ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หลง รัก เอย
กร: คืนนี้พระจันทร์สวยเนาะ เอย:... มันก็สวยตอนที่เจอพี่นี่แหละ เรื่องราวความรักของเอย นักเขียนการ์ตูนลามก กับ พี่กร เจ้าของร้านยาดองสุดเท่
พันกร: เจ้าของร้านยาดองสุดเท่ขยี้ใจที่ดันไปหลงรักนักเขียนการ์ตูนลามกและเผลอใจไปวันไนท์แสตนด้วยในคืนที่ชวนไปดูดอกไม้ไฟ แต่ไหงกลายเป็นว่าเช้ามาคนที่นอนกกอย่างเร่าร้อนด้วยเมื่อคืนกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เอย: นักเขียนการ์ตูนลามกที่โดนเพื่อนรักหักหลังขโมยงานไปขายจนต้องหนีไปหาแรงบันดาลใจในการทำงานไกลถึงญี่ปุ่น แต่ใครจะไปคิดฟะ! ว่าจะเสียตัวให้คนที่เพิ่งรู้จักซะได้
#หลงรักเอย
หลงรักเอยเป็นซีรี่สั้นๆ 5 ตอนจบ เป็น1 ในโปรเจ็ค ที่นักเขียนทำร่วมกับเพื่อนมีทั้งหมด 4 เรื่อง เรื่องละ5 ตอน
ในส่วนของหลงรักเอย จะมีการใช้ภาษาญี่ปุ่น นักเขียนเองไม่ได้มีความรู้และความชำนาญในการใช้ภาษาญี่ปุ่นนัก หากมีข้อผิดพลาดในเรื่องของภาษา นักอ่านทุกคนสามารถแจ้งให้นักเขียนได้ปรับใช้ให้ถูกต้องได้เลยค่ะ ยินดีมากๆ ที่จะแก้ไขเพื่องานที่ดีขึ้น
สุดท้ายแล้วฝากหลงรักเอยด้วยนะคะ
1
เมื่อไหร่ที่รู้สึกประทับใจ
มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องมาพักโรงแรมสไตล์เรียวกังเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการมาค้นหาแรงบันดาลใจ ไหนๆ ก็ได้เงินจากอดีตเพื่อนรักมาซะเยอะ ก็จ่ายหนักเลือกห้องที่ดีที่สุดไปเลยแล้วกัน ช่วงนี้ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ห้องพักที่จิรันตร์เลือกเป็นห้องนอนสไตล์เรียวกังทั่วๆ ไป แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือชานไม้ที่ยื่นออกไปจะมีบ่อน้ำพุร้อนด้านล่างพร้อมกับสวนเล็กๆ ที่รายล้อมรอบบ่อน้ำพุและยิ่งพิเศษไปกว่านั้นคือเป็นบ่อแบบโอเพ่นแอร์ไม่มีหลังคามีแค่ไม้ระแนงที่ช่วยปิดบังความเป็นส่วนตัว มองขึ้นไปบนฟ้าก็เห็นฟ้าเห็นดาวชัดเจน
จิรันตร์มาถึงญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อวานแต่ก็ยังไม่ได้ออกไปไหนเพราะเขาไม่คิดว่าโลว์ซี่ซั่นของที่นี่จะอากาศร้อนถึง34 องศา แต่อย่างน้อยๆ ก็ไม่ร้อนเท่าประเทศไทยล่ะนะ ร้อนมากร้อนมายร้อนแผดเผาเสมือนซ้อมตกนรก แต่พอเปิดประตูบานเลื่อนออกดูก็เหมือนว่าวันนี้จะอากาศดีกว่าเมื่อวาน ว่าแล้วก็ออกไปเดินเล่นหน่อยดีกว่า จิรันตร์หยิบสเวตเตอร์สีฟ้าอ่อนมาสวมใส่คู่กับกางเกงทรงกระบอกเล็กยาวเสมอเข่าสีน้ำตาลอ่อนดูเข้ากันดี แพลนวันนี้คล่าวๆ คือไปเดินเล่นแถวศาลเจ้าเมจิที่อยู่ใกล้ๆ หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที
“Help! Help me!”
ก้าวขายังไม่ทันพ้นหน้าร้านมินิมาร์ทข้างโรงแรมเสียงโหวกเหวกเป็นภาษาอังกฤษก็ดังขึ้นจนทำให้จิรันตร์ต้องหันไปมอง ชายร่างกายสูงหน้าตาดีกำลังวิ่งไล่ใครสักคนที่ในมือมีกระเป๋าสะพายแบรนด์ดังราคาหลายหมื่นอยู่ในมือ และเขาก็กำลังจะวิ่งผ่านหน้าจิรันตร์ไป ดูก็รู้ว่าพวกวิ่งราวเห็นเป็นต่างชาติไม่ได้เลยนะมิจฉาชีพนี่มีอยู่ทุกที่จริงๆ แม้ในประเทศที่เจริญแล้ว
ขายาวยื่นออกไปข้างหน้าขัดกับขาของชายวัยกลางคนที่กอดกระเป๋าแบรนด์ดังล้มไปนอนกับพื้น
“マジかよ!!” (อะไรวะ!!)
“กระเป๋านี่น่ะคงไม่ใช่ของลุงหรอกใช่ไหม งั้นคืนเจ้าของเค้าไปเถอะนะผมจะไม่แจ้งตำรวจมาจับลุงหรอก”
จิรันตร์ตอบกลับด้วยภาษาเดียวกัน
“ไอ้เด็กนี่! มึงเป็นใครวะเอาคืนมา”
จิรันตร์ยกกระเป๋าที่เพิ่งแย่งจากลุงมาหลบให้พ้นมือเมื่อลุงลุกขึ้นมาหมายจะแย่งคืนพร้อมกับสบถเป็นภาษาญี่ปุ่นใส่เขารัวๆ
“อย่าอยากโดนเด็กถอนหงอกเลยน่าลุง ไปซะก่อนที่ผมจะแจ้งตำรวจ”
เหมือนว่าสิ่งที่จิรันตร์พูดออกไปแม่งไม่เข้าหูลุงเลยสักคำแถมลุงยังจะรัวหมัดที่กวัดแกว่งไปทั่วใส่เขาอีก แต่ จิรันตร์ก็หลบได้ทุกหมัดก่อนจะโยนกระเป๋าคืนให้ชายหนุ่มที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของที่ยืนเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูกอยูใกล้ๆ จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองข้างจับแขนข้างที่ลุงเหวี่ยงหมัดมาล็อคไว้แล้วหมุนตัวหันหลังเข้าหาลุงพร้อมกับจับลุงทุ่มลงกับพื้นอย่างง่ายดายก่อนจะทำการล็อคแขนลุงไว้ข้างหลังแล้วกดให้นอนไปกับพื้นเพื่อไม่ให้หนี จิรันตร์มองไปรอบๆ เพิ่งรู้ตัวว่ามีคนยืนมองเหตุการณ์เมื่อสักครู่มากพอสมควรและเห็นว่ามีตำรวจท้องที่วิ่งมาทางนี้พอดีก่อนที่เขาจะส่งตัวลุงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวลุงขึ้นรถไป
“เอ่อ… ขอบคุณนะที่ช่วยเอากระเป๋าคืนมาให้แถมช่วยจับโจรอีก”
‘พันกร’ เดินเข้ามากล่าวขอบคุณจิรันตร์ที่ช่วยเขาไว้หลังจากตำรวจเคลียร์ทุกอย่างไป เขารู้สึกประทับใจในท่าทางการต่อสู้เมื่อครู่ของจิรันตร์มาก หุ่นและความสูงแบบชายไทยทั่วไปแต่แอบมีมวลกล้ามเนื้อเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าตัวบางกว่าลุงขโมยคนนั้นมาก แต่กลับจับลุงทุ่มลงพื้นแบบง่ายดายมากๆ หึ เก่งจริงๆ เลยนะตัวแค่เนี้ย รู้สึกประทับใจจริงๆ โดยเฉพาะวงขายาวๆ ขาวๆ แน่นๆ นั่นด้วย สเปค!
“อ่อ คนไทยหรอกเหรอครับ”
“ครับ ผมเห็นคุณแอบสถบเป็นภาษาไทยน่ะเลยคิดว่าเป็นไทยแน่ๆ”
“อ่อ งั้นเหรอครับ ปกติแถวนี้ไม่มีค่อยมีพวกโจรขโมยหรอกนะตำรวจท้องที่เยอะ แต่ยังไงก็ระวังตัวไว้หน่อยจะดีกว่า ว่าแต่ทำยังไงให้ถูกขโมยกระเป๋าได้ล่ะ”
พันกรแทบจะไม่ได้สนใจสิ่งที่จิรันตร์พูดด้วยซ้ำ เพราะสายตาของเขากำลังไล่สำรวจใบหน้าของคนตรงหน้าอยู่ ใบหน้ามนรูปไข่ ตาโต จมูกโด่งรั้น ปากเล็กอูมเป็นกระจับได้รูป ผิวขาวจัดแถมยังมีนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน แต่หุ่นไม่เล็ก ไหล่กว้างเตี้ยกว่าเรานิดหน่อยตัวบางกว่า แม่มึง! สเปคไอ้กรอะไรขนาดนี้วะ
“มัวแต่ดูแผนที่น่ะ เลยไม่ทันระวัง”
จิรันตร์พยักหน้าตอบอย่างเข้าใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็กำลังจะไปเดินเล่นแถวศาลเจ้าเมจิ
“ผมจะไปเดินเล่นแถวศาลเจ้าเมจิ สนใจไปด้วยกันไหม”
“ศาลเจ้า? ทำไมถึงไปเดินเล่นแถวนั้น”
พันกรถามอย่างนึกสงสัย ใครมันจะไปเดินเล่นแถวศาลเจ้าวะ
“อ่อ บอกไม่ละเอียด ศาลเจ้าเมจิมีสวนน่ะ สวยนะเหมาะแก่การถ่ายรูป”
ว่าแล้วก็ชี้ไปที่กล้องฟิล์มราคาหลายหมื่นที่ห้อยอยู่บนคอของพันกร
“อ่อ ไปสิๆ กำลังหาที่สวยๆ ถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน ว่าแต่คุณชื่ออะไร ผมพันกรเรียกว่ากรก็ได้”
“จิรันตร์ครับ เรียกเอยก็ได้ เอ่อ… คุณน่าจะเป็นรุ่นพี่ผมใช่ไหม”
“27ย่างเข้า28”
“24 อื้ม เรียกพี่กรแล้วกัน ถ้าเผลอหลุดกูมึงบ้างพี่ไม่ซีเรียสใช่ป่ะ”
“ไม่ ตามสบายกูชิลอยู่แล้ว”
ว่าแล้วโชว์ภาษาพ่อขุมรามให้อีกคนได้ยินกับหู
“โอเคงั้นไปกันเดี๋ยวผมพาเที่ยวเอง”
แล้วจิรันตร์ก็เดินนำไปทางที่พันกรเพิ่งวิ่งไล่โจรมา พันกรที่เดินตามหลังก็เอาแต่ไล่พินิจพิจารณารูปร่างของอีกคนจากด้านหลัง คนบ้าอะไรขนาดข้างหลังยังน่ามอง ต้นคอขาวๆ ที่มีเหงื่อไหลซึมออกมาเล็กน้อยจนผิวที่ขาวจัดเริ่มแดงระเรื่อ
“ร้อนก็ร้อนทำไมใส่สเวตเตอร์ล่ะ” พันกรเดินขึ้นมาตีคู่กับจิรันตร์ก่อนจะเอ่ยถามเพราะเห็นว่าจิรันตร์เริ่มมีเหงื่อออก ร้อนขนาดนี้ทำไมถึงใส่เสื้อแขนยาวอีกนะ
“ความลับ” ยักคิ้วซ้ายใส่พันกรไปสองทีพร้อมกับยิ้มมุมปาก
สัญญาณไฟข้ามถนนเปลี่ยนเป็นสีเขียวบ่งบอกว่าข้ามถนนได้ พันกรคว้ามือจิรันตร์พร้อมกับออกแรงดึงให้รีบวิ่งข้ามไปด้วยกัน
“โห อะไรเนี่ยพี่จูงมือผมข้ามถนนเป็นเด็กเลย ถนนญี่ปุ่นนี่หลับตาเดินยังเดินได้เลย” จิรันตร์กล่าวติดตลก
“ขนาดนั้นเชียว หึหึ เชิญครับคุณไกด์นำทางต่อเลยครับ”
พันกรและจิรันตร์ก็เดินตีคู่กันไปตามทางฟุตบาทที่ทอดยาวออกไปก่อนที่จะนั่งรถไฟสาย Yamanote Line ลงที่สถานี JR Harajuku และเดินต่อไปอีกประมาณห้านาที ก็จะเจอกับสะพานหิน Jingu Bashi ที่อยู่ตรงแยกใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ JR Harajuku เดินข้ามสะพานนี้ไปอีกฝั่งแล้วก็เจอลานกว้างกับทางเข้าที่เป็นเสาไม้ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเด่นชัด
“ขออวดความรู้หน่อยดิ”
“จัดมา”
“นี่คือเสาโทริอิทำจากต้นฮิโนกิ ขนาดใหญ่มหึมาที่มีอายุกว่า 1500ปี เชื่อกันว่าเป็นเหมือนประตู้กั้นเขตแดนระหว่างมนุษย์และเทพเจ้า”
ทั้งคู่ยืนอยู่ตรงหน้าเสาโทริอิขนาดใหญ่ที่รอบพื้นที่ล้วนมีต้นไม้ขนาดใหญ่ปกคุมทำให้คลายร้อนไม่ได้บ้างเพราะมีลมเย็นๆ พัดผ่านตลอด มองเข้าไปมีต้นไม้สูงใหญ่หนาแน่นเหมือนจะเรียกว่าป่ามากกว่าสวน
“ข้อมูลแน่นมาก ถามจริงเป็นคนญี่ปุ่นป่ะเนี่ยหรือเกิดและโตที่นี่”
พันกรอดถามไม่ได้ เอ…แต่จะมาไปน้องมันก็หน้าไปทางญี่ปุ่นอยู่เหมือนกันแหะ
“มาบ่อย เรียกได้ว่าบ้านอีกหลังก็ได้”
พอเดินผ่านพ้นเสาโทริอิไปเรื่อยๆ ที่ข้างทางล้วนแต่เป็นต้นไม้สูงใหญ่ ก็จะเจอกับถังสาเกขนาดใหญ่วางเรียงรายและมีลวดลายสวยงามอีกฟากเป็นถังไวน์ขนาดใหญ่ไม่แพ้กัน โดยทั้งสาเกและไวน์นี้มีคนบริจาคให้ศาลเจ้าไว้ใช้สำหรับดื่มเพื่อเป็นสิริมงคลในโอกาสต่างๆ
“ที่นี่มีสวนชื่อว่า Meiji Shrine Inner Garden ให้เข้าไปเที่ยวด้วยนะ”
“เป็นยังไง”
“ก็ในสวนมีธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ให้ดู เอ้อ แล้วก็มีดอกไอริสด้วย แต่ว่า…เดือนนี้คงยังไม่บานหรอก”
พันกรมองริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังเจื้อแจ้วอยู่กับการแนะนำสถานที่ต่างๆ ความจริงแล้วเมื่อเช้าพันกรมาที่ศาลเจ้านี้ก่อนหน้าที่จะโดนขโมยกระเป๋าแล้วล่ะ แต่พอจิรันตร์ชวนมาเขาก็ไม่อยากจะปฏิเสธ ดีแล้วล่ะที่มาอย่างน้อยก็ได้มองคนข้างๆ ได้อีกนานๆ
“งั้นเราไปขอพรที่ศาลเจ้ากันก่อนจะไปไหยังไงต่อค่อยว่ากัน”
“อื้ม ได้ดิกูตามใจมึงเลยอุตส่าชวนกูมาเที่ยว”
“โอเคงั้นไปกันต่อ”
พอเดินมาอีกหน่อยก็เจอเสาโทริอิกับรั้วกั้น แสดงให้เห็นว่าใกล้จะถึงตัวอาคารหลักของศาลเจ้าเมจิแล้ว ทั้งคู่ก้มตัวโค้งที่หน้าทางเข้าเพื่อแสดงความเคารพตามคนญี่ปุ่นที่โค้งกันทุกครั้งเมื่อเข้าออก
“เราต้องชำระร่างกายและวาจาเราให้สะอาดก่อนเข้าไปข้างในด้วยการล้างมือและล้างปากนะ”
ก่อนเดินเข้าไปด้านในจิรันตร์พาพันกรมาแวะที่ซุ้ม Temizuya อยู่ท้างซ้าย ให้แวะล้างมือล้างปากที่นี่ก่อนเข้าศาลเจ้า
“อีซี่ๆ”
พันกรกล่าวด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ ว่าจบก็โชว์สเต็ปการล้างมือให้จิรันตร์ดู ใช้มือขวาจับกระบวยแล้วตักน้ำให้เต็มแล้วเทล้างมือซ้ายก่อนเปลี่ยนมาใช้มือซ้ายจับกระบวยแล้วตักน้ำเทล้างมือขวา เปลี่ยนมาใช้มือขวาจับกระบวยอีกครั้ง ตักน้ำ รินน้ำใส่มือซ้ายแล้วนำน้ำจากมือซ้ายมาล้างรอบๆ ปากและเทน้ำล้างมือซ้ายอีกรอบจนน้ำหมดกระบวย และขั้นตอนสุดท้ายคือตักน้ำใส่กระบวยเพื่อล้างกระบวยโดยปล่อยให้น้ำไหลผ่านที่จับจนหมดกระบวย
พอชำระร่างกายเสร็จจิรันตร์ก็พาพันกรเดินเข้าไปข้างใน พอเดินรอดซุ้มมาก็เป็นลานกว้างหน้าอาคารหลักของศาลเจ้าแต่ทั้งคู่ก็ต้องหยุดยืนดูขบวนงานแต่งแบบชินโตที่กำลังค่อยๆ เดินผ่านมาทางที่พวกเขายืนอยู่
“ที่นี่เค้ามีงานอะไรกันเหรอ” พันกรถามพลางหยิบกล้องฟิล์มในมือขึ้นมาถ่ายรูป
“งานแต่งน่ะ ที่นี่เป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นชอบมาจัดงานแต่ง เค้าว่ากันว่าถ้ามาศาลเจ้าแล้วเจอขบวนงานแต่งจะโชคดีเรื่องความรักด้วยนะ”
“อ่า…อย่างนั้นเองสินะ”
พันกรฟังที่จิรันตร์เล่าก็กระตุกยิ้มมุมปากเล็กๆ
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินต่อไปที่อาคารหลักของศาลเจ้าเมจิเพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้า
“พี่มีเหรียญห้าเยนป่ะ”
จิรันตร์หันมาถามพันกรที่ยืนอยู่ข้างๆ เพราะในกระเป๋าเงินเขาแทบจะไม่มีเศษเหรียญเลย
“มีสองเหรียญ”
“ขอยืมก่อนดิเดี๋ยวคืนให้ทีหลัง”
พันกรยื่นเหรียญให้กับจิรันตร์
“โยนเหรียญลงไปในกล่องใหญ่ๆ ที่เป็นไม้ซี่ๆ นะ ที่ใช้เหรียญห้าเยนเพราะเสียงอ่านในภาษาญี่ปุ่นพ้องกับคำว่า ความสุข ความโชคดี”
จิรันตร์อธิบายก่อนจะเริ่มสาธิตวิธีสักการะขอพรให้พันกรดูเป็นตัวอย่าง เริ่มจากโยนเหรียญลงที่กล่องไม้ก่อนจะโค้งสองครั้งและปรบมืออีกสองครั้ง ก็เริ่มขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะโค้งอีกครั้งปิดท้าย พันกรดูที่จิรันตร์ทำก็ทำตาม เขาหลับตาอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์
“พี่ขออะไรอ่ะ”
“ยุ่ง”
“แรงว่ะ ไม่อยากรู้ก็ได้” จิรันตร์ค่ำปากใส่พันกรอย่างหมั่นไส้
“ล้อเล่น…อยากรู้จริงหรอว่าขออะไร”
“ก็…เฉยๆ อ่ะแล้วแต่พี่มันเป็นเรื่องส่วนตัว”
“กูขอว่า…ถ้าท่านศักดิ์สิทธิ์จริงก็ขอให้เนื้อคู่ของกูมาอยู่ตรงหน้ากูตอนนี้”
พันกรพูดพร้อมกับจ้องตาจิรันตร์ ลมเย็นๆ พัดผ่านเขาทั้งคู่เสียงดังกรุ๊งกริ๊งเหมือนเสียงดนตรีจากโมบายที่ห้อยอยู่ที่ศาลเจ้าเมื่อลมพัดผ่าน เป็นการจ้องตาเพียงแปดวินาทีที่แสนจะยาวนานเหมือนโลกทั้งใบกำลังหยุดนิ่ง จิรันตร์พอได้ฟังคำตอบสายตาเขาก็เริ่มจะเลิ่กลั่กพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงจนถึงใบหู ทำไมหน้ามันรู้สึกร้อนวูบวาบแบบนี้วะไอ้เอย แล้วไอ้พี่กรมันจะจ้องอะไรขนาดนั้น
“อ่า กูว่านะพี่เทพแม่งไม่ขลังเลยเนาะ…ว่ามั้ย” จิรันตร์กล่าวเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะหลบสายตามองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาคู่คมที่จ้องมา
“เหรอ อืม…กูว่าก็ขลังอยู่นะ”
พูดจบก็เดินไปทางอื่นปล่อยให้คนที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่หน้าแดงร้อนวูบวาบพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวอยู่ที่เดิม ตายแน่ๆ มึงไอ้เอยมึง ตายแน่ๆ! อีพี่กรแม่งขี้แกล้ง เอยยกสองมือขึ้นมาปิดหน้าที่แดงแจ๋เป็นลูกตำลึงของตัวเองอย่างนึกเขินอายกับคำพูดของพันกร ต่อให้เอยจะไม่ได้รังเกียจต่อความสัมพันธ์แบบชายรักชายแต่เพราะไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนเอยจึงไม่รู้ว่าจะรับมือกับความรู้สึกนี้ยังไง ทีแรกตอนเจอกันก็ไม่ได้คิดอะไร แค่มองว่าผู้ชายคนนี้แม่งหน้าตาดีจัดๆ สูงกว่าเขาไม่มากนัก หุ่นดี แต่งตัวดี ผิวสีน้ำผึ้ง แต่พอเมื่อกี้ได้มาจ้องหน้ากันแบบจริงๆ จังๆ แม้จะไม่นานก็ทำให้ให้เอยจดจำรายละเอียดในเครื่องหน้าของพันกรได้อย่างดี ดวงตาคมนัยน์ตาลุ่มลึก คิ้วดำหนาเป็นทรงจมูกโด่งเป็นสันและรูปปากบางหยักเป็นกระจับได้รูป ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งชวนให้รู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้าไม่หาย ไอ้คนบ้าเอ้ย!
พันกรที่เดินปลีกตัวออกมาคนเดียวแล้วปล่อยให้จิรันตร์ยืนหน้าแดงอยู่ตรงนั้นกำลังยิ้มกว้างให้กับท่าทางของจิรันตร์ที่เขาค่อนข้างจะพอใจเป็นอย่างมาก ทีแรกก็หยอดเล่นๆ แต่ไม่คิดว่าน้องมันจะรับรู้ได้ไวขนาดนี้ ประทับใจจริงๆ สงสัยทฤษฏีที่ว่า เมื่อไหร่ที่รู้สึกประทับใจ...นั่นคือการตกหลุมรัก คงจะจริง เอย… มึงจะรู้ไหมเนี่ยว่าใจกูไม่เป็นของกูอีกต่อไปแล้ว