มาส่งตอนสุดท้ายขอรับ
ขอบคุณทุกๆท่านแวะเข้ามา
อยู่ด้วยกันจนถึงตอนสุดท้ายขอรับ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
รอยที่ X ว่ากันว่าคนเราเมื่อมีสิ่งที่มีค่าอยู่กับตัวมักไม่ค่อยจะเห็นค่าของสิ่งนั้น แต่หากเมื่อกำลังจะเสียสิ่งนั้นไปนั่นแหละถึงจะรู้ว่าสิ่งที่มีอยู่นั้นมีค่าแค่นั้น คนเราก็มักจะเป็นเช่นนั้น เขาไม่เคยคำกล่าพวกนี้เลย หลายครั้งที่เขาหัวเราะคนที่พูดแบบนี้มานักต่อนักว่าคนพวกนี้ช่างโง่นัก ที่มองไม่เห็นสิ่งมีค่าของตัวเอง แต่มาวันนี้เขาเองอีกนั่นล่ะที่โง่กว่าคนพวกนั้นเสียอีก คิดว่าคนนั้น คนนี้ไว้มาก แต่ตัวเองเป็นเสียยิ่งกว่าเขา
เสียงเครื่องสัญญาณชีพจรเป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ในห้อง ทั้งที่มีบุคคลนั่งอยู่ในห้องมากว่า 1 คน แต่กับไม่มีใครที่จะเอ่ยเสียงพูดอะไร ใบหน้าคมเข้มน่าหลงใหล แต่กับดูอิดโรยเหมือนคนที่พักผ่อนไม่พอ นัยน์ตาที่เคยดุคู่นั้นฉายแววอ่อนล้า อ่อนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แก็ก!!!
เสียงเปิดประตูเบาๆพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินใกล้เข้ามาไม่ทำให้คนที่นั่งอยู่ก่อนหันมาสนใจได้แม้แต่น้อย บุคคลที่เดินเข้ามาใหม่ก็ใช่จะสนใจคนที่นั่งอยู่เท่าใดนัก เพราะคนที่เขามาดูคือคนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงนั่นต่างหาก
“ พี่หมอเมื่อไหร่รักษาจะฟื้นสักทีครับ นี่มันก็หลายวันแล้วนะครับ ”
และก็เป็นดินที่ทนไม่ได้ที่ผู้ที่เข้ามาใหม่ไม่คิดจะพูดบอกอะไรกับพวกเขา เข้ามาก็ดูอาการของคนเจ็บอย่างเดียว ไม่คิดจะเปิดปากพูดอะไรเลย
“ ไอ้หมอฉันขอร้อง แกพูดบอกอะไรกับฉันบ้าง ฉันเองก็อยากรู้ว่ารักษาเป็นอย่างไรบ้าง ทำไม่ไม่ฟื้นเสียที ”
แม้ว่าดินจะเป็นคนถามก่อน แต่หมอกิตติก็ไม่คิดจะตอบอะไร เขายังเงียบ เช็คนั่น เช็คนี่ ไม่ยอมที่จะบอกอยู่ดี จนหินต้องเอ่ยปากถามอีกคน
เฮ้อ!!!
เสียงถอนหายใจเป็นเสียงแรกของหมอกิตติที่ทำตั้งแต่เข้ามา จริงๆแล้วเขาก็ไม่อยากจะพุดอะไร แต่เห็นแล้วก็อดสงสารไอ้พวกไม่รู้ใจตัวเองไม่ได้ คิดว่าหลังจากนี้มันสองคนพี่น้องคงได้บทเรียนบ้างแล้ว
“ แกขอร้องฉัน เพราะแกอยากรู้ว่ารักษาใกล้จะหมดลมเมื่อไหร่น่ะเหรอ ถ้าแกอยากเห็นก็ไม่ยากนะ แค่ดึงท่อช่วยหายใจนี่ออกก็ใช้ได้แล้ว ”
“ เฮ้ย!!! ”
ว่าจบหมอกิตติก็ทำว่าจะดึงท่อช่วยหายใจออกดังปากว่า ทำให้สองพี่น้องอุทานขึ้นพร้อมกัน อีกทั้งยังลากตัวหมอออกห่างจากเตียง
“ แกจะทำอะไรไอ้กิต ”
หินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าตนเองกันไอ้หมออันตรายที่ออกมาไกลเกินกว่ามือจะเอื้อมถึงคนที่นอนไม่ได้สติอยู่
“ ใช่พี่หมอ พี่หมอผมขอร้องเถอะ จะว่าจะด่าผมกับพี่หินยังไงก็ได้ แต่ช่วยบอกให้พวกเรารู้หน่อยเถอะว่ารักษาเป็นอย่างไรบ้าง ”
ดินขอร้องหมอกิตติอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน อย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ส่วนหินผู้พี่นั้นก็ส่งสายตาวิงวอนมาด้วยเช่นกัน
“ ก่อนที่ฉันจะบอก จะพูดอะไรออกไป ฉันขอถามอะไรแกสองคนสักหน่อยจะได้ไหม ”
“ แกอยากจะถามอะไร ”
หินเป็นคนชิงพูดขึ้นก่อนที่ดินจะได้เอ่ยอะไรออกไป
“ ฉันถามแกสองคนจริงๆนะ แกทั้งคู่คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไรกับรักษากันแน่ ถ้าแกรู้สึกผิด และอยากไถ่โทษเพราะสิ่งที่แกทำลงไป ฉันก็อยากจะขอ ขอให้แกปล่อยรักษาไปจะดีกว่า อย่ารั้งเขาไว้แบบนี้เลย ”
กิตติเอ่ยขึ้นหลังจากปล่อยเวลาผ่านไปสักครู่ แต่หลังที่เขาพูดจบก็มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ตอบกลับมา เขาส่ายหน้าช้า พร้อมทั้งหันตัวจะเดินกลับมายังเตียงคนไข้ที่อยู่ด้านหลัง แต่ก็ติดที่มีมือสองข้างดึงแขนเขาไว้
“ แกคิดว่าอย่างฉันคิดจะไถ่โทษอย่างนั้นเหรอ แกก็รู้ว่ามันไม่ใช่ ”
“ ถ้าไม่ใช่แล้วแกรั้งเขาไว้ทำไม แกยังแก้แค้นเขาไม่พอหรือไง ทั้งที่แกก็รู้แล้วว่าคนที่แกทำร้ายเขาน่ะมันก็แค่แพะเท่านั้น ถ้าแกอยากจะแก้แค้นนักแกก็ไปทำคนที่มันทำผิดจริงๆสิ ส่วนรักษาแกก็ปล่อยเขาไป แกจะทรมานเขาอย่างนี้ทำไม จะฆ่าก็ฆ่าไปเลย มันจะได้จบๆไป ”
กิตติร่ายยาว ใส่อารมณ์ไม่ยั้งเมื่อได้ยินสิ่งที่ออกจากปากคนที่เป็นเพื่อน เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ ไม่คิดว่าเพื่อนเขา จะหมดทางเยียวยาแล้วขนาดนี้
“ พี่หมอผมขอโทษ ผมผิดเองที่เป็นคนพารักษามา แต่ผมไม่ทางปล่อยรักษากลับไป ไม่ใช่เพราะแค้น แต่เพราะ.... ”
ดินเอ่ยไว้เพียงแค่นั้นแล้วก็เงียบไปอีกครั้ง จนคนเป็นหมอทนไม่ไหว หันไปดึงสายเครื่องช่วยชีวิตนั้นออกเสียให้หมด
“ เพราะฉันรักรักษา แกได้ยินไหมไอ้หมอ ”
แต่ก่อนที่สายจะถูกดึงออก หินก็ตะโกนใส่หน้าหมอเสียก่อน
“ ใช่ครับพี่หมอ ผมรักรักษา เราทั้งคู่รักรักษา โดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน หรืออาจจะรู้แต่เราก็ปฏิเสธหัวใจของตนเองมาตลอด เพียงเพราะคำว่าลูกศัตรู ความแค้น ทั้งที่จริงๆแล้ว ที่เราทั้งคู่ทำร้าย ทำเลวลงไปก็เพียงเพราะต้องการจะเตือนใจตัวเอง ย้ำว่าความรู้สึกของตนยังไม่เปลี่ยนไป ทั้งที่จริงๆแล้ว มันสั่นคลอนมานานแล้ว เรารักรักษาโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ รักทั้งที่หลอกมาตลอดว่าเราเกลียด พี่จะด่า จะว่าผมกับพี่หินยังไงก็ได้ แต่ขอเถอะครับ พารักษากลับมาที ช่วยให้รักษากลับมารักษาใจของคนโง่ๆ ที่ไม่รู้ใจสักครั้งเถอะครับ ”
“ ช่วยพาหัวใจของเรากลับมาทีนะหมอกิต ฉันขอร้องแกจริงๆ ”
ทั้งหินและดินต่างก็ร้องขอกับหมอกิตติ ซึ่งหมอเองก็เพิ่งจะเคยเห็นไอ้สองพี่น้องในมุมนี้ เพราะทุกทีมีเคยจะขอร้องใคร มีแต่สั่ง กับสั่งเท่านั้น
“ ก็ได้ ในเมื่อแกทั้งคู่รู้ใจตัวเองสักทีมันก็ดีอยู่ แต่ฉันเองก็หมั่นไส้แกพี่น้องอยู่ไม่น้อย รักเขาแต่กลับทำเป็นเกลียด แต่จะว่าไปฉันก็พอจะเข้าใจแกอยู่ ฉันถึงพยายามช่วยให้แกรู้ใจตัวเอง และเปิดใจสักที ฉันดีใจนะที่ประตูของพวกแกมีคนเปิดออกได้เสียที แกสองคนไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยเต็มที ”
“ ขอบใจมากไอ้หมอ ”
“ ขอบคุณครับพี่หมอ ”
สองพี่น้องขอบคุณหมอกิตติจากใจจริงพร้อมกลับเดินมายังเตียงของคนที่เป็นดังเจ้าของหัวใจของตนทั้งคู่นอนอยู่ตอนนี้ และรับฟังคำบอกกล่าวของหมอ
“ ครั้งนี้แกเล่นไม่ออมแรงกันเลย ฉันเองก็เกือบจะรั้งเขาไว้ไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็ต้องขอบคุณกำลังจากเจ้าตัวเขานั่นล่ะ ต้องบอกว่ารักษาเขามีกำลังใจที่แข็งแกร่งมาก ตอนนี้อาการโดยรวมก็พอจะวางใจได้แล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วงเท่าใดนักหรอก แต่ที่ฉันยังให้อยู่ในห้องผู้ป่วยหนักนี้ก่อนก็เพราะว่า อยากให้อาการเขาดีขึ้นกว่านี้มากๆหน่อย แกสองคนก็ดูแลเขาดีๆหน่อยแล้วกัน อย่าให้เขาต้องเจ็บหนักแบบนี้อีก เพราะฉันไม่รู้ว่าคนเราจะมีกำลังใจดีแบบนี้ได้สักกี่ครั้งกัน ”
“ฉัน/ผมสัญญา ”
หมอหนุ่มพยักหน้ารับคำกล่าวของสองพี่น้อง ก่อนจะปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่กับหัวใจของตนเอง หากเมื่อเดินออกไปไม่เท่าไหร่ก็เหมือนจะนึกอะไรได้ จึงหันกลับมาบอกทั้งคู่
“ แกไอ้หิน เราด้วยเจ้าดิน พักบ้างจะดีกว่า รักษายังไม่ฟื้นตอนนี้หรอก ร่างกายเขาต้องการการพักผ่อน ให้เขาพักเยอะๆหน่อย ร่างกายจะได้ฟื้นตัวได้เร็ว แกพี่น้องน่ะดูแลตัวเองบ้าง นั่งเฝ้าแบบนั้นใช่ว่าจะดี กลับไปดูแลการงานบ้าง เดี๋ยวพวกข้างนอกนั่นจะคิดว่าลูกพี่ใกล้ตายไปอีกคน ”
บอกเสร็จกิตติก็เปิดประตูออกไปไม่อยู่รอฟังคำจากคนที่นั่งอยู่ในห้อง
“ ก็จริงอย่างที่พี่หมอว่านะพี่ดิน ผมว่าเราออกมาดูแลหน้าที่ของเราบ้าง พี่หมอพูดอย่างนี้แสดงว่ารักษาจะต้องหายดีในไม่ช้า ผมว่ามันคงจะได้เวลาที่เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะครับ ไม่เช่นนั้นคนพวกนั้นที่คิดจะใช้ความดีของรักษามาช่วยตนเองคงคิดว่าเราโง่มานาน เห็นทีเราต้องจริงจังบ้างแล้วล่ะครับ ”
หินไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้ารับความคิดของน้องชาย คนที่มันกล้าเอาความรู้สึกความดีของคนที่เขารักมาใช้ประโยชน์มันต้องได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม แต่ก่อนจะออกมาทำหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ หินก็ก้มจูบศีรษะที่ยังมีผ้าพันแผลสีขาวอย่างแผ่วเบา ซึ่งดินที่ยืนอยู่อีกฝั่งนั้นก็ยกมือเล็กที่มีเข็มน้ำเกลือขึ้นแตะจูบอย่างแผ่วเบาเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะเอ่ยประโยคฝากให้คนเจ็บรีบหาย
“ หายไวนะครับ พี่รักรักษานะ รีบตื่นมารับฟังคนโง่คนนี้ด้วยนะครับ ”
พี่น้องมองหน้ากันอีกครั้ง ด้วยไม่รู้ว่าจะพูดประโยคเดียวกันราวกับนัด ไม่มีคำพูดใดมีเพียงรอยยิ้มของพี่น้องที่รู้ใจกัน พากันเดินออกจากห้องเพื่อให้คนที่รักได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ จะได้หายและกลับมาหาพวกเขาไวๆ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ท่ามกลางหมอกสีขาวที่มองไม่เห็นทางออกแต่รักษากลับได้ยินเสียงเรียก เสียงพร่ำขอโทษของคนที่ตนไม่ยินว่าเขาคนนั้นจะเอ่ยขอโทษใคร แม้ว่าอุณหภูมิที่รายล้อมจะเย็นสักแค่ไหน แค่รักษากลับไม่รู้สึกหนาวด้วยรู้สึกถึงอ้อมกอดของใครบางคนที่กอดตนเองอยู่ทั้งฝั่งซ้าย และขวา อยากจะลืมตาขึ้นดูเหลือเกินว่าสิ่งที่ตนสัมผัสได้ในขณะนี้นั้นเป็นเป็นเพียงฝันหรือเปล่า และหากเป็นเช่นนั้นจริงก็คงเป็นฝันที่เขาไม่อยากจะตื่น แต่เขาก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ ยังมีเรื่องที่เขาต้องทำอีกมาก ยังมีอีกหลายอย่างที่เขายังไม่ได้บอก รักษาพยายามจะลืมตาทั้งคู่ขึ้น แต่ติดที่ว่าเขาไม่มีแรงพอ จึงต้องหลับตาลงอีกครั้ง
“ ไอ้หมอกิตตินี่มันนานแล้วนะ จะเป็นเดือนแล้วนะ ทำไมรักษาไม่ฟื้นสักที ”
น้ำเสียงที่ติดจะร้อนรนเอ่ยถามเพื่อนหมอของตน โดยมีน้องชายยืนพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ข้างๆ
“ ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกไอ้หิน ร่างกายรักษาแค่ต้องการพักตัวเอง คนที่ใช้งานร่างกายมากๆพอได้พักก็พักยาว ยิ่งรักษาป่วยก็เลยนานมากเดิมก็เท่านั้น แกไม่ต้องกังวลมากนักหรอก รักษาปลอดภัยแน่ ”
คนเป็นหมอว่า ถึงหินและดินไม่อยากจะเชื่อนัก แต่ก็ต้องเชื่ออย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาเขาใช้งานรักษาหนักจริงๆ แม้ว่าตอนนี้รักษาจะไม่ต้องนอนที่โรงพยาบาลแล้ว เพราะเขาย้ายให้มาพักที่บ้านแทน บาดแผลภายนอกดูดีขึ้นมากหากเทียบกับตอนแรก แม้ว่ายังไม่หายเสียทีเดียว
แสงแดดยามเย็นอ่อนๆที่ลอดผ่านหน้าต่างห้องนอน ผ้าม่านสีฟ้าอ่อนปลิวไหวเมื่อลมพัดผ่าน เขาพี่น้องทำตามที่หมอกิตติว่าทุกอย่าเท่าที่จะทำได้ การให้ร่างเล็กนี้ได้สัมผัสกับอากาศตอนเย็นนี้ก็เช่นกัน
ร่างเล็กๆที่ผอมบางดูคล้ายจะเล็กลงไปอีกเมื่อมีผู้ชายตัวโตๆสองคนนอนขนาบข้าง หินและดินล้มตัวนอนข้างรักษาเช่นทุกวันเขาอยากจะอยู่ข้างร่างเล็กนี้ตลอดเวลา
“ รักษาตื่นเถิดคนดี อย่าแกล้งพี่แบบนี้เลย ”
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
แสงอ่อนๆของแดดยามเช้า ลมเย็นที่พัดโชยทำให้คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงปรือตาขึ้นช้า กระพริบเพื่อปรับสภาพการมองเห็น
“ พี่หิน รักษาตื่นแล้ว!!!”
เสียงตะโกนดังขึ้นทำให้คนที่กำลังรวบม่านหันกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ทำให้คนที่เพิ่งรู้สึกตกใจได้ไม่ยาก สติที่ยังไม่ได้ลำดับพลอยสะดุ้งอย่างไม่ต้องสงสัย
“ เจ้าดินแกจะตะโกนทำไม เห็นไหมว่ารักษาตกใจ ”
หินที่ทิ้งม่านที่กำลังผูกอยู่กลับมาหาคนที่เพิ่งตื่นพร้อมกับกอดไว้อย่างที่อยากกอด เช่นเดียวกับดินก็กอดคนตัวเล็กไว้เช่นกัน
“...”
รักษาที่เพิ่งตั้งสติได้พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงของชายหนุ่มด้วยความเคยชิน และตามที่ได้รับรู้มาก่อนหน้านั้น แม้ไม่รู้ว่าตนเองมาอยู่บนเตียงของเจ้าของบ้านได้อย่างไร รู้เพียงแต่ตนเองไม่มีสิทธิ์จึงพยายามเอ่ยขอโทษแต่สิ่งที่ออกมามีเพียงเสียงเบาๆที่จับเป็นคำไม่ได้
“ เป็นอย่างไรรักษาเจ็บตรงไหน ”
ดินถามขึ้นเมื่อเห็นร่างที่ตนและพี่ชายกอดอยู่พยายามจะพูดหากแต่เสียงที่จับได้นั้นกลับฟังความไม่ได้
“ ดื่มน้ำเสียหน่อย นอนนานเธอคงกระหาย ”
แก้วน้ำถูกหยิบยื่นมามาตรงหน้าให้คนที่เพิ่งตื่นได้ดื่มแก้กระหาย แม้จะรู้ตัวว่าไม่เหมาะที่จะดื่มน้ำในแก้วนั้น แต่รักษาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะจากสิ่งที่เรียนมานั้นทำให้เขาไม่กล้าจะปฏิเสธ
“ ดินโทรบอกหมอด้วย ”
หินสั่งการให้น้องชายโทรตามหมอกิตติเพื่อบอกให้รู้ว่าคนตรงหน้านี้ตื่นแล้ว
“ ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว ทุกอย่างปกติดี เหลือแค่รอให้อาการต่างๆหายดีก็วิ่งได้ ”
หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังถูกตามตัวอย่างเร่งด่วนจากพี่น้องจอมเอาแต่ใจ เพื่อมาตรวจคนป่วยที่หลับไปเสียนาน
“ ส่วนแกสองคน มีอะไรก็รีบพูด รีบบอก เดี๋ยวจะหาว่าฉันไม่เตือน ”
ว่าจบคุณหมอก็ปล่อยให้สองพี่น้องได้อยู่กับคนที่เปลี่ยนแปลงตนเองตามลำพัง เพราะคิดว่าหลังจากยอมรับความรู้สึกของตนเองแล้วก็ไม่มีอะไรน่าห่วงอีก เพราะตลอดเวลาที่รักษาไม่ได้สติ สองคนนั้นเป็นคนดูแลทุกอย่าง ไม่ให้เข้าได้ทำแทน
“ รักขอโทษนะครับที่ขึ้นมานอนบนนี้ รักจะไปเดี๋ยวนี้ อะ!!! ”
รักษาเมื่อเห็นว่าหมอกิตติออกไปแล้วและยังไม่มีใครพูดอะไร แต่ด้วยรู้ตัวดีว่าตนเองไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาบนขึ้นจึงขยับลุกโดยลืมไปว่าตนเองเพิ่งจะฟื้น และยังไม่หายดี เมื่อลุกไม่ทันจะพ้นพื้นก็มีอันต้องล้มลงไปอีก แม้จะเจ็บแต่เขาก็กลั้นเสียงไว้ได้ทัน
“ รักเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหน แล้วรีบลุกทำไม ”
ดินหันกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับประคองคนที่ทรุดลงไปนั่งข้างเตียงขึ้นมานั่งให้ดี
“ รักขอโทษที่เข้ามาครับ ”
น้ำเสียงแผ่วเบาจากคนตัวเล็กที่เอ่ยขอโทษทำให้เขาและพี่ชายรู้ได้ทันทีว่ารักษาต้องการสื่ออะไร เขาเองที่สั่งไม่ให้รักษาขึ้นมาบนห้องนี้ถ้าไม่ได้เรียก
“ จะขอโทษทำไมในเมื่อฉัน....ไม่สิพี่เป็นคนพารักมาเอง และรักก็กำลังป่วย และที่สำคัญคนที่ควรขอโทษน่ะไม่ใช่รัก แต่เป็นพี่เอง พี่ที่ทำร้ายเราจนไม่น่าให้อภัย พี่ไม่ขอให้เราให้อภัยพี่กับเจ้าดิน แต่พี่อยากจะขอโอกาสให้พี่ได้แก้ตัวที่เคยทำไม่ดีกับเราไว้... ”
“ รักร้องไห้ทำไม หรือว่าเจ็บตรงไหน เดี๋ยวรอเดี๋ยวพี่ไปตามพี่หมอก่อน ”
หินที่พูดยังไม่ทันจบก็มีอันต้องหยุดเพราะน้ำใสๆที่เอ่อล้นดวงตาคู่โศก ทำให้ดินที่นั่งอยู่ข้างก้นร้อนขึ้นมาทันที ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะร้อนรนได้ขนาดนี้เพียงแค่เห็นน้ำตาของคนตรงหน้า ทั้งที่คิดว่าตลอดว่ามันก็แค่น้ำตา ไม่เคยคิดว่าตนเองจะเป็นได้ขนาดนี้เพราะทำให้คนตรงหน้าร้องได้ เช่นเดียวกับหินก็ไม่ต่างกัน ทั้งที่เคยคิดว่าคนที่ร้องไห้ก็แค่เสแสร้งเรียกร้องให้คนมาสนใจ แต่กับรักษาแล้ว ความรักก็ทำให้เขาเข้าใจอะไรมากขึ้น ทำให้จิตใจที่เคยหยาบกระด้างอ่อนเป็นน้ำได้ถึงเพียงนี้
“ รักขอโทษครับ รักไม่เป็นอะไรครับ นายใหญ่กับนายน้อยไม่ต้องขอโทษรักหรอกครับ รักต่างหากที่ต้องขอโทษ รักไม่เคยโกรธนายเลย เพราะรักรู้ว่านายเองก็มีเหตุผลที่ทำ รักผิดเองที่เลือกแบบนี้รัก... ”
“ พอแล้วรัก ไม่ต้องพูดแล้ว พี่อยากให้รักรู้ไว้ ต่อจากนี้รักคือคนที่พี่รัก พี่พูดหวานไม่เป็นหรอกนะ แต่อยากให้รู้ว่าพี่พูดจริง รักก็คือรัก ”
“ พี่ก็เหมือนกันครับ พี่ดินรักรักษานะครับ แล้วรักล่ะครับรักพี่บ้างไหม ”
“ รักรักนายใหญ่กับนายน้อยได้จริงๆหรือครับ ”
น้ำเสียงแผ่วเบาที่เอ่ยถาม น้ำใสๆที่เอ่อคลอนั้นตอกย้ำความจริงว่าเขาทั้งคู่เคยร้าย เคยเลวกับคนๆมามากแค่ไหน มากเสียจนไม่น่าให้อภัย แต่คนตัวเล็กนี้กลับไม่เคยโกรธเขาพี่น้องเลยเลย
“ ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ จริงๆแล้วพี่ต้องขอร้องให้รักรักพวกพี่เสียด้วยซ้ำ แล้วอีกอย่างนะ เลิกเรียกพี่กับพี่หินว่านายใหญ่กับนายน้อยด้วย ให้เรียกชื่อพี่หิน กับพี่ดินนะ ตกลงไหม ”
“ ได้หรือครับ แต่.... ”
“ ได้สิ พี่เองก็เห็นด้วยกับเจ้าดินนะรัก พี่พูดไม่เก่ง พูดหวานไม่เป็นไม่เหมือนเจ้าดิน แต่พี่อยากจะบอกว่ารักเป็นเหมือนน้ำใสสะอาดที่ช่วยทำให้ใจที่เคยหยาบกระด้างของพวกเราอ่อนนุ่มขึ้น ทำให้รอยที่เคยมีในใจของพวกเรามันลดลง แม้ว่าจะยังไม่หายไปทั้งหมด แต่มันก็ทำให้พี่รู้ว่ามันไม่ได้เลวร้ายเสียทั้งหมด ทำให้คนที่มีแค่ร่างกายแต่ไร้หัวใจกลับมามีหัวใจเช่นคนอื่น ขอบคุณมากรักษา ”
ขอบคุณรักษาจริงๆ รักษาเป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยให้เขาสองพี่น้องได้รู้จักความรัก ได้เห็นว่าโลกที่เขาอยู่นั้นไม่ได้มีแค่สีเดียว ทำให้โลกที่เคยมืดมัวกลับมาสดใสได้อีกครั้ง ขอบคุณร่างเล็กแต่อบอุ่นนี้จริงๆ
เกิดมาก็มีหัวใจหนึ่ง
แต่ไม่เคยรู้ถึงความหมาย
มีค่าแค่เพียงประคองให้
ชีวิตไม่สิ้นสุดลง มีใจก็เหมือนฉันไม่มี
ร่างกายที่มีก็สับสน
จนได้มาพบใครบางคน
ร่วมเดินบนทางว่างเปล่า
เธอมาแต่งเติมท้องฟ้า
ที่มืดมัวให้ได้มีดวงดาว
เธอมาทาสีให้ห้องเทา ๆ หมดความเหงาไป
ขอบคุณที่ฟ้าสร้างเธอ
ให้เธอสร้างฉันขึ้นมา
ให้ร่างกายของฉันได้มาค้นพบ
สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ ขอบใจที่มารักกัน
ให้ฉันเพิ่งได้รักใคร ก็ไม่เคยนึกฝัน
ว่าชีวิตฉัน จะได้เข้าใจ คำว่ารัก
จิตใจที่มีเคยหลับ
ตื่นแล้วเมื่อได้รับสิ่งนี้
ความรักและวันคืนที่ดีๆ ที่เธอได้มีให้กัน
ก็ไม่เคยนึกฝัน ร่างกายของฉัน
จะได้มีใจ ใจจากเธอ
เสียงเพลงเบาที่เขาและน้องชายช่วยกันร้องให้คนที่เป็นที่รักฟัง น้ำหยดใสๆที่เอ่อล้นดวงตาคู่งามนั้นไม่ทำให้เขารำคาญเช่นที่เคยเป็นมา ตอนนี้เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเสแสร้งอีกแล้ว และเขาพี่น้องก็พร้อมจะเช้ดน้ำตาให้คนๆนี้ไปตลอด...
*สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
จบแล้วขอรับ สำหรับเรื่องนี้ ไม่มีอะไรมาก หลายท่านอ่านดูแล้วอาจจะคิดว่ามันยังไม่สมเหตุสมผล มันเหมือนตัดจบทั้งๆที่กำลังอยู่จุดพีค ข้าเจ้าต้องขออภัยเป็นอย่างมากอย่างเป็นเช่นนั้น (ขอโทษคร้าบ) แต่ด้วยตั้งใจเดิมว่าจะให้เป็นเรื่องสั้น ข้าเจ้าจึงรวบรัดตัดตอนอย่างที่เห็น
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมกันตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ขอบคุณขอรับ ขอบคุณมากมาย ขอบคุณ ขอบใจ ขอบพระทัย Thank you จริงๆขอรับ
สำหรับเรื่องนี้อาจจะมีตอนต่อ (อาจขอรับ) ประมาณว่าเป็นภาคขยาย ข้าเจ้าคิดจะทำอยู่ขอรับ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จแค่ไหน
สุดท้ายต้องขอบอกว่ารักทุกท่านขอรับ ทุกความคิดเห็น ทุกคอมเมนต์ที่ส่งมาคือแรงใจขอรับ ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจนักเขียนหน้าใหม่ขอรับ