ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
นิยายเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์สมมุติ ชื่อตัวละครและสถานที่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเท่านั้น นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรงหรือพฤติกรรมที่เหมาะสม ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรพิจารณา งานเขียนนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของผู้เขียน ห้ามคัดลอก, ทำซ้ำ, เผยแพร่หรือตีพิมพ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
********************************************************************************
Vector space
เราสองคนเป็นแค่ฝุ่นที่ลอยในอากาศ
(https://www.img.in.th/images/f8a3bfd7b402cc5407390e46a51fdad6.md.jpg)
Vector space ตอนที่ 6
ผมตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นข้อความจากจอย
ดิม ปิงเลิกกับเราแล้ว ดิมรู้ใช่มั้ยว่าเพราะอะไร
เกิดอะไรขึ้น...จอยกำลังบอกว่า...ไม่นะ...ผมคือตัวการงั้นเหรอ…
ผมกำมือถือไว้ ในหัวตอนนี้มีเรื่องมากมายเต็มไปหมดแต่ไม่มีคำตอบใด ๆ ได้เลย ผมได้แต่มองไปนอกหน้าต่างรถเมล์ที่กำลังแล่น มองผู้คนมากมายข้างทางแต่ไม่มีใครช่วยผมได้ ผมควรทำยังไงดี? ผมต้องหาปิงให้เจอ...ไม่สิ ผมนี่แหละตัวต้นเหตุ!
พอรถเมล์มาถึงป้าย ผมเดินไปบ้านเขา ใจหนึ่งอยากรีบไปให้เร็วที่สุดด้วยความเป็นห่วง อีกใจบอกว่าผมควรกลับบ้านไปแล้วเลิกยุ่งกับปิง ควรอยู่ให้ไกลจากเขา แต่ไม่ว่ายังไงอย่างน้อยผมขอรู้ว่าเขาปลอดภัยดี แค่นั้นก็พอ ได้โปรดเถอะ
ในที่สุดผมก็มาถึงหน้าบ้านเขา...แต่บ้านปิดไฟมืดหมด ผมกดกริ่งหน้าบ้านแต่ไร้การตอบรับใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีคนอยู่หรือว่านอนกันหมดแล้ว
“ขอโทษครับ” ผมตะโกนแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมตะโกนอีกสองครั้งก็ไร้เสียงตอบ ลองโทรเข้ามือถือเขาแต่ก็ไม่มีสัญญาณ หัวใจผมบีบรัด ผมรู้สึกผิดกับเขา เจ็บปวด ...หรือผมเป็นต้นเหตุทำให้ปิงหนีหน้าทุกคน เป็นตัวการทำให้เขาเลิกกับจอย
...ขอร้องล่ะ อย่างน้อยขอให้ผมเจอเขา
“ขอโทษครับ ปิงอยู่มั้ยครับ?” ผมตัดสินใจตะโกนอีกครั้ง นั่น! ไฟในห้องชั้นสองเปิดขึ้น
ผมยืนรอด้วยใจระทึก ในที่สุดไฟชั้นล่างก็สว่างขึ้นแล้วประตูบ้านก็เปิดออก ชายหนุ่มในชุดนักเรียนเดินเข้ามาเปิดประตูรั้วช้า ๆ
“ปิง” ผมเอ่ยพร้อมเดินเข้าไปช้า ๆ ราวกับกลัวเขาจะหนีไป...ได้โปรด อย่าหนีผมนะ...ผมขอโทษ
“ดิม” เขามองมาที่ผมด้วยสีหน้านิ่ง ๆ และเหนื่อยอ่อน
ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี ความดีใจและเสียใจปนเปอยู่ในหัวจนพูดไม่ออกแล้ว
“ขอโทษนะที่ปิดมือถือ”
“ไม่เป็นไรหรอก คราวที่แล้วเราก็ทำน่ะ”
“เข้ามาสิ” เขาพูดเบา ๆ แล้วเดินเข้าบ้าน
ทุกอย่างในบ้านยังเหมือนเดิม ชั้นวางแผ่นเสียงยังตั้งเด่นรับแขก รวมถึงแผ่นเสียงเพลง Nothing’s Gonna Change My Love For You แผ่นนั้นก็ด้วย แต่ตอนนี้เหมือนมันกำลังสื่อความหมายที่ตรงกันข้ามออกมา และบ้านก็เงียบกริบ
“พ่อกับแม่ไปแสดงดนตรีงานคริสต์มาสที่พัทยาน่ะ กลับพรุ่งนี้”
“เหรอ” ผมตอบและวางกระเป๋าลงบนโซฟาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมมาที่นี่เพื่ออะไร ผมแค่อยากรู้ว่าปิงอยู่ไหนปลอดภัยดีมั้ย...และรู้ตัวว่าผมไม่ควรอยู่ที่นี่ ผมอาจเป็นต้นเหตุให้ปิงกับจอยเลิกกัน แต่สีหน้าที่ไม่สู้ดีนักของเขาทำให้ผมเป็นห่วง
“นายเป็นอะไรมั้ย? ตอนเลิกเรียนนายหายไปเลย”
“.......” เขาไม่ตอบ
“ครูเค้าอุตส่าห์เลี้ยง”
“เรามีเรื่องนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปขอโทษครู”
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อทั้งที่มีเรื่องอยากถาม ปิงเองก็คงเช่นกัน เพราะวันนี้เราสองคนสัญญากันว่าจะตอบคำถาม และตอนนี้ก็เหลือแค่ไม่กี่ชั่วโมง ใช่...คำถามที่ผมไม่อยากได้ยินคำตอบแล้ว คำถามที่ผมไม่อยากยอมรับว่าผมรู้คำตอบแล้ว
“กินอะไรมายัง?” ปิงเอ่ยทำลายความเงียบ
“ยังเลย ขนมที่ครูเลี้ยงก็ยังไม่ได้กิน ฮะ ๆๆ”
“เดี๋ยวทำแซนวิชให้นะ”
ผมมองดูแผ่นหลังของเสื้อนักเรียนสีขาวชายเสื้อลุ่ยนั้นกำลังทำอาหารและชงโอวัลติน คนที่ผมรัก คนที่ผมไม่กล้ารัก...คนที่ผมไม่มีวันบอกให้เขารู้ว่าผมรักเขา ผมไม่รู้ว่าการพูดคุยกันที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนนี้จะทำให้เกิดอะไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ คือเราสองคนคงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ผมจึงนั่งเงียบ ๆ มองเขา พยายามจดจำช่วงเวลานี้
“ปิง...เอ่อ..” ผมเอ่ยหลังจากจัดการแซนวิชและโอวัลตินหมดแล้ว ผมตัดสินใจถามเรื่องที่ผมลำบากใจที่สุด
“หืม?” ปิงนั่งลงบนโซฟาและหันมายิ้มบาง ๆ
“นาย...เลิกกับจอยเหรอ?”
“อือ” เขาผงกหัวตอบโดยไม่มองผม
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” ผมกลั้นใจถาม แต่เขานิ่งเงียบแทนคำตอบ เขากำมือแน่นราวกับว่าคำตอบนั้นยากที่จะเอ่ยออกมา
“ก็ดิมไม่ชอบคนเจ้าชู้ ไม่ชอบคนที่คบทีเดียวหลายคน”
“ปิง...” ผมมองปิง ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างย้อนกลับมา ที่เขาขี่หลังผมและแปลเนื้อเพลงให้ผมฟัง...เขาไม่ได้แปลเนื้อเพลง...
...เพลงนั้นเราเลือกให้นายคนเดียว…
“เราถามคำถามของนายแล้วนะ” ปิงหันมาจ้องตาผม “เรารักนายนะดิม”
“น...นึกว่าพวกเราแค่แกล้งเป็นแฟนกันเล่น ๆ” ผมยังแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน เขาคิดเหมือนผม ผมไม่ได้คิดไปข้างเดียว ผมไม่ได้หลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว
“ดิม เราขอโทษที่ทำแบบนั้น ร...เราไม่รู้จะทำยังไง เราไม่ใช่ตู้อบฆ่าเชื้อหรอก เราไม่ได้ทำให้นายรู้สึกดี เราก็แค่คนโกหก” ปิงดึงผมเข้าไปกอด “ก็นายกำลังจะไปสอบเข้าโรงเรียนอื่น”
“ปิง”
“ไม่มีเวลาแล้ว อีกไม่กี่เดือนนายก็จะไปอยู่ที่อื่นแล้ว” วงแขนนั้นรัดแน่นเหมือนความทุกข์ทุกอย่างกำลังบีบให้เขาทรมาน “ตอนแรกเราคิดว่ายังมีเวลาอีกเยอะ ยังมีเวลาอีกหลายปี เราขอโทษ ดิม เราขอโทษ!” ปิงพูดเสียงสั่นเครือ
“ปิง อย่าว่าตัวเองแบบนั้นสิ”
“เราชอบนายตั้งแต่ทำงานกลุ่มด้วยกัน เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเราชอบนายแบบไหน แต่มันก็รู้สึกมากขึ้น ๆ ทุกวัน เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร แค่เห็นนายเราก็ดีใจทุกครั้ง อยากมาเจอนายทุกวัน เราคิดว่าค่อย ๆ คบกันเป็นเพื่อนแล้วสักวัน...สักวันเราอาจเลิกรู้สึกแบบนั้น แต่พอวันนั้นที่นายโหวตให้เรา รู้มั้ยเราดีใจมากตอนได้ยินชื่อเราจากปากนาย เรามีความสุขมากจนกอดคอนายไว้”
...พวกเราไม่ได้เริ่มด้วยความเป็นเพื่อนตั้งแต่แรกแล้ว...ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วที่เขากอดคอผมก็รู้สึกดีอย่างประหลาด...
"แต่พอเราเห็นใบสมัครสอบ ม.4 ของดิม...ฮึก ๆ เราไม่มีเวลาแล้ว เราต้องทำอะไรสักอย่าง...เราขอโทษ”
“เราไม่ได้โกรธนะ ปิงอย่าร้องไห้เลย”
ตัวอุ่น ๆ ของเขาที่โอบกอดผมไว้ กับหน้าที่ซบลงบนบ่าทำให้ผมลืมทุกอย่างว่าอะไรไม่ควร ผมกอดเขาไว้อย่างนั้นปล่อยให้ความรู้สึกทุกอย่างแสดงออกมา เราสองคนไม่ต้องเสแสร้งปิดบังอะไรอีกแล้ว เราสองคนกำลังพูดทุกอย่างในใจออกมา
“ปิง” ผมเอ่ยสั้น ๆ ที่ข้างหูเขา
“หืม?”
“ตอบแล้วนะ”
เขาเงยหัวขึ้นจากบ่าของผม ตายังแดงก่ำแต่ใบหน้าเริ่มยิ้มหัวเราะ “อะไรอ่ะ ตอบสั้นห้วนแค่เนี้ย!”
“ก็ตอบแล้วน่ะ” เขินนะว้อย
“ครูสอนว่าเวลาตอบต้องทวนคำถามไม่ใช่เหรอ?” คนตรงหน้าเริ่มยิ้มร่ากลั้วเสียงขำ
บรรยากาศทำให้ความคิดที่ผมไม่เคยกล้าเอ่ยปากแต่ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว เอางั้นก็ได้
“เรารู้สึกดีกับคนนึง อยากทำแบบนั้นกับเขา”
ปิงมองผมตาไม่กะพริบ
“คนนั้นคือนาย” ผมเอ่ยออกมาอย่างปลดปล่อยความรู้สึกทุกอย่าง
ปิงค่อย ๆ แนบหน้าเข้ามา ปลายจมูกเขาแตะลงบนหน้าผม ...ลมหายใจอุ่น ๆ
เขาถอดแว่นผมออกช้า ๆ ริมฝีปากแตะไปทั่ว ผมตัวสั่นเมื่อรู้ว่ากำลังทำสิ่งที่เคยคิดหวาดหวั่น...แต่มันกลับอบอุ่นนุ่มนวลและค่อย ๆ เคลื่อนไปสู่สิ่งที่ผมไม่เคยกล้าทำ
ปิงเอนตัวผมลงกับโซฟา เขาขึ้นคร่อมบนตัวผม เสื้อขาวของปิงทิ้งตัวลงให้ผมมองลอดคอเสื้อเข้าไปเห็นผิวเนื้อภายในที่ผมไม่เคยเห็น ผมแกะกระดุมเสื้อออกอย่างเผลอไผลเหมือนแกะห่อของขวัญ ปิง...ของขวัญของผม คนที่สนิทแนบชิดเสมือนตัวติดกันมาตลอด เกือบ 1 เดือน ไออุ่นยามชิดใกล้ที่ดึงดูดให้ผมอยากสัมผัสให้มากขึ้น ๆ ทุกครั้งเวลาพิงกายบนตัวเขา ผมไม่รู้ความรู้สึกนี้เริ่มขึ้นเมื่อไหร่
คงเป็นเพราะแสงแดดที่ชอบยิ้มและพูดให้ผมอารมณ์ดีมาตลอด ใบหน้าเกลี้ยงเกลาใจเย็นที่คอยพูดให้กำลังใจเสมอนั้นปัดเป่าความทุกข์อย่างที่ผมไม่เคยเจอ แค่ชิดใกล้ก็อบอุ่นแล้ว...แต่นี่ ผมกำลังลูบผิวกายภายในที่ร้อนเหมือนไฟ พระอาทิตย์ที่ผมเคยได้แต่ฝัน ตอนนี้ผมได้กอดจับทุกส่วนตามใจปรารถนา ใบหน้าและริมฝีปากของเขาก็รุกล้ำบดสำรวจตัวผมแลกเปลี่ยนกันอย่างอ่อนโยน
“ดิม” ริมฝีปากอ่อนนุ่มพูดพลางคลุกที่ซอกคอ
“รู้มั้ย เมื่อคืนที่นายไปเที่ยวกับเฟิร์ส เราโคตรคิดมากเลย เรากลัว...เรากลัวนายทิ้งเราไว้คนเดียว”
“ปิง” ผมเรียกชื่อคนตรงหน้า ริมฝีปากเขาเคลื่อนมาดูดเม้มเลียไรฟัน สายตาเว้าวอนทำให้ผมยอมให้ลิ้นของเขาเข้ามา สัมผัสแรกช่างแปลก เปียกและสากจนผมสะดุ้งแต่เขากอดแน่นลูบตามเนื้อตัวและแขนไม่ยอมปล่อย ปิงผละใบหน้าออกแล้วบดริมฝีปากอีกครั้ง ...จูบแรกของผมเป็นของปิงครั้งแล้วครั้งเล่า
“ตอนนายติวให้คนอื่น รู้มั้ยเราอิจฉา เราอยากเป็นคนที่นายคุยด้วย”
มือของปิงแกะกระดุมเสื้อผมออกแล้วในที่สุดเนื้อตัวของเขาก็แนบทับลงมา มันเป็นสัมผัสที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อน ตัวเปลือยเปล่าที่แสนอุ่นเคลื่อนไปมาแลกสัมผัสทุกส่วนบนตัวผม
“หน้าของนายมุมนี้คือมุมที่เราแอบมองประจำ เวลาที่นายอธิบายการบ้านให้เพื่อน ๆ” เขาซบหน้าลงที่ซอกคอผม
“นายช่วยเพื่อนเสมอ นั่นแหละที่เราชอบดิม จำได้มั้ยตอนนายชวนเราให้ทำงานกลุ่มวิชาไฟฟ้าแล้วเราต่อไฟไม่เป็น”
“จำได้”
“นายอธิบายตั้ง 3 รอบเราก็ยังไม่เข้าใจ คนทั้งกลุ่มมองมาที่เรา ตอนนั้นเราคิดว่านายคงโมโหหรือเบื่อเราแล้ว แต่นายใจเย็นมาก เราจำได้ตอนนายยิ้มแล้วอธิบายช้า ๆ ให้เราฟัง” ปิงจ้องผมด้วยตาใส “ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็ชอบนาย ชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ”
เขาช้อนตัวผมขึ้นมากอดแน่น “พอวันนั้นเราเห็นใบสมัครสอบม.4 โรงเรียนอื่นของนาย เรา...เราทนไม่ได้ เรากำลังจะเสียนายไป...แต่...แต่...”
“แต่เราก็ทำแบบนี้กับนายไม่ได้เหมือนกัน เรายังชอบจอย ฮึก ๆๆ ดิม...เราไม่รู้ เราไม่รู้”
“ปิง...”
คนตรงหน้าหลับตานิ่ง คนที่เคยเป็นแสงอาทิตย์ให้ผมรู้สึกอบอุ่น คนใจเย็นที่พูดให้กำลังใจไม่เคยตำหนิ
ถ้าผมรักปิงที่เป็นแบบนั้น ผมก็ต้องเป็นอย่างเดียวกันให้เขาในเวลาที่เขาต้องการที่สุด
ภาพตอนเด็กผุดขึ้นมาในหัว ตอนแม่พาผมไปเที่ยวบางกระเจ้าและซื้อลูกโป่งให้ผม แต่เชือกกลับหลุดจากมือ...จำได้ว่าผมร้องไห้เพราะคว้าไม่ทัน
แม่กอดผมแล้วพูดว่า...ดิม ดูลูกโป่งลอยขึ้นฟ้าสวยจังเลย…ลูกโป่งลอยไปหาดวงอาทิตย์แล้วน้า
เด้กน้อยที่น้ำตาอาบแก้ม แหงนมองลูกโป่งลอยขึ้นฟ้า...ลอยไปหาดวงอาทิตย์...ลอยไปในอวกาศ...
ผมแตะตัวปิงเบา ๆ ให้เอนหลังมาพิงตัวผม ผมคล้องแขนกอดเอวเขา ท่าที่เราสองคนทำเสมอเวลาจะพูดคุยอย่างเปิดใจ
“ปิง เราสองคนอาจไม่ได้รักกันแบบนั้น”
“แต่ดิมก็อยากทำไม่ใช่เหรอ?”
“เราชอบปิงจริง ๆ นะ เราอยากกอดนาย อยากอยู่กับนาย อยากพูดคุยทุกเรื่องที่ไม่กล้าคุยกับคนอื่น...นายรู้สึกเหมือนเรามั้ย?”
“อ...อืม” เขาบีบมือผมเบา ๆ
“พอปิงไม่อยู่เราก็เหงา เราอยากอยู่กับปิงนาน ๆ รู้มั้ยเราไม่ได้อยากนั่งดูพระอาทิตย์ตกหรอก...เราแค่อยากใช้เวลากับนายน่ะ”
“จริง ๆ เราก็ไม่ได้อยากดูพระอาทิตย์ตกเหมือนกัน เราหาเรื่องถ่วงเวลาดิมให้นานที่สุด”
ผมซบหน้ากับหลังคอของปิง...ภาพที่เราสองคนนั่งหลังพิงกันดูพระอาทิตย์ตกดิน เราสองคนคิดเหมือนกันนานแล้ว ตั้งแต่แรก ตั้งแต่ก่อนจะรู้ตัวด้วยซ้ำ
“เย็นวันนี้ที่ปิงหายไปเราเป็นห่วงนายมากนะ”
“เรานัดจอยมาบอกเลิก เรา...เราอยากพร้อมจะบอกรักดิม” ปิงบีบมือผมแน่น เช่นเดียวกับที่ผมอยากจับจองเป็นเจ้าของเขา...แต่เมื่อทำไม่ได้ก็ขอแค่สัมผัส แค่จับไว้ไม่ให้หลุดลอยไป
“เรากลัว เรากลัวพูดไปแล้วดิมจะไม่ได้คิดเหมือนเรา เราเลยต้องทำทุกอย่าง แต่พอเราบอกเลิกจอยเราก็รู้สึกแย่ ไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่เหมือนที่เราเคยคิดไว้...เราเลยไม่เจออยากใคร” ความรู้สึกทั้งหมดพรั่งพรูออกมา
“แล้วดิมล่ะ?”
“หืม?”
“นายรู้สึกยังไงกับเรา?” ปิงหันข้างมาพูดกับผม
“เรา...” ผมกอดปิงแน่น ซุกหน้าลงที่ซอกคอ สูดกลิ่นกายของเขา
“เราชอบปิงนะ เราชอบตอนนายเล่นกีตาร์ดูเท่ดี เราชอบที่นายใจดี เวลาอยู่ใกล้ก็อบอุ่น เราชอบที่นายไม่พูดตำหนิเราตรง ๆ แต่บอกเราอ้อม ๆ อย่างตอนที่เราปิดมือถือ”
“จริง ๆ ตอนนั้นเราก็โมโหนะ เป็นห่วงด้วย แต่พอคิดว่านายเจออะไรมา เราเศร้าแทนนายแฮะ เลยไม่อยากพูดอะไรแรง ๆ แล้ว”
ใช่...เมื่อตอนเย็นที่ปิงหายไปผมก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน โมโห เป็นห่วง น้อยใจว่าเราสองคนคุยกันได้ทุกเรื่องไม่ใช่เหรอ นายมีอะไรทำไมไม่บอกผม
“ปิง เราว่าบางที...”
“บางทีอะไรเหรอ?”
“เราสองคนไม่ได้รักกันแบบแฟนหรอก นายเคยได้ยินคำว่า soulmate มั้ย?”
“คืออะไรเหรอ?”
“คล้าย ๆ เพื่อนรักเพื่อนสนิทที่เป็นยิ่งกว่าเพื่อนสนิท คล้ายคู่รักแต่ก็ไม่ใช่ความรักแบบนั้น ผูกพันกันมาก อยากอยู่ด้วยกัน เข้าใจกันชนิดแค่มองตาก็รู้แล้ว อะไรแบบนั้นน่ะ”
ปิงนิ่งเงียบไป ทุกอย่างนิ่งสงัด มีแต่เสียงนาฬิกาบนผนังบ้านเดินเบา ๆ
“เราไม่เข้าใจน่ะดิม เรารักนาย นายก็รักเราไม่ใช่เหรอ?”
ผมผละออกจากปิง เปิดกระเป๋าหยิบสมุดปากกาออกมา “เหมือนเราสองคนเป็นจุด 2 จุดที่อยู่บนพิกัด x,y เดียวกัน” ปิงกระเถิบเข้ามาดูสิ่งที่ผมเขียน
“แต่เมื่อมองจากระนาบ z จริง ๆ แล้วจุด 2 จุดนั้นไม่ใช่อยู่บนพิกัด z เดียวกัน...มันแค่อยู่ใกล้กัน” ผมมองตาปิง “เรากับปิงมีความสัมพันธ์ยิ่งกว่าเพื่อนสนิทโดยไม่ต้องอยู่ด้วยกันบนจุดเดียวกัน”
“ถึงไม่อยู่ด้วยกันแต่มีความสัมพันธ์ยิ่งกว่าเพื่อนสนิทได้งั้นเหรอดิม?”
“อืม”
เขาหันมาหาผม ดวงตาเราสองคนจ้องมองกัน ปิงเอื้อมมือมาที่ผมช้า ๆ...แล้วเคาะมะเหงกลงมา
“โอ๊ย! ทำไรเนี่ย?”
“ตะกี้เรากำลังเศร้าอ่ะ แต่ดิมเล่นอธิบายเป็นคณิตศาสตร์ หมดกันเลยความโรแมนต่งโรแมนติก!”
“ก็อธิบายปากเปล่าแล้วไม่เข้าใจนี่หว่า”
ผมดึงเบาะโซฟาทุบกลับเบา ๆ ใส่ปิงที่หัวเราะทั้งน้ำตาคลอเบ้า เขาแย่งเบาะไป ผมหันไปหยิบเบาะอีกใบแต่ปิงกอดผมไว้
“soulmate นี่เลิกเป็นไม่ได้ใช่มั้ย?”
“ก็...ก็คงงั้นมั้งปิง มีแต่แฟนอ่ะที่เลิกกันได้”
“งั้น...” ปิงกระชับวงแขนเข้าช้า ๆ “เราสองคนเป็น soulmate กันนะ อย่าเลิกกับเรานะ”
“อืม ก็เป็นเพื่อนรักกันตลอดไปแหละ”
“ดิมสัญญานะจะคุยกับเราทุกเรื่อง”
“ฮะ ๆๆ ทนฟังให้ได้ก็แล้วกัน บางทีเราก็อยากหาคนคุยเรื่องมิติเวลาเดินเป็นวงกลมน่ะ”
เขายิ้มออกซะทีทั้งที่ตาแดงก่ำ
“อยู่ด้วยกันนะดิม”
“อืม อยู่ด้วยกัน”
ผมมองตาเขาที่อยู่ห่างไปแค่ไม่กี่เซ็น “ถึงเราไปอยู่โรงเรียนอื่น เราก็ยังเป็น soulmate กันนะ”
ปิงหลบตาลงต่ำ ผมไม่อยากโกหกให้เขาผิดหวังซ้ำอีก อีกไม่นาน อีกไม่กี่เดือนผมก็จะไปเข้าม.4 ที่โรงเรียนอื่นแล้ว
“ดิม คืนนี้นอนคุยกับเราได้มั้ย? นายเล่าเรื่องมิติเวลาอะไรนั้นให้เราฟังที”
“ฮะ ๆๆ ได้เลย”
ปิงพาขึ้นชั้นสอง จัดเตียงนอน ปิดไฟและเปิดเพลงจากมือถือ
Lullaby and good night. In the sky stars are bright
'Round your head, Flowers gay. Set you slumbers 'til day
“เล่ามา ๆ” ปิงนอนตะแคงเหมือนเด็กน้อยรอฟังนิทาน มีเพียงแสงสลัวจากมือถือและเสียงเพลงกล่อมนอน
“ปิงเคยได้ยินเรื่องบิ๊กแบงมั้ย?”
“เคย ที่เขาว่ามันคือกำเนิดจักรวาลใช่มั้ย? เกิดระเบิดครั้งใหญ่ออกมาเป็นดาวทั้งจักรวาล”
“อืม ดาวทั้งเอกภพกำลังเคลื่อนที่ช้า ๆ นักดาราศาสตร์เลยคิดว่าถ้าลากเส้นย้อนกลับ เส้นทางการเคลื่อนที่ของดาวทุกดวงจะชี้กลับไปยังจุดที่เกิดบิ๊กแบง แต่ก็ยังหาไม่เจอ”
“แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องเวลาเดินเป็นวงกลมยังไงล่ะ?”
“เราคิดว่าที่หาจุดเกิดบิ๊กแบงไม่เจอก็เพราะมันยังไม่เกิดไง”
“แต่เอกภพกับดวงดาวต่าง ๆ เกิดขึ้นแล้วนะ?”
“ใช่ เพราะอดีตกำลังจะเกิดในอนาคต” ผมวาดมือเป็นวงกลมบนอากาศ
ปิงยกมือชี้ใกล้ ๆ มือผม “ในอนาคตจะเกิดบิ๊กแบง ดาวทั้งเอกภพโดนทำลาย แล้วเศษสะเก็ดก็กลายเป็นเอกภพอีกครั้งงั้นเหรอ?”
“ใช่ เพราะวงกลมไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบ ในพุทธศาสนาก็มีกล่าวไว้นะว่าวัฏสงสารนี้มิอาจหยั่งถึงจุดเริ่มต้นหรือจุดจบ ซึ่งถ้าเวลาเดินวงกลมจริงก็จะอธิบายเรื่องการกลับชาติมาเกิด, การเดินทางย้อนเวลาหรือแม้แต่เรื่องจักรวาลคู่ขนานได้ แต่การเดินของเวลาแต่ละรอบอาจไม่เหมือนกันซะทีเดียว มันอาจเป็นทรงแบบ Lissajous patterns บิ๊กแบงอาจมีมากกว่า 1 ที่ด้วยปัจจัยเบี่ยงเบน...”
ผมพูดทฤษฎีต่าง ๆ ที่ผมคิด พอหันไปดูอีกทีปิงก็หลับไปแล้ว เสียงเพลงกล่อมนอนยังบรรเลงเบา ๆ เพราะเขาตั้งให้เล่นวน
Close your eyes
Now and rest
May these hours
Be blessed
ปิงตอนหลับหน้าตาน่ารักเหลือเกิน ปิงที่ไม่ร้องไห้อีกแล้ว
สำหรับปิง...ผมคือ soulmate ของเขา
สำหรับผม...เขาคือ…
ผมลงจากเตียงช้า ๆ ไม่อยากให้เขาตื่น ลงชั้นล่างหยิบกระเป๋าเดินออกมาปิดล็อกประตูบ้านให้เรียบร้อย
ตอนนี้ตีหนึ่งแล้วอากาศเริ่มหนาวเย็น ผมถูมือกับท่อนแขนให้อุ่นคลายความหนาวเย็น ผมโบกแท็กซี่เพื่อเดินทางกลับบ้าน ท้องฟ้ายามราตรีมีบางที่จุดพลุประปราย ท้องฟ้ามืดสนิทของคืนคริสต์มาสถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของดอกไม้ไฟ ไฟประดับตามหน้าห้างและไฟถนนสีเหลืองที่ล้วนไม่ใช่สิ่งธรรมชาติ เหมือนที่ผมแต่งเรื่อง soulmate ให้ความสัมพันธ์ของผมกับปิงจบลงด้วยการเป็นเพื่อนสนิทกันในความคิดของเขา ไม่ต้องทรมานกับความสับสนอีกต่อไป
สำหรับปิง...ผมคือ soulmate ของเขา
สำหรับผม...เขาคือพระอาทิตย์
ผมคือลูกโป่งที่ลอยขึ้นไป ลูกโป่งลอยสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนจะเข้าใกล้พระอาทิตย์ได้...ตอนเด็กผมคิดอย่างนั้น
แต่มันไม่มีวันไปถึง ยิ่งขึ้นสูงความหนาแน่นอากาศยิ่งน้อย ลูกโป่งจะขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อถึงความสูงที่แรงกดอากาศเท่ากับก๊าซในลูกโป่งมันก็จะลอยค้างอยู่อย่างนั้น...หรือไม่ก็...แตกแล้วตกลงมา
ผมทนดูปิงกับจอยไปอีก 3 ปีไม่ได้หรอก...ผมเปิดดูรูปใบสมัครสอบม.4...มีแค่ทางนี้ที่ผมจะไม่ต้องเห็นอะไรให้ทรมานอีกต่อไป
ลูกโป่งไม่มีวันลอยไปถึงพระอาทิตย์ได้ มันแค่ดูเหมือนใกล้กันเข้าไปทุกทีแค่นั้น
========จบ========
(https://www.img.in.th/images/f8a3bfd7b402cc5407390e46a51fdad6.md.jpg)