พิมพ์หน้านี้ - Top Secret : ความลับ [เรื่องสั้นสองตอนจบ]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: -Piagpun- ที่ 14-10-2021 23:41:45

หัวข้อ: Top Secret : ความลับ [เรื่องสั้นสองตอนจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: -Piagpun- ที่ 14-10-2021 23:41:45
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook
หัวข้อ: Re: Top Secret : ความลับ 1
เริ่มหัวข้อโดย: -Piagpun- ที่ 14-10-2021 23:44:49
Top Secret

ความลับ



“คุณท่านครับมีจดหมาย”

จดหมายสีแดงสดถูกส่งไปยังชายหนุ่มดูมีอายุ ปีนี้เขาอายุสี่สิบเก้าแล้ว แต่ทว่ากาลเวลาไม่อาจพรากความเยาว์ไปจากเขาได้เลยจริง ๆ

เสียงลมปากพรูดออกหลังจากจดหมายสีแดงสดถูกเปิดผนึกอ่าน

“ถึงเวลาแล้วสินะ...”

“ราเชนทร์ ไปเรียกเด็ก ๆ มาพบฉัน”

“ครับนายท่าน”

ตระกูลลามัวร์เอลเป็นตระกูลติดอันดับรวยที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังเป็นที่นับหน้าถือตา ไม่ว่าจะหยิบจับอะไร ทุกวงการสำนักข่าวต่างก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ

หลายบริษัทขนานนามว่าลามัวร์เอลเปรียบเสมือนราชสีห์ตัวแรกของวงการธุรกิจ แต่หารู้ไม่ ทุกความสำเร็จมีความลับซ่อนอยู่...

...

..

.

“นายน้อยถึงแล้วครับ”

“ขอบคุณครับ” ว่าจบผมก็เปิดประตูรถลงมา

ผมหยุดยืนมองปราสาทหลังใหญ่ ใครจะไปคิดกันว่าในป่าลึกขนาดนี้จะมีคนอาศัยอยู่

“คุณนาธานสินะครับ เชิญทางนี้” หลังลงจากรถได้ไม่นาน พ่อบ้านก็เดินออกมาต้อนรับ ปราสาทหลังใหญ่มาก แต่ทว่ามันกลับวังเวงอย่างบอกไม่ถูก

เพียงเท้าก้าวเข้ามาในตัวปราสาทความรู้สึกเย็นวาบก็ปะทะร่างกายให้รู้สึกหนาวสั่น ผมคิดว่าในนี้จะมีคนอยู่เยอะเสียอีก แต่เปล่าเลย ทุกอย่างดูสงบเงียบราวกับปราสาทร้าง

“นี่เป็นห้องของคุณ”

ผมยืนตะลึงกับห้องนอนของตัวเอง มันใหญ่ราว ๆ ห้องนอนที่บ้านผมสองห้องนอนเห็นจะได้ ทุกอย่างถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์อังกฤษ กลางห้องมีเตียงนอนกว้างขวางผ้าปูสีแดงเข้มเข้ากับม่านสีครีมที่ย้อยลงมาอย่างสวยงาม บนหัวนอนมีหน้าต่างบานใหญ่ และมีผ้าม่านสีทึบขนาบอยู่ ในนี้มีของอำนวยความสะดวกครบแทบทุกอย่าง ต่อให้ต้องติดอยู่ในห้องเป็นเดือน ๆ ก็ไม่รู้สึกเบื่อ

“ขอบคุณครับ”

“รายละเอียดและข้อปฏิบัติอยู่ที่แฟ้มบนหัวนอน รบกวนคุณช่วยอ่านให้ครบด้วยนะครับ”

“ครับ”

“ส่วนกฎที่นี่มีเพียงข้อเดียว...”

“...?”

“ห้ามออกนอกห้องหลังพระอาทิตย์ตกดิน กฎเพียงข้อเดียวผมหวังว่าคุณจะทำได้”

“ทราบครับ” พ่อบ้านโค้งตัวลงหนึ่งครั้งก่อนจะเดินหายออกไปจากห้อง เหลือเพียงผมคนเดียว

ว่าแต่ผมคือใคร เหตุใดถึงต้องมาอยู่ที่นี่ล่ะ?

‘นาธาน’ มันคือชื่อที่ผมถูกเรียกตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจมาที่นี่ แต่ความจริงแล้วนั่นไม่ใช่ชื่อผมหรอก เพราะผมชื่อ ‘นิโคลัส’

ตระกูลลามัวร์เอลเป็นตระกูลใหญ่ที่มีสิ่งที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น สำหรับพ่อกับแม่ผมเรียกมันว่าความสำเร็จ แต่ผมเรียกมันว่าคำสาป

เมื่อถึงเวลาที่ลูกของคนในตระกูลอายุครบสิบเก้าปี จะมีจดหมายส่งมาเพื่อให้ทางตระกูลส่งลูกชายมาที่ปราสาทแห่งนี้ เพื่อแลกกับความสำเร็จที่คนรุ่นแรกทำพันธสัญญาไว้

หากว่ารุ่นไหนมีลูกมากกว่าหนึ่งคน คนเป็นน้องจะต้องถูกส่งมาแต่กรณีผมกับนาธาน เราเป็นฝาแฝดกันจะถูกเลือกโดยใครบางคนที่ผมเองก็ไม่รู้จัก และเขาเลือกนาธาน

นาธานเป็นคนฉลาด เขามีความฝันและสิ่งที่อยากทำ ต่างจากผมที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรืออยากทำอะไรด้วยซ้ำ ผมจึงเสียสละที่จะมาอยู่ที่นี่เสียเอง ยังไงซะก็คงไม่มีใครแยกเราสองคนออกอยู่แล้ว คนที่ถูกส่งมาที่นี่จะถูกเรียกว่า อาหาร...

ผมเองก็ไม่เข้าใจคำนี่เหมือนกัน เขาจะกินผมงั้นเหรอ?

แฟ้มสีน้ำเงินวางอยู่บนหัวเตียงถูกกางออกเพื่ออ่านเอกสารข้างใน นั่งพิจารณาอยู่นานก็รู้สึกแปลกใจบางข้ออยู่บ้าง อย่างเช่นข้อสาม ทุก ๆ อาทิตย์ จะมีหมอเข้ามาเก็บเลือดของผม

ผมจะไม่ตายก่อนใช่ไหม ว่าแต่เขาจะเอาเลือดผมไปทำอะไรกัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

“ขออนุญาตเข้าไปนะคะ”

“ครับ”

ประตูเปิดออกเพียงเล็กน้อย สาวใช้เดินเข้ามาสามคน ในมือของแต่ละคนถือของเข้ามาด้วย มันเป็นเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยน

สาวใช้สองคนเดินแยกตัวไปยังอ่างอาบน้ำ เขาเปิดน้ำเสียงดังไปทั้งห้อง ที่เป็นอย่างนั้นเพราะอ่างแช่ของที่นี่อยู่กลางห้องน่ะสิ ดีที่ยังมีฉากกั้นเอาไว้ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ลอยขึ้นมาแตะจมูก มันถูกผสมลงในอ่างอาบน้ำ

“ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ” นี่ก็เป็นอีกข้อที่ผมไม่เข้าใจ ทำไมผมต้องทานยาแปลก ๆ นี่ทุกวัน

“ยาอะไรเหรอครับ” ผมว่า

“มันคือยาบำรุงเลือดค่ะ คุณท่านต้องทานทุกวัน พรุ่งนี้จะมีคุณหมอเข้ามารับเลือด”

“อ๋อ ครับ” ผมพยักหน้ารับ แล้วจัดการเอายาเม็ดสีแปลก ๆ กลืนลงคอพร้อมกับดื่มน้ำ “ดะ...เดี๋ยวว” ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ ๆ เธอก็เดินเข้ามาจัดการกับเสื้อผ้าที่ผมสวมอยู่

“ดิฉันเพียงจะช่วยเท่านั้นค่ะ ไม่มีอะไร”

“คือผมทำเองได้ พวกคุณออกไปเถอะ”

“ไม่ได้ค่ะ นายท่านสั่งเอาไว้พวกเราขัดคำสั่งไม่ได้”

ให้ตาย ที่นี่อยู่กันโดยระบบเผด็จการหรือไง คนมีอำนาจสูงสุดจะทำอะไรก็ได้งี้เหรอ

“ผม...ผมถอดเองก็ได้ แต่พวกพี่ช่วยหลับตาก่อนได้ไหม ผมขอลงไปในน้ำก่อน” เธอยิ้มกลับมาก่อนจะเดินไปบอกให้สาวใช้อีกสองคนยืนหันหลัง

ผมจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้นจนร่างกายเปลือยเปล่า ปลายเท้าค่อย ๆ สัมผัสกับผิวน้ำสีขาวนม แล้วจึงทิ้งตัวลงนั่ง กลีบดอกไม่สีสวยลอยอยู่ในน้ำให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ สดชื่น

“ผมลงน้ำแล้วครับ” สาวใช้ทั้งสามหันหน้ากลับมา และเริ่มลงมือปรนนิบัติผิวอย่างเบามือ

ก็ถือว่าการมาที่นี่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้แฮะ...

...

..

.

“อ๊ะ!”

“ยังไม่ชินอีกเหรอครับ”

“เอ่อ คือผมแค่ตกใจน่ะ” ผมว่า

นี่เป็นอาทิตย์ที่สี่แล้วที่ผมอยู่ที่นี่ และนี้ก็เป็นครั้งที่สี่เช่นกันที่ผมต้องให้เลือด มันน่าแปลกมากที่ผมให้เลือดทุกอาทิตย์ แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ ตรงกันข้ามผิวพรรณกลับดูสดใสกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ มันจะเป็นไปได้ไหม ที่ผมไม่รู้สึกว่าร่างกายตัวเองแย่ลงจะเป็นเพราะยาบำรุงที่ทานอยู่ทุกวัน...

ทั้งหมดที่ว่ามามันเป็นเพียงการสันนิษฐานของผมเท่านั้น

เย็นวันนี้หลังจากทำกิจวัตรเช่นทุกวันเสร็จ ผมจึงหยิบหนังสือที่เอามาจากห้องสมุดเมื่อสองวันก่อนขึ้นมาอ่าน เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นจนไม่อาจวางมันลงได้ แต่ทว่ามันดันจบลงด้วยความค้างคาใจ ในวันนี้ทำให้ผมรู้ว่า ผมตัดสินใจผิด...

ผมแง้มประตูออกเล็กน้อยก่อนจะชะโงกหน้าออกไป “เอ่อ มีใครอยู่หรือเปล่าครับ”

เงียบกริบ...

สายตาพยายามปรับโฟกัสให้เข้ากับความมืด มันทั้งเงียบ ทั้งมืดราวกับว่าในที่แห่งนี้มีผมอยู่คนเดียว ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าข้างนอกห้องในยามที่ไร้แสงของดวงอาทิตย์จะมืดถึงเพียงนี้

ผมดึงตัวเองกลับเข้ามา ปิดประตูห้องอย่างเบามือ เอาอย่างไรต่อดี...เราจะเดินออกไป หรือว่าจะรอพรุ่งนี้เช้า

ในใจเขาคิดวกไปวนมาจนในที่สุดความต้องการมันมีมากกว่าความกลัว เขาตัดสินใจก้าวเท้าออกนอกประตูห้องของตัวเอง มีเพียงตะเกียงอันเล็กเท่านั้นที่พอให้แสงสว่างแก่เขา

ผมทำผิดกฎ แต่มันจะแค่ไหนกันเชียว เดินมาได้สักพัก เขาก็รู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คนแก่พวกนั้นคงกลัวผมจะขโมยของในบ้านแล้วหนีไปล่ะมั้ง ถึงได้สั่งห้ามไม่ให้ออกจากห้องหลังพระอาทิตย์ตก น่าแปลกหากพวกเขากลัวจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ทำไมในตอนกลางคืนแบบนี้กลับไม่มีใครอยู่สักคนเดียว

ไม่นานผมก็พาตัวเองมาถึงห้องสมุดในตัวปราสาท เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านในกลับมีแสงเทียน มันไม่ได้มืดสนิท หรือสว่างจ้ามากนัก

ซวยแล้วนิโคลัสนายถูกพ่อบ้านจับได้...

ตึง!

เสียงจากมุมมืดดังขึ้นทำเอาคนที่ยืนอยู่หน้าประตูตัวเกร็ง

“ฉันได้กลิ่น...” เสียงทุ้มนิ่งเรียบเอ่ยออกมา ผมไม่คุ้นหูเลย แต่ทว่าร่างกายกลับมีปฏิกิริยาแปลก ๆ

มันรู้สึกหนาว ใจมันหวิว ร่างกายเหมือนกำลังสั่นอยู่หน่อย ๆ ผมรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก

“คุณ...คุณเป็นใครครับ” นิโคลัสทำใจดีสู้เสือถามออกไปตรง ๆ ไหน ๆ ก็ถูกจับได้แล้วนี่

“ฉันได้ยินเสียงหัวใจ...”

“คุณพูดอะไรผมไม่เข้าใจ”

พรึ่บ! เพียงชั่วพริบตา ผมก็ถูกอะไรบางอย่างเข้าจู่โจม จนล้มลงนั่งกับพื้น นิโคลัสกอดหนังสือที่ถือติดมาแน่นด้วยความกลัว

ตะเกียงที่ถือมาด้วยร่วงลงพื้นโชคยังดีที่มันยังไม่ดับ แต่นิโคลัสกลับคิดว่าหากมันดับลงแล้วรีบวิ่งหนียังจะดีเสียกว่า เงาของใครบางคนตรงหน้ากำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ เขาพยายามกระถดตัวหนี หัวใจก็พลันเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ

“เจ้าเป็นใคร”

“ผม...ผมชื่อนาธาน” เขาตอบเสียงสั่นเครือ

“โกหก คิดว่าข้าโง่งั้นเหรอ”

“ผมเปล่านะ” เขารู้ดีว่าเขาโกหก ก็ในเมื่อนาธานคือชื่อของน้องชายฝาแฝดของเขา

ร่างสูงหยุดลงตรงหน้า เขาคุกเข่าลงกับพื้นก่อนจะถูกฝ่ามือหนาช้อนปลายคางของคนที่กำลังหวาดกลัวจนตัวสั่น

ฝ่ามือนั่นเย็นราวกับร่างไร้วิญญาณ แต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อสัมผัสถึงน้ำตาอุ่นที่ไหลลงมากระทบฝ่ามือ

“เจ้าร้องไห้ทำไม นิโคลัส”

คนตัวเล็กเบิกตาโพลง เขารู้ได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่นาธาน ทั้งที่พ่อแม่แท้ ๆ ของเขายังเรียกชื่อลูกผิดในบางคราวเลยด้วยซ้ำ

“คุณทำให้ผมกลัว”

“หึ กลัวงั้นเหรอ” นั่นเป็นครั้งแรกที่นิโคลัสเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัด เพราะเขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้

ดวงตาสีน้ำเงินครามของเขาเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง นิโคลัสถึงกับจ้องอย่างไม่ลดละ เขารู้สึกว่ามันคล้ายกับห้วงทะเลลึก ภายใต้ดวงตาสีครามแอบซ่อนบางอย่าง ผมสีแดงเพลิงยาวสลวยราวกับผมของสตรี มันช่างขัดรับกับดวงตาคู่นี้เหลือเกิน “กลัวแล้วไยเจ้าถึงได้แหกกฎออกมาจากห้องของตัวเอง”

“ผมแค่ต้องการมาเอาหนังสือ” นิโคลัสยื่นหนังสือส่งไป เป็นการยืนยันว่าตนไม่ได้เข้ามาเพื่อขโมยอะไร

“เจ้าอ่านมัน?”

“ใช่ มันจบแล้วผมต้องการเล่มสุดท้าย แต่ผมรอให้พระอาทิตย์ขึ้นไม่ไหว จึงยอมแหกกฎออกมา แต่ผมยืนยันได้นะครับ ผมไม่ได้มาขโมยอะไรในปราสาทหลังนี้แน่นอน”

“เจ้าจะเอาอะไรมายืนยันความบริสุทธิ์ แล้วทำไมข้าต้องเชื่อเช่นนั้น”

“ด้วยชีวิตของผม หากผมต้องการจะทำแบบนั้นจริง ผมคงไม่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ที่นี่มาร่วมเดือน”

“ชีวิตงั้นเหรอ ช่างเป็นอาหารที่น่าขำเสียจริง...เอาเป็นว่าข้าถูกใจเจ้า" เขาว่าพลางยกยิ้มชวนสยอง เขาบอกว่าผมเป็นอาหารงั้นเหรอ "พรุ่งนี้เวลาเดิมออกมาพบข้าที่นี่อีกสิ ในห้องนี้ยังมีหนังสือที่เจ้าอาจจะชอบอยู่”

“คุณพูดว่าผมเป็นอาหาร คุณจะไม่กินผมใช่ไหม”

“คงต้องขุนให้อ้วนกว่านี้อีกสักหน่อย กินเจ้าตอนนี้ก็คงมีแต่กระดูก” ได้ยินดังนั้นนิโคลัสถึงกับหน้าซีดเผือด นี่เขาเป็นอาหารจริง ๆ งั้นเหรอ หรือว่ายาบำรุงนั่นจะทำให้ผมอ้วนขึ้น “อะไรกัน เจ้าเชื่อแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ฮ่า ๆ ๆ” ชายแปลกหน้าหัวเราะรวนหลังจากเห็นสีหน้าของนิโคลัสเปลี่ยนไป

“ผมง่วงแล้ว ผมขอตัว...” ว่าจบนิโคลัสก็ลุกพรวดออกมาจากห้องสมุดทันที

เขาสาวเท้าตรงมายังห้องของตัวเองโดยไม่สนใจว่าตนเองจะเดินชนอะไรจนล้มลงในความมืด เมื่อเขาพาตัวเองมาถึงจุดหมาย กลอนประตูหน้าต่างทุกบานก็ถูกล็อกแทบจะในทันที ม่านหนาถูกรูดรั้งปิดสนิทจนมองไม่เห็นด้านนอก เขาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนุ่ม เปิดไฟบนหัวเตียงให้สว่างอยู่ตลอดเวลา

นิโคลัสพยายามข่มตาให้หลับลง ในหูยังได้ยินเสียงแววดังอยู่ เขาเป็นอาหารอีกไม่นานเขาต้องถูกกินแน่

คืนนี้ช่างเป็นคืนที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับนิโคลัส แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรหยุดธรรมชาติของมนุษย์ได้ ไม่นานเขาก็จมลงสู่ห้วงนิทรา...




อาเชอร์รู้สึกถูกใจอาหารคนใหม่ของเขาเป็นอย่างมาก แม้ประตูหน้าต่างจะถูกล็อกอย่างแน่นหนาก็ไม่สามารถปิดกั้นให้เขาเข้าไปได้ อาเชอร์เดินเข้าไปใกล้คนตัวเล็กที่กำลังหลับสนิท เขาเผลอหลุดยิ้มออกมาเพราะนิโคลัสเอาผ้านวมพันตัวเองจนม้วนกลม

เขารู้ว่านี่ไม่ใช่นาธาน คนที่ถูกเลือกให้เป็นอาหาร เขารู้ได้อย่างไรน่ะเหรอ

หึ! ไม่มีอะไรในปราสาทแห่งนี้ที่อาเชอร์จะไม่รู้

“เจ้าไม่ร้อนหรือไงกันนะ” เขาพูดออกมาในลำคอ ก่อนจะใช่ฝ่ามือเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนก่อนจะใช้หลังมือคลอเคลียพวงแก้มใส

นิโคลัสสัมผัสได้ถึงความเย็นจึงยิ่งขยับใบหน้าตัวเองเข้าหา เมื่อหัวค่ำยังกลัวเขาจนร้องไห้อยู่แท้ ๆ ดูตอนนี้สิเจ้ามันเป็นอาหารที่โง่สิ้นดี แต่กลับถูกใจข้าอย่างบอกไม่ถูก

อาเชอร์ยังจำกลิ่นแรกที่เขาสัมผัสได้ กลิ่นผิวเนื้อที่ไม่ได้กลิ่นมาเนิ่นนาน เสียงหัวใจที่เต้นระส่ำด้วยความกลัว นี่สินะที่เรียกว่ามนุษย์ มีหัวใจ และวิญญาณ

เขายังคงรู้สึกได้ถึงหยดน้ำตาอุ่นที่ไหลลงมากระทบฝ่ามือ ทั้งที่ร่างกายเขาเย็นยะเยือก แต่อาเชอร์กลับรู้สึกราวกับว่าน้ำตาอุ่น ๆ นั่นมันยังไหลสัมผัสอยู่

ตระกูลอาเชอร์ วินเทอร์เป็นกลุ่มแวมไพร์กลุ่มสุดท้าย แต่ก็เป็นกลุ่มใหญ่ เราเลิกล่ามนุษย์ด้วยการฆ่า แต่หันมาใช้ประโยชน์จากความโลภของพวกเขา

ในโลกนี้ยังมีพวกเราแฝงตัวอยู่อีกจำนวนมาก และมีมนุษย์ที่ไม่รู้จักพอยอมขายวิญญาณของพวกเขา เราเรียกพวกเขาเหล่านั้นว่าอาหาร

เอาเชอร์เป็นคนเดียวที่เลือกอยู่ที่นี่ เพียงเพราะเขาเบื่อความมักมากของมนุษย์ เบื่อที่ต้องค่อยตอบสนองเมื่อพวกเขาเหล่านั้นต้องการมากขึ้นไปอีก ตระกูลที่เป็นอาหารให้แก่เขาจึงเหลือเพียงตระกูลลามัวร์เอลตระกูลเดียว เขาปลีกตัวจากพี่น้องทั้งหมดมาใช้ชีวิตเรียบง่ายในที่แห่งนี้

จนกระทั่งเมื่อประมาณสามสิบปีก่อนเคยมีมนุษย์ถูกส่งมาเป็นอาหาร เขาและอาเชอร์ตกหลุมรักกันโดยบังเอิญผ่านหนังสือในห้องสมุด คิดดูแล้วเขาก็เหมือนกับนิโคลัส มันก็ไม่แปลกนี่ก็เขาเป็นคนของตระกูลลามัวร์เอล...

จู่ ๆ มุมปากของเขาก็กระตุกยิ้มเย็นเหยียบ ความรู้สึกโกรธแค้นที่เคยถูกฝั่งลึกภายในใจเหมือนถูกขุดออกมาจนเขาเองอยากจะหักคอเล็ก ๆ นั่นให้แหลกคามือ

ดวงตาที่เคยเป็นสีครามดุจมหาสมุทรก็พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง นัยน์ตาดำกลมถูกความทรงจำกระตุ้นบีบเล็กเรียวราวกับสัตว์ป่าดุร้าย อาเชอร์ลุกพรวดพราดออกจากห้องนอนของนิโคลัสทันที ก่อนที่ตนเองจะขาดสติพลั้งมือหักคอเขาจริง ๆ อย่างที่คิด

“เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วแท้ ๆ ทำไมถึงได้...”









ฝาก #นิยายสั้นของเปียกปูน ในทวิตเตอร์ด้วยนะฮับ

#อาเชอร์นิโคลัส

ตั้งใจว่าจะให้จบภายในตอนเดียว แต่คิดว่าสองตอนน่าจะกำลังพอดี

จะรีบมาอัปต่อนะครับ

>///<

ปล.นิยายสั้นแน่นแฟนตาซี

หัวข้อ: Re: Top Secret : ความลับ [เรื่องสั้นสองตอนจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 21-10-2021 22:58:08
มาส่งกำลังใจให้อาหาร (นิโคลัส)ของอาเชอร์ค่ะ  ขอยาบำรุงเลือดสักเม็ดค่ะ  จะได้ผ่องเหมือนนิโคลัส
รอตอนใหม่นะคะ  ส่งกำลังใจ ให้เปียกปูนค่า