[ เ ล่ น ข อ ง เ ตี้ ย ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ เ ล่ น ข อ ง เ ตี้ ย ]  (อ่าน 970586 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เขารักกันมากจริงๆ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ชอบตอนนายท่านยิ้มแล้วเขย่าแขนทิมกับนุก น่ารักแบบเด็กเลย พวกกลุ่มวิดวะนี่แม่งชอบทำแบบนี้จังขอให้กรรมตามสนอง :m16:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้ออออ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ทำไมต้องมีอุปสรรคแบบนี้
เชนมาได้ถูกเวลาเกินไปแล้วนะ

เพื่อนเชนคือไม่บ้าเนาะ ทำไมความคิดถึงได้มืดบอด
เชนก็กว่าจะคิดได้ว่าต้องเตือน แต่ยกโทษให้เพราะถือว่าช่วย

สงสารนายท่านไปเลยน่ะ คงเหวอไปแล้ว
คงไม่น้อยใจกล้าหรอกนะ อยากให้เข้าใจ

กล้าคือคนแมนแห่งปีไง
แฟนก็รักมาก ประกาศตัวแล้วด้วย
เพื่อนก็รักเหมือนกัน เพราะเพื่อนก็ช่วยเป็นแรงหนุนให้กล้า

ขอให้เจอมอนศรีจ้า

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12



ตอนที่ 29
กล้าหาญ





   "คุณแม่ ที่ว่าจะไปหาวันนี้น่ะ..."

   [กล้าถอดใจแล้วสินะ]

   "..."

   [เห็นมั้ยว่ากล้ารักลูกแม่ไม่จริงหรอก]

   "เปล่า เพื่อนกล้ามีเรื่อง"

   [อ้าว]

   "สักวันผมกับกล้าจะไปหาคุณแม่แน่"

   [จริงๆ แล้วแม่ก็ไม่อยากให้มาหรอก]

   "ทำไม"

   [ถึงจะมา...แม่ก็คงไม่เปลี่ยนใจ]

   "เสียงคุณแม่ดูสั่นๆ นะ"

   [เปล่าสักหน่อย!]

   "คุณแม่คิดดูก็แล้วกันว่าขนาดนายกองที่ไม่ยอมรับใครง่ายๆ ยังยอมรับกล้า..."

   [...]

   "เชื่อผมสิครับว่ากล้ามีดี"

   [ถ้าจะโทรมาโม้ล่ะก็...]

   "เจอผมกับกล้าหลังสอบมิดเทอมนะครับคุณแม่"







   บนรถของเซียน

   "อมรมันไม่รับสายกูว่ะ" ผมบอกเซียนที่กำลังขับรถอยู่อย่างร้อนรน "ไอ้เอ้มันก็ไม่รับ...เป็นเหี้ยอะไรกันหมดเนี่ยหา"

   "ใจเย็นๆ" เซียนเอ่ยปลอบผม "มันอาจจะไม่มีอะไร อมรกับกิ๊กมันอาจจะควงกันไปดูหนังเฉยๆ ก็ได้"

   ผมไม่อยากจะมองโลกในแง่ร้าย แต่ก็อดไม่ได้อยู่ดี การที่ไอ้เชนมันกระหน่ำโทรมาหาผมหลายสายแบบนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ามันต้องเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากล

   มีคนโทรเข้ามาหาผม...ไม่ใช่อมร ไม่ใช่นายท่าน แต่เป็นเอ้

   ตอนนี้แค่เพื่อนซี้อมรเป็นคนโทรมาผมก็ดีใจมากๆ แล้ว

   "ฮัลโหล"

   [อิกล้า...เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงโทรมาเยอะขนาดนี้]

   ผมยังไม่รู้เรื่องกิ๊กของอมรแฮะ "มึงอยู่ไหนเนี่ย"

   [กำลังจะไปปฏิบัติธรรม...ทำสมาธิก่อนอ่านหนังสือสอบ]

   เจริญละ...

   "ออกไปไกลแล้วเหรอ"

   [ใช่ ตกลงมึงมีอะไรเนี่ย]

   "อมรอ่ะ"

   [มันทำไม มันไม่ได้อยู่กับผัวมันเหรอ]

   "คือ..." ผมไม่รู้จะเริ่มต้นประโยคยังไงดี  "หอมันอยู่ไหน มึงรู้มั้ย"

   [กล้า...เกิดอะไรขึ้นกับมึง ที่ผ่านมามึงมีแต่ถีบหัวส่งอมร แต่ทำไมวันนี้ถึงอยากรู้ที่อยู่หอมันขึ้นมาล่ะ]

   รู้สึกเกลียดตัวเองฉิบ "เถอะน่า...กูมีเหตุผลละกัน"

   [อยู่ท้ายซอยของตึกมึงอ่ะ ไม่ไกลมาก ชื่อหอพริ้มพราว]

   "โอเค มันอยู่ห้องไหน"

   [โห กะบุกไปทำอะไรเพื่อนกูเนี่ย เพื่อนกูยังซิงนะ!]

   "เอ้ มึงตอบดีๆ"

   [101]

   "อืม"

   [ตกลงมีอะไร ทำไมมึงซีเรียสจัง]

   "เอาไว้มึงกลับมาจากปฏิบัติธรรมแล้วกูจะบอก"

   [เฮ้ย]

   "มึงจะได้มีสมาธิ"

   ผมกดตัดสายเอ้ แล้วบอกให้เซียนเลี้ยวไปยังหอพริ้มพราว ที่ที่ไอ้อมรมันน่าจะอยู่ในตอนนี้...ผมหวังว่าอย่างนั้นนะ








   หอพริ้มพราว

   หอพักแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องเป็นที่อยู่ของบรรดาสาวสวยในมอครับ เป็นหอพักรวมดาวอะไรเทือกๆ นั้น ผู้ชายที่มาอยู่หอพักนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบเพื่อนผมอย่างอมรนั่นแหละ

   "เห็นรถมันแล้ว" ผมบอกเซียน พุ่งเข้าไปในหอที่เต็มไปด้วยผู้หญิง แน่นอนว่าผมต้องโดนยามสกัดกั้นเอาไว้ซะก่อน

   ให้ตายสิวะ...หน้าผมไม่เหมือนแฟนใครสักคนในหอนี้หรือไง

   จะว่าไปมันก็เป็นอย่างนั้นนะ

   "มาหาใครครับหนุ่มๆ" ลุงยามมองผมกับเซียนอย่างจับผิด

   "อมรครับ" ผมตอบทันควัน

   ลุงยามทำหน้าอึ้ง ก่อนจะผายมือให้ผมเข้าไปในหอ "แปลกมาก...วันนี้มีแต่ผู้ชายมาหาน้องมอน"

   ผมถอนหายใจไปพร้อมๆ กับเซียน พอจะรู้ว่าคนที่มาหาอมรก่อนหน้าพวกผมสองคนเป็นใคร ผมกับเซียนเดินเข้าไปหยุดยืนที่หน้าห้อง 101 ซึ่งอยู่ในซอกหลืบข้างๆ บันได เราทั้งคู่เกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนเคาะประตู

   "ในฐานะที่มึงหล่อกว่ากู...กูให้มึงเป็นคนเคาะ" ผมถอยให้เซียน

   "เดี๋ยว ทำไมเป็นงั้นล่ะ"

   "ก็เผื่ออมรมันเจอคนหล่อ มันจะได้อารมณ์ดี"

   "มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้"

   "ไม่รู้ทำไม...กูคิดว่ามันมีว่ะ"

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เซียนเคาะประตูห้องของอมรอยู่สองสามครั้ง...แล้วคนในห้องไม่ยอมออกมาเปิดเลยสักนิด

   "อมร นี่กูเอง เทพเซียน"

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   "อมร"

   "กูกล้าหาญ กูมาด้วย" ผมส่งเสียงเรียกบ้าง

   เรารอกันอยู่อีกพักหนึ่งกว่าอมรมันจะยอมเปิดประตู สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้ก็คือกลิ่นเหล้าโชยหึ่งออกมา อมรเพื่อนผมที่ปกติจะเป๊ะไปทุกส่วนบัดนี้กลับโทรมซะจนผมจำไม่ได้ ดวงตาแดงก่ำอีกทั้งยังมีสภาพเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

   ผมมองสบตากับไอ้เซียน...ตอนนี้มันคงรู้แล้วว่าสิ่งที่ผมกลัวมันเกิดขึ้นจริง

   "มีอะไร" อมรไม่มีแรงแม้แต่ที่จะพูด

   ผมมองมันอย่างเห็นใจก่อนจะตอบ "กูมาอยู่เป็นเพื่อนมึง"

   อมรอดทำสีหน้าอึ้งไม่ได้...ปากของมันเริ่มเบ้ ก่อนที่ก้อนสะอื้นของมันจะไหลพรั่งพรูออกมาราวกับห่าฝน

   "มันหลอกกู ไอ้เวรนั่น...มันหลอกกู ฮืออออออ"

   ฟวยเอ๊ย...

   ผมดึงอมรเข้ามากอด ขณะที่ไอ้เซียนนั้นยืนตบไหล่มันอยู่ไม่ห่าง...เราสามคนยืนอยู่กันหน้าห้อง ปล่อยให้อมรร้องไห้จนพอใจแล้วพวกเราก็ค่อยๆ เข้าไปในห้องของอมร

   ห้องของมันกว้างมากกกกก...กว้างจนผมนึกว่านี่เป็นคอนโด ไม่ใช่หอ...แต่ถึงแม้ว่าความกว้างของมันจะมีอยู่มาก แต่อมรแม่งก็ทำห้องเละซะจนเกือบครบหมดทุกตารางนิ้ว

   ในห้องมีแต่ขยะ ขวดเบียร์ ขวดเหล้า และก็ขนมอีกนิดหน่อย

   "มึงแดกตั้งแต่กี่โมงเนี่ย"

   "ตั้งแต่บ่ายๆ อ่ะ" อมรตอบผม ทรุดตัวลงนั่งโดยใช้หลังตัวเองพิงเตียง "โอ๊ยยย โคตรเหี้ย วิศวฯ โคตรเหี้ย!"

   "อย่าเหมารวมดิ" เซียนปรามนิ่งๆ "เกิดอะไรขึ้นวะ"

   "ก็อย่างที่พวกมึงรู้นั่นแหละ" มันเล่าไปสะอื้นไป "กูนึกว่าไอ้เหี้ยนี่มันชอบกู มันเข้ามาจีบกูเหมือนมันเข้ามาจีบชะนีอ่ะมึง กูนี่ทั้งเขินทั้งบิด...คิดว่าแม่งชอบกูจริง" มันเริ่มร้องไห้อีกครั้ง "ที่ไหนได้...แม่งทำเพราะเพื่อนท้า ฮือออ ไอ้เวร ไอ้บ้า ไอ้ควายยยยยย"

   ให้ตายสิวะ...กูแบนวิศวฯ กลุ่มนี้ดีมั้ยเนี่ย

   แต่ถ้าคนหนึ่งในกลุ่มนั้นไม่โทรมาบอกผม...ผมคงไม่รู้เรื่องจริงๆ ว่าอมรมันกำลังเฮิร์ต มันมีเพื่อนสนิทไม่กี่คนในคณะ หนึ่งในนั้นก็เป็นกลุ่มผมนี่แหละ

   "โคตรเหี้ย" เซียนด่า

   "ดีนะที่กูยังไม่ได้เสียซิงให้มันอ่ะ" อมรดื่มเบียร์ผ่านทางขวด "ดีนะที่กูยังไม่เสียเงินเยอะ แต่กูก็...เสียใจ"

   "ต้องเสียเงินด้วยเหรอ" ผมพยายามหาท่านั่งที่สบายที่สุดเพื่อสุขภาพตูดของตัวเอง...ท่าไหนก็กระเทือนไปหมด

   นายท่าน...มึงนี่แม่ง (จะไม่มีการโทษตัวเองใดๆ ทั้งสิ้น)

   "เสียดิ...มึงคิดว่าตุ๊ดอย่างกูจะผูกผู้ชายเอาไว้ได้ด้วยใจอย่างเดียวหรือไง"

   "เชี่ย ความรักก็ต้องเป็นแบบนั้นนะ แม่งต้องใช้ใจ" ไอ้เซียนแกะฝาขวดเบียร์ จากนั้นก็ดื่มเป็นเพื่อนอมร ผมเลยเอาบ้าง...

   "แหม...กูไม่ได้เลือกได้ขนาดนั้น" อมรปาดน้ำตา "คนอย่างพวกกูรู้ดีว่าจะหาคนที่มาชอบจริงๆ มันยาก...แต่พวกกูก็ไม่หยุดค้นหา"

   ผมกับเซียนมองหน้าอมร...เราทั้งคู่ปล่อยให้ห้วงความคิดดื่มด่ำไปกับความรู้สึกของเพื่อนตรงหน้า

   "ใครๆ ก็อยากเจอรักดีๆ อยากเจอคนที่จะมาดูแลเอาใจใส่...กูคิดว่ากูเจอแล้ว แต่ดูสิ่งที่มันทำกับกูสิ" อมรดูน่าสงสารมาก

   "เกิดเหี้ยอะไรขึ้น" เสียงหมูหันดังขึ้นแทรก มันมาที่นี่พร้อมๆ กับไอ้ตง...ซึ่งเป็นอะไรที่ผมเซอร์ไพรส์มาก ดูเหมือนว่าไอ้เซียนมันจะแอบเล่าให้สองคนนี้ฟังเรื่องของอมร "กลุ่มไอ้เชนหลอกมึงเหรอวะมอน"

   "โอ๊ยย หมูหัน มึงก็มาปลอบกูเหรอ...กูซึ้งงงงง"

   หมูหันเดินไปทางอื่นด้วยความหงุดหงิดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ทำให้พายุลูกกอดของอมรตกไปเป็นของไอ้ตงแทน

   "ตงตงขา...เลิฟยูน้า"

   ฟังดูเหมือนอมรเพื่อนผมมันจะไม่เป็นอะไร...แต่มันก็ดูสติหลุดไปมากอยู่ดี

   "เอาไงดีกล้า...ยกพวกไปตีเลยดีมั้ย" หมูหันเริ่มกำหมัด นานๆ ทีผมจะเห็นมันโมโหขนาดนี้

   "เฮ้ย เอาจริงดิ" ผมกระพริบตาใส่เซียนรัวๆ ไอ้เซียนเองก็อึ้งเหมือนกัน

   "หลอกคนอื่น ทำเป็นให้ใจคนอื่นแบบนี้มันได้ด้วยเหรอ"

   "..."

   "วิธีควายๆ"

   คนในห้องพากันอึ้งหมด...แม้กระทั่งไอ้อมร ปกติแล้วหมูหันมันไม่ปากจัดขนาดนี้ ไม่เลยจริงๆ

   "เอ่อ..." อมรสูดน้ำมูก "กูโอเค แค่เห็นพวกมึงมาหากูก็โอเคแล้ว"

   "ไม่สิวะอมร เราต้องทำอะไรสักอย่าง"

   "หมูหัน กูโอเคจริงๆ"

   "..."

   "คือกู กู..." น้ำตาของอมรเริ่มไหลออกมาอีกระลอก "กูซึ้งมากที่พวกมึงเห็นว่ากูเป็นเพื่อน ชีวิตปกติของกูมีแต่เพื่อนตุ๊ดด้วยกันที่อยู่กับกู ทุกครั้งที่กูไปหาพวกมึงอย่างเช่นไอ้กล้า มันจะทำท่าทีเหมือนรังเกียจ..." เป็นอีกครั้งที่ผมอยากย้ำว่า...ผมเกลียดตัวเองมาก "กูไม่รู้ว่าพวกมึงจะมาหากูเพราะเป็นห่วงกูแบบนี้ กูซึ้งมากจริงๆ นะ"

   "จริงๆ กูก็ไม่ได้รังเกียจนะเว้ย" ผมสารภาพเสียงเบา

   "มึงอย่าคิดมาก กูเข้าใจแหละ ใครจะไปอยากให้ตุ๊ดควายๆ อย่างกูไปแต๊ะอั๋ง"

   โอย...มึงไม่ฆ่ากูเลยล่ะวะอมร

   "กูยอมให้มึงหอมแก้มกูก็ได้" ผมพูด "วันนี้มึงอยากทำอะไรกับกู...มึงทำเลย กูยอมทุกอย่าง ที่ผ่านมากูขอโทษถ้ากูทำให้มึงรู้สึกแย่ กูขอโทษ"

   ผมรู้สึกแย่จริงๆ ที่เพื่อนคิดแบบนั้นกับผม...อมรยิ้มเบาๆ ก่อนที่จะส่ายหน้า

   "อิบ้า...กูคบกับมึงเพราะมึงเป็นเพื่อนที่ดี ไม่ใช่เพราะเป็นเป้าหมายในการแต๊ะอั๋ง กอดจูบลูบคลำ หรือแทะโลม" มันเอียงคอมาซบไหล่ผม "แค่นี้กูก็โอเคแล้ว"

   เราทุกคนดื่มเป็นเพื่อนอมร...มันเริ่มเพ้อออกมา จากนั้นมันก็ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้ และก็ร้องไห้ วนๆ อยู่แบบนั้น

   ผมส่งข้อความหานายท่านแล้วว่าไม่ว่าจะยังไงผมกับมันก็คงไปหาแม่มันไม่ทัน นายท่านบอกว่ามันโทรบอกแม่เรียบร้อยว่าผมกับมันไปไม่ได้ แม้ในใจของผมจะรู้สึกโหวงแปลกๆ ที่เรื่องนี้แม่งไม่เคลียร์สักที แต่พอมองมาที่อมร...คนที่เพื่อนรักอย่างประธานเอ้หนีไปปฏิบัติธรรม ผมก็ทิ้งมันไม่ลงจริงๆ

   มันเป็นเพื่อนที่ดีกับผม ไม่ว่าภาพลักษณ์หรือรสนิยมของมันจะเป็นยังไง...มันก็เป็นเพื่อนของผม

   แก๊งชายโฉดคนอื่นๆ ก็คิดเหมือนกัน...

   หมูหันเงียบจนผมนึกหวั่นใจ มันไม่เลิกโมโหกลุ่มซีเคียวริตี้สักทีไม่ว่าผมกับคนอื่นๆ จะพูดยังไง...เวลาผ่านไปจนเกือบตีหนึ่ง จู่ๆ แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ปรากฏขึ้น...

   นายท่านกับแก๊งคุณชายมา

   คนที่อึ้งกว่าผมเห็นจะเป็นอมร...

   "สุดยอด" ลุงยามที่เดินนำทางนายท่านกับเพื่อนมาถึงกับรำพึงก่อนเดินจากไป "วันนี้หนูมอนฮอตกว่าเด็กผู้หญิงคนไหนในตึกซะอีก"

   "โอย" อมรเอามือกุมอก มองดูนายท่านกับเพื่อนๆ ที่เดินเข้ามาในห้องของตัวเอง "กูคงใช้บุญตัวเองหมดไปแล้ว...มึงดูซิดู ดูผู้ชายที่เข้ามาในห้องกูแต่ละคนสิ"

   ไอ้เซียนมองดูทิมอย่างนึกประหลาดใจ "ไหนบอกว่านอนแล้ว..."

   "ท่านลากมา" ทิมพูด "อีกอย่าง...ผมอยากมาปลอบพี่อมร"

   "โอ๊ย หนูอย่าพูดแบบนี้สิลูก...พี่ไม่มีเงินเปย์หนูนะ รองเท้าหนูข้างหนึ่งยังแพงกว่าชีวิตพี่อีก"

   เราทุกคนหัวเราะเสียงดังลั่น...อมรดูอารมณ์ดีขึ้นมาก ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพราะมีแต่ผู้ชายหน้าตาดีๆ ที่อยู่ในห้องของมันหรอก แต่เป็นเพราะใครๆ ก็เป็นห่วงมัน

   แม้กระทั่งนายท่าน...คนที่หวาดกลัวมันที่สุดในบรรดาคนเหล่านี้

   "โถๆๆ" อมรออกเสียงตอนที่นายท่านมันเดินอ้อมทุกอย่างมาเพื่อที่จะมานั่งข้างๆ ผม "กลัวพี่ไม่ใช่เหรอลูก...หนูนอนรออิกล้าอยู่ในหอก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมา"

   "ผม...อยากปลอบพี่อมรเหมือนกัน"

   สิ้นเสียงนายท่าน...อมรถึงกับต้องเอามือกุมอก

   "ฟิน" มันโอดครวญ "แบบนี้กูไม่ต้องมีผัวจริงๆ ก็ได้...กูขอมีความสุขกับผัวมโนของกูต่อไปดีกว่า"

   "อะแฮ่ม" ผมแกล้งกระแอม

   "ผัวมโน...คนที่ไม่ใช่ผัวของเพื่อน" อมรเบ้ปากใส่ผมแล้วพูดเพิ่มเติมจากประโยคเดิม
 
   ผมกับนายท่านมองอมรที่เริ่มอารมณ์ดีขึ้น มันเริ่มเก็บห้องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่แขกที่มาเยือนห้องของมันในวันนี้ ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันยังมีสติอยู่ทั้งๆ ที่ดื่มหนักมาตั้งแต่บ่าย

   "ถึงกับขนเพื่อนมา" ผมหันไปหานายท่าน "ทำไมต้องมากันเยอะขนาดนี้"

   "มึงแคร์เพื่อน กูแคร์มึง เพื่อนแคร์กู...ก็เลยมากันหมด"

   "มึงทำอะไรให้เพื่อนเป็นห่วง"

   "ก็จะอะไรซะอีก" นายท่านยกน้ำเปล่าขึ้นดื่ม "เรากำลังโดนคนรุมด่าอยู่นะ มึงอย่าลืม"

   นุกกับทิมคงเสพโซเชียลมาทั้งวันจนเป็นห่วงนายท่านมั้ง...ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ

   "พวกมันเป็นห่วงมึงด้วย อยากมาเช็กดูว่ามึงไม่เป็นอะไร"

   "กูไม่เป็นไร" ผมเหลือบมองหลังของตัวเอง "แต่สะโพกเนี่ย...อย่าให้กูต้องบรรยาย"

   นายท่านยิ้มกริ่ม "ก็มึงปล่อยให้คนอื่นโทรมาหามึงตอนที่เราทำกัน"   

   "มาพูดอะไรตรงนี้!" ผมตะครุบปากนายท่าน...โชคดีที่ไม่มีใครสนใจเราในตอนนี้เลย

   "ถามจริง...มึงโอเคหรือเปล่า"   

   "เจ็บๆ แต่ไม่เป็นไร" ผมยกแก้วตัวเองขึ้นดื่มบ้าง

   "เบาหน่อย..." นายท่านเตือนผม

   "กูจะได้หลับสบายไง"

   บรรยากาศในห้องของอมรเริ่มชิลมากขึ้นเมื่ออมรสดใสขึ้น...มันเริ่มเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างมันกับหนุ่มวิศวฯ คนนั้น เริ่มจากที่ฝ่ายนั้นเข้ามาขอเบอร์ขอไลน์มันเมื่อสองอาทิตย์ก่อน จากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ อมรไม่อยากประกาศเรื่องนี้ให้ใครรู้เพราะกลัวว่าตัวเองจะนก...แล้วสุดท้ายมันก็นกอย่างที่เห็น แถมยังรู้ความจริงอีกต่างหากว่าหนุ่มคนนั้นทำเพราะคำท้าของเพื่อน ไม่ได้ทำเพราะชอบมันจริงๆ...

   ยิ่งมันรู้ว่าไอ้เชนเคยจีบผมแบบหลอกๆ เพราะคำท้าเพื่อน...อมรมันก็ยิ่งโกรธ

   "กูต้องแข็งแกร่ง" มันสรุปในที่สุด "กูยังต้องนกอีกเยอะ นกแค่นี้กูทนได้..."

   "อย่าคิดงั้นดิวะ" ผมเอ่ยปลอบ "ต้องมีสักวันที่เป็นของมึง"

   ทุกคนทำหน้าเห็นด้วยกับผม อมรทำท่าซึ้งใจ โผเข้ามาจะกอด...นายท่าน

   โชคดีที่ผมดันใบหน้าของมันเอาไว้ได้ทัน...แฟนผมแม่งตกใจขนาดหนักถึงขนาดที่ว่าเกือบจะไปเกาะไอ้เซียนเลยทีเดียว
 
   "อิกล้า...ไม่เผลอเลยนะมึง" อมรบ่นกระปอดกระแปด

   "ขอโทษทีนะครับพี่อมร มันคงเป็นปมของผมไปแล้ว" นายท่านแก้ตัวเสียงอ่อย

   "ไม่เป็นไรจ้ะ ตัวหนูแพง หนูมีมูลค่า...พี่เข้าใจ" อมรหันไปหาทิมซึ่งนั่งอยู่อีกข้าง "'งั้นพี่จะกอดคนนี้ได้มั้ยนะ"

   อยู่ดีๆ ขนมจากมือไอ้เซียนก็โยนมาใส่หน้าอมรเต็มๆ

   "โว้ย! กอดใครไม่ได้สักคน กูรอกอดอิแม่เอ้ของกูก็ได้...ไม่รู้ตอนนี้จะสวดมนต์จบไปกี่บทแล้ว"

   เราทุกคนดีใจที่อมรดีขึ้น ตอนนี้ไอ้น้องนุกเริ่มเปิดไอจีรุ่นพี่ในคณะนิเทศฯ ให้อมรมันตามส่อง ทุกคนเสียใจกับอมรแต่ทุกคนก็ให้กำลังใจมันเหมือนกัน
 
   เหนือสิ่งอื่นใด...ผมก็อยากจะขอบคุณนายท่านและผองเพื่อน มันคงไม่รู้หรอกว่าการปรากฏตัวของมันกับเพื่อนๆ ในห้องของอมรนั้นเป็นเรื่องที่เกินจริงมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าผมจะรู้จักมันมาตั้งแต่มัธยม แต่สีหน้าของอมรทำให้ผมคิดได้...โอกาสที่คนมีชื่อเสียงอย่างสามคนนี้จะมาอยู่ในห้องของอมร ดื่มกินฉันท์มิตร รวมไปถึงนั่งชิลคุยเล่น...มันมีน้อยกว่าห้าเปอร์เซ็นต์

   ...จากเต็มล้านเปอร์เซ็นต์นะครับ

   ผมคิดต่อไป...โอกาสที่คนอย่างนายท่านจะมาชอบผู้ชายธรรมดาๆ อย่างผม...มันยิ่งน้อยกว่านั้นอีก...มีแค่หนึ่งจุดห้าเปอร์เซ็นต์เองมั้ง

   ...จากเต็มพันล้านเปอร์เซ็นต์นะครับ

   มันก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเรานี่แหละ แต่สิ่งแวดล้อมของมันทำให้ผมรู้สึกว่ามันต่างจากผมกับเพื่อนเกินไป แต่ก็นั่นแหละ นายท่านได้พิสูจน์แล้วว่ามันกับเพื่อนก็เหมือนคนอย่างผม...คนอย่างเพื่อนของผม หากใครมีปัญหา...มันก็พร้อมจะเข้าช่วยเหลือโดยที่ไม่คำนึงเลยว่าจริงๆ แล้วค่าตัวมันสูงค่ามากมายเกินเอื้อมเท่าไหร่

   เอ๊ะ หรือผมกำลังอวดว่าผมมีแฟนราคาแพงฟะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ!

   ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบันดีกว่า

   แน่นอนว่าตอนนี้ทุกๆ คนที่อยู่ในห้องของอมรก็ได้รู้การอัพเดตความสัมพันธ์ระหว่างไอ้เซียนกับไอ้น้องทิมลูกค่ายจีวายเป็นที่เรียบร้อย ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีครับ

   ...ดีกับผีน่ะสิ

   เห็นได้ชัดว่าทิมมันไม่ชอบนิสัยเซียนเป็นอย่างมาก ผมอยู่กับไอ้เซียนมานาน ผมรู้ดีว่านิสัยชอบบงการของมันนั้นคือตัวมันอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนี้...บางทีอาจเป็นเพราะยิ่งเห็นทิมขัดใจ เซียนมันก็เลยยิ่งทำใส่ เลยทำให้ทิมแสดงสีหน้าไม่พออกพอใจบ่อยครั้ง บางทีก็ติดจะรำคาญด้วยซ้ำไป

   โถเพื่อน...กูเป็นกำลังใจให้







[ มีต่อนะคะ ]




 

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12






   "หมูหัน...เอาขนมเปล่า" ผมที่ขยับตัวลำบากสะกิดให้นายท่านยื่นขนมไปให้เพื่อนของผมซึ่งนั่งอยู่ห่างออกไป นายท่านมันก็ทำตาม...ปล่อยให้ผมเป็นคนพูด ส่วนมันเป็นคนส่งขนม

   ปกติแล้วหมูหันจะชอบขนมหวานนี้มาก แต่คราวนี้มันส่ายหน้าปฏิเสธอย่างจริงจัง

   "ลดน้ำหนักเหรอ"

   มันส่ายหน้าอีก

   เซียนหันมาสบตากับผม มันส่งสัญญาณบอกผมเป็นเชิงรู้กันว่าหมูหันอยู่ในสภาวะอารมณ์ไม่ปกติ เพราะถ้ามันปกติ...มันจะเป็นคนแรกที่พูดหรือสร้างบรรยากาศให้อมรรู้สึกดี แต่ทว่าคราวนี้...มันปล่อยหน้าที่นั้นให้เป็นของคนอื่นไป

   ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน

   "เอาล่ะค่ะ...ทุกคนตั้งใจฟังคนสวย" อมรดีดนิ้ว ยืดตัวทำท่าทางเหมือนอยากพูดอะไรอย่างเป็นทางการ "ดิฉันขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับดิฉัน ในฐานะผู้ได้ครอบครองมงกฎมิสยูนิเวอร์ส ประจำปี..."

   "พอ" เซียนเอ่ยขัด

   "กูสวยไม่พอเหรอ"

   "มึงอยากพูดอะไรก็พูดมา ไอ้สัด"

   สงสัยเซียนมันหงุดหงิดที่ทิมไม่สนใจมันล่ะมั้ง...มันถึงได้ลงกับอมรแบบนี้ อมรเบะปากใส่ จากนั้นก็เริ่มพูดอีกรอบ

   "ดิฉันดีใจและซึ้งใจมาก...และดิฉันก็รู้ดีค่ะว่าคนที่ดิฉันควรขอบคุณที่สุดคือใคร ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าดิฉันจะได้พูดอย่างนี้ค่ะ..." มันทำท่าซับน้ำตาอย่างหลอกลวงที่สุดในโลก "ขอบคุณอิกล้านะคะ ถ้าไม่ได้มึง...ผัวงานดีกับเพื่อนผัวที่งานดี๊ดีแบบนี้จะมาอยู่ในห้องกูเวลานี้มั้ย ฮือ ขอบคุณจริงๆ นะ ขอบคุณๆ" มันจับมือผมเขย่า ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มแบบงงๆ

   "แล้วพวกกูล่ะ งานไม่ดีเหรอ" เซียนโวยวาย

   "ก็กูเบื่อหน้าอ่ะ"

   "ไหนบอกกูหล่อ"

   "กูพูดตอนไหน"

   "สองวันก่อน!"

   "..."

   "เมื่อวานก็พูด"

   "ปกติใครชมมึงบ้าง"

   เซียนนิ่งคิด "มึง...และก็มึง"

   "แปลว่ามึงไม่ได้หล่อจริงๆ กูพูดเอาใจมึงเฉยๆ"

   "เชี่ยมอน"

   ตงต้องจับเท้าไอ้เซียนไว้ก่อนที่มันลอยไปโดนหน้าของอมร นางเอกของวันนี้ ทุกคนหัวเราะเพราะอดไม่ได้ จนกระทั่งอมรมันกระแอมอีกครั้งหนึ่ง

   "โอเคค่ะ ตอนนี้เลิกพูดเรื่องของดิฉันได้แล้ว เพราะดิฉันคิดว่ามีคนที่อยากได้ความช่วยเหลือจากคนอื่นเหมือนกัน"

   ผมฟังเพลินๆ หยิบของเหลวในแก้วขึ้นมาดื่ม

   "คนคนนั้นคืออิกล้า"

   ผมเผลอพ่นเครื่องดื่มออกมาจากปากจนนายท่านมันต้องหาทิชชูแถวนั้นส่งมาให้


   "กูคิดวิธีช่วยมึงจากสถานการณ์เหี้ยๆ นี้ได้แล้ว"

   นี่ผมเกือบลืมไปแล้วนะว่าผมกำลังอยู่ในพายุดราม่าที่ชื่อว่า 'โดนคนด่าฟรี' น่ะ เพราะผมมัวแต่คิดเรื่องของอมร...กับความเสียวแปล๊บที่สะโพกของผมนี่

   "หา" ผมรำพึง นายท่านเองก็หันไปมองอมรอย่างสนใจ

   "ในฐานะที่กูเป็นติ่งแม่อั้มมานานและได้เห็นดราม่าในวงการมาเยอะแยะ กูบอกได้เลยว่าสถานการณ์ตอนนี้นั้นค่อนข้างแย่..." อมรจั่วหัวเรื่องได้อย่างน่าหวาดกลัวจนผมต้องกลืนน้ำลาย "มึงดันไปฉกเอาดวงใจของเขามาอย่างหน้าตาเฉย กูเข้าใจว่าทำไมเขาถึงด่ามึง รุมประณามมึง"

   ผมจิบเครื่องดื่มในมืออีกรอบ...นายท่านเองก็ทำเช่นเดียวกัน แต่ของมันเป็นน้ำเปล่า ส่วนผมเป็นเบียร์

   แม่ง...เครียดฉิบหาย

   "หลายคนเห็นนายท่านตั้งแต่ยังเด็ก...เขาเอ็นดูนายท่านมาตั้งแต่ตอนนั้น กี่ปี กี่เดือนก็ไม่รู้...บางคนเป็นชะนีเพิ่งเริ่มมีหมออ้อย..." ทุกคนรอบๆ ตัวอมรพร้อมใจกันไอเสียงดัง "ชะนีพวกนั้นได้ทำการยึดนายท่านเป็นไทป์ของผัวที่ดีไปแล้ว กูอยากให้มึงเข้าใจว่าทำไมมึงถึงโดนด่า ส่วนใหญ่รับไม่ได้ ส่วนใหญ่อิจฉา ส่วนใหญ่ก็ยังยึดอยู่กับความรักในรูปแบบเดิมๆ ชายหญิงแบบเดิมๆ" มันกลอกตาไปด้วยส่ายหน้าไปด้วย

   "กูเข้าใจที่กูโดนด่า" ผมตอบ

   "ไร้สาระ" นายท่านทำสีหน้าหงุดหงิด...มันไม่ได้ด่าอมรครับ แต่ด่าคนนอกที่ด่าผมแบบไร้เหตุผล

   "กูคิดว่ามึงกับน้องนายท่านคงรู้แล้วว่าควรทำไง ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ไป ถ้าใครมาด่าหรือมาว่าก็เททิ้งลงคลองแม่งให้หมด อย่าเก็บมาคิดเข้าใจมั้ย"

   "อืม"

   "และก็อีกเรื่อง..." อมรวางโทรศัพท์ของนายท่านลงตรงกลางกลุ่มที่นั่งอยู่ แฟนผมถึงกับงงว่าทำไมโทรศัพท์ของมันถึงอมรแอบฉกไปตอนไหน "โทรหาประธานค่ายเอสเอ็นซะ"

   "เชี่ย!" ผมร้องดังมาก "ตอนนี้กี่โมงแล้ว ไม่ได้หรอก"

   มันดึกมากแล้วครับ...อีกอย่างผมก็ยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่นิดๆ

   "วันนี้คุณแม่กูนอนดึก" นายท่านพูดเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร...แต่ผมคิดว่ามันอาจจะกำลังทดสอบผมอยู่

   "ท่านอยู่วงการบันเทิงมานาน อีกอย่างตอนนี้ลูกชายท่านกำลังเป็นเป้านิ่ง กูเชื่อว่าพ่อแม่ร้อยทั้งร้อยไม่ชอบเห็นลูกโดนด่าหรอก"

   "มึงกำลังจะพูดอะไรวะอมร"

   "ขอความช่วยเหลือจากท่านซะ"

   "หา" ผมอ้าปากค้าง

   "ท่านจะทำอะไรก็เรื่องของท่าน ให้มึงกับน้องไปตั้งโต๊ะแถลงข่าว หรือไม่สนหินแดดใดๆ แล้วใช้ชีวิตไปก็เรื่องของท่าน แต่กูบอกเลยว่ามึงต้องโทรไปขอคำปรึกษา หรือจะให้กูพูดนัยๆ ก็คือ..."

   "แสดงออกไปเลยว่าไม่ยอมแพ้กับเรื่องขี้ประติ๋วพวกนี้" ตงเอ่ยต่อ

   "ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว มึงได้แสดงตัวกับแม่นายท่านและก็ได้คำปรึกษาด้วย"  เซียนเสริม

   "โทรเลย โทรเลย" คำพูดนี้เป็นของหมูหัน

   อาจเป็นเพราะผมเมาแล้วหรืออะไรก็ไม่อาจทราบได้ ผมรู้สึกว่าผมมีความกล้ามากขึ้น ยิ่งมองหน้านายท่าน คนทีเพิ่งออกปากหยกๆ ว่าแม่ยังไม่นอน ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าผมต้องรีบลงมือทำทันที

   เป็นไงเป็นกัน...

   นายท่านกดโทรออกพร้อมเปิดสปีกเกอร์โฟน...ส่วนผมใจเต้นตึกตักระหว่างที่รอให้คุณแม่ของนายท่านรับสาย

   [ฮัลโหล]

   รับแล้วๆ รับแล้วโว้ยยยยย

   [ท่านว่าไง ยังไม่นอนอีกเหรอ]

   "แม่ครับ สวัสดีครับ" ผมกรอกเสียงลงไป ไอ้เซียนชนแก้วกับคนอื่นๆ อย่างยินดีปรีดา แต่ผมนั้นเริ่มรู้สึกว่าฉี่ใกล้จะราด "ผม...กล้าหาญครับ"

   ไม่รู้ว่าท่านรับผมเป็นลูกหรือยัง แต่ผมก็ชิงเรียกท่านว่าแม่ไปแล้ว...ด้านได้อายอด

   [โทรมาทำไม]

   "ผมจะโทรมาบอกว่า..." เห็นนายท่านส่งนัยน์ตาแป๋วมาให้กำลังใจ ผมก็รู้สึกว่าผมแพ้ไม่ได้ "ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้ไปหาแม่ตามกำหนดการเดิม พอดีมีเรื่องนิดหน่อย"

   [ไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องโทรมา]

   "จำเป็นสิครับ ผมต้องขอโทษแม่ด้วยตัวเอง"

   [มีอะไรจะพูดอีกมั้ย ถ้าไม่มี...]

   "ผมรักลูกแม่ครับ!"

   .

   .

   .

   ในห้องอมรเกิดความเงียบขึ้นมาในบัดดล

   "เหยด"
   "อิกล้า..."
   "พี่กล้า"

   บางคนส่งเสียงพึมพำอย่างไม่อยากจะเชื่อ นายท่านเองก็ทำหน้าอึ้งเหมือนกัน

   [หะ...หา]

   "ผมรักลูกแม่ครับ รักจริงๆ ไว้หลังสอบเสร็จเมื่อไหร่ผมจะหาโอกาสไปพิสูจน์ความรักของผมให้แม่ได้เห็นนะครับ!"

   [เดี๋ยว นี่...]

   "จริงๆ ผมอยากไปหาแม่วันพรุ่งนี้มะรืนนี้เลย...แต่ผมทำไม่ได้ครับ ผมกับท่านยังไม่เริ่มอ่านหนังสือเลย" มันเป็นความจริง "ถ้าไม่เริ่มอ่านผมตายแน่..." เจ้าหญิงต้องฆ่าผมอย่างไร้ความปราณีถ้าผมเกรดตก!

   [...]

   "ไม่ว่าผมจะโดนด่าหรือโดนวิจารณ์อะไร แม่ก็อย่าเพิ่งไปเชื่อให้มากนะครับ รอคุยกับผมตรงๆ รอสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของผม รอทำความรู้จักกับผมด้วยตัวเอง"

   [...]

   "แม่จะรอมั้ยครับ"

   อ๊ากกกก เป็นคำถามที่โง่มาก คนที่เกลียดผมเข้าไส้อย่างคุณแม่นายท่านจะมารอผมได้ยังไง ผมควรจะ...

   [ก็ได้ จะลองดู]

   เฮ้ย ผมถลึงตามองนายท่าน ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็ตีแขนไปมาอย่างตื่นเต้นและดีใจกับผม

   [ในเมื่อลูก...แม่...รักเธอขนาดนั้น เธอต้องมีอะไรดีสิ]

   นายท่านยักคิ้วส่งให้ผม ผมเชื่อว่าคุณนายหญิงคงจะเริ่มเปิดใจนิดๆ แล้วล่ะ ดูจากการเรียกแทนตัวเองของท่านสิ

   [แล้วที่โดนด่า...รู้สึกยังไงบ้างล่ะ]

   "ตอนแรกก็ช็อกครับ พี่สาวผมสามคนกับแม่ผมก็ยังไม่เคยด่าผมแบบนี้เลย แต่หลังๆ ก็เฉยๆ..." ไม่พอ...ผมต้องพูดให้มากกว่านี้ "ผมก็อยากจะปรึกษาแม่มากว่าผมควรทำตัวยังไง ผมไม่รู้จักวงการนี้เลย"

   [เฉยๆ ไปก่อน นายท่านไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์ ไม่จำเป็นต้องออกมาแก้ข่าวอะไร]

   นายท่านกับผมตีมือไฮไฟฟ์กัน

   [แต่ถ้ามากกว่านี้จนกระทบกับงานของค่าย...ก็คงต้องออกมาพูดอะไรบ้าง...ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นหรอก]

   "ขอบคุณที่คุยกับผมนะครับ"

   [แล้วนี่ยังไม่นอนหรือไง]

   "นักศึกษามหา'ลัยน่ะครับ นอนก่อนตีสี่ไม่ได้" ...เหรอวะ ไอ้สัดกล้า...มึงพูดอะไรเนี่ย

   [เธอก็น่าสงสารอยู่ที่โดนด่าหนักแบบนั้น บางคำด่าก็ออกจะเกินไป]

   "ใช่มั้ยครับ แม่" ผมตบเข่าดังฉาด

   [นี่เราสนิทกันแล้วเหรอ อย่าทำตัวสนิทกันเกินไปสิ]

   นายท่านหลุดขำ ผมและคนอื่นๆ ก็เช่นกัน...

   "ครับ"

   [อย่าทำเรื่องเสียหาย อย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อ...แม่คิดว่าเธอกับท่านน่าจะเข้าใจเรื่องนี้]

   "แน่นอนที่สุดครับ" ได้ทีผมก็เอาใจใหญ่

   [ท่านนอนหรือยัง]

   "หลับปุ๋ยเลยครับ" นายท่านเอามือปิดปากตัวเอง   

   [นี่เธอแอบเอาโทรศัพท์นายท่านมาโทรหาฉันเหรอ]

   เปล่าครับ...เพื่อนแนะนำมา "ใช่ครับ"

   [กล้านะ]

   "ผมต้องกล้าแล้วครับ ผมมุดอยู่ในรูนานมากเกินไปแล้ว...ผมทนไม่ได้อีกแล้ว"

   [อืม...] คุณนายหญิงเงียบไปครู่หนึ่ง [โตขึ้นแล้วนี่]

   ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าผมต้องมาคุยเรื่องนี้กับแม่นายท่านต่อหน้าเพื่อนๆ

   "ครับ ผมโตแล้ว..."

   [...]

   "ผมอาจจะไม่มีอะไรให้ท่านเลยนอกจากความรัก แต่เชื่อเถอะครับว่านั่นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม เพราะถ้าผมรักใคร...ผมจะให้ทั้งชีวิต"

   มีหลายปฏิกิริยาเกิดขึ้นหลังจากที่ผมพูด บางคนก็อ้าปากค้าง บางคนก็กุมอก บางคนก็ก้มหน้าโก่งคออ้วก (เหี้ยเซียนนั่นไง...จะใครซะอีก) ส่วนบางคนก็มองหน้าผมอย่างทึ่งๆ ปนประทับใจ

   นายท่าน...แฟนของผมเอง

   "แม่จำคำนี้ไว้เลย"

   [ดึกแล้ว...แม่จะนอน]

   "ครับแม่ เดี๋ยวเจอกันนะครับ"

   [ตกลงจะมาจริงๆ เหรอ]

   "หลังสอบเสร็จมีวันหยุดประมาณสามวัน ผมให้แม่คนเดียวเลยเต็มๆ" บ้านช่องไม่ต้องกลับแล้ว ไอ้กล้าเอ๋ย

   [ถามแม่หรือยังว่าอยากได้หรือเปล่า]

   "ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถามก็ได้"

   [เอ๊ะ]

   "นอนได้แล้วครับแม่ ฝันดีนะครับ"

   [เด็กคนนี้นี่]

   เราทุกคนรอจนแม่นายท่านวางสาย ทันทีที่สัญญาณตัด ทุกคนก็แย่งกันพูดเสียงดัง

   "มึงควรหน้าด้านแบบนี้ตั้งนานแล้ว"
   "น่ารักเว้ย แบบนี้ผู้ใหญ่ชอบ"
   "ต้องสู้ ต้องสู้ เพื่อผัว เพื่อผัว ท่องไว้ค่าอิกล้า"

   ท่ามกลางเสียงที่โคตรดังเหล่านั้น...ผมหันไปมองนายท่าน มันเอื้อมมือมาจับมือผมพร้อมกับบีบแน่น ไม่พูดด้วยริมฝีปาก แต่พูดด้วยสายตาที่กำลังมองมาที่ผม

   มันภูมิใจและก็ดีใจมาก

   ที่ผ่านมาผมแม่งก็เหี้ย...เหี้ยที่กลัวแม่นายท่านจนหัวหด เหี้ยที่ยอมปล่อยให้ทุกอย่างล่วงเลยมาจนเป็นความวุ่นวาย ถ้ารู้ว่าผมเป็นตัวเองต่อหน้าแม่ของนายท่านแล้วมันได้ผลที่สุด...ผมก็ควรจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว

   ถ้าได้นายหญิง อรุณกิตตินิวัฒน์มาอยู่ทีมผม...

   จะดราม่าระดับประเทศหรือดราม่าระดับ world wide...ผมก็จะไม่มีวันกลัวอีกต่อไป









   ครับ...วันนั้นทุกอย่างมันควรจะจบลงตรงนั้น

   แต่เปล่าเลย...มันยังมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นอีก

   ระหว่างที่ผมกับคนอื่นๆ ออกมาจากหอของอมรในช่วงเวลาเกือบตีสาม เราทุกคนก็เห็นเงาตะคุ่มๆ ของผู้ชายสามสี่คน ผมที่เริ่มมึนหัวมองไม่ออกว่าเป็นใคร แต่ก็รู้สึกได้ว่าคุ้นตาอยู่เหมือนกัน

   กว่าที่ผมจะรับรู้อะไร หมูหันก็พุ่งตัวออกไป...จากนั้นก็ต่อยหน้าหนึ่งในนั้นจนล้มทั้งยืน

   เหี้ยยยยยยยย!!!

   สร่างเมาเลยกู...วันนี้ยังมีเรื่องไม่พออีกเหรอวะ

   "เชี่ย" ผมรีบจับตัวหมูหันที่โกรธหน้าดำหน้าแดง คนที่มันต่อยก็คือเพื่อนร่วมตึกและอยู่ห้องตรงข้ามผม...ไอ้เชน

   "เลวทั้งแก๊ง" หมูหันกัดฟันด่า เพื่อนคนอื่นๆ ต้องพากันจับตัวกันเอาไว้ เพราะพวกผมเมา พวกนั้นก็เมาเหมือนกัน

   "ใครวะเชน"
   "จัดเลยมั้ย"

   จัดเหี้ยอะไรล่ะไอ้พวกบ้าท้าดวล...

   "ไม่มีอะไร"

   หลังจากที่เชนตอบ...หมูหันก็ดิ้นหลุดไปจากมือผม เชนมันเลยโดนต่อยเป็นครั้งที่สอง ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าหมัดหมูหันนั้นหนักมาก...ทำเอาเชนปากแตกกันเลยทีเดียว

   ผมนี่อยากจะเอาตีนมาก่ายหน้าผากเลยครับ...

   "เหี้ย จะเอาใช่มั้ย" เพื่อนเชนคนหนึ่งทำท่าจะพุ่งเข้ามาใส่หมูหัน แต่นายท่านขวางเอาไว้ก่อนพร้อมๆ กับผลัก

   แฟนกูนี่ก็ช่วยเบาหน่อยได้มั้ย...เดี๋ยวก็ได้ขึ้นโรงพักกันหมดหรอก

   "ใจเย็น" เชนบอกเพื่อน

   "มึงใจเย็นๆ ก่อน" ผมบอกหมูหัน

   ดวงตาของผมกับดวงตาของเชนประสานเป็นสายตาเดียวกัน ผมถูกชะตามันตั้งแต่รู้จักกันเพราะมันค่อนข้างรู้นิสัยใจคอผม ตอนนี้ผมกำลังบอกมันเป็นนัยๆ ว่ามันกับเพื่อนต้องเป็นฝ่ายไสหัวไปก่อนที่จะมีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น เพราะถ้านายท่านบวก เพื่อนนายท่านก็คงจะบวกเหมือนกัน ท่าทางนายท่านเหมือนพร้อมจะโบกหัวพวกวิศวฯ ตลอดเวลาอยู่แล้ว อาจเป็นเพราะหัวร้อนเรื่องอมรมาก่อนอยู่แล้ว

   ถ้าเกิดขึ้นจริงแม่งอย่างกับศึกสามคณะเลยนะ

   เศรษฐศาสตร์ นิเทศศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์

   โชคดีที่เชนรู้สถานการณ์ดี...มันรีบลากเพื่อนมันออกห่างจากพวกผม...แล้วก็รีบเดินจากไป

   ผมโล่งใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่ต้นเหตุซึ่งต่อยหน้าคนอื่นก่อนนั้นล้มคอพับลงกับพื้น...แล้วหลับ

   เชี่ยหมูหันเอ๊ย...







   "กูมีแผน"

   "แผนไรของมึง"

   "เปล่าหรอก"

   "..."

   "แต่เรื่องฝันน่ะ กูขอจัดการเอง"

   "มึงจะไปทำอะไรผู้หญิงวะทิม"

   "บ้า ไม่ใช่อย่างนั้น"

   "กูโทรหาเขาแล้วนะ แต่เขาไม่หยุดว่ะ"

   "เออ มึงเป็นพระเอก มึงก็ทำหน้าที่ของมึงไปเถอะ"

   "หน้าที่อะไรวะ"

   "อยู่ข้างๆ นางเอกไง เอ๊ะ หรือนายเอก..."

   "..."

   "ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ตัวประกอบอย่างกูจัดการกับตัวประกอบเหมือนกัน"

   "มึงจะทำอะไร"

   "ปล่อยกูเถอะน่ะ"

   "ทำคนเดียวไหวเหรอ"

   "ก็..."

   "..."

   "พี่เซียนบอกว่าจะช่วย"

   "(ยิ้ม)"

   "อะไรของมึงวะ"

   "เปล๊า"









TBC*




ตอนหน้าเป็นพาร์ตของหมูหันค่ะ ><

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โหหหหห หมูหันต้องคู่กับเชนแน่เลย

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้ยย สงสารเจ้อมร แต่อิเจ้สตรองมากก สักวันต้องมีผู้ชายดีๆหลงเข้ามาค่ะเจ้ ส่วนหมูหันนี่กับเชนใช่มั้ยคะ คึคึ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เรื่องหมูหันต้องมีไรในกอไผ่แน่เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เชนหมูหันจ้าาาาาาาาาาาาา  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ cookie12ck

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หมูหันคู่เชนแน่เลย น่ารักดีอิอิ :hao6:

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
กล้าน่าร้ากกกกกกกก ในที่สุดก็กล้าคุยกับคุณแม่นายท่านสักที ยินดีด้วยค่ะ อิอิ
นายท่านก็ยังคงเป็นนายท่านที่ได้ใจสาวๆอย่างเรา งื้อออ เท่ไปไหน 555
ทิมกับเซียน ความสัมพันธ์จะคืบหน้าไปทางที่ดีไหม อยากให้น้องทิมใจอ่อนเยอะๆ
ก็ว่าอยู่ว่าหมูหันดูซัมติ้งกับเชนนะ แบบว่าผิดหวังในตัวเชนน่ะ รอค่ะรอ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสารอมร  :L3:
ชอบใจหมูหัน  o13

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 o13  o13  o13 ให้กล้าหาญและอมร

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เชน&หมูหัน อีกคู่ใช่ไหม? งือออออ  :-[

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ทิม : อะไรของมึงวะ
นายท่าน : เปล๊า
เปล๊า เสียงสู๊งงงงงง555555555 นึกภาพตามแล้วน่ารักอ่ะ นายท่านขอฟัดหน่อย

ออฟไลน์ ptewtoe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบบบบ ความรักของเพื่อนนนน    หมูหันต้องคู่ใครแน่ๆๆ :L2: :L1: :3123:

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กล้าเข้าทางแม่หรือคะ น่ารักอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อมรสู้ๆเด้อออ สักวันมันต้องเป็นวันของอมร
แม่นายท่านเริ่มเปิดใจให้กล้าแล้ว สู้ๆนะกล้า

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
แต่ละกลุ่ม แต่ละคน น่ารักพอ ๆ กัน
(ยกเว้น นายท่านที่ขึ้นหิ้งไปแล้ว)

แบ่งใจไม่ถูกเลยงานนี้

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
กล้าหาญบอยกล้าหาญสมขื่อแล้ว
แม่นายท่านดูอ่อนลงมากเลยอะ ถือว่าเข้าได้ถูกจังหวะมากๆ
เพราะถ้าไม่ใช่ว่ามีเรื่องสะเทือนใจจากที่ลูกตัวเองโดนรุมด่าอยู่งี้
ก้ไม่มีอะไรรับรองได้ว่าแม่นายท่านจะยอมรับและดูจะเอ็นดูกล้าอยู่นิดๆด้วยแบบนี้อะ
ถูกที่ ถูกเวลา ถูกวาระและโอกาสมากๆๆๆๆเลย
อมรสตรองมากกก ซักวันต้องเป็นวันของอมรรรร
หาผู้ชายให้นางทีเถอะค่ะ อยากเห็นนางสมหวังในชาตินี้55555
ส่วนเชนกับหมูหันนั้นนน มีซัมติงแฮปเพิ่นแน่ๆค่าาา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
หมูหันกับเชนคือีซัมติงกันใช่มะ ถึงโมโหขนาดนั้น

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ว่าแล้วหมูหันต้องมีอะไร!

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12


ตอนที่ 30
หมูหัน





   [เชน ได้ข่าวว่ามึงเจอเด็กเสดสาดต่อยปาก]

    'เอ่อ...ใช่ครับ'

   [จะเอาเลยมั้ย...หรือยังไง เดี๋ยวกูเรียกพรรคพวก]

   'พี่...ผมกับมันเป็นเพื่อนกัน'

   [ไอ้พวกที่ไปกับมึงด้วยมันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นนะ]

   'เอางี้...ถ้าพี่เห็นหน้าคนที่ต่อยผม พี่จะทำอะไรมันไม่ลงเลย'

   [มันทำไม...มันตัวเล็กเตะแล้วปลิวได้ง่ายๆ เหรอ]

   'ก็ไม่เล็กนะพี่'

   [กูไม่เห็นแคร์...มันต่อยน้องกู ต่อยน้องกูก็เหมือนต่อยกู ต่อยเกียร์หน้าคณะกู]

   'พี่...ไม่เอาครับ อย่าทำแบบนั้น ผมขอ'

   [เฮ้ย มึงจะยอมให้มันต่อยมึงฟรีหรือไง]

   'ครับ...มันไม่เจ็บเท่าไหร่'

   [แต่ปากมึงแตกเลยนะ]

   'พี่...ผมไม่เป็นไรจริงๆ'

   [ทำไมมึงปกป้องมันจังเลย]

   'ก็มันเป็นเพื่อนผมไง'

   [เอาจริงๆ กูเริ่มสงสัยแล้วว่าใครกันแน่ที่ต่อยปากมึง]

   'พี่คุ้นชื่อ...หมูหันมั้ยครับ'

   [...]

   'ว่าไงพี่'

   [มันจะมีสักกี่คนบนโลกวะ คนที่ชื่อหมูหันเนี่ย]

   '...'

   [กูเข้าใจมึงแล้ว ไม่เอาเรื่องก็ไม่เอาเรื่อง]

   '...'

   [แม่ง ไปแหย่นิดแหย่หน่อยคงมีร้องไห้]

   'นั่นสิครับ'

   [แปลกใจที่มึงแคร์ไอ้นี่มากขนาดนี้นะ]

   'ก็แหม...คนรู้จักกันน่ะพี่'

   [มีอะไรมากกว่าคนรู้จักกันมั้ย]

   'ไม่มีนะครับ'

   [มีหรือยังไม่มี]

   'พี่...ผมเจ็บปาก'

   [เออ กูวางก็ได้]

   '...'

   [อย่าให้เห็นว่าควงกันผ่านหน้าคณะเชียวนะ กูจะล้อให้อายยันเหลนมึงบวชเลย คอยดู]

   'ฮ่าๆๆ ครับ'








   ผมปวดฉี่มาก...

   ผมเดินหลับตาไปยังห้องน้ำที่ผมคุ้นเคย มันล็อกอยู่...ฉะนั้นผมจึงตัดสินใจไปห้องน้ำอีกห้อง ประตูห้องก่อนที่จะถึงห้องน้ำนั้นมันไม่ได้ถูกล็อกเอาไว้ ทุกอย่างช่างง่ายดาย...นี่ผมพูดถึงเรื่องที่ผมได้ปลดทุกข์ด้วยนะ...มันสบายเหลือเกิน

   ดวงตาของผมเผยอขึ้นมาเล็กน้อยเพราะต้องใส่กางเกงพร้อมทั้งรูดซิบ อีกทั้งยังต้องกดน้ำอีก...ในตอนนั้นเองที่ผมเริ่มมีสติว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

   ผมกำลังอยู่ในห้องของไอ้เชน!

   เท้าของผมพาเดินออกมาจากห้องของไอ้กล้าเพราะห้องน้ำมันไม่ว่าง ผมกับเพื่อนไม่เข้าห้องน้ำในห้องนอนของไอ้กล้าอยู่แล้วเพราะอยากให้มันมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างเนื่องจากแทบทุกจุดของในห้องของมันถูกคนอื่นรุกล้ำไปหมดแล้ว ผมจึงมาที่นี่แทน

   ห้องน้ำของเชน...

   หากเป็นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมคงเดินเข้าออกห้องน้ำของเชนได้อย่างสบายใจเฉิบเนื่องจากทำบ่อย (ตงขี้นานมากเวลาใช้ห้องน้ำในห้องนั่งเล่นของไอ้กล้า) เชนมันติดนิสัยไม่ชอบล็อกห้องอยู่แล้ว แต่เมื่อคืนนั้นผมโมโหมันมาก และเมื่ออาทิตย์ก่อนๆ ผมก็โมโหมันมากเหมือนกัน ฉะนั้นมันจึงเป็นอะไรที่น่ากระอักกระอ่วนอย่างแรง

   ผมไม่ชอบที่มันทำอะไรไม่จริงอย่างเช่นแกล้งจีบเพื่อนผมแบบนั้น แล้วผมก็โคตรไม่ชอบที่มันสนับสนุนให้เพื่อนตัวเองแกล้งจีบเพื่อนผมอีกคนโดยไม่ยอมประท้วงอะไรสักคำ

   มีอะไรในชีวิตมึงที่มันจริงบ้าง!

   ผมคิดอย่างโมโห แต่ก็พึงนึกขึ้นได้ว่าผมต้องออกไปจากห้องน้ำนี้ก่อน...ผมเรียกสติตัวเองให้กลับคืนมาก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูเบาๆ เพราะกลัวว่าเจ้าของที่มันจะรู้ว่าผมแอบมาใช้ห้องน้ำเหมือนอย่างเคยๆ

   ฮู่ววว โล่งใจ...ไม่มีใครอยู่

   "หมูหัน"

   ผมสะดุ้งสุดตัว...เชนมันอยู่ว่ะ!

   มือของผมกำแน่นก่อนจะหันไปมองเชนด้วยสายตามุ่งร้าย เวลาผมไม่ชอบใครผมมักจะแสดงออกอย่างเต็มที่ ผมไม่เคยกั๊กความรู้สึกหรือปั้นหน้าเสแสร้ง

   ผมตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าปากมันแตก...จำได้ลางๆ ว่ามันเป็นฝีมือของผม

   แน่นอนว่าผมจะไม่ขอโทษมันหรอก มันกับเพื่อนแก๊งบ้าท้าดวลควรไปอยู่นอกโลก...

   ผมชูนิ้วกลางใส่เชนแล้วเดินหนี เชนจับชายเสื้อผมเอาไว้ไม่ให้ผมไปไหน

   "กูขอโทษ"

   "ไปไกลๆ"

   "เฮ้ย"

   มันไม่ยอมแฮะ...ผมตัวเล็กกว่ามันนิดนึง แต่ทำไมผมถึงสู้แรงมันไม่ได้ก็ไม่รู้

   "เหี้ย ปล่อย!"

   "ฟังกูก่อน"

   "ไม่ฟังโว้ย"

   "ทำไมมึงอินอยู่คนเดียว เพื่อนคนอื่นๆ ของมึงไม่เห็นอินเลย" เชนเท้าสะเอว ทำสีหน้ารับความประพฤติของผมไม่ได้ "มึงบ้าหรือเปล่า"

   "เอางี้" ผมตัดสินใจหันไปเผชิญหน้ากับมัน "มึงลองนึกภาพดู...มีคนคนหนึ่งเข้ามาจีบเพื่อนมึง ใจมึงแอบสนับสนุนคนคนนั้นเพราะมึงคิดว่ามันเป็นคนดี มึงเชียร์ทั้งๆ ที่มึงรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนคนนั้นของมึงมีคนรักอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แล้วมึงมารู้ทีหลังว่าคนคนนั้นทำไปเพราะคำพูดเพื่อน...เป็นมึงมึงจะคิดไง"

   เชนอึ้งไปหลังจากที่ได้ยิน

   "มึงแอบเชียร์กูเหรอ"

   "แหงสิ กูเป็นคนเคาะประตูเรียกมึงออกมาให้มาถ่ายรูปคู่กับไอ้กล้าลงไอจี มึงจำไม่ได้เหรอ"

   "มึงกับเพื่อนออกจะเหมือนหลอกใช้กู"

   "แต่ลึกๆ ในใจแล้วกูเชียร์จริงๆ" ผมเริ่มรับไม่ได้ที่ตัวเองมาพูดอะไรแบบนี้ "ช่างแม่งเหอะ"

   "หมูหัน..."

   "ไปไกลๆ ตีน"

   "มึงอย่าโกรธกูดิ"

   "เหี้ยไร" ให้ผมไม่โกรธผมคงทำไม่ได้...นี่ผมเคืองแม่งจริงๆ นะ

   "กูแคร์มึงพอๆ กับที่กูแคร์กล้าในกลุ่มของมึงเลยนะ กูไม่อยากเลิกเป็นเพื่อนกับมึงนะเว้ย"

   ผมควรจะปลื้มดีมั้ย...ไม่ ผมไม่เห็นจะรู้สึกไปในทางนั้นเลย

   "จะยังไงกูก็ไม่หายโกรธมึงอยู่ดี เรื่องกล้ามึงทำตัวเอง ส่วนเรื่องอมร...มึงห้ามเพื่อนมึงได้นะเว้ย" ได้ทีแล้วผมก็ใส่ไฟใหญ่ "เพื่อนกูมันเสียใจมากเลยนะ คนบางคนเขาจริงจังกับคนที่เข้ามาหา...ถ้าพวกมึงเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกก็คิดใหม่ซะ"

   "คือกู..."

   "กูจะกลับห้องกูแล้ว!" ผมตวาดเสียงดังลั่น

   "มึงหมายถึงห้องกล้าหรือเปล่าวะ"

   ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันจะแอบกัดผมเล็กๆ แบบนี้...ดูสายตามันดิ แม่งโคตรขำผม

   "เรื่องของกู"

   ขอให้กูอย่าได้เจอะได้เจอมึงอีกเลย...ไอ้หัวหน้าแก๊งบ้าท้าดวลกลุ่มซีเคียวริตี้แห่งคณะวิศวฯ! (ตำแหน่งแม่งยาวดีนะ)








   ตอนบ่าย

   ผมเป็นพวกชอบออกไปข้างนอกครับ จะหาว่าผมติดเพื่อนก็ไม่ถูกเพราะบางครั้งผมก็อยู่คนเดียว แต่ถ้าจะหาว่าผมติดผู้หญิงก็ไม่ใช่อีกเพราะผมโสด...จริงๆ แล้วผมมีความลับอย่างหนึ่งที่น้อยคนนักจะรู้ แม้กระทั่งไอ้ตงที่เป็นเพื่อนสนิทผม...มันยังไม่รู้เลย

   ผมเป็นเกย์

   ไม่ใช่เพราะผมไม่อยากเปิดเผย ไม่ใช่เพราะผมไม่ภูมิใจในสิ่งที่ผมเป็น...แต่ผมยังไม่คุ้นกับความจริงข้อนี้ โอเค มันอาจจะฟังดูตลก ผมเพิ่งมาค้นพบว่าผมมีความรู้สึกกับผู้ชายด้วยกันตอนที่ไอ้กล้า เพื่อนผมโชว์รูปนายท่าน คนรักของมัน (มันอวดตั้งแต่สมัยที่ยังไม่คืนดีกัน...เอ๊ะ ผ่านมาแล้วสองปีสินะ) แต่ใจเย็นๆ นะครับ ผมไม่ได้แอบชอบคนรักของเพื่อน ความหล่อของคนคนนี้มันรบกวนจิตใจผม

   ผมไม่เคยคิดว่าผู้ชายคนไหนหล่อมาก่อนในชีวิต

   ไอ้เหี้ยเซียนอาจจะหล่อ...แต่ก็แล้วไง มันไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นเหมือนตอนเห็นรูปนายท่าน และถ้าถามถึงไอ้ตงน่ะเหรอ ผมไม่ได้รู้สึกถึงความหล่อของมันเลยตั้งแต่เป็นเพื่อนกับมันมา แต่ดูเหมือนว่าสาวๆ หลายคนจะไม่เห็นด้วยกับผมนะครับ

   เอาเป็นว่านายท่านคือผู้จุดประกาย ตั้งแต่ที่ผมเริ่มมองว่ามันหล่อ ผมก็เริ่มทำการทดสอบตัวเองด้วยการมองผู้ชายทั้งมอ แน่นอนว่ามอผมย่อมมีคนหน้าตาดีและก็หุ่นดีอยู่ (แหม...นักศึกษามีกันเป็นหมื่นๆ คนนะครับ) และแล้วผมก็ค้นพบว่า...ผมมีความรู้สึกทางเพศกับผู้ชายด้วยกัน

   ถ้าผมถูกใจบางคน...ผมก็เผลอกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก...ถ้าผมสนใจใคร รู้สึกอยากสัมผัส อยากเอามือไปลูบถูไถ...ผมก็จะจัดการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวของผมเอง

   มันเกิดขึ้นที่ผม จบลงที่ผม ไม่มีใครรู้...และเป็นความลับตลอดกาล

   ผมเป็นเกย์ แต่ผมก็โอเคที่จะอยู่เป็นโสด เพื่อนของผมมันได้แสดงให้ผมเห็นแล้วว่าความรักมักจะตามมาด้วยการมีปัญหาและเรื่องน่าปวดหัว แค่ผมยกตัวอย่างแค่ไอ้กล้ากับนายท่านแฟนของมัน ทุกคนก็น่าจะเข้าใจผมแล้วใช่มั้ยครับ ไม่ถึงกับต้องยกตัวอย่างไอ้เซียนกับไอ้น้องทิมหรอก (นี่คือไม่ยกตัวอย่างแล้ว?)

   ฉะนั้น...ผมเป็นเกย์ที่ไม่ไขว่คว้าค้นหาอะไร ผมมีความสุขกับการอยู่กับเพื่อน เล่นเกมกับเพื่อน และก็มีความสุขด้วยมือของผมเองในห้องส่วนตัวหรือในห้องน้ำ ผมมีความสุขและก็โอเคกับชีวิตในตอนนี้ดีมากเลยครับ

   จนกระทั่ง...ผมมาเจอกับไอ้เชน

   หากถามทำไมผมต้องอินและทำไมผมต้องโกรธ...โห การกระทำหลายๆ อย่างของมันแม่งกวนส้นบาทาของผมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แค่ผมนึกสภาพตัวเองเป็นกล้าตอนที่มันมาจีบหลอกๆ ผมก็รู้สึกแย่แล้ว (ถ้าผมเป็นกล้าในเวอร์ชั่นที่มีใจให้ไอ้เชนอ่ะนะ) นี่ยังไม่รวมถึงตอนที่ผมเป็นอมร...ซึ่งถูกเพื่อนของมันจีบหลอกๆ เหมือนกัน

   พวกจีบหลอกๆ พวกนี้แม่งสมควรโดนประณาม

   ผมไม่เคยมีความรักจริงจัง แต่หลังจากที่ผมรู้ว่าตัวเองรู้สึกกับผู้ชายเหมือนกัน ผมก็รู้สึกว่าผมต้องให้ใจคนรักของผมมากแน่ๆ ผมจึงเหมารวมไปว่าอมรอาจจะชอบเพื่อนวิศวฯ ของเชนที่มาหักอกของเชนมาก...ฉะนั้นแล้วมันจึงไม่แปลกใช่มั้ยครับที่ผมจะโมโหไอ้เชน

   แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ...ผมก็แค่เพื่อนผ่านๆ ของมันคนหนึ่ง การที่ผมโกรธหรือโมโหมากกว่าใครแก๊งชายโฉด ก็ไม่ใช่เรื่องที่เชนจะมาเดือดร้อนซะหน่อย

   ปล่อยให้แม่งอยู่อย่างหล่อๆ เป็นเดือนเด่นในวิศวฯ แก๊งซีเคียวริตี้ต่อไปนั่นแหละ

   แม้จะผิดหวังนิดหน่อย แต่ทำไงได้...ผมไม่ชอบพวกจีบหลอกๆ แม่งเสียเวลาทำคนโดนจีบและก็คนจีบอ่ะ คิดไม่เป็นกันบ้างหรือไง

   กลับมาเรื่องที่ผมชอบออกไปข้างนอกครับ (โอ้โห! ผมจะพล่ามยาวอะไรขนาดนั้น) ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในร้านกาแฟ อ่านชีทกองโตเรื่องความเหลื่อมล้ำในศตวรรษที่ 21 (ยาวและเยอะฉิบหาย...อย่าให้ผมร่ายให้ฟังเลย) ผมไม่สามารถอ่านหนังสืออยู่ในห้องได้ถึงแม้ว่ามันจะเงียบก็ตาม ผมเป็นพวกเคยชินกับการอ่านหนังสือข้างนอก อาจเป็นเพราะสมัยเรียนมัธยมผมเคยถูกรุ่นพี่ติวในร้านกาแฟมาก่อนล่ะมั้ง ผมถึงได้มีสมาธิกับบรรยากาศคึกคักของร้านกาแฟแบบนี้

   แม้หัวจะยังมึนๆ อยู่ แต่ผมก็ต้องสู้ครับ ไม่สู้ไม่ได้ เพราะเวลาที่ผมเหลืออยู่มีหน่วยเป็นวันหรือหนึ่งสัปดาห์นิดๆ ไม่ใช่เดือน   
ผมวางเลโก้ดาร์ธเวเดอร์ลงใกล้ๆ กับชีทเรียน วันนี้เพื่อนผมทุกคนต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไปทำเรื่องส่วนตัว จึงมีแต่ดาร์ธเวเดอร์อยู่กับผมแค่สองคน...

   จะว่าไปผมก็ลืมเอาเลโก้ของโอบีวัน อัศวินเจไดตัวโปรดของผมมา...

   "เป็นกำลังใจให้ด้วยนะท่านลอร์ด" ผมบ่นกับเลโก้ "แม่งเยอะฉิบหาย...นี่ผมจะตายก่อนสอบหรือเปล่า"

   ผมอ่านไปง่วงไป...บางครั้งก็ส่งข้อความเข้ากรุ๊ปไลน์ชายโฉดหรือไม่ก็กล้าหัวจวยเพื่อแก้เหงาบ้าง จนในที่สุดความน่าเบื่อในยามของผมก็สิ้นสุดลงเมื่อนักศึกษาวิศวฯ กลุ่มใหญ่เดินเข้ามาในร้านกาแฟ

   โฮลี่ชิท บังเอิญสวรรค์สั่งหรือบังเอิญสวรรค์สาป

   ไอ้เชนที่ปากยังคงมีแผลมากับเพื่อนแก๊งซีเคียวริตี้...แก๊งบ้าท้าดวลในตำนานที่ผมอยากส่งออกไปนอกโลกเหลือเกิน (หวังว่าแอสการ์ดจะยังมีที่ว่างให้คนเหล่านี้นะท่านเทพเจ้าธอร์)

   เชนมันเห็นผมแล้ว คิ้วของมันเลิกขึ้นสูง สนทนากับเพื่อนต่อแต่ดูเหมือนว่าจิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่

   แหงล่ะ...นี่แหละคือสิ่งที่มันควรรู้สึก คนจีบคนอื่นหลอกๆ ไม่ควรมาร้านกาแฟอย่างสบายใจเฉิบด้วยซ้ำ ไม่ควรเลยจริงๆ

   "กูเจอเพื่อนกู" ผมได้ยินเสียงมันพูดกับเพื่อน

   "เฮ้...น้องนุ่มนิ่มเสดสาดนี่หว่า" พวกนั้นกระทุ้งสีข้างกันไปมาแล้วแซวผม

   "จัดหนักคืนนี้เลยมั้ยเพื่อน"

   "นานๆ ทีน้องนุ่มนิ่มเขาจะอยู่คนเดียวนะ"

   ใครนุ่มนิ่มวะ...หมอนรองคอพ่อมึงหรือไง ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงเมนส์มาเวลาผมโดนแซวแบบไร้สาระเช่นนี้

   "เงียบเถอะ"

   ถูกของเชนมัน...Shut the f*ck up!

   "เดี๋ยวกูตามไป"

   ผมเชื่อว่าผมคือเป้าหมายของไอ้เชน...ในอีกไม่กี่วินาทีถัดมามันก็ทิ้งตัวลงนั่งที่ฝั่งตรงข้ามของผมเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นเป็นสิ่งที่ถูก

   "มี -วยอะไร"

   "โห ปากคอเราะร้าย" เชนดูไม่ถือสา ติดจะท้วงแบบขำๆ มากกว่า

   "มึงก็รู้ว่ากูโกรธมึงอยู่ ไปไกลๆ ตีน"

   "..."

   "ว่าแต่น้องนุ่มนิ่มคือเหี้ยอะไร"

   "มึงไล่กูไปไกลๆ แต่กูก็ต้องตอบคำถามมึงใช่ป่ะ" เชนหัวเราะในลำคอ "มึงไง น้องนุ่มนิ่ม"

   "กู?"

   "ใช่" มันจิ้มอุ้งมือของผมที่วางหงายอยู่เหนือชีทเรียน "นี่ไง นุ่มนิ่มมาก"

   "อย่ามาแตะเนื้อต้องตัว" กระแสไฟฟ้าขนาดเล็กถูกส่งมาจากนิ้วมือของไอ้เชน ทั้งๆ ที่มันแตะผมแค่เสี้ยววิ

   หรือมึงคือตัวร้ายในเรื่องอะเมซิ่ง สไปเดอร์แมนภาค 2 ตัวที่แม่งมีกระแสไฟฟ้าไปทั้งตัวนั่นน่ะ

   "ทำมาเป็นหวง" เชนเลิกคิ้วยิ้มๆ

   "ก็กูโกรธอยู่"

   "แล้วทำไงถึงจะหาย"

   "ไม่หาย"

   "มึงอยากโดนง้อมากเลยหรือไง"

   "ส้นตีนเถอะ" ผมร้องเสียงดัง "กูรำคาญมึงมากแล้ว ไปให้พ้น"

   "มึงรำคาญ แต่กูยังไม่รู้สึกอะไร เพราะงั้นกูจะอยู่"

   เหี้ยอะไรวะ...นอกจากเชนมันจะหน้าหล่อแล้ว มันยังหน้าหนาหน้าทนเหลือเกิน

   "จะเอากาแฟเพิ่มป่ะ เดี๋ยวไปสั่งให้" มันถามผม

   "กูจะสั่งให้มึงออกไปจากร้านนี้ซะ"

   "เป็นพ่อกูหรือเปล่า"

   "...เปล่า"

   "ถ้าไม่ใช่ก็เงียบปากไป"

   ไอ้...โว้ยยยย ผมจะด่ามันว่าอะไรดี ปกติแล้วไอ้เชนมันเป็นพวกกวนประสาทแบบนี้ด้วยเหรอ คิดไปคิดมาก็จริง...มันเป็นพวกมีความกวนตีนเป็นเสน่ห์ ดูเข้ากันดีกับรอยยิ้มที่โชว์ฟันเรียงสวยซึ่งรับกับกระจับริมฝีปากบน

   มันหล่อ...แต่แล้วไง ผมก็ยังโกรธมันอยู่ดี

   เชนกลับมาพร้อมๆ กับเครื่องดื่มสองแก้วและขนมอีกอย่างหนึ่ง มันซื้อมาทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ตอบว่าผมจะเอาหรือเปล่า แต่เมื่อได้เห็นเครื่องดื่มสดใหม่และขนมที่ส่งกลิ่นหอม ผมก็อดไม่ได้ที่จะเผลอกลืนน้ำลาย

   ซีนนั้นเสือกเป็นซีนที่เชนมันเห็นพอดี

   "ถ้าอยากมากก็กินเลย"

   ผมแพ้ไอ้เชนยับ...มันนำผม 1 - 0

   เอาวะ...อย่างน้อยแม่งก็เป็นของฟรี ผมหยิบเครื่องดื่มที่มันซื้อมาให้ผมขึ้นมาดื่ม เป็นเมนูที่ผมไม่เคยลิ้มลองมาก่อน

   เชี่ย แม่งขมจนแทบจะพ่นกลับคืนใส่หน้าไอ้เหี้ยเชน

   "ไม่อร่อยเลย!"

   "อเมริกาโน่ใส่แต่น้ำแข็ง...มันจะอร่อยตรงไหน"

   "..."

   "กินหวานมากมันไม่ดีรู้ป่ะ"

   รู้ว่าไม่อร่อยก็ยังสั่งมาให้ผมอีก...แต่ผมค่อนข้างเข้าใจมันนะ ไอ้เซียนแม่งก็ชอบสั่งเครื่องดื่มเมนูนี้เพราะมันรักษาหุ่น

   ผมไม่อยากจะเสวนาอะไรกับมันอีก มันนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผม บางครั้งก็เล่นโทรศัพท์ บางครั้งก็ยกเครื่องดื่มของมันขึ้นดื่ม...จนเวลาผ่านไปสามนาทีได้ ผมจึงได้เอ่ยปากถาม

   "แล้วมึงมานั่งอยู่กับกูทำไมเนี่ย โน่น ไปนั่งกับเพื่อนมึงโน่น เพื่อนมึงคิดถึงมึงจะแย่แล้ว"

   เชนเลิกคิ้ว...ผมไม่ชอบเวลามันแสร้งทำหน้าเฉยใส่ผม ผมรู้ว่ามันเสแสร้งครับ เพราะเมื่อกี้มันเกือบจะหลุดยิ้มออกมาแล้ว
 
   "พวกมันบอกให้กูนั่งกับน้องนุ่มนิ่มต่อไป"

   ผมตบโต๊ะเสียงดัง "มึงห้ามเรียกกูแบบนั้นอีก!"

   "ก็มันจริงนี่...ยอมรับสักทีสิ"

   "กูไม่ยอมรับหรอก"

   จิ้ม...เชนเอานิ้วมาจิ้มแก้มผม "หลักฐานชัดขนาดนี้"

   ผมจับนิ้วมันทำท่าจะแดกเข้าไป

   "เฮ้ยยย" มันตกใจจนรีบเก็บอวัยวะตัวเองกลับคืน

   "อยากกวนตีนกูดีนัก"

   หมูหัน vs เชน สกอร์กลายเป็น 1 - 1 เอาสิ มาสิ มาสิ...

   "โหด แตะนิดจับหน่อยไม่ได้เลยเหรอ" เชนโวยวาย

   "มึงชอบให้คนแปลกหน้ามาจับตัวมึงหรือไง" ผมสวนกลับ

   "มึงไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับกูไง มึงคือเพื่อน...เพื่อนต่างคณะ"

   "เสียใจ...ตอนนี้มึงเป็นคนแปลกหน้าสำหรับกูไปแล้ว" ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

   "อันนี้อะไร" มันหยิบเลโก้ท่านลอร์ดดาร์ธเวเดอร์ของผมขึ้นมาดู

   "อย่าไปจับ!" ผมตีมือมัน ดึงของเล่นของผมคืนอย่างหวงแฟน

   "มึงมาแตะตัวกูทำไม" เชนทำท่าหวงตัวได้อย่างตอแหลที่สุด "เห็นมั้ย มึงเองก็ชอบแตะต้องตัวคนแปลกหน้าเหมือนกัน เพราะงั้น...ที่กูแตะตัวมึงคือกูไม่ผิด"

   ฟัค...

   หมดคำจะพูดแล้วครับ ตอนนี้เชนนำผมไปแล้ว 2 - 1

   ผมแทบจะหักปากกาที่อยู่ในกำมือ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมไม่ได้มีพลังช้างสารขนาดนั้น

   "มึงไปนั่งกับเพื่อนมึงได้แล้ว!" ถ้าครั้งนี้มันไม่ลุก...ผมนี่แหละจะเป็นคนลุกเอง

   "พรุ่งนี้มีงาน 'โลกสวยด้วยมือเรา' อ่ะ" เชนพูดต่อไปเหมือนมันไม่ได้ยินคำพูดตะกี้นี้ของผม (ให้มันได้อย่างงี้สิ) งานโลกสวยด้วยมือเราเป็นงานแสดงสินค้าทำมือของนักศึกษาที่จัดได้ว่าดังมากของมอผมครับ (แม้ชื่องานจะแปลกๆ ไปสักหน่อยก็เถอะ) "มึงไปป่ะ"

   "ไม่ไป" ผมตบชีทให้มันดู "กูยังอ่านชีทไม่จบเลย จะให้กูไปแรดได้ยังไง"

   "..."

   "มึงไม่อ่านบ้างเหรอ"

   "วิศวฯ เขาอ่านสามวันสุดท้ายก่อนสอบกัน"

   บ้าบอ...ถ้าไอน์สไตน์มาพูดกับผมแบบนี้ ผมจะเชื่ออย่างหมดใจไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ แต่นี่เป็นเด็กหนุ่มหน้าหล่อ(แถมยังหน้าหนาหน้าทน) ความน่าเชื่อถือแม่งติดลบแปดสิบสี่เปอร์เซ็นต์

   "ไม่เชื่อเหรอ"

   "เชื่อก็โง่แล้ว"

   "ตกลงไม่ไป?"

   "ใช่"

   "..."

   "แต่ถ้าเพื่อนกลุ่มกูไป...กูอาจจะคิดดูอีกที"

   ไม่รู้ว่าเพื่อนมันจะเอายังไงกัน ไอ้กล้าตอนนี้ก็คงจะง่วนอยู่กับการเอาชนะใจแม่ย่า ไอ้เซียนก็คงจะง่วนอยู่กับการเอาชนะใจไอ้น้องทิม ส่วนไอ้ตง...แม่งต้องง่วนอยู่กับการนอนแหงๆ

   "งั้นเหรอ" เชนเลิกคิ้ว "กูถามไอ้กล้าแป๊บ"

   ผมถลึงตามองมัน "มึงจะทักมันไปเหรอ"

   "แน่นอนสิ" มันเขย่ามือถือของมันให้ดู   

   "ไอ้บ้า ไม่ได้นะ ห้าม!"

   "หวงเพื่อนเหรอ" อีกฝ่ายทำสีหน้าประหลาดใจ

   "ไม่ใช่"

   "..."

   "ถ้าผัวมันโกรธแม่งก็ต้องดราม่าอีก แล้วใครเดือดร้อนที่จะต้องมาฟังมันเพ้อวะ...กูกับเพื่อนนี่ไง!"

   เชนมองหน้าผมอย่างตกตะลึงงัน "ล้ำลึก"

   "กันไว้ดีกว่าแก้"

   "งั้นกูถามไอ้ตงก็ได้ บังเอิญเคยแอดไลน์กันอยู่"

   "เจอกันบ่อยเหรอ"

   "ชอบกินเหล้าร้านเดียวกันน่ะ"

   ผมยื่นคอไปดูว่าเชนมันจะคุยกับตงว่ายังไง แต่ในใจของผมเริ่มผิดสังเกตแปลกๆ แถมยังฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า...นี่ผมกำลังทำเหี้ยอะไรอยู่!

   "กูไปละ" ผมรีบเก็บข้าวเก็บของ

   "เฮ้ย จะไปไหน" เชนหัวเราะที่เห็นผมตั้งสติได้ เมื่อตะกี้มันแม่งเนียนจนผมต้องไหลไปตามน้ำ...ลืมไปซะสนิทว่าผมโกรธมันและต้องการที่จะอยู่ห่างกับมัน "ไม่ต้องไปแล้ว กูลุกแล้ว"

   ผมนั่งอยู่ที่เดิม มองมันด้วยสายตาเข้ม "จะไปไหนก็ไปเลย"

   "ใจร้าย"

   "เพราะมึงมันคือคนแปลกหน้า"

   "จ้ะ คนแปลกหน้าก็แปลกหน้าจ้ะ" มันยิ้มร่า...นี่น่ะเหรอคือสีหน้าของคนโดนโกรธ หรือผมโกรธแม่งไม่จริงกันหว่า แต่ก็ช่างเหอะ...เชนมันก็แค่คนรู้จักห่างๆ ของผมแบบที่เมื่อก่อนเราคุยถูกคอกันมากก็แค่นั้น

   มันอยู่ห้องตรงข้ามไอ้กล้าก็จริง...แต่ผมนี่แหละคือคนที่คุยกับมันบ่อยกว่ามันคุยกับกล้าซะอีก

   ผมแอบมองตามหลังไอ้เชนพลางคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ...จะว่าไปมันก็ไม่เคยถามผมเรื่องกล้าเลยซักกะติ๊ดยกเว้นแต่จะถามเพื่อเป็นมารยาท ('ไอ้กล้าเป็นไง' 'วันนี้มันไม่มาแดกกับมึงเหรอ') ปกติแล้วเวลาคนเราคิดจะจีบใครสักคน มันก็ต้องหลอกถามเพื่อนของคนคนนั้นเพื่อเป็นการเก็บข้อมูล แต่สำหรับไอ้เชน...มันคงไม่ได้ชอบไอ้กล้าจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นมันคงถามผมเรื่องของกล้าไปตั้งนานแล้ว

   มันหันมาสบตากับผมตอนที่มันนั่งอยู่กับกลุ่มผม ผมรีบหยิบชีทขึ้นมาบังหน้า แล้วค่อยๆ เหลือบไปมองอีกรอบ ผมอ่านปากเพื่อนๆ ของมันได้ว่า 'นุ่มนิ่ม' และ 'น้องนุ่มนิ่ม' พวกมันเอาแต่แซวไอ้เชนที่ยิ้มกับคำแซวของเพื่อนๆ

   กลุ่มคนซ่า (?) บ้าท้าดวล...แม่งไม่เคยมีอะไรที่จริงหรอก อาจจะยกเว้นแต่เรื่องเชนไม่ได้ชอบกล้า...เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ

   ว่าแต่สกอร์ในวันนี้ของผมกับไอ้เชนเป็นยังไงบ้างเนี่ย ผมแพ้หรือผมชนะกันนะ

   เหมือนไอ้เชนมันจะทำแต้มนำ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมชนะล่ะ








   หอของผม

   ผมอยู่หอติดกันกับหอไอ้ตงและหอไอ้เซียน เราทุกคนอยู่ในหอละแวกเดียวกัน ยกเว้นอยู่คนเดียวนั่นก็คือไอ้กล้า รายนั้น (แม่และพี่สาว) เขารวย...มันก็เลยได้อยู่หอที่โคตรหรูประดุจคอนโด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าเช่าที่สูงลิบลิ่ว

   เข้าใจเหตุผลที่ผมกับเพื่อนอีกสองคนชอบไปหอมันหรือยังครับ ห้องมันแม่งสบายอย่างกับสวรรค์วิมาน (ว่าไปนั่น) จริงๆ แล้วป๊าผมก็อยากให้ผมไปอยู่หอแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมอยากอยู่ใกล้ๆ ไอ้ตงกับไอ้เซียนมากกว่า ผมจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่

   อย่าไปบอกกล้ามันนะครับ เดี๋ยวแม่งจะน้อยใจเอา ยังไงอยู่ใกล้เพื่อนสองคนก็ยังดีกว่าอยู่ใกล้เพื่อนหนึ่งคนป่ะ

   ท้ายที่สุดเราทุกคนก็ต้องแห่ไปหามันอยู่ดี...ผมควรจะเช่าห้องอยู่ใกล้ไอ้กล้าตั้งแต่แรกนะเนี่ย

   เอาล่ะ...ผมกลับลำไม่ทันแล้วล่ะครับเพราะผมติดหอพักนี้ซะแล้ว สารภาพว่าผมเริ่มติดหลังจากที่ผมค้นพบว่าตัวเองเป็นเกย์ หอนี้เป็นหอชื่อดังที่รวบรวมผู้ชายหุ่นนักกีฬาล่ำบึก และมีอยู่หนึ่งคนที่ผมถูกอกถูกใจนักหนา

   เขาชื่อว่าพี่เดียวครับ

   เขาเป็นรุ่นพี่คณะเศรษฐศาสตร์ที่ทั้งหล่อและก็หุ่นดีมาก...แน่นอนว่าเขาเป็นผู้ชายแท้เพราะผมชอบเห็นเขาลากแฟนมาหอบ่อยๆ ผมคอยแอบมองพี่เขาอยู่ตลอด นึกในใจว่าถ้าผมจะเป็นเกย์ที่มีแฟน ผมก็อยากได้แฟนประมาณนี้ พี่เดียวเป็นคนประเภทที่ผมปลื้ม ไม่ใช่คนที่ผมรู้สึกชอบ

   ผมแค่ชอบมอง...ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย แต่ก็มีบางครั้งที่เก็บเอาไปสงสัยว่าหุ่นภายใต้ชุดนักศึกษาหรือชุดกีฬานั่นจะเป็นอย่างไร

   การคิดถึงแต่หุ่นของพี่เดียวทำเอาผมต้องจัดการความใคร่ของตัวเองในห้องน้ำ...ตั้งแต่รู้ตัวว่าเป็นเกย์ผมก็คิดถึงแต่หุ่นผู้ชายและก็ผู้ชาย...เรื่องนี้ผมกลับลำไม่ทันเช่นเดียวกับการเลือกหอพักของผมนั่นแหละ

   วันนี้ผมบังเอิญเจอพี่เดียวกำลังขนของลงรถกระบะที่ใต้หอ ดูแล้วน่าจะเป็นของทำมือที่พี่เขาทำร่วมกันกับแฟน

   "ไปงานโลกสวยฯ หรือเปล่า" พี่เดียวถามผม "แฟนพี่ไม่อยู่กะทันหัน แล้วพี่ต้องไปขายคนเดียวแหละ...โคตรแย่"

   "จริงดิ" ผมถึงกับอึ้งไปเลย "เธอคงเสียดายแย่นะครับที่ไม่ได้ไปขายด้วยตัวเอง"

   "แม่เขาป่วยกะทันหันน่ะ ทำไงได้"

   "อ๋อ"

   "หมูหันว่างมั้ย...พรุ่งนี้ไปช่วยพี่ขายหน่อยสิ เดี๋ยวพี่ให้ค่าแรง"

   สาบานได้ว่าผมลืมไปเลยว่าชีทกองโตรอผมอยู่

   "ได้สิครับ"

   "ใจดีจัง"

   "แหมพี่ ช่วยๆ กัน"

   "จะไปขายของกับพี่น่ะ...ขอเพื่อนๆ หรือยัง"

   "หา" ผมทำหน้างงใส่พี่เดียว พี่เขาน่าจะรู้จักไอ้กล้ากับคนอื่นๆ เป็นอย่างดี "ผมต้องขอพวกมันด้วยเหรอ"

   "เห็นตัวติดกันอย่างกับอะไร"

   "โอ๊ย ผมอยากไปไหนก็ไปได้ ผมตามใจตัวเอง"

   "ดีใจนะเนี่ย" พี่เดียวยิ้มอย่างมีเสน่ห์เล่นซะจนผมเคลิ้ม...ผมส่ายหน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติตัวเอง แค่รู้สึกปลื้มภาพลักษณ์ภายนอก อย่าไปหลงมนต์เสน่ห์คนที่มีแฟนแล้วให้เสียเวล่ำเวลาเลย "ถ้างั้นวันนี้ขอรบกวนเลยได้ป่ะ ของพวกนี้ต้องขนไปก่อนน่ะ"

   มันเป็นพวกพร็อบตกแต่งร้านที่ค่อนข้างใช้แรงงานอยู่เหมือนกัน...แม่ง คุ้มแรงกูมั้ยเนี่ย แค่เพื่อแลกกับการใกล้ชิดชายหนุ่มที่ปลื้มเนี่ยนะ

   เออ เอาไงก็เอา

   "ได้สิครับ"

   สรุปก็คือผมต้องไปงานโลกสวยฯ อะไรนี่ทั้งวันเตรียมงานและก็วันงานเลยทีเดียว







   
[ มีต่อนะคะ ]





ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
 








  รถกระบะขับไปหยุดจอดที่หน้าบริเวณจัดงานเพื่อต่อคิวรถคันอื่นๆ ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าสถานที่จัดงานแม่งใหญ่มาก มันเป็นงานรวมสินค้าทำมือที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ครับ ผมเพิ่งรู้ว่าจะมีวงดนตรีเข้ามาเล่นขับกล่อมด้วย

   นี่กูไปอยู่หลังเทือกเขาหิมาลัยมาเหรอเนี่ย ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรกับชาวบ้านเขาเลย

   พี่เดียวหยุดรถตอนที่ต้องเปิดกระจกเพื่อยื่นบัตรร้านค้าให้พวกซีเคียวริตี้ดู ซีเคียวริตี้คนนั้นเอาแต่มองผมที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างๆ คนขับ ไม่ได้มองบัตรร้านค้าในมือของมันเลย

   มันคงจำได้แหละว่าผมคือน้องนุ่มนิ่มห่าเหวอะไรนั่น

   "น้องครับ" พี่เดียวเริ่มงงว่าทำไมมันถึงไม่ปล่อยรถพี่เดียวให้ผ่านไปสักที "มีปัญหาอะไรหรือเปล่า"

   มันหันขวับไปทางด้านหลัง แล้วร้องเรียกใครบางคนเสียงดัง "ไอ้เหี้ยเชน นุ่มนิ่มมึงอ่ะ!"

   เหี้ยอะไรนะ...

   ซีเคียวริตี้ที่อยู่ใกล้ๆ คนหนึ่งหันมามอง...คนคนนั้นก็คือไอ้เชน

   "ตกลงพี่เข้าไปได้หรือยัง" พี่เดียวดูจะไม่พอใจนิดๆ ที่ถูกเด็กทำกริยาไร้มารยาทใส่

   "ได้แล้วครับ ขอโทษครับพี่" มันส่งบัตรคืนให้พี่เดียว...พี่เขาปิดกระจกจากนั้นก็ขับเข้าไปในงาน ผมจำได้ว่าระหว่างที่กระจกกำลังจะปิด ไอ้เชนมันมองจ้องเขม็งมาที่ผมไม่วางตาเลยทีเดียว

   มันถามผมที่ร้านกาแฟว่าผมจะมางานนี้หรือเปล่า...ที่แท้มันก็รับหน้าที่เป็นซีเคียวริตี้นี่เอง สงสัยอนาคตแม่งจะเอาดีทางด้านนี้ซะแล้วล่ะมั้ง








   ณ บูธร้านของพี่เดียว

   "พี่เริ่มรู้สึกผิดแล้วว่ะ" พี่เดียวพึมพำ เมื่อเห็นผมขนของจากท้ายลงกระบะมายังบูธรอบที่สาม "เอาจริงๆ คือหมูหันไม่เหมาะกับงานแบบนี้เลย"

   "โอย พี่ สบาย" ผมพูดให้อีกฝ่ายสบายใจ...จริงๆ แล้วผมก็แอบส่องกล้ามแขนพี่เดียวตอนยกของระหว่างที่ผมขนของด้วย เพิ่งได้เห็นแบบใกล้ๆ และชัดเจนก็คราวนี้...

   สมกับที่เป็นชายหนุ่มในอุดมคติของผมจริงๆ

   นี่ผมมาถึงจุดนี้ได้ยังไง

   ตอนที่พี่เดียวเผลอ ผมมาแอบอยู่บริเวณใกล้ๆ ท้ายรถกระบะ ใช้กล่องบนรถตรงนั้นเป็นที่กำบังเพื่อที่จะได้ส่องพี่เดียวอย่างสบายอกสบายใจ

   "ไหนบอกจะไม่มา" จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นข้างๆ ผมเผลอสบถ

   "ตาเถร! ตกใจหมด"

   "นี่มันเหนือกว่าคำว่ามางานเฉยๆ แล้ว เพราะมึงมาจัดบูธร้านค้า" ไอ้เชนดูขุ่นมัวนิดๆ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันทำหน้าอย่างนั้นทำไม

   "นั่นรุ่นพี่กู" ผมพยักเพยิดไปทางพี่เดียวที่รู้แล้วว่าผมมีเพื่อน เอ๊ย คนแปลกหน้ามาหา พี่เขาจึงปล่อยให้ผมกับไอ้เชนได้ยืนอยู่ด้วยกัน "เขาขอให้มาช่วย"

   เชนเหลือบมองดูหมายเลขบูธ "นี่มันบูธพี่แยมกับแฟนคณะเศรษฐศาสตร์นี่" สายตาของมันตวัดมามองผมอย่างรวดเร็ว "มึงเป็นชู้พี่ผู้ชายเขาหรือไง"

   พ่องตาย "บ้านมึงน่ะสิ"

   "สายตาของมึงเมื่อตะกี้ไม่เบาเลย" เชนเลิกคิ้ว...ช่วงนี้แม่งเลิกคิ้วใส่ผมโคตรบ่อย "อีกนิดก็จะน้ำลายไหลแล้ว"

   มันเห็นเหรอ...ฉิบหายละ "อย่ามายุ่ง"

   "นี่มึงชอบพี่เขา?"

   "โอย นี่มันเกินกว่าคำว่ายุ่งแล้ว มึงกำลังเสือก" ผมดันตัวไอ้เชนออกไป พยายามจะขนของต่อ แต่มือไอ้เชนมาแย่งของผมไปถือซะก่อน...

   "เหี้ยอะไรเนี่ย"

   "เขามีเจ้าของแล้วนะ คนรู้กันทั้งมอ" เชนซีเรียสมากจนผมแปลกใจ

   กูก็รู้ว่าพี่เขามีแฟนแล้ว... "แล้วไง"

   "เฮ้ย" สายตาของเชนดูค่อนข้างผิดหวังกับผม

   "..."

   "นี่มึงเป็นคนแบบนี้เองเหรอหมูหัน"

   งงเลยกู... "กูเป็นคนยังไง"

   "มือที่สาม ชู้ กิ๊ก..."

   "พ่องตาย กูไม่ใช่" ไม่คิดว่ามันจะไร้สาระขนาดนี้ ผมแย่งของจากมือมันมา แต่มันก็ยื้อกลับไป โธ่เว้ย!

   "จะไม่ใช่ได้ยังไง"

   "..."

   "สายตามึงบอกทุกอย่างแล้ว"

   "มีอะไรกัน" พี่เดียวคงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาถามไถ่ "สองคนนี้มีปัญหากันหรือเปล่า"

   ผมชักสีหน้าใส่ไอ้เชน "เปล่าครับ" มือของผมเอื้อมไปแย่งของจากมือของไอ้เชน แต่มันก็ยังไม่ยอมคืนให้อยู่ดี

   "ให้วางตรงไหนครับ เดี๋ยวผมขนให้" เชนหันไปถามเจ้าของ

   พี่เดียวติดจะงงๆ ดูสักหน่อยแต่ก็ชี้ไม้ชี้มือบอกทาง ไอ้เชนเอาไปวางอย่างที่พี่เขาบอกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ผมนึกว่ามันจะหยุดอยู่แค่นั้น แต่มันก็ช่วยพี่เดียวขนของชิ้นต่อไปอยู่ดี

   "ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวพี่จัดการเอง" พี่เดียวเหลือบมองผมอย่างงงๆ

   "ไม่เป็นไรครับ" เชนตอบ ตวัดสายตามาที่ผมจนผมสะดุ้งเล็กๆ ในใจ "จะได้เสร็จไวๆ"

   อยู่ดีๆ พี่เดียวก็มีแรงงานเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอัตราเฉยเลย แม้พี่เดียวจะงงแต่ก็ถือว่าเหมือนมีบุญหล่นทับ ไอ้เชนนั้นเหมือนจะเป็นแรงงานชั้นดี เพราะทันทีที่มีไอ้เชน...งานของพี่เดียวก็เสร็จไวมากซะจนผมอึ้ง

   "มึงมาคุยกันสักเดี๋ยวได้มั้ย" เชนถามผมด้วยน้ำเสียงเชิงบังคับ

   "กูบอกมึงหรือยังว่าวันนี้กูเบื่อหน้ามึงจัง"

   "ก็แค่วันนี้วันเดียว กูไม่แคร์หรอก"

   กราบ...กราบในความไม่สนใจห่าเห่วอะไรของมัน

   ผมเดินมาคุยกับไอ้เชนอย่างเป็นส่วนตัว "มีอะไรก็ว่ามา"

   "มึงคิดว่ามึงมีของหายหรือเปล่า"

   มือของผมรีบจัดการสำรวจไปทั้งเนื้อทั้งตัวของตัวเองทันที "ไม่มีนี่"

   "ของเล่น...อะไรอย่างงี้" เชนยิ้มมุมปากก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาโชว์รูปถ่าย ท่านลอร์ดดาร์ธเวเดอร์ของผมอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือในห้องของมัน...ผมจำมันได้! "ก่อนมึงออกจากร้านมึงทำหล่นน่ะ"

   "เหี้ย นี่มึงจิ๊กของกูเหรอ" ไอ้ขี้ขโมยเอ๊ยยยย

   "กูเก็บเอาไว้กะเอาไว้ต่อรองกับมึง"

   "แค่...เลโก้ตัวเดียว กูไม่แคร์หรอก" หน้าผมซีดเผือด

   "งั้นกูโยนทิ้งได้สินะ"

   "อย่า!"

   เชนยิ้มกริ่มที่รู้ว่าผมใส่ใจของเล่นชิ้นเล็กๆ "ถ้าไม่อยากให้กูโยนทิ้ง...มึงต้องเลิกทำตัวเป็นชู้แบบนี้ซะ"

   ยัง...ยังไม่เลิกคิดมั่วซั่วอีก "กูไม่ได้เป็นชู้พี่เดียว"

   "ไม่รู้เว้ย ยืนด้วยกันเคมีแม่งได้...ไม่ชอบ"

   "ไม่ชอบที่กูอยู่กับพี่เดียว"

   "เออ"

   "..."

   "เอ๊ย..." เชนส่ายหน้าเรียกสติ "ไม่ชอบที่มึงเป็นชู้ดิ ไม่สนับสนุน"

   ผมหรี่ตามองมัน...ไม่ว่ามันจะไม่ชอบด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมก็รู้สึกดีที่เห็นมันหงุดหงิดเรื่องผมกับพี่เดียวจนเกินเหตุ...เพราะฉะนั้นผมจะยังไม่บอกความจริงกับมัน ปล่อยให้มันหัวร้อนรุ่มอยู่อย่างนั้นแหละ

   ผมมีอาวุธของผม...มันก็มีอาวุธของมัน ผมไม่ยอมให้ตัวเองเสียเปรียบหรอก

   "ตกลงมึงจะต่อรองอะไร"

   "พรุ่งนี้ให้มึงมาเที่ยวงานนี้..."

   "กูต้องมาอยู่แล้ว...กูต้องมาช่วยพี่เดียวขายของ"   

   "กูยังพูดไม่จบ" เชนเอ่ยเสียงแข็ง "มึงต้องมาในฐานะ...ซีเคียวริตี้"

   "ให้กูไปโดนวิศวฯ รุมเหยียบหรือไง พรรคพวกของมึงทั้งนั้น ใครจะกล้าไปวะ" หรือแม่งคิดจะฆ่าผมด้วยการใช้ตีนของเพื่อนๆ มันช่วย

   "พวกกูขาดคนน่ะ" มันไม่ยอมสบตาผมเลย "ใครๆ ก็ไปอ่านหนังสือกันหมด ไม่ค่อยมีใครมาทำเท่าไหร่"

   "กูเอ่ยปากตอบตกลงเรื่องช่วยพี่เดียวไปแล้ว จะให้กูทำไง"

   "เรื่องนั้นกูจัดการเอง"

   ผมมองมันอย่างลังเลใจ...จะว่าไปลึกๆ ในใจผมก็อิจฉาพวกซีเคียวริตี้มาโดยตลอด กลุ่มของเชนทำให้สาวๆ มองฝ่ายรักษาความปลอดภัยเวลามอมีกิจกรรมเปลี่ยนไป นอกจากเท่ๆ คูลๆ แล้ว...ยังถือได้ว่าเสียสละมากอีกต่างหาก เพราะเอาเวลามาเทให้กับเรื่องความปลอดภัยของคนอื่น

   เอาวะ...สักครั้งในชีวิต

   "ก็ได้" ผมตอบตกลง

   "ดีมาก" เชนยิ้มออกในที่สุด "จำไว้ด้วยว่าเป็นชู้คนอื่นมันไม่ดี"

   "แล้วคนที่จิ๊กของคนอื่นล่ะ...ดีมากเลยงั้นสิ"

   มันขยิบตาหนึ่งข้างให้ผม จากนั้นก็เดินไปหาพี่เดียวเพื่อคุยเรื่องคนที่จะมาช่วยพี่เขาแทนผมพรุ่งนี้

   สงสัยอยู่อย่าง...มีผู้ชายที่ขยิบตาแล้วเท่ด้วยเหรอครับ

   ทำไมเชนแม่งเป็นคนแบบนั้นล่ะ







   "ฮัลโหล ไอ้กล้า...มึงได้ยินกูป่ะ"

   [กล้าไปนอนแล้วครับ...พี่เชนมีอะไร]

   "อุ้ย"

   [ฟังดูตกใจนะครับ]

   "..."

   [แอบคุยกันมานานหรือยัง]

   "ถ้ามึงจะไม่เชื่อใจกล้าเพราะกู...งั้นกูขอพูดกับมึงตรงๆ ดีกว่า"

   [...]

   "กูอาจจะจีบหมูหัน"

   [ทำไมต้องมีคำว่า 'อาจ' จีบก็จีบสิครับ...พุ่งเลยสิ]

   "เสียงมึงดูสบายใจขึ้นเนอะ"

   [ผมไม่เถียง]

   "กูควรทำไง"

   [อืม...]

   "..."

   [พี่มีกระดาษสักแผ่นมั้ยครับ]








TBC*

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด