(เรื่องสั้น) แอบรัก The Series
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) แอบรัก The Series  (อ่าน 5939 ครั้ง)

ออฟไลน์ pimsine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
(เรื่องสั้น) แอบรัก The Series
« เมื่อ23-10-2016 18:58:50 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


*******************************************************************





คุณเคยแอบรักใครสักคนไหม?

แอบรักเพื่อนสนิท แอบรักคนใกล้ตัว หรือแม้กระทั่ง....แอบรักพี่ชาย

.
.
.

ร่วมติดตามและลุ้นให้การแอบรักของพวกเขาสมหวังได้ที่นี่ แอบรัก The Series

แล้วเจอกันค่ะ :)


 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2017 14:23:24 โดย pimsine »

ออฟไลน์ pimsine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: (เรื่องสั้น) แอบรัก The Series
«ตอบ #1 เมื่อ23-10-2016 19:15:44 »

-แอบรักเพื่อน-
-เชนบิว-

ผมปิดหน้ากระดาษหนังสือเรียนชั้นม.5ลงเมื่อทำโจทย์คณิตข้อสุดท้ายเสร็จ หยิบมือถือเครื่องบางเสียบหูฟังแล้วกดเล่นเพลงที่ชอบขณะที่สายตาคอยมองไปยังบันไดอาคารเรียนตึกหนึ่งว่าเมื่อไหร่คนที่รอจะลงมาเสียที

นั่งฟังเพลงเดิม ๆ วนไปได้ประมาณสี่ห้ารอบก็รู้สึกถึงแรงสะกิดที่ไหล่ ผมรีบหันกลับไปมองตัวการที่ทำเอาผมสะดุ้งจนใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

“เชน! เราตกใจหมดเลย”

เจ้าของชื่อที่โดนผมฟาดดังเพี๊ยะเข้าที่ต้นแขนยังคงยิ้มกว้างส่งเสียงหัวเราะมาให้อย่างไม่สำนึกผิด มันน่าหยิกให้แขนเขียวนัก

“บิวรอนานรึเปล่า”

“ต่อให้รอถึงทุ่มนึงเราก็ต้องรออยู่ดีไม่ใช่หรือไง”

ผมตอบตามความจริง ไม่ได้ประชดหรือพูดให้ดูโรแมนติกเชิงว่าต่อให้นานแค่ไหนฉันก็จะรอเหมือนบทพูดในละคร แต่ที่ผมต้องรอเชนหลังเลิกเรียนทุกวันแบบนี้เพราะบ้านผมไม่มีรถประจำทางผ่าน พ่อกับแม่ก็เพิ่งย้ายไปทำงานที่กรุงเทพในขณะที่ผมอยู่ปทุมธานี มันไม่ไกลกันมากนักหรอกแต่การให้ผมย้ายไปอยู่คอนโดที่ใจกลางเมืองหลวงแล้วต้องถ่อสังขารมาเรียนที่โรงเรียนเดิมที่อยู่ชานเมืองนี่มันลำบากไปเสียหน่อย

โชคดีที่มีเชน ตั้งแต่สนิทกันตอนมันย้ายโรงเรียนมาเรียนห้องเดียวกันตอนม.3 ผมก็ได้เพื่อนสนิทคนนี้แหละที่คอยไปรับไปส่งทุกวันแทนที่จะเสียเงินนั่งรถรับส่งของโรงเรียน

ทั้ง ๆ ที่บ้านมันกับบ้านผมคนละเส้นทางกันเลย

‘ต่อไปนี้ให้กูไปรับไปส่งที่บ้านทุกวันนะ ห้ามขึ้นรถโรงเรียนอีกเข้าใจมั้ย เตี้ย’

เชนเคยบอกไว้แบบนั้นตอนขึ้นม.4และโรงเรียนอนุญาตให้ขับรถมาได้ มีข้อเสียนิดหน่อยว่าผมจะต้องรอมันซ้อมกีฬาเทควันโดจนถึงเย็น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เต็มใจรอโดยไม่เบื่อสักนิด จนตอนนี้ก็ปีนึงได้แล้วที่ผมอาศัยซ้อนท้ายเวสป้าสีครีมของมันทุกวันจนเป็นเรื่องชินตาของคนในโรงเรียนและเพื่อนบ้าน

กระเป๋านักเรียนสีดำที่มีรอยลิขวิดเขียนว่า เชน ชิตพล ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันเป็นระเป๋าของผมถูกเพื่อนตัวสูงหอบไว้ในอ้อมแขนพร้อมหนังสือที่มันจัดแจงยัดลงกระเป๋าให้เสร็จสรรพ ส่วนผมก็ได้แต่เดินตัวปลิวตามหลังคนขับที่สะพายกระเป๋านักเรียนแบบเดียวกันแต่มีรอยลิขวิดเป็นชื่อผม

‘พวกแกสองคนเล่นไรกันวะ ทำไมต้องเขียนชื่อสลับกันแบบนี้ กูงงเลยนะ’

ซันและเค้กเพื่อนสนิทในกลุ่มรวมถึงเพื่อนอีกหลาย ๆ คนเคยถามอะไรทำนองนี้ ผมเองก็จำไม่ได้ว่าเริ่มต้นจากอะไรและตอนไหน อาจจะเป็นตอนที่เชนมันแกล้งเอาของ ๆ ผมไปแล้วไปแอบเขียนชื่อเนียนว่าเป็นของตัวเอง ผมก็เลยเอาคืนด้วยการเขียนชื่อตัวเองในของ ๆ มันบ้าง จนสุดท้ายข้าวของของเราก็มีชื่อสลับกันจนดูวุ่นวายไปหมด

‘คนเขาถึงได้เข้าใจผิดทั้งโรงเรียนว่ามึงสองคนเป็นแฟนกัน’

แรก ๆ ผมและเชนมักจะหัวเราะกับประโยคนี้ของเพื่อนทุกครั้ง ส่วนตัวผมไม่ได้เดือดร้อนที่ใครจะมองยังไง ตอนนี้ผมมีความสุขดี มีความสุขที่มีเพื่อนดี ๆ รอบกาย ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นการเสียโอกาสอะไรถ้าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนสนใจผมเพราะข่าวลือเรื่องผมกับมัน

‘ต่อให้โลกแตกกูกับบิวก็ไม่มีวันเป็นแฟนกันหรอก ฮ่า ๆ ๆ’

แต่พักหลังจะเป็นเชนคนเดียวที่ยังหัวเราะกับคำแซว

ส่วนผมก็ได้แต่รู้สึกหน่วงแปลก ๆ กับประโยคที่เชนตอบกลับไป

เวสป้าลูกรักของเชนค่อย ๆ ชะลอจอดตอนที่ใกล้จะถึงหมู่บ้าน ถนนเส้นเล็กที่ยังเป็นถนนลูกรังนั้นทำให้ไม่ค่อยมีรถผ่านไปมาเท่าไหร่ ครั้งนึงเวสป้าของเชนเสีย เราทั้งคู่ต้องช่วยกันลากไปกว่าจะเจอถนนใหญ่ ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็ยังไม่มีรถสักคันผ่านมา แต่ด้วยความที่มันเป็นทางลัดจากโรงเรียนกลับบ้านผม เชนจึงเลือกใช้เส้นทางนี้เพราะทั้งเร็วและดีกว่าการไปเสี่ยงโดนรถใหญ่เฉี่ยวบนถนนใหญ่เป็นไหน ๆ

ผมกระโดดลงจากเบาะอย่างรู้หน้าที่เพราะพักหลังมานี้ทุก ๆ วันเชนจะชอบแวะจอดรถแถวนี้เสมอ มันบอกว่าบรรยากาศดี
แต่ผมว่ามันอ้าง…

“ขอกอดหน่อย”

และเชนมักจะอ้าแขนทำหน้าออดอ้อนขออ้อมกอดจากผมแบบนี้ประจำ

ผมโผเข้าไปกอดเพื่อนตัวสูง มันสูงกว่าผมสิบเซ็นได้มั้ง จากที่เคยมั่นใจว่าตัวเองสูงตามมาตรฐานชายไทยที่ร้อยเจ็ดสิบเซ็น แต่พอผมอยู่ใกล้มัน ผมก็กลายเป็นไอ้หมาเตี้ยไปเลยเพราะหัวผมอยู่แค่ปลายคางเชนเท่านั้น

ครั้งแรกที่เรากอดกันมันเกิดจากวันที่เชนแข่งวิ่งในงานกีฬาสีชนะตอนม.4 เชนวิ่งมาหาผมที่เชียร์อยู่ข้างสนามและสวมกอดผมต่อหน้านักเรียนเป็นร้อยเป็นพัน

และทำให้ผมหน้าร้อนจัดยิ่งกว่าเดิมตอนที่เชนก้มลงมาจูบหน้าผากผม…

มันอาจจะฟังดูบ้าที่ผมเผลอใจเต้นแรงกับสัมผัสเหล่านั้นโดยไม่แม้แต่จะโกรธมันสักนิด และหลังจากนั้นเชนก็วอแวผมไม่เลิก ไม่ว่าผมจะทำอะไรมันก็ตามมาสกินชิพจนเพื่อนในห้องเรียนโห่แซวกันเป็นแถว ไอ้ผมที่เริ่มจะอายบางทีก็ต้องแกล้งฟุบหลับที่โต๊ะตอนเห็นว่าเชนเดินเข้ามาในห้อง

แต่มันก็ยังซุกหน้ามาหอมแก้มผมได้ทุกครั้งอยู่ดี

“เป็นอะไร ไม่สบายเหรอทำไมหน้าแดงจัง”
เชนคลายอ้อมกอดแล้วมองหน้าผม อยากจะบอกเหลือเกินว่าใครใช้ให้กอดแน่นขนาดนี้ แล้วมือที่ลูบวนอยู่ตรงสะโพกนั่นมันอะไร?!

“อ๋า จับนิดจับหน่อยเอง”
เพื่อนตัวสูงบ่นกระปอดกระแปดตอนที่ผมตีมือมันและมองมันตาเขียว เชนทำปากเบ้แบบที่ผมรู้ดีว่ามันตอแหล เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่ ยอมให้กอดแล้วนั่นนู่นนี่ก็ตามมาไม่หยุด
ฟอด!

นั่นไง พูดไม่ทันขาดคำเลยเห็นไหม การฉกชิงพวงแก้มของผมกลายเป็นงานอดิเรกที่สนุกสนานของเชนไปแล้ว มันชอบหัวเราะใส่ตอนที่ผมทำหน้าไม่ถูก เออ แล้วใครมันจะไปทำหน้าถูกกันเล่า นี่โดนเพื่อนผู้ชายหอมแก้มอยู่นะ เพื่อนผู้ชายอะ!
ผมเคยคิดนะว่ามันได้นิสัยแบบนี้มาจากไหน และทำกับใครบ้างที่ไม่ใช่ผม ด้วยความอยากรู้ที่เก็บไว้ไม่ไหวผมเลยไปถามซันและเค้ก พวกนั้นกลับหัวเราะใส่แถมยังสวนกลับว่าถ้าพวกมันโดนเชนสกินชิพแบบผม มันคงชกเชนหน้าหงายไปแล้ว
แต่เชนมันประธานชมรมเทควันโดของโรงเรียนเลยนะ!

ผมเคยให้เหตุผลที่ตัวเองไม่ชกกลับไอ้เพื่อนหน้าหล่อไว้แบบนั้น รู้ว่าสู้มันไม่ไหวและก็ไม่อยากเสียเพื่อนด้วย

“กลับกันเถอะ จะมืดแล้ว”

ผมบอกเชนที่ตอนนี้มันยังคงไถจมูกอยู่กับแก้มผม มันฟังดูแปลก ๆ ใช่ไหมล่ะ เพื่อนผู้ชายที่กำลังทำอะไรกันแบบนี้ ใช่…ผมก็ว่ามันแปลก ถึงเชนจะให้เหตุผลว่าตนเองย้ายมาจากโรงเรียนชายล้วนและเรื่องแบบนี้คือเรื่องปกติที่มันเคยพบเจอก็เถอะ

ผมก็ว่ามันแปลก ๆ อยู่ดี

แปลกที่มันชอบทำแบบนี้กับผม

และแปลกที่ผมนั้น…เต็มใจ

เชนดับรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านสองชั้นหลังเล็ก ผมมองไปด้านในที่มืดสนิทก็รู้ได้ว่าวันนี้คงไม่มีใครกลับมาบ้าน สักครึ่งปีได้แล้วที่ผมต้องอยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้โดยที่นาน ๆ ทีพ่อแม่และน้องชายที่ย้ายไปเรียนที่กรุงเทพจะแวะมาหาบ้าง

ทำไมผมไม่ย้ายตามไปน่ะเหรอ?

พ่อแม่ของผมได้งานใหม่ที่ต้องไปทำที่กรุงเทพตอนที่ผมเพิ่งขึ้นเทอมสองตอนม.4 น้องชายผมคือคนเดียวที่ตื่นเต้นจนออกนอกหน้าเพราะว่าจะได้ย้ายไปเป็นหนุ่มเมืองกรุงในโรงเรียนเอกชนที่พ่อแม่ติดต่อให้เข้าไปกลางเทอม

แต่ผมกลับบอกว่าขออยู่ที่นี่จนจบมัธยมปลาย

อยู่ในโรงเรียนรัฐบาล อยู่ในละแวกที่ไม่ค่อยเจริญนัก ตอนแรกพ่อกับแม่ก็คัดค้าน แต่ด้วยความที่ผมเป็นเด็กเรียบร้อยของพ่อแม่มาตลอด ผมให้เหตุผลกับพวกท่านว่าการย้ายระหว่างเทอมนั้นมันจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องหลักสูตรที่เรียน เรื่องสังคม ฯลฯ ยกเหตุผลร้อยแปดมาเรียบเรียงเพื่อบอกกับท่าน ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เรียนที่เดิม จนสุดท้ายพ่อกับแม่ก็ยอม โดยมีข้อแม้ว่าเกรดแต่ละวิชาของผมต้องห้ามต่ำกว่า 3.5…

ซึ่งสำหรับผม เพื่อแลกกับการได้เรียนกับเพื่อนที่ผมรัก…

…เรื่องแค่นี้สบาย ๆ

“คืนนี้ค้างด้วยคนนะ”

“หืม?”

ผมมองตามหลังเชนที่คว้ากุญแจบ้านจากมือผมไปไขเข้าบ้านหน้าตาเฉย จริง ๆ ผมก็เคยให้เพื่อนมาค้างที่บ้านบ้างแต่ไม่บ่อยนัก เวลามากันทีก็จะมาทั้งแก๊งซึ่งมีซันและเค้กอยู่ด้วย

“แล้วไม่ต้องไปช่วยแม่ที่ร้านเหรอ”

“วันนี้อยากอู้ บอกแม่แล้วน่า”

บ้านเชนทำร้านอาหารตามสั่ง ทุกเย็นหลังจากเขามาส่งผมแล้วก็จะรีบกลับไปช่วยแม่เสิร์ฟอาหาร ล้างจานตามประสาลูกชายคนโต เชนมันมีน้องชายที่น่าจะอายุพอ ๆ กับน้องชายผม แต่เชนบอกว่าน้องชายมันมัวแต่ติดแฟนจนไม่ยอมช่วยงานแม่ที่ร้านมันเลยต้องรับภาระหน้าที่นั้นไปเต็ม ๆ

“บ้านนายไม่มีของสดเลยเหรอบิว”

“เรามีแต่ไข่ กับเนื้อหมูนิดหน่อย”

เชนพยักหน้าและรื้อเอาวัตถุดิบเท่าที่มีออกจากตู้เย็นไปยังห้องครัว มันรู้ดีแหละว่าผมเป็นคนทำกับข้าวไม่เป็น จุดนี้หุงข้าวได้สวยงามก็บุญแล้ว เพราะฉะนั้นในตู้เย็นผมก็จะมีแต่พวกอาหารแช่แข็งเป็นส่วนใหญ่ มีของสดจำพวกไข่กับเนื้อสัตว์นิดหน่อยไว้ลองทำอะไรง่าย ๆ กิน

ผมขึ้นชั้นสองมาอาบน้ำ ปล่อยให้แขกทำอาหารอยู่ด้านล่าง ผมไว้ใจฝีมือทำกับข้าวเชนนะ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันทำหรอก ผมน่ะกินกับข้าวฝีมือมันบ่อยจะตาย

จะพูดให้ถูกคือผมได้กินกับข้าวฝีมือเชนทุกเช้าเลยแหละ

เริ่มจากที่เชนรู้ว่าพ่อกับแม่ผมย้ายไปกรุงเทพ มันคงจะสังเกตเห็นว่าผมจะซื้อขนมปังแอบไปกินในห้องเรียนประจำทุกเช้า ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ผมจะกินมื้อเช้ามาจากบ้าน หลังจากนั้นมันเลยอาสาหอบปิ่นโตมาให้ทุกเช้า บังคับผมให้กินข้าวให้หมดก่อนจะไปโรงเรียน

ผมเข้าใจมาตลอดสองอาทิตย์ว่าอาหารเช้าที่ผมกินเป็นฝีมือแม่เชนที่ใจดีทำเผื่อเพื่อนลูกชาย แต่ก็ได้ไปรู้ความจริงตอนที่ผมไปเที่ยวบ้านมันและอยู่ ๆ แม่เชนก็พูดลอย ๆ ว่า

‘ไม่รู้พักนี้ตาเชนไปหลงรักใครที่ไหน จากปกติตื่นตีห้ามาวิ่ง แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นต้องตื่นมาวิ่งตั้งแต่ตีสี่เพราะต้องเผื่อเวลาทำกับข้าวใส่ปิ่นโตลายหมีพูห์ไปเสิร์ฟให้ใครไม่รู้ จะใช่คนแถวนี้รึเปล่าน๊า’
ผมจำได้ว่าตอนนั้นเกือบพ่นน้ำที่กำลังยกดื่มออกจากปาก แม่ของเชนเอาแต่หัวเราะและส่งสายตาที่ผมไม่เข้าใจความหมายมาให้ ไอ้ซันกับเค้กก็พากันโห่เหมือนมีใครบวช ส่วนไอ้ตัวต้นเรื่องก็เอาแต่นั่งยิ้มกรุ้มกริ่มจนน่าโมโห แถมยังยักคิ้วกวนประสาทใส่ผมอีก

รวม ๆ แล้วผมก็ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกที่มีต่อเชนว่าอะไร การที่เพื่อนหลายคนล้อว่าผมเป็นแฟนเชนมันเริ่มทำให้ผมเริ่มมีความคิดว่า หรือจริง ๆ ผมจะชอบเชน?

โอเค…ผมไม่ได้ปัญญาอ่อนถึงกับไม่รู้ว่าสิ่งที่เชนปฏิบัติกับผมมันค่อนข้างแปลก ไม่สิ อาจจะใช้คำว่าพิเศษ(ถ้าคิดเข้าข้างตัวเอง) พิเศษมากกว่าคนอื่นทั่วไป

ทำอาหารให้

ขับรถรับ-ส่ง

กอด…

หอม…

หรือบางครั้งเกือบจะมากกว่านั้น

เราเกือบจะจูบกัน…

มันเป็นการกระทำที่ไม่ต้องมีที่มาที่ไป สำหรับเชนแล้วเมื่อไหร่ที่เขานึกอยากจะกอด เขาก็กอด เขาอยากจะหอม เขาก็หอม เชนไม่สนว่าตรงนั้นคือที่ไหน ต่อหน้าใคร อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เราเคยเกือบจะจูบกัน มันเกิดขึ้นในห้องน้ำที่โรงเรียน ผมก็แค่เข้าไปล้างมือ ส่วนเชนที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนก็สวมกอดเข้าที่ด้านหลัง แล้วผมจะทำอะไรได้? ในเมื่อเขาตัวใหญ่เสียขนาดนั้น

‘ปล่อยเรา เดี๋ยวคนมาเห็น’

‘ก็ให้เห็นไปสิ’

‘เชน เราไม่เล่นนะ’

‘มาจุ๊บก่อน เดี๋ยวปล่อยเลย’

‘บ้าเหรอ! จุ๊บอะไร แค่หอมแก้มเราทุกวันก็มากพอแล้วนะ’

‘คล้าย ๆ กันแหละน่า หันหน้ามานี่ซะดี ๆ ไอ้เตี้ย’

พูดจบเชนก็จับใบหน้าผมให้หันไปหาใบหน้าหล่อเหลาที่ผู้หญิงทั้งโรงเรียนเฝ้าฝันอยากครอบครอง ผมตกใจ…ไม่ใช่ตกใจว่าเชนจะจุ๊บ หรืออะไร…

ผมตกใจที่ตัวเอง…

อยากจูบเชน

จุ๊บ!

รู้สึกได้ถึงริมฝีปากนุ่มที่กดลงบนมุมปากผม…แค่มุมปาก กลับทำให้ผมใจเต้นแรงจนเหมือนจะระเบิดออกมาในตอนนั้น ผมไม่รู้เลยว่าเชนกำลังเล่นอะไร ไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่…

แต่มันไม่เหมือนเพื่อนทั่วไป

ไม่ใช่แน่ ๆ






ผมใส่ชุดนอนลายทางสีฟ้าและพาดผ้าขนหนูไว้บนผมที่ยังไม่แห้ง เดินตามกลิ่นอาหารลงไปด้านล่างและนั่งรอที่โต๊ะอาหารรอคอยพ่อครัวยกมาเสิร์ฟ

“นี่เชนสั่งไก่ทอดมาด้วยเหรอ”

ผมถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนอกจากจะยกข้าวผัดไข่ใส่หมูที่เจ้าตัวทำเองมาวางแล้ว ยังมีจานใส่ไก่ทอดเจ้าดังวางตรงหน้าอีก

“ก็นายตัวเล็กแค่นี้ กินให้มันเยอะ ๆ หน่อยจะได้มีน้ำมีนวล จับแล้วเต็มไม้เต็มมือดี”

เชนชี้นิ้วสั่งและนั่งลงตรงข้าม จัดการฉีกเนื้อไก่ใส่จานผมเหมือนปกติที่เขาทำทุกครั้ง ผมก็ยอมรับแหละว่าตั้งแต่พ่อกับแม่ไม่อยู่นี่ซูบผอมไปเยอะ ใครมันจะเจริญอาหารกับอาหารแช่แข็งหรือพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันล่ะ

แต่เดี๋ยว ไอ้จับแล้วเต็มไม้เต็มมือคือ?!

“บอกให้ไปอยู่บ้านกูก็ไม่เชื่อ”

“บ้าเหรอ เกรงใจพ่อแม่นายบ้างสิ”

หลายครั้งที่เชนชวนผมไปอยู่ด้วยกัน มันให้เหตุผลว่าไม่อยากให้ผมอยู่คนเดียวเพราะอันตราย แม่เชนเองก็เคยพูดกับผมแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่หน้าหนาพอจะไปอาศัยคนอื่นอยู่จริง ๆ

อีกอย่าง ถ้าจะมีอะไรที่อันตรายกับผมน่ะนะ

เชนคืออันดับหนึ่งเลย



เราใช้เวลาไม่นานในการจัดการอาหารตรงหน้า ผมซึ่งอิ่มจนแน่นเพราะโดนเชนป้อนรีบปลีกตัวมานั่งเกยอยู่บนโซฟา ปล่อยให้พ่อครัวและเจ้ามือไก่ทอดเป็นคนจัดการล้างถ้วยชามตามลำพัง

“ใจร้าย ไม่เคยจะช่วยกูล้างจานอะ”

“ทำเองก็ล้างเองสิ”

เชนเบะปากทำท่ากระเหง้ากระงอดเข้ามาจะกอดผมแต่ก็ถูกผมผลักหัวออกไป เชนจะรู้ตัวรึเปล่าว่ามันไม่ดีเลยที่ทำแบบนี้กับเพื่อนตัวเอง ถ้าผมเกิดคิดเกินเลยไปจะว่าไง

…อ่า หรือผมอาจจะคิดเกินเลยไปตั้งนานแล้ว

ตรงนี้ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมนั่งดูทีวีอยู่หน้าโซฟาโดยมีเชนนอนหลับอยู่บนตัก อืม…จะพูดว่าดูทีวีก็คงไม่ถูกนักเพราะผมเอาแต่มองหน้าเชนระหว่างฟังเสียงทีวีเสียมากกว่า

ใบหน้าคม จมูกเป็นสันได้รูป กับดวงตากลมโตที่หลับพริ้ม…

ผมเอ่ยเรียกชื่อเชนสองถึงสามครั้งจนมั่นใจว่าเชนคงหลับลึก ก่อนจะยกมือขึ้นมาเสยผมสีดำที่ปรกหน้าคนบนตักอย่างเก้ ๆ กัง ๆ แล้วเลื่อนมายังพวงแก้มขาวก่อนจะหยุดไล้วนอยู่ที่ริมฝีปากหยักที่เขาเคยใช้จุ๊บแก้มผมอยู่บ่อยครั้ง

ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะตื่นเต้นและหัวใจเต้นแรงทำไมเพียงแค่จะสัมผัสเชน ทั้ง ๆ ที่เชนก็ทำกับผมแบบนี้ ลูบหัวผม กอดผม …หรือมันอาจจะเป็นว่าเพราะทุกทีเชนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เขาหอมผมก่อน สัมผัสผมก่อน…

แล้วถ้าตอนนี้ผมอยากสัมผัสเชนก่อนบ้างล่ะ

ผมอยากจูบเชนจังเลย…

จุ๊บ!

ไวเท่าความคิด ผมกดริมฝีปากของตัวเองทาบทับลงไปกับริมฝีปากของคนนอนหลับ ก่อนจะผละออกมาอย่างรวดเร็วเพราะกลัว
เชนจะตื่นขึ้นมาในตอนนี้

ผมแอบเห็นริมฝีปากของเชนกระตุกเล็กน้อย…คล้ายจะยิ้ม แต่ก็ไม่

ภาวนาไม่ให้เสียงหัวใจของผมที่เต้นโครมครามอยู่ดังไปมากกว่านี้จนอีกคนได้ยินเลย
อย่าเพิ่งตื่นมาเลยนะ…เชน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2017 14:25:18 โดย pimsine »

ออฟไลน์ pimsine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: (เรื่องสั้น) แอบรัก The Series
«ตอบ #2 เมื่อ23-10-2016 19:16:36 »

(ต่อ)

ผมตื่นมาอีกทีในอ้อมกอดของเพื่อนสนิทที่หลับอยู่ เพ่งดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงข้ามเตียงแล้วก็พบว่าเพิ่งจะตีห้า ร่างกายมันตื่นเองอัตโนมัติแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเสาร์ ผมค่อย ๆ ขยับร่างกายพยายามให้หลุดพ้นจากแขนยาวที่มีกล้ามเป็นมัด ๆ แม้ว่ากล้ามจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก แต่มองดูดี ๆ ก็ใหญ่กว่าแขนผมสองแขนรวมกันเสียอีก

เพราะแบบนี้เชนเลยอุ้มผมขึ้นมาบนห้องนอนได้สินะ

จำได้ว่าหลังจากลักหลับ(คิดแล้วเขิน) เพื่อนสนิท ผมก็นั่งสงบจิตสงบใจจนเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนนี้แหละ อยู่ดี ๆ ก็มาอยู่ในอ้อมกอดคนที่ผมหลงรักเฉยเลย

ใช่…ผมยอมรับแล้วก็ได้ว่าผมหลงรักเชน

การที่ผมลักหลับเพื่อนขนาดนั้นคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากแล้วแหละ ถึงแม้จะสับสนอยู่นิดหน่อยเพราะผมไม่เคยมีแฟน พูดง่าย ๆ ว่าผมไม่เคยชอบใครเลยดีกว่า ถ้าจะให้นึกดูดี ๆ ผมอาจจะชอบเชนมานานแล้วก็ได้

มันอาจจะเริ่มตั้งแต่เรารู้จักกันแรก ๆ

มีครั้งนึงตอนม.ต้นที่ผมกับเชนไม่คุยกันเลยประมาณสองเดือน มันเป็นความงี่เง่าของผมเองที่ไปเห็นเขาตอนกำลังกระหนุงกระหนิงกับรุ่นพี่ผู้หญิง ตอนนั้นผมโคตรไม่พอใจและไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ด้วยว่าเพราะอะไรถึงต้องโกรธเชนขนาดนั้น แต่ผมหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้าเชน ผมเลยตัดปัญหาด้วยการย้ายกลุ่มและเลิกพูดกับมันไปเลย

เพื่อนก็แค่จะมีแฟน แค่นั้นเอง…ตอนนั้นผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงโกรธมัน

ประจวบเหมาะกับตอนนั้นมีรุ่นพี่มาจีบผมพอดี ด้วยความที่คิดว่าตัวเองอิจฉาที่เพื่อนมีแฟน ผมเลยตกลงลองคุยกับพี่ผู้หญิงคนนั้นไป แต่ก็แค่คุย ไม่ได้เป็นแฟน เราแค่กินข้าวกลางวันด้วยกัน ตกเย็นก็ขึ้นรถรับส่งคันเดียวกัน ผมไม่เคยโทรหาพี่เขาด้วยซ้ำ จนสุดท้ายผมก็จำไม่ได้ว่าเลิกคุยกับรุ่นพี่คนนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่…

ผมไม่ได้สนใจที่รุ่นพี่ผู้หญิงนั้นหายไปจากชีวิต ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ ผมใช้ชีวิตในห้องเรียนไปเรื่อย ๆ โดยที่พยายามไม่สนใจสายตาของเชนที่ผมรู้ดีว่ามันมองมาที่ผมเสมอ และสุดท้ายก็เป็นมันที่เข้ามาคุยกับผมก่อน

‘ขอโทษ’ …คำแรกที่เชนพูดกับผม

‘อย่าเงียบใส่กูแบบนี้เลยนะ’

‘อย่าทำเหมือนว่ากูไม่มีตัวตนอีกเลย…ขอร้องนะบิว’

ไม่ว่าจะผิดหรือถูก เชนจะเป็นคนยอมมาขอโทษผมก่อนเสมอ หลายครั้งที่รู้ว่าตัวเองเริ่มเอาแต่ใจ นิสัยไม่ดี เชนก็ไม่เคยว่าอะไรผมเลย

แต่ถ้าผมบอกว่ารักเขา…

เขาจะว่าผมไหมนะ





ตอนนี้ผมเลิกพยายามที่จะออกจากอ้อมกอดของเชนแล้วแหละ ในเมื่อโอกาสแบบนี้มันไม่ได้มีมาบ่อย ๆ จริงไหม? ใครจะโชคดีเท่าผมที่มีคนที่ตัวเองแอบรักมานอนกอดไว้แบบนี้

ผมเงยหน้ามองใบหน้าเพื่อนสนิท อ่า…คิดแล้วเกลียดคำว่าเพื่อนขึ้นมาเลย ขวางคอมาก ผมว่าคนแอบรักเพื่อนตัวเองคงจะรู้สึกไม่ต่างจากผมเท่าไหร่นัก

สับสน..

กลัว..

ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เชนปฏิบัติกับผมต่างจากเพื่อนคนอื่นมันสามารถตีความได้แบบไหน เอาแบบเข้าข้างตัวเองก็คือเชนชอบผม แต่คิดในแง่ร้ายหน่อยเชนก็อาจจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ที่มันอยู่โรงเรียนเก่าแล้วก็ได้

ที่สำคัญ

เชนชอบผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ผมยังไม่รู้เลย

ว่าแต่…นี่ผมเป็นเกย์เหรอเนี่ย?!

ผมเคยอ่านนิยายรักมาหลายเรื่อง เวลาเราเป็นคนอ่านเรามักจะอ่านตัวละครบางตัวออกเสมอว่าตัวละครนั้นคิดอะไร  อย่างเช่นมองออกว่านางเอกรักพระเอกมาก แต่ก็ต้องมาขัดใจทุกครั้งที่พระเอกไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลยจนเนื้อเรื่องออกทะเลกันไปไกล ทั้ง ๆ ที่แค่สองคนนั้นพูดความในใจที่มีต่อกันเรื่องก็จบแล้ว

ใช่…พอเราเป็นคนอ่านเราก็บอกว่า ‘แค่นั้นเอง’

แต่พอเจอสถานการณ์นั้นกับตัวเอง ผมคงจะมองว่าเป็นเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ยิ่งผมกับเชนมีคำว่าเพื่อนค้ำคออยู่ทุกอย่างยิ่งยากไปหมด ถ้าหากผมพูดความรู้สึกของตัวเองออกไป….แล้วถ้าเชนไม่ได้คิดเหมือนกัน

คำว่าเพื่อนที่เคยมีนั้น…มันจะเป็นยังไง?

เหมือนว่าผมจะเผลอหลับไปอีกครั้ง รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ลมหายใจของเพื่อนสนิทรินรดอยู่แถวพวงแก้ม ผมยังคงหลับตาทำเหมือนว่ายังไม่ตื่นและปล่อยให้เชนเล่นสนุกไปกับการไล่หอมแก้มผม เขากดจูบเบา ๆ ที่หน้าผาก ไล่ลงมายังแก้มและซอกคอ
แม้ว่าสถานะระหว่างเรามันไม่ชัดเจน

แต่ผมจะทิ้งเรื่องนั้นไปก่อน เพราะ…ผมรู้สึกดีจังเลยที่เชนทำแบบนี้

รู้สึกวูบวาบที่หน้าท้องตอนที่มือสากของเชนล้วงสาบเสื้อเข้ามาลูบแผ่นหลัง มันรู้สึกดีจนผมต้องแกล้งขยับตัวเข้าหาร่างกายของเพื่อนที่ยังสาละวนกับต้นคอผมไม่เลิก

ผมแอบกังวลนิดหน่อยว่าถ้าหากเชนล้วงมือเข้ามาในกางเกง ผมจะทำยังไง? จะแกล้งหลับต่อไป หรือจะตื่นมาเผชิญหน้า? สาบานว่าไม่ได้อยากจะวกเข้าเรื่องทะลึ่งตึงตัง แต่มันก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี

เชนเลิกวนเวียนอยู่แถวซอกคอผมแล้ว

และผมรู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่เขาไม่ได้ทำเรื่องทะลึ่งอย่างที่ผมคิดไว้ มือหนายังคงลูบวนอยู่ที่แผ่นหลังพร้อมเสียงหายใจหอบของเจ้าตัว ให้ตายเถอะ ผมอยากจะลืมตาดูจริง ๆ ว่าตอนนี้เชนกำลังทำหน้าแบบไหนกัน

แต่ผมก็ยังทำได้แค่หลับตาเหมือนคนกำลังหลับฝันตอนที่ลมหายใจอุ่นร้อนของเชนรินรดอยู่ที่ปลายจมูก ผมสัมผัสได้ว่าริมฝีปากของเรามีระยะห่างไม่ถึงหนึ่งมิลลิเมตรด้วยซ้ำ

ถ้าผมจะแกล้งเบียดตัวเข้าไปหาเพื่อให้ริมฝีปากเราชนกัน…

เชนจะว่าอะไรผมมั้ยนะ

ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมขนาดเล็กแบบนี้ ผมกลัวว่าเชนจะได้ยินเสียงหัวใจของผมจังเลย เพราะในตอนนี้รู้สึกหัวใจผมเต้นรัวแรงเหลือเกินตอนที่สมองดันคิดเรื่องอกุศล แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวไปไหน อาจจะราว ๆ ครึ่งนาทีหรือหนึ่งนาทีได้ที่อยู่กับสถานการณ์วัดใจแบบนี้

ผมห้ามความรู้สึกที่อยากเข้าไปจูบเชนไม่ได้เลย

จุ๊บ!

ไม่ใช่ผมนะ ผมไม่ได้ขยับตัวไปไหนเลย สาบาน!

แต่เมื่อสักครู่ผมรู้สึกว่าเชนทาบริมฝีปากลงมาเบา ๆ ที่กลีบปากผม
อาจจะแค่แป๊บเดียว หนึ่งวินาทีหรือสองวินาทีไม่เกินนั้น แต่มันทำเอาผมแทบบ้าตายอยู่ในอ้อมกอด!
ในนิยายที่บรรยายตอนที่นางเอกโดนพระเอกจูบแล้วสมองขาวโพลนไปหมด ผมเข้าใจความรู้สึกจริง ๆ ก็วันนี้!

และเหมือนเชนจะอยากให้ผมเบลอยิ่งว่าเดิม เขาทาบทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ริมฝีปากหนาของเพื่อนสนิทขยับเล็กน้อยเพื่อดูดดึงริมฝีปีปากล่างของผมจนรู้สึกได้ว่ามันอาจจะบวมเจ่อหลังจากเสร็จสิ้นการจูบนี้

ผมไม่อาจแกล้งหลับได้อีกต่อไปในตอนที่มือของเชนเลื่อนขึ้นมาที่หน้าอก นิ้วยาวของเพื่อนลูบไล้หัวนมผมจนร่างกายสั่นสะท้าน ผมลืมตาขึ้นมาเพื่อที่จะประท้วงให้เขาหยุด แต่เชนกลับมองผมแล้วยกยิ้มมุมปากก่อนจะกดจูบหนัก ๆ ลงมาอีกครั้งไม่ให้ผมมีโอกาสเอ่ยอะไรออกไปสักคำ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ที่เราจูบกันอยู่อย่างนั้น มันไม่ใช่แค่จูบที่ผมเคยลักหลับเขาเมื่อคืน แต่มันเป็นดีพคิสที่เร่าร้อนจนอยากรู้เหลือเกินว่าเชนไปฝึกทำแบบนี้กับใครมาก่อนที่จะมาทำกับผม

แค่คิดว่าเชนเคยไปจูบกับคนอื่นผมก็หงุดหงิด

ผมยกมือทั้งสองข้างโอบรอบคอเพื่อนตัวสูงไว้ตอนที่เขาย้ายร่างขึ้นมาคร่อมตัวผม ลิ้นร้อนของเรายังตวัดแลกเปลี่ยนกันอยู่อย่างนั้นจนผมหายใจไม่ทัน และเชนก็ใจดีมากพอที่จะละใบหน้าออกไปก่อนเพื่อให้ผมได้สูดเอาออกซิเจนเข้าปอด

แต่เหมือนผมจะต้องหอบหายใจหนักกว่าเดิมเพราะเขาดันเลื่อนใบหน้าไปตรงหน้าอกของผมที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเปลือยเปล่าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เชนตวัดปลายลิ้นลงบนหัวนมจนผมสะดุ้งโหยง เขายังคงไล่ปลายลิ้นวนอยู่รอบบริเวณนั้นทั้ง ๆ ที่สายตายังจับจ้องมาที่ผมจนเป็นผมเองที่ต้องเบือนหน้าหนี

“มองหน้าเชนสิครับ”

เสียงกระเส่าของคนบนร่างบอกแบบนั้น ผมส่ายหน้าโดยที่ไม่ยอมหันไปสบตาตามคำขอ แถมยังต้องยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเพราะเกือบจะครางออกไปตอนที่รู้สึกได้ว่ามือของเชนเลื่อนต่ำไปสัมผัสที่กลางลำตัว

มันน่าอายมาก ๆ เลย

กางเกงนอนของผมถูกเพื่อนตัวดีดึงร่นไปกองที่ปลายเท้า อยากจะขอบคุณเหลือเกินที่ยังเหลือกางเกงชั้นในไว้ให้ผมไม่ต้องอายจนระเบิดตัวเองหนีไปซะเดี๋ยวนี้

เชนเลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับและจับใบหน้าผมให้หันมารับจูบ ก่อนจะใช้มืออีกข้างจับต้นขาของผมแยกออกจากกันแล้วแทรกตัวเข้ามากลางหว่างขาจนส่วนกลางลำตัวเราสัมผัสกันผ่านเนื้อผ้า

ผมไม่ทันสังเกตว่าเขาถอดเสื้อผ้าตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีตอนนี้เราทั้งสองคนก็มีเพียงกางเกงชั้นในที่ไม่สามารถปิดบังความตื่นตัวของอวัยวะภายในนั้นได้เลย

ร่างสูงยันตัวขึ้นและจับผมที่ตัวอ่อนปวกเปียกให้ลุกขึ้นนั่งพิงพนักหัวเตียง เอาจริง ๆ ตอนนี้ผมอายมาก การโดนเชนจับให้นั่งกางแข้งกางขาและโดนสายตามันแทะโลมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด

“นายเปียกแล้ว”

และคำพูดคำจาลามกนั่นอีก บางทีก็ไม่ต้องบรรยายจะดีกว่ามั้ย ผมเบือนหน้าหนีอีกครั้งตอนที่เชนใช้ปลายนิ้วกดลงบนส่วนหัวของแก่นกายผมผ่านเนื้อผ้า ผมรู้ว่าตอนนี้มันเปียกชื้นเป็นดวง ๆ แต่เชนก็ไม่เห็นต้องพูดออกมาเลยนี่ ทีของเชนเปียกเหมือนกันผมยังไม่พูดเลย

“ขอจับนะครับ”

เชื่อสิว่าเชนไม่ได้กำลังขออนุญาตผมหรอก มันแค่อยากเห็นผมอายจนระเบิดตัวเองตายมากกว่า ผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาอย่างหนักอีกครั้งตอนที่รู้สึกว่าปราการด่านสุดท้ายถูกมือของเพื่อนค่อย ๆ ดึงลงไปทีละนิด

สิ่งที่ควรทำคือการยกมือห้าม แต่ผมกลับยกหมอนขึ้นมาปิดหน้าแทนเพราะทนไม่ไหวอีกต่อไป อยากจะพูดเหลือเกินว่าจะถอดก็ถอด อยากทำอะไรก็รีบทำ แต่กลัวว่าจะดูแรดในสายตาเชน ตอนนี้ผมเลยต้องนอนนิ่งปล่อยทุกสิ่งให้เป็นไปตามเวรตามกรรมที่ทำมา 

กางเกงชั้นในของผมไม่ได้ถูกถอดออกไปอย่างที่คิด เชนแค่ดึงมันลงไปนิดหน่อยจนเผยให้เห็นแค่ส่วนหัวที่มีน้ำเยิ้มสีใสโผล่ออกมาจนผมต้องหุบขาหนี

“อย่าปิดหน้าสิครับ เชนอยากเห็นหน้าบิวจังเลย..”

เกลียดวาจาไพเราะของมันเสียจริง!

เชนจัดการดึงหมอนที่ผมใช้ปิดบังใบหน้าออกโยนออกไป กายสูงขยับเข้าใกล้พยายามจะแทรกตัวเข้ามากลางหว่างขาที่ผมพยายามหนีบไว้สุดฤทธิ์

“อ้าขาออกด้วยครับคนดี”

อีกฝ่ายไม่ต้องใช้พละกำลังในการบังคับผม เพียงแค่เชนกระซิบที่หูอย่างแผ่วเบาผมก็ยอมทำตามแต่โดยดี

แรดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

มือทั้งสองข้างของเชนลูบไล้อยู่ที่หน้าอกและแผ่นหลังของผมในขณะที่ส่วนกลางลำตัวทำหน้าที่เสียดสีจนผมเสียวไปหมด ผมละมือขวาที่เคยโอบรอบลำคอเพื่อนสนิทลงไปรูดรั้งแกนกายที่ปวดหนึบจนทนไม่ไหว

“ห้ามจับสิครับ” เชนเอ่ยห้ามและรวบมือผมทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยฝ่ามือเดียว “ถ้าจับของตัวเองอีกจะโดนลงโทษนะครับ” มืออีก

ข้างของเชนเลื่อนต่ำจากแผ่นหลังลงไปที่ก้นนิ่ม ก่อนที่ผมจะโดนนิ้วเรียวของเพื่อนกดเข้าไปในช่องแคบและรู้ทันทีว่าบทลงโทษคืออะไร

“แต่เราไม่ไหวแล้ว” ผมพยายามใช้สายตาและน้ำเสียงออดอ้อน ตรงนั้นของผมมันปวดหนึบและผมรู้ว่าเชนที่เป็นผู้ชายเหมือนกันจะเข้าใจดีว่ามันทรมานขนาดไหน

แต่เขาก็ยังไม่ปล่อยมือที่กอบกุมมือผมไว้ทั้งสองข้างอยู่ดี

เชนเปลี่ยนท่าให้ผมขึ้นคร่อม ตอนแรกผมก็ไม่กล้านั่งทับส่วนนั้นของเชนอยู่ดีเพราะเกิดกระดากอายขึ้นมาตอนเห็นอวัยวะตรงนั้นของเชนกระตุกหงึก ๆ อยู่ใต้ร่มผ้า

“ถอดกางเกงในออก แล้วนั่งลง”

เชนปล่อยมือผมและสั่งให้ถอดกางเกงใน ผมเพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้กางเกงในของผมมันหมิ่นเหม่และเปิดเผยเพียงช่วงหัวของแก่นกายก็ตอนที่เห็นสายตาของเชนจ้องมากลางลำตัวผมอย่างหื่นกระหาย

“ระ…เรา” ผมดึงกางเกงในขึ้นปิดบังร่างกายให้เรียบร้อยและพยายามคิดข้ออ้าง อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องให้ผมแก้ผ้าต่อหน้าเชน
“นับหนึ่ง…”

แต่เสียงทุ้มที่เริ่มนับเลขกับสายตาดุ ๆ ของเพื่อนตัวโตทำให้ผมต้องจำใจร่นกางเกงในของตัวเองออกจากลำตัวไปแต่โดยดี
มือหนากดเอวของผมให้นั่งคร่อมหน้าขาโดยที่ส่วนกลางลำตัวของผมเสียดสีเข้ากับอวัยวะเดียวกันของเชนอย่างพอดิบพอดี เชนครางออกมาอย่างพึงพอใจในขณะที่ผมแทบอยากจะหายตัวไปซะเดี๋ยวนี้ เชนเป็นคนขี้โกงมาก ๆ ทำไมมีผมที่ต้องแก้ผ้าอยู่คนเดียวล่ะ

“ขยับสิครับ”

เสียงทุ้มเอ่ยสั่ง ผมใช้แขนโอบรอบคอเพื่อนสนิทไว้โดยที่บั้นท้ายถูกมือของเชนดันให้เข้าไปบดเบียดกับเป้าตุง ๆ ของมัน และเมื่อผมเริ่มบดเบียดลำตัว เชนก็ละมือไปลูบไล้หน้าอกและแผ่นหลังของผมจนผมเสียววูบวาบ

เป็นเรื่องน่าอายที่สุดชีวิตที่ผมต้องมาบดเบียดตัวเองอยู่บนร่างกายเชนที่เอาแต่ยิ้มมุมปากมองผมอย่างล้อเลียน เขาไม่ยอมให้ผมจูบด้วยซ้ำทั้ง ๆ ที่ก็เห็นว่าผมแทบขาดใจอยู่บนร่างกายของเขา

“เชน เราไม่ไหวแล้ว อะ เราขอจับตรงนั้นนะ”

“ตรงไหนครับ พูดชัด ๆ สิ”

“เชน…อย่าแกล้งสิ”

“เชื่อเชนสิครับ บิวเสร็จได้โดยที่ไม่ต้องจับมัน”

เขารวบมือผมไว้อีกครั้งตอนที่ผมพยายามจะรูดรั้งส่วนกลางลำตัวของตัวเอง ผมได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองพลางหลับตาแน่น ขยับแท่งร้อนให้เสียดสีกับลำกายใหญ่โตของเชนที่ยังอยู่ใต้เนื้อผ้า

“อะ อ๊ะ อ่าห์”

แล้วก็เป็นอย่างที่เชนบอกจริง ๆ

ผมเสร็จได้โดยไม่ได้ใช้มือแตะต้องส่วนนั้นของตัวเองเลยด้วยซ้ำ


ผมฟุบตัวลงไปที่แผงอกกว้างของเชนอย่างเหนื่อยหอบ โดนเชนกดจูบไปทั่วใบหน้าและลำคอ ผมไม่มีแรงแม้แต่จะต่อปากว่าตอนที่เชนกระซิบข้างหูว่า น้ำเยอะจังเลยครับ หรือตอนที่เขาจับผมนอนตะแคงและพูดเบา ๆ กับแผ่นหลังผมว่า น่าเอาจังเลย

“เซ็กซี่จัง” เชนนอนซ้อนด้านหลังผม เขาพูดพลางใช้มือรูดรั้งแกนกายผมที่เพิ่งจะปลดปล่อยไปเมื่อสักครู่ให้ชูชันขึ้นอีกครั้ง สักพักก็รู้สึกได้ถึงอวัยวะร้อนที่แทรกมาระหว่างขาและเสียดสีไปมา แท่งร้อนของเชนนั้นยาวจนผมเห็นมันผลุบโผล่ตอนที่ก้มหน้าไปมองที่หว่างขาตัวเอง

“บิวครับ….เชนอยากเข้าไปในตัวบิวจังเลย”

“ตะ แต่ว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ” ผมตอบเสียงสั่น ไม่เคยคิดว่าอะไร ๆ จะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้

“ใครบอกว่าเชนอยากเป็นเพื่อนกับบิว” เชนกระซิบและขบที่ติ่งหูก่อนจะเอ่ยต่อด้วยประโยคที่ทำให้ผมแทบอยากจะระเบิดตัวเองตาย “เชนอยากเป็นผัว ไม่อยากเป็นเพื่อนแล้ว”

“ร เรายังไม่พร้อม..อื้อ”

“อะ อ่าห์บิว ถ้าไม่อยากโดนเชนเอาวันนี้ บิวต้องหนีบขาแน่น ๆ นะครับ อ่าห์ อย่างนั้น” เชนกระแทกแกนกายเข้าออกที่หว่างขาผมอย่างแรงและถี่ยิบ เขาหอบกระเส่าและครางเรียกชื่อผมจนผมเกือบเสร็จไปอีกรอบถ้าเชนไม่เอานิ้วมือมาอุดส่วนปลายของผมไว้เสียก่อน

“เสร็จพร้อม ๆ กันนะบิว”

เชนจับผมนอนหงายและทาบทับลำตัวลงมา มือหนาของเขารวบแกนกายของตัวเองและของผมไว้ด้วยกัน รูดรั้งอย่างเร็วจนผมกลั้นไว้ไม่อยู่และแตกกระเด็นใส่หน้าอกของเชนที่กำลังจะพ่นน้ำตามผมมาติด ๆ

“อ่าห์…รักนะครับ คนดีของเชน”


"อื้อ รักเหมือนกัน"







-END-

เป็นครั้งแรกกับการใช้เล้าเป็ด ถ้าผิดพลาดตรงไหนเตือนได้เลยนะคะ  :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2017 14:25:45 โดย pimsine »

ออฟไลน์ zaturday

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #3 เมื่อ23-10-2016 21:44:50 »

จบแล้ววว เขิลมากกกกก
น่าจะมีตอนพิเศษนะ รอๆๆ บิวน่ารักมากอ่ะ คือเชนให้สัญญาณมาโดยตลอกนะ ว่าอยากเป็นมากกว่าเพื่อน นี่ดูไม่ออกเหรอ55555
ลงครั้งแรก และอยากให้ลงอีกหลายๆครั้ง ภาษาใช้ได้ อ่านง่ายกระชับ เข้าใจความหมายได้ดี

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #4 เมื่อ23-10-2016 23:06:18 »

ขออีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
อุตส่าห์ลุ้นดันรอดซะได้ ขอต่ออีกหน่อย ให้เชนจับบิวกินได้สำเร็จซะที  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #5 เมื่อ24-10-2016 02:49:01 »

 :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #6 เมื่อ24-10-2016 08:38:23 »

อยากให้มีต่อจางงงงงงง

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #7 เมื่อ11-11-2016 08:24:22 »

อยากให้มีต่อจัง อยากกกกรู้ฝังเชนบ้า
เรื่องน่ารักกกกดี

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #8 เมื่อ12-11-2016 00:02:07 »

อยากฟังฝั่งเชนด้วยค่ะ

ออฟไลน์ pimsine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #9 เมื่อ12-11-2016 19:57:07 »

ขอบคุณทุกความเห็นเลยค่ะ  :mew2:

ว่าจะมีตอนพิเศษเหมือนกัน เราจะลองเขียนมาลงดูนะคะ
ตอนนี้ก็ยังไม่ถนัดใช้เล้าเป็ดเลย นี่ก็กว่าจะหากระทู้ตัวเองเจอ.....
พอเจอแล้วก็ไม่แน่ใจว่าตอบกระทู้ตัวเองจะผิดกฏมั้ย ถ้าผิดพลาดตรงไหนรบกวนบอกเราด้วยนะคะ

 :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
« ตอบ #9 เมื่อ: 12-11-2016 19:57:07 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #10 เมื่อ12-11-2016 21:00:00 »

จะรออ่านค่าาาาาาาาาาาาาา :mew1:

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #11 เมื่อ13-11-2016 11:41:54 »

รอตอนพิเศษษษษษษษษษ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #12 เมื่อ13-11-2016 19:00:15 »

เชนชัดเจนขนาดนี้ บิวไม่ต้องกลัวเลยจ้า เขินนนนนน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #13 เมื่อ13-11-2016 20:38:28 »

 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ peaceminus1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #14 เมื่อ15-11-2016 21:43:19 »

ชอบบบบบบบบ
เป็นนิยายที่มีกลิ่นอิโรติกผสมความน่ารักได้ลงตัว
อ่านแล้วเขินอะ ช่วงที่มุ้งมิ้งเดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอบ :katai3:

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: (เรื่องสั้น) เพื่อนสนิท (จบ)
«ตอบ #15 เมื่อ31-12-2016 14:23:44 »

 :haun4:

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: (เรื่องสั้น) แอบรัก The Series
«ตอบ #16 เมื่อ01-01-2017 16:21:37 »

งานดี!!!!!!!!

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: (เรื่องสั้น) แอบรัก The Series
«ตอบ #17 เมื่อ01-01-2017 20:27:37 »

โดนงาบจนได้หนูบิว อิอิ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: (เรื่องสั้น) แอบรัก The Series
«ตอบ #18 เมื่อ01-01-2017 21:56:46 »

ไม่อยากเป็นเพื่อน แต่อยากเป็นผัว โอ้ยย ชัดเจนไปอีกกกก :haun4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด