#เรื่องสั้นตอนเดียวจบ# ต้นน้ำ 10 ส.ค. 64
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ# ต้นน้ำ 10 ส.ค. 64  (อ่าน 2627 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

-----------------------------------

ติดตามเรื่องอื่น ๆ ได้ที่

MukmaoY's page
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ต้นน้ำ


ต้นน้ำเป็นลูกชายสาวใช้ของบ้านไตรอรรณพ เพราะหน้าตาดี จึงเป็นที่ต้องตาต้องใจของคุณชายจอมเจ้าชู้ ลูกชายคนเล็กของบ้าน
ก็แค่วันหนึ่งเกิดคึกคะนอง อยากกินเค้กชั้นเลิศของคุณชาย จึงแอบย่องไปขโมยกลางดึก พอถูกคุณชายจับได้ ก็วิ่งไล่กันจนมือไม้พัวพันมัวมัน แล้วคุณชายก็นึกหื่นกาม แกล้งจูบแกล้งหอมจนต้นน้ำมือไม้อ่อน ละลายในอ้อมกอดเขา คนเจ้าชู้เห็นดังนั้นยิ่งชอบใจใหญ่ จัดการปอกเปลือกไม่เหลือคราบ กินต้นน้ำ ยกซดจนหมดถ้วย ณ ห้องครัวนั้นเอง

ก็แค่ความสัมพันธ์ระหว่างคนรับใช้กับเจ้านาย เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป เป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่คนใช้ย่อมไม่มีทางเผยอหน้าขึ้นไปตบแต่ง

ต้นน้ำกับคุณชาย ก็รักกันอย่างทุกข์ตรมไปอย่างนั้น เป็นเรื่องธรรมดาไปอย่างนั้นเอง

นั่นคือความคิดของต้นน้ำก่อนที่คุณชายจะตายแล้วฟื้นเมื่อสามวันก่อน



ป้าชื่นแม่ครัวใหญ่และผู้อยู่ในเหตุการณ์ตอนเขายกร่างอันไร้ลมหายใจของคุณชายอรรณพออกมาจากโลงเพื่อจะรดน้ำศพเล่าอย่างออกรสจนน้ำลายกระเซ็นว่าจู่ ๆ คุณชายก็กระเด้งตัวขึ้นมานั่ง ทีแรกก็คิดว่าเป็นที่เส้นเอ็นหรือเปล่า แต่พอจ้องดี ๆ จึงเห็นแววตาที่มองไปมาอย่างมึนงง ก่อนจะไอแค่ก ๆ แล้วก็ขอน้ำกิน เท่านั้นล่ะ วงที่แตกกระจายก็กลับมากรูล้อมรอบตัวคุณชาย คุณแม่ร้องห่มร้องไห้โถมกอดลูกชายคนเล็กสุดที่รัก ส่วนคุณพ่อผู้ไม่เคยมีน้ำตาสักหยดตั้งแต่ลูกตาย ก็แอบร้องไห้เงียบ ๆ มองดูอยู่ห่าง ๆ ป้าชื่นบอกว่าแกมีสติที่สุดในงาน ซึ่งอาจจะโม้นิดหน่อย แต่อย่างน้อยก็มีเค้าความจริงที่เป็นแกเองที่ช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คุณชาย บีบนวดเท้า นวดมือ หวังว่าให้เลือดไหลเวียนใหม่ เพราะไม่หายใจไปตั้งหลายชั่วโมง แล้วยังเอาพิมเสนไปยื่นตรงจมูกคุณชายอีก
ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณชายฟื้นมาได้อย่างไร แล้วร่างกายไม่เป็นอะไรเลยได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่แข้งขาหักไปตั้งหลายท่อน ไหนจะฟอมาลีนกลิ่นฉุนที่หมอฉีดเข้าตัวอีก ทุกคนทำเป็นลืมเรื่องพวกนั้นไปเสีย เพราะแค่คุณชายยอดดวงใจของบ้านฟื้นขึ้นมา ก็พอใจแล้ว



คุณชายอรรณพ ไตรอรรณพ ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดีกับที่ต้นน้ำกำลังเช็ดตู้ใส่โมเดลรถอันเป็นของสะสมของคนในห้อง ซึ่งตั้งอยู่หน้าห้องนอน คุณชายได้ยินเสียงฮัมเพลงเบา ๆ เขาอมยิ้มเล็กน้อย จากนั้นจึงพาร่างที่แข็งแรงแล้วแง้มประตูยื่นหน้าออกมาดู

“อ๊ะ!” ต้นน้ำเป็นคนกลัวผีมาก ตั้งแต่คุณชายฟื้นขึ้นมาก็ยังระแวงไม่หาย ก็ฟังมากี่เรื่องต่อกี่เรื่อง เขามักบอกว่าคนที่ตื่นมาไม่ใช่เจ้าของร่างที่แท้จริงน่ะสิ

“พี่เอง” คุณชายยิ้มเอ็นดู ก็เป็นอุปนิสัยเดิมที่ชอบทำ ชอบเย้าชอบแหย่ต้นน้ำ ร่างสูงคิดว่าแกล้งพอแล้ว จึงออกมาจากซอกประตูทั้งตัว เขาอยู่ในชุดนอนผ้าซาตินสีเขียวขี้ม้าสมวัย ต้นน้ำจำได้ว่าตนเองเป็นคนเลือก แก้มนิ่มจึงขึ้นสีแดงเรื่อ ต่อให้กลัวผี แต่ก็รักคุณชายมากกว่า ก็เลยก้าวเท้าขยับเข้าหา ไม่เกรงใจใคร เพราะเขาก็รู้กันทั้งบ้านว่าต้นน้ำมีฐานะเป็นเมียเก็บในบ้านมาตั้งสามปีแล้ว
พอร่างบางขยับเข้าใกล้ คุณชายมือไวรวบเอวน้อยเข้าตัว ตระกองกอดด้วยความคิดถึง ตั้งแต่ฟื้นจากความตาย ต้นน้ำก็ไม่กล้ามาเจอหน้าตอนกลางคืน เจ้าตัวบอกว่ากลัวคุณชายมีปอบสิง เดี๋ยวกินไส้เอา คุณชายเลยปล่อยเลยตามเลย ทนนอนคิดถึงอยู่ทุกคืน

“เหนื่อยมั้ย”

“ไม่เหนื่อยครับ เพิ่งแปดโมงเช้าเอง ยังไม่ได้ทำอะไรเยอะเลย”

“บ่ายนี้พี่พาไปกินอาหารญี่ปุ่นนะ อยากกินแซลมอน”

คนถูกชวนส่ายหน้า คนชวนเลยมุ่นคิ้วไม่พอใจ ต้นน้ำเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ยอมออกนอกบ้านเลย เมื่อก่อนชวนไปไหนก็ไป

“ไปเถอะนะ พี่จะพาไปเล่นเกมแบบที่ชอบไง”

“ชวนเป็นเด็กไปได้” ต้นน้ำปฏิเสธอีก ก่อนจะซุกหน้ากับอกเอาใจอีกฝ่าย ชอบกลิ่นของคุณชายมาก ๆ อบอุ่น สบายใจ คิดว่าอยู่แต่ที่บ้านเหมือนเมื่อก่อนก็ได้ ต้นน้ำไม่อยากให้คุณชายขับรถอีก แล้วก็ไม่อยากให้คุณชายถูกมอง เมื่อก่อนก็ไม่เคยออกไปไหน เวลาอยากกินอะไร คุณชายก็สั่งมาให้ ไม่รู้ทำไมตั้งแต่ตื่นขึ้นมาถึงได้ชวนออกข้างนอกอยู่เรื่อย
…อย่างกับจะเปิดตัว

“พี่รักต้นจัง” เสียงอ่อนโยนตามมาด้วยไออุ่นข้างขมับ

นี่แหละเรื่องแปลก…
นอกจากจะขี้เล่นเหมือนก่อน ก็ไม่มีอะไรที่เหมือนคุณชายเลย คน ๆ นี้ชอบบอกรัก ชอบคลอเคลียต้นน้ำเดินไปไหนก็เดินตามอย่างกับลูกเป็ด แล้วก็ชอบชวนไปข้างนอก
ถ้าเป็นเมื่อก่อนน่ะนะ “อยู่นี่แหละ จะเอาอะไรนักหนา” “พี่ก็โอนเงินให้แล้วไง” “อยู่แบบนี้ไม่ได้เหรอ” มีแค่ประโยคพวกนี้ล่ะมั้งที่เวลาต้นน้ำอยากไปเที่ยว อยากอ้อนให้คุณชายอยู่กับตัวเองนาน ๆ แล้วก็ไม่อยากให้คุณชายเดินควงคนอื่น คุณชายมักคิดว่าที่ต้นน้ำยอมอยู่เงียบ ๆ เป็นเพราะต้นน้ำชอบเงิน ก็เลยโอนเงินหลักหมื่นหลักแสนเพื่อเอาใจ บางทีก็ซื้อข้าวของแพง ๆ มาให้ ทั้ง ๆ ที่ต้นน้ำไม่รู้จะใช้ไปอวดใคร เขาอยู่แต่ในบ้าน ทำงานบ้านสกปรก ๆ ถ้าใช้แล้วของพวกนั้นพัง ก็เสียดายสิ

แท้ที่จริงแล้ว คุณชายควรจะรู้ ว่าที่ต้นน้ำยอมทนอยู่นี่ …เพราะรักเท่านั้นเอง

.
.
.

“อ้าปากครับ” น้ำเสียงออดอ้อนเร่งเร้าให้ต้นน้ำอ้าปากรับองุ่นไร้เมล็ดรสหวาน พอเข้าปากแล้วชื่นใจสุด ๆ เป็นของโปรดของต้นน้ำที่ได้กินแทบทุกวันเพราะคุณชายสั่งมาให้เป็นลัง
ตอนนี้เป็นช่วงพักเที่ยง ป้าชื่นกำลังทำกับข้าวในครัว ส่วนต้นน้ำถูกคุณชายดึงตัวออกมานอนตัก ให้เหตุผลว่าคิดถึง ไม่รู้คิดถึงยังไง คุณชายก็นั่งอยู่ในบ้าน ต้นน้ำก็ปัดกวาดเช็ดถูอยู่ใกล้ ๆ ตลอด
มือเล็กลูบผมนิ่มของคนที่นอนบนตัก ถ้ามองจากไกล ๆ ก็คงคิดว่าคู่นี้เหมาะสมกันมาก แต่พอมองลงไปให้ชัด จึงจะเห็นว่าคนที่นั่งอยู่นั้น เนื้อตัวมีแต่คราบเหงื่อ กลิ่นตัวก็ไม่ได้สะอาดสะอ้านน่าซุกอย่างที่คนนอนอยู่กำลังทำอยู่เลย ป้าชื่นถอนหายใจเมื่อเห็น แต่ก็จำใจเดินยกถาดอาหารมาให้ทั้งคู่ตามคำสั่งคุณชายที่บอกว่า “ให้คิดว่าต้นน้ำคือนายอีกคนในบ้านที่ชอบกวาดบ้านแล้วกัน” ตั้งแต่ตื่นมา คุณชายก็เหมือนโดนของ เรื่องนี้โจษจันกันไปไกลแล้ว แต่ยังคงไม่ถึงหูเจ้าของบ้านตัวจริง ว่าต้นน้ำมันเล่นของจนคุณชายตาย แล้วก็ทำให้ฟื้นมารักมาหลงมัน ถีงดูท่าทางว่าต้นน้ำคงทำเรื่องพรรค์นั้นไม่เป็น แต่เรื่องเหนือธรรมชาติมันก็สนุกกว่าเรื่องที่คุณชายแค่รักต้นน้ำอยู่ดี


“ไปด้วยกันน้า ไปแป๊บเดียวเอง”

.
.

เฮ้อ!

จนแล้วจนรอด ต้นน้ำก็ออกมากับคุณชาย เพราะสู้แรงรบเร้าไม่ไหว อีกทั้งคุณชายบอกแค่จะมาดูหนังอย่างเดียว ซึ่งเห็นว่าอยู่ในโรง ไม่เจอใคร คุณนายคงไม่ว่า ก็เลยยอมมาด้วย
ต้นน้ำกับคุณชายช่วยกันเลือกหนัง สรุปเป็นหนังแอคชั่นที่ดูง่าย ทั้งสองไม่ใช่นักวิจารณ์หรือดูแต่หนังล่ารางวัล ขอแค่ตรรกะไม่เพี้ยน ก็ดูสนุกได้ทุกเรื่องแล้ว
ทั้งเรื่องยิงกันปุ้งปั้งไปเรื่อยตามบท แต่แล้วพระเอกก็ต้องมีสาวสวยมามีสัมพันธ์ด้วยตามระเบียบ ซึ่งต้นน้ำไม่คิดว่ามันจะเห็น ‘ทุกอย่าง’ ขนาดนี้ รู้ตัวเองดีว่าแก้มต้องแดงแจ๋แน่ ๆ แล้วคุณชายจอมเจ้าชู้ยังยิ้มกรุ้มกริ่มใส่อีก จนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดตรงไหนแล้ว
“หันไปเลยนะครับ!” ดันหน้าคนเจ้าชู้ให้ตั้งใจดูหนังไปซะ ไม่ใช่มัวแต่ดูเขา ต้นน้ำไม่ใช่คนมีเพื่อนที่จะคุยเรื่องลึก ๆ ได้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จึงใช้เวลาไปกับนิยาย เขาจึงไม่ได้ใสซื่อจนไม่รู้ว่าไอ้อาการที่คุณชายเป็น มันตรงกับอาการ ‘คลั่งรัก’ ของพระเอกมาก ๆ ตอนอ่านนิยายก็ฟินนะ แต่พอเจอจริง ๆ มันแปลกเกินไป เขินจนทำตัวไม่ถูกมากกว่าฟิน

หนังจบแล้ว แต่ต้นน้ำยังรู้สึกเขินไม่หาย เขาลูบอกตัวเอง หัวใจเต้นแรงเมื่อนึกถึงสายตานั้นราวกับว่าเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก คุณชายกุมมือต้นน้ำเอาไว้ ไม่มีทีท่าอย่างเขาเลย ก็เลยถอนใจใส่ไปที
“เป็นอะไรครับ” คุณชายรู้ แต่อยากแกล้ง
“เบื่อคนแถวนี้ครับ” คนฟังขำ “พนักงานโรงหนังถูกเบื่อซะแล้วสิ งั้นเรารีบไปจากที่นี่ดีกว่า” คุณชายดึงแฟนตัวเองให้เดินตาม เขาพาไปที่รถอย่างที่สัญญากับต้นน้ำเอาไว้ว่าจะไม่อยู่นาน

“ไปหาอะไรกินกัน”
ขึ้นรถ รัดเข็มขัดนิรภัยให้ แอบเฉียดจมูกตัวเองที่แก้มอีกคนอย่างแนบเนียน

“กินที่บ้านก็ได้ครับ”

“พี่จองโต๊ะไว้แล้ว ที่โรงแรม”

“อ้าว…ก็ได้ครับ”
คนธรรมดาอย่างต้นน้ำค่อนข้างจะกลัวโรงแรม เขาไม่เหมาะสมกับสถานที่แบบนั้นเอาเสียเลย กลัวว่าจะไปทำของเขาพังหรือถูกมองอย่างดูถูก เคยเข้าโรงแรมห้าดาวครั้งหนึ่งตอนที่คุณชายพาไปงานแต่งเพื่อน ซึ่งต้นน้ำขอเดินเล่นอยู่ข้างนอก แล้วพอเห็นสายตาของพนักงาน เขาก็รู้สึกกลัวมานับแต่นั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คุณชายก็บอกว่าอย่าไปให้ค่า แถมยังแจ้งทางโรงแรมให้อีก แต่ต้นน้ำก็ไม่ชอบโรงแรมอยู่ดี พอวันนี้คุณชายบอกว่าจะพาไปกินข้าวที่โรงแรม ข้อดีที่ต้นน้ำเห็นด้วยคือมันน่าจะเป็นส่วนตัว แต่ข้อเสียคืออาหารจะกินได้หรือเปล่า ไหนจะกลัวไม่อิ่มอีก
คุณชายลอบมองหน้าซึมที่ปิดไม่มิด ต้นน้ำเป็นคนแสดงสีหน้าเก่ง ถึงจะดูเป็นคนเงียบ ๆ แต่ก็เงียบแบบดูออกเสมอว่าคิดอะไร รู้สึกอะไร คุณชายถึงได้หลงมาก รักมาก คิดแล้วก็เสียดายที่ตายไปตั้งหลายชั่วโมง สร้างบาดแผลทางใจให้ต้นน้ำไปตั้งเท่าไหร่ที่ถูกกีดกันไม่ให้เจอตั้งแต่โรงพยาบาลยันงานศพ แล้วนี่ยังมากลัวเขากินไส้อีก ดังนั้น ก่อนที่พ่อจะให้กลับไปทำงาน คุณชายต้องเรียกคะแนนตัวเองกลับคืนมาให้จงได้!


“ชอบมั้ย”

ต้นน้ำพยักหน้าอย่างดีใจ เมื่อพบว่าตรงหน้ามีปลาแซลมอนเนื้อสีส้มเรียงรายจนแทบจะเอาตัวไปนอนกลิ้งได้ แล้วยังมีมุมโน้นที่มีเตาปิ้งย่างอาหารทะเลกับบาร์บีคิว กลิ่นหอมโชยรัญจวนจนน้ำลายสอ ไม่ยักรู้ว่าโรงแรมมีอะไรแบบนี้ด้วย ต้นน้ำก็เลยถูกใจมาก ถูกใจจริง ๆ คุณชายรู้ใจเขาที่สุด!

ทั้งคู่นั่งลงโต๊ะริมสุด ตรงนี้เป็นดาดฟ้าสูงของโรงแรมใจกลางกรุงเทพมหานคร ลมจึงพัดเย็นฉ่ำ โต๊ะที่นั่งก็เป็นโซฟาส่วนตัวดี ต้นน้ำก็เลยถูกคุณชายดึงให้นั่งข้างกัน โซฟาอีกตัวจึงเป็นหมันโดยปริยาย
คุณชายก็แปลกอย่างที่เป็นมาตั้งแต่ฟื้น คนรับใช้นั่งมึนเมื่อคุณชายเป็นฝ่ายไปตักอาหารมาให้เอง รินไวน์ขาวให้เอง ทำทุกอย่างให้เองหมด เขาแค่นั่งนิ่ง ๆ รอรับการบริการ บางทีบริกรก็อาจจะงงเหมือนต้นน้ำด้วยนั่นแหละ แต่ว่าด้วยความหิวและชาตินี้ทั้งชาติจะได้กินแบบนี้อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ต้นน้ำก็เลยปัดความคิดอันไร้สาระทิ้งไป อาหารหอมกรุ่นตรงหน้ามีสาระกว่ากันเยอะ
ด้วยการเอาใจแบบพิเศษ ไวน์ในแก้วจึงไม่เคยพร่องลง คุณชายขยันเติมจนต้นน้ำรู้สึกกรึ่ม ๆ ไม่ได้เมาโงนเงนแต่ก็ไม่โล่งหัวนัก แต่ต้นน้ำก็บอกตัวเองว่าเมาเพื่อที่จะได้มีข้ออ้างให้นั่งซบไหล่คุณชายได้ กลิ่นตัวคุณชายมีกลิ่นบาร์บีคิวผสมกลิ่นน้ำหอมผู้ชายคล้ายบุหรี่ เป็นบุหรี่ที่ไม่เหม็น ได้กลิ่นแล้วสุขุม นิ่ง ๆ จนไม่กล้าเข้าใกล้ ต้นน้ำคิดว่าเหมือนพระเอกหนังประมาณนั้น แต่คุณชายเหมือนพระเอกที่กะล่อนนิด ๆ ดังนั้นมันไม่เหมาะกับคุณชายเท่าไหร่หรอก แต่อะไรก็ดีไปหมดนั่นแหละเมื่ออยู่บนตัวคุณชาย

“คุณชายได้ข่าวคุณนภาหรือเปล่าครับ”

“อะไรเหรอ”

“ที่ลูกจริง ๆ กับลูกบุญธรรมจะแต่งงานกัน”

“อ้อ ได้ยินอยู่นะ ก็ดีนะ ยินดีด้วยกับเขา”

“นั่นสิครับ”

“เราล่ะ…อยากแต่งหรือเปล่า”

ต้นน้ำส่ายหน้าแทนคำตอบ

“ทำไมล่ะ”

“เปลืองตังค์ครับ”

“แต่พ่อแม่หนูน่าจะไม่ยอมนะ”

“เดี๋ยวดุเองครับ แล้วคุณชายอยากแต่งมั้ย”

“พูดตรง ๆ ก็เฉย ๆ…แต่จะตามใจต้นน้ำทุกอย่างเลย”

“แค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอครับ” ต้นน้ำกดจูบลงบนลาดไหล่ ก่อนจะเอนศีรษะพิง มือประสานกับมืออีกคน สูดอากาศสดชื่นเข้าปอด สัมผัสความรู้สึกนี้ให้เนิ่นนานเท่าที่จะนานได้

“ขอบคุณนะครับที่พามากินของอร่อย”

“อยากกินอีกก็บอกนะ”

“ไม่เอาอ่ะ จุกแล้ว”

“พี่หมายถึงวันหลัง”

คนฟังพยักหน้าหงึกหงักไปก่อน ทั้งที่ในใจเต็มไปด้วยคำถามว่าจะพามาอีกเหรอ แล้วเหตุผลอะไรที่คุณชายยอมเปิดตัว เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถามสักที เป็นเพียงความขี้ขลาดเล็ก ๆ ที่ฉุดรั้งเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่คำตอบคงไม่มีทางเป็นเรื่องเลวร้ายไปมากกว่า ‘ก็แค่อยากเปิด ขี้เกียจปิด’ เพราะอย่างไรมันก็ดีต่อตัวต้นน้ำทั้งหมด ไม่ได้เสียหายอะไรเลย เป็นคุณชายเสียอีกที่น่าจะถูกนินทาลับหลังอย่างถึงพริกถึงขิง ถึงแม้จะเป็นเรื่องรักเหมือนกับคนทั่วไป คุณชายไม่ได้คบซ้อน อนาจาร หรืออะไรสักหน่อย แต่คนเรามันก็ชอบพูดถึงคนอื่นกันทั้งนั้น ต้นน้ำก็ไม่ใช่คนดีอะไร เขายังมีความรักโลภโกรธหลงเป็นเรื่องปกติ รักและหลงคุณชายที่เคยไม่จริงจัง โลภที่คุณชายสายเปย์ ชอบซื้อนั่นนี่ให้เอาใจเขาเสมอ และโกรธที่คุณชายไม่ยอมเปิดตัว แม้จะไม่พูด บอกว่าทนได้ เพราะที่อยู่มามันก็สบายแล้ว สบายกว่าบางคู่ด้วย แต่ก็โกรธ ใครบ้างจะไม่อยากอวดว่าคนที่เราคบด้วยคือใคร หล่อแค่ไหน รวยแค่ไหน และดีแค่ไหน

“นอนนี่มั้ย”
คุณชายคิดว่าต้นน้ำกำลังจะเคลิ้มหลับเพราะไวน์กับลมเย็นบนดาดฟ้า เลยเข้าแผนการที่วางเอาไว้พอดี

“กลับบ้านดีกว่า”

“นะ…เปลี่ยนบรรยากาศ”
น้ำเสียงออดอ้อนแตกพร่าข้างหู คนกรึ่ม ๆ จึงใจกล้ามากขึ้นกว่าเดิม ลืมเรื่องผีคุณชายไปสนิท
“ก็ได้ครับ”


แม้หมดลมหายใจไปแล้วหนึ่งครั้ง หากแต่ร่างกายอันแข็งแรงยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเมื้อฟื้นขึ้นมา ลิ้นร้อนดูดดุนยอดอกคนเบื้องล่าง เรียกเสียงครางอ่อนหวาน ความคิดถึงแล่นพล่าน ความต้องการชักนำ ทำให้นึกถึงเซ็กส์ครั้งแรกในห้องครัว ไม่รุนแรงนักแต่ดุดัน รวดเร็ว ใจร้อนด้วยเป็นวัยรุ่น ตอนนี้คุณชายเหมือนเป็นวัยรุ่น โหยหากลิ่นกายอบอุ่นของแสงแดด ปากนุ่มนิ่มเต่งตึง ผิวเรียบลื่นที่เริ่มเจือไปด้วยหยาดเหงื่อ มือหนาแยกขากว้างออกจากกัน ซุกหน้าโลมเล้า สูดกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ในร่างกายมนุษย์ ว่ากันว่ามันถูกผลิตมาเพื่อเรียกหาคู่ ลิ้นร้อนยิ่งเร่งความลื่นไหลเพราะเสียงร้องนั้นไพเราะเกินกว่าจะหยุดได้

“อะ…พ..พอ..อ๊ะ!”

“น่ารักที่สุดเลย น่ารักที่สุด” น้ำเสียงหื่นกามจนคนฟังยังอาย หากแต่คนพูดคงไม่รู้ตัวด้วยมัวเมาในกามารมณ์ เขาเลื่อนกายขึ้น ก่อนจะบีบเจลใสใส่ปากทางคับแน่น แล้วค่อย ๆ สอดใส่อวัยแข็งขึงอย่างชำนาญ ความอุ่นวาบลามเลียในทุกสัมผัสที่แท่งร้อนพาดผ่าน ต้นน้ำตัวสั่น เป็นความเสียว ไม่ใช่ความกลัว อยากรู้นักว่าคนอื่นจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า สำหรับต้นน้ำน่ะ…ชอบมาก ๆ

จังหวะรักเริ่มบรรเลงโดยคนข้างบนที่ตอนนี้ยึดเอาขาสองข้างของต้นน้ำเป็นหลัก แล้วกระหน่ำใส่ความหฤหรรษ์จนเหงื่อโซมกาย ต้นน้ำร้องครางแบบที่ไม่มีใครจินตนาการได้ คงมีแค่คนสองคนในห้องที่เท่านั้นที่เป็นพยานให้แก่กันว่าการร่วมรัก มันสุดยอดแค่ไหน อิ่มเอมแค่ไหน

ผ่านพ้นไปกว่าสองชั่วโมง สงครามบนเตียงจึงจบลง คุณชายอุ้มต้นน้ำไปอาบน้ำใหม่ น่าแปลกที่เตียงไม่ได้เลอะมาก จึงนอนได้ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งสองคนซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม เปิดไฟแค่โคมตรงหัวเตียง มองไปรอบ ๆ รู้สึกสะอาดตา มีก็แต่เสื้อผ้ากองอยู่บนพื้น ดีแล้วที่เปลี่ยนสถานที่บ้าง ไม่ใช่เห็นแต่โมเดลเต็มตู้
ต้นน้ำถูกคุณชายรวบกอดเหมือนที่ทำทุกครั้ง ร่างสูงเป็นคนชอบกอดมาก ทั้งกอดทั้งหอม โดยเฉพาะหลังเสร็จกิจ จะคลอเคลียเก่งเป็นพิเศษ
พอกอดได้สักพัก คุณชายก็หลับไป ต้นน้ำแอบแนบหูฟังเสียงหัวใจเต้น ยังคงเต้นปกติ เขาถอยตัวออกมาอีกนิดเพื่อนอนให้สบายขึ้น คุณชายง่วง แต่ต้นน้ำไม่ง่วงเลย ตาสว่างโร่มองคนที่รักมากหลับอย่างมีความสุข มุมปากอดยกยิ้มไม่ได้ ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งคืนคุณชายกลับมา แถมยังทำให้นิสัยดีขึ้นอีกต่างหาก ต้นน้ำนอนยิ้ม มองหน้าอกคุณชายที่ยกขึ้นลง เฝ้าบอกตัวเองว่าเขายังหายใจ ยังคงมีอ็อกซิเจนหล่อเลี้ยงร่างกาย …ยังอยู่ด้วยกัน
นอนมองอยู่อย่างนั้นจนเคลิ้มหลับไป


ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
จุดเกิดเหตุที่คุณชายถูกรถชนคือเส้นมอเตอร์เวย์ขณะมุ่งหน้าไประยองเพื่อเยี่ยมชมโรงงานในเครือ เหตุการณ์เท่าที่คุณชายและพยานจำได้คือมีรถพ่วงสองคันพยายามเบียดแซงกันจนคันหนึ่งเสียหลักมาเบียดคุณชายที่อยู่เลนขวาสุดจนถูกบีบอัดเข้ากับแบริเออร์ริมทาง รถยุโรปราคาสิบล้านยับเยินไม่มีชิ้นดี และแน่นอนว่าคนขับก็บาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ต้นน้ำไม่มีโอกาสได้ไปดูใจคนรักเลย พอสิ้นคุณชายไป ธาตุแท้ของคนในบ้านก็ย่อมเปิดเผยอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร ต้นน้ำถูกห้ามจากคุณนายด้วยถ้อยคำที่ไม่ดีนัก บอกว่า “เกะกะ” ครั้นพอจะติดรถพี่ชายคนโตที่ค่อนข้างใจดีกับเขา ก็ถูกภรรยาของฝ่ายนั้นห้ามไม่ให้ขึ้นรถอีก รายนี้ไม่รู้ว่ากลัวรถราคาแพงจะแปดเปื้อนหรือแค่ไม่ชอบขี้หน้าเขา ต้นน้ำขอให้เป็นอย่างหลัง อย่างไรไม่ชอบขี้หน้าเพราะเป็นเมียเก็บ ยังดีกว่ารังเกียจในความจน ความเป็นตัวตนของเขา มองเขาต่ำแบบนั้น มันเจ็บปวดมากกว่า เพราะอย่างน้อยต้นน้ำเลือกที่จะเป็นเมียเก็บหรือไม่เป็นก็ได้ ดังนั้นถ้าใครจะไม่ชอบใจในเรื่องนี้ เขาก็เข้าใจนะ
คุณชายร่ำ ๆ ว่าไม่อยากไประยองมาได้สองวันแล้ว หลังจากที่กลับไปทำงานได้ราวหนึ่งเดือน จะรวยได้ก็ต้องทำงาน ต้นน้ำไม่เคยเห็นคนในบ้านนี้นอนอยู่เฉย ๆ แล้วมีเงินโปรยลงมา เพียงแต่ข้อดีของการมีงานและเงินที่มั่นคงคือการได้ซื้อของดี ๆ มาใช้ หรือสามารถหยุดพักผ่อนนานกว่ามนุษย์เงินเดือนทั่วไปมาก ต้นน้ำเองไม่เคยไประยอง ก็เลยไม่รู้ว่ามันน่าสนุกหรือเปล่า แต่จำต้องทำตามใจคุณนายที่ขอให้เขาไปเป็นเพื่อนคุณชายด้วย คอยดูแลกันระหว่างทาง ถึงแม้จะมีคนขับรถให้ แต่คุณชายยังคงงอแงอย่างกับเด็ก ๆ ถ้ามีคนที่เอาใจอยู่ข้าง ๆ ก็คงจะตั้งใจทำงานมากขึ้นและไม่กลัวจากอาการ PTSD แล้วก็เป็นการเที่ยวฮันนีมูนครั้งแรกไปในตัว
 
ต้นน้ำตื่นตั้งแต่ตีห้า ทั้ง ๆ ที่ปากบอกว่าไม่ตื่นเต้น เขาเช็คกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมไว้สำหรับเที่ยวห้าวันอีกรอบ ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวในห้องของตัวเอง ซึ่งเป็นบ้านพักคนงานอยู่ทางด้านหลังของที่ดินติดกับรั้ว ตัวเขาไม่ค่อยกล้าเสนอหน้าขึ้นไปอาศัยในเรือนใหญ่นอกจากคุณชายจะชวน (อันที่จริงก็ชวนทุกวัน) วันไหนที่ไม่มีกิจกาม หลังจากปรนนิบัติสามีทางพฤตินัยจนหายเหนื่อยจากงานแล้ว ก็จะกลับมานอนที่ห้องตัวเอง วันนี้คนรับใช้หยิบน้ำหอมยี่ห้อดังราคาขวดละห้าพันมาใช้หนึ่งขวด เป็นกลิ่นสดใสของทะเล เลือกให้เข้ากับบรรยากาศโดยเฉพาะ ต้นน้ำฉีดหลังใบหูทั้งสองข้าง ข้อพับแขนอีกสองข้าง แล้วก็ฉีดในอากาศก่อนจะวิ่งผ่านหนึ่งรอบ มองดูนาฬิกาเพิ่งหกโมงเช้า แต่แม่ครัวน่าจะเปิดครัวแล้ว ก็เลยหิ้วกระเป๋าตัวเองออกมาด้วย เอาไปวางหน้าบ้านก่อน แล้วจึงกลับมาที่ห้องครัวเพื่อเตรียมของทานเล่นไปกินในรถ
“ตื่นแล้วเหรอลุง” ต้นน้ำทักลุงหมิ่น คนขับรถที่จะพาไประยองในวันนี้ แกกำลังทอดไข่เจียวอยู่โดยมีป้าชื่นยืนบ่นที่แกถือวิสาสะทำอาหารกินเองโดยไม่รอคนอื่น แต่ลุงหมิ่นก็ทำเป็นไม่สนใจ ไม้เบื่อไม้เมากันจะตายคู่นี้ ยิ่งเห็นป้าชื่นไม่ชอบ ก็ยิ่งขัดใจล่ะ
“ขอใช้ครัวนะป้าชื่น” เสียงอืมเบา ๆ จากหญิงเกือบจะชรา ต้นน้ำเปิดตู้เย็นที่มีกระดาษเคลือบแปะไว้ว่า ‘สำหรับเจ้านาย’ ในนั้นมีของดีเกรดพรีเมี่ยมจากซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมี่ยม เขาหยิบแผ่นขนมปัง เชอร์รี่ กีวี อะโวคาโด เนื้ออกไก่ มายองเนส และช็อคโกแลตออกมา  ตั้งใจจะทำแซนด์วิช ต้นน้ำหั่นผลไม้กับอกไก่พอดีคำแล้ววางลงบนแผนขนมปัง ราดมายองเนส บางชิ้นก็ราดช็อคโกแลต แล้วแต่ความอยาก ทีนี้ก็นึกได้ว่ามันดูจืดชืดเกินไป ต้นน้ำก็เลยเอาบางชิ้นประกบกันแล้วนำไปทอดไฟอ่อนๆ ทาเนย โรยชีสเพิ่ม ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่ตามใจฉัน อยากใส่อะไรก็ใส่ กินไม่ได้ก็เททิ้ง คุณชายขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก การทำอาหารมันคือการทดลอง!
คนรับใช้ที่หน้าที่หลักคืองานปัดกวาดเช็ดถูนำกล่อง Tupperware 2 กล่อง ที่มีแซนด์วิชแบบแห้งกับแบบทอดแยกกันใส่กระเป๋าเก็บความร้อนถือออกมาวางไว้ข้างกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเอง เพิ่งกินข้าวต้มหมูรองท้องไป ก็เลยนั่งย่อยอยู่ในสวน รถจะออกแปดโมง คุณชายน่าจะตื่นแล้ว แต่ต้นน้ำก็ขี้เกียจขึ้นไปหา เด็กหนุ่มนั่งเล่นเกมในมือถือได้หลายตา จู่ ๆ กลิ่นน้ำหอมที่ต้นน้ำฉีดมาก็แรงขึ้น เขาเลยก้มหน้าดมตัวเองด้วยความสงสัย “ฉีดกลิ่นเดียวกับพี่เลย” น้ำเสียงติดออดอ้อนดังขึ้น ที่แท้ก็คุณชายนี่เอง
 
“กินข้าวหรือยังครับ”
 
“กินแล้ว”
 
“ผมทำแซนด์วิชไว้กินในรถด้วยนะ เดี๋ยวก็บ่นหิวอีก” ต้นน้ำติดดูแลคุณชายแบบที่ไม่ต้องเจอโลกกว้างด้วยความเคยชิน
 
“แวะซื้อข้างทางเอาก็ได้”
 
“มอเตอร์เวย์มันมีสักกี่ที่ให้แวะกันล่ะครับ ผมศึกษามาแล้ว ไปเลยไหมครับ จะขอไปเอาน้ำใบเตยก่อน”
 
“ได้ ๆ เดี๋ยวให้ลุงหมิ่นเตรียมรถเลย”
ต้นน้ำวิ่งดุ๊ก ๆ ไปเอาน้ำใบเตยที่ป้าชื่นทำไว้หอมเย็นชื่นใจ บรรจุใส่ขวดน้ำแช่ไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว คุณชายน่าจะชอบ ได้ดื่มอะไรเย็น ๆ ทำให้ใจสงบ จะได้ไม่กลัวเส้นมอเตอร์เวย์ ถึงต้นน้ำยังเด็กมาก ทำตัวสบาย ๆ ชิล ๆ แต่ข้างในเป็นคนคิดละเอียด ดูแลเก่ง แต่ก็ไม่จุกจิกจนน่ารำคาญ นับว่าให้เกียรติกันและกันมากทีเดียว คุณชายปลื้มจนไม่รู้จะปลื้มอย่างไร ยืนมองคนรักที่แสนจะน่ารักทั้งภายในและภายนอกวิ่งกลับมาหา
 
ระยะเวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงเศษ แต่เนื่องจากคนขับอายุมากแล้ว คุณชายคาดว่าน่าจะถึงสามชั่วโมง แต่ก็ดี จะได้ไม่อันตราย วันนั้นเขาประมาท เร่งขับเพื่อจะให้พ้นรถใหญ่ไป ทั้ง ๆ ที่จริงถ้าชะลอรถ ปล่อยให้มันอวดเก่งกันไปก่อน เขาก็คงไม่โดนลูกหลง
 
“ง่วงหรือเปล่า ตื่นแต่เช้า” คุณชายลูบหัวคนที่นั่งพิงข้าง ๆ มือหยิบแซนด์วิชกินไม่หยุด
 
“ไม่ง่วงครับ” ต้นน้ำป้อนอีกคนบ้าง เป็นแซนด์วิชไม่ใส่ชีสเพราะคุณชายรักสุขภาพ ไม่กินมัน ไม่กินของหวาน แล้วก็ออกกำลังกายเป็นประจำ หุ่นดีจนเคยขึ้นปกนิตยสารเพื่อสุขภาพผู้ชายมาแล้ว
 
“เมื่อคืนได้ดูหรือเปล่า”
 
“ดูไรอ่า”
 
“ปิก้าจูไง พี่อุตส่าห์สมัครให้เลยนะ”
 
“อ๋อ ลืมเลย แต่โหลดแอปแล้วนะครับ” ต้นน้ำหยิบมือถือขึ้นมาโชว์ให้ดูว่าโหลดแอปดูหนังแล้วจริง ๆ ล็อคอินแล้วด้วย ในนั้นมีชื่อ Annop ในรูปหมาโกลเด้นกับชื่อ Tonnum รูปหมาโกลเด้นอีกเหมือนกัน
 
“มันดูแบบนี้ได้ด้วยนะ นี่ไง” คุณชายเปิดหนังเรื่องปิก้าจู แล้วปัดให้หน้าจอเล็กลงแค่พอมองเห็นแล้วยังสามารถออกจากแอปนี้ไปเข้าแอปอื่นได้ โดยที่หนังยังเล่นอยู่ ต้นน้ำฝึกฟังเสียงต้นฉบับอยู่ จึงเปิดซับไตเติ้ลภาษาไทย แต่ย่อจอเหลือแค่นี้ ใครที่ไหนจะไปมองเห็น เลยตวัดตาเคืองใส่คนรักไปหนึ่งที
 
“อ่านได้ เนี่ย ๆ” คนสอนยังคงคะยั้นคะยอชี้ให้ดู แต่ต้นน้ำเคืองไปแล้วก็เลยฟึดฟัดอย่างน่ารัก แล้วคนมองที่รักมากจะไม่เอ็นดูได้อย่างไร โดนจับกดอยู่บนเบาะหลังอยู่อย่างนั้น เล่นกันสนุกสนานอย่างที่ลุงหมิ่นยังแปลกใจ ด้วยไม่เคยเห็นมาก่อนว่าคู่นี้เขาคุยกันแบบนี้เหรอ เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้คนขับรถที่ไม่เคยเข้าใจในความรักแบบดอกฟ้ากับหมาวัด เริ่มวางอคติลง เห็นเพียงคนที่รักกันสองคนเท่านั้นเอง
 
“แวะซื้ออะไรไหมครับ” สารถีเอ่ยถามคนสองคนเมื่อใกล้ถึงจุดแวะพักในมอเตอร์เวย์แล้ว ซึ่งจะไม่มีอีกเลยจนถึงระยอง
 
“หนูอยากกินอะไรไหม”
 
“อิ่มแล้ว” กินแซนด์วิชตั้งสี่ชิ้น น้ำใบเตยอีกหนึ่งขวด
 
“แวะก็ได้ลุง เข้าห้องน้ำด้วย” คุณชายอยากกินกาแฟ
พอถึงจุดพักรถ ต้นน้ำลงไปซื้อกาแฟกับคุณชาย ส่วนลุงหมิ่นแวะเข้าห้องน้ำ ทุกอย่างยังดูปกติดีจนกระทั่งเดินกลับมาที่รถ แล้วคุณชายเกิดอาการ ‘วูบ’ เคราะห์ดีที่คว้ารถไว้ได้ทัน เลยไม่ล้มลงไปกับพื้น
 
“เป็นอะไรครับ!” อย่าเรียกว่าตกใจเลย สำหรับต้นน้ำยิ่งกว่านั้น
 
“ลุง ๆ” โชคดีที่ลุงหมิ่นมาพอดี จึงเข้ามาชวนพยุงคุณชายให้เข้าไปในรถ
 
“...คุณชาย” ต้นน้ำเอาทิชชู่เปียกซับหน้าคนรัก มือโบกพัดอย่างร้อนรน แต่คุณชายก็ยิ้มเป็นปกติดี ดูเหมือนว่าแค่หน้ามืดไปเท่านั้น อาจะเพราะเดินออกจากรถเย็น ๆ ไปข้างนอกที่ร้อนจัด แต่มันก็ไม่น่าเรียกว่าปกติได้หรอก ในเมื่อคุณชายเองไม่เคยมีอาการแบบนี้เลย
 
“กลับบ้านกันไหมครับ”
 
“อย่าเลย ไม่มีอะไร พี่ปกติแล้วเนี่ย” กล่าวพร้อมเบ่งกล้ามให้ดู แต่ต้นน้ำไม่ขำเลย ทำหน้าจะร้องไห้อีกต่างหาก
คุณชายยีหัวด้วยความเอ็นดูอย่างที่สุด กดจุมพิตข้างขมับ ก่อนจะสั่งให้ลุงหมิ่นออกรถ



รถวันนี้มีจำนวนไม่มากนัก แม้แต่ลุงหมิ่นที่ขึ้นชื่อขับช้ายังสามารถทำเวลาได้จนใกล้ถึงระยอง ว่าแต่คุณเชื่อในเดจาวูหรือเปล่า ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือฟ้าลิขิตมา เชื่อเลยว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ไม่อยากเจอ ไม่มีความหมายว่าต้องเจอเพื่ออะไร เพื่อใคร แต่แล้วฟ้าก็ลิขิตอีกครั้งด้วยฝ่าเท้าที่เหยียบลงมากลางใจ เมื่อรถพ่วงพี่ใหญ่แห่งท้องถนนคันข้างหลังเกิดยางแตก เสียหลักพุ่งชนรถยุโรปราคาแพงของคุณชายจากด้านหลัง กระแทกจนลุงหมิ่นบังคับพวงมาลัยไม่ได้แล้วพาทั้งสามชีวิตตกลงข้างทาง ลุงหมิ่นอยู่ในเข็มขัดนิรภัย ไม่เป็นอันตรายใด ๆ นอกจากเสียขวัญ แต่คุณชายกับเมียเด็กรับใช้น่ะสิ ด้วยแรงกระแทกและความเร็วเพียงชั่วพริบตา ร่างสองร่างพุ่งทะลุหน้าต่างออกไป ในสภาพนอนกอดกันอยู่ในพงหญ้า ช่างเป็นภาพที่น่าสลดใจโดยแท้

.
.
.

ต้นน้ำตื่นขึ้นมาในห้องกว้างสีขาว ทุกสิ่งเงียบสนิท แม้แต่เสียงลมหายใจยังไม่มีให้ได้ยิน ความกลัวเกาะกุมหัวใจ สั่นไหวไม่เป็นจังหวะ เป็นความรู้สึกดำดิ่งราวกับจมน้ำ พยายามหาสิ่งพึ่งพิง เขาสับสน มองหาอะไรก็ได้เพื่อไขว่คว้า ต้นน้ำเดินไปเรื่อย ๆ
เรื่อย ๆ
เรื่อย ๆ

“ผมเคยเป็นแบบนั้นเหรอ”

“คุณชาย!!” ร่างคุณชายที่ยืนอยู่กับชายวัยกลางคนท่าทางขึงขังทำให้ต้นน้ำดีใจสุดขีด เขาวิ่งไปหา คุณชายหันมามอง จากคิ้วขมวดเข้ม เปลี่ยนเป็นเลิกขึ้นด้วยความดีใจ ร่างสูงอ้าแขนรอรับคนรัก กอดแน่นหากำลังใจที่ไม่นึกว่าจะมา

“พี่กำลังคุยกับลุงเขาอยู่ เขาบอกว่าพี่ทำไม่ดีกับต้นน้ำเหรอ”

ใบหน้าน่ารักซึมลง

“พี่เคยทำจริงดิ”

“หมายถึงก่อนจะตายแล้วฟื้น?”

“พี่ทำได้ไง” คุณชายกำลังสับสน ภาพความจำในหัวคือการที่เขาดูแลต้นน้ำทุกอย่าง คบแบบเปิดเผยเหมือนคนรักทั่วไป ไม่เคยเก็บไว้ในบ้าน พาออกข้างนอกตลอด เพื่อนฝูงรู้ ทุกคนรู้ แม้บางคนไม่เข้าใจ แต่คุณชายก็เฉย ๆ เขามีหน้าที่รักและดูแลคน ๆ นี้เท่านั้น
นั่นเป็นสาเหตุให้ต้นน้ำทำท่าปฏิเสธตลอดเลยใช่ไหม
ภาพ flashback ชุดใหม่ฉายวาบขึ้นมา ต้นน้ำที่ไม่อยากไปไหน ต้นน้ำที่ทำหน้างง คุณแม่ที่ห้ามปรามและพูดแปลก ๆ หรือจะเป็นสีหน้าตกใจของคนรับใช้ในบ้าน
แต่คุณชายนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเขาเคย ‘เก็บ’ คนที่รักมากคนนี้ไว้แค่ในบ้านเท่านั้นเหรอ?

“ก็ครั้งที่แล้วขอเอาไว้เอง”
ชายนิรนามเอ่ย

“ไม่จริงอะ ต่อให้จริง มันก็เป็นที่สมองผมกระทบกระเทือนมากกว่า” คุณชายโอบต้นน้ำไว้ ปกป้องไว้ในอ้อมแขน จะไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับต้นน้ำแน่นอน

ชายหนวดเคราเฟิ้มอย่างกับพรานป่าหัวเราะหึ ๆ
ท่ามกลางห้องกว้างสีขาวอันเงียบงัน เพียงเสียงเบา ๆ นั้น ก็ทำให้ขนลุก

“ให้คืนไปเพื่อจะได้ไปทำดีเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้ก็น่าจะพอใจแล้วนะ”

“อะไรนะ” คุณชายไม่ใช่คนโง่ เริ่มเข้าใจอะไรลาง ๆ

“ต้องกลับ”

“หมายความว่า…”

“อย่างที่คิด”

“ไม่! คุณอย่ามายุ่งกับคุณชายนะ!” ต้นน้ำแว้ด เขาก็เข้าใจเหมือนกัน ไม่มีทางให้คุณชายกลับไปแน่ ๆ
“คืนมาก็คืนมาสิ คิดจะเอากลับไปก็เอากลับไปเฉย ๆ ได้ไง!” เวลาอารมณ์ขึ้น ใช่ว่าจะลงกันได้ง่าย ๆ เด็กห้าวไม่กลัวใครอย่างต้นน้ำฉอดใส่ชายนิรนามไปอีกสองสามประโยค

“ต้องกลับ มันหมดเวลาแล้ว”

“…อย่ามาล้อเล่นนะ” เสียงสั่นเครือด้วยในใจรู้ว่าไม่น่าจะสู้ได้ คิดแต่ว่าทำไมใจร้ายขนาดนี้ เอาไปแล้ว ให้มาแล้ว แล้วจะเอาไปอีก ชอบเล่นสนุกสมกับที่ใครต่อใครต่างก่นด่า

“จริง ๆ ก็ไปทั้งคู่นะ ไม่ดีเหรอ”

“อะไรนะ!!!” เป็นคุณชายอรรณพที่ตะโกนลั่น วงแขนโอบรัดคนรักแน่นขึ้นตามสัญชาตญาณ แต่ข้างในสั่นกลัว ความร้อนแล่นพล่านตั้งแต่เท้าขึ้นมายังสมอง พวยพุ่งออกไปเป็นคำว่า “ไม่!” ดังก้องในห้องสีขาว คุณชายตัวสั่น ยิ่งทำให้คนในอ้อมกอดสะอื้นฮัก แค่ตื่นขึ้นมาเจออะไรแบบนี้ก็งงอย่างที่สุดแล้ว ยังต้องมารับรู้บ้า ๆ บอ ๆ ถ้านี่คือความจริง ความตายก็ไม่ใช่เรื่องสนุกหรือสบายอย่างที่คิดเลย

“เอาล่ะ…ยืดเยื้อมากพอแล้ว นายอรรณพ ไตรอรรณพ กับนายต้นน้ำ พุ่มเจริญ เสียชีวิตวันที่ 8 กรกฎาคม พุทธศักราช 2564 เวลา—”

“หยุด! หยุด!” ความเป็นผู้นำแสดงแสนยานุภาพทันที ไม่อนุญาตให้ชายนิรนามพูดใด ๆ อีก

“ปล่อยเรากลับบ้านเดี๋ยวนี้!”

“เฮ้อ!” ถอนหายใจ ไม่ยี่หระต่อคู่รักที่คนหนึ่งร้องไห้ อีกคนตาแดงก่ำ พยายามทำเป็นเข้มแข็ง
“ถ้าให้เลือกแค่คนใดคนหนึ่—”

“ไม่! มึงไปเลยนะ มึงไปไกล ๆ กูเลย! เดี๋ยวกูจะเมียกูจะหาทางออกเอง!” เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่แล้ว คุณชายทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ทั้งหวาดกลัว

“หึ…ความรักหนอความรัก”

คุณชายไม่รอฟังให้จบ พาต้นน้ำเดินออกมาจากตรงนั้น เดินออกมาอย่างไร้จุดหมายภายในห้องสีขาวสว่างที่ไม่มีจุดจบ ทั้งคู่ต่างไม่รู้ว่าต่างก็คิดถึงประโยคเดียวกัน ‘ถ้าให้เลือก…’
คุณชายหยุดเดิน พลอยให้ต้นน้ำหยุดด้วย ดวงตาฉ่ำวาวช้อนมองคนรัก คุณชายคิดขึ้นมาได้ในวินาทีนั้นว่าต้นน้ำจะพูดว่าอะไร จึงรับชิงตัดหน้า “หนูต้องกลับไป” “ม…ไม่” คนฟังได้ยิน ใจแทบแตกสลาย เขากำลังจะพูดประโยคเดียวกัน! ทำไมเป็นคุณชายที่พูดก่อน เขาเลือกแล้ว ชีวิตมีความสุขดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องกลับไปแล้ว แต่คุณชายมีกิจการที่ต้องดูแล เขาสิหมดห่วง

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่” ยังไม่ทันได้พูดคัดค้าน ร่างของต้นน้ำก็ค่อย ๆ จางลง เจ้าตัวร้องเสียงหลง น้ำตาไหลพราก เจ็บในหัวใจดั่งถูกใครเอามีดมาแทงซ้ำ ๆ
“ไม่ไป ฮืออ” ต้นน้ำดีดดิ้นลงไปกับพื้น กอดขาคุณชายไว้ โวยวายไม่เป็นศัพท์ ยามนี้นั้นไม่มีแล้วซึ่งสติ มีแต่เพียงคำว่าทรมานอย่างแสนสาหัส ตีอกชกตัวก็ไม่รู้สึกใด ๆ มีแต่หัวใจเท่านั้นที่มันเจ็บ เจ็บยิ่งกว่าทุกความรู้สึกบนโลกมามัดรวมกัน แม้แต่เสียงกรีดร้องก็ไม่อาจผ่อนคลายความเจ็บปวดนี้ได้ ถึงขนาดที่ว่าคำว่า ‘ตาย’ ก็ไม่เจ็บเท่านี้




ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
น้ำตาไหลออกมาแม้คนไข้ยังหลับสนิท พยาบาลสาวซับน้ำตาที่ไหลหยดลงหมอน ก่อนจะลาญาติเพื่อไปดูแลคนไข้ท่านอื่น หญิงวัยกลางคนที่นั่งเฝ้าข้างเตียงลุกขึ้นดูลูกชายคนเดียวของตนที่หลั่งน้ำตาออกมาเสียเฉย ๆ จึงสงสารจับใจ ไม่รู้ว่าในฝันนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง

"ต้นน้ำ...ตื่นเถอะลูก" หวังว่าการตื่นขึ้นมาจะช่วยให้ฝันร้ายนั้นจบลง หรือจะแย่ขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าหากต้นน้ำตื่นขึ้นมาพบว่าตนถูกแยกกับคนรัก ต้องนอนเตียงรวมในโรงพยาบาลรัฐที่แสนจะไร้ซึ่งความสะดวกสบาย แต่นั่นคงเทียบไม่ได้กับการแยกจากคนรักหรอก ทางนั้นเขาปิดกั้นเสียขนาดนั้น แม่คิดว่าฝืนไปก็ไร้ความหมาย ทำลายคุณค่าตัวเอง ตัดขาดฝั่งคุณนายไปเสีย ต่างคนต่างอยู่ก็พอ
ภาวนา…ขอให้ลูกรับได้ ขอให้ลูกเศร้าเสียใจไม่นาน ขอให้… “ต้นน้ำ!”
แพขนตาหนาค่อย ๆ ขยับด้วยแรงแผ่วเบา ภาพแรกที่เห็น แน่นอนว่าคือแม่ แต่ความรู้สึกรอบข้างกลับทำให้สงสัย ทำไม…เขาถึงอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้

“เป็นไงบ้างลูก”

“…” ต้นน้ำไม่ได้สับสนนัก แค่ยังไม่อยากเปิดปากในตอนนี้

“จำได้มั้ยลูก ต้นรถชน แต่ดีไม่เป็นอะไรมาก หลับไปวันเดียว”

“คุณ..ชาย”

ผู้เป็นแม่ชะงัก คนเป็นลูกมองสายตาก็รู้แล้ว กอปรกับฝันที่เหมือนจริงมาก ๆ ขนาดนั้น
“คุณชายตายแล้วใช่มั้ยแม่” น้ำตารื้นพร้อมไหลลงหมอน ผู้เป็นแม่ไม่ยอมเห็นภาพอันแสนน่าเวทนาอีกแล้ว นางเทียวซับน้ำตาให้ลูกด้วยความสงสาร

“อย่าพูดถึงเขาเลยนะ อย่าเพิ่งคิดมาก พักผ่อน ๆ”

อาการโลกถล่มตรงหน้ามันเป็นอย่างนี้นี่เอง น้ำตาไหลพร่างพรูโดยไม่ต้องบีบเค้น ต้นน้ำหายใจแรง ส่ายหน้ากับหมอน มันเจ็บจนร้องไม่ออก อยากจะตัดพ้อต่อว่าโชคชะตาก็หมดคำจะพูด ทำไมหนอทำไม ทำไมถึงใจร้ายกับคุณชายได้ถึงขนาดนี้





เรื่องเซอร์ไพร์สประดังประเดเข้ามาจนตอนนี้ต้นน้ำไม่มีอารมณ์จะแปลกใจแล้ว เขาอยู่โรงพยาบาลอีกหนึ่งอาทิตย์เพราะยังเจ็บหน้าอก พอออกมา แม่ก็พาไปอยู่บ้านน้าในโคราชที่ปกติแกก็จะมาเที่ยวเล่นถ้าว่างจากงานแม่บ้านบ้านพักตากอากาศของคุณชาย ซึ่งตอนนี้ทั้งพ่อทั้งแม่ลาออกมาอาศัยบ้านน้า แม่ช่วยน้าขายกับข้าว ส่วนพ่อเปิดซุ้มยาดองอยู่ข้าง ๆ ดูสภาพแล้วไม่ค่อยลำบากอะไร พออยู่พอกิน เพราะไม่มีหนี้ ทั้งต้นน้ำยังมีเงินอีกเกือบล้านบาทที่สะสมไว้มาตลอดจากคุณชาย ก็เลยคิดว่าอาจจะหาซื้อที่แล้วสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ แต่ก็ต้องดูทำเลไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ที่ ๆ ชอบที่สุดดีกว่า ไม่อยากวู่วาม น้าก็ใจดี ไม่ได้รังเกียจครอบครัวเขา มีญาติดีมันก็เป็นศรีแก่ตัว ไม่เหมือนมีแม่ผัวที่ไม่เห็นดีเห็นงามกับเรา
 ต้นน้ำไม่เคยติดต่อไปทางนั้นเลยเมื่อแม่เล่าให้ฟังว่าเขาแค่โทรมาบอกว่าขอให้ต้นน้ำอย่ากลับไปอีก ข้าวของจะส่งไปรษณีย์ให้  ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังรัก

เศร้า แต่อาการหลายอย่างรวมกันมากเกินไปจนแสดงออกมาในลักษณะ ‘ปลง’ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ปลงอะไรหรอก ก่อนนอนยังต้องฟังเพลงเพื่อไม่ให้คิด นอนก็ไม่หลับ สะดุ้งตื่นคืนละหลายครั้ง กลางวันจึงง่วงมาก ต้นน้ำแทบไม่ได้ช่วยใครทำงานเลย แม่ก็เลยไล่ให้ไปอยู่เป็นเพื่อนยายม้อยบ้านท้ายซอย แกสนิทกับน้ามาก แต่หลัง ๆ มานี้แกแก่จนเดินแทบไม่ไหว ก็เลยอยู่แต่ในบ้าน ร้อยมาลัยขาย  แรก ๆ ต้นน้ำก็ไปบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่หลังมาก็ไปทุกวัน ไปนอนกลางวันในสวน ร่มรื่นและมีเสียงแมลงกล่อม ทำให้พอจะหลับสนิทได้บ้าง แต่ก็ยังสะดุ้งตื่นบางครั้ง

เฮือก!

“ฝันร้ายอีกแล้วเรอะ เห็นหวยบ่”

ต้นน้ำส่ายหน้า ถอนหายใจเฮือกใหญ่ คิดถึงคุณชาย คิดถึงมาก ๆ ทำไมคุณชายถึงได้รักเขา ยอมแลกชีวิตตัวเองเพื่อเขา ความรักมันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดจึงไม่มีปาฏิหาริย์ ไอ้ลุงชั่ว!

“ร้อยมั้ย สอนให้” ยายม้อยยกถาดใส่ดอกมะลิ ดอกรัก และดอกจำปีมาวางบนแคร่ที่ต้นน้ำเพิ่งจะตื่น ตรงนี้ลมเย็นสบาย จึงเป็นที่โปรดของทั้งคู่

“ไม่มีใบเตยเหรอยาย” ปกติต้นน้ำช่วยแกสานปลาตะเพียนด้วยใบเตย ไม่เคยช่วยมากกว่านั้น

“วันนี้มีจำปีแล้ว มา ๆ ข้าสอนร้อยมาลัย”

“มันจะเปลืองดอกไม้นะยาย”

“ช่างมันเถาะ ขาดทุนไม่กี่ครั้งดอก”

ต้นน้ำตกลง ไหน ๆ ก็ไม่เสียหายอะไร ได้ความรู้เพิ่มด้วย ยายม้อยเลยสอนตั้งแต่เบสิคไปจนถึงร้อยพวงใหญ่แบบที่ปกติแกไม่ร้อยขายเพราะมันอลังการเกินไป ถ้าขายแพง ๆ ให้คุ้มทุน คนแถวนี้ไม่ซื้อหรอก ถ้าเป็นที่กรุงเทพก็น่าจะพอมี แต่ก่อนยายเคยอยู่กรุงเทพกับลูกสาว ขายมาลัยดีมาก กระทั่งลูกมาตายไปก่อน ก็เลยกลับมาอยู่บ้านเกิด

“ถืออะไรมาล่ะนั่น” แม่เอ่ยทักเมื่อเห็นต้นน้ำถือถุงผ้าสีมอซอเข้ามา ต้นน้ำยกถุงให้แม่เปิดดู ข้างในมีเข็มกับด้ายร้อยมาลัย พร้อมดอกกล้วยไม้อีกหนึ่งถุงใหญ่

“ไปเอาของยายแกมาทำไม”

“ยายอยากสอน ไม่ต้องห่วงหรอก อันนี้ต้นซื้อยายมาฝึกร้อยเล่น ๆ ก่อนนอน ส่วนอันที่สอนเอาไปขายแล้ว”

“ขายได้ด้วย?”

“เห็นอย่างนี้ก็มีฝีมือนะ แม่ก็รู้ว่าต้นเก่ง”

“เออ ๆ” แม่ไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ มีอย่างที่ไหน ร้อยมาลัยครั้งแรกก็ได้ขายเลย ต้นน้ำคงโม้ไม่ให้คิดมาก “ไปกินข้าวไป แม่ทำข้าวต้มกุ้ง”

“ของโปรดเลย”

มือหยาบกร้านลูบหัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ทอดมองด้วยความรักใคร่ เวทนา แต่ทำอะไรไม่ได้ “หายดีแล้วใช่มั้ย”

“โห ตั้งเดือนแล้วนะแม่ หายแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว”

“ดีแล้ว ๆ”

“แม่…” ต้นน้ำสูดลมหายใจลึก คิดมาสักพักแล้วว่าอยากทำ “พาไปทำบุญหน่อยสิ ไปกันหมดนี่แหละ อยากทำบุญให้คุณชาย แล้วต้นน้ำก็จะขอถือศีลที่วัดสักอาทิตย์ หรือไปเรื่อย ๆ”

“ไม่บวชไปเลยล่ะ” บวชเงียบ ๆ ไม่มีพิธีรีตอง

“ไม่อยากบวช”

“ก็ได้ ๆ พรุ่งนี้แม่พาไป”

“ขอบคุณครับ คืนนี้จะนั่งร้อยมาลัยให้คุณชาย” รอยยิ้มอันเศร้าหมอง หากแต่ก็ยังดีกว่าไม่ยิ้มเลย คนเป็นแม่เห็นแล้วได้แล้วลูบหัวปลอบ ลูกโตถึงเพียงนี้ แม่ดูแลได้แค่ตัว แต่หัวใจก็มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่ดูแลได้ ต้นน้ำไม่เคยพูดถึงคุณชายเลยตลอดหนึ่งเดือน แต่วันนี้พูดขึ้นมา ความเป็นไปได้ก็คงมีเพียงสองทาง  หนึ่ง คือลืมไม่ลง สอง คือจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะนึกถึง


ต้นน้ำร้อยมาลัยดอกกล้วยไม้สีม่วงล้วน อุบะเป็นกล้วยไม้ที่บานเหมือนกระโปรงดูน่ารักไม่เหมาะกับคุณชายเท่าไหร่ แต่คงเป็นต้นน้ำคนเดียวที่รู้ว่าพ่อจอมกะล่อนนั้นชอบ เจ้าตัวไม่ชอบกลิ่นแรง ๆ ของจำปี ถ้ามะลิอาจจะได้ แต่ก็ไม่มีสีสันเท่ากล้วยไม้

มาลัยข้อพระกรถูกวางลงบนฝาบาตรหลวงพ่อ ต้นน้ำก้มกราบลงสามครั้ง แล้วรับน้ำมนตร์จนเปียกโชก สำหรับเขา มันก็เหมือนพิธีกรรมหนึ่งที่ทำให้เราสบายใจขึ้น โดยที่ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่ผ่านไปแล้วหรือสิ่งที่ยังมาไม่ถึงนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้

“ดูแลตัวเองดี ๆ นะ อย่าร้องตามแม่กับพ่อล่ะ”
หยอกเอินลูกชายแสนรักที่อยู่ปฏิบัติธรรมในวัดต่อหนึ่งอาทิตย์ หลวงพ่อไม่เคร่งมากเพราะไม่ใช่ศูนย์ปฏิบัติธรรมจริงจัง จะเรียกว่าเป็นเด็กวัดชั่วคราวก็ได้

ต้นน้ำใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำความสะอาด กวาดลานวัด ถูโบสถ์ แซะขี้นก พอเหนื่อยก็นั่งพักใต้ต้นโพธิ์ที่มีเศษตุ๊กตานางรำวางทิ้งไว้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเอาไปทิ้งอยู่หรอก
อากาศเย็น ๆ กำลังสบาย ถ้าอยู่บ้านก็คงนอน แต่ตอนนี้ถวายตัวมารับใช้ศาสนา จึงแค่นั่งพักให้หายเหนื่อย มองรูปผู้ที่ไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วที่ประดับอยู่บนกำแพงรอบโบสถ์ก็ได้แต่ปลงอนิจจัง ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้แน่นอน ทั้งร่างกาย ทั้งวาจา ในเมื่อคนที่ให้บอกรักไม่อยู่แล้ว คำว่ารักจึงไม่ศักดิ์สิทธิ์ ต้นน้ำไม่คิดว่าตนจะพูดคำนั้นได้อีก แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้
ชายหนุ่มได้แต่ปาดน้ำตาที่ไหลมาเป็นครั้งคราว ฮึบกับตัวเอง แล้วค่อยกวาดใบไม้ต่อ

“ต้นน้ำ มีคนมาหาเอ็งแน่ะ”
หลวงพี่เดินมาคว้าเอาไม้กวาดไป ไม่รอให้ต้นน้ำสงสัย เจ้าตัวเกาหัวงง ๆ แล้วหันตามตำแหน่งที่หลวงพี่ชี้

ภาพเบื้องหน้าทำให้เด็กวัดมือใหม่นิ่งงัน ต้นน้ำคิดว่าตัวเองหลุดมาอีกมิติ เพราะที่นี่คือวัด ขนจึงลุกชัน ความเย็นวูบแล่นปราดตั้งแต่เท้าจรดหัว

“..คุณชาย”
แม้ปากจะพูดไปอย่างนั้น หากแต่สายตากลับล่อกแล่กมองความว่างเปล่าโดยรอบด้วยความระแวง ต้นน้ำก้าวถอยหลังเพื่อใกล้ชิดหลวงพี่ที่ยืนมองกิริยาประหลาดอย่างสนเท่ห์


“อาตมาไม่ยุ่งนะ”
พระหนุ่มเห็นท่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว จึงเดินหนีอย่างไว ต้นน้ำยังไม่ทันห้ามดีด้วยซ้ำ

“พี่ไม่ใช่ผีนะ” คุณชายกลั้นขำ
คนฟังกัดปาก คุณชายรู้ใจต้นน้ำอีกแล้ว รู้ดีแบบนี้ ก็ยิ่งเหมือนผีเลยนะ  อยากจะวิ่งหนี แต่มันจะกลายเป็นหนังคอเมดี้เกินไป ต้นน้ำก็เลยยืนน้ำตาไหลเงียบ ๆ แทน คิดแต่ว่าทำไม เกิดอะไร สับสนไปหมด แล้วคุณชายไม่ใช่ตายไปแล้วหรือ

ร่างสูงไม่ได้ลอยมาอย่างที่ต้นน้ำคิด เขาเดินมาหา กอดต้นน้ำไม่นานนักเพื่อเคารพสถานที่
“เห็นมั้ยพี่จับตัวเองได้ จะเป็นผีมาหลอกได้ไง”

“ฮึก”

“พี่ไปรักษาตัวที่ต่างประเทศมา เขาคงไม่บอกอะไรเลยสิ” ‘เขา’ ที่ว่าคือครอบครัวคุณชาย
“พี่ไม่ยอมให้เรื่องนี้จบลงแบบโศกนาฏกรรมหรอก”

ต้นน้ำยังคงแยกอะไรไม่ถูก ถามถึงลุงหนวดคนนั้น

“ไม่รู้สิ คงสงสารเรามั้ง” คุณชายตอบแบบนี้แสดงว่าในห้องสีขาวนั้นเป็นเรื่องจริง เอาล่ะ แสดงว่าต้นน้ำก็เคยเจอสิ่งลี้ลับกับตัวจริง ๆ แล้ว เอาไปเล่าให้ใครฟังถึงจะเชื่อ รายการเล่าเรื่องผีก็น่าสนใจ

โป๊ก! มะเหงกเขกมาไม่แรงนัก แต่พอเรียกสติคนคิดไปไกลได้
“กลับมาก่อนครับ —พี่อยากบอกว่าพี่คิดถึงหนูที่สุด กลับไปอยู่ด้วยกันนะ แยกกับที่บ้าน เราจะมีบ้านเป็นของตัวเอง อยู่ด้วยกันสองคน”

“เลี้ยงหมาได้มั้ย”

“ได้สิ ได้ทุกอย่าง ก็มันเป็นบ้านเรา”

“ฮึก….” คนฟังสะอึกสะอื้น ดีใจจนพูดอะไรไม่ออก นี่มันยิ่งกว่าฝันถึงลุงนั่นเสียอีก ต้นน้ำหยิกแขนตัวเอง ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่
“ที่รักครับ” คุณชายประคองใบหน้าจิ้มลิ้มให้มองตากัน “หนูไม่ได้ฝันนะ นี่คือเรื่องจริง พี่โคม่ากับครอบครัวพี่งี่เง่าแค่นั้นเอง เราถึงต้องพรากจากกันแบบนี้ แต่พี่หน้าด้านพอ พี่รักต้นน้ำพอที่จะเริ่มต้นใหม่ พี่ขอโอกาสใหม่ โอเคไหมครับ”
“ฮืออออ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารัว เขาตกลงตั้งแต่ที่คุณชายบอกว่าตัวเองไม่ใช่ผีแล้ว


.
.
.


เรื่องหนุ่มเมืองกรุงที่มาตามง้อหนุ่มบ้านนอกกลายเป็นที่โจษจันในย่านนั้น และเพิ่มความเคารพศรัทธาต่อศาสนามากขึ้นด้วยความที่หนุ่มบ้านนอกตั้งใจศึกษาในธรรมะและตั้งมั่นทำความดีจริง และเพียงแค่ไม่กี่วัน คนรักที่ต้องพลัดพรากจากกันก็ฟื้นขึ้นมาแล้ววิ่งตรงดิ่งมาหา
ต้นน้ำว่ามันออกจะเว่อร์ไปสักหน่อย เล่ากันปากต่อปากก็อย่างนี้ เนื้อเรื่องเปลี่ยนไปเรื่อย แต่ก็ไม่อยากแก้ข่าวเท่าไหร่เพราะตัวเขาเองยังนั่งหยิกแขนวันละสองสามรอบอยู่เลย กลัวว่ายังฝันอยู่
คุณชายพาต้นน้ำกลับกรุงเทพฯ แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่บ้านใหญ่แล้ว มาอยู่คอนโดชั่วคราวระหว่างที่หาบ้าน ต้นน้ำมีในใจสองหลัง ที่เหลือให้คุณชายเลือกเอง น่าจะวิเคราะห์ได้ดีกว่า เพราะหลังหนึ่งเป็นบ้านตัวอย่างที่ทุกอย่างครบครัน ตกแต่งสวยมากแล้ว ส่วนอีกหลังเป็นบ้านตามสั่งสไตล์ญี่ปุ่น โครงการไม่ไกลกัน แต่ต้องรอสร้างอีกหลายเดือน จึงค่อย ๆ ดูไป ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม
ยังโชคดีที่คุณชายทำงานได้ปกติ ไม่ได้ถูกตัดหางปล่อยวัด ส่วนต้นน้ำใช้เวลาว่างไปกับการเปิดดูคลิปสอนร้อยมาลัยรูปแบบต่าง ๆ ฝึกร้อยจนคล่องแคล่ว จึงขอคุณชายเปิดเพจขายมาลัย ให้เพื่อนคุณชายออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้จนมันออกมาอลังการ ต้นน้ำจึงอัพราคาได้มากกว่าสองเท่า ขายค่อนข้างดี เรียกว่ารวยสวย ๆ ไม่เหนื่อยมาก แต่ก็ไม่ว่างจนเกินไป ทำกำไรได้ต่อเดือนเกินหมื่น ต้นน้ำก็พอใจแล้ว ไม่หวังไปกว่านี้

“หิวจังเลย”
คุณชายกลับมาตอนสองทุ่มเศษ ต้นน้ำส่ายหน้าระอาใจ ตั้งสองทุ่มแล้ว มันจะไม่หิวได้ไง เขาลุกขึ้นเตรียมสำรับ กับข้าวสองอย่างที่คุณชายชอบ เจ้าตัวหายไปในห้องน้ำเพื่อให้ตัวเองสดชื่นขึ้น

“เบื่อไหมครับ” คุณชายหอมแก้มนิ่ม ก่อนจะนั่งลงทานข้าว ต้นน้ำกินรองท้องมานิดหน่อยแล้ว แต่ก็นั่งกินเป็นเพื่อน

“ไม่เบื่อครับ ชอบแบบนี้” ต้นน้ำชอบที่ตัวเองได้อยู่บ้าน ทำงานบ้าน ดูแลคนที่รัก ไม่ได้น่าเบื่อเลย สนุกดี ไม่ได้ว่างขนาดนั้นด้วย เขาหาอะไรทำตลอดเวลาเป็นปกติ

“พี่กลัวเราเบื่อ ไม่ชอบอยู่บ้านเฉย ๆ”

“ผมชอบ สบายจะตาย มีคนไม่ชอบด้วยเหรอครับ”

คุณชายแอบขำ “มีสิ กลัวสามีทิ้งแล้วตัวเองจะไม่เหลืออะไร เหมือนว่าการยึดติดสามีมาก ๆ จะไม่มีคุณค่าในตัวเอง เขาเลยสอนให้ภรรยาไม่พึ่งพาสามีมากเกินไป ประมาณนั้นมั้ง”

“ผมก็รักตัวเองนะ แต่ผมไม่มีภาระมั้งครับ ถ้าคุณชายทิ้ง ผมก็ไปหาแม่ แต่ถ้าไม่มีพ่อแม่ ก็หาห้องเช่าอยู่ ยังไงคุณชายก็ให้เงินมาเก็บตั้งเยอะ คุณชายให้ค่าผม ผมก็มีคุณค่าครับ”
คำตอบสร้างความน่าทึ่งให้คนฟังไม่น้อย ไม่คิดว่าต้นน้ำจะ…น่าเอ็นดู…สุด ๆ ไปเลย

“กินข้าวสิครับ มองอยู่ได้”

คุณชายนั่งยิ้มกรุ้มกริ่ม เข้าใจในสิ่งที่เด็กคิด น่าเอ็นดูและเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกินจริง แต่ถ้าต้นน้ำโตขึ้น ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงความคิดไปบ้าง ทุกสิ่งไม่จีรังยั่งยืนอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ เวลานี้
แค่ได้เห็นคนข้างหน้าทานข้าวอย่างมีความสุข ยิ้ม หัวเราะ ได้ตามใจอยาก คุณชายก็เหมือนจะสู้กับคนทั้งโลกได้เลย

รัก รักมากกกกกกกกกกกกกก พูดอย่างไรถึงจะพอ เอาเป็นว่า มากถึงขนาดที่ว่าลุงหน้าหนวดคนนั้นยอมปล่อยเขามาก็แล้วกัน


-จบ-

เรื่องนี้เป็นจักรวาลเดียวกับเรื่อง คุณชาย
บ้านเขาอยู่ใกล้กัน

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
สนุกมากค่ะ มีความระแวงกลัวคุณชายเป็นผีอยู่เป็นระยะๆ
เดาว่าที่คุณชายให้น้องกลับมาก่อนเพราะจะไปข่มขู่(?)ลุงหนวดให้ปล่อยตัวเองแน่ๆ

ออฟไลน์ BlueWizard

  • Friendly & optimistic
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องแปลกดีครับ 55

ขอบคุณนักเขียนมากเลยนะครับ  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด