ตอนที่ 3 เรื่องเล่า...ของเด็กชายที่ถูกทิ้ง
ชีวิตของผมยังคนดำเนินเรื่อยมา ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไร และก็ไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นอะไรเลยด้วย มันดูเรื่อยเปื่อยซะจนน่าเบื่อ
"ไอ้วิน"
"ว่า"
"ช่วงนี้เป็นอะไรมากหรือเปล่า ดูเนือยๆ ไปนะ"
"ก็ไม่นิ" ผมตอบกลับไป ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เป็นปกติอะไร ความจริงก็รู้สึกรำคาญใจนิดๆ ด้วย ไอ้คำถามและสีหน้าของชุน ยังคงติดตาและกวนใจของผมอยู่
"มีปัญหากับชุนเหรอ"
"เปล่า"
"ถ้าอย่างนั้นทำไม..."
"คาบนี้โดดนะ" ผมบอกก่อนจะลุกขึ้น รู้ว่าไอ้วาเป็นห่วง แต่ผมไม่มีอารมณ์จะตอบ ผมโดดบ่อย แต่เพราะเรียนดี จึงไม่มีปัญหา บางครั้งเพียงแค่เข้าเช็กชื่อแล้วเดินออกเลยก็มี การเรียนในห้องเรียน บางทีมันก็น่าเบื่อเกินไป อาจารย์บางคนก็สอนไม่ต่างกับที่ต้องอ่านเองในหนังสือ บางท่านก็สอนงงกว่าในหนังสือซะอีก ผมจึงเลือกที่จะอ่านเองและทำความเข้าใจด้วยตัวเองมากกว่ามานั่งฟัง
RRRRRR
ผมโทรหาชุน ไม่รู้ว่าเขาเรียนอยู่หรือเปล่า แค่รู้สึกว่าอยากเจอ อยากเห็นหน้า ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ยิ่งนานวันเข้า เด็กนั่นก็ยิ่งเข้ามามีอิทธิพลในชีวิต เมื่อนานมาแล้ว เขาเคยบอกว่าผมเหมือนใครคนหนึ่ง แต่ไม่เคยพูดถึงใครคนนั้นเลย
(มีอะไรหรือเปล่าวิน)
"อยู่ไหน"
(ผมอยู่หอ)
"มาหาหน่อย"
(วินอยู่ไหน)
"คณะ"
(เรียนเสร็จแล้วเหรอ)
"อยากให้มา"
(ครับ เดี๋ยวผมไป)
ผมบอกอีกคนอย่างเอาแต่ใจ แต่เขาไม่เคยเลยที่จะปฏิเสธ ไม่เคยเลยที่จะไม่ทำตามคำขอของผม พอมานั่งคิดแบบนี้แล้ว ผมก็เห็นแต่ข้อดีของชุนมากมายเต็มไปหมด ตลอดเวลาที่ผ่านมา ชุนดีกับผมมากจริงๆ
"วิน ผมมาแล้ว"
"อืม วันนี้ว่างใช่ไหม"
"ก็ว่างครับ"
"ถ้าอย่างนั้นไปบางแสนกัน"
"ครับ...หืม บางแสน"
"อืม บ้านพักของแม่น่ะ ไปกัน"
"พรุ่งนี้ผมมีเรียน"
"จะพากลับมาตอนเช้า"
"ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ผมไม่ขัดหรอกครับ" ชุนบอกแล้วยกยิ้ม
ความจริงแล้วผมแทบจะไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับตัวของชุนเลย แต่ที่ผมสัมผัสได้คือ เขาเป็นคนมีฐานะ มีรถขับ และน่าจะฉลาดในระดับหนึ่ง
"วินเป็นอะไรหรือเปล่า"
"ก็เปล่า"
"แต่คิ้วขมวดเหมือนกับสงสัยมากเลยนะ มีอะไรคุยกับผมได้นะ"
"เดี๋ยวให้ถึงก่อน ได้คุยแน่" ผมบอก ชุนหันมาเลิกคิ้วเชิงสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เขาหันไปสนใจกับการขับรถต่อ การเดินทางวันนี้ ผมจะต้องได้รู้จักเขามากขึ้น สักนิดก็ยังดี
**********
ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงที่พัก ที่นี่เป็นบ้านพักส่วนตัวที่อยู่บนเขา มองยาวไปจะเห็นน้ำทะเลใสเชื่อมกับท้องฟ้าสีฟ้า ถึงแสงแดดจะจ้าแต่บรรยายกาศรอบๆ ร่มรื่นใช้ได้เลย อาจเพราะมีต้นไม้เยอะ
"สวยนะครับ"
"อืม เข้าไปด้านในกัน" ผมบอกแล้วเดินนำเข้าบ้าน
เมื่อก่อนที่นี่เป็นที่พักสำหรับให้เช่า แต่แม่ของผมชอบเลยซื้อเก็บไว้ ทุกครั้งที่ท่านมีเรื่องไม่สบายใจก็มักจะแอบมาที่นี่คนเดียวอยู่เสมอ
"อยากอาบน้ำก่อนไหม"
"ไม่ครับ"
"หิวหรือเปล่า"
"กินวินได้ไหม" ชุนถามพร้อมกับยิ้มมุมปากแบบร้ายๆ ใบหน้าของเขาตอนนี้เปลี่ยนเป็นเสือหิวที่พร้อมจะขย่ำกว้างน้อยอย่างผม แต่ก็นะ ผมใช่ว่าจะไม่พร้อมซะเมื่อไหร่
ผมเดินเข้าหาชุนพร้อมกับถอดเสื้อให้เขา ชุนเองก็ถอดเสื้อให้ผมเช่นกัน ยิ่งได้ใกล้เด็กคนนี้มากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มมากเท่านั้น ด้วยความที่เขาไม่เคยมาที่นี่ ผมเลยเป็นฝ่ายพาเขาเดินมายังห้องนอน
ไม่ว่าริมฝีปากของเขาจะแตะลงที่ตรงไหนบนร่างกาย ก็ทำให้ผมรู้สึกดีไปหมด ปลายนิ้วร้อนของเขามักทำตามใจชอบ เขาทั้งดื้อและซุกซน หยอกล้อให้อารมณ์ของผมขึ้นสูง ไต่จนขึ้นจุดสุดยอดแล้วทิ้งดิ่งให้ผมทรมานด้วยการหยุด
"ร้องขอผมสิ"
"ชุน"
"ชอบใช่ไหมล่ะครับ"
"อืม ทำต่อสิ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ถึงจะเป็นเซ็กส์ที่โหดร้ายไปในบางครั้ง แต่ผมก็ยอมรับว่าชอบจนทำเรื่องน่าอาย
เสียงจากการสอดใส่ทำให้ผมรู้สึกเขิน ผมครางร้องจนสุดเสียง ความเสียวแล่นไปทุกส่วนของร่างกาย หลายต่อหลายท่าที่เราปรับเปลี่ยนเพื่อการสอดใส่ เขารู้ทุกจุดทุกมุมที่ผมชอบ เสียงเหนื่อยหอบของเราดังไปทั่วทั้งห้อง เหงื่อไหลรินทั่วใบหน้า ความสุขสมจากการทำรักกับเขา ยังคงทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้สัมผัส
"อืม เร็วอีก" ผมบอกอีกคนที่กระแทกแกนกลางเข้ามา มันทั้งลึกและเสียวไปพร้อมๆ กัน ทำเอาผมแทบขาดใจตายได้เลย
"อ่าาา" เสียงของชุนร้องออกมา ตัวของเรากระตุกไปพร้อมๆ กัน เขาขยับอีก สอง สามทีก่อนที่จะล้มตัวลงมานอนทับผม
ตอนนี้มีเพียงเสียงแอร์และเสียงหอบหายใจของเราทั้งสองที่ดังอยู่ ตัวผมเองก็หมดแรงเกินกว่าจะขยับไปไหน ชุนเห็นแบบนั้นเลยเป็นฝ่ายอุ้มผมเดินไปล้างตัวในห้องน้ำ
"นั่งรอก่อนนะครับ" เขาบอกแล้ววางตัวผมลงในอ่าง พร้อมกับเปิดน้ำอุ่นให้ ถึงแม้ยากที่จะขยับตัว แต่พอผิวกายได้รับน้ำอุ่นแล้ว กลับรู้สึกดีขึ้นมาก
"แสบ" ผมพูดออกมาเบาๆ แต่อีกคนดูเหมือนจะได้ยิน
"กอดคอผมสิ" ชุนย่อตัวลงนั่งข้างอ่าง แล้วผมก็กอดคอตามที่เขาบอก
"เจ็บหน่อยนะ" ชุนบอกแล้วค่อยๆ ใช้นิ้วล้วงเข้ามาที่ช่องทางด้านหลังของผม ผมกัดปากตัวเองด้วยความเผลอตัว เพราะมันเจ็บมากจริงๆ มันเสียดไปหมดเลย ป่านนี้คงจะบวมแล้วล่ะมั้ง
ถึงผมจะเคยมีอะไรกับชุนแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะบ่อยนัก บางครั้งมาอยู่ด้วยกันก็ไม่ได้ทำอะไรกันเลยนอกซะจากที่เขาถามเรื่องเรียนและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตำราแพทย์
หลังจากที่ชุนล้างช่องทางด้านหลังให้เสร็จ เขาก็เอาน้ำลูบๆ ตัวของผมด้วย ก่อนที่จะอุ้มขึ้นจากน้ำแล้วพาไปใส่เสื้อ ความจริงมันไม่ควรจะเป็นหนักขนาดนี้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่คงเพราะว่าไม่มีตัวช่วยในการหล่อลื่น ช่องทางด้านหลังของผมจึงฝืดกว่าปกติกับการต้องรับแรงสอดใส่ของชุน เลยทำให้มันทั้งบวมและปวดไปทั้งตัว
"มานอนนี่สิ" ผมบอกคนที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จ เพราะหลังจากที่ชุนแต่งตัวให้ผมแล้ว เขาก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำต่อ
"ยังเจ็บอยู่ไหม"
"ไม่ขยับก็ไม่เจ็บ" ผมบอก ชุนจึงเป็นฝ่ายที่ขยับเข้ามาใกล้ผมเอง
"ถามอะไรอย่างสิ"
"ครับ? "
"ทำไมถึงดีกับกูนักล่ะ เพราะกูเหมือนกับใครอีกคนมากเหรอ เหมือนมากเลยใช่ไหม" ความอยากรู้ที่เก็บเงียบมานาน ผมไม่เคยถามเขาเลยจากที่เคยได้ยินมาเมื่อตอนนั้น เขาก็ไม่เคยพูดถึงอีก หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น
"..."
"เล่าเรื่องของเขาให้ฟังบ้างได้ไหม" ผมถาม จากเด็กที่หน้าตาทะเล้นๆ แปรเปลี่ยนเป็นเงียบขรึม ดวงตาใสกลับกลายเป็นว่างเปล่าและเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด ชุนไม่มองหน้าของผมเลย เขาเอาแต่นิ่งเงียบ
"ผมไม่อยากพูดถึง"
"อยากรู้...จริงๆๆ นะ" ผมไม่เคยเป็นแบบนี้ ผมเป็นพวกไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จะเรียกว่าเห็นแก่ตัวก็ว่าได้ แต่กับครั้งนี้มันไม่ใช่ ใครกันที่ทำให้ชุนเศร้าได้ขนาดนี้ ยิ่งคิดผมก็ยิ่งอยากรู้ และผมต้องรู้ให้ได้
"ยังไม่ใช่ตอนนี้"
"เพราะรูปที่อยู่ในกระเป๋าเงินใช่ไหม"
"คุณแอบดูเหรอ! " ชุนพูดใส่ผมเสียงดังด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
"เปล่า กูก็แค่เห็นตอนมึงวางไว้บนโต๊ะ กระเป๋ามันเปิดอ้าไว้" ผมบอกตามตรง
"อย่าแตะต้องของๆ ผม" ชุนบอกแล้วกำคอของผมแน่น
“แค่กๆ” ผมไอออกมา เพราะแรงบีบไม่ใช่เล่นๆ เลย
“ผมขอโทษ”
"ทำไมล่ะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้" มือของชุนคลายออกหลังจากที่เขามองหน้าผม ดวงตายังคงดุร้ายเหมือนเดิม แต่ท่าทีก็อ่อนลงมากแล้ว
"เพราะวินไม่เคยสูญเสียคนสำคัญไปยังไงล่ะ คนที่เป็นดั่งชีวิต จิตวิญญาณ เป็นทุกสิ่งอย่าง เป็นเหมือนกับอวัยวะส่วนที่ 33 ของร่างกาย เป็น...โธ่โว้ย" ชุนพูดออกมาแล้วทึ้งศีรษะตัวเอง ผมเห็นน้ำตาของเขาไหลออกมา แค่นี้ผมก็พอจะเข้าใจได้แล้ว ว่าชุนรักคนๆ นั้นมากแค่ไหน
เราทั้งสองต่างคนต่างเงียบ และตอนนี้นี่เองที่ผมได้รู้ว่า ความจริงแล้วผมชอบชุนมากแค่ไหน ยิ่งได้ยินก็ยิ่งเจ็บปวด ยิ่งเห็นเขาเสียใจเพราะใครคนอื่นก็ยิ่งรู้สึกแย่ไปด้วย ผมไม่เคยรักใคร ผมเลยไม่รู้ว่มันเป็นยังไง แต่เพราะความเจ็บปวดในหัวใจนี้ มันแปลได้อย่างเดียวเลย
“คบกับกูไหม” ผมตัดสินใจพูดออกไป มันนานมากแล้วนะที่เรารู้จักกัน มันไม่ใช่ว่าแค่ผมกับเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมา เพื่อนของเราต่างก็รับรู้เรื่องนี้ เพื่อนๆ ของผมต่างก็พากันชอบมันไม่ต่างกับเพื่อนของมันที่ดีกับผมเช่นกัน ทุกคนต่างมองว่าเราทั้งสองเป็นแฟนกัน ชุนดีกับผมมาก แม้ตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ
“อย่าดีกว่าครับ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว”
"รักเขามากเลยสินะ" ผมถาม ชุนไม่ตอบแต่เขาพยักหน้ารับ ผมทำเพียงกอดปลอบเพราะไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด การที่ชุนเสียใจ ตัวผมเองก็เสียใจ ถ้าจะอยู่กันไปแบบนี้ ผมก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่ผมก็อยากรู้เรื่องของเขา อยากให้ชุนเปิดใจให้ผมมากกว่า อีกสักนิดก็ยังดี
"ถ้ารักเขามาก ทำไมไม่ง้อเขาล่ะ" ผมพูดออกไปถึงแม้จะเจ็บปวดใจมากก็ตาม
"ผมทำแล้ว"
"ไม่สำเร็จเหรอ"
"ไม่เคยสำเร็จเลย เขาไม่ยอมให้ผมไปหา ใบหน้ายิ้มแย้มที่แสดงถึงความใจดีของเขา พูดแต่คำพูดโหดร้ายกับผม จะไปแล้วบ้างล่ะ ห้ามไม่ให้ตามไปบ้างล่ะ ผมทำเท่าที่ทำได้แล้ว" ทำพูดของชุนเหมือนมีดปลายแหลมที่กรีดลงบนหัวใจของผมช้าๆ ไม่ถึงกับตาย แต่ก็เจ็บมากไม่แพ้กัน
"ให้ช่วยไหม"
"วินช่วยผมไม่ได้หรอก"
"กูยังไม่ลองเลย" ถึงผมจะพูดไปแบบนั้น แต่ในใจของผมโคตรจะเจ็บเลย
"...หึ ขอบคุณ"
"เรื่อง"
"ที่บอกจะช่วย"
"แสดงว่าจะให้ช่วยใช่ไหม"
"เปล่า เพราะไม่มีใครสามารถช่วยได้"
"เขามีคนอื่นแล้วเหรอ"
"ไม่ใช่"
"ถ้าอย่างนั้น เลิกกันยังไง" ผมถาม เพราะถ้าเลิกกัน มันต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ
"เปล่า"
"ไม่ได้เลิก? "
"อืม ไม่ได้เลิก ไม่เคยคิดจะเลิกด้วย” คำพูดของชุนครั้งนี้ เหมือนกับเข็มอาบยาพิษ ยิ่งได้ยินก็ยิ่งรู้สึกเจ็บไปทั่วทั้งหน้าอก ใบหน้าของผมชาจนไม่รู้สึกอะไรเลย
“แล้วทำไม”
“เขาจากไป ด้วยโรคที่ไม่สามารถรักษาได้" ชุนบอก นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ทั้งกับเขา และกับผม
ผมไม่อยากโทษคนรักของชุนที่จากไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละ คนคนนั้นเห็นแก่ตัวมาก เขาได้รับความรักทั้งหมดของคนที่ผมรัก แต่คนคนนั้นกลับไม่สามารถดูแลคนรักของผมได้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาเคยรักกันมากแค่ไหน แต่การตายจากไปแล้วของคนคนนั้น ได้เอาหัวใจของคนที่ผมรักไปด้วย
ดูสิ ผมกลายเป็นคนขี้อิจฉาไปแล้ว ความรักนี่มันก็ตลกดีนะ
ตลก...แต่กลับขำไม่ออก
เสียใจ...แต่กลับไม่สามารถร้องไห้ได้
สิ่งที่แย่กว่าการที่อีกคนยังลืมรักเก่าไม่ได้คือ การที่เขาไม่เคยคิดที่จะลืม แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าตัวผมเองไม่สามารถทำอะไรได้ ผมไม่สามารถพูดให้เขาลืมคนคนนั้นได้ด้วยซ้ำ ผมไม่สามารถชนะคนเก่าในใจเขาได้เลย หากเลิกกันไปไม่ว่าเพราะอะไร มันก็ไม่ยากที่จะทำให้ชุนลืม แต่การตายจากไปมันเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับผมมากไปหรือเปล่า เหมือนกับได้รับสมการที่ไม่สามารถแก้ได้มาเลย
"อยากเล่าให้ฟังไหม"
"..."
"ถ้าไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร"
"ครั้งหนึ่ง ผมเคยเป็นเด็กถูกทิ้ง..." ทั้งๆ ที่คิดว่าคงไม่ แต่สุดท้ายชุนก็พูดออกมา เขานิ่งเงียบอยู่นาน ผมเองก็ไม่คิดจะคาดคั้นอะไร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองคิดถูกหรือเปล่ากับการที่ถามเขาในวันนี้ ทั้งๆ ที่สองปีมานี่ การอยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว นี่คงเป็นผลลัพธ์ที่ผมเริ่มเห็นแก่ตัวมากขึ้นล่ะมั้ง
วินาทีที่ชุนเริ่มเล่า ผมได้เห็นรอยยิ้มน้อยๆ ผมจึงได้แต่บอกตัวเองว่า ‘แย่หน่อยนะ’ เพราะท่าทีของเขา มันดูเหมือนกับความทรงจำนั้น มันดีมากๆ ชุนเริ่มเล่าเรื่องของเขากับผู้ชายคนนั้น คนที่เขารักมาก และคนๆ นั้นก็รักเขามากเช่นกัน
:mew2: :mew2: ตอนต่อไปจะเป็นเรื่องของชุนตอนก่อนหน้านี้นะคะ แล้วมารู้จักกับฟินิกซ์กันค่ะ :mew2: :mew2: