือนครั้งก่อน หลังจัดแจงที่ได้แล้ว เจ้าของห้องก็เอื้อมมือไปปิดไฟ แล้วพลิกตัวไปกอดแทนไทเหมือนที่เคยทำ



                กลิ่นหอมอ่อน ๆ ในแบบผู้ชายของแทน ทำเอาคิวท์ บอยตัวเล็กแอบใจเต้นแรง กลิ่นกายคล้าย ๆ กับพ่อมิลค์ มันอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัย ท่อนแขนเล็กโอบเอวหนาเอาไว้ ก่อนจะบอกราตรีสวัสดิ์คนตัวโตเสียงแผ่ว พรุ่งนี้จะเอาไงค่อยว่ากันอีกที



 

                “งือ...มือ” ในช่วงที่ต่างคนต่างเผลอหลับไปแล้ว มิลค์ก็บ่นงึมงำ เมื่อสัมผัสได้ถึงฝ่ามือร้อนที่กำลังสัมผัสหน้าท้องของเขา



                “นุ่มดี ขอจับพุงหน่อย” แทนพูดเสียงแผ่ว มิลค์ปล่อยให้อีกคนกอดตัวเองจากด้านหลัง นอนจับพุงเขาเล่น ก่อนที่คนตัวเล็กหันไปกอดแทนเอาไว้ ใบหน้าเล็กแนบชิดกับแผ่นอกอุ่น ท่อนแขนกอดเอวแทนเอาไว้หลวม ๆ ขณะเดียวกัน คนตัวสูงก็กักร่างมิลค์เอาไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับดมกลุ่มผมนุ่มไปด้วย



                ไป ๆ มา ๆ เหมือนมิลค์ชอบสัมผัสจากแทน ได้นอนกอดแทนก็สบายไปอีกแบบ เพนสะตัวแทนใหญ่ เป็นหมอนข้างที่ดี เสียอย่างเดียวมือไว้ไปหน่อย แต่ก็พอต่อกรได้



                เช้าวันต่อมาแทนก็พามิลค์ไปแจ้งความตามที่พูดคุยกันไว้ มิลค์ได้ยื่นหลักฐานต่าง ๆ ให้กับทางตำรวจ ซึ่งทางตำรวจก็ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน พอเข้ามาถึงมอ มิลค์ก็โดนก้องกับบอยบ่นจนแทบไม่อยากฟัง เขารู้ดีว่าเพื่อนทั้งสองเป็นห่วงแค่ไหน จึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิด จนพวกนั้นเลิกบ่น



                “เนี่ย ดูละครเยอะไป จะจับโจรคนเดียว?”



                “ถ้าเรื่องไม่แดงขึ้นมาก่อนจะไม่บอกกันใช่ไหม”



                “คิดว่าเพื่อนช่วยเหลือไรไม่ได้เหรอ”



                “เปล่าน้า” มิลค์รีบส่ายหน้าปฏิเสธ เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองเริ่มน้อยใจแล้ว “เราก็แค่ไม่อยากให้เป็นห่วงกัน ไม่คิดว่ามันจะเล่นแรงแบบนี้อะ”



                “แล้วเป็นไงล่ะ นี่ถ้าไอ้แทนไม่ไปหา ไม่ใช่ป่านนี้มันบุกห้องได้เหรอ” บอยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ไม่อยากให้มิลค์คิดมากหรอก แต่ก็อดโมโหไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเล็กคิดอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมใครทั้ง ๆ ที่ปัญหามันไม่ใช่เล็ก ๆ



                “อย่าว่ามิลค์เลย นะ ๆ” มิลค์เกาะแขนเพื่อนสนิท พยายามอ้อนให้เพื่อนเลิกบ่น “ตอนนี้แทนก็พาเราไปแจ้งความแล้ว ทีหลังจะบอกทุกอย่างเลย”



                “เออ เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็ไอ้แทน”



                “อ้าว” แทนที่จะหายโมโห กลับกลายเป็นว่าบอยน้อยใจที่มิลค์ให้ความสำคัญกับแทนไทมากกว่าซะงั้น บอยยีผมเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นเขี้ยว ถ้ามีเรื่องแล้วไม่ยอมบอกกันอีก เห็นทีอาจต้องใช้ไม้แข็งกับมิลค์



            “แล้วนี่แจ้งตำรวจไปแล้ว เราสามารถทำอะไรได้อีก”



                “เขาบอกว่า ถ้ามันโทรมาอีกลองข่มขู่ไปดู มันใช้หลายเบอร์โทรมาก่อกวนและดูเหมือนไม่ใช่คนเดียวกันด้วยอะ” มิลค์ว่าพลางขมวดคิ้ว



                “ยังไง?”



                “ไม่รู้สิ เรารู้สึกเหมือนเบอร์ตัวเองหลุดอะ จริง ๆ เบอร์เราก็หาง่ายนะ เพราะใช้ติดต่องาน แต่ทำไมพวกโรคจิตถึงหาง่ายขนาดนั้น” ถ้าเป็นคน ๆ เดียวโทรมา เขาจะไม่สงสัยเท่าไร แต่มิลค์รู้สึกว่าเบอร์ตัวเองหลุดไปในกลุ่มโรคจิต



                “หรือว่ามีคนเอาไปให้พวกมัน” ก้องตั้งข้อสันนิษฐาน ซึ่งมิลค์ก็คิดว่าอาจมีส่วน “แล้วมันจะทำไปเพื่ออะไรวะ ?”



                “.....”



                “มิลค์เคยทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า”



                หลังจากเรียนเสร็จ มิลค์และพวกเพื่อน ๆ ก็ออกมาหาอะไรกินนอกมอ วันนี้เราเข้าร้านอาหารไทยกัน พอเป็นเรื่องของกิน คิวท์ บอยตัวเล็กก็เกิดอาหารดี๊ด๊าเป็นพิเศษ มีเพียงแค่ของกินเท่านั้นที่ช่วยให้มิลค์คลายความกังวลลงได้ คนตัวเล็กกินผัดไทร้านโปรดอย่างเงียบ ๆ พวกเพื่อนก็สั่งหอยทอด ก๋วยเตี๋ยวเรือคละกันไป



                ในขณะที่กินข้าวกันอยู่ แทนไทก็โทรมาพอดี ได้ความว่าอีกฝ่ายไม่มีเรียน ออกดูหนังกับจ็อบ พวกเราเลยนัดเจอกันอีกครั้ง พักหลัง ๆ มานี้เราแทบเจอกันทุกวัน หากเป็นแต่ก่อนมิลค์แทนเจอหน้ากันทีไร เพื่อนทั้งกลุ่มเตรียมปวดหัวกันได้เลย แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นอีกแล้ว...



                “แหม.... สายตาหวานเยิ้มเลยนะมึง”



                “ถ้ากินมิลค์ทางสายตาได้ คงกินนานไปล่ะ มึงกับโรคจิตนี่ใครอันตรายต่อตัวมิลค์มากกว่ากันวะ”



                “ปากหาเรื่องนะ ไอ้ก้อง” แทนหันไปมองค้อนเพื่อนปากมอม ก่อนจะหันไปมองมิลค์ต่อ แก้มนุ่มนิ่มพองเพราะกำลังเคี้ยวอาหาร มองแล้วดูน่ารักดีเลยอดใจไม่ไหวที่จะมองนาน ๆ



                ฝั่งเพื่อนก็มองสบตากันแล้วพยักหน้าอย่างรู้ ๆ กัน แต่ก่อนจับแยกแทบไม่ทัน ไอ้แทนไทแซะมิลค์ทุก ๆ สิบนาที จนคนดังประจำกลุ่มประกาศกร้าวว่าเกลียดแทนไทเข้าไส้ เวลาไหนนัดแทนไปกินข้าวด้วย มิลค์จะไม่ไปจนต้องขอร้องแกมบังคับถึงยอม แต่ตอนนี้อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปแล้ว แตะนิดแตะหน่อยปกป้องกันออกสื่อ มิหนำซ้ำยังแอบนัดเจอกันนอกรอบอีก



            มันน่านัก....



            “นี่ถ้ามึงจับโจรโรคจิตได้นะ คงได้ใจมิลค์ไปเต็ม ๆ” บอยอมยิ้ม รับรู้มาได้สักพักแล้วว่าสองคนนี้กำลังคุยกันอยู่ ในตอนแรกเห็นหลบหน้าหลบตาก็นึกว่าทะเลาะกัน ถามมิลค์ว่ามีอะไรหรือเปล่า เพื่อนตัวเล็กก็ปากแข็งไม่ยอมแพร่งพรายอะไรออกมา จนกระทั่งได้ถามฝั่งแทนไทถึงได้รู้ความจริง



                “ถามคนให้คะแนนกูโน้น” แทนโบ้ยมาทางมิลค์ ทำเอาคนถูกพาดพิงถึงกับห่อไหล่ หลังเพื่อนทั้งกลุ่มมองมิลค์ด้วยสายตาล้อเลียนจนเขาอาย



                เป็นอีกครั้งที่แทนไทอาสามาส่งมิลค์ พวกเขาและกลุ่มเพื่อนแยกย้ายกันตอนทุ่มกว่า ไปที่นั่นที่นี่ เล่นเกมร้านเน็ตกันจนเพลิน



                “อ้าว นี่จะมาค้างหอด้วยเหรอ” มิลค์เอ่ยถามอย่างงุนงง เมื่อเห็นภายในรถของอีกฝ่าย มีสัมภาระเหมือนจะไปค้างที่ไหนสักแห่ง ซึ่งมิลค์ก็เดาเอาว่าอาจเป็นหอตัวเองแล้วมันก็ใช่จริง ๆ ด้วย



                “ก็มิลค์กำลังไม่ปลอดภัยไง”



                “.....”



                “ถ้าไม่ยอมไปค้างที่อื่น เดี๋ยวเรามานอนเป็นเพื่อน ช่วงนี้มันอันตราย” แทนว่าเสร็จสรรพ ชายหนุ่มหยิบสัมภาระ พวกเสื้อผ้า ชุดนักศึกษาลงจากรถ หลังตัดสินใจแล้วว่าจะมานอนค้างกับมิลค์สักระยะ จนแน่ใจว่าพวกโรคจิตเลิกรำควานแล้ว



                จริง ๆ ชายหนุ่มได้ทำการชักชวนมิลค์ให้ไปพักที่คอนโดของตนเอง ตราบใดที่ยังหาโรคจิตหรือข้อยุติไม่ได้ และถ้ามิลค์ไม่สบายใจไปค้างคอนโดเขาชั่วคราว จะไปค้างหอบอยกับก้องก็ได้ แต่มิลค์กลับยืนยันว่าจะพักอยู่หอเดิม ป้าดูแลหอก็บอกว่าจะติดกล้องเพิ่มให้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ มิลค์จึงคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ถ้ามันยังไม่เลิก เขาคงต้องย้ายออก



                แต่ถึงอย่างนั้นแทนก็ไม่สบายใจ จนตัดสินใจย้ายมานอนกับมิลค์เอง



            “งั้นก็ตามสบายนะ เราไปอาบน้ำก่อน เหนียวตัว” เมื่อขึ้นมาถึงห้อง มิลค์แทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำในทันที ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแล้วยังต้องไปเรียน ไปนั่นที่อีก ทำให้เขาเหนียวตัวไปหมด ดีหน่อยที่ห้องมิลค์ เป็นห้องแอร์ เลยไม่ต้องลำบากอะไร แค่ไปต่อสู้กับอากาศข้างนอกเอา



                “อือ ให้อาบน้ำช่วยปะ”



                “ไม่ต้อง อาบเองได้!” มิลค์ว่าเสียงเขียว หันไปมองค้อนใส่อีกคน ก่อนจะคว้าเอาผ้าเช็ดตัว ชุดนอนเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้แทนไทนั่งรออยู่ในห้อง คนตัวสูงไม่รู้จะทำอะไร เห็นโทรศัพท์ของมิลค์วางไว้ จึงเอ่ยขออนุญาตเล่นโทรศัพท์ ซึ่งเจ้าตัวก็อนุญาต



                อันดับแรกแทนไทเข้าไปเช็กไลน์มิลค์ เห็นบอกว่าไอ้โรคจิต นอกจากจะคอยโทรหาแล้ว ยังชอบแอดไลน์ส่งรูปของลับ พร้อมข้อความเชิงล่วงละเมิดทางเพศมาอีกด้วย เขาอยากรู้ว่าวันนี้มันส่งมาอีกไหม



                และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ ไอ้โรคจิตนั่นส่งมาอีกครั้ง มันส่งมาหามิลค์ตั้งแต่บ่าย แต่คนตัวเล็กไม่ได้เปิดอ่านมัน มันไม่ได้ใช้รูปโปร์ไฟล์ตัวเอง เป็นแค่สีดำเท่านั้น แค่ได้เห็นรูปอวัยวะเพศของมัน แทนไทก็ถึงกับฉุนกึก ทำไมน้องมิลค์ของทุกคนต้องมาต่อกรกับพวกนี้ด้วย มันไม่ควรเลยสักนิด



                ‘น้องมิลค์ของพี่ ช่วยหน่อย’



         
  ‘ใช้ตีนกูแทนไหม?’



            ‘เล็กขนาดนี้ มึงอย่าเทียวส่งให้ใครอีกนะ’



‘กูว่านิ้วก้อยกูยังใหญ่กว่าของมึงอีก’



‘ ไอ้เวร เลิกยุ่งกับเมียชาวบ้านได้แล้ว เอาตีนกูไปช่วยก่อนแล้วกัน’


                หลังพิมพ์เสร็จ แทนไทก็ถ่ายรูปเท้าเป็นภาพประกอบ เท้าเขาใหญ่มิลค์ คงช่วยมันได้ถึงใจแน่ หลังจากที่แทนส่งไป ฝั่งนั้นก็เปิดอ่านทันที ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัว ทำไมมิลค์ต้องโชคร้าย มาเจอกับพวกแบบนี้ด้วย เมื่อคิดว่าอันไหนเลี่ยงได้ ไม่ให้อีกคนได้เห็น แทนไทจึงจัดการบล็อกผู้ใช้รายนั้นไปและลบข้อความสนทนาออกทั้งหมด





______________
สกรีมแท็ก #พี่แทนน้องมิลค์


อย่าลืมไปเล่นแฮชแท็กกันนะคะ
พี่แทนจัดการมันค่ะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 11 100%] 23/04/61
«ตอบ #147 เมื่อ23-04-2018 23:06:49 »

เต็มปากเต็มคำ ทั้งเมียทั้งแฟน
ถามพี่น้องมิลล์ยังคะ 5555555

 :hao6:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 11 100%] 23/04/61
«ตอบ #148 เมื่อ23-04-2018 23:44:21 »

 :mew1: :hao3:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: น้ อ ง มิ ล ค์ [บทที่ 11 100%] 23/04/61
«ตอบ #149 เมื่อ23-04-2018 23:51:15 »

ใครเนี่ย..ยยยยย มันน่านัก  :fire: :fire: :fire:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด