พิมพ์หน้านี้ - // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 10 (03/09/2564)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: AUGUSTLOVE ที่ 11-07-2021 23:14:05

หัวข้อ: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 10 (03/09/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 11-07-2021 23:14:05
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 11-07-2021 23:18:00
มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน
He’s dangerous MAFIA



คิมห์ตะวันหลับตาพริ้มลง ปล่อยให้น้ำตาไหลรินอย่างไม่คิดฝืนต้านทานเมื่อได้ยินคำขับไล่ไสส่ง ตอนแรกคิดต้องการที่จะหนีหายไปจากเขา ไม่อยากเกี่ยวข้อง ไม่อยากพบเจอ แต่เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากเขาที่เอ่ยไล่อย่างไม่ใยดีราวกับไม่ต้องการกันอีกต่อไปแล้ว หัวใจดวงน้อยก็เจ็บปวดจนชา และกลับมาปวดร้าวทรมาน จนแทบจะหายใจต่อไปไม่ไหว ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่สุดแสนรักอีกครั้งเพื่อเก็บไว้ในความทรงจำ ขาเรียวก้าวถอยหลังช้าๆ น้ำตาหลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ผู้ชายที่แสนดีคนนั้นหายไปจากโลกใบนี้แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่มาเฟียหนุ่มที่แสนร้ายกาจเพียงเท่านั้น ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ ทำไมถึงต้องทำร้ายหัวใจน้อยๆ ดวงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คิมห์ตะวันหันหลังกลับ และเริ่มก้าววิ่ง น้ำตายังคงไหลริน ภาพความทรงจำดีๆ ที่เคยมีร่วมกันผุดพรายขึ้นมาในสมอง จิตใต้สำนึกบอกว่าไม่อยากจากเขาไปไหนเลย แต่ขากลับก้าวออกไปเรื่อยๆ

คลาสเตอร์มองภาพเบื้องหน้าอย่างเจ็บปวด แผ่นหลังบอบบางที่เขาเคยปกป้อง ดูแล ทะนุถนอม และได้สัมผัสอยู่ทุกวันทุกคืนกำลังห่างออกไป

เขามั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้วในตอนนี้ รู้หัวใจตัวเองในวันที่ใครอีกคนไม่อยู่รอฟัง คนตัวเล็กกำลังจะหนีหายจากไป ความปวดร้าวเกาะกินหัวใจแกร่งทีละนิดๆ จนเริ่มหายใจไม่ออก ใบหน้าหล่อเหลาเศร้าหมอง ดวงตาคู่คมเป็นประกายวิบวับด้วยน้ำใสๆ ที่เอ่อคลอขึ้นมา

มือหนายกปืนขึ้นช้าๆ เล็งไปทางด้านหน้า รู้ฝีมือตัวเองดีว่าแม่นยำแค่ไหน รอยยิ้มแสนเศร้าเผยออกมาบนใบหน้าคร้ามคมที่ฉายแววเจ็บปวด ไม่อาจจะทำใจยอมรับได้ ไม่สามารถโกหกตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ไม่มีทางปล่อยให้จากไปไหนอย่างเด็ดขาด
ถึงจะต้องทำร้ายคนตัวเล็กแค่ไหน เขาก็จะทำ

ปัง !

หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 13-07-2021 18:33:43
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 1. (15/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 15-07-2021 17:18:04
บทนำ
           
“ขอเวลาผมอีกนิดนะครับท่าน เดี๋ยวผมจะรีบหาเงินมาคืนท่านให้ครบ”
เสียงร้อนรนปนหวาดกลัวของชายแก่พูดขึ้น พลางกอดร่างภรรยาที่กำลังร้องไห้ไว้แน่น         
“ผมให้เวลาคุณมามากพอแล้ว”
คลาสเตอร์ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัยยี่สิบแปด พูดด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเรียบนิ่ง มือหนายืนล้วงกระเป๋ากางเกงท่วงท่าน่าเกรงขรามและสง่างามอย่างไร้ที่ติ
“ผมขอเวลาอีกแค่สองเดือน ผมสัญญา”
ชายแก่ค้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อม ในใจหวาดกลัวไปหมด ไม่น่าไปกู้เงินมาจากมาเฟียคนนี้เลย ประวัติของเขาใช่ย่อยที่ไหน อิทธิพลของเขาแม้แต่ตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาคือบุคคลที่อยู่เหนือกฎหมายเสียด้วยซ้ำ
“พ่อครับแม่ครับ ตะวันกลับมาแล้ว”
คิมห์ตะวัน หนุ่มน้อยวัยสิบห้าพูดด้วยน้ำเสียงสดใส ก้าวเดินเข้ามาในบ้านโดยที่ไม่รู้เลยว่าต่อจากนี้ชะตากรรมตัวเองจะเป็นอย่างไร
“พ่อ แม่”
ดวงตาโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเข้ามาและเห็นพ่อกับแม่นั่งกอดกันบนพื้นพรม รีบถลาเข้าไปหาทั้งคู่ทันที
“คุณต้องการอะไรก็เอาไป อย่าทำอะไรพ่อกับแม่ผม”
เมื่อตระหนักได้ว่าคนที่ทำให้ทั้งคู่หวาดกลัวคือคนที่กำลังยืนอย่างโดดเด่นอยู่เบื้องหน้า ก็เอ่ยปากบอกด้วยท่าทางจริงจัง ลมหายใจกระตุกไปชั่วขณะที่มองเห็นหน้าตาอันหล่อเหลาคมคายพร้อมทั้งได้มองสบดวงตาสีฟ้าใส
คลาสเตอร์มองคนตัวเล็กด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ใครเล่าจะสามารถล่วงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจที่แสนเย็นชา ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นมาในหัว
“ตกลง ผมจะให้เวลาคุณสองเดือน”
เสียงทุ้มพูดแค่นั้น มือหนาจับแขนเรียวและดึงให้ร่างเพรียวลุกยืนขึ้นมากอดไว้หลวมๆ จากนั้นก็พูดประโยคที่คนเป็นพ่อและแม่ตกใจ
“แต่ระหว่างนี้ เด็กคนนี้ต้องอยู่กับผม”
ร่างสูงใหญ่จับร่างเล็กๆ อุ้มพาดไว้บนบ่าหนา แล้วเดินออกจากบ้านไปด้วยรอยยิ้มที่มุมปากสีสดอย่างมีความสุขเหมือนเจอของเล่นชิ้นใหม่
“ไม่ คุณจะทำอะไร ปล่อยผมนะ ปล่อย แม่ พ่อครับ ช่วยตะวันด้วย”
ตะวันพยายามดิ้นรนและร้องเรียกให้คนช่วยอย่างไม่ยินยอม รู้สึกกลัวจนจับใจ และด้วยความเหนื่อยล้าที่เพิ่งจะกลับจากการทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน ทำให้ดวงตาเริ่มพร่ามัวและหมดสติลงไปในที่สุด

He’s dangerous MAFIA


หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 1. (15/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 15-07-2021 19:56:38
 :pig4:
 :mew6:
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 1. (15/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 15-07-2021 23:23:47
ตัวอย่าง จริงๆ ด้วย
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 1. (22/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 22-07-2021 20:51:12
1


คิมห์ตะวันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกรุกรานจากการนอน ดวงตาโตเบิกกว้างผวาอย่างตกใจ เมื่อพบว่าสิ่งที่ปลุกให้ตื่นนั้นคือริมฝีปากนุ่มของผู้ชายที่เป็นคนจับตัวมา
“คุณ จะทำอะไรน่ะ !”
“คิดว่าฉันทำอะไรล่ะ”
คลาสเตอร์ตอบยิ้มๆ เป็นรอยยิ้มที่ทุกคนเห็นแล้วใจละลายต้องยอมสยบไปซะทุกราย หนุ่มน้อยเองก็ไม่ต่างกัน ได้แต่ตัวแข็งค้างราวกับต้องมนต์สะกด จนสักพักก่อนจะตั้งสติได้
“คุณจูบผม !”
ตะวันเด้งตัวลุกขึ้นนั่งเอามือปิดปากตัวเองไว้ กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง ดูเหมือนที่นี่จะเป็นคอนโดหรู เพราะห้องที่อยู่นั้นมีกระจกใสหลายบานที่สามารถมองออกไปด้านนอกซึ่งเป็นสระน้ำขนาดกลาง มีวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนเป็นพระจันทร์เต็มดวงสวยงาม
คลาสเตอร์ดึงมือบางที่ปิดปากตัวเองอยู่ออก ก่อนจะโน้มหน้าเข้าหาริมฝีปากสวยอย่างหลงใหล ตะวันเพิ่งจะสังเกตว่าชายหนุ่มไม่ได้สวมเสื้อ ส่วนตัวเองก็เหลือแค่กางเกงนักเรียนเท่านั้น มือเนียนพยายามทั้งผลักทั้งดันคนตัวสูงออกอย่างสุดกำลัง ทั้งทุบทั้งตีทั้งจิกหัว แต่ก็ทำได้แค่สร้างรอยขีดข่วนไว้ตามเนื้อตัวกำยำเท่านั้น
“อย่าดื้อสิครับ”
เสียงทุ้มพึมพำเบาๆ พยายามจะดุนลิ้นเข้าไปในปากสีชมพูระเรื่อที่เม้มไว้แน่นสนิท เมื่อไม่ได้ดังใจจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นซอกคอขาวผ่องแทน
“หอม”
ชายหนุ่มพึมพำกับคอระหงที่หอมกรุ่น คิดว่าจะแค่จูบ แต่ก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้เสียแล้ว สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แขนแข็งแรงรวบตัวร่างเล็กมานั่งบนตักกว้าง ก่อนจะขบใบหูสะอาดเบาๆ แล้วซุกหน้าลงบนซอกคอหอมๆ อีกครั้ง สองมือกอดเอวคนตัวเล็กไว้แน่นไม่ให้ลุกไปไหน
มือเนียนดันหน้าหล่อให้ออกจากตัว ลมหายใจเริ่มติดขัดขาดๆ หายๆ รู้สึกจั๊กจี้ที่คอ แต่ชายหนุ่มที่กำลังหูอื้อตาลายไม่สนใจจะฟังอะไรทั้งนั้น มือหนาเริ่มซุกซนไปปลดตะขอกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินแล้วดึงออกจากขาเรียว
“อย่าทำอะไรผมเลย ผมขอร้อง”
ตะวันตั้งตัวกับการรุกรานของชายหนุ่มไม่ทันและร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องพบเจอกับอะไรต่อจากนี้
คลาสเตอร์หลงใหลไปกับร่างแสนงดงามของหนุ่มน้อยจนถอนตัวไม่ขึ้น ไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงร้องไห้สะอื้นเลยด้วยซ้ำ ผิวขาวเนียนละเอียดผุดผ่องตรงหน้ายั่วอารมณ์เสือร้ายในตัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยอดอกสีชมพูอ่อนก็แสนดึงดูดและล่อตาล่อใจ ทำให้ไม่อาจสนใจอะไรอย่างอื่นอีกแล้ว หน้าหล่อเหลาซุกซบลงกับหน้าอกเล็ก ปากอุ่นขบเม้มเบาๆ อย่างหยอกล้อ ลิ้นร้ายกาจดูดดุนไปมาอย่างชำนาญลากลิ้นไปทั่วทั้งสองข้างก่อนจะงับเบาๆ อีกครั้ง แล้วจึงคลายปากออกอย่างอ้อยอิ่ง
ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลคู่คมมองหนุ่มน้อยอย่างเป็นประกายราวกับจะกลืนกิน ก่อนจะฉกฉวยริมฝีปากบางไว้ด้วยริมฝีปากร้อน ตักตวงความหวานด้วยเสน่หา มือข้างหนึ่งยังคงกอดเอวคอดไว้ ในขณะที่อีกข้างก็บีบคลึงยอดอกสีสวยอย่างเบามือ
“ไหน ชื่ออะไรครับ ?”
มาเฟียหนุ่มยอมถอนปากร้อนออกก่อนจะถามคำถามที่คาใจ ยอมลามือจากหน้าอกเล็ก แล้วรวบกอดร่างเพรียวไว้แทน ใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าหวานด้วยท่าทางอ่อนโยน
“ถ้าไม่บอก จะดูดให้แดงทั้งตัวเลย”
ไม่พูดเปล่า หน้าหล่อเหลาโน้มเข้าหายอดอกสวยและงับเบาๆ อีกครั้ง
“อือ อย่า บะ บอกแล้ว”
หน้าคร้ามคมเงยขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“ผมชื่อตะวัน คิมห์ตะวัน ผมบอกชื่อคุณไปแล้ว หยุดสักที อือ”
ปากนุ่มขบเม้มที่ใบหูขาวสะอาด ซอกคอหอมกรุ่น ก่อนจะวกกลับมาที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ จนคนตัวเล็กต้องเอ่ยทักท้วงให้พอเสียทีก่อนที่จะขาดใจตายไปซะก่อน
“นายจะต้องอยู่ที่นี่กับฉัน สองเดือน”
“อยู่ทำไม ผมอยากกลับบ้าน คุณปล่อยผมเถอะนะ”
“ครอบครัวของนายติดหนี้ฉันไว้”
“เท่าไรครับ ผมจะทำงานเพิ่มและหาเงินมาใช้คืนคุณเอง”
ดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างจริงจัง ตั้งใจจะหางานพิเศษทำเพิ่มให้มากกว่าเดิม แม้ว่าทุกวันนี้จะทำถึงสองที่แล้วก็ตามที
“หืม หนึ่งล้าน”
เสียงทุ้มพูดอย่างเรียบนิ่งด้วยท่าทางธรรมดา ต่างจากคนตัวเล็กที่หน้าตาเลิ่กลั่กเหรอหราด้วยความตกใจจนอุทานออกมาเสียงดัง
“นะ หนึ่งล้าน !”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างอึ้งจัด พ่อกับแม่เอาเงินไปทำอะไรมากมายขนาดนั้น
“อือ ใช่ หนึ่งล้าน นี่เฉพาะเงินต้นนะ ยังไม่รวมดอกเบี้ย”
“ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก แต่ผมสัญญาว่าจะหามาคืนคุณทั้งหมด ขอเวลาเราสักพัก นะครับ”
หมดหนทางแล้วจริงๆ สำหรับการหาเงินหนึ่งล้านให้ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว จะเป็นไปได้อย่างไรกันล่ะ คงทำได้แค่เพียงร้องขอเวลาให้ยืดออกไปเท่านั้น
“ฉันให้เวลาสองเดือนไง ตามที่พ่อของนายขอมา แต่ระหว่างนี้นายต้องอยู่ที่นี่ .. กับฉัน”
“คุณจะไม่ทำอะไรครอบครัวผมใช่มั้ย ?”
ตะวันถามเสียงเบา หวาดกลัวจับใจ
“ใช่ ถ้านายเป็นเด็กดีนะ”
คลาสเตอร์ไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กพูดต่อ ปากร้อนเข้าครอบครองปากบางอีกครั้ง ไล้เลียไปทั่ว ก่อนจะดุนลิ้นเข้าหาตักตวงเอาความหวานเนิ่นนาน
คนตัวเล็กที่ตอนแรกดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงเริ่มอ่อนลง รู้สึกปั่นป่วนภายในช่องท้องอย่างบอกไม่ถูก สัมผัสนุ่มละมุนที่ได้รับช่างหอมหวานและน่าลุ่มหลงยิ่งนัก
คิมห์ตะวันไม่เคยจูบใครมาก่อน เขาคือคนที่ได้จูบแรกนี้ไป !
 มือหนาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามกายเนียน ร่างเพรียวอ่อนระทวยอย่างเห็นได้ชัดด้วยความอ่อนต่อโลก พอโดนสัมผัสอ่อนโยนนิดหน่อยก็ควบคุมสติไม่ได้ แล้วยิ่งคนที่มอบความหวานให้เป็นชายหนุ่มรูปงามที่มีเสน่ห์เร้าใจและน่าหลงใหล ซึ่งผู้คนทั้งหลายต่างหมายปองด้วยแล้ว ยิ่งยากจะห้ามใจไม่ให้หลงระเริงไปกับความสุขสมที่เขามอบให้
มือบางที่ดันไหล่กว้างเมื่อครู่เปลี่ยนมาเป็นบีบไหล่แกร่งไว้แน่น ชายหนุ่มค่อยๆ ดันคนตัวเล็กนอนลงบนเตียงอย่างไม่รีบร้อน หน้าหล่อเหลายิ้มนิดๆ อย่างพอใจ ไม่เคยมีใครคนไหนที่จะปฏิเสธสัมผัสพิศวาสจากเขาได้เลย รวมทั้งคนตรงหน้านี้ด้วย ยิ่งเด็กยิ่งไร้ประสบการณ์
ชายหนุ่มจูบปากบางไล่ลงมาเรื่อยๆ ตามซอกคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนมายังอกเล็ก หน้าคร้ามคมซุกซบลงสูดกลิ่นกายหอมหวาน ปากร้อนดูดเลียไปทั่วหน้าอกสวย ลิ้นอุ่นจัดตวัดไปมาอย่างซุกซน ร่างกายนุ่มนิ่มที่ดูเหมือนยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน กำลังจะทำให้เขากลายร่างเป็นเสือหนุ่มผู้หิวโหยที่พร้อมจะขย้ำลูกแกะตัวน้อยทุกวินาที
แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรมากไปกว่านี้ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูก็ดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน เสียงสบถออกมาอย่างหงุดหงิด มือหนาเอื้อมไปบนหัวเตียงคว้าโทรศัพท์เอาไว้ เมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือมือขวาคนสนิทก็ผละออกจากร่างเล็ก พร้อมกับหอมแก้มนุ่มนิ่มฟอดใหญ่ๆ ก่อนที่จะลุกและเดินออกไปนอกห้อง
ดวงตากลมโตมองตามร่างสูงที่เดินตัวปลิวออกไปและเริ่มตั้งสติได้อีกครั้ง รีบมองหาเสื้อผ้าของตนเอง แต่กลับเจอแค่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีดำที่เดาก็รู้ว่าใครถอดทิ้งไว้ มือบางรีบคว้ามาสวมใส่ทันที ก่อนจะนั่งลงบนเตียงดั่งเดิม น้ำตาที่เหือดแห้งไปเมื่อครู่เริ่มหลั่งรินออกมาอีกครั้ง ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอขนาดนี้มาก่อน เขาทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นคลอนตั้งแต่แรกเห็น แล้วเรื่องเมื่อครู่ที่ยอมให้เขากอดจูบและทำอะไรอีกมากมายอย่างน่าอายอีก หน้าใสแดงก่ำทันทีที่คิดถึงเรือนร่างกำยำ จนต้องสะบัดศีรษะไล่ความคิดไม่ดีออกไป
ตอนนี้ต้องคิดถึงพ่อและแม่ ในใจนึกกังวลไปต่างๆ นาๆ ว่าคนตัวสูงจะทำอันตรายกับพวกท่านหรือไม่ แล้วไหนจะเรื่องเงินเป็นล้านนั่นอีก จะหามาได้ยังไงกับเวลาเพียงแค่สองเดือน พอคิดมาถึงตอนนี้น้ำตาก็ยิ่งไหลมากกว่าเดิม อาการปวดศีรษะและวิงเวียนเริ่มหนักขึ้น จนต้องข่มตาลงแล้วล้มตัวนอนบนเตียงกว้าง

สงสัยคงต้องเอาตัวเข้าแลกจริงๆ !



หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 1. (22/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 23-07-2021 04:00:36
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 2 (23/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 23-07-2021 18:52:25
2

ร่างสูงเดินออกมาหยุดยืนอยู่ภายในห้องรับแขก กดรับโทรศัพท์อย่างอารมณ์เสีย แววตาสีฟ้าคมดุดันจนดูน่าเกรงขราม เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างแข็งกร้าว
“มีอะไร !”
“เรื่องที่นายท่านให้ผมไปสืบ ได้เรื่องแล้วครับ”
มือขวาคนสนิทรีบตอบถึงธุระสำคัญ พอจะฟังออกว่าเสียงของนายดูหงุดหงิด สงสัยคงไปขัดจังหวะอะไรเข้า
“ได้เรื่องอะไรบ้าง ?”
คลาสเตอร์เดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำเปล่าออกมา ยกโทรศัพท์แนบไว้ที่หู ก่อนจะเปิดฝาขวดน้ำออกแล้วยกขึ้นดื่ม
“ไอ้สันต์มันเคยเป็นมือขวาของไอ้พิภพจริงๆ ครับ เด็กของเราที่เข้าไปสืบบอกว่ามันยังทำงานให้ไอ้พิภพอยู่ แล้วดูเหมือนพวกมันจะรู้ตัวแล้วด้วยเรื่องที่เราเข้าไปถึงถิ่นมัน เด็กเราโดนพวกมันกระทืบปางตาย นายจะเอายังไงต่อครับ”
รองพูดน้ำเสียงดูโมโหเตรียมพร้อมทำศึกเต็มที่ และคำตอบของชายหนุ่มก็ยิ่งทำให้รองโมโหขึ้นไปอีก
“บอกให้เด็กเราออกมาให้หมด เรื่องอื่นอย่าเพิ่งทำ”
“แต่นายครับ”
“ไม่มีแต่ ส่วนไอ้สันต์ พรุ่งนี้ไปลากตัวมันมาให้ฉัน”
คำพูดถัดมาของคลาสเตอร์ ทำให้อารมณ์โมโหของรองลดลงมาจนเกือบจะเป็นอารมณ์ดีด้วยซ้ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านายสุดหล่อของเขาจะทำอะไร
“แล้วก็เตรียมหามือซ้ายคนใหม่ให้ฉันด้วย”
จบประโยค ชายหนุ่มก็กดวางสายทันที เรื่องที่ให้ไปสืบเป็นอย่างที่คิดจริงๆ สันต์เป็นสายสืบให้นายพิภพ มาเฟียคู่ปรับที่พยายามจะทำลายธุรกิจหมื่นล้านของเขา ซึ่งพวกมันก็เป็นแค่เพียงเศษสวะ ที่ริอาจคิดจะเทียบชั้นกับเขาเพียงเท่านั้น
ความจริงแล้วเขาไม่ได้เป็นมาเฟียมาตั้งแต่แรก คลาสเตอร์ไม่ใช่คนไทยแท้ แต่เป็นลูกครึ่งไทยอเมริกัน ตอนเด็กๆ เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกากับพ่อซึ่งมีอาชีพเป็นสายสืบทำงานให้กับรัฐบาล พออายุได้ยี่สิบเต็ม เขาก็ตามรอยพ่อตัวเองโดยการทำงานเป็นหน่วยซิล และกลายเป็นมือหนึ่งในสังกัดซะด้วย ศักยภาพของเขาถือได้ว่ายอดเยี่ยมจนน่าขนลุก พอพ่อเสีย เขาก็ขอย้ายมาประจำการที่ประเทศไทย
จนกระทั่งลาออกจากงานสายสืบแล้วมาเริ่มเปิดธุรกิจของตัวเอง คือการเปิดบ่อนคาสิโนหรูขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วประเทศ ธุรกิจรุ่งเรืองจนฉุดแทบไม่อยู่ และบางครั้งก็ไปขัดผลประโยชน์ของคนอื่น จนเริ่มมีศัตรูวางแผนทำลายธุรกิจของเขา จึงต้องกำจัดคนพวกนั้นทิ้ง กฎหมายเอาผิดเขาไม่ได้เพราะเขามีคนซัฟพอร์ตดี หน่วยงานลับที่เขาเคยทำงานอยู่ ถึงแม้จะลาออกมาแล้ว แต่ก็ยังคงให้การสนับสนุนเขามาโดยตลอด และเขาจึงเริ่มเดินทางสายมาเฟียตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


คลาสเตอร์อาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาด ร่างสูงเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง ตอนนี้คนตัวเล็กหลับไปแล้ว มือหนาดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างหนุ่มน้อย ปิดไฟหัวเตียง ก่อนที่จะยัดตัวเองเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน คว้าร่างเพรียวบางเข้ามากอดไว้หลวมๆ ก่อนที่ดวงตาคู่คมจะปิดลงเพื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา



คิมห์ตะวันลืมตาขึ้นรับแสงอาทิตย์ยามเช้า ดวงตาคู่สวยบวมช้ำอย่างเห็นได้ชัด ค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ก็ทำได้ลำบากเพราะอาการเวียนหัว และเพิ่งสังเกตเห็นมือหนาที่กอดเอวคอดไว้ราวกับหวงแหน มองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับตาพริ้มพราวอยู่อย่างแปลกใจ ใบหน้ายามหลับดูอ่อนโยนราวกับเด็กน้อยแสนน่ารักทำเอาใจสั่น ค่อยๆ แกะมือใหญ่ออกจากตัว เพราะกลัวเขาจะตื่น ก่อนจะลุกเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย


หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาด้านนอกห้องนอนซึ่งถูกตกแต่งไว้อย่างดี ตรงไปด้านหน้ามีห้องอีกห้องหนึ่ง ด้านขวามือคือครัวบิวท์อิน ถัดมาอีกดูเหมือนจะเป็นห้องน้ำ เป็นห้องชุดสุดหรูที่คาดเดาได้ว่าราคาคงจะแสนแพงอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้คิดสนใจข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดูหรูหราตรงหน้านี้นักหรอก เพราะกำลังมองหาเสื้อผ้าของตัวเองต่างหาก ถ้าอยู่ในชุดผ้าขนหนูนานกว่านี้ คงดูท่าว่าจะไม่เป็นเรื่องดีสักเท่าไรนัก
“ตื่นนานแล้วเหรอ ?”
เสียงงัวเงียดังขึ้นด้านหลังทำเอาสะดุ้งอย่างตกใจ หันกลับไปมองเห็นชายหนุ่มยืนพิงประตูอยู่โดยสวมไว้แค่กางเกงขายาวสีเทาตัวเดียว หนุ่มน้อยกลืนน้ำลายอย่างลำบากเมื่อสายตาเลื่อนลงมองกล้ามเนื้อแน่นหนั่นที่เป็นลอนสวย
หน้าหล่อเหลาเผยยิ้มที่มุมปาก สาวเท้าเข้าใกล้คนตัวเล็กเรื่อยๆ ในขณะที่ตะวันก็ก้าวถอยหลังเรื่อยๆ เช่นกัน
“คุณไม่อาบน้ำเหรอ ?”
คิมห์ตะวันถามอย่างหวาดหวั่น
“มอนิ่งคิสก่อนสิ แล้วจะไปอาบ”
คนตัวเล็กก้าวถอยหลังจนไปสะดุดกับโซฟาทำให้ล้มลงนอนหงายอยู่บนโซฟายาวอย่างเลี่ยงไม่ได้ มาเฟียหนุ่มไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปอีกรีบทาบทับร่างเพรียวเอาไว้ก่อนจะลุกหนี
“ออกไปนะ”
ตะวันดิ้นหนีสุดฤทธิ์ แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดแน่นขึ้นไปอีก
“ถ้าไม่หยุดดิ้น จะทำยิ่งกว่านี้นะ”
ได้ผล คนตัวเล็กหยุดกึกทันที
“คุณก็ถอยไปก่อนสิ ผมอึดอัด”
มือเนียนดันแผงอกกว้างเอาไว้ ตาหลุบต่ำลง เลือดในกายเริ่มสูบฉีด เนื้อตัวที่เบียดชิดติดกันทำให้เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ใบหน้าหวานแดงระเรื่อจนดูน่ารักเหลือเกินในสายตาของคนที่กำลังจับจ้องอยู่
“คิสก่อนสิ แล้วจะถอย”
ดวงตาคู่คมมองใบหน้าใสที่ขวยเขิน น่าเอ็นดูจนแทบจะอดใจไม่ไหว แต่ก็ต้องระงับอารมณ์เอาไว้ ไม่อยากผลีผลามให้คนตัวเล็กๆ หวาดกลัวหรือตกใจไปซะก่อน
“ไม่จูบ ทำอย่างอื่นนะ”
ไม่พูดเปล่า หน้าหล่อเหลาซุกลงบนซอกคอขาวหอม ลากลิ้นดูดเม้มจนตะวันดิ้นขลุกขลักอย่างเสียวซ่าน มือบางดันไหล่กว้างออกพร้อมทั้งจิกผมดำสนิทของคนตัวสูง
“ชอบแบบซาดิสม์เหรอครับ หืม”
มือหนากระตุกผ้าขนหนูเบาๆ แต่ทำให้ปมผ้าหลุดออกอย่างง่ายดาย หน้าเนียนแดงก่ำหนักกว่าเดิมลามไปถึงหู พยายามจะดึงผ้ากลับมาพันตัว แต่คนตัวโตไวกว่า และดึงมันออกก่อนจะโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“ปล่อยนะ อ๊ะ”
คลาสเตอร์ก้มหน้าซุกซบบนซอกคอหอมกรุ่นอีกครั้ง มือหนาบีบคลึงยอดอกสีสวยจนร่างเพรียวต้องครางออกมาอย่างน่าอาย จากมือใหญ่ที่บีบคลึงเคล้นอยู่กลับกลายเป็นปากร้อนเข้าแทนที่ ดูดดุนยอดสีชมพูอย่างหื่นกระหาย
หนุ่มน้อยครางเครือออกมาอย่างหมดอาย มือบางวางสะเปะสะปะไปทั่วเรือนร่างกำยำอย่างไร้เดียงสา ตากลมหลับปี๋ทันทีเมื่อปากนุ่มงับเข้าที่ยอดอกสีหวานอย่างแรง
“ปะ ปล่อยนะ”
มาเฟียหนุ่มไม่ฟังคำร้องขอ ยังคงดูดเม้มอยู่ที่อกเล็กอย่างหยอกล้อ มือหนาก็เค้นคลึงเต้าสวย ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับคนใต้ร่างมากขึ้น ลิ้นร้ายกาจลากวนเวียนอยู่ครู่ใหญ่ ดูอาการร่างเพรียวที่เริ่มอ่อนระทวยหายใจติดขัด ก่อนจะละเลงลิ้นไล่เรื่อยลงมาถึงหน้าท้องแบนเรียบรับกับสะโพกผายดูน่าหลงใหล วนลงมายังต้นขาเรียว
คลาสเตอร์รู้สึกปั่นป่วนภายในท้อง ร้อนรุ่มไปด้วยไฟปรารถนา กลิ่นกายหอมหวานช่างยั่วอารมณ์เสือร้ายได้เป็นอย่างดีเหลือเกิน ซุกหน้าเข้าหาบ่อน้ำหวานที่ปิดสนิท ปากร้อนชโลมเลียไปทั่วช่องทางรัก ดูดกลืนน้ำหวานจากร่างเพรียวอย่างไม่รังเกียจ
ตะวันนอนบิดเร่าด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยสัมผัส เผลอลืมตัวกดศีรษะคนตัวสูงเอาไว้แน่น ปากครางเสียงหวานอย่างสุขสม สะโพกบิดร่อนไปมาเมื่อลิ้นร้อนดูดดุนเข้าหาถ้ำกุหลาบซ้ำๆ อย่างนึกสนุก รู้สึกวูบวาบราวกับจะขาดใจ
คนตัวโตตวัดลิ้นรัวขึ้นสลับกับดูดเม้ม ทำแบบนั้นย้ำๆ อยู่นานจนหนุ่มน้อยส่ายตัวดิ้นอย่างแรงด้วยความเสียวสุดใจ มือยังคงกดศีรษะชายหนุ่มไว้อย่างเอาแต่ใจ ความนิ่มในถ้ำตอดรัดลิ้นร้อนอย่างรุนแรง จนในที่สุดก็รู้สึกถึงความเบาหวิว ความเสียวซ่านแผ่ออกทั่วร่างกายอย่างห้ามไม่ได้ ร่างเพรียวกระตุกเป็นพักๆ พร้อมกับมือเนียนที่คลายออกจากเส้นผมนุ่ม
“เด็กจริงๆ หึหึ”
ร่างสูงยืดตัวขึ้น กระซิบข้างๆ หูขาวด้วยเสียงพร่าพราวราวกับหยอกล้อ จัดแจงถอดกางเกงนอนออกจนเหลือสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน
“อย่า พอแล้ว อึก”
มือบางดันแผงอกกว้างที่โถมทับลงมาอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มกลับไม่คิดจะหยุดเพียงเท่านี้ เข้าครอบครองยอดอกสีชมพูอย่างเร่าร้อน ดูดกลืนความอร่อยจนพึงพอใจ ร่างเพรียวสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วเรียวยาวสอดเข้าหาความนุ่มนิ่มของช่องทางรัก
“อย่าเกร็งสิครับ”
คลาสเตอร์พยายามจะควบคุมอารมณ์ดิบเอาไว้ เพราะคนตัวเล็กช่างไร้ประสบการณ์และยังเด็กอยู่มาก แต่ก็ทำได้ยากเมื่อความอ่อนนุ่มบีบรัดนิ้วเรียวไว้แน่น
“เด็กดี”
เสียงแหบพร่าขานเรียก ปากร้อนยังคงวนเวียนอยู่ที่อกเล็กอย่างหลงใหล ถอนนิ้วเรียวออกจากช่องทางสีหวานอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะสอดแทรกความเป็นชายเข้าไปแทน
“อ๊า เจ็บ เอาออกไป”
คนตัวเล็กเริ่มดิ้นอย่างแรงเมื่อท่อนเนื้อแข็งแกร่งสอดแทรกเข้าหาความนุ่มนิ่ม แม้จะเพียงแค่เอาแตะๆ ไว้ แต่ก็เจ็บจนแทบจะขาดใจแล้ว
“เชื่อใจพี่สิ”
หน้าหล่อเหลาโน้มเข้าหาซอกคอขาว กระซิบเสียงทุ้มอย่างคนขาดสติ ปากก็ซุกไซร้ซุกซนอยู่ที่คอระหงอย่างหลงใหล พยายามอดทนอดกลั้นกับช่วงล่างที่เพิ่งจะเข้าไปได้ไม่เท่าไร
แขนเรียวกอดรัดคอหนาไว้จนแน่นอย่างหาที่พึ่ง ใจอยากให้เขาหยุด แต่ในความเจ็บก็มีความรู้สึกอย่างอื่นซ่อนเร้นปนเปอยู่เช่นกัน เริ่มอ่อนระทวยจากริมฝีปากนุ่มและกลิ่นหอมจากกายกำยำ ช่างรัญจวนใจเหลือเกินราวกับต้องมนต์สะกด
คลาสเตอร์ใช้เวลาเล้าโลมอยู่นานสองนานอย่างใจเย็น รอจนคนตัวเล็กมีท่าทีพร้อมกว่าเดิมหายจากอาการหวาดกลัวและยอมให้ท่อนเนื้อร้อนๆ หายเข้าไปด้านในช่องทางรักจนสุด
“อ่า”
หนุ่มน้อยครางออกมา เมื่อร่างสูงเริ่มขยับสะโพกช้าๆ ความเจ็บคลายลง มาเฟียหนุ่มขยับสะโพกเร็วขึ้นตามจังหวะ เมื่อเห็นคนใต้ร่างหายเกร็ง แถมยังตอบรับอย่างไร้เดียงสาและดูน่ารักอีกต่างหาก ร่างสูงยืดตัวขึ้น ยกขาเรียวพาดบ่า มือหนายันพื้นโซฟาไว้ก่อนจะขยับสะโพกให้แรงขึ้น ดวงตาคู่คมมองหน้าหวานที่แดงก่ำอย่างหลงใหล พลางเร่งจังหวะขึ้น ทุกอย่างดูน่ารักไปหมดซะจนอดใจไม่ไหวต้องบีบคลึงปัดป่ายไปทุกสัดส่วนอย่างสนุกมือ สายตาแพรวพราวมองไปทั่วร่างกายของคนตัวเล็กที่มีรอยแดงเป็นจ้ำๆ อยู่ทั่วเนื้อตัว ยิ่งเมื่อความนุ่มนิ่มที่กำลังสอดแทรกอยู่นั้นตอดรัดท่อนแกร่งอย่างแรง ก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์ดิบในตัวให้ทวีคูณ
เขาคือคนแรกของหนุ่มน้อย รอยเลือดที่เป็นคราบเลอะอยู่บนต้นขาเรียวสวยเป็นตัวก่อเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมเหลือเกิน ชายหนุ่มเปลี่ยนท่า ดึงร่างเพรียวขึ้นแล้วจับให้นอนคว่ำหน้าลงกับโซฟาโดยยังไม่ถอนถอดท่อนแกร่งออกไป ก่อนจะเริ่มรัวสะโพกอีกครั้ง หลังเนียนขาวสะอาดที่มองเห็นทำให้ต้องลูบไล้ไปทั่วอย่างถือสิทธิ์ ลิ้นร้อนเลียวนไปทั่วซอกคอหอม และขบเม้มเบาๆ ที่ใบหูขาว พร้อมกับโยกสะโพกแรงขึ้นเรื่อยๆ
หนุ่มน้อยเกร็งร่างอย่างเสียวซ่านสั่นสะท้านไปทั้งตัว รู้สึกปั่นป่วนอีกครั้ง มือเนียนขยุ้มโซฟาไว้แน่น เช่นเดียวกันกับชายหนุ่ม เขาเร่งเร้าจังหวะอย่างบ้าคลั่งเนิ่นนานจนทนไม่ไหวความสุขสมแตกกระจัดกระจายไปทั่วตัวในที่สุด
คลาสเตอร์จับร่างเล็กให้พลิกนอนหงาย เหงื่อเม็ดโตมากมายผุดขึ้นตามใบหน้าหวาน มือหนาลูบไล้เบาๆ ด้วยความทะนุถนอม ปากอุ่นพรมจูบไปทั่วใบหน้าน่ารักและจบลงที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ
“มอนิ่งคิสครับ เด็กดี”
ร่างสูงโปร่งลุกขึ้น เดินไปหยิบเสื้อยืดตัวใหญ่ของเขามาสวมใส่ให้หนุ่มน้อย หยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดทำความสะอาดให้กับคนที่กำลังนอนสลบไสลไม่ได้สติ ก่อนที่ตัวเองจะหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายด้วยท่าทางอารมณ์ดี

He’s dangerous MAFIA


หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 2 (23/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 27-07-2021 07:40:27
Kiss แรงมาก
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 3 (29/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 29-07-2021 18:29:37
3


กลิ่นข้าวต้มหอมกรุ่นลอยมาเตะจมูก ดวงตาโตค่อยๆ ลืมขึ้นมาอย่างยากลำบาก พยุงตัวลุกนั่งช้าๆ และพบว่าตัวเองยังนอนอยู่บนโซฟานุ่มยาวตัวเดิมโดยสวมเสื้อยืดตัวใหญ่ที่คลุมถึงต้นขา สมองเริ่มประมวลสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนจะหลับไป ใบหน้าใสแดงก่ำทันที สายตามองลงต่ำที่ต้นขาเห็นรอยเลือดเปื้อนอยู่ที่เสื้อยืดจางๆ ในใจรู้สึกสับสนอยากจะร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออกกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเสียตัวให้กับชายหนุ่มที่ขนาดชื่อยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ
เสียงเครื่องครัวดังขึ้นเล็กน้อย คิมห์ตะวันมองไปที่ครัวบิวท์อิน เห็นหนุ่มหล่อลูกครึ่งยืนหันหลังกำลังทำอาหารอย่างขะมักเขม้น รู้สึกโล่งใจนิดหน่อยที่ร่างสูงสวมเสื้อผ้าครบชิ้นแล้ว แต่ก็ยังทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะมองหน้าหล่อๆ นั้นยังไง หรือว่าควรจะแกล้งหลับต่อดี เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ล้มตัวลงนอนใหม่อีกครั้ง
 “อะไรกัน เพิ่งตื่น จะนอนอีกแล้วเหรอ ?”
แต่ให้ตายเถอะ คลาสเตอร์ดันหันมาเห็นฉากที่คนตัวเล็กกำลังล้มตัวนอนพอดี ร่างเพรียวสะดุ้งเฮือกเด้งตัวขึ้นนั่งอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่ม มองเห็นรอยยิ้มขบขันบนใบหน้าหล่อนั้นด้วย สายตาที่ดูอ่อนโยนซึ่งกำลังจับจ้องมาทำเอาใจดวงน้อยแกว่งไกว
มาเฟียหนุ่มยกถาดอาหารมาวางลงบนโต๊ะรับแขกด้านหน้าโซฟาที่หนุ่มน้อยนั่งอยู่
“หิวหรือยังครับ ?”
ดวงตากลมโตมองสบดวงตาสีฟ้าสว่างอย่างค้นหาอะไรบางอย่าง แต่กลับต้องหลุบตาลงต่ำอย่างไว เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
“มานี่มา”
คลาสเตอร์ดึงร่างเพรียวบางให้เข้ามานั่งใกล้ๆ แต่ตะวันก็ดิ้นสู้ เขาจึงต้องจับตัวเล็กๆ มาวางบนตัก พร้อมกับกอดเอวคอดไว้แน่น
“หยุดดิ้นได้แล้ว ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง หื้ม”
ชายหนุ่มกระซิบถามเสียงนุ่ม ใบหน้าหล่อซุกอยู่ที่ต้นคอขาว
“คุณก็ปล่อยผมสิ มันอึดอัด”
คิมห์ตะวันเอ่ยเสียงเบาด้วยความกลัว ดวงตาคู่คมมองคนตัวเล็กจากทางด้านหลังด้วยแววตาอ่านยาก ในที่สุดก็ดันร่างเพรียวให้นั่งบนโซฟาดั่งเดิม ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมกับเอ่ยประโยคแกมบังคับ ก่อนที่ร่างสูงจะหันหลังเดินตรงไปที่ประตู
“กินให้หมด แล้วก็กินยาซะด้วย ไม่งั้นเย็นนี้จะให้กินอย่างอื่นแทนข้าว”
ดวงตาโตกระพริบปริบๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก เมื่อจบประโยคกำกวมนั้นลง มองตามแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่เดินออกไปจากห้อง ก่อนจะหันกลับมามองชามข้าวต้มกุ้งด้านหน้าอย่างกระหาย มีขนมเค้กช็อกโกแลตชิ้นโตอยู่ในถาด พร้อมกับยาอีกสี่เม็ดที่ดูก็รู้ว่าเป็นยาแก้ปวดและแก้อักเสบ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องกินด้วย สมองวกกลับไปคิดถึงเรื่องเงินหนึ่งล้านอีกครั้ง หรือว่าผมจะต้องอยู่ที่นี่กับเขาจริงๆ ดูๆ แล้ว เขาก็เหมือนจะเป็นคนดีมั้ง แต่ไม่รวมเรื่องที่เขารังแกผมหรอกนะ ความคิดเริ่มตีกันเองจนยุ่งเหยิง กำลังสับสนจนเหมือนหัวจะระเบิด
แต่สิ่งที่สูญเสียไปแล้วก็คงไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้อีก คงทำได้ดีที่สุดแค่เพียง .. ทำใจ


“มันอยู่ไหน ?”
หนุ่มตาสีฟ้าน้ำทะเลถามมือขวาคนสนิทเสียงเรียบ แววตาคมดุเริ่มคุกรุ่น ใบหน้าที่ยิ้มแย้มตอนอยู่ในห้องหรูเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง แต่นั่นยิ่งเพิ่มเสน่ห์มากขึ้นไปอีกเท่าตัว
“ห้องใต้ดินครับนายท่าน”
รองเอ่ยตอบ หลังจากที่ยืนรอเจ้านายอยู่หน้าห้องพักส่วนตัวมาได้สักพัก เดินนำเพื่อไปกดเปิดประตูลิฟต์ให้
“ส่วนเรื่องมือซ้ายที่นายให้ผมหา รับประกันความเด็ดครับนาย”
รองหันมาก้มศีรษะให้เล็กน้อยเมื่อประตูลิฟต์เปิด คลาสเตอร์ก้าวเท้าเข้าไปอย่างไม่รีบร้อน รองเดินตามเข้าไปกดปุ่มชั้นใต้ดิน
อีกหนึ่งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของมาเฟียหนุ่ม ก็คือการเปิดขายคอนโดหรูในย่านดังต่างๆ และที่นี่คือคอนโดหนึ่งในธุรกิจของเขา ซึ่งใช้ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่พักส่วนตัว และสร้างชั้นใต้ดินขึ้น มันมีไว้สำหรับกำจัดพวกเศษสวะทิ้งยังไงล่ะ
“เอ่อ นายครับ แล้วเรื่องเด็กที่นายพามา เห็นว่าโรงเรียนเขาปิดเทอมแล้ว เมื่อวานเป็นวันสอบวันสุดท้ายพอดีเลยครับ”
รองยืนอยู่ด้านหลังเจ้านาย บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังถึงเรื่องที่ได้รับคำสั่งให้ไปสืบหาข้อมูล
“ขอบใจ”
เสียงทุ้มเอ่ยตอบนิ่งๆ พลางคิดถึงใบหน้าหวานของเด็กน้อยที่อยู่ในห้อง คิดแล้วอยากจะกดลิฟต์ให้กลับขึ้นไปชั้นบนเดี๋ยวนี้ซะเลย เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ายอมรับว่าควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ ทั้งๆ ที่ก็เคยผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่ละคนก็สวยไร้ที่ติและลีลาเด็ดทั้งนั้น แต่ทุกครั้งที่เริ่มร่ายบทเพลงรักกับพวกหล่อน เขามักจะคุมเกมส์และตัวเองได้เสมอ ไม่เคยแม้แต่จะก้มหัวเพื่อทำให้ใคร ผู้หญิงพวกนั้นต่างหากที่ต้องให้ความสุขแก่เขา ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ชอบอะไรที่มันซ้ำซากจำเจ ผู้หญิงที่จะเข้าหาเขาได้ ต้องยอมรับกฎและข้อตกลงของเขาทุกคน นั่นคือครั้งเดียวจบ ไม่มีภาระผูกพัน
แต่หนุ่มน้อยที่อยู่บนห้องส่วนตัวของเขา คือคนแรกที่ทำให้เขาคลั่งขนาดนี้ รู้สึกอยากครอบครอง อยากจะขย้ำกินไปเรื่อยๆ อย่างไม่คิดเบื่อหน่าย
ประตูลิฟต์เปิดออก มาเฟียหนุ่มก้าวออกมาด้วยมาดสุขุม ลูกน้องที่มายืนเฝ้าประตูลิฟต์เพื่อกันคนนอกไว้ทั้งสี่คนยืนหลังตรงพร้อมกับก้มศีรษะแสดงความเคารพต่อเจ้านาย รองเดินตามหลังมาติดๆ รีบปรี่ไปเปิดประตูห้องลับ ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของชายคนหนึ่งที่กำลังโดนซ้อมโดยชายฉกรรจ์สามคน แต่เมื่อเห็นว่านายใหญ่กำลังก้าวเดินเข้ามาในห้อง ทั้งสามก็หยุดการกระทำทันที พร้อมกับก้าวถอยไปยืนด้านหลังด้วยท่าทางนอบน้อม
สันต์ ปรือตาขึ้นมองอดีตเจ้านายด้วยสายตาหวาดกลัว คลาสเตอร์เด็ดขาดและเหี้ยมโหดแค่ไหน ทำไมอดีตมือซ้ายอย่างเขาจะไม่รู้ล่ะ ดวงตาสีฟ้าเย็นเฉียบจนน่าขนลุก ร่างของสันต์เกร็งขึ้นเมื่อร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้ๆ
“หึ สภาพดูไม่ได้เลยน่ะ ไอ้สันต์”
น้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงไว้ด้วยความน่ากลัว ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับฉี่ราด คลาสเตอร์ก้าวถอยหลังนิดหน่อยอย่างรังเกียจเมื่อเห็นว่ามีน้ำไหลออกจากกางเกงคนตรงหน้า
“แกนี่มันโสโครกจริงๆ”
คลาสเตอร์ส่ายศีรษะเล็กน้อย พลางออกคำสั่ง
“จับมันนั่งบนเก้าอี้”
เหมือนเป็นประกาศิต ชายฉกรรจ์หนึ่งในสามเดินลากเก้าอี้เข้ามาดุ่มๆ ก่อนจะจับตัวสันต์มัดไว้บนนั้น
“ยะ อย่าทำอะไรผมเลยครับนาย”
สันต์วิงวอนด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง มีเลือดเลอะไปทั่วใบหน้า เนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
“ไหนบอกสิ ไอ้ภพมันให้แกมาสืบอะไร ?”
เจ้ารองเดินไปหยิบมีดเล่มยาวมาส่งให้แก่เจ้านายอย่างรู้งาน และยิ่งเพิ่มความกลัวให้กับสันต์ได้เป็นอย่างดี ถึงอย่างนั้น มันก็ยังคงปิดปากเงียบไม่พูดไม่จาราวกับท้าทาย
“บอกไป นายก็ฆ่าผมอยู่ดี”
แต่สันต์หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วมาเฟียหนุ่มไม่ได้อยากรู้เรื่องที่ถามสักนิดเลย สิ่งที่ต้องการคือทรมานคนที่กล้ามารูปเหลี่ยมเขาต่างหาก ร่างสูงเดินวนไปมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่แววตาคมกล้าดุจดั่งสัตว์ร้าย
“ใครบอกว่าฉันจะฆ่าแก”
เหมือนมีประกายแห่งความหวังจุดขึ้นบนดวงตาของสันต์ เพราะรู้ดีว่าคลาสเตอร์ไม่เคยโกหก มาเฟียหนุ่มเป็นคนรักษาสัจจะและพูดคำไหนคือคำนั้น แต่ก็ดีใจอยู่ได้ไม่นาน เพราะประโยคถัดมาทำให้ต้องอ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้าง
“เก็บไว้ทรมาน น่าจะสนุกกว่า เริ่มด้วยอะไรดี หึหึ”
แววตาคู่คมเหี้ยมเกรียมขึ้นอย่างเปิดเผยราวกับนักล่าที่เตรียมพร้อมแล้ว
“ฉันจะส่งชิ้นส่วนของแกคืนไปให้ไอ้ภพก็แล้วกัน”
ร่างสูงก้าวเข้าหาคนที่กำลังนั่งอยู่ สันต์เลิ่กลั่กด้วยความหวาดกลัวสุดขีด เจ้ารองและชายฉกรรจ์ทั้งสามเดินเข้ามาจับตัวสันต์ไว้แน่น คลาสเตอร์ดึงแขนสันต์ขึ้นมา ก่อนจะใช้มีดคมกริบตัดนิ้วหัวแม่มือของคนทรยศทิ้งอย่างไม่ลังเล
“อ๊ากกกก !!”
   เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้อง หากแต่บนใบหน้าหล่อเหลากลับไม่คิดจะแยแส มีเพียงความเรียบนิ่ง เฉยชา และเย็นยะเยือกเท่านั้น
   เพราะนี่แหละ คือเส้นทางชีวิต .. ทางของ .. “มาเฟีย”

He’s dangerous MAFIA


หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 3 (29/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 29-07-2021 20:38:19
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 3 (29/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 29-07-2021 22:41:41
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 3 (29/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 29-07-2021 23:02:06
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 3 (29/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 29-07-2021 23:05:41
ชอบแนวนี้
หัวข้อ: Re: มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 4 (31/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 31-07-2021 16:43:34
4

หลังจากทานข้าวต้มกุ้งกับขนมเค้กหมดรวมทั้งยาอีกสี่เม็ด คนตัวเล็กก็ล้างจานและคว่ำไว้บนชั้นข้างๆ เคาท์เตอร์ในห้องครัว เดินเข้าไปอาบน้ำชำระล้างเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยร่องรอยจากบทรักที่เพิ่งผ่านพ้นไป ก่อนจะกลับออกมานั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยความเบื่อหน่าย ก้มมองเสื้อยืดตัวโคร่งที่ตนเองสวมใส่ในตอนนี้ จะให้ใส่แบบนี้ทั้งวันเลยหรือไงนะ
ชายหนุ่มหายออกไปจากห้องนานแล้ว แต่ก็ทำให้นึกโล่งใจที่เขาไม่อยู่ คิดไว้แล้วว่าจะยอมอยู่ที่นี่กับเขาแต่โดยดีเพื่อแลกกับการที่เขาต้องไม่ทำอันตรายพ่อกับแม่ แค่สองเดือนเองต้องทนให้ได้สิ
เสียงประตูเปิดขึ้นอย่างแรงจนคนตัวเล็กสะดุ้งตกใจ ร่างสูงเดินดุ่มๆ ตรงเข้ามาหา ดวงตากลมโตมองอย่างหวาดระแวงเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่ง แขนแข็งแรงคว้าหมับเข้าที่ตัวหนุ่มน้อยแล้วดึงเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว
“อือ คิดถึง”
เสียงแผ่วเบาพูดพึมพำ โอบกอดคิมห์ตะวันไว้หลวมๆ อยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นนอนหนุนตักหันหน้าเข้าหาหน้าท้องเรียบเนียน มือหนากอดเอวบางเอาไว้ คนตัวเล็กนั่งนิ่งไม่ได้ขัดขืนด้วยความมึนงง ไม่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นอะไรกันแน่ บนใบหน้าคมเข้มหลับตาพริ้มพราวจนดูน่ารัก มุมปากอมยิ้มบางๆ ด้วยท่าทางมีความสุข
“คุณ คุณ”
เสียงใสเอ่ยเรียก อยากจะพูดเรื่องที่คิดเอาไว้เพื่อตกลงกับเขา
“ฉันชื่อคลาสเตอร์”
ชายหนุ่มพูดบอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวาน คนตัวเล็กแก้มแดงด้วยความร้อนผะผ่าว ทำไมคนตรงหน้าถึงได้หล่อขนาดนี้นะ ยิ่งเวลามองใกล้ๆ ใจดวงน้อยก็ยิ่งหวั่นไหว ทั้งดวงตาคู่คมสีฟ้า จมูกที่โด่งเป็นสันจนดูน่าอิจฉาและริมฝีปากบางหยักได้รูปสีแดงอ่อน ทั้งหมดรวมกันจนกลายเป็นเขา
ทำไมผมถึงไม่หล่อแบบนี้บ้างนะ
คนอะไรก็ไม่รู้ หล่อราวกับ .. ไม่ใช่คน
“คุณคลาสเตอร์ลุกขึ้นก่อนเถอะครับ”
คิมห์ตะวันอึกอัก ไม่กล้ามองสบดวงตาคมกล้าเพราะช่างมีอิทธิพลต่อหัวใจเหลือเกินดั่งมีเวทมนต์
“เรียกว่าพี่คลาสสิ”
มาเฟียหนุ่มไม่ยอมลุก แต่หลับตาลงกอดเอวบางไว้จนแน่นด้วยท่าทางออดอ้อนราวกับเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ ผิดกับบรรยากาศเมื่อครู่ใหญ่ๆ อย่างลิบลับ
“พี่คลาสครับ ลุกขึ้นก่อนเถอะนะครับ ตะวันมีเรื่องจะคุยด้วย”
หนุ่มน้อยยอมเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้แทนเขาและตัวเอง เพราะอยากให้เขาลุกขึ้นมาคุยเรื่องสำคัญกันก่อน
“อือ พูดมาสิ พี่ฟังอยู่”
คลาสเตอร์ยังคงเอาแต่ใจตัวเอง หน้าหล่อเหลามุดเข้าหาหน้าท้องแบนเรียบอย่างหลงใหล แขนแข็งแรงกอดเอวคอดไว้ไม่ยอมปล่อย หลงกลิ่มหอมๆ คลั่งไคล้ผิวเนียนละเอียดและชื่นชอบตัวเล็กๆ นี้อย่างห้ามใจไม่อยู่
“ตะวันจะอยู่ที่นี่กับพี่คลาส”
เสียงใสพูดจบประโยค ร่างสูงก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรนอกจากยื่นหน้าเข้าไปหาใบหน้าหวานเพื่อต้องการกลืนกินริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ
“ยังไม่จบนะครับ”
มือเนียนดันหน้าหล่อเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้
“พี่คลาสต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ทำอะไรพ่อกับแม่ของตะวัน แล้วก็เรื่องหนี้”
ประโยคหลัง หนุ่มน้อยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนเกือบไม่ได้ยิน แทบจะไร้หนทางจริงๆ ที่จะหาเงินตั้งหนึ่งล้านบาทมาคืนได้ภายในเวลาเพียงสองเดือน จะหาได้จากที่ไหนกันล่ะ ใบหน้าใสเศร้าสลด น้ำตาคลอขึ้นอย่างน่าสงสารจนคลาสเตอร์ตกใจ มือหนาเชยคางมนขึ้นอย่างนุ่มนวล
“ร้องไห้ทำไมครับ หืม”
ดวงตากลมโตมองหน้าหล่อเหลาอย่างพินิจพิเคราะห์ น้ำตาหยดแหมะลงบนมือหนา
“ไม่ร้องนะครับ พี่ยกหนี้ให้ ไม่ต้องใช้คืนหรอก ตะวันอยากได้อะไร พี่จะซื้อให้หมดเลย ขอแค่เราเป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่ก็พอ”
มาเฟียหนุ่มพูดพลางดึงตัวเล็กๆ เข้ามากอดไว้ มือหนาลูบศีรษะกลมมนเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องยกหนี้ให้ก็ได้ ตะวันแค่ขอเวลาหาเงินสักพัก”
ในที่สุดคิมห์ตะวันก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาจเก็บกลั้น นึกสงสารพ่อกับแม่ที่ป่านนี้คงทำงานหนักจนหัวหมุนและสงสารตัวเองที่ต้องมาขายตัว เพื่อแลกกับอิสรภาพและความปลอดภัยของครอบครัว หวังให้ชายหนุ่มเห็นใจกันบ้างเท่านั้นก็พอ
“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องคืน และในระหว่างที่ตะวันอยู่ที่นี่ ครอบครัวตะวันก็จะสุขสบายไปด้วย”
คลาสเตอร์พูดเสียงนุ่มอย่างที่ไม่เคยพูดกับใครมาก่อน ดวงตากลมโตมองหน้าหล่อเหลาอย่างสงสัยในสิ่งที่ได้ยิน
“จะสุขสบายได้ยังไง ป่านนี้พ่อกับแม่คงทำงานหนักเพื่อหาเงินมาไถ่ตัวตะวัน”
ตะวันเถียงอย่างไม่อยากจะเชื่อ จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงกัน
“อย่าขึ้นเสียงใส่พี่”
น้ำเสียงเรียบนิ่งประกอบกับใบหน้าคร้ามคมที่เฉยชา ทำให้คนตัวเล็กใจแกว่งด้วยความหวาดกลัว ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งก้มหน้างุดๆ อย่างน่าสงสาร
คลาสเตอร์ไม่ชอบให้ใครมาเหนือกว่า แต่พอเห็นใบหน้าหวานที่โศกสลดจนดูเศร้าสร้อยก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ และดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดอีกครั้ง
“พี่ส่งคนไปดูแลครอบครัวตะวันแล้ว ไม่ต้องห่วง พวกเขาจะได้อยู่ดีกินดีไม่ต่างจากตะวันหรอก”
คิมห์ตะวันมองคนตัวโตอย่างแปลกใจเพราะไม่มีเหตุผลอะไรเลยสักนิดที่เขาจะต้องทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรอีกเพราะไม่อยากทำให้เขาอารมณ์เสีย
“ขอบคุณครับ”
“งอนพี่เหรอ”
คลาสเตอร์อมยิ้มที่มุมปากกับน้ำเสียงที่ดูเหมือนน้อยใจของคนตัวเล็ก ช่างดูน่ารักเสียจริงๆ
“เปล่าครับ”
“ปากแข็งจริง”
มาเฟียหนุ่มเชยปลายคางมนขึ้น ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากสีชมพูระเรื่ออย่างแผ่วเบา เป็นจูบที่แสนอ่อนโยนเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ลิ้นหนาไล้เลียไปทั่วริมฝีปากเล็กอย่างสนุกสนานก่อนจะสอดเข้าไปในโพรงปาก
เนิ่นนานที่ทั้งสองต่างมอบความหวานให้แก่กันจนชายหนุ่มทนไม่ไหวอีกต่อไป จัดการถอดเสื้อตัวเองออกพร้อมกับทาบทับร่างเพรียวเอาไว้ด้วยร่างกายกำยำ ดึงเสื้อยืดตัวโคร่งออกจากร่างเล็กจนถลกขึ้นถึงกลางลำตัว มองเห็นผิวขาวผุดผ่องเบื้องหน้าทีไรก็อยากจะมุดหน้าเข้าหามันซะทุกครั้ง
“อะ พี่คลาส”
เสียงร้องออกมาด้วยความตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อใบหน้าหล่อเหลาฝังลงบนเนินอกอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นซุกซนตวัดเม็ดเกสรไปมาอย่างชำนาญ ลากลิ้นสลับกับดูดเม้มทั้งสองข้างเพื่อไม่ให้น้อยหน้ากัน
“หวาน”
เสียงทุ้มแหบพร่า ยิ่งทำให้อารมณ์ของหนุ่มน้อยเตลิดออกไปไกลกว่าเดิมไกลเกินกว่าที่จะกลับมาควบคุมได้อีก มือบางกดศีรษะของชายหนุ่มเอาไว้แน่น ดวงตาปรือหวาน กายเนียนแดงปลั่งเพราะเลือดที่กำลังสูบฉีดไปทั่วร่างกาย
ร่างเพรียวบิดเร่าสั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่าน ความรู้สึกปั่นป่วนเกิดขึ้นในช่องท้องเมื่อลิ้นหนาลากไล้ลงมาถึงหน้าท้องเรียบเนียนจนต้องแขม่วเกร็งไว้ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกและดิ้นไปมาอย่างแรงทันทีที่ลิ้นร้ายกาจดูดกลืนช่องทางรักสีหวาน มือหนาจับยึดสะโพกผายเอาไว้แน่นพร้อมกับตวัดลิ้นรัวขึ้นอีกซ้ำๆ ย้ำๆ ตามด้วยนิ้วเรียวที่ดันเข้าออกเรื่อยๆ
“มะ ไม่ไหวแล้ว พี่คลาส อ๊า”
คิมห์ตะวันร้องครวญครางเมื่อความเสียวแตกออกกระจายไปทั่วร่างกาย เกร็งหน้าท้องไว้แน่นนานเกือบนาทีก่อนจะหลงเหลือไว้เพียงความสุขที่หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว ร่างกายอ่อนระทวยอย่างหมดแรง ดวงตาหวานปรือฉ่ำ น้ำรักที่ทะลักออกมาชายหนุ่มจัดการดูดกลืนกินจนหยดสุดท้าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหนุ่มน้อยที่กำลังมองตอบอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
“พี่คลาสทำดีมั๊ยครับ”
ใบหน้าใสแดงก่ำเมื่อได้ยินคำถาม ร่างสูงเลื่อนตัวขึ้นทาบทับร่างเพรียวไว้พร้อมกับมอบจูบหวานให้ปากเนียนอย่างหลงใหล หนุ่มน้อยไม่ตอบหากแต่ปากขยับเคลื่อนไหวไปกับจูบที่ได้รับอย่างพยายามจะเรียนรู้ ดูดดุนลิ้นร้อนอย่างเงอะงะแต่กลับทำให้มาเฟียหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากเริ่มร่ายเพลงรักอีกครั้ง ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความทะนุถนอมจนคิมห์ตะวันแทบจะกลายเป็นเทวดาตัวน้อยๆ ที่ซาตานอย่างเขาพร้อมจะดูแลและปกป้องตลอดไป
ทั้งคู่สุขสมกันทั้งเย็นจนพระอาทิตย์ตกดิน แขนแข็งแรงกอดร่างเพรียวเอาไว้แน่นในยามราตรี ใจอยากจะสอนบทรักบทต่อไป แต่เพราะคนตัวเล็กดันสลบไปซะก่อนทำให้ต้องพยายามยั้งใจไว้ 
คิมห์ตะวันกำลังทำลายกำแพงหัวใจของคลาสเตอร์ทีละนิด โดยที่มาเฟียหนุ่มเองก็แทบไม่รู้ตัว
จะเป็นไปได้หรือที่หนุ่มน้อยธรรมดาๆ จะสามารถเอาชนะมาเฟียหนุ่มผู้ร้ายกาจไปได้
ใครล่ะ .. จะรู้

He’s dangerous MAFIA

หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 4 (31/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 31-07-2021 17:17:12
 :oo1: :jul1:
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 4 (31/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 31-07-2021 22:54:23
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 4 (31/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 01-08-2021 00:01:25
 :hao6:
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 4 (31/07/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 01-08-2021 00:31:05
ละลาย ละลาย ถึงเย็น
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 5 (02/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 02-08-2021 18:07:13
5

   หลายวันแล้วที่ถูกจับตัวมาและต้องมาอาศัยอยู่ร่วมกันที่นี่ ซึ่งชายหนุ่มก็ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี จนถึงขั้นดีมากด้วยซ้ำถึงแม้จะไม่ยอมให้ออกไปไหนเลยก็เถอะ วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเหมือนเช่นเคยเพราะคลาสเตอร์บอกว่ากฎในการอยู่ที่นี่คือผมจะต้องตื่นมาทำอาหารให้เขาทานในตอนเช้า เตรียมอาหารไว้รอในตอนเย็นของทุกวัน รวมทั้งเรื่องบนเตียงที่ต้องยอมตามใจเขาไปเสียทุกครั้ง
   กระดาษใบเล็กถูกวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง มีโทรศัพท์สีขาวเครื่องหรูวางทับเอาไว้ ไม่เห็นว่ามีใครอยู่ในห้องนี้แล้ว สงสัยว่าคนตัวโตคงจะออกไปข้างนอกในเวลาเช้ากว่าปกติ
   ‘วันนี้พี่มีประชุมแต่เช้า ตื่นแล้วโทรมาด้วยนะครับ’
   มือเนียนวางกระดาษเก็บไว้ที่เดิม ลุกเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สะอาดและเพลิดเพลินไปกับอ่างอาบน้ำอุ่น พลางหวนคิดถึงใบหน้าหล่อเหลา ในความคิดคลาสเตอร์เหมือนเสือร้ายที่หิวกระหายอยู่ทุกเวลา ดูน่ากลัวแต่ก็มีเสน่ห์ ดวงตาคู่คมแข็งกร้าวแต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นเช่นกัน ความร้ายสุดขั้วและดีสุดขีด บางครั้งก็รู้สึกถึงความอันตรายบางคราวก็รับรู้ถึงความปลอดภัย
   ยากนักที่จะคาดเดาได้ ทำให้หัวใจดวงน้อยสับสนเหลือเกิน

นาฬิกาบนฝาผนังบอกเวลาบ่ายสามโมงกว่าแล้ว คลาสเตอร์ร้อนรุ่มกลุ้มใจอย่างบอกไม่ถูกก็คนตัวเล็กยังไม่ยอมโทรมาหาสักทีน่ะสิ ใจอยากจะกลับคอนโดซะเดี๋ยวนี้แต่ดันติดประชุมสำคัญจนถึงตอนเย็น งานล้นมือจนเคลียร์แทบไม่ทัน พอจะกดโทรหาเสียเองก็ดันมีธุระต้องคุยงานกับลูกค้าแบบเร่งด่วนอีก
มาเฟียหนุ่มยอมรับอย่างไม่อายเลยว่ากำลังติดคิมห์ตะวันอย่างโงหัวไม่ขึ้น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจนชายหนุ่มสะดุ้ง รีบคว้าขึ้นมากดรับอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันมองเบอร์ที่โทรเข้ามาด้วยซ้ำ
“ฮัลโหล ตะวัน”
เสียงทุ้มชะงักลง พร้อมกับหน้าที่บูดบึ้ง
“ตะวันไหนวะ ฉันลุกซ์”
น้ำเสียงนุ่มลึกของปลายสายตอบกลับมาอย่างสงสัย
“เออ ไม่มีไร ว่าไงวะ”
“หืม ว่าไงอะไรของแก วันนี้แกกับฉันต้องไปรับของ ลืมแล้วหรือไง”
ลุกซ์ค่อนข้างแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่มีความรับผิดชอบสูงและไม่เคยลืมงานอย่างคลาสเตอร์จะจำไม่ได้
“พวกมันเปลี่ยนวันนัด ตำรวจกำลังตามกลิ่นพวกมันอยู่ ฉันโทรมาบอกแค่นี้แหละ”
ลุกซ์ไม่รอให้เพื่อนรักพูดอะไรต่อก็กดตัดสายทิ้งทันที เขาเป็นแบบนี้แหละ พูดน้อย เงียบขรึมและอันตรายไม่ต่างจากคลาสเตอร์นักหรอก
“นึกจะวางก็วางเลยนะ ไอ้เพื่อนเวร”
คลาสเตอร์สบถออกมาอย่างเหลืออด ร่างสูงยืดตัวขึ้น ขายาวก้าวเดินออกนอกห้องทำงานส่วนตัวไป ต้องไปคุยงานกับลูกค้าต่ออีกสองสามราย แม้จะคิดถึงคนตัวเล็กแค่ไหนก็ต้องอดทน กลับไปเมื่อไรจะลงโทษให้เข็ดเลยที่กล้าขัดคำสั่งและปล่อยให้เขาต้องรออย่างกระวนกระวายใจจนใกล้จะบ้าอยู่แบบนี้
คอยดูนะ คืนนี้จะไม่ยอมให้ได้นอนเล้ย


คิมห์ตะวันนั่งดูโทรทัศน์อย่างหดหู่เศร้าหมอง ความจริงชายหนุ่มโทรมาหาหลายรอบแล้วแต่เลือกที่จะไม่รับเพราะอยากจะแกล้งเขา แต่กลับกลายเป็นว่ารู้สึกเหงาซะเอง ไม่มีอะไรให้ทำอีกเลยนอกจากจัดห้องที่รกตามประสาผู้ชายให้สะอาดเรียบร้อย ทำเสร็จก็กลับมานั่งดูโทรทัศน์เหมือนเดิม
หรือจะโทรหาเขาดีนะ แล้วจะโทรไปทำไมล่ะ ก็เขาให้เราโทรนี่
โอ๊ย .. คิดแล้วก็เริ่มปวดหัว
นั่งสับสนกับความคิดของตัวเองอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะตัดสินใจโทรไปหาคนตัวโต ทุกๆ ครั้งที่สัญญาณโทรศัพท์แจ้งเตือนทำเอาตื่นเต้นจนแทบเป็นบ้า หัวใจเหมือนจะหลุดออกมาจากอกราวกับกำลังจะไปสารภาพรักกับใครสักคนแหนะ
ทำไมไม่รับล่ะเนี่ย
“ฮัลโหล”
น้ำเสียงทุ้มที่ฟังดูเหมือนเบื่อหน่ายพูดขึ้น ชายหนุ่มกดรับโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้ดูเบอร์อีกตามเคย เพราะไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะยอมโทรมาหา
ตะวันนั่งนิ่งเงียบอย่างพูดไม่ออก ทำเสียงแบบนี้แล้วใครจะไปกล้าพูดอะไรล่ะ
“ฮัลโหล”
เสียงจากปลายสายเริ่มกดต่ำจนดูน่ากลัว ใครมันโทรมาวะโทรแล้วก็ไม่พูด ไม่รู้หรือไงว่าเขากำลังคุยงานกับลูกค้า ถ้าเป็นลูกน้องหรือว่าใครที่ไม่ได้มีธุระสำคัญล่ะก็จะกระทืบให้จมดินเลย คิดพร้อมกับดูเบอร์โทรศัพท์ที่หน้าจอ ตาคู่คมเบิกกว้างทันที
“เดี๋ยวผมมา”
คลาสเตอร์หันไปพูดกับลูกค้า พร้อมกับลุกเดินพรวดพราดหายเข้าไปในห้องพักส่วนตัวที่อยู่ภายในห้องทำงาน
“ทำไมพี่โทรไปถึงไม่รับครับ”
น้ำเสียงออดอ้อนที่ส่งมาทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างไม่มีเหตุผล
“ตะวันเพิ่งตื่น”
คำโกหกคำโตถูกตอบกลับไป
“หืม เหรอครับ”
ชายหนุ่มถามกลับอย่างไม่ค่อยเชื่อ
“พี่คลาสให้ตะวันโทรหามีอะไรหรือเปล่า”
คำพูดเหมือนจำใจโทรเพื่อทำตามคำสั่ง ทำให้คนตัวโตเริ่มหงุดหงิดและงอแงเหมือนเด็กอย่างไม่รู้ตัว
“ตะวันไม่อยากคุยกับพี่เหรอครับ”
ถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจปนอ้อนนิดๆ
“เปล่าครับ ถ้าพี่คลาสไม่มีอะไรงั้นตะวันวางสายนะครับ ตะวันเตรียมอาหารเย็นให้พี่อยู่”
แก้มใสแดงปลั่งหลังจากพูดจบ คลาสเตอร์เองก็ยิ้มแก้มแทบปริเช่นกันอย่างมีความสุข
“ครับ งั้นเดี๋ยวกลับไปคุยกันที่ห้องก็ได้”
“ครับ แค่นี้นะครับ”
“อื้อ คิดถึงนะครับ”
คลาสเตอร์โปรยคำหวานใส่ รู้ดีว่าคนตัวเล็กคงจะเขินอายน่าดู นี่ถ้าลูกน้องมาได้ยินคงเสียมาดมาเฟียที่น่าเกรงขรามเป็นแน่
“บ้า”
เสียงใสพูดแค่นั้นก่อนจะรีบกดตัดสายทันทีอย่างทำตัวไม่ถูก หลังคนตัวเล็กวางไปแล้วใบหน้าหล่อเหลาก็แย้มยิ้มกว้างอย่างเปิดเผยหลังจากที่ทำหน้าบึ้งตึงมาทั้งวัน และกลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อพูดคุยกับลูกค้าต่ออย่างอารมณ์ดี



ร่างเพรียวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เมื่อแขนแข็งแรงสวมกอดที่เอวบางอย่างไม่ทันตั้งตัว แผงอกกว้างที่แนบสนิทกับแผ่นหลังขาวเนียนทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ หน้าหล่อซุกเข้าหาซอกคอระหงก่อนจะกดจูบเบาๆ
“พี่คลาส มาแบบนี้ตะวันตกใจหมด”
“อืม หอมจัง”
เสียงทุ้มพึมพำอย่างหลงใหล และไม่หยุดเพียงแค่นั้น ลิ้นอุ่นไล้เลียไปทั่วใบหูขาวจนตะวันสั่นสะท้าน
“อยากกิน”
ประโยคที่แสนกำกวม พร้อมกับมือหนาซุกซนเข้าไปในเสื้อเชิ้ตและปัดป่ายไปทั่วยอดอกเล็ก
“ยะ อย่า ตะวันทำกับข้าวอยู่”
“ตะวันครับ พี่ไม่ไหวแล้ว”
หน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเว้าวอน ทั้งๆ ที่คนแบบเขาหากจะบังคับขืนใจหรือทำอย่างไรกับคนตัวเล็กก็ได้ แต่เขากลับไม่คิดจะทำแบบนั้นเพราะเขารู้สึกดีกับคนๆ นี้มากเกินกว่าจะกล้าหักหาญน้ำใจ เหมือนความรู้สึกที่บริสุทธิ์อยากจะทะนุถนอมให้มากที่สุด
หน้าหวานร้อนผะผ่าวเมื่อได้ยินถ้อยคำวอนขอ ใจดวงน้อยสับสนไปหมดอย่างทำตัวไม่ถูก
“ตะวันจ๋าใส่ชุดนี้น่ารักจัง”
เสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ๆ ใบหูขาว ลมหายใจร้อนที่เป่ารินรดลำคออยู่ช่างรัญจวนหัวใจคนตัวเล็กเหลือเกินจนแทบจะล้มทั้งยืน ดวงตาคู่คมมองร่างเพรียวในอ้อมกอดที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายการ์ตูนและกางเกงขาสั้นสีขาว ชุดที่เขาเป็นคนเลือกและซื้อให้ทำให้คิมห์ตะวันดูน่ารักสมวัยสดใส และตอนนี้ก็น่าหลงใหลจนอยากจะลิ้มลองเป็นที่สุด
“อย่าครับ พี่คลาส”
หนุ่มน้อยพยายามห้ามปราม เมื่อมือหนาลูบไล้ไปทั่วต้นขาเนียนจนขนลุกซู่ ปากร้อนขบใบหูขาวเบาๆ ราวกับหยอกล้อ ก่อนจะระดมจูบไปทั่วแก้มใส ลากยาวมาถึงลำคอและหัวไหล่มน จับตะขอกางเกงและปลดออกอย่างรวดเร็ว เพียงครู่กางเกงตัวสวยก็หล่นลงไปกองอยู่กับข้อเท้าเรียวราวกับเสกได้
มาเฟียหนุ่มบีบคลึงสะโพกผายและก้นกลมกลึงอย่างยั่วเย้า ปากนุ่มโลมเล้าไปทั่วลำคอขาวเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาอย่างไม่รีบร้อน ต้องการให้คนตัวเล็กพร้อมและยินยอมอย่างเต็มใจเสียก่อน มือซุกซนรูดอันเดอร์แวร์ออกจากร่างน้อย ก่อนจะล้วงเข้าหาช่องทางรักสีหวานทันที นิ้วเรียวยาวกรีดกรายไปตามร่องหลืบอย่างใจเย็น
“อ่า พะ พี่คลาส”
เสียงเรียกชื่ออย่างขาดช่วง ยิ่งทำให้คนตัวโตได้ใจ
“จ๋า”
ชายหนุ่มตอบรับด้วยเสียงที่หวานไม่แพ้กัน นิ้วยาวล่วงล้ำเข้าไปในถ้ำกุหลาบอย่างหยอกล้อ ความนุ่มนิ่มและแน่นกระชับตอดรัดนิ้วเรียวอย่างน่ารัก จากหนึ่งนิ้วกลายเป็นสองนิ้ว ทุกๆ ครั้งที่นิ้วเรียวชักออกมาจนสุดแล้วดันเข้าไปใหม่ หนุ่มน้อยจะร้องครางออกมาแทบไม่เป็นภาษา ทำให้ท่อนลำแข็งแกร่งตื่นตัวจนจนรู้สึกปวดหนึบๆ
มือหนาจับร่างเพรียวให้ออกห่างจากหน้าเตาทำอาหารและให้มายืนตรงเคาน์เตอร์แทน ดันแผ่นหลังเนียนให้โน้มไปข้างหน้าพร้อมกับที่ร่างสูงย่อตัวลง หน้าหล่อเหลามุดเข้าหากลีบกุหลาบอย่างหลงใหล ไล่ดูดเลียกลืนกินน้ำรักที่เอ่อล้นอย่างหื่นกระหาย ลิ้นร้อนไล้ตวัดไปทั่ว
“ตะวันจ๋า อ้าขาให้พี่หน่อย”
เสียงแหบพร่าแสนเซ็กซี่พูดขึ้น คนตัวเล็กทำตามสิ่งที่ได้ยินอย่างไม่รู้สึกตัวราวกับโดนมนต์สะกด นิ้วเรียวทั้งสองยังคงทำงานอยู่พร้อมกับลิ้นหนาที่ตวัดเข้าหาช่องทางสีหวานซ้ำๆ ย้ำๆ
ร่างเพรียวแอ่นอกเงยหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่าน รู้สึกเสียววาบที่ท้องน้อยจนต้องเกร็งหน้าท้องไว้แน่น เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามไรผม ทั้งๆ ที่อากาศภายในห้องแสนจะเย็นสบาย
ร่างสูงยังคงดูดชิมน้ำหวานอย่างเอร็ดอร่อย ยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ อย่างพึงพอใจที่เห็นอาการของคนตรงหน้า ก่อนจะกดใบหน้าหล่อเหลาเข้าหาสวนกุหลาบอีกครั้ง ใช้ลิ้นตวัดเลียยอดเกสรรัวๆ และเร่งจังหวะนิ้วเรียวทั้งสองให้เร็วขึ้น
เสียงหวานครางอย่างสุขสมหน้าท้องเกร็งแน่นพร้อมกับความนุ่มนิ่มที่ตอดรัดนิ้วเรียวมากขึ้น หน้าใสเหยเกด้วยความเสียวสุดใจ
“อ๊า พี่คลาส”
คิมห์ตะวันกรีดร้องออกมาเมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป น้ำรักไหลออกมาเต็มง่ามขา ดวงตาคู่สวยปรือหวานอย่างน่ารัก ท้องที่เกร็งเมื่อครู่เริ่มคลายลง ความเสียวซ่านค่อยๆ จางไปพร้อมกับที่ร่างกระตุกเป็นพักๆ ฟุบหน้าแนบลงไปบนเคาน์เตอร์อย่างหมดแรง
ร่างสูงยืดตัวขึ้นหลังจากที่ทำความสะอาดสวนกุหลาบแล้ว ดวงตาคู่คมมองหน้าเนียนละเอียดอย่างหลงใหล มือหนาปลดตะขอเข็มขัดกางเกงยีนส์ของตัวเองและรูดออกให้พ้นกายกำยำพร้อมกับชั้นในสีขาว โดยไม่ทันตั้งตัว ความเป็นชายก็ถูกดันเข้ามาในถ้ำกุหลาบจนสุดอย่างแรง ความจุกเสียดแน่นภายในท้องทำเอาร่างเพรียวบิดตัวไปมา ถึงจะเคยมีอะไรกับเขามาแล้วแต่ก็ยังไม่คุ้นชินกับความใหญ่โตแข็งแกร่งนี้อยู่ดี
“เจ็บเหรอครับ คนดี”
เสียงอ่อนโยนถามไถ่อย่างห่วงใย หนุ่มน้อยไม่ตอบเพียงแต่ส่ายหน้าเบาๆ มือหนาจับคนตัวเล็กให้นั่งบนเคาน์เตอร์ และเริ่มขยับสะโพกอย่างเนิบช้าก่อนจะค่อยๆ แรงขึ้น
“อ่า”
เสียงทุ้มครางออกมาเมื่อความแน่นภายในบีบรัดท่อนลำไว้อย่างแรง ความรู้สึกปวดหนึบทำเอาต้องโหมกระหน่ำกระแทกกระทั้นใส่ร่างเพรียวอย่างบ้าคลั่ง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องแข่งกับเสียงครางเครือของคนทั้งสอง
คนตัวเล็กเริ่มรู้งานขยับสะโพกเด้งรับจังหวะของชายหนุ่ม มือบางกำขยุ้มอยู่ที่เส้นผมนุ่มดกดำ ทุกๆ จังหวะที่ชายหนุ่มเร่งเร้าทำให้หนุ่มน้อยรู้สึกราวกับลืมเลือนทุกสิ่งไปหมด ล่องลอยแผ่วเบา
“เมียจ๋า”
มาเฟียหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกหนุ่มน้อย หน้าหล่อเหลาเหยเกด้วยความเสียวที่ไม่เคยได้พานพบมาก่อน
“เรียกผัวจ๋าสิครับ”
เสียงทุ้มเอ่ยบอก พร้อมกับระดมจูบไปทั่วใบหน้าหวานอย่างยั่วยวน
ริมฝีปากสวยเม้มไว้แน่นสนิท ใครจะไปกล้าเรียกอย่างนั้นกันเล่าน่าอายจะตาย ไม่ใช่เมียคนตัวโตซะหน่อย
“เรียกสิครับคนดี หรืออยากโดนลงโทษ”
ช่วงล่างกระแทกสะโพกเข้าหาร่างบางอย่างไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุดราวกับกำลังลงโทษทัณฑ์เสน่หา เมื่อคนตัวเล็กขัดขืนคำสั่ง
“อือ อ๊ะ ผัว ผัวจ๋า”
คิมห์ตะวันตอบรับเสียงหวานอย่างไม่มีทางเลี่ยง ปากบางถูกประกบปิดไว้ด้วยริมฝีปากนุ่ม ทั้งคู่จูบกันอย่างเร่าร้อนแลกลิ้นกันดุเดือดอย่างไม่มีใครยอมใคร
“อา สุดยอด”
คลาสเตอร์พึมพำอย่างพึงพอใจ ไม่เคยมีความสัมพันธ์สวาทกับใครแล้วรู้สึกอิ่มเอมมีความสุขมากเท่านี้มาก่อน มือหนาแกะกระดุมเสื้อบนร่างน้อยก่อนจะแหวกออกกว้าง เผยให้เห็นยอดอกเล็กสีชมพูน่ากินตรงหน้าจนอดใจไม่ไหวต้องลิ้มเลียอย่างหื่นกระหาย เพราะการบีบรัดอย่างรุนแรงของหนุ่มน้อยที่แสนบริสุทธิ์ ทำให้ชายหนุ่มทนไม่ไหวอีกต่อไปกระแทกกระทั้นเข้าหาอย่างรุนแรงเร็วขึ้น ความเสียวซ่านกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นปลดปล่อยลาวาเข้าไปภายในช่องทางสีหวานโดยไม่คิดป้องกัน
ร่างเพรียวกระตุกอย่างแรงหลายครั้งรู้สึกอุ่นวาบไปทั่วภายในท้อง แขนแข็งแรงยังคงกอดรัดคนตัวเล็กไว้แน่น กดความเป็นชายฝังไว้อยู่แบบนั้นเนิ่นนาน ก้มลงจูบไล้ไปทั่วใบหน้าหวานจนถึงปากบางก่อนจะแลกลิ้นกันอีกครั้งอย่างดูดดื่ม
“ขออีกรอบนะครับ คนดี”
คิมห์ตะวันสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินคำวอนขอราวกับคนขี้อ้อนแบบนั้น แต่ไม่ไหวแล้วจริงๆ
“พอเถอะครับ ตะวันไม่ไหวแล้ว”
คลาสเตอร์โอบอุ้มร่างน้อยขึ้นมา และพาให้มานอนราบลงบนโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ที่กำลังต้องการจะใช้เพื่อทำอย่างอื่นแทนการนั่งกินข้าว ใบหน้าหล่อซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างหยอกล้อ ใครจะปล่อยให้กวางน้อยหลุดมือไปได้ง่ายๆ ล่ะ
“พี่คลาส ไม่หิวข้าวหรือครับ”
“พี่ไม่ได้หิวข้าวนี่ครับ พี่หิวน้องตะวัน”
พูดพร้อมกับปิดปากบางด้วยจูบเร่าร้อน
“ทำไมตัวหอมแบบนี้”
ละออกจากปากชมพูระเรื่อมาที่ซอกคอขาวอีกครั้ง ร่างสูงชะงักค้างเมื่อได้ยินเสียงออดดังขึ้นที่หน้าห้อง
“ใครวะ”
มาเฟียหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย มือหนาดึงร่างเพรียวให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะติดกระดุมเสื้อให้ดั่งเดิม
“พี่คลาส ตะวันใส่เองได้”
ดวงตาคู่สวยมองอย่างตกใจ เมื่อคนตัวโตก้มลงหยิบกางเกงชั้นในขึ้นมาจากพื้นพรมและจะนำมาสวมใส่ให้ มือเนียนดึงกางเกงของตัวเองมาถือไว้ แต่ก็โดนชายหนุ่มแย่งคืนกลับไปอย่างไม่ยอมและจัดการใส่ทั้งชั้นในรวมทั้งกางเกงขาสั้นให้กับคนตัวเล็กจนเสร็จเรียบร้อย
เสียงออดดังขึ้นอีกครั้ง คลาสเตอร์ขโมยหอมแก้มใสฟอดใหญ่ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
“พี่คลาส”
เสียงใสของเด็กหนุ่มตัวเล็กที่หน้าหวานเหมือนตุ๊กตาดังขึ้น ทั้งใบหน้าเรียวสวย ดวงตากลมโตสีฟ้า รับกับปากบางสีชมพูอ่อน ทำให้ผู้มาใหม่ดูน่ารักและน่าหลงใหลไปพร้อมๆ กัน

He’s dangerous MAFIA
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 5 (02/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 02-08-2021 22:10:53
ใครกันนะ
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 5 (02/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-08-2021 22:59:02
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 5 (02/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 03-08-2021 11:19:11
ใครหว่า ..
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 6 (04/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 04-08-2021 20:49:28
6

มาเฟียหนุ่มยืนอึ้งเมื่อเห็นคนตรงหน้า เขารู้จักกับวิลลี่ตั้งแต่ตอนอยู่ที่อเมริกา เพราะเด็กหนุ่มเป็นคนหัวไวในเรื่องการคำนวณจึงได้เข้ามาทำงานในหน่วยงานเดียวกัน คลาสเตอร์เอ็นดูวิลลี่เหมือนน้องชายแท้ๆ เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าวิลลี่มาเมืองไทย แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอแบบกะทันหันอย่างนี้
วิลลี่กระโดดกอดคอ พร้อมกับหอมแก้มชายหนุ่มด้วยความคิดถึง แต่คลาสเตอร์ดันคนตัวเล็กให้ออกห่างเบาๆ
“รู้ที่อยู่พี่ได้ไง”
คลาสเตอร์ถามอย่างสงสัย ก็ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยเขาก็เก็บเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นความลับสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดคนที่รู้ก็มีแค่แม่กับลุกซ์เพื่อนสนิทเท่านั้น
“ไอ้ลุกซ์บอกเหรอ”
วิลลี่หน้าตาเหรอหรา รีบผลักร่างสูงเข้าห้องเมื่อคิดได้ว่าลุกซ์อาจจะมาเห็นเข้า
“อะไรของนายเนี่ย ไอ้แสบ”
คลาสเตอร์โวยวายเมื่อถูกผลักอย่างแรง วิลลี่รีบเดินตามเข้าห้องพร้อมกับปิดประตูลงทันทีด้วยความหวาดระแวง แค่เพียงคิดถึงใบหน้าที่เรียบนิ่งตลอดเวลาของลุกซ์ก็เริ่มขนลุกซู่ มาดขรึมที่ดูน่าเกรงขรามทำให้ใครๆ ต่างพากันหลงใหลและเทใจให้ เขาเป็นนักธุรกิจและมาเฟียที่เท่ห์และดุดันที่สุด เรื่องของเรื่องก็คือวิลลี่แอบสะกดรอยตามลุกซ์ออกมาเมื่อรู้ว่าลุกซ์จะมาหาคลาสเตอร์ เพราะรู้ดีว่าหากถามตรงๆ ลุกซ์คงจะไม่ยอมปริปากบอกเป็นแน่ ก็คนๆ นั้นน่ะชอบทำท่าเหมือนเกลียดขี้หน้ากันจะตาย จนบางครั้งก็รู้สึกเสียความมั่นใจไปเลย ยิ่งไปกว่านั้นวิลลี่ก็แอบชอบลุกซ์มาตั้งนานแล้วตั้งแต่ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานเดียวกัน และลุกซ์ก็คือหน่วยซิลที่มีฝีมือเก่งฉกาจเป็นอันดับสองรองจากคลาสเตอร์นั่นเอง
“หืม หอมซุปไก่จัง ของโปรดผมเลย”
วิลลี่เปลี่ยนเรื่อง รีบวิ่งตรงไปที่ครัว ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นคนๆ หนึ่งกำลังหันหลังทำอาหารอยู่ตรงเคาท์เตอร์ในห้องครัวอย่างขะมักเขม้น ดวงตาสีฟ้ามองอย่างสงสัย ก็พี่ชายตัวดีไม่เคยพิศวาสใครจนให้มาอยู่ร่วมกันในที่พักส่วนตัวเลยนี่นา
คิมห์ตะวันหันกลับมาเมื่อรู้สึกว่ามีใครจับจ้องอยู่ทางด้านหลัง ยืนถือทัพพีค้างไว้อย่างทำอะไรไม่ถูก พลางมองใบหน้าสวยเหมือนตุ๊กตา ดวงตาสีฟ้าและใบหน้าที่บ่งบอกว่าไม่ใช่คนไทยอย่างแน่นอน
“วิลลี่ มานี่เลย”
เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลัง ก่อนที่วิลลี่จะโดนกระชากจนเซและเดินตัวปลิวตามร่างสูงออกไปแต่โดยดี
“ใครกัน พี่คลาส”
วิลลี่ยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย เอ่ยถามด้วยใบหน้ากวนประสาท
“อะไรของนาย นายยังไม่ตอบคำถามพี่เลยนะ”
“เปลี่ยนเรื่องเหรอ ผมพอจะได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าตั้งแต่พี่คลาสลาออกจากงานก็ผันตัวมาเป็นมาเฟีย จริงเหรอครับ เอ๊ะ หรือว่าพี่จับตัวเด็กคนนั้นมา”
วิลลี่ตาโตอย่างตกใจจากสิ่งที่กำลังคาดเดา เพราะตั้งแต่ที่คลาสเตอร์ย้ายมาอยู่เมืองไทยก็ไม่ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขาอีกเลย นอกจากข่าวที่ว่าเขากลายเป็นมาเฟียตัวร้ายรวมทั้งลุกซ์ด้วยเช่นกัน
“เงียบ แสดงว่าจริง แล้วนี่เขาไม่มีพ่อแม่หรือไง พี่ถึงไปจับเขามาเนี่ย”
คลาสเตอร์ยังคงเงียบเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงต่อยยับไปแล้วที่มายุ่งเรื่องส่วนตัว แต่นี่คือเจ้าเด็กแสบน้องชายตัวดีทำให้เลือกที่จะเงียบเอาไว้ดีกว่า
“บอกมาเดี๋ยวนี้นะ พี่คลาส”
“เออๆ ไปฉุดมา รู้แล้วจะทำไม ห๊ะ ไอ้เด็กแสบ”
มาเฟียหนุ่มถามกลับอย่างยียวน
“พี่คลาส ทำไมพี่เป็นคนแบบนี้ ไม่เป็นลูกผู้ชายเลยนะ”
“โอ๊ย เจ้าแสบ ต่อยพี่ทำไมวะ”
คลาสเตอร์ยกมือขึ้นกุมจมูกทันที มีน้ำข้นเหนียวๆ สีแดงสดไหลซึมออกมาจากจมูกสวย
“ไอ้เด็กบ้า เลือดไหลเลย เห็นมั๊ย”
มือหนาจับวิลลี่ไว้และเหวี่ยงให้ลงไปนอนอยู่บนโซฟา ก่อนจะขึ้นคร่อมและแก้แค้นโดยการจั๊กจี้
“โอ๊ยๆ ฮ่าๆๆ พี่คลาส ผมขอโทษ หยุดๆ ฮ่าๆๆๆ”
“ไม่ นายทำพี่เลือดออก”
“ฮ่าๆๆ พะ พี่คลาส ฮ่าๆ ปล่อยได้แล้ว อะอาหารมาแล้ว ฮ่าๆๆ”
หน้าหล่อเหลาหันกลับไปทางด้านหลัง มองเห็นหนุ่มน้อยอีกคนที่ถือถาดอาหารเต็มไม้เต็มมือ ร่างสูงรีบเด้งตัวลุกยืนทันทีพร้อมกับเดินตรงไปรับถาดอาหารจากมือบาง ดวงตาคมมองสบตาหวานด้วยท่าทางเอ็นดู แต่คนตัวเล็กกลับมีสีหน้าเรียบนิ่งราวกับไร้ความรู้สึก เพราะภาพที่เห็นเมื่อครู่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
คิมห์ตะวันส่งถาดในมือให้คนตัวโต ก่อนที่จะเดินเข้าไปยกถาดอีกใบออกมา ตะวันทำอาหารเก่ง เพราะเคยทำงานพิเศษที่ร้านอาหารแถมยังชอบเข้าครัวกับแม่บ่อยๆ ด้วย
วิลลี่เดินตรงเข้าไปช่วยตะวันถือถาดอาหาร พร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“สวัสดีนะ ฉันชื่อวิลลี่ เป็นน้องชายพี่คลาสน่ะ”
“เอ่อ ผมชื่อคิมห์ตะวัน เรียกตะวันก็ได้”
ดวงตาโตมองอย่างแปลกใจที่เห็นคนต่างชาติสามารถพูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋ว
“ฉันเคยเรียนภาษาไทยกับพี่คลาสน่ะ”
วิลลี่เอ่ยบอก ราวกับล่วงรู้ถึงความคับข้องใจของคนตัวเล็ก



ทั้งสามมานั่งลงที่โต๊ะทานอาหารด้านนอกระเบียงข้างๆ สระว่ายน้ำ วิวตอนเย็นสวยสดงดงาม อากาศเย็นสบายกำลังดี
“วิลลี่ ไม่กลับบ้านเหรอ”
คลาสเตอร์ถามเป็นเชิงไล่ เพราะคนตัวเล็กไม่ยอมสนใจเขา เอาแต่มองใบหน้าของน้องชายตัวแสบอยู่นั่นแหละ
“หืม ฮ่าๆๆ”
วิลลี่เงยหน้าจากจานอาหาร มองพี่ชาย สลับกับตะวัน แล้วก็ต้องหลุดหัวเราะออกมาทันที
“พี่หึงผม”
คำถามเล่นๆ แต่แทงใจ ทำให้มาเฟียหนุ่มเริ่มทำหน้าไม่ถูก
“ประสาท แล้วสรุปนายรู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่”
“ก็”
“ก็สะกดรอยตามฉันมาน่ะสิ”
วิลลี่ตาโตเบิกกว้างอย่างตกใจ หันไปมองยังต้นตอของเสียง
“โทษทีนะ ไม่คิดว่าแกจะมีแขกมาเยือนในห้องนี้ เลยรูดคีย์การ์ดเข้ามา”
คลาสเตอร์พยักหน้าเบาๆ อย่างรับรู้ไม่ได้คิดโกรธเคืองอะไร ส่วนวิลลี่ยังคงตกใจไม่หายกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แววตาเรียบนิ่งแฝงความโกรธเอาไว้ของลุกซ์ที่กำลังมองมาเห็นแล้วคิดอยากจะกระโดดตึกตายซะเดี๋ยวนี้
“จริงเหรอ วิลลี่”
วิลลี่ก้มหน้านิ่งไม่รู้จะพูดต่อยังไง ไม่รู้ว่าควรแก้ตัวว่าอย่างไรดี คิมห์ตะวันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก ไม่กล้าพูดหรือแย้งอะไร มองไปที่ผู้มาใหม่ซึ่งมีใบหน้าเรียบนิ่งแต่ดูอันตรายอย่างบอกไม่ถูก หน้าหล่อเหลาบ่งบอกว่าเป็นคนต่างชาติแต่ดันพูดไทยได้ชัดแจ๋ว ดูมีเสน่ห์มากภายใต้ความเฉยชานั้น
“อืม ช่างเถอะ แกมากินข้าวด้วยกันสิ”
คลาสเตอร์เปลี่ยนเรื่องอย่างไม่ติดใจเอาความ ลุกซ์ไม่พูดอะไรต่อ เพียงแค่เดินมานั่งลงข้างๆ วิลลี่ ที่ตอนนี้นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้อยู่แล้ว
มาเฟียหนุ่มดูออกว่าเพื่อนรักกำลังกดดันวิลลี่อยู่ หน้าหล่อแอบยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นการกระทำของทั้งคู่
“ตะวัน นี่ลุกซ์ เพื่อนสนิทพี่”
คลาสเตอร์แนะนำลุกซ์ให้ได้รู้จักกับคนตัวเล็ก โดยไม่บอกถึงความสัมพันธ์ของเขากับหนุ่มน้อยว่าเป็นเช่นไร
คิมห์ตะวันยกมือไหว้ด้วยท่าทางเรียบร้อย เพราะเห็นว่าลุกซ์เป็นเพื่อนกับคนตัวโตนั่นหมายความว่าคงอายุมากกว่าอยู่หลายปีอย่างไม่ต้องสงสัย
ลุกซ์พยักหน้ารับนิดหน่อย มองหน้าหวานด้วยความสงสัยแบบเดียวกันกับวิลลี่ในตอนแรก
“มองอะไรของแกวะ มีธุระอะไรก็ว่ามา”
คลาสเตอร์รู้สึกหวงคนตัวเล็กขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะรู้ว่าเพื่อนไม่ได้คิดอะไรก็ตามเถอะ
“เรื่องที่คุยโทรศัพท์”
ลุกซ์พูดสั้นๆ แต่ได้ใจความ ไม่แม้แต่จะตักอาหารเข้าปากสักคำ วิลลี่ยังคงกินอาหารอยู่แบบเงียบๆ ส่วนคลาสเตอร์ก็เริ่มพูดกับลุกซ์เป็นภาษาอังกฤษ การสื่อสารด้วยภาษาที่ไม่คุ้นชินและรวดเร็วทำให้ตะวันรู้สึกงง รับรู้ได้ว่าเรื่องที่ได้ยินอาจจะเป็นความลับหรืออาจต้องการความเป็นส่วนตัว ทำให้เลือกที่จะลุกออกมาจากตรงนั้นโดยที่คลาสเตอร์ก็ไม่ได้ห้ามอะไร



“ตะวัน”
วิลลี่ลุกตามมาและส่งเสียงเรียกรั้งไว้
“ฉันถามตรงๆ นะ พี่คลาสจับตัวนายมาใช่มั้ย”
วิลลี่ถามในเรื่องที่สงสัยทันทีที่สบโอกาส
“เอ่อ”
“ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันจะช่วยพานายหนี”
วิลลี่พูดไปยิ้มไปด้วยท่าทางสบายเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่ตะวันไม่ตลกด้วยสักนิด เพราะหากหนีไปจริงๆ คนตัวโตต้องโกรธมากแน่ๆ และอาจจะทำร้ายครอบครัวของผมด้วย
“พี่คลาสทำแบบนี้ไม่ถูก ถึงจะเป็นมาเฟียก็เถอะ”
คำว่ามาเฟียที่ได้ยินทำเอาคนตัวเล็กหูผึ่งตาโตด้วยความช็อก ก็ตั้งแต่เจอกันคิดแค่ว่าเขาคงเป็นพวกปล่อยเงินกู้นอกระบบ แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นถึงมาเฟีย
“ไม่ได้หรอก ครอบครัวผม ติดเงินเขาอยู่”
“เท่าไร”
“เอ่อ หนึ่งล้าน”
ดวงตาโตมีหยาดหยดน้ำใสขึ้นมาคลอเอ่อเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เกือบจะลืมเลือนไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องมาอยู่ที่นี่เพราะอะไร
“แค่หนึ่งล้านเนี่ยนะ อะไรกัน ตัวเองเป็นถึงนักธุรกิจใหญ่ มีเงินไม่รู้กี่หมื่นล้าน กับเงินแค่ล้านเดียว ถึงกับต้องฉุดคนเลยหรือไง ไอ้พี่บ้า”
ยิ่งได้ฟังคิมห์ตะวันก็ยิ่งอึ้งกับข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งเป็นมาเฟียแถมยังมีเงินเป็นหมื่นล้าน นี่ผมกำลังอยู่กับใครเนี่ย
“เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันจะให้นายยืมเงินใช้หนี้พี่คลาส นายไม่ต้องเกรงใจนะ มีเมื่อไรค่อยคืนฉันก็ได้ ฉันไม่ได้โหดร้ายแบบพี่คลาสหรอก”
“แต่ผมกลัว กลัวคุณคลาสเตอร์”
ตะวันอยากจะปรึกษาหรือระบายความอัดอั้นกับใครสักคน
“ไม่ต้องกลัวพี่คลาสหรอก ฉันว่ามันแปลกๆ อยู่นะ พี่คลาสไม่เคยยอมให้ใครเข้ามาในที่พักส่วนตัวอย่างนี้นอกจากคนสนิท แต่ก็ไม่เคยมีใครที่ได้นอนค้างหรืออยู่ด้วยกันหรอก พี่คลาสโลกส่วนตัวสูงจะตาย และดูเขาก็แคร์นายมากด้วย นี่นายอายุเท่าไรกัน”
“สิบห้า”
วิลลี่อ้าปากค้างอย่างตกใจ
“ให้ตายเถอะ พรากผู้เยาว์ชัดๆ ไม่ได้การล่ะ ฉันต้องช่วยนาย จดที่อยู่บ้านของนายมา ฉันจะไปคุยกับพ่อแม่ของนายเรื่องหนี้”
วิลลี่เดินไปหยิบกระดาษและปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ไกลนัก ก่อนจะนำกลับมายื่นให้คิมห์ตะวัน
“เอ่อ ผม”
ตะวันลังเล เพราะเพิ่งจะรู้จักกับวิลลี่ไม่ถึงชั่วโมงดีด้วยซ้ำ แต่ต้องมายืมเงินแบบนี้
“ไม่ต้องเกรงใจ เร็วๆ สิ พี่คลาสเดินมาแล้ว”
เมื่อหันไปที่สระว่ายน้ำ สองหนุ่มคุยกันเสร็จแล้ว คลาสเตอร์กำลังเดินตรงมาที่ห้องนั่งเล่น ตะวันไม่มีเวลาคิดนานรีบจดที่อยู่ก่อนจะส่งคืนให้วิลลี่ โดยที่วิลลี่รีบเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว

He’s dangerous MAFIA


หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 6 (04/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 04-08-2021 23:07:06
หนีไปลูกกกกก
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 6 (04/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 07-08-2021 20:31:38
ระวังจะยุ่งกันไปใหญ่
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 7 (14/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 14-08-2021 22:26:50
7

“คุยอะไรกัน”
น้ำเสียงนิ่งๆ ของมาเฟียหนุ่มเอ่ยถาม ถ้าเขาดีก็จะดีดั่งเทพบุตร แต่ถ้าเมื่อไรที่โกรธก็จะกลายเป็นเสือร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อทุกเวลาเช่นกัน
“วิลลี่ กลับบ้านไปได้แล้ว”
คลาสเตอร์กดเสียงต่ำเป็นเชิงออกคำสั่ง เขาไม่ได้โง่หรอกนะไม่อย่างงั้นจะได้ทำงานให้หน่วยงานที่อเมริกาหรือไง ไม่ว่าอะไรก็ตามที่น้องชายตัวแสบกำลังจะทำเพื่อแยกตะวันไปจากเขา ไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น และไม่มีทางให้ทำสำเร็จอย่างเด็ดขาด
“ลุกซ์ ฝากไปส่งเจ้าแสบที่บ้านที”
“ผมกลับเองได้”
วิลลี่มีสีหน้าตกใจ รีบวิ่งออกไปจากห้องโดยที่ไม่ลืมหันมาลาคิมห์ตะวันด้วย
“ฉันไปก่อนนะ ตะวัน”
แอบขยิบตาเล็กน้อย ตะวันส่งยิ้มบางๆ ให้อย่างเป็นมิตร ลุกซ์ไม่พูดไม่กล่าวอะไรเดินออกนอกห้องไปอย่างมาดผู้ดี เสียงปิดประตูเบาๆ บ่งบอกว่าแขกผู้มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญทั้งสองกลับไปแล้ว
คลาสเตอร์หันกลับมาพร้อมกับย่างกรายเข้าหาร่างเพรียวด้วยท่าทางคุกคาม คิมห์ตะวันก้าวถอยหลังเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ผุดพรายด้วยรอยยิ้มร้ายๆ หน้าหวานน้ำตาคลอด้วยความหวาดหวั่นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้
“พะ พี่คลาส อิ่มแล้วเหรอครับ”
น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ยัง”
แขนแข็งแรงตรงเข้าไปคว้าเอวบางมากอดอย่างแรง ต้องเคลียร์กับหนุ่มน้อยให้รู้เรื่องเสียที วิลลี่ต้องมาพูดอะไรเกี่ยวกับเขาให้คนตัวเล็กฟังแน่ๆ ถึงได้มีท่าทีกลัวเขาแบบนี้
“ตะวันครับ”
เรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หากแต่แววตายังเรียบนิ่ง
“ครับ”
ร่างเพรียวตัวสั่นงันงกราวกับลูกนกที่ไร้หนทางสู้ เมื่อถูกดึงเข้าไปกอดไว้อย่างแนบแน่น
“ไม่ได้คิดจะหนีพี่ใช่มั๊ย”
พูดพร้อมกับดันคนตัวเล็กออก ตาคมสบเข้ากับตากลมโตอย่างมีความหมาย
“เปล่าครับ”
ไม่มีความเชื่อเลยสักนิด เพราะตะวันคอยหลบสายตาอยู่ตลอดเวลาที่เอ่ยตอบ
“ตะวันรู้แล้วใช่มั๊ยครับว่าพี่ทำงานอะไร”
คนตัวเล็กไม่กล้าตอบ ก้มหน้าลงอย่างหวาดกลัว มือบางกำชายเสื้อชายหนุ่มไว้แน่น
“แล้วรู้มั๊ยว่าถ้าดื้อกับพี่จะเป็นยังไง”
คำขู่ของเขาได้ผล ร่างเพรียวสั่นไปทั้งตัว น้ำตาหยดแหมะ ขนาดผู้ชายที่เป็นมาเฟียด้วยกันโดนเขาขู่ยังฉี่ราดเลย แล้วนี่เป็นแค่เด็กหนุ่มตัวเล็กๆ ไร้เดียงสาหากจะร้องไห้ก็ไม่แปลกนักหรอก
“อย่าร้อง”
เสียงทุ้มดังอยู่ข้างๆ หูสะอาด คลาสเตอร์หอมแก้มใสเบาๆ ไม่ได้คิดจะทำร้ายคนๆ นี้แม้แต่เพียงนิด แค่อยากขู่ให้กลัวจะได้ไม่กล้าทำอะไรที่เป็นการขัดคำสั่งเท่านั้น
“พี่คลาส ถ้าครบสองเดือน พี่คลาสถึงจะปล่อยตะวันไปใช่มั้ยครับ”
น้ำเสียงอู้อี้เอ่ยถามอยู่กับแผงอกกว้าง พยายามรวบรวมกำลังใจไม่ให้เนื้อตัวสั่นไหวไปมากกว่านี้ ทั้งความหวาดกลัว ทั้งสัมผัสที่ชิดใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกัน
“ไม่อยากอยู่กับพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
คนตัวโตถามกลับด้วยใบหน้าบูดบึ้งอย่างอารมณ์เสีย
“ตะวันคิดถึงพ่อกับแม่”
หน้าหวานเงยขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาโตแสดงออกถึงความจริงใจ
“ก็โทรไปสิ”
คนตัวเล็กมีสีหน้าสดใสขึ้นทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม
“ได้เหรอครับ”
    คิมห์ตะวันกอดรัดร่างสูงไว้แน่นด้วยความดีใจ ในที่สุดก็จะได้คุยกับพ่อแม่สักที อยากรู้แทบแย่ว่าตอนนี้พวกท่านเป็นยังไงบ้าง
“แต่ต้องเป็นพรุ่งนี้นะ”
หน้าใสหุบยิ้มลง แต่ก็คิดว่ายังดีกว่าไม่ได้คุยล่ะนะ
“ก็ได้ครับ”
“ไม่คิดจะให้รางวัลพี่บ้างเหรอ”
เสียงทุ้มเอ่ยถาม พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หน้าหวาน ตะวันแก้มแดงปลั่งจนดูน่ารัก ทำให้มาเฟียหนุ่มแทบจะทนไม่ไหวอยากจับคนตัวเล็กถอดเสื้อผ้าแล้วปล้ำซะตอนนี้
คิมห์ตะวันยื่นหน้าเข้าหาใบหน้าหล่อเหลา มือบางทั้งสองข้างประคองใบหน้าคร้ามคมเอาไว้พร้อมกับหลับตาลงอย่างเขินอาย ริมฝีปากชมพูระเรื่อสัมผัสเข้ากับปากนุ่มอย่างแผ่วเบา ช่างเป็นจูบที่อ่อนหวานเสียจริง ก่อนที่ร่างสูงจะโอบอุ้มคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกอดและเดินหายเข้าไปในห้องนอนเพื่อสอนบทรักบทต่อไปให้ได้เรียนรู้
“พี่ขอนะ”
คลาสเตอร์พูดอย่างออดอ้อน วางร่างเพรียวลงบนเตียง แต่คนตัวเล็กกลับผุดลุกขึ้นนั่งทำท่าจะหนีหายไป
“ตะวันจ๋า อย่าทรมานพี่เลยนะ”
มาเฟียหนุ่มตัดพ้อ พยายามดันร่างน้อยให้นอนลงไปอีกครั้ง
“พี่คลาส ตะวันอยากอาบน้ำ แล้วตะวันก็ง่วงด้วย”
ดวงตาโตมองหน้าหล่อเหลาที่กำลังงอง้ำเหมือนเด็กอดกินขนม ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นมาเฟียจริงๆ
“ตะวันนอนเฉยๆ ก็ได้ เดี๋ยวพี่จัดการเอง นะครับ น๊าน๊า”
มือหนากอบกุมมือเนียนเอาไว้พร้อมกับทำหน้าอ้อนสุดฤทธิ์ ถ้าเป็นคนอื่นแค่ได้อยู่กับเขาสองต่อสองก็เตลิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่ดูที่คนตัวเล็กทำกับเขาสิ
“ไม่ครับ”
ตะวันพยายามดันร่างสูงออก ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ นานหลายนาทีที่อยู่ในห้องน้ำอย่างเพลิดเพลิน พอเดินออกมาก็เห็นคนตัวโตนอนหลับอยู่บนเตียง สงสัยคงอาบน้ำห้องข้างนอกสินะ
“อ๊ะ พี่คลาส”
คนตัวเล็กร้องอุทานอย่างตกใจ เมื่อมือหนาเอื้อมมาคว้าตัวและดึงให้นอนลงบนเตียงก่อนจะกอดไว้จนแน่น
“พี่คลาส”
“ชู่ส์ ถ้าไม่นอน พี่ทำอย่างอื่นนะ”
คลาสเตอร์พูดเสียงเบาข้างใบหูขาว แขนยาวเอื้อมไปปิดไฟบนหัวเตียง หันกลับมาจูบเบาๆ ที่หน้าผากใส กระชับร่างน้อยในอ้อมกอดให้เข้ามาแนบสนิท ก่อนจะหลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากอย่างมีความสุข


คิมห์ตะวันตื่นเช้าเช่นเคย พยายามแงะแขนปลาหมึกออกจากตัวเบาๆ เพราะไม่อยากรบกวนให้เขาตื่น วันนี้คลาสเตอร์บอกว่าไม่มีงานอะไรทำให้ไม่ต้องออกไปไหนแต่เช้า
ดวงตากลมโตมองหน้าหล่อเหลาที่หลับตาพริ้มอย่างหลงใหล คิดไปถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็อดอมยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้ นี่ผมมีอิทธิพลกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเขายังหลับสนิทอยู่ นิ้วเรียวสวยแตะเบาๆ ที่ริมฝีปากชายหนุ่มที่รู้ดีว่าทั้งนุ่มและเนียนแค่ไหน แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้ ณ เวลานี้กำลังได้นอนอยู่บนเตียงเดียวกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ว่ามองมุมไหนก็หล่อราวกับเทพบุตร ยอมรับว่าเกิดมาไม่เคยเห็นใครที่หน้าตาดีและมีเสน่ห์ขนาดนี้มาก่อน ตั้งแต่สบดวงตาสีฟ้าใสครั้งแรกก็หลงเสน่ห์มันเข้าอย่างจัง ตอนลืมตาว่าหล่อแล้วพอมาเห็นตอนหลับ ใบหน้าอ่อนกว่าวัย ขนตาเป็นแพยาวเหมือนผู้หญิง ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักเขาอย่างไม่รู้ตัว
“อืม ตะวันจ๋า”
คลาสเตอร์พึมพำเรียกชื่อก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำ แต่แค่นั้นก็ทำให้คนตัวเล็กยิ้มแก้มแทบปริอย่างมีความสุขแล้ว มือบางดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวชายหนุ่ม ก่อนจะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายอย่างอารมณ์ดี
ดวงตาคู่คมลืมขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำ ยกยิ้มที่มุมปากน้อยๆ
มีเมียเด็ก มันกระชุ่มกระชวยขนาดนี้เลยเหรอวะ 


ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ร่างเพรียวเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นชายหนุ่มนอนลืมตาอยู่บนเตียงไม่ยอมลุกไปไหน
“พี่คลาส หิวหรือยังครับ”
หนุ่มน้อยเอ่ยถามและยิ้มให้น้อยๆ พลางเช็ดผมไปด้วย
“จะให้พี่หิวอะไรดีล่ะ”
คำถามที่ได้ยินทำให้ใบหน้าใสแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด
“หิวข้าวสิครับ”
ตะวันก้มหน้าก้มตาตอบ เดินไปค้นเสื้อผ้าในตู้อย่างทำตัวไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องเกิดมาหล่อเหลาจนทำให้หัวใจหวั่นไหวได้อย่างง่ายดายแค่เพียงคำพูดเล็กๆ น้อยๆ นี้เท่านั้น
มาเฟียหนุ่มยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงส่งรอยยิ้มหล่อบาดใจมาให้ เป็นรอยยิ้มที่ทุกคนต่างเทใจเทคะแนนให้เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มีรอยยิ้มน่าหลงใหลที่สุด
“อื้อ หิวสิ แต่ตะวันไม่ต้องทำอาหารหรอกนะ”
“ทำไมครับ ตะวันทำไม่อร่อยเหรอ”
ร่างสูงรีบลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงมาหา มือหนากุมมือน้อยเอาไว้
“ตะวันของพี่ทำอาหารอร่อยที่สุดอยู่แล้ว แต่วันนี้เราจะไปทานข้าวข้างนอกกันต่างหาก”
คิมห์ตะวันฉีกยิ้มกว้าง ก็ต้องอยู่ในคอนโดนี้มาตั้งหลายวันแล้วนี่ อยากจะออกไปข้างนอกบ้างเต็มที่แล้ว
“จริงเหรอครับ”
คลาสเตอร์ไม่ตอบ แต่เลือกดูชุดในตู้เสื้อผ้า พร้อมกับหยิบออกมาและส่งให้กับคนตัวเล็ก
“พี่จะพาตะวันไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ด้วย ตะวันอยากได้อะไร พี่จะซื้อให้ทุกอย่างเลย ชดเชยที่พี่ให้ตะวันอยู่แต่ในห้อง”
หน้าหล่อเหลาอมยิ้มน้อยๆ มองสบดวงตาคู่หวาน ก่อนจะก้มลงหอมแก้มใสทั้งสองข้างและผละจากไปเดินเข้าห้องน้ำ ทิ้งคนตัวเล็กให้ยืนยิ้มค้างอย่างดีใจอยู่อย่างนั้น

หลังจากที่ทั้งคู่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยที่ตะวันอยู่ในชุดเอี๊ยมสีขาวมีเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าอ่อนอยู่ด้านในดูน่ารักสดใสสมวัย ส่วนชายหนุ่มสวมใส่เสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงยีนต์สีอ่อนมีแจ็กเก็ตดำสวมทับอีกที
มาเฟียหนุ่มจูงมือหนุ่มน้อยก้าวเดินออกมานอกห้อง ตรงไปที่ลิฟต์ซึ่งมีชายใส่ชุดสูทสีดำยืนประจำอยู่สองคน ดูเหมือนชั้นนี้จะเป็นที่พักส่วนตัวของคลาสเตอร์โดยเฉพาะ ดวงตาโตมองไปรอบๆ อย่างสำรวจ นอกจากห้องที่พักอยู่ทุกค่ำคืนยังมีห้องอื่นๆ อีกสองห้อง ชายในชุดสูทก้มศีรษะให้นิดหน่อยด้วยท่าทางนอบน้อมพร้อมกับกดเปิดลิฟต์
“พี่คลาสอยู่ชั้นนี้คนเดียวเหรอครับ”
ตะวันถามอย่างสงสัย หลังจากที่เข้ามาอยู่ในลิฟต์แล้ว
“อืม สนใจมาอยู่กับพี่มั้ย รับรองพี่จะดูแลเป็นอย่างดี”
หน้าคร้ามคมโน้มลงหอมแก้มใสอย่างรู้สึกติดใจ เพราะนอกจากแก้มจะนุ่มแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ โดยที่ไม่ต้องใส่น้ำหอมยิ่งทำให้เขาหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
“ไม่ครับ”
“ทำไมล่ะครับ รู้มั้ยว่าคนอื่นๆ กว่าจะได้คุยกับพี่ไม่ใช่ง่ายๆ นะ แล้วดูน้องตะวันสิ พี่ตามใจขนาดนี้ยังจะมาดื้อใส่อีก”
คลาสเตอร์เริ่มอยู่ไม่สุข มือไม้ลูบไล้ต้นขาเรียวทั้งสองข้างอย่างเอาแต่ใจ 
“ก็ตะวันไม่ใช่คนพวกนั้นนี่ครับ”
หนุ่มน้อยทำแก้มป่อง พร้อมกับหันหน้าหนีไปอีกด้านอย่างรู้สึกหงุดหงิด แต่ภาพที่เห็นช่างดูน่ารักน่าชังจนชายหนุ่มอดใจไม่ไหวต้องขโมยหอมแก้มเนียนไปอีกฟอดใหญ่
“พูดแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ตะวัน พี่ไม่สนจริงๆ ด้วย”
คิมห์ตะวันเม้มปากไว้แน่นสนิทอย่างไม่กล้าโต้ตอบอะไร หัวใจดวงน้อยหวั่นไหว ก็เขาเล่นพูดซะขนาดนี้ทำยังกับผมมีความสำคัญอะไรมากมายอย่างนั้นแหละ
“เอ้า จริงๆ นะ”
มาเฟียหนุ่มยังไม่เลิกหยอด ยิ่งเวลาเห็นหน้าหวานอมยิ้มแบบเขินๆ ก็ยิ่งรู้สึกอยากจะทำมากกว่าหอมแก้ม แต่ประตูลิฟต์เปิดออกซะก่อนที่จะได้ทำอย่างที่คิด เพียงแค่ก้าวเดินออกมาจากลิฟต์ก็มีหญิงสาวถึงสองคนกรูเข้ามาหาทันที
“คลาสเตรอ์คะ ทำไมทำแบบนี้กับลิต้า ไม่เห็นมาหาลิต้าบ้างเลยนะคะ”
หญิงสาวที่ใส่เดรสเกาะอกสั้นสีดำพูดขึ้น หน้าตาจัดได้ว่าสวยมาก แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเลยล่ะ
“คลาสคะ นังนี่มันเป็นใคร ลินไม่ยอมนะคะ”
หญิงสาวคนที่สองที่ดูสวยไม่แพ้กันในชุดเสื้อโชว์ไหล่ขาวกระโปรงสั้นมาก พูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองหน้าลิต้า
“หล่อนนั้นแหละเป็นใคร ฉันเป็นแฟนของคลาสเตอร์”
“แฟนเหรอ แต่ฉันเป็นเมียเขาย่ะ ขอโทษที”
“เอ่อ ผมขอโทษครับนายท่านที่ปล่อยให้คุณลิต้ากับคุณลินดาเข้ามา”
ชายหน้าโหดตัวสูงใหญ่เดินเข้ามาเอ่ยขอโทษ ทำหน้ากระอักกระอ่วนด้วยความหวาดกลัวมาเฟียหนุ่มมาก
ลิต้าหันมาเห็นคิมห์ตะวันที่ยืนทำหน้างงอยู่ แล้วยิ่งมือของมาเฟียหนุ่มที่กุมมือเล็กๆ นั่นไว้อีก ทำให้เธอโกรธจนลืมไปเลยว่ากำลังทะเลาะกับลินดา
“คลาสเตอร์คะ แล้วเด็กนี่เป็นใคร เอ๊ะ นายมาอยู่ในคอนโดเขาเหรอ อย่าบอกนะว่ามาขายตัวให้เขา แหมกล้านะ ดูหน้าแล้วคงยังเด็ก คงจะขัดสนสิท่า”
“น่าสมเพชจังเลยนะคะน้อง น่ารังเกียจริงๆ”
ลินดาที่เพิ่งหันมาเห็นก็สมทบด้วยอีกคน
“หุบปาก”
เสียงตวาดกราดกร้าวดังลั่น ทำให้ทั้งสองสาวต้องหุบปากลงอย่างฉับพลัน หน้าหล่อเหลามีสีหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดจนทำให้คนที่มองอยู่รู้สึกขนลุกขนพอง
ตะวันยืนนิ่งอย่างใช้ความคิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำผิดอะไร ยังไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำแต่กลับต้องมาโดนด่าแบบนี้
“ผมว่าคนที่น่าเกลียดน่ะ น่าจะเป็นพวกป้ามากกว่านะครับ เป็นผู้หญิงซะเปล่า แต่มาเดินตามจับผู้ชายแบบนี้ ทำเหมือนพวก”
คำพูดถูกหยุดค้างไว้อย่างเป็นปริศนา ดวงตาโตมองผู้หญิงสองคนอย่างไม่หวาดกลัว ลอยหน้าลอยตาอย่างกวนประสาท
“ผมก็พอจะรู้มาเหมือนกันนะว่าพี่คลาสเนี่ยเป็นหนุ่มเนื้อหอม แต่คราวหน้าพี่คลาสช่วย .. เลือก หน่อยได้มั๊ยครับ ระดับพี่คลาสน่ะ หาดีได้มากกว่านี้อีกตั้งไม่รู้กี่เท่า”
คลาสเตอร์ยืนนิ่งเงียบฟังบทสนาอย่างตกใจน้อยๆ แต่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา
ร้ายเหมือนกันนะ .. เจ้าตัวเล็ก
“อะ ไอ้เด็กปีศาจ กรี๊ดดด ฉันไม่ยอม คลาสคะ ลินไม่ยอมนะคะ”
ลินดาร้องกรี๊ดจนคนที่เดินผ่านไปมาในล็อบบี้มองกันด้วยความสนใจ เช่นเดียวกับลิต้าที่กำมือแน่นอย่างโมโห
“อ่อ แล้วเมื่อกี้ที่ป้าพูดว่าผมขายตัว แล้วที่ป้าๆ ทำอยู่เนี่ย ไม่เรียกขายตัวเหรอครับ แล้วเป็นไง เขาได้ป้าแล้วก็ลืม ต้องดิ้นรนตามมาหาเขาถึงที่นี่ ส่วนผม .. พี่คลาสเป็นคนไปรับและพามาที่นี่เอง”
หนุ่มน้อยหันมาเกาะแขนร่างสูงไว้ด้วยท่าทางออดอ้อน ดวงตากลมโตช้อนขึ้นสบตาคมอย่างลึกซึ้ง คลาสเตอร์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะแสบได้ขนาดนี้
“ไปกันได้หรือยังครับพี่คลาส ตะวันหิวแล้ว”
“อือ ไปกันเถอะครับ”
ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ พร้อมกับก้มลงจูบริมฝีปากชมพูระเรื่ออย่างเร่าร้อนต่อหน้าสาธารณะชนอย่างไม่คิดแคร์สายตาใคร
คิมห์ตะวันอึ้งกับการกระทำของคนตัวโต แต่พอเหลือบสายตามองไปทางผู้หญิงอีกสองคนที่ทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตายก็นึกสนุกจูบตอบปากนุ่มอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน
ลิต้ากับลินดาที่ทนเห็นภาพบาดตาไม่ได้กรี๊ดดังสนั่น ก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างคนพ่ายแพ้ ตะวันผลักร่างสูงออกห่างทันทีที่เห็นทั้งสองคนจากไปแล้ว
“ผลักพี่ทำไมครับ”
คลาสเตอร์พูดอย่างกวนประสาท
“อ้าว ตะวัน รอพี่ด้วย”
คนตัวเล็กไม่ยอมฟัง แต่เดินดุ่มๆ ออกมาจากตรงนั้นอย่างไม่รีรอ
“นายท่านครับ เรื่องงาน”
เจ้ารองที่มองเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างเงียบๆ พูดขึ้น
“ไว้ก่อน”
พูดพร้อมกับรีบวิ่งตามร่างเพรียวไปอย่างรวดเร็ว
รองมองตามอย่างงงๆ เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายแคร์ใครคนไหนจนถึงกับวิ่งตามแบบนี้
ท่าทางคนๆ นี้ .. คงจะเป็นตัวจริง ล่ะมั๊ง

He’s dangerous MAFIA


หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 8 (16/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 16-08-2021 16:16:21
8

คิมห์ตะวันเดินตัวปลิวโดยไม่สนใจใคร ร่างสูงเดินตามมาเงียบๆ ไม่พูดอะไร กลัวจะไปขัดใจคนตัวเล็กเข้าเดี๋ยวได้งอนมากขึ้นกว่าเดิมอีก ก่อนจะจับจูงมือเนียนแล้วพาเข้ามาในร้านอาหารอิตาลีสุดหรู เริ่มอึดอัดนิดหน่อยที่ตะวันไม่ยอมพูดด้วย ก็คนที่ไม่เคยแคร์หรือเอาอกเอาใจใครตั้งแต่เกิดมาทำให้คิดวิธีการง้องอนไม่เป็น แต่ถ้าให้จับปืนแล้วไปยิงใครแบบนั้นน่าจะง่ายซะมากกว่า
“ตะวันลองทานนี่สิ อร่อยนะ”
คลาสเตอร์ตักอาหารขึ้นป้อนหนุ่มน้อยอย่างเอาใจ
“ทำไมพี่คลาสไม่ไปนั่งฝั่งนู่นครับ”
ดวงตาโตมองหน้าหล่ออย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก ถ้าเขาจะแค่ป้อนอาหารก็คงจะไม่ว่าอะไรหรอก แต่มือหนาที่คอยชอบแอบแต๊ะอั๋งและลูบนั่นลูบนี่อยู่เรื่อยๆ นี่สิ
“ก็นั่งตรงนี้เอาใจง่ายกว่านี่ ตะวันโกรธอะไรพี่เนี่ย”
คลาสเตอร์เปิดประเด็นขึ้นทันที วางช้อนลงอย่างหงุดหงิด ตั้งแต่นั่งรถมาจนถึงตอนนี้คนตัวเล็กก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาจนเขาเองก็ทำตัวไม่ถูก
“เปล่านี่ครับ”
ตะวันตอบด้วยสีหน้าราบเรียบ กำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องพ่อกับแม่อยู่ว่าเป็นอย่างไรบ้างในขณะที่ตัวเองมาเดินเที่ยวเล่นอย่างสบายแบบนี้
“ไม่ใช่ว่าเพราะพี่ตามใจ แล้วเราจะทำอะไรก็ได้นะ”
หน้าหล่อเหลายิ้มนิดๆ แต่เป็นยิ้มแบบเย็นยะเยือก
“ตะวันไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย”
คนตัวเล็กยังไม่เลิกเถียง ก็ไม่ได้โกรธอะไรจริงๆ นี่นา
“พี่คลาสนั่นแหละเป็นอะไร ถ้าเบื่อหรือรำคาญก็ไม่ต้องพาตะวันมาสิ ทำไมไม่มากับพวกนั้น”
“พอ”
คลาสเตอร์ตะคอกเสียงดัง โบกมือเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ก่อนจะวางธนบัตรไว้บนโต๊ะที่เป็นจำนวนมากเกินกว่าค่าอาหาร ร่างสูงลุกยืนและเดินลิ่วออกจากร้านโดยไม่รีรอ
คนตัวเล็กก้มหน้าเดินงุดๆ น้ำตาคลอหน่วย แค่นี้ทำไมต้องตะโกนใส่ด้วยไม่เห็นจะมีเหตุผลเลย คงจะเบื่อกันแล้วสินะแต่ก็ไม่เห็นจะแปลกสักเท่าไรนักหรอก คิดแล้วก็นึกสมน้ำหน้าตัวเอง
ทั้งคู่ยังคงไม่พูดไม่จากัน ผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่เดินผ่านมักจะส่งสายตาหวานฉ่ำมาให้มาเฟียหนุ่มอย่างเปิดเผย ซึ่งคลาสเตอร์ก็ส่งยิ้มตอบกลับให้พวกหล่อนอย่างไม่ปิดบัง
ร่างสูงเดินเข้าร้านแบรนด์เนมชื่อดัง ยังไม่ลืมเรื่องที่บอกจะซื้อเสื้อผ้าให้ตะวันคิดจะใช้โอกาสนี้พูดคุยกันเสียที คนตัวเล็กจะรู้บ้างไหมว่าเขาอยากจะคุยด้วยใจจะขาดแต่ก็กลัวเสียฟอร์ม ยิ่งเวลาเขายิ้มให้ผู้หญิงคนอื่นเพราะตั้งใจยั่ว หนุ่มน้อยกลับยิ่งเมินเขาหนักขึ้นจนแทบจะบ้า
“สวัสดีค่ะคุณคลาสเตอร์ หายหน้าหายตาไปเป็นเดือนเลยนะคะ”
คำพูดของพนักงานสาวบ่งบอกว่าชายหนุ่มคงเข้าออกร้านนี้บ่อย
“อืม ช่วงนี้ผมยุ่งๆ”
พูดพร้อมกับเหล่คนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ทางด้านหลัง
“ตะวัน มานี่”
ตะวันก้าวเดินมายืนเคียงข้างอย่างไม่มีปากมีเสียง
“ว๊าว น่ารักจังเลยค่ะ น้องชายคุณคลาสเตอร์เหรอคะ”
พนักงานสาวคนเดิมบอกอย่างชื่นชมหนุ่มน้อยหน้าหวาน ผิวกายขาวเนียนละเอียดแลดูบอบบางน่ารักจนผู้หญิงแบบเธอยังนึกอาย
“เปล่า นี่ .. เมีย .. ผม”
ตะวันหันขวับมองหน้าหล่อเหลาทันควันจนคอแทบเคล็ด เบิกตาโตกว้างอย่างตกใจจากคำแนะนำสถานะที่ได้ยิน คลาสเตอร์ยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่งจริงจังเหมือนสิ่งที่พูดคือเรื่องธรรมดา
“เอ่อ อ่า จริงเหรอคะเนี่ย เหมาะสมกันมากเลยนะคะ”
พนักงานสาวรวบรวมสติให้กลับคืนมา หุบปากที่อ้ากว้างอยู่เมื่อครู่และเอ่ยชมด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนอย่างทำตัวไม่ถูก
“อืม ขอบคุณ”
เสียงทุ้มรับคำสั้นๆ ดึงแขนเล็กให้เดินตามไปเลือกชุด พอได้สามสี่ชุดที่ถูกใจก็จับมายัดใส่มือเนียนไว้
“ไปเปลี่ยนให้ดูหน่อย”
“ตะวันไม่อยากได้”
ไม่ได้เรื่องมากแต่ไม่อยากได้จริงๆ ลำพังที่ทุกวันนี้เขาเลี้ยงดูเป็นอย่างดีก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว
“ไปเปลี่ยน”
อารมณ์เริ่มเปลี่ยนเป็นร้ายอีกครั้ง พลางกดเสียงต่ำเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กขัดขืน หน้าใสหงิกงอแต่ก็ยอมเดินไปเปลี่ยนชุดโดยดี


คิมห์ตะวันเดินออกมาจากห้องลองเสื้อผ้า ก้มลงมองชุดที่สวมใส่อย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก ยิ่งเห็นป้ายราคาแล้วยิ่งอยากถอดให้พ้นจากตัวโดยเร็ว
คลาสเตอร์นั่งอ่านนิตยสารอยู่บนโซฟา เงยหน้าขึ้นมองร่างเพรียวในชุดสีขาว ตาคมลุกวาวเหมือนเสือร้ายอย่างพึงพอใจมองคนตรงหน้ากลับกลายเป็นกระต่ายตัวน้อยที่น่ากินยิ่งนัก
ตะวันก้มมองตัวเองอีกครั้งอย่างอึดอัด ยิ่งเมื่อเห็นหน้าหล่อเหลาแดงน้อยๆ และพับนิตยสารปิดลงอย่างแรงจนทำให้สะดุ้ง คิดว่าเขาคงจะโกรธหรือไม่พอใจอะไรอีกแล้วสินะ
“ไปเปลี่ยน”
เสียงทุ้มพูดสั้นๆ เดินไปหยิบชุดอื่นๆ มาอีกหลายชุดแล้วยื่นให้
ตะวันยอมเข้าไปเปลี่ยนชุด แต่นี่ก็ไม่รู้กี่สิบชุดเข้าไปแล้ว ซึ่งคนตัวโตก็ยังคงทำหน้าบึ้งตึงราวกับโกรธเคืองอะไรอยู่เช่นเดิม
“ไม่เอาแล้วครับ ตะวันเหนื่อย”
คนตัวเล็กเดินมาทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟาด้วยท่าทางหมดแรง หัวแทบหมุนเวลาเขาเอาแต่ใจแบบนี้
“อืม ไปเปลี่ยนชุดเดิมได้แล้ว”
หน้าใสยิ้มอย่างดีใจเมื่อได้ยินคำสั่งใหม่ รีบคว้าชุดของตัวเองเดินกลับเข้าไปในห้องลองและเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ท้องก็เริ่มร้องประท้วงด้วยความหิว นี่ก็เกือบเย็นแล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย เมื่อกลางวันก็ไม่ได้กินเพราะมัวแต่ทะเลาะกันอยู่
หลังจากตะวันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ คลาสเตอร์ก็ยื่นบัตรเครดิตการ์ดให้พนักงานสาวเพื่อจ่ายค่าเสื้อผ้า ซึ่งคนตัวโตซื้อหมดทุกชุดที่ให้หนุ่มน้อยเปลี่ยน ร่างสูงจูงมือเล็กพาออกมาจากร้าน แถมยังทำตัวเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดีโดยถือถุงเสื้อผ้าคนเดียวอีกด้วย
“หิวหรือยัง”
เสียงทุ้มถามไถ่ด้วยความห่วงใยและตัวเองก็เริ่มจะหิวแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น เขากดรับโดยไม่ได้มองชื่อเช่นเคย
“นายครับ แย่แล้วครับ”
เสียงของรองพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“หืม มีอะไร”
“คุณนาเดีย มาครับนาย”
ร่างสูงชะงักนิดหน่อยกับเรื่องที่ได้ยิน
“เธอมาถามที่เคาน์เตอร์ว่านายท่านไปไหน ตอนนี้คงกำลังไปหา”
“อืม ขอบใจมาก”
ดวงตาคู่คมหลับลงอย่างใช้ความคิดว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี
“ตะวัน พี่ว่าเราไปทานที่อื่นกันเถอะ”
“หืม ครับ ยังไงก็ได้ครับ”
คลาสเตอร์กระชับมือเนียนไว้ให้แน่นขึ้น ในใจเริ่มนึกเป็นห่วงหนุ่มน้อยจนจับใจ
นาเดียคือผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของเขาตอนอยู่ที่อเมริกา ยอมรับว่าหลงเสน่ห์หญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น แต่เพราะเธอเป็นถึงลูกสาวของหัวหน้าหน่วยงานจึงต้องหยุดคิดเรื่องจะเล่นๆ กับเธอ  ส่วนนาเดียเองก็หลงใหลในตัวของเขาเช่นกัน ในงานเลี้ยงวันเกิดของนาเดียเธอชวนเขามาที่งาน ทั้งคู่นั่งดื่มกันจนดึกดื่นและแน่นอนว่าเรื่องมันจบลงบนเตียง
คลาสเตอร์ไม่อาจยอมรับข้อบังคับที่ให้เขาต้องรับผิดชอบเธอได้ นาเดียจึงไปปรึกษาพ่อของเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น พ่อของหญิงสาวยื่นคำขาดว่าถ้าเขาไม่ยอมหมั้นและแต่งงานกับหญิงสาวให้เร็วที่สุดเขาจะโดนไล่ออก คลาสเตอร์จึงต้องยอมหมั้นหมายกับนาเดียแต่นั่นเป็นเพราะพ่อของเขาเป็นคนขอร้องให้ทำเช่นนั้นต่างหาก
และเมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตเขาจึงไม่ต้องแคร์อะไรอีก เขาขอถอนหมั้นกับหญิงสาวและลาออกจากงาน แต่เพราะฝีมือที่ไม่มีใครเทียบ พ่อของนาเดียจึงรั้งไว้และให้ทำงานในหน่วยงานต่อ โดยที่เขาขอย้ายมาประจำการที่ไทยเพื่อมาอยู่กับแม่แทน
คิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าสวยกับรูปร่างที่เซ็กซี่อวบอัดไปทุกส่วนของนาเดียก็ลอยเข้ามาในความคิดอย่างปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเธอสวยและน่าสัมผัสมากกว่าผู้หญิงคนไหนๆ ซะอีก


คลาสเตอร์ขับรถพาคิมห์ตะวันมาทานอาหารเย็นด้านนอกชานเมือง เขาชอบพาแม่มาร้านนี้บ่อยๆ ด้วยบรรยากาศที่ติดกับทะเลสาบและสถานที่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก ที่นี่เหมือนสวรรค์ของคู่รักและครอบครัวเลยล่ะ
“สวยจังครับ พี่คลาส”
ดวงตาโตมองไปรอบๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ ที่ทะเลสาบมีภูเขาเขียวล้อมเอาไว้ ไม่เคยเห็นภาพธรรมชาติที่สวยงามขนาดนี้มาก่อน
“ชอบใช่มั้ยล่ะ”
คลาสเตอร์เอ่ยถาม พลางส่งเมนูอาหารคืนพนักงาน
“ชอบครับ”
คนตัวเล็กหันมาส่งยิ้มให้ ดวงตาคู่คมมองสบตากลมอย่างหวานซึ้งจนหนุ่มน้อยเขินหน้าแดง
“มองอะไรครับ”
“มองเมีย”
สั้นๆ แต่ชัดเจนและหนักแน่น ทำให้ตะวันนั่งกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะก้มหน้าลงงุดๆ อย่างทำตัวไม่ถูก คนอะไรหน้าด้านชะมัด โชคยังดีที่พนักงานเดินจากไปแล้ว
“อะไร ใครเมียพี่คลาส”
“ก็น้องตะวันไง จำไม่ได้เหรอ ทั้งบนโซฟา เตียง แล้วก็ในครัว”
“หยุด”
หน้าใสแดงก่ำและลามไปถึงใบหูขาว ร่างสูงยิ่งได้ใจเปลี่ยนที่นั่งจากฝั่งตรงข้ามมานั่งข้างๆ หนุ่มน้อยอย่างเจ้าเล่ห์
“พี่คลาส อย่า อายเขา”
มือเนียนดันคนตัวโตให้ออกห่าง เมื่อเขาทำท่าเหมือนจะกอดและหอมแก้มกลางร้านอาหารแบบนี้
“อายทำไม ขอหอมหน่อยเร็ว”
คลาสเตอร์แกล้งแหย่คนตัวเล็กให้อายมากขึ้น ทั้งคู่ดูสวีทกันราวกับอยู่ในโลกส่วนตัว 
“พี่คลาส นั่งเฉยๆ สิครับ”
มือบางที่กำลังดันหน้าหล่อเหลาอยู่ชะงัก รีบเปลี่ยนมาแกะมือปลาหมึกออกจากต้นขาขาว เมื่อชายหนุ่มลูบไล้อยู่อย่างเอาแต่ใจ ก่อนที่คนฉวยโอกาสจะขโมยหอมแก้มใสฟอดใหญ่
“พี่คลาส คนอื่นมองกันใหญ่แล้ว”
“อืม อย่าไปสนสิ”
พยายามจะดึงร่างเพรียวมากอดอย่างสุดฤทธิ์ แต่ตะวันขัดขืนไม่ยินยอม ผลักร่างสูงออกอย่างแรง
“ตะวันจ๋า ผลักพี่อีกแล้ว”
“ก็พี่คลาสไม่อยู่เฉย”
คิมห์ตะวันเถียงกลับทำแก้มป่องๆ มาเฟียหนุ่มเห็นแล้วยิ่งอดใจไม่ไหว จะดึงคนตัวเล็กมากอดมาหอมเสียให้ได้
“พอแล้ว อาหารมาแล้วครับ”
คนตัวเล็กรีบเอ่ยบอก เมื่อพนักงานเริ่มยกมาอาหารมาเสริฟจนเต็มโต๊ะไปหมด
คลาสเตอร์ยอมหยุดและหัวเราะน้อยๆ กับท่าทางของหนุ่มน้อย ตักเนื้อปลาเผาที่ยังร้อนขึ้นมาเป่า ก่อนจะป้อนให้ คนตัวเล็กอิดออดอยู่เพียงครู่และอ้าปากให้เขาป้อนเหมือนเด็ก
“อร่อยมั้ย ของโปรดพี่เลยนะ”
“อร่อยครับ พี่คลาสก็กินด้วยสิ”
คิมห์ตะวันตักเนื้อปลาขึ้นมาทำแบบเดียวกับชายหนุ่ม หน้าหล่อเหลาแย้มยิ้มกว้างอย่างพอใจกับการเอาอกเอาใจของคนตัวเล็ก
“เอาอีก”
เสียงออดอ้อนถูกส่งมาให้ ทำให้ตะวันหัวเราะคิกคักกับความน่ารักของเขา
“ตะวัน คิดหรือยังเรื่องมหาลัยน่ะ”
คลาสเตอร์เอ่ยปากถามหนุ่มน้อยที่กำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เขาให้คนไปสืบประวัติมาหมดแล้ว ตะวันเป็นเด็กหัวดีขยัน ตั้งใจเรียน ความประพฤติเยี่ยม แถมยังทำงานพิเศษเพื่อช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายของครอบครัว
“ก็คิดไว้แล้ว แต่”
“แต่อะไร”
ดวงตาคู่คมมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้เศร้าสลดลง ก็รับรู้ได้ทันที
“เพราะพี่ใช่มั้ย”
ตะวันนิ่งเงียบไม่อยากตอบ ไม่อยากทำลายบรรยากาศที่ดีลงตอนนี้ กำลังรู้สึกดีๆ กับเขาอยู่มาก อีกอย่างชายหนุ่มก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
“ช่างมันเถอะครับ ทานต่อดีกว่า พี่คลาสลองทานนี่นะครับ”
หน้าใสกลับมายิ้มแย้มดั่งเดิม พยายามเอาใจมาเฟียหนุ่มทุกอย่างทั้งป้อนทั้งอ้อน เขาจะกอดจะหอมก็ปล่อยให้ทำอยู่อย่างนั้น คลาสเตอร์เองก็ไม่อยากทำให้คนตัวเล็กไม่สบายใจ ทำตัวน่ารักหมั่นหยอดคำหวาน จนเวลาล่วงเลยไปนานทั้งสองนั่งทานอาหารจนเกือบค่ำ


ร่างสูงจับจูงคนตัวเล็กให้ก้าวเดินมาเคียงข้างกันตามทางเรียบริมแม่น้ำเพื่อชมวิวยามค่ำคืนที่มีแสงไฟสลัวรางอย่างงดงาม มีเรือแล่นผ่านเป็นระยะๆ ทำให้น้ำเกิดเป็นระลอกคลื่น
“พี่คลาสมาที่นี่บ่อยเหรอครับ”
คิมห์ตะวันถามอย่างอารมณ์ดี รู้สึกถูกใจสถานที่แห่งนี้มาก
“อืม พี่ชอบพาแม่มาทานอาหารที่นี่”
น่าแปลกที่เขาบอกเรื่องนี้ให้หนุ่มน้อยฟัง ก็ปกติเขาไม่ชอบพูดถึงเรื่องครอบครัวสักเท่าไร เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้คนอื่นมารับรู้
“แล้วทำไมพี่คลาสถึงไม่อยู่กับแม่ล่ะครับ”
“แม่พี่อยู่ที่บ้านอีกหลังน่ะ ปกติพี่ก็อยู่กับแม่นั่นแหละ”
หน้าหล่อยิ้มน้อยๆ ตลกตัวเองที่เล่าเรื่องส่วนตัวให้ตะวันฟัง
“แต่ไม่รู้เด็กที่ไหนมาทำให้พี่ติดใจจนไม่ยอมกลับบ้าน”
คนตัวโตหยุดเดินหลังจากพูดจบ หันมาหาหนุ่มน้อยที่เขินแก้มแดงอย่างน่ารัก มือหนาหยิกแก้มใสทั้งสองข้างเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“ตะวัน ลองมาคบกับพี่ดูมั้ย”
คลาสเตอร์พูดอย่างจริงใจ เขาไม่เคยขอใครคบมาก่อน เพราะส่วนมากจะมีแต่ความสัมพันธ์แบบ One night stand เท่านั้น แต่กับคนตรงหน้าความรู้สึกไม่เหมือนกับคนอื่นที่เคยพบเจอมา
ดวงตากลมโตมองค้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำขอแบบนี้ เพราะรู้ฐานะตอนนี้ของตัวเองดีว่าเป็นแค่เพียงลูกหนี้เท่านั้น
“แต่ว่า ตะวัน”
“อย่าไปคิดเรื่องอื่น ตอบพี่มาสิ”
มือหนากอบกุมมือน้อยๆ ไว้อย่างกระชับมั่น รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังคิดอะไรอยู่
“มองหน้าพี่ แล้วตอบ”
ดวงตาคู่สวยมองหน้าหล่อเหลาอย่างพิจารณา สายตาคู่คมสีฟ้าใสที่กำลังมองมาอยู่นั้นช่างอ่อนโยนและดูหนักแน่นในคราวเดียวกัน รู้สึกเชื่อว่าถ้าคบกับเขา เขาจะสามารถปกป้องได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ร่างสูงยืนนิ่งเงียบเพื่อรอคำตอบ หัวใจแกร่งเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอกกว้าง มองใบหน้าหวานอย่างลึกซึ้งแบบที่ไม่เคยมองใครคนใด แสดงออกถึงความจริงใจที่มีมอบให้
“ก็ได้”
เสียงแผ่วเบาตอบออกไปอย่างเขินอาย อมยิ้มนิดๆ พลางก้มหน้าลง
“หืม อะไรนะ ได้ยินไม่ชัดเลย”
คลาสเตอร์ดีใจจนแทบอยากจะกระโดดโลดเต้น แต่ต้องรักษาภาพพจน์นิดนึง
“ตกลงครับ”
หนุ่มน้อยยังคงก้มหน้าก้มตาตอบเสียงพึมพำ ใจดวงน้อยเต้นแรงไม่แพ้กัน
“แต่พี่คลาสต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่มีใครคนอื่น ในระหว่างที่มีตะวัน”
คิมห์ตะวันทักท้วงเพื่อเป็นการทำความเข้าใจและตกลงกัน ชูนิ้วก้อยขึ้นเหมือนเด็ก ชายหนุ่มมองอย่างเอ็นดูและยอมเกี่ยวก้อยด้วยอย่างไม่อิดออด
“พี่สัญญา”
มือหนาช้อนปลายคางมนขึ้นมองสบตาอย่างหวานซึ้ง หน้าหล่อค่อยๆ โน้มเข้าหาใบหน้าหวานที่ตอนนี้เขินหน้าแดงหลับตาพริ้มลงรอรับการจุมพิต จมูกของทั้งสองชนกันเบาๆ ลมหายใจร้อนเริ่มติดขัด
“มีความสุขกันจริงๆ นะ”
เสียงเย็นยะเยือกของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นอย่างจงใจ เธอพูดภาษาไทยแบบแปล่งแปลกตามแบบฉบับคนต่างชาติ
คลาสเตอร์และคนตัวเล็กที่กำลังสวีทหวานหันไปมองทางต้นเสียงอย่างสงสัย
ใบหน้าสวยถูกแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางยิ่งเพิ่มเสน่ห์และความน่าหลงใหลมากขึ้น ดวงตาสีทองจับจ้องมองมาอย่างริษยา ปากสวยอวบอิ่มยิ้มอย่างเย้ยหยัน ร่างบางอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีแดงเพลิงสั้นจู๋ ผมสีบลอนด์ถูกดัดเป็นลอนตัดกับผิวที่ขาวจัด โดยรวมแล้วเธอสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์เลยล่ะ
“นาเดีย”

He’s dangerous MAFIA



 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:



หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 8 (16/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 16-08-2021 22:15:23
 :mew2:งานเข้า
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 9 (17/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 17-08-2021 17:33:40
9

“ยังจำกันได้หรือคะ คลาสเตอร์”
หน้าสวยเหมือนนางฟ้า หากแต่แววตาที่หล่อนมองมาทางคนตัวเล็กราวกับจะฉีกร่างให้กลายเป็นชิ้นๆ
“ตามผมมาหรือไง”
คลาสเตอร์ถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ตอนนี้เขามีคิมห์ตะวันแล้ว ต่อให้มีคนที่สวยน่ารักหรือดีแค่ไหนมาอยู่ตรงหน้าก็ไม่คิดจะสนใจทั้งนั้น ตรงกันข้ามกับคนตัวเล็กที่จ้องมองผู้หญิงสวยไร้ที่ติอย่างหวาดหวั่น เริ่มกลัวใจคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ขึ้นมานิดๆ ยิ่งทั้งคู่พูดจาเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อนใจก็ยิ่งสั่น
“เดียตามคลาสมาตั้งแต่อยู่ที่ห้างแล้วล่ะค่ะ อยากจะรู้ว่าตอนนี้ชีวิตของคุณเป็นยังไงบ้าง แต่ดูเหมือนคลาสจะไม่เห็นหรือมัวแต่สนใจอย่างอื่นอยู่ก็ไม่รู้”
พูดพร้อมกับจิกตาไปที่คนตัวเล็ก คลาสเตอร์หันมามองใบหน้าหวานนิดนึง ก่อนจะหันกลับไปพูดกับนาเดียอีกครั้ง
“นี่คิมห์ตะวัน ภรรยาผม เราจะหมั้นกันเร็วๆ นี้”
คลาสเตอร์ตอบออกไปอย่างชัดเจน 
“อย่ามาโกหก เดียได้ยินนะที่คลาสเพิ่งจะขอคบกับมัน แล้วจะหมั้นกันได้ยังไง”
นาเดียตอกกลับอย่างเดือดดาล ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธเธอ แต่ดูคลาสเตอร์ทำกับเธอสิ ยิ่งเขาไม่สนใจเธอก็ยิ่งรักและต้องการเขามากขึ้น
“ผมกับตะวันอยู่กินกันมาสักพักแล้ว ผมต้องรับผิดชอบ”
เป็นคำพูดเรียบๆ แต่ยิ่งทำให้นาเดียโกรธ ส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นจนคนที่เดินผ่านไปมามองเป็นแถบ เพราะรับผิดชอบคือคำที่เธอต้องการจากเขามากแต่เขาไม่เคยใยดี
“มันมีอะไรดีกว่าเดีย เด็กผู้ชายแบบนั้นจะมาสู้ผู้หญิงจริงๆ ได้ยังไง เดียทั้งสวยทั้งสาว เดียให้คุณได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิต กลับมาหาเดียเถอะนะคะ คลาส”
ประโยคสุดท้ายถูกเอ่ยออกมาอย่างตัดพ้อ น้ำตาที่ไม่เคยเสียให้ชายคนไหนเอ่อคลอขึ้น รู้สึกเจ็บปวดมากกับการกระทำของเขาที่ดูเหมือนไร้เยื่อใย
“ผมไม่ต้องการอะไรจากคุณทั้งนั้น”
เหมือนมีมีดกรีดลงกลางหัวใจของหญิงสาว ตะวันที่ไม่ได้โดนเองยังรู้สึกเจ็บแทน ถ้าสักวันหนึ่งเขาพูดแบบนี้กับผมบ้างล่ะจะเป็นยังไง เมื่อวันหนึ่งที่เขาไม่ต้องการเขาจะเฉดหัวผมทิ้งแบบนี้เหมือนกันใช่ไหม
“กลับบ้านกัน”
คลาสเตอร์หันมาพูดกับคนตัวเล็ก จับจูงมือเนียนและพาให้เดินออกมาจากตรงนั้น ไม่ต้องการให้คนตัวเล็กรับรู้อะไรอีก เพราะยิ่งรู้อดีตของเขามากเท่าไรหนุ่มน้อยก็อาจจะหมดความเชื่อมั่นในตัวเขาไปเลยก็ได้
“เดียไม่ยอมปล่อยให้คลาสเสวยสุขกับมันแน่”
นาเดียตะโกนไล่หลังทั้งคู่ที่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองหล่อนเลยอย่างปวดร้าว



คิมห์ตะวันนั่งเงียบกริบอยู่บนรถคันหรู ยังไม่กล้าพูดอะไรตอนนี้เพราะร่างสูงกำลังขับรถด้วยความเร็วจนดูน่ากลัว นี่ถ้ารถเกิดอุบัติเหตุก็คงไม่ต้องตามหาสาเหตุกันแล้วล่ะ
“ตะวัน เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเงียบ”
“พี่คลาสขับรถช้าๆ ได้มั้ยครับ ตะวันกลัว”
คลาสเตอร์ชะลอความเร็วลงทันทีเมื่อได้ยินคำเอ่ยบอก คนตัวเล็กถอนหายใจเบาๆ อย่างผ่อนคลาย ทั้งคู่ยังคงเงียบกันตลอดทางที่นั่งอยู่บนรถ ต่างคนต่างไม่รู้จะพูดอะไรจึงเลือกที่จะเงียบเอาไว้ก่อน รถยนต์ขับมาได้สักพักก็เลี้ยวเข้าซอยที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ซอยทางเข้าคอนโดของชายหนุ่ม ก่อนที่รถจะเข้ามาจอดนิ่งสนิทภายในบ้านหลังหนึ่ง
“นี่บ้านใครครับ”
คนตัวเล็กเอ่ยถาม พลางมองสำรวจไปรอบๆ บริเวณ
“ลงไปเดี๋ยวก็รู้”
จบประโยคคนตัวโตก็เปิดประตูรถและก้าวออกไป ตะวันเดินตามมาติดๆ มองบ้านขนาดกลางหลังงามที่ถูกตกแต่งไว้เป็นอย่างดีด้วยความสนใจ
“เข้าบ้านเถอะ”
คนใช้ทั้งแก่และสาวต่างออกมาต้อนรับเขาราวกับคุณชาย
“คุณคลาสเตอร์ ตะวัน”
เสียงคุ้นหูทำให้ตะวันหันไปมองด้านหลังอย่างว่องไว
“พ่อ”
ดวงตากลมโตนิ่งค้างอย่างดีใจปนตกใจ ความรู้สึกตีกันไปหมดจนยุ่งเหยิง น้ำตาเอ่อคลอคิดถึงคนเป็นพ่อจับใจ ก่อนจะรีบวิ่งไปสวมกอดพ่อที่รัก
“พ่อ ฮือๆ เป็นยังไงบ้างครับ ตะวันคิดถึงพ่อ”
คิมห์ตะวันร้องไห้งอแงเป็นเด็กน้อย เช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อที่ร้องไห้เพราะคิดถึงลูกชายสุดที่รักเหมือนกัน มือหยาบลูบหัวเล็กๆ เบาๆ อย่างอ่อนโยน
“พ่อสบายดีลูก แล้วตะวันล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
“ตะวันสบายดีครับ ฮึก พ่อ”
หนุ่มน้อยยิ่งร้องหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าพ่อก็ร้องไห้ คลาสเตอร์ยืนมองอยู่อย่างเงียบๆ ปล่อยสองพ่อลูกคุยกันให้หายคิดถึง
“ตะวัน”
แม่ของตะวันเดินออกมาหลังจากที่เพิ่งทำอาหารเสร็จ พอเห็นลูกชายตัวน้อยก็รีบวิ่งเข้ามาสวมกอดอีกคน ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกกอดกันกลมจนดูกลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นไปเลย
“ตะวันคิดถึงพ่อกับแม่ที่สุดเลย”
หน้าใสแย้มยิ้มอย่างน่ารักให้พ่อกับแม่ ก่อนจะเดินเคียงข้างกันเข้าไปภายในห้องนั่งเล่น และนั่งลงที่โซฟาสีดำตัวยาว
“พี่คลาส เอ่อคุณคลาสเตอร์ไม่ได้ทำอะไรพ่อกับแม่ใช่มั้ย”
ตะวันเริ่มเปิดประเด็นเพื่อไขข้อสงสัย
“ไม่เลยลูก แถมยังยกบ้านหลังนี้ให้เราอีก”
“อะไรนะครับ”
ดวงตาโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ
“จริงๆ ลูก คุณคลาสเตอร์ยกบ้านหลังนี้ให้พวกเรา แล้วลูกล่ะ เขาไม่ได้ทำอะไรลูกใช่มั้ย”
คนเป็นพ่อถามลูกชายอย่างเป็นห่วงไม่ต่างกัน
“ไม่ครับ เขาดีกับตะวันมากๆ เลย”
คิมห์ตะวันไม่กล้าเอ่ยบอกเรื่องที่ตัวเองกับคนตัวโตคบหากัน กลัวว่าพ่อกับแม่จะไม่สบายใจ
“ดีแล้วลูก ลูกรู้มั้ยว่าเขายกหนี้ให้เราแล้วด้วยนะ”
    “จริงเหรอครับ”
หนุ่มน้อยถามย้ำอย่างตื่นเต้นดีใจ
“จริงสิ ลูกคงไม่ได้ไปทำอะไรใช่มั้ย”
แม่เริ่มคาดคั้นและมองลูกชายตัวน้อยอย่างจับผิด ก็มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะเงินตั้งหนึ่งล้านอยู่ดีๆ ใครบ้างจะมายกให้ฟรีๆ ไหนจะบ้านหลังนี้อีก จะต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างที่เป็นเหตุเป็นผลมากกว่าการที่มาเฟียหนุ่มจะกลับกลายเป็นเทพบุตรภายในเวลาไม่กี่วันอย่างแน่นอน
“พ่อก็ว่ามันง่ายไปนะ อยู่ดีๆ ทำไมคุณคลาสเตอร์ถึงเป็นแบบนี้ไปได้”
“พ่อกับแม่เอาเงินไปใช้ทำอะไรตั้งหนึ่งล้านครับ”
ตะวันไม่ตอบ แต่ถามกลับในสิ่งที่อยากรู้มานาน
“เอ่อ พ่อ”
“พ่อไปติดหนี้พนันบอล”
เมื่อคนเป็นพ่ออึกอัก แม่จึงต้องตอบแทน
“พ่อ ไหนพ่อบอกว่าเลิกเล่นแล้วไงครับ”
“พ่อสำนึกแล้วลูก พ่อจะไม่กลับไปเล่นอีกแล้ว”
“พ่อครับ ตะวันขอร้องนะครับ พ่ออย่ากลับไปเล่นมันอีก ถ้าคนที่พ่อไปยืมเงินไม่ใช่คุณคลาสเตอร์ ป่านนี้ตะวันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
 คิมห์ตะวันกุมมือหยาบของพ่อเอาไว้อย่างอ้อนวอน
“พ่อสัญญา แล้วเรื่องของลูกล่ะ ตกลงว่ายังไงกันแน่”
ตะวันถึงกับนิ่งเงียบไป เมื่อพ่อถามกลับอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ตะวัน เอ่อ ตะวันคบกับคุณคลาสครับ”
“อะไรนะ คบกันหมายความว่ายังไงน่ะ”
ทั้งพ่อและแม่ต่างอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ
“ก็เอ่อ แบบเป็นแฟนกัน คบหากัน ประมาณนั้นน่ะครับ”
“ตาเถร”
คนเป็นแม่ทำไม้ทำมือเหมือนจะเป็นลม
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะลูก แล้วตะวันรู้มั๊ยว่าคุณคลาสเตอร์เป็นมาเฟีย มันไม่ปลอดภัยเลยนะ”
“ตะวันรู้ครับพ่อ แต่ว่า .. พี่คลาสดีกับตะวัน”
คิมห์ตะวันก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้พ่อกับแม่ไม่สบายใจ รู้ดีอยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้คงไม่ใช่จะมีใครสามารถทำใจยอมรับกันได้ง่ายๆ ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวและเอ่อคลอไปด้วยหยาดหยดน้ำใสที่ใกล้จะรินไหลลง
“ร้องไห้ทำไมลูก พ่อเขาไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
แม่ดึงร่างเล็กๆ ไปสวมกอดไว้อย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลม ตั้งแต่เล็กจนโตลูกชายของเธอเป็นเด็กดีมาตลอด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะทำให้เธอและคนเป็นพ่อต้องเสียใจ
“ลูกจะคบจะรักกับใคร พ่อไม่ว่าหรอกนะ ขอแค่ให้เขารัก ดูแล และปกป้องลูกของพ่อได้ก็พอ”
ดวงตาโตลุกวาวเมื่อได้ยินคำบอกของพ่อ รู้สึกดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“จริงเหรอครับ ตะวันคบกับพี่คลาสได้เหรอครับ”
“ได้สิ แต่เราต้องเจียมตัวไว้ด้วยนะลูก เรากับเขา มันคนละชั้นกัน”
“ครับ ตะวันจะจำไว้ ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณครับแม่”
หนุ่มน้อยโผเข้าไปสวมกอดผู้เป็นพ่อและแม่ด้วยความรู้สึกอุ่นใจ อย่างน้อยก็หมดอุปสรรคเรื่องพ่อกับแม่ไปหนึ่งเรื่องแล้ว
“เดี๋ยวตะวันมานะครับ”
ร่างเพรียวรีบลุกขึ้นและวิ่งหายออกมาด้านนอก เดินตามหาชายหนุ่มรอบๆ บริเวณบ้าน ก่อนจะเอ่ยถามสาวใช้ถึงได้รู้ว่าเขาอยู่ที่หลังบ้าน



คนตัวโตนอนหลับตาอยู่บนเก้าอี้ยาว ลมเย็นๆ พัดมาเอื่อยๆ คิดถึงแต่เรื่องของคิมห์ตะวัน ตลอดเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันเขามีความสุขมาก เขาชอบรอยยิ้มสดใส คำพูดที่ไม่เสแสร้ง แล้วก็เรื่องบนเตียง
เอ๊ะ .. หรือว่าเขาจะเริ่มตกหลุมรักคนตัวเล็กเข้าโดยไม่รู้ตัวกันนะ
ดวงตาคู่คมลืมขึ้นจากสัมผัสนุ่มละมุนที่ประทับลงบนผิวแก้ม มองเห็นใบหน้าหวานที่ยิ้มเขินๆ ปากบางอมชมพูอยู่ใกล้ๆ จนน่ากระชากมาจูบเสียจริงๆ
“ขโมยหอมแก้มพี่เหรอครับ หืม”
แขนแข็งแรงรวบตัวหนุ่มน้อยมานั่งบนตักกว้าง หอมแก้มใสซ้ายทีขวาทีอย่างหยอกล้อ แต่คนตัวเล็กกลับหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
“เดี๋ยวนี้กล้านักนะ กลับห้องเมื่อไรจะจัดหนักให้ดู”
รอยยิ้มร้ายเหมือนปีศาจบนหน้าหล่อเหลาแสดงให้เห็นว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงแท้และแน่นอน
“เหรอครับ”
ตะวันลอยหน้าลอยตาถามอย่างยียวน
“มัดจำไว้ก่อนแล้วกัน”
พูดพร้อมกับจูบปากบางหนักๆ หนึ่งที
“อื้อ พี่คลาส พ่อกับแม่อยู่ในบ้านนะครับ”
มือเนียนผลักร่างสูงออกห่าง เมื่อคิดได้ว่าในสถานที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่กันเพียงตามลำพังเท่านั้น
“ก็ดีสิ จะได้รู้ไปเลยว่าเราเป็นอะไรกัน ไหนมาจูบอีก”
คลาสเตอร์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อย่างซุกซน ในขณะที่คนตัวเล็กพยายามดันหน้าหล่อเอาไว้อย่างไม่ยินยอม
ภาพที่ทั้งสองหยอกล้อกันด้วยท่าทางสนุกสนานและรักใคร่ อยู่ในสายตาของผู้เป็นพ่อและแม่ของหนุ่มน้อยตลอด
“พ่อ พ่อคิดว่าคุณคลาสเตอร์จะรักลูกเราจริงๆ หรือเปล่า”
แม่เอ่ยถามสามีด้วยความสงสัย สีหน้าบ่งบอกว่าหนักใจไม่ใช่น้อย
“เรื่องนี้ไม่มีใครตอบได้หรอก แต่ตอนนี้ให้เขาเอ็นดูตะวัน ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง”
“มันก็ใช่ แต่ถ้ามาเฟียคนนี้หลอกลูกเราล่ะพ่อ”
“อืม พ่อก็กลัว แต่พ่อก็ไม่เคยเห็นตะวันมีความสุขขนาดนี้ อะไรที่เป็นความสุขความสบายใจของลูกก็ปล่อยไปเถอะ อย่าไปคิดมากเลย ลูกเหนื่อยกับเรามามากแล้ว”
ผู้เป็นแม่ไม่พูดอะไรต่อเพียงแต่พยักหน้ารับ ถ้าลูกของเธอมีความสุข เธอก็พลอยมีความสุขไปด้วย

He’s dangerous MAFIA

 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:



หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 9 (17/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 17-08-2021 19:47:13
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 9 (17/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 25-08-2021 17:41:08
เริมแล้ว ..
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 9 (17/08/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 25-08-2021 23:54:42
กลิ่นเริ่มมาล่ะ
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 10 (03/09/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AUGUSTLOVE ที่ 03-09-2021 16:40:44
10

ร่างเพรียวล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยล้า วันนี้คลาสเตอร์พาออกไปตะลอนทั้งวันจนปวดเมื่อยขาไปหมดแล้ว มาเฟียหนุ่มล้มตัวทาบทับอย่างจงใจ หน้าหล่อซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างรุกราน
“พี่คลาส หนักนะ หายใจไม่ออก”
ตะวันดิ้นขลุกขลัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ร่างสูงแทบจะไม่ขยับเลยด้วยซ้ำจากแรงอันน้อยนิด
“ไปอาบน้ำกัน”
ชายหนุ่มลุกยืนเต็มความสูง ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
“ไม่ ไม่ไป”
“ดิ้นแรงจริง แรงเยอะแบบนี้ทำอะไรดีน๊า”
คลาสเตอร์ยิ้มระบายอย่างเจ้าเล่ห์ ดวงตาคู่คมมองร่างน้อยในอ้อมกอดอย่างโลมเลียไปทั่วเรือนร่าง จนตะวันขนลุกซู่
เสียงออดดังขัดจังหวะ คลาสเตอร์ยอมปล่อยร่างเพรียวให้ลงยืน เดินไปเปิดประตูอย่างหงุดหงิด ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วยวะ
“เปิดเบาๆ ก็ได้ครับ ทำไมต้องใส่อารมณ์ด้วยเนี่ย ทำอะไรกันอยู่เหรอ”
วิลลี่พูดอย่างหยอกล้อ โดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มแทบจะกินหัวอยู่แล้ว
“มาทำไมตอนนี้วะ”
 “อ้าว โมโหเหรอครับ แสดงว่าต้องทำอะไรอยู่แน่ๆ เลย ไหนขอดูหน่อย”
ด้วยความซุกซน วิลลี่ผลักคลาสเตอร์ให้ถอยห่าง ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องนอน พอเห็นเป้าหมายก็รีบปิดประตูล็อคเอาไว้
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ไอ้แสบ”
“มีอะไรกันเหรอวิลลี่ ทำไมไม่เปิดประตูให้พี่คลาสล่ะ”
คนตัวเล็กถามอย่างสงสัย นึกสงสารชายหนุ่มที่อยู่นอกห้องซึ่งกำลังทุบประตูดังโครมครามไม่ยอมหยุด เป็นห่วงและกลัวว่าป่านนี้มือหนาคงจะเจ็บระบมไปหมดแล้วกระมัง
“ลืมเรื่องที่คุยกับฉันไว้หรือไง เรื่องหนี้นายน่ะ”
วิลลี่เปลี่ยนเรื่อง ต้องรีบพูดก่อนที่คลาสเตอร์จะพังประตูเข้ามาได้
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะวิลลี่ ตะวันเปิดประตูให้พี่ที ไม่งั้นพี่พังเข้าไปแน่”
“ฉันไปตามที่อยู่ที่นายให้มาแล้วนะ แต่ที่นั่นเหมือนไม่มีคนอยู่เลย ลองดูอีกทีซิว่าถูกหรือเปล่า”
“ถูกแล้วล่ะ แต่ว่าพ่อกับแม่ย้ายที่อยู่แล้ว ความจริงผมเองก็เพิ่งรู้”
“อ้าวเหรอ แล้วที่ไหนกันล่ะ นายจดที่อยู่มาใหม่สิ”
“วิลลี่ ผมขอบคุณจริงๆ นะที่พยายามจะช่วย แต่ว่าไม่ต้องแล้วล่ะ พี่คลาสเขายกหนี้ให้ผมแล้ว”
คิมห์ตะวันบอกไปตามความจริง รู้สึกซาบซึ้งใจที่วิลลี่เป็นคนมีน้ำใจเหลือเกิน
“ว่าไงนะ”
เสียงที่ดังขึ้นยิ่งทำให้คนที่ยืนทุบประตูอยู่นอกห้องร้อนรนเข้าไปใหญ่ ทั้งสองกำลังคุยอะไรกันอยู่เนี่ย
“ทำอะไรกันน่ะ เปิดสิวะ เปิดๆๆๆ นะโว๊ย”
“พี่คลาสนี่ก็ไม่รู้จะหวงอะไรนายนักหนาเนี่ย ฮ่าๆๆๆ แล้วตกลงเขายกหนี้ให้นายแล้วจริงๆ เหรอ”
“อืม เขายกหนี้ให้ผมแล้ว”
“อะ นี่เบอร์ฉัน ถ้าพี่คลาสทำอะไรนาย รีบโทรมาหาฉันเลยนะ ตะวัน”
วิลลี่ยื่นนามบัตรให้กับหนุ่มน้อย
“นี่พี่เหนื่อยแล้วนะ ครั้งสุดท้าย พี่จะนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง”
“นายรีบไปเปิดประตูให้เขาเถอะ ท่าทางจะบ้าแล้วมั้ง”
“สอง”
เสียงนับพร้อมกับก้าวถอยหลังออกจากประตูเล็กน้อยเตรียมพังเต็มที่
“สาม”
“โอ๊ย”
“ตะวัน / ตะวัน”
จังหวะที่คนตัวเล็กเอื้อมมือไปเปิดประตู เป็นเวลาเดียวกันกับที่ชายหนุ่มกำลังตั้งท่าถีบประตูบานใหญ่ตรงหน้า แต่กลับกลายเป็นถีบคนตัวเล็กจนตัวปลิวไปกระแทกขอบเตียงอย่างแรง
“เฮ้ย ทำยังไงดีเนี่ย ตะวันสลบไปแล้ว”
“ก็นายนั่นแหละล็อคประตูไม่ให้พี่เข้ามา ตะวันๆ”
คลาสเตอร์โอบอุ้มร่างน้อยให้ขึ้นมานอนบนเตียง ส่งเสียงเรียกด้วยท่าทางร้อนรน
“วิลลี่ ไปเอารถ”
คลาสเตอร์หันไปสั่งเสียงแข็งอย่างเดือดดาล หน้าหล่อเหลาขบกรามไว้แน่นด้วยความกรุ่นโกรธเมื่อเห็นคนตัวเล็กนอนนิ่งไม่รับรู้ พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากบริเวณศีรษะ


“นายท่าน เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย”
รองยืนประจำการอยู่ด้านล่างเพื่อคอยไล่บรรดาสาวๆ ในสต็อกของเจ้านายถามอย่างตกใจ เมื่อเห็นคิมห์ตะวันนอนสลบไสลไม่ได้สติแถมยังมีเลือดเลอะตามใบหน้าหวานอีกด้วย คลาสเตอร์ไม่ตอบ รีบเดินเร็วจนแทบจะวิ่งไปขึ้นรถที่วิลลี่ขับมาจอดหน้าคอนโด
“ขับเร็วๆ หน่อยสิไอ้เด็กบ้า คอยดูนะ ถ้าเมียพี่เป็นอะไรไป พี่เอาเรื่องนายแน่”
เสียงแข็งสบถอย่างขัดใจ เมื่อวิลลี่ขับรถไม่ได้ดั่งที่ใจต้องการ
“พี่ต่างหากที่เป็นคนผิด อยากได้แบบเร็วๆ ใช่มั้ย เดี๋ยวจัดให้”
วิลลี่เหยียบคันเร่งจนเกือบสุด รถหรูวิ่งแซงรถคันอื่นๆ อย่างเฉียดตาย เสียงล้อบดไปกับพื้นถนนดังสนั่นเมื่อมาถึงหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
คลาสเตอร์เปิดประตูรถอุ้มคนตัวเล็กที่ยังไม่ได้สติลงมา เลือดสีแดงฉานเลอะเต็มเสื้อยืดสีขาวของเขา วิลลี่จอดรถทิ้งไว้และวิ่งตามลงมาเช่นกัน ทั้งสองกึ่งเดินกึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในโรงพยาบาล มีเตียงคนไข้เข็นมารอรับโดยบุรุษพยาบาล คนตัวโตประคองวางร่างน้อยลงบนเตียง ก่อนจะเดินตามไปไม่ห่างอย่างห่วงใย


นานหลายชั่วโมงที่ต้องนั่งรอผลตรวจจากหมอ ใจอยากจะกระชากประตูให้เปิดออกแล้ววิ่งไปดูว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรมากหรือเปล่า เป็นห่วงกังวลหวาดหวั่นจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว ยิ่งมองเห็นรอยเลือดที่เลอะเปรอะอยู่บนเสื้อและมือหนาก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์ความร้อนรุ่มให้เกาะกุมหัวใจมากขึ้นไปอีก
“ใครเป็นญาติคนไข้ครับ”
ร่างสูงผุดลุกจากเก้าอี้ทันทีที่ได้ยินคำถามจากหมอที่เพิ่งเปิดประตูออกมา
“ผมเป็นสามีเขาครับ เมียผมไม่ได้เป็นอะไรมากใช่มั้ย”
“เอ่อ ครับ คนไข้กระดูกที่สะโพกเคลื่อน ศีรษะแตก แต่ไม่ต้องห่วงครับ หมอห้ามเลือดให้แล้ว ช่วงนี้อย่าเพิ่งให้คนไข้ออกกำลังกายหรือเดิน ให้นอนนิ่งๆ พักผ่อนเยอะๆ ส่วนคืนนี้ให้นอนพักที่โรงพยาบาล พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วครับ”
หมอหนุ่มหล่อส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ ก่อนจะเดินจากไป
“พี่คลาส เมื่อกี้พี่บอกว่าพี่กับตะวันเป็นอะไรกันนะ”
 วิลลี่ถามด้วยดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อจากสิ่งที่ได้ยิน
“ไม่ต้องมาพูดเลย นายตายแน่วิลลี่ พี่จะสั่งให้ไอ้ลุกซ์”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง พี่ข่มขืนตะวันเหรอ”
“จะบ้าหรือไง เออ .. มั้ง .. ก็ไม่เชิง”
ว่าจะปฏิเสธเสียหน่อย แต่พอเห็นหน้าตาคาดคั้นจากเจ้าตัวแสบเลยจำต้องบอกความจริงไป
“แต่เรียกว่าหลอกล่อให้ยินยอมน่าจะดีกว่านะ”
“ร้ายกาจจริงๆ ก็เด็กซะขนาดนั้น จะไปรู้ทันพี่ได้ยังไงกันล่ะ”
วิลลี่พูดเสียงดัง จนคลาสเตอร์ต้องรีบตะครุบปากเอาไว้
“เบาๆ หน่อยสิ กลับบ้านไปได้แล้วไป”
“ได้ไง ตะวันเป็นเพื่อนผมนะ”
“ไปเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไร ห๊ะ”
พูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้ แต่วิลลี่ไม่ตอบ กลับนั่งลงข้างๆ
“พี่ต้องรับผิดชอบตะวันนะ ทั้งเรื่องที่ขืนใจ แล้วก็เรื่องนี้  ผมรู้ว่าพี่รักตะวัน”
“ประสาท พี่แค่รู้สึกดีกับเขาเฉยๆ”
มาเฟียหนุ่มรีบแย้ง ถึงจะมีความสุขมากเวลาที่ได้อยู่กับตะวัน แต่ก็คิดว่านั่นคือความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันต่างหาก
จะเป็นความรัก ได้ยังไงล่ะ
เขาเนี่ยนะที่จะรักใครสักคน .. ไม่มีทาง
“ได้เขาแล้วยังจะมาปฏิเสธอีก เอาน่า .. ผมรู้จักพี่ดีกว่าใคร”
“นายกลับบ้านเถอะวิลลี่ เดี๋ยวพี่จะเฝ้าตะวันเอง เอารถพี่กลับก็ได้นะ”
คลาสเตอร์พูดพร้อมกับส่งกุญแจรถให้ ไม่อยากตอบในเรื่องที่วิลลี่พยายามจะคาดคั้น
“ผมกลับเองได้ งั้นกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้จะมาใหม่ จะให้แวะไปเอาอะไรที่ห้องให้มั้ย”
“ไม่ต้อง นอนคืนเดียวเอง”
“งั้นไปก่อนนะครับ”


ร่างสูงนั่งมองใบหน้าหวานของหนุ่มน้อยในยามหลับ ไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย มือหนากอบกุมมือบางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ครู่ใหญ่นิ้วเรียวก็เริ่มขยับพร้อมกับใบหน้าใสที่ขมวดคิ้วมุ่น
“ตะวัน ดื่มน้ำก่อนนะ”
คนตัวเล็กทำท่าจะลุกขึ้น คลาสเตอร์จึงต้องช่วยพยุงให้นั่งเอาหลังพิงหมอน หันไปรินน้ำใส่แก้วพร้อมกับหลอดที่ใช้ดูดน้ำยื่นไปที่ปากบาง
“เป็นยังไงบ้างครับ เจ็บมากหรือเปล่า”
เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างห่วงใยหลังจากวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ มือหนาอังที่หน้าผากใสกลัวว่าหนุ่มน้อยอาจจะมีไข้
“เจ็บที่หัว .. กับเอว”
คำพูดที่ได้ยิน เล่นเอาชายหนุ่มแอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากด้วยความรู้สึกผิด
“ตะวันจ๋า พี่คลาสขอโทษ พี่คลาสไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะครับ”
คลาสเตอร์จับมือบางขึ้นมาแนบที่หน้าหล่อ
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ตะวันไม่ได้โกรธ”
“จริงเหรอครับ จริงๆ นะครับ คนดี”
ดวงตาคู่คมเป็นประกายวิบวับด้วยความดีใจที่คนตัวเล็กไม่มีท่าทางโกรธเคืองในเรื่องที่เกิดขึ้นจากฝีเท้าของเขา
“ครับ ตะวันรู้ว่าพี่คลาสไม่ได้ตั้งใจ”
“พี่ขอโทษนะ ถ้าพี่เจ็บแทนได้ พี่ก็ยอม”
“อย่าคิดมากเลยครับ แผลแค่นี้ เดี๋ยวก็หาย”
คิมห์ตะวันยิ้มนิดๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าสบายดี ไม่อยากให้คนตัวโตคิดกังวลอะไรให้มากมาย ทุกอย่างเป็นเพราะอุบัติเหตุที่ไม่มีใครตั้งใจเท่านั้นเอง
“ครับ ขอบคุณนะครับ เมียพี่นี่น่ารักที่สุดเลย”
หน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามาใกล้และจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากเนียน เปลือกตาทั้งสองข้าง ปลายจมูกโด่งเล็ก ก่อนจะจบลงที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ทุกสัมผัสช่างอ่อนโยนทะนุถนอมเอื้ออาทรและเต็มไปด้วยความห่วงใย จนคนตัวเล็กสามารถรับรู้และเข้าใจได้ถึงความรู้สึกที่ชายหนุ่มมีมอบให้ได้เป็นอย่างดี
“นอนพักเถอะนะ พี่ไม่กวนละ กู๊ดไนท์ครับ”
มือหนาประคองร่างเพรียวให้นอนลง จับผ้าห่มขึ้นคลุมร่างน้อย เดินไปปิดไฟในห้องและเปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้เพื่อไม่ให้มืดสนิทจนเกินไป ก่อนจะเดินกลับมานั่งลงข้างเตียง จับมือเนียนมากอบกุมไว้ ตะวันปิดเปลือกตาลงด้วยความเหนื่อยล้า เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ฟุบหน้าลงข้างเตียงคนไข้ ก่อนที่ทั้งคู่จะหลับใหลไปพร้อมๆ กัน

He’s dangerous MAFIA



 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 10 (03/09/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-09-2021 19:45:17
 :pig4:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 10 (03/09/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 07-09-2021 15:49:48
ปวดเอว ที่ไม่ใช่ ปวดเอว ..
หัวข้อ: Re: // He’s dangerous MAFIA // มาเฟียร้ายพ่ายตะวัน 10 (03/09/2564)
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 25-09-2021 20:56:01
 :pig4: :pig4: :pig4: