Tasty Blood เลือดหวานของผม ❤
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Tasty Blood เลือดหวานของผม ❤  (อ่าน 38333 ครั้ง)

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ้าว งงเฉยเลย ดราม่ามาไง

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เอ้า ดราม่าหายไปเฉย แต่แบบนี้ก็ดีนะคะ ชอบ เพลิน

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
รอเมลตัวโตอยู่นะ ถถถถ

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ้าว เมลหลับได้เว้ย แค่ต้องเมาก่อน

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
หมายความว่าเขาตาย แปลว่าอะรายยยยยยยยยยย หือออออ ค้างคา อยากเผือกมาก รอค่ะรอ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
มาเม้นให้กำลังใจคนเขียน   

ถามก่อนดราม่าหรือเปล่าเรากลัวม่า :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

เนื้อหาดีภาษาสวยนะ เราชอบ รออ่านตอนต่อไปเลย สู้ๆน๊า o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ Reddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นนิยายที่ดี่มากเลยค่ะ จนเราต้องสมัครเพื่อมาเม้นเป็นคนอ่านเงานิสัยไม่ดีมานาน เราลุ้นตลอดเลยค่ะว่ามันจะเป็นยังไงอะไรแบบไหน ชอบมากนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
มานั่งรอค่ะ อย่าม่าเยอะนะ เรากลัวมาม่า 55555


สงสารน้องเมลเนอะ สงสารพี่ไอซ์ สงสารลูซด้วยฮืออออ ทำไมเรื่องนี้มีแต่คนน่าสงสาร  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ janeta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-2




(คิดถึง มาหาหน่อยสิ)


“ตอนนี้เราพาคุณปู่มาตรวจสุขภาพน่ะ” เมลมองห้องพยาบาลที่ปู่ของเขาเข้าไปพลางนึกถึงคนเพิ่งสร่างไข้ที่กลับไปพักที่บ้านเรียบร้อยแล้ว


(งั้นเดี๋ยวไปหานะ)


“เอ่อ ไว้คราวหน้าได้ไหม เดี๋ยวคุณปู่ก็ออกมาแล้ว”


(นี่นายคราวหน้ามาสองอาทิตย์แล้วนะเมล อาทิตย์ที่แล้วนายก็ไปต่างประเทศกับครอบครัว วันก่อนก็เข้าไปโรงงานอะไรก็ไม่รู้กับพี่ชาย วันนี้ก็ไปกับคุณปู่อีก นายไม่มีเวลาให้ฉันเลยนะ)


“เอ่อ...”


(ไม่ชอบกันแล้วก็บอกมาดีๆ อย่ามาให้ความหวังกันแบบนี้สิ...ติ๊ด) ไอซ์พูดเสียงเหนื่อยๆ ก่อนสายจะตัดไป


“หืม” เมลกดโทรกลับไปหาไอซ์แต่กลับกลายเป็นระบบฝากข้อความแทน


“เมล ปู่ให้หมอตรวจเสร็จแล้ว กลับบ้านกันเถอะ”


“เอ่อ...ครับ”


“ทำไมทำหน้าแบบนั้น เป็นอะไรหรือเปล่า”


“ผม...” เมลก้มมองมือถือของเขาที่หน้าจอดับไปพอดี “อ้าว ดูเหมือนแบตจะหมดครับ”


“ยืมของปู่ก่อนไหม มีธุระด่วนหรือเปล่าปู่กลับเองได้นะ”


“ไม่หรอกครับ เดี๋ยวผมไปส่งปู่ก่อนก็ได้” เมลพยักหน้ากับตัวเอง เดี๋ยวเขาค่อยไปง้อไอซ์ที่บ้านก็ได้นี่นา


เขาขับรถไปส่งปู่ที่บ้านก่อนจะขับออกไปยังเส้นทางที่จุดหมายเป็นบ้านไอซ์


“ไอซ์เหรอจ๊ะ เห็นรีบร้อนขับรถออกไปน่ะ ดูสิมือถือก็ไม่ได้เอาไป” เมลมองมือถือที่เสียบชาร์จอยู่ แต่เจ้าของกลับไม่อยู่บ้านก็เริ่มกังวลใจ


ไอซ์คงไม่โกรธที่เราไม่มีเวลาให้จนอยากเลิกกันหรอกนะ


“งั้นผมขอนั่งรอได้ไหมครับคุณแม่”


“ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวแม่ให้เด็กยกขนมมาให้นะ” แล้วพิสมัยก็เดินเข้าไปในครัว สั่งเด็กรับใช้ให้เตรียมขนมให้เมลก่อนจะขอตัวไปงานการกุศลช่วงเย็น และเนื่องจากสามีและลูกชายคนโตจะตามไปที่งานเลยจึงไม่มีใครกลับเข้าบ้าน รวมถึงเหล่าคนรับใช้ที่เมื่อเลิกงานก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปตามเวลา


ทั้งบ้านจึงตกอยู่ในความเงียบและความมืด คล้ายกับสถานการณ์ที่เมลเคยเผชิญเมื่อหลายปีก่อน เขาเฝ้ารอเด็กชายที่ได้ยินเสียงเขามาช่วยเหลือแต่เด็กคนนั้นกลับไม่เคยมา โชคดีที่ในครั้งสุดท้ายขณะที่เขาอยู่ท่ามกลางกองเพลิง ในที่สุดเด็กชายคนนั้นก็มาช่วยเขาจนได้


“นายจะต้องมา...ใช่ไหม”


แกรก


“เฮ้อ...ไปไหนของเขากันนะ มือถือก็ไม่ได้เอาไปอีก” เสียงทุ้มดังมาพร้อมฝีเท้าที่ก้าวเข้าใกล้ห้องนั่งเล่น พอสังเกตเห็นเงาตะคุ่มบนโซฟาเข้าพอดีก็นึกถึงพี่ชาย “พี่เอกไม่ได้ไปกับพ่อแม่เหรอ...เมล!”


ร่างสูงที่ออกกำลังกายอย่างหนักตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลดูแข็งแรงขึ้นกว่าที่เมลคาดไว้ แม้จะไม่ได้มีกล้ามเนื้อเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ถือว่าฟื้นตัวเร็ว เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเมล พอเห็นเขาก่อนจะถอนหายใจใส่


เมลไม่คิดว่าจะได้รับกิริยาเช่นนี้ก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้


“ทำไมไม่พกมือถือ คนอื่นเขาเป็นห่วงรู้ไหม”


“...”


ไอซ์นั่งลงข้างเมล “ทีหลังจะไปไหนบอกคนที่บ้านนายด้วยสิ ฉันไปรอกับพวกเขาตั้งนานนายก็ไม่กลับมา พี่มัคเขาก็เลยเดาว่านายมาบ้านฉัน ดีนะที่ใช่ ไม่งั้น...”


หมับ


เมลโถมเข้ากอดไอซ์เต็มแรง ซึ่งพอคนหน้าโหดได้สติก็ยกแขนขึ้นโอบเมล เขาไม่รู้ว่าคนตัวขาวเป็นอะไร แต่คงต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาแน่ๆ อีกฝ่ายถึงมารออยู่ที่นี่แถมยังปิดไฟมืดอีก


“เป็นอะไรหรือเปล่า”


“ขอโทษที่ไม่มีเวลาให้นะ”


เรื่องนี้เองหรอกเหรอ เขาเองก็อยากแกล้งงอนอยู่หรอกนะ แต่พอเห็นท่าทางไม่คงที่ของเมลก็ยอมทิ้งเรื่องแกล้งแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นแทน


“ช่างมันเถอะ ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมนายหลบหน้ากันแบบนั้น” ตั้งแต่พี่ชายเมลทิ้งระเบิดไว้ เมลก็ดูเหมือนจงใจหลีกเลี่ยงสถานการณ์หวานแหววระหว่างพวกเขา สร้างสถานการณ์ทีไรเป็นต้องถูกพังลงทุกที เขาเองก็จนใจจึงยอมอยู่ไปแบบขาดน้ำตาล เพราะสำหรับเขาการมีเมลอยู่ข้างๆ สำคัญกว่าเรื่องบนเตียง


แต่ดูเหมือนเมลจะฝังใจกับคำที่พี่ชายพูดไว้แล้วค่อยๆ หลบหน้าเขาไป ซึ่งหากเขายังปล่อยไว้ก็คงไม่ดีกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาอย่างแน่นอน


“เรื่องนั้น...”


“นายคงรอฉันนานแล้ว เดี๋ยวฉันทำอาหารให้กินแล้วกัน” ไอซ์หลีกเลี่ยงเรื่องที่จะทำให้เขาสองคนต้องห่างเหินกันไปอีกแต่ชายเสื้อกลับถูกรั้งโดยคนที่อยู่ด้านหลัง


“ฉันยังพูดไม่จบ” เมลเงยหน้าขึ้นมองเขาพร้อมกับกัดปากเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อ “เรามาทำเรื่องนั้นกันเถอะ”


“ห้ะ!”


“ฉันคิดทบทวนมาดีแล้ว...เรามาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันเถอะนะ” เมลก้มหน้างุด เขาไม่รู้ว่าไอซ์เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อไหม แต่เขาคิดแบบนั้นจริงๆ ไม่สำคัญหรอกว่าสถานะของเราจะเป็นแบบไหน ขอแค่ไม่ต้องทะเลาะกันอีกก็พอ


“แน่ใจเหรอ” แม้จะถามเสียงเข้มแต่ในใจเขายิ้มกริ่ม นึกถึงของสารพัดอย่างที่เตรียมไว้ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล แต่เพราะเมลเอาแต่บ่ายเบี่ยงไอซ์ก็เลยต้องเก็บมันไว้ต่อไปเงียบๆ


“อือ” เมลตอบเสียงเบา ก่อนแขนขาวจะถูกฉุดรั้งให้ลุกขึ้นแล้วพาเดินตามขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ณ ห้องในสุดที่เก็บเสียงดียิ่งกว่าอะไร


ภายในห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าที่เมลคาด โดยเฉพาะกลองชุดที่มุมห้อง ซึ่งพอเมลหันมาถามทางสายตาไอซ์ก็เฉลยให้


“ฉันเคยเล่นกลองอยู่ช่วงหนึ่ง ที่บ้านหนวกหูก็เลยต้องรีโนเวทห้องใหม่ให้เก็บเสียงน่ะ” ไอซ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ซึ่งก็หมายความว่าต่อให้เราจะทำ ‘อะไรๆ’ ก็ไม่ต้องกลัวว่าคนข้างนอกจะได้ยินหรอกนะ”


“นาย!”


จุ๊บ


ก่อนที่เมลจะโวยวายไปมากกว่านั้น คนหน้าโหดก็จัดการเรียกความปรารถนาของเมลผ่านรสจูบที่เร่าร่อน ฉีกกระชากเสื้อราคาแพงของเมลออกอย่างไม่ไยดี คนตัวขาวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อลิ้นร้อนแทรกผ่านเขามา มืออุ่นไล่ไปตามผิวเนื้อของเขาอย่างช้าๆ อย่างระมัดระวังไม่ให้ตื่นตกใจ


นิ้วเรียวสะกิดยอดอกเบาๆ ชวนหวามไหวจนต้องส่งเสียงออกมา


“อะ”


“ปล่อยไปตามสบาย ไม่ต้องกังวลนะ” ไอซ์จูบลงบนซอกคอหอมกรุ่น ใช้อีกมือลูบหลังปลอบประโลม ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ใช่ว่าเมลจะเคยมีประสบการณ์อย่างเขา อย่างมากก็คงแค่ช่วยตัวเอง


“ให้ฉันช่วยนะ” ไอซ์ไล้มือลงต่ำ รูดรั้งแก่นกายของเมลที่กำลังตื่นขึ้นตามจังหวะที่เขาเป็นคนกำหนด ไม่นานธารขาวขุ่นก็พุ่งพรวด ไอซ์ปาดน้ำนั้นแล้วค่อยๆ แทรกเข้าไปในกายเมล ซึ่งแน่นเกินกว่าจะเข้าไปได้


“เจ็บ”


“มันจะดีกว่านี้” ไอซ์จูบลงบนริมฝีปากนุ่ม “ฉันสัญญา” เขารอจนเมลพยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปยังเก๊ะหัวเตียง หยิบขวดใสที่เตรียมมากว่าสัปดาห์เทลงที่ส่วนนั้นแล้วชำแรกนิ้วเขาไป ก่อนค่อยๆ เพิ่มจำนวนตามเวลา


“อึก มัน...” เมลจิกนิ้วลงบนหมอน


ไอซ์โน้มตัวลงมอบจุมพิตแสนหวานก่อนจะแทรกตัวตนเข้าไป แช่นิ่งอยู่อย่างนั้นก่อนจะผละออกมาดูสีหน้าเมลที่แดงก่ำหลบตาเขา เขาแตะแก้มเมลให้หันมามองกัน อีกมือก็กุมมือเมลไว้แน่น


“จะไม่ปล่อยไปไหนอีกแล้วนะ” คำพูดนั้นสร้างความอบอุ่นไปทั้งใจ เมลเอียงหน้าซบมือข้างนั้นแล้วพยักหน้า


“ไม่ไปไหนอีกแล้วเหมือนกัน”


“ขอบคุณ” ไอซ์จูบลงบนผิวเนื้อเปล่าเปลือยเหนือหัวใจเมลก่อนจะเริ่มขยับเร่งอุณหภูมิภายในห้องให้พุ่งสูงยิ่งขึ้น เสียงหยาบโลนดังสะท้อนจนเมลอยากยกมือขึ้นปิดหู ติดที่ถูกกุมไว้อย่างแน่นหนาและคนที่อยู่บนตัวเขาก็คงไม่ยอมแน่ ถึงได้เร่งความเร็วขึ้นแบบนั้น


“ระ...เร็วไป”


“ยังไม่พอหรอกนะ”


พูดจบเมลความอุ่นร้อนด้านล่างหลุดออกไปจนกระทั่งไอซ์พลิกตัวเขาให้นอนคว่ำแล้วสานต่อบนรักร้อนแรงต่อเนื่องจนเมลหัวหมุน นอกจากต้องหันมารับจูบจากคนด้านหลังก็ทำได้เพียงร้องครางเสียงอู้อี้อยู่กับหมอนใบโต ทั้งตัวโยกคลอนไปตามแรงปรารถนาของคนรักที่ดูเหมือนจะสะสมมานานเกินไป จบลงเพียงสองครั้งเมลก็ขอหลับไปก่อน ส่วนหลังจากนั้นเมลปล่อยให้ไอซ์จัดการตัวเอง






เช้าวันต่อมา เมลสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ให้ไอซ์แตะต้องเขาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เขาหอบร่างอันเหนื่อยล้าใส่เสื้อผ้าแล้วรีบออกจากบ้านไอซ์ไปก่อนคนในบ้านจะตื่น ระหว่างขับรถก็ทรมานกับความระบมช่วงล่างแต่ก็ฝืนเดินทางมาจนถึงคอนโดหรูของพี่ชายคนโต


“ครับมาแล้วครับ” เสียงจากข้างในมาพร้อมกลับเสียงปลดล็อกประตู ทันทีที่เห็นว่าเป็นเลขาพี่ชายเมลก็ชะงักไป ส่วนไผ่พอเห็นเมลก็ส่งยิ้มใจดีให้แล้วเบี่ยงตัวให้เมลเข้าไปด้านใน


“คุณมอคยังไม่ตื่นครับ เอ่อ คุณเมลอย่าเข้าใจผิดครับ ผมมาช่วยคุณมอคเคลียร์เอกสารเมื่อคืน เขาเห็นว่าดึกแล้วก็เลยชวนผมค้าง เมื่อคืนผมนอนที่โซฟาตรงโน้นครับ”


“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรพี่ไผ่สักหน่อยครับ” เมลยิ้มบางก่อนจะลากสังขารตัวเองไปนั่งบนโซฟา สูดกลิ่นหอมของอาหารร้อนๆ ที่เพิ่งเทจากกระทะ “หิวจัง ผมขอกินมื้อเช้าด้วยนะครับ”


“ครับ เดี๋ยวผมเตรียมให้ทันที ดีใจที่คุณเมลเป็นมนุษย์แล้วนะครับ ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่ก็ดีใจที่เวลาคุณมอคไปร้านอาหารจะได้ชวนคุณเมลไปได้”


เมลมองว่าที่พี่สะใภ้ทำงานคล่องแคล่วแล้วอมยิ้มน้อยๆ


“ทำไมเหรอครับ พี่มอคชอบไปกินข้าวคนเดียวเหรอ”


“เปล่าครับ แต่ชวนผมไปด้วยนี่สิ ยิ่งร้านขนมหวานตกแต่งน่ารักๆ คุณมอคเสียดายที่คุณเมลทานไม่ได้ก็เลยให้ผมช่วยชิมแล้วบอกว่าเป็นยังไงคุณมอคจะได้ไปเล่าให้คุณเมลฟังไงครับ”


“อ้อ เหรอครับ” เอาน้องบังหน้านี่นา เมลหัวเราะนิดๆ แต่สะเทือนไปถึงช่วงล่าง ยังไม่ทันลุกไปแกล้งปลุกพี่ชายก็ได้ยินเสียงร้องลั่นมาจากข้างใน


“อะไรนะ! เมลเป็นอะไร!” แล้วจู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดพรวดออกมา มอคสังเกตเห็นเมลก่อนก็กดวางสายแล้วรีบเข้ามาจับตัวน้องพลางกวาดตาไปทั่ว


“นี่...ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดใช่ไหม” ใจปฏิเสธอย่างไร รอยรักบนซอกคอน้องก็ยืนยันแทนเรียบร้อยแล้ว มอคทิ้งแขนลงบนโซฟา เรื่องที่น้องชายคนรองว่าถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนเลย แถมไอ้เด็กนั่นยังไปรอเมลที่บ้านอีก


“ไม่ต้องกลับบ้านนะ อยู่กับพี่ที่นี่แหละ”


“ครับ?”


“คนที่ทำแบบนี้กับน้องรอเราอยู่ที่บ้าน อยากเจอหรือเปล่า”


ไอซ์เหรอ


“ยังไม่อยากเจอครับ” ขอเขาฟื้นตัวก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน มอคพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะต่อสายหาน้องชายคนรองเพื่อบอกเล่าแผนการของพวกเขา หลังจากนั้นก็มานั่งกินข้าวอย่างอารมณ์ดี แล้วออกไปทำงานพร้อมกับเลขาคนสำคัญ


ห้องว่างที่เงียบเหงาทำให้เขาหวนนึกถึงวันเก่าๆ ก่อนจะได้ออกไปเรียนมหาวิทยาลัย เขาต้องอยู่คนเดียวเพราะพ่อและพี่ๆ ไปทำงาน เวลานี้ก็ไม่ต่างกัน ทั้งที่รู้ดีแต่ก็อดเหงาไม่ได้


ถ้ามีไอซ์...เขารู้ว่าจะต้องไม่เหงาแน่นอน


อะไรกัน อุตส่าห์คิดว่าจะไม่เจอหน้าแล้วแท้ๆ


เมลถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วยอมแพ้ ต่อสายโทรศัพท์ภายในห้องไปยังคนที่รออยู่


“มารับทีสิ”


เมลไม่ได้บอกที่อยู่คอนโดพี่ชาย แต่บอกที่ตั้งร้านกาแฟใกล้ๆ จากนั้นก็ลงไปข้างล่างโดยไม่ลืมทิ้งโน้ตไว้


‘ผมไปกับไอซ์นะ’


เมลยืนรออยู่หน้าร้านพร้อมกาแฟสองแก้ว เรียกความสนใจจากสาวๆ ที่เดินผ่านมา รวมทั้งแก๊งอันธพาลประจำซอยที่จำเขาได้


“นี่มันไอ้แหยที่เคยอยู่กับไอ้หน้าโหดนี่ เดี๋ยวนี้โตขึ้นเยอะเลยนะ”


“หึ ก็คงแหยเหมือนเดิมนั่นแหละวะ เอาไง ลุยเลยไหม ไอ้หน้าโหดนั่นสุดท้ายลูกพี่ก็ยอมปล่อยไปล่ะ เห็นสภาพแล้วรับเข้าแก๊งไม่ไหว แต่ไอ้นี่หน่วยก้านดี เอามาฝึกอีกหน่อยคงไม่แหยแล้ว”


“เออ ลากคอมันไปถวายลูกพี่ดีกว่า” คนที่สามพยักหน้าเห็นด้วย


คนตัวขาวดูดกาแฟอย่างอารมณ์ดีก่อนสายตาจะหันไปเห็นชายสามคนที่เขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอมาก่อน พอนึกขึ้นได้ก็เท้าความนานถึงช่วงปีหนึ่งที่เขาถูกหาเรื่องในซอยใกล้บ้าน จะว่าไปก็กลุ่มคนเดิมนี่!


ยิ่งเห็นความคุกคามที่เพิ่มขึ้น เมลก็ค่อยๆ ถอยออกจากหน้าร้านกาแฟก่อนแผ่นหลังจะปะทะเข้ากับใครบางคน


“อ้ะ ขอโทษครับ”


“ไปยืนตรงโน้น” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยคือไอซ์ที่เขานัดมานั่นเอง เมลเดินหลบมุมไปอีกทาง เปิดฉากการปะทะกันของคู่กรณีเก่า ที่สามคนแรกวิ่งหนีไปอีกทางแทบในทันที


“เหอะๆ” ไอซ์หันหลังกลับมาหาเมล “เจอกันครั้งแรกก็คล้ายๆ แบบนี้นะ”


“อืม นึกถึงวันนั้นทีไรก็อดขอบใจนายไม่ได้ทุกที” เมลเริ่มออกเดิน เคียงข้างด้วยไอซ์ซึ่งรับกาแฟไปพอดี “ถ้าวันนั้นนายมาช้าฉันต้องเผลอฆ่าพวกเขา และถ้าฉันทำแบบนั้นคงถูกขังลืมแน่ๆ”


“งั้นก็ดีแล้ว” ไอซ์รั้งคอคนข้างๆ เข้าหาตัว “ดีที่ฉันไปทางนั้น ดีแล้วที่เราเจอกัน อย่างน้อยชีวิตต่อจากนั้นของฉันก็ดีกว่าที่เป็นอยู่”


“นายเกือบตายเพราะฉันเนี่ยนะดี”


“แค่เกือบ ผลลัพธ์มันคุ้มกว่านั้นมาก การมีนายอยู่ข้างๆ สำคัญมากเลยนะ” เขาหยุดเท้าแล้วจับมือเมลกุมไว้แนบอก “จากนี้เรามาอยู่ด้วยกันไปนานๆ นะ ฉันไม่ใช่เลือดหวานของนายแล้ว ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่านายจะรักฉันตลอดไป แต่ฉันจะทำมันให้ดี”


“...”


“นายพร้อมจะเป็นเลือดหวานของฉันไหม”


“ไอซ์...”


“เป็นเลือดหวานคนเดียวของกันและกัน เอ่อ ถึงเราจะกินเลือดกันไม่ได้ก็เถอะ” ไอซ์โขกหัวตัวเองเล็กน้อยที่พูดเรื่องไร้สาระออกมา เขากังวลคำตอบจากเมลเลยหวังคลายเครียดด้วยมุกตลกที่ตัวเองสร้างขึ้น


“เป็นสิ”


“!”


“ถึงฉันจะไม่ยึดติดนายเหมือนตอนเป็นแวมไพร์ แต่ความรู้สึกเดียวกันนั้นไม่เคยลดลงเลย นายยังคงเป็นเลือดหวานของฉัน ไม่สิ”


เมลขยับตัวเข้าใกล้ กระซิบชิดริมฝีปาก “คุณจะเป็นเลือดหวานของผมตลอดไป” เสียงนั้นจบลงเมื่อริมฝีปากของทั้งคู่แนบชิดกัน


หลังผ่านจูบร้อนแรงขยี้สายตาคนรอบข้าง ทั้งสองก็จูงมือกันเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าที่ไม่ว่าใครมองเห็นก็รับรู้ถึงความรักของทั้งคู่









END





คำว่าเลือดหวาน อาจไม่ได้หมายถึงการเป็นอาหารที่แสนอร่อยสำหรับทั้งคู่ แต่คือการเป็นคนรักที่ผูกพันยิ่งกว่าสิ่งใด

ตอนนี้คงต้องบอกว่า “จบแล้วจ้า” กับการเขียนกว่า 6 เดือน ขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่ติดตาม แวะเข้ามาอ่าน มาให้กำลังใจ มาคอมเม้นต์ให้ เราอ่านทุกข้อความ ล้วนเป็นกำลังใจให้เราได้เสมอ สำหรับเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องที่สามแล้วที่เขียน และยังต้องปรับปรุงพัฒนาอีกมาก หากมีข้อบกพร่องตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ หรือหากมีข้อเสนอแนะก็คอมเม้นต์บอกเราได้เลยค่ะ ยินดี

สุดท้ายนี้หวังว่าจะได้พบกันในเรื่องใหม่นะคะ  :bye2:

LOVE YOU MY READER  :mew1:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ กด +1 แต้มนะครับ :a2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
เป็นเรื่องเรื่อยๆดีค่ะ
มือใหม่แต่งได้ขนาดนี้
เก่งมากๆ เลยค่ะ

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกมากเลยจ้า

ออฟไลน์ pearl9845

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ขอบคุณครับ   สนุกมากเลย ชอบชอบ

ออฟไลน์ lemonphug

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากอ่านรวดเดียวจบ o13

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

ออฟไลน์ Piechicofic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นแวมไพร์ที่น่าเอ็นดูมากค่ะ รักน้อง

ออฟไลน์ reborn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
พัฒนาฝีมือต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
น่ารักมาก สุดท้ายทุกคนก็ปล่อยวาง ปรับปรุงตัว และอยู่กับอยาคต ขอบคุณคนเขียนมากเลย

ออฟไลน์ sunsatan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
บทที่ 2
มุกไม่ฮาพาเพื่อนห่วง

 
 
เมลทักทายเพื่อนร่วมเซคเช่นเคย ก่อนจะนั่งลงข้าง ‘พาย’ และ ‘นที’ เพื่อนใหม่ของเขา พายเป็นเพื่อนที่เขารู้จักในวันรับน้อง จากนั้นก็ตัวติดกันตลอดเพราะมักจะโดนพวกพี่ๆ แกล้งแหย่เล่นเพื่อสร้างสีสันในแต่ละวัน


ส่วนนทีเป็นเพื่อนร่วมคณะที่รู้จักกันตั้งแต่วันสอบสัมภาษณ์ ได้เจอกันเฉพาะบางวิชาที่เรียนรวมเท่านั้น และเขามั่นใจว่าไม่เคยแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน จึงอดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นพายที่ยิ้มและหัวเราะขณะฟังนทีเล่าเรื่องตลก ก่อนเรื่องที่เล่าจะหยุดลงเมื่อทั้งคู่สังเกตเห็นเมล


“เมล~” พายเป็นคนแรกที่ทักทายเพื่อนตัวขาวด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง


“หวัดดี” เมลยิ้มรับ “เล่าเรื่องอะไรกันอยู่ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย”


“อ้าว นี่รู้จักกันเหรอ” นทีถามขึ้นอย่างงงๆ เพราะเขาเพิ่งจะเผาเพื่อนอย่างเมลให้พายฟังเมื่อครู่นี้เอง


“ก็ต้องรู้จักสิ นี่ไงเพื่อนที่เราเล่าให้ฟังเมื่อวาน คนที่ซุ่มซ่ามเหมือนเพื่อนทีเลย” พายว่าพลางกอดแขนเพื่อนใหม่อย่างสนิทสนม


“หืม นายเอาเราไปเผาเหรอพาย”


“เอ่อ...นิดนึงเอง” พายยกนิ้วจีบ บอกจำนวนว่าน้อยมาก เพราะความซุ่มซ่ามของเมลน่ะมีเยอะกว่าที่เขาเล่าอีก


“เฮ้อ มนุษย์ซุ่มซ่ามของแท้ งั้นเราขอแนะนำเพื่อนร่วมคณะที่เราพูดถึงนะพาย เขาคนนั้นก็คือเมลนี่ล่ะ” นทีผายมือมาทางเมลที่ชี้หน้าตัวเองอย่างงงๆ นี่เขากลายเป็นเรื่องเล่าสร้างสีสันของเพื่อนๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่


ทั้งคู่หัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของเมล ซึ่งเมลก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาชอบบรรยากาศที่ได้ฟังเสียงหัวเราะของเพื่อน เห็นสายตาและรอยยิ้มจริงใจที่ทั้งคู่มอบให้ สำหรับแวมไพร์ที่มีแต่ครอบครัวอย่างเขา การมีเพื่อนถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่เขาหลงรักเลยทีเดียว


“อ้ะ อาจารย์มาแล้ว...” และเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้องทุกคนก็เข้าสู่โหมดตั้งใจเรียนทันที




.......................................

บ่ายวันนั้น เมลแยกกับพายและนที เพราะทั้งคู่มีวิชาเลือกที่ต้องเรียนร่วมกัน ขณะที่เมลเลือกลงอีกวิชาเพราะความชอบส่วนตัว


เขาชอบร่างกายมนุษย์


บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเพราะอะไร เขาแค่ชอบศึกษาเพราะอยากรู้ว่าตัวเองต่างจากมนุษย์อย่างไร เพราะนอกจากชอบกินเลือดและไม่จำเป็นต้องนอนแล้ว ชีวิตประจำวันของเขาก็ไม่ได้ต่างจากมนุษย์เท่าไรนัก


เขาไม่ได้กลัวแสงแดดอย่างแวมไพร์ในหนังสือ แต่ออกแดดมันร้อนและแสบตาก็เลยต้องสวมแว่นกรองแสงและเสื้อคลุมเท่านั้น มนุษย์ขี้ร้อนคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างจากเขา ส่วนเรื่องกลิ่นกระเทียม เมลยอมรับก็ได้ว่าเขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เขาคิดว่ามนุษย์บางคนก็คงมีบ้างที่ไม่ชอบกระเทียม และบางคนก็แพ้ แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ปกติ


สองเท้าเดินเข้ามาในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยหุ่นจำลองกายวิภาคและโปสเตอร์อธิบายส่วนต่างๆ ของร่างกายที่เมลอ่านจบไปแล้วหลายรอบ คงเพราะอยากจำให้ขึ้นใจ เขาจึงใช้เวลาทั้งคืนอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า


มีสองคนที่เขาคุ้นหน้านั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง คนหนึ่งคือรูมเมทของเขาที่กำลังคุยกับคนที่อุตรินอนนอกห้อง เมลสังเกตว่ามีเพียงโต๊ะที่ติดกับสองคนนั้นที่ว่างอยู่จึงไม่ลังเลที่จะนั่งลงข้างไอซ์


“เมล!” เสียงเรียกดังลั่นจนคนเกือบทั้งห้องหันมามองทางเมล ก่อนจะรีบหลบตาเมื่อคนที่นั่งติดหน้าต่างตวัดสายตามอง


ซึ่งความจริงแล้วไอซ์ก็แค่มองเฉยๆ เพราะเพิ่งสังเกตเห็นเมลนั่งเก้าอี้ข้างๆ ตน


“ไง”


“ไง”


คำทักทายสั้นๆ ประจำตัวทั้งคู่เอ่ยขึ้นเพียงไม่นาน ก่อนจะถูกแทรกด้วยแดนที่รีบยื่นหน้าเข้ามามีส่วนร่วมทันที


“เราแดนนะ เพื่อนไอซ์รูมเมทนาย” แดนรีบแนะนำตัว ซึ่งเมลก็ไม่รังเกียจที่จะคบหาเพื่อนใหม่จึงส่งยิ้มเป็นมิตรให้เช่นเคย


“เราเมลนะ ยินดีที่ได้รู้จัก”


“โอ้ย...แดนตายแล้ว” แดนที่ถูกแอทแทคความน่ารักกระแทกใจ กุมหัวใจตัวเองไว้ด้วยสีหน้ามีความสุข ขณะที่เมลได้แต่ยิ้มค้างเพราะไม่รู้ว่าแดนเป็นอะไร ทำไมถึงทำท่าแบบนั้น


ผลัวะ


เสียงฟาดมือลงบนศีรษะอย่างไม่เบาแรงนั้นทำเอาคนในห้องสะดุ้ง แต่คนถูกทำร้ายกลับแค่ลูบหัวตัวเองปอยๆ ก่อนจะเสียงดังใส่เพื่อนที่ทำเสียมารยาทต่อหน้าหนุ่มน้อยที่หมายปอง


“เล่นอะไรของมึงเนี่ย! อุ้ย ไม่มีอะไรครับเมล เพื่อนเล่นกันเฉยๆ” แดนส่งสายตาอาฆาตใส่เพื่อนที่ทำให้เขาหลุดคำหยาบให้ระคายหูคนน่ารัก


ไอซ์ลอยหน้าลอยตา ความจริงเขาก็แค่หมันไส้เพื่อนที่กล้าพูดกล้าทำไปเสียทุกเรื่อง ขณะที่ตัวเขากลับไม่มีความกล้าใด เช่นเดียวกับสายตาที่เหลือบไปเห็นพายเดินคู่อยู่กับ ‘เขา’ หัวใจก็พลันเจ็บแปลบขึ้นมาทันที อยากละสายตาก็ทำไม่ได้ เพราะสายตาของเขามีไว้มองแค่พายที่กำลังยิ้มหัวเราะกับคนข้างกาย
 





“ฮ่าๆ”


เมลพยายามหัวเราะกับพูดที่เขาไม่เข้าใจนักของแดน ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นไอซ์มองออกไปนอกหน้าต่าง ใบหน้าเศร้าๆ เหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด เขาจึงคิดหาวิธีที่จะทำให้ไอซ์หัวเราะเหมือนที่นทีทำให้พายหัวเราะได้


“เอ่อ เรามีเรื่องเล่าน่ะ” แค่เกริ่น เมลก็เห็นแดนก็กระดิกหางรอฟังเหมือนเจ้าตูบใต้หอ เขาแอบขำนิดๆ ก่อนจะกระแอมไอเรียกสติคนที่เหม่อมองไปข้างนอกให้หันกลับมามองเขา


“อะแฮ่มๆ” เสียงกระแอมไอ เรียกให้ไอซ์ต้องหันกลับมา ก่อนเมลจะเริ่มต้นเล่า “คือเมื่อเช้าอาจารย์บอกให้เราช่วยยกเอกสารไปไว้ที่ห้องเรียน แต่เราสะดุด กลิ้งตกบันไดไปเลย เอกสารงี้กระจายเกลื่อนทางเดินอะ ฮ่าๆ”


เมลหัวเราะเพื่อให้เรื่องดูน่าตลกสำหรับเพื่อนๆ แต่ว่าทั้งคู่กลับขำไม่ออก


"ลุก" พูดจบไอซ์ก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป


"หืม..." เมลเอียงคอสงสัย หันมองแดนเพื่อถามที่มาของคำถาม แต่แดนกลับยิ้มเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนจะทำอะไร


"ไอซ์มันบอกนายนั่นแหละ ตามไปสิเมล เดี๋ยวยักษ์ก็พิโรธหรอก"


"ห้ะ" เมลยังคงไม่เข้าใจเนื้อหาที่เพื่อนสื่อความ แต่ก็ลุกเดินตามไอซ์ออกไป ไอซ์หนังมามองคนตัวเล็กก็จะเอ่ยบอกแดนข้ามหัวเมล


“ฝากบอกอาจารย์ให้ด้วย” แดนพยักหน้ารับคำเพื่อน มองไอซ์ที่เดินนำเมลไปยังห้องพยาบาลก่อนจะหลุดยิ้ม


“มีใครที่ไหนเขาขำเรื่องที่ตัวเองบาดเจ็บบ้างเนี่ย” แล้วดูทำหน้าเข้าเหมือนกำลังลุ้นให้เขากับไอซ์หัวเราะอีก


"แต่ก็...น่ารักดีแฮะ"
 



.......................................

“นายจะพาเราไปไหนน่ะ อีกแป๊บเดียวก็จะเริ่มคลาสแล้วนะ” เมลร้องบอก เพราะใจเขาตอนนี้อยู่ที่การเรียนการสอนเท่านั้น และตอนนี้ก็ใกล้เวลาเรียนแล้วด้วย


ไอซ์ไม่ตอบ เขาเดินนำหน้าผ่านห้องแล้วห้องเล่า ไปจนถึงห้องเล็กที่อยู่หัวมุมอาคาร


ห้องพยาบาล


ไอซ์เคาะประตูอย่างมีมารยาทก่อนจะเดินเข้าไปท่ามกลางนักศึกษาที่รอรับยาจากอาจารย์ห้องพยาบาล


“เพื่อนผมตกบันได” ทันทีที่ร่างสูงเอ่ย ทุกคนก็พร้อมใจแหวกทางให้ไอซ์พาเมลไปนั่งที่เตียง พอดีกับอาจารย์ห้องพยาบาลที่เดินเข้ามาสอบถามอาการ


“ผมไม่เป็นไรมากครับอาจารย์” เมลยิ้มยืนยัน เพราะเขาไม่ได้เจ็บอะไร อีกอย่างเขาเป็นแวมไพร์ เรื่องแค่นี้ฟื้นตัวง่ายมาก ปัญหาที่น่ากลัวกว่าก็คือการตรวจร่างกาย ตัวเขาเย็นแบบนี้ คงถูกส่งโรงพยาบาลกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปอีก


“เอ่อ เพื่อนผมก็แค่กังวลเกินไป ผมไม่เป็นอะไรมากแล้ว งั้นขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ ผมไม่อยากขาดคาบนี้”


พูดจบเมลก็กระโดดลงจากเตียงด้วยท่วงท่าที่แสดงได้อย่างดีว่าเขาไม่ได้เจ็บอะไร แล้วรีบเดินออกจากห้องพยาบาลไปทันที


“เพื่อนเราหน้าซีดๆ นะ” อาจารย์ห้องพยาบาลเอ่ยขึ้น ซึ่งไอซ์ก็พยักหน้ารับ ตอนที่จับแขนพาไปนั่งที่เตียง ตัวเมลเย็นเหมือนคนป่วยเขาคิดว่าควรจะให้อาจารย์หมอตรวจสักหน่อยก็ยังดี แต่อีกฝ่ายกลับลุกหนีอย่างกับกระต่ายขี้กลัว


หรือจะกลัวหมอ


แต่เขาเรียนหมอไม่ใช่เหรอ



“ถ้าเขาอาการไม่ดีค่อยพามาอีกทีละกัน ตอนนี้รีบตามเพื่อนไปก่อน เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะแย่” ไอซ์พยักหน้ารับ เขารีบเดินตามเพื่อนตัวเล็กที่แม้จะเดินเร็วแต่ก็ยังช้ากว่าช่วงขาของเขาอยู่ดี


“เดินช้าๆ” ไอซ์พูดเสียงดุ เมลหันมองนิดๆ อย่างไม่แน่ใจ แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะลากเขากลับห้องพยาบาล เมลก็ผ่อนฝีเท้าลง เดินเคียงข้างกันกลับไปยังห้องเรียนที่อาจารย์กำลังสอนเรื่องทฤษฎีพอดี เมลและไอซ์เอ่ยขออนุญาตก่อนจะเดินเข้าไปนั่งประจำที่


แดนยื่นหน้าจะเข้ามาถามว่าเมลอาการเป็นอย่างไรเป็นอันต้องหุบปากฉับเมื่อเห็นเมลตั้งท่าตั้งใจเรียน แม้แต่ไอซ์ที่นั่งข้างๆ ก็อดแปลกใจไม่ได้ ปกติคนเราคงไม่ตั้งใจเรียนในทันทีหรอก กว่าจะจูนสติให้จดจ่ออยู่กับการเรียนได้ก็ล่อเข้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง


แต่กับเมลกลายเป็นข้อยกเว้น เพราะเขาตัดขาดทุกอย่างโดยสิ้นเชิง สนใจเพียงเนื้อหาที่อาจารย์สอนเท่านั้น ไม่มีวอกแวก ตาดูหูฟังมือจด จนคนที่ลอบมองทั้งสองรู้สึกอยากทำตาม ต่างก็หันไปสนใจเนื้อหาที่ไม่ได้อยากเรียนมาตั้งแต่ต้น


ไอซ์ก็แค่ถูกแดนลากมาเข้าเรียนด้วยเนื่องจากสาวที่แดนแอบชอบเลือกเรียนวิชานี้ แต่ปรากฏว่าเธอคนนั้นถอนวิชาเรียนไปก่อนแล้ว เดิมทีก็ตั้งใจจะขออาจารย์ถอนวิชาแล้วเดินออกไปชิลๆ คิดไม่ถึงว่าการนั่งข้างเมล จะทำให้ทั้งคู่จดจ่อกับการเรียนจนจบคาบได้โดยไม่แอบหลับเหมือนเพื่อนแถวหลัง


“เฮ้ย ไม่คิดเลยว่าวิชานี้ก็สนุกเหมือนกัน” แดนพูดขึ้นหลังจากอาจารย์เดินออกจากห้องไป “เมลมีเรียนอะไรต่อไหม” เพราะคาบนี้เป็นวิชาสุดท้ายของแดนและไอซ์ เขาก็เลยลองถามเผื่อจะได้ชวนเมลไปหาอะไรอร่อยๆ กินด้วยกัน เขากินข้าวกับไอซ์จนเบื่อแล้ว แต่ถ้ามีเมลไปด้วยก็คงดีทีเดียว


“เรานัดเพื่อนไว้แล้วน่ะ” เมลตอบ ก้มนาฬิกาดูเวลานัดหมาย ดูเหมือนเขาจะเลิกช้ากว่าเพื่อนครึ่งชั่วโมง ป่านนี้พายกับนทีคงนั่งรอเขาอยู่ที่คณะ


“ว้า เสียดายจัง เราอยากกินข้าวกับเมลนะ” แดนหยอดเพิ่มอีกนิด แต่ดูเหมือนเมลจะเข้าใจคนละแบบ


“ไปกินด้วยกันก็ได้นะ” เขาไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเรื่องไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ดีซะอีก แดนจะได้ไม่น้อยใจที่ไม่ได้กินข้าวกับเขา


เพราะยังไงเขาก็กิน ‘ข้าว’ แบบที่เพื่อนๆ กินไม่ได้อยู่ดี
 
 
 
 



 
Tbc.
 
 
 
 
 
 
..................
น้องเมลเขาไม่รู้อะไรกับแกทั้งนั้นแหละคุณแดน ฮ่าๆ ส่วนคนในใจพายเป็นใครทุกคนคงรู้อยู่แล้วโน๊ะ ตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้นนั้น...โปรดติดตามตอนต่อไป
เม้นบอกเราหน่อยนะจ้ะว่าสนุกไหม เป็นกำลังใจให้กันเน้อ  :mew2:


ออฟไลน์ sunsatan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮืออออออ น่ารักมากกกกกกก

ออฟไลน์ reginasorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรื่องนี้น่ารักก ชอบตรงไม่ค่อยดราม่า :katai2-1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่ารักดีครับ ชอบ ๆ

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ปัก

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักมากๆๆๆ  :m1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตามอ่านจนมาถึงเรื่องนี้
สนุก น่ารักทุกเรื่องเลย
ขอบคุณสำหรัยนิยายน่ารักๆ สนุกๆค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด