พิมพ์หน้านี้ - วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: pickki_a ที่ 23-11-2008 14:36:41

หัวข้อ: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 23-11-2008 14:36:41
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
----------------------------
บทนำ
 :m19:
“ขอโทษคับ”
“ไม่เป็นไรคับ”

ผมเผลอไปเยียบเท้าของผู้โดยสารคนหนึ่งบนรถเมล์ ที่ถือได้ว่าค่อนข้างจะแน่นมากๆ ในตอนเช้า ซึ่งเป็นรถเมล์ที่วิ่งในเส้นทางที่ก็ถือว่า ไม่ไกลมาก แต่ก็ไม่รู้ทำไมคนถึงได้เยอะ คงเป็นเพราะเส้นทางที่ผ่านคงจะผ่านสถานที่สำคัญที่มีคนต้องไป เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ และชุมชน

ผมชื่อป๊อกคับ หลังจากที่เรียนจบมาไม่นาน ก็ได้ทำงาน ถือว่าการรองานในช่วงเวลา 4 เดือน ก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ความรู้ที่ผมได้เรียนมา เริ่มจะเลือนหายไปกับกาลเวลา เพราะ 4 เดือนที่รองาน ผมสามารถพิมพ์นิยายไปได้ 1 เรื่องเลยทีเดียว

ผมไปสมัครงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิมพ์เอกสารและดูแลข้อมูลระบบขององค์กรหนึ่ง ซึ่งถือว่าก็เกือบจะตรงกับคณะที่ผมเรียนจบ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับต้น ๆ ของไทย ซึ่งจากเกรดเฉลี่ยของผม ทำให้รับผมเข้าทำงานได้ไม่ยากมากนัก

ที่ทำงานกับบ้านของผมก็อยู่ไกลกันพอสมควร ซึ่งเมื่อผมรู้ตัวว่าผมได้ทำงานที่นี่ ผมก็เริ่มที่จะศึกษาเส้นทางในการไปทำงานของผม ซึ่งค้นพบว่า การนั่งรถเมล์ 3 ต่อ แม้จะเหนื่อย แต่ก็เดินทางได้เร็วที่สุดแล้ว

แต่ไม่รู้ทำไมเช้าวันนี้ รถมันถึงได้แน่นอย่างงี๊

หันหลับไปมองไอ้คนที่ถูกเหยียบเท้าบ้าง มันก็เป็นผู้ชายรูปร่างสมส่วน ไม่ขาวมาก เตี๊ยกว่าผมอีกมั้ง หน้าตาก็ไม่ดีเท่าไหร่ ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ผมเองยังดูดีกว่าด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่มันดูดีก็คือคำว่า “ไม่เป็นไรคับ” ของมันและแถมรอยยิ้มมาให้ผมเนี๊ย ทำให้มันดูน่ารักจริงๆ

ถึงที่ที่เราต้องลงแล้วล่ะสิ แย่งกันขึ้นแย่งกันลง รถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนนี่ลำบากจริง ๆ กะว่าจะประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าต้องมาเจออย่างงี๊ ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ

ผมค่อย ๆ เบียดผู้คนที่ยืนอย่างหนาแน่นตรงประตูทางลง กว่าจะเบียดมาได้ก็กระอ่วมเหมือนกัน เมื่อผมก้าวพ้นประตู ก็ถอนหายใจครั้งใหญ่ แล้วก็เดินไปที่สี่แยก แล้วก็เลี้ยวขวา เพื่อไปรอรถเมล์ต่อสุดท้าย

ผมหันหลังกลับไปดู อ้าว ไอ้คนนั้นมันเดินตามผมมาด้วย


ตื่นเต้นซะแล้วสิ



“เขาแค่มาทางเดียวกัน ไอ้ป๊อก เขาไม่ได้ตามแกมาหรอก” – ผมคิดในใจ
-----------------
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านคับ
 :m23:
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของผม เรื่องนี้มีเค้าโครงจากชีวิตจริงเพียงส่วนหนึ่ง ที่เหลือเป็นการแต่งเติม เพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านนะคับ สำหรับเรื่องนี้จะเป็นการดำเนินเรื่องง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน และคาดว่าไม่นานก็คงจบ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นส่วนต่อขยายจากเรื่องเก่า หรือภาคต่อจากเรื่องเก่า (หรือที่เรียกว่า เรื่อง 6 ปี) เรื่องนี้กะว่าเอามาคั่นเวลา ก่อนที่ผมจะมีความพร้อมในการพิมพ์เรื่องถัดไป ซึ่งเรื่อง 6 ปีนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และมีความซับซ้อนมากกว่านี้

ถูกใจหรือไม่ คอมเม้นกันได้นะคับ จะได้ปรับปรุง ส่วนอัตราการลงเรื่องนี้ จะพยายามลงให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้นะคับ

 :bye2:

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-11-2008 14:56:50
มาประเดิมเรื่องใหม่ น่าสนุกดีค่ะ จะคอยติดตามนะค่ะ  :pig2:
เพราะว่าอยู่ต่างจังหวัดนานๆเข้ากรุงเทพฯทีนึง (ก็บ้านนอกน่ะแหล่ะพูดซะยาว555+) :laugh:
อยากรู้เรื่องคนกรุงเต๊บบ้าง อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 23-11-2008 15:04:34
^

^

จิ้มคนข้างบน  :laugh:

และเจิมเรื่องใหม่  :mc4:

หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 23-11-2008 15:16:59
เข้ามากรี๊ดกร๊าดเป็นป้าดันให้นู๋ใหญ่  :m4:

นั่งรถไปทำงานสามต่อเลยเหรอ หึๆๆเรื่องธรรมดาของคนกรุงเทพฯนิ ป้าเข้าจาย หัวอกเดียวกันเล้ย 55555

รออ่านต่อ ว่าตกลงตาคนนั้นเดินตามมาทำไมเนี่ย โดนเหยียบเท้าทีเดียวติดใจเลยเหรอจ๊ะ :m26:
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-11-2008 15:31:30
สงสัยจะทำงานที่เดียวกันมั้ง  :impress2:
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 23-11-2008 16:38:42
เื่รื่องใหม่ ท่าทางน่าติดตาม

+1 เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 23-11-2008 20:57:24
ต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคน  :mc4:

มาต่อเร็วนะ  :call:
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 23-11-2008 21:46:15
 :mc4: :mc4: :mc4:

มาเจิมเรื่องใหม่ อิๆ

แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: numa6 ที่ 23-11-2008 21:53:27
ลงทะเบียนด้วยคนจ้า :o8:

 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 23-11-2008 22:17:00
สู้ๆๆคับ  เป็นแรงใจให้คับ
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 23-11-2008 22:25:06
 :กอด1:


มาให้กำลังใจน้า
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 23-11-2008 23:46:16
 :mc4: :mc4: :mc4:
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 24-11-2008 15:57:52

เข้ามา  :z2: รอ

อิอิ


อิเจ้ เองจ้า
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 24-11-2008 17:43:30
เป็นกำลังใจให้นะค๊าบบ!!!!
หัวข้อ: Re: [story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 24-11-2008 19:34:34
 :3123:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 24-11-2008 21:05:43
ตอนที่ 1
 :m29:
ผมกำลังเดินเข้าไปนั่งที่ป้ายรถเมล์ ป้ายรถเมล์ตอนเช้า ๆ คนก็พอมีประปราย แต่วันนี้คนเหมือนจะเยอะเป็นพิเศษ สงสัยรถคงขาดระยะ คันที่จะมาคันต่อไปคนคงจะแน่น

แต่ก็เอาเหอะ คงไม่สายหรอกน่า...

แล้วไอ้คนนั้นก็มาถึงป้ายรถเมล์ หันมามองทางผมนิด ๆ (คือผมแอบไปมองเขาด้วยแหล่ะ ก็เลยรู้ว่า เขาก็มองผมนิด ๆ เหมือนกัน) แล้วเขาก็ก้มหน้ารอรถเมล์ สลับกับหันไปมองโน่นนี่

นั่นๆ มาแล้ว รถเมล์ครีมแดง “รถเมล์ฟรีเพื่อประชาชน” คนเป็นแสน เมื่อรถคันนั้นเทียบป้าย ประโยคแรกที่ได้ยินก็คือ “ขอทางลงก่อนนะคะ ไม่ลงเดินในให้ด้วยค่ะ” แล้วก็สีหน้าของผู้ที่ลงรถมา เหมือนกับว่าได้ปลดปล่อยอะไรไปซักอย่าง

ด้วยความที่ผมเป็นคนที่รวดเร็วว่องไวปานสายฟ้า จึงพาตัวเองขึ้นรถไปโดยเร็ว เบียดผู้คนที่หน้าประตูที่แน่นเหลือเกินไปยังด้านหลัง ไม่รู้ทำไมว่าคนถึงไม่ค่อยจะเดินเข้าไปข้างใน แต่ข้างในยืนสบายกว่ากันเยอะ

ไอ้เสื้อสีน้ำตาลคนนั้นตามมาอีกแล้ว มันจะจองเวรกับการเยียบเท้าผมไปถึงไหนวะ

รถแล่นออกจากป้ายรถเมล์ไปตามเส้นทาง ทุก ๆ ป้ายผู้คนก็ต่างแย่งกันขึ้น คนก็เริ่มเขยิบมาข้างหลังเรื่อย ๆ แล้ว ตอนนี้ก็เท่ากับว่าตรงประตูกับข้างหลังก็มีคนแน่นพอกัน

จังหวะรถเบรกอย่างแรงที่สี่แยกแห่งหนึ่ง หน้าผมก็ทิ่มไปข้างหน้า ไปโดนผู้โดยสารอีกคนหนึ่ง ซุ่มซ่ามจริงๆเลยกูเนี๊ย
“ขอโทษครับ” ผมยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะก้มหัวขอโทษ
“ไม่เป็นไรคับ” ไอ้เสื้อน้ำตาลคนนั้นอีกแล้ว มันพยักหน้าแล้วก็ยิ้มให้ผมอีกที

“คนไรวะยิ้มโคตรน่ารักเลย” ผมคิดในใจ

ทุกอย่างสิ้นสุดลง ไอ้เสื้อน้ำตาลก็หันหลังกลับไป ผมเริ่มมองมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน มันเป็นคนที่ตัวเล็กกว่าผมอีกแต่ถึงยังไงรอยยิ้มของมันก็น่ารัก

“คิดไรวะเนี๊ยกรู มันเป็นผู้ชายนะเฟร้ย” – ผมคิดในใจ

ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินกับการสำรวจร่างกายของไอ้เสื้อน้ำตาลคนนั้นด้วยสายตา โดยที่มันเองก็ไม่รู้ตัว รถเมล์ก็เลี้ยวขวา นั่นหมายความว่าถึงเวลาที่ผมจะลงแล้ว ขณะที่ผมกำลังจะเดินเบียดคนออกไปที่ประตู มันก็เดินออกไปที่ประตูเช่นเดียวกัน

สรุปแล้ว มันลงรถป้ายเดียวกับผม

หลังจากที่มันลงรถไปแล้ว เหมือนมันรออะไรซักอย่าง ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เนื่องจากมันก็ใกล้เวลาที่ผมจะเข้างานแล้ว ผมจึงต้องรีบ ๆ เดินไปที่ทำงาน ซึ่งห่างจากป้ายรถเมล์ที่ผมลงไม่ไกลนัก

เดินไปเรื่อย ๆ หันหลังมามองดู มันเดินตามผมมาอีกแน๊ะ สงสัยมันคงทำงานแถวนี้ล่ะมั้ง แต่คงไม่ใช่ที่เดียวกับผมหรอกน่า



.
.
.
แล้วผมก็เดินเลี้ยวเข้าตึกไป สถานที่ผมทำงานเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เอาไว้จอดรถ แล้วก็มีส่วนของสำนักงาน ชั้นที่ 3 เป็นส่วนของการดูแลระบบ ซึ่งผมต้องนั่งทำงานที่นี่แหล่ะ ส่วนชั้นที่ 4 และชั้นที่ 5 เป็นอะไร ผมยังไม่เคยขึ้นไปสำรวจ เพราะผมเพิ่งมาทำงานได้แค่ 3 วันเอง

งานโดยทั่วไปก็ไม่ถือว่าโหดร้ายมากนัก เพราะเป็นงานเกี่ยวกับสารสนเทศของบริษัทนั้น ซึ่งไม่มีระบบสารสนเทศที่เป็นระบบระเบียบ ที่ผ่านมาเขาใช้การจัดเก็บข้อมูลอย่างง่าย ๆ อีกอย่างหนึ่งคือ แผนกของผมแต่ก่อนยังไม่ถูกแยกออกเป็นแผนกสารสนเทศ แต่ก่อนจะรวมอยู่ในส่วนของสำนักงาน ทีนี้เมื่อบริษัทขยายตัว อะไรๆ ก็เริ่มยุ่งเยิง เขาก็เลยเปิดแผนกสารสนเทศ และประกาศรับสมัครเจ้าหน้าที่สารสนเทศ ซึ่งจะว่าไปก็มีผมเป็นคนที่ 2 ของแผนกนี้ เพราะว่าแต่ก่อนจะมีพี่ตอยที่เขาทำเกี่ยวกับสารสนเทศ แต่ว่าเขาต้องดูแลเกี่ยวกับการติดต่อลูกค้าภายนอกด้วย พี่เขาก็เลยโยนเกี่ยวกับสารสนเทศให้ผมดูแลทั้งหมด ช่วงแรก ๆ ก็มีติดขัดกันบ้าง แต่ตอนนี้ ก็ยังติดขัดเหมือนเดิม (เอ๊ะยังไง??) ก็เพิ่งผ่านไป 3 วันเอง อะไรจะไปเข้าที่ได้ไงล่ะ แต่พี่เขาบอกว่า กำลังรับเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง ก็ดี จะได้มาช่วย ๆ กัน

ห้องที่ผมนั่งก็อยู่ ชื่อห้องว่า “แผนกสารสนเทศ และเทคโนโลยี” ก็จะมีฝ่าย IT และฝ่ายการจัดการทั่วไปในห้องนั้นด้วย คอยดูแลเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ในบริษัท ซึ่งก็มีกันอยู่ทั้งหมด 9 คน แต่มีโต๊ะ 12 โต๊ะ สงสัยว่าจะรับเพิ่มมาแล้วก็มานั่งตรงที่ว่างนั้นแหล่ะมั้ง

เท่ากับว่าตอนนี้ผมก็เป็นลูกน้อง และเป็นเจ้านายในตัวเอง

“ป๊อก ถ้าเอ็งผ่านโปร ข้าจะให้เอ็งเป็นหัวหน้า” – พี่ตอยบอกผม
“ครับ” – ผมรับคำ
“เต็มที่ล่ะ นายเขาดูงานที่คุณภาพนะ”
“ครับ”

แล้วพี่ตอยก็เดินจากไป บอกว่า วันนี้พี่ไปคุยกับลูกค้า กรำเวรจริง ๆ ผมต้องถูกทิ้งมาอย่างโดดเดี่ยวมา 2 วัน แล้ววันนี้ก็อีกแล้ว ถ้าไม่บอกว่าแกเคยทำสารสนเทศนะ ต้องคิดว่าแกต้องทำเกี่ยวกับเซลแน่ๆ เพราะพี่ตอยแกเป็นคนพูดเก่งมาก

แล้วผมก็เริ่มหยิบข้อมูลของพนักงานในบริษัทมาทำต่อ
“คนไรวะ ชื่อสมหญิง” – ผมพูดเบา ๆ แล้วก็พลิกดูเกี่ยวกับประวัติ “หน้าตาก็สวย แต่ทำไมชื่อตลกงี๊วะ” อ่านชื่อเล่น “โบว์” “สงสัยมาจาก “โบราณ” ล่ะมั้ง” แล้วผมก็หัวเราะเบา ๆ คล้าย ๆ คนบ้า

“ขำไรยะ” – ผู้หญิงหน้าตาที่เหมือนในรูปเดินเข้ามา พร้อมกับเอกสารกองหนึ่ง
“เปล่าคับ” ผมรีบเก็บเอกสารของผมที่กระจายเต็มโต๊ะ
“อ่ะ จดหมายเวียน” แล้วเธอก็ยื่นเอกสารให้ผมเซ็นต์รับ
“ขอบคุณคับ”
“มาใหม่เหรอ เราชื่อโบว์นะ”
“ป๊อก ครับ”
“ไปก่อนนะ” – แล้วเธอก็เดินไป

จะว่าไปโบว์ก็น่ารักดีนะ ไม่รู้ดิ มันอาจจะเป็นการมองแบบผ่าน ๆ ก็ได้มั้ง เพราะเวลาผมมองผู้หญิงน่ารัก ใคร ๆ ก็จะบอกผมว่า เนี๊ยนะ น่ารักของแก แต่ก็ดีแล้วคับ ผมกับเพื่อนจะได้ไม่แย่งตลาดกันเอง

“แล้วไอ้ที่เมื่อเช้ากูมองผู้ชายล่ะ หมายความว่าไง”- ผมคิดในใจ คนมันยิ้มน่ารัก ก็เลยทำให้มีเสน่ห์ล่ะมั้ง

เที่ยงแล้วคับ ผมก็เดินลงไปกินข้าว ที่นี่ไม่มีโรงอาหารหรอกคับ เวลากินข้าวจะต้องเดินไปกินที่อื่น ไม่โรงอาหารบริษัทข้าง ๆ ก็ร้านข้าวแกง หรือก๋วยเตี๋ยวข้างทางแหล่ะคับ

เที่ยงวันนี้ไม่เหมือนเที่ยงวันอื่น ร้านไหน ๆ คนก็เต็ม ไม่รู้มาจากไหน แค่ผมลงมาช้าไป 5 นาที ไม่มีที่นั่งให้ผมเลย หลังจากเดินหาอยู่นานพอสมควร ผมก็มาตกอยู่ที่ร้านขายข้าวแกงข้างทาง ข้างบริษัทของผมเอง ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 1 โต๊ะที่ว่างอยู่

“ขนมจีนยอดมะพร้าวคับ” – ผมสั่งป้า แล้วก็เดินไปนั่งที่โต๊ะ

ระหว่างกำลังรอให้ป้ามาเสริ์ฟที่โต๊ะ ผมก็นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ ว่าบ่ายวันนี้ผมกะว่าจะพิมพ์ข้อมูลให้เสร็จ แล้วจะได้จัดระเบียบกับข้อมูลซักที
 
“ขอโทษคับ มีคนนั่งป่ะคับ”
“ไม่มีคับ” – ผมตอบไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง
“ขอบคุณนะคับ”

ผมเงยหน้าขึ้นไปดูเพื่อนร่วมโต๊ะอาหาร เฮ้ย!!! ไอ้เสื้อน้ำตาลนี่หว่า มันจะมาหลอกหลอนผมไปถึงไหนเนี๊ย มันจ้องมองมาทางผม แล้วก็ยิ้มเหมือนกรุ้มกริ่มอะไรของมันไม่รู้ ผมก็เขินสิคับ แกล้งมองไปทางอื่น พอดีเห็นหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะข้าง ๆ เขาไม่อ่านแล้ว ผมก็เลยวิสาสะหยิบมา ซึ่งหนังสือพิมพ์จะมี 2 ส่วน ผมหยิบส่วนที่เป็นข่าวกีฬาขึ้นมาก่อน จริง ๆ แล้วผมอ่านมาแล้วแหล่ะคับ แต่มันเล่นจ้องหน้าผมอย่างงี๊ ผมก็เขินอ่ะดิ

“ขอโทษนะคับ ผมขออ่านส่วนแรกด้วยได้ป่ะคับ” – ไอ้เสื้อน้ำตาลมันพูดกับผม
“คับ ตามสบายคับ” – ผมส่งส่วนแรกของหนังสือพิมพ์ให้มัน มันก็รับมาอ่าน

เกร็งสิคับผม อะไรเนี๊ย มันจะมาอะไรกับผมนักหนาเนี๊ย
-------------------

ขอบคุณทุกท่าน ทุกแรงใจนะคับ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 24-11-2008 21:41:39
สนุกดีคับ     :L2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 24-11-2008 21:45:23
^
^
^
มาชนท้ายไม่ทัน งั้นจิ้มผ่านรีบนละกันเนะ

แล้วเสื้่อน้ำตาลคนนั้นเป็นไผ ไหนๆนั่งกินข้าวด้วยกันแล้วก็ทำความรู้จักกันซะหน่อยซิ อิๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: i-tatae ที่ 24-11-2008 21:59:44
 :z1:

มา จิ้มๆๆๆ



อิอิ   อยากอ่านต่ออะ


เอาอีกๆๆๆๆ   :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 24-11-2008 22:02:12
เกร็งสิคับผม อะไรเนี๊ย มันจะมาอะไรกับผมนักหนาเนี๊ย
-------------------

ขอบคุณทุกท่าน ทุกแรงใจนะคับ
 :pig4:

สงสัยจะมาเป็นแฟนนะค่ะ :really2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 24-11-2008 22:09:23
มาเจิมเรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 24-11-2008 22:40:41
แหม เจอคนตัวเล็กช่างรุก ออกจะเป็นเรื่องดี ป๊อกนี่สงสัยจะกลัวโดนจีบ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 25-11-2008 12:05:49
อ่าาาา แล้วน้องเสื้อน้ำตาลลล จะรุกยังไงต่อหว่า
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 25-11-2008 17:18:18
ท่าทางน่าสนุกแฮะ รอตอนต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 25-11-2008 22:14:15
 :m23:
กำลังปั่นตอนที่ 2 คับ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความต้อนรับนะคับ โดยเฉพาะขาประจำ
(ก็ป้าbellbomb นั่นแหล่ะ ป้าแกอ่านไปทั่ว เรื่องตัวเองเลยไม่ค่อยคืบหน้า)

ติชมกัน เม้นกันได้นะคับ จะได้ปรับปรุง ตอนนี้น้องป๊อกอยู่ในโหมดเขิล  :o8:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 25-11-2008 23:09:52
^
^
^
ย้ากส์ โดนอ้างอิงเลยแวะมาชนท้าย

ไปนอนแระ ส่วนตอนใหม่ก็ยังไม่มาลงเหมือนเดิม ชริ  :a14:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 1[24-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 25-11-2008 23:18:03
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 26-11-2008 22:24:45
ตอนที่ 2
 :m21:
“ขนมจีนยอดมะพร้าวใช่ป่ะคะ”
“ใช่คับ”

แล้วแม่ค้าก็วางสิ่งที่ผมสั่งไว้บนโต๊ะสองจาน

“ว่าแต่ผมสั่งจานเดียวนะคับ”

ขณะเดียวกันไอ้เสื้อน้ำตาลมันก็ยื่นมือของมันมาคว้าขนมจีนยอดมะพร้าวอีกจานไป นั่นหมายความว่า ผมกับมันสั่งเหมือนกัน และก็นั่งโต๊ะเดียวกันด้วย มันส่งยิ้มให้ผม ก่อนที่จะเริ่มเอาขนมจีนเข้าปาก ผมก็กำลังงง ก่อนที่จะพยักหน้าตอบรับการยิ้มของมัน แล้วก็กิน

“ยิ้มมันดึงดูดใจจริง” – ผมคิดในใจ “ก่อนเก็บตังมองหน้ามันหน่อยนึงละกัน” แล้วผมก็เงยหน้ามองมันเมื่อผมกินเสร็จ มันก็กำลังก้มหน้าก้มตากิน ตอนที่ผมมองมันก็ไม่ได้ยิ้มอะไรหรอกคับ แต่ ทำไมมันน่ารักอย่างงี๊ว้า...
 
“เก็บตังด้วยคับ” - ผมบอกกับแม่ค้า
“40 บาทค่ะ”
“จานละ 40 เลยเหรอคับ”
“เปล่าค่ะ จานละ 20 บาทค่ะ”
“คือว่า.....”
ไม่ทันขาดคำ ไอ้เสื้อน้ำตาลมันก็ยื่นธนบัตรสีแดงให้แม่ค้า แล้วก็บอกว่า “สองจานคับ” ผมล่ะอึ้งไปเลย ทำตัวไม่ถูก จะหันไปมองหน้าแล้วจะทำไงดี เมื่อเช้าไปเยียบเท้ามันตั้งสองรอบ แถมยังจะมาเลี้ยงข้าวอีก เขิลก็เขิล อายก็อาย

“ขอบคุณนะคับ” – ผมบอกกับไอ้เสื้อน้ำตาล มันก็ยังคงทำหน้ายิ้มแป้น
“ไม่เป็นไรคับ”
“...........”
“เราเจอกันบ่อยจังนะคับ” – ไอ้เสื้อน้ำตาลพูดกับผม เราสองคนยังนั่งที่ร้านขายข้าวราดแกงอยู่
“มั้งคับ”
“ทำงานแถวนี้เหรอคับ”
“ใช่คับ”
“เอ่อ ที่ไหนเหรอคับ”
“บริษัท....... (ชื่อบริษัท)....”
“อ่อคับ ตรงข้ามกับผมเลยคับ ผมทำที่ร้าน(....ชื่อร้าน....)”
“ที่เกี่ยวกับแปลภาษาป่ะคับ” – ผมรู้เพราะร้านมันบอกว่า รับแปลภาษา
“ใช่คับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่แปลภาษา”
“คับ”
“ชื่ออะไรล่ะคับ”
“ผมชื่อป๊อกคับ”
“ผมชื่อก๊อกคับ”
“ชื่อคล้ายกันเลยนะคับ” - เราทั้งคู่หัวเราะเกือบพร้อมกัน
“ยังไงไปก่อนนะคับ ว่าง ๆ ก็แวะไปที่ร้านได้นะคับ”
“แล้วจะแวะไปคับ โชคดีคับ”

.
.
.
.
.
.
เดินกลับที่ทำงานด้วยความงง และความรู้สึกแปลกๆ ไม่แปลกที่ว่ากินฟรีหรอก แต่ไม่รู้ทำไมไอ้เสื้อน้ำตาลคนนั้นมันถึงมาคุยกับเรา แต่ก็เอาเหอะ อย่างน้อยก็คงได้เพื่อนร่วมทางมาทำงานด้วยแหล่ะ
.
.
.


ถึงoffice ตอนบ่าย นั่งเคลียร์ข้อมูลต่อจนเย็น ไม่ได้คุยกับใคร ไม่ใช่ไม่อยากคุยนะ แต่ว่างานมันล้นเหลือเกิน กะว่าจะให้เสร็จเร็ว ๆ คนที่นั่งข้างหน้าก็หันมาคุยกับเราบ้างเป็นครั้งคราว สืบสาวราวเรื่องถึงรู้ว่าชื่อตู่ พี่ตู่เป็นแผนกดูแลระบบคอมพิวเตอร์ หรือจะเรียกให้รู้จักก็คือ ช่างคอมพิวเตอร์ประจำสำนักงานแหล่ะ คอมพิวเตอร์นอกจากแผนกสารสนเทศที่จะได้ใช้คอมสเปกหรู ๆ แล้ว แผนกอื่นน่ะอย่าได้หวัง เอา Pentium 4 RAM 128 เก่า ๆ ไปก่อนละกัน ซึ่งก็จะมีปัญหาตรงที่ว่าคอมมันอืด พี่ตู่ก็เลยต้องไปซ่อมบ่อย ๆ

ตอนเย็นแล้ว ผมก็คงได้เวลากลับบ้าน งานของผมเลิกห้าโมงตรง แต่ผมทำงานจนเพลิน (เจ้านายน่าจะเห็นใจและเขียน OT เนอะ) เลยเวลากลับมาประมาณครึ่งชั่วโมง พี่ๆ ที่ห้องเขากลับกันไปหมดแล้ว เหลือแค่คุณพี่ตอยที่มันจะต้องแวะมาทุกเย็น แต่เย็นวันนี้มันยังไม่มา ไม่รู้มันไปไหนของมัน

“ป๊อก จะกลับยัง”
“กำลังจะกลับแล้วคับ พี่มีไรป่ะคับ”
“ก็จะบอกว่า พรุ่งนี้พี่จะไปข้างนอก ไม่เข้ามาที่ office นะ”
“แล้ว....”
“บอกแค่นี้แหล่ะ ไม่มีไรหรอก”
“อ้าว ซะงั้นอ่ะ แล้วผมจะปรึกษาใครล่ะ”
“IT ข้างหน้าไง อยากได้โปรแกรมอะไรก็บอกมัน”
“เอ่อคือ...”
“เอาน่า พี่ไปนะ”
“อ่า...คับคับ”

แล้วพี่ตอยก็เดินจากไป

แต่จริง ๆ แล้วก็ดีเหมือนกัน อิสระก็เป็นของผม ตอนแรกกะว่าจะเคลียร์งานให้เสร็จวันนี้ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้ยังมี ดังนั้นผมขอกลับไปพักก่อนละกันนะ

เก็บข้าวของ เตรียมตัวกลับบ้านแล้วคับ
.
.
.
.

เดินดุ่ม ๆ มาที่ป้ายรถเมล์ รอรถสายเดิมที่นั่งมาตอนเช้า รถเมล์ที่ผมรอตอนเช้าและตอนเย็น คนก็แน่นพอกันแหล่ะคับ รถฟรีเพื่อประชาชน ผมไม่เคยจงใจรอมันซักนิด แต่มันก็มาให้ผมขึ้นแทบจะทุกครั้งที่ผมรอ แล้วก็พาตัวเองเบียดคนแน่น ๆ ขึ้นไปได้ในที่สุด

“หวัดดีคับป๊อก”
ผมหันหลังกลับไปตามเสียงที่เรียกผม ไอ้เสื้อน้ำตาลนามว่าก๊อกนั่นเอง
“อ่า...ว่าไงคับ”
“กลับเวลานี้ทุกวันเหรอคับ” - -นายเสื้อน้ำตาลนามว่าก๊อกถามผม
“เปล่าคับ วันนี้กลับเย็น”
“อ่าคับ แล้วก๊อกล่ะคับ”
“ก็ตอนนี้แหล่ะคับ งานผมเลิกประมาณ 6 โมง”
“ทุกวันป่ะคับ”
“แต่วันไหนมีงานด่วน ผมก็กลับดึกน่ะคับ”
“คับผม” – แล้วผมก็เงียบไป
.
.
.
.
“ลงตรงไหนคับ” – นายก๊อกถามผม หลังจากปล่อยให้เงียบไปนาน
“เทเวศน์คับ”
“ที่เดียวกันเลยคับ”
“ก็ผมเยียบเท้านายตั้งสองครั้ง” - ผมเตือนความจำนายก๊อก
“อ่ะคับ ไม่เป็นไรหรอก เข้าใจ คนมันแน่น”
“คับ”

แล้วเมื่อถึงป้ายเทเวศน์ ผมกับนายก๊อกก็ลงพร้อมกัน แล้วก็เดินไปขึ้นรถอีกสายหนึ่งพร้อมกัน

“นายทำงานที่นี่นานยัง” - นายก๊อกถามผม
“เพิ่งมาทำเองคับ พอดีเพิ่งสมัครงาน”
“เพิ่งจบล่ะสิคับ”
“ใช่คับ”
“สงสัยคงต้องเรียกว่าน้องแล้วล่ะ” - พูดไปนายก๊อกก็ยิ้มไป
“เหรอคับ แล้วก๊อกอายุเท่าไหร่ละคับ”
“25 คับ”
“งั้นก็เป็นพี่ผม 2 ปี”

รถเมล์มาพอดี คราวนี้พอมีที่ว่างบ้าง เราสองคนจึงขึ้นรถไป
----------------
มาแล้วคับ ช้าไปนิด ขอโทษด้วยคับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 26-11-2008 22:26:44
^
^


จิ้มคนแรก555+ :man1:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 26-11-2008 22:44:57
อ่าาาาาา  ทำความรู้จักกันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 26-11-2008 22:45:55
บ้านใกล้กัน เจอกันตลอดแบบนี้ เนื้อคู่จริงๆเลย o18
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 26-11-2008 22:51:10
สนุกดีอะ ตะเอง

มาต่อไวๆ เน้อ

น่ารักดี o18

นายป๊อก กะ นายก๊อก
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 27-11-2008 09:39:03
ป๊อกก๊อก ป๊อกก๊อก ป๊อกก๊อก เสียงน่ารักดี ฮิๆ

เหมือนพรหมลิขิตให้มาเจอกันเลยแฮะ อิๆๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 27-11-2008 17:10:25
ชื่อกิ๊บเก๋มากกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 27-11-2008 19:01:40
อ่านแล้วรู้สึกว่านาย ก็อก น่ารักจังเลย อะ

แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ อิๆ  o13
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 2 [26-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 28-11-2008 22:07:40
มีเรื่องปรึกษาครับ
 :m28:
คือว่าเรื่องนี้ มันมี plot ซ้ำกับเรื่องหนึ่งในบอร์ดนี้อ่ะคับ พอดีอ่านเจอโดยบังเอิญ แล้วอ่านไปพบว่า นั่นเป็น plot ที่ผมกำลังจะแต่งออกมาเลยคับ (แต่ยังไม่ได้แต่งออกมา)

ผมมีทางเลือก 3 กรณี
1. ยืนยันตามโครงเรื่องเดิม แม้จะซ้ำกับเรื่องในนี้
2. เปลี่ยนเค้าโครงเรื่องใหม่ โดยใช้ตัวละครเดิม
3. เลิกแต่งไปเลย แล้วไปเเต่งเรื่องใหม่แทน

ลองถามดูนะคับ เพราะว่าเรื่องเพิ่งไปได้แค่ 2 ตอน แล้วก็ยังไม่มีพิมพ์สำรองเก็บไว้

ยังไงคอมเม้นไว้ด้วยนะคับ
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : มีเรื่องจะปรึกษาคับ
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 28-11-2008 22:25:32
เย้ๆดีใจจัง  ได้อ่านเรื่องใหม่แล้ว  :z2:

ความเห็นเรานะ  ถ้าบำลากใจก็เปลี่ยนพล็อตใหม่ แต่ถ้าไม่ลำบากใจก็แต่งพล็อตเดิมไปเลย

รายละเอียดมันคงไม่เหมือนกันไปหมดหรอก ว่าม๊ะ???

ไม่ว่าจะยังไงก็ยังจะอ่านอยู่น้า

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : มีเรื่องจะปรึกษาคับ
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 28-11-2008 22:40:01
มีเรื่องปรึกษาครับ
 :m28:
คือว่าเรื่องนี้ มันมี plot ซ้ำกับเรื่องหนึ่งในบอร์ดนี้อ่ะคับ พอดีอ่านเจอโดยบังเอิญ แล้วอ่านไปพบว่า นั่นเป็น plot ที่ผมกำลังจะแต่งออกมาเลยคับ (แต่ยังไม่ได้แต่งออกมา)

ผมมีทางเลือก 3 กรณี
1. ยืนยันตามโครงเรื่องเดิม แม้จะซ้ำกับเรื่องในนี้
2. เปลี่ยนเค้าโครงเรื่องใหม่ โดยใช้ตัวละครเดิม
3. เลิกแต่งไปเลย แล้วไปเเต่งเรื่องใหม่แทน


อืม เข้าใจฟีลนะ เพราะเราก็คงไม่อยากให้เรื่องของเราโดนเอาไปเปรียบเทียบใช่มะ ยิ่งถ้ามันดันมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันด้วยล่ะก็

ส่วนตัวป้าแนะว่าให้เอาข้อ 1. ผสมข้อ 2. คือเข้าใจว่ามันทำใจยากถ้าต้องมาเปลี่ยนพล็อตที่เราคิดไว้แล้ว แต่ก็อาจใช้วิธีลองปรับๆจากตัวละครเดิมนี่แหละให้เรื่องมันแตกต่างออกไป มันจะได้ออกมาออริจินอลอย่างที่เราต้องการ

ส่วนข้อ 3. เสียดายอ่าถ้าจะเลิกแต่งไปเลย อุตส่าห์เริ่มมาแล้วเน้อ ยังไงป้าก็เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ  :call:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : มีเรื่องจะปรึกษาคับ
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 28-11-2008 22:42:18
มีเรื่องปรึกษาครับ
 :m28:
คือว่าเรื่องนี้ มันมี plot ซ้ำกับเรื่องหนึ่งในบอร์ดนี้อ่ะคับ พอดีอ่านเจอโดยบังเอิญ แล้วอ่านไปพบว่า นั่นเป็น plot ที่ผมกำลังจะแต่งออกมาเลยคับ (แต่ยังไม่ได้แต่งออกมา)

ผมมีทางเลือก 3 กรณี
1. ยืนยันตามโครงเรื่องเดิม แม้จะซ้ำกับเรื่องในนี้
2. เปลี่ยนเค้าโครงเรื่องใหม่ โดยใช้ตัวละครเดิม
3. เลิกแต่งไปเลย แล้วไปเเต่งเรื่องใหม่แทน


อืม เข้าใจฟีลนะ เพราะเราก็คงไม่อยากให้เรื่องของเราโดนเอาไปเปรียบเทียบใช่มะ ยิ่งถ้ามันดันมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันด้วยล่ะก็

ส่วนตัวป้าแนะว่าให้เอาข้อ 1. ผสมข้อ 2. คือเข้าใจว่ามันทำใจยากถ้าต้องมาเปลี่ยนพล็อตที่เราคิดไว้แล้ว แต่ก็อาจใช้วิธีลองปรับๆจากตัวละครเดิมนี่แหละให้เรื่องมันแตกต่างออกไป มันจะได้ออกมาออริจินอลอย่างที่เราต้องการ

ส่วนข้อ 3. เสียดายอ่าถ้าจะเลิกแต่งไปเลย อุตส่าห์เริ่มมาแล้วเน้อ ยังไงป้าก็เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ  :call:


  เห็นด้วยค๊าบๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : มีเรื่องจะปรึกษาคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 28-11-2008 22:44:01
อย่าเลิกแต่งเลยนะ

ก็แต่งแบบเดิมเราแหละ แต่อาจปรับไรนิดๆหน่อยๆก็ได้

แต่ก็นะ เอาความสบายใจของเราดีที่สุด

ยังไงก็รออ่านต่ออยู่น้าาาาา
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : มีเรื่องจะปรึกษาคับ
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 28-11-2008 23:02:18
เห็นด้วยกะการเอา 1กะ 2 มามิกซ์กัน เพราะแต่งมาถึงขนาดนี้แล้วน่าสงสารตัวละครออก ป๊อกกับก๊อก ยังไปไม่ถึงไหนกันเลยอ่ะ น่าสงสารจะตายไป  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 3 [29-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 29-11-2008 22:52:16
ตอนที่ 3
 :a1:
เมื่อถึงจุดหมายที่ผมและนายก๊อกต้องลง เราก็ลงรถพร้อมกัน

“ปกติขึ้นรถสายนี้กี่โมงอ่ะคับ” - นายก๊อกถามผม
“ก็ประมาณหกโมงครึ่งน่ะคับ มาจากรัชดา”
“อ่ะคับ เดี๋ยวผมก็นั่งรถไฟฟ้ากลับไปลงอโศกอ่ะคับ”
“เหรอคับ อยู่กับใครล่ะคับ”
“น้องชายคับ แล้วป๊อกล่ะ”
“คนเดียวคับ”
“คับ”

เราสองคนเดินข้ามสะพานลอยที่อนุเสารีย์อยู่ซักพัก นายก๊อกก็ขอแยกตัวไปขึ้นรถไฟฟ้า

“กลับก่อนนะคับ ยังไงพรุ่งนี้อาจจะได้เจอกัน”
“คับ โชคดีคับพี่ก๊อก”
“เช่นกันคับป๊อก”

จะว่าไปก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีแบบนี้ ทั้งๆ ที่ก็เพิ่งรู้จักกัน แต่ว่าทำไมพี่ก๊อกถึงคุยดีกับผมเหลือเกิน แล้วอีกอย่าง ทำไมไอ้คุณพี่ก๊อกมันน่ารักอย่างงี๊วะ เวลามันยิ้มน่ะ โลกแทบจะหยุดหมุน ผมเดินเหม่อจนได้ยินเสียงหนึ่ง
“เดินไปหน่อยคับ หน้าประตูเดินได้เดินเข้าไปก่อนนะคับ”

.
.
.
.
รถแน่นมากตอนเย็น (อ้างอิงจากสายที่มีจำนวนครั้งในการเลี้ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 1: ลองไปหาดูนะคับ) ผมก็เดินเบียด ๆ เข้าไป จนถึงบ้าน ไม่สิ apartment ต่างหากล่ะ


.
.
.
.
.
.
.
.
ห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ผมอยู่มาตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนปริญญาตรี จนผมเรียนจบมาหลายเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างยังคงอยู่ เป็นทั้งความทรงจำที่ดี และความทรงจำที่ไม่ดีนัก

ผมมาจากต่างจังหวัด ครั้งแรกที่ผมเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังใจกลางเมืองหลวง ยอมรับเลยว่า ไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน นอกจากเนื้อหาวิชาการที่พอจะสู้กับคนอื่นได้ แต่ความรู้รอบตัวในกรุงเทพของผม ผมไม่มีเลย นั่งเป็นอย่างเดียวก็คือ แท๊กซี่ แล้วก็รถเมล์สายที่ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น

เพื่อนคนแรกที่ผมได้รู้จักก็คือ “ก้อง” ก้องเป็นเด็กกรุงเทพโดยกำเนิด แต่ทำไมมันดำจังวะ บอกว่าเป็นเด็กใต้ก็เชื่อนะเนี๊ย มันเป็นคนตัวสูง ๆ ผิวน้ำตาลดำ รูปร่างสมส่วน ถ้าเดินกับผมบางครั้งอาจจะเรียกว่า สองคนนี้เป็นคู่แฝดกัน แต่มันจะเตี๊ยกว่าผมอยู่ซักประมาณ 5 เซนติเมตร เห็นจะได้

ก้องเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนมาจากโรงเรียนเก่า เหมือนกับผม ที่ก้องเรียนคณะนี้เพราะก้องอยากเรียน แม้ว่าพ่อกับแม่ของก้องมันจะว่าไงก็ตาม มันก็ยังยืนยันที่จะเรียนคณะนี้ แต่สุดท้ายพ่อกับแม่มันก็เข้าใจ และส่วนใหญ่เพื่อนของก้องก็ไม่นิยมเรียนด้วย เพราะจบมาแล้วหางานที่ตรงสายได้ยาก

ดังนั้นผมกับก้องจึงเป็นเพื่อนสนิทกับผม ในเวลาที่ไม่นานมากนัก

“ไอ้ป๊อก”
“หือ...ว่าไงมึง”
“เที่ยงแล้ว กินไรดี”
“โรงอาหารคณะสังคม วันนี้อยากกินขนมจีนยอดมะพร้าวว่ะ”
“ไปเลยเพื่อน” – แล้วมันก็ลากผมไป

ไอ้ก้องเป็นคนที่ตามใจผมมาก จนบางครั้งก็รู้สึกเกรงใจมันบ้าง บางครั้งก็ลองให้มันเลือกเองบ้าง ว่ามันอยากกินอะไร แต่สุดท้ายมันก็ตามใจผมทุกครั้ง

นอกจากไอ้ก้องแล้ว ผมก็ยังมีเพื่อนอีก 2 คน คือไอ้ตูน กับไอ้ตั๋ง สองคนนี้มันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.ต้น จนถึงปัจจุบัน จากโรงเรียนกางเกงน้ำเงินแถวที่มีรถไฟฟ้าผ่าน มันบอกว่าที่มันเลือกมาคบกับพวกผมเป็นเพราะผมกับไอ้ก้องจริงใจดี มันก็เลยมาเข้ากลุ่มกับพวกผม

แล้วก็มีสาว ๆ ในคณะเดียวกันแวะเข้ามาคุยเล่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากนัก

ช่วงแรก ๆ พวกเราทั้งสี่คนต่างก็เดินเล่น กินข้าวกลางวัน เดินห้าง (พาเปิดหูเปิดตาโดยไอ้ก้อง) ทำให้ผมรู้จักกรุงเทพมากขึ้น

ผมยังจำครั้งแรกที่ไอ้ก้องมันพาผมไปสยาม สาว ๆ เดินกันเกลื่อนเมือง นิสิตจากรั้วสีชมพูเดินกันให้ขวักไขว่ ผมงี๊ล่ะตื่นเต้นเป็นเจ้าเข้า หันไปหันมา บอกไม่ถูกอ่ะคับ จะเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงก็คงไม่แปลก

อย่างเวลากินอะไรผมก็ต้องคอยถามก่อน “แพงป่ะวะ” “กินกันยังไงอ่ะ” หรือไม่งั้นก็ถามว่า “ห้องน้ำอยู่ตรงไหน” พอมารู้ทีหลังว่า ร้านพวกนี้เขาก็ไม่มีห้องน้ำในตัวหรอก เขาไปเข้าห้องน้ำห้างกัน

เป็นที่สังเกตอยู่อย่างหนึ่ง คือว่าเวลาพวกผมไปเดินสยามกัน 4 คน เวลาผมเหลียวหลังไปมองสาว ๆ ไอ้ก้อง และไอ้ตูน มันไม่หันไปมองตามซักคน แต่จะมีไอ้ตั๋งที่หันไปมอง บางครั้งก็วิจารณ์ “วันหลังสั้นได้อีก” ไม่งั้นก็ “ขาแม่งอย่างกับตอหม้อ” สงสัยไอ้ตั๋งมันมองแต่ขา

เวลาล่วงเลยไปเกือบปี ในตอนสอบปลายภาคเรียนที่สอง วันสุดท้าย เรา 4 คน ก็ไปฉลองสอบเสร็จแถว ๆ รัชดา ดินแดนที่จะบอกว่า เข้มในการตรวจบัตร แต่ถึงอย่างงั้นก็เหอะ ไอ้ตั๋งก็พาพวกเรา 4 คนเข้าไปได้สำเร็จ ร้านที่พวกเราไปเที่ยวกันเป็นร้านที่มีแต่ผู้ชายเที่ยวกัน แปลกดีเนอะ ทำไมผู้หญิงเขาไม่เที่ยวกันมั่งล่ะ

เดินเข้าไป บรรยากาศเริ่มแปลกมากขึ้น ทำไมมันมืด ๆ ปกติตามต่างจังหวัด ผมก็จะไปเที่ยวตามร้านอาหารอยู่บ้าง  ซึ่งก็ไม่มืดมากนัก แต่เหล้าน่ะ ยังไม่เคยกินนะคับ เราสี่คนเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่ง เป็นโต๊ะกลม ไม่มีเก้าอี้ซักตัว จากนั้นไอ้ตั๋งก็สั่งอะไรไม่รู้ ไม่นานเหล้าพร้อม mixer 1 ชุดก็มาตั้งตรงหน้าผม

ด้วยความที่ผมไม่เคยกินเหล้า วันนั้นก็เป็นครั้งแรก ที่ผมได้รู้รสของแอลกอฮอล์ ก่อนที่แก้วแรกจะกระดกเข้าปาก ผมต่อสู้กับตัวเองอยู่นาน พ่อกับแม่สอนไว้ว่า เวลาเข้ากรุงเทพน่ะ อย่าหลงแสงสี อย่ากินเหล้า อย่ามั่วผู้หญิง ห่างไกลพ่อแม่ ดูแลตัวเองด้วย และหลายคำพูดที่พ่อกับแม่ท่านสั่งผม ก่อนที่ผมจะมาเรียนที่นี่ แล้วทุกอย่างก็ทลายลง เพราะคำพูดว่า

“ป๊อก ถ้ามึงไม่กิน มึงก็เป็นอีตุ๊ด”

คำสบประมาท ผมยอมไม่ได้ ใครจะว่าอะไรผมก็ช่าง แต่เรื่องนี้ ผมไม่ยอมเด็ดขาด แล้วเหล้าแก้วแรกของผมก็ผ่านลำคอผมลงไป
.
.
.
หลังจากนั้น สองแก้ว สามแก้ว สี่แก้ว.... จนผมเซแทบยืนไม่ได้ ยิ่งดึกก็ยิ่งมันส์ อะไรก็ฉุดไม่อยู่ จำได้ว่าตอนเดินไปที่ห้องน้ำ กำลังยืนฉี่ด้วยความโล่ง อยู่ดีๆ ก็มีคนเข้ามาโอบเอวของผม

“ไหวป่ะคับ”
“อื้อ...เอิ๊ก...ไห..ว คร้า....บบบ” - เมาเต็มที่เลยผม
“โต๊ะอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวไปส่ง”
“เพื่อนผมคับ ผมพาไปเอง ขอบคุณคับ” – ไอ้ตั๋งเข้ามาช่วยผม แล้วมันก็โอบเอวผม แล้วค่อย ๆ พยุงไปที่โต๊ะ

จนผับปิด เพื่อน ๆ ทั้งสามคน ต่างก็ลากผมออกมาได้สำเร็จ แล้วก็จับผมยัดใส่แท๊กซี่ แล้วก็ไปส่งที่หอผม โดยมีไอ้ก้องนั่งไปกับผมด้วย มันบอกว่า กลัวผมเปิดประตูห้องไม่ได้ แล้วผมกับไอ้ก้องก็แยกจากไอ้ตูนกับไอ้ตั๋งตั้งแต่หน้าผับ

จนถึงห้อง ผมแทบจะไม่มีแรงเดินขึ้น กว่าจะขึ้นมาถึงห้องผมได้ ไอ้ก้องคงเหนื่อยเหมือนกัน

ผมส่งกุญแจให้ไอ้ก้องไขเข้าห้อง ไอ้ก้องมันเคยมาหอผมสองครั้ง ครั้งแรกมาเพราะมันผ่านมา ก็เลยแวะเล่น ๆ ส่วนครั้งที่สองมันมาติวหนังสือห้องผม กับไอ้ตูนแล้วก็ไอ้ตั๋งนั่นแหล่ะ พอปิดประตูห้องเท่านั้นแหล่ะ

“ไอ้ป๊อก”
“อา...รัย...เหรอ”
“ไปอาบน้ำไปเร็ว”
“ม่าย....เอา....อ่ะ กู.....ง่วง”
“ป๊อก เร็ว ไปอาบน้ำ”
“ม่าย...อาบ....น้าม....กู.....ง่วง”
“ไอ้ป๊อก มึงจะถอดเอง หรือจะให้กูถอดให้”
“กู....”

แล้วไอ้ก้องมันก็รูดซิบกางเกงยีนส์ผมก่อนเป็นอันดับแรก

“สัด ไอ้....ก้อง กูอาบก็ได้...วะ”

เท่ากับว่า ผมก็ต้องอาบน้ำอ่ะดิ แต่เมื่อหลังอาบน้ำเสร็จ ผมรู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก เริ่มสร่างเมามั่งแล้ว เพราะพอจะเห็นไอ้ก้องมันนั่งใส่กางเกงในตัวเดียวที่ปลายเตียง

“ป๊อก ผ้าเช็ดตัวมึงอยู่ไหนวะ”
“แป๊บนึง เดี๋ยวเอาให้”

ผมส่งผ้าเช็ดตัวให้ไอ้ก้อง แล้วมันก็เดินเข้าห้องน้ำไป
-------------
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 3 [29-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 29-11-2008 22:55:19
^
^
^
^
จิ้มคนแต่ง :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 3 [29-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 29-11-2008 23:34:07
ก้องคือแฟนคนแรก? :really2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 3 [29-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 29-11-2008 23:45:34
แอร๊ยยย์ ค้าง  :z1:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 3 [29-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 29-11-2008 23:48:39
ค้างจริงๆๆๆ  ก้องเป็นแฟนคนแรกป่ะ 

 :z2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 3 [29-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 30-11-2008 03:40:49
อิๆท่าทางคู่เด็กกางเกงน้ำเงิน กับ ก้อง จะเป็น ... นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 3 [29-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 30-11-2008 14:30:42
กร๊ากกกก โดนพาไปเที่ยวผับเกย์แล้วยังไม่รู้ตัวอีก ความรู้สึกช้าจริง ๆ เจ้าป๊อก  :m20:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 3 [29-11-08]
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 01-12-2008 01:08:49
หรือว่าก้องแอบมีใจ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 03-12-2008 15:47:49

ตอนที่ 4
 o22
ไอ้ก้องอาบน้ำเสร็จ ผมส่งผ้าไปให้ไอ้ก้องมันเช็ดตัว

“ป๊อก”
“อะไรวะ ก็ง่วงแล้วมึง”
“มึงเมาป่ะเนี๊ยตอนนี้”
“ก็มึน ๆ”

แล้วไอ้ก้องมันก็เริ่มเขยิบเข้ามาหาผมเรื่อย ๆ จากที่เคยนั่งห่างกันจนตอนนี้เราสองคนนั่งติดกันมาก

“ป๊อก กูมีเรื่องอยากบอกมึงว่ะ”
“บอกพรุ่งนี้ได้ป่ะ กูนอนก่อนนะ ง่วง” – แล้วผมก็ล้มตัวลงนอนไป

.
..
...
....
“ป๊อก”
“หือ... กูง่วง”
“กูชอบมึงนะ”
“หือ......อือ”

แล้วผมก็หลับไปโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรอีก

 หลังจากคืนนั้นผ่านไป ผมรู้สึกว่าผมมึน ๆ หัวอย่างมาก หันไปมองนาฬิกา ก็ประมาณ 9 โมงแล้ว ผมจึงบิดขี้เกียจ

“เฮ้ย!!! เสื้อผ้ากูไปไหนวะ”

ผมอยู่ในสภาพที่ไม่เหลืออะไรติดตัวเลย กระทั่งบ๊อกเซอร์ที่ผมจำได้ว่าผมจะต้องใส่ก่อนนอน มันก็หายไปไหนก็ไม่รู้ ผมเริ่มทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืน เหมือนจำได้ลาง ๆ ว่า ผมเมา แล้วก็ง่วงมาก แล้วไอ้ก้องมันก็พาผมกลับมาที่หอ แล้วมันก็อาบน้ำ แล้วก็นอนข้าง ๆ ผม

“ไอ้ก้องหายไปแล้ว” – ผมจึงตัดสินใจลุกออกจากเตียง หากางเกงบ๊อกเซอร์ที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมาใส่

แล้วก็ได้ยินเสียงจากห้องน้ำ สงสัยมันอยู่ในห้องน้ำ

“ป๊อกตื่นแล้วเหรอ เช้าอยู่เลย”
“ไอ้ก้อง เมื่อคืนมึงทำไรกู”
“ทำไร ก็ไม่ได้ทำไรซักหน่อย”
“ไม่ได้ทำไรแล้วบ๊อกเซอร์กูออกมาจากกางเกงกูได้ไงไอ้ก้อง”
“กูชอบมึง ป๊อก” – สั้น ๆ แล้วไอ้ก้องมันก็เข้ามากอดผม ผมยืนอึ้งทำไรไม่ถูก
“แสดงว่าที่กูได้ยินเมื่อคืน กูไม่ได้ฝัน”
“ใช่ ป๊อก เรื่องจริง กูชอบมึง”
“ก้อง มึงปล่อยกูก่อน”
“จนกว่ามึงจะบอกว่าไม่โกรธกู ไม่ว่ายังไงก็ช่าง”
“เออ ไม่โกรธ ปล่อยกูได้แล้ว”
.
.
.
.
“ก้อง ทำไมวะ”
“กูก็ไม่รู้ป๊อก กูคิดว่ามึงน่ารัก กูชอบมึงตั้งแต่วันแรกที่เจอมึง กูถึงเป็นเพื่อนกับมึง”
“ก็เป็นเพื่อนกัน ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมวะ”
“อยู่กับมึงไปนาน ๆ กูก็เริ่มมีใจให้มึง แต่มึงไม่เคยรู้อะไรเลยป๊อก กูพยายามให้มึงรู้”
“.......”
“ถ้ากูไม่ทำอย่างงี๊ มึงจะรู้เหรอไอ้ป๊อก ว่ากูคิดยังไงกับมึง”
“ก้อง คนที่จะชอบกันได้ ต้องเป็นผู้หญิงกับผู้ชายไม่ใช่เหรอ”
“เดี๋ยวนี้มันไม่จำเป็นแล้วมึง ผู้ชายผู้ชายก็รักกันได้”
“มัน......เอ่อ มันไม่แปลก ๆ เหรอ คือว่า กูเองชอบผู้หญิงว่ะก้อง”
“ป๊อก ถึงมึงจะไม่ชอบกู กูขอเป็นเพื่อนมึงต่อไปได้ป่ะ มึงอย่าไล่กูไปไหนนะ”
“...............”
“มึงก็รู้ว่ากูไม่มีเพื่อน มึงเท่านั้นแหล่ะป๊อกที่เป็นเพื่อนกู ถ้ามึงทิ้งกู กูไม่รู้จะไปอยู่ไหน มึงอย่าไล่กูให้ไปจากมึงเลยนะ” – ไอ้ก้องเริ่มบีบน้ำตา มันทำให้ผมเริ่มสงสารมันมากขึ้น
“ก้อง มึงฟังนะ กูไม่ทิ้งเพื่อนหรอก แต่ว่าเรื่องจะให้กูชอบกับมึง เป็นแฟนมึง มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ โลกสร้างมาให้ผู้ชายคู่ผู้หญิง มึงจะทำอย่างงี๊ไม่ได้”
“ได้สิ ถ้ามึงชอบกู กูคิดว่ามึงเองก็มีใจ ไม่งั้นกูก็ไม่กล้าหรอก”
“ตอนไหนวะที่ว่ากูมีใจ”
“หลายอย่างแหล่ะ ตอนที่มึงไปดูหนังกับกูสองคน กูป้อนpopcorn ให้มึง มึงก็รับ”
“แค่นั้นอ่ะนะ”
“ตอนที่กูไปซบมึง มึงก็ไม่ปฏิเสธกู”
“.............”
“กูก็คิดว่ามึงน่ะมีใจ”
“ก้อง กูขอโทษ ถ้ากูทำให้มึงคิดไปไกล”
“ป๊อก มึงไม่ต้องรีบให้คำตอบกูก็ได้นะ กูรอได้เสมอ”

ผมล่ะอึ้ง แค่นี้เองเหรอ ความที่ผมซื่อ ๆ ทำให้ไอ้ก้องมันคิดไปได้ไกลขนาดนั้น แต่ผมก็คงจะไม่ทิ้งมันไปหรอกคับ ผมเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนซักเท่าไหร่ด้วย ถ้าผมทิ้งมันไป ผมคงเหงา
.
.
.
.
.



.
.
.
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ไอ้ก้อง ไอ้ตูน ไอ้ตั๋ง ก็ยังวนเวียนในชีวิตของผม แม้จะปิดเทอมกันแล้ว ผมก็ยังไม่กลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะไอ้ก้องมันบอกว่า ถ้าผมกลับ มันจะเหงา แล้วทำไมผมต้องอยู่กับมันด้วย ประกอบกับเหตุผลของคนชอบเที่ยวอย่างไอ้ตูนกับไอ้ตั๋ง ที่มันบอกผมว่ามันจะพาเที่ยวกรุงเทพตอนปิดเทอมโดยละเอียด ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ดีไม่น้อย

คืนหนึ่งหลังจากที่กินข้าวเย็นเสร็จ

“ป๊อก”
“ไรเหรอ”
“พวกกูมีเรื่องจะบอก” – ไอ้ตั๋งทำหน้าเครียด
“เรื่องไรวะ”
“กูกับไอ้ตูนเป็นแฟนกัน”
“ผู้ชาย เป็นแฟนกัน กูงง”
“คือกูสองคนรักกันน่ะ”
“กูก็รักพวกมึงด้วยไงไอ้ตั๋ง” – ผมบอกไป อย่างเซ่อ ๆ
“มันไม่เหมือนกัน คือกูสองคนรักกันแบบ คนรักกันน่ะ”
“แล้ว.....”
“มึงเคยเข้าใจเรื่องรักร่วมเพศป่ะวะ”
“ใช่ที่มันเป็นตุ๊ดอะไรนั่นป่ะวะ” – ผมยังคงถามแบบโง่ ๆ
“ไม่เว้ย ไม่จำเป็น กูกับไอ้ตูนก็ไม่ใช่ตุ๊ด แต่กูรักกัน”
“อ้าว กูตุ๊ดที่โรงเรียนเก่ากูวิ่งหาผู้ชายมาเป็นแฟน แล้วมึงไม่ใช่ตุ๊ด มึงก็ไม่ได้วิ่งหาผู้ชาย แล้ว....”
“พวกกูรักกัน กูไม่ใช่ตุ๊ด ไอ้ตูนก็ไม่ใช่”
“กูงงไปหมดแล้ว...” - ผมเกาหัว
“คืองี๊ ผู้ชายที่เขารักผู้ชายด้วยกัน เรียกว่าเกย์”
“ว่าง่าย ๆ คือ มึงสองคนเป็นเกย์”
“เออ ก็แค่นั้นแหล่ะ” - ไอ้ตั๋งสรุปเรียบร้อย
“แล้วไงล่ะ มึงบอกกูทำไม”
“กูเองก็ไม่อยากปิดบังอะไรมึงไง ก็มึงเป็นเพื่อนกับกู”
“ไม่เป็นไรหรอก มึงจะเป็นอะไร มึงก็คือเพื่อนกู”
.
.
.
“ไอ้ป๊อก ถ้ากูมีเรื่องรบกวนมึง มึงจะช่วยกูได้ป่ะ”
“อะไรล่ะ ว่ามาดิ”
“มึงก็รู้ใช่ป่ะ ว่าไอ้ก้องมันคิดอะไรกับมึง”
“เออ มันบอกกูแล้ว”
“มันชอบมึงจริง ๆ นะ”
“แล้วมึงจะให้กูทำไง กูไม่ได้ชอบมันแบบว่า...”
“มึงตอบกูตามความจริงนะ”
“เออ”
“มึงชอบไอ้ก้องมันป่ะ”
“กู ...........เอ่อ คือ.............กูเอง”
-----------------------
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 03-12-2008 15:53:32
คุยกันคับ
 :z2:
1. เรื่องนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนอดีต คือตอนที่ไอ้ป๊อกมันเรียนมหา'ลัย  และส่วนปัจจุบัน คือส่วนที่ไอ้ป๊อกทำงานแล้ว  ซึ่งสองส่วนนี้จะสลับกันไป-มานะคับ บางตอนอาจเป็นสีม่วง บางตอนสีดำ อาจจะงงกันบ้างนะคับ (เพราะนี่คือการปรับ plot ใหม่คับ)
2. ช่วงวันหยุดนี้ผมจะหายไปเที่ยวคับ ไปภาคเหนือ ที่ไหนก็เดากันเองนะคับ ไม่รู้ว่าไปดีป่ะ แต่ซื้อตั๋วไปแล้วอ่ะ สงสัยจะหนาวตาย ยังไงก็อาจจะไม่ได้แวะมาอับกันนะคับ คงแวะมาอีกทีก็คงสัปดาห์หน้าเลย
3. ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคับ ที่แวะมาเป็นกำลังใจ :pig4:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 03-12-2008 16:37:49
“กู ...........เอ่อ คือ.............กูเอง”


กูเอง...อะไรจ๊ะ คิดให้ดีก่อนตอบเน้ เหอๆ  :o8:

ช่วงวันหยุดนี้จะไปเที่ยวเหมือนกัน ยังไงเที่ยวให้สนุกน้า แล้วกลับมาเจอกันอาทิตย์หน้าจ้า
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 03-12-2008 16:46:05
เที่ยวให้สนุกค่ะ กลับมาค่อยว่ากันใหม่ :really2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 03-12-2008 16:50:42
งืม...

เพิ่งอ่านครับ
ขออนุญาตเมนท์นะครับ


คืออาจจะเป็นเพราะว่า ปรับพล็อตอะครับ
เลยทำให้อดีตกับปัจจุบัน มันเลยขัดแย้งกันเองอะ

เพราะอดีต ป๊อก (น่าจะ) รู้จักเกย์แล้ว
แต่พอปัจจุบัน กลับคิดว่า
เออ ... พี่ก๊อกนี่ ยิ้มแล้วน่ารักดี แต่มันเป็นผู้ชายนะเว้ย คือพยายามปฏิเสธตัวเอง (อ้างอิงจากบนรถเมล์ มั๊ง)





ส่วนเที่ยว ก็ขอให้สนุกนะครับ

อยากไปบ้างงงงงงงงงงงงงงง


 :fire:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 03-12-2008 17:00:48
....  o22 กู อะไร ค้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 03-12-2008 22:56:26
โอ้ว  รับทราบ

อยากไปเที่ยวมั่ง ไปปายป่ะเนี่ย

เห็นใครๆเค้าก็ไปกัน

เดินทางปลอดภัยน้า

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 05-12-2008 07:34:09
มาช่วยดันกระทู้จ้า....กลัวตกไปหน้าสองน่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 10-12-2008 23:04:09
ตอบเม้นคับ

คืออาจจะเป็นเพราะว่า ปรับพล็อตอะครับ
เลยทำให้อดีตกับปัจจุบัน มันเลยขัดแย้งกันเองอะ

เพราะอดีต ป๊อก (น่าจะ) รู้จักเกย์แล้ว
แต่พอปัจจุบัน กลับคิดว่า
เออ ... พี่ก๊อกนี่ ยิ้มแล้วน่ารักดี แต่มันเป็นผู้ชายนะเว้ย คือพยายามปฏิเสธตัวเอง (อ้างอิงจากบนรถเมล์ มั๊ง)

ใช่เลยคับ ปรับ plot ใหม่ ผมเลยงง กับตัวละครเอง ซะงั้นน่ะ ยังไงผมจะแก้ไขใหม่นะคับ


อยากไปเที่ยวมั่ง ไปปายป่ะเนี่ย
เห็นใครๆเค้าก็ไปกัน
เดินทางปลอดภัยน้า

เที่ยวให้สนุกค่ะ กลับมาค่อยว่ากันใหม่

ช่วงวันหยุดนี้จะไปเที่ยวเหมือนกัน ยังไงเที่ยวให้สนุกน้า แล้วกลับมาเจอกันอาทิตย์หน้าจ้า
ไปปายมาจริง ๆ คับ หนาวมาก ๆ เลย แต่ก็สนุกดีคับ หมอกอย่างกับสวิสฯ ได้กินขันโตกด้วย  :laugh: แต่ไม่ค่อยwork เท่าไหร่ เพราะไปช่วงเทศกาล คนเลยเยอะ

แจ้งให้ทราบคับ
สัปดาห์นี้ผมงานเยอะมากมาย ขนาดวันหยุด ยังไม่ได้หยุดเลย  :sad4: ว่าจะเคลียร์งานก่อนนะคับ ส่วนตอนที่ 5 เดี๋ยวมาว่ากันใหม่สัปดาห์หน้านะคับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: WEERACHOT ที่ 10-12-2008 23:26:22
 :mc4:>>>ฉลองเรื่องใหม่ของคุณ ปั๊ก ครับผม(ทันไหมหว่า)
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 4 [03-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 11-12-2008 16:30:18
อิอิ  รอตอนที่ 5

สู้ๆกับงานน้า

 :z2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกร&#
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 14-12-2008 11:41:47
ตอนที่ 5
 :m21:
“กู ...........เอ่อ คือ.............กูเอง ก็รู้สึกดีๆ กับมันนะ”
“ป๊อก ถ้ามึงจะลองคบกับไอ้ก้อง มันก็คงไม่เสียหายอะไรมั้ง”
“ไอ้ตั๋ง มึงเข้าใจกูหน่อยเหอะ กูไม่เคยมีแฟน และก็ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย”
“เอาน่า มึง ถ้ามึงไม่ได้ชอบมันแบบนั้น มึงก็อย่าปฏิเสธมันเลยนะ”
“ตั๋ง เพราะไรวะมึงถึงมาคุยกับกูเรื่องนี้น่ะ”
“ไอ้ก้องมันมาบอกกู ตั้งนานแล้ว”
“กูโง่อยู่คนเดียว ว่างั้นเหอะ”
“ไม่เว้ยป๊อก มึงไม่ได้โง่ มันพยายามแสดงออก แต่มึงไม่รู้”
“...................”
“เอาเป็นว่า มึงก็ลองไปคิดดูละกัน”

หลังจากกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ส่วนผมก็กลับมาที่หอ

.
.
.
ระหว่างทางกลับบ้านก็คิดไปด้วย เรื่องที่ไอ้ตั๋งมันพูด เอาแล้วสิ แฟนก็ไม่เคยมี แถมแฟนคนแรก มาจากเพื่อนผมอีก เอาไงดีวะ

โทรศัพท์ดังขึ้น

“ว่าไงก้อง”
“ป๊อก อยู่ไหนแล้ว”
“กลับหอ มีไรป่ะวะ”
“ถามดูเฉย ๆ”
“กินข้าวยังอ่ะ”
“กินแล้วแหล่ะ มึงล่ะก้อง”
“กินแล้ว”
“..............”
“ป๊อก คืนนี้ไปหาที่หอได้ป่ะ”
“เอาดิมึง” (ด้วยความเป็นเพื่อนจึงปฏิเสธไม่ลง)
“เหรอ ขอบใจนะ เดี๋ยวเจอกัน” – น้ำเสียงไอ้ก้องเปลี่ยนไปทันที

เมื่อผมกำลังจะเดินเข้ารั้วของหอพัก

“จ๊ะเอ๋”
“ก้อง เล่นเชี่ยไรเนี๊ย”
“กูซื้อหนมครกมาฝาก เจ้าที่มึงชอบน่ะ”
“แล้วมึงกินยังก้อง”
“กินแล้ว มึงรีบกินซะเดี๋ยวมันจะไม่อร่อย”
“เออ ๆ” – ผมรับขนมครกมันมากิน
.
.
“ไอ้ป๊อก”
“คืนนี้กูนอนกับมึงนะ”
“เออ” (ด้วยความเป็นเพื่อนจึงปฏิเสธไม่ลง อีกแล้ว)


ไม่รู้วันนี้ไอ้ก้องมาอารมณ์ไหนวะ เดาไม่ถูก
----------------------








 :a1:
เช้าวันใหม่ เป็นวันสุดท้ายของการทำงานของสัปดาห์ แม้จะเข้างานไปไม่ถึงสัปดาห์ ก็เริ่มมีความขี้เกียจเกิดขึ้น ดังนั้นผมจึงมีกำลังใจเป็นพิเศษ เพราะพรุ่งนี้ก็จะได้ตื่นสาย

กระทั่งเช้าวันศุกร์ วันไหน ๆ รถมันก็แน่นเหมือนเดิม ผมพาร่างตัวเองไปสู่ด้านหลังสุดของรถได้อีกครั้ง

แล้วเจ้ากรรมนายเวรของผม ก็ขึ้นมา ตามมาติด ๆ วันนี้ใส่เสื้อสีขาว สลับลายเส้นสีฟ้าเล็ก ๆ กางเกงตัวเดียวกับเมื่อวาน สงสัยมันจะชอบใส่กางเกงวน 1 สัปดาห์ (อันนี้คิดเองนะคับ ฮ่าๆ) แล้วมันก็มายืนข้างผม

“วันนี้ออกสายจังคับ” - นายก๊อกยิ้มให้ผม
“ตื่นสายคับ วันนี้วันศุกร์”
“ดีจังนะคับ ผมต้องทำถึงวันเสาร์เลย”
“ใช้งานโหดอย่างงี๊ เงินเดือนน่าจะเยอะมั้งคับ”
“ก็พอกินพอใช้น่ะคับ”
“แฮ่ะ ๆ” เราทั้งคู่หัวเราะพร้อมกัน

บทสนทนาเราสองคนยุติลง จนถึงที่ทำงาน

“กลางวันนี้กินข้าวที่ไหนล่ะคับ”
“ร้านเดิมมั้งคับ” – ผมตอบไปโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะยังไม่ได้คิดว่าจะกินอะไร แล้วก็อย่างกับมีตัวเลือกให้ผมเยอะนักนี่
“งั้นไว้เจอกันตอนกลางวันนะคับ”
“คับ”

เดินเข้าoffice ไป ทุกอย่างเหมือนเดิม กะว่าวันนี้จะไปสำรวจชั้นอื่น ๆ ดูบ้าง เพราะตั้งแต่ทำงานมา 4 วัน ยังไม่ได้สำรวจทั่ว ๆ เลย กะว่าวันนี้จะแกล้งทำทีไปเอาข้อมูล เผื่อเจอเพชรในตมใน office บ้าง

“ป๊อก” – พี่ตอยเรียกผม
“อะไรคับพี่”
“อ่ะ ผู้ช่วยแก ชื่อต้อม”
“คับพี่”
“มีอะไรก็บอกพี่เขาละกัน เขาเป็นพี่แกนะ”
“โห อย่างงี๊ผมก็เกรงอ่ะดิพี่” – ผมบอกพี่ตอย แกหัวเราะ พี่ต้อมเองก็ยิ้ม ๆ
“ต้อม เดี๋ยวไปกับน้องเขา ให้น้องเขาสอนให้” – เวรละกรู เพิ่งทำงานได้ 4 วันเอง จะมีลูกมือซะละ
“ป๊อก เอาไรป่ะ วันนี้พี่ไปหาลูกค้าแถว ๆ นครปฐม”
“เอาส้มโอหวานกับลูกสาวสวยคับ ถ้าได้ไม่ครบไม่ต้องกลับมานะ”
“ไอ้ป๊อก แกเอาแต่ส้มโอไปละกัน ลูกสาวสวย เขาไม่เอาแกหรอก”
“ถ้าเขาจะเห็นผม ขี้คร้านจะมาสยบแทบเท้า”
“เอ่อ ป๊อก พาพี่เขาไปนั่งข้าง ๆ แกเลยนะ แล้วมีอะไร อยากได้อะไรลงมาบอก admin ข้างล่าง บอกเลย เฮียตอยสั่ง”
“คับพี่”
“เจอกันตอนเย็นนะ”
.
.
.
แล้วผมก็แยกกับพี่ตอย แล้วก็พาพี่ต้อมขึ้นไปข้างบน

“ผมชื่อป๊อกคับพี่”
“คับ”
“เอ่อ....คือพี่เคยทำงานที่ไหนมาก่อนป่ะคับ”
“ก็ไม่อ่ะคับ พี่เพิ่งเรียนจบ”
“จบโทเหรอคับ”
“ใช่คับ”
“โห เก่งกว่าผมอีก อย่างงี๊พี่คงต้องสอนผมล่ะมั้ง”
“ไม่หรอกคับ พี่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานเลย”
“เหมือนผมแหล่ะคับ ผมก็เพิ่งมาก่อนพี่ได้ 4 วันเอง”
“คับ”
“ก็คงช่วย ๆ กันแหล่ะคับพี่”

หลังจากนั้นผมก็พาเขาไปนั่งที่โต๊ะข้าง ๆ ผม ดูพี่แกตื่นเต้นไม่น้อยกับการทำงานครั้งแรก จะว่าไปก็เหมือนตอนผมมาที่นี่เมื่อ 4 วันก่อน แต่พี่ต้อมจะโชคดีกว่าผมตรงที่เขายังมีคนให้ปรึกษา

“ป๊อกคับ มีอะไรให้พี่ทำก็บอกนะคับ ไม่ต้องเกรงใจ” – พี่ต้อมบอกผม ระหว่างที่ผมกำลังจะจัดการเกี่ยวกับแฟ้มเอกสาร ที่กองบนโต๊ะ
“คับพี่”
“...........”

1 ชั่วโมงผ่านไป

“ห้องน้ำอยู่ไหนล่ะคับป๊อก”
“เดินออกไปเลี้ยวซ้าย 2 ครั้งก็เจอคับ”


พี่ต้อมเดินออกไป ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไร

พี่ต้อมคงอยากช่วยงานผมแหล่ะ แต่เด็กอายุ 23 จบแค่ ป.ตรี จะไปสั่งงานคนจบ ป.โท กลัวว่ะ เดี๋ยวหาว่าสอนจระเข้ว่ายน้ำ
-------------------

กลับมาแล้วคับ ตอนที่ 5 ขอโทษที่หายไปซะนาน ช่วงนี้เป็นเทศกาลสอบกลางภาคคับ งานเลยเยอะ
ถ้ามีเวลาเหลือจะเบียดตอนที่ 6 มาให้อ่านนะคับ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 5 [14-12-08] หายไปนาน กลับมาแล้วคับ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 14-12-2008 13:16:07
ดีใจจัง ได้อ่านต่อละ หายไปนานนะเนี่ย

แล้วจะรออ่านต่อคราบ อิๆ เนื้อหาเริ่มมันละ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 5 [14-12-08] หายไปนาน กลับมาแล้วคับ
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 14-12-2008 19:36:55
อดีตกับปัจจุบันมาควบกันเลย ฮิ้ววววว

อยากได้ของฝากจากลาว เอาของจากปายมาแลกก่อง ฮิๆๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 5 [14-12-08] หายไปนาน กลับมาแล้วคับ
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 14-12-2008 22:34:31
ดีใจได้อ่านตอนที่ 5 

รอ 6 อยู่น้า

 :z2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 5 [14-12-08] หายไปนาน กลับมาแล้วคับ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 14-12-2008 23:27:13
ตกลงเรื่องกับก้องก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป :z2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 5 [14-12-08] หายไปนาน กลับมาแล้วคับ
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 15-12-2008 01:29:52
รึว่างานนี้เจ้าก๊อกจะมีคู่แข่ง
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 5 [14-12-08] หายไปนาน กลับมาแล้วคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 15-12-2008 02:05:11
มาอ่านด้วยคนคับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกร&#
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 16-12-2008 22:27:18
ตอนที่ 6
 :a14:
ผมปั่นงานของผมตั้งแต่เช้ายันเที่ยง ส่วนพี่ต้อมก็นั่งข้าง ๆ ผม ผมไม่ได้ให้อะไรพี่ต้อมทำหรอกคับ เพราะผมเองยังจัดระบบให้ตัวเองไม่ได้เลย ผมจึงขอเคลียร์งานของตัวเองดีกว่า ก่อนที่จะให้พี่ต้อมเข้ามาช่วย พี่ค้อมเองก็ถามอยู่ตลอด ว่าจะให้พี่เขาช่วยอะไร
“พี่ต้อมคับ เดี๋ยววันจันทร์ผมให้พี่ช่วยแน่ ๆ วันนี้ถือว่ามานั่งเล่นละกันนะคับ”

มันอาจจะทำให้พี่ต้อมสบายใจขึ้นมามั่ง พี่แกก็เงียบ ๆ ไป นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ เมื่อวาน วันก่อน เดือนก่อน เท่าที่พี่แกจะรื้ออ่านได้

เที่ยงแล้วคับ หิวกำลังดี พี่ๆ IT วันนี้ไม่อยู่ เห็นว่าแผนกนี้กำลังย้ายห้องไปอยู่ห้องที่ทำใหม่ เท่ากับว่า วันนี้ผมก็อยู่กับพี่ต้อม 2 คน

“พี่ต้อมคับ กินข้าวกลางวันกันนะคับ”
“คับ”

แล้วผมก็พาพี่ต้อมเดินลงไปหาข้าวกลางวัน  เดินผ่านลุงยามที่กำลังฟังหมอลำอย่าเพลิน ๆ ผมกับพี่ต้อมไปที่ร้านข้าวราดแกงข้าง ๆ บริษัท วันนี้คนไม่เยอะมากนัก ผมกับพี่ต้อมจึงตัดสินใจเข้าไปนั่ง

“อะไรอร่อยล่ะคับ” – พี่ต้อมถามผม
“ก็...เอ่อ ไม่รู้สิคับ ผมว่าอร่อยทุกอย่าง”
“คับ”

แล้วเราสองคนก็ได้ขนมจีนยอดมะพร้าวมาคนละจาน ระหว่างที่เรากำลังกินอยู่นั้น พี่ก๊อกก็เดินมาพอดี

“วันนี้มีเพื่อนมาด้วยเหรอคับ” - พี่ก๊อกถามผม
“คับ เป็นพี่ที่เพิ่งมาทำงาน”
“หวัดดีคับ” - พี่ก๊อกทักพี่ต้อม พี่ต้อมยิ้ม พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับคำทักทาย
“จะนั่งด้วยคนได้ป่ะคับ” พี่ก๊อกเอ่ยปากขอร่วมโต๊ะ
“เอาสิคับ ที่ว่างเยอะเลย” – ผมตอบรับ พร้อมกับลากเก้าอี้มาอีกตัวนึง
“เฮียมั่ง มานี่ดิ” – พี่ก๊อกเรียกเพื่อนของเขามา
“ป๊อก เพื่อนพี่ ชื่อมั่งคับ” – ผมพยักหน้า สวัสดีเขาเป็นมารยาท

จากการแนะนำจากพี่ก๊อก พี่มั่งอายุเท่าพี่ก๊อก แล้วก็รูปร่างเล็ก ๆ ตัวเตี๊ยกว่าพี่ก๊อกอีก ทำงานมานานแล้ว

ระหว่างมื้อกลางวัน พี่มั่งก็เล่าโน่นนี่ให้ผมกับพี่ต้อมฟัง เกี่ยวกับที่ทำงานเขา ว่าเป็นอย่างไร แล้วก็ชวนผมกับพี่ต้อมว่าว่าง ๆ ก็ไปนั่งเล่นที่ทำงานเขาได้ เพราะนอกจากรับแปลภาษาแล้ว หน้าร้านยังเป็นร้านกาแฟอีกด้วย บรรยากาศดีเลยทีเดียว

ผมก็พอจะรู้อยู่หรอกว่า พี่มั่งเองไม่ใช่ผู้ชายแท้ เพราะดูท่าทางออกเหลือเกิน ระหว่างที่คุยไปพี่มั่งก็ชอบมาเกาะแกะพี่ก๊อก บางทีก็โอบไหล่ บางทีก็จับมือ บางทีก็เล่นหัว แต่พี่ก๊อกก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะชอบหรือไม่ชอบ อย่างไร
.
.
ผมกับพี่ต้อมฟังพี่มั่งเพลินจนเกือบเลยเวลาทำงาน  เลยขอตัวกลับไปที่ทำงานก่อน เราสองคนลาพี่ก๊อกกับพี่มั่งตรงนั้น แล้วก็เดินเข้า office ไป แต่ระหว่างทาง ผมเห็นพี่สองคนเขาเดินจับมือกันด้วย (ที่ผมเห็นได้เพราะผมกับพี่ต้อมเดินอีกฝั่งถนน แล้วพี่ก๊อกกับพี่มั่งเดินคนละฝั่ง)

ไม่รู้ทำไม พอผมเห็นอย่างงั้น ผมก็รู้สึกหงุดหงิด พอผมหงุดหงิด สีหน้าก็จะแสดงออกมา

“เป็นไรป่ะคับป๊อก” – พี่ต้อมถามผม
“อ่ะ...เปล่าคับ” – ผมบอกพี่ต้อม ขณะที่ผมกำลังขีดข้อมูล แล้วปรากฏว่าเป็นรอยปากกาอันเบ่อเร้อกลางหน้ากระดาษ
“แล้ว ...เอ่อ....นั่นน่ะ” - พี่ต้อมชี้ไปที่กระดาษแผ่นนั้น
“อ้าว..............” – ทำไงล่ะ เอกสารข้อมูลเป็นรอยขีดปากกา
“ทำไงดีล่ะคับ”
“เดี๋ยวป๊อกเอาไปให้เขาเขียนใหม่ก็ได้คับพี่”
“พี่ไปกับป๊อกก็ได้นะ”
“อ่า....เอางั้นเหรอคับ ก็ได้คับ”

ผมจึงหยิบแผ่นกระดาษแผ่นใหม่ แล้วก็เดินไปกับพี่ต้อม เพื่อไปให้เจ้าของข้อมูลกรอกใหม่
-----------














 :onion_asleep:
“ก็ได้”
“.............”

ผมวางสายโทรศัพท์ลง ไอ้ก้องที่นั่งดูทีวีอยู่ก็เขยิบเข้ามาใกล้ผม ไม่รู้จะเข้ามาใกล้ทำไม

“มีไรอ่ะป่ะ” – ไอ้ก้องถาม เสียงอย่างกับเด็กแอ๊บแบ๊ว
“ไม่มีหรอก ไอ้ตูนโทรมา”
“โทรมาทำไมวะ”
“พรุ่งนี้มันกับไอ้ตั๋งจะไปทำบุญ มันชวนพวกเราจะไปกับมันป่าว”
“มึงบอกไปว่าไง”
“ก็ไปได้ แต่กูไม่รู้ว่ามึงจะไปป่ะไอ้ก้อง”
“ไปไป กี่โมงวะ”
“7 โมงเช้าที่อนุเสาวรีย์”
“เออดี ป๊อก มึงเอากล้องไปด้วยนะ”
“เออ”
“.............”
.
.
.
.
.
“กูว่ากูง่วงแล้วว่ะก้อง มึงจะดูไรก็ดูไปเหอะ”
“กูนอนก็ได้ กูเกรงใจเจ้าของห้อง”

ไอ้ก้องเดินไปปิดทีวี ผมเดินไปปิดไฟที่ห้องน้ำ แล้วก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง โดยไอ้ก้องนอนอยู่ข้าง ๆ เราสองคนนอนหงายหน้าขึ้นเพดาน (นึกไม่ออกให้นึกถึงโต้งกับมิวนอนคุยกัน)

“ก้อง”
“ไรเหรอ”
“มึงง่วงยัง”
“ก็ง่วงนะ”
“กูถามไรมึงอย่างนึงดิ”
“อะไรวะป๊อก”
“กูเป็นเพื่อนที่ดีกับมึงป่ะ”
“ถามทำไมวะป๊อก”
“ถ้ากูจะบอกอะไรกับมึง”
“ว่ามาดิ”
“เอ่อ...ไอ้ก้อง คือ....กูก็ไม่รู้เหมือนกัน บางที กูอาจจะชอบมึงก็ได้มั้ง แต่กูไม่แน่ใจ”
ไอ้ก้องหันมาหาผม “จริงเหรอ”
“มึงเข้าใจกูป่ะ ว่ากูไม่แน่ใจ มันอาจจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบ”
“กูรอมึงได้ป๊อก วันไหนมึงพร้อม มึงค่อยบอกกู”
“มึงคงเข้าใจกูนะก้อง”

บทสนทนายุติลง เราสองคนนอนหงาย หันหน้าขึ้นบนเพดาน

“ป๊อก กูขอกอดมึงได้ป่ะ”
“ก็ได้”

ผมนอนให้ไอ้ก้องมันกอด ผมถูกแขนของไอ้ก้องอยู่ด้านบนหน้าอกผม ไอ้ก้องนอนหันหน้าเข้าหาผมแล้ว แต่ผมยังคงนอนคิด คิดว่าผมเองรู้สึกยังไงกับไอ้ก้องกันแน่ ผมชักเริ่มไม่แน่ใจตัวเองแล้ว ตั้งแต่ไอ้ตั๋งมันพูด มันพูดถูกทุกอย่าง ว่าผมเองรู้สึกดีกับไอ้ก้องจริง

ผมค่อยๆ เอามืออีกข้างที่เป็นอิสระมาลูบหัวไอ้ก้อง ไอ้ก้องเองยังไม่หลับ มันลืมตาขึ้นมามองผมแล้วก็....
“ป๊อก”
“ไรวะก้อง”
“กูกำลังเคลิ้มเลย เอาอีก กูชอบ”


“ก้อง กูก็ชอบมึงนะ”


ประกาศลากิจคับ
 :m23:
สุดสัปดาห์นี้ (19-21 ธ.ค. 2551) ไม่อยู่นะคับ ไปทำหน้าที่เพื่อชาติ ยังไงก่อนไปอาจจะได้ปั่นอีก 1 ตอน ถ้าไม่ทันยังไงยกไปสัปดาห์หน้านะคับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 6 [16-12-08] ลากิจด้วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 16-12-2008 22:55:36
ท่าทางจะรักหลายเศร้าเนาะเรื่องนี้

ป๊อกนี่ถูกกับแม่ ก. จริงเลย ก้อง กับ ก๊อก ว่าแต่ทำไมนายก๊อกยอมให้มั่งจับมือได้ละนั่น น่าสงสัยๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 6 [16-12-08] ลากิจด้วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 16-12-2008 23:25:46
มาอ่านนะคับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 6 [16-12-08] ลากิจด้วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 16-12-2008 23:33:51
ตอนนี้เลยค้างทั้งก้องทั้งก๊อก วุ้ยยยยย :sad4:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 6 [16-12-08] ลากิจด้วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 17-12-2008 16:20:09
ไม่เป็นไรคราบรอได้ แต่อย่าหักโหมนะคราบ อิๆ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 6 [16-12-08] ลากิจด้วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 18-12-2008 15:25:53
สวัสดีครับ

ผ่านมาให้กำลังใจครับผม ตอนนี้ยังงงๆระหว่าง ก้อง กับ ก๊อก อยู่เลยอ่าาาา ชื่อมันใกล้กัน

ขอบคุณและจะติดตามครับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 6 [16-12-08] ลากิจด้วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 19-12-2008 17:16:23
สู้ๆๆเน้ออออออออ o13
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 6 [16-12-08] ลากิจด้วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: TinaJunior ที่ 20-12-2008 12:26:42
เป็นกำลังใจให้คับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 6 [16-12-08] ลากิจด้วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 25-12-2008 18:22:46
(http://www.glitter-town.com/merry-christmas-myspace-glitter-graphics-1/merry-christmas-myspace-glitter-graphic-3.gif)

:L2: Merry Christmas!!! ขอให้หล่อวันหล่อคืนนะจ๊ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 7 [27-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 28-12-2008 00:04:28
ตอนที่ 7
 :n1:
“..............”
ไอ้ก้องจู่โจมเข้ามากอดผม ผมรู้สึกว่าไออุ่นจากการกอดของไอ้ก้องวันนี้มันก็เหมือนกับวันก่อน ๆ เพียงแต่ผมอาจจะรู้สึกไปเองว่า วันนี้ผมรู้สึกอบอุ่นกว่าวันไหน ๆ
“เป็นแฟนกับกูนะป๊อก”
“เออ”

เราทั้งคู่นอนกอดกันจนถึงเช้า ก็ต้องรีบตื่น เพราะนัดไอ้ตั๋งกับไอ้ตูนเอาไว้จะไปทำบุญกัน เราสองคนจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปหาไอ้สองคนนั่น

ถึงอนุสาวรีย์ สถานที่นัดพบของพวกเรา ไอ้สองคนนั้นมันมารอนานแล้ว

“มาสายเชียวมึง เมื่อคืนทำไรกันวะ” - ไอ้ตูนเปิดประเด็น
“นึ่งนึ๊งกันมั้ง พวกมึง” – ไอ้ก้องสวนกลับ ไอ้ตั๋งหัวเราะ ผมเหรอ ยืนอึ้งไปเลย
“อย่าบอกนะ ว่ามึงสองคน...” - ไอ้ตั๋งถาม
“เออ เราคบกันแล้ว” – ไอ้ก้องตอบเสร็จ มันหันมามองหน้าผม แล้วก็ยิ้ม จากนั้นมันก็แอบหอมแก้มผม ฮื้ย!!! สปาร์ก เกิดมาไม่เคยถูกผู้ชายหอมแก้ม มันรู้สึกจักกะจี๊

“หนวดมึงอ่ะแทงกู” - ผมด่าไอ้ก้อง
“ขอโทษคับแฟน”
“เชี่ยมึงเบา ๆ หน่อย รถตู้นะมึง เกรงใจคนอื่นมั่ง”
“อายอ่ะดิมึง” – ไอ้ตูนถาม เหมือนมันจะรู้
“เออเด่ะ”
“ใหม่ ๆ ก็อย่างงี๊แหล่ะ หลัง ๆ มึงก็ชิน” – ไอ้ตูนบอกผม

เราทั้งหมดนั่งรถตู้ไปจนถึงอยุธยา สถานที่ทำบุญที่ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะได้ไป คิดดูละกันนะคับว่าเด็กมหาลัยกับวัดน่าจะเป็นของที่ห่างกัน แต่มันไม่ใช่กับไอ้ตูนกับไอ้ตั๋ง มันสองคนเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ว่าง ๆนาน ๆ หรือวันหยุดยาว ๆ ก็จะไปวัดกันตั้งแต่ ม.4 แล้ว

ระหว่างทางไปวัด ไอ้ก้องกันจับมือผมไว้ตลอดเวลา อย่างกับกลัวหายงั้นแหล่ะ แต่ก็รู้สึกดี ว่าไม่เคยมีใครมาจับมือ เคยแต่เห็นคนเป็นแฟนกันจับมือกัน เดินจูงมือ เห็นแล้วอิจฉา แต่วันนี้ผมมีคนจับมือแล้ว ทว่า มันเป็นผู้ชาย แต่ความรู้สึกก็คงไม่ต่างกันมั้ง

ไอ้ก้องดูแลผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องขนม น้ำ มันแทบจะป้อนเอาเข้าปากผมแล้วมั้ง

“ก้อง กูกินเองได้ กูมีมือ”
“ไม่เอา เค้าจะป้อน” -- ไอ้ก้องเริ่มทำตัวปัญญาอ่อน
“มึงอย่าเรียกตัวเองว่าเค้าได้ป่ะ แม่งปัญญาอ่อน”
“มึงไม่หวานเลยไอ้ป๊อก ไอ้ก้องมันอ้อนมึงน่ะ มึงรู้ตัวป่ะ” - ไอ้ตูนบอกผม
“มันจักกะเดี๊ยมว่ะ แปลก ๆ หู” – “ก้อง มึงทำตัวเหมือนเดิมเหอะ” - ผมหันไปบอกไอ้ก้อง
“ก็ได้ไอ้ป๊อก เหมือนเดิม เพิ่มรัก”

ผมอาย เลยหันหน้าหนี แต่มือของผมก็ยังไม่หลุดพ้นจากไอ้ก้อง แต่คราวนี้มันขโมยหอมแก้มผมอีกแล้ว

เราถึงวัดกันในเวลา 10 โมงนิดๆ สาย ๆ อย่างงี๊ แดดก็ร้อนล่ะสิคับ เราแวะกันที่วัดริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง ตกลงหุ้นกัน 4 คนซื้อสังฆทาน 1 ชุด แล้วก็ถวายให้พระ เกิดมาชาติหน้าจะได้เจอกันอีก ไอ้ตั๋งมันว่างั้น แล้วก็ไอ่ตั๋งก็เป็นหัวหน้าศาสนพิธีด้วย กล่าวนำคำบูชาถวายเสร็จสรรพ ผมเนี๊ยเคยเรียนมาตอนมัธยม แต่ลืมไปแล้ว

จากการถวายสังฆทาน ไอ้ตั๋งพาเที่ยว โดยนั่งรถเมล์ที่มันผ่านสถานที่สำคัญในอยุธยา

“เหนื่อยว่ะ” ผมบ่น
“หิวน้ำเหรอ เดี๋ยวไปซื้อให้นะ” - ไอ้ก้องรีบจัดแจงไปซื้อน้ำให้ผมทันที
“เดี๋ยวไปซื้อเองก็ได้” – ผมบอกไอ้ก้อง
“กูอยากบริการแฟนกู” ว่าแล้วไอ้ก้องก็รีบเดินไปซื้อน้ำมาให้ผม
“ไอ้ป๊อก มึงน่ะโชคดีเนอะ ได้ไอ้ก้องเป็นแฟน” – ไอ้ตูนกล่าว
“ดู ๆ กันไป”

เที่ยวกันทั้งวัน บ่ายแก่ ๆ ก็ได้เวลากลับบ้านกันซักที คงเป็นเพราะผมไม่เคยเที่ยวติดกันนาน ๆ และอากาศร้อน ๆ ทำให้ผมเพลียง่าย ขากลับก็เลยหลับมาตลอดทาง
ผมกำลังจะเตรียมนั่งสับปะงก เอาหัวพิงหน้าต่าง ไอ้ก้องเห็นแล้ว มันจึงจับหัวผมไปพิงที่ไหลของมัน

“มาพิงไหล่กู”
“ไม่เป็นไร”
“เอาน่ะ มาเหอะ หลับมาเลยก็ได้” – ผมไม่อยากขัดศรัทธาของไอ้ก้อง ก็เลยพิงไหลมัน จากนั้นไอ้ก้องก็เอามือมาโอบไหลผมอีกข้าง เป็นการกอดที่ผมรู้สึกได้ว่า มันน่าจะมาจากใจของมัน

ตอนนี้ผมและมันไม่สนใจใครอีกแล้ว ผมมีความสุข มาก ถึงมากที่สุด ผมว่าผมโชคดีที่มีคนรักผม แม้ว่ามันจะเป็นผู้ชาย แต่มันก็รักผม





 :L1: :L1:
เราคบกันได้ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ไอ้ก้องก็จะมาวนเวียนที่หอผมทุกวัน มันจะมาตรงเวลาทุกวันคือตอน 9 โมง ซึ่งเป็นเวลาที่ผมตื่นแล้ว ทำโน่นทำนี่ในห้อง ไอ้ก้องมันมักจะซื้อโจ๊กหน้าปากซอยมาให้ผมกินเสมอ แม้ผมจะบอกว่าไม่ต้องซื้อมาให้ก็ได้ แต่มันก็ไม่ยอมอยู่ดี

“มึงไม่ให้กูซื้อ เท่ากับว่ามึงไม่รักกู”

เจอไม้นี้ผมก็ต้องยอมมันแหล่ะคับ นับวันผมก็ชอบไอ้ก้องขึ้นทุกที ทั้งๆ ที่ผมเองเป็นคนที่เบื่ออะไรง่าย ๆ และมันเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อผมเลย

“ป๊อก วันนี้ก้องอยากไปดูหนังอ่ะ” – มันมาโหมดอ้อน ปกติมันจะมาแบบภาษาพ่อขุนราม
“มีไรน่าดูวะ”
“Finding Nemo”
“เออป่ะ กูว่าน่ารักดี” – ผมตอบตกลง คนอะไรใจง่ายชะมัด
“เห็นป่ะ กูว่าน่ารัก ป๊อกก็ต้องน่ารัก” – ไอ้ก้องมันอ้อน ผมว่ามันไม่เห็นจะเข้ากันตรงไหน

ไม่พูดเปล่า มันเดินเข้ามากอดผมจากข้างหลัง ผมเองกำลังนั่งดูทีวีอยู่ จากนั้นมันก็หอมแก้มผม 1 ที

“เชี่ย ใครให้หอมแก้มกูเนี๊ย” – ผมด่าไอ้ก้อง
“เป็นแฟนกัน 2 สัปดาห์ กูหอมแก้มมึงไม่ถึง 5 ครั้งเลยนะ”
“นั่นแหล่ะ กูเขิล”
“ไม่เป็นไรน่า” – แล้วไอ้ก้องก็หอมแก้มผมอีก 1 ที

สรุปแล้วเป็นแฟนมัน 2 อาทิตย์ ผมถูกไอ้ก้องหอมแก้มไป 6 ครั้ง

โอ้เอ้อยู่นาน เวลาล่วงเลยไปจนบ่าย ผมกับไอ้ก้องจึงออกไปที่สยามเพื่อไปดูหนังเรื่องนีโมกัน เคยเห็นหนังตัวอย่างมันน่ารักดี เคยคิดว่าจะต้องมาดูคนเดียวซะแล้ว

ถึงโรงหนัง ไอ้ก้องแวะไปซื้อป๊อบคอร์นกับน้ำ ส่วนผมเหรอ มันให้นั่งรอเฉยๆ หลังจากซื้อเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปที่นั่งที่ไอ้ก้องเลือกไว้ มันเลือกทั่นั่งหลังสุด ราคาแพงที่สุด และไม่มีคน

“เลือกซะแพงเลยมึง กูไม่มีตังจ่ายนะ” – ผมบอกไอ้ก้อง
“ไม่เป็นไร เลี้ยง”
“เชี่ย ไม่เอา เกรงใจ”
“ถ้ามึงจ่ายเงินให้กู กูถือว่ามึงไม่รักกู” – มามุขนี้อีกแล้ว เฮ้อ!! ต้องยอมมันจริง ๆ

ระหว่างหนังตัวอย่างกำลังฉายให้ชม

“ก้อง”
“อะไรเหรอ”
“ป๊อกรักก้องนะ”
“ก้องก็รักป๊อกนะ”

ริมปากของผมและไอ้ก้องเริ่มประกบเข้าหากัน ไอ้ก้องพยายามเอาลิ้นเข้ามาเปิดริมฝีปากผม ต้องกระตุ้นอยู่นานปากผมถึงจะเปิด พอปากผมเปิด เหมือนไอ้ก้องจะชำนาญ มันจึงเอาลิ้นของมันเข้าไปสำรวจช่องปากกของผม แล้วมันก็เจอลิ้นของผมที่อยู่นิ่ง มันเอาลิ้นของมันเขี่ย ๆ ลิ้นของผม ให้มันตอบสนองต่อสิ่งเร้า จากนั้นมันก็ไปสำรวจที่อื่นในช่องปาก เพดาน ฟัน เหงือก แล้วมันก็ออกมาข้างนอกช่องปาก มาสำรวจริมฝีปากของผม มันเอาริมฝีปากของมันทั้งบนและล่างงับริมฝีปากของผมเอา

ผมตื่นเต้นมาก ทุกอย่างนิ่งสนิท ทำตัวเหมือนกับก้อนหิน ไอ้ก้องเท่านั้นที่คุมเกมของผมอยู่
.
.
.
.
“ขอโทษนะคะ”
----------------


ขอโทษคับมาช้าไปหน่อย ปีใหม่นี้ว่าง ๆ จะนั่งปั่นให้อ่านกันนะคับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 7 [27-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 28-12-2008 00:20:57
 :serius2:  กีสสสสสสสส

ใครเข้ามาขัดจังหวะเนี่ย

 :z3:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 7 [27-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: MonsterP ที่ 28-12-2008 03:27:25
ห้า ห้า ห้า ชอบครับ ผมชอบแนวการ เล่าเรื่องแบบนี้จังครับ  :กอด1: จะติดตามนะค้าบ  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 7 [27-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 28-12-2008 09:33:52
ก้องรุกไวทันใจ ป้าชอบ อิๆ  o13

ว่าแต่สาวเจ้านางนั้นคือไผกันละนี่??   :m28:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 7 [27-12-08]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 28-12-2008 11:43:15
ก้องไวดีแท้ อิๆ แล้วใครกันทีี่พูด

ขอโทษนะคะ หรือว่าจะเป็นแค่ คนขอทางเดินไปที่รั่งในโรงน๊า
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 8 [31-12-08] ปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 31-12-2008 12:45:38
ตอนที่ 8
 :m29:
ผมกับไอ้ก้องผละปากออกจากกัน ให้แก๊งสาว ๆ ที่เดินเข้ามาได้เข้าไปนั่งด้านใน
“ขัดอารมณ์” – ไอ้ก้องบ่น
“...........” – ผมได้แต่อึ้ง ทำไรไม่ถูก

ดูเหมือนว่าสาว ๆ กลุ่มนั้นหันมามองผมกับไอ้ก้อง แล้วก็หัวเราะคิกคักด้วย

“เหมือนถูกนินทายังไงไม่รู้เลยว่ะ” – ผมบอกไอ้ก้อง
“ช่างมันดิ กูจูบมึง ไม่ได้ไปจูบมัน มันจะมาเดือดร้อนอะไร”

จะว่าไปก็จริงของมัน จะไปแคร์ทำไม ประเดี๋ยวเขาก็ลืมเราไปแล้ว


.
.
“ปีใหม่ไปไหนวะป๊อก”
“กลับบ้านมั้ง ปิดเทอมก็ไม่ได้กลับ”
“งั้นวันนี้มึงเป็นของกูนะป๊อก” – ไอ้ก้องอ้อนอีกแล้ว

แล้วกิจกรรมกีฬาในร่มก็เริ่มต้นขึ้น ตอนนี้ผมเริ่มไม่เขินเหมือนตอนครั้งแรกที่ไอ้ก้องขอมีอะไรด้วย

เรามีอะไรกันไม่ได้บ่อยครั้งหรอกคับ ไอ้ก้องก็บอกว่า ตั้งแต่เกิดมามันเองก็เพิ่งจะมีอะไรในร่มครั้งแรกเหมือนกัน มันบอกว่ามันเองได้แต่ดูหนัง ฝันว่าวันนึงมันจะได้ทำอย่างงั้นมั่ง

ผมยังจำได้ว่าวันแรกที่มันเริ่มจู่โจมผม  มันเองก็เขิลเช่นเดียวกัน ยังบอกผมอยุ่เลยว่าเบา ๆ หน่อย แต่เท่าที่จำได้ พอใกล้จะเสร็จ ไอ้ก้องร้องออกมาไม่เป็นภาษาคนเลย

แต่ก็อย่างว่า ประสบการณ์ครั้งแรกก็จะเป็นข้อปรับปรุงในครั้งต่อ ๆ ไป ไอ้ก้องเริ่มเชี่ยวชาญ (จากการไปหากรณีศึกษามาดูเป็นตัวอย่าง และสอบถามผู้รู้จากไอ้ตั๋งและไอ้ตูน) ผมเองก็เริ่มตามเกมมันทันมากขึ้น ดังนั้นเวลาปฏิบัติกิจกรรมในช่วงหลัง ๆ จึงไม่ต้องเขอะเขิลอะไรมาก

แล้ววันนี้ผมก็ต้องเสียอาวุธฉลองส่งท้ายปีเก่าไปถึง 2 รอบ

“ป๊อก กูรักมึงนะ” – ไอ้ก้องนอนอยู่ข้าง ๆ ผม หลังจากเล่นกีฬาเรียบร้อยแล้ว
“............” – ผมลูบหัวมันเป็นคำตอบ เหมือนมันเองก็คงรู้คำตอบจากผมอยู่แล้ว
“ปีใหม่กลับบ้านกี่วัน”
“3 วันมั้ง ดูก่อนว่ะ”
“กูไปบ้านมึงได้ป่ะป๊อก”
“มึงอยากไปจริง ๆ เหรอ”
“อยาก กูอยากไปหาพ่อกับแม่มึง กะว่าจะคุยเรื่องสินสอด”
“เชี่ยละ กูยังไม่มีเงินเลย จะเอาเงินไหนไปขอมึงวะก้อง”
“พาหนีเลย กูเต็มใจ” – ไอ้ก้องหัวเราะ หันหน้ามาทางผม แล้วก็จุ๊บแก้มผมทีนึง
“คิดได้นะมึง ทุกวันนี้เหมือนกูกับมึงก็พาหนีอยู่แล้ว เล่นมาอยู่แต่หอกูเนี๊ย”
“ก็รักไงค้าบ...ป๊อกคุง”

.
.
“ก้อง มึงจะรับสภาพบ้านกูได้จริงเหรอ” – ผมถามไอ้ก้องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่มันจะโยนโลชั่นขวดสุดท้ายลงกระเป๋า
“อะไรที่เป็นมึง กูรับได้ทั้งนั้นแหล่ะ น้องชายมึงกูยังรับมาแล้วเลย”
“เชี่ย ทะลึ่ง เดี๋ยวไปไม่ทันรถ” – ผมวิ่งหนีไอ้ก้อง ก่อนที่มันจะอยากเล่นกีฬาอีกรอบ
“งั้นกูหอมแก้มมึงก็ได้วะ” – แล้วก็ขโมยจูบผมไปอีก 1 ที

เราสองคนออกจากหอ เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปหัวลำโพง เราสองคนต้องรีบไป เพราะเวลานั้นก็ 4 โมงกว่าแล้ว ผมจองรถไฟนั่งชั้นสองไว้ตอน 6 โมง เพื่อไปนครสวรรค์ ซึ่งน่าจะถึงประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ ซึ่งก็เป็นเวลาที่ไม่ดึกเกินไปสำหรับผม แต่สำหรับพ่อแม่ของผมแล้ว เวลา 4 ทุ่มเป็นเวลาที่ดึก เพราะพ่อกับแม่จะต้องตื่นแต่เช้า

“มึงเปลี่ยนใจทันนะ” – ผมยังยืนยันกับไอ้ก้อง ว่าจะไปบ้านผมจริง ๆ
“ไป หรือมึงมีอะไรปิดบังกู”
“ไม่มี งั้นอยากไปก็ไป”

ผมเดินไปที่ทางเทียบเข้าชานชลารถไฟ เพื่อไปหารถไฟที่ผมจะต้องไปขึ้น เทศกาลปีใหม่ ใคร ๆ ก็อยากกลับบ้านกันทั้งนั้น ถ้าไม่ติดว่าเมื่อปิดเทอมผมไม่ได้กลับบ้านแล้วล่ะก็ ปีใหม่นี้ผมไม่กลับหรอก ผมไม่ชอบคนเยอะ

“ก้อง มึงทนหน่อยนะ คนมันเยอะ ปีใหม่ก็อย่างงี๊แหล่ะ”
“ไม่เป็นไร กูอยู่กับมึง กูก็พอใจแล้ว”

เมื่อผมกับไอ้ก้องได้ที่นั่งแล้ว ผมก็จัดการเก็บสัมภาระเข้าที่ แล้วก็ชวนไอ้ก้องไปซื้อของกินไว้ตุนตอนมันหิว เพราะผมรู้ว่า การนั่งรถไฟนาน ๆ มันคงจะน่าเบื่อ ตัวผมน่ะไม่เป็นไรหรอก ไม่ค่อยอยากกินอะไร แต่ไอ้คนที่มันมาด้วยน่ะ มันท่าทางไม่เคยนั่งรถไฟนานนาน ผมกลัวว่ามันจะบ่น ว่าพามันมาลำบาก ก็เลยอยากให้มันสบายใจขึ้นมาบ้าง

“ก้องเอาไร เดี๋ยวกูไปซื้อขนม”
“ไปด้วย”
“อย่าเลย คนเยอะ”
“ไม่เอา ให้กูไปกับมึงนะ”
“ก็ได้”

เราสองคนลงไปซื้อขนม แล้วการเดินทางกลับบ้านของผมกับไอ้ก้องก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อนายสถานีตีระฆัง เป็นสัญญาณให้หัวรถจักรเคลื่อนที่ ทุกคนในขบวนรถไฟต่างมีความหวังในการเดินทางกลับบ้านในเทศกาลปีใหม่ปีนี้
-----------------------------








 :m12:
“พี่ต้อมคับ 5 โมงแล้วนะคับ”
“แล้วป๊อกยังไม่กลับเหรอคับ”
“ยังอ่ะคับพี่ ผมว่าเดี๋ยวผมจะเคลียร์งานอีกนิดนึง ปีใหม่นี้หยุดยาวคับ ผมกลัวว่าเปิดมางานจะเยอะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ช่วยป๊อกนะคับ”
“แล้วเอ่อ...ส่วนของพี่เสร็จแล้วเหรอคับ”
“ก็เสร็จแล้วแหล่ะคับ มาเดี๋ยวพี่ช่วย”

การทำงานของผมในที่ทำงานนี้ผ่านมาแล้ว 1 เดือนกว่า ๆ อะไรๆ ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ตอนนี้พี่ตอยให้ผมจัดการแต่เพียงผู้เดียว พี่แกจะไม่ยุ่งอะไรอีก เพราะที่บริษัทเขาปลดพนักงานออกไปหลายตำแหน่ง พี่ตอยเลยต้องควบหลายตำแหน่ง เลยดูแลผมต่อไม่ได้อีกแล้ว

“ป๊อก แกตัดสินใจเอาเลยนะเว้ย ตอนนี้แกเป็นหัวหน้าเต็มตัวแล้ว”
“เอ่อ ผมยังมีskill ไม่เยอะเลยพี่”
“เอาน่า ต้อมมันก็อยู่กับแก มีอะไรก็ให้มันช่วย”
“เอ่อ..คับๆ”

ผมได้ตำแหน่งหัวหน้าแผนกสารสนเทศของบริษัทโดยที่ผมเองก็ไม่รู้ตัว สรุปแล้วแผนกนี้ผมใหญ่สุด

“เอ่อ ป๊อก เจ้านายไม่รับเพิ่มนะเว้ย สรุปแล้วก็มีแค่แกกับต้อม 2 คนนะ”
“เอ่อ แล้วเรื่องที่ผ่านโปร คือตอนนี้ผมยังไม่ผ่านโปรเลย”
“ไม่ต้องรอผ่านหรอกแก เจ้านายอนุมัติแล้ว ไอ้ต้อมก็ด้วย”
“อ่า...ขอบคุณคับ”

แล้วผมกับพี่ต้อมก็ต้องมาคุยงานกัน แบ่งงานที่จะต้องรับผิดชอบในส่วนของแผนกผม ที่มีกันแค่ 2 คน ผมรับส่วนของสารสนเทศภายนอก ให้พี่ต้อมรับสารสนเทศภายในไป ซึ่งงานจะน้อยกว่าผมอยู่บ้าง

“ป๊อก ปีใหม่ไปเที่ยวไหนคับ” - พี่ต้อมถามขณะที่พี่เขากำลังช่วยพิมพ์เอกสารที่ผมยื่นให้
“ก็ไม่รู้เหมือนกันคับ”
“ไม่กลับบ้านเหรอ”
“ก็อยากกลับนะคับ แต่ปีใหม่คนมันเยอะ”
“ป๊อกเป็นคนที่ไหนคับ”
“นครสวรรค์คับ แล้วพี่ต้อมล่ะไม่กลับเหรอ”
“บ้านพี่อยู่มหาสารคามคับ ปีใหม่คนเยอะเหมือนกัน ไม่ค่อยอยากกลับ”
“สงสัยเราสองคนคงจะเฝ้ากรุงเทพวันปีใหม่มั้งคับ” – ผมแซวพี่ต้อม พี่แกก็หัวเราะ

..
“เอ่อ ป๊อก วันนี้ป๊อกว่างป่ะคับ”
“ก็ว่างแหล่ะคับ”
“ไปกินข้าวกันป่ะ เดี๋ยวพี่เลี้ยง”
“ก็ได้คับ ไม่ต้องเลี้ยงก็ได้นะ หารกันคนละครึ่ง”
“ก็ดีคับ”

แล้วผมกับพี่ต้อมก็นั่งเคลียร์งานกันจนถึงเกือบทุ่ม งานก็เสร็จ ปีใหม่นี้ผมคงจะอยู่หออย่างมีความสุขแล้วสิ

ระหว่างทางที่ผมกับพี่ต้อมเดินลงมาข้างล่าง เห็นว่าหลายแผนกเองก็ยังไม่กลับ สงสัยจะเคลียร์งานจนดึก จนถึงหน้า office ผมทักทาย รปภ. เขาก็ยิ้มให้ แล้วเราสองคนกำลังเดินออกไปที่ถนน

“เอ่อ...ป๊อกคับ พี่ขอคุยอะไรกับป๊อกหน่อยสิ”
“มีไรป่ะคับ เอ่อ...ถ้างั้นพี่ต้อมไปรอผมที่ป้ายรถเมล์ก่อนละกันนะ เดี๋ยวผมตามไปคับ”
-----------------
ปล.
 :ped149:
Happy New Year 2009 นะคับ มีความสุขสมหวังตลอดปีนี้นะคับ สำหรับผู้ที่ติดตามประจำ ขอให้หน้าตาดีวันดีคืน(เหมือนผม)นะคับ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 8 [31-12-08] ปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 31-12-2008 18:58:52
อร้ายยยยย งั้นส่งรูปมาให้ป้าดูซิ จะได้รู้ว่าคนสวยเวลาหน้าตาดีขึ้นไปอีกจะเป็นยังงาย


อิๆๆ Happy New Year ความรักสมหวัง งานการก้าวหน้า หน้าตาดีไม่มีตกนะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 8 [31-12-08] ปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: anawas ที่ 31-12-2008 23:14:16
สวัสดี...เพิ่งอ่านวันนี้รวดเดียวจบ   :a9:

สนุกมาก... จะติดตามอ่านต่อไป
Happy  New  Year  2009   :mc3:

ขอให้มีความสุขสมหวังนะ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 8 [31-12-08] ปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 31-12-2008 23:35:57
(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter/newyear/30-12-2008_04K.gif)

ปีใหม่ปีนี้ขอให้มีความสุขมากๆนะ
สิ่งไม่ดีก็ทิ้งไปกับปีเก่าๆ เริ่มต้นใหม่กับปีใหม่
มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต รุ่งเรืองในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว การงาน ความรัก สุขภาพ
เฮงๆๆค่ะ

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 8 [31-12-08] ปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 01-01-2009 01:28:50
สวัสดีปีใหม่นะคราบ อิๆ

อ่านตอนนี้แล้วชักรู้สึกว่าต้อมมันยังไงๆอยู่นะเนี่ย อิๆ

แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ
หัวข้อ: Re: [Story] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 8 [31-12-08] ปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 02-01-2009 23:28:15
มาอ่านต่อนะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 9 [04-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 04-01-2009 11:09:29
ตอนที่ 9
 :m13:
“ก้อง เดี๋ยวมึงนั่งรอตรงนี้นะ เดี๋ยวกูโทรตามพ่อให้มารับก่อน”
“อือ...” – ไอ้ก้องคงจะง่วง มันรับปากเสร็จแล้วก็หลับคากระเป๋าเลย

ผมโทรเข้าบ้านให้พ่อออกมารับ ระยะทางจากบ้านของผมมาที่สถานีรถไฟก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่ ประมาณ 10 นาทีพ่อก็ขับรถมาถึง

“หวัดดีคับพ่อ” – ผมเข้าไปหาพ่อ พ่อก็กอดผม
“พ่อ นี่เพื่อนผม ชื่อก้อง” – แล้วไอ้ก้องก็ยกมือไหว้พ่อผม พ่อผมก็ยิ้มแล้ะรับไหว้
“ปิดเทอมไม่ยอมกลับมานะเราน่ะ”
“ก็ไอ้ก้องเลย พาผมเที่ยว” – ผมชี้ไปทางไอ้ก้อง ไอ้ก้องยิ้มแฮ่ะๆ  :m23:
“ป่ะ ดึกแล้ว อากาศหนาว ๆ อยู่ด้วย เข้าบ้านกัน”

แล้วพ่อก็พาผมกับไอ้ก้องขึ้นรถเข้าบ้าน

“พ่อ แม่เป็นไงมั่งอ่ะ”
“ก็สบายดี รายนั้นน่ะ บ่นถึงแต่แก ว่าปิดเทอมไม่ยอมกลับ ถ้าปีใหม่ไม่กลับ จะตัดออกจากกองมรดก”
“โหพ่อ พ่อก็บอกแม่ไปดิ ว่าป๊อกต้องศึกษากรุงเทพ”
“ข้ออ้างล่ะสิ อยากเที่ยวมากกว่ามั้ง”
“ก็...นะ ก็ก้องมันอาสาพาผมเที่ยวอ่ะ ผมก็เลย”
“ก็อย่าพากันไปเสียคนแล้วกันนะป๊อกนะ”

พ่อขับรถถึงบ้านแล้ว บ้านของผมเป็นบ้านลูกผสม ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ อยู่ในหมู่บ้านที่เรียกได้ว่ามีความสงบระดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้อยู่ในภูเขา แต่บรรยากาศถือว่าดีทีเดียว ทั้งการคมนาคม การเดินทาง ความสะดวก และความสวยงาม ถือว่าหมู่บ้านผมไม่แพ้ใคร

บริเวณบ้านของผมมีรั้วกั้นภายนอก มีบริเวณบ้านที่กว้างพอสมควร แต่ก็ไม่ได้เทลาดยางทั้งหมด เพราะพ่อบอกว่าอยากเก็บดินเอาไว้ปลูกต้นไม้บ้าง แต่บางทีแม่ก็บ่นบอกว่า มันรกเกินไป บ้านนะ ไม่ใช่สวนจตุจักร (ที่รู้ได้เพราะแม่เคยดูทีวี)

เปิดเข้าไปในบ้าน แม่ผมนั่งรออยู่ในบ้าน ผมหวัดดีแม่ แม่ก็บ่นๆ ผมตามระเบียบ แล้วก็แนะนำให้รู้จักกับไอ้ก้อง แม่ก็ยิ้มๆ รับไหว้ แล้วก็บอกให้ผมกับไอ้ก้องไปนอน เพราะเดินทางกันมาเหนื่อยๆ

หลังจากที่เราสองคนอาบน้ำเสร็จ แล้วกำลังจะเข้านอนในห้องของผม

“ป๊อกครับ” - มันมาในโหมดอ้อนอีกแล้ว
“อะไรของมึงล่ะ”
“กอดหน่อยดิ หนาว”
“เชี่ย เดี๋ยวแม่เห็น มึงกับกูจะซวย”
“ห่มผ้าไว้ก็ได้”

แล้วก็จะเหลือเหรอ ไอ้ก้องจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เราสองคนนอนห่มผ้ากอดกันอยู่ ถ้ามองจากข้างนอกก็ไม่รู้หรอกว่าเราสองคนทำไรกันอยู่

“ฝันดีนะคับป๊อก” – มันหอมแก้มผมอีก 1 ที
“เช่นกันนะ” – ผมเอามือไปลูบหัวมันเป็นการขอบคุณ แล้วเราสองคนก็หลับไป :a12:
--------








 :confuse:
“ป๊อกคับ พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย”
“อ่าคับ... อะไรเหรอ”
“ปีใหม่ไปไหนป่ะคับ” - ผมรู้สึกว่าคำถามนั่นไม่เหมาะกับสิ่งที่พี่เขาจะคุยกับผมเลย
“ก็ไม่ได้ไปไหนหรอกคับ อยู่กรุงเทพนี่แหล่ะ”
“งั้นวันที่ 31 ว่างใช่ป่ะคับ”
“ก็ว่างนะคับ ทำไมเหรอ”
“จะชวนไป count down คับ”
“ก็ได้คับ ที่ไหนเหรอ”
“ก็แถว ๆ central world น่ะ ป๊อกไปกับพี่นะ”
“คับ”
“จะเจอกันที่ไหนก่อนหรือเปล่า”
“ที่ไหนก็ได้คับ”
“งั้นเอาตรงป้ายรถเมล์ที่อนุเสาวรีย์ ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถีละกัน ตอน 4 โมงเย็นนะ”
“ป้ายนั้นเหรอคับ เอ่อ... แล้วเราจะหากันเจอป่ะ”
“ใครถึงก่อนโทรบอกละกันนะ”
“เอ่อ...ก็ได้คับ”
“แล้วนี่ป๊อกจะไปไหนเหรอ”
“ไปกินข้าวกับพี่ที่ทำงานคับ ที่เคยเจอกันเมื่อเดือนก่อนน่ะ ที่เพื่อนพี่มาด้วยอ่ะ ที่ร้านข้าวแกงร้านประจำไง”
“อ่อ...จำได้ละ” – ถ้าสังเกตดี ๆ ผมว่าสีหน้าพี่ก๊อกเขาเปลี่ยนไปนิด ๆ
“งั้นเจอกันวันที่ 31 นะคับพี่ ผมไปก่อนนะคับ”
“คับ ไว้เจอกันนะ”

.
.
.
“ใครอ่ะป๊อก”
“ก็พี่ก๊อกไงคับ คนที่เราเคยกินข้าวราดแกงด้วยกันเมื่อเดือนก่อนไง”
“เอ่อ...คือ จำไม่ได้อ่ะ”
“ช่างเหอะคับ ไปกันเหอะพี่ ผมหิว”
“ป่ะคับ”

พี่ต้อมพาผมเดินไปเรื่อย ๆ ตามถนนพระอาทิตย์ เดินผ่านสถานที่มากมายตั้งแต่วัดบวรนิเวศ บางลำพู จนข้ามถนนมาที่ป้อมพระสุเมร ที่นี่มีของกินมากมายที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ โรตีมะตะบะ ร้านเหล้าปั่น และอื่น ๆ แล้วพี่ต้อมแกก็พาผมมาหยุดที่ร้านบ้านปลาสด

บ้านปลาสด ตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์ เยื้องสวนสันติชัยปราการ หน้าร้านมีป้ายชื่อสีเหลืองเด่นเป็นสง่า ประกอบกับความร่มรื่นของต้นไม้นานาชนิดที่ถูกตกแต่งอยู่รายรอบร้าน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของร้านก็ว่าได้
เมื่อผมก้าวเข้ามา มันแปลกใจมาก ๆ ที่บริเวณร้านไม่ได้ตั้งอยู่ชั้นล่างเหมือนร้าน อาหารทั่วไป แต่กลับต้องเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง จึงจะพบกับมุมรับประทานอาหาร พี่ต้อมแกบอกว่าหากมาถึงเร็วแล้วได้ที่นั่งข้างนอกจะดีมาก เพราะนอกจากจะได้รับลมเย็นๆ แล้วยังสามารถมองเห็นวิวได้อย่างสบาย ยิ่งตอนนี้ได้เห็นแสงไฟจากป้อมพระสุเมร ถือว่าสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นได้มากทีเดียว
(อ้างอิง : http://www.yourhealthyguide.com/restaurants/rt-bannplasod.htm)


“สั่งได้เลยคับ อยากกินอะไร” – พี่ต้อมบอกผม เมื่อพนักงานเสริฟ์ ยื่นเมนูมาให้พวกเรา
“เอ่อ... คือผมไม่เคยมากินน่ะคับ ไม่รู้ว่าอะไรอร่อย”
“พี่ชอบปลาจุ่มรสแซบน่ะคับ ลองกินดูนะ” – แล้วพี่ต้อมก็สั่งไป 1 ชุดใหญ่
“ผมอยากกินปลาสเต๊ะอ่ะคับพี่ งั้นเอาปลาสเต๊ะอีก 1 ที่คับ” - ผมบอกพนักงานเสริฟ์
“แล้วก็เอาน้ำเปล่า แล้วก็น้ำแข็งด้วยคับ”

การสั่งอาหารใช้เวลา 5 นาที ผมว่าเร็วดีนะ ถ้าเทียบกับการไปกับเพื่อน ๆ กว่ามันจะสั่งได้ รอจนพนักงานเมื่อยไปเลย

เมื่ออาหารมาถึง เราสองคนจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว พี่ต้อมแกมองแล้วแกก็ยิ้ม ไม่รู้ทำไม

“ป๊อก พริกติดปากบนน่ะคับ” แล้วแกก็ส่งทิชชู่มาให้ผม 1 แผ่น
“...... หมดยังคับ”
“เอ่อ คือ ยังไม่หมดเลย ขอโทษนะ” – แล้วพี่ต้อมแกก็หยิบทิชชู่แผ่นใหม่ แล้วก็....
“ป๊อก ยื่นหน้ามาหน่อยดิ”
“ก็ได้คับ”

แล้วพี่ต้อมแกก็เช็ดปากให้ผม

หลังจากนั้นผมก็เงียบไปพักใหญ่ เพราะอะไรล่ะ เขิล :o8:อ่ะดิคับ ไม่คิดว่า เขาจะกล้าทำอย่างงี๊ จริงๆ แล้วถ้าจะบอกก็ได้นะคับ ทำไมแกต้องมาเช็ดปากให้ผมด้วยนะ

“สื้นปีไปไหนป่ะคับ” – หลังจากอาหารหมดลง ทุกอย่างเหลือเพียงจานเปล่า
“ไป count down น่ะคับ ที่ central world”
“ไปกับเพื่อน ๆ เก่าเหรอ”
“ไปกับพี่ก๊อกน่ะคับ คนที่คุยกับผมเมื่อกี๊ พอดีตะกี๊นี้เขาชวนพอดี” – สังเกตดี ๆ สีหน้าพี่ต้อมเปลี่ยนไปนิด ๆ
“อ่ะคับ แล้วคืนนี้ล่ะ”
“ก็ไม่ได้ไปไหนคับ อีกอย่างพรุ่งนี้ก็หยุดแล้ว กลับดึกคงไม่เป็นไรมั้งคับ”
-------------

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 9 [04-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 04-01-2009 12:31:02
เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ด้วยคนค่ะ พล๊อตเรื่องแปลกดี น่าติดตาม

พี่ก๊อก กับ พี่ต้อม เนี่ย เค้ามีอะไรหรือเปล่า

รอตอนต่อไปนะค่ะ
 ............ :L2:............
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 9 [04-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 04-01-2009 13:02:46
อยากบอกว่า ไปถนนพระอาทิตย์บ่อยมาก แต่ไม่รู้เป็นไงไม่เคยเดินเข้าร้านนี้เลย เพราะชั้นล่างดูแล้วไม่ดึงดูดจริงๆเหมือนบ้านคนทั่วไปเด๊ะ สงสัยต้องหาโอกาสเข้าไปลองบ้างซะแล้ว

ว่าแต่พี่ก๊อก หึงอะเดะ อิๆ แล้วตกลงนาย ก. หรือ นาย ต. จะเป็นผู้พิชิตใจป๊อก (ตอนโต) กันละเนี่ย  :really2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 9 [04-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 04-01-2009 13:16:52
โฮะๆ จะมีอาไรเกิดขึ้นรึเปล่าเนี่ย

แล้วจะรออ่านต่อน๊าคราบ อิๆ

เป็นกำลังใจให้   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 9 [04-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 04-01-2009 13:33:26
เอ...ตกลงมันยังไงเนี่ย

หลายคนเหลือเกิน

 :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 9 [04-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 04-01-2009 23:47:27
มาอ่านแล้วนะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 10 [16-01-09] ขออภัยในความช้า
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 16-01-2009 23:00:17
ตอนที่ 10
 :L2:
“ป๊อก ไปเดินเล่นกันป่ะคับ”
“ที่ไหนคับ”
“เอ่อ...ตรงสนามหลวงอ่ะคับ”
“ก็ดีคับ จะได้ย่อยไปด้วย”

แล้วพี่ต้อมก็จ่ายตังกับผม เฉลี่ยคนละ 180 บาทเอง ไม่แพงนะคับ (แนะนำให้ไปกิน นอกจากอร่อยแล้วยังไม่แพงอีกด้วย จริง ๆ)

ระหว่างทางที่เดินไปสนามหลวง ผมก็เดินไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ดูอะไรข้างทางหรอก เพราะมันไม่มีอะไรให้ผมดู พี่ต้อมเองก็ไม่ได้ดูอะไรด้วย พี่แกก็เดินกับผมข้าง ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร บางทีก็ทำให้ผมรู้สึกอึดอัด ไม่รู้จะชวนมาเดินเล่น แต่ไม่คุยอะไรเลย

“พี่ต้อมคับ ปีใหม่ไปทำบุญกันป่ะคับ” – ผมเอ่ยปากชวนพี่ต้อม ปีใหม่หยุดตั้งหลายวัน
“ที่ไหนดีคับ”
“ผมเคยไปอยุธยา ไหว้พระ 9 วัดน่ะคับ”
“ก็ได้คับ ไหน ๆ ก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว”
“ก็ดีเลยคับ พอดีผมตั้งใจจะไปทำบุญพอดี”

ผมพอเรียกบรรยากาศคืนมาได้บ้าง แต่ก็รู้สึกว่า พี่ต้อมเองแกดูแปลก ๆ ตั้งแต่ในร้านแล้ว


เราสองคนมาหยุดตรงเก้าอี้ยาวตัวหนึ่ง เบื้องหน้าของผมเป็นพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเมื่อเปิดไฟตอนกลางคืนแล้ว บรรยากาศดีมาก วันนั้นคนไม่เยอะเกินไป ไม่มีคนผ่านไปผ่านมามากนัก ลมอ่อน ๆ เย็น ๆ ช่างเข้ากับฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่ได้ดี


ผมเอามือล้วงกระเป๋า เพราะผมเองรู้สึกเย็นขึ้นมานิด ๆ แล้วพี่ต้อมก็ชวนผมนั่งตรงเก้าอี้ยาวตัวนั้น

“เหนื่อยไหม” - พี่ต้อมถามผม
“ก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่คับ”
“ป๊อก ป๊อกชอบกลางคืนหรือกลางวันมากกว่ากัน”
“ก็ชอบทั้งคู่แหล่ะคับ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็กลางคืนผมรู้สึกสบาย แต่กลางวันผมรู้สึกอบอุ่น”
“ถ้าป๊อกต้องเลือกล่ะ”
“ฮ่าๆๆ ยังไงกลางวันกับกลางคืนมันก้ต้องมาคู่กันแหล่ะคับ จะต้องเลือกทำไม”
“นั่นสิเนอะ” – แล้วพี่ต้อมแกก็หัวเราะ ในคำตอบที่ปัญญาอ่อนของผม

ผมมองวิวตรงหน้าของผม แสงไฟจากวัง สิ่งก่อสร้างทะมึนทางด้านขวาของผม เรียกความคลาสสิกได้มากเลยทีเดียว

“พี่ไปซื้อน้ำก่อนนะคับ ป๊อกเอาน้ำอะไร”
“ผมยังไม่หิวคับ”
“งั้นเดี๋ยวพี่มานะ”

แล้วพี่ต้อมแกก็เดินไปซื้อน้ำจากรถเข็นข้าง ๆ ได้น้ำเปล่ามา 1 ขวด และมะพร้าว 1 ลูก

“ป๊อกคับ อ่ะ มะพร้าว”
“ขอบคุณคับ”
“ป๊อกชอบกินเนื้อมะพร้าวอ่อนป่ะคับ”
“ชอบคับ ถ้าเนื้ออ่อน ๆ ผมล่ะชอบมาก ๆ เลย นุ่ม กินง่าย หวานด้วย” - ผมตอบอย่างกับเด็กที่ได้รับขนมจากผู้ใหญ่อย่างงั้นแหล่ะ

แล้วผมก็กินน้ำมะพร้าวจนหมด แล้วก็จัดแจงขูดเนื้อมะพร้าวอ่อนกิน ระหว่างที่ผมกำลังขูดเนื้อมะพร้าวด้วยมือนั้น ผมรู้สึกว่าในมะพร้าวลูกนี้มีอะไรไม่รู้แข็ง ๆ กลม ๆ เหมือนวงแหวน ผมเลยหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่า....

“มันคืออะไรคับ” - ผมหันไปถามพี่ต้อม
“แหวนไง”
“รู้คับว่าแหวน แต่มันหมายความว่ายังไงคับ พี่ถึงเอาแหวนมาใส่ในน้ำมะพร้าวให้ผมกิน”
“พี่ชอบป๊อกคับ”

อึ้ง...สิ...คับ ไอ้ป๊อก

“คับผม”
“...............”

ผมคิดว่าปล่อยให้ความเงียบปกคลุมเถอะ

“พี่พักแถวไหนล่ะคับ” - ผมเป็นคนทำลายความเงียบเอง
“สามย่านคับ แล้วป๊อกอยู่รัชดาใช่ป่ะ”
“พี่รู้ได้ไง”
“จะรู้ได้ไงมันไม่สำคัญหรอก”

.
.
.
“ผมว่าเรากลับกันดีกว่าป่ะคับ นี่ก็จะสี่ทุ่มแล้ว” – โห นั่งกันอะไรตั้งนานถึง 4 ทุ่ม
“ก็ดีคับ”
“แล้วพี่จะกลับยังไงคับ รถเมล์กลางคืนไม่ค่อยจะมีอยู่ด้วย”
“ให้พี่ไปส่งป๊อกที่หอได้ป่ะคับ”
“มันไกลจากสามย่านนะคับ”
“ไม่เป็นไรคับ พี่อยากไปส่ง ให้พี่ไปเหอะนะ”
“แล้วแต่พี่น่ะคับ”



ผมรอรถเมล์ หลัง 4 ทุ่มมันจะไม่ค่อยมากันหรอก ดังนั้นจึงรอนานซักนิดนึงจึงจะได้ขึ้นรถ

“ป๊อก เอ่อ....เรื่องเมื่อกี๊”
“พี่ต้อมคับ ผมว่า ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่าป่ะคับ”
“ก็ได้คับ พี่จะไม่เร่งรัดอะไรกับป๊อก แต่ป๊อกอย่าปฏิเสธพี่เลยนะคับ”
“พี่ต้อมคับ เอ่อคือ...ผมเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรพี่หรอกนะคับ เพียงแต่...มันเป็นอารมณ์หลงหรือเปล่า ที่พี่มาชอบผม”
“พี่ก็คิดอย่างงั้น แต่จนพี่แน่ใจ ว่าพี่เองไม่ได้หลงในตัวป๊อก เพียงแต่พี่ชอบป๊อกจริง ๆ อยากได้ป๊อกมาดูแล ก็แค่นั้น”
“ผมมันน่าดูแลขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็...อ่ะนะ”
“พี่ต้อมคับ ตอนพี่บอกผม พี่ไม่กลัวว่าจะถูกปฏิเสธเหรอ”
“ไม่กลัวคับ อย่างดี ก็แค่มองหน้าไม่ติด”
“..........”


“พี่เองชอบป๊อกตั้งแต่วันแรก ๆ ที่มาทำงานแล้วคับ แต่พี่ก็รอจนตัวเองแน่ใจว่าชอบจริงๆ ไม่ได้หลงคิดไปเอง”
“อ่ะคับ”
“ป๊อกคับ ถึงตอนนี้ป๊อกยังไม่ชอบพี่ แต่ขอ...อย่าเกลียดพี่เลยนะ”
“พี่อย่าคิดอะไรไปเองสิคับ เวลามันก็คงจะเป็นตัวตัดสินไปเองแหล่ะคับ เนอะ”
“พี่จะอดทนรอนะคับ”

ลมเย็น ๆ วันก่อนสิ้นปี ในวันนี้ผมเองไม่เหงาอีกแล้ว แต่ว่าทำไม ใจจริง ๆ ผมชอบพี่ต้อมหรือเปล่า แต่พอจะชอบพี่ต้อม มันก็เหมือนมีอะไรในใจมาขัด ๆ เอาไว้ เหมือนกับว่า....

“ป๊อกจะลงไหนคับ”
“เอ่อ ลงอนุเสาวรีย์คับ พี่ต้อมลงตรงนี้ก็ได้นะคับ กลับสามย่านง่าย ๆ”
“อยากไปส่งถึงหอคับ จะได้มั่นใจว่าปลอดภัย”
“พี่คับ อายุผมเลย 18 ไปแล้วนะคับ”
“ก็ป๊อกน่ารักนี่หว่า” – แล้วพี่ต้อมก็ขยี้หัวผมเล่น

เราสองคนลงรถที่อนุเสาวรีย์ ขึ้นสะพานลอยวน ตอนกลางคืนมันก็จะมีของขายแบบว่าปูเสื่อ ปูผ้าใบขายน่ะคับ ของก็จะมีหลากหลาย ตั้งแต่นาฬิกา เสื้อยืด เข็มกลัด รูบริก ซองใส่มือถือ โอ่ย....เยอะแยะมากมาย

“พี่ชอบอันเนี๊ย” – พี่ต้อมบอกผม ขณะที่แวะอยู่ที่แผงขายเข็มกลัด
“ก็สวยดีน่ะคับ”
“ป๊อกชอบเปล่า”
“ก็น่ารักดีคับ” - พี่ต้อมชี้ไปที่ลายมาชิโมโร่กำลังยืนฉี่
“เอาอันนี้คับ สองอัน” - พี่ต้อมสั่งไปที่คนขายเข็มกลัด
“38 บาทค่ะ”

“อ่ะ พี่ให้อันนึง”
“ขอบคุณคับ”
“ติดกระเป๋าเลยนะ พี่ก็จะติดกระเป๋าเหมือนกัน”
“มันจะเข้ากับพี่เหรอคับ เพราะว่า...”
“ช่างเหอะ ป๊อกชอบพี่ก็ดีใจ”
“อ่า...คับ”

รถเมล์มาพอดี ยังดีไม่ใช่คันสุดท้าย เราสองคนจึงรีบขึ้น ดึก ๆ คนก็ยังเยอะ สงสัยเลิกงานมาจากห้าง

แล้วผมก็มาถึงหออย่างปลอดภัย บอกลาพี่ต้อมแล้วก็เดินขึ้นหอไป



ผมว่า ปีใหม่ปีนี้ ผมคงไม่เหงาแล้วล่ะสิ
---------------

ขอโทษ ขอโพย  :call:
ปีใหม่ที่ผ่านมาว่าจะพิมพ์ให้จบก็ไม่ได้พิมพ์ เพราะมัวเที่ยวจนเพลิน เปิดมางานมหาศาล เพิ่งจะเคลียร์เสร็จไปเอง ฮือๆๆ  :serius2:

ยังไงการดำเนินเรื่องนี้ผมว่าก็ยังช้าอยู่นะเนี๊ย หวันใจว่าจะจบภายใน 15 ตอน สงสัยไม่จบแน่ ๆ เลย

จะพยายาม ไม่หายไปบ่อย ๆ อีกแล้ว
จะพยายาม มาอับบ่อย ๆ

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 10 [16-01-09] ขออภัยในความช้า
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 17-01-2009 00:24:35
^
^
^
 :z13:

ง่า  พี่ต้อมเค้ายังไง  แล้วป๊อกอ่ะมีอะไรค้างคาใจ

วุ๊ย  อยากรู้   :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 10 [16-01-09] ขออภัยในความช้า
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 17-01-2009 00:41:11
อ่านตอนนี้แล้ว เดาว่าคนเขียนชอบมาชิมาโร่เข้าไส้

พี่ต้อม ถอยรถไปเล้ย จะได้ไปส่งป๊อกสะดวก หึๆ (เอ แล้วพี่ก๊อกจะว่าไงเนี่ย)  :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 10 [16-01-09] ขออภัยในความช้า
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 17-01-2009 21:29:18
ง่า  พี่ต้อมเค้ายังไง  แล้วป๊อกอ่ะมีอะไรค้างคาใจ
วุ๊ย  อยากรู้   :serius2:

ผมเองยังไม่รู้เลยคับ
แฮ่ะๆๆ


อ่านตอนนี้แล้ว เดาว่าคนเขียนชอบมาชิมาโร่เข้าไส้

พี่ต้อม ถอยรถไปเล้ย จะได้ไปส่งป๊อกสะดวก หึๆ (เอ แล้วพี่ก๊อกจะว่าไงเนี่ย)  :z1:
จริงๆแล้วก็ชอบมาชิโมโร่เหมือนกัน แต่ก็ยังมีอีกตัวนึงที่ชอบมากกว่า เรื่องหน้าจะบอกแล้วกันนะป้านะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 10 [16-01-09] ขออภัยในความช้า
เริ่มหัวข้อโดย: nookgao ที่ 18-01-2009 22:50:10
ปัจจุบัน

เชียร์พี่ต้อมแหะ..

ก๊อกไปจับมือกับไอ้เตี้ยคนนั้น กร๊าซซซซ มันคือใคร
:fire:

อดีต

ไอ้ชะนี!!!  :m31:แกจะขัดจังหวะทำมายยยยยยยย(ว่าเขาชะนีอย่างกับตัวเองไม่ใช่)

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 10 [16-01-09] ขออภัยในความช้า
เริ่มหัวข้อโดย: StopLove ที่ 18-01-2009 23:00:37
พี่ต้อมถามเชิงให้เลือก แบบนี้เเสดงว่าต้องอะไรมาให้เลือกอีกเเน่ๆ

 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 11 [19-01-09] ย้อน!!!
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 19-01-2009 22:45:28
ตอนที่ 11
 :serius2:
ดึ่งๆๆๆ (โทรศัพท์)
คิดในใจ “ใครมันโทรมาตอนนี้วะ เพิ่งจะได้หยุด กะว่าจะตื่นสายๆ ซักวัน”

“ฮัลโหล”
“ตื่นยังคับ”
“ก็...ตื่นแล้วคับ”
“แสดงว่าพี่โทรมาปลุกใช่ป่ะเนี๊ย”
“เปล่าคับ ผมตื่นพอดีคับ”
“จะโทรมา confirm เรื่องของเย็นนี้น่ะคับ”
“คับผม เหมือนเดิมคับ 4 โมงเย็นที่อนุเสาวรีย์นะคับ”
“OK คับป๊อก งั้นเดี๋ยวเย็นนี้เจอกันนะ”
“คับ..”
“เอ่อ เดี๋ยวก่อนป๊อก”
“อะไรคับพี่”
“แต่งตัวหล่อๆ มานะ”
“อ่า....คับ”

บทสนทนายุติลง ผมตื่นมาตอนเช้า นี่ก็เกือบจะเจ็ดโมงแล้วแหล่ะ สำหรับวันหยุดอันแสนจะมีค่า ความตั้งใจที่จะตื่นมาตอนแปดโมงก็พังทลายลง พี่ก๊อกไม่รู้มาโหมดไหนตื่นแต่เช้ามาโทรหาผม





.
.
.
.

ย้อนไปสามสัปดาห์ก่อน ตอนที่ผมกำลังจะขึ้นรถเมล์ต่อที่สองที่อนุเสาวรีย์ ผมเจอพี่ก๊อก หลังจากที่ผมไม่เจอหน้าพี่แกมาสองสัปดาห์

“อ่า..พี่ก๊อก หวัดดีคับ”
“คับ”
“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่เลยนะเนี๊ย”
“เพิ่งไปอิตาลีมาคับ”
“เที่ยวเหรอคับ น่าอิจฉา”
“ไปเป็นไกด์มาคับ”
“ไหนบอกว่าพี่แปลเอกสาร ตรงข้ามที่ทำงานผมไง”
“ก็งานเสริมคับ งานจริง ๆ แล้วพี่เป็นไกด์”
“น่าอิจฉาจังนะคับ ได้เที่ยวด้วย”
“จริง ๆ แล้วพี่ก็อยากพาป๊อกไปด้วยนะเนี๊ย”
“โอกาสหน้าก็ได้คับพี่” – ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกดีใจ
“พี่มีของมาฝากด้วย” – แล้วพี่ก๊อกแกก็หยิบของออกมา 1 ชิ้น เป็น magnet ติดตู้เย็น เป็นรูปหอเอนปิซา
“โห พี่ ขอบคุณคับ” – แล้วผมก็รับมา ทั้ง ๆ ที่ห้องของผมเองก็ไม่มีตู้เย็นหรอก ไม่รุ้จะติดที่ไหน แต่ก็เอาเหอะ พี่เขาอุตส่าห์ให้มา
“ป๊อกเป็นไงมั่งคับ”
“ก็สบายดีน่ะคับ ไม่มีอะไรแปลกใหม่”
“งั้นเหรอคับ สมมุติถ้ามีล่ะ”
“มันจะมีอะไรเหรอคับ”
“อ่า.......เปล่าคับ ใม่มีไร”

พี่ก๊อกแกแปลก ๆ นะเนี๊ยวันนี้ ตั้งแต่ผมไม่เจอแกมาสองสัปดาห์ วันนี้ผมเจอพี่ก๊อกอีกครั้ง ผมรู้สึกดีใจเป็นพิเศษ ยอมรับเลยว่าทุกครั้งที่ผมมารอรถที่อนุเสาวรีย์ ไม่มีซักวันที่ผมจะไม่ชะเง้อมอง หรือมองหาพี่ก๊อกเลย

พี่ก๊อกกับผมขึ้นรถมาด้วยกัน ตั้งแต่ตอนนั้นแหล่ะคับ พี่แกเป็นคุยสนุก รู้สึกอบอุ่น แล้วอีกอย่างผมว่า พี่แกน่ารักดีด้วย แม้จะมีอะไรตะขิดตะขวงอยู่บ้าง (ก็เรื่องไอ้พี่มั่ง ที่มันมากินข้าวกลางวันวันนั้น พี่มั่งแกก็ไม่มาอีกเลย) แต่ผมก็ยังรู้สึกดี ๆ กับพี่ก๊อก

จะยอมรับว่าปลื้ม หรือว่าชอบ บอกไม่ถูกเหมือนกัน
 
“ป๊อก พี่ขอเบอร์ได้ป่ะคับ”
“08x - xxxxxxx” – ตื่นเต้นตอนที่บอกเบอร์ไป คิดในใจ พี่ก๊อกเอาไปทำไรวะ
“ได้ยังคับ”  - พี่ก๊อกกำลังโทรเข้าหาเครื่องผม
“เรียบร้อยคับ 08x – xxxxxxx นะคับ” - ผมทวนเบอร์
“โทรได้ตอนไหนคับ”
“ก็ตอนไหนก็โทรเหอะคับ ผมไม่ได้ fix เวลา”
“ก็ดีคับ”

ถึงที่ทำงานซักที วันนี้พี่ก๊อกแกคุยมาตลอดทาง แปลกที่ว่าผมไม่ยักกะเบื่อแกเลย ตรงข้าม ผมยังถามโน่นถามนี่เกี่ยวกับอิตาลีอีกด้วย พี่แกเล่าเหมือนว่าผมไปเที่ยวเองเลย

ถึงที่ทำงานแล้ว วันนี้ผมรู้สึกอารมณ์ดีผิดปกติ จนพี่ต้อมเหมือนจะจับได้

“วันนี้ร่าเริงนะป๊อก” – พี่ต้อมทักผม ขณะที่ผมกำลังเดินยิ้มแฉ่งมาที่โต๊ะ
“เหรอคับ แล้ววันอื่น ๆ ป๊อกไม่ร่าเริงเหรอ”
“ก็ปกติคับ แต่วันนี้ดูป๊อกสดชื่น”
“มันแปลกตรงไหนป่ะคับ”
“ไม่หรอก ก็น่ารักดี ไม่เคยเห็น”

เอาแล้วไง พี่ต้อมแกแปลก ๆ พี่แกจ้องผมทั้งวัน บางทีผมก็หันมามอง เพราะงานแกไม่คืบหน้า ลูกค้าจะเอาวันนี้นะเฟร้ย พี่แกนั่งยิ้มอยู่ได้

“เอ่อ พี่ต้อม ลูกค้าเอาวันนี้นะคับ” – ผมบอกพี่ต้อม ขณะที่พี่กำลังเหม่อมาทางผม
“อ่า....เหรอคับ”
“ผมว่าผมบอกพี่ตั้งแต่เช้าแล้วนะ”
“อ่า....เหมือนจะจำได้”
“ซะงั้นน่ะ เอาวันนี้ก่อนบ่ายสองโมงนะคับ ผมจะได้เอาไปให้พี่ตอย เดี๋ยวเฮียแกซัดผม”
“คับๆ” – แล้วพี่ต้อมแกก็หันไปทำงานของแกไป ผมก็ทำของผม ซึ่งผมกับพี่ต้อมต้องเอางานมารวมกันก่อนที่จะส่งไปให้พี่ตอย



เที่ยงแล้วคับ ถึงเวลาที่ผมกับพี่ต้อมจะลงไปกินข้าว แต่ด้วยว่างานมันเร่ง เราสองคนจึงตัดสินใจที่จะไม่ลงไปกินข้าวข้างล่าง เพียงแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคนละห่อ ผมว่ามันก็พอให้เราทำงานกันต่อไปได้ สำหรับวันที่เร่งด่วน

“ป๊อก เดี๋ยวพี่ไปทำมาม่าให้ป๊อกนะ เอารสไร”
“ในตู้มันมีต้มยำกุ้งอยู่รสเดียวคับพี่”
“เอ่อ เนอะ”
“ขอบคุณคับ” – ผมไม่ทันเงยหน้ามามองหน้าพี่ เพราะง่วนอยู่กับงานของผมอยู่

งานเสร็จทันพอดี พอผมเอางานไปให้พี่ตอย พี่แกก็ตอบรับงานผมว่าอยุ่ในระดับดี อย่างงี๊สิไม่ขายหน้า ผมกับพี่ต้อมก็เลยดีใจ อีกสามชั่วโมงที่เหลือผมจึงนั่งเล่นเฉย ๆ เก็บโน่นนี่ เล่นเนต อ่านเล้าเป็ดไปจนหมดเวลาทำงาน

“ป๊อกไปกินข้าวกัน”
“อ่า...คับ ที่ไหนดี”
“ไหนก็ได้ ตามใจ ฉลองงานเสร็จ”
“ก็ดีคับ”
.
.
.








พอหลังจากวันนั้น ผมจึงมีความรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่ผมทำอะไรก็จะถูกจับตามองจากพี่ต้อมเสมอ จนกระทั่งวันนึง สัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปี

“ป๊อกกินข้าวกับพี่นะ พี่ซื้อมาเผื่อ”
“อ่า...คับ เดี๋ยวผมลงไปซื้อเพิ่งก็ได้พี่”
“ไม่ต้องหรอก แค่นี้น่าจะพอกิน” – พี่ต้อมแกชูกับข้าวให้ผมดู สองสามอย่าง
“คงพอจริง ๆ แหล่ะพี่”

พอผมกำลังกินข้าว เสียงทาศัพท์ผมก็ดังขึ้น เป็นพี่ก๊อกโทรมา

“ไม่ลงมากินข้าวเหรอคับ”
“อ่อ พอดีพี่ที่ทำงานเขาซื้อมาเผื่อน่ะคับ”
“อ่อคับ ไม่เป็นไรคับ”
“แล้ววันนี้พี่ก๊อกกินที่ไหนน่ะคับ”
“ร้านเดิมแหล่ะคับ จะมีให้เลือกซักกี่ร้านกันเชียว”
“นั่นน่ะสิคับ”

ระหว่างคุยโทรศัพท์ไป พี่ต้อมเองก็มองผม ไม่กินซักที
“เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมกินข้าวก่อนนะคับพี่”
“ไว้เย็นนี้เจอกันนะคับ”
“ได้คับ”

แล้วพี่ต้อมกับผมก็กินข้าวกลางวัน โดยที่ไม่ได้คุยอะไรกับผมอีกเลย
-------------
ตอนนี้เป็นการเล่าเรื่องของสามสัปดาห์ ก่อนสิ้นปีนะคับ
ตอนหน้าคงจะเป็นบรรยากาศวันสิ้นปี (ทั้งๆที่มันก็เลยมาแล้วตั้งหลายวัน)

ติเตียนกันได้นะคับ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 11 [19-01-09] ย้อน!!!
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 19-01-2009 23:03:32
 :z13:

กำลังงงเลยว่าเนื้อเรื่องมันอยู่ตอนไหน

ดีนะที่บอก  อยากอ่านวันสิ้นปี  อยากรุ้ว่าจะเป็นไง

 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 11 [19-01-09] ย้อน!!!
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 21-01-2009 03:25:43
 o13

แหมท่าทาง ต้อม เหมือนจะรู้อะไรนะเนี่ยถึงได้เงียบ อิๆ

แล้วจะรออ่านน๊า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 11 [19-01-09] ย้อน!!!
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 21-01-2009 11:35:13
รอบรรยากาศฉลองปีใหม่  :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 12 [23-01-09] count down@Siam
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 23-01-2009 21:47:50
ตอนที่ 12
 :a1:
วันนี้เป็นวันสิ้นปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เมื่อวานก็นั่งดูข่าวเรื่องการกลับบ้านของคนที่เขาอยู่ต่างจังหวัด ก็มีการไปเก็บบรรยากาศตามสถานีขนส่ง ซึ่งผมรู้สึกว่าปีนี้คนกลับบ้านเยอะเป็นพิเศษ ผมล่ะคนนึงที่คงจะไม่กลับบ้านไปช่วงปีใหม่ เพราะคนเยอะ ขี้เกียจไปเบียดคน

วันนี้ก็เป็นวันหยุด ตื่นมาก็เช้า นอนต่อก็นอนไม่หลับแล้ว พี่ก๊อกมันโทรมาตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมง ทำไรดีเนี๊ย เปิดข่าวดู ก็งั้นๆ มีแต่ข่าวกลับบ้านในช่วงเทศกาล ข่าว 7 วันระวังอันตราย รายงานเรื่องยอดผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่รู้จะนำเสนอทำไม เพราะเสนอกันทุกปีคนตายก็ไม่ได้ลดลง ผมก็เลยปิดทีวี ฟังเพลงดีกว่า

วันนี้เหมือนทำไมเวลามันผ่านไปอย่างช้า ๆ เพิ่งจะ 9 โมงเอง ทำไมมันนานอย่างงี๊ หลังจากที่ผมจัดการกับมื้อเช้าของผมเสร็จ ก็ซื้อหนังสือมาเล่มนึง เป็นหนังสือนิตยสารทั่วๆ ไปนั่นแหล่ะคับ ไม่รู้จะซื้ออะไร

สามชั่วโมงหมดไปกับการนั่งอ่านนิตยสาร จนเที่ยง เลยไปหาข้าวกินข้างล่าง ป้าเจ้าของร้านอาหารตามสั่งแกไม่ได้หยุดกลับบ้านไปด้วย ป้าแกบ่น ๆ บอกว่าปีใหม่คนเยอะ ขี้เกียจกลับ แล้วอีกอย่างรกรากแกก็ย้ายมากรุงเทพเกือบจะหมดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปทำอะไร

มองนาฬิกา นั่งนับถอยหลัง อีก 3 ชั่วโมงจะถึงเวลานัดแล้ว ว่าแล้วก็เปิด notebook อ่านเล้าเป็ดต่อ เทศกาลวันหยุดแต่เล้านี้ก็ไม่ได้หยุดตาม

นิยายเรื่องเก่า ๆ ที่อ่านค้างมา ดองมาหลายวัน เคลียร์หมดแล้ว



“ออกซักทีเหอะ เดี๋ยวไปสาย” – ผมบอกกับตัวเอง แล้วก็จัดแจงอาบน้ำ สระผม ถูสบู่ ร้องเพลง (เคยป่ะคับ ร้องเพลงในห้องน้ำ ก็มันอารมณ์ดีนี่นา) รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างใจเย็น

.
.
“อย่าลืมแต่งตัวหล่อ ๆ มานะ” – เสียงพี่ก๊อกแว่วมาในหัว วันนี้มันต้องมีอะไรแน่ ๆ
.
.

ดังนั้นผมจึงค่อย ๆ เลือกเครื่องแต่งตัวของผม เสื้อผ้าผมเองมีแต่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ราคาถูกถูก ก็ไม่มีตังซื้อนี่หว่า เลือกไปเลือกมา ตัวนี้ก็ไม่ดี ตัวนี้ก็ไม่เหมาะ จะใส่เสื้อเชิ้ต มันก็แปลก ๆ แต่เห็นเด็กสยามชอบใส่กันจัง เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ ว่าแต่เสื้อเชิ้ตสวย ๆ ก็ไม่มีซะด้วยสิ มีแต่ที่ใส่ไปทำงาน เรียบ ๆ แล้วก็ลองหันไปมองเสื้อคอปกโปโล มีอยู่สองตัว ตัวแรกไปซื้อกับไอ้ก้อง นานมาแล้ว ตัวที่สองไปซื้อคนเดียว เพราะความอยากได้

สุดท้ายผมก็เลือกตัวที่ผมซื้อมาคนเดียว ใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่ง แล้วก็รองเท้าผ้าใบ ส่องตัวเองในกระจก

“เชยชะมัด”
.
.
เอาเหอะ ยังไงคนมันไม่หล่อ มันก็คงได้แค่นี้แหล่ะ

ออกมาจากหอตอนบ่ายสามโมงสิบนาที กะว่าน่าจะถึงพอดีกับที่นัดไว้ แต่วันนี้โชคดีเป็นบ้า ขึ้นรถเร็วแล้วรถยังไม่ติดอีก กลายเป็นว่าจากหอใช้เวลา 15 นาทีถึงอนุสาวรีย์
.
.
“แล้วกรูจะทำไรดีเนี๊ย”
.

นั่งรอเฉย ๆ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ผมเลือกนั่งรอพี่ก๊อกที่ป้ายรถเมล์ มองคนอื่นขึ้นลงรถเมล์ แปลกนะคับ เวลาอยู่ที่ป้ายรถเมล์แล้วรอคน ไม่ใช่รถเมล์

รถบางคันคนก็รอกันเยอะ บางคันก็จอดรอให้คนขึ้นก็เยอะ

“มานานแล้วเหรอคับ” - เสียงพี่ก๊อกจากข้างหลัง
“ก็ เพิ่งมาไม่นานนี่เองคับ”
“เหรอคับ แต่พี่ว่าพี่เห็นคนนั่งรอพี่อยู่ตั้งนานแล้ว”
“แสดงว่าพี่.....”
“พี่มานานแล้วคับ แต่จะแกล้งเราเฉยๆ”
“โห!!! แล้วก็ให้เรารอตั้งนาน”
“ป่ะ ไปกันเหอะป๊อก”

พี่ก๊อกพาผมนั่งรถไฟฟ้าไปที่สยาม ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่นัดที่สยามตั้งแต่แรก มานัดที่อนุสาวรีย์ทำไม

“ดูหนังกันป่ะป๊อก”
“มีเรื่องไรน่าดูมั่งล่ะคับ”
“พี่ว่าเรื่องเนี๊ยะ กำลังอยากดู” – พี่ก๊อกชี้ไปที่โปสเตอร์หนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมว่ามันน่าจะสนุกนะ
“โอเคคับ”

ระหว่างรอหนังเข้าตอนสี่โมงห้าสิบ เรายังมีเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง พี่ก๊อกพาผมไปกินไอติมที่สเวนเซ่น 

“ไอติมอร่อยป่ะคับ” - พี่ก๊อกถาม
“ก็อร่อยคับ มันก็อร่อยอยู่แล้วนี่”
“ท่าทางป๊อกจะเลี้ยงง่ายเนอะ”
“งั้นมั้งคับ ผมกินง่าย” – ผมยิ้ม มองหน้าพี่ก๊อก พี่แกก็ยิ้มแฉ่ง คนไรวะยิ้มทีนึงน่ารักโคตรๆ
“คืนนี้ไม่รีบใช่ป่ะป๊อก”
“ก็ไม่ได้ไปไหนนี่คับ”
“ไป count down ไหนดี”
“ที่นี่ก็ได้นะคับ มีงานลานเบียร์พอดี”
“มันต้องมีบัตรเข้างานไม่ใช่เหรอ” - พี่ก๊อกถาม
“เกาะรั้วดูก็ได้มั้ง หรือพี่อยากไปที่อื่น บอกได้นะคับ”
“ตามใจป๊อกเลย”
“คับ”
.
.
.
.
.
“เพื่อนๆพี่ไปไหนกันหมดคับ” – ไม่รู้อยู่ดี ๆ ทำไมผมถึงถาม
“กลับบ้านคับ”
“แล้วพี่ เอ่อ...พี่ที่มากินข้าวกับพี่ตอนนั้น...”
“อ่อ ไอ้มั่งน่ะเหรอ มันติดแฟนมันอยู่”
“เหรอคับ ตกลงพี่คนนั้นมีแฟนแล้วเหรอ”
“ใช่คับ”
“......................” – อย่างน้อยก็แอบดีใจ ที่มันไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ก๊อก
“ไปดูหนังกันเหอะคับ ใกล้หลังจะเข้าแล้ว”

หมดเวลาดูหนังไปเกือบสองชั่วโมง หนังก็สนุกดีนะคับ แต่ผมรู้สึกว่าดูหนังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะอะไรล่ะ ก็ตอนหนังกำลังฉาย พี่ก๊อกแกก็หันมาหาผมอยู่บ่อย ๆ ถามโน่นนี่ ผมจะดูหนังนะ ไม่ได้มาคุยกับพี่
.
.
เวลาเหลืออีกมาก ตอนนี้คนก็เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่สยามมากขึ้น บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บ้างก็มาเป็นคู่ ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นนั่นมาเป็นคู่นะ ลมเย็น ๆ ผมจึงเอามือล้วงกระเป๋าแก้หนาว

“หนาวเหรอ เดี๋ยวไปหาไรกินกัน อยากกินไรคับ”
“เอ่อ...อะไรก็ได้คับ”
“งั้นเดี๋ยวเราไปเดินดูกันนะ”

เราไปกินอาหารเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง คนรอกันเยอะพอสมควร คิดว่าคงจะมาหาอะไรกินกันสิ้นปีมากกว่า แล้วเขาก็คงจะไป count down กัน เหมือนเราสองคนมั้ง

“อิ่มยังน่ะ”
“ก็อิ่มคับ”
“ป๊อก วันนี้ป๊อกดูหล่อดีเนอะ”
“เหรอคับ ก็..เอ่อ ผมแต่งตัวสบาย ๆ มั้งคับ ปกติผมใส่ชุดทำงาน คงจะดึงอายุไปน่าดู”
“ดูเด็ก ๆ น่ารักดีคับ”
“พี่ก๊อกก็หล่อดีนะ” – ผมชมพี่แกกลับ วันนี้พี่ก๊อกแกก็หล่อไม่แพ้ผมเหมือนกัน
“ผมว่าเดี๋ยวเราไปจองที่ยืนกันดีกว่าคับ นี่ก็ใกล้จะสี่ทุมแล้ว เดี๋ยวห้างปิด คนจะเยอะ”
“ดีคับ”
.
.
“พี่ขอเลี้ยงป๊อกนะ”
“ไม่ดีมั้งพี่ ผมเองก็ทำงานแล้ว”
“ขอให้พี่เลี้ยงเหอะนะ”
“เอ่อ ... ก็ได้คับ”

ผมยอมให้พี่ก๊อกเลี้ยงมื้อนี้ แล้วก็เดินออกมาจากสยาม เพื่อไปที่ลานสยามพารากอน วันนี้เขามีงานคอนเสริ์ต คนเยอะมาก ๆ ผมกับพี่ก๊อกเลยยืนที่ริมนอกสุด

“คนเยอะเนอะป๊อก พี่ไม่เคยมาเลยนะเนี๊ย”
“ผมเคยมาตอนที่ผมเรียนน่ะคับ”
“อ่ะคับ ท่าทางจะเที่ยวเก่งนะเรา”
“ก็ไม่หรอกคับ”

คอนเสริ์ตก็เล่นกันไป ผมก็โยกหัวนิด ๆ พอเป็นพิธี จะให้ดิ้นเป็นแร้งลงก็คงไม่ใช่ พี่ก๊อกเองก็ยืนโยกหัวนิด ๆ เหมือนกัน ระหว่างที่คอนเสริ์ตกำลังเล่น SMS ก็เข้ามาเป็นระยะ ผมกดอ่านดูก็เป็น SMS อวยพรปีใหม่

บรรยากาศบนเวทีเริ่มคึกคักขึ้น ผมมองที่จอนาฬิกาดิจิตอล ที่แสดงเวลาในขณะนั้น ก็ 23.55 แล้ว เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วที่จะเข้าสู่ปีใหม่
.
..
...
พิธีกรสั่งนับถอยหลังแล้ว
10

....9


...... 8



...........7



................6



.....................5



..........................4



................................3



........................................2



...............................................1



.
.
.
.
.

“สวัสดีปีใหม่ครับบบ..........” – พิธีกรกล่าวสวัสดีปีใหม่ พร้อมกับเพลงปีใหม่
“เอ่อ พี่ก๊อกคับ Happy new year คับผม”
“ป๊อกคับ พี่ชอบป๊อกคับ” – พี่ก๊อกพูดเสียงปกติ แต่บรรยากาศขณะนั้นเสียงดังมาก ผมจึงได้ยินไม่ถนัด
“คับ”



..........

“อะไรนะคับ” – ผมหันไปถามพี่ก๊อก
“พี่..........เอ่อ ..........ชอบป๊อกคับ”

เหมือนว่าผมรอประโยคนี้มานาน หรือยังไง ผมไม่รู้สึกอะไร นอกจาก...............

“ป๊อกคับ ป๊อก” – พี่ก๊อกเขย่าตัวผม ผมยืนอึ้งไปนานเหมือนกัน
“คับพี่”
“เป็นไรป่ะคับ”
“เปล่าคับ ผมว่าไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันดีกว่าป่ะคับ”
----------------

อาจจะไม่้ค่อยได้บรรยากาศ เพราะมันผ่านมาแล้ว 23 วันน่ะคับ
 :mc3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 12 [23-01-09] count down@Siam
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 23-01-2009 21:53:23
เอ้า ฮิ้วววววววววว

ป๊อกจะตอบว่าไงเนี่ย  o22


ลป. ยังดีนะเนี่ยมีไปเคาท์ดาวน์ด้วย วันปีใหม่ป้านอนป่วยดูทีวีอยู่บ้าน เหอๆ  :z2:

v
v
v
v

จิ้มคืน กรี๊ดดดดดด บังอาจ ลบหลู่ผู้สูงอายุก่อนตรุษจีน นี่แนะๆๆ  :fcuk:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วัน&#
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 23-01-2009 22:00:25
^
^
^
 :z13:
แทงป้า bellbomb
ผมยังเด็ก ปีใหม่ก็ต้องไปเที่ยวตามประสาเด็ก ๆ สิคับ
ป้าน่ะอายุสูงแล้ว ก็น่าจะพักผ่อนได้แล้วคับ
 :laugh:

v
v
v
v
แทงคนข้างล่างต่อมั่ง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 12 [23-01-09] count down@Siam
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 23-01-2009 23:01:19
^
^
^
 :z13:  จิ้มด้วยยยยยยยยย

แล้วป๊อกจะตัดสินใจยังไง

เลือกใคร

 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 12 [23-01-09] count down@Siam
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 24-01-2009 01:24:32
รีบๆมาต่อเลยน๊าอยากรู้ผลใจจะขาดแล้ว

 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 12 [23-01-09] count down@Siam
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 24-01-2009 02:07:18
ป๊อกมีแต่คนรุมรักน่ะเนี่ย



หุหุเสน่ห์แรงเจงๆๆๆ




รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 12 [23-01-09] count down@Siam
เริ่มหัวข้อโดย: nookgao ที่ 25-01-2009 01:39:05
จะตอบว่าไรน้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : คนแต่งป่วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 30-01-2009 08:40:06
เเจ้งให้ทราบคับ
คือผมป่วยน่ะคับ
ถ้าหายแล้ว (น่าจะ 2-3 วัน) จะเอามาลงต่อนะคับ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : คนแต่งป่วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 30-01-2009 09:49:17
ขอให้หายไวๆค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : คนแต่งป่วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 30-01-2009 10:18:18
พักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำเยอะๆ หาคนมานอนกอด(?) จะได้หายเร็วๆนะจ๊า  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : คนแต่งป่วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 30-01-2009 16:13:55
 :กอด1:

หายเร็วๆ นะคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : คนแต่งป่วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 30-01-2009 18:33:18
แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ อิๆ

เป็นกำลังใจให้นะ หายไวๆ นอนเยอะๆ  :t3: :t3:

เด่วจะดิ้นรอไปพลางๆ  :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : คนแต่งป่วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 30-01-2009 22:24:43
หายเร็วๆน้า

จะได้มาลงเรื่องต่อ

รักษาสุขภาพด้วย

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : คนแต่งป่วยคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Hamura ที่ 31-01-2009 18:32:16
นั้งป็อก ๆ ไป้จิ้ม ก๊อก ๆ ดีจังแต่อย่าอย่าไปเยียบเท้าใครอีกนะ โดนซะไม่ใช้น้อย
 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 13 [31-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 31-01-2009 21:36:43
ตอนที่ 13
 :serius2:
ผมรู้นะคับ ว่าเมื่อตะกี๊พี่ก๊อกบอกอะไรกับผม แต่ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะรู้สึกยังไงกันแน่ ไม่รู้ว่าจะดีใจ จะเฉย ๆ จะบอกว่ายังไง ผมไม่รู้เลยจริงๆ

ปีใหม่นี้ผมยังต้องมีเรื่องวุ่น ๆ ให้คิดอีกเหรอเนี๊ย แล้วต่อไปผมควรทำไงดี

“ป๊อกคับ เอ่อ....จะกลับบ้านป่ะคับ”
“ยังคับ ถ้าพี่ก๊อกจะกลับก่อนก็ได้นะคับ เดี๋ยวผมคงอยู่แถวนี้แหล่ะ”
“ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนนะ”
“แล้วพรุ่งนี้ ไม่สิ วันนี้ตอนเช้าพี่ไม่มีธุระเหรอคับ”
“ก็ไม่มีคับ”
“ป๊อกอยากไปไหนล่ะ”

“สนามหลวง” – ผมตอบอย่างไม่คิด

เพราะอะไรน่ะเหรอ สนามหลวงเป็นที่ที่พี่ต้อมบอกว่าชอบผม แล้วอีกอย่าง ตอนนี้ผมไม่รู้จะบอกพี่เขายังไง ว่าผมอยากไปไหน ห้องก็ไม่อยากกลับไปตอนนี้ กลับไปก็ไม่มีไรทำ

พี่ก๊อกพาผมนั่งแท็กซี่มายังสนามหลวง ระหว่างทางผมไม่ได้คุยอะไรกับพี่ก๊อกเลย ดูท่าทางพี่ก๊อกก็กระวนกระวายเล็กน้อย เหมือนพี่แกจะรู้ว่าผมต้องเป็นไร

“ป๊อกโกรธพี่เหรอ”
“เปล่านี่คับ”
“แล้วทำไมไม่คุยอะไรกับพี่เลยล่ะ”
“อ่า...”
“หน้าตาก็บึ้ง เหมือนจะโกรธพี่เลย”
“อ่า....เปล่าคับ ผมคิดไรเพลิน ๆ เฉย ๆ ”

.
.
.
.

“พี่ก๊อกคับ ผมอยากกลับแล้วอ่ะ”
“ทำไมอ่ะคับ จะถึงอยู่แล้วเนี๊ย”
“ปีใหม่คงไม่มีคนไปนั่งแถวสนามหลวงตอนตีสองหรอกคับ”
“...........”
“นะคับ พี่ผมอยากกลับหอแล้ว ค่าแท๊กซี่เดี๋ยวผมจ่ายให้ก็ได้คับ”
“เอ่อ เอางั้นก็ได้” – แล้วพี่ก๊อกก็บอกคนขับให้ขับไปส่งที่รัชดา


เว้นระยะไปนานพอสมควร
.
.
“แล้วพี่จะกลับไงล่ะคับ”
“ก็เดี๋ยวหาแท็กซี่กลับไปบ้านก็ได้ ไม่ได้ไกลจากหอป๊อกเท่าไหร่หรอก”
“ถ้ากลับไม่ได้นอนกับป๊อกก็ได้นะ”
“อนุญาตเหรอคับ”
“เอ่อ...คับ” – ไม่รู้ทำไมผมถึงตอบอย่างงั้นไป

ถึงหอผมแล้ว ผมพาพี่ก๊อกขึ้นไปบนหอผม ผมเองก็แนะนำโน่นนี่ไป เพราะพี่ก๊อกแกถาม พอถึงห้องผมแล้ว...

“ห้องสะอาดดีนะคับ”
“นี่สะอาดแล้วเหรอ ผมว่ามันยังรกๆ อยู่เลย”
“มันก็คงสะอาดกว่าห้องพี่แหล่ะ”
“อ่ะคับ ใครมาห้องป๊อกก็บอกว่าสะอาดหมดนั่นแหล่ะ”
“แสดงว่าป๊อกเป็นคนมีระเบียบ....”
“ไม่หรอกคับ...แฮ่ะ ๆ”
“พี่จะอาบน้ำก่อนก็ได้คับ เดี๋ยวผมเอาผ้ากับชุดนอนให้”

ผมส่งพี่ก๊อกเข้าห้องน้ำ หุ่นพี่ก๊อกแม้จะไม่สูงมาก แต่ก็มีกล้ามนิด ๆ รูปร่างดูสมส่วนทุกอย่าง ไม่มีพุง มีลอนหน้าท้องนิดหน่อย ผมมองพี่แกอยู่นาน จนพี่แกทัก

“มองอยู่นั่นแหล่ะ จะไปอาบด้วยกันเลยป่ะ”
“เอ่อ .... ตามสบายเลยคับ ว่าแต่หุ่นดีจังเนอะพี่”
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก” – พี่แกก็ยืนเกาหัวแล้วก็ยิ้ม น่ารักโคตร ๆ เลย
“งั้นพี่ไปอาบเหอะ ทุกอย่างอยู่ในห้องน้ำนะคับ”

แล้วผมก็มายืนสูดอากาศหนาวริมระเบียง ซึ่งก็มีพื้นที่อยู่เล็กน้อย ผมเอาเก้าอี้พับได้ออกมานั่ง ปล่อยอารมณ์ให้ว่างเปล่า อากาศคืนนี้ดีจริง ๆ แม้ว่าจะวันไหนๆ ถ้าผมยังไม่นอน หรือนอนไม่หลับ ผมก็จะมานั่งตรงนี้แหล่ะ

ผมอึ้งกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านมาไม่นานนี้ วันก่อนพี่ต้อมบอกว่าชอบ วันนี้พี่ก๊อกก็บอกว่าชอบ แต่ถามว่าใจจริง ๆ แล้วผมชอบใครกันแน่ ผมเองก็ไม่รู้

บางครั้งผมก็รู้สึกว่าผมก็ชอบพี่ก๊อก เวลาเขาคุยเป็นคนที่คุยสนุก ยิ้มแล้วน่ารัก โดยรวมทุกอย่างดี ถ้าจะเป็นแฟนกับพี่ก็คงจะเข้ากันได้ดี

บางครั้งก็รู้สึกว่าผมเองชอบพี่ต้อม เขาอยู่ใกล้ผมที่ทำงานตลอดเวลา ดูแลผมมาอย่างดี เอาใจใส่ทุกรายละเอียดของผม แม้กระทั่งสิ่งที่ผมคิดว่าพี่แกก็ไม่รู้ พี่ต้อมก็รู้จนได้

แต่ถ้าผมต้องเลือก ผมต้องเลือกใคร ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ว่าจริง ๆ แล้วผมชอบใคร
-----------
 







:m11:
“ก้อง มึงตื่นเดี๋ยวนี้”
“หือ..........อื้อ.........งืมๆ”
“ไอ้ก้อง กูบอกให้ตื่น”
“...........ZzzZzzzz.........”
“มึงจะไม่ตื่นใช่ป่ะ”
“........................”
“งั้นมึงเจอ...........ป้าบ.........(เสียงเท้าผมกระทบก้นมัน).............”
“โอ้ยเจ็บนะ แม่ง รุนแรงแต่เช้า”
“เช้าห่าไรล่ะ เก้าโมงแล้ว แม่ให้มาปลุกมึงไปกินข้าว”
“กูนึกว่ามึงจะแอบหอมแก้มกู”
“สัด แสดงว่ามึงตื่นตั้งแต่กูเรียกแล้ว”
“ก็ไม่คิด ว่ามึงจะถีบกูนี่หว่า อะไรวะแม่ง สามีรุนแรงกับภรรยาฉิบ”
“เชี่ยนี่ มึงอยากให้พ่อกับแม่กูช็อคเหรอ ว่ากูได้เมียเป็นผู้ชาย”
“มึงไม่หอมกู กูหอมมึงก็ได้” – เอาอีกแล้ว มันก็ได้หอมแก้มผมไปอีก 1 ที

แล้วไอ้ก้องกับผมก็เดินลงไปข้างล่าง

“ก้อง ทานข้าวเช้ากันลูก” – แม่ผมเชิญ ขณะที่แม่กำลังล้างจาน พ่ออ่านหนังสือพิมพ์บนโต๊ะ
“แล้วพ่อกับแม่กินกันแล้วเหรอคับ”
“เรียบร้อยแล้ว” - พ่อละสายตาจากหนังสือพิมพ์มามองไอ้ก้อง
“ไม่รู้จะกินได้หรือเปล่านะ อาหารบ้าน ๆ” - แม่ผมบอกไอ้ก้อง
“กินได้คับ อร่อยด้วย”  - ไอ้ก้องกินเข้าไปหลายคำแล้ว พ่อผมยิ้มให้มัน
“เอ่อพ่อ เดี๋ยวป๊อกขอเอารถไปเที่ยวนะ”
“อย่าไปเฉี่ยวใครละกัน ขับรถกันก็ระวังด้วย” - พ่อผมเตือน
“แล้วจะไปไหนกันน่ะ”
“ว่าจะไปศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ปากน้ำโพ แล้วก็บึงบอระเพ็ดน่ะ”
“เอ่อดีแล้ว เพื่อนไม่เคยมา คงจะไม่เคยมาล่ะสิใช่ม๊ะ” - แม่หันไปถามไอ้ก้อง
“อ่ะคับ ไม่เคยคับ”
“อยู่กันนานนานก็ได้นะลูก” – พ่อบอกไอ้ก้อง
“พ่อ ทีป๊อกอ่ะ พ่อรีบไล่ให้กลับไปเร็ว ๆ ไรเนี๊ย งอนว่ะ”
“ก็แกเที่ยวตั้งแต่แกเรียนที่นี่แล้ว” – พ่อบอกผม
“โห แต่กว่าจะได้ไป อายุก็เกือบจะเลือกตั้งได้แล้ว”
“ไปเลยป่ะไอ้ป๊อก กุญแจอยู่บนหลังตู้ เที่ยวเสร็จเอาตังไปเติมน้ำมันให้เต็มด้วย”
“ไหนอ่ะพ่อ ตังอ่ะ”
“จะพาเพื่อนไปเที่ยว แกก็ออกตังเองดิ”
“โห่ พ่อ.... นะคับ นะ.....นะ ผมยังไม่มีรายได้อะไรเลย นะคับ พ่อ” – โหมดอ้อนเต็มที่เลยผม พ่อชอบใจอ่อนเวลาแกถูกอ้อน
“เอ่อ อ่ะๆ ....ของขวัญปีใหม่”
“ขอบคุณคับ” – แล้วหอมแก้มพ่อไป 1 ที พ่อแกเขิลจนหน้าดำ ไอ้ก้องก็มองผมแล้วก็ยิ้ม พอดีผมหันไปเห็นพอดี
“มึงน่ะรีบกินเลย ไม่เพราะมึงเหรอเนี๊ยกูต้องพามึงออกไปเที่ยว”
“เอ่อ คับ ๆ” – ไอ้ก้องรีบกินข้าวใหญ่เลย ไม่สนใจอะไร
“นี่ป๊อก ทำไมไปว่าเพื่อนอย่างงั้นล่ะ พูดไม่เพราะเลยนะ”
“โห แม่อ่ะ ก็ดูมันดิ”
“ไม่เห็นเพื่อนลูกจะทำไรเลยนะ เพื่อนเขาก็กินข้าวอยู่เฉยๆ”
“แม่อ่ะ ไม่เข้าข้างเลย ไม่เอาละไปดีกว่า” “เฮ้ย!!! กินเสร็จแล้วรีบอาบน้ำด้วย”

เวลามีใครมาบ้าน พ่อกับแม่จะเป็นอย่างงี๊แหล่ะคับ ผู้มาเยือนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ต้องดูแลและต้อนรับอย่างดี เพราะถือว่าแขกจะได้ประทับใจและอยากมาบ้านเราอีกครั้งหนึ่ง

ไอ้ก้องกินข้าวเสร็จ ตามผมขึ้นมาข้างบน ผมกำลังเก็บของเตรียมตัวจะพามันออกไปเที่ยว

“น่ารักว่ะ” - ไอ้ก้องบอกผม
“อะไรวะ”
-------------------------------------

ปล.
1. ขอบคุณทุก reply นะคับ ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว พอดีนึกได้ว่ามี stock ค้างไว้ 1 ตอน ก็เลยเอามาลงเลยคับ
2. ผมป่วยหลายโรคมากเลยคับ วันก่อน(วันที่มาลงคอมเม้น)เป็นไข้ เมื่อวานท้องเสีย วันนี้เป็นไข้อีก พรุ่งนี้คงจะไม่เป็นไรแล้วมั้ง เพราะผมจะนอนซะเต็มอิ่มเลย
3. ตอนที่เอามาลง หวังว่าจะเคลียร์นะคับ เอาอดีตมาให้อ่านกันบ้าง เดี๋ยวจะลืมไอ้ก้องไำปซะก่อน
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 13 [31-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 31-01-2009 23:07:20
โอ้ว  ป๊อกเป็นรุกเหรอเนี่ย  คิดว่าเป็นรับซะอีก

รักษาสุขภาพด้วยนะ

 :L2:  :กอด1:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 13 [31-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 01-02-2009 14:35:02
 :L2: :L2: :L2: :L2:

หายไวๆนะคราบ

อยากอ่านตอนก้องเยอะจังงะ ดูท่ามันต้องมีไรเกิดขึ้นแน่เลย อิๆ

แล้วจะรออ่านต่อน๊า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 13 [31-01-09]
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 02-02-2009 12:24:41
 :-[น่าร้ากวุ้ยยย

^
^
^
^อ้อจ๋า เวลางานยังแอบมาเม้น มาอ่านอีกนะคร้าบ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 14 [08-02-09] มาสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 08-02-2009 23:14:01
ตอนที่ 14
“มึง พ่อกับแม่มึง น่ารักกันทั้งบ้านเลย”
“จะอะไรกับกูอีกล่ะ”
“หอมทีนึงนะ”
“ไอ้เชี่ยนี่ ป่ะ รีบไปเหอะ สายๆแดดร้อน”

ผมกับไอ้ก้องลาพ่อกับแม่ แล้วก็นั่งรถไปเที่ยวตามโปรแกรมที่ผมกับมัน (ไม่สิ ผมคนเดียว มันไม่เคยมา) ได้วางเอาไว้ เริ่มตั้งแต่ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม แวะกินข้าวกลางวันที่ปากน้ำโพ แล้วก็ไปดูพระอาทิตย์ตกที่บึงบอระเพ็ด

“สวยเนอะ” - ไอ้ก้องบอกผม
“อืม”
“กูหมายถึงมึง”
“เชี่ยนี่ กูหล่อ มึงเป็นเมียกู มึงต้องสวยแบบแมน ๆ”
“ตลกว่ะมึง”
“ใครเล่นกับกูก่อนล่ะคับก้อง”

ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ผมจึงชวนไอ้ก้องกลับบ้าน เพราะจากบึงบอระเพ็ดไปบ้านผมก็ไกลพอควร ระหว่างทางผมกับไอ้ก้องแวะกินข้าวที่ร้านอาหารในตลาดตัวเมือง 

“ป๊อก กูมีเรื่องจะบอก”
“บอกไรล่ะ”
“กูต้องไป........”
“มึงจะไปไหนก้อง”
“อเมริกา ไป work & travel”
“กี่เดือนวะ”
“ก็สามเดือน”

ทำเอาความอร่อยของอาหารตรงหน้าผมหมดลงทันที ผมอึ้ง ทำไรไม่ถูก

“ไปเมื่อไหร่อ่ะก้อง”
“ก็กลางมีนาน่ะ”
.
.
.
“อืม ทำไมมึงไม่เคยบอกกูเลยก้อง”
“กูอยากไปหาประสบการณ์น่ะ”
“แต่มึงไม่บอกกูซักคำ”
“ป๊อก อีกตั้งสามเดือน”
“ขอบคุณมากที่ไม่บอกกูก่อนไปสามชั่วโมง”
“ป๊อก มึงโกรธกูเหรอ กูขอโทษ”
“ช่างเหอะก้อง กูไม่โกรธมึงหรอก”

ผมรักคนๆนี้มาก ทั้งๆที่ผมรู้ว่าผมคงจะอยู่กับมันไปตลอดไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมมีมัน มันมีผม แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว แต่ตอนนี้มันกำลังจะอยู่กับผมอีกไม่นาน มันกำลังจะไปอเมริกา ไปทำงาน ไปทำสิ่งที่มันฝัน เราควรยินดีกับมันสิ ถึงจะถูก

ระหว่างทางกลับบ้าน ผมกับมันไม่ได้พูดอะไรออกมามาก นอกจากบอกว่าขึ้นรถ

“ป๊อก กูไม่ไปก็ได้นะ ถ้ามึงจะ...........”
“ก้อง ไม่เอา ความฝันของมึง มึงไปเหอะ กูอยู่ได้”
“แต่มึง.......”
“กูยอมรับว่าที่กูโกรธมึง เพราะมึงไม่ยอมบอกกู ซักนิด”
“.............”
“แต่ก็เอาเหอะ ไปแค่ 3 เดือนไม่ได้ไปตลอดชีวิต ยังไงมึงก็กลับมาอยู่ดี”
“นั่นแหล่ะ เป็นสิ่งที่กูจะบอกมึง”
“ก้อง มึงไปที่โน่นมึงจะคิดถึงกูป่ะ”
“คิดถึงสิป๊อก มึงเป็นแฟนกูนะ”

เราสองคนเดินทางถึงบ้าน เวลาก็เกือบ 4 ทุ่ม ผมกับไอ้ก้องจึงขอตัวขึ้นไปนอนข้างบนเลย บอกราตรีสวัสดิ์พ่อกับแม่แล้วก็ขึ้นไปนอนเลย เพราะยังไงตามกำหนดการพรุ่งนี้ เราก็จะกลับบ้านแล้ว

“ป๊อก ว่าง ๆ ก็กลับมามั่งนะ” – เสียงแม่ผมคับ
“ปีหน้าไม่กลับ จะตัดออกจากกองมรดกจริง ๆ” – เสียงพ่อผม
“โห พ่อ ตัดออกไปแล้วใครจะช่วยใช้เงินล่ะคับ”
“ไอ้นี่ อ้อน”
“ว่าง ๆ ก็มาเที่ยวได้นะลูก” – แม่หันไปบอกไอ้ก้อง
“คับ”
“พ่อแม่ ป๊อกไปก่อนนะ หวัดดีคับ” – ผมลาพ่อกับแม่ เมื่อรถไฟมาถึงพอดี
ผมเลือกที่จะกลับก่อนที่คนส่วนใหญ่จะกลับ เหตุผลเพราะคนไม่เยอะ แล้วอีกอย่างจะได้มีเวลาเตรียมตัวทำอย่างอื่นด้วย

“ป๊อก เอาไอ้นี่ไว้ไหน” – ไอ้ก้องถาม ขณะที่เราสองคนกำลังง่วนกับการเอาของฝากขึ้นห้องผม
“ข้าง ๆ ที่นอนน่ะ”
“ป๊อก กูหิวว่ะ”
“เดี๋ยวจัดของเสร็จแล้วไปกินข้าวกันดิ”
“ไม่ได้หิวข้าว หิวมึง กู....”
“เชี่ยนี่”
“น่านะ”

บทจู่โจมจากไอ้ก้องเริ่มต้นขึ้น ริมฝีปากของไอ้ก้องกับผมเริ่มประกบกัน เหมือนกับว่าเราสองคนต่างรอเวลานี้มานาน แต่ทว่า...มันไม่สิ้นสุดแค่นั้น ผมขึ้นไปบนเตียง ไอ้ก้องจัดแจงปลดเสื้อผ้าของตัวเองและของผม จากนั้นมันก็จู่โจมจากปาก ซอกคอ และจนถึง joystick ของผม

เราใช้เวลากันประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ (ข้าม NC ไปนะคับ)

 :serius2:













 :z2:
“ป๊อก สุดยอดเลยว่ะ” – ไอ้ก้องกอดผม ขณะที่ผมยังไม่ถอน joystick จากไอ้ก้อง
“ชอบใช่ป่ะ”
“อื้ม”
“แล้วรักกูป่ะก้อง”
“ที่สุดอ่ะ ป๊อก กูรักมึง จริง ๆ นะ”
“ไปล้างตัวเหอะ จะได้ไปกินข้าว”

เราสองคนเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ เราสองคนทำความสะอาดกันและกัน โดยเฉพาะไอ้ก้อง ที่ต้องล้างรถเป็นพิเศษ เพราะอ่ะไรล่ะ ผมเล่นยกเครื่องไอ้ก้องทุกซอกอย่างงั้น
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 14 [08-02-09] มาสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 09-02-2009 01:06:51
 :m15: :m15: :m15:
คนเขียนใจร้ายกับนิวจังงะข้ามฉากสำคัญไปได้ยังไง
 :เฮ้อ:
แต่แหมอ่านตอนนี้แล้วแอบกลัวจังเลยอะว่า 3 เดือนที่ห่างกันอะไรๆมันจะเปลี่ยนไปรึเปล่า
ดูท่าคงใกล้ถึงจุดเปลี่ยนแล้วจริงๆสินะ เป็นไปได้แหละเพราะระยะทางมันมักเล่นตลก
กับความรักอยู่เสมอ ไม่งั้นจนวันนี้ป๊อกคงไม่มีเรื่องมาเล่าถึงพี่ต้อมที่แสนดี กับ พี่ก๊อกที่แสนอบอุ่น
ดูๆไปการเล่าเรื่องแบบที่ใช้อยู่ก็ทำให้อ่านแล้วรู้สึกว่าความรักมันเป็นสิ่งอโคจรจริงๆกับคนเช่นเรา
เพราะไม่ว่ายังไงกาลเปลี่ยนคนก็ย่อมต้องเปลี่ยนทั้งในความหมายทางตรงและโดยนัย
อะไรๆก็ไม่นอนละนะคงได้แต่ต้องรออ่านกันต่อไวว่าจะเป็นไงบ้าง
แต่ขอบอกไว้อย่างว่า ชอบเรื่องนี้มากเพราะอ่านมาตั้งแต่วันแรกที่เขียนเลยอิๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 14 [08-02-09] มาสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 09-02-2009 09:29:48
 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 14 [08-02-09] มาสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 09-02-2009 23:17:57
 :z1:

น่าน  ข้ามไปให้จิ้นเองอีกนะ

 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 14 [08-02-09] มาสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 14-02-2009 11:11:50
(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter/valentine/13-02-2009_07.gif)
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 14 [08-02-09] มาสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 14-02-2009 17:20:12
แอบมาอ่านครับ  เลยยยย...

 :L1: สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ :L1:

มาต่อเร็วๆ นะครับ  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 15 [15-02-09] งานเข้า!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 15-02-2009 00:32:59
15
 :o8:
เย็นวันหนึ่ง ที่ร้านขายอาหารตามสั่งในซอยแถวหอผม
“ก้อง อะไรๆ เรียบร้อยยัง”
“ก็เหลือแค่ไปเอาวีซ่ามาแค่นั้นเอง”
“เหรอ”
“ป๊อก มึงต้องรอกูกลับมานะ”
“ทำไมต้องรอ” – ผมแหย่ไอ้ก้องเล่น
“ก็กูรักมึงอ่ะป๊อก มึงไม่รักกูเลยเหรอ”
“เชี่ยนี่ มึงกลัวคนอื่นเขาไม่รู้รึไง”
“มึงยังไม่ชินอีกเหรอ เดี๋ยวไปต่อกันบนห้องก็ได้”
“................” – ไม่กล้าพูดไรต่อ นอกจากก้มหน้าก้มตากินข้าวไป ก่อนมีกิจกรรมกลางคืน

ไอ้ก้องมันมาอยู่กับผมได้ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์แล้วคับ เนื่องจากว่าประมาณปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้า จะมีการสอบปลายภาค ไอ้ก้องจึงมาขอนอนกับผม เหตุผลที่มันบอกพ่อกับแม่มัน คือการมาติวหนังสือ ส่วนเหตุผลจริง ๆ แล้วผมว่ามันอยากมานัวเนียผมมากกว่า เพราะอะไรล่ะ มันไม่เคยจะทบทวนบทเรียนเลยซักครั้ง เอาแต่ทบทวนบทรักกันไม่เว้นแต่ละวัน รู้งี๊ผมไม่ให้มันมาหรอก ไม่ใช่ไรหรอก ผมเหนื่อย ผมไม่ใช่ม้านะ จะได้มีแรงทุกวัน

แล้ววันนี้มันก็................เสร็จผมไปอีก 1 ดอก

“ป๊อกคร้าบ................”
“เออ รู้แล้ว เหมือนเดิม”
“อ่าส์................” – (์NC --> ไม่มีบทบรรยาย เช่นเดิม)





.
.
 :serius2:
.
“ป๊อก อยู่ที่โน่นกูคงคิดถึงมึง”
“คิดถึงกูหรือคิดถึงป๊อกน้อยวะ”
“ก็....ทั้งคู่นั่นแหล่ะ”

เราสองคนอยู่ในสภาพที่เปลือยด้วยกันทั้งคู่ ผมเกาหัวไอ้ก้อง ไอ้ก้องเอามือลูบหน้าอกผมไปมา แล้ววันนี้ก็เหมือนกันทุกวัน

“ไปใส่เสื้อผ้า กูจะอ่านหนังสือ” – ผมไล่ไอ้ก้องไปใส่เสื้อกับกางเกง
“ถ้าไม่ใส่มึงจะทำไมกู”
“ไปเดี๋ยวนี้เลยมึง เดี๋ยวกูจัดยก 2 ให้มึงหรอก”
“พอแล้วป๊อก พอๆ ของมึงก็มิใช่น้อย”
“เชี่ยนี่” – ผมด่าตามหลัง ก่อนที่ไอ้ก้องจะไปใส่กางเกง

แล้วเราสองคนก็นั่งติวหนังสือกัน (ติวกันจริง ๆ นะ) ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืนกว่า ๆ ผมเริ่มง่วงแล้วสิ เห็นคนตรงหน้าก็อ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตาย ผมจะยอมแพ้มันไม่ได้ มันหันขั้นมามองแล้วก็ยิ้มๆ ให้ผม

“อะไรเหรอ” – ไอ้ก้องถามผม
“กูมองเมียสุดที่รักไม่ได้หรือไง”
“คับ”
---------------



























 :3123:
“พี่ก๊อกตื่นแล้วเหรอคับ”
“คับ แล้วป๊อกตื่นนานยัง”
“ก็ซักพักแล้วแหล่ะ”
“ตื่นเช้าจังนะคับ”
“มันชินมากกว่าน่ะคับ แฮ่ะๆ ว่าแต่จะกินอะไรดีคับเช้านี้”
“มีไรให้พี่กินมั่งอ่ะคับ”
“ก็คงไม่มีนอกจากจะต้องเดินไปเซเว่นน่ะคับ”
“พูดเล่นป่ะเนี๊ย” - ดูเหมือนพี่ก๊อกแกไม่เชื่อ
“พูดจริงๆคับ”
“โห ไม่คิดจะมีอะไรติดบ้านเผื่อแขกไปใครมามั่งเลยหรือไง”
“ก็ไม่คิดหรอกคับ เพราะห้องผมไม่ค่อยมีใครมาอยู่แล้ว”
“วันหลังก็ซื้อติดๆ ไว้มั่งนะ อ่ะเอางี๊เดี๋ยวไปเซเว่นกับพี่นะคับ”
“ก็ได้คับ”

ก็จริง ๆ อ่ะ ผมไม่ชอบซื้ออะไรติดห้องหรอก ผมไม่ค่อยจะกลับมากินอยู่แล้ว ห้องผมมีไว้แค่อาบน้ำกับนอนแค่นั้นแหล่ะ

พี่ก๊อกล้างหน้าในห้องน้ำ แล้วก็เดินออกมา แล้วก็เอามือมาลูบหัวผม

“ไปกันเหอะ”
“...........”
“เป็นไรป๊อก”
“ไม่เป็นไรคับ ไปกันเหอะ”

ผมหยิบกระเป๋าตัง แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วย ผมคิดว่าคงไม่มีใครโทรหาผมหรอก เช้า ๆ (10 โมง) อย่างงี๊ หลังจากงาน count down คงไม่มีใครตื่นมาหรอกมั้ง จะว่าไปตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้ดูโทรศัพท์เลยว่ามีใครส่ง SMS มาอวยพรปีใหม่มั่ง

ผมเลือกของที่เซเว่นไม่นานนัก เพราะมันก็ไม่มีอะไรให้เลือกมากนักหรอก นอกจากชีสไบท์ อีซี่โก ซาลาเปา เลย์ เดินไม่ถึง 5 นาทีก็ทั่วแล้วคับ แต่ทว่าพี่ก๊อกแกก็เดินซะแบบว่าไม่เคยเห็นเซเว่นซะอย่างงั้นน่ะ เดินไปหยิบไปอย่างกับไป เดินห้างบิ๊กซีโลตัสแมคโครอย่างงั้นแหล่ะ

“ซื้อไปถมบ้านเหรอคับพี่”
“ซื้อให้เรานั่นแหล่ะ จะได้มีติดห้องไว้บ้าง เผื่อเราหิว”
“เกรงใจอ่ะคับ”
“ไม่เป็นไร ของขวัญปีใหม่”
“อ่า.....คับ”

ผมกับพี่ก๊อกแวะซื้อข้าวจากร้านประจำของผม ซึ่งผูกขาดกันมาก็หลายปีแล้ว ผมว่าป้าคงเห็นผมเป็นลูกชายอีกคนนึงแล้วแหล่ะมั่ง

“อ้าวป๊อก ปีใหม่ไม่กลับบ้านเหรอลูก” - เสียงป้าเจ้าของร้านทักผม
“ไม่อ่ะคับ คนเยอะ ป้าคับ ผมเอาเหมือนเดิมนะคับ แล้วก็ผัดหมูกรอบพริกแกงอีกกล่องนึงด้วยนะคับ”
“ได้ๆ เดี๋ยวป้าแถมให้”

แล้วผมก็ได้ข้าวมาสองกล่อง โดยที่ไม่เสียเงิน เพราะป้าแกบอกว่าสมนาคุณช่วงปีใหม่ให้ผมคนเดียว จากนั้นก็เดินขึ้นห้อง เวลาก็ประมาณ 11 โมงครึ่ง พี่ก๊อกท่าทางจะหิว

“กินข้าวกันเหอะ หิว” – พี่ก๊อกบอกผม ซึ่งผมกำลังจะบอกพี่ก๊อกอยู่พอดี
“ได้คับ เดี๋ยวผมไปแกะให้นะคับ”
“ไปช่วยกันก็ได้ป่ะ”

แล้วอาหารสองจานก็วางอยู่ตรงหน้าคนสองคน พี่ก๊อกไม่รอช้า รีบจัดการผัดหมูกรอบพริกแกงตรงหน้าทันที ผมก็เช่นกัน
เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ผมขอพี่ก๊อกไปรับสายนี้ก่อน ไม่รู้ว่าใครมันโทรมากันเนี๊ย

“ป๊อกเหรอ ทำไรอยู่”
“กินข้าวอยู่คับ พี่ล่ะทำไร”
“พี่โทรมากวนหรือเปล่าเนี๊ย”
“ก็ไม่หรอกคับ”
“พี่กำลังดูทีวี พอดีเบื่อ ๆ เลยอยากโทรมาคุยเล่น”
“อ่ะคับ แล้วพี่กินข้าวยังคับ”
“ก็ยังน่ะคับ เพราะยังทำกับข้าวไม่เสร็จ”
“ดีจังเลยนะคับ ได้ทำกับข้าวกินกันด้วย”
“ก็กับน้องแค่สองคนน่ะคับ ป๊อกจะมากินด้วยกันป่ะ”
“ไม่เป็นไรคับ ตามสบายเลย”
“พูดเหมือนไม่ค่อยจะอยากมาเลย”
“............” – อึ้งไปเลย เหมือนจะว่าเรา หรือเปล่าหว่า ??
“เป็นไรป่ะคับ พี่พูดเล่น”
“เปล่าคับ”
“อยู่คนเดียวเหรอคับ”
“...............เอ่อ............ใช่คับ คนเดียว” – โกหกไปเหอะ ถ้าบอกว่าอยู่กับพี่ก๊อกมีหวัง.......
“พี่ไปหาได้ป่ะคับ พอดีเบื่อ ๆ จะได้เอากับข้าวไปฝากด้วย”
“...........เอ่อ ก็เดี๋ยวเอามาให้ที่ทำงานก็ได้คับ”
“เดี๋ยวมันจะเสียอ่ะดิ ให้พี่ไปหานะคับ”
“แล้วพี่จะมาเมื่อไหร่ล่ะคับ”
“เย็น ๆ น่ะคับ บ่าย ๆ กะว่าจะช่วยน้องเก็บของใช้”
“ก็........ก็ได้น่ะคับ” – รับปากไปส่ง ๆ งั้นแหล่ะ
“งั้นเจอกันตอนเย็นนะคับป๊อก”
“คับๆ หวัดดีคับ”





“งานเข้าแล้วกู” – ผมบ่นให้ตัวเอง ก่อนจะเดินกลับไปกินข้าวกับพี่ก๊อก
------------
ปล. มันไม่ค่อยเข้ากับเทศกาลวาเลนไทน์เลยอ่ะ เพราะมันเป็นตอนของปีใหม่ แบบว่า พิมพ์ช้าอ่าา..... งานเข้ามหาศาล ฮือๆๆ ยังไงจะรีบเคลียร์งานแล้วก็มาแต่งต่อนะคับ ผมว่าใกล้จะจบแล้วแหล่ะ (ยังไม่คิดตอนจบเลย อยากให้ป๊อกได้กับใครคับ??)
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 15 [15-02-09] งานเข้า!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 15-02-2009 02:58:36
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 15 [15-02-09] งานเข้า!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 15-02-2009 03:12:32
 :z13:
จิ้มพี่ปาล์ม อิๆ
แล้วเมื่อไหร่จะถึงวาเลนไทน์น๊าอยากรู้จังใครคือคนโชคดีคนนั้น
ก้อง ก๊อก หรือ ต้อม กันแน่แล้วจะรออ่านต่อน๊า
ยิ่งอ่านเนื้อหายิ่งน่าสนใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 15 [15-02-09] งานเข้า!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 15-02-2009 20:01:06
งานเข้าแล้ว
 :laugh:

ปกติงานก็เข้าอยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 15 [15-02-09] งานเข้า!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 15-02-2009 22:59:44
งานเข้าจริงๆด้วย

อ้าวจะจบแล้วเหรอ

แล้วจะคู่กะใครล่ะเนี่ย

 :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 19-02-2009 22:34:47
16
 :m29:
“ป๊อกเป็นไรป่ะคับ” – พี่ก๊อกเรียกผมกลับจากพวังค์ หลังจากที่ผมไม่รู้จะทำตัวยังไง
“เปล่าคับพี่”
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จพี่กลับก่อนนะ กะว่าจะกลับไปบ้านหน่อยนึง”
“อ่ะคับ เดี๋ยวผมเก็บจานให้ก็ได้พี่”
“ไม่เป็นไร ช่วยๆกันเก็บนั่นแหล่ะ”

เราสองคนช่วยกันล้างและเก็บจานชามช้อนส้อม จนเสร็จ

“ให้ผมไปส่งนะคับ”
“คับ ........ถ้าไม่ลงมาส่งพี่คงหลงแน่ๆ”
“เว่อร์ไปแล้วพี่ ฮ่าๆๆ”

ผมเดินลงมาส่งพี่ก๊อกที่หน้าปากซอย ให้แกหารถแท๊กซี่กลับบ้านแกเองเหอะ เพราะแกบอกว่าจะนั่งแท๊กซี่

“ป๊อกคับ แล้วเรื่องของเรา..........เอ่อ คือ...”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันคับ”
“ป๊อกมีคนอื่นอยู่แล้วเหรอ”
“ไม่เชิงหรอกคับ”
“พี่บอกป๊อกช้าไปใช่ป่ะ”
“ไม่หรอกคับ ผมยังสับสนอยู่น่ะ”
“ยังไง ป๊อกบอกพี่ได้ป่ะ”
“ก็........เอ่อ ผมเองก็อธิบายไม่ได้น่ะคับ”
“ป๊อกไม่ชอบพี่เหรอ”
“ไม่หรอกคับ ป๊อกไม่ได้ไม่ชอบ แต่ว่า.....”
“ถ้าพี่ขอเวลา ป๊อกจะให้โอกาสพี่ป่ะ”
“ผมก็ไม่ได้กั้นโอกาสของใครอยู่แล้วนี่คับ”

.
.
“ไปเหอะพี่ แท๊กซี่มาแล้วน่ะ”
“แล้วเจอกันคับ” – พี่ก๊อกบอกผม ก่อนจะก้าวขึ้นรถแท๊กซี่ไป

อธิบายอะไรไม่ได้เลยคับ อะไรกันนักหนา ปีใหม่ของผม





 :sad3:
“หวัดดีคับพี่ จำห้องผมได้ไงล่ะเนี๊ย”
“มาครั้งเดียวก็จำได้แล้วคับ”
“เข้ามาก่อนดิ แล้วกินไรมายังคับพี่”
“ก็เอามากินด้วยกันไง” - พี่ต้อมชูกับข้าวที่แกว่า
“เพิ่งจะ 4 โมงเองอ่ะพี่ ผมยังไม่หิวเลย”
“ออกไปเดินห้างกัน”
“ที่ไหนล่ะคับ”
“โลตัสเนี๊ยแหล่ะ พี่ว่าใกล้ดี”
“ก็ได้คับ”

แปลกดีเนอะ ไปเดินโลตัส เซ็นทรัล หรือ เดอะมอลล์ ไม่ยักจะไป แต่เดี๋ยวนี้พวกห้าง Discount ก็จะมีอะไรแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน เช่นเสื้อผ้าสวย ๆ ราคาก็ถูก (เป็นรสนิยมของป๊อก)

“สวยดีเนอะ” - พี่ต้อมชี้ไปที่เสื้อตัวหนึ่ง
“ก็สวยดีคับ”
“พี่ซื้อให้เอาป่ะ ซื้อสองตัวมันลดราคาไป 40 บาท”
“ไม่เป็นไรคับ เดี๋ยวผมหารครึ่งกับพี่ดีกว่า”
“พี่อยากซื้อให้น่ะ”
“ก็ได้คับ”
“ซื้อไปแล้วต้องใส่มาทำงานนะ”
“คับ”

เราสองคนเดินดูโน่นนี่อีกซักพัก ก่อนที่จะเข้าหอผม ก่อนเข้าหอพี่ต้อมบอกให้ซื้อข้าวเข้าไปด้วย เพราะพี่แกไม่ได้เอามาจากบ้าน

“น้องสาวทำอร่อยนะเนี๊ย” – ผมชมกับข้าว แกงเทโพ ก็อร่อยจริง ๆ นะ ผมว่าน้อยคนที่จะทำได้อร่อย
“ก็....แม่สอนมันทำน่ะ”
“แล้วทำไมพี่ไม่ทำมั่งอ่ะ เผื่ออร่อย จะได้เปิดแข่งกับร้านป้าข้างที่ทำงาน”
“ก็ไม่ค่อยชอบทำน่ะคับ แฮ่ะๆๆ” – พี่ต้อมแกก็เกาหัว เหมือนเด็กเวลาทำไรผิด
“.................”
“แล้วที่ว่าจะไปไหว้พระ”
“อ่อคับ พรุ่งนี้ก็ได้คับ ผมว่างพอดี” – ผมบอกพี่ต้อมไป ก็พรุ่งนี้ผมไม่ได้ไปไหน แล้วอีกอย่างก็หยุดอีกตั้งสองวัน
“ไปที่ไหนดี”
“พี่อยากไปไหนคับ อยุธยา นครปฐม หรือกรุงเทพ”
“กรุงเทพละกันนะ”
“ขี้เกียจเดินทางอ่ะดิพี่” – ผมแซวพี่ต้อม
“ก็ทำนองนั้นน่ะ”
“แล้วจะไปเช้าหรือบ่ายดีล่ะ” - ผมถามเพื่อเป็นข้อเสนอให้พี่ต้อม
“บ่าย ๆ ก็ได้คับ เดี๋ยวเช้าป๊อกยังไม่ตื่น”
“ก็ดีคับ”

กินข้าวเสร็จ ผมก็เก็บจานไปล้าง






เท่ากับว่าวันนี้ผมมีแขกมาสองคน คนที่เขาชอบผมทั้งคู่

“ป๊อกๆ”
“อะไรคับพี่”
“ห้องน้ำเปิดไฟตรงไหน”
“ข้างหน้าห้องน้ำไงคับพี่”
“อ่อ ...โง่เนอะพี่เนี๊ย”
“อ่ะนะ ไปล้างจานต่อดีกว่า”

หลังจากล้างจานเสร็จก็มานั่งคุยกันเล่น ๆ

“ป๊อก”
“อะไรคับ”
“ป๊อกดูรู้ป่ะว่าพี่เป็น........เอ่อ เกย์น่ะ”
“ไม่ออกหรอกคับ นึกว่าพี่เป็นคนเรียบร้อย ก็ไม่คิดว่า.....จะ........เอ่อ..........”
“จะอะไรล่ะ”
“จะมาชอบผม”
“ป๊อกไม่เกลียดพี่เหรอ ที่พี่.......มา ชอบ”
“ถ้าเกลียดจะมาคุยกับพี่อย่างงี๊เหรอคับ”
“แสดงว่าป๊อกเอง.....ก็ชอบ”
“คือว่า ตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้น่ะคับ ผมเองยังไม่รู้ตัวเองเลย”
“ถ้าพี่จะขอคบกัน กับป๊อก”
“.............”
“นะคับ”
“เอ่อ....คือ”
“หรือป๊อกมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“ก็ไม่เชิงหรอกคับ” – ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะถ้าพูดไป พี่ต้อมเขาต้องเสียใจแน่ๆ
“พี่บอกป๊อกช้าไปใช่ป่ะ”
“พี่อย่าโทษตัวเองดิ” – ผมค่อย ๆ เข้าไปนั่งชิดพี่ต้อมมากขึ้น
“พี่เองก็ไม่รู้นะ ว่าไปชอบป๊อกตอนไหน รู้อีกที พี่ก็ชอบป๊อกแล้ว”
“พี่ไม่ผิดหรอกคับ แต่ว่า ผมกลัวคนก่อนหน้าเขาจะเสียใจ”
“ป๊อกชอบเขา ไม่ได้ชอบพี่ใช่ป่ะ”
“มันก็เหมือนกับพี่นั่นแหล่ะ ผมเอง หรือเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกยังไง ผมว่าตอนนี้ทั้งหมดอาจจะไม่รู้ความรู้สึกตัวเอง”
“พี่รู้คับ ตอนนี้พี่รู้แล้ว แต่ว่า”
“พี่ต้อมคับ เชื่อป่ะว่าครั้งแรก ๆ ที่เจอกัน ผมว่าผมชอบพี่นะ”
“แล้ว.........”
“แล้วตอนนี้ เมื่อถึงเวลาที่พี่มาชอบผมจริง ๆ อย่างที่ผมต้องการ ผมกลับกลายเป็นว่า ผมสับสน”
“พี่บอกป๊อก ช้าไปใช่ป่ะ”




“ผมสับสนที่ว่า คนสองคนบอกว่าชอบผม ในเวลาที่ไล่ ๆ กัน”
“เท่ากับว่า พี่ต้องออกไป ใช่ป่ะ”



“พี่คับ พี่ช่วยทำตัวเป็นปกติ ได้ป่ะคับ”
“ถ้าป๊อกต้องการ ก็ได้คับ”
“พี่อย่าคิดมากนะคับ”
“ก็ได้คับ พี่จะรอ ไม่ว่ายังไงพี่ก็จะรอ จนกว่าป๊อกจะตัดสินใจ”

ไม่รู้ทำไม ผมจึงพูดอย่างงั้นออกไป

“ป๊อก ถ้าลำบากใจ พรุ่งนี้ไม่ต้องไปก็ได้นะ”
“พี่ไม่สะดวกเหรอ”
“พี่อยากไปทำบุญ ไม่อยากเอาคนไปทำบาป”
“มุขป่ะเนี๊ย”
“เปล่ามุข พี่กลัวป๊อกลำบากใจ ถ้าไปกับพี่”
“ไปเหอะคับ ผมเต็มใจ”
“งั้นพรุ่งนี้ พี่มารับนะ”
“อย่าเลยพี่ ไปนัดเจอกันข้างนอกเหอะ เสียเวลาพี่มารับผม พี่ไม่ได้มีรถซักหน่อย”
“งั้นที่อนุเสาวรีย์ละกันนะคับ”







ผมจมกับความคิดของตัวเอง ทำไมโชคชะตาต้องมาเล่นตลกอะไรกับผม ทำไมต้องมีคนมาชอบผมด้วย ไม่ใช่ไม่อยากมีนะคับ แต่ว่าทำไมมันต้องมาพร้อม ๆ กัน ทำไมผมต้องเลือก ทำไมผมต้องเก็บไว้ ผมสามารภเก็บไว้ทั้งคู่ได้ ก็คงไม่ใช่ การที่ผมจะปฏิเสธใครคนหนึ่ง มันก็คงจะมีผลกับอีกคนหนึ่งเช่นกัน

พี่ก๊อก เป็นคนที่ผมเห็นแล้วผมยอมรับเลยว่า ยิ้มของพี่แกมีเสน่ห์มาก พี่ก๊อกเป็นคนที่ผมคุยด้วยแล้วอบอุ่น เหมือนว่าเรารู้จักกันมานานมาก ทั้ง ๆ ที่เราก็เพิ่งรู้จักกัน บางครั้งผมเองก็รู้สึกเคลิ้มไปกับบางอารมณ์ของพี่

พี่ต้อม เป็นคนที่นิ่ง สุขุม ตอนแรกผมเองก็ดูไม่ออกหรอกคับ ว่าพี่เขาชอบผมตั้งแต่วันแรก จนรู้สึกมาว่าพักหลัง ๆ แกเริ่มแปลก ๆ ไป พี่แกเป็นคนที่ใส่ใจทุกการกระทำของผมจริง ๆ รู้กระทั่งว่าผมชอบกินกาแฟแบบ 3 in 1 กับปาท่องโก๋ 2 ตัว ชอบกินขนมจีนยอดมะพร้าวอ่อน บัวลอยไข่หวาน แล้วเวลาผมทำงาน พี่แกก็ไม่ค่อยแบ่งให้ผมทำหรอก พี่แกบอกว่ากลัวผมเหนื่อย แค่ดูแลระบบสารสนเทศภายนอกก็หนักแล้ว

ผมก็คิดอยู่นั่นแหล่ะ จนผมเผลอหลับไป
------------------------
ปล. กะว่าจะหายไป(อีกแล้ว) ซักหน่อยนึง แล้วอาจจะกลับมาต่อนะคับ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 19-02-2009 23:55:09
มาติดตามคับผม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 20-02-2009 00:29:38
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หายไปได้ แต่อย่านานนะ คิดเถิงๆ

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 20-02-2009 02:11:04
 :monkeysad: :monkeysad:
อย่านานนะเด่ว นิว จาคิดถึงจนทนมะไหว
เนื้อเรื่องกำลังเดินด้วย แต่แหมอยากอ่านเรื่องในอดีตด้วย อิๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 20-02-2009 13:35:48
พึ่งจะมาอ่านค่ะ

เอ่ออ ไม่รู้ว่าจะว่ายังไงดี  แต่การที่มีคนมาชอบเรามันก้อเป็นเรื่องดี แต่อย่างนี้ก็ตัดสินใจลำบากซินะคะ 

อืมๆ เอาใจช่วยพี่ป๊อก พี่ก๊อกแล้วก็พี่ต้อมด้วยค่ะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 20-02-2009 14:07:19
ไม่ได้แวะมาเม้นต์ซะนาน ป้าขอโทษค้าบ

แบบว่า ยังไม่รู้ว่าก้องหายไปไหน เลยยังไม่อยากให้ป๊อกตอบรับก๊อกหรือต้อมเหมือนกัน เพราะรู้สึกเหมือนปมที่ผูกอยู่ยังไม่เคลียร์ คนอ่านก็ไม่รู้ไปด้วยว่าที่ป๊อกสับสนเนี่ย สับสนเพราะมีคนน่ารักเข้ามาชอบถึงสองคน หรือสับสนเพราะความจริงในใจยังมีก้องอยู่กันแน่

ว่าแล้วก็รอตอนต่อไป อย่าหายไปนานละกันน้า :t3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 21-02-2009 08:41:40
จะเป็นเหมือนรักสามเศร้าป่ะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 21-02-2009 10:55:17
 :L1: :L1: :L1: :L1:

ชอบมากเลยครับ

 :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 21-02-2009 12:54:34
ซะงั้นอ่ัะ  พอจะมีคนมาจีบทั้งทีก็มีมา 2 มันเลือกยากจริงๆๆด้วย

ว่าแต่ใครจะมาวินล่ะเนี่ย

 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 16 [19-02-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 25-02-2009 22:55:12
ตอบเม้นคร้าบบ......
แบบว่า ยังไม่รู้ว่าก้องหายไปไหน เลยยังไม่อยากให้ป๊อกตอบรับก๊อกหรือต้อมเหมือนกัน เพราะรู้สึกเหมือนปมที่ผูกอยู่ยังไม่เคลียร์ คนอ่านก็ไม่รู้ไปด้วยว่าที่ป๊อกสับสนเนี่ย สับสนเพราะมีคนน่ารักเข้ามาชอบถึงสองคน หรือสับสนเพราะความจริงในใจยังมีก้องอยู่กันแน่
นั่นน่ะสิป้า น่าคิดเนอะ  o22

ซะงั้นอ่ัะ  พอจะมีคนมาจีบทั้งทีก็มีมา 2 มันเลือกยากจริงๆๆด้วย
ว่าแต่ใครจะมาวินล่ะเนี่ย
 :z2:
ก็ไม่รู้สิคับ แฮ่ะๆๆ เชียร์ใครล่ะคับ

จะเป็นเหมือนรักสามเศร้าป่ะคับ
รักสามเศร้าเป็นไงคับ ไม่ได้ดูอ่ะ

อย่านานนะเด่ว นิว จาคิดถึงจนทนมะไหว
เนื้อเรื่องกำลังเดินด้วย แต่แหมอยากอ่านเรื่องในอดีตด้วย อิๆ
ก็เดี๊ยวกำลังจะมาแหล่ะคับ ผลัดๆกัน

แจ้งให้ทราบคับ
จะหายไปทะเล 3 วัน กลับมาวันเสาร์ จะลงให้วันเสาร์กลางคืนนะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 17 [01-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 01-03-2009 22:18:37
17
 :o7:
“พรุ่งนี้แล้วสินะ” – ผมบอกไอ้ก้อง ขณะที่เราสองคนกำลังกินไอศครีมที่ร้านชื่อดัง
“ป๊อก กูไม่อยากไปแล้ว”
“ทำไม มึงอยากไปไม่ใช่เหรอ กูน่ะ ยังอยากไปเลย เสียดาย ภาษากูไม่แข็ง”
“กูจะไปสละสิทธิ์ ดีป่ะวะ”
“ก้อง กูไม่ได้ไปกับมึง มึงก็เที่ยวเผื่อกูด้วยละกัน”
“มึงสัญญากับกูก่อนนะป๊อก”
“อะไร”
“มึงต้องรอกูนะ สัญญากับกู” – ไม่พูดเปล่า มันเอามือมันมากุมมือผม
“กูสัญญา กูรอมึง กูไม่มีใครอีกแล้ว นอกจากมึง ก้อง”
“.............”
“เพื่อนกูก็ไม่ค่อยมี นอกจากมึง กูรอมึง กูสัญญา”
“คืนนี้ไปนอนที่บ้านกูได้ป่ะ” – ไอ้ก้องขอร้อง
“มึงมีแผนอะไรป่ะเนี๊ย”
“ไม่มี กูแค่อยากอยู่กับมึงนานนาน จนกว่ากูจะไป”
“เชี่ย มึงไม่ได้ไปตายไอ้ก้อง 3 เดือนมึงก็กลับมาแล้ว”
“ไปนอนกับกูนะ ไปช่วยกูเก็บของด้วย”
“ที่บ้านมึงจะไม่ว่ากูเหรอ”- ผมถามเพราะเป็นห่วงไอ้ก้องมัน
“ไม่หรอก เชื่อกู”

ผมไปนอนบ้านไอ้ก้อง กว่าจะได้นอนก็ตีสอง ก็มั่วแต่ (จื๊ยๆ)
.
.
.
.
.


 :try2:
เช้าขึ้นมา เราสองคนนอนกอดกันอยู่ จนกะทั่งสาย ๆ แม่ไอ้ก้องก็มาเรียกลงไปกินข้าว แล้วก็บอกว่าให้เตรียมตัวได้แล้ว Fight ออกตอนสองทุ่ม จะรีบเตรียมตัวทำไม ไอ้ก้องแอบบ่น

“แม่มึงหวังดีน่า มึงรีบลงไปเหอะ จะได้เตรียมตัว”
“ป๊อก กูรักมึงนะ”
“เออกูรู้แล้ว ลงไปเหอะ จะได้เตรียมตัว”

ผมออกจากบ้านไอ้ก้องไปตอนบ่ายสองโมง ไอ้ก้องบอกว่าผมต้องไปส่งมันที่สุวรรณภูมิด้วย มันจะเข้า Gate ตอนห้าโมงครึ่ง

เมื่อผมถึงสุวรรณภูมิ ผมสวัสดีพ่อแม่กับญาติ ๆ ของไอ้ก้องอีกครั้ง

“ป๊อก”
“ก้อง กูให้มึงนะ” – ผมยื่นกล่องของขวัญเล็ก ๆ 1 กล่อง ห่อกระดาษสีเงินที่สุดแสนจะธรรมดา
“อะไรวะ”
“มันอาจจะไม่มีค่าอะไร คนอย่างกูคงให้มึงได้แค่นี้แหล่ะ แต่มึงต้องสัญญาว่ามึงจะเก็บมันไว้อย่างดี”
“ป๊อก กูสัญญา” – ตาไอ้ก้องเริ่มแดง
“ก้อง อีก 2 เดือนมึงก็กลับมา มึงอย่าร้องไห้สิ” – ผมแทนที่จะปลอบไอ้ก้อง กลายเป็นว่าผมนั่นแหล่ะที่ร้องไห้
“ป๊อก ...อึ๊ก กู........” – ไอ้ก้องพูดไม่ได้อีกแล้ว น้ำเสียงสะอึก เราสองคนยืนกอดกันแล้วก็ร้องไห้อยู่อย่างงั้นอยู่นานพอสมควร
“ก้อง มึงไม่........ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”
“...............”
“กูจะรอมึง รอมึงคนเดียว กูสัญญา” – ผมก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ไม่รู้สิ ทำไมการที่คนที่เรารักไปไหนไกล ๆ เป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่มันทำให้ผมร้องไห้ได้ขนาดนี้
“ป๊อก กู......ไม่มีอะไรให้มึงเลย”
“ช่างเหอะก้อง ไปล้างหน้าเหอะ ตาบวมแล้ว เดี๋ยวเขาไม่ให้ขึ้นเครื่องนะมึง”
“เชี่ยนี่ กูกำลังเศร้า แม่งทำให้ตลก”

ผมกับไอ้ก้องเดินไปที่ห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา แล้วก็เดินออกมา จากนั้นมันก็พาผมเดินไปสมทบกับพวกกลุ่มที่จะไปในโครงการเดียวกัน โดยที่ไปกับไอ้ก้องก็จะมีผู้ชายสี่คน(รวมไอ้ก้อง) ผู้หญิงหกคน รวมเป็นสิบคนพอดี

หลังจากที่ผมส่งไอ้ก้องเข้า Gate ไปแล้ว ผมก็ขอแยกตัวจากที่บ้านไอ้ก้อง เพื่อมานั่งรถเมล์กลับบ้าน

คืนแรกผ่านไป – ยังดีอยู่
คืนที่สองผ่านไป – เริ่มแล้วสิ
คืนที่สามผ่านไป – ทำไมไม่โทรหาเรามั่งวะ
คืนที่สี่ – ผมส่งเมลไปหาไอ้ก้อง หลังจากใน Inbox ของผมมีแต่เมล Fwd ทั่วไป

“ก้อง
มึงเป็นไงมั่ง ไหนบอกว่าถึงแล้วมึงจะส่งเมลหากูเลย มึงพักที่ไหน ยังไง กูจะติดต่อมึงได้ยังไง มึงส่งเมลกลับมาบอกกูด้วยนะ
คิดถึงมึงนะ
ป๊อก”

ผมส่งเมลเสร็จ ก็เริ่มสบายใจขึ้น ก็ได้แต่หวังว่าวันหรือสองวันมันจะส่งเมลกลับมาหา

ผ่านไปสองวัน เนื่องจากกำลังวุ่นวายกับการลงทะเบียนเทอมใหม่ ซึ่งไอ้ก้องฝากผมลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว (ลงผ่านอินเตอร์เนต) จึงมีโอกาสได้เปิดเมลอีกครั้ง หลังจากที่ได้ส่งเมลฉบับแรกไปให้ไอ้ก้อง

มี inbox จากเมลผม 1 รายการ เป็นไอ้ก้องจริง ๆ ด้วย ผมรีบคลิกอ่านทันที
“ป๊อก
กูสบายดี ที่นี่วุ่นวายมาก กูต้องปรับตัวหลายๆอย่าง ทั้งเวลาตื่น ข้าวจานละ 300 บาท ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง แทบไม่ได้พัก พอดีวันที่ส่งเมลกูหยุดพอดี เลยออกมาส่งหามึง
อยู่ที่นี่มีเพื่อนเยอะดี มาจากไทยรวมแล้วก็ประมาณ 20 คนทั้งประเทศ ถูกส่งไปที่ต่าง ๆ ทั่วอังกฤษเลย กูได้อยู่ที่นี่กับเพื่อนคนไทย 2 คน ชื่อแม๊ค คนที่มึงเห็นที่สุวรรณภูมินั่นแหล่ะ แต่มึงอย่าคิดอะไรนะเว้ย กูมีมึงคนเดียว
กูขี้เกียจพิมพ์แล้วอ่ะ กูอยากโทรหามึงนะ แต่ค่าโทรมันแพงเหลือเกิน กูว่าจะส่งเมลหามึงดีกว่า ประหยัดตังกู แล้วก็ไม่รบกวนเวลามึงด้วย
เอ่อ ของที่มึงให้กูอ่ะ ยังไม่ได้แกะนะเฟร้ย กะว่าคิดถึงมึงจัด ๆ แล้วค่อยแกะ
ไว้เจอกันนะ อีก 55 วันกูจะกลับไปเจอมึง
ก้อง”

ผมอ่านแล้วก็ยิ้มในใจ อย่างน้อยทุกสัปดาห์ก็คงจะเห็นเมลไอ้ก้องล่ะวะ

“ก้อง
กูดีใจที่มึงได้อ่านเมลกู กูลงทะเบียนให้มึงเรียบร้อยแล้ว อีกสองสัปดาห์ก็จะประกาศผลสอบ เดี๋ยวไว้กูดูมาให้มึง แล้วจะส่งเมลบอกมึงนะ กูว่ามึงน่าจะได้เกรดดีกว่ากูแน่เลย
มึงทำงานวันละ 8 ชั่วโมงเลยเหรอ ท่าทางจะหนักนะ พักผ่อนเยอะ ๆ นะมึง กูเป็นห่วง
ส่วนของขวัญน่ะ อยากแกะเมื่อไหร่ก็ตามใจมึงละกัน
กูรอมึงกลับเมืองไทย อีก 52 วัน เราจะเจอกัน
ป๊อก”

ปิดคอม แล้วก็อมยิ้มอยู่คนเดียว
“52 วัน กูรอมึงอยู่นะ”
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 17 [01-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 01-03-2009 22:45:08
นับงันรอกันเลยทีเดียว

ดูเหมือนนานแต่ก็ไม่นานเนอะ

 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 17 [01-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 01-03-2009 23:08:02
ความคิดถึงมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ หวังว่ากลับมาคงจะเหมือนเดิมกันนะ

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 17 [01-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 02-03-2009 00:05:07
อืมอีกแค่ห้าสิบสองวัน จะมีเหตุการณ์อะไรทำให้พลิกผันมั้ยเนี่ย  :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 17 [01-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 02-03-2009 20:52:05
+1 ให้คุณ pick นะคะ เรื่องกำลังสนุก เฮ้อ! ทำไมป๊อกมีคนมาชอบเยอะจัง น่าอิจฉานะ
เวลาจะมีมาซะหลายคน แต่ละคนก็น่ารัก ดี น่าสนใจ ทำให้เกิดความสับสน ทำใจลำบากนะ
มาต่อไว ๆ นะคะ จะรอตอนต่อไป  :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 18 [05-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 05-03-2009 22:18:34
18
 :o11:
วันที่ไม่มีไอ้ก้อง ผมเองก็เหงาเหมือนกันนะ เดิมเคยมีใครอยู่ข้าง ๆ อยู่ตลอดเวลา พอไม่มีมัน นอกจากจะเหงาแล้ว ยังคิดถึงมันอีกด้วย

ผมเปิดหน้าต่างออกมาตอนสี่ทุ่มของคืนวันหนึ่ง ออกมาสูดอากาศ

“บ่ายสามโมงเองสินะ ไอ้ก้อง ตั้งใจทำงานนะมึง” – ผมพูดคนเดียว ผ่านอากาศออกไป หวังว่ามันจะได้ยิน

แทบจะรอไม่ไหว ผมจึงเปิด notebook อ่านเมล ซึ่งก็มี inbox ทั่วไป ไม่มีเมลไอ้ก้องเลยแม้แต่ฉบับเดียว

“วันนั้นเราอ่านเมลวันอังคารนี่หว่า สงสัยยังไม่ถึงวันหยุดมันมั้ง”

ผมหยุดความคิดฟุ้งซ่านของผมดีกว่า ปิดระเบียงหน้าต่าง แล้วก็เข้านอน


.
.
.
ตั้งแต่ปิดเทอมมาผมเองก็ไมรู้จะไปทำอะไร พวกเพื่อน ๆ ก็กลับบ้านกันไปหมด ไอ้ตูนไอ้ตั๋งผัวเมียคู่นั้นมันก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับที่บ้าน 
“พรุ่งนี้กลับบ้านดีกว่าว่ะ” – ผมพูดออกมา หลังจากนั้นก็เก็บของทันที
.
.
.
.
ผมกลับบ้านมาประมาณ สิบกว่าวัน ระหว่างที่ผมกลับมาบ้านนั้นผมก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะ ดูแลสวนผลไม้มั่งล่ะ เล่นกับเด็ก ๆ ข้างบ้านมั่งล่ะ ตกกลางคืนซักสองทุ่มกว่า ๆ ผมก็เหนื่อยแล้ว จึงเป็นคนที่นอนเร็วโดยอัตโนมัติเมื่อผมกลับไปที่บ้านของผม

แต่ก็ใช่ว่าความคิดถึงของผมกับไอ้ก้องจะหายไปนะคับ ผมยังคงขีดปฏิทินที่พกในกระเป๋าสตางค์ของผม ตั้งแต่วันที่ไอ้ก้องไปรวมแล้วก็ 16 วันแล้ว
“อีก 44 วันนะไอ้ก้อง กูรอมึงอยู่นะ”
.
.
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้นผมขอพ่อเอารถเข้าไปในเมือง เพื่อจะไปเข้าร้านอินเตอร์เนต ร้านเนตตามต่างจังหวัดก็ไม่มีอะไรหรูหราเหมือนในกรุงเทพหรอกคับ มีแค่คอมตัวเก่า ๆ สิบกว่าตัว แล้วก็เคาเตอร์คิดตังที่ลงเป็นสมุดอยู่เลย สนนราคาก็อยู่ที่ชั่วโมงละ 15 บาท

ผมรีบเปิดเมลผมโดยไว กะว่า  Inbox ของผมจะมีเมลของไอ้ก้องมาบ้าง แต่...ปรากฏว่า เป็นเมล Fwd ทั่วๆไป จากเพื่อน ๆ ของผม

ผมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย การที่ผมเข้ามาเช็คเมลแต่กลับไม่มีเมลมันอยู่ใน inbox มันทำให้ผมไม่อยากทำไรต่อ ผมจึงพิมพ์เมลกลับไปหามัน

“ก้อง
ตอนนี้กูกลับมาที่บ้านนครสวรรค์น่ะ พ่อกับแม่กูเขาก็ถามหามึงด้วย กูบอกว่ามึงไปทำงานเมืองนอก พ่อกูนี่แทบจะเตะกูเลย บอกว่าทำไมไม่เอาอย่างมึงมั่ง จะได้ไปดี ๆ แม่กูเขาก็ถามโน่นนี่กับกู ว่ามึงเป็นไงไปอยู่ที่โน่น กูก็ตอบได้ตามที่มึงเคยตอบในเมลกูน่ะ
อีกสามวันกูจะเข้ากรุงเทพ ไปฟังผลสอบแล้ว ยังไงเราสองคนคงไม่มีตัวไหนตกหรอกน่า เก่งซะอย่าง
มึงทำงานได้เงินพอใช้ป่ะวะ ถ้าไม่พอ มึงก็ไม่ต้องเที่ยวให้มันมากนัก เก็บเงินค่าเครื่องบินกลับเมืองไทยมาก็พอแล้ว
พักผ่อนมั่งนะ เดี๋ยวไม่สบาย แต่ลืมไป คนอย่างมึงมันแข็งแรง แต่ก็น้อยกว่ากูอยู่ดี เพราะกูล่ำกว่ามึง (555+)คิดถึงกูเมื่อไหร่ก็เปิดของขวัญกูได้เลยนะ
โชคดีนะมึง อีก 43 วันเราจะเจอกัน
ป๊อก”

ผมคลิก Send ไปแล้ว แล้วก็กลับมาอ่านที่จดหมายออกอีกครั้ง ไม่รู้เป็นไรอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ทั้งๆที่มันก็ส่งไปแล้ว ท่าจะบ้าแฮะผม

ไม่รู้จะทำไรแล้ว เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง Webก็ไม่อยากเล่น เลยจ่ายเงินออกมาเลย

ผมเลือกที่จะขับรถเล่นไปเรื่อย ๆ ในจังหวัดของผม ที่ที่ผมกับไอ้ก้องเคยไปเที่ยวด้วยกัน ที่เดิม ตำแหน่งเดิม รถคันเดิม

“รับอะไรดีคับ” – พนักงานเสริฟ์มารับออร์เดอร์
“แกงจืดเต้าหู้หมูสับคับ แล้วก็ข้าวเปล่าจานนึงด้วยคับ” – ผมสั่งไป
วันนั้นไอ้ก้องก็กินแบบนี้ มันสั่งแกงจืดเต้าหู้มา แล้วก็เอาข้าวเทลงไปในแกงจืด ผสมๆ คลุก ๆ เหมือนข้าวต้มเลย ยังถามมันเลยว่าทำไมมึงไม่สั่งข้าวต้มมาเลยวะ มันให้เหตุผลว่าถ้าสั่งข้าวต้ม ก็ไม่ต่างอะไรกับแกงจืดราดข้าวแหล่ะ แถมยังให้น้อยกว่าด้วยซ้ำ – คิดไปมันก็จริงของมัน
 
แล้วผมก็ขับรถต่อไปที่บึงบอระเพ็ด ที่ที่ดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน แต่วันนี้ผมมานั่งดูคนเดียว ได้แต่หวังว่ามันก็คงอยากมาดูกับผมอีกครั้ง
 
เหงาได้ที่แล้ว ผมจึงขับรถกลับบ้านไป โดนพ่อบ่นเล็ก ๆ แล้วก็กินข้าว จากนั้นก็อาบน้ำแล้วก็เข้านอนทันที

.
.
.
สามวันถัดมาผมลาพ่อกับแม่ เพื่อจะไปฟังผลสอบที่กรุงเทพ กะว่าฟังผลสอบเสร็จถ้าไม่มีไรทำอีกก็จะกลับมาใหม่ แต่ถ้ามีกิจกรรมอะไรก็จะอยู่ทำ ก็มันว่างอ่ะ แฟนก็ไม่อยู่ เพื่อนก็กลับบ้านกันเกือบหมด ยิ่งเพื่อนในกลุ่มกลับบ้านกันหมดเลย แล้วผมจะอยู่กรุงเทพทำไม

วันต่อมาผมไปที่มหา’ลัย ปรากฏว่าผมกับไอ้ก้องผ่านทุกตัว แถมยังได้เกรดดีกันอีกด้วย ส่วนเพื่อนผมสองคนก็เกรดดีไม่แพ้กัน แต่ก็ยังน้อยกว่าผมนิดนึง สรุปแล้วผมเก่งสุดในกลุ่ม

“ฉลองกันป๊อก” – ไอ้ตั๋งเป็นผู้เสนอ
“ไปไหนวะ” – ผมถาม
“ที่เก่า” – ไอ้ตูนตอบ
“เหรอ งั้นถ้ากูเมามึงแบกกูกลับเหมือนเดิมนะ ขอบใจว่ะ” – ผมบอกพวกมัน พวกมันก็ตกลง
“เออ มีคนอื่นไปด้วยนะ เพื่อนเก่าพวกกูสองคน” – ไอ้ตูนบอก
“เอ่อ แล้วกูจะคุยกับเขาได้เหรอ กูยิ่งไม่มีปากอยู่” – ผมถาม เพราะกลัวว่าไปจะไม่หนุกอ่ะดิ
“เออๆไปเหอะ เดี๋ยวปิดเทอมก็ไม่ได้เจอมึงอยู่ดี” – ไอ้ตูนบอก
“เออ ไปก็ไป กี่โมง จะได้กลับหอไปนอนก่อน กูเพิ่งกลับมาจากบ้าน ยังง่วงอยู่เลย” – ผมบอกพวกมัน
“สามทุ่ม เดี๋ยวไปรับที่หอ”

ผมรับปากพวกมันเสร็จก็กลับหอไปนอน เดินทางกลางคืนมันก็เหนื่อยเป็นธรรมดา พวกมันสองคนจะไปสวีทกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันเป็นสัปดาห์ ขนาดหายไปเป็นสัปดาห์ยังคิดถึงขนาดนี้ ยิ่งไปสองเดือน ผมไม่คิดถึงแทบขาดใจเลยเหรอวะ

ผมกลับมาที่หอ เปิด notebook เปิดเมลของผม ใน inbox ก็ยังไม่มีเมลไอ้ก้องเหมือนเดิม ผมจึงส่งเมลไปหามันอีกครั้ง
“ก้อง
เกรดออกแล้วนะ ของมึงได้ 3.03 อ่ะ ก็ใช้ได้นะ มึงไปเสียวิชาสังคมอ่ะได้ C เลยเน่าไปนิด แต่อังกฤษมึงได้ A นะ พูดถึงอังกฤษกูได้แค่ C+ เอง มันก็เลยดึงเกรดกูลง แต่ยังไงเกรดกูก็มากกว่ามึงอยู่ดี ของกูได้ 3.14 อ่ะ ส่วนไอ้สองตัวนั่นก็สองปลายๆ รู้สึกว่า 2.95 กับ 2.93 มั้ง แม่ง เป็นแฟนกันเกรดยังใกล้กันอีก
ปิดเทอมที่เหลือสองเดือนกูว่าจะอยู่บ้านว่ะ อาจจะไม่ได้มาส่งเมลบ่อย ๆ แต่กูสัญญาว่าจะส่งมาหามึงทุกสัปดาห์ แม้ว่ามึงจะมาเปิดอ่านมันวันไหนก็เอาเหอะ
อีก 40 วันเจอกันนะมึง
ป๊อก”
จากนั้นผมก็อ่านโน่นนี่ในบอร์ด ส่วนใหญ่ก็เป็นพวก Gadget IT น่ะ ผมชอบมาก ๆ แล้วก็หลับไป
 
ตื่นมาอีกทีไอ้ตั๋งโทรมาหาผมบอกว่ามันจะเข้ามารับอีกสองชั่วโมง หันไปดูนาฬิกาตอนนี้ก็เพิ่งจะ 5 โมงเย็นเอง มันจะรีบมาทำไมวะ
ว่าแล้วก็ลงไปหาไรกินดีกว่า หิวแล้วตั้งแต่กลางวันก็เอาแต่นอน นอน นอนอย่างเดียว

เมื่อใกล้ถึงเวลานัด
“ป๊อกมึงอยู่ไหน” – เสียงไอ้ตั๋งผ่านโทรศัพท์มา
“อยู่ห้องอ่ะ”
“เออ เดี๋ยวกูเข้าไปรับ”
“มากันกี่คนวะ”
“4 คน” – เสียงในรถไอ้ตั๋งสามารถบอกประชากรได้อย่างเดียว ว่าเยอะ
“เสียงแม่งอย่างกับเป็นสิบ”
“เออ ป๊อก ให้กูขึ้นไปหาหรือมึงจะลงมารอ”
“เดี๋ยวลงไปรอละกัน”
ผมปิดประตูห้อง ปิดไฟ แล้วก็ลงไปรอไอ้ตั๋งข้างล่าง
“โห รถมึงหรือรถพ่อมึงวะ” – ประโยคแรกที่ผมทักไอ้ตั๋ง
“ขึ้นมา เร็ว เดี๋ยวคนเยอะ” – ไอ้ตูนไล่ผมขึ้นรถ

เมื่อผมเปิดประตูหลัง ปรากฏว่ามีคนอยู่แล้วอีกสองคน เป็นผู้ชาย(ที่ระบุเพศไม่ได้) 1 คน และผู้ชาย(ที่ระบุเพศได้แล้วว่าหญิง) 1 คน

“คนนี้เหรอจ๊ะตูน” – คนสวยทักขึ้นมา
“ใช่แล้ว เอ่อ เจตต์ กิม นี่ป๊อก เพื่อนกู เรียนคณะเดียวกัน” - ไอ้ตูนแนะนำ
“หวัดดีคับ” – ผมก้มหัวหงึก ๆ แสดงคำทักทาย
“ฉันบอกแล้วว่าเรียกฉันว่า เจนนี่ เจตต์เจิดอะไรกัน” - คนสวยหันมาค้อนใส่ไอ้ตูน
“น่ารักจังนะจ๊ะ” – เจนนี่หันมามองผม
“แห่ะ ๆ คับ” – รู้สึกกลัว บอกไม่ถูก ถ้ารู้ว่ามากับคนสวยประเภทนี้ ไม่ขอมาดีกว่า
“มันมีแฟนแล้ว อย่าไปยุ่งกับมัน” – ไอ้ตั๋งเตือน
“แฟนไม่มาตอนนี้ถือว่าโสดจ๊ะ” – เจนนี่แหวใส่ไอ้ตั๋ง
“เรียนไหนกันอ่ะคับ” – ผมเริ่มถามบ้าง
“เราเรียนที่ XXxx ส่วนเจตต์เรียนที่ XxxX” – กิมหันมาตอบผม
“ฉันบอกว่าชื่อเจนนี่ย่ะ” - ยังหันกับมาค้อนไอ้กิม
“เออ อีเจนนี่ พอใจยัง”
“วันนี้แหล่ะ ฉันจะจับผู้ชายมาทำสามีให้หมดผับเลย”
น่ากลัวแล้วสิผม

ถึงผับกันแล้ว ก็เหมือนเดิมแหล่ะคับ ไอ้ตั๋งก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย มันให้ผมกับเพื่อน ๆ รอที่โต๊ะ

ทุกอย่างเหมือนเดิมจริง ๆ ทุกคนเต้นกันอย่างเต็มที่ เพลงก็มัน คนก็เยอะ และผมก็...
























...................เมา
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 18 [05-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 06-03-2009 07:07:25
เจต // เจนนี่  :laugh:

คิดได้เนาะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 18 [05-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 06-03-2009 09:03:25
 :z3: :z3: :z3: :z3:
ค้างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 18 [05-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 06-03-2009 09:05:24
แล้วก้องหายไปไหน หรือไปอยู่ชนบท ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 18 [05-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 06-03-2009 12:14:48
ทำไมก้องไม่ตอบเมลล์สงสัยงานจะยุ่ง แต่น่ากลัวคุณเจนนี่นะเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 19 [08-03-09]=>NC ฝึกหัด
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 08-03-2009 16:46:30
19
 :o211:
ผมจับใจความได้แค่ว่า คืนนี้ทุกคนจะนอนที่ห้องผม โดยที่ผมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เพราะว่าผมเมามาก แล้วไอ้สองคนนั่นมันบอกว่าไม่กล้าให้ผมอยู่คนเดียว เพราะไอ้ก้องไม่อยู่

ผมกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัย ไม่มีใครทำอะไรกับผมที่ผับ

“ตูน ตามสบาย.....นะ.......เพื่อนนน........... เอิ้กก...... กูนอนก่อนนะ” – ไม่ได้ศัพท์อีกแล้วผม ก็เมานี่หว่า
แล้วผมก็หลับไป ... จากนั้นก็ฝัน











“ป๊อก กูอยาก อ่ะจึ๊ยๆ กับมึง” – ไอ้ก้องในฝันเอ่ยปากชวนผม
“เอาเลยก้อง กูพร้อมแล้ว”

บทเพลงรักเริ่มต้นขึ้น อย่างรวดเร็ว และเร่าร้อน เพราะเหมือนว่าผมรอเวลานี้มานานมาก ผมไม่รอช้า รีบปลดเสื้อออกจากตัวเองและไอ้ก้องโดยเร็ว

“อ่า....ก้อง กูเสียว...โอ่ววว......” – ผมครางอย่างมีความสุข

ผมม้วนตัวอีกครั้ง เพราะสิ่งที่ไอ้ก้องมันทำ คือเอาปากครอบไปที่ป๊อกน้อยอย่างเป็นจังหวะ ไม่รุนแรง ไม่เบาเกินไป แต่สโตรกและจังหวะทุกอย่างมันลงตัว  มันค่อยๆ เอาปากมันขึ้นลงกับป๊อกน้อย สายตาอันยั่วยวนของไอ้ก้องก็มองมายังที่ผม โคตรเซ็กซี่เลย

“ก้อง สุดยอด โอ่วว..........อ่า....”
มันเลื่อนลงจากป๊อกน้อยลงไปที่ช่องลมของผม มันเอาลิ้นเลีย และดูดทางช่องของผม

“วันนี้กูขอนะ”
“เฮ้ย ปกติมึงไม่.........”
“ก็ อยากลอง”
ไม่รอช้า มันเอาปากมาจูบกับผมเพื่อไม่ให้ผมพูดอะไรต่อ จากนั้นมันก็ไล่ลงมา จากต้นคอ หัวนม แล้วก็ป๊อกน้อย

“ไม่เอาละ กูไม่กล้า กูชักให้มึงละกัน”
มันเอาปากครอบป๊อกน้อย แล้วก็ชักขึ้นลงไปมา มันค่อย ๆ เร่งความเร็วขึ้น เร่งขึ้น มากขึ้น จนผมเกร็ง

“โอ่วว....ก้อง..........อ่าส์............”
ยิ่งผมครางเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเร่งความเร็วให้ผมมากขึ้นเท่านั้น จน

“ซื๊ด.........อ่า..........โอ่ว...ก้อง ไม่.......ไหว ..........แล้ว.........”
น้ำสีขาวจากป๊อกน้อยทลักออกมาอย่างกับเขื่อนแตก ที่ผมเห็นคือมันพุ่งสูงมากเนื่องจากแรงดันที่สะสมไว้ภายในมันสูงมาก หลังจากที่มันตกลงสู่ลำตัวของผมแล้ว ไอ้ก้องก็เอาลิ้นของมันตวัดของเหลวสีขาวขุ่นเข้าไปในปากของมัน

“ป๊อก กูรักมึงนะ” – ไอ้ก้องกระซิบข้างหูผม แล้วก็จูบปากผม ลิ้นของเราสองคนตวัดไปมาในช่องปากของกันและกัน










 :serius2:
ผมลืมตาขึ้นมา เพราะผมรู้สึกว่าปากของผมรู้สึกอุ่น ๆ

“เฮ้ย!!!!”
“เอ่อ......เรา เรานึกว่านาย......หลับไปแล้ว”
“แล้วมึง.......ทำไรกู แล้วเสื้อผ้ากูล่ะ ทำไม อย่าบอกนะว่านาย..........เฮ้ย นายทำ..........” – ผมโวยวายอย่างไม่รู้จะเอาคำไหนขึ้นก่อน ผมไม่เคยถูกใครลักหลับมาก่อนในชีวิต แถมสำเร็จอีกต่างหาก แม้ไอ้ก้องมันก็ยังไม่เคยทำ
“นายน่ารักอ่ะ เราชอบนาย”
“แต่ทำไม นายต้องทำกับเราอย่างงี๊ด้วย” – พูดไปก็หยิบเสื้อผ้าตัวเองมาปิดไว้ จะอายทำไม มันทำให้ผมเสร็จแล้ว
“ก็เราไม่กล้าบอก ก็เลย.....”
“..............”
“นายมีแฟนแล้วใช่ป่ะล่ะ”
“ใช่” – ผมตอบไปตามความจริง
“แฟนเป็นเกย์ด้วยกันใช่ป่ะ”
“ใช่”
“เราชอบนายนะ ชอบตั้งแต่ที่เห็นเลย”
“ขอบใจนะ” – ผมกล่าวขอบคุณ
“เราจะทำอะไรไปมากกว่านี้ได้ป่ะ”
“นายกลับไปนอนเหอะ เราทำไม่ได้ เราไม่อยากมีอะไรกับคนที่เราไม่ได้รัก” – ผมบอกไปจากความรู้สึกจริง ๆ ของผม
“ไม่ต้องมีอะไรก็ได้ แค่นายเป็นของเรา”
“เราคงทำอย่างงั้นไม่ได้หรอก ขอโทษด้วยนะ ขอบคุณที่มาชอบเรา”
“.................”
“นายไปนอนเหอะ ถ้านายไม่นอน เราจะไปนอนที่อื่น”
“.................”



ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็ไม่เช้ามากนักหรอกคับ ตื่นขึ้นมาก็ปวดหัวนิด ๆ กินเยอะไป แล้วก็เข้าไปอ้วกในห้องน้ำ

“อ่ะ น้ำอุ่น ๆ”
“ขอบคุณมาก” – ผมบอกขอบคุณไป เสียงไอ้คนนั้น เมื่อคืนแหล่ะคับ

แล้วผมก็อ้วกอีกครั้ง หลังจากดื่มน้ำอุ่นเข้าไป ก็ได้ไอ้นี่แหล่ะคับที่เข้ามาช่วยผม
“นายตื่นนานแล้วเหรอ” – ผมถาม เพราะตอนตื่นมาผมไม่เห็นมันจริง ๆ
“ก็สักพักแหล่ะ ตื่นมาดูการ์ตูน”
“ดูเรื่องไรล่ะ”
“ก็กัชเบล แล้วก็โคนัน”
“เอ่อ ชอบโคนันเหมือนเราเลย” – ผมว่าคนชอบโคนันมีเยอะคับ เป็นการ์ตูนที่ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่
“เหรอ”

“เรื่องเมื่อคืน เราขอโทษนะ” – มันเป็นฝ่ายขอโทษผมก่อน
“ไม่เป็นไรหรอก” – ผมไม่อยากอาฆาต กับคนที่เขามาชอบผมหรอก
“เราคงไม่มีหวังในตัวนายใช่ป่ะ”
“ก็เป็นเพื่อนกันได้นี่นา เพื่อนไอ้สองตัวนั่น มันก็เพื่อนเราเหมือนกัน”
“ป๊อก นายเป็นคนดี ดีจริง ๆ ใครเป็นแฟนนายคนนั้นคงจะโชคดีมากๆ”

“แล้ววันนี้ไปไหนป่ะล่ะ”
“เปล่า”
“ไปดูหนังกับเราได้ป่ะล่ะ”
“เอาสิๆ ไม่รู้ไปไหนเหมือนกัน”
“งั้นไปใกล้ๆแถวนี้ละกันนะ”
“ชวนไอ้สองคนนั้นไปด้วยป่ะ”
“มันคงไม่ไปกันหรอก ไม่เชื่อลองถามมันตอนตื่นมาดิ”
“ทำไม..ถึงรู้.......” – ผมถาม เพราะสงสัย
“มันชอบไปดูหนังกันสองคน ตั้งแต่มันอยู่ ม.ปลายแล้ว”
“อ่อ มีโลกส่วนตัว”

ไอ้สองคนนั้นเดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นพอดี สงสัยมันเพิ่งจะตื่น
“แหม ไวไฟกันเชียวนะพวกมึง” – ไอ้ตั๋งเอ่ยเป็นคนแรก
“สัด เงียบไปเลย” – ไอ้คนนั้นเอ่ยปากด่าเพื่อนมันก่อน
“ถึงว่า แม่งอยากจะนอนกับไอ้ป๊อก ที่แท้ก็ชอบมัน” – ไอ้ตูนพูดออกมา
“พอเหอะ พวกมึง” – ผมบอกให้ยุติ แสดงว่าพวกมันรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้
“ไอ้กิม ไอ้ป๊อกมันมีแฟนแล้วนะ” -ไอ้ตูนบอกไอ้กิม
“เอาน่า ไอ้ก้องมันไม่อยู่” – ไอ้ตั๋งโอบไหล่ไอ้ตูน เป็นเชิงว่าปลอบ ว่างั้นเหอะ
“มึง ถ้ากูทำอย่างงี๊กับมึงมั่งล่ะ” – ไอ้ตูนหันไปค้อนแฟนมัน
“อย่าให้รู้นะมึงว่ามีคนอื่น ไม่งั้นมึงตาย” – แล้วไอ้ตั๋งก็ทำท่าบีบคอไอ้ตูน

------------

 :call:ปล. หัดเขียน NC นะคับ ไม่เคยเขียนอ่ะ มันเลยตะกุกตะกัก ขอโทษด้วยนะคับถ้าไม่ได้อรรถรส
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 19 [08-03-09]=>NC ฝึกหัด
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 08-03-2009 16:53:55
“ไม่เอาละ กูไม่กล้า กูชักให้มึงละกัน”
มันเอาปากครอบป๊อกน้อย แล้วก็ชักขึ้นลงไปมา มันค่อย ๆ เร่งความเร็วขึ้น เร่งขึ้น มากขึ้น จนผมเกร็ง

“โอ่วว....ก้อง..........อ่าส์............”
ยิ่งผมครางเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเร่งความเร็วให้ผมมากขึ้นเท่านั้น จน

“ซื๊ด.........อ่า..........โอ่ว...ก้อง ไม่.......ไหว ..........แล้ว.........”
น้ำสีขาวจากป๊อกน้อยทลักออกมาอย่างกับเขื่อนแตก ที่ผมเห็นคือมันพุ่งสูงมากเนื่องจากแรงดันที่สะสมไว้ภายในมันสูงมาก หลังจากที่มันตกลงสู่ลำตัวของผมแล้ว ไอ้ก้องก็เอาลิ้นของมันตวัดของเหลวสีขาวขุ่นเข้าไปในปากของมัน

“ป๊อก กูรักมึงนะ” – ไอ้ก้องกระซิบข้างหูผม แล้วก็จูบปากผม ลิ้นของเราสองคนตวัดไปมาในช่องปากของกันและกัน
[/color]
^
^
^
มาจิ้ม หุๆ ป๊อกน้อยโดนลักหลับ  :z1:

ว่าแต่อีตากิมนี่มันมาจากหน้ายยยยยย แล้วก้องจะหายไปอีกนานม้ายยยยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 19 [08-03-09]=>NC ฝึกหัด
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 08-03-2009 18:23:16
 :z1:

เอิ๊กๆ ๆ

No comment
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 19 [08-03-09]=>NC ฝึกหัด
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 08-03-2009 19:34:08
เหอะๆๆๆ เอ็นซีเล็กน้อยเรียกเอด หุหุหุ

ว่าแต่สงอคนนี้จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปทางไหนเนี่ย รอดูตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 19 [08-03-09]=>NC ฝึกหัด
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 08-03-2009 23:32:35
โดนลักหลับ  โอ้วววววววววว

แล้วก้องหายไปไหน  ไม่ใช่ไปมีใหม่แล้วนะ

 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 20 [18-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 18-03-2009 23:00:10
20
 :really2:
“พี่ต้อมคับ พี่ตอยบอกว่าเย็นนี้ประชุมด้วยนะคับ”
“ได้คับป๊อก” – พี่แกก็ยิ้ม แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อไป
“พี่เป็นไรป่ะคับ พักนี้ไม่ค่อยร่าเริงเลย”
“ก็เปล่านี่คับ” – แล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
“อยากบอกอะไรผมป่ะคับ”
“ไม่มีไรจริงๆ ป๊อก”

การประชุมที่แสนจะยาวนาน เพราะนานนานทีพี่ตอยจะเรียก admin เข้าประชุม ชี้แจงรายละเอียดงานที่พี่แกได้รับมาใหม่ พร้อมทั้งเสนอนโยบายใหม่ๆ อีกด้วย

ระหว่างประชุมผมก็นั่งข้าง ๆ กับพี่ต้อมแหล่ะคับ แต่ดูท่าทางแกเหม่อๆ ยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งสองสามวันที่ผ่านมามันเหม่อจนเป็นที่สังเกตได้จากคนรอบข้าง

“ต้อม ต้อม ฟังอยู่ป่ะ”
“.........”
“เฮ้ย!! ต้อม”
“ครับๆ ว่าไงต่อคับ”
“เมื่อกี๊พี่บอกอะไรแกไป จำได้ป่ะ”
“ก็เรียงเครคิตลูกค้าระดับชั้นต่าง ๆ ไงครับ”
“โอเค แสดงว่ายังฟัง”

.....
แล้วพี่ตอยก็ประชุมต่อไป จนกระทั่ง พี่แกหิวข้าว (ทุ่มกว่าๆ) จึงเลิกประชุม

“ป๊อกๆ” – พี่ตอยเดินมาเรียกผม ระหว่างที่กำลังเดินไปที่โต๊ะทำงาน
“อะไรคับพี่”
“admin คนใหม่น่ะ ที่จะแทนไอ้ต้อม”
“แทน?? อะไรกันคับ”
“ต้อมไม่ได้บอกแกเหรอ ว่าจะออก”
“ไม่เห็นพี่แกพูดอะไรเลยนี่คับ”
“นั่นแหล่ะ ต้อมเองบอกว่าจะออก สิ้นเดือนหน้า”
“แล้วพี่ว่าไงล่ะคับ”
“ก็ถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ต้อมก็บอกพี่ว่าไม่มี”
“แล้วพี่จะทำไงล่ะคับ ต้องเปิดรับ admin คนใหม่มาแทน”
“ป๊อก ช่วยพี่หน่อยได้ป่ะ ต้อมมันทำงานดี พี่ไม่อยากให้มันออก ถ้าเป็นเรื่องเงินเดือน เดี๋ยวพี่เสนอให้นายก็ได้ว่าขอเพิ่ม”
“พี่ต้อมแกบอกพี่ตอยตอนไหนล่ะคับ”
“สองสามวันนี่เอง”
“คับ ยังไงเดี๋ยวผมไปลองถามดูนะคับ”
“ช่วยทีนะป๊อก ในบริษัทนี้ต้อมเองไม่ค่อยคุยกับใคร นอกจากป๊อกคนเดียว”
“คับพี่”

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน พี่ต้อมกำลังเก็บของอยู่ข้าง ๆ ซึ่งก็เกือบจะเสร็จแล้ว

“พี่กลับก่อนนะป๊อก”
“รอผมด้วยคับพี่”
“เอ่อ........ก็ได้ๆ” – แล้วพี่ต้อมก็วางกระเป๋าของแกลง แล้วก็นั่งที่โต๊ะทำงานของแก


“งานเยอะนะคับช่วงนี้” – พี่ต้อมเป็นคนพูดขึ้นมาเอง
“อ่ะคับ ดีนะเนี๊ยมีพี่มาช่วย ไม่งั้นผมหัวบานแน่ๆ”
“คับ”
“เห็นว่าเมษานี้โบนัสจะออก กรณีพิเศษนี่คับ พี่รู้เรื่องเปล่า” – ผมแกล้งพูดไป ลองหยั่งเชิงพี่แก
“ไม่รู้เลยนี่คับ”
“แล้วทำไมโต๊ะมีมันโล่ง ๆ จังอ่ะคับ เห็นตอนมาใหม่ ๆ นี่รกพอกับผมเลย” – ผมยังคงลองเชิงอีก
“ก็อะไรไม่ใช้ก็เก็บๆ ไปมั่งน่ะ ป๊อกก็เหมือนกันนะ เก็บของบนโต๊ะบ้างนะ เดี๋ยวอะไรอะไรมันจะมาทำรัง”
“โหพี่ ถ้าผมเก็บ คงเป็นวันน่ะ ของผมเยอะ”
“จะเก็บก็บอกได้นะคับ เดี๋ยวพี่ช่วย”
“เสร็จแล้วคับ ไปกันเหอะ”

ผมหวัดดีพี่ๆ ในห้อง admin (ตอนนี้ผมย้ายลงมาห้อง admin แล้วคับ ห้องสารสนเทศเดิมถูกทำเป็นห้องประชุมขนาดเล็ก) แต่หน้าที่ยังคงเหมือนเดิม

“หิวข้าวป่ะพี่ ผมเลี้ยงเอง”
“ไม่อ่ะคับ พี่รีบกลับบ้านน่ะ”
“เหรอคับ”
“โอกาสหน้าละกันนะป๊อก พี่จะทำตัวให้ว่าง”
“แล้วโอกาสหน้านี่มันเมื่อไหร่ล่ะคับ”
“ก็เมื่อพี่ว่าง วันนี้ไม่ว่างจริง ๆ ขอโทษด้วยนะ”
“ผมจะรอแล้วกันนะ โชคดีคับ รถเมล์ผมมาแล้ว”
“โชคดีคับ”

ทำไมแกไม่บอกผม เรื่องที่แกจะออก ผมคิดไปเองหรือเปล่า ว่าที่แกออก ก็เพราะผม แกจะหนีผม เพราะตัวผมเองไม่เลือกซักที แกคงอึดอัดที่ว่าท่าทีของผมยังคงคลุมเคลือ ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา แกคุยกับผมน้อยลง แต่ก็ไม่คิดว่าทำไมจึงเอาประเด็นของผมมาเกี่ยวข้องกับการออกงานของแกด้วย ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ ใครจะจ้างงานเพิ่ม เขามีแต่ลดภาระโดยการปลดพนักงาน

ถ้าผมจะทำเพื่อพี่ต้อม โดยการบอกไปว่าชอบพี่ต้อม แกจะยังออกงานอยู่หรือเปล่า แต่ว่าพี่ก๊อกล่ะ

“เหม่อไรป๊อก”
“เพิ่งกลับเหรอพี่”
“ก็นั่งรอจนเห็นป๊อกขึ้นรถนั่นแหล่ะ ถึงเดินขึ้นตาม”
“พี่ วันหลังไม่ต้องทำงี๊ก็ได้นะ”
“หาอะไรกินกันเหอะ พี่เลี้ยงเอง โทษฐานที่หายไปหลายวัน”
“ไม่เป็นไรพี่”
“เอาน่า...........”

ลงรถที่ป้ายอนุเสาวรีย์ พี่ก๊อกพาผมเดินไปข้าง ๆ เดอะเบรน (สถาบันกวดวิชา) กลางคืนจะมีร้านข้าวหมูแดง ต้มเลือดหมู อะไรประมาณนั้น เป็นร้านอาหารข้างทางที่ใหญ่โต จุดเด่นอยู่ที่พนักงานเสริฟ์จะวิ่งเร็วปานสายฟ้าแทบ เพราะร้านมีนโยบายว่า ภายใน 1 นาทีลูกค้าจะต้องได้อาหาร ไม่งั้นพนักงานคนนั้นจะโดนเจ้าของร้านด่า

“อร่อยป่ะป๊อก”
“ก็อร่อยดีคับ ได้เร็วดี ชอบ”
“ป๊อก เมื่อไหร่เราจะได้เป็นแฟนกันน่ะ”
“ขอเวลาผมอีกหน่อยเหอะคับ”
“นี่ก็ครึ่งเดือนแล้วนะคับ ยังไม่พออีกเหรอ”
“ความรักนะพี่ ไม่ใช่เสื้อผ้า ไม่ชอบก็โยนทิ้ง”
“ก็แหม พี่รอป๊อกอยู่ ก็เมื่อไหร่จะตอบซักที”

จ่ายเงินเสร็จแล้ว ก็เดินออกมา พี่ก๊อกมาส่งที่ป้านรถเมล์

ทำไมมันต้องมาเป็นอย่างงี๊ ผมไม่เลือกได้ป่ะ

.
..
...
ผมกำลังจะเข้านอน แต่แล้วก็มีโทรศัพท์ลึกลับ จากเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย
“หวัดดีคับ”
“ป๊อกใช่ป่ะ”
“ใช่คับ”
“จำเราได้ป่ะ”
“ใครอ่ะคับ” – แต่จริง ๆ ผมจำเสียงได้ดี ดีจนไม่รู้ว่าผมจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ที่เขาโทรมา
“กูรู้ว่ามึงจำได้ ไม่ต้องมาแกล้ง”
“ก็ในเมื่อรู้แล้วก็จะถามทำไมว่าจำได้ป่ะ ก็รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็จำได้” – ผมพูดออกไปให้สายปลายทางได้รู้
“สบายดีป่ะ”
“ก็ดี แกล่ะเป็นไงมั่ง” – ผมถามไปเพราะมารยาท
“ก็สบายดี”
“โทรหานี่มีไรเหรอ”
“ก็อยากโทร”
“เออ แล้วแกทำงานยัง” – ผมถามไป เพราะเป็นห่วง เอ๊ะ ยังไงกันแน่
“ก็ยังอ่ะ ตกงานอยู่ แต่กะว่าจะทำที่บริษัทพ่ออ่ะ” – ผมรู้ดีว่าปลายสายมีฐานะดี
“ก็ดีแล้ว เงินทองจะได้ไม่รั่วไหล”
“แกล่ะป๊อก ทำที่ไหน”
“ท่าพระอาทิตย์อ่ะ เกี่ยวกับ admin แล้วก็สารสนเทศ”
“เออ ตรงกับที่จบนี่หว่า เห็นพ่อกูบอกว่าจะให้ไปเป็น sale manager”
“ก็ดีแล้วแหล่ะ”
“ไม่เคยทำอ่ะดิ”
“แล้วที่โทรหามีอะไรเหรอ”
--------------

ปล.  :serius2:
ตอนนี้ชีวิตจริงของผม เหมือนไอ้ป๊อกในเรื่องนี้เลยคับ
1. พี่คนนึงที่ทำงานเข้ามาจีบผม
2. คนคนนึงก็กำลังจะเป็นแฟนกับผม
สับสนจริงๆ ว่าผมควรทำไงกับชีวิตดี
ตอนแรก ๆ ที่แต่งเรื่อง ก็ไม่คิดว่าเรื่องที่แต่ง จะมาเกิดกับชีวิตจริงๆของผมซะงั้น
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 20 [18-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 19-03-2009 09:15:29
^
^
^
นิยายมันสะท้อนชีวิตจริง ว่าแล้วตอนต่อไปจะเป็นเรื่องจริงหรือนิยายละนี่ คริๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 20 [18-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 19-03-2009 09:54:11
นิยายอาถรรพ์

แต่งแบบไหน

ชีวิตจริงก็จะออกมาแบบนั้น หึหึ  o22
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 20 [18-03-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 19-03-2009 10:59:25
^
^
แทงทั้งสองคนเลย  :laugh:
เครียดจริงๆนะเนี๊ย ไม่ได้ล้อเล่น ผมจะเลือกใครดีล่ะ(หมายถึงชีวิตจริงนะคับไม่ใช่ไอ้ป๊อก) :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 21 [25-03-09] มาช้าจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 25-03-2009 22:24:54
21
 :seng2ped:
“โทรหาในฐานะเพื่อนไม่ได้หรือไง”
“ปกติแกก็ไม่เคยโทรหาเรา ตั้งแต่ตอนนั้น”
“ตอนนั้นกูผิด กูยอมรับ”
“แล้วมึงก็จะมาทำให้กูเสียใจอีกครั้งที่สองเหรอ เปลี่ยนมากี่คนแล้วล่ะ”
“ป๊อก ไอ้แม๊คมันทิ้งกูไปแล้ว”
“เหรอ แล้วกูควรทำไงล่ะ”
“กูไปหามึงที่หอได้ป่ะ ยังอยู่ที่เดิมป่ะ”
“เออ แต่กูจะนอนแล้วนะ พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า”
“อีก 5 นาทีกูไปถึงแน่ รอแป๊บ”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก (เสียงเคาะประตู)

“ป๊อก กูคิดถึงมึงจัง” – แล้วร่างนั้นก็โผเข้ามากอดผม นานมาก อยู่ที่หน้าประตู
“เข้าไปข้างในก่อนเหอะ”
“ห้องมึงเหมือนเดิมเลย ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย”
“กู อาจจะเป็นคนที่ชอบอยู่กับความหลังก็ได้”


ผมเดินไปเอาน้ำให้แขกผู้มาเยือน 1 แก้ว จากนั้นมือของผู้มาเยือนก็เริ่มเข้ามากุมที่มือของผม

“ปล่อยเหอะ กูเองไม่อยู่ในฐานะแบบนั้นกับมึงอีกแล้ว”
“มึงยังโกรธกู”
“ใครล่ะจะไม่โกรธ แฟนตัวเองทิ้งไปอย่างไม่มีเยื่อใยแบบนั้น”
“กู ขอโทษ ก็แค่ เราอยู่ด้วยกัน”
“ช่างเหอะ มันเป็นอดีตไปแล้วแหล่ะ” – ผมพูดออกไปได้ แต่ใจผมตอนนี้อ่อนแอสุดๆ
.
..
...
“แล้วที่มึงมามีอะไรเหรอ”
“ไอ้แม๊ค คนนั้นน่ะ มันทิ้งกูไปแล้ว”
“เหรอ”
“มันไปสวีเดน 1 ปี กลับมามันก็พาคนใหม่กลับมาด้วย อ่อนกว่ามัน 2 ปี”
“เหรอ ถึงว่า...”
“แล้วมันก็โทรมาหากู บอกว่ามันมีแฟนใหม่แล้ว บอกกูว่าขอโทษ”
“...........”
“กูไม่รู้จะทำไง ก็เลยมาหามึง”
“มาหากูแล้วจะได้อะไร”
“อย่างน้อยมึงก็คงไม่ซ้ำเติม กับคนที่ทิ้งมึงไป”
“ก้อง มันนานนะ กว่ากูจะดีขึ้น กูอยากบอกมึง ว่าทุกอิริยาบทของมึง กูใส่ใจตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่มึงทิ้งกูไป กูไม่เคยลืม กูเหมือนคนบ้า กูเป็นอะไรไม่รู้ กูไปทุกที่ที่กูกับมึงเลยไป” – พูดไปน้ำตาเริ่มไหล “ทุกที่ที่เคยอยู่ด้วยกัน แล้วกูก็ร้องไห้ รักครั้งแรกของกู ไม่ใช่ผู้หญิง แต่คือมึง กูรักมึงมาก มึงรู้ตัวป่ะ อย่างที่เขาบอกน่ะว่า รักมากก็เจ็บมาก”
“............”
“กูคอยถามไอ้ตั๋งตลอด ว่ามึงไปไหน ทำไรอยู่ ทำงานที่อาจารย์สั่งหรือยัง หลายงานที่กูทำให้มึง รายงานกี่เล่มช่วงที่มึงหายไป กูทำให้มึง เวลามึงหายไปอยู่กับไอ้นั่น”
“ถึงว่า.....มันคุ้นๆ แต่กูก็ไม่กล้าถามมึง”
“มันนานมาก กว่าแผลกูจะหาย จนตอนปี 4 กูเริ่มดีขึ้น กูรับมึงได้ กูยอมคุยกับมึง แต่ก็ไม่อะไรมาก เป็นเพื่อนกัน”
“ก็ช่วงนั้นแหล่ะที่แม๊คไปสวีเดน”
“แต่มึงก็เชื่อ เชื่อว่าแม๊คจะกลับมาหามึง เหมือนที่กูเชื่อว่ามึงจะกลับมาหากู”
“ใช่” – มันพูดเบา ๆ
“แล้วเป็นไง มันก็ทำ อย่างที่มึงทำกับกู” – ผมพยายามข่มเอาไว้ ไม่อยากร้องไห้ออกมาอีก
“ป๊อก ขอร้องล่ะ กูขอโทษ ที่เคยทิ้งมึง กูไม่มีใครแล้ว” – มันร้องไห้ เข้ามากอดผม ร้องไห้กันอยู่นาน
.
..
...
“ถ้าเราจะกลับมา คบกันอีก.........”
“อย่าเลยก้อง มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“อย่างน้อย..........”
“.........ก็ในฐานะเพื่อน” - ผมพูดสวนขึ้นมาทันที
“เข้าใจแหล่ะป๊อก กูคงทำไว้กับมึงเยอะ มึงถึงไม่ให้อภัยกู”
“ฐานะของเพื่อน กูไม่เคยติดใจอะไรกับมึง แต่ฐานะของคนรัก กูไม่เอาแล้ว”
“อืม” – เราสองคนนั่งเงียบ ๆ ซักพัก
.
..
...
“ป๊อก นอนนี่ได้ป่ะ”
“ที่บ้านมึงไม่ว่าเอาเหรอ”
“ไม่หรอก กูบอกที่บ้านแล้วว่ามาหามึง”
“จะนอนก็ตามใจ แต่ตื่นตีห้าครึ่งนะ เพราะต้องไปทำงาน”
“ก็ได้ พรุ่งนี้ให้กูไปส่งมึงนะ”
“ไม่ต้องหรอก รถมันติดน่ะ อีกอย่างเกรงใจมึงด้วย”





 :z3:
หลายวันผ่านไปยังไม่มีวี่แววของเมลไอ้ก้อง เปิดเมลทีไรก็มีแต่ fwd ทั่วไป ผมจึงตัดสินใจส่งเมลฉบับนี้ เป็นฉบับสุดท้าย

“ก้อง
ทำไมไม่ตอบเมลกูกลับมาบ้าง ติดต่อก็ไม่ได้ เบอร์มือถือก็ไม่ให้ไว้
หากมึงได้อ่านเมลนี้ นี่อาจจะเป็นเมลสุดท้ายที่จะส่งหา เพราะว่ากูจะไปอยู่บ้านเดือนนึง ไปช่วยแม่ทำสวนที่บ้าน แล้วถ้ายังไงกูได้เข้ามาในตัวเมือง กูจะแวะมาส่งข่าวคราวละกัน
กูจำวันกลับของมึงได้ว่าประมาณ 20 พ.ค. เดี๋ยวยังไง กูจะไปรับที่สุวรรณภูมินะ
32 วันเจอกันนะ
ป๊อก”

ผมไม่อยากจะใช้คำว่า  “นี่อาจเป็นเมลสุดท้าย” มันดูเหมือนตัดรอนยังไงไม่รู้ ทั้งๆที่ผมสามารถมาส่งเมลได้เมื่อผมต้องการ แค่นั่งรถมาที่ตัวเมือง เข้าร้านเนต ก็ส่งเมลหามันได้แล้ว แต่เป็นเพราะผมน้อยใจที่มันไม่ส่งเมลกลับมาหาผมมั่งเลย

“งานมันเยอะมั้ง ไม่มีเวลามาส่งเมล” – ผมคิดอย่างงั๊ทุกครั้ง เพื่อความสบายใจของผม

ผมกลับบ้านมา ก็ลืมเรื่องเหงา ๆ ของผมไปได้บ้าง เพราะวัน ๆ ก็อยู่กับไร่ส้มของแม่ผม ตื่นแต่เช้า ไปเก็บส้ม สาย ๆ ก็มีคนมารับ บ่าย ๆ ก็เดินรถน้ำ ใส่ปุ๋ย ดูแลไม่ให้มันเน่า บางวันก็ไปช่วยพ่ออาบน้ำวัว รีดนมวัว

จะว่าไปไม่ต้องส่งลูกไปเรียนถึงกรุงเทพก็ได้นะ จบแค่ ม.6 แล้วมาช่วยพ่อแม่ทำงาน แค่ให้พี่สาวผมไปเรียนคนเดียวก็พอแล้ว

ผมนึกถึงบทสนทนาของแม่ ก่อนที่ผมจะมาเรียนที่กรุงเทพ
“แกน่ะหัวดีกว่าปอ ไปเรียนเหอะ แม่มีปัญญาส่ง”
“ค่าเทอมแพงนะแม่ แม่ส่งพี่ปอเหอะ ส่วนป๊อกมาช่วยแม่ทำสวนก็ได้”
“แกอย่ามาทำบากเหมือนพ่อกับแม่ ไม่มีความรู้อะไรเลย เลยต้องมาทำสวน โชคดีที่ปู่กับย่าทิ้งมรดกไว้ให้”

นี่แหล่ะคับจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมจึงต้องตั้งใจเรียน ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อคนที่ผมรักมากที่สุด

โทรศัพท์เข้ามาตอนก่อนผมจะนอน
“ป๊อก”
“ว่าไงวะ มีไรเหรอ”
“มึงจะกลับมาหอวันไหน”
“ก็คงยังอ่ะ รอให้ส้มหมดฤดูก่อนแล้วค่อยกลับ มึงมีไรป่ะตูน”
“ไอ้กิมมันอยากเจอมึง”
“เออ พูดถึงกิมเพื่อนมึง กูถามมึงหน่อยดิ อย่าโกหกกูนะ”
“เออ”
“มึงรู้ตอนไหนวะว่าไอ้กิมมันชอบกู”
“ตั้งแต่ไปเที่ยวน่ะ ก็เจอกันมันก็บอกพวกกูว่าชอบมึง ตั๋งมันก็เลยจัดการให้”
“อย่าบอกนะว่า........”
“ใช่ เป็นแผนของไอ้ตั๋งเองแหล่ะที่ให้นอนห้องมึงวันนั้น จากนั้นมันก็ไม่รู้เรื่อง ทุกอย่างไอ้กิมมันจัดการเองทั้งหมด เออ ว่าแต่มันทำไรมึงวะป๊อก”
“เอ่อ.........เปล่า ไม่ได้ทำไร” – จะบอกได้ไง ว่าโดนลักหลับ
“แต่กูบอกมันแล้วนะ ว่ามึงมีแฟนแล้ว”
“ตูน ก้องไม่ติดต่อหากูเลย”
“ใจเย็นเพื่อน ใจเย็น กูก็ไม่ได้ติดต่อกับมันเหมือนกัน”
“กูนึกว่ากูคนเดียวที่มันไม่ติดต่อมา”
“งานมันคงเยอะล่ะมั้ง ป๊อก มึงอย่าคิดมาก”
“เออ กูจะพยายามไม่คิดอะไร”


ป.ล. มาช้า(อีกแล้ว)มัวแต่แต่งตอนต่อไปอยู่ ขอโทษด้วยคับผม ตอนต่อๆไปจะเคลียร์เรื่องไอ้ก้องให้เสร็จก่อนนะคับ แล้วป๊อกจะเลือกใครในปัจจุบัน (ยังไม่รู้เลย) ลุ้นเอานะคับ [น่าจะมีบางส่วนมาจากชีวิตจริง]  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 21 [25-03-09] มาช้าจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 26-03-2009 08:30:18
 :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 21 [25-03-09] มาช้าจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 26-03-2009 16:40:55
รอๆๆ ต่อปายยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 21 [25-03-09] มาช้าจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 26-03-2009 18:19:30
ยังงัยกัน เงียบๆ หายๆ  น่ากัวน้าคับ  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 21 [25-03-09] มาช้าจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: anawas ที่ 27-03-2009 17:59:57
ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนาน   :laugh:
อยากรู้เหมือนกันว่าป๊อกจะเลือกใคร   o18
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 21 [25-03-09] มาช้าจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 27-03-2009 19:49:40
ก้องทำไมทำกะป๊อกอย่างนี้อ่ะ จะร้องไห้แทน รักแรกมันเป็นอะไรที่จะจดจำได้มากที่สุด  ยิ่งรักยิ่งเจ็บจริงๆนะคะเนี่ยยย ว่าแต่เรื่องปัจจุบันนี่จะเลือกใครดีละคะ  ช่วยเลือกให้ไม่ถูกเหมือนกันนะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 22 [29-03-09] สั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 29-03-2009 20:48:44
22
 :m21:
อีกสามวัน ไอ้ก้องกำลังจะกลับมา ผมจึงตัดสินใจกลับมารอไอ้ก้องที่กรุงเทพ

การกลับไปอยู่ที่บ้านทำให้ผมรู้ว่า ความคิดถึงมันไม่ได้ลดลง แต่ผมมีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่หึงหวง ไม่ห่วงอะไร เพราะผมไว้ใจมัน และคิดว่ามันคงจะทำงานหนักจริงๆ จึงไม่มีเวลาในการตอบเมลผม

จริงอยู่ที่ว่าทุกสัปดาห์ผมจะเข้าไปที่ตัวเมือง นอกจากจะเอาของไปส่งให้พ่อแล้ว ผมก็ยังแวะเช็คเมลด้วย แม้ว่าการเปิดเมลทุกครั้งก็ไม่เคยเห็นเมลไอ้ก้องซักครั้งก็ตาม ผมเองก็ยังส่งเมลไปหามัน บอกว่าวันๆ ผมทำอะไรบ้าง แล้วก็คอยถามมันทุกครั้งว่าทำอะไรอยู่ ดูแลตัวเองดีๆ แต่เหมือนว่าเมลนั้นจะไร้ประโยชน์ยังไงไม่รู้สิ ผมคิดว่าอย่างงั้น




รุ่งเช้าของวันที่ไอ้ก้องกลับมา ผมตื่นเช้าเป็นพิเศษ ลงไปทำบุญใส่บาตร แล้วก็จัดการทำความสะอาดห้องซักหน่อย ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ทำไรเลย จนเที่ยงก็อาบน้ำ เตรียมตัวไปสุวรรณภูมิ

ก่อนไปผมโทรหาแม่ไอ้ก้อง แม่บอกว่าเครื่องลงประมาณห้าโมงเย็น ถ้าไม่ดีเลย์

ผมรีบทำธุระจนเสร็จ แล้วก็นั่งรถเมล์ไปสุวรรณภูมิทันที ผมเดินเตร็ดเตร่เล็กน้อยจนแม่ไอ้ก้องมาทักผม ผมจึงนั่งรอกับพ่อแม่ไอ้ก้อง



ไอ้ก้องเดินออกมาจาก gate กับผู้ชายคนที่เหมือนผมจะจำได้ว่าเป็นเพื่อนกับมันก่อนที่มันจะบินไป สองคนนั่นเดินกันมาอย่างสนิทสนม พอไอ้ก้องเห็นแม่มันก็เดินเข้ามากอดพ่อกับแม่กัน หลังจากนั้นมันก็เข้ามาคุยกับผม

“กูมารับมึงน่ะ” – ผมบอกไอ้ก้อง ไม่รู้สิ มันอัดอั้น ดีใจ
“เหรอ ขอบใจนะ”
“เออ ไหนล่ะของฝาก” – ผมแกล้งแหย่มัน
“เดี๋ยววันหลังเอาไปให้ละกันนะ”
“แล้วเป็นไงมั่งล่ะที่นู่น”
“ก็ดี”
“มึงดูอุดมสมบูรณ์ขึ้นนะ”
“ป๊อก ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ” – จากนั้นไอ้ก้องก็ไปบอกกับไอ้ผู้ชายคนนั้น มันพยักหน้ากันแล้วไอ้ก้องก็เดินไปหาแม่มัน
ผมลาพ่อแม่ไอ้ก้อง แล้ว...ก็เดินไปจนลับสายตา



ผู้ชายคนนั้นที่เดินมากับไอ้ก้องเข้ามาคุยกับผม

“นาย นาย เดี๋ยวก่อน” – มันเรียกผม
“อะไรเหรอ”
“นายชื่อป๊อกป่ะ”
“ใช่แล้ว แล้วรู้ได้ไง”
“ก้องเล่าให้ฟัง ว่ามีเพื่อนรักชื่อป๊อก”
“เหรอ” – ผมฟังแล้วก็สะอึกนิดหน่อย เพราะใช้คำว่าเพื่อนรัก “แล้วนายชื่อไรเหรอ”
“แม๊ค”
“อืม ... ขอบใจที่ดูไอ้ก้องให้นะ มันเป็นคุณหนู ทำไรไม่ค่อยเป็น”
“เหรอ ก็เห็นว่าทำอะไรได้ตั้งเยอะ ตอนอยู่ที่นู่น”
“เหรอ”
“เอ่อ เราไปก่อนนะ ยินดีที่รู้จักนะป๊อก”
“อืม”

ผมรู้สึกว่าผมเริ่มจะไม่ค่อยถูกชะตากับไอ้คนนี้ซักเท่าไหร่ เพราะจากคำพูดและสายตาที่มันมองผม เหมือนกับว่าไปโกรธผมมาตั้งแต่ชาติไหนมาก่อนอย่างงั้นน่ะ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้



คืนนั้นหลังจากที่ผมทำอะไรเสร็จผมก็โทรหาไอ้ก้อง (อย่าว่ากันนะ ความคิดถึงห้ามกันไม่ได้นี่หว่า...)

“ก้อง กูเอง” – ผมบอกกับปลายสายให้ทราบว่าใครโทรหามัน
“ว่าไงเหรอ” – เสียงปลายทางเรียบๆ
“ทำไรอยู่ล่ะ”
“ก็นั่งเฉยๆ ง่วงๆ เดินทางมาเหนื่อยๆ”
“เหรอ เออ อีกสองวันเปิดเทอมแล้วนะ ไอ้สองตัวนั่นมันถามว่ามึงจะไปรับน้องป่ะ”
“ไม่ไปอ่ะ ขี้เกียจ”
“ปกติมึงไม่พลาดไม่ใช่เหรอ คราวนี้ไปรีสอร์ทหรูด้วยนะมึง”
“เอาเหอะ ไม่อยากว่ะ”
“เออ ไม่อยากก็ไม่เป็นไร”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะ”
“เออก็ได้ บายๆ ฝันดีนะ”
“อืม”
เสียงมันราบเรียบ เหมือนว่ามันเหนื่อย ผมจึงตัดสินใจวางสายจากมัน แต่ก็ไม่ได้บอกมันว่าจะโทรไปหาอีกวันไหน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 22 [29-03-09] สั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 29-03-2009 21:55:30
สรุปมันยังไงนิ

เหอๆๆๆ

พาแฟนใหม่กลับมาด้วยว่างั้นน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 22 [29-03-09] สั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 30-03-2009 06:38:07
น่าเกลียดอ่ะ

ได้หน้าลืมหลัง

 :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 22 [29-03-09] สั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 30-03-2009 13:16:28
ไอ้ก้องๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แค่เพื่อนรักหรอ?

 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 22 [29-03-09] สั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 30-03-2009 22:01:18
^
^
 :z13:
จิ้มเจ๊
เป็นเกียรติอย่างสูงที่มาเจิมนิยายผมคร้าบบ......

น่าเกลียดอ่ะ
ได้หน้าลืมหลัง
ผมว่าไม่ใช่ได้หน้าลืมหลังหรอกคับ ได้หลังลืมหลังมากกว่า

สรุปมันยังไงนิ
เหอๆๆๆ
พาแฟนใหม่กลับมาด้วยว่างั้นน
ดู ๆ กันไปคับ จะว่าแฟนใหม่ หรือยังไง? เอ๊ะ งง!!!

ก้องทำไมทำกะป๊อกอย่างนี้อ่ะ จะร้องไห้แทน รักแรกมันเป็นอะไรที่จะจดจำได้มากที่สุด  ยิ่งรักยิ่งเจ็บจริงๆนะคะเนี่ยยย ว่าแต่เรื่องปัจจุบันนี่จะเลือกใครดีละคะ  ช่วยเลือกให้ไม่ถูกเหมือนกันนะเนี่ยยย
ร้องไห้ได้เลยคับ ส่วนปัจจุบัน ก็ดูๆกันไปคับ (อย่างที่บอกว่า ชีวิตปัจจุบันมาจากชีวิตจริงส่วนหนึ่ง)

ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนาน
อยากรู้เหมือนกันว่าป๊อกจะเลือกใคร 
ยังงัยกัน เงียบๆ หายๆ  น่ากัวน้าคับ  :o12:
รอๆๆ ต่อปายยยย
ก็รอกันต่อไปละกันนะคับ แฮ่ะๆๆ

ประกาศคับ
เรื่องนี้จะจบภายในสัปดาห์นี้นะคับ ส่วนวันไหน รอกันไปนะคับ ขอบอกว่า....(ไม่รู้สิ ยังคิดไม่ออกเลยอ่ะ...)....
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 22 [29-03-09] สั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 31-03-2009 00:17:00
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เกลียดคนที่ทำร้ายกันแบบนี้จังเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 22 [29-03-09] สั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 31-03-2009 13:06:26
เข้ามาบอกว่า...
กฏข้อที่ 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณถูกแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกัน

การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น

ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ    เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ
ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

***ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์
ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย
ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่ห้องอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ***


ต่อไปนี้จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของดิฉันในฐานะโมฯ นะคะ
เพื่อธำรงไว้ซึ่งกฏระเบียบของเล้าฯ  ไม่ได้ทำไปเพราะสาเหตุส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้าใครไม่สบายใจได้การปฏิบัติหน้าของดิฉัน  เชิญตั้งกระทู้เพื่อสอบถามได้ที่ "ห้องพูดคุยทั่วไป" นะคะ
เพราะห้องนั้นเรามีไว้ให้พูดคุย ซักถาม แสดงความคิดเห็น-คิดถึง ต่อกันได้อย่างอิสระ
ผิดจากห้องนี้ซึ่งเป็นห้องนิยายที่เปรียบไปก็คล้ายกับห้องสมุดกลายๆ
ดังนั้นหากต้องการจะพูดคุย-ไต่ถามกันก็เชิญได้ที่ห้องพูดคุยนะคะ
แล้วดิฉันจะได้เรียนชี้แจงเป็นรายบุคคล และถี่ถ้วนนะคะ
หวังว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้อ่าน  แฟนคลับ  นักโพสต์ และนักเขียน นะคะ

เราเตือนคุณแล้วนะคะ
เจ้สอง  กะเทยอาวุโส  อิอิ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 22 [29-03-09] สั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 31-03-2009 21:39:24
^
^
ขอบคุณเจ้สองมากคับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 23 [02-04-09]
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 02-04-2009 11:09:26
23
 :m15:
หลังจากคืนที่มันกลับมา ผมยังไม่ได้โทรไปหาไอ้ก้อง เพราะคิดว่ามันคงจะเหนื่อยกับการเดินทางที่ยาวนาน แล้วก็อีกอย่าง ไม่อยากไปกวนเวลาพักผ่อนมันด้วย ผมจึงตัดสินใจไม่โทรหามันจนถึงวันเปิดเทอม

“เพิ่งมาเหรอมึง สายประจำ” – ไอ้ตั๋งเล่นผมแต่เช้า
“สายไรมึงล่ะ ถ้ามาคณะก็นั่งสาย xx ก็ถึงแล้ว” – ผมยิงมุขไป 1 ดอก เล่นเอามันจุกกันทั้งคู่
“สาดดด......เล่นมุขไม่ขำแต่เช้า”
“แฟนกูมายังวะ” – ผมถาม เผื่อว่ามันสองคนจะเห็นไอ้ก้องมาแล้ว
“ไม่เห็นหัวแม่งแต่เช้าแล้ว นึกว่ามันไปหวี๊ดวิ๊วกับมึง” – ไอ้ตูนเสริม
“.....”

คาบแรกเป็นวิชาภาคคับ เข้าเรียนกันแค่ 18 คนเอง ดังนั้นใครขาดไปอาจารย์ก็จะรู้ทันทีว่าขาดไป เพราะฉะนั้นจึงหายไปไหนไม่ได้เลย
วิชานี้อาจารย์เคี่ยวลากดินเลยคับ ท่าทางเหมือนคุณนายระเบียบ(หลุด) เสื้อผ้าหน้าผมแกแต่งมาซะอย่างจะไปเล่นงิ้วแถวๆ เยาวราชอย่างงั้นแหล่ะ ระหว่างที่แกบ่นๆ ไปแกก็เริ่มเช็คชื่อ เอาแล้ว

“ไอ้ก้องมันลืมป่ะวะว่าเปิดเทอมวันนี้” – ไอ้ตูนหันมาถามผม
“ไม่มั้ง”
“แล้วมึงบอกมันป่ะ”
“มันก็รู้ไม่ใช่เหรอ”

เอาเหอะคับ เมื่อถึงชื่อไอ้ก้อง ก็ไม่มีใครยกมือ สุดท้ายเจ๊แกก็ยื่นคำขาดมาว่า

“คนที่ขาดเรียนวันนี้ ถือว่ากล้ามาก เพราะฉะนั้นฉันจะให้ไปสรุปบทเรียน ตามเอกสารอ้างอิงที่ให้ไว้ในประมวลรายวิชา ฉันถือว่าเขาไม่มีความประสงค์ที่จะเรียนวิชานี้ ถ้าอยากเรียนรู้ด้วยตัวเอง ฉันก็จะให้ทำสรุปบทเรียนส่ง ถ้ามีปัญหา ให้ไปหาฉันเป็นรายกรณีไป”

“ซวยแล้วมึงไอ้ก้อง” – ไอ้ตูนบ่นพึมพำ
“อาจารย์คับ” – ผมรวบรวมความกล้า
“มีอะไรเหรอ”
“คือว่า นายกิตติเขาไม่สบายน่ะคับ”
“เป็นอะไรทราบหรือเปล่า”
“ไข้หวัดคับ”
“เธอติดต่อเขาได้ใช่ไหม”
“ก็.....คับ”
“ครูจะให้เธอไปบอกนายกิตติว่า พรุ่งนี้ให้เอาใบรับรองแพทย์มายืนยันว่าป่วยจริง ไม่ใช่พวกเธอรวมหัวกันช่วยเหลือเขา มิเช่นนั้นเธอจะโดนทำสรุปบทเรียนด้วยอีกคน”
“คับ ขอบคุณคับ”

พักกลางวัน ผมโทรติดต่อไอ้ก้อง แต่มันก็ไม่รับสาย บ่ายก็ยังมีอีก 1 วิชา ไม่รู้ว่าจะเคี่ยวเหมือนเมื่อเช้าอีกหรือเปล่า
“ป๊อก มึงเกือบซวยแล้วป่ะล่ะ” – ไอ้ตูนบอก
“ใครจะรู้วะ ว่าป้าแกจะโหดขนาดนี้”
“รุ่นพี่เขาเตือนกูมา บอกว่าอย่าทำให้เจ๊แกขัดใจ ไม่งั้นแม่งซวย” – ไอ้ตั๋งเสริม
“เออ คราวหลังกูจะระวังตัว”

วิชาในภาคบ่ายไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพียงแต่ว่าจะมีงานที่ค่อนข้างหนัก อาจารย์แกเตรียม plan ตั้งแต่ต้นเทอมแล้วว่าวันไหนเราจะต้องทำอะไรกัน ส่งงานอะไร สอบวันไหน

“แม่ง ปีสามเรียนเยอะว่ะ” – ผมบ่นให้ไอ้สองคนนั่นฟัง
“งานเยอะฉิบ....”
“แล้วเรื่องไอ้ก้องว่าไงวะ” - ไอ้ตูนถาม
“ก็คงต้องโทรหามันให้ได้น่ะ ไม่งั้นกูก็ซวย”
“เออ โชคดีละกัน กูสองคนไปก่อนนะ”
“เออ บาย”

ผมนั่งรถเมล์กลับหอ แต่ไม่รู้ว่าวันนี้ครึ้มใจอะไรนักหนาว่า อยากไปเดินห้างก่อน ก็เลยว่าจะไปเดินสยามคนเดียวซักพัก แล้วค่อยกลับหอดีกว่า

ผมแวะไปที่ร้านที่ผมนั่งประจำ ไปสั่งน้ำปั่นกินเล่น ๆ ระหว่างนั้นก็ดูโน่นนี่ไปในตัว แล้วสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้า คือไอ้ก้องมันเดินจับมือกับไอ้คนที่มากับมัน เมื่อตอนที่ลงเครื่องที่สุวรรณภูมิด้วย

ผมไม่รอช้า เดินเข้าไปหามันทันที
“อ้าวป๊อก” – หน้ามันซีดลงเล็กๆ หลังจากเจอผม “เดี๋ยวเรามานะ” ไอ้ก้องบอกกับคนที่เดินมากับมัน ไอ้นั่นพยักหน้าตอบรับ

“วันนี้เปิดเทอม รู้ป่ะ”
“รู้”
“แล้วทำไมไม่ไปเรียน”
“ตื่นสายน่ะ”
“มึงไปขอใบรับรองแพทย์ด้วย กูบอกว่ามึงเป็นหวัด แล้วก็เอาไปส่งให้อาจารย์ที่สอนการสื่อสารด้วยนะ ไม่งั้นงานมึงหนักแน่ ๆ”
“อืม”
“แล้วก็วิชากราฟฟิกน่ะ อาจารย์เขาสั่งงานมาแล้ว ส่งสัปดาห์หน้า รายละเอียดอยู่นี่ ไปอ่านเอานะ”
“อืม”
“แล้วพรุ่งนี้มึงจะไปเรียนป่ะ”
“ไปแหล่ะ”









....








“ก้อง เลิกกันดีกว่าป่ะ”
“ป๊อก เอ่อ....กู...”
“กูไม่ชอบคนไม่ซื่อ กูไม่ชอบคนที่ลับหลังแล้วมีคนอื่น”
“.............”
“ไม่ใช่ว่าเราไปด้วยกันไม่ได้นะ แต่ในเมื่อมึงมีคนอื่น แล้วกูจะทำไง กูจะอยู่สถานะไหนของมึง” – ผมเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เหมือนว่ามันกำลังจะไหล


“ป๊อก กูยอมรับ กูขอโทษ กูเผลอไป”
“แสดงว่ามึงก็ชอบไอ้นั่นมาตั้งแต่แรก”
“ก็ไม่ใช่อย่างงั้น เราเหงาด้วยกัน ทั้งคู่ แล้วเรา.........ก็....”
“อืม กูเข้าใจ ทีกูเหงากูยังอดทน แต่มึงเหงา มึงไม่ทน”
“กูยอมรับ.........”
“งั้นกูไปก่อนนะ”





“ป๊อก กูขอโทษ”
“มึงไม่ผิดหรอกก้อง ไม่ผิดเลย กูสิผิด ผิดที่รอมึง ขอบคุณที่ทำให้กูตาสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”





ผมเดินออกจากตรงนั้น ผ่านไปยังไอ้แม๊ค ผมจำชื่อมันได้ดี คนนั้นที่มันมาแย่งไอ้ก้องไป ผมไม่รอถามเหตุผล ว่าเพราะอะไร ก็ในเมื่อทุกอย่างมันชัดเจน ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีก

ผมเสียใจ เสียดาย ถ้ารู้อย่างงี๊ว่าจะต้องจบแบบนี้ ผมไม่ตกลงเป็นแฟนมันตั้งแต่แรกหรอก
มันคงเป็นความผิด รักแบบเรา ซักวันนึงก็ต้องเลิกกันอยู่ดี




.
..
...

ผมเดินออกจากสยามไป เดินไปอย่างไม่รู้จุดหมาย ผมไม่รู้ว่าผมควรจะไปไหนดี ผมขึ้นรถเมล์สาย 79 ขนาดว่าจะไปไหนผมยังตอบไม่ได้เลย

“สุดสายคับ” – ผมบอกกระเป๋าไปอย่างงั้น
เส้นทางที่ผมไม่คุ้นเคย รถค่อยๆ เคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ ผ่านสะพานผ่านฟ้า ราชดำเนิน สนามหลวง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ผมจึงตัดสินใจลงที่เชิงสะพานปิ่นเกล้า

ผมเดินจากเชิงสะพานขึ้นไปเรื่อยๆ ลมเย็นดีจังแฮ่ะ ผมคิด สายตามองออกไปยังจุดไกลๆ น่าจะเป็นแสงไฟจากตึกซักแห่ง มีคนหลายคนอยู่เหมือนผม บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็เดินผ่านไปเฉยๆ ผมเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่สูงที่จุด บริเวณกึ่งกลางของสะพาน แล้วผมก็นั่งลง

ภาพในความคิดของผมจากวันแรก ที่เราตกลงเป็นแฟนกัน ทุกกิจกรรมที่เราทำร่วมกัน มันพรั่งพรูเข้ามาในความคิดของผม ตรงหน้าตอนนี้นอกจากแสงไฟจากตึกต่าง ๆ แล้ว ในมโนภาพของผม ตอนนี้มีแต่เหตุการณ์ไอ้ก้องเต็มไปหมด

ผมยืนเกาะบริเวณราวของสะพาน จากนั้นก็จับราวจนแน่น แล้วใช้เท้าถีบตัวเองขึ้นไปนั่งบนขอบของสะพาน






ผมร้องไห้ ตาแดงก่ำ จนไม่มีน้ำตาอีก สิ่งที่ผมคิดได้ตอนนั้นก็คือ...

คืออะไรล่ะ??.. :serius2:..ลุ้นเอานะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 23 [02-04-09]
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 02-04-2009 16:15:13
เง้ยยยยยยยยยยยย

คืออารัยอ่ะ

แงงงง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 23 [02-04-09]
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 02-04-2009 16:43:10
สิ่งที่จะทำคือ "โดดลงไปว่ายน้ำเล่น"   แหะแหะ :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 23 [02-04-09]
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 02-04-2009 17:06:18
 :beat: ก้อง  :z6: แม็ค
เลวพอๆกันทั้งคู่

แล้วสิ่งที่ทำคืออารัยอ่ะ อย่าบอกนะว่า "คิดสั้น" :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 23 [02-04-09]
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 02-04-2009 19:10:38
อะไร ขึ้นอารายได้อ่ะ  คงไม่ใช่ว่าคิดสั้นนะะคะ รอลุ้นๆๆๆ แต่ก้องทำไมมาทำแบบนี้อ่ะ แบบเหงา แต่ก็ไม่ยอมทนอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 24 [04-04-09] ไอ้ก้องจบแล้ว!!! เหลือแต่ปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 04-04-2009 16:31:31
24
“น้องคะ พี่ถามอะไรหน่อยนึงได้ป่ะคะ”
“คับ”
“คือพี่จะไปท่าราชฯ น่ะค่ะ แล้วทีนี้เหมือนว่าพี่จะหลง น้องพอจะบอกทางให้พี่ได้ป่ะคะ”
“บลา....ๆๆๆๆ ” – ผมอธิบายทางที่จะไปท่าราชฯ จากตรงนี้
“ขอบคุณมากๆ นะคะ”
“ไม่เป็นไรคับ”

“เอ่อ อย่าหาว่าพี่ยุ่งเรื่องของน้องนะคะ เมื่อกี๊น้องกำลังจะกระโดดไป”
“กระโดดอะไรคับ”
“ก็น้อง...กำลังจะ...”
“อ่อเปล่าคับ ผมไปนั่งเล่นเฉยๆคับ”
“มีอะไรก็ค่อย ๆ คิดไปนะคะ ยังไงก็ยังมีพ่อกับแม่ที่รักเราอยู่ตลอดนะคะ พี่เข้าใจดีค่ะ”
“อ่า.....คับ”
“พี่ไปก่อนนะคะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“คับ เช่นกัน ขอบคุณพี่ด้วยนะคับที่เตือนผม”

ผู้หญิงคนนั้นเดินจากผมไป จริงด้วย ผมยังมีพี่สาว มีพ่อ มีแม่ ที่ยังรอผมอยู่ ถ้าผมเอาชีวิตมาจบตรงนี้ คนที่เสียใจมากที่สุดไม่ใช่ผม แต่จะเป็นคนที่อยู่ข้างหลัง

ผมเลือกที่จะไม่โทรไปหาที่บ้าน แต่แค่ผมรู้สึกว่า อย่างน้อยเขาก็ยังรักเรา ไม่เปลี่ยนแปลง ผมก็พอใจแล้ว แล้วก็คิดว่า ผมไม่ต้องการอะไรอีก

ผมเดินกลับลงมา นั่งแท็กซี่กลับหอดีกว่า

แม้ว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาโดยที่ไม่มีไอ้ก้องอีกแล้ว แต่ผมต้องทำให้ได้ ผมต้องอยู่คนเดียวให้ได้













 o22
2 เดือนผ่านไป

“ป๊อก”
“อะไรเหรอ” – เสียงผมพูดออกไปอย่างเรียบ ๆ
“กูไม่ได้ตั้งใจ”
“ก้อง ช่างเหอะ ไม่เป็นแฟนกัน ก็เป็นเพื่อนกันได้นี่หว่า”
“กูนึกว่ามึงยังโกรธกู ก็เห็นว่าไม่พูดกับกูเลย”
“ไม่โกรธหรอก ก็แค่อยากกลับหอเร็ว ๆ แล้วอีกอย่าง มึงเองก็ไม่เข้ามาเรียนซักเท่าไหร่ แล้วมึงจะเห็นหน้ากูได้ไงล่ะ”
“เออเนอะ ”
“แล้วลมอะไรพามึงมาที่คณะวันนี้วะ”
“ก็รายงานไงล่ะ ที่ต้องทำด้วยกัน”
“เสือกมาอยากรับผิดชอบอะไรวันนี้วะไอ้ก้อง”
“เอาน่า มาช่วยกันเหอะ”

ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ผมก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แม้ว่ามันจะไม่ใช่ไอ้ก้องที่ผมรัก แต่มันก็เป็นไอ้ก้องเพื่อนรักของผมอยู่ดี ทุกครั้งเวลามีงานกลุ่มหรืออะไรก็ตาม ผมเองก็ไม่ลืมจะใส่ชื่อมันไปทุกครั้ง แม้ว่ามันจะไม่เข้าเรียนก็ตามทีเหอะ นี่คือนโยบายของผม “เพื่อเพื่อน ผมทำได้”

มันก็ทำตัวในฐานะของ "แฟน"ไอ้แม๊คดีนะ ผมว่า เพราะว่าทำทำหน้าที่ของแฟนไม่ขาดตกบกพร่อง ไปรับไปส่ง กินข้าวดูหนัง อะไรที่คนเป็นแฟนเขาทำกัน ไอ้ก้องก็ปฏิบัติไม่เคยขาด แม้ว่ามันจะเสียการเรียนไปบ้าง แต่ว่าในฐานะคนรัก ก็ถือว่าทำตัวดี.........

“แม่งคบนานกว่าตอนคบกับกูอีก” – ผมบ่นเล็ก ๆ ขณะที่ผมกำลังทำงานกลุ่มชิ้นสุดท้าย ก่อนที่จะจบ ปี 4
“ทำไมเหรอ หรือว่ามึงอยากจะ return” - ไอ้ตูนแหย่ผม
“พอเหอะมึง เดี๋ยวกูก็แย่งของดำไปจากมึงมั่งหรอก”
“ดี ๆ กูเบื่อเมียกูละ” – ไอ้ตั๋งแหย่แฟนมัน “ว่าแต่ไอ้ก้อง แม่ง...ไม่มาอีกแล้ว”
“ส่งแฟนล่ะมั้ง” - ผมพูดออกไป
“มาแล้วนู่นน่ะ” – ไอ้ตูนชี้มือไปที่ไอ้ก้อง ในมือถือของกินมาเพียบเหมือนเคย แล้วก็คนที่เดินข้าง ๆ ไอ้ก้อง
ทุกครั้งที่มันเอาไอ้แม๊คมาด้วย ใช่ว่าผมจะทำใจได้ รักครั้งแรกของผม มันก็ย่อมเจ็บเป็นธรรมดา ดังนั้นพอไอ้แม๊คมันมา ผมจึงทำตัวสงบเสงี่ยมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ป๊อก ขรึมอีกนะมึง”
“เออ”
“อ่ะ กิน กูซื้อมาฝาก” – ไอ้ก้องโยนถุงของมันลงกลางวง
“เชี่ยมึง ไม่ใช่ให้อาหารสัตว์ มึงช่วยให้ดีๆหน่อย” – ไอ้ตั๋งด่าไอ้ก้อง
“อ้าวเหรอ กูนึกว่าชุมนุมสวนสัตว์กันซะอีก”
“ป๊อก มึงพูดมั่งก็ได้นะ” – ไอ้ตูนสะกิด เพราะเหมือนมันจะรู้ ว่าทุกครั้งที่แฟนไอ้ก้องมา ผมจะเงียบๆไปทุกครั้ง
“อะไร ไรไร ไรของมึง กูทำงานอยู่ ใช้สมาธิ ไม่เห็นเหรอ” – ผมเฉไฉไปเป็นอย่างอื่น





......
....
...
..
.
พวกเราสี่คนเรียนรอดกันมาได้จนจบ แม้ว่าเกรดเฉลี่ยจะไม่ได้ถือว่าเป็นแนวหน้าของคณะ แต่ก็ถือว่าในสถานที่ที่เรียกว่ามหาวิทยาลัย มันให้อะไรผมมากมาย ความคิด การทำงาน รวมถึงความรัก มันก็ทำให้ผมพร้อมที่จะโตขึ้นเป็นคนที่ดี มีความคิด และตัดสินใจอะไรเองได้บ้าง

หลังจากเรียนจบ ไอ้สองคนนั่นก็ไปตามสภาพของมัน (สืบทอดกิจการจากบรรพบุรุษ) ไอ้ก้องก็เช่นกัน เห็นว่าไอ้แม๊คมันกำลังจะไปนอกอีกแล้ว ก็ดีแล้วแหล่ะ แฟนมันไปได้ดี อย่างน้อยมันก็อาจจะเหมาะสมกว่าการที่จะคบกับผมต่อไป เพราะผมเองก็ไม่มีอะไรที่พร้อมเหมือนกับมัน


บางวันผมก็เหงา ๆ บ้างนะ ก็ไม่มีใครเลยนี่หว่า เพื่อนก็น้อย ผมจึงหมดเวลากับการหางานทำเป็นส่วนใหญ่ และคอยรอรับโทรศัพท์ว่า ที่ไหนจะรับผมเข้าทำงานบ้าง

ชีวิตจริง ๆ ของผมกำลังเริ่มต้นขึ้น...

ปล.
1 ตอนไอ้ก้องจบแล้วนะคับ แล้วต่อจากนี้ ก็จะไปวนที่ตัวอักษรสีดำ ซึ่งเป็นตอนของปัจจุบัน (เเล้วจะเล่าให้งงทำไม?__?)
2 ตอนของปัจจุบัน จะลงให้วันอาทิตย์กลางคืนนะคับ ซึ่งก็จะเป็นตอนจบเช่นกัน
3 อยากให้ป๊อกได้กับใครดีคับ โหวตๆ ดีกว่า 555+  :laugh: ลองดูว่าจะตรงกับที่ผมจะลงหรือเปล่า...
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 24 [04-04-09] ไอ้ก้องจบแล้ว!!! เหลือแต่ปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 04-04-2009 16:41:46
เง้ออออออออออออ

จบแล้ววววว อ๋อ?????

มะอาววววววววววว

นู๋มะยอมมมมมมมมมมมมมมมมมมม   o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 24 [04-04-09] ไอ้ก้องจบแล้ว!!! เหลือแต่ปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 04-04-2009 16:43:17
โหวตให้ใครดีล่ะ


ป๊อกชอบใครกะเลือกคนนั้นล๊ะกัน  :really2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 24 [04-04-09] ไอ้ก้องจบแล้ว!!! เหลือแต่ปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 04-04-2009 16:49:25
เง้ออออออออออออ
จบแล้ววววว อ๋อ?????
มะอาววววววววววว
นู๋มะยอมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เอาเหอะคับ เดี๋ยวเรื่องใหม่ผมก็ออกแล้ว นานนานไปจะเบื่อไอ้ป๊อกไปก่อน

โหวตให้ใครดีล่ะ
ป๊อกชอบใครกะเลือกคนนั้นล๊ะกัน

ลองเดาดูดิคับ ว่าป๊อกจะเลือกใคร แต่ว่า.... (ไม่บอกดีกว่า...) เดาเล่นๆได้คัีบ ไม่ซีเรียสอะไรมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 24 [04-04-09] ไอ้ก้องจบแล้ว!!! เหลือแต่ปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 04-04-2009 16:58:12
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
จะได้อ่านพาร์ทปัจจุบันสักทีแล้วดีใจอย่างแรง แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ อิๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 24 [04-04-09] ไอ้ก้องจบแล้ว!!! เหลือแต่ปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 04-04-2009 20:07:54
รอ ๆๆ หาคนใหม่ เลยค้าบบบ     :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 24 [04-04-09] ไอ้ก้องจบแล้ว!!! เหลือแต่ปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 04-04-2009 20:52:40
ง่ะ  ไม่รู้จะเลือกใครดีอ่ะคะ แบบอยากให้ป๊อกเก็บเค้าไว้ทั้งสองคนเลย หุหุหุหุ โลภน่าดูเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 25 [05-04-09] จบ-->ตอนหน้านะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 05-04-2009 21:25:42
25
 :try2:
เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก แต่ทำไมตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรเกี่ยวกับความรัก ผมสับสนไปหมด ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมาผมไม่รู้จะทำตัวยังไง เมื่ออยู่ต่อหน้าคนทั้งสอง จนกระทั่งวันหนึ่ง

“ป๊อก วันนี้ว่างป่ะ” – พี่ก๊อกบอกผมขณะที่เราสองคนกำลังนั่งรถไปทำงาน
“ว่างแหล่ะคับ มีไรหรือเปล่า”
“ก็ว่าจะไปดูหนัง กินข้าวอ่ะ กลัวว่าป๊อกไม่ว่าง”
“ก็ว่างนะคับ แต่ว่า มันจะดึกไปหรือเปล่า”
“วันนี้ออกมาเร็วๆ ได้ป่ะล่ะ”
“เดี๋ยวยังไงผมจะแอบๆออกมานะคับ”

อย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี๊เลยนะคับ คือผมแอบสังเกตพี่ก๊อก แกต้องมีอะไรบางอย่าง ดูแกหลบๆ สายตาผมยังไงไม่รู้ ผมจึงตัดสินใจถามไปตรงๆ ว่า

“พี่เป็นไรป่ะคับ วันนี้ดูแปลกๆ ชอบกล”
“ยังไงล่ะคับ”
“ช่างเหอะ ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้”
“เหรอคับ แฮ่ะๆ” – พี่ก๊อกเกาหัวตัวเอง หัวเราะไป อย่างกับเด็กๆเลย

วันนี้ทั้งวันผมนั่งรอเวลา งานการไม่เป็นอันทำ พี่ตอยก็ไม่อยู่ วันนี้ admin ประชุมกันทั้งวัน ในห้องเหลือแค่ผม พี่ต้อม แล้วก็สาวสวยประจำ admin อีกคน วันนี้จึงเป็นวันที่สบายๆ

ผมเลือกเคลียร์งานที่มันค้าง ซึ่งก็มีอยู่น้อยนิด พี่ต้อมแกขยัน แกช่วยไปเกือบหมดแล้ว เท่ากับว่า วันนี้ผมมานั่งเล่น
“เอ่อ วันนี้แต่งตัวสวยเนอะ” – ผมทักทาย admin สาวสวย
“แหมๆ น้องป๊อก ปากหวานเนอะ”
“ก็เรื่องจริงนี่คับป้า”
“ป้าเป้ออะไรกัน ฉันเพิ่งจะสามสิบ”
“นั่นแหล่ะป้า แกแล้ว แต่เอาเหอะ แต่งอย่างงี๊ก็ดูลดอายุตัวเองไปหลายอยู่”
“ลดอายุลง แล้วจะจีบป่ะล่ะค้า.....” – แล้วเจ๊แกก็เข้ามากระแซะ
“ป้าอย่านะ ผมมีพระประจำตัว”
“มีเจ้าของแล้วเหรอจ๊ะป๊อก” – ป้าแกถามอย่างตรงประเด็น จนพี่ต้อมหันมามอง
“เอ่อ....ก็........เหมือนจะมีแล้วน่ะคับ” – พี่ต้อมจากที่กำลังทำงานก็หยุดทำงาน แล้วก็หันมา
“ว้า อย่างงี๊เจ๊ก็อดอ่ะซิ”
“มั้งคับ” – พี่ต้อมก็หันกลับไปทำงานของแกต่อไป
“ว่างๆ ก็พามาแนะนำเจ๊ได้นะ บอกว่าเป็นพี่สาวก็ได้”
“อ่ะคับ แล้วผมจะพามานะคับ”

แล้วสาวสวยก็กลับโต๊ะไป แต่งหน้า ทำผม อะไรมันจะสบายเท่านี้ไม่มีอีกแล้ว


ผมเปิดคอมเล่นเกมส์ เล่นไปได้ซักพักพี่ต้อมก็เข้ามาคุยด้วย
“ใครเป็นเจ้าของเหรอ”
“เจ้าของอะไรคับ งง”
“ที่พี่ข้างหน้าเขามาถามน่ะ”
“พี่อยากรู้ป่ะคับ”
“....................”
“วันที่ 14 กุมภา ผมจะบอกนะคับว่าใคร”
“กำ มีงี๊ด้วย”
“อีกสองวันเองพี่ แหม เอาน่า....อย่าคิดมาก”
“สองเดือนยังรอมาแล้ว สองวันจะเป็นไรไป พี่รอได้คับ”
“คับ.............” – รู้สึกเหมือนว่า ไปจุดฉนวนให้พี่แกน้อยใจยังไงไม่รู้



การทำงานของเราสองคนก็เป็นไปอย่างปกติ เห็นว่าพี่ต้อมแกยังไม่ลดละที่จะออกงานในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ไม่รู้เพราะเหตุผลอะไร ผมเองถึงแม้จะสนิทกัน แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามไปตรงๆ ว่าจะออกเพราะอะไร เพราะจากที่ประชุมวันนั้น พี่ตอยแกก็ถามผมอยู่ตลอดว่าพี่ต้อมแกจะเอายังไง ผมเองก็ไม่ได้บอกพี่ตอยกลับไปว่า ผมเองก็ยังไม่เคยถามเขาซักครั้ง

.
.
.
บ่ายสามโมง ก็มีโทรศัพท์จากพี่ก๊อกมา บอกว่าสี่โมงให้ไปหาพี่แกที่ร้านด้วย ผมจึงตัดสินใจที่จะออกไปหาแกตั้งแต่ตอนนี้เลย โดยที่ไม่ได้บอกให้รู้ว่าผมจะไปล่วงหน้า

ผมลาพี่ๆ (พี่ต้อมกับป้าคนนั้นแหล่ะ) บอกว่าผมไปธุระ พี่แกก็ไม่ได้ว่าอะไร จากนั้นก็เดินไปหาพี่ก๊อกที่ร้าน

หลังจากที่ผมผลักประตูเพื่อเข้าไปในร้าน สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้า คือพี่ก๊อกกำลัง....นั่งกอดกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ดูจากหน้าตาก็บอกได้ว่าอายุมากกว่าพี่ก๊อกแน่ๆ

ผมจึงตัดสินใจที่จะเดินออกมาทันที โดยไม่ฟังคำอธิบายอื่นใดทั้งสิ้น
“ป๊อก เดี๋ยว รอพี่ด้วย” – พี่ก๊อกวิ่งตามผมมา
“คับ มีอะไรเหรอคับ” – ผมหยุดรอ เผื่อว่าจะมีเหตุผลอะไร
“พี่อธิบายได้นะ”
“คับ ว่ามาเลยคับ”
“คือเขาเป็นลูกค้าของพี่น่ะ”
“คับ”
“เขามาให้พี่ช่วยแปลเอกสารให้เขา เขาจะทำ thesis ส่ง แต่เขียนไม่ได้”
“คับ”
“ก็เลยมาให้พี่ช่วยแปล”
“คับ”
“พอดีพี่บอกเขาไปว่าวันนี้พี่ไม่ว่าง เขาก็ยืนยันว่าจะมาหาพี่”
“คับ”
“แล้วก็อย่างที่ป๊อกเห็น”
“ลูกค้าประจำของพี่เหรอคับ” – ผมถามกลับไปบ้าง
“คับ ก็ปีกว่า ๆ แล้ว แกจะทำ thesis ส่ง ก็เลยให้พี่ช่วยเขียน”
“รายได้ดีป่ะคับ”
“ก็อัตราปกติที่พี่คิดกับคนทั่วไปแหล่ะ ทำไมเหรอป๊อก”
“ผมว่าเงินเขาคงหนาเหมือนกันนะคับ ไม่งั้นพี่คงไม่ให้เขานั่งกอดพี่หรอก”
“พี่ไม่ได้ทำเพื่อเงินนะป๊อก”
“แล้วพี่ทำเพื่ออะไรล่ะ ให้เขากอดอยู่ได้”

.
..
“พี่ว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วแหล่ะ”
“ผมรู้เรื่องคับพี่ พี่อยากคุยอะไรกับผมอีกหรือเปล่า”
“พี่บริสุทธิ์ใจนะ พี่ไม่คิดอะไรกับเขาจริงๆ”
“คับ”
“แล้วเรื่องของวันนี้....”
“ผมขอตัวกลับบ้านนะคับ ขอโทษด้วย ขอโทษอีกครั้งที่ผมมาขัดเวลาของพี่”
“...........”
“พี่อย่าคิดมากนะคับ ไม่ใช่ความผิดของพี่หรอกคับ”




ผมเดินออกจากตรงนั้น มานั่งที่ป้ายรถเมล์ ผมจะกลับหอแล้ว ในใจผมรู้สึกโหวงๆ ชอบกล เสียใจหรือไม่ ก็เสียใจนะ คนเคยชอบ แล้วมาทำกับเราอย่างงี๊ ไม่รู้ว่าตอนนี้แค่นี้ แต่ลับหลังเราอีกล่ะ พี่ก๊อกแกเป็นคนที่มีเสน่ห์ ก็ไม่แปลกหรอกว่าจะมีใครมาชอบแกเยอะแยะ แล้วแกก็ชอบใครไปก็เยอะแยะ แกอาจจะบอกรักกับใครต่อใครก็ได้นับไม่ถ้วน ผมเองอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นที่ถูกพี่แกปั่นหัวเล่น

ถ้าผมไม่เดินไปหาแก ผมอาจจะโง่ต่อไปก็ได้ วันนี้ก็ได้รู้อะไรซักที คนเจ้าชู้ผมไม่ชอบคับ
“ป๊อกมานั่งทำไรล่ะ ไหนว่ากลับบ้านไปแล้วไง”
“อ้าวพี่ต้อม เลิกงานเหรอคับ”
“ก็ห้าโมงแล้วนี่คับ” - พี่แกชูนาฬิกาให้ผมดู
“อ้าว.........เหรอ”
“แล้วทำไมไม่กลับบ้านอีกล่ะ”
“ก็กำลังจะกลับแล้วคับ แล้วพี่อ่ะ”
“กำลังจะกลับเหมือนกัน”
“ผมขอกลับกับพี่ได้ป่ะคับ”
“เอาสิคับ แต่ว่าไม่อ้อมเหรอ”
“ช่างเหอะคับ”

รถเมล์ปรับอากาศสีส้มเข้าป้ายมา พี่ต้อมกับผมเลือกที่นั่งที่เกือบหลังสุด รถสายนั้นว่างมาก ผมจึงรู้สึกเหมือนได้อยู่กับพี่ต้อมตามลำพังแค่ 2 คน

“ป๊อกมีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังป่ะ”
“มีอะไรล่ะคับ”
“เรื่องวันนี้น่ะ”
“วันนี้มีอะไรเหรอคับ”
“ช่างเหอะป๊อก ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าป๊อกอยากเล่า พี่รับฟังป๊อกนะ”























“ผมชอบพี่คับ” – ผมพูดโดยไม่มองหน้าพี่ต้อม เขิลนี่หว่า
“อะไรนะป๊อก”
“ผมชอบพี่คับ” – ผมหันไปบอกพี่อย่างจริงจัง พี่ต้อมยิ้มเล็กน้อยแล้วก็บอกผมว่า
“ขอบคุณมากคับ พี่ก็ชอบป๊อก ชอบมานานแล้ว ตั้งแต่เราเจอกันแรกๆ ขอบคุณนะคับป๊อก

ปล. ตอนหน้าเป็นตอนจบนะคับ ไม่รู้ว่า...การเลือกพี่ต้อม...จะ..เอ่อ คือไงดีล่ะ มันแบบว่า ... ไม่รู้ดิ เขิลอ่ะคับ   :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 25 [05-04-09] จบ-->ตอนหน้านะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 06-04-2009 05:22:48
 o13 o13 o13
อย่าอายไป เรื่องของความรักไม่มีอะไรมาบดบังได้นอกจากความกลัว
แล้วจะรออ่านตอนจบของเรื่องที่เขียน แต่เรื่องจริงยังคงมีต่อไป อิๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 25 [05-04-09] จบ-->ตอนหน้านะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 06-04-2009 05:43:22
ไม่รู้ว่าป๊อกเลือกพี่ต้อมเพราะ เรื่องพี่ก๊อกมาเป้นปัจจัยด้วยรึเปล่าคะเนี่ยยย

แต่ใจจริงก็แอบเชียร์พี่ต้อม เอิ๊กกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนที่ 25 [05-04-09] จบ-->ตอนหน้านะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 06-04-2009 09:38:44
 o13

ในที่สุดก็เลือกพี่ต้อม

อยากรู้จังว่าตอนหน้าจะเป็นอย่างไร รีบมาต่อนะครับ  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วัน&#
เริ่มหัวข้อโดย: pickki_a ที่ 09-04-2009 11:27:50
ตอนจบ
 :m3:
ไม่รู้ว่าผมพูดอะไรออกไป แต่รู้แค่ว่า ผมรู้สึกโล่งใจแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะโล่งใจ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลง เพราะผมต้องตอบคำถามให้กับตัวเองหลายคำถาม แม้ผมจะคิดว่าผมได้เลือกพี่ต้อมแล้ว แต่ว่า....

ผมยังเสียดายพี่ก๊อก
“ใช่ เสียดาย”

เสียใจหรือเปล่าที่พี่ก๊อกทำกับผมแบบนี้
“ใช่ เสียใจ เสียใจมากเลยด้วย”

ถ้าเทียบกับที่ไอ้ก้องมันทำกับผมล่ะ
“ไม่ได้ครึ่งของไอ้ก้องหรอก ผมเสียใจจากไอ้ก้องมามาก เรื่องแค่นี้ จิ๊บๆ”

แล้วไอ้ก้องกลับมาหาวันนั้นล่ะ
“อุตส่าห์เป็นเพื่อนกันแล้ว มันจะกลับมาคบกันอีกทำไม ผมไม่ต้องการ”

แต่ไอ้ก้อง รักแรก ของผมเลยนะ
“ใช่ แล้วไงล่ะ รักแรก แต่มันก้ผ่านมานานแล้วนี่นา”

หลงประเดนแล้วมึง ตอนนี้ให้เลือกแค่สองคน พี่ก๊อกกับพี่ต้อม
“เลือกพี่ต้อมไปแล้วนี่”

พี่ก๊อกล่ะ เขาอาจไม่ตั้งใจก็ได้
“มันก็อาจจะจริง พี่ก๊อกแกอาจจะไม่ตั้งใจ แต่ถ้าวันนี้ผมปล่อยไป วันพรุ่งนี้ มะรืน วันอื่นๆล่ะ ผมชอบคนจริงใจ ไม่โกหก”

แกก็ยังไม่รู้จักพี่ต้อมจริงๆ ซักหน่อย
“ก็ถูก ผมยังไม่รู้จักพี่ต้อมในฐานะคนรัก เขาจะทำตัวดีหรือเปล่าผมเองก็ไม่รู้ พี่แกอาจจะมีคนอื่นเป็นสิบยิ่งกว่าพี่ก๊อกก็ได้”

สมมุติว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในวันอื่น แต่เป็นกับพี่ต้อมล่ะ
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันคับ”

แสดงว่าแกเองชอบพี่ต้อมอยู่แล้ว
“ใช่ไง”

สรุปสุดท้าย ผมเลือกพี่ต้อม ใช่หรือไม่








ผมยืนยันความคิดของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ผมเลือกคนที่ซื่อสัตย์กับผม และผมเองก็รักเขา พี่ต้อมนั่นแหล่ะคือคนคนนั้น
โทรศัพท์ดังขึ้น เบอร์พี่ต้อมนั่นแหล่ะ

“ทำไรอยู่ ป๊อก”
“อ่ะ.....นั่งเฉยๆ คับ พี่ล่ะทำไรคับ”
“คุยโทรศัพท์คับ”
“มุขเหรอนั่น อารมณ์ดีเหมือนกันนะเนี๊ย นึกว่าวันๆเอาแต่ขรึม”
“ก็....นะ”
“ผมมีเรื่องจะถามพี่แหล่ะคับ”
“อ่ะคับ”
“พี่จะออกงานทำไม”
“ใครบอกป๊อกมา”
“ช่างเหอะพี่ ผมรู้แล้วกัน ตอบคำถามผมมาก่อน”
“ไม่ออกแล้วคับ”
“เอ๊ะยังไง”
“ตอนแรกพี่จะออกไปทำงานที่ต่างจังหวัดน่ะคับ แต่พอดีพี่บอกไปว่าไม่ไปแล้ว”
“คับ”
“ป๊อกถามทำไม”
“กลัวว่าพี่จะไป....แล้วผม.......”
“พี่ไม่ไปแล้วคับ พี่จะอยู่ที่นี่กับป๊อกไงคับ”
“พี่คับ บางที ผมอาจจะทำหน้าที่ของ.....เอ่อ......แฟนกัน ไม่ดีนะคับ”
“คับ พี่เข้าใจ แต่ให้มันค่อยๆเป็นไปดีกว่า เพราะ.......พี่เอง ก็........เอ่อ.........ไม่เคยมีแฟน”
........................
................................
.....................................
“ทำไมพี่ถึงชอบผมล่ะคับ”
“แล้วทำไมป๊อกชอบพี่ล่ะ”
“ไม่รู้สิพี่ ก็ผมชอบ”
“ก็เหมือนกันแหล่ะ ก็พี่ชอบป๊อก ชอบตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่กลัวป๊อกจะไม่ชอบ ก็เลย..........”
“เลยจะลาออก”
“.............”
“จริงด้วย ว่าแล้วแหล่ะ”
“อะไรป๊อก งง”
“ก็ที่พี่จะออก มันอาจเป็นเพราะ .... ผม”
“ไม่เกี่ยวกับป๊อกเลยนะ”
“ช่างเหอะพี่ เอาเป็นว่า ตอนนี้พี่จะไม่ออกแล้วใช่ป่ะ”
“คับ”




“แล้ววันนี้ออกไปไหนมา บอกพี่ได้ป่ะ”
“ก็.......ไปหาความจริงมาคับ”
“ยังไง”
“ช่างมันเหอะคับ เป็นว่า ผมได้ความจริงมาแล้ว”
“ไม่เป็นไรคับ แต่วันหลังออกไปไหนบอกพี่ด้วยนะ แบบว่า.......ห่วง”
“อ่ะคับ”


“ป๊อก พรุ่งนี้ต้องไป audit งานข้างนอกใช่ป่ะ”
“ก็...ใช่คับ แต่ว่าจะเข้า office ก่อนนะ แล้ว 10 โมงค่อยออก”
“พี่ได้ด้วยได้ป่ะ”
“ไปดิคับ”
“ป๊อกเตรียมเอกสารแล้วใช่ป่ะ”
“ก็...ยังเลยคับ เดี๋ยวว่าจะเตรียมคืนนี้”
“งั้นไม่กวนนะคับ นอนเหอะ ตื่นเช้าๆนะ”
“คับ ขอบคุณคับ เช่นกันนะพี่ ฝันดีคับ”

ความรักครั้งใหม่ของผม กำลังจะเริ่มต้นขึ้น วันนี้ ผมเลือกคนนี้ คนที่อยู่ข้างๆ ผมตลอดเวลา ไม่รุ้ว่าอะไรทำให้ผมเชื่อมั่นว่าคนคนนี้จะอยุ่กับผมตลอดไป แต่ผมมั่นใจว่าคนคนนี้จะทำให้ผมมีความสุข

วันวุ่นๆ ของผมกำลังผ่านพ้นไป เมื่อทุกอย่างในชีวิตกำลังลงตัว แต่ก็ไม่แน่ อนาคตข้างหน้าจะวุ่นกว่านี้อีกก็ได้ 

------------------จบแล้ว----------------------

แต่เรื่องจริงๆ ของผม กับคนคนนี้ กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ไว้จะเอามาเป็นเรื่องสั้นในนี้นะคับ ถ้ามีเวลา(แต่ง)
ขอบคุณทุกๆ reply นะคับ
ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งคับ   :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 09-04-2009 11:39:06
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง    :sad4: :sad4: :sad4:

อยากอ่านต่ออ ......   :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

แล้วกลับมาเร็วๆน้าาา

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 09-04-2009 11:57:22
เน๊อะ  เลือกคนที่รักเรา  ดีกว่าคนที่เราไปหลงเค้าล่ะนะ  o13

ยินดีคร้าบบ  ขอให้มีความ สุข  จบได้ดีทีเดียว หักมุมนิดๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 09-04-2009 12:03:30
อ๊ะ จบแล้ว ยินดีด้วยค่ะ  เป็นกำลังใจให้กับชีวิตจริงที่คสามรักกำลังจะเริ่มต้นขึ้นนะคะ สู้ๆค่ะ  เดี๋ยวจะรออ่านตอนพิเศษ หุหุหุ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 09-04-2009 15:15:22
จบแบบเหยียบเบรค กระทันหัน

 o22

รออ่านเรื่องต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 09-04-2009 16:31:12
+1 ให้กับเรื่องราวดีๆนี้นะครับเรื่องราวชีวิต ของพี่ให้ข้อคิดดี
แล้วจะรออ่านตอนพิเศษน๊า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: bamboo_boy ที่ 09-04-2009 21:13:26
จบเเล้ว หรอ คร้าบบบบบบบบ
..
..
อยากอ่าน อีก คร้าบบ
มาต่อ อีกน่ะคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 03-05-2009 22:09:26
แอร๊ยย์ ป้าห่างหายไปเดือนเดียวมาเจออีกทีจบแล้ว แอบต้องย้อนไปอ่านตอนก่อนๆฟื้นความจำ ว่าแต่ยินดีกับพี่ต้อมที่เป็นคนที่ถูกเลือก หวังว่าคราวนี้คงเป็นคนดี ไม่ทำให้ป๊อกเจ็บปวดเหมือนที่ก้องกับก๊อกเคยทำนะ (ว่าแต่ทำไมสองคนนี้ต้องชื่อขึ้นต้นด้วย ก. ละเนี่ย -.-a )

รออ่านเรื่องสั้นอัพเดตหลังชีวิตเป็นสีชมพูกับพี่ต้อมนะจ๊ะ หุหุ  :haun5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: anawas ที่ 04-05-2009 00:03:56
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
จะรอติดตามเรื่องต่อไป
            :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ : ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: arty136 ที่ 04-05-2009 01:47:24
ทำใจได้ไงครับ
รักครั้งแรกยังไงก็ยังจำไปจนวันตายอ่ะครับ
บอกผมหน่อยยย
 :call:
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: lastlover ที่ 22-05-2011 00:11:16
ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องราวดีๆที่มาเล่าสู่กันฟัง ถือว่าเป็นประสบการณืชีวิตที่ดีอย่างหนึ่งเลยค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 03-06-2011 20:53:26
ประสบการณ์คือเครื่องเตือนใจเรา ของให้เริ่มต้นใหม่อย่างมีความสุขค่ะ
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: spok1234 ที่ 03-06-2011 23:57:47
เพิ่ง ได้ เข้า มา อ่าน

สนุก มาก ครับ เนื้อ เรื่อง ของ คน กรุง เทพ

รัก มาก เจ็บ มาก

ต้อง เผื่อ ใจ ไว้ เสมอ ๆ
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 04-06-2011 08:47:55
กับรักแรกนี้นับถือจริงๆเลยค่ะ
ที่ผ่านมาได้ที่ต้องทนเห็นเค้าอยู่ด้วยกัน
กับรักครั้งใหม่ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 04-06-2011 12:14:38
อ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรดีๆกลับมา
ส่วนเรื่องรักแรกกับก้องนี่บอกตามตรง
ว่าไม่ชอบเลยผู้ชายแบบก้อง ส่วนรักครั้งใหม่
ก็ขอให้รักน้อยๆแต่รักกันนานๆอยู่กันด้วยความเข้าใจ
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: jj-pits ที่ 15-05-2012 02:47:01
เรื่องนี้แอบโหดร้ายกับชีวิตอีกแระ

เกลียดอีก้อง เป็นคนมาบอกรักเค้าก่อนแล้วทำยังงี้ได้งายยยยยยย  :m31:

ตายซะเถอะเมิง ย๊าาากกกกกกกก  :z6:

-------------------------------------------

หวังว่าพี่ต้อมจะเป็นคนดีจริงๆ นะ


ปล. ไม่ค่อยคุ้นชินกับการที่ฝ่ายรับมาจีบตัวเอกก่อน ตอนแรกนึกว่าก้องเป็นฝ่ายรุก
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 15-05-2012 19:26:34
 :call:
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 03-08-2012 16:41:38
เวลามันทำให้มีคำตอบดีๆๆ เสมอๆๆ
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 05-08-2012 00:42:52
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมาก ^^
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: devilkin ที่ 10-05-2014 12:20:18
ขอบคุณครับ  o13
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 14-11-2014 14:49:39
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 24-06-2017 18:53:06
 :mew1:
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Evangeline ที่ 17-12-2018 10:46:08
เออเนาะสมัยนั้นนสพมี 2 ส่วนอ่ะ นี่ชอบอ่านเรื่องบันเทิงก็จะอ่านแต่ส่วนแรก


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Evangeline ที่ 17-12-2018 20:56:14
เป็นครั้งแรกที่อ่านนิยายแล้วไม่ลุ้นว่าใครจะลงเอยกับใคร แต่สนใจว่าจขรจะลงเอยกับใคร 555


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: วันวุ่น ๆ ในกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Evangeline ที่ 17-12-2018 21:03:17
ป๊อกน่าสงสารอ่ะ มีแต่คนมาทำให้รักแล้วก็ทำให้เสียใจทีหลัง ก้อง ก๊อก คือ 2 ราย แต่ต่างสถานะกัน ส่วนต้อม...ไม่รู้สิ


Sent from my iPhone using Tapatalk