[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 501467 ครั้ง)

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ3
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาทของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


คลังนิยายของข้าพเจ้า

 :mc4:จบแล้ว

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58878.msg3600724#msg3600724 Which one? รัก||หลอก||เด็ก (แนวกินเด็กและโดนเด็กกิน)

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58331.0Blind side รัก || ของ || แว่น(แนวแอบรัก)

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59401.0ํYour Stranger รัก||ไม่||ลืม (แนวความจำเสื่อม)

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60332.0How to fall in love with your boss คู่มือการเป็นเลขาฉบับเกือบสมบูรณ์ (แนวแอบรัก)


 :z13:ยังไม่จบ

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66195.0 Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) (แนวโดนเด็กกิน) rewrite อยู่ coming soon

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70320.0 Soulmate From Hell ด้วยรักจากนรก (แนวแฟนตาซี)

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70468.0 #Newyou สามสิบวันรับประกันคุณคนใหม่
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-03-2020 20:00:04 โดย littlepig »

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Your Stranger รัก||ไม่||ลืม





Intro




Then: เราเลิกกันนะ




“หมอก เรื่องของเรา ลืมมันไปให้หมดจะได้มั้ย”




เสียงทุ้มต่ำาราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกยังคงติดตรึงในความทรงจำ



“ฉันก็จะลืมมันเหมือนกัน”







นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่มธุวันได้ยิน ก่อนที่โลกทั้งใบของเขาจะแตกสลาย






“ฮึก…”



มธุวันร้องไห้จนไม่รู้ว่าต่อจากนี้ตัวเองจะสามารผลิตน้ำตาออกมาได้อีกหรืออไม่ ราวกับว่าน้ำตาทุกหยดในร่างกายของเขาเหือดแห้งไปเพราะคำบอกลาของคนรักที่คบกันมาสี่ปีเต็มๆ ร่างโปร่งนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่เคยเป็นที่นอน’ของพวกเขา’ ผมสีน้ำตาลที่เริ่มยาวจากทรงปกติปิดบังใบหน้าแต่ร่างโปร่งไม่สน ชายหนุ่มร้องไห้จนใบหน้าขาวแดงก่ำ ดวงตาบวมแดงจนแทบไม่เห็นสีเทาอมฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์





สี่ปี...



สี่ปีที่รัก...



สี่ปีที่ให้ใจ...



สี่ปีที่ยอมยกให้อีกฝ่ายเป็นทุกอย่างในชีวิต





ภายในเวลาไม่กี่วินาที ความสัมพันธ์ที่อุตส่าห์ประคับประคองมาตลอดสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยพังทลายลงกับตา ใช่ว่ามธุวันจะเดาไม่ออก ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ เมฆา คนรักของเขา ทำตัวห่างเหินขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างโปร่งคิดว่าสาเหตุทั้งหมดมาจากการเสียชีวิตของมารดาของอีกฝ่าย ที่ทำให้ร่างสูงต้องก้าวขึ้นมาดูแลบริษัทแทนบิดาที่ยังทำใจจากการสูญเสียภรรยาไปไม่ได้



จนกระทั่งวันนี้...



ที่น่าสมเพชยิ่งกว่านั้น คือการที่โลกทั้งใบจะยังคงหมุนต่อใบ ไม่มีใครได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้นอกจากตัวของเขา แต่จะโทษใครได้นอกจากตัวเอง ที่ขอร้องไม่ให้เมฆาบอกเรื่องของพวกเขากับครอบครัว ด้วยกลัวนามสกุลดังของอีกฝ่ายจะมัวหมอง เมฆาเคยเถียงเขาว่าความเจ้าชู้ของบิดาทำลายชื่อเสียงนั่นไปจนหมดแล้ว แต่มธุวันรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็ไม่อยากให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ตนดำรงตำแหน่งรองประธานทั้งที่ยังเป็นนักศึกษาปีสี่อยู่ในขณะนี้ต้องมัวหมองไปมากกว่าที่เป็นอยู่



"หึ...เขาทนมานานขนาดนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้วหมอก" ชายหนุ่มปาดน้ำตา ชันตัวขึ้นนั่งบนเตียง รู้สึกปวดหัวตุบจากการร้องไห้อย่างหนักเป็นเวลานาน มธุวันขยี้ตาที่บวมแดงอย่างระคายเคือง ก่อนจะหันไปดูนาฬิกาดิจิตัลหัวเตียง ทว่ากระเป๋าเงินสีดำสนิทกลางเก่ากลางใหม่คุ้นตาซึ่งเป็นของราคาไม่แพงนักผิดกับข้าวของแบรนด์เนมทุกอย่างที่ร่างสูงใช้ แต่เมฆาก็พกติดตัวไว้ตลอดเวลาเพราะเป็นของที่มธุวันตรากตรำทำงานพิเศษอยู่หลายเดือนเพื่อซื้อให้เป็นของขวัญวันครบรอบปีแรกที่คบกัน




อยากตัดขาดกับเราขนาดนั้นเลยเหรอ?



นั่นคือความคิดแวบแรกของร่างโปร่ง แต่มธุวันรู้ดี ว่าถึงจะเย็นชา แต่เมฆาไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น



มือเรียวเอื้อมไปหยิบกระเป๋าเงินที่ผ่านการใช้งานอย่างสมบุกสมบันมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่เมฆาเป็นคนซื้อให้ มธุวันเปิดกระเป๋าสตางค์อย่างถือวิสาสะ ดึงรูปถ่ายใบเก่าของเดทแรกของพวกเขาที่อีกฝ่ายพกติดตัวตลอดเวลาออกมา นิ้วเรียวลูบเนื้อกระดาษมัน สายตาไล่สำรวจดวงหน้าของอดีตคนรักอย่างคะนึงหา ทั้งดวงตาคมสีควันบุหรี่จากเชื้อรัสเซียทางบิดา สันกรามแข็งแรง จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากได้รูปที่ใครๆก็ต่างพากันอิจฉา



ถึงจะคบกันมาสี่ปี มธุวันก็ยังไม่เคยเข้าใจ ว่าอีกฝ่ายเห็นอะไรในตัวเขา




มืออีกข้างกดเบอร์ของเมฆาอย่างชำนาญ ถึงแม้อีกฝ่ายจะบอกให้เขาบันทึกเบอร์โทรศัพท์ไว้ แต่มธุวันไม่อยากเสี่ยงให้ใครจับได้



ตื๊ด.... ตื๊ด....



ก้อนเนื้อในอกบีบตัวอย่างรุนแรงจนร่างโปร่งนิ่วหน้า แค่คิดว่าจะต้องพูดคุยกับคนที่ทิ้งตัวเองไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ท้องไส้ก็รู้สึกปั่นป่วนไปหมด




ในที่สุดอีกฝ่ายก็รับสาย ทว่าไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมา มธุวันกลืนน้ำลาย รู้สึกลำคอแห้งผาก



"เมฆ..ลืมกระเป๋า..."



โครม!!!!




"เมฆ!!"



ร่างโปร่งลุกขึ้นยืน หัวใจเต้นถี่รัวจนแทบจะหลุดออกจากอก มธุวันพยายามเรียกคนที่อยู่ปลายสายแต่ไม่เป็นผล มีเพียงเสียงตะโกนของผู้คนที่แว่วเข้ามาในสาย



"เฮ้ย! มีคนรถคว่ำ! โทรเรียกรถพยาบาลเร็ว!!"


"ตายรึยังวะ?"


"เชี่ย เลือดออกเต็มเลย!"


"อย่ามุง! ให้คนเจ็บหายใจก่อน!"



"เมฆ! เมฆ..ฮึก...เมฆ"



น้ำตาที่ไม่คิดว่าจะไหลได้มากกว่านี้อีกแล้วพรั่งพรูออกมา มธุวันตะโกนเรียกชื่อคนรักจนเจ็บคอ ได้แต่หวังว่าใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้นจะได้ยินเสียงของเขา



"เอ๊ะ? โทรศัพท์? ยังไม่พังเหรอ?"



ในที่สุดสวรรค์ก็ได้ยินคำวิงวอนของเขา เสียงของชายคนหนึ่งดังผ่านมาตามสาย "ฮัลโหล?"



"ฮึก...เมฆอยู่ไหนครับ... เขา...เขาอยู่ไหน.."



มธุวันพยายามรวบรวมสติ หยิบสำเนาเอกสารต่างๆของร่างสูงที่เมฆาถ่ายเก็บไว้จากตู้เซฟ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ปลายสายบอกทันที






เมื่อมาถึงโรงพยาบาล มธุวันถูกพยาบาลรุมด้วยคำถามทางสุขภาพต่างๆของอดีตคนรัก แม้ใจจะอยากถามอาการเมฆาใจแทบขาด แต่ก็ทำได้เพียงกรอกข้อมูลและตอบคำถามทั้งหมดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง



เว้นเพียงเรื่องเดียว...



"รบกวนญาติเซ็นต์อนุญาตผ่าตัดด้วยนะคะ" พยาบาลสาวยื่นแบบฟอร์มให้ มธุวันอึกอัก ก่อนจะส่ายหน้า


"ขอโทษครับ ผมเป็นแค่คนรู้จัก"


"เอ๊ะ?" ถึงแม้สายตาของหญิงสาวจะเต็มไปด้วยคำถามว่าทำไม 'คนรู้จัก' ถึงได้มีเอกสารประกันและข้อมูลส่วนตัวของผู้บาดเจ็บมากมายขนาดนี้ แต่เธอทำได้เพียงขอความร่วมมือ "ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณติดต่อญาติคนไข้ได้มั้ยคะ?"



มธุวันยื่นโทรศัพท์เปื้อนเลือดของเมฆาที่พลเมืองดีที่คุยกับเขาฝากเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาด้วยให้พร้อมปลดล็อค




"ผมไม่รู้จักกับครอบครัวเขาเป็นการส่วนตัว รบกวนคุณพยาบาลแจ้งให้ด้วยนะครับ เบอร์ที่เขียนว่าพ่อ กับ น้ำอุ่น"



พยาบาลสาวยังคงมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี มธุวันทรุดตัวลงบนเก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดอย่างอ่อนล้า จังหวะเดียวกับที่ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก



"หมอครับ เขาเป็นยังไงบ้าง?!" ร่างโปร่งแทบจะกระโจนเข้าไปหานายแพทย์หนุ่มในชุดผ่าตัด ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี




"คนไข้เสียเลือดค่อนข้างมาก ไม่ทราบว่ามีญาติที่สามารถบริจาค..."



"ผมไม่ใช่ญาติ แต่ผมเลือดกรุ๊ปเดียวกับเขา" มธุวันรีบเสนอตัว ตอนนี้เขายอมทำทุกอย่าง ขอให้เมฆาปลอดภัยก็พอ "ใช้เลือดผมได้มั้ยครับ"



"ถ้าอย่างนั้นเชิญที่ห้องเจาะเลยครับ" ชายหนุ่มพยักหน้าให้พยาบาลที่เดินนำร่างโปร่งไปยังห้องเจาะเลือดที่อยู่ไม่ไกล



"เขา..จะปลอดภัยมั้ยครับ..."



แม้จะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตรงหน้าก็ไม่มีคำตอบ แต่เขายังคงอดถามไม่ได้อยู่ดี



"คุณหมอระพีพัฒน์เป็นศัลยแพทย์สมองที่เก่งมากๆ ทำใจให้สบายนะคะ"



หญิงสาวตอบแบ่งรับแบ่งสู้ มธุวันจมอยู่ในห้วงความคิดของตนหลังจากได้ยินดังนั้น ร่างโปร่งเฝ้าภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งพยาบาลสาวเรียกให้เขากลับไปที่หน้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง



"ฮึก...รับสิ...พ่อครับ... ฮึก..."



ทว่าเมื่อก้าวออกจากห้อง ร่างคุ้นตาที่เขาเคยเห็นผ่านๆจากมหาวิทยาลัยก็ปรากฎแก่สายตา ธารธารา น้องชายคนรองของเมฆาสะอึกสะอื้น มือขาวสั่นพยายามต่อสายหาบิดาของตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่มีคนรับสาย



"คุณมธุวันอย่าเพิ่งเดินมากนะคะ เดี๋ยวจะเวียนหัว บริจาคเลือดไปซะเยอะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ"



ธารธาราเงยหน้าขึ้นตามเสียงของพยาบาล ร่างโปร่งที่ดูอย่างไรก็ไม่มีเค้าของพี่ชายมองเขาด้วยสายตาฉงน ก่อนที่ดวงตาเรียวเล็กจะเบิกกว้าง



"ฮึก...พะ...พี่หมอก?มะ..มาได้ยังไงครับ?"



"พอดีตอนที่รถชน โทรศัพท์มองคงโดนกระแทกแล้วโทรหาพี่โดยบังเอิญ พี่ก็เลยได้ยิน เลยมาดูน่ะ"



แม้เนื้อแท้จะกระวนกระวายไม่ต่างจากน้องชายของเมฆา แต่เขารู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ทรุดตัวลงไปร้องไห้เช่นเดียวกับเด็กปี
หนึ่งตรงหน้า




"ฮึก...โชคดีจัง ทะ...ที่พี่หมอกเลือดเข้ากับพี่เมฆ" ร่างโปร่งปาดน้ำตาลวกๆ มธุวันจำได้รางๆว่าธารธาราเป็นโรคเลือดจาง อาจจะเป็นเพราะสาเหตุนั้นเองทำให้เด็กหนุ่มยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ ชายหนุ่มทรุดตัวลงข้างคนอายุน้อยกว่า อันที่จริงน้องชายของเมฆาเป็นคนเดียวที่รับรู้ถึงการมีตัวตนของเขา ถึงแม้ธารธาราน่าจะจำเขาได้แค่ว่าเป็นคนที่เคยติดรถเมฆามาเรียนครั้งสองครั้งก็ตาม เขาจึงไม่รู้ว่าตัวเองควรจำพูดอะไรในเวลาแบบนี้





"ฮึก...ถ้าพี่เมฆเป็นอะไรไป...ผมไม่เหลือใครแล้ว... ฮึก...ผมไม่เหลือใครแล้วจริงๆ" เด็กหนุ่มปิดหน้าสะอึกสะอื้น มธุวันได้แต่ลูบไหล่อีกฝ่ายอย่างปลอบใจ ทั้งที่ตัวเองก็มีความคิดไม่ต่างกัน




เมฆ...อย่าไปเลยนะ




ถ้าเมฆอยากให้หมอกลืมเรื่องของเรา ไสหัวออกไปจากชีวิตเมฆ หมอกก็จะทำ




แต่เมฆอย่าทิ้งหมอกไปแบบนี้ได้มั้ย...



หมอกไม่เหลือใครแล้วจริงๆ




"คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ"




เสียงสวรรค์จากเทวดาชุดเขียวแทบจะทำให้ทั้งสองที่นั่งรอด้วยจิตใจกระวนกระวายทรุดลงกราบฟ้าดิน มธุวันและธารธารารีบรุดไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าของผ่าตัด



"หมอครับ พี่เมฆจะเป็นอะไรมากมั้ยครับ" เด็กหนุ่มถาม ตายังคงแดงก่ำจากการร้องไห้



"คนไข้มีเลือดคั่งในสมอง แต่ตอนนี้ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องของผลกระทบ คงจะต้องรอเจ้าตัวฟื้นนะครับ คนไข้อาจจะไม่เป็นอะไรเลย หรืออาจจะสูญเสียความทรงจำบางส่วน หรือการทำงานของร่างกายบางอย่าง อาจจะเสียแค่ชั่วคราว หรือเสียไปเลย อันนี้ต้องรอดูผลจริงๆครับ คงยังให้คำตอบไม่ได้"




หัวใจของมธุวันตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เช่นเดียวกับธารธาราที่นิ่งอึ้งไปหลังจากได้ฟังดังนั้น



พยาบาลสาวพาพวกเขามาที่ห้องพักฟื้นของเมฆา ชายหนุ่มที่หลับสนิทมีรอยช้ำและแผลจำนวนมากตามใบหน้าและลำตัว ศีรษะถูกห่อด้วยผ้าพันแผลสีขาว มธุวันอยากจะเข้าไปกุมมือ เรียกชื่ออีกฝ่ายจนกว่าคนที่จมอยู่ในห้วงนิทราจะได้ยิน



แต่ที่ตรงนั้นไม่ใช่ของเขา



มันไม่เคยเป็นของเขา



"พี่หมอกกลับไปก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมดูแลพี่เมฆเอง" เด็กหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและสีหน้าอิดโรย




"ให้พี่อยู่ช่วยเถอะ อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะตื่น" ร่างโปร่งว่า พยายามอย่างถึงที่สุดไม่ให้น้ำเสียงฟังดูเหมือนคำอ้อนวอน "พี่ไม่อยากทิ้งให้น้องต้องดูแลเขาคนเดียว"



ธารธาราเพียงแต่พยักหน้า ทรุดตัวลงบนเก้าอี้ข้างเตียง เอื้อมมือไปแตะมือที่เสียบสายน้ำเกลือไว้ของร่างสูงอย่างแผ่วเบา



"แม่ครับ...อย่าเพิ่งเอาพี่เมฆไปนะ... อุ่นเหงา... อุ่นไม่อยากอยู่คนเดียว..."



มธุวันเดินออกมาจากห้อง ให้ธารธารา หรือ น้องน้ำอุ่น ได้ใช้เวลาอยู่กับพี่ชายตามลำพัง










"พี่เมฆ! พี่เมฆฟื้นแล้ว!"



ฝีเท้าของชายหนุ่มอาสาไปซื้ออาหารเช้าให้ธารธาราชะงักค้าง มธุวันแนบศีรษะกับประตู หัวใจที่เต้นอย่างแผ่วเบามาตลอด
ทั้งคืนมีชีวิตขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของคนรัก



"จะโวยวายทำไม อยู่ใกล้กันแค่นี้"



"พี่เมฆจำอุ่นได้ใช่มั้ย จำน้องซันได้รึเปล่า คุณแม่ล่ะ..."



"พอเลยไอ้ตัวแสบ สมองพี่ยังดีอยู่..." เสียงทุ้มหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง "แต่ปวดหัวนิดหน่อย"



"เดี๋ยวอุ่นตามหมอให้ พี่เมฆอย่าหลับอีกนะ"



อารามตกใจที่เห็นพี่ชายแข็งแรงดี ธารธารากระชากประตูเปิดโดยไม่สนใจว่าภายในห้องจะมีปุ่มเรียกพยาบาลอยู่แล้ว มธุวันกระโดดหลบไปข้างๆ โชคดีที่เด็กหนุ่มตื่นเต้นเกินกว่าจะสนใจสภาวะรอบข้าง จึงไม่เห็นเขา



ร่างโปร่งถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะหลบทำไม มธุวันสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหมุนลูกบิดเปิดประตูห้องพักของอดีตคนรัก




ภาพที่เห็นคือเมฆาที่นั่งอยู่บนเตียงในชุดคนไข้ ร่างสูงหันมาทางเขา มธุวันยืนนิ้ง เตรียมพร้อมรับทุกคำถามหรือคำบอกเลิกรอบสองจากคนตรงหน้า ทว่าแววตาของเมฆามีเพียงความว่างเปล่า



ราวกับไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร



"คุณเป็นใคร? เข้ามาในห้องผมได้ยังไง?"



'คนไข้อาจสูญดสียความทรงจำ....'



หึ...สมเป็นคุณเมฆา ทรัพย์ดำรง ลูกชายคนโตของนักธุรกิจใหญ่ รองประธานของเครือบริษัทราคาหมื่นล้านทั้งที่ยังเรียนไม่จบ




อยากได้อะไรก็ได้มาง่ายๆ



ขนาดจะลืมเรื่องของเขาทั้งหมด....ยังทำได้เพียงข้ามคืน



ใช่สิ...เมฆเก่งไปหมดทุกเรื่องอยู่แล้วนี่




"ขอโทษครับ ผมเข้าห้องผิด"




ในห้องพักคนไข้พิเศษสองศูนย์แปด เวลาเก้านาฬิกา สี่สิบสองนาที




มธุวันได้ทิ้งความทรงจำของตัวเองไว้ตรงนั้นแล้วหมุนตัวเดินกลับออกไป โดยไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่ทำร้ายจิตใจเขาในคืนเดียวได้มากกว่าที่เขาโดนมาทั้งชีวิต



ดีแล้วล่ะ...



อย่างน้อย ให้คนที่ต้องเจ็บกับการพยายามลืมเรื่องราวทั้งหมด มีแค่เขาคนเดียวก็พอ





------


เปิดเรื่องใหม่อีกล้าวววววว

ใช้สโลแกนช้าแต่ชัวร์เช่นเดียวกับเรื่องอื่น55555

เนื่องจากน้องแว่นใกล้จะจบ จึงเอาเรื่องใหม่มาสังเวย(?)


จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องใน Series รักของแว่น แต่อ่านเดี่ยวได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องของครอบครัวพี่อุ่น ซึ่งแน่นอนแฟนคลับคุณเชษฐ์ไม่ควรพลาด55555


เรื่องนี้จะเล่าแบบอดีตสลับปัจจุบัน จะกำกับไว่ที่ชื่อตอนนะคะว่า then กับ Now

แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของลูกชายคนโตสุดหล่อของคุณเชษฐ์เค้าแหละ ส่วนเหล่าพี่น้องและคนอื่นๆในซีรีย์อาจจะโผล่มาสร้างสีสันบ้างอ่านะ เหอๆ 

ส่วนเรื่องของน้องมีนกับคุณเชษฐ์ ติดตามได้ในเรื่องสุดท้ายของซีรีย์ ชื่อว่า พี่ครับ รับผมได้มั้ย ซึ่งไว้ในเล้าแล้วสามตอน แต่จะรีไรท์ เลยพักไว้ก่อน555 แต่จะเปลี่ยนชื่อเป็น เล่น||ของ||สูง(อายุ) เน้อ


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2017 17:02:46 โดย littlepig »

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
มีความดราม่าตั้งแต่เปิดเรื่องงง  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  สนุกมากๆคับ ติดตามอ่านต่อ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
โอวววววววเจ็บไปกับหมอกแบบหนักๆnon stopกันเลยทีเดียว
เป็นแนวจำเสื่อมที่ค่อนข้างถูกใจเพราะเคยเซ็งจากเรื่องอื่นๆมาเยอะแล้ว
แต่เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าหมอกร้องเจ็บหนักมากก็คงยังไม่ลึกถึงก้นบึ้งของจิตใจ
เป็นกำลังใจให้หมอก ให้คนแต่ง และให้ตัวเองเพราะคงร้องไห้สงสารแรง รออ่านอยู่นะคะ
ชอบนิยายของน้อง สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เปิดเรื่องมาได้แบบเสียน้ำตากันเป็รลิตร   งื้ออออ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
โอ๊ะ โอ๊ะ ขึ้นเรื่องมาดราม่าหนักหน่วง แต่ชอบบบบบบอ่ะ

ตามติดทั้งคู่คุณเชษฐ์_มีนา น้องแว่น_พี่กล้า ฟ้า_พี่ติณณ์ และก้อคู่แฝด

เป็น FC กันเลยทีเดียวละ

 :mew1:  :mew1:  :mew1:  :mew1:  :mew1:

...

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 1

Now: เลขาผู้เยือกเย็น





"คุณมธุวันสวัสดีค่ะ/ครับ"



"เอกสารที่ผมขอไว้ไปถึงไหนแล้ว"



ไม่มีคำทักทาย ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแม้แต่สายตาเป็นมิตร ร่างโปร่งในชุดสูทสีกากีของมธุวันในวัยยี่สิบห้าปีเดินผ่านเหล่าพนักงานที่ทักทายเขาอย่างนอบน้อมแม้ชายหนุ่มจะอายุพอๆก็เด็กฝึกงานบางคนในบริษัทด้วยซ้ำ หลายคนที่ถูกเขาปรายตามองก็รีบกุลีกุจอเอางานที่ได้รับมอบหมายมาส่งอย่างรู้ตัว ทั้งที่มีตำแหน่งเป็นเพียงเลขาของประธานบริษัท แต่อำนาจของมธุวันเป็นที่เลื่องชื่อลือชาในหมู่พนักงานเป็นอย่างมาก




แต่ก็ไม่ใช่ในด้านที่ดีหรอกนะ




"คุณเชษฐ์อยู่ที่ไหน!"



ไม่ทันได้หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ หญิงสาวรูปร่างอวบอัดสัดส่วนล้นเหลือในเดรสสีแดงรัดติ้วแต่งหน้าหนาเตอะก็ปรากฎกายขึ้นราวกับจะมาเพื่อรบกวนความสงบสุขของเขาโดยเฉพาะ มธุวันดันแว่นไร้กรอบของตัวเองที่เพิ่งเริ่มใส่ได้เพียงสองปีหลังจากสายตาเริ่มสั้นขึ้น เปิดเอกสารโดยไม่คิดจะเงยหน้ามองคู่สนทนา



"ไม่ทราบว่าได้นัดไว้มั้ยครับ"



"นี่ แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร เป็นแค่พนักงานอย่ามาสะเออะเรื่องของเจ้านาย"



"แล้วคุณเป็นใครล่ะครับ?"



มธุวันเงยหน้าเมื่อเริ่มรับรู้ว่าสติปัญญาของหญิงสาวที่โวยวายอยู่ตรงหน้าอาจจะไม่มากพอที่จะสื่อสารเพียงครึ่งๆกลางๆด้วยได้



"หึ ฉันก็เป็นเมียคุณเชษฐ์น่ะสิ" ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบลิปสีแดงสดกรีดยิ้มอย่างเหนือกว่า คนฟังอยากจะกลอกตามองบนเหลือเกินแต่เหนื่อยใจเกินกว่าจะทำ




"เท่าที่ผมทราบ ท่านประธานยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับใครนะครับ"



"โอ๊ย นี่โง่หรือโง่ยะ ไม่เชื่อก็ไปถามคุณเชษฐ์ไป๊!" หญิงสาวตวาด "ถามเขาสิว่าเมื่อคืนฉันกับเขาทำอะไรกัน จะได้เลิกทำตัวไร้มารยาทกับคุณผู้หญิงคนใหม่ของที่นี่ซะที!"




"จนกว่าผมจะได้รับแจ้งจากท่านประธาน คุณผู้หญิงของที่นี่มีอยู่แค่คนเดียว คือคุณเกศรา" มธุวันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แม้เขาจะไม่ได้สูงชะลูดเหมือนหลายคน แต่ด้วยรูปร่างที่เพรียวลมทำให้ชายหนุ่มดูสูงกว่าความสูงร้อยเจ็ดสิบห้าเซ็นติเมตตรของตนเล็กน้อย "อีกอย่าง ผมไม่ต้องถามคุณหรอกครับ ว่าพวกคุณทำอะไรกัน ในเมื่อตอนท่านกลับมาที่เตียงผม ท่านยังชมอยู่เลยว่าผมน่ะ 'เด็ด' กว่าคุณแค่ไหน"



"ฮะ?" ดูเหมือนสมองของหญิงสาวจะประมวลผลไม่ทัน ริมฝีปากอิ่มอ้าค้าง ดวงตาคมเฉี่ยวจากมาสคาร่าทั้งหลอดเบิกกว้างอย่างตกตะลึง "มะ...ไม่จริง..."



"ตอนที่ท่านอยู่ในตัวผม ท่านกระซิบที่ข้างหูผม ว่าคนก่อนหน้าหลวมโพรกแค่ไหน" ชายหนุ่มเอ่ยหน้าตาย "แต่ก็อย่างว่าละนะครับ รุ่น'ป้า'แล้ว จะให้มาฟิตๆเหมือนสาวๆคงยาก"


"กรี้ดดดดด ไอ้เด็กเวร!" คนถูกด่ากระทืบเท้าอย่างขัดใจ ส้นสูงคู่งามที่ใส่มาอวดเรียวขาดันเกิดทรยศพาให้สาวเจ้าล้มลงไปกองกับพื้น มธุวันกดโทรศัพท์เรียกรปภ.ขึ้นมาลากตัวการก่อความวุ่นวายออกไป ก่อนจะนั่งลงทำงานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น



ติ๊ดๆ




ไฟที่โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของเขากระพริบขึ้น ร่างโปร่งถอนหายใจ ลุกขึ้นจากโต๊ะไปยังห้องทำงานของคนที่เรียกตัวเขาโดยไม่คิดจะรับสาย



"ฮ่าๆๆๆ ทำดีมากเลยหมอก เดี๋ยวปีนี้ฉันให้โบนัสเพิ่ม"



ธีรเชษฐ์ ท่านประธานตัวปัญหาของเรื่องหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ปาดน้ำตาออกจากหางตา ก่อนจะพยายามควบคุมสติไม่ให้หลุดหัวเราะออกมาอีก ร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทราคาแพงเดินตรงมาหาเขา ใบหน้าคมประดับด้วยรอยยิ้มละลายใจ รับกับดวงตาสีควันบุหรี่อันเป็นเอกลักษณ์และท่าทางเพลย์บอยทั้งทีอายุอานามก็ปาเข้าไปสี่สิบกว่าแล้ว



"ผมแค่ทำตามหน้าที่" ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบ



"เหรอ...แต่ฉันชักอยากจะรู้แล้วสิ ว่าเลขาคนเก่งของฉันจะเด็ดอย่างที่พูดมั้ย" นิ้วเรียวเชยคางมนขึ้น ใบหน้าคมขยับเข้ามาใกล้ มธุวันยังคงนิ่งเฉย ไม่สนใจคนที่โน้มเข้ามาจนจะแตะริมฝีปากของเขาอยู่แล้ว



"อะไรกัน สมยอมแบบนี้ก็ไม่สนุกสิ" คนแกล้งหัวเราะ



"ถ้าไม่มีธุระอะไร ผมขอตัวนะครับ"




ร่างโปร่งหันหลังเตรียมกลับไปที่โต๊ะ เขาไม่อยากอยู่กับอีกฝ่ายนานเกินความจำเป็น ไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกทำอะไร เพราะถึงท่านประธานจะเป็นคนเจ้าชู้เพียงใด ก็ไม่มีทางทำอะไรพนักงานในบริษัท อีกอย่าง ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เขาเรียนจบ มธุวันรู้ดีว่านิสัยของอีกฝ่ายเนื้อเนื้อเป็นคนดีคนหนึ่ง



แต่ที่เขาไม่ต้องการจะอยู่ตามลำพังกับเจ้านาย เพราะใบหน้าที่เหมือนกับคนรักเก่าแทบจะทุกกระเบียดนิ้วหากไม่นับความแตกต่างทางอายุ



ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ในเมื่อธีรเชษฐ์ ทรัพย์ดำรง เป็นบิดาแท้ๆของเมฆา



"เดี๋ยวสิๆ ฉันมีเรื่องจะไหว้วานหน่อย" ธีรเชษฐ์รีบเอ่ยรั้งตัวเลขาคนเก่งไว้ด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ



"อะไรครับ?" มธุวันเลิกคิ้ว อย่าบอกนะว่ายังมีสาวๆหนุ่มๆที่เขาจะต้องไล่ตะเพิดไปอีก



"วันนี้ลูกชายฉันจะกลับมาจากต่างประเทศ ไปรับให้หน่อยสิ ฉันมีนัดคุยกับลูกค้า"




เวลาทำงานชายหนุ่มก็จะอยู่ในโหมดทำงานจริงๆ จึงไม่แปลกที่เขาจะให้คนอื่นไปทำธุระเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ให้



"ครับ คุณซันกลับมาจากอเมริกาเร็วกว่าที่คิดนะครับ" มธุวันเอ่ยอย่างแปลกใจ เขาคิดว่าลูกชายคนเล็กที่เพิ่งเรียนจบของ
ท่านประธานจะขอเที่ยวแบกเป้ตะลุยอเมริกาสักสี่ห้าเดือนก่อนจะกลับไทยเสียอีก



"ไม่ใช่ซันหรอก" ร่างสูงยิ้มกว้าง "เมฆต่างหาก"












มธุวันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพยายามเหวี่ยงเขาให้เซจนไม่รู้ทิศทาง




ชายหนุ่มรู้สึกถึงมือที่สั่นเทาขณะยกกระดาษแข็งที่ติดชื่อของอดีตคนรักที่จุดรอรับผู้โดยสารชูขึ้นรอ ทั้งที่จดจำโครงหน้าของอีกฝ่ายได้เย่างชัดเจนราวกับเป็นเพียงเมื่อวานที่มือเรียวได้ไล้ผ่านใบหน้าคม สำรววจทุกรายละเอียดของใบหน้าราวกับว่าจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส




ซึ่งมาถึงตอนนี้มธุวันรู้แล้ว ว่าต่อให้ตักตวงไว้แค่ไหน สุดท้ายก็ไม่พอให้หายคิดถึง




ถ้าไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ดั้นด้นมาสมัครงานที่บริษัทของธีรเชษฐ์ เพียงเพื่อจะได้แอบมองอีกฝ่ายอยู่ห่างๆหรอก



แต่ก็เปล่าประโยชน์ เมฆาถูกบิดาส่งไปดูแลสาขาที่ออสเตรเลียแทบจะในทันทีที่ชายหนุ่มเรียนจบ สามปีที่ผ่านมา สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกใกล้ชิดกับเมฆาที่สุดคือการได้ดูแลธีรเชษฐ์แทนอีกฝ่าย ถึงแม้เจ้านายของเขาจะน่าปวดหัวแค่ไหนก็ตาม



ในที่สุดคนที่เขารอก็มาถึง ร่างสูงเด่นจากฝูงชนด้วยชุดสูทราคาแพงที่เจ้าตัวเคยบ่นนักบ่นหนาว่าไม่ชอบ ขายาวก้าวเดินพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเขื่อง ดวงตาสีควันบุหรี่สอดส่ายมองหาคนที่จะมารับตัวเอง มธุวันชูป้ายขึ้นสูง เรียกความสนใจจากเมฆาได้ในที่สุด



"สวัสดีครับคุณเมฆา ท่านประธานให้ผมมารับคุณครับ" ร่างโปร่งรายงานเสียงเรียบ นึกดีใจที่น้ำเสียงของตัวเองไม่สั่นเครือตามการเต้นของหัวใจ รองประธานของบริษัทเพียงแต่พยักหน้า ยืนรอให้มธุวันนำทางเขาไปที่รถ



"กระเป๋า..."



มธุวันเอื้อมมือไปหากระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ของร่างสูงเพื่อช่วยลากตามหน้าที่ลูกน้องที่ดี แต่กลับถูกอีกฝ่ายดึงไปหลบไว้ข้างหลัง เมฆาชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ



“ของของฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาต อย่ามาแตะต้อง"




เขาลืมไปได้ยังไงกันนะ ว่าคนตรงหน้าเกลียดการถูกล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัวแค่ไหน




อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนเดียว ที่เคยครอบครองพื้นที่ส่วนตัวของอีกฝ่ายทุกตารางนิ้วไว้




"ขอประทานโทษครับคุณเมฆา" ร่างโปร่งก้มศีรษะให้ พยายามอย่างยิ่งไม่ให้ความเจ็บปวดฉายชัดในแววตา




วันที่หนึ่งของนรกทั้งเป็น...เริ่มได้









เมฆาไม่ขับรถ




จากคนที่เคยเป็นนักซิ่งสิงห์สนามแข่งก่อนจะถูกคนรักขอร้องให้เลิก และเป็นเจ้าของรถยนต์หายากราคาแพงมากมายนับไม่ถ้วน ชายหนุ่มกลายเป็นคนที่กลัวการขับรถหลังจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ในสมัยที่เรียนปีสี่ บางครั้งเวลาที่รู้สึกเหงา มธุวันมักจะไปแอบยืนรอตรงจุดที่คนขับรถจะวนมารับร่างสูงกลับ เพียงเพื่อจะได้เห็นอีกฝ่ายก้าวขึ้นรถเพียงไม่กี่วินาที



ทำให้หน้าที่สารถีตกเป็นของร่างโปร่งโดยปริยาย





ความจริงแล้วมธุวันไม่เคยขับรถอย่างจริงจังจนกระทั่งเข้ามาทำงานในบริษัท ก่อนหน้านี้บ้านที่เขาอาศัยอยู่กับป้าและยายที่ต่างจังหวัดค่อนข้างยากจน แม้จะพอมีพอใช้ตามสภาพ แต่ก็ไม่มากพอจะซื้อรถ พอเข้ามาเรียนในเมืองก็มีเมฆาคอยรับส่ง ซึ่งอีกฝ่ายไม่ยอมให้ใครขับรถให้มธุวันนั่งนอกจากตัวเอง มีแค่ครั้งหนึ่งตอนสมัยปีสองที่อีกเมฆาเคยลองสอนให้เขาขับไม่กี่ครั้งเป็นพื้นฐานเท่านั้น หลังจากนั้นการเรียนและเรื่องที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความคิดที่จะหัดขับรถต่อตกกระป๋องไปอย่างง่ายดาย





นึกถึงตอนนั้นก็ยังสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงได้โง่เชื่อว่าจะมีเขาอยู่ด้วยตลอดไป



"ครับ ผมถึงแล้ว" เสียงของชายหนุ่มคุยโทรศัพท์กับใครซักคนจะไม่ได้รับความสนใจจากมธุวันเลย หากน้ำเสียงที่เมฆาใช้ไม่ได้ฟังดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย แม้จะไม่เหมือนกับตอนที่พวกเขาคบกัน แต่ก็ฟังดูเป็นมิตรจนใจของคนฟังกระตุก "ครับษา ถ้าคุณเคลียร์คิวที่นู่นได้เมื่อไหร่ ก็ตามมาก็แล้วกัน"




ทั้งที่รู้ว่าผ่านไปสามปี คนที่ไม่มีแม้แต่ความทรงจำเรื่องของเขาไม่ควรจะยังโสด แต่ความจริงที่รับรู้ทำให้มธุวันรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่



หวังอะไรอยู่เหรอมธุวัน...



หวังว่าเขาจะจำเรื่องทั้งหมดได้อย่างนั้นหรือ..




แล้วจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อความทรงจำสุดท้ายของชายหนุ่มที่มีเขาอยู่ในนั้น คือคำบอกเลิกที่ไร้เหตุผล กับเสียงโทรศัพท์ ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขารถคว่ำจนเกือบเสียชีวิต




 เป็นแบบนี้ก็ดีเกินพอแล้ว




"ชื่ออะไร?" จู่ๆร่างสูงที่นั่งอยู่เบาะหลังก็ถามขึ้น



"มธุวันครับ" แม้จะแปลกใจ แต่ร่างโปร่งก็ตอบคำถามรองประธาน



"ชื่อเล่นไม่มีเหรอ?" จากกระจกมองหลัง มธุวันเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังขมวดคิ้วจ้องมองเขา ราวกับเขาเป็นวัตถุปริศนาที่ชายหนุ่มอยากไขให้ออกว่าภายในมีอะไรซ่อนอยู่



'เราชื่อสายหมอก แต่เรียกหมอกก็ได้'



'ชื่อน่ารักดีนะ'



'นะ...น่ารักตรงไหน?'


'ตรงที่มันเป็นชื่อของหมอกไง'




"ว่าไง?"




ชายหนุ่มเร่งอย่างหงุดหงิดเมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการเสียที



"ไม่...ไม่มีครับ"



อย่างอื่น เขาทนได้

แต่จะให้น้ำเสียงที่เมฆเรียกชื่อของเขาลบล้างความอบอุ่นที่เคยมาพร้อมกับเสียงทุ้มต่ำ ลบเลือนเยื่อใยที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดจากในอดีต เขาทนไม่ได้




"คุณมธุวัน เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!"ทั้งพนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกรูกันเข้ามาหาเขาราวกับผึ้งแตกรัง แค่นั้นร่างโปร่งก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น



ตัวแม่มาอีกแล้วสินะ



"คุณภรัณยู รบกวนพาท่านรองประธานไปที่ห้องรับรองด้วยครับ" ชายหนุ่มสั่งพนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุด ภรัณยูเป็นคนไม่ค่อยพูด น่าจะไม่ทำให้เมฆารำคาญใจมากนักในช่วงระยะเวลาสั้นๆที่เขาไปจัดการปัญหาของท่านประธาน



"ฉันไปด้วย"



"ไม่เป็นไรครับท่านรอง นี่เป็นปัญหาส่วนตัวของท่านประธาน" ร่างโปร่งตัดบท พยักหน้าให้ภรัญยูมารับหน้าที่ต่อจากตนแล้วเดินไปยังลิฟท์แก้วที่มีเพียงสองคนในบริษัทที่ได้รับอภิสิทธิ์ให้ใช้ คือท่านประธาน และตัวเขา




"แซนดี้ไม่ยอมจริงๆนะคะเชษฐ์ นี่มันอะไรกันคะ โทรหาก็ไม่รับ ไลน์ก็ไม่ตอบ นี่ถ้าไอ้เลขาหน้าตุ๊ดของเชษฐ์อยู่แซนดี้คงไม่ได้เจอคุณแล้วใช่มั้ยคะ?!"  เสียงหวีดสยองดังขึ้นจากห้องทำงานของท่านประธาน มธุวันนึกอยากจะจับเจ้านายของตัวเองขึ้นเขียงตอนให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ต้องมาสร้างเรื่องปวดหัวให้เขาไม่เว้นแต่ละวันแบบนี้




ได้เงินเดือนเท่าไหร่ก็ไม่คุ้มจริงๆ




"ถ้าผู้ชายเขาทำขนาดนั้น คุณควรจะรู้แล้วนะครับว่าเขาไม่เอา"




หญิงสาวในชุดเดรสรัดติ้วที่มธุวันเริ่มสงสัยว่าคนพวกนี้ซื้อมาจากที่เดียวกันทุกคนรึเปล่าหันขวับกลับมาหาเขา แซนดี้เป็นหนึ่งในมนุษย์ป้าตายยากที่คลานกลับขึ้นมาจากหลุมไม่ว่าร่างโปร่งจะพยายามฝังกลบไปกี่ครั้ง จะโทษก็คงต้องโทษเจ้านายตัวดีที่ยังคงนัดเจอหญิงสาวเป็นครั้งคราวทำให้อีกฝ่ายได้ใจว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่น




แต่ถ้ายังสร้างปัญหาจนบริษัทต้องปั่นป่วนแบบนี้ เขาคงไม่มีทางเลือกนอกจากจัดการขั้นเด็ดขาด ดูจากสายตาของธีรเชษฐ์ ชายหนุ่มก็คงคิดเช่นเดียวกับเขา




 "มันมีดีกว่าแซนดี้ตรงไหนแซนดี้ไม่เข้าใจ ทำไมคุณเชษฐ์ยังเก็บมันเอาไว้อีก"




"สมอง...ล่ะมั้งครับ" การด่าอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบยิ่งทำให้หญิงสาวเต้นแร้งเต้นกามากขึ้น



"ไม่รู้แหละ วันนี้คุณเชษฐ์ต้องเลือก มัน หรือแซนดี้!”


“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับแซนดี้” ธีรเชษฐ์ตอบเสียงเอาใจ เรียกรอยยิ้มแสยะอย่างผู้ชนะจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี แต่รอยยิ้มนั่นเลือนหายไปทันตาเมื่อได้ยินประโยคถัดมา



“ต่อให้มีคุณสักพันคน ผมก็ยังเลือกหมอกอยู่ดีนั่นแหละ”




“กรี๊ดดดดดดด”



ร่างโปร่งนิ่วหน้า อยากจะยกมือปิดหูแต่มือใหญ่ของเจ้านายชิงทำหน้าที่นั้นเสียก่อน เมื่อหันไปหาก็พบใบหน้าคมฉีกยิ้มกว้างมาให้ ธีรเชษฐ์เรียกเจ้าหน้าที่มาพาตัวหญิงสาวออกไป ท่าทางปกป้องกันอย่างออกนอกหน้ายิ่งทำให้หญิงสาวกรีดร้องดังขึ้น ดิ้นพล่านเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมแต่ไม่มีผล




หมดหน้าที่ไม้กันหมาอย่างเขาไปอีกวัน...




“เมื่อกี้มันอะไรกันครับพ่อ”



มธุวันรีบผละออกจากร่างสูงของเจ้านายทันทีที่ได้ยินเสียงอดีตคนรัก เมฆาก้าวเข้ามาในห้องทำงานของบิดาอย่างไม่พอใจ ดวงตาคมสีควันบุหรี่ปรายตามองเลขาหนุ่มอย่างเย็นชา มธุวันก้าวถอยฉากไปด้านหลัง ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของอีกฝ่ายในตอนนี้



“ก็เหมือนเดิมแหละ ปกติ” ประธานบริษัทไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ



“สามปีมานี้ธุรกิจของเราผลประกอบการดีขึ้นมาก ผมคิดว่ามาจากการที่พ่อเลิกทำเรื่องแบบนี้แล้วซะอีก”เมฆาขมวดคิ้ว



“เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับหมอกต่างหาก” ธีรเชษฐ์รั้งแขนมธุวันให้มายืนข้างกาย เลขาหนุ่มขยับแว่น นึกอยาก
ให้ธรณีสูบตัวเองลงไปแล้วไม่ต้องคายขึ้นมาบนผิวโลกอีกตลอดกาล “ตั้งแต่หมอกเข้ามา ก็ช่วยพ่อได้เยอะเลย”



ทำไมเวลาแบบนี้ถึงไม่มีอุกาบาตพุ่งชนโลกซักลูกเลยนะ



เมฆากอดอกมองเจ้าของชื่อด้วยแววตาเย็นชา มธุวันเบือนหน้าหนี ไม่อยากฟังคำสบประมาทที่กำลังจะออกมาจากปากอีกฝ่าย



“ไหนว่าไม่มีชื่อเล่น”



แต่สิ่งที่เมฆาพูดมีแค่นั้น



“อ๋อ พอดีหมอกเขาถือเรื่องพวกนี้นะ กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้เขายอมให้เรียกชื่อเล่นได้ ใช้เวลาเกือบปี เนอะ” ธีรเชษฐ์โอบไหล่ร่างโปร่งอย่างสนิทสนมเช่นที่ทำแทบทุกวัน แต่เวลานี้มธุวันกลับนึกเสียใจที่ปล่อยให้อีกฝ่ายแตะเนื้อต้องตัวตามอำเภอใจมาตลอดโดยไม่เอ่ยห้าม ถึงแม้เขาจะไม่ได้คิดจะให้เมฆาญาติดีกับเขา แต่เขาก็ไม่อยากถูกเกลียดนักหรอกนะ



“คนแบบนี้มีอะไรให้ถือตัวด้วยเหรอครับ?” ร่างสูงเลิกคิ้ว กวาดสายตามองร่างโปร่งในชุดสูทตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาไม่เป็นมิตร



“กลับมาก็หาเรื่องเลขาพ่อเลยนะเจ้าเมฆ เดี๋ยวก็ไล่ออกซะหรอก” ประธานบริษัทเอ่ยทีเล่นทีจริง แต่ดวงตาสีควันบุหรี่เช่นเดียวกับลูกชายหรี่ลงเป็นเชิงปราม สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับลูกชายคนโตมากขึ้นไปอีก




“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ” มธุวันโค้งกายให้ชายทั้งสอง เขาถึงขีดจำกัดของตัวเองที่จะรับได้ในวันนึงแล้ว หากอยู่ตรงนี้ต่อไป เขาคงจะร้องไห้ให้ทั้งคู่เห็นแน่



“เดี๋ยวสิหมอก ฉันมีเรื่องจะวานหน่อย” เจ้านายของเขาเรียกไว้ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้มีโอกาสหนี



“ครับ?”



“เมฆ เมื่อกี้ที่มาที่นี่ หมอกเขาขับรถดีมั้ย?” แทนที่จะสั่งงาน ประธานบริษัทกลับหันไปถามลูกชาย แม้จะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของบิดา แต่เมฆาก็ตอบตามความจริง



“ก็…ใช้ได้ครับ”




“ทีแรกพ่อก็จะให้หมอกเป็นเลขาให้แกซักระยะหรอกนะ แต่มาอีหรอบนี้คงตีกันตาย พ่อจะให้คุณแจนช่วยดูแทนไปก่อนแล้วกัน” ธีรเชษฐ์ว่า “แต่เรื่องคนขับรถ คนเก่าที่ขับให้แกแต่ก่อนเพิ่งลาออกไป ระยะนี้คงต้องให้หมอกเป็นธุระให้ไปก่อน แค่ระยะเวลาไม่กี่นาที คงไม่ฆ่ากันหรอกใช่มั้ย?”



ท่านประธานดูถูกความสามารถของลูกชายณเกินไปแล้วครับ!



“ผมคิดว่าคุณเมฆาคงไม่สะดวกใจ....”



“ถ้าไม่มีจริงๆ ผมก็ไม่มีปัญหา”



มธุวันหันขวับไปมองคนที่เขาคิดว่าจะมีปัญหากับเรื่องนี้มากที่สุดอย่างประหลาดใจ สีหน้าของเมฆายังคงเรียบเฉยไม่บ่งบอกว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ ร่างสูงหมุนตัวกลับออกไปโดยไม่มีแม้แต่คำลา มธุวันหันกลับมาหาเจ้านายตัวดีของตนอย่างไม่เข้าใจ แต่ธีรเชษฐ์เพียงฉีกยิ้มกว้างให้เขาอย่างที่ทำประจำ



“แค่จนกว่าจะหาคนขับรถที่เจ้าเมฆมันโอเคด้วยได้เท่านั้นแหละ ลูกชายฉันเรื่องมากเรื่องพวกนี้จะตาย รบกวนด้วยนะหมอก”



บางครั้งเขาก็คิดว่าคนที่ประสบอุบัติเหตุจนสมองกระทบกระเทือนอาจจะเป็นธีรเชษฐ์รึเปล่า เพราะการกระทำของอีกฝ่ายหลายครั้งไม่สมเหตุสมผลไม่ว่าจะมองจากมุมใด แต่เมื่อเจ้านายสั่ง มธุวันก็ได้แค่ทำตาม เขายังมีปากมีท้องต้องเลี้ยง ยังไม่อยยากโดนไล่ออกตอนนี้หรอกนะ



“ขอตัวครับ”



ร่างโปร่งกลับออกไปนั่งประจำที่ของตัวเอง แค่คิดว่าต่อจากนี้จะต้องเจอคนที่เขาเคยมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ทั้งตัว ทั้งหัวใจ ที่มองมาที่เขาด้วยสายตารังเกียจทุกวัน เลขาหนุ่มก็ไม่อยากให้ถึงตอนเย็นแล้ว






แต่ไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไร เวลาก็ยังคงเดินต่อไป



“เชิญครับคุณเมฆา”



ร่างโปร่งเปิดประตูหลังให้ชายหนุ่มเข้าไปในรถ รองประธานบริษัทเหลือบมองเขาด้วยหางตา ก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งในรถ มธุวันอยากจะถอนหายใจ แต่ด้วยภาพลักษณ์เลขาที่ดีทำให้ชายหนุ่มเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ รถยนต์สี่ประตูราคากลางๆที่เขาเก็บเงินซื้ออย่างยากกลำบากเคลื่อนตัวออกสู่ถนน เตรียมพร้อมเผชิญกับชั่วโมงเร่งด่วนของพนักงานบริษัทที่เลิกงานเวลาเดียวกันทั้งประเทศ



“ทำงานที่นี่มานานรึยัง?”



จู่ๆคนที่นั่งเงียบมาตลอดก็ถามขึ้น ทีแรกมธุวันไม่คิดว่าอีกฝ่ายพูดกับตน แต่พอเหลือบมองจากกระจกมองหลัง ชายหนุ่มไม่ได้ถือสายคุยโทรศัพท์กับใคร เขาจึงอนุมานว่าคำถามเมื่อกี้เจาะจงมาที่เขา



แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินก็แล้วกัน



“หูหนวกเหรอ?”



“สามปีครับ” ร่างโปร่งขยับแว่น หักเลี้ยวรถไปยังทางไปคอนโดของเมฆา แต่ไม่ใช่คอนโดที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกัน ห้องที่พวกเขาอยู่ด้วยกันถูกโอนเป็นชื่อของมธุวันตั้งแต่เดือนแรกที่พวกเขาย้ายมาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ชายหนุ่มจะค้านหัวชนฝา แต่คนอย่างเมฆา ทรัพย์ดำรง ไม่มีอะไรขวางชายหนุ่มได้



รถยนต์ของมธุวันเลี้ยวเข้ามาจอดที่ประตูทางเข้า มธุวันลงจากรถเพื่อเปิดประตูให้ลูกชายคนโตของเจ้านาย ทว่าร่างสูงกลับไม่ยอมขยับเขยื้อน ซ้ำยังจ้องตรงมาที่เขาด้วยแววตาไม่พอใจ



“ใครบอกนาย...”


“ครับ?” ร่างโปร่งทวนคำอย่างไม่เข้าใจ



“ใครบอกนายว่าคอนโดของฉันอยู่ที่นี่?”



ชิ_หายแล้ว!



เมื่อกี้เขามัวแต่เหม่อลอยจนเผลอขับเข้ามาโดยไม่แม้แต่จะถามทาง เลขาหนุ่มจำได้แค่เมฆซื้อคอนโดอีกที่นอกจากห้องของพวกเขา แต่ร่างโปร่งไม่เคยถามคนรักในตอนนั้นว่าเรื่องนี้เป็นความลับหรือไม่



แค่วันแรกก็ความแตกแล้วเหรอเนี่ย



“ท่านประธาน...”



“พ่อไม่เคยรู้ว่าคอนโดของฉันอยู่ที่ไหน” ร่างสูงตัดบท กอดอกมองหน้าคนที่ยืนเปิดประตูให้เขาอย่างคาดคั้น



คิดสิหมอก คิด!



“ท่านประธานให้ผมจัดการเอกสารการเงินทุกอย่างของคุณระหว่างที่คุณไปต่างประเทศ ผมพบสัญญาซื้อขายของที่นี่ เลยจำได้”



ชายหนุ่มโกหกหน้าตาย และดูจากสีหน้าเคลือบแคลงของคนฟัง ความนิ่งของหน้าไม่น่าจะช่วยเขาไปได้ไกลในครั้งนี้ เมฆาก้าวออกมาจากรถ ความสูงของชายหนุ่มทำให้มธุวันต้องเงยหน้ามอง จากความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยที่ร่างสูงใหญ่มอบให้ในวันวาน บัดนี้กลับกลายเป็นความรู้สึกหวาดหวั่น ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเมฆาไม่ชอบใช้ความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าร่างสูงใช้ไม่เป็น



“งั้นเหรอ? นายเจอเอกสารซื้อขายของลูกชายเจ้านายที่นายไม่เคยเห็นหน้า แล้วนายก็บังเอิญจำที่อยู่ของเอกสารนั้นได้ขึ้นใจโดยไม่จำเป็นต้องให้ฉันบอกซ้ำ?”



“ผม..ผมจำได้เพราะตอนนั้นผมคิดว่ามันอยู่ใกล้คอนโดของผมเหมือนกัน” ร่างโปร่งแก้ตัว น้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างประหม่าที่ไม่เกิดขึ้นกับเขามาหลายปีทำให้ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ



คุณเลขาคนเก่ง ลนลานเป็นด้วยรึไงกัน?



“แล้วคอนโดนายอยู่ที่ไหน?” เมฆาขมวดคิ้ว ไม่ยอมให้อีกฝ่ายรอดไปง่ายๆ



“คอนโด XXY ที่อยู่ถัดไปอีกนิดน่ะครับ”



ด้วยความที่เรื่องเกิดขึ้นเร็วมาก ร่างโปร่งหลุดบอกที่อยู่จริงของเขาออกไป หลังจากวันที่ถูกอีกฝ่ายบอกเลิก มธุวันประกาศขายคอนโด นำเงินทั้งหมดเข้าบัญชีของเมฆา เนื่องจากอีกฝ่ายได้รับเงินปันผลจากหุ้นเป็นระยะทำให้ชายหนุ่มคิดว่าร่างสูงที่ยังวุ่นวายกับการทำกายภาพบำบัดคงจะไม่สังเกต ก่อนจะหอบข้าวของมาเช่าคอนโดราคาประหยัดที่บังเอิญอยู่ใกล้คอนโดของอีกฝ่ายจนน่ากลัว



แต่ในเมืองที่กว้างใหญ่ หากอีกฝ่ายไม่คิดจะมองหา อยู่ใกล้แค่ไหนก็ไม่ได้เจอกันง่ายๆ



อีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าคลางแคลงใจ แต่เสียงบีบแตรไล่ของรถที่ต่อรออยู่ทำให้ร่างสูงต้องยอมปล่อยผู้ต้องสงสัยไป



แต่ก็แค่วันนี้เท่านั้นแหละ



“อย่าแตะต้องเอกสารของฉันอีก กลับไปได้แล้ว”



เมฆาเดินเข้าไปในคอนโด ร่างโปร่งถอนหายใจอย่างโล่งอก ก้มศีรษะขอโทษขอโพย และขอบคุณความใจร้อนของรถคันนั้นไปในที ก่อนจะรีบกลับไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป




วันแรกยังขนาดนี้....




ต่อไปเขาจะยังไหวมั้ยนะ?






_______________________
เอามาให้ก่อนวาร์ป เดี๋ยวทิ้งช่วงเกินไปจะลืมเก๊าาาา :hao5: :hao5: :hao5:


ถ้ามาต่อได้ก็จะมาต่อในสองสามวันนี้ แต่ถ้าไม่มาคือลาถึงสิ้นเดือนเน้อ เอามาให้ชิมกันก่อน555555 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มาต่อแน่ค่ะไม่ได้หายไปไหน แต่คือถึงสิ้นเดือนจะไปที่ที่ไม่มีเน็ตอัพ55555
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2017 14:01:16 โดย littlepig »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
กะแล้วว่าพี่ต้องมี story ^^ ติดตามนะค่ะ

ออฟไลน์ Tuffina

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฮืออออออ อ่านแล้วปวดใจ ตามมาจากน้องแว่นกับพี่กล้า ปรับอารมณ์ไม่ทันกันเลยทีเดียว :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ suisui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อุ๊ตะ คุณเมฆาเหมือนจะให้ความสนใจกับคุณเลขาเกินไปหรือเปล่าค้าาาา ถามซอกแซกเหลือเกิน 555

เอาใจช่วยหมอก เริดๆเชิดๆเข้าไว้ ให้เค้าตกหลุมรักอีกรอบซะเลย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มธุวัน  รักมาก ก็ลืมไม่ได้ เลิกไม่ได้ 
ผิดกับอีกฝ่าย เมฆา คงไม่รักเท่าไร ถึงบอกเลิกง่ายๆ
พอสมองกระทบกระเทือนก็ลืมง่ายๆ
หมอก นอกจากเป็นเลขา
ยังเป็นไม้กันหมาให้ประธานพ่อเมฆาอีกด้วย
เลยยิ่งถูกเข้าใจผิด ถูกรังเกียจ เข้าไปอีก
เพราะประธานขี้เล่น ถึงเนื้อถึงตัว
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เนื้อเรื่องน่าสนใจค่ะ รออ่านต่ออยู่นะ ^w^

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบบบบบบบบบบบ บอกเลยชอบมากอ่ะะ 
ขอร้องน้าาา อย่าค้างนาน
รอค่ะะ ติดตามๆ

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อ่านแบบลุ้นไปกับทุกคำพูดเลย รออ่านต่ออยู่น้า ขอบคุณต่า :กอด1:

ออฟไลน์ JACKSON

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณเมฆคูลเกินไปแล้ววว
คุณเชษฐ์นี่โพล่ทุกเรื่องแต่ชอบมุมคุณเชษฐ์เรื่องนี้5555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: สงสารหมอกอ่ะ คงต้องอยู่ทั้งๆ ที่รู้สึกอึดอัด เสียใจ คาดหวัง

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ฮืออออ อ่านแล้วน้ำตาจะไหลอยู่ตลอดเวลาเลย

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 2: [Then] น้ำเขียวโซดา





ตึ่งๆโป๊ะตึ่งๆ




“น้องๆบัญชีคนสวยมาทางนี้ เร่เข้ามา~”



“บริหารมาหาพี่สุดหล่อเร้วววว”



เสียงกลองของแต่ละคณะตีประชันปะปนกันสร้างเสียงครื้นเครงให้กับนักศึกษาปีหนึ่งในวันแรกของการปฐมนิเทศน์ เหล่าพี่ๆของแต่ละคณะในชุดสกรีนลายเดียวกันชูป้ายตะโกนใส่โทรโข่งเรียกน้องๆให้เข้ามานั่งต่อแถว มธุวันกอดกระเป๋าเรียนของตนที่ยายซื้อมาให้จากตลาดเป็นของขวัญที่สอบติดแน่น ร่างโปร่งเพิ่งมาถึงหอพักเมื่อคืนด้วยรถไฟฟรี ซึ่งเป็นการเดินทางครั้งแรกของเด็กหนุ่มจากบ้านของคุณยายและคุณป้าบุญธรรมในภาคอีสานที่รับเขามาเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเล็ก คุณป้าของเขาทำงานในสถานสงเคราะห์อยู่หลายปีก่อนที่มันจะปิดตัวลงจากพิษเศรษฐกิจ โชคดีที่มธุวันเป็นเด็กเรียบร้อยน่าเอ็นดู หญิงสาวจึงถูกชะตาและรับเขามาเลี้ยง ถึงแม้จะไม่ได้มีกินเหลือเฟือ แต่มธุวันก็ไม่เคยอดอยาก เด็กหนุ่มมีของทุกอย่างที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต



การสอบเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยที่สอบเข้ายากเป็นอันดับต้นๆของประเทศเป็นเหมือนฝันที่เป็นจริง แต่ก็เป็นเหมือนฝันร้ายที่ทำให้เขาต้องแยกจากครอบครัวเดียวที่เขารู้จัก เด็กหนุ่มจำได้ว่ายายร้องไห้เป็นเต่าเผาที่สถานีรถไฟ จนเขาไม่กล้าจะร้องไห้เพราะกลัวอีกฝ่ายเสียใจกว่าเดิม




คิดถึงบ้านแล้ว..



ร่างโปร่งในชุดนักศึกษาอดคิดไม่ได้
 


“น้องบัญชีใช่มั้ยคะ มาๆ มานั่งตรงนี้” พี่สต๊าฟปีสองเห็นเด็กหนุ่มยืนนิ่งอยู่นานช่วยนำทาง มธุวันกล่าวขอบคุณแล้วนั่งลงบนพื้น แถวที่เขาอยู่เป็นแถวริมติดกับคณะบริหารธุรกิจซุ้มข้างๆพอดี เนื่องจากคณะของเขายังมีคนมาไม่มาก พี่ๆเลยปล่อยให้เด็กๆคุยกันตามอัธยาศัย เด็กหนุ่มถือโอกาสมองสำรวจไปรอบๆ ทุกพื้นที่คับคั่งไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ มธุวันหันไปมองกิจกรรมของคณะข้างๆอย่างสนอดสนใจ แต่ร่างของใครคนนึงที่นั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักศึกษาโดดเด่นจนเขาต้องหยุดมอง




ความรู้สึกแรกของมธุวันคือ ‘สูง’



คนอะไรจะสูงได้ขนาดนั้น?



เด็กหนุ่มที่สูงจนศีรษะโผล่ขึ้นมาจากเพื่อนคนอื่นเกือบหนึ่งช่วงหัวจ้องตรงไปยังพี่ๆที่อธิบายกิจกรรม แต่แค่เสี้ยวหน้าก็ทำให้มธุวันรู้แล้วว่าอีกฝ่ายจัดอยู่ในข่ายประติมากรรม สมควรตั้งไว้บูชา ตั้งแต่ใบหน้าหล่อเหลางดงามราวรูปสลัก จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูป กรามเป็นสัน ดวงตาสีควันบุหรี่คมดุรับกับคิ้วเข้มโก่งราวคันศร และผิวที่ขาวจนแทบส่องแสงได้



โห ดารารึเปล่าเนี่ย?



มธุวันไม่ค่อยได้ดูโทรทัศน์ แต่เขาก็ยังเป็นคนธรรมดาที่รู้สึกตื่นเต้นเวลาเจอดารานักร้องตัวเป็นๆ ถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ตาม



เท่จัง..อ๊ะ!



 ระหว่างที่ชื่นชมอีกฝ่ายอยู่ในใจ มธุวันไม่ได้สังเกตเลยว่าอีกฝ่ายหันกลับมามองเขาตอนไหน ดวงตาคมหยุดลงที่เขานานสองนาน มธุวันหันกลับไปมองด้านหลังของตน แต่ไม่มีใครที่หันไปในทิศทางเดียวกับเขาสักคน ร่างโปร่งรีบหลบสายตา ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หันกลับไปดูรุ่นพี่ที่ยืนพูดอะไรบางอย่างอยู่หน้าซุ้ม เด็กหนุ่มได้ยินว่าคนบางคนก็ถือว่าการมองหน้าเป็นการหาเรื่อง เขายังไม่อยากโดนกระทืบตั้งแต่วันแรกในเมืองกรุงหรอกนะ



“วันนี้เราจะวนฐานร่วมกับคณะบริหารนะคะ ดูแลกันดีๆนะเด็กๆ”




กิจกรรมฐานเริ่มขึ้นแทบจะในทันทีหลังจากนั้น มธุวันลุกเดินตามเพื่อนๆไป ส่วนใหญ่เด็กที่สอบติดเข้ามาจะมีโรงเรียนเดียวกันมาด้วยไม่ต่ำกว่าสี่ห้าคน ทำให้หลายๆคนเลือกที่จะอยู่กับคนรู้จัก ถึงแม้จะมีบางส่วนที่เดินคนเกียว แต่เด็กหนุ่มขี้อายก็ไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จัก




ร่างโปร่งสังเกตว่าร่างสูงที่เขาแอบมองเมื่อครู่ก็เดินคนเดียว ถึงแม้จะมีสาวๆล้อมหน้าล้อมหลังจนเกิดเป็นวงของตัวเอง แต่ร่างสูงก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก แค่พยักหน้าส่ายหน้า พูดบ้างสองสามคำขณะพยายามเดินตรงไปเรื่อยๆไม่ให้แตกแถว



เนื้อหอมจังแฮะ



สงสัยจะเป็นดาราจริงๆ




“เอ้า คนแพ้ เต้นๆๆๆ”




ร่างโปร่งมัวแต่สนุกกับกิจกรรมจนไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นอีก แต่มธุวันก็ยังอดสังเกตไม่ได้ว่า ฐานที่พี่ผู้ชายคุมเยอะๆ ร่างสูงมักจะถูกแกล้งหนักกว่าเพื่อนๆ จนตอนนี้มีทั้งแป้งทั้งสีเลอะเทอะไปทั้งหน้า ทั้งจุกหลายจุกและกิ๊บสีสันสดใสที่ติดอยู่บนหัวช่างขัดกับความแข็งตึงของใบหน้าจนมธุวันลอบขำในใจ แต่อีกใจก็นึกสงสารอยากจะเอาผ้าเช็ดหน้าให้อีกฝ่ายเช็ดออกเหลือเกิน




“เดี๋ยวฐานต่อไปพักกินข้าวนะคะ พี่ๆมีอาหารกลางวันแจกให้ แต่ถ้าใครอยากไปซื้อขนมนมเนยให้กลับมาภายในบ่ายโมงนะคะ เอ้าแยกย้ายๆ”




มธุวันเดินไปรับข้าว กระเพราหมูสับไข่ดาวในกล่องกับน้ำเปล่าขวดเล็ก ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิม เด็กหนุ่มเป็นคนกินง่าย จึงไม่มีปัญหากับอาหารกลางวันจนต้องลุกไปซื้ออย่างอื่นมาทาน



แต่ก็อยากกินอะไรหวานๆเหมือนกันแฮะ




ร่างโปร่งคิด ฉีกพริกน้ำปลาโรยลงบนอาหารแล้วเริ่มต้นทาน ผู้คนเริ่มบางตาจากการที่ทุกคนไปออกันที่ร้านขายขนมหรือไม่ก็ห้องน้ำ เด็กหนุ่มก้มหน้าก้มตาทานอาหาร จนกระทั่งรู้สึกว่ามีใครบางคนทรุดตัวนั่งลงข้างๆตัวเองถึงได้เงยหน้าขึ้น ร่างสูงยื่นแก้วน้ำเขียวโซดาให้ บนพื้นมีน้ำเขียวโซดาอีกแก้ววางอยู่ตรงหน้า




“ครับ?” มธุวันเอียงคออย่างงุนงง ร่างสูงไม่พูดอะไรอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา แต่ก็ยังฟังออกว่าน้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นน่าฟังแค่ไหน




“ซื้อมาเกิน ให้”



“เอ่อ ขอบใจนะ”



มธุวันยื่นมือไปรับ รู้สึกเบลอๆจากกิจกรรมทั้งหมดจนลืมไปด้วยซ้ำว่าตนไม่ควรรับของจากคนแปลกหน้า เด็กหนุ่มยกน้ำขึ้นดื่ม ความหวานซ่าของน้ำเขียวโซดาช่วยให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้น มธุวันเป็นหนึ่งในประชากรส่วนน้อยที่ชอบน้ำเขียวโซดามากกว่าน้ำแดง ซ้ำทำให้ชีวิตยากลำบากมากเวลาไปสั่งที่ร้านน้ำหวาน



“ชอบมั้ย?”



จู่ๆคนข้างๆก็ถามขึ้นมา คนที่ดื่มด่ำอยู่กับความหวานลืมตาขึ้น ก่อนจะส่งยิ้มให้คนใจดีที่นั่งอยู่ข้างๆ



“อื้อ เราชอบน้ำเขียว”


ร่างสูงพยักหน้า ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างอยู่นานสองนาน มธุวันนิ่งรอ ลุ้นให้กำลังใจไปด้วยว่าอีกฝ่ายต้องการจะพูดอะไรกับเขา สุดท้ายร่างสูงก็ยอมแพ้ ยกป้ายชื่อที่แขวนคอของตัวเองให้ร่างโปร่งดู



‘น้องเมฆ (เมฆา)’




“อ๋อ เราชื่อสายหมอก เรียกหมอกก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก” รีบแนะนำตัว ดึงป้ายชื่อที่คล้องคอของตัวเองให้อีกฝ่ายดู รู้สึกดีที่มีคนอยากรู้จัก ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นคนที่ดูไม่น่าจะมีมนุษยสัมพันธ์เลยก็ตาม


“ชื่อน่ารักดีนะ”


มธุวันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชมจริงๆหรือแค่แกล้งชมไปอย่างนั้น


“น่ารักตรงไหน?”ร่างโปร่งถาม แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ได้ยิน เขาจึงเลิกสนใจแล้วก้มลงหยิบแก้วน้ำเขียวขึ้นมาดูดต่อ



“ตรงที่มันเป็นชื่อของหมอกไง”



“ฮึ?” ร่างโปร่งไม่มั่นใจว่าตนหูฝาดไปหรือไม่ แต่จากสีหน้าเรียบเฉยของเมฆา เขาคงหูฝาดไปจริงๆ



 ร่างสูงก้มลงทานอาหารต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไร มธุวันจึงก้มหน้าทานข้าวต่อเช่นกัน


ไม่กินไข่แดง?” เสียงทุ้มดังขึ้นอีกครั้ง มธุวันเงยหน้าจากกล่องข้าวที่ไข่ขาวถูกตักทานจนหมด เหลือเพียงไข่แดงไว้ดูต่างหน้า เด็กหนุ่มชะเง้อมองกล่องอาหารของอีกฝ่าย ไข่ดาวของเมฆาถูกเจาะกินจนเหลือแต่ไข่ขาว หากนำไข่ดาวของทั้งสองมารวมร่างคงจะได้ไข่ดาวฟองใหม่



“เมฆอยากกินเหรอ อ่ะ เราให้”



ร่างโปร่งยื่นกล่องข้าวให้ แต่เมฆาส่ายหน้า



“กินสิ เดี๋ยวไม่โต”



ฮะ?



“เมฆ…พูดถึงเราเหรอ?”


ร่างสูงพยักหน้าหงึกหงัก “เตี้ย”





เตี้ย?



เตี้ย?!


เขาเนี่ยนะเตี้ย?!



ถึงส่วนสูงของเขาจะไม่ถึงร้อยแปดสิบ แต่ก็ยังอยู่ที่ร้อยเจ็ดสิบปลายๆ เรียกได้ว่าผ่านมาตรฐานชายไทยมาพอสมควร เขายอมรับว่าถ้าหากเทียบกับยักษ์ปักหลั่นที่นั่งอยู่ข้างๆ ยังไงเขาก็เรียกว่าสูงไม่ได้ แต่คำว่า ‘เตี้ย’ ยังคงห่างไกลจากตัวเขาอยู่มาก



“เรา..เราไม่เตี้ยนะ เมฆนั่นแหละสูงไปต่างหาก” มธุวันเถียง ชี้ไปที่ไข่ขาวในจานของเมฆา “เมฆอ่ะ ไม่กินไข่ขาวเหรอ มันมีประโยชน์นะ”



“มันดึ๋งๆ” ร่างสูงขมวดคิ้ว ทำหน้าเหมือนเด็กที่ถูกบังคับให้กินผัก


“เราก็ไม่ชอบกินไข่แดง มันแหยะๆ” ร่างโปร่งว่า “เอางี้มั้ย ถ้าเมฆกินไข่ขาว เราจะกินไข่แดง”



ร่างสูงขมวดคิ้ว แต่ก็พยักหน้าตกลง ทั้งสองยกช้อนเตรียมเอาเข้าปาก มองหน้ากันไปมาเหมือนจะรอให้อีกฝ่ายเอาเข้าปากก่อน จนสุดท้ายร่างโปร่งทนไม่ไหว ยื่นช้อนของตัวเองให้เมฆา



“เมฆป้อนเรา เดี๋ยวเราป้อนเมฆ” ไม่งั้นก็คงได้นั่งจ้องตากันไปถึงพรุ่งนี้แน่



ร่างสูงรับช้อนมาจากมธุวัน ก่อนจะส่งช้อนของตนให้อีกฝ่าย



“พร้อมนะ หนึ่ง...สอง...อุ๊บ!”




คนถูกช้อนยัดเข้ามาในปากมองเมฆาตาขวาง ยัดช้อนที่มีไข่ขาวอยู่ใส่ปากอีกฝ่ายบ้าง รสชาติแหยะๆของไข่แดงทำให้มธุวันรู้สึกอยากจะคายออก แต่เมฆาที่รู้ทันยกมือมาปิดปากอีกฝ่ายไว้ กลืนส่วนของตัวเองด้วยสีหน้ากล้ำกลืนฝืนทน



“กลืนลงไป”



“ไอ้เอา อันแอะๆอ่ะ(ไม่เอา มันแหยะๆอ่ะ)” ร่างโปร่งท้วงเสียงอู้อี้



“แหยะก็ต้องกลืน”


ร่างโปร่งส่ายหน้า น้ำตาคลอที่หน่วยตาจนเมฆาใจอ่อน ยกมือยอมแพ้


“ตามใจ”


“โกรธเหรอ...” มธุวันคายสิ่งที่อยู่ในปากลงบนกระดาษทิชชู่ หันกลับไปถามคนที่กลับมานั่งเงียบไม่พูดไม่จาอีกครั้ง เมฆาไม่ตอบ นั่งนิ่งจนร่างโปร่งเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี “เราขอโทษ คราวหลังเราจะกินให้หมด เราสัญญา”



“แล้วฉันจะรู้ได้ไง?” เมฆาเลิกคิ้วถาม


“เอ่อ...” คนเสนอก็ไม่รู้จะตอบคำถามอีกฝ่ายอย่างไรเช่นกัน



“งั้นไปกินข้าวกัน” จู่ๆร่างสูงก็เอ่ยขึ้น



“เอ๊ะ?”


“ฉันเลี้ยง”


“เอ๊ะ?”


“เอาเบอร์นายมา”


“เอ๊ะ?”



มธุวันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ กว่าจะรู้ตัวเบอร์โทรศัพท์ของเขาก็ไปตกอยู่ในมือของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ และร่างสูงก็กำลัง
พิมพ์เบอร์ลงในโทรศัพท์ฝาพับเครื่องโบราณของเขาอยู่



“น้องๆบริหารได้เวลาเข้าหอประชุมแล้วค่า”



ร่างสูงลุกขึ้นพร้อมกับเพื่อนคนอื่นในคณะ มธุวันรู้สึกใจหายเล็กๆ ตั้งแต่มาที่นี่ เขาเพิ่งได้เพื่อนจริงๆจังๆแค่คนเดียว น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้อยู่คณะเดียวกัน



“ไว้เจอกันนะเมฆ” ร่างโปร่งโบกมือลา เมฆาหันกลับมา มธุวันไม่มั่นใจว่าตนคิดไปเองหรือไม่ ว่าเห็นรอยยิ้มประดับอยู่ที่มุมปากได้รูปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่มันจะหายไป



“อย่าลืมที่สัญญาแล้วกัน”




ร่างสูงเดินตามกลุ่มเพื่อนไป มธุวันมองตามแผ่นหลังกว้าง ก่อนจะหันกลับมาสนใจรุ่นพี่ของคณะตัวเองเมื่อถูกสั่งให้ลุกเพื่อเดินเข้าไปในหอประชุมเช่นกัน






ไม่ลืมหรอกน่า...



----(ครึ่งแรก)

สั้นแค่ไหนก็จะลง จะได้ไม่ลืมกานนนนนน

เฮ้ย ปั่นทันด้วยยยยยยย :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มาแบบสั้นๆห้วนๆ ขอโต๊ดดดด

 :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ก็รักแรกพบนิ่ แล้วพบกันครั้งนี้จะเป็นเหมือนเดิมมั้ย

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
รักแรกพบอะไรแบบนี้ใช่ไหมคะ?

ออฟไลน์ JACKSON

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ skyberry

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ต้องมาเห็น คนที่เรารักแต่ตอนนี้เขาไม่ได้รักแล้ว แบบนี้ทุกวันไม่ไหวนะ T T

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด