[เรื่องสั้น] ▼ คุณ | ความรัก △ {ตอนเดียวจบ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ▼ คุณ | ความรัก △ {ตอนเดียวจบ}  (อ่าน 2526 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yegieseung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ



************************************************************************


   




Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Yegieseung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
▼ คุณ | ความรัก
[/b]








   ความรัก คำๆนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันคืออะไร ใครๆหลายคนก็ต่างให้นิยามกับมันมากมายต่างๆนานา แต่สุดท้ายแล้ว จะมีสักกี่คนที่จะเข้าใจความหมายของความรักที่แท้จริง ซึ่งผมก็คือหนึ่งในคนที่ไม่เคยเข้าใจความหมายของคำว่ารัก ผมไม่เคยรู้ว่าการที่เราได้รักใครสักคนเป็นอย่างไร และการได้รับความรักจากใครสักคนเป็นอย่างไร หลายคนมองว่าผมเป็นพวกด้านชาในความรู้สึกเสียด้วยซ้ำ แต่ผมก็ไม่สนใจหรอก เพราะผมอาจจะเป็นอย่างที่เขาพูดกันจริงๆก็ได้ ความรักนะ ผมไม่เคยสนใจและไม่เคยคิดจะหาความหมายของมันหรอก…

   
        “สวัสดี ... เอ่อ... นายชื่ออะไรอ่ะ” จู่ๆก็มีเสียงทุ้มที่ไม่คุ้นหูดังแทรกความคิดของผม
   
        “เรา... เคยรู้จักกันเหรอครับ” ผมหันไปถามกลับอย่างสุภาพพร้อมกับใบหน้าอันงวยงง เพราะจริงๆแล้วผมมีคนรู้จักในมหาวิทยาลัยนี้นับคนได้เลย
   
        “ก็ไม่เคยหรอก แต่อยากรู้จักไง” คนตรงหน้ายกยิ้มอย่างสดใส ราวกับว่าการที่จะได้รู้จักกับผมมันเป็นเรื่องที่ดีในชีวิตมาก
   
        “ผมไม่เข้าใจคุณหรอกนะครับว่าคุณต้องการอะไร แต่ผมไม่อยากทำความรู้จักกับใครตอนนี้ ผมขอตัว” ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้เกียจเริ่มต้นใหม่ จริงทำให้การเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ๆเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผม เมื่อผมพูดจบก็จัดการเก็บข้าวของบนโต๊ะตัวเล็กใส่กระเป๋า และกำลังจะลุกขึ้น หากแต่คนตรงหน้าผมกลับทรุดตัวนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผมเสียดื้อๆ
   
        “อย่าเพิ่งไปสิ อยู่คุยกันหน่อยนะ” ชายคนเดิมส่งสายตาเชิงอ้อนวอน ทั้งๆที่มันไม่เข้ากับใบหน้าคมเข้มและร่างสูงใหญ่ของเขาเท่าไหร่
   
        “ผมไม่มีธุระอะไรจะคุยกับคุณ” ผมทำท่าจะลุกอีกครั้ง แต่ผู้ชายตรงหน้าก็ยังคงไม่ยอมรามือง่ายๆ เขาเอื้อมมือมารั้งแขนผมเอาไว้
   
        “ผมขอโทษที่รบกวนหรือทำอะไรไม่ถูกใจคุณ แต่ผมอยากรู้จักคุณจริงๆนะ” คนตรงหน้าส่งสายตาอ้อนวอนมาอีกระลอก ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความดื้อด้านของคนตรงหน้าก่อนจะยอมทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม
   
        “คุณจะอยากรู้จักผมไปทำไม” ผมจ้องร่างสูงเขม่ง ทว่าร่างสูงตรงหน้าไม่ได้มีแววตาหวั่นไหวหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
   
        “ก็ผมชอบคุณ ผมอยากรู้จักคุณมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” ผมตกใจมากถึงมากที่สุดกับคำที่เขาพูดออกมา ถึงผมจะหน้าตาพอไปวัดไปวาได้มีคนเข้ามาจีบผมเรื่อยๆ แต่ยังไม่เคยเจอใครที่เถรตรงได้ถึงขนาดนี้
   
        “คุณ...ชอบผมงั้นเหรอ อย่ามาล้อเล่นกันหน่อยเลย” แน่นอนอยู่แล้วว่าผมไม่คิดจะเชื่อว่าเขาชอบผมจากแค่ประโยคเดียวหรอก แถมยังเพิ่งจะเคยเห็นหน้ากันอีก
   
        “คุณเห็นผมล้อเล่นเหรอ หน้าตาผมจริงจังขนาดนี้” ก็จริงของเขา แววตาดูมั่นคงไม่ลอกแลก รวมถึงคิ้วเข้มที่หัวคิ้วมันขมวดเข้าหากันนิดๆอย่างกดดัน
   
        “เฮ้ออออ ผมจะทำยังไงดี” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผมไม่เคยรับมือกับคนแบบนี้มาก่อน เพราะผมจะหนีก่อนที่จะได้เผชิญหน้าเสมอ แต่กลับครั้งนี้มันไม่ใช่
   
        “ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย แค่เรามาทำความรู้จักกันเท่านั้นเอง” คนตรงหน้ายิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวเสน่ห์ทั้งสองข้างอย่างชัดเจน  นี่เขาจะหว่านเสน่ห์ผมด้วยรอยยิ้มของเขาหรือยังไงกัน
   
        “ทำความรู้จัก ยังไงล่ะ” ไม่รู้ว่าเพราะเขี้ยวคมๆสองข้างนั้นหรือรอยยิ้มกว้างกันแน่ที่ทำให้ผมเผลอหลุดประโยคนี้ไป
   
        “คุณจะเริ่มทำความรู้จักกับผมจริงเหรอ เยส! ดีใจเป็นบ้า ฮ่าฮ่าฮ่า” คนตัวโตตรงหน้ายิ้มกว้างขึ้นกว่าเมื่อครู่แถมยังหัวเราะร่าอย่างกับคนบ้าเสียอีก ซึ่งอย่างที่ผมบอกไปตอนแรกว่าการกระทำเหล่านี้ช่างไม่เข้ากับรูปร่างและหน้าตาของเขาเอาซะเลย
   
        “ดีใจจบหรือยัง” ผมถามขึ้นหลังจากเห็นคนตรงหน้าดีใจยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นาน
   
        “จบแล้วครับจบแล้ว งั้นเรามาทำความรู้จักกันเถอะนะ”


   




 
 
   “นี่...”
   
        “นี่..... ได้ยินหรือเปล่าเนี้ย” คราวนี้ไม่ว่าเปล่า ยังแถมนิ้วเรียวยาวมาจิ้มจึ่กๆอยู่ที่ตนแขนผมอีก
   
        “นี่ แมว ได้ยินไหมเนี้ย” ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่สนใจเพราะให้สมาธิกับการบ้านตรงหน้าอยู่ แต่พอได้ยินชื่อเรียกที่อีกคนถือสิทธิ์ตั้งให้อย่างไม่ถามความสมัครใจของผมเลยสักนิดแล้วมันอดหงุดหงิดไม่ได้
   
        “ก็บอกว่าไม่ใช่แมว” ผมเงยหน้าขึ้นมองอย่างหงุดหงิด
   
        “อ้าว... ก็ได้ยินนี่หว่า แล้วทำไมไม่ตอบอ่ะ” คนตรงหน้าทำหน้างงใส่
   
        “แล้วเห็นหรือเปล่าว่าทำอะไรอยู่” ผมชี้นิ้วลงไปที่กองการบ้านกองใหญ่ที่อาจารย์ให้กันมาอย่างกับอยากจะฆ่ากันให้ตายผ่านตัวหนังสือ
   
        “ก็ทำการบ้านไง แค่นี้รู้อยู่แล้ว” คนตรงหน้าเปลี่ยนจากหน้าหมางงในตอนแรกมาเป็นหน้าที่เริ่มจะกวนอวัยวะเบื้องล่างแล้ว
   
        “ถ้ารู้แล้วจะเรียกทำไม ฉันใช่สมาธิอยู่”
   
        “ก็คิดถึงอ่ะ อยากได้ยินเสียงบ้างไม่ได้เหรอ นี่อุตส่าห์เลิกเรียนแล้วรีบมาหาเลยนะ” คนตัวโตเริ่มยกยิ้มโชว์เขี้ยวพร้อมกับยกมือขึ้นมาเท้าคางตัวเอง ส่วนไอ้ตาที่มีแววรอยยิ้มอยู่เต็มเปี่ยมก็จ้องเขม่งมาที่ผม
   
        “เลิกหว่านเสน่ห์สักทีเถอะ” ผมว่าพลางทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ วันๆนึงผมต้องเจออะไรแบบนี้ไม่ต่ำกว่าสิบรอบ แล้วนี่จะเป็นเดือนแล้ว ไม่เบื่อก็แย่แล้วล่ะ
   
        “โถ่ ไม่หลงเสน่ห์สักหน่อยเลยเหรอ รอยยิ้มนี้มีแต่คนหลงนะจะบอกให้” คนตัวโตอวดสรรพคุณของตัวเองเสร็จสรรพพร้อมกับยิ้มการค้าแถมให้ผมอีกหนึ่งที
   
        “ก็ไปยิ้มให้คนอื่นดูสิ” ไม่ใช่ว่าผมจะประชดหรือตัดพ้ออะไรหรอกนะ ผมแค่ต้องการความสงบในการทำการบ้านคืนมาเท่านั้นเอง
   
        “หื้ม จะไปยิ้มให้คนอื่นดูทำไมอ่ะ ก็จีบคนนี้อยู่ ก็ต้องยิ้มให้คนนี้ดูดิ” ผมชะงักให้กับประโยคที่แสนจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ของคนตรงหน้า ตั้งแต่คุยกันมาผมก็พอจะรู้อยู่ว่าเขาเป็นคนตรงๆ แต่ก็ไม่คิดว่าตรงขนาดนี้
   
        “เฮ้อ.... จะทำอะไรก็ตามสบาย” ผมเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนอะไรที่จะไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดแบบนี้ แต่ว่าผมก็พยายามเก็บอาการให้ได้มากที่สุด ไม่อยากให้เจ้าหมาตัวโตตรงหน้ามันได้ใจ
   
        “จริงดิ ทำอะไรก็ได้เหรอ งั้นขอจูบทีได้ป่ะ” จู่เจ้าหมาในร่างคนก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมต้องผงะไปด้านหลัง ตอนนี้หน้าของเราใกล้กันมากจนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่าย  รอยยิ้มที่สดใสที่ตอนนี้มองได้ชัดกว่าที่เคยมันช่างสดใสและเจิดจ้าเสียจนควบคุมหัวใจตัวเองเอาไว้ไม่ค่อยจะอยู่ ใบหน้าคมค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนในที่สุดริมฝีปากของเราทั้งสองคนก็ประทับกันแนบสนิท ผมอึ้งจนตัวแข็งไปแล้ว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้กับผมมาก่อน หัวใจเจ้ากรรมก็เต้นรัวจนแทบจะวาย ไหนจะสายตาที่แสนหวานผ่านนัยน์ตาดุดันที่จ้องตรงมาที่ผมอีก นี่เขาจะฆ่าผมใช่หรือเปล่า
   
        “.....” หลังจากที่อีกฝ่ายถอนริมฝีปากออกไป ผมก็ใบ้กินไปเลยชั่วขณะ ราวกับว่าวิญญาณยังไม่กลับเข้าร่าง
   
        “เป็นแฟนกันเหอะ รอไม่ไหวแล้วอ่ะ” เป็นตัวคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มบทสนทนาขึ้นก่อน ถึงจะละริมฝีปากออกจากกันแต่ระยะห่างของเรายังไม่ได้เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ จึงทำให้ผมมองเห็นแววตาของอีกคนได้อย่างชัดเจน  แววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นคง
   
        “......” ผมยังคงเงียบเหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมควรทำอย่างไร ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคิดที่จะรักใครเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับมีคนกำลังขอความรักจากผม และเขาก็คือคนคนเดียวกันกับคนที่ทำให้หัวใจของผมสั่นไหว
   
       “อย่าเงียบงี้ดิ ใจไม่ดีนะเนี้ย ถึงจะดูเป็นคนไม่เอาไหนก็เถอะ แต่ฉันจริงจังนะ ที่เข้ามาจีบก็เพราะว่าชอบ ที่ขอเป็นแฟนก็เพราะว่าชอบ ลองเปิดใจให้โอกาสฉันสักครั้งจะได้หรือเปล่า” ร่างสูงจ้องเข้ามาในตาผมด้วยแววตาที่จริงจัง ปราศจากความขี้เล่นอย่างที่เคยมีในทุกๆครั้ง
   
       “บอกไว้ก่อนว่าฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะว่าความรักมันคืออะไร” ผมเอ่ยออกตัวก่อน เพราะผมก็ไม่อยากให้ความหวังกับอีกคนมากนัก ถึงผมจะหวั่นไหวกับเขา แต่ผมก็ไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่ว่ามันคือความรักหรืออะไร อย่างที่บอกไป ผมไม่เคยสัมผัสกับความรัก
   
       “แล้วอยากรู้ป่ะละ ถ้าอยากรู้ก็จะช่วยสอน” ให้ตายเถอะ ผมเกลียดสายตาแพรวพราวแบบนี้จริงๆ
   
       “แล้วถ้าสอนแล้วฉันยังไม่เข้าใจล่ะ” ผมตีมึนกลับพลางปัดมือไม้ของคนตัวโตที่มันป่วนเปี้ยนอยู่ใบหน้าและลำคอของผม
   
       “หื้มมม ถ้างั้นก็คงต้องติวเข้มให้ถึงทรวงเลยเป็นไง” นัยน์ตาสีดำสนิทส่อแววเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด ริมฝีปากบางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าแผนการ
   
       “นี่สรุปแล้วมาขอฉันเป็นแฟน หรือจะหลอกฉันไปขาย” ไอ้ท่าทางไม่น่าไว้ใจของคนตรงหน้านี่มันหน้าจิ้มให้ลูกกะตาบอดเสียทีสองที
   
       “ก็มาขอเป็นแฟนดิ ใครจะเอาไปขายกัน แต่ถ้าขายให้ฉันอันนี้ก็น่าลองดีนะ” ไม่ว่าเปล่า แต่คนตัวโตยังยื่นหน้าที่ใกล้กันอยู่แล้วให้ใกล้กันมากกว่าเดิมจนริมฝีปากของเราชิดกัน
   
       “.....” ผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับปากเถียง เพราะกลัวว่าจะเป็นการเปิดทางให้ไอ้คนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าอีก
   
       “หื้มมม เอายังไง ตกลงหรือตกลง” เจ้าหมาตัวโตตรงหน้ายังคงไม่ลดละความพยายาม แถมยังดันจมูกเข้ามาใกล้อีก
   
       “ถอยไปก่อน” ผมพยายามขยับปากให้น้อยที่สุด เพราะไม่อยากให้ทุกอย่างมันเข้าทางเจ้าหมาเจ้าเล่ห์ตัวนี้ไปทุกอย่าง
   
       “โอเค ถอยก็ได้ แล้วก็ตอบมา ตกลงหรือตกลง” คนตัวสูงยอมผละออกไปพร้อมกับกอดอกรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
   
       “เดี๋ยวกันก่อนนะ ทำไมมันตกลงทั้งสองอัน”
   
       “ก็ไม่ทำไม ก็แค่ต้องตกลงเท่านั้นแหละ” ร่างสูงยกคิ้วขึ้นอย่างคนเหนือกว่า
   
       “แล้วทำไมต้องตกลงด้วย ไม่เห็นจะได้อะไรเลย” ผมยกมือขึ้นกอดอกบ้าง พลางตีหน้าเข้มต่อไปไม่เปิดโอกาสให้คนตัวสูงไล่ต้อนเอาง่ายๆ
   
       “ทำไมจะไม่ได้อะไร ได้แฟนไง แฟนที่หล่อด้วยนะ นี่หล่อและดีขนาดนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก” พูดพร้อมยืดอกด้วยความภาคภูมิใจ ผมก็ไม่ได้เถียงเรื่องที่คนตัวสูงนั้นหล่อ เขาหล่อจริงๆแหละ เข้าขั้นหน้าตาดีมากด้วยซ้ำไป แต่มันหน้าหมั่นไส้ตรงที่กล้าพูดว่าตัวเองหล่อได้อย่างเต็มปากเต็มคำนี้แหละ
   
       “หลงตัวเองมากไปหรือเปล่า” ผมเอ่ยขัดขึ้น
   
       “แน่นอนอยู่แล้ว ใครๆก็หลงฉัน รวมถึงนายด้วยไง” พูดจบก็โน้มตัวเข้ามาขโมยหอมแก้มผมโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว
   
       “ไอ้....” ผมหลุดเหวอไปชั่วขณะ ภาพที่สร้างขึ้นมาหายไปหมดสิ้น ไอ้ตรงหน้าก็หัวเราะชอบใจใหญ่กับการที่ไล่ต้อนผมจนจนมุมได้ขนาดนี้
   
       “ชอบก็เหมือนกันก็แสดงออกมาดิ จะเก๊กว่าไม่ได้ชอบไปทำไม” ไอ้คนที่ยิ้มหัวเราะชอบใจเมื่อครู่เปลี่ยนสีหน้ามาเป็นรอยยิ้มอบอุ่นพร้อมกับมือใหญ่ที่ลูบอยู่บนหัวของผมไปมา ทำเอาใจผมแกว่งได้ไม่ใช่น้อย
   
       “ใครบอกว่าชอบ” ผมยังยืนกรานเสียงแข็ง ทั้งๆที่ใจตอนนี้เริ่มโอนอ่อนกับท่าทีของคนตรงหน้าไปเรื่อยๆ
   
       “นายนั้นแหละบอก จากตรงนี้ไง” ร่างสูงเลื่อนมือลงมาคลึงเบาๆที่บริเวณหางตาของผม
   
       “นายมั่วแล้ว” ผมหลบตาคนตรงหน้า ยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ความจริงมันเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับสำหรับผม ที่เคยหลบหลีกจากผู้คนมานาน มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องมายอมรับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้
   
       “ดวงตาน่ะ มันไม่เคยโกหกใครหรอกนะรู้ไหม” ร่างสูงยังคงทอดมองผมด้วยสายตาที่แสนอ่อนโยนเช่นเดิม ทำให้ผมเผลอจ้องไปที่ดวงตาดุดันแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ น้อยครั้งมากที่ผมจะได้เห็นเขาในมุมนี้
   
        “เป็นแฟนกันนะ”
   
        “.......”
   
        “เป็นแฟนกันเถอนะ”
   
        “.......”
   
        “เป็นแฟนกันนะ นะนะนะนนะ”
   
        “.......”
   
        “โถ่ ที่รักเป็นแฟนกันเถอะนะ”
   
        “อื้ม”
   
        “โถ่ไม่เอาแบบนี้สิ เป็นแฟนกันเถอะนะ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” จู่ๆคนตัวโตก็ทำตาโตเท่าไข่ห่านแถมยังอ้าปากหวอด้วยความตกใจ หน้าหมอนี่ตอนนี้ตลกเป็นบ้า อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ให้พวกแฟนคลับของหมอนี่ได้ดูจริงๆ
   
        “ไม่ได้พูดอะไรนิ หูฝาดหรือเปล่า” ผมตีเนียนใส่ พร้อมลอยหน้าลอยตา
   
        “อย่ามามั่ว เมื่อกี้พูดว่าอื้ม ใช่ป่ะ ใช่ป่ะ” ผมแอบขำในใจ คนตรงหน้าดูเหมือนสติได้หายไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ใบหน้าหล่อเหลาก็ไม่ช่วยแล้วในตอนนี้
   
        “ก็ได้ยินนี่หว่าแล้วจะถามทำไม” ผมย้อนประโยคเดียวกับที่ตนตัวได้พูดไว้ พร้อมกับยักคิ้วให้อีกทีอย่างกวนๆ ตอนนี้ผมสนุกมาก เพราะว่าผมอยู่เหนือกว่ายังไงล่ะ
   
        “อื้ม ก็แปลว่าตกลงใช่ป่ะ” ร่างสูงส่งสายตามาให้อย่างมีความหวัง ตาเป็นประกายอย่างกับเด็กที่จะได้ของเล่นชิ้นใหม่ที่ต้องการมานาน
   
        “โตแล้วก็คิดเองดิ” ผมเก็บของเตรียมจะหนีไปให้ไกลแล้วเพราะตอนนี้ตัวผมเองก็เขินไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าเขินอะไรเหมือนกัน บางทีผมก็เบื่อตัวเองที่เพิ่งเคยจะรู้สึกอะไรแบบนี้ มันทำให้ผมสับสนไปเสียหมด
   
        “งั้นจะเข้าข้างตัวเองแล้วนะ เนอะแฟนเนอะ” ทันทีที่ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ เจ้าคนตรงหน้าก็ลุกขึ้นตามทันทีพร้อมกับรวบมือข้างที่วางของผมไปกุมไว้เสียแน่น
   
        “คนอะไรหลงตัวเองไม่พอ ยังชอบเข้าข้างตัวเองอีก” ผมแกล้งแหนบอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้ และอาจจะเป็นเพราะความอุ่นร้อนที่มือใหญ่นี้จึงทำให้ผมรู้สึกดีอย่างประหลาด มันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก และด้วยสิ่งนี้จึงทำให้ผมไม่กล้าที่จะสะบัดมือคู่นี้ทิ้ง ถึงแม้ว่าผมจะอายสายตาคนที่มองมามากแค่ไหนก็ตาม
   
        “ถ้าไม่ให้เข้าข้างตัวเอง แล้วให้เข้าข้างหลังแมวได้ป่ะล่ะ” ร่างสูงโน้มลงมากระซิบที่ข้างใบหูของผม ตอนนี้คงไม่ต้องบอกว่าหน้าผมนี่แดงไปถึงในระดับไหนแล้ว ให้ตายเถอะ นี่ผมคิดถูกจริงๆหรือที่ยอมคบกับคนเจ้าเล่ห์แบบนี้
   
        “เดี๋ยวจะได้โดนฟาดก่อนเข้า” ผมหันไปฟาดมือใส่ไหล่หนาหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
   
        “นี่ไม่เรียกเดี๋ยวนะ นี่เรียกฟาดแล้ว ฮ่าฮ่า แต่ถ้าโดนฟาดแล้วได้เข้านี่จะยอมให้ฟาดยันเช้าเลย” ไม่ว่าเปล่าแต่มือที่จับกันเมื่อสักครู่กับเลื้อยมาโอบอยู่ที่เอวผมเสียแล้ว
   
        “ให้มันน้อยๆหน่อยๆ เดี๋ยวเถอะ” ผมฟาดมือลงไปอย่างแรงอีกครั้งที่หลังมือของคนตัวสูง จนเจ้าตัวร้องโอดโอยออกมาเสียงดัง ผมลอบขำในใจให้กับคนข้างๆ จริงๆแล้วบางทีการที่ผมเลือกเขาอาจจะทำให้ผมสามารถหาความหมายความรักเจอก็เป็นได้






   




        ได้ ซะที่ไหนกันล่ะ!!
   
        ตอนนี้ผมกำลังสู้รบปรบมือกับไอ้หมาตัวยักษ์ที่มันกำลังงอแงขั้นสูงสุดอยู่ เรื่องของเรื่องเกิดจากเพียงแค่ผมไม่ยอมไม่หึงมันเท่านั้นเอง
   
        “โห่ แมว ไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอ” คนตัวโตยังคงโวยวายไม่เลิก แถมประโยคนี้มันยังพูดมาเป็นสิบรอบจะได้แล้ว   “ตอบไปกี่รอบแล้วอ่ะ คำตอบก็เหมือนเดิมนั้นแหละ” ผมทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ก่อนจะหันมาสนใจโน้ตบุคและรายงานตรงหน้า ตอนนี้ผมมานั่งเล่นอยู่ห้องมันนี้แหละ ตั้งแต่เป็นแฟนกันมันก็ถืออภิสิทธิ์ลากผมมาอยู่ห้องมันเกือบทุกวัน
   
        “ทำไมใจร้ายอย่างงี้อ่ะแมวววววว” ยังครับ มันยังคงเกาะแกะไม่เลิก แถมยังเอาหน้าหล่อๆมาไถๆที่หน้าตักผมอีกด้วย
   
        “อย่ามาเนียนๆ แล้วก็ทำไมจะต้องหึง ฉันกับแฟนของเพื่อนนายมันคนล่ะคนกัน ทำไมฉันต้องคิดเหมือนเขาล่ะ” ผมดันหัวคนตัวโตออก หากแต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้แถมยังทิ้งหัวนอนลงบนตักผมอีกต่างหาก
   
        “ก็ไม่รู้อ่ะ เค้าอยากให้แมวหึงเค้าบ้างอ่ะ” มือใหญ่เลื่อนมาโอบรอบเอวผมเอาไว้เบาๆพร้อมกับซุกหน้าเข้าไปในพุงของผม
   
        “มาเค้ามาแมวอ่ะไร ปัญญาอ่อนเหรอ” ผมว่าพร้อมกับรัวมือลงแป้นคีย์บอร์ดไปด้วย เลิกให้ความสนใจกับเด็กโข่งแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นรายงานของผมคงเสร็จไม่ทันวันนี้
   
       “เฮ้ออออ ก็แค่อยากให้นายแสดงความรู้สึกออกมาบ้างเท่านั้นเองอ่ะ” เมื่อผมไม่ให้ความสนใจ สุดท้ายคนตัวโตก็เลิกวอแวและเริ่มยอมคุยกับผมดีๆ
   
        “ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ทำเหรอ” ผมเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย จากตอนนั้นถึงตอนนี้สำหรับผมแล้วมันมากเกินกว่าที่ตัวผมจะทำด้วยซ้ำ
   
        “เฮ้อออ ก็ทำมั้ง ไม่รู้สิ” คนตัวโตถอนหายใจยาวใส่พุงของผม ก่อนจะกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีกราวกับว่ากลัวผมจะหายไปอย่างงั้นแหละ
   
        “นี่คือชวนทะเลาะหรือเปล่า” ผมถามขึ้น ไม่ได้จะประชดหรือหาเรื่องแต่อย่างใด ผมแค่อยากรู้ว่าจุดประสงค์ของคนตัวโตตอนนี้คืออะไรกันแน่
   
        “เปล่า ใครจะอยากทะเลาะกับแฟนตัวเองวะ แต่แค่รู้สึกไม่มั่นใจเฉยๆอ่ะ” คนตัวโตคลายอ้อมแขนออกพร้อมกับนอนหงายหน้าขึ้นมาจ้องหน้าผม ผมก็ละมือจากรายงานเช่นกัน
   
        “นายไม่มั่นใจอะไร ปกตินายมั่นใจเยอะจนออกจะเป็นมั่นหน้าด้วยซ้ำ” พอได้เห็นแววตาหงอยๆของคนที่ปกติจะร่าเริงและมั่นใจตลอดเวลาแบบนี้แล้วมันก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ หรือว่าความจริงแล้วผมยังให้เขาไม่มากพอ
   
        “แต่กับเรื่องของนายอ่ะ ฉันเสียความมั่นใจตลอดเลย” มือหน้าเลื่อนขึ้นมาลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบา ผมถอนหายใจยาวก่อนจะเลื่อนมือไปเล่นผมนุ่มของอีกคนบ้าง
   
        “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายคาดหวังอะไรจากฉันบ้าง แต่คนอย่างฉันน่ะ ก็มีให้นายได้เท่านี้ นายอาจจะเห็นว่ามันไม่ได้มากเท่ากับที่คนอื่นได้ แต่สำหรับฉันแล้วฉันให้นายมากกว่าทุกคนที่ฉันเคยให้เสียอีก ฉันเคยบอกนายแล้วว่าฉันไม่รู้หรอกว่าความรักมันคืออะไร ไม่รู้ว่าการมีคนรักต้องทำตัวแบบไหน  ไม่รู้ว่าคนรักที่ดีต้องทำยังไง แต่ตอนนี้นายเลือกฉันแล้ว ฉันก็พยายามในทุกอย่างที่ฉันทำให้นายได้แล้ว ความรักของฉันมันก็เป็นแบบนี้แหละ นายรู้แบบนี้แล้ว นายยังอยากได้มันอยู่ไหม” ผมไม่รู้ว่าทุกอย่างในอนาคตจะเป็นยังไง แต่ผมก็เป็นคนแบบนี้ ผมยอมรับที่จะเรียนรู้มันไปพร้อมกับเขา นี้แหละความรักของผม
   
        “พูดยาวๆอย่างงี้ก็เป็นด้วยเหรอ ฮ่าฮ่า” คนตัวโตเอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ผมจึงฟาดมือลงไปที่ออกแน่นแรงๆหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ “แต่ก็คงจริงอย่างที่นายบอก ฉันคิดน้อยไปจริงๆ เฮ้อออออออ ขอโทษนะ ที่ทำตัวแบบนี้” หน้าที่สลดอยู่แล้วในตอนแรกตอนนี้ยังสลดเข้าไปใหญ่ เห็นแบบนี้ผมก็อดที่จะสงสารไม่ได้ ผมก้มลงไปประทับริมฝีปากกับอีกฝ่ายเบาๆหากแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก คนตัวโตดูเหมือนจะอึ้งไปชั่วครู่ที่ผมเป็นคนเริ่มก่อน ก่อนที่จะตั้งสติได้แล้วใช้มือลอคหัวของผมเอาไว้และค่อยๆสอดลิ้นชื้นเข้ามากอบโกยความหอมหวานจากโพรงปากของผมอย่างไม่ลดละ จูบนี่ไม่ได้รุนแรงหรือหวานละมุน หากแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ต่างคนต่างต้องการที่จะสื่อ ความอบอุ่นแล่นไปทั่วหัวใจของผม และผมก็คิดว่าเขาก็คงเป็นเช่นกัน
   
        “แล้วแค่นี้พอหรือเปล่า” ผมถามยิ้มๆหลังจากเราถอนริมฝีปากออกจากกันแล้ว ทั้งๆที่ความจริงแล้วผมเขินจนแทบจะระเบิดตัวเองตายตรงนี้เลย
   
        “พอแล้ว ที่เป็นอยู่ตอนนี้แหละดีที่สุดแล้ว รักนะไอ้แมว” รอยยิ้มพร้อมเขี้ยวเสน่ห์ที่ผมชอบได้ปรากฏให้ผมเห็นอีกครั้งหลังจากที่ทำหน้าเป็นหมาหงอยอยู่นาน ใบหน้าแบบนี้แหละเหมาะกับเขาที่สุดแล้ว
   
        “อื้ม รู้แล้ว” ผมตอบพลางเบือนหน้าหนีจากสายตาที่เต็มไปด้วยความรักของอีกฝ่าย แค่นี้ผมก็เขินจะแย่อยู่แล้ว
   
        “อื้มอะไร เวลานี้ต้องตอบกลับสิ” คนที่ยังหนุนหัวอยู่บนตักเริ่มงอแงอีกครั้งหลังจากที่ผมตอบเขาไปแบบนั้น
   
        “ตอบอะไรอ่ะ ก็ตอบแล้วไง” ผมก็ยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่สนเหมือนเดิม
   
        “ตอบว่ารักกันไง” คนตัวโตลุกขึ้นก่อนจะนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหาผม พร้อมกับจับหน้าผมให้หันกลับมามองใบหน้าของเขาอย่าไม่มีทางหนี
   
        “เฮ้อออออ” ผมถอนหายใจยาว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่ผมจะพูดอะไรแบบนี้ ก็คนมันไม่เคยพูดนี่นา แต่คนตัวโตก็ไม่ยอมลดความพยายาม นิ้วเรียวไล้อยู่ที่ริมฝีปากผมอย่างแผ่วเบา นวดคลึงอยู่อย่างนั้นราวกับรอให้ผมพร้อมที่จะเอ่ยคำที่เจ้าตัวต้องการที่ฟัง
   
        “รัก” ผมพูดออกมาเบาราวกับเสียงกระซิบ หากแต่ยังคงก้องดังอยู่ในหัวใจของผม และคงจะในหัวใจของอีกฝ่ายด้วย ดูจากใบหน้าที่ยิ้มจนเห็นฟันขาวครบทุกซี่ ก่อนที่จะดึงผมเข้าไปกอดจนตัวของผมจมมิดลงไปในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นนี้
   
        “ขอบคุณนะ รักนะ รักมาก รักนายนะนายความรัก”
   
        “ขอบคุณนะนายความรัก”
   
        ตอนนี้ผมได้ค้นพบแล้วว่า จริงๆแล้วความรักก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีคำนิยามอะไรมากมาย หรือมีความหมายลึกซึ้งอย่างที่หลายคนได้ตามหา เพราะว่าสุดท้ายแล้ว เราก็จะพบคนที่สามารถเข้ามาให้ความหมายของคำว่ารักได้อย่างที่มันเป็น อย่างเช่นกับเจ้าความรักตัวโตของผม ที่วันนี้ผมได้เจอแล้ว แล้วความรักของคุณล่ะครับ คุณเจอความรักของคุณแล้วหรือยัง

   



*****************************************************

สวัสดีค่ะ ฟิคสั้นเรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องแรกที่มาลงในนี้ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะคะ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นจากการสนองนี้ดตัวเองล้วนๆเลย 555555

ถ้าชอบหรือถูกใจก็เม้นติชมได้นะคะ

รัก ♥
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2016 13:05:14 โดย Yegieseung »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
น่าร๊ากกกกกก

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
ขอบคุณสำหรับงานเขียนน่ารักๆ
 :mew1:

บวกหนึ่ง บวกเป็ด เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
สั้นมาก....แต่น่ารักดีจร้า...

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
น่ารักมากเลย

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น่ารักมากกกกกกก  :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด