ไอ้หนูบีของคุณลุงใหญ่......

Boy's love > นิยายที่โพสจนจบแล้ว

ไอ้หนูบีของคุณลุงใหญ่......

(1/171) > >>

sadness:
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn หรือคบหาพูดคุยกันในเล้า
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

----------------------------------------------------------------------------------

ความเดิมตอนที่แล้ว.......(จากเรื่องของคนสองคน....หรือหลายคน)

หลังจากที่ผมขับรถไปส่งดิวขึ้นเครื่องเรียบร้อยแล้ว ความรู้สึกของผมก็ล่องลอยเหลือเกิน
ผมทำถูกแล้วใช่ไหมที่ผมทำแบบนั้น ผมไม่สามารถรั้งตัวของดิวไว้ได้ เพราะใจของดิวอยู่กับคนอื่น
ผมไม่เสียใจเลยที่คนที่ผมรักทั้งสองคนจะมีความสุข

ผมขับรถมาไกลเท่าไหร่แล้วนี่ เมื่อรุ้สึกตัวอีกที ผมก็ออกนอกกรุงเทพมาแล้ว
ไหนๆก็ขับมาแล้ว ผมก็ขอปลดปล่อยให้สบายใจสักวัน ผมขับรถหาโรงแรมพักในตัวเมืองได้แล้ว
ก็คิดได้ว่า มีเพื่อนที่คณะตอนเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่นี่ ผมจึงโทรหามันทันที อย่างน้อยก็ไม่ต้องอยู่คนเดียว
“ไอ้เอ มึงอยู่ไหนวะ”
“อยู่ที่ร้านดิ ทำไมวะ” ไอ้เอเพื่อนผมมันเปิดร้านถ่ายภาพ สตูดิโออยู่ ผมก็ดีใจกับเพื่อน ถึงมันจะเป็นแค่งานอดิเรกที่มันรัก แต่มันก็สามารถสร้างเป็นอาชีพที่มั่นคงของตัวเองได้
“กูอยู่แถวบ้านมึงเนี่ย ออกมาหากูหน่อยดิวะ”
“มึงอย่ามาตลก ร้อยวันพันปีไม่เคยโผล่มาให้เห็น อย่ามาอำกู แล้วอีกอย่างกูไม่ได้มีเวลาว่างมากนะมึง”
อ้าว ไอ้เพื่อนเวรนี่ ไม่เชื่อแล้วยังมาด่าอีก
“เฮ้ย กูพูดจริง กูพักอยู่โรงแรม...... มึงจะให้กูเอาเบอร์โรงแรมโทรไปเลยไหม”
“จริงหรือวะ มึงอย่ามาล้อเล่นนะเว้ย” น้ำเสียงของเพื่อนผมเริ่มเบาลงเล็กน้อย แสดงว่ามันเริ่มจะเชื่อ
“ก็จริงสิวะ จะโกหกทำแมวอะไร”
“โอเคๆ งั้นกูว่างละ เดี๋ยวไปหา” เมื่อกี้ยังบอกว่ายุ่ง ตอนนี้ว่างขึ้นมาทันทีเลยนะมึง

ผมกับไอ้เอเรียกว่าสนิทกันพอสมควร ปกติจะโทรคุยกันเสียมากกว่า ไม่ค่อยจะได้มาเจอกันเท่าไหร่ แต่คราวนี้ผมอยากมาพักผ่อนหัวใจ ไหนๆก็ขับรถมาจะถึงจังหวัดมันอยู่แล้ว ก้เลยขับต่อมาอีกสักหน่อย มาเจอเพื่อนบ้าง เผื่อความรู้สึกผมมันจะดีขึ้นมา
“มึงคิดไงมาหากูวะ”
“ไม่ได้คิด รถพากูมาเอง” ผมตอบแบบกวนๆ ก็มันเป็นแบบนั้นนี่ครับ ใจลอยไม่ได้คิดอะไร แล้วรถมันก็พามาถึงที่นี่เอง
“กวนนะมึงเนี่ย” ผมกับไอ้เอเถียงกันก่อนจะเข้าร้านกาแฟที่มันพามา
“ไอ้เอ ห้องน้ำไปทางไหนวะ” ผมอยากล้างหน้าแล้วก็เข้าห้องน้ำด้วย เลยถามไอ้เอหลังจากนั่งที่โต๊ะ

พอผมเดินไปถึง ประตูห้องน้ำปิดอยู่ ผมจึงเอื้อมมือไปลองบิดดุว่ามีคนอยู่หรือเปล่า แต่ก่อนที่มือผมจะถึงลูกบิด ประตูห้องน้ำก้เปิดออกก่อน ทำให้ผมยืนจ้องกับคนที่ยืนอยู่ข้างใน
ภาพที่ผมเห็น เป็นเด็กนักศึกษาท่าทางกวนๆ ตัดผมรากไทรคลุมคอ ละลงมาถึงไหล่ สีน้ำตาลที่ตัดกับ ผิวขาว ๆตาโต ที่เด่นที่สุดก็ตรงปากสีแดงอมชมพู ใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ สูงพอสมควรกำลังเหมาะกับรูปร่างที่ผอมเพียว อืม จัดว่าเป็นเด็กที่น่ารักคนนึงเลยนะเนี่ย
“จะยืนขวางอีกนานไหมลุง” อ้าวไหงปากอย่างนี้หละ ไอ้เด็กน่ารักเมื่อกี้ทำหน้าบึ้งแสดงว่าไม่พอใจ พร้อมถามด้วยน้ำเสียงแข็งๆ
“เอ่อ โทษที” ผมเบี่ยงตัวหลบไอ้เด็กปากเสียคนนั้น กลิ่นหอมจากแป้งเด็กมันลอยเข้าจมูกผม เวลาที่ไอ้เด็กปากเสียคนนี้เดินผ่าน กลิ่นแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
“เฮ่อ....คิดอะไรวะเนี่ย” ผมส่ายหัวไล่ความคิดของตัวเอง

พอผมเดินกลับไปที่โต๊ะ ก็พบว่ามีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน
“พี่เอ พี่คิดดูดิ มันมองหน้าผม จ้องเลยนะพี่ แบบนี้มันกวนกันชัดๆ”
“เห็นว่าตัวใหญ่กว่าหรือไงวะ ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะมองอะไรนักหนา”
“หรือว่ามันจะโรคจิต หรือไม่ก็ประสาทแน่ๆเลยพี่ว่าไหม” เสียงไอ้เด็กปากเสียมันกำลังพร่ามถึงผมอย่าสรรเสริญ แต่เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าคนที่กำลังถูกนินทา ได้มายืนอยุ่ข้างหลังแล้ว ส่วนไอ้เอ ผมแค่ทำท่าทางบอกว่าให้นั่งเฉยๆ พอผมเห็นจังหวะที่ไอ้เด็กปากเสียยกแก้วกาแฟขึ้น
“หมายถึงผมหรือเปล่าครับ” ผมก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูไอ้เด็กปากเสีย
เมื่อเจ้าตัวหันมาเห็นผม ถึงกับอึ้ง ตาโตจ้องหน้าผมสักพัก หลอดกาแฟยังคาอยู่ที่ปาก ส่วนผมก็จ้องตากลับเหมือนกัน
“แคร่กๆๆๆ อะ.....”อยู่ๆไอ้เด็กปากเสียก็สำลัก ผมหละอยากจะขำจริงๆ
“นินทาคนอื่นลับหลังมันไม่ดีนะ” พูดเสร็จผมก็นั่งลงด้านข้างไอ้เอ ซึ่งตรงหน้าไอ้เด็กปากเสียพอดี
“เออๆ ขอโทษแทนน้องด้วยแล้วกันวะ” ไอ้เอหันมาขอโทษผม ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มกับท่าทีวางตัวไม่ถูกของเด็กปากเสีย
“หนูชื่ออะไรครับ” ผมแกล้งแซวไอ้เด็กปากเสีย
“พี่เอ!!” ไอ้เด็กปากเสียหันไปตะโกนเรียกเพื่อนผม พร้อมกับเอามือชี้มาที่ผม ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มชอบใจพร้อมกับเอนตัวไปพิงพนักด้านหลัง เหมือนไม่ใส่ใจ
“พอแล้วน่า....เมื่อกี้ก็ว่าเค้าไว้เยอะนี่นา”ไอ้เอหันไปปรามเด็กปากเสีย
“ไอ้ใหญ่มึงก็เลิกแหย่ได้แล้ว” อ้าว หันมาว่ากุอีก
“บี ยกมือไหว้พี่เค้าซะ นี่พี่ใหญ่ เพื่อนพี่เอง” ไอ้เด็กปากเสียชื่อบี ทำหน้าเหมือนจะบีบคอไอ้เอเสียให้ได้ แถมทำตาโตจ้องอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ แต่สุดท้ายก็ต้องยกมือไหว้แบบเสียไม่ได้
“ไอ้ใหญ่นี่น้องชายกู ชื่อบี เรียนอยู่ปี 3 แล้ว”
“มึงมีน้องด้วยหรือวะ” เพราะตั้งแต่ผมคบกับมันมา มันไม่เคยบอกเลยว่ามีน้องชายด้วย
“มีสิวะ ดูแลมันมาตั้งแต่เด็ก ไม่งั้นจะปราบมันอยู่หรอ” ไอ้คนที่ถูกพาดพิงเริ่มแสดงอาการไม่พอใจ ใช้หลอดกระแทกน้ำแข็งในแก้วอย่างแรง
“ก็ดื้อ แบบนี้นี่นะ แบบนี้มันต้องหาคนกำหราบ” ไอ้เด็กปากเสีย พอได้ยินที่ผมพูด ก็ถลึงตาใส่ผมทันที

ระหว่างที่ผมนั่งคุยกับไอ้เอ ผมก้แอบสังเกตุไอ้เด็กปากเสีย ตอนนี้เอาแต่ทำแก้มป่องด้วยอารมณ์โกรธ สายตามองออกไปนอกกระจก ดูๆไปก็น่ารักเหมือนกันนะนี่ แต่ท่าทางจะขี้งอนใช่เล่น
“เออ ที่บริษัทมึงรับเด็กฝึกงานหรือเปล่าวะ”อยู่ๆไอ้เอก็ถามขึ้นมา
“ทำไม จะฝากกิ๊กคนไหนมาฝึกหละ”
“มึงจะบ้าหรือไง มีที่ไหนหละกิ๊กนะ กูจะฝากไอ้ตัวแสบนี่ต่างหาก” ผมและไอ้เด็กปากเสียหันมามองหน้ากันพอดี หลังจากได้ยินไอ้เอพูด
“ไม่เอานะพี่เอ ผมไม่ไปอยู่กับคนโรคจิตหรอก”
“น้องมึงเรียนอะไรหละ” ผมทำเป็นไม่สนใจคำพูดของไอ้เด็กปากเสีย
“เรียนบริหาร นะถือว่าเห็นแก่กู ฝากหน่อยแล้วกัน กูจะได้สบายใจ” ถึงมึงไม่ฝากกูก็อยากดูแลอยู่แล้วหละ.... อ้าวนี่ผมคิดอะไรเนี่ย
“พี่เอ ไม่เอานะพี่” ไอ้เด็กปากเสียยังโวยวายไม่เลิก
“แล้วจะมาเมื่อไหร่หละ” ผมกับไอ้เอก็ยังไม่สนใจเสียงโวยวายอยู่ดี
“เทอมหน้าก็จะขึ้นปี 4 แล้ว ฝึกงาน 1 เทอม ยังไงก็ช่วยดูแลมันหน่อยนะ”
“ได้อยู่แล้ว น้องเพื่อน ก็เหมือนน้องกู” ผมบอกกับไอ้เอ
“พี่เอ.........”
“พอได้แล้วไอ้ตัวแสบ พี่ตัดสินใจแล้ว ทำตัวดีๆหละ อย่าให้เค้าว่ากลับมา” ไอ้เอพูดเป็นอันยุติการงอแงของไอ้เด็กปากเสีย
“ถ้างั้นพักที่บ้านกูแล้วกัน จะได้สะดวก เช้าก็ไปทำงานพร้อมกูเลย” ผมเสนอความคิด เพราะผมรู้สึกว่า เวลาอยู่กับเด็กคนนี้แล้วทำให้ผมยิ้มได้ตลอดเวลา
“ไม่เป็นไร เกรงใจวะ เดี๋ยวกูหาหอพักให้ไอ้บีเอง”
“ไม่ต้องเกรงใจ กูจะได้ดูแลให้ไง น้องมึงทั้งคนนะเว้ย กูจะปล่อยทิ้งๆขว้างๆได้ไง” ผมพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เด็กหน้างอตรงข้าม
“เอางั้นก็ได้ ขอบใจวะ งั้นเดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พอไอ้เอลุกไป ผมก็ก้มหน้าไปหาไอ้หนูบี
“พี่จะให้เรามาฝึกงานเป็นเลขาพี่ จะได้อยู่กับพี่ตลอดเวลา”
“นี่ลุงคิดอะไรกับผมเนี่ย” ไอ้เด็กปากเสียก้มหน้ามาหาผมเช่นกัน
“แล้วเราคิดว่าไงหละ”
“ลุงจะจีบผม.......ใช่ไหม”
“ก็แล้วจะให้จีบไหมหละ”
“อย่าหวังเลย ผมไม่ชอบคนแก่”
“ก็อย่ามาเผลอใจรักคนแก่ก็แล้วกัน ไอ้หนูน้อย”พูดเสร็จผมก็เอาหลังพิงพนัก ส่วนไอ้หนูน้อยก้ได้แต่ทำตาเขียวใส่ผม เห็นแล้วมันน่าแกล้งอะไรแบบนี้ เฮ้อ..................ต่อจากนี้ ผมคงจะมีอะไรสนุกๆในชีวิตแล้วสิ
-----------------ไอ้หนูบี--------------------------




*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

sadness:
สู่รักครั้งใหม่....ของลุงใหญ่

[1]

“พาเที่ยวหน่อยสิวันนี้” ผมถามยิ้มๆ ส่งให้ไอ้หนูตรงหน้า แต่กลายเป็นไอ้เอที่ตอบกลับมาแทน
“วันนี้กูไม่ว่างวะ พรุ่งนี้แล้วกันนะมึง” มันตอบผมแต่ก้ไม่ได้สนใจเงยหน้าจากหนังสือบอลที่มันอ่านอยู่ แต่ไอ้หนูที่ผมถามนี่สิ กลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ซะงั้น
“พรุ่งนี้กูต้องกลับแล้ววะ มีงานต้องกลับไปทำ” ผมทำเป็นพูดกับไอ้เอ แต่ตาก็ยังมองไปที่หน้างอนๆของเด็กตรงหน้า
“อย่างนั้นหรอวะ เอาไงดีหละ” มันปิดหนังสือแล้วเงยหน้ามาหาผม ทำให้ผมต้องละสายตากลับมาหามัน
“น้องบีเป็นไกด์หน่อยได้ไหมครับ” ผมยิ้มแบบเปิดเผยให้ไอ้หนู
“เออจริงสิ บีพาพี่เค้าทัวร์หน่อยแล้วกัน พอดีเฮียไม่ว่างวะ” และแล้วไอ้เอก้เห็นดีเห็นงามไปด้วยกับผม หันไปหาไอ้หนูน้อย จนเจ้าตัวต้องรีบหันมาปฏิเสธ
“ไม่เอาผมไม่ว่าง” สายตาที่แข็ง ส่งกลับมาหาพี่ชาย พร้อมกับเหล่มาที่ผม ประมารว่าให้ตายก้ไม่ไปด้วย
“ทำอะไรวะไม่ว่างนะ”
“ก็....ก็...อ๋อ ต้องช่วยเฮียไง งานที่ร้านออกจะเยอะ” ผมนึกขำกับท่าครุ่นคิดของไอ้หนู
“อย่ามาตลก ปกติเคยช่วยอะไรได้บ้างหละ ดีแต่เกะกะ พาพี่เค้าเที่ยวหน่อยแล้วกัน เพื่อนเฮียมาทั้งที” ไอ้เอตัดบท บอกแกมบังคับให้น้องชายทำตาม แล้วแบบนี้ไอ้หนูจะหนีไปไหนรอด

“ลุงจะไปไหนหละ” ไอ้หนูถามผมกลับมาตอนที่ขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว แต่สายตากลับมาตรงออกไปหน้ารถไม่ได้มองมาที่ผม ส่วนผมก้ได้แต่เงียบมองหน้าไอ้หนูบีนิ่งๆ
“เอ้า.....จะไปไหนหละลุง คิดสิ ไม่ได้ว่างทั้งวันนะ” พอเห็นผมเงียบ เลยหันมาหา แต่พอเจอผมจ้องอยู่เลยเร่งให้ผมตอบ
“ก็ถ้าพี่รู้ว่าจะไปไหนดี จะให้เราพาเที่ยวทำไมหละ” ผมตอบกลับไปนิ่งๆ ทำให้คนที่รับฟังกระตุกไปเล็กน้อย
“ไอ้ที่ถามก็หมายถึงจะไปห้าง ไปวัด ไปน้ำตก หรือไปไหนไง จะได้พาไปถูก” ไอ้หนูของผมเริ่มเฉไฉความผิดของตัวเอง แล้วก็เริ่มร่ายยาวพร้อมทั้งหันหน้าหนี ดูก็รู้ว่าเสียหน้าไม่น้อย..... น่ารักอะไรขนาดนั้น
“เจ้าถิ่นมีอะไรแนะนำหละ” จริงๆผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนหรอก แค่อยากอยู่กับไอ้หนูก็เท่านั้น อยู่ใกล้ๆแล้วมันรู้สึกสนุกดีที่ได้แกล้ง
“งั้นไปไหว้พระก่อนแล้วกัน มาที่นี่ใครๆก็ต้องไปไหว้พระก่อน” หนูบีคิดอยู่สักพักก็ตอบผมกลับมา
“งั้นก็ได้” ผมเริ่มออกรถ ขับไปตามทางที่ไอ้หนูบอก

“เปิดได้ไหมอะ” บีชี้ไปที่เครื่องเสียงบนรถผม และเมื่อผมพยักหน้า ไอ้หนูก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะเอื้อมมือไปเปิด ตลอดทางที่นั่งมา ไอ้หนูจะนั่งฮัมเพลงมาตลอด พร้อมกับออกท่าออกทางบ้างบางเพลงที่มีจังหวะ ผมมองก็รู้สึกชอบกับความสดใสของเด็กคนนี้ รอยยิ้มที่เกิดขึ้นของบี มันเป็นยิ้มที่ไม่ได้เกิดจากการปรุงแต่ง ยิ้มที่ออกมาจากใจเพราะความชอบในเสียงเพลง ทำให้ผมอดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้...เฮ้อ เด็กอะไรจะสดใสได้ขนาดนี้

“ลุงไหว้คนเดียวนะ ผมจะรออยู่ข้างนอก”
“ทำไมไม่ไปด้วยกันหละ”
“ไม่อยากไหว้พระร่วมกับคนโรคจิต” คราวนี้ไอ้หนูพูดจบก็เดินหนีผมไปเลยครับ ก่อนจะไปยังมีมาทำหน้าทะเล้นใส่ผมอีก เอาๆๆ สักวันจะให้มาไหว้พระร่วมกันให้ได้

เมื่อผมไหว้พระขอพรเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมา เห็นหลังของไอ้หนูอยู่ไกลๆ ตรงริมแม่น้ำหน้าวัด ผมเดินไปหยิบกล้องที่อยู่ในรถติดมือมาด้วยก่อนจะเดินไปหาไอ้หนู ความรู้สึกแรกที่ผมเดินเข้าไปใกล้ๆบริเวณที่บียืนอยู่ มันทำให้ใจผมสั่น......ใบหน้าขาวๆของน้องบี ยิ่งกระจ่างใสมากขึ้นเมื่ออยู่กลางแดด เส้นผมสีน้ำตาลยิ่งดูอ่อนลงไปอีก ทำให้เข้ากับใบหน้าของเจ้าของ ท่าทางการก้มหน้าเตะพื้นของคนนี้ ยิ่งทำให้เจ้าตัวน่ารักขึ้นไปอีก ผมยกกล้องที่อยู่ในมือขึ้นมา พร้อมกับบรรจงถ่ายภาพนั้นเก็บไว้ และเมื่อได้ภาพที่สวยงามนี้แล้ว ผมจึงเรียกเจ้าตัวให้หันมา

“บี” เมื่อไอ้หนูได้ยินผมเรียก จึงหันมา พอดีกับที่ผมกดชัตเตอร์อีกครั้ง
“ทำอะไรนะลุง” ไอ้หนูทำหน้าบึ้งหลังจากที่เข้าใจว่าผมทำอะไร
“ถ่ายรูปไง ไม่เคยเห็นกล้องหรือไง” ผมยังยียวนต่อ
“รู้จัก.....แต่มาถ่ายผมทำไมหละ” ไอ้หนูทำแก้มป่องขู่ผม
“ก็อยากถ่าย อยากน่ารักทำไมหละ” ผมแซวหนูน้อยแก้มป่องเล่น
“นี่ลุงเอาจริงหรือเนี่ย”
“เรื่องอะไร”
“ก็ที่ว่าจะจีบผมนะ”
“แล้วทำไมหละ จีบไม่ได้หรือไง” ผมยังยิ้มกวนๆส่งให้ไอ้หนูไปอีกรอบ
“ผมมีแฟนแล้ว อย่ามาจีบผมเลยดีกว่า” รอยยิ้มที่เคยมีของผมหุบลงทันทีที่ได้ยินคำนี้

- - - มีแฟนแล้ว
- - - - - - - - - มีแฟนแล้ว
- - - - - - - - - - - - - - มีแฟนแล้ว

นี่ผมชอบคนมีเจ้าของอีกแล้วหรือนี่ ทำไมกันนะ ผมหันหลังเดินกลับมาที่รถ อะไรกันเนี่ย เพิ่งจะเจอกันไอ้หนูนี่วันแรก ทำไมพอรู้ว่ามีแฟนแล้ว ผมถึงได้เศร้า หรือเพราะผมเพิ่งอกหักมาจากดิว จึงทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเมื่อรู้ว่าคนที่ผมคิดว่าน่ารัก ที่จะมาเป็นคนในหัวใจคนใหม่ของผมมีคนอื่นจับจองแล้ว ผมเลยยิ่งเสียใจไปใหญ่

“ไปไหนหละลุง” เสียงไอ้หนูตะโกนไล่หลังมา
“เป็นไรหรือเปล่าลุง” มันวิ่งมาด้านข้างผม พร้อมกันเอียงหน้ามาถาม
“เปล่า” ผมบอกปัดไป
“ไม่เอาน่า....เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย” มันยกมือมาดบกตรงหน้าผม
“ไม่เป็นไร” ผมบอกพร้อมกับปัดมือมันออกเบาๆ
“อย่าบอกว่าลุงคิดมากเรื่องผมมีแฟนแล้วนะ” ก็เออสิวะ ยังจะมาย้ำอีก ผมเดินต่อมาเรื่อยๆส่วนไอ้หนูก็หยุดยืนมองผมนิ่ง

“ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวไปส่งบ้าน” ผมบอกไอ้หนูก่อนที่จะล้วงมือไปหยิบกุญแจในกระเป๋ากางเกง เมื่อหยิบกุญแจได้ยังไม่ทันจะกดปลดล็อก ไอ้หนูก็วิ่งมาคว้ากุยแจผมไว้ก่อน
“ไม่เอาน่าลุง อย่าคิดมาก ไปเที่ยวต่อดีกว่าไป” มันเดินไปด้านคนขับ พร้อมกับเปิดประตูเข้าไปนั่งที่คนขับเรียบร้อย ซึ่งก็ทำให้ผมยิ่งงงกับการกระทำของไอ้หนูบี

“ผมยังไม่มีแฟน แต่บอกไว้ก่อนนะว่าผมไม่ได้สนใจลุงถึงขนาดแคร์ความรู้สึกลุงหรอก แค่ไม่ชอบเห็นคนทำหน้าเศร้าก็เท่านั้น” ไอ้หนูเห็นผมยืนนิ่ง ก็เลยพูดขึ้นมา แค่นั้นหละ ผมก็ยิ้มแก้มปริ เดินไปนั่งข้างคนขับทันที

“ยังไม่แคร์ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะทำให้รักเลยหละต่อจากนี้นะ” ผมส่งยิ้มให้กับคนที่นั่งข้างๆ
“ผมเปลี่ยนใจกลับบ้านดีกว่านะ” ไอ้หนูทำท่าหวาดๆ ด้วยท่าทีทะเล้น
“ไม่ทันแล้วหละไอ้หนู” ผมยื่นมือไปจับแก้มหนูบีเบาๆ

555555 ต่อจากนี้ไม่รอดแน่ไอ้หนูเอ้ยยยยยยยยยยยยย

sadness:
สำหรับคนที่เคยอ่านเรื่องของพี่ดิวกับน้องน้ำมาแล้ว
คราวนี้ก็มาถึงส่วนของลุงใหญ่กับหนูบีกันบ้าง
จะเป็นแบบไหน ก็ต้องลองติดตามกันดู

แต่ถ้าใครยังไม่ได้อ่านเรื่องก่อนหน้านี้
ก็เอาเป็นว่าเริ่มรู้จักกับลุงใหญ่กับน้องบีเลยแล้วกัน

ฝากกันอีกเรื่องนะครับ

JJHJJH:
คุณลุงกับไอ้นู๋บี น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกอ่า

+ ให้จ้า

jjuboy:
 :z13:จิ้ม......ลุงใหญ่...
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ..อะ
แนวรักต่างวัยแบบนี้....จะรออ่านนะคร้า...
เป็นกำลังใจให้คนแต่ง :L2:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ไปที่เวอร์ชันเต็ม