พิมพ์หน้านี้ - (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: SunintheNight ที่ 26-01-2009 22:53:24

หัวข้อ: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 26-01-2009 22:53:24
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

***************************************************************************************




หวัดดีคับ ทักทายกันก่อนนะ ผม (ตัวเล็ก) หลังจากตัดจบเรื่องที่แล้วไป ก็มาเขียนเรื่องใหม่ให้ได้อ่านกันตามสัญญา กลับมากับเรื่องฝันๆฟุ้งๆ คราวนี้คงออกแนวไม่น่ารักใสๆเท่าไหร่ แต่ผู้ใหญ่กว่าเคย คนเขียนโตแล้วอ่าคับ จะมาแอ๊บเด็กทุกครั้งก็ไม่ไหวเนอะ หวังว่าจะติดตามตามติดกันเช่นเคย ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านไว้ล่วงหน้า หากเขียนผิดยังไงขอโทษด้วยนะคับ เพราะตาลายมากเวลาตรวจทาน  :o8:

ไว้มาคุยกันในคอมเมนท์ดีกว่า บ๊าย บาย


ลิ้ง สองเรื่องแรก

1. http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2568.0  ความรักแบบคับผม

2. http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=5124.0  รักงอมแงม


หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 26-01-2009 22:55:10
 :z13:

 :mc4: :mc4: เปิดซิง เรื่องใหม่ค้าบเย้ๆ


เป็นกำลังให้นะครับ มาลงเรื่องเร็วๆ  o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 26-01-2009 22:58:46

   เขาคือคนในฝัน ...เป็นทั้งฝันดี และ ฝันร้าย





ผมพิมพ์บรรทัดนี้ไว้เล่นๆ ก่อนจะลบมันแล้วพิมพ์ซ้ำอีกและลบมันไป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนลืมไปแล้วว่าหนสุดท้าย คือครั้งที่เท่าไหร่

เช่นเคย เช่นเคย เช่นเคย ซ้ำซากจำเจ จนไม่อยากจดจำ
วันเวลาที่ผ่านมาก่อนนี้ คือช่วงเวลาที่กลางวันและกลางคืนไม่มีความต่างกัน
เพราะสิ่งที่ผมมักจะบ่นบอกกับตัวเองก็คือ มันโคตรน่าเบื่อ เป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อ จนเมื่อผมคล้ายกำลังเดินเข้าสู่ห้วงความฝัน
เป็นทั้งฝันดี และ ฝันร้าย มากเท่าที่ชีวิตตั้งแต่เกิดมาจะเคย




สุดท้ายผมเลยเผลอ...ละเมอ






........ค่ำคืนหนึ่ง


“ไอ้เต้” เสียงรุ่นพี่ที่ผมสนิทคนหนึ่ง เรียกผม
“ไรพี่ตี๋” ผมหันกลับไปตามเสียงเรียกนั้น รุ่นพี่ผมหยิบเสื้อคลุมสีเหลืองอ่อนมาลองทาบกับตัวเองให้ผมดู
“มึงว่าเสื้อตัวนี้เท่ห์ป่ะวะ”
ผมมองดู วิเคราะห์ด้วยปัญญาสักพัก ก็ตอบไป “ก็ดีนะ แต่เต้ว่าลองใส่ดีกว่า จะได้รู้ไปเลย”
“หรอ เอองั้นฝากกระเป๋าหน่อย” ผมรับกระเป๋ามาถือไว้ แล้วพี่ตี๋แกก็เดินหายตัวเข้าไปในห้องลองเสื้อ พร้อมกับหิ้วเสื้อเข้าไปอีกสองตัว ส่วนผมก็เดินดูโน่นนี่ไปตามประสา

สุดท้ายพี่ตี๋ก็เดินออกจากเซนมาพร้อมกับถุงกระดาษ ซึ่งมีเสื้อสองตัวนอนพับเป็นระเบียบอยู่ด้านใน (ชอปปิ้งอีกแล้วพี่กรู)

เย็นนี้เป็นคืนวันศุกร์ ซึ่งก็หมายถึงรถติดมหาโหดย่านใจกลางเมืองแบบนี้ พร้อมด้วยอากาศเย็นช่ำละอองน้ำหลังฝนตก ของปลายกรกฎาคม
สิ่งดีๆ ของคนส่วนใหญ่ในค่ำคืนวันศุกร์แบบนี้เห็นจะเป็นการมาถึงของเวลาพักผ่อน หลังจากทำงานเหนื่อยกันมาทั้งอาทิตย์

ผมกับพี่ตี๋เดินกลับมาที่บีทีเอสสยาม เพื่อมาเจอพี่จีน และก็นั่งกลับไปนอนที่คอนโดพี่ตี๋กันทั้งหมด
คืนวันศุกร์แบบนี้ สำหรับคนโสด คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้รวมหัวเฮฮากับเพื่อนๆ คนสนิท

ระหว่างที่พี่สองคนนั้นนั่งดูทีวีกันอยู่ ผมก็เปิดเอ็มเล่นไปพลางๆ

“เฮ้ยเฮีย เบื่อว่ะ มีใครแนะนำมะ เอาไว้คุยเล่นๆ” ผมหันไปพูดกับพี่ๆ หลังจากเล่นเอ็มมาได้สักพัก ก็ยังไม่มีอะไรเฉียดคำว่าสนุก
ให้ตายดิ ทำไมเอ็มกูมันมีแต่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไม่มีใครให้คุยพอกระชุมกระชวยเลยเว้ย

“ฟุ้งซ่านนะมึงเนี่ย” ไอ้พี่จีนว่าผม ชิ  ไม่ให้แล้วยังจะว่าอีก
“เออ มีเพื่อนของเพื่อนคนนึง เอาเมลล์ป่ะ แต่เค้าไม่ค่อยออนหรอกมั้ง พอดีวันก่อนเพื่อนมันให้เมลล์มา”
“มาเลยเฮีย ไม่ได้แอดใครมาชาติกว่าละ”
ว่าแล้วผมก็จัดการพิมพ์อีเมลล์ตามคำบอกลงในช่องแอดเฟรนด์ แล้วกด ok และเมลล์เจ้ากรรมนั้นก็อันตรธานจมหายไปกับเหล่าหมู่เมลล์ผองเพื่อนผมทั้งหลายที่พร้อมใจกันออฟไลน์ และไปสิงสถิตย์อยู่ตามผับตามบาร์ในคืนวันศุกร์แบบนี้

สุดท้ายผมก็ปิดคอมและไปนั่งดูหนังฟังเพลง คุยสัพเพเหระกับพี่ๆเขาแทน
 

วันเสาร์ผ่านไป

วันอาทิตย์ผ่านไป

วันจันทร์ผ่านไป

วันอังคารผ่านไป




กระทั่งยามดึกของคืนวันพุธ

(ขอให้เครื่องหมายคำพูดแทนการสนทนาในเอ็มเอสเอ็นนะคับ)

“ดีคับ” ผมทักทายเจ้าเอ็มชื่อสั้นๆนั้น ด้วยความไม่คุ้นเคย (ใครวะ)
Ken: “คับ” เจ้าเมลล์นั้นก็ตอบกลับมาสั้นๆ
“ใครอ่ะ แอดเมลล์ผมมาจากไหน” ผมถามกลับไป พลางนั่งนึก ใครหว่า
Ken: “อ้าว นายแอดผมมานะ ผมเคน”
“อ้าวหรอ อ๋อ นึกออกแล้ว ผมเต้คับ”
Ken: “ขี้ลืมนะคนเรา ท่าจะแอดไว้เยอะล่ะสิ” นั่น ไม่น่าพลาดเลยกรู บอกว่าแอดแค่คนเดียวเขาจะเชื่อมั้ยวะ เฮ้อ ไอ้เต้เอ๋ย เอ๋อจริงๆ

“ป่าวๆ ผมได้มาจากรุ่นพี่”
Ken: “พี่ที่ไหน”
“พี่ตี๋”
Ken: “ตี๋ไหน”
อ่านะ สงสัยไอ้เคนอารายนี่จะไม่รู้จักพี่ตี๋เป็นการส่วนตัว อืม อธิบายไงดีวะ
“ช่างเหอะ เดี๋ยวไว้วันหลังเล่าให้ฟัง”
Ken: “ไม่ได้ ต้องเล่าวันนี้”
“บอกว่าวันหลังก็วันหลังดิ”
Ken: “ดุจัง แล้วนี่กี่ขวบ ดูหน้ายังอ่อนอยู่เลย”
“ยี่สิบ นายอ่ะ”
Ken: “ไม่บอก เอาเป็นว่าเป็นพี่ละกัน”
“เออคับพี่เคน”
Ken: “ดีมากเด็กๆ”
“โตแล้วเว้ย”
Ken: “อ่ะเหรอ นี่เรียนอยู่ล่ะสิ”
“ใช่คับ”
Ken: “เรียนไรอ่ะ”
“มหาลัย”
Ken: “เออ”
“พรุ่งนี้ผมมีสอบ ไปนอนก่อนนะ”
Ken: “อ้าว เออว่าจะไปนอนเหมือนกัน หวังว่าคงได้คุยกันอีกนะ”
“อ้าว ไม่ค่อยออนหรอคับ”
Ken: “อืม นานๆที แก่แล้ว เด็กมันคงไม่อยากคุยด้วย”
“รู้ตัวดีนี่คับ ไงก็ฝันดี คงได้คุยกันอีกนะคับ”
Ken: “ฝันดี เกทเอนะเด็กน้อย”
“คร้าบลุง”

ว่าแล้วผมก็เข้านอน และตื่นแต่เช้าเพื่อไปสอบวิชาการใช้กล้องถ่ายหนัง ไม่ยากไม่ง่ายคับ ใครที่เคยใช้เคยจับกล้องมาแล้ว มันก็ไม่มีอะไรมาก
 แต่งานนี้ก็จำเนื้อหาทฤษฎีเบลอๆ สับไปสับมา พอสมควร (ก็สอบเช้าหนิหว่า สมองกรูยังไม่ทำงานเต็มที่เลย หุหุ)
หลังจากสอบเสร็จ ด้วยความที่ยังสายๆอยู่ (ปกติตอนนี้ไอ้เต้เพิ่งตื่นเอง) ก็เลยไม่รู้จะไปโต๋เต๋แถวไหน กลับไปพักผ่อนก่อนแล้วกันวะ เย็นๆค่อยว่ากันใหม่

“อ้าว ดีลุง ไหนบอกไม่ค่อยออน”
Ken: “ลุงป๊ะเอ็งดิ ก็อยากออน มีปัญหามั้ย”
“ไม่มี”
Ken: “ไง สอบทำได้ป่าว”
“ไม่ได้อ่ะ เพราะคุยเอ็มกับลุงดึก”
Ken: “อ้าว โบ้ยยย คุยกันไม่ถึงสิบนาทีเลยมั้ง”
“นั่นแหละ รับผิดชอบด้วย” หุหุ ไอ้เต้ผู้ไม่เคยยอมรับผิดด้วยตนเอง
Ken: “เอ้า ยังไม่ทับ ท้องซะแล้ว”
“เฮ้ย หื่นว่ะ คนละเรื่องเว้ย”
Ken: “อ้าวหรอ แล้วตกลงทำได้ป่าว”
“ได้ๆ ระดับเทพขนาดนี้” นอกจากไอ้เต้ไม่ชอบรับผิดแล้ว ยังเป็นพวกโม้เก่งอีก อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะคร้าบเด็กๆ

Ken: “แล้วนี่สอบเสร็จไม่ไปไหนหรอ”
“ไปๆ เย็นๆ”
Ken: “ไปไหนอ่ะ”
“ไปดูหนังคับ”
Ken: “ที่ไหน”
“houseอ่ะมั้ง”
Ken: “อ่อ ไปดูกับแฟนล่ะสิ”
“ป่าว ไปคนเดียว เปลี่ยวจายยยย”
Ken: “ให้ไปด้วยมั้ย”
“เหอะๆ จะดีหรอลุง”
Ken: “จะได้มีอะไรให้จับไง”
“หมายถึงไรวะ ฟังดูแปลกๆ”
Ken: “มือไง คิดไรอ่ะเด็กทะลึ่ง”
“เอ้า ว่าเต้อีก แล้วนี่ลุงว่างงานหรอ ทำไรอยู่คับ”
Ken: “หม่ำๆอยู่ มีงานบ่ายๆ”
“สบายนะ ไม่ต้องรีบตื่น แล้วมาชวนผมคุยดึกๆ”
Ken: “ไอ้นี่ไม่เลิกๆ แล้วไปที่  house เลยหรอ”
“คงไปเดินเล่นสยามก่อนมั้งเย็นๆ”
Ken: “พี่ก็จะธุระแถวนั้น กินข้าวกันมั้ย”
“เลี้ยงหรอคับ” หึหึ แม้จะเพิ่งคุยกัน แต่ถ้าเลีย้งก็ไปนะคร้าบบบ (ไอ้เต้ไม่ได้เห็นแก่กินนะเฟ้ย แค่รู้จักประหยัด)
Ken: “อ่ะๆ เลี้ยงๆ เบอร์ไร เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกแล้ว”
“จริงดิ อืมมม 084--------” และแล้วหลังจากคิดได้ห้าวินาที ไอ้เต้ก็ให้เบอร์ไปอย่างง่ายดาย ใจง่ายจริงๆเลยกู


และแล้วยังไม่ทันจะร่ำลาหรือกล่าวอันใด ไอ้พี่คนนั้นก็หายไปพร้อมกับเบอร์ผม แมร่งงงไรวะ ได้เบอร์แล้วชิ่งเลย ไอ้เต้ก็เลยเล่นเอ็มต่อสักพัก





จนกระทั่งสี่ซ้าห้าโมง โทรศัพท์ผมก็มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามา

“ดีคับ” ผมรับโทรศัทพ์และคิดว่าคงเป็นตาลุงนั่นแน่ๆ เพราะปกติไม่มีเบอร์แปลกโทรเข้าเครื่องผมอยู่แล้ว
“ไง อยู่ไหนแล้ว” ฟังเสียงดูก็เพราะดีแฮะ ต้องยอมรับว่าเป็นคนมีเสน่ห์ทางเสียงคนหนึ่งเลยนะเนี่ย
“พี่เคนหรอคับ”
“แล้วคิดว่าหนุ่มที่ไหนล่ะครับท่าน” กวนได้อีก
“อ่ะ แล้วพี่อยู่ไหนคับ”
“แถวๆชิดลมครับ เออเย็นนี้พี่ติดธุระ คงไปดูหนังด้วยไม่ได้ ยังไงมากินข้าวด้วยกันก่อนมั้ย”  
อ่าฟังแล้วโล่งๆนิดหน่อย ผมก็คงไม่สบายใจเท่าไหร่ถ้าจะให้ไปดูหนังพี่เค้าสองต่อสองทั้งๆที่เพิ่งคุยเอ็มกันเอง
“ได้คับ จะว่างกี่โมงอ่ะคับ ผมจะได้แวะไป”
“สักหกโมงก็ได้คับ มาถึงโทรหาพี่แล้วกันนะ”
“คร้าบ”

แล้วผมก็วางสาย ดูเวลาก็อีกไม่นานเท่าไหร่นี่หว่า อาบน้ำแต่งตัวดีกว่า

หกโมงครึ่งผมก็มาถึงสยามพอดี ด้วยความหิวโซ หึหึหึ

“ไงคับ ถึงแล้วหรอเรา รอพี่ที่อิเซตันได้มั้ย เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วเดินไปหา”
เสียงพี่เคนรับสาย ดูท่าทางจะยุ่งๆอยู่ ผมก็เลยเออๆออๆ แล้วเดินถ่อจากสยามไปอิเซ แมร่งเดินไกล ก็ยิ่งหิว ท้องร้องจ้อกๆ ในหัวก็คิดไปต่างๆนาๆ ว่าจะกินอะไรดีน้า
(อันที่จริงผมไม่ได้เห็นแก่กินขนาดนั้นนะคร้าบ แฮะๆ)

พอไปถึงไม่รู้จะทำไรก็ไปรอที่คิโนะชั้นบนอิเซแล้วกัน หาหนังสือน่าสนใจๆ อ่านดีกว่า อ่านไปอ่านมาอยู่ดีๆ ผมก็เริ่มรู้สึกว่า มีคนจ้องผมอยู่
เหอะๆ ตอนแรกก็จะดีใจคับถ้าเค้ามองแบบชอบๆเรา แค่นั้น แต่นี่ มองจนผมรู้แล้วตัวแล้วก็ยังไม่หลบตาด้วยพอผมมองกลับ
พอผมลองเดินเปลี่ยนที่ไอ้หมอนั่นก็เดินตามมาอยู่ฝั่งตรงข้ามชั้นหนังสือ แล้วทำทีเป็นอ่านหนังสือแต่ยังมองผมอยู่
เริ่มหลอนสิคับ ไม่เคยเจอ นี่มันร้านหนังสือนะเว้ยยย จะมายืนเหล่ผู้ชายกันในนี้เลยหรอไงฟะ



ผมพยายามพิจารณาดูหน้าแล้วก็ไม่ใช่รูปไอ้พี่เคนนี่หว่า หรือว่าเอารูปคนอื่นมาใส่ แต่จริงๆมันเป็นโรคจิต
เอแต่พี่ตี๋ให้เมลล์มาน่าจะพอรับประกันได้ว่าไว้ใจได้ เอ เอาไงดีวะ แมร่งจ้องกูไม่เลิกซะด้วยสิ
สักพักโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ดูเบอร์ก็เป็นเบอร์พี่เคน แต่ไอ้หมอนั่นยังนิ่งเฉย แสดงว่าไม่ใช่ โรคจิตแหงๆ แบบนี้ เผ่นดีกว่า

“คับพี่” ผมรับแล้วเดินออกมายืนหน้าร้านคิโนะ
“ไง อยู่ไหนแล้ว”
“อยู่หน้าคิโนะคับ”
“อ้าวหรอ งั้นเดี๋ยวเดินไปหา แป๊บนะ”
สักพักหนุ่มร่างสูงโปร่ง พร้อมแว่นตากรอบใหญ่น่ารัก จมูกโด่ง ผิวสีออกแทนแบบพวกตี๋อาบแดด ปากบางได้รูป
พร้อมกับรอยยิ้มที่มีฟันเหล็กอยู่ ก็เดินมาทักผมที่ยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว จึงไม่ต้องกลัวว่าจะทักผิดคน

“ไง หิวป่าว” พี่เค้าดูเป็นผู้ใหญ่กว่าที่ผมคิดแฮะ ถึงแม้หน้าจะยังเด็กอยู่ก็ตาม  ผมพยักหน้าแล้วเดินตามเค้าลงไปอีกชั้นที่เป็นพวกร้านอาหารญี่ปุ่นในอิเซตัน
“รอนานป่าว”
“เอ่อ ไม่คับ” ว่าแล้วก็เริ่มออกอาการติดอ่าง ใบ้แดกคับ พอเจอตัวเป็นๆ
“อยากกินไร ชอบกินอาหารญึ่ปุ่นป่าว” พี่เค้าหันมาถามผม ที่ยังเดินงงๆอยู่
“ได้คับ กินไรก็ได้ๆ”
พี่เค้าพาผมเดินวนไปวนมาสักพักก็มานั่งแปะที่เคาเตอร์ร้านข้าวหมูหรือเนื้อทอดอะไรสักอย่าง
“เต้ไม่เอาผักนะ” นี่คือสิงแรกที่ผมเอ่ยหลังจากดูเมนูแล้วมีผักทุกจานเลย ฮือๆ นรกชัดๆ
“ไม่ได้ ต้องกินด้วยสิ ไหนเราไม่กินผักอะไรบ้าง”
จริงๆอยากจะบอกว่าไม่ชอบผักทุกอย่างนั้นล่ะ แต่เห็นสายตาดุๆเมื่อกี้แล้วก็เลยตอบไปเบาๆว่าไม่กินพวกหอม กระเทียม คื่นช่าย แค่นั้น

“พวกนั้นเค้าไม่ใส่หรอก งั้นก็กินได้ทุกอย่างล่ะสิ ดีดี งั้นเอา...สองที่นะคับ”
ไอ้พี่เคนบอกพนักงานโดยไม่ถามตูสักแอะ โห่ ไรเนี่ยกดขี่ข่มเหงรังแกเด็กอ่า ไม่น่าหลงกลเห็นแก่ข้าวฟรีเลยกรู

ว่าแล้วเชียว แมร่งงงง ในรูปอ่ะเนื้อเยอะ ผักนิดเดียว แต่พอมาเป็นจานของจริง ผักแม่งแทบจะกลบเนื้อมิดหมดเลย
 แล้วงี้ไอ้เต้จะต้องกินผักนี่ให้หมดเลยป่าววะเนี่ย ฮือๆๆๆ อยากจะร้องไห้วิ่งหนีไปหาอะไรกินเอง

ผมพยายามนั่งกินไปคุยไป ก็ได้รู้ว่าไอ้พี่เคนนี่มันน่ารักดีนะ กวนประสาทดีด้วย
“เขี่ยอยู่นั่น กินๆเข้า” หลังจากคุยสักพักใหญ่ จานพี่เค้าก็หมดเกลี้ยงแต่ผมนี่ดิ เหลืออีกครึ่งเลย
“ก็มันมีแต่ผักอ่ะ” ไอ้เต้ได้แต่อ้อมๆแอ้มๆ เขี่ยผักไปมาให้เจ้าตัวดู กรูไม่ได้โกหกนะเว้ย
“งั้นก็กินหมูให้มันหมดๆ เด็กสมัยนี้ เลือกกินจริงๆ ไม่รู้จักโต”
อ้าววว ด่ากรูซะงั้น กูไม่ชอบกินผักนี่มันแปลว่ากูไม่รู้จักโตเลยหรอ ด้วยความโมโห และไม่ยอมคนไอ้เต้ก็เลยพยายามฝืนใจกัดกินผักเหล่านั้นให้หมด


“เดี๋ยวมานะ ไปซื้อของก่อน”
ผมพยักหน้าให้ และพยายามฝืนทนกินผักต่อไป ว่าดีนัก คอยดูนะจะกินให้หมดเลย แต่จนแล้วจนรอดไอ้ผักบ้ามันก็ไม่หมดสักที
สามคำ สี่คำ ห้าคำ จนกระทั่งพี่เค้าเดินกลับมา แล้วมองที่จานผมแล้วยิ้ม
“ไม่ต้องฝืนหรอก อิ่มก็พอ” ว่าแล้วพลางเอามือมาลูบหัวผมเบาๆอีกด้วย เน่ๆ ไม่ใช่หมานะเฟ้ย แต่เมื่อได้ยินดังนั้นไอ้เต้สุดหล่อก็วางตะเกียบวางช้อนทันที
 (รอคำนี้มานาน เหมือนฟ้าประธานจริงๆ)
ไอ้พี่เคนยิ้มๆ จ่ายบิลค่าอาหารเสร็จก็เดินนำผมไป


“ไงดูหนังกี่โมง”
“สามทุ่มคับ”
พี่เขาดูนาฬิกาข้อมือ แล้วหันมามองหน้าผม (มองไมวะ)
“งั้นไปไหนก่อนดี อีกตั้งนาน”
“แล้วพี่ไปธุระกี่โมงล่ะคับ”
“ยังไม่รู้เลย เพื่อนยังไม่โทรมาเลย” อืม นี่มันก็เพิ่งจะทุ่มครึ่งเอง นึกขึ้นได้ว่ามีนิทรรศการ above from earth อยู่หน้าห้างยังไม่ได้ดูเลย
“ไปดูนิทรรศการภาพหน้าห้างกันป่าว”
“เอาดิ”
ว่าแล้วเราสองคนก็เดินลงไปชั้นล่าง ณ จุดหมายใหม่

ภาพสวยๆทั้งนั้นเลย ไอ้พี่เคนนี่ก็ดีแฮะ มาเดินดูภาพกับผมด้วย ปกติคนที่เคยคบๆคุยๆ ไม่มีเล้ยยยยย จะมีอารมณ์ศิลปินชื่นชมงานศิลป์แบบนี้  
เดินไปได้สักพักนเจ้ากรรมก็ดันพรหมเม็ดลงมาซะงั้น หันไปอีกที โห สุภาพบุรุษลูกผู้ชายหายไปยืนหลบฝนอยู่ที่ประตูทางเข้าห้างแล้ว
 ปล่อยให้ไอ้เต้น้อยกลอยใจตากฝนแฉะๆ อยู่คนเดี๊ยะ แมร่ง จากที่ชื่นชมเมื่อกี้ถือว่าโมฆะ

“เดี๋ยวเราไปไงอ่ะ” ไอ้พี่เคนถาม เมื่อเห็นผมวิ่งหลบฝนเป็นแมวหนีน้ำตามเข้ามา
“บีทีเอสต่อแทกซี่มั้งคับ” ผมตอบไปพลางพยายามเอามือเปล่าเช็ดผมตัวเอง
“งั้นเดี๋ยวไปส่ง ดีป่ะ”
เหอๆ ไปส่งเฮาส์เลยหรอ อืมมมมม
“ว่าไง” ไอ้พี่เคนถามซ้ำ เมื่อผมกำลังคิด จะดีมั้ยว้า แต่ฝนก็ตกแบบนี้ ไปเองคงลำบากแมวน้อยอย่างเราแน่ๆ (ขอน่ารักหน่อยนะค้าบ)
“ก็ดีคับ แล้วพี่ไม่รีบไปหรอ”
“ก็คงพอดีเวลาเพื่อนนัดแหละ”
“คับๆ” แล้วไอ้เต้ก็ว่านอนสอนง่ายเดินตามเค้าต้อยๆ ไปที่ลาดจอดรถชั้นใต้ดิน
ถนนในกรุงเทพตอนค่ำๆ ยามฝนตกของวันศุกร์นี่แม้ว่ามันจะติดวินาศสันตะโร แต่ข้อดีก็คือ มันโคตรจะโรแมนติคเลยล่ะ

เฮ้ออออ ถ้าตอนนี้ได้อยู่กับแฟนคงดีดิ ผมคิดในใจ แล้วนี่กูมานั่งอยู่ในรถกับใครวะเนี่ย

“ร้อนป่าว” พี่เคนถามขึ้นพร้อมกับหมุนแอร์อยู่สักพัก
แล้วผมก็เริ่มรู้สึกร้อน
“ทำไมมันร้อนขึ้นอ่ะ”
“ไม่รู้ว่ะ ทำไมปรับแล้วมันดับวะ”
เอ้าเวร จะมาด่าว่ากูเป็นตัวซวยป่าวเนี่ย นั่งรถเค้าแล้วแอร์เจ๊งเฉย
“ขายหน้าว่ะ แอร์เจ๊งโชว์เลย” ไอ้พี่เคนทำท่าเขินๆ แล้วเปิดกระจกรถรับไอเสียเอ้ยไอเย็นของสายฝนเล็กน้อย
“รถกับคนสงสัยแก่พอกัน” ผมแกล้งพูดลอยๆขึ้นมา
แต่ไอ้คนนั่งข้างๆ หันขวับเลยคับ ฮ่าๆ
“ว่าใคร เดี๋ยวเถอะ”
“ป่าวคับ ยังไม่แก่อย่าร้อนตัวดิ” ได้ทีไอ้เต้เอาคืนมั่งละ
“เออ แก่ รู้ตัว” โถๆ ทำหน้างอน ตีนกามาเป็นสิบแล้วเพ่
“หึหึ”
ผมก็นั่งคุยเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ ประวัติความเป็นมาของการเป็นเกย์ สรุปว่าพี่เค้าเป็นเกย์ก่อนผม (แน่ล่ะ แก่กว่าผมนี่) จนเรื่อยมาเกือบชั่วโมงเราก็ถึงหน้าโรงหนัง

“อ่ะให้” พี่เค้าหยิบไอ้ขนมญี่ปุ่นที่ซื้อมาเมื่อกี้ยื่นให้ผม ไอ้ผมก็งงสิครับ เกิดมาไม่เคยมีหนุ่มที่ไหนมาให้ขนมหวานแบบนี้
“ขอบคุณคับ” รับมาแบบงงๆ ไอ้เราก็นึกว่าซื้อไปฝากใครซะอีก
“รู้ป่ะขนมเนี่ยใส่ไร”
“ใส่ไรอ่ะ” ไอ้เต้งง เพราะเห็นแต่กล่อง ตอนเค้าไปซื้อก็มัวแต่กินหญ้าอย่างทรมานใจ แล้วตูจะรู้ไหมว่านี่ขนมอะไร ปิดมิดชิดขนาดนี้




“ใส่ใจไงคับ”



ไอ้พี่เคนพูดเสร็จก็หน้าแดง (คงอายความน้ำเน่าขั้นสุดของตัวเอง) ซึ่งไม่ต่างจากไอ้เต้ที่ทั้งขำแบบหยุดไม่อยู่แล้วก็อายด้วย ปูนนี้แล้วยังมีกระจิตกระใจน้ำเน่าอีกนะเฮีย
นี่คนแรกในชีวิตเลยนะที่ทำอะไรบ้าๆบอๆแบบนี้ เฮ้อ แต่ผมไม่รู้เลยว่า ก็เพราะไอ้เจ้าขนมใส่ใจกล่องนั้น มันจะกลายเป็นอะไรที่ไม่อาจจะลืมเลือน

ก่อนลงจากรถผมก็ถามคำถามที่ว่าจะถามแต่ก็ยังหาโอกาสเหมาะไม่ได้




“ตกลงพี่มีแฟนยังอ่ะคับ”



ผมหันไปจ้องตา ส่วนพี่เขาเงียบมองผมสักพัก

ริมฝีปากเรียวบางนั้นเผยขึ้น และส่งเสียงออกมาไม่ดังไม่เบา
















“มีแล้ว”


ผมยิ้มให้เขา เขายิ้มให้ผม เราจากกัน

เขาขับรถออกไป ส่วนคืนนั้นผมก็ไปดูหนังเรื่อง A year without love




    ____________________________________________
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 26-01-2009 23:02:23
 :mc4:  มาเจิมเรื่องใหม่

ไหงพี่เคนทำไมมีเจ้าของแล้วหว่า  :z3:

นี่แค่คืนที่หนึ่งก็หวานซะ แล้วจะรอคืนต่อ ๆ ไปจ้า  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 26-01-2009 23:05:58
 :serius2: :serius2:

ง๊าพี่เคนไม่ใช่พระเอกหฟรอมีเเฟนเเล้ว

เอ๊ะ?มีได้ก็เลิกได้เว๊ย o18


ลงอีกนะค้าบไม่อยากค้างคา

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 26-01-2009 23:15:16
 :mc4:  ต้อนรับเรื่องใหม่คร้าบบบบ

เล่าแค่คืนแรกก็สนุกแล้ว เดินเรื่องได้กระชับด้วย ชอบครับ  ...  บวก  1

มุขขนมใส่ใจ~!   ก๊ากกก   

เฮียเคนน่ารัก  ภาวะนาให้เิลิกกะแฟนดีม๊าย ha ~! ha ~  ไม่ใช่แระ ^__^

ขอบคุณนะครับ  ...  รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ  อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: naix ที่ 26-01-2009 23:17:49
กลับมาละหรอตัวเล็ก แค่คืนที่หนึ่งก็สนุกแล้ว คืนต่อไปคงสนุกกว่านี้ จะตามเข้ามาอ่านทุกคืนน๊ะ (จะอัพทุกคืนช่ายป่ะ หุหุ)  o22
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 26-01-2009 23:18:42
เฮ้อ   ชอบอ่ะเรื่องนี้  แต่มีแววเศร้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 26-01-2009 23:19:08
 :pig2: :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 26-01-2009 23:21:06
พี่น่าน กลับมาเเล้วหรอครับ

รักงอมเเงมอ๊าครับ อยากอ่านเรื่องนั้นต่อ ทำไงดี ลงใหม่ :z3:

-*- เรื่องนี้ก็ สนุกผมชอบ :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: baddy ที่ 26-01-2009 23:31:11
เม้นๆ เป็นกำลังใจให้คนแต่ง :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 26-01-2009 23:36:49
 :mc4: :mc4: :mc4:

มาฉลองด้วย เรื่องใหม่อีกแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 26-01-2009 23:39:16
 :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 26-01-2009 23:39:57
ตามมาอ่านเรื่องใหม่ของคุณน่าน...ชอบจังครับ +1 ให้แล้วนะครับ
(จำผมได้ไหมเนี่ย แฟนประจำคุณน่านตั้งแต่เรื่องรักงอมแงมแล้วน๊า)
 :L2:

ตกลงพี่เคนนี่มีแฟนไปซะแล้วเหรอ  :เฮ้อ:
รออ่านตอนต่อไปแล้วกันนะครับ
(ขอแอบถามว่าเรื่องนี้ออกแนวผู้ใหญ่ แล้วต้องปวดตับไหมครับเนี่ย
จะได้เตรียมเผื่อใจไว้ก่อน)
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: dokjarn ที่ 26-01-2009 23:50:13

:mc4:

ฉลองเรื่องใหม่ด้วย

สงสัยต้องไปตามเก็บเรื่องเก่าอีกแน่

อิ อิ ขึ้นต้นได้น่ารักแบบนี้

+  ให้ก่อนแล้วกันนะครับ

มัดจำความน่ารักอ่ะ

 :z2: :pig4: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 27-01-2009 00:56:07
เป็นไงตัวเล็กว่างหรือไงถึงมาเขียนเรื่องใหม่ได้ครับ.. เรื่องนี้ขอไม่ออกความคิดเห็นนะครับแต่จะตามอ่านเงียบๆ หละกัน... คิดถึง(อย่างเคย)  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 27-01-2009 01:38:22
หายไปนานนะเนี่ย อิๆ

แล้วจะรออ่านต่อ ทั้งเรื่อง เก่า และใหม่เลย

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 27-01-2009 02:02:59
ติดตามตั้งแต่เรื่องโน้น

มายังเรื่องนี้

ไหงมาเจอคนมีเจ้าของซะได้ เง้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 27-01-2009 02:48:11
 :impress3:

ไม่น้า....
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 27-01-2009 02:49:41
แอร๊ยย  Un Ano sin amor เรื่องนี้เราดูไม่จบล่ะะ เพื่อนทวงแผ่นคืนก่อนน

พี่เคนมีเจ้าของแล้ว? ไม่เป็นไร ถ้ายังไม่ใช่ความรัก เราก็ยัง keep looking ต่อไปได้ โฮะๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: iGiG ที่ 27-01-2009 03:35:11
มาเชียร์เรื่องใหม่ค่า  :mc4: :mc4: :mc4:

ว่าแต่รักงอมแงม เริ่มจะงอมแล้วน้า ว่างๆอย่าลืมต่อนะคะ  :impress:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 27-01-2009 05:29:03
เข้ามาเจิมเรื่องใหม่ด้วยจ้า

บวก 1 ให้คนแต่งนะคะ

จาคอยตามอ่านนะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-01-2009 11:25:01
เอ้า อิตาพี่เคน มีแฟนซะงั้น   o6
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 27-01-2009 11:41:19
...พี่เคนเป็นคนใส่ใจคนอื่นดีเนอะ..
...ถึงมีแฟนแล้วก็ไม่เป็นไร..ใครจะรู้อนาคต..
...เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ่ะ.. :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 27-01-2009 11:58:42
 :z2:เต้นต้อนรับเรื่องใหม่ แล้วก้อ :z13:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 27-01-2009 12:07:43
ต้อนรับเรื่องใหม่  :mc4:

น้องน่าน ตกลงเรื่องนี้จะจบเศร้าหรือเปล่า จะได้เตรียมทำใจไว้ก่อนตั้งแต่ตอนที่ 1 เลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 27-01-2009 13:15:57

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


มีเรื่องใหม่มาอีกแล้ว

น้องเต้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :กอด1:

อิเจ้
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 27-01-2009 13:23:51
 :z13:


ด้วยคนค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 27-01-2009 16:22:05
+1 ให้กะเรื่องใหม่ค่ะ   

มาต่อเร็วๆนะ  รออ่านอยู่   :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 27-01-2009 16:55:44
พี่เคนไม่ใช่

งั้นก็น่าจะเป็นไอ้โรคจิตอะปะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 27-01-2009 17:50:03
 o13 พี่เคนมีแฟนแล่วว  :z3:

แต่ใครอ่ะที่ร้านหนังสือ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 27-01-2009 18:14:38
ดีคับ ขอบคุณคนอ่านทุกๆคนนะค้าบ ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ น่ารักกันทั้งนั้นเลย  :o8: :L1: :L1:

ขอแจ้งข่าวก่อนละกัน

หนึ่งคือ รักงอมแงมผมให้มันจบไปแล้วนะคับ จะไม่มีการต่อ ให้มันเป็นเรื่องน่ารักๆแบบนั้นจะดีกว่า  จริงๆ สามเรื่องนี้มันก็เหมือนภาคต่อกันกลายๆ อ่ะแหละนะ บางทีตัวละครเดิมแค่โดนเปลี่ยนชื่อไปด้วยซ้ำ

สองคือ อย่าคาดหวังกับเรื่องนี้มากนะคับ เพราะว่าตัวละครทั้งหมดจริงๆ พวกเขาก็คือมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง มีดีมีเลว หลายแง่มุมปะปนกันไปในแต่ละชีวิต

สามคือสองตอนแรกคงจะดูยาวหน่อย แต่ตอนต่อไปคงจะสั้นลงกว่านี้แล้วล่ะคับ เพราะไม่งั้นผมไม่ต้องไปเรียนแน่ๆ อิอิอิอิ ไปอ่านกันเลยละกัน แล้วคืนนี้จะมาเมนท์ๆคุยกับเพื่อนๆ


**********************************************************************************************************








ผมโบกพี่แท็กกลับบ้าน ด้วยความสุข เศร้า เหงา เซ็ง

นั่นก็เพราะว่าหนังที่เพิ่งดูจบมา มันโคตรเศร้าแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ เอาเป็นว่าแค่ชื่อเรื่องมันก็บอกอยู่แล้วว่า ปีนี้ ไม่มีรัก
มันจะเป็นอีกปีที่สวยงามไหมล่ะ ถ้าเป็นเช่นนี้ ไอ้เต้เอ้ย

ฝนหยุดตกไปแล้ว แต่ฟ้ายามราตรีมันก็ไม่ได้สดใส หรือมีสายรุ้ง ยังคงมืดมิดต่อไป มีแค่ดวงดาวที่เปนความหวังเล็กๆ ระยิบระยับอยู่
แต่ใครๆก็รู้ว่าดาวนั้นมันไกลเกินเอื้อม

วันนี้มันวันอะไรกันนะผมยิ้มแล้วมองออกไปนอกกระจกรถ

ผมไม่คิดว่าแค่มาเจอคนแปลกหน้าคนหนึ่ง จนทำให้ผมรู้สึกอะไรได้มากขนาดนี้

ผมมองขนมกล่องนั้น คิดถึงคำพูดที่ตลกๆ ที่ยังก้องอยู่ในหู

ไอ้เจ้าขนมใส่ใจนี่อ่ะหรอ ฮ่าๆ

ไม่นาน ด้วยถนนอันโล่งสุดๆ หลังเที่ยงคืน ผมก็กลับมาถึงรังนอน และไม่ลืมยัดเจ้ากล่องขนมเข้าไปในตู้เย็น

“แช่เย็นๆเวลาจะกินจะได้อร่อยๆรู้ป่าว” คือคำพูดที่ไอ้พี่เคนบอกไว้

จะว่าไปหน้าตาก็ไม่ได้จะสเปคกูเลยนะเนี่ย แถมยังมีแฟนแล้ว แล้วจะมานั่งๆนอนๆ คิดถึงฉากตอนจะลงรถอยู่ทำไมวะกู

ผมพยายามข่มตานอนให้หลับ และท่องไว้

เขามีแฟนแล้ว เขามีแฟนแล้ว เขามีแฟนแล้ว เขามีแฟนแล้ว เขามีแฟนแล้ว
ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


คร่อกกกก ฟี้ คร่อกกกกกกกฟี้ คร่ออออออออออฟี้ๆๆๆๆๆๆ



เย็นย่ำอีกวันหนึ่ง... เบอร์แปลกนั้นโทรเข้ามา

“ดีคับ”
“ไง เมื่อคืนหนังสนุกมั้ย”
“ก็ดีคับ เศร้าดี” หนังมันเศร้านะคับ ป่าวเอามาปนเปกับเรื่องนอกจอ เอิ๊กๆ
“แล้วกลับไงอ่ะ”
“พี่แท็กคับผม แล้วไงคับสนุกมั้ย ไปเที่ยวไหนมาอ่ะคับ”
“ก็ไปร้องเกะกับเพื่อนๆมาคับ”
“อ่า สนุกสนาน กลับดึกๆดื่นๆ แฟนไม่ว่าหรอคับ”
“อ่อ เค้าก็ไปด้วย”
“คับ แล้ววันนี้ไม่ทำงานหรอ” เฉไฉไปไหนดีล่ะไอ้เต้
“ทำค้าบ นี่เพิ่งเลิก กำลังขับรถกลับบ้าน”
“อ่าคับผม”
“แล้วนี่กินไรยัง”
“เรียบร้อยจากมหาลัยแล้วคับ พี่อ่ะ”
“กินแล้วล่ะ งั้นเดี๋ยวพี่ขับรถก่อนนะ”
“ค้าบ กลับบ้านดีดีนะคับ”
“คับ ไว้พี่โทรหานะ”

และผมก็วางโทรศัพท์ไป ทิ้งตัวลงนอน มองเพดาน แสงไฟนีออนยังสว่างจ้ากระด้างอยู่ที่เดิมบนนั้น

วันศุกร์พอเรียนเสร็จ ผมก็เข้าไปสยามเพราะนัดพี่ๆไว้ตามเคย แต่วันนี้พี่จีนไม่ว่าง ไอ้เต้กับพี่ตี๋ ก็เลยต้องไปกินข้าวกันแค่สองคนตามประสาพี่น้องที่ครองตัวเป็นโสด ฮ่าๆ

 ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พี่ตี๋ฟัง

“พี่ก็ยังไม่ได้คุยเลย มึงนี่ไวนะ” พี่เค้าแซว
“ไวไรพี่ ก็เค้าชวน มันก็ทางผ่านๆมาประจำ” ไอ้เต้ก็อ้าง แถไปเรื่อย
“เออ ยังไงก็อย่าไปยุ่งละกัน เขามีแฟนแล้ว”
“เฮ้อ”
“เฮ้อนี่หมายความว่าไงวะ” พี่ตี๋ก็ ผมก็ไม่รู้หรอกคับมันถอนหายใจออกมาเอง

“ผมก็แค่ไม่ชินกับการคุยกับคนมีเจ้าของแล้วมั้งพี่”
“ก็ดีแล้ว ไม่ควรชิน ของแบบนี้”
“คับ”

แล้วผมสองคนก็รับประทานอาหารเย็นๆค่ำๆกันต่อไป

“วันนี้นอนคอนโดพี่ป่ะ หรือกลับห้อง”
“เดี๋ยวพี่ตี๋ไปไหนป่ะอ่ะ”
“ป่าว”
“งั้นเต้นอนนี่ละกัน”
“ได้ๆ พรุ่งนี้เข้าร้านด้วยกันป่ะ” พอดีเฮียแกเปิดร้านหุ้นกับพี่ๆน้องๆทั้งหลายไว้น่ะคับ ผมก็สนิทกับพี่ที่ร้านเหมือนกัน ชอบไปนั่งเล่นบ่อยๆ
“เต้มีเรียนบ่ายอ่ะดิ ดูก่อนว่าจะแวะมาเย็นๆมั้ย เผื่อที่ร้านไปกินไรกัน”
“อ่อลืม งั้นไปเรียนเถอะ”
“ปีสามและ เรียนเยอะ ไม่ค่อยว่างไปไหนมาไหนเหมือนแต่ก่อนเลยเนอะ”
ไอ้เต้แอบบ่น ก็มันจริงนี่คับ แต่ก่อน ไอ้เต้ว่างเสมอ เมื่อไหร่ ที่ไหน ขอให้บอก เดี๋ยวนี้แม้แต่เที่ยวกลางคืนก็ลดลงไปเยอะมาก พวกไอ้แบงค์เพื่อนๆที่เคยเที่ยวกัน
ก็เจอกันที่เรียนเสียเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็จะเจอพี่แซน พี่นิว ก็พวกงานวันเกิด เทศกาล จะว่าไปก็เริ่มแก่แล้ว รักษาสุขภาพ เน้นทานข้าวทานปลามากกว่า

 เย้ยยยยยไม่ช่ายยยย


ว่ากันว่าเวลาที่เรามีความสุขกับชีวิต อะไรๆ มักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้จะจริงป่ะ

วันอังคารหลังจากเรียนเสร็จผมก็กลับมาห้องตามปกติ วันนี้เลิกเย็นก็เลยขี้เกียจไปไหนต่อ กลับมานอนเอ้อระเหยเผลอหลับไป ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

ด้วยความง่วง บวกกับเบอร์ที่ไม่ได้เมมชื่อก็เลยรับโดยไม่รู้ว่าใคร
 “ฮาโหลลล” ไอ้เต้กรอกเสียงตามสายไปด้วยความง่วงงุนงง
“ทำไรอยู่ค้าบ”
“นอน ใครอ่า”
“อ้าว จำกันไม่ได้แล้วหรอ แสดงว่ายังไม่ได้เมมเบอร์พี่ดิเนี่ย เฮ้อ คนเรา”
เหอะๆ ใครวะ พยายามทำสติให้ตื่น นึกไปนึกมา อ๋อ ไอ้พี่เคนล่ะมั้ง
“ป่าวลืม พี่เคนใช่ป่ะ”
“คับ เมมไว้ด้วยล่ะ” พี่เขาทำเสียงงอนหน่อยๆ ตาลุงเอ้ย
“คร้าบๆ แล้วว่างหรอคับ โทรหาเด็กๆ”
“ใช่แล้ว พอดีเพิ่งเสร็จงาน กินข้าวยังเรา” พูดถึงเรื่องกินอีกแล้ว ไอ้เต้ได้ยินก็หูตั้ง กลับมาก็นอนเลย ยังไม่มีอะไรลงไปเยี่ยมกะเพาะเลย หิวๆ

“ยังคับ จะชวนกินข้าวหรอคับ กินไรดีอ่ะ” อิอิอิ ยังไม่เข็ดเนอะไอ้เต้ คราวที่แล้วก็โดนบังคับกินหญ้าทีนึงละ
“เต้อยู่ห้องป่ะ” (สงวนที่ตั้งนะคับ)
“คร้าบ พี่ล่ะ”
“อยู่เมเจอร์ ออกมาป่ะ สะดวกป่าวคับ”
“ได้คับ นั่งมอไซด์ไปแป๊บเดียว รอแป๊บนะคับ” พอดีว่าซอยผมมันทะลุเมเจอร์ได้น่ะคับ
“คับ ว่าแต่อยากกินอะไร พี่จะได้สั่งให้เลย”
“อะไรก็ได้คับที่ผักน้อยๆ”
“แฮะๆ คร้าบ ได้ๆ” ฟังจากน้ำเสียงเจ้าเล่ห์แล้วผมว่า มีแววได้กินสลัดผักว่ะ

ผมใส่ชุดนักศึกษาที่ยังคงไม่เปลี่ยนตั้งแต่เย็น (เน่าเนอะ) มาถึงด้วยสภาพหัวฟูเพราะนั่งมอเตอร์ไซด์ แถมวันนี้ยังใส่แตะมาอีก เพราะมันใกล้โคตรๆ เลยสบายไปหน่อย
พอมาถึงเจอกับคนอื่นๆ ณ โลกภายนอกแบบนี้ สภาพไอ้เต้เลยดูสลัมบอย กะโปโลไปทันที

พอมาถึงร้านที่พี่เขารออยู่ (ใบ้ว่าร้านอาหารญี่ปุ่นเหมือนเดิม) เดินหามองไปมองมา ก็พบกับชายหนุ่มใหญ่คนนั้น ไม่เจอกันไม่ถึงอาทิตย์ ผมเปลี่ยนสีซะแล้วคับ
แถมคราวนี้ยังดูเด็กขึ้นเพราะไม่ได้้ใส่แว่นตาเด็กเนิร์ดแล้ว ผมสีน้ำตาล แดงๆ ทองๆ ที่เรียบตั้งเรียงตัวกันเป็นทรง เนี้ยบเชียว ผิดกับเส้นผมบนหัวผมจริงๆ

กระผมค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามไอ้พี่เคน ตรงหน้าไอ้เต้ก็มีจานอาหารรอไว้อยู่แล้ว เป็นหมูทอด ตามด้วยผักคอมโบ้เซท น้ำซุปมิโสะ และอะไรจิปาถะเล็กๆน้อยๆ
ตามสไตล์อาหารญี่ปุ่นแบบแปะๆ (อาหารไรวะแม่ง โปะ แปะ นิดๆหน่อยๆ โคตรแพง สู้ข้าวแกงบ้านเราก็ไม่ได้)

“กินไวจังคับ” ผมทักพี่เคนก่อน เมื่อเห็นจาน ชาม ตรงหน้าเขาแทบไม่เหลืออาหารแล้ว (หรือว่าจริงๆ ตัวเองสั่งแต่เนื้อแล้วรีบกินให้หมดก่อนฟะ แล้วมาสั่งผักแกล้งตู)
“ก็รอเราเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะ” พี่เขายิ้มๆ
“แหะๆ โทดที พอดีเต้เพิ่งตื่นนอนอ่า” นี่ขนาดรีบล้างหน้า จัดแจงตัวเองอย่างว่องเลยนะเนี่ย ปกติ ไอ้เต้อาบน้ำนี่ เพื่อนๆสนิททั้งหลายจะรู้ดีว่าไม่ต้องรอ
(เพราะนานจนรอแล้วเหนื่อย)

“เอาเถอะ ค่อยๆกิน”
“ค้าบผม” ว่าแล้วผมก็เริ่มเลือก เอกินอะไรก่อนดีน้า
“ไม่ชอบหรอ” พี่เคนเอ่ยขึ้น สงสัยเพราะเห็นผมไม่คีบอะไรใส่ปากสักที
ผมส่ายหัวดุ๊กดิ๊กๆ ก่อนจะคีบหมูขึ้นมากิน อ้ะ อ้ะ อ๊ะ อ้ำ

“อร่อยป่ะ พี่ชอบมากินร้านนี้”
“อร่อยดีคับ แต่เต้ไม่กินผักพวกนี้ได้ป่าว” ผมพูดพลางเขี่ยๆ กองผัก(อีกแล้ว) ให้ดู
“ไม่ได้ แค่นี้เอง อย่าเลือกกินสิ”
“ก็มันไม่อร่อยอ่า”
“ไม่อร่อยก็ต้องกิน คนเราจะเลือกแต่สิ่งที่ตัวเองชอบไม่ได้หรอก” อ้าววว ไหงแค่กูเขี่ยผัก กลายเป็นปัญหาเชิงปรัชญาไปได้
“ก็ เต้ไม่ชอบอ่ะ” ผมเริ่มงอแง แล้วก็เขี่ยไปเขี่ยมา
“บางอย่างไม่ชอบก็ต้องฝืน มันมีประโยชน์กับเราทั้งนั้นแหละ”
อ่านะ ว่าแล้วผมก็ต้องค่อยๆบรรจง กินพวกมันอีกแล้ว
“แต่อันนี้เต้ไม่กินนะ มันมีหอม” ผมพูดพลางเขี่ยผักอีกกองให้ไอ้พี่เคนดู
“อ่อ อืมๆ ก็ได้” ไอ้พี่เคนชะโงกหน้ามาดู เพ่งจนเห็นแล้วว่ามันมีหอมจริงๆ ก็เลยไม่บังคับกระผม อิอิ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย
“แต่ก็ต้องทานพวกนี้ให้หมดนะ” เวร ยังไม่วาย ยิ้มเยาะเย้ยผมกับเจ้าผักเขียวชอุ่ม

“จ้องทำไมเนี่ย” พอเงยหน้าไปก็เจอสายตาคู่นั้นของไอ้พี่เคน กำลังมองผมโซ้ยอาหารอยู่ อายนะเว้ย คนกำลังกิน ไม่น่ามองหรอกคร้าบ
“อ้าว ไม่มองคนตรงหน้า จะให้มองไรวะ เออ มองอย่างอื่นก็ได้” แล้วไอ้พี่เคนก็ทำท่าทางกวน เหล่เด็กๆที่เดินผ่านไปมาหน้าร้าน ตาเฒ่าหัวงูเอ้ยยยย มีแฟนแล้วไม่วาย
ว่าแต่เค้า แล้วนี่ล่ะมานั่งทำเจี๊ยกอะไรกับแฟนชาวบ้านว้า เหอะๆ

“อืมๆ ท่าทางจะกิ๊กเยอะนะพี่อ่ะ”
“ไม่หรอก จะเอาเวลาที่ไหนไปมี” ก็เวลาแบบนี้ไงคร้าบท่าน
“หรอคับ หึหึ คบกับแฟนกี่ปีละคับเนี่ย”
“ก็ เก้าปีได้ละ”
“โห แล้วยังจะมีเด็กอีกนะ” รักกันได้ขนาดนี้น่านับถือจริงๆคับ
“แต่ก่อนก็ไม่เคยคิดว่าจะมีนะ หลังๆมามันก็มีบ้าง”
“เค้าเรียกว่านิสัยส่วนลึก” ฮ่าๆ ไอ้เต้ไม่อยากปีนเกลียวก็เลยไม่ด่าไปว่า สันดาน อิอิอิ
“อ้าว ด่ากันนี่หว่า เอ้อเดี๋ยวจะคอยดูว่าแก่ๆแล้วจะมีเด็กมั้ย” หึหึ ไม่ต้องมาหาพวกเลยพี่ชาย อีกอย่างเด็กๆ คงไม่ชอบแนวผมหรอกคับ

“แฟนยังไม่มีเลยจะให้มีเด็กได้ไงล่ะคับ”
“เลือกมากอ่ะดิ”
“ป่าว แต่คนดีๆมันหาอยาก ส่วนใหญ่มีแต่พวกเฒ่าหัวงู” ผมพูดแล้วแกล้งเหล่ตาไปทางไอ้พี่เคน เห็นเค้าทำหน้าทำตาดุเป็นยักษ์ อิอิ
“เออ ว่าแต่เรา วันหลังไม่พามากินข้าวด้วยละ” อ้าว งอนอีก เออ คนเรา ทำไปได้นะ
“โอ้ย ทำเป็นตาแก่ขี้งอนไปได้...โอ๊ะ” พอพูดจบประโยคปุ๊บผมก็โดนเคาะกบาลทันที ฮือๆ เจ็บนะเว้ย ไอ้ผู้ใหญ่รังแกเด็ก ถือว่าสูงแล้วจะทำไรได้ตามใจชอบใช่ป่ะ
“เฮ้ย” ไอ้พี่เคนโวยวาย รีบยกรองเท้าขาวๆสะอาดสะอ้านของตัวเองมายกๆดู เพราะผมบรรจงเอารองเท้าแตะเลอะๆ ไปวางทาบกดน้ำหนัก และบดขยี้ ฮ่าๆๆ

“เดี๋ยวโดน เล่นอะไรไม่เข้าท่าและ รีบๆกินไปเลย” อ่ะ โดนดุเลย แต่กลับอารมณ์ดี กินต่ออย่างเอร็ดอร่อย หุหุหุ

“กินเยอะๆ จะได้ตัวโตๆ ตัวนิดเดียวเอง” ไอ้พี่เคนพูด
“ก็ตัวแค่นี้มาตั้งนาน”
“ก็กินเข้าสิ จะได้โตๆ”
“ก็กินแต่ผักเนี่ย มันก็ไม่อ้วนดิ” อิอิอิ แทนที่จะให้กินเนื้อเยอะๆ ไม่รู้เรื่องเล้ยย
“อย่ามาๆ มื้ออื่นเอ็งก็กินดิ”
“คร้าบลุงๆ”
“เจอคราวหน้าต้องอ้วนกว่านี้นะ” อ้าวเวร นี่กูต้องมีภารกิจปังคุงด้วยหรอเนี่ย ไรวะ (แต่จริงๆผมก็อยากอ้วนกว่านี้มานานแล้วนะ เอาเป็นว่าจะลองพยายามดูละกัน)
ไอ้เต้ผงกหัวงึกๆ เป็นอันว่ารับคำสั่งแต่โดยดี

“แล้วพี่ทำงานไรอ่ะ”
“เป็นเจ้าของร้านนี้ไง” ไอ้พี่เคนพูดตลกๆ เหอะๆ
“อ่านะ อย่ากวน”
“เอ้า ไม่เชื่อหรอ ไม่งั้นจะพามากินร้านนี้หรอ”
“เหอะๆ” ผมขี้เกียจซักไซร้ต่อละ
“เออ ส่งเด็ก”
อ่า ผมฟังแล้วก็ขำ ไอ้บ้าาา
“หรอ งี้ผมจะได้ราคาดีมั้ย”
“ตัวเล็กแบบนี้ไม่ดีหรอก บอกแล้วกินเยอะๆ” ไอ้พี่เคน เออเอาเข้าไป ยังขำได้อีก
“ตกลงทำไร จะไม่บอกใช่ป่ะ” ผมแกล้งเก็กเสียงจริงจัง
“หึหึ ไม่เชื่ออีก ไว้บอกละกัน ไม่ได้ทำไรผิดกฏหมายหรอกน่า”
“อ่ะนะ มีลับลมคมใน”
“ว่าแต่เอ็งเถอะ เรียนไรอ่ะ”
“เรียน...” (ใครรู้ก็ไม่ต้องเฉลยนะคร้าบ)
“สนุกดิเรียนด้านนี้”
“ก็ดีคับ สนุกด้วย สบายด้วยงานไม่เยอะ”
“ไว้วันหลังเอางานมาให้ดูมั่งนะ”
“ค้าบ แล้วพี่จบไรมาอ่ะ”
“จะรู้ทำมั้ย ตั้งนานแล้ว”
“คณะเค้ายุบไปแล้วอ่ะดิ เป็นสิบปีขนาดนี้”
“ไอ้นี่ ลามปามๆ คณะเค้าออกจะโด่งดัง เป็นอันดับต้นๆที่เด็กอยากเข้าเลยนะเว้ย”
“เหอะๆ คับ ดีที่สุดอ่ะ คนเนี้ยะ” ผมแกล้งทำเสียงประชด เมื่อเห็นท่าทางอันภาคภูมิใจในมหาลัยตนเองของลุงแก ฮ่าๆ
“เอออออ อยู่แล้ว”

“แล้วนึกไงไปทำสีผมมาอ่ะคับ” ผมถามขึ้นหลังจากจัดการอาหารมื้อนี้จนเรียบร้อย
“ทำไมอ่ะ ก็อยากทำ”
“ก็ไม่มีไร” ผมพูดแต่ก็อดขำไม่ได้
“ไร ทำไม มีอะไร”
“ผมว่าสีดำมันก็ดีอยู่แล้วน่ะ”
“อะไร มีแต่คนชมสีนี้ ตาไม่ถึงอ่ะดิเอ็งอ่ะ”
ฮ่าๆๆ คร้าบบบ ขอตาไม่ถึงคนเดียวแล้วกัน แล้วก็ขำกับท่าทางเสียเซลฟ์ของเฮียแก

“อ่ะอิ่มแล้วไปไหนต่อ”
“อืม พี่จะไปไหนอ่ะ”
“แล้วแต่ดิ อยากไปเที่ยวไหน”
โห่ สี่ทุ่มแล้ว ปกติไอ้เต้นอนไวนะคับ เอิ๊กๆ (จะมีใครเชื่อกูมั้ยยยย)
“คิดก่อนละกัน”
“เอองั้นเดินไปที่รถเลยละกัน ถึงแล้วคิดให้ออกล่ะ” อ๊ะ พูดจบไอ้พี่เคนก็เอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ มะใช่ลูกหมานะเว้ย ว่าแต่ไปไหนดีหว่าาาา



   _______________________________________________




หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 27-01-2009 18:57:12
      :z13:




พี่เคนนี่ชักยังงัยๆล่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 27-01-2009 19:02:35
มาอ่านเรื่องใหม่ด้วยคน  :L2:

 :z2: :z2: :z2:



หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-01-2009 19:03:41
ละเมอเข้ามาอ่าน ถึงกับตื่นเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 27-01-2009 19:13:14
เอ๊ะ มีแฟนแล้ว แต่ก้อทำเหมือนให้ความหวังนะเนี่ย

คนที่โดนใหความหวังจะคิดเกินเลยไปเปล่าน้า

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSacrifice ที่ 27-01-2009 19:27:23
^
^
นั่นน่ะสิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 27-01-2009 19:28:12
อ้าว  พี่เคนนี่ยังไงเนี่ย

แฟนตัวเองก็มีแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 27-01-2009 19:35:08
 :เฮ้อ:...หว่านพืช...หวังผลแหงๆๆๆ... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 27-01-2009 19:45:29
พี่เคน มีแฟนแล้วยังมาหลอกเด็กอีก


แต่ดูเด็กมันเต็มใจให้หลอกนะ   :เฮ้อ: 
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 27-01-2009 19:57:42
 :z3: :z3:


สรุป ยังจะให้ความหวังเราอยู่ใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: naix ที่ 27-01-2009 20:49:55
นี่ขนาดเรื่องคืนนี้สั้นแร้วนะเนี่ยตัวเล็ก หุหุ อยากทานอาหารญี่ปุ่นมั่งจัง เดาว่าคืนนี้จะพาพี่เคนไปเที่ยวกะพี่นิวพี่แซน 555  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 27-01-2009 21:14:55

อ้าว
มีแฟนแล้วอ่ะ

 :z10:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 27-01-2009 21:59:58
เลิกกัน เลิกกัน

5555


ไปแช่งเขาซะอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: dokjarn ที่ 27-01-2009 22:30:38
:z2:

เต้...ชอบลุงเคน ซะละมั้งเนี่ย(เรียกซะแก่เชียว)

เชื่อเหอะ  เคนก็ชอบเต้แหละ

อิ อิ เราอ่านยังชอบเลย...กร๊ากกก

 :pig4: :pig4: :pig4:

 :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 27-01-2009 22:54:12
dokjarn- ชอบใครค้าบบบบบ

Tifa - อ่านะ บาปนะค้าบ  :sad4:

Stop love - เมือ่ใดมีรัก ก็ย่อมมีหวัง อิอิ

Love_NT19 - นั่นสินะคับ นิสัยไม่ดีเนาะตาเฒ่าหัวงูเนี่ย

Moshi - นั่นสิ ไอ้เต้ยิ่งอ่อนไหว ไม่มีใครอยู่ด้วย  :เฮ้อ:


ขอบคุณเพื่อนๆทั้งหลายที่เป้นกำลังใจให้นะคับ จะพยายามมาลงต่อพรุ่งนี้ให้จงได้ อิอิอิ ฝันดีคับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 27-01-2009 23:20:53
 :เฮ้อ:

มันยังไงกันแน่เนี่ย มีแฟนแล้วยังมานัดเด็กอีก

เหมือนกับว่า 9 ปีกับแฟนที่ผ่านมาดีมาตลิดจนมีปัญหากันบางอย่างรึเปล่าหว่า

คงต้องรออ่านดูต่อไปอะนะ อิๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 27-01-2009 23:35:49
พี่เคน มีแฟนแล้ว....คบกันมา 9 ปี
อื้มมม....เกิดอะไรขึ้นเนี้ยย
อาจจะเบื่อกันบ้างละมั้ง

รอดูต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 27-01-2009 23:59:55
 :mc4: :mc4:
ตามล่าหาเฒ่าหัวงูคร้าบบบ
คริคริ
ดูจิกินหญ้าแก่ด้วย พี่คนเขียน

กระเพาะคร๊ากกกกแน่

ฮิฮิ

มาต่ออีกน้าครับ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 28-01-2009 00:01:27
เห่อ ๆ  ลุงเคน ~!!  

คบกับแฟนตั้ง 9  ปีแล้วนะ  คิดจะทำไรเนี้ยะ ~!!

เต้ยังเด็ก  ดูแลเทคแคร์งี้ ก็ต้องมีอ่อนไหวมั่งอ่ะ

ดูท่าจะเศร้าจริงๆ แหะ ~!

เป็นกำลังใจให้เต้ครับ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 28-01-2009 00:28:07
 :เฮ้อ: คุณพี่เคนก็นะ มีแฟนแล้วยังมาเต๊าะน้องเต้อีก ขันติไว้นะเต้

+1 ให้แล้วนะครับคุณน่าน รอลุ้นต่อไปนะครับ
ว่าแต่...ภาคนี้เซนจะกลับมาอีกไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 28-01-2009 02:09:09
เง้ออออออ คนมีเจ้าของ

เซ็งมากมาย เต้เอ๊ย!!!!! :serius2:

บวกให้นะจ๊ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 28-01-2009 02:18:49
 :beat:

ให้เคน
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 28-01-2009 02:42:32
เง้อพี่เคนหลอกเด็กหรือไงมีแฟนอยู่แล้วยังจะมีกิ๊กอีกน่ะ




หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 28-01-2009 07:44:27
มีแฟนแล้วมาให้ความหวังกันทำไมเนี่ย  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 28-01-2009 09:58:16
พี่เคน มีเจตนาอื่นแอบแฝงป่าวหว่า หรือแค่เหมือนน้องเหมือนนุ่ง

แต่พี่แกดูน่ารักดี เสียดายมีแฟนแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 28-01-2009 11:39:05
 :mc4: เรื่องใหม่
อาจมาช้าไป
แต่ตามอ่านแน่นอนค่ะ
จ๊วบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 28-01-2009 16:36:38



อ่านแล้วตั้งแต่วันก่อน

เอาใจช่วยค่ะ  :L2:


ว่าแต่...มันจะละเมอ ทั้งหมดกี่คืนคะ?



หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 28-01-2009 20:32:11



... มีแววว่าไอ้เฮียจะละเมอจนดังอีกแล้ว !!! ...
... ชิชะ ! หยั่งงี้ต้องรีบไปเรียกเรตติ้งให้นิยายตัวเองก่อนแล้ว โฮะๆๆ !!! ...


... ไม่มีใครถาม ตรองก็อยากบอก ...
... ผู้หญิง เอ๊ย ผู้ชายที่นอนยกขาทำท่าเหมือนมาช่า ...
... อยู่บนโซฟาในรูป Avator ของไอ่เฮียนั่นคือ ...
... ไอ่เฮียตัวเป็นๆนั่นเอง วะฮ่าฮ่า ~!!!!~ ...




... เข้ามาเหวี่ยงใส่แล้วหายสอย ! ...
... โฮะๆๆๆ ~!!! ...

... คิดถึงเฮียจังว่ะครับ ...
... คิดถึงข้าวฟรีหนึ่งมื้อที่บอกจะเลี้ยงด้วย ...
... คิดถึงคนที่ทำให้ตรองละเมอเพ้อถึงเชียงใหม่คนนั้นด้วย ...
... :*))   ) ...


... ปอลอ . ตรองน่ารัก :] ...
... ป๋อล๋อ . เกี่ยวมั๊ยย ย  ?    ? ...
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 28-01-2009 21:03:34

คืนที่สาม





ถนนนั้นมีลักษณะเฉพาะอยู่สำหรับผม

ยาวไกล และมักไม่เห็นปลายทาง

และมีความหวังเพียงจะได้พบเจอผู้คนที่ผ่านไปมา

ทุกคนเคยอยู่บนถนน เพื่อเพียงผ่าน ไม่ใช่ เพื่อพักกายพักใจ

แต่สำหรับถนนเพื่อเพียงผ่านก็พอแล้ว เพราะนั่นคือหน้าที่ของมัน เพื่อส่งผ่าน เพื่อสัมผัส ณ เวลาก่อนจะจากกันไป...

.........

“ไปไหนตกลง” ไอ้พี่เคนหันมาถามผม เมื่อเราสองคนเข้ามานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
“อืม เฮียอยากเที่ยวแบบไหนล่ะ” ผมเดาว่าอะโกโก้ ฮ่าๆ
“เอ้า บอกให้คิด ร้องเกะมั้ยล่ะ” ลืมบอกไปว่า ไอ้พี่เคนค่อนข้างจะชอบร้องเพลงมากๆเท่าที่ผมรู้
“แถวนี้มีด้วยหรอ เต้ไม่รู้จักอ่ะ”
“อืม นั่นดิ มีแต่ไกลๆเนอะ” ช่ายยย งั้นคงต้องเปลี่ยนแผน
“ไปไหนดีอ่ะ หรือจะไปขับรถเล่นคับ แต่ก็เปลืองน้ำมัน”
“ฮ่าๆ เปลืองน้ำมันก็ยังถูกกว่าไปเที่ยวแหละ” เออจริงของพี่เค้า ฮ่าๆ คนเราทำไมชอบไปเที่ยวกันนักนะ ขับรถเล่นสนุกดีออก
“งั้นก็ตามใจเลยคับ”
“หึหึ” ไอ้พี่เคนหันกลับมายิ้มให้ผม ก่อนจะค่อยๆเลี้ยวรถออกจากที่จอดรถห้างหลายสิบชั้น
“นี่ๆ มีเพลงให้ฟัง พี่เพิ่งได้ฟัง มีท่อนหนึ่งแม่งใช้ภาษาดี” เพลงไรหว่า ไอ้เต้นั่งรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
ไอ้พี่เคนก็เอามือไปหมุนๆ กดๆ ช่องเล่นเพลงสักพัก ก็มีเสียงเพลงที่ว่าดังขึ้น
.
.
.
.
.
.
จะให้ฉันเริ่มต้นจากตรงไหน
เรื่องยาวๆ ของเธอกับฉัน
ที่มันมีในความรู้สึกนั้น
จะไปหาถ้อยคำจากไหน
ถ้าจะขอเริ่มต้นว่ารักเธอ
ฉันยังคงพูดได้ใช่ไหม รักเธอจำไว้

เมื่อเธอพบคนดีที่เธอฝัน
จะให้ฉันห้ามเธออย่างไร
ฉันทุ่มเททำตัวให้ถูกใจ
แต่ก็ทำได้เพียงแค่นี้
แค่มีของรักมากอยู่ชิ้นเดียว
ฉันก็ยังดูแลไม่ดี ฉันเองที่พลาดไป

เจ็บปวดมันคือความจริงของคน
บอกกับตัวเองว่าฉันต้องอดทน รับมันให้ไหว
อุตส่าห์ประคองกันมาตั้งไกล
สิ้นสุดแค่นี้ก็คงต้องทำใจ พอใจแค่นี้
เธอคงไม่รู้ คำว่าลึกซึ้งสะกดยังไง
เพราะเธอช่างมีหัวใจที่มืดดำ

เธอจะรักฉันมากกว่าเดิมไหม
ปล่อยเธอไปไม่ว่าสักคำ
ขอแค่เธอมีวันที่สุขล้ำ
มากกว่านี้ก็ทำให้ไหว
ถ้าเธอรักฉันมากอีกนิดเดียว
ฉันก็คงพลาดเรื่องโหดร้าย
เลือดเย็น ของเธอ

เจ็บปวดมันคือความจริงของคน
บอกกับตัวเองว่าฉันต้องอดทน รับมันให้ไหว
อุตส่าห์ประคองกันมาตั้งไกล
ได้เศษความรักจากเธอต้องพอใจ พอใจแค่นี้
เธอคงไม่รู้ คำว่ารักนั้น สะกดยังไง
เพราะคนที่มีหัวใจเขาไม่ทำ

ความสุขเล็กน้อยของเธอ
เป็นสิ่งที่ฉันต้องแคร์
ดูแลด้วยความเต็มใจ

.
.
.
.
.
.
.

“เนี่ยๆ ฟังท่อนนี้ดิ แม่ง” ไอ้พี่เคนพูดขึ้นพอถึงท่อนที่ร้องว่า
“ถ้าเธอรักฉันมากอีกนิดเดียว ฉันก็คงพลาดเรื่องโหดร้าย เลือดเย็น ของเธอ”
“อ่ะเป็นไงๆ ใช้คำคมป่ะ”
“อ่านะพี่ คมคับๆ แต่มันเศร้าเนอะ” ผมฟังตอนแรกก็เฉยๆ แต่ยิ่งคิดไปคิดมานั่นสินะ ถ้ารักกันมากอีกนิดเดียว
แต่คนเราที่ต้องมาเสียใจก็เพราะมันขาดไปอีกนิดเดียวนี่แหละ
“อย่าอินๆ” แอบมาลอบมองหน้าผมอีก ไม่ได้อินเว้ย แค่คิดอะไรไปพลางๆ

“คิดอะไรอยู่ฮึ” ไอ้พี่เคนถามต่อ
“ป่าววว เพลงมันเพราะดี เลยตั้งใจฟัง”
“อ๋อเหรอ คิดว่าโดน”
ไอ้บ้าเอ้ย มาเปิดเพลงเศร้าให้ตูฟังทำไมเนี่ย วินาทีนึงเป็นฝันดี อีกเสี้ยววินาทีเป็นฝันร้ายจริงๆ ให้ตายดิ

“พี่ชอบฟังเพลงแนวผู้หญิงเนอะ” (เพลงนี้ของนัท มีเรียนะคับ)
“ก็ฟังหมดนะ ทุกแนวอ่ะ” เหอะๆจริงอ่ะ ชอบฟังเพลงแบบนี้ก็บอกมาเฮ้อ ผู้ชายเค้าก็ฟังกันได้ อิอิอิ
“หรอออ”
“เออ” หันมาทำหน้าดุใส่ผมอีก ไอ้พี่เคนบ้า
“แล้วเราอ่ะชอบฟังเพลงแบบไหน กอล์ฟไมค์อ่ะดิ”
“อ้าวๆ หาเรื่องหรอ” ผมไม่ว่ากอล์ฟไมค์ไม่ดีนะคับ แต่ตามประสาเด็กติสต์แบบไอ้เต้ ก็จะชอบฟังเพลงที่ไม่ตลาด
 ประเภท นึกชื่อเพลง หน้าตานักร้องกันแต่ละทีนี่แสนจะลำบาก
“อาไร อ่ะแล้วชอบฟังแนวไหน”
“ก็ชอบหลายแนวแหละ เอาน่ะๆ จะว่าไปคนเรารักกัน มากอีกนิดเดียว”
“บ่นอะไร อ้าว อย่าทำรถพี่เปื้อนน้ำตานะเว้ย” ไอ้พี่เคนหันมาแซวผม อ่ะนะ ตกลงห่วงผมหรือห่วงรถกันแน่วะ
“ไม่ได้ร้องไห้เว้ยยย”
“จะรู้หรอ”
“ไม่อยากเสียใจแบบนี้เลยอ่ะ รักกันไม่พอ เฮ้อ” แล้วไอ้เต้ก็เผลอนั่งถอนหายใจ
“อ่ะพอๆ เปลี่ยนเพลง ฟังเพลงสนุกๆดีกว่า” ว่าแล้วไอ้พี่เคนก็เปิดเพลงฮิพฮอพอะไรไปตามเรื่องตามราว
 ผมก็ไม่ได้เป็นพวกฟังเพลงแล้วอินนะค้าบบบ แค่นึกถึงประโยคนั้นแล้วมันหวิวๆ

“ปกติพาเด็กมานั่งรถเล่นบ่อยป่ะเนี่ย” ผมแกล้งแซวไอ้พี่เคน
“ทุกวันเลย เปลี่ยนวันละคน”
“อืม”

เงียบ

“งอนหรอ” ไอ้พี่เคนถาม
“ป่าว” ผมตอบตามความจริงในใจ
“หรอ พรุ่งนี้พาใครมาดีน้า”
“ไอ้บ้า”
“อ้าว ด่ากันซะงั้นคนเรา” แค่บอกว่าไอ้บ้าเนี่ยนะ ทีมากวนโอ้ยก่อนละยังไม่ว่าเลยนะ ไอ้เต้คิดในใจ

“เด็กเยอะเนอะคับ” ผมพูดพลางมองออกไปชมวิวถนนวิภาวดีตอนกลางคืน มืดๆ ไม่สวยหรอกคับ แหะๆ ผมว่าถนนยิ่งดึกยิ่งเหงา เศร้าๆไงไม่รู้

“ไม่มีหรอก จะบ้าหรอ” อย่างพี่อ่ะนะจะไม่มี มีใครคิดอย่างไอ้เต้บ้างคับ ยกมือหน่อยๆ
“ถามจริงๆ มีกี่คนคับ” ผมแกล้งทำหน้าตาจริงจัง หันไปถามไอ้คนขับรถ
“จริงๆเคยมี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว” อ่านะ พูดยังกับแฟนแต่จริงๆหมายถึงเด็ก
“อ่านะ ดีแล้วคับรักแฟนมากๆ”
“คับลูกๆทราบแล้วคับ” อ้าว มาแซวผมอีก ไอ้พี่เคนบ้า

“พี่ว่าถนนมันเหงาป่ะ เวลาไม่มีรถวิ่งเยอะๆ”
“ถ้าเป็นถนนในกรุงเทพมันคงดีใจ ได้พักผ่อนมั่ง” อันนี้ก็มีส่วนจริงอ่ะนะ
“เป็นผมคงเหงานะ เมื่อค่ำยังมีคนผ่านไปมาเยอะแยะ”
“เหงาก็หาแฟนดิ๊ เปิดใจเดี๋ยวก็มี เราก็หน้าตาไม่ได้แย่ซะหน่อย”
“ใครว่าเต้ปิดวะ เปิดอยู่ แต่...”
“แต่ไร” ไอ้พี่เคนเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย

ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไปให้เขาได้ยิน แต่เสียงคำตอบมันดังอยู่ในใจพอให้ตัวเองฟังคนเดียว...แต่เค้ามีแฟนแล้ว

หลังจากพูดจ้อกันไม่หยุด ผมและเขาก็ปล่อยความเงียบให้เข้ามาแทนที่ ให้ได้ฟังเสียงเพลงคลอเบาๆ
ฟังเสียงไฟที่เริงระบำอยู่ตามเกาะกลางหรือริมชายขอบถนน ฟังเสียงเครื่องยนต์ที่กำลังแล่นลิ่วไป

...ถนน

แสงไฟ

ไร้ตะวัน

ไร้เงา

ความเหงาของค่ำคืน...

.
.
“ป่ะ ดึกละ กลับกันดีกว่า เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่เป็นไรคับ เสียเวลากลับบ้านป่าวๆ เดี๋ยวแฟนพี่ว่า” ว่าแต่บ้านเฮียอยู่ไหนหว่า
“ไม่เป็นไร หอเรามันทางผ่านอยู่แล้ว เดี๋ยวเฉียดๆไปส่ง”
งั้นก็ไม่เกรงใจละนะคร้าบบบบบ ผมพยักหน้างึกๆ เป็นอันว่าโอเค แต่ทางกลับมันสามารถ เฉียดไปทางอตก.ได้คับ

“เฮ้ย เฉียดไปดูเด็กๆกันหน่อยป่ะ” นั่นไงผมว่าและ ไอ้พี่เคนหื่นเอ้ย พอผมส่งสัญญาณว่าไงก็ได้ตามใจคนขับ
ไอ้พี่เคนก็เลี้ยวซ้ายออกจากเส้นทาง ชแว๊บไปวนรถผ่านหน้าบรรดาผับเกย์แถวอตก. ที่เริ่มคลาค่ำไปด้วยฝูงเก้ง เอ้ย ฝูงกวาง เอ้ย ฝูงเกย์ ฮ่าๆๆๆๆ

“มาบ่อยอ่ะดิคับ”
“จะบ้าหรอ วัยนี้แล้ว” อ่านะ ผมเห็นพี่ๆผมบางคนแก่กว่าพี่เค้ายังมากันเล้ย อายุเป็นเพียงตัวเลขบนบัตรประชาชน อิอิ
“แล้วปกติพี่เที่ยวไหนอ่ะคับ”
“ไม่ค่อยไปแล้ว ก็มีบ้างเวลาเทศกาล”
“อืม ตามประสาคนแก่เนอะ” ฮ่าๆ หันไปมองเฮียแกตาเขียวเชียว
“ว่าแต่พี่ เราอ่ะชำนาญล่ะสิแถวนี้ ไหนๆ ร้านประจำเรา”
“ไม่มีเว้ย ปกติเต้ไม่ค่อยมาแถวนี้”
“อ่อ ต้องไปหลังสวน สีลมไรงั้นใช่่ป่ะ พวกตัวแม่ๆ” ปากมอมจริงๆ ขอซัดซะทีเหอะ ว่าแล้วกำปั้นผมก็ไวกว่าคิด ทุบลงไปที่แขนไอ้เฮียจนเค้าร้องโอ้ย หึหึหึ
“เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ไปข้าวสารมั่ง เอกมัยมั่ง หลังสวนก็ไปบ้าง”
“อ่อๆๆๆ” กวนอีก ทำท่าพยักหน้ารับฟัง ชิ ไอ้บ้าเอ้ย
“อ่ะป่ะ กลับๆ เดี๋ยวใจแตกหมด”
มาแค่นี้มันไม่แตกหรอกคร้าบพี่ จิ๊บๆ ว่าแล้วเราก็จากแหล่งบันเทิงยามราตรีเหล่านั้น

แล้วสี่ล้อก็มุ่งหน้าสู่หอผมในไม่ช้าก็มาจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าหอ
“อ่ะ ไว้วันหลังไปกินข้าวกันนะคับ ตัวเล็ก”  เหอะๆ อยู่ดีๆ ก็เรียกชื่อนี้ผมขึ้นมา ทำไมกันนะ ผมจะรู้สึกดีเสมอเวลามีคนเรียกชื่อนี้
“คับผม ไปก่อนนะ” ผมกำลังเอาเบลท์ออก และจะเปิดประตูรถ
“เดี๋ยว”
เสียงไอ้พี่เคนพูดขึ้น ทำให้ผมหันไปมองหน้าเขา
“ขอมือหน่อยดิ”
อ่านะ ผมเหล่ตามองหน้าเค้าเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวแล้วยิ้มให้ พร้อมกับเปิดประตูรถออกไป

“ขับรถกลับบ้านดีดีนะคับพี่” ผมหันกลับมาบอก ไอ้พี่เคนพยักหน้าให้ แล้วเราก็แยกจากกันในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดาว

ผมไม่รู้ว่าคืนนี้จะฝันดีหรือร้าย แต่เท่าที่รู้คือ มันเป็นอีกหนึ่งคืนพิเศษ สำหรับผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าคนตัวโตที่เพิ่งจากกันไปจะเป็นยังไงบ้าง


   _________________________________________



หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สอง
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 28-01-2009 21:13:08
 :sad4: ลงเพลงให้หน่อยดิคับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 28-01-2009 21:19:45



จิ้มตูดเฮีย ..
เอามาดิ เดี๋ยวลงให้ !

:}
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 28-01-2009 21:24:34
^
^
^

ชอบ signature ของรีบนจังเลยจ้า


เง้อออออออ ตอนนี้มันเศร้า เหงาๆ ไงไม่รู้อ้ะ
สงสารความรู้สึกเต้จังเลย  :monkeysad:
บวก 1 ให้นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 28-01-2009 21:38:44
http://media.imeem.com/m/92xPQVKw3R
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 28-01-2009 22:04:06

ตอนนี้เหงาจัง

 :monkeysad:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 28-01-2009 22:19:41
ท่าทางนายเอกตอนนี้

จะเดินไปตามเกมส์คนโคแก่ นะเนี้ย

หวังว่าไม่เดินไปตกหลุมพรางของฝันร้ายนะครับ

สู้ๆ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 28-01-2009 23:13:26
เศร้า ๆ  เหงา ๆ ยังไงไม่รู้   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 28-01-2009 23:52:00
เฮ้อ....ก็พี่แกดันมาทำใกล้ชิดซะขนาดนั้น



เป็นใครใครก็คิดไปไกลนั่นล่ะน้า



ยังดีนะที่บอกว่ามีแฟนแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 28-01-2009 23:58:21
เห็นด้วยเลยครับว่าตอนนี้มันเหงาได้ใจจริงๆ
ขอบคุณสำหรับเพลงด้วยนะครับ ยิ่งฟังยิ่งได้อารมณ์จริงๆ
+1 ให้คุณน่านที่ขยันลงเรื่องด้วยนะครับ น่ารักจริงๆ  :กอด1:

 :เฮ้อ: ถ้าทางเต้จะตกหลุมคุงพี่เคนซะแล้วสิ รอลุ้นต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 29-01-2009 00:21:42
 :z3: :z3: :z3:

ไอ้พี่เคน มีเเฟนอยู่เเล้ว

เเกจะมา ตามให้ความหวังเด็กทำไม :angry2: :beat:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 29-01-2009 00:46:36
โหยยยยยย
เฮียเขาใจดีจังเนอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 29-01-2009 00:56:34
เฮ้อ ~!   อีตาเคนมันคิดอะไรของมันอยู่ฟระ

เป็นกำลังใจให้เต้ ^__^ ตื่นมาไว ๆ ..  พบเช้าวันใหม่สดใส ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSacrifice ที่ 29-01-2009 01:05:33
ให้ความหวังอีกแล้ว
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 29-01-2009 01:16:32
 :เฮ้อ:


เหนื่อยใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 29-01-2009 07:44:33
เป็นอีกคืนที่เหงาอีกแล้ว   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 29-01-2009 10:14:25
อิตาพี่เคน คิดอารายอยู่ในใจ  :undecided:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 29-01-2009 12:15:42
นั่นสิคับ ตาพี่เคนคิดไรอยู่หว่า อย่าเหงากันเลยคับ :L1: :L1:

เมื่อวานบอร์ดล่ม ไม่มีคนเมนท์เลย แงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 29-01-2009 12:53:49
เข้าใจความรู้สึก

ผมก็เคยหลงรักคนที่มีเจ้าของ 

มันปวดร้าว  แต่ก็ทนได้เมื่อได้รับสิ่งที่เรียกว่าความใส่ใจจากคนนั้น

ยอมหลอกตัวเองชั่วคืน  เพื่อเผชิญความปวดร้าวไปชั่วกาลนาน

แต่ยังไงมันก็คุ้มค่า  สำหรับผม  ตอนนั้น

 :n1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 29-01-2009 13:03:41
 :serius2: :serius2: :serius2:
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 29-01-2009 16:54:40
 :เฮ้อ:
อ่านแล้วแอบเครียดจังงะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 29-01-2009 23:54:14
 :z3: :z3: :z3:

 :beat: :beat: พี่เคนเอานี้ไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 29-01-2009 23:57:25
สวัสดีค่ะ มาตามเรื่องราวในกระทู้ด้วยคนนะคะ

ดูแนวเรื่องแล้วน่าจะเศร้า

รักคนมีเจ้าของ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 30-01-2009 00:12:11
กำ พากันเศร้าแล้วพาลไม่อ่านกันไปเลยรึเปล่านี่ คนเรามันก็มีสุขมีเศร้าคละเคล้ากันไปนะค้าบ วันนี้ไม่ลงละกัน ไว้ให้อยากอ่านมากๆ จะมาลงให้ อิอิ

ปล.ไม่ได้ดองนะค้าบ เขียนคืนต่อไปเสร็จแล้วล่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 30-01-2009 00:17:09
.
.
.


ประกาศ !!!
พรุ่งนี้ตอนค่ำๆ เฮียจะไปเป็นโคโยตี้ ~!!!~

วะฮ่าฮ่า ~~~*
:*))   )
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 30-01-2009 01:22:21
แอร๊ยยยยย......ไปร้านไหนคะ

เดี๋ยวจะได้เตรียมชุดไปเต้นด้วย

อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สาม
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 30-01-2009 05:06:34
 :impress2:

เอ่อ....


อยากไป...
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 30-01-2009 09:21:24
คืนที่สี่



..

“หนู ทำไมหนูเจ้าชู้จัง” ผมถามรุ่นพี่คนหนึ่งที่สนิท ขณะกำลังนั่งเล่นกันอยู่แถวๆข้าวสาร
“อ้าวไอ้เต้ ใครเจ้าชู้ป๊ะมึง” (เฮียแกจริงๆไม่ได้ชื่อหนูนะคับ แต่กลุ่มนี้ทุกคนจะมีฉายาเป็นสัตว์แต่ละชนิดตามลักษณะเฉพาะ ผมก็มีแต่ขอสงวนไว้ก่อนละกัน เอิ๊กๆ)
“ก็หนูเจ้าชู้อ่ะ มีแฟนแล้วยังจะมีเด็กๆอีก”
“อาไรไอ้เต้ กูไม่เคยมีเด็กนะ พูดงี้เดี่๋ยวหมางอนเมิงรับผิดชอบนะ” (หมาคือรุ่นพี่อีกคนที่ผมสนิท และเป็นแฟนของหนู ซึ่งคบกันมาหลายปีดีดักแล้วคับ)
“หนูอย่ามาโกหก เค้ารู้หรอกน่ะ”
“แล้วอยู่ดีๆมึงถามทำไม”
“ก็รุ่นพี่หนูอ่ะ มาทำให้เค้าหวั่นไหว” (คือว่าหนูกับพี่เคนเค้าจบคณะที่เดียวกันมาคับ แต่ห่างกันหลายปีอยู่ คงไม่รู้จักกันแน่ๆ)
“อ้าว แอบไปกินเด็กคณะหนูตั้งแต่เมื่อไหร่ ร้ายนักนะมึง” โดนว่าเองซะงั้นกรู
“ป่าวเว้ย ไม่ได้กิน หนูนั่นแหละร้าย”
“นั่นแน่ๆ มึงบอกมาซะดีๆ ไหนๆชื่ออะไร” เหอๆ บอกให้โง่เสะ เกิดรู้จักกันขึ้นมากูก็ซวยสิคร้าบพี่น้อง
“เอาน่ะ เฮ้อ” ผมไม่อยากจะพูดไรต่อ เดี๋ยวหลุด ได้แต่ถอนหายใจ พร้อมกับภาพไอ้พี่เคนเวียนวน วนเวียนไปมา
“นั่นแน่ นั่งยิ้มอะไรคนเดียวมึง” อ้าว หมามาจากไหนวะ เมื่อกี้ยังเห็นนั่งอยู่ตั้งไกล ว่าแต่กูยิ้มตอนไหน ไม่มี๊ๆ
“ป่าวเฮีย” ว่าแล้วก็รีบลุกไปหาคนอื่นในกลุ่ม ทำทีกลบเกลื่อน

ตั้งแต่ไอ้พี่เซน ผมก็เริ่มชอบๆ ตอนที่เค้ามาจีบ แต่มันก็โคตรจะแนวรักแบบลูกหมา ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ ส่วนไอ้พี่เกียร์ ก็เริ่มจากความผูกพันธ์มากกว่า
แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นพี่น้องกันไป แต่กับคนนี้สิ คนที่ไม่เคยคิดว่าจะชอบ และรู้ว่าไม่ควร ทำไมตั้งวันแรกที่เราเจอกัน ผมก็เห็นหน้าเค้าลอยมาทุกครั้งที่ตื่นนอน
จนกระทั่งหลับไป อมยิ้มได้ทุกครั้งเวลานึกถึง แถมยังเหมือนเป็นกำลังใจให้ทุกๆวัน ผมพยายามเลิกนึกถึง และคิดว่ามันคงเป็นอารมณ์หลงชั่ววูบมั้ง เดี๋ยวสักพักก็คงหายไป

ผมยังไม่เคยโทรหาเค้าก่อน แต่นี่มันก็หลายวันแล้วนะที่เราไม่ได้คุยกัน อืมม เอาวะ ผมแอบลอบเดินไปหลบมุมแล้วกดโทรออกไป

ตี๊ด..........ตี๊ด..............ตี๊ด.................ตี๊ด................ตี๊ด

ไม่มีใครรับสาย อืม สงสัยจะไม่ว่าง ไม่เป็นไร ไปสนุกกับเพื่อนๆพี่ๆต่อดีกว่า

“ตกลงคืนนี้จะไปร้านไหนเนี่ย” ไอ้เต้เดินมาแล้วถามพวกสัตว์โลกน่ารักทั้งหลาย
“บริกละกัน” หมาพูดขึ้น (หมาอยากไปล่ะสิ เห็นชอบนักชอบหนาร้านนี้ คนเบียดจะตาย)
“อ่ะ บริกอีกละ” ขอบ่นหน่อย เพราะมากับพวกนี้ทีไรไม่พ้นร้านนี้ทุกที
“แล้วเต้อยากไปร้านไหนอ่ะ” หมีหันมาถาม (เริ่มเยอะเนอะ จริงๆมีสัตว์ทั้งหมดประมาณเกือบสิบตัวนะคับ แต่ไม่ขอพูดถึงหมดแล้วกัน เดี๋ยวงงกันหมด)
“ร้านไหนก็ได้ ไปๆ เดี๋ยวดึกแล้วไม่มีโต๊ะ”
“มีคับน้องเต้ พี่จองไว้แล้ว” พี่เต่า(ฉายาอีกนั่นล่ะคับ) พูดขึ้น นี่แสดงว่าวางแผนไปบริกบาร์กันเรียบร้อยแล้วล่ะสิ ร้ายจริงๆ พวกนี้
“คร้าบ ไม่ใช่หน้าเวที เต้ไม่ไปนะ ฮ่าๆๆๆ” ผมแกล้งแซว แลวพวกเราก็มุดเข้าไปในผับที่แออัดที่สุดร้านหนึ่งในช่วงนี้ของย่านข้าวสาร

เสียงเพลงสกา เร็กเก้ ดังวุ่นวายไปหมด
.
.
.

...แต่ทำไม ทำไม ต้องจำ เมื่อเธอไม่คิดจริงจัง .....

.
.
.
รักไม่ได้ บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง ชอบเขาเท่าไหร่ก็ต้องหยุดไว้เอง
.
.
.
เพียงคืนเดียวบอกกันตรงๆ เธอคงไม่คิดอะไร
เธอกับฉันเหมือนกันแค่ในคืน นี้
บอกกันดีๆ คงเข้าใจ
.
.

.


อืมมมม ทำไมคืนนี้ร้านมันเลือกเพลงแต่แนวนี้เล่นวะ ฟังแล้วขาแข้งแดนซ์ไม่ค่อยจะออกเลยตู สักสี่ทถ่มผมก็รู้สึกได้ว่าโทรศัพท์ตัวเองในกระเป๋ากางเกงมันสั้นสู้
เลยรีบแหวกฝูงคนออกมารับหน้าร้าน

“ดีคับ แป๊บนะคับ” ผมรับสายขณะพยายามเบียดคนออกไป แล้วบอกให้อีกฝั่งรอถือสายไว้สักครู่ จนกระทั่งออกมานอกร้านได้

เฮ้อ กว่าจะถึงหน้าร้าน

“อ่ะได้ยินแล้วพี่ ว่าไงๆ”
“เออเต้อยู่ไหนวะ”
“อยู่ข้าวสาร พี่ตี๋อ่ะ”
“อ่อ พอดีเพิ่งปิดร้านแล้วก็กินข้าวกับพวกเพื่อนๆเสร็จ ว่าจะหาที่เที่ยวต่อ กูเลยลองโทรมาถามๆดู” (เฮียแกก็สนิทกับกลุ่มนี้คับ)
“อ๋อ เนี่ย เต้อยู่กับพวกหมา หนู หมี มาดิๆ”
“ร้านไรวะ”
“บริกบาร์อ่ะ” เฮียแกคงไม่มาแหง เพราะแกอายุมากแล้ว คงไม่ชอบมาเบียดเสียด อิอิ ไอ้เต้ป่าวว่าแก่นะคร้าบ
“หรอวะ งั้นไม่เป็นไร เหนื่อยๆ ไปเบียดๆคงไม่ไหว” นั่นไงไอ้เต้ว่าแล้ว
“คับๆ งั้นไว้เจอกันพี่”
“เออ เที่ยวให้สนุก บอกพวกมัน อย่าเมามากล่ะ”
“คร้าบบบ”

ผมวางสาย ก่อนจะไล่เบอร์ในลิสต์ดู ไม่เห็นโทรกลับมาเลยวะ ผมคิดในใจ แล้วเดินกลับเข้าร้านไปสนุกต่อ

ตื่นมาอีกทีก็พบตัวเองและเพื่อนๆพี่ๆ นอนกองกันอยู่ที่บ้านหมีแล้ว เสียงเปียโนดังมาเรื่อยๆจากภายนอก
ซึ่งผมเดาว่าไม่หมาก็หมีที่เล่นอยู่ แต่ถ้าเป็นเพลงขนาดนี้คงเป็นหมีมากกว่า เพราะเฮียหมาแกยังเล่นไม่สมูธเท่าไหร่

ผมนอนฟังเสียงโน๊ตเพลงไล่ระดับไปมาเรื่อยๆ เป็นเพลง แคลร์ เดอ ลูน ฟังกี่ครั้งก็ยังเพราะเสมอ ท่วงทำนองเนิบนาบ ค่อยๆหนักหน่วงขึ้น
เศร้า เหงาหงอย แต่ยังเหมือนมีแสงจันทร์เป็นความสดใสสว่างกระจ่างอยู่ ท่ามกลางความมืดมิด



คงไม่มีคำใดบรรยายความไพเราะของบทเพลงได้ เท่ากับการได้เปิดใจฟังด้วยหัวใจตนเอง และเช่นกัน
แม้ดนตรีมากมายจะขับกล่อมให้อารมณ์เหงาหรือเศร้าเพียงใด มันก็ไม่อาจจะระทมได้กว่าเสียงข้างในหัวใจของผู้ที่กำลังรู้สึกเช่นนั้น

ผมแหงนเงยหน้ามองออกไปนอกผ้าม่าน นอกหน้าต่างมีต้นไม้มากมาย มีเสียงนกเจื้อยแจ้วระคนเสียงเปียโนในบ้าน
 แม้ว่ามันจะไม่สดใส แต่ผมรู้สึกอบอุ่น และมีความสุขเล็กๆอย่างบอกไม่ถูก

สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น

“ดีคับพี่”
“ว่าไงคับ เมื่อคืนโทษทีนะ พอดีพี่ไม่สะดวกรับสาย” อยู่กับแฟนเค้าอ่ะดิเนอะ ไอ้เต้คิดในใจ ป่าวน้อยใจนะเว้ย
“คับผม แล้วทำไรคับเนี่ย” ผมดูเวลาเพิ่งเที่ยงกว่าๆเอง
“อ๋อ พอดีออกมาหาไรกิน พักทำงานอยู่น่ะ”
“อ่ะคับ ไงก็กินให้อร่อยนะคับผม”
“ขอบคุณคับ แล้วเรากินไรยัง”  ไอ้พี่เคนถามผม
“ก็ยังเลย เพิ่งตื่นอ่ะ แฮะๆ” ชาวบ้านชาวเมืองเค้าทำงานจนพักเที่ยงแล้ว ไอ้เต้ยังเพิ่งตื่น สบายจริงๆนะกู
“โห นี่มันเที่ยงแล้วนะ มันถึงได้ตัวเล็กแบบนี้ ตื่นไม่ทันกินข้าวเช้าแบบนี้ไม่ดีนะรู้ป่าว” อ่านะ มาเทศน์อะไรกันเนี่ย
“คร้าบๆ เดี๋ยวจะไปกินเดี๋ยวนี่ล่ะคับพ่อ บ่นๆ”
เสียงไอ้พี่เคนหัวเราะชอบใจเล็กๆ ก่อนจะพูดต่อ
“แล้วอย่าลืมกินผักด้วยนะลูก”
ซะงั้น ตกลงเป็นพ่อลูกกันแล้วใช่ปะ ห่างกันแค่สิบสามปีกว่าๆเนี่ย
“อ่ะคับ จะกินสลัดเลยละกัน พอใจยังคับท่าน” ผมแกล้งประชดไป แต่ในใจคิดถึงหมู เนื้อ ไก่ อะไรมากกว่า
“เออ ไม่ต้องมาประชด มือแรกกินอะไรให้มันมีพลังงานหน่อย” อ่ะนะ จริงจังยังกับเป็นนักโภชนาการนะคนเรา

“ไอ้เต้ ไอ้... ไอ้... ลุกได้แล้ว แม่เรียกกินข้าวแล้ว” เสียงหมีเจ้่าของบ้าน เดินเปิดประตูเข้ามาตะโกนเรียกพวกผมที่ยังคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มแม้จะตื่นกันแล้ว

“อ้าวๆ เสียงหนุ่มที่ไหน อยู่กับใครเนี่ย ถึงว่าตื่นสาย” อ่ะ ไอ้พี่เคนเอาเชียว แอบฟังนี่หว่า
“ป่าวเว้ย อยู่กับพวกพี่ๆ ไม่ใช่หนุ่มที่ไหน เอาเป็นว่าเดี๋ยววันหลังเล่าให้ฟังนะคับ เต้ไปกินข้าวก่อนแล้วกัน จะได้โตไวไว”
“รีบเชียวนะ แล้วไว้พี่โทรหานะคับ” ไอ้พี่เคนพูดพร้อมน้ำเสียงอ่อนโยนตามสไตล์
“ค้าบๆ บายๆ” แล้วผมก็วางสาย ก่อนจะเดินตามลงไปกินข้าว ที่ต้องรบกวนคุณแม่ของพี่หมีแกจัดการให้ สรุปมื้อนี้ก็มีผักเต็มเลย นี่ถ้าไอ้พี่เคนมาเห็น คงสมใจแน่ๆ

“เมื่อกี้คุยกับใครวะไอ้เต้” เสียงหนูถามขึ้น ขณะที่ผมมานั่งเล่นหน้าบ้าน
“เพื่อน” อิอิ ผมตอบพร้อมยักคิ้วให้ ยังไม่อยากให้ใครรู้นี่นา
“หรออ เดี๋ยวนี้มีหนุ่มๆไม่บอกพี่บอกเชื้อนะเรา”
“ฮ่าๆ หนุ่มอาไรคับ” ไอ้เต้นึกในใจ แก่แล้วไม่หนุ่มหรอก อิอิ
“แล้วนี่วันนี้จะไปไหนต่อ” เหนื่อยขนาดนี้ให้ไปไหนกันอีกล่ะเนี่ย กลับไปพักผ่อนดีกว่า
“ไม่อ่ะ อยากนอนมากกว่า”
“เป็นแมวขี้เซาเลยนะมึง”
“หนูจะไปไหนอ่ะ” ไปหาเด็กแหงมๆ
“ไม่บอก” นั่นไงกูว่าแล้ว ไอ้เฮียจอมเจ้าชู้
“ตลอดอ่ะ จะฟ้องหมาว่าหนูไปหาเด็ก” อิอิอิ ไอ้เต้ไม่ใช่เด็กขี้ฟ้องนะคับ ก็แซวพี่แกไปงั้น
“ไปฟ้องเลยยยย” พูดจบก็ฟัวเราะเดินเข้าบ้านไป สงสัยจะรีบไปบอกเองก่อนแหงๆ
ปล่อยให้กระผมนั่งอมยิ้มมองดอกไม้ ใบหญ้า ที่ล้อลมล้อแดดอยู่ ดูพวกมันสิ มีความสุขกันจัง (รู้ได้ไงวะกู)




***************************************************************************************

ป่าวไปเต้นเว้ย วันนี้ว่าจะไปร้องเกะ เดี๋ยวไอ้ตรองจะโดนเตะ มาป่วนกระทู้กู

ส่วนคนอื่นๆ ถ้าอยากไป แต่งตัวหล่อๆนะคร้าบ อิอิอิ วับๆแวมๆ ยิ่งดี หึหึหึ

รีบมาใส่ไว้แต่เช้า เพราะวันนี้คง outdoor ยาวทั้งคืน เอิ๊กๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 30-01-2009 10:25:31
^
^
^
จิ้มคุณน่านทันแล้ววว
คืนนี้เที่ยวให้สนุกนะครับ
มายกมือว่าผมคนนึงหล่ะที่อยากอ่านเรื่องคุณน่านตลอดน๊า ไม่หายไปไหนด้วยนะครับ
..................................
แล้วเต้ก็ตกหลุมพี่เคนจริงๆ (มันก็น่าหรอกนะ เวลาคุยแล้วดูเป็นคนอบอุ่นน่ารักจริงๆ)
ว่าแต่อายุห่างกันสิบสามปีเลยเหรอครับ  :o8:
ว่าแล้วก็อยากมีแฟนเด็ก..ไปหามั่งดีกว่า หุ หุ หุ :bye2:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 30-01-2009 14:27:38
แล้วก็ชอบพี่เคนจนได้ :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 30-01-2009 14:35:41
น่านซี

รอเขาเลิกกันแล้วเข้าเสียบก็ได้นะครับ   :3125:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 30-01-2009 14:51:52
 :กอด1:

จะรักพี่เคนจริงๆ หรอ...
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 30-01-2009 15:11:02
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
บริกบาร์ชอบมาก
แต่คนจะเยอะไปไหน
ควิกๆๆๆ



+1 ให้น้องน่านจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: nookgao ที่ 30-01-2009 16:29:05
น่าจะเปลี่ยนชื่อจากละเมอเป็นเหงา เพราะบรรยายได้เหงาจริงๆ :z3:

+1 เป็นกำลังใจให้ อิอิ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: Ozaru ที่ 30-01-2009 17:36:27
หลงรักคนมีเจ้าของนี่มันลำบากใจเจงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 30-01-2009 18:44:19
โหย พี่เคนชอบให้ความหวังอ่ะ โทรมาทำไมบ้อย บ่อย :a14:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 30-01-2009 19:32:55
โหะๆ อีเราเห็นตรงบอกจะไปเป็นโคโยตี้ก็งง

ที่แท้ก็ไปเต้นเฉยๆซะได้นะ

แล้วจะรออ่านตอนต่อ อ่านๆไปแล้วสงสารเต้งะ ไม่รู้ว่าเป็นรักข้างเดียวรึเปล่านะ

 :เฮ้อ: ยังไงก็ยังมะเข้าใจการกระทำของพี่เคนอยู่ดี
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 30-01-2009 19:39:20
เเหม พี่น่าน


เเอบเต้นอ่ะเซ๊ อย่ามาเนียนนนนน


 :jul3: :m20: :pigha2: :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 30-01-2009 19:53:26



มาต่งมาเตะอะไรวะฮ๊ะเฮีย ... !
หยั่งกะเตะถึงงั้นแหละ ..
ถ้าจะเตะมันต้อง .. กระโดดเตะเฟร้ยย ย ย !!!

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 30-01-2009 19:58:12
รักคนมีเจ้าของ สุดท้ายจะมีแต่ช้ำใจอะจิ  :เฮ้อ:

เที่ยวให้สนุกนะคะ  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 30-01-2009 22:08:18
...ชื่อเรื่องมัน..ละเมอ...
...แล้วมันจะสมหวังไหมหว่า...
...ห่างกัน 13 ปี มิใช่อุปสรรค.. :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 30-01-2009 23:19:14
อายุเป็นเพียงตัวเลข
แต่เค้ามีเจ้าของแล้วเนี่ย :sad11:
อันนี้หละงานเข้า
บวก 1 ให้คนแต่งนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 30-01-2009 23:19:28
กลับมาละคับ ใครไปต่งไปเต้น ไม่มีๆ ไปกินข้าวมาเฉยๆคร้าบ พอดี กลุ่มพี่ตี๋ (ในเรื่อง) กับพวกพี่ๆที่ร้าน (ในเรื่องอีกเช่นกัน) เขาพาไปเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังน่ะคับ พอเรียนเสร็จก็เลยไปต่อกันเลย ไว้ถ้าในเรื่องเล่าถึงแล้วคงมีตอนของวันนี้ให้ได้อ่านนะคับ ถือเป็นอีกกลุ่มคนสำคัญในชีวิตผมเลย

แล้วก็ขอบคุณ(อีกแล้ว) สำหรับทุกคอมเมนท์เน้อคับ เรื่องผมปกติเพื่อนๆจะเมนท์กันว่าน่ารัก ไม่ใช่หรอคับ ไหงคราวนี้ เหงาตายกันไปตามๆกัน อิอิอิ มีใครหลงรักไอ้พี่เคนแล้วบ้าง ยกมือขึ้นสารภาพมาซะเดๆ นะคับเด็กๆ o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 30-01-2009 23:21:40
 :z13: :z13: :z13:
แซนด์วิชคนแต่งซะเลย
ตอนนี้มันเหงาจริงๆเลยน้า
สงสารเต้เนอะ หลงรักคนมีเจ้าของอ้ะ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 30-01-2009 23:35:31
 o13 o13

โหนึวก่าจะห่างสัก 5 ปี

นี่ถ้าประมานนี้พี่ในเรื่องอายุประมาณ 20 อ๊ะ

แล้วคุณน้าเขาก็ปาไป 30 กว่าๆแล้ว

โอ้วแม่เจ้าช่วย

 - -+

หนักหนาเอาการแต่ไม่เปนไรชมรม รักผู้สูงวัย

มีอยู่ในเล้าของเรา 55+
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 30-01-2009 23:39:26
ช่ายคับ สามสิบก่า แต่หน้ายังเอ๊าะนะคับ แก้ตัวแทน ผิดป่าวหว่าตู อิอิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 31-01-2009 00:23:30
 :z2: :z2: :z2:

แดนซ์ลืมโลก

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 31-01-2009 00:39:41

ยังไม่หลงอ่ะ
แค่เกือบๆ
 :o8:

ตกลงเรื่องนี้ออกแนว "ฉันรักผัวเขา" รึป่าว  :z1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 31-01-2009 02:07:58
ละเมอจริงๆ

ละเมอว่ารักกัน มีแฟนแล้วทำไมทำแบบนี้นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 31-01-2009 08:01:20
อ่านทันแล้ววววววว

สนุกมากมาย

ชอบ  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สี่
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 31-01-2009 09:06:31
แสดงว่าพี่เคนแกน่ารักจริงๆ อยู่ด้วยคงจะอบอุ่นใจใช่มะ  เพราะทำเอาเต้ของเราเคลิ้มไปแร้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 31-01-2009 13:29:38

คืนที่ห้า




เวลาผ่านไป อ้อยอิ่งลอยเคว้งไปกับกาล หลายวัน หลายคืน หมุนไปตามการหมุนรอบตัวเองของโลกกลมโต เรากำลังเริ่มวันคืนใหม่ๆ
หรือที่สุดแล้ว เราหมุนไปหมุนมา วนไปวนมา ไม่ได้ไปไหน ไม่มีวันไหน หรือเราเพียงแค่หมุนวนกลับมาที่เดิมซ้ำๆ ย่ำซ้ำๆ อยู่กับที่ เวลาไม่มีจริง...


“อยู่ห้องป่ะคับ” เสียงคนในสายถาม
“คับ วันนี้ไม่ได้ไปไหนอ่ะ”
“เป็นเด็กดีอยู่ห้อง งั้นเดี๋ยวเอาขนมไปให้” อ่ะ ผมดูเวลาสองทุ่มกว่า สงสัยเพิ่งเสร็จงานล่ะมั้ง
“อ่ะนะ ลำบากป่าวๆคับ”
“อ้าว ไม่อยากได้หรอ ว้า อุตส่าห์ซื้อมาฝาก” อ่านะ ถ้าซื้อมาแล้วก็ยินดีรับไว้คร้าบ พี่เคนนะพี่เคน ก็รู้นะว่าขนมหลอกเด็ก แต่มันก็รู้สึกดีนะ
เวลาที่เราไม่มีใครทำดีแบบนี้ด้วย แล้วมีเค้าเนี่ย ผมมองเห็นภาพโอเอซิสกลางทะเลทรายซะงั้น
“คับๆ มาแล้วโทรมาละกัน เดี๋ยวเต้ลงไปหา” ผมบอกไป คุยกันอีกแป๊บก็วางสาย

แม้ว่าจะแค่เอาขนมมาให้ แต่ด้วยความอะไรก็ไม่รู้ ไอ้เต้เลยขอล้างหน้าล้างตา หวีผมให้เข้ารูปเข้าทรงหน่อยละกัน ฮ่าๆ
แล้วนี่ทำไมตูต้องยิ้มให้กระจกด้วยวะ สักพักโทรศัพท์ผมก็ดังอีกรอบ

“ไงคับ” ผมรับสาย
“อยู่ข้างล่างแล้วคับ” ไวแฮะ ไอ้เต้คิดในใจ
“คับๆ แป๊บนะพี่” ว่าแล้วก็รีบจัดแจงสวมรองเท้าแตะ ล็อคห้องแล้วลงไปข้างล่าง

“หวัดดีคับ” ผมยกมือไหว้ไอ้พี่เคน ที่เปิดกระจกรถรออยู่
“ดีคับ อ่ะนี่ขนม ลองเอาไปชิมดูว่าชอบป่าว” ไอ้พี่เคนชะโงกหน้า พร้อมกับยื่นถุงขนมมาให้ ดูท่าทางน่าจะเป็นพวกเค้กอะไรทำนองนั้น (คราวนี้เป็นขนมฝรั่งเว้ย อิอิอิ)
“ขอบคุณค้าบ คราวนี้ใส่อะไรอีกอ่ะ” ผมแซวๆ แอบขำความน้ำเน่าของพี่แก
“หึหึ อยากให้ใส่อะไรล่ะ ลองชิมดูเดี๋ยวก็รู้” ถ้าตาไม่ฝาด สิ่งที่เห็นบนหน้าเขาคือสีแดงของเลือดฝาดที่เกิดจากอาการเขินอาย
“ค้าบๆ” ผมมองดูเจ้ากล่องขนม สลับกับหน้าพี่เค้า
“งั้นพี่ไปก่อนนะ อย่านอนดึกนักล่ะ ตัวเล็ก” ผมยิ้มพร้อมพยักหน้าให้ ก่อนที่พี่เขาจะโบกมือบ๊ายบาย แล้วปิดประจกรถ ขับออกไป แล้วไอ้เต้ก็รีบเดินกลับขึ้นห้องอย่างรวดเร็ว

ผมค่อยๆนั่งกินเค้กชอคโกแลทแสนหวานไป ดูหนังไปด้วย เปิดแอร์เย็นๆ อร่อยจังเว้ยยยยยยยยยยยยยยย

พรุ่งนี้เป็นวันหยุด เสาร์อาทิตย์นี้ก็ว่างซะด้วยสิ อืมมไปไหนดีนะ

สรุปรุ่งขึ้นในบ่ายวันเสาร์ต่อมา ไอ้เต้ก็มานั่งยิ้มแป้นแล้น คุยจ้ออยู่ที่ร้านเฮียตี๋แกที่สวนจตุจักร ของน่ะไม่ค่อยช่วยเค้าขายหรอกคับ มานั่งคุยมากกว่า ฮ่าๆ

“พี่ตี๋จำพี่เคนได้ป่ะ”
“อ่อ อีตาแก่ตัณหากลับน่ะหรอ” เอ้าาาา พี่ตี๋ เรียกเค้าซะเสียหาย ระวังเค้าฟ้องร้องได้นะเฮีย
“บ้า ยังไม่แก่ ตัณหาไม่กลับด้วยน้า” ไอ้เต้ป่าวแก้ตัวแทนนะคร้าบ
“เออ ระวังเถอะ บอกแล้วไม่ฟัง”
“ง่ะ เต้ป่าวไม่ฟังนะ”
“ดูสิ พูดถึงเค้าแล้วยิ้มหน้าบาน”
ไอ้เต้รีบหุบยิ้มทันที เหอๆ มันเป็นไปโดยธรรมชาติอ่ะคับ
“อืม เค้าน่ารักว่ะพี่ เฮ้อ ทำไมคนอื่นที่เคยคบๆมา เต้ไม่รู้สึกแฮปปี้แบบนี้เลยวะ”
“ยังไงล่ะ”
“ไม่รุ้ดิ แต่รู้สึกมีความสุขอ่ะ” เท่าที่รู้ผมยังไม่เคยมีวันไหนเซ็งเลย ตั้งแต่ได้รู้จักพี่เค้า
“อืม มีความสุขก็ดีแล้ว แต่ให้มันพอดีแล้วกัน กูก็ไม่เห็นจะดีกว่าคนอื่นตรงไหน แก่กว่า แถมมีเมียแล้ว” กำ พูดสรรพคุณด้านนั้นทำไมเล่าเฮียก็
“อืมมมม แต่นี่เป็นคนแรกเลยมั้งเฮีย ที่เต้ไม่ได้ชอบเพราะหน้าตา คือไงอ่ะ เต้ก็ไม่ได้เป็นคนมองคนที่หน้าขนาดนั้นนะ แต่ว่ามันก็มีบ้าง
แต่นี่แบบตอนแรกไม่คิดว่าจะชอบเลย พอยิ่งคุย ยิ่งรู้จัก มันยิ่งเริ่มมีความสุขว่ะเฮีย ไม่ได้เรียกว่าชอบด้วยมั้ง”

“เออ มึงยิ้มอีกแล้ว” พี่ตี๋ไม่ได้ตอบคำถามกระผมเล้ยยย แถมยังว่าผมจะยิ้มก็ไม่ได้
“อ่ะ”
“ตกลงมึงชอบพี่เค้า ชอบตรงไหน”
“อืมมมม ไม่รู้ดิ เต้ก็ไม่รู้ว่าชอบเค้ารึเปล่า แต่ตั้งแต่รู้จักเค้า เต้รู้สึกมีความสุขทุกวันเลย” ผมคิดประเมินตัวเอง นี่คงจะเป็นอาการตกหลุมรักระยะแรกเริ่ม
ว่าแต่สมัยก่อนก็เคยมีพัพพี่เลิฟ มันก็ไม่เป็นแบบนี้นี่หว่า อันนั้นมันอารมณ์อยากเจอ อยากคุย หวานๆ ประเดี๋ยวประด๋าวมากกว่า แต่นี่มันอีกแบบ

ความรู้สึกที่เฉยๆ แต่ทุกเช้าโลกนี้น่าอยู่และสดใส

“เฮ้อ เวรกรรมเนาะคนเรา” อยู่ดีๆ พี่ตี๋แกก็ถอนหายใจซะงั้น
ผมมองแกแปลกๆ ว่าเป็นอะไร หนักใจเรื่องอะไรกัน ไอ้เต้ต่างหากมั้ง ที่ต้องเป็นคนทำแบบนั้น
“มันห้ามกันไม่ได้เนาะ ของแบบนี้ อย่าเกินเลยแล้วกัน”
ผมพยักหน้างุดๆ ไม่รู้ทำไรต่อดี แว๊บไปหาพี่ๆอีกร้านนึงดีกว่า

“ไงพี่โฟร์ รอบนี้ของมาใหม่ไรบ้างอ่ะคับ” ผมแวะเวียนมาอีกร้านนึงที่เป็นหุ้นส่วนกับพี่ตี๋เหมือนกัน แล้วก็มีร้านอยู่ที่สวนอีกร้านใกล้ๆกัน
“อ่ะ ไงเต้ มีรองเท้าใหม่อ่ะ” พี่โฟร์บอกผม
“ไปทำไรมาหน้าใสจังเต้ช่วงนี้” พี่มดถามผม
(เป็นพี่อีกคนที่เป็นเพื่อนๆในกลุ่มนี้ ก็มาช่วยกันนั่งเล่นหน้าร้านให้มันเต็มๆ เวลาว่างๆ เสาร์อาทิตย์คับ อิอิ จริงๆคือมาช่วยขายนะคับท่าน)
“ป่าวพี่ หุหุ มานานยังคับเนี่ย”
“ก็สักพักได้แล้วล่ะ เจอพี่ตี๋กับพี่เฉินยังอะ” (พี่เฉินนี่ มาจากฉายา เฉิน กวน ซี นะคับ ฮ่าๆ)
“เจอแล้วคับ แล้วนี่พี่มดซื้อไรไปบ้างแล้วเนี่ย” ผมแกล้งแซว เพราะไอ้พี่มดแกเป็นขาชอป เรียกว่ามาร้านทีไร หอบกลับไปเป็นถุงๆ ทุกที
“ก็ยังเหลือไว้ให้เต้ซื้ออีกละกัน” อิอิ ผมก็ขาชอปนิดๆ เหมือนกัน (สรุปคือชอบชอปปิ้งกันทั้งกลุ่ม ไม่งั้นพวกเฮียๆแกคงไม่มาเปิดร้านขายเสื้อผ้าเอง)

“เดี๋ยวเต้มาดูใหม่ พี่ตี๋อยู่ร้านคนเดียว เดี๋ยวแกด่าเอา พี่เฉินไปห้องน้ำ ยังไม่กลับมั้ง” แล้วไอ้เต้ก็ชแว๊บออกจากร้านโน้น เข้ามาร้านนี้
(ร้านมันใกล้กันคับ เด็กตัวเล็กซุกซนอย่างไอ้เต้มันเลยจะชอบเดินไปเดินมาระหว่างสองร้าน บางทีก็เลยไปดูร้านชาวบ้านด้วย เอิ๊กๆ เป็นการกระจายรายจ่ายอย่างทั่วถึง)

“เออพี่ ตกลงไปอัมพวาวันไหนอ่ะ” ผมถามพี่ตี๋ตอนช่วงลูกค้าเบาบาง
“เออใช่ ไปจันทร์ อังคาร นี้นะ”
“ก็วันเดิมอ่ะดิ” พอดีตอนแรกเห็นเปลี่ยนกันไปกันมา ไอ้เต้เลยสับสนงงเงงว่าไปวันไหนแน่ จะได้ลาโดดที่มหาวิทยาลัยถูก
“เอออ่ะดิ สรุปเอาวันเดิม จะได้ไม่วุ่นวาย” ดีแล้วคับผมจะได้ไม่ต้องโทรไปเลื่อนวันจองบ้านพัก เกรงใจเจ้าของโฮมสเตย์เค้า
เพราะแค่ไปนี่เค้าก็คงต้องรับภาระหนักละ สำหรับการต้อนรับแก็งค์นี้ ฮ่าๆ

“โห่ แล้วจะเตรียมเสื้อผ้าทันมั้ยเนี่ย อิอิ” วันนี้ก็วันเสาร์แล้วนะคร้าบท่าน
“ไปแค่คืนเดียว มึงจะหอบไรไปนักหนา”
“อ๊ะๆ เต้รู้ว่าไปกับพวกพี่ ต้องถ่ายรูปเยอะแน่ๆ ต้องแต่งหล่อๆเดะค้าบบบบ”
อิอิ ว่าแล้วไอ้เต้ก็ปล่อยให้พี่ตี๋กับเฮียเฉิน กวน ซี แกเฝ้าร้านกันสองคนดีกว่า ไปหาเสื้อผ้าใหม่ๆใส่ไปเที่ยวดีกว่า มีฟามสุขๆ

   ___________________________________________________



ตอนนี้สั้นไปป่าว ไม่เนอะคับ พอดีมากกว่า อิอิอิ สั้นเพราะตั้งใจนะคับ ป่าวเพราะว่าขี้เกียจ

คุณ Krappom เอ่อออออ แรงโคตรเลย ผมไม่ได้บอกซะหน่อยว่าผมรักผัวเขา เอ้ย ไอ้เต้มันไมไ่ด้บอกซะหน่อยยยยยยย

น้อง crazy kung คับ พี่อายุยี่สิบคับ เพิ่งยี่เอ็ดมาหยกๆ ฮือๆ แก่แล้วอ่า เซ็ง ว่าแต่ชมรมคนรักผู้สูงวัยอ่ะ ฟังแล้วมันหยาบคายว่ะไอ้น้อง เค้าเรียกว่าวัยรุ่นตอนปลาย(บั้นปลายชีวิตอะไรทำนองนั้นอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ)

ขอบคุณคุณ Namtann นะคับสำหรับคะแนนโหวตเอเอฟอิอิอิ คนอื่นอยากน่ารักแบบคุณ Namtann ก็ส่งเอสเอ็มเอสโหวตกันเข้ามานะคับ อิอิ V1 ไอ้เต้ V2 เฮียเคน  V3 V4 V5..ยังไม่มี อิอิอิ ส่วนไอ้พี่เซน กับพี่เกียร์ มะต้องไปโหวตนะคับ เจ้าตัวเค้ายุ่งๆกัน อย่างว่าวัยทำงานทำการกันแล้ว (ไอ้เต้ยังจะจบแล้วเลย ฮือๆ ทำงานไรดี)

Lonely_I3 ขอบคุณค้าบ ต่อไปจะทยอยลงช้าๆนะคับ จะได้อ่านทัน ไม่ต้องเหนื่อยๆ

คุณ Tong อย่าซีเรียสกับชีวิตคับ คนเรามันก็แบบนี้แหละ

พี่น้ำค้าง อิอิอิ ถูกต้องนะคร้าบ

ไปและ วันนี้ว่าจะไปเดินงานเกษตรแฟร์ กินกระต่ายทอดซะหน่อย


หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 31-01-2009 13:33:10
เฮ้อ   ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้จริง ๆ ด้วยแหละ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 31-01-2009 13:50:06
..ไปเกษตรแฟร์ ไปกินกระต่ายทอด..เหอะๆๆ..
...จะไปหา เก้ง กวางทอด ก็บอกมาเหอะ..
...ไอ้พี่เคน มันหยอด..ขนมหวานๆๆ กันเต้ลืมไว้ตลอดเลยเนอะ.. : :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 31-01-2009 15:22:22
ก็พี่เขาน่ารักอ่ะนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 31-01-2009 16:08:15
 o13 o13 o13

ถูกใจประโยคนี้จังเลยงะ


“มันห้ามกันไม่ได้เนาะ ของแบบนี้ อย่าเกินเลยแล้วกัน”

โดนใจสุดๆอะ

แล้วจะรออ่านต่อ ยิ่งอ่านยิ่งกลุ้มว่าตอนหลังเต้จะต้องทำใจรึเปล่าเนี่ยสิ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 31-01-2009 19:36:01
พี่เคนช่างเอาใจจริงจริ๊ง  ส่งขนมนมเนยอยู่เรื่อย

เต้เลยหน้าสดใจบานเป็นใบบัว  ระวังใจไว้หน่อยนะจ๊ะอย่าให้มันเกินเลยอย่างที่พี่เค้าเตือน

ไม่อยากให้น้องเราต้องเศร้าเสียใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 31-01-2009 19:44:36
ลืมบอก ผมลงตอนจบรักงอมแงมไปแล้วนะคับวันนี้ วันนี้รวมแล้วลงสองเรื่อง เยอะนะเนี่ย หายไปยาวเลยดีกว่า ฮ่าๆๆๆ ไปละ คืนนี้มีปาร์ตี้กับพวกสัตว์โลกน่ารักทั้งหลายคับ แต่ไมไ่ด้ไปเต้นแร้งเต้นแมวที่ไหนนะคร้าบ จัดกันเองแบบส่วนตัวๆ (แต่ถ้าสนุกได้ที่อาจจะไปหาที่เที่ยวต่อดึกๆนั่นอีกเรื่องเนอะ ฮ่าๆๆ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 31-01-2009 21:30:05
เง้อ!!!! ยิ่งอ่านยิ่งเห็นว่าเต้ให้ใจพี่เคนไปเยอะแล้วเนี่ย
พี่เคนก้อมีเจ้าของแล้วยังมาทำให้เด็กหวั่นไหวทามม้ายยยยย :sad11:

หุหุ ยังอยากน่ารักเลยกดโหวตให้เอเอฟไปแระนะ
กด V1 เอ๊ย บวก 1 ให้คนแต่งจ้า :L2:

ปล. คนแต่งไปปาร์ตี้บ่อยจัง น่าอิจฉาที่สุด
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 31-01-2009 21:47:53
อิตาพี่เคนนี่ก็นะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 31-01-2009 22:10:03
พี่เคนชอบให้ฟามหวัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 31-01-2009 22:28:22
 :-[ :-[ :-[

เริ่มจะมีหวานๆแล้วนะเนี่ย รู้ตัวว่ารัก แต่มันจะมีอะไรมาขวางอีกมั้ยเนี่ย

 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 31-01-2009 23:01:44
มาอ่านรวดเดียว2ตอน


พี่เคนมีหน้าแดงด้วย


เต้ก็ต้องหักห้ามใจไว้หน่อยนะคะ อยาให้ล้ำเส้นไป  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 31-01-2009 23:37:05
หน้าแดงหรอ



เอ.....พี่เคนแอบไปกินเหล้ามาเปล่า คริๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 01-02-2009 00:20:24
พี่น่าน

รักงอมเเงม น่ารักมากนะ จบเเบบเหมือนไม่จบ

- - :z3: :z3:


 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-02-2009 01:09:17
เพราะเหงา...ไม่มีใคร

ใจจึงอ่อนไหว...ไปหาเขา

 :pig4:ขอบคุณคับ อ่านรวดเดียว 5 ละเมอเลยคร้าบ

**แนวนี้ก็หนุกดีกันคับ ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย  :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 01-02-2009 01:10:33
เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ของพี่น่าน(เรียกตามคนอื่น)

พี่เคนจะทำใจร้าวกะเต้ อะป่าวเอ่ย ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: gargoyle ที่ 01-02-2009 09:57:05
...อ่านแล้วเหงา แฮปปี้!

เฮอะๆๆๆ...

หากวันนี้ฉันเลิกจากไป อยากให้รู้ว่าฉันขอโทษจากใจ ที่ปล่อยตัวไปตามหัวใจ จนลืมคิดไปว่าฉันมีใครอีกคน... เพลงนี้เพื่อพี่เคน ฮุๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: Haney ที่ 01-02-2009 10:57:38
ตามมาอ่านจากเรื่องรักงอมแงม....ชอบนะครับ ภาษาของน้องเต้ดูง่ายๆ เรียบๆ สบายๆ แต่ทำไมอ่านแล้วอินมากๆ ก็ไม่รู้ ตั้งแต่เรื่องที่แล้วละ... เหมือนมันมีพลัง... มันมีพลัง! (พูดแบบอาจารย์เฉลิม**) 55555

ชื่อเรื่อง ละเมอ... แล้วเมื่อไหร่จะตื่นเนี่ย หรือ เจ้าตัวไม่อยากจะตื่นกันแน่ (จับเขย่าๆๆๆ) ตื่นๆๆๆ ตัวเล็ก!!  
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 01-02-2009 11:23:18
^
^
ตบจูบรีบน

--------------------

น่ารักจังมีส่งส่วย
ฮา
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่ห้า
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 01-02-2009 23:31:41
ตามมาอ่านต่อแล้วคุณน่าน...
ถ้าเจอแบบคุณพี่เคนนี่ผมก็คงใจอ่อนเหมือนกันแหละ  :o8:
ว่าแต่เรื่องข้อมูลแฟนคุณพี่เคนนี่มันยังไงเหรอ ดูอึมครึมๆ ยังไงไม่รุ  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 02-02-2009 01:07:59
คืนที่หก


“เย้ๆ ถึงแล้ววววว” ใช่แล้วครับ หลังจากนั่งหลังพิงเบาะกันมาเกือบสองชั่วโมง (จริงๆ แวะโลตัส แวะซื้ออาหารการกินกันตลอดทาง)
“สวัสดีคร้าบ” เสียงพวกผมทักทายคุณยายที่บ้านพัก บ้านโฮมสเตย์ริมแม่น้ำแม่กลองแบบสบายๆ นี่ผมรู้จักจากเพื่อนพี่ชายผม
เป็นที่หนึ่งที่ผมว่าสงบเงียบ น่าอยู่มากๆ เหมาะสำหรับพักผ่อนวันหยุด มาชาร์จแบตแบบไม่ไกลเมือง

สายน้ำยังไหลไปเรื่อยๆ แรงเสียด้วย ด้วยความที่ใกล้ปากแม่น้ำใหญ่แล้ว อีกไม่ไกลก็คงถึงทะเล ไม่น่าเชื่อว่าริมแม่น้ำสายใหญ่
สายน้ำจะได้หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตเรียบง่ายนี้ไว้ เจ้าแม่น้ำมันคงไม่รู้ตัวเลยแค่มันไหลผ่านมาแล้วผ่านไป
ทำให้บ้านไม้แบบไทยริมน้ำ ที่มีอายุเก่าแก่หลังนี้ ได้รับความเย็นสบาย สดชื่น ผ่อนคลาย และมีความสุขมากเพียงใด

“เชิญค่ะๆ”เสียงคุณยายทักทายยิ้มแย้มให้พวกเรา
พวกพี่ๆเค้าก็พากันเดินเข้าไปชมตัวบ้าน ขนของไปไว้ เตรียมตัวเอกเขนก

“พี่จีนๆ ไปถ่ายรูปกัน” ผมชวนพี่จีนไปถ่ายรูปที่ท่าน้ำที่ยื่นทอดตัวยาวลงไปในแม่น้ำ
“ตี๋เว้ย ไปถ่ายรูปกัน” พี่แกหันไปชวนพี่ตี๋อีกคน และสุดท้ายบรรดาพี่ๆลิงแสมทั้งหลาย ก็กรูกันมาถ่ายรูปยังชานริมน้ำและท่าน้ำกันหมด
“อ่ะเต้ถ่ายให้” สุดท้ายไอ้คนอยากถ่าย ต้องกลายเป็นตากล้องจำเป็น เง้ออออ น่าสงสารจริงๆ

หลังจากถ่ายรูปเล่นกันเสร็จ ก็จัดแจงเตรียมข้าวของ ล้างกุ้ง หอย ปู ปลา เตรียมไว้สำหรับปาร์ตี้(เรียกซะหรู)ซีฟู๊ดริมแม่น้ำน้ำยามเย็น
ใครอยากไปเที่ยวพักผ่อน แนะนำว่าไปเดินหาซื้อเอาที่ตลาดน้ำจะสะดวกกว่านะคับ ทำเองเหนื่อยมากกกก
แต่พอดีว่าวันที่ไปกันเป็นวันธรรมดาไม่มีตลาดน้ำ ก็เลยทำกันเอง แล้วก็ไปกันสิบกว่าคนได้ ก็เลยพอจะช่วยกันคนละไม้ละมือ

เมนูวันนี้ก็มี กุ้ง ปลาหมึก หอยแครง ปิ้ง ปิ้ง ปิ้ง ปิ้ง ปิ้ง ปิ้ง
และก็ ปูนึ่ง ปลาเก๋า ปลากระพง หอยนางรมสด (ของโปรดกระผม ว่ากันว่ากินแล้วจะคึก ผมกินบ่อยๆ ไม่เห็นจริงเลย อิอิอิ)
แล้วก็ผลหมากรากไม้ ขนม อะไรอีกสารพัดที่ขนมาจากโลตัส

“อิ่มอ่า”
“ไม่ไหวแล้ว”
“อืดดดด”
“เอร้อกกกก”
“จะอ้วกแล้วเนี่ย”
“คราวหลัง ซื้อน้อยๆนะ”
“รู้สึกว่าตัวเองมีอาหารทะเลอยู่ในท้องเป็นกิโลๆ”

“...” ทำไมไม่พูดอ่ะ คำตอบที่ได้คือท่าทางส่ายหัว และมือปิดปากเหมือนภูเขาไฟจะระเบิด ฮ่าๆๆๆๆ

นี่คือคำพูดที่ได้หลังจากอาหารทะเลทั้งหลายประมาณคร่ึงหนึ่งถูกทำกินไปเรื่อยๆจนพระอาทิตย์ตกดิน
ทุกคนก็อยู่ในสภาพคล้ายงูเหลือมที่เพิ่งกินอาหารเข้าไปแล้วนอนอืดขยับตัวไปไหนไม่ได้ แต่นี่ยังไม่หมดเลยนะคับ อาหารเหลืออีกเพียบ
ของสดอีกตั้งเยอะก็ยังไม่ได้เอามาทำเลย สงสัยเมนูตอนเช้าจะไม่ต้องคิดกันแล้ว

“เดี๋ยวเรือจะมารับแล้วนะลูก” คุณยายเดินมาบอกพวกเรา ขณะแต่ละคนกำลังนั่งๆนอนๆ ด้วยความทรมาณจากความอิ่ม
“อ่อคับ ขอบคุณค้าบ” พี่คนหนึ่งในกลุ่มตอบไป ทุกคนจึงต้องลุกไปล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำ เตรียมเสื้อกันลมกันให้เรียบร้อย
 เพราะคุณยายแกบอกไว้่ว่านั่งไปนาน อากาศจะเย็นเพราะอยู่ในแม่น้ำตลอด ให้จัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย

“เต้ถือกล้องนะ” โห่เซ็งเลย ไอ้เต้กำลังเดินตัวปลิวจะไปขึ้นเรือ กะเก็กถ่ายเต็มที่
“อ่ะ”
“เออ เด็กสุด ต้องถ่ายรูปให้พี่ๆ” โห่ รังแกเด็กว่ะพวกนี้ แต่สรุปแล้วก็ช่วยๆกันถ่ายแหละคับ ไอ้เต้ก็ดี๊ด๊าเต็มที่ ทั้งๆที่จริงก็หวั่นๆ เพราะผมว่ายน้ำไม่แข็ง แอบกลัวเรืออยู่เล็กๆ
“อ่ะๆ เต้ไปนั่งท้ายเรือดีกว่า” ผมเดินไปจับจองที่ท้ายเรือ เพราะว่ากะจะนอนดูดาวคับ เนื่องจากเราเหมาลำให้มารับที่หน้าบ้านพักเลย ก็วิ่งพล่านกันตามสบาย อิอิ
แต่เอทำไมไม่มีใครมานั่งท้ายเรือกับเราเลย สงสัยจัง พอเครื่องยนต์ติดแค่นั้นแหละครับ หึหึ เสียงดังโคตรรรรร ไอ้เต้ก็เลยกลับไปกองอยู่กับพี่ๆ ที่แถวๆหัวเรือเหมือนเดิม แหะๆ

จากบ้านพักเราก็มุ่งตรงไปชมวิวสองฝั่งยังคลองอัมพวากันก่อน ตลาดน้ำวันนี้ไม่มีนักท่องเที่ยว ร้านรวงต่างปิดกันเกือบหมด
เหลือแต่ร้านที่เป็นร้านประจำจริงๆ ก็ดีนะคับ ผมชอบบรรยากาศเงียบสงบแบบนี้ รู้สึกว่ามาถึงเมืองอัมพวาจริงๆ ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวอย่างวันหยุดสุดสัปดาห์

ขณะกำลังชมวิว พร้อมกับถ่ายรูปริมสองฝั่งคลอง ที่มีบ้านไม้เก่าขนาบไปสวยงามทีเดียว โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดังขึ้นขัดจังหวะอารมณ์ศิลปินจริงๆเชียว

 “ดีคับ” ผมกดรับ
“ไงเราอยู่ไหน ไปดูหนังกัน” เหอๆ ไอ้เฮียเคน มาชวนดูหนังอะไรเอาตอนนี้
“ดูหนังไรเฮีย เต้อยู่อัมพวา”
“อ้าว ไปทำไรแถวนั้น” กำ ถามแปลก มาอัมพวาก็มาเที่ยวสิคร้าบ
“มาเที่ยวกับพวกพี่ๆเค้าคับ”
“อ่ะหรอ นึกว่าไปหาหนุ่มๆแถวนั้น” เหอะๆ ดูความคิดคนเราดิ
“ไม่ใช่เฮียนะ แล้วจะไปดูเรื่องไรอ่ะ”
“อ่ะ ไม่ดูแล้ว ดูได้ไง เราอยู่ตั้งโน่น”
“ก็ไว้กลับไปไง” อ่ะอยู่กทม.ตั้งหลายวัน ไม่ชวน มาชวนวันที่เค้ามาอัมพวา ใจตรงกันโคตรเลย
“อ่ะ กว่าจะกลับ ไปกี่วันเนี่ย”
“พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว มาคืนเดียวคับ” มาพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ได้หนีแผลใจใดๆทั้งสิ้น
“อ่ะหรอ เที่ยวให้สนุกล่ะ”
“คร้าบ แล้วนี่เพิ่งเลิกงานหรอคับ”
“ช่าย อยากดูหนัง เดี๋ยวกลับบ้านเลยดีกว่า”
จริงหรอเฮีย ผมว่าจะไปชวนเด็กคนอื่นล่ะมากกว่าอิอิอิ ไอ้เต้คิดในใจ

“อ่ะ อยากกินไรเป่า ขนมเยอะนะคับที่นี่” ผมถามพี่เค้า เห็นซื้อขนมให้ผมสองรอบละ
“ไม่เป็นไร กว่าจะกลับมา กว่าจะเจอกันเสียพอดี เที่ยวไปเหอะ กลับบ้านนอนแล้ว” พี่แกทำเสียงแกล้งงอน เหอะๆ แก่แล้วยังมีอารมณ์เล่นเป็นเด็กอีกนะ
“อ่ะนะ งั้นก็กลับบ้านนอนหลับฝันดีนะคับเด็กน้อย”
“ปีนเกลียวและๆ” ไอ้พี่เคนดุผม แหม แค่แซวเล่นนิดหน่อย
“ฮ่าๆ เดี๋ยวเอาหิ่งห้อยไปฝาก” ใช่แล้วคับ ตอนนี้ผมกำลังจะไปนั่งเรือชมหิ่งห้อยคับ อากาศเย็นจริงๆด้วย เริ่มรู้สึกเย็นๆหัว ไม่ได้เอาหมวกมาด้วยดิ
“จะบ้าหรอ มันก็ตายหมดดิ”
“ฮ่าๆ ใครจะพิเรนเอาไปจริงๆ”
“เออๆเสียงเรือดังไม่ค่อยได้ยินเลย” เสียงไอ้พี่เคนหงุดหงิดๆ ท่าทางจะรำคาญเด็กๆอย่างผมซะละ
แถมพี่คนขับเรือแกก็เร่งเครื่องใหญ่เหมือนแกล้งกันเลยเว้ย ไปล่องเรือดีกว่าเรา ปล่อยให้ลุงแกหงุดหงิดงุ่นง่านกลับบ้านไปคนเดียว
“ฝันดีนะคับ” ผมบอกก่อนวางสาย แม้จะเพิ่งสองทุ่มกว่าๆ เพราะคงไม่มีโอกาสบอกตอนดึกๆ ก่อนนอน
“เออ บายๆ”

พอเรือพ้นเขตตัวตลาดน้ำอัมพวามา ก็เริ่มจะเข้าสู้ความมืด ลมเย็น บรรยากาศสองฝั่งคลองยามค่ำคืน ชวนน่าหวาดเสียวนิดๆนะคับ
มืดไปหมด แล้วไหนล่ะเจ้าหิ่งห้อยที่ใฝ่ฝันของกระผมและผองพวกพี่ๆ ยังไม่โผล่มาเลยสักกะตัว

“เฮ้ยนั่นไงๆ” เสียงเฮียตี๋คนแรกเลยคับ ชี้ไปที่กลุ่มต้นไม้ไกลๆ ริมฝั่ง ไหนหว่า ไอ้เต้พยายามมองตาม หิ่งห้อยๆๆๆๆๆ ว้าวววว เห็นแล้ว นั่นน่ะหรือ ฮือๆ ริบหรี่โคตรๆ

“อ้ะๆ นั่นไง” เสียงพี่โฟร์พูดบ้าง หลังจากพยายามมองตามที่พี่ตี๋ชี้ แล้วทุกคนก็ชะโงกหน้าตื่นเต้นกับเจ้าหิ่งห้อยกลุ่มเล็กๆ ที่เกาะอยู่ ณ ต้นลำพูชายฝั่งคลอง

เมื่อเรือแล่นไปอีกเรื่อยๆ กลุ่มหิ่งห้อยตามต้นไม้ก็ดูจะหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ



ใต้แสงจันทร์ เงาไม้สีดำเกือบสนิท โบกไหวเอนกิ่งอ่อนไปตามแรงลมลู่ลิ้ว

แสงสว่างจันทร์ฉายบนฟ้าไกลเบื้องบนกระทบแผ่นพื้นน้ำเป็นระริ้วระลอกคลื่น เรือสร้างคลื่นใหญ่กระทบฝั่ง

แม้การท่องเที่ยวจะนำรายได้มาสู่ชุมชนมากมาย แต่หิ่งห้อยก็ลดลงไปมหาศาล เพราะคลื่นนั้นไปรบกวนระบบนิเวศของมันอย่างที่เราไม่รู้สึกด้วยซ้ำ

เจ้าหิ่งห้อยเปราะบาง ลอยลมอยู่ตามหมู่กิ่งก้านสาขาของยอดไม้ลำพู เป็นแสงระยับบางๆ ที่เห็นเพียงแค่แสงนั่น

ผมอยากรู้จังเวลาที่หิ่งห้อยมันเป็นเรามาดูมัน มันจะดีใจหรือเปล่า

จะว่าไป มันก็คล้ายๆไฟกระพริบนะเนี่ย วิบวับๆกันเต็มต้นเลย เอ หรือว่าเค้าติดไฟจริงๆวะ และก็ไม่ได้แค่ผมที่รู้สึกคนเดียวนะ

“เฮ้ย มีงว่ามันหิ่งห้อยจริงหรือปลอมวะ ทำไมมันกระพริบพร้อมกันเลยวะ” เสียงพี่เฉินคุยกับพี่หนึ่ง พี่อีกคนในกลุ่ม
“เออว่ะ กูก็ว่าอยู่ พร้อมกันเลย ดูดิๆ” พี่หนุ่มเค้าก็ดูจะร่วมด้วย
แล้วพี่จีนก็หันมาแจม “พี่ว่าของจริงนะ ใครจะบ้าวะ เอาไฟมาติดริมคลองป่าๆแบบนี้”
“อ้าวแหมพี่ ใครจะรู้ หิ่งห้อยจริงมันจะมาทำงานเยอะๆแบบนี้ทุกวันหรอ”
พี่ๆเค้าก็เริ่มถกเถียงกันและคับ เป็นการสนทนาหาความจริงที่เริ่มดังขึ้นจนพี่คนขับแกคงได้ยิน แกก็เลยพาไปพิสูจน์กันเลยจะจะ

สักพักหัวเรือที่พวกผมนั่งก็มุ่งหน้าเข้าไปใกล้ริมฝั่งมากขึ้น และจอดเทียบอยู่ริมลำพูต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาลงมาบนสายน้ำ
และมีหิ่งห้อยประดับประดาอยู่อย่างสวยงาม แม้ว่าเรือจะไม่สามารถเข้าไปใกล้ขนาดถึงกิ่งไม้ได้
แต่ก็ใกล้พอจะให้สังเกตเห็นความมหัศจรรย์ของบรรดาเจ้าหนอนน้อยเหล่านี้ ที่บินอ้อยอิ่ง กันไปมา เหมือนเป็นสวนสวรรค์เล็ก
ผมเห็นแล้วนึกถึงเหล่านางฟ้าจิ๋วในหนังปีเตอร์แพนเลยแฮะ ผมคิดในใจ

“เฮ้ยพี่ตี๋ๆ หิ่งห้อยมาเกาะอ่ะ” ผมทักพี่แก เมื่อเห็นว่า เจ้าหนอนน้อยเกาะนิ่งอยู่ที่ชายเสื้อแก คงนึกว่าเป็นกิ่งลำพูล่ะมั้ง
“เฮ้ย เออหว่ะ” พี่แกหันไปมองมัน และอยู่นิ่งๆ
“เออ น่ารักอ่ะ” พี่จีนชะโงกเข้ามาดู พร้อมพี่คนอื่นๆ

“เขาว่า หิ่งห้อยมาเกาะ จะเจอเนื้อคู่นะคับ” ลุงคนขบเรือตะโกนมาบอก พร้อมยิ้มให้อย่างยินดีด้วย

ไม่รู้ว่ามันจะจริงหรือเป็นความเชื่อปรัมปราอะไรก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ทั้งลำอมยิ้มกัน และมีหัวข้อสนทนาต่อ
อย่างน้อยก็เป็นอีกเรื่องน่ารักๆ ให้เก็บไว้ในรอยจำ และให้ความหวังในความรักยังสวยงามน่าปราถนาต่อไป

ว่าแต่ทำไมหิ่งห้อยไม่มาเกาะไอ้เต้มั่งวะ ผมคิดในใจและพูดออกไปดังๆด้วย

“มึงก็ยื่นแขนออกไปสิ เผื่อมันจะบินมาเกาะ” เสียงคำแนะนำดังมาจากในเรือ เมื่อผมแอบบ่นถึงโชคชะตาที่ไร้คู่อยู่ตอนนี้

_________________________________________


ว่าจะไม่ลงให้แล้ววันนี้ แต่ก็แอบมาหยอดไว้ซะหน่อย ทำงานต่อดีกว่า สองวันนี้งานเยอะคับ  :really2: :เฮ้อ:

ป๋อล๋อ ไม่ตื่นง่ายๆหรอก เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 02-02-2009 01:53:17
 o13 o13 o13

ดีละที่มาลงจะได้มีไรอ่าน อิๆ

ท่าทาง ยิ่งอ่านยิ่งคิดว่า เคน มันเห็นเต้เป็นแค่ที่คลายเหงาปะเนี่ย

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 02-02-2009 02:00:47
อย่าบอก

ว่าตอนจบเรื่อง - - มันเป็นเเค่ควาฝันไม่นะ

ล้อเล่นอย่าพึ่งติดไกลไงก็เอาปัจจุบัน น่ารักมากครับ หิ่งห้อยยย

อ๊ากอยากไปเที่ยว ป.ล. เหนือก็มีเยอะนะครับ

 :กอด1:


 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 02-02-2009 02:31:19
 :sad4: :sad4: :sad4:

อยากจะไปเที่ยวกะเค้ามั้งอ่า เมื่อไหร่จะได้ไปไหนที่ไกลกว่าบ้านเกิดทางใต้เนี่ย

เที่ยวแต่ทะเลจนเอียนแล้ว  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 02-02-2009 02:48:48
เง้อออออออ อ่านแล้วอยากไปเที่ยวบ้างเลยอ้ะ
หยอดไว้แบบยาวๆยังงี้ น่ารักที่สุด
บวกไปแล้วจ้า :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 02-02-2009 08:14:31
บรรยายซะอยากไปนอนค้างวันธรรมดาบ้างเลย

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 02-02-2009 09:20:06
เฮ้อ......

อยากไปอัมพวาอีกจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: dokjarn ที่ 02-02-2009 10:05:36
:z2:

เขียนซะอ่านเพลินเลยครับ

อยากไปอัมพวา บ้างแล้วนะเนี่ย

เดี๋ยวต้องไป ไซโค คนข้างๆแล้ว ฮิ ฮิ

ขอบคุณคร้าบบบ..

 :z2: :pig4: :pig4: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 02-02-2009 10:42:31
น่าไปอ่ะ อยากเที่ยวๆๆๆๆ :m4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 02-02-2009 10:55:05
อ่านแล้วอยากทานซีฟู้ดบ้างจัง...
เคยได้ยินมาเหมือนกันครับว่าคลื่นจากพวกเรือหางยาวทำให้หิ่งห้อยเหลือน้อยลงน่าเสียดายนะครับ

หิ่งห้อยเกาะพี่ตี๋...เอ๊ะ หรือเนื้อคู่พี่ตี๋จะเป็นเต้ล่ะเนี่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 02-02-2009 16:17:59
เคน ก็คงติดใจในความสดใส สนุกสนาน ของคนอ่อนวัยกว่า
เต้ ก็มีความสุข อบอุ่น ประทับใจในตัวสุภาพบุรุษรุ่นพี่ ...
กลิ่นอายมันอบอวลไปด้วยความรัก...แต่กลับจับต้องไม่ได้
บรรยากาศเลยออกแนวเศร้า ๆ เหงา ๆ ซะงั้น... :m15:

ปัจจุบันอยู่ในสถานะของเคน...อดีตเคยผ่านสถานะของเต้
 :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 02-02-2009 16:41:12
กรี๊ด อยากไปเที่ยวบ้าง
คืนเดียวก็สนุกแล้วใช่มะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: gargoyle ที่ 02-02-2009 18:36:00
ว่าจะวางแพลนกันไปหลายรอบและอัมพวา...

ยิ่งอ่านยิ่งอยากไป อะโฮะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 02-02-2009 18:36:56
แวะมาตอบคำถามพี่ๆน้องๆ  :o8:

พี่นาท แหม เข้าใจดีเลยนะคับ เรื่องเด็กๆ แก่ๆ เนี่ย งี้แหละ คนอาบน้ำร้อนมาก่อน ฮ่าๆ

bixzz เอ่อ เฮียตี๋กับผมเป็นพี่น้องคร้าบบบบ (เมื่อคืนยังไปค้างคอนโดแกมาเลย นั่งเอาเรื่องลงที่นั่นแล ทายผิดนะคร้าบบบ)

Stoplove ฝันรึเปล่าไม่รู้คับ แต่ท่าทางจะฝันดีเนอะคับ ฮ่าๆ

ส่วนคนอื่นๆ ผมเห็นว่ามีความอยากไปเที่ยวเหมือนๆกัน ขอตอบรวดเดียวเลยแล้วกัน

ถ้าอยากไป ว่างๆก็ไปเลยค้าบ อย่ารอพรุ่งนี้ อิอิ ว่าแต่แอบอิจฉาคุณ dokjarn มีกระซิบคนข้างๆ ด้วย  o18

อยากได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับอัมพวาถามได้นะคับ เดี่ยวจัดทริปให้เลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-02-2009 21:10:53
ที่บอกว่า "ไม่ตื่นง่ายๆ"

ไม่กล้าตื่น

หรือ

ไม่อยากตื่น

อันไหนคร้าบบบ หุหุ

ป้อล่อ1...ดีใจคับ ได้อ่านเรื่องของเต้อีก เรื่องที่ 3 แล้วคับ 

ป้อล่อ2...แต่ยังฝังใจกับเรื่องแรก...ความรักแบบคับผม ไม่เสื่อมคลาย (นึกถึงทีไรเหมือนโดนเครื่องปั๊มหัวใจ ปี๊ดดดดด)

 :pig4: ขอบคุณมากหลาย  :pig4: 
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 03-02-2009 00:44:07
(http://media.imeem.com/p/dh60hengnu.jpg)

นี่คือหน้าบ้านที่พักคับ เฮียตี๋นั่นเอง แช่น้ำถ่ายรูป ลงทุนโคตรๆ

(http://media.imeem.com/p/cj0ou_pxyo.jpg)

อันนี้ไอ้เต้เอง เป้นมุมมองจากที่เฮียแกยืนอยู่กลับมาหน้าบ้านพัก ไม่หรู แต่สบายมากๆคับ ลมโชยเย็นสบายโคตร

(http://media.imeem.com/p/sPiB_YdizE.jpg)

สุดท้าย เรือหิ่งห้อย จำได้ว่า ถ่ายหลังจากคุยกับไอ้พี่เคนอิอิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 03-02-2009 01:32:54
ทุกคนหน้าดำหมดเลย อิอิ

ป.ล.เต้มือสวยนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 03-02-2009 01:39:51
เฮียตี๋กะน้องเต้สมกับเป็นพี่น้องกันจริงๆจ้า

หน้าดำเหมือนกันเลย  :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่หก
เริ่มหัวข้อโดย: nookgao ที่ 03-02-2009 20:40:48
มันจะไม่เกินเลย ถ้าพี่เคนไม่คิดจะทำอะไรเกินเลยก่อน :monkeysad:

+1 จ้า อิอิ  :กอด1:


กระซวกคนเขียน อิอิ

V

V

V
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 03-02-2009 20:57:34
คืนที่เจ็ด

“สวัสดีคับผม” เสียงไอ้พี่เคนรับสายผม พูดเพราะเลยเว้ย มาแนวแปลก สุภาพนะคับวันนี้
“คับพี่ ทำไรอยู่เนี่ย”
“พาแม่มาซื้อของ มีไรเปล่าเรา” อ่อถึงว่า น้ำเสียงสุภาพเพราะเดินตามแม่อยู่นี่เอง
“อ่อ พอดีกลับมากทม.แล้ว คิดว่าว่าง ซื้อขนมมาฝากว่าจะแวบๆไปให้คร้าบ”
ผมพูดพร้อมกับหันไปมองเจ้าพวกกล่องขนมหวานทั้งหลาย ขนมเด็กเล่นอะไรทำนองนั้นแหละคับ อิอิ อยากหม่ำๆ
“อ่ะ พี่คงไม่ว่างไปเอาอ่ะ กินไปก่อนเลย เดี๋ยวมันเสียๆ” ดูดิคนเรา อุตส่าห์ซื้อมาฝาก งั้นไอ้เต้ไม่เกรงใจละนะคร้าบบบบ
แกะกล่องไหนหม่ำๆ ก่อนดีน้า แหวกๆ ดูของโปรดก่อนละกัน จะได้ไม่เสียของ

“อ่ะ งั้นไว้เอาอย่างอื่นไปแทนละกัน ขนมมันเสียไว เอาไปแจกจ่ายคนอื่นดีกว่า” (พูดเหมือนซื้อมาเยอะเนาะกรู)
จริงๆถ้าใครเคยไปอัมพวามาแล้วจะรู้ว่าของฝากที่เป็นชิ้นเป็นอันมันมีน้อยคับ ส่วนใหญ่ของกระจุกกระจิก เน้นพวกของกิน
ซื้อทานเล่นที่นั่นเลยจะดีกว่า เพราะกว่าจะกลับมากทม. กว่าจะเอาไปฝากคนอื่นๆ มันจะพาลเสียเอาเสียก่อน สำหรับเจ้าพวกขนมไทยหวานเจี๊ยบทั้งหลาย
“คร้าบๆ แล้วไม่ไปเรียนหรอเรา”
“ไม่มีเรียนคร้าบวันนี้” ก็ว่างนี่ไง ถึงโทรหาคนโน้นคนนี้ เตรียมเอาของไปแจกจ่าย
“อ่อๆ ว่างจริงนะ” นั่น มีการแอบประชด ใครกันแน่ที่ว่าง พาแม่มาเดินห้าง ว่างกว่าอีก ไอ้เต้คิดในใจนะครับ
แต่ไม่กล้าลามปามไปว่าอะไรแม่เขา ยังมีความเป็นเด็กดีมีมารยาทหลงเหลืออยู่ อิอิอิ

“แล้วพี่เคนไม่ทำงานหรอคับวันนี้”
“อ่อไม่อ่ะ แล้วจะออกไปไหนเปล่า”
“คงออกไปกินข้าวเย็นๆมั้งคับ พี่ล่ะ วันครอบครัวหรอคับ อิอิ” แกล้งแซวลูกชายน่ารักเค้าซะหน่อย
“เออใช่ อยู่เอ็มโพเรียมเนี่ย เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้ว”
“คร้าบ งั้นเดินต่อเถอะ ไม่กวนและ”
“คับๆ บายนะ”

ผมวางโทรศัพท์ไว้บนเตียง ก่อนจะมุ่งมั่นกับเจ้าบรรดาขนมต่อ อร่อยๆๆหม่ำๆๆ อ้วนแหงๆถ้าขืนซัดขนมหวานแบบนี้บ่อยๆ
 ไอ้เต้คิด พอกินเสร็จก็เลยวิดพื้น ซิทอัพซะหน่อย หุหุหุ ภารกิจหุ่นดีของไอตัวเล็กคร้าบผม




on MSN
: ดีคับ

Ken: ไง ตกลงไปไหนมาวันนี้

: กินข้าวแถวๆสยามอ่ะแหละ เพิ่งกลับมาคับ

Ken: ไปกินกับหนุ่มที่ไหนล่ะ

: ไม่บอก

Ken: งั้นก็ไม่ถาม

: อิอิ

Ken: แค่นี้นะ

: เอ้า ไรฟะ

Ken: มีหนุ่มๆแล้วนี่คับ

: ฮ่าๆ ล้อเล่น ไปกับเพื่อนนนนนนนนนนนนนนน

Ken: แล้วนี่อยู่ห้อง?

: ใช่แล้ว กลับมานานยังล่ะคับ ผู้ใหญ่ติดแม่

Ken : ก็ดีกว่าเด็กติดหิ่งห้อยละกัน

: กำ ไม่ได้ติดเฟ้ย ไปดูเฉยๆ

Ken: นั่นแหละ เด็กติดหิ่งห้อย ฮ่าๆๆๆ

: ไอ้บ้า

Ken: แล้วไปเป็นไง สนุกมั้ย เล่าให้คนไม่ได้ไปฟังมั่งสิ

: ว่ากันแบบนี้ จะเล่าดีป่าววะ อิอิ

Ken: เออ เล่นตัวงั้นไปนอนละนะ

: เฮ้ย เดี๋ยว แก่แล้วทำใจร้อนไปได้

Ken: ใครแก่ เดี๋ยวโดน

:โอ๊ะๆ กล้วแล้วคร้าบบบบ ก็สนุกดี หิ่งห้อยเต็มเลย แต่ไม่ได้เอามาฝากหรอกนะคับ

Ken: ไม่เป็นไร แล้วถ่ายรูปมาเยอะมั้ย

: ไม่ค่อยเยอะ มันมืดอ่ะ ถ่ายลำบาก

Ken: ไม่มีฝีมืออ่ะดิ

: เอออคร้าบ ไอ้พี่คนเก่ง มีพี่คนหนึ่งในกลุ่ม มีหิ่งห้อยมาเกาะด้วย

Ken: แล้ว..

: ลุงคนขับเรือบอกว่า เกาะแล้วจะเจอเนื้อคู่

Ken : แล้วไม่มีเกาะเรามั่งหรอ

: นั่นดิ ทำไมไม่มีวะ เซ็ง

Ken: คงมีแต่แมลงวัน

: ปากกกก เกาะพี่อ่ะแหละ ปากมอมแบบนี้

Ken: ไปนอนดีกว่า ไม่อยากเถียงกับเด็กติดหิ่งห้อย ฮ่าๆ

:ไปเลย ฝันเดๆ ไอ้ผู้ใหญ่ติดแม่

Ken: เค้าเรียกลูกที่ดี

: คร้าบๆๆๆๆๆๆ

Ken: เด็กบ้า ฝันดีนะ

ผมเหลือบดูเวลา ตีหนึ่งได้แล้ว อีกสักแป๊บผมจึงปิดคอมและไปนอนมั่ง เพราะมันก็สมควรแก่เวลานอนแล้วเหมือนกัน
เค้าบอกว่านอนตอนสี่ทุ่มถึงตีสองดีที่สุด อิอิอิ ถ้าอยากหล่อก็ต้องนอนช่วงนี้เยอะๆอ่ะดิ นอนดีกว่าาาา



.
.
.
สองสามวันต่อมา

“อ่ะ ของฝากคับ” ผมยื่นไอ้ที่หมุนๆ ของเล่นชนิดหนึ่งสมัยก่อน ที่ผมไม่รู้จักชื่อให้พี่เคนที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับ
“ไรเนี่ย เฮ้ย เก็บไวเล่นเองไป๊” พี่เค้าพูดพอหันมาเห็นผมหยิบไอ้เจ้าลูกหมุนๆแกว่งๆนี้ออกมาจากถุง โห่คนเรา เสียน้ำใจหมด
“อ่ะ ไม่เล่นก็เอาไปให้ลูกให้หลานก็ได้นี่” ผมพูดพลางแกล้งทำเสียงเศร้าๆ น้อยใจ หุหุ
“อ่ะ อ่ะ เอามาๆ จริงๆเลยนะเราเนี่ย” ไอ้พี่เคนคว้าไปจากมือผมแล้วไปแกว่งเล่น เสียงแกร่กๆๆๆ
“อ่ะเล่นก็เป็นวะ” เขาพูดขึ้น หลังจากเหวี่ยงหมุนมันอยู่สักพัก (รถจอดอยู่นะคับ ขับไปเล่นไปมีหวังชนแน่)
“เต้ว่ามันเป็นของเล่นพี่วัยเด็ก เลยซื้อมาฝาก” ผมแกล้งแซว เพราะมันเป็นของเล่นยุคเก่าน่าจะราวๆนั้นแหละครับ หรืออาจจะแก่กว่านั้น เรียกว่าเด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักกันแล้วแหละ
“นี่ๆ จะด่าว่าแก่ใช่ป่ะ” แอะ หันมาทำหน้างอนใส่เลย เค้าป่าวด่าน้าาาาาา คิดเองเออเองชัดๆ เลยลุง อิอิอิ แก่ไม่แก่ก็เล่นเป็นล่ะว้า

“ไปๆ ตกลงไปไหนวันนี้” วันนี้ผมแวะมาหาพี่เค้าแถวๆ ที่ทำงาน เพื่อจะเอาของฝากมาให้ เขาก็เลยชวนกินข้าวเย็นต่อ
“กินไรล่ะคับ ผมไม่มีไรอยากกินเป็นพิเศษอ่ะ”
“กินไรดีวะ เออ แถวๆนี้ละกัน ง่ายดี ง่วงๆ เหนื่อยๆวันนี้”
“คร้าบผม” ตามใจเต็มที่คับ ผมมองดูพี่เขาที่ท่าทางเพลียๆ หาวอยู่สองสามรอบ ก่อนจะขับรถออกไปวนหาร้านข้าวกินไม่ใกล้ไม่ไกลจากนี้นัก

“เฮ้ยนี่สั่งแต่เนื้อ ไม่กินผักมั่งเลย” อ่ะ ก็เมื่อกี้บอกเอง อยากกินไรก็สั่ง ผมเงยหน้าไปมองไอ้คนที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ผม แล้วยื่นเมนูไปให้
“ก็ให้เต้สั่ง ก็สั่งที่เต้อยากกินดิ”
“อ่ะๆ ก็ได้ แต่สั่งผักๆมาบ้าง กินแต่เนื้อตอนค่ำๆ เดี๋ยวก็ไม่ย่อยกันพอดี” อ่านะ ผมอายุยี่สิบนะเฮียยยย ระบบเผาผลาญยังทำงานดีอยู่เว้ยย ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้หรอก

“เอาผัดผักรวม ต้มจืดเต้าหูสาหร่ายมาด้วยนะครับ” เสียงอาเฮียแกหันไปสั่งกับคนรับเมนู โห่ ดูดิ แต่ละเมนู ไอ้เต้เงี่ยหูฟังแล้วอยากจะลุกหนี สั่งไรไม่มีความน่ากินเล้ยยยย

“แล้วนี่จะสอบยัง”
“อีกสองอาทิตย์คับ” ผมรู้จักกับพี่เขาตอนสอบมิดเทอมใกล้จะเสร็จ นี่ก็จะสอบไฟนอลแล้ว
“รู้จักกันมาจะเดือนแล้วอ่ะเฮีย ไวเนอะ”
“จะเดือนแล้วหรอ” พี่เขาทำหน้าครุ่นคิด
“เด็กกะโปโลเอ้ย” อยู่ดีๆ ก็ว่าผมแล้วเอื้อมมือมาขยี้หัวเราซะงั้น ผมก็ได้แต่พยายามจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม ห่วงหล่อนะเนี่ยมาขยี้หัวกันทำมายยยย



สักพักข้าวสารอาหารแห้งก็มาวางอยู่เต็มโต๊ะ
“อ่ะนี่ๆ อันนี้อร่อย” ไอ้พี่เคนตักผักรวมให้ผม มีเห็ด กับข้าวโพดอ่อน และก้านคะน้า ฮือๆๆๆ ตักมาทำม้ายยยย สั่งเองกินเองดิวะ แมร่งๆๆ
“ขอบคุณคับ” ไอ้เต้ได้แต่ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี นั่งตักใส่ปากแหมบๆ
“ไงอร่อยป่ะ” นั่น ยังไม่ทันจะเคี้ยวหมด ก็เงยหน้ามาถามด้วยหน้าตาสดใส ราวกับว่าเพิ่งให้ขนมเค้กกระผมงั้นแหละ นั่นน่ะผักล้วนๆเลยนะคร้าบ อย่าเรียกว่าอร่อยเลยจะดีกว่า
“หึหึ ไม่ชอบกินผัก(กู)ก็บอกอยู่ ยังจะถามอีก” ผมรีบจ้วงซี่โครงหมูทอดของโปรดที่เพิ่งมาวางตรงหน้าใส่จานตัวเองทันที นี่ต่างหากที่จะให้น่าถามว่า อร่อยรึเปล่า
“อ่ะๆ งั้นตักหมูให้” ว่าแล้วหมูสับจากต้มจืดสาหร่ายก็มาแหมะอยู่จานผมอีก ก็ยังดีวะ เฮ้ออออ ละเหี่ยใจ

“แล้วตกลงพี่ทำงานไรอ่ะ” ผมถามขึ้น หลังจากเริ่มรู้สึกอิ่ม สมองปลอดโปร่ง
“ก็เปิดร้านแถวๆนี้แหละ” อ่อ แค่เนี๊ยะก็หมดเรื่อง ไม่เห็นต้องทำเป็นมีลับลมคมใน ผมก็พยักหน้ารับทราบแล้วกินต่อ
“อ้าว ไม่อยากรู้หรอร้านอะไร”
“หึ” ผมส่ายหัว ผมว่าบางทีมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวไป ไว้เค้าอยากบอกคงบอกเราเอง เราก็เงียบกันต่อ แต่กลับไม่มีความอึดอัดเข้ามาคั่นกลาง ตกลงผมกับเค้าเป็นอะไรกันหว่า
ผมรู้สึกดี สบายๆ หรือว่ามันเป็นอารมณ์แบบพี่น้อง แต่บางครั้งก็คิดถึงว่ะ แล้วก็ รู้สึกดีๆ สงสัย มากกว่าพี่แต่ไม่ใช่แฟนล่ะมั้งกรู แน่ล่ะ เค้ามีแฟนแล้วนี่คร้าบบบบ

“แล้วถามจริง แฟนพี่เค้าไม่ว่าหรอ มาเจอผมบ่อยๆ”
“ว่าดิ ถ้ารู้” เอ้า ดูคนเราตอบมาได้
“อ้าว” ผมก็ไม่รู้จะพูดไรต่อ
“อยากคุยป่ะล่ะ เดี๋ยวโทรหาให้เลยตอนนี้” ไอ้พี่เคนหันมายิ้มๆ ให้ผม แล้วทำหน้าตาเชิงกวนประสาท เหอะๆ
“เฮ้อ” ผมได้แต่นั่งถอนหายใจ นี่กูทำผิดอยู่สิวะ ผิดใช่ป่ะถ้าเทียบกับมาตรฐานศีลธรรมทางสังคม
“แต่ก่อนพี่ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีคนอื่นนะ แต่พอหลังๆมามันก็มีบ้าง” อืมมมม
“เจ้าชู้เนอะ” ผมแซว ยิ้มๆให้พี่แก
“ก็ไม่ใช่จะเจ้าชู้มันไปทั่วนี่คับ”

พอจ่ายตังค์เสร็จก็ได้เวลากลับ พี่เขาก็ขับรถมาส่งผมที่ห้อง ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากร้านข้าวนั่นเท่าไหร่ อีกอย่างมันก็เป็นทางผ่านไปบ้านเค้าอยู่แล้ว

“ขอมือหน่อยดิ” ประโยคนี้คุ้นๆแฮะ ไอ้เต้หันไปมองก็เจอหน้าพี่เขาหันมายิ้มให้ผม แล้วแบมือตรงหน้า ก่อนผมจะเปิดประตูลงรถ

ผมมองเขาสลับกับมือนั่น นั่งนิ่งอยู่สักพัก

ผมควรจะทำไงดีล่ะ

ผมควรจะเปิดประตูแล้วลงไปเลยใช่มั้ย

ไอ้พี่เคนบ้า ทำไมต้องมาทำแบบนี้ ทำไมคนที่ผมเคยคบมา ไม่เห็นอบอุ่นแบบนี้เลย ผมค่อยๆ ยกมือตัวเองขึ้นไปวางทาบทับบนมือเขา แค่วางไว้เท่านั้น

พี่เขายิ้มให้ กำมันขึ้นหลวมๆ และปล่อยให้มันเป็นอิสระดังเดิม

“ทำไมวันนี้ถึงยอมให้มือพี่ล่ะ หรือว่าไม่มีใครให้จับฮะ” มันใช่เรื่องขำป่ะเนี่ย พูดจบไอ้พี่เคนก็หัวเราะแล้วเอามือมาขยีี้หัวผมต่ออีก ดูๆ เล่นลามปามถึงหัวถึงหู ไม่ใช่หมาเว้ยยย

“ฝันดีนะตัวเล็ก”
“คับ กลับดีๆล่ะ”


ผมยิ้มให้ เปิดประตูลงมาจากรถสีดำคันนั้น เราจากกันอีกครั้ง ...ค่ำ...คืน...นี้


    ___________________________________________
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: Haney ที่ 03-02-2009 20:58:20
^

จิ้มน้องเต้แรงๆ
เวง มาอยู่อีกหน้าซะงั้น

 :เฮ้อ:


ไอ้พี่เคนนี่เป็นหมอดูลายมือรึเปล่า ขอมืออยู่นั่น มารุ่มร่ามกะคนอื่น ตัวเองก็มีแฟนแล้ว ดู่ดู๊
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 03-02-2009 21:09:28
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

จะดี จะหวานไปไหนค่ะ

ทำแบบนี้ไม่ตกหลุมรักก็แย่แล้ว

ตอนนี้คงต้องร้องเพลง "ฉันรักผัวเขา"
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: nookgao ที่ 03-02-2009 21:10:52
อ่านตอนที่เต้คุยเอ็มกับ'ลุง'เคนแล้วยิ้มตาม น่ารักอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 03-02-2009 21:19:17
เอ๊ะพี่เคนนี่ยังไงกัน


ปล.วันนี้เดินเที่ยวเกษตรแฟร์(มอตัวเอง) ได้มะขามมาเยอะ พี่น่านอยากินมั้ย 555 ใครอยากกินไปได้ที่เกษตร บางเขนนะครับ

แล้วคุณจะได้พบกับ กองทัพมะขามมมมมมมมมมมทั้งนั้น มีให้ชิมจนอิ่มเยย  ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 03-02-2009 22:25:25
จะสุขก็ไม่ใช่ จะทุกข์ก็ไม่เชิง...
อิ่มเอม แต่ก็เหงา...อ้างว้าง แต่ก็อบอุ่น
...กลุ้มอ่ะเด้  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 03-02-2009 22:51:28
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

อ่านอีกกี่ตอนกี่ตอนก็ถอนหายใจเหนื่อยใจ

ทำไมความต้องการของหัวใจเราไม่เคยจะหยุด ไม่มีวันอิ่มงั้นหรอ

 :เฮ้อ:

 :กอด1:

 :pig4:

สู้ๆครับผม
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 03-02-2009 22:51:52
...น้องเต้จ๊ะ น้องเต้จะ..ละเมอ... ไปอีกกี่คืนจ๊ะ...
...อยากรู้จัง...เคน..คิดจะทำอะไร...
...คงหา..กิ๊ก...มั้ง... :angry2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-02-2009 22:56:17
อิตาพี่เคน นี่ ทำเอาปั่นป่วนเหมือนกันนะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-02-2009 23:51:14
จะละเมอ...

นานแค่ไหน

ยังไงก็ต้องตื่น

พอตื่นแล้ว....

เหตุการณ์ทั้งหมดก็จะถูกลืมไปเอง

 :pig4: +1 กับคำขอบคุณคับเต้ ลงเรื่องไม่ทิ้งช่วงดี ยังงี้ร้ากตายเยย  :L1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 04-02-2009 00:02:00
เต้เอ๊ย ใจเต้ถลำลึกไปให้พี่เคนแค่ไหนแล้วเนี่ย
ครั้งนี้ยื่นมือให้เค้าด้วย
มันจะต้องปวดใจให้กับการละเมอติดต่อกันรึเปล่านะ
บวก 1 ให้นะจ๊ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 04-02-2009 00:47:16
+1 ให้แล้วนะครับ...
พี่เคนก็นะ ขยันหยอดจริงๆ อบอุ่นอีกตะหาก... :เฮ้อ: ปวดตับแทนเต้จริงๆ
เรื่องแฟนเขาก็ยังคงอึมครึมอยู่นั่นเอง  o22 เฮียแกดูไม่ค่อยอยากพูดถึง ส่วนเต้ก็ไม่อยากจะฟังอยู่ดีล่ะนะ
รอลุ่นต่อไปนะครับ

รูปสวยนะครับ...แต่หน้ามืดไปหน่อยนะจ๊ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 04-02-2009 04:50:46
ชอบคับ

ให้อารมณ์เพ้อๆ ละเมอๆจิงๆด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 04-02-2009 06:51:00
 :L2:  ละเมอ เป็นอาทิตย์ แล้วนะ   

ก็ยังไม่อยากตื่น 
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 04-02-2009 07:30:56
ละเมอครบอาทิตย์แระ
ให้มือเขาจับด้วยด้วย
ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 04-02-2009 08:08:40
ตกลงลุงเคนแกจะหากิ๊กเหรอ  น้องน่าน   :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 04-02-2009 14:17:41
จับมือด้วย :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 04-02-2009 16:03:56
 :impress2: :impress2:
ความสัมพันธ์ที่พัฒนาใน 1 เดือน
เต้นี่น่ารักดีเนาะ อิๆ ดูจากรูปที่หน้าดำอะนะ 555+
แต่พี่เคนก็ดูอบอุ่นดีอะ
ถึงงั้นก็เหอะก็มะเข้าใจในการกระทำของพี่เคนอยู่ดี  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 04-02-2009 16:44:08
พี่เคนจะเคยรุ้จักเต้มาก่อนแล้วรึเปล่า - -"
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 05-02-2009 13:34:08
ละเมอจน +1 ให้

แต่จะเศร้ามั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 05-02-2009 16:57:53
คืนที่แปด



ความเศร้าในเรื่องของผมนั้นคืออะไรหรอ มันเศร้าเพราะเพียงความรักไม่ได้คงอยู่ชั่วนิรันดร์ตาม...ความหวัง...ความปราถนา เหล่านั้นใช่ไหม

ณ วันวาน เมื่อรักจบลงมันทำให้โคตรเสียใจ แน่นอนล่ะ ผมว่าทุกๆคน ก็คงเคยเสียใจ

แต่เมื่อใครคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต เขาทำให้มุมมองชีวิตผมเปลี่ยนไป ทำไมน่ะหรอ คงเพราะเขามีแฟนอยู่แล้วมั้ง ความหวังนั้นมันโดนพังทลายไปทันทีตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
แล้วเมื่อความหวังในอนาคต ไม่อาจจะมีได้ดังแต่ก่อน สิ่งที่มีค่าที่สุด ที่ทำให้เพิ่งรู้สึกได้ ก็คือ วันนี้ไงล่ะ เราจะหวังในสิ่งที่ยังไม่มา มาไม่ถึง จะมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมกัน

หากรักใครสักคนแล้ว เขาทำให้รู้ว่า ก็รักเขาเท่าที่เราทำได้วันนี้นั่นแหละ เพราะคำว่านิรันดรไม่มีจริง

เมื่อมองย้อนหลับไป ที่เคยเสียใจจึงกลับกลายเป็นความสุข

แม้วันนี้ผมกับไอ้พี่เซน จะห่างกันแสนไกล แต่วันวาน จะเป็นความสุขให้เราได้เมื่อนึกถึง

แม้ว่าพี่เกียร์กับผม จะไม่อาจเดินถนนสายเดียวกันได้ แต่เราก็ยังคงเดินคนละทาง แต่หันมามองกันได้เสมอ เมื่อนึกถึงกัน

และสุดท้าย สำหรับใครอีกคน แค่ได้รักก็พอแล้ว

...ผมไม่สัญญาว่าจะรักได้แบบนี้ตลอดไป

...ผมไม่สัญญาว่าจะเป็นคนดีได้ ผมอาจจะทำสิ่งไม่ดี แต่ผมจะเป็นคนรักที่ดี

...ผมไม่สัญญาว่าผมจะไม่รักคุณมากขึ้น แต่ผมจะแค่รัก จะไม่ขอให้คุณรักตอบ

...และผมจะไม่สัญญาอะไร เพราะไม่อยากคาดหวังไว้กับวันพรุ่งนี้ที่ยังมาไม่ถึง

ผมจะรักคุณแค่วันนี้ และถ้าวันใดผมตื่นขึ้นมาไม่เจอคุณในใจตัวเองแล้ว วันนี้จะเป็นความทรงจำสวยงามสำหรับวันนี้ของผมในวันนั้น


...
..
.

“จะสอบแล้วนะไอ้เต้ อ่านหนังสือบ้างยัง” ไอ้แบงค์หันมาถาม ขณะนั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหารคณะอันสุดแสนไม่อร่อย แต่ก็ยังจะกิน
เพราะว่ามันใกล้ที่สุดแล้วสำหรับการเรียนการสอนที่จะมีขึ้นในอีกไม่ถึงสิบนาทีข้างหน้า

“อ่านแล้วๆ พวกมึงล่ะ”
“ยังเลยว่ะ” ไอ้ฟลุคตอบ ตลอดอ่ะมึง เรียนก็ไม่ค่อยมาเรียน ปีสามแล้ว เดี๋ยวก็ได้จบปีห้าหรอกวะ
“เออ อ่านบ้างนะมึง งานก็ไม่ส่ง” ไอ้ทอปหันไปบอกเพื่อน ปีสามแล้วเราก็ไม่ได้เรียนด้วยกันทุกวิชาเหมือนก่อน เพราะเลือกเรียนกันคนละสายด้วย
ซึ่งในกลุ่มผมก็เปรี้ยวตีนมากคับท่าน เรียนคนเดียวเลย ที่เหลือเค้าก็เลือกสายที่มีเพื่อนในกลุ่มเรียนด้วยกันหมด ไม่เป็นไรวะ ชีวิตกูนี่ กูก็ต้องเรียนในสิ่งที่เป็นกูมากที่สุดสิ


แต่วิชานี้เป็นวิชาบังคับของภาควิชา เราก็เลยได้มารวมหัวเรียนด้วยกัน แล้วก็มัวแต่กินข้าว และสุดท้ายก็เข้าเรียนสายกันทั้งแก็งค์เช่นเคย ฮ่าๆ
แม้ว่าความตรงต่อเวลาจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งความเหลวไหลก็คือความสนุกของชีวิตวัยรุ่นที่กำลังจะหมดไปในอีกไม่ช้า สรุปคือไอ้เต้ตั้งใจสายนั่นเอง

“เฮ้ยเต้ นี่มึงเจอพี่เกียร์บ้างป่ะวะ” ไอ้แบงค์หันมาถามผมตอนเรากำลังเดินขึ้นตึก
“อยู่ดีๆ นึกไงถามวะ” ผมยังไม่ได้เล่าเรื่องไอ้พี่เคนให้มันฟังหรอก
“ป่าว กูว่าช่วงนี้มึงดูอารมณ์ดีนะ”
“หรอวะ ฮ่าๆ สงสัยจะได้ 4.00 ว่ะเทอมนี้” ผมทำเป็นกลบเกลื่อน หุหุ
“มึงอย่ามา” โอ้ย พูดไม่พูดป่าวไอ้เพื่อนเลว ตบหัวกูอีกหนิ
“เออ กูไม่ค่อยเจอเค้าหรอก ตั้งแต่เค้าจบ ย้ายออกไป” ใช่คับ ผมปีสามแล้ว ไอ้พี่เกียร์ก็จบแล้วน่ะสิ เพิ่งจบไปนี่ล่ะคับ
เทอมนี้ ข้างห้องผมก็เลยเป็นสาวที่ไหนมาอยู่ไม่รู้ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร
“เออ แล้วมึงไม่คิดย้ายหอบ้างหรอวะ” ไอ้แบงค์ถามต่อ จริงๆมันถามบ่อยแล้วล่ะ ตั้งแต่ผมเลิกกับไอ้พี่เกียร์
“ย้ายไปไหนวะ กูก็ไม่ค่อยจะอยู่” นั่นสิ ปกติเดี๋ยวนี้ผมไปค้างที่บ้าน ไปนอนคอนโดพี่ตี๋กับพวกพี่ๆ บ่อยจะตาย บางทีก็ไปค้างลาดกระบังโน่นเลย
ห้องตัวเองจะอยู่เต็มวันสักวันนี่ เดือนละครั้งได้มั้ง
“เออ อีกปีครึ่งเอง ไวว่ะ เดี๋ยวก็จบแล้ว” ไอ้แบงค์พูดเบาๆ ไวเนาะ ทุกสิ่งทุกอย่าง  แล้วเราสองคนก็ไปร่วมวงสนทนากับคนอื่นๆต่อ เมื่อเข้าไปในลิฟต์ และมุ่งตรงไปยังห้องเรียน

“เจอกันวันสอบเว้ย อ่านหนังสือกันเยอะๆล่ะพวกมึง หนังที่เค้าสั่งให้ดูก็ไปหาดูกันซะ อย่าดูเช้า สอบบ่าย”
ผมบอกพวกเพื่อนตัวดีทั้งหลาย ที่ชอบมาควานหาหนังเรื่องที่จะออกสอบ ตอนที่จะสอบแล้ว แล้วมันก็จะบ่นกันว่า ดูไม่ทัน
“เออๆ” ไอ้พวกคุณเพื่อนทั้งหลาย ทำหน้าเบื่อเซ็งกับสิ่งที่ผมพูด
“แล้วมึงไปไหนต่อวะ” ไอ้ทอปถามผม เป็นที่รู้กันดีในกลุ่มว่า เรียนเสร็จแล้วผมมักจะไม่กลับห้องเลยทันที ต้องมีเถลไถล
“ไปสยามว่ะ ว่าจะไปดูหนัง”
“ดูเรื่องไรวะ”
“วอลอีมั้ง” กำลังอยากดูๆ แต่ยังไม่ได้เชครอบเลยสิครับ เดี่ยวคงไปเดินๆหาดูตามโรงแถวนั้นว่ามีรอบไหนมั่ง
“ว่อลลลลอี้” ฮ่าๆ ไอ้บ้าแบงค์ ทำเสียงเหมือนไอ้หุ่นกระป๋องในเรื่อง ผมก็เลยแกล้งทำหลับใส่มันมั่ง ว่อลลลลลลลลลลลอี




“ดีคับ” ผมรับสายขณะกำลังเดินเล่นอยู่แถวสยาม
“ไม่ต้องมาพูดเพราะ กูเองๆ” ไอ้พลนั่นเอง สงสัยเอาเบอร์พี่ที่ออฟฟิศมันโทรมา
“อ่อ ไงเพิ่งเลิกงานหรอมึง”
“เออใช่ อยู่ไหนๆ” ผมบอกมันไว้เมื่อคืนในเอ็ม ว่าไม่แน่วันนี้จะมาสยาม มันก็เลยคงโทรมาเผื่อจะตามมา (บ้านมันอยู่นี่ มาทุกวัน ฮ่าๆ)
“สยาม มาป่ะวันนี้” ไอ้พลมันแก่กว่าผมนะคับ แต่ว่าทำไมไม่เรียกมันพี่ไม่รู้ สงสัยเพราะหน้าผมแก่เท่ามันแล้วมั้ง เลยเห็นว่ารุ่่นเดียวกัน
“ไปๆ เดี๋ยวนั่งบีทีเอสเข้าไปละ รอแถวลานน้ำพุละกัน”
“เออ ได้ๆ ไม่ต้องรีบนะ ฮ่าๆๆ”

เจรจากันเรียบร้อย ไอ้เต้ก็วางสายแล้วเดินไปนั่งรอแถวลานน้ำพุ นี่ถ้าเป็นสมัยผมอยู่ม.ปลาย คำว่าลานน้ำพุ
คงหมายถึงน้ำพุกลางลานเซนเตอร์พอยท์ที่กลายเป็นเพียงอดีตไปแล้วนั้น แต่ลานน้ำพุในวันนี้
ก็คือลานน้ำพุหน้าห้างเครือเดอะมอลล์ที่พยายามปรุงแต่งจนหรูหรา(รึเปล่า) ลานน้ำพุหน้าพารากอนนั่นเอง (แอบว่าห้างเค้าเล็กน้อย แต่ก็ยังไปเดินเนอะกู)

“อ่ะๆ กินไรยังวะ” ผมทักไอ้พลที่เดินมาแต่สายตามองรอบข้างตลอดเวลา (มันชอบมองคนน่ารักๆ)
“ยังๆ”
“เออ เหมือนกัน ไปกินที่เซ็นเวิลป่ะ” พอพูดจบมันก็ทำหน้าเซ็งเป็ดทันที มันคงรู้ว่ามาเจอผมทีไร นัดเจอสยาม
แต่ชอบเดินถ่อไปกินข้าวที่เซ็นเวิลทุกที ก็ร้านอาหารมันน่ากินกว่านี่คับ มีร้านโปรดไอ้เต้อยู่หลายร้าน
“ตลอด แล้วทำไมมึงไม่ให้กูลงชิดลมวะ” บ่นจริงๆไอ้พลเมิง ยังไม่ทันแก่เลย พึมพำๆ
“เออออ จะไปไม่ไป”
“ไป” แค่เนี่ยะ สั้นๆง่ายๆ แต่ได้ใจความ

แล้วผมกับมันก็เดินกันไป สายตามองสองข้างทางไปเรื่อยๆฮ่าๆๆๆๆ อาหารตาอิ่มเลย

“เฮ้ยไอ้เต้ดูคนนั้นดิ น่ารักวะ” ไอ้พลเรียกให้ผมดูหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบที่เดินสวนกับเราไป จนมันหันมองคอแทบเคล็ด
“ไม่ชอบว่ะ หรูเกิ๊น” ผมมองไปดูแล้วก็เฉยๆ
“มึงนี่ บอกว่าให้เปลี่ยนเทรนด์มาชอบแนวหรูๆ ไม่ชอบอยู่ได้ ไอ้พวกเซอร์ๆเซ่อๆ” ดูมัน ว่ากูหรอ กูก็เซอนะถึงจะไม่เซ่อก็ตาม
“เออน่ะ กูชอบของกูนี่” แต่ในหัวผมก็มีภาพหนุ่มหรูคนนึงลอยมา แล้วทำไมไอ้พี่เคนมันไม่ได้เซอร์เลย ดูดีขนาดนั้น กูชอบไปได้ไงวะ

“แล้วนี่มึงเมื่อไหร่จะมีแฟน กูหาให้เอาป่ะ” ไอ้พล กูรู้ว่าเด็กมึงเยอะ แต่ไม่เป็นไร ขอบใจ
“เออ กูยังไม่อยากมี อยากโสดๆก่อน สบายใจดี” หรือจริงๆอยากมีแต่ว่าเป็นไปไม่ได้วะ ไม่แน่ใจตัวเองว่ะ ฮ่าๆ ผมเผลอยิ้มออกมา
“มึงเป็นไรหน้าแดง” อ้าว สงสัยไม่ได้เผลอยิ้มอย่างเดียวแล้ว
“เออ ไว้ถึงเวลาละกูจะเล่าให้ฟัง” ผมหันไปบอกมัน แล้วก็เดินไปร้านข้าวอย่างอารมณ์ดี ไม่ใช่กูไม่อยากเล่านะ แต่ว่า เรื่องแบบนี้ มันก็ไม่น่าให้ใครฟังสักเท่าไหร่นี่หว่า

   _________________________________________


หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 05-02-2009 17:08:03
 :z13:
จิ้มเต้อิๆ
งะข้ามหน้าซะงั้นเหอะ  :เฮ้อ:
อ่านตอนนี้แล้วให้ความรู้ในช่วงต้นว่าหว้าเหว่เดียวดายแต่หากก็ยังมีความทรงจำดีๆให้หวนถึง
พออ่านไปเรื่อยๆก็ทำให้สบายใจขึ้นว่าอย่างน้อยเราก็ไม่โดดเดียวเดียวดายในชีวิต
ยังมีเพื่อน พี่ๆรู้จัก และเพื่อนข้างนอกที่ดีๆอีกมากมาย
ถึงยังงั้นเองเราก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่มีความสุขได้แม้จะเป็นแค่เพียงรักเค้าฝ่ายเดียวก็ตามที
อ่านแล้วชอบประโยคนี้จังงะ
ผมจะรักคุณแค่วันนี้ และถ้าวันใดผมตื่นขึ้นมาไม่เจอคุณในใจตัวเองแล้ว
วันนี้จะเป็นความทรงจำสวยงามสำหรับวันนี้ของผมในวันนั้น  

+1ให้เลยคราบชอบมากๆอ่านแล้วได้อะไรเยอะดี อิๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 05-02-2009 17:39:03
 :z13: น้องนิว

ตามน้องนิวมาอ่าน

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 05-02-2009 17:46:30
ตอนนี้เหงาๆไงไม่รู้ะ

เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 05-02-2009 18:12:27
โหมดคิดถึง  :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 05-02-2009 18:27:22
ไม่ซึม
ไม่เศร้า
เหงานิดๆ
แต่รักเนอะ

บวก 1 ให้นะจ๊ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 05-02-2009 18:37:08
ไม่เจอรัก


ไม่พรัดพราก


ไม่จากกัน


ไม่ใช่ฝัน

เเล้วนี้มันคืออารายยยยยยยยยยยยยยย :beat: :z6:


 :เฮ้อ:


+1 ครับผม
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: nookgao ที่ 05-02-2009 19:31:31
ละเมอมาหลายคืนแล้ว

ไม่อยากหายละเมอบ้างเหรอ อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 05-02-2009 20:01:18
แค่คิดถึงก็หน้าแดงเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 05-02-2009 20:45:55
อ้างถึง
หากรักใครสักคนแล้ว เขาทำให้รู้ว่า ก็รักเขาเท่าที่เราทำได้วันนี้นั่นแหละ เพราะคำว่านิรันดรไม่มีจริง

ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-02-2009 21:26:44
เข้ามาซึมซับ

มุมมองความรักของเต้

 :pig4:ขอบคุณคับ เต้   :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 05-02-2009 22:18:28
ละเมอกันต่อไป หุหุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 05-02-2009 23:18:47
 :L2:เป็นกำลังใจ  :a1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 05-02-2009 23:32:14
ขอบคุณสำหรับกำลังใจคับ ไม่ได้ละเมอกันต่อไปน้าาา ฮ่าๆๆ อยากให้ตื่นไวไว ก็แสดงว่าต้องจบเรื่องไวไวดิเนี่ย ว้าๆ

หวังว่ามุมมองของไอ้เต้มันจะมีประโยชน์มากกว่าโทา สำหรับเดือนแห่งความรักนี้นะค้าบ


หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 06-02-2009 00:48:43
อย่าเพิ่งรีบจบนะคุณน่าน..ยังอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ อยู่เลย
อยากรู้ต่อไปว่าพี่เคนจะเอายังไงกันแน่  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-02-2009 00:56:37
จะต้องตื่นขึ้นมาแล้วเหรอ  แต่ยังอยากจะ ละเมอ ต่อไปนะเนี่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 06-02-2009 01:23:57
อ่านมุมมองความรักของเต้แล้ว  +1 

ถ้าต้องตื่นมาแบบเศร้า ๆ ก็มะห่วงแระ  ^__^

ขอบคุณคนเขียนนะครับ   :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: twin2g ที่ 06-02-2009 02:36:06
ชอบประโยคนี้เหมือนกัน
" ผมจะรักคุณแค่วันนี้ และถ้าวันใดผมตื่นขึ้นมาไม่เจอคุณในใจตัวเองแล้ว วันนี้จะเป็นความทรงจำสวยงามสำหรับวันนี้ของผมในวันนั้น "

โดยเฉพาะ "ผมจะรักคุณแค่วันนี้"
เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ประทับใจ

ไม่รู้ว่า ตื่ น   ฝัน   หรือ  ล ะ เ ม อ
ตอนไหนจะดีกว่ากัน :m15:


+1 ให้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 07-02-2009 12:43:15
พอดีสองสามวันนี้มีนัดต้องไปโน่นมานี่เยอะ เลยลงขาดๆช่วงไปบ้าง ตามประสาช่วงวันหยุดยาวอ่ะเนอะ โทดทีนะคับ   :-[

เมื่อวานไปแวะตลาดดอนหวายมา อิ่มมากกับขนมหวาน อ้วนแน่ๆ งานนี้ต้องอกกำลังกายกันซะแล้ว  :pigha2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 07-02-2009 13:47:17
ฟิต...ฟิต...ฟิต

ออกกำลังกาย...

ได้ประโยชน์หลาย

รีดเหงื่อ...กล้ามเนื้อแข็ง...แบ่งกันสนุก   :m11:  ฮ่าฮ่า   :laugh:

อย่างน้อยก็ 3  หุหุ   :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 08-02-2009 00:49:12
ไปดอนหวายมาเหรอครับ...อยากกินเป็ดพะโล้จัง  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 08-02-2009 15:11:11
เข้ามารอละเมอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 08-02-2009 21:27:40
แต่ฉานนนเพิ่งไปวันนี้  :laugh:
ไหว้พระ 9 วัดกลับมาเหนื่อยมากกกกกกก
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 09-02-2009 00:00:52


.
.
.


อิเจ๊ ... เอ๊ยเฮีย !
หลงมิวเซี่ยมสยามเหรอวะครับ =[]=;
ไหนบอกดูเสร็จแล้วจะโทรมาไง เชอะเชอะ !


:(
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 09-02-2009 00:06:48
น่ารักดีคับ แอบเห็นใจ :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่แปด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 09-02-2009 15:15:02
โทดทีคับหายไปหลายวัน พอดี ไม่ได้เล่นเนทเลยสองสามวัน ที่บอกว่าต้องไปโน่นมานี่ พาคุณแม่ไปไหว้พระวัดโพธิ์มาด้วย ร้อนมักๆ แต่พอไป museum of siam ก็เย็นลงหน่อย แถมได้เจอคู่รักเกย์คู่นึง น่ารักเหมาะสมกันดี เฮ้ออออ อิจจ๋าาาาา วาเลนไทน์แล้ว แม่ง อยู่คนเดียวง่ะปีนี้ เซ้งงง โสดสโมสรต้อนรับกระผมมั้ยคร้าบบบบ  :pig2:

.............................................................


คืนที่เก้า




“แน่ใจนะ”
“คับ”
งั้น...แทงลงไปละนะ”
...
..
.
อึ๊ก อ๊อก

“เบาๆหน่อยดิค้าบบบ เจ็บอ่า”
“นิดเดียวเอง ทนหน่อยสิคับ”
“แหะๆ โอ้ยยย”
“เฮ้ย เต้อย่าร้องดิ ตกใจหมด”
“ก็เต้เจ็บอ่า พี่เคนๆเบาๆดิ”
“เบาแล้วๆ อยู่เฉยๆนะคร้าบบบเด็กน้อย”
“จะเสร็จยังอ่ะ”
“แป๊บๆ ใจร้อนจริง”
“เสร็จยางงงงงง”
“อ่ะๆ อีกนิดเดียวคับผม”
“พี่เคนน เสร็จยางงง”
“อ่ะ อ่ะ เสร็จแล้วคร้าบบบบ เฮ้อ” เสียงไอ้พี่เคนถอนหายใจก่อนจะทิ้งตัวไปนั่งตามเดิม

การเจาะหูมันช่างยากเย็นจริงๆเล้ยยย ไอ้เต้กระเถิบเอี้ยวตัวไปมองกระจกรถ โดยไอ้พี่เคนนั่งหัวเราะ ยิ้มเล็กยิ้มใหญ่อยู่เบาะคนขับ

“คราวหลังก็ให้ร้านเขาเจาะให้เลยดิ” ไอ้พี่เคนนั่งทำหน้าเคร่งเครียด มองกระจกรถ สลับกับหูนายเต้

“น่ากลัว เจาะใครมั่งก็ไม่รู้ เฮียว่าเจาะหูซ้ายแบบนี้ดีหรอ”
“เออ ไม่ดีก็เจาะข้างใหม่” โห แค่ข้างเดียวก็จะตายห่าอยู่แล้วเว้ย ใครจะบ้าจี้เจาะบ่อยๆ เจ็บโคตรๆ

“เจ็บว่ะ”
“อะไรวะ เจาะแรกๆมันต้องชาดิ” นั่น รู้ดีกว่าคนเจ็บอีก เชื่อเค้าเลยจริงๆ
ผมเอนตัวทิ้งลงมาพิงเบาะ ถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ไป กลับดีกว่า ค่ำแล้ว”
“ยังเจ็บอยู่เลยอ่ะ” ผมไม่ได้ตั้งใจอ้อนนะ แต่เจ็บๆอยู่ ยังไม่อยากกลับหนิ
“งั้นจะไปไหนล่ะ พรุ่งนี้สอบอีกนะเรา” เออลืมไปเลยว่าสอบพรุ่งนี้ มากินข้าว แวะซื้อโน่นซื้อนี่
จนสุดท้ายมาเจอจิวสีดำถูกใจ เลยอยากลองเจาะหูดูบ้าง หาเรื่องเจ็บตัวจริงๆเลย อยุ่ดีไม่ว่าดี ไอ้พี่เคนก็เชียร์นักเชียร์หนา แกล้งกันรึเปล่าวะเนี่ย

“กลับก็ได้” ผมพูด
“อ่ะ งอนอีก เฮ้ออ” งอนไรวะ ไอ้เต้ก็บอกว่ากลับก็ได้ ป่าวงอนนะเฟ้ย
“อ่ะ ก็บอกว่ากลับก็ได้” ต้องให้ย้ำอีก
“นั่น งอนจนปากเชิดแล้ว ไอ้ตัวเล็ก”
“ป่าวเว้ย คนมันเจ็บ มันก็อารมณ์ไม่ค่อยดีอ่ะดิ”
“เหอะๆคร้าบๆ โอเค งั้นกลับก็กลับ พาไปขับวนเล่นรอบนึงก่อนดีป่ะ”
“ดีคร้าบบบ”
“นั่นไง ยิ้มออกละสิ ฮ่าๆ” พี่เขาหัวเราะชอบใจ แกล้งกันอ่ะ ถนัดนักนะไอ้บ้า
“ป่าว” ใครยิ้ม ไม่ได้ยิ้มซะหน่อย อิอิอิ และแล้วไอ้พี่เคนก็ขับรถวนออกไปจากลานจอดรถแห่งเดิม

“พรุ่งนี้สอบวิชาไรอ่ะ” ไอ้พี่เคนหันมาถาม ขณะขับรถไปเรื่อยๆ
“วิชานอกคณะอ่ะคับ พื้นฐานๆทั่วๆไป ไม่มีไรมาก” ผมตอบ ความสนใจยังอยู่ที่ติ่งหูซ้าย ข้างเดียวกับหัวใจ อิอิ เกี่ยวกันมั้ย
“คร้าบบ พ่อคนเก่ง รีบกลับไปอ่านหนังสือซะล่ะ” พูดจบมือนั้นก็ลูบหัวผมแล้วขยี้เบาๆเหมือนเคย
ผมหันไปยิ้มให้พยักหน้าเล็กน้อยว่าตกลงและจะรับฟังไปปฏิบัติ แล้วไอ้พี่บ้าก็เคาะหัวผมซะงั้น ฮึ่ยย เป็นเด็กดีก็ยังเจ็บตัวอีก ทั้งขึ้นทั้งล่องเลยเว้ย

“แล้วพรุ่งนี้สอบเช้าป่ะ” ไอ้พี่หันมาถามผมหลังจากเราเงียบกันไปสักพักแล้ว
“คับ เก้าโมง” หยิบของที่ซื้อมาเมื่อกี้มาดู ก็ไม่มีไรมากหรอกคับ พวกสร้อย แล้วก็ของง๊องแง๊งๆ
“แล้วจะตื่นทันมั้ยเนี่ย” เฮียแกพูดเหมือนรู้ทัน
“ทันดิ๊ ระดับไหนแล้ว” หึหึหึ เกือบไปไม่ทันมาหลายรอบแล้วไม่อยากจะคุยเว้ยยย
“หึหึ แล้วจะรอฟังรายงานข่าวว่าต้องลงใหม่นะ ฮ่าๆ” อ่ะโห ดูถูกแบบนี้ ไอ้เต้จะไปถึงมันซะตั้งแต่แปดโมงเลยคอยดู ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ หึ
(ว่าแต่มันสำคัญตรงลูกผู้ชาย(แท้)นี่ล่ะ เง้อ)

“อ่ะ พี่เคนอ่ะ มองเต้เป็นเด็กเลวตลอด”
“เฮ้ยป่าวๆ เด็กดี ดีโคตรๆ ก็แค่เห็นท่าทางเราจะตื่นสาย”
“หึหึ” มีตาและมีแววจริงๆนะเนี่ย ก็แน่ล่ะ เด็กสมัยนี้เค้าก็นิยมแฟชั่นตื่นสายตื่นบ่ายกันทั้งนั้น ใครตื่นก่อนเก้าโมงทุกวันเป็นประจำ แสดงว่าเนิร์ดแอนด์เชย ไม่อินๆ
“ใช่ซอยนี้ป่ะ” ไอ้พี่เคนหันมายิ้มแล้วถามผม
“จำไม่ได้แล้วหรอ”
“นั่น ปากเชิดอีกแล้ว ตัวเล็ก” พูดจบก็หัวเราะผมอีกละ แม่ม เยาะเย้ยไรกันนักหนา ไม่เคยงอนบ้างให้มันรู้ไป
“ส่งปากซอยละกัน ลงตรงนี้ล่ะ”
“อ้าววว ตกลงซอยนี้หรอ มาไม่กี่ครั้ง ใครจะจำได้เล่า มีตั้งหลายซอย” กวนตีนนี่ถนัดนักนะ ถ้าไม่แก่ มีต่อยแน่ๆ ไอ้เฮียบ้าาาาา
ไอ้เต้นั่งนิ่ง จนถึงหน้าตึก
“หวัดดีคับ กลับบ้านดีดีล่ะ ขอบคุณที่มาส่ง” พูดจบก็เปิดประตูลงจากรถ เดินขึ้นหอเลย ไม่อยากจะหันไปมอง จนมาถึงบนห้องนั่นล่ะ
ไอ้เต้ก็อดไม่ได้ที่จะชะเง้อดูที่หน้าต่างกระจก แต่ก็ต้องผิดหวัง ไม่เห็นรถเก๋งสีดำคันนั้นเสียแล้ว เค้าคงไม่ได้สนใจอะไรเราหรอก
มึงลืมซะเถอะ เฮ้ออออ เค้าก็มาส่งตามขอบเขตความรับผิดชอบนั่นแหละ อาบน้ำนอนได้แล้วไป๊ ไอ้โง่เต้ ไอ้ฟายยยน้อยยย
ว่าแล้วก็ได้แต่นั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก และสนใจกับหูตัวเองต่อ

ยิ่งอารมณ์หงุดหงิดไอ้พี่เคนสงบลง ความเจ็บก็ยิ่งมากขึ้นๆ เฮ้อออ เจ็บตัว แล้วยังเจ็บใจอีก อาบน้ำเสร็จแล้วก็ไปเดินเอาหนังสือวิชาที่จะสอบมานั่งเปิดผ่านๆ
อ่านไปแล้วหนึ่งรอบ อีกรอบ ไม่มีอารมณ์อ่านและแม่งเอ้ย เซ็ง เครียด เปิดเนทดีกว่า

Ken: ไง ยังไม่นอนอีก

:ห้าทุ่มคร่ึงเอง

Ken: เออ ขอให้ตื่นไม่ทัน

: ไอ้บ้า

Ken: อ้าว ให้พรกันอีก

: แล้วพี่เคนไม่นอนล่ะคร้าบ ออนหาเด็กป่านนี้

Ken: นั่นสิ เด็กดีๆเค้าไปนอนกันหมดแล้ว เซ็งเลย
: ผู้ใหญ่ดีๆ เค้าก็ไม่ออนกันตอนนี้เหมือนกัน

Ken: หรอ พอดีพี่มันไม่ดี รู้ตัว

: ไอ้บ้า ไปนอนละนะ

Ken: อยากเป็นเด็กดีหรอค้าบ

: ป่าว เบื่อผู้ใหญ่ไม่ดีต่างหาก

Ken: ว้า เบื่อกันซะแล้ว

: ไม่ใช่อย่างนั้นเว้ย

Ken: อย่างไหน งง พูดไรค่อยรู้เรื่องนะเรา

:ไม่รู้ นอนละ มาชวนคุยดึกๆ ตื่นสายรับผิดชอบด้วย

Ken: เอ้า เรื่องไรของพี่วะ เด็กบ้า

: ผู้ใหญ่บ้า ฝันดี

Ken: ฝันเปียกล่ะ

ยังไม่ทันที่ไอ้เต้จะพิมพ์ด่ากลับ ไอ้พี่เคนก็ออฟไลน์ไปเสียแล้ว ไรวะ ออนทีหลัง นอนก่อน แม่งเอาเปรียบกันเห็นๆ
แล้วไอ้เต้ก็ปิดคอมไปนอนอย่างหงุดหงิดงุ่นง่านพาลให้สอบได้ เอิ๊กๆ

.
..
...เอ กี่โมงแล้วหว่า

ทำไมแดดแรงจัง ตั้งนาฬิกาปลุกมือถือไว้เจ็ดครึ่งนี่นา นี่มันยังไม่ดังเลย ไหนๆ ว่าแล้วไอ้เต้ก็เอื้อมมือไปควานๆหาโทรศัพท์ กี่โมงแล้วน้าาา

ทันทีที่สายตางัวเงียเห็นเลขบนหน้าจอมือถือเท่านั้นแหละ ไอ้เต้ก็ตื่นและเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงนอนหนานุ่มด้วยระบบอัตโนมัติ เหี้ยแล้วไงกู แปดโมงสี่สิบห้า

นาฬิกาทำไมไม่ปลุกกูวะ หรือปลุกแล้วกูไม่ตื่น ยังไงกันแน่วะ ช่างแม่งก่อน ตอนนี้ คิดก่อนดีกว่า ทำยังไงไปสอบให้ทัน เพราะไอ้พี่เคนคนเดียว ทำตูสายยย ฮึ่มม
ลุกไปดูกระจกจะล้างหน้า ก็พบว่าอาการหน่วงๆเจ็บๆที่ติ่งหูซ้ายนั้น เพราะการอักเสบนั่นเอง โอยยย เจ็บเฟ้ยยย สงสัยเพราะนอนทับทั้งคืนมั้งเนี่ยยย
ทำไงดีๆ ว่าแล้วไอ้เต้ก็พยายามจะถอดจิวสีดำเฮงซวยนั่นทิ้งไปซะ ไม่ใส่มันแล้ว ยากเย็นจริงๆ กะอีแค่อยากหล่อแค่เนี๊ยะ

หนึ่ง สอง สาม โอ๊ยยยย ผมเผลอตัวร้องออกมาอย่างดัง ใครจะรู้ว่ามันเจ็บขนาดไหน ตอนเจาะเจ็บเท่าไหร่ ตอนเอาออกเจ็บกว่าหลายร้อยเท่า ฮือๆๆ นั่งน้ำตาซึมได้ไม่นาน
ก็รีบอาบน้ำแต่งตัวภายในเวลาจำกัด ราวกับมีนกหวีดสั่งให้อาบภายในเวลาแบบเข้าค่ายงั้นแหละ



“หวัดดี ว่าไงค้าบ” รับสายเสียงซะเพราะ หมันไส้จริงๆ
“ไอ้เฮียบ้า วันนี้มาสอบสายเลย เจ็บหูด้วย” ผมโทรไปหาไอ้พี่เคนหลังจากสอบเสร็จ ไม่รู้เพราะอยากด่า หรืออยากได้ยินเสียง หรืออะไรก็ช่าง ไม่รู้ไม่ชี้ เง้อออ
“เอ้า ด่ากันเลยซะงั้น ความผิดใครกันเนี่ยฮะ” จำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหา แย่จริงๆ หงุดหงิดต่อไปอีก
“ก็เต้ตื่นสายอ่ะ”
“ฮ่าๆ ว่าแล้ว โตแล้ว หัดรับผิดชอบซะมั่งสิ” อ้าวว นี่ถ้าเป็นคนอื่นเค้าคงมีคำหวานปลอบใจกันแล้ว ไรวะ มาซ้ำเติมอีก
“ก็นาฬิกามันไม่ปลุกนี่คับ”
“ก็หาเรื่องอ้างได้ตลอดแหละคนเรา ความผิดใครคิดเอาเองละกัน”
“ไอ้บ้า เจ็บหูด้วยนะ”
“เจ็บมากหรอ จิวอันแค่นั้นเองนะ” อ่ะ แค่ไหนก็เจ็บทั้งนั้นแหละ
“เต้ดึงออกไปแล้วด้วยเมื่อเช้า เลือดไหลเต็มเลยอ่ะ” จริงๆมันแค่ซึมๆ แต่ต้องโอเวอร์หน่อย อิอิอิ
“อย่ามา แผลแค่นั้น ไปซื้อยามาทา วันสองวันมันก็หายอักเสบแล้ว อย่าให้โดนน้ำ สอบเสร็จก็ไปแวะซื้อซะเลย”
“คับ” งอนนะแต่ไม่กล้าบอก อิอิอิ
“แล้วตื่นสาย ได้กินไรรึยังเรา”
“ยังคับ ไม่กินแล้วมั้ง”
“เอ้า ตามใจ ไม่รักตัวเองแล้วจะมีใครเค้ารักมั้ยเนี่ย ไอ้ตัวเล็ก”
“ไอ้บ้า แล้วกินไรยังคับ” ปากก็คุยไป สองเท้าไอ้เต้เดินมุ่งตรงไปยังโรงอาหารมหาลัยเรียบร้อย หุหุ
“กินแล้ว เดี๋ยวจะไปทำงานต่อแล้ว ไปไหนต่อเปล่าเนี่ยะ”
“ไม่รู้อ่ะคับ คงไปตามทางแหละ”
“ฮ่าๆ เป็นหมาน้อยหลงทางหรอ”
“ฮ่าๆ” อยู่ดีๆ ผมก็ตลกกับคำพูดนั่น
“ยิ้มได้ล่ะสิ พี่ไปทำงานก่อนนะ” นั่นรู้ทันอีก มีตาทิพย์รึไงวะ
“คับๆ ไปเถอะ อืมมม คิดถึงนะคับ” อยู่ดีๆ ผมก็ไม่รุ้จะคุยไร เลยพูดไรบ้าๆบอๆ ไปซะงั้น อย่าถือสากันเลยนะเฮีย
“คิดถึงกัน ก็ต้องกินข้าวเยอะๆ แล้วไปหายามากินด้วยนะ พี่ไม่ชอบคิดถึงเด็กดื้อ” ง่ะ
“คับผมมม” ผมลากเสียงยาว แต่ก็กะว่าคงทำตามแหละ ไมไ่ด้เชื่อฟังหรอกนะคับ แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะกินข้าวกินยา
“ดีมาก บายนะ”
“บายคับ”

คุยจบผมก็มายืนอยู่ตรงหน้าร้านข้าวหน้าเป็ดพอดี โดยที่ไอ้คุณเพื่อนๆ ก็มานั่งรอที่โต๊ะกันอยู่ก่อนแล้ว ร้านนี้อร่อยคับ แถมหิวๆ แบบนี้ ไอ้เต้ก็เลยส่งเสียงใสเจื้อยแจ้วสั่ง

“ข้าวหน้าเป็ดพิเศษจานนึง เพิ่มใข่สองฟอง ไม่เอาขิงดองนะคับ”

   __________________________________________



หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 09-02-2009 15:33:38
 :กอด1:


พี่น่าน โอ๋ๆ อย่างคิดมากครับ คนมีคู่ไม่รู้หรอก(เเต่ผมมีคู่ผมก็รู้นะ :-[ :o8:)


ขึ้นรเรื่องนึกว่าจะไปกระจึ๋ยๆ กานละ

เเต่ไงเป็นเจาหูซะงั้น หวานน่ารัก ^^"

พี่เคนน่ารักมากมาย เต้ก็ติ๊งต๊องได้ใจ


 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 09-02-2009 15:37:08
อ่านทีแรกนึกว่าทำไรกัน หึหึ :z1:

ผิดคาด แค่เจาะหู T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 09-02-2009 15:42:06
พี่เคนกับน้องเต้ ก็ยังน่ารักกันต่อไป  :-[
แต่เสียดายนะ ทนเจ็บเจาะหู แล้วก็เอาออกซะงั้น :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 09-02-2009 15:43:18
 :z13:
จิ้มตูดพี่อิม
 :เฮ้อ:
อ่านตอนแรกตกใจหมดคิดว่าเฮ้ยไรว้าได้กันแล้วหรอจะรออ่าน NC ต่อ
พอกดลงมาดูเรื่อยๆ เจาหูซะง้านอะเซ็งเลย  :seng2ped:
 :m16: :m16: :m16: หลอกให้อยากนะเนี่ย อิๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 09-02-2009 16:05:03
ดักผุ้คนได้เยอะนะเนี่ย -*-
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: naix ที่ 09-02-2009 16:35:04
โสดสโมยินดีต้อนรับ!! วันวาเลนไทน์นะตัวเล็ก หุหุ :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 09-02-2009 18:06:32
ทำไมไม่กินขิงดอง
อร่อยดีนะ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 09-02-2009 19:54:43
ไข่ตั้งสองฟอง อิอิ

เด๋วไม่ได้เข้ามาอีกหลายวันเยย

ขี้เกียจเอาโน๊ตกลับหอ แง๊

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 09-02-2009 21:16:20
เจาะหูได้เสียวมากค่ะ

อยากไปเจาะกับพี่เคนจังเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 09-02-2009 22:42:44
คืนที่เก้ามาแร้วววว....โธ่หลงให้คิดว่าพี่เคนทำอะไรเต้ซะแล้ว ที่แท้ก็เจาะหู  :o8:
ว่าแล้วก็อยากเจาะมั่ง...ท่าทางจะเจ็บจริงๆ นะนั่น
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 10-02-2009 00:11:38
อ่านแล้วสะท้อนใจ

ไม่รู้เต้ทนได้ไงกับความรู้สึกแบบนี้

เราเองทนไม่ได้แน่ๆเลยล่ะ

เศร้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 10-02-2009 06:17:44
หวานอมขมกลืน
น่าเศร้ายิ่งนัก
ยิ้มทั้งน้ำตาเปล่าเนี่ย
 :เฮ้อ: คาราคาซังน่าดู
หัวใจมันยิ่งถลำลึกไปกันใหญ่แล้วนะนั่น

บวก 1 ให้แล้วนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 10-02-2009 10:29:14
 :sad4: :sad4:

อ่านแล้วรู้สึกปลง ตก

-*-ที่จริงใจแข็งอีกนิดจาดีมากเลยละคับ

พี่สู้ๆละกาน คริคริ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 10-02-2009 12:02:59
ทำไมไม่กินขิงดอง
อร่อยดีนะ




ม่ายยยยยยยยยย จริง อะ ไม่หร่อยเลย


อิตาพี่เคน นี่ เป็นผู้ใหญ่ที่เล่นด้วยยากนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 10-02-2009 19:24:44
จะเป็นไงต่อดีล่ะครับ งานนี้ :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 11-02-2009 17:18:23
คืนที่สิบ


“ดีคับ” ผมรับสาย ขณะกำลังเดินเล่นรอเพื่อนอยู่แถวๆสยิว(สยามนั่นแหละ)
“ไงคับ กินข้าวยัง”
“ไม่บอก” ผมแกล้งทำเสียงเคืองๆ หมันไส้นัก ไอ้คนบ้า
“เออ คนอุตส่าห์เป็นห่วงเป็นใย” อ่านะ พูดงี้ก็ใจอ่อนดิวะกู
“อ่ะ ก็รอเพื่อนอยู่ เดี๋ยวไปกินเพื่อนคับ” นั่นนน ดูมันสิไอ้เต้ ตอบไปอย่างง่ายดาย
“ฮ่าๆ อยู่ไหนเนี่ยไอ้ตัวเล็ก”
“สยามคับ พี่เคนล่ะ”
“พี่เพิ่งเลิกงาน นึกว่าอยู่แถวนี้จะแวะไปดูใจคนป่วยซะหน่อย”
“อ่ะ ยังอ่ะ กลับไปแล้วเพิ่งออกมาได้สักพักอ่าเนี่ย”
“งั้นไม่เป็นไรคับ แล้วหายละหรอ ไปซนได้แล้ว” ไอ้บ้า
“ซนไรแค่มาสยาม ใกล้ๆเอง” (ประมาณว่านั่งรถมาต่อบีทีเอส มันก็เลยเหมือนใกล้)
“ใกล้หรอนั่น งั้นไปอยู่กับเพื่อนละกัน ไม่กวนเวลาราชการแล้ว” ดูไอ้พี่เคนแม่ง ประชดกูจริงๆ
“เพื่อนยังไม่มาเลยคับ คุยก่อนก็ได้”
“ไม่คุยเว้ย จะขับรถแล้ว” ซะงั้น เอาใจยากจริง ไอ้คนบ้า
“อืมๆ ไรวะคนเรา งั้นขับรถกลับดีดีล่ะคับ อย่าลืมหาไรหม่ำๆด้วยน้าลุง”
“เฮ้ย ใครลุงเอ็ง เดี๋ยวปั๊ดกระโดดเตะ อย่าเถลไถลดึกมากล่ะ แค่นี้นะ”
“คร้าบบบบพ่อ”

อิอิ วางสายเสร็จผมก็รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะเนี่ย พรุ่งนี้ไม่มีสอบด้วย วันนี้ว่างงานล่ะ ดูหนังดีมั้ยว้าาา หนู กับไอ้พลก็ยังไม่มาสักที ชักช้าจริงพวกนี้

“ไง กว่าจะมานะมึง” ผมบ่นไอ้พลก่อนอันดับแรก หลังจากมันเดินมาหอบแฮ่กๆ
“เฮ้ย แม่งเมื่อกี้เด็กอัสสัมโคตรน่ารักเลย” นี่คือประโยคแรกที่มันทักผมคับ กูล่ะเชื่อเลย ที่เหนื่อยนี่มึงไปวิ่งตามเด็กมาใช่มั้ย
“เอออออ กูหิว หนูแม่งยังไม่มาอีก”
“ไอ้หนูอ่ะหรอ โทรไปเมื่อกี้ เพิ่งออกจากสระบุรีมาสักพัก มึงไปกินก่อนเถอะ” ไรวะ นัดหกโมงครึ่ง นี่มันทุ่มกว่าแล้วนะเฟ้ยยยย ไอ้เต้ได้แต่ทำหน้าเซ็ง ส่วนไอ้พลยังคงสายตาแวววาวสนุกสนานกับการเหล่เด็กๆขาสั้น
“เออ แมร่ง รู้งี้กูนอนก็ดี ไม่ออกมาหรอก ช้ากันชิบหาย” หงุดหงิดๆ โมโหหิวแล้ว
“เออ บ่นจริงมึง ทำยังกับคนอายุสามสิบ ไปๆ กินไรดี” อ๊ะ แอบมีคำบางคำโดนใจ คนแก่เค้าไม่ค่อยบ่นน้า กูเถียงๆ อิอิอิอิ
“เออ ทำยังกับมึงสามสิบงั้น รู้ดีจริง ไปกินอาหารญี่ปุ่นดีกว่า” นึกถึงโอโตยะที่กินวันนั้น เหอๆวันนี้ตูจะสั่งไอ้หมูที่มันราดไข่ลวกกินซะให้หนำใจ ไม่ต้องทนกินผัก(เยอะ)
แต่หลังจากรู้จักกัน ไอ้เต้ก็สังเกตตัวเองว่ากินผักเยอะขึ้นนะ แบบว่ารักตัวเองมากขึ้น ไม่งั้นใครเค้าจะรักล่ะ ตัวเองยังไม่รักเลย

“เออๆ บ่นจริง หัดแดกไรถูกๆมั่งเป็นมะ” ไอ้พลบ่น แล้วให้ตูเลือกเพื่อ
“อ่ะ ก็ไม่รู้จะกินไร”
“เออๆ ไปก็ได้ นั่งรอหนูเลยละกัน มันคงถูกใจ”
“ช่ายยยย” ไอ้เต้ยิ้มหน้าบาน ส่วนหนูก็คงชอบแหละ เพราะเป็นร้านประจำเวลาไม่มีไรกิน หนูชอบกินชาเขียวร้อนแบบเติมไม่อั้น (รวยละยังงกนะหนู)

“หวัดดีคับพี่นิว”
“คืนนี้ไปไหนวะ” พี่นิวอ่ะนะ สงสัยไม่มีเพื่อนเที่ยว ปกติเดี๋ยวนี้ไม่เห็นโทรมาถามแบบนี้ มีแต่โทรมาบอกว่าคืนนี้ไปไหน เหอะๆ
“อยู่สยามคับ วันศุกร์ไม่ได้เลยนะพี่”
“เออ เพิ่งกลับมาถึงกรุงเทพ ก็เลยหาที่” นี่ก็เหมือนกัน ออกไปทำงานละแวกใกล้ๆกรุงเทพฯ พอวันศุกร์กลับมากันก็เที่ยวกระจาย ชีวิตคนทำงานเนอะ ใครยังเด็กอยู่อาจจะไม่เกท
ใครยี่สิบกว่าๆคงเข้าใจฟีลนี้ดี ส่วนไอ้เต้ยังวัยเรียน แต่เข้าใจคนหลายวัยอ่ะ เอิ๊กๆๆๆ

“แล้วพี่จะไปไหนอ่ะ เต้คงอยู่สยามอ่ะแหละ” หูยังไม่หายเจ็บ ยังไม่อยากไปเที่ยวกลางคืนเท่าไหร่
“อ่ะ โสดสโมไม่ก็วายบริดจ์มั้ง” (โสดสโม อยู่เอกมัย ส่วน วายบริดจ์อยู่หลังสวนนะคับท่านผู้อ่าน เผื่อใครไม่ชำนาญสถานที่ท่องราตรีแบบพี่นิว)
“คร้าบบบ ไม่ไปดีกว่า ไว้สอบเสจก่อน”
“อ่านะ พักผ่อนก่อนสอบไง” เหอะๆ มีงี้ด้วย เค้ามีแต่หลังสอบบบ
“เหอะๆ ไปเถอะๆ ยังไงถ้าจะตามมาสยามก็มาละกานค้าบ”
“เออๆ” พี่นิวทำเสียงเซ็งๆนิดหน่อยที่ไม่ได้เพื่อนไปเที่ยว อิอิอิ ไอ้เต้เป็นเด็กดีแล้วเดี๋ยวนี้
“ค้าบ บายๆ”

“หูมึงเป็นไรวะ เจาะหูมาหรอ” ไอ้พลถาม ขณะนั่งรออาหาร
“เออ เจ็บเหี้ยๆ” (พูดไม่เพราะเลยไอ้เต้)
“เมื่อไหร่วะ เพิ่งเจอ ยังเห็นมึงไม่เจาะเลย”
“เมื่อวาน”
“โห สดๆร้อนๆ แล้วมึงเอาออกทำเหี้ยไร”
“เจ็บเว้ย”
“เดี๋ยวก็หาย เสือกไม่อดทน เจ็บน้อยกว่า...อีกไม่ใช่หรอสัด” พูดเหมือนเคยนะมึง ได้ข่าวว่ามึงเป็นรุกนี่ (คุยกับไอ้พลนี่ อาจจะเถื่อนและทะลึ่งหน่อย อย่าว่ากันน้า อิอิอิอิ)
“มึงก็ลองเจาะดิ”
“กูเคยแล้ว สมัยเรียน จิ๊บๆ” ดูมัน ทนไปได้ไงวะ
“แล้วมึงไม่เจ็บหรอ”
“เหี้ยถามได้ เจ็บดิ แต่ทนได้ เจาะเองด้วยนะมึง”
“กูก็เจาะเองเว้ย”
“หน้าอ่อนอย่างมึงอ่ะนะ เจาะเอง”
“ป่าวๆ หมายถึงไม่ได้เจาะที่ร้าน แต่ไมไ่ด้เจาะเอง”
“ใครเจาะให้วะ อ่ะๆ เจาะไรมั่ง” ไอ้เชี่ยพลทำหน้าตากรุ้มกริ่ม ไม่ใช่อย่างที่เมิงคิดนะเว้ยยย ไอ้นี่
“เชี่ย”
“ไร กูถามดีๆ อายไร ตกลงใครเจาะมึง” เจาะหูเว้ย ไม่ได้เจาะกู นึกแล้วก็นะ ตอนโดนไอ้พี่เคนมันเจาะ(หู) ก็แปลกๆดีนะ เจ็บก็เจ็บ แต่ก็อบอุ่นแปลกๆ มือที่วนเวียนไปมาแถวๆหู
จนได้ยินเสียงชัดเจนในแต่ละสัมผัส ใบหน้าเค้าที่มันเข้ามา ใกล้เสียจนหัวใจเต้นโคตรแรง จนโดนแซวว่าหน้าแดงหูแดงไปหมด เฮ้อออ

“เออ เป็นพี่ อย่าถามมาก อาหารมาละๆ กินๆๆ” ไอ้เต้เปลี่ยนเรื่อง จัดการตีไข่ลวก เทราดบนหมูในจาน และเลือกคีบผักที่ชอบมาหม่ำๆ ให้ไอ้พลนั่งงงๆทำหน้าสงสัย
และมองดูหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆต่อไปไม่วางตา (เค้ามากับเมีย(ผู้ชาย)มึงไม่เห็นรึไงวะ กูไม่หารหมัดหารตีนนะคร้าบบบบ) สักพักใหญ่มากๆ หนูก็มา (ตอนร้านจะปิดแล้วนั่นแหละ)


.
..
...

หลังจากนั้นผมก็มาฉลองสอบเสร็จกับพวกพี่นิว พี่แซน กันจนได้แถวๆ หลังสวนนั่นล่ะ
“หวัดดีคับ” ชายหนุ่มน่าจะแก่กว่าผมสักสี่ถึงห้าปีเข้ามาทักทายผม
“เอ่อ ดีคับ”
“มากับแฟนหรอคับ” เหอะๆ เป็นเทคนิคการจีบที่เชยมากเลยเพ่ ไอ้เต้ส่ายหัวให้แทนคำตอบ และนั่งแกว่งเท้าอยู่หน้าร้านเหล้าต่อ
“แล้วไมมานั่งคนเดียวล่ะคับน้อง”
“คนมันเยอะคับ”ถึงแม้ว่าในร้านมันจะสนุกแค่ไหน แต่บางอารมณ์การหลบมานั่งหน้าร้านคนเดียว มีความสุขกว่าเป็นไหน นั่งมองดูคนเมาเหล้าเมารักเดินผ่านไปผ่านมา
“คับ งั้นนั่งด้วยได้ป่ะ” เซ้าซี้จริงวะ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองอืม น่ารักดีนะ
“คับ” ผมกระเถิบตัวเล็กน้อย ให้พอมีที่กว้างข้างๆ พอสำหรับนั่งได้
“พี่เบียร์นะ ชื่อไรอ่ะคับ”
“เต้คับ” ผมพูด พร้อมยกแก้ววอดก้าในมือกระดกขึ้นเรียบๆ
“เรียนอยู่ป่ะ”
“คับ”
“ที่ไหนล่ะ”
ผมหันไปมองหน้าเขาแป๊บนึง ในใจคิดว่า ทำไมมึงต้องมาเสือกเรื่องกูด้วยคำถามจืดชืดแบบนี้ เป็นคำถามที่ผมเจอบ่อยจนเบื่อ
“มหาลัย..”คับ (ไม่บอกชื่อนะ)
“คณะไรอ่ะคับ” อืมมม นี่ผมสัมภาษณ์งานอยู่ป่าววะ
“ไม่บอกละกันคับ”
ผมยิ้มให้เล็กน้อย และไม่ได้ถามไรต่อ พี่เค้าก็นั่งเงียบๆสักพัก คงเห็นว่าผมมีสีหน้าไม่เป็นมิตรเท่าไหร่มั้ง

“ขอเบอร์ได้ป่ะคับ” เออ กล้าขอดีเว้ย ผมนึก นั่งกันสักพัก หน้ากูไม่ได้บอกเลยว่าปลาบปลื้มเขา ยังจะกล้าขอ กล้าขอก็กล้าให้วะ

“เอาโทรศัพท์มาดิคับ” ผมพูดนิ่งๆ แล้วกระดกแก้วขึ้นอีกรอบ พี่เขารีบยื่นส่งไอ้เข้าเครื่องมือสื่อสารหน้าตาประหลาดๆ มาให้
ผมกดนิ้วจิ้มๆเบอตัวเองสักพักแล้วยื่นเศษเทคโนโลยีราคาแพงนั้นกลับให้เขา

“ไว้โทรหานะคับ”
“อืม ผมไม่ชอบคุยโทรศัพท์นานๆแล้วก็ไม่ชอบคุยบ่อยๆนะคับ” ผมพูดจบและยิ้มให้เขานิดๆ และลุกเดินกลับเข้าไปในร้านเพิ่อเติมวอดก้าที่พร่องเกือบหมดแก้วไปแล้ว อร่อยจังวุ้ย


สงสัยจะดื่มหนักไปหน่อย จนตื่นอีกทีก็เกือบเที่ยง ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
you have 1 new message

กดดูก็พบกับข้อความ

Goodnite & Sweet dream นะคับ นายตัวเล็ก

อืมมม เบอร์แปลกๆ ใครวะ คิดไปคิดมาคงเป็นพี่ชายคนนั้น ส่งมาตั้งแต่ตีสองละ

ไม่ได้คุยกับไอ้ป๋าเคนมาเกือบอาทิตย์แล้วดิเนี่ย นั่งๆนอนๆ คิด เฮ้อ คิดถึงว่ะ
แล้วก็เหมือนมีแรงบันดาลใจอะไรสักอย่าง ให้เบอร์ไอ้พี่เคนมันปรากฏเป็นสายโทรเข้ามาตอนบ่ายสองของวัน

“ว่าไงคับ ลมไรพัดมาเนี่ย”
“พายุรักล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ” นั่น มาปากหวานเลย
“ปากหวานนะ”
“แล้วเป็นไงมั่ง หายไปเป็นอาทิตย์” ใครจะอยากโทรไปบ่อยๆล่ะคร้าบ โทรหาแฟนชาวบ้านเค้า ละอายใจอยู่เหมือนกันเว้ย ไม่โทรเผื่อจะลืมๆมั่ง
“ก็สบายดีค้าบ เป็นไงมั่งละเฮีย ว่างหรอ”
“ช่าย ขี้เกียจทำงานแล้วเลยมาเดินเล่น” เออดีเนาะ เกิดเป็นคนมีกะตังค์ เบื่อก็มาพักได้
“อ่ะนะ สบายจริงๆ ยังกับวัยรุ่น”
“ก็ยังรุ่นอยู่นะ รุ่นใหญ่ ฮ่าๆๆ” อารมณ์ดีแฮะ คุยไปหัวเราะไปตลอด ทำไรมาวะ
“อ่ะนะ อารมณ์ดีจริงๆ”
“เอ้า แล้วจะให้พี่อารมณ์เสียหรือ คนเราอารมณ์ดีก็ผิด เด็กประหลาด”
“ป่าวเฟ้ยยย  ก็ดีแล้ว จะได้แก่ช้าๆ”
“เอออออ จะอารมณ์เสียเพราะคำนี้แหละ” ฮ่าๆ ว่าไม่ได้เลยนะ เรื่องอื่นล่ะไม่เคือง แต่คำนี้อ่ะต้องห้าม อิอิอิ
“คร้าบบบๆ นี่เต้ยังงๆอยู่เลย ไปเที่ยวมาเมื่อคืน”
“อ้าว ไปไหนมา หูหายเจ็บละหรอ”
“หายชาติเศษละเฮีย สนใจกันมั่งมั้ยเนี่ยยย” ชิ งอน
“อ่ะๆ สนสิ ไม่สนจะโทรมาหรอฮึ แล้วไปไหนมาเรา”
“ไปหลังสวน”
“อ่อ ชอบเลยสิ” อ่ะนะไม่ใช่เว้ย ไปตามๆเค้า
“เค้าน่ะครายค้าบบบ” ทำไมต้องทำเสียงสงสัยใคร่รู้ด้วยวะ
“พี่ๆคับ ไม่มีกิ๊กไม่มีแฟน มีแต่เพื่อนๆพี่ๆ ตามประสา” อิอิอิ พูดความจริงนะคับ แต่ไม่ได้บอกว่ามีคนมาขอเบอร์หรอกนะ
“หรอๆ อืมๆเชื่อๆๆ” อ่ะ ทำเสียงกวนแบบนี้ ไม่เชื่อแหงมๆ
“อ่ะนะ”
“เฮ้ย เออเต้แค่นี้ก่อนนะ แล้วจะโทรหานะตัวเล็ก”
“คั..” ยังไม่ทันพูดจบไอ้พี่เคนก็กดตัดสายไปซะและ รีบร้อนไปไหนวะ งงๆ คนเรา ไอ้เต้ก็นอนทั้งวันเลย พักเอาแรง ก่อนจะออกไปหาไรกินตอนค่ำๆ กับพวกพี่ตี๋ พี่จีน 
   ____________________________________________

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 11-02-2009 19:11:35
สนุกครับ อ่านรวดเดียวเล้ยย

ว่าแต่น้องเต้ครับ  รักคนแก่ ราวังถอนตัวไม่ขึ้นนะ

หุ หุ

 :man1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่เก้า
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 11-02-2009 19:16:46
รีบไปไหนพี่เคน :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 11-02-2009 23:51:22
 :o8: ลงไว้ตั้งแต่เยนแต่ลืมอัพว่าอัพตอนใหม่แล้วแฮะๆ โทดทีๆ เพิ่งกลับมาจากหม่ำๆ กินไอติม ไปอบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวมาเมนท์คุยด้วยนะคับ ใครอยากคุยเมนท์ไว้ละกานนน :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 12-02-2009 00:21:03
เบียร์มาจากหนายย  ... ส่งข้อความตามรวดเร็วทันใจ ออกน่ารักนิด ๆ ....  น่าสนใจแหะคนนี้  ...   งั้นเต้อย่าเพิ่งตื่น ละเมอต่อปายยย อิอิ

เซ็ง~!!!  เฮียเคน


ขอบคุณคนเขียนนะครับ  ^__^
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 12-02-2009 00:26:47
เเหมๆ

นึกว่าละเมอ มาลงด้วยอีก :o8: :-[ :impress2:


 :กอด1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 12-02-2009 00:37:19
 :z13:
จิ้มตั้มให้ตูดบิดอิๆ
สงสัยว่าแฟนโทรมาแหงมเลยเนี่ย เฮ้อ ...
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 12-02-2009 00:44:35
พี่เคนนี่ชอบหลอกให้อยากแล้วจากไปทุกทีเลยเนอะเต้  :m16:

.....“เฮ้ย แม่งเมื่อกี้เด็กอัสสัมโคตรน่ารักเลย” นี่คือประโยคแรกที่มันทักผมคับ....แพ้เด็กกางเกงน้ำเงินเหมือนกันเลย  :impress2:

เคยไปร้านรูมมั่งไหมครับ ?
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 12-02-2009 00:58:54
ร้านรูมหรอคับ เคยชแว๊บๆ ปกติผมไม่ค่อยเที่ยวน้าาาาา  :-[

ผมว่าแฟนตามมาบิดหูไอ้พี่เคนมากกว่านะ อิอิอิ

ไอ้เต้ยังไม่ตื่นแน่ๆ อิิอิอิ นอนยาว  :t3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 12-02-2009 01:05:58
 :z6:

อันนี้ให้พี่เบียร์


 :beat:


อันนี้ให้พี่เคน  ป.ล. ไม่มีเหตุผลเว๊ย รมณ์สีย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 12-02-2009 09:48:33
แอร๊ยยยยยยยยยยยยย
วายบิดจ์ สนุกเนอะ
แบนด์ไรไม่รุ้ ดึกเล่นหนุกดี
ชอบน้องแบงค์มือเบส ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-02-2009 10:52:12
เริ่มเซ็ง อิตาพี่เคน ตะหงิดๆๆ   :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 12-02-2009 13:13:17
อืม ละเมอกันเข้าไป เง้ออ :pig2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 12-02-2009 13:15:46
 :เฮ้อ: แล้วมันจะยังไงต่อละเนี๊ย  พี่เคน

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: naix ที่ 13-02-2009 00:20:42
อ๊ะ อ๊ะ หลังสวน ร้านไหนหวา ไม่เคยไปอ่ะ จะได้ไปตามรอยตัวเล็ก เผื่อจะเจอพี่เบียร์กะเค้ามั่ง!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 13-02-2009 01:54:29
แอร๊ยยยย หายไปอาทิตย์นึง ละเมอไปหลายคืนแล้ว

พี่เคนทำเต้หวั่นไหวมากมาย




ช่วงนี้คือฝันดีสินะ กลัวฝันร้ายที่เต้เคยเกริ่นในบทแรกจังเลยค่ะ

เป็นอะไรที่อ่านไปแล้วระทึกไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 13-02-2009 04:30:31
ยิ่งละเมอนาน
ยิ่งท่าทางจะร้าวรานหนักนะเนี่ย
สงสารเต้จังเลย

"แต่หลังจากรู้จักกัน ไอ้เต้ก็สังเกตตัวเองว่ากินผักเยอะขึ้นนะ แบบว่ารักตัวเองมากขึ้น ไม่งั้นใครเค้าจะรักล่ะ ตัวเองยังไม่รักเลย"
^
^
อืมมมม แคร์เค้ามากเลยนะนั่น อยากให้เค้ารักตัวเองด้วยหละสิ

บทสรุปมันจะเป็นไงหว่า เกรงว่าจะต้อง :impress3:

บวก 1 ให้นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 13-02-2009 15:54:51
ไปหลังสวนมาเหรอ  มีแต่วัยทำงานนินา

อ้อ

ลืมไปชอบคนมีอายุ (บอกว่าแก่ไม่ได้ เข้าตัว)

แซวเล่นนะครับ   มารออ่านต่อนะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 13-02-2009 18:26:05
แหม ไปบ่อยจิงนะหลังสวนเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 14-02-2009 00:56:17
กินบ่อยๆมะดีน้า

สุขสันต์วันวาเลนไทน์  ขอให้นมีความสุขมากๆนะคับ  รักตัวเอง ครอบครัว เพื่อนพ้องพี่น้องและคนรอบข้างมากๆนะคับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 14-02-2009 00:59:24
(http://www.up-pic.com/2/pic/1322009-23568-61403.gif) (http://www.up-pic.com)
ขอให้มีความสุขในวันแห่งความรักมากๆนะคราบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 14-02-2009 02:38:12
แวะมายามดึก เพิ่งอาบน้ำเสร็จ แฮะๆ จาบอกว่า  :L2: สุขสันต์ช่วงเวลาแห่งความรักคับผม
จะมีคู่หรือไม่มีคู่ก็อย่าลืมนะคับ รักง่ายๆเริ่มต้นที่ตัวเอง รับรองไม่มีผิดหวัง ไม่ต้องกลัวแห้ว

เดี๋ยวมาลงให้วันสองวันนี้นะคับ พอดีมีเขียนงานสอบอาทิดหน้า อิอิ วาเลนไทน์นี้ไอ้เต้คงไม่ได้ไปไหน นั่งทำงานหัวฟูต้องดูหนังทำงานอีกหลายเรื่อง  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ฝากเที่ยวฝากฉลองกันด้วยนะคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 14-02-2009 02:39:44
 :z13:
จิ้มเต้ อิๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 14-02-2009 08:24:49
ขอให้มีความสุขในวันแห่งความรักด้วยเช่นกันนะจ๊ะ

(http://i715.photobucket.com/albums/ww159/namtaansai/valentine-card-001.gif)
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-02-2009 11:51:30
เข้ามาต้อนรับวันแห่งความรัก
มอบความรักให้ทุกคน


 :L1:เติมรักให้เต้ครับ :L1:
Have A Pure Love!
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 14-02-2009 12:04:44
รู้สึกสถานการณ์คลุมเคลือไงไม่รุ

เมื่อไหร่จะกระจ่างเนี่ย หงุดหงิดแทน

 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 14-02-2009 12:11:09
 :L2:...Happy Valentine's Day....
...วันนี้จะ..ละเมอ...ไปเดทกับ..ใคร..จ๊ะ... :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 14-02-2009 15:28:31
 :L1: สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ  :L1:

ขอให้เผางานทันนะครับ  แต่พี่ว่าวันนี้หนีไปเที่ยวก่อนดีกว่านะครับเต้

ปล. กินช๊อกโกแลต ทำให้อารมณ์ดีนะครับ  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 15-02-2009 16:29:58
เข้ามาละเมอ อ่านคืนที่สิบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 16-02-2009 00:48:15
มะได้ตั้งใจดองน้า แค่สามสี่วัน พยายามเขียนอยู่ แต่ว่ารายงานต้องมาก่อนใช่ป่ะๆ อิอิ วันอังคารสอบแล้ว ต้องอ่านหนังสือด้วยงานเยอะ ฮือๆ คิดถึงเพื่อนๆแควนๆในเล้าทุกคนนะคร้าบบบ ถ้าพรุ่งนี้รายงานเสร็จไว จะมาลงต่อให้

เป็นไงคับวาเลนไทน์ไปไหนกันมามั่ง เมื่อคืนกระผมไปข้าวสารมาแว๊บๆ คนน่ารักเต็มเลยยย อยากได้กลับบ้านสักคนแต่ก็ไม่มี  :เฮ้อ: ไม่เป้นไร ปีหน้าคงมีคนไปเดินด้วย ชีวิตเราต้องมีความหวังจริงมั้ยคับ อิอิอิ ช่วงนี้ใครว่างๆ มีนิทรรศการแนะนำนะคับ ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ ตรงข้าม Tokyu มาบุญครองนั่นแหละ น่าดูนะ มีหลายนิทรรศการเลยช่วงนี้ ไว้ใครว่างๆไปดูบ่อยๆคงได้เจอกันแถวนั้น อิอิ

ปล.แนะนำหนังเรื่อง The class ด้วย ใครอยากเจอไอ้เต้ พรุ่งนี้ว่าจะไปดูรอบสี่ทุ่มแหละ ดึกไปป่าวหว่า ไปช่วยดูชมกันเยอะๆนะคร้าบ ว่ากันว่าถ้าหนังเรื่องนี้รายได้ไม่ดี โรงหนังดีๆอย่าง house อาจจะต้องปิดตัวลง เสียดายแย่ๆ อย่าลืมน้า ใครชอบหนังดีๆ แปลกใหม่ ไม่น่าเบื่อซ้ำซากแบบหนังฮอลลีวูด ลองไปดูกัน รสชาติของสิ่งที่ไม่คุ้นเคย แรกๆอาจจะแปลกๆ ไม่ชิน แต่ถ้าเราลองชิมหลายๆรส อาจจะค้นพบว่า รสชาติที่ตัวเองชื่นชอบที่สุด ไม่ใช่รสชาติที่เป็นอยู่ก็เป็นได้ (พูดยาว ไรวะเนี่ย งงตัวเอง ฮ่าๆๆๆ)

ไปละค้าบ ฝันดี  นอนเยอะๆ จะได้รีบละเมอคืนที่ิสิบเอ็ดเนอะ :jul3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 16-02-2009 01:26:49
^
^
แวะมาจิ้มและ +1 เป็นกำลังใจให้คุณน่านนะครับ
ขอให้โชคดีทั้งเรื่องการสอบและเรื่องความรักเร็วๆ นะครับ
จะรออ่านคืนที่สิบเอ็ดต่อครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 16-02-2009 01:45:13
คืนพิเศษ

“ไงลูก” เสียงคุณแม่ใสแจ๋ว วันนี้ของทุกปี ผมจะตื่นมาโทรหาผู้หญิงคนนี้คนแรกเสมอ
“happy valentine คับแม่ มีความสุขมากๆนะ ทำไรอยู่เนี่ย”
“อ่อ กำลังจะกินก๋วยเตี๋ยว เราล่ะ เพิ่งตื่นอีกล่ะสิ เฮ้ออ ดูแลสุขภาพนะลูก” เสียงแกแอบบ่น แต่คงไม่อยากบ่นผมวันสดใสๆแบบนี้เท่าไหร่มั้ง
“คร้าบ ตื่นนานแล้ว ดื่มโอวัลตินไปกล่องนึงแล้วด้วย”
“จ๊ะๆ แล้วไปเที่ยวไหนรึเปล่าวันนี้” แม่ผมนี่รู้ทันจริงๆ
“ไม่หรอกคับ คนมันไม่มีแฟน โสดอยู่ห้องทำงานคับ” สร้างภาพ แต่ปีนี้ไม่ได้สร้างนะ โสดจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
“หรอ ตายละลูกชั้น ขายไม่ออกแล้วหรอ”
“อ้าวแม่ ไหงงั้น”
“ล้อเล่นจ๊ะ ยังไงก็มีแม่นะ ไม่รู้ไปไหนกลับมาบ้านก็ได้ แค่นี้เอง”
“อ่าคร้าบบบบ”
“จ๊ะๆ งั้นชั้นไม่กวนแล้ว จะกินก๋วยเตี๋ยวแล้วด้วย แค่นี้นะ” ดูสิ แม่คร้าบบบ เห็นแก่กินนะเนี่ยอิอิอิอิ แอบกัดแม่ตัวเอง บาปป่าวหว่า
“คร้าบบบ บายๆแม่ กินเหอะ” ไอ้เต้ร่ำลา แอบงอนอิอิ

สักพักโทรศัพท์ก็ดังอีก
“ไอ้เต้ คืนนี้ไปไหนวะ”
“อืมมม คนไม่มีคู่ สงสัยอยู่ห้องว่ะเฮีย” ไอ้เต้ตอบเสียงไปตามสาย หนูโทรมาอ่ะ อิอิ หนูน่ารักนะเนี่ย โทรมาหาคนแรกวันวาเลนไทน์เลย จุ๊บๆๆ
“อ้าวหรอ เค้าว่าจะไปบริกกัน มึงไปป่าว”
“โห่ เบื่อๆๆ เต้อยากไปนัง่ชิล เหล้าปั่นเหอะ” ไอ้เต้พูด สมองคิดร้าน ไปร้านไหนดีน้าา วันพิเศษสำหรับคนโสดแบบกรูนี่
“ไปร้านไหนล่ะ ก็ดีนะ กูก็อยากไป แต่มึงชวนคนอื่นเอาเองนะ”
“โห่ หนูชวนให้หน่อยดิ เดี่ยวหาว่าเต้เรื่องมากอีก”
“เอ้า มึงต้นคิด มึงชวนสิ นี่พี่เต่าแกจองโต๊ะที่บริกไว้แล้วด้วย มึงจัดการเองถ้าอยากเปลี่ยนที่” โห่ไรวะ หนูนี่ไม่ช่วยเลย อยากไปเหมือนกันแทนที่จะช่วยกันทำมาหากิน

ว่าแล้วไอ้เต้ก็คิดแผน ทำไงดี ลากพวกเพื่อนๆพี่ๆ ย้ายไปร้านเหล้าปั่น หึหึหึ

“เออๆ เดี๋ยวเต้จะลองถามๆดู แมร่ง สุดท้ายเต้ว่าไปบริกกันแหงๆ ขาแดนซ์ทั้งหลาย”
“ก็ถ้าเป็นพวกนั้นก็คงใช่ ไอ้พลก็หายเลย ได้คุยกับมันป่ะ” หึหึ วันวาเลนไทน์นะคร้าบบพี่หนู รายนั้นมันคงว่างหรอก ยันเช้าแหละมั้ง ฮ่าๆๆๆๆๆ
“โทรไปไม่ติดตั้งแต่เมื่อวานละ สงสัยมันเคาท์ดาวน์กันข้ามวันข้ามคืน ฮ่าๆ” ไอ้เต้แอบนินทาเพื่อนฝูง นิดหน่อยๆ ขำๆเนอะ
“หรอ สงสัย ร้ายจริงๆ”
“ว่าแต่หนูเถอะ ไม่ไปกับหมาหรอคับคืนนี้” หนูเป็นแฟนกับหมา ร้ากกันมาหลายปีดีดัก
“ก็หมาอยากไปบริกบาร์นี่ไง หนูก็เลยโทรมาชวน” อ๋อ ไปกันกระหนุงกระหนิงกัน เป็นคู่ๆ ทั้งนั้น แล้วกูล่ะ
“เออๆๆ ถ้าแมวล้างสมองไปร้านเหล้าปั่นได้แล้วแมวจะโทรบอกละกันนะ”
“เออๆ งั้นทำงานก่อนนะ”
“อืมคับ หวัดดีๆ”

แล้วไอ้เต้ก็มานั่งคิด วาเลนไทน์ปีนี้ ไปไหนดีวะ

พี่นิวไปโสดสโม แค่ชื่อร้านก็ไม่มงคลละ ไปร้านนั้นมีหวังกูโสดข้ามปีแน่เลย ไม่ดีแน่ๆ หนูก็ชวนไปบริก เบื่อๆ คนน่าจะเยอะวันนี้

“เฮ้ยมึง ตกลงวันนี้เค้าไปสยามกัน มึงมาป่าว” ไอ้แบงค์โทรมาละ หึหึ ไอ้พวกนี้ก็ประเภทคบแฟนมานาน มันก็รวมๆกันไปเฮฮากัน
โสดมั่ง ไปกับแฟนมั่ง สนุกสนานกันตามประสา ผมว่าจะไปกับพวกมันนี่แหละ มาชวนตั้งแต่เลิกเรียนวันก่อน
“เอออ ไว้กูเสร็จงานกูโทรหา”
“เออ ให้ไวนะมึง”
“คร้าบท่าน งานการไม่ทำกันนะพวกมึง”
“กูส่งแล้วเว้ย ไม่เหมือนมึงหรอกสัด ฮ่าๆ แค่นี้นะ ไปเดทกับแฟนก่อนรอบบ่าย” เดทไรวะเแม่ง เชี่ยนี่พูดจาแปลกๆ
“เอออ จะออกไปละโทรบอกกูหน่อยละกัน เผื่อติดรถไปด้วยเลย”
“เอออ บายๆ”

เฮ้อ หันกลับมาจอนั่งถอนหายใจ วาเลนไทน์ทั้งที่ นอกจากไม่มีคู่ กระผมยังต้องมาทำรายงานหลังขดหลังแข็งอีกทั้งวัน ไม่เสร็จก็ไปไหนไม่ได้ ชีวิตหนอชีวิตไอ้เต้

ว่าแล้วก็ออกไปหาอะไรกิน ยืดเส้นยืดสายสักพัก
เริ่มเห็นเด็กๆวัยรุ่นถือดอกไม้กันเป็นช่อๆ ตุ๊กตา อะไรวะ ทำไมมันเยอะแยะกันจัง กูมีแต่กระเป๋าตังค์กับมือเปล่า
 กูรู้สึกไปเองหรือว่าคนมันเยอะผิดปกติจริงๆวะ ไอ้เต้พยายามไม่มองคนรอบข้าง มุ่งตรงไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่ และอ่านหนังสือพิมพ์อย่างเอาเป็นเอาตาย

กินเสร็จขึ้นห้องทำงาน จนนอนกลางวัน ตื่นมาอีกทีก็พระอาทิตย์ตกดินละ ฮ้าวววว ง่วงๆ น่าจะตื่นมาวันที่สิบห้าเลยนะ ท่าจะดี

“เต้ มึงจะเข้ามาร้านป่ะวะ” เฮียตี๋โทรมาถาม พอดีผมบอกแกไว้ว่าจะแวะไปที่สวน ตอนแรกกะจะไปกินข้าวกับพวกพี่ๆเค้า
“เพิ่งตื่นเลยว่ะเฮีย คงไม่เข้าไปละ”
“เอออ แล้วก็บอกกูว่าจะมา งั้นเด๊ย่วพวกกูปิดร้านไปกินข้าวละ จะตามมาก็โทรถามละกัน ยังไม่รู้ร้านไหน”
“อืมมคับ งั้นเดี๋ยวไว้เต้คิดอีกที ว่าจะไปข้าวสารกับพวกพี่หนู พี่หมารึเปล่า”
“อ่อ พวกนั้นไปร้านไหนวะ”
“บริกอ่ะเฮีย” สรุปไอ้เต้ไมไ่ด้ไปชวนใครไปเหล้าปั่นเลย ตื่นมาเกือบทุ่ม สงสัยเค้าคงไปบริกกันแล้วป่านนี้
“เออ ไปเหอะ ขี้เกียจไปผับ”
“อืมคับๆ ไว้คุยกานๆ”

ลุกขึ้นมา ล้างหน้าล้างตา อ้าว ทั้งหนูทั้งไอ้แบงค์โทรมาแล้ว กูหลับเอาเป็นเอาตายมากๆ

“ไงเฮีย”
“เออ กูยังไม่เสร็จธุระเลย ถ้าจะไปมึงไปกับพวกพี่เต่าก่อนเลยนะไอ้เต้” หนูบอกผม อืมมมไหนบอกเสร็จธุระหกโมงไงฟะตอนคุยในเอ็ม
“หรอ อืมมม งั้นถ้าไปก็ไปเจอข้าวสารเลยละกาน”
“เออได้ๆ”
“คับๆงั้นอาบน้ำก่อนะ เพิ่งตื่น”
“เออ ไอ้แมวขี้เซา”
“แฮะๆ”

....
..
“ไงไอ้แบงค์ มึงอยู่ไหน”
“ไอ้เหี้ยเต้ โทรไปไม่รับนะมึง พวกกูอยู่สยามกันแล้วโว้ย”
“อ้าววว” เพื่อวเลวแม่ง โทรมามิสคอลเดียว กูหลับอยู่จะรู้มั้ยเล่า ชิ งอน ไม่ตามไปแมร่งเลย สัดๆๆๆ (ขอด่าคำหยาบหน่อยเถอะ ให้คุ้มกับค่ารถที่จะต้องเสียไปเอง)
“เออ รีบตามมานะมึง ห่ากว่าจะโทรกลับ”
“เอออออ มึงทำไรกันอยู่อ่ะ” กินข้าวกันยังหว่า ตื่นมาละรู้สึกหิวตะหงิดๆ ท้องร้องแล้ววว
“จะกินข้าว ว่าจะกินชาบู” อ๊ากกก อย่าเพิ่งจิ รอกระป๋มก่อน
“รอหน่อยนะ”
“ไม่รอ ห่า หิว มึงแดกอย่างอื่นไปเลย แล้วค่อยมาเจอกัน” ฮือๆ ไอ้เพื่อนชั่ว แม่งเอ้ย เดี๋ยวไม่ไปไหนแม่งเลยวันนี้
“เออ งั้นไว้คุยกันอีกที”

วางสายเสร็จไอ้เต้ก็หงุดหงิด ไม่ไปไหนดีกว่า วันนี้ ไปก็ไม่มีใครรัก มีแต่คนทอดทิ้ง ฮือๆๆๆๆ อยากจะร้องไห้ออกมาให้น้ำตาเป็นสายเลือดดดดด

“กระเพราหมูสับไข่ดาวจานนึงคับ” นี่หรือ อาหารมื้อเย็นสำหรับชายหนุ่มอายุยี่สิบเอ็ดในวันวาเลนไทน์เช่นตู อาไรกันเนี่ย
 ไม่ยอมมมมมม ว่าแล้วก็นั่งอยู่ร้านแถวๆห้องนั่นล่ะ คนเดียว ย้ำว่า คนเดียว ตั้งแต่มื้อแรกของวันแล้ว

จนกินเสร็จ มานอนดูหนัง จนสี่ทุ่มกว่า ไอ้แบงค์ก็โทรมาอีก
“เฮ้ย เต้ อยู่ไหนวะ ห่านี่ กูเสร็จกันแล้ว”
“นอนอยู่ห้อง ขี้เกียจออกละ”
“งอนหรอคร้าบบที่รัก” ไอ้เชี่ยแบงค์ไม่ต้องมาพูดดีเลย แม่ง ทิ้งกูหายหัวกันไปหมด
“สัด จะดูหนังต่อแค่นี้นะ”
“เฮ้ยๆอย้าเพิ่ง ไปเดินเล่นข้าวสารกัน มาๆนั่งรถมา เด๊ย่วกลับพร้อมพวกกูได้” หึ ไม่ไป ไอ้เต้ตั้งปณิธานไว้แล้ว
“ไม่ไป ขี้เกียจเว้ย”
“เอออ เล่นตัวนะมึง เอางี้ ให้เวลาอาบน้ำแต่งตัว อารมณ์ดีโทรมาใหม่นะ จะรอนะคร้าบบบบไอ้เพื่อนชั่ว” นั่น ด่ากูอีก

“แมว ตกลงเค้าไม่ไปละนะ เพิ่งเสร็จง่วงละ ถ้าจะไปโทรหาพี่เต่านะ เค้าอยู่ที่ร้านกัน” อ้าว หนูโทรมาบอกผม ไหงงั้น แม่งงง ชวนแล้วไม่ไป ชิชะ
“งืมๆ นอนอยู่ห้องเหมือนกัน”
“เป็นไปได้ไงวะมึง ไม่ไปไหนหรอ กูไม่อยากเชื่อ” เอ้า ก็เฮียนัดแล้วเบี้ยวนัดเนี่ย ยังจะมาแอบกัดไอ้เต้อีก
“ไม่ไป งอนทุกคนเลย เบื่อ เซ็ง ชิชิ”
“โอ๋ๆๆ เอาน่า ไรวะ ไม่มีใครชวนไปไหนเลยหรอ”
“ไม่มี” จริงๆก็มีนะ แต่เล่นตัวไม่ไป แล้วก็มานั่งเซ็งเองว่าไม่มี งงตัวเองว่ะกู
“อ่ะนะ งั้น happy valentine กลับบ้านละนะ”
“ค้าบ happy valentine เหมือนกันๆ ฝาก happy หมาด้วย” อิอิอิ รุ้ว่าคืนนี้ไปนอนด้วยกันตามประสา

อืมมม สี่ทุ่มครึ่งละ

you have a text message

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นหลังจากวางสายจากหนูไป ใครว่า กดดูเห็นมี 1 message ส่งมา

“Happy valentine na, lucky in love eieiei :-X”   p Ken

อืมมมมม แฮะๆๆๆ เหอะๆๆๆๆๆ อิๆๆๆๆๆๆ ไม่รุ้จาทำไร เด้งลุกจากเตียงไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวหล่อๆ
แล้วกดโทรศัพท์หาไอ้พวกคุณเพื่อน รอบแรกไอ้แบงค์ไม่รับ โทรหาไอ้ทอปแทนดีกว่า

“อยู่ไหนมึง”
“กำลังไปข้าวสาร มึงล่ะ มามั้ยเนี่ย” ไอ้ทอปและบรรดาเพื่อนๆ เสียงโหวกเหวกกันชิบหาย ไอ้พวกลิงทั้งหลาย
“เออ กำลังจะไป เจอกัน ร้านไหนวะ”
“ไม่รุ้ ไปก่อนละกัน ไม่ได้จองว่ะ”
“เอออได้”

อิอิอิ อารมณ์ดีแฮปปี้วาเลนไทน์ละ แค่ประโยคสั้นๆ กูเนาะกู ฮ่าๆๆๆๆๆ 

ก่อนจะออกไปข้าวสาร ก็มี message ดังขึ้นอีกรอบ อ้าวววว แม่ นอนดึกแฮะ ห้าทุ่มกว่า ส่งไรมาหว่า เปิดก่อนๆ

“Happy valentine, love and miss you na my son”

เฮ้ออออ กำลังจะไปเที่ยว เลยสะดุด เอาเป็นว่าวันนี้ดื่มแค่แก้วสองแก้วละกัน เดี๋ยวนี้ดื่มน้อยลงมากๆ ส่วนนึงก็เพระแม่ด้วย
 แกก็คงห่วงเหมือนกันกับพ่อแม่ทุกๆคน ไม่มีใครอยากเห็นลูกทำสิ่งเหล่านี้ ห้ามไม่ได้ เค้าก็ได้แต่ขอให้เพลาๆลง

สรุปไอ้ที่กะจะไปเดินเล่นแว๊บๆข้าวสาร ก็อยู่จนเกือบตีสาม กว่าจะได้นอนเฮ้อออ แต่ดื่มสองแก้วนิดนะ ไม่ผิดสัญญาใจตัวเอง อิอิอิ ไม่เมาด้วยยย

แม้จะนอนคนเดียว แต่ก็ไม่เปลี่ยวใจ คิดถึงใครคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาคงอยู่กับแฟนล่ะมั้ง ค่ำคืนแห่งความรักแบบนี้ ก็ต้องอยู่ข้างๆคนรักสิวะ
ส่วนผมก็ หมอนข้างงที่ร้ากกกก กอดกันน้า โอ๋ๆๆ จุ๊บๆๆๆๆ บ้าไปแล้ว

..ขอให้ความรักเบ่งบานทุกวัน..

   _____________________________________________
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 16-02-2009 02:03:20
 :กอด1: เต้
อ่านแล้วหัวใจเบ่งบานอย่างน้อยๆเค้าก็ยังนึกถึงเราบ้างนะ อิๆ
ถีงไม่รู้ว่าที่ทำอยู่ทำเพื่ออะไร
ถึงไม่รู้ที่หวังอยู่หวังเพื่ออะไร
ถึวไม่รู้ว่าที่เฝ้ารออยู่รอเพื่ออะไร
แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้ คือ ฉันอิ่มเอมใจทุกครั้งที่คิดถึงเธอและรู้ว่าเธอแคร์กันอยู่
หวังว่าโชคในความรักของปีนี้จะมีแด่ทุกคน ทุกคู่ และทุกวันที่มีกันและ กัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 16-02-2009 02:10:05
รักใครรักได้ อย่าลืมรักพ่อรักแม่เน้อ

 :-[ :-[ :-[

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 16-02-2009 02:34:43
แค่ข้อความเดียวเปลี่ยนความรู้สึกและอารมณ์ได้ขนาดนั้นเลย
พี่เคนช่างมีอิทธิพลต่อเต้มากจริงๆ
เต้ต้องรักตัวเองเพิ่มอีกเยอะๆแล้วนะนั่น
ไม่งั้นได้กอดหมอนข้างละเมอๆอีกนาน
 :กอด1: บวก 1 ให้นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 16-02-2009 08:32:54
ขอให้ความรักเบ่งบานทุกวัน..เช่นกันค่ะ
เมสเสจเดียว สดชื่นไปทั้งคืนเลยเน้อ
+1 ให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 16-02-2009 08:44:44
อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว 
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 16-02-2009 09:08:38
+1  ให้คนมีความรัก    :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 16-02-2009 11:43:25
อาการหนักได้อีก........................ :man1:


ปล. ความรักนี่อะนะ   o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 16-02-2009 13:02:03
+1 ให้แล้วนะครับคุณน่าน...เหงาได้อีกนะเนี่ย  :L2:
ไม่เป็นไรนะครับ พวกเราในเล้าเป็นกำลังใจให้เสมอ

ปล. พี่เคนส่งแต่เมสเสจมาให้แต่ไม่ปรากฏตัว ใจร้ายจริงๆ  :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 16-02-2009 16:11:49
คืนพิเศษตรงที่มันเป็นวันพิเศษ ความรู้สึกไม่เห็นจะพิเศษตรงไหนเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 16-02-2009 17:49:20
ประโยคเดียวเป็นยาชูกำลังเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 16-02-2009 17:55:07
คืนพิเศษ เพราะว่าเมสเซสอันนั้นหรือเปล่าเต้
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ^^*




หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 16-02-2009 19:11:03
ชอบ 'เต้'  จังเลยคับเฮียน่าน

>>>>> ร่าเริงสดใส

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เรื่องนี้ยังโรแมนติกเหมือนเดิมนะคร้าบบบบบบบบบบ    :o8:

+ 1 ..... ให้ด้วยนะคับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 16-02-2009 21:51:56
มาอ่านตอนพิเศษพร้อม+ให้

เฮ้อ เขาก็ต้องอยู่กับแฟนเขาสินะ :เฮ้อ:

รู้สึกเหงาๆเลย แต่ก็ยังดีที่เต้ยิ้มได้กับเมสเสจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: naix ที่ 16-02-2009 23:58:32
ว๊าา คืนพิเศษที่ยังขาดคนพิเศษ.... :เฮ้อ: แต่ก็มีนิเนอะ smsเดียวก็มีค่ามากมายแร้วล่ะ ตามพี่นิวไปโสดสโมดีกว่า เหงาๆดี
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 17-02-2009 07:33:37
เป็นคืนพิเศษที่ดูแล้วเศร้าจัง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 17-02-2009 16:00:30
ตามอ่านทันละนะตัววว  ได้ข่าวจะสอบอังคาร(วันนี้เด้ะ ... ใช่ป้ะ?)

เค้าก็จะสอบแล้วเหมือนกัน  :m15:....  แต่เค้ายังแวบมาเล่นเน็ตขณะหางานก่อนสอบอยู่เลย :laugh:  ...

เห็นไปเที่ยวบ่อย  รักษาสุขภาพ&มาลงไวๆน้า~ :bye2:

ปล. หม่ามี๊น่ารักเนอะ มีส่งเมสเสจด้วย ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 20-02-2009 20:54:22
เข้ามารอเจ้าของกระทู้คร้าบบบบบบบบบบบ

คิดถึง~!   อยากอ่านต่อแล้วนะคร้าบ ..^ ^..
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 20-02-2009 21:11:39
สอบเสจไปสามตัวแล้ว ค่อยว่างหน่อย เฮ้ออออ มาลงต่อให้และคร้าบ โทดทีหายไปหลายวัน

------------------------------------

คืนที่สิบเอ็ด

 
เมื่อสอบเสร็จ ก็คือปิดเทอมสิครับคราวนี้  ทำไรดีล่ะปิดเทอมนี้ สามอาทิตย์กว่าๆเอง จะว่าสั้นก็สั้น แต่เวลาเพียงแค่นี้มันมีค่านะ ไม่ใช่ไม่มี
อย่าดูถูกเวลาสั้นๆเชียว เพราะบางทีแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นแหละ ที่เราทำพลาดไป เพียงชั่วขณะนั้น ซึ่งจะไม่มีวันหวนกลับมา

“เออไอ้เต้ ปิดเทอมว่างป่ะวะ ออฟฟิศกูเค้ากำลังหาคนไปงานต่างจังหวัดอาทิตย์นึง”
“งานไรวะ”
“พวกอีเวนต์อ่ะ” ไอ้พลสาธยาย ขณะเรากำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวๆ พารากอน
“เฮ้ยจริงดิ เออ สนใจว่ะๆ กูกำลังอยากลองทำงานพวกนี้พอดีเผื่อชอบ” ผมพูดและเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้แถวๆนั้น
“เออ งั้นเดี๋ยวกูจะลองไปถามพี่ที่ออฟฟิศให้ ว่าสนใจมั้ย”
“ดีดี แล้วกูไม่มีประสบการณ์ทำได้หรอวะ ไม่ใช่ไปทำงานเค้าเสียนะ”
ไอ้พลมันส่ายหน้าและขำๆ
“แม่งงานมันไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถมึงหรอก ง่ายกว่ามึงไปแดกเหล้า เมาๆ เต้นๆ เยอะว่ะ” เชี่ยยย ลองด่ากูนี่หว่า เลวๆๆๆ
“กูถึงว่ามึงทำได้ดี” หึหึหึ แอบกัดมันคืน มันน่ะขาแดนซ์เลย แถมไปบริกทีนี่บนพื้นไม่ได้ ต้องเต้นบนเก้าอี้ ปีนโต๊ะเท่านั้น ถึงจะสะใจ ฮ่าๆๆๆๆ

คืนนั้นมันผ่านไปเนิ่นนาน ผมเล่าเรื่องต่างให้ไอ้พลฟัง มันก็ขำๆฮาๆไปตามประสา

“แล้วมึงจะตัดใจป่ะ” มันหันมาถาม ตอนที่เราเดินมานั่งอยู่หน้าเวิลเทรดแล้ว (เซ็นทรัลเวิลด์นั่นแหละ แต่ติดปากกับชื่อเก่า)
“ไม่รู้ว่ะ คงตัดมั้ง กูว่ายิ่งนานกูนี่แหละยิ่งเจ็บ”
“เออ”
“แต่กูก็ว่าตอนนี้กูมีความสุขดีนะ กูมีความสุขดีอ่ะ กูไม่รู้ว่าเพราะอะไร”
“เพราะมึงไม่ได้หวัง”

คำพูดที่ลอยมากับสายลมจากปากเพื่อนคนหนึ่งนั้น ทำให้ผมเงยหน้ามองยอดตึกใบหยก ตึกสูงที่สุด
ถ้ากูไม่ปีนขึ้นไปให้มันสูงนัก มันก็ไม่เจ็บไม่ตายนี่หว่า แล้วสักวันก็คงเดินไปจากที่แห่งนั้นเอง

“ขอให้กูโชคดีแล้วกัน” ผมยิ้มหัวเราะบ้าบอๆ เป็นคำอธิษฐานที่ห่วยแตกสิ้นดี

แผลที่เจาะหูเริ่มหายเจ็บแล้ว และหลังจากวันที่เขารีบวางโทรศัพท์ไป ผมก็ไม่ได้โทรหาเขา และเบอร์เขาก็ไม่ได้ปรากฏที่เครื่องผมอีก
ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ช่วงที่ผ่านมาก็มีพี่เบียร์โทรมาบ้างบางวัน แต่ผมก็ยังอิดออดไม่ยอมไปเจอเขาเสียที

“นึกไงอยากมาทำงานนี้ล่ะ” เอ่อ นี่คือคำถามแรกของพี่เจ้าของบริษัทที่สัมภาษณ์ผม
“เอ่อ ก็ อยากลองทำงานด้านพวกนี้ดูคับ อยากลองงานไว้หลายๆอย่าง เวลาจบจะได้พอรู้แนวทางว่าอยากทำสายไหน ไม่ต้องไปทดลองอีก”
“แล้วปิดเทอมไม่กลับบ้านหรอ” แต่ละคำถามเหอะๆ ตอบไงดีวะ
“ก็ เอ่อ ไม่อ่ะคับ ที่บ้านผมเจอกันบ่อยๆ อยู่แล้ว อีกอย่างผมอยากใช้เวลาช่วงนี้ค้นหาตัวเองมากกว่าคับ” เฮ้อออ คำตอบโง่ๆ ของไอ้เต้
พร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ไหลพรั่งพรูเยอะจนรู้สึกได้ นี่ขนาดแอร์เย็นฉ่ำโคตรนะเนี่ย
“อืม แล้วรู้หรือเปล่า ว่าต้องไปทำอะไรบ้าง” พี่แกทำหน้านิ่งสยบมารถามผม เฮ้อ ผมสาบานได้ว่านี่คือช่วงเวลากดดันมากมาย
เรียกว่าครั้งแรกของการมาสัมภาษณ์งานเลยมั้งเนี่ย
“ก็ไปช่วยไอ้พลมันคับ เวลามันต้องไปจัดอีเวนท์ตามดาวองซ์สาขาต่างๆ แล้วก็แนะนำหนังสือให้เด็กๆ และผู้ปกครอง”
ผมก็ยายามตอบเท่าที่ถามๆไอ้พลมา ไหนไอ้พลบอกแค่ว่าพี่เค้าอยากรู้จักเฉยๆว่าเป็นใครมาจากไหนจะมาช่วยงาน ไหงสัมภาษณ์ยังกับกรูจะมาสมัครเป็นพนักงานประจำ
“ไงก็ลองดูละกัน” พูดจบพี่แกก็ลุกไปโทรศัพท์เข้าห้องทำงานไปเฉย ไอ้ผมจะทำไรต่อล่ะทีนี้ หันรีหันขวางสักพัก
พี่แกคงไม่ออกมาละ ก็เลย เดินไปช่วยงานไอ้พลต่ออีกที่หนึ่ง เฮ้ออออ ชีวิตผู้ใหญ่ ความสนุกมันหล่นหายจริงๆเว้ย

ขึ้นไปเห็นไอ้พลกำลังคุยกับพวกพี่ๆจากบริษัทที่มาร่วมจัดอีเวนท์ด้วย ดูมันเป็นการเป็นงานดีแฮะ ต่างจากเวลาอยู่กับเพื่อนๆ อืมมม
ผมยืนมองสักพัก ก่อนจะเริ่มวางมาดผู้ใหญ่เข้าไปคุยๆถามๆงานมัน  ยังกับการแสดง พอเลิกงานไปเดินสยามก็กลับกลายเป็นคนละคน ฮ่าๆๆๆ  
ก็เพิ่งเข้าใจนี่แหละนะ ชีวิตมันไม่ได้มีด้านเดียวอีกต่อไปแล้ว

“เมื่อยว่ะ” เสียงไอ้พลบ่น หลังจากนั่งรถกันมาเนิ่นนาน และตอนนี้คำว่าเชียงใหม่ ก็เริ่มมีให้เห็นสองข้างทาง
ไม่ว่าจะเป็นพวกบรรดาร้านรวงต่างๆที่มักมีชื่อเมืองติดมาด้วย เช่น โชวรูมโตโยต้าเชียงใหม่ โรงแรมวัง เวียง นครพิงค์ต่างๆ ป้ายชี้บอกไปทางโน้นทางนี้

“เออกูก็เมื่อย ไปหาโรงแรมกันก่อนแล้วกัน” ผมหันไปบอกมัน
“พักแถวไหนกันดีคับ” พี่คนขับหันมาถาม
ผมหันไปถามไอ้พล มันก็ส่ายหน้า เชี่ยยยย

“ลองวนๆดูก่อนละกันพี่”
“พักแถวมช.ดีป่ะ” ผมเสนอความคิด หุหุหุ
“เออ น่าสนๆ”

ก็นั่งรถวนตัวเมืองเชียงใหม่กันสักพัก เคยมาไม่กี่ครั้งเอง ผมว่ามันเป็นเมืองที่น่าอยู่ดีนะ
ยิ่งปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ อากาศกำลังเย็นสบายเชียว

“ตกลงจะพักไหนวะ” เริ่มเมื่อยมากบวกหิวด้วย หึหึหึ
“ที่เมื่อกี้ที่ถามก็ได้มั้ง”
“ผมก็ว่าดีนะ” พี่คนขับหันมาบอก ผมก็เห็นด้วย เลยพยักหน้าไป สุดท้ายก็ได้พักที่นั่น ขอนอนก่อนละกานนนนน

เช้ามาก็ออกไปทำงานกัน เสร็จตั้งแต่บ่าย เย็นก็ว่างสิครับ ไปไหนดีล่ะ ได้มาเชียงใหม่ทั้งที ต้องเที่ยวกันหน่อย

“หวัดดีคับ”
“ไง อยู่ไหนเนี่ย ไม่โทรหาพี่บ้างเลย” เสียงที่แม้ไมไ่ด้ยินบ่อยๆ แต่คุ้นเคยดี
“ก็ยุ่งๆอ่าคับ นี่เต้อยู่เชียงใหม่”
“อ้าวหรอ ไปกี่วัน”
“อยู่นี่สองคืนคับ แล้วไปพิษณุโลก ขอนแก่นต่อ”
“โห ยาวเลย นี่ปิดเทอมได้โอกาสทัวร์ทั่วไทยเลยรึไงเนี่ยเรา” เสียงไอ้พี่เคน เฮ้อ ยังอบอุ่นเหมือนเดิมนะคับ ผมเผลอยิ้มจนไอ้พลมันหันมามองทำหน้าตาสงสัยว่าใคร

“ป่าวๆมาทำงานด้วย”
“อ้าวงานอะไร”
“ก็ฝึกงานอีเวนท์ไรพวกนี้อ่ะคับ มาลองทำดู บริษัทที่เพื่อนมันทำอยู่”
ผมเดินไปที่เตียงล้มตัวลงนอนผึ่งแอร์ ยิ้มให้เพดานสีขาว
“ดีแล้วๆ เสียดายว่าจะให้มาช่วยงานที่ร้านอาทิตย์นี้ ว้าๆ”
“อ่านะ ไว้กลับไปช่วยละกัน”
“อาทิตย์หน้าพี่ไปเที่ยวฮ่องกง คลาดกันดิ” อ้าวซะงั้น ชิ เรามาทำงาน ตัวเองได้เที่ยว สบายจริงเว้ย
“อ่านะ ไปฮันนีมูนหรอคับ”
“ป่าวๆ ไปคนเดียว เที่ยวคนเดียวสนุกดี”
“อ่ะนะ ไม่เหงาหรอ”
“ไม่นะพี่ชอบเที่ยวคนเดียว”

อืมมมลืมไป อารมณ์ศิลปิน แต่การไปเที่ยวคนเดียว หาเวลาพัก ให้กับตัวเองจริงๆ มันก็ดีนะ นึกแล้วกลับไป หาเวลาว่าง ไปคนเดียวมั่งดีกว่า

“อ่านะ งั้นเที่ยวให้สนุกละกัน เอาตี๋ฮ่องกงมาฝากด้วย ฮ่าๆ” เหะๆ นึกถึงอาตี๋หล่อๆล่ำๆทั้งหลาย อยากไปมั่งวุ้ยยย (แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เจออากง อาม่า อาแปะ เยอะแยะตาแป๊ะขายหมู)
“โห่ ไม่เห็นชอบเลย”
“เอ้าไม่ชอบแล้วไปทำไม”
“เอ้าไอ้นี่ ไปเที่ยวไม่ได้ไปทำอย่างอื่น”
“อ่ออออ” หน้าตาแบบเฮียจะเชื่อได้สักกี่น้ำเนี่ย

“แล้วเอ็งล่ะ เป็นไงเชียงใหม่ เด็กน่ารักๆเยอะมั้ย”
“เยอะแยะ แต่ไม่แบ่งหรอกนะ”
“งกอีก หาเองก็ได้วะไม่ต้องไปถึงเชียงใหม่หรอก ไอ้เด็กดอย” โห ปากๆ คุยกันแทนที่จะชมจะพูดกับเค้าดีๆ ไอ้บ้าเอ้ยยย
“อ่ะนะ เฮียบ้า”
“อ้าวด่ากันอีก เด็กบ้า แล้วเป็นไงบ้าง ตัวโตขึ้นบ้างมั้ย กินข้าวยังเนี่ย”
“ยังเลยคับ เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกเย็นๆ ว่าจะไปแถวๆถนนนิมมาน”
“อ่อ กินข้าวนะ ไม่ใช่กินคน ฮ่าๆๆ” ไอ้เฮียบ้า แซวอยู่ได้
“กินหมดแหละ จะได้อิ่มๆ” ไอ้เต้ก็เถียง ไม่ยอมลดละ
“เออออ กินไปเลย แล้วไม่ต้องหิวโซกลับมากรุงเทพนะ” ไอ้เฮียทำเสียงงอนๆ เป็นเด็ก(น่ารัก)อีกและ
“แน่นอน ไปตั้งหลายจังหวัด น่ารักๆทั้งน้านนน”

“ไอ้เต้ มึงจะคุยก็ไปคุยต่อในรถ กูหิวแล้ว” เสียงไอ้พลขัดจังหวะหลังจากมันนั่งรอผมคุยโทรสักพักหลังแต่งหล่อเสร็จ
“เออๆ”

“อ้าว งั้นไปกินข้าวเถอะ เพื่อนว่าแล้ว” ไอ้พี่เคนพูด แอบฟังคนอื่นเค้าคุยกันอีก มารยาทไม่ดีนะเนี่ย อิอิอิ
“คร้าบๆ แสนรู้อีก”
“ทะลึ่งละ เดี๋ยวโดน” หึหึหึ ทำเป็นขู่ ตาลุงเอ้ย ไปดีกว่า หม่ำๆ
“ไปหม่ำและ เดี๋ยวแอ่วเผื่อนะคับ”
“เอออ ไปเถอะๆ อย่าซนล่ะตัวเล็ก”
“ค้าบผม”


แล้วผมก็ได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ยามราตรี กันที่ถนนวัวลาย
“เฮ้ยมึง เวลาถามซื้อของเป็นคำเมืองว่าไงวะ” ผมหันไปถามไอ้พล เพราะมันเป้นคนเชียงใหม่ แม้จะไปเติบโตกรุงเทพแต่เด็กๆ

“เอาขลำมาผ่อเลาะ” มันพูดว่าไรวะ ผมงง และฟังไม่รู้เรื่อง
“ว่าไงนะมึง แปลว่าไรวะ”
“เอาขลำมาผ่อเลาะ พูดไปเหอะน่า เค้าลดให้มึงแน่ๆ”
“จริงดิ มึงบอกก่อนแปลว่าไรกูไม่เคยได้ยิน” ผมว่าหน้ามันต้องมีเลศนัยแน่ๆ กับความหมายประโยคนี้
“เออ มึงลองพูดดู กูรับรองได้แน่”
“จริงดิ”

ผมลังเลก่อนจะเดินตรงไปยังร้านค้าข้างทาง และกำลังจะอ้าปากพูด แต่ไอ้พลมันก็มารั้งแขนผมกลับมา
“เฮ้ย มึงจะพูดจริงอ่ะ”
“อ้าว ก็มึงบอกว่าให้ลองพูดดู” เชี่ยนี่ยังไงกันแน่

แล้วมันก็ขำอยู่นั่น กูชักหงุดหงิดละ
“มันแปลว่าไร บอกกูมาเลย”
“ฮ่าๆๆ มันแปลว่า เอาไอ้นั่นมาดูหน่อย” ฮ่าๆๆๆๆๆ พอได้ยินดังนั้น ผมก็ขำท้องขดท้องแข็งไปกับมัน ดีนะ ถ้าเมื่อกี้ปากไวอีกสักหน่อย
ไอ้เต้อาจจะโดนต่อยหรือยำตีนไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ แล้วก็มีเด็กเหนือน่ารักเดินสวนกับพวกเราไป ผมเลยหันไปพูดเบาๆ ไม่ดังพอให้เขาได้ยิน
“ไอ้ละอ่อนน่าฮักนั่นอ่ะ เอาขลำมาผ่อเลาะ” ฮ่าๆ พูดผสมๆมั่วไปเท่าที่รู้คำเมือง แล้วก็ยืนขำกับไอ้พลมัน

เฮ้ย จะวันเกิดไอ้พี่เคนนี่หว่า เฮ้ออ ตั้งใจว่าจะไม่สนไม่ยุ่ง แต่แล้วก็ไปสะดุดตากับร้านพวกของอโรมาร้านนึง เป็นร้านห้องแถว ดูโอเคดีทีเดียว เข้าไปดูหน่อยละกัน เผื่อมีไรน่าสน

“โคมไฟนี่เป็นเตาอโรมาด้วยใช่ป่ะคับ” ผมถามคนขาย เป็นสาวสวยตามแนวสาวเหนือ สำเนียงพูดจาน่าฟัง พยักหน้ายิ้มให้และเอ่ยพูดกับผม
“ใช่เจ้า อันนี้เป็นโคมไฟ ใช้หลอดไฟไม่ต้องใช้ไฟจุดนะเจ้า พอเปิดไฟแล้วเทน้ำมันลงไปก็จะมีกลิ่นหอมเหมือนพวกเตาอโรมานั่นแหละเจ้า”

“อ่อคับ” ผมมองดูพวกเตาทั้งหลาย เคยเห็นตามห้าง ที่นี่จะเท่าไหร่หว่า
“เท่าไหร่อ่ะคับ”
“ก็ถ้าแบบนี้หกร้อยเจ้า แต่ถ้าเป็นพอซเลนแบบนี้แปดร้อยห้าสิบเจ้า” อืมม แบบพอซเลนสวยดีนะ โปร่งแสงด้วย อืมมม
ไอ้พี่เคนมันจะชอบมั้ยหว่า เห็นชอบดูพวกของตกแต่งบ้านบ่อยๆน่าจะชอบอยู่นะ

“แล้วแบบอันเล็กนั่นล่ะคับ” ผมชี้ไปที่โคมไฟทรงกระบอกสูงเล็กๆ น่ารักดีเหมือนกัน
“แบบนั้นหกร้อยเจ้า แล้วแบบใหญ่สุดนั่นพันสอง แล้วแต่ว่าจะเอาไปใช้งานอย่างใดน่ะเจ้า ต้องเลือกให้เหมาะกับสถานที่ แล้วนี่จะเอาไปใช้เองหรือเปล่าเจ้า”
(จริงๆเธอพูดภาษาเหนือมากกว่านี้ แต่ผมจำไมไ่ด้ เลยได้แต่เจ้าๆนะคับ ฮ่าๆๆ)

“อืมมม มีกี่ลายหรอคับ”
“แล้วแต่ขนาดนะเจ้า ปกติโรงงานพี่ทำอยู่ที่ลำพูน ทำส่งออกน่ะ นี่พี่เพิ่งมาเปิดหน้าร้านได้ไม่กี่เดือนที่เชียงใหม่เอง เลยไม่ได้เอาของมาตั้งไว้ทุกแบบ
เอาเป็นว่าดูลายก่อนมั้ยเจ้า ถ้าชอบลายที่ไม่มีเดี๋ยวไว้จัดส่งไปให้ได้นะ ว่าแต่อยู่เชียงใหม่หรือเปล่าล่ะเจ้า”

“อ่อ เปล่าคับ อยู่กรุงเทพคับ พรุ่งนี้ก็ออกจากเชียงใหม่แล้วล่ะคับ ยังไงขอดูตัวอย่างลายก่อนละกันคับ”
เธอยิ้มให้แล้วส่งแบบตัวอย่างมาให้ดู อืมมม ผมว่าลายใบไผ่ที่มีโชว์อยู่นี่สวยสุดละล่ะ

“อืมมม ผมต้องเดินทางไปอีกหลายที่น่ะคับ กล่องใส่มันจะรับแรงกระแทกไหวมั้ยคับ กลัวแตกจัง แฮะๆ”
“อ่อได้เจ้า” เธอเดินเข้าไปหยิบตัวอย่างกล่องให้ผมดู อืม แพคเกจดูดีทีเดียว แสดงว่าพิถีพิถันเรื่องการออกแบบอยู่
“นี่พี่ส่งออกเลยนะกล่องนี้ รับรองไม่แตกแน่ๆ ส่งเรือไปที โยนกันแรงๆ ยังไม่เป็นไรเลย”
“คับ” ผมดูกล่องแล้วก็เชื่อคับ ออกแบบมาลอคพอเหมาะกับตัวโคมไฟเลย ดีแฮะ เอาแบบไหนดีกว่า ผมไม่รู้ว่าเค้าจะเอาไปวางตรงไหน งั้นเอาแบบที่ตัวเองชอบละกัน
“ลายไหนดีวะ” ผมหันไปถามไอ้พล มันก็เดินดูของต่างๆในร้านอยู่
“ใบไผ่ก็สวยดีนะมึง”
“เออกูก็ว่างั้น”
“งั้นผมเอาลายใบไผ่ อันกลางนั่นละกันคับ”

“เจ้า ลองเลือกน้ำมันหอมไปนะเจ้า พี่แถมให้ขวดนึง”
“หรอคับ มีกลิ่นไรบ้างล่ะคับ”

“ลองเลือกในตะกร้านี่ได้เลยค่ะ” เด็กสาววัยเดียวกันกับผมอีกคน เงยหน้าหันมายิ้มให้ เธอก็กำลังเลือกดูในตะกร้านั้นอยู่
“มาเที่ยวเหมือนกันหรอคับ”
“ป่าวค่ะ พอดีมาทำวิจัยเรื่องแป้งร่ำ โครงการทีเรียนอยู่น่ะค่ะ พอดีเลยได้มารู้จักพี่เค้า เค้ากำลังลองทำอยู่น่ะคับ”
“หรอคับ นั่นเปล่าคับ” ผมทำสายตาชี้มองไปยังตลับกระป๋องที่ผมเห็นเธอเอามาเทๆ อยู่เมื่อกี้
“ใช่ค่ะ หอมดีนะคะ ลองทาดูมั้ยคะ” อืมมม ไอ้ผมก็ชอบอะไรพวกนี้อยู่ เลยไม่ขัดศรัทธา เอามาแตะๆกับหลังมือ กลิ่นนี่ถูกใจเลย แต่ว่าเนื้อหยาบไปหน่อย

“หอมดีแต่เนื้อมันหยาบจังเลยคับ”
“ใช่ค่ะ ยังไม่ได้ล่อนแป้ง ถ้าอยากให้ละเอียดต้องเอาไปล่อนเองน่ะค่ะ”
“โห่ ผมคงไม่ไหวมั้งคับ แฮะๆ” เสียดายจัง ไม่งั้นจะซื้อไปฝากแม่ฝากคนรู้จักที่ชอบของแนวๆนี้ซะหน่อย

“ต่อไปพี่อาจจะล่อนแล้วทำเป็นกระป๋องเล็กๆขายนะเจ้า แต่นี่เพิ่งลองทำเอง ต่อไปลองมาดูสิถ้าสนใจ” พี่เจ้าของร้านเดินมาบอก ผมยิ้มให้ แล้วหันไปเลือกดูพวกน้ำมันหอมต่อ

“กลิ่นยูคาลิปตัส ช่วยเรื่องภูมิแพ้นะเจ้า” พี่เค้าพูดขึ้น เมื่อเห็นผมหยิบมันขึ้นมา อืมมม จริงๆมันเป็นกลิ่นที่ผมไม่ชอบหรอกนะ
แต่ผมเคยเห็นซองยาแก้ภูมิแพ้ไอ้พี่เคนวางอยู่ในรถ อืมม หรือจะเลือกกลิ่นนี้ดี เพื่อสุขภาพคนได้รับ ฮ่าๆๆ คิดได้เนอะกรู

“หรอคับ อืมม” ผมหยิบขวดอื่นๆขึ้นมาดูอีกสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ยื่นเจ้าขวดกลิ่นยูคาลิปตัสให้พี่เขาใส่กล่องโคมไฟติดไป

“พี่คับ อันนี้ขายเท่าไหร่คับ”
ผมถามเมื่อเหลือบไปเห็นเตาน้ำหอมโลหะ สวยถูกใจมากทีเดียว
“อันนั้นไม่ขายเจ้า”
“อ้าว เสียดายจัง”
“พี่ได้มา เป็นของลอคสิเทน ลองไปหาดูสิเจ้า อาจจะมีนะ”
“อ่าคับ” ผมยิ้มให้อย่างเสียดาย แล้วก็เลือกน้ำหอมไทยกลิ่นมะลิมาฝากท่านแม่จอมบ่นด้วยอีกขวดหนึ่ง ก่อนจะร่ำลาพี่เขาไป
มานั่งซดก๋วยเตี๋ยวข้างทางกับไอ้พลก่อนกลับที่พัก และนอนพักเพื่อให้พร้อมจะเดินทางต่อ ก้าวต่อไป


_______________________________________________

หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สนุก ไม่ขำ ไม่ฮา  อืมมม ผมอาจจะเข้าถึงยากไปมั้งฮ่าๆๆ
ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มากกว่าความรักธรรมดา มันสะท้อนมุมมองของผม สะท้อนความเป็นไปในสังคมที่ได้ประสบด้วย ผมหวังว่าเรื่องนี้จะได้ประโยชน์และคงไม่น่าเบื่อจนเกินไปสำหรับเพื่อนๆนะคร้าบบบบบ เหลือสอบอีกสามตัวอาทิดหน้า แล้วก้จะปิดเทอมแล้วววว ดีจายยยยย เตรียมเทีย่วหลายที่มาก ฮ่าๆๆ

ปล.สองวันมานี้ ร้อนโคตร เซ็งจริงๆ ช่วยกันคนละไม้ละมือ รักษาสิ่งแวดล้อมเน้อคับ


หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 20-02-2009 21:33:10
มาต่อแว้ววววววววว   ...  บวก 1

อ่านแล้วก็ เฮ้อ~!! ...  จดจำรายละเอียด อะไรดี ๆ ก็อยากให้  ..  ก็มันรักนิ  .. พี่เคนก็ยังคงโทรมาให้รู้สึกดีได้อีก
ตอบคำถามเข้าฝึกงาน ไม่โง่นะนั้น  ^ ^ ทำงานแล้ว ยุ่ง ๆ สนุก ๆ ก็เพลินดีสำหรับคนไม่มีแควนนนน

โชคดีในการสอบนะครับ  ..  ขอบคุณคร้าบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 20-02-2009 21:47:53
ของขวัญวันเกิดถ้าเกิดซื้อไปแล้วลืมจะทำหน้ายังไงหว่า  :m20:

สู้กับการสอบน้าคับ

ช่วงนี้ร้อนจิงๆแหละ - -"
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 20-02-2009 22:32:23
มาชื่นชนกับความพยายามในการ อู้กำเมือง 555

เกือบโดนพ่อค้ารุมละมั้ยล่ะ

แต่นี่ยังดีนะของเพื่อนเราโดนให้ไปถามพ่อค้าน้ำมะพร้าว


"ขอน้ำ๊ว้องแก้วลอ"

คริๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-02-2009 23:10:43
เต้จะละเมอ...เล่าอะไรก็ได้ เล่ามาเหอะ
ไม่เห็นจำเป็นนี่นา...ว่าจะต้องเป็นเรื่องของความรัก หวาน เศร้า เสมอไป
ความรักมีหลากหลายรูปแบบ รักอะไรก็รักเหอะ
ตัวเองไม่ทุกข์ร้อน คนอื่นไม่เดือดร้อน ก็คงจะพอแหละเนอะ
 :L2: :L1: :L2:

 :pig4: ขอบคุณคับ ตัวเล็ก :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 21-02-2009 00:37:10
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ใครบอกไม่สนุก มันมีเสน่ห์ให้ติดตามในตัวมันเหมือนกันหละ

ไม่งั้นคงไม่มีคนอ่านแล้ว จริงป่าวหละ สู้ๆเน้อ

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 21-02-2009 02:22:16
สนุกไปอีกแบบดีค่ะเต้

อย่างนี้ก็ดีแล้วแหล่ะ

อู้คำเมืองไม่เป็นเหมือนกัน แต่ในบอร์ดนี้เด็กเหนือเยอะ(ไม่ก็ไปเรียนเหนือ)

อยากให้ใส่ซับไตเติ้ลให้บ้าง บางทีแล้วก็ไม่เข้าใจ ขนาดถาษาไทยยังไม่แข็งแรงเลย

เต้นี่ยังดีนะที่เพื่อนไม่ปล่อยให้ไปพูดกับคนขายจริงๆ ไม่งั้นคงได้ของแถม
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 21-02-2009 02:53:01
เรื่องเล่านี้มีเสน่ห์ในตัวของมันเองนะจ๊ะ
แม้ว่าอ่านแล้วจะไม่ฮา(มาก) ไม่ขำ(นัก) แต่ก้อชวนติดตามและค้นหาต่อไปว่ามันจะลงเอยยังไง
สะท้อนความคิด และก้อมุมมองที่มีต่อความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง
เรื่องมันดำเนินไปเรื่อยๆ ผ่านการเล่าเรื่องที่คล้ายบันทึกประจำวัน แต่ให้รายละเอียดค่อนข้างมาก
ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนเข้าไปเป็นคนที่ "เต้" ระบายความในใจให้ฟัง
เพียงแต่ไม่ได้บอกทั้งหมด เหมือนเล่าให้ฟัง แต่ยังมีบางสิ่งในใจของ "เต้" ที่ยังครึ่งๆกลางๆ เก็บซ่อนเอาไว้
โดยรวมชวนติดตาม อ่านสบาย แฝงความเศร้าและอารมณ์หดหู่เป็นช่วงๆ
สรุปว่าชอบนะจ๊ะ
จะติดตามอ่านต่อ และเป็นกำลังใจให้คนแต่งต่อไปจ้า :กอด1:

กดบวก ให้แล้วจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 21-02-2009 07:26:21
 :z2: :z2: :z2: :z2:
ถึงใครจะว่าไงนะเต้
อยากจะบอกว่าเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่า แค่ขำๆ ฮาๆ
ถ้ามีแค่นั้นไม่อ่านหรอกภูมิใจไว้เรื่องของเรานะดีให้แง่คิด
และมุมมองที่แปลกใหม่น่าสนใจ ดูมีอะไรให้ติดตามนะ
เพราะชอบด้วยแหละมั้งเลยบอกกันตรงๆอย่างงี้
ไว้เขียนไปเรื่อยๆจนถึงตอนที่คิดว่าอารมณ์มันถึงขีดละ
จะเม้นยาวๆชนิดที่เห็นแล้วขี้เกียจอ่านให้เลย อิๆ
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเอ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 21-02-2009 07:30:59
สนุกค่ะชอบๆ เรื่องเล่าแอบชอบพี่เคนด้วย :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 21-02-2009 14:32:47
คืนที่สิบสอง


คืนสิบสองไม่ใช่เดือนสิบสองนะเออ เง้อออออ


และแล้วเช้ามาเราก็จำใจลาเวียงเจียงใหม่ ปล่อยให้ยอดดอยตระหง่านอยู่เบื้องหลัง อยู่ตรงนั้นนะ สัญญาว่าสักวันจะกลับมาอีก

รถโตโยต้าวิชสีแดงพาเรากลับมาตามเส้นทางเดิม ที่เรามาเมื่อวันก่อน ผ่านลำพูน พาลให้นึกถึงพี่เจ้าของร้านเมื่อคืนนี้ เขาจะรู้ไหมว่ารถคันนี้
มีชื่อรุ่นของมันว่าวิช และมันยังได้ทำหน้าที่พาเจ้าโคมไฟที่ผมหวังจะมอบให้ใครคนหนึ่งมาด้วย

วิช คือความหวัง หากคาดหวังคงเจ็บปวด หากไร้หวังคงเหมือนตายไปแล้ว

ผมมองท้องฟ้าสีสดของนครเขลางค์ด้วยความหวัง แต่ไม่ไปคาดหวังกับวันข้างหน้า

พี่คนขับแนะนำพาเราแวะเที่ยวพระธาตุลำปางหลวง เพราะเห็นว่าเวลาเหลืออีกเยอะ เพราะเราออกจากเชียงใหม่มากันตั้งแต่ก่อนแปดโมงเสียอีก

“ใครบอกลำปางหนาวมากวะ” ไอ้พลพูดคำแรกหลังจากเปิดประตูก้าวลงจากรถ ที่จอดรถกว้างโล่งที่มีไอร้อนจากแสงแดดทอรับเราอยู่ ร้อนโคตรรรรรร

“ลำปางร้อนเหี้ยๆ” ผมหันไปบอกนิยามใหม่แก่มัน
“พี่ไม่ไปไหว้พระธาตุเหมือนกันหรอคับ” ผมชะโงกเข้าไปถามพี่คนขับที่ยังไม่ลงจากรถ และหยิบกล้องคู่ใจมาสะพายไว้
“ไม่หรอกคับ ร้อน พี่เคยมาแล้ว” อ้าวเพ่ งี้เดี๋ยวสวย ร้อนแล้วพามาทำมาย หึหึ ไอ้เต้แอบเคืองในใจเล็กน้อยที่ไม่บอกกันก่อน
แต่ก็กระตือรือร้นเตรียมไปถ่ายรูปด้วยความตื่นเต้น เอาน่ะ เค้าอุตส่าห์พามาแวะ อย่าเรื่องมาก

“ไอ้เต้ๆ ไปมุมนั้น” ไอ้พล ซึ่งมันเลวมาก ไม่ยอมเอากล้องมากเป็นนายแบบเต็มที่ ให้ผมตามถ่ายมัน
“เออ มึงเอานี่ไป” หึหึ แต่มีหรือว่าไอ้เต้จะยอม ผมยัดกล้องดิจิตอลคอมแพคตัวเล็กที่ติดมาด้วยใส่มือมัน กูถ่ายมึง มึงก็ต้องถ่ายให้กู ไม่งั้นเดี๋ยวรูปลง hi5 กูไม่มี ฮ่าๆๆๆ

ผมกับไอ้พลก็เดินลัดเลาะตัววัดเข้าไปเรื่อยๆ จนถึวตัวพระธาตุ สวยมากทีเดียว เป็นวัดโบราณน่าจะหลายร้อยปี ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นพันแล้วล่ะ

ผ่านมากี่ชั่วอายุกี่ชั่วรุ่น
ตระหง่านรับอรุณและสนธยา
ลมร้อนลมหนาวพัดผ่านไปมา
พระธาตุงามตายังอยู่ยั่งยืนยง

“ศิลปะยืนยาว แต่ชีวิตสั้น” - อ.ศิลป์ พีระศรี

ผมนึกถึงคำกล่าวนั้น และพลางโยงใยมาถึงเรื่องรักๆใคร่ๆ ในวัยตัวเอง ศิลปะยืนยาว แต่ชีวิตสั้น แล้วความรักล่ะ สั้นกว่าชีวิตอีกใช่หรือเปล่า

“มุมนี้ เชื่อกู แสงอย่างสวย” ผมบอกให้ไอ้พลยืนพิงบานประตูที่แดดส่องกระทบสว่างจ้า
“แสงนะสวย แต่กูน่ะจะเหี้ย มึงดูแดดสิห่า”
“มึงก็ใส่แว่นสิ”
“เออๆ เร็วๆ กูดำหมดแล้ว” ฮ่าๆๆ แดดร้อนมา แต่ผมยืนหลบแดดถ่ายในร่ม เป็นนายแบบต้องอดทนไว้มึง อยากได้รูปเจ๋งๆ

“มึงถ่ายป่ะ” มันถามพอผมลั่นชัตเตอร์เรียบร้อย
“ไม่อ่ะ ร้อน”
“สัด แล้วให้กูดำอยู่คนเดียว”
“กูอยากให้มึงได้รูปสวยๆไง”

ผมหัวเราะและเดินจากลาพระธาตุมา

“ไงคับเฮีย”
“ไงมึงอยู่ไหนวะ” เฮียตี๋โทรมา พี่แกกลับมาไทยแล้วหรอวะ
“ลำปางคับ มากับไอ้พล”
“อ้าวมึงไปกันแล้วหรอ นึกว่ายังไม่ไป จะโทรชวนกินข้าวซะหน่อย” โห่ มาได้สองวันแล้วเฮีย ไม่เห็นหรอ ออนเอ็มแล้วผิดปกติ ไม่เจอไอ้เต้ออนอยู่ ฮ่าๆๆ
“กลับอีกห้าวันอ่าเฮีย”
“เออป่านนั้นกูก็ไปทำงานแล้ว”
“อ่านะ งั้นไว้เฮียกลับมาอีกรอบแล้วกัน”
“เออๆได้ แล้วเป็นไงวะสนุกมั้ย อยากไปด้วยว่ะ” เอ่อ มาทำงานนะคร้าบ ถึงจะแวะเที่ยวด้วยก็เถอะ
“สนุกดีเฮีย เมื่อวานเด็กเชียงใหม่น่ารักมาก ฮ่าๆ”
“เออ เอามาฝากกูมั่ง” ฮ่าๆๆๆ ไอ้เต้ยังไม่ได้กลับมาสักคน จะฝากไรเล่าคับ แหม ชอบกันจังนะละอ่อนเมืองเหนือเนี่ย
“แฮะๆ เดี๋ยวไปพิษณุโลกต่อ ไปเก็บแถวนั้นมาฝากนะ”
“ฮ่าๆเออ งั้นกูชวนไอ้จีนออกมากินข้าวดีกว่า ไม่รู้มันจะว่างมั้ย”
“เห็นว่าสอนที่รังสิตนะเฮียวันนี้”
“อ้าวหรอ เออๆลองโทรก่อน”
“คับๆ”
“เออฝากความคิดถึง ถึงไอ้พลด้วย”
“ได้คร้าบบบ”

มาถึงพิษณุโลกแล้วทำไรกันดีล่ะ เดินทอปแลนด์หรอ อืมมม อ่อรู้แล้ว เดินไปวัดใหญ่ดีกว่า ผมกับไอ้พลเดินไปวัดใหญ่
(ผมเรียกแต่วัดใหญ่ๆ จนไม่แน่ใจว่าชื่อจริงคือ วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดพระพุทธชินราชวรมหาวิหาร อะไรสักอย่าง เอาเป็นว่า มาไหว้สมเด็จพระพุทธชินราชละกัน เอิ๊กๆ)

“ตกลงนี่เป็นทริปพบเด็กๆ กับไหว้พระใช่ป่ะ กูเป็นนางสาวไทยเปล่าวะเนี่ย” ไอ้พลบ่นๆ
“มิสยูนิเวอสเลยมึงอ่ะ” ฮ่าๆๆๆผมแซวมัน
“แล้วอย่างกูกับมึงนี่มาจากจักรวาลไหนล่ะ” ฮ่าๆๆๆ แม่งคิดได้ นั่นดิ โลกนี้มีที่ให้ผู้หญิงเป็นมิสยูนิเวอส แต่ถ้าเกย์ล่ะ มิสเตอร์ก็ให้ผู้ชาย มิส ก็ผู้หญิง
แล้วพวกผมมาจากจักรวาลไหนกัน ใช่ที่นี่หรือเปล่า

“อืม แม่น้ำไรวะ” ไอ้พลหันมาถาม หลังจากเราเดินออกกันมาทางอีกด้านของวัด พบแม่น้ำกลางเมืองสองแคว

“แม่น้ำน่าน”
“มึงรู้ได้ไง”
“เมื่อกี้กูอ่านป้าย”
“อ่อ”

ว่าแล้วก็ลงไปเดินลัดเลาะบันไดหินริมตลิ่งกัน ลมเย็นสบายมากๆ ถ้ามันเย็นได้แบบนี้ตลอดไปก็ดีสิวะ

“ทำไมที่นี่เด็กน้อยจังวะ” ผมถามไอ้พล ซุ้มอีเวนท์ที่มาจัดกิจกรรมสาขาพิษณุโลก เงียบโคตรรร เด็กนี่ไม่มีเลย ไรวะ
“เออ พี่ที่นี่เค้าบอกว่า เด็กไปเรียนพิเศษกรุงเทพฯกันหมด”
“เฮ้อ ไปโน่นก็เสียตังค์เยอะ แถมก็เรียนวิดีโอเหมือนกัน จะไปไมวะ ที่นี่น่าอยู่กว่าอีก”
“อ้าวมึง เด็กมันก็อยากไปเจอแสงสีกันบ้างสิ มึงก็เห็นเมืองเงียบจะตาย”
“ก็เงียบเพราะไปกันหมด” ผมเดินไปหยิบน้ำส้มที่เอามาแจกเด็กๆมาดื่มเอง ไม่มีเด็กกินเองก็ได้วะ อร่อยด้วย (แม้จะหวานไปสักหน่อย อิอิ)

“เย็นนี้ไปไหนดีวะ”
“เออว่ะ ที่นี่มีไรเที่ยวมั่ง”
“กูรู้แค่วัดใหญ่ที่พามึงไปเมื่อวานอ่ะแหละ อ่อๆมีพิิพิธภัณฑ์พวกไทยๆด้วย กูเคยมาตอนเด็กๆ” แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าชื่อจ่าหรือดาบทวีอะไรสักอย่าง เป็นพวกพื้นบ้านๆ
“ไม่เอาดิ เอาพวกเทคๆผับๆ” อืมมม ไม่รู้ว่ะ อ่อมีใต้ทอปแลนด์ เพื่อนที่มหาลัยมันเป็นคนที่นี่ มันเคยบอกนี่หว่า
“มีเว้ย ใต้ทอปแลนด์แ่ไม่รู้ดีป่าว”
“เฮ้อ เบื่อว่ะ อยากไปขอนแก่นพรุ่งนี้เร็วๆ”
“กูอยากไปด้วยยยย”
.
.
.
“กูเคยอ่านนิยายเกี่ยวกับที่ขอนแก่น แม่งยังไม่เคยไปเลยอยากไป” ผมคุยกับไอ้พล นึกถึงนิยายเรื่องคิมคิม กับโมโม
“นิยายไรวะ” มันทำหน้างงๆหันมาถาม
“นิยายในเนทอ่ะ แต่ดีนะมึงเรื่องนี้ เป็นเรื่องเล่าชีวิตเค้า แม่งน่ารัก กูอ่านละอยากมาเรียนมข.เลย
“อ่อ เพ้อเจ้อนะมึงเนี่ย”
“อ้าวเชี่ยนี่”
“เออๆ กูขอให้มึงพบรักที่นั่นแล้วกัน” หึหึ กูไปสองวัน จะพบใครมั้ยล่ะนั่น
“เหอะๆ งั้นวันนี้กูนอนละ จะได้ตื่นไปขอนแก่นเร็วๆ”
“อ้าวเหี้ย อย่าเพิ่งทิ้งกันดิ ตื่นดูหนังเป็นเพื่อนกูก่อน”
ลืมบอกไอ้พลมันลงทุนขนเครื่องดีวีดีที่อฟฟิศมาด้วย แถมยังแบกหนังมาหลายเรื่อง สงสัยมันจะรู้ว่ามาพิษณุโลกแล้วไม่มีอะไรทำ

“ตกลงหนังสนุกป่ะ” ผมถามเมื่อตื่นมาตอนเช้า
“เหี้ยหลับก่อน ปล่อยให้กูนอนดูคนเดียว เงียบชิบหาย”
“อ้าว มึงกลัวผีหรอ”
“เออดิ”
ฮ่าๆๆๆๆ รู้จักมันมาเพิ่งรู้ว่าจริงๆมันเป็นคนแข็งนอกอ่อนในนะเนี่ย ใครจะคิดว่าท่ามกลางความมั่นใจแลดูเข็มแข็งภายนอก
มันจะกลัวผีได้ขนาดผมนออนเตียงใกล้ๆมัน ห้องก็ออกจะดูดี ไม่น่ากลัวเลย เหอะๆ ไอ้พลเอ๋ย ดีละ วันหลังกูจะแกล้งมึง ฮ่
าๆๆๆ ผมคิดในใจแล้วลุกไปห้องน้ำ จัดการตัวเองให้พร้อมมุ่งหน้าสู่แดนอีสาน


“อ้าวเฮีย ยังไม่ไปหาอาตี๋ีอีกหรอ” ผมถามไอ้พี่เคน นึกว่าไปฮ่องกงแล้วซะอีก
“ยังๆ พรุ่งนี้ไปนครก่อน ทำงานเสร็จแล้วอีกวันถึงจะไปฮ่องกง”
“พรุ่งนี้อยู่กันคนละภาค วันมะรืนอยู่กันคนละประเทศเลยเนอะ” ผมแซวเฮียแกขำๆ
“คิดถึงกันดิ จะได้ห่างแค่ตัว” โห เน่ามั้ยคร้าบบบบ เน่าไปมั้ยไอ้เฮียบ้า
“หึหึ คิดถึงอยู่ฝ่ายเดียว มันก็ไม่ใกล้กันขึ้นมาหรอกเนอะ” อิอิ แอบประชดเล็กน้อย
“หรอ อืม ถึงว่าสิ ช่างกัดนะไอ้เด็กน้อย” แฮะๆอยู่แล้ว
“แล้ววันนี้ไม่ทำงานหรอค้าบ”
“ทำๆ แต่ว่าเสร็จเร็ว เลยออกมาข้างนอกแล้ว”
“อ่ะคับ วันนี้เต้มาขอนแก่นละ ตื่นเต้นๆ”
“เจอเด็กเชียงใหม่ เด็กขอนแก่น ลืมลุงแก่ๆที่กรุงเทพแล้วล่ะมั้ง”
“ฮ่าๆๆๆ” ผมระเบิดเสียงฮาออกมาทันทีเมื่อได้ยิน โห่ คนเราใครจะลืมได้ลงคอล่ะคับ มาตั้งไกลเดี๋ยวสุดท้ายก็ตายรังนั่นแหละ
“ใช่ป่ะ กลับมาคงลืมกันแล้วมั้ง”
“หึหึ  นั่นเดะ เด็กๆสดๆเฮ้อออ อร่อยน่าหม่ำไปหมด”
“เอาเชียวๆ เดี๋ยวกลับมาจะเขกหัวโนเลย” อ๊ะๆ ทำร้ายผู้เยาว์มีโทษนะเออ (กูไม่เยาว์แล้วนี่หว่า ชอบลืมๆ)
“อ่านะ คร้าบๆ จะรอให้เขกนะ”
“เออๆ แล้วนี่อยู่ไหนแล้ว”
“อ่ออยู่แถวๆ ไรหว่า ป่าๆ อ่อ ทุ่งแสลงหลวงคับ”
“ไหนบอกอยู่ขอนแก่นไงวะ”
“อ่อกำลังไปไงคับ จากพิโลกไปขอนแก่น มันผ่านทางนี้ สวยมาเลยนะเฮีย แต่ฝนพรำๆ เลยถ่ายรูปไม่ได้”
ผมพูดพลางมองวิวข้างทาง สวยมากคับ เมื่อกี้พยายามจะลงไปถ่ายรูป ฝนเจ้ากรรมดันเทลงมา แม้ไม่หนัก แต่ก็กล้องเจ๊งได้ล่ะ
“ไม่เคยไปเลย” เฮียเคนแอบบ่น ใช่เดะ ไปแต่เมืองนอกเมืองนา บ้านนอกแบบนี้คงไม่เคยมาหรอก
“เฮียมาเดี่ยวผื่นขึ้น มันร้อนนะ” ผมแอบกัด ฮ่าๆๆ
“หรอออ ไอ้คุณหนู อย่ามากปากดี เดี๋ยวเถอะ” เฮียเคนแกทำเสียงแค้นๆ น่ารักเจรงๆ

“เออเต้ จะเอาไรป่าวไปฮ่องกงอ่ะ” ฮะอะไรนะคับ ไอ้เต้ได้ยินไรไม่ถนัด
“หมายถึงคนหรือของคับ ฮ่าๆ”
“ของดิ อยากได้ไรมั้ย ของฝากน่ะ” เฮียจะซื้อมาฝากผมด้วยหรอ เฮ้อออ แค่ถามผมก็ดีใจตายแล้วรู้มั้ยคับเพ่
“ไม่เป็นไรหรอกคับ”
“อ่านะ เราไม่ใช้น้ำหอมใช่ป่ะ”
“คับ ไม่ค่อยนะ”
“อืม งั้นเดี๋ยวหาอะไรน่ารักๆมาฝากนะ” เฮ้อ เฮีย อย่างี้ดิ ผมยิ้มไม่หุบจนไอ้พลมันเขม่นแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ วู้ ทุ่งแสลงหลวงทำไมมันสวยงี้วะ

________________________________________________


ขอบคุณทุกกำลังใจเลยคับ นั่นดิ งั้นผมไปโลดละน้าาา  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 21-02-2009 14:49:55
แอ่วเหนือ
ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ
สถานที่สวยงาม ผู้คนก็ยิ้มแย้ม
อู้กำเมือง ก็เพราะเสนาะหู ซะจริง
เป็นเสน่ห์แบบเหนือๆๆๆๆ เค้าละ

 :pig4:ขอบคุณคับ ตัวเล็ก :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 21-02-2009 14:55:45
แวะเอารูปมาฝากคับ

สองภาพนี้คือพระธาตุลำปางหลวงคับ

(http://media.imeem.com/p/CXboGI1mtR.jpg)


(http://media.imeem.com/p/JNGY6ap722.jpg)

ส่วนที่ยืนอยู่นี่คือคนเขียน ฮ่าๆๆ แม่น้ำน่านหน้าวัดใหญ่

(http://media.imeem.com/p/bQPcx4ngJ4.jpg)


ส่วนสองภาพนี้เป็นทางไปขอนแก่นที่ผ่านทุ่งแสลงหลวงคับ
(http://media.imeem.com/p/djdCOQVo8m.jpg)

(http://media.imeem.com/p/81uRNoRxvI.jpg)

พอกลับมาดูรูปอีกที ไหงรูปเชียงใหม่ไม่มีเลยหว่า สงสัยมัวแต่เที่ยวเพลินไปหน่อย ฮ่าๆๆ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 21-02-2009 15:13:26
ฮ่า ฮ่า ฮ่า....ขอขำก่อนนะ เต้
เมื่อกี้จะเข้ามาเม้นท์ ตอนเห็นรูปแค่รูปเดียว
แต่มันโพสต์ไม่ติด เอ๋อเลยอ่ะ ทำไมฟ่ะ
อ๋อ....เต้ เข้ามา edit นั่นเอง 555+++++

เกือบหน้าแตกง่ะ
พิมพ์ไว้แล้วว่า.....มุมกล้องสวย แต่เสียหน่อยเดียว น่าจะมีรูปคนถ่ายติดมาด้วย 555+++
ดีนะเนี่ยะ กดโพสต์ไม่ติด เพราะมีอยู่ภาพนึง มีคนตัวเล็กติดมาด้วย  :o8:  :-[

รูปภาพสวยทุกรูปครับ  :pig4: เห็นทีสงกรานต์นี้ return เหนืออีกดีก่า  :a2: 
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 21-02-2009 15:26:33
ไปทำงานเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยอ่ะ อิจฉา  ...  เที่ยวกับพลก็หนุกดีเน๊อะ ^^

อ่านประโยคนี้  ... "ไอ้พล ซึ่งมันเลวมาก ไม่ยอมเอากล้องมากเป็นนายแบบเต็มที่ ให้ผมตามถ่ายมัน" ...  แล้วฮา~~!  ..  ทำไมพลเหมือนผมเลย อิอิ ไปเที่ยวทีไร เอารูปให้เพื่อนคนอื่นๆ ดู มันมักจะแซวว่าไอ่เพื่อนที่ไปกับผมมันได้ไปเที่ยวกับผมด้วยเหรอ?  เพราะในกล้องส่วนใหญ่มีแต่รูปผม ha~ha~!

รูปที่ถ่ายมา  เห็นด้วยกับรีบน  มุมกล้องสวยครับ

ขอบคุณนะครับ ^_^
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: pay-it-forward ที่ 21-02-2009 15:32:46
พี่ชอบอ่านเรื่องของเต้นะ ตามมาอ่านจากเรื่องที่แล้วๆ

เรื่องแต่ละเรื่อง มันก็มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเองทั้งนั้นแหละ

เป็นกำลังใจให้จ้า

 :กอด1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 21-02-2009 15:40:49
ใจตรงกันเลยต่างคนต่างมีของมาฝาก :impress2:



รูปสวยจังน่าไปเที่ยวจริงๆ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 21-02-2009 16:16:39
ไปทำงานเหมือนเที่ยวเลย

ชอบรูปรวงข้าวข้างทางจัง สีข้าวเหลืองๆสวยดี

ดีจังเลยพี่เคนมีจะซื้อของฝากให้ด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 21-02-2009 19:09:52
ใจล่องลอยไปกทม.แล้วมั้งนั่น  :m20:

รูปวิวสวยดีคับ   o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 21-02-2009 19:18:22
 :z1:
น่าอิจฉาจิงวุ้ยยยย...เที่ยวสะเด็ด  :z10:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 21-02-2009 19:29:45
ไปทำงานได้ ได้ไปเที่ยวด้วย อิจฉาอ่ะ

อยากไปมั้ง อยากไปแอ่วเหนือ เอิ๊กๆ

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 21-02-2009 21:22:50
รูปสวยอะ

รูปพี่เต้ถ่ายน่ารักดีอะ 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 21-02-2009 21:26:31



... งอลเฮีย !!! ...
... โป้งจริงๆด้วย !!! ...


... แวะมาไม่เคยจะโทรบอกอะ ! ...
... น้องนุ่งอะเคยคิดจะมาทักทายมั่งม๊ายยยยย !??    ? ...
... ใจร้ายยยยย ยยยย ย .. กาซิก กาซิก ~ :m15: ...



... ขอให้เตี้ยลงๆ !!! ...
... เชอะเชอะ ~!! ...
... ;[ ...
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 21-02-2009 22:07:16
เห็นรูป คนแต่งแล้ว    ตัวเล็ก จริงๆอ่ะ   น่ารักดี



ไม่ค่อยได้โพส  แต่ก็ตามอ่านอยู่นะคะ    ชอบอ่านเรื่องเล่าอ่ะ    :L2:   
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 21-02-2009 22:29:38
ใครมาว่าเรา เตี้ยที่ไหน แก้ข่าวก่อน ผมสูง ร้อยหกเจะ นะท่านทั้งหลาย ก็ตัวเล็กอ่า แต่ก็ไม่ได้จิ๋วเป็นฮอบบิทนะเฟ้ย ชิชิ ใครขอให้กูเตี้ยลง ขอให้มัน ไม่มีแฟน โสด คาน  :call:

ใครชอบถ่ายรูปมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการกันดีกว่าคับ ผมใช้กล้องฟิล์มถ่ายดว้ย ดิจิตอลด้วย แต่ฟิล์มนี่รู้สึกเปลือง ถึงแม้จะชอบก็ตาม อาจจะถอย DSLR แทนแล้ว

ไปทำงานเหมือนได้เที่ยว อิอิ ก็จริงคับ ทริปนั้นสนุกมาก เพราะไปกับเพื่อนด้วยแหละ ถ้าเปนคนทำงานกันไปด้วยกันอาจจะไม่สนุก นี่ไอ้พลก็ไปเที่ยวมาเลอีกแล้วอาทิดนี้ ส่วนผมก็วาแพลนเที่ยวหลังสอบฮ่าๆๆๆ เที่ยวๆๆๆ ก่อนจะต้องจบไปทำงานแล้วหาเวลาเที่ยวไม่ได้ (มั้ง)  :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 21-02-2009 22:38:14
.
.
.


คำสาปแช่งสัมฤทธิ์ผล !
เพิ่งจะโสดสนิทเมื่อเช้าเนี่ย !!!


คิดถุ๊งงงงงงงงงงงงง คิดถึงเฮียว่ะ !!!!!!!!
ปี๋ใหม่เมืองมาแอ่วเจียงใหม่เต๊อะ ..
จะสาดยกโอ่งเลย ~!!
โฮะๆๆๆ  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 22-02-2009 03:58:45
อ่าน "ละเมอ" คืนนี้แล้วรู้สึกว่่า เต้ ได้บอกเล่าความเป็นตัวเองออกมาเยอะขึ้นเลย
ไม่รู้คิดเองคนเดียวเปล่านะ

มีรูปถ่ายมาประกอบเรื่องเล่าด้วย ดีจังเลย
แอบอิจฉาเล็กๆด้วยนะเนี่ย ได้ทำงาน ได้เที่ยว แล้วยังได้มีโอกาสลั่นชัตเตอร์อีก

ถ้าชอบถ่ายรูปมากๆ ตอนนี้ก้อถอยเหอะ DSLR น่ะ
ส่วนกล้องฟิล์มก้อติดไว้้ด้วยไง ยังไงมันคนละความรู้สึก
คนแต่งชอบ LOMO มั้ยจ๊ะ มันเป็นการถ่ายฟิล์มที่ได้อีกฟิลหนึ่งเลยอ้ะ
คนอ่านถอย 50D มาเมื่อปิดเทอมที่แล้ว ยังไม่มีเวลาไปถ่ายไหนเลย
กะว่าปิดเทอมนี้จะทัวร์ถ่ายรูปซะหน่อย ที่ไหนสวยบ้าง ว่างๆ ก้อแนะนำได้นะจ๊ะ

บวก 1 ให้จ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสอง
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 22-02-2009 04:17:23
 :impress2:
อ่านแล้วอยากบอกว่าเริ่มรู้สึกว่าต้องขอให้ได้อ่านเรื่องนี้ทุกวัน
เพราะมันเหมือนเป็นไดอารี่ที่มีชีวิตที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ
ให้เราได้รับรู้ความเป็นไปของคนๆนึงโดยที่เค้าค่อยๆบอกเรื่องราว ความรู้สึก
ความคิด ออกมาซึ่งถ่ายทอดออกมาได้อย่างลงตัวด้วยภาษาที่อ่านเข้าใจง่ายด้วยละมั้งนะ
พออ่านไปอยากบอก ความรู้สึกรักที่เกิดขึ้นมันเลิกยากมากจริงๆแหละ
ใครไม่เจอก็คงไม่เข้าใจหรอกว่าการที่เรารักใครคนนึงนั้น มันทุกข์มากกว่าสุข
หากต้องทนเก็บเอาไว้ไม่สามารถสานต่อความรู้สึกของเราออกไปได้ต่อให้ไปไกลแค่ไหนมันก็ยาก
ที่เราจะลืมเรื่องราวเหล่านั้นที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับเค้า หรือ ความเป็นเค้าที่เราฝังมันลงมาในใจ
ดังนั้นวิธีการที่จะอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขให้ได้ คือ พยายามเปิดกว้างยอมรับความรู้สึกจากรอบตัว
ของเราให้มากขึ้นเปิดใจเราให้รับคนอื่นเข้ามาบ้างอย่าอยู่กับสิ่งที่ไม่จีรังเลยนะ
แล้วเราจะมีความสุขมากขึ้นอีก
                                                                                                          นิว
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 22-02-2009 12:12:51
คืนที่สิบสาม

“ถึงซะที ขาชาไปหมดแล้วกู” ผมก้าวลงจากรถ เมื่อถึงโรงแรมที่พัก ณ เมืองขอนแก่น
“เฮ้อ ผ่านมาในเมืองค่อยยังชั่ว ไม่เงียบเป็นเป่าสากเหมือนพิโลก” กูทายว่ามึงต้องวางแผนเที่ยวแล้วแน่ๆ ผมคิดในใจ

“เราอยู่ขอนแก่นสองคืนเลยนี่หว่า ยังไมไ่ด้เที่ยวผับเลยตั้งแต่มาทำงาน ไปเที่ยวกันป่ะ” ผมชวนไอ้พล เพราะงานตอนเช้าก็ไปราวๆสิบโมง ไม่ต้องรีบตื่น
“ก็ดี ว่าแต่มึงรู้ที่เที่ยวหรอวะ”
“หึ” ผมส่ายหัวเป็นคำตอบ จะรู้ได้ไงเล่า ไม่เคยมา ไม่เคยเฉียดมาแถวนี้เลย แต่ด้วยความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี หึหึ มือถือมีไว้ทำไม

“อัลโหลๆ”
“ไงมึง” ผมโทรหาไอ้ฝุ่น
“ขอนแก่นมีที่เที่ยวที่ไหนมั่งวะ” มันเป็นคนสกลนคร น่าจะรู้บ้าง (เกี่ยวป่าววะ)
“อ่อๆ มีๆ ถนนที่มันมีผับเยอะๆอ่ะมึง”
“เส้นไหนของมึง” บอกแบบนี้แล้วกูจะรู้ไหม กูมาครั้งแรก ย้ำว่าเพิ่งมาเปิดซิง
“ก็ๆ รู้จักโซฟิเทลป่ะ” เอ ชื่อคุ้นๆ
“อ๋อๆ รู้ๆ ที่นี่มีด้วยหรอวะ”
“เออดิสัด ตึกสูงๆ ที่เที่ยวอยู่เส้นทางเข้าโซฟิเทลอ่ะ”
“เออเดี๋ยวกูลองถามดู แล้วร้านไหนดีวะ” หวังว่ามันจะช่วยได้ เพราะมันขาดื่มอยู่
“ยูบาร์ หลังโรมแรมเลยมึง มึงต้องเดินเข้าไปในซอยโรงแรมนะ”
“ไว้ถึงกูอาจจะโทรถามอีกทีนะมึง แล้วนี่มึงอยู่ไหนวะ” เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ถามสารทุกข์สุกดิบมันซะหน่อย ฮ่าๆ
“กูอยู่มหาลัย คุยเรื่องถ่ายหนังอยู่”
“โห่ ยังไม่เสร็จอีกหรอวะ” ผมเคยจะทำโปรเจคร่วมกับพวกมัน แต่ถอนตัวออกมาแล้วด้วยเหตุผลบางประการ ปายก็เลยปลายเป็นฝันไป
พวกมันหันกลับมาทำหนังในกรุงเทพกันแทน แต่ผมก็ยังอยากช่วยอยู่ แต่ผมรู้สึกว่า ตัวเองยังไม่พร้อมสำหรับลุยงานแบบนี้ ขอโทษทีว่ะ

“เออๆ มีไรโทรมาละกัน กูไปคุยงานก่อน พวกมันมากันครบแล้ว”
“เออๆ เดี๋ยวกูซื้อขนมไปฝาก”
“ที่นั่นมีไรกินวะ”
“ไม่รู้” เพิ่งมาถึง กูจะรู้มั้ยเนี่ย เหอะๆ เท่าที่ผ่านมา เห็นมีเชียงใหม่อ่ะอาหารแปลกตาน่าซื้อฝาก แต่ไม่ได้ซื้อ ก็แหงล่ะ ซื้อไปเน่าพอดีสิคร้าบท่าน ตั้งหลายวันกว่าจะกลับ

“งั้นกูขอสาวๆมาฝากละกัน”
“ตั้งแต่มากูเห็นแต่ผู้ชายว่ะ” ฮ่าๆๆๆผมแกล้งแซวไอ้ฝุ่น
“ก็มึงไม่มองผู้หญิงอ่ะดิสัด ลองมองดูสาวขอนแก่นน่ารักนะมึง”
“เออๆ ถ้าไม่มีหนุ่มให้มองเดี๋ยวกูจะมองสาวไปเผื่อ”

ผมร่ำลากับมัน ขำๆในความคิดของตัวเอง เค้าว่ากันว่าขอนแก่นแดนเกย์เลย ไม่รู้จริงป่าว เฮียตี๋เคยบอกว่าที่นี่คนน่ารักเยอะ เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้ วะฮ่าๆๆๆ

“ยูบาร์” ผมพูดเสียงดังฟังชัด ไอ้พลทำหน้างง
“ไรมึง”
“ที่เที่ยวไงมึ เพื่อนกูบอกว่าเจ๋ง” ไม่เจ๋งมึงเจอด่าแน่ไอ้ฝุ่น ผมคิด ไม่มีสำนึกบุญคุณเลยกู
“ไปดิ นี่เพิ่งทุ่มเดียว ไปไหนก่อนดี” ไอ้พลคิด สายตาเจ้าเล่ห์ของมันทำให้ผมพอรู้ มันพูดตั้งแต่บนรถแล้วว่าที่นี่มีซาวน่า มันเคยเปิดเนทเจอ
แล้วมันก็อยากจะมาดูว่าอย่างไร เหอะๆ ปกติไอ้เต้ไม่เข้านะคับ ออกตัวไว้ก่อน ฮ่าๆ แต่ก็ไม่อินโนเซนถึงขั้นไม่รู้ไม่เห็นแหละ
ก็เคยลองไปมาครั้งสองครั้งแถวอารีย์ให้รู้ว่าเป็นเยี่ยงไร (รู้กันเปล่าว่าที่ไหน ฮ่าๆ) แต่ว่านะ ไปแล้วก็โชว์สะดุดทางเดินล้ม (ก็มันมืดนิ)
เป็นที่อับอายและไม่อยากจะไปอีก (แถมไม่ได้ใครด้วย เฮ้อ เสียทั้งตังค์ เจ็บทั้งตัว นึกละเซ็ง)

“ทางเข้าแม่งหลอนว่ะ” ผมบอกได้พล ขณะที่เรามายืนกันอยู่หน้าซาวน่าในซอยเปลี่ยว (กูจะโดนใครฉุดไปฆ่าไม่ข่มขืนก่อนมั้ยเนี่ย

สภาพตึกแถวที่ถูกทำเป็นแหล่งนัดพบของกลุ่มชายรักชาย ทำไมสภาพที่นี่อนาถจังวะ พอเปิดประตูเข้าไปผมงี้ผงะ อยากออกมาทันที
ไม่ใช่เพราะเห็นรูปผู้ชายแก้ผ้าแล้วทนไม่ไหวนะคับ แต่กลิ่นมันอับ และมันดูสลัวๆ เหมือนแหล่งมั่วสุมมากกว่า เห็นแล้วเอากันลงไปได้ไงวะ สภาพแบบนี้

“เคยมารึยังคับ” พนักงานถามผม ผมส่ายหนาหงึกๆ เขามองผมแปลกๆ คงไม่เคยเห็นหน้าหล่อแนวๆอย่างงี้อ่ะดิ เอิ๊กๆๆ
“ค่าเข้า...บาทนะคับ” ไม่บอกราคานะคับ เดี๋ยวเป็นการชี้โพรงให้กระรอก หรือสอนจระเช้ว่ายน้ำหว่า งุงิๆ
“คับ”
“ลอคเกอร์อยู่ชั้นล่างด้านในนะคับ นี่ผ้าเช็ดตัว แล้วก็กุญแจลอคเกอร์ ชั้นสองเป็น... ชั้นสามเป็น... คาราโอเกะด้านล่างนะคับ”
“โหมีคาราโอเกะด้วยหรอ” ไอ้เต้ตื่นเต้น ของโปรดผมเลย การร้องคาราโอเกะ
“เออๆ มึงอยากร้องเกะใช่ป่ะ เดี๋ยวกูไปสำรวจเอง” ไอ้พลหันมาบอก ก่อนจะเดินนำลิ่วไปที่ลอคเกอร์ ซึ่งมันผ่านมุมคาราโอเกะด้วย

ผมลอบมองสำรวจบรรยากาศ นี่หรือ คาราโอเกะ เฮ้อออ ถอนหายใจและตามไปไอ้พลไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่สิ ต้องใช้คำว่าถอดเสื้อผ้ามากกว่า
แต่พอถอดมา ก็รู้สึกว่ามันมียุงอ่ะ เฮ้ยเชี่ย ยุงจะกัดกูแล้วติดเอดส์มั้ยเนี่ยยยยย ผมคิดขำๆ ดิ้นรนเสียตังค์มาไมวะกรู ไม่มีดวงเรื่องเที่ยวซาวน่าจริงๆ

ผมค่อยๆ เดินตามไปพลขึ้นไปชั้นสอง ได้ยินเสียงร้อง ดังมาก โอ้ววว โอ โอ โอ โอ้วววว ฮ่าๆๆๆ ผมหลุดขำออกมาเบาๆ มันไม่ใช่เสียงจากความเสียวอันใด
ของการมีเพศสัมพันธ์ แต่คือเสียงครางโหยหวนของหนุ่มน้อยนางหนึ่งที่ชั้นล่าง ร้องเพลงของเหล่าดิว่าอยู่ ณ มุมคาราโอเกะ นั่นแล แม่ง กล้าชิบหาย
โอเพ่นเห็นหน้าขนาดนั้น ยังกล้าหอน โชว์พลังเสียง หึหึหึ (รู้สึกตัวเองปากร้ายว่ะ เอิ๊กๆ)

“เฮ้ย กลับมั้ยมึง” หลังจากเดินสำรวจครบทุกห้อง ผมก็เอ่ยกับไอ้พล เพราะไม่อยากทนอยู่ในสภาพแบบนี้
“เสียตังค์แล้วนะมึง”
“ช่างแม่งเหอะ จะทรมาณตัวเองอยู่ทำไมวะ”
“งั้นกูขอออกกำลังกายก่่อนก็ยังดี จะได้ฟิตๆ ไปเที่ยวต่อ” ดูไอ้พลมัน พยายามเนอะ ว่าแล้วเราก็แวะกันที่ห้องออกกำลังกาย ซึ่งดูว่าจะเป็นมุมที่โอเคสุดของตึกหลังนี้

สองทุ่มกว่าผมก็เดินจากที่แห่งนั้นมาด้วยความขำขัน เดินออกมาแม่งก็มืดๆ เฮ้อ

*หากใครรู้หรือเคยไปสถานที่แห่งนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวว่าอะไรนะคับ มันก็เป็นแค่ความรู้สึกส่วนตัวที่เรามีทัศนคติต่อสิ่งหนึ่ง
ต่างคนก็ต่างใจ ที่บางที่ มันอาจจะเป็นสวรรค์สำหรับใครอีกหลายๆคน แต่ไม่ใช่สำหรับใครคนหนึ่ง

ยังไงก็ safe sex เสมอนะคับ

ถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ 100% ถ้ากลัวมากก็อย่ามี แต่มนุษย์มันจะอยู่ได้โดยไม่มี จะดีหรอวะ ฮ่าๆๆๆ
ทุกคนมันต้องตายอยู่แล้วล่ะ หนีไปก็ไม่พ้น แค่ไม่รนหาที่ตายก็พอ ถ้ามีก็ป้องกันเสมอแล้วกันเนอะ ขอให้ทุกท่านสุขสันต์ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

กลายเป็นนิทานสุขศึกษาไปตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า

__________________

“ดีคับ”
“ไงคับเต้” เสียงพี่เบียร์โทรมา สดใสเชียว สงสัยว่าเพิ่งเลิกงาน
“คร้าบ กำลังเดินหาโบกรถอยู่คับ”
“ฮะ อยู่ไหนคับ แล้วโบกทำไม โบกไปไหน” เสียงพี่แกงงๆ พอดีพี่คนขับเค้าแนะนำมาคับ ไม่อยากให้เขาลำบากขับมารับมาส่งบ่อยๆ เลยให้เขามาส่งที่นี่
แล้วถามว่าจะไปที่อื่นต่อยังไง เขาก็ว่าให้เรียกสามล้อ เหมือนตุ๊กตุ๊กกรุงเทพฯนั่นแล

“ขอนแก่นคับพี่ กำลังจะไปเที่ยว”
“โห คนเราหนีกันไปซะไกล ไม่มีบอกกันเลย” อ่านะคับ พี่เบียร์ทำเสียงงอนๆ ผมก็ไม่ชอบโทรรายงานใครค้าบ

“อ่านะคับ แล้วเพิ่งเลิกงานหรอ”
“อ้าวเปลี่ยนเรื่องเลย ใช่คับ แล้วกลับวันไหนหรอ”
“อีกสองวันคับ”
“อืม เมื่อไหร่จะปกินข้าวกับพี่ล่ะคับ” อืมมม ถามทุกครั้งที่คุยเลยแฮะ เมื่อไหร่ดีล่ะ
“ก็กลับไป ว่างๆก็ไปกินข้าวกันละกานคับ”
“คับผม รอนะ” ผมเกลียดคำแบบนี้ที่สุด มันเหมือนเป็นพันธนาการอะไรสักอย่าง ที่มีคนมาผูกมัดเราด้วยการบอกว่า รอ
“ค้าบผม”
“แล้วไปเที่ยวไหนคับ อย่าดื่มเยอะล่ะ” ทำไมผมไม่รู้สึกดีเหมือนเวลาไอ้พี่เคนมันบ่นวะ รายนั้นบ่นเอาๆ กลับรู้สึกดี สงสัยกูจะบ้า
“คับ ยังไม่รู้เลยว่าที่เที่ยวจะเป็นไง” ทำใจไว้ก่อน เจอซาวน่าหลอนมาแล้ว
“ที่นั่นดีนะ เคยไป ทำดีเลยล่ะ” เหอะๆ เชื่อได้อ่ะป่าวเนี่ยไอ้พี่เบียร์
“คับๆ งั้นเต้ขึ้นรถก่อนนะ ไว้คุยกันนะคับ”
“ค้าบผมๆ อย่าเมามากล่ะ บายคับ”

ผมวางสาย ขณะที่ไอ้พลมันกวักมือโบกรถไหวๆ สามล้อก็เลี้ยวมาจอดหน้าเรา
แล้วไม่นาน ผมก็มาถึงถนนเส้นเที่ยวราตรีของนครขอนแก่น อย่างกับอาร์ซีเอหรือรัชดาเลย ที่เที่ยวพรึบพรับสองข้างทาง โห ไรวะนี่ ดูภายนอก
ดีจริงด้วยแฮะ ภายในก็น่าจะโอเค เท่าที่เห็น ผิดต่างกับซาวน่าเยอะเลย ดีๆ แบบนี้ค่อยกระชุ่มกระชวยหน่อย

เดินสำรวจ เห็นมีร้านนึงสีฟ้าๆ ดูสวยงามน่าเข้าดี แต่ด้วยความยังเช้า คนเลยไม่มีเท่าไหร่ อืมมม ร้านไหนดี มองหาป้ายยูบาร์ยังไม่เจอ แต่เห็นตึกโซฟิเทลและ ตรอกนั้นแน่ๆ Go!!!

You’ve got a text message เสียงมือถือผมดังขึ้น ขณะแวะนั่งกินข้าวอยู่ร้าน Delight ข้างๆโรงแรม บรรยากาศดีมาก เพลงเพราะ
อยากมีร้านแบบนี้ว่ะ ความฝันของคนเรา จะทำให้มันกลายเป็นจริงได้มั้ยวะเนี่ย

“Say Hi from the south, little boy” นั่นคือคำใน message ฮ่าๆๆ ใครล่ะ ไปใต้ตอนนี้ ก็มีแต่ไอ้พี่เคนอ่ะแหละ ส่งกลับไปว่าไรดีหว่า

ผมนั่งพิมพ์ไป ฟังเพลงที่นักดนตรีร้องเล่นคลอไป

ช่วงนั้นเพลงมันกำลังดัง หรือไม่รุ้ว่าเพราะจงใจ เสียงที่คลอไปขณะผมพิมพ์ข้อความจึงเป็นเพลงนี้

“คนหนึ่งเขาช่างดีกับฉัน จะทิ้งเขาลงยังไง คนหนึ่งเคยทิ้งไป แต่รักไม่เคยจางหาย ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงจากไหน ก็คงต้องเลือกสักทาง ทางที่รักสามเศร้าต้องจบ”

อืมมม รักสามเศร้า ถึงเนื้อหามันจะไม่ค่อยมาตรงอะไรกับชีวิต แต่มันก็เศร้าอยู่ดี สำหรับผู้ชายคนนี้

“Say Hi under the moonlight, have a good trip” ผมกดส่งข้อความที่เพิ่งพิมพ์เสร็จนี้ไปให้ผู้ชายอีกคนที่ตอนนี้คงอยู่ที่หนึ่ง ซึ่งไกลกับผม
หวังว่าเขาจะเงยหน้ามองฟ้า เหมือนที่ผมกำลังทำ อยากให้ฟ้าเป็นกระจก สะท้อนรอยยิ้มผมให้เขาได้เห็น ผ่านพระจันทร์แสนไกลนั่น

คุยกับไอ้พลไปเรื่อยเปื่อย พร้อมกับเบียร์หนึ่งขวดที่ค่อยๆ พร่องไปเรื่อยๆ ส่วนไอ้พลกระแดะมาก ละเลียดน้ำผลไม้ปั่นแก้วโต เชี่ยสร้างภาพ
เดี๋ยวกูจะคอยดูตอนเข้าไปในบาร์แล้วมึงยังจะแดกซอฟต์ดริ้งค์อยู่มั้ย

เพลงสุดท้ายที่วงดนตรีเล่น ช่างเข้ากับบรรยากาศคืนพระจันทร์กลมโตสว่างไสวแบบนี้เสียจริง ผมจำได้ดีว่าเขาเล่นเพลงอะไร เพราะนั่นคือเพลงโปรดมากๆเพลงหนึ่งของผม

ผมตั้งใจใส่เนื้อเพลงแบบมีคอร์ดด้วย เพราะว่ากีตาร์คืนนั้นมันเพราะเสียจนไม่อาจเลือนหาย และเขาก็คงเล่นตามคอร์ดเหล่านี้เช่นกัน




C                    Em7                     Ebm7
มองไปไกลที่ดวงดาวสุดขอบฟ้าไกล
Dm7             G7
อยากจะไปไปให้ถึงครึ่งทางแสงเธอ
C                       Em7               Ebm7
ดวงดาราเหมือนไม่มีวันจะพบเจอ
Dm7               G7
อยากให้เธอส่องแสงลงมาพื้นดิน



C                     Em7                       Ebm7
* มองจันทราเมื่อเวลามันกลบแสงดาว
Dm7                      G7
กลัวทุกคราวเพราะว่าฉันนั้นคือก้อนหิน
C                       Em7                   Ebm7
กลัวดวงดาวไม่ทอแสงลงกระทบดิน
Dm7               G7
และก้อนหินอย่างฉันคงไม่สวยงาม



 F                        Em7    Ebm7
** อยากให้ดาวดวงนั้นรู้ว่า
Dm7           G7
เมื่อดาราส่องแสงฉันดูสดใส
F                    Em7       Ebm7
อยากให้ดาวดวงนั้นเข้าใจ
Dm7           G7
ขาดเธอไปตัวฉันคงหมดสิ้นกัน

     




แม้ว่าที่ขอนแก่นจะไม่มีเงาของเขา แม้ว่ายามไปเดินเล่นอยู่ริมบึงแก่นนคร ชมอาทิตย์อัสดงของอีกสนธยาหนึ่ง จะไม่มีไอ้เฮียเคนมาเดินอยู่ด้วย
แต่หากผมมีโอกาสผมได้ไปขอนแก่นอีกกี่ครั้งก็ตาม มันจะไม่มีทางเหมือนกัน ผมจะจำได้ว่า การไปขอนแก่นครั้งนั้น มีค่ากับผมมากจนเวลาไม่อาจลบมันไปจากรอยจำ

เพราะเป็นขอนแก่นที่ทำให้่ผมคิดถึงคนที่นครฯมากที่สุด

   _______________________________________________________


หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 22-02-2009 12:17:04
http://www.imeem.com/people/fzEbB59/music/yvtxKrD7/soul_after_six/

พยายามลงเพลงไม่สำเร็จ เอาลิ้งไปแทนละกานคับ อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 22-02-2009 13:05:41
พระจันทร์เฉา....ฉันคงเศร้า
พระจันทร์เหงา...ฉันคงหงอย
พระจันทร์นอยด์....ฉันคงเหวอ
พระจันทร์ละเมอ....ฉันก็ละเมอ 
เช่น...เดียว...กับ...พระจันทร์

***พระจันทร์คืนนี้คงไม่เหมือนกับเมื่อคืนก่อน
และทุกๆคืนที่ผ่านมา
 :m13: :m13: :m13:

 :pig4:ขอบคุณคับ ตัวเล็ก  :pig4:

ป้อล่อ.....เอ่อ ตัวเล็กคับ สูงร้อยหกเจะ เนี่ยะ ผมอุ้มใส่ถุงกลับบ้านได้เลยนะ  :mc1: หุหุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 22-02-2009 13:37:01
ละเมอกันต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 22-02-2009 14:37:08
 
:L2:...ถ้าอีกคน...ไม่มีพันธะ..คงมี..คู่รัก..เพิ่มขึ้นอีกคู่บนโลกนี้... :L2:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 22-02-2009 14:51:06
ว้าว~!!  ได้ไปตั้งสองภาคแนะ
ขอนแก่นนั่งรถเที่ยวชมวิวตอนกลางคืนสวยน้า

อ่านเรื่องนี้ ผมว่าบางทีคนเรามันก็ใช่นะ อารมณ์รัก เหงา ๆ เศร้า ๆ เพ้อๆ อินกับบรรยากาศ หงุดหงิดมากมายกับไอ่คนที่ไม่ใช่โทรมา ยิ้มได้เมื่อคนที่ใช่โทรมา  ...  ผมว่าคนเขียนถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้ดี ^__^

เรื่องเหมือนจะเรียบ ๆ แต่วิธีการเล่า และประเด็นความรู้สึก ทางออกของความรู้สึกของเต้ในตอนท้าย น่าสนใจ .. ผมก็เลยชอบอ่านเรื่องนี้

ขอบคุณนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 22-02-2009 17:35:46
แหมไปล้มที่ ฉ(ปื๊บ) ด้วยแหะ   :laugh:  คิดซะว่าไปส่องหนุ่มๆล่ำๆละกัน

ได้เวลาท่องราตรีแล้ว

ปล. ขนาดไม่ชอบยังไปหลายครั้งเลยนะนั่น หุหุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 22-02-2009 17:56:27
คิดถึงได้อีก :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 22-02-2009 20:11:51
Relos คร้าบ ผมไปมาแค่สองครั้งเองหนา  :-[

Peak ขอบคุณคับ สำหรับคำวิจารณ์ แอบปลื้มลอยละลิ่ว แฮะๆ ขอนแก่นเป็นอีกเมืองที่น่าอยู่มากๆเลย ผมชอบแถวๆริมบึงมาก ไปเดินตลาดนักมา ปาลูกโป่งด้วย

Love NT19  แฮะๆ no comment

Nong mae คร้าบ เมื่อไหร่จะตื่นเนาะ

Broback ขอบคุณสำหรับกวีพระจันทร์คับผม ท่าทางจะตัวใหย่ น่ากลัวๆ
 
nana คิดถึงคนอ่านตลอดเวลาเลย  (ปากหวานไปมั้ยกู)
 o18

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 22-02-2009 22:17:24
ขอบคุณสำหรับกวีพระจันทร์คับผม ท่าทางจะตัวใหย่ น่ากลัวๆ

พูดซะยังงี้....ระวังเหอะ
เด๋วก็อุ้มกลับบ้าน(ผม)จริงๆ ซะเลย
ตัวเล้กเล็ก ฮ่าฮ่า
 :z1:

ป้อล่อ....เขียนกลอนไม่ค่อยเป็นหรอกคับ อาศัยมั่วๆไป เด๋วมันก็เป็นกลอนเองแหละ  :-[  หัวไม่ให้...แต่ใจรักง่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 22-02-2009 22:22:43

Nong mae คร้าบ เมื่อไหร่จะตื่นเนาะ




พี่เต้ตื่นมะไหร่ก็ตื่นแระ

แต่พุ่งเน้ต้องตื่นอะ มีสอบอิ้ง อ๊ากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 22-02-2009 22:24:10
ตอบอีกนิด พี่สูง 167 หรอ

ประมาณไหล่ผมเลยอะ เหะๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 22-02-2009 22:44:43
งอน มีแต่คนสูงๆ ไม่รักแล้ว  :serius2: 
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 22-02-2009 22:46:23
^
^

อิอิ ตัวเล็กจริงๆ ด้วย  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 22-02-2009 23:05:04
ตอบอีกนิด พี่สูง 167 หรอ

ประมาณไหล่ผมเลยอะ เหะๆ
167แค่ไหล่ o22 สูงจังเลยค่ะ อิจฉา

ตอนนี้มีไปหาประสบกาม เอ้ยการณ์ด้วย 55

คิดถึงๆๆ แม้จะอยู่ห่างกัน :o8:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 22-02-2009 23:50:44
อยากละเมอ ไม่อยากตื่น   เห้อ

รอคืนที่สิบสี่
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 23-02-2009 00:04:45
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

เต้ไม่ต้องน้อยใจไป ยังเราไงเราก้อสูงพอๆกัน

แม้ว่าเค้าจะสูงกว่า2-3เซนต์ก้อเหอะ เค้าสูงประมาณ 168-169อ่ะ

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 23-02-2009 01:31:48
ไม่ได้เข้าเล้ามาหลายวัน...เลยเพิ่งได้มาตามอ่านต่อ
ให้กำลังใจนะครับ  :L2: ผมว่าเรื่องไม่น่าเบื่อเลย ผมชอบการเล่าเรื่องแบบนี้นะ
ยังไงก็ติดตามอ่านตลอดอย่างแน่นอนครับ
.........................
.....“แล้วไปเที่ยวไหนคับ อย่าดื่มเยอะล่ะ” ทำไมผมไม่รู้สึกดีเหมือนเวลาไอ้พี่เคนมันบ่นวะ รายนั้นบ่นเอาๆ กลับรู้สึกดี สงสัยกูจะบ้า.....
แน่นอนอยู่แล้ว ก็เต้ชอบพี่เคนไม่ใช่พี่เบียร์นี่เนอะ  o18

แล้วตกลงยููบาร์เป็นไงมั่งอ่ะ สมคำร่ำลือไหมครับ ผมยังไม่เคยไปเลยแฮะ
อ้อ...รูปที่ลงสวยมากเลยนะครับ ไว้มาลงให้ชมอีกนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-02-2009 01:37:03
^
^
 :z13: น้องบิ๊กค้าบ
เจอกันหลายทู้เลยแฮะ


ละเมอคืนนี้เหงาจังเลยนะ ยิ่งฟัง "ก้อนหินละเมอ" แล้ว ยิ่งเหงาเพิ่มขึ้นไปอีก
ขอนแก่นเที่ยวนั้นแตกต่างจากทุกครั้งเพราะมีความรู้สึกพิเศษจากคนหนึ่งส่งให้อีกคนที่อยู่ห่างไกล
 :เฮ้อ: ยิ่งละเมอ ยิ่งเหงาจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 23-02-2009 07:50:17
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันมันทำให้เกิดอารมณ์เหงาขึ้น
เป็นอีกมุมมองนึงจะบอกการเล่าเรื่องแบบนี้คมดีตรงๆไม่ต้องมีไรมาก
จุดเด่นก็อยู่ตรงที่ ตรงๆใส่เฉพาะประเด็นจริงๆไม่ต้องมีส่วนที่ทำให้เรารู้สึกว่ารำคาญจะมีทำไม
มันทำให้ทุกวันต้องเข้ามาอ่านเรื่องนี้ มาดูว่าวันนี้เต้ทำอะไร และเคนมีแะไรตอบกลับมา
รักษาการเล่าเรื่องแบบนี้เอาไว้ นะชอบมากที่ได้ ความเหงาก็ถูกกลบได้ด้วย
เพลงที่ฟังแล้วรู้สึกว่า เราเปล่าเปลี่ยว แต่มันก็ยังให้มุมมองที่สะท้อนว่า
อย่างไรเราก็ไม่เดียวดายในวันนี้ แล้วจะรออ่านตอนต่อเสมอนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 23-02-2009 14:06:56
คืนที่สิบสี่ คืนที่แสนยาวนาน

ปลายฝนต้นหนาว เมื่อวันที่เราสองคนกลับมาอยู่ในเมืองใหญ่ ที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
มีเพลงอีกเพลงหนึ่งที่เคยบันทึกความทรงจำผมไว้บางช่วงของชีวิตนานมาแล้ว แต่ความหมายนั้นผมยังจำได้ดี ต้าเฉิงเสี่ยวอ้าย รักเล็กในเมืองใหญ่...



“กินไรดีคับ” ผมหันไปถามชายร่างสูงที่เดินข้างๆ
“อืม อยากกินไรล่ะ”
“อะไรก็ได้คับ ขอที่ย่อยง่ายๆหน่อยดีกว่า” ผมบอก มื้อเย็นแบบนี้ ผักๆดีที่สุด ตั้งแต่อายุอานามขึ้นเลขสองมา รู้สึกว่าชอบกินผักมากขึ้นยังไงไม่รู้แฮะ
แถมยังรู้สึกกินเนื้อแล้วย่อยยาก (เอหรือจริงๆแลวกูสามสิบละหว่า)
“อืมมม” พี่เบียร์ยังเดินไปเรื่อยเปื่อยไม่มีทีท่าจะเลือกร้าน
“สุกี้นี่มั้ยคับพี่”
ผมหันไปบอกพี่เบียร์ หลังจากเดินเลือกร้านได้สักพัก คิดเองเลยดีกว่า หิวและ
“ก็ได้ๆ” ก็ตกลงกินสุกี้กันใกล้ๆสเวนเซ่น บนชั้นโรงหนังเซนเวิลนั่นแล

“สองที่คับ” ผมหันไปบอกพนักงานร้าน และเดินไปนั่งโต๊ะ คนเยอะไปหน่อย แต่มุมนี้ก็ดี เห็นคนเดินผ่านไปมา น่ารักดี ฮ่าๆ

เมนูก็เยอะกว่าเอ็มเคดีนะ ปกติอยากกินสุกี้ทีไรคนรอบกายชอบบอกว่าต้องเอ็มเค ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าร้านอื่นไม่มีหรอไงฟะ อยากลองกินร้านอื่นมั่งก็ไม่สามารถสู้เสียงโหวตได้ทุกที

นั่งกินได้สักพัก ผมก็เห็นพ่อหนุ่มผมตั้งเดินแว๊บๆผ่านไป
นี่เราคิดถึงจนตาฝาดเลยหรอวะ เอ๊ะ ไม่ดิ นั่นๆ แว๊บๆผ่านมาอีกแล้ว

“เฮ้ เฮีย” ผมตัดสินใจขอตัวลุกจากโต๊ะ มาตะโกนเรียกตาแก่ตัณหากลับที่ยืนหันรีหันขวาง ชะเง้อคอเป็นยีราฟอยู่แถวนัน้คนเดียว

“อ้าว เฮ้ย มาได้ไง”
“เดินมาดิคับ”
“อ้าวๆ กวน มาไงเนี่ย แล้วเห็นพี่ได้ไง” ไอ้พี่เคนมันไม่ได้ฟังรึไงวะ ก็บอกว่าเดินมา เดินมาจริงๆนะเว้ยไม่ได้โกหก ส่วนเห็นได้ไงอ่ะหรอ ก็มองดูก็เลยเห็น เอิ๊กๆ
“เต้กินอยู่ร้านนี้ เห็นพี่เคนเดินชะเง้อหาหนุ่มๆอยู่” ผมแกล้งแซว ก็ท่าพี่แกเมื่อกี้ชะเง้อจริงๆนี่หว่า ไม่ได้ใส่ร้ายเลยสักกะนิด
“อ่ะๆ บ้าดิ กำลังหาร้านกินข้าวอยู่เว้ย นัดเพื่อนไว้” อ่ะหรออออ ผมตั้งหล่อมาอีกและ อิอิ
“คับๆ”
“เออกินเสร็จไปไหนต่อป่ะ”
“ไม่มั้ง”
“เออ งั้นไปเที่ยวกันๆ โทรมานะๆ” ไอ้พี่เคนทำมือโทรแล้วเดินชะเง้อต่อไป สูงก็สูง ยังกับยีราฟผมตั้ง ฮ่าๆๆ คนไรวะ
ผมพยักหน้าเออๆออๆ แล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ

“ใครอ่าคับ” พี่เบียร์ถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“อ่อ พี่คับ” ไอ้เต้ตอบไปด้วยน้ำเสียงสดใส
“หรอ”

อืมมม ก็ให้ตอบว่าไรล่ะ พี่ จริงๆ แต่รู้สึกดีเกินพี่ชายทั่วไป ฮ่าๆๆๆ
“ว่าไงเรา กินเสร็จแล้วหรอ” เสียงลุงแกรับสาย วันนี้สงสัยจะอารมณ์ดี
“ช่ายคับ ยังอยู่เซนเวิลมั้ยอ่ะ” ผมมองดูนาฬิกาสามทุ่มแล้ว ไม่รู้เฮียแกกลับไปยัง
“อยู่ดิ เนี่ยอยู่คอฟฟี่บีนกับเพื่อน เดินมาดิ”
“อยู่กับเพื่อนไม่ใช่หรอ ไม่ดีกว่ามั้ง”
“เฮ้ยมาเหอะๆ อยู่กับเพื่อนแค่สองคน” เหอๆ แล้วผมไปจะบอกเพื่อนพี่ว่าไงล่ะเนี่ย
“อ่ะ”
“มาๆไวไว นั่งรออยู่นี่นะ”

ผมบอกพี่เบียร์ว่าจะไปเที่ยวต่อกับไอ้พี่เคน จริงๆพี่เค้าก็โอเคดี แต่บ่นง่วงอยากกลับบ้านนอนซะแล้ว อย่างว่าแหละคนทำงานเช้าถึงเย็น ใครจะมาว่างแบบไอ้พี่เคนมัน

บันไดเลื่อนพาผมลงมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นสอง ที่ร้านนั้นตั้งอยู่ (ร้านตรงซ้ายมือปากทางเข้าห้างฝั่งสกายวอล์คจากสยามอ่ะแหละคับ)

“หวัดดีคับ” ผมทักทายไอ้พี่เคนอีกรอบ และยิ้มให้เพื่อนเขา
“อ่ะนั่งๆ นี่พี่เอก”
“หวัดดีคับ” ผมยกมือไหว้ ทำท่าสงบเสงี่ยมนิดนึง
“อ่ะนี่เต้ เป็นเด็กมีปัญหาเมื่อกี้เห็นอยู่แถวนี้ เลยชวนมา” ดูไอ้พี่เคนปากดี แนะนำผมเสียหายหมดแล้วมั้ยล่ะ แต่ตอนนี้เป็นรองอยู่ สองต่อหนึ่ง
ต้องสงบเสงี่ยมไว้ ได้แต่ทำสายตาอาฆาตแค้นไอ้เฮีย
“หวัดดีคับๆ ฮ่าๆ” พี่เค้าก็ขำสิคับ ได้ยินแบบนั้น
“แล้วกินไรป่าว”
“ไม่คับ เรียบร้อยแล้ว”
“อืม ไปเที่ยวไหนกันต่อดีล่ะ ว่าไงเต้ เด็กเที่ยวแนะนำดิ๊” นั่นดูไอ้พี่เคน ยัดเยียดบทเด็กมีปัญหาให้ แล้วยังให้เป็นเด็กเที่ยวอีก เออ กูแม่งไม่มีอะไรดีแล้ว ชิชิ
 
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือเหลือบสายตามองถ้วยชา และกัดฟันกรอดๆ หื่มมม
“แล้วแต่พี่ดิคับ ปกติสามทุ่มผมก็กลับบ้านนอนแล้ว” ตอบไปแบบประชดเล็กน้อย
“หรออออ” แล้วเสียงตอบรับแบบประชดก็ตอบกลับมา
“ผมว่าเรียกเช็คบิลก่อนดีกว่าพี่แทน” พี่คนที่ชื่อเอกพูดขึ้น
ไอ้เต้ฟัง แล้วชะงักเล็กน้อย พี่แทนหรอ
“อืมๆ” พี่เขาพยักหน้า
เชคบิลเสร็จ เดินออกมาจากร้าน พี่เขาสองคนยังคุยกันเรื่องธุรกิจอะไรอยู่บ้าง ผมได้แต่เดินตาม เหมือนเดินท่ามกลางคนที่เราไม่รู้จัก

“ไงเต้ ตกลงจะพาไปไหน” ไอ้พี่เคน หรือพี่แทนอะไรนั่น หันมาถาม
“แล้วแต่ดิคับ”
“ไงเอก ไปไหนดี”
“ไปกันเลยๆ พอดีมีงานต่ออ่ะพี่ ไว้เจอกันๆ”
“อ้าวหรอ ไม่ไปด้วยกันก่อน ไม่ดึกมากหรอก” เฮียแกคะยั้ยคะยอเพื่อนรุ่นน้องให้ไปต่อ ส่วนผมล่ะ อยากไปและไม่อยากไป ขอทำเสียงที่ทำบ่อย เสียงถอนหายใจในใจ

...เฮ้อออออ

สุดท้าย เราสองคนก็เดินมาข้ามสกายวอล์คกันออกมาสองคน พี่เอกแกก็แยกกลับไป
ผมไม่รุ้จะพูดอะไร ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอน แต่มันเหมือน เราไม่ได้รู้จักกัน คนที่เดินข้างๆผม ที่เอาแขนมาพาดวางบนไหล่ผม ที่เมื่อกี้ เอามือมาขยี้หัวผมเล่น
 แล้วบ่นว่าหัวเหนียว มีแต่แว็กซ์พวกเด็กสมัยนี้ มือนั้น ที่มันมาแกล้งตบหัวผมเบาๆ แล้วพยายามดึงเข้าไปใกล้ลำตัวอีกฝ่ายให้มากขึ้น ผมยังไม่อยากพูดอะไร
จนเราเดินลงมาที่ถนนเบื้องล่าง หน้าเอราวัณ ไม่ใช่เพื่อไหว้พระพรหมหรอก แต่เพื่อโบกแท็กซี่ ไปยังร้านคาราโอเกะ ที่เราตกลงกันว่าจะไป

“พี่ชื่อไรกันแน่อ่ะคับ”
ผมถามเสียงเรียบๆ สายตาจดจ้องไปยังถนนข้างทาง แสงไฟประดับสลัวๆหน้าโรงแรมและหมู่คอนโดของถนนราชดำริ
นี่คือถนนสายหนึ่งที่เปลี่ยวเหงาที่สุดในใจกลางเมืองกรุงเทพ ทุกครั้งที่ผมผ่านมัน ผมจะรู้สึกเช่นนั้น ถนนที่มีแต่กำแพง ตึกสูง ตั้งตระหง่านไม่พูดไม่จาอยู่สองข้างทาง
ทางเท้าว่างเปล่า ยิ่งช่วงหน้าสถานฑูตกัมพูชาแล้วด้วย มีแต่กำแพงและกำแพง อีกฝั่งก็สปอร์ตคลับ มันเป็นถนนที่ไร้ร้านรวงเล็กๆ ใดๆ ไร้ซึ่งชีวิตเล็กๆ
จะมากระเด็นเกะกะอยู่รายทาง มีเพียงตึกสูงและที่สำหรับคนใหญ่คนโต คนที่มีชนชั้นสูงในสังคมเสียส่วนใหญ่

มือเล็กๆข้างซ้ายของผม ถูกมือที่ใหญ่กว่า มาทาบทับกุมไว้ และบีบเบาๆ ผมอยากจะดึงออกแต่ไม่เข็มแข็งพอ ผมอยากจะขยับรับสัมผัสนั้น
แต่ก็เช่นกัน สิ่งที่ทำได้คืออยู่ นิ่งๆ อยู่ เฉยๆ อยู่ อยู่ตรงนั้น ให้อีกมือหนึ่งคอยปลอบประโลม มอบความอบอุ่น และคลายจากไปเองเมื่อต้องการ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 23-02-2009 14:10:03
“พี่ชื่อแทน”
“หรอคับ”
“อืม ไม่ได้ตั้งใจหลอกนะ แค่ยังไม่รู้จะบอกตอนไหนดี”
“คับ”
“แล้วพี่อายุเท่าไหร่อ่ะ”

จริงๆผมไม่ได้ตั้งใจจะจับผิด ไม่ได้อยากจะรู้มันจริงๆหรอก แต่มันเหมือนว่าเราเพิ่งรู้จักกันมากกว่า ผมเลยอยากถามคำถามนี้อีกครั้ง

ไอ้พี่แทนล้วงกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาแล้วหยิบไอดีการ์ดมาให้ผมดู
“นี่ไง เชื่อยัง”
ผมมองดูชื่อ นามสกุล และปีเกิด อย่างน้อย นั่นก็เป็นเรื่องจริง

ความจริงคืออะไร What is reality? What is true?

ความรัก ไอ้พี่เคน พี่แทน ชื่อสกุลในไอดีการ์ดบางๆนั้น หรือคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี้ หรือทุกอย่างไม่มีอะไรเป็นความจริงเลย หรือความจริงมันอยู่ที่ว่ามองมันยังไง
ความจริงสำหรับผมก็คือความจริงสำหรับผม และสำหรับเขา เขาก็มีความจริงสำหรับเขาอยู่

แท็กซี่มาจอดอยู่ริมถนน
ผมลงรถตามพี่เขาและเดินเข้าไปยังร้านคาราโอเกะที่เคยมา พี่เขาก็เคยเล่าให้ฟังว่ามาที่นี่บ้าง
ร้านมันอยู่ชั้นสองของร้านไวน์บริดจ์ มืดสลัวๆ เป็นคาราโอเกะคลับ สำหรับมานั่งค่าเวลา
“ดื่มไรดีหว่า”
“พี่ล่ะ อืมมม”
“พี่เอามะนาวโซดา เดี๋ยวขับรถกลับไม่อยากดื่มแอลกอฮอล์อ่ะ”
“ผมก็ด้วยละกัน”
“เฮ้ยเราไม่ได้ขับรถ ดื่มไปเหอะ” มือนั้นขยี้หัวผมอีกแล้ว ก่อนพี่แทนจะทำหน้าเซ็งกับมือที่เหนียวไปด้วยแว็กซ์บนหัวไอ้เต้ แล้วเขาก็ขอตัวลุกไปห้องน้ำ

“เอามะนาวโซดาสองที่คับ” ผมสั่งบริกร ที่เดินมารับออเดอร์ และนึกเพลงที่อยากร้อง เพื่อเขียนใส่กระดาษส่งให้เขา
ไม่นานไอ้พี่แทนก็เดินออกมา พร้อมกับมะนาวโซดาที่ตามมาติดๆ

“ไม่กลัวเจอคนรู้จักหรอพี่ มากับผมสองคนแบบนี้” ผมหันไปถามคนที่นั่งข้างๆ โซฟาแบบเบาะเดียวทำให้ผมได้นั่งใกล้
ใกล้กว่าเบาะคนขับและคนนั่งข้างๆบนรถ ใกล้กว่าโต๊ะอาหารตามร้านที่เราเคยไป ใกล้กว่าทุกครั้งที่เคย

“ทำไมล่ะ กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ เอาน่ะคิดมาก แล้วเลือกเพลงได้ยัง”
ผมส่ายหัว เสียงห่วยๆแบบผมจะร้องเพลงไรดีล่ะ คาราโอเกะคลับแบบนี้ โต๊ะไหนร้องก็เห็นกันหมด
ว่าแล้วโต๊ะข้างๆก็ร้องเพลงไทยต้นยุคเก้าสิบ ที่กำลังขึ้นอินโทรมาเลย เหะๆ เก่าเชียว
“อ่ะๆ พี่เลือกได้ละนะ”
“คับๆ”
ผมเขียนเพลงที่คิดว่าตัวเองร้องได้โอเคสุด (เคยมีคนชมว่าร้องเพลงนี้ได้เสียงไม่หลง ฮ่าๆๆๆ)
แล้วก็อีกเพลงซึ่งก็เป็นเพลงที่ร้องบ่อยๆ แล้วส่งให้เด็กเสิร์ฟ ไอ้พี่แทนบอกว่าเดี๋ยวไว้ขอเพลงเองรอบหลัง เพราะยังไงมันวนโต๊ะ เดี๋ยวก็ขอรอบต่อไปได้อีก

“เออเต้ สร้อยที่ใส่อยู่ ใครซื้อให้” ผมงงกับคำถามเล็กน้อย แล้วจับสร้อยเงินรูปปีกนกของตัวเองไปมา
“ซื้อเองดิ”
“หรอ งั้นถอดๆ”
“อ้าว ให้ถอดสร้อยทำไมวะ”
ผมทำหน้ามุ่ย ไม่ยอมถอด แล้วถามไป
“เออน่า มาลองใส่สร้อยนี่หน่อย” ไอ้พี่แทนหยิบสร้อยเส้นหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋า สวยดีเหมือนกันแฮะ แต่มันใหญ่อ่า จะเหมาะหรอวะ ตูตัวเล็กนิดเดียว
“อ่ะคับ” ผมถอดสร้อยเส้นเก่าออก แล้วไอ้พี่แทนก็เอาแขนมาคล้องคอผม ใส่สร้อยเส้นใหม่ให้ มันใกล้กันจนผมไม่กล้ามองเบื้องหน้า ที่หน้าเขาอยู่ชิดจนลมหายใจพัดผ่านหน้าผม

“เป็นไงมั่งอ่ะ” ผมถามหลังจากที่เขาถอยห่างไปแล้ว
“โอเคดีนะ ให้นะ” เอ่อ ผมเคยได้สร้อยจากเพื่อนเป็นของขวัญวันเกิดครั้งหนึ่งตอนม.ปลาย หลายปีมาแล้วสินะ แล้วก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีใครให้สร้อยผมอีก
โดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่เพื่อน ถึงมันอาจจะไม่มีค่าสำหรับพี่เท่าไหร่ แต่รู้มั้ยคับสำหรับผม สร้อยเส้นนั้นมันมีค่ามากเลยนะ ไม่ใช่เพราะมันถูกหรือแพง

แต่มันคือสร้อยที่มีค่ามากที่สุดเส้นหนึ่งในชีวิต เหมือนขนมใส่ใจกล่องนั้นแหละมั้ง

“ขอบคุณคับ”
“นี่คนเค้าจะคิดว่าเรามาทำอะไรกันกลางร้านวะ ฮ่าๆๆ” ไอ้พี่แทนพูดขำๆ แน่ล่ะ ท่าที่ใส้สร้อยให้เมื่อกี้ มันเหมือนคนกำลังกอดกันและใบหน้าก็ใกล้กันจนจูบกันได้เลย
ไวกว่าที่คิด มือผมก็เลยฟาดแขนไอ้เฮียบ้าตัณหากลับไปเต็มๆ จนร้องโอ้ย สมน้ำหน้า แบร่ๆ

“ทำไมวนช้าจังเลยเนอะ” ผมแอบบ่น เมื่อเห็นว่าไมค์ยังไม่มาถึงโต๊ะเราสักที
“เออว่ะ หลายโต๊ะจัง ไม่กลับๆกันสักทีมาแย่งเราร้องอยู่ได้เนอะ” ไอ้พี่แทนช่วยผสมโรง ลุกไปไล่เลยดีมะพี่ อิอิ
“แล้ววันนี้ทำไมออกมาดึกอ่าคับ”
“เวลาส่วนตัวไง”
“อ้าว แล้วแฟนพี่ไม่ว่าหรอ” ผมไม่อยากจะถาม ไม่เคยพูดถึงนานมาแล้ว
แต่วันนี้ เหมือนอยากจะถามถึงคนที่เขาไม่เคยพูดถึงเวลาอยู่กับผมเลยสักหน่อย เหมือนย้ำให้ตัวเองรู้รึเปล่า
“ไม่หรอก ก็บอกว่าเวลาส่วนตัวไง ปกติพี่ชอบเที่ยวคนเดียว”
“ไม่มีคนคบอ่ะดิ  ขนาดไปฮ่องกงยังไปมาคนเดียว” ฮ่าๆ ผมได้ทีกัดไอ้เฮียบ้าไปมั่ง
“นั่นดิ นี่ถ้างบเหลืออีกว่าจะพาเราไปด้วยนะเนี่ย” เหอะๆ อย่ามาเฉไฉเลย ไอ้บ้าเอ้ย

“เหอะๆ”
“อยู่คนเดียว ทำให้รู้จักตัวเองเยอะขึ้นนะ”
“อืมมม”
“เดี๋ยวยิ่งโต เราจะยิ่งรู้เองแหละ ว่ากว่าจะหาเวลาส่วนตัวแบบนี้ได้มันยากแค่ไหน”
“คับผม”

ผมรู้สึกดีนะ เหมือนมีคนที่โตกว่า คอยแนะนำอะไรดีๆให้ พี่ชายที่แสนดี และบางอย่างที่มากกว่านั้น ไม่ทันไรก็มาขยี้หัวผมอีก เฮ้ออออ หัวไอ้เต้ เสียทรงหมดแล้วเว้ยยยยย
แล้วในที่สุด ไมค์ก็วนมาโต๊ะเรา

ผมไมไ่ด้ตั้งใจเลือกเพลงให้มีความหมายแบบนี้หรอกนะ แต่มันเป็นเพลงที่ผมร้องแล้วเสียงไม่หลงอ่ะ เลยเลือกมาร้องให้ไม่อายชาวบ้านเค้า

“ช่วยร้องด้วยดิ”
“เออๆ ร้องไปก่อนเถอะ เดี๋ยวช่วยเอง” ไอ้พี่แทนบอก แล้วผมก็ต้องขึ้นท่อนแรกด้วยเสียงตัวเองเพียงลำพัง...

........
...
.

ก็รู้ เป็นไปไม่ได้ ยังฝืนในความรู้สึก ในส่วนลึกฉันรู้ เธอมีใครอยู่






ก็รู้ ในความเป็นจริง แต่ก็ยังจะแอบเฝ้าดู ทั้งๆ ที่รู้ เป็นได้แค่เพียงเท่านั้น








แค่ชู้ทางใจที่ทำได้ เมื่อหัวใจเธอไม่ให้ จะเก็บไว้ ให้คนที่เธอรักกันมานาน





ก็รู้เป็นเพียงแค่ทางผ่าน ไม่มีวันจะเดินร่วมทาง เพราะเธอกันฉันเป็นเหมือนดังเส้นขนาน




แอบฝันเล็กๆ ในใจ ไม่ได้มีความหมาย   ให้เราผูกพันและรักกันไปอย่างนั้น






เสียงไอ้พี่แทนคลอตามขึ้นมาในท่อนต่อไป เขาจงใจหรือบังเอิญวะ แม่ง เพลงนี้ทำกูอินเล็กๆ


ผิดที่เราเจอกันช้า...ไป ไม่มีทางจะมารักกัน เป็นแค่ความลับที่ฉันและเธอซ่อนไว้ในใจ



ผิดที่เราไม่ยอมห้ามใจ ไม่จำเป็นต้องไปโทษใคร









และเสียงเขาก็หายไปในท่อนนี้

....เมื่อผลสุดท้าย คนที่ต้องเจ็บคือฉันคนเดียว


แล้วเพลงก็จบลงไป เพลงที่สองถูกร้องไปเรื่อยๆ และไมค์ก็ถูกส่งผ่านไปให้โต๊ะอื่น ช่วงว่างอีกครั้ง และมะนาวโซดาหมดไปแล้ว
“ดื่มไรอีกดีเรา” อ่านะ ทำไมแก้วพี่เขายังไม่หมด กูหมดแล้วหว่า
“เหมือนเดิมละกัน”
“อ่ะนะ ไม่เบื่อรึไง”
“งั้นlong island ก็ได้ๆ” อีกหนึ่งเครื่องดื่มโปรดของผม
“อืมๆ เดี๋ยวไปสั่งให้”
ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากบอกว่าไม่ต้อง ไอ้พี่แดนก็ลุกไปที่บาร์แล้ว และเดินหายไปอีกฝากฝั่งร้านสักพัก ก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงนั่งอย่างสบายใจ

“ไปไหนมาอ่า”
“อ่อ ขอเพลงน่ะ” สงสัยมาบ่อยเว้ย ซี้ขนาดไปเลือกเพลงเองได้

“นี่ๆ ดู hi5 พี่มั้ย” ผมงง มีเนทด้วยหรอวะที่นี่ แล้วก็ถึงบางอ้อ มือถือนั่นเอง
“อ่านะ นึกว่าดูที่ไหน”
“อ่ะ เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ” ท่าทางดูตื่นเต้นเหมือนเด็กเพิ่งได้ของเล่นเลยเฮีย รู้ตัวมั้ยวะเนี่ย
“แอดเต้มาละกัน”
“ได้ๆ เดี่ยวเปิดก่อน เปิดดูยากว่ะ จอแม่งเล็กจัง” บ่นอีก มือถือนี่คับไม่ใช่จอโฮมเธียเตอ
“ไหนหว่าๆ hi5 เต้ชื่อไรนะ”
“โห่ ไม่จำเลย แม่งงอน”
“เอ้า เคยให้ดูครั้งเดียวเอง ใครจะจำได้”

อ่านะ ผมบอกชื่อ hi5 ตัวเองไป ไอ้พี่แทนก็กดจิ้มๆตาม
“อ่ะได้แล้ว รอโหลดก่อนนะคร้าบ”
“อ่ะคับๆ ช้าว่ะ”
“อ้าว เนทมือถือนี่” นั่นแหละไม่เร็วทันใจเลย ไอ้เต้แอบบ่นในใจ แล้วไปหยิบแก้วคอกเทลที่เพิ่งวางตรงหน้ามาจิบ รสชาติใช้ได้นะที่นี่ ชงโอเคดี อิิอิอิ

“มาแล้วๆ รูปใหม่ด้วยนี่ แต่มองไม่ชัดเลย ขยายก่อนๆ”
“อ่านะ ขยายหน้าจอได้ด้วยหรอเฮีย ดีแฮะ”
“เออดิ เค้าซื้อมาแพงนะเว้ย” ฮ่าๆๆๆ แม่งขี้อวดว่ะ ผมขำกับท่าทางไอ้พี่แทนที่เหมือนเด็กน้อย

แล้วเขาก็ยื่นหน้าจอมาให้ผมดู
“นี่ๆดูหน้าแนวๆที่พี่ชอบป่ะ”
“หรอ แนวไหนอ่ะ”
“มาๆเดี๋ยวเปิดให้ดู หน้าเหมือนคนที่พี่เคยชอบมากๆอยู่คนหนึ่ง”
“แฟนเก่าหรอ”
“ไม่ๆกิ๊ก ฮ่าๆๆๆ”
“โห่ เลวจริงๆ”
“เอ้าไอ้นี่ พี่คนดีนะเว้ย”
“จริงอ่ะ” ผมตอบน้ำเสียงไม่เชื่อ
“เออดิ อะไรๆก็ดีหมด เสียอย่างเดียว เหี้ย” ฮ่าๆๆๆ ไอ้พี่แทนหัวเราะชอบใจ ผมก็ขำ เหอะๆ นั่นดิ เหมือนผมแหละมั้ง ฮ่าๆๆๆๆ

“อ่ะมาแล้วๆ” ไอ้พี่แทนยื่นมือถือมาให้ผมดูอีกครั้ง ไหนหว่า แม่งตี๋ๆคิ้วเข้มๆ ยังกับพวกบอยแยนด์ไม่เห็นหล่อเลย
“เต้ไม่เห็นชอบแนวนี้เลย”
“ออกจะน่ารักดูดิ อ่อลืม เราต้องแนวล่ำๆ ตัวใหญ่ๆใช่ป่ะ”
“เหอะๆ ไอ้บ้า”
“แล้วจะให้พี่ชอบอย่างเอ็งเนี่ยนะ มันต้องงี้เว้ยน่ารักน่ากอด”
“หรอออ อืมๆ”
“อ่ะๆพอละๆ”
“เดี๋ยววันหลังจะให้ดูแนวที่เต้ชอบ อิอิอิ”
“หรออออ จะหน้าคล้ายพี่บ้างมั้ยวะ”
“ไม่มีทาง หน้าแบบนี้ฮ่าๆๆๆ”
“ทำไม หน้าแบบนี้ทำไม พูดดีๆนะ ไม่งั้นโดนเตะ”

ฮ่าๆๆๆ ไอ้บ้า ไม่รุ้ไม่ชี้เว้ย

สักพักใหญ่ๆ จนง่วงเกือบหลับ ไมค์วนมา พี่เขาร้องเพลงที่เขาเลือกมา ซึ่งก็รู้แหละพอเห็นเอ็มวีกับฟังอินโทร นึกว่าเพลงอาราย ที่แท้ก็เพลง เปลี่ยน ของอีทีซี

“ร้องด้วยดิ”
“เต้เสียงไม่ถึง”
“ถึงดิ ลองร้องดู เชื่อว่าถึงมันก็ถึง”

อ่านะ ผมรับไมค์ใส่มือไป (ไอ้พี่แทนมันเอามาใส่มือผมแบบยัดเยียดต่างหากอันที่จริง)
แล้วก็ร้องคลอๆตามไป อืมมม รอบนี้ทำไมเสียงถึงวะ สงสัยจะจริง มันอยู่ที่เราเชื่อหรือเปล่าต่างหากมั้ง

“กลับไงอ่ะคับ”
ผมถามเมื่อเราสองคนเดินออกมาที่หน้าร้าน เวลาก็เที่ยงคืนแล้ว หาวแล้วหาวอีกทั้งคู่ สายลมพัดมาเย็นๆ ในไม้ข้างทางปลิวไหวลอยไป
รถที่คลาคล่ำหายไปแล้ว เหลือเพียงรถเบาบางวิ่งกันรวดเร็วบนถนนว่างโล่ง
“เดี่ยวนั่งแท็กซี่ไปเอารถ”
“อ้าว จอดไว้ไหนอ่ะ”
“จอดอยู่บำรุงราษฏร์”
“อ่าคับๆ เต้กลับเองก็ได้นะ”
“เฮ้ย ไปด้วยกันดิ ทางเดียวกัน”
“อ่าคับๆ”

“เออเดี๋ยวเต้ไปเอาของขวัญมาให้นะ” ผมนึกขึ้นได้ หันมาบอกตอนที่อยู่แถวๆใกล้ปากซอยผม
“หรอ อืม ของฝากพี่อยู่ที่บ้านอ่ะ ไม่คิดว่าจะเจอเราวันนี้ อืมมม ไปบ้านพี่มั้ย”

เอ่อ ผม ผมจะตอบว่าไรดีล่ะคับ มันเป็นวันอันว่างเปล่า ดินเนอร์ที่ผ่านมาเมื่อเย็นกับคนที่ว่างเปล่าไม่รู้สึกอะไรด้วย ผมพยายามเลิกคิดถึงคนข้างๆนี้
และลองเปิดใจออกไปเดทกับพี่เบียร์ แล้วทำไมผมต้องมาเจอไอ้พี่เคน หรือไอ้พี่แทนนี่วันนี้ล่ะ

ในวันที่ฟ้ามืดจนไร้ความหวัง พระจันทร์ที่เคยมองทุกวันเลือนหาย
จนหมดหวังลองกันมามองดวงอาทิตย์และดาวพราย เมื่อตัดใจได้แล้วพระจันทร์กลับมาทำไม

กลับมาพร้อมกับแสงสว่างที่สวยงามสว่างเจิดจ้ากว่าเคย กลับมาอีกครั้ง และทำให้ผูกพักมากกว่าเก่า

“ว่าไง” พี่เขาถามเบาๆอีกครั้ง เมื่อเห็นผมเงียบไป
“อืมมม” ผมเม้มริมฝีปากแน่น รู้มั้ยคับว่าใจผมมันตอบตกลง แต่...

“ตามใจละกัน” ความหมายของเสียงพี่แทนที่พูดมาอีกครั้ง ทำให้ผมเลือก...

...............
......

“ไว้เปิดตอนก่อนจะนอนดิ ไปอาบน้ำก่อนๆ” ผมบอกไอ้พี่แทนให้ไปอาบน้ำก่อนจะมาเปิดกล่องของขวัญที่ผมหยิบเอามาด้วยจากที่ห้อง
“ก็ได้วะ เรื่องเยอะจริงๆ” ไอพี่แทนทำหน้าเซ็งเดินขึ้นชั้นสองไป ส่วนผมก็นั่งดูทีวีไปตามเรื่อง หลังจากอาบน้ำเสร็จก่อนแล้ว

กล่องกระดาษสีน้ำตาลถูกเขียนด้วยปากกาเคมีไว้ด้วยลายมือห่วยๆของไอ้เต้

Make a Wish

คือคำอวยพรที่ผมชอบมากๆ และคิดว่ามันเหมาะสมสำหรับกล่องของขวัญมากๆ
“อ่าไหนๆเปิดได้ยังเนี่ย” หลังจากหายไปสักพัก ไอ้พี่แทนก็เดินลงมาทวงสัญญา
“อ่ะคับๆ” ผมดูเวลาตีสองแล้ว ง่วงชิบๆ ไอ้พี่แทนก็จัดการปิดทีวีปิดไฟข้างล่าง แล้วคว้ากล่องของขวัญตัวเองวิ่งนำผมขึ้นไปห้องนอนชั้นบน
แม่ง เป็นเด็กเลย ได้ของขวัญแล้วไม่สนใจกันเลยชิ รีบคว้าไปแกะดูด้วยความตื่นเต้นซะงั้น

“อธิษฐานว่าไรดีล่ะ” เขาอ่านข้อความบนกล่อง แล้วเงยหน้ามาถามผมที่เพิ่งเดินตามเข้ามา
“ตามใจดิ”
“หึหึ”
ไอ้พี่แทนหลับตาอมยิ้มสักพักก็เปิดมันออก

“โห่ การ์ดไรเนี่ย”
“อ่ะ อ่านไปๆ อย่าถามมาก” ไอ้เต้เริ่มอาย ไมไ่ด้ตั้งใจจะมาดูตอนแกะนะ กะจะให้แล้วไปแกะเอง เหะๆ
“มีซีดีด้วยหรอ”
“ลองฟังดูดิ” ผมเลือกเพลงที่คิดว่ามันเข้ากับความรู้สึกผมและผ่อนคลายสบายพอจะฟังตอนนอนละเมออบอวลกลิ่นอโรมาอ่อนๆ เว่อไปมะกู ฮ่าๆๆๆ

ไอ้พี่แทนลุกไปยัดใส่เครื่องเล่นซีดีในห้องนอน เสียงเพลง clair de lune ซึ่งถูกอัดใส่ไว้เป็นเพลงแรกลอยมาเบาๆ
“โคมไฟหรอ” ไอ้พี่แทนทำหน้างุนงงเล็กน้อย จะงงทำมาย ไม่เคยเหนรึไงหว่า
“น่ารักดี แล้วเปิดไงอ่ะ เป็นอโรมาหรอ” อ่ะนะถามอยู่ได้ ไอ้เต้ก็ทำเป็นหยิบหนังสือข้างหัวเตียงมาอ่านๆดู เขิลเว้ยยยย
“ลองเปิดดูดิ”
“ง่วงแล้วอ่า” อ่ะ คนอุตส่าต์ให้ จะไม่เปิดลองดูหน่อยใช่มะ งอนๆๆๆ
สงสัยว่าสีหน้าผมจะบอกความรู้สึกมากไปหน่อยไอ้พี่แทนเลยเดินไปจัดแจงเสียบปลั๊กเปิดไฟ

“กลิ่นไรเนี่ย”
“กลิ่นยูคาลิปตัส จริงๆ เต้ไม่ค่อยชอบแต่คนขายบอกว่าช่วยเรื่องภูมิแพ้ เลยเอามา”
“ใครบอกพี่เป็นภูมิแพ้”
“ก็ผมเคยเห็นซองยาบนรถพี่อ่ะ”
“คนอื่นแล้วมั้งง”
“จะบ้าหรอ รถพี่นั่นแหละ”
“หึหึ” ไอ้พี่แทนยิ้มแบบมีเลศนัย ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ผม แล้วริมฝีปากนั้นก็แตะเบาๆที่จุดเดียวกันบนร่างกายผม ช้าๆ และถอนจากไป
“ขอบคุณนะคับ” เสียงขอบคุณนั้นอบอุ่น และฟังดูเรียบ และจริงใจมากกว่าที่เคยได้ยินมา
“คับ” ผมตอบกลับไปเบาๆ  ไอ้พี่แทนเดินออกจากห้องหายไปสักพัก แล้วกลับมากับของในมือ

“ทะแดนนนน อ่ะๆของฝากๆ” ผมเงยหน้าไปมอง เหวอออ ของฝากจากดิสนีย์ฮ่องกง เด็กน้อยโคตรรร ไอ้พี่แทนมันคิดว่าผมกี่ขวบเนี่ยยยย
“อ่านะ เด็กว่ะ ขอบคุณคับๆ”
“น่ารักดีออก เราเด็กนี่ เอาไปใช้ๆ น่ารักดีออก อย่าไปใช้ไรแก่ๆ ดิยังเด็กอยู่” เหอๆ ก็ได้ๆ ใช้ก็ได้วะ อืมมมม น่ารักดีเหมือนกัน
ไม่เคยคิดจะมาใช้ของการ์ตูนอะไรพวกนี้มาก่อน ฮ่าๆๆ ไอ้บ้าเอ้ยยยยยยย

ไม่รู้ว่ามันเผลอหรือไง รู้ตัวอีกทีผมก็ลุกไปกอดพี่ชายตัวโตคนนี้เสียแล้ว เลยเกิดอาการกึกเล็กน้อยเมื่อรู้สึกตัวและค่อยๆ ดื้นๆคลายหนีอ้อมกอดนั้นออกมา

คืนนั้นผมนอนจับมือกับเขา เรามีอะไรกันรึเปล่าไม่รู้...

...หรือรักคงเล็กไป และเมืองคงใหญ่เกิน

ความรักมันเลยไม่สมดุลย์กับจำนวนประชากร ฮ่าๆ ขำว่ะ


____________________________

เนื่องจากมันยาวอ่ะ เลยแบ่งเป็นสอง แล้วก็ตรวจคำผิดไม่ค่อยเหนเพระาตาลาย โทดทีล่วงหน้าละกันนะคับ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 23-02-2009 14:35:39
เต้ละเมอนานจังครับ ..

ชอบที่บอกว่า เพราะรักเล็กไป หรือว่าเพราะเมืองใหญ่เกิน ความรักเลยขาดสมดุลย์   :')
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 23-02-2009 16:06:42
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

สงสัยใกล้ได้เวลาตื่นหละมั้งเต้

ถ้าตื่นมา มันคงไม่ได้เป็นแค่เพียงความฝันนะ

แต่ถึงเป็นแค่ฝันมันก้อคงมีความสุขแน่ๆหละ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 23-02-2009 16:54:23
แง่มๆ แอบเคืองตกลงใช้ชื่อปลอมหรอนี่ :m16:

แง่มๆ เต้จะเสร็จพี่เคน เอ้ยแทนรึเปล่านี่


เพิ่งไปสปีดอ่านรักงอมแงมมา

ดูเหมือนพี่เบียรจะยังอาลัยอาวรเต้อยู่นะคะ


 :L2:ถึงแม้ละเมอก็อยากให้เป็นฝันดีนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 23-02-2009 17:27:40
 :z2: :z2: :z2: :z2:
วันนี้มาทันอ่านตอนเย็นด้วย อิๆ
อ่านตอนนี้แล้วให้อารมณ์ความรู้สึกสบายๆกว่าบรรยากาศเหลาๆจากตอนที่แล้วเยอะ
อ่านแล้วไหลลื่นดี แต่ที่ผิดหวังที่สุด คือ เรื่องชื่อ แค่นี้ยังต้องโกหกกัน....
แล้วจะรออ่านต่อน๊าถ้ามีเวลาจะมาอ่านตอนเช้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 23-02-2009 19:36:54
อย่าไปสนใจครับ ตัวเล็กๆ น่ารักมากมาย  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 23-02-2009 19:53:57
สร้างความประทับใจได้ทั้งสองฝ่ายเลย o13


น่ารักอ่ะ แต่แอบเคืองมีโกหกชี่อด้วย :a14:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-02-2009 20:36:28
เล็กหรือใหญ่...ใจสัมผัส
คลายหรือมัด...จิตผวา
สวยหรือหล่อ...มองด้วยตา
รักแสร้งว่า...เกินสมดุลย์...ขาดทุนใจ

 :pig4:ขอบคุณคับ นายตัวเล็ก  :L1:

ป้อล่อ...ซาบซึ้งกับคำคมๆของนายตัวเล็ก มากครับ
อยากจะให้ของขวัญแต่ก็ไม่มีกะตังค์(งกน่ะ) มีแต่+1 กับกอดแน่นๆ :กอด1: ล่ะกาน หุหุ   :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 23-02-2009 20:41:01
สอบเสดค่อยมาละเมอกีฟ่า ชะแว่บบบบบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 23-02-2009 21:00:05
แฮปปี้ๆ  บางอย่างไม่จำเป้นต้องรู้ แต่บางอย่างก็จำเป็น   :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 23-02-2009 21:20:59
เพิ่งได้มาอ่านเอง

แต่ก็ชอบวิธีการเล่านะครับ

สนุกดี แบบว่าเล่าเห็นภาพดีด้วย

ไงก็จะมาตามอ่านเรื่อยๆนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 23-02-2009 21:46:51
หูย หูย หูย หูย หูย  .........

ไอ้เต้โดนแล้ว !!!!!!!!!!!   :m25:

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ว๊าก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 23-02-2009 22:16:03
 :กอด1:   วันนี้คนเขียนขยันมากมาย  ^^

กิจกรรมวันนี้กับพี่แทน  ให้ความหวังได้อีก  ...  แต่ ง่ะ แทนเข้าถึงยากจัง~!!

ขอบคุณคนเขียนนะครับ  ...  ช่วงสอบยังลงเรื่องได้สม่ำเสมอ  +1 ให้ สามารถมาก~!
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสาม
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 23-02-2009 23:00:00

...หรือรักคงเล็กไป และเมืองคงใหญ่เกิน

ความรักมันเลยไม่สมดุลย์กับจำนวนประชากร

ชอบประโยคนี้จัง เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ..... ทำไมนะ ความรักมันถึงไม่สมดุลย์กับจำนวนประชากรซักที
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 24-02-2009 00:00:42
สุขปนเศร้าจังเลย

ในรอยยิ้มก็ยังมีเงาของน้ำตา  :L2:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 24-02-2009 00:12:02
ละเมอคืนนี้อัพยาวจุใจเลย
บวก 1 ให้เช่นเคยนะจ๊ะ

ถึงแม้ดูเหมือนเต้จะได้เข้าใกล้ตัวตนของพี่แทนเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง
แต่ก็ยังดูเหงาๆ และไม่ชัดเจนเอาซะเลย
ยิ่งผ่านไป ยิ่งน่าเป็นห่วง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 24-02-2009 09:04:44
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
มันดูเหงาๆนะ เเต่บรรยายดีมากจริงๆ
เราอินมากเลย
ตามไปอ่านความรักเเบบครับผม กะ รักงอมเเงม
เราก็ติดงอมเเงมเลย
อ่านไปน้ำตาเกือบไหล
ชอบมากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ
ชอบพี่เเทนเเละเต้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: สวยเลือกได้ ที่ 24-02-2009 17:09:50
อ่านทันแระจร้าาาา   :z2: เขียนเก่งจัง o13  อ่านแร้วรู้สึกสบายๆๆ อ่า  หุหุ  (หรอ....)  o18  มาต่ออีกนะจร้าาาาา   อยากรู้จาจบยังงัย   ลุ้นจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: naix ที่ 25-02-2009 02:12:25
อยากละเมอต่อไป ไม่อยากตื่นเรย... :m15:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: thanagorn ที่ 25-02-2009 17:38:19
โห  ละเมอไปกอดพี่เค้าเนาะ o13

ทางนี้ก็จะรอ :monkeysad:แล้วไงก็มาต่อนะค๊าบ

เดี๋ยวรอจนละเมอไปถึงไหนต่อไหน :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 25-02-2009 20:40:06

http://media.imeem.com/m/QeOunfQSpH

.
.
.


ช้าไปใช่ป่าววะเฮีย T^T
เค้าขอโทษ T______________T;


อย่ามาปายตอนนี้นะเฮีย .. ร้อนนรกมั่ก !!
;[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 26-02-2009 01:12:42
ตามมาอ่านแล้วครับ... o22 พี่เคนก็กลายเป็นพี่แทนไปซะแล้ว
แถมไปค้างด้วยกันอีกตะหาก...แต่อ่านแล้วก็ยังรู้สึกเหงาอยู่เหมือนเดิม
การชอบคนที่เป็นไปได้ยากนี่มันทรมานจริงๆ นะครับ  :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้นะครับ  :L2: ...ขอแอด hi5 คุณเต้บ้างสิครับ  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 26-02-2009 01:28:39
ลืมไปเรย ไว้จะรีบตามมาอ่านนะคับ ตอนนี้ขอไปเตรียมตัวเป็นเด็กหอก่อน ^ ^
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 26-02-2009 01:41:08
ง่วงมาก ไม่ขอตอบทุกคำถาม แต่สะดุดคอมเมนท์คุณ bixzz เรื่อง HI5 คงไม่ได้อ่ะค้าบ โทดทีนะค้าบ  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบสี่
เริ่มหัวข้อโดย: andyus1 ที่ 26-02-2009 02:05:42
อ่า อ่านทันแระ เรื่องแบบเส้าๆ มากมายอ่ะ

มีความสุขแค่ชั่วเวลา แต่อย่างน้อยเราก็จดจำมันไว้ได้อ่ะ it's just a dream so what will b when we wake up it'll disappear, won't it kub กัวจังอ่ะ

เง้อ  :เฮ้อ: ถ้ามๆๆ พี่เต้
คืนนั้นผมนอนจับมือกับเขา เรามีอะไรกันรึเปล่าไม่รู้...
...หรือรักคงเล็กไป และเมืองคงใหญ่เกิน
ความรักมันเลยไม่สมดุลย์กับจำนวนประชากร ฮ่าๆ ขำว่ะ

ตกลงได้กันยัง คริๆๆ ขำๆคร้าบ ชอบคำพูดพี่จัง แลดูเปนปรัดยา(เขียนไม่ถูกค้าบ)มากมาย
 :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 26-02-2009 15:28:26
คืนที่สิบห้า




ในโทรศัพท์มือถือ ชื่อของเขายังคงเป็นเคน ผมไม่คิดจะเปลี่ยนมัน เพราะมันไม่สลักสำคัญอะไร มันก็แค่ชื่อ แค่สัญลักษณ์ทางภาษาที่เราตั้งขึ้นมากำหนด

“หวัดดีคับ”
“ไงเรา ทำอะไรอยู่” เสียงชายคนที่นอนจับมือกันเมื่อคืนถามเป็นเชิงทักทาย
“อ่อ นั่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆอ่าคับ เพื่อนมันมาห้อง” ผมหลีกพวกไอ้ฝูงลิงออกมาคุยที่ระเบียงหลังห้อง มีลมชื้นหลังฝนตก พัดมาพอให้อากาศรอบกายสดชื่นละอองไอน้ำ
“หรอ กินไรยังค้าบ”
“เรียบร้อยคับ เพิ่งกินมากับเพื่อนเนี่ย แล้วก็เดินขึ้นห้อง”
“อ่ะหรอ แล้วเป็นไงมั่งได้ออกไปไหนมาป่าว” ไอ้พี่แทนถาม น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย
“ป่าวอ่ะ ก็พอพี่ส่งแล้วผมก็นั่งรถกลับมาเลย” แยกย้ายกันเพราะเฮียเค้าไปทำงานทำการด้วยเหมือนกัน แต่ไอ้เต้ปิดเทอมอีกอาทิตย์กว่าๆ ยังว่างอยู่
“ค้าบผม สบายว่ะเนาะ อยากเป็นเด็กอีก”
“เป็นเด็กไม่ดีหรอก” ผมเงยหน้ามองพระจันทร์ที่กำลังถูกเมฆหนาพัดมาบดบังชั่วครู่
“ดีออก ดูดิเราได้นอนเล่นสบายทั้งวัน พี่ต้องมานั่งทำงานเป็นวัวมอมอเลยเนี่ย” ฮ่าๆๆๆ ทำเสียงมอมอได้น่ารักมากนะไอ้เฮียบ้า
“เป็นเด็กโดนผู้ใหญ่หลอกไง” ฮ่าๆๆๆ ผมแกล้งแซว ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของอีกฝ่ายดังคลอมา ยิ้มอยู่รึเปล่านะ
“หรอ แล้วชอบให้หลอกมั้ยล่ะ”
“ไอ้บ้า”

ไอ้เฮียแมรร่งงง แซวไรกันวะ เว้ยยยยยยยยยยยยไปต่อไม่ถูก
“เตเต้มาว่าพี่ทำไมอ่าคับ” อาน่าเรียกกูงี้อีก ไอ้บ้าเอ้ย
“ป่าวว่าซะหน่อย นี่ทำไรอยู่อ่ะพี่”
“หึหึ เปลี่ยนเรื่องเลยคนเรา ขับรถกลับบ้านค้าบ”
“ดึกจัง” ผมพูดเหมือนบ่นกับตัวเอง ดูเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้วนะ
“วันนี้งานเยอะ จริงๆออกมาสักพักแล้วล่ะ แต่ว่าแวะไปธุระมาด้วยน่ะ”
“คร้าบ แล้วคุยโทรขับรถ อันตรายมั้ยเนี่ย” เป็นห่วงเหมือนกันนะเฟ้ย ไอ้ลุงจอมมารหน้าเด็ก
“อ่ะๆ บ่นเจง เด็กอะไรเนี่ย งั้นเดี๋ยวพี่ขับรถต่อก่อน วางละก็ได้” ทำเสียงดูน่าสงสารซะ เฮ้อ    แอคติ้งเก่งจริงๆ ไอ้เฮียบ้า
“ป่าวไล่ๆ แค่ไม่อยากให้ขับรถไปคุยไปน่ะค้าบ”
“ขอบคุณนะคับที่เป็นห่วง ห่วงกลัวพี่ไปชนคนอื่นอ่ะดิ”
“ฮ่าๆๆ รู้ทัน ใช่ดิ สงสารคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พาลซวยไปด้วย”
“พอเลยๆ”
“ฮ่าๆ ไงก็ขับรถกลับดีๆนะคับ ฝันดีด้วยคืนนี้”
“อ่าฝันดีๆ คับ”
“เออเฮีย”
“หืม อะไรหรอ”


“ป่าวๆ” ผมกำลังจะพูดสิ่งที่รู้สึก แต่ก็เก็บไว้ดีกว่า เค้ามีเจ้าของแล้ว พี่คนนั้นที่มีรูปถ่ายวางอยู่คู่กัน วางอยู่หลายๆส่วนของบ้าน
ถ้าผมเป็นคนในรูป และแฟนผม คนที่ผมรัก พาคนอื่นมาบ้าน ผมจะรู้สึกอย่างไรล่ะ

ผมไม่เคยเจอ ไม่รู้จักพี่เขา ไม่รู้แม้แต่ชื่อด้วยซ้ำ แต่ผมรู้ว่า เจ้าของบ้านหลังนั้น มีคนในรูปเป็นคนรัก รูปถ่ายที่สบายๆ เรียบๆ
ไม่ได้แสดงท่าทีสวีทหวาน หรือถูกวางไว้ในมุมสุดพิเศษ แต่ในหลายๆมุมที่เห็น ภาพสบายๆ ที่พบผ่าน ผมสัมผัสได้ถึงความรักอันยิ่งใหญ่ระหว่างเขา

คู่รักอาจจะมีภาพหวานวางอยู่ไว้ที่หัวเตียง แต่นี่สิ ถึงจะเรียกว่าคู่ชีวิต ภาพธรรมดาๆ วางอยู่แบบง่ายๆ ไม่ต้องมีความหวานปานน้ำตาลมาล่อมด
 แต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้น และคนอื่นคงไม่อาจล่วงล้ำเดินเข้าไปได้

ผมวางสายไอ้พี่แทนไป และกระซิบเบาๆ  พระจันทร์คงไม่ได้ยิน... “คิดถึงนะคับ”
ชิพมังค์สองตัวห้องต่องแต่งอยู่ที่มือถือผม (ของที่ไอ้พี่แทนให้นั่นแล)
แล้วไอ้บ้าเต้ก็ย้ิมให้สองตัวนั่น หัวเราะเล็กๆ มีน้ำตาปนหน่อยๆ เหมือนรสหวานเจือขมให้ไม่เลี่ยนและไม่ถึงขนาดกล้ำกลืนฝืนทน
พอลมเย็นชื้นนั่นพัดกรรโชกแรงมาปะทะตัวเล็กๆของไอ้เต้อีกระลอก ผมก็รู้ตัวว่า มันหนาวจนต้องเข้าไปคุยกับเพื่อนๆต่อ ไปอยู่ในที่ ที่ไออุ่นยังพอมีให้พักพิง
แม้ว่ายังไม่อยากละทิ้งไปจากมุมมืดริมระเบียงแห่งนั้นก็ตามที

................

“เคยคิดป่ะวะ ว่ามึงจะไปรักแฟนชาวบ้าน” เฮียตี๋ ท่ามกลางความมืดของไฟในห้องนอนบนคอนโดสูงใจกลางเมือง
“ไม่ดิเฮีย ไม่เคยเลย ไม่อยากด้วย ถึงตอนนี้ก็ยังตอบว่าไม่อยาก” ผมนอนมองความมืดเงียบสงบ ไมไ่ด้เศร้าหรอก แค่มันรู้สึกว่า ไม่ได้อยากได้ชอบสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
“กูเคยคิดนะ แต่ไม่เคยได้มีโอกาสสักที” เสียงแค่นหัวเราะขำกับชะตาชีวิตของแต่ละคน
“ตลกดีเนอะ”
“เอาน่ะ อย่างน้อยมันก็สวยงามไม่ใช่หรอ”
“ฮ่าๆ”
“ตั้งแต่รู้จักเค้ามึงก็ดูยิ้มง่าย ดูมีความสุขกว่าแต่ก่อนเยอะนะ”
“ก็จริงอ่ะ ชีวิตผมมีค่าทุกวันเลย ฮ่าๆๆ ทำไมพูดถึงแล้วผมต้องยิ้มวะ”
“เฮ้ออ นี่แหละน้า ความรัก”

ไม่นะเว้ย ไอ้เต้ อารายของมึงเนี่ย มึงกลายเป็นเด็กม.ปลายพบรักครั้งแรกหรอ ถึงได้มานั่งๆนอนๆ ละเมอถึงเค้าอยู่ได้ มันหายไปไหนแล้ว ไอ้คนที่บอกว่า
ความรักแบบพัพพี่เลิฟมันเลยวัยไปแล้ว การจะมานั่งอมยิ้มคิดถึงใครคงไม่มีอีกแล้ว การจะคิดถึงคนๆนึงทุกเช้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงลืมไปได้เลย

มันหายไปไหนล่ะไอ้คนๆนั้น ทำไมมันกลายเป็นไอ้เด็กน้อย คิดถึงตาแก่ตัณหากลับบ้าๆนั่น คนที่มีสถานะไม่โสด และคนที่สอนให้รู้ว่า ชีวิตที่มีรัก มันมีค่ามากเพียงใด

“สงสัยผมคงหลงเค้ามั้ง”
“ก็ส่วนหนึ่ง” เฮียตี๋พลิกตัวหันไปอีกฝั่งของเตียงคู่ที่วางใกล้ๆกัน ผมหันหลังไปอีกฝั่ง ยิ้มออกไปนอกหน้าต่างให้แสงที่ลอดไรผ้าม่านเข้ามา ยิ้มทำไมวะ ฮ่าๆๆๆ ท่าทางกูจะบ้า

..............

“อ้าวเฮีย” ผมหันไปมองสบสายตาคู่นั้นที่กำลังมองผมอยู่ เจ้าของชายร่างสูงนอนตะแคงข้าง ผมคิดว่าเขาหลับไปแล้วเสียอิีก
“เป็นไรอ่ะ” เขาถามขึ้น คงเพราะอาการสะดุ้งตื่นตกใจกลางดึกที่ทำให้ผมตกใจตื่นขึ้นมานี่ล่ะมั้ง พาลให้เขาตื่นไปด้วย
ผมค่อยๆ พลิกตัวหันไปลอบมอง แต่ก็เจอสายตาคู่นั้นมองอยู่ก่อนแล้ว

ระหว่างเราสองคนมีเพียงความว่างเปล่าเหนือฟูกที่นอน หมอนหนุน และผ้าห่ม อยู่เบื้องใต้ และความว่างเปล่าแทรกอยู่ราวสองศอก
ผมนอนอีกฝั่ง เขานอนอีกฝั่ง เราเริ่มต้นการนอนด้วยการหันหลังให้กัน จนกระทั่งกลางดึก ผมและเขา กำลังเผชิญหน้ากันอยู่

“ตกใจอ่ะ ฝันร้ายมั้ง แฮะๆ โทดทีนะคับที่ทำให้ตื่นไปด้วย”
“ไม่หรอกๆ นอนเถอะ” เขาเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนละลาจากไป

ผมนอนนิ่งหลับตาสักพัก อุ่นดีนะมือนั่น ไม่มีคนลูบหัวผมมานานเท่าไหร่แล้ว ตอนเด็กๆชอบให้แม่ลูบหัวแบบนี้ก่อนนอน
แต่มันก็นาน นานจนแทบจะลืมไปแล้วว่ามันอุ่นสบายแค่ไหน

“พี่แทนคับ ลูบหัวให้หน่อยดิ เพลินดี” ผมพูดขอฝ่ามืออุ่นนั้น ที่เพิ่งละจากไป และสักครู่ก็รู้สึกอบอุ่นเช่นเดิมอีกครั้ง
“แล้วจะหลับหรอ ลูบหัวอยู่แบบนี้” เสียงนั่นถามผมอีกครั้ง เชิงสงสัย ผมอยากจะบอกว่านี่แหละ ยานอนหลับขนานแท้
ดีกว่ายาเม็ดแผนฝรั่งหลายเท่านัก และก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงตอบรับไปแทนคำพูด

.......................

“กูไม่รู้ว่าจะทำไงดีว่ะ”
“มึงจะต้องทำไรวะ” ไอพี่เซนหันมาพูด หลังจากที่มันรับฟังเรื่องเหล่านั้นจากผม
“เดี๋ยวพี่เขาคงทิ้งกูเองแหละมั้ง ได้ที่เขาต้องการแล้ว” ผมหัวเราะเยาะเย้ยให้กับตัวเอง ทั้งๆที่รู้ แต่ก็ยังยินดี
“ก็ดีสิ ทำตัวเลวๆ เลิกรักง่ายดีนะเว้ย”
“แบบมึงป่ะ” ผมหันไปยิ้มให้กับไอ้ตัวดี ไอ้พี่ชาย ไอ้อดีตคนเคยรัก ไอ้เพื่อนพี่ชาย ไอ้เชี่ยเซน ฮ่าๆๆๆๆๆ


“คืนนี้หนาวอ่ะ ไปนอนด้วยดิ” อยู่ดีๆ ไอ้พี่เซนก็พูดขึ้น ขณะที่เรากำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันอยู่ นานๆทีจะได้เจอกัน
เพราะตั้งแต่จบได้สักพัก มันก็ชิ่งหนีไปอยู่ส่วนอื่นของโลก นานๆทีจะแวะเวียนกลับมาเมืองไทยให้ได้เห็นหน้าค่าตา


“หนาวแป๊ะมึงดิ อยู่โน่นหนาวกว่านี่เยอะแยะ”
“โห่ หนาวคนละแบบ”
“แน่ใจหรอ”
“แน่ใจดิ” ไอ้พี่เซนพยักหน้า และทำสายตาว่าแน่นอน กูจะไปนอนกับมึงคืนนี้ หนีไม่พ้นหรอกไอ้เต้เอ๋ย แม่ง เลวววว ฮ่าๆๆ

ก๋วยเตี๋ยวไก่บางลำภูตอนกลางคืนปกติโคตรอร่อย ทำไมวันนี้เฉยๆวะ หรือว่าปกติกินตอนเลิกเที่ยวเมาๆ มานั่งซด ใส่ห่าอะไรให้กินมันก็อร่อยหมด แต่วันนี้ปกติดี

“วันนี้ไม่ได้กินผัดไท เปลี่ยนเป็นก๋วยเตี๋ยวไก่กับไอสครีมเทนได้ป่ะวะ” ไอ้พี่เซนกวนประสาทผม
“เออ เลี้ยงกูด้วยนะ” แต่แน่นอนว่า ของโปรด ไม่พลาดหรอก ฮ่าๆๆๆๆ ของโปรด แถมเป็นของฟรีไม่ต้องจ่ายตังค์เองอีกวันนี้ ไอ้เต้ซัดเรียบ

“มึงจำสะพานนี้ได้มั้ย” แน่นอนคับ ตามสูตร หม่ำๆเสร็จ ก็ต้องมาเดินสะพานพระรามแปด
“ได้ดิ จะลืมได้ไง ผ่านบ่อยๆ”
“ไม่ใช่ กูหมายถึง ที่มึงกับกูเคยมาเดินด้วยกัน” มันเดินมาโบกหัวผมทีนึงเบาๆ อย่าบอกนะ นี่จะพากูมาหวนรำลึกอดีต นึกแล้วสยอง เย้ยยย

ผมเดินเร็วขึ้นนิด เร่งจังหวะให้นำหน้ามันสักหน่อย มองดูสายเคเบิลที่ทอดยาวไปสู่ปลายยอดเสา และเงาที่ทอดยาวจางๆ ลงผืนน้ำเบื้องล่างของเจ้าพระยา

“มึงไม่ลองชวนพี่เค้ามาเดินสะพานนี่ดูมั่งล่ะ” มันเอ่ยถามขึ้นอีก
“เค้าไม่มาหรอก”
“มึงรู้ได้ไง”
“เค้าไม่ใช่เด็กๆแล้วนะมึง” แล้วสะพานนี่มันจำกัดอายุคนขึ้นหรอวะ นั่นดิวะ ทำไมถึงรุ้ว่าเค้าไม่มาแน่ๆ
“มึงเคยบอกกูว่า มึงอยากมาเดินกับคนรักที่นี่ไม่ใช่หรอ” ไอ้พี่เซนมันยังจำแม่น ประโยคนั่นหลายปีแล้วนะเว้ย

“ใช่ แต่...”
“รู้ว่าไม่มีทาง แต่ก็ยังยอมเนาะไอ้เด็กน้อย” มันพูดแทรกขึ้น แต่ผมกลับยิ้ม ไม่ได้เศร้าหรือร้องไห้ จะว่าไป แม้มันจะดูเศร้า แต่ความจริง ผมมีรอยยิ้มเสมอทุกวัน

อ้อมกอดเปลือยเปล่าท่ามกลางอากาศเย็นชื้นในคืนนั้น ทำให้ผมอุ่นใจยังไงบอกไม่ถูก ผมหันไปไล่เลียริมฝีปากอีกคนที่หลับอยู่เบาๆ
เบาจนอีกฝ่ายคงแทบไม่รู้สึก ด้วยความเกรงว่าจะทำให้คนที่กำลังหลับสบายอยู่นั้นต้องตื่น
และไม่อยากให้คนที่ละเมอตื่นมา ต้องตื่นจากฝันครั้งนี้ ในค่ำคืนที่แสงไฟลอดส่องลอดผ้าม่านเข้ามา สลัวๆ

“ขอบคุณนะคับ” ผมกระซิบเบาๆ

   ______________________________________________________
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 26-02-2009 15:55:06
ู^
^
เย้~!!   มาต่ออีกแล้ววววววววววว

ลมหนาว กับรักเหงา ๆ อ่ะนะ  ...  ตอนนี้ร้อนตับจะแล้บ  เตเต้ฟิลจะประมาณไหนน้า..^_^.. 

ขอบคุณนะครับ  ...  ชอบตอนนี้จัง 
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 26-02-2009 16:01:05
ได้อ่านคืน 15 ต่ออย่างรวดเร็ว...ขอบคุณนะครับ
ส่วนเรื่อง hi5 ผมแซวเล่นอ่ะครับ...เข้าใจดีครับ

ตกลงเต้กับพี่แทนก็  :impress2:...แล้วอย่างนี้จะตัดใจได้ยังไงล่ะเนี่ย
ส่วนพี่เซนก็กลับมาอีกแล้วในที่สุด

รออ่านต่อนะครับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 26-02-2009 20:55:48
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 26-02-2009 21:25:08
สรุปเเล้วก็.....555 :m25:

เตเต้น่ารักงะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 26-02-2009 21:51:43
อ่านตอนนี้แล้วงงๆ มันตัดฉากไปๆมาๆ - -+
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 26-02-2009 22:52:21
มันรู้สึกเหงาๆ ไงไม่รู้อ่ะเต้ เหมือนประมาณว่ารักนะแต่เป็นเจ้าของไม่ได้

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-02-2009 23:05:18
อ่านตั้งแต่ตอนแรก จนมาถึงตอน 15 ล่าสุด
พอจะมองเห็นอะไรออกบ้าง แต่มันก็ลางเลือนเต็มที
เพราะยังงี้เหรอเปล่า จึงเป็นเรื่องเล่า.....ละเมอ
--------------------
ทั้งลึกลับและซับซ้อน
ทั้งยอกย้อนและสับสน
ทั้งวุ่นวายและอลวน
ทั้งใจตนและเรื่องราว  

--------------------
 :pig4:ขอบคุณครับ นายตัวเล็ก :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 27-02-2009 00:24:02
ขอบคุณกลอนเพราะๆนะคร้าบ มันงงงวยขนาดนั้นเลยหรอ ฮ่าๆๆๆ อืมมม สับสนตรงไหน ถามได้นะคับ แต่ไม่รับปากว่าจะตอบมั้ยเนอะ เอิ๊กๆ


Relos คับ แนะนำว่าลองอ่านแล้วจินตนาการเพิ่มเอาเองอิอิอิ  ยังคงความเป็นนิยายไว้ ไม่บอกหมด

ว่าแต่ได้กันรึยังน้า ได้จริงรึเปล่า ได้กับใครกันแน่ ฮ่าๆๆๆแอบทิ้งระเบิดไว้และไม่เฉลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 27-02-2009 01:25:01
อยากอ่าน แต่เก็บไว้อ่านหลังสอบดีฟ่า ชะแว่บบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 27-02-2009 04:22:58
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
กอดเต้ให้อุ่น อ่านเรื่องนี้แล้วมันมีหลายอารมณ์จังทั้งเศร้า เหงา เฮ้อ...
แล้วจะรออ่านต่ หวังว่าเค้าจะยอมมาเดินบนสะพานนี้นะ แต่แน่ใจแล้วเหรอว่าคนๆนี้ควรแล้ว...
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 27-02-2009 05:23:56
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 27-02-2009 07:13:21
ประทับใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 27-02-2009 10:19:06
นี่แหล่ะเหงา  นี่คือความจริงที่ได้เจอ


ยังงัยก็ขอให้มีคว่มสุข และสู้ๆ ต่อไปครับ  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 27-02-2009 12:11:27
ขอบคุณกลอนเพราะๆนะคร้าบ มันงงงวยขนาดนั้นเลยหรอ ฮ่าๆๆๆ อืมมม สับสนตรงไหน ถามได้นะคับ แต่ไม่รับปากว่าจะตอบมั้ยเนอะ เอิ๊กๆ


Relos คับ แนะนำว่าลองอ่านแล้วจินตนาการเพิ่มเอาเองอิอิอิ  ยังคงความเป็นนิยายไว้ ไม่บอกหมด

ว่าแต่ได้กันรึยังน้า ได้จริงรึเปล่า ได้กับใครกันแน่ ฮ่าๆๆๆแอบทิ้งระเบิดไว้และไม่เฉลย   :laugh:

อ้อมกอดเปลือยเปล่าท่ามกลางอากาศเย็นชื้นในคืนนั้น ทำให้ผมอุ่นใจยังไงบอกไม่ถูก ผมหันไปไล่เลียริมฝีปากอีกคนที่หลับอยู่เบาๆ
เบาจนอีกฝ่ายคงแทบไม่รู้สึก ด้วยความเกรงว่าจะทำให้คนที่กำลังหลับสบายอยู่นั้นต้องตื่น
และไม่อยากให้คนที่ละเมอตื่นมา ต้องตื่นจากฝันครั้งนี้ ในค่ำคืนที่แสงไฟลอดส่องลอดผ้าม่านเข้ามา สลัวๆ

“ขอบคุณนะคับ” ผมกระซิบเบาๆ

คงเป็นคำตอบ...ที่ไม่ต้องการคำถาม  มั้งครับ นายตัวเล็ก หุหุ
 :จุ๊บๆ:ขอจุ๊บทีนึง นายตัวเล็ก คงไม่ว่ากันนะ ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 27-02-2009 21:34:30
รัก 'เตเต้'

 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 28-02-2009 00:05:34
ห้ามใจไม่ทัน

ถึงแม้รู้ว่าจะต้องเจ็บ

กลัวการตื่นจัง อยากให้ละเมอต่อไปมากกว่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 28-02-2009 03:10:31
พรุ่งนี้จะไปต่างจังหวัด คงยังไม่วางลงเรื่องให้นะคับ

สอบเสจแล้วดีใจๆๆ ต่อไปก็โปรเจคจบ  :o8:


ตื่นดีกว่ามั้งเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 28-02-2009 05:04:13
 :z13: คนแต่งจ้า

สอบเสร็จแล้วเหมือนกัน
กลับมาตามอ่าน  :เฮ้อ:  เหงามากกว่าเดิมอีก
ได้รัก ได้ใกล้ชิด แต่แสดงออกไม่ได้ เปิดเผยไม่ได้
อบอุ่นแบบเหงาๆ บางทีก้อหนาวทั้งที่ไม่เดียวดาย เศร้าจัง

บวก 1 ให้จ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 28-02-2009 11:24:46
คงเป็นคนที่อยู่ได้แค่ในฝันเท่านั้นเอง   :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 28-02-2009 13:04:05

ตื่นดีกว่ามั้งเนี่ย อิอิ

คงจะตื่นยากสักหน่อยน่ะ เต้
ก็เล่นหลับลึกซะขนาดเน้
เห็นที ยังจะหลับ....ละเมอ ไปอีกนานพอดู หุหุ
 :laugh:

 :กอด1:กอดแน่นแน่น ตัวเล็กแค่นี้เอ๊งงงงงงงง
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 28-02-2009 21:24:25
มาต่อทีครับ

อย่าหายไป

รออ่านอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: willingjohn ที่ 01-03-2009 00:56:01
 :-[ หลงรัก เต้ กับ พี่แทน ซะแล้วอะครับ  :o8:
  เมื่อไหร่จะมาต่ออะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-03-2009 12:30:00
พระจันทร์  ตัวเล็กเล็ก  หนีไปเที่ยว
ให้ผมเหี่ยว  คอยเก้อ  ละเมอหา
เปิดเข้าเล้า  เฝ้ารอ  ทุกเวลา
พระจันทร์จ๋า  มาเสียที  พี่นี้คอย
 :call:  :call:  :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 01-03-2009 21:06:35
หายไปไหนครับ

มาต่อทีครับ

รออ่านครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: willingjohn ที่ 02-03-2009 22:21:31
เต้ ไปละเมอ อยู่ที่ไหนครับเนี่ยยยย :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-03-2009 18:31:55
 :m22:
 :m32:
 :m7:
เที่ยวเพลินเลยนะนี่ ตัวเล็ก
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 04-03-2009 22:20:45
สนุกดีนะเรื่องนี้

แต่แอบเศร้า.......ไปกับเต้ด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-03-2009 22:31:55
 :t4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: willingjohn ที่ 04-03-2009 22:34:27
คิดถึงเต้ จะแย่อยู่แล้ววววว เมื่อไหร่จะกลับมาซักทีอะครับ :t3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: andyus1 ที่ 05-03-2009 01:14:20
เง้อ เอาน่า อย่างน้อยก็มีความสุขที่ได้ทำไป

จะได้ไม่มามัวเสียจัยทีหลังงัย

ว่าแต่เซนนี่ ยังงัยๆ จะรีเทินป่าว

ก็ดีนะ สงสารเต้อ่ะ ช่วยปลุกจากฝันทีคร้าบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 05-03-2009 02:54:53
ละเมอไปไกลถึงไหนหนอ

 :กอด1: ใกล้ตื่นมาเล่าต่อหรือยังค้าบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 05-03-2009 12:21:11
^
^
หวัดดีครับพี่น้ำตาล...สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวไหนหรือเปล่าครับ
......................

รอคุณน่านกลับมาต่อนะครับ อยากอ่านต่อแล้วครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-03-2009 18:55:34
 :t2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 05-03-2009 22:07:27
กลับมาถึงกทมแล้ววววววววคร้าบบบบบบ  :laugh:

พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเนาะ

ปล.วันเสาอาทิดนี้ จะหนีไปนอนเล่นหัวหินคับผม เอิ๊กๆๆ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 05-03-2009 22:35:36
^
^
 :z13: คนแต่ง
รออ่านพรุ่งนี้เน้อ
ไปหัวหิน เที่ยวให้สนุกนะค้าบ  :L2:

^
^
หวัดดีครับพี่น้ำตาล...สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวไหนหรือเปล่าครับ
......................

รอคุณน่านกลับมาต่อนะครับ อยากอ่านต่อแล้วครับ

ดีค้าบน้องบิ๊ก สอบเสร็จแล้วก้อมีงานต้องส่งอีกเป็นระยะๆอ้ะ เหมือนไม่มีปิดเทอมเลย  :monkeysad:
แต่พอมีเวลาพักเป็นช่วงๆ เลยจาไปชะอำค้าบ
บิ๊กไปไหนบ้างเปล่า??
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบห้า
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 05-03-2009 22:48:20
 :กอด1:

หัวหิน~!! ร้อน ๆ อย่างนี้  น่าอิจฉานะนิ ^_^;

พอมีเวลาบ้างแล้วพักผ่อนให้สุขสุด ๆ เลยน้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 06-03-2009 10:17:14

คืนที่สิบหก


“เต้”
“หืม” ผมกระซืบเสียงตอบในลำคอเบาๆ ยามเช้า ของอีกวันหนึ่ง ไอ้พี่เซนคว้าตัวผมไปกอดไว้ และหอมลงมาที่แก้มผมเบาๆ
“หิวยังวะ”
“นิดๆอ่ะ” ผมพูดพร้อมพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับไป ให้คนที่กอดผมอยู่
ไอ้พี่เซนม้วนผ้าห่ม จัดแจงให้มันคลุมตัวเราทั้งสองแบบครึ่งตัว แล้วดึงผมเข้าไปให้แน่นกว่าเดิมอีก ไม่แน่ใจว่าทำไมผมถึงไม่ดิ้นหนี
ทั้งๆที่ไม่ได้หัวใจพองโตอยากจะกอดมันอยู่แบบนั้นสักเท่าไหร่

ผมแน่ใจว่าไม่ได้เกิดตกหลุมรักคนๆนี้อีกครั้งหรอก  แค่รู้สึกว่าที่แห่งนี้จะทำให้ผมอบอุ่น และปลอดภัย จะไม่ทำร้ายกันแน่ๆ (คงเพราะมันทำจนชินชาไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ)

“กินมึงดีป่ะวะ” ไอ้พี่เซนกระซิบที่หูผมเบาๆ พร้อมกับน้ำเสียงที่พยายามอย่างมากจะให้มันแผ่วเบา และเซ็กซี่ หึหึหึ
“กินตีนกูไปก่อนละกันนะ” ว่าแล้วผมก็ออกแรงยันไอ้คนข้างๆ เต็มแรงจนมันกลิ้งไปเกือบตกเตียง สะใจเว้ย ฮ่าๆๆ
แล้วเราก็เล่นมวยปล้ำกันต่อสักพักจนเหงื่อออกและรู้สึกว่าน้ำย่อยออกมาทักทายผนังกระเพาะอาหารมากจนแสบแล้ว จึงไปล้างหน้าล้างตาหาอะไรหม่ำๆ

“แล้วนี่จะกลับไปโน่นเมื่อไหร่วะ” ผมเงยหน้า ถามไอ้คนฝั่งตรงข้าม ที่กำลังซดก๋วยเตี๋ยวหมูสับไม่สนใจกันเลย อร่อยไรนักหนาวะ แอบสงสัย
“อ่อๆ ไอ้นี่ ได้แล้วจะชิ่งเลยหรอ” มันแซวผมกวนๆ เหอะๆ
“ชิ่งป๊ะดิ ถ้าชิ่ง ชิ่งตั้งแต่ม.ปลายละ”
“เออเนอะ ดีนะกูชิ่งก่อน หึหึ” มันยักคิ้วกวนตีนผมทีนึง ยิ้มๆ คำพูดแบบนี้ถ้าเป็นหลายปีก่อน อาจจะทำให้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หรือแทงใจดำน้ำตาร่วงเปาะแปะไปแล้ว
แต่เวลาผ่านไป อะไรๆก็เปลี่ยน กลับยิ้มกับคำพูดมัน ใช่ดิ ถ้าวันนั้นมึงไม่ทิ้งกู ชีวิตกูคงไม่เจอความรักครั้งใหม่ จนกระทั่งใหม่ล่าสุดเช่นที่เป็นอยู่ตอนนี้

“แล้วตกลงกลับเมื่อไหร่ ยังไม่ตอบกูเลย”
“อีกสองวัน” มันตอบเสียงดังฟังชัด แต่ผมน่ะใจหาย
“จริงดิ ไวจัง” ผมพูดขึ้น ไม่รู้สึหน้าตัวเองเป็นไงบ้าง แต่ไอ้คนตรงข้ามมันพูดต่อไปว่า

“ทำหน้าหมาหงอย ไม่อยากให้กูกลับไปโน่นรึไงวะ”
“กูป่าวววววว” ไอ้เต้ปฏิเสธพัลวัน ทำไมกูต้องอยากรั้งมึงไว้ ไม่หรอก ไม่ใช่แบบนั้น แค่รู้สึกว่าที่หลบภัยนี้มันไม่สามารถทำให้ผมลืมหรือหนีใจตัวเองไปได้นาน
 แค่มาย้ำเตือนให้ระลึกถึงความรักที่เคยผ่านๆมา อะไรแบบนั้นแหละมั้ง

“เซน กูรักพี่แทนว่ะ” อยู่ดีๆผมก็พูดขึ้นมา รู้สึกหัวใจพองโต แล้วยิ้มไม่หุบ หรือหุบยิ้มไมไ่ด้ซะงั้น
“แล้วบอกกูทำไม หน้ากูเหมือนมันหรืองายยย ไอ้บ้านี่”
“กูแค่อยากบอก อยากบอกคนที่กูก็รักเหมือนกันไง อีกอย่าง กูบอกเค้าไม่ได้”
“กูก็เลยต้องมารับฟังคำบอกรักเน่าๆมึงแทน เฮ้อออ” ไอ้พี่เซนมันถอนหายใจ ส่ายหน้า และหันไปสั่งโค็กมาดื่มแก้เซ็งสะงั้น
ไอ้บ้าเอ้ย ขอบคุณล่ะวะ อย่างน้อยกูก็รักมึงนะไอ้พี่ชายสุดเชี่ย ขอให้มึงโชคดี
“ดูแลตัวเองนะเว้ย” ผมบอกมัน เผลอน้ำตาซึมนิดๆ โอ้ยให้ตายสิ ทำไมกูอ่อนแองี้วะ
มันไม่ได้พูดอะไร เพียงเอื้อมมือมาจับมือผมเบาๆ และตบฝ่ามือลงบนหลังมือสองสามที รอยยิ้มบางๆ ส่งมาก่อนจะเลื่อนมือกลับไปห่างกันเช่นเดิม

แล้วชีวิตก็ดำเนินต่อไป จะเปิดเทอมแล้ว อืมมม เอาไงดีวะ อยากไปเที่ยวต่างจังหวัด
“ไอ้แบงค์ ตกลงอีกอาทิตย์นึงจะเปิดเทอม มึงจะไปไหนมั้ย” ผมถามมัน โทรปลุกมันแต่เช้า ด้วยความกระตือรือล้นอยากเที่ยว
ฮ่าๆๆ เมื่อคืนก็นั่งเซิร์ชเนทหาที่เที่ยวไม่ได้หลับได้นอน
“ก็กูบอกแล้ว ว่ากูว่าง รอมึงนัด จัดมาๆ”
“เออ ไปปายมั้ยมึง”
“ห่า ทีตอนชวนไม่ไป เสือกอยากจะไปตอนนี้ แล้วแต่ ว่าไงว่าตามกัน ถามพวกมันดูละกัน กูยังไงก็ได้” ไอ้แบงค์ตื่นมาร่ายซะยาว
“เออ งั้นสรุปว่ามีมึงตอบตกลงละนะ” ฮ่าๆๆ ไอ้เต้รวบรัดเลยละกัน ที่พักก็ไม่ได้จองไม่ได้แพลนอะไรไว้เลย

“ไอ้ฝุ่น มึงว่างมั้ยอาทิตย์นี้ สนใจไปปายมั้ยวะ” ผมโทรหาเหยื่อรายที่สอง
“เออ ว่าง ไปปายหรอวะ กี่วันวะ พักไหน จองยัง ไปรถไง” ดูคำถามมัน เหอะๆ เป็นชุด
“เอาเป็นว่าตกลงมั้ย เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง”
“เยสเซ่อ” ไอ้ฝุ่นตอบตกลงอีกคนละ ง่ายดีแฮะ
“เออ ไปนอนต่อไป”
“กูตื่นแต่เช้าแล้วเว้ยวันนี้ มีธุระ”
“อ้าว ผิดคาดว่ะ” ไอ้เต้แปลกใจเล็กน้อย ปกติไอ้ฝุ่นมันสายเสมอ

ส่วนผม ตื่นเช้ามานี่ไม่ใช่เพราะกินยาผิดขวด แต่ว่านอนดึกหาที่เที่ยวแล้วก็ออกไปส่งไอ้พี่เซนที่แอร์พอร์ตมากับพี่โอต (พวกเพื่อนเฮียเซนที่เหลือก็ไม่ว่าง
แยกย้ายกันไป เจอกันก็ยามที่เหล้าต้องเอ้ยชาติต้องการ ฮ่าๆๆ นี่แหละ ชีวิตผู้ใหญ่ ไม่มีแล้วตกเย็น ถนนพระอาทิตย์ พอพระอาทิตย์ตกดินก็ไปต่อผับแถวข้าวสาร
ดึกๆ ร้านข้าวต้ม ข้าวมันไก่ เช้านอนก่ายกองกันอยู่ห้องเพื่อนสักคน)

โทรนัดกันไปนัดกันมา สรุปว่างไปกันสี่คน

ไอ้เตเต้สุดหล่อน่ารักอกหักตลอดกาล

ไอ้ฝุ่นตลบไม่รู้ชอบตบหรือชอบเตะ (ฮ่าๆๆๆ)

ไอ้แบงค์แทงไม่ยั้ง ตั้งไม่เลือก (หมายถึงสนุ๊กเกอร์นะคร้าบท่าน)

ไอ้ทอปปอบปูลาร์ หมาเมิน

(กูก็ตั้งให้คล้องไปเรื่อยเปื่อย เวิ่นเว้อไปงั้น)

อืม พวกมันก็ถามว่าชวนแฟนไปได้มั้ย เฮ้อ แล้วคนไม่มีแฟนอย่างกูล่ะ

“เต้จะไปปายวันพฤหัสแหละ” ผมบอกไอ้เฮียแทนที่แวะมารับผมไปหม่ำๆ ข้าวเย็นแถวที่ทำงานเค้า (เค้ามีที่ทำงานสองที่ ที่นี่จะใกล้ที่พักผมมากอยู่)
“อ้าว ไปอีกแล้ว เพิ่งกลับมา” ลุงแกบ่น เด็กใหม่ไฟแรงก็มีเรื่องให้เดินทางเยอะเงี้ยะแหละน่า แบร่ๆ ไอ้ตาแก่ขี้บ่น
“เค้าก็ไปเที่ยวมั่งเดะ รอบที่แล้วทำงานนะเฮีย” ไอ้เต้ทำเป็นหาเหตุผลที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่มาอ้างเรื่อยเปื่อย
“ทำงานก็ได้เที่ยว อย่ามาๆ ยังมานั่งเล่าโน่นเล่านี่อยู่เลย แถมไปซนมาอีก นี่จะไปซนรึเปล่า แล้วไปกับใครเนี่ย” โห ไอ้เฮียแทนบ้า ซนไรเล่า เอิ๊กๆ
“เป็นชุดธรรมเทศนาเลยยยย ไปกับเพื่อนที่มหาลัยอ่าคับ ไปด้วยกันมะ” ผมแกล้งทำแซวแอบชวน แต่รู้แหละคับ เค้าไม่ไปอยู่แล้ว
“พี่ไม่ว่างหรอคับ จริงๆยังไม่เคยไปเลย อยากไปนะเนี่ย” พูดให้เราดีใจเก้อแต่ก็ไม่ไปอยู่ดี ไอ้เต้หมาหงอย ตักข้าวเข้าปากหม่ำๆแล้วพูดต่อ ข้าวเต็มปากจริงๆไม่ควรพูดนะเออ
“เสียดายจัง”
“อยากให้ไปด้วยหรอ” ไอ้เฮียแทนบ้า รู้มั้ยว่าอยากจะบอกว่า อยากให้ไปมากที่สุดเลยคร้าบบบ
“ก็ถามดูแหละคับ” แต่นี่คือสิ่งที่พูด ก็มันพูดได้แค่นี้นี่หว่า
“อ่อ ชวนเป็นมารยาท”
“เฮ้ยไม่ใช่ๆ” ผมรีบปฏิเสธทันควัน อย่าเข้าใจผิดสิฟะ ชวนจริงๆ แต่รู้ตัวอยู่แล้วว่าเค้าไม่ไปกับไอ้เด็กกะโปโลอย่างไอ้เต้หรอก
“ฮ่าๆๆ อ่ะ ไงก็เที่ยวให้สนุกแล้วกันนะ เผื่อคนไม่ได้ไปด้วยล่ะ”
“คร้าบ” แล้วก็หม่ำผัดสารพัดผักต่อไป

โชคดีมากที่สุดท้ายไม่มีแฟนใครว่างไปด้วย สี่หนุ่มโฉดจึงมุ่งหน้าสู่แดนดินถิ่นเหนือกันแบบไร้พันธะ สนุกกันสุดเหวี่ยง ฮ่าๆๆๆ

เริ่มต้นด้วยคืนแรกที่เชียงใหม่ ไปสนุกกันที่วอร์มอัพ หุหุหุ สนุกมาก ไอ้เต้ไปเต้นอยู่แถวๆหน้าเวที กระดกวอดก้าเมาอย่างลืมอาย เหอะๆ ระดับนี้เมาแล้วเต้น
ไม่มีอ้วกไม่มีหลับนะคร้าบพี่น้อง หุหุหุหุ นี่ตกลงกูมาเที่ยวธรรมชาติใช่่ป่าววะ ใครถามบอกไปปาย คิดว่าทัวร์เพื่อความสงบใกล้ชิดธรรมชาติเต็มที่
พอเช้าวันที่สองตื่นมา ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

“กูว่าอยู่แถวเอกมัยก็ได้นะแบบนี้ ฮ่าๆๆๆ”

พอวันที่สองก็เริ่มมาเที่ยวของจริงคับ เมื่อวานนั่นมาชิมลางเฉยๆ แฮะๆ จริงๆผมอยากไปปายแต่เช้าแต่คุณทั้งสามตัวมันอยากเห็นหมา หมาแพนดี้ตัวอ้วนกลม
ท่าทางโง่ๆเอาแต่กินๆนอนๆ ที่สวนสัตว์ ก็เลยต้องไป หนึ่งเสียงจะสู้สามเสียงได้ไงล่ะวะ ชิชิ รังแกชนกลุ่มน้อยนะพวกมึง ตอนแรกคิดว่ามันจะมาดูแพนด้ายักษ์อย่างเดียว
ที่ไหนได้แม่งไล่เรื่อยไปทุกกรงจนกว่าจะออกมาจากเชียงใหม่ปาไปบ่ายโมงแล้ว

“เฮ้ย มึงเคยขับรถขึ้นเขาป่ะ” ผมถามไอ้แบงค์ผู้ครอบครองพวงมาลัย และชะตาชีวิตเพื่อนร่วมทาง
“ไม่อ่ะ”
“อ้าว แล้วมึงจะขับได้ป่าวเนี่ย”
“ได้ดิวะมาถึงนี่แล้ว” พูดหมีๆนะมึง มาถึงนี่กับทางไปปายมันบอลคนละลีกกันเลยนะมึง
“แล้วพวกมึงอ่ะ” ในนี้มีผมขับรถไม่เป็นคนเดียว อิอิ กุนั่งสบายล่ะงานนี้

พวกมันสองคนที่เหลือก็พร้อมใจกันส่ายหน้าคับ
“กูยังไม่เคยขับนอกกรุงเทพเลย” ไอ้ฝุ่นบอก
“กูเคยแต่ไปหัวหิน พัทยา ระยองว่ะ” ไอ้ทอปเสริม ช่วยให้ผมใจชื้นขึ้นมาดีมากกกก

เอาวะ พวกมันขับเป็นยังไม่กลัว กูขับรถก็ไม่เป็นกลัวอะไร งานนี้ตายเป็นตายเว้ย (ใจดีสู้เสือไปงั้นแหละ จริงๆ นั่งนิ่ง เหงื่อตกพอถึงโค้งลาดชันที
 ภาวนาในใจขอให้ได้กลับไปเจอหน้าหล่อๆของไอ้พี่แทนทีเถอะเจ้าป่าเจ้าเขา) เอิ๊กๆๆๆ

สี่ชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดเจ้าแอคคอร์ดก็พาพวกผมมาถึงที่ราบระหว่างหุบเขา อันเป็นที่ตั้งของเมืองปายจนได้ ปายในวันนี้ ดูแตกต่างจากปายที่ผมเคยมา
มันกลายเป็นปายสำหรับมนุษย์คนเมืองไปเสียแล้ว ผมหวนคิดถึงวันที่ปายยังเป็นที่สำหรับธรรมชาติให้มนุษย์ได้ขออิงแอบอาศัย ไม่ใช่ที่สำหรับมนุษย์ที่แบ่งเหลือพื้นที่เล็กๆ
ให้ธรรมชาติยังพอหายใจได้รวยรินเช่นนี้ แต่ผมก็ยังรักปายมากกว่าอีกหลายๆชุมชนที่เคยพบเจอมาอยู่ดี เพราะว่าคนที่ปายแห่งนี้ ยังมีรอยยิ้มให้กันเสมอเวลาพบเจอกัน

..........

“บนฟ้ามีเมฆลอย บนดอยมีเมฆบัง”




หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 06-03-2009 11:56:59
กาลเวลาทำให้อะไรหลายๆอย่างแปรเปลี่ยนไป  บางทีมันก็ทำให้คนเราอ่อนแอและเข้มแข็งขึ้นในเวลาเดียวๆกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-03-2009 12:33:04
“บนฟ้ามีเมฆลอย บนดอยมีเมฆบัง”

และ
"มีหนุ่มหล่อตัวเล็กจัง ข้างหลังให้ป๋าแทน"
ฮ่า ฮ่า  :z1: หุหุ

 :pig4:ขอบคุณครับ นายตัวเล็ก :pig4:
ป้อล่อ....คิดจะกด +1 ให้ แต่เหลือบตาไปเห็นตัวเลข 69 เข้า งั้นเอาไว้ก่อนนะ ตัวเลขสวยดี เหอเหอ :m20:
ป้อล่อ2...ค่ำๆจะเข้ามากดเต้ เอ๊ย! กด 1 ให้เต้ นะคร้าบบบบ อะจึ๊ก อะจึ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 06-03-2009 12:59:32
ได้ไปเที่ยวอีกแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 06-03-2009 17:39:00
ไรหว่า ไม่มีเมนทืเลย ไปเที่ยวดีกว่า อิอิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 06-03-2009 18:42:18
^
^
^
^
^
^
^
 :z13:
โอ๋ๆๆๆ อย่าน้อยใจน๊าาา เพิ่งเข้ามาอ่านอ่าาา แล้วก็รีบเม้นให้เลยนะเนี่ย

เด๋วคนแต่งน้อยใจ ไม่ยอมมาเล่าต่อ พี่ก็แย่อ่ะดิ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 06-03-2009 19:53:22
กลับมาจากไปก๋ง แล้วจะมาตามเก็บ สแปปปปปปปปปปป อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: willingjohn ที่ 06-03-2009 20:48:43
มาเม้นท์ให้แล้วววว อย่าเพิ่งหนีไปไหนนะคร๊าฟฟฟฟ  :really2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 06-03-2009 22:07:37
กลับมาก่อน  ตอนนี้ปายร้อนมาก  (มุขใครวะ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 06-03-2009 22:25:58
มาเมนท์แล้วเนี่ย
บวก 1 ให้้ด้วย
หาเหตุไปเที่ยวหละสิ  :laugh:
อ่านยังไง้ ยังไงก้อรู้สึกถึงความเหงาตลอดเวลาเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 07-03-2009 01:04:34
พระจันทร์.......
ยิ่งดึก...ยิ่งเหงา
แม้รู้ว่า...สุดท้ายปลายทาง
พระจันทร์จะเป็นเช่นไร
แต่ก็เต็มใจ...ที่จะเป็นเช่นนั้น

 :pig4:ขอบคุณครับ นายตัวเล็ก กด+1 ให้พระจันทร์ขี้เหงา :t2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 07-03-2009 01:56:50
ขอบคุณเพื่อนๆสำหรับกำลังใจคร้าบ

เพิ่งกลับมาจากสยามและถนนพระอาทิตย์ ไปนั่งสรวลเสเฮฮามานิดหน่อย ตามประสาวัยรุ่นตอนไหนก็ไม่รุ ฮ่าๆๆ

ไปนอนและ พร่งนี้ตื่นไปหัวหินต่อ สบายจริงๆ สอบเสจ เที่ยวแม่งตลอดเลย  :laugh:

แล้วจะเอาเรื่องมาฝากหลังจากกลับมากทมนะค้าบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 07-03-2009 02:08:01
^
^
เิดินทางปลอดภัยทั้งไปและกลับ และเที่ยวอย่างมีความสุขมากๆนะจ๊ะ

กลับมาแล้วค่อยมาละเมอต่อ รออ่านอยู่แล้วจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: andyus1 ที่ 07-03-2009 02:21:00
เหอๆๆ ยังคงเคว้งคว้างต่อไป

สงสารเต้อ่ะ แอนนี่วันทูเวคฮิมอั้ป

ตกลงไอคุนพี่แทนนี่มันจะเอางัยกันแน่ว่ะ พี่เซนก็นะ แว๊กๆๆ

เซงๆ เซงอย่างแรง  :m31:

เอางี้หาใหม่ พอได้ใหม่แล้วหนึ่งนัยท่านทั้งสองนั้นอยากจะกับมายุ่งอีกก็ถวายพระบาทาไปหั้ยแมร่งเลย  :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 07-03-2009 15:13:04
ไปเที่ยวให้สนุกนะจ้ะ  :3123:

เดินทางปลอดภัยจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 07-03-2009 20:48:25
ยิ่งอ่าน ยิ่งรักเต้

หุหุหุหุหุ

- - - - - - - - - - -  :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบหก
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 08-03-2009 01:46:32
หัวหินเป็นไงมั่งเต้...

พี่เซนมาให้หายคิดถึงแล้วก็จากไปอีกแล้ว...แย่จัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 10-03-2009 17:43:30
คืนที่สิบเจ็ด

“เฮียๆ หิวน้ำอ่า” ผมนั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีที่บ้านไอ้พี่แทน
“เออ นั่งรอไปก่อน เดี๋ยวหยิบให้”
“เดี๋ยวเต้ไปหยิบเองก็ได้”
“เออ ไม่เป็นไรเดี๋ยวหยิบให้ นั่งไปๆ เด็กขี้บ่น” เอ้า แค่กูหิวน้ำ กูกลายเป็นเด็กขี้บ่นซะงั้น ไอ้เต้ละงงงวยพระเจ้าช่วยกล้วยเชื่อมจริงๆ

สักพักไอ้พี่แทนที่กำลังขมักเขม้นกับการเล่น hi5 บนโนตบุคส่วนตัวยามคึกเอ้ยยามดึกก็ลุกไปครัว
เสียงแก้วน้ำดังกระทบเคาเตอร์หิน ทำให้รู้ว่าจะได้จิบน้ำแก้กระหายแล้ว เย้ๆๆ

“อ่ะ”
“แอบใส่ยานอนหลับป่ะเนี่ย” ผมแกล้งทำหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนจะโดนเคาะกระโหลกไปหนึ่งที เจ็บนะเฟ้ย
“ถ้าใส่ ไม่ใส่ให้หลับหรอกเว้ย”
“ไอ้บ้า” ผมไม่อยากคุยกับไอ้ตาแก่บ้ากามและ รีบๆดื่มให้หมดแล้วดูทีวีต่อดีกว่า

“ไหนไปปายมาเป็นไงบ้าง” เขาหันมาถาม
“เล่น hi5 เสร็จละหรอคับ” ผมหันไปถาม ไอ้พี่แทนก็พยักหน้าหงึกๆ

ดีมาก ได้เวลาเล่าเรื่องไปเที่ยวมาสักที ก่อนหน้านี้ไอ้เต้ได้แต่ดูทีวี อ้าปากพูดทีก็โดนหาว่ารบกวนคนจะทำงาน (เหลือบไปดูหน้าจอ มัน hi5 ชัดๆ ชิชิ)

“อ่ะๆ เนี่ยไปเที่ยวรอบนี้อ่างกับผจญภัยแน่ะ”
“ยังไง” ไอ้พี่แทนทำหน้าตาคิ้วขมวด
“ก็อันดับแรกใช่่ป่ะ ไปเชียงใหม่ ก็ขับกันไปไม่ตื่นเต้นอาราย มันเริ่มจากตอนไปปายๆ”
“ไปปาย” ไอ้พี่แทนจะทวนคำทำไมหว่าไอ้เต้ไม่เข้า
“ใช่แล้วคับ ก็พอออกจากเชียงใหม่ใช่ป่ะ ขึ้นไปบนเขาที่ปายอ่ะ ฝนตกหนักโคตรเลยเฮีย แบบไม่เห็นทาง เมฆหมอกที่พัดตลบอบอวลไปหมด” ไอ้เต้ทำท่าทางประกอบ
พร้อมกับส่งคลิปหมอกลมแรงในมือถือที่ถ่ายจากจุดแวะพักริมทางให้เฮียแทนดู
“อ่ะนี่ๆ มีหลักฐานยืนยัน”
ผมส่งไปให้เขาดู มันก็ไหวๆ ภาพเบลอๆอ่ะแหละ ทำไมภาพในมือถือดูธรรมดาจังวะ ตอนอยู่บนเขาแล้วเจอฝนจนต้องหลบข้างทางนี่ตื่นเต้นโคตรๆ

“อ่ะ แล้วไงอีก” ไอ้พี่แทนเงยหน้ามาถามหลังจากคลิปจบไป ไม่ตื่นเต้นเลย เซ็งเว้ยผิดหวัง
“อ่ะก็น่ากลัวดิ ขับรถไม่เหนทางโค้งก็เยอะ”
“อ่ะแล้วรอดมาได้ไง”
“ไอ้บ้าาาา” ผมทุบแขนไอ้คนนั่งข้างๆไปจนเค้าร้องโอ๊ย แมร่งมาแช่งกันอีก
“ตกเขาตายจะตามมาบีบคอ ฮึ่ยยย” ผมแกล้งทำหน้ายักษ์ใส่ แล้วเล่าต่ออิอิ
“ก็หลังจากผ่านด้านแรกที่เจอฝนมหาภัยใช่ป่ะ ก็มาถึงปาย คราวนี้ไม่มีที่พัก ไม่ได้จอง กะว่ามันต้องมี แม่งเฮียคิดดูดิ
เมืองทั้งเมืองไม่มีที่พักว่างสำหรับคนสี่คนเลย วนหากันเป็นหลายชั่วโมงจนสองทุ่มอ่ะ”
“อ่ะ แล้วไมไม่จอง” ไม่เข้าข้างแถมทำหน้าดุใส่ไอ้เต้อีก เดี๋ยวงอนเลยเฟ้ย
“ก็บอกว่าไม่คิดว่าจะเต็ม มันยังไม่หน้าหนาวไง ใครจะไปรู้ว่าคนมันจะบ้ามาเที่ยวปายกันขนาดนี้ ตอนไปกับที่บ้านปีก่อนโน้นคนยังไม่เยอะมากเลย
นี่รีสอร์ตเพิ่มขึ้นตั้งเยอะ แต่กลับเต็ม เห็นแล้วอนาถใจ แม่งไม่แบ่งไปเที่ยวที่อื่นกันบ้างเลย”
“แล้วตกลงนอนไหนล่ะ” สงสัยที่ผมเล่าจะสนุกจัด เขาเลยลุกไปหยิบขนมมากิน แล้วกดเปลี่ยนช่องทีวี นี่ฟังไอ้เต้อยู่ป่าววะเฮ้ย คนอุตส่าห์ตั้งใจเล่า
“ก็ตอนแรกก็ตกลงกันและว่าจะนอนแอคคอร์ดวิลล่า(ในรถนั่นเองแหละคับ) แต่ว่าโชคดีไปนั่งกินเหล้าปั่นในเมืองแล้วเจอสาวสวย
เค้าเป็นเจ้าของรีสอร์ทนอกเมืองที่แวะไปถามแล้วมันเต็ม แล้วเขาก็เป็นเจ้าของร้านเหล้าปั่นนี่ด้วย เขาก็ถามว่าได้ที่พักหรือยัง
เต้กับเพื่อนก็ได้แต่ส่ายหน้า และบอกว่านอนในรถแหละ”

ผมหยุดเล่านิดนึง ดูปฏิกิริยาคนฟัง สงสัยฟังเพลิน เห็นผมเงียบสักพักก็เลยหันมา
“เอ้าแล้วไงต่อ” มือก็หยิบขนมกินไม่สนใจตูเลยเว้ยเฮ้ย

เงียบคับ ไอ้เต้เงียบ นั่งหน้างอนอยู่บนโซฟา

“อ้าว ไม่เล่าอ่ะ”
“ก็เฮียไม่ฟังอ่ะ”
“ฟังอยู่ๆ เล่าต่อดิ”
“อ่ะ”

“ก็เค้าก็สงสารเลยบอกว่า มีห้องข้างบนร้านให้นอนได้ ห้องดีด้วยนะเฮีย”
“อืม”  ไอ้พี่แทนพยักหน้าเชิงตอบรับ
“แล้วสรุปก็่ผ่านด้านสองโดยการได้นอนห้องชั้นสองบนร้านเหล้าปั่น”
“อืม”
“อ่ะ ยังไม่พอๆด่านสาม เป็นถ้ำน้ำลอด ที่จริงเต้เคยไปกับที่บ้านและ รอบนี้เลยพาเพื่อนมันไป แต่มันเป็นปลายฝน น้ำเลยเยอะ
น่ากลัวเลยน้ำแรงเชียว ก็เลยเข้าไปได้แค่ถ้ำเดียวรอบนี้ เพื่อนมันก็ด่าใหญ่เลยเพระาเต้บอกว่าสวยดี แต่สรุปไม่ได้เข้าไปถึงข้างใน”
“แล้ว”
“ก็เนี่ยแหละ เจอน้ำแรงๆน่ากลัวกว่าที่เคยไปครั้งก่อนเยอะเลย”
“เฮ้ย เนี่ยนะ ผจญภัยแล้ว” ไอ้พี่แทนทักท้วง โห ไม่ไปเองไม่รุ้หรอก ว่ามันน่ากลัว ฝนก็ตก กลัวน้ำป่าจะตายตอนนั้น
“ใช่ดิ” ผมยืนยัน
“แค่เข้าถ้ำไม่ได้เนี่ยนะ”
“ก็นั่นล่ะ ตื่นเต้นของเต้ละกัน”
“อ่ะมีต่ออีกป่ะ”
“มีๆ” ไอ้เต้ยังพยายามเล่าต่อ”
“ก็อีกคืนใช่ป่ะ ก็มานอนปางอุ๋งที่อยู่บนเขา ไกลๆเลยอ่ะ ไปรอบที่แล้วเต้นอนเต้นท์ แต่รอบนี้จองโฮมสเตย์ที่นี่ไว้ ก็ไปๆ สวยดี
แต่ที่ไคล์แมกซ์สุดเป็นขากลับอ่ะ คิดดูดิเฮียวันกลับ ขับรถจากชายแดนแม่ฮ่องสอนมากรุงเทพฯอ่ะ สิบห้าชั่วโมงแน่ะฝ่าฝนฝ่าเขา ขึ้นเขาตอนกลางคืนตอนฝนตกด้วย”
“ขับเองป่ะ”
“หึ เพื่อนมันเปลี่ยนกันขับ” ผมส่ายหัว ยิ้มเขิลๆ
“แค่นั่งเนี่ยนะ ผจญภัยแล้ว”
“โห มันมีทั้งฝ่าฝน ฝ่าเขา แล้วมันนานมากเลยนะเฮีย”
“อืมมมม”
“ไม่ตื่นเต้นหรอ”
“ง่วงนอน” ไอ้พี่แทนทำท่าหาว แล้วลุกไปปิดทีวี เดินขึ้นไปห้องนอน

เว้ยยยยย อุตส่าห์เล่า แถมทำท่าและสีหน้าประกอบ บอกว่าง่วงนอน งอน งอน งอน งอนนนนนนนนนนนนนน ไอ้เต้งอนนนนนนน
 แต่ก็ได้แต่เดินตามขึ้นไป หยิบหนังสือที่หัวเตียงมาอ่านแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆพี่เขา

“พรุ่งนี้เรียนกี่โมงนะ”
“เก้าคับ”
“จะตื่นกี่โมงอ่ะ”
“แปดครึ่งก็ได้” ผมตอบเสียงอ่อย เช้าอ่ะ เซ็งๆ ไม่อยากตื่น”
“เฮ้ย เอ็งเรียนเก้าโมง จะตื่นแปดครึ่งได้ไง” ไอ้พี่แทนทักท้วงอีกละ ก็เรียนเก้าโมงไอ้เต้ก็ตื่นเก้าโมงด้วยซ้ำปกติอ่ะ นี่ถือว่าไวแล้วน้า
แถมบ้านพี่ก็อยู่ใกล้มหาลัยผมแค่นี้ ทันถมเถ จิ๊บๆ
“งืมมม”
“เจ็ดครึ่งโอเคป่ะ”
“เฮ้ย เช้าไป แปดละกัน” ไอ้เต้รีบโวย ไปมหาลัยก่อนเวลาเรียน เขิลตาย อิอิอิ
“แปดก็แปด ตื่นด้วยนะ ห้ามงอแง ไม่งั้นเตะตกเตียง”
“ไอ้บ้า” ผมได้แต่หน้าแดงเพราะว่าพอพูดจบไอ้ตาลุงบ้าก็มาประทับรอยจูบเบาๆจางๆ บนริมฝีปากผมซะงั้น

“ว่าหรอ เดี๋ยวโดน”
“ไอ้บ้า” มาพูดไรใกล้ๆวะ เขิลเว้ยยยย เขยิบไปได้แล้ว จะนอนๆง่วงๆๆๆๆๆ
“ไอ้บ้าหรอ อยากรุ้มั้ยบ้ายังไง”
“เว้ยยย อย่าเฮีย ตื่นไปเรียนไม่ทันนะ”
“หึหึหึ เดี๋ยวปลุกเอง” ไม่รู้ปลุกไปเรียนหรือปลุกอะไรกันแน่ เพราะมือที่ปลุกอยู่ทำให้ร่างกายนายเตเต้ตื่นก่อนเวลาเรียนหลายชั่วโมงเลยนะเนี่ย

แล้วริมฝีกปากนั้นก็หวนกลับมาบรรจงทาบทับอีกครั้งแต่กดย้ำรุนแรงกว่าครั้งก่อน และหนังสือในมือผมก็ถูกหยิบโยนออกไปไม่ใยดี

รู้สึกตัวอีกทีผมก็สะดุ้งตื่นเพระาเสียงนาฬิกาปลุกด้วยความเหนื่อยอ่อนเพลียตามันปิดไม่ยอมลืมเลยเช้าแบบนี้
“ปิดนาฬิกาปลุกให้หน่อยดิคับ” ผมสะกิดหนุ่มใหญ่ที่นอนคุดคู้เป็นเด็กอยู่ข้างๆ
“อืมมม” เสียงในลำคอแสดงความไม่พอใจเหมือนเด็กเวลาโดนปลุก
“พี่แทน เค้าปิดไม่เป็น”
“อืมมมมม”
“ปิดเองก็ได้วะ” ผมรำพึงกับตัวเองเบาๆ
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวพัังพอดี” ไอ้พี่แทนกระโจนข้ามตัวผมไปที่โต๊ะหัวเตียง เอื้อมไปปิดเสียงนาฬิกาให้หยุดส่งเสียงก่อกวนแล้วค่อยๆกลิ้งกับไปนอนฝั่งเดิม
ไอ้เต้ก็ได้แต่นอนนิ่งสนิท เมื่อกี้ตอนเขาข้ามตัวผมไปแล้วหน้าผมอยู่ใต้ช่วงท้องเขาทำเอาหายใจไม่ทั่วท้องตัวเองไปเลยดีกว่า ไอ้บ้าเอ้ย

“อาบน้ำ” เสียงคำรามดังใกล้ๆผม อ้าวคิดว่าหลับต่อซะอีก ผมแกล้งนอนต่อ ด้วยความง่วงแบบสุดๆ
“บอกว่าให้ไปอาบน้ำ เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน”
“ง่วงอ่ะ”
“อย่างอแง ลุก” ปากพูด แถมเท้ายังมาเขี่ยๆยันๆไอ้เต้อีก เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลยลุง
“อ่ะ” ไอ้เต้ยันตัวขึ้นมานั่งอย่างง่วงๆ แล้วรวบรวมพลังลมปราณที่มีลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป  เฮ้อ ตกลงมานอนใกล้มหาลัยแทนที่จะได้ตื่นสาย
กลับกลายเป็นเช้ากว่าเดิมอีกว่ะ เวรกรรม

“เต้”
“เต้”
“ไอ้เต้”
“ไอ้เตเต้เว้ย” เสียงไอ้พี่แทนเคาะประตูห้องน้ำซะดัง จนผมตะโกนตอบรับไป คนกำลังอาบน้ำอุ่นสบายใจ มีไรวะ
“ค้าบบบบ”
“เสร็จรึยังเรา จะเก้าโมงแล้ว”
“เสร็จแล้ว เฮียหยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อยดิคับ” ผมหันซ้ายหันขวา กูลืมหยิบเข้ามานี่หว่าด้วยความง่วงและมึน
ไม่ทันที่จะเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ ประตูห้องน้ำอีกฝั่งที่เชื่อมกับอีกห้องซื่งไมไ่ด้ลอคก็ถูกเปิด ผมก็ได้แต่รีบวิ่งเข้าไปแอบหลัง
ประตูกระจกกั้นห้องอาบน้ำเหมือนเดิม อายนะเว้ย เปิดมาไม่บอกไม่กล่าว
“อายไร” ไอ้พี่แทน ยังทำเป็นยืนแปรงฟันส่วนห้องข้างนอกต่อ ไอ้บ้า ถามมาได้ อายอะไร
“ไอ้เฮียบ้า ออกไปก่อนดิ” ผมพยายามเปิดน้ำแรงๆ ให้มันมีไอเยอะๆ แล้วก็ชะโงกดูผ้าเช็ดตัวที่เจ้าตัวพาดไว้ที่ราวจับบนประตูกระจกกั้นห้องอาบน้ำ
“โอ๊ย เห็นหมดแล้ว ไม่ต้องอาย”
แมร่งงงง ไอ้บ้า ยืนนิ่งสักพักไม่รู้โกรธหรืออาย สุดท้ายก็แง้มประตูไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วรีบวิ่งงุดๆออกไปจากห้องน้ำ

ปล่อยให้ไอ้เฮียบ้ายังคงแปรงฟันไป หัวเราะไปคนเดียว

“อ่ะ” ผมรับน้ำชาลิปตันแอปเปิ้ลจากพี่แทนมา เขายื่นให้ก่อนจะเดินออกไปสตาร์ทรถรอผม
“ขอบคุณคับ” ผมรับมาแล้วเดินไปใส่ถุงเท้ารองเท้า สะพายเป้พร้อมไปเรียน

“เฮ้อ เฮียว่าเต้จะทำงานต่อหรือเรียนๆไปก่อนดี ใจนึงก็อยากฝึกงานหางานทำต่อ อีกใจนึงก็ยังเสียดายชีวิตวัยเด็ก” ผมพูดระหว่างทางนั่งรถไป
“อยากก้าวหน้าหรืออยากอยู่ไปวันวันเหมือนคนอื่นล่ะ” ไอ้พี่แทนพูดน้ำเสียงจริงจัง
“ก็ทั้งสองอย่างฮ่าๆๆ”
“คนเราได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง อยู่ที่เราเลือก มันต้องเลือกทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครได้ทุกอย่างหรอก” ผมแอบเห็นแววตาเศร้านิดๆของเขา
ส่วนตัวเองก็ได้แต่มองลำคลองข้างทาง ใช่ดิ แล้วนี่ผมเลือกอะไรวะเนี่ย เลือกที่จะก้าวมาในทางแห่งความฝันงั้นหรอ ฝันที่ไม่มีปลายทาง
ไม่สิ ฝันที่ไม่มีหนทางให้เดินด้วยซ้ำ เหมือนน้ำตาจะไหล และความเงียบมันคงจะทำให้เราสองคนอึดอัดเกินไป
เขาวางมืนบนหลังมือผมเบาๆ ครู่หนึ่งก่อนจะดึงกลับไป แล้วหันมายิ้มให้ตอนผมจะลงจากรถ

“ตั้งใจเรียนนะตัวเล็ก”
“คับพ้ม”

   ____________________________________________________


กลับจากหัวหินแล้วคร้าบ จริงๆกลับมาวันอาทิตย์ แต่เมื่อวานทำอย่างอื่น เลยไม่ได้มาลง แฮะๆ สนุกดีคับ รอบนี้ไม่ลงรูปละกัน เซิชหาดูเอาเอง หุหุหุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 10-03-2009 18:11:15
 :เฮ้อ:
ยิ่งละเมอ ยิ่งลึกซึ้ง ยิ่งเศร้าอ้ะ

"...ใช่ดิ แล้วนี่ผมเลือกอะไรวะเนี่ย เลือกที่จะก้าวมาในทางแห่งความฝันงั้นหรอ ฝันที่ไม่มีปลายทาง
ไม่สิ ฝันที่ไม่มีหนทางให้เดินด้วยซ้ำ..." <<< :monkeysad:

ไปหัวหินหนุกมั้ยจ๊ะเต้
บวก 1 ให้เช่นเคยจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 10-03-2009 18:15:07
.




เฮียแว่บเอามาลง แล้วก็หนีไปแร่ดอยู่เมเจอร์ !
น้องนุ่งอะไม่เคยจะสนใจ .. ทิ้งนะทิ้ง เชอะเชอะ !!


ต.เต้ ตัวเตี้ยต่ำต้อยติดตูด ปู้ดๆ              *
 :laugh: :laugh:



บ้าไปแล้ววววว ว            ~*
:*)))   )
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 10-03-2009 20:39:26
กลับมาแล้ว :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: andyus1 ที่ 10-03-2009 21:37:06
หง่อย จะเอางัยกะชีวิดเอ่ย

เปนกำลังจัยละกันคั้บ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 10-03-2009 22:12:46
จันทร์เอ๋ย...จันทร์เจ้า
ไม่ขอข้าว...ไม่ขอแกง
พระจันทร์...ผิดสำแดง
ไม่มีแรง...แต่ไปเที่ยว หุหุ

จันทร์เอ๋ย...จันทร์เจ้า
ไม่ขอช้าง...ไม่ขอม้า
พระจันทร์...เหนื่อยอ่อนล้า
แต่วิ่งร่า...ไปกินเหล้า ฮ่าฮ่า

จันทร์เอ๋ย...จันทร์เจ้า
ไม่ขอตั่ง...ไม่ขอเตียง
พระจันทร์...โคตรลำเอียง
ไปนอนเคียง...ไอ่พี่แทน ฮือฮือ


 :pig4:ขอบคุณครับ นายตัวเล็ก แล้วไล่จิ้ม(+1) ไอ่ตัวเล็ก ฟิ้วววววววววววววว :oni1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 10-03-2009 22:27:10
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ไม่รู้จะพูดอะไร

 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 11-03-2009 00:08:09
ขอบคุณที่มาต่อหั้ยอ่านครับ

ทำไมไม่ลงรูปอ่ะ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบเจ็ด
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 12-03-2009 00:12:41
 :L2: ขอบคุณที่มาลงต่อนะครับ...
ยิ่งอ่านยิ่งเหงาปนเศร้ายังไงไม่รู้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 12-03-2009 12:14:27
คืนที่สิบแปด



“ไงไปลอยกะเทยที่ไหนมา”เสียงพี่แทนถามผมผ่านโทรศัพท์มือถือ
“จะไปไหนล่ะคับ กินข้าวกับเพื่อนๆพี่ๆแหละ” ผมตอบคำถามหลังจากเพิ่งแยกย้ายกับพวกเฮียๆเจ๊ๆ
“อ้าว อะไรกัน นึกว่าโดนจับลอยกะเทยไปแล้ว” ไอ้เฮียบ้ามันขำสนุกสนาน แซวเด็กล่ะมีความสุข ชิชิ
“เฮียนั่นและ ใครเอาไปลอย อารมณ์ดีเชียว”
“โอย แก่แล้ว ลอยคลองหน้าบ้านเนี่ยะแหละ” อ่อคลองน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลานั่นอ่ะหรอ อิอิ
“ไม่ลงทุนเลย ไปให้มันไกลกว่าคลองหน้าหมู่บ้านหน่อยเฮ้อ”
“อ้าว ไอ้นี่ คลองนี่มันเชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยานะเว้ย ลอยนี่ก็เหมือนได้ไปลอยแม่น้ำ”
“เหอะๆ คลองนั่นอ่ะนะ”
“เออดิ ไม่รู้อะไรซะแล้วไอ้น้อง”

ผมนั่งยิ้มกับความบ้าบอของตาลุง อืมมม ลอยกระทง เทศกาลนี้ เท่าที่จำได้ เป็นวันที่พระจันทร์สวยงามและมีมนต์เสน่ห์ ทำให้ผู้ที่มองเห็นเหมือนถูกสะกด

“แล้วไม่ไปลอยกับแฟนหรอคับ” ผมถามเขาต่อ
“ไม่อ่ะ อยู่แถวๆนี้่ล่ะ”
“ตามประสาลุงแก่ๆอ่ะดิ” ฮ่าๆๆๆ ไม่ได้อยากจะว่าน้า ที่พูดเนี่ยเพราะรักรู้ป่าว ไอ้เต้คิดในใจ
“เออ แค่นี้นะ”
“งอนๆ โอ๋ๆๆๆ ขอให้ลอยกระทงปีนี้ มีความสุขสมหวัง ได้ทำในสิ่งที่รักนะคับเฮีย”
“นึกว่าจะไม่อวยพรกันซะแล้ว”
“เอ๋า”
“เราก็เหมือนกันนะ ขอให้มีแฟนดีดีเร็วๆ”
“ค้าบผม”

หลังจากวางโทรศัพท์ผมก็ทั้งยิ้มให้พระจันทร์ และตั้งคำถามให้ใจตัวเอง

เอ็งรู้ไหมไอ้พระจันทร์ที่บางวันยิ้มได้ มีคนนึงบนโลกนี้ที่ชอบมองเอ็งทุกวันกำลังมีความสุขและความเศร้า
 แล้วมึงรู้ไหมไอ้เต้ว่านั่นเป็นคำอวยพรที่มึงอยากฟังจากปากเขามากที่สุด หรือไม่อยากฟังเลยมากที่สุด

ทำไมมันยิ้ม ไม่มีน้ำตา ยิ้มได้เต็มที่ รู้สึกรอยยิ้มวันนี้ มันมีความหมายว่า นี่แหละชีวิต(กู)

แล้วหลังจากวันนั้นเขาและผมก็จากกันไปนาน ผมไม่ได้เจอเขาเกือบๆเดือน ไม่ได้คุย ไม่ได้ติดต่อ
 รู้แต่ว่าผมยิ้มทุกครั้งที่คิดถึง ไอ้คนที่เคยถามผมว่า รู้มั้ยขนมกล่องนี้ใส่อะไรไว้

“ช่วงนี้เจอพี่เขาบ้างป่ะ” ไอ้พลถามผม ตอนเรานั่งดูไฟคิดมากกันอยู่แถวๆแยกบรรดาตึกต่างๆ ตามท้องถนน แถวแยกราชประสงค์
“หึ เบื่อกูแล้วมั้ง”
“ฮ่าๆ เอาน่ะจะปีใหม่แล้วหาใหม่ดิวะ” คำแนะนำของไอ้พล มันเป็นคำแนะนำที่ดี แต่ปฏิบัติยากไปหน่อยนะมึง
“ไม่ว่ะ กูไม่ได้อยากมีแฟนขนาดนั้น”
“แล้วมึงจะมาจมปลักอยู่กับแฟนชาวบ้านเขาเนี่ยนะ”
“ป่าว กูแค่รู้สึกกูเจอคนที่กูอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ถ้ามีแฟนกูก็อยากได้คนที่ทำให้กูรู้สึกแบบนี้”
“ก็เพราะมึงไม่ได้เป็นแฟนเค้า มึงเลยมีความสุข ลองมึงเป็นแฟนเค้าแล้วเขามีเด็กคนอื่นแบบนี้ มึงคงไม่สุขหรอก”

“ไม่รู้เว้ยยยย” ผมลุกขึ้น แล้วเดินไปตามแรงลมที่เริ่มเย็นลงของธันวาคม ณ กรุงเทพฯ พ.ศ.  2551

เดินไปเรื่อยๆ เดินไปตามแสงไฟสาดทั่วหล้า สาดสว่างราตรีให้ไม่เผลอนิทรา สาดสว่างส่องหล้าแข่งแสงจันทร์ มันคือแสงไฟสวยงาม
หรือนี่คือฝัน นี่หรือความงามอันไม่จีรัง ต้นคริสต์มาสเหล่านั้น ประดิษฐ์วิจิตรจากสิ่งอันใด

“กูว่าปีนี้หนาวว่ะ”
“เออ ดีแล้ว กูจะได้เอาเสื้อที่ซื้อมาใหม่มาใส่”
“อ่อ ขนฟูๆที่ซื้อมาจากชิดลมวันนั้นอ่ะนะ” ผมล่ะขำไอ้พล เห็นเสื้อโค๊ตตัวนึงสวยดี มันลดราคาอยู่ มันเลยรีบไปซื้อทันที แล้วก็ไม่ได้ใส่
เพราะกรุงเทพฯปีไหนๆ มันก็ร้อนเหี้ย ยกเว้นวันนี้ ไม่รู้ทำไมมันหนาว แต่ก็ดี หนาวอีกหลายๆวัน จะได้ขนเสื้อผ้าหนาๆ นุ่มๆ มาใส่ให้อบอุ่น อุ่นให้มันถึงขั้วหัวใจเลยดีป่ะวะ

ห่างหายไปเนิ่นนาน

กับลมหนาวของธันวา

“เฮียตี๋โทรมาและ” ผมหันไปบอกไอ้พลรับโทรศัพท์ หลังจากที่เราสองคนนั่งรอ เดินเล่นรอเฮียแกมาสักพัก

“ว่าไงคับเฮีย”
“เออ มึงอยู่ไหนอ่ะ ถึงแล้วๆ”
“หน้าเวิลด์เทรดคับ”
“เออ เดี๋ยวเดินไปหา รอแป๊บๆ”
“ค้าบผม”

“ว่าไงคับเฮีย” ผมรับโทรศัพท์อีกครั้ง ด้วยคำทักทายเดียวกัน
“ไงเรา อยู่ไหนอ่ะ”
“หน้าเซ็นเวิลด์คับ เป็นไงบ้างพี่ สบายดีเปล่า” คำถามแบบนี้คงเหมาะสมกับคนที่ไม่ได้คุยกันสักพัก
“สบายดีค้าบ เราล่ะ ไปซนไรแถวนั้นตัวเล็ก”
“มาหาไรกินกับเพื่อนๆอ่ะคับ” ผมตอบไป โดยมีคริสต์มาสคอยยืนเคียงข้างซ้าย และไอ้พลอยู่ด้านขวา บาลานซ์กันหรือเปล่าอันนี้ กูไม่รู้ กูบ้า
“อ่ะ แล้วไปไหนต่อป่ะ”
“คงนั่งลานเบียร์ไฮเนเก้นมั้งคับ ไม่มีไรทำอ่ะวันนี้ วันศุกร์ด้วย”
“อืมมม มาบ้านพี่ดิ”
“ฮะ ไรอ่ะเฮีย อารมณ์ไหนเนี่ย”
“อารมณ์คิดถึง อยากกอด” เหอะๆ ไอ้เต้งง หายไปเกือบเดือน อยู่ดีๆ โทรมาชวนไปบ้าน
“อืมมม เอางี้ละกัน เต้ดูก่อนว่าเพื่อนมันว่าไง ถ้ามันไม่ไปไหนเดี๋ยวเต้โทรบอกนะคับ ขอหม่ำๆก่อน”
“ได้คร้าบ งั้นพี่ไม่กวนและ อย่าเดินตากลมมากล่ะ วันนี้อากาศเย็นๆ”
“ค้าบผม”

บอกช้าไปเสียแล้วไอ้เฮียบ้า ตากลมมาตั้งนาน เพิ่งจะโทรมาบอก ไอ้บ้าเอ้ย

“ว่าไงวะ”
“เฮียเค้าชวนไปบ้านเค้า”
“ตอนนี้อ่ะนะ” ไอ้พลทำหน้าตาตกใจ เพิ่งทุ่มกว่าเองนะเมิง
“เออ เค้าคิดว่ากูอยู่แถวนั้นมั้ง”
“เออ แล้วมึงไปป่ะ”
“ไปดีป่ะ”
“อยากไปล่ะสิ”

ฮ่าๆ ผมขำ แต่ไม่ได้ตอบ อยากไปมั้ยหรอ คิดถึงหนิ ตอบว่าอยากก็โกหก แต่จะไปมั้ยนั่นอีกเรื่องหนึ่ง ค่อยว่ากันละกัน ตอนนี้ มุ่งตรงไปยังร้านข้าวก่อนด้วยความหิวโซ

“ตกลงไปไหนต่อ” ไอ้พลถามหน้าตาเจ้าเล่ห์หลังจากกินข้าวกันเสร็จ ทำไมกินเสร็จกันไวจังวะ
“ว่าไงอ่ะมึง” เฮียตี๋ถามผม ไอ้เต้จะตอบว่าไงดีล่ะคับงานนี้
“ก็ แล้วแต่”
“มึงจะไปบ้านไอ้พี่แทนนั่นมั้ยล่ะ” ไอ้พลแววผม เฮียตี๋หันมาทำหน้างงๆ
“อะไรของมึงวะ”
“ก็พี่เค้าชวนไปบ้าน” ผมตอบคำถามเฮียตี๋ไป กลัวโดนด่าเหมือนกัน
“มึงจะนั่งรถไปหาถึงที่เลยเนี่ยนะ แล้วมันทำไมไม่มารับ” ว่าแล้ว เฮียแกเริ่มสวดยับ เหอะๆ
“ก็ แฮะๆ ไม่ไปหรอกมั้ง”
“ให้แน่ ตกลงไปไม่ไป แล้วบ้านมันก็อยู่ตั้งไกล อันตรายจะตายไปกลางค่ำกลางคืน”
“อย่างไอ้เต้ไม่อันตรายหรอกเฮีย” ไอ้พลแม่งเสริมนะ หลอกด่ากูอีก ฮึ่ย แค้น แต่ไม่กล้าเถียง

“ก็ไปไหนก็ต่อก็ได้ ไม่ไปบ้านเค้าหรอก” ผมตอบไปเสียงอ่อยๆ
“จะไปไหนล่ะ”
“เอาน่ะ กูยอมกลับบ้านเร็วศุกร์นี้ ให้มึงไปเจอไอ้พี่แทน ไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่หว่า กูเข้าใจความสุขเพื่อน”
 ไอ้ห่าพลเอ้ย กัดกูอีกละนะฝากไว้ก่อน ที่มึงกูไม่ว่าที่ข้ามึงอย่าโวยละกัน

“ถ้าจะไปเดี๋ยวขับไปส่งว่าไง” หยึ๋ย เฮียตี๋จะไปส่งเลยหรอ เหอะๆ
“ไม่ดีกว่าเฮีย ไกลอ่ะ”
“เออไม่เป็นไร จะไปดูหน้ามันด้วย”
“ฮ่าๆ ดีๆเฮีย เผื่อไปเจอแฟนเค้าจะได้ช่วยทัน” ไอ้พลมันพูด
“ช่วยไรวะ”
“ช่วยรุมมึงไง” แม่งเอ้ย นึกว่าจะช่วยอยู่ฝ่ายกู ไอ้เพื่อนชั่ว ชิ
“ไปๆ เดี๋ยวไปส่ง ไอ้พลไปด้วยป่ะ” เฮียตี๋ถามมัน
“ไม่ดีกว่า กลัวอดใจไม่ไหว ฮ่าๆๆ” ไอ้พลหัวเราะชอบใจ และมันก็ขอแวะลงตรงแถวๆบ้านมัน ซึ่งก็ผ่านอยู่แล้วถ้าจะไปบ้านไอ้พี่แทน

“เฮียอ่ะ เกรงใจอ่ะ มาส่งเต้ตั้งไกล”
“กูเป็นพี่ ก็สมควรจะห่วงมึง แล้วมึงควรจะเกรงใจแฟนเค้ามากกว่ามาเกรงใจกู จบๆกันไปซะทีเหอะ กูก็ไม่อยากพูดมาก”
เฮียตี๋พูดเรื่อยๆไม่ได้ด่าผมหรอก แต่ก็ทำให้รู้สึกตื่นได้เหมือนกัน

“ก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอก”
“เออ ไหนจะขอดูหน้ามันหน่อย แม่งมาหลอกฟันน้องกูอยู่ได้” เย้ยยยยย พูดจาอาไรอ่า เขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเว้ยยยยยยยยยยยเฮียยยยยย

“อ่านะ เพลงเพราะดีเนอะ” ไอ้เต้เปลี่ยนเรื่อง ฟังเพลงที่เปิดอยู่ในรถ เป็นเพลงโปรดเพลงหนึ่ง ซึ่งความหมายแม่งโดน เหอะๆ

To have and not to hold
So hot, yet so cold
My heart is in your hand
And yet you never stand
Close enough for me
to have my way

To love but not to keep
To laugh, not to weep
Your eyes, they go
right through
And yet you never do
Anything to make me
want to stay


Like a moth to a flame
Only I am to blame
Ba ba da ba ba ba
What can I do?
Ba ba da ba ba ba
I go straight to you
Ba ba da ba ba ba
I've been told
You're to have, not to hold


To look but not to see
To kiss but never be
The object of your desire
I'm walking on a wire
And there's no one at all
To break my fall


“เลี้ยวหมู่บ้านเนี่ยคับ” ผมบอกทางเฮียตี๋คนขับเข้าหมู่บ้านไอ้พี่แทน
“เลี้ยวขวาแล้วก็ซ้ายเลยคับ”
“เออ หลังไหนวะ”
“เนี่ยๆ หลังเนี่ยคับ”

รถเฮียตี๋จอดอยู่หน้าบ้านสองชั้นสีขาว ในซอยของหมู่บ้านแห่งหนึ่งชานเมือง ผมเห็นเจ้าของบ้านกำลังเดินงุ่นง่านอยู่หน้าบ้านยกเก็บของอะไรดูวุ่นๆเล็กน้อย

“เฮ้ยไอ้เต้ นี่มันไอ้แทน เพื่อนของเพื่อนพี่นี่หว่า” เฮียตี๋หันมาบอกผม หน้าตาตกใจเล็กๆ
“อ้าว ตกลงเฮียรู้จักหรอ”
“ก็ไม่เชิง มันไม่รู้จักพี่หรอก แต่พี่เคยเจอมันตอนไปงานกับเพื่อนสองสามครั้ง”
“อ้าวเวรกรรม ซวยมั้ยล่ะเนี่ย แล้วรู้จักแฟนเค้าด้วยป่าวคับ” ไอ้เต้หมาหงอยอีกระลอก อย่านะ อย่าเชียว
“ไม่หรอก” อ่าาาาา โล่งงง”
“แต่ว่า เฮ้ย ตลกว่ะ แม่งนึกว่าใคร ไอ้ห่าแทนนี่เอง มันเป็นไฮโซด้วยนี่ นึกไงมาเอามึงเนี่ย เด็กกะโปโลแบบมึงไม่น่าจะเป็นสเปคมัน”
“อ่ะ เต้ดูแย่มากเลยใช่ป่ะ” เดี๋ยวแม่มงอนอีกคนเลย
“ก็ป่าวเว้ยๆ ฮ่าๆๆ ขำเว้ย อึ้งด้วย ฮ่าๆๆๆๆ ว่างๆ ลองแกล้งถามเพื่อนกูดีหว่า ว่าแฟนมันเป็นใคร ไปๆลงไปได้แล้ว มันมองมาในรถแล้ว เดี๋ยวมันเห็นกูละจะซวย”
อ่านะเฮีย มาส่งถึงปากถ้ำเสือ แล้วปล่อยให้เดินเข้าไปคนเดียวเลยยย โหยยย
“อ่ะคับ ไงก็ขอบคุณมากนะคับ เออลืมๆ ประทับตราบัตรผ่านรถด้วยนี่หว่า”
“เออใช่ ซวยแล้วดิ เอางี้ มึงเอาลงไปประทับแล้วเอามายื่นให้ละกัน”
“คับๆ”

ผมเปิดประตูลงไป ไอ้พี่แทนเห็นก็ทำหน้างงๆ
“ใครมาส่งอ่ะ” เขาเดินมาเปิดประตูรั้วเตี้ยๆให้ผม
“อ่อพี่คับ ประทับตรารถให้หน่อยดิเฮีย” ผมยื่นใบขาวๆ ที่ยามปากซอยหมู่บ้านส่งให้มา
“เออๆ แล้วไมเค้าไม่ลงมาอ่ะ”
“อ่อเขารีบๆ” ผมนึกขำในใจ ปนงง ตกลงไอ้พี่แทนเขาเป็นใครกันแน่วะ แต่ก็ช่าง จะไอ้พี่เคน ไอ้พี่แทน หรือจะใครอีกก็ตาม แค่วันนี้มีความสุขก็พอละกัน

 อะไรที่มันไกลไป ก็ไม่อยากไปวิ่งไปให้เหนื่อยเปล่า



   ________________________________________________________

ปล.เพลง to have not to hold ของ madonna นะคับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 12-03-2009 12:31:10
อ่านเสร็จแล้วนะครับ
แต่ต้องขอโทษตัวเล็กด้วย  :pig4:
อารมณ์นี้ยังเม้นท์อะไรไม่ออกครับ
ยังไงๆ เด๋วจะเข้ามาใหม่นะครับ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

Edit..........................
พระจันทร์เฉา...เหงาใจ...ใครจะรู้
พระจันทร์เฉา...เหงาอยู่...จะรู้ไหม
พระจันทร์เฉา...เหงาเอง...วังเวงใจ
พระจันทร์เฉา...เหงาทำไม...ใครบอกที

 :pig4:ขอบคุณครับ นายตัวเล็ก :pig4: +1 จิ้มตัวเล็กให้หายเหงา :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 12-03-2009 13:08:33
ขอให้มีความสุขค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 12-03-2009 13:38:33
อยากเชียร์พี่ตี๋ ให้เอาอึไปปาหลังคาบ้านไอพี่แทนจัง มาหลอกฟันตัวเล็กอยู่เรื่อยเลยย  :z6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 12-03-2009 17:26:49
เฮ้อ!!!  ไม่รู้จะเม้นต์เชียร์ รึด่าพี่แทนดีอ่ะ

เหอะๆๆ สับสนชีวิต

แต่ยังไงก็ขอให้น้องเต้มีความสุขละกันนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 12-03-2009 18:55:32
พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เมื่อไหร่จะเคลียร์ๆซักที

มันคลุมเคลืออยู่อย่างนี้ มันหงุดหงิดแทน

 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 13-03-2009 15:59:40
ง่ะ

จะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ยอ่า

......ไอ้เตเต้เอ้ย !!!!!!!!!!!    o22
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 13-03-2009 23:18:04
ยิ่งละเมอนานจะยิ่งเจ็บมากหลังจากตื่นขึ้นมารึป่าวนา

ยังไงก็เอาใจช่วยเตเต้ต่อไปนะจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 14-03-2009 02:11:49
ต่างฝ่ายต่างไม่แน่ชัด

ปล่อยไว้แบบนี้

รู้ว่าไม่ดี




แต่จะให้ทำไงล่ะ ใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 14-03-2009 02:38:19
เต้เอ๊ย จะสงสาร จะเห็นใจ หรือยังไงดีเนี่ย  :เฮ้อ:
แต่หงุดหงิดพี่แทนจังเลย พี่เค้าจะเอายังไงกันแน่นะ
มันไม่มีอะไรชัดเจนเลย เด๋วห่างไป แล้วเด๋วก้อชวนไปบ้าน เว้ยยยยยยยยยยยยย  :serius2:

กดบวกให้นะจ๊ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 14-03-2009 12:47:05
อ่านเรื่องของคุณเต้ แล้วเศร้าทุกเรื่องเลยอ่ะครับ  :m15:

ไม่ว่าจะเป็นพี่เซน หรือ พี่เกียร์

แต่ก้อเข้าใจว่าบางอารมณ์ คนที่หน้าตาดี (อย่างเราสองคน) ก้ออกหักได้เหมือนกัน

อ่านแล้วเส้า


คิดถึง คนเก่า ๆ .... :o12:

ตอนนี้ผมกำลังร้องไห้ :sad4:

เพราะคุณเต้ครับ :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 14-03-2009 13:19:02
เข้ามาดูเพื่อจะมาอัพเพิ่ม

แระแล้วก็ไม่มาเพิ่มเลย

แงแงแงแงแงแงแงแงแง
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 14-03-2009 15:32:11
แวะมาทัก อิอิ ไม่อัพดีกว่า รอให้อ่านกันครบๆก่อน  :laugh:

ฝากถึง leogemini เคยเหนผมหรอคับ รุ้ได้ไงหน้าตาดี ฮ่าๆ แต่ก็ขอบคุณที่เอาเขากลุ่มนะคร้าบ  :laugh: :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-03-2009 15:45:16
งั้นนน...ผมคงอยู่คนละกลุ่มกับ SunintheNight แน่เลยครับ
 :m13:
 :m17:
 :m23:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 14-03-2009 22:27:15
แวะมาทัก อิอิ ไม่อัพดีกว่า รอให้อ่านกันครบๆก่อน  :laugh:

ฝากถึง leogemini เคยเหนผมหรอคับ รุ้ได้ไงหน้าตาดี ฮ่าๆ แต่ก็ขอบคุณที่เอาเขากลุ่มนะคร้าบ  :laugh: :o8:
งั้นนน...ผมคงอยู่คนละกลุ่มกับ SunintheNight แน่เลยครับ
 :m13:
 :m17:
 :m23:

อ่าวเต้  งั้นผมคงจินตนาการพลาด  :-[  :really2:

วันนี้เจอคุณ broke-back สองที่เลยครับ ทั้งที่นี่ (ของเต้) และของพี่เอก 

ยินดีที่ได้เจอกันนะครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 14-03-2009 23:04:54
 :เฮ้อ:
อ่านทันไปอีกเรื่องละ อิๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 15-03-2009 01:10:51
พี่แทน...จะเอายังไงกับเต้ล่ะเนี่ย  :เฮ้อ: สงสารเต้จริงๆ เอาใจช่วยนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 15-03-2009 06:40:36
น่ารักดีคับผม
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 15-03-2009 10:13:57
ผมเดาว่าโกหกว่ามีแฟนแล้ว   (คิดแบบนี้มาตั้งนานแล้วละ - -" )
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 15-03-2009 13:15:04
เด็กใหม่ค่ะเด้กใหม่  :mc4: :mc4:

พี่ตี๋  พึ่งรู้หรอค่ะว่าโลกมันกลมมมม
ว่าป่ะพี่ตัวเล็กกกกกกก  5555+

ปล** สงสารเต้จับใจ  เพราะเคยแอบชอบแฟนชาวบ้านเขาเหมือนกัน

แต่สุขก็เคแล้วววว
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 15-03-2009 20:48:45
เข้ามารอ  :call:

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 15-03-2009 22:53:43
 :m32:
พรุ่งนี้วันจันทร์...นี่ก็ดึกแล้ว
ขอตัวไปนอนแล้วนะครับ...พระจันทร์  :t3:
Good Night, ครับ พระอาทิตย์เที่ยงคืน  :a12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนที่สิบแปด
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 16-03-2009 12:11:09
คิดถึงนะ มาต่อได้เเล้วตะเอง

รักเต้จัง

เรื่องนี้คล้ายๆเราเลยบางตอนเลย

เป็นกำลังใจให้นะ ตัวเล็ก :กอด1:

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 16-03-2009 18:15:47
คืนสุดท้ายของปี

“วันนี้มีของโปรดเราด้วย” ไอ้พี่แทนเดินหายเข้าไปในห้องครัวแล้วหยิบขนมขาไก่มาให้ผม (ไม่รู้ซื้อที่ไหน อร่อยกว่าพวกมียี่ห้อตามเซเว่นเยอะเลย อิอิ)
“อ่า ขอบคุณคับ” ผมยิ้มหน้าบาน รีบรับห่อขนมมาแกะกิน อร่อยจังวุ้ย
“อ่ะ มากินมั่ง” ไอ้พี่แทนแบมือให้ผมเทขนมใส่มือ โห แย่งอ่ะ งี้ต้องหาเหตุผลไม่ให้ลุงมาแย่งหม่ำๆ
“คนแก่แล้วกินไม่ดีนะเฮีย ดึกๆกินแป้งมากๆจะลงพุงเอา” อิอิอิ พูดให้เห็นข้อเสียไว้ก่อน
“ซิตอัพได้เว้ย มาเลย อย่างก”
“โห่”
“เดี๋ยวจะโดน เทมาอีก” ไอ้พี่แทนดุผม พอเห็นได้เต้เทให้ไปนิดเดียว หวงนี่หว่า ให้แล้วมาเอาคืน ไอ้บ้าเอ้ย งอน

ผมก็นั่งหม่ำไปหม่ำมา หม่ำขาไก่มั่ง ขาไอ้พี่แทนมั่ง เพราะเวลาขาไก่ในมือเค้าหมด ชอบยืนปลายเท้ายาวๆมาเขี่ยขาไอ้เต้ที่นั่งอยู่อีกมุมของโซฟา
ให้ไปเทเติมใส่มือเขาอีก ชิ เป็นเด็กรับใช้เลยเว้ยกู

“ปีใหม่ไปเที่ยวไหนอ่ะ” ไอ้พี่แทนถามผม
“อืมม แถวนี่ล่ะคับ เพชรบุรี อัมพวามั้ง” ผมตอบๆไปตามที่คุยๆกับเพื่อนไว้แต่ยังไมไ่ด้ตกลง
“แม่ง ไม่เบื่อไงเนี่ย”
“พี่ไปไหนอ่ะ”
“เชียงใหม่”
“โห ไปตอนนี้อากาศเย็น น่าอิจฉาเว้ย คนได้ไปแอ่วเมืองเหนือ” นึกถึงเชียงใหม่ทีไรอยากไปอีกทุกที เป็นเมืองที่มีเสน่ห์จริงๆ
“แล้วไปกับแฟนหรอคับ”
“ไปกับที่บ้าน พาแม่ไปเที่ยว” ผมหันไปมองหน้าไอ้คนพูดแวบนึง
“หน้างี้เนี่ยนะเฮีย เป็นลูกที่ดีกับเค้าด้วย”
“เอ้าไอ้นี่ หาเรื่อง เดี๋ยวเถอะ ทำไมหน้าแบบนี้ทำไมวะ” ผมขำ ท่าทางตลกๆของลุง ปีใหม่คงอยู่กับแม่วันนึง อยู่กับเพื่อนอีกวันนึงแหละเนาะ ตามประสาวัยรุ่น

“แล้วเราล่ะไม่ไปกับแฟนหรอ” ไอ้พี่แทนถามขึ้น กูบอกตอนไหนวะว่ากูมีแฟนแล้ว
“มีก็คงไปแล้วล่ะ”
“ยังไม่มีอีกหรอ ไม่เจอกันตั้งนาน” อ่านะ เฮ้อ ไอ้บ้า ไม่เจอกันแต่ไม่เคยลืม แล้วแบบนี้จะมีใจไปเหลือให้ใครวะกู ชีวิตแม่งน้ำเน่า ฮ่าๆ

“เฮีย รู้ไรป่ะ”
“ไรอ่ะ”
“อืมมม ไม่เคยมีคนซื้อขนมให้ผมกินแบบเฮียเลยนะ” ผมพูดในสิ่งที่ไม่ได้คิดแต่แรก แต่แทนความรู้สึกบางอย่าง ทำแบบนี้แล้วผมจะมีปัญญาไปมีใครอีกล่ะ
“อืม ไว้จะซื้อมาฝากอีก”
“คับ” ซื้อมาอีก ให้กูไปไหนไม่รอดอีก แม่ง หงุดหงิดตัวเองในใจ แล้วไอ้เฮียบ้าก็ล้มตัวเอาหัวมานอนหนุนตักผมซะงั้น อืมมม ให้มันได้งี้สิเว้ย

วัันนี้อากาศเย็นๆ อย่างว่าแหละธันวาคมนี่นา เฮียตี๋โทรกลับมา
“ว่าไงคับ”
“เออ ว่าไง ทำไรกันอยู่ ฮ่าๆ กูเพิ่งถึงบ้าน เลยโทรมาขัดจังหวะซะหน่อย” เสียงเฮียตี๋หัวเราะชอบใจ ไอ้พี่แทนก็ยิ่งได้ใจ มาสาละวนกับตัวผมอยู่ได้ ยั่วจริงเว้ย
“เอ่อ จะนอนแล้วคับ”
“นอนไรวะ เพิ่งห้าทุ่ม นอนหลับหรือหลับนอนมึง”
“อ่านะเฮีย นอนหลับๆคับ” ไอ้พี่แทนแอบฟัง หัวเราะชอบใจ แล้วแกล้งถามเสียงดัง
“จะนอนยังคับเต้” เหอะๆ สยิวเว้ยยยย
“คับๆ” ผมหันไปตอบ พยายามจะลุกหนี แต่ไม่รอดมือมาร
“อ่ะเค้าเรียกแล้วไปนอนเถอะมึง” เฮียตี๋วางสายไป ส่วนไอ้พี่แทนยังไม่ละวางจากตัวไอ้เต้เลย เหอะๆ

ทำอะไรกันไม่รู้ รู้แต่ว่าผิดศีลข้อสามอ่ะ เหอๆ ต้นงิ้วขึ้นรอบบ้านอีกแล้วว่ะ เฮ้อออออ ไม่อยากปีนนะเว้ย อย่าเอาหอกมาจิ้มก้นได้มั้ย ขอลงจากต้นงิ้วซะที

ผมนอนหมดแรงอยู่บนเตียงนอน รอไอ้พี่แทนอาบน้ำ หยิบหนังสือที่ว่างอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเขามาอ่านเล่น อืมมม มีแต่หนังสือน่าอ่านเยอะเหมือนกันนะเนี่ย

“อ้าว นึกว่านอนไปแล้ว” ไอ้พี่แทนถาม หลังจากเปิดประตูห้องน้ำมาเจอผมยังไม่หลับ
“ยางอ่า อ่านหนังสือก่อน”
“ดึกๆดื่นๆ ไม่ง่วงรึไง”
“ก็อ่านแปบนึง รอนอนพร้อมเฮียด้วยไง” ผมไม่ชอบหลับก่อนอ่าแปลกๆ
“อ่านะ งั้นเดี๋ยวขออ่านหนังสือแป๊บละกัน”
“ค้าบ”

ผมนั่งอ่านหนังสือเงียบๆต่อไป ไอ้เฮียก็งุ่นง่านเก็บของสักพักก็มาล้มตัวลงนอนอ่านหนังสือข้างๆผม
“รู้ป่ะอ่านหนังสืออ่ะดีนะ” ตาแก่เริ่มบ่นละ ผมขยับหนังสือวางลงแล้วหันไปคุย
“ค้าบ ผมก็ชอบอ่านนะ”
“จะได้ฉลาดๆ ไปอ่านๆซะ อย่ากวนล่ะ” อ่านะ ตาลุงบอกผม แต่จำได้ว่ากวนผมก่อนนะ  ว่าแล้วก็หยิบขึ้นมาอ่านต่อ


“อ่านเข้าใจหรอเรา”
“ฮะ” ผมงง อยู่ดีๆก็หันมาถาม ภาษาไทยนี่หว่า ทำไมจะอ่านไม่เข้าใจวะ
“ก็อ่านรู้เรื่องมั้ย เล่มนั้นดีนะ พวกจิตวิทยาพัฒนาตนเอง” อ่านะ ปกติก็อ่านอยู่แล้วเฟ้ย โห่ ดูผิดกันจังไอ้พี่แทน
“เข้าใจๆ อ่านแล้วจะเป็นคนจิตใจดี คิดแง่บวกแบบเฮียใช่ป่ะ” เหอะๆ ผมพูดไปแบบไม่ได้กัดฟันเลยล่ะ ฮ่าๆๆๆ หมันไส้จริงๆ ได้คนภูมิใจในตัวเองเอ้ย
“เดี๋ยวเถอะ อย่ามากัด” อิอิอิ ก็เห็นคิดดีตลอด
“ฮ่าๆ ป่าวซะหน่อย”
“เออ อ่านต่อ อย่ากวนๆ”

เอ้า ไรวะ อีกแล้ว ได้ข่าวว่าตัวเองเริ่มก่อนทุกที

ผมอ่านเพลินๆ ไอ้เฮียก็เอื้อมตัวข้ามตัวผมไปเล่นเอาตกใจ นึกว่าจะทำไรอีก ที่แท้ เอาหนังสือไปวางเก็บไว้นี่เอง อิอิอิ
“ง่วงแล้วนอนละนะ จะนอนปิดไฟด้วยนะ”
“เอ้า นอนด้วยดิ” คนเราไรวะ บทจะนอนก็นอนเลย ทิ้งกันซะงั้น ผมวางหนังสือแล้วลุกไปปิดโคมไฟใกล้ๆ

“เฮีย ขอกอดหน่อยดิ” ผมเป็นคนชอบนอนกอดโดยปกติ แต่มักจะได้แต่กอดหมอนข้าง ฮ่าๆ
“อ่ะ ไม่เอา”
“งก”
“ก็ปกตินอนคนเดียวอ่า มีคนมากอดนอนไม่หลับ”
“งั้นจับมือก็ได้”
“อืมมม ก็ได้”
แล้วไอ้เฮียก็เอื้อมมือมาให้ผมจับไว้

เราสองคนนอนหงาย หมอนใครหมอนมัน ผ้าห่มคนละพื้น บนเตียงคนละด้าน หากมองจากมุมมองบนเพดาน จะเห็นว่าเราห่างกันพอสมควร
มีเพียงมือสองมือที่จับกันอยู่ให้รู้ว่าคืนนี้ ไม่ได้นอนคนเดียว

“อืม ขอมือคืนได้มั้ยอ่าคับ” เสียงไอ้พี่แทนพูดขึ้น
“อ่ะ” ไอ้เต้ไม่ยอมปล่อย
“นอนไม่หลับอ่า” ไอ้พี่แทนอ้อนเป็นเด็กๆไปได้ ฮ่าๆ
“งั้นรอเต้หลับก่อนดิ แล้วค่อยดึงไปน้า”
“อืม หลับไวๆล่ะ” เสียงดุขำๆ ของลุงแกตลกดี ผมก็เลยพยายามหลับ แล้วสักพักกำลังเคลิ้มๆก็รุ้สึกว่าเขาดึงมือกลับไป แต่ผมก็ผลอยหลับไปเสียแล้ว


“อืมเต้ ช่วงคริสมาสต์อย่าโทรหาพี่นะ” หลังจากเงียบไปสักพักเหมือนคิดอะไรบางอย่าง พี่แทนก็เอ่ยบอกผมตอนเรานั่งอยู่บนรถ
“อ่าคับ” ผมไม่อยากถามเหตุผล แต่สายตาผมมันคงถามไปแล้ว เขาจึงตอบ
“พี่อยู่กับแฟนช่วงอาทิตย์นั้นอ่ะ”

อืมคับ ผมบังเอิญตื่นมาเจอความจริงสินะ

“คับ ไปเที่ยวหรอคับ”
“ป่าวๆ อืมไงมีอะไรยิงมาละกันเดี๋ยวพี่โทรกลับ แล้วก็เมสเสจอย่าส่งมาล่ะ” พี่เขาพูด
“คับ”
“เป็นเด็กดีนะ แล้วพี่จะโทรหา”
“คับผม”

อืม ผมรู้และก็ก็ทำใจมาตลอดแหละมั้ง การที่รู้ว่าตลอดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เราจะครอบครอง มันก็คงดีตรงนี้แหละ มันเลยไม่ผิดหวัง
แม้จะไม่ได้ทำให้เกิดรอยยิ้ม แต่ผมก็ยังฝืนยิ้มบางๆให้เค้าเป็นการตอบรับ เขาเอามือมาขยี้หัวผมแบบที่เคยทำ กล่าวออกมาเบาๆ

“พี่ขอโทษนะ”

“ผมก็ขอโทษคับ” ผมเงียบไป

“ผมผิดเองแหละ” ผมพูดต่อ เพราะถ้าผมไม่อยากไปรู้จักเค้า เรื่องมันก็คงไม่เกิด

“ก็ผิดทั้งสองคนนั่นแหละ” มือนั้นมาวางบนฝ่ามือผม แต่ผมยังคงเป็นเช่นเดิม ได้แต่วางไว้เฉยๆ ไม่กล้าดึงออกและไม่กล้าพอจะบีบตอบ


แล้วผมก็ร้องไห้ให้กับช่วงที่หนาวที่สุดของปีจนได้ มันเป็นฤดูหนาว ที่หนาวที่สุดทั้งอากาศและใครคนหนึ่งคนนี้ ผมกระดกเบียร์มากมาย
ไปลานเบียร์วนเวียนสลับไปมา ใช้ยอดตึกชั้นสิบแปดของลานเบียร์ไฮเนเก้นเป็นที่สิงสถิตย์
ไมไ่ด้เมามายเพราะอกหัก แค่ไปดื่มเพื่อให้มันไม่เหงาเพราะความหนาวจนแข็งตายไป

อย่างน้อยก็ได้เจอคนอื่นที่ผมรัก เพื่อนๆพี่ๆ และก็รู้ว่านี่แหละ ชีวิตมันไม่ได้มีแค่ความรักจากคนที่เราวิ่งไล่ตาม หลงเพ้อละเมอฝัน

ผมยังมีเฮีย มีพี่ มีเพื่อนดีๆ ที่อย่างน้อยก็พร้อมจะเดินรวมกลุ่มไปด้วยกัน ยามที่ใครคนหนึ่งในกลุ่มนั้นอ่อนแอ พากันเดินไปไม่ให้ล้ม พ่ายแพ้อยู่ระหว่างทาง

อย่างน้อยแม้ใครจะไม่รู้แต่ผมรู้ว่าอีกรักหนึ่งที่ล่มสลาย ทำให้รู้ว่ามีอีกหลายรักที่อยู่เคียงข้างเรา แล้วแบบนี้ผมควรจะตื่นได้หรือยัง

ในคืนสุดท้ายของปี ผมอยู่กับเพื่อนๆบนคอนโดสูงย่านปิ่นเกล้า วิวมันดีพอจะเห็นพลุที่จุดอยู่ทั่วกรุง จะยกเว้นก็เสียแต่ด้านฝั่งสีลม สาทร
แต่ก็ช่างมันเถอะ พวกเราทำสุกี้กินกัน อยู่กันหกคน ดูอบอุ่นแบบคนแก่ดีแฮะ เป็นการอำลาปีเก่าครั้งแรก ที่ไม่ต้องการคนมากมาย
เพียงแค่มีคนดีๆ ไม่กี่คน ที่พร้อมจะข้ามพ้นปีนี้ไปด้วยกัน มันก็พอแล้ว

รู้ตัวเองอีกทีก็ผ่านพ้นมาจนปีใหม่...

   ------------------------------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 16-03-2009 18:17:09
.





จิ้มตรูดเจ่เจ๊ !!!!!




 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 16-03-2009 18:33:48
มาอ่านรวดเดียวจบเลยอ่ะ

เหงา เศร้า แต่ก็สนุกนะ อยากรู้ว่าท้ายที่สุดความจริงของเต้จะเป็นยังไงจัง หรือความฝันจะมาเป็นความจริง
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 16-03-2009 18:47:38
เศร้าอ่ะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 16-03-2009 19:48:02
ไม่มีน้ำตา

มีแต่ยิ้มที่ฝืนไว้

และใจที่เจ็บปวดไปพร้อมกัน

นี่หละชีวิตการรักคนมีแฟนแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 16-03-2009 21:34:30
มีบางอย่างที่รุ้สึกว่ามันไม่เคลียร์มากมาย + +
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 16-03-2009 22:23:39
แล้วจะตื่น หรือ จะยังละเมอต่อไปดีล่ะ ????
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 16-03-2009 22:30:41
 :เฮ้อ: ทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะ

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 16-03-2009 23:56:52
พระจันทร์ตื่น...อีกคน...จะตื่นไหม
พระจันทร์ไห้...อีกคน...จะไห้หรือ
พระจันทร์เหงา...อีกคน...จะเหงาฤา
พระจันทร์ยื้อ...อีกคน...คงยื้อตาม

 :pig4:ขอบคุณครับ นายตัวเล็ก :pig4:
ป้อล่อ....ถ้าละเมอต่อ แล้วยังแฝงความสุขในละเมออยู่ ก็....แหะแหะ  :m23:+1ให้ตัวเล็ก และขอ :กอด1:แน่นๆด้วยนิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 17-03-2009 00:10:46
ตอนนี้เศร้า

จะตัดใจได้หรือเต้

กลัวใจจะอ่อน เพราะยังรักอยู่น่ะสิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 17-03-2009 00:40:16
เป็นคืนส่งท้ายปีที่เศร้าจริงๆ  :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ เต้
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 17-03-2009 00:56:43
เฮ้อ..

รักไม่มีเหตุผลจิง ๆ :เฮ้อ:

...

หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 17-03-2009 01:38:03
คนหนึ่งไม่ยอมปล่อย


อีกคนไม่ยอมหนี


แล้วมันก็เป็นแบบนี้เรื่อยไป


เศร้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 17-03-2009 05:05:10
ละเมอคืนสุดท้ายของปี
ละเมอที่อ่านแล้วเหงาและหนาวมากมาย
 :monkeysad:
มันจะเป็นการละเมอครั้งสุดท้ายมั้ยเนี่ย
โลกแห่งความจริงเปิดรออยู่เสมอ

แอบคิดเล่นๆ ว่า พี่แทนมีแฟนแล้วจริงๆเหรอ แปลกๆอ้ะ
หรือว่าไม่อยากให้ทางบ้านรู้ และก้อไม่อยากผูกมัดตัวเองกะใคร

บวก 1 ให้เช่นเคยจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 17-03-2009 09:10:27
มา   :z13: ต่อจากคุณตานครับ

 :3123:

+1 ด้วยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 17-03-2009 10:31:47
เป็นกำลังใจให้เสมอนะค่ะ
ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนชีวิตตัวเอง

รักเต้นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 17-03-2009 11:52:42
ปีใหม่แล้ว

เลิกละเมอได้แล้วนะ ... เตเต้ !!!!!

 :z1:

,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 17-03-2009 20:57:05
คร้าบบบบ  o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 17-03-2009 21:42:58
คร้าบบบบบบ ป๋ม  :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 17-03-2009 22:39:10
 http://media.imeem.com/m/EEIKr8rQsJ


จะจบแล้ว เอาเพลงมาปล่อยไว้ก่อน สร้างกระแส อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------คืนสุดท้ายของปี
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 17-03-2009 22:41:15
.
.
.



โหย ..
ลงเพลงเป็นด้วย ..

เก่งๆๆๆ
 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 18-03-2009 02:18:42
 :monkeysad:
ฟังเพลงนี้ ในทู้นี้เนี่ย
เศร้ามากมาย
ใกล้จบแล้ว ก้อยังเศร้าได้อีก  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 18-03-2009 07:33:02
:monkeysad:
ฟังเพลงนี้ ในทู้นี้เนี่ย
เศร้ามากมาย
ใกล้จบแล้ว ก้อยังเศร้าได้อีก  :เฮ้อ:

ตานค้าบบบ

ลงเพลงทำไงอ่ะคัฟ :call:

อิอิ  จำไม่อีกแล้ว

รบกวนด้วยค้าบบบ :call:   :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 18-03-2009 16:15:43
ทำไมผมไม่เห็นเพลงงะ - -"
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 18-03-2009 16:27:16
ทำไมผมไม่เห็นเพลงงะ - -"

เพลงอยู่อีกหน้าค่ะ^^


ละเมอจะจบลงแล้วหรอค่ะ :monkeysad:

เพลงโดนได้อีก

........

...ไม่ว่าเราจะอยากละเมอต่ออีกนานเท่าไหร่  แต่..สักวันนึงเราก็ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อเจอกับ...ความจริง
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 18-03-2009 23:50:54
พระจันทร์นอนเต็มอิ่ม
ใกล้จะตื่นแล้ว
ก็เลยต้องเลิกละเมอ
แต่..........
พระจันทร์แน่ใจเหรอ
จะไม่ละเมออีก.....ในคืนหน้า
กับพระอาทิตย์ดวงเดิม
 :จุ๊บๆ:

 :t3: :a12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 19-03-2009 08:43:04
พระจันทร์นอนเต็มอิ่ม
ใกล้จะตื่นแล้ว
ก็เลยต้องเลิกละเมอ
แต่..........
พระจันทร์แน่ใจเหรอ
จะไม่ละเมออีก.....ในคืนหน้า
กับพระอาทิตย์ดวงเดิม
 :จุ๊บๆ:

 :t3: :a12:

วาทะเจ้า


ช่างลึกล้ำ :เฮ้อ:

พอดี RAM ต่ำ คิดตามไม่ทันเรยยยยย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 19-03-2009 14:00:28
พระจันทร์นอนเต็มอิ่ม
ใกล้จะตื่นแล้ว
ก็เลยต้องเลิกละเมอ
แต่..........
พระจันทร์แน่ใจเหรอ
จะไม่ละเมออีก.....ในคืนหน้า
กับพระอาทิตย์ดวงเดิม
 :จุ๊บๆ:

 :t3: :a12:

วาทะเจ้า


ช่างลึกล้ำ :เฮ้อ:

พอดี RAM ต่ำ คิดตามไม่ทันเรยยยยย  :เฮ้อ:

เหอะ เหอะ.......เซงเปด
 :seng2ped:
RAM อารายเหรอ??????
ม่ายรู้จัก  :sad4:
 :t2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 19-03-2009 19:25:19
จะจบแล้วเหรอครับ  :m15:

ชอบมากเลย แบบว่าโดน   :o8: :o8:

ขอบคุณคร้าบบ  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 19-03-2009 23:01:47
นี่มันกระทุ้ของเด็กๆคุณลุงข้างบนเข้ามาป้วนเปี้ยนย้อนวัยเหยอ  :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 20-03-2009 08:41:08
พระจันทร์นอนเต็มอิ่ม
ใกล้จะตื่นแล้ว
ก็เลยต้องเลิกละเมอ
แต่..........
พระจันทร์แน่ใจเหรอ
จะไม่ละเมออีก.....ในคืนหน้า
กับพระอาทิตย์ดวงเดิม
 :จุ๊บๆ:

 :t3: :a12:

วาทะเจ้า


ช่างลึกล้ำ :เฮ้อ:

พอดี RAM ต่ำ คิดตามไม่ทันเรยยยยย  :เฮ้อ:

เหอะ เหอะ.......เซงเปด
 :seng2ped:
RAM อารายเหรอ??????
ม่ายรู้จัก  :sad4:
 :t2:

RAM= Random Access Memory krabb

หน่วยความจำอ่ะค้าบบบ 

แรมต่ำ ก้อประมวลผลช้าไง  :เฮ้อ:

นี่มันกระทุ้ของเด็กๆคุณลุงข้างบนเข้ามาป้วนเปี้ยนย้อนวัยเหยอ  :m20:

ร้อนตัวอ่า...

ใกล้เลขสามแล้ว

อายุเกินป่าวค้าบบบบ :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 20-03-2009 08:57:56
กลายเป็นกระทู้เด็กละหรอ กระผมก็ไม่เด็กน้า ไอ้พี่แทนก็เกินเลขสาม เพราะงั้น แก่แค่ไหนก็เต็มใจครับ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องเล่า) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 20-03-2009 09:04:35
นี่มันกระทุ้ของเด็กๆคุณลุงข้างบนเข้ามาป้วนเปี้ยนย้อนวัยเหยอ  :m20:

ร้อนตัวอ่า...

ใกล้เลขสามแล้ว

อายุเกินป่าวค้าบบบบ :sad4:
โอ๋เอ๊ย เจอเมนท์นี้เข้าไป พี่ก้อหนาวๆเหมือนกันหละ
ดีนะ ที่คนชอบละเมอเค้ามาบอกซะก่อน
V
V
กลายเป็นกระทู้เด็กละหรอ กระผมก็ไม่เด็กน้า ไอ้พี่แทนก็เกินเลขสาม เพราะงั้น แก่แค่ไหนก็เต็มใจครับ อิอิอิ
รอดตัวไป
ไม่งั้นจะกล้าเข้ามาอ่านตอนต่อไปม้ายยยย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------soundtrack
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 20-03-2009 09:47:48
นี่มันกระทุ้ของเด็กๆคุณลุงข้างบนเข้ามาป้วนเปี้ยนย้อนวัยเหยอ  :m20:

ร้อนตัวอ่า...

ใกล้เลขสามแล้ว

อายุเกินป่าวค้าบบบบ :sad4:
โอ๋เอ๊ย เจอเมนท์นี้เข้าไป พี่ก้อหนาวๆเหมือนกันหละ
ดีนะ ที่คนชอบละเมอเค้ามาบอกซะก่อน
V
V
กลายเป็นกระทู้เด็กละหรอ กระผมก็ไม่เด็กน้า ไอ้พี่แทนก็เกินเลขสาม เพราะงั้น แก่แค่ไหนก็เต็มใจครับ อิอิอิ
รอดตัวไป
ไม่งั้นจะกล้าเข้ามาอ่านตอนต่อไปม้ายยยย  :เฮ้อ:


ง่ะ พี่ตาน

งานวิจัยอ่า ทำไปจิ :m16:

ทำไมมาป้วนเปี้ยนทู้นี้อ่า..

รึมาแอบให้กำลังใจเต้ :กอด1:

งั้นก้อเหมือนโอ๋อ่ะจิ :กอด1:

ฮ่า ๆ

ป.ล. เห็นพี่ออนเอ็มแว๊บ ๆ แล้วก้อหายปาย... o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 20-03-2009 11:10:01


“ก็เป็นเพียงแค่คน ที่ค้นหาทางเดิน”...



you have a text message...

“สวัสดีปีใหม่คับ ขอให้มีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปราถนา เป็นอีกหนึ่งปีดีๆ พบเจอแต่สิ่งดีๆ”
 ไอ้พี่แทนส่งมาในค่ำคืนนั้น ผมมองพลุ ที่เขาคงไม่เห็น เพราะอยู่ตั้งเชียงใหม่ ผมส่งอวยพรไปหาเขาเช่นกัน ไม่รู้เชียงใหม่จะเป็นยังไงบ้างนะตอนนี้
ผมได้แต่บอกพระจันทร์ที่ถูกประดับประดาไปด้วยพลุหลากสีสันระบำอยู่บนฟ้าไกลของเที่ยงคืนข้ามปี ฝากบอกคนนั้นว่าอย่าลืมห่มผ้าให้อุ่นๆนะ

หลังจากเคาท์ดาวน์เสร็จวันรุ่งขึ้นผมก็ไปเที่ยวเพชรบุรีกับไอ้พวกคุณเพื่อนที่หาดเจ้าสำราญ เตะบอลเล่นริมทะเล (แมนโคตรเลยกู) ดื่มเบียร์ เล่นน้ำ
แม้ทรายจะไม่ขาวแต่มันสงบ เงียบพอให้นอนแหงนมองแล้วคิดรำพึงในใจว่า แม่งท้องฟ้ามันสวยไรงี้วะ


“เฮ้ยมึง รูปตอนไปปายกูยังไม่ได้เลยนะ” ไอ้ฝุ่นบ่น
“ก็กูฝากไอ้แบงค์ไปให้แล้วไง” ผมบอกมัน มันก็เลยหันไปมองหน้าไอ้แบงค์ ที่ทำท่าไม่รู้กูบ้าอยู่ ฮ่าๆๆ กวนส้นตีนจริงๆ แต่งานนี้กูไม่มีเอี่ยวด้วยนะเว้ย

“กูลืมว่ะ ฮ่าๆๆกลับไปแล้วกัน เอาลงพร้อมรูปรอบนี้เลย ดีป่ะ” ไอ้แบงค์จอมกะล่อนบอกเพื่อนมัน(ซึ่งก็คือเพื่อนกูด้วยนั่นแล)
“รอบที่แล้วยังไม่ได้ ยังจะรอบนี้อีกนะมึง” ผมด่ามันไป
“เออ เอามาให้กูด้วยนะเว้ย กูก็ยังได้ไม่ครบ เหลือส่วนของกล้องฟิล์มไอ้เต้อ่ะ” ไอ้ทอปบอก พอดีผมเอากล้องฟิล์มไปถ่ายด้วยน่ะคับ แต่รอบนี้แสงสีห่วยบรม

“เออคร้าบ นายท่านทั้งหลาย” ไอ้แบงค์รับปาก ทำท่าก้วนส้นตีนก่อนจะรีบวิ่งหนีลงทะเลไปเพราะไอ้ทอปไล่เตะตูด เอหรือว่ามันจะทำอย่างอื่นกับตูดไอ้แบงค์วะ ฮ่าๆๆๆๆ

ผมวิ่งเล่นกับพวกมันจนเหนื่อยอ่อน เลยมานั่งแปะอยู่ที่ชายหาด แล้วก็นึกอะไรดีดีขึ้นมา กูเขียนสวัสดีปีใหม่บนผืนทรายดีกว่า เป็นแบคกราวน์ถ่ายรูปกับพวกมันเก็บไว้
เอาไว้ให้ได้จำว่า ปีใหม่ปีนี้กูมาทะเล มากับเพื่อนรัก อย่างน้อยมันก็มีบางสิ่งให้จดจำล่ะวะ

ว่าแล้วก็เดินไปหากิ่งไม้อันที่มันพอจะแข็งแรงมาวาดฝีไม้ลายมือบนทรายที่ไม่ได้ขาวละเอียดสักเท่าไหร่ของชายทะเลเมืองเพชร

HAPPY NEW YEAR 2009

พวกมันก็งงว่าผมมาขีดเขียนอะไรเลอะเทอะแถวนี้
“ไรวะ” ไอ้แบงค์วิ่งมาถาม
“มาๆถ่ายรูปกันมึงเป็นที่ระทึกหน่อย” ผมบอกพวกมันที่มาพอดี เลยปัดๆมือ แล้วเดินไปหยิบกล้องมาแชะเก็บไว้
พวกมันก็ให้ความร่วมมืออย่างดี แอ็คท่า เปลี่ยนมุมถ่าย แม่งพ่อมึงอย่างกับนายแบบมาเองทั้งนั้นนนนน (ว่าแต่คนอื่น ไอ้เต้นี่ตัวดีเลย แฮะๆ)

แล้วสักพักผมกับไอ้สามตัว รวมกันเป็นสี่ตัว ก็มานอนกระดกเบียร์เรียงกันให้คลื่นซัดขา แดดส่องฟ้าเป็นสีส้มยามตะวันรอนลับขอบแผ่นดินไปทางตะวันตก
ปล่อยให้ทะเลทางตะวันออกเคว้งคว้าง รอการมาถึงของราตรีมืดมิด

“จะจบกันแล้ว ไวเนอะมึง”
“อีกเป็นปี”
“ปีสี่มันก็เหมือนจบแล้วแหละมึง ต่างคนก็เตรียมตัวดิ้นรนงานใครงานมัน”
“ก็จริงของมึง ไวเนอะ”
“เออดิ” ผมมองท้องฟ้าอย่างเศร้าๆ ถ้าเราไม่โต เราจะมีความสุขแบบนี้ได้ตลอดไปใช่หรือเปล่าวะ ไม่สงสัยเพราะรู้คำตอบของตัวเอง
ถามแค่เพราะไม่อยากฟังคำตอบจริงๆแค่นั้นเอง

“ไอ้เต้ มึงจะทำงานไรต่อวะ” ไอ้แบงค์ที่นั่งชันตัวอยู่ข้างๆ ถามผม
“กูว่ากูคงเตรียมพอร์ท ทำพวกออกแบบทั้ง อยากออกแบบว่ะ งานเขียนด้วย แล้วแต่ว่ะ งานแบบนี้มันอยู่ที่โชคชะตา โอกาสด้วย กูคงได้แต่เตรียมพร้อม
ฝึกทำให้สิ่งที่อยากทำ แต่ไว้จะทำอะไร ดูไปอีกที”
“แม่ง เลื่อนลอยว่ะ”
“เออเหมือนกัน” ผมบอกไอ้แบงค์ ยังมองไม่ออกจริงๆ จบแล้วจะเดินไปทำงานอะไรดี แต่คิดอีกที กูยังไม่จบปีสามดีเลย เวลา สถานการณ์ ชีวิตมันคงพาเราไปเอง

“มึงคิดกันมากไปป่าววะ” ไอ้ฝุ่นหันมาบอก เออจริงของมัน
“กูไม่คิดมาก เพราะมึงไม่รู้หรอก ว่าอะไรจะเดินเข้ามาหามึงวันพรุ่งนี้ ปีหน้า มึงรู้แค่วันนี้ มึงทำวันนี้ให้ดีเหอะ” ไอ้ฝุ่นบอก นานๆทีมันจะปรัชญา
อืมมม ใช่ วันนี้กูอยู่กับเพื่อนที่รัก ริมทะเล เจ๋งขนาดนี้ เอาอะไรอีกวะ




... “เมื่อมีทางให้เดิน ก็จะเดินไป” ...







ผมนั่งคิดถึงตอนที่จะแยกจากเพื่อนสมัยม.ปลาย เหมือนชีวิตกำลังจะหล่นหาย แล้วเป็นไง วันนั้นก็กลายเป็นเพียง ความทรงจำดีๆ ที่ให้กลับไปก็ต้องบอกว่าไม่เอา
ปฏิเสธทั้งๆที่ตอนนั้นไม่อยากจากมาเลย พอมาตอนนี้ คงเหมือนกันแหละ ปีสี่ปี สิบปี ยี่สิบปี วันนี้จะลาง ลางเลือนจนแทบจะเป็นเพียงห้วงฝันล่ะมั้ง แต่ที่แน่ๆ
คงต้องบอกอำลาชีวิตวัยเด็กเต็มตัวเสียแล้ว วัยรัก วัยเรียน คงมีอีกหลายๆชีวิตรอพบกับมันอยู่ ส่วนผมน่ะหรอ ชีวิตผู้ใหญ่คือก้าวต่อไป มันรอผมอยู่เบื้องหน้านี้แล้ว

งาน เงิน ความเป็นจริง




“เพื่อเก็บดาวซักดวง ที่ฉันนั้นเคยใฝ่”...





หลังจากกลางคืนยาวนานนั้น พระอาทิตย์ขึ้นมา ทำให้อากาศที่เย็นค่อยๆเพิ่งอุณหภูมิ เมื่อคืนหน้าต่างไม่ได้ปิด และเครื่องปรับอากาศไม่ได้ถูกเปิด แสงจึงส่องตาผม
ให้รู้สึกตัว
เช้านี้ผมตื่นขึ้นมา ข้างกายคือไอ้พี่แทน ที่หลับสนิท หลับปุ๋ยอยู่เลย เป็นเด็กเลยเว้ยเฮีย
ผมตื่นแล้ว เพราะสิ่งที่ต้องทำวันนี้ คือ ผมต้องไปเรียน

“เฮียไม่ตื่นหรอ”
“ไม่อ่ะ”
“เต้ต้องไปเรียนนะ” ผมเขย่าตัวไอ้เฮียบ้าเล็กน้อย
“เด็กบ้า ปลุกทำไม จะนอนเว้ย ง่วง อาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวไปส่ง” ไอ้เฮียพูดเสร็จกลิ้งตะลุบตุบตับหนีไปริมเตียงอีกด้าน
ผมก็เลยนั่งงอแง เอาหัวไปนอนหนุนตัวไอ้พี่แทน ง่วงเหมือนกัน ไม่ไปดีมั้ยวะ อาจารย์ไม่เช็คชื่อด้วยนะเออ
จริงๆก็แปลก แทนที่จะกลัวไม่ได้ความรู้ ดันกลัวไม่ได้เช็คชื่อ เลวจริงๆกู

“ไอ้เต้ หนักเว้ย ไปอาบน้ำ”
“ง่ะ เฮียอ่า อย่าดุดิ” ผมพูดงอน แต่ก็ยังเอาหัวกลิ้งไปกลิ้งมาบนพุงเขา

นอนกลิ้งไปกลิ้งมา ให้คนข้างกายกอดให้ผมอุ่น

แต่ไม่กอดสักที คว้ามือเขามาพันรอบเอวก็ได้ฟะ
“ร้อน” ไอ้พี่แทนแมร่งงง ว่าอีกละ
“อ่ะ” ผมได้แต่ทำเสียงเซ็งเล็กๆ แล้วกลิ้งนี้มาอีกฝั่ง
“ไปอาบน้ำ เต้” เขาลืมมาขึ้นมาดุผม แล้วก็หลับลงไปอีก แต่ใครจะฟัง อิอิ นอนเล่นต่อดีกว่า

สักพัก ผมก็ต้องร้องโอ๊ยออกมาเบาๆ ก็ไอ้พี่แทนอ่ะดิ ไหนว่าหลับ เอาปลายเท้ามายันก้นไอ้เต้เกือบตกเตียงทั้งๆที่ยังหลับตา
แม่นจริงๆเว้ยเฮ้ย งานนี้สงสัยเล่นคุณไสยรึเปล่าเอ่ย

“โห่ แกล้งเด็ก ไปอาบน้ำก็ได้ฟะ”
“เออ ไปเร็วๆเลว สายแล้วเนี่ยะ” ผมหันไปมองนาฬิกา อืมสายจริงๆแฮะ อยากหยุดเวลาตอนเช้าๆอากาศดีๆแบบนี้ไว้สักสามชั่วโมงจริงๆ รู้งี้เรียนภาคค่ำก็ดี

“เต้ เสร็จยัง” เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังเล็ดลอดออกมา ขณะที่ผมกำลังอาบน้ำ ฟอกสบู่ ร้องเพลง ฮ้ม ลัลลัลลา สบายอก สบายใจ สบายกาย สบายอารมณ์
“อีกแป๊บคร้าบบบ” ผมตะโกนตอบไป
“เร็ว สายแล้วเว้ย” เสียงไอ้เฮียบ้า ตอนไม่ตื่นก็เตะให้ตื่น พอตื่นยังมาเร่งคนอาบน้ำอีกวุ้ย

พอเปิดประตูเดินออกมาจะหยิบผ้าเช็ดตัว ซึ่งมันวางไว้นอกห้องน้ำ (ลืมหยิบเข้าไปอ่า) ไอ้พี่แทนก็ตะครุบตัวผมแล้วเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาพันตัวผมไว้
โหยยย อุ่นจังเลย ผมก็เลย หลับคาอก ปล่อยให้พี่เขาเช็ดตัวให้ สบายจริงๆอ่ะ ชอบๆ
“ไอ้บ้า” ผมบอกไอ้พี่แทน แล้วขโมยจุ๊บเขาไปทีนึง อุ่นอ่า อยากให้กอดแบบนี้ตลอดไปเลยได้มั้ยเนี่ย เฮ้อออออ อยากตัวเปียกไม่มีวันแห้งโว้ย เอิ้กๆๆ




“เพื่อเจอคนที่ใจ เขาจะจริงจัง”...........




ผมนั่งตะล็อกต็อกแต็ก อยู่หน้าจอคอม อืมมม นิยาย อยากเขียนเรื่องของคนที่เรารู้สึกดีมากๆเก็บไว้ว่ะ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงรักบางๆ
ที่เจ้าตัวอาจจะไม่ได้รู้หรือสนใจเลยก็เป็นได้ ผมว่าเรื่องนี้แหละ เหมาะจะมาเป็นภาคจบ ของนิยาย ไตรภาค รัก สาม เศร้า ของผมได้อยากลงตัวที่สุดแล้วล่ะ
 เพราะถ้าจบจากคนนี้ไป ถ้าผมเดินไปถึงวันที่ รัก ที่มีต่อเขาไม่เหลือแล้ว ความรักของผมคงเปลี่ยนไปทีเดียวล่ะ เพราะรักใสๆ รักฝันๆที่ผมมีนั้น
มันอยู่ที่เขาเสียจนหมดแล้ว วันนี้ผมยังรักเขาอยู่ ไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่เรื่อยๆ และสร้างรอยยิ้มตลอดเวลา ให้ทุกเช้า ทุกค่ำ และยิ้มกว้างทุกครั้งที่นึกถึง

เขาเอาความรักในใจผมไปตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าคงรักใครใสๆแบบนี้ไม่ได้อีกถ้าไม่ใช่เขา ไม่ใช่รักใครไม่ได้ แค่รักใสๆแบบนี้ เหมือนเรารู้จักรักมากขึ้นอีกระดับ
ดีพอจนไม่หลงกลกับมายาของมันมากเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ หรือว่าอันที่จริง เพราะตูแก่เกินแกงแล้วหว่า ฮ่าๆ



............. “แต่ความจริงที่เจอ ชีวิตนั้นวกวน”



...... “ไม่เคยมีผู้คน ที่จะจริงใจ”...........



“พี่เลิกกับเขาแล้วว่ะ” เฮียตี๋บอกผม เขาคนนั้น ก็คือแฟนเฮียนั่นเอง ผมเชื่อว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน เฮียคงร้องไห้ แต่วันนี้ ผู้ชายที่เป็นพี่ชายผมคนนี้ ดูเข็มแข็งขึ้น
 ผมกลับดีใจมากกว่าเสียใจที่ได้เห็นรักจากเขาไป แต่เขายังยืนไหว ไม่พัดปลิวไปอย่างเดียวดายกลางสายลม

“อืมมม เดี๋ยวก็หายเศร้าคับ”
“ก็หวังว่านะ”
“รักมันแค่จากเราเร็วไปหน่อยเท่านั้นแหละเฮีย สักวันเขาก็ต้องจากไป” ผมไม่รู้ปลอบหรือคุยยังไง ผมไม่ชอบถามหาเหตุผลเวลาที่คนรอบตัวมีเรื่องอะไรแบบนี้
แล้วเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องยืนอยู่ข้างเขา ผมว่าเหตุผล เรื่องราวมันควรเป็นเรื่องระหว่างเขาสองคน สิ่งที่อยากทำมากกว่าคือให้กำลังใจ
ให้แง่คิด ให้เขาเดินต่อไปได้ แม้จะก้าวได้เพียงช้าๆ หรือทำได้เพียงหยุดยืน เอาเป็นว่า ไม่ล้มลงก็พอแล้ว

“ทำไมวะ”
“อย่าถามเลยว่าทำไม ถามไปก็ไม่มีวันจบน่ะเฮีย” เรื่องของคนอื่น เรามักจะปลอบโยนหาแง่คิดได้ดี แต่กับเรื่องของตัวเอง กูเชื่อ ไม่รอดหรอก ไอ้เต้เอ๋ย

“กูทำดีที่สุดแล้วใช่ป่าววะ” เฮียตี๋ถามผมเบาๆ
“ทุกคนนั่นแหละ”
“กูไม่รู้เขามาคบกูทำไม แล้วมาบอกว่ายังไม่อยากมีแฟน”
“ไม่มีใครรู้อนาคตหรอก ตอนแรกที่เราคบใครสักคน คงไม่มีใครตั้งใจว่าจะเลิก เต้เชื่อว่าทุกคนที่เขารักกันคบกัน เขาก็อยากให้เป็นรักแท้ทั้งนั้น แต่เราไม่รุ้ว่าพรุ่งนี้อะไรจะมาถึง
ถ้ารู้แต่แรกว่าไม่ใช่ ว่าต้องเลิกแบบเจ็บๆ คงไม่คบกันหรอก”

ผมนั่งกินข้าวกับเฮียแก ณ ย่านสยาม ที่เดิมที่พวกเราไม่เคยหนีพ้น หรือไม่ยอมหนีไปไหนก็ไม่รุ้ อยู่กันมาหลายปีดีดัก จนพารากอนผุด เซ็นทรัลเวิลด์โผล่
นี่ยังดีนะถ้าผมแก่กว่านี้ คงทันยุคเปิดใหม่ของสยามดิสฯ

“วันนี้ผมนัดพี่แซน กับพี่นิวกินข้าวด้วยเฮีย ไปเจอกันหน่อยป่ะ เจอคนโน้นคนนี้ ดีกว่ามานั่งอยู่แบบเงียบๆเหงาๆ เราไม่ได้มีคนรักแค่คนเดียวซะหน่อย”
“ก็ได้ แต่กูหน้าตาไม่ดี หงอยๆแบบนี้ เสียมารยาทแย่เลย” เฮียแกพยายามยิ้ม แต่ใครจะยิ้มออกวะหรอกอารมณ์นี้
“คนกันเองน่า ไอ้พลก็มาด้วยมั้ง”
“เออๆ เจอมันเพื่ออารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง” ฮ่าๆ ไอ้พลมันเป็นพวก life is beautiful คับ ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง

ในวันหนึ่งนั้นเฮียตี๋ก็ได้พบกับการลาจากของอีกหนึ่งรัก ที่สอนให้รู้จักการยืนสู้กับพายุ




....... “จะมีเพียงแค่ดาว บนฟ้าแสนกว้างใหญ่” .....





วันเกิดกูละนี่หว่า ไปไหนดี

โสดสโม ตามคำขอ (พี่นิว) ละกันนะ ไหนๆพวกเพื่อนๆกูมันก็อยากเที่ยวอยู่แล้ว สรุปแล้ววันเกิดไอ้เต้ฉลองครบยี่สิบเอ็ดปี รวยรวมพลพรรคได้ร่วมยี่สิบชีวิต
เต็มเคาท์เตอร์บาร์ร้านโสดสโมสรกันทีเดียว (ชื่อร้านแมร่งงงง กูจะโสดตลอดขวบปีมั้ยวะเนี่ย)

“หวัดดีคร้าบ” ผมสวัสดีพี่ๆ ที่ทยอยกันมาถึงร้าน (ไม่ได้ไปต้อนรับหน้าร้านหรอก สวัสดีที่โต๊ะนั่นแหละ) มือก็ชงแก้วเหล้าแจกจ่าย สนุกสนาน

“ไงแก่แล้ว ไม่เด็กแล้วนะมึง” พี่นิวทักผม แฮะๆ แน่ล่ะคับ พี่ก็ปาไปเท่าไหร่แล้วหว่า งานนี้พี่แซนควงเด็กมาด้วย เป็นที่น่าอิจฉา สำหรับพลพรรคโสดสโมฯ เป็นอย่างยิ่ง

ไอ้เต้หรอคับ ฉายเดี่ยวสิงานนี้ ไร้เงาใดๆเคียงข้างกาย

“อ่ะชนคับชน” ผมคว้าแก้วไป ชนกับไอ้คุณเพื่อนที่ยังมากันไม่ครบ ไอ้แบงค์มันยังหายหัวไม่ยอมรับโทรศัพท์ผมเลยทั้งวัน แมร่ง เลวววว จะเบี้ยววันเกิดกูหรอ งอนนะมึง

“เฮียโจ้ เดินสูงโย่งมาแต่ไกล พร้อมกับพี่ตุ้ย เพื่อนเขาอีกคน ที่ผมก็สนิทเหมือกนันนั่นแหละ เห็นแล้วเรียกว่าเด่นเป็นสง่า พอมาถึง ทักทายยื่นแก้วให้ เฮียแกก็เข้ามุม
ไปยืนเก็กหล่อสุงโย่งมองสาวๆ(หรือหนุ่มๆหว่า) กันสองคน แบบเนี่ยแหละ พวกโสด(เฉพาะคืนนี้)

สักสี่ทุ่มกว่า พี่จีนก็ปรากฏกาย แต่เฮียตี๋ขอบายคับงานนี้ เขาไม่ชอบเที่ยว ไอ้พลก็ไม่มา เพราะมันมาไม่ได้ อยู่เชียงใหม่กับที่บริษัท เลยพาลให้พวกแก็งสัตว์โลก
หนู และ หมา และคนอื่นๆ ไม่มาไปด้วย แต่นี่ก็ยี่สิบคนได้แล้วล่ะ ที่เหลือไม่ใช่ไม่สำคัญ แต่เยอะเกินกว่าจะกล่าวถึงอ่ะคับ
แฮะๆ ชนนนนนนนนนนนน แต่ไม่เมากันแล้วนะวัย...รุ่นขนาดนี้ ฮ่าๆๆ

พอจะเที่ยงคืน ผมก็ลองโทรหาไอ้เพื่อนตัวดีอีก ไอ้เชี่ยแบงค์ ไม่มาอีกหรอวะ เลวๆๆๆๆๆ

สักพักเขาก็เริ่ม happy birthday กัน แสงเทียนเริ่มแหวกว่ายเข้ามาฝ่าฝูงชน โดยมามีหน้าไอ้เพื่อนเลวลอยมาแต่ไกล

happy birthday to มึง
happy birthday to มึง
happy birthday happy birthday
happy birthday to มึง

แล้วเค้กซึ่งมีเทียนสองเล่ม เป็นเลขหนึ่งกับเลขสองที่ว่างสลับตำแหน่งกันอยู่ก็เทียนดับไปทั้งๆที่ผมยังไม่ทันเป่า ฮ่าๆๆๆ งานนี้ที่อธิษฐานไปมันคงไม่เป็นจริงล่ะมั้ง
แต่ไอ้ที่จริงๆนี่ก็คือบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ต่างหาก เพื่อนรักผมทั้งนั้น แค่นี้ล่ะพอแล้ว






.... “ที่เอื้อมมือเท่าไหร่ ยิ่งจะไกลห่าง”




“ว่าไงคับ” ผมรับโทรศัพท์ ชายหนุ่มคนเดิม หลังจากวันเกิดผมได้วันสองวัน
“happy birthday ทูยู ฮ่าๆๆ”
“อะไรเฮีย เลยละเว้ย”
“รู้แล้วว่าเลยคับ ซื้อของขวัญไว้ให้แล้วนะ”
“เหอะๆ อะไรอ่ะ”
“ไม่บอก ไว้มาเอาเอง”
“ไรหว่า”
“ว่างๆวันไหนอ่ะ”
“ก็ว่างบ้างยุ่งบ้าง แล้วแต่เฮียอ่ะ ว่างเมื่อไหร่”
“อืม อีกสองสามวันละกัน เดี๋ยวโทรบอก แล้วเป็นไงไปเที่ยวไหนมา”
“แถวๆเอกมัยแหละคับ ได้ของขวัญมาเป็นถุงยางด้วย”
“ฮ่าๆ เค้าดูหน้าเจ้าของวันเกิด เห็นว่าควรให้ใช่ป่ะ”
“ไอ้บ้า” ไอ้เต้เขิลเหมือนกันนะ แม่งเพื่อนดีจริงๆ ดีนะไม่เปิดกลางร้าน ไม่งั้นกูได้แทรกแผ่นปูนหนีแน่ๆเลย เหอะๆ

แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้ของขวัญวันเกิดจากไอ้พี่แทน ซึ่งมาพร้อมกับคำใบ้ที่ว่า สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และใช้ได้กับถุงยาง (จริงๆก็ไม่เชิงนะ) เหอะๆ
เป็นของชิ้นแรกที่มีคนซื้อให้เลยนะ ไอ้สิ่งนี้ เฮ้อ อยากจะบอกว่า กูอายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย(แล้วใช่มั้ย)


แล้วผมกับเขาก็จบลง ในคืนนั้น ด้วยการจูบและดูดดื่ม






...กลายเป็นเพียงนิยายที่ยาวนานเรื่องหนึ่ง

ซึ่งถูกแต่งมาด้วยใจและด้วยความฝัน

แต่ในความจริงที่เจอคือผิดหวังเท่านั้น

ไม่เคยเหมือนที่ใจฝันสักที.............     ........... ...     .    ..    .        .                .   






แล้วชีวิตก็ดำเนินไล่เรื่อยไป ไม่รู้ว่าชีวิตจริงจะเป็นเช่นไรต่อ เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะตื่นมาเจออะไรในวันพรุ่งนี้

เรามีวันนี้ ตอนนี้ คืนนี้ อยู่กับมันอย่างมีความสุขก่อนแล้วกัน

ไอ้พี่เซนเคยทำให้รักแรกสดใส

มีคนบอกว่า ไอ้พี่เกียร์น่ะ เคยเป็นคนที่ผมเรียกว่า สเปค

ส่วนใครอีกคน คนนี้ รักรึเปล่าไม่รู้ แค่ยิ้มทุกครั้งที่นึกถึง และทุกวันสดใสตั้งแต่เขาเข้ามาในชีวิต แม้จะไม่ได้มาอยู่ เพียงแค่พัดผ่านไปๆมาๆ




แล้ววันหนึ่งพวกเขาทั้งหมดจะกลายเป็ยเพียงอดีต แต่เป็นอดีตที่อยากจะจดจำในปัจจุบัน


ว่าครั้งหนึ่งชีวิตผมเคยมี รัก...สาม...เศร้า




http://media.imeem.com/m/EEIKr8rQsJ

หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 20-03-2009 12:20:22
^
^
^
^
^
^
จิ้ม ..ม..ม.มมมม.ม ม   ม. ม  'เฮียน่าน'

มันจบแล้ว !!!!!

แต่ดูมันเหงาๆ เศร้าๆ นิดๆ

แต่อยากจะบอกว่า >>>>> ประทับใจกับบทสุดท้ายนี้มากค้าบบ  :L2:

ขอให้ 'เตเต้'  เจอรักที่สวยงามแบบนี้อีกนะคับ

-------------------------------------------------------------------------

ป.ล. ไว้มีอารมณ์เมื่อไหร่ กลับมาเขียนอีกนะเฮีย   :impress2:

จะรอคับ



หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 20-03-2009 13:25:48
เป็นภาคเดียวที่จบได้ลงตัวและ Happy ที่สุดในไตรภาคเลยนะเนี่ย... :laugh:
แต่ชีวิตยังไม่จบ...การณ์ข้างหน้าจะเป็นยังไงต่อไป...
ถึงจะสามเศร้า...แต่ถ้าอยู่ในเขตของแต่ละคนคงไม่เป็นไรม้างงง... ชิมิ!!!

ขอบคุณที่สละเวลามาสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ   :pig4:
 :bye2:

หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 20-03-2009 14:59:03
ซึ้งมากมายยยยยยยยยยย
นี้ซิที่เรียกว่าละเมอ  55+

ชีวิตเราคงไม่สมหวังในทุกด้าน

เราอาจจะไม่สมหวังในความรักทุกครั้ง
ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นได้เลย  สิ่งเดี่ยวเป็นได้
คือเราต้องเข้มแข้งและก้าวผ่านช่วงเวลาที่เศร้า

ใช่ไหมจ้า ซึ้งงงงงงงงงงงงงงง

 :mc4: :mc4:

จบแล้วเย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 20-03-2009 16:03:43
ก็ชีวิตจริงมันไม่เหมือนนิยาหนิเนาะ.. ดีใจนะครับที่เห็นเราโตขึ้นทุกวัน พออ่านมาถึงบรรทัดที่ว่าอยู่ปีสี่แล้ว เลยทำให้นึกได้ว่าเออ เราปีสี่แล้วสิเนาะจะจบแล้ว.. ไงก็เก็บเงินที่ลงขวดไว้หน่อยเน้อ จะได้มาเที่ยวหาผมได้พร้อมกับพี่ตี๋  :mc4:

เราบอกให้ผมมาอ่านแล้วลงความคิดเห็นไว้ด้วย ก็ไม่รู้จะลงอะไรดี เพราะว่าก็รู้เรื่องมาโดยตลอด.. อยากจะให้เรามีความสุขกับวันนี้มากที่สุด พอใจในสิ่งที่เป็นและที่ทำนะครับ เพื่อวันข้างหน้าจะได้มีอดีตที่น่าจดจำและอมยิ้มได้ตลอดเมื่อคิดถึงไง .. รักเน้อ ตัวเล็ก!!


ปอลอ - ของฝากที่ฝากใครมาผมยังไม่ได้นะครับ ถ้าไงผมกลับไปโน้นแล้วไปทวงกะเราเองได้ไหมอ่ะ ไม่คิดดอกเบี้ยเยอะหรอก อิอิ  :man1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 20-03-2009 16:30:22
เป็นประสบการณ์ชีวิตอีกแบบที่ทำให้ยิ้มได้เมื่อนึกถึง  เป็นกำลังใจให้ค่ะ:L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: sNow ที่ 20-03-2009 17:10:01
นี่แหล่ะนะชีวิต

เต้เขียนได้ซาบซึ้งทุกภาคเลยแฮะ เน้นในแง่จิตใจ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 20-03-2009 18:47:32
รัก สาม เศร้า ของผมนี่มีสองความหมายนะคับ อิอิอิ

เห็นจุดประทัดดีใจกันเลยพอนิยายจบ ไล่กันรึเล่า  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 20-03-2009 20:41:46
 :n1:  เดินกันต่อไปครับ

หาความหมายของชีวิตกันต่อไป

 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-03-2009 22:28:13
ทำไมมันล้ำลึกขนาดนี้เนี่ยะ ตัวเล็ก
ตอนจบ...มีทั้งปุจฉา  และก็  วิสัชนา ในตัวเองเสร็จสรรพ
อ่านแล้วเหมือนปรัชญาความรัก ยังไงๆนา หุหุ

 :pig4:...ขอบคุณนะครับ น่าน... ที่นำเรื่องราวมาเล่าให้ฟังทั้ง 3 เรื่อง
  o13.....เป็นเรื่องเล่าที่จะอยู่ในความประทับใจ และรู้สึกดีเมื่อได้ระลึกถึงขึ้นมา

ละเมอ...เปิดมุมมองความรักในอีกรูปแบบ ตามใจตัวเอง ปล่อยตามอารมณ์และบุคคล
รักงอมแงม....เป็นความรักที่คิดว่าได้เลือกแล้ว แฝงความคาดหวังเอาไว้
ความรักแบบคับผม....รักใสๆ ร่าเริง มองความรักด้านเดียว สวยงาม กินไม่ได้แต่มีความสุข

แต่เรื่องที่โดนใจมากที่สุด.....ความรักแบบคับผม ครับตัวเล็ก
ไม่มีเหตุผลนะคับ มีแต่อารมณ์และความรู้สึกล้วนๆนะคับที่ชอบ

ป้อล่อ.....ชอบเรื่องความรักแบบคับผม เหมือนกันเหรอเปล่าเอ่ย  :z1: คุณ Eis  :L2:
 :L1:ขอบคุณมากมากครับ ตัวเล็ก :pig4:   
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 21-03-2009 04:44:01
นิยายจบ เรื่องจบ แต่การเิดินทางของชีวิตยังไม่จบ
อยู่ที่ใจจะไปต่อ หรือเพียงพอแล้ว
ขอบคุณสำหรับการละเมอครั้งนี้นะจ๊ะ
แม้จะลงท้ายด้วยความรู้สึกแบบเศร้าสุด แต่ก้อสนุกและแฝงด้วยแนวคิดส่วนตัว
ถ้าเรายอมรับมันได้ เราก้อมีความสุขมากกว่าความทุกข์สินะ
ขอบคุณอีกครั้งและบวก 1 ให้เช่นเคยจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 21-03-2009 15:37:46
ทำไมมันล้ำลึกขนาดนี้เนี่ยะ ตัวเล็ก
ตอนจบ...มีทั้งปุจฉา  และก็  วิสัชนา ในตัวเองเสร็จสรรพ
อ่านแล้วเหมือนปรัชญาความรัก ยังไงๆนา หุหุ

 :pig4:...ขอบคุณนะครับ น่าน... ที่นำเรื่องราวมาเล่าให้ฟังทั้ง 3 เรื่อง
  o13.....เป็นเรื่องเล่าที่จะอยู่ในความประทับใจ และรู้สึกดีเมื่อได้ระลึกถึงขึ้นมา

ละเมอ...เปิดมุมมองความรักในอีกรูปแบบ ตามใจตัวเอง ปล่อยตามอารมณ์และบุคคล
รักงอมแงม....เป็นความรักที่คิดว่าได้เลือกแล้ว แฝงความคาดหวังเอาไว้
ความรักแบบคับผม....รักใสๆ ร่าเริง มองความรักด้านเดียว สวยงาม กินไม่ได้แต่มีความสุข

แต่เรื่องที่โดนใจมากที่สุด.....ความรักแบบคับผม ครับตัวเล็ก
ไม่มีเหตุผลนะคับ มีแต่อารมณ์และความรู้สึกล้วนๆนะคับที่ชอบ

ป้อล่อ.....ชอบเรื่องความรักแบบคับผม เหมือนกันเหรอเปล่าเอ่ย  :z1: คุณ Eis  :L2:
 :L1:ขอบคุณมากมากครับ ตัวเล็ก :pig4:   

อันที่จริงก็ชอบทุกเรื่องที่น้องเขาเขียนหนะครับคุณ broke-back  เพราะว่าถูกตามให้เข้ามาอ่านอยู่เรื่อยๆ (ล้อเล่นนะครับตัวเล็ก) แต่ถ้าถามว่าชอบเรื่องไหนมากที่สุด คงจะเป็นเรื่องไอ้นอนไม่ยอมตื่น(ละเมอ)นี่หละครับ


ปอลอ (อีกหละ)  - อันที่จริงคนแต่งเขาก็มีหลายแง่มุมที่น่าค้นหามากกว่าแค่เนื้อเรื่องตามตัวอักษรในเล้านี้เยอะครับ .. คุณ broke-back เองก็คงพอจะทราบอยู่   :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 21-03-2009 16:19:59
 :กอด1:  :L1: อะเอามาให้
รักนะไอ้ตัวเล็ก

จบซะเเล้ว เอาตอนพิเศษหวานๆมาลงบ้างนะ
ติดตามอยู่เสมอจ้ะ

ถ้าทำอะไรเเล้วมีความสุขก็ทำต่อไป ถ้าไม่ทำใครเดือดร้อนน่ะ

ชอบเรื่องนี้มากจ้ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 21-03-2009 16:30:04
รักสามเศร้าจบซะแล้ว

ขอบคุณที่เอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังนะจ้ะ

สักวันนึงข้างหน้าพี่ขอร่วมรับรู้ประสบการณ์รักที่สมหวังของน้องบ้างเน้อ

แล้วจะรอติดตามผลงานชิ้นต่อไปนะจ้ะ 


ขอให้มีความสุขทุก ๆ วันจ้ะ :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 22-03-2009 00:22:21
.
.
.




อิเจ๊ !!!!!!!!!
ถ้าเห็นคอมเม้นท์ของน้องตรองสุดหล่อแล้ว .
ก็ช่วยส่งมาด้วยนะ ที่สัญญาไว้น่ะ !!


แล้วเมื่อคืนกลับดึกป่าว ? เมาป่าว ?
ฟ้องป๊ากับม๊าดีกว่า ว่าเจ่เจ๊ใจแตก !!
๕ ๕๕๕๕๕๕๕๕ ๕๕๕ ๕ .



รักเจ่เจ๊ครับ !
จ๊วบบบๆ *

 :m14:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 22-03-2009 01:41:15
เขียนจบได้ดีมากมายเลยคับ   o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 22-03-2009 23:21:05
 :monkeysad: จบซะแล้ว...เหงาตั้งแต่ต้นจนจบเลยจริงๆ
ขอให้คุณน่านโชคดีกับชีวิตต่อจากนี้ไปนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ  :L2:
อย่าลืมแวะเวียนเข้ามาในเล้าบ้างนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: bamboo_boy ที่ 23-03-2009 21:48:40
จบเเล้ว หรอคร้าบบบ
ชอบจัง อ่ะ
ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก
เเค่รู้ ว่า ชอบมาก....

มาต่ออีก ดิ
น่ะคร้าบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 24-03-2009 10:14:41
ต่อไรอีกดีล่ะคับ ใครรักกันจริงเอาเป็นว่า ไปตามอ่านคอลัมม์กับบทวิจารณ์หนังของผมในนิตยสาร Film&Stars แล้วกันนะคับ  :z2:

ปอล๋อ ช่วงนี้ไอ้พี่แทนไม่สบายแหละ แอบห่วงๆ อยู่ห่างๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 24-03-2009 11:43:21
อ้าวววววว เป็นคอลัมนิสต์ไปแล้วเหรอ นายตัวเล็ก  :a2:
มิน่าล่ะ หึหึ

ปอล๋อ ช่วงนี้ไอ้พี่แทนไม่สบายแหละ แอบห่วงๆ อยู่ห่างๆ   
 :เฮ้อ: เฮ้อ.......พระจันทร์ยังละเมออีกกกกกก  :m2:

ป้อล่อ....จะพยายามตามไปอ่านนะครับ ตัวเล็ก  แต่ไม่แน่ใจนะ ว่าอ่านแล้วจะ get รึเปล่า 
ก็บทวิจารณ์หนังน่ะ ส่วนใหญ่จะลึกซึ้ง เข้าใจยาก บางทีอ่านเอง งงเอง
เคยสงสัยบ่อยๆว่า ตรูอ่านบทวิจารณ์หนังแล้ว ทะไมต้องมาวิจารณ์บทความของเค้าอีกฟ่ะ ตรู งง  o21 ฮ่าฮ่า  :laugh3:
ไปแระ ฟิ้วววววววว :oni1:  มีฟามสุขนะ ไอ่ตัวเละ  o3
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 24-03-2009 18:17:11
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เรื่องของความรักมันมักไม่เข้าใครออกใคร แต่มันก็มัดใจเราได้ทุกครั้งที่ก้าวผ่าน
ครั้งหนึ่งมันอาจดูหอมหวาน ยาวนาน และผ่านไป
วันหนึ่งสิ่งซึ่งไม่เคยคิดก็มาถึง แต่เราก็ต้องผ่านไปให้ได้
สิ่งที่ว่า คือ หัวใจที่หมดรัก หยาดหวานที่เคยมีในทุกรสสัมผัส มันหายไปแล้ว
เหลือไว้เพียงแค่ ความโรยราในรักเก่า ความจืดจากในรสรัก
และความหอมหวานในรักครั้งใหม่กับใครอีกคน....
แล้วจะรอฟังเรื่องเล่าดีๆจากเต้ต่อไป
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 02-04-2009 23:23:50
หุ หุ  เจอเรื่องที่จะอ่านอีกที  จบไปแล้ว~!

จบได้ไม่ผิดหวังเลยครับ  ...  อ่านความจริง กับ ความฝัน แล้วได้ความรู้สึก"ใช่"
บวก 1  ให้กับความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าอ่านมากครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้สึก มุมมองดี ๆ ที่เขียนถ่ายทอดออกมาให้ได้อ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 07-04-2009 08:57:18
แวะมาทักทายเช้าๆ ขอบคุณนะคับ สำหรับทุกคอมเมนท์เลย

เข้ามาฟ้องว่าไอ้เฮียเลวมันเกเรแกล้งผมง่า ฮือๆ จะไม่คิดถึงแล้ววว  :sad4: :o12:


อิอิ สงกรานต์นี้ ใครอยู่เมืองหลวงเจอกัน ระวังโดนผมปะแป้งนะคร้าบ คอยดูนะ ต้องหาหนุ่มๆมาเย้ยฟ้าท้าไอ้เฮียบ้าให้ได้ ฮึ่ยยย งอนเฮียแต่รักคนอ่านสุดหัวจายยยยย  o18

หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 07-04-2009 12:12:40
 :กอด1: หวัดดีครับ...ไม่เจอคุณน่านซะนานเลย
ขอให้ได้หนุ่มๆ มาควงเย้ยเฮียแทนเร็วๆ ก่ิอนสงกรานต์นะครับ
เอาใจช่วยครับ (หาเผื่อให้ด้วยสักคนนึงสิครับ อิ อิ  :o8:)
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: minilove ที่ 07-04-2009 12:37:04
อ่านจบแล้ว เย้ๆ

สรุปยังไม่เจอแฟนเฮียแทนตัวเเป็นๆอะดิ ว้า..แอบเสียดาย

สนุกมาก o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 16-04-2009 08:19:28
เศร้าจิงจิง
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: SunintheNight ที่ 25-04-2009 09:14:19
สงกรานต์สนุกเพลิน ลืมเล้าเลย อิอิอิ วันนี้จะไปเทีย่วพัทยาต่อ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: PHUCK™ ที่ 27-04-2009 19:33:38
.
.
.
.




ตรองกำลังบ้าหนู !!!!!!!!
โอ๊ยยๆๆๆ แฮมสเตอร์น่าร้ากกกก ก ก !!!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 28-04-2009 00:24:36
^
^
^
 :z13: :z13:
นานๆจะจิ้มซักที จิ้มครั้งเดียวได้นก เอ๊ย จิ้มได้ทั้งพี่ ทั้งน้อง เลย
กระซวก  กระซวววววววววววววก แบบทะลุทะลวงรีบน และรีบนของรีบน ฮ่าฮ่า
 :jul3:
 :L1:น่าน
 :L1:ตรอง
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------จบ
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 04-02-2010 09:01:46
มาตามอ่านจนได้ ยังไม่เข็ดกับงานของน้องเต้

ถึงแม้จะรู้ว่าต้องจบเศร้า แต่ก็ยังอยากอ่านให้จบอยู่ดี

 :เฮ้อ: นี่แหล่ะน้า ชีวิต

ไม่มีอะไรแน่นอนหรอก

ไม่มีคำว่าแฮปปี้แอนดิ้ง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ

ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป

รักแท้มีแค่ในนิยายเท่านั้นแหล่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 11-07-2011 18:53:28
จบแล้วจริงอ่าาาาาา ตกลงก็ไม่สมหวังอ่ะดิ เฮ้อออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 11-07-2011 23:49:03
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 11-11-2011 16:32:40
ถึงจะเป็นรักที่ไม่สมหวัง แต่ก็ชอบมากเลยนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------
เริ่มหัวข้อโดย: lazyishappy ที่ 18-01-2016 01:39:52
ช่างเป็นรักที่ไม่สมหวัง อ่านแล้วเหงาเลยค่ะ