☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน [50/50 - 23/11/2563 P.1-ตอนพิเศษ END.]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน [50/50 - 23/11/2563 P.1-ตอนพิเศษ END.]  (อ่าน 7009 ครั้ง)

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2020 10:49:07 โดย Zitraphat »

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
1/50
..
   สวัสดีครับผมชื่อป้องเป็นเจ้าของร้านต้นไม้เล็กๆ แถวถนนพุทธมณฑลสายสี่ ส่วนไอ้ที่นั่งกระดกดื่มแบบแก้วต่อแก้วข้างๆ กันนี่มันชื่อไอ้ปก ไอ้ปกเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของฝั่งลาวเห็นหน้าตาแบบดาราอย่างนี้คงจะพอเดากันได้นะครับว่ามันเป็นลูกครึ่ง นายปกปฐพีเป็นลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสแม่มันเป็นสาวไทย ส่วนพ่อมันเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่ฝั่งลาว

   วันนี้พวกเรานัดสังสรรค์กันตามปกติครับเพราะนานๆ ครั้งที่ไอ้ปกมันจะกลับมาเมืองไทยทีนานๆ ครั้งของมันก็ตกประมาณสองสามเดือนยิ่งตอนนี้ยิ่งน่าจะนานเข้าไปอีกเพราะเห็นมันบอกว่ามันได้ขึ้นเป็นรองกรรมการผู้จัดการชีวิตขาขึ้นของมันที่มาพร้อมทั้งบ้านทั้งรถคงต้องใช้เวลาทำงานยาวขึ้นยิ่งกว่าสมัยที่มันยังเป็นแค่หัวหน้าฝ่ายที่ควบตำแหน่งลูกชายเจ้าของบริษัท ได้ฟังชีวิตความเป็นอยู่ของมันแล้วแม่งช่างต่างกันกับผมที่ยังคงเป็นแค่ไอ้เจ้าของร้านต้นไม้ธรรมดา
   
         "นั่งด้วยได้ไหมคะ?"

 ที่ส่งเสียงใสๆ ออกมานั่นเป็นนกน้อยที่เข้ามาเตรียมจิกถังข้าวสาร ผมมองหน้ามันแล้วรอการตัดสินใจ ไอ้ปกมันพยักหน้ายิ้มๆ ให้เหล่านกน้อย ก่อนจะขยับถอยเข้ามาเบียดผมเพื่อเปิดทางเผื่อให้สาวๆ สองสามคนนั่นนั่ง สาวๆ น่ารักยิ้มง่ายและดูจะเป็นมิตรพวกเธอบางคนพูดไปยิ้มไปจนดวงตากลมๆ ใสๆ นั้นเป็นประกายระยิบระยับดูน่ารักไปอีกแบบ ผมไม่อยากจะคิดไปไกลว่าที่ฝั่งลาวไอ้ปกมันมีอีหนูช่างฉอเลาะแบบนี้อีกกี่คน ก็นั่นล่ะพ่อเจ้าพระยาท่านช่างหล่อรวยร้ายกาจ แถมยังแฟรนลี่แบบไม่มีลิมิตต่อให้เข้าป่าเข้าเขาไปก็รังแต่จะมีพวกชะนีพวกนางพรายนางฟ้าตามมาเป็นฝูง

   "พี่ชื่ออะไรนะคะ?"

เล่นเอาผมสะดุ้งเมื่อหนึ่งในกลุ่มนกน้อยหันมาถามผมที่บรรจงจิบเหล้ารสขมเข้าปากผมได้แต่หัวเราะและยิ้มกว้างก่อนจะตอบน้องเขาไปว่า 'พี่ป้องครับ' ตลอดระยะเวลาที่นั่งดื่มกันเป็นไอ้ปกที่ชวนสาวๆ คุยส่วนผมได้แต่ตอบคำดื่มคำเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันช่างแตกต่างกันต่างกันเกินไปสำหรับผู้ชายสองคนที่คนหนึ่งดูสมาร์ต ไฮโซ แถมยังวางตัวประดุจพระเอกในนิยาย กับไอ้ผมที่เป็นแค่ผู้ชายกากๆ ฉีกแนวออกไปทางซกมกเซอร์ติส และติดความเรียบง่ายแล้วมันจะไปได้เรื่องอะไรกับใครเขาว่ะ?

   "กูกลับนะปก"

เกือบจะเที่ยงคืนกว่าๆ ที่ผมนั่งหน้าชาเพราะฤทธิ์เหล้า ไม่ได้เซ็งอะไรผมไม่ได้อิจฉาไอ้ปกมันหรอกที่มันนั่งคุยกับสาวๆ ตอนนี้ผมแค่ดูเวลาแล้วรู้สึกไปว่ามันน่าจะได้เวลากลับบ้านไปพักเสียที

พรุ่งนี้ผมมีนัดดูต้นไม้ชุดใหม่ที่จะซื้อเข้ามาในร้านแถมยังจะต้องไปดูบัวขาบที่ช้ำจากการขนส่งเมื่อสองวันก่อนแล้วยังจะราสพ์เบอร์รี่พันธุ์ใหม่ที่นำเข้ามาเพื่อทดลองปลูกอีก ..

   "เดือนหน้า...กูไม่ได้กลับมาเมืองไทยนะป้อง.."

ไอ้ปกมันรั้งผมไว้ด้วยประโยคง่ายๆ กับแววตาแปลกๆ จนผมได้แต่ถอนหายใจ และนั่งลงไปเทเหล้าขวดใหม่ที่มันสั่งมาลงแก้วอีกครั้ง

   “แค่ตีหนึ่งนะ”

**
..
   ตีสองสามสิบห้า พวกเราถูกเตะโด่งออกมาจากร้านที่กำลังจะปิด ตอนนี้ไอ้ปกทรุดลงนั่งกับฟุตบาทมันฉุดผมให้ลงนั่งข้างๆ ก่อนจะพิงหัวมันลงมาข้างๆ ไหล่ผม

   "กู...คงไม่ได้กลับเมืองไทยอีกนาน.."

อยู่ๆ มันก็นั่งพร่ำอะไรออกมาไม่รู้ ส่วนผมก็ได้แต่เงยมองดูฟ้าแล้วล้วงบุหรี่ยับยู่ยี่ในกระเป๋าขึ้นมาสูบ..
 
   "ส่วนกู ก็ยังอยู่ที่เดิม แม่งพรุ่งนี้มีต้นไม้ใหม่มาลงด้วย แต่กูแม่งยังไม่ได้พักเอาแรงเถอะ"

ผมว่าแล้วถือโอกาสดีดหน้าผากมันแรงๆ ไอ้ปกมันร้องโวยวายก่อนจะซบลงมาใหม่ที่ไหล่ข้างเดิม

   "กูหิว..."

   "ผัดมาม่าแดกเป็นไหมล่ะคุณชายปกปฐพี"

   "มึงป้อนกูป่ะล่ะ ถ้ามึงป้อน เหี้ยห่าเหวอะไรกูก็แดกได้ทั้งนั้น"

มันยังคงปากดี และผมก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากกวักมือแล้วตะโกนป้องปากเรียก รถผัดไทยคันหนึ่งจากในจำนวนที่มีอยู่หลายร้าน
 
   "ไอ้เดย์...จะ.. แต่งงานแล้วนะป้อง..."

ปกมันเคี้ยวเส้นมาม่าผัดที่ผมป้อนให้ไปแล้วพูดไป ผมได้แต่ครางรับเออๆ อืมส์ๆ ไปตามเรื่องตามราว..

   "แหวนก็แต่งไปแล้ว ...โฟนก็กำลังจะมีลูกกับเมียญี่ปุ่น ..ส่วนไอ้ชัย...มันได้ลูกแฝดสาม..งานงอกเลยนะแม่ง.."

   "เออ.."

ไม่ได้รับคำไปส่งๆ ผมคิดภาพตามที่ปกมันพูดแล้วยิ่งคิดถึงชะตากรรมของตัวเอง ..

ธุระกิจต้นไม้ที่ผมทำยังไม่แน่ไม่นอน ยอดสั่งจองล่วงหน้าก็ไม่มีที่ทำอยู่นี้ผมดันทุลังทำด้วยกำลังและแรงใจล้วนๆ  ขนาดงานยังโคตรเหนื่อย ไอ้คนอย่างผมเลยไม่มีเวลาเรื่อยเฉื่อยหรือตะลอนๆ ไปเที่ยวจีบสาวหน้าไหนและไอ้ปกก็คงเหมือนกันลูกชายพวกไฮโซอย่างไอ้ปกถึงจะมีสาวๆ ตบเท้ากรูกันเข้ามาหาแต่ว่างานมันก็รัดตัวซะจนไม่ว่างจะคบหาใครจริงๆ จังๆ แบบใครๆ เขาเสียที

   "ป้อง...ป้อนมาม่าหน่อย...หมดแล้ว.."

   "เอออออ...ไอ้คุณชาย อ้าปากเลยสัส!!"

ผมคีบเส้นมาม่ายัดเข้าปากมันแล้วเช็ดคราบน้ำมันที่มุมปากบางๆ นั้นให้อย่างไม่คิดอะไร ไอ้ปกมันมองหน้าผมไปแล้วยิ้มไปเคี้ยวไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วมั้งที่เราสองคนยังนั่งในตำแหน่งเดิม..

   "มึงไม่คิดจะแต่งงานบ้างหรอ?"

   "ก็คิดๆ อยู่.."

   "..."

   "..."

   "ถ้ามึงแต่งแล้ว..มึงยังจะมาดื่มเป็นเพื่อนกูได้ไหม?"

   "ไม่รู้สิบางทีเมียกูอาจขี้หึงมากๆ จนไม่ยอมให้กูออกมานอกบ้านดึกๆ "

มันถามมาผมก็ตอบไปตามใจคิด ไอ้ปกมันมีจิ๊จ๊ะขัดใจเล็กน้อยก่อนจะถือวิสาสะดึงบุหรี่จากปากผมไปสูบอัด แล้วพ่นควันยาว

   "มึงก็บอกเมียมึงสิ..ว่าออกมาดื่มกับเพื่อน.."

   "พอถึงเวลานั้น..มึงก็แค่เพื่อน เพื่อนกับเมีย ผู้ชายดีๆ ที่ไหนเขาเลือกเพื่อนวะครับคุณปก? "

   "แต่นานๆ กูถึงได้กลับมาเมืองไทยนะป้อง"

   "ไม่รู้สิ..ถ้าถึงวันนั้นจริง ...ก็คงแล้วแต่เมียกูมั้ง.."

คำตอบผมเป็นไปตามที่ใจคิด..

ไม่รู้สิ..
ตอนนี้ผมยังไม่มีเมีย ยังไม่มีแฟนด้วยซ้ำ แต่ถ้าเดินต่อไปข้างหน้า ผมอาจจะเจอผู้หญิงสักคน เอาแบบไม่ต้องดีมาก แค่พอยอมเดินร่วมทางโรยกรวดโรยหนามกับผมไปเรื่อยๆ ก็พอ

   "ป้อง.."   

   "หือ?"
.
.
.

   "ถ้างั้นกูขอนะ..มึงไม่ต้องมีเมียได้ไหม? อยู่กับกูไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็พอ...อยู่กับกูอย่างนี้นะป้อง...มีแค่กูกับมึงสองคนก็พอ..นะป้องนะ "

ออฟไลน์ jejiiee

  • cannot open this page
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ความสัมพันธ์ไม่มีชื่อเรียก อ่อนไหวแต่แข็งแกร่ง หอมหวานแต่ขมขื่น
รอนะคะ
 :z13:

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
2/50
..
   “คุณปกคะ สรุปรายงานการประชุมวันนี้ล่ะคะ?!”

   “คุณเป็นเลขาผมไม่ใช่รึไง? ทำแล้วสรุปส่งคณะกรรมการสิครับ คุณปอ!”

ปกหันหลังตะโกนตอบเลขาไปแค่นั้น ก่อนจะหันกลับมากดลิฟต์และเริ่มเร่งฝีเท้าก้าวออกจากตัวตึกให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ไม่ได้สนใจอะไรแม้จะอยู่ในชุดสูทสุดหรู เมื่อการจราจรข้างนอกค่อนข้างจะเป็นที่ไม่น่าพอใจ เจ้าของสูทอย่างปกถึงได้โบกมือเรียกมอไซน์รับจ้างพร้อมบอกพิกัดเป้าหมาย ทิ้งให้คุณปอเลขาสุดสวยที่เพิ่งวิ่งตามมาได้เห็นแค่ขายาวๆ ของท่านรองประธานฯ ก้าวคร่อมขึ้นรถที่เร่งทะยานไปจนแทบไม่เห็นฝุ่น

**
..
   เกือบชั่วโมงกว่าๆ อากาศร้อนอบอ้าวที่เผชิญมาสลายไปแทบจะทันทีที่ขาก้าวเข้ามายังเขตรั้วพุทธรักษาจมูกคมสูดหายใจยาวรับกลิ่นบริสุทธิ์ของต้นไม้นานาพันธุ์ เสียงนกที่แซมเสียงสปริงเกอร์น้ำ ยิ่งเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้จิตใจ แต่ก็ใช่ว่าจะดีเมื่อปกเบ้ปากแทบจะทันทีที่เห็นพวกแถบไลเคนน้อยๆ เป็นรอยครูดยาวเมื่อเขาเผลอก้าวเท้าเหยียบพวกมันแล้วดันลื่นไถล รองเท้าหนังราคาแพงที่สวมอยู่ในตอนนี้เหมือนมันจะทำร้ายพวกเฟิร์น พวกสาหร่ายคลุมพื้นที่เขียวสดได้อย่างร้ายกาจ พาลให้ชายหนุ่มทรุดลงนั่งแล้วแตะเศษซากของอดีตสิ่งมีชีวิตน้อยๆ อย่างลำบากใจ

   “ขอโทษนะครับคุณต้นไม้ ..”

   “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณมนุษย์ ไว้เดี๋ยวน้องเฟิร์นปรับสภาพได้น้องเฟิร์นก็โตขึ้นมาใหม่”

   “อ้าว! ป้อง?! มาตั้งแต่เมื่อไหร่? โผล่มาจากไหนว่ะ?”

ปกหัวใจแทบจะวาย เสียงกระเซ้าที่กระซิบใกล้ๆ มันทำให้ ปกหันควับจนคอเคล็ดและท่าทางแบบนั้นมันทำให้เจ้าของร้านต้นไม้ เลิกคิ้วเข้มๆ ของตัวเองขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือมาดึงรูดเนคไท จากคออีกฝ่ายออก แล้วพยุงตัวให้ลุกขึ้น

   “กูควรถามมึงมากกว่านะไอ้คุณชายปก”

   “ป้อง...”

   “จะกลับมาไม่เห็นบอก แล้วนี้คิดยังไง มาทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพนี้?”

   “...”

   ถอดสูทออกไหม? ”

   “...”

ไม่มีคำตอบอะไรจากนักธุรกิจหนุ่ม เจ้าของร้านต้นไม้เลยได้แต่ถือวิสาสะสอดมือตัวเองกระชากคว้าเอาช่วงเอวของ พ่อคนใบ้ขึ้นมาพาดบ่าแล้วก้มหน้าก้มตาพาเดินอาดๆ ลัดเลาะเข้าไปยังตัวบ้านที่ซ่อนอยู่ในความรื่นรมของแมกไม้  โยนพ่อคนไม่ได้พกปากมาลงบนโซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะขยับเข้ามานั่งใกล้แล้วค่อยๆ ปลดกระดุมเนื้อสูทตัวนั้นออกอย่างเบามือ

   “ลองตัวใหม่ไหม? ”

   “เดี๋ยว! จะทำที่โซฟาเลยเหรอ?!”

   “ไม่ทำที่นี้แล้วจะทำที่ไหน? หรืออยากไปทำในห้อง? ”

ฆ่ากันเลยดีกว่าไหม?

ก็ไอ้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เหยียดกว้าง บวกเสียงกระเซ้ากระซิบใกล้ๆ ซอกคอกับไอ้อาการที่มือไม้ปลาหมึกของคุณป้องมันค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าของตัวเขาเองออกนั่นกำลังจะทำให้ปกหัวใจวาย…

   “เชื่อมือกูเถอะน่าเครียดๆ มาแบบมึงกูบริการให้หายเครียดเลย ”


**
..
   “อ่ะ..อืมส์...”

   “เจ็บไหม?”

คนถามที่อยู่ด้านบนถามมาในตอนที่ใช้แรงกด และค่อยๆ ผ่อนคลายแรงนั้นในช่วงท้ายๆ ก็ในตอนนั้นป้องกะแรงไม่ได้หรอกว่าจะต้องใช้แรงแค่ไหน เมื่อทุกส่วนที่กดลงไปมันแน่นตึงไปหมด

   “หึ..ไม่อ่ะ..อึกกกกกก!...”

   “แล้วแสบหรือเปล่า?”

   “ไม่...อือออ...”

   “งั้นจะทำเบาๆ ให้ก่อนนะ..ถ้ามันคลายแล้วค่อยลงแรงให้”

   “กด..กดลงมาเถอะน่า..”

ปกปฐพีที่ถูกกระทำในตอนนี้เหงื่อกาฬแทบจะไหลพรากเป็นน้ำป่า แต่ก็ไอ้ปากที่ยังกล้าดีนั่นล่ะที่ทำให้ ป้องอยากจะแกล้งให้ถึงที่สุด ขยับท่าขยับทาง ท่อนขาใหญ่ของป้องวางแนบขนาบลงมากับช่วงสะโพกของปก แรงกดที่ร้อนวาบค่อยๆ เพิ่มระดับแต่นานเนิบ ผิวสัมผัสร้อนระอุ ตัดกับแอร์ที่เย็นเฉียบ เรียกเสียงครางของคนที่นอนหลับตาคิ้วขมวดได้อย่างไม่ยากเย็น

   “ไหวนะ..”

   “ก็ไม่ถึงกับตาย”

   “ไอ้นักธุรกิจใหญ่ปากดี..”

   “อื้อออออออออออออออ!! ป้อง เจ็บ!!”

คราวนี้ปกถึงขั้นร้องประท้วงเมื่อสันมือใหญ่มันไม่เพียงแต่จะร้อนวาบ หากแต่ยังมีริมฝีปากเย็นๆ แนบลงมาพร้อมกับแรงกัด ที่งับเข้าช่วงไหล่  เจ็บจนน้ำตาไหล..

และไอ้ที่เจ็บใจกว่านั้นก็เป็นตอนที่ไอ้คุณเพื่อนป้องมันนาบตัวลงมาเช็ดน้ำตาให้อย่างน่าหวาดเสียว..

   “เป็นไง? ดีไหม? ”

คำถามเจ้าของร้านต้นไม้ ยิงมายังพ่อนักธุรกิจใหญ่ที่เริ่มจะเคลิ้มหลับ การทดสอบน้ำมันยานวดที่ทางร้านผสมเองเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม้จะอึนซึนไปด้วยเสียงครางที่พาเอาข้างบ้านจะเข้าใจผิดไปด้วยซักหน่อย  แต่ก็แค่นั้น คนอย่างป้องไม่ได้กลัวอะไร ดีเสียอีกที่แถวๆ บ้านหลังน้อยจะเข้าใจอะไรขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง ร้านต้นไม้จะได้หัวบันไดแห้งจากพวกสาวๆ ที่แวะเวียนเข้ามาดูกล้ามกับแผ่นอกสีน้ำตาลเสียที

   “ก็หายปวดอยู่ ..แต่ที่ต้องน่าปรับปรุงก็เรื่องกลิ่น กลิ่นชะพลูมันรงไป แล้วก็น้ำมันมันร้อนกับเหนอะตัว”

   “เปลี่ยนไม่ได้ว่ะ พวกลูกค้าต่างชาติชอบกลิ่นเครื่องเทศ ”

   “แล้วเรื่องน้ำมันมันเหนียวไปล่ะ จะเปลี่ยนไหม? ”

   “มึงรู้สึกรำคาญหรอ?”

   “ก็มันก็เหนอะๆ ตัว ”

   “งั้นก็ไป..”

   “ไปไหน?”

   “ไปอาบน้ำกะกูไง เดี๋ยวกูถูตัวมึงให้ รับรองหายเหนอะ...”

   “เอาจริงอ่ะ? ล้อเล่นน่าป้อง..”

   “...”

   “เฮ้ย!! ทำอะไร???!!!”

คำถามคราวนี้รู้สึกว่า ปกจะไม่ได้คำตอบ..

เมื่อคุณป้องยกตัวเพื่อนสนิทขึ้นบ่าตนเองอีกครั้งอย่างไม่ยากเย็น ก็แค่นั้น เสียงโวยวายของเพื่อนปกไม่เป็นผล เมื่อไอ้คนแนะนำน้ำมันนวดคราวนี้ดันจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ ปกคิดลึกมโนไกลให้เป็นจริง !!

   “อาบน้ำกันไป!”

   “ป้องงงงงงงง!!!”

   “มี’ไร ?”

   “เพื่อนกันเขาไม่อาบน้ำแก้ผ้าด้วยกันนะ !!!”

   “ก็กูเพื่อนสนิทมากไง”

   “เฮ้ย! ป้อง!!! เพื่อนกันเขาไม่ล้วงไม่ลูบกันนี้!! ”

   “...”

   “ป้องงงงงงง!! มึงกะกูเป็นเพื่อนกันนะ!!! ”

   “แล้วไง?”

   “ก็...เราแค่เพื่อนกัน?”

   “สรุปคือมึงอยากเป็นแค่เพื่อน? คราวก่อนที่มึงขอกู...คือ...มึงอยากมีเพื่อนอยู่ข้างๆ มึง เพื่อนไปไหนมาไหนกับมึง เพื่อนที่ไม่ต้องมีเมียมาแย่งเวลาของมึง?”

   “...”

   “...”

   “ป้อง..”

   “งั้นขอโทษทีว่ะ..ที่กูเสือกคิดกับมึงเกินเพื่อน..”

   “ป้อง?! ป้องจะไปไหน?! ไอ้ปกป้อง!!”

   “กูจะออกไปข้างนอกมึงก็อาบน้ำให้สบายใจไปแล้วกัน...”   

   “ป้อง...”

   “ถ้ามึงอาบน้ำเสร็จแล้วก็บอกกูด้วย เดี๋ยวกูขับรถไปส่งคอนโดฯ ให้  ”

   “ป้อง?”

   “มีแค่กูที่คิดเรื่องบ้าๆ ไปคนเดียว...”

   “ป้อง..คือกู..”

   “...”

   “...”

      “มึงเงียบไปเถอะไม่ต้องพูดห่าอะไรแล้ว..แล้วจากนี้ไป ...กูขอลาออกจากตำแหน่งเพื่อนมึงแล้ว..”

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
3/50
..
   หน้าฝน ...

หน้าฝนหน้าฝนหน้าฝน หน้าฝนหน้าฝนหน้าฝน หน้าฝนหน้าฝนหน้าฝน หน้าฝนหน้าฝนหน้าฝน หน้าฝนหน้าฝนหน้าฝน หน้าฝนหน้าฝนหน้าฝน หน้าฝนหน้าฝนหน้าฝน หน้าฝนหน้าฝนหน้าฝน
.
.
.
   หน้าฝนที่โคตรเหงา บรรยากาศเศร้าๆ ทึมๆ มันมีมาตั้งแต่หน้าประตูบ้านพักที่ฝั่งฟิลิปปินส์ยิงยาวมาจนถึงปากประตูทางออกของสนามบินสุวรรณภูมิ ปกได้แค่ดูข่าวคร่าวๆ ของพายุรามสูร ดูได้แค่นั้นก็หาเรื่องลาประชุมโดยอ้างเรื่องพายุอ้างโดยไม่ดูเลยว่ามันจะมีแรงกระทบมากมายขนาดนั้นได้จริงหรือเปล่า ..

   ไม่รู้สิ..ช่วงนี้จิตใจเหมือนมันจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็ตั้งแต่รุกไปคราวนั้นแล้วดันถอยกลับไปทันตอนไอ้ป้องมันรุกกลับเลยเจอไอ้ป้องไล่กลับมาอย่างไม่ให้ทันได้เตรียมใจ สถานะภาพที่เริ่มจะกลับกลายมันเลยทำให้เดาทางอะไรไม่ได้สักอย่าง ..

   ไม่อยากคิดในแง่ร้าย แต่ไอ้การโทรติดต่อไปแล้วอีกฝ่ายไม่รับ ไม่โทรกลับ ไม่กระทั่งเมล์ มาหา อาการประเภทนี้มันก็คงพอเดาได้มั่งล่ะว่า..
.
.
.
   บางทีทุกอย่างมันอาจไม่มีการสานต่อเพราะโดนตัดจบ..

   อืมส์...แค่คิดแค่นั้นน้ำตาก็พาลจะไหลแล้วอยู่ด้วยกันมาตั้งนานถึงจะไม่ได้ตัวติดกันตลอด แต่ก็ไม่เคยห่างกันนานกว่าสามเดือนสี่เดือนขนาดนี้ ความห่างกับความสัมพันธ์ มันทำให้ปกอดคิดไม่ได้ว่าช่วงเวลาที่ขาดหายไป บางทีอาจมีใครเข้ามาเติมเต็มอีกฝ่ายได้ดีกว่าตัวเขาเองที่ยังไม่เคยย้ำชัด ถึงความสัมพันธ์ ..

   ‘สัสเอ้ย! จะเอายังไงกับกูวะ? ตอนนี้กูเจ็บจี๊ดเลยนะไอ้เหี้ยป้อง...’

**
..
   “กูมีนัดจัดสวน...”

เสียงเจ้าของร้านโพล่งออกมาตั้งแต่ที่ชะงักไปเพราะเห็นแขกตัวขาวอย่างปกโผล่มาแบบไม่ได้นัดหมาย ยังไม่ทันได้นั่งเลยด้วยซ้ำในตอนที่ปกมาถึงร้านต้นไม้ ‘ใบหนา’ แล้วเจ้าของร้านมันพูดจาเหมือนไล่ส่ง ปกนิ่งมองตามมัน เห็นมันลุกลี้ลุกลนทำอะไรอีกสองสามอย่างแล้วก็กลับมายืนขยี้หัวตัวเอง ตรงหน้า..

   “ทำไมมึงไม่บอกก่อนว่าจะมา ?”

   “กูไม่รู้ กูหนีประชุมมา..เพิ่งลงจากสนามบินเมื่อกี้ก็มาหามึงเลย ...แล้ว”

   “ทำเหี้ยอะไรไม่ปรึกษา..”

ประโยคนั้นมันเหมือนป้องจะบ่นกับตัวเอง มากกว่ากรนด่าเพื่อน ..

   “ก็กูไม่รู้ ..แค่..คิดถึงมึงเลยแวบมา”

ไม่รู้หรอกว่าทำผิดอะไร ก็แค่ตอบป้องกลับไป แต่เสียงครางเบามันยิ่งเบาเข้าไปอีกเมื่อหลุดมาพ้นลำคอ..ก็แค่นั้น..

   “ไง? จากฟิลิปปินส์มาไทยเนี้ยนะ? เดี๋ยวมึงก็บินกลับไปฟิลิปปินส์แล้วไปลาวต่อ? ไม่เหนื่อยบ้างหรือว่ะปก? แล้วมึงจะอยู่ไทยกี่วัน?”

   “กูมีนัดเซนสัญญาที่ปักเซ มะรืนนี้ ..”

คำตอบแบบไม่ต้องคิด พาให้อีกคนที่สูงกว่ากุมขมับ ก่อนจะหันไปพ่นน้ำลายใส่ฟ้าว่า

   “สันดาน!!”

**
..
   ลมพายุ ที่ชื่อป้องพัดไปแล้ว ปกได้แต่มองตามท้ายรถกระบะที่ขนใส่ต้นไม้ประเภทไทรแต่งเสียเต็มคัน เดินเข้าตัวบ้านมาได้ ถึงได้คลายความอึดอัดถอดชุดสูทแขวนผนังแล้วทิ้งตัวลงนั่งจุ้มปุกที่โซฟา แล้วความกังวลก็มาเยือนอีกครั้ง ในทันทีที่ได้นั่งมองรอบๆ บ้านที่ว่างเปล่า ..

   เมื่อป้องมันบอกว่าให้ ‘รอ’ ไอ้คำว่ารอของป้อง บางครั้งมันก็ทำให้ปกกลัวขึ้นมาตงิดๆ ‘รอ’ โดยไม่รู้ว่ารออะไร? รอ โดยไม่รู้ว่ารอในความหมายไหน ? รอ โดยไม่กล้าคิดถึงเรื่องอะไรที่ทำให้ ต้อง ‘รอ’
.
.
.
   มันทรมานเหี้ยๆ เลยนะป้อง..มึงรู้ไหม?

**
..
   “ปกมึงอยากแดกอะไรไหม? กูอยู่หน้าปากซอยล่ะ..ป้าๆๆ เอาปีกไก่ย่างด้วย  ปกน้ำจิ้มมึงเอาไม่เผ็ดใช่ป่ะ? ป้า! ไอ้ผักนั้นไม่เอา เพื่อนผมไม่ชอบกลิ่นมัน ..เอ่อออ..ข้าวเปล่าป้า ข้าวเหนียวไม่ต้อง อืมส์ ปลาดุกย่างด้วยสามตัว ..”

   “ป้อง..คือกู..”

   “กูแวะซื้อชาตรามือให้มึงด้วย ..ป้า ไม่เผ็ด!! เออมึงว่าไงนะปก?”

   “ป้อง...คือกู..กูอยู่สนามบินแล้ว..หุ้นส่วนนัดเลื่อนเซนสัญญาเป็นพรุ่งนี้..คือ..กู..”

   “...”

   “กู..ขอ....โทษ...”


   [ตัดสาย....]

**
..

[สองเดือนหลังจากนั้น]

   “ป้อง!!”

   “ไง..?”

ไอ้เจ้าของคำว่า ‘ไง’ เหมือนมันจะไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลยที่มีผู้ชายตัวโตๆ มานั่งคร่อมทับอยู่บนโซฟา

มันกระวนกระวายใจ ปกรู้สึกแค่นั้นก่อนหน้านี้รวมระยะเวลาสองเดือนพอดิพอดีนับตั้งแต่ที่เขาหายไปถึงจะยุ่งๆ อยู่กับการเรียนรู้ตำแหน่งใหม่และการรับรองลูกค้า แต่พอมีเวลาก็คิดถึงแค่เรื่องมัน ความจริงก็พอเข้าใจได้ที่มันโกรธจนตัดสายทิ้งเมื่อคราวก่อน แต่ไอ้ที่ไม่เข้าใจและไม่อยากจะทำความเข้าใจเลย คือตอนนี้ ในเวลานี้!!

   “นี่มึงทำเหี้ยอะไร?!”   

ปกหน้าชา..ชาลงไปเกือบจะถึงปลายเท้า เหี้ยห่าเหวอะไรต่อมิอะไรมันตีกันหมด ไอ้สัสที่คร่อมทับเหี้ยป้องอยู่ ดูแค่หน้าก็รู้ว่าเกย์ ส่วนไอ้เพื่อนเหี้ยที่นอนไม่ทุกข์ไม่ร้อน แต่หน้าเจือๆ สีแดงฝาดนั้น..

   อย่าบอกนะว่าพวกมันไปต่อกันถึงขั้นไหน ขั้นไหนกันแล้ว?!

   “กูไม่อยู่..มึงทำเหี้ยอะไร?”

   “ปลูกต้นไม้ จัดสวน แดกเหล้า..”

   “แล้วไอ้เหี้ยนี้ล่ะ!!??”   
 
คราวนี้คำตวาดของไอ้นักธุรกิจหนุ่มมันมาพร้อมถุงขนมถุงกับข้าว ที่โยนโครมลงมาบนพื้นพาให้ ‘ไอ้เหี้ย’ ที่ปกหมายถึงลุกพรวดออกจากตัวเจ้าของบ้านไปหลบอยู่หลังโซฟาไอ้ท่าทีแบบนั้นของปกมันก็ทำให้ป้องต้องขมวดคิ้ว..

   “เสี้ยนมากนักหรือไง? กูไม่อยู่กูไม่มา มึงถึงได้หา ‘ตัวเหี้ย’ มาระบายอารมณ์?!”

   “พอเถอะปก..ถ้าอารมณ์ไม่ดีมึงก็กลับไป ...กูปวดหัว..”

   “ไอ้เหี้ยป้อง ..มึงไล่กู?!”

   “กูไม่ได้ไล่ ..กูแค่บอกว่าถ้ามึงอารมณ์ไม่ดี มึงก็กลับไป..”

   “มึงเห็นไอ้แต๋วนี้ดีกว่ากู!?”   

   “ปก..”

   “มึงฟัดแม่งแล้วสิ!ไอ้เหี้ย!ตัวผู้ตัวเมียจับได้ไม่มีหางมึงจะฟาดให้หมดเลยหรือไง?!”

   “ปก..นี้ไอ้อิมเพื่อนกู..กูไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น”

   “กูก็เพื่อนมึง!! ”

   “ปก..พอเหอะมึงพูดไม่รู้เรื่องแล้ว ..กลับๆ ไปเถอะกูขอร้อง กูปวดหัว”

   “กูทำมึงปวดหัวบน ส่วนไอ้เหี้ยนั้นทำมึงปวดหัวล่าง? ปากบอกกูว่าเพื่อน เพื่อนเหี้ยอะไรของมึงขึ้นมานาบกันซะขนาดนั้น!! ”

   “ปก..พอ..กูเหนื่อย..”

   “เห็นหน้ากูแล้วมึงเหนื่อย หรือว่าเย่อกับมันแล้วมึงเหนื่อย ..คบกับพวกเกย์มากหรือไง มึงถึงได้กลายเป็นเกย์ตามมัน ไอ้สัส ไหนมึงบอกให้กูรอ กูก็รอแล้วไง ให้กูรอเพื่อที่มึงจะหาไอ้เหี้ยรากตัวไหนมาฟัดขั้นเวลางั้นหรือ?! มึงบอกให้กูรอกูก็รอ ถ้ามึงบอกว่าให้กูพอตั้งแต่ต้น ป่านนี้กูหาเมียหาแม่ของลูกกูไปแล้ว กูไม่น่ามาโลเลกับคนอย่างมึงเลย กูไม่น่ามาหวังกับตัวห่ารากอย่างมึงเลย!!”

   “....”

   “....”

   "ปก..คือ..การที่กูมีเพื่อนเป็นเกย์ มันไม่ได้หมายความว่า กูจะต้องเป็นเกย์นะปก มึงเข้าใจไหมว่าเกย์ไม่เกย์มันอยู่ที่ความรู้สึก มันไม่ใช่โรคติดต่อ ..แล้วการที่กูจะมีใครสักคนมาอยู่ข้างๆ ยามกูเหนื่้อย ..ใครสักคนที่ไม่ใช่คนโลเลอย่างมึง..กูจะคบกับผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้ากูจะรักมันก็ไม่ใช่กูที่เป็นฝ่ายผิด มันก็เหมือนกับมึงถ้ากูบอกให้มึงรอแล้วมึงเหนื่อยมึงก็ไป..ไปเหมือนกับทุกครั้งที่กูกลับมา แล้วมึง..ไม่เคยอยู่ รอกู"

   “...”

   “กูเหนื่อย...เหนื่อยพอๆ กับที่มึงเหนื่อย...แต่ถ้ามึงเหนื่อยมากนัก ...กูก็ไม่ขอให้มึงรอแล้ว..”

   “...”

   “...”

   “มึงจะทิ้งกู?”

   “กูไม่ได้ทิ้ง ..กูแค่บอกว่าถ้ามึงเหนื่อย มึงก็ไป..กูไม่รั้ง ไม่มีสิทธิรั้ง ไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไร กูเป็นแค่เพื่อน ..แค่เพื่อน..มันไม่มีสิทธิ เรียกร้องอะไรได้หรอกนะปก ..”

   “กูไม่ไป..กู ‘รัก’ ของกู กูอยู่ตรงนี้มานาน แล้วจู่ๆ มึงจะให้ไอ้เหี้ยนั่นมาแย่งมึงไปได้ไง?”

   “ไอ้เหี้ยนั่น ที่มึงว่า มันเป็น ‘เพื่อน’ กู”

   “กูก็เพื่อนมึง!!”


   “อิม..มึงกลับไปป่ะ ..ไอ้หอกปก แม่งพูดไม่รู้เรื่องล่ะ ..”

   “อ้าว? แล้วใครจะเช็ดตัวป้องล่ะ? ไหนจะยาที่หมอให้มาอีก ?”

ผู้หวังดีบ่นกระฟัดกระเฟี้ยด จนพาลให้ทั้งคนป่วยและแขกที่เข้ามาใหม่ตะคอกสวนไปพร้อมกัน

   “กูทำเอง!!” / ” ป้องมันทำเองได้!”

เล่นเอาพยาบาลจำเป็นหน้าเจือนลงถนัดตาจนป้องสังเกตได้ถึงได้ยกมือขอโทษแล้วบอกปัดน้ำใจของเพื่อนไปอีกคน

   “ไปเถอะอิม..กูเหนื่อย กูอยากนอนล่ะ...”

**
..

   แล้วฝนก็ตกลงมาอีกครั้ง..วันนี้ร้านแมกไม้ใบหนา ปิดร้านตั้งแต่หัววันแล้ว เพราะเจ้าของร้านนอนซมเพราะพิษไข้ ส่วนเพื่อนเจ้าของร้านที่อยู่ซอยใกล้ๆ โดนไล่กลับบ้านไปแล้วทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายหายาหาหยูกมาถวายถึงที่...

   ส่วนเพื่อน ‘คนพิเศษ’ อีกคนที่ตะโกนเถียงตะโกนด่าเสียจนหมดสภาพพ่อนักธุรกิจเงินล้าน ตอนนี้นอนงอตัวข้างๆ คนป่วย ...

   เสียงฝนหยดลงกระทบใบไม้ ..เสียงกระดิ่งสายลมกรุ้งกริ่ง..เสียงแมลงตีปีกระคนคลอไปกับเสียง สายลมและเพลงเบาๆ หนาวหัวใจขึ้นมานิดๆ จน ทำให้เจ้าของร้าน ลืมตาขึ้นมาควานหาร่างอุ่นๆ ...

   “กูกอดได้ไหม?”

   “...”

คราวนี้พ่อนักธุรกิจใหญ่ทำตัวเป้นเด็กน้อยอ้อนคนนอนป่วย ป้องไม่ได้บอกปฎิเสธหรือเอ่ยรับ เขาแค่ขยับตัวแล้วดึงผ้าห่มเปิดทางให้มีพื้นที่เล็กๆ สำหรับใครอีกคนให้ได้เข้ามาอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกัน

   “จะติดหวัดไหมวะ?”

   “....”

   “ตัวมึงอุ่นจนร้อนเลยป้อง”

   “....”

   “คิดถึงกูป่ะ?”

   “....”

   “มือมึงร้อน..”

   “ปากมาก..นอนไป! ทีหัวใจมึงเต้นแรงกูยังไม่บ่น”

   “..หัวใจกูเต้นแรงพอๆ กับหัวใจมึงล่ะไอ้สัส..”

ปกได้แต่บ่นเบาๆ แต่ก็ไม่วายอดอมยิ้มทดไว้ในใจ แล้วหลับตาลงอีกครั้งเพื่อฟังเสียงหัวใจของคนข้างหลัง นอนกอดกัน นอนใกล้กัน..นอนชิดกัน ป้องกอดคนตัวเย็นไว้หลวมๆ แล้วหอมหัวทุยๆ ที่ดันใส่เจลเสริมหล่อ กับน้ำหอมกลิ่นหรู..‘มี’ แค่นี้ถึงไม่ได้มีชีวิตคู่ แต่ป้องก็ว่าน่าจะ ‘มี’ เพียงพอแล้วมั้ง ..พอเพียงกันแค่สองคนก็พอ...

   “ป้อง...กูขอโทษ..”

   “อืมส์..”   

   “กู...ไม่อยากเป็นเพื่อนมึงแล้วนะ..”

   “...”

   “เป็นอย่างอื่นให้กูได้ไหม?”

   “ยกตัวอย่างเช่น?”

   “เป็น..แฟนกู”

   “ตอนนี้..เป็นเพื่อนไปก่อนเถอะ”

   “อ้าวไอ้สัสนี่!!ทำไมล่ะ?”

   “ตอนนี้ให้เป็นเมียไม่ได้ ...กูไม่ไหว กูเพลีย ...”

   “กูไม่ได้บอกว่าจะเป็นเมีย!!ไอ้เหี้ยป้อง!!”.

   “นอนๆๆๆ กูปวดหัว..อย่าด่าเยอะ ..เดี๋ยวกู..จูบปิดปากเลยสัส!”

ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
ร้อน ปวดหัว อยู่ด้วยกันนะ

มาแล้ว

หายไปนานเลย

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ถ้าไม่ป่วยมีหวังปกได้เป็นเมียจริง ๆแน่

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
4/50
..
   ‘ร่องมรสุม พาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
   ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา ลำปาง ตาก เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู สกลนคร และนครพนม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย
   หลังจาก นั้นในช่วงวันที่ 22 - 24 ส.ค. ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน มีกำลังอ่อนลง แต่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

Cr. ‎ข่าวข้นรับอรุณ‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬

**
..
   ป้องเลื่อนนิ้วดูข่าวไปหยิบของไป อาทิตย์นี้ที่ร้านต้นไม้ไม่ค่อยมีอะไร นอกจากลงต้นไม้ใหม่ให้ทันก่อนหน้าฝนจะจาง ริมฝีปากกว้างเหยียดยิ้ม ลมหายใจยาวพ่นฟู่! รู้สึกดีชะมัดที่ได้ข่าวเรื่องฝน ..

   ท่ามกลาง อากาศร้อนระดับ ‘ฉิบหาย’ ทำให้ข้าวของที่ขนซื้อมาตุนมากมายดูจะไม่เสียเปล่า ช่วงนี้ไม่ค่อยเหงาเพราะมีสาวๆ จากข้างๆ ร้านแวะมาเยี่ยมมามอง อืมส์ รวมไปถึงบรรดาสาวๆ มหาลัยที่แวะมาซื้อต้นลิปติกสีส้มสีแดงที่ใส่ในกระถางแขวนเล็กๆ ด้วยสินะ

ว่าแล้วเสียงกริ่งหน้าร้านก็ดัง พาให้เจ้าของร้านผุดลุกแล้วก้าวขายาวๆ ออกไปต้อนรับแขก แต่คราวนี้อดแปลกใจไม่ได้เพราะไม่ใช่ เด็กสาวที่ไหน เมื่อลูกค้าที่กำลังง่วงอยู่กับการเลือกต้นไม้เป็นชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูท สีเทาอ่อน ..

   “ดูต้นอะไรดีครับ?”

   “แม่ให้มาหาต้นไม้ไปต้อนรับลูกค้า เอาแบบมงคลๆ กล้วยไม้ดีไหม? แต่ร้านนายไม่ชอบเอาพวกกล้วยไม้มาขายนี้สิปัญหา”
คนพูดพูดแล้วหลับตาขมวดคิ้วก่อนจะเดินดุ่มๆ เข้ามาหาเจ้าของร้านแล้วโอบคล้องลำคอไว้หลวมๆ

   “ลูกค้าสำคัญเหรอ? อายุเท่าไหร่?”

   “62 มั้ง ชื่อคุณเมือง เป็นลูกค้าวีไอพีจากเวียดนาม ”

   “อืมส์..”

เจ้าของร้านขานตอบพลางสอดสายตาหาต้นอะไรซักอย่าง ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วเอียงคอให้ลูกค้าคนพิเศษล้วงหาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเหงื่อ จากซอกคอให้ 

   “เป็นพวกชอบต้นไม้เหมือนนายด้วยสิป้อง..พวกรู้จริงนี้ฉันขอบายเลย ไม่รู้จะเอาต้นอะไรไปให้  ”

   “งั้นไปอาบน้ำก่อนไหม?”

   “หือ?”

   “อาบน้ำให้หัวเย็นๆ ก่อนเดี๋ยวถ้ากลับโรงแรมจะห่อต้นไม้ที่อยากได้ไว้ให้ แต่ตอนนี้ไปอาบน้ำทานข้าวก่อน ”

ไม่พูดเปล่านายป้องพ่อค้าเจ้าของร้านแมกไม้ฯ ยกตัวคุณปกขึ้นมาพาดบ่าทั้งอย่างนั้นแล้วก้มหน้าก้มตาเดินเข้าตัวบ้านชั้นใน ไม่ได้สนใจการประท้วงของคนที่กำลังรีบร้อนเลยด้วยซ้ำ

   “ป้อง! กูต้องกลับโรงแรมตอนบ่ายสามนะ แม่รออยู่ นี้บอกแค่ว่าจะมาหาของขวัญให้คุณเมืองเฉยๆ”

   “อืมส์..”

คำตอบมีแค่เสียงครางรับในลำคอ เพราะเจ้าของร้านในตอนนี้เดินลิ่วๆ ไปพลิกป้ายหน้าร้านว่า ‘ปิด’ ก่อนจะวิ่งก้าวกระโดดเข้ามาในบ้านเพื่อจับพ่อนักธุรกิจพันล้านไปทดสอบสปา คลายเครียดตัวใหม่

   “กลิ่นมันเหม็นๆ ฉุนแปลกๆ ”

พูดติงได้แค่นั้นก่อนปกจะปิดปากโบกไม้โบกมือ ขอตัวช่วย ครั้งนี้แย่กว่าทุกครั้ง เมื่อกลิ่นที่สูดเข้าไปนั่นมันทำให้ทั้งเวียนหัวและทั้ง..

   “อ้วกกกกกกกกกกกกกกก...”

   “เฮ้ย! เป็นอะไรมากไหม?”

เจ้าของผลิตภัณฑ์ คราวนี้ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อลูกค้าวีไอพี หน้าซีดปากสั่น แถมตั้งหน้าตั้งตาอ้วกอย่างเอาเป็นเอาตาย

   “วะ..เวียนหัว..อ้วกกกกก”

   “ปก สูดหายใจยาวๆ ”

   “สูดแล้วมันจะสำลัก..”

**
..
   กว่าจะจบคอสฯ น้ำมันหอมระเหยคลายเครียดคอสฯนี้ได้ คราวนี้คุณลูกค้าขาประจำแทบจะอ้วกจนไม่เหลือสภาพความหล่อ ป้องส่ายหน้ากับสภาพของพ่อนักธุรกิจใหญ่ พร้อมยกมือดูนาฬิกา ตอนนี้ปาเข้าไปเกือบบ่ายโมงกว่าแล้ว แต่ว่าลูกค้าอย่างปกยังคงนอนแผ่บนโซฟาอยู่อย่างนั้นจนไม่กล้าเรียก 

   “นอนพักก่อน..”

ก้มลงไปหอมหัวเหม่งของพ่อคนเหม็นสเปรย์ตะไคร้ แล้วใช้ปลายนิ้วขยี้หว่างคิ้วคลึงเบาๆ  จนเจ้าตัวเผลอหลุดครางอย่างกับแมวหง่าว

   “จะออกไปข้างนอก จะกินอะไรไหม? เดี๋ยวจะซื้อมาให้”

   “ไม่เอาเดี๋ยวต้องกลับไปโรงแรมทิ้งแม่แก้วไว้ที่นั้น ไหนจะคุณเมืองอีก ของขวัญยัง... อืมส์...”

ลองเข้าวินาทีนั้นแล้วป้องไม่ได้ปล่อยให้แขกไม่เจียมสังขารสั่งการอะไรไปมากกว่านี้ ริมฝีปากหนาแนบความระอุอุ่นลงบนริมฝีปากชื้น ปลายนิ้วด้านล้วงเข้าใต้ชายเสื้อแล้วลากฝ่ามือมาบดคลึงอยู่ที่ยอดอก บี้เต็มแรงด้วยความมันเขี้ยวจนคนโดนประทุษร้ายครางประท้วงอื้อในลำคอ ก่อนจะยกมือขึ้นมาจับไม่ให้ไอ้บ้าที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายได้ล้วงอะไรลง ลึกไปมากกว่านี้

   “เดี๋ยวกูเอาของไปส่งที่โรงแรมให้มึงนอนพักไปก่อนแล้วจะบอกคุณกิ่งแก้วให้ว่ามึงไม่สบายขอพักที่เมืองไทยอีกสอง สามวัน นานๆ ขอที คุณกิ่งแก้วใจดีไม่ว่าหรอก ”

   “แล้ว..?”

   “แล้วกูจะกลับมาต่อ..อย่าปอดแหกแล้วเสือกหนีกลับโรงแรมล่ะมึง”

**
..
   อดยกนาฬิกาขึ้นมาดูไม่ได้ เมื่อเจ้าของร้านต้นไม้ ดันถูกแขกวีไอพีอย่างคุณเมืองรั้งตัวไว้คุยเรื่องต้นไม้กันได้อย่างออกรส คุยเปล่าไม่ว่าแต่ไอ้การรั้งให้มานั่งทานข้าวไปด้วยเป็นเพื่อนคุยกับคุณ คำนึงลูกชายคุณเมืองไปด้วยนี้สิชักไม่เข้าท่า ถึงแม้จะมีคุณกิ่งแก้วนั้นนั่งอยู่ด้วยก็เถอะ

   “รีบหรือตาป้อง ลุกลี้ลุกลนดูนาฬิกาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว?”

คุณกิ่งแก้วเธอเผลอแซวเอาเพราะเห็นว่าตาป้องเพื่อนสนิทลูกชายตัวดี มีอาการอยู่ไม่สุขมาได้สักพัก ซ้ำยิ่งเวลาผ่านยิ่งจะกระวนกระวายนั่งไม่ติดโต๊ะ

   “เอ่อ..”

   “รีบกลับไปดูเมียรึพ่อหนุ่ม?”

คุณเมืองท่านแซวมาพร้อมๆ กับยกชาขึ้นจิบ พาให้คุณคำนึงเลิกคิ้วมองมายังพ่อค้าต้นไม้ ที่เอาต้นว่านพญานาคราชต้นใหญ่มาส่งให้ถึงโรงแรม

   “คือตอนนี้อ้วกครับ แล้วก็พะอืดพะอม”

   “แพ้ท้อง?”

   “เอ่อ..ก็ไม่เชิงครับ..”

   “งั้นก็เพิ่งจะแพ้ท้องสินะ ..เมียชั้นก็เหมือนกัน ตอนท้องคำนึงนี้แทบจะเหม็นไปทุกสิ่งทุกอย่างว่าบำรุงดีแล้วนะแต่พอคลอดออกมากลับได้ไอ้ลูกชายตัวเท่าเนี้ย  ”

   “พ่อ..”

ว่าแล้วก็คุยกันไปเรื่อย โดยที่มีแต่คุณเมืองท่านว่าไปเป็นคุ้งเป็นแคว ส่วนคุณกิ่งแก้วเธอได้แต่จิบชาแล้วพยักหน้าเข้าใจ ทิ้งให้ป้องได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ไหลตามน้ำไป เอาว่ะ ท้องก็ท้องวะ!!

**
..
   “ตาป้อง..มานี่”

ในตอนก่อนจะกลับ คุณกิ่งแก้วเธอเรียกให้ไปรับของที่ห้องโถง จนใจจะปฏิเสธเมื่อป้องต้องเดินตามท่านลงมาก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปเอารถ รับของมาก็ได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน เมื่อของที่คุณกิ่งแก้วท่านเอามาให้กับมือนั้นเป็นพวกเครื่องบำรุงเสียส่วน มาก

   “นี้ของฉันฝากเอาไว้ให้เมียเธอ..ส่วนนี่ข้าวต้มของทางโรงแรม เป็นสูตรสมุนไพรแก้อาเจียน ”

จะปฏิเสธก็ใช่ที่ สุดท้ายแล้วจำต้องรับพวกข้าวของเหล่านั้นมาจนได้ รับมาไว้ในรถแล้วก็ได้แต่ยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้า เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีกับพวกของบำรุง

**
..
   “อยากกินรังนก..”

   “...”

   “อยากกินข้าวต้ม..”

   “...”

   “อยากกินข้าวต้ม..ป้อง..ข้าวต้ม..ข้าวต้ม..”

เพิ่งจะจอดรถหน้าร้าน ยังไม่ได้ลงจากรถเลยด้วยซ้ำในตอนที่ คุณปกปฐพีที่เคารพท่านมายืนกอดอกรออยู่ที่ประตูบ้านแล้วแหกปากยานคางเป็นประโยค กึ่งคำสั่งว่าอยากทานข้าวต้ม กับรังนก จอดรถเสร็จแล้วถึงได้ หิ้วข้าวของเดินเข้าไปหา ข้าวของยังเต็มมือเต็มไม้ จนไม่ว่างสุดท้ายเลยใช้วงแขนรวบเอาคนช่างสั่งให้มานั่งที่โซฟา ก่อนจะวางข้าวของทั้งหมดลงกับพื้นแล้วขืนตัวขึ้นมานอนทับกับปก

   “หิวข้าว..”

โดนคนป่วยโอบรอบลำคออีกครั้งพร้อมกระซิบสั่ง

   “ให้กินทั้งตัวเลย”

   “ไอ้ทะลึ่ง…เจอแม่กิ่งไหม แม่ว่าไงบ้าง?”

   “แม่ว่าให้รีบกลับมาดูเมีย”   

   “...”

   “ฝากของมาด้วย..”

   “บ้า..มึงไปพูดอะไรกับแม่ ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย?”

   “เปล่า..พูดจริง ..แม่กิ่งให้รีบกลับมาดูเมีย”

   “ป้อง..ไม่ตลกนะ”

   “หายคลื่นไส้รึยัง?”

   “ยัง ..หัวก็ยังปวดๆ อยู่ด้วย ไม่ชอบกลิ่นตะไคร้นั่นเลย..เปลี่ยนเถอะ ”

   “อืมส์”   

   “ไม่คราวนี้ยอมเปลี่ยนง่ายจัง?”

   “ไม่อยากขัดใจเมียไง”

   “ไอ้เหี้ยป้อง..”

   “อยากมีเด็กไว้วิ่งเล่นในร้านกูไหม? ”

   “ไอ้บ้า..หาเมียใหม่ง่ายกว่าไหมมึง”

   “งั้น..มาลองดูไหม?”

   “ลองอะไร?”

   “ลองมาทำลูกกัน...”

   “!@%#$!#@$%#@&!#@&%$%!$#@$@!#!”

   “เริ่มจากตัวหัวบนโซฟานี้ก่อน แล้วค่อยไปเติมแขนขาบนที่นอน ส่วนพวกนิ้วโป้งชี้ก้อยนาง ก็ข้างๆ ระเบียง....หืมส์?”

   “ไอ้เหี้ยป้อง!!”

   “อย่าตะโกนดัง เดี๋ยวจะกระทบกระเทือนลูกในท้อง..”

   "ลูกเชี่ยอะไร เสร็จกันแล้วก็ไปกับท่อระบายน้ำหมดล่ะลูกมึงอะ"

   "งั้นมึงกับกูมาลองทำกันจนกว่ามึงจะท้องดีไหม? ขอเวลาแม่กิ่งไว้ตั้งสามสี่วัน ซั่มกันแม่งทุกวันมันก็ต้องติดกันบ้างล่ะมึง ..อย่ามัวเขิน มาเริ่มกันเลยดีกว่า"

   “ไอ้สัสป้อง!!?? วางกูลงเลยไอ้เหี้ย!!! ”‬

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
5/50
..
   คุณเคยไหมที่จะฝันถึงอนาคต..หรือนิยามของคำว่า 'ครอบครัว' ท่ามกลางคนนับพันล้านมีแค่คนๆ เดียวเท่านั้นล่ะที่จะตื่นมาพร้อมกัน กินข้าวพร้อมกัน อยู่ด้วยกันและหลับลงไปพร้อมๆ กันนอกจากต้นไม้แล้วผมก็ชอบทำอาหารนะ บางทีผมเลยคิดว่า..

   ใครคนนั้นของผมก็เลยคงจะต้องชอบทานอาหารที่ผมทำมันคงแปลกไปซักหน่อยที่ทุกๆ เช้ามีผู้ชายคนหนึ่งตื่นขึ้นมาทำกับข้าวให้คุณคนพิเศษ ผมจะตื่นเช้าในทุกๆ เช้าปลุกคุณด้วยกลิ่นหอมๆ ของข้าวสวยร้อนๆ ยิ้มและมองคุณทานอย่างมีความสุข..
   ผมจะเป็นขุมพลังที่ทำให้คุณผ่านเรื่องเลวร้ายไปได้ในทุกๆ วันเราจะจับมือหลับลงไปพร้อมกันแต่ก่อนคุณจะนอนผมจะถามคุณว่า ..

   ‘พรุ่งนี้จะทานอะไรดีครับ?’

คุณครับ...ผมของคุณยืนอยู่ตรงนี้ ..แล้วคุณของผมอยู่ที่ไหนครับ? เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันสักทีครับ

   'คุณ...'
**
..
   “ไอ้คุณป้องคุณปกอยากกินผัดกะเพราะอร่อยๆ ไม่เผ็ดด้วยนะสาส กลับไปคุณปกต้องได้กินนะมึง นี่กูอยู่ฝรั่งเศษ มาเคลียร์เรื่องเอกสารของพ่อแล้วเดี๋ยวกูจะบินไปลาวต่อ เดือนนี้กูไม่ได้กลับนะ มีนัดรับรองลูกค้า แต่อยากกินผัดกะเพราฝีมือมึงฉิบหายเลย ”

เสียงปลายสายสั่งการณ์มาอย่างกับคนรับเป็นร้านอาหารตามสั่ง ปล่อยให้คนที่เอาโทรศัพท์หนีบกับไหล่ไล่จดรายการแล้วหันไปดูกระดาศโน๊ตจดตารางส่งของให้ลูกค้า

   “มึงไปลาวเมื่อไหร่?. ”

ปากถามไปมือก็ถือปากกาวงบนปฎิทินในทันทีที่ปลายสายแจ้งวัน ซ้ำยังไม่ลืมที่จะโน๊ตเอาไว้ในโทรศัพท์เผื่อลืมอีกขั้น แต่ก็สาระวนทำได้แค่นั้นเมื่อหน้าร้านเริ่มจะมีลูกค้าทยอยเข้ามาแล้ว

   “นอกจากผัดกะเพราแล้วอยากกินอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า?”

   “...”

   “เอาอะไรนะ? กูไม่ได้ยิน”

   “...”

   “ว่าอะไรนะ?...”

   “คิด.....”

   “หือ? คิดอะไรว่ะ? ว่าไง? เร็วๆ ปกลูกค้าเข้าร้านแล้ว”

   “กูคิดถึงมึงไอ้สัสป้อง!!”

ปลายสายตะโกนตอบมาแค่นั้นล่ะก่อนจะตัดสายทิ้ง..ป้องชะงักนิ่งไปพักนึงถึงได้สติหยุดหัวเราะแล้วฉีกยิ้มกว้าง ปลอกปากกาในมือถูกดึงขึ้นออกอีกครั้งแล้วเขียนคำว่า Miss you ทับลงไปในตัวเลขวันที่ที่ปกบอก

   “รอหน่อยนะมึงอยู่แค่ลาว..คนจนๆ อย่างกูยังคงพอหาทางไปหาได้น่า.. ”

ในตอนนั้นป้องคิดแค่ว่าจะหาทางทำอะไรให้ปกมันบ้างก็แค่นั้น เรื่องระยะทางจะว่าเป็นปัญหาก็ไม่เชิง ความจริงก็โทรคุยกันได้ แต่การได้ไปเจอหน้า ได้กอด ได้ใกล้ ยังไงมันก็ดีกว่าอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

**
..
   “เปลี่ยนแพลนอีกแล้วว่ะป้อง..”

   คราวนี้ปลายสายโทรมารายงานเขา นี่ผ่านมาแค่วันสองวันพ่อนักธุรกิจก็ขึ้นเหนือล่องใต้ไปไหนต่อไหน เหนื่อยมากๆ ถึงได้โทรมาบ่นมาบอก ป้องได้แค่รับฟัง จะว่าไปช่วงนี้ที่ร้านต้นไม้ก็ยุ่งๆ อยู่เหมือนกัน ตอนนี้มีคนติดต่อมาให้เขาลองเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ในร้านต้นไม้ เอาพวกของจุ๊กจิ๊กมาลองขายดู เอาชาแปลกๆ มาลองตั้งวาง แล้วก็ขนมพอดีคำที่พอจะขายกล้อมแกล้มไปได้ ไม่รู้ว่าเขาตัดสินใจถูกหรือเปล่า ความจริงร้านต้นไม้ก็พอไปได้เรื่อยๆ แต่ไอ้เรื่อยๆ นี้หมายถึงต้องมีเงินสำลอง เงินงวดก่อนเขาหมดไปกับการลงทุนเรื่องราสพ์เบอร์รี ที่ส่วนใหญ่เสียหายไประหว่างการขนส่ง เงินจมลงไปมากอยู่ แล้วมาคราวนี้อีกที่ คนรู้จักแนะนำเรื่องร้านกาแฟมา เพราะเป็นของคนรู้จักป้องเลยลองเสี่ยงแล้วพอเอาเข้าจริงๆ ไอ้ร้านเล็กๆ อย่างที่เขาว่ามันใช้ทุนเยอะใช่เล่นเลยล่ะช่วงนี้นอกจากวิ่งวุ่นหาเงินแล้วป้องเลยไม่ค่อยได้จะโทรหาคนไกล นอกเสียแต่เวลาที่มันเหนื่อยมากจริงๆ ถึงได้บอกตัวเองให้ชาร์ตแบตหัวใจบ้าง แล้วการได้ยินเสียงปกที่ปลายสายนั่น มันก็ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยไปได้เยอะ

   “จะกลับไทยเมื่อไหร่?”

คำถามนี้เล่นเอาปลายสายเงียบไปนาน นานจนป้องได้ยินเสียงถอนหายใจ

   “ความจริงพรุ่งนี้กูก็อยู่ไทย แต่อยู่ที่จังหวัดเลย พาลูกค้ามารับรอง ข้ามจากฝั่งลาวไปแต่อยู่ได้แค่ครึ่งวันก็กลับแล้ว.. ”

   “ไปไหนกันวะ?”

   “ไปพระธาตุศรีสองรัก เลขาเขาจัดการ นี่ติดต่อให้คนในพื้นที่ประสานงานให้แล้ว แล้วหลังจากนี้ก็มาเลเซีย..จบที่เวียดนามอาทิตย์หน้า”

   “ไม่เลยไปภูเรือด้วยล่ะ ไหนๆก็มาแล้ว”

   “เลขากูเขาแพลนให้แล้ว นี่ไปวันเดียว ข้ามจากฝั่งลาวไป วันพระถ้าอยู่ฝั่งนี้ยังพอหาเรื่องข้ามฝั่งได้อยู่ แล้วที่เหลือก็ให้คนทางฝั่งไทยอำนวยความสะดวก น่าจะอยู่ไม่นาน ร่างกูจะแหลกอยู่แล้ว”

   “ไหวไหมมึง?”

   “ไม่ไหวก็ต้องไหวล่ะ มาถึงขั้นนี้ นี่ถ้าลาออกจากบริษัทได้กูลาออกไปล่ะ ”

   “แต่มึงลาออกจากการเป็นลูกไม่ได้นะปก..”

ป้องหัวเราะให้กับอะไรไม่รู้ ที่ดูจะขวางหนทางการเจอหน้ากันของคนสองคนเสียเหลือเกินแล้วบังเอิญไอ้คนสองคนที่ว่ามันดันเป็นเขากับปกเสียด้วยสิ

   “คิดถึงกูไหมป้อง...”

อีกฟากของสัญญาณโทรศัพท์กรอกคำถามเดิมๆ มายังปลายสาย ป้องเอาโทรศัพท์ของตนออกห่าง เขาสูดหายใจยาวแล้วพ่นลมหายใจคลายจะระบายความคิดถึงที่อัดแน่นออกมา พยายามปรับอารมณ์ตัวเองให้คงที่แล้วตอบกับไปว่า

   “คิดถึงทำไม เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว”

   “เดี๋ยวของมึงนี่...อีกเดือนสองเดือนเหอะสัสป้อง”

ดูท่าว่าจะเริ่มอารมณ์เสีย น้ำเสียงฟึดฟัดเริ่มมาดังรอดเข้ามา ดูท่าว่าจะไม่ดีป้องเลยจะเอ่ยปากขอวางสาย แต่ก็ไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายตัดสายทิ้งไปก่อนเสียดื้อๆ ปล่อยให้อีกฝั่งได้แต่มองหน้าจอโทรศัพท์

   “วันพระ วันพระ วันพระข้ามมาฝั่งไทย..”

ป้องไล่เลื่อนดูปฏิทินที่วงไว้ พอเห็นตัวแดงๆ ใกล้ๆ กันกับวันพระใหญ่ถึงได้ตัดสินใจคว้าเสื้อผ้ามาม้วนๆ โยนใส่กระเป๋าเป้ใบย่อม มองดูนาฬิกาแล้วพยายามทำเวลา

   “จากนี้ไปเลยประมาณ 5-6 ชั่วโมงออกจากนี่เย็นนี้แล้ว..ไปดักเจอพรุ่งนี้คงได้เจอ..โอ้ยยย รอหน่อยนะไอ้ปก”

**
..
คุณเคยไหมที่จะฝันถึงอนาคต ท่ามกลางคนนับพันล้าน มีแค่คนๆ เดียวเท่านั้นล่ะ ที่จะตื่นมาพร้อมกัน กินข้าวพร้อมกัน อยู่ด้วยกันและหลับลงไปพร้อมๆ กัน  โอเคมันอาจจะไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันมันอาจจะมีคนแบบนี้อยู่ในโลกใบนี้ อาจเป็นคนไหนก็ได้ แต่คงไม่ใช่คนที่ชื่อปกปฐพี อุดมคตินั่นมันอาจจะใช้ได้กับทุกคน ยกเว้น ปกปฐพี เวลาของเขาเป็นเงินเป็นทองมากเกินไปกว่าที่จะหยุดและเดินให้ช้าลง

ปกได้อ่านนิตยสารสุขภาพฆ่าเวลาเล่นเมื่อวันก่อน ไอ้พวกชีวิตสโลว์ไลฟ์ หรือที่เขาเคยกระแนะกระแหนว่า ‘ช้าบัดซบ ‘ นั่นไม่เคยได้อยู่ในวงจรชีวิต ณ ตอนนี้ โอเค ถ้าเป็นเมื่อก่อนสมัยตอนเรียนๆ นอกจากเรียนแล้วก็เรียน เขาทำอะไรอีกบ้างนะ

เออ..ก็ไม่แย่ซะทีเดียว ยังพอมีความทรงจำเกี่ยวกับไอ้ป้องนิดหน่อย ปกเป็นเด็กเรียน ส่วน ป้อง หรือเด็กชายป้องนาวี เป็นเด็กกิจกรรม  ปกจำได้ว่าเขาเริ่มที่จะสนิทกับป้องช่วงประมาณมัธยมต้น วันนั้นไอ้บ้านั้นซ้อมกิจกรรมเพลินจนไม่มีรถกลับบ้าน และก็เขาเองที่ชวนมันมาค้างคืนที่บ้านด้วย หลังจากนั้นก็สลับกันไปค้างบ้านของอีกคน บ้านป้องเป็นสวนมะพร้าวเรียกว่าดงเลยจะดีกว่าตอนกลางวันมันช่างน่าตื่นตาที่จะเดินบุกป่าฝ่าสวนมะพร้าวแต่พอตอนกลางคืนเท่านั้นละกลับกลายเป็นหนังคนละม้วน  แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ชอบสวนมะพร้าวนั่นอยู่ดี..

“คุณคำนึงเรียนสายค่ะ”

 สภาพเหตการณ์ปกติตัดภาพอดีตออกไปโดยสิ้นเชิง ปกถอนหายใจเฮือกใหญ่สลัดความคิดเก่าๆ ออกแต่ยังไม่วายเผลอหลุดห้วงความคิดออกมา

   “อยากไปสวนมะพร้าวไอ้ป้องจัง..”

   “คะ?”

   “เปล่าครับคุณปอ ผมเผลอคิดอะไรนิดหน่อย ส่งสายคุณคำนึงมาเลยครับ ใช่เรื่องที่เรานัดกับลูกค้าข้ามไปเที่ยวไทยหรือเปล่า?”

   “ค่ะ เรื่องที่จะข้ามไปเที่ยวชมพระธาตุศรีสองรักค่ะ..”

**
..
   ใช้เวลาจริงๆ ร่วม 5 ชั่วโมงกว่าที่จะเข้าเขตจังหวัดเลย เส้นทางไม่ใช่ยากจนเกินไป ป้องเคยมาแถวนี้แล้วหลายครั้ง เดินทางบ่อยๆ ก็จะเป็นช่วงหน้าหนาวที่เอาไม้หนาวจากแหลางลงไปขายที่ร้าน แต่ไม่มีครั้งไหนที่เดินทางตอนหกโมงเย็นแล้วดันมาถึงเกือบห้าทุ่มกว่าอย่างนี้ ถ้าจะโทษก็คงโทษฟ้าฝนที่ดันเป็นใจตกกระหน่ำจนต้องค่อยๆ ขับมอไซค์ประครองมาตลอดระยะทางให้ได้ใกล้กับพระธาตุศรีสองรักมากที่สุด อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องกระวนกระวายว่าจะตื่นทันปกหรือเปล่า

   เช้านี้ป้องตื่นแต่เช้า อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวแล้วเช็คเอ้าส์ออกจากโรงแรม ข้าวของไม่ได้มีอะไรเยอะเพราะคาดว่าแค่มาเจอหน้าปกแล้วก็จะกลับ แม้ปากจะบอกมันไปว่าเดี๋ยวก็ได้เจอกัน แต่ความคิดถึงมันดันมาย้อนแย้งเอาเข้ากับตัวเขาเอง ความคิดถึงที่แทบจะฆ่ากันให้ตายได้อยู่แล้ว

   วันนี้วันพระ คนมาเที่ยวรู้สึกว่าจะหนาแน่น ยิ่งตอนขึ้นบันได้สูงๆ นั้น ป้องแทบจะไหลไปตามกระแสผู้คน แต่จนแล้วจนรอดก็ขึ้นมาจนได้ ชายหนุ่มเดินตรงดิ่งไปหากระดาษเซียมซี ฆ่าเวลาโดยการอ่านและเลือกกระดาษทุกใบจนสะดุดอยู่กับเซียมซีสองแผ่น ไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำที่จะดึงมันทั้งคู่ออกมา เขาพับม้วนใส่กระเป๋าเสื้อแล้วเดินดูอะไรรอบๆ ลังเลใจว่าจะโทรหาปกดีไหม แต่ก็ไม่กล้าที่จะโทร กลัวตัวเองหลุดปากบอกมันไปว่ามาหามันที่นี่

   เกือบจะเที่ยง ที่รอจนเดินรอบพระธาตุ รอจนต้องมานั่งหลบมุมที่ศาลา รอจนคิดว่าถ้าเป็นคนตอนนี้เขาคงโดนไอ้คนที่ชื่อ ‘ความคิดถึง’ กำลังกระหน่ำแทง แล้วก็ผ่านไป บ่ายกว่าๆ ป้องยกนาฬิกาขึ้นมาดู สายฝนทำทีท่าจะเทลงมาในไม่ช้า ป้องเลยถือโอกาสวิ่งลงจากพระธาตุไปหาซื้อของฝากเท่าที่พอจะนึกได้

จากซุ้มข้างล่างนั้นเขาได้มะพร้าวแก้วมาถุงนึง เลือกสีขาวให้ไอ้คนไม่ค่อยรักสุขภาพ แล้วก็ซื้อน้ำเย็นๆ มาให้ตัวเองด้วยขวดหนึ่ง สายฝนบางๆ เริ่มโปรยเม็ดลงมาในตอนที่เขาก้าวขาขึ้นพระธาตุอีกครั้ง

**
..
   “คุณคำนึง..”

ป้องตัดสินใจเรียกชายหนุ่มที่เดินจ้ำตามกลุ่มคนที่ลงมาจากรถตู้คันใหญ่มากันหลายคนอยู่ แต่ไม่มีสักคนที่เป็นคนที่เขาต้องการ

   “อ้าวคุณป้อง ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี้ครับ”

   “แล้วปกล่ะครับ? เห็นปกบอกว่าจะมาที่นี้..วันนี้..”

‘เดี๋ยวก็คงตามมา’ มันเป็นประโยคที่ป้องหวังแต่ชายหนุ่มเบื้องหน้าเขากลับตอบกลับมาโดยแตกต่างจากประโยคนั้นอย่างสิ้นเชิง

   “บินไปเมเลย์ฯ แล้วครับเมื่อเช้านี้เอง นี่ผมเลยพาพวกลูกค้ามาเอง”

   “...”

ป้องรู้สึกนะว่าตัวเองหน้าชา หัวใจมันเต้นแล้วเหมือนจะหยุดลงเอาดื้อๆ ..

   “นัดคุณปกไว้หรือครับ? ”

คราวนี้ทงฝ่ายนั้นรุกถาม ป้องได้แต่ส่ายหน้าอย่างหมดแรง ก็ไม่ได้นัดหรอกในเมื่อมันเป็นแค่เขาเองต่างหากที่ถือวิสาสะมาดักเจอมันล่วงหน้าอย่างนี้ แบบนี้เลยเป้นทางเขาเองต่างหากที่เซอร์ไพร์สจนสมใจ..

ใจจะขาดเอาเองสิไม่ว่า...

         “แล้วอย่างนี้คุณป้องมีนัดที่ไหนต่อหรือเปล่าครับ? ”

คุณคำนึงเปิดช่องคำถาม ป้องถอนหายใจยาวสงบสติบอกไปตามตรงเลยว่าเขาคงต้องกลับกรุงเทพฯ ถ้าถามว่ารีบร้อนไหม ความคิดคงไม่ แต่ในความเป็นจริงมันใช่เลย เขาทิ้งงานที่ร้านมาเพื่อรอพบหน้าคนที่ไม่ได้แม้แต่มาเหยียบที่นี้ด้วยซ้ำ

   “ทานข้าวด้วยกันสักมื้อไหมครับ?”

   “แล้วพวกลูกค้าล่ะครับ?”

   “ไม่เป็นไรครับ คุณปอเธอก็มาด้วย ผมแค่ตัวแถมแค่นั้นเอง นี่มันก็บ่ายแล้ว ไม่ทราบคุณป้องทานอะไรหรือยังครับ?”

อย่างกับหมอดูเดาใจ และดูท่าจะเป็นหมอดูแม่นๆ เสียด้วย มาถึงชั่วโมงนี้แล้วเขายังไม่ได้ทานอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่าคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าเจอปกจะลองชวนฝ่ายนั้นไปกินข้าวไอ้ที่คิดเอามอไซค์บิดตรงมาจากกรุงเทพฯ ก็เพราะการณ์นี้ล่ะ

   “ทานข้าวด้วยกันนะครับ”

คราวนี้ทางฝ่ายนั้นยึดมือเขาไว้ แล้วพาเดินลงจากบันไดลิ่วๆ ความจริงมันก็หิวอยุ่หรอกนะ แต่มันไม่คิดจะทานอะไรเลยตั้งแต่รู้ว่า ปกไม่ได้มาที่นี้ด้วย ไม่เหมือนที่ตั้งใจไว้สักนิด

**
..
    สุดท้ายก็ได้พาคุณคำนึงไปทานข้าว ฝ่ายนั้นดูตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้ซ้อนมอไซค์คันโต เอ่ยปากชมแทบไม่ขาดจนคล้ายๆ น่ารำคาญ มันก็ไม่ใช่คำนึงหรอกที่น่ารำคาญ แต่มันเพราะความเบื่อหน่ายความไม่ได้ดั่งใจของเขาเองต่างหากที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันน่ารำคาญไปหมด

   “ไว้ไปทานข้าวด้วยกันอีกนะครับ”

รอยยิ้มกับคำพูดของอีกฝ่ายแทบทำเอาเขาสำนึกผิดไม่ทัน เมื่อทางนั้นยื่นไมตรีมาให้แต่เป็นเขาเองต่างหากที่แสดงท่าทีเบื่อหน่ายอาละวาดพาลไปกับคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวด้วย

   “เอาไว้คราวหน้าเจอกันแล้วผมเลี้ยงแล้วกันครับ”

ใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่เห็นทางนั้นยิ้มกว้าง ป้องขอตัวลาแล้วเอื้อมมือไปหยิบหมวกกันน็อคคืนจากอีกฝ่าย ความจริงมันก็ไม่ได้แย่มากมายอะไรถ้าอีกฝ่ายเป็น ‘ไอ้ปก’

   “คุณป้องชอบมะพร้าวแก้วหรือครับ”

   “เออ..เปล่าครับ บังเอิญที่บ้านปลูกมะพร้าวเลยเฉยๆ ”

   “แล้วซื้อมะพร้าวนี้ไปฝากใครหรือครับ?”

อีกครั้งที่หมอดูทักแบบโจ้งๆ กับไอ้ถึงมะพร้าวแก้วที่เขากะซื้อให้ปกกิน ใช่ซื้อให้มันนั่นล่ะถ้ามันมานะ

   “ปกชอบกินมะพร้าวครับ..”

   “เอ๋?”

   “งั้นผมฝากมะพร้าวนี่ให้ปกด้วยแล้วกัน”

เขายื่นถุงมะพร้าวให้คนที่ทำหน้าทำตาแปลกๆ ไอ้ดวงตาพราวระยับคู่นั้นมันส่อความหมายอะไร เขาไม่ได้คิดหรอก ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ ตอนนี้ความสนใจและความเบื่อหน่ายทั้งหมดทั้งมวลมุ่งไปอยู่ที่ ระยะทางประมาณ 5-6 ชั่วโมงที่จะต้องบิดรถกลับคนเดียวมากกว่า..

**
..
   “ซื้อของฝากมาจากตรงไหนคะคุณคำนึง?”

ปอหันไปถามคนที่กอดถุงมะพร้าวแก้วไว้แน่น เขาได้แต่ยิ้มๆ แล้วแกะมะพร้าวเนื้อนุ่มออกมากิน ค่อยๆเคี้ยวไปแล้วยิ้มๆ

   “มีคนซื้อมาให้ผมน่ะครับ แต่ถ้าจะซื้อของฝากลงไปด้านล่างทางด้านซ้ายมือมีครับ แต่ถุงนี้ของผม”

**
..
   กลับมาถึงก็โดนงานยากเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากตัวร้านตั้งแต่เขายังไม่ทันได้จอดมอไซค์ด้วยซ้ำ เพิ่งนึกหงุดหงิดตรงที่ว่าเขาดันปิดโทณศัพท์มือถือของตัวเองไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอเปิดขึ้นมาถึงได้รู้ว่ามีเบอร์โทรเข้าสิบกว่าสาย

   “ครับ ‘ร้านต้นไม้ใบหนา’ ครับ”

   “...”

   “ครับ?”

เล่นเอาแทบหมดแรง เสียงจากปลายสายมีแต่ต่อว่า ในเวลานั้นป้องไม้รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ไม่รู้และแทบจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก เขาได้แต่รับแล้วกล่าวคำขอโทษซ้ำๆ เวียนรับเวียนขอโทษกับคู่สายเกือบสิบสาย

   จนกว่าจะได้มีเวลาหยุดคิดและรวบรวมสติ นาฬิกาเข็มสั้นก็ชี้ไปที่เลข 11 แล้วป้องใช้เวลาตรวจดูรายละเอียดลูกค้าและสินค้า ถึงได้พบว่าทุกรายการมันส่งผ่านจากที่ที่เดียว ของทุกรายการที่จัดส่งไม่เคยมีปัญหา รอบก่อนๆหน้านี้ ต้นไม่ทุกต้นได้รับการแพ็คอย่างดี แต่ทำไมมารอบนี้สินค้าที่ส่งไปให้ลูกค้าทั้งขาจรขาประจำถึงได้เสียหายเกือบหมด เขาเอารายการที่เสียหายออกมาดู มันดึกเกินไปกว่าที่จะโทรหาต้นตอ ซ้ำเขายังไม่รู้ด้วยว่าทางฝ่ายนั้นเล่นอะไรกันแน่ มันเป้นการผิดพลาดจริงๆ หรือเป็นการวางยา..

   ไม่ได้นอน ไม่ได้พัก ป้องพยายามจดรายการลูกค้าที่มีปัญหาทุกเคส ของที่จะต้องส่งเคลมให้ใหม่ทั้งหมดแทบจะไม่ได้มีอยู่ในสต็อคเพราะนี่ถือเป็นแค่เจ้าเดียวที่เขาเชื่อใจและค้าขายกันมา มันเกิดอะไรขึ้นวะ? เขาพยายามตั้งสติแล้วคิด คิดแล้วรอคอยเวลา กระสับกระส่ายจนมันผ่านไปถึงช่วงเช้า

   คำตอบจากทางคู่ค้ายิ่งพาให้เรื่องมันย่ำแย่ เมื่อทางฝ่ายนั้นสวนกลับมาว่า จะเลิกส่งต้นไม้ตัวนี้แล้ว และให้เขาหาคู่ค้าใหม่เอาเอง ป้อง ชะงักไปหนทางเหมือนถูกปิด และด้วยความเกรงใจในช่วงเวลานั้นเขาไม่ได้บอกแม้กระทั้งว่าสินค้าล็อตสุดท้ายเสียหาย จะเอาสินค้าจากที่ไหน?
   จะเอาเงินสำลองจากตรงไหน? แล้วจะตอบลูกค้ายังไงกับการเคลมของที่เขาแทบไม่มีของในสต็อคเลย ทุกอย่างมันดูจะแย่ไปหมด ทุกอย่างมันดูเหมือนจะดูดสูบพลังของชีวิตได้ดีจริงๆ

   แล้วเสียงโทรศัพท์เขาอีกสายก็ดังขึ้น เขาแทบไม่อยากจะขยับตัวไปรับ ฝืนตัวเองอีกพอสมควรกับการคุยสายนี้ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา ป้องได้แต่ฟังปลายสายนิ่งๆ ฟังเหตผลที่คนปลายสายจะยกมาอ้างทั้งร้อยแปดแล้วจากนั้นเขาก็ถอนหายใจพร้อมรับคำขอที่อีกฝ่ายขอมาแบบไม่ให้ปฏิเสธ

   ป้องวางสายแล้วหลับตานิ่ง มันจะมีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกไหม? ร้านกาแฟที่ตกลงร่วมหุ้นกันกับคนรู้จักถูกถอนหุ้น และเพราะความสนิทที่มากเกินไปทำให้เขาไม่ได้คิดที่จะทำสัญญาอะไรให้แน่ชัด ไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าทางนั้นจะโกง ไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าจะถูกทำแบบนี้จากคนสนิท สรุปคือตอนนี้เขาไม่เหลืออะไรเลย ทั้งสินค้าที่จะเข้าร้านและความเชื่อใจจากลูกค้า ทุกอย่างที่เขาสร้างมาเหมือนพังทลายลงไปต่อหน้าต่อตาโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้ เหนื่อยเกินไป เขาถอนหายใจคล้ายกำลังไล่ความผิดพลาด ก่อนจะไขกุญแจเปิดเกะโต๊ะตัวใหญ่ของร้าน

   ในนั้นมีเงินวางกองอยู่ประมาณ สามสี่พัน ถนัดจากนั้นก็กระบอกปืน..   

**

..
   ปกเริ่มที่จะหัวเสีย ตั้งแต่คุยกันครั้งสุดท้ายเขาไม่ได้ติดต่อป้องอีกเลย หมอนั้นไม่ได้รับโทรศัพท์ ไม่แม้แต่จะโทรหา ไม่สิ ความจริงหมอนั่นโทรมา แต่ก็แค่พูดคุยได้สามสี่คำ ไอ้งานผู้บริหารที่จะต้องมารับรองแขกคู่ค้าบ้าๆ นี้มันยุ่งยากกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ เวลาว่างแทบจะไม่มี เวลาส่วนตัวที่เหลือเลยยิ่งน้อยเท่าน้อย

   “หงุดหงิดอะไรครับคุณปก”

เสียงทักทายดังมาจากหน้าประตูห้อง เป็นอันให้เดาได้ว่าปอเลขาสาวของเขาคงไปฟ้องอะไรคณะที่ปรึกษาล่ะมั้ง ไอ้คุณคำนึงนี้ถึงได้ถลามาหาเขาถึงที่ ทั้งๆที่ความจริงมันน่าจะไปสัมมนาที่เซียงไฮ้

   “มีเบอร์คุณป้องไหมครับ?”

อยู่ๆ คำนึงก็พูดขอต่อหน้า พอเห็นว่าปกชะงักไปซ้ำยังมีทีท่าแปลกๆ เขาถึงได้รุกต่อ ด้วยความสะใจอย่างไรไม่รู้ บอกไม่ถูกว่าทำไมตัวเองถึงได้พูดอะไรมากมายเกินกว่าที่จะแค่ขอเบอร์ของคนที่อยากได้

   “ผมจะขอลาพักร้อนน่ะครับ เลยอยากขอเบอร์คุณป้อง เห็นว่าคุณป้องมีสวนมะพร้าวเลยอยากจะลองติดต่อไปขอพักดู”

   ปกได้แต่จ้องหน้ายิ้มๆ ของอีกฝ่าย เขาบอกความรุ้สึกตัวเองไม่ถูก ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเอ่ยปากบอกเบอร์ของป้องไปให้คำนึงในตอนไหน กว่าที่จะรุ้สึกตัวไอ้ปากพาซวยของเขาก็ถามคำนึงออกไปโดยแทบไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ

   “จะลาพักร้อนไปเมื่อไหร่หรือครับ?”
   “คงประมาณอาทิตย์หน้าครับ”

ทางนั้นตอบชัดถ้อยชัดคำ ซ้ำยังฉีกยิ้มเสียจนกว้าง ก่อนจะผิวปากแล้วเปิดประตูห้องเดินออกไปทิ้งให้ปกได้แต่มองตาม เมื่อก่อนแค่เฉยๆ นะ แต่ทำไมไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดหมั้นไส้ไอ้คำนึงนี่ขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล ปกนั่งจ้องไปที่ประตูหมุนปากกาในมือเล่นไปเรื่อยจนตัดสินใจที่จะโทรหาไอ้ตัวต้นเหตุ

   ‘หมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดให้บริการ’

เสียงระบบตอบกลับอัตโนมัติดังสวนขึ้นมาในสาย ปกแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาอ่านทวนเบอร์อยู่สองสามครั้งถึงได้ตัดสินใจโทรอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะติดต่อไปอีกกี่ครั้ง ทุกอย่างก็เหมือนเดิม..

   ‘หมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดให้บริการ’

ไม่ต้องตัดสินใจอะไรแล้ว เขากดโทรศัพท์หาเลขาส่วนตัวให้หยิบเอกสารเข้ามาในห้องก่อนจะสั่งให้คุณปอเธอโทรจองตั๋วเครื่องบินจากหลวงพระบางไปกรุงเทพฯ

   “จองเที่ยวบินวันไหนดีคะคุณปก”

   “ด่วนที่สุด!”

   “คะ?”

**
..

   เอาไงก็เอากันเมื่อไอ้คำว่าด่วนที่สุดของปกมันหมายถึงห้าชั่วโมงก่อนหน้านี้ ปกไม่รู้หรอกว่าเลขาตัวเองต้องยุ่งยากแค่ไหน ในตอนนี้เขารู้แค่มันต้องมีปัญหาอะไรกับไอ้เหี้ยป้องสักอย่าง ไม่งั้นคงไม่มีทางขาดการติดต่อกับมันขนาดนี้  ทั้งที่โทรศัพท์ส่วนตัวทั้งที่ร้าน มันปิดทุกเบอร์ ทุกช่องทางการติดต่อ ไอ้ป้องไม่เคยเป็นอย่างนี้ ครั้งล่าสุดที่เขาจำได้คือช่วงที่มันโทรมาบอกว่าอะไรสักอย่าง แต่มันก็ไม่ได้บ่นหรือปรับทุกข์อะไร มันเรียบง่ายเสียจนเขาไม่เอะใจอะไรเลยสักอย่าง

   “ป้อง!! ป้อง!! ไอ้ป้อง!!”

ปกรั่วกริ่งหน้าร้านอย่างกับคนบ้า เขาพยายามตะโกนเรียกมันที่หน้าร้าน แต่ไร้วี่แววมันไม่เคยปิดร้านแบบนี้ ความจริงนับตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเขาไม่เคยเห็นร้านต้นไม้มันปิดเลยสักครั้งมากกว่า เขาจำได้ว่าทุกครั้งที่มาหามันจะต้องอยู่ ไม่ว่าจะดึกดื่นค่อนคืนแค่ไหน ไอ้ป้องก็ยังจะรอเขาเสมอ..

   “อ้าว..คุณนั่นเอง”

เสียงทักดังมาจากข้างๆ ปกขมวดคิ้วคิดทบทวนความทรงจำตัวเองแต่กลับว่างเปล่า

   “ผมอิมเพื่อนพี่ป้องไง”

   “...”

   “พี่ป้องไม่อยู่หรอกพี่ หายไปหลายวันแล้ว ผมต่านมาก็เห็นร้านแก่ปิด แล้วพออีกวันก็มีรถมาขนของออกไป แต่เอาไปไม่เยอะนะ แต่ผมไม่เห็นพี่ป้องนะตอนเขาขนของกันอะ”

   “รู้ไหมมันไปไหน? ”

   “ไม่รู้พี่ กลับบ้านด่วนมั้ง? หรือไม่ก็กลับบ้านเกิดไปแล้ว”

คนพูดพูดติดตลกไม่คิดอะไร แต่ไอ้คนขี้ห่วงอย่างปกคิดไปไกล ยิ่งคิดยิ่งขมวดคิ้วแน่น เขามองขึ้นไปยังปลายรั้วสูงชั่งใจอยู่สักพักถึงได้พับแขนเสื้อเชิ้ตที่ใส่ทั้งสองข้าง

   “...”

   “เฮ้ย! พี่ทำอะไร?”

อิมตะโกนลั่นที่เห็นปกตัดสินใจกระโดดเกาะรั้วสูงแล้วปีนข้ามไปยังรั้วเหล็กอีกฝาก

   “ขอกูเข้าไปดูให้เห็นกับตาหน่อยว่ามันยังไม่ตาย”

พูดได้นั้นแล้วหันหลังวิ่งเข้าไปในร้าน พวกต้นไม้ใบหญ้าที่เคยเขียวครึ้ม พอไอ้ป้องไม่อยู่สักคน ต้นไม้พวกนั้นมันเหี่ยวแห้งเฉาลงจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม

   “มึงอยู่ไหนวะป้อง?”

เขาลองค้นแล้วหาแล้ว แต่ทุกอย่างมันก็ว่างเปล่า ไม่มีอะไรหลงเหลือสักอย่างว่าคนที่เคยอยู่ยังที่นี้กลับมา อาทิตย์หรือสองอาทิตย์? เขาแค้นคำตอบออกมาจากสมองไม่ได้เลยว่า ป้อง หายไปในตอนไหน?
**
..
   “ว่าไงพี่เจอพี่ป้องไหม?”

   “...”

   “แล้วจะเอาไงล่ะพี่?”

   “ถ้าไม่ใช่ไอ้ป้อง กูก็ไม่เอาใครหน้าไหนทั้งนั้น...”

   “....”

คราวนี้เขาบ่นกับตัวเองพยายามตั้งสติแล้วสูดลมหายใจยาว ปลายนิ้วเรียวเกี่ยวดึงเนคไทที่ไอ้ห่ารากป้องซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดมาขยุมใส่กระเป๋ากางเกง นาทีนี้แล้วถึงไหนก็ถึงกันวะ อีกครั้งที่เขาเค้นความทรงจำให้หัวออกมาหาสถานที่ ที่คิดว่าเป็นที่สุด
ท้ายที่มันจะอยู่

   “ไปไหนครับ?”

   “ผมเหมาไปดำเนินไปไหม?”

   “ส่งรถครับ”

   “...”

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
6/50
..
   “พี่ครับ..ขอโทษครับรู้จักบ้านคนชื่อป้อง หรือเปล่าครับ? “

   “...”

ให้ตายเหอะนี้ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ห่าป้อง ปกก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้ามาตามหาใครในดงสวนมะพร้าวอย่างนี้ สองขานี้แทบไม่มีแรงการเดินทางเข้าสวนมะพร้าวที่ทางเท้าเป็นร่องสวนมันไม่ใช่และไม่สำควรสำหรับรองเท้าหนังลูกวัว ไม่ว่าจะวัวเจ็ดหรือแปดเดือนมันก็ไม่สมควรทั้งนั้น ตอนนี้ปกแทบอยากจะถอดรองเท้าเขวี้ยงทิ้งสักแต่ว่าเขายังคิดภาพตอนตัวเองเดินเท้าเปล่าไม่ได้แค่นั้นเอง

เสียค่าแท็กซี่ไปเกือบพัน กว่าจะมาถึงปากทางเข้าสวน แต่ก็เข้าได้แค่นั้น แม้เขาจะเสนอให้พี่คนขับอีกพันห้าแต่ก็ใช่ว่าคนขับจะยอมบุกเข้าป่ามะพร้าวตามใจเขาเสียเมื่อไหร่ สำหรับบ้านไอ้ป้อง เขาจำได้ว่ามันมีทางเข้าเป้นสวนมะพร้าว แต่นั้นมันก็ 8-9 ปีมาแล้ว มาถึงตอนนี้ปกคิดไม่ถึงจริงๆว่าไอ้ดงสวนมะพร้าวที่ว่ามันจะยาวสุดลูกหูลูกตาและปลูกเหมือนๆ กันไปหมด เหมือนกันจนปกต้องตัดสินใจเดินออกจากทางสวนวกมาเส้นที่ติดกับถนนใหญ่เพื่อได้มีโอกาสถามทางจากคนที่ผ่านมาผ่านไปได้บ้าง

“พี่ครับ..ขอโทษครับรู้จักบ้านคนชื่อป้อง หรือเปล่าครับ? “

นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เขาเอ่ยปากถามคนที่ผ่านทางมา ฟ้าในตอนนี้เริ่มจะรำไร ทางเดินถึงแม้จะเลียบติดถนนใหญ่แต่สองฟากฝั่งที่เต็มไปด้วยทิวมะพร้าวมันไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นเลย แสงฟ้าเหมือนจะดับลงเร็วกว่าเขตตัวเมืองด้วยซ้ำ

   “มาจากไหนล่ะไอ้หนุ่ม? มาเสียมืดๆ ค่ำๆ ”

   “มาจากกรุงเทพฯ ครับ มาหาเพื่อนแต่จำทางเข้าไม่ได้ครับ”

ความจริงอยากจะตอบไปใจจะขาดว่า บินตรงมาจากหลวงพระบางแต่กลัวว่าถ้าตอบแบบนั้นคนถามเขาจะรั้งแต่หาว่ากวนตีนเสียมากกว่า ก็ใครมันจะไปเชื่อล่ะว่าด้วยความเป็นห่วงจะมีไอ้บ้าตีตั๋วเครื่องบิน บินข้ามประเทศมาหาไอ้คนที่ไร้การติดต่ออย่างนี้

   “เพื่อนชื่ออะไรนะ? ”

   “ชื่อป้องครับ ป้องนาวี ไพศาล”

   “เออ..บ้านไพศาล”

   “ลุงพอรู้จักหรือครับ?”

ปกแทบอยากจะกระโดดกอดลุงขาก้วย ดีใจจนแทบหมดแรง หัวใจมันเต้นแรงกว่าปกติ เต้นแรงจนไม่น่าเชื่อว่าเขายังหายใจได้ ไม่คิดว่าการด้นสดงมหาเข็มในดงมะพร้าวจะประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

   “ถ้าพวกบ้านไพศาล ตอนนี้น่าจะไม่อยู่บ้านกันนะ”

   “อ้าว..ไปไหนกันหรือครับ?”

ความหวังที่เหมือนถูกจุดติดจู่ๆ ก็เหมือนจะดับ ปกได้แต่เงียบฟัง รอฟังว่ามันจะหมู่หรือจ่า นี่เขาตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่ดั้นด้นมาหาไอ้ป้องมันอย่างนี้

   “ถ้าไอ้ป้องเดียวกัน ไอ้ป้องบ้านบ้านไพศาลน่ะ ตอนนี้ก็น่าจะอยู่วัด”

   “บวชหรือครับ?”

ปกแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ไอ้ป้องมันบวช คนอย่างไอ้ป้องเนี้ยนะบวช?!  คิดภาพตามแล้วปกก็ได้แต่กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ จนลุงแกเฉลยคำตอบออกมาช้าๆ

   “ไม่ใช่งานบวชหรอก..งานศพ”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
เครียสสสสสสสส
พี่ป้อง หายไปไหน

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
ใครว่างรบกวนทานตรวจคำผิดให้ทีนะ กราบบบ :hao5:

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
7/50
..
   หัวหูมันอื้อไปหมด ในช่วงเวลานั้นปกคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง คิดไม่ออกแม้กระทั้งตัวเขาเองพยักหน้ารับในตอนที่ลุงคนนั้นดึงมือเขาขึ้นรถสองแถวเที่ยวสุดท้ายไปงานศพที่ว่า’ เรื่องตลก’ นี่มันเรื่องตลกชัดๆ คนอย่างไอ้ป้องเนี้ยนะจะทิ้งเขาไปง่ายๆ แบบนี้ บนรถสองแถวที่วิ่งไปอย่างไม่เร่งรีบปกนั่งนิ่ง สมองมันตีบตันจนคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง คิดอะไรไม่ได้จริงๆ ไม่เคยได้คิดเลยด้วยซ้ำว่ามันจะจบแบบนี้

   พอมาถึงที่วัดสองขามันก็แทบจะไม่มีแรง ไหนไอ้ห่าที่บอกว่าคิดกับเขาเกินกว่าเพื่อน ไหนไอ้ห่าที่โวยวายหัวเสียเพราะเขาแอบหนีมันกลับไปทำงาน ไหนไอ้ห่ารากที่..

เขาร้องขอให้มัน..อยู่กับเขาไปตลอด..แค่สองคน สองคน อยู่ด้วยกันแค่สองคน คำของ่ายๆ ทำไมมันทำให้เขาไม่ได้?

   “อยู่นั้นไง”

ลุงแกสะกิดให้ปกหันไปมองบนศาลา ใกล้ๆ กับแสงสว่างกระพริบถี่ของไฟประดับไอ้ป้องมันอยู่ตรงนั้น

   “อย่าลืมไปไหว้ศพก่อนละ”

ลุงแกหันมาบอกเตือนแต่ไม่ทัน ไอ้หนุ่มชาวกรุงที่วิ่งปรี่เข้าไปในงาน

   “ป้อง...”

   “หา?! มึงมาได้ไงเนี้ย”

   “ไอ้เหี้ย..ทิ้งกู”

‘ปึก!!’

หมัดฮุกขวาของปกลุนเข้าจังๆ ที่ท้องน้อยป้อง จุกจนแทบทรุดแต่ไม่ได้ทรุดลงไปเพราะไอ้เจ้าของหมัดหนักๆ มันรวบตัวเขาเข้ามากอดไว้แล้วร้องไห้โฮ น้ำตาลูกผู้ชายมันแทนทุกอย่าง แทนความห่วงใย แทนความโล่งใจ แทนความรู้สึกมากมายที่พูดออกมาไม่ได้ทั้งหมด

**
..
   
 มอไซค์คันโตค่อยๆ เบาเครื่อง ลดความเร็วลงแล้วระหว่างทางที่รถเคลื่อนผ่านไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ไม่มีแม้กระทั่งการเอ่ยถึงจุดหมายปลายทาง ป้องยังคงขับรถมอไซค์ต่อไปเรื่อยๆ ขับไปจนเลยเขตแนวถนนใหญ่ มอไซค์คันนั้นถึงได้ วิ่งลัดเลาะเข้าไปยังเส้นทางเลียบลำน้ำสายเล็กๆ 

   สายลมหนาวที่พัดมาบางๆ  ทำให้ปกที่เป็นคนซ้อนต้องกระชับแขนให้ตัวเองรัดแน่นเข้ากับแผ่นหลังเบื้องหน้า แม้ตัวเองจะเหนื่อยจนเผลอหลับซบไปกับแผ่นหลังกว้างๆ  วันนี้เหนื่อยเกินไป เหนื่อยจนถ้าสามารถทิ้งตัวลงบนที่นอนได้เขาคงหลับเสียในทันที ในตอนที่ฟังพระสวดก็เผลอหลับไปแล้วรอบนึง และนี่ก็ยังไม่ตื่นเต็มที ขนาดว่าลงจากศาลา แล้วเจอป้อง พาเดินมาขึ้นเบาะมอไซค์ ปกเองยังไม่อยากที่จะลืมตา ท่ามกลางความมืดและความเงียบ ป้องได้แต่อมยิ้มอย่างพอใจ มือข้างหนึ่งผ่อนคันเร่งเบาๆ แต่มืออีกข้างยังจับกุมอยู่ที่มือคนซ้อน กุมแน่นจนเหมือนว่า สัมผัสอุ่นที่ผ่านไปยังมือนั้นมันกำลังบอกเล่าทุกเรื่องราวของความรู้สึก...

   บนสันเขื่อนริมคลอง ไฟรายทางที่เคยส่องสว่างมีแค่บางจุด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังพอที่จะสาดส่องลงไปยังผิวน้ำเบื้องล่าง สายลมเย็นพัดผ่านลำน้ำมากระทบร่างจนปกเพิ่งคิดได้ว่าค่ำคืนของใครบางคนบางทีมันก็หนาวเสียยิ่งกว่าการอยู่โย่งทำงานมืดๆ ค่ำๆ แล้วนั่งแชร์แอร์ฉ่ำๆ  ในตัวตึก

   เขาเริ่มรู้สึกหนาวๆ และครั่นตัวแต่ก็ได้แค่กอดอกตัวเองไม่ให้สายลมไล้ผิวมากไปกว่านี้ตลอดการเดินเลียบริมคลองป้องไม่ได้พูดอะไรนอกจากดึงมือเขาให้เดินไปนั่งด้วยกันที่ริมน้ำทุกอย่างอย่างราบเรียบและเงียบงันเหลือแต่เพียงความสงบกับเสียงจิ้งหรีดหรือไม่ก็แมลงตัวเล็กๆ ที่ขยันกันแผดเสียงส่งข้อความพวกเขานั่งกันอยู่อย่างนั้นจนมีใครคนหนึ่งเริ่มที่จะเอนตัวนอนแนบลงไปกับพื้นหญ้าพาให้อีกคนทำตามแบบเดียวกันและก็คงเป็นใครสักคนในนั้นที่เอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายจับไว้แน่นจนไออุ่นของมือกลายเป็นไอชื้นของเหงื่อระอุ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครที่จะสลัดมือของอีกฝ่ายออกกลิ่นสายลมระคนกับกลิ่นหญ้าอ่อนทุกอย่างมันพาลจะพาให้เปลือกตาเริ่มหนัก

   ปกเผลอหลับไปจริงๆ เขามารู้สึกตัวอีกทีเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมามองไปทางไหนมันก็มืดไปหมด แสงไฟลางๆ ที่ส่องมาจากถนนใหญ่ส่องมาได้แค่เงาสลัวๆ แถมกอหญ้ายังสูงเกือบข้อเข่า แวบแรกเขาสะดุ้งตกใจ เกือบจะโพลงลุกขึ้นมา แต่มีมือที่จับไว้คอยดึงให้กลับลงมานอนตามเดิม ป้องอยู่ข้างๆ อยู่ข้างๆ ตลอดเวลาที่เขาเผลอหลับลึก

   “มึงจำตอนเด็กๆ ได้ไหมปก ตอนเรียนมึงรบเร้าให้กูพาไปดูท้องฟ้าจำลอง ส่วนกูก็ผลัดวันประกันพรุ่งไปทุกรอบ”

   “จำได้มึงเบี้ยวนัดกู....”

   “มึงอยากเห็นท้องฟ้าจำลองมากขนาดนั้นเลยหรือวะ? ทำไมล่ะ?”

   “ก็มันเป็นที่ที่รวบรวมดาวไว้เยอะที่สุดไง มึงแม่งไม่เข้าใจกูเลย”

   “ปก..”

   “....”

   “ถ้าอีแค่ดวงดาวเยอะๆ กูหาให้มึงได้ ไม่จำเป็นต้องไปถึงท้องห้าจำลองหรอก..มึงลองมองดีๆ ”

ป้องบอกแค่นั้นแล้วชูมือใหญ่ที่จับกันไว้ยกสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า..ดวงดาวมากมายละลานตา ดวงดาวมากมาย เหมือนไฟหลากสีที่แข่งกันส่องประกายตัดกับความมืดมิดของท้องฟ้ายามค่ำคืน ซ้ำยังมีหิ้งห้อยสามสี่ตัวที่ลอยอวดแสงสีเขียวเหลืองเรืองๆ อยู่บนยอดหญ้าเหนือหัว

   "ถ้าที่ท้องฟ้าจำลองเป็นของมึงที่นี่ก็เป็นของกู..กูให้มึงปก..จะเอาดาวสักกี่ดวงมึงเลือกเอาเลย”

   “กูรักมึงจัง“

   “กูรู้ไอ้สัส..ถ้ามึงไม่รักกูจริงแม่งไม่เสือกตามมาถึงบ้านหรอก”

   “แล้วทำไมถึงหนีกูล่ะ?”

   “....”

**
..
   “แล้วมึงจะเอายังไงต่อไป?”

หลังจากที่เงียบฟังมานานปกแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าระยะเวลาเพียงแค่สองสามสัปดาห์ไอ้คนข้างๆ เขาเจอเรื่องแย่ๆ อะไรได้มากมายขนาดนี้ อย่างกับนิยายเหมือนใครสักคนเขียนบทให้มันแย่ยิ่งกว่าแย่..ดีนะที่เป็นมันเขาเองไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเป็นเขา ในตอนนี้ตัวเขาเองจะเป็นยังไง?

   “ร้านต้นไม้ที่กรุงเทพฯ คงทิ้งไว้แบบนั้นเพราะยังไงก็จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าไปแล้ว ส่วนตอนนี้พอจัดการงานศพพ่อเสร็จกูก็คงต้องกลับมาอยู่ที่สวนถาวร ถ้าไม่อยู่ก็คงต้องปล่อยเซ็งแต่ถ้าทำแบบนั้น กูก็ทำใจไม่ได้หรอก กูโตที่บ้านหลังนี้ถ้าให้คนอื่นมาอยู่มายุ่งย่ามมันก็ไม่ใช่เรื่อง”

   “แล้วเรื่องลูกค้าที่มีปัญหาล่ะ”

   “อันนั้นกูทำอะไรไม่ได้จริงๆ ของเคลมเขาก็ไม่มี กูมีให้ได้แต่คำขอโทษ ไม่คิดนี่หว่าว่าจะโดนแทงข้างหลังแบบนี้ นั้นคนสนิทเลยนะทั้งๆ ที่เมื่อก่อนปรึกษาหารือกันได้แต่พอมาตอนนี้หน้ากูเขายังไม่อยากมอง ฮา..ยิ่งตอนนี้แม่งทางนั้นเขาเปิดร้านแข่งกับกูล่ะ ซ้ำร้ายกว่านั้นอีกน่ะแม่งเสือกขายตัดราคาเดิมที่ให้กูด้วยจริงอย่างที่มึงเคยว่านั้นล่ะปกพอเข้ามาเป็นธุรกิจ ต่อให้เป็นพี่นอกก็ฆ่ากันเอง ..ปก..กูเหนื่อยกูไม่อยากอยู่ในสังคมแบบนั้น ไม่อยากดิ้นรน ไม่อยากเป็นพวกเห็นแก่เงินแล้วทรยศหักหลังใคร ”

   “...”

   “มึงคิดว่าไง? ”

คราวนี้ปกรู้สึกได้ชัดถึงแรงมือที่บีบมือเขาแน่น ดวงดาวเบื้องบนยังคงเต็มท้องฟ้า มีแค่เสียงพวกแมลงตัวเล็กตัวน้อยเท่านั้นล่ะที่เบาลง..

   “กูพอช่วยอะไรมึงได้บ้างล่ะ? ใช้เงินอีกเยอะไหมถ้ามึงจะย้ายกลับมาทำร้านต้นไม้ที่สวนนี้.. ”

   “...”

   “ถ้าเรื่องเงินกูพอช่วยได้”

   “สังเวชกูหรือ?”

น้ำเสียงที่ถามดูเหมือนไม่ค่อยจริงจังแต่ถึงอย่างนั้นป้องก็คลายมือที่เคยกุมออก เหงื่อชื้นพอโดนสัมผัสของลมมันก็เย็นวาบ ปกไม่รู้จริงๆ ว่าเขาพูดหรือทำอะไรผิด เพราะอีกฝ่ายเงียบไปแล้วผลุดลุกขึ้นอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง

   “กลับกันเถอะ”

   “ป้องกูไม่ได้ว่ามึงเรื่องเงินนะ กูไม่ได้ดูถูกมึงนะ กูแค่...อยากช่วยจริงๆ”

   “กูก็ไม่ได้ว่าอะไร”

ครั้งนี้ป้องลุกขึ้นปัดเศษดินเศษหญ้าที่ติดตัวก่อนจะยื่นมือไปพยุงให้อีกคนที่กึ่งลุกกึ่งนั่งได้ยืนขึ้นมาคู่กัน ปกลังเลแต่ในท้ายที่สุดก็ยอมจับมือที่ยื่นให้พยุงดึงให้ตัวเองลุกขึ้นมาได้

   “เรื่องเงินมึงยังไม่ต้อง ไว้เดือดร้อนจนกูไม่ไหวจริงๆ แล้วกูจะบอก..ในตอนนี้ทำเรื่องที่มึงทำได้ดีกว่า”

   “อะไรวะ?”

   “กอดกูทีสิ...”

   “เอ๋?”

ไม่ทันได้สงสัยอะไรมากไปกว่านั้น เมื่อวงแขนของคนที่ปกเคยกุมมือโอบรัดแน่นเข้ากับช่วงลำตัว มันแน่นจนแทบหายใจติดขัดแน่นจนเหมือนจะดูดสูบไปเป็นพลังให้กับชีวิต ทุกอย่างมันต้องผ่านไปได้แน่ๆ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ปัญหาที่โถมเข้ามามันจะเล่นงานให้เขาแทบรวนไปเลยก็เถอะ

   “เป็นแบตฯให้กูทีสิปก...แค่เห็นมึงกูมึงรู้ไหมว่ากูดีขึ้นกว่าเดิมแค่ไหน”

   “เว่อร์น่ามึงกูอึดอัด”

ปากก็บ่นไปอย่างนั้นล่ะ พอเอาเข้าจริงๆ ปกก็กอดตอบ กอดให้ยิ่งแน่นกว่าที่ป้องกอดมาเสียอีกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ไอ้ป้องยังคงเป็นไอ้ป้อง เป็นไอ้คนเรียบง่ายไม่ค่อยคิดอะไรมากมายเหมือนคนอื่น เพราะถ้าขืนมันคิดมากจริงๆ ปกเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสถานการณ์อย่างนี้เขายังจะได้ยืนกอดมันอยู่ไหมถ้ามันไม่ใช่ไอ้ป้องคนเดิม

   “จำวันนี้ไว้นะมึง..จำว่ามึงเป็นขุมพลังที่ทำให้กูผ่านเรื่องเลวร้ายที่อาจยิ่งร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ..แล้วถ้ามึงมีเรื่องแย่ๆ อะไรเข้ามา มึงก็เหมือนกันกูจะยังอยู่ตรงนี้ ยืนรอมึงที่บ้านสวนนี่ล่ะ มีเรื่องห่าอะไรก็มา กลับมากอดกูชาร์ตพลังแล้วไปสู้ใหม่”

   “อืมส์”

   “กลับกันได้ยัง?”

   “กูยังไม่ง่วงเลย กูอยากดูดาวต่อ”

   “จะง่วงอะไรล่ะก็แม่งเล่นหลับไปรอบนึงแล้วนี่หว่า”

   “กูอยากดูดาว ดาวที่อื่นไม่สวยเหมือนที่นี่”

   “...”

   ‘เพราะนอกจากดาวแล้วที่นี้มีมึง’

ปกไม่ได้พูดประโยคนั้นออกไป ส่วนป้องเองก็ไม่ได้ดึงดันอะไรทั้งนั้นเขาได้แต่จ้องหน้าคนอยากดูดาวนี่มันเกือบจะเที่ยงคืนแล้วไอ้ที่ยังเอ้อระเหยลอยชายอยู่กันที่นี่มันก็ไม่สมควรแก่เวลาน้ำค้างเริ่มลงแรงเกินไปกว่าคำว่าพอดี แล้วสำหรับเขาไอ้คุณชายปกมันก็ไม่ใช่ไอ้บ้านนอกคอกนาที่จะทนทายาทอย่างใครคนอื่นเขา กระหม่อมมันบางจะตาย เขามองหน้ามันแล้วถอนหายใจยาว ตัดสินใจถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกแล้วฉุดมือมันให้ลงมานั่งข้างๆ ก่อนจะเอาเสื้อเชิ้ตที่ถอดออกมานั้นคลุมทั้งคนที่เขาโอบไว้หลวมๆ และตัวเอง

   “สมใจไหมมึงนั่งกันยันเช้าเลยเป็นไง”

   “มีมึงอยู่ด้วย ยันเช้ากูก็นั่งได้นะ”

   “ถ้ามึงจะนั่งตรงนี้ยันเช้า มึงย้ายมานั่งในใจกูดีกว่ามั้ง”

   “...”

   “...”

   “เสี่ยวเหี้ยๆ เลยนะไอ้ที่มึงพูดมา”

ปกหัวเราะกลบเกลื่อน หัวเราะกลบเสียงหัวใจที่กระตุกเต้น อยากจะขำเหมือนทุกทีแต่ความเงียบรอบข้างที่เป็นเกราะล้อมมันกลับทำให้ทุกอย่างที่น่าจะเป็นเรื่องตลกปกฮา กลับกลายเป็นเรื่องจริงจังขึ้นมาได้ ดีนะที่แสงสว่างมันไม่ค่อยมี เพราะถ้ามีในตอนนี้ไอ้ป้องมันคงต้องรู้แน่ๆ ว่าหน้าเขาเริ่มจะเรื่อสีแค่ไหนกับคำพูดของมัน ป้องเงียบไปส่วนเขาเองก็เงียบเหมือนกัน เงียบจนมันหันมาสะกิด

   “หือ?”

เล่นเอาปกหน้าชาไปวูบใหญ่ ที่ไอ้คนนั่งข้างๆ ถือโอกาสตอนที่เขาหันไปหันมาแนบริมฝีปากเข้ากับหน้าผากกว้างของตัวเอง ป้องนิ่งค้างอยู่พักใหญ่ๆ ถึงได้เลื่อนใบหน้าลงมาแล้วใช้ช่วงเวลาที่ปกชะงักไปค่อยๆ แนบปากชื้นๆ ของตัวเองลงไปประกบปากอีกฝ่ายย้ำๆ ช้าๆ หัวใจแม่งแทบหยุดเต้น...

   “ขอบคุณว่ะที่มาอยู่ข้างๆ กัน”

   “อืมส์”

แล้วก็นิ่งกันไปนาน นานพอที่จะทำให้ทุกอย่างมันช้าลงยกเว้นแรงเต้นของหัวใจ

   “รักมึงจังวะ”

ไอ้ประโยคนั้นไม่ต้องใส่ใจหรอกว่าใครเป็นคนพูด เพราะทุกอย่างมันอัดแน่นอยู่ในทุกๆ การกระทำของทั้งมันและเขาอยู่แล้ว
.
.
.
END


ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
สนุกครับ เสียดายที่เป็นเรื่องสั้น
น่าจะมีให้ถึง 50 ตอนเลยนะครับ ^^


คำผิดครับ


☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
5/50
..

   เช้านี้ป้องตื่นแต่เช้า อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวแล้วเช็คเอ้าส์ออกจากโรงแรม ข้าวของไม่ได้มีอะไรเยอะเพราะคาดว่าแค่มาเจอหน้าปกแล้วก็จะกลับ แม้ปากจะบอกมันไปว่าเดี๋ยวก็ได้เจอกัน แต่ความคิดถึงมันดันมาย้อนแย้งเอาเข้ากับตัวเขาเอง ความคิดถึงที่แทบจะฆ่ากันให้ตายได้อยู่แล้ว

...........
   

   “พี่ป้องไม่อยู่หรอกพี่ หายไปหลายวันแล้ว ผมต่านมาก็เห็นร้านแก่ปิด แล้วพออีกวันก็มีรถมาขนของออกไป แต่เอาไปไม่เยอะนะ แต่ผมไม่เห็นพี่ป้องนะตอนเขาขนของกันอะ”

   

คำว่า เช็คเอาส์ น่าจะเป็น เช็คเอาท์ นะครับ
และประโยคว่า ผมต่านมาก็เห็นร้านแก่ปิด น่าจะเป็น ผมผ่านมาก็เห็นร้านแกปิด ครับ


ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
เฮ่ย สั้น
จบแล้วเหรอเนี่ย
แต่ก็เรื่องสั้นนี่นะ ดีใจที่จบ 555

ออฟไลน์ ohho99

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ดีใจที่คนเขียนเอามาลงในเล้าอีกครั้งนะคะ ชอบปก-ป้องจังค่ะ
แวะมาแจ้งคำผิดนะคะ ไม่รู้ยังทันไหมเพราะหนังสือคงพิมพ์ออกไปแล้ว 555

ตอน 7/50
ถ้าไม่อยู่ก็คงต้องปล่อยเซ็ง ==> ปล่อยเซ้ง
กูโตที่บ้านหลังนี้ถ้าให้คนอื่นมาอยู่มายุ่งย่ามมันก็ไม่ใช่เรื่อง ==> ยุ่มย่าม
เพราะอีกฝ่ายเงียบไปแล้วผลุดลุกขึ้นอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง ==> ผุดลุก

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ในวันที่แย่ ๆ
มีสักคนอยู่เคียงข้าง
แค่... จับมือ
ก็มีพลัง ก้าวเดินต่อไปได้
ปก-ป้อง ... รู้สึกอบอุ่นในใจ
ขอบคุณนักเขียนมาก ๆ นะคะ  :L2:  :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
นึกว่าจะมีถึง 50 ตอนเหมือนกัน คึคึ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
7.1/50
..
   END
.
   “เฮ้ยๆ! เดี๋ยวๆ ทำไมไม่มีฉากเลิฟซีนอะ”

   “บ่นอะไรเหี้ยป้อง?”

   “อ้าว!ความจริงนิยายวายมันต้องมีเลิฟซีนดิ ”

   “…”

   “...”

   “กลับเหอะกูไม่ดูแล้วดงดาว”

   “อ้าวเหี้ยปก เดี๋ยวดิ! ตรงนี้ดาวสวยนะ มีเสียงจิ้งหรีดด้วยนะมึง จะรีบกลับทำไมล่ะครับ?”

   “มึงจะกลับหรือว่าไม่กลับตีหนึ่งแล้ว”

   “ก็เมื่อกี้มึงบ่นอยากดูดาวกับกูแล้วตรงนี้มันก็บรรยากาศดี”

   “แล้วไง?...”

   “...”

   “แล้วไง?”

   “โกรธเหี้ยอะไรกูอีก มึงอย่าโกรธบ่อยสิกูง้อไม่ทัน”

   “จะกลับหรือไม่กลับ?”

   “...”

   “เสียงกูครางกับเสียงจิ้งหรีดมึงอยากจะนอนฟังเสียงไหนไอ้ป้อง?”

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โดนน็อคด้วยประโยคสุดท้ายนี่ล่ะ อิๆๆๆ

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
☂ฮาร์ฟ 50/50 แบบว่าเกินกว่าเพื่อน
   แถม
..
      “อะไรวะ?”

   กระดาษสีขาวหม่นๆ จนออกจะกลายเป็นสีเหลืองสองแผ่นถูกยื่นมาให้ปกได้แต่มองหน้าคนให้งงๆ ในช่วงเช้าที่ เช้าเกินไปกว่าจะมีสติรับรู้อะไรมันใช่เวลาตัดสินใจไหมล่ะ?

   “กูให้มึงเลือกแผ่นนึง อาทิตย์ที่มึงบอกกูว่าจะไปพระธาตุศรีสองรัก กูขับรถตามไปแต่ไม่เจอมึง”

   “เอ๋? มึงเนี้ยนะ? ทำไม?”

   “ช่างแม่งเหอะ เลือกมาใบนึง”

   “ใบไหนดี?”

   “แล้วแต่มึงสิ”

   ปกละสายตาจากไอ้คนเอาแต่ใจมาใส่ใจกับกระดาษยับๆ ในใจไม่มีคำตอบหรอกว่าจะเลือกแผ่นไหนลังเลอยู่สักพักถึงได้ตัดสินใจหยิบกระดาษหนึ่งในสองแผ่นนั้นขึ้นมา

   “กูเอาแผ่นนี้”

   พอบอกแผ่นที่เลือกเจ้าของกระดาษก็ยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้เขามันไม่ใช่กระดาษโน๊ตอย่างที่เขาคิดแต่มันเป็นกระดาษเซียมสีแผ่นเก่าๆ

   “เอามาจากพระธาตุศรีสองรัก ให้อ่านให้ฟังไหม?”   

   “ดีหรือไม่ดีวะ?”

   “ขนาดกูหนีมาหลบดงมะพร้าวมึงยังตามกูเจอ..แล้วเซียมซีใบนี้มึงคิดว่าจะดีหรือไม่ดีล่ะ?”

   “ของๆ มึงกูเชื่อใจยังไงก็ดีอยู่แล้ว”

   “หือ?”

   เหลือร้ายในตอนนี้ผมได้แต่เลิกคิ้วหยอกให้กับคำพูดทีเล่นทีจริงของมันที่ออกแนวจะส่อไปทางสองแง่สองง่าม ไอ้ปกเป็นคนฉลาด ผมรู้ว่ามันจะพูดอะไรออกมาอีกเลยถือโอกาสบดปากตัวเองปิดปากมันอีกรอบ เช้านี้เช้าเกินไปจะทำอะไรก็รีบๆ ทำ สติสตังค์ไอ้ปกมันยังมาไม่ครบหรอก เพราะถ้ามันมีสติครบจริงมันคงไม่หลงกลจูบตอบผมอย่างนี้ โคตรน่ารัก รักตายห่าเลยกับไอ้คนที่อยู่เป็นเพื่อนกันมาเกือบยี่สิบปี ไม่ว่าจะปีนี้หรือปีหน้าหรือปีไหนๆ เราก็จะยังอยู่ด้วยกัน ไม่มีหรอกคำสัญญาไร้สาระ มึงไม่ต้องเอ่ยปากพร่ำบอกอะไรกูหรอกปก เอาแค่ที่มึงสบายใจ เอาแค่ที่พอกูหันไปมึงอยู่ข้างๆ กูก็พอ ไม่ต้องถึงขั้นคนรักก็ได้ แค่แบบว่าเกินกว่าเพื่อนไปสักอีกขั้นนึง ให้กูได้รักมึงนานๆ

   นานสักชั่วชีวิตก็พอ..แค่นั้นก็พอ..

ออฟไลน์ ohho99

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
อร๊ายยยย มีตอนแถมมาให้อ่านกันฟินๆอีกแล้ว
มาสั้นๆแต่บ่อยๆก็ได้นะคะ ชอบคู่นี้ค่ะ


+1 กดเป็ดเป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^

ออฟไลน์ lazyishappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ให้กูได้รักนึงนานๆ นานสักชั่วชีวิตก็พอ

ฮือออ ประโยคทำเราเคว้ง หวานเลยค่ะ น่ารักมากกกกดีมากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่น่ารักมากค่ะ 5555
ชอบนะ ห่ามๆทั้งคู่เลย
ตอนแรกนี่นึกว่าปกเป็นเมะแน่ สรุปว่า...

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยเพื่อนรักกลายเป็นรักเพื่อน น่ารักมากช่วยอยู่ข้างกันเวลาเกิดปัญหา แมนๆลูกผู้ชายคุยกันจริงๆ 5555

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
ฮาร์ฟ แบบว่าเกินกว่าเพื่อน

[Part – ป้องนาวี ]


..

“ป้องเร็วๆ เดี๋ยวกูตกเครื่อง! ”

เสียงไอ้ปกเสียดแทงผ่านผ้าห่มเข้ามา ผมลืมตาตื่นก็เห็นแม่งแต่งชุดสูทเต็มยศแล้ว ฟิตแท้นะมึงขนาดเมื่อคืนมันเอ่ยปากเองแท้ๆ ว่า ‘จะตายแล้ว จะขาดใจ ไม่ไหวแล้ว’ มาตอนเช้านี่หน้าใสสุดสดชื่นเลยนะมึง

“ขอกู10 นาทีเดี๋ยวกูล้างหน้าแล้วไปส่งมึงที่ท่ารถตู้”

“...”

“เป็นเหี้ยอะไรครับคุณชาย ทำหน้าเป็นจวักเลยครับ? ”

“จะไม่ไปส่งกูที่สนามบินหรือ? ”

เออนะ..พอบทจะน่ารักก็น่ารัก บทจะอ้อนก็อ้อน เอากันเข้าไปไอ้ปกเอ้ย มาถึงขั้นนี้ผมจะทำอะไรได้นอกจากผุดลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน กลิ่นน้ำหอมไอ้ปกแม่งหอมจริงๆ ของฝรั่งเศสหรืออิตาลี่นะ

“ป้องอย่าเอ้อละเหยสิ! ”

อ้า..เสียงไอ้ที่รักตะโกนเร่งมาอีกล่ะ นงหนวดคงไม่ต้องโกนกัน ผมรีบแปรงฟันแล้วล้างหน้าลวกๆ เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนเตียงเงยหน้าขึ้นมาก็ปะเข้ากับไอ้พ่อนักธุรกิจใหญ่ที่ยืนกอดอกค้ำหัวอยู่คิ้วมันนี่ถ้ายาวกว่านี้อีกนิดคงผูกปมได้ซักสามสี่ปมนะผมว่า

“ปกมานี่มา”

ผมวางผ้าขนหนูแล้วกวักมือเรียกมาเข้ามาใกล้ ไอ้ปลาบู่หน้ายู่ยอมเดินเข้ามาแต่เว้นระยะไว้ เว้นไว้ทำซากอะไร ผมดึงตัวมันเข้ามาใกล้จนมันกลายเป็นมันมานั่งทับอยู่บนตักผม กลิ่นหอมจังแล้วตัวแม่งก็อุ่นๆ ผมไล้มือตัวเองแทรกสอดเข้าไปในเสื้อสูทตัวหรู
สัมผัสเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตตัวใน เนียนมือชะมัด ไอ้ปกมันฟึดฟัดจะผุดลุกแต่ติดอยู่ที่ผมขืนแขนรั้งมันไว้

“ป้องปล่อย กูตัวหนัก เดี๋ยวก็ขาแข้งหักไปหรอกมึง”

มันบ่นอุบ คงจะหัวเสียไม่น้อยที่ผมทำให้เสียเวลา แต่ให้ตายเหอะผมยั้งตัวเองให้หยุดไล้มือลูบแผ่นอกมันผ่านเนื้อผ้าไม่ได้สักที

“ป้อง...”

คราวนี้เสียงเรียกครางอ่อย ปลายนิ้วผมที่สะกิดยอดอกมันรับรู้ได้เลยว่า ตรงยอดที่เด่นชัดขึ้นมาใต้ผืนผ้านั้นมันแข็งสู้มือขนาดไหน

“ป้องปล่อย กูตัวหนัก..อืมส์...”

มันครางขอแล้วขืนตัวจะรุกขึ้นให้ได้ ผมได้แต่เลิกเสื้อสูทมันขึ้นแล้วก้มลงไปกัดเบาๆ ที่แถวๆ ข้างเอวมัน เสียงซี้ดสูดลมหายใจมันดังรอดออกมาจากลำคอ ผมได้ใจเลื่อนอีกมือของตัวเองไปไล้หน้าอกมันอีกข้าง แค่นั้นไอ้ปกก็ตัวอ่อน

“ป้องพอเถอะตัวกูหนัก”

มันพยายามจะขืนตัวเองอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมผลิกตัวเองขึ้นมาอยู่เหนือตัวมันที่โดนผมตวัดให้ล้มลงไปนอนบนเตียง เสื้อสูทมันความจริงก็ดูเนี้ยบดีนะแต่มันน่าจะเกะกะอีกครั้งที่ผมรวบมือมันขึ้นมาแล้วถือวิสาสะถอดสูทสีเงินนั้นออกมันมีดิ้นบ้างแต่ก็เหมือนยอมจำนนในทีไอ้ปกมันน่ารัก น่ารักแต่ก็ดื้อเข้าขั้นเหมือนกัน

ผมนั่งคร่อมทับมันไว้ ใช้หน้าขาตัวเองกดให้ไอ้ดื้อยอมสิโรราบ ทุกครั้งที่ผมก้มลงไปไล้ตอหนวดกับซอกคอมันทั้งดิ้นทั้งกระตุกตัว อืมส์ คิดดีแล้วล่ะที่ไม่ได้โกนหนวดออก อาการไอ้ปกในตอนนี้มันเกินกว่าจะเยี่ยวยาล่ะแล้วตัวผมเองก็ด้วยเหมือนกัน

“กูต้องไปทำงานนะป้อง..”

มันร้องขอแต่เสือกไม่ยอมที่จะละปาก ผมคลอเคลียอยู่แถวๆ ซอกคอมันบ้างยอดอกมันบ้าง ทุกอย่างที่เป็นไอ้ปกดูยั่วยวนไปทั้งหมด ทั้งเสียง ทั้งอุณหภูมิร่างกาย ทั้งไอร้อนๆ ของลมหายใจมัน

“ขึ้นมาข้างบนไหมปก? ”

“ไม่เอา..วันนี้มีประชุมที่ปรึกษา”

“ไม่ได้ไปหรอก..เชื่อกู”

ผมมองตาเยิ้มๆ ของมันแล้วถอดเสื้อตัวเองออกไอ้ปกหอบหายใจพร่าเพราะปลายนิ้วของผมยังคงบีบบดอยู่กับยอดอกมันที่แข็งเป็นไต บีบขยี้ผ่านเนื้อผ้าเชิ้ตยี่ห้อหรู

“ไม่เอา..กูตัวหนัก”

มันครางแล้วขืนตัวเองเหมือนจะพยายามเต็มที่ที่จะฝังตัวหลบมือทั้งสองข้างของผมลงไปที่ฟูกหนา ยิ่งพาให้หน้าแกล้ง อีกครั้งที่ผมก้มลงไปจูบหน้าผากมัน ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากกระซิบความจริงให้มันไม่ต้องกังวล

“มึงไม่หนักหรอก เดี๋ยวใช้ลิ้นกูยกมึงก็ตัวลอยแล้ว”

ไอ้ปกสตั้นท์ไปพักใหญ่ๆ หน้ามันขึ้นสีฝาดแดงไปทั้งหน้าล่ามไปที่ใบหูน่ะมาถึงขั้นนี้แล้วน่ะผมใช้โอกาสที่มันสตั้นท์นี่ล่ะรูดปลดเข็มขัดมันออก ที่เหลือนอกจากนี้ก็ปล่อยให้อะไรๆ มันเป็นเรื่องของเราสองคนแล้วกันงงงานแม่งไม่ต้องไปทำแล้วล่ะปก วันนี้ทำการบ้านกันรัวๆ ดีกว่า เนอะปกเนอะ..

“ไอ้ป้องงงงงงง!! ”

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
หื่นนนนไม่ดูเวล่ำเวลา  :oo1: จัดไปๆ 55555 นักเขียนน่ารักมากก มาต่อตอนพิเศษให้ นิดๆก็ยังดี  :-[   :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด