พิมพ์หน้านี้ - (End)หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 10 เธอเท่านั้น คนเดียวและคนสำคัญ สำหรับฉัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Maywrite ที่ 31-05-2020 18:05:30

หัวข้อ: (End)หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 10 เธอเท่านั้น คนเดียวและคนสำคัญ สำหรับฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 31-05-2020 18:05:30
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 00 เรื่องคืนนั้น ฉันจะคิดเสียว่าฝันไป
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 31-05-2020 18:06:51

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

00

เรื่องคืนนั้น ฉันจะคิดเสียว่าฝันไป






 

 

"โอเคงั้นกูกลับนะ" ปณวัชว่าขึ้นหลังจากวางคนเมาไม่รู้เรื่องลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว ตัวก็ไม่ใช่น้อยๆ กว่าจะแบกกันมาได้ถึงนี่ก็เหนื่อยหอบกันทั้งคู่

"เออ มึงกลับเหอะเป้ เดี๋ยวกูดูมันต่อเอง"

"เออฝากมึงด้วยแล้วกัน เมาขนาดนี้ไม่น่าจะตื่นถึงเช้าแหละ"

เขาว่าพร้อมมองหน้าไอ้คนที่นอนกรนอ้าปากน้ำลายยืด ไอ้บอลเอ๊ย คนอกหักก็กู เสียใจก็กู แล้วกูยังต้องมานั่งดูแลมึงอีก

ถึงจะบ่นอยู่ในใจแต่ก็อดจะจัดแจงท่านอนของมันอีกครั้งไม่ได้ เตียงก็เล็กแค่นี้เสือกนอนซะอ้าซ่าแล้วไอ้สิงมันจะนอนตรงไหนวะ

พรึ่บ

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คิดแล้วก็เอื้อมไปหยิบผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาคลี่แล้วคลุมทับจนถึงช่วงหน้าอกให้มันอีกที ก็เห็นอากาศมันเย็นหรอกนะ

"ทำให้มากกว่านี้มึงก็เรียกกูว่าแม่เถอะ"

ไอ้สิงหลุดหัวเราะเมื่อเขาว่าอย่างนั้น มองหน้ากันกับมันแล้วก็ต้องส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อไอ้เพื่อนสนิทสมัยมัธยมที่ตอนนี้เมาเหมือนหมาตดออกมาซะงั้น

"ขอโทษแทนมันแล้วกันว่ะ แม่งกินเหมือนอาบ ไม่รู้จักดูตัวเองตลอดล่ะมันน่ะ"

"เออ สบายมาก มึงไม่ต้องห่วงไอ้บอลหรอก มึงนั่นแหละ กลับไปพักผ่อนได้แล้ว กูเองก็จะอาบน้ำนอนแล้วเหมือนกัน" สิงหาว่าพร้อมตบไหล่เพื่อนสนิทร่วมคณะเบาๆสองสามครั้ง เดินไปส่งมันที่หน้าประตูห้อง บอกลากันอีกนิดหน่อยมันก็หันหลังเดินกลับไปที่ห้องพักของตัวเอง

"เฮ้อ..ไอ้เป้ มึงนะมึง"

เขาอดถอนหายใจพรูใหญ่ออกมาไม่ได้ ใจยังทั้งงงทั้งสงสารมันไม่หาย ก็ตั้งแต่เข้ามหา'ลัยมาเขาก็รู้จักมันเป็นคนแรก ทั้งๆที่มันเป็นคนร่าเริงขนาดนั้น แต่พอโดนพิษรักเข้าไปก็หงอยเป็นหมาโดนเจ้าของทิ้งไปซะได้

เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ทั้งๆที่ไอ้เป้น่ะมันออกจะทั้งรักทั้งหลงแฟนมันมากขนาดนั้น แต่จู่ๆมันกลับต้องมารู้ว่าเขาอยากเลิกกับมันมาตั้งนานแล้ว

และไม่ใช่อะไรนะ ต้องมารู้ในวันเกิดของตัวเองด้วยเนี้ย โหดกว่านี้มีอีกไหม

บอกตรงๆว่าตอนที่ไปเห็นมันยืนอยู่หน้าห้องแฟนแล้วร้องห่มร้องไห้เหมือนเด็กน้อยหลงทางแบบนั้นนี่คือใจหายมาก คนอกหักเคยเจอมาเยอะแล้ว แต่คือโครตพ่อโครตแม่อกหักแบบมัน บอกเลยว่าคนแรกจริงๆ

คือมึงจะรักเขาอะไรได้มากขนาดนั้นวะ ร้องไปบอกรักไป ตะโกนขอร้องบอกให้เขาเปิดประตูให้ไป ศักดิ์ศรีนี้ไม่ต้องเหลือกันแล้ว

และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขามาอยู่ที่สวนผึ้งกันในวันนี้

ตอนแรกไอ้เป้มันวางแผนจะพาแฟนมันมาเที่ยวที่นี่ด้วยกันในวันเกิด แต่เมื่อแฟนมันดันไม่ยอมแม้แต่จะออกมาเจอแบบนั้น มันก็เลยขอร้องบอกให้พวกเขาเป็นคนพามันมาที่นี่แทน มาอยู่ในห้องแห่งความทรงจำให้เจ็บกว่าเดิมไปอีก

"ไอ้เป้! เขาไม่รักมึงแล้ว!" สิงหาหันไปมองคนที่จู่ๆก็ละเมอออกมาเสียงดัง เขาทั้งขำทั้งระอาไอ้เพื่อนต่างคณะคนนี้ ขนาดในฝันมึงยังปากหมา ก็สมควรแล้วที่โดนไอ้เป้มันต่อยจนปากแตกแบบนี้

"นอนไปเลยมึงน่ะ" เขาว่าพร้อมเดินไปหยิบผ้าขนหนูจากในตู้เสื้อผ้า เดินเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำอาบท่าตั้งใจว่าจะนอนบ้างเหมือนกัน

ก็เมื่อคืนกว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ไอ้เป้ที่จองที่พักไว้แค่ห้องเดียวแม่งก็ทำตัวเป็นพระเอกมิวสิค ถือถุงเบียร์เข้าไปนอนล๊อคประตูร้องไห้อยู่ในห้อง เดือดร้อนพวกเขาต้องหาที่นอนกันเอง

แล้วคือดึกขนาดนั้นจะให้เปิดห้องกันใหม่ก็เสียดายตังค์ เลยตัดสินใจนอนกันในรถ แล้วคือไอ้เดี่ยวเพื่อนมัธยมของไอ้เป้อีกคนที่ขอมาด้วยแม่งก็กรนเสียงดังอย่างกับอะไร สรุปคือเขาไม่ได้นอนหลับสนิทเลยทั้งคืน

ดีนะที่คืนนี้ไอ้เป้เอามันไปนอนด้วย เขาจะได้นอนให้เต็มอิ่มสักที

"ไอ้ห่าบอล" สิงหาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูคาดเอวหนึ่งผืน พอมาถึงก็ต้องหลุดขำปนอนาถเมื่อต้องมาเห็นสภาพของเพื่อนร่วมห้องจำเป็นของเขาในคืนนี้

ไอ้คนที่ไอ้เป้อุตส่าห์จัดท่านอนให้ซะดิบดี ตอนนี้หัวมันหล่นไปอยู่ปลายเตียงนอนเรียบร้อยแล้ว ผ้าห่มที่เคยคลุมตัว แม่งไม่รู้มันทำอีท่าไหนมันถึงปลิวไปอยู่หน้าประตูห้องได้

"ไอ้บอล มึงนอนดีๆดิ" สิงหาพยายามสะกิดแรงๆให้อีกคนรู้สึกตัว แต่แทนที่มันจะได้สติมันกลับกรนออกมาแทนคำตอบ

"ไอ้บอล ลุกก่อนมึง เดี๋ยวเลือดตกหัวหรอก"

"..."

"ไอ้ห่าบอล"

"..."

"ไอ้เชี่ยบอลเอ๊ย มึงไม่ต้องแดกอีกเลยนะเหล้าน่ะ" เมื่อเห็นว่ามันคงจะไม่ตื่นแน่ๆ สิงหาจึงสอดสองมือเข้าไปใต้รักแร้แล้วยกตัวมันหมุนให้กลับไปบนหมอนอย่างทุลักทุเล

ยกไปก็บ่นไป ตัวก็ใหญ่จะเท่าเขา ยังต้องมาดูแลอย่างกับเป็นเมียแบบนี้อีก

กว่าจะวางมันเข้าที่ได้ก็เล่นเขาซะหอบแดก ความง่วงที่มีก่อนหน้านี้ปลิวหาย เขาเดินไปหน้าประตู หยิบผ้าห่มของมันมาสลัดๆแล้วคลุมทับให้มันอีกครั้ง

"รอบนี้ถ้ามึงดิ้นอีก กูจะให้มึงนอนพื้น"

ขู่ไอ้คนที่นอนเกานมตัวเองไปหนึ่งรอบก่อนเดินไปที่ตู้เย็น ตั้งใจว่าจะหาน้ำดื่มแต่พอเจอเบียร์กระป๋องก็เปลี่ยนใจหยิบมันออกมาแทน

เขากลับไปนั่งบนเตียงข้างไอ้บอลอีกครั้ง มือนึงถือกระป๋องเบียร์ยกดื่ม อีกมือไถมือถือเล่นแก้เบื่อ

"หืม.." เมื่อกดเข้าไปในกลุ่มแชทของเพื่อนสมัยมัธยมก็ต้องตาโตขึ้นมาในทันที เขาเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปาก จู่ๆลำคอก็แห้งผาก ได้แต่ยกเบียร์ขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดกระป๋อง

สิงหาจบมาจากโรงเรียนชายล้วน แล้วในกลุ่มที่มีแต่ผู้ชายแบบนี้ ไอ้การส่งคลิปโป๊ให้กันมันก็เป็นเรื่องปกติเอามากๆ

"..." ทั้งๆที่เสียงก็ไม่ได้เปิด แต่ภาพเคลื่อนไหวอันร้อนแรงตรงหน้าก็ทำให้ต้องกลืนน้ำลายลงเอือกใหญ่

เพราะหลายวันนี้มัวแต่วุ่นวายกับเรื่องไอ้เป้จนเหนื่อย เขาถึงไม่ได้มีทั้งเวลาและอารมณ์จะปลดปล่อย แต่ตอนนี้เมื่อเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนกลางกายที่เคยหลับไหลก็เหมือนจะฝืนคืนชีพขึ้นมาอย่างง่ายดาย

"ซักน้ำดีกว่าวะ"

พรึ่บ! หมับ!

ตอนที่กำลังตัดสินใจจะลุกไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ จู่ๆไอ้คนที่นอนอยู่ข้างๆก็พลิกตัวหันหน้ามาทางเขา ไม่พอมือมันยังพาดมากอดหน้าตักของเขาเต็มๆซะด้วย

แล้วแม่ง อะไรคือจะพอดีขนาดนั้น

มือมันนี่วางลงตรงกลางตัวของเขาเป๊ะ ผ้าขนหนูที่กั้นกลางระหว่างมือมหัตภัยกับลูกน้อยของเขาก็บางเหลือเกิน ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด

"อืม~"

ไอ้เหี้ย!

สิงหาใจเต้นรัวเมื่อจู่ๆไอ้มือเจ้าปัญหาก็ขยับ แล้วเริ่มนวดคลึงลูกน้อยเขาไปมา

ไอ้เชี่ยบอล มึงกำลังฝันว่าอะไรเนี้ย! หรือมึงฝันว่ามึงกำลังช่วยตัวเองอยู่หรือไงวะ!

เขากำลังลังเล ถึงใจนึงจะอยากให้มันเอามือออก แต่อีกใจก็ต้องยอมรับเลยว่าเคลิ้มมาก มือตัวเองว่าดีแล้ว พอคนอื่นมาทำให้มันยิ่งดีกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า

เพี๊ยะ!

สิงหาได้สติขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมันทำท่าจะล้วงเข้ามาตามรอยแยกของผ้าขนหนู เขาตีมือมันเบาๆเพื่อให้มันหยุด ถึงจะรู้สึกดีก็เถอะ แต่ยังไงก็ไม่ควรจะเลยเถิดกันไปมากกว่านี้

ไอ้ห่า เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด!

"ไอ้เชี่ยบอลมึงนอนดีๆสิวะ" ว่าพร้อมค่อยๆยกแขนมันขึ้นจากตัก พยายามจัดท่าให้มันนอนหันข้างออกไปนอกเตียงอีกฝั่ง

"อืม~ ไม่เอา!" ไม่แค่มันจะไม่ยอมขยับตาม มันยังดึงดันจะพลิกตัวหันหน้ามาทางเขาอยู่นั่น ไม่พอแขนข้างเดิมยังรวบเอวเขาไว้ ซุกหน้าลงบนตักแนบแน่น

"อะ..ไอ้บอล..." สิงหายอมรับเลยว่าตอนนี้เขาอยู่ไม่สุข ลมหายใจร้อนๆที่สัมผัสโดยตรงกับหน้าท้องทำให้เสียววาบไปทั้งแผ่นร่างกาย ตอนนี้หัวใจเขาเต้นไม่เป็นส่ำแล้ว

บางส่วนที่เริ่มแข็งขืนขยับขยายใหญ่โตเมื่อแขนที่ขยับไปขยับมาของมันมาสัมผัส

"ไอ้บอล! ปล่อยกู!" ตะคอกพร้อมพยายามแกะแขนของมันออก แต่ไอ้เหี้ยแม่งก็ยังเกาะหนึบไม่ยอปล่อย

ตอนนี้กูต้องไปห้องน้ำ!

ด่วน! แบบด่วนมาก!

"โอ๊ย~ เงียบได้ไหม..รำคาญ~" ในที่สุดคนที่เคยนอนหลับก็งัวเงียพูดขึ้นมาอย่างแสนรำคาญที่โดนรบกวนเวลานอน

"ไอ้เชี่ยบอล มึงก็ปล่อยกูสิวะ!" ทันทีที่สิงหาโวยวายขึ้นมาอีกครั้งเขาก็ยิ้มอย่างดีใจเมื่อไอ้แขนที่เคยรัดเอวเขาแน่นคลายออก

หมับ!

"เฮ้ย!"

แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับตัว ไอ้แขนข้างเดิมก็เลื่อนมาจับหลังคอเขาแน่น ก่อนที่จะดึงลงไปด้วยแรงมหาศาล

"..." ตาคมของสิงหาโตเป็นเท่าตัว เขาตะลึงสุดขีดเพราะตอนนี้ริมฝีปากของเขากับริมฝีปากนุ่มอุ่นของใครอีกคนแนบชิดกันสนิท

"พูดมากอยู่ได้.." คนที่ควรจะหลับไปถึงเช้าปรือตาขึ้นมามองเขาที่ยังนิ่งอึ้งไม่ขยับ มันกดหลังคอเขาลงอีกครั้งให้ริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกันแน่นกว่าเดิม

ในตอนที่กำลังพยายามตั้งสติว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ลิ้นอุ่นร้อนของคนเมาก็ดุนดันเข้ามาให้เตลิดกว่าเดิม แอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์ และอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว อะไรๆก็เหมือนจะเลยเถิดเกินการควบคุม...

 

૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

มาแล้วค่าา มันเป็นบทนำก็เลยจะสั้นๆหน่อยนะคะ บทต่อไปก็ยาวก็เพ้อไม่หยุดเหมือนเดิมนั่นแหละ เรื่องของเป้เต็มๆก็อ่านได้ใน "เรื่องเล็กๆ" ภาคโตนะคะ ช่วงเวลามันอาจจะคาบเกี่ยวกัน แต่ว่าไม่ได้ต่อเนื่องค่ะ อ่านแยกได้จ้า

ขอกำลังใจหน่อยน้า จะเม้น จะเลิฟก็ได้ แล้วจะรีบมาต่อเลยค่า

 

ทวิตจ้า @maywrite_

หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 00 เรื่องคืนนั้น ฉันจะคิดเสียว่าฝันไป
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 31-05-2020 19:50:08
 :haun4:
แล้วเขาได้กินกันจริงมั้ย
จินตนาการไม่เป็นอ่ะ
ต้องบรรยายภาพนะ ถึงจะรู้จะเห็นว่ามันจริง
อิอิ

แล้วสิงกับบอล ใครปั๋วใครเมีย บอกด้วย
เราจะไม่เดา ฮ่าฮ่า

 :katai2-1:
คือดียยยยย์
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 00 เรื่องคืนนั้น ฉันจะคิดเสียว่าฝันไป
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 31-05-2020 22:23:02
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 00 เรื่องคืนนั้น ฉันจะคิดเสียว่าฝันไป
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 01-06-2020 13:34:07
:haun4:
แล้วเขาได้กินกันจริงมั้ย
จินตนาการไม่เป็นอ่ะ
ต้องบรรยายภาพนะ ถึงจะรู้จะเห็นว่ามันจริง
อิอิ

แล้วสิงกับบอล ใครปั๋วใครเมีย บอกด้วย
เราจะไม่เดา ฮ่าฮ่า

 :katai2-1:
คือดียยยยย์

ไม่ปล่อยให้เดาแน่นอนค่า มาแบบละเอียดๆแน่นอน 55555
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 01 คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 01-06-2020 13:35:56

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

01

คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ


 

"ตกลงมึงจะให้พวกกูเข้าไปด้วยไหม" อัธพลถามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ทำหน้าเครียดจมอยู่ในความคิดตัวเองซ้ำอีกครั้ง

ตอนนี้พวกเขาสามคน ที่หนึ่งคนอยู่วิศวะ อีกสองคนเรียนดุริยางค์ กำลังยื่นอยู่ที่ลานจอดรถของคณะบัญชี วันนี้เขากับไอ้สิงพาไอ้เป้มาหาแฟนของมันที่เรียนอยู่คณะนี้

เพราะมันกำลังจะไปบอกเลิกแฟน

"ไม่เป็นไร พวกมึงกลับไปก่อนก็ได้นะ"

"ไม่เอา มึงจะให้กูรอที่นี่หรือจะให้กูเข้าไปกับมึงด้วย มึงเลือกเอาแล้วกัน" เขายื่นคำขาด วันนี้เขาไม่ยอมให้มันอยู่คนเดียวแน่ๆ เพราะรู้ดีว่าสำหรับไอ้เป้แล้ว เรื่องที่มันกำลังเผชิญอยู่มันยากมากแค่ไหน

ทั้งๆที่ยังรักเขาหมดใจ แต่เพื่อความสุขของภัทรแฟนมันแล้ว มันถึงยังดั้งด้นมาหา ยอมที่จะเป็นฝ่ายปล่อยมือ ยอมปล่อยไปเพื่อความสุขของใครอีกคน

"โอเค งั้นมึงรอกันที่นี่แป๊บนึงนะ เดี๋ยวกูมา"

"มึงห้ามร้องต่อหน้าเขานะ กลับมาร้องกับพวกกูโอเคไหม"

ปณวัชแค่นยิ้มมุมปาก พยักหน้ารับเป็นการให้สัญญากับเพื่อนสนิทที่ดูกังวลยิ่งกว่าตัวเขาเองเสียอีก

ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองหน้าเพื่อนอีกคนที่ตั้งแต่ยืนกันมาก็ไม่ได้พูดอะไร มันทำเพียงยกยิ้มบางให้กำลังใจเขาอยู่เงียบๆ

"เอาวะ มันคงไม่เจ็บถึงตายล่ะมั้งไอ้เป้" อัธพลมองตามเพื่อนที่พูดกับตัวเองเบาๆด้วยความรู้สึกสุดแสนจะเป็นห่วง

เขารู้จักกับมันมาตั้งแต่เข้ามอหนึ่ง ช่วยเหลือกันมาตลอด รู้ใจกันทุกอย่าง วันนี้ที่ต้องมาเห็นมันทรมานแล้วช่วยอะไรไม่ได้เลยแบบนี้ บอกตรงๆว่ามันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าจริงๆ

"มึงยังมีกูไอ้เป้.." พึมพำออกมา ตาคมยังมองตามเพื่อนสนิทที่คล้อยหลังเข้าไปในตัวตึก

"มันจะไม่เป็นไรมึง" สัมผัสอุ่นร้อนบนไหล่กับเสียงทุ้มนุ่มจากด้านหลังทำให้อัธพลเหลียวไปมอง

เขายิ้มให้กับเพื่อนสนิทในคณะของเป้ ที่ตอนนี้ก็กลายเป็นเพื่อนกับเขาไปแล้วเพราะเจอกันบ่อยเหลือเกิน

"อืม..สิง ที่จริงถ้ามึงมีธุระ มึงก็กลับไปก่อนก็ได้นะ ยังไงกูก็รูมเมทมัน ต้องกลับด้วยกันอยู่แล้ว"

"ไม่เป็นไรกูรอได้!" อัธพลแอบสะดุ้งเมื่อคนตรงหน้าตอบสวนกลับมาอย่างรวดเร็วในทันทีที่เขาพูดจบ แถมยังเสียงดังฟังชัดเกินความจำเป็นไปอีก

"..เอ่อ..กูก็ห่วงมันเหมือนกันไง รอมันด้วยกันนี่แหละ" สิงหายกยิ้มเจื่อนให้คนที่ตอนนี้ขมวดคิ้วเข้าหากันนิดหน่อยเพราะความแปลกใจในท่าทีของเขา

"อืม เอางั้นนะ" มันพยักหน้ารับรู้ในที่สุด ก่อนจะหันไปทางที่ไอ้เป้เพิ่งเดินหายเข้าไปอีกครั้ง

เขารีบหันหลังให้มันแล้วพรูลมหายใจออกมาพรูใหญ่ อดจะด่าตัวเองในใจไม่ได้

เกือบไปแล้วไงมึง กระโตกกระตากชิบหาย ดูไอ้บอลดิแม่งยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเขาเผลอแสดงท่าทางออกไปแม่งต้องกลายเป็นพวกไก่อ่อนให้มันล้อแน่ๆ

แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ

ถ้าไม่มาเป็นเขาก็ไม่มีทางเข้าใจหรอก

ก็ตั้งแต่เกิดเรื่องที่สวนผึ้งคืนนั้น นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้ว และมันก็เป็นสองวันที่เขารู้สึกว่าโครตจะนานและทรมานฉิบหาย

เวลาตื่นก็คิดถึงแต่เรื่องมัน พอจะหลับก็แม่งมีแต่ภาพของคืนนั้นหลอนไปมาให้นอนไม่ได้

คืนนั้น...

ใช่..คืนนั้น

คืนที่ทำให้เขาไม่สามารถกลับมาเป็นสิงหาคนเดิมได้อีกต่อไป

 

'พูดมากอยู่ได้..'

อย่างไม่ทันตั้งตัวสิงหาโดนดันที่หลังคอให้ลงไปประกบจูบกับปากเรียวนุ่มของคนใต้ร่าง

สมองขาวโพลนไปชั่วขณะในตอนที่ลิ้นร้อนที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งดุนดันเข้ามาในโพรงปาก

เขาไม่ใช่คนไร้ประสบการณ์

แต่ตลอดทั้งชีวิตก็ไม่เคยรุนแรงกับสาวคนไหนแบบนี้มาก่อน

ดังนั้นสิ่งที่กำลังสัมผัสมันถึงทำให้ใจเต้นแรงรัวไร้จังหวะได้มากมายขนาดนี้

จ๊วบ..จ๊วบ..จ๊วบ

ภายในห้องที่เงียบสนิทมีเพียงเสียงเสียดสีของสองริมฝีปากที่ดูดดึงกันไปมาดังก้อง

ขบเม้ม รุกล้ำ กัดกลืน

ยังไม่พอไอ้คนที่กึ่งหลับกึ่งเมาเลื่อนมือจากคอของเขาลงที่หน้าอก ลูบไล้ก่อนจะจบที่การหยอกล้อกับตุ่มไตสีน้ำตาลอ่อนที่ตอนนี้ตั้งชันเพราะความเสียวซ่าน

สิงหาไม่สามารถคิดไตร่ตรองอะไรได้อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านตามแรงกระตุ้นเร้าได้เข้ามาชี้นำทุกการกระทำของเขาเป็นที่เรียบร้อย

คนใต้ร่างส่งเสียงครางเบาๆทั้งๆที่ยังหลับตาสนิท เขาไม่รู้ว่ามันกำลังฝันอะไร รู้เพียงว่าสิ่งที่อยู่ในหัวคนเมาตอนนี้มันคงจะไม่ต่างกับสิ่งที่อยู่ในหัวของเขาสักเท่าไหร่

หลักฐานที่อยู่ทนโท่ก็น่าจะเป็นบางส่วนของร่างกายของเราสองคนที่เริ่มแข็งขืนขึ้นในทุกครั้งที่มันเสียดสีกันไปมา

สิงหาแน่ใจ

แน่ใจว่าเขาปวดหนึบจนทนไม่ไหวแล้ว

 พรึ่บ!

เร็วกว่าความคิดเขาตัดสินใจปลดผ้าขนหนูที่พันเอวออก ก่อนจะจัดการดึงกางเกงบอลของใครอีกคนลงไปที่ต้นขา

เหี้ยแหละ

แล้วเขาทำกันยังไงวะ

สิงหายอมรับเลยว่าเขากำลังสติแตก เขาไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน ก็พอรู้แหละว่ามันก็มีแค่รูเดียวให้ใส่ แต่คือมันต้องทำอะไรหรือเตรียมตัวก่อนไหม ใส่เข้าไปได้เลยหรือยังไง แล้วไอ้ของที่มีเหมือนกันกับเขาของมัน เขาต้องเพิกเฉยหรือต้องจัดการให้มันสงบลงก่อนหรือเปล่า

สมองก็คิดไปสารพัดจนสับสนไปหมด แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความกระสันบวกกับความอยากรู้อยากลองที่มีอยู่มากกว่าทุกสิ่งได้เพิ่มความกล้าให้เขาจนไม่อาจจะคิดถอยกลับ

'ไม่ลองแล้วจะไปรู้ได้ไงวะ'

 

"สิง"

"..."

"สิง..ไอ้สิง...ไอ้เหี้ยสิง!" สิงหาสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อดังข้างหู สติที่ล่องลอยไปกับเรื่องในอดีตถูกดึงกลับมาหาคนตรงหน้าอีกครั้ง

"ทะ..ทำ..ตะ..ตะโกนทำไมวะ"

"มึงเป็นอะไรเนี้ย กูเรียกตั้งนานมึงก็ไม่ได้ยิน เหม่ออะไรขนาดนั้น" อัธพลว่าพร้อมยื่นน้ำอัดลมกระป๋องให้อีกคน เจ้าตัวทำหน้างงๆก่อนจะรับไปพร้อมเอ่ยคำขอบคุณ

นี่อย่าบอกนะ ว่ามันเหม่อถึงขนาดไม่ได้ยินที่เขาบอกว่าจะไปเซเว่น

"มึงคิดถึงเรื่องไอ้เป้อยู่หรอ" ว่าพร้อมยื่นถุงข้าวเกรียบกุ้งในมือไปตรงหน้าให้มันหยิบขึ้นมาสองชิ้น

"มึงก็เป็นห่วงมันใช่ไหมล่ะ วันนี้กูเห็นนะ มึงดูเงียบๆกว่าปกติ เหมือนมีอะไรในใจตลอดเวลา"

จู่ๆอย่างไม่ได้ตั้งใจมุมปากทั้งสองของสิงหาก็ยกขึ้นโดยอัตโนมัติ มันทั้งแปลกใจทั้งดีใจผสมกัน เพียงแค่ได้ยินว่ามันแอบสังเกตเขา จู่ๆหัวใจก็คันยุบยิบไปหมด

"กูก็เป็นห่วงมันเหมือนกัน แต่คือมึงก็ทำอะไรไม่ได้ไง ที่ทำได้ก็แค่คอยอยู่ข้างๆมันแบบนี้แค่นี้แหละ"

"..."

"มึงเองก็ทำเต็มที่แล้ว เพราะงั้นมึงอย่าคิดมากเลยนะ"

ถ้าจะให้บรรยายภาพของไอ้บอล มันคือผู้ชายสูงร้อยเจ็ดสิบสามที่มีผิวสีผสมค่อนไปขาว ร่างกายสมส่วนที่มีกล้ามเนื้อพอดิบพอดีไม่มากหรือน้อยเกินไป ตาคมสองชั้น จมูกที่โด่งได้รูปกับปากที่ดูอวบอิ่มและชุ่มชื้นตลอดเวลา

ถ้าจะมีใครบอกว่ามันหล่อก็ไม่ผิด บอกว่ามันหน้าตาดี มันเท่ มันดูมีเสน่ห์ มันดูเหมาะจะเป็นพ่อของลูกก็คงไม่ผิด

แต่สำหรับสิงหาแล้ว ตอนที่มันส่งรอยยิ้มกว้างๆมาให้พร้อมคำพูดปลอบใจเพราะไม่อยากให้เขาคิดมากแบบนี้

เขาว่ามันดูน่ารัก

ใช่..ไม่ได้หล่อ ไม่ได้เท่ ไม่ได้เหมาะจะเป็นพ่อของลูกหรือผัวของใคร

เขาว่ามันน่ารัก

น่ารักแบบน่ารัก

น่ารักแบบอย่างทะนุถนอม

น่ารักแบบอยากหยิกแก้มแล้วดึงมาฟัด

น่ารัก

น่ารักแบบเหมาะที่จะเป็นของเขา

"..."

สิงหาตัดสินใจแล้ว เขาทนเก็บความรู้สึกที่อัดแน่นในอกอีกต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ เมื่อมันไม่ยอมเริ่มพูด เขาก็จะเป็นคนเริ่มเอง เขาไม่เชื่อหรอกว่าไอ้บอลจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นไม่ได้เลยจริงๆ

"ไอ้บอล.." สิงหารวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "กูขอถามอะไรมึงตรงๆได้ไหม"

"เออ ถามมาดิวะ" มันว่าก่อนที่จะกระดกน้ำอัดลมจนหมดกระป๋องแล้วเรอออกมาเสียดัง

บ้าบอ!

สิงหาคิดว่าเขาต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ

คนอะไรวะ จะน่ารักกระทั่งเวลาเรอ!

"คือคืนนั้นที่สวนผึ้ง"

"หืม?"

"มึงจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง" ค่อยๆถามช้าๆพร้อมกับลอบสังเกตอาการของคนตรงหน้า

จากที่ตอนแรกไอ้บอลมีท่าทางสบายๆ ตอนนี้มันกลับยืนตัวตรง หลุบตาหลบเมื่อเขาพยายามสบตากับมัน ปากอิ่มกัดเม้มแน่นเข้าหากัน ก่อนที่มันจะกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ลงไปในคออย่างยากเย็น

เขามั่นใจ มันจำได้!

"กูขอโทษจริงๆว่ะ" หลังจากที่มันเงียบไปสักพัก ในที่สุดเมื่อเหมือนจะสรุปกับตัวเองได้มันก็เงยหน้าขึ้นมาหาเขาอีกครั้ง

"กูเมามากจริงๆ"

"..."

"มึงลืมๆมันไปได้ไหม"

ก็เหี้ยล่ะ

สิงหาแอบด่าใครอีกคนในใจ จากตอนแรกที่กล้าๆกลัวๆไม่อยากทำให้มันลำบากใจ ตอนนี้ความโมโหกลับเข้ามากลบทุกสิ่ง

มาทำกับเขาซะขนาดนั้น แล้วจะบอกให้เขาลืม ไม่คิดว่ามันจะง่ายไปหน่อยหรือไง

"มันจะไม่ง่า..."

"ไอ้เป้!"

ในตอนที่กำลังตั้งท่าจะด่ามันเขาก็ต้องชะงักเมื่อไอ้บอลตะโกนเรียกชื่อใครอีกคน ไม่ทันจะได้หันไปมอง คนตรงหน้าเขาก็พรวดพราดวิ่งไปหาคนที่มันเรียกเรียบร้อยแล้ว

เขาเห็นไอ้เป้ค่อยๆเดินออกมาจากใต้ตึกคณะที่มันเข้าไปก่อนหน้านี้ หน้าตาเคร่งเครียดกับไหล่ที่ห่อยู่ทำให้เขาเองก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

"เป้ มึงโอเคไหม" ไอ้บอลถามอย่างร้อนใจเมื่อก้าวเข้าไปประชิดเพื่อนสนิทได้ในที่สุด

"..."

"เป้..."

"กูทำได้แล้วมึง.." มันว่าออกมาเบาๆด้วยเสียงสั่นพร่า

"กูปล่อยเขาไปได้แล้ว กูไม่ใช่คนที่ทำลายความสุขของเขาอีกแล้ว" เมื่อจบประโยคนั้นคนที่พยายามทำตัวเข้มแข็งมาตลอดก็ปล่อยโฮออกมา

ไอ้บอลมองหน้าเขาอย่างหาตัวช่วยเพราะมันเองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้วเหมือนกัน สิงหาที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่มีสติที่สุดในตอนนี้บอกให้พาไอ้คนที่ร้องไห้ไม่หยุดไปที่รถของเขา

เปิดประตูให้มันไปนั่งเบาะหลังคนขับ เมื่อเขาอีกสองคนมาประจำที่ด้านหน้า มันก็เริ่มเล่าทุกเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆให้ฟังทั้งน้ำตา

รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง เพราะมันเอาแต่สะอึกสะอื้นไม่หยุด

"พอกูถามว่าเขาต้องการอะไร เขาก็ขอกูห่าง"

แต่สิ่งที่เขาสองคนรับรู้ได้แน่ๆ...

ก็คือมันเป็นเรื่องจริงสินะ

"ไอ้เหี้ย อึก...กู..กูรักเขา มึงได้ยินไหม"

ที่คนคนนึงสามารถรักใครอีกคนได้มากมายขนาดนี้

"อึก..ไม่มีเขา..แล้ว..อึก..กูจะอยู่ยังไง"

มากจนลืมวิธีที่จะอยู่ให้ได้โดยไม่มีเขา

มากจนลืมไปแล้วว่าจะมีความสุขต่อไปได้ยังไงถ้าไม่มีใครคนนั้นเคียงข้าง



"มึงถึงแล้วมึงโทรหากูด้วยนะ"

"มึงบอกกูเป็นรอบที่สิบแล้วครับแม่"

"แม่พ่องมึงสิ" ปณวัชหัวเราะออกมาเมื่อโดนคนตรงหน้าที่วันนี้ทำตัวเหมือนแม่เขามาตลอดทั้งวันด่า

เขาหันไปบอกลาและขอบใจไอ้สิงเป็นครั้งสุดท้ายที่มันอุตส่าห์ขับรถพาเขามาส่งถึงที่หมอชิต 2 แห่งนี้เมื่อมันรู้ว่าเขาต้องการจะกลับบ้านที่พิษณุโลก ทั้งๆที่เขาขอร้องแค่ให้มันช่วยไปส่งเขาที่ท่ารถตู้หน่อย

"ดูแลตัวเองด้วยนะมึง" สิงหาเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นมือไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ "พักให้สบาย เดี๋ยวมีงานอะไรกูไลน์หา" พูดคุยกันอีกนิดหน่อย จนเมื่อใกล้เวลารถออกเป้ก็บอกลาอีกครั้งแล้วเดินไปขึ้นรถ

"..." ที่จริงเรื่องเศร้าของไอ้เป้มันทำให้เขาหัวหมุนจนลืมเรื่องอื่นๆไปหมด แต่พอได้กลับมาอยู่ด้วยกันสองต่อสองอีกครั้ง เรื่องราวก่อนหน้าก็เริ่มไหลพรูกลับเข้ามาในหัวสมองให้จิตใจเริ่มปั่นป่วนไปหมด

"หิวข้าวยังมึง" จู่ๆในตอนที่กำลังคิดว่าจะเริ่มเปิดเรื่องยังไงต่อดี คนที่อยู่ในห้วงความคิดก็เป็นฝ่ายถามขึ้นมาให้ต้องหันไปมอง

"กูหิวแล้ว แวะห้างแถวนี้ก่อนไหม หาข้าวกินแล้วค่อยกลับมอกัน"

"อือ เอางั้นก็ได้"

สิงหาตอบตกลงอย่างง่ายดาย ก็ดีเหมือน เขาจะได้มีเวลาค่อยๆคิดว่าจะเริ่มคุยกับมันยังไงอีกรอบดี



"ขอเป็ดจานใหญ่จานนึงครับ" หลังจากที่สั่งสารพัดผักสารพัดลูกชิ้นไปแล้ว คนตรงหน้าสิงหาก็ยังพลิกเมนูในมืออย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ก่อนจะเริ่มสั่งรัวๆให้พี่คนรับเมนูกดตามแทบไม่ทัน

"แล้วก็ขอขนมจีบกุ้งกับปู ขาเป็ด ก๋วยเตี๋ยวหลอด อย่างละ...ไอ้สิง มึงจะกินด้วยไหม"

อัธพลหันไปถามคนที่นั่งตรงข้าม ตั้งแต่เข้าร้านมามันยังไม่ได้สั่งอะไรเลยสักอย่าง

"ที่มึงสั่งมาทั้งหมด กูกินด้วยได้ใช่ไหม"

"อืม ก็สั่งมากินด้วยกันไง แต่ของกินเล่นมึงอยากจะเอาอะไรเพิ่มไหม"

"ไม่อะ มึงสั่งมาเหอะ เดี๋ยวกูกินด้วย"

"แต่กูไม่แบ่งหมี่หยกให้นะ ถ้ามึงจะกินมึงต้องสั่งเพิ่มเอง" สิงหาหลุดยิ้มออกมาในที่สุด

ไอ้เหี้ย จริงจังมาก หน้าตาหวงหมี่หยกของมึงน่ะ

"เออ งั้นสั่งให้กูจานนึง"

"โอเคพี่ งั้นสรุปเอาขนมจีบกุ้ง จีบปู ขาเป็ด ก๋วยเตี๋ยวหลอดอย่างละเข่งครับ แล้วก็หมี่หยกแบบสามก้อนสามจานครับพี่"

"ไอ้บอล...มึงจะกินไหวจริงๆหรอวะ" พอพี่ที่รับรายการเดินกลับไป สิงหาก็อดที่จะเอ่ยถามคนที่สั่งอาหารเหมือนมากันสิบคนไม่ได้

"เออ ไหวดิวะ กูก็กินแบบนี้ประจำแหละ"

"โห มึงกินขนาดนี้แล้วแม่งไม่อ้วนได้ไงวะ"

"ใครว่าไม่อ้วน พุงกูออกจะใหญ่ แต่กูแค่ไม่สน" มันพูดกลั้วหัวเราะ เพราะตายังมองตรงไปที่โทรศัพท์ที่ไถเล่นอยู่ในมือจึงทำให้ไอ้บอลมองไม่เห็นสายตาของเขาที่กำลังเถียงขาดใจกับคำพูดเมื่อกี้ของมันอยู่

พุงเพิงไม่เห็นจะมี เขาทั้งจับทั้งลูบมาแล้ว บอกได้เลยว่าเรียบเนียบที่สุด!

"เออ ว่าแต่กูกับมึงก็รู้จักกันมานานแล้วนะ" จู่ๆมันก็พูดขึ้นมาให้เขาที่กำลังจินตนาการถึงร่างกายเปลือยเปล่าของมันอยู่กลืนน้ำลายเอือกใหญ่ก่อนจะหันไปมองหน้ากัน

"กูยังไม่มีเบอร์มึงเลย ขอเบอร์มึงหน่อยดิ เผื่อมีเรื่องไอ้เป้จะได้ติดต่อกันได้"

สิงหาพยายามหยุดตัวเอง

พยายามเก็กหน้าให้เหมือนว่าทุกอย่างเป็นเรื่องปกติตอนที่รับโทรศัพท์มากดเบอร์ของเขา มันก็แค่เพื่อนสองคนแลกเบอร์กัน ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่เห็นเหตุผลอะไรที่ใจต้องเต้นรัว

เรื่องธรรมดา ธรรมด๊า..ธรรมดา

เขาตัดสินว่าจะไม่รื้อฟื้นเรื่องวันนั้นขึ้นมาในตอนนี้ เพราะไม่อยากตัดอารมณ์ของคนที่แค่เห็นอาหารก็กลายร่างเป็นลูฟี่ไปแล้ว ถึงจะเคยกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารบ่อยๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มาเห็นมันกับของโปรดเต็มโต๊ะแบบนี้ อะไรจะดูมีความสุขขนาดนั้น

"เอ้าไอ้สิง กินดิวะ มองหน้ากูแล้วจะอิ่มไหมเนี้ย"

"..."

"อันนี้หมี่หยกกูนะ ของมึงจานนั้น"

"..."

เขาช่วยไม่ได้ที่จะยกยิ้ม

บอกตัวเองว่ามันคงเป็นที่หลายวันมานี้เอาแต่คิดแต่เรื่องของมัน จึงทำให้ตอนนี้เขาบ้าไปแล้วจริงๆ

เพราะไม่ว่ามันจะทำอะไร จะทำหน้างอแล้วรีบดึงจานหมี่หยกสองจานของตัวเองไปไว้ใกล้ตัว จะกินมูมมามจนน้ำจิ้มย้อยติดคาง หรือจะทำหน้าขอลุแก่โทษที่เผลอเรอออกมาหลังจากกินน้ำชาหมดแก้ว

ใช่ เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

ที่คิดว่าการกระทำทั้งหมดของมันน่ารัก

หึ..

เขาต้องบ้าไปแล้วจริงๆ



"ขอบใจนะมึงที่อุตส่าห์มาส่ง" อัธพลปลดเข็มขัดนิรภัยพร้อมกับเอ่ยขอบใจเจ้าของรถที่อุตส่าห์วนรถกลับมาส่งถึงหอ ทั้งๆที่ที่จริงแล้วมันไม่ได้อยู่หอแต่ไปกลับบ้านทุกวัน

"เกรงใจมึงจังเลยวะ ดึกขนาดนี้แล้วมึงต้องวนรถกลับไปบ้านอีก กว่าจะถึงนี่ก็ดึกเลยนะ" เขาว่าพร้อมเหลือบมองนาฬิกาในรถ ตอนนี้มันสองทุ่มกว่าแล้ว

"หรือมึงนอนกับกูไหมล่ะ" สิงหาตาโตในทันทีที่คำถามที่ไม่คาดคิดดังขึ้น เขาหันขวับไปมองคนที่ถามเสียงใส หน้าตาซื่อๆที่ส่งมาบ่งบอกเจตนาบริสุทธิ์ของคนถามได้ดี

มีแต่เขานี่ล่ะที่ไม่บริสุทธิ์ใจ

"มึงจะได้ไม่ต้องวกไปวกมา พรุ่งนี้มึงมีเรียนสายๆไม่ใช่หรอ"

"ไม่เป็นไรหรอกมึง กูกลับไปนอนบ้านดีกว่า กูชินแล้วไม่ได้ลำบากอะไร" กัดฟันปฏิเสธออกไปทั้งๆที่ใจคิดภาพตอนที่ขึ้นไปบนห้องมันเรียบร้อยแล้ว

"ถ้ามึงว่างั้น งั้นกูขี้นห้องแล้วนะ ขอบใจอีกทีที่อุตส่าห์มาส่ง" สิงหามองตามคนที่เอี้ยวตัวไปหยิบกระเป๋าที่เบาะหลัง กลิ่นหอมที่จำได้ดีลอยมากระทบปลายจมูกในตอนที่ร่างตรงหน้าเคลื่อนไหวไปมา

ความทรงจำในคืนนั้นหวนกลับมาชัดเจนอีกครั้ง จนทำให้เขาเผลอตัวเอื้อมไปคว้าแขนของคนที่กำลังจะเปิดประตูรถออกไปอย่างไม่อาจห้ามใจตัวเอง

"ไอ้บอล"

"หืม" มันชะงักแล้วหันมามองส่วนที่สัมผัสกันของเราก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างงงๆ

"คือกูยังไม่เคลียร์" เขารีบว่าขึ้น พยายามควบคุมน้ำเสียงให้มันมั่งคงและดังฟังชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้

"ไม่เคลียร์เรื่องอะไรวะ" อัธพลเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย เขาปรับท่านั่งตัวเองใหม่ หันหน้าตรงไปหาใครอีกคนที่ทำหน้าจริงจังจนต้องตกใจ

"คือที่มึงบอกให้กูลืมเรื่องวันนั้น" เขาว่าต่อ "มันไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆหรอกนะ มึงรู้ไหมว่ากูคิดมากขนาดไหน กูตื่นก็คิดหลับก็เอาไปฝัน แล้วจู่ๆมึงจะมาบอกขอโทษแล้วให้กูลืมๆไป มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรอวะ แล้วความรู้สึกกูล่ะ"

สิงหาหอบหนักหลังจากที่พูดความในใจออกไปทั้งหมด ไม่องไม่อายอะไรมันแล้ว จะล้อว่าเขาเป็นไก่อ่อนหรือไร้ประสบการณ์อะไรก็ว่าไป แต่ว่าถ้าไม่ได้พูดออกไปวันนี้เขาต้องอกแตกตายแน่ๆ

"ขนาดนั้นเลยหรอวะ"

ในที่สุดไอ้บอลที่นิ่งเงียบไปนานก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนว่ามันแปลกใจเป็นอย่างมาก

"กูทำให้มึงคิดมากขนาดนั้นเลยหรอวะ"

เออ ไอ้เหี้ย พึ่งรู้ตัวหรือไงวะ!

"แต่มึงจะให้กูทำยังไง กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ วันนั้นกูเมามากมึงก็รู้ ลืมๆมันไปไม่ได้หรือไงวะ"

จะให้กูลืมอีกแล้ว! ชักจะโมโหขึ้นมาจริงๆแล้วนะ

"มึงจะมาพูดจาไร้..."

"กูก็ไม่ได้ตั้งใจจะอ้วกใส่มึงซักหน่อย กูจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ไอ้เป้มันพึ่งเล่าให้กูฟังเนี้ย"

"ไร้คะ..ความ..รับ...ผิด..ห๊ะ! มึงว่าอะไรนะ" สิงหาที่ตั้งท่าจะบ่นอีกคนชะงักทันควัน เมื่อกี้มันว่าอะไรนะ

"กูว่ากูไม่ได้ตั้งใจไง กูขอโทษ..."

"มึงบอกว่ามึงไม่ได้ตั้งใจอะไรนะ"

"ไม่ได้ตั้งใจที่จะอ้วกใส่มึงไง อะไรวะ มึงงงอะไรเนี้ย มึงโกรธกูเรื่องนี้ไม่ใช่หรอ"

"..."

"กูขอโทษจริงๆนะมึง เดี๋ยวกูพามึงไปเลี้ยงไถ่โทษเอาเปล่า ไปกินข้าวกับมึงก็สนุกดีกูชอบ"

สิงหามองหน้าคนที่มองเขาตาปริบๆด้วยความรู้สึกหลากหลาย สมองที่สับสนยิ่งรวนกว่าเดิม นี่สรุปคือมันคิดว่าเขาอยากเคลียร์เรื่องที่มันอ้วกใส่เขาหรอ

"นี่สรุปมึงจำอะไรไม่ได้เลยหรอเรื่องคืนนั้น"

"อืม กูแม่งก็เป็นแบบนี้ เมาแล้วเลื้อยไม่รู้เรื่อง เอ๊ะ หรือว่ากูทำอะไรลงไปหรอวะ!"

"..."

"เหี้ยแล้ว กูทำอะไรมึง ฮืออ กูขอโทษษษ"

"..."

ใช่ เขาต้องบ้าไปแล้ว

ที่มาใจอ่อนให้กับคนอย่างมันได้ง่ายดายแบบนี้

"หือ เปล่า ก็เรื่องนี้แหละ มึงทำเสื้อกูเลอะ พากูไปซื้อตัวใหม่ด้วยแล้วกัน"

"เออได้! แค่มึงอย่าโกรธกูก็พอ กูซื้อให้มึงสองตัวเลย กูใจปล้ำไหมล่ะ"

"เออ ไอ้คนใจปล้ำ ลงไปได้แล้ว มันแต่คุยกับมึงกูคงถึงบ้านเที่ยงคืน" สิงหาว่าพร้อมเอื้อมมือไปผลักหัวอีกคนเบาๆให้มันขมวดคิ้วมองเขม็งกลับมา

"เออ กูลืมไปเลยวะ โทษทีๆ งั้นกูลงละนะ ถึงบ้านเมื่อไหร่ไลน์มาบอกกูบ้างนะ"

ใช่ เขามันบ้าไปแล้ว

ที่ทั้งๆที่มันเดินเข้าหอไปแล้วก็ยังนั่งยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ในรถ

ยังนั่งรอจนกระทั่งเห็นแสงไฟในห้องของมันส่องสว่างอีกครั้ง

"ฝันดีไอ้เชี่ยบอล"

ใช่ เขาต้องบ้าไปแล้ว ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

 

૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)
#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

คุณสิงงงง ก็หลงเขาแหละ ทำซะเหมือนคุณบอลตัวกระปุ๊กกระปิ๊ก 555 ได้ข่าวว่าตัวเล็กกว่าคุณสามเซนต์แค่นั้น ชมซะตัวเล็กตัวน้อยเลยนะ

อะไรยังไงไม่รู้ รู้แค่ว่า 5 ตอนที่ตั้งใจไว้ไม่พอแน่นอน ยาวไปจ้าาาาา

หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 01 คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-06-2020 22:02:39
ถ้าบอลคุงเมามากขนาดนั้น
คงลุกขึ้นมาเสียบสิงไม่ได้แน่
แต่ถูกเสียบซะเอง..ทำไมถึงไม่รู้สึกเจ็บตรูด

เล่าไม่หมด..ไม่เล่าซะยังจะดีกว่านะจ๊ะ คนแต่ง
คนอ่านงงงวยไปโหม๊ดดดดดดด
หุหุ

จะเฉลยอีกทีเมื่อไหร่..บอกด้วย
เพราะเราจะไม่เดา..เหมือนเดิม
ฮ่าฮ่า

+1 ให้ฮับ
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 01 คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 01-06-2020 22:07:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 01 คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 01-06-2020 23:30:47
 :a5:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 02 ฝันเล็กๆของฉัน ไม่สำคัญกับเธอเท่าไหร่
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 02-06-2020 13:24:19

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

02

ฝันเล็กๆของฉัน ไม่สำคัญกับเธอเท่าไหร่



 

 

'สิง..'

'อืม~'

'คือกูจะไม่ไหวแล้วว่ะ มึงใส่ของมึงเข้ามาเลยได้ไหม'

'แต่มันจะเจ็บหรือเปล่า นี่กูใส่เข้าไปแค่นิ้วเดียวเองนะ ถุงยางไม่มี เจลก็ไม่มี'

'ไม่เป็นไร กูบอกให้ใส่ก็ใส่เข้ามาเถอะน่า'

'แต่..'

'โอ๊ย! ไอ้เหี้ยสิง! มา! มึงอยู่นิ่งๆ กูทำเอง' ว่าแล้วคนที่เคยนอนหันหลังโก่งโค้งก้นงอนบนเตียงก็ลุกพรวดขึ้นมาอย่างคนอารมณ์เสียสุดขีด

มันกระชับสองมือบนไหล่ทั้งสองของเขา ดันแรงๆให้หลังของเขาไปชนหัวเตียงอย่างจัง สิงหานิ่วหน้าไปนิด แต่ไม่ทันจะได้สำรวจความเจ็บปวดใดๆ ความสนใจก็กลับไปกองรวมกันที่คนที่กำลังปีนมานั่งบนตักเขา

ไม่ใช่สิ มานั่งบนลูกชายของเขา

'มึงใจเย็นๆนะ อย่าเสร็จเร็วล่ะ ขอกูขี่ให้สมใจก่อน' ออกคำสั่งอย่างเอาแต่ใจพร้อมกับยกตัวเองขึ้นนิด จับลูกชายของเขาให้ตั้งตรงแล้วจ่อที่ทางเข้าแคบๆ ค่อยๆนั่งลงมาอีกครั้งให้เจ้าชายน้อยค่อยๆหายเข้าไปในตัวของมัน

'คือ..มึง มะ..มันแน่นชิบหาย..เลยว่ะ'

'หึ ไอ้อ่อนเอ๊ย'

เหมือนแกล้งกัน คนบนตัวเขาเริ่มต้นขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว สิงหาพยายามเอาสองมือไปประกบเอวคอดไว้เพราะหวังจะเป็นคนควบคุมจังหวะ

แต่นอกจากจะไม่ช่วยอะไร ยังโดนมันแกล้งทิ้งตัวหนักๆ จงใจเอาลูกของเขาเข้าไปจนมิดด้ามให้สัมผัสถึงส่วนคับแคบและอุ่นร้อนที่สุดด้านใน

'ไอ้บอล..คือกูจะแตกแล้ว'

และนั่นก็เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ไอ้บอลจะพาเขาไปถึงฝั่งฝัน มันขยับเร็วๆจนสิงหาเผลอครางออกมาอย่างสุดกลั้น

อย่างไม่ต้องรอนานร่างกายของเขาก็กระตุก กลางกายฉีดพ่นทุกหยาดหยดร้อนมากมายเข้าไปในช่องแคบจนเอ่อล้นออกมาที่หน้าขา

'...' ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องเล็กๆหยุดนิ่ง มีเพียงเสียงหอบแฮ่กของสิงหาดังก้อง

'เป็นไง ดีกว่าที่คิดไหม'

'ดี..ดีฉิบหาย..แต่ว่ามึงยังไม่เสร็จนิ' พูดไปก็ละอายไป แอบเหลือบมองท่อนเนื้อของคนบนตักก็เห็นว่าไอ้ที่เคยแข็งๆ เริ่มหดตัวลงแล้ว

เขานี่มันโครตห่วย

'เออ มึงแม่งขย่มสองสามทีก็แตกแล้ว กูจะเอาอะไรไปเสร็จ'

'ไอ้บอล...กูขอโทษ...'

'ไปไกลๆตีนกูเลยไป รีบตื่นๆไปซะมึงน่ะ'

'ตื่น?'

'เออ! ตื่นได้แล้ว! ขนาดในฝันมึงยังห่วยแตกขนาดนี้ ยังคิดจะเอากูอีก'

 

ติ๊ด ติ๊ดติ๊ด.. ติ๊ด ติ๊ดติ๊ด..

 

สิงหาสะดุ้งตื่นพร้อมหอบหายใจเร็วแรงเหมือนคนเพิ่งผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก ตาคมโตมองเพ่งเพดานสีขาวเบื้องบนตรงหน้าอย่างคนไร้สติ

เมื่อสมองเริ่มทำงานอีกครั้ง จึงเริ่มเลื่อนสายตาไปมองสำรวจรอบด้าน เข้าใจในที่สุดว่ากำลังนอนนิ่งอยู่ในห้องนอนของตัว

"เชี่ย ฝันแบบนี้อีกแล้ว"

ใช่ ฝันซ้ำๆที่เกิดขึ้นแทบทุกคืนในช่วงนี้

แล้วไม่ใช่ฝันธรรมดาด้วยนะ

ฝันเปียกซะด้วย

"มึงเพิ่งแตกหนุ่มหรือไงไอ้เชี่ยสิง" ด่าตัวเองไปพลางมองเป้ากางเกงที่ชื้นแฉะเป็นวงกว้าง ตัดสินใจลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำทันที

เฮ้อ..ไอ้สิงนะไอ้สิง มึงใช่คนที่จะมาตกม้าตายง่ายๆแบบนี้หรอวะ

อะไรมันจะอนาถขนาดนี้ เก็บเรื่องคืนนั้นเอามาฝันว่าเหี้ยแล้ว พอได้ลองไปหาข้อมูลในเนตว่าผู้ชายกับผู้ชายเขาทำกันยังไง ก็เสือกเอาสิ่งที่ได้ดูมาฝันเป็นตุเป็นตะ

ทั้งๆที่ที่จริงแล้วเรื่องคืนนั้นมันก็แค่..

 

'ไม่ลองแล้วจะไปรู้ได้ไงวะ'

สิงหาเม้มปากแน่นรวบรวมความกล้า เขาเอื้อมมือไปวางบนข้อเท้า ก่อนจะค่อยๆเลื่อนขึ้นสูงอย่างช้าๆ พร้อมกับใจที่เต้นตุ่มๆต่อมๆ

มันไม่ได้เรียบเนียนเหมือนผิวผู้หญิง แต่ไรขนอ่อนที่ลากผ่านกลับทำให้เกิดความรู้สึกเสียววาบกระตุ้นเร้าความต้องการที่มากมายอยู่แล้วให้มากขึ้นกว่าเดิม

สิงหาไร้สติ

ในตอนที่มือหนาสัมผัสเข้ากับต้นขาอ่อนที่มีมัดกล้ามเล็กน้อยของอีกฝ่าย

ปล่อยไปตามสัญชาตญาณเขาโน้มหน้าลงไปแนบต้นขานั้น กดปลายจมูกซ้ำๆ ก่อนที่จะทนไม่ไหวเผลอกัดต้นขาด้านในแล้วรีบผละออกมาทันทีทันใดเมื่ออีกฝ่ายส่งเสียงร้องออกมา

เขามองหน้ามันเป็นครั้งสุดท้าย

ไอ้บอล...

ระหว่างเรา

จากวินาทีนี้เป็นต้นไป มันจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป

กูจะเอามึงแล้วนะ

เร็วเท่าความคิดเขาลุกขึ้นนั่งชันเขาระหว่างสองขาของมัน สอดมือเข้าไปใต้ต้นขาของคนที่หน้าแดงก่ำแล้วดึงมันเข้ามาใกล้

ตึกตัก ตึกตัก

'อึก..'

'ไอ้บอล..มึงโอเคไหม'

'อุ๊บ..อึ้ก..แหวะ....'

เชี่ย

'โอ้ก.......'

โครตพ่อโครตแม่เชี่ย

 

"เฮ้อ.."

แล้วเรื่องคืนนั้นก็จบลงตรงนี้

พอลองมาคิดๆดู มันอาจจะเป็นเพราะในตอนที่เขายกขามันขึ้นมาแล้วพับเข่ามันให้ชิดหน้าท้อง มันคงจะไปดันของกินในกระเพาะให้ย้อนกลับขึ้นไปอีกครั้งนั่นแหละ มันถึงได้อ้วกออกมาจนเลอะทั่วเตียงขนาดนั้น กว่าจะได้นอนก็ต้องทั้งล้างตัวเอง ล้างตัวมัน เปลี่ยนผ้าปูกันยกใหญ่

คิดแล้วก็แค้นใจ

มันแม่งทำกับเขาไว้มากขนาดนี้ แต่ตัวเองเสือกจำอะไรไม่ได้เลยสักนิด มีแต่เขาที่วันๆเอาแต่คิดถึงมัน คอยเปิดดูหน้าแชทที่มีเพียงข้อความของวันก่อนที่เขาพิมพ์ไปว่าเขากลับถึงห้องแล้ว ส่วนมันก็แค่ส่งสติ๊กเกอร์หมีสีน้ำตาลตอบมาว่าโอเคแค่นั้น

ไอ้บอลนะ ไอ้บอล

เพราะมึงคนเดียว

เพราะเขาเอาแต่คิดถึงมัน ถึงจะมีใครหลายคนทักมาชวนคุยก็ไม่มีอารมณ์จะตอบ จะว่าเขาหมดอารมณ์ทางเพศไปแล้วก็คงไม่ใช่ เพราะแม่งก็ยังเก็บเอามันมาฝันแบบนี้ทุกคืนอยู่เลย

หรือมันทำให้เขาเลิกชอบผู้หญิง แล้วชอบผู้ชายไปแล้ว?

นิ่วหน้าคิดเป็นจริงเป็นจัง สิงหารีบพันผ้าขนหนูรอบเอวเมื่อล้างตัวเสร็จ เดินดุ่มๆไปเปิดแลปทอปที่วางทิ้งไว้บนเตียงอีกครั้ง มันยังโชว์อยู่ที่หน้าเวบพอร์นที่เปิดค้างไว้เมื่อคืน

"อ่าห์~"

สิงหากลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่เมื่อกดปุ่มเพลย์ เขาจ้องหน้าจอตาไม่กระพริบ เพราะอยากพิสูจน์ว่าตอนนี้ตัวเองมีอารมณ์กับแค่ผู้ชายหรือเปล่า ตอนนี้เขาเลยมาลองเปิดคลิปทั้งเอวีเกย์วีดูเพื่อเป็นการพิสูจน์

แล้วผลมันก็คือ..

"ไอ้เหี้ยบอล มึง..ไอ้สัด"

สิงหาร่ายสบถพร้อมหันหลังพรวดพราดเดินกลับไปในห้องน้ำอีกครั้ง เพราะตอนนี้อะไรบางอย่างที่ตื่นง่ายในตอนเช้าดันฟื้นตัวขึ้นมาอีกทั้งๆที่เพิ่งปลดปล่อยไปเมื่อกี้

"ไอ้เหี้ยบอล... มึงนะมึง...กูไม่ปล่อยมึงไปแน่"

มันไม่เชิงที่เขาเห็นหนังโป๊เกย์แล้วมีอารมณ์ เขามั่นใจว่าถ้าเอามาเทียบกันแล้วเขายังชอบดูหนังโป๊ที่มีนมโตๆมากกว่า

แต่ที่มันทำให้ลูกน้อยของเขาเป็นแบบนี้ในตอนนี้ ก็เพราะว่าตอนที่กำลังดูผู้ชายสองคนทำอะไรต่อมิอะไรกัน เขาดันเผลอซ้อนภาพของตัวเองกับไอ้บอลเข้าไปแทนที่จนทำให้เขาปวดหนึบไปหมด

"มึงต้องรับผิดชอบไอ้บอล!"



"โอเควันนี้พอแค่นี้"

"ไอ้สิง ไปกินข้าวไหน ไปกับกูเปล่า" ในตอนที่อาจารย์บอกเลิกคลาส โยธาก็เริ่มเก็บของลงกระเป๋าพร้อมกับหันมาคุยกับเพื่อนสนิทร่วมคลาส

"..."

"ไอ้สิง..ไอ้สิง...ไอ้สิง!"

"ห๊ะ..มึงว่าไรนะ"

"มึงเป็นไรเนี้ย เรียกก็ไม่ได้ยิน"

"ปะ..เปล่า ไม่ได้เหม่อนะ"

"กูยังไม่ได้ว่ามึงเหม่อเลย อะไรของมึง มึงเป็นอะไรเนี้ย"

"เปล่า กูไม่ได้เป็นไร แต่เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ"

"กูถามว่ามึงจะไปกินข้าวกับกูหรือเปล่า ไอ้เป้ไม่มาเรียนนิ่อาทิตย์นี้"

"อือ มันบอกว่าจะกลับวันจันทร์"

"หรอ แล้วมันเป็นไงมั้งวะ ดีขึ้นบ้างยัง" โยธาถามออกมาอย่างเป็นห่วง เขาได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆจากไอ้สิงแล้ว

"กูว่ามันก็ดีขึ้นนะ ออกจะดูร่าเริงเกินเหตุแปลกๆด้วยซ้ำ" สิงหาว่ากลั้วหัวเราะ

เขาเพิ่งโทรไปหาไอ้เป้เมื่อวาน ที่ตอนแรกนึกว่าจะได้มานั่งฟังมันฟูมฟาย แต่กลับดันได้คุยกับคนที่กลับมาตลกโปกฮาเหมือนเดิมแล้ว ถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็บอกกลับมาแล้วค่อยเล่าให้ฟัง

"เออว่าแต่มันเอาแลปทอปกลับบ้านป่ะ"

"เปล่านะ มันว่าบ้านมันมีคอม มีงานอะไรหรอวะ เมื่อกี้กูไม่ทันฟัง"

"เปล่า แต่เราอัดเพลงที่จะเล่นในงานลงแลปทอปมันไง กูว่าจะขอเอามาฝึก" โยธาพูดถึงงานเทศกาลดนตรีที่พวกเขาจะได้ขึ้นแสดงกันเป็นวงเปิด และเดโมเพลงที่เคยซ้อมกันก็อยู่ในเครื่องของไอ้เป้

"งั้นก็คงต้องรอให้มันกลับมาก่..."

"ไม่ต้อง!" โยธาคิ้วชนกันตอนที่จู่ๆไอ้เพื่อนตรงหน้าตะโกนออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

"เดี๋ยวกูไปเอาเอง กูรู้จักเมทมัน เดี๋ยวกูจัดการให้"

"โอเค อ้าว แล้วมึงจะไปไหนเนี้ย" เขาตะโกนตามหลังเมื่อไอ้สิงหยิบกระเป๋าลุกพรวดเดินลงไปที่ประตู อะไรของมันวะ

"ก็จะไปเอาเดโมให้มึงไง"

"เห้ย มึงจะรีบอะไรขนาดนั้น ตอนบ่ายมีเรียนนะมึง"

"กูฝากมึงจดด้วยแล้วกัน" ว่าแล้วก็เดินออกไปจากประตูอย่างรวดเร็ว

"แล้วข้าว..อ้าว..ไอ้เหี้ย อะไรของแม่งมันวะ"



ตื้ด...ตื้ด...ตื้ด...

[ครับ?]

"ทะ..ทำอะไรอยู่วะ" สิงหาที่ตอนนี้มาถึงหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วถามออกไปล่กๆ เมื่อใครอีกคนรับสายเขา

[...]

"ไอ้บอล.."

[โทษนะครับ คุณเป็นใครครับ]

ไอ้บอล! 

"กูสิงไง มึงเพิ่งขอเบอร์กูไปเองนะ"

[...]

"สิงหาเพื่อนของไอ้เป้ไง"

[อ๋ออออออออ เออ ว่าไงมึง] มันลากเสียงยาวจนน่าหมั่นไส้ อะไรของมันวะ เขาเริ่มโมโหแล้วนะ

"มึงไม่มีเบอร์กูหรือไง วันนั้นมึงเป็นคนขอกูเองนะ" มันขำออกมาเสียงดังเมื่อเขาว่าอย่างนั้นก่อนจะอธิบายกลั้วหัวเราะ

[ก็วันนั้นตอนกำลังเมมเบอร์มึง เครื่องสุกี้มันมาพอดี กูเลยเขียนแค่จุดไว้ แล้วดันลืมแก้ว่ะ โทดที]

ไอ้บอล! กูเกลียดมึง (T_T)

[แล้วนี่มึงมีอะไรวะ โทรหากูมีไรป่ะ]

"ก็มี.." สิงหาพูดเสียงอ่อนลากยาว "ตอนนี้กูบังเอิญมาอยู่หน้าคณะมึงพอดี ไม่ได้ตั้งใจมาหาอะไรนะ คือกูแวะมาทำธุระแถวนี้น่ะ"

สิงหาหลับตา สบถในใจให้กับความล่กของตัวเอง

[แล้ว?]

"คือกูจะขอไปห้องมึงหน่อย กูต้องไปเอาเดโมเพลงในคอมไอ้เป้อะ พวกกูต้องซ้อมแสดงเดือนหน้า"

[อ๋อ ได้มึง งั้นกลับพร้อมกันเลย กูไม่มีเรียนแล้ว เออ! แล้วมึงกินข้าวยัง กูอยู่โรงอาหารเนี้ย กำลังจะซื้อข้าวกล่องกลับห้อง มึงเอาไรเปล่า]

"เออ มึงสั่งให้กูด้วยแล้วกัน เอาเหมือนกันแหละ"

[โอเคเอางั้นนะ ป้าครับๆ งั้นเปลี่ยนเป็นสุกี้น้ำสี่ถุงนะป้า]

"อ้าว มึงอยู่กับเพื่อนหรอวะ ถ้ามึงไม่สะดวก.."

[เปล่า กูอยู่คนเดียว ไมวะ]

"อ้าว ก็กูเห็นมึงสั่งตั้งสี่ถุง"

[เอ้า กูก็สั่งเผื่อมึงเพิ่มถุงนึงไง เดี๋ยวกินไม่พอ]

สิงหาหลุดยิ้มออกมาในที่สุด อะไรจะกินจุขนาดนี้วะ ที่มันถามเขาก็คงไม่ใช่เพราะเป็นห่วงว่าเขาจะหิวหรืออะไรหรอก แม่งคงกลัวเขาแย่งมันกินต่างหาก

"เออๆ เดี๋ยวกูเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ "



"ฮ่าๆๆๆๆ พี่กันต์คืออย่างฮาอะคืนนั้น"

"เออ คือกูแม่งไม่อยากจะนับมันเป็นเพื่อนเลย อยากทิ้งให้แม่งเต้นอยู่อย่างนั้นทั้งคืน"

"ไอ้นท มึงนะมึง คอยดูนะถ้ามึงเมาบ้างกูจะไม่ลากศพมึงกลับเลย"

"เออ ไม่มีมึงก็ไม่เป็นไร กูมีหลานรักกูแล้ว ให้ไอ้บอลไปรับกูก็ได้ เนอะๆ"

"ใช่ๆ ลุงผม ผมดูแลได้แน่นอน"

"โอโห ไอ้เตดูมัน มึงต้องเข้าข้างกูนะ กูไม่เหลือใครแล้ว"

"ไม่อะ เวลามึงเมากูไม่ไหวกับมึงจริงๆ โวยวายฉิบหาย"

"..." 

เมื่อสิงหามาถึงโรงอาหาร เขาก็เดินหาร้านขายสุกี้ที่ไอ้บอลมันบอกไปเรื่อยๆ แต่ในตอนที่เห็นมันแล้วกำลังจะเดินเข้าไปหาก็ต้องชะงักเท้าลงเสียก่อน เพราะตอนนี้มันกำลังหัวเราะสนุกสนานคุยกับใครอีกสามคนที่เขาไม่รู้จัก

แถมคนที่บอกว่ามันเป็นหลานยังเอาแขนวางพาดบนไหล่ของมันซะด้วยสิ

แหม๋ หน้ามึงน่ะ อีกนิดก็กระด้งแล้ว

"อ้าวไอ้สิง" แต่ก็มันเองนั่นแหละที่สังเกตเห็นเขา กวักมือเรียกให้เขาต้องจำใจเดินเข้าไปหา

"นี่เพื่อนผมพี่ ชื่อสิง เพื่อนคณะเดียวกับไอ้เป้รูมเมทผม นี่ก็พี่เต พี่กันต์ แล้วก็พี่นทลุงรหัสกูเอง" สิงหายกมือไหว้พี่ๆทั้งสามคนอย่างไม่เต็มใจนัก ตายังมองมือที่พาดอยู่บ่าของใครอีกคนไม่หยุด

ไอ้เชี่ย หงุดหงิดชะมัด

"อ๋อ เพื่อนไอ้เป้คนที่เป็นหลานรหัสไอ้ดินอะนะ" อัธพลยิ้มเจื่อนพยักหน้ารับ โห พี่เตแม่ง จะแค้นฝังหุ่นอะไรขนาดนั้น โยงไปถึงพี่ดินได้ไงวะ

"เออ ไหนๆเพื่อนมึงก็มาแล้ว งั้นพวกกูไปล่ะ เดี๋ยววันหลังไปแดกเหล้ากันอีก" พี่ที่ชื่อนทว่าพร้อมใช่มือผลักหัวเบาๆให้ไอ้หมาบอลยิ้มแป้นรับ

โบกมือลาจนพี่ๆเขาเดินหายไปในฝูงชน มันถึงหันกลับไปรับถุงสุกี้จากแม่ค้า

"เท่าไหร่มึง" ทั้งๆที่ยังหงุดหงิดแต่สิงหาก็ยังถามออกไปพร้อมล้วงหากระเป๋าตังค์จากในกระเป๋าสะพาย

หมับ!

แต่ก็โดนมือหนาของใครอีกคนมาดันไว้ให้มือเขาหยุดชะงัก

"หึย ไม่เอา เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง แค่นี้สบายมาก"

"มะ..ไม่เอา มื้อที่แล้วมึงก็เลี้ยงกู" ตะกุกตะกักพูดออกไปเพราะยังตกใจไม่หายกับสัมผัสที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว

"เออน่า เดี๋ยวมื้อหน้ากูให้มึงเลี้ยงเลย ยังไงก็ต้องได้กินด้วยกันอีกอยู่แล้ว"

"..."

"หรือไง มึงไม่อยากกินกับกูแล้วไง"

ว่าแล้วขยิบตาให้เขาทีก่อนทีจะตั้งหน้าตั้งตาล้วงกระเป๋าหาตังค์ สิงหาได้แต่นิ่งมองอีกคนอย่างทำตัวไม่ถูก

ลืมไปแล้วว่าเคยหงุดหงิด

ไอ้ห่าสิงเอ๊ย..

แย่แล้วมึง

มึงนี่มันอ่อนฉิบหายเลยว่ะ

"เออ" เขาพูดออกไปในที่สุด

"กินดิวะ"

เขาเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

"ต้องได้กินอีกดิวะ"

 ∞

"โอ๊ย กูอิ่มมมมม" ในที่สุดคนที่ซัดสุกี้น้ำไปสามถุงก็อิ่มท้องในที่สุด

สิงหาทั้งขำทั้งปวดหัว กินเสร็จก็กินน้ำอัดลมต่อจนหมดกระป๋อง เรอเสียงดังก่อนจะเดินคลานขึ้นเตียงไปนอนแผ่พุง

"สบายฉิบหาย~ ชีวิตกูมีแค่นี้จริงๆ ขอแค่ได้กินอิ่มนอนหลับก็ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว"

เขาไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่หัวเราะในลำคอนั่งมองคนที่เอาหน้าจ่อกับพัดลมที่มันเปิดแบบกดค้างที่ตัวเองไว้ทั้งๆที่ห้องก็เปิดแอร์

"แต่ถ้าพูดจริงๆ ช่วงนี้กูก็นอนไม่ค่อยหลับนะ" มันว่าต่อ "กูชอบฝันแปลกๆ มึงรู้ไหมว่ากูฝันว่าอะไร" มันขยับมานอนตะแคงข้างหันหน้ามามองให้เขาเลิกคิ้วถามแทนคำตอบ

"กูฝันว่าโดนจูบ"

"ห๊ะ..จูบ?"

"เออ จูบ" ว่าแล้วก็ขยับทิ้งตัวกลับไปนอนง่าย จ้องมองเพดานให้เรื่องในฝันย้อนกลับเข้ามาในหัวสมอง

"แล้วมึง..เออ..มึงฝันว่า..จูบกับใครวะ" สิงหากลืนน้ำลายก่อนจะกลั้นใจถามออกไป

หรือจริงๆมันจะจำได้

หรือมันจะจำเรื่องคืนนั้นได้

"ไม่รู้ว่ะ กูไม่เห็นหน้า"

"..."

"แต่ถึงไม่รู้ แต่คือมันดีมากเลยนะมึง แบบกูไม่เคยจูบใครแล้วรู้ดีแบบนี้มาก่อนเลย"

สิงหาเม้มปากแน่น ตอนนี้หัวใจเขาทั้งเต้นแรงทั้งเต้นรัวเร็วจนเหมือนจะหลุดออกมาจริงๆ เขาอยากบอกความจริงกับมัน

"คือคนที่มึงจูบ.."

"โอ๊ยยยยย!" จู่ๆไอ้บอลก็เตะขาดิ้นบนเตียง ร้องเสียงดังเอามือขยี้หัวให้เขาตกใจไปด้วย

"กูมาเล่าอะไรให้มึงฟังเนี้ย มานั่งเล่าความฝันเหมือนสาวน้อยเลยไอ้ห่า"

"แต่.."

"ไม่เอาแล้วไม่เอา เปลี่ยนเรื่องดีกว่า มึงห้ามพูดห้ามล้อกูนะ"

อัธพลว่าแล้วหันไปชี้หน้าสั่งอีกฝ่ายอย่างจริงจัง อายไหมเนี้ย มาเล่าเรื่องอะไรแบบนี้ให้มันฟัง แม่งจะว่าเขาบ้าหรือเปล่าวะ

"ลืมๆมันไปเลยนะมึง"

"อะ..อือ"

สิงหาแอบลอบหายใจ เขาพลาดโอกาสที่จะได้คุยกับมันเรื่องคืนนั้นอีกแล้ว แต่เขาเองก็อดยกยิ้มมุมปากออกมาไม่ได้ รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยมันเองก็คิดว่าจูบที่ว่านั้นดีที่สุด

"เออ ว่าแต่พวกมึงจะขึ้นเป็นวงเปิดใช่ป่ะ เท่จังวะ แบบนี้สาวกรี๊ดเต็มเลยดิ" จู่ๆไอ้บอลก็เปลี่ยนเรื่องให้เขาแปลกใจอีกครั้ง แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่หรอก เพราะเริ่มชินกับนิสัยของมันแล้ว

"อืม ขึ้นเป็นวงแรก ได้เล่นสองเพลง" สิงหาตอบคำถามแรกของอีกฝ่ายเสียงเรียบ แอบดีใจเพราะประโยคต่อมา และไม่ได้คิดจะออกความเห็นกับประโยคสุดท้ายของมัน

"แล้วชื่อวงไรอะ"

"ยังไม่มีชื่อเลยว่ะ"

"ได้ไงวะ ทำวงไม่มีชื่อวงได้ไง"

"ก็ยังคิดไม่ออกนี่หว่า"

"โหย อะไรของมึงวะ"

"มึงนั่นแหละอะไรวะ ไม่มีก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย"

"ไม่เอา" ฮึดฮัดเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียง

"งั้น...กูตั้งให้เอง!..อืม...ได้ล่ะ!! SPY ดีมะ!" ว่าแล้วก็มองตาปริบๆด้วยความหวังว่าเขาจะเห็นด้วย

"Spy สายลับอะนะ"

"เออ เท่ปะ"

"ก็ดี..แล้วทำไมถึงต้องspy วะ"

"เอ้า ก็ S สิง P เป้ แล้วก็ Y โยไง"

สิงหากลอกตามองบนอย่างละเหี่ยใจ

สุดละ ไอ้บอลมึงสุดจริงๆ

"มึงอิ่มแล้วนะ กูเอาจานไปล้างละ" ตัดบทเพราะไม่รู้จะว่าต่อยังไงแล้ว

"เห้ย ไม่เป็นไร มึงแค่เอาไปวางไว้ที่ซิงค์ก็พอ เดี๋ยวกูล้างเอง"

เขาพยักหน้ารับไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะรวบถ้วยชามไปตรงซิงค์ที่ระเบียง จัดการล้างและคว่ำไว้จนเรียบร้อยจึงเดินกลับเข้าห้อง

"กูบอกมึงแล้วไง ว่าไม่ต้องล้าง" คนที่ตอนนี้นั่งกินข้าวเกรียบกุ้งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงก็เอ่ยทัก สิงหามองอีกฝ่ายกับขนมในมืออย่างงงๆก่อนจะทรุดลงนั่งข้างมัน

"มึงยังไม่อิ่มหรอ"

"คนละกระเพาะไหมวะ"

"มึงเป็นควาย?"

"วัวก็พอแล้วไหมไอ้นี่" 

"เดี๋ยวมึงก็ปวดท้องหรอก กินมั่วฉิบหาย"

"เออน่า ระดับกูแล้ว กูเอาอยู่เว้ย~"

"แล้วแม่งมึงมากินบนเตียงแบบนี้ไม่กลัวมดขึ้นหรือไงวะ"

"โอ๊ยไอ้สิง! มึงบ่นจังวะ"

"กูก็เตือนไหมล่ะ"

"มึงมาเป็นผัวกูเลยไหม ขนาดนี้แล้ว" อัธพลบ่นออกไปในที่สุด เลื่อนลงมานั่งปลายเตียง นี่อุตส่าห์เอาขนมมากินบนเตียงได้เพราะไอ้เป้ไม่อยู่ ดันมีไอ้สิงโผล่มาขัดขวางอีก!

"เออ เอาไหมละ"

"ผัวพ่องมึงดิ" อัธพลด่ากลับเพราะตกใจที่ไอ้สิงแม่งดันรับมุกให้มันขำเสียงดัง

"ผัวมึงนั่นแหละ"

"พอ ไอ้ห่า! กูขนลุก ไหนมึงจะมาเอางาน เดมง เดโมอะไรมึงอะ ไปเอาดิวะ มากวนกูอยู่ได้"

สิงหานั่งยิ้มมองคนที่โวยวายเสียงดัง ก่อนจะอดเอื้อมมือไปผลักหัวมันแล้วลุกขึ้นไม่ได้

"เออ กูทำงานล่ะ"

ว่าแล้วก็เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของไอ้เป้ เปิดแลปทอปที่ได้รหัสมาจากมันเรียบร้อยแล้วลงไป ก่อนจะเริ่มเซฟไฟล์ลงไดร์ทของตัวเอง

"หืม พวกมึงจะเล่นเพลงนี้กันหรอวะ"

สิงหาสะดุ้งเมื่อจู่ๆได้ยินเสียงกระซิบข้างหู หันไปเขาก็เห็นคนที่คิดว่ามันนั่งกินขนมอยู่ปลายเตียงกำลังยืนโน้มตัวมาจ้องหน้าจอคอมอยู่ข้างเขา

ใกล้กันมาก

ประมาณสองเซนติเมตร

ระยะห่างของแก้มนุ่มของมันกับปลายจมูกของเขา

"กูโครตชอบเพลงนี้เลย เป็นเพลงโปรดที่สุดของกูในเพลง Queen ทั้งหมดแล้.."

มันไม่ทันได้พูดจนจบประโยคก็ต้องชะงัก เพราะตอนที่มันพูดไม่หยุดมันดันหันหน้ามามองเขา

มัน...

มันเป็นคนทำลายสองเซนติเมตรนั้น

เลิกลั่กกันทั้งคู่เพราะปลายจมูกที่ชนกัน

"กะ..กู คือ..คือกูง่วงนอน!" ว่าแล้วคนที่เอาปลายจมูกไปชนกับจมูกคนอื่นก็ว่าขึ้น พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หันหลังกลับไปทิ้งตัวลงที่เตียงตัวเอง เอาผ้าห่มมาคลุมโปง

"อะ..เออ ง่วงมึงก็นอนสิ! กูจะทำงาน!"



สิงหาใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการก๊อปไฟล์ลงในไดร์ทตัวเองจนเสร็จ เขาปิดแลปทอปก่อนจะเอี้ยวตัวไปมองข้างหลัง อย่างไม่น่าเชื่อไอ้บอลมันหลับไปแล้วจริงๆ 

สิงหาลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ ส่ายหน้าให้คนที่นอนน้ำลายไหลยืดอีกแล้วอย่างแสนจะเหนื่อยใจ

เขายกยิ้มจาง

บางทีก็คิดเหมือนกันนะ

ว่าทำไมต้องเป็นคนแบบนี้วะ

ทำไมต้องเป็นคนแบบมันด้วยที่เขามาสนใจ

ทรุดตัวลงบนเตียงข้างๆมัน ตาคมมองเลื่อนไล้ไปทั่วทั้งใบหน้า ตาคมซุกซนที่ถูกปิดสนิทมีแพขนตายาวห่มทับ จมูกที่มักจะเชิดรั้นยังคงตั้งตรง ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อย

จุ๊บ

อย่างไม่คิดจะห้ามใจตัวเอง สิงหาโน้มตัวลงไปประกบปากกับคนที่นอนนิ่งอย่างแผ่วเบา

"กูเอง.." เขาพึมพำออกมา "คนที่จูบกับมึงคือกูเอง"

ว่าแล้วสิงหาก็ผละตัวลุกขึ้น หยิบผ้าห่มที่มันทำหล่นไปปลายเตียงขึ้นมาแล้วคลี่ห่มให้ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมา เหลือบมองคนที่ยังหลับไหลไม่รู้เรื่องอีกครั้ง ก่อนที่จะตัดใจค่อยๆเดินออกจากห้องไปในที่สุด

ปัง!

ใครอีกคนลืมตาตื่นขึ้นมาในทันที เขาเด้งขึ้นนั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว เผลอยกมือขึ้นมาวางบนริมฝีปากที่ยังคงมีร่องรอยของอีกคนในความรู้สึก

มันทั้งนุ่ม ทั้งอุ่นร้อน

แต่ที่สำคัญที่สุด

มันดูคุ้นเคยมากจนน่าแปลกใจ

"มึงทำเหี้ยอะไรของมึงไอ้สิง.."

 
૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

งืออ สิงเลียปากแล้ว กรี๊ด นุ้งบอลลล หนูไม่ไหวแล้ว หนูฮาอะ แม่เหนื่อยจะขำ สงสารสิงเด้อ 555

 

 

 

 


หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 02 ฝันเล็กๆของฉัน ไม่สำคัญกับเธอเท่าไหร่
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-06-2020 17:33:43
"จะจับเมิงทำเมีย" สิงบอก

ตอบแทนเลย อันนี้ไม่ต้องเดา
ฮ่าฮ่า

 :m4:
เสร็จสิงแน่ๆ บอลคุง
มาเป็นเมียของสิงซะดีดี
..น่ารักนะเราอ่ะ..
กร๊ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 03 ใจละเมอไปรักเธอ ใจมันเพ้อไม่เคยรั้งได้
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 03-06-2020 15:37:53

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

03

ใจละเมอไปรักเธอ ใจมันเพ้อไม่เคยรั้งได้



 

 

"สรุปเอาไงไอ้เป้" สิงหาชะโงกหน้ามาจากโต๊ะเรียนด้านหลัง วางพาดแขนยาวของเขาลงบนไหล่ของเพื่อนสนิทเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่เขาเคยถามออกมาแล้วเป็นรอบที่สาม

"..."

"กูหิวข้าวแล้วเนี้ย มึงจะนั่งอยู่ตรงนี้ไปอีกนานแค่ไหน นี่คือไอ้โยมันไปรอที่โรงอาหารตั้งนานแล้วนะ"

ไอ้เพื่อนคงเก่งของเขาเงียบเฉย มันยังทำเป็นนั่งเล่นโทรศัพท์เหมือนไม่สนใจอะไร แต่เขารู้ว่าตอนนี้ที่จริงแล้ว ความสนใจทั้งหมดของมันอยู่ที่ใครบางคนที่นั่งรอมันอยู่หน้าห้องเรียนต่างหาก

"ถ้ามึงไม่อยากเจอเขาก็บอกเขาไปตรงๆ หรือมึงจะให้กูไปบอกให้ไหม"

"มึงหยุด" มันตะโกนตามหลังทันทีเมื่อเขาทำท่าจะลุกเดินออกไปที่ประตู สิงหาชะงักเท้า เกาหัวก๊อกแก๊กอย่างไม่รู้จะทำตัวยังไงดีแล้ว

"มึงจะเอายังไงก็เอาสักทีดิวะ กูเนี้ย หิวจนจะแดกมึงเข้าไปได้อยู่แล้ว ไอ้ห่า"

ปณวัชมองหน้าเพื่อนตัวโตตาขวาง ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าเขากำลังเล่นตัวอยู่ ยังจะมากวนตีนเร่งกันอยู่ได้

"เขายังอยู่หน้าประตู..."

"เออ นั่งอยู่แบบนั้นมาครึ่งชั่วโมงแล้ว กูก็เหมือนกัน" สิงหาพูดประชดใส่อีกคนในประโยคสุดท้าย แต่นอกจากมันจะไม่สนใจเลยสักนิด มันยังเสือกนั่งยิ้มกริ่ม ทำหน้าเก็กอยู่อย่างนั้นไม่ยอมลุกสักที

เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่ รู้แค่ว่าหลังจากมันกลับมาจากบ้าน ไอ้เป้มันก็ดูอารมณ์ดีขึ้นกว่าเคย เปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน จะเรียกว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยก็ได้

ก็เดาแล้วแหละว่าน่าจะเกี่ยวกับภัทร ตั้งใจว่าพอหมดคาบเรียนเช้าแล้วเขาจะถามมันตอนไปกินข้าวด้วยกันสักหน่อย แต่พอตอนที่จะออกจากห้องเรียนมันก็ดันห้ามเขาไว้ บอกว่าภัทรรออยู่ที่หน้าห้อง พูดแค่นั้นแล้วแม่งก็นั่งอยู่อย่างนี้จะเป็นชั่วโมงแล้ว

"อ่ะ ไม่อยู่แล้วว่ะ" สิงหาขำก๊ากเมื่อไอ้เป้ลุกพรวดจากเก้าอี้ในทันทีที่เขาทำเป็นชะโงกหน้าออกไปนอกห้องเรียนแล้วว่าอย่างนั้น

แหม๋ ปณวัช

ทำเหมือนไม่สนใจ พอนึกว่าเขาจะไป หัวใจจะหยุดเต้นเลยนะมึง

"ไอ้สัด" มันด่าพร้อมยกนิ้วกลางให้ ท่าทางเหมือนหมางอนของมันแสนจะน่ารักจนเขาอดจะเดินเข้าไปกอดพร้อมกับขยี้หัวมันไปมาอย่างเอ็นดูไม่ได้

"โอ๋~ ขวัญเอยขวัญมานะปณวัช"

"เหี้ยสิง"

"เขามาง้อหรือไงลูก~"

"..."

"เอางี้ไหม ถ้ามึงไม่อยากเจอ กูโทรบอกให้ไอ้บอลมาไล่ไหม มันคือพร้อมมาก"

หึ เขาจะได้มีข้ออ้างคุยกับมันด้วย!

"มึงอย่าเสือก" สิงหาขำเสียงดังลั่นห้องเมื่อโดนไอ้ลูกหมาด่าอีกแล้ว อดจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มมันอย่างสุดแสนจะหมั่นเขี้ยวไม่ได้ งอนได้หน้าฟัดฉิบหาย

"หมาน้อยเอ้ย อยากดีกับเขาจนตัวสั่นแต่ก็ยังเล่นตัวอยู่เนอะ"

"ไอ้สิงกูขอเลย"

"เออๆ ไม่ล้อแล้วๆ ตกลงมึงจะเอาไง กูหิวแล้วจริงๆ"

"มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไปทีหลัง" มันตอบกลับมา "หรือไม่ก็เจอกันคาบบ่ายเลยแล้วกัน"

สิงหาพยักหน้ารับ ไม่ได้คิดจะเอ่ยแซวอะไรให้มันยืดยาวกว่านี้เพราะตอนนี้เขาหิวข้าวจนแสบท้องไปหมด ร่างสูงเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาพาดไว้ที่ไหล่ข้างนึง

"เอางั้นนะ งั้นกูไปก่อนแล้วกัน"

"เออ เจอกันมึง" มันตอบกลับมาสั้นๆ ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ในมือเลยด้วยซ้ำ เขาเห็นมันมองหน้าแชทที่คุยค้างไว้กับอีกคนมาสักพักแล้ว

"ไอ้เป้" ลังเลอยู่นิด แต่ในที่สุดก็กังวลจนตัดใจเดินออกไปไม่ได้ มันเงยหน้าขึ้นมามองเขาอีกครั้ง

"อ้าว กูนึกว่ามึงไปแล้วซะอีก"

"กูก็ว่าจะไปแล้ว" สิงหาว่า "แต่กูอดห่วงมึงไม่ได้ ก็เลยว่าจะถามมึงให้แน่ใจก่อน"

"..."

"ดูท่าแล้วเขาคงมาง้อมึงจริงๆ แต่มึงแน่ใจนะว่ามึงอยากกลับไปคืนดีกับเขา" ตัดสินใจพูดออกไปทั้งๆที่ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ยุ่ง

ด้วยความที่เขาเองก็เพิ่งจะรู้จักกับไอ้เป้ได้ไม่นาน กับแฟนมันเขาก็ไม่เคยคุยด้วยสักครั้ง ถึงจะดีใจที่ตอนนี้มันดูมีความสุขเพราะแฟนมันกลับมาง้อ แต่เขาจะแน่ใจได้ยังไงว่าภัทรคนนั้นจะไม่มาทำให้ไอ้เป้เสียใจอีก

"มึงแน่ใจนะ ว่าเขาจะไม่ทำให้มึงเจ็บแบบครั้งที่แล้ว"

ความเงียบเข้ามากางกั้นระหว่างเราชั่วอึดใจ เขาแอบใจแป่วเมื่อคิดว่าไอ้เป้อาจจะโกรธเพราะเขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายเกินไป จนเมื่อมันยอมคลายยิ้มออกมานั่นแหละ สิงหาจึงเริ่มหายใจหายคอได้สะดวกขึ้นบ้าง

"ขอบใจนะมึงที่เป็นห่วง" ไอ้เป้พูดขึ้นมาเสียงเรียบ แววตาสะท้อนความมั่นคงของคำพูดได้ดีทีเดียว "แต่รอบนี้กูรู้ว่ามันจะโอเค กูมั่นใจจริงๆ "

"โอเค ก็ถ้ามึงว่างั้นนะ" เมื่อมันว่างั้นเขาจะทำอะไรได้ สิงหาไม่คิดจะเซ้าซี้ ยกยิ้มพร้อมเอื้อมมือไปตบบ่ามันแรงๆสองสามที ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกมาจากห้องเรียน

"..."

เมื่อออกมาได้ เขาก็เจอใครอีกคนที่มีสภาพคล้ายกันกับไอ้เป้ เจ้าตัวก้มหน้ามองโทรศัพท์ กดพิมพ์ยุกยิกก่อนจะส่ายหัวแล้วกดย้ำๆเหมือนลบทิ้งเพื่อจะพิมพ์ใหม่อยู่นั่นแหละ

เขาเพิ่งได้มาเห็น 'ภัทรของไอ้เป้' ใกล้ๆเป็นครั้งแรก ท่าทางตื่นๆกับหน้าตาที่เหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาของภัทร ทำให้ไม่อาจจะคิดได้เลยว่าคนๆนี้จะเป็นคนที่มาหลอกอะไรไอ้เป้มัน

แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ คนทุกคนก็มีเหตุผลในการทำอะไรแตกต่างกันออกไป ภัทรเองก็คงมีเหตุผลของตัวเองที่เดินออกไปจากมันวันนั้น เหมือนกับที่เจ้าตัวเองก็คงมีเหตุผลที่กลับมาหามันวันนี้

"ภัทร"

"สะ..สิง" สิงหาไม่ได้แปลกใจ แน่นอนว่าภัทรเองก็ต้องรู้จักเขาอยู่แล้ว ถึงจะไม่เคยได้รับการแนะนำโดยตรง แต่ก็เห็นกันเฉียดไปเฉียดมาหลายครั้ง

"มาหาไอ้เป้หรอ มันอยู่ในห้อง"

"อือ..เราเห็นคนออกมากันหมดแล้ว เป้ยังทำงานไม่เสร็จหรอ" ถึงจะบอกว่าเขาเข้าใจว่าภัทรมีเหตุผลของตัวเอง แต่พอภาพที่ไอ้เป้ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าแว๊บเข้ามา บอกตรงๆว่ามันก็มีอยู่ชั่วแวบนึงที่เขาเกิดอยากจะลองแกล้งภัทรขึ้นมาบ้าง

แต่ไอ้ท่าทางเก้ๆกังๆ กล้าๆกลัวๆของอีกฝ่าย มันก็ทำให้ใจเขาอ่อนยวบไปหมด รู้เลยว่าทำไมไอ้เป้มันถึงใจอ่อน ทำไมมันทะนุถนอมอีกคนอย่างกับไข่ในหินขนาดนั้น

"ไม่มีใครอยู่แล้ว ภัทรเข้าไปหามันดิ"

"หือ ไม่เป็นไร เรารอตรงนี้ก็ได้ ไม่อยากกวนเป้" เจ้าตัวรีบยกสองมือขึ้นส่ายไปมาเป็นการปฏิเสธ เหมือนภัทรไม่รู้จะทำตัวยังไง อยากจะเข้าไปหาแต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวไอ้เป้ไม่พอใจ

ว่าจะไม่เสือกแล้วนะ

"มาง้อไอ้เป้หรอ"

"..ห๋า..? คือ..เรา...ใช่...มาง้อ.." ภัทรทำหน้างงสุดขีดในตอนแรกเมื่อจู่ๆสิงหาถามออกไปตรงๆแบบนั้น อ้ำอึ้งไปนิดแต่ในที่สุดก็ยอมรับออกมาแต่โดยดี

"จะไม่ทิ้งมันแล้วหรอ"

แล้วเขาก็ทำให้อีกคนน้ำตาไหลลงแก้ม ร่างสูงใจหาบวูบ เลิกลั่กมองซ้ายมองขวา ถ้าไอ้เป้ออกมาเห็นภัทรอยู่กับเขาแล้วร้องไห้แบบนี้ มันต้องต่อยเขาคว่ำแน่ๆ

"เราไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ อย่างร้องดิ เฮ้ย ไอ้เป้ฆ่าเราแน่" พูดไปก็ก้มมองคนที่นั่งเช็ดน้ำตาป้อยๆ

อีกฝ่ายเองก็คงไม่อยากทำให้เขาลำบากใจเลยพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองไว้อย่างสุดความสามารถ

ไอ้เหี้ย

น่ารักขนาดนี้ยังจะกลัวอะไรวะ แค่โผล่ไปให้ไอ้เป้เห็นตากลมๆใสแป๋วคู่นี้ ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม แม่งก็หายโกรธแล้วไหมวะ

"ภัทร เราว่าภัทรเข้าห้องไปหามันก่อนนะ จะมาง้อมันก็ต้องเข้าไปง้อ มันเองก็รอภัทรอยู่"

สิงหาพยายามเกลี่ยกล่อมคนตรงหน้าเมื่อสายตาคมเหลือบไปเห็นใครอีกคนกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาแต่ไกล

แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ถ้าแม่งมาเจอกับภัทรตอนนี้ มันต้องทำภัทรร้องไห้แน่ๆ

"ไปตอนนี้เลยได้ไหม"

ภัทรที่ยังงงๆรีบลุกขึ้นเมื่อเขากล่าวย้ำเสียงแข็ง สิงหารู้ว่าอาจจะทำให้อีกฝ่ายกลัวเขาไปแล้ว แต่คงต้องขออธิบายวันหลัง เพราะตัวปัญหาเดินเข้ามาใกล้มากแล้วจริงๆ

"อยู่ไหน มันมาหาไอ้เป้ทำไม" ตอนที่กำลังโล่งใจเพราะภัทรเดินเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้วก็ได้ยินเสียงใครอีกคนลอยมา

คิดแล้วก็แอบโมโหเหมือนกันนะ ไม่รู้มันจะจริงจังอะไรขนาดนั้น นี่ไม่บอกไม่รู้เลยนะว่าหวงเพื่อน มองไกลๆนี่เขานึกว่ามันมาตามหึงผัว

"ไอ้บอล ใจเย็นมึง" เขาว่าพร้อมคว้าแขนคนที่ทำท่าจะเดินเข้าไปในห้องเรียนเมื่อมองรอบด้านแล้วหาไอ้เป้ไม่เจอ

"นี่มึงรู้ได้ไงเนี้ย"

"กูเจอไอ้โยเมื่อกี้ที่โรงอาหาร แล้วมันจะมาอีกทำไม ไอ้เป้ยังร้องไม่พอหรือไง พวกมันอยู่ในห้องกันใช่ไหม"

"เออ อยู่ในห้อง" สิงหาตอบ "แต่มึงไม่ต้องเข้าไปยุ่งเลยนะ ให้เขาเคลียร์กันเอง"

"แต่.."

"เออน่า มึงเชื่อกู มันอาจจะไม่แย่อย่างที่มึงคิดก็ได้ เขามาง้อมัน"

"เหอะ ตลกล่ะ เดี๋ยวก็มา เดี๋ยวก็ไป คือมึงกำลังเล่นขายของหรือไรวะ"

สิงหาอดขำไอ้คนที่โมโหเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้ อะไรคือทำแก้มพองลม แล้วไหนจะไอ้ตอนที่ทำเสียงขึ้นจมูกนั่นอีก

น่ารักฉิบหาย กูเหนื่อย!

เร็วเท่าความคิดเขาเอี้ยวตัวไปรัดคอไอ้บอลด้วยแขนยาวให้มันร้องโวยวาย ไม่พอยังเอามืออีกข้างบีบสองแก้มมันจนคนขี้โวยวายปากจู๋พูดไม่รู้เรื่อง

"ไอ้เอี้ยอิ๋ง อ่อยอู!"

"อ่อยมึงหรอ มึงจะให้กูอ่อยมึงหรอ"

"ไอ้เอี้ยยยย"

"พอ ไอ้เหี้ย ให้มันคุยกันเอง มึงไปกินข้าวกับกู กูหิวจนแสบท้องแล้วเนี่ย" เขายอมปล่อยมือข้างที่บีบแก้มมันออกแต่ยังรัดคอมันไว้แน่น ลากมันไปทั้งอย่างนั้นจนไปถึงโรงอาหารคณะ

"สุกี้น้ำไหม มึงเคยกินของคณะกูยัง? อร่อยนะมึง" สิงหาพยายามทำให้คนที่หัวเสียอารมณ์ดีขึ้นด้วยการเอาของกินมาล่อ แต่มันก็ยังทำหน้าบึ้งไม่เลิกอยู่ดี

"..."

"หน่า~มึงก็ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูพามึงไปกินชาบูเอาเปล่า หรืออยากกินเอ็มเค?"

"ใครจะไปไหนกับมึง"

"เออ เดี๋ยวค่อยคุยกัน มึงเอาสุกี้นะ เดี๋ยวกูไปซื้อข้าวก่อน มึงเฝ้าโต๊ะ โอเค๊?"

ไม่ทันฟังว่าเขาจะตอบตกลงหรือเปล่า ไอ้คนที่ลากคอเขามาที่โรงอาหารก็วางกระเป๋าแล้วเดินหันหลังเดินไปตรงโซนร้านค้าทันที

จู่ๆอัธพลก็ลืมความโมโหไปจนหมดสิ้น ตาคมลอบมองตามแผ่นหลังกว้างที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาของใครอีกคน

ใคร ที่เป็นต้นเหตุทำให้เขานอนไม่หลับมาสองสามวันแล้ว

ก็ตั้งแต่วันนั้นที่มันมาจุ๊บปากเขาตอนหลับ จากที่เคยฝันว่าจูบกับใครก็ไม่รู้ ตอนนี้ในฝันมันกลับกลายเป็นว่าคนที่เขาจูบอยู่เป็นมันซะงั้น แล้วคือจูบดุเดือดมากครับแม่

"มึงทำแบบนี้ทำไมวะ"

และเหตุผลที่ผุดขึ้นมาหนึ่งเดียวก็คือ...

"มึงเนี้ยนะ จะชอบกู..."

มันคงไม่ใช่ เพราะคนอย่างมันเนี้ยนะจะมาชอบเขา ดูดิ แค่มันเดินไปซื้อข้าว ระหว่างทางก็มีสาวน่ารักๆมองมันเป็นร้อย คนเดินเข้ามาคุยกับมันเป็นสิบแล้วมันจะมาสนใจอะไรกับผู้ชายตัวโตเป็นควายอย่างเขาวะ

"ฟุ้งซ่านฉิบหาย" ยกมือลูบหน้าตัวเองพยายามเรียกสติ

ความรู้สึกแปลกๆก่อเกิดขึ้นให้ว้าวุ่นใจ มันมีหลากหลายอารมณ์ผสมปนเปจนแยกแยะอะไรไม่ได้ แต่นอกเหนือจากสิ่งอื่นใด สิ่งที่กำลังทำให้เขาหนักใจที่สุดกลับไม่ใช่การที่คิดว่ามันมาชอบเขาหรอก

แต่มันคือการที่เมื่อเขาคิดว่ามันอาจจะมีใจ เขากลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรมันเลยสักนิด ตรงกันข้ามมันกลับมีความปิติยินดีก่อเกิดขึ้นในใจอีกต่างหาก

"เหี้ยแล้วไงไอ้บอล"

พึมพำออกมาตอนที่ตาไปสบกับคนที่เดินยิ้มแป้นถือชามอาหารมาสองชาม รู้สึกเจ็บแน่นที่หน้าอกเพราะจู่ๆหัวใจก็เหมือนจะเต้นรัวแรงกว่าปกติ

เขาเนี้ยนะ..

เขาเนี้ยนะ ชอบผู้ชาย...

แล้วไอ้สิงเนี้ยนะ?

เหี้ยแล้วจริงๆด้วย

 

"รอนานไหมมึง"

"..."

"ไอ้บอล!"

"ห๊ะ..เห้ย" อัธพลร้องอย่างตกใจ เพราะไม่รู้ว่ามันเดินมาถึงที่โต๊ะตอนไหน เมื่อกี้ยังเห็นมันยืนคุยกับใครระหว่างทางอยู่เลย

"เอ้า เป็นไรเนี้ยมึง เหม่อไรวะ" เผลอจ้องมันที่ถามไปก็วางชามสุกี้ไว้ตรงหน้าเราสองคนก่อนจะทรุดตัวนั่ง ไอ้สิงมันดูไม่เกร็งเลยสักนิด แถมยังดูเป็นธรรมชาติมากเกินไปด้วยซ้ำ มากจนเขาคิดว่าเรื่องที่คิดในหัวมันช่างไร้สาระ

มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก

"เออ ตกลงภัทรมาทำไมวะ" พอได้บทสรุปกับเรื่องตัวเอง เรื่องของเพื่อนสนิทก็แทรกกลับเข้ามาอีกครั้ง

"ก็บอกแล้วว่ามาง้อไง อ่ะ อ่ะ ไม่ต้องออกความเห็น ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเลย กูถามไอ้เป้แล้วว่ามันมั่นใจไหม มันว่าทุกอย่างจะโอเค"

"แต่.."

"แล้วมึงก็เป็นคนบอกกูเอง เราเป็นแค่เพื่อน เราก็ทำได้แค่อยู่ข้างๆมัน เคารพการตัดสินใจของมัน โอเค๊?"

"...อืม" อัธพลนิ่งฟังคนที่นั่งตรงข้าม พอคิดตามที่มันพูดได้เขาก็พยักหน้าลงนิดเป็นการตอบรับ

"น่ารักมาก" มันยิ้มแป้นแล้วเอามือมาขยี้หัวเขาแถมยังชมให้เขานิ่วหน้าใส่ ประสาทแล้ว เกิดมาเพิ่งเคยมีคนชมว่าเขาน่ารัก แม่งทำเหมือนเขาตัวเล็กตัวน้อยไปได้ ไอ้ควาย!

"น่ารักพ่องมึงสิ" มันหัวเราะแล้วบอกเขาว่าไม่ต้องเขิน ใครเขินวะ แค่สุกี้มันร้อน เขาเลยหน้าแดงแบบนี้ก็เท่านี้เอง

"เออ ตกลงพรุ่งนี้วันเสาร์ มึงไปห้างกับกูนะ"

"ไปทำไมวะ" เขาเลิกคิ้ว เหลือบตาขึ้นมาจากชามสุกี้เพื่อมองหน้ามัน

"กูว่าจะไปดูแอมป์กีต้าร์อันใหม่"

"แล้วทำไมต้องกูอะ มึงชวนไอ้เป้ไปดิ"

"ก็กูอยากไปกับมึง"

"..."

"ก็มึงบอกจะซื้อเสื้อใช้กูไง เดี๋ยวกูเลี้ยงเอ็มเคมึงเลยเอาป่ะ"

"อะ..อ๋อ" อัธพลที่แอบอึ้งไปนิดเมื่อได้ยินว่ามันอยากไปกับเขาร้องอ๋อออกมาเมื่อได้ฟังคำอธิบายเพิ่มเติมของอีกฝ่าย

อีกแล้ว คิดเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว

"หรือว่ามึงติดอะไร?"

"..."

เขาว่ามันแปลกที่แก้มของเขา

ที่มันดูจะปั่นป่วนแปรปรวนเอาง่ายๆโดยมีคนตรงหน้าเป็นคนควบคุม

มันพองโตได้ง่ายขึ้นตอนที่โดนมันยั่วโมโห

มันดูนุ่มนิ่มตอนที่มันยื่นมือมาจับ

และในตอนนี้ที่แค่ไอ้สิงเลิกคิ้วแล้วเลื่อนตาคมของมันมาสบกัน อุณภูมิของแก้มเขาก็เหมือนจะสูงขึ้นจนทำให้หน้าร้อนผ่าว

"น้า..ไปกับกูน้า"

ยิ่งมารวมกับน้ำเสียงออดอ้อนกับแววตาวาบวับที่จ้องมา

ไอ้ห่าสิง

มันไม่ยอมเว้นที่ว่างให้เขาปฏิเสธได้เลย

"ก็..อะฮึ่ม..ก็ไม่ได้ติดอะไร"

"เยี่ยม! งั้นกูไปรับมึงที่หอพรุ่งนี้นะ ไปรถกู"

"อะ..อืม" ถึงจะเกรงใจที่จะต้องให้มันวนรถมาหาแต่เขาก็ไม่ได้พูดปฏิเสธออกไป เพราะตอนนี้ที่ทำได้ดีที่สุด คือการนั่งนิ่งๆ เก็บอาการให้มิดชิดเท่าที่จะทำได้ กลัวเหลือเกินว่ามันจะดูออกว่าในหัวของเขาตอนนี้ คิดอะไรไปมากมายแค่ไหน

คิดเกินเลยกับมันไปไกลแค่ไหน



หลังจากแยกกัน สิงหาก็เดินกลับไปที่ห้องเรียนของคาบบ่าย ตอนที่มาถึงก็เห็นเพื่อนที่แยกกันก่อนกินข้าวนั่งฟังเพลงอยู่ที่โต๊ะเรียนอยู่ก่อนแล้ว

"ไอ้สิง"

"อ้าว ไอ้โย" ตอนกำลังจะนั่งลงข้างไอ้เป้ก็ได้ยินเพื่อนอีกคนตะโกนเสียงดังพร้อมกับนิ้วกลางที่ยกขึ้นฟ้าให้หัวเราะลั่น

"กูรอมึงที่โรงอาหารเป็นชั่วโมงไอ้สัด"

"โยธา เก๋าขอโทษ เก๋าผิดไปแล้ว"

"อ้าว มึงไม่ได้ไปกินข้าวกับไอ้โยหรอ แล้วมึงไปกับใครวะ" ปณวัชถอดหูฟัง เงยหน้าจากจอมือถือ ถามขึ้นในตอนที่เพื่อนเขาสองคนนั่งทรุดลงมาข้างกัน

"เออ ช่างกูเถอะน้า ว่าแต่มึงเถอะ ทำไมมาเร็วจังวะ" สิงหาไม่ตอบไปตรงๆ แต่เปลี่ยนไปอีกเรื่องทันที

ตอนแรกก็แอบตกใจว่าที่มันแยกกับภัทรได้เร็วขนาดนี้ เพราะเจอปุ๊บก็ทะเลาะกันปั๊บหรือเปล่า แต่จากท่าทางที่มันนั่งสั่นหัวโยกไปตามจังหวะดนตรีในหูฟังของมันตอนที่เขาเข้ามา สิงหาก็พอจะจับได้ว่ามันกำลังอารมณ์ดีมากแค่ไหน

"คุยกับภัทรแล้วดิ ตกลงคืนดีกันยัง" มันยกยิ้มมุมปากท่าทางเจ้าเล่ห์ ทำหน้าแบบคนถือไพ่เหนือกว่า

"กูไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก มันถึงตาที่เขาจะง้อกูบ้าง"

"ถุย กูจะคอยดู อย่าต้องให้กูไปลากมึงออกมาจากหน้าห้องใครอีก" สิงหาว่าพร้อมหันไปแปะมือกับไอ้โยที่นั่งขำอยู่ข้างๆ ไอ้เป้ที่กำลังอารมณ์ดีๆขมวดคิ้วแน่นทำหน้าโมโหขึ้นมาให้หัวเราะหนักกว่าเก่า

"ระดับกูไม่มีรอหน้าห้อง รอบนี้เขาขอให้กูไปห้องเขาเองเลยเว้ย" ปณวัชรีบเกี่ยวสองนิ้วเข้าด้วยกันเพราะเผลอโม้เกินจริง แต่เย็นนี้เขาก็จะไปห้องภัทรจริงๆนี่น่า รวมๆแล้วมันก็เหมือนๆกันล่ะวะ

"สรุปคือยังไม่คืนดี แต่ไม่มีอะไรต้องกังวลใช่ไหม"

"อือ ขอบใจนะมึง แต่รอบนี้กูว่ามันจะดีจริงๆ" สิงหาขยี้หัวเพื่อนสนิทสองสามทีเมื่อมันว่าอย่างนั้น ไอ้เป้เวลาพูดถึงภัทรแม่งน่ารักน่าฟัด ถึงจะไม่เท่าเมทมันก็เถอะ

อ่ะ ว่าแล้วก็ต้องรายงานกันสักหน่อย

คิดได้ก็ล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง กดเข้าไปในหน้าแชทเพื่อส่งข้อความหาใครอีกคน

S: ไอ้บอล

อัธพลขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะจ้องโทรศัพท์อย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ส่งข้อความมา

B: ?

S: มึงทำอะไรอยู่ คุยได้ไหม

B: กูเพิ่งแยกจากมึงเมื่อกี้ไง อะไรของมึงวะ

S: ก็มึงเป็นคนบอกกูเองว่าให้กูส่งข้อความหามึง ถ้ามีอะไรคืบหน้าระหว่างไอ้เป้กับภัทรไง

B: อ๋อๆ เออว่าไงล่ะ คุยได้ๆ

S: ไอ้เป้แม่งหนักเลย

B: เฮ้ย มันเป็นอะไร พวกมึงอยู่ไหน เดี๋ยวกูไปหาเดี๋ยวนี้ล่ะ

S: ใจเย็นพ่อ ฟังก่อนนน เพื่อนมึงยังอยู่ดี

B: อ้าวก็ไหนมึงว่ามันหนักเลยไง

S: ก็หนักไง โม้หนักเลย โม้ไม่หยุดจนกูเรียนไม่รู้เรื่องแล้วเนี้ย

B: โม้ไรวะ มึงอย่าบอกว่าเขาคืนดีกันแล้ว

S: ยัง เพราะเพื่อนมึงเล่นตัวอยู่

B: ไอ้เป้? เล่นตัวกับภัทร?

S: เออ มันบอกว่าภัทรมาง้อมัน ชวนมันไปกินข้าวด้วย

B: แค่ชวนกินข้าวมันว่าง้อ?

S: บอกว่าภัทรจับมือมันด้วย

B: จริงดิ! ภัทรเนี้ยนะ?

อัธพลตาโต เขากับภัทรเองก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มอสอง ถึงจะไม่สนิทเท่าไอ้เป้ แต่เขาก็รู้ดีว่าภัทรน่ะดีทุกอย่าง แต่เสียที่เป็นคนที่แคร์สายตาคนรอบข้างมากจนเกินไป ไอ้การจะมาจับมือกับไอ้เป้ในที่สาธารณะมันจึงชวนอึ้งมาก แล้วนี่คือเป็นคนมาจับเองด้วยนะ

งงไปหมดแล้ว ไหนตอนนั้นว่ายังไงก็ต้องเลิก แล้วตอนนี้มาทำแบบนี้ทำไมวะ

S: โห ขนาดมึงยังตกใจ ถึงว่าไอ้เป้แม่งโม้ใหญ่เลย

B: มันควรโม้ นี่แสดงว่าเขามาง้อมันจริงๆ

S: ใช่ มันบอกว่าภัทรชวนมันไปห้องด้วยเย็นนี้

B: โหๆๆๆ ก้าวกระโดดมากปณวัช ฮือ

S: มึงว่ามันจะกินข้าวเย็นกับภัทรเลยไหม

B: หืม.. ยังไงวะ

S: ก็ไอ้เป้ไง มันจะไปหาภัทรตอนเย็น มึงว่าเขาจะกินข้าวเย็นด้วยกันป่ะ

B: กูจะรู้ไหม ก็น่าจะนะ มึงถามอะไรกูเนี้ย กูงง

S: งั้นมึงก็มากินข้าวเย็นกับกูนะ

"..."

อัธพลกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ อ่านข้อความสุดท้ายที่ได้จากใครซ้ำไปซ้ำมา เขาไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยอะไรกับสิ่งที่คุยกันก่อนหน้าเลยสักนิด

S: มึงจะได้ไม่ต้องกินข้าวคนเดียวไง เดี๋ยวกูไปกินเป็นเพื่อน

"..."

เขาจะไม่คิดเข้าข้างตัวเองว่ามันใช้เรื่องไอ้เป้มาอ้างเพราะอยากมากินข้าวเย็นด้วยกันกับเขาหรอกนะ แต่ถ้ามันบอกว่าจะมากินข้าวด้วย เขาก็จะลองให้มันมาดู

ก็มากินเป็นเพื่อนไง ทำไมต้องคิดลึก

B: เออ มารับกูที่คณะแล้วกัน

 

૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)

 
#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

ไม่รู้แล้วไอ้คู่นี้ใครชอบใคร 555 น้องภัทรน่ารัก 

หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 03 ใจละเมอไปรักเธอ ใจมันเพ้อไม่เคยรั้งได้
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 03-06-2020 22:07:27
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 03 ใจละเมอไปรักเธอ ใจมันเพ้อไม่เคยรั้งได้
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-06-2020 23:26:37
คิดด้วยกันทั้งคู่นะล่ะ
แค่ยังไม่แน่ใจว่าอีกคนใจตรงกันมั้ย

แทบจะเอากันไปแล้ว ไม่สนิทใจตรงหนายยยย
ฮ่าฮ่า

อีกนิดก็จะได้เห็นคนมีปั๋วแล้ว
ใช่ไหม บอลลี่
อิอิ
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 03 ใจละเมอไปรักเธอ ใจมันเพ้อไม่เคยรั้งได้
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 03-06-2020 23:46:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 04 กลัวจะมีอาการให้เธอรู้ แค่เจอก็ยังสั่น
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 04-06-2020 17:49:27

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

04

กลัวจะมีอาการให้เธอรู้ แค่เจอก็ยังสั่น ทำได้เพียงหลบตาเธอเท่านั้น




 

"กูอิ่มแล้ว ขอบใจมึงมากเลยนะ" อัธพลว่าขึ้นเมื่อหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปากจนสะอาดเอี่ยมอ่อง เขายิ้มแป้นมองไปยังคนที่นั่งใบ้แดกอยู่ตรงข้ามกันกับเขา ถ้าให้เดามันคงกำลังทึ่งที่เขาจัดการอาหารบนโต๊ะได้เกลี้ยงเกลาขนาดนี้

"ไปไหนต่อกันดีมึง" ถามออกไปด้วยอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส อัธพลกำลังมีความสุข เขารู้สึกว่าวันนี้ตัวเองโชคดีชะมัด

เพราะนอกจากไอ้คนที่นั่งตรงข้ามมันจะไปรับเขาถึงที่แล้ว มันยังเสนอตัวเป็นเจ้ามือพาเขามากินอาหารร้านโปรด แถมยังบอกอีกว่าไม่ต้องเกรงใจให้เขาสั่งได้ไม่อั้น

แน่นอนว่าเขารีบสนองในทันที

มึงบอกว่าไม่อั้นใช่ไหม ต้องเรียกว่าสั่งแบบไม่ลืมหูลืมตา สั่งแบบเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้ สั่งแบบสั่งเสียก่อนตายเลยก็ว่าได้

อ่ะ อ่ะ แต่เขาไม่ได้สักแต่จะสั่งนะ คนอย่างไอ้บอลมีความรับผิดชอบพอ ไม่กินทิ้งกินขว้างอยู่แล้วครับ สั่งมาเท่าไหร่เขาก็จัดการจนเกลี้ยง เป็ดไม่ให้เหลือซักชิ้น หมี่หยกไม่ให้เล็ดลอดกลับไปซักเส้น

ไม่ทำให้เจ้ามือผิดหวังแน่ๆ อัธพลมั่นใจ!

"ไปชั้นบนสุดป่ะ พวกร้านเสื้อเยอะนะ"

"อ้าว แล้วมึงไม่ไปดูแอมป์ก่อนหรอ กูเห็นร้านอยู่ชั้นล่างสุดนะ"

"ไม่อะ เมื่อคืนกูซื้อจากในเน็ตแล้ว" เขามองตามคนที่เรียกพนักงานมาเก็บเงินอย่างงงๆเมื่อมันว่าออกมาง่ายๆอย่างนั้น

จะไม่ให้งงได้ยังไงวะ ก็ในเมื่อที่มาด้วยกันวันนี้ จุดประสงค์หลักคือมันอยากมาดูอุปกรณ์ดนตรีของมันไม่ใช่หรือไง แล้วแบบนี้มันแปลว่าอะไร

"..."

ไอ้เหี้ยสิง เป็นเพราะมันนั่นแหละ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองคิดมากไปคนเดียว แต่เขารู้แล้วว่าที่จริงมันไม่ใช่ ก็เพราะมันทำตัวแบบนี้ จะให้เขาคิดน้อยได้ยังไงวะ

จู่ๆก็อยากมาเดินห้างด้วยกัน ไปรับถึงห้อง แล้วยังพามาเลี้ยงข้าว ถ้าไม่ได้แปลว่ามันสนใจกัน จะให้เขาคิดว่ายังไง

สั่นหัวไล่ทุกความคิดออกไป

เหนื่อย! ไม่อยากจะคิดแล้วโว้ย

"งั้นก็ไปดูเสื้อกันข้างบนก็ได้" ว่าแล้วอัธพลก็ลุกขึ้นยืนตอนที่มันจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เหลียวหลังไปเป็นระยะ เมื่อเห็นว่าอีกคนเดินตามมา เขาเลยเดินนำไปทางบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปชั้นบน

"มึงมาห้างบ่อยไหมวะ" คนที่เดินมาประชิดด้านหลังเอ่ยถามตอนที่เราสองคนยืนอยู่บนบันไดเลื่อน ระหว่างเขากับมันมีเพียงครึ่งขั้นบันไดเป็นระยะห่าง มันใกล้มาก แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเท่าไหร่

"ก็ไม่บ่อยหรอก นานๆครั้งกูถึงจะออกมาเดิน กูชอบอยู่ห้องมากกว่า"

"กูว่าแล้ว เพราะกูเห็นตอนมึงเดินคือมึงไม่ดูรอบด้านเลย แบบเหมือนมึงแค่มาห้างเพราะต้องมาซื้อของที่จำเป็นเท่านั้นอะ"

"อือ..ก็คงงั้นว่ะ ส่วนใหญ่กูมาเวลาต้องมาซื้อการ์ตูนหรือมากินข้าว หรือไม่ก็มาเป็นเพื่อนไอ้เป้ วันนี้ก็มาเป็นเพื่อนมึงไง" อัธพลเล่าไปตามที่คิด

เขาไม่เคยสังเกตตัวเองเหมือนกัน แต่พอมาลองคิดๆดู เขาเป็นพวกชอบใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากกว่า

จำได้สมัยที่เคยมีคนคุยแล้วอีกฝ่ายชวนออกไปไหนก็ขี้เกียจออกไป จนโดนบ่นเรื่องว่าเขาชอบอยู่ติดบ้านไปไม่รู้กี่ครั้ง แล้วสุดท้ายพอรวมหลายๆเรื่องเข้าด้วยกันก็ไม่เคยไปรอดเลย

"อย่างนี้ล่ะมั้งกูถึงไม่ควรมีแฟน"

"เกี่ยวอะไรวะ"

"ก็กูเป็นคนน่าเบื่อ" สิงหาเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้างพร้อมย่นจมูกขึ้นอย่างไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดอีกฝ่ายเท่าไหร่

"อะไรที่ทำให้มึงคิดแบบนั้น"

"กูก็ไม่ได้เป็นพวกคิดลบกับตัวเองหรอกนะ แต่จะให้ทำไงวะ พอหลายคนพูดเหมือนกันเข้า กูก็เลยเริ่มเชื่อแล้วแหละ แต่กูก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอก" มันเล่าไปด้วยท่าทางสบายๆดูไม่ได้เดือดร้อนอย่างที่มันบอกจริงๆ

"เวลามีแฟนมันก็ดีหรอกนะ แต่ถ้าให้กูต้องมานั่งเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นอะไรก็ไม่รู้เพื่อใครอีกคน แล้วแถมยังต้องให้ใครคนนั้นมาทนนิสัยดื้อด้านของกูอีก กูว่ากูขอนอนอยู่ห้องอ่านการ์ตูนเล่นคนเดียวดีกว่า สบายใจกว่ากันเยอะ กูไม่อยากไปทำให้ใครผิดหวัง และก็ไม่ชอบให้ใครมาตั้งความหวังกับกูด้วย"

"กูไม่ค่อยเห็นด้วยเลยว่ะ" สิงหาที่ฟังอีกฝ่ายร่ายยาวอยู่นานแสดงความคิดเห็นออกมาในที่สุดเมื่อเขาทั้งคู่เดินมาถึงร้านขายเสื้อยืดขนาดใหญ่ร้านนึง

"ไม่เห็นด้วยว่า?"

"หนึ่งคือกูไม่เห็นด้วยว่ามึงเป็นคนน่าเบื่อ"

"..."

"แล้วกูก็คิดว่ามึงก็ยังไม่เบื่อที่ต้องมาเดินกับกูวันนี้ กูคิดถูกป่ะ หรือมึงจะบอกกูว่ามึงกำลังฝืน"

"เฮ้ย เปล่า กูไม่ได้เบื่อนะ มากับมึง..ก็สนุกดี" อัธพลอึกอักไปนิดก่อนจะพูดจนจบประโยค เพราะเขาต้องคอยคัดเลือกคำที่จะใช้ให้ดี ไม่อยากจะพูดอะไรที่มันจะเป็นการเผยไต๋ตัวเองออกไป

"กูแค่คิดว่าที่ผ่านมามึงอาจจะโดนบังคับหรือโดนชวนทำอะไรที่มึงไม่ชอบทำ มึงก็เลยเบื่อไง พวกมึงแค่ชอบทำอะไรต่างกัน มันไม่เกี่ยวกับว่ามึงหรือเขาควรอยู่คนเดียวหรือไม่ควรมีแฟนซักหน่อย มึงก็แค่ต้องหาคนที่ชอบอะไรคล้ายๆกัน มันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ จริงป่ะ"

สิงมันว่าไปก็เลือกเสื้อขึ้นมาทาบกับตัวเองไป บางตัวก็เอามาทาบกับตัวเขา ตัวไหนชอบก็เอาไปวางพาดกับราวแขวน ตัวไหนไม่ชอบก็เอากลับไปแขวนที่ไม้แขวนตามเดิม

"ถ้าแฟนมึงชวนไปแต่ร้านการ์ตูน พามึงไปแดกแต่เอ็มเค หรือว่าอยากอยู่แต่ห้องกับมึงทั้งวัน แล้วมึงยังจะคิดว่ามึงจะเบื่ออีกไหมล่ะ"

"โห มันจะมีคนแบบนั้นหรอวะ ที่นิสัยเหมือนกันกับกูเปี๊ยบขนาดนั้น ถ้ามีนะ กูแม่งจะไปจีบมาให้ได้เลย"

"ไม่มีหรอก" สิงหาตอบกลับกลั้วหัวเราะในทันทีให้อีกคนโวยวาย พึมพำว่า แล้วเขาจะพูดให้มันมีความหวังทำไมวะ

"มันไม่มีหรอกคนที่จะชอบอะไรเหมือนมึงได้ร้อยเปอร์เซนต์" เขาว่า "แต่มันก็ยังมีคนที่มีความสุขเพราะได้ตามใจมึงไง"

"ยังไงวะ คนเราเอาแต่ตามใจคนอื่นแล้วมันจะมีความสุขได้ไง" สิงหากลอกตาขึ้นฟ้าให้กับคนที่สมองช้าฉิบหาย มันต้องให้เขาอธิบายจนหมดเปลือกเลยหรือไงวะ

"มันต้องมีแหละ คนบางคนที่เขาอยากพามึงไปกินของที่มึงชอบเพราะเห็นว่าหน้าตาเวลามึงซูดเส้นน่ารักดี หรือบางคนที่อยากพามึงไปซื้อการ์ตูนบ่อยๆ เพราะตอนมึงอ่านการ์ตูนไปขำไปมันทำให้เขายิ้มได้ หรือบางคนที่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนมึงในห้องเพราะชอบดูมึงหลับ..."

สิงหาเหลือบมองคนที่ทำหน้าเอ๋อขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นคิดตามที่เขาพูด กลืนน้ำลายก้อนใหญ่ที่ติดอยู่ที่คอลงไปอย่างยากลำบาก ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป

"แล้วจะได้ขโมยจูบมึงเพราะมึงน่าฟัดจนอดใจไม่ได้"

"..."

"ถ้ามีคนแบบนั้นมายืนตรงหน้ามึงจริงๆ มึงจะยังอยากอยู่คนเดียว มึงจะไม่ยอมให้โอกาสเขาเลยหรอวะ"

"...เอ่อ..คือ..."

"อ่ะ กูเลือกได้แล้ว เอาสองตัวนี้นะ มึงไปจ่ายตังค์ กูจะออกไปรอข้างนอก"

ไม่รอให้อีกฝ่ายว่าอะไร สิงหาก็หยิบเสื้อสองตัวที่เลือกแล้วยัดใส่มืออีกคนก่อนที่จะเดินดุ่มๆออกจากร้านไป ปล่อยให้ใครอีกคนที่สมองกำลังทำงานหนักยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น

"ไอ้เหี้ยสิง"

ภาพของวันนั้นที่มันแอบจูบเขาในห้องปรากฎขึ้นมาในหัว อัธพลหัวใจเต้นแรงจนเหมือนมันจะหลุดออกมานอกอกในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง

คนแบบนั้นที่มันว่า

มันหมายถึงตัวมันหรือเปล่าวะ

ด้านคนที่ทำเป็นพูดซะดิบดีแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเดินออกมานอกร้านก็ได้แต่ยืนเขินอยู่หน้าร้านแบบนั้น สิงหารู้ว่าวันนี้เขาพูดเยอะเกินไป แต่จะให้ทำยังไงได้ ก็เขาทนเห็นไอ้บอลว่าตัวเองแบบนั้นไม่ได้นี่นา

ไอ้บอลมันไม่ผิดสักหน่อยที่จะไม่ชอบทำในสิ่งที่คนที่มันคบชอบทำ เขาเองก็เคยเป็น ตอนคบกับแฟนเก่าก็ร้องแต่จะให้เขาพาไปกินไอติมอยู่นั่น แล้วพอชวนไปดูหนังทีไรก็เลือกแต่หนังผี ตัวเองก็กลัว เขาก็กลัว แล้วคืออีกฝ่ายกลัวมันก็โอเคไง แต่พอเขากลัวขึ้นมาหน่อย ก็โดนด่าว่าเป็นผู้ชายภาษาอะไร

กลัวผีแล้วมันเกี่ยวกับเพศตรงไหนวะ เขาก็ยังงงไม่หาย

ก็นั่นแหละ สรุปก็คือ พอไลฟ์สไตล์มันไปด้วยกันไม่ได้ มันก็เลยต้องแยกย้าย มันไม่ได้แปลว่าอีกฝ่ายหรือว่าเขาน่าเบื่อ เราก็แค่เข้ากันไม่ได้แค่นั้นเอง

แล้วเขาก็ขอยืนยันว่าไอ้บอลมันไม่ใช่คนน่าเบื่อเลยสักนิด

น่ารักจนทำใจเขาปั่นป่วนไปหมดขนาดนี้ ยังจะมาไม่มั่นใจอะไรอีก

"ไอ้สิง" สิงหาสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อดังมาจากข้างหลัง พยายามทำหน้าให้ดูเป็นปกติที่สุดแล้วจึงหันกลับไปมองมัน

"เสร็จแล้ว?"

"อือ" มันว่าพร้อมยกถุงพลาสติกสีดำในมือเป็นหลักฐาน

"เออ ขอบใจนะ กลับเลยไหมล่ะ" เขาว่าพร้อมเอื้อมมือจะไปรับถุงมาถือเอง แต่มันก็ชักถุงหนีแล้วบอกว่ามันถือให้ได้

"ไม่อ่ะ อยากเดินเล่นก่อน"

"มึง? อยากเดินเล่น?" สิงหาเลิกคิ้วถาม หน้าตาของเขาคงดูตกใจเกินเหตุ ไอ้บอลมันถึงหลุดขำออกมาแบบนั้น

"เออกูเอง ไม่ได้หรือไง" มันว่า "ก็อย่างที่มึงบอก ใครก็ชอบให้คนอื่นตามใจทั้งนั้น กูเองก็ชอบเหมือนกัน"

"..."

"แต่มันก็คงไม่แฟร์กับอีกฝ่าย ถ้าจะมัวแต่ให้เขามาตามใจกูใช่มะ คนเราถ้าจะคบมันก็ต้องคนละครึ่งทาง มึงตามใจกูแล้ว กูก็จะลองตามใจมึงดูบ้าง"

"มึง..กู...คบกัน?..."

"คะ..คบกันแบบเพื่อนกันไงไอ้บ้า! คบกันมันไม่ได้มีแค่ความหมายเดียวสักหน่อย!" อัธพลรีบตะโกนโวยวายดังลั่นก่อนจะหันหลังเดินออกนำไปก่อน

สิงหาว่าสิงหาจะตาย

เมื่อไอ้บอลมันหันหลังไปแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลั้นยิ้มอีกต่อไป

ไอ้ห่า ไอ้น่ารัก จะเอาให้กูตายให้ได้เลยใช่ไหม

"เอ้า จะนิ่งทำเหี้ยอะไร มึงจะไปไหม"

"..."

"หรือมึงอยากกลับบ้าน"

"ไม่เอาดิ!" เขาตะโกนก่อนจะเดินเร็วๆตามอีกคนไปติดๆ

"งั้นเริ่มจากไปดูหนังกันก่อนป่ะ"

"อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หนังรัก"

"อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หนังผี"

"หนังแอคชั่น / หนังแอคชั่น" แล้วทั้งคู่ก็พูดออกมาพร้อมกัน

ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันนิ่งก่อนจะยกยิ้มให้กันอีกนิดแล้วหลุบตาไปมองที่อื่นเพราะทำตัวไม่ถูกด้วยกันทั้งคู่

อัธพลคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ

"มึงกลัวผีหรอ"

ที่จะลองเดินออกจากมุมสบายของตัวเอง เดินตามหลังใครอีกคนเพื่อเรียนรู้สิ่งที่อีกฝ่ายชอบ

"อือ ทำไม มึงจะล้อกูหรือไง"

ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เดินเร็ว จนเขาตามไม่ทันแล้วถอดใจไปซะก่อน

"เปล่า กูจะบอกว่ากูก็กลัวเหมือนกัน"

เขาว่าวันนึง สิ่งที่ได้ลองทำในวันนี้ มันอาจจะเข้ามาเป็นหนึ่งในลิสต์ของกิจกรรมโปรดของเขาก็ได้นะ



เราใช้เวลาอยู่ในห้างกันทั้งวัน พอดูหนังเสร็จไอ้สิงก็พาเขาเดินเข้าไปในโซนเกมตู้ แลกเหรียญกันไปหลายร้อย นอกจากความสนุกแล้วเขาก็ไม่ได้รางวัลอะไรกลับมาเลยสักอย่าง

แถมหนำซ้ำยังโดนมันเยาะเย้ยที่โยนลูกบาสไม่ค่อยลงห่วงอีก เขาตั้งใจแล้วว่าหลังจากนี้จะไปตั้งใจซ้อมในสนามให้ดี รับรองว่ารอบหน้าจะชนะมันให้ได้แบบขาดลอยไปเลย

"กูนึกว่ามึงจะเหมาหมดร้าน"

"มึงก็เว่อร์ แค่ห้าสิบเล่มเอง มึงไม่ชอบอ่านหรอวะ"

"ก็อ่านได้ ตอนมอปลายเคยลองตามโคนันกับคินดะอิจิอยู่ มึงรู้จักป่ะ ไอ้ที่ไม่จบซักที"

"กูก็ตาม อย่างโคนันนี่กูกลัวกูตายก่อนมันจบมากอะ อ่านไป 90 เล่ม คุโด้ยังไม่โตเลย"

"ยังไม่โตอีกหรอวะ กูอ่านถึงประมาณเล่ม 50 ได้มั้ง"

"มึงจะอ่านป่ะล่ะ เดี๋ยวกูให้แม่ส่งมาให้"

"เห้ย ไม่ต้องลำบากหรอก กูเอาเรื่องที่มึงมีอยู่ที่ห้องก็ได้ เอาแบบจบแล้วนะ"

"อือ งั้นเดี๋ยวกูดูให้แล้วกันนะ เดี๋ยวลองเอามาให้เลือกหลายๆเล่ม..."

เอี๊ยด

ไม่ทันจะได้พูดจนจบ อัธพลก็ต้องหยุดกลางคันเมื่อจู่ๆรถที่วิ่งอยู่ก็จอดลงสนิท พอมองออกไปนอกหน้าต่างถึงได้รู้ว่าเรามาอยู่หน้าหอเขาแล้ว

"อ้าว ถึงแล้วหรอวะ"

"ให้กูไปส่งบนห้องไหม ถือไหวหรือเปล่า"

ไอ้สิงไม่ได้ตอบคำถามแต่ว่าไปอีกเรื่องพร้อมกับชี้ไปที่กองถุงการ์ตูนที่อยู่บนเบาะด้านหลัง

"เห้ย ไม่เป็นไรแค่นี้เอง อ่อ แล้วนี้เสื้อมึง" เขาว่าพร้อมเปิดกระเป๋าสะพายของตัวเอง หยิบถุงสีดำยื่นให้อีกฝ่าย

เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน แต่มันแปลกๆที่หน้าอกข้างซ้าย เพียงแค่คิดว่าวันนี้กำลังจะจบลงแล้ว จู่ๆก็เกิดอาการวูบโหวงภายในจิตใจขึ้นมาซะงั้น

"ขอบใจนะ อ่ะ กูเลือกมาให้มึงตัวนึง" มันว่าพร้อมหยิบเสื้อยืดสีดำออกมายื่นให้เขาหนึ่งตัว อัธพลรับมันมาคลี่ออก มันเป็นเสื้อสีดำเรียบที่ไม่มีลายอะไรเลย

"แต่กูซื้อให้มึง"

"ในเมื่อมันเป็นของกู งั้นกูจะให้ใครก็ได้"

อัธพลตั้งใจจะอ้าปากเถียง แต่ก็เริ่มเรียนรู้แล้วว่าสู้มันไม่ค่อยได้ ก็เลยได้แต่ถอนหายใจแล้วก็เออออกับมันไปในที่สุด

"โอเค งั้นกูขอรับไว้ ขอบใจมึงละกัน" รีบหลุบตาทำเป็นตั้งใจยัดเสื้อใส่กระเป๋า ก็ใครใช้ให้มันนั่งจ้องหน้าพร้อมกับยิ้มพริ้มขนาดนั้น

กูเขิน ไอ้ควาย กูเขิน

"งั้น..." เขาว่าต่อ มือนึงยกขึ้นไปลูบหลังคออย่างเก้ๆกังๆ "กูไปนะ ขอบใจมึงอีกที แล้วเจอกันวันจันทร์"

"วันจันทร์?"

"อะ..อืม..วันจั..อ๋อ วันหลัง กูตั้งใจจะพูดว่าวันหลังไง โอ๊ย! ไม่รู้แล้ว กูไปแล้วนะ" อัธพลคิดว่าเขากำลังเลิ่กลั่กเกินการควบคุม ไอ้เหี้ยสิงแม่งก็จับผิดกันทุกประโยคเหมือนโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

หมับ!

ในตอนที่กำลังเอื้อมมือไปเปิดประตูรถจู่ๆก็มีมือหนาของใครอีกคนมาดึงแขนเขาแรงๆให้ต้องหันกลับไปมอง

"มีอะไรวะ..อือ!"

อย่างไม่ทันตั้งตัวจู่ๆริมฝีปากของเราก็ประกบกัน ตาคมโตที่เบิกกว้างสบกับสายตาอีกคู่ในระยะประชิดจนเห็นอะไรต่ออะไรได้ไม่ชัดเลยสักนิด

เขาได้แต่นิ่งเพราะความมึนงง ส่วนไอ้สิง นอกจากมันจะไม่ยอมผละออก มันยังเริ่มดูดเม้มริมฝีปากของเขาไม่หยุด ขบเม้ม ไล้เลียให้เขาที่มีสติเหลือน้อยอยู่แล้วไม่มีสติใดๆเหลืออีกเลย

ปัง!

อย่างไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรตอนนี้เขายืนนิ่งอยู่นอกรถ มีกระเป๋าสะพายที่หลัง สองมือมีถุงการ์ตูนถุงใหญ่ ยืนมองรถที่เคลื่อนตัวออกไปอย่างเหม่อลอย ในหัวมีเพียงประโยคสุดท้ายที่ได้ยินเล่นซ้ำไปซ้ำมาในหัว

"กูเอง คนที่จูบมึงทั้งวันนั้นและวันนี้ ทั้งในความฝันและความจริง กูนี่แหละ ทั้งหมดมันคือกูเอง"



"มึงจะทิ้งกูจริงๆ หรอ"

"เห้ย ทิ้งเทิ้งอะไรเล่า มึงก็นะ"

"แล้วแบบนี้ไม่ทิ้งแล้วจะเรียกว่าอะไร..เออ ช่างเหอะ" อัธพลตัดบทอย่างหัวเสีย

เขาตัดสินใจลุกจากที่นอนของเพื่อนสนิทเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ปลายเตียงของเขา นั่งลงพร้อมกับหยิบหูฟังขึ้นมาครอบหู บ่งบอกให้มันรู้ว่าไม่อยากจะคุยอะไรกับมันอีกแล้ว

เขากำลังโมโห

อัธพลรู้ดีว่ากำลังเอาแต่ใจ กว่าไอ้เป้กับภัทรจะปรับความเข้าใจกันได้ พวกมันต้องเจอเรื่องยุ่งยากมาหลายอย่าง พลิกไปพลิกมาอย่างกับหนังสืบสวนสอบสวน

อย่างไม่น่าเชื่อ ในตอนแรกที่เราทุกคนคิดว่าภัทรหมดรักมันแล้ว คิดว่าเขาอยากเลิกกับมันใจจะขาด ไปๆมาๆมันกลับกลายเป็นว่าที่เขาทำไปทั้งหมด เป็นเพราะแม่ไอ้เป้เป็นคนบอกให้เลิกกัน ถ้าไม่งั้นจะไม่ให้ไอ้เป้ที่ทั้งบ้านเป็นหมอมาเรียนสายดนตรีแบบนี้

ภัทรแม่งก็คือคนดีที่สุด ยอมทุกอย่าง เพื่อไอ้เป้แล้วก็ยอมรับปากแม่มันไป แล้วในที่สุดก็เลิกกับมันจริงๆตามสัญญา

แต่เรื่องมันมาแดงเอาตอนที่ไอ้เป้กลับบ้าน พีคสุดคือมันไปบอกแม่มันว่า มันไม่อยากเรียนดนตรีแล้ว มันจะเรียนหมอให้ เพราะถึงจะเรียนดนตรีต่อไปมันก็ไม่มีทางมีความสุขได้เลยถ้าไม่มีภัทร

แล้วเรื่องแม่งก็พลิกไปพลิกมา อยู่ๆแม่มันก็มาบอกมันเองว่าแม่มันนั่นแหละเป็นคนบอกให้ภัทรไปเลิกกับมัน ที่ทำไปก็เพราะงอนมันที่ไม่ยอมมาเปิดใจ ไม่ยอมมาคุยว่าอยากเรียนอะไรแล้วไปร้องห่มร้องไห้กับภัทร

คือที่จริงไม่มีอะไรเลยนะ แม่มันก็นิสัยเหมือนมันอะ ขี้น้อยใจ โผงผาง ใจร้อนและเอาแต่ใจนิดๆ แต่ก็เป็นคนที่จริงใจที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เขาเคยเจอมา พอเคลียร์กับมันแล้วยังไม่พอ เขาได้ยินมาว่าแม่ถึงกับไปขอโทษภัทรแล้วเชียร์ให้ภัทรมาง้อไอ้เป้เองเลยด้วย

ด้วยเหตุนี้เรื่องวุ่นวายต่างๆของมันจึงจบลง และก็เพราะอย่างนั้น วันนี้ไอ้เป้เลยมาบอกเขาว่ามันจะขอย้ายไปอยู่กับภัทร เขาก็เลยงอนมันอยู่แบบนี้นี่แหละ

"เห้ย ไอ้บอล อย่าทำแบบนี้ดิวะ หันมาคุยกับกูก่อน"

มันเดินมานั่งที่ปลายเตียง เอื้อมมือมาวางบนไหล่เขาก่อนจะเขย่าแรงๆ หลายครั้งจนเขาเริ่มโมโห

อัธพลสะบัดไหล่ทิ้งแต่อีกคนก็ยังเพียรเขย่าอยู่อย่างนั้น จนในที่สุดเขาก็ทนไม่ได้หันกลับไปคุยกับมันที่นั่งยิ้มแป้นอยู่ก่อนแล้ว

"มึงจะอะไรกับกูนักหนา"

"ก็มึงโกรธกูทำไมเล่า"

"..."

"มึงจะพูดอะไรก็พูดมา กูขอล่ะ กว่ากูจะดีกับภัทรได้ มึงก็รู้ว่ากูอยากอยู่กับเขามาตั้งแต่แรก มึงเข้าใจกูหน่อยดิวะ"

อันนี้ก็เรื่องจริงอีก

ที่จริงตอนเข้ามหา'ลัย ไอ้เป้มันอยากอยู่หอเดียวกับภัทรมาตลอด แต่ตอนนั้นภัทรที่อยากจะตีตัวออกห่างมัน เป็นคนมาขอร้องเขาเองว่าให้มาเป็นเมทไอ้เป้แทนให้หน่อย

"กูรู้เว้ย แต่คือมึงมาบอกกูกะทันหันแบบนี้ แล้วแม่งกลางเทอมด้วย กูจะไปหาเมทใหม่มาจากไหน ค่าห้องก็แพงจะตาย"

"กูหาให้มึงได้ล่ะ"

ห๊ะ!

"หืม..ตอนไหนว่ะ ทำไมเร็วจัง ใครวะ"

"ไอ้สิง"

"ไอ้สิง? เพื่อนที่คณะมึงอ่ะนะ" อัธพลไม่แน่ใจว่าเขาทำสีหน้ายังไง แต่เขาแน่ใจว่ามันคงจะดูแปลกเอามากๆเพราะตอนนี้เขาเห็นไอ้เป้ยกยิ้มมุมปากแปลกๆ

จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ก็เขาตกใจจริงๆที่จู่ๆชื่อของใครอีกคนเข้ามาอยู่ในบทสนทนาได้ยังไงก็ไม่รู้ แล้วภาพที่เข้ามาก็เสือกเป็นตอนที่เขากับมันจูบกันในรถซะด้วย

"อือ ไอ้สิง"

"ทำไมอยู่ๆ ถึงเป็นมัน กลางเทอมแบบนี้มันจะอยากย้ายห้องทำไม แล้วมันรู้ได้ไงว่ามึงจะย้ายออก มึงบอกมันก่อนบอกกูหรอ มึงทำอย่างนี้กับกูได้ไงวะ"

เขาหันหน้าไปทางหน้าจอคอมทำเป็นคลิ๊กนั่นคลิ๊กนี่แล้วเอ่ยถามเหมือนไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ นี่อุตส่าห์ทำเป็นไม่รู้ว่าไอ้สิงไม่ได้อยู่หอนะ กลัวมันจะถามกลับว่ารู้ได้ไงอีก

ฉลาดป่ะล่ะ

"ใจเย็นมึงใจเย็น" เขาหันขวับไปมองมันทันทีเมื่อจู่ๆไอ้เป้ก็ว่ากลั้วหัวเราะ บอกตรงๆเลยว่าไม่ไว้ใจแม่งเลยสักนิด หรือไอ้สิงจะเล่าเรื่องของเราให้มันฟังแล้ววะ

"มึงมีแผนอะไรกัน มันมีอะไรมากกว่าที่มึงบอกกูใช่ไหม"

"ไม่มีๆ ไอ้เหี้ย ขอกูเล่าก่อน"

"..."

"ก็ไอ้สิงมันเปรยๆ ว่ามันอยากย้ายมาอยู่หอ ตอนนี้มันไปกลับบ้านมันทุกวัน มันบอกมันเหนื่อย"

"..."

"แล้วพอดีกูก็คิดเรื่องอยากย้ายไปอยู่กับภัทร กูก็เลยลองถามมันดู มันก็โอเค"

"..."

"ทำไมวะ กูก็เห็นว่ามึงคุยกันดี มึงไม่ชอบมันหรอ"

"ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ..." อัธพลพึมพำออกมาเบาๆ ใจคิดไปถึงหน้าใครบางคน

กับไอ้สิงแล้ว มันห่างไกลกับคำว่าไม่ชอบไปเยอะแล้ว

กลับกันซะอีก..

"แต่ถ้ามึงลำบากใจ เดี๋ยวกูคุยกับภัทรเอง กูย้ายเทอมหน้าก็ได้ รอมึงหาเมทใหม่ได้ก่อน"

"..."

"แล้วไอ้สิง เดี๋ยวกูไปบอกมันเองว่ามึงไม่อยาก..."

"ไม่เป็นไร! " เขาเผลอตอบสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ตัวว่าเผลอแสดงอาการมากไปหน่อยก็เลยรีบแก้ตัวที่ไม่รู้จะฟังขึ้นมากแค่ไหน

"เดี๋ยวมันจะเข้าใจผิดว่ากูไม่อยากอยู่กับมัน จะผิดใจกันเปล่าๆ "

"เห้ย มึงคิดดีๆ มึงไม่ต้องเกรงใจนะเว้ย รูมเมทแม่งโครตสำคัญเลยอะ ถ้าเข้ากันไม่ได้มึงจะอยู่ไม่ได้นะ"

"เออ..กูไม่ได้ลำบากใจอะไร มันแค่เร็วไปหน่อย กูเลยคิดไม่ทัน แล้วอีกอย่างกูก็ไม่อยากขัดความสุขของพวกมึงด้วย อุตส่าห์ได้ดีกับภัทรแล้ว"

จุ๊บ

อัธพลโวยวายในตอนแรกที่จู่ๆไอ้เพื่อนบ้าก็มาจุ๊บลงที่หน้าผากเขา แต่พอมันเริ่มสารภาพความในใจ บอกว่ามันรู้สึกขอบคุณเขามากมายแค่ไหนสำหรับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด เราสองคนก็ยิ้มให้กัน

กับไอ้เป้แล้ว เขาคงเรียกมันว่าเพื่อนตายได้เลยล่ะ เพราะรู้จักและรู้ใจกันมานาน เขาจึงยินดีกับความสุขของเพื่อนเสมอ

มันเป็นหนึ่งคนในโลกที่ทำให้คนที่ไม่เคยรักใครอย่างเขาเชื่อว่ารักแท้ยังมีอยู่จริง

เชื่อ ซะจนบางครั้งในเวลาที่มองมัน เขาก็กลับมาถามตัวเองว่า เขาจะมีโอกาสบ้างไหมนะ สักวันเขาจะเจอคนที่รักเขาได้มากเท่าที่เป้มันรักภัทรหรือเปล่า

"เออ แค่เห็นพวกมึงมีความสุขแบบนี้ กูก็ดีใจแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกูอยากให้มึงจำไว้ว่ายังมีพวกกูอยู่ ถ้าภัทรไม่รักมึงแล้วมึงก็กลับ.."

เพี๊ยะ!

"โอ๊ย ไอ้เหี้ยเป้! ตีปากกูหาพ่อง"

"ก็มึงพูดเรื่องไม่เป็นมงคลไอ้ห่า ถอนคำพูดมึงเลยนะ"

"คำไหน ที่กูบอกว่าภัทรไม่รักมึงอะนะ มึงจะให้กูถอนคำพูดที่ว่าภัทรไม่รักมึงหรอ"

"ไอ้ควายยยย ห้ามพูดอีก!!!! "

"ทำไมวะ แค่กูพูดว่าภัทรไม่รักมึง มันก็ไม่ได้แปลว่าภัทรจะไม่รักมึงสักหน่อย ถึงกูจะคิดว่าภัทรไม่รักมึง ถึงคนทั้งโลกจะคิดว่าภัทรไม่รักมึง แต่ถ้ามึงมั่นใจแล้วทำไมมึงถึงคิดว่าภัทรจะไม่รักมึงวะ"

"ไอ้เชี่ยบอล ไปไหนก็ไปเลยไอ้ควายยยย"

 
૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

ยาวมากกกกกก ยาววอีกแล้ววว

หมดตอนนี้ก็หมดปมเรื่องเป้ภัทรแล้วนะคะ ที่ต้องใส่เข้ามาเพราะเปิดเรื่องมาแล้วมีเรื่องเป้ด้วย อยากให้มันสมบูรณ์ในเรื่องเดียว เผื่อใครไม่ได้อ่านเรื่องเล็กๆ2 จะได้รู้เรื่องเนาะ เวลาเขียนแล้วคือสนุกมากเพราะมันคาบเกี่ยวกันไปหมด ชอบอะไรแบบนี้จริงๆ (><)

แก้ตัวไว้ก่อน เดี๋ยวโดนว่าว่าขี้เกียจเลยเอาตอนเก่ามาเสริม อิอิ //เลิ่กลั่ก

หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 04 กลัวจะมีอาการให้เธอรู้ แค่เจอก็ยังสั่น
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 04-06-2020 18:34:49
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 04 กลัวจะมีอาการให้เธอรู้ แค่เจอก็ยังสั่น
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-06-2020 22:50:12
 :hao6:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 04 กลัวจะมีอาการให้เธอรู้ แค่เจอก็ยังสั่น
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-06-2020 23:35:19
อีกไม่นานก็จะได้เข้าหอกันแล้ว
อยู่กันแบบจริงๆจังๆ คู่ปั๋วตัวเมีย

ดีใจด้วยนะ..บอลลี่ จะมีปั๋วเป็นของตัวเองแล้ว
ฮ่าฮ่า

สิง..นายแน่มาก
หาเมียให้ตัวเองได้เร็วจริงๆ
..เอาเแม่งตั้งแต่คืนแรกเลยนะ สำเร็จอยู่แล้นนนนนนน..
กร๊ากกกกกก

+1 จ้า
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 05 เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมแบบนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 05-06-2020 13:48:47

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

05
เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมแบบนี้




 

อัธพลก้าวขาลงมาจากรถราง ค้างอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งรถออกไปก็ยังไม่ขยับ ความลังเลที่มีมาตลอดทางยังตามมาหลอกหลอน ตอนนี้เขาไม่แน่ใจจริงๆว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ เขาคิดถูกแล้วจริงๆหรือเปล่า

"อ้าว ไอ้เป้ไม่อยู่หรอ" ซ้อมคำพูดที่เตรียมไว้พร้อมกับแสดงสีหน้าประหลาดใจ เขาว่ามันคงจะดูเนียนอยู่พอสมควรเพราะเขาซ้อมมันมาหลายครั้งแล้วที่หน้ากระจก

วันนี้เขารู้อยู่แล้วว่าไอ้เป้มันจะไปกินข้าวเที่ยงกับภัทรที่คณะ ที่มาก็ตั้งใจมาหาไอ้สิงมันนั่นแหละ แต่ยังไงเขาก็จะให้มันรู้ไม่ได้

เขาล่ะเกลียดฉิบหายไอ้หน้าตาตอนที่มันส่งสายตาเป็นประกายแล้วสยายยิ้มล้อเลียนเขา

หลังจากเหตุการณ์ปากประกบปากบนรถ มันก็โทรมาหาเขาอีกครั้งเมื่อกลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว

น่าแปลก แต่เราทั้งคู่ต่างไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนั่นขึ้นมาเลย

มันชวนเขาคุยเรื่องทั่วๆไป ตั้งแต่กินข้าวหรือยัง ( ถึงจะกินสุกี้ไปตอนเที่ยงบวกกับก๋วยเตี๋ยวตอนเย็นก่อนกลับอีก แต่พอตกดึกๆมันก็ต้องหิวอีกรอบไง! ดีนะที่มีมาม่าอยู่ที่ห้อง) ถามว่าเขาทำอะไรอยู่ จะนอนตอนไหน พอไม่รู้จะคุยอะไร เราสองคนก็ถือโทรศัพท์ไว้อย่างนั้น ต่างคนต่างทำโน่นทำนี่ไป แต่ยังมีสายหูฟังเสียบอยู่ข้างหู จนเขาก็เผลอหลับไปทั้งอย่างนั้นนั่นแหละ

ตื่นมาอีกทีก็เห็นข้อความว่าขอให้ฝันดีถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อคืน

แล้ววันอาทิตย์มันก็ทำซ้ำการกระทำทั้งหมดอีกครั้ง

แค่คิดมันก็คันยุบยิบ

แล้วจะบอกว่าทั้งหมดมันคืออะไร

ถ้ามันไม่ได้กำลังจีบเขาอยู่ แล้วไอ้ทั้งหมดนี้มันคืออะไรวะ

 

เธอกับฉัน เราเป็นอะไรช่วยบอกฉันที

อยากรู้สายตาที่เธอมีให้กัน

มันหมายความว่าอะไร

"ฮัลโหล เออ กำลังเดินไปแล้ว"

 

อัธพลหันควับไปมองตามเสียงเพลงที่ลอยมากระทบโสตประสาท ไอ้ห่า ใจหายใจคว่ำหมดแล้ว อะไรจะใช้ริงโทนได้เข้ากับชีวิตกูขนาดนี้!

พอๆๆ

พยามยามรวบรวมสติเข้าไว้ที่ตัวเองอีกครั้ง เขาจะมาเสียสมาธิไม่ได้ วันนี้ยังไงๆก็จะไม่ให้ไอ้สิงจับได้ว่าเขาอยากมาหามัน

"ว้า กูว่าจะมากินข้าวกับมันสักหน่อย อ๋อ..แล้วก็ไหนๆก็มาแล้ว ก็ว่าจะมาคุยเรื่องหอกับมึงด้วย ไอ้เป้บอกกูแล้วนะว่ามึงจะย้ายมา กูโอเคนะ เพราะค่าห้องมันแพงกูกลัวกูจ่ายไม่ไหว"

เขาท่องบทที่เมื่อคืนเขียนลงในกระดาษเอสี่ไปพลางเดินตรงไปยังลานจอดรถที่เป็นทางเข้าใต้ตึก เขาแอบทึ่งที่ตัวเองจำทุกคำพูดได้แม่นเป๊ะขนาดนี้ เวลาเรียนถ้าตั้งใจได้แบบนี้ปีนี้เขาคงไม่เจอเอฟซักตัวแน่ๆ

ตอนที่เดินมาถึงลานจอดรถ สายตาก็ไปสะดุดกับรถที่กำลังเคลื่อนตัวเทียบจอดอย่างช้าๆ เขาจำได้ว่ามันเป็นรถของสิงหา แอบแปลกใจเล็กน้อยเพราะตอนนี้มันน่าจะเพิ่งเลิกเรียนคาบสุดท้าย อย่างนี้แปลว่ามันต้องโดดแน่ๆ

ช่างเถอะ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ทำเป็นบังเอิญเจอกันก็สิ้นเรื่อง

เขายกยิ้มพร้อมกระชับกระเป๋าสะพายอีกครั้ง ตั้งใจจะเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่ายเมื่อประตูรถฝั่งคนขับเปิดออก

ปัง!

สองเท้าหยุดชะงัก สายตาเลื่อนจากคนที่เขาอยากเจอไปอีกด้านเมื่อประตูด้านข้างคนขับเปิดออก ตาคมโตวาวเมื่อเห็นใครอีกคนที่อยู่ในชุดนักเรียนหญิงของโรงเรียนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหา'ลัยลงมาจากรถ

"พี่สิง เร็วๆหน่อยสิ" สาวเจ้าที่มีเปียยาวสลวยสองข้างพูดขึ้น ท่าทางบึ้งตึงแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอกำลังโมโห จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง เขาคิดว่าเธอกำลังโมโหหิว

"คร้าบๆ พี่สิงก็รีบที่สุดแล้วไง ใจเย็นนิดนึงสิ" สิงหาว่า กดล๊อครถพร้อมสาวเท้าเดินเข้าไปเคียงข้างใครอีกคน

ถึงเธอจะยังเด็ก แต่เพราะส่วนสูงที่เกือบจะเท่าสิงทำให้เธอดูเป็นสาวเต็มตัว น่ารักซะจนใครที่ผ่านไปผ่านมาอดเหลียวมองไม่ได้

"หิว! โรงอาหารมอพี่สิงมีอะไรให้กินบ้าง"

"มีเยอะแยะเลย แล้วเราอยากกินแบบไหนวันนี้ พี่จะได้แนะนำถูก"

"หนูก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าหิวมาก!"

"..."

อัธพลได้แต่ยืนนิ่ง มองไอ้สิงเอาแขนเข้าไปเกี่ยวกับแขนของน้องคนนั้น อีกคนก็ไม่ได้แสดงท่าทางว่าไม่ชอบอะไร กลับกันเจ้าตัวเป็นฝ่ายกระชับสองแขนให้รัดแน่นมากขึ้น

"งั้นกินสุกี้น้ำไหม ที่นี่ทำอร่อยนะ"

"อือ ลองดูก็ได้ แต่ขอสองชามเลยนะ"

ไอ้สิงหัวเราะร่า ยกมือขึ้นขยี้ผมอีกฝ่ายแล้วบอกว่าอยากกินซักร้อยชามก็จะซื้อให้

สายเปย์จังนะมึงน่ะ

"ไปตายซะไอ้เหี้ยสิง"



"อือ วันนี้กูไม่กลับ กูก็ว่าจะโทรมาบอกเรื่องนี้แหละ"

[กูก็ว่าแล้ว วันนี้กูเลยไม่ได้รอมึงกินข้าว ดีนะที่ตัดสินใจถูก]

"อ้าวหรอ นี่มึงกินข้าวแล้วหรอ" ปณวัชหน้ามุ่ยเมื่อปลายสายตอบกลับมาแบบนั้น แล้วเขาจะทำยังไงดีวะ ไม่เป็นไปตามแผนซะแล้ว

"เออ งั้นมึงลงไปซื้อสบู่ข้างล่างให้หน่อยดิ คือกูเอาของที่ห้องมาอะ เดี๋ยววันนี้มึงไม่มีใช้นะ" ปณวัชยิ้มเจื่อนเมื่อภัทรที่นั่งอยู่บนตักหันมามองเขาด้วยสีหน้างงงวย 

[สบู่หรอ เมื่อกี้เหมือนกูเห็น..]

"แล้วก็แปรงสีฟัน!"

[ห๊ะ?]

"คะ..คือกูว่าจะทิ้งไว้ห้องภัทรเลยอันนี้ มึงซื้ออีกอันมาให้กูหน่อยดิ" พูดไปก็มองหน้าพร้อมส่งสายตาออดอ้อนไปยังคนที่กอดอกแน่น ขมวดคิ้วจ้องหน้าเขาเหมือนเริ่มไม่พอใจอะไรสักอย่าง

[เออๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูซื้อไว้ให้]

"ไม่ มึงลงไปซื้อตอนนี้เลยนะ!"

[ห๊ะ? อะไรของมึงวะ]

"คือเผื่อกูกลับไปตอนเช้าไง..กูจะได้ไม่ต้องแวะเซเว่น"

[เออๆ ไปเดี๋ยวนี้ละ แค่นี้นะ] อัธพลไม่ค่อยจะเข้าใจนัก แต่ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆแล้วตอบตกลง

"เออ เจอกันพรุ่งนี้นะมึงนะ"

ปณวัชวางสาย ยกนิ้วชี้ขึ้นห้ามเมื่อแฟนของเขาอ้าปากทำท่าจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง อีกมือกดโทรออกหาไอ้ตัวเจ้าปัญหาที่เป็นคนทำให้เขาต้องมาทำอะไรแบบนี้

[ว่าไงครับคุณชายปณวัช]

"ไอ้เหี้ยสิง"

[ครับเพื่อนที่เคารพ]

"ถ้ามึงไม่จริงจังกับเพื่อนกูคือกูเอามึงตาย"

[โหย ปณวัชใจเย็นดิ จริงจังจริงใจจริงๆนะ แล้วตกลงมันจะลงมากินข้าวยัง]

"มันกินข้าวแล้ว แต่กูให้มันลงไปซื้อของให้กูที่ซุปเปอร์ มึงก็รอแป๊ปนึงแล้วกัน"

[มันต้องอย่างนี้สิวะ! ขอบใจมึงมากเลย กูไม่รู้จะตอบแทนมึงยังไงแล้ว ไม่มีมึงชีวิตกูคงไร้สิ้นหนทาง"

"พอ! กูปวดหัวกับพวกมึงฉิบหาย แค่นี้นะ" ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจก่อนจะตัดสายโดยไม่ได้รอฟังว่ามันจะว่ายังไง ไอ้ห่า จะรักกันทำไมเขาต้องมาลำบากอะไรขนาดนี้

"เล่นอะไรกันเนี้ย" เสียงที่แสดงความไม่สบอารมณ์ของคนตรงหน้าทำให้ปณวัชหลุดออกจากความคิด ตอนนี้ภัทรมองเขาด้วยสายตาดุๆ 

"ภัทร..."

"แกล้งอะไรบอลกัน วางแผนอะไรกับสิง"

อยากจะหยิกแก้มให้หายหมั่นเขี้ยว หน้าตาตอนโมโหทำไมต้องน่าฟัดขนาดนี้ด้วยนะ ไม่มีสมาธิกลัวเลย

"ก็ไอ้สิงอะดิ.."

แล้วปณวัชก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด ช่วยไม่ได้ อุตส่าห์เก็บเงียบมาตลอดแต่ไอ้สิงดันโทรมาตอนที่เขาอยู่กับภัทรเอง กับคนคนนี้ให้ไม่เล่าก็ทำได้ แต่ให้โกหกเขาทำไม่ได้หรอกนะ

ก็เขาซื่อสัตย์กับคนของเขานี่น่า



"มึงมาได้ไง"

"ขับรถมา"

อัธพลเหลือบมองตาขวางเมื่อคนที่จู่ๆก็โผล่มายืนตรงหน้าเขาตอบคำถามแบบกวนส้นตีนที่สุด

"..." ไม่คิดจะต่อปากต่อคำ เขาเบี่ยงตัวเพื่อจะเดินไปเซเว่น แต่พอก้าวไปทางซ้ายมันก็เอี้ยวตัวมาขวาง ก้าวไปทางขวาแม่งก็ทำเหมือนเดิม

"มึงต้องการอะไรจากกู" ถามออกไปเสียงแข็งเมื่อมันไม่มีทีท่าว่าจะพูดหรือจะยอมปล่อยเขาไป แม่งทำหน้านิ่งจ้องกันอยู่ได้

"มึงเป็นอะไร" ไอ้สิงถามออกมาเสียงอ่อยให้เขาเบี่ยงหน้าหนีเพราะไม่อยากสบตากับมัน

"กูไม่ได้เป็นอะไร"

"ไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์กู"

"..."

"วันนี้กูโทรหามึงทั้งวัน มึงไม่รับโทรศัพท์กูเลยสักครั้ง มึงโกรธกูเรื่องอะไร"

พลั่ก!

"เรื่องของกู"

ตอบกลับไปพร้อมกับผลักคนตรงหน้าให้ห่างจากตัว ก่อนจะเดินเร็วๆเข้าไปในร้านที่ต้องการมาซื้อของให้เพื่อน

"ไอ้บอล.."

มันยังตามหลังเขามาติดๆ ส่งเสียงเรียกตอนที่เขากำลังเลือกสบู่ เมื่ออัธพลไม่ยอมตอบอะไรก็ยกมือขึ้นมาแตะข้อศอกเบาๆให้เขาสะบัดออกในทันที

"อย่ามาแตะต้องตัวกู" ไม่ได้โวยวาย ไม่ได้เสียงดัง เขากล่าวมันออกไปด้วยเสียงนิ่งเรียบ ก่อนจะหยิบสบู่และแปรงสีฟันแล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์อย่างรวดเร็ว มันยังไม่ลดละความพยายาม เดินตามเขามาติดๆจนกระทั่งถึงหน้าหอ

"ไอ้บอล..มึงเป็นอะไร..มึงบอกกูสิ กูไม่รู้จริงๆว่ากูทำอะไรผิด"

"ไอ้สิง" สิงหาชะงักเท้าทันทีเมื่อจู่ๆคนที่เดินอยู่ด้านหน้าหยุดเดินแล้วหมุนตัวกลับมาหาเขา

"กูจะขึ้นห้อง อย่าตามมา"

"มึงบอกกูก่อนว่ามึงเป็นอะไร ทำไมมึงไม่คุยกับกู"

"กูก็บอกแล้วไงว่าเรื่องของกู"

"มันจะเรื่องของมึงได้ไง มันเกี่ยวกับกูโดยตรงขนาดนี้"

"แล้วจะทำไม แค่ไม่คุยกันมึงจะตายหรือไง กูไม่คุยกับมึง มึงก็ไปคุยกับคนอื่นดิ" ว่าแบบนั้นพร้อมหันหลังจะเดินเข้าหอแต่ก็โดนมือหนาของใครอีกคนมารั้งไว้เสียก่อน

"ก็กูอยากคุยกับมึง"

"แต่กูไม่อยากคุยกับมึง เลิกตามกูได้แล้ว"

"มีเหตุผลหน่อยดิวะ" สิงหาลืมตัวตะคอกเสียงดังด้วยความฉุนเฉียว จนไอ้บอลที่หน้าบึ้งอยู่แล้วหน้างอกว่าเดิม แต่เขาเองก็เริ่มโมโหแล้วเหมือนกันนะเว้ย

"ไม่มี อยากมีเหตุผลมึงก็ไปหาเอาที่อื่น" ว่าแล้วก็พยายามสะบัดมือเขาทิ้ง แต่เขาก็ยังจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

"ปล่อย!"

"ไม่ปล่อย!"

"ไม่ปล่อยมึงก็ไม่ต้องมาคุยกับกูอีกเลย"

"..."

"..."

"เฮ้อ ไอ้เหี้ยบอล มึงมันแม่ง..." ต่างคนต่างมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายสิงหาก็ได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะยอมคลายมือจากใครอีกคนในที่สุด

อัธพลสะบัดมือหนีในทันที ก่อนที่จะหยิบคีย์การ์ดออกมาสแกนหน้าประตู เดินเข้าหอพักของตัวเองไปอย่างรวดเร็ว



ห้าทุ่มยี่สิบ

สิงหาเหลือบมองเวลาจากนาฬิกาในรถเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ จิตใจที่กระวนกระวายบวกกับการรอไม่มีที่สิ้นสุดทำให้เขาเริ่มจะทนไม่ไหว

เสียงเพลงจังหวะคึกคักที่ดังมาไกลๆไม่ได้ทำให้เขามีอารมณ์ร่วมได้เลยสักนิด ถ้าทำได้คืออยากเดินเข้าไปด้านใน ตะโกนบอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านกลับช่องไปซะให้หมด

"ออกมาได้ซักทีนะไอ้เหี้ยบอล" ขยับตัวไปเปิดประตูเมื่อสายตาสะดุดเข้าที่ใครบางคนที่กำลังเดินออกมาจากร้านล่องลอย สิงหาพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว กลัวว่าใครคนนั้นจะคลาดสายตากันไปเสียก่อน

"กูไม่ได้เมา! ปล่อยกู!" เสียงตะโกนโหวกเหวกของคนที่กินเหล้าเกินขนาดทำให้ทั้งกลุ่มหัวเราะออกมาเสียงดัง

"ไอ้นท มึงพอไหม รู้จักอายน้องบ้าง" เตชาทั้งขำทั้งละเหี่ยใจ ผ่านมากี่ปีๆ มันยังไม่รู้จักควบคุมตัวเอง แดกทีไรเดือดร้อนพวกเขาทุกที ขนาดวันนี้มาเลี้ยงสายรหัสมัน พวกเขายังปล่อยมันมาคนเดียวไม่ได้เลย

"พี่เบิ้ม งั้นผมฝากน้องๆด้วยนะพี่ ผมกับไอ้เตขอหิ้วไอ้นทกลับก่อน" กันต์หันหน้าไปคุยกับพี่รหัสของเพื่อนสนิท พี่เขาพยักหน้ารับ บอกว่าไม่ต้องห่วง แค่เอาไอ้เหี้ยนี่ไปไกลๆตีนกูก็พอ

"งั้นบอลกับมีนนั่งแท๊กซี่ไปกับพี่แล้วกันนะ พี่จะให้เขาวนไปส่งพวกเราก่อน" เมื่อคนเมาโดนลากกลับไปแล้ว คนที่แก่ที่สุดก็หันไปคุยกับหลานรหัสทั้งสองคน เมื่อพวกมันพยักหน้ารับรู้ ทั้งสามคนก็พากันไปรอแท๊กซี่

"ไอ้บอล" คนทั้งสามหันมาทันทีเมื่อมีเสียงเรียกดังมาจากมุมมืดด้านหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เจ้าของชื่อก็ถึงกับหน้าชา แต่ก็พยายามเก็บอาการให้มากที่สุดเพราะยังมีสายรหัสอีกสองคนยืนอยู่ด้วย

"ไอ้สิง เอ่อ พี่มีน พี่เบิ้ม นี่ไอ้สิงเพื่อนผมครับ" กล่าวแนะนำอย่างช่วยไม่ได้ พี่ๆทั้งสองพยักหน้ารับเมื่อไอ้สิงมันยกมือขึ้นไหว้

"มึงมาได้ไง"

"กูมารับ"

ใจจริงอยากจะต่อปากต่อคำ แต่เพราะพี่ๆยังยืนดูสถานการณ์อยู่ด้วย เขาถึงได้แต่เงียบ ดูหน้าตาจริงจังของไอ้สิง ถึงเขาจะปฏิเสธอะไรมันตอนนี้มันคงจะไม่เลิกราง่ายๆ

"งั้น..ผมกลับกับเพื่อนนะครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ" อัธพลหันไปยิ้มพร้อมยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสอง คุยอะไรอีกนิด รอจนรถแท๊กซี่มาพี่ๆถึงบอกลาและขึ้นรถออกไป

"กูจะกลับแท๊กซี่" ในทันทีที่พี่ๆลับตา เขาก็กลับมาหน้าบึ้งอีกครั้ง เขาตะโกนออกมาลอยๆ โดยไม่ยอมแม้แต่หันไปมองตาใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกัน

"ไอ้บอล...ไม่เอาดิวะ กูมารอมึงตั้งแต่สี่ทุ่มแล้วนะ"

"ใครใช้ให้มึงมา"

"ไม่มี กูมาเอง กูเสือกเอง พอใจมึงยัง" หลุดประชดเพราะความโมโหที่มีสะสม นั่งรอในรถก็อารมณ์เสียอยู่แล้ว และยิ่งได้มาเห็นไอ้หน้าตาตอนบอกลารุ่นพี่แม่งนั่นอีก ทำไมต้องพริ้มขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้

"..."

"ไอ้บอล...กูขอโทษ ไปคุยกันที่รถได้ไหม" พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็น เอ่ยขอร้องเมื่ออีกฝ่ายยังยืนนิ่งไม่พูดไม่จา จะใช้สายตาออดอ้อน แต่หน้าเขาแม่งก็ยังไม่ยอมมองเลย

"..."

"..."

"รถมึงอยู่ไหน" สิงหายิ้มแป้น เมื่อมันว่าอย่างนั้นเขาก็รีบผายมือชี้ไปที่รถตัวเองที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้าม มันเดินนำไปอย่างรวดเร็วให้เขาก้าวเท้าตามแทบไม่ทัน

ปัง!

"มึงมีอะไร" สองมือกอดอกแน่น เอ่ยถามคำถามออกไปในทันทีที่ใครอีกคนปิดประตูฝั่งคนขับเรียบร้อยแล้ว

"ไอ้บอล..คุยกับกูดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง"

"แล้วกูคุยไม่ดีตรงไหน" ตะคอกก็ไม่ได้ตะคอกซะหน่อย จะมาหาว่าเขาคุยไม่ดีได้ไงวะ

"มึงไม่มองหน้ากูเลย"

"..."

"มองหน้ากูหน่อย..."

"โอ้ย! อ่ะ พอใจมึงยัง มึงมีอะไรก็ว่ามา" อัธพลโวยวายออกมาในที่สุด เขาเอี้ยวตัวเอาหัวไหล่ยันกับเบาะที่นั่ง หันไปประจันหน้ากับใครอีกคน

"..."

แต่พอได้สบตากันเข้าจริงๆเขาก็ทำอะไรไม่ถูก หน้าเขาทั้งชาทั้งร้อน จะทำหน้าบึ้งใส่ก็ทำได้ไม่เต็มที่ 

สายตาเว้าวอนนั่นมันอะไรวะ แค่เขาไม่ยอมพูดด้วย ทำไมต้องทำหน้าน่าสงสารขนาดนั้นด้วยวะ

"บอล..."

"อะ..อะไร" หลุบตาลงในที่สุดเพราะไม่อาจทนกับสายตาและน้ำเสียงอ้อนๆของอีกคนได้

"มึงเป็นอะไร กูทำอะไรผิด บอกกูไม่ได้เลยหรือไงวะ" เขาสะดุ้งเมื่อมันเอื้อมมือมาจับมือเขา แต่ไม่รู้ทำไมรอบนี้เขาถึงได้แต่นั่งนิ่งไม่ยอมสะบัดมือมันออก

"กู..กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้เป็นไร มึงจะมาเซ้าซี้อะไรกับกูหนักหนา" ยังยืนยันคำพูดตัวเอง ทั้งๆที่เสียงที่เปล่งออกมาไม่มีความมั่นใจหลงเหลือเลยสักนิด

"แต่มึงไม่ยอมคุยกับกู"

"..."

"ไม่ยอมรับโทรศัพท์กู ตอนนี้หน้ากูมึงยังไม่ยอมมองเลย"

"..."

"หรือมึงโกรธกู ที่กูจูบมึงวันนั้น" สิงหาตัดสินใจถามออกไปในที่สุด ถึงจะคิดว่ามันคงไม่ใช่สาเหตุเพราะหลังจากวันนั้นก็ยังคุยโทรศัพท์กันอยู่เลย แต่เขาก็คิดถึงเรื่องอื่นไม่ออกจริงๆ

"ถ้ามึงโกรธกูก็ขอโทษ แต่กูจะไม่บอกว่ากูไม่ได้ตั้งใจ เพราะกูตั้งใจจริงๆ"

"มึงทำแบบนี้กับกูทำไมไอ้สิง" แล้วอัธพลก็ทนไม่ไหว เขาสะบัดมือที่เกาะกุมกันไว้ออก

"มึงมาจูบกูทำไม วันนั้นที่ห้องกูมึงก็ทำแบบนั้น"

"มึง...มึงตื่นอยู่หรอ.." ตาคมเบิกกว้างด้วยความแปลกใจ

"เออ มึงทำแบบนี้กับกูทำไม มึงต้องการอะไรจากกูวะไอ้สิง"

เออ อยากให้คุยด้วยมากใช่ไหม เขาจะพูดแม่งให้หมดทุกเรื่องเลย

"..."

"ห๊ะ ไอ้สิง มึงไม่ได้ยินที่กูถามหรอ มึงมาปั่นหัวกูทำไม!"

"มึงนั่นแหละที่มาปั่นหัวกู!"

"อะไร กูไปปั่น..."

"เพราะมึงคนเดียว มึงนั่นแหละที่มาจูบกูก่อน"

"กูไปจูบมึงตอนไหน มึงพูดเหี้ยอะไรของมึงน่ะ"

"เนี้ย มึงก็เป็นแบบนี้ ทั้งๆที่กูเก็บเอามาคิด กินก็ไม่ได้นอนก็ไม่หลับ มึงกลับจำเหี้ยอะไรไม่ได้เลย"

"มึงพูดเรื่องอะไร เอาดีๆดิ กูฟังไม่รู้เรื่อง"

"ที่สวนผึ้ง"

"สวนผึ้ง? สวนผึ้งเกี่ยวอะไรวะ"

"มึงจำอะไรได้บ้าง มึงจำได้ไหมว่ามึงทำอะไรกับกูไว้" อัธพลใจหายวูบ เลิ่กลั่กอย่างทำตัวไม่ถูกเมื่อไอ้สิงตะคอกกลับมาแบบนั้น แล้วไอ้ท่าทางที่เหมือนมันจะร้องไห้นี่คือยังไงวะ เขาไปทำอะไรมันไว้วะ

"มึงอย่าบอกว่ากูจูบมึง?"

"ถ้ามึงแค่จูบ กูจะเป็นขนาดนี้ไหม"

"เหี้ย..มึงอย่าบอกนะว่า.." หรือเขาปล้ำมันไปแล้ววะ จะว่าไปหลังจากนั้นก็ฝันว่าได้จูบกับใครสักคนมาตลอด หรือมันจะมาจากเรื่องคืนนั้นหรือเปล่า

"นี่ถ้ามึงไม่ได้อ้วกออกมาซะก่อน มึงเป็นเมียกูไปแล้วไอ้บอล"

"เห้ย!" อัธพลตาเบิกกว้าง ไอ้เหี้ยสิง มึงพูดอะไรของมึงวะ!

"กูนั่งอยู่ข้างมึงบนเตียง แล้วมึงก็เอามือมึงมาโดน..กู" เขาว่าพร้อมส่งสายตาลงไปยังอวัยวะบางส่วนที่มันเคยมาแตะต้อง

"กูบอกให้มึงหยุด มึงก็ไม่หยุด แถมบ่นว่ากูพูดมากอีก แล้วมึงก็ดึงกูลงไปจูบ"

"..."

"แล้วกูก็เมาด้วย มันก็เลยขึ้นง่ายไง กู.."

"พอ!" สิงหาชะงักเมื่ออีกฝ่ายตะโกนห้ามขึ้นมาตอนเขากำลังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันไม่มองหน้าเขาเลย ตาคมมองเหมือนเหม่อไปด้านหน้า แต่คิ้วสองข้างที่ขมวดเข้าหากันเป็นปมก็ทำให้รู้ว่ามันกำลังใช้ความคิด

"แค่ไหน..."

"หืม?"

"มึงกับกู..เราไปถึงขั้นไหน?"

"ก็..เอ่อ..."

"มึงพูดมาเถอะ!" มันเร่งอีกครั้ง ตอนที่เขาเอาแต่ลูบหลังคออย่างเขินอาย จะให้พูดไปตรงๆมันก็กระดากปาก แต่เมื่อมันว่าอย่างนั้น...

"เราก็จูบกัน..ใช้ลิ้นด้วย..แล้วก็อย่างที่บอก กูก็ขึ้นมึงก็ขึ้น กูเลยขาดสติ ถอดเสื้อผ้ามึงออก..." สิงหากลืนน้ำลายก้อนโต ลอบมองหน้าอีกคนที่ยังนั่งนิ่งๆมองตรงไปข้างหน้าเหมือนเดิม

"แล้วตอนที่กูจะพยายามใส่เข้าไป กูก็ยกขามึงขึ้น มันเลยไปดันท้องมึงมั้ง"

"..."

"มึงเลยอ้วกออกมาแบบนั้..."

"พอ!"

"..."

"..."

และความเงียบก็เข้ามาครอบงำห้องโดนสารเล็กๆแทนที่เสียงของเขา ไอ้บอลนิ่งมาก แแม้แต่ในเวลาที่ในรถเงียบมากขนาดนี้ เขากลับไม่ได้ยินแม้เสียงลมหายใจของมันเลยซักนิด

ความกลัวเริ่มครอบงำในหัวใจของเขาอีกครั้ง สิงหารู้ว่าเขาเองก็ผิดที่ไปทำอะไรเกินเลยกับคนเมาแบบนั้น แต่เขาก็ยังยืนยันว่าเรื่องวันนั้นเขาไม่ได้ทำอยู่ฝ่ายเดียว

"ไอ้บอล..."

"กูขอโทษ" ในตอนที่ตั้งใจจะลองเรียกมันดูมันก็สวนกลับมาด้วยคำที่เขาไม่คาดคิด

"กูเมา กูจำอะไรไม่ได้เลย กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ" แล้วก็หันหน้ามาหาเขาครั้งแรก แสดงความจริงใจออกมาเต็มเปี่ยมบนหน้ารูปไข่ที่เขาคิดว่าน่ารักที่สุด

"กูเองก็ผิด..."

"เพราะอย่างนี้เองใช่ไหม มึงถึงมาจูบกู"

"ห๊ะ?"

"เพราะอย่างนี้หรอ มึงถึงมาพยายามใกล้กู เพราะกูไปทำให้มึงขึ้นวันนั้น"

"..." สิงหาไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร จะบอกว่าไม่เกี่ยวก็ไม่ได้ เพราะความจริงคือเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นมันทำให้เขาเริ่มสนใจมัน แต่มันก็ไม่ใช่แค่นั้นไง

"เพราะมึงอยากเอากูหรอวะไอ้สิง"

"เห้ย!"

"ทั้งหมดที่มึงทำให้กู เพราะมึงแค่อยากเอากูหรอวะ"

ทั้งๆที่มันมีแฟนอยู่แล้วแต่มันก็ยังมายุ่งกับเขา ทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้นี่เอง กับผู้ชายด้วยกันมันจะเสียหายอะไรล่ะ ใครเขาจะจริงจังกับความสัมพันธ์แบบนี้ 

ก็มีแต่คนโง่เท่านั้นนั่นแหละ

มึงมันโง่ไอ้บอล

"กูไม่ทำ" ว่าออกไปเสียงแข็ง ไม่ฟังว่ามันจะโวยวายปฏิเสธยังไง เขามองหน้าใครอีกคนที่ทำให้หัวใจเจ็บร้าวเป็นครั้งสุดท้าย

"มึงอยากไปเอากับใครก็ไป อย่ามายุ่งกับกูอีก"

เปิดประตูพร้อมก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว กระแทกปิดกลับไปเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วหันตัวเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดโดยไม่คิดจะหันกลับไป

อยากไปตายที่ไหนมึงก็ไปเลยไอ้สิง!

 

૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องมาเลย ชิ่วๆ อัธพลงอน งอนจริงงอนจัง งอนแล้วมือหนักมากด้วย 555

5 ตอนจบไม่มีจริง ฮา เรื่องนี้ 10 ตอนจบแน่นอนเขียนโครงเสร็จแล้วว มาครึ่งทางแล้วเนอะ อีกแว๊บเดียวจบปิ๊ง! อย่างเพิ่งทิ้งน้อนกันนะคะ

หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 05 เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมแบบนี้
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-06-2020 22:49:10
 :hao3:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 05 เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมแบบนี้
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 05-06-2020 23:25:42
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 05 เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมแบบนี้
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-06-2020 14:26:13
บอลเข้าใจผิดไปมากมาย
ไหนจะเรื่องที่คิดไปว่าสิงมีแฟนอยู่แล้ว
บวกกับคิดว่าสิงแค่อยากมาเอาตัวเอง

เฮ้ออออออ เคลียร์ยาวเลยนะสิง
แต่ถ้าคิดจะจริงจัง ก็ตามง้อไปเหอะ
บ่อยๆเข้า บอลก็จะใจอ่อนไปเอง

ส่งใจไปช่วยว่าที่เมียให้สำเร็จ
อย่าลืมถ่ายรูป อัดคลิปมาเล่าให้ฟังด้วย

ถ้าบอลเสร็จสิงเมื่อไหร่
ลงคลิปแบบ full HD มาเลย
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / Puppy Love : 05 เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมแบบนี้
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 06-06-2020 18:47:46
 :pig4:
แหมๆอย่าเข้าใจสิงผิดเซ่
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 06 ไม่ต้องมาเจอได้ไหม เพราะฉันมันคนใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 06-06-2020 19:49:39
 #เล่นกับสิงสิงเลียปาก

06

ไม่ต้องมาเจอได้ไหม เพราะฉันมันคนใจอ่อน





[ตกลงมึงดีใจหรือเสียใจที่กูจะไปเนี้ย] เสียงจากคนในวีดีโอคอล์ถามออกมาด้วยน้ำเสียงกึ่งเหนื่อยใจกึ่งขำ

ปณวัช! คือมันจะอะไรกันนักหนา ตั้งแต่กลับมาดีกันกับแฟน ไอ้ลูกหมามันแม่งอินเลิฟหนักกว่าเดิมเสียอีก

"ก็ดีใจแต่กูก็แค่คิดถึงภัทรไง ช่วงนี้ซ้อมหนัก ไม่ค่อยมีเวลาให้เขาเลย บอกตรงๆ นอนข้างกันทุกวันแต่ไม่มีแม้แต่แรงจะไปกวน"

[อดทนนิดนึงปณวัช อีกอาทิตย์เดียว ว่าแต่ แล้ววันนี้มึงมาอยู่นี่ได้ไงวะ รู้จักกลับห้องมาหาเพื่อนด้วย]

ดนัยมองข้ามไหล่คนที่ทำหน้าซึมเป็นส้วม เขาเห็นเพื่อนอีกคนนอนคว่ำอยู่บนเตียง ในมือมีหนังสือการ์ตูนกางอยู่ แต่สองตาดันเหม่อลอยไปไหนก็ไม่รู้

"ก็ภัทรนั่นแหละไล่กูมา" ปณวัชว่าพร้อมหยิบกรอบรูปที่มีครอสติสลายผีเสื้อที่แฟนปักให้เป็นของขวัญวันเกิดมาดู ก็มันคิดถึงนี่น่า!

"ภัทรบอกให้มาอยู่เป็นเพื่อนไอ้บอลมันบ้าง เดี๋ยวก็จะไม่ค่อยเจอกัน เพราะกูจะย้ายไปอยู่กับภัทรแล้วไง" ว่าไปก็เอากรอบรูปมาแนบอกแน่น

"โอ้ย ไอ้เหี้ย กูต้องตายแน่ๆ กูคิดถึงเขาใจจะขาด"

ดนัยบอกตรงๆว่าเขาช๊อค มันก็รักภัทรมากแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนั่นแหละ แต่นับวันอาการมันจะหนักจนเกินเยียวยา

[โห ไอ้ห่าบอล มึงดูเพื่อนมึงดิ แม่งสนใจกูบ้างไหม] เขาตะโกนเรียกเพื่อนอีกคนอยากให้มาช่วยรุมด่าไอ้เป้หน่อย

แต่นอกจากมันจะไม่ได้หันมา มันยังนอนอยู่ท่าเดิมไม่เปลี่ยน เขาว่ามันไม่ได้ทำเมินหรอกนะ เมื่อกี้มันน่าจะไม่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ

"อ้าว มึงเป็นอะไรไปอีกคนแล้ววะ หมาแล้วกู มีใครสนใจกูบ้างไหมเนี้ย" ดนัยเริ่มต้นบ่น คนนึงนอนดิ้นอยู่ที่พื้นคิดถึงเมีย อีกคนก็เหม่อลอยไปนอกโลกเรียบร้อยแล้ว

[โอ้ยยย ตกลงพวกมึงยังจะให้กูไปหรือเปล่า] หนุ่มหล่อตะโกนถามอีกรอบ ก็เนี้ยอาทิตย์หน้าก็จะถึงงานดนตรีที่ไอ้เป้มันชวนเขาไปเที่ยวแล้ว ตอนแรกก็ตกลงกันอย่างดิบดีว่าจะให้เขามานอนด้วยกัน แต่ดูจากอาการ เสร็จงานแล้วมันน่าจะวิ่งแจ้นกลับไปหาเมียมันนั่นแหละ

"โอ๋ๆ เดี่ยวไม่ร้องดิ มานะเดี่ยวนะ ยังไงเป้ก็จะมานอนกับเดี่ยวนะ"

[บอกความจริงดนัยมาปณวัช]

"ณภัทรบอกให้ปณวัชมาอยู่กับเพื่อนบ้าง! ดนัยอุตส่าห์มาหาตั้งไกล!" ไอ้เป้มันทำเสียงปัญญาอ่อนเหมือนฟ้อง ร้องห่มร้องไห้บอกภัทรไล่มันตลอดเลย ทั้งๆที่มันยอมทิ้งคนทั้งโลกเพื่อภัทรแท้ๆ

[เออ กูไปแน่ แต่ไม่ใช่เพื่อพวกมึง กูอยากไปงานอยู่แล้ว ถ้าพวกมึงไม่สนกู กูไปเที่ยวกับไอ้สิงก็ได้]

ดนัยว่าไปถึงเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกันตอนไปสวนผึ้งด้วยกัน ไอ้สิงมันเฮฮาจะตาย ไม่มีไอ้สองเพื่อนชั่วเขาก็ไปเที่ยวกับคนอื่นก็ได้

"มันไม่มีเวลาให้มึงหรอกรายนั้น เห็นว่าเด็กมันจะมา"

ใครอีกคนที่เหม่อไปไกลหูกระดิกเมื่อจู่ๆก็มีชื่อคนบางคนเข้ามาอยู่ในบทสนทนา เม้มปากแน่นเก็บกั้นความขุ่นเคืองเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายจากปากของเพื่อนรัก

ไอ้เป้แม่งยังรู้เลยว่ามันมีแฟน

กูมันโง่ คิดอะไรไปเองอยู่นั่น!

[เว้ยเห้ย สิงมันมีแฟนแล้วหรอวะ รอบที่แล้วที่เจอกันมันยังบอกกูว่าโสดอยู่เลย ถึงแม่งจะมีคนคุยยาวเป็นหางว่าวก็เหอะ]

ก็มันเหี้ยไง มันก็คุยไปทั่วน่ะสิ!

"เปล่า เด็กที่กูบอกคือน้องสาวมัน"

?!

"เดือนนี้แม่มันไม่อยู่ มันต้องคอยดูน้องแทนให้" ปณวัชเล่าไปตาก็มองผีเสื้อสีเหลืองคาดดำในกรอบรูปไป 

เค้าคิดถึง คิดถึงภัทรใจจะขาดแล้ว

"บางวันน้องสาวมันไม่มีเรียนตอนบ่ายมันก็ไปรับมานั่งเรียนด้วย อย่างเมื่อวันจันทร์มันยังขาดเรียนไปรับน้องมันมานั่งกับพวกกูเลย"

"ห๊ะ!" อัธพลหลุดร้องเสียงหลง หันขวับไปสบตาอีกสองคู่ที่เลื่อนมามองเขาด้วยความแปลกใจ

"มึงว่าอะไรนะเป้"

"กูว่าอะไรวะ" ปณวัชแอบงง

"วันจันทร์หรอ น้องหรอ?"

"ห๊ะ..อะ..เออ ไอ้สิงใช่มะ" ปณวัชแอบอมยิ้ม

ไอ้บอล มึงเผยไต๋ออกมาเองนะ นี่ต่อหน้าไอ้เดี่ยวเลยนะ กูไม่ได้เล่า ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!

"เออมันไปรับน้องมันมาจากโรงเรียน น้องมันเรียนโรงเรียนฝั่งตรงข้ามมหา'ลัยเนี้ยล่ะ"

"..."

"น้องมันน่ารักไหมวะ" ดนัยเรียกความสนใจของปณวัชไปจากเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด

"คือกูพูดแบบไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ในโลกนี้นอกจากภัทรแล้วคือกูไม่อยากชมใครแล้ว แต่ถ้าให้กูต้องพูด น้องมันก็น่ารักดี ตัวสูงเท่ากูอะมึงคิดดู หุ่นดีมาก คือถ้าไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนกูนึกว่าเรียนมหา'ลัยอะ ดูโตมาก ออร่าพอๆกับพี่ชายเลยแหละ มานั่งใต้คณะทีแม่งไอ้สิงขู่เป็นหมาเลย" 

อัธพลกำลังปะติดปะต่อเรื่องที่กำลังได้ยินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

นี่อย่าบอกว่าเรื่องทั้งหมดเขาเข้าใจผิดไปเอง 

แล้วทำไมมันไม่แก้ตัววะ

เอ้า ก็มันไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรนี่หว่า

แล้วตั้งแต่วันนั้นในรถ ไอ้สิงก็ไม่โผล่หน้ามาให้เขาเห็นเลย นี่ก็สองวันแล้ว

หรือว่ามันจะโกรธกันไปแล้วจริงๆ

"..."

"แล้วไอ้สิงน่ะ มีคนอยากคุยกับมันเยอะ แต่มันก็ไม่ได้คุยกับใครเลยเหอะ มันน่ะ รักเดียวใจเดียวจะตาย" ปณวัชทำเป็นพูดกับเพื่อนในโทรศัพท์ แต่ตั้งใจเน้นคำหลังให้คนที่อยู่ข้างตัวได้ยินชัดๆ

เขาน่ะ ก็ทั้งรักทั้งห่วงไอ้บอลไม่แพ้กับที่มันเป็นห่วงเขาหรอก ถ้าไม่รู้สึกว่าไอ้สิงมันจริงจัง เขาจะช่วยมันขนาดนี้ไหม 

แล้วอีกอย่าง ไอ้บอลก็ดูมีใจให้ไอ้สิงจะตาย อัธพลเวลารู้สึกอะไรไม่เคยจะปิดมิดหรอกมันน่ะ ทั้งๆที่ใจก็ตรงกันแต่ไม่รู้ว่าป่านนี้มันมัวทำอะไรอยู่ มัวนั่งเก็กใส่เขาอยู่ได้ ไอ้ลูกหมา!

โอ๊ย คิดแล้วก็เหนื่อย!

จบงานนี้ พวกมันควรยกให้เขาเป็นเจ้าภาพงานแต่งแหละ ทำมากกว่านี้ก็คือจับพวกมึงจูบปากกันแล้ว!



"อ้าว ไอ้บอลมาไงวะ" โยธาเอ่ยทักเพื่อนต่างคณะที่นั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าห้องเรียนของเขา เมื่อมันเห็นเขากับไอ้สิงเดินออกมา มันก็รีบลุกพรวดขึ้นแล้วเดินมาหาในทันที

"ไอ้เป้ออกมาเมื่อกี้ มึงไม่เจอมันหรอ"

"เจอแล้ว..มันไปหาภัทรแล้วน่ะ" พูดไปก็ไม่ได้มองหน้าคู่สนทนา อัธพลมองข้ามไหล่ เห็นคนที่ทำหน้าตึงมองฟ้ามองลม ไม่ยอมหันมาทางเขาเลยสักนิด

"ไอ้ห่า ไอ้สิงมึงดูเพื่อนมึงสิ ขนาดเพื่อนมาหาแม่งยังทิ้งไปหาแฟน มึงไม่ต้องสนมันไอ้บอล มันไม่อยู่ มึงไปกินข้าวกับพวกกูก็ได้"

"เออ งั้นกูขอไปด้วยนะ"

"ไอ้โย กูมีธุระว่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ" ในทันทีที่พูดจบ ใครอีกคนที่เขาตั้งใจมาหาก็พูดขึ้นมาให้ต้องหันไปมอง

"อ้าว ไอ้สิง มึอะไรวะ มึงจะไปไหน แล้ววันนี้ซ้อมหรือเปล่า...คงจะไม่ซ้อม...แล้ว..แหละ" พูดเสร็จก็ไม่ยอมรอฟังอะไร เจ้าตัวหันหลังเดินออกไปให้โยธารีบตะโกนตามหลัง

"อะไรของมันวะ เออ ช่างแม่งมันเหอะ ปะ ไอ้บอลไปกินข้าวกับกู อ้าว ไอ้บอล! มึงจะไปไหนวะ!" โยธาร้องเสียงหลงตอนที่หันมาแล้วเพื่อนที่เหลือคนสุดท้ายออกวิ่งไปทิศทางเดียวกันกับที่ไอ้สิงเพิ่งหายไปเมื่อกี้

"กูนึกได้ว่าต้องรีบกลับ ขอโทษทีนะ แล้ววันหลังไปกินข้าวกันนะมึง" ว่าแล้วก็เลี้ยวหายไปตรงหัวมุมตึกให้โยธาที่ยืนโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวเกาหัวอย่างงงๆ

"อะไรวะ ไปๆมาๆทำไมกูต้องกินข้าวคนเดียวอีกแล้ววะ ไอ้พวกชั่ว!"



"สิง..ไอ้สิง... ไอ้สิง!" อัธพลวิ่งตามใครอีกคนมาที่ลานจอดรถ เมื่อพยายามตะโกนเรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมหันกลับมา เขาก็เลยตัดสินใจถือวิสาสะเปิดประตูข้างคนขับเข้าไปนั่งด้านในทันทีที่มันเปิดล๊อครถ

"มึงขึ้นมาทำไม"

"มึงกำลังจะไปไหน" อัธพลไม่ตอบคำถามแต่กลับเลือกถามไปอีกเรื่อง

"..."

"ตอนบ่ายไม่มีเรียนแล้วนี่ ไปกินเอ็มเคด้วยกันไหม เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง"

"..."

"วันนี้กูยอมแบ่งหมี่หยกให้มึงเลยนะ หรือมึงอยากกินอย่างอื่นก็ได้ เห็นไอ้เป้บอกมึงชอบกินอาหารญี่ปุ่น..."

"มึงกำลังทำอะไร" สิงหาพูดตัดบทคนตรงหน้าที่ยังพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด

บอกตรงๆว่าเขาไม่ทันตั้งตัว ก็วันก่อนมันยังเอ่ยปากไล่เขาอยู่เลย เขาก็อุตส่าห์พยายามเอาตัวออกห่างมันแล้วนะ พอกำลังเริ่มคิดว่าทำใจได้บ้างแล้ว จู่ๆมันก็กลับมาหากันแบบนี้

"ทำอะไร กูก็กำลังชวนมึงไปกินข้าวไง"

"..."

"ไปยัง กูหิวแล้วกูโมโหง่ายนะ"

"มึงอิ่มมึงก็โมโหง่าย" สิงหาประชดกลับในทันที อารมณ์ขุ่นมัวที่มีโดนสะกิดให้เผลอพูดอะไรออกไปตามใจ

"โมโหแล้วไม่มีเหตุผล โมโหแล้วไม่ฟังเหี้ยอะไรเลยด้วย"

"..."

"..."

"กูขอโทษ.."

"..."

"ก็..กู..คือ..."

"กูไม่ได้คิดแต่จะเอามึง" สิงหาทนไม่ไหวพูดขึ้นเมื่อยังเห็นอีกฝ่ายอ้ำอึ้ง

คำพูดสุดท้ายที่อีกคนว่าไว้ยังดังก้องในหัว วันนั้นพยายามแก้ตัวแค่ไหนมันก็ไม่คิดจะฟังเขาเลย แต่ในเมื่อมันมาหาเขาเองวันนี้ แสดงว่ามันก็พร้อมที่จะคุยกันแล้ว

"กู..กูก็รู้นั่นแหละ.."

"ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากูเริ่มสนใจมึงจากเหตุการณ์คืนนั้น แต่ที่กูจูบมึงมันไม่ใช่เพราะกูหวังฟันมึง ที่กูทำไปก็เพราะว่ากู.." 

โครกกกกก

"..."

"..."

"ที่กูทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ากู..."

โครกกกก โครกกกก..

"..."

สิงหาหยุดทุกคำบอกรักที่ตั้งใจจะเอ่ยเมื่อมีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นในห้องโดยสารแคบๆหลายครั้ง 

เหลือบมองไปที่ต้นเสียงซึ่งก็คือพุงน้อยๆของใครอีกคน ก่อนจะเลื่อนไปสบสายตากับเจ้าของกระเพาะประหลาดที่ส่งยิ้มแห้งมาให้เขา

"แหะ"

"แหะพ่องมึงสิ"

"ก็กูหิวนี่หว่า กูบังคับมันได้ที่ไหน"

"ไอ้เหี้ยบอล ไอ้ตัวปัญหา" ถอนหายใจก่อนจะพึมพำบ่น จัดตำแหน่งกลับมานั่งดีๆก่อนจะกดสตาร์ทรถ

"เอ็มเคนะ"

"อืม!" ไอ้บอลตอบรับทันที มันพยายามฉีกยิ้มให้กว้างที่สุดแต่ก็แอบหน้าเสียเพราะเขาไม่ยอมหันไปมองมันเลย

ใครจะไปรู้ว่าที่ไม่หันไปมองมันมีเหตุผลอะไร

แค่มันกลับมาง้อกันในวันนี้เขาก็ใจอ่อนไปถึงไหนต่อไหน ถ้ามากกว่านี้เขาคงอดใจไม่ไหวดึงมันมาจูบอีกแน่



พนักงานรับเมนูทั้งสองเล่มกลับไปหลังจากที่พวกเขาสั่งอาหารกันเรียบร้อยแล้ว สิงหากลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย เขาได้แต่มองใครอีกคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์ ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเหมือนระหว่างเขากับมันไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน 

คิดถึงเมื่อวันก่อน จู่ๆจะไม่คุยก็ไล่กันอย่างกับหมูกับหมา พอมาวันนี้อยากจะมาก็ไม่สนเลยว่าเขาจะเย็นชาแค่ไหน แถมมาแล้วเสือกทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ถ้าเป็นผู้หญิงเขาอาจจะสงสัยว่ามันกำลังท้องหรือว่าเมนส์กำลังมาก็เป็นได้

คนอะไรมันจะอารมณ์เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาได้ขนาดนี้วะ

"ทำไมมึงเลือกร้านนี้" เขาถามมันเพราะยังรู้สึกติดใจไม่หาย ก็ตอนแรกตกลงกันแล้วว่าจะไปกินเอ็มเค แต่ไหง๋พอเดินเข้าห้างมา มันก็ลากเขามาที่ฮะจิบังได้ก็ไม่รู้

"ก็มึงชอบกินอาหารญี่ปุ่น ส่วนกูชอบกินเส้น มาร้านนี้ก็คือวินวินทั้งคู่ไงมึง" พูดด้วยสีหน้าที่ดูแสนจะภูมิใจในความฉลาดของตัวเองซะเหลือเกิน 

เขาไม่ได้คิดจะต่อปากต่อคำ และก็ไม่ได้คิดจะยกเรื่องที่ยังคาใจมาพูดในตอนนี้ นึกรู้ว่าคนที่หิวจนหน้านิ่วมันคงไม่มีสมาธิจะคุยกับเขา

ก็ตามันแม่งจ้องแต่เชฟที่เดินไปเดินมาทำอาหารอยู่ในครัว อีกนิด นี่ก็เกือบจะเข้าใจผิดว่ามันมองคนมากกว่าอาหารแล้วนะ!

"ซู้ดดด..."

แน่นอนว่าระดับไอ้บอลแล้ว เราไม่ได้หยุดแค่ราเมนสองชาม ของกินเล่นที่มีเต็มโต๊ะทุกเติมเป็นรอบที่สอง ก่อนที่มันจะโดนเขาห้ามเมื่อมันอยากสั่งบะหมี่เย็นเพิ่มอีกที่

"กูขอเถอะ มึงกินมั่วมาก เดี๋ยวจะปวดท้อง"

"แต่..."

"ไม่เถียงกูสักวันมึงจะตายไหมวะ"

"...เออๆ พอแค่นี้ก็ได้" ไอ้บอลพับเมนูลงแรงกว่าที่ควรจะเป็นให้เขารู้ว่ามันจำใจต้องทำตาม ก่อนจะยื่นคืนให้พนักงานแล้วบอกให้พี่เขามาเก็บตังค์ได้เลย

"มึงพร้อมจะคุยหรือยัง" ตัดสินใจถามออกมาในที่สุด ก็ในเมื่ออิ่มแปล้และดูร่าเริงขนาดนี้มันคงพร้อมจะคุยแล้วแหละ

"ไม่พร้อมว่ะ"

"ห๊ะ?"

"ก็กูไม่อยากเครียด มึงจะชวนกูคุยเรื่องเครียดนี่หว่า"

"นี่สรุปกูผิด" สิงหาว่าพร้อมใช้นิ้วชี้ชี้หน้าตัวเอง อะไรวะ มาก็มาเอง เขาผิดอะไรเนี้ย

"ไปเดินเล่นกันป่ะ"

"เดินเล่น?"

"อือ ไปดูหนังไหม อ่อ หรือว่าไปเล่นเกมบาสที่เล่นกันครั้งที่แล้วไหม กูไปฝึกมาแล้วนะ รอบนี้ใครแพ้เลี้ยงโคขุนเอาม่ะ"

"..." สิงหามองคนที่เบ่งกล้ามโชว์อย่างไม่อาจละสายตา

ไอ้บอลนี่มันไอ้บอลจริงๆ

คนที่ทำให้คนแบบสิงหานั่งแดกจุดแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน

ทั้งๆที่พยายามจะคาดเดาแต่มันไม่มีวันเลยที่เขาจะรู้เลยว่ามันกำลังคิดหรืออยากทำอะไร

มันเป็นคนที่เขาอยากค้นหา

"นี่มึงยังจะแดกอีกหรอ"

"มันคนละกระเพาะกัน"

"อะไร หมูก็ของคาววัวก็ของคาว มึงจะมามุกคนละกระเพาะได้ไง"

"ก็เมื่อกี้กูกินหมู วัวมันเป็นสัตว์ใหญ่ เก็บคนละที่"

มันอาจจะต้องใช้เวลา แต่เขาก็อยากจะเรียนรู้

อยากจะเป็นคนที่แค่มองตาก็รู้ว่ามันต้องการอะไร

"แล้วหมูเป็นสัตว์อะไร"

"สัตว์บกไง"

"..."

อยากเป็นคนที่ได้ตามใจมัน โดยมันไม่ต้องร้องขอ

"แล้ววัว?"

"สัตว์ใหญ่"

ถ้ามันชี้นก เขาก็จะว่านก

ถ้ามันว่าเป็นไม้ เขาก็จะไม่เถียง

"ถูกใช่ป่ะ มาแกล้งถามกู มึงจะมาลองภูมิกูหรอ"

"ไอ้...เออๆ ก็ถ้ามึงจะว่างั้น"



มันเหมือนการฉายหนังซ้ำ ไอ้บอลพาเขาตะลอนไปทั่วห้างเหมือนวันนั้นที่เขาลากมันไป 

หลังจากออกจากร้านอาหารมันก็พาเขาขึ้นไปเลือกรอบหนัง แต่เพราะหนังที่เราทั้งคู่อยากดูไม่มีที่เหลือ ไอ้คนที่หัวเสียง่ายก็เริ่มออกอาการหัวร้อนให้เขาปวดหัวอีกแล้ว

สิงหาเลยรีบแก้ปัญหาโดยบอกให้มันซื้อตั๋วรอบที่จะฉายหลังจากรอบนี้แทน แล้วค่อยไปหาอะไรทำเป็นการฆ่าเวลากันก่อนก็ได้

มันเริ่มกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้งเมื่อเรามาที่ร้านขายหนังสือการ์ตูนที่มันมาบ่อยๆ ตอนมันเลือกนั่นเลือกนี่ไม่หยุดเขาก็เดินไปร้านไอติมข้างๆ ซื้อไอศครีมโคนรสช๊อคโกแลตให้มันสองก้อน

"กินของหวานๆ จะได้ไม่หัวเสีย กูไม่รู้ว่ามึงชอบกินรสอะไรกูเลยซื้อรสนี้มา" มันเงยหน้ามาจากหนังสือการ์ตูนที่กำลังเปิดอ่าน มองสลับระหว่างเขากับไอติมตรงหน้า

"กูไม่ค่อยชอบกินไอติม"

"ห๊ะ มีอะไรในโลกที่มึงไม่กินด้วยหรอวะ"

"กูก็คนป่ะ มันเย็นน่ะ กูเลยไม่ค่อยชอบ" เขม่นตามองพร้อมอธิบายออกมา มันวางหนังสือกลับเข้าชั้น ก่อนที่จะเอื้อมมือมารับไอติมไปถือ

"แต่ก็ขอบใจนะที่อุตส่าห์ซื้อมาให้" ยิ้มให้เขาก่อนจะเริ่มแลบลิ้นเลียไอติมในมือช้าๆ ตาคมหันกลับไปจ้องที่ชั้นหนังสือตรงหน้า ไล่สายตาไปเรื่อยๆเมื่อยังไม่เจอหนังสือเล่มที่ตัวเองตามหา

สิงหาแลบลิ้นเลียริมฝีปากก่อนจะกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ เขาไม่ได้อยากกินไอติม มันเป็นหนึ่งในลิสต์ของของกินที่เขาไม่ชอบที่สุด

แต่สิ่งที่ทำให้ต้องจ้องตาไม่กระพริบ

คงเป็นเพราะคนที่กำลังกินไอติมน่ากินกว่าไอติมเสียอีก

ตาคมของสิงหาเริ่มอยู่ไม่สุข ตอนนี้พวกเขาอยู่ในซอกเล็กระหว่างชั้นหนังสือที่ไม่มีใครเลยสักคน ลองสำรวจด้วยตาเร็วๆไปรอบด้าน เขามองไม่เห็นกล้องวงจรปิด

"หืม..เย็นฉิบหาย" คนที่ยังตั้งใจเลียของในมือไม่หยุดบ่นขึ้น ถ้าเทียบกับอาหารประเภทอื่น ไอ้บอลมันกินได้ช้าจนน่าตกใจ

เลอะมือมึงหมดแล้ว

"ขอกูกินมั้งดิ"

"ห๊ะ มึงอยากกินหรอ"

จุ๊บ

และในทันทีที่หันมาเพราะตั้งใจจะแบ่งไอติมให้ใครอีกคน อัธพลก็โดนจูบ

"..."

"ไอ้สิง..."

"เหมือนทุกครั้งที่กูจูบมึงแบบนี้..วันนี้กูก็ตั้งใจ"

จุ๊บ

มันย้ำลงมาอีกครั้งเพื่อให้เขาแน่ใจว่าครั้งนี้มันก็ไม่ใช่ความบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นมันเป็นเพราะความตั้งใจของมันทั้งนั้น

"ไอ้...สิง...มันเลอะแล้ว" อัธพลมองไปที่ไอติมที่เริ่มย้อยใส่มือ พยายามผลักอีกคนออก แต่ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงของเขาหายไปไหนหมด ไม่ว่าจะดันยังไงมันก็ไม่หลุดออกจากตัวเขาสักที

"ให้กูเลียให้ไหม" มันพูดถึงไอติมที่ย้อยเปื้อนมือ แต่หน้าตากับน้ำเสียงที่ใช้แม่งพาเขาคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

"ก็เหี้ยละ กลางร้านหนังสือเนี้ยนะ"

"งั้นก็แปลว่า ถ้าเป็นที่อื่นกูก็เลียได้อะดิ"

"..." การที่มันไม่ตอบแต่หันหน้าแดงๆของมันหนีเขาทำให้สิงหาใจเต้นแรง เขายอมคลายมือที่จับไหล่ของมันแน่นให้มันใช้จังหวะนั้นผลักเขาออกห่าง

"กู..กูว่าหนังจะฉายแล้ววะ"

"งั้นกูเลียในโรงหนัง"

พลั่ก!

"โอ๊ย"

"พ่องมึงสิ"

คนที่ตั้งใจจะทำให้อีกฝ่ายไปไม่เป็นกว่าเดิมพูดแหย่อีกครั้ง แต่เพราะว่าคิดไม่ถึงว่ามันจะเขินแล้วมือหนักขนาดนี้เลยโดนต่อยที่ไหล่ให้ร้องเสียงดังออกมา

"ทำไมต้องเขินขนาดนี้ด้วยวะ"



เอี๊ยด..

แล้วในที่สุดเขาทั้งสองก็มาถึงหน้าหอพักอีกครั้ง  บรรยากาศในห้องโดนสารวันนี้ไม่ได้ครึกครื้นเหมือนครั้งก่อนที่เราเคยมาด้วยกัน ไอ้บอลนั่งเงียบมาตลอดทางไม่ยอมพูดอะไรกับเขาเลย

หลังจากที่ออกมาจากโรงหนัง ( ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีการเลียใดๆเกิดขึ้น) สิงหาก็พาคนที่อยากเล่นเกมไปเล่นจนหน่ำใจ ก่อนจะแวะกินมื้อดึกอีกมื้อก่อนจะกลับมาส่งมันที่หอ

"มึงจะคุยกับกูได้ยัง" เมื่อเขาจอดรถในที่จอดของหอมัน สิงหาก็เอ่ยถามคนที่นั่งล่อกแล่กไม่ยอมพูดยอมจา

"คือ..คือกูว่า..."

"มึงจะหนีกูไปถึงไหน ที่มึงมาบอกขอโทษกูวันนี้ก็เพราะอยากปรับความเข้าใจกันไม่ใช่หรอ"

"..." ลอบมองคนที่นั่งก้มหน้ามองมือตัวเองไม่ยอมขยับ สิงหาเอื้อมมือหนาไปวางทับกับมือหนาของใครอีกคน

"ที่จริงมึงก็รู้ใช่ไหมว่าที่กูทำไปทั้งหมดมันเพราะอะไร แล้วกูก็คิดว่าที่มึงมาหากูวันนี้ มึงก็คงคิดไม่ต่างกันกับกูนักหรอก ใช่ไหม?"

เอ่ยถามพร้อมโน้มตัวก้มไปมองหาใครอีกคน สิงหารู้สึกเหมือนกำลังกล่อมเด็ก ในเวลาแบบนี้ไอ้บอลคนปากเก่งมุดหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้

"กู..กูเข้าใจผิดเอง" รู้สึกโล่งเอามากๆเมื่อมันยอมพูดในที่สุด เขายืดตัวตรงกลับที่นั่งตัวเองแต่มือยังจับค้างกันไว้ มันหันหน้ามาสบตาก่อนจะเริ่มว่าต่อ

"วันจันทร์กูไปหามึงที่คณะ แต่ก็เจอมึงมากับผู้หญิง กูก็เลยคิดว่าเขาเป็นแฟนมึง..."

"ผู้หญิง อ๋อ มึงหมายถึงยาหรอ ยาเป็นน้องสาวกู" สิงหาเลิกคิ้วขึ้นอย่างงงๆในตอนแรก ก่อนจะนึกออกว่ามันพูดถึงใคร

"อือ กูเพิ่งมารู้เมื่อวาน" อัธพลว่าแล้วก็เงียบลงอีกครั้ง รู้สึกเสียหน้าชะมัด ยิ่งเป็นแบบนี้มันก็เหมือนว่าเขาชอบมันจนหึงบ้าบอไปเองคนเดียว

เป็นแฟนกันก็ไม่ใช่ มีสิทธิ์อะไรวะ

"กูชอบมึงบอล" แล้วสิงหาก็พูดมันออกมาในตอนนั้น เขาว่ามันต้องเป็นตอนนี้นี่แหละ ที่เขาจะกำจัดทุกความสับสน ทุกความคลุมเครือระหว่างกัน

"แล้วกูก็คิดว่ามึงก็คิดเหมือนกัน"

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ที่มันมาหา ที่มันโกรธเพราะคิดว่าเขามีแฟน เขาคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยจริงๆ

"มึงคบกับกูนะ"

"..."

"ไอ้บอล..."

"คือ...กู...กูไม่รู้..." แล้วไอ้บอลมันก็ดับฝันเขา หน้าตาลำบากใจของมันทำให้เขาใจเสียปนหงุดหงิด  

ขนาดนี้แล้วมึงจะไม่รู้อะไรวะ

"โอเค งั้นมึงเก็บไปคิดแล้วกัน กูรอได้" แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากจะเร่งรัดมัน ถ้ามันไม่พร้อมเขาก็ไม่อยากทำให้มันลำบากใจ

"งั้นวันนี้กูกลับก่อน"

หมับ!

ในตอนที่สิงหาตั้งใจจะผละมือที่วางบนมือมันออก มันกลับใช้อีกมือคว้าแขนเขาไว้

"การ์ตูน..."

"หืม?"

"ไหนมึงบอกอยากยืมการ์ตูนกู"

"อ๋อ วันหลังก็..."

"มึงอยากขึ้นไปเอาบนห้องใหม่"

"..."

"กูหมายถึงการ์ตูนน่ะ"

૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

อ๊อย~ สิงหาอะ ชอบทำให้นุ้งบอลกลายเป็นตะเร้กตลอดเลยอะ เขาก็รักของเขาเนาะ ต้องเป็นแฟนกันแล้วแหละขนาดนี้แล้ว~ 
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 06 ไม่ต้องมาเจอได้ไหม เพราะฉันมันคนใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-06-2020 21:18:57
การ์ตูนอะไรอ่ะ
การ์ตูนผู้ใหญ่หรือเปล่า..สิง

"จัดมาได้เลย" บอลผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด
สิงกล้า..บอลก็กล้า
อิอิ

+1 จ้า
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 06 ไม่ต้องมาเจอได้ไหม เพราะฉันมันคนใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-06-2020 21:36:17
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 06 ไม่ต้องมาเจอได้ไหม เพราะฉันมันคนใจอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 06-06-2020 21:45:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 07 ชอบคืนนี้ ที่สุดเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 07-06-2020 12:17:58
#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

07  

ชอบคืนนี้ ที่สุดเลย







"ก็วันนั้นมึงเริ่มก่อนเองนะไอ้บอล มึงอย่าทำเป็นลืม"

อัธพลกดปุ่มลิฟท์ซ้ำๆ อยากเร่งให้มันเคลื่อนลงมาเร็วขึ้นอีกนิด เพราะเขาอยากจะเดินหนีไอ้คนที่พูดย้ำเรื่องเดิมๆซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่ลานจอดรถ

ก็ไหนมึงบอกว่ารอได้วะ พอชวนขึ้นห้องหน่อยมันกลับมาโวยวายว่าเขาต้องรับผิดชอบ เขาต้องยอมคบกับมันอะไรก็ไม่รู้อีกแล้ว

"ไอ้ควายยยยย กูบอกมึงสองร้อยล้านรอบแล้วว่ากูเมา กูจำอะไรไม่ได้ไง"

บอกตรงๆว่าที่สับสนอยู่อย่างนี้ก็เพราะชอบ เพราะรู้สึกดีกับมัน แต่ถ้าจะมาให้เขาตอบตกลงคบเพราะเอาเรื่องคืนนั้นมาอ้าง ก็บอกได้เลยว่าไม่มีทาง!

"ไม่รู้ล่ะ ยังไงมึงต้องรับผิดชอบ"

"โอ้ย ไอ้เหี้ยสิง คืนนั้นกูก็แค่จูบมึงเองนะ พูดเหมือนกูทำมึงท้อง" เขาเดินบ่นเข้าไปในลิฟท์โดยมีมันเดินตามหลังไม่ยอมทิ้งระยะห่าง

"แล้วมึงก็จูบกูตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ยังไม่หายกันอีกหรอวะ"

"แล้วมึงจะรู้ได้ไงว่านั่นมันไม่ใช่จูบแรกของกู"

อัธพลหันขวับไปมองเมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่คาดคิดที่สุด

จูบแรก? คนอย่างไอ้สิงเนี่ยนะ 

"ก็ไม่ใช่แหละ แฮ่~"

"ไอ้เหี้ย! กวนตีนที่สุดละมึงน่ะ"

"ถึงไม่ใช่ แต่มึงก็ต้องรับผิดชอบกูอยู่ดี! กูเสียหายนะ!"

"โว๊ะ!! แล้วมึงจะให้กูทำไง มึงอยากได้อะไรไอ้ฟาย!!"

"มึงต้องมาเป็นแฟนกู"

"ห๊ะ! มึงว่าอะไรนะ ในลิฟท์สัญญาณไม่ดีเลย" ได้ยินชัดนั่นแหละ แถมมันพูดมาสองร้อยรอบได้แล้ว แค่ทำเป็นไม่ได้ยินเพราะอยากกวนตีนมันกลับไปงั้น

"กู-บอก-ว่า-มึง-ต้อง-มา-เป็น-เมีย-กู!!"

"ไอ้เหี้ยสิง เบาก่อน!" แต่ไอ้คนที่ยังดื้อด้านก็ตะโกนเสียงดังให้เขารีบเอามือไปปิดปาก ความอายไม่เคยมีเลยนะมึง ไอ้ตัวที่ซึมในรถนั่นใครกันแน่วะ

ติ้ง!

"ไอ้บอล.. มึงรอกูด้วยดิ" พอออกมาจากลิฟท์ได้ อัธพลก็พุ่งออกมาโดยไม่คิดจะรอใครอีกคน

สิงหาแอบหวั่นใจ เขาคิดว่าเขาคงจะแหย่มันแรงเกินไปหน่อย เขาก็แค่อยากล้อมันเล่นเท่านั้นเอง ก็มันแสดงอาการชัดเจนกับเขาขนาดนี้แล้ว แต่ไม่รู้ยังจะกังวลอะไรนักหนา

พอขอคบเป็นแฟนก็ไม่ยอมตกลง พอเขาบอกว่ารอได้ขอกลับบ้านก่อน ก็ดันชวนเขาขึ้นมาเอาการ์ตูนที่ห้อง

รู้หรอกว่ายังไม่อยากให้กลับ เลยเอาการ์ตูนมาอ้าง!

ปัง!

"ไอ้บอล คุยกันก่อนดิ.."

และแล้วมันก็ไม่ใช่หนังสือการ์ตูนอย่างที่เขาคิด

สิ่งแรกที่ไอ้บอลมันทำเมื่อเขาปิดประตูห้องลงคือคว้าตัวเขาเข้าไปจูบ

ยอมรับกันไปตรงๆเลยว่า ตั้งแต่ครั้งแรกของเราที่สวนผึ้ง มันไม่เคยมีจูบไหนที่ลึกซึ้งและสร้างความปั่นป่วนให้เขาได้มากมายขนาดนี้

สิงหาใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เพียงชั่วครู่เท่านั้น เขาเอียงหน้าให้ได้องศาเพื่อให้จมูกของเราสองคนไม่ชนกัน

เราสองคนไม่มีใครยอมใคร ในขณะที่เขาพยายามตักตวงทุกความสุขที่กำลังได้รับ ปากอวบอิ่มของไอ้บอลก็ขยี้บดจนริมฝีปากของเขาเจ็บชาไปหมด ก่อนจะปลอบประโลมด้วยการดูดเม้มไล้เลียไปตลอดกลีบปากของเขา

และวันนี้เขาก็ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับมันเพิ่มอีกอย่าง

ในเวลาที่มีสติเต็มร้อยแบบนี้

ไอ้บอลจูบเก่งฉิบหาย

"ไอ้บอล...ไอ้บอลๆๆๆ" สิงหาพยายามผลักตัวเองออกมาจากคนที่เริ่มจะรุกไม่อยู่ นอกจากมันจะจูบเขาแบบไม่ลืมหูลืมตาแล้ว ตอนนี้มันยังล้วงเข้ามาในเสื้อให้เขาต้องเรียกชื่อมันซ้ำๆ เป็นการห้ามปราม

"ไอ้บอลมึงพอก่อน!"

"ทำไม มึงจะให้กูหยุดทำไม" อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างหัวเสียที่โดนขัดจังหวะ

"มึงรู้ตัวไหมว่ามึงกำลังทำอะไรอยู่"

"เอ้า ทำไม มึงก็อยากให้กูเป็นเมียมึงไม่ใช่หรอ  แล้วมึงจะมาห้ามกูทำไม" มันตอบมาหน้าตาเฉย แถมยังเดินเข้ามาหาให้เขาถอยหลังหนี มือยันหน้าอกมันไว้

"งั้นตกลงว่ามึงยอมคบกับกูแล้วดิ"

"เปล่า อันนั้นกูยังตัดสินใจไม่ได้" 

"เอ้า! แล้วมึงทำอย่างนี้ทำไมวะ" ว่าไปก็ตะปบคว้ามือคนที่พยายามแกะเสื้อเชิ้ตนักศึกษาของเขาไว้

ไอ้บ๊อลลล ใจเย็นนนน กูไม่มีสมาธิแล้ววว

"มึงจะเอาไม่เอา" ถามออกมาหน้าตาหาเรื่อง แต่ตอนนี้สิงหาเองก็เริ่มหัวเสียแล้วเหมือนกัน

"ถ้ามึงไม่คบกับกู กูก็ไม่เอา" เขาตอบกลับไปเสียงดังฟังชัด ตาคมดุจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง 

มันกำลังเล่นอะไรของมันวะ

"มึงกำลังทำเหี้ยไรบอล"

"..."

"..."

"ตกลงมึงจะไม่เอา?"

พลั่ก

ไม่ยอมตอบคำถามเขา แต่มันยังเลือกที่จะถามเรื่องเดิม สิงหาเลือดขึ้นหน้า เขาเผลอผลักอีกฝ่ายออกไปแรงๆ

"กูบอกมึงแล้วไง ว่ากูไม่ได้คิดแต่จะมีอะไรกับมึง กูไม่รู้ว่ามึงกำลังลองใจกูหรือพยายามเล่นอะไร แต่บอกไว้เลยว่ากูไม่สนุกด้วยหรอกนะ!"

สิงหากำลังโกรธจัด จ้องคนที่ลงไปนั่งกองที่พื้นอย่างอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ในหัวสมองคิดไปต่างๆนานา พยายามหาเหตุผลในทุกการกระทำของอีกฝ่าย

มันแม่งไม่แคร์ความรู้สึกเขาเลย

"มึง...เลิกเล่นกับความรู้สึกกูซักทีได้ไหม"

"..."

"กูกลับล่ะ" เมื่อมันยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้มีทีท่าจะแก้ตัวหรือพูดอะไรสิงหาเลยขอตัวกลับ บอกเลยว่าตอนนี้เขาน้อยใจฉิบหาย เขาไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว ใจได้แต่รู้สึกสมเพศตัวเองที่คิดอะไรตื้นๆ

ไอ้บอลมันก็เป็นคนแบบนี้ คนที่เขาคาดเดาความคิดอะไรไม่ได้เลย แล้วเขาคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ คิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหน ถึงอยากจะเป็นคนที่เข้าใจ อยากจะเป็นคนที่ใกล้ใจมันมากที่สุด

"กูกลัว!" ตอนที่จับลูกบิดเพื่อเปิดประตูออกไปเขาก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากด้านหลัง สิงหาเอี้ยวตัวกลับไปมอง ใจหายวูบเมื่อใครคนที่ยังนั่งกองอยู่ที่พื้นจ้องหน้าเขาด้วยแววตาเรื่อน้ำ

"กลัว? มีงกลัวอะไรวะ" น้ำเสียงที่เคยแข็งขืนอ่อนโยนขึ้นมาอีกครั้ง

"เออ กูก็ชอบมึงไอ้สิง มึงได้ยินชัดไหม" สิงหาใจอ่อนยวบ เขาเดินกลับไปนั่งชันเข่าหนึ่งข้างลงข้างๆ เจ้าของห้อง

"แล้วทำไมมึงทำแบบนี้ ทำไมมึงไม่ยอมคบกับกูสักที มึงบอกว่ากลัว มึงกลัวอะไรวะ"

"กูกลัวกูทำไม่ได้"

"ทำไม่ได้?"

"ก็มึงชอบพูดว่าจะให้กูเป็นเมียมึง กูไม่รู้ว่ากูจะทำได้หรือเปล่า ไอ้เหี้ย กูไม่เคยทำแบบนั้น กู..ถึงกูจะชอบมึง แต่กูไม่มั่นใจว่ากูจะยอมให้มึง..อืม!"

ไม่ทันจะปล่อยให้อีกคนได้พูดจนจบประโยค ในทันทีที่ได้ยินคำว่าชอบจากอีกฝ่ายอีกครั้งสิงหาก็ไม่รออะไรอีกต่อไปแล้ว

เขาดันคนตรงหน้าให้นอนราบเรียบไปกับพื้นเย็น โน้มตัวคร่อมอีกฝ่ายในทันทีโดยไม่ให้สองริมฝีปากได้ผละจากกัน ลิ้นร้อนสอดประสานกันอีกครั้ง ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติจนสิงหาเองยังรู้สึกแปลกใจ

"ไอ้สิง..." คนหน้าแดงใต้ร่างพึมพำเรียกชื่อเขาออกมาตอนที่เราผละมามองหน้ากัน สิงหาคิดว่าเขากำลังอยู่ในฝัน และมันก็เป็นฝันดีมากๆจนเขาไม่อยากจะตื่น

"ถ้ามึงไม่อยากให้กูทำ กูยอมให้มึงทำกูก็ได้" อัธพลตาโตเป็นไข่ห่าน เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง แต่หน้าตาเปื้อนยิ้มและแววตามั่นคงของคนที่อยู่บนตัวก็แสดงความจริงจังและจริงใจถึงคำพูดก่อนหน้านี้ได้ดี

"มึง..มึงพูดอะไร"

"กูไม่ได้ล้อเล่น"

"มึง..มึงเคยหรอ" มันส่ายหน้าช้าๆเป็นการปฏิเสธ

"ไม่เคย แต่ถ้าเป็นมึงกูยอมก็ได้"

แล้วคำพูดที่ไม่น่าเชื่อก็ออกมาจากปากคนช่างพูด อัธพลรู้สึกหน้าชา ความตื้นตันใจเกิดขึ้นพร้อมความรู้สึกผิด ไอ้สิงมันก็เป็นแบบนี้ ชอบยอมเขาตลอด มีแต่เขาที่เป็นคนเห็นแก่ตัว ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน มันก็มีแต่เขาที่เอาแต่ใจตัวเอง

"มึงไม่ได้พูดให้กูรู้สึกผิดใช่ไหม"

"ไอ้เหี้ย คิดมาก กูพูดจริงๆ"

"มึงจะยอมให้กูจริงๆหรอ" ทั้งๆที่คนแบบมัน ถ้าจะหาใครมานอนด้วยก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยสักนิด

"ก็ถ้ามึงจะคบกับกู"

"มึงไม่ลองก่อนวะ เผื่อมึงไม่ชอบ"

"กูไม่มีทางเลิกกับมึงเพราะเหตุผลนั้น"

"ถ้ามึงคบกับกู กูจะบอกให้นะว่ามึงไม่ได้เลิกกับกูง่ายๆหรอกนะ ไม่ว่าจะเหตุผลนี้หรือเหตุผลไหน"

"งั้นกูก็จะดีใจมาก"

"มึงจะมาตามใจกูวันนี้ แล้ววันหลังเปลี่ยนไปไม่ได้นะ..อื้ม!" แล้วอัธพลที่ยังพูดเจื้อยแจ้วก็โดนประกบปิดปากอีกครั้ง

"พอแล้ว..เลิกพล่ามได้แล้ว"

"..."

"กูโอเคหมดนั่นแหละ มึงคบกับกูได้ยัง?"

อัธพลจ้องหน้าคนที่ถามคำถามเดิมซ้ำๆ ใจที่ลังเลยังคงมีคำถามมากมายเกิดขึ้น เพราะมันจะเป็นครั้งแรกสำหรับอะไรหลายๆอย่าง ใจถึงยังกลัวเหลือเกินที่จะเริ่มต้นก้าวเข้าไป

"โอเค คบก็คบ แล้วอย่ามาขอเลิกกูเองแล้วกัน กูเอามึงตาย"

แต่กับคนตรงหน้าแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ยังอยากลองดูสักตั้งอยู่ดี

จุ๊บ

"เยี่ยม" สิงหาโน้มหน้าลงไปจุ๊บคนที่เพิ่งเป็นแฟนหมาดๆ ก่อนจะยันตัวขึ้นพร้อมดึงมันมานั่งด้วยกันดีๆ

"งั้นเดี๋ยวกูมานะ"

"มึงจะไปไหนวะ" ใครอีกคนรีบคว้าตัวเขาไว้ในตอนที่สิงหาพยายามลุกขึ้นยืน

"กูไปแป๊บเดียว"

"ไปไหน!" สิงหายิ้มเมื่อไอ้คนขี้โมโหหน้างออีกแล้ว ก่อนจะตอบยิ้มๆกลับไป

"ไปซื้อถุงยาง มึงจะเอาอะไรไหม"

"ไม่ต้องไป มีอยู่" นอกจากมันจะไม่เขินตามที่หวังไว้ เขากลับต้องมาโมโหเพราะคำตอบของมัน

มันมีได้ไงวะ มันเอาไว้ใช้กับใคร!

"ไอ้เหี้ย ทำหน้าปัญหาอ่อนเชียว ของไอ้เป้มัน" มันใช้มือยันหน้าผากก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมกลั้วหัวเราะ

"ปะ มีอะไรกันเหอะ"

และมันก็เริ่มจากประโยคโรแมนติคประโยคนั้น

สิงหาเดินตามเจ้าของห้องไปถึงบริเวณเตียงนอน อย่างใจเย็นที่สุดเราดันเตียงไอ้เป้เข้ามาชิดกับอีกเตียงเพื่อเพิ่มพื้นที่ อย่างไม่มีขั้นมีตอน ไอ้บอลถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากตัวอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่กางเกงในสีดำ

"ไอ้บอล..."

แล้วก็เป็นมันที่เป็นคนเริ่มทุกสิ่งทุกอย่าง

เดินตรงมาที่เขา ปลดกระดุมกางเกงยีนต์แล้วดึงลงไปถึงข้อเท้าให้เขาก้าวขาออก สิงหารีบถอดเสื้อตัวเองทิ้ง ไม่อยากจะให้มันรู้สึกว่าเขาแม่งทำอะไรไม่เป็นเลยซักอย่าง

พลั่ก

มันผลักเขาที่เหลือเพียงบ๊อคเซอร์สีน้ำตาลลงนอนบนเตียงกว้าง ก่อนจะโน้มตัวลงมาคร่อมทับ เริ่มต้นจูบที่มันไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้เลยสักนิดในทันที

เคยคิดอยากจะเอามันมาตลอด

แต่ไอ้บอลมาดนี้โคตรผัวเลยวะ

คนที่มาดโคตรผัวเริ่มทำตัวเป็นผู้นำ ริมฝีปากของเราผละออกจากกัน ริมฝีปากอุ่นของอัธพลเลื่อนลงต่ำ ซุกไซ้สูดดมไปตามซอกคอ ลากเลียก่อนจะดูดเม้มจนขึ้นรอยเป็นจ้ำๆประปราย

"อ่า.." สิงหาครางออกมาเบาๆตอนที่ตุ่มไตสีน้ำตาลอ่อนโดนขบกัด เขาสอดสองมือเข้าไปในกลุ่มผมหนา ดึงทึ้งเมื่อลิ้นร้อนเลื่อนลงไปสัมผัสท้องน้อยจนเสียววาบ

"ไอ้บอล.." ครางเรียกชื่อมันเหมือนคนไร้สติตอนที่มันควักลูกชายของเขาออกมานอกชั้นใน รูดขึ้นลงไปมาจนส่วนนั้นขยายใหญ่ขึ้นในมือของมัน

"กูอมให้นะ" แล้วสติของสิงหาก็ล่องลอยท่องอวกาศ เขารู้ว่าไอ้บอลมันกินเก่ง แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะกินเก่งไปซะทุกอย่างขนาดนี้

กูต้องตาย ตายคาปากมึงแน่ๆ

"อ่ะ" คนที่กำลังมีลูกชายของเขาอยู่ในปากเริ่มอยู่ไม่สุข มือหนาเลื่อนไล้ไปตามสะโพกสอบ ออกแรงบีบนวดก้นของเขาไปเรื่อย ก่อนจะใช้นิ้วชี้นวดคลึงช่องทางแคบด้านหลัง

"ไอ้บอล.." เขาพยายามเตือนสติด้วยการเรียกชื่อมัน ให้คนที่วุ่นวายอยู่กับส่วนกลางกายของเขาถอนปากออกมามองหน้ากัน มันหยิบถุงยางมาสองอันฉีกใส่ให้เขากับตัวมันเองอย่างรวดเร็ว

"กูรู้น่าว่ากูกำลังทำอะไร หันหลังสิ"

เขาทำตามที่มันบอกแต่โดยดี สิงหาเคยคิดว่ามันง่าย แต่พอถึงเวลาจริงๆเขากลับรู้แล้วว่าเขาโครตไก่อ่อน ความกลัวก่อเกิดขึ้นในใจ เผลอสะดุ้งสุดตัวในตอนที่ของเหลวเย็นป้ายวนลงมาที่ปากทาง

"กูเข้าไปแล้วนะ" หลับตาปี๋เมื่อนิ้วเรียวยาวเริ่มรุกล้ำ เจ็บเสียดในทุกจังหวะที่มันดึงเข้าดึงออก 

"ผ่อนคลายนิดนึงมึง อย่าเกร็ง" ไอ้บอลโน้มตัวมาคร่อมพร้อมกระซิบข้างกู มือนึงควบคุมช่องทางด้านหลัง อีกมือเอื้อมมาจับส่วนที่แข็งเกร็งด้านหน้ารูดรั้งไปมา ตอนนี้สิงหาอ่อนปวกเปียกไปหมดแล้ว

อดคิดไม่ได้เลยว่าไอ้บอลมันเท่ฉิบหาย จะเอาอะไรไปเป็นผัวมันวะ

"อ่าห์~" แล้วความเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่ความเจ็บ สิงหาครางออกมาอย่างไม่อาจเก็บเสียงเมื่อนิ้วที่สองและสามของอีกฝ่ายตามเข้ามา

ถึงจะรู้สึกแปลกๆแต่เขายอมรับว่ามันเสียวมาก สิงหาพยายามสูดลมหายใจเข้าออกแรงๆเพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายขึ้นอีกนิด แต่ในนาทีที่นิ้วทั้งสามถูกแทนที่ด้วยบางสิ่งที่ใหญ่โตกว่า เขาก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง

"ไอ้บอล..."

"มึงไหวไหม.."

"ไหว กูไหว..มึงเข้ามาเถอะ" คนทำใจกล้าหลับตาปี๋ สิงหากัดริมฝีปากเม้มแน่นเมื่อส่วนใหญ่โตร้อนผ่าวผ่านเข้ามา ความเจ็บปวดแล่นแปร๊บจนสมองพล่าเบลอ

"เชี่ย มึงโครตแน่น" อัธพลสบถเมื่อเขาเข้าไปข้างในจนสุด ช่องแคบที่ตอดรัดทำให้เขาตื่นเต้นจนปวดหนึบไปหมด แค่ขยับสองสามครั้งก็เหมือนว่าเขาพร้อมจะปลดปล่อยออกมาอยู่แล้ว

ก็ตั้งแต่เข้ามหา'ลัยมาก็ไม่เคยมีอะไรกับใครเลยนี่หว่า

"ไอ้สิง กูอาจจะเสร็จเร็ว..คือกู"

"เออ เอาแบบที่มึงอยากทำเลย"

"เออ เดี๋ยวกูให้มึงเอาคืน" สิงหาไม่แน่ใจว่าประโยคสุดท้ายที่ได้ยินมันหมายถึงอะไร แต่หลังจากประโยคนั้นก็เหมือนโลกทั้งใบจะสั่นสะเทือนไม่หยุด

มือนึงกดที่ช่วงเอวเขาไว้ไม่ให้ขยับ อีกมือโน้มมาจับส่วนแข็งขืนด้านหน้า มันกระแทกตัวตนของมันเข้ามาไม่ยั้ง เร็วและแรงจนเขาได้แต่ครางเสียงหลงเพราะความเสียวซ่าน แต่ก่อนที่จะขึ้นไปถึงจุดนั้น จู่ๆความอุ่นร้อนก็ฉีดพ่นเข้ามาให้ร่างทั้งสองสะดุดกึก

"..."

ไอ้บอลหอบหายใจหนัก โน้มตัวมากอดรัดเขาที่ยังนิ่งอยู่ท่าเดิม มันเอื้อมมือมาชักกลางกายของเขาที่ยังแข็งตัวอยู่ขึ้นลง

"กูขอโทษที่ไม่ได้รอ ไม่ได้ทำนานน่ะ"

"..."

"ตามึงแล้ว"

แล้วมันก็ถอนตัวเองออกไป จัดการถอดถุงยางออก แล้วจับให้เขาที่ยังงงๆนั่งพิงพนักเตียง หยิบเจลหลอดเดิมมาเทลงมือแล้วป้ายที่ช่องทางแคบของตัวเอง

"นี่มึงจะยอมกูหรอ" สิงหาถามอย่างงงๆ เขาสติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่นักเพราะตอนนี้ไอ้บอลกำลังทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอานิ้วตัวเองแหย่เปิดทางด้านหลังให้เห็นอยู่ตรงหน้า

"อือ ก็มึงยังยอมกูเลยนี่นา"

แล้วสิงหาก็ดึงคนที่ทำให้หัวใจปั่นป่วนได้มากมายขนาดนี้เข้ามานั่งคร่อมบนตัก เขาเริ่มจากการดูดเม้มหัวนมสีอ่อนของมัน ขบกัดอย่างหมั่นเขี้ยวสลับกันไปทั้งสองฝั่ง

อย่างคนที่เรียนรู้อะไรได้เร็ว เขาทำอย่างที่ไอ้บอลเคยทำก่อนหน้า สิงหาคว้าขวดเจลมาเทลงมือ เอาไปป้ายที่ช่องแคบก่อนที่จะค่อยๆสอดเข้าไปทีละนิ้วจนมันครางออกมาเสียงดัง

"กูใส่เข้าไปเลยได้ไหม" และแทนที่เขาจะได้ถามประโยคนั้น กลับเป็นมันที่เริ่มต้นก่อนอีกแล้ว วันนี้สิงหาไม่เหลือแล้วซึ่งศักดิ์ศรีใดๆ แต่ใครจะไปสน เพราะตอนนี้เขาเองก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

ไหนวะ คนที่กลัวจนจะร้องไห้ก่อนหน้านี้

เมื่อเขาพยักหน้ารับมันก็ใช้สองแขนวางที่บ่าเขาแล้วดันตัวขึ้นอีกนิด เขาจับกลางกายให้ตั้งตรง อีกมือรูดรั้งสิ่งเดียวกันของมันที่เริ่มแข็งขืนขยับขยายขึ้นอีกครั้ง

"อ่าห์~"

"เบามึงเบา กูจะแตกไอ้บอล" เสียงร้องครางข้างหูกับความอุ่นแน่นที่เข้ามาโอบรัดทำให้สิงหาหลับตาแน่น เขาจับกระชับเอวสอบของมัน บังคับให้ขึ้นลงช้าๆเพื่อรอให้ใครอีกคนคุ้นเคยมากขึ้น

สิงหาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเมื่อคนบนตัวพยักหน้าอนุญาต ไม่นานก็กลายเป็นมันที่คุ้นชินและเริ่มต้นขย่มตัวเขาไม่หยุดตามใจตัวเอง

"ไอ้สิง~ โครตดีเลยวะ"

"อ่าห์~" เสียงของทั้งคู่เปล่งประสาน และไม่นานเกินรอของเหลวจากตัวสิงหาก็ฉีดพุ่งเข้าไปในร่างของใครอีกคน สิงหาตัวกระตุกแต่มือยังไม่หยุดที่จะปรนเปรออีกฝ่าย จนในไม่ช้าคนที่ปลดปล่อยไปแล้วรอบนึงก็ได้ถึงฝั่งฝันอีกครั้ง

"..."

"..."

เสียงหอบหายใจหนักๆดังก้องไปทั่วห้องพักเล็กๆ ไอ้บอลทิ้งตัวลงมานอนข้างเขา เราสองคนนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อรอให้ระดับการหายใจกลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้ง

"มึงเป็นไงบ้าง ดีป่ะ" ในความเงียบ อัธพลเอ่ยถามคำถามออกไปในอากาศ ตาคมสองคู่ยังจ้องมองเพดานสีขาว 

"โครตดี ไอ้บอล กูหัวใจจะวาย" คำตอบของคู่สนทนาทำให้ทั้งคู่หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน อยากจะว่าว่าไอ้สิงมันเว่อร์ แต่เขาเองก็คิดไม่ต่างกันเลยสักนิด

"แล้วมึงเป็นไงบ้าง เจ็บมากไหม" มันเอื้อมมือมาสัมผัส สอดนิ้วทั้งห้าเข้ามากระชับแน่นกับมือเขา

"หือ ก็ไม่ได้แย่อย่างที่กลัวว่ะ" เขาว่าตามที่รู้สึก "ที่จริงคือดีมากเลยแหละ"

"จริงป่ะ! มึงชอบหรอ" สิงหาถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น หันข้างไปมองหน้าใครอีกคนให้มันหันมาสบตากัน

"อือ ก็ชอบนะ แล้วมึงอะ ชอบให้กูทำไหม"

"กู..กูก็ได้หมดแหละ แต่ว่าถ้าเลือกได้..." สิงหาพูดตะกุกตะกัก ทำหน้าตาบอกไม่ถูกก่อนจะว่าต่อ "กูอยากเป็นฝ่ายทำมากกว่าว่ะ"

"เออดี เพราะกูเหนื่อยฉิบหาย ตัวใหญ่อย่างกับควายอะมึงอะ"

"มึงพูดจริงนะ"

"อือ แต่ถ้ากูอยากขึ้นบ้างมึงก็ให้กูนะ" สิงหาพยักหน้างึกงักตาเป็นประกาย จะบอกว่าไม่ชอบก็ไม่ใช่ ที่จริงมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากเป็นคนทำมากกว่าอยู่ดี

"แล้วถ้ามึงยังไหว มึงขึ้นอีกรอบก็ได้นะ"

แล้วก็เพราะประโยคโรแมนติคประโยคนั้นของไอ้บอล บทรักบทใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีคนที่ชื่อสิงหาเป็นฝ่ายได้คุมเกมสมใจอยาก



อัธพลรู้สึกตัวอีกครั้งในเช้าวันใหม่ เขารู้สึกอึดอัดเป็นที่สุดเพราะขยับตัวไม่ได้เลยสักนิด แถมยังมีไอร้อนจางๆรินรดอยู่บริเวณต้นคอเป็นระยะ

สลึมสะลือลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขาปวดเมื่อยไปทุกส่วนของร่างกาย จะมากหน่อยก็คงจะเป็นบริเวณบั้นท้ายกับจุดที่โดนบางสิ่งบางอย่างสอดเสียดอย่างหนักเมื่อคืน

"ไอ้สิง.."

"อืม~" คนโดนเรียกชื่อขยับตัวนิดกระชับลงไปในซอกคอเขายิ่งกว่าเดิม มันยังไม่ยอมตื่นง่ายๆ

"ไอ้สิง ปล่อยกูก่อน~" 

"กูจะนอน~"

"มึงจะนอนก็นอนไป แต่มึงเอามือมาจับของกูทำไม"

คนหน้ามึนยิ้มถึงหูทั้งๆที่ตายังปิดสนิท อัธพลอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามอีกฝ่าย ไอ้สิงมันขี้อ้อน เมื่อคืนก็อ้อนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันสักที

"ไอ้บอล.."

"หืม.."

"เมื่อคืนมึงชอบไหม"

"มึงจะมาถามอะไรตอนนี้วะ ทำกันไปถึงไหนต่อไหน"

"เอาน่ะ ก็กูอยากรู้ ประสบการณ์ครั้งแรกกับผู้ชายเป็นไง"

"..." สิงหาลืมตาขึ้นหนึ่งข้างเมื่อมันไม่ยอมตอบสักที พอเห็นมันยิ้มเจื่อนๆกลับมาเขาก็ตาขึงโตลุกพรวดนั่งลงบนเตียงในทันที

"ไอ้บอลมึงอย่าบอกนะว่ามึงเคยกับผู้ชายมาก่อน!!" ไอ้บอลยังไม่ตอบแต่ยิ้มแห้งส่งมาให้เขา สิงหาถึงบางอ้อ ถึงว่าแม่งทำไมเก่งขนาดนั้น

"ไอ้เหี้ย มีแต่กูที่หลงคิดว่ามันเป็นคืนแรกของเรา" อัธพลมองคนที่ทำหน้าน่าสงสารเหมือนสาวบริสุทธิ์ที่โดนเขาปู้ย้ำปู้ยี้ มารยาฉิบหายล่ะมึงน่ะ

"ก็ถือว่าครั้งแรก กูไม่เคยยอมใครเลยนะเว้ย" ผลักหัวมันอย่างหมั่นไส้ ใจอยากจะยกมือดีดปากมันให้เจ่อ จะทำปากยื่นอะไรขนาดนั้น

"ได้เป็นผัวกูสมใจมึงแล้วสิ"

"มึงก็ผัวกูนะไอ้บอล" ว่าแล้วสิงหาก็เอาหัวถูไถหัวไหล่มนของใครอีกคน

"ได้น้องแล้วอย่าทิ้งน้องสิงนะ"

"ไอ่ห่าสิงทำอะไรเนี้ย ขนลุกฉิบหาย"

"ไม่เอา ต่อไปเป็นแฟนกันแล้วห้ามเรียกแบบนั้น ต้องพูดเพราะๆกับเค้านะตัวเอง"

"ไอ้สิง กูบอกให้พอ!"

"นะตะเองนะ~ พูดเพราะๆกับเค้าเร็ว~"

พลั่ก

แล้วสิงหาก็ตกจากเตียง

"ไอ้สิง! ไปไกลๆตีนกูเลยมึงน่ะ!"

"ตะเองอ่ะ~ ทำไมใจร้ายกับเขาแบบนี้ ฮรุก"



૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)



#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

อัธพลลลลล นายเอกอะไรของเลาอ่ะ ~ แล้วต่อไปจะกล้าเรียกสิงหาว่าพระเอกได้เต็มปากเต็มคำไหม โถถถถถ แต่ยังยืนยันนะคะ จากสกอร์แล้ว สิงหายังนับให้เป็นพระเอกได้อยู่ หุหุ

ขอโทษสำหรับ nc แปลกๆของเจ้าพวกลูกหมาค่ะ ความโรแมนติคของอัธพลคือประมาณนี้แหละค่ะ XD
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 07 ชอบคืนนี้ ที่สุดเลย
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-06-2020 22:54:59
 :laugh:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 07 ชอบคืนนี้ ที่สุดเลย
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-06-2020 15:28:42
บอล+สิง เป็นขั้วบวก ขั้วลบ
กลับได้มาพบกันใน คืนตรูดบาน
อิอิ

ผลัดกันขึ้น ผลัดกันลง
ผลักอีกคนนอนคว่ำ ผลักอีกคนนอนหงาย
เพลิดเพลิน เจริญกาย สนุกกันจริงนะ สองหนุ่ม
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 08 เพราะเธอคนแรก ที่ฉันให้ความรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 08-06-2020 15:45:13
#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

08

เพราะเธอคือคนแรก ที่ฉันให้ความรัก









"สวัสดีครับทุกคน~"เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มเมื่อพิธีกรเดินออกมาทักทายผู้เข้าร่วมงานหน้าเวที

ตอนนี้อัธพลและเพื่อนสนิทสมัยมัธยมอีกคนกำลังยืนเบียดอยู่ในกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่ในโซนคอนเสิร์ตของงานเทศกาลฤดูฝนที่คณะของไอ้เป้มันจัดขึ้น

"เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้เดี่ยว" อัธพลอดจะค้อนใส่เพื่อนไม่ได้ เพราะต้องไปรอรับมันแท้ๆ กว่าจะมาถึงคนก็เต็มจนได้มายืนดูอยู่แถวหลังๆ แบบนี้

"เพราะกูหรอ มึงคิดดูดีๆ ไหม" มันสวนกลับมาในทันที

"เราจะมาถึงที่นี่เร็วกว่าเดิมครึ่งชั่วโมงถ้ามึงไม่มัวแต่กลับไปเปลี่ยนเสื้อที่หอ"

พอโดนตอกกลับมาอย่างนั้นอัธพลเลยรีบรูดซิปปาก เขาไม่ใช่คนเรื่องมากขนาดที่จะใช้ชุดนักศึกษามาไม่ได้หรอกนะ แต่ตอนที่ไปยืมรถไอ้สิงเพราะจะเอาไปรับไอ้เดี่ยวน่ะสิ จู่ๆ มันก็บังคับให้เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องซะงั้น

'ตัวที่กูยกให้มึงวันนั้นน่ะ'

'ตัวสีดำอะนะ'

'อือ ตัวนั้นแหละ'

'ทำไมวะ'

'กูจะได้หามึงเจอง่ายๆ ไง'

มันว่า

'แล้วอีกอย่างนะ..'

"เอาล่ะครับ งั้นมาเจอกับวงแรกของวันนี้กันเลย เป็นวงของน้องปีหนึ่ง คือผมต้องบอกว่าผมได้ยินตอนซ้อมแล้วผมอึ้งมากฮะ บอกเลยว่าให้ทุกคนจับตาดูน้องๆ ไว้เลยนะครับ อยากถ่ายรูปรีบถ่าย ดังแล้วหาตัวไม่ได้ง่ายๆ แบบนี้นะ" พิธีกรพูดแนะนำวงแรกที่จะขึ้นแสดงให้เสียงกรี๊ดดังขึ้นมาอีกระลอก

"ขอเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดดังๆ ให้กับวง Spy~"

แล้วก็เป็นตอนนั้นที่อัธพลยิ้มกว้างถึงหู ความแปลกใจปะปนผสมกับความภูมิใจเล็กๆ ไม่คิดเลยว่าสิงมันจะใช้ชื่อวงที่เขาใช้เวลาสองนาทีในการตั้งนั่นจริงๆ

ดีแล้วแหละที่ยอมกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องให้มัน

ตาคมเพ่งสำรวจไปที่เวที พิธีกรของงานกำลังเดินเข้าไปด้านหลังสวนกับใครอีกสี่คนที่จะขึ้นเล่นเป็นวงเปิด

'แล้วอีกอย่างอะไร'

'กูอยากใส่เสื้อคู่'

'เสื้อคู่? '

อัธพลหลุดขำออกมาเมื่อเห็นคนในความคิดเดินไปที่คีย์บอร์ด มันอยู่ในเสื้อยืดสีดำที่เหมือนกันกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน

ยอมมันเลย ถ้ามันจะกล้าเรียกเสื้อยืดสีดำไม่มีลายว่าเสื้อคู่

เขาก็ยอมมันเลยล่ะกัน

อัธพลรู้อยู่แล้วว่าสิงมันจะเป็นคนร้องนำเพลงนี้พร้อมกับเล่นคีย์บอร์ดไปด้วย ไอ้โยจะเล่นกลองชุด ไอ้เป้เล่นกีต้าร์ และยังมีพี่แทนลุงรหัสของไอ้โยมาช่วยเล่นเบสอีกด้วย

"Can anybody...find me somebody to love? ..."

หลังจากลองเสียงกันเพียงชั่วครู่ อย่างไม่มีการแนะนำตัวใดๆ เสียงเปียโนของเพลง 'Somebody to love' ก็ดังขึ้น แปลกแต่จริงแต่ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรง ยิ่งได้ยินเสียงของไอ้สิงที่ไม่เหมือนเคยเลยสักนิดยิ่งทำให้ใจหวั่นไหว ไม่อยากจะยอมรับ แต่มันคงเป็นแบบที่ไอ้สิงบอกจริงๆ

'แล้วมึงจะตกหลุมรักกู'

"Ooh, each morning I get up I die a little

Can barely stand on my feet

Take a look in the mirror and cry

Lord, what you're doing to me

I have spent all my years in believing you

But I just can't get no relief, Lord!

Somebody (somebody) ooh somebody (somebody)

Can anybody find me somebody to love?





เสียงของเปียโนจบลงพร้อมเสียงกลองที่ดังขึ้นรัวๆ เขาว่ามันมิกซ์เพลงกันมาได้ดี พวกมันเปลี่ยนท่อนนี้ของเพลงให้เป็นสไตล์ร๊อค ทำให้สนุกสนานขึ้นเรียกให้คนหน้าเวทีเริ่มต้นโยกย้ายตามจังหวะ

"แม่งเก่งกันจริงๆ วะ ชมจากใจเลย" ไอ้เดี่ยวโน้มหน้ามาตะโกนข้างหู มันเต้นหลุดโลกเหมือนลืมว่าเพิ่งเหนื่อยวิ่งมาจากลานจอดรถ

"แล้วไอ้สิงคืออย่างเท่มาก ดูดิคนถ่ายรูปมันเต็ม หมดงานนี้คือดังแหละ"

แล้วเขาก็กวาดตามองอย่างที่มันบอก มีคนซูมถ่ายรูปมันเยอะอย่างที่ไอ้เดี่ยวว่าจริงๆ ถึงจะไม่ค่อยพอใจแต่ก็อดดีใจแทนมันไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ

ตาคมมองย้อนกลับไปดูคนบนเวทีอีกครั้ง

จะทำยังไงได้วะ

มันก็เท่จริงๆ นี่หว่า

อย่าหาว่าอวยกันเองเลย



"นี่กันยา น้องสาวกูเอง" หลังจากวงของพวกมันเล่นเสร็จ เราทั้งหมดก็ออกมานัดเจอกันหน้างาน ถึงไอ้เดี่ยวจะโวยวายนิดหน่อยเพราะมีวงที่มันชอบกำลังจะขึ้นเล่น แต่พอบอกว่าเดี๋ยวน้องไอ้สิงจะมา มันก็สงบปากสงบคำแถมเป็นฝ่ายเร่งให้เขาเดินออกมาเร็วๆ เสียด้วยซ้ำ

"ยินดีที่ได้รู้จักครับ พี่ตุลานะครับ"

"สัดเดี่ยวมึงหยุด อย่ามาทำตัวเป็นผู้ชายอารมณ์ดีใส่น้องกู"

"โถ สิงหา นิดเดียวเอง~"

"นิดเดียวก็ไม่ได้"

"อือฮือ พี่ชายโหดมากเลยงับ ธันวาขอยอมแพ้"

"เมื่อกี้มึงยังตุลาอยู่เลยไอ้กะล่อน" เราทั้งหมดหัวเราะให้กับมันสองคนที่เถียงกันไม่หยุด บอกตรงๆ ว่าไม่เคยเห็นไอ้สิงโหมดนี้ ปกติเข้ากับคนง่ายยังไง อยู่กับน้องสาวทีไรก็หวงโหดซะอย่างกับคนละคน

"นี่ขนาดน้องนะ ถ้าเป็นแฟนมึงมึงจะหึงขนาดไหน"

"..." อัธพลหลุดอมยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น เลิ่กลั่กมองซ้ายมองขวา มองฟ้ามองดินเหมือนหาที่วางสายตาไม่ได้

"กูจะทั้งหึงทั้งหวงยิ่งกว่านี้เป็นร้อยเท่า" พูดไปตาก็หันมามองเขา หลบสายตาแทบไม่ทัน แถมหลบปุ๊บดันไปสบเข้ากับตาคมของไอ้เป้ที่ยกยิ้มกริ่มมองเขาอยู่ก่อนแล้ว

ปณวัชมึงเบาก่อน จับผิดกูอยู่ได้

"น้องยา นี่เพื่อนสนิทพี่เอง เรียนอยู่วิดวะชื่อพี่บอล ส่วนไอ้คนปลิ้นปล้อนทางนั้นชื่อไอ้เดี่ยว อย่าไปยุ่งกับมันเด็ดขาด เป็นภัยสังคม"

"แรงมากปณวัช" ดนัยร้องขึ้นมาในทันที บอกว่าเพื่อนสนิทไม่ให้ความยุติธรรมกับเขาเลยซักนิด เขาออกจะเป็นคนดี มาหาถึงที่ขนาดนี้ยังรุมกันอยู่ได้

น้องสาวของสิงหาก็เข้ากับคนง่ายไม่แพ้พี่ชาย แถมยังวางตัวดีเป็นที่หนึ่ง เธอยกมือไหว้พวกเขาทุกคน ก่อนจะพูดคุยกันพอเป็นพิธีแล้วหันไปอ้อนพี่ชาย

"พี่สิงวันนี้น้องมากับเพื่อน" เธอว่า ชี้ไปทางกลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่ยืนรออยู่อีกมุมนึงของงาน

"น้องขอไปเดินเที่ยวกับเพื่อนได้ไหม เสร็จแล้วค่อยนัดเจอกันนะ" สิงหาลังเลอยู่นิด มองนาฬิกาอีกหน่อย ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วเดินตามน้องสาวไปหากลุ่มเพื่อนสนิท

"ไอ้เดี่ยวมึงหยุด" ปณวัชเอ่ยห้ามเมื่อเห็นดนัยทำท่าจะเดินตามเข้าไปด้วย

"ทำไมเป็นคนแบบนี้เนี้ย แล้วน้องมิ้งมึงล่ะ"

"โอ๊ย กูก็แค่ล้อเล่น ทำไมต้องพูดถึงของสูงด้วยครับ เสียวสันหลังวาบเลย"

"ล้อเล่นแบบนี้ก็ไม่ได้ปะวะ" เป็นอัธพลที่พูดเสริม "ใจเขาใจเรา ถ้าแฟนมึงมาเห็น เขาจะเสียใจแค่ไหน"

สายตาทั้งสองคู่ของเพื่อนรักหันมาที่อัธพลเป็นตาเดียว ไอ้บอลคนที่เล่นไปเรื่อยและไม่เคยคบกับใครเป็นตัวเป็นตนเลยสักครั้งเนี้ยนะ เป็นคนพูดประโยคเมื่อกี้ออกมา

"เห้ย อย่าบอกว่ามึงสนใจน้องมัน กูไม่ได้จริงจังนะ กูแค่พูดขำๆ โทษทีวะ" แล้วไอ้เป้ก็ขำพรวดออกมาเมื่อเดี่ยวมันพูดจบให้เขากลอกตามองบน

"โทษทีๆ มันห้ามตัวเองไม่ทัน"

"อะไรของพวกมึงวะ"

"กูไม่ได้สนใจน้องมัน" อัธพลแก้ความเข้าใจผิด "คนที่กูสนคือคนพี่ต่างหาก" แล้วไอ้เดี่ยวก็ขำเสียงดังเพราะนึกว่าเขาเล่นมุก แต่เมื่อเห็นไอ้เป้ช๊อคตาโตมันก็หยุดขำหันหน้ามามองเขา

"เออ กูเป็นแฟนกับมันแล้ว"

"เห้ย" ไม่ใช่แค่ไอ้เดี่ยวแต่ไอ้เป้ก็ร้องออกมาเหมือนกัน

"เมื่อไหร่วะ ทำไมกูไม่รู้"

"เคยมีเวลาให้เพื่อนเหรอเราอะ" เขาหยอกให้มันยิ้มเจื่อน "แล้วอย่านึกว่ากูไม่รู้นะว่ามึงวางแผนกับมันมาตั้งแต่แรก มันสารภาพออกมาหมดแล้ว"

"โธ่ สัดสิง ทำไมขายกูเร็ว"

"เดี๋ยว พวกมึงช่วยแคร์ความช๊อคของกูด้วยนิดนึง จะไม่มีใครเล่าอะไรให้กูฟังเลยเหรอ"

"เออ เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังคืนนี้ แต่ตอนนี้พวกมึงช่วยอะไรกูหน่อยดิวะ"

"อะไรอะ"



"อ้าว ไอ้สองคนนั้นไปไหนแล้วล่ะ" คนที่กลับมาจากการไปฝากฝังน้องสาวตัวเองกับเพื่อนน้องถามขึ้นเมื่อตอนนี้เหลือเพียงอัธพลที่ยืนรอเขาอยู่คนเดียว

"ไอ้เดี่ยวมันหิว ไอ้เป้เลยพาไปหาอะไรกินก่อน" อัธพลว่าออกมาหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่ที่จริงแล้วเป็นคนบอกให้เพื่อนเดินแยกกันไปก่อนแล้วค่อยกลับไปเจอกันที่หอ

หลุดยิ้มเมื่อคิดถึงตอนที่ไอ้หมาเป้โวยวายใหญ่ บอกว่าเขาน่ะโครตขี้โกง มันเองก็อยากอยู่กับภัทรเหมือนกัน ไอ้เดี่ยวนี่คือร้อง ไม่มีเพื่อนคนไหนอยากอยู่กับมันเลยสักคน

"แล้วมึงหิวยัง ไปหาอะไรกินกันไหม" สิงหาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง

"มึงอยากกินอะไรล่ะ"

"กูยังไงก็ได้"

"ยังไงก็ได้หน้าตาเป็นไง หาซื้อได้ที่ไหน"

"ไม่เอาดิตะเอง มุกนี้ไม่ได้แล้วไหม"

"ตะเองพ่อง" คนที่แอบเล่นมุกฝืดจนเขินทำเป็นด่ากลับให้สิงหาหลุดหัวเราะ

"แล้วตกลง กินไรดี"

"ไม่รู้ว่ะ เดินดูไปเรื่อยๆ ไหม แล้วค่อยซื้อไปนั่งกินกันแถวนี้"

"โอเคครับ แฟนเค้าว่าไงเค้าก็ว่างั้น"

"กวนตีนแล้วมึงน่ะ"

"ก็คือด่าตลอด ใจสิงหาก็มีแค่นี้" ทำหน้าน้อยอกน้อยใจเผื่อใครอีกคนจะสงสารกันบ้าง

"ขอโทษด้วยแล้วกัน" แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันแกล้งพูด อัธพลก็ยังอดจะตามน้ำให้มันไม่ได้อยู่ดี "ก็มึงทำกูเขิน.."

"เขินโหดตลอดแหละเราอะ"

"ก็มึงชอบพูดอะไรก็ไม่รู้ มึงดูหน่อยว่ามันเหมาะกับตัวกูไหม"

"ก็มึงน่ารัก"

"สิงหาใจเย็น หลงกูได้แต่คนเราต้องอยู่บนพื้นฐานความจริงบ้าง"

"ครับเมีย"

"..."

"นี่ก็ความจริงนะ" ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซนต์ก็เถอะ

"ที่ชอบที่ชอบเลยแล้วกัน"

เถียงกันไปเถียงกันมาตอนที่เดินแทรกฝูงชนเข้าไปในงานอีกครั้ง เดินๆ หยุดๆ เลือกอาหารการกินจากสองข้างทาง อัธพลชอบงานแบบนี้ที่สุด มันมีของให้เลือกกินเยอะแยะจนแค่เดินมองก็เหมือนจะอิ่มแล้วด้วยซ้ำ

แค่เหมือน แต่ไม่อิ่มง่ายๆ หรอกนะ

"ไอ้บอลใจเย็น คือมึงจะกินไหวจริงๆ เหรอ" สิงหาถามพร้อมยกถุงพลาสติกมากมายในมือให้มันดู มันเยอะมากจนเขาคิดว่ามันจะซื้อไปฝากคนทั้งหมู่บ้าน

"ขอผัดหมี่อีกอย่างได้ไหม"

"มึงกินมั่วมาก เดี๋ยวปวดท้องนะ"

"อีกอย่างเดียวเอง ซื้อไปกินด้วยกันนะสิงนะ"

"..."

ไอ้ลูกหมา

เขาคิดว่าไอ้บอลมันฉลาด

ไหนบอกว่าตัวเองไม่น่ารัก

เสือกมาทำตาปริบๆ อ้อนกันแบบนี้ แล้วเขาจะไหวไหม

"ห้ามซื้อเกินสามห่อนะ"



"เมื่อกี้เป็นไง" อัธพลเงยหน้าขึ้นมองคนถามทั้งๆ ที่ยังมียำวุ้นเส้นคาปาก เขากลืนมันลงเร็วๆ ก่อนจะถามอีกฝ่ายกลับ

"เป็นไงคือ? "

"เห็นยังนั่นน้องกูไง ที่กูเคยบอก" สิงหายิ้มกริ่ม

เห็นยังล่ะว่าเขาบริสุทธิ์ มันนั่นแหละหึงไม่เข้าเรื่อง

"เห็นแล้ว น่ารักดี จะยกให้กูไง? "

ไอ้บอล..!

"มึงพูดงี้ได้ไงวะ ได้พี่แล้วคิดจะเอาน้องด้วยเลยเหรอ จิตใจเจ้าทำด้วยสิ่งใด"

"พอ ไอ้ปัญญาอ่อน กูล้อเล่นไหมไอ้ฟาย" อดไม่ได้ที่จะผลักหัวมันไปที คำพูดคำจาอะไรของมันวะ

"ว่าแต่วันนี้กูเป็นไงมั้ง เท่มากเลยใช่ไหม"

"อือ เท่จริง คนกรี๊ดหูกูแทบแตก"

"ใช่ม้า อิจฉาเลย แฟนคุณเก่งขนาดนี้" อัธพลทำเป็นส่ายหน้าอย่างระอาทั้งๆ ที่ยิ้มมุมปาก เขาว่าไอ้สิงมันคงกำลังอารมณ์ดีเอาๆ มากเพราะมันพูดไม่ยอมหยุดเลย ก็สมควรแล้วแหละ ก็อุตส่าห์เหนื่อยมาตั้งมากมายขนาดนั้น

เขาเองก็ดีใจและภูมิใจแทนมันมากไม่แพ้กันหรอกนะ เพราะเห็นมาตลอดว่ามันตั้งใจกับงานนี้มากแค่ไหน เสียงตอบรับที่ได้ก็ดีเกินขาด ชื่นใจแทนมันอยู่เหมือนกัน

"อ่ะ"

"อะไรอะ" สิงหามองตามอีกฝ่าย มันมีกระถางต้นไม้เล็กๆ อยู่ในมือ ไม่รู้มันไปแอบซื้อตอนไหน อาจจะเป็นตอนที่มันเดินไปซื้อน้ำปั่นเมื่อกี้ล่ะมั้ง

"กระบองเพชรหรอ"

"ซัคคิวเลนท์ กูเห็นน่ารักดีกูเลยซื้อมา"

"ให้กูหรอ"

"อืม ของขวัญของคนเก่ง" อัธพลว่ายิ้มยิ้ม เอื้อมมือไปวางบนกลุ่มผมนุ่มของคนที่ตัวโตกว่าเขาแค่สามเซนต์ ลูบไล้ไปมา "วันนี้สิงสิงเก่งมากเลย"

"..."

"..."

"ไอ้เหี้ย อะไรแบบนี้ไม่เหมาะกับกูจริงๆ ด้วย"

แล้วก็เป็นตอนที่ไอ้บอลเกาแก้มแก้เขินที่สิงหาทนไม่ได้ เขาโน้มหน้าลงไปจุ๊บมันเร็วๆ อย่างที่ใจต้องการ เพราะเราอยู่ในมุมที่ค่อนข้างมืด สิงหาคิดว่าคงไม่มีใครเห็น

ถ้ามี ก็คงดีมาก บอกเลยว่าจริงๆ แล้วอยากจูบโชว์

"ไอ้สิง มึงนี่มัน.." อัธพลพึมพำอย่างเคืองๆ เมื่อผลักมันออกห่าง ไอ้สิงก็แบบนี้ทุกที ใจดีด้วยทีไรลามปามตลอด

"ขอบใจมากเลยนะ จะดูแลอย่างดีเลย" มันว่าให้เขาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม รู้สึกดีใจที่มันดูชอบของที่เขาให้อยู่เหมือนกัน

"แต่กูขอฝากมึงดูแลก่อนได้ไหม"

อ้าว! ก็ไหนว่าจะดูแลอย่างดีไงวะ!!

"ไอ้เหี้ยสิง! ถ้าไม่อยากได้มึงก็เอามาเลย! " อัธพลเอื้อมมือจะไปเอากระถางต้นไม้คืนแต่สิงหาไวกว่า เขาคว้ามันไว้ในอกได้ก่อน

"ไม่ใช่ๆ ฟังก๊อน มึงก็นะ กูเห็นว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วไง จะได้ไม่ต้องขนไปขนมา" เมื่อเหตุผลมันฟังดูใช้ได้ อัธพลก็พยักหน้ารับแต่ยังคงข้องใจไม่หาย

"มึงชอบแน่นะ"

"กูมีสิทธิ์ไม่ชอบด้วยหรอ"

"ไม่ต้องเอาเลยมึงน่ะ กูเปลี่ยนใจไม่ให้มึงแล้ว" สิงหาหัวเราะร่าที่กวนตีนใครอีกคนได้สำเร็จ

"ให้แล้วไม่มีการขอคืนครับคุณอัธพล"

"ก็มึงกวนตีน"

"ก็หยอกเล่น~ ไม่เอาไม่งอนนะ"

"..." อัธพลได้แต่บ่นอุบอิบ ไม่เคยเถียงมันได้เลยไอ้สิงน่ะ เวลาไปไม่รอดก็อ้อนเอาตัวรอดไปเรื่อยตลอด กระล่อนฉิบหาย

Rrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นน้องสาวของไอ้สิงที่โทรมาถามว่าอยู่ไหนกัน พอเธอบอกว่าเพื่อนๆ เธอต้องกลับกันแล้วเราเลยบอกให้เธอรอตรงหน้างานที่เราเพิ่งแยกกันเมื่อหัวค่ำ

"ให้กูไปส่งไหม" มันถามตอนที่เราสองคนกลับเข้ามาในทางเดินที่มีร้านค้าเรียงรายอีกครั้ง ตอนนี้คนในงานเริ่มทยอยกันกลับบ้านไปแล้ว ทำให้เดินสบายกว่าตอนที่มาพอสมควร

"หือ ไม่เป็นไรมึง กูกลับเองได้ แค่นี้เอง"

"งั้นโทรหากูนะ ถ้าถึงห้องแล้ว"

"มึงนั่นแหละโทรมา สิบนาทีกูก็ถึงแล้ว ไอ้เป้กับไอ้เดี่ยวก็กลับไปแล้วมั้ง"

"โอเค.." มันว่าแล้วจู่ๆ ก็แกว่งหลังมือมาสัมผัสกับหลังมือเขา มันดูเหมือนว่าไอ้สิงไม่ได้ตั้งใจ แต่พอได้สบตากันเราก็ส่งยิ้ม ทั้งๆ ที่สัมผัสกันแค่นี้มันกลับให้ความรู้สึกเขินแปลกๆ ให้ความรู้สึกอุ่นๆ ในหัวใจ

"ขับรถดีๆ มึงไม่ค่อยได้นอนด้วยช่วงนี้"

"อือ พรุ่งนี้กูมาหาได้ไหม"

"มาหาได้ แต่เพื่อนกูอยู่นะ ถ้ามึงหมายถึง.."

"มึงนี่ วันๆ กูก็ไม่ได้จะคิดแต่เรื่องแบบนั้นไหม กูก็แค่อยากมากินข้าวด้วย" สิงหาพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนต่อว่า รู้ว่ามันมารยา แต่เหมือนเคย เขาอดจะตามง้อมันไม่ได้ทุกที

"โอเคๆ กูเข้าใจผิดเอง" เขาว่า

"งั้นเค้าจะรอสิงสิงนะ"

พูดเองก็กระดากปากเอง ก็รู้แหละว่าไม่เหมาะกับตัวเอง แต่พูดทีไรไอ้สิงมันก็ยิ้มได้ทุกทีนี่น่า ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ปากจะฉีกถึงหูแล้ว

"มึงมันน่าโดนจับจูบกลางฝูงชน"

"แล้วมึงก็จะโดนกระทืบขึ้นหน้าหนึ่ง"

"โธ่ ตะเอง~"



แกร๊ก

แปะๆๆ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เจอเพื่อนสนิทตัวโตที่มาก่อนแล้วลุกขึ้นยืนปรบมือ แน่นอนว่าไอ้เดี่ยวมันประชด อัธพลถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

เอาล่ะ จะด่าอะไรก็จะไม่เถียงเลย

"ยินดีต้อนรับกลับห้องครับคนทิ้งเพื่อน คบกันมา 7 ปี กูมีค่าน้อยกว่าผู้ชายของเพื่อนอีก" ดนัยโอดครวญ เขาอุตส่าห์มาหาตั้งไกล ข้าวสักมื้อก็ยังไม่ได้แดกด้วยกันเลย

"เออน่า พรุ่งนี้มึงก็ยังอยู่ไม่ใช่เหรอ"

"เลี้ยงข้าวกูเลย"

"เดี๋ยวให้สิงมันมารับไปกินเอ็มเคเอาปะ"

"เนี้ย ดูมันดิปณวัช ทำไมต้องขิงกันด้วย" แล้วมันก็หันไปฟ้องคนที่นั่งหน้านิ่งกอดอกอยู่บนเตียง ไอ้เป้จ้องหน้าเขานิ่ง ไม่ยอมยิ้มหัวเราะ หรือแม้แต่ด่าอะไรสักอย่าง

"อะไรวะ มึงโกรธกูขนาดนั้นเลย แค่ขอไปกินข้าวกับมันเอง"

"กูไม่โกรธเรื่องที่มึงไปกินข้าว" มันตอบกลับมาหน้าบึ้ง "กูโกรธที่มึงเอาถุงยางกูไปใช้กับไอ้สิงหมด"

"ว้ายๆๆๆ " ดนัยกรีดร้อง "มึงคบกับมันกี่วัน เรียบร้อยกันไปแล้ว ทำไมใจเร็วแบบนี้วะเพื่อนกู"

"เอ่อ...ไอ้เป้..คือกู.." อัธพลเม้มปากแน่นเมื่อโดนจับได้ เอ่ยตะกุกตะกักอย่างไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เขาก็ใจเร็วอย่างที่ไอ้เดี่ยวมันว่านั่นแหละ ก็สมแล้วที่ไอ้เป้มันจะโกรธ

"นั่นกลิ่นสตอเบอรี่ของโอกาโมโตเลยนะ!!! "

"ห๊ะ? "

"มึงแม่งทำไมไม่ไปซื้อเอง กูอุตส่าห์สั่งมาจากเน็ตจะเอาไปเซอร์ไพรส์ภัทรสักหน่อย" ไอ้เป้ร้องโวยวาย เขาตั้งสติไตร่ตรองอยู่นิดก่อนที่จะเข้าใจว่ามันโกรธเขาเรื่องอะไร

เพื่อนใจง่ายไม่เป็นไร แค่อย่าเอาถุงยางของมันไปก็พอ

"ไอ้เป้ เดี๋ยวๆ มึงช่วยด่าเรื่องมันไปมีอะไรกับไอ้สิงก่อน" ดนัยพยายามตั้งสติเพื่อนสนิทที่ร้องโวยวายว่าไอ้บอลทำเสียแผนวันพรุ่งนี้หมดเลย

"เอ้า กูจะว่ามันทำไม มันก็บอกอยู่ว่าคบกันแล้ว หรือมึงจะบอกว่ามึงกับน้องมิ้งของมึงยังนั่งจ้องตากันอยู่"

"..."

แล้วไอ้เดี่ยวก็เงียบฉับเพราะมันน่ะตัวพ่อเลยแหละ มันโดนไอ้เป้เขกหัวไปที บอกว่าจะโวยวายทำไมก็ไม่รู้ ดีแค่ไหนแล้วที่เพื่อนมึงรู้จักป้องกัน

เอากับพวกมัน คืองงไปหมดแล้วว่าควรจะรู้สึกยังไง ตอนนี้แค่คุยกันเรื่องอะไรยังไม่รู้เลย!





"แล้วตกลงกับไอ้สิงนี่เป็นไงมาไง" เมื่ออัธพลอาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็มานั่งตรงระเบียงรับลมกับเพื่อนที่นั่งกินเบียร์กันอยู่ก่อนแล้ว

ตอนที่ไอ้เดี่ยวยื่นกระป๋องเบียร์เย็นๆ ให้ จู่ๆ ก็อุ่นที่ใจ เพราะมันก็นานแล้วเหมือนกันนะ ที่เราสามคนไม่ได้มานั่งคุยกันแบบนี้ ต่างคนก็ต่างมีชีวิต มีเรื่องของตัวเองให้คิดจนไม่ค่อยมีเวลาให้กันเหมือนก่อน

มันดี ที่เรายังเหมือนเดิม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน

"กูก็ไม่รู้จะเล่ายังไงวะ เอาเป็นว่าเรื่องมันเริ่มวันที่ไปสวนผึ้งแล้วกูเมามาก กูเสือกไปจูบมัน หลังจากนั้นมันก็ตามกูมาเรื่อยๆ "

"เออ เรื่องนั้นไอ้เป้บอกกูแล้ว แต่กูแค่แปลกใจที่มึงตกลงคบกับมันจริงจังถึงขั้นเรียกใครสักคนว่าแฟนได้ไง มึงมันขี้เบื่อ คุยกับใครได้แป๊บๆ ก็เลิก แล้วกับไอ้สิงนี่คือจริงจัง? "

อัธพลเปิดกระป๋องเบียร์ในมือ ยกดื่มไปอึกใหญ่แทนการตอบคำถามในทันที เขาเองก็กำลังคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันเกิดขึ้นเร็วมากก็จริง แต่ที่ตกลงคบกับมันเขาไม่ได้แค่เผลอตัวแน่นอน

"อือ กูจริงจัง" เขาตอบคำถามในที่สุด "กับทุกคนที่ผ่านมากูก็จริงจัง แต่แค่มันไม่เคยมีใครทำให้กูรู้สึกว่ามันจะไปได้ตลอดรอดฝั่งจริงๆ มันยากที่ต้องคอยปรับตัว คอยตามใจคนอื่นอยู่ตลอดเวลา"

"งี้ก็แสดงว่าไอ้สิงมันตามใจมึงอะดิ"

"มันก็ตามใจนั่นแหละ มันไม่เคยพยายามจะเปลี่ยนกูเลย มีแต่มันที่คอยจะปรับตัวเองเพื่อกูตลอด" เขาว่า

"แต่ประเด็นคือ มันเป็นคนแรกที่ทำให้กูรู้สึกว่า ที่จริงการปรับตัวเพื่อใครสักคนมันไม่ได้แย่อย่างที่คิด แค่ได้เห็นมันยิ้ม บางทีมันก็คุ้มแล้วที่จะลองทำในสิ่งที่เคยคิดว่าไม่อยากทำ"

อัธพลไม่รู้ว่าหน้าตาเขาดูอินเลิฟขนาดไหน มันคงจะมากอยู่พอตัวเพราะว่าเพื่อนสนิทที่นั่งฟังเขาอยู่ทั้งสองคนนั่งอึ้งตาค้าง เขาใช้กระป๋องเบียร์เคาะกระโหลกมันไปคนละที

เขินเหมือนกันนะ ต้องมานั่งอวยไอ้สิงแบบนี้

แต่ความรู้สึกของเขาที่มีต่อมันก็ชัดเจนมากจนไม่มีอะไรให้สงสัย รู้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่ารักครั้งนี้มันใช่รักแท้ที่จะคงอยู่ตลอดไปหรือเปล่า แต่เขาเองก็รู้ดีและแน่ใจเหมือนกันว่า

ในเวลาที่ยังมีรักนี้อยู่กับตัว มันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเขาช่วงหนึ่งเลยแหละ

"เห้ย ภัทรโดนใครหอมแก้มวะ" บทสนทนาเปลี่ยนไปในทันทีที่ไอ้เดี่ยวโชว์อะไรบางอย่างจากโทรศัพท์

ในเฟสบุ๊คมีวีดีโอของภัทรโดนใครอีกคนหอมแก้ม แต่ดูก็รู้ว่ามันเป็นแค่การหยอกเล่นกันของเพื่อนเฉยๆ

"เฮ้ย ไอ้เป้ มึงจะลุกไปไหน! " แต่คนที่ขึ้หึงยิ่งกว่าอะไรก็หึงจนหน้ามืดตามัว ไอ้เป้หน้าบึ้งหนักให้อัธพลต้องรั้งมันให้นั่งลงที่เดิม

"มึงรู้จักคนที่หอมเขาไหม ดูก็รู้ว่าเล่นกัน"

"รู้จัก เพื่อนสนิทภัทรชื่อร่ม! แต่กูไม่ยอม ใครหน้าไหนก็หอมภัทรไม่ได้! เล่นก็ไม่ได้! แล้วคืนนี้ร่มจะมานอนห้องด้วย กูต้องกลับไปดู! "

"ไอ้เป้พอเลย มึงจะขนาดนี้ไม่ได้นะ ภัทรเขาจะอึดอัดเอา"

พอเขาเริ่มเตือนมันจริงจังมันก็นิ่งฟัง อัธพลอมยิ้ม พอเอาชื่อภัทรมาขู่แม่งอยู่หมัดได้ใจเลยจริงๆ

"เดี๋ยวค่อยกลับมึง ให้เขาได้อยู่กับเพื่อนเขาบ้าง มึงรู้จักมะ พื้นที่ส่วนตัวน่ะ"

"..."

"แหม เดี๋ยวนี้ทำไมทำตัวเป็นกูรูความรัก" พอไอ้เป้กอดอกหน้างอ ไอ้เดี่ยวก็พูดแซวขึ้นมา

"กูรูอะไรวะ กูก็แค่พูดความจริง"

"เออ กูขอให้สิงมันโดนเล่นหอมแก้มบ้าง" ปณวัชเอ่ยกระแทกกระทั้น

"อ๋อ ไม่ต้องขอหรอก ไอ้เหี้ยสิงมันเล่นหอมแก้มเขาไปทั่วนั่นแหละ กูยังเคยโดนเลย"

"เมื่อไหร่ ที่ไหน มึงเล่าให้กูฟังแบบละเอียดๆ ดิ" แล้วปณวัชก็ก่อกองไฟสำเร็จ

ทำมาเป็นพูดดีนะไอ้บอล รอบนี้กูจะเอาให้หึงจนหัวร้อนเลย

"อย่าถามว่าเมื่อไหร่ ให้ถามว่าจะหยุดไหม"

"มึงเล่ามา! เอาตั้งแต่ครั้งแรกเลยนะ"

"เริ่มจากครั้งล่าสุดได้ไหม กูไม่มั่นใจว่าครั้งแรกมันคือตอนไหน มันเยอะมาก"

"ไอ้เหี้ยสิง มึงตาย! "





"ฮัดชิ่วววววว! "

แล้วคนที่กำลังขับรถไปวนส่งเพื่อนน้องก็จามออกมาไม่หยุด เป็นอะไรก็ไม่รู้ แอร์ก็ไม่ได้เย็นเท่าไหร่แต่เขากลับขนลุกซู่ จู่ๆ ทำไมเสียวสันหลังขึ้นมาได้

ลางสังหรณ์มันไม่ดีชอบกล เหมือนจะมีเรื่องอะไรให้ปวดหัวยังไงยังงั้น

"เฮ้ย ไม่เอาน่า" ส่ายหัวเรียกสติตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังไปได้สวยแท้ๆ คอนเสิร์ตก็ผ่านไปด้วยดี มีแฟนแฟนก็รักก็หลง

คิดมากอะไรวะไอ้สิง

คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง





૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

บางทีก็ปวดหัวกับปณวัช รักภัทรที่หนึ่ง แกล้งเพื่อนที่สอง งอแงที่สาม 555

รักเพื่อนกลุ่มนี้ไม่แพ้กลุ่มของพี่ดินพี่ต้นพี่แทนเลย อยากจะเขียนให้ครบ แต่น้องเดี่ยวเขาแน่นอนมาตั้งแต่แรกแล้วว่าน้องไม่ใช่สายวาย เราก็จะไม่บังคับใจใครแม้น้องจะหล่อ จะสูง จะละมุนที่สุดในกลุ่มจนอยากจะให้มีคู่ก็เถอะ //เสียดาย งือ
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 08 เพราะเธอคนแรก ที่ฉันให้ความรัก
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-06-2020 19:23:40
อะไรๆ ก็ดูดีไปหมด
เหม็นความรักอ่ะ

งุ๊ยยยยยยย อิจฉา
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 08 เพราะเธอคนแรก ที่ฉันให้ความรัก
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-06-2020 00:03:44
 :katai3:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 09 อยากจะขอเพียงอยากจะขอ แค่นิ้วก้อยเธอ
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 09-06-2020 11:28:30
#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

09

อยากจะขอ เพียงอยากจะขอแค่นิ้วก้อยเธอ







'ดังชั่วข้ามคืน'

ถ้าจะใช้คำๆ นี้กับคนตรงหน้า เขาก็คิดว่ามันคงไม่ผิดเพี้ยนไปจากความจริงสักเท่าไหร่

ใครจะรู้ว่าแค่มันขึ้นไปร้องเพลงเปิดงานแค่เพลงเดียว สิงมันจะมีคนให้ความสนใจได้มากมายขนาดนี้

นอกจากจะมียอดไลค์ยอดฟอลโล่ในโซเชียลมีเดียที่พุ่งพรวดจากหลักพันเป็นหลักหมื่นภายในไม่กี่วัน ยังมีคนมาติดต่อให้สิงมันไปถ่ายแบบ เล่นมิวสิควีดีโอนั่นนี่เต็มไปหมด เรียกว่าตอนนี้มันกลายเป็นหนึ่งในคนดังของคณะไปเรียบร้อยแล้ว

"ยังงอนกูอยู่เหรอ"

"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้งอน ไม่เคยงอนด้วย"

ในโรงอาหารข้างคณะตอนเที่ยงวัน มันเป็นเหมือนเคยที่วันนี้สิงหาก็ไปรับใครอีกคนมานั่งกินข้าวด้วยกันกับพวกเขา 

ที่จริงอัธพลเองก็มีเวสป้าคันโปรดที่เมื่อก่อนใช้ไปไหนมาไหนอยู่ตลอด แต่ตั้งแต่เริ่มมีไอ้สิงเข้ามาในชีวิต มันก็เหมือนว่ารถคันโก้ของเขาจะโดนปล่อยทิ้งร้างไว้ที่ลานจอดมอเตอร์ไซค์หน้าหอจนหยากไย่ขึ้นไปแล้ว

“แล้วทำไมไม่คุยกับกูเลย”

“ก็คุยอยู่นี่ไง”

“ไม่ใช่แบบนี้ดิ หน้ากูมึงก็ไม่ยอมมอง”

“ก็กูกินข้าวอยู่”

“...” สิงหาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เขานั่งมองคนที่ตักข้าวเข้าปากครั้งแล้วครั้งเล่า เคี้ยวตุ้ยๆโดยไม่คิดจะหันมาสนใจหน้าหงอยๆ ของเขาเลยสักนิด

เมื่อถอดใจแล้วว่าพูดยังไงไอ้บอลก็คงไม่ยอมดีด้วย เขาก็เลยเลิกล้มความพยายามหันมาเริ่มตักข้าวเข้าปากตัวเองบ้าง

คุยไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เผลอๆไปกวนมันตอนกินข้าวจะเจอหนักกว่าเดิมเสียอีก

สิงหาไม่ลืมที่จะส่งสายตาเคียดแค้นไปให้คนที่นั่งยิ้มแห้ง ส่งสายตาขอโทษขอโพยมาที่เขาอยู่ข้างๆ ไอ้โย

ไอ้หมาเป้ เพราะมัน มันทั้งนั้น

ก็หลังจากงานคอนเสิร์ตคืนนั้น วันรุ่งขึ้นพอเขาตั้งใจว่าจะไปหาไอ้บอลเพราะจะรับไปกินข้าวมันก็ดันงอนเขาไปแล้ว

ก็ไอ้เป้มันเสือกไปเล่าให้บอลฟังว่าเขาชอบแหย่ ชอบจูบเพื่อนเล่นไปทั่ว แถมยังชอบเล่นมุกจีบสาวกับเพื่อนในคณะอีกต่างหาก

ถึงจะจริงก็เถอะ แต่นั่นมันก็แค่หยอกกันเล่นขำๆไง ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้คิดอะไรกันสักหน่อย แล้วไอ้เป้นะไอ้เป้ มันก็รู้ว่าไอ้บอลขี้หึงขนาดไหน ยังจะมาป่วนชวนให้เขาหัวแตกอีก

จะว่าไป

มันจะดีกว่านี้เสียอีกถ้าไอ้บอลทำเขาหัวแตกซะให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ต้องมาทนเห็นมันนั่งเงียบทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนอยู่แบบนี้

บอกเลยว่าสิงหาเครียด

อย่างวันนี้กว่ามันจะยอมขึ้นรถมากินข้าวด้วยกัน เขาถึงกับต้องทำใจกล้าเดินเข้าไปหามันกลางหมู่ชาววิดวะ ออกปากชวนมันต่อหน้าพี่ๆ เพื่อนๆ มันถึงยอมออกมาด้วยกันกับเขาแบบนี้

“กูจะไม่ทำอีกแล้ว”

“สิง กูมากินข้าว ขอกูแค่กินข้าวได้ไหม”

“...” อัธพลลอบมองคนที่ยอมหุบปากลงอีกครั้ง หันไปสบสายตากับไอ้เป้ที่ทำหน้าเว้าวอนให้เห็นใจเพื่อนมันบ้าง

เขาส่ายหัวเป็นการปฏิเสธ ที่จริงเขาน่ะ แพ้ลูกอ้อนของมันจะตาย แต่รอบนี้จะดีจะร้ายเขาจะไม่ยอมคืนดีกับมันง่ายๆหรอกนะ

“เอ่อ..ขอโทษนะคะ” แล้วทั้งโต๊ะก็หันไปมองตามเสียงที่ดังขึ้น พวกเขาทั้งหมดเห็นนักศึกษาหญิงสองคนยืนเก้ๆกังๆ อยู่ที่ข้างโต๊ะกินข้าวของพวกเขา สายตาของพวกเธอบ่งบอกชัดเจนว่าต้องการมาหาใคร

ก็จะใครที่ไหน ไอ้คนที่นั่งซึมเพราะแฟนไม่ยอมคุยด้วยนั่นไงล่ะ

“ไม่ทราบว่าสิงสะดวกหรือเปล่าคะ ขอคุยด้วยแป๊บนึงได้ไหมคะ”

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก

สิงหายิ้มเจื่อนให้คนที่มาใหม่ทั้งสอง เขาใช้หางตาลอบมองคนที่นั่งข้างตัวเขา ตอนนี้มันยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเหมือนไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นบนโต๊ะเลยสักนิด

“ถ้าไม่สะดวกเรารอได้นะคะ เรามาจากคณะนิเทศน่ะค่ะ อยากมาติดต่อเรื่องงาน ขอโทษที่มารบกวนตอนทานข้าวนะคะ” เธอคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาเมื่อคนที่ตั้งใจมาหาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธกลับสักที

“เอ่อ..ถ้าไม่นานก็พอคุยได้ครับ” ทั้งๆ ที่ยังหวั่นๆ แต่สิงหาก็ตัดสินใจตอบกลับไปแบบนั้น

มันไม่ใช่ว่าเขาสนใจอะไร แต่เขาแค่เห็นใจเธอทั้งสองคนที่อุตส่าห์ใช้ความกล้าทั้งหมดเข้ามาถามเขากลางโรงอาหาร และตอนนี้คนก็มองอยู่เยอะแยะ ถ้าปล่อยกลับไปแบบนั้น มันจะยิ่งทำให้พวกเธอเสียหน้ากว่าเดิมไปเสียอีก

“งั้นออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะ”

ขวับ!

และในทันทีที่เขาตั้งท่าจะลุกจากโต๊ะไอ้บอลก็หันมามองตาขวาง หน้าตาที่เก็บอารมณ์ไม่เคยได้ของมันทำให้เขารู้ว่ามันฉุนหนักกว่าเดิมไปเสียแล้ว

“เดี๋ยวกูมานะ” อดไม่ได้ที่จะบอกทั้งๆ ที่มันก็คงรู้อยู่แล้ว มันเม้มปากแน่นอย่างไม่พอใจ  ฮึดฮัดนิดหน่อยก่อนจะก้มลงไปมองโทรศัพท์อีกครั้งโดยไม่พูดอะไรกลับมาเลย

“มึง สงสารไอ้สิงหน่อยดิวะ” แล้วก็เป็นไอ้เป้ที่เริ่มทำตัวเป็นทนายให้เพื่อน อัธพลอยากจะด่ามันนัก ก็มึงนั่นแหละที่ยั่วกูซะกูขึ้นขนาดนี้

“เออ กูผิดเอง กูแค่จะแกล้งมึงเล่นไง ไม่รู้ว่ามึงจะโกรธจริงจังอะไรขนาดนี้”

“กูก็ไม่ได้โกรธมันขนาดนั้น" เขาว่า

"แต่ก็แค่อยากให้มันรู้ว่าบางเรื่องมันไม่ได้จริงๆ แค่ล้อเล่นกูก็ไม่เอา” ตาคมยังมองตามแผ่นหลังที่เคลื่อนไหวไปมาของใครบางคน

“แล้วดูมันดิ ระริกระรี้อย่างกับปลากะหรี่ได้น้ำ”

"กระดี่มึง กระดี่ ใจเย็นนิดนึงเนอะ"

"เออ ก็นั่นแหละ" ไม่รู้ว่ามันไปพูดกระล่อน เล่นมุกอะไรให้เขาฟัง สองสาวถึงได้หัวเราะเหมือนกำลังดูตลกคาเฟ่อยู่แบบนั้น

“มันก็แค่รักษามารยาทเปล่ามึง”

“เงียบไปเลยไอ้โย อย่าให้กุโมโหมึงด้วย นาทีนี้ใครแก้ตัวแทนไอ้สิงก็มาต่อยกับกูเลย”

แล้วโยที่มากับเป้ และก็มากับสิง ก็สงบปากสงบคำทันที อุตส่าห์นั่งเงียบมาได้ตั้งนาน มีบทพูดทีเกือบไม่มีปากเหลือให้กินข้าวแล้ว



“คือยังไงขอเบอร์ติดต่อไว้ก่อนได้ไหม เดี๋ยวพวกเราส่งรายละเอียดมาให้ดูเพิ่มเติมเผื่อสิงจะเปลี่ยนใจเนอะ”

“...”

อัธพลไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าทำไมจังหวะมันถึงได้ดูเหมือนเรากำลังอยู่ในซิทคอมมากขนาดนี้

ในตอนที่พวกเขาเดินออกจากโรงอาหารเพื่อมาหามันที่ยังคุยไม่เสร็จสักทีที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ประโยคแรกที่ดันมาได้ยินกลับทำให้หัวที่ร้อนอยู่แล้วยิ่งร้อนหนักกว่าเดิมเสียอีก

“ไอ้สิง” และก่อนที่สิงหาจะได้มีโอกาสตอบรับหรือปฏิเสธอีกฝ่ายออกไป ก็เป็นปณวัชที่มาเรียกให้เขาต้องหันหลังมามอง

“อ้าว กินเสร็จกันแล้วหรอ”

“เออ แล้วมึงล่ะ ยังไม่เสร็จธุระเหรอ” พูดไปก็ทำตาโตจิกใส่เพื่อนเป็นสัญญาณ

ไอ้สิง กูช่วยมึงเต็มที่แล้วนะ รีบหน่อยสิไอ้ควาย!

“ไอ้เป้ งั้นกูกลับก่อนนะ รถรางจะมาแล้ว” อัธพลว่าขึ้นเพราะเขาอยากเดินออกไปจากตรงนี้เต็มทีแล้ว แม่งอยากจะทำอะไรก็ทำไปเหอะ จะแลกเบอร์แลกห้องกับใครที่ไหนก็ไปไกลๆ ตีนเขาเลย

หมับ

“บอล รอกูก่อน” ยังไม่ทันได้เดินออกมาสมใจ ไอ้สิงก็มาจับข้อมือเขาดึงไว้พร้อมกระซิบเบาๆ ขึงตาจ้องมาที่เขาเหมือนจะบอกว่าอย่างอแง ก่อนจะหันไปหาคนที่ยืนคุยกับมันก่อนหน้านี้

“ขอโทษทีนะครับ แต่ผมคงไม่เปลี่ยนใจ ยังไงขอบคุณมากเลยนะที่อุตส่าห์มาชวน” เธอสองคนทำหน้าเสียดายนิดหน่อย แต่เมื่อเจ้าตัวยืนยันแบบนั้นก็ไม่อาจดันทุรังต่อไปได้ จำใจบอกลาก่อนจะเดินกลับไปทางโรงอาหารที่พวกเขาเคยนั่งกินข้าว

“ปล่อย”

“เดี๋ยวกูไปส่ง”

“ไม่ กูจะกลับเอง”

“ไอ้บอลมีเหตุผลหน่อยดิวะ” อัธพลหันขวับไปมองหน้ามันเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ประโยคนี้อีกแล้ว

เหตุผลหรอวะ ได้!

“ไอ้โย”

“คะ ครับ เอ่อ ว่าไงวะ”

“มานี่ดิ๊ ไอ้เป้มึงด้วย”

แล้วเพื่อนทั้งสองคนก็เดินมายืนข้างไอ้บอลอย่างงงๆ เมื่อมันยื่นหน้ามาเหมือนกับจะกระซิบ พวกเขาก็เลยยื่นหน้าเข้าไปฟังมันบ้าง

จุ๊บ....โยธาที่แก้ม

จุ๊บ....ปวัชที่ปาก

“เห้ย ไอ้ห่าบอลลลล มึงทำเหี้ยไรเนี้ย”

ไม่ไช่คนที่โดนขโมยจูบที่ร้องโวยวายออกมาเสียงดัง แต่เป็นสิงหาที่เดินเข้ามาผลักไอ้สองคนที่ยังตะลึงค้างนิ่งพร้อมดึงไอ้บอลเข้าหาตัว ใช้หลังมือตัวเองถูที่ริมฝีปากของมันซ้ำๆ เหมือนเป็นการลบรอยจูบที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ

"ไอ้ห่าบอล ไอ้ห่าบอล!!! ความบริสุทธิ์ของแก้มกู!!!!"

"มึงจะเล่นก็เล่นที่แก้มดิวะ จะจูบปากกูทำไม นั่นมันของภัทรนะ!!!" ไอ้สองคนที่เหลือ พอได้สติก็ร้องด่าไอ้บอลกันใหญ่

"พวกมึงกลับไปก่อนได้ไหมวะ กูจัดการมันเอง" สิงหาพูดขึ้นเสียงแข็ง เพื่อนอีกสองคนที่สัมผัสได้ว่ามันกำลังโมโหเลยตอบตกลงแล้วยกมือลาไอ้บอลพร้อมกับชี้หน้าด่ามันไปพลาง

เมื่อทุกคนไปหมดแล้ว เขาก็หันกลับมาที่ตัวปัญหา มันยังคงทำหน้าท้าทายเขาไม่เลิก

ไอ้ตัวแสบ!

“กูก็แค่หยอกกับเพื่อนเล่น”

“โอ้ยยย โอเคครับ เห็นภาพแล้วครับ เข้าใจทุกอย่างแล้วครับ อย่าทำแบบนี้เลยได้ไหม สิงสิงผิดเอง ผิดหมดเลยทุกอย่าง”

แล้วคนที่ทำเป็นโกรธก็หงอเป็นหมาเหงา ต่อหน้าเพื่อนคนอื่นก็ทำเข้มไปงั้น ที่จริงเทิดทูนเหนือหัวขนาดนี้จะกล้าต่อกรด้วยได้ไง

อัธพลหลุดขำ สมน้ำหน้าแม่ง ชอบมากใช่ไหมอะไรแบบนี้ เห็นเป็นแค่เรื่องล้อเล่นใช่ไหม เป็นไงล่ะมึง

“ถ้ากูรู้ว่ามึงไปเที่ยวไล่จูบปากใครอีก กูก็จะจูบคืน เอาให้ทั่วทั้งคณะมึงเลยนั่นแหละ”

“โอ๊ย กลัวแล้วคร้าบ ไม่เอาเนาะ เค้าหึงเค้าหวง อย่าทำแบบนี้ดิตะเอง~”

“เออ เอาเป็นว่าเรื่องนี้หายกันแล้วนะ แล้วเมื่อกี้นี่คืออะไร”

“ไม่มีอะไรเลย เขาแค่มาชวนไปเล่นหนังสั้น แต่กูปฏิเสธไปแล้ว” สิงหารีบพูดจนจบประโยคเพราะไอ้บอลตั้งท่าจะอ้าปากโวยวายอีกแล้ว

“ถ้ามึงอยากทำกูก็ไม่ได้จะห้าม...” มันพึมพำออกมาไม่เต็มปากเต็มคำนัก ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้เขาตอบตกลง แต่ก็พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ทำตัวงี่เง่าใส่

“รู้ ยังไงถ้าอันไหนอยากทำจริงๆ จะมาปรึกษาบอลบอลก่อนเนอะ”

“อืม...” ได้แต่ตอบกลับไปสั้นๆ แบบนั้นเพราะกำลังเขินอยู่

"ให้สิงสิงไปส่งเนอะ"

"อืม..."

“ขอโทษนะครับ..”

ในตอนที่กำลังจะพยักหน้ารับให้มันไปส่ง ก็ต้องชะงักเพราะมีเสียงไม่คุ้นหูแทรกขึ้นมา ทั้งสองคนหันไปมองคนที่มาใหม่ ดูทรงแล้วอีกฝ่ายน่าจะเป็นรุ่นเดียวกันกับพวกเขา 

เจ้าตัวดูตัวเล็กกว่าเขาทั้งคู่อยู่มาก หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ผิวพรรณขาวนวลเหมือนเด็กผู้หญิง แน่นอนว่าตากลมโตของอีกฝ่ายกำลังจับจ้องอยู่ที่สิงหา

อัธพลท่องพุทธโธในใจสามครั้ง พยายามบอกตัวเองให้มีสติ เขาอาจจะมาคุยกับมันเรื่องงานอีกก็ได้

“ชอบครับ ขอแลกไลน์ได้ไหมครับ”

แล้วสิงหาก็เหมือนคนดูดวงเป็น เขามันคนชะตาขาด คงมีชีวิตอยู่ไม่ได้นานนัก ตอนนี้ร่างกายของเขาไม่มีส่วนไหนที่ขยับได้เลย จึงทำได้แต่มองตามไอ้บอลที่สลัดแขนออกจากมือหนาของเขาแล้วเดินหนีออกไปเร็วๆ

แน่นอนว่ามันไม่ลืมที่จะตะโกนบอกลาเขาก่อนไปอยู่แล้ว

“ไปตายซะไอ้สิง”

ไปลามาไหว้ตลอดแหละคนนี้..



แล้วการย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันก็โดนเลื่อนออกไปหนึ่งอาทิตย์ ไม่ใช่ว่ายังมีอะไรไม่พร้อม คือที่จริงตอนนี้เป้มันก็ย้ายออกไปอยู่กับภัทรเรียบร้อยแล้ว แค่อัธพลยังไม่อนุญาตให้ใครอีกคนย้ายของเข้ามาอยู่ด้วยกันต่างหาก

แกร๊ก

ในตอนเช้าของวันเสาร์ที่เขากำลังนอนขี้เกียจอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงไขกุญแจพร้อมกับประตูห้องที่เปิดออก ตอนแรกเขานึกว่าเป็นไอ้เป้ที่กลับมาหา แต่พออีกฝ่ายเข้ามาถึงได้รู้ว่าคนที่มาใหม่มันคือไอ้สิง

“มึงมาทำไม”

“ก็จะมานอนกับแฟนคืนนี้ เนี้ย..ขนข้าวของมาแล้วเรียบร้อย” พูดไปก็ตบกระเป๋าสะพายข้างที่อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายดูอย่างภาคภูมิใจ

“ออกไป” ตะโกนพร้อมโยนหมอนใส่คนที่เอ่ยไล่ ไอ้สิงใช้แขนกันไว้ได้ก่อนอย่างเฉียดฉิว

“โห ตะเอง”

“กูบอกให้ออกไป กูไม่อยากจะคุยกับมึง”

“โห ไอ้บอล มึงจะโกรธกูไปถึงเมื่อไหร่ คุยกับกูดีๆ ไม่ได้หรือไง”

“ไม่คุย คนอย่างมึงมีคนเขารอคุยด้วยเยอะแยะ อยากไปคุยกับใครก็ไปเลยดิ"

"มึงแน่ใจนะว่ามึงจะให้กูไป" ในที่สุดคนที่ตามง้อเขามาทั้งอาทิตย์ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ผิดก็หมดความอดทน

หึงก็ยอม งอนก็จะง้อ แต่นี่มันก็เกินไปปะวะ

"..."

"มึงลองคิดดูดีๆ กูเข้าใจที่มึงหึงเลยพยายามง้อมาตลอด แต่มึงก็เห็นใจกูบ้างดิ" สิงหาเริ่มเล่นบทโศกเกินจริง เพราะไอ้บอลมันดูเหมือนจะเริ่มอ่อนลงแล้ว

"มึงแคร์กูสักนิดไหม เหมือนกูพยายามอยู่ข้างเดียวตลอด โดนไล่บ่อยๆกูก็หมดกำลังใจเหมือนกันนะ"

อัธพลกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ลงคอ จากที่เคยเบือนหน้าหนีมัน ตอนนี้เขาค่อยๆหันกลับมามองทีละนิด ก็รู้ตัวแหละว่าโมโหมันเกินเหตุ แต่มันไม่รู้นี่น่าว่าจะหายงอนยังไงให้ดูดี

"ถ้ามึงไล่กูอีกครั้งกูจะไปจริงๆแล้วนะ"

"ถ้ามึงไป มึงก็ไม่ต้องกลับมาหากูอีกเลย" คนที่ใจแป้วไปแล้วกับประโยคสุดท้ายพยายามอย่างเต็มที่ที่จะง้ออย่างมีสไตล์ ง้อยังไงไม่ให้มันรู้ว่าง้อ 

"ถ้ามึงตั้งใจง้อวันนี้ กูจะยอมคืนดีด้วยก็ได้" สิงหายิ้มกว้างเมื่ออัธพลทำปากยื่นว่าอย่างนั้น เขารีบเดินตรงเข้ามาหามันที่เตียง นั่งลงข้างๆพร้อมอ้าแขนโอบรัดอีกฝ่ายแรงๆ

"สิงสิงจะตั้งใจง้อที่สุดเลย แต่ตอนนี้ขอกอดบอลบอลก่อนได้ไหม คิดถึงไม่ไหวแล้ว" สิงหาคลอเคลียคนที่ยังนั่งนิ่งไม่ยอมกอดตอบ แต่แค่มันไม่ผลักเขาออก มันก็ดีมากเหลือเกินแล้ว นี่ไม่ได้กอดมันมาเป็นอาทิตย์ เขาจะลงแดงตายอยู่แล้วนะ

"กินข้าวเช้ายัง" มันส่ายหน้าแทนคำตอบ เขาก็ว่าแล้วตอนกอดมันทำไมดูพุงแฟ่บๆ แถมมีเสียงดังออกมาเป็นระยะอีกด้วย

"เดี๋ยววันนี้กูทำให้กินนะ มึงอยากกินอะไร"

"อยากกินข้าวผัด" อัธพลตอบเสียงดังฟังชัด พอเป็นเรื่องกินที่ไรแม่งให้ความร่วมมือดีที่หนึ่งล่ะ

"โอเค งั้นกูไปดูก่อนว่าในตู้เย็นมีอะไรบ้าง ถ้าของไม่พอกูจะได้ลงไปซื้อ" 

มันว่าพร้อมลุกขึ้นไปก้มๆเงยๆมองของในตู้เย็น เสร็จแล้วก็เดินไปหุงข้าวก่อนจะหันมาสบตากับเขาที่นั่งจ้องมันอยู่จนหลบสายตาแทบไม่ทัน

"กูลงไปซื้อของก่อนนะ เอาอะไรปะ" มันเดินกลับมานั่งลงข้างเขาอีกครั้ง เอามือยกขึ้นลูบผมเบาๆก่อนที่จะเอ่ยถาม เมื่อเขาส่ายหน้าปฏิเสธมันก็เลยเป็นคนว่าต่อเอง

"งั้นกูซื้อข้าวเกียบกุ้งกับของกินเล่นอีกสองสามอย่างขึ้นมาก็แล้วกัน กินเป๊ปซี่ปะ ไม่เอาดีกว่าเนอะ เดี๋ยวกูซื้อนมขึ้นมาให้" ถามเองตอบเองเมื่ออัธพลยังนั่งเงียบกริบ สิงหาเอามือที่เคยใช้ลูบผมเลื่อนมาที่แก้ม หยิกเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวคนที่ยังทำแก้มป่องอยู่นั่น

หมับ!

ไอ้บอลดึงชายเสื้อของเขาไว้ในตอนที่สิงหาตั้งใจจะผละไปทางประตูห้อง เขาหันหลังกลับไปมอง เมื่อเห็นมันมองเขาหน้านิ่งแปลกๆ เหมือนมีอะไรจะพูด ก็เลยตัดสินใจนั่งลงข้างมันอีกครั้ง

"ว่า? " เลิกคิ้วถามเพราะมันไม่ยอมพูดออกมาสักที "มึงอยากได้อะไรเพิ่มหรอ"

มันส่ายหน้าปฏิเสธในทันที ก่อนจะอ้ำๆ อึ้งๆ พูดออกมาในที่สุด

"กูดูงี่เง่ามากเลยใช่ไหม" มันเริ่มต้นว่า "ถ้ากูไล่มึงไป มึงจะไปจริงๆหรอวะ"

สิงหาอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม ใจที่เหี่ยวแห้งมาหลายวันเหมือนโดนรดน้ำพรวนดิน ก็รู้ว่ามันไม่ได้คิดจะไล่กันจริงหรอก ไอ้บอลก็เป็นคนปากแข็งแบบนี้ แต่พอโดนหลายๆทีเข้า จะบอกว่าไม่ท้อเลยก็ดูจะเป็นคนเหล็กเกินไป

"กูก็จะไปจริงๆ" หัวเราะเพราะทำมันหน้าบึ้งกว่าเดิม สิงหาทนไม่ไหวรวบเอวใครอีกคนเข้ามากอดแน่น "แต่กูก็จะกลับมา"

"..."

"กูก็แค่น้อยใจที่มึงไล่กูอยู่นั่น เห็นกูแบบนี้กูก็เสียใจเป็นนะ"

จุ๊บ

แล้วอัธพลก็ยื่นหน้าไปจุ๊บปากคนที่บอกว่าน้อยใจเป็น ช่างมันหมดแล้วไอ้ศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้ ทั้งๆที่เขาทำตัวงี่เง่าขนาดนี้มันยังมาง้อ แล้วแค่นี้ทำไมเขาจะง้อมันกลับไม่ได้

"กูขอโทษ" อัธพลพึมพำเบาๆ "ก็กูหึง กูหวง มึงชอบทำดีกับคนไปทั่ว แล้วคนก็มาสนใจมึงเยอะ กูก็ทนไม่ไหวสิวะ"

อัธพลว่าต่อ

"คบกันปุ๊บ จู่ๆมึงก็ดังขนาดนี้ กูจะรู้ได้ไงว่ามึงจะไม่ทิ้งกู คนเข้ามาหามึงมีแต่คนหน้าตาดีๆ ถ้าเป็นกูกูต้องเขวแน่ๆ" แล้วอัธพลก็โดนเขกกระโหลกเพราะประโยคสุดท้าย

"มึงลองเขวดิ มึงได้ตายคาอกกูแน่"

"กูอยากตายคาอกมึง"

สิงหาอ้าปากค้างที่จู่ๆมันก็รับมุก

"บอลบอลอยากตายคาอกสิงสิง"

ทั้งคู่หลุดหัวเราะเสียงดังเมื่อประโยคออดอ้อนที่ไม่มีส่วนไหนเข้ากับพวกเขาเลยสักนิดถูกพูดขึ้นมา จู่ๆความรู้สึกหนักอึ้งทั้งหมดที่มีมาตลอดสัปดาห์ก็จางหายอย่างง่ายดายในชั่วพริบตา

อัธพลยกยิ้ม

ที่จริงเวลาที่ไอ้สิงมันยอมง้อเขาแบบนี้ ต้องยอมรับว่ามันรู้สึกดีมากจริงๆ มันจะไม่ดีได้ไง มีคนมาคอยตามใจ คอยใส่ใจทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ไม่เคยขัดเลยสักนิด

แต่มันจะดียิ่งกว่านี้หรือเปล่านะ

ที่ไม่ใช่แค่ 'ตัวเขา' แต่เป็น 'เรา' ที่มีความสุขด้วยกันทั้งคู่

ไม่ต้องโกรธให้ง้อ แต่ลองพูดคุยกันเพื่อเรียนรู้และปรับตัวเข้าหา

ไม่ต้องทำในทุกสิ่งที่อยากทำตลอดเวลา แต่มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ทำให้ใครอีกคนมีความสุข

การทำเพื่อใครโดยไม่ต้องฝืน

การยอมเสียสละโดยที่อีกคนไม่ร้องขอ

นี่แหละมั้ง

สิ่งที่ใครเขาเรียกว่าความรัก

"เกี่ยวก้อยดีกันก่อนเร็ว"

แล้วนิ้วก้อยหนาๆของคนสองคนก็คล้องเกี่ยวกัน มันทำเขาเขินนิดๆ ถ้าใครมาเห็นก็คงหัวเราะที่เห็นผู้ชายตัวโตๆมาทำอะไรกันแบบนี้

แต่ไม่สำคัญหรอก

ถ้ามันเป็นความสุขของเขาทั้งคู่แล้ว เขาก็ไม่สนหรอกว่าใครจะว่าหรือคิดยังไง

"งั้นกินกูก่อนกินข้าวไหม"

"กูก็อยากนะ แต่ขอกูกินข้าวก่อนเหอะ แล้วกูจะให้มึงกินกูเท่าที่มึงอยากกินเลย"

"ลูกผู้ชายไม่คืนคำนะครับ มึงเจอกูแน่ ฟ้าไม่มืดอย่าเรียกกูเสือสิง"

"โอ๊ย ก็มาดิครับ มัวแต่โม้อยู่ได้ แล้วมาเจอกันว่าใครเสือใครหมา ถ้าวันนี้น้องไม่ท้องอย่ามามองหน้ากัน"

แล้วสิงหาก็รีบวิ่งปู้ดไปที่ประตูเพื่อลงไปซื้อของมาบำรุงกำลังให้คู่ต่อสู้

กูจะขุนให้เป็นหมูเลย จะได้แรงดีไม่มีตก! 



૮ ꈍﻌ ꈍა♥ (˘ ε˘ U)

#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

อยากเขียนให้คู่นี้จังหวะตึ่งโป๊ะหน่อยๆ มุกมันอาจจะฝืดๆบ้างก็มองข้ามกันไปเนอะ 

ตอนหน้าจบแล้วน้า~ 
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 09 อยากจะขอเพียงอยากจะขอ แค่นิ้วก้อยเธอ
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-06-2020 21:34:23
ขนาดนี้แล้ว ไปบอกพ่อแม่ให้มาสู่ขอเหอะ
ป่าวประกาศให้โลกรู้ว่าได้ผัวได้เมียกัน

พรุ่งนี้เลยเป็นไง
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 09 อยากจะขอเพียงอยากจะขอ แค่นิ้วก้อยเธอ
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-06-2020 22:21:51
 :katai2-1:


ขอมือเธอหน่อย ไว้คอยกระชับให้ชื่นใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 10 เธอเท่านั้น คนเดียวและคนสำคัญ สำหรับฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: Maywrite ที่ 10-06-2020 21:05:53
#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

10

เธอเท่านั้น เธอเท่านั้น คนเดียวและคนสำคัญ สำหรับฉัน




"ในที่สุดก็ได้เข้าหอ"

"หอพัก?"

"หอรักสิค่ะ"

"จ๊ะ แล้วแต่สิงสิงเลยเนอะ"

คนที่ถือลังใบใหญ่ซ้อนกันสองใบยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจเมื่ออัธพลยอมเล่นมุกด้วย เขาเลิกเขินกับมุกควายของมันแล้ว เล่นมาก็ช่วยตบๆให้ ถือว่าเป็นการรักษาน้ำใจคนกล้าเล่น

ก้าวเท้าออกมาเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกกว้าง เขาเดินเร็วๆเพื่อไปเปิดประตูรอใครอีกคน ก่อนจะวางถุงกระดาษในมือที่มีของใช้ของสิงหาเต็มไปหมดลงบนพื้นด้านในห้อง

จะเข้าหอพัก หรือหอรักอย่างที่ไอ้สิงมันเรียก มันก็คือการที่วันนี้ไอ้สิงจะเริ่มมาใช้ชีวิตด้วยกันที่ห้องกับเขา อัธพลยอมรับว่าตัวเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกัน แต่อาการของเขามันคงไม่หนักเท่าไอ้คนที่ร้องเพลงแหกปากอย่างอารมณ์ดีลั่นมาตลอดทางเดิน

"มึงเอาลังวางไว้ตรงนี้นะ เสื้อผ้ามึงก็เอาใส่ตู้ไอ้เป้ได้เลย กูทำความสะอาดให้แล้ว" อัธพลเริ่มอธิบายคร่าวๆ ที่จริงไอ้สิงมันก็มาห้องนี้บ่อยๆอยู่แล้ว เขาเลยไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ เพราะอะไรที่เคยเป็นของไอ้เป้ ตอนนี้มันก็จะเปลี่ยนเป็นของไอ้สิงแค่นั้นเอง

ครืด...ครืด...

"มึงทำอะไรวะ"

"ก็ขยับเตียงมาชิดกันไง" มันว่าพร้อมดันเตียงไอ้เป้ที่ตั้งอยู่ชิดผนังคนละฝั่งกับเขามาตั้งติดกัน

"เอาไว้แบบนี้แหละ กูไม่นอนแยกนะ" ตอนที่จะอ้าปากบอกมันว่าวางแบบนี้ห้องมันจะดูแคบไอ้สิงก็แทรกขึ้นมาก่อน พอเห็นท่าทางที่กระตือรือร้นของมัน เขาก็อดจะใจอ่อนไม่ได้

ยกยิ้มอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยมันดันเตียงอีกแรง ไม่พอเราจัดการย้ายโต๊ะเขียนหนังสือทั้งสองอันไปวางชิดกันแทนที่บริเวณที่เคยเป็นเตียงของไอ้เป้

"สิงสิงเหนื่อย" ยังไม่ทันได้เปิดลังรื้อของออกมาสักชิ้น มันก็ทิ้งตัวลงบนที่นอน ปรับพัดลมของอัธพลให้ไปจ่อที่หน้าตัวเอง

"ไม่ต้องมางอแง ของมึงเยอะแยะ จัดให้เสร็จก่อน"

"จัดตอนเย็นได้ไหม ขอนอนเล่นก่อนแป๊บนึงนะ" ออดอ้อนเพราะว่ารู้สึกเหนื่อยจริงๆ กว่าจะเก็บของเสร็จก็ดึกดื่น แล้วไหนจะขนขึ้นรถ ขนลงรถ ตอนนี้แขนไม่มีแรงเหลือแล้ว

"ไม่ได้" อัธพลว่าพร้อมทิ้งตัวลงมานั่งข้างๆกันกับเขา "ตอนเย็นเป้กับภัทรชวนไปกินสุกี้ที่ห้อง เลี้ยงฉลองที่มึงมาอยู่หอไง"

"ไม่เห็นต้องลำบากกันเลย แล้ววันนี้กูก็ขี้เกียจมากด้วย กูโทรไปยกเลิกกับพวกมันดีกว่า"

"ไม่เอา" ไอ้บอลตะโกนสวนกลับในทันที "กูนี่แหละคนต้นคิด"

"..."

"..."

"บอลบอลบอกสิงสิงมาสิว่าดีใจที่สิงสิงมาอยู่หอด้วยจนอยากจัดงานเลี้ยงต้อนรับ" สิงหาหรี่ตามองคนที่ทำตาล่อกแล่กไปมา

"บอลบอลดีใจที่สิงสิงมาอยู่ด้วยจนอยากเลี้ยงต้อนรับ"

"เอาความจริง"

"กูอยากแดกสุกี้ มึงรีบลุกไปจัดของสักที"

และก็เป็นอันเข้าใจกัน คนที่เคยนอนขี้เกียจก็รีบลุกมาเปิดลังใส่ของ จัดการพับเสื้อผ้าเข้าชั้น เอาอุปกรณ์การเรียนทั้งหมดเรียงอย่างเป็นระเบียบที่โต๊ะเขียนหนังสือ

บ้านของสิงหาที่จริงก็ไม่ได้ไกลจากมหา'ลัยเท่าไหร่นัก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ขนของใช้อะไรมามากมายเท่าไหร่ เพียงเวลาแค่สองชั่วโมง ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเข้าที่เข้าทางในที่สุด

"พอใจยังครับเมีย" สิงหาทรุดตัวนั่งอย่างหมดแรง เพราะเคยอยู่แต่บ้าน อะไรแบบนี้ก็ไม่เคยต้องลงมือทำเองเลยสักครั้ง สิงหาเกลียดการทำงานบ้านที่สุด

แต่นี่อะไรมาอยู่ด้วยกันวันแรกเขาก็เชื่องกับมันขนาดนี้ สั่งอะไรก็ทำ ชี้นิ้วไปทางไหนก็เดินไปทางนั้น แล้วคือไม่ได้ฝืนอะไรเลยนะ ร่างกายมันไปเองเหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ทั้งหมดที่ทำไปเพราะใจสั่งมาทั้งนั้น

อนาคตต้องมาแล้ว ตำแหน่งพ่อบ้านใจกล้ามันต้องมาแล้ว

"ยัง มึงลงไปเอาเสื้อผ้าที่แขวนไว้ในรถมาก่อน" 

"โห ตะเอง~"

"ไม่ต้องมาตะเองเลย จะได้เสร็จสักที"

"..." อยากจะงอแงแต่ก็โดนทำหน้าดุใส่

"เอาเลยครับ รู้ว่าคุมผมได้ ก็เอาใหญ่เลยนะครับ" ยังมีหน้าหัวเราะออกมาอีก เออ แล้วอย่างนี้สิงสิงจะทำอะไรได้นอกจากลุกไปหยิบกุญแจรถแล้วรีบเดินลงไปที่รถ!



ปัง! ปัง!

ในตอนที่เปิดประตูกลับเข้ามาสิงหาก็สะดุ้งโหยงเพราะได้ยินเสียงเหมือนประทัดดังขึ้น หลับตาปี๋เมื่อมีเศษกระดาษหลากหลายสีสันพุ่งมาใส่หน้าเขา

"ไอ้บอล..."

ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เห็นแฟนตัวเองยืนยิ้มกว้าง บนหัวมีหมวกกรวยกระดาษสีทอง ในมือมีพลุดึงที่เพิ่งใช้ไปเมื่อกี้ พอมองไปรอบๆก็เห็นโต๊ะญี่ปุ่นที่มีเค้กและของกินเล่นมากมายถูกกางไว้ตรงกลางห้อง

"ปาร์ตี้ตอนรับสิงสิงไง"

"บอลบอล.." สิงหาน้ำตาจะไหล รู้สึกจุกในอกเพราะความตื้นตัน 

"มึงก็เว่อร์ ถ้าร้องไห้กูถีบนะ"

"ก็มึงอะ" รีบเอาเสื้อผ้าที่อยู่ในไม้แขวนไปแขวนในตู้ ก่อนจะเดินมานั่งลงตรงโต๊ะญี่ปุ่นข้างเมทคนใหม่ของเขา รับหมวกกรวยกระดาษสีชมพูมาใส่ให้เข้ากับบรรยากาศ

"อะ" อัธพลยื่นกล่องของขวัญสี่เหลี่ยมที่ห่อไว้อย่างดีให้ สิงหามองกล่องสลับกับหน้าของคนให้ไปมา หลากหลายอารมณ์ผสมปนเปให้ใจสั่น

"ทำไมต้องดีกับกูขนาดนี้"

"ก็ไม่ใช่แค่มึงที่ดีใจ" อัธพลว่า "กูก็ดีใจที่มึงอยากย้ายมาอยู่ด้วยกัน แล้วก็อยากจะขอบใจที่ตั้งแต่วันนั้นที่สวนผึ้ง มึงพยายามมาโดยตลอดทั้งๆที่กูก็งี่เง่าขนาดนี้"

"..."

"ถ้าไม่รับไปสักทีจะโยนทิ้งแล้วนะ"

สิงสิงรีบคว้ากล่องของขวัญในมืออีกฝ่ายไปในทันที ขู่กันอยู่ได้ ขอเวลาซึ้งสองนาทีก็ไม่ได้

เขาก้มหน้าก้มตาแกะกระดาษห่อของขวัญอย่างระมัดระวัง จนไอ้คนให้ตะโกนว่าลีลาอยู่นั่นเขาถึงได้ฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ

"นาฬิกา?" เปิดกล่องกำมะหยี่สีดำก็พบว่าด้านในมีนาฬิกาข้อมืออยู่หนึ่งเรือน หน้าปัดมีสีดำ สายหนังสีน้ำตาลเข้มเรียบหรู แถมสัญลักษณ์ยี่ห้อที่อยู่ตรงกลางยังเป็นการการันตีได้อย่างดีว่ามันเป็นของที่อีกฝ่ายลงทุนซื้อมาแพงขนาดไหน

"อือ ชอบไหม"

"ชอบก็ชอบอยู่หรอก แต่มันแพงนะ"

"ก็แพงอยู่ เงินเก็บกูไม่เหลือแล้วเนี่ย"

"กู..กูเกรงใจว่ะ" เมื่อไอ้สิงไม่ได้มีท่าทีดีใจอย่างที่หวังไว้ คนที่คาดหวังเอาไว้มากๆก็เริ่มโมโหจนหน้างอ

"ถ้ามึงไม่ได้อยากได้กูเอาไปคืนก็ได้" อัธพลว่า "กูก็แค่อยากให้มึงใส่แบบเดียวกันกับกู กูเลยซื้อมา แต่ถ้ามึงไม่เอา..."

"เอาๆๆๆ ไม่เอาได้ไง แฟนอุตส่าห์ซื้อของคู่กันมาให้" เมื่อได้ยินว่าเป็นนาฬิกาคู่ คนที่รู้สึกเกรงใจก็ดึงมันกลับไปในทันที ก็ไอ้บอลอุตส่าห์นึกถึงเขาขนาดนี้ ไม่เอาก็บ้าแล้ว

แฟนเขามันน่ารักฉิบหาย

"ก็ไหนว่าเกรงใจ"

"ไม่เกรงใจแล้ว เปย์หนูเถอะ แล้วหนูจะทำให้เสี่ยครางไม่หยุด"

"ไอ้เชี่ยสิง" สิงหาไม่สนคำด่า รีบเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปแล้วหยิบนาฬิกาข้อมืออันใหม่ขึ้นมาลอง

เขาจะใส่ทุกวันเลย

"ขอบใจมึงมากเลยนะ"

"อืม แค่มึงชอบกูก็ดีใจแล้ว" อัธพลว่า "ได้นาฬิกาไปแล้ว มึงก็มีเวลาให้กูเยอะๆแล้วกัน" คนที่ไม่ค่อยพูดจาอะไรแบบนี้ได้แต่เกาแก้มแก้เขิน สิงหาทนไม่ไหว รวบคนน่ารักที่สุดในโลกเข้ามากอด

"มีแต่มึงที่ให้นี่ให้นั่นกูตลอด กูจะเสียคนแล้วเนี้ย"

"ดี จะได้ไม่มีใครเอามึง"

"แล้วสิงสิงจะได้เป็นของบอลบอลคนเดียวเลยใช่ม้า~"

"ก็ถ้ามึงอยากมีชีวิตอยู่ก็ใช่"

"โห ตะเอง~ ทำไมต้องโรแมนติกเบอร์นี้ตลอด" อดหัวเราะไม่ได้เมื่อมันโวยวายขอให้เขาพูดซึ้งๆกับมันอีก

"ไปไหนก็ไปเลยมึงน่ะ"

"เสี่ยค่า~"

"มึงจะหยุดไหม โอ๊ยย"

"อาบน้ำไหมคะ หนูจะรินเบียร์รอเสี่ยนะคะ"

"ไอ้สิง!" ทำหน้าระอาสุดขีดพร้อมยันตัวยืนขึ้นจากโต๊ะ

"ไอ้บอล จะไปไหนของมึง~ อย่าหนีดิวะ"

"เอ้า ก็ไหนจะอาบน้ำให้ ไปเตรียมน้ำสิอีหนู"



"มากันแล้วหรอ" ปณวัชกับณภัทรเปิดประตูเพื่อต้อนรับแขกที่มาใหม่ คิ้วเรียวของณภัทรขมวดแน่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายหอบหิ้วของกินมามากมาย

"เป้ไม่ได้บอกเพื่อนเหรอว่าให้มาตัวเปล่า"

"เค้าบอกแล้วนะ แต่พวกมันไม่ฟังเอง" ปณวัชรีบแก้ตัวทันควันก่อนจะหันมาทำตาดุใส่พวกที่ไม่ยอมฟังเขา

ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องซื้ออะไรเข้ามา หาเรื่องให้ภัทรโกรธเขาอีกแล้วไอ้พวกนี้

"เราอยากซื้อมาเองแหละ มีแต่ขนมกินเล่นทั้งนั้น ไม่ได้กินวันนี้ก็เก็บไว้กินวันหลังก็ได้" เมื่อไอ้บอลว่าแบบนั้นภัทรก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน ภัทรก็เป็นแบบนี้ทุกทีสินะ

แต่ไหนแต่ไรแล้ว กับเขานี่โกรธได้โกรธดี ไอ้บอลนี่ตามใจมันตลอด เค้าจะงอนแล้วนะ!

"เป้เอาของไปตั้งที่โต๊ะสิ"

"ครับ ทันทีเลยครับ" ได้แต่โมโหอยู่ในใจ พร้อมกับเอื้อมไปรับถุงในมือไอ้บอล ส่วนมันเดินตัวปลิวดึงภัทรไปนั่งคุยเล่นหน้าทีวี แหม~

"สิงไปช่วยเป้หั่นของสิ"

เห้ย! ไอ้สิงมึงอย่าไปยอม!

"มีดมึงอยู่ไหนเป้"

"..."

เวรกรรม

"เออ มึงตามกูมาเลยสิง" กูจะสอนวิธีเป็นพ่อบ้านให้มึงเดี๋ยวนี้เลย!

หลังจากหั่นเครื่องเคียงทุกอย่างพร้อมเสร็จสรรพ สองหนุ่มพ่อบ้านใจกล้าก็ค่อยๆทยอยเอาของมาวางรอบโต๊ะญี่ปุ่น อัธพลเปิดฝาหม้อที่มีน้ำซุปที่ต้มจนเดือดแล้ว จัดการเทสารพัดเนื้อสารพัดผักลงไปตามลำดับ

"บอล มันล้นหม้อแล้ว" ภัทรว่ากลั้วหัวเราะ เมื่อตอนนี้ของมันแน่นมากจนปิดฝาแทบไม่ได้

"เดี๋ยวไม่อิ่มไง กินกันตั้งสี่คน"

"เดี๋ยวค่อยเติมก็ได้ เราซื้อหมี่หยกมาจากตลาดให้บอลเพียบเลย หมดนี่แล้วยังมีในตู้เย็นอีกนะ"

"ฮืออ ภัทรน่ารักที่สุด เลิกกับไอ้เป้มาคบกับเราเถอะ"

"ไอ้บอลมึงเบาก่อน กูนั่งหัวโด่อยู่นี่" สิงหารีบแย้งขึ้นมา ส่วนปณวัชสำลักน้ำลายตั้งแต่ได้ยินไอ้บอลชวนแฟนตัวเองคบแล้ว

แล้วภัทรจะหน้าแดงทำไม เค้าจะร้องแล้วนะ!

อัธพลหัวเราะร่วนที่ปั่นหัวคนทั้งโต๊ะได้สำเร็จ เขาเปิดฝาหม้อสุกี้อีกครั้งให้ควันลอยฉุยออกมา เริ่มตักของกินลงใส่ถ้วยแจกจ่ายแต่ละคน 

พวกเขาทั้งหมดนั่งกินนั่งคุยกันอย่างนั้นจนสุกี้ในหม้อพร่องลงจนต้องเติมรอบสอง จนเมื่อในที่สุดกินอิ่มกันทั้งโต๊ะ ก็ช่วยกันยกของเก็บกวาดจนเรียบร้อย 

บอลกับสิงเสนอตัวขอเป็นคนล้างจานแต่เจ้าของห้องไม่อนุญาต พวกเขาตอนนี้จึงออกมายืนรับลมเย็นสบายที่ระเบียงเป็นการย่อยอาหารแทน

"เราก็มาปลูกผักสวนครัวกันบ้างไหม" สิงหาถามขึ้นเมื่อมองแปลงผักเล็กๆที่กินพื้นที่ครี่งนึงของระเบียงห้อง มันดูน่าสนุกจนคิดว่าอยากลองทำดูบ้างเหมือนกัน

"อือๆ ก็ได้ พรุ่งนี้ไปหาดูเมล็ดกัน เอาต้นกะเพรามาเยอะๆเลยเนอะกูชอบกิน แล้วก็พวกพริก ต้นหอม ผักชี อะไรแบบนี้ด้วย หรือลองปลูกถั่วงอกไหม เอาไว้มาใส่ตอนกินผัดไทยกัน"

"..."

"มึงยิ้มอะไรวะ" อัธพลเอ่ยเล่าด้วยท่าทางตื่นเต้น แต่ในตอนที่หันมาถามความคิดเห็นของมันเขาก็ต้องหยุดชะงัก เพราะไอ้สิงมันเอาแต่ส่งยิ้มทำตาหวานมองมาไม่หยุด

แม้แต่ตอนที่เขาพยายามเก็กหน้าดุๆใส่มัน มันก็ยังจ้องเขาอยู่แบบนั้น จนในที่สุดก็ต้องหลุบตาหนี ก่อนจะดึงคอเสื้อขึ้นมากระพือเพราะจู่ๆมันก็ร้อนไปหมด

"ถ้ามึงยังจ้องอยู่แบบนี้กูต่อยมึงแน่"

"..."

"ไอ้สิง...เบาได้เบาก่อน นี่มันห้องเพื่อน" จ้องอย่างกับจะแดก อัธพลเขินจนอยากจะถีบมันให้ตกระเบียง

"มึงดูดีใจกว่าที่กูคิดไว้เยอะเลยว่ะบอล ที่กูจะมาอยู่ด้วย" มันว่าขี้นในที่สุด "กูก็แอบกลัวเหมือนกันว่ากูจะทำให้มึงอึดอัดหรือเปล่าที่ดื้อมาอยู่กับมึงแบบนี้ เห็นแบบนี้แล้วชื่นใจจัง"

"ทำไมวะ พูดอย่างกับกูดูไม่รักมึงเลยซะงั้น"

"แล้วมึงรักกูไหม" ทั้งๆที่แกล้งถามแท้ๆ แต่มันกลับถามเขากลับด้วยสีหน้าจริงจังจนอัธพลไปไม่ถูก เขาเลิ่กลั่กอยู่นิด แต่พอได้หันไปมองตาของคนที่เฝ้ารอคำตอบอีกครั้ง เขาก็คิดว่ามันไม่มีอะไรต้องอายสักหน่อย

ไอ้สิงเอง มันก็สมควรจะได้รับความสุขที่เขาได้รับเหมือนกัน

"ถึงเรื่องของเราจะเริ่มขึ้นด้วยความบังเอิญ ความไม่ได้ตั้งใจ หรือความบ้าบอของกู แต่กูก็อยากให้มึงรู้ไว้ว่าตอนนี้กูชอบมึง"

เขาเริ่มว่าตามที่คิด ตาเหม่อมองตรงออกไปนอกระเบียงที่มีวิวของท้องถนนยามค่ำคืน "ชอบมากๆจนวันนึงกูแน่ใจว่ากูจะไปถึงคำว่ารัก ชอบแบบที่กูไม่เคยชอบใครมาก่อน ชอบแบบที่ว่าตอนนี้ถ้าไม่ใช่มึงแล้ว กูก็ไม่อยากชอบใครทั้งนั้น"

เขาว่าพร้อมหันไปมองตามันอีกครั้ง ยกยิ้มจากก้นบึ้งของหัวใจให้คนที่เขาให้ความสำคัญที่สุด เขาอยากให้มันเชื่อในสิ่งที่เขาพูด

"สำหรับตอนนี้ ถ้ากูขอตอบแบบนี้ มึงจะพอใจไหม"

แล้วอัธพลก็ได้ยิ้มหวานๆกลับคืนมา สิงหาเอื้อมมือหนามาวางทับกับมือที่จับรั้วระเบียงแน่น

"กูรักมึงว่ะบอล" อัธพลตกใจกับคำบอกรักที่ได้ยินเป็นครั้งแรกของอีกฝ่าย ในจังหวะที่เขาเบิกตากว้างมันก็เป็นตอนนั้นที่โดนคนตัวโตกว่าขโมยจูบ

มันเหมือนจะกลายเป็นนิสัยของมันไปแล้ว ที่ไอ้สิงมันชอบจู่โจมตอนเขาไม่ทันตั้งตัว แต่เขาจะไม่ด่ามันหรอกนะ ก็เวลามันทำแบบนี้ มันดูหล่อกว่าปกติเป็นไหนๆ

"แค่ตอนนี้นะที่กูจะยอมให้มึงพูดว่าชอบ ต่อไปมึงจะไม่ได้พูดมันอีก เพราะกูจะทำให้มึงรักกูหัวปรักหัวปรำ มึงเตรียมใจไว้เลย" ผละริมฝีปากออกมาพึมพำให้คนที่ตอนนี้ยืนหน้าแดงได้เม้มปากแน่น

"มึงเสี่ยวมาก" อัธพลว่ายิ้มๆ "เสี่ยวแบบโดนใจกูสุดๆไปเลย" 

แล้วริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบกันอีกครั้งอย่างช้าๆ เพราะปกติเขาทั้งคู่ไม่ค่อยได้พูดคำหวานให้กันนัก ในเวลาแบบนี้พวกเขาจึงอยากแสดงมันออกมาทั้งหมดด้วยสัมผัสที่ลึกซึ้งนี้

"อะแฮ่ม" เสียงกระแอมไอดังขึ้นขัดจังหวะ แต่ไม่มีใครทั้งนั้นที่ตกใจ เขาทั้งสองค่อยๆผละออกจากกันแล้วหันไปมองเจ้าของห้องทั้งสองคนยิ้มๆ

"มึงอดใจกันไม่ได้เลยหรือไง สงสารภัทรบ้าง" ไอ้เป้ที่ยืนเท้าเอวพูดด้วยหน้าขึงขัง ต่างจากภัทรที่เขินหน้าแดงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังมัน

"โธ่ ปณวัช~ ข้าวใหม่ปลามันก็งี้ ขอสิงสิงบอลบอลจู๋จี๋กันหน่อยก็ไม่ได้"

"ไอ้ห่าสิงพอ กูขนลุกไปหมดแล้ว ทำไมมึงแรดขนาดนี้" ว่าแล้วก็เอามือปิดตาภัทร ไม่อยากให้ต้องมาเห็นไอ้สิงทำท่าออดอ้อนซะน่าขนลุกให้เสียสายตา

"ฮือ~ ทำไมเป้เป้พูดแบบนี้ละคะ วันก่อนตอนภัทรเผลอเรายังมาเจอกันอยู่เลยนะ" แล้วไอ้สิงก็โดนเขกหัวอย่างแรง เขาเล่นได้หมด ยอมได้ทุกมุก แต่ว่าเรื่องแบบนี้เอามาล้อเล่นไม่ด๊ายย ดูสิภัทรหน้าบึ้งแล้ว

"ไอ้สิง!"

"กูอ้อนภัทรก็ได้~"

"มึงอยากตายมากใช่ไหมไอ้สิง"

อัธพลมองไอ้คนที่สะดีดสะดิ้งไปคนนั้นทีคนนี้ทีอยากเหนื่อยใจ อดคิดไม่ได้ว่านี่ตกลงเขาคิดถูกใช่ไหม ไอ้คนที่เพิ่งบอกรักกันเมื่อกี้ ที่ทำให้ใจสั่นเมื่อกี้ใช่มันจริงๆหรือเปล่า

แต่ต่อให้นั่งคิดสักร้อยครั้ง เขาก็คิดว่าเขาคงคิดถูกแล้วล่ะ เพราะถึงมันอาจจะไม่ดีที่สุด แต่เพราะมันก็คือมัน และเขาก็คือเขา

"สิงสิงมึงหยุด! " และทุกอย่างก็หยุดชะงักลงเพียงแค่อัธพลร้องออกไปอย่างนั้น

"บอลบอลอย่าดุ"

"ก็มึงไร้สาระ"

"สิงสิงจะไม่ทำแล้วคร้าบบ"

และแม้หนทางของเราอาจจะยังอีกยาวไกลจนกว่าจะถึงอะไรซึ้งๆอย่างรักนิรันดร์ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาเชื่อว่าพวกเราจะไปถึงที่นั่นด้วยกัน

อาจะบ้าไปหน่อย ไม่เต็มไปบ้าง

แต่ระหว่างทาง มันจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม เต็มไปด้วยความสุขที่เขาคิดว่ามันเกิดขึ้นได้เพราะเราที่เป็นเรา

૮ ꈍﻌ ꈍა♥END♥ (˘ ε˘ U)


#เล่นกับสิงสิงเลียปาก

อุแง้! จบแล้วค่ะ ส่งสิงสิงกับบอลบอลเข้าหอแล้ว ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะสั้นๆ 5 ตอนจบแต่ก็เพ้อมาไกลถึงตอนนี้ ฮือออ ยังรู้สึกว่าไม่พอเลยด้วยซ้ำ 

ความรักของบอลบอลกับสิงสิงอย่างที่บอกมันจะยังเป็น puppy love เนอะ มันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่ต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ แต่มันก็ถือว่าเป็นความรักที่ดีแต่ยังไม่เข้มแข็งเท่าไหร่ ต้องใช้เวลาบ่มเพาะอีกเยอะ ยังไงก็ฝากเป็นกำลังใจให้เด็กๆด้วยนะคะ หวังว่าสิงสิงจะมีชีวิตรอดปลอดภัย ครบสามสิบสองไปตลอดนะลูกนะ 5555

และใครอ่านมาถึงตรงนี้เค้าก็ขอกำลังใจโน้ยยย แค่กดเลิฟให้ก็ดีใจแล้วนะ อยากเห็นว่ามีคนอ่านอยู่ ไม่ได้เพ้ออยู่คนเดียวเน้ออ

ท้ายสุด พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ติดตามข่าวนิยายดองกันได้ในเฟสบุ้คและทวิตเตอร์นะคะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้

ขอบคุณมากๆๆๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 10 เธอเท่านั้น คนเดียวและคนสำคัญ สำหรับฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-06-2020 22:24:37
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 10 เธอเท่านั้น คนเดียวและคนสำคัญ สำหรับฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-06-2020 01:03:44
กลายเป็นคู่รักบ้าๆบอๆ
รักกันแบบป่วงๆนะคู่นี้

บอล+สิง แน่จริง..ก็มาดิคร้าบบบบ
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: (End)หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 10 เธอเท่านั้น คนเดียวและคนสำคัญ สำหรับฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 21-06-2020 18:38:53
อะไรจะเรียกกันมุ้งมิ้งขนาดนั้น บอลบอล สิงสิง โออออ 5555  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: (End)หมาเลียปาก / puppy love #เล่นกับสิงสิงเลียปาก 10 เธอเท่านั้น คนเดียวและคนสำคัญ สำหรับฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 07-07-2020 13:40:53
บทจะรักบทจะหวานก็มุ้งมิ้งน่าดู :mc4: