[เรื่องสั้น] เรา (จบในตอน)

Boy's love > เรื่องสั้น

[เรื่องสั้น] เรา (จบในตอน)

(1/10) > >>

Wendy:

--- อ้างถึง ---ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

***************
--- ปิดอ้างถึง ---

สวัสดีค่ะ

ชื่อบลูค่ะ อยู่ในมุมมืดมานาน
วันนี้เลยเอาเรื่องที่เคยแต่งไว้มาลองให้อ่านกันค่ะ
ฝากติชมด้วยนะคะ
 
Lavender's blue


งานเขียน
[เรื่องสั้น] เรา (จบในตอน)
[เรื่องสั้น] At the beginning of the end ❆(จบในตอน)
★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★ จบแล้ว
Just Love ❤ รักนะครับ  จบแล้ว

Wendy:

เรา : เรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของใคร




เรา





          ‘กูว่านะ มึงกับไอ้ต่อ ต่างกันเกินไปนะเว้ย ดูแค่นิสัยก็โคตรต่างแล้ว สายงานก็คนละทางอีก ไม่ได้เจอกันบ่อยด้วย มึงจะไปกันรอดเหรอวะ….’


             จำไม่ได้เหมือนกันว่ามันพล่ามอะไรต่อไปอีกยืดยาว เพราะแค่มันขึ้นต้นประโยคมาก็ทำเขาเจ็บสุดๆ แล้ว

           
           สัสเอ้ย! ไอ้เพื่อนเฮงซวย! ขอให้มึงโดนสาวทิ้งสามปีติด!


             อุตส่าห์ไม่คิดเรื่องบ้าๆ นี้แล้วแท้ๆ แต่พอมันพูดขึ้นมาเท่านั้นแหละ ตะกอนในใจที่เคยคิดว่าหายไปแล้วกลับผุดขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มากกว่าทุกๆ ครั้ง มันทำให้ใจที่เคยสงบนิ่งขุ่นข้นจนมองไม่เห็นสีเดิม ร้อนรนกระวนกระวายจนแทบนอนไม่หลับ



              เรื่องมันเกิดขึ้นก็เพราะว่า อยู่ๆ ไอ้เพื่อนที่ไม่เคยจะโผล่หัวมาให้เห็น นอกจากเวลาที่มันว่างจากสาวๆ ยิ่งช่วงนี้ที่แม่งเพิ่งโดนทิ้งมาครั้งที่สามแสนแปด (แน่นอนว่าคนอย่างมันไม่เคยทิ้งใคร รอให้สาวทิ้งตลอด เลวสุด!) ก็มาลากไปดูหนัง พาไปเลี้ยงข้าว ต่อด้วยยอดข้าวพอกึ่มๆ ก่อนจะมาส่งที่หอพัก


              คือมันจะดีมาก ถ้ามันไม่พูดเรื่องของเขากับแฟน คิดแล้วยังคงหัวเสียไม่หายจริงๆ !


              อาจยังไม่รู้ แฟนของเขาเป็นผู้ชาย ผู้ชายตัวสูงใส่แว่น คิ้วเข้มๆ กับผิวคล้ำๆ หน้านิ่งๆ นานทีปีหนจะเปิดปากพูดกับคนแปลกหน้า ชื่อว่า ต่อ ตอนนี้ทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดบ้านเกิดทางใต้ตรงตามคณะเศรษฐศาสตร์ที่เรียนจบมา


              เขา จบจากคณะพยาบาลศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ตอนนี้มาทำงานใช้ทุนอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพ ถามถึงรูปร่างหน้าตาก็แนวๆ คนเรียนพยาบาลทั่วไปนั่นแหละครับ กล้ามเนื้อทั้งหลายที่เรียนมาแทบจะหาไม่เจอบนร่างกายของตัวเอง ทำงานพยาบาลวันๆ แทบจะไม่ได้ออกไปไหนยิ่งทำให้ตัวซีดขาวเข้าไปใหญ่ ดีหน่อยที่ได้เชื้อพ่อที่เป็นคนใต้มาเยอะ ตาเลยโต จมูกโด่ง ช่วยให้หน้าตาไม่จืดไปนัก


              หากเปรียบคู่ของเราเป็นสี ให้ต่อเป็นสีดำ เขาก็เป็นสีขาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง  นิสัย รสนิยม ความถนัด แตกต่างกันอย่างที่ไอ้เพื่อนบ้าๆ มันพูดเอาไว้นั่นแหละ







               ครืด! ครืด!

               โทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะเล็กข้างเตียงสั่นครืดคราด มองนาฬิกาดิจิตอลที่ส่องแสงสว่างในความมืดแล้วก็รู้ว่าใครโทรมา ทั้งๆ ที่มีเรื่องขุ่นใจริมฝีปากก็อดที่จะแย้มเบาๆ อย่างเคยไม่ได้



               “นอนหรือยัง” เสียงทุ้มบนแหบนิดๆ ดังมาตามสาย

               “กำลังจะนอนเลยเนี่ย เพิ่งปิดไฟ”
   
               “วันนี้นอนเร็ว?” น้ำเสียงปลายสายแทบไม่ต่างอะไรกับคำพูดปกติ แต่กับคนสนิทแล้วก็รู้ว่าคนอีกฝั่งกำลังสงสัย

               “อื้อ มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”

               “เรื่อง?”

               “มันงี่เง่าอะ เล่าแล้วต่อต้องว่าชาแน่เลย” ใช่ว่าเรื่องที่ทำให้เขาคิดมากอย่างนี้จะไม่เคยเอามาคุยกันนี่นะ

               “เล่ามาเถอะ จะฟัง” แล้วก็เงียบไปอย่างรอฟังอยู่จริงๆ



               “วันนี้อะ ไปส่งอาม่ากลับบ้าน อาม่าก็ยื่นซองมาให้ เปิดดูเป็นเงินปึกใหญ่เลยทีนี้ไม่รู้เลยเอาไปให้พี่พยาบาลที่แผนก พี่ก็บอกว่าให้เราเก็บไว้เพราะเป็นเงินที่คนไข้ให้เรา แล้วที่ตลกคืออะไรรู้ป่าว”


               “..อะไร”


               “ชาดันถามว่าแล้วต้องเอาให้แผนกบ้างไหมอะดิ พี่เขาก็บอกแล้วแต่ เราเลยแบ่งให้ไปครึ่งหนึ่ง มาคิดๆ แล้วก็เสียดายอะ โหย ไม่น่าแบ่งเลยเรา”

               “หึหึ”

               “เงินจากคนไข้ก้อนแรกเลยนะ อ่า พูดแล้วก็คิดถึงอาม่าจัง”

               “แค่นี้?” เหมือนปลายสายจะรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้คิดมาก จึงถามย้ำมาอีก เขากัดริมฝีปาก ติดเป็นนิสัยไปแล้วเวลาที่จะติดสินใจอะไรต้องกัดปากทุกที ถ้าต่อเห็นโดนดีดปากบ่อยๆ



   
              “วันนี้ไปกินข้าวกับนิคมา” เขาเงียบไปสักพัก ก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ไม่สบายใจจริงๆ ออกมา


                “.......” ปลายสายเงียบไปอย่างที่คาดไว้


                “ต่อ...ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน”  ร้อนรน รู้ว่าจะชื่อนี้จะทำให้แฟนหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดใจทุกครั้งที่ถูกเอ่ยถึง

                “แค่กินข้าว?”

                “ก็มีดูหนัง แล้วก็กินเหล้าด้วยนิดหน่อย นิดเดียว ไม่เมา”

                “อืม”

                “ต่อ” เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงอ่อน ความเงียบที่น่าอึดอัดปกคลุมเราสองคนเอาไว้ นานจนเขาคิดว่าต่อคงจะวางสายไปแล้ว ต่อก็พูดขึ้น

                “ถ้าต่อทำบ้าง ชาจะโกรธไหม”

                “โกรธดิ”

                “อืม ก็รู้นะ”

                “ก็ช่วงนี้ไอ้นิคเพิ่งเลิกกับแฟน มันคงเหงาแหละเลยลากชาไปเที่ยวเฉยๆ ไม่มีไรหรอก”

                “แล้วต้องรอให้มันมีก่อนหรือไงถึงจะโกรธได้” ต่อสวนขึ้นมาทำเอาเขาจุกจนพูดไม่ออก

                “ต่อ..ไอ้นิคมันเป็นเพื่อน—“

                “เพื่อนที่เคยจีบชานะเหรอ” คราวนี้ไม่รอให้เขาพูดจบประโยค ต่อก็สวนขึ้นมาทันที

                “มันไม่ได้จีบ” ไม่ได้เถียงแค่แก้ที่ต่อพูดผิดเฉยๆ

               “คงมีชาคนเดียวที่ไม่รู้ หรือยังไง”

               “ทำไมต้องมาทะเลาะกันเรื่องไอ้นิคมันด้วยอะต่อ มันจะเป็นยังไง เคยชอบชาไหม ก็ช่างหัวมันสิ ตอนนี้ต่อเป็นแฟนชานะเว้ย”

               “แล้วไม่ใช่เพราะมันหรือไงที่ทำให้ชาต้องคิดมากแบบนี้”

             
             ...ก็ใช่ คิดเองในใจ ตอบไปคงโดนโกรธกว่าเดิมแน่ๆ




              “ต่ออ่า”

               “มันพูดอะไร”

              “......” คราวนี้เป็นเขาเองที่เงียบ

               “ชา”

              “...มันบอกว่าเราต่างกันเกินไป ดูไม่น่าจะคบกันได้นาน—“ 

             “ชาก็เชื่อ?”

              “เปล่า”

             “แต่ก็เอามาคิด”

             “ก็มัน—“ …น่าคิดจริงๆ นี่หว่า

            “.................”

             “.................”

             “งั้นชาก็คิดต่อไปละกัน” ติ๊ด! ปลายสายกดตัดสายไปแล้วเรียบร้อย
   
           บ้าเอ้ย!











           “น้องชา ตะกี้มีคนแวะเอาขนมมาฝาก” ยกมือสวัสดีพี่พยาบาลที่แผนก รับเวรเรียบร้อยแล้ว พี่ก้อยที่กำลังจะออกเวรเช้าก็ยื่นน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ที่ยังร้อนอยู่มาให้

           “โหพี่ วันนี้ก็มีอีกเหรอ จะบอกผมได้ยังว่าของใครครับ” มีคนเอาน้ำเอาขนมมาฝากเขาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน พี่ที่แผนกแซวจนเลิกแซวไปแล้ว คนนั้นเป็นคนที่ทุกคนรู้จัก แต่ไม่มีใครยอมบอกเขาเลย

           “อิอิ บอกไม่ได้ เขาขอมา” พี่ก้อยหัวเราะ

           “พี่ก้อยจะออกเวรแล้วแบ่งเอาไปเถอะครับ” ยื่นน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ในมือคืนให้อีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าอีกคนยังลังเลเลยพูดกำชับ “ผมทานข้าวมาเมื่อกี้เองครับ พี่ก้อยไม่ต้องเกรงใจ”

           “งั้นก็ขอบใจจ้ะชา พี่ไปละนะ แล้วเจอกัน”

           “คราวหลังพี่ก้อยไม่ต้องรับมานะครับ ขนมพวกนี้น่ะ” บอกเป็นครั้งที่ห้า แต่ก็ไม่มีใครฟังเขาสักคน




           สุชาร์ทำงานต่อไปจนถึงเวลาเลิกงาน ขณะที่กำลังเดินออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับที่พัก มีใครคนหนึ่งเรียกเขาไว้

           “ชา หวัดดี”

           หันไปก็พบกับชายหนุ่มอารมณ์ดี ส่งยิ้มกว้างมาให้จากบริเวณที่รับส่งคนไข้ ก้อง คนเปลที่คอยรับส่งคนไข้ที่แผนกเขานั่นเอง

           “หวัดดี”

           ส่งยิ้มมุมปาก ยกมือสวัสดีพี่ชัยที่นั่งอยู่ข้างๆ กันแล้วผละออกมา ได้ยินเสียงคนเดินตามมาเหลือบมองก็เห็นว่าเป็นก้อง

           “เดี๋ยวเดินไปด้วย” เมื่อเห็นว่าเขายังคงทำหน้าสงสัย เลยพูดต่อไปว่า “เออ ชาจะไปรถไฟฟ้าใช่ปะ จะไปซื้อกาแฟน่ะ”
           “อืม” กับคนที่ไม่สนิท เขาไม่ใช่คนพูดมากเลย
   
              เมื่อถึงปลายทาง เขาไม่ได้บอกลาก้อง เดินไปเติมเงินบัตรรถไฟฟ้า หันมาอีกทีก้องก็ยืนถือกาแฟอยู่สองมือก่อนจะยื่นแก้วหนึ่งส่งให้

              “ให้...ม็อคค่านะ”



              “ขอบคุณนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก” ส่งยิ้มให้กับความมีน้ำใจแล้วเดินจากมา ขาเรียวในกางเกงผ้าสีขาวสะอาดชะงักอย่างนึกขึ้นได้ เดินกลับมาหาคนที่ยืนมองอยู่อีกฝากหนึ่งของรั้ว

              “น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ก็ไม่ต้องแล้วนะ ขอบคุณมากที่ซื้อมาฝาก...ก้องอายุเท่าไหร่ ยี่สิบเอ็ดใช่ไหม เราอายุยี่สิบสาม ช่วยเรียกว่าพี่ด้วยนะ อ๋อ แล้วพี่ก็มีแฟนแล้ว รักกันมาก เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันแบบเดิมก็ดีแล้วนะ” เขาส่งยิ้มกว้างท้ายประโยค เห็นหน้าของหนุ่มรุ่นน้องซีดนิดๆ

              “พี่เป็นคนตรงๆ พูดแบบนี้ ก้องไม่โกรธใช่ไหม...หรือถ้าตีความหมายของการกระทำของก้องผิดไปก็ขอโทษด้วยนะ” 

              “ผม...” ใบหน้าของคนตรงหน้ายังคงมึนงงเหมือนจับต้นชนปลายไม่ถูก เขายังคงยืนรอให้อีกฝ่ายพูดอะไรออกมาบ้าง อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าคนตรงหน้าเข้าใจที่สิ่งเขาพูดไป



              “ผม...ไม่นึกว่าพี่จะตรงขนาดนี้ เห็นเงียบๆ”



              “ก็เป็นแบบนี้แหละ พี่ไปก่อนนะ” หมุนตัวจากมา เห็นจากหางตาว่าคนข้างหลังส่ายหัวแล้วก็หัวเราะเบาๆ แก้วกาแฟที่ยังไม่ได้แตะต้องนั้นถูกส่งให้กับพนักงานร้านกาแฟ



              ในวันพรุ่งนี้และวันถัดๆ ไป น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋คงไม่มีวางอยู่บนโต๊ะทำงานอีกแล้ว แอบเสียดายเล็กๆ แทนเจ้าด่าง แม่หมาลูกดกตัวผอมกะหร่องท่าทางหิวโซที่หอพัก แต่วันนี้จะแวะซื้อไก่ย่างให้ห้าไม้ชดเชยแล้วกัน

   














              “สัส ตัดสายกูทิ้งตลอด” ไอ้นิคส่งเสียงโวยวายลั่นมาทางสายโทรศัพท์ ทันทีที่เขากดรับโทรศัพท์

              “กูไม่ว่าง..ทำงานอยู่”

              “ตอแหล” ปากอย่างงี้ ทำไมใครๆ ถึงคิดว่ามันจีบเขาว่ะ

              “แล้วโทรมาทำไร” เย็นวันศุกร์ต้นเดือนแบบนี้ คงไม่พ้นชวนออกไปกินเที่ยวตามสไตล์มัน

              “ไปกินเหล้ากัน” นั่นไง ว่าแล้วไม่ผิด

              “อยู่เวรดึก” อาทิตย์นี้เขาอยู่เวรดึกทั้งอาทิตย์ ลงเวรมาตอนแปดโมงเช้านอนยาวจนถึงบ่ายสามโมง เดี๋ยวตอนทุ่มก็ต้องขึ้นเวร
              “แล้วอีกอย่างเพราะมึงเลยเชี่ยนิค ต่อโกรธกูไม่คุยกับกูมาสองวันแล้ว ไอ้เลว!”

              ที่บอกว่าต่อไม่คุย หมายถึง พอโทรไปก็รับเป็นปกติ แต่จะพูดแค่คำว่า “อืม” คำเดียวเท่านั้น จริงๆ ให้ตาย!

              ไอ้นิคส่งเสียงหัวเราะอย่างสะใจสุดๆ มาให้ “มึงก็ง้อมันดิ เนี่ยเสาร์อาทิตย์นี้มึงก็กลับไปง้อมันเลย” ไอ้นิคบอกด้วยน้ำเสียงประชดประชันเพราะมันรู้ แต่ว่า…



              “เออ! กูไปอยู่แล้ว แค่นี้แหละมึง เดี๋ยวไปขึ้นเวรละ”


    
              มันพูดประชดแต่กูทำจริงครับ เขากดจองตั๋วเครื่องบินไปแล้วเมื่อเที่ยงหลังจากที่โทรไปแล้วได้ยินแค่คำว่า “อืม” เป็นรอบที่ร้อย

              ระยะทางกับความสัมพันธ์มันแปรผันตรงอย่างที่ใครๆ พูดกัน แต่รักของเขาครั้งนี้ จะไม่เป็นอย่างที่ใครก็ไม่รู้พูดไว้หรอก

















              “พี่ชา สวัสดีครับ” ลงจากรถไฟฟ้า เดินข้ามสะพานลอย ก้าวเข้ามาในตึกหนึ่ง ก้องที่นั่งอยู่ที่รับส่งคนไข้ก็ส่งเสียงทักทาย

              “หวัดดี” ยกมือตอบ แล้วเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังแผนกที่ทำงาน หนุ่มรุ่นน้องหายไปจากการมองเห็นของเขาหลายวัน จนเมื่อวานนี้เองที่ส่งเสียงมาทักทาย ดวงตาสีดำสนิทไม่ได้มองเขาอย่างเดิมอีกต่อไป นั่งทำให้เขาสนิทใจพอที่จะทักทายกลับบ้างตามโอกาส

   



              อยู่เวรดึก สบายกว่าเวรเช้าที่มีคนไข้น้อยกว่า เดินตรวจตามห้องพักพิเศษบนแผนก จัดยา ให้ยาคนไข้ตามเวลาบ้างเล็กน้อย เพราะงานยุ่งจริงๆ จัดการเรียบร้อยไปตั้งแต่ก่อนสี่ทุ่มแล้ว เวลาหลังจากนั้นจึงทำให้พยาบาลทั้งหลายมีโอกาสนั่งพักผ่อนกันตามอัธยาศัย

              ปกติพนังงานที่เข้ามาทำงานได้ปีกว่าๆ อย่างเขาไม่ค่อยอยู่เวรดึกกันหรอก เพราะ ‘พี่ๆ ในแผนก’ จะจองไว้หมด งานน้อย เงินดีกว่า ใครๆ ก็อยากได้ทั้งนั้น แต่เพราะอาทิตย์นี้ พยาบาลคนหนึ่งลาหยุดไป เขาจึงได้มาอยู่เวรแทน มันก็ดีไปหมดเสียแต่อย่างเดียวที่ต้องมาอยู่เวรในคืนวันศุกร์แทนที่จะได้ขึ้นเครื่องกลับไปง้อคนขี้น้อยใจตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้ว




              เช้าตรู่วันเสาร์หลังจากที่รายงานเวรดึกให้กับพยาบาลคนที่มารับเวรต่อแล้ว เขาก็รีบตรงดิ่งกลับหอทันที เวลาเจ็ดโมงครึ่งของเช้าวันเสาร์รถไฟฟ้ามีคนเพียงประปราย โบกี้ที่เขาอยู่มีเพียงสตรีสูงวัยคนเดียวเท่านั้น หอพักของเขาห่างจากโรงพยาบาลห้าสถานีรถไฟฟ้า







              รอลิฟท์ไม่ทันใจ เขาเลยก้าวยาวๆ ขึ้นบันไดเพิ่งจะเริ่มหอบก็มาถึงชั้นหก ห้องพักของเขาอยู่ปลายสุดทางเดิน หยิบกุญแจเปิดประตูห้อง กลิ่นกาแฟหอมฟุ้งลอยตลบ เดินเร็วๆ ก็พบว่าในห้องมีใครคนหนึ่งยืนหันหลังง่วนกับการชงกาแฟอยู่บนเคาเตอร์




              “ต่อ!”

              ถลาเข้าไปกอดเอวสอบภายใต้กางเกงแสลกสีดำ กลิ่นกายคุ้นเคยทำเอาเขาน้ำตารื้น

              “ตัวเล็ก! ระวังน้ำร้อน”


              ต่อร้องออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะโดนเจ้าของห้องจู่โจมอย่างรวดเร็วตอนที่เขากำลังกดน้ำร้อนเพื่อชงกาแฟ เขาขยับแก้วกาแฟที่ยังไม่ทันได้ชงออกห่างจากตัว จับข้อมือของคนตัวเล็กไว้ หมุนตัวกลับไป






              ผมสีน้ำตาลเข้มที่เจ้าตัวไปย้อมสีเมื่อต้นเดือนยาวขึ้นกว่าเดิมจนปรกหน้าผากมน ไรผมมีเหงื่อซึมน้อยๆ เขาเอามือเกลี่ยปัดออกไปด้านข้าง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มแดงก่ำ ขนตายาวเป็นแพเปียกชุ่มด้วยน้ำตา แก้มขาวขึ้นสีระเรื่อสีเดียวกับจมูกเล็กเชิดรั้น ริมฝีปากถูกเจ้าตัวขบไว้แน่นอย่างที่เจ้าตัวมักจะทำเสมอเวลามีเรื่องกังวลใจ



              “บอกว่าอย่ากัดปาก”



              เขาก้มลงไปกระซิบใกล้ริมฝีปากเล็ก เมื่อเห็นว่าชาไม่ทำตามก็แนบริมฝีปากลงไป ไม่ได้รุกราน เพียงแต่กดแช่นิ่งไว้จนอีกฝ่ายเลิกกัดปากตัวเองแล้วจึงกดจูบย้ำๆ แล้วผละออก

              “ฮื่อ...จะมาแล้วทำไมไม่บอก” ชาซุกหน้าเข้ากับอกกว้าง ที่ไม่ว่าเขาจะกอดเมื่อไหร่ก็ให้ความอบอุ่นเสมอ

              “กลัวคนแถวนี้จะคิดว่ามาง้อ”

              “เหอะ ก็มาง้อจริงๆ นั่นแหละ” ชาบอกเสียงอู้อี้ เขาเงยหน้าขึ้นกดจูบเร็วที่ปลายคางของคนที่หัวเราะหึๆ ในคอ ...ไม่ยอมรับความจริง ชิ

              “ดีนะที่แวะกลับหอก่อน ถ้าออกไปเลยสวนกันจะทำไง” 

              “จะไปไหน”

              “กลับบ้านดิ คนแถวนี้แม่งขี้งอน ว่าจะไปง้อสักหน่อย”

              “แต่สุดท้ายก็ง้อก่อนอยู่ดี” ดวงตาสีดำสนิทฉายแววระยับ ชาส่งยิ้มกว้างคล้องสองแขนเข้ากับลำคอหนา เบียดตัวเองชิดอกกว้าง


              “ให้รางวัลคนน่ารักเป็นอะไรดี”  งับริมฝีปากจากปลายคางขึ้นไปยังปลายจมูก สองมืออุ่นร้อนของต่อวางอยู่ตรงสะโพก
   



           ต่อไม่ตอบคำถาม กดริมฝีปากเข้าหาฝ่ายตรงข้าม ส่งจูบเร่าร้อนทว่าอ่อนหวาน ปลายลิ้นเล็กขยับอย่างหยอกล้อถูกเกี่ยวดึง เม้มกัดเบา จนชาต้องครางออกมาอย่างอดไม่อยู่ สองมือขาวกำแน่นในกลุ่มผมหนานุ่มสีดำสนิท รวบเอวคนตัวเล็กกว่าขึ้นแล้วก้าวเดินออกมาจากบริเวณครัว



              สองมือขาวละจากเส้นผม ลงมือแกะกระดุมเสื้อเชิ้ต เมื่อถอดเสื้อสีขาวออกได้ พอดีกับต่อวางเขาลงบนเตียง แล้วร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อก็เข้ามาคร่อมเขาไว้ ลำคอขาวถูกกัดเบาจนขึ้นรอยแดง ฝ่ามือหนาเค้นคลึงร่างกายจนทนไม่ไหว ปลดปล่อยออกมาโดยไม่ทันได้แตะต้องช่องทางอ่อนไหว


              ขยับหาของที่ต้องการในโต๊ะเล็กข้างเตียงได้แล้วก็ส่งมอบสัมผัสเร่าร้อน ฝ่ามือของต่อร้อนระอุเหมือนมีไฟร้อนๆ นาบไปทั่วทั้งร่าง ชาเอียงคอให้ปลายจมูกโด่งได้ซุกไซ้โลมไล้ ริมฝีปากร้อนจัดแนบไปทั่วทั้งใบหน้า ลำคอ ทิ้งรอยไว้ทุกแห่งที่ผ่าน หัวไหล่ขาว แผ่นอกบาง ถูกขบกัดจนได้ยินเสียงครางระงม


              ฝ่ามือเล็กสอดประสานฝ่ามือใหญ่ในนาทีที่ร่างกายหลอมรวม ถ่ายทอดความโหยหากันและกัน เริ่มจากจังหวะเนิบช้าก่อนจะขยับเป็นจังหวะรัวเร็ว ปลายทางของความรู้สึกเครียดเขม็งคือแสงสว่างวาบ ร่างกายกลั่นกรองหยาดหยดออกมาจนหมดสิ้น เบาโหวงเหมือนขนนกที่ถูกพายุอารมณ์พัดโหมขึ้นสูงแล้วค่อยๆ ร่วงลงอย่างแผ่วเบา


              ผ้าเย็นลูปไล้ไปทั่วร่างกาย เสื้อนอนตัวใหม่หอมฟุ้ง เสียงเครื่องปรับอากาศดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะถูกกกกอด อุ่นไปทั้งตัวและหัวใจ



              “ฝันดีครับ ตัวเล็ก”



           สัมผัสอุ่นๆ ข้างขมับ เสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอข้างหู แล้วเขาก็เข้าสู่ห้วงนิทรา


   














              “ไหนบอกจะกลับบ้านไปง้อแฟน” ไอ้นิคเอ่ยทันทีที่เดินเข้ามาในร้าน หลังจากหลับไปตอนเข้า ตื่นขึ้นมาตอนเย็น ต่อก็บอกว่านัดกับนิคไว้แล้วไปทานข้าวเย็นข้างนอก ทิ้งให้เขาสงสัยว่าไปแอบนัดกันเมื่อไหร่

              “พอดีแฟนมาง้อก่อน” หันไปยิ้มกว้างให้กับคนข้าวตัว ก่อนจะได้รับรางวัลเป็นริมฝีปากอุ่นๆ ข้างขมับ

              “หิวแล้ว สั่งอะไรยัง”

              “สั่งไปสองสามอย่าง  มึงสั่งเพิ่มเลย”

              ไอ้นิคสั่งกับข้าวเพิ่มอีกสองอย่าง การพูดคุยเป็นไปอย่างปกติ ไอ้นิคยังคงมีเรื่องตลกมาเล่าให้ฟังเรื่อยๆ ทำให้เขาและต่อหัวเราะได้บ่อยๆ เหมือนเดิม จนเมื่อถึงเวลาของหวาน

              ระหว่างที่รอพนักงานมาเก็บโต๊ะ ต่อก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอย่างเคย

              “นิค มึงน่ะเป็นเพื่อนที่ดีนะ”

              “แน่นอนอยู่แล้ว” ไอ้นิคยิ้มร่า รับคำพูด

              “มึงเลิกมาไซโคแฟนกูให้มันคิดมากได้แล้ว” บรรยากาศกดดันเกิดขึ้นทำเอาเขาเงยหน้าขึ้นมาจากไอศกรีมมะพร้าวอ่อนที่กำลังทานได้สองคำ

              “ตอนนี้ชาเป็นแฟนกู แต่มึงเป็นเพื่อน เข้าใจนะ” ต่อมองตรงไปยังดวงตาของนิคนิ่ง

              แววตาของนิคแววโรจน์ มันอาจโกรธ โมโห หรือน้อยใจที่ต่อบอกมันอ้อมๆ ว่าให้เลิกยุ่งเรื่องของพวกเขา แต่สุดท้ายเมื่อเห็นว่าเขายังคงนั่งนิ่งๆ ไม่ออกมาปกป้องมันอย่างเคย มันก็พยักหน้าแกนๆ


              “โอเค กูเข้าใจแล้ว”
   



.
.
.

      


              หลังจากแยกกันกับนิค ต่อขับรถพาเขามายังสะพานพระรามแปด สายลมเย็นเอื่อยๆ ของปลายฤดูหนาวในกรุงเทพไม่เย็นเท่าต่างจังหวัดก็จริง แต่มันก็ช่วยให้ความอึดอัดที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนของเขากับแฟนเบาบางลง

              กลิ่นบุหรี่ลอยมาจางๆ ตามลม หันไปมองก็พบว่าต่อกำลังพ่นควันสีเทาออกมาจากริมฝีปากช้าๆ
   
           “โกรธหรือเปล่า” คนที่สูบบุหรี่ถามขึ้น

           “ไม่หรอก” ไม่รู้ว่าคนตัวสูงกว่าถามถึงเรื่องไหน เรื่องที่พูดกับนิค หรือเรื่องที่สูบบุหรี่ทั้งๆ ที่เขาแพ้ควันบุหรี่ก็ตาม

           “มาอยู่เหนือลมสิ” ขยับไปยืนอีกฝั่ง ต่ออัดบุหรี่เข้าปอดลึกแล้วเดินไปทิ้งในที่เขี่ยบุหรี่



           “อย่าไปฟังคนอื่นมาก” ต่อขยับเข้ามาใกล้ กลิ่นบุหรี่ยังคงอวนอยู่รวบตัว

           “อื้อ” หันหลังมองไปยังแม่น้ำ แสงไฟจากตึกสูงริมแม่น้ำสะท้อนกับสายน้ำระยิบระยับ คนข้างหลังสวมกอดเขา แนบแก้มสากเข้ากับซอกคอ


           “รู้แล้วใช่ไหมว่า ‘รักมาก’ ”


              เสียงของต่อไม่ได้อ่อนหวานหรือนุ่มนวลเลยสักนิดเมื่อเอยคำว่า รัก ออกมา มันหนักแน่นราวกับต้องการตอกลึกไปยังกลางใจของคนฟังให้รู้ตัวเสมอว่าเป็นที่รักและต้องการมากมายเพียงไร




              “ปีหน้า ตัวเล็กก็จะย้ายกลับแล้ว อดทนอีกนิดนะ”



              ปีหน้าสัญญาการใช้ทุนของเขาจะจบลง เขาจะย้ายไปทำงานที่โรงพยาบาลเดิมในสาขาที่จังหวัดบ้านเกิด ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้เขาและต่อได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่เขาเริ่มมาทำงานที่กรุงเทพ...เมื่อต้นปีแล้ว
   

              กลับเป็นต่อที่จำได้แม่นและเอามาพูดย้ำ บอกเขาอยู่เสมอ


              ใช่เพียงรูปร่างหน้าตา เป็นเพราะนิสัย ความสม่ำเสมอ มีเหตุผล ใจเย็น ใจหนัก มั่นคง อบอุ่น และที่สำคัญคือรักเขาและเขาก็รักคนตรงหน้านี้ยิ่งกว่าใครๆ แม้ว่าจะมีหลายครั้งที่มีคนมาวิจารณ์เรื่องของเรา เขาเก็บคำพูดไร้สาระพวกนั้นมาคิดมากมายขนาดไหน
           
           เพียงแค่คำบอกรักหนักแน่นจากต่อ ถ้อยคำเหล่านั้นก็หายไปราวกับโดนลมพัด


              “ชารักต่อนะ”

              “เชื่อสิว่าทางนี้มากกว่า”
   
              “แล้วก็เชื่อไหมว่าชารักต่อที่สุดเลย” หันกลับไปยิ้มใสตาคนตัวสูง

              ริมฝีปากอุ่นร้อนแนบลงมาสนิท กระซิบเบาๆ ริมหูเล็ก

           “เชื่อครับ”




.
.
.



The End

[15/09/2558]
เรื่องนี้เคยลงมาแล้วที่เด็กดีค่ะ ปกติเราเข้ามาอ่านนิยายในเล้าเป็ดตลอดแต่ไม่กล้าเอานิยายตัวเองมาลง
รู้สึกเหมือนยืนหนังสือเพื่อนอ่านแล้วพอเรามีบ้างแล้วไม่ให้เพื่อนยืม วันนี้เลยรวบรวมความกล้า (?) เอามาลงให้อ่านกันดูค่ะ
ฝากติชมด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

Lavender’s blue 

♠DekDoy♠:
ชา ต่อ น่ารัก มั่นคงและรักกันนาน ๆ นะ

mukmaoY:
น่ารักมากๆ
ต่างคนต่างเข้าใจกันนะ
ต่ออบอุ่นดีจะตาย

dahlia:
ชอบเรื่องที่ให้ความรู้สึกดีๆ แบบนี้มากเลย  ถ้าคนแต่งมีเวลาว่าง แต่งมาเพิ่มอีกสักหน่อยก็ดีนะ อยากอ่านต่อจริงๆ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ไปที่เวอร์ชันเต็ม