เพราะความผิดพลาดในอดีต ทำให้ผมอยากที่จะเจอกับเขาอีกครั้ง...
อย่างน้อยๆ ขอให้ผมได้บอกความรู้สึกกับเขาอีกสักครั้งก็ยังดี...
-------------------------------------------
[ร] รักอีกสักครั้ง
STATUS : Feel Good / love in college.
เรื่องราวความรักของ ขุนเขา และ แทนคุณ
ในอดีต ขุนเขา ได้แอบชอบรุ่นน้องอย่าง แทนคุณ เลยตัดสินใจสารภาพความในใจออกไป
แต่กลายเป็นว่า จู่ๆแทนคุณก็หายตัวออกไปจากชีวิตของเขา
ด้วยความรู้สึกผิดของแทนคุณที่อยากจะแก้ไข ก็เลยเลือกที่จะหนี(ตาม)มาเรียนที่เดียวกับขุนเขาสะเลย!!!
ความรักครั้งอดีตจะถูกสานต่อขึ้นมาอีกครั้งได้หรือไม่
จุดเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาลัย มิตรภาพที่แสนวุ่นวายกับผองเพื่อน และความรักที่กำลังจะก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
ขุนเขาจะยังรอน้องแทนคุณอยู่หรือไม่ แล้วน้องแทนคุณจะบอกรักขุนเขาได้สำเร็จรึปล่าว
ติดตามเรื่องราวความรักวุ่นๆของหนุ่มๆได้ใน "StrayLove [ร] รักอีกสักครั้ง"
"ผมไม่รู้ว่าเขายังรอฟังคำตอบของผมอยู่ไหม"
"ถึงแม้ว่าผมอาจจะกลายเป็นอดีตหรือคนแปลกหน้าสำหรับเขาไปแล้ว"
"แต่ผมก็ยังอยากจะบอกกับเขาว่า ผมก็ชอบเขาเหมือนกัน!!!"
------------------------------
หมายเหตุ : ภายในเรื่องจะมีการอ้างอิงถึงจังหวัดและมหาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ โดยผู้อ่านสามารถทำการหาข้อมูลอ้างอิงสถานที่เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านได้ โดยส่วนตัวคนเขียนนั้นพื้นเพลเป็นคนที่เกิดและเติบโตที่นั่น เลยอยากที่จะหยิบยกเอาสิ่งที่ประทับใจ กิจกรรม และวัฒนธรรมเด่นๆมาแชร์ให้เพื่อนๆนักอ่านได้สัมผัสไปด้วยกัน หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
:seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
สารบัญ
ตอนที่หนึ่ง : [ร]จุดเริ่มต้นความทรงจำ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72945.msg4059674#msg4059674)
ตอนที่สอง : [ร]ความบังเอิญเล็กๆ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72945.msg4059687#msg4059687)
ตอนที่สาม : [ร]กระเพราไก่ไข่ดาว (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72945.msg4059839#msg4059839)
ตอนที่สี่ : [ร]ใจอยู่กับอีกคน ตัวอยู่กับอีกคน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72945.msg4059943#msg4059943)
[ร] ครั้งแรก
คุณเคยอดทนรอคอยใครสักคนแบบผมบ้างไหม?
รอเพื่อที่สักวันจะได้เอ่ยถ้อยคำ ๆ หนึ่งกับ ‘เขา’ คนนั้น
รอเพื่อที่สักวันจะได้กลับมาเจอกัน ‘อีกครั้ง’
‘กูชอบมึง’
‘…..’
ภาพของเด็กชายคนหนึ่งรูปร่างสูงโปร่งสันทัดในชุดนักเรียนสีขาวสะอาดกับกางเกงสีน้ำเงิน อายุราวๆสิบห้าสิบหกปี เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความหนักแน่นและจริงจัง นัยตาคมคู่สวยจับจ้องมองไปยังคู่สนธนาตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาด้วยความรู้สึกสั่นไหว
‘มันอาจจะฟังดูแปลก ที่อยู่ๆผู้ชายด้วยกันจะมาบอกชอบกันแบบนี้’
‘…..’
‘กูก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่กูมีให้มึงมันเปลี่ยนไปตั้งตอนไหน แต่กูมองมึงเป็นคนสนิทอีกไม่ได้แล้วว่ะ’
‘.....’
‘กูขอแค่มึงรับรู้ความรู้สึกของกูก็พอ ขอแค่กูได้อยู่กับมึงแบบนี้ต่อไปอีกสักหน่อย’
‘.....’
‘แต่ถ้าความรู้สึกของมึงเหมือนกับกู พรุ่งนี้ตอนเย็นมึงมาเจอกับกูที่เดิมได้ไหมวะ’
‘ที่เดิม?’ เด็กหนุ่มคู่สนธนา ขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
‘ใช่ที่เดิม ที่ๆมีแค่มึงกับกูที่รู้ว่ามันคือที่ไหน ถ้ามึงมา กูจะถือว่าความรู้สึกของมึงกับกูเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ ถือว่าวันนี้กูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับมึงเลยก็แล้วกัน’
‘อืม ผมก็..’
ครืด ครืด
‘แม่กูโทรมาแล้วว่ะ กูไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้’
‘อะ..อื้ม เจอกันพรุ่งนี้’
เด็กชายยิ้มน้อยๆตอบกลับ แล้วจึงลุกหมุนตัวเดินออกไปจากสนามฟุตบอลของโรงเรียนขนาดใหญ่อันดับต้นๆของจังหวัด ซึ่งเป็นที่ประจำของทั้งคู่ในช่วงหลังเลิกเรียนที่จะนัดรวมตัวกันมาเตะบอลหรือสุมหัวทำอะไรแผลงๆกันกับแก๊งเพื่อน เด็กชายเดินออกไปยังซุ้มประตูทางออกซึ่งอยู่ติดขอบสนามอย่างช้าๆแต่ก็หยุดเดินไปเสียดื้อๆ พร้อมกับหมุนตัวกลับมาอีกครั้ง มองสบตาคู่สนทนาด้วยความรู้สึกหลากหลายและแปลกใหม่สำหรับทั้งคู่ ใบหน้าหล่อคมค่อยๆเผยยิ้มออกมาอีกครั้ง และโบกมือลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบหมุนตัววิ่งออกไป และนั้นก็เป็นภาพจำครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอกับเขา…
พรึบ!!
ดวงตากลมสวยค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นในห้องที่มืดสลัว ภายในห้องยังคงสงบเงียบเหมือนเดิม มีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำหน้าที่ของมันกับแสงไฟจากภายนอกที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาวโปร่งเข้ามาเท่านั้น เด็กหนุ่มค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆพรางสายตาที่เคยมืดบอดในความมืดค่อยๆปรับให้เห็นถึงความชัดเจนกับสิ่งใหม่รอบกายมากขึ้น สายตาสอดส่องไปยังรอบบริเวณหอพักที่เขาพึ่งเข้าย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ได้เพียงไม่นาน ความรู้สึกวาบโหวงภายในจิตใจที่คอยกัดกินกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเขาไม่เคยชินกับความรู้สึกแบบนี้เลยสักนิด
“เฮ้อ…อะไรกันนักกันหนานะ” ผมถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายและปลงตกเสียไม่ได้ของตัวเองกับเรื่องนี้มาไม่รู้เท่าไหร่
สี่ปีแล้วสินะ…จริงๆเรื่องนี้ผมควรจะลืมๆมันไปได้ตั้งนานแล้ว มันก็เป็นแค่ความทรงจำในช่วงวัยเด็กที่มันผ่านมานานมาก แต่เพราะไอเพื่อนตัวดีมันดันรู้ความลับของผมเข้าโดยบังเอิญน่ะสิ แถมมันยังเป็นพวกชอบหวังดี(เผือก)กับเรื่องของชาวบ้านด้วยแล้ว ผมไม่น่าพลาดดื่มจนเมาแล้วหลุดปากเผยความลับที่ไม่เคยบอกกับพวกมันมานับแรมปีออกไป แถมพวกมันยังเห็นดีเห็นงามให้ผมตามหาเขา จนสุดท้ายก็ยังยุแยงตะแคงรั่วปั่นหัวให้ผมมาสมัครเรียนต่อที่มหาลัยเดียวกับเขาอีก แล้วผมก็บ้าจี้ทำตามที่พวกมันบอกด้วยไง ผมล่ะปวดหัวกับตัวเองจริงๆ
ผมหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาตรวจเช็คอีกครั้ง แสงไฟบนหน้าจอสี่เหลี่ยมแสดงเวลาเกือบๆตีสี่เข้าไปแล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัยเพื่อไปขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาใหม่ประจำปีการศึกษาล่าสุดที่กำลังจะมาถึง
ชีวิตมหาลัยของผมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ นึกแล้วก็ตื่นเต้นดีเหมือนกันแฮะ แต่สิ่งที่ผมตื่นเต้นมากกว่าเห็นจะไม่ใช่เรื่องนี้น่ะสิ
ผมเปิดเข้าไปยังแอพสื่อสารสีเขียวสว่างหรือก็คือแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ทุกคนคุ้นเคยนั้นแหละครับ เมื่อเห็นแจ้งเตือนแท็กข้อความชื่อ จึงกดเข้าไปยังกลุ่ม ‘ศาลาปากหมา’ ที่มีสมาชิกอยู่ที่หมดสี่คนหรือก็คือกลุ่มแก๊งเพื่อนสนิทของผมนั่นเอง
แก๊งของผมประกอบไปด้วยสมาชิกหลักๆทั้งหมดสามคน(รวมผมด้วยก็เป็นสี่) ก็คือ โดม ธันวา และ เฟลิกซ์ ซึ่งก็เป็นเพื่อนที่พึ่งจะรู้จักมักจี่กันได้ไม่ถึงสี่ห้าปีแต่กลับกลายเป็นว่าพวกมันเป็นเหมือนเซฟโซนของผมไปเสียดื้อๆ เป็นกลุ่มเพื่อนที่สามารถแบ่งปันหรือกล่นด่าอะไรก็ได้ให้พวกมันฟัง เพราะเราถือคติแก๊งเราว่า เพื่อนช่วยเพื่อนและจะไม่มีความลับต่อกัน (แต่ไม่ใช่เรื่องนี้โว้ย!!) จนล่าสุดก็ยังไม่ยอมแยกจากกันเลยยกขโยงกันมาเรียนมหาลัยทางภาคเหนือด้วยกันทั้งแก๊งอีก แต่แค่คนละคณะตามความชอบของแต่ละคนเพียงเท่านั้น ซึ่งพวกมันก็ต้องค่อยๆปรับตัวกับสภาพแวดล้อมแบบใหม่เพราะส่วนใหญ่เป็นคนที่เกิดและเติบโตจากเมืองกรุงเสียทั้งหมด ซึ่งต่างจากผมที่พื้นเพลเป็นคนเหนืออยู่แล้วเลยอยู่ได้สบายๆ
ผมค่อยๆกวาดสายตาเพื่อสอดส่องความเคลื่อนไหวของ พวกปากหมา โดยข้อความหลักๆก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากพวกมันจะบ่นเกี่ยวกับปัญหาสารทุกสุขดิบกับความตื่นเต้นที่พรุ่งนี้จะได้ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาเต็มตัว แถมแชร์รูปสาวสวยในคณะของแต่ละคนมาอวดเบ่งกันอย่างน่ารำคาญ แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้ผมหัวใจสั่นคลอนมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเท่าไหร่
ข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน
23.56 น.
Domethana_T
เชี่ย!! มึงดูสาวคณะนี้โครตแจ่ม
แนบไฟล์รูป
ส่งสติกเกอร์รูปหมีกำลังส่งจูบ
Felix_fff
มึงแมร่งมาแต่รูป ไหนวาร์ปว่ะ!!
Tunwa.krs
@Domethana_T ทำงานไม่ได้เรื่อง
ส่งสติกเกอร์แมวทำหน้าเหนื่อยหน่าย
Domethana_T
เอ้า!! ไอสัสกูหามาให้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว!! 555+
Tunwa.krs
ดีมากเพื่อนรัก! แต่จะดีกว่านี้ถ้ามึงไปหาวาร์ปมาให้พวกกูส่องด้วย!!
Felix_fff
ส่งสติกเกอร์แมวทำหน้าอ้อนวอน
Domethana_T
ส่งสติกเกอร์หมีทำท่าวันธยาหัตถ์ในเชิงรับทราบ
Tunwa.krs
@Felik_fff @Domethana_T ทำดีครับเพื่อน
Domethana_T
แต่กูเจอเด็ดกว่านั้นว่ะ
แนบลิงค์โพส
@Taen.kun กูว่ามึงต้องชอบ อิอิ!!
Tunwa.krs
เชี่ยยยยยย ~
Felix_fff
ส่งสติกเกอร์แมวทำหน้าตาเขินอาย
Taen.kun
ไอสัสโดม
ส่งสติกเกอร์รูปหมาทำหน้าโกรธ
ไอโดมได้วางระเบิดไว้ในกลุ่มอีกแล้วครับท่าน!! แล้วคนซวยก็คือผมไงครับ ไหงกำลังคุยเรื่องสาวๆอยู่ดีๆวกกลับมาเรื่องของผมไปได้ นี้ล่ะครับที่เขาว่าคนไม่อยู่เท่ากับนินทาได้ แต่อย่าให้ถึงตาผมนะคอยดู จะขยี้ให้แหลกคึไปเลย!!
ไอโดมเพื่อนรัก(เพื่อนร้าย) ทิ้งลิงค์ข้อความโพสเฟสบุ๊กที่เป็นหน้าเพจเพจหนึ่งชื่อเพจว่า ช้างเผือกในป่า ซึ่งเป็นเพจที่ค่อนข้างที่จะโด่งดังในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัย เนื่องด้วยเป็นเพจที่รวบรวมเอาเหล่าบรรดาหนุ่มหล่อ สาวสวย ที่จัดได้ว่าหน้าตาดุจเทพปั้นภายในมอมัดรวมกันอยู่ในเพจนี้ก็ว่าได้ โดยหัวข้อหลักๆจะพูดถึงความเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในมอและมีเหล่าบรรดาช้างเผือกนี้ล่ะที่เรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี (ช้างเผือก เป็นชื่อแทนลักษณะช้างป่าที่มีสีขาวและหาได้ยาก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยของผมใช้สัญลักษณ์เป็นช้าง ทางเพจเลยใช้ช้างเผือกแทนสัญลักษณ์เสมือนหนุ่มหล่อสาวสวยในเพจที่โดดเด่นจากช้างตัวอื่นๆ)
เพจ ช้างเผือกในป่า ( White elephant in the jungle )
( 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา )
ที่สุดก็ต้องคนนี้แล้วค่ะแม่ !! ที่ทำให้เจ๊เบื่อทะเลแล้วอยากขึ้นไปปีนขุนเขาแทน แอร๊ ~
มุมเผลอยังหล่อขนาดนี้ ถ้าจิกกล้องแตก เจ๊ไม่ละลายตายไปเลยหลอคะเนี่ย!!
ขุนเขา วิศวกรรมศาสตร์ ปีสอง
Ig : Khun.kkt
cr : เจ๊แต๋วแห่งหอแต๋วแตก
#ท่านขุน #ขุนเขา #ทีมเมียท่านขุน #ช้างเผือกในป่า
แนบรูป
คนถูกใจ Domethana และอื่นๆอีก 3.2K แสดงความคิดเห็น 756 แชร์ 2,564 ครั้ง
ความคิดเห็นล่าสุด
แยมๆไม่กินผัก : กรี๊ดดด อยากขึ้นเขาไปกับเจ๊เลยค่ะ ใครไหวไปก่อนแต่ฉันไม่ไหว อ๊อก~
แซมมี่ ที่แปลว่า เต่า : สนใจรับคนดูแลสักคนไหมคะ ฮือ TT
Siwa Maiken : kittiya มาดูผัวค่ะแม่
Kittiya : ที่สุดแล้ว หล่อ เรียนเก่ง ครบองค์ประกอบพ่อของลูกค่า
Domethana : Taenkun woramath
หัวใจของผมเริ่มกระตุกไหววูบอีกครั้ง เมื่อเห็นภาพของชายหนุ่ม ใบหน้าเรียวคมคายแบบฉบับชายไทย กับส่วนสูงที่คาดการณ์ได้ราวๆ หนึ่งร้อยแปดสิบถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ผิวขาวเนียนลับกับใบหน้าสุขใส จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากที่หยักได้รูป พร้อมกับสวมเสื้อช็อปสีกรมเข้มขับผิวกับกางเกงบลูยีนส์เข้ารูปยิ่งเสริมให้เขาดูเท่เข้าไปอีก กำลังนั่งเหม่อลอยบริเวณใต้ถุนตึกเรียนสักแห่งหนึ่งในมหาลัย ไม่แปลกเลยที่ สาวแท้สาวเทียมในมอจะให้ความสนใจเข้าได้ขนาดนี้
ผมค่อยๆคลี่ยิ้มจางๆพรางนึกหวนกลับไปยังความทรงจำในสมัยเด็กอีกครั้ง
ใครจะไปคิดว่าจากเด็กน้อยท่าทางกระโดกกระเดกคนนั้นจะโตขึ้นมาเป็นหนุ่มหล่อเหลาเอาการได้ขนาดนี้
ความคิดถึงวันวานค่อยๆถาโถมซัดเข้ามาหาผมอีกครั้ง ความรู้สึกที่หวังไว้ลึกๆว่าอยากมีโอกาสได้เจออีกสักครั้ง แต่ถึงกระนั้นความรู้สึกเหล่านี้มันมาพร้อมกับภาพความทรงจำที่เป็นเหมือนฝันร้ายคอยตามหลอกหลอนผม ความรู้สึกที่ค้างคาภายในใจ เพียงได้แต่เฝ้ารอเวลาและขอโอกาสอีกสักครั้งที่ผมจะได้แก้ไขอดีต ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าถานะตอนนี้ของเราทั้งคู่อาจจะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกันไปแล้วก็ตาม
ผมก้มลงมองเวลาที่หน้าจอมือถือ เวลาตอนนี้ก็ปาไปเกือบจะตีสี่ครึ่งแล้ว ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าผมก็จะได้เปลี่ยนสถานะใหม่จากเด็กมัธยมปลายกลายเป็นน้องใหม่เฟรชชี่ จากรุ่นพี่มัธยมจะกลายเป็นน้องใหม่มหาลัย ความตื่นเต้นเข้ามาแทนที่ ทำเอาผมแทบนอนไม่หลับ ชักจะอดใจไม่ไหวที่จะได้พบกับช่วงชีวิตแบบใหม่สะแล้วสิ
ผมกดล็อกหน้าจอและโยนมือถือกลับไปยังหัวเตียงอีกครั้งเมื่อคิดว่าสมควรแก่เวลาที่ต้องนอนพักเอาแรงเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้
“ขอให้เป็นวันเริ่มต้นที่ดีด้วยเถอะ สาธุ!!” ผมยกมือพนมขึ้นมาพรางพึมพัมให้กำลังใจตัวเองสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ แล้วนำพาตัวเองกลับสู่ห้วงนิทราต่อไป
[ร]ครั้งที่สี่
“กระเพราไก่ร้านนี้มันอร่อยขนาดนั้นหลอวะไอคุณ”
“กูว่านะ กระเพรามันไม่ได้อร่อยหลอก แต่ไอคุณมันเป็นบ้า”
“กูก็ว่างั้น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้ ขนลุกฉิบหาย”
เสียงเจื้อยแจ้วของเพื่อนสามตัวของผมยังคงดังอยู่ข้างๆหูอย่างต่อเนื่อง แต่ผมก็ไม่สนใจหลอกนะ เพราะตอนนี้คนมันอารมณ์ดีนี้น่า มองอะไรก็ดูสดใสไปหมด อิอิ!!
“ก็มันอร่อยจริงๆนี้น่า ~ แต่กูไม่แบ่งให้พวกมึงหลอกนะ ” ว่าแล้วก็ตักข้าวจ้วงเข้าปากเคี้ยวงุมงำใส่หน้าพวกมันไปอีกสักหนึ่งที
“แต่กูรู้นะว่าทำไมข้าวกระเพราของไอคุณมันถึงอร่อย” ไอโดมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสูงพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
“ทำไมวะ/อะไรของมึงวะ” แล้วไอสองตัวที่เหลือก็ผสานเสียงพร้อมเผือกกันอย่างพร้อมเพรียง
“กูให้พวกมึงดูน่าจะง่ายกว่าว่ะ”
ว่าแล้วไอโดมก็หยิบมือถือขึ้นมาเขี่ยอะไรอยู่สักพักก่อนจะหันหน้าจอมาให้ไอธันวากับเฟลิกซ์ดู เป็นคลิปวิดิโอบางอย่างซึ่งผมเองก็มองไม่ค่อยถนัดนัก
“เชี่ยย ไอคุณแม่งเอาว่ะ“
“วันแรกก็ให้ผู้ชายถูกเนื้อถูกตัวสะแล้ว ลูกชายของเราทำไมถึงได้ใจง่ายขนาดนี้ละ"
“อะไรของพวกมึงว่ะ"
“มึงดูเอาเองแล้วกัน ฮ่าๆๆ”
ในขณะที่ผมยังคงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ทั้งสามตัวก็พร้อมใจกันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแล้วเบี่ยงหน้าจอโทรศัพท์มาทางผมก่อนจะกดเล่นวิดิโออีกครั้ง ผมจดจ่ออยู่กับวิดิโอตรงหน้าสักพักก่อนที่จะรู้ว่าต้นเสียงหัวเราะจากพวกมันมาจากอะไร
บ้าเอ้ย!! ไอโดมมันแอบถ่ายคลิปผมตอนที่ผมอยู่กับพี่ขุน!!
แถมไม่พอดันถ่ายตรงช็อตเด็ดตอนที่พี่ขุนจับมือกับผมพอดิบพอดี
“ไอเชี่ยโดม มึงลบคลิปเลยนะโว้ย!!”
“เรื่องอะไรล่ะ กูจะเก็บไว้แบล็กเมล์มึงไง ถ้ามึงบังอาจมาขัดใจกู ฮ่าๆๆๆ”
“ไอโดม!!!”
ผมนี้ถึงกับกระโดดควบโต๊ะ พยายามฉุดกระชากยื้อแย่งมือถือกับไอโดมอย่างล้มลุกคลุกคลาน โดยมีไอธันวากับเฟลิกซ์ที่ตีหน้ามึนไม่รู้เรื่องผสนเสียงหัวเราะเป็นแบล็กกราวเพียงเท่านั้น ไอพวกนนี้แม่งรู้เห็นเป็นใจกับการลุมแกล้งผมนี้ถนัดนักล่ะ
“เผื่อมึงอยากเก็บไว้ดูเล่นไงไอคุณ ฮ่าๆๆ”
“เก็บไว้กับตีนกูนี้ ไอสัส โล๊บบบ”
“ฮ่าๆๆ กูไม่แกล้งมึงแล้วๆ”
ว่าจบไอคุณโดมก็จัดการกดอะไรยิ๊กๆในโทรศัพท์อยู่สักพัก ก่อนที่แจ้งเตือนไลน์ของผมจะดังขึ้น
“กูส่งคลิปให้มึงแล้ว เผื่อมึงอยากจะเก็บไว้ดู อย่างกูคงไม่เก็บคลิปที่มึงพรอดรักกับว่าที่ผัวในอนาคตไว้ในเครื่องกูหลอกนะ ฮ่าๆๆ”
“ไอสัส มึงก็ขยันแต่จะหาเรื่องให้กู”
“เอ้า ก็คนมันรักเพื่อน ก็ต้องช่วยเพื่อนหาผัวสิ”
“แต่ไม่ใช่ตอนนี้โว้ย!! กูยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี”
“อ่าว ก็ไหนมึงบอกว่าพี่ขุนชอบมึงไง?”
“มันก็ใช่ แต่เรื่องมันก็นานมาแล้วป่ะวะ แถมตอนที่ยืนคุยกันเมื่อกี้แม่งพี่ขุนแทบไม่คุยกับกูเลย”
“ห๊ะ เป็นไปได้หลอว่ะ คนเคยชอบเลยนะเว้ย”
“มึงก็อย่าโวยวายไปโอโดม มึงก็ให้เวลาไอคุณมันหน่อยดิวะ”
“ไอคุณมันอุสส่ายอมเปลี่ยนลุคตัวเองเพื่อพี่มันเลยนะเว้ย”
เป็นไอธันวากับเฟลิกซ์ที่ตอบคลายปัญหาให้ไอโดมที่นั่งเถียงกับผมอย่างออกรส ก็จริงอย่างที่พวกมันว่านั้นแหละครับ ก่อนที่ผมจะตัดสินใจจะมาเรียนที่นี้ ก็โดนไอพวกสามตัวนี้แหละพาไปชุบตัวมา ไม่ใช่ว่าผมไปทำศัลยกรรมมาแต่อย่างใดหลอกนะครับ เมื่อก่อนตอนเด็กๆผมค่อนข้างที่จะแตกต่างจากตอนนี้อยู่พอสมควร ทั้งเรื่องน้ำหนักที่น้อยลงกว่าแต่ก่อน ใบหน้าที่เคยเป็นรอยสิวตอนนี้ก็รักษาจนเริ่มหาย ซื้อครีมโบกหมดไปเป็นหมื่นๆ แถมเปลี่ยนจากแว่นสายตามาใส่คอนแทคเลนส์แทนแล้วด้วย ตอนแรกผมก็คัดค้านหัวชนฝาอย่างเดียวเพราะผมไม่ค่อยจะใส่ใจกับเรื่องความสวยความงามเท่าไหร่นัก แต่ก็เป็นไอธันวาผู้เป็นเหมือนมันสมองของกลุ่มก็ให้เหตุผลที่ว่าถ้าผมดูดีขึ้น พี่ขุนอาจจะให้ความสนใจมากขึ้นก็ได้ ผมถึงได้ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองมาจนถึงตอนนี้
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อไอคุณ”
“กูก็ไม่รู้ว่ะ อาจจะต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไปก่อน”
“เอาแบบนี้ มึงก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ เช่นส่องโซเชียลของพี่มันก่อนดีไหมวะ อย่างน้อยๆจะได้รู้ความเคลื่อนไหวบ้างไง” ไอเฟลิกซ์พูดเสริมขึ้นมา
“กูมีๆ กูเห็นไอจีผ่านๆในเพจมออยู่แว๊บๆ”ไอโดมผู้เป็นหัวเรือใหญ่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสริชหาก่อนที่จะยื่นมาให้ผม
“อ่ะนี้ พี่มันเปิดเป็นสาธรณะไว้ แต่แมร่งไม่ค่อยลงรูปอะไรเลย มีแต่รูปท้องฟ้ากับอะไรก็ไม่รู้”
“กูเห็นแล้ว แต่กูแค่ไม่ได้กดฟอลไปเฉยๆ” มีหรือที่คนอย่างผมจะไม่รู้จักเฟสหรือไอจีพี่ขุน ผมเห็นมาตั้งนานแล้วแหละ แต่แค่ส่องแบบไม่กดฟอลไว้เฉยๆ นิสัยไม่ดีเลยจริงๆ
“กูจะรู้ไหมละ มึงก็ฟอลพี่มันไปดิ"
"กูยังไม่พร้อม"
"ไอเชี่ยคุณ แค่ฟอลไอจี พี่มันมีคนติดตามเป็นหมื่นๆ แค่มึงเพิ่มขึ้นมาคนเดียวพี่มันไม่สังเกตหลอก"
"เออน่า วันหลังกูจะฟอลพี่มันไปเอง"
“พูดถึงไอจี มึงก็ด้วยไอคุณ หัดลงรูปตัวเองสะบ้าง ลงก็แต่รูปหมารูปแมว”
“เอ้า พวกมึงก็รู้ว่ากูไม่ถูกกับกล้องนี้หว่า”
“มึงก็ต้องถ่ายบ้าง เผื่อวันข้างหน้าพี่มันผ่านมาเห็นไง จะได้รู้ว่าเป็นมึง” ธันวาพูดเสริมขึ้น
ก็จริงอย่างที่พวกมันพูดนั้นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นไหนๆ ผมมักจะไม่ได้เอารูปของตัวเองอัพลงเท่าไหร่ เนื่องด้วยนิสัยส่วนตัวที่ไม่ถูกกับการถูกเลนส์กล้องจับจ้อง เลยเลือกที่จะถ่ายรูปหมาแมวตามทางหรือสถานที่ที่เคยไปสะมากกว่า เพื่อไม่ให้แฟลตฟอร์มดูว่างร้างมากจนเกินไปเท่านั้น
“ก็กูไม่ชอบจริงๆ ให้กูทำยังไงล่ะ”
“มึงก็ค่อยๆลองปรับดูก็ได้เว้ย พวกกูไม่ได้คาดคั้นเอาตอนนี้ แต่หมายถึงในอนาคตไง”
“อือ…”
“อีกอย่างมึงก็มีไอเฟไง แมร่งถ่ายรูปสวยจัด ว่าที่ช่างกล้องฝีมือดีเลยนะครับเนี่ย” ไอโดมพูดขึ้น ไอเฟมันเป็นคนถ่ายรูปที่จัดว่าค่อนข้างสวยแถมเซ้นส์ดีไม่หยอก แถมตอนนี้มันก็เลือกที่จะเดินตามความฝันเรียนเอกโฟโต้อีกด้วย วันหลังคงต้องให้มันช่วยจริงๆแล้วล่ะ
“กูไม่ถ่ายให้ฟรีหลอกนะ เลี้ยงข้าวกูด้วย”
“กับเพื่อนกับฝูงนะมึงเนี่ย ช่วยเพื่อนหาผัวแค่เนี่ยไม่ได้”
“ไอโดม!!” ไอห่านี้นะ เหมือนจะพูดดีตอนต้น ตบท้ายด้วยการขยี้ผมตลอด
“เออน่าา แซวนิดแซวหน่อยทำเป็นงอน ยังไงพวกกูก็ช่วยมึงอยู่แล้วน่า”
“ผมนี้จองเป็นตากล้องงานแต่งเลยครับ” เฟลิกซ์พูดขึ้น
“กูจะเป็นพ่อฝ่ายเจ้าสาวให้เอง” ธันวาเสริมทัพ
“ส่วนกูหลอ แดกเค้กในงานแต่งอย่างเดียวพอ ฮ่าๆๆๆๆ” ตบท้ายด้วยไอโดม ก่อนที่ทั้งสามคนจะหัวเราะประสานเสียงกันออกมา
พวกมันนี้เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยสะจริงๆ แต่เอาเข้าจริงๆก็ต้องขอบคุณพวกพวกมันจริงๆนั้นแหละที่ทำให้ผมมีความกล้าขึ้นมา แล้วคอยซัพพอทผมอยู่ตลอด ไม่งั้นตอนนี้ผมก็คงเป็นไองั่งที่ไม่กล้าทำอะไรสักอย่างอยู่แบบนี้ต่อไป
จากนั้นไม่นานก็ถึงเวลาแยกย้ายของพวกเราทั้งสี่คน ไอธันวาบอกว่าจะไปเตะบอลกับพวกรุ่นพี่ที่รู้จักในมอต่อ เฟลิกซ์แยกตัวกลับไปที่คณะเพราะเหมือนที่คณะของมันจะมีกิจกรรมต่อถึงช่วงเย็น ส่วนผมกับไอโดมกลับหอมาพักผ่อน ในเวลาว่างส่วนใหญ่ของผมมักจะไม่ค่อยได้ไปไหนมากนัก เพราะผมเป็นพวกมนุษย์ติดห้อง ผมไม่ค่อยชอบพื้นที่ที่ผู้คนพลุกพล่านวุ่นวาย แต่กลับชอบห้องชุดสี่เหลี่ยมที่เป็นเหมือนเซฟโซนเสียมากกว่า
ผมกระโดดลงเตียงสุดที่รักอย่างสบายอกสบายใจ เกลือกกลิ้งอยู่บนนั้นสักพัก ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาสอดส่องความเป็นไปของโลกภายนอก ว่าแล้วก็ส่องพี่ขุนสักหน่อยดีกว่า ส่วนตัวผมมักจะเลือกที่จะส่องความเคลื่อนไหวของพี่ขุนอยู่บ่อยๆเรียกได้ว่ากลายเป็นเหมือนสิ่งที่ต้องทำทุกวันไปเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าจะส่องกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆจากพี่ขุนเลยก็ตาม นอกเสียจากลงรูปสตอรี่บ้างเป็นบางวัน อย่างรูปร่าสุดนี้เป็นรูปท้องฟ้าอัพโหลดเมื่อประมาณ ปลายเดือนเมษายน แม่เจ้า!!!
ตริ๊ง ~
เสียงแจ้งเตือนข้อความของกลุ่มปากหมาดังขึ้น เลยเลือกกดเข้าไปดูข้อความสักหน่อยเผื่อผมจะโดนนินทา แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
17.14 น.
Domethana_T
มึงดังแล้วนะไอคุณ @Taen.kun
แนบไฟล์โพส
Tunva.krs
มึงไปถ่ายกันตอนไหนวะ
ไม่ทันไรพี่ขุนกูก็มีคู่แข่งสะแล้วว่ะ 555+
ส่งสติกเกอร์แมวทำท่าหัวเราะ
Domethana_T
@Tunva.krs มึงควรสั่งสอนลูกชายของมึงใหม่นะ จะมาใจแตกแบบนี้ไม่ได้
ใจอยู่กับอีกคน ตัวอยู่กับอีกคน 555+
Taen.kun
ไอสัสกูก็ไม่รู้ไหมละ
ก็พี่มันมาขอถ่ายรูปด้วยกูก็แค่ถ่ายๆไป
ส่งสติกเกอร์รูปหมาทำท่าทางไม่พอใจ
Domethana_T
แต่กูก็ว่าดีนะ เผื่อพี่ขุนผ่านมาเห็น แล้วเกิดอาการหึงมึงไง 555+
Taen.kun
ส้นตีนกูนี้ ไม่ได้เป็นอะไรกัน จะมาหึงกูทำไม
Tunva.krs
ตอนนี้ไม่ใช่ แต่อนาคตไม่แน่
มึงไม่เคยได้ยินหลอ ถ่านไฟเก่ามันร้อน
Domethana_T
@Tunva.krs แต่ตอนนี้ถ่านไฟเก่าหรือจะสู้เตาแก๊สได้ว่ะ 555555555 +
Taen.kun
ส่งสติกเกอร์หมาทำท่าโกรธ
ตอนนี้สายตาผมยังคงจับจ้องไปยังโพสเจ้าเรื่องหัวข้อของบทสนทนานี้ ซึ่งเป็นโพสรูปของผมกับพี่จูเนียร์ที่ตอนนี้เด่นหลาอยู่หน้าเพจไปแล้ว
เพจ ช้างเผือกในป่า ( White elephant in the jungle )
( 32 นาทีที่ผ่านมา )
อุ๊ยตายแล้ว!! ใครกันคะเนี่ยที่อยู่ข้างๆน้องจูเนียร์ของเรา แถมแคปชั่นใต้ภาพยังพาให้เจ๊คิดไปไกลอีกสะด้วย ใครมีวาร์ปน้องรบกวนแปะใต้คอมเม้นให้เจ๊หน่อยนะคะ ~ <3
จูเนียร์ บริหารธุรกิจ ปีสอง
Ig : Jujuu.Teeradon
cr : เจ๊แต๋วแห่งหอแต๋วแตก
#จูเนียร์ #ผัวจู #ทีมเมียจูเนียร์ #บริหารธุรกิจ #ช้างเผือกในป่า
แนบรูป
คนถูกใจ Domethana, Junior Teeradon และอื่นๆอีก 963คน แสดงความคิดเห็น 156 แชร์ 78 ครั้ง
ความคิดเห็นล่าสุด
ปักหมุด.ช้างเผือกในป่าใหญ่ : อ่ะมาแล้วนะจ๊ะ สายสืบของเรา น้องเขาชื่อแทนคุณ บริหาร พึ่งเข้ามารายงานตัววันนี้เลยจ้าแม่!!! #จูเนียร์แทนคุณ #แทนคุณจูเนียร์
แยมๆ ไม่กินผัก : OMG เรือฉันแล่นแล้วแม่!!
Kittiya : น้องเค้าอยู่คณะเดี๋ยวกับเรา เจอกันวันนี้น่ารักปุ๊กปิ๊กมาก ~ #จูเนียร์แทนคุณ#แทนคุณจูเนียร์
Siwadon kunmm : @Sunsunnday มาดูหลัวหน่อยแม่ งานดีคู่ฉันเหมาหมด!!
Sunsunnday : เรือกูแล่นเลยค่ะ ใครมีวาร์ปน้องบ้างคะ??
Junior Teeradon: เจ้าปุ๊กปิ๊ก<3
ช้างเผือกในป่าใหญ่ : ยังไงคะเนี่ย เจ้าของรูปมาเองแล้วว
Tannie lley : มาเองเลยหลอคะ!! มันยังไงเนี้ย ~ ฮืออ ฟินน
Bowwly kornkan : @Teeradon ยังไงย่ะ ได้ข่าวว่าพึ่งเจอกันวันนี้เองน้า !!
Junior Teeradon : ความสัมพันธ์อธิบายยาก เอาเป็นว่ารู้จักกันมานานแล้ว :-PP
Tannie lley : ฮือออ ตายอย่างสงบ ศพสีชมพู
ผมนั่งๆนอนๆอ่านข้อความอยู่คร่าวๆ ก่อนที่ต้องมานั่งกุมขมับกับการพี่จูเนียร์ตอบกลับคอมเม้นชวนคิดสองแง่สองง่ามแบบนั้น ลางสังหรณ์ของผมบอกเป็นนัยๆ แล้วว่าชีวิตของผมจากนี้ต้องมีแต่เรื่องวุ่นวายแน่ๆถ้าไปอยู่ใกล้กับพี่แก ผมควรจะต้องเว้นระยะบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ผมกลัวจริงๆมันไม่ใช่เรื่องนั้นไง
ผมแค่กลัวว่าถ้าพี่ขุนเห็น พี่ขุนจะเข้าใจผิด…
ผมควรจะทำยังไงผมควรจะให้พี่จูเนียร์ลบโพสดีไหมนะ หรือทักเพจไปเลยแต่ถ้าทักไปก็เหมือนผมไปหาเรื่องอีก เอาเป็นว่าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ลองขอให้พี่จูเนียร์ลบโพสออกไปก่อนดีกว่า
ว่าแล้วผมก็ทำการรีบทำการเข้าแอพพลิเคชั่นเมสเซนเจอร์ แล้วทักอินบ็อกซ์เข้าไปหาพี่จูเนียร์ โชคยังดีที่ตอนนี้หน้าต่างข้อความขึ้นว่าคู่สนทนากำลังใช้งานอยู่พอดี
Taenkun woramath
พี่จูเนียร์ครับ
บอกให้เพจลบรูปของเราออกจากเพจได้ไหมครับ
Junior Teeradon
ทำไมล่ะ น่ารักดีออก
ส่งสติกเกอร์รูปสิงโตทำหน้าเศร้า
Taenkun woramath
เหตุผลส่วนตัวน่ะครับ
ผมแค่ไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด
Junior Teeradon
ไม่เป็นไรหลอก พี่ไม่ถือ :-))
Taenkun woramath
แต่ผมถือไงครับ ผมไม่ชอบให้คนอื่นมองแปลกๆ
ส่งสติกเกอร์รูปน้องหมาทำหน้าบึ้ง
Junior Teeradon
โห่วว ก็ได้ๆเดี๋ยวพี่บอกให้ทางเพจลบให้ก็ได้
แต่ว่าพี่ไม่ได้ช่วยฟรีๆหลอกนะ ;-D
Taenkun woramath
ต้องการอะไรครับ?
Junior Teeranon
ส่งสติกเกอร์สิงโตทำท่ายิ้มร่า
Taenkun woramath
อะไรของพี่เนี่ย ผมเริ่มจะกลัวพี่จูแล้วนะ
Junior Teeranon
ล้อเล่นนิดเดี๋ยวเองง 555
Taenkun woramath
……
Junior Teeranon
เรากินข้าวรึยัง??
Taenkun woramath
ยังไม่ได้กินอ่ะครับ
ถามทำไมครับ??
Junior Teeranon
งั้นเลี้ยงข้าวพี่มื้อนึงแล้วกัน
ส่งสติกเกอร์รูปสิงโตทำท่ายิ้ม
อะไรของพี่มันกันนะแค่บอกให้เพจลบรูปออกไปแค่นี้ถึงกับต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรขนาดนั้น แต่คิดไปคิดมาแค่เลี้ยงข้าวมื้อนึงก็คงไม่เสียหายอะไรเมื่อเทียบกับความสงบสุขในชีวิตของผม อีกอย่างผมก็ไม่มีทางเลือกมากสะด้วยสิ
ผมค่อยๆถอนหายใจ ก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
Taenkun woramath
ก็ได้ครับ แล้วพี่จะไปกินที่ไหนครับ
Junior Teeranon
ไปกินร้าน XXX หลังมอแล้วกันง่ายดี
ประมาณทุ่มนึงเดี๋ยวพี่ออกไป ขอเตะบอลแปป
Taenkun woramath
ได้ครับ ตามสบายครับ
Junior Teeranon
แล้วเจอกันนะน้องคุณ :-))
บทสนทนาของผมกับพี่จูเนียร์จบลงแต่เพียงเท่านั้น ผมปาโทรศัพท์ไว้หัวเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยหน่าย
ค่อยๆแหงนมองนาฬิกาอีกครั้ง ตอนนี้ก็พึ่งจะห้าโมงครึ่ง ก่อนจะถึงเวลานั้นก็อีกเกือบๆ ชั่วโมงครึ่งได้ ผมคงยังพอมีเวลาที่จะงีบอยู่สักหน่อย เพราะรู้สึกเพลียจากอากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าวแถมวันนี้ยังใช้พลังงานไปเยอะมากๆเสียด้วย อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศค่อยๆทำให้ดวงตาของผมเริ่มหนักอึ้งอึ้งอย่างช้าๆ สุดท้ายดวงตาของผมปิดลงแล้วพลอยหลับไปในที่สุด ....
……
“ถ้ามึงกลับไม่ได้ก็โทรมาหากู เดี๋ยวกูมารับ” ไอโดมพูดขึ้นหลังจากมันรับหน้าที่เป็นสารถีขับมาส่งผมที่จุดนัดพบของผม
“อืม ขอบคุณมึงมาก ยังไงเดี๋ยวกูบอก”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับก่อนที่จะขับมอเตอร์ไซค์เคลื่อนตัวออกไป
ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้ประมาณเกือบๆหนึ่งทุ่มได้ ผมเลือกที่จะมาก่อนเวลาเล็กน้อยเพราะอยากเดินสำรวจบริเวณรอบๆ
หลังมหาลัยของผมในช่วงเย็นค่อนข้างครึกครื้นมากๆเพราะจะเต็มไปด้วยบรรดาเพิงขายอาหารต่างๆที่ตั้งเรียงรายกันเป็นสิบๆร้านเรียบไปกับถนนยาวจนสุดรั้วของมหาลัย สลับกับฝั่งตรงข้ามที่เป็นตึกแถวและร้านค้าจัดจำหน่ายของใช้จำพวกเครื่องเขียน หรือร้านขายของจิปาถะทั่วไป ซึ่งจัดได้ว่าสามารถอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของนักศึกษาสุดๆ ประกอบกับโซนหลังมอมักจะเป็นหอพักนักศึกษาสะส่วนใหญ่อีกด้วย ที่แห่งนี้เลยจัดเป็นแลนมาร์คยามดึกของบรรดาหมู่นักศึกษาในมอเลยก็ว่าได้
ผมเดินสำรวจดูรอบๆอยู่สักพักก่อน เผื่อครั้งหน้ามาจะได้รู้ว่าควรจะไปทางไหนแล้วมีอะไรน่ากินบ้าง ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ร้านร้านหนึ่งซึ่งนัดไว้กับพี่จูเนียร์ เป็นร้านขายอาหารตามสั่งธรรมดาๆที่ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่แน่นร้านเอามากๆ ก็อย่างว่าแหละครับ เวลาช่วงนี้ก็เป็นเวลาอาหารค่ำของใครหลายๆคน ไม่แปลกหลอกที่คนจะเยอะ
ผมทักเฟสไปหาพี่จูเนียร์ว่าผมถึงร้านที่นัดไว้แล้ว ไม่ปล่อยให้รอนานมากนนัก อีกฝ่ายก็มาถึงที่หมายพอดิบพอดี
ตอนนี้พี่จูเนียร์อยู่ในชุดกีฬาแขนตัดสีขาวฟ้าตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นเข้าชุด โชว์เรียวแขนขาวผ่องที่มีมัดกล้ามเล็กน้อย ทำเอาสาวๆที่เดินผ่านถึงกลับเหลียวมองตาไม่กระพริบกันเป็นแถบๆ
“หูย แต่งตัวน่ารักนะเราเนี่ยเรา”
“อะไรของพี่มึงเนี่ย”
ผมค้อนเสียงแข็งใส่อีกฝ่าย ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบหลอกนะครับถูกผู้ชายด้วยกันชมว่าน่ารักยิ่งเป็นพี่จูเนียร์ด้วยผมยิ่งขนลุกขนชันเข้าไปใหญ่ อีกอย่างผมไม่ได้แต่งตัวน่ารักอะไรเลย ใส่เสื้อยืดเปื่อยๆสีครีมกับกางเกงขาสั้น แถมยังคีบรองเท้าแตะตราช้างดาวมาอีกต่างหาก มันน่ารักตรงไหนฟะเนี่ย!!!
“ฮ่าๆๆ ไปเหอะพี่หิวจะแย่แล้ว” อีกฝ่ายยิ้มร่าก่อนที่จะเดินนำเข้าไปในร้าน และกวักมือให้ผมเดินตามเข้าไป เพื่อที่จะต่อคิวสั่งอาหารอยู่หน้าร้านรอก่อน เพราะตอนนี้เหมือนว่าโต๊ะด้านในร้านจะเต็มหมดแล้ว
“เราเปลี่ยนร้านไหมพี่ ไม่มีที่นั่งเลย”
“งั้นแปปนึงนะ” อีกฝ่ายเดินเข้าไปสอดส่องด้านในอีกครั้งก่อนที่จะกลับมาหาผมด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
“ได้โต๊ะแล้ว แต่ว่าคงต้องไปอาศัยนั่งกับเพื่อนพี่ก่อนนะ”
“อ่อ…ครับ”
“นั่งกับเพื่อนพี่ได้ไหมล่ะ มันมาคนเดียวด้วย แถมไม่พูดมากไม่กวนน้องหลอก”
“ผมยังไงก็ได้ครับ”
“งั้นก็ไปกันเถอะ”
อีกฝ่ายเดินนำเข้าไปในร้านอีกครั้งโดยมีผมเดินตามเข้าไปติดๆเหมือนลูกเป็ดที่กำลังเดินตามแม่ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่โต๊ะโต๊ะหนึ่งด้านในสุดซึ่งมีบุคคลร่างสูงในชุดกีฬาสีดำสลับแดงนั่งหันหลังอยู่
“ไปนั่งก่อน พี่ไปสั่งข้าวให้อยากกินอะไร”
“เอาอะไรก็ได้ครับ”
“โอเค ไอขุนกูฝากดูน้องมันหน่อย”
“!!!!”
เท่านั้นแหละครับผมนี้หันขวับไปยังคนที่นั่งหันหลังให้ผมอยู่ด้วยความตกใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะค่อยๆเอียวตัวหันกลับมาสบตากับผม
ใบหน้าคุ้นตาจับจ้องมาที่ผมด้วยแววตาตกใจเล็กน้อย ก่อนที่คิ้วทั้งสองข้างของอีกฝ่ายจะถูกผูกเข้าหากัน พร้อมกับน้ำเสียงที่เคยทุ่มต่ำที่ตอนนี้แปลเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“มากับมันได้ยังไง”
“คะ..คืออ ผมแค่..”
“มาแล้วจ้าา น้องคุณไปนั่งสิ” ก่อนที่ผมจะได้อธิบายให้อีกฝ่ายได้เข้าใจ จู่ๆพี่จูเนียร์ก็กลับมาพอดี พร้อมกับดันหลังของผมให้ไปนั่งที่นั่งฝั่งตรงข้ามพร้อมกับกดผมให้นั่งลง สายตาของพี่ขุนจากที่จ้องผมเขม็งก่อนหน้าเลื่อนไปมองมือของพี่จูเนียร์ที่จับบนไหล่ทั้งสองข้างของผมก่อนที่อีกฝ่ายจะสะบัดหน้าหันหนีไปอีกทาง ผมหันไปมองพี่จูเนียร์อีกครั้งเป็นสัญญาณว่าให้ปล่อยมือจากผมได้แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังคงตีหน้าตายทำเป็นไม่รู้เรื่อง ก่อนที่จะเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้ามข้างๆพี่ขุนพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผม
นี้มันวันอะไรกันว่ะเนี่ย!!!