ย้อนอดีตเรื่องราวเป็ดพันอ้อย..อัพรูปและเรื่องเพิ่ม..By เซ็งเป็ด (update p.2/22-11-10)

Boy's love > เซ็งเป็ดแฟนคลับ

ย้อนอดีตเรื่องราวเป็ดพันอ้อย..อัพรูปและเรื่องเพิ่ม..By เซ็งเป็ด (update p.2/22-11-10)

(1/31) > >>

เซ็งเป็ด:
ถึงอ้อย..............เพื่อนรัก


สบายดีมั๊ยเพื่อนร๊ากกกกกกกก ข่าวคราวเงียบหายไปสอง สามปี....ไม่ถึงขนาดนั้น แค่จะปีนึงแล้วเองที่ กูไม่ได้ติดต่อมึงเลย
ไม่ใช่ว่ากูลืมมึง แต่มึงตะหากที่ลืมกู กูพยายามติดต่อมึงหลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเป็นต้นมา แต่ก็ไม่มีข่าวคราว

กูโทรไม่ติด ไม่รู้ว่ามึงเปลี่ยนเบอร์ ไม่มีคลื่น หรือ เลิกใช้มือถือถาวรไปแล้ว

แอบน้อยใจนะเว้ย ว่าทำไมถึงไม่คิดจะติดต่อมาบ้าง กูรู้ว่ากูเลว แต่แหม   ถึงกูจะเลวแต่ก็เลวแต่กะมึง กะคนอื่นกูแสนดีนะเว้ย(อ้าว แล้วมันดีตรงไหน)


ครั้งล่าสุดที่กูจำได้ กูคุยกับมึงคือวันฉายหนังเซ็งเป็ดที่ ลิโด้ สยาม กูไปดูกับดาราที่แสดงเป็นกูกับมึง ที่ผู้กำกับเขาจินตนาการซะสวยหรู
555  อยากจะบอกพวกเขาเหลือเกินว่า กูกับมึง ไม่ได้สักขี้เล็บของพระเอก นายเอกคู่นั้นเลย ................จริงจริ๊ง

หลังดูหนังเสร็จ  กูโคตรตื่นเต้นเลย โทรหามึงตอนนั้นเลย มึงรับสายแล้วถามกูว่า

"มีเรื่องอะไรเหรอ"   ช่างเป็นคำทักทายที่เหินห่าง อ้างว้าง สราญรมย์เสียจริงๆ  แล้วกูก็เล่าให้มึงฟังว่า
"เฮ้ย มึง เรื่องมึงกับกูเป็นหนังแล้วนะเว้ย"  เสร็จมึงก็ไม่ได้แสดงอาการตื่นเต้น เหมือนกูเลย ตรงกันข้ามกลับด่ากู หาว่า ไม่รู้เหรอว่าคุยกับพระน่ะ คุยยังไง
เซ็งเลย
กูก็แค่ พูดมึงกูกับพระ ไม่เห็นจะผิดตรงไหนเลย (เวร นรกจะกินกระหม่อม)

หลังจากนั้นกูก็คุยงุ๊งงิ๊งๆ ตามประสาเพื่อนกันอยู่พักหนึ่ง พอดีน้องที่มาดูหนังเขาเห็นกูคุยนาน มองหน้ากู กูก็เลยยื่นมือถือให้คุยกับมึง

น้องมันตื่นเต้น รีบพูด
"อาตมาสวัสดีค่ะ" แล้วมึงก็บอกน้องมันว่า

"อาตมาน่ะ พระพูด"  น้องมันยืนอึ้ง

...........และนี่แหละครั้งสุดท้ายที่กูได้ยินเสียงมึง

แล้วมึงก็หายออกไปจากชีวิตกู..............ถาวร




...............................................................................

ในที่สุดมึงก็ลืมกูได้สำเร็จ ดีใจด้วยนะเว้ย ที่ทำได้ซะที มึงมันเก่ง ตรงกันข้ามกับกู กูพยายามจะถีบมึงออกจากชีวิต แต่พอมึงไปกูกลับลืมมึงไม่ได้ แม้จะพยายามอย่างหนักหน่วงแล้วก็ตาม

มีคนถามว่า ทำไมยังอยู่ดอนเมือง ทั้งๆที่ทำงานไกลถึงสุวรรณภูมิ
เหตุผลง่ายๆก็คือ กูอยู่ที่นี่เพราะความทรงจำ ความคุ้นเคย โหยหาในบางส่วน อย่างน้อย

ดอนเมือง......ก็คือที่ที่มีความทรงจำระหว่างกูกับมึงหล่นเรี่ยรายปลายทางอยู่เต็มไปหมด


กูไม่ได้ข่าวมึงเลยนานนับปี แต่แล้ววันหนึ่ง ซึ่งก็คือ เมื่อ สี่วันก่อน
กูเจอเพื่อนร่วมงานเก่าคนหนึ่ง มึงรู้จักดี "พี่นันท์" พี่ที่เคยแอบชอบมึงตอนที่ทำงานด้วยกันน่ะ จำได้มั๊ย

กูเจอเขาที่สนามบินดอนเมือง ยืนซื้อปาท่องโก๊ร้านที่มึงซื้อบ่อยๆนะแหละอยู่
พอเจอกูแกก็ถลาเข้ามาเหมือนที่เคย

"อร้ายยยย  น้องเป็ด" แล้วก็ก็กอดกูแต่คงไม่แน่นเหมือนที่กอดมึง

เราถามสารทุกข์สุกดิบกันครู่ใหญ่ จู่ๆ คิดอะไรก็ไม่รู้

"ได้ข่าวอ้อยมั่งป่าว" กูถาม
แกจึงเล่าให้ฟังว่า แกโทรหามึงตอนล่าสุดเมื่อมีนาต้นปี และได้ข่าวว่ามึงย้ายไปอยู่................เสียแล้ว พอกูได้ฟังอย่างนั้นในใจนึงก็โล่งอก ที่อย่างน้อยมึงก็ไม่ได้โดนอุ้มไปนั่งยางโชว์ที่ไหน แต่อีกใจนึงกลับโหวงเหวงเมื่อได้รู้ว่า มึงอยู่ไกลออกไป ทุกที......ทุกที


อ้อย..............สำหรับคนที่นี่ มึงคือพระเอก ส่วนกูเป็นผู้ร้าย ทุกคนสงสาร และเห็นใจมึง ส่วนกูมีแต่คนจ้องจะกระทืบ  สี่ปีก่อนที่กูตัดสินใจเขียนเรื่องของมึง ก็เพราะกูขยะแขยงมึงที่ชอบมาก้อล้อก้อติด กูไม่ชอบคนจู่โจมแบบมึง กูเลยหาที่ระบาย  ไม่คิดไม่ฝันว่าเรื่องของมึงกลับทำให้คนสนใจมากมาย และกลายเป็นเรื่องโด่งดังที่ใครๆก็อยากจะเจอตัวจริง

ตลอดระยะเวลาที่เรื่องลุกลามไปมากมายนั้น กูพยายามอย่างหนักที่จะปกป้องมึงจากทางโลก กูรู้ว่ามึงไม่รู้เรื่องอะไรกับสิ่งที่กูทำ และมึงคงไม่ชอบใจแน่ๆ กูเลิกเขียนถึงมึง ไม่รับพิมพ์หนังสือ ไม่รับทำหนัง ไม่ใดๆทั้งสิ้น

เมื่อใครๆหลายๆคนสนใจ ขุดคุ้ย และสุดท้ายตัดสินกันว่ามันคือเรื่องแต่ง

กูจึงโล่งใจ ยุติเรื่องทั้งหมดไว้และปล่อยให้เป็นปริศนา

ผ่านมา 4 ปีเรื่องของเรากลายเป็นตำนานคู่ดูโอที่ เคยโด่งดัง หากเทียบกันก็เหมือน ลิฟท์ กะออย จอห์นนี่ กะหลุย หรือ เจอาร์ วอย ประมาณนั้น
เด็กในยุคนี้หลายคนไม่รู้จักแล้วด้วยซ้ำ 555  เพราะตอนนี้ แหม่ เกาหลีเขามาแรง เราต้องหลีก


แล้วทำไมกูถึงตัดสินใจเขียนถึงมึงอีก...................



ตอบ ไม่รู้สิ คงคิดว่า เรื่องมันเงียบไปแล้วมั้ง น่าจะไม่มีใครมาสนใจอีก อีกอย่างกูก็คิดถึงมึงด้วยนิดหน่อย

คืนก่อนที่กูจะตัดสินใจเขียนถึงมึง กูนอนไม่หลับทั้งคืน ยันเช้า เฝ้าคิดถึงแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างที่เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่

น่าแปลกที่กูเห็นภาพตอนนั้นได้ชัดเจน ภาพเหตุการณ์มากมายผุดขึ้นในหัวเป็นฉากๆ กูตื่นเต้น บางครั้งก็หัวเราะเหมือนคนบ้าในที่สิ่งที่เราทำกัน

เรื่องราวแล่นเข้ามามากมาย ก็คิดดูเอาแล้วกันว่ายันเช้าน่ะที่นอนไม่หลับ

                  วันรุ่งขึ้นกูจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่า จะเขียนเรื่องราวระหว่างเราให้ละเอียด เผื่อที่ว่า เมื่อกูแก่ หรือมึงเฒ่า เราจะได้มีเรื่องราวความทรงจำเหล่านี้ อ่านให้กันฟัง

กูรื้อของในลังเก่าๆ ดูว่ามีอะไรเกี่ยวกับมึงบ้าง และแน่นอน ยิ่งกูรื้อมากเท่าไหร่ ก็เหมือนความทรงจำที่กูพยาย๊าม พยามจะลืม ก็ฟุ้งกระจายขึ้นมามากเท่านั้น


สิ่งแรกที่กูพบในลัง และทำให้เห็นแววตาของมึงชัดเจนที่สุดคือภาพนี้



กูว่าตาของมึงกะตาของกู ง่วงซึมเซาคล้ายๆกัน และกูว่ามึงไม่เหมือน อ๊อฟ ปองศรี เอ้ย ปองศักดิ์ แต่มึงเหมือนสงกรานต์แฟนแอ๊บ ซึ่งแอ๊บเป็นอดีตแฟนกู


คิดถึงแวว ตาและรอยยิ้มคู่นี้ของเพื่อนอย่างมึงนะเว้ย เฮ้ยยยย

แล้วพรุ่งนี้ กูจะตามย้อนรอยอดีตของเรา


...ยังคิดถึงมึง เพื่อนรักของกูเหมือนเดิมนะเว้ย...ยอมรับ

namtaan:
ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ถึงจะเป็นเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่
แต่ในเมื่อเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างคับคั่ง มีทั้งแฟนคลับรุ่นเดิม รุ่นกลาง และรุ่นใหม่มากมาย
หลายคนคงยินดี ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งกับ เซ็งเป็ด เวอร์ชั่นอัพเดตล่าสุดนะคะ

ยินดีและเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :3123:

เกริด้า(๐-*-๐)v:
ไอเป็นกำลังใจให้ค่ะ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ ไม่เห็นต้องคิดให้มันยุ่งยาก ชีวิตเรามันก็นิดเดียวเอง..... ^^

nunam:
ขอหนับหนุนด้วยคนค่ะ  :L2:

aehJTS:
ยกมือสนับสนุนคะ เพราะตามอ่านเมื่อครั้งก่อนขาด ๆ หาย ๆ ลงเถอะคะอยากอ่าน

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ไปที่เวอร์ชันเต็ม