พิมพ์หน้านี้ - สีสันแห่งฤุดูกาล ღ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: lavague ที่ 12-10-2019 20:25:49

หัวข้อ: สีสันแห่งฤุดูกาล ღ
เริ่มหัวข้อโดย: lavague ที่ 12-10-2019 20:25:49
               " ดิน ปีใหม่นี้ปิ้กบ้านก่อลูก "
          เสียงตามสายผ่านมาทางโทรศัพท์จากบนดอยถึงกรุงเทพฯ หอบความคิดถึงและอดีตให้หวนคืนสู่ห้วงความคิด
          ของชายหนุ่มที่จากบ้านมาไกล                   
               "ถ้าดินกลับไปแล้ว แม่จะทำกับข้าวต้อนรับดินมั้ยครับ"
          เสียงกรั้วหัวเราะอารมณ์ดีตอบกลับไปสู่คนเป็นแม่ กว่า 4 ปีมาแล้วที่ลูกชายคนเดียวของเขาขะมักเขม้นเรียนหนังสือ
          อยู่ในเมืองกรุง จะได้เจอบ้างก็แค่ครั้งคราว พิมภาเองก็เสียดายอยู่เหมือนกันที่ไม่ได้เห็นช่วงชีวิตของลูกชายเพียงคน
          เดียวในวัยหนุ่มอย่างเต็มที่แบบที่ควรจะเป็น
               "ดูพูดเข้าสิ  ลูกแม่โตแค่ไหนแล้วนะปีนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย หรือที่ไม่ยอมกลับมาเพราะแอบซุกใครไว้ที่เมืองกรุง"
          เธอแกล้งเย้าลูกชายเล่นไปอย่างนั้น ทั้งที่ในใจรู้ดีว่าดินไม่มีทางจะซุกใครเอาไว้ได้
               "โถ่แม่ จะซุกใครหละครับ ที่เมืองกรุงไม่มีใครสวยสู้คุณพิมภาได้สักคน"
          บทสนทนายืดยาวตามความคิดถึงระหว่างแม่กับลูก เป็นอันได้ความว่าดินจะกลับบ้านในช่วงปีใหม่นี้
          หลักจากส่ง thesis เสร็จ แต่เรื่องจะกลับมาอยู่บ้านถาวรเลยหรือเปล่านั้นคงต้องให้เจ้าตัวเป็นคนตัดสินใจ
                 // ผ่านลมฝนมา สู่ลมหนาวเรื่อวราวเก่าๆ //     
          จากตัวเมืองน่านเข้าสู่อำเภอเวียงสา ไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ดินไม่ได้สนใจเรื่องระยะเวลามานานมากแล้ว
          เพราะสำหรับเขาการให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตายตัวมากเกินไปไม่ส่งผลดีอะไรกับตัวเอง
          ดินจากบ้านมาถึง 4 ปี เขาผ่านการปรับตัว มีเพื่อนใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ การใช้ชีวิตใหม่ แต่สิ่งพวกนั้นมันก็เป็นเพียง
          แค่ช่วงชีวิตหนึ่งที่จะผ่านไป
          ปีนี้เขาอายุ 21 เก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง แต่ยังก็ไม่มากพอ สำหรับอะไรนะหรอ ก็สำหรับเผื่อใครอีกคนมาอยู่ด้วยกันละมั้ง . . .
                "คุณดิน กลับมาแล้วหรือคะ!"
          เสียงของหญิงวัยชราดังขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจอย่างปิดไม่มิด
                "ป้าภาสวัสดีครับ คิดถึงจังเลย"
          ดินเองก็ดีใจไม่ต่าง ป้าภาเป็นแม่นมของเขาในตองเด็ก จนกระทั่งเขาไปเรียนต่อในกรุงเทพฯนั่นแหละ แกคงจะเหงา
          เหมือนกัน ขนาดเขาเองยังคิดถึง.....หญิงวัยชราเดินเข้ามาสวมกอดยังจำภาพเด็กตัวเล็กที่เธอเคยดูแล ผ่านไปเพียง 4
          ปี กลับโตขึ้นเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีถึงเพียงนี้
                "ดิน กลับมาแล้วหรือลูก แม่คิดถึงจังเลย มาๆ มากินข้าวกินปลาก่อนลูก แม่กับป้าภาทำของโปรดลูกไว้ต้อนรับทั้งนั้นเลย"
          สิ่งเหล่านี้ทำให้ดินรู้ว่าไม่มีที่ไหนอบอุ่นไปกว่าบ้านของเขา มีทุกคนที่รักและพร้อมเข้าใจ โอบกอดกันโดยที่ไม่มีข้อแม้
          เขาโชคดีที่สุดที่มีครอบครัวดี
// แล้วคนในเมื่อวาน คนๆนั้นเขาเปลี่ยนไป . . . . หรือยังคงเดิม //
          ดินเป็นบุคคลที่เก่งไปซะทุกอย่าง เขาชอบการเอาชนะ แต่ไม่ถึงขั้นเสพติด เขายอมรับได้หากจะแพ้ และยอมรับในการ
          เรียนรู้สิ่งใหม่ แต่ก็อย่างว่า สำหรับบางเรื่องเขาก็ดันกลายเป็นไอ้ขี้แพ้ไม่เลิก ดินเดินมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่
          ห่างจากบ้านเขามากเท่าไหร่นัก เป็นบ้านที่เขาจำได้ขึ้นใจยิ่งกว่าบ้านตัวเอง เพราะเป็นบ้านที่มีหัวใจของเขาอยู่ในนั้น
                "สวัสดีครับ มาหาใครครับ"
          เขาตัดสินใจอยู่นานว่าควรจะมาที่นี่อีกไหม หรือว่าควรหายไปตลอดกาล เขากลัวไม่ได้รับการให้อภัย หรือที่ร้ายแรงที่สุด
          คือการลืมเลือนเรื่องสัญญา ถึงจะเป็นตอนที่ยังเด็ก แต่ก็โตพอที่จะจำได้ดีว่าความรู้สึกอยากจะทำเพื่อใครสักคน
          เป็นยังไง แต่สุดท้ายคุณพิมภาก็บอกกับเขาว่าหมดเวลากลัวแล้ว ไม่อย่างนั้นหัวใจของเขาจะถูกขโมยไปแน่ ความ
          พยายามที่ทำมาตลอดก็จะเหลวเป๋ว เขาจึงเดินมาถึงหน้าบ้านนี้ได้
                "เอิ้นครับ ผมมาหาเอิ้น"
          ดินไม่อยากจะเชื่อเลยว่าระยะเวลาในการรอคอยใครสักคนเดินออกมาจากรั้วบ้าน จะยาวนานกว่า 4 ปีที่ผ่านมา
          ป่านนี้เอิ้นจะเป็นยังไงบ้าง จะตัวโตขึ้นหรือยัง เลิกงอแงลงบ้างหรือเปล่า เขาคิดไปสารพัด จนกระทั่งสายตาได้ไปสบกับ
          ดวงตาอีกคู่ ดวงตาที่เหมือนหยุดความเลวร้ายทั้งหมดบนโลกใบนี้ได้

               "เอิ้น สบายดีมั้ย"
                . . . . .

               "เอิ้น แกจำเราได้หรือเปล่า"

          โถ่ดิน เอิ้นอาจจะจำอะไรเกี่ยวกับแกไม่ได้เลยก็ได้ หรืออาจจะจำได้แค่เลือนลาง สัญญาบ้าบออะไรเอิ้นคงไม่สนใจหรอก
          นี่เป็นสิ่งที่เขาสบถอยู่ในใจ

               "เอ่อ เรา เรา ขอโทษนะ ถ้าแกจำไม่ได้ไม่เป็นไร เรากลับก่อน"
          ดินไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป ก็เขาบอกแล้วว่าเรื่องนี้เขามันเป็นไอ้ขี้แพ้

              " แกจะทิ้งเราไปอีกหรอ คนใจร้าย"

          เสียงเล็กๆนั่นทำให้ดินต้องหันหน้ากลับมาดูอีกคนที่น้ำตาคลอหน่วย เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีความรู้สึกยังไงหรือกำลังคิด
          อะไรอยู่  แต่อย่างน้อยเอิ้นยังไม่ลืมเขา
               " ถ้าแกไปอีกคราวนี้ เราจะไม่สนใจสัญญาของแกแล้วจริงๆด้วย นายดิน!"

          ดินยิ้มออกมาอย่างไม่สามารถปกปิดเอาไว้ได้ เอิ้นน่ารักตั้งแต่เด็กจนโต เอิ้นขี้งอนตั้งแต่เด็กจนโตเหมือนกัน แต่เขาชอบ
          เพราะเอิ้นเป็นแค่กับเขา

               " เรากอดแกได้ไหม "     

               " ที่เรื่องแบบนี้มาขอ ทีตอนจะไปไม่เห็นขอกะ . . . "

              เอิ้นยังไม่ทันพูดจบประโยคดี คนตัวเล็กก็จมอยู่ในอ้อมกอดทั้งน้ำตา สุดท้ายก็โดนดินแกล้งโยกไปโยกมา นายดิน
              ชอบทำให้เขาโมโหอยู่เรื่อย     

               "คิดถึงแกนะ "

               " คนที่ทิ้งกันไป 4 ปี มีสิทธิ์คิดถึงด้วยหรือไง "

               " โถ่คุณครับ ปากร้ายจริง เราก็ไปทำตามสัญญาไง "

" ดิน พ่อกับแม่เราไม่อยู่แล้ว แกจะอยู่กับเรามั้ย "
คำถามในวัยเยาว์ ในวัยที่ถาโถมและยากต่อการจะรับมือของเอิ้น วันที่ต้องเสียพ่อกับแม่ไป
" อยู่สิ เราต้องอยู่กับแกอยู่แล้ว "
ดินตอบคำถามอย่างไม่มีความลังเล เด็กที่ตัวเล็กกว่าเขา หน้าตาหน้ารักจนใครๆพากันแกล้ง
ซึ่งเจ้าตัวไม่มีวันเขาใจว่าการกระทำเหล่านั้นมันหมายความว่าอะไร
แต่มันก็ดีแล้ว ไม่ต้องไปเข้าใจหรอก เอิ้นมีเขาคนเดียวก็พอ เขาเป็นให้เอิ้นได้ทุกอย่าง
" แต่เราไม่เก่ง เราไม่มีอะไรเลย พี่เอิงจะเลี้ยงเรามั้ย "
คำถามชวนเศร้าในวันนั้นทำให้ดินตั้งใจแน่วแน่ว่าถึงอย่างไร เขาก็จะเป็นคนดูแลเอิ้นเอง จนกว่าตลอดชีวิตของเขานั่นแหละ
" พี่เอิงไม่ถึงเอิ้นหรอก ดินก็เหมือนกัน "
" แต่เราก็เป็นเด็กอายุเท่ากันทั้งคู่ แกจะเลี้ยงเราไหวหรอ เรากินเก่งนะ เราดื้อด้วย "
ในความเครียดก็ยังน่ารัก เอิ้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษในหัวใจเขาจริงๆ
" งั้นเอิ้นรอดินได้ไหม ดินอยากอยู่กับเอิ้นไปตลอดนะ "
" รอหรอ นานหรือเปล่า นานแค่ไหน "
" ไม่นานหรอก ไม่นานเกินกว่าความหวังของแก แกรอได้ไหม "
ในตอนนั้นเอิ้นก็ได้แต่รับปากไปส่งๆ ดินอยากให้ทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น
แต่ถ้าเขารู้ เพียงนิดเดียวถ้าเขารู้ เอิ้นจะไม่ยอมตามใจดินเลย
ทำไมดินต้องทำทุกๆอย่าง เรื่องของเราสองคน มันควรพยายามไปด้วยกันไม่ใช่หรือไง
เอิ้นโกรธ โกรธที่ดินต้องแบกรับอยู่ฝ่ายเดียว ดินต้องเหนื่อย ต้องปรับตัว ในขณะที่เขาก็แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ
เขาทำอะไรไม่ได้เลย จะติดต่อดินก็ไม่รู้ว่าจะสร้างภาระเพิ่มหรือเปล่า
ทำไมดินต้องทำเหมือนดินยอมเป็นฝ่ายที่รู้สึกมากกว่า ยอมสูญเสียมากกว่า ทั้งที่เราเท่ากัน เราทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันและกัน

   // แต่เด็กน้อยคนนั้น และต้นไม้ของฉันมันเติบโต . . . //
                และแล้วคืนวันปีใหม่ก็มาถึง ในตอนแรกดินตั้งใจจะชวนเอิ้นไปเคาท์ดาวน์ด้วยกันที่ดอยเสมอดาวเพราะเขาไม่ได้ไป
                นานแล้วและเอิ้นก็น่าจะชอบ แต่เอิ้นกลับบอกกับเขาว่าอยากอยู่บ้าน อยากอยู่ด้วยกันแค่สองคนเหมือนเวลาเด็กๆที่
                ขี้เกียจไปไหนกับพ่อแม่ก็จะขออยู่บ้านด้วยกันเงียบๆดีกว่า
                    " คุณมีแพลนอะไรในการอยู่บ้านในคืนปีใหม่ครับคุณเอิ้น "
                ดินแกล้งเย้าคนน่ารักเล่นไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วเอิ้นเป็นคนทำอะไรตามอารมณ์ก็ไม่น่าแปลกหากจะอยากนอนอุตุ
                อยู่บ้านขึ้นมา
                    " ก็ เราทำกับข้าวกันดีไหม สุกี้ง่ายๆก็ได้ มีของครบหมดแล้ว แกกินพวกแอลกอฮอลไหมอ่ะ "
                สรุปว่าการคาดคะเนของดินผิด เอิ้นมีแพลน แต่คำถามท้ายประโญคก็ทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว ใครสอนเอิ้นให้ดื่มหรือ
                ยังไงกัน
                    " อือ เราอยากกินสุกี้กับแก ไม่ได้ทำกินกันนานแล้ว แล้วใครสอนแกเรื่องแอกอฮอล ดื้อหรอเอิ้น "
                    " ฮ่ะๆ ขี้ดุไม่เคยเปลี่ยน ทำไมต้องมีใครสอน เรารู้หรอกนะ แต่เราไม่กินเราชอบหวานๆ "
                รอยยิ้มน่ารักถูกส่งมาให้กัน ดินวางใจว่าเอิ้นไม่ได้ไปดื้อที่ไหนมาก่อนที่เขาจะกลับมา
                . . . เวลาล่วงเลยไปถึงช่วงก่อนเคาท์ดาวน์ เราสองคนคุยกันเยอะแยะไปหมดตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน
                พอคิดมาถึงตรงนี้ก็ตลกดี เราโตมาด้วยกัน ให้สัญญากัน รักษาสัญญา เพราะเราต่างรู้ดีว่าเราไม่อยากเป็นแค่เพื่อน
                กัน มันมากกว่านั้นมาตลอด แต่กลับกันถึงแม้ว่าเราผิดสัญญาสุดท้ายเวลาก็จะพาเรากลับมายอมรับในความเป็น
                เพื่อนนั้นอยู่ดี

                    " เอิ้น แกจำสัญญาของเราได้มั้ย "
                ดินเอ่ยถามขึ้นขณะที่ต่างฝ่ายต่างเงียบและเหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว
                    " จำได้ แกบอกว่าจะเก็บเงินเยอะๆมาเลี้ยงเรา เราก็บ้าเออออไปกับแกบอกแกว่าแกต้องหาเงินเก่งกว่าเราแน่ๆ
                เราไม่เก่งอะไรเลยแถมกินเยอะด้วย แล้วแกก็ขำ "
                    " จำแม่นอะไรขนาดนั้น ตอนนี้ก็เก็บได้เยอะแล้วนะ "
                ก็แน่หละสิ ดินใช้เงินประหยัดแถมยังรับทำงานออกแบบทั่วไปตอนไปอยู่กรุงเทพ
                    " จริงหรอ เท่าไหร่ "
                    " เท่าที่พอจะเลี้ยงแกได้อีกห้าหกปี "
                    " แล้วหลังจากนั้นหละ แกจะไม่เลี้ยงเราแล้วเหรอ "

  เสียงนับถอยหลังเข้าสู่วันปีใหม่ในจอทีวิเริ่มดังขึ้น ผู้คนมากมายออกไปใช้ชีวิตวันสิ้นปีกันหลากหลายสถานที่
     

                    5

                    " เลี้ยงสิ เลี้ยงไปตลอดชีวิตนั่นแหละ แต่เรามาช่วยกันมั้ย ทั้งเรื่องเงินและทุุกเรื่อง "

                    " แกขอเราแต่งงานเหรอแบบนี้อ่ะ "
                   
                    4

                    " ฮะๆๆ ไม่รู้แฮะแกว่าไง "
               ดินหลุดขำคนจับทุกเรื่องมารวมกันเอิ้นเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กชอบเอาเรื่องที่ตัวเองคิดมารวมกับเรื่องที่อีกฝ่ายพูด แต่
               เขาชอบเพราะมันทำให้เขารู้ว่าเอิ้นคิดอะไรอยู่
     
                    3


                    " อะไรอ่ะ จะไม่รู้ได้ไงนายดิน! "

                    2

                    " ก็แบบอยู่ด้วยกันไปตลอดแค่นั้นที่คิดไว้ แต่งงานอะไรที่แกพูดไม่ได้คิดแหะ คิดแค่ขอให้มีแกในทุกๆวัน "

                    1

                    " อื้อ ตกลง เราก็ขอมีแกทุกวัน ไม่ให้แกไปเก็บเงินคนเดียวแล้ว เราจะพยายามไปกับแก ขอโทษนะที่เราไม่ได้เรื่องเลย "

                    Happy Newyear !

                    " รักแกอยู่ดี "

                    " แต่งๆๆๆ แต่งงานกัน "
               คราวนี้ดินขำจริงจังคนอยากแต่งงานจนลืมเคาท์ดาวน์ สุดท้ายเขาคิดว่าตัวเองโชคดีที่สุด เจอความรักตั้งแต่วัยเด็ก
               เป็นรักเดียวมาตลอด เอิ้นก็คงรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ใครจะว่าเอิ้นไม่ได้เรื่องยังไงเขาก็รักของเขา เพราะเราต่างรู้ว่า
               ไม่มีใครดีไปกว่าอีกคนที่เรามี

                                      ใครบางคนหายไปในฤดูฝน และสุดท้ายก็กลับมาตามคำสัญญาในฤดูหนาว :-)

             
สวัสดีค่ะ การแต่งเรื่องสั้นเรื่องแรก
ref มาจากเพลง ใครบางคนหายไปในฤดูฝน และไม่ได้ตามกันมาในฤดูหนาว - ดวงดาว เดียวดาย
หากใครผ่านมาอ่านก็ขอบคุณมากๆเลยค่ะ จนกว่าจะพบกันใหม่  ☂ ♡