[เรื่องสั้น] การรอคอยคนรักของผม [ตอนเดียวจบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] การรอคอยคนรักของผม [ตอนเดียวจบ]  (อ่าน 2552 ครั้ง)

ออฟไลน์ Maainmint

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



สวัสดีค่ะ นามปากกาMaainmint เป็นนักหัดเขียนนะ
ฝากเรื่องสั้นไว้ด้วยนะคะ มีงานเขียนและโอกาสจะมาแบ่งปันกันอีก
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2018 23:10:29 โดย Maainmint »

ออฟไลน์ Maainmint

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0







'รวินท์ ....พี่จะกลับไปหานะ’









๐๐









เขาคือชายหนุ่ม ผู้ที่ยืนท่ามกลางหมู่ม่านนคร

สิ่งต่างๆรอบกายเคลื่อยรวดเร็วเกินกว่าจะจับภาพทั้งหมดไว้ได้

รอบตัวของเขามีผู้คนต่างฝักใฝ่สัญจร ตามท้องถนน ตามบาทวิถี

ต่างจากเขาที่ก้าวเดินอย่างช้าๆ

สวนกระแสผู้คน สวนทางที่คนหมู่มากกำลังก้าวเดิน





สีหน้า ท่าทางและความรู้สึกมิได้ปรากฎ

คล้ายกับการเคลื่อนไปมาไร้สิ่งเจือผสม

เขาละล่องตามทางมุ่งตรงไปยังที่คิดว่าใช่

สำหรับเขา















๐๐















"พี่ ผมหิว"

เสียงตะโกนบอกจากเด็กชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกำแพง

สาดสีเและลวดลายเท่ด้วยศิลปะลายกราฟฟิตี้









"ผมหิว"

เสียงแผ่วเบาลงแต่ยังคงเน้นย้ำคำที่เจ้าตัวต้องการจะสื่อถึง









สายตาของเด็กที่พูดกับเขา มันเว้าวอนเกินจะใจร้ายด้วย

อิศรเลือกส่งถุงกับข้าวน่ากินที่เพิ่งซื้อเมื่อยามเย็น

สิ่งเหล่านี้มีแต่ของโปรดของตัวเขาเอง

ทั้งหมดเปลี่ยนถ่ายสู๋เจ้าของใหม่เรียบร้อย







"ขอบคุณฮะ"

เด็กชายผู้น่าสงสารกล่าวขอบคุณ ก่อนจะวิ่งไปยังมุมอับที่อยู่ข้างกำแพงนั่น

เขายืนมองไปยังทิศทางที่เด็กน้อยนั้นวิ่งไป





ไม่ถึงนาทีก็มีกลุ่มเด็กอีกสี่ห้าคนวิ่งออกมาจากซอกตึกร้าง

ทั้งหมดต่างกรูเข้าหาเด็กชายที่ถือถุงกับข้าวของเขา







"เห้ย ไอ้กิมเอามา"

เสียงหัวโจกขู่กรรโชก

"พวกนายส่งเราไปขอพี่ชายคนนั้น เราก็มีสิทธิเลือกก่อนดิ"

เด็กน้อยผู้น่าสงสารในวงหมาล่าเนื้อกล่าวปากสั่น

"อย่ามาอ้าง พวกเราอยู่ที่นี่มานานก็เท่ากับเป็นเจ้าที่"

"หิวแล้ว อยากกินอะไรบ้าง ข้าวซักช้อนก็ยังดี"

เด็กน้อยน่าสงสารถูกดึงถึงข้าวไปจนหมด

เหลือเพียงถุงผักลวกกับน้ำพริกเท่านั้น







"ทำไมกับข้าวมันกลิ่นแปลกๆงี้วะ แม่งไปหลอกเอาจากไอ้ขี้จนแน่เลย

มันถึงซื้อข้าวใกล้บูดมากิน"




เสียงโหวกเหวกโวยวายของเด็กจรจัดเหล่านี้

มันน่าหดหู่และน่าสะเทือนใจเกี่ยวกับความจริงแท้ของชีวิตยิ่งนัก











ผู้เฝ้ามองจากภายนอกอย่างอิศรเลือกที่จะละจากจุดนี้

เพื่อออกเดินทางต่อไปตามเป้าหมายของตนเอง

ละทิ้งฉากความน่าสงสารเอาไว้ด้านหลังของตน











เขายังคงเดินต่อไป....

กลิ่นหอมรัญจวนใจลอยละล่องมาตามลม

มันชวนให้นึกถึงคนรัก

ป่านนี้รวินท์จะทำอะไรอยู่ คงจะนั่งทำงานศิลป์หรือจัดบ้านตามที่เจ้าตัวชอบแน่ๆ

ทั้งยัง.............................คงคิดถึงเขาแย่











"พี่อยู่ไหน.......รีบกลับมา ผมคิดถึง"

อิศรล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวโปรดของตนเอง

กลับพบว่ามีกระดาษแผ่นน้อยกระดาษสีขาวเปื้อนคราบน้ำตาลเล็กน้อย

สาส์นรัก เขาคิดว่ามันคงเป็นแบบนั้น ลายมือที่เขียนไว้ก็เป็นลายมือที่เขาจดจำได้แม่น

มันคือลายมือคนรักของเขาเอง







ข้อความนี้คงเป็นตอนที่อีกฝ่ายสอดเอาไว้ตอนรีดชุดให้เขา

แฟนของเขา รวินท์ช่วยดูแลทุดอย่างการดูแลเขาทั้งสิ้น

อีกฝ่ายดูใส่ใจทุกรายละเอียด

อิศรรักทุกอย่างที่รวินท์ทำให้



การคบหาเป็นไปอย่างธรรมชาติ เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก

อย่างเขาไม่อยากให้อีกฝ่ายลำบากจึงให้ทำงานศิลป์ที่รักอยู่บ้านร่มรื่นของเรา

ส่วนตัวเขาจะออกมาทำงานภายนอกเอง







นั่นคือความรักของเขา







๐๐













ชายหนุ่มจดจำได้วันที่เราพบกัน

แม้จะผ่านไปกี่ปีความนึกคิดในวันนั้นยังคงหวานหอมสำหรับเขา

อิศรนั่งทำงานในโน๊ตบุคส์ที่หอบหิ้วมาจากหอพักของตนเอง นั่งแก้งานเหงาๆในวันหยุด



อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กหนุ่มผู้หลงใหลไปกับทุกสิ่ง



เราสองพบเจอในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

รวินท์อยู่ปีสุดท้ายของการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

ส่วนอิศรเป็นหนุ่มวัยทำงานตอนต้นพร้อมทั้งทำงานในแวดวงวิศวกรมาแล้วสามปีแล้ว



เราพบเจอด้วยความแปลกหน้า

ร้านกาแฟที่คราค่ำไปด้วยผู้คนที่ต่างหลั่งไหลเข้ามาซื้อเครื่องดื่มและนั่งพูดคุยนั่งเล่น

ภายในร้านเหลือเพียงโต๊ะเดียวในมุมร้านที่ว่าง ถ้ามองจากไกลๆ

เพราะพุ่มไม้ในร้านบังอีกฝ่ายเอาไว้ ....อิศรเป็นฝ่ายนั่งก่อนอยู่แล้ว



รวินท์ที่หอบหิ้วของพะรุงพะรังเดินเข้ามาภายในร้าน

เขาเลื่อนตัวจากโต๊ะแรก

ก่อนจะมายืนที่โต๊ะที่สอง

สุดท้ายเขาเดินเรื่อยๆจนหยุดมาที่โต๊ะสี่ริมหน้าต่าง



รอยยิ้มโลดปรากฎขึ้น แต่ก็จืดลงในแว๊บเดียว

เพราะพบว่ามีคนนั่งอยู่แล้ว

เจ้าตัวแบกของในมือ ดูจากท่าทางก็หนักพอควร

เด็กหนุ่มจึงเอ่ยขอนั่งร่วมโต๊ะ พร้อมรอยยิ้ม



อิศรต้องการมานั่งแก้งานสลับอ่านหนังสือเฉยๆ

จึงไม่เห็นว่าเป็นการรบกวนแต่อย่างใดจึงเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้นั่ง







หลังจากที่เคลื่อนกายนั่งเข้าที่และวางข้าวของจนหมดสิ้น

คนตรงข้ามก็ใช้พื้นที่ทำงานศิลป์ของตัวเอง

เขาพอจะรู้ว่าทำไมเด็กหนุ่มจึงเลือกโต๊ะนี้





เด็กหรุ่มตรงหน้ากำลังวาดรูปอาคารภ่ยนอกตรงข้ามร้านกาแฟแห่งนี้นั่นเอง





วิวทิวทัศน์ภายนอกที่ทำให้เห็นหอนาฬิกากลางเมืองมันสวยเหลือเกิน

องค์ประกอบต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้อาคารที่รายล้อม

แต่สำหรับคนตรงข้ามเก็บรายละเอียดทุกอย่างลงภายในงานของตัวเองเรียบร้อยแล้ว



เด็กหนุ่มชวนเขาคุยหลังจากงานของตนเสร็จ

แนะนำตัวว่าชื่อรวินท์

พูดคุยบอกเล่าชีวิตของตนและชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย

อิศรรับฟังและช่วยเสนอแนะการใช้ชีวิตหลังเรียนจบ

ถึงขนาดเรื่องราวงานอดิเรกที่ของคู่สนใจในทางเดียวกัน





ต่างฝ่ายต่างใช้เวลาจมอยู่ด้วยกัน

ต่างเปิดพื้นที่เข้าหากัน

จนท้ายที่สุดวันนั้นก็ถือได้ว่าเป็นวันแรกที่เราตกหลุมรักซึ่งกันและกันนั่นเอง









เรารักกัน

ไม่ใช่ความฝัน
[/i]










๐๐











แสงยามเย็นอ่อนระโหยโรยราลงทุกทีในช่วงแดดสุดท้ายของวัน

อิศรกำลังเดินผ่านสวนภายในเมือง สวนสาธารณะไม่ใหญ่นักแต่อุมดมไปด้วยไม้หลากต้น



สวนแห่งนี้ก็มีความทรงจำที่เขานึกเมื่อไหร่

มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลื้มปิติไปกับมันอีกครั้ง











ในวันนั้นเขาชวนรวินท์มาเที่ยวเล่นหลังอีกฝ่ายต้องมาหอศิลป์ชมผลงาน

ความเหน็ดเหนื่อยของอีกฝ่ายเขาเข้าใจ

แต่เขาอยากให้คนที่รักพักบ้าง



อิศรจับจูงคนรักเดินออกจากหอศิลป์ เดินทางทางเรื่อยๆ

สายลมและแสงแดดในวันนั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินเล่นแม้แต่น้อย



กลับเป็นอีกฝ่ายที่ถามขึ้นด้วยความสงสัย

"พี่พาผมมาทำไม นี่จะเย็นแล้วกลับไปกินข้าวกันที่ร้านใกล้ห้องผม"

"พี่อยากไปไปเดินเล่นในสวน"

"ไปพรุ่งนี้ก็ได้ผมว่างทั้งวัน"

"วันนี้แหละอุตส่าห์ออกมาแล้ว"

"ตาจะปิดแล้ว" หน้ารวินทร์ยู่ลงเล็กน้อย



"ไปเถอะ"



อิศรจับมืออีกฝ่ายแน่น ก่อนพาเดินข้ามถนนตัดผ่านไปยังสวนสาธารณะ

รวินท์ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะความเอาแต่ใจของคนรัก

อิศรเดินจับมืออีกฝ่ายไว้แน่นไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น

เป็นรวินท์ที่พลอยเขินไปกับการกระทำของอีกฝ่าย

แม้จะคบกันมาสามปี แต่ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะแสดงออกกันหวานๆแบบนี้





รวินท์ชอบดูแลอิศรแม้ว่าอีกฝ่ายจะโตกว่า

คนพี่มักจะทำหน้าที่ดั่งช้างเท้าหน้า

ดูแลงานให้ พูดคุยให้คำปรึกษา จนบางครั้งเราก็ไม่ค่อยหวานต่อกันแบบคู่รัก

แต่เมื่อไหร่ที่อิศรหวานขึ้นมาก็ทำให้เขาใจเต้นแรงทุกที





ทั้งคู่เดินไม่เร่งรีบนักจน

อิศรหยุดลงที่หน้าม้านั่งสีขาว

ก่อนจะทรุดนั่งลงโดยดึงอีกฝ่ายให้นั่งตาม



"มาทำอะไรหรอครับ" รวินทร์มองรอบกาย ผู้คนบางตาเพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน

"นอน" อิศรตอบ

"ฮะ"

"พานายมานอน"

"นอนที่หอดิ"

"ที่หอมันอุดอู้ ตรงนี้ทั้งลมพัดเย็นดี น่านอน"

"มันหลับไม่สบาย นอนบนเตียงมันนุ่มกว่านะ"

คนพี่ดึงตัวอีกฝ่ายเอนนอน มือประคองส่วนหัวไว้บนตัก

"นอนแบบนี้ดิ" คนพี่จัดแจงเสียจนเรียบร้อย

"อื้ม"

"หลับตาพักผ่อน"

"พี่ล่ะ"

"ก็อยู่กับนายตรงนี้"

"งั้นผมนอน"

"…"

"พี่"

"ฮื้ม"

"พี่มาแปลกๆ"

"ก็แค่อยากให้นายพักผ่อน อากาศที่นี่ดีจะตาย แฟนพี่จะได้คิดงานออกมาดีๆไง"



อิศรโน้มหน้าลงจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผาก กลิ่นแป้งเด็กยังคงเคล้าคลึงความหอมของกลิ่น

อยากจับฟัดหลายๆ รอบไปกับความนุ่มนิ่มแต่ก็พบความจริงว่าทำไม่ลง

เพราะอยากทะนุถนอมให้เขายังเป็นเขาแบบนี้ต่อไป























"อื้ม "เสียงอีกฝ่ายงัวเงียตื่นขึ้นเมื่อพบว่าฟ้าเริ่มมืด

ไฟรอบกายต่างรายล้อมสว่างจ้า

เสียงดนตรีในสวนสบายๆ ที่มีคนนั่งล้อมฟัง

คนเพิ่งตื่นนอนขยี้ตาเล็กน้อยลุกขึ้นบิดกายไปมา

"ผมหลับไปนานจัง"

"คงเพราะนายเหนื่อย"

"อือ พี่เหน็บกินแย่ละ"

"ไม่เป็นไร…" อิศรลูบหัวคนรักเบาๆ





รวินท์ยกมือลูบหน้าไปมาปลุกตัวเองให้ตื่น

แต่กลับมีบางอย่างเปลี่ยนไป

เขารี่ตามองที่มือกำลังพลิกทั้งสองด้าน

นี่มันอะไรกัน?







ดวงตาอย่างกวางมีน้ำเอ่อรวมกันที่ขอบตา

ชายหนุ่มพยายามกั้นทำนบนี้เอาไว้

แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้

น้ำตาไหลพรั่งพรูหล่นร่วงไม่อาจนับได้

สายตาเงยมองไล่ตามเชือกที่เชื่อมต่อจากปลายนิ้วผูกไว้กับแหวนเงิน

สุดสายคือลูกโป่งเขียนคำว่า





แต่งงานกันนะ





"พี่ทำอะไร" รวินทร์ยังมีร้องไห้ยินดีกับสิ่งที่ตนได้รับมา



"พี่อยากดูแลนาย ดูแลคนที่พี่รัก



พี่อยากแต่งงานกับนาย มาเป็นส่วนหนึ่งของพี่นะ





คู่ชีวิต"




น้ำตาแห่งความดีใจไหลไม่หยุด อิศรโอ๋อุ้มอีกฝ่ายยกขึ้นกอดไปมา

เขารู้...นี่คือสิ่งที่เขายากจะทำกับคนคนนี้

รวินท์โยเยอยู่นานตอบตกลงด้วยเสียงสะอื้น



"ไปจำมาจากไหน" คนน้องจิ้มแก้มคนรัก

"คงจากหนังซักเรื่องนี่แหละ"

"พี่บ้า ลงทุนพาผมมานอนที่นี่เพื่อขอแต่งงาน"

"แล้วชอบไหม"

"...มันก็ชอบ"

"แค่นั้นก็โอเคแล้ว"

"สวมแหวนให้ตอนไหน ไม่เห็นรู้สึกเลย"

"ตอนหลับพี่ทำทุกอย่างตอนนั้นแหละ"

นี่รวินทร์เพลียจนหลับม่รู้เรื่องเลยหรอ เด็กหนุ่มนั่งคิดหนัก

"ถ้ารู้มันจะเซอร์ไพร์ไหม เด็กโง่"

"อย่าด่าเขา"

"ไม่ด่าๆ แซวเฉยๆ งั้นหอมแก้มได้ไหม"

"มันเปื้อนน้ำตา คราบเต็มไปหมดไม่เอา"

"แล้วจะหอมตรงไหนดี" อิศรถามขึ้นอย่างสงสัย

รวินทร์นั่งเอียงคก่อนจะกระซิบบอกด้วยเสียงเบา "ไม่ให้หอม….เขาจะให้จูบเลย"





จุมพิตดั่งคำมั่นสัญญารัก

ว่าเราจะรักกันตลอดไป








(ต่อด้านล่างค่ะ)

ออฟไลน์ Maainmint

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0






๐๐













เมฆทะมึนตั้งเค้ามาแต่ไกล

มันดูน่ากลัวและชวนให้รู้สึกแย่ที่ต้องพบเจอในขระที่ยังอยู่นอกบ้านแบบนี้

ฝนเริ่มลงเม็ดทันทีที่ร่างของอิศรก้าวลงจากรถโดยสารประจำทาง



หยาดฝนเม็ดแรกหล่นกระทบที่ปลายจมูกของชายหนุ่ม

ความเย็นของมันซาบซ่านไปทั่วร่างของเขา





เขาชอบฝน

และเกลียดมันในเวลาเดียวกัน













มีอยู่ครั้งหนึ่ง รวินท์แอบเอาแมวน้อยหลงทางมาเลี้ยงที่บ้าน

หลังจากให้ข้าวสองสามครั้งก็ติดคนรักของเขาแจ

ช่วงเวลาไปทำงานแมวน้อยจะมาร่าเริงลั้ลลาไปกับทุกกิจกรรมของรวินท์



มีบ้างที่ไปดื้อซนกับของเขาจนรวินท์ต้องแก้ต่างอ้างไปเรื่อยว่าหนูว่ามด

จนครั้งสุดท้ายที่ทุกอย่างเปิดเผย



ในวันหยุดที่สองคนกำลังดูหนังในห้องรับแขกด้วยกัน

อิศรที่นอนตักคนรักอยู่นั้นก็แอบแกล้งเอามืดสอดเข้าใต้เสื้อลูบไล้ไปมา

รวินท์หน้าแดง มือไม้ตีไม่หยุดมือปลาไหลไม่หยุด

แต่อีกฝ่ายหาได้รับรู้ไม่ ยังคงเนียนกระทำต่อไปแบบนั้น



"ดูหนังสิ จะมาแกล้งเขาทำไม"

"ใครแกล้ง ไหนใครแกล้ง"

"พี่อิศร" รวินทร์มอบฝ่ามือรักที่หลังของคนรักเต็มๆ

"มาให้โอ๋มาๆ " อิศรลุกขึ้นดึงอีกฝ่ายมากอดก็ถูกตีเข้าสีข้างไปอีก

"อย่าทำนะ กลางวันอยู่"

"ใครที่ไหนจะมาสนเรา"

"คนเขาเขินเป็นนะ"

"ไหนใครเขิน"

อิศรหรี่ตาส่องใกล้ใบลหน้าที่กำลังขึ้นสีประท้วงว่าเจ้าตัวเขินอายจริงๆ

มองปากนุ่มนิ่มสีพีชมันก็อดใจไม่ไหว เขาเลื่อนหน้าจะจุมพิตซักครั้ง



แต่ฉากอีโรติคก็ถูกขัดขวางด้วยเสียงลึกลับ

ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ

เสียงข่วนหน้าต่างก็ดังขึ้น รวินท์สะดุ้งและขอตัวไปดูเอง

อิศรไม่ฟังคำก็ลุกไปตรวจสอบ





สิ่งที่พบกลับเป็นแมวน้อยข่วนบานกระจกไปมาพร้อมเสียงขู่

"เห้ๆ มันจะดุอะไรปานนั้น ลูกแมวบ้านไหนหลงมา"

"เดี๋ยวก็ไปแล้ว กลับไปดูหนังเนอะๆ เดี๋ยวรวินท์จัดการเอง"

รวินท์แอบชี้นิ้วสั่งแมวน้อย:ซึ่งก็ไม่พ้นคนสายตาดีอย่างอิศร

เมื่อเห็นสีหน้าดุของคนที่เอาอาหารมาให้บ่อยๆ แมวน้อยก็สลดลงอย่างรวดเร็ว

คนรักของเขาเปิดหน้าต่างออกจะสนทนาพาทีให้อยู่เงียบๆ

ก็กลายเป็นว่าแมวน้อยสีขาวพุ่งพรวดเข้ามาพร้อมเอาตัวไปหลบอยู่ข้างเท้าของรวินท์

เจ้าแมวน้อยคลอเคลียข้างเท้าคนรักของเขาไม่ไปไหน



"เดี๋ยว ทำไมตอนมองพี่มันขู่ฟ่อๆ ไอ้ตัวน้อย"

"ก็...ผมเคยเจอสองสามรอบแล้ว"

"มิน่าออดอ้อนออเซาะเคล้าแข่งขาขนาดนั้น"

แมวน้อยอ้อนรวินทร์แต่ก็หันมาขู่อิศร

"เห้ๆ ดุอะไร         เดี๋ยวพี่ว่ามันคุ้นๆ"

"อะไรคุ้นฮะ"

"ขน สีขนไง พักหลังๆ เสื้อพี่มีขนแมวติด"

อิศรค้นพบที่มาของขนแมวที่ติดเสื้อคลุมของเขาแล้ว



"…" เด็กหนุ่มแกล้งเสไปมองทางอื่น ส่วนแมวน้อยก็ยังขู่เขาไม่เลิก



"ว่าไงเรา"

"ก็แมวน้อยหลงทาง"

"อื้ม"

"รวินท์เลยให้ข้าวไงครับ แมวน้อยน่าสงสารออก"

ชายหนุ่มก้มมองสิ่งมีชีวิตที่ถูกกล่าวถึง มันออดอ้อนคนรัก แต่มาขู่เขาแบบขนฟูใส่

"อื้ม"

เด็กหนุ่มทำหน้าเหมือนคนโดนดุ

"พี่ดุผมแน่ๆ ถ้าบรู้ว่าเอาอาหารไปให้แมวจรจัด"





อิศรถอนหายใจ ตากวางน้อยๆมีน้ำเอ่อคลอซึ่งเขาไม่ชอบแบบนี้เลย

"พี่ไม่ว่าหรอก อยากเลี้ยงก็ได้"

"จริง"

"ยังจะเลี้ยงอยู่ไหม"

"เลี้ยงๆ"

"เดี๋ยวค่อยพาไปหาสัตวแพทย์ตรวจร่างกายละกัน "

เด็กหนุ่มดีใจจุ๊บปากหนาของคนโต พร้อมร้องดีใจออกมา

"เย้"

รวินท์ดีใจจนยกแมวขึ้นมาอุ้มพลางหอมถูแก้มไปมาประหนึ่งลูกน้อย

"รักอะไรขนาดนั้น"

"รักเหมือนลูกไง"

"พี่ขยันจนเรามีลูกแล้วหรอ"

"พูดอะไร" คนฟังหน้าขึ้นสีอีกครั้ง

"ก็ความจริงไง พี่เป็นพ่อ รวินท์เป็นแม่ ส่วนแมวน้อยเป็นลูก"

"พอเลยๆ ไปดูหนังกัน"

"แล้วแมวน้อย" ชายหนุ่มมองอริต่างพันธุ์ของตน

"ก็ไปด้วยกัน"

"พี่ตกกระป๋องแล้วเหรอ"

"สำหรับพี่อิศร รวินท์รักไม่มีวันหยุดหรอก ยิ้มน้าา" 

รวินท์จุ๊บที่แก้มอีกฝ่ายก่อนจะเดินคุยเล่นไปกันน้องแมวตัวน้อย



อย่างน้อยก็โดนจุ๊บตั้งสองที

แค่นี้เขาก็ยิ้มไปทั้งวันแล้ว











๐๐

















หยาดฝนหยดที่สอง...ตกกระทบเสื้อเชิ้ตสีขาว

ซึ่งมันหมองด้วยฝุ่น ด้วยอากาศที่แสนขมุกขมัว




สายฝนกระทบที่เนื้อเสื้อเชิ๊ตสีขาว

มันค่อนค้างที่จะโปร่งเมื่อชุ่มไปด้วยหยดน้ำ




หยดน้ำจากฟากฟ้าหลายหยดรวมตัวเป็นสายฝน

พร่างพรมสู่พื้นล่าง























"ทำไมมานั่งตัวเปียก" อิศรถามคนรักที่นั่งอยู่หน้าบ้านที่มีเพียงเชิงชายคาน้อยนิด

คนรักของเขาทำได้แค่นั่งน้ำตาไหล

"รวินท์"

"พี่ฮะ" ............"ผมไม่อยากวาดรูปแล้ว"



คนสดใสแจกจ่ายรอยยิ้มให้ทุกคน แม้กระทั่งเขาที่นิ่งๆในแรกพบยังได้รับมันมา

เสียงอ่อนหวานกลายเป็นเสียงแหบพร่าแฝงความเจ็บปวด



เกิดอะไรขึ้นกับรวินทร์ของเขา









คนรักบอกเล่าทั้งน้ำตา

เอ่ยถึงสาเหตุที่อยากจะเลิกวาดทั้งที่มันคือสิ่งที่รัก

เรื่องเกิดจาก.......รุ่นพี่คนรักเก่าที่บังเอิญเจอกัน

เขาคนนั้นตามหารวินทร์เพื่อใกล้อีกชิดอีกครั้ง



คนรักของเขาให้เียงแค่ความนับถือ ส่วนเรื่องอื่นตัดทิ้งเสียหมด

ในวันหนึ่งที่อีกฝ่ายขอมาคุยเรื่องงานศิลปะที่บ้าน

รวินทร์จึงตกลงไปอย่างไม่สงสัย เพราะคิดว่าที่ผ่านมาคุยรู้เรื่องกันแล้ว









แต่เรื่องไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อโดนปฏิเสธ

อีกฝ่ายจึงลงไม้ลงมือกระทำชำเราด้วยความโกรธน่ามืดตามัว

รวินท์หลุดออกจากอีกฝ่ายก่อนวิ่งมานอกตัวบ้านตัวเอง





อีกฝ่ายที่หาคนรักของเขาไม่พบเจอจากการหลบหนีก็ตบเท้าออกจากบ้านหลังนี้ไป

ทิ้งไว้เพียงกระดาษยับว่าจะกลับมาอีกครั้ง



ทั้งที่คิดเพียงก่อนหน้านี้ว่าแค่อยากต้อนรับในฐานะรุ่นพี่คนหนึ่ง

คนที่เคยช่วยสอนการวาดภาพของเขา





อิศรกำหมัดแน่นได้แต่อุ้มรวินท์ที่ร้องสั่นเครือไปนอนพักและปลอบประโลมให้คลายเศร้า







หลังจากเหตุร้ายที่เกิดขึ้น อิศรจึงไปพบกับคนๆนั้น กล่าวเพียงสั้นๆต่อหน้าก็ขอตัวกลับ







สองวันต่อมาเรื่องราวความชั่วร้ายก็ถูกเปิดเปยไปทั่วแวดวง

รุ่นพี่ที่แม้ตอนเรียนจะเป็นคนดีช่วยสอนรุ่นน้องอย่างรวินท์

แต่นอกนั้นเขาก็คือผู้ชายสารเลวคนหนึ่งนี่เอง



ช่วงคบรวินท์ก็ไปก่อวีรกรรมไว้เยอะ จบออกมานิสัยเดิมแก้ไม่หายกลับลามไปเรื่องอื่นๆ

ไม่ว่าจะอมชิ้นงานรุ่นนอกเอาไปขายโดยตัวเองได้หน้าแทน...และอีกมากมายที่เปิดออกมา

มีการสู้คดีความจนอีกฝ่ายนั้นแทบสิ้นเนื้อประดาตัว



อิศรคงทำได้เท่านี้...ไม่อยากให้รวินท์ต้องคิดอะไรแบบนี้

ก็ถือว่าเอาหลักฐานไปมัดตัวคนร้ายให้เขารับโทษตามที่ควร

มันก็แค่นั้น





คนรักของเขากลับมาเป็นาทิตย์ในยามเช้าอีกครั้ง

เขารักเหลือเกินงรักเกินกว่าที่จะพูดออกมาได้

ปลายทางสุดท้ายในชีวิตของเขา มีเพียงรวินทร์เท่านั้น

เขาอยากอยู่กับคนที่รักตลอดไป











๐๐











หยาดฝนเม็ดที่สาม...ตกลงบนรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่เกรอะไปด้วยคราบดินโสโครก

แม้กระทั่งขากางเกงยีนส์หรือเสื้อเชิ๊ตก็ต่างพร้อยด้วยน้ำเจิ่งสีโคลนที่กระจายตัวจากพื้นในยามที่ฝนตกลงมา








เขาคิดถึงบ้าน

เมื่อไหร่เขาจะไปถึงเสียที















'พี่อยู่ที่ไหน'







'พี่กลับมาบ้านของเราได้แล้ว'







'ไหนใครกันบอกจะดูแลผม….'







กลิ่นสาปลอยละล่องไปทั่วบริเวณ

อิศรถูกกลิ่นนี้เล่นงานผ่านการรับรู้ผ่านจมูกจนอยากอ้วกออกมาทั้งไส้ทั้งพุง

สมองถูกตีรวนไปมาเสียจนได้ยินเสียงเต้นตุบภายใน







เขายังมุ่งหน้าเดินในซอยทางเข้าหมู่บ้านที่คุ้นเคย

ไร้เสียงสรรพสัตว์หรือการเคลื่อนไหวของสิ่งใดใด

มือหนาพยายามนวดช่วยผ่อนคลายแต่กลับไม่ช่วยอะไร





แต่บางสิ่งบางอย่างกลับปรากฎ….













'วันนั้นถ้าเราไม่ได้เจอกัน' รวินทร์ถามขึ้นขณะที่นอนในอ้อมกอดของคนรัก

'เราก็คงไม่มีวันนี้' อิศรหอมหัวคนรัก

'ถ้าวันนั้นพี่ไม่ได้นั่งโต๊ะมุม'

'ถ้าวันนั้นผมไม่ได้เลือกจะไปวาดรูป'




'โลกนี้คงขาดคนรักกันไปอีกคู่

.......รวมระยะเวลาตั้งแต่เจอจนถึงตอนนี้หกปีแล้วนะ'

อิศรพูดขึ้น สายตามองหน้าคนรัก




เขารักจมูกรั้น



เขารักปากสีพีชแม้ไม่บำรุง



เขารักแก้มนวลนิ่ม



เขารักตากวางสดใสคู่นี้



เขารักยิ้มที่มุมปาก





'ผมโคตรมีความสุข' รวินทร์พูดขึ้น มืออุ่นลูบหน้าคนพี่เบาๆ

'พี่ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นต่อไป'

'สัญญา'


'ครับ'

'เราจะอยู่ด้วยกัน'






'พี่สัญญา เราจะอยู่ด้วยกัน'













๐๐







ครั้งที่สี่ หยดน้ำกลายเป็นสายฝนต่างร่วงผล็อยลงสู่ดิน

ทั่วทั้งร่างชะโลมด้วยน้ำฝนที่เย็นฉ่ำ

ร่างกายก้าวเดินได้ช้าลง





สายตาของเขากำลังพร่า













เขาก้าวเดินบนกลางถนนที่ไร้ทางสิ้นสุด

ร่างกายมันหนักอึ้งไปหมด มันล้าเกินกว่าจะพยุงร่างของตนเอง

เขาอยากจะทิ้งตัวลงให้ทุกอย่างมันจบไป

เขาไม่รู้สึกอะไรแล้ว

เหมือนทั้งร่างไม่สามารถทำตามที่เขาคิดได้อีก







เสียงหมาเห่าหอนตามรายทาง

ซอยที่คุ้นเคยชี้ทางแยกไปบ้านของเขา

อิศรลากสังขารก้าวต่อไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักจนขาวโพลน







ท่ามกลางเสียงฝนรอบทิศเขาได้ยินคล้ายเสียงเรียกย้ำๆ

พี่อิศร พี่อิศร พี่อิศร

มันดังก้องไปมา

เขารู้สึกมีบางอย่างวิ่งภายในตัวเขาเหมือนมันกำลังกัดกลิ่น

มันปวดร้าวไปเสียทั้งร่าง

จึงได้ก้มลงดูความเจ็บปวดที่ส่วนนั้น









เสื้อเชิ๊ตเปื้อนคาบน้ำตาล มันดูกรอบเก่าเหลือเกิน

อิศรเปิดเลิกเสื้อตรงสีข้าง ความเจ็บหน่วงๆทวีคูณหนักขึ้น









ชายหนุ่มพบกลุ่มหนอนนับพันตัวกำลังแทะแกะกินร่างกายเขาเป็นโพรงกลวง

มีบางตัวที่โชคร้ายหล่นลงพื้นตามทางที่เขาเดินมา

อิศรลงมือปัดมัดออกแต่ปัดเท่าไหร่ก็ไม่หมด



เหมือนก้อนแข็งติดคอ เขาพูดไม่ออก ส่งเสียงใดใดไม่ได้อีก



มือที่ปัดนั้นกลับหลุดล่วงประหนึ่งกลีบดอกที่หลุดจากดอกของมัน

มันหลุดอย่างง่ายดาย







'พี่อยู่ไหน'







'ผมคิดถึง'







'กลับมาบ้านเรา ผมขอร้อง นะครับ'



เสียงเรียกนั้นแทบขาดใจ เขาจำเสียงนั้นได้ เสียงของรวินทร์!





เพราะความตกใจต่างๆ นานา ชายหนุ่มจึงวิ่งด้วยกำลังที่มีทั้งหมด

เขาร้องออกมา ด้วยน้ำตาที่กลายดั่งสายเลือดดีๆ นั่นเอง



ตามระยะเส้นทาง

ร่างกายกลับหลุดร่วง



ช่วงแขนที่กวัดแกว่งหลุดจากข้อต่อเชื่อมของมันเอง

เสื้อผ้าชุ่มน้ำขาดออกจากกันเปื่อยยุ้ยจนน่าสังเวช



กลิ่นสาปรุนแรงขึ้นกว่าทุกที







บ้านของเขาอยู่ตรงหน้า

ส่วนเขาคนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าบ้าน

ยื่นมองด้วยดวงตาเพียงข้างเดียวที่เหลืออยู่ก่อนที่มันจะหลุดออกจากเบ้า





อิศรเอาตัวดันบานประตูรั้ว

มันเปิดออกอย่างง่ายดาย

เขายิ้มด้วยใจทั้งหมดที่มี

พร้อมก้าวเดินเข้าบ้านของตนเอง



ใครอนุญาตให้เข้าไป

"นี่มันบ้านผม"

ใครมันจะเชื่อ 



มีเชือกที่มองไม่เห็นคล้องกายและดึงร่างให้อิศรถอยออกจากประตู



"ปล่อยผม ผมจะกลับบ้าน!!!"

นี่ไม่ใช่ทางของคุณ คุณควรไปทางทึ่ฟ้าลิขิต

"ผมไม่เข้าใจ"

คุณควรทำความเข้าใจได้แล้ว เลิกวนเวียนในโลกที่คุณไม่ควรจะอยู่เถอะ







ครั้งสุดท้าย แต่เขาก็ไปไม่ถึง

สายธารจากตาไหลไม่ขาดช่วง

สีแดงฉานผสมน้ำเหลืองอาบทั่วทั้งร่าง













"รวินท์รักพี่อิศรเสมอ"

เสียงพูดดังออกมาจากตัวบ้าน























เชือกเส้นนั้นที่ขวางกั้นหายไป

ร่างของอิศรเคลื่อนไหวเป็นอิสระอีกครั้ง

ขาสองข้างที่ดึงดันรั้งตัวเข้าที่ประตูไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว





อิศรคลานด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายที่มีทั่งหมด

เขาใช้ท่อนตัวคลานหาตัวบ้าน

ทุกการคืบคลานมันช่างร้าวราน

คำสัญญาที่เขาไม่อาจรักษา

ใครอีกคนที่เขาทอดทิ้งไป.....เขาทำให้อีกฝ่ายเสียใจ





เขาจะต้องไปถึงปลายทางให้ได้

เขา…….



















เสียงเคาะที่ประตูดังขึ้น แมวน้อยชื่อเจ้าอินทร์โดดลงจากตักรวินท์

ชายหนุ่มสะดุ้งหลุดจากภวังค์ความคิด

น้ำตาไหลอีกครั้ง เขาร้องไห้ใจจะขาดในทุกๆวัน แต่วันนี้มันยิ่งกว่าความเสียใจ





แมวน้อยวิ่งไปที่หน้าประตู พร้อมทำท่าคล้ายหยอกเย้ากับความว่างเปล่าในอากาศแบบที่เคยเป็น

เมื่อตอนที่คนรักของเขากลับมาจากการทำงานในทุกๆวัน



รวินท์กัดปากเอาไว้ หักห้ามความเสียใจของตนที่แทบจะขาดใจ

เขาเดินไปหน้าประตู

ด้ายติดผนังตู้ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในบ้านไม่นานมานี้

มีโกฐบรรจุเถ้ากระดูกและพวงมาลัยสดสีสวย

ข้างๆ เป็นกรอบรูปคนรักที่ใช้ในงาน มีดอกธูปจุดไว้หนึ่งดอก



รูปอิศรที่ยิ้มสุขุม





มือปาดน้ำตาออกหมดจากหน้า

เลือกเปิดประตูบ้านออกหลังจากที่รอเป็นเวลาเจ็ดวันหลัง

เหตุการณ์รถเมล์ที่มีอายุเก่าแก่พอสมควรพลิกคว่ำผู้โดยสารตายทั้งคัน

รถเมล์สายที่จะนำพาคนรักของเขากลับมา


เที่ยวที่อิศรบังเอิญก้าวขึ้นนั่นเอง

แต่ครั้งนี้.....มันนำพาเพียงร่างที่ไร้ชีวิตของอิศร และพรากคนรักของเขาจากโลกนี้ไป


















ทันทีที่เปิดบานประตูออก

กลิ่นหอมที่คุ้นเคยกระแทกกระทั้นที่ความรู้สึก

กลิ่นที่คุ้นเคย .....บางอย่างกลับมาแล้ว

รวินท์ว่าตัวเองเห็นเงาร่างที่เลือนลางของใครบางคนตรงหน้าท่ามกลางม่านน้ำตาที่บดบัง









'พี่ขอโทษที่ทำให้นายรอ

....พี่กลับมาแล้ว'















จบ











talK: เรื่องสั้นมาเรียงๆนกบินเฉียงมาเป็นหมู่

ฝากเรื่องสั้นเรื่องแรกในเล้าไว้ด้วยนะคะนี้ไว้ในอ้อมอกด้วยนะคะ

พูดคุยหรือติชมได้ ทั้งที่นี่ หรือที่ #คลังใบมินต์

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อ้าว...ววววววววววววววว พี่เขาเกิดอุบัติเหตุซะงั้น..เศร้า  :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ฮืออออออออออ  :m15:

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด