{เรื่องสั้น}ความรัก จบแล้วคร้าบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {เรื่องสั้น}ความรัก จบแล้วคร้าบ  (อ่าน 7565 ครั้ง)

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


เรื่องสั้น...

หนทางยังดูเหมือนเดิม มีแสงไฟมีผู้คนรอบกาย
จากคนร้อยพันที่ยืนใกล้กัน กลับรู้สึกว่าไกลแสนไกล
อะไรมันหายไป จากหัวใจของเรา


‘คุณเคยเหงาบ้างรึเปล่า’

          ถ้าเคยคุณก็อาจจะเข้าใจผมในตอนนี้ ท่ามกลางผู้คนที่เข้ามาแล้วก็ผ่านไป ทุกคนล้วนแต่หวังผลประโยชน์ เมื่อไหร่ที่หมดผลและหมดประโยชน์พวกเค้าก็จะจากไป และสิ่งสุดท้ายที่จะอยู่กับคุณจริงๆก็คือตัวเอง


          ผมก้าวเดินไปตามถนนที่ทอดยาวไปจนสุดสายตา ผู้คนรอบกาย หัวเราะ พูดคุยกันเสียงดัง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับความสุขโอบล้อมไปทุกอณูที่ย่างก้าวไป ผมมองพวกเขาด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่าเพราะผม...ไม่เข้าใจ สิ่งที่เรียกว่าความสุขนั้นมีความหมายที่แน่นอนว่าอย่างไร มันจะสามารถทำให้หัวใจที่เย็นชาของผมอุ่นขึ้นรึไม่ ผมก็ไม่อาจรู้ได้


          ชีวิตของผมดำเนินไปอย่างไร้จุดหมาย หัวใจผมเจ็บจนชาและสุดท้ายก็กลายเป็นความเคยชิน ผมต้องปกป้องตัวเองโดนการกันตัวเองออกจากผู้อื่นซึ่งนั่นมัน...ทำให้ผมไม่เหลือใคร


“โอ๊ย!...”ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของผู้คนที่อยู่รอบตัว แรงกระแทกที่ไหล่ทำให้ผมเสียหลักล้ม แต่มือใหญ่แสนอบอุ่นคู่หนึ่งได้ฉุดรั้งร่างของผมไว้ ณ วินาทีนั้นหัวใจที่แสนจะเหน็บหนาวของผมอุ่นวาบขึ้นมา


“ขอโทษ...เป็นอะไรมากรึเปล่า”คนตัวสูงผิวขาดซีดพลิกตัวผมไปมาเพื่อสำรวจว่าได้แผลตรงไหนรึเปล่า


“ไม่เป็นไร...”ผมบอกปัดและเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกมา แต่แรงกดทับที่ถาโถมเข้ามาที่ผมทำให้ผมเอื้อมแขนไปรับแบบอัตโนมัติ


“...”


“คุณ...คุณ...ได้ยินผมรึเปล่า”ผมเรียกคนแปลกหน้าที่ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดมาที่ผม เมื่อเห็นว่าเค้าหมดสติไปผมทำอะไรไม่ถูกเลยพยุงเค้าไปที่บ้านผมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแถวนี้นัก แต่ ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ขนาดตัวที่มากกว่าผมนั้นทำให้การพยุงคนที่หมดสตินั้นเป็นไปได้อย่างยากลำบาก ผมเกือบจะล้มอยู่หลายครั้ง


“เฮ้อ!...หนักชะมัด”ผมบ่นแล้วนวดแขนคลายความเมื่อยล้าจากการออกแรงอย่างหนัก ผมพินิจดูใบหน้าหล่อเหลาแต่ไร้ชีวิตชีวาซีดเซียวของคนที่หมดสติซึ่งตอนนี้นอนอยู่บนโซฟาของผม เพราะนึกคำตอบดีๆให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงได้พาคนแปลกหน้าเข้ามาที่บ้าน


“อืม”แพขนตาหนากระพริบถี่ก่อนที่ดวงตาสีนิลจะจับจ้องมายังผม


“ฟื้นแล้วเหรอ”


“นายคงแบกฉันมา...ขอบคุณนะ”ดวงตาคู่สวยนั้นแฝงไปด้วยความเศร้าวูบหนึ่งก่อนจะเลือนหายภายใต้รอยยิ้มสดใสที่ทำให้โลกดูสว่างสดใสขึ้น


“แล้วนี้จะกลับยังไง...ให้เรียกรถแท็กซี่ให้เอาไหม”ผมถาม


“ฉัน...ขออยู่ที่นี่ได้รึเปล่า”เสียงแหบแห้งเอ่ยถามผมอย่างชั่งใจ


“...”ผมนิ่งเงียบและมึนงงในคำขอนั้น น่าแปลกที่ในใจผมยินดีเหลือเกินที่เค้าบอกว่าจะขออยู่กับผม


“แค่ไม่กี่เดือนเอง...ได้รึเปล่า”เสียงอ้อนวอนนั้นทำให้ใจผมไม่อาจปฏิเสธคำขอนี้ได้


“ช่วยทำงานบ้านด้วยห้ามอยู่เฉยๆ”ผมไม่ตอบตกลงไปตรงๆแต่เลือกจะตอบแบบอ้อมๆ


“ฮะฮะขอบคุณนะ”คำขอบคุณพร้อมกับรอยยิ้มสว่างไสว นั้นทำให้ความมืดในใจผมค่อยๆทวีความดำมืดลง คล้ายกับการจ้องมองพระอาทิตย์ยามลับจากขอบฟ้าขึ้นมาเฉยฉายแสงแรงกล้าเพื่อปัดเป่าความมืดและความเหน็บหนาวให้หายไป



.......................................



1 อาทิตย์ ต่อมา

“ฮ่าๆๆ...ไม่เอา”เสียงหัวเราะแห่งความสุขและเสียงดังที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในบ้านหลังน้อยนั้นดังขึ้น จากเดิมที่มีที่มีสมาชิกอยู่คนเดียวตอนนี้กลับเพิ่มมาเป็นสองคนกับอีกหนึ่งตัว


“หยุดนะ...มันเปียก”เสียงตวาดอย่างไม่จริงจังนักถูกส่งไปยังหมาหน้าขนกับร่างสูงใหญ่ที่ตอนแรกก็รดน้ำต้นไม้อยู่ดีๆ แต่ตอนหลังกับกลายมาเป็นสงครามฉีดน้ำกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เจ้าตัวหน้าขนนามว่ากัปตันเห่าเสียงขรมเพราะกับกระโดดงับน้ำที่กระเซ็นเป็นละอองฝอยอยู่ในอากาศ


“ฮ่าๆเปียกหมดเลย”พี่ภูมิหรือภูมิรพีซึ่งมีความหมายว่าผู้เป็นดุจพรอาทิตย์ในแผ่นดิน เมื่อไม่นานนี้เค้ายังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผมอยู่แต่มาวันนี้ เค้ากลับเป็นเหมือนดวงตะวันที่ส่องมาขับไล่ความมืดมนและมอบความอบอุ่นให้กับผม


“ใครให้พี่ภูมิฉีดน้ำใส่ฟ้าล่ะ”ผมค้อนคนตัวโตที่เอาแต่หัวเราะอารมณ์ดีก่อนจะเดินเอาผมขนหนูไปเช็ดให้กัปตัน หมาหน้าขนจอมซนที่พี่ภูมิกับผมลงความเห็นว่าจะเลี้ยง พวกเราเจอกับมันตอนที่ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ตอนแรกนึกว่ามีเจ้าของแต่คนแถวนั้นบอกว่ามันโดนเอามาปล่อยทิ้ง ผมกับพี่ภูมิเลยตกลงว่าจะเลี้ยงเจ้ากัปตัน


          หลังจากที่จักการกับเจ้าหมาจอมซนเรียบร้อยผมกับพี่ภูมิเลยไปจัดการกับตัวเอง ตัวของพี่ภูมิที่ซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดเซียวเข้าไปใหญ่แถมตัวรุมๆเหมือนจะมีไข้ผมจึงให้พี่ภูมิไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานอนพัก


“กินหน่อยสิ”ผมคะยั้นคะยอให้พี่ภูมิกินข้าวต้มเข้าไปอีกเพราะพี่ภูมิกินน้อยมาก


“พอแล้ว”พี่ภูมิพูดเสียงแหบพร่า


“งั้นก็กินยานะ”ผมป้อนยาให้พี่ภูมิแล้วเอาผ้าชุบน้ำมาวางบนหน้าผากพี่ภูมิเพื่อช่วยลดไอร้อนของพิษไข้ก่อนจะหยิบถ้วยข้าวต้มไปเก็บในครัว แต่ยังไม่ทันได้แตะถ้วยมือหนาก็ฉุดร่างผมให้ล้มลงไปบนเตียงซะก่อน ไออุ่นและความร้อนจากพิษไข้ของพี่ภูมิในตอนนี้ผมรับรู้ได้เป็นอย่างดี ในอ้อมกอดนี้ผมไม่อาจผลักไสได้ ไม่ต้องมีคำพูดระหว่างเรา เพียงกายที่สัมผัสกันอยู่นี้สามารถที่บอกเล่าทุกอย่างได้ทั้งหมด ความผูกพันของเราสองคนเดินทางมาถึงจุดที่ก่อเกิดเป็นความหวานไหวและมันกำลังจะกลายเป็นความรัก และความคิดทั้งหมดทั้งมวลก็หยุดลงพร้อมกับเสียงหายใจสม่ำเสมอของผมกับพี่ภูมิ



.....



“หืม...คนจะนอน”ผมปัดสิ่งที่มาวนเวียนแถวแก้มของผมออกไปเพราะมันรบกวนการนอนของผม


“หึหึ”


“พี่ภูมิ...”ผมทุบคนขี้แกล้งไปอั่กนึงให้รู้ซะบ้างว่าแกล้งใครอยู่


“อึ่ก...เจ็บ”พี่ภูมิทำหน้าตาทรมานแล้วบิดตัวไปมาราวกับเจ็บปวดมาก


“พี่ภูมิ...เจ็บมากเหรอฟ้าขอโทษ”ผมลนลานทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นพี่ภูมิดูทรมานมาก


“เจ็บมาก...ซะเมื่อไหร่”พี่ภูมิยิ้มให้ผมแล้วหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ จนทำให้ผมชักจะเดือดขึ้นมาแล้ว


“ทำไมต้องเล่นแบบนี้ด้วยล่ะ...เสียแรงที่เป็นห่วง”ผมตัดพ้อพี่ภูมิ ซึ่งเห็นท่าทีผมเปลี่ยนไปก็หน้าเสีย


“โธ่พี่จะได้รู้ไงว่ามีคนแถวนี้เป็นห่วง”พี่ภูมิยิ้มกว้างให้ผม และไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็ไม่เคยชนะรอยยิ้มของพี่ภูมิได้สักที


“แล้วนี่หายดีแล้วเหรอ”ผมพึ่งมานึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานพี่ภูมิป่วยอยู่เลยรีบเอามือไปอังหน้าผากพี่ภูมิเพื่อวัดไข้


“หายแล้ว...คนเค้ามีพยาบาลดีก็งี้แหละ”พี่ภูมิยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผมที่กึ่งโกรธกึ่งอายไว้



..........................



“ฟ้าพี่จะออกไปธุระนะเดียวกลับมา...”พี่ภูมิที่แต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอกบอกกับผมที่กำลังปลูกดอกเยบีร่าอยู่เพราะผมชอบความหมายแฝงของมัน ซึ่งมีความหมายว่า เธอคือแสงอาทิตย์ แห่งชีวิตฉัน และมันทำให้ผมนึกถึงพี่ภูมิ


“ครับแล้วจะกลับมาตอนไหน”ผมหยีตาและยกมือบังแสงแดดที่ส่องมา แล้วถามพี่ภูมิ


“ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเสร็จธุระตอนไหน เอาเป็นว่าพี่จะรีบกลับแล้วกัน”พี่ภูมิยิ้มให้ผมแล้วเดินออกไป แต่ทำไมก็ไม่รู้หัวใจผมกับโหวงเหวง กระทั่งแผ่นหลังกว้างของพี่ภูมิที่กำลังหายลับไปจากสายตาของผมนั้นทำให้รู้สึกเศร้าและอ้างว้างอ่อนไหวจนน่าแปลก แต่ผมก็เลือกที่จะปัดความคิดทั้งหมดออกไปและลงมือปลูกดอกไม้ให้เสร็จและพาเจ้ากัปตันจอมซนไปเดินเล่น



“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””’’’’’



          ผมนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านที่มืดมน หัวใจผมราวกับถูกกรีดแทงอย่างเลือดเย็นด้วยความเหงา ความหนาวเหน็บของการต้องอยู่คนเดียว พี่ภูมิหายไปจากที่นี่ไปแล้วเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์


          แต่....สำหรับผมมันเหมือนนานตราบเท่าลมหายใจ นึกไม่ถึงเลยว่าผมจะปล่อยให้หัวใจไปผูกกับพี่ภูมิขนาดนี้ ทั้งที่ผมความจะโกรธพี่ภูมิ


          แต่...ในใจผมได้แต่ภาวนาและโหยหาไออุ่นจากพี่ภูมิและอยากพบพี่ภูมิเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียงไม่นานความรู้สึกที่ผมมีต่อพี่ภูมิจะแข็งแกร่งและแรงกล้าขนาดนี้  ทั้งที่ผ่านมาผมพยายามปฏิเสธความรู้สึกและเลือกที่จะเก็บความรู้สึกดีๆระหว่างเราไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ


          แต่...ในวันที่ผมสูญเสียพี่ภูมิไปความรู้สึกที่กักเก็บไว้กลับพรั่งพรูออกมาจนผมแทบรับไม่ไหว ทั้งทรมานทั้งโหยหาจนแทบขาดใจ
ผมพยุงร่างกายและหัวใจที่ร้าวรานมาที่เตียงนอน และปล่อยให้น้ำตาที่เหือดแห้งไปไหลลงมา และหลับตาลงปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า


         ทุกๆวันชีวิตของผมดำเนินไปอย่างไร้ความหมาย แม้แต่ข้าวที่กินเข้าไปเพื่อประทังชีวิตผมก็แทบไม่รู้รส สุดท้ายผมก็ไม่เหลือใครและไม่มีใครต้องการผม
  

          เหมือนในวันนั้นวันที่ผมแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้โดยไม่มีใครเหลียวแล ผู้ที่ให้กำเนิดผมขึ้นมาทั้งสองคนขอร้องให้ผมจากไปและจากไปมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าและเดินไปทางที่ตัวเองอยากไป โดยทิ้งผมไว้ข้างหลัง มีเพียงค่าใช้จ่ายทุกเดือนเท่านั้นที่ยืนยันว่าผมเคยยังคงไม่ถูกลืมเลือน
ในวันที่พี่ภูมิเดินเข้ามาและมอบแสงสว่างให้กับผม หัวใจของผมก็ถูกขโมยไปทั้งหมดโดยที่ผมไม่เคยรู้ตัวแม้แต่น้อย จนวันที่พี่ภูมิได้หายไป ผมอยากตามหาแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เพราะผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่ภูมิเลย


ผม...จะทำยังไงดี
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2011 18:46:32 โดย @aOoM&jAe@ »

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
Re: {เรื่องสั้น}ความรัก
«ตอบ #1 เมื่อ18-02-2011 07:23:47 »

2 อาทิตย์ ผ่านไป

ก๊อก...แก๊ก

“ฟ้า...ฟากฟ้า...เป็นอะไร”เสียงที่อ่อนโยนคุ้นหูพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆที่หน้าผากดังขึ้นข้างเตียง ผมลืมตาขึ้นและพบกับใบหน้าที่คุ้นเคย ใบหน้าของคนที่ผมอยากพบที่สุด



“พี่ภูมิ...อย่าทิ้งฟ้าไปฟ้าไม่เหลือใครแล้ว...ฟ้ามีแต่พี่ภูมิคนเดียว...ได้โปรด”ผมโผเข้าสู่อ้อมกอดอันแข็งแกร่งและมั่นคงของพี่ภูมิความเข้มแข็งของผมถูกทำลายไปจนหมดสิ้น


“ฟ้า...พี่...”พี่ภูมิกอดผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก แต่ผมกลับรู้สึกดีเหลือเกิน แสงสว่างของผมได้กลับคืนมาแล้ว


“พี่ภูมิฟ้ารู้ว่ามันอาจจะเร็วไป แม้ฟ้าจะไม่อาจพูดได้ว่ารักพี่แต่ความรู้สึกนี่พี่รู้สึกได้ใช่ไหม...”ผมจับมือที่สั่นไหวของพี่ภูมิมาแตะอกข้างซ้ายๆที่ที่หัวใจผมกำลังเต้นอยู่


“ฟ้า...พี่ไม่ควร”ตาคู่สวยของพี่ภูมิมีน้ำใสๆไหลออกมาไม่ต่างจากผมที่ดวงตาพร่ามัวและเต็มไปด้วยน้ำตา หากแต่ว่าใบหน้าของพี่ภูมิกลับกระจ่างชัดในหัวใจของผม


เพราะเชื่อมั่นในตัวเอง...ถึงไม่ยอมฟังเสียงหัวใจจากด้านหลังที่ห่างไกล
ตอนนี้กุญแจประตูหัวใจมันอยากร้องบอกออกมาทันที
อย่ายอมแพ้กับสิ่งที่มีอยู่ในหัวใจนั้น
จงอย่าหลีกหนีความทรงจำต่างๆร้อยพันที่ผูกมัดอยู่นั้น
มันคือกุญแจของหัวใจ
ฉันเชื่อมั่นในความรักของหัวใจทั้งสองดวง
แน่ล่ะว่า...ตอนนี้เก็บซ่อนความรู้สึกไว้ภายในใจ
แต่...ถ้านั่นเรียกว่าสายสัมพันธ์
ดั้งนั้น...นับเป็นโชคดีแล้วที่ได้พบเจอ
ตอนนี้กุญแจของหัวใจมันเรียกร้องออกมา
ขออย่าได้ปิดดวงตาที่มีอยู่ภายในหัวใจดวงนี้เลย
จังหวะหัวใจที่ส่งเสียงอยู่ตรงประตูหัวใจของเธอนั้น
มันคือกุญแจของหัวใจ
ทั้งช่วงเวลาและสถานที่ที่เกิดปาฏิหาริย์เช่นนี้
จงปล่อยหัวใจของเธอให้โบยบินออกมา
ความกล้าหาญที่ไม่สามารถหยุดยั้งเรื่องราวของเราสองคนได้
มันคือกุญแจของหัวใจ
จงปล่อยหัวใจของเธอให้โบยบินไป



“ฟ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่ภูมิ ไม่รู้ว่าพี่ภูมิเป็นใคร ฟ้ารู้แค่ว่าฟ้าต้องการพี่ภูมิ แค่พี่ภูมิเท่านั้น”


“ฟ้า...”เสียงพี่ภูมิที่เรียกชื่อผมนั้นสั่นไหว ริมฝีปากที่มอบความหวามไหวให้ผมทำให้หัวใจผมพองโต เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต ร่างกายของเราสองคนกอดรัดถ่ายทอดความอบอุ่นและความรู้สึกที่ซุกซ่อนอยู่ในใจให้แก่กันและกัน ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ ทุกที่พี่พี่ภูมิสัมผัสผมนั้นร้องแรงจนผมแทบละลาย แม้แต่ความเจ็บปวดไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความสุขสมเสียงหอบหายใจของเราทั้งคู่ดังประสานกัน ในความมืดนั้นผมกลับไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเลยแม้นิดเดียว



...



“คิกๆ”ผมที่ตื่นขึ้นในอ้อมแขนของพี่ภูมิหัวเราะอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งคนที่หลับอยู่


“ฟ้า...จุ๊บๆๆ”และคนที่หลับอยู่ก็ปล้ำจูบผมไปทั่ว


“พี่ภูมิยอมแพ้แล้ว...คิกๆ...ไม่เอาแล้ว...จั๊กจี้...โอ๊ย...”ผมดิ้นหนีเคราและหนวดสากๆของพี่ภูมิ แต่ดิ้นมากไปหน่อยเลยสะเทือนถึงสะโพกและแผลจากสัมพันธ์ทางกายเมื่อคืนนี้


“ฟ้า...เจ็บตรงไหน”พี่ภูมิทำหน้าตาตื่นแล้วเลิกผ้าห่มจะสำรวจตรงแผลของผม


“พี่ภูมิบ้า...ไม่เอา”ผมรีบเอาผ้าห่มผิดตัวไว้อย่างรวดเร็ว ถึงจะมีอะไรกันแล้วแต่มันก็น่าอายนี่


“ฮ่าๆอายเค้าอ่ะดิ”พี่ภูมิยิ้มล้อผมที่หน้าแดงแล้วจูบที่หน้าผากผมแรงๆเพราะหมั่นเขี้ยว


“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย”ผมค้อนพี่ภูมิแล้วเดินกระเผลกไปเข้าห้องน้ำโดยมีพี่ภูมิช่วยพยุง



           ตอนนี้ผมกำลังนั่งมองพี่ภูมิที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่โดยมีเจ้ากัปตันเป็นผู้ช่วยแต่ดูท่าแล้วจะช่วยให้เสร็จช้าขึ้นมากกว่า ส่วนผมถูกสั่งให้นั่งเฉยๆและนั่งมองพี่ภูมิไปพลางๆ


“ฮ้า...เสร็จซะที”พี่ภูมิถอยหายใจแรงๆและนั่งลงที่เก้าอี้ข้างผม


“เหนื่อยมากไหม”ผมถามแล้วเอากระดาษทิชชู่ซับเหงื่อที่หน้าและคอให้พี่ภูมิ


“เหนื่อยมากเลยจ๊ะที่รัก”พี่ภูมิยิ้มกว้างให้ผมและเริ่มเข้ามานัวเนียที่ตัวผม


“หยุดเลยตัวเหนียว”ผมตีมือปลาหมึกของพี่ภูมิไปหลายที จนพี่ภูมิเบ้ปากและหยุดลวนลามผม


“ฟ้าไปเที่ยวทะเลกัน”พี่ภูมิดึงมือผมไปกุมไว้ แล้วยิ้มหวานให้ผม เพียงแค่รอยยิ้มนี้ต่อแรกด้วยชีวิตของผมก็จะรักษามันไว้ให้ได้


“นึกยังไงถึงอยากไปทะเล”ผมถามพี่ภูมิเพราะสงสัยว่าอยู่ดีๆทำไมพี่ภูมิถึงได้อยากไปเที่ยวทะเลขึ้นมา


“ก็ไปฮันนีมูนไงจ๊ะที่รัก”ผมรู้สึกจั๊กจี้ที่พี่ภูมิเรียกผมว่าที่รัก แต่ก็ไม่ได้รังเกียจที่พี่ภูมิเรียกผมแบบนี้


“งั้นก็ตกลง...”ผมกับพี่ภูมิยิ้มให้กันแล้วจูงมือกันเข้าบ้าน

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
Re: {เรื่องสั้น}ความรัก
«ตอบ #2 เมื่อ18-02-2011 07:24:07 »

วันนี้ผมกับพี่ภูมิตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปทะเลด้วยรถยนต์ที่ไปเช่ามา ไม่กี่ชั่วโมงเราก็ไปถึงบังกะโลที่พักแบบติดทะเล และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาทะเลทำให้ผมตื่นเต้นมาก


“พี่ภูมิทะเลสวยจัง”ผมที่เอาของไปเก็บในบังกะโลเรียบร้อยแล้วก็ลากพี่ภูมิออกมาเดินเล่น


“อืม...สวย”พี่ภูมิทอดสายตามองไปยังทะเลยที่ไกลสุดลูกหูตาแล้วยิ้มเศร้าๆ


“พี่ภูมิ”


“ครับคนดีแดดแรงนะไปนอนพักเอาแรงกันดีกว่า”พี่ภูมิหันกลับมายิ้มสดใสให้ผมแล้วพาผมกลับไปที่พัก พวกเราพากันหลับด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทาง



.....................



“พี่ภูมิฟ้ากินไม่ไหวแล้ว”ผมบอกพี่ภูมิพลางลูบท้องประกอบ ในท้องของผมจุกแน่นไปด้วยของทะเลสารพัดที่พี่ภูมิบริการให้ถึงปากผม


“แค่นี้ก็อิ่มแล้ว...กะว่าจะขุนให้อ้วนๆจะได้กอดเนื้อนิ่มให้หนำใจไปเลย...ตัวเราน่ะบางเกินไปพี่กลัวกอดแรงๆแล้วเราจะหักคาแขนพี่”


“พี่ภูมิ”ผมตีแขนพี่ภูมิแล้วค้อนให้คนเจ้าแผนการ


“โอ๋ๆดีกันนะ”พี่ภูมิอมยิ้มแล้วยื่นนิ้วก้อยมาให้ผม


“ก็ได้”ผมยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับพี่ภูมิ แล้วพี่ภูมิก็จ่ายค่าอาหารแล้วพาผมไปเดินเล่น และกลับไปที่บังกะโล


“อื้อ...”ยังไม่ทันจะถึงห้องผมก็ถูกพี่ภูมิขโมยจูบไปอย่างไม่ทันตั้งตัว พวกเรานัวเนียกันไปจนถึงเตียง และเริ่มสร้างสัมพันธ์ทางกายครั้งแล้วครั้งเล่า อยู่ภายใต้อ้อมกอดกันจนถึงเช้า


ผมถูกพี่ภูมิอุ้มออกไปนั่งที่เก้าอี้สานริมระเบียง


“รอแป๊บนะ”พี่ภูมิบอกผมและเดินหายไปสักพักก่อนกลับมาพร้อมกับกีต้าร์โปร่ง


“หน้าแบบนี้เล่นเป็นด้วยเหรอ”ผมแซวพี่ภูมิ


“เล่นเป็นสิครับที่รัก แฮะ แฮม เพลงนี้มอบให้น้องฟากฟ้าสุดที่รักของผม”

http://www.youtube.com/v/IP0Qqekm3Eo?version=3

If you're not the one, then why does my soul feel glad today?
ถ้าคุณไม่ใช่คนๆนั้น งั้น ทำไมจิตวิญญาณของผมรู้สึกยินดีเหลือเกินวันนี้?
 
If you're not the one, then why does my hand fit yours this way?
ถ้าคุณไม่ใช่คนๆนั้น แล้ว ทำไมมือของผมถึงได้พอดีกับของคุณแบบนี้ล่ะ?
 

If you are not mine, then why does your heart return my call?
ถ้าคุณไม่ใช่ของผม ทำไมหัวใจของคุณถึงตอบรับเมื่อผมบอกความในใจ?
 

If you are not mine, would I have the strength to stand at all?
ถ้าคุณไม่ใช่ของผม ผมจะมีกำลังยืนหยัดสักนิดไหม?
 
 
 
I never know what the future brings
ผมไม่รู้หรอกนะว่า อนาคตจะเป็นยังไง
 

But I know you are here with me now
แต่ตอนนี้ที่ผมรู้คือ คุณอยู่กับผม
 

We'll make it through and I hope
พวกเราจะผ่านพ้นมันไปได้และผมหวังเหลือเกินว่า
 

You are the one I share my life with
คุณคือคนเดียวที่ผมจะใช้ชีวิตด้วย
 
 
 
I don't wanna run away but I can't take it, I don't understand
ผมก็ไม่อยากวิ่งหนีหรอกนะ แต่ผมรับมันไม่ได้ ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด
 


If I'm not made for you, then why does my heart tell me that I am?
ถ้าผมไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณ ทำไมหัวใจถึงบอกว่ามันเป็นแบบนั้นล่ะ
 

Is there any way that I can stay in your arms?
จะมีทางไหม ที่ผมจะอยู่ในอ้อมกอดของคุณได้?
 
 
 
If I don't need you, then why am I crying on my bed?
ถ้าผมไม่ต้องการคุณ ทำไมผมถึงร่ำไห้อยู่บนเตียง?
 

If I don't need you, then why does your name resound in my head?
ถ้าผมไม่มีคุณได้ ทำไมชื่อของคุณถึงดังก้องอยู่ในหัว?
 

If you're not for me, then why does this distance maim my life?
ถ้าคุณไม่ใช่สำหรับผม ทำไมผมถึงเจ็บปวดเมื่อเราอยู่ห่างไกล?
 

If you're not for me, then why do I dream of you as my wife?
ถ้าคุณไม่ใช่คนๆนั้นสำหรับผม ทำไมผมถึงฝันถึงคุณราวกับว่าคุณเป็นภรรยาของผมล่ะ?
 
 
 
I don't know why you're so far away
ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงห่างไกลนัก
 

But I know that this much is true
แต่ผมรู้ว่าไอ้ทั้งหมดเนี่ยมันเป็นเรื่องจริง
 

We'll make it through and I hope
เราจะผ่านมันไปด้วยกันและผมหวังว่า
 

You are the one I share my life with
คุณคือคนเดียวที่ผมจะใช้ชีวิตด้วย
 
 
 
And I wish that you could be the one I die with
และผมปรารถนาเหลือเกินว่าคุณจะเป็นคนที่ร่วมเป็นร่วมตายกับผม
 

And I'm praying you're the one I build my home with
และผมพร่ำสวดภาวนาว่า คุณคือคนเดียวที่ผมสร้างบ้านของผมด้วยกัน
 

I hope I love you all my life
ผมเชื่อว่าผมจะรักคุณไปตลอดชีวิตของผม
 
 
 
I don't wanna run away but I can't take it, I don't understand
ผมก็ไม่อยากวิ่งหนีหรอกนะ แต่ผมรับมันไม่ได้ ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด
 

If I'm not made for you, then why does my heart tell me that I am?
ถ้าผมไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณ ทำไมหัวใจถึงบอกว่ามันเป็นแบบนั้นล่ะ
 

Is there any way that I can stay in your arms?
จะมีทางไหม ที่ผมจะอยู่ในอ้อมกอดของคุณได้?
 
 
 
'Cause I miss you, body and soul so strong
เพราะว่าผมคิดถึงคุณ ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง
 

That it takes my breath away
ที่พรากลมหายใจไปจากผม
 

And I breathe you into my heart
และผมสูดลมหายใจเอาคุณเข้าสู่หัวใจของผม
 

And pray for the strength to stand today
และเฝ้าภาวนาให้มีแรงยืนหยัดในวันนี้
 
 

'Cause I love you whether it's wrong or right'
เพราะว่าผมรักคุณไม่ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม
 

And know I can't be with you tonight
และแม้ว่าผมจะไม่สามารถอยู่กับคุณได้ในค่ำคืนนี้
 

You know my heart is by your side
แต่อยากให้คุณรู้ ว่า หัวใจของผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ
 
 
 
I don't wanna run away but I can't take it, I don't understand
ผมก็ไม่อยากวิ่งหนีหรอกนะ แต่ผมรับมันไม่ได้ ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด
 

If I'm not made for you, then why does my heart tell me that I am?
ถ้าผมไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณ ทำไมหัวใจถึงบอกว่ามันเป็นแบบนั้นล่ะ
 

Is there any way that I can stay in your arms?
จะมีทางไหม ที่ผมจะอยู่ในอ้อมกอดของคุณได้?
 


          เสียงทุ้มนุ่มหูที่ถ่ายทอดความรู้สึกเป็นบทเพลงให้ผม เรียกน้ำใสๆให้ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้าแต่มันเป็นน้ำตาแห่งความตื้นตัน


“อย่าร้องไห้สิครับคนดี”พี่ภูมิวางกีต้าร์แล้วเดินเข้ามาเช็ดน้ำตาให้ผม


“พี่ภูมิ...”


“ครับคนดีของพี่...ดูสิพระอาทิตย์ขึ้นแล้วนะ”พี่ภูมิชี้ไปที่เส้นขอบฟ้าซึ่งพระอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นมาจากกลีบเมฆ


“สวยดีเนาะ”ผมบอกกับพี่ภูมิที่กอดผม พวกเรากำลังนั่งพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน มันเต็มไปด้วยความสุขซึ่งผมก็ได้แต่ขอให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป ผมไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว และถ้าผมเสียภูมิไปชีวิตผมก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว


“อืม...สวยมาก...แต่ฟากฟ้าของพี่สวยกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า”พี่ภูมิพูดแล้วจูบที่ขมับของผม ทำให้ผมส่งยิ้มกว้างที่เต็มไปด้วยความสุขออกมาจากใจ



“”””””””””””””””””””””””””””””



‘ครับ...ขอเวลาหน่อยนะครับ’

‘ภูมิรู้ครับ’

‘ครับภูมิเข้าใจ...’

‘ครับแล้วภูมิจะกลับไป’


เสียงพี่ภูมิกำลังคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ ผมเลยไม่กล้าเข้าไปขัดจังหวะ

“อ้าว!ทำไมไม่เข้ามาล่ะ”พี่ภูมิถามอย่างแปลกใจที่เปิดประตูออกมาแล้วเห็นผมยืนอยู่นอกห้องไม่ยอมเข้ามา


“ก็พี่ภูมิคุยโทรศัพท์อยู่ฟ้าไม่อยากกวน”


“จ้า...ไปเที่ยวกันดีกว่า”พี่ภูมิพาผมไปเที่ยวสถานที่สำคัญและซื้อของที่ละลึกเป็นกระดิ่งสวยๆคู่หนึ่ง เราไปเที่ยวกันจนมืดระหว่างทางกลับพวกเราก็คุยเล่นกันโดยที่ไม่ได้สังเกตรอบข้างซึ่งทางที่เราเดินกลับค่อนข้างเปลี่ยวและไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่


“เฮ้ย!...ยกมือขึ้นแล้วส่งของมีค่ามา”พวกวัยรุ่นเอามีดจ่อพวกเราทำให้พวกเรารีบส่งของมีค่าให้พวกมัน พอส่งให้แล้วนึกว่ามันจะปล่อยพวกผมไปแต่มันกลับลากตัวผมไปด้วย


“ปล่อยนะจะพาไปไหน”ผมดิ้นแต่พวกมันมีเยอะกว่าผมเลยสู้แรงพวกมันไม่ได้


“อย่าดิ้นเลยน่าไปเป็นเมียพวกกูดีกว่า หน้าหวานๆแบบนี้น่าสนุกดี”หนึ่งในนั้นพูด


“ไอ้พวกเวรมึงปล่อยฟ้านะโว้ย”พี่ภูมิสู้กับพวกมัน


“ไม่นะ...พี่ภูมิ...”ผมเห็นพี่ภูมิสู้ผมก็ยิ่งดิ้นจนหยุดจากพวกมันแล้วฉุดพี่ภูมิให้วิ่งไปด้วยกันจนถึงถนนใหญ่


“แฮ่ก...ฟ้าหนีไป...แฮ่ก...ทิ้งพี่ไว้”พี่ภูมิหอบอย่างหนักและเอามือกุมตรงหัวใจไว้


“ไม่เอาเราต้องไปด้วยกัน”ผมไม่ยอมทิ้งที่ภูมิไปแน่


พวกวัยรุ่นวิ่งตามพวกเรามา และถ้าพวกเรายังไม่รีบไปพวกมันคงมาถึงเราแน่ๆผมเลยรีบพยุงพี่ภูมิแล้วรีบไป


“ฟ้าระวัง”เสียงล้อรถยนต์บดกับถนนเสียงดังลั่นแรงปะทะส่งผลให้ร่างของพี่ภูมิกระเด็นไปจนหัวฟาดหับฟุตบาท ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าผม ทำให้สติผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนลนลานทำอะไรไม่ถูก คนที่ขับรถชนพี่ภูมิรีบวิ่งลงมาดูพี่ภูมิกอ่นจะโทรเรียกรถพยาบาลมา


“ไม่นะพี่ภูมิ...อย่าเป็นอะไรนะ...อย่าทิ้งฟ้าไป...ฟ้าไม่เหลือใครแล้วพี่ภูมิได้ยินฟ้ารึเปล่า”ผมกรี๊ดร้องเรียกพี่ภูมิ ผมกลัวไปหมดทุดอย่าง


“ฟะ...ฟา...ฟ้า”เสียงแหบพร่าของพี่ภูมิเรียกชื่อผม


“พี่ภูมิ...พี่ภูมิห้ามหลับนะพี่ภูมิ”ผมเรียกพี่ภูมิไว้ไม่นานรถพยาบาลก็มา ระหว่างที่รถเข็นร่างพี่ภูมิไปสติของผมก็ดับวูบไป



...



เฮือก...


“พี่ภูมิ”ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา และรีบลนลานลงจากเตียงจากสายน้ำเกลือที่ข้อมือหลุด


“คุณอย่าพึ่งลุกสิ คุณหลับไปอาทิตย์นึงเต็มๆเลยนะ”คนที่ขับรถชนพี่ภูมิเข้ามาพยุงผม


“คุณ...”


“ผมชวิน”


“แล้วพี่ภูมิอยู่ไหน...เป็นยังไงบ้างผมอยากไปหาพี่ภูมิ”ผมละลักละลั่มถาม


“เอ่อ...นี่...เค้าฝากจดหมายไว้ให้คุณ”

ถึงฟากฟ้า...
 พี่ไม่ได้รักฟ้าเลยแม้แต่นิดเดียว ที่ผ่านมาทั้งหมดนัดก็แค่เรื่องโกหก ไม่นึกว่าฟ้าจะโง่เชื่อพี่ขนาดนั้น พี่เบื่อและที่จะต้องอยู่กับฟ้าแล้ว จบกันแค่นี้แหละ
 จาก...ภูมิ



          ผมปล่อยให้จดหมายร่วงจากมือ เหมือนทุกอย่างพังทลายไปต่อหน้าต่อตา ผมทรุดร่างลงกับพื้น ผมไม่มีวันเชื่อว่าเป็นเรื่องโกหก ผมจะเชื่อมั่นพี่ภูมิอย่างสุดหัวใจ หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาลผมก็กลับไปที่บังกะโล ผมกอดตัวเองแล้วร้องไห้ ที่นั่นมีแต่ไออุ่นและร่องรอยของพี่ภูมิเต็มไปหมด ผมเก็บของเข้ากระเป๋าทั้งน้ำตา พลันมือผมก็ไปแตะเข้ากับกระปุกยาที่มีแต่ศัพท์เทคนิคแต่สิ่งที่ผมเห็นคือชื่อโรงพยาบาลผมเลยรีบเก็บของให้เสร็จและกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านแล้วผมก็ขึ้นแท็กซี่ไปที่โรงพยาบาล ถึงความหวังจะเลือนรางแต่ผมก็ขอเลือกที่จะหวัง ผมไปถามที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่พบคนป่วยที่ชื่อภูมิรพี ความหวังของผมก็แตกสลาย ผมเดินอย่างสิ้นหวังออกจากโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางก็ชนกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้า


“เป็นอะไรรึเปล่าครับ”ผมถามเค้าและช่วยเก็บของให้


“ไม่เป็นไรจ๊ะ...ขอบคุณมาก”เค้ายิ้มให้ผม ทำให้ผมคิดถึงรอยยิ้มของพี่ภูมิ


“ถ้าไม่รังเกียจให้ผมถือ ให้ไหมครับ”


“จะรบกวนรึเปล่าจ๊ะ”เค้าพูดอย่างเกรงใจ


“ไม่หรอกครับให้ผมช่วยเถอะ”ผมช่วงถือของไปส่งเค้าที่ห้องๆหนึ่ง ผมวางของและปรายตามองไปที่เตียง หัวใจผมกระตุกวาบเมื่อพบคนที่กำลังตามหาอยู่ น้ำตาของผมไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่


“หนู...หนูจะเป็นอะไร”ผู้หญิงที่ผมช่วยถือของรีบเข้ามาประคองผมไปนั่งที่โซฟา


“พี่ภูมิ”ผมเพ้อเหมือนคนเสียสติ


“หนูรู้จักกับตาภูมิเหรอจ๊ะ ฉันเป็นแม่ของตาภูมิ”เค้าถามผมเลยพยักหน้าตอบรับอย่างเลื่อนลอย


“พี่ภูมิเป็นอะไร”


“ฮึก...ตาภูมิ...เป็นโรคหัวใจตอนนี้กำลังรอหัวใจใหม่อยู่ แต่มันไม่มี...และถ้ารอไปนานกว่านี้ตาภูมิต้อง...”แม่ของพี่ภูมิร้องไห้สะอึกสะอื้น


“แม่...แม่เหรอ”เสียงพี่ภูมิดังขึ้นมา


“จ๊ะ...”แม่ของพี่ภูมิทำเสียงร่าเริงแล้วเดินไปหาพี่ภูมิ


“แม่คุยกับใครอยู่”ตาพี่ภูมิไม่สดใสเหมือนทุกครั้งที่ผมได้มอง มันดูเลื่อนลอยเหมือน...


“อ๋อ!...คุยกับนางพยาบาลน่ะลูก”ผมส่ายหน้าไม่ให้แม่พี่ภูมิบอกว่าคุยอยู่กับผม


“งั้นเหรอครับ”


“จ๊ะ...เดี๋ยวแม่มานะ”แม่พี่ภูมิเดินออกไปข้างนอก ผมจึงเดินตามไป


“พี่ภูมิเค้า...”ผมเม้มปากแน่นเมื่อคิดได้ว่าพี่ภูมิเป็นอะไร


“ตาภูมิเค้า...ตาบอดเพราะเศษกระจกทิ่มตาน่ะจ๊ะ”ผมเอามือปิดปากกลั้นเสียงไว้ เรื่องทั้งหมดมันทำให้ผมทรมานจนแทบหายใจไม่ออก


“ณี...ไม่มีหวังเลย”เสียงคุณหมอคนหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะความเศร้าเสียใจของผมกับแม่พี่ภูมิ


“ทำไม...ตาภูมิถึงได้โชคร้ายแบบนี้”แม่พี่ภูมิทรุดลงไปกับพื้นทำให้หมอคนนั้นเข้าพยุงและพาแม่พี่ภูมิจากไป ส่วนผมก็เดินเหมือนคนไร้วิญญาณเพื่อกลับไปที่บ้าน


          ผมนั่งอยู่กับความเงียบและความมืด ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดย้อนเข้ามาในห้วงความคิดของผม พี่ภูมิที่เปรียบเสมือนแสงสว่างของผม ผมเปิดเพลงที่พี่ภูมิร้องให้ผมซ้ำไปซ้ำมา

ในค่ำคืนเดียวดายลึกล้ำยิ่งกว่าความเหงา
สักวันคงไม่มีเรา แต่หากกักเก็บความทรงจำไว้
เราก็จะพบกันได้แม้บนฟากฟ้า
ดวงดาวสีฟ้าอยู่ในอ้อมกอดของทะเลดาวโดยไม่ปริปาก
ราวกับจะปกปิดคำอำลาตลอดคืนอันยาวนาน
ครั้งหนึ่งในชีวิตที่สายลมพัดผ่านมา
ท่ามกลางการพบเจอหลายพันครั้ง
เธอคือดาวที่พุ่งทะลุหัวใจฉัน
มันลึกซึ่งแรงกล้ายิ่งกล้ายิ่งกว่ามิตรภาพ
วิญญาณสองดวงที่ถูกแยกจากกัน
ความคำนึงที่ไร้ทางไป ทำให้หัวใจหม่นหมอง
หนทางที่ไขคำตอบ...ได้กระจายอยู่ในความมืด



          ในตอนเช้าผมปิดล็อคบ้าน และให้อาหารกัปตันไว้ ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านและไม่เหลียวหลังกลับไป ผมไปที่โรงพยาบาลและไปพบกับคุณหมอคนเมื่อวาน


“สวัสดีครับคุณหมอ ผมชื่อฟากฟ้าครับ”ผมแนะนำตัว


“ครับ ผมชื่อวิทย์เป็นอาของเจ้าภูมิ”


“ครับคุณหมอครับ...ผมจะให้หัวใจและดวงตาผมกับพี่ภูมิ”


“คงไม่ได้หรอก...เพราะทางเราไม่สามารถเอาอวัยวะจากคนที่มีชีวิตอยู่ไปได้มันผิดจรรยาบรรณและผิดกฎหมาย”อาของพี่ภูมิปฏิเสธผม


“ได้โปรดเถอะครับ...”ผมอ้อนวอนอาของพี่ภูมิแต่อาของพี่ภูมิก็ให้ผมทำได้แค่กอกบริจาคอวัยวะแต่ไม่สามารถทำตามคำขอผมได้ ผมเดินน้ำตาอาบแก้มไปหาพี่ภูมิ ผมมองพี่ภูมิที่นอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยและจดจำทุกอย่างของพี่ภูมิให้นานที่สุด


“ฟ้า...พี่รักฟ้า”พี่ภูมิละเมอออกมา ทำให้ผมยิ้มทั้งน้ำตา แค่นี้ผมก็พอใจแล้วที่ได้เกิดได้รักพี่ภูมิแม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่นั้นก็คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผม


          พี่ภูมิ...แสงสว่างและโลกทั้งใบของผม

          มีดคมกริบถูกกรีดลงที่ข้อมือของผม เลือดสีสดไหลรินลงพื้นแต่หัวใจผมกลับยินดีเหลือเกินที่ทำแบบนี้ ถึงจะดูโง่งมแต่ถ้ามันจะสามารถปกป้องคนที่ผมรักได้ ผมก็ยินดี ผมวางจดหมายไว้ที่โต๊ะข้างเตียงของพี่ภูมิ  ร่างของผมทรุดลงกับพื้น ลมหายใจติดขัดรู้สึกหนาวจับใจ ในวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ ประตูก็ถูกเปิดออก


“กรี๊ดดดด”



เสียงกรีดร้องและเสียงฝีเท้าดังเข้ามาในโสตประสาทผม ร่างของผมถูกพาไปยังห้องๆหนึ่ง


“อย่า...ช่วย...ผมเลย...ได้...โปรด...”ผมเปล่งเสียงอย่างยากลำบากเพื่อขอร้องอาของพี่ภูมิ


“อย่าพูดอะไรเลย”


“อย่า...บ..อกพี่...ภู..มิ..เรื่อง...นี้”ผมเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืด และสิ้นสุดลงพร้อมกับเสียงหัวใจผมลาก่อนแสงสว่างของผม คนที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผม






''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''






ภูมิ.........

วันนี้เป็นวันถอดผ้าปิดตาออก หลังจากที่การผ่าตัดสำเร็จไปได้ด้วยดี โชคดีที่มีคนบริจาคหัวใจให้ผมทันไม่งั้นผมคงต้องจากโลกนี้ไปแน่


“ภูมิเห็นแม่ไหม”แม่ถามผมที่กระพริบตาถี่เพื่อสู้แสง ภาพของแม่ผมปรากฏขึ้นลางๆก่อนจะชัดเจนขึ้น ผมรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย


“เห็นแล้วครับแม่”ผมยิ้มให้แม่ที่ยิ้มทั้งน้ำตาและกอดผมไว้แน่น หลังจากนั้นผมก็หลับไป พอตื่นมาอีกทีก็ไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว ผมเหลือบไปเห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะผมจึงหยิบขึ้นมาอ่าน


ถึงพี่ภูมิ
ฝากเจ้ากัปตันด้วยนะ
จากฟากฟ้า



          ข้อความสั้นๆจากคนที่อยู่ในความทรงจำและจิตวิญญาณของผม ทำให้ความคิดของผมตีกันไปหมด ทำไมจดหมายของฟ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ ทั้งที่ฟ้าไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผมแล้วจดหมายของฟ้าอยู่ที่นี่ได้ยังไง


ก๊อกๆ


เสียงเคาะประตูและเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาทำให้ผมหลุดจากความคิดของตัวเอง


“ภูมิอามีเรื่องจะพูดด้วย ถ้าไม่ได้บอกภูมิอาคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”อาวิทย์พูดและส่งกระดาษใบหนึ่งมาให้ น้ำตาผมไหลลงมาจนเปียกชุ่มกระดาษจนหมดจางลง แต่ข้อความในนั้นมันยังชัดเจนในใจผม ผมประติดประต่อเรื่องทั้งหมดได้ในทันที


ทำไม...ฟ้าถึงได้บริจาคดวงตากับหัวใจให้ผม


“เด็กคนนั้นกรีดข้อมือในห้องนี้เพื่อช่วยเรา”อาวิทย์เอ่ยคำที่เสียดแทงหัวใจผมออกมา


“ไม่จริงๆๆ”ผมแทบหายใจไม่ออกเมื่อเรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบนี้


“นี่...เด็กคนนั้นฝากไว้...”อาวิทย์ส่งแผ่นซีดีแผ่นหนึ่งให้ผมแล้วออกไป ผมจึงรีบลุกไปเปิดดูทันที


           พี่ภูมิ...ฟ้ารักพี่ภูมินะ ฟ้ารู้ว่าจดหมายนั่นพี่ภูมิแค่โกหก พี่ภูมิรู้รึเปล่าว่าพี่ภูมิเป็นเหมือนพระอาทิตย์ที่ส่องแสงขับไล่ความมืดมนให้ฟ้า พี่ภูมิทำให้คนทำให้ฟ้ารู้จักความสุขพี่ภูมิเป็นทุกอย่างของฟ้านะ ตอนนี้ฟ้าจะหนีไปเที่ยวแล้วนะห้ามตามไปเด็ดขาด อ้อดอกเยอบีร่าที่ปลุกไว้ที่บ้านก็ของพี่ภูมินะฝากรดน้ำด้วยและเราคงจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว ลาก่อนนะพี่ภูมิ ฟ้าขอโทษที่ไม่ได้มาบอกลาด้วยตัวเอง ถ้าการจดจำฟ้าไว้มันทำให้พี่ภูมิเจ็บปวดฟ้าก็ขอให้พี่ลืมฟ้าซะแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างมีความสุข หัวใจและความรักของฟ้าจะอยู่กับพี่ภูมิตลอดไป



ซ่........................า


          ภาพในจอดับไปสิ่งที่ติดอยู่ในความทรงจำของผมคือรอยยิ้มที่แสนเศร้าของฟ้า ผมปล่อยให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเงียบๆราวกับหัวใจผมจะหยุดเต้น มันอึดอัดและทรมานจนแทบทนไม่ไหว ภาพของฟ้าที่อยู่อ้อมกอดผมทั้งไออุ่นที่ถ่ายทอดให้แก่กัน หัวใจของฟ้าอยู่ที่ผมจริงๆ ผมแค่นยิ้มอย่างขมขื่น ผมกุมหัวใจแล้วบิดตัวอย่างทุรนทุราย มันไม่ใช่ความเจ็บจากหัวใจแต่เป้นความเจ็บปวดจากจิตวิญญาณของที่สูญเสียฟ้าไป ผมเอาแต่นอนนิ่งไม่พูดกับใครราวกับหัวใจผมถูกปิดตาย...ผมปิดกั้นตัวเองจากทุกสิ่ง



1 เดือนผ่านไป


รักเธอ, เธอเท่านั้น สวรรค์ของฉัน

24/7 นั่นคือสวรรค์
24/7 เธอคือสวรรค์ของฉัน
24/7 นั่นคือสวรรค์ตลอดกาล

Yo, มันคือความจริง ถ้าฉันพูด เธอคือรักที่นิรันดร์ของฉัน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา มันไม่เคยจางหายไป
ไม่มีทางที่จะรู้ ว่ารักนั้นเข้ามา แล้วจากไป เหมือนเธอ
เฝ้ารอเธอ วันและคืนในความฝันของฉัน และจากไป
คืนวันในฤดูร้อนผ่านไป กางปีกขึ้นโบยบิน และเร่าร้อน
นั้นคือรักนิรันดร์
นั่นเธออยู่กับฉัน วันพรุ่งนี้จากไป

ทุกๆคน พวกเรา สร้างรักให้ดีที่สุด
รักย่อมเจ็บปวด เมื่อฉันคว้ามันด้วยมือของฉัน
ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร
แต่เธอคือความแตกต่างออกไป
ฉันรู้สึกได้ นี่คือพรหมลิขิต
ตอนนี้
เธอคือหนึ่งเดียวในชีวิตของฉัน
กลับมา

ฉันต้องการจะพบเธอ ฉันต้องการจะพบเธออีก
ฉันคงยังรอเธอ เหมือนดังท้องทะเล
ความรู้สึกของฉันคือเธอ
ไม่ว่ามันจะเป็นตอนเช้า ตอนบ่าย หรือตอนเย็น
ฉันต้องการจะพบเธอ
เธอคือสวรรค์ของฉัน ที่รัก

ความสุข... ความเศร้า... น้ำตา...

ท้องฟ้า... ดวงดาว... และสวรรค์ของฉัน

เธอคือสิ่งที่หายไป
โลกดูไร้สีสัน
ความเจ็บปวดลึกซึ่ง และมากมาย
ริมฝีปากเมื่อวันนั้น ช่างอบอุ่น
แต่อย่างไรก็ตาม หากฉันยังคงเก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ ฉันที่สูญเสียการรับรู้ถึงเรื่องต่างๆ

โอ้ ที่รัก ความทรงจำเรื่องเธอ ยังคงอยู่ในใจของฉัน
โอ้ ที่รัก คำพูดของเธอ ยังคงอยู่บนร่างกายของฉัน
แล้วตอนนี้ มันไม่สามรถที่จะเย็นลง หรือหยุดได้อีก
โอ้ ที่รัก ฝนอันเยือกเย็นโปรยปรายลงมา
นั่นก็เพราะเธอ

ได้โปรดอย่าจากฉันไป อย่าจากฉันไป
ได้โปรด หยุดเวลาไว้ที่ฤดูร้อน
ฉันยังคงเก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว หรือฤดูใบไม้ผลิ
ตลอดกาล เธอคือสวรรค์ของฉัน

เฮ้ เฮ้ ฟังฉัน

ท้ายที่สุด คำพูดหนึ่งก็เข้ามา
มันมีแต่คำว่า ฉันขอโทษ ฉันไม่เข้าใจมันทั้งหมด
ช่วงเวลาหนึ่ง เข้ามาหาฉัน ยิ้มให้เหมือนกับช่วงเวลาเหล่านั้น

ฉันต้องการพบเธอ ฉันต้องการพบกับเธออีกครั้ง
ฉันรอคอยเธอ เหมือนดังทะเล
ไม่ว่า มันจะเป็นตอนเช้า ตอนบ่าย หรือตอนเย็น
ฉันอยากจะพบเธออีกครั้ง สวรรค์ของฉัน

24/7 สวรรค์ของฉัน



         ผมเดินไปตามผืนทรายที่ทอดยาวสุดลูกหูลุกตาพร้อมกับเจ้ากัปตัน จนถึงวันนี้ฟ้าก็ยังอยู่ในหัวใจและความทรงจำของผมตลอดมา ผมตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือทั้งผมแทนฟ้า และไม่ว่ามันจะเป็นไปได้หรือไม่ผมก็อยากจะพบกับฟ้าอยากจะรักในนานที่สุด


ภูมิรพีขอสาบานว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะรักฟากฟ้าคนดีตลอดไป
และขอให้เราได้พบกันอีกแม้ว่ามันจะนานตราบชั่วนิรันดร์ก็จะรอ




........................................
มาม่าสุดๆ แต่งออกได้ไงก็ไม่รู้ ปกติไม่ชอบเรื่องแนวนี้ออกแนว
ไม่ชอบแบบสุดๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเศร้าๆแบบนี้มันจะตรึงอยู่ใน
ความทรงจำของเรากว่าเรื่องรักๆธรรมดา

ขอบคุณครับ :3123: :L2: :mc4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2011 07:56:16 โดย @aOoM&jAe@ »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: {เรื่องสั้น}ความรัก
«ตอบ #3 เมื่อ18-02-2011 07:40:54 »

 :mc4:ตอนรับเรื่องเศร้าๆยามเช้า :L1:

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
Re: {เรื่องสั้น}ความรัก
«ตอบ #4 เมื่อ18-02-2011 10:21:55 »

เศร้ามากๆๆ
สงสารทั้งคู่เรย

Bi-toey

  • บุคคลทั่วไป
Re: {เรื่องสั้น}ความรัก
«ตอบ #5 เมื่อ18-02-2011 11:42:13 »

เป็นเรื่องสั้นที่เรียกน้ำตาคนอ่านได้สุดๆไปเลย T^T

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: {เรื่องสั้น}ความรัก
«ตอบ #6 เมื่อ18-02-2011 11:59:42 »

ไม่ชอบเลยยยยยยยยยยย

















เศร้าอ่ะ T^T
สงสารฟ้าสุดๆ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
น้ำตาท่วมจอ

ออฟไลน์ NUTTYZERO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1044
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
อื้อหือ...สุดๆเลยครับ ดราม่าได้อีก

ชอบมากเลย แบบนี้ WIN ไปเลย T^T

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
 :sad4:เศร้ามากเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






imsingularfc

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าไปไหนเนี่ยยยยยยยยยย

win200

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าอ่ะ :sad11:

แต่แต่งได้ดีจิงๆคับ o13

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :m15: 

minimonmon

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:อ่านไปก็น้ำตาไหลไป เศร้าอ่ะ  :sad4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด