The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 444912 ครั้ง)

ออฟไลน์ pukpra

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-0
เฮียไฟจะไปประจวบแล้ว จะคุยกันดีๆ กี่นาทีนะนี่

ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ค่าเบบี้ ^^

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
เมื่อไรจะคุยกันนะไฟกับสมุทร รู้สึกอึมครึมมากเลย  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ sexysunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
ขอหวานๆ ที่ประจวบซักแมทนะเบบี้

ออฟไลน์ nnA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วววว
สมุทรค่าตัวแพงมากแบบมาก น้องจะเป็นยังไงบ้างน้อ

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
ชอบๆๆๆ พูดได้แค่นี้จริง :L2:
ขอบคุณคุณเบบี้มากๆค่ะ

 o13

ออฟไลน์ meikukio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตอนหน้าไปประจวบจะเจอกันแล้ววววว
จะคุยกันอีกทีไหนน้า บรรยากาศอึนครึมจริงๆ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
แอบช็อค!!!! หนอนบ่อนไส้  แอบห่วงพี่ทัพ
จะพูดยังไงดี ความเป็นพี่ไฟอ่ะเฮ่อ...ทุกอย่างรอบตัวดูอันตรายหมดเลย

คือความจริงฉันหวงพี่ไฟ ไม่อยากให้ยุ่งกับใครนอกจากสมุทร แต่สมุทรก็แบบ โว้ยยยยยยยยยยย   

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ไฟ สมุทร เป็นเส้นขนาน

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เขาจะคืนดีกันไหมนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
อั่งเปาให้คุณเบบี้ค่ะ :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ กัณฐ์ตังค์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านมาทั้งเรื่องพยายามไล่กวาดหาเเต่คำว่า "สมุทร"

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1

 :katai2-1: ชอบความมีเสน่ห์ของเรื่องนี้คือลุคของไฟที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่ที่เน้นพวกใช้สมองแบบนั้น
(ไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไง :mew2: ) ที่จะว่าไปกํ็คือมาเฟียแต่คือมันให้ความรู้สึกว่ามาเฟียแบบมีกึ๋นอะ

รอว่าเมื่อไหร่เค้าจะเข้าใจกัน  :mew1:


ออฟไลน์ Sarocha45377

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :mew2: รออยู่นะคะ รอคุณไฟกับคุณสมุทรอยู่นะคะ พี่เบบี้

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงพี่ไฟ :)

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
กลับมาอ่านอีกรอบตั้งแต่ต้น ไม่รู้ว่าไฟกับสมุทรจะกลับมาเจอกันละหยอกกันได้อีกทีตอนไหน ฮือ

ออฟไลน์ กัณฐ์ตังค์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
6ปีเเล้ว ยังไม่จบเลย 55555555

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
6ปีเเล้ว ยังไม่จบเลย 55555555

ขุ่นพระ 5555  :laugh:  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
แจ้งข่าว : 10 พฤษภาคม 2564 - แจ้งข่าวไฟสมุทร

ขอบคุณค่ะ | เบบี้


.

ตอนที่ 56
..ไฟ..




ประจวบฯ

สถานที่ฝึกซ้อมที่ประจวบฯ คือหนึ่งในบ้านพักตากอากาศของผมที่เปิดไว้ให้นักมวยเพื่อมาเก็บตัว  ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเก็บตัวช่วงก่อนขึ้นชกหรือนำไว้ต้อนรับแขกทางธุรกิจ เช่น นักมวยกับโค้ชจากค่ายที่รวมงานกันที่ต่างประเทศ  ที่นี่มีอุปกรณ์ทุกอย่างที่นักกีฬาต้องการแบบครบครัน หรืออาจเพียบพร้อมกว่าโรงฝึกบางแห่งด้วยซ้ำ  เป็นบ้านพักที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของส่วนบริหารของค่าย  เนื่องจากเป็นของส่วนตัวของผม  ดังนี้ ใครจะมาพักจะต้องได้รับอนุญาตผ่านผมหรือพี่ธานก่อน   

เรามีแม่บ้านและคนสวนดูแลอยู่ประจำ  เพราะเอาเข้าจริงก็เป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่นัก  มีแขกเหรื่อให้ต้อนรับขับสู้อยู่เกือบทุกเดือน...   

“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะคุณไฟ” แม่บ้านกับคนสวนที่ยืนรอต้อนรับโค้งตัวทักทาย   

“สวัสดีครับ” ผมทักตอบ  หันไปมองสวนที่กว้างออกไปสุดลูกตาที่ดูเหมือนว่าจะได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี 

“สวยดีนะ” ผมชม

“ขอบคุณครับ” คนสวนผงกหัวพร้อมยิ้มรับคล้ายดีใจ  ผมเดินนำเข้าไปในตัวบ้านซึ่งเป็นบ้านหลังส่วนตัวของผม  อนุญาตให้เปิดใช้บ้านหลังนี้ได้เฉพาะผม  คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทที่ผมเห็นสมควรเท่านั้น 

เครื่องดื่มถูกวางเสิร์ฟในทันทีที่ก้นแตะถึงโซฟาที่ห้องนั่งเล่น  ไม่ได้มานานแล้วเหมือนกัน  บรรยากาศที่ต่างจากกรุงเทพฯ ทำให้ใจสงบได้นิดหน่อย... 

“เย็นนี้เป็นอาหารทะเลดีไหมครับ” พี่ธานยิ้มถามขณะวางกระเป๋าพกพาของผมลงข้าง ๆ มือ

“ครับ” ผมตอบพลางยิ้มนิดหน่อย

“ฝรั่งค่ะ” แม่บ้านวางจานฝรั่งหั่นเป็นชิ้นจัดจานสวยงามลงบนโต๊ะ  มีพริกเกลือด้วย

“ขอบคุณครับ” ผมบอก 

“เย็นนี้จัดอาหารที่ริมสระว่ายน้ำดีไหมคะ” แม่บ้านยิ้มถาม

“ก็ได้ครับ สัก..ทุ่มนึงแล้วกัน” ผมตอบ

“ได้ค่ะ คุณไฟอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ”

“ไม่รู้สิครับ” ผมปัด  ไม่ได้นึกอยากอะไร  หันมาเปิดประเป๋าสตางค์  หยิบเงินหนึ่งหมื่นบาทยื่นให้เธอ 

“จัดเผื่อคนที่ค่ายด้วยแล้วกัน” ผมสั่ง

“ได้ค่ะ” เธอผงกหัวพลางรับเงินไปถือไว้

“ผม..อืม น่าจะอยากกินเนื้อวัว” ผมพูด  นึกขึ้นได้จึงหยิบเงินเพิ่มให้อีกห้าพันเพราะกลัวว่าจะไม่พอ

“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวป้าเตรียมให้นะคะ แล้วเครื่องดื่มเป็นอะไรดีคะ”

“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมให้เด่นไปซื้อต่างหาก ป้าเตรียมแค่พวกน้ำอัดลมก็พอ เอาแบบพอดี ไม่ต้องเตรียมเผื่อขาด ไม่พอก็หยุดกิน” ผมสั่ง  เพราะไม่ได้สนับสนุนให้ดื่มน้ำพวกนี้ในช่วงนี้เท่าไหร่

“ซื้อผลไม้ให้ผมด้วย” ผมบอก

“ค่ะ” แม่บ้านผงกหัวรับทราบ

“ให้ผมไปกับป้าเลยไหมครับ” ไอ้เด่นเสนอ  แม่บ้านที่นี่มีอยู่ประจำสามคน  คนสวนที่บวกพ่วงกับงานทั่วไปอีกสองคน  นอกนั้นจะถูกว่าจ้างแบบชั่วคราว

“อืม” ผมอนุญาต

“ว่าแต่.. เลี้ยงเหล้ากูหน่อยซิ” ผมใช้หลังมือตบลงที่หน้าท้องไอ้เด่นอย่างหยอกเอินสองสามที 

“เอ่อ ครับ นาย” อีกฝ่ายขานรับตะกุกตะกักอย่างเสียไม่ได้  ทำเอาพี่ธานหลุดหัวเราะ

“ไปได้แล้ว เดี๋ยวตลาดวาย” ผมไล่

“ตลาดเย็นไม่วายเร็วหรอกครับ” มันย้อน

“อ๋อจ้า พ่อเจ้าของตลาด” ผมประชดซะเลย 

“หึ ๆ ๆ” พี่ธานหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ  คนถูกแซวเม้มปากเขิน ๆ

“คือ ผมแค่อยากไปหาพี่สมุทรก่อนน่ะครับ ได้ไหมครับนาย” ไอ้เด่นยิ้มถาม

“........” ผมเฉย  ละสายตากลับมาและไม่ได้ตอบออกไป

“เอ่อ งั้น...ผมไปตลาดเลยดีกว่าครับ ขอตัวนะครับ” มันโค้งตัวแล้วสับฝีเท้าออกไปอย่างเร่งรีบ  แม่บ้านก็ทยอยออกจากห้องไปด้วย  นาฬิกาที่ติดอยู่ตรงผนังห้องนั่งเล่นบอกเวลาที่พอจะคาดเดาได้ว่า ณ ตอนนี้คนที่ค่ายกำลังซ้อมกันอยู่แน่   

“เรียกเหงื่อกันหน่อยดีไหมครับ” ผมเลิกคิ้วชวนพี่ใหญ่

“เอาสิครับ” พี่ธานไม่ปฏิเสธ  ผมกับพี่ธานแยกย้ายกันไปห้องใครห้องมัน  เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวไปลงซ้อมกับคนที่ค่าย
ทางเดินจากตัวบ้านไปถึงโรงฝึกประดับด้วยสวนหญ้า  ผมเดินทอดน่องกับพี่ธาน  ได้ยินเสียงของการฝึกซ้อมดังแว่วมาแต่ไกล  พนักงานบางคนคล้ายว่ากำลังพักอยู่หันมาสังเกตเห็นพอดี  สีหน้าดูตกใจที่เห็นผมปรากฏตัวแบบไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า  ทันทีนั้นก็ทำท่าจะกลับเข้าไปในตัวโรงฝึก  ผมกวักมือส่งสัญญาณเรียกเอาไว้ได้ก่อนที่ทางนั้นจะได้ทำตามที่ต้องการ...

“จะไปไหน” ผมทักส่ง ๆ  วางมือลงบนต้นคอของอีกฝ่าย  รู้ว่ามันคงตั้งใจจะเข้าไปส่งข่าวบอกให้คนในโรงฝึกได้รู้ตัวว่าผมมา
 
“........” อีกฝ่ายไม่ตอบ  ก้มหัวน้อย ๆ และหลบสายตา  ผมจับคอมันให้ติดมือเดินเข้าโรงฝึกมาด้วยกัน  สถานที่ฝึกซ้อมที่นี่มีทั้งแบบเปิดและแบบปิด  ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน  อุปกรณ์ที่มีราคาสูงจะถูกวางอยู่ในห้องแบบปิด  เวทีมวยจำเป็นต้องตั้งอยู่ในที่เปิดโล่ง  การมีโรงฝึกซ้อมที่นี่ก็เพื่อมากินบรรยากาศละนะครับ

“คุณไฟ” พนักงานในโรงฝึกหันมาเห็นต่างกุลีกุจอเข้ามาทักทาย  ผมหยุดยืน  ปล่อยมือออกจากคอคนที่มาด้วยกันพลางมองเข้าไปด้านใน  เห็นสมุทร ครูมวยและทีมฝึกซ้อมอยู่ในนั้น

“สวัสดีครับนาย” ไอ้รุ่งตรงเข้ามาโค้งตัวทักทาย  ในมือมีสมุดเล็ก ๆ เล่มหนึ่ง

“ว่ามา..” ผมบอก

“ครับ” มันผงกหัวรับทราบก่อนจะรายงาน  ห้านาทีหลังจากที่ไอ้รุ่งรายงานความเป็นไปของที่นี่เสร็จเรียบร้อย  ครูมวยก็สั่งให้หยุดซ้อมและตรงเข้ามาหาผม  สมุทรโค้งตัวทักทายและยืนห่างออกไประยะหนึ่ง

“เป็นไงบ้างครับ” ผมทัก

“ดีครับ เรียนรู้เร็วดี ฟอร์มดี อึดด้วย” ครูมวยยิ้มตอบ

“อืม” ผมพยักหน้ารับทราบ  ปกติแล้วผมไม่ค่อยถามอะไรนัก  หากไม่ใช่เรื่องจำเป็นจริง ๆ ก็จะปล่อยให้จัดการกันเองตามหน้าที่ 

“เดี๋ยวให้ซ้อมกับรุ่งนะครับ” ผมสั่ง

“ได้ครับ” ครูมวยตอบรับ  ผมเดินนั่งลงที่เก้าอี้ที่วางอยู่ด้านข้างเวที  ไอ้รุ่งกับสมุทรถูกครูมวยเรียกไปคุยอีกมุมหนึ่ง 

บรรยากาศในโรงฝึกเปลี่ยนไป  ความตึงเครียดเข้าปกคลุม  นักมวยและทีมที่ดูแลหยุดทุกอย่างเพื่อมาดูสมุทรขึ้นชกกับไอ้รุ่ง  การชกเริ่มขึ้นหลังจากนั้นโดยมีครูมวยคอยกำกับอยู่ข้างเวที  เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาที  ครูมวยเดินเข้ามาหาผมในทันทีที่เห็นผมยืนขึ้น  คนบนเวทีไม่หันมาสบตาผมเลยตั้งแต่อยู่บนนั้น...

“ล้อผมเล่นเหรอครับ” ผมพูดพลางก้มหน้าลง  หลังจากเห็นผลแล้วก็เหนื่อยหน่ายที่จะพูดมันออกมา  ผมไม่เห็นความกระหายในตัวหมอนี่เลย

“ครับ ?” ครูมวยหน้าถอดสี

“แบบนี้เหรอครับที่เรียกว่าดี” ผมพูดเชิงถาม  น้ำเสียงที่ใช้เป็นไปอย่างเรียบ ๆ เพื่อรักษาหน้าอีกฝ่ายที่อย่างน้อยก็เป็นครูมวยที่ผมนับถือ 

“........” ทั้งครูมวยและทีมฝึกที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ หลบสายตาและไม่มีใครตอบกลับ

“งัดของเขาออกมาครับ” ผมสั่ง  อีกฝ่ายพยักหน้ารับทราบเงียบ ๆ 

“แล้วก็..เย็นนี้ผมให้แม่บ้านเตรียมอาหารไว้ให้ที่ริมสระว่ายน้ำ สำหรับทุกคน วันนี้เย็นไม่ต้องซ้อม” ผมอนุญาต 

“ขอบคุณครับ” ครูมวยยิ้มตอบ  ผมเดินจากมาพร้อมกับพี่ธาน  เราเดินเอ้อระเหยไปตามทางเดินริมชายหาดเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนออกวิ่ง 

“ขอโทษนะครับคุณไฟ”

“ครับ” ผมขานรับ

“ทะเลาะกันเรื่องอะไรเหรอครับ”

“........” ผมเงียบ  หันไปมองหน้าพี่ธานก่อนยิ้มให้

“ก็ ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกครับ” ผมบอก 

“มีปากเสียงกันนิดหน่อย หมอนั่นเลยบอกไม่ให้ผมโผล่ไปที่บ้านเขาอีก”

“ไปทำอะไรให้ทางนั้นโกรธครับ” พี่เขาเบิกตา

“หึ..” ผมหลุดยิ้มมุมปาก 

“งั้นใครโกรธใครครับ” อีกฝ่ายซักต่อ  ผมนิ่งไปครู่  เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพลางนึกคำตอบ

“ผมไม่โกรธหรอก..” ผมเบะปากและหันกลับไปหาคู่สนทนาอีกครั้ง 

“.......” พี่ธานจ้องมองผมเงียบ ๆ

“คนไม่โกรธ มีเหตุผลอะไรที่ไม่คุยกันไหมครับ” อีกฝ่ายยิ้มพูดอย่างอ่อนใจ

“เออ นั่นสิ” ผมปัดประเด็นด้วยการเห็นด้วย  เร่งฝีเท้าเร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อตัดบทสนทนา


..

อาหารค่ำริมสระว่ายน้ำถูกจัดเตรียมไว้พร้อม  ผมเพิ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จได้ไม่นาน หลังจากที่ออกกำลังกายจบไปไม่กี่ชั่วโมงก่อน  โต๊ะอาหารถูกตั้งไว้แยกกัน  ผมกับพี่ธานและครูมวยบางคนนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน  พนักงานและคนในค่ายแยกไปอีกโต๊ะหนึ่ง  บรรยากาศสังสรรค์ไม่เชิงว่ารื่นเริงนัก  ค่อนข้างสงบเลยก็ว่าได้  ผมไม่ทราบว่าโต๊ะที่พนักงานนั่งอยู่นั้นคุยเรื่องอะไรกันแต่ก็ดูเฮฮาดี  ไอ้เด่นกับไอ้รุ่งก็ขอไปนั่งรวมอยู่กับทางนั้นด้วย  ส่วนโต๊ะของผม ส่วนใหญ่จะพูดคุยเรื่องงานและเป้าหมายที่ต้องการให้เป็นไป  รวมถึงเรื่องนักมวยที่ต้องขึ้นชกเร็ว ๆ นี้ 


ประมาณ 21.00 น. อาหารค่ำเลิกก่อนเวลา  นักมวยที่ต้องฝึกพรุ่งนี้เช้าขอตัวกลับไปพักผ่อน  สมุทรด้วยเช่นกัน  เขาเข้ามาลาผมกับพี่ธานพร้อม ๆ กับนักมวยคนอื่น ๆ คล้ายกับว่าหลีกเลี่ยงการที่จะต้องมาบอกเป็นการส่วนตัว  การโค้งตัวลาจากทางนั้นไม่มีการสบตาเลยแม้วินาที  แต่ก็นะ.. มันก็น่าจะเป็นประมาณนี้อยู่แล้วล่ะมั้ง

ริมสระว่ายน้ำสงบลงเมื่อทุกคนแยกย้ายกลับที่พักไป  เหลือเพียงผมกับพี่ธานและไอ้เด่นกับไอ้รุ่งที่นั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง...


ตืด  ๆ ๆ

สายเข้า - พี่ทัพ -

“ฮัลโหล” ผมทักปลายสาย

“ไฟ รบกวนหน่อย”

“อืม..” ผมขานรับและรับฟังเงียบ ๆ

“จัดคนให้กูหน่อยสักสี่ห้าคน ขอแบบเดนสังคม เพิ่งออกจากคุกเลยก็ดี”

“เอาไปทำไม” ผมถาม

“กูตามสืบเรื่องคนในทีมอยู่ ตอนนี้เลยพอได้ไหม” อีกฝ่ายถาม

“ได้ ส่งที่อยู่มา” ผมตอบรับ

“เออ ขอบใจ” ปลายสายพูดบอกก่อนตัดสายไป  ผมจึงกดโทรออกในทันทีที่วางสายแรก 

“ครับนาย” ไอ้เข้มรับสาย

“เดี๋ยวมึงโทรหาคนของเราให้จัดคนไปหน่อย พี่ทัพแกอยากได้คน..” ผมบอก

“แบบไหนครับ” อีกฝ่ายถาม

“ต่ำสุด สักห้าคน เอาแบบร้อนเงินแล้วกัน เดี๋ยวนี้นะ” ผมสั่ง

“ได้ครับ” ไอ้เข้มขานรับ  ผมตัดสายลง  เหลือบมองหน้าพี่ธาน

“คุณจะบอกข้อมูลที่เรามีอยู่ให้พี่ทัพตอนไหนครับ” พี่ธานถาม

“หึ ตอนที่ถูกถามมั้ง” ผมตอบ

“หึ ก็จริงครับ” พี่ใหญ่อมยิ้มมีเลศนัย 

“พี่เองก็ไม่ได้อยากให้ผมบอกอยู่แล้ว จะมาถามลองใจทำไมครับ” ผมบ่น  ยกเหล้าขึ้นจิบ 

“แค่อยากลองถามดูครับ” อีกฝ่ายกวนตอบ

“หึ ๆ” ผมหลุดหัวเราะ  เราสบตากันยิ้ม ๆ ก่อนที่พี่เขาจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้  มือทั้งสองข้างสอดเข้าหากันและเทินอยู่บนหน้าท้อง 

“บอกรักผมหน่อยสิ”

“ครับ ?” อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นพร้อมเลิกคิ้วอย่างงงงวย

“ฮา ~ เร็วสิ ช่วงนี้ใจผมมันว้าเหว่ยังไงไม่รู้” ผมพ่นถอนหายใจ  แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่อยู่เหนือหัว  ขนาดที่นี่ก็ยังเห็นดาวไม่ค่อยชัด 

“หึ..” พี่ธานหัวเราะเสียงเบาในลำคอ

“รักนะครับ” อีกฝ่ายพูดบอก  ผมเงียบฟัง  ขณะที่ยังเงยหน้ามองอยู่ที่เดิม มุมปากก็เผยรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้  ครู่หนึ่งจึงเบือนหน้ากลับมาและสบตากับคนตรงหน้าพอดี 

“จูบหน่อยเร็ว !” ผมลุกขึ้นเข้าไปจะคว้าหน้าพี่ธานมา  ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนที่มองผมอยู่ก่อนทำให้อดไม่ได้ 

“คุณไฟ ! ฮ่า ๆ ๆ ๆ” อีกฝ่ายเอนตัวหนีพร้อมหัวเราะลั่น 


- - - - - - - - -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2021 14:02:50 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

เช้าวันรุ่งขึ้น  ผมและทุกคนตื่นเวลาตี 5 เป็นเวลาที่ผมนัดหมายคนในค่ายไว้ตั้งแต่เมื่อค่ำแล้วว่าจะออกไปวิ่งและกลับมาฝึกต่อพร้อมกับทุกคน  วันนี้ผมต้องเดินทางกลับ  ตั้งใจว่าช่วงบ่ายหลังอาหารกลางวันคงได้ออกเดินทาง

หนึ่งในโปรแกรมที่กระตุ้นสารเอ็นโดรฟินของผมในวันนี้คือการวิ่งบนชายหาดพร้อมถ่วงล้อยางรถยนต์  แรงต้านจากทรายที่ทำให้ร่างกายได้ใช้พลังงานมากกว่าปกติ  พร้อม ๆ กับบรรยากาศและเสียงคลื่นทะเลทำให้รู้สึกยิ่งออกแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกดีเท่านั้น...


“สมุทรรีบอัดเข้าไปเซ่ ! เว้นช่วงรอทำไม !” ครูมวยตะโกนต่อว่าคนตรงหน้าที่เป็นคู่ชกของผม  การชกของสมุทรที่ไม่ตอบโต้กลับมาถึงแม้ผมจะลองเชิงด้วยการปล่อยให้เป็นจังหวะของเขาได้ทำ  น้ำหนักของหมัดเริ่มหนักขึ้นเมื่อครู่มวยแสดงความไม่พอใจ  เมื่อผมเห็นว่าเขาได้สติว่าการที่ผมมาไม่ใช่ต้องการมาเป็นคู่ซ้อมให้กับเขา  แต่ผมมาเพื่อดูว่าผมจะได้อะไรหลังจากนี้ต่างหาก   

“เออ !” เสียงครูมวยและทีมดูแลเริ่มร้องเชียร์เมื่อเราปล่อยหมัดใส่กันรวดเร็วและรุนแรงขึ้น  ถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  แต่นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เราได้สบตากันตรง ๆ หลังจากหลายอาทิตย์ผ่านมา


ตั๊บ !!

ผลัวะ !!!


ลูกเตะกับหมัดสุดท้ายที่ชกเข้าใบหน้าของอีกฝ่ายทำให้เขาเซไปชนกับขอบเวที  ผมถอดนวมออก  เดินตรงเข้าไปหาเนิบช้าขณะที่ถูกคนตรงหน้ามองมาด้วยสายตาเรียบขรึม...

“คิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่” ผมเบิกตาอย่างไม่สบอารมณ์  บรรยากาศโดยรอบเงียบกริบลงสนิทขณะที่ผมกับสมุทรเผชิญหน้ากัน
 
“ฉันไม่ได้ให้นายมาพักผ่อนที่นี่ รู้ไว้ซะด้วย” ผมพูด  ตบแก้มอีกฝ่ายอย่างตักเตือนสองสามทีก่อนเดินลงจากเวที

“เอาให้หนักกว่านี้ครับ” ผมสั่งครูมวย  ยื่นนวมคืนให้พนักงานที่ปรี่เข้ามารับ

“ผมไม่ชอบวิธีการคิดของเขา” ผมพูด  เพราะมันแทบเผยออกมาทางการชกของเขาหมดเลย

“........” ครูมวยไม่ตอบ  ก้มหัวรับทราบน้อย ๆ  ผมเดินจากมาพร้อมกับพี่ธาน  ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามหลังมาไว ๆ

“นายครับ” ไอ้เด่นตะโกนเรียก 

“อะไร” ผมหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิด

“น้าปึกโทรมาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับนายครับ เดี๋ยวนี้เลยครับ” ไอ้เด่นตอบ  น้าปึกคือพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ที่บ้านของย่าผม  ซึ่งแปลก ผมมักจะไม่ได้รับการติดต่อจากแกหากไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย


..

15.30 น. | กรุงเทพฯ

“แหม่ ~ โผล่หัวมาได้” โทนเสียงกระแนะกระแหนเอ่ยทักในทันทีที่ผมลงจากรถ  ผมยกมือไหว้  ตรงเข้าไปกอดเจ้าของเสียง  อีกฝ่ายกอดตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก

“สวัสดีครับคุณย่า” พี่ธานยกมือไหว้เช่นกัน

“สวัสดี นี่ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าฉันมีหลานชายกับเขาด้วยนะเนี่ย” ย่าเหล่หางตามาทางผม

“หึ..” ผมอมยิ้ม

“มาทำไมยะ” เธอกวาดตามอง

“แข็งแรงขนาดนี้ก็ไม่จำเป็นให้ลูกหลานต้องมาหาหรอกครับ” ผมเหน็บกลับ  มองเธอหัวจรดเท้า

“แน่นอนย่ะ !” ย่าตอบกลับหน้าเชิดอย่างวางมาด  ผมสบตาพี่ธาน  พยักหน้าส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายไปทำธุระสำคัญของการเดินทางมาที่นี่ 

“มีอะไรกัน” ย่าถามทันที

“เปล่าครับ” ผมปัดพร้อมโอบเอวเธอให้เดินเข้าบ้านมาด้วยกัน

“แล้วจะอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันไหม” เธอถาม  ลดเสียงลงในระดับปกติ

“ไม่สะดวกครับ ยังไม่หิวด้วย” ผมตอบ
 
“งั้นแล้วมาทำไม” ย่าเปลี่ยนเสียงอีกรอบ

“เพิ่งกลับมาจากบ้านที่ประจวบฯ ซื้ออาหารทะเลมาด้วยเลยแวะเอามาให้ก่อน” ผมตอบ

“แค่เนี้ย ! ฉันมีปัญญาซื้อกินเองได้” ย่าบ่น  จ้ำเท้าเร็วขึ้นทำให้แม่บ้านคนสนิทต้องเร่งฝีเท้าตามเธอไปด้วย

“ย่า.. บอกว่าอย่าเดินเร็วไงครับ เดี๋ยวก็ล้มหรอก” ผมบ่นพร้อมถอนหายใจ

“ฉันแข็งแรงดี” ย่าย้อน

“ตอนเด็กก็คลานไปแล้ว อยากคลานตอนแก่อีกรอบรึไง”

“ไอ้ไฟ !” อีกฝ่ายหันกลับมาถลึงตาใส่   

“ก็คิดถึง มาหาไม่ได้เหรอครับ” ผมยิ้ม 

“เฮ้อ ~~~” อีกฝ่ายหยุดยืน  ถอนหายใจเต็มแรง 
 
“ย่าทำของว่างไว้เมื่อเช้า ไปกินก่อนค่อยกลับ” เธอพูด

“ครับ” ผมตอบรับ  เดินตามย่าตรงไปที่ห้องอาหาร

“เราน่าจะมาเร็วกว่านี้หน่อยนะ หนูริศาเพิ่งกลับไปไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง ไม่เห็นมาตั้งพักนึงแล้ว จู่ ๆ ก็เอาของฝากจากต่างประเทศมาให้ ย่าก็ไม่รู้ว่าแกจะมา ไม่อย่างนั้นจะได้โทรถามก่อนแล้วบอกให้หนูริศาเขาอยู่รอ” ย่าพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย  ผมไม่พูดอะไร  ทราบอยู่ก่อนแล้วว่าริศามาที่นี่ 

“แล้วเมื่อไหร่จะให้น้องมันกลับไทย ทำไมส่งไปอยู่นานขนาดนั้น ไม่ได้มีอะไรใช่ไหม” ย่าหันกลับมามองหน้าผมเป็นระยะ

“อยู่นั่นแหละครับ อยู่นี่ไฟปวดหัว” ผมตอบส่ง ๆ ไปที  เธอหัวเราะและไม่ซักไซ้ต่อ

“คุณไฟอยากดื่มอะไรดีคะ” แม่บ้านยิ้มถาม

“กาแฟก็ได้ครับ” ผมตอบ  เลื่อนเก้าอี้ให้ย่าก่อนที่จะนั่งลงด้านขวามือของเธอ ซึ่งเป็นที่ประจำของผม

“อ่าว ธานไปไหน ไปตามมากินด้วยกันสิ” ย่าทัก

“ได้ค่ะ” แม่บ้านตอบ

“เดี๋ยวก็มาครับ” ผมพูดแทรก  เหลือบมองแม่บ้านเพื่อส่งสัญญาณบอกให้เธอไม่ต้องไปตาม

“แล้วเป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าจะมีการแข่งขันใหญ่เร็ว ๆ นี้เหรอ”

“ครับ ก็เพิ่งกลับจากไปดูการซ้อมมาเนี่ยแหละครับ” ผมตอบ  เหลือบมองน้ำเปล่าที่แม่บ้านนำมาเสิร์ฟให้ก่อน 

“พายุโทรหาไหมครับ”

“ก็โทรเกือบทุกวันแหละ” ย่าตอบยิ้ม ๆ 

“ดีกว่าแกเยอะ แกอยู่ไทยฉันก็เหมือนมีหลานอยู่ต่างประเทศ” ย่าหันมาประชดทันควัน  หัวหน้าแม่บ้านที่ยืนประกบย่าอยู่ไม่ห่างถึงกับยิ้มตามไปด้วย

“ก็ส่งข้อความบอกรักมาออกบ่อย ยังไม่พออีกเหรอ ย่าเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไฟส่งหาเลยนะ” ผมยิ้มกวนตอบเธอ  สบตากับหัวหน้าแม่บ้านเพื่อบอกให้เธอฟังด้วย

“ชิ !” อีกฝ่ายแสยะปากรับไม่ได้

“ขออนุญาตครับ” พี่ธานเดินมา  หยุดยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหาร

“ธาน มานั่งด้วยกันสิ” ย่าพูด

“ขอบคุณครับ” พี่ธานผงกหัวตอบรับ  ตรงเข้ามาเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผมแล้วนั่งลง

“คุณธานรับอะไรดีคะ” แม่บ้านยิ้มถาม

“กาแฟครับ ขอบคุณครับ”

“หึ ฉันเห็นแกสองคนแล้วก็อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก” จู่ ๆ ย่าก็พึมพำบ่น

“มันก็จะหมดปากอยู่แล้วนะครับ ปล่อยให้มันหักไปตามธรรมชาติเถอะ” ผมพูดบอก

“แกนี่มัน..” อีกฝ่ายบดฟันแน่น

“บัวลอยไข่หวานค่ะ” แม่บ้านอีกคนมาถึงพร้อมกับเสิร์ฟบัวลอยไข่หวานลงตรงหน้าผมกับพี่ธาน  ถ้วยลายไทยขนาดกำลังสวย  มีไข่หวานวางเด่นชัด  ควันลอยเบาบางแสดงให้เห็นว่าเพิ่งอุ่นมาให้สดใหม่

“ย่าเพิ่งทำเมื่อเช้า” ย่าพูด

“........” ผมตักบัวลอยขึ้นกิน  สบตากับพี่ธานครู่หนึ่ง  อีกฝ่ายรอให้ผมได้กินก่อนถึงลงมือกินตาม  แม่บ้านค่อย ๆ ทยอยนำผลไม้ออกมาวางเรียงบนโต๊ะ  มีทั้งฝรั่ง  มะม่วงสุกและน้อยหน่า 

“น้อยหน่านี่เจ้าของสวนที่ปากช่องเขาเพิ่งส่งมาให้ไม่กี่วันนี้เอง” ย่าบอก

“ครับ” ผมขานรับและไม่ใยดีมันนัก  ไม่ใช่ว่าไม่ชอบกิน  แต่ต้องมีอารมณ์อยากกินจริง ๆ ถึงจะกินได้  เบื่อที่จะต้องระวังเมล็ด

“รสชาติไม่ดีรึ” เจ้าของบ้านถามเสียงห้วนนิดหน่อย แต่ก็ฟังดูมีความหวัง

“ก็เหมือนเดิม” ผมตอบ  ยังคงเป็นรสชาติเดิมที่ย่ามักทำให้กินตอนเป็นเด็ก  แต่ผมไม่ค่อยออกปากชม  เวลาที่กินอะไรอร่อยถูกปากก็ไม่ค่อยแสดงอาการ  หลายครั้งเลยทำให้ย่าวิเคราะห์ไปเองต่าง ๆ นานา  พายุก็ด้วย

“ผมเคยกินเหลือรึไงครับ” ผมพูด  เหล่มองอีกฝ่ายที่ดูไม่พอใจในคำตอบแรก

“หึ..” อีกฝ่ายอมยิ้มอย่างพอใจ

“ย่า” ผมเอ่ย

“หืม ~” เธอขานรับพลางหันมามอง

“หลังจากนี้ไฟจะทำให้ริศาเลิกยุ่งกับย่านะครับ” ผมพูด 

“........” ย่านิ่งไป  เธอกวาดตามองผมครู่หนึ่งก่อนละสายตามองไปยังจานผลไม้ที่อยู่กลางโต๊ะ

“มีอะไร” เธอถามด้วยโทนเสียงที่นุ่มลง

“เธอจะทำให้ย่าเดือดร้อน.. เพราะไฟ” ผมบอก

“ก็แกไม่สนใจเธอ เธอถึงได้เรียกร้องความสนใจแกล่ะสิ” อีกฝ่ายทำเสียงไม่สบอารมณ์

“ย่า..” ผมเรียกสติว่านั่นไม่ใช่ประเด็น  ย่าชะงัก  ตัวตั้งตรง คอตรงคล้ายได้สติขึ้นมา  เสียงช้อนในมือผมที่กำลังกวาดเฉพาะลูกบัวลอยสีเหลืองกระทบกับถ้วยเซรามิก  มันดังพอที่จะทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นระหว่างเรา

“เธอไม่ดียังไง ไหนแกว่ามาซิ ฐานะทางครอบครัวก็ดี นิสัยก็น่ารัก สวยด้วย แกชอบคนสวยไม่ใช่เรอะ !” ย่าประชด

“ไฟไม่ได้ชอบคนสวย” ผมสวนทันที 

“........” ย่าเงียบ

“นิสัยไม่มีเสน่ห์ สำหรับไฟก็คือไม่สวยแหละครับ” ผมอธิบายให้ย่าเข้าใจโดยง่าย   

“ย่ากำลังหาคนมาเป็นเมียเจ้าของบ้านให้ลูกน้องไฟ คิดว่าเธอรับมือไหวไหมครับ” ผมเสนอคำถามให้ย่าได้ฉุกคิด  ถ้าทำให้ลูกน้องผมเคารพไม่ได้  ก็ทำให้พวกมันก้มได้แค่หัวเท่านั้นแหละครับ  ใจไม่ได้โน้มเอียงไปด้วย  ถ้าผมตายห่าไปเมื่อไหร่  ทุกอย่างก็เป็นอันจบด้วยความสัมพันธ์แค่นั้น

“........” ย่าไม่ตอบ  เราต่างฝ่ายต่างเงียบกันอยู่นานหลังจากนั้น
 
“ใช่ครับ ครอบครัวเธอมันเทา ๆ ย่าก็เลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับหลานย่าสินะ หึ.. ถ้าย่าอยากได้แบบนั้น ไฟหาให้ย่าได้ร้ายกว่าริศาอีก”

“หึ นิสัยน่ารักเหรอ ย่ารู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธอไม่ได้น่ารัก” ผมผลิยิ้ม แซวเธอที่ทำเป็นพูดเข้าข้าง

“หึ แล้วแกต้องอะไรล่ะ คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่เอา” ย่าหันมาบ่น

“แล้วการที่ไฟไม่มีใครมันเป็นปัญหาตรงไหนครับ เราควรต้องมาเถียงกันเรื่องนี้ไหมครับย่า ?” ผมเกือบหลุดหัวเราะ  และนี่อาจเป็นนาน ๆ ครั้งที่ผมเลือกเปิดประเด็นถกเถียงเธออย่างจริงจัง  ที่ผ่านมาย่าอยากทำอะไร  ผมก็มักปล่อยเลยตามเลย  ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะอยากให้เธอสบายใจกับสิ่งที่ได้ทำ   

“ที่ผ่านมาย่าเห็นไฟเที่ยวรักใครไปเรื่อยเหรอ ไฟแค่มีเซ็กซ์ เพราะไฟชอบ” ผมพูด  ตักไข่หวานเข้าปาก  เสียงย่าพยายามข่มอารมณ์ตัวเองด้วยการถอนหายใจเบา ๆ

“ไฟก็เอาหมด ย่าก็เห็นนี่ครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอเพื่อเตือนให้เธอมองผมตามความเป็นจริง  ไม่หลอกตัวเอง  ผมหลับนอนกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย  ถึงผมจะไม่พูดออกมา  ทั้งย่าและคนในครอบครัวที่ไม่เคยเอ่ยปากหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูดต่างก็ทราบดีกันหมด 

“ไฟ..” ย่าหันมาขมวดคิ้วใส่  ผมจ้องเธอตอบ  ในขณะที่พี่ธานจำเป็นต้องวางช้อนที่อยู่ในมือลง  และทอดสายตาในระดับต่ำ

“ที่ทำเพราะอยากให้ไฟเลิกเอาผู้ชาย หรือเพราะอยากให้แต่งงานครับ ย่าลองเลือกมาสิ เดี๋ยวไฟจะตอบให้” ผมพูดเชิงถาม 

“ฉันแค่อยากให้แกมีลูก” ย่าสูดหายใจเข้าครู่หนึ่งก่อนตอบออกมาโดยเมินการมองหน้าผม

“อย่าให้เด็กต้องมารับภาระเพราะแค่ความอยากของย่าเลยครับ” ผมตอบ

“แกกำลังบอกว่าความคิดฉันมันผิดเหรอ” ย่าหันมาจ้องเขม็ง

“ครับ”

“ย่าครับ..” ผมเอ่ยพลางทิ้งจังหวะลงเล็กน้อย เป็นการส่งสัญญาณบอกว่าสิ่งที่กำลังจะพูดนี้จริงจังและลำบากใจ

“ที่ผ่านมาไฟรู้ว่าย่าไม่อยากได้ยิน แต่สิ่งที่ย่ารู้อยู่มันคือความจริงครับ หลานย่าน่ะ.. ชอบนอนกับผู้ชายมากกว่ากับผู้หญิง” ผมพูดบอกพร้อมจ้องตาเธอเขม็ง  ย่าถึงกับนิ่งไป  สายตาดูผิดหวังปรากฏอยู่ลึก ๆ  เพราะรู้จักผมดีถึงได้ไม่เคยห้ามออกมาตรง ๆ  จะหญิงหรือชายถ้าทำให้หลงรักได้มันก็จบเรื่อง  แต่เพียงแค่ ณ ตอนนี้สิ่งที่พูดบอกเธอได้ก็คือเรื่องเซ็กซ์ที่มีความพึงพอใจในผู้ชายมากกว่าก็แค่นั้น


ในห้องเงียบสนิท  บัวลอยในถ้วยของผมหมดลงพอดี  ผมละสายตาจากย่าเพื่อให้เธอได้สติเอง  ก่อนจะยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มและเช็ดปาก  แม่บ้านเข้ามารับถ้วยบัวลอยไปเพื่อให้ผมได้มีพื้นที่กินอย่างอื่นต่อ...

“หึ เสียใจเหรอครับ เราน่าจะเลยจุดนั้นมาแล้วนะ” ผมยิ้ม  วางมือลงบนมือขวาของเธอพร้อมบีบเบา ๆ

“อย่าโกรธเลยครับ พายุไม่อยู่ ไฟไม่มีตัวช่วย” ผมแซว  ไม่มีพายุก็ไร้คนที่จะอ้อนง้อเธออย่างที่หลานควรจะทำ

“ชิ !” ย่าตัดบท  ชักมือกลับไปอย่างไม่จริงจังนัก  พี่ธานยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าบรรยากาศดีขึ้น

“ขนมต้มร้อน ๆ มาแล้วค่ะ” แม่บ้านเดินเข้ามาพร้อมกับจานขนมต้มจานใหญ่

“ขอบคุณครับ” ผมพูด

“ไปถูกใจอะไรริศานักหนาครับ ย่าอยากได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นคนในครอบครัวจริง ๆ เหรอ สมมติว่าย่าเกิดนอนติดเตียงขึ้นมา ย่านึกว่าคนอย่างเธอจะชายตามองไหมครับ ถ้าย่าไม่มีแม่บ้าน เดาได้ว่าย่าคงจะนอนเป็นผักเน่าแน่” ผมแสยะยิ้มมุมปาก  ใช้ส้อมจิ้มขนมต้มแล้วยื่นไปให้พี่ธานที่อยู่ห่างจากจานขนมต้มออกไป  พี่ธานลุกขึ้น  โน้มตัวเข้ามารับส้อมจากผมไปอย่างรักษามายาทที่มีต่อหน้าย่า 

“ไอ้ไฟ !” ย่าสบถลั่น  ตีมือเข้ามาที่หน้าผากผมอย่างแรง

“หึ ๆ ๆ ๆ” ผมหลุดหัวเราะ  หยิบส้อมอีกอันจิ้มขนมต้มเข้าปากตัวเอง  พี่ธานอมยิ้ม ก้มหน้าก้มตาเคี้ยวขนมต้มที่เพิ่งรับจากผม

“งั้นบอกข้อดีมาสักห้าข้อก็ได้ครับ เผื่อจะเอากลับไปคิดดู” ผมกวนติดตลกไปงั้น

“เฮอะ ! แล้วคนอย่างแกมันดีนักเรอะ !!!?” ย่าเชิดหน้าใส่

“ใครก็เอาแกไม่อยู่หรอก ดังนั้นจะใครหน้าไหน สำหรับฉันมันก็เหมือนกันนั่นแหละ” เธอประชดให้

“ไม่ดีหรอกครับ” ผมสวนพร้อมผลิยิ้ม

“........” ย่าเงียบไป  แม่บ้านที่ยืนล้อมอยู่สามคนเพื่อรอรับใช้ก็เงียบกริบเช่นกัน 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2021 01:21:52 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

“การที่หลานย่าไม่ใช่คนดีก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องได้คนไม่ดีนี่ครับ ถ้าไฟอยากได้คนแบบไหนก็ได้มาเป็นเจ้านายพี่ธาน ไฟพามาไหว้ย่านานแล้ว ย่าคิดว่าจะรับไหว้ไหวไหมล่ะครับ” ผมย้อนถามนิ่ง ๆ 

“ไฟไม่ได้จริงจัง และการที่ไม่พาใครที่ไม่จริงจังเข้าบ้านก็เพราะไฟให้เกียรติคนในบ้าน ไฟนึกว่าย่ารู้อยู่แล้ว” ผมพูด  ถ้าทำเช่นนั้น คนที่เหนื่อยหน่ายจะรับไหว้ก็คงไม่พ้นคนในบ้าน  และก็คงพ่นถอนหายใจลับหลังผมว่าครั้งหน้าจะพาใครเข้าบ้านอีก  สำหรับผม บ้านคือสถานที่ส่วนตัวของคนในครอบครัว  ไม่ใช่ที่ที่จะควงใครหน้าไหนมาเพื่อมีเซ็กซ์ก็ได้  คนในบ้านก็ไม่ควรต้องมาตั้งหน้าตั้งตารับไหว้คนแปลกหน้าด้วย   

“แกนี่มัน ฉันเหนื่อยจะพูดกับแกเรื่องนี้แล้ว !” ย่าบ่น  จู่ ๆ ก็หันตัวไปฟาดมือลงที่แขนพี่ธานเต็มแรง

“คุณย่าครับ” พี่ธานตกใจแต่ก็ไม่ได้เบี่ยงตัวหนี

“ย่าไปตีพี่ธานทำไม” ผมมองอย่างสงสัย

“ตีแกไป คนหนังด้านอย่างแกมันก็ไม่เจ็บหรอก ตีพี่สุดที่รักของแกนี่ เพราะมันถึงทำให้แกเป็นเป็นคนแบบนี้ !” ย่าโวยวาย  มือไม่หยุดทุบตีพี่ธาน 

“หึ ก็จริง” ผมยิ้ม เห็นด้วยกับเธอ

“คุณไฟครับ” พี่ธานยิ้มน้อย ๆ คล้ายปฏิเสธไม่ลง

“พวกแก.. แล้วก็แก !” ย่าขึ้นเสียง  หันมาชี้หน้าผมก่อนหันไปชี้คาดโทษพี่ใหญ่  ผมหัวเราะน้อย ๆ เพราะเห็นว่าบัวลอยของพี่ธานยังไม่ถูกตักกินสักคำ 

“ทำให้ตระกูลเราต้องจบแบบนี้ เสียแรงที่ปู่ย่าตายายออกแรงเตรียมมาให้ แกจะไม่สืบสกุลกันเลยรึไง” เธอต่อว่า 

“........” ผมเงียบ  พอเจอประโยคนี้ก็ทำเอาแอบรู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย 

“เจ้าธาน ไหนเมียแก !” ย่าขึ้นเสียง  พี่ธานหน้าสลดทันที

“พรืด ~” ผมก้มหน้า  เกือบกลั้นขำไว้ไม่อยู่ 

“ผมยัง ไม่มีครับ” พี่เขาตอบตะกุกตะกัก

“นี่ถ้าฉันไม่เห็นแก่พ่อแก ฉันจะจับแกแต่งงานกับคนที่ฉันหาให้รู้ไว้ซะ ฉันบังคับนายแกไม่ได้ ฉันจะบังคับแกนี่แหละ” ย่าคว้ามือขึ้นบีบหูพี่ธานแล้วดึงเข้าหาตัวเอง  ดวงตาของเธอถลึงโตกว่าเดิม  ร่างกายใหญ่ ๆ กำลังถูกดึงหูไปหน้าเหยเก  ตัวเอนไปตามแรงดึงจากย่าอย่างปฏิเสธไม่ได้  แทบกลายเป็นตัวเล็กไปเลย

“ความคิดย่าก็ดีอยู่นะ” ผมพยักหน้า แกล้งสมทบ 

“คุณไฟครับ..” พี่ธานยิ้มกว้างคล้ายเห็นเป็นการหยอกล้อที่ไม่ติดใจอะไร

“หืยยยย ~” ย่าสบถ  ยอมปล่อยมือออกจากหูของพี่ธาน

“กลับแล้วนะครับ ดูแลตัวเองด้วย ช่วงนี้ไฟยุ่ง คงไม่ได้มาหาบ่อย ๆ” ผมพูด 

“........” ย่าสงบลงและไม่ยอมหันมามอง

“ฮึ ! ถึงไม่ยุ่งฉันก็ไม่ค่อยเห็นหน้าแกสักเท่าไหร่หรอก” ย่าพูดเสียงเรียบ  ผมยิ้ม  ลุกขึ้นพร้อมโน้มตัวเข้าไปหา

“รักนะครับ” ผมหอมแก้มเธอเบา ๆ  พี่ธานลุกตามทันที 

“ลาครับคุณย่า” พี่เขาโค้งตัว

“ไฟ...” ย่าเรียกผมที่กำลังเดินจากมา  ผมหันกลับไปมอง

“ย่าไม่รู้หรอกนะว่ามีอะไร แต่อย่าไปทำเรื่องที่มันเสี่ยงนักล่ะ เราเหลือกันแค่นี้ มันไม่เหมือนเมื่อก่อน อย่างน้อย.. ย่าก็ไม่อยากมานั่งดูรูปงานศพลูกหลานตัวเองก่อนตายหรอกนะ” ย่าพูด  ทั้งโทนเสียงและการแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปบอกความหมายตรงไปตรงมาว่าเป็นห่วง

“ครับ ไฟไม่ปล่อยให้ย่าอยู่คนเดียวหรอก” ผมยิ้มตอบ

“พูดมาได้ ตอนนี้ฉันก็อยู่คนเดียวย่ะ !” เธอค้อนใส่  เปลี่ยนอารมณ์ทันควัน

“คิก ๆ ๆ” แม่บ้านที่ยืนอยู่พากันปิดปากหัวเราะคิกคัก

“นี่ !” ย่าปราม

“รีบไปเตรียมบัวลอยกับขนมต้มใส่กล่องให้ตาธานเอากลับไปกินด้วย สาระแนจริง ๆ นังพวกนี้”

“ค่าคุณท่าน ~” แม่บ้านสองคนขานรับ  กึ่งวิ่งกึ่งเดินออกจากห้องอาหารไป

“เหงาเหรอครับ หาแฟนใหม่สิ ให้ไฟหาให้เอาไหม ปู่ไม่โกรธหรอก” ผมแซว

เฮอะ ! พูดมาได้.. ปู่แกมันนิสัยเหมือนแกอย่างกับมาเกิดใหม่ มีเรอะที่มันจะไม่โกรธ !” ย่าแสยะปากใส่อย่างรับไม่ได้ในทันที

“ว่าไปว่ามา แกไม่มีเมียก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมีใครมารับกรรมเหมือนฉัน” เธอบ่นให้

“หึ..” ผมกับพี่ธานหัวเราะพร้อมกัน  เราลาย่าอีกครั้งก่อนเดินจากมา

“ยิ้มอะไรครับ” พี่ธานที่เดินขนาบข้างอยู่ถามขึ้น

“แค่คิดถึงขึ้นมาน่ะครับ” ผมตอบ

“คุณปู่เหรอครับ” อีกฝ่ายพูด  ผมไม่ตอบ

“เดี๋ยวส่งคนของเรามาอยู่ที่นี่สองคนนะ” ผมสั่ง

“ได้ครับ ผมเตรียมไว้แล้ว” พี่ธานตอบ


- - - - - - - - - - - - - -


23.34 น.

“ไฟ อึก ไฟฟังริศาก่อนนะคะ”

เสียงร้องขอดังสวนออกมาในทันทีที่รถยนต์คันของไอ้เข้มเปิดออก  รองเท้าส้นสูงของริศาสับตรงมาหาผมอย่างรวดเร็ว  ผมยืนเฉย มองหน้าเธอ  ขณะเดียวกันพี่ธานก็หยิบกระเป๋าใบที่พบที่บ้านของย่าผมออกมาวางลงบนท้ายรถ ซึ่งอยู่ใกล้กับตรงที่ผมยืนมากที่สุด

“เปิดดูสิ” ผมบอก  พยักหน้าไปทางกระเป๋าใบดังกล่าว 

“........” ริศาหน้าถอดสี  มองไปทางกระเป๋าและทำทีไม่รู้ต่อสิ่งใด

“ของคุณไม่ใช่เหรอ” ผมพูด 

“มะ ไม่ใช่นะคะ ริ.. ริศาแค่ไปเยี่ยมคุณย่าคุณที่บ้าน” เธอพูด

“หึ ผมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเจอที่ไหน” ผมยิ้ม  อีกฝ่ายชะงัก
 
“ไฟคะ คือ...”

“........” ผมเหลือบลงต่ำ  มองร่างกายเธอที่ประชิดตรงหน้า
 
“เอามือออก” ผมสั่ง  ริศาค่อย ๆ ขยับมือที่จับแขนผมอยู่ออก  ขาก้าวถอยหลังออกไปเล็กน้อย  ผมเดินไปที่รถ มองกระเป๋าหนังสีดำสนิทขนาดเท่าสองฝ่ามือที่อยู่ในถุงซิปล็อกอีกชั้นหนึ่ง

“พ่อคุณนี่ ย่าผมช่วยอะไรไว้บ้างนะ” มือข้างซ้ายของผมล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง  มือขวากุมขมับพลางใช้ความคิด

“จำไม่ค่อยได้ ดูท่าจะเยอะ” ผมผลิยิ้ม  ริศาจ้องผมไม่วางตา  ลำคอของเธอขยับคล้ายกลืนบางอย่างลงไป
 
“ทำแบบนี้ทำไม” ผมหุบยิ้มลง

“อะไรคะ” ริศายิ้มหน้าซื่อ  ความมืดภายในตัวโกดังที่มีแสงไฟดวงเล็ก ๆ ให้ความสว่างเพียงไม่กี่ดวง  ยังสามารถเผยให้เห็นลิปสติกสีแดงฉาดที่ปากของผู้หญิงคนนี้

“อย่าเข้ามานะ ! คุณจะทำแบบนี้กับริศาไม่ได้ ริศาจะฟ้องคุณพ่อ !” ริศาร้องลั่น  ผมไม่หยุดเดินเข้าหา  หลังของเธอกระแทกเข้ากับไอ้เข้มที่ยืนอยู่ด้านหลัง  ลูกน้องอีกหลายคนที่ยืนเรียงใกล้ ๆ กันนั้นทำให้เธอไม่ดึงดันที่จะหลบหลีกอีก  ผมถอนหายใจ  สอดมือเข้าไปที่ลำคอของเธอก่อนที่ปลายนิ้วจะค่อย ๆ ไล่ขึ้นไปกำเส้นผมของเธอจากหลังศีรษะแล้วกระชากเข้ามา 

“อึก” เจ้าตัวกัดฟันแน่น  ดวงตาเริ่มสั่นคลอนไม่เหมือนอย่างทีแรก

“ริศา...” ผมเรียกสติ

“คุณฟังผมให้ดี ต่อให้ผมตัดลิ้นคุณตอนนี้ พ่อคุณก็จะไม่เอาเรื่องผม” ผมก้มลงกระซิบที่ข้างหู

“หึ ก่อนจะพูดอะไร แน่ใจซะก่อนว่าโคตรพ่อคุณมันเป็นคนดี” ผมจ้องมอง  ปลายนิ้วที่กุมเส้นผมของเธอออกแรงกระชับหนักขึ้นจนเจ้าของร่างกายร้องไห้ออกมา 

“คุณเอง อึก.. การที่ย่าคุณต้องเดือดร้อน คุณเองก็ควรจะโทษตัวเองด้วยที่ดันไม่หลับหูหลับตา ไปขัดขาใครไว้บ้างล่ะ !” เธอตะโกนลั่น


เพียะ !!!

เสียงสะท้อนจากการลงไม้ลงมือค่อย ๆ หายไป  ผมยืนมองผู้หญิงที่ทรุดลง  หน้าซบกับพื้นดินที่กำลังพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง   

“เพราะคุณคนเดียว...” ริศาพึมพำ

“ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ !!!” เธอร้องลั่นทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น  ผมก้มลง  คว้ามือดึงหัวเธอขึ้นมาอีกครั้ง  ความเจ็บปวดทำให้เจ้าของร่างกายกรีดร้อง 

“ถ้าคุณจะบอกว่าสิ่งที่ผมโดนอยู่ตอนนี้มันเป็นเพราะผม คุณเองก็ควรจะโทษตัวเองก่อน” ผมเบิกตามอง  คว้าปืนที่อยู่ที่เอวของพี่ธานขึ้นพร้อมจ่อไปที่หน้าผากของเธอ

“อือ ฟะ ไฟ ~”

“ใครสั่ง” ผมถาม

“ริ...ริศา ไม่ได้ตั้งใจ” เธอส่ายหัวทั้งน้ำตา

“ริศา..” ผมมองตาเธอพลางกดน้ำหนักลงที่ปากกระบอกปืนมากกว่าเดิม

“สิ่งเดียวในความโชคดีที่คุณมีอยู่ตอนนี้คือความเป็นผู้หญิงของคุณ ดังนั้น คุณควรจะตอบเวลาที่ผมถามคุณดี ๆ”

“........” ริศาส่ายหัว  ริมฝีปากที่เปื้อนน้ำตาสั่นไม่หยุด  ผมจ้องมองไม่กะพริบตา ให้เวลากับเธอ

“ก..กริด อึก กริดบังคับให้ริศาทำ”

“ริศาไม่ได้อยากทำ กริดจะแบล็กเมลริศา ไฟ.. คุณเข้าใจใช่ไหมคะ”

“........” ผมมองเฉย  ความเงียบที่ก่อตัวขึ้นทำให้ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของพี่ธานที่เตือนว่ามีสายโทรเข้า  ผู้รับพูดสายอยู่ไม่กี่วินาทีก่อนจะวางลง

“ตำรวจเข้าตรวจบ้านคุณย่าแล้วครับ” พี่ธานบอก

“ฟะ ไฟ..” ผู้หญิงตรงหน้าร้อนรนในทันที  ผมเหวี่ยงศีรษะของเธอออกจนร่างกระเด็นไปอีกด้าน 

“เอาขึ้นรถไป” ผมสั่ง

“ครับนาย” ไอ้เข้มผงกหัว  หันไปชี้นิ้วสั่งลูกน้องของตนที่ยืนอยู่  ทันทีที่ริศาถูกคว้าตัวขึ้นเธอก็แหกปากร้อง

“ไม่ ! จะพาริศาไปไหน !”

“ปล่อยนะ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน !!!” เธอตวาดพร้อมดิ้นตัวออกจากลูกน้องของผมอย่างแรง  ทำให้ไอ้เข้มต้องเดินเข้าไปกระชากตัวเธอมาก่อนจะผลักเธอจนล้มลงเพื่อเรียกสติ  สายตาของไอ้เข้มที่มองริศาด้วยความว่างเปล่าทำให้เธอสงบลง  หน้าซีดเผือด 


ผมเดินเข้าไปหา นั่งยองลงใกล้ ๆ เธอ...

“ปกติคนของผมไม่ค่อยใจร้ายกับผู้หญิงหรอก นาน ๆ ทีน่ะ..” ผมยิ้มบอก  เกลี่ยเส้นผมยุ่งเหยิงที่ปิดอยู่บนใบหน้าของเธอออกไปที่ข้างแก้ม 

“แต่ไม่ใช่กับไอ้นี่ มันความอดทนต่ำกับผู้หญิงที่ไม่ได้ชอบ คุณก็อย่าดื้อแล้วกัน”

“ไฟคะ ริศา.. ริศาขอโทษ” คนตรงหน้าเบะปากร้องไห้

“คุณมีปัญหากับกริดทำไมริศาต้อง...”

“หึ ผมมีปัญหากับกริดเหรอ” ผมพูดแทรกพลางเลิกคิ้วมอง  อีกฝ่ายชะงัก

“เมื่อไหร่คุณจะเลิกตอแหลสักที คุณนึกว่าไอ้กริดมันไม่รู้เหรอว่าคุณเข้าหามันทำไม” 

“อึก ไฟ..” ริศาก้มหน้าลงตัวสั่น

“ริศาครับ ผมจะลากหัวพ่อคุณมาดูด้วย เหมือนกับที่คุณมาแตะครอบครัวผม..” ผมจ้องมองใบหูของเธอที่เพิ่งเกลี่ยเส้นผมทัดให้

“อึก ฮือออ ~”

“ผมต้องยอมรับผลของการกระทำของผม คุณเองก็เหมือนกัน” ผมกระซิบตัดบทก่อนลุกขึ้นยืนพร้อมปัดมือไล่ส่ง  คนของผมเข้ามาลากตัวริศากลับขึ้นรถไปในทันที  เสียงกรีดร้องดังลั่นทั่วบริเวณ 

“เธอรู้อะไรเค้นออกมาให้หมด” ผมพูด

“ครับนาย” ไอ้เข้มขานรับ  โค้งตัวก่อนกลับขึ้นรถไป  เสียงรถยนต์ที่เคลื่อนตัวจากไปค่อย ๆ ทำให้พื้นที่ที่ผมยืนอยู่สงบลง 

“คุณอยากไปหาคุณย่าก่อนไหมครับ” พี่ธานถามขึ้น

“ไม่ครับ” ผมตอบ  จนป่านนี้แล้วย่ายังไม่ติดต่อมาเอง  และโดยนิสัยแล้วก็คงจะไม่โทรมากับเรื่องแค่นี้  เธอคนนั้นคงกำลังรับมือในแบบของตัวเองอยู่  เรื่องแค่นี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยหากเทียบกับสิ่งที่ย่าต้องเผชิญในฐานะภรรยาของปู่เมื่อสามียังมีชีวิต

“ผมมีที่ที่อยากไปน่ะ” ผมบอก  พี่ธานเปิดประตูรถยนต์ให้ในทันทีโดยไม่ซักถามใด ๆ  วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนานจริง ๆ ...



...............(ไฟ)..............


ผู้เขียน:

ขออภัยด้วยค่ะที่มาต่อล่าช้า > . < ไม่ว่างเลยจ้าาาา อะหือ ~
 
ปล. ริศา เป็นตัวละครเดิมเด้ออออ ~

ปล (อีก). สำหรับตอนนี้ สมุทรกับไฟเขาก็คุยกันแล้วเห็นไหมล้าา #ตรงไหน

ปล (อีกนิด). เอาน่า ~ ในการไม่คุยกัน มันอาจมีเส้นบาง ๆ ซ่อนอยู่ #หราาาาาา

ปล (อีกเหรอ). สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ  ขอให้มีความสุขทุกคนจ้า (คนอ่านน่าจะสุขกว่านี้ถ้าไฟสมุทรมันพูดกันเกิน 5 ประโยค กร๊ากกก)

 :hao3: :hao3: :hao3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2021 01:33:46 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
 :serius2: อินมากลุ้นด้วย  :ling2:

ขอบคุณเบบี้มากค่ะ
 :L2:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

:serius2: อินมากลุ้นด้วย  :ling2:

ขอบคุณเบบี้มากค่ะ
 :L2:

ขอบคุณค่าาาา   :กอด1:

ออฟไลน์ namaquaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
บางทีการที่เขาไม่คุยกัน อาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้ใจตัวเองมากขึ้นมั้ยนะ55555555
 /คิดแบบคนมองบวกไว้ก่อนค่ะ

ออฟไลน์ THE MIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
โอ๊ยย ต่างคนต่างงอน ไอ้ต้าวพวกนี้. แต่ดันชอบอ่ะ กร๊ากกกก

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
โอ๊ยย ต่างคนต่างงอน ไอ้ต้าวพวกนี้. แต่ดันชอบอ่ะ กร๊ากกกก

'ไอ้ต้าว' โอ้ยย ตลก 55555  :jul3: :jul3:

ออฟไลน์ pukpra

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-0
พี่ธานว่าผมไม่เกี่ยวอะไรด้วยทำไมคุณย่าทำกับผมแบบนี้ค้าบ 555
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยค่ะเบบี้

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
มีความสุขนะคะ ดูแลสุขภาพเยอะๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด