พิมพ์หน้านี้ - ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: i.am.champingon ที่ 23-06-2019 09:49:10

หัวข้อ: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 23-06-2019 09:49:10
;y';oข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



*****************************

 
:hao5: ขออภัยมือใหม่

คำเตือน : เนื้อเรื่องอาจะอาจจะมีกลิ่น Incest และเป็นแนว 3p
#โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เนื้อเรื่องในนิยาย คน  สิ่งของ สถานที่ ถูกสมมุติ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น
และล้วนแล้วแต่เป็นจินตนาการของนักอ่านทุกท่าน
ทั้งช่วงเวลา ช่วงอายุ สถานที่ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สมมุติขึ้น
หากนิยายมีความไม่สมจริงในบางฉากบางตอน นักเขียนขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย :call:

:เรื่องย่อ:

ความสุขปนทรมาน จากความรู้สึกผิดบาป ผมคิดถึงพี่ และอ้อนวอนชาร์ล 

ความรู้สึกผิดและสุขสมเกาะกุมหัวใจ วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา

ผมเสพติดการมีชาร์ล

และไม่สามารถปลอยมือจากพี่ได้เช่นกัน

ความเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจของผม

คงจะต้องถูกพระเจ้าลงโทษในสักวัน


**************************
#ฝากน้องไว้พิจารณาด้วยจ้า
 :monkeysad:


หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p]
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 23-06-2019 09:54:45
 
ผมชื่ออลาโน่ นั่นเป็นชื่อจริงในใบเกิด แต่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกเรียนว่าอาลัน มารีน่า (ที่ผมเรียกชื่อเธอเพราะตอนที่ผมลืมตาดูโลกมารีน่าอายุเพียงแค่18) มารีน่า...เล่าประวัติคร่าวๆ ให้ฟังว่า ผมเกิดมาตอนที่แม่ไปเดินแบบบนเรือสำราญในงานหนึ่ง หลัง after party จนเรื่องมันเลยเถิด แล้วก็ one night stand กับนายแบบสุดฮอตสักคน (เล่าไปหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี)


เกิดเป็น ‘อลาโน่’ อย่างผมขึ้นมา ในขณะที่ยังเป็นนางแบบซึ่งกำลังไต่ระดับขึ้นสู่เวทีระดับแนวหน้าของประเทศ แต่ก็ยอมที่จะอุ้มท้องผมท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนรอบข้าง จนโดนครอบครัวตัดหางปล่อยวัด และคลอดผมออกมาอย่างโดดเดี่ยว โดยไม่มีชื่อพ่อในใบเกิด แต่ก็มีผู้จัดการส่วนตัว (สาวประเภทสอง) ชื่อว่าแม็คช่วยกันเลี้ยงดูผมคนนี้


ตอนที่ผมอายุได้ 5 ขวบ มารีน่าแต่งงานกับช่างภาพคนหนึ่งตอนที่เริ่มรับงานเดินแบบถ่ายแบบอีกครั้ง และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้รู้จักกับคำว่านรกมีอยู่จริง พ่อเลี้ยงผมเป็นคนขี้หึงอย่างรุนแรง แต่เขาก็รักมารีน่ามากเช่นกัน และไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไรที่ผมที่เกิดมาหน้าตาเหมือนแม่และคงจะได้ความหน้าตาดีจากฝั่งพ่อที่เป็นนายแบบสุดฮอต (ซึ่งไม่รู้ว่าใคร) นั่นมักจะนำความโชคร้ายมาให้ผมเสมอ


ในขณะที่มารีน่าไปเดินแบบหรือไปทำงาน และผมต้องอยู่กับเขาตามลำพัง ถ้าหากวันไหนเขาไม่เมา ผมก็แค่จะเก็บตัววาดรูปอยู่ในห้องเงียบๆ แต่ถ้าวันไหนที่เหล้าเข้าปาก (ซึ่งก็แทบทุกวัน) วันนั้นแหละ….จะเป็นนรกสำหรับผม


เขาดีกับมารีน่ามาก ซึ่งนั่นมันคนละส่วนกับที่เขาปฏิบัติกับผม อย่างที่เรียกว่าสวรรค์กับนรกก็ยังเทียบกันไม่ได้


“ถ้าขืนพูดมากฟ้องแม่มึงละก็ คราวหน้าจะโดนหนักกว่านี้” เขาว่าพลางกระดกเหล้าเข้าปาก หลังจากที่กระทืบผมที่ท้องและหลังเพื่อระบายอารมณ์เรียบร้อยแล้ว


เหตุผลส่วนหนึ่งเขาเกลียดเสี้ยวหน้าของผมที่เหมือนใครก็ไม่รู้ เขาว่าแบบนั้น


ยิ่งผมร้องไห้สะอึกสะอื้น หรืออ้อนวอนว่า ‘อย่า..’ หรือ ‘ได้โปรด...’ มันก็ยิ่งเหมือนไปกระตุ้นต่อมโมโหของเขาให้หนักขึ้น ผมเริ่มอดทน การที่ผมไม่ร้องไห้และไม่สะอื้นเลย มันทำให้เขาเบื่อที่จะกระทืบเด็ก 5 ขวบที่ไร้ความรู้สึกอย่างผม


พอนานไป ผมก็เริ่มจะชินชา


ตู้เสื้อผ้าคือที่ซ่อนตัวที่ดีที่สุด แต่รู้ไหม มันไม่มีกลอนสำหรับล็อกจากข้างใน ผมจะถูกทุบตีในที่ที่แม่จะมองไม่เห็น หรือเพราะแม่เหนื่อยมาก และผมก็ถูกกำชับขู่ว่าไม่ให้พูด ถ้าวันไหนมารีน่าระแคะระคายเรื่องที่ผมโดนซ้อม เขาจะทำดีกับผมและจัดชุดใหญ่ให้ในวันถัดมา


บางวันที่หนักมากๆ ผมก็จะหนีไปซ่อนตัวในสวนหลังบ้าน หรือไม่ก็ห้องเก็บของ และจะกลับเข้าบ้านตอนที่ได้ยินเสียงรถแม่กลับมา


“อย่าให้กูหาเจอนะ ไอ้เด็กเวร” เสียงเขาขู่อาฆาตขว้างปาข้าวของออกมาข้างนอกบ้าน


ผมทำได้แค่หมอบตัวให้ต่ำที่สุดในเงามืดพร้อมกับกอดสมุดวาดเขียนของตัวเองเอาไว้แนบอก มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมสงบจิตสงบใจได้ ผมชอบวาดรูปมารีน่าใส่ชุดสวยๆ เดินบนเวทีที่มีเสียงเพลงและแสงไฟเฉิดฉาย หน้ามารีน่าดูมั่นใจกว่าใครๆ และมีความสุข และผมก็มีความสุขเมื่อได้เห็นรอยยิ้มนั่น


แต่ความลับก็ไม่มีในโลก นั่นเพราะเมื่อคืนผมมัวแต่ห่วงสมุดวาดภาพของตัวเองจนหาที่ซ่อนตัวไม่ทัน ตัวผมในวัย 7 ขวบที่นอนงอคุดคู้กอดสมุดอยู่บนพื้น ถูกพ่อเลี้ยงเตะ และกระทืบระบายอารมณ์โมโหอย่างบ้าคลั่ง เขาโกรธมารีน่าเรื่องงานโชว์วันนี้


“ชุดมันดูเปลือยเกินไป” เขาออกความเห็นในขณะที่มารีน่าเพียงแค่หัวเราะออกมา


“มันเป็นงาน เราตกลงกันแล้วนี่”

เขาคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้มารีน่า แต่แววตาไม่ได้ยิ้มด้วยเลย ผมรู้ชะตาตัวเองได้ทันทีในตอนนั้น
คืนนั้นผมจำต้องนอนนิ่งอยู่กับพื้นเพราะสมุดวาดภาพที่ซุกไว้ในเสื้อ กลัวมันจะตกลงมา แล้วเขาจะเอาไปทำลายอีก เขาเคยเอาไปฉีกทิ้งและหัวเราะเยาะผมราวกับคนบ้า นั่นทำให้ผมเสียใจผมร้องไห้ และผมก็จะโดนทุบตีซ้ำแล้วซ้ำอีก ภาพของมารีน่าที่ผมวาด เขาบอกว่าเกลียดมัน เขาไม่ชอบให้ใครมองมารีน่า แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามเธอไม่ให้ออกไปทำงานที่เธอรักได้


เมื่อผมไปโรงเรียนในเช้าวันรุ่งขึ้น แล้วเกิดไข้ขึ้นเพราะทนเจ็บไม่ไหวจนล้มลงกลางสนาม ครูประจำชั้นโทรหาแม่ในขณะที่ผมไม่ได้สติถูกหามส่งโรงพยาบาล


ผมจำได้เลือนรางว่าไม่ใช่แค่ถูกรักษาแค่อาการเจ็บไข้ แต่ร่างกายผมยังถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งเอ็กเรย์และสแกนส่วนต่างๆ ของร่างกาย มารีน่าที่ยืนรออยู่ข้างนอกก็เอาแต่ร้องไห้อย่างหนัก โดยมีแม็คเกาะไหล่ช่วยปลอบโยน


ผมอาจจะเป็นโรคร้ายแรง….เด็ก 7 ขวบคิดได้แค่นั้น


‘เด็กซี่โครงหัก โชคดีที่ไม่ทิ่มโดนอวัยวะภายใน มีร่องรอยฟกช้ำตามลำตัวอีกหลายแห่ง เราจะตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง’ คุณหมอรายงานอาการของผมให้มารีน่าฟัง


“ขอโทษ...ฉันขอโทษ...แม่ขอโทษ...” มารีน่าเอาแต่ร้องไห้อย่างหนักและเอาแต่ขอโทษซ้ำๆ เธอจะแทนตัวเองว่าแม่ตอนที่อยู่กับผมและแม็คหรือเฉพาะตอนที่เราอยู่กันในที่ส่วนตัวมากๆ เพราะนางแบบในวัย 20ต้นๆ ที่กำลังมาแรง ยังไม่ควรจะมีข่าวอะไรไปมากกว่างาน และการเป็น working women


ผมเจ็บเกินกว่าจะพูดปลอบเธอ ที่จริงเจ็บจนไม่มีแรงจะเปล่งเสียงเลยต่างหาก ผมอยากบอกมารีน่าว่าผมไม่เป็นไร ผมทนมันได้ อยากให้เธอยิ้ม….ยิ้มอย่างมั่นใจและเฉิดฉายเหมือนตอนที่เดินบนเวที


แล้วผมก็หลับไปกี่วันไม่รู้หลังจากนั้น

 
เราย้ายมาอยู่ในเมืองใหม่ และบ้านหลังใหม่ มันไม่ใหญ่เหมือนแต่ก่อน แต่ผมก็ว่ามันดีกว่าที่บ้านหลังนี้ไม่มีเขาอีก เขาชื่ออะไรนะ...ซามอล...หรือโซมอน...สักอย่าง ในเศษเสี้ยวความทรงจำของผมมันพร่าเลือน หรือบางทีอาจจะเป็นตัวผมเองที่ไม่อยากจะจดจำ


ผมเผลอมองอย่างหวาดระแวงตอนที่ก้าวเข้าไปในบ้าน มารีน่าดึงตัวเข้าไปกอดแน่นแล้วเริ่มร้องสะอื้น พลางบอกว่า ‘ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ’ และผมก็ยินดีที่จะเชื่อแบบนั้น


ผมไม่ได้ถามถึงเขาอีก เพราะมันดีแล้ว มารีน่าเองก็มีเวลาอยู่กับผมมากขึ้น


เราสองคนกำลังช่วยกันจัดของเข้าบ้าน


“อาลันวาดเองเหรอ? ”


มารีน่าหยิบสมุดวาดรูปของผมขึ้นมาเปิดดูตอนที่เราเริ่มจัดของเข้าบ้านกัน และผมก็พยักหน้าตอบอย่างอายๆ ผมควรจะเอาคลังสมบัติของผมไปซ่อนที่ห้องก่อนที่ใครจะเห็น แต่ก็ไม่ทันแล้ว


มารีน่าทำตาลุกวาวตื่นเต้น พลิกดูภาพวาดของผม และหยิบเล่มอื่นๆ ออกมาวางเรียงกัน


“ขอดูอีกได้ไหม”


ผมพยักหน้าตอบอีกครั้ง ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปิดบังในเมื่อมารีน่ารื้อมันออกมาทั้งหมดแล้ว และผมก็ชอบที่มารีน่าชอบมัน จากนั้นสมุดวาดรูปในกล่องแห่งความลับของผมก็ถูกเอามาเปิดกางวางเต็มพื้นห้องนั่งเล่น เราคุยกันอย่างสนุกสนานในเรื่องชุดต่างๆ ที่ผมวาด


“ผม...อยากให้มารีน่าใส่ เดินบนเวที คงสวยดี” ผมบอกตามตรง เธอน่ายิ้มกว้าง วางมือบนหัวผมแล้วโยกไปมา แล้วสักพักก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ หันไปคว้าโทรศัพท์กดหาใครสักคน


“นี่แม็ค...ฉันว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อย อ่อ...ฉันว่าเธอควรมาที่บ้านฉันตอนนี้เลย” มารีน่าคุยโทรศัพท์เสียงตื่นเต้นกับแม็คที่เป็นผู้จัดการและเพื่อนคนสนิท ผมชอบเขานะ ชอบซื้อดินสอสีและสมุดสำหรับวาดภาพให้ผมบ่อยๆ รวมไปถึงของกินอร่อยๆ ด้วย และครั้งนี้ผมก็คิดว่าจะได้กินมันอีกถ้าแม็คมา


มารีน่าไม่ได้รับงานเดินแบบและถ่ายแบบแล้ว เธอทำงานกับแม็คที่บ้าน โดยมีผมเป็นผู้ช่วย...ช่วยวาดภาพชุดสวยๆ ในจินตนาการ และมารีน่าเป็นคนดึงจินตนาการของผมให้ออกมาเป็นรูปร่าง และแม็คก็เป็นคนทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ขึ้นมา จำได้ว่าทั้งมารีน่าและแม็คตื่นเต้นแค่ไหนที่ทำมันสำเร็จในชุดแรกภายใต้ชื่อแบรนด์ของ alanmaria



ทุกอย่างมันควรจะดีขึ้น...


แต่ผมก็เหมือนเป็นคนที่ไม่สมควรได้รับความสุขจากพระเจ้า


พวกเรายังคงต้องย้ายที่อยู่อีกหลายครั้งในรอบหลายปีมานี่


ผมเปลี่ยนโรงเรียนไปเรื่อยๆ เพราะอดีตพ่อเลี้ยงคนเดิมยังคงคุกคามชีวิตเราสองแม่ลูกไม่หยุดหย่อน ป้ายหน้าร้านโดนทำลาย ห้องเช่าที่มารีน่าเปิดร้านขายงาน โดนทำให้เสียหายหลายครั้ง มารีน่าต่อสู้และเข้มแข็ง เธอเปิดสโตร์ออนไลน์และใช้เส้นสายของเพื่อนนางแบบโดยมีแม็คช่วยเหลือในการส่งชุดเข้าประกวดและโชว์ต่างๆ ทำให้แบรนด์ติดตลาดได้อย่างง่ายดาย และข่าวลือลับๆ ที่ทำให้ถุกพูดถึงกันในแวดวงออกแบบคือการที่ alanmaria มี back designers ลึกลับที่ไม่เปิดเผยตัวตนและทำงานให้แค่ alanmaria แต่เพียงผู้เดียว


ชีวิตเราสองคนควรจะสุขสบาย มารีน่ายังคงยิ้มให้ผมเสมอเมื่อกลับมาถึงบ้าน ผมตั้งใจจะวาดรูปให้เยอะขึ้นเพื่อรอยยิ้มของเธอ แต่ระยะหลังมานี่ผมรู้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจ บางครั้งก็มีปากเสียงกับแม็ค แต่ไม่ได้ทะเลาะกันเสียงดังจนน่ากลัว


“นี่มารี่, เธอคิดดูสิ นี่เป็นหนทางที่แบรนด์ของเธอจะไปไกลแบบก้าวกระโดดเลยนะ” แม็คว่า


“นักธุรกิจอย่างเขาต้องมีอะไรแอบแฝง เขาต้องการอะไร” มารีน่ายังคงมีสีหน้าเคร่งเครียด


“เธอคิดมาก หรือน่าจะไปคุยกับเขาสักหน่อย เรื่องข้อตกลงที่เธอต้องการ” แม็คยังคงเซ้าซี้ปลายเสียงเหมือนจะอ้อนวอนอยู่ในที


“แม็ค, เธอก็รู้ว่างานออกแบบทั้งหมดไม่ใช่ของฉัน นั่นมันจะมีปัญหา”


“ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน เราก็ทำให้มันเป็นความลึกลับต่อไปก้ได้นี่”


“แล้วเธอจะให้ฉันบอกพวกเขายังไง ว่างานออกแบบมา่จากเด็กคนนั้น ฉันไม่อยากให้ใครมายุ่งกับเขาอีกแล้วแม็ค เธอก็รู้” มารีน่าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจและเริ่มยกมือกุมขมับ


แม็คนิ่งเงียบ ห้องตกอยู่ในความเงียบเมื่อทุกคนกำลังใช้ความคิด


“ฉันแค่ไม่อยากให้เธอซ่อนตัวอีกต่อไปแล้ว เธอเหมาะกับแสงสีมากกว่าจะเป็นอยู่แบบนี้”


อ่า...นั่นผมเห็นด้วยกับแม็คนะ มารีน่าสวยมากเมื่ออยู่บนเวที


“เราปิดชื่อผู้ออกแบบไว้เป็นความลับก็ได้นี่” แม็คยื่นข้อเสนอ


“เราทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเซ็นสัญญาทางธุรกิจและเป็นหุ้นส่วน ”


“ทำไมเขาถึงสนใจแบรนด์เล็กๆ อย่างเราแม็ค” มารีน่าตั้งคำถาม แม็คส่ายหน้าพลางถอนหายใจ


“ฉันแค่มองเห็นหนทางที่เธอกับอาลันจะได้อยู่อย่างสุขสบายเสียที” ท้ายประโยคของแม็คฟังดูเศร้าสร้อย มารีน่าทำหน้าเครียดและเงียบไปราวกับกำลังใช้ความคิด


“ฉันก็อยากให้เขาสุขสบายเสียทีแม็ค อยากให้เป็นแบบนั้นจริงๆ ” เสียงมารีน่าเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน ถ้ามารีน่าหันมายิ้ม ผมก็จะยิ้มตอบเธอเสมอ จะไม่ทำเรื่องให้เธอต้องลำบากใจ


ไม่ใช่เรื่องที่เด็กอย่างผมจะเข้าใจไปเสียทุกอย่างหรอกนะว่าไหม? ผมยังคงนั่งฟังทั้งสองคนถกเถียงกัน ในขณะที่มือยังคงวาดรูปชุดต่อไป ผมทำการบ้านมาจากที่โรงเรียนแล้ว เพราะงั้นผมจึงมีเวลาอีกสองสามชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเข้านอน



...........................



การไปโรงเรียนของผมดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับมารีน่า เธอจะวิตกกังวลมากทุกครั้งที่ผมไม่อยู่ในสายตา และกำชับนักหนาว่าห้ามไปไหนกับคนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด ถ้าวันไหนมารีน่าไม่ว่างมารับ วันนั้นผมจะเห็นแม็คยืนยิ้มให้ที่หน้าโรงเรียนแทน


มีครั้งหนึ่งมารีน่ายอมทิ้งงานที่ทำอยู่เพื่อมาหาผมที่โรงเรียนเพราะโดนพ่อเลี้ยงคนเดิมส่งภาพหน้าโรงเรียนผมไปให้ ผมย้ายโรงเรียนอีกครั้งและอีกหลายครั้ง ราวกับว่าเธอต้องการซ่อนผมไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด


แต่ก็เหมือนโชคชะตาไม่เข้าข้าง


อย่างที่บอก ผมคงไม่ใช่คนที่เกิดมาพร้อมคำอวยพรของพระเจ้า


ผมโดนเขาจับได้ในที่สุด ราวกับว่าชาติที่แล้วผมไปทำเวรกรรมหนักหนาอะไรกับใครเขาไว้


ขณะยืนรอแม็คมารับที่หน้าโรงเรียน ก็โดนฟาดด้วยอะไรแข็งๆ ที่หัวแล้วก็วูบไป


พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องมืดๆ ห้องหนึ่ง ขนาดว่ามองไม่เห็นเพราะมืดยังรู้ได้เลยว่าสกปรก มีกลิ่นเหม็นสาบและเฉอะแฉะ มือสองข้างถูกมัดไพล่หลังผมรู้สึกปวดไปหมดทั้งตัว รวมไปถึงหัวด้วย เปลือกตาเหมือนจะลืมไม่ขึ้นคงเพราะกระแทกกับอะไรบางอย่าง ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาใกล้ ผมขยับได้แค่หัวจึงมองเห็นแค่เพียงปลายเท้าเท่านั้น ก่อนที่เขาจะย่อตัวแล้วนั่งตรงลงตรงหน้า



"ในที่สุดกูก็เจอมึงจนได้" เสียงนั้นดังสะท้านก้องเข้ามาในหู ผมจำได้อย่างแม่นยำแม้จะมองไม่เห็นหนาเขาเลยก็ตาม ความรู้สึกรู้สึกหนาวยะเยือกเมื่อรู้ว่านรกแบบเดิมกำลังฉายวนซ้ำมาอีกรอบแล้ว


เขาใช้มือดึงผมให้เงยหน้าขึ้นมองเขาให้เต็มตาแต่เปลือกผมก็หนักเหลือเกิน


ในใจตอนนี้ผมกังวลไปว่าถ้ามารีน่ามาเห็นผมในสภาพนี้จะร้องไห้อีกหรือเปล่า


"เพราะเด็กอย่างมึง มารีน่าถึงหนีกูไป" เขาโทษผม เป็นผมเองที่ผิดทั้งหมดอย่างงั้นหรือ?


ผมปล่อยให้เขาพูดไป เพราะนั่นเป็นหนทางเดียวที่จะไม่เจ็บตัวเพิ่มขึ้นอีก


"กูจะทำยังไงกับมึงดี ฆ่าแล้วโยนลงทะเล? หรือเอาไปขายดีนะ? อย่างมึงต้องได้ราคาดีแน่" แล้วก็หัวเราะอย่างกับคนบ้า มีดปลายแหลมในมือแตะลงตรงแก้มผมอย่างน่าหวาดเสียว



ก่อนที่มันจะกรีดลงบนแก้มผม เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น



"ฮายยยย มารีที่รัก ไม่ได้คุยกันนานเลยนะ คิดถึงผมเหรอ" พอรู้ว่าเป็นใครโทรมา ผมอยากจะรวบรวมแรงทั้งหมดร้องตะโกน แต่ปลายแหลมของมีดจ่ออยู่ที่คอ ผมไม่กล้าแม้จะขยับตัวด้วยซ้ำ


"เอาซี่ ถ้าอยากก็มาเจอกัน ฉันมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จะให้ด้วยนะ" เสียงหัวเราะน่าขยะแขยง


เขายังจ่อมีดที่คอผมขณะคุยโทรศัพท์ “หืมมมม ใจร้อนเสียด้วย ได้สิ….ที่รัก” ราวกับว่าเขาได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้ว


ผมไม่อยากให้มารีน่ามาเจอเจ้าโรคจิตนี่ อยากจะตะโกนบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องทำอะไรเพื่อผมอีกต่อไปแล้ว ผมอยากให้นรกทั้งหมดจบลงตรงนี้เสียที แม้จะแลกด้วยลมหายใจของผมก็ตาม


เขากดวางสายแล้วหันมาแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมให้ แล้วลากผมขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ทั้งที่ยังถูกมัดมือไพล่หลัง


"ตอนมารีน่ามา บอกให้เธอเซ็นสัญญานี่ซะ จะได้ไม่มีใครต้องเจ็บตัว" เขายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาตรงหน้า ซึ่งผมอ่านไม่ทันว่าคืออะไร อาจจะเป็นสัญญาผูกมัด หรือไม่ก็อะไรสักอย่างที่จะทำให้ไอ้โรคจิตนี่เป็นเจ้าของมารีน่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย


"เข้าใจไหม!!! " มันตะคอกเมื่อผมมองอย่างเหม่อลอย


ผมรีบพยักหน้าตอบรัว ๆ แม้ว่าตอนนี้ผมจะปวดหัวมากก็ตาม


เขาเดินออกไปแล้วพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างคนโรคจิต ปิดประตูขังผมไว้ในห้องสกปรกโสโครกและมืดสนิทตามเดิม น่าแปลกที่ความมืดและความเงียบนั่นทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องเจ็บตัวอีกสักพัก


รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนได้ยินเสียงโวยวายโครมครามข้างนอก เสียงอะไรบางอย่างกระแทกเข้ากับประตูห้อง ด้วยความหวาดกลัวและตกใจจึงได้กัดฟันลากร่างตัวเองไปซุกอยู่ตรงมุมห้องที่มีลังกระดาษเก่าๆ กองสุมอยู่ ในใจมันสั่นไปหมด ผมเจ็บแขน และแผลที่หัวเหมือนจะมีเลือดไหลออกมาอีกแล้ว ผมอยากเรียกมารีน่าแต่อีกใจผมก็ไม่อยากให้เธอมา แต่ผมก็ไม่รู้จะเรียกหาใคร


ปัง!!!


เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับแสงที่ลอดเข้ามา ตาผมพร่าไปหมด เงาของใครบางคนกำลังเข้ามา ผมหวาดกลัวตัวสั่นงันงกอย่างห้ามไม่ได้


"เจอแล้ว...." เสียงทุ้มตะโกนบอกใครข้างนอก ผมยังไม่กล้าปริปากส่งเสียง เบียดตัวเข้าหากำแพงราวกับว่ามันจะช่วยซ่อนตัวได้


"ชู่ววววว์ อย่ากลัว ฉันมาช่วยเธอ มากับฉัน ไปหามารีน่ากัน" เสียงของเขาฟังอบอุ่นอ่อนโยนราวกับเทวดา



ผมเงยหน้ามองเมื่อเจ้าของเสียงที่ยื่นมือมาให้ แผลที่หัวคงเลือดไหลจริงๆ



และมันคงจะไหลเข้าตาผมถึงได้เห็นว่าเทวดาตรงหน้ามีปีกสีดำ....




======จบตอน=====


ฝากน้องไว้ในอ้อมใจด้วยน้าาาาา :hao3:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ความช่วยเหลือ
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 24-06-2019 08:31:40
ปัง

“คุณคะ เข้าไม่ได้ค่ะ คุณ...”


ประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับสาวสวยหุ่นดี และแองจี้เลขาหน้าห้องของประธานบริษัทที่ตอนนี้กำลังมีสีหน้าวิตกจริตสุดๆ


“คุณชาร์ล ดิฉันห้ามแล้ว แต่เธอไม่ฟังค่ะ” แองจี้คงคิดว่าหล่อนเป็นหนึ่งในบรรดาคู่ขาผม และอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังนั่น...


“ไง,แม็ค” ผมเอ่ยทักคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง แม็คคือผู้กว้างขวางในวงการแฟชั่น อีกหนึ่งในธุรกิจที่ผมสนใจจะจับตลาด แต่แบรนด์ที่ผมเล็งไว้มันไม่เข้าตา นอกเสียจาก...alanmaria


ผมโบกมือให้แองจี้กลับออกไป และเชิญแขกที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้ามา เหตุที่สั่งแองจี้ไว้ว่าไม่อยากให้รบกวนนั่นก็เพราะว่าตอนนี้ผมกำลังสอนเจ้าลูกชายคนเดียวที่เพิ่งอยู่ไฮสคูลให้เรียนรู้งานต่างๆ


“ใครครับ? ” อีธานเอ่ยถาม ขณะที่ผมเชิญให้ทั้งสองคนนั่งฝั่งตรงข้าม


“นี่แม็ค ส่วนนี่….”


“มารีน่าค่ะ” เธอแนะนำตัวเองด้วยความมั่นใจ ใบหน้าสวยเชิดขึ้นหากแต่ในแววตานั้นเห็นได้ชัดว่ากำลังหวั่นไหวมีรอยแดงจางๆ เหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มา


“ฉันมาทำข้อตกลงกับคุณ” มารีน่าเปิดขึ้นก่อนด้วยท่าทีรีบร้อนเหมือนตอนเข้ามา “ฉันจะตกลงทำสัญญาทางธุรกิจกับคุณ ไม่ว่าคุณจะร่างเงื่อนไขใดๆ ขึ้นมา” เธอหายใจและเม้มปากราวกับกำลังอดทนเพื่อที่จะไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง


“ทำไมง่ายดายนัก? ” เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าผมจะยื่นเงื่อนไขหรือข้อเสนอใดๆ เธอก็ไม่ยอมตอบรับ และปฏิเสธเรื่อยมา


“ฉันมีเรื่องจะขอร้องคุณแค่ข้อเดียว” มารีน่าเม้มปากคราวนี้ตัวเธอสั่น และแม็คก็ยกมือบีบไหล่เธอด้วยแววตาเศร้าสร้อย


“ได้โปรด...ช่วยลูกชายฉัน” น้ำตาเธอหยดลงบนตัก และเธอก็ปาดมันออกอย่างรวดเร็ว สองมือกำแน่นก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า และยื่นมันมาให้ผม


เป็นรูปของเด็กคนหนึ่ง ผมสั้นหยักศกธรรมชาติสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาสีฟ้าใสราวท้องฟ้า


“สวยแหะ” อีธานหยิบรูปขึ้นไปดู และผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา


“ทำไมผมต้องรับข้อเสนอนี้? ” ผมบอกอย่างใจเย็นวางมือประสานกันบนโต๊ะพลางถอนหายใจเบาๆ อันที่จริงถ้าจะให้ช่วยมันง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือขนาดที่เด็กฝึกหัดอย่างอีธานก็สามารถจัดการได้อย่างสบายและเงียบเชียบ แต่ก่อนที่มือผมจะแปดเปื้อนสิ่งสกปรกผมควรจะต้องรู้ว่าทำไมและเพื่ออะไร


“ฉันจะยอมเซ็นสัญญาทาสกับคุณ 10 ปี 20 ปี หรือ 30ปีก็ได้อย่างที่คุณพอใจ ฉันจะทำทุกอย่างทุกทางกอบโกยผลกำไรให้คุณ แค่...ได้โปรด...ช่วยเด็กคนนี้ที” มารีน่าเริ่มสะอื้น เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่คิดจะอดทนอีกต่อไป


“เขาโดนจับตัวไปเมื่อวาน มันยื่นข้อเสนอให้ฉันจดทะเบียนสมรส” มารีน่ากัดฟันพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “ฉัน...ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง...ได้โปรดช่วยเขา...ได้โปรด..” มารีน่าร้องไห้โฮไม่เหลือคราบนางแบบสาวสวยที่เดินเข้ามาอย่างมั่นใจเมื่อครู่หลงเหลืออยู่เลย


“คุณชาร์ลค่ะ ได้โปรด...” แม็คช่วยพูดพลางกอดปลอบมารีน่า และตัวเองก็เริ่มสะอื้นบ้าง ทั้งห้องเริ่มตกอยู่ในความโศกเศร้า


แต่ผมเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักบุญ การช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผมไม่ชอบหนทางที่มันจะได้มาซึ่งเรื่องยุ่งยาก เรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัวควรแยกกัน...


“แม็ค, คุณก็รู้ว่า...” ผมหันไปต่อรองกับแม็ค


“อลาโน่...ชื่อเด็กคนนั้น..” มารีน่ากัดฟันกลั้นเสียงสะอื้นพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน “….เด็กคนนั้นเป็น black designers ของ alanmaria” มารีน่าบอกความจริงด้วยน้ำเสียงปวดร้าว


ชาร์ลขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่คิดจะเชื่อสายตาจนต้องหันกลับไปมองรูปถ่ายในมือลูกชายอีกครั้ง ไม่ว่ายังไงเด็กในรูปก็อายุไม่ถึง 20ปี ซ้ำยังเด็กกว่าอีธาน


แม็คพยักหน้ายืนยันความจริงที่ผมกำลังสงสัยในใจ


และนั่นก็เป็นเหตุผลให้ผมยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา…


“อยู่กับอีธานที่นี่ แล้วผมจะส่งข่าวมาเอง” ชาร์ลบอกพลางหันไปส่งสายตาสั่งลูกชาย


“อ้าวพ่อ! ไม่ให้ผมไปดูงานด้วยเหรอ”
อีธานบอกเสียงขุ่นมัวพร้อมสีหน้าเบื่อหน่ายทิ้งตัวกับพนักพิง ที่จริงงานนี้พ่อจะใช้เขาก็ได้


“ยังไม่ถึงเวลา” ผมบอกก่อนจะคว้าเสื้อนอกมาสวม และเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพอดี


แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องจัดการอย่างเงียบเชียบ ไม่งั้นจะกระทบถึงแบรนด์ที่ผมต้องการร่วมธุรกิจด้วย ...ที่จริงจะเอาแบรนด์ที่มีชื่อเสียงติดตลาดแล้วมากี่แบรนด์ก็ได้ แต่เป็นผมเองที่อยากจะได้แบรนด์ใหม่มาปูทางให้ลูกชายอย่างอีธาน อยากให้เขาแสดงฝีมือตั้งแต่จุดเริ่มต้น การได้เห็นเขาไต่ระดับขึ้นมามันน่าจะดีกว่าให้เขาไปยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุดในตอนแรก


ผมจ้องมองรูปถ่ายของเด็กที่ถูกจับตัวไปด้วยความรู้สึกประหลาด เด็กคนนี้อายุน้อยกว่าอีธานด้วยซ้ำ การที่มารีน่าร้องไห้และยอมทุกอย่างตามข้อตกลงนั่นมันทำให้ผมรู้ว่าเขาสำคัญมาก แน่นอน..ถ้ามีใครมาทำอะไรอีธานแบบนี้ ผมก็คงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเหมือนกัน


‘โซมอน มอโร’ ช่างภาพที่มีชื่อในแวดวงพอสมควร แต่งงานกับมารีน่าเมื่อหลายปีก่อนแล้วก็แยกทางกัน ผมพอรู้เรื่องมาบ้างเพราะสนใจแบรนด์ alanmaria ข่าวลือที่ว่าแบรนด์ถูกตามล่าอาจจะมาจากสาเหตุนี้ ไม่ได้ล่า black designer อย่างที่ข่าวซุบซิบกัน แต่เป็นการตามล่าและคุกคามสองแม่ลูกนี่ต่างหาก เป็นการกระทำที่ต่ำตมสิ้นดี นั่นอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่มารีน่าไม่ไว้ใจใครเลย


สองชั่วโมงก่อน ทีมA รายงานว่าพบโซมอนที่ฟร้อนท์ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ตามที่มารีน่าแจ้งว่าเป็นที่นัดพบ แน่นอนว่าเขาหงุดหงิดมากที่มารีน่าไม่มาตามนัดแถมยังไม่สามารถติดต่อได้ ผมสั่งอีธานไว้ให้เก็บโทรศัพท์ของเธอไว้จนกว่าผมจะส่งข่าวไปบอก ด้วยเพราะกลัวเธอจะใจอ่อนทำให้แผนการพังขึ้นมา


รถยนต์คันหรูของโซมอนพุ่งตัวออกจากลานจอดรถของโรงแรมด้วยความเร็ว เพราะเจ้าตัวคงกำลังโมโห แน่นอนว่าที่แรกที่เขาจะไป ต้องเป็นสถานที่ ที่เขาซ่อนตัวเด็กไว้ มันเดาได้ไม่ยากเลย กับสมองของคนที่คิดแผนสกปรกโดยใช้เด็กเป็นตัวประกัน


โกดังร้างหลังท่าเรือขนของที่รถของโซมอนเลี้ยวเข้าไป ผู้ช่วยมือหนึ่งของผมโทรเรียกชุดเก็บกวาดชุด A เข้าพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ และผมต้องถึงตัวเขาก่อนที่เด็กจะต้องมารับเคราะห์เพราะความโกรธเกรี้ยวของเขา


“ท่านประธานไม่จำเป็นต้องลงไปดูเองก็ได้นี่ครับ” ฟิลิปบอกตอนที่รถผมเลี้ยวเข้าไปจอด


“อีกกี่นาที” ผมหันไปถามเสียงเยือกเย็นและยังคงนั่งด้วยท่าทีผ่อนคลาย ถามถึงชุดเก็บกวาดที่เรียกมา


“ราว 10 นาทีครับ”


“เร็วกว่านั้นฟิลิป มีเด็กด้วย”


“ครับท่านประธาน” ฟิลิปรับคำและหยิบโทรศัพท์มากดทันที


รถผมเลื่อนไปจอดเทียบกับรถของโซมอน แน่นอนว่าเครื่องยนต์ราคาแพงมันช่างเงียบเชียบ ทำให้คนที่มีแต่ความโมโหอย่างโซมอนไม่ทันสังเกตว่ามีรถสีดำสนิทขับตามมาอีกสองสามคัน และคงไม่คิดว่าแผนการจะมีใครล่วงรู้ เพราะคู่ต่อสู้เป็นแค่ผู้หญิงและเด็ก ผมเกลียดความไม่ยุติธรรมแบบนี้ มันควรจะเป็นการต่อรองแบบซึ่งหน้า แต่ในโลกความจริงมันก็เลี่ยงคนประเภทนี้ไม่ได้


“พวกแกเป็นใคร! ” โซมอนส่งเสียงตวาดใส่คนของผมที่เดินลงไปก่อน เสียงเหมือนพวกหมาจนตรอก ที่จริงก็อย่างที่ฟิลิปว่า ผมไม่จำเป็นต้องลงไปดูงานเองก็ได้ แต่ในสถานการณ์นี้ผมเป็นห่วงเด็กมากกว่า แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องการตอนนี้คือเวลา…


ฟิลิปเดินมาเปิดประตูให้ ผมก้าวออกไปอย่างใจเย็น มันไม่จำเป็นต้องแลกอะไรกับคนจิตใจสกปรกแบบนี้


“ชาร์ล เกรย์ วิสตรอม ยินดีที่ได้รู้จัก” ผมบอกอย่างใจเย็น เขาทำตาโตและเกือบจะเรียกได้ว่าเหลือถลน ก่อนจะหันหลังวิ่งกลับไปที่ประตูโกดัง แต่คนของผมขวางเขาเอาไว้


“เรามาตกลงกันดีกว่าไหมโซมอน”


อ่า...ผมไม่ชอบเรื่องยุ่งยากเลยจริงๆ


=====================
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #บ้านใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 25-06-2019 10:43:36
เสียงดังอึกทึกที่ข้างนอกประตูนั่น ทำให้ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ผมรู้สึกได้ถึงไออุ่น เจ้าของเสียงที่มาช่วย อุ้มผมแนบไว้กับอกอย่างอ่อนโยนทะนุถนอม ผมเหมือนจะไม่เจ็บแล้ว สัมผัสที่ผมรู้สึกว่าจะปลอดภัยไม่ว่าอะไรถ้าอ้อมแขนนี้โอบอุ้มผมเอาไว้


"มารีน่า ผมบอกให้คุณอยู่รอที่ออฟฟิศ" เขาส่งเสียงดุไปยังมารีน่าที่กำลังสะอึกสะอื้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตัวผม ราวกับกลัวจะทำให้บาดเจ็บขึ้นมาอีก


"เขาเป็นยังไงบ้าง ปะ....เป็นยังไงคะ" มารีน่ายังคงสะอื้นน้ำเสียงสั่นเทา ผมอยากบอกว่า 'อย่าร้องไห้' แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะเปล่งเสียง


"เราต้องพาเขาไปโรงพยาบาล ไปเถอะ" เจ้าของอ้อมแขนบอก น้ำเสียงเขาอ่อนโยนขึ้นแล้ว


"ฉะ...ฉันต้องจบเรื่องนี้ ต้องเป็นฉัน" เธอปาดน้ำตาแล้วเหยียดตัวยืนตรง เชิดหน้าขึ้นราวกับจะเรียกความเข้มแข็งให้ตัวเอง


"เอาแบบนั้นรึ? "


มารีน่ากัดปากพลางพยักหน้าราวกับจะยืนกับตัวเองด้วย


"ขอบคุณมากชาร์ล ช่วยพาเขาส่งโรงพยาบาลให้ทีแล้วฉันจะรีบตามไป"


อ่า....เขาชื่อชาร์ล ผมได้ยินและจำไว้ในโสตประสาท


"อีธาน ช่วยอยู่กับมารีน่าที" คุณชาร์ลเรียกใครสักคนมาช่วย คงเพราะเขาอุ้มผมอยู่ และถ้าพูดออกมาได้ผมจะบอกเขาแน่ๆ ว่า 'ขอบคุณมาก'


ผมถูกชาร์ลอุ้มขึ้นรถ หลังจากนั้นตื่นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาล ปวดตามเนื้อตัว และยังคงปวดหัวหนักๆ



........................................


"ตื่นแล้วเหรอ? "


ผมสะดุ้ง หันไปมองคนแปลกหน้าอย่างไม่คุ้นเคย เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเตียงส่งยิ้มให้ เหมือนว่าเรารู้จักกัน?


"ฉันชื่ออีธาน" ผมยังคงสับสนงุนงง แต่เหมือนเสี้ยวหนึ่งในความทรงจำเหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน "เรียกว่า'พี่'สิ" คนที่พึ่งแนะนำตัวให้รู้จักกันกำลังเซ้าซี้และผมก็งงเป็นรอบที่สอง


"พี่? " และเมื่อผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งออกไป อีธานก็ฉีกยิ้มกว้าง


ยังไม่ทันที่จะมีบทสนทนาบทต่อไปประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา


"อาลัน...." เป็นมารีน่า และชายร่างสูงอีกคนเดินเข้ามา เขาส่งยิ้มให้ผมด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน


มารีน่าคงอยากจะโผเข้ามากอดผม แต่ก็ชะงักไว้เหมือนกลัวว่าผมจะเจ็บ


เราไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมากันอีก ผมก็ว่ามันดีแล้วที่เราจะไม่คุยถึงมัน มารีน่าเพียงแค่ถามว่าผมเจ็บตรงไหนและปวดตรงไหน ผมตอบตามตรงแล้วคุณหมอก็เข้ามาตรวจดูอาการ ผู้ชายตัวสูงคนนั้นเดินออกไปคุยกับหมอ มารีน่าจับมือผมมากุมไว้แนบแก้ม





"อาลัน....แม่มีเรื่องต้องบอกกับลูก..." มารีน่าจะใช้สรรพนามแทนตัวว่าแม่ก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องจริงจัง และเราอยู่ในโซนส่วนตัวเท่านั้น ผมนิ่งฟังแต่โดยดี และที่น่าแปลกกว่านั้นคือเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าอีธานก็ยังคงนั่งฟังเราอยู่ด้วยโดยที่มารีน่าไม่ได้ว่าอะไร


มารีน่าไม่ได้เล่าละเอียด เล่าเพียงคร่าวๆ ว่า ตอนนี้ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมหุ้นกับบริษัทของชาร์ล แต่ยังคงขายงานในชื่อแบรนด์เดิมของตัวเอง บริษัทของชาร์ลจะเข้ามาช่วยเกืัอหนุนในเรื่องการตลาด และจะไม่แตะต้องการบริหารงานเดิมของมารีน่าและแม็ค แต่จะเข้ามาขยายให้แบรนด์ไปไกลระดับโลกได้ และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนับจากนี้คือตัวผมต้องเข้ามาอยู่ในความดูแลของชาร์ล นั่นก็คือส่วนหนึ่งในสัญญาด้วย


นอกเหนือจากสัญญาทางธุรกิจมารีน่าได้จดทะเบียนสมรสกับนักธุรกิจอย่างชาร์ล เพื่อให้ผมได้อยู่ในความดูแลของชาร์ลอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริง นับจากนี้ต่อไปจะไม่มีใครกล้าทำอะไรผมและมารีน่าอีก นั่นเป็นคำสัญญาที่ผมรู้สึกอุ่นใจอย่างน่าประหลาด


และมันก็ช่วยไม่ได้ที่คนที่เกิดมาพร้อมโชคร้ายอย่างผม จะมองโลกในแง่ร้ายที่สุดนั่นคือ ‘ตัวประกันทางธุรกิจ’ การจดทะเบียนสมรสของมารีน่าและชาร์ลพร้อมกับการรับรองเป็นบุตรบุญธรรม นั่นทำให้เขามีสิทธิ์ในตัวผมเทียบเท่ากับมารีน่า


"มันเป็นเรื่องของธุรกิจ และชาร์ลก็สัญญาจะดูแลลูกอย่างดี"


"มารีน่าคงต้องเหนื่อยหน่อยใช่ไหมครับ"


มารีน่าพยักหน้ายิ้มอ่อนโยน ยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ


เสียงเปิดประตู ผู้ชายตัวสูงคนนั้น 'ชาร์ล' เดินเข้ามาหาเรา


"หมอว่าไงบ้าง" เป็นอีกครั้งที่ผมแปลกใจเมื่อคนเปิดปากถามกลายเป็นอีธานแทนที่จะเป็นมารีน่าหรือผม?


" คงต้องให้นอนดูอาการอีก 2-3 วัน ไม่มีอะไรน่าห่วงแค่กลัวว่าแผลจะติดเชื้อ ถ้ากลับไปบ้าน"


"ขอบคุณค่ะชาร์ล ช่วงนี้ฉันขอพักร้อนล่วงหน้าเพื่ออยู่กับอาลันนะคะ"


คุณชาร์ลหัวเราะขบขันกับคำขอของมารีน่า


"ก็เอาสิ ผมจะให้คนจัดห้องไว้ให้คุณที่บ้านด้วย เผื่อวันไหนอยากมาค้าง"


"ขอบคุณค่ะ"


……………..







Part : อีธาน



ผมแอบหงุดหงิดเล็กน้อยที่พ่อปล่อยให้ผมอยู่กับมารีน่าและแม็ค แทนที่จะให้ออกไปด้วย ได้ข่าวว่าเรียกทีม A ...ซึ่งปกติจะใช้ทีม C ของผมก็ได้เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ นี่แสดงว่าพ่อเอาจริง และกำลังหงุดหงิด และนั่นมันน่าสนุกจะตาย ผมก็อยากจะไปเห็นทีมเก็บกวาดของพ่อนี่


พ่อส่งข่าวมาบอกหลังจากนั้น 2 ชั่วโมง เรื่องเป้าหมายเคลื่อนที่และเป็นไปตามแผน


“ฉันต้องไปจบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง” มารีน่าลุกขึ้นหลังจากที่เธอนั่งนิ่งๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดมาพักใหญ่ เธอลุกขึ้นยืนตัวตรงสีหน้าและแววตามุ่งมั่น “เธอช่วยพาฉันไปหน่อยได้ไหม” แล้วหันมาขอร้องผม


แน่ล่ะว่าผมไม่ขัดใจเธอหรอก เพราะนี่มันเท่ากับว่ามีข้ออ้างที่จะไปดูงานแล้วนี่


ในทีม A ของพ่อ ก็ยังมีเด็กฝึกของทีมผมอยู่ในนั้นบ้าง เมื่อได้รับตำแหน่งที่ตั้งมันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย


เกือบจะเสร็จงานแล้วตอนที่ผมไปถึง มารีน่าวิ่งไปหาพ่อที่กำลังอุ้มเด็กคนนั้นไว้ในอ้อมแขน เธอร้องไห้อีกครั้ง ก็ว่าเธอไม่ได้หรอกเป็นใครเห็นสภาพนั้นก็คงทนไม่ไหวเหมือนกัน เด็กคนนั้นตัวเล็กผอมบางกว่าที่คิดไว้ ร่างเล็กปวกเปียกโชกเลือดอยู่ในอ้อมแขนพ่อ และไม่มีสติ คนเลวแบบไหนกันถึงทำกับเด็กตัวเล็กๆ แบบนั้นได้


พ่อหันมาส่งสายตาดุๆ ให้ผมตอนที่มารีน่าวิ่งเข้าไปหา เธอบอกกับพ่อว่าจะขอจบเรื่องนี้เองด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวและเย็นชา ผมชอบเธอนะ อย่างน้อยๆ ตอนที่อยู่ต่อหน้าไอ้หมอนั่นเธอก็ทำได้ดีทีเดียว


แต่เธอ...ก็ใจดีเกินไป


“คุณไปรอผมที่รถก่อนได้ไหม เดี๋ยวผมตามไป” ผมบอกมารีน่าด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงอาการใดๆ เธอพยักหน้ารับคำและเดินเชิดหน้าไปแต่โดยดีโดยไม่ถามอะไร


“นี่คุณน่ะ ชอบรังแกเด็กอย่างงั้นเหรอ” ผมหันไปถามชายวัยกลางคนที่ถูกคนของพ่อจับกดให้นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น พ่อคงยังไม่สั่งว่าจะต้องทำยังไงมั้ง ผมเดาเอา เพราะไม่งั้นเขาคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก


“ฉันน่าจะฆ่าไอ้เด็กนั่นซะ มารีน่าจะได้จำฉันไปตลอดชีวิต ฮ่าๆ” เขาหัวเราะอย่างคนเสียสติ


“อ่า...อย่างนั้นสินะ” เขาเลิกคิ้วหันมามอง “งั้นผมก็จะทำให้คุณจดจำไปชั่วชีวิตด้วย..ดีไหมนะ" ผมยิ้มเหี้ยมเกรียมให้เขา แต่แน่ล่ะผมยังเป็นแค่เด็กในสายตา มันทำให้เขาไม่รู้สึกรู้สาอะไร


“อ๊ากกกกกกกก” เสียงเขาร้องโหยหวนตอนที่ผมวางเท้าลงบนมือของเขาแล้วเหยียบขยี้ลงไปโดยไม่ยั้งแรง


“เฮ่ๆ แค่นี้ไม่ตายหรอก ไกลหัวใจน่า...” ผมย่อตัวลงไปตอนพูด ให้เขาได้มองหน้าผมให้ชัดๆ เต็มสองตา ก่อนจะออกแรงเหยียบซ้ำลงไปอีกรอบ


แน่นอน..กฎของพ่อคือสั่งห้ามฆ่าคนโดยเด็ดขาด 


อีธาน เกรย์ วิสตรอม ยังเป็นแค่เด็กที่เดินตามรอยเท้าของผู้เป็นพ่ออย่างเคร่งครัด เขาสั่งให้คนของพ่อปล่อยตัวโซมอน โดยไม่ทำอันตรายใดๆ ไม่อยากให้ชื่อของพ่อต้องมาแปดเปื้อนกับคนระดับนี้ และตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากให้มันมาเปื้อนมือด้วยเช่นกัน ไม่คุ้มกับการโดนพ่อด่าและตัดคะแนนฝึกงาน


อีธานยกมือถือขึ้นมากดหาหัวหน้าทีม B เป็นทีมทนายและกฎหมาย ทีมที่จะทำทุกเรื่องให้กลายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แนบเนียนและในทางกลับกัน...


“สืบทุกเรื่อง ทุกธุรกิจของโซมอน มอโร ไม่ว่าจะเล็กใหญ่แค่ไหน เท่าที่พอจะตามกลิ่นได้แล้วจัดการซะ ผมไม่อยากให้ชื่อของเขาเข้ามาโลดแล่น ไม่ว่าจะในวงการไหนก็ตาม” คำสั่งเสียงเด็ดขาดของอีธาน




รู้อะไรไหม การทรมานแบบที่ยังมีลมหายใจ มันน่ากลัวกว่าความตายเสียอีก….





************



#Talk

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะ สำหรับคุณพ่อและคุณพี่ ///

อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่าเรื่องนี้ 3p

และมีกลิ่น Incest นิดหน่อย (แหะ แหะ กลัวคนไม่ชอบหลงมา) 

เป็นเรื่องสั้นที่เกือบยาว(หลังรีไรต์แล้ว) เขียนจบแล้ว ทยอยรีไรต์ลงจ้าาาาา

ฝากน้องด้วยนะจ้ะ 

อาลัน/อลาโน่ น้องไม่ใช่เด็กเก็บกด แต่ความที่น้องโดนทำร้ายซ้ำๆ

มันทำให้น้องกลายเป็นคนไม่พูด เพราะน้องฝังใจว่า เงียบไว้เดี๋ยวก็ดีเอง เดี๋ยวก็ผ่านไป

เพราะงั้นอย่าเพิ่งรำคาญ/ลำไยน้องนะ #วอนเห็นใจน้องด้วย 5555+

#โปรดติดตามตอนต่อไป 



หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตัวประกัน
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 25-06-2019 12:54:29
น้องอาลันน่าสงสารมาก

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตัวประกัน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 25-06-2019 20:57:56
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #บ้านใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 26-06-2019 09:55:40
ผมออกจากโรงพยาบาลหลังจากนั้น 2-3 วันอย่างที่ชาร์ลว่าไว้ และ สิ่งที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือการได้ย้ายบ้านใหม่ เป็นบ้านหลังใหญ่รั้วสูง ราวกับต้องการปิดกั้นภายในจากภายนอก ในใจผมคิดว่าอาจจะเป็นคุกก็ได้ แต่เพียงรถแล่นเข้ารั้วใหญ่ตระหง่านก็พบกับสวนหญ้าสีเขียวขจีกว้างเท่าสนามฟุตบอลของโรงเรียน หรืออาจจะมากกว่า ตัดกับแปลงดอกไม้สีสันสดใส ทอดยาวไปจนถึงตัวบ้าน ผมมองข้างทางทั้งสองฝั่งอย่างตื่นเต้น


"บ้านไงล่ะ" อีธานพูดขึ้นเหมือนจะเดาใจผมออก "มาสิ จะพาไปดูห้องก่อน เดี๋ยวตอนบ่ายๆ ค่อยพามาดูสวน" อีธานยื่นมือมาให้จับ


ผมคิดว่าเขาคงกลัวว่าคนที่เพิ่งหายป่วยอย่างผมจะล้มหัวทิ่มไป จึงยอมวางมือลงบนฝ่ามือใหญ่แต่โดยดี


อีธานฉีกยิ้มกว้างเหมือนเคย พาผมเข้าไปในบ้าน กำชับให้คนยกกระเป๋าเสื้อผ้าที่มีอยู่ใบเดียวตามเข้าไป ทั้งๆ ที่ผมก็บอกแล้วว่าถือเองได้ก็ตาม


"นี่ห้องพี่..." อีธานเรียกแทนตัวเองแบบนี้เสมอกับผม และเรียกแทนผมว่า..

"ส่วนนี่ห้องน้อง....และนั่นก็ห้องพ่อ ถัดไปก็ห้องหนังสือและห้องทำงานพ่อด้วย"


เสียงประตูเปิดออกจากห้องที่อีธานเพิ่งจะแนะนำไป เจ้าของห้องเดินออกมาด้วยชุดลำลองสบายๆ แปลกตาแตกต่างไปจากทุกทีที่เคยเห็น


"นึกว่าพ่อเข้าบริษัท"


ชาร์ลมองมาที่ผมและอีธานก็ยังจับมือผมเอาไว้ในฝ่ามือเขา ผมอยากจะดึงมันออก แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร


"หยุดสักวันน่ะ เย็นนี้มารีน่าจะเข้ามา ก็ว่าจะให้จัดเลี้ยงต้อนรับเสียเลย"


ผมลิงโล้ดไปกับประโยคที่ได้ยิน แน่นอนว่าคุณขาร์ลและอีธานก็คงสังเกตเห็น ทั้งสองคนส่งยิ้มให้กัน


"ที่นี่เขาอนุญาตให้ยิ้มกันได้นะ ตำรวจไม่จับ" คุณชาร์ลว่าก่อนจะเดินเลี่ยงลงไปข้างล่าง ส่วนอีธานก็ระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่นบ้านทำหน้าเหมือนล้อเลียนผม จับมือผมแกว่งไปมาแล้วพาเดินดูบ้านต่อ


เย็นวันนั้นมีงานเลี้ยงต้อนรับผม มารีน่าและแม็คก็มาด้วย แน่นอนว่าแม็คไม่สามารถเก็บอาการได้เลยทั้งร้องไห้สะอึกสะอื้นหันไปปลอบมารีน่าที่นั่งน้ำตาซึมทีสลับกับหันมาปลอบผมทีตลอดงาน


มารีน่าค้างคืนกับผม และกลับออกไปในตอนเช้า ผมที่ตื่นแล้วจึงเดินสำรวจรอบบ้านเงียบๆ เมื่อวานอีธาน...ไม่สิเขาชอบให้ผมเรียกว่าพี่ พอเรียกแล้วเขาจะยิ้มกว้างมากๆ ผมก็ชอบนะ เพราะไม่เคยเรียกใครเลยเหมือนกัน



...........................




ตอนเช้า

ผมเดินลัดเลาะมาถึงสวนด้านหลังก็แอบตะลึง และทึ่งในความสงบสวยงามที่ลงตัว กลางสวนมีซุ้มเล็กๆ สำหรับนั่งพักผ่อน จึงถือวิสาสะเดินเข้าไป ผมมองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น ปลายนิ้วขยับยกไล่ไปบนโต๊ะอย่างลืมตัว ผมกำลังจินตนาการ กำลังวาดรูป กลีบสวยของดอกไม้ความหยักและสีสันที่ลงตัวของธรรมชาติมันทำให้ผมจมดิ่งลงไปในความคิดตัวเอง ผมไม่เคยได้ออกมานั่งสบายอารมณ์แบบนี้มากนัก เก็บตัวแอบอยู่ในห้อง ไม่ก็ตู้เสื้อผ้าแคบๆ ห้องเก็บของหรือไม่ก็สวนมืดๆ ในตอนกลางคืน จนกว่าแม่จะกลับ....



"เอาอันนี้ดีกว่าไหม? " ด้วยเพลิดเพลินอยู่ในจินตนาการจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า อีธานวางสมุดวาดรูปพร้อมดินสอลงบนโต๊ะ


ผมไม่ได้ตอบ หรืออาจจะยิ้มออกไปก็ได้ พี่ถึงได้ยิ้มกว้างตอบกลับมา แล้วความเงียบก็ถูกทำลายด้วยเสียงขูดขีดของดินสอ แผ่นแล้วแผ่นเล่า โดยที่พี่เพียงแต่นั่งเท้าแขนมองผมอยู่เงียบๆ แบบนั้น


"ชอบวาดรูปเหรอ" พี่ถามและผมก็พยักหน้าตอบ


"วาดรูปพี่บ้างสิ" ผมชะงักมือที่กำลังขีดเขียน หันไปมองหน้าคนพูด อันที่จริงผมไม่เคยวาดหน้าคนมาก่อน


"จะลองดูก็ได้"ผมตอบไปแบบนั้นเพราะจะปฏิเสธพี่ก็ยิ้มกว้างดวงตาเป็นประกาย


"พี่จะรอ"


"ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว" เสียงทุ้มพูดขัดขึ้น พร้อมกับวางถาดอาหารสำหรับสามคนลงบนโต๊ะ ชาร์ลไม่ได้บังคับแต่ดึงสมุดวาดเขียนพร้อมกับดินสอออก แล้วดันถาดอาหารเช้าไปตรงหน้าแทน


"พ่อตื่นเช้าจังแหะ" อีธานว่าพร้อมกับหยิบแซนด์วิชเข้าปากเคี้ยว


"อย่าตามใจน้องมาก อีธาน"


ผมหูผึ่งตอนที่ชาร์ลหันไปดุพี่ด้วยเรื่องที่เกี่ยวกับผม โดยการข้ามหน้าผมไปเลย เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเหมือนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการโดนดุในครั้งนี้


"ผมไม่ได้...." และเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่รู้สึกอยากเถียง แต่ยังไม่ทันพูดจบ ชาร์ลก็ขัดขึ้นมา


"อย่าลืมว่าสายแล้วด้วย" ชาร์ลพูดพลางสไลด์แทปเล็ตในมือ


"จริงด้วย!! โรงเรียน ตาย!! "


'โรงเรียน? ' ผมทวนคำในใจแต่มันคงแสดงออกมาทางสีหน้า พี่เลยหันมาหัวเราะยกใหญ่


"พี่ยังเรียนอยู่ไฮสคูล" พูดจบพี่ก็วิ่งกลับเข้าบ้านไป ปล่อยผมให้นั่งทำหน้าเหวออยู่กับชาร์ลสองคน



ก็คือถ้าไม่เห็นเองกับตา ผมก็คิดว่าอีธานทำงานที่บริษัทชาร์ลไปแล้ว เด็กกว่านั้นหน่อยก็แบบ...เด็กฝึกงานเตรียมรับช่วงต่อจากพ่อ แต่พอมองหน้าชาร์ลชัดๆ อีกที เขาก็ยังไม่ได้ว่าจะอายุเยอะขนาดนั้น



"หน้าฉันมีอะไรงั้นรึ? "


คงเพราะผมจ้องนานไป ชาร์ลถึงได้หันกลับมาถาม ผมสะดุ้งกับสายตาจริงจังนั่นจึงได้แต่ส่ายหัวไปมาแทนคำตอบ


"เธออยากไปไหม"


"ฮะ? "


"โรงเรียน"


ผมเผลอกัดปากตัวเองนั่งนิ่งจมอยู่ในความคิด ครั้งสุดท้ายที่ผมไปโรงเรียน...คือผมถูกจับตัวไป....และก็เกือบตาย


"ผะ...ผมเรียนผ่านเน็ต จบหลักสูตรออกแบบและดีไซเนอร์" ตอบตะกุกตะกักเนื่องจากสายตาคู่นั้นนังคงจับจ้องมา


"งั้นรึ? "


ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องของโรงเรียน แต่มันเป็นเรื่องอื่นที่ผมกลัว...กลัวการออกไปข้างนอก ในรั้วสูงๆ ของบ้านนี้มันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย


"อืม...ถ้างั้นอยากจะออกไปไหนก็บอกฉันหรืออีธานได้"


"ครับ"


"จะไปไหนก็ได้ เท่าที่เธออยากจะไป ต่อไปนี้จะไม่มีใครมาทำอะไรเธอได้อีก...แค่บอกฉัน....เข้าใจไหม"


ขอบตาผมร้อนผ่าว ฝ่ามือหนาวางลงบนหัวผมแล้วลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน น้ำตาหยดหนึ่งหยดลงบนตักอย่างช่วยไม่ได้ ตอนที่ผมพยักหน้าตอบชาร์ล ในอกมันอบอุ่นอย่างที่ผมไม่เคยได้สัมผัส


ในสมุดวาดเขียนแผ่นสุดท้ายของเล่มในวันนั้น


มีรูปวาดเป็นภาพร่างของผู้ชายคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กชายคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน


เงาสีดำที่ดินสอระบายทอดยาวไปด้านหลังคล้ายปีกสีดำที่กางออกกว้าง





*********

หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #หนึ่งปีต่อมา
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 27-06-2019 09:08:17
1ปีต่อมา



ผมเริ่มคุ้นชินกับบ้านนี้แล้ว ชาร์ลทำระเบียงห้องให้ผมใหม่เพื่อที่จะได้เปลี่ยนบรรยากาศในการวาดรูป เพราะช่วงแรกๆ ผมไม่ออกไปไหนและไม่ยอมออกมาจากห้องในเวลาที่มีคนอยู่บ้าน



แน่นอนว่าเขาไม่ได้บังคับ ตะคอกหรือส่งเสียงดังใส่ ปล่อยให้ผมทำอะไรก็ได้เท่าที่ใจอยากจะทำ



มารีน่าแวะมาหาผมทุกสุดสัปดาห์ งานเธอยุ่งเพิ่มมากขึ้นนั่นเพราะมีทีมการตลาดมืออาชีพ พอผมเริ่มคุ้นชินกับบ้านหลังนี้ในเดือนแรกพวกเราก็มีกฎในการทานมื้อเย็นร่วมกัน ผม พี่ และชาร์ล ทุกๆ เย็นเราจะทานอาหารร่วมโต๊ะกัน ผมชอบที่จะฟังพี่เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง และชอบที่ชาร์ลมักจะสอนทุกๆ เรื่องให้พี่ฟัง นอกจากความรักและเคารพ พี่ยังเทิดทูนชาร์ลมากในทุกๆ เรื่อง



ผมได้ลงเรียนเพิ่มเกี่ยวกับการออกแบบที่เกี่ยวข้องอีกหลายหลักสูตร รวมไปถึงหลักสูตรที่ไม่เกี่ยวข้องบ้าง อย่างเช่น การตลาดออนไลน์เพราะผมอย่างคุยกับทุกคนรู้เรื่อง หรือการทำอาหาร...



ผมชอบที่จะทำให้ทุกคนทาน และถูกชมว่ามันอร่อยมาก ถ้ามีเวลาอีก ผมว่าจะลองเรียนทำขนมด้วย แม็คชมผมใหญ่ว่างานออกแบบของผมดูอบอุ่นนุ่มนวลขึ้น มารีน่าและแม็คเก่งเรื่องการพูดและเจรจาบวกกับทีมการตลาดมืออาชีพของบริษัทชาร์ลทำให้แบรนด์ติดตลาดขึ้นมาแบบก้าวกระโดด



ผมสามารถจัดกระบวนความคิดของผมให้เป็นรูปร่างได้ไม่ว่าจะเป็นตอนทำอาหารอยู่และสามารถร่างแบบในหัวลงในไอแพดเก็บไว้ได้ ใช้ชีวิตไปเงียบๆ ในทุกวันสุดสัปดาห์ทุกคนจะมารวมกัน ทานอาหารด้วยกัน อาหารฝีมือผม มันทำให้ผมมีความสุข





และตอนนี้ผมกำลังเงยหน้าขึ้นมอง ณ สุดขอบความสูงของประตูรั้วพลางถอนหายใจ สูงเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ สูงขนาดที่แหงนมองยังปวดต้นคอ ผมไม่ได้จะพยายามปีนออกไปหรอกนะ



'ตัดสินใจแล้ว' เป็นไงเป็นกัน



"ทำอะไรน่ะ" ขาอ่อนจนแทบทรุดลงไปนั่งกับพื้นถ้าไม่ได้แขนของชาร์ลจับไว้ หมดกันความกล้าของผม



"ชาร์ล! "



"ทำอะไรอยู่? " ชาร์ลเอ่ยถามซ้ำอีกรอบ



"คือว่าผม....คือ..." ผมก้มหน้าหลบตาพลางบอกเสียงอ้อมแอ้ม ก็คือว่าผมอยากจะลองออกไปข้างนอกคนเดียวดูบ้าง ตั้งแต่ตอนนั้นมันก็นานมาแล้วที่ผมเอาแต่พึงคนอื่นตลอด



"ผมแค่จะไปร้านค้า... ตรงหัวมุม"



"แล้ว? " ชาร์ลถามเสียงสูงด้วยสีหน้าสงสัย และผมไม่ได้คิดคำตอบเผื่อไว้ในกรณีถูกถาม



"อยากลองออกไปคนเดียวดูบ้าง"



"อืม" ชาร์ลทำเสียงตอบรับในลำคอ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมรู้สึกผิดจนไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองเขา อันที่จริงมันเป็นความพยายามครั้งแรก และเมื่อชาร์ลเอ่ยปากพูดอีกครั้ง…



"ไว้คราวหน้าแล้วกัน" จบแล้วความพยายามของผม



แกร๊ก เสียงตัวล็อกประตูบานเล็กสำหรับคนเข้าออก ถูกเลื่อนออก



"ไว้คราวหน้าค่อยไปคนเดียว คราวนี้ฉันจะเดินไปเป็นเพื่อน" นั่นทำให้ผมอ้าปากค้าง ก่อนจะเม้มปากลอบยิ้มกับตัวเอง แล้วก้าวกระโดดตามชาร์ลออกไปนอกรั้วบ้าน



ชาร์ลใจดีกับผมเสมอ ผมลืมความจริงข้อนี้ไปได้ยังไง



"แล้วจะไปซื้ออะไร? " ผมส่ายหัวแทนคำตอบแล้วก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ตอนที่เราเดินออกมาได้ครึ่งทางแล้ว



"อ่า..ผมลืมเอากระเป๋าเงินมา" พอพูดออกไปแบบนั้น ชาร์ลก็หัวเราะออกมาแทบจะทันที ผมชอบที่ชาร์ลหัวเราะนะ แค่ไม่ใช่ครั้งนี้...



เราเดินมาจนถึงร้านค้าเล็กๆ ตรงหัวมุมถนนจนได้ เงินติดกระเป๋าผมมาทำให้เราซื้อได้แค่กาแฟ และ โกโก้คนละหนึ่งแก้วแล้วเราก็เดินไปนั่งตรงสวนสาธารณะเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกล



“ทำไมถึงอยากจะออกมาคนเดียว บอกฉันหรือไม่ก็อีธานก็ได้นี่”



“ผมรู้” ผมรู้ว่าชาร์ลกับพี่จะออกมาด้วยแน่ๆ เพียงแค่ผมเอ่ยปาก แต่บางครั้งผมก็อยากจะลองทดสอบความกล้าของตัวเองบ้าง แต่เมื่อกี้แค่เดินดูของในร้านแล้วหันกลับไปไม่เห็นเงาของชาร์ล ผมก็แทบจะวิ่งออกมาตามหา คิดไปเองว่าจะโดนทิ้งแล้วแน่ๆ แต่เขาไม่ใช่คนแบบนั้น



และเขาก็ยืนรอผมอยู่หน้าร้านด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนเคย ผมควรเชื่อใจเขา



เรานั่งอยู่ตรงสวนสาธารณะใกล้ๆ กันหลายนาที คุยกันเรื่องต่างๆ และผมก็บ่นเสียดายที่ไม่ได้เอาอุปกรณ์วาดรูปมาด้วย ชาร์ลบอกว่าให้เอามาได้ในครั้งหน้า แล้วเราก็กลับบ้านกันในตอนสาย เพราะชาร์ลจะต้องเข้าบริษัท และเขาไม่อยากทิ้งให้ผมต้องเดินกลับคนเดียว



“ไปไหนกันมา?” พี่ถามทันทีที่เห็นเข้าบ้านมา



“พี่...ชาร์ลพาผมไปร้านตรงหัวมุมมา” ผมบอกอย่างร่าเริง



“ไม่เห็นชวน?” พี่ทำเสียงสูงสีหน้าไม่พอใจและยกมือกอดอก มันทำให้ผมที่ทำท่าจะวิ่งเข้าไปหาชะงักอยู่ครึ่งทาง



“สำหรับคนตื่นสาย” ชาร์ลยื่นถุงขนมราคาถูกสำหรับเด็ก กล่องหนึ่งส่งให้ และพี่ทำท่าจะไม่รับมันไปจนชาร์ลพูดอีกรอบ “น้องซื้อมาฝาก” พี่ถึงได้ยื่นมือออกมารับ



“คือว่าผม..ลืมเอากระเป๋าเงินออกไป ก็เลย...” พอผมบอกตามความจริง พี่ที่กำลังทำหน้าหงุดหงิดก็หัวเราะออกมา ทำไมทุกคนจะต้องหัวเราะผมด้วยนะ



“สตอเบอรี่เนี่ยะนะ” พี่บ่นตอนที่แกะซองขนมชิ้นหนึ่งแล้วก็เอาเข้าปากด้วยสีหน้าประหลาดๆ มันเป็นสิ่งที่ผมจินตนการเอาไว้แล้ว สีหน้าของพี่ทำให้ผมหัวเราะออกมาบ้าง และพี่ก็ยื่นมือมาจับหัวผมโยกไปมาราวกับเอาคืน



“พ่อจะซื้อทั้งร้านเลยก็ได้นี่น่า” พี่หันไปว่าชาร์ล และเขาก็ทำหน้าครุ่นคิดก่อนตอบลูกชาย



“คิดอยู่เหมือนกัน”



เดี๋ยวก่อนนะ! ผมหันไปทำตาโตใส่ชาร์ล แต่เขาก็ทำเป็นเลิกคิ้วเชิงถาม ‘อะไร?’ ตอบกลับมา



“แล้วพ่อได้อะไร” พี่ยังคงเซ้าซี้ถามต่อ ในขณะที่มือยังฉีกขนมซองที่สอง



“กาแฟร้อน” ชาร์ลตอบเสียงเรียบ



“กาแฟเนี่ยนะ!” พี่ทิ้งตัวพิงโซฟาแล้วพ่นลมหายใจออก พร้อมกับบ่น “ไม่ยุติธรรม” พร้อมกับยัดขนมชิ้นที่สองเข้าปาก

“สำหรับคนตื่นสาย ก็สมควร” ชาร์ลว่ากลับ ในขณะที่ผมยังไม่เข้าใจ



“ถ้าพ่อไม่ซื้อ ผมจะซื้อล่ะนะ” พี่หันไปถามชาร์ลด้วยสีหน้าจริงจัง และชาร์ลทำเป็นเลิกคิ้วพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แยแสคำพูดลูกชาย



“พี่จะซื้ออะไรเหรอ” เป็นผมเองที่เอ่ยถามด้วยความสงสัย...หลายๆ เรื่อง



พี่หันมายิ้มอารมณ์ดีให้ผมแล้วตอนนี้



“ร้านตรงหัวมุมน่ะ”



“ครับ?”



“พี่จะซื้อ...ทั้งร้านเลย..” พี่บอกเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนตอนที่จะเหมาเสื้อผ้าให้ผมทั้งร้านถ้าผมไม่เลือก

และผมคงอ้าปากค้างหรือไม่ก็ทำหน้าเหวอไปแล้วตอนนี้เมื่อได้ยินคำประกาศห้องของพี่



และชาร์ลก็เพียงแค่หัวเราะออกมาเบาๆ



ความพยายามในการออกไปข้างนอกคนเดียวของผม จบลงด้วยการที่พี่ซื้อร้านค้าทั้งร้านเป็นของตัวเอง…







****************






#Talk
โอ๊ยยยยยยย อิพี่!! ป๋ามากกกกกก 555+
สงสารน้อง งงไปหมด พูดก็ไม่ทันเขา
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #หนึ่งปีต่อมา
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 27-06-2019 10:55:41
ทั้งขำทั้งสงสารน้อง
ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้ออกจากเงาสองพ่อลูกคู่นี้ได้แล้วล่ะมั้ง
แต่ชอบคุณชาร์ลจังเลยค่ะ ลุคผู้ใหญ่ใจดี ตอนเดินไปร้านกับน้องมันแบบละมุน  :o8:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #หนึ่งปีต่อมา
เริ่มหัวข้อโดย: New_atcha ที่ 27-06-2019 13:12:28
ขนมรสสตอเบอร์รี่กับกาแฟร้อนนี่มันทำให้คนอารมณ์ดีจังเลยน้าาา
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #หนึ่งปีต่อมา
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-06-2019 00:41:01
คือจะสายเปย์ไปไหนกันสองพ่อลูกเนี่ย55555
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #หนึ่งปีต่อมา
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 28-06-2019 06:52:30
ได้พ่อแถมลูก
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #หนึ่งปีต่อมา
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 28-06-2019 06:58:14
น้องน่ารัก จะโรคจิตไปป่าวถ้าบอกว่ารอ 3P 555
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ทีละเล็กทีละน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 28-06-2019 10:24:21
งื้ออออ...#หนึ่งปีผ่านไป ได้อ่านเม้นแล้ววววว 5555 (<นั่นมันชื่อตอน -_-555+)
ขอบคุณทุกคนเลยจ้า

 :hao5:

*****อ่านต่อกันเลย*****


จากวันนั้นผมก็เลยไม่ได้ออกไปไหนคนเดียวอีก ถ้าจะออกไปไหนไม่ชาร์ลหรือพี่จะเป็นคนพาออกไป ทั้งร้านอาหาร หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ สวนดอกไม้สวยๆ และคราวนี้เป็นอควาเรียม บางครั้งมารีน่าหรือแม็คก็มารับออกไปช้อปปิ้ง ไปดูงานที่บริษัท ทำเรื่องสนุกต่างๆ โดยมีคนของชาร์ลตามไปด้วยทุกครั้ง



การออกไปข้างนอกกับผมอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อก็ได้ เพราะผมเอาแต่หยุดในจุดที่ผมอยากหยุด แล้วจากนั้นเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงที่ผมจะจมดิ่งไปกับการสก็ตรูป ผมพยายามบอกทั้งคู่แล้วว่าผมอยู่ได้ จะนั่งรออยู่ตรงนี้แล้ววาดรูปให้ทั้งสองคนไปเดินเที่ยวให้สนุก



แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราไปสวนสาธารณะกัน พี่แยกไปซื้อน้ำ ส่วนชาร์ลบอกจะไปซื้อของกิน ปล่อยผมนั่งวาดรูปอยู่ตรงนั้น โดยให้สัญญาว่าจะไม่ลุกเดินไปไหนตามลำพัง แต่พอเงยหน้าละสายตาจากสมุดวาดรูปก็มีคนกลุ่มหนึ่งมารุมล้อม ตื๊อให้ผมวาดรูปให้ทั้งที่ปฏิเสธไป แต่บางคนก็ยินดีที่จะจ่ายเงินซื้อรูปของผม



ชาร์ลและพี่ที่กลับมาหลังจากนั้นโมโหคนพวกนั้นยกใหญ่ ผมพยายามอธิบายว่าพวกเขาไม่ได้มาทำร้ายหรือทำอะไร แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมฟัง แล้วพาผมกลับบ้านทันที


“เจ้าพวกน่ารำคาญ” พี่บ่นเสียงขุ่นเคือง ใบหน้าหันมองออกไปด้านข้าง ปล่อยผมนั่งตัวลีบอยู่ตรงกลาง


“โทษที เราไม่ได้โกรธเธอหรอกนะ” ชาร์ลบอกตอนที่เราสามคนขึ้นมานั่งบนรถแล้ว ชาร์ล ผม และพี่


“พี่ทำสวนให้เอาไหม น้องร่างแบบที่ชอบมาได้เลย” พี่บอกหันมาทำหน้าจริงจัง ผมรีบส่ายหัวรัวทันที


พี่ทำให้ได้อย่างที่พูดเชื่อไหม? และบางทีผมก็แปลกใจคุณพ่ออย่างชาร์ลที่ตามใจพี่ขนาดนี้ เขาแค่หัวเราะชอบใจไปกับความคิดของพี่


“ผม..ไปสวนตรงหัวมุมก็ได้ครับ” ผมพูดถึงสวนสาธารณะเล็กๆ ที่อยู่ถัดไปจากร้านค้า ตรงนั้นไม่ค่อยมีคนมาก ไม่วุ่นวาย มีแต่พวกเด็กๆ กับพวกคุณลุงคุณป้าที่ออกมาเดินเล่นกัน ถ้าไปตรงนั้นผมสามารถไปคนเดียวได้ และเจ้าของร้านค้าตรงหัวมุม (ถึงแม้ว่าตอนนี้พี่จะเป็นเจ้าของแล้วก็เถอะ) คุณนายสก็อตเธอก็ใจดีกับผมมากๆ


“พี่เขาแค่เป็นห่วง เข้าใจใช่ไหม” ชาร์ลวางมือลงบนหัวผมแล้วลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน ผมพยักหน้าตอบว่าเข้าใจ ผมเข้าใจดี เพราะทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ชินกับการเจอคนแปลกหน้าและเสียงตะโกนดังๆ มันทำให้ผมรู้สึกกลัวและสะดุ้งทุกครั้งอย่างไม่สามารถควบคุมได้


พี่กับชาร์ลรู้เรื่องนี้ดี...และการมีเขาสองคนอยู่ใกล้ๆ มันทำให้ผมอุ่นใจ


จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่เคยทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวอีกเลย ทั้งคู่จะผลัดกัน แม้ว่าผมจะจมดิ่งไปกับการวาดรูปอย่างเงียบๆ พวกเขาก็ยินดีที่จะนั่งรออยู่เฉยๆ อยู่ดี



เอาเข้าจริง ถ้าไม่มีพี่กับชาร์ลออกไปด้วย แค่อยู่ในบ้านผมก็ไม่ได้เบื่ออะไร ถ้าอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศก็แค่เดินไปในสวน และชาร์ลก็อนุญาตให้ผมเข้าไปอ่านหนังสือในห้องหนังสือของเขาได้


พอได้เวลาก็ลงไปเตรียมอาหารรอพี่กับชาร์ลกลับบ้าน


เสียงรถแล่นเข้ามา เป็นเสียงรถชาร์ล ผมหยิบแก้วชาขึ้นมารินชา ชาร์ลเดินมานั่งที่เค้าเตอร์เหมือนเคย


"เหนื่อยไหมครับ"ผมเสิร์ฟชา เขารับชาไปจิบแล้วหลับตาราวกับกำลังดื่มด่ำกับมัน


"ดีขึ้นแล้ว ขอบใจนะ" ผมคงยิ้มออกมาเขาถึงได้ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน ผมชอบบรรยากาศแบบนี้ อยู่กันเงียบๆ โดยไม่ต้องพูดอะไร มันเหมือนอบอวลไปด้วยความรู้สึกสุขในอก


ไม่นานนักเสียงเครื่องยนต์ราคาแพงก็ดังกระหึ่มเข้ามา ผมรู้ทันทีว่าเป็นพี่ไม่ใช่ใคร พี่เดินเข้ามายิ้มกว้างให้ผมอย่างเคย แต่พี่ไม่นั่งรอที่เค้าเตอร์เหมือนชาร์ล เดินเข้ามาหาผมที่กำลังชงมะนาวโซดาให้ กางแขนคร่อมตัวผมไว้ตรงกลางแล้วหอมแก้มเสียงดังฟอดอย่างไม่เกรงใจว่าจะมีใครนั่งอยู่อีกคน ผมสะดุ้งร้อนวูบ หันกลับไปมองชาร์ลที่กำลังเลื่อนนิ้วสไลด์แท็ปเล็ตอ่านข่าวเลยไม่ได้สนใจพวกเรา


“หิว….” พี่บอกแบบนั้นแต่ก็ยังคงยืนที่เดิม และผมก็ขยับได้ไม่ถนัด


“ผมจะทำของว่างให้ แต่...อื้อ...พี่...” ผมช้อนสายตามอง แต่พี่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แถมยังทำท่าจะหอมแก้มผมอีกรอบ แต่คราวนี้ผมหดตัวหลบได้ทัน พี่หัวเราะยอมปล่อย แล้วเดินไปนั่งข้างชาร์ล


“อาทิตย์นี้ไปอคาเรียมกันไหม” พี่หันไปพูดกับชาร์ลแต่ผมกำลังตั้งใจฟัง ผมยังไม่เคยไปอวาเรี่ยม เคยเห็นในอินเทอร์เน็ต มันคงจะน่าตื่นเต้นมากถ้าได้ไปเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง


ชาร์ลทำสีหน้าครุ่นคิด ผมแอบเห็นว่าชาร์ลปรายหางตามองมาทางผมนิดหน่อย แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจหน้าผมที่กำลังรอฟังคำตอบ ทำเป็นเหมือนในบทสนทนานั้นไม่มีผมยืนรอฟังอยู่


“อืม...” นั่นคือคำตอบของชาร์ลรึเปล่าผมก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน


“ไปดีไหมนะ” และพี่ก็ทำเหมือนเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความคิดอย่างหนัก


ทั้งคู่ทำเป็นเหมือนไม่มีผมยืนอยู่ตรงนั้น


หลายนาทีกว่าที่ชาร์ลและพี่จะหันกลับมามองผมที่ยังยืนนิ่ง


“ว่าไง? / ไปไหม? ” ชาร์ลและพี่หันมาถาม และผมก็ตอบกลับในทันที


“ไปครับ”


ทั้งสองคนหัวเราะ และผมก็เพิ่งรู้ว่าโดนทั้งคู่แกล้งอีกแล้ว



.........................


ช่วงนี้พี่เริ่มทำงานที่บริษัทแล้วแม้จะยังเรียนอยู่ก็ตาม พี่ชอบที่ตามชาร์ลไปประชุมหรือออกงานด้วย ไม่เหมือนเด็กวัยเดียวกัน และบริษัทที่ชาร์ลให้พี่ดูแลเต็มเวลาก็คือแบรนด์ของมารีน่า ระยะหลังช่วงวันทานข้าวสุดสัปดาห์เราก็คุยกันในเรื่องสัพเพเหระ และงานปนกันไปได้อย่างสนุกสนาน



ผมเป็น back designer พี่ก็เป็น back marketing เช่นเดียวกัน ในข่าวธุรกิจเริ่มมีการพูดถึงการตลาดรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ดึงกระแส social ที่กำลังมาแรงปรับให้เข้ากับการโปรโมทและขายงานไปพร้อมๆ กันได้อย่างลงตัว พี่สนุกกับการได้เห็น alanmaria เติบโต เช่นเดียวกับมารีน่า แมค และผม



ส่วนชาร์ลก็ชอบที่จะนั่งฟังพวกเราเงียบๆ และเลือกพูดในจุดที่คิดว่าพี่ลืมเลือนไปโดยไม่หักหน้าลูกชายที่กำลังไฟแรงเลยแม้แต่น้อย


ผมชอบที่มันเป็นแบบนี้ มันเหมือนเราสนุกกันได้ในทุกๆ เรื่อง เป็นครอบครัว และเป็นที่ทำงาน แบบไม่ต้องแยกออกจากกันก็ได้


และถ้ามีเวลา วันไหนที่พี่จะไปออฟฟิศของมารีน่า ตัวผมซึ่งไปในนามน้องชาย ก็จะได้ตามไปด้วยเสมอ


อ่อ...ผมได้รับอนุญาตให้อยู่ฟังด้วยได้นะ ตอนที่เขาประชุมทีม แต่ก็เป็นคนขอออกมาเองเพราะทนเสียงตะโกนของพวกเขาไม่ไหว คือเขาไม่ได้ทะเลาะกันผมรู้ มันเป็นการถกเถียงกันเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด


“เบื่อไหม? ” พี่ถามผมที่กำลังเปิดแคตตาลอคลายผ้ามากมายที่แม็คเอามาให้ดูแก้เบื่อตอนที่พวกเขาประชุมกัน


“ไม่นะ...สนุกดี...” ผมแอบหัวเราะ และพี่ก็จับหัวผมโยกไปมา มันน่าทึ่งนะ แต่ผมก็อดสะดุ้งทุกครั้งไม่ได้ที่มีใครสักคนตะโกนขึ้นมา


ถกกันเรื่องคอลเลคชั่น เรื่องโชว์ ต่อด้วยการตลาด มันต้องเหนื่อยมากแน่ๆ นี่เองที่มารีน่าชอบพูดบ่อยๆ ว่าการประชุมทีมเหมือนโดนสูบวิญญาณ แต่ในความเหนื่อยนั้นทุกคนมีความสนุกกับการทำงานในหน้าที่ของตัวเอง


ผมเองก็ควรสนุกบ้าง คอลเลคชั่นหน้า ผมจะทำให้มารีน่ากับแม็คโดนสูบวิญญาณอีก


“วันนี้กินข้าวนอกบ้านแล้วกัน เดี๋ยวพี่โทรนัดพ่อก่อน” ผมพยักหน้าตอบ


พี่มองหน้าเหมือนลังเลอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบเล่มตัวอย่างลายผ้าขึ้นมาตั้ง….


แล้วก้มลงมาจุ๊บที่ปากผมเบาๆ แล้วผละออกอย่างรวดเร็ว


“ขอเติมพลังหน่อย”


ผมนั่งตัวแข็งค้าง ในขณะที่พี่เดินออกไปโทรศัพท์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


หน้าผมกำลังร้อนเป็นไฟ พี่จะทำแบบนี้กี่ครั้งก็ได้ถ้าเป็นที่บ้าน ถ้ามีคนอื่นมาเห็นผมคงไม่กล้ามาที่นี่อีก






……..





พี่ทำแบบนี้บ่อย ...ตั้งแต่พวกเราเริ่มจูบกัน



ใช่...เราจูบกัน



มันเกิดขึ้นตอนที่เราไม่ทันตั้งตัว ในวันทานข้าวร่วมกันเหมือนทุกสัปดาห์ ผมขอนั่งร่างแบบที่ผุดขึ้นมาในหัวตอนงานเลี้ยงเลิก สัญญากับมารีน่าว่าจะไม่งอแงนอนดึก และพี่ก็ถูกสั่งให้เฝ้าดูให้ผมปฏิบัติตาม ชาร์ลออกไปส่งแขกหน้าบ้าน เหลือเพียงผมกับพี่สองคน ขณะที่ผมจมดิ่งอยู่ในความคิด ลมเจ้ากรรมก็พัดวูบ ผมคว้าแผ่นกระดาษใกล้ตัวยัดลงกล่องได้ทัน และมีอีกแผ่นที่กำลังลอยละล่อง ผมไม่ทันคิด โดดคว้าเอาไว้ และพี่ก็เร็วกว่าที่โดดคว้าเอวผมเช่นกัน ผลก็คือ....



ตูมมมมมม


ผมคว้าเอากระดาษแผ่นนั้นไว้ได้ และแน่นอน พี่ก็คว้าตัวผมไว้ได้เช่นกัน แต่....เราทั้งคู่ตกน้ำ!! ผมสำลักไปหลายที ขาลอยไม่แตะพื้นเพราะพี่อุ้มผมเอาไว้


"อุ๊บ"


"ฮ่าๆ ๆ ๆ "


มันเกิดขึ้นตอนที่เราไม่ทันตั้งตัว ในวันทานข้าวร่วมกันเหมือนทุกสัปดาห์ ผมขอนั่งร่างแบบที่ผุดขึ้นมาในหัวตอนงานเลี้ยงเลิก สัญญากับมารีน่าว่าจะไม่งอแงนอนดึก และพี่ก็ถูกสั่งให้เฝ้าดูให้ผมปฏิบัติตาม ชาร์ลออกไปส่งแขกหน้าบ้าน เหลือเพียงผมกับพี่สองคน ขณะที่ผมจมดิ่งอยู่ในความคิด ลมเจ้ากรรมก็พัดวูบ ผมคว้าแผ่นกระดาษใกล้ตัวยัดลงกล่องได้ทัน และมีอีกแผ่นที่กำลังลอยละล่อง ผมไม่ทันคิด โดดคว้าเอาไว้ และพี่ก็เร็วกว่าที่โดดคว้าเอวผมเช่นกัน 


เราทั้งคู่หันมาสบตากันแล้วหัวเราะเยาะกันเอง ผมชูมืออวดแผ่นกระดาษที่คว้าเอามาได้อย่างนึกอวด พี่ไม่ชมผมเลย ผมก็เลยหันกลับไปมอง จังหวะนั้นใบหน้าเราใกล้กันมาก ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนยื่นหน้าเข้ามาก่อน จนจมูกเราแตะกัน จากนั้นมันก็เลยเถิด



"ชอบไหม? "



"อื้อ" ผมตอบตรงๆ และพี่ก็ยิ้มกว้าง



คืนนั้นจำได้ว่าโดนชาร์ลดุเพราะกลัวผมจะไม่สบาย เราแยกกลับห้องตัวเอง ผมนอนไม่หลับ เอาแต่ฝันถึงพี่ และเสียงชาร์ลที่ปลอบเบาๆ ว่าไม่เป็นไรอย่างอ่อนโยน


ใช่...ชาร์ลอ่อนโยนกับผมเสมอแม้จะอยู่ในฝัน


และหลังจากนั้นพี่ก็จะจูบผมทุกครั้งที่มีโอกาส



...............................



"วันนี้ออกไปข้างนอก ไม่ต้องทำข้าวเย็นเผื่อนะ" พี่บอกและผมก็เพียงพยักหน้ารับคำ


“อย่าเหลวไหลมากนักนะ อีธาน” ชาร์ลดุลูกชายโดยไม่เงยหน้าจากการอ่านข่าว


และผมก็รู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ชาร์ลเรียกพี่ด้วยชื่อเต็มๆ นั่นหมายถึงคำสั่งจริงจังอย่างละมุนละม่อมที่สุดเท่าที่เขาจะเอ่ยออกมาได้ต่อหน้าผม


ตอนนี้พี่จบไฮสคูลแล้ว กำลังเรียนต่อด้านการบริหาร และวันไหนไม่ไปเรียนพี่ก็จะเข้าบริษัท เรียนรู้ทุกอย่างที่ชาร์ลสอน แม้กระทั่งการเข้าสังคม อายุพี่ยังเด็กก็จริงแต่ความคิดพี่ไปไกลกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมาก พี่มักจะมีปัญหาในบทสนทนาของคนรุ่นเดียวกัน (เหมือนผม?) ในตอนที่ชาร์ลสอนให้พี่เข้าสังคม พี่จึงชอบมันมากที่ได้แลกเปลี่ยนพุดคุยกับคนที่เก่งกว่า พี่จะจดจำและเดินตามรอยเท้าชาร์ลอย่างชาญฉลาด


“รู้แล้วน่า” พี่หันไปเถียงแต่ก็ยังไม่ยอมขยับออกจากตัวผมอยู่ดี ชาร์ลมองมาที่เราและไม่ได้ว่าอะไร


“กินกันสองคน งั้นจัดโต๊ะที่สวนแล้วกัน ดีไหม? ” ชาร์ลหันมาถาม และผมก็ตอบตกลงด้วยรอยยิ้มกว้างทั้งที่ยังอยู่ในอกพี่



เย็นวันนั้นผมทำพาสต้า และสลัดอย่างง่ายๆ พอสำหรับสองที่ จัดที่สวนหลังบ้าน เราย้ายที่จากสวนเป็นที่สระ คุยเรื่องต่างๆ มากมาย ชาร์ลจะชอบคุยเป็นพิเศษเมื่อได้จิบไวท์หลังอาหารเย็น และนั่นก็เป็นแก้วที่สามที่เขาเริ่มเล่าเรื่องพี่ให้ฟัง



ชาร์ลเล่าว่าเมื่อก่อนสมัยที่ยังวัยรุ่นก็เกเร เที่ยวเตร็ดเตร่มั่วไม่ซ้ำหน้า บางวันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหิ้วใครมาบ้านบ้าง (แต่ไม่ใช่บ้านหลังนี้หรอกนะ) จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนเอาเด็กใส่ตะกร้ามาวางไว้หน้าบ้าน พร้อมกับข้อความสั้นๆ ‘นี่ลูกของคุณ’ ชาร์ลหัวเราะและเล่าต่อว่าโดนพ่อเรียกมาด่าหนึ่งวันเต็มๆ จากนั้นก็นำเด็กคนนั้นไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด แน่นอนว่าคือลูกของเขาอย่างแน่นอน ด้วยใบหน้าและแววตา



เมื่อความจริงทุกอย่างได้พิสูจน์แล้ว แต่ชาร์ลยังไม่บรรลุนิติภาวะ พ่อและแม่ของเขาจึงจดทะเบียนรับเป็นบุตร และตั้งชื่อให้ว่า ‘อีธาน’ ในทางกฎหมาย อีธานเป็นน้องชาย แต่ทางบ้านก็ไม่ได้ปิดบังความจริง และอีธานเองก็รู้เรื่องมาตั้งแต่จำความได้ ชาร์ลและอีธานพูดคุยกันได้ทุกเรื่องเหมือนพี่ชายน้องชาย เหมือนเพื่อน แต่ในขณะเดียวกันชาร์ลก็มีความเป็นพ่อที่ทำให้อีธานยอมรับและเทิดทูนได้อย่างไม่ยากเลย



….ฟังคล้ายกับเรื่องของผมกับมารีน่า นั่นอาจจะเป็นสาเหตุให้ชาร์ลยอมรับผมเข้ามาดูแลก็ได้




“อ๊ะ! ” ผมสะดุ้งตอนที่ชาร์ลแตะปลายนิ้วลงตรงขมับ




“เป็นแผลเป็นจนได้เลยสินะ” ตรงนั้นคือรอยที่อดีตพ่อเลี้ยงทำเอาไว้ หมอบอกว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ตาบอด



ชาร์ลแตะลงอย่างเบามือ ผมที่นั่งกอดเข่าและซุกหน้าลงไป เอียงคอหันไปสบตากับเขา แสงไฟที่สะท้อนกับผืนน้ำมันทำให้ดวงตาของเขาระยิบระยับน่ามอง มือหนายังคงวนอยู่ตรงแผลเป็นตรงไรผม ผมเห็นเขาขบกรามก่อนลดมือลง นั่นมันทำให้ใจผมรู้สึกไหววูบราวกับเสียดายสัมผัสอ่อนโยนนั่น




ชาร์ลยกไวน์ขึ้นมาจิบอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้น




“ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ” ชาร์ลลุกขึ้นยืนบอกผมแบบนั้น และก่อนที่เขาจะเดินผละจากไป ริมฝีปากอุ่นของชาร์ลก็จูบลงบนหน้าผากผม ก่อนจะเดินหันหลังจากไป ทิ้งให้ผมซุกหน้ากอดเข่าอยู่กับตัวเองแบบนั้นอยู่อีกราวครึ่งชั่วโมง



ตรงที่ชาร์ลจูบมันร้อนมาก และผมก็หุบยิ้มไม่ได้เลย




ผมไม่รู้ตัวเลยว่าพี่กลับมาแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่งเห็นรถพี่จอดในโรงจอดรถแล้วนั่นแหละ….




*****************



#Talk
วงวารน้อง แต่ละคนชิมนิดชิมหน่อยกันอยู่ได้ 555555555+
ทีใครก็ทีมัน แต่อิพี่คือหยิบไปชิ้นใหญ่กว่า นำหน้าไปละ
#ฝากติดตามตอนต่อไป 
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ทีละเล็กทีละน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 28-06-2019 10:38:27
 :3123: :L2: :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ทีละเล็กทีละน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 28-06-2019 16:31:31
 :katai1: :katai1: :katai1: ไม่กล้าอ่าน  กลัวได้กินมาม่าาาาาาา   :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ทีละเล็กทีละน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-06-2019 00:36:27
บ้านนี้เขาขยันอ้อยเนอะ555
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ความเปลี่ยนแปลง
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 29-06-2019 09:08:04
“อ่า...พี่..ผมเจ็บ..”


พี่ยอมปล่อยผมในที่สุด และต้นแขนของผมมันก็ขึ้นเป็นรอยแดงตามแรงของพี่ที่บีบลงมา ระยะหลังมานี่พี่จูบผมรุนแรงมาก บางครั้งก็เบียดตัวเข้ามา ไม่สนว่าหัวผมจะโขกกับกำแพงด้านหลัง บางครั้งก็กัดลงมาแรงๆ จนผมรู้สึกเจ็บที่ปาก


พักหลังนี้ ไม่รู้ทำไม ...พี่ไม่อ่อนโยนกับผมเลย สายตาของพี่ที่มองมาเปลี่ยนไปจนรู้สึกได้ บางครั้งก็ทำให้ผมหวาดกลัวจนตัวสั่น และถึงจะเป็นอย่างนั้นพี่ก็ไม่ยอมหยุด ผมอยากจะเอ่ยถาม แต่พี่ก็ไม่เปิดโอกาสให้เลย


พี่ยังคงยืนนิ่งและมองรอยแดงที่ต้นแขน พี่โน้มใบหน้าลงมา และผมคิดว่าพี่คงจะใจดีเป่าให้ และผมคงจะคิดผิดไป


“อ๋า...พี่...” ผมตกใจตอนที่พี่กัดซ้ำลงไปตามรอย พี่กัดแรง แรงจนผมเกือบจะน้ำตาไหลตอนที่สะบัดตัวให้หลุดออกมา


“โทษทีนะ” พี่บอกด้วยน้ำเสียงราวขุ่นเคืองอะไรสักอย่างก่อนจะบ่นพึมพำ “ช่วยไม่ได้” ...หรือว่าผมทำอะไรให้พี่โกรธกันนะ พี่ผละออกจากตัวผมแล้วถอนลมหายใจแรงๆ และก็เป็นผมเองที่รั้งชายเสื้อของพี่ไว้


“เย็นนี้พี่จะกลับมากินข้าวไหม”


ผมถามเพราะระยะหลังพี่มักจะกลับดึกเสมอ หนักหน่อยบางวันก็ไม่กลับ แล้วพอเป็นแบบนั้นพี่ก็จะมีปัญญากับชาร์ล



“อ่า...นั่นสินะ” พี่ยกมือขึ้นลูบหน้าและเสยผมแรงๆ


“น้องอยากให้พี่กลับมา? ”


“อยากให้เราทานข้าวด้วยกัน 3 คน”


จริงๆ แล้วมันเป็นกฎที่ชาร์ลตั้งขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าระยะหลังมานี้พี่จะละเลยมันเสมอ แม้จะโดนชาร์ลโกรธใส่พี่ก็ยังทำเป็นไม่สนใจ ผมแค่ไม่อยากเห็นคนทั้งคู่ทะเลาะกันเลย


“หึ! ” เสียงหัวเราะพี่เหมือนเย้ยหยัน ท่าทีพี่แสดงออกก็เหมือนกัน “ถ้าบอกว่าจะกลับมา จะรอพี่ไหมล่ะ” พี่ต่อรองพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาถามจนปลายจมูกเราแทบจะชนกัน



“...รอ” ผมตอบและพี่ก็ยิ้มมุมปาก



“เอางั้นก็ได้”





และนั่น...เป็นผลของการคิดไปเองฝ่ายเดียวของผม พี่ไม่ได้กลับมาตามเวลาอย่างที่บอกไว้ ชาร์ลดุและบ่นเล็กน้อยใส่ผมที่รั้นจะรอพี่ให้ได้ ผมเลือกที่จะแบ่งรับด้วยการทานมื้อเย็นกับชาร์ลไปครึ่งหนึ่งและเก็บอีกครึ่งหนึ่งไว้รอพี่ ชาร์ลไม่เห็นด้วยและออกจะหัวเสียเล็กน้อยแต่ก็ยอมรับข้อเสนอนั้นโดยไม่ดุใส่ผมสักคำ จนเวลาเลยไปถึง 3 ทุ่ม พี่ก็ยังไม่มีวี่แววจะกลับมา ผมแอบลงมานั่งรอพี่ที่ห้องรับแขกเพราะชาร์ลขู่ว่าจะโทรไปตามพี่ แต่ผมก็กลัวว่าทั้งคู่จะทะเลาะกันอีกจึงยอมขึ้นห้องไปนอนแต่โดยดีในตอนแรก



ผมไม่เคยทำตัวดื้อแบบนี้มาก่อน ชาร์ลจึงวางใจ



เกือบ 4 ทุ่ม ผมได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเข้ามาถึงได้ผุดลุกขึ้น



“เดินดีๆ สิค่าาาาา ห้องคุณอยู่ทางไหนค่ะอีธาน แหม...ใจเย็นๆ ค่ะ” เป็นเสียงหัวเราะคิกคักของผู้หญิงเดินเข้ามาพร้อมพี่ เขาสองคนจูบกันนัวเนียเลยไม่เห็นผมที่ยืนอยู่ในห้องรับแขก สาวสวยคนนั้นหัวเราะชอบใจตอนที่พี่กัดลงบนไหล่ เธอแอ่นกายเข้าหาแล้วพยุงพี่ที่เมามายเข้ามา


ไฟในห้องรับแขกสว่างวาบตอนที่ทั้งคู่เดินเข้ามา


“ว๊ายยย นี่ใครค่ะอีธาน”


พี่หันมามองผมแวบหนึ่งแค่เพียงหางตา


“น้องชายน่ะ”


“อ่อค่ะ น้องคะ ห้องอีธานไปทางไหน คุณพี่ชายจะไม่ไหวแล้วค่ะ” เธอพยักหน้าแล้วหัวเราะคิกคัก ไม่สนใจแม้จะถามไถ่ชื่อ ‘น้องชาย’ ที่เพิ่งรู้จักกัน


“ชั้นสองครับ ห้องแรก” ผมบอกไปตามตรง และพี่ไม่แม้แต่จะหันมามอง โอบรอบเอวหญิงสาวซุกหน้าลงไปกับอกของเธอแล้วพยุงกันขึ้นไปข้างบน


ในอกผมปวดร้าวตอนที่ได้ยินเสียงประตูห้องพี่ปิดลง ห้องรับแขกยังเปิดไฟสว่างจ้า ในขณะที่หัวใจของผมกำลังมืดมน


ผมไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกลับไปหรือยัง หรือบางทีอาจจะอยู่ในห้องพี่..



..........................



ผมตื่นมาทำอาหารเช้าให้ชาร์ลตามปกติ ออกไปยืนส่งเขาไปทำงานและเมื่อเห็นว่ารถพี่ยังจอดอยู่ผมจึงกลับเข้าไปในห้องและขังตัวเองอยู่ในนั้นจนกระทั่งได้ยินเสียงรถเคลื่อนออกไป



แต่พี่ก็ยังจูบผมทุกครั้งที่มีโอกาส



ใช่..และผมก็ปล่อยให้เป็นแบบนั้น




บางครั้งประตูห้องผมก็ถูกเคาะตอนกลางดึก พี่เมามาย จูบผมรุนแรง และบางครั้งก็ทิ้งรอยเอาไว้ และยังคงพาผู้หญิงเข้ามาไม่ซ้ำหน้า ในวันที่แย่ที่สุดคือวันที่พี่เคาะประตูห้อง จูบผมที่ทำให้ผมแทบจะสำลักตาย บดขยี้อย่างรุนแรง พี่ยกตัวผมลอยจากพื้นห้อง แล้วทิ้งลงบนเตียง




แคว่ก!


ผมตกใจ เสื้อชุดนอนของผมถูกฉีกกระชากออก


“อ๊ะ...พี่...” ผมมองไม่เห็นว่าหน้าพี่เป็นแบบไหน เพราะมืดมาก มือที่พยายามจะจับชายเสื้อที่ถูกแหวกออกรวมกลับเข้ามา แต่พี่ก็รวบข้อมือสองข้างของผมตรึงไว้เหนือหัว


ผมกลัว...เจ็บแขนจนน้ำตาไหล แต่ก็ไม่กล้าร้อง… ไม่มีวี่แววว่าพี่จะหยุดเลย…



ก๊อก ก๊อก


“อีธานค่ะ ไหนว่าเข้าไป good night น้องชายแค่แป๊บเดียวไง” เสียงเคาะประตูดังขึ้นเหมือนเสียงระฆังช่วยชีวิต แต่เสียงหวานๆ ของผู้หญิงที่ได้ยินมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่า ผมเริ่มหอบสะอื้น พี่ยอมปล่อยแขนผมและลงไปจากเตียง


“อีธานค่ะ...” เสียงหวานเรียกอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ


พี่ไม่พูดอะไรนอกจากหันกลับไปกระชากประตูเปิดออกและเดินออกไป ปล่อยผมที่เริ่มสะอื้นหนักอยู่ในห้องเพียงลำพัง



ผมกลัวเกินกว่าจะเอ่ยถาม



กลัวเกินกว่าที่จะอยากรู้คำตอบ



ถึงตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าผมทำอะไรให้พี่โกรธ และพี่โกรธผมเรื่องอะไร พี่ที่เคยใจดีหายไปไหน



...........................


“อาลัน...” เสียงเรียกทำให้ผมสะดุ้ง แล้วพอหันกลับไปก็ชนเข้ากับอกชองชาร์ลเข้าพอดี


“ฉันกลับมาแล้ว...คิดอะไรอยู่เหรอ…? ” ชาร์ลยังไม่ได้ขยับออกห่าง ผมหมุนตัวลำบากก็เลยทำได้แค่ก้มหัวแล้วส่ายหน้ารัวแทนคำตอบ ปกติแล้วผมไม่เคยพลาดการกลับมาของชาร์ลเลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก


ชาร์ลไม่เคยผิดสัญญากฎการทานข้าวเย็นกับผม หรือถ้าจะไม่มา ก็จะโทรมาบอกก่อนทุกครั้ง


“ผมจะเอาชาให้นะ” ผมบอกเพราะต้องขออนุญาตขยับตัว แต่ชาร์ลก็ยังคงยืนนิ่ง และสิ่งที่ทำให้ผมวูบไหวคือตอนที่ชาร์ลกางแขนคร่อมตัวผมเอาไว้เหมือนที่พี่เคยทำ


“แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ” ชาร์ลพูดเสียงปนขำ และผมก็ไม่เข้าใจความหมายถึงได้เงยหน้าขึ้นมองอยากจะเอ่ยถาม แต่ก็มีอันต้องก้มหน้าหลบสายตา ...ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมสบตาชาร์ลนานๆ ไม่ได้เลย


“อาลัน..”


คราวนี้เป็นเสียงดุชัดเจน ชาร์ลฉวยข้อมือผมเอาไว้ในฝ่ามือเขาหลวม ๆ “นี่ฝีมืออีธานใช่ไหม? ” รอยแดงที่ข้อมือทั้งสองข้างมันชัดเจน เท่านั้นยังไม่พอชาร์ลยังเหลือบไปเห็นรอยที่พี่ทิ้งไว้ตรงไหล่ของผมอีก เขาสูดลมหายใจเข้าและหลับตาลงเกือบนาทีกว่าจะพูดออกมา


“บอกฉันสิ...อีธานข่มเหงเธอรึเปล่า”


“เปล่า! อ๊ะ...” ผมตอบแทบจะทันทีพร้อมกับส่ายหัวไปมา

แต่ชาร์ลต้องการคาดคั้น เขาจับเอวแล้วยกตัวผมได้ง่ายๆ ให้ขึ้นไปนั่งบนเค้าเตอร์ ตอนนี้ใบหน้าเราเสมอกันแล้ว ผมก้มหน้าหลบต่อไปไม่ได้ในเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามา


ชาร์ลแหวกคอเสื้อผมออก แน่นอนว่าร่องรอยมากมาย ทั้งก่อนหน้าและเมื่อคืนก่อน บางส่วนก็จางไปแล้วแต่ยังเห็นร่องรอย ผมเห็นเขาขบฟันแน่น


“ฉันไม่โทษเธอหรอก บอกฉันมาเถอะ” ชาร์ลยังคงอบอุ่นอ่อนโยนเสมอสำหรับผม ความอ่อนโยนนั่นมันทำให้ผมรู้สึกว่าขอบตาเริ่มร้อนผ่าว ฝ่ามือหนารั้งผมไปซบกับไหล่ แตะที่หลับผมตบมือลงมาอย่างอ่อนโยน


“เปล่าครับ พี่ไม่ได้ทำ” ผมเริ่มสะอื้น มันห้ามไม่ได้เลย


“โอเค ฉันเชื่อเธอแล้ว ไม่ร้องนะ” ชาร์ลปลอบผมและไม่คาดคั้นอีก ปล่อยผมร้องไห้จนเสื้อตรงไหล่เปียกชุ่ม ผมยกแขนปาดน้ำตา แต่ชาร์ลก็รั้งเอาไว้และเช็ดออกให้เสียเอง ราวกับความหม่นหมองในใจของผมถูกปัดเป่าให้หมดไปด้วยความอ่อนโยน


ชาร์ลจูบเบาๆ ที่หน้าผากผมอีกครั้งก่อนจะผละออก


“เอาล่ะ มาทำอาหารเย็นกันเถอะ ฉันช่วยเอง” ผมมองชาร์ลที่เปลี่ยนเรื่องได้รวดเร็วอย่างน่าแปลกใจ เขายิ้มให้ ผมชอบรอยยิ้มของเขา จึงพยักหน้าตอบกลับไป


แล้วเย็นนั้นเราก็ช่วยกันทำอาหาร ชาร์ลเป็นลูกมือที่ดีเขาชมตัวเองอย่างงั้น เราทานอาหารเย็นด้วยกัน ช่วยกันเก็บล้าง และชาร์ลก็มาส่งผมเข้านอน


เขาจูบที่หน้าผาก และกระซิบบอกให้ผมหลับฝันดี รอจนผมเข้าห้องปิดประตูเรียบร้อยแล้วถึงเดินกลับออกไป



และคืนนั้นผมก็หลับไปจริงๆ ฝันดีมาก ฝันว่าเราสามคนกลับมาทานข้าวร่วมโต๊ะกันอีกครั้ง



*********************


..... :heaven ไว้อาลัยให้อิพี่ด้วย :beat:
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
และขอบคุณทุกเม้นท์ :pig4:
อ่านทุกเม้นท์เลย
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ความเปลี่ยนแปลง
เริ่มหัวข้อโดย: aayrokk ที่ 29-06-2019 09:18:35
แงงงอีพี่ อย่าทำน้อง
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ความเปลี่ยนแปลง
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 30-06-2019 01:59:33
อีธานนิสัยไม่ดี!!!!
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เมามาย
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 30-06-2019 18:33:36

ชาร์ลกำลังครุ่นคิดนั่งรอเจ้าลูกชายคนเดียวกลับบ้าน เขาคงจะปล่อยตามใจเกินไป เสียงเครื่องยนต์รถดังกระหึ่มเข้ามา ไม่นานนักก็มีเสียงหัวเราะคิกคักกับร่างของคนสองคนเดินคลอเคลียเข้ามาในบ้าน



“อ่า..โธ่พ่อนี่เอง ตกใจหมด” อีธานโอบเอวหญิงสาวเอาไว้ไม่ปล่อยในขณะที่เธอทำเป็นเอียงอายและโค้งทำความเคารพ



“กลับไปซะ แล้วอย่ามาที่นี่อีก” ชาร์ลพูดเสียงราบเรียบ ไม่ได้ตะเบ็งเสียงดุดัน เป็นเพียงเสียงราบเรียบและสายตาที่มองตรงมา หญิงสาวแปลกหน้าแทบไม่กล้าก้าวเข้ามาในบ้าน



“ไม่เอาน่าพ่อ”



“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ อีธาน” และอีธานก็รู้ว่าพ่อพูดจริงตามนั้น เขากำลังหัวเสีย และต่อให้เขาอยากจะลองดีกับพ่อแค่ไหน แต่หญิงสาวที่พามาด้วยคืนนี้คงไม่มีแก่ใจจะเล่นเกมไปกับเขาด้วย หญิงสาวกล่าวลาอย่างร้อนรนและยินดีจะให้คนขับรถไปส่งโดยไม่ลังเล



อีธานหัวเสีย เหมือนโดนหักหน้าต่อหน้าคนอื่น ซึ่งพ่อไม่เคยทำแบบนี้กับเขาก่อนเลยสักครั้ง



“มีอะไรจะพูดกับผมรึไง? ”



ชาร์ลมองลูกชายที่กำลังหงุดหงิดตรงหน้าอย่างใจเย็น เขาสอนอีธานในทุกๆ เรื่องตั้งแต่จำความได้ไม่ว่าเรื่องอะไร อีธานไม่สนที่คนจะมองว่าเขาเป็นเด็กติดพ่อ และไม่สนด้วยว่าในทะเบียนบ้าน ชื่อพ่อเป็นชื่อของคุณปู่และมีพ่อเป็นพี่ชาย ชาร์ลแก้ไขข้อผิดพลาดทุกจุดในอดีตของตัวเองด้วยอีธาน แต่ตอนนี้เหมือนกับว่ากำลังมองดูตัวเองเมื่อ 20 ปีก่อน



“เรื่องน้อง”



ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้อีธานยิ้มเยาะใส่พ่อที่ตัวเองเทิดทูน เขาไม่เคยทำตัวแบบนี้ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะขัดใจพ่อ และพ่อเองก็ไม่เคยตำหนิในสิ่งที่เขาทำ



….เพียงเพราะความอิจฉา



สายตาของน้องที่มองพ่อมันมีแต่ความรัก...อย่างไม่ต้องสงสัย....แค่อีธานนคิดไปถึงภาพวันที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็เผลอกำหมัดเข้าหากันแน่น



“พ่อจะทำไม? ”



“อย่าทำร้ายน้อง...” ชาร์ลผ่อนเสียงลงอย่างอดทน เขารู้ว่ายังไม่ควรพูดตอนนี้ ตอนที่ลูกชายมีสติไม่เต็มร้อยนักด้วยฤทธิ์แฮลกอฮอล์



“เหอะ! น้องฟ้องพ่อรึไง”



“เด็กคนนั้นไม่พูดถึงมันด้วยซ้ำ”



อีธานเงียบงัน แม้จะพาผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาในบ้าน แต่เขาไม่เคยกอดพวกหล่อนเลย ต่อให้เมื่อกี้พ่อจะไม่ไล่กลับไป สักพักหล่อนก็จะวิ่งแจ่นออกไปเอง



“คิดให้มากหน่อย”



“ก็ได้! ต่อไปนี้ผมจะไม่ยุ่งกับเด็กของพ่อก็แล้วกัน”



“อีธาน!! ” ชาร์ลไม่เคยขึ้นเสียงกับลูกชายเลยสักครั้ง “ถ้าขืนแกยังทำตัวแบบนี้ ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”



“เกรงใจ? น่าขำชะมัด” อีธานถามกลับเสียงสูงอย่างไม่คิดยำเกรง



“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ ถือว่าเตือนแล้ว” ชาร์ลพูดย้ำกับลูกชายอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป





โดยไม่รู้ว่าการทิ้งลูกชายที่กำลังต่อต้านไว้เพียงลำพัง จะทำให้มีผลตามมา...





…….





อีธานไม่ได้ทุบประตูห้องข้างๆ ให้เปิดเหมือนคืนก่อนๆ แต่เขาใช้กุญแจไขเข้าไป ข้างในมืดสนิทเจ้าของห้องคงจะหลับแล้ว เขาค่อยๆ ขยับขึ้นเตียงอย่างระมัดระวัง ก้มจูบเบาๆ ลงบนแก้มของคนที่กำลังหลับ น้องสะดุ้งหันกลับมา



“ชู่วววว์ พี่เอง...” ผมยกมือปิดปากน้องเอาไว้ และปล่อยหลังจากน้องผ่อนคลาย



“พี่...ทะ..ทำไม...อื้ออออ” ผมไม่ได้เปิดโอกาสให้น้องถาม กดจูบลงไปบนริมฝีปากบางนั่น ยอมรับ...ว่าโหยหามาก แค่จูบมันไม่พอแล้ว อยากครอบครองอยากเป็นเจ้าของ



น้องตอบรับจูบผมอย่างเงอะงะเหมือนเคย นั่นมันทำให้น้องน่ารักมากกว่าเดิมสิบเท่าร้อยเท่า ทุกกิริยาไม่ว่าจะเป็นเอียงอาย หรือพยายามจะตอบสนองมันทำให้ผมแทบคลั่งตาย...มันไม่เคยพอ ไม่เคยพอเลย



ผมปลดกระดุมเสื้อนอนน้องออกอย่างเบามือ ระมัดระวังที่สุด...ที่จะไม่ทำร้าย...อย่างที่พ่อขอ



จนกระทั่งตัวน้องเปลือยเปล่า น้องสั่นสะท้านแม้ในห้องจะมืดแต่ผมก็เห็นมันได้ ร่างกายเล็กสั่นไหวตอนที่ผมสัมผัสเข้ากับจุดอ่อนไหวจับขยับโยกรูดรั้งไปมาพร้อมกับป้อนจูบไม่ขาดปากจนกระทั่งน้องบิดเกร็งและปลดปล่อยมันออกมา



ผมควรจะพอแค่นั้น มันมากแล้วสำหรับคืนนี้



“อ่า...พี่...พี่...” แต่เสียงร้องครางสะท้านของน้อง มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเมา...จนควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป



ผมบดจูบลงไปอีกครั้ง คราวนี้มันร้อนแรงหิวกระหาย ผมไม่สามารถยั้งตัวเองได้อีกต่อไป เสียงครางของน้อง ร่างกายยั่วยวนที่ข้างใต้มันทำให้บางสิ่งบางอย่างตื่นขึ้นมา ซอกคอเนียนหอม ติ่งไตแข็งบนยอดอก ผมกัดชิมทุกส่วนอย่างหิวกระหาย เสียงครางดังขึ้นตอนที่ผมลากลิ้นลงไปยังหน้าท้องเนียน ก่อนที่ผมจะครอบครอง สะโพกเล็กแอ่นสะท้าน เสียงครางไม่หยุดลงเลย ร่างกายของน้องหมดจดไปทุกส่วนใสสะอาดราวกับเทวดา และผมคือปีศาจร้ายที่กำลังทำให้แปดเปื้อน







“ฮื้อ...อึก...” น้องกำลังสะอื้น





“พี่เอง...อาลัน...เป็นของพี่นะ...เป็นของพี่...” ผมโน้มตัวลงไปจูบปากน้องสอดคว้านลิ้นเข้าไป ดูดดุนลิ้นเล็กให้เคลิบเคลิ้ม เพื่อจะได้เข้าครอบครองอย่างที่ใจอยาก



“ฮื้อ...พี่...พี่...”



น้องร้องครางเรียกผม...ไขว่คว้าหาแต่ผม แต่ผมยังไม่พอใจโหมเข้าใส่อีกครั้งอย่างหนักหน่วง





“อาลัน….อาลันของพี่….”





เราทั้งคู่ครางอย่างสุขสม ผมปลดปล่อยตักตวงเอาทุกสิ่งทุกอย่างจากน้อง ตีตรารอยประทับไปทุกสัดส่วนของร่างกาย อยากกลืนกินเก็บน้องเอาไว้กับอกเพียงคนเดียวจะไม่ยกให้ใคร





น้องร้องครวญครางอยู่ข้างใต้ด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแหบแห้ง ผมจูบแผ่นหลังที่โค้งงอได้สัดส่วนนั้นอย่างหลงใหล ยิ่งน้องบิดกายตอบสนองนั่นยิ่งทำให้ผมบ้าคลั่ง เสียงครางที่เรียกชื่อผมอย่างทรมานและสุขสมในคราวเดียวกัน





‘พี่….พี่...อื้อ...’



กว่าค่อนคืนที่ผมตักตวงเอาความสุขสมจากร่างน้องจนกระทั่งไร้เสียงตอบกลับ น้องนอนนิ่งหอบหายใจหมดแรงหลับไปแล้ว ผมถอดถอนกายออกอย่างเสียดาย จ้องมองร่างน้องที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบของเราสองคนอย่างหลงใหล ผมเดินเข้าไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ ไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป





ผมอิจฉาสายตาของน้องที่มองแต่พ่อ ใบหน้าน้องมีความสุขในขณะที่ใจผมมันร้อนรนจนแทบบ้า ผมอยากให้สายตาคู่นั้นมองแค่เพียงผม มีเพียงแค่ผมคนเดียว







น้องเป็นของผม









................................







ร่างกายผมปวดร้าวตอนที่ลืมตาขึ้นมาราวกับตอกย้ำว่าเรื่องเมื่อคืนผมไม่ได้ฝัน ...แต่พี่ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว นั่นทำให้ความจริงตรงหน้ามันโหดร้าย ขอบตาผมร้อนผ่าวอีกครั้ง ฝืนกัดฟันหอบเรี่ยวแรงที่มี ลุกขึ้นมาจนได้ ขาผมสั่นไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนไม่ใช่ขาของตัวเอง





ผมทำได้…





ผมจะพยายาม…





….เคยเจ็บมามากกว่านี้อีก...แค่นี้เอง...





น้ำตาไหลออกมาจนได้ตอนที่ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า และเห็นร่องรอยมากมายที่พี่ทิ้งเอาไว้ ราวกับจะย้ำเตือนในสิ่งที่พี่ได้ทำลงไป





‘พี่...ผมผิดตรงไหนเหรอ? ’





ผมล้างหน้าล้างตาแล้วเดินเกาะราวบันไดลงมาข้างล่าง ชาร์ลนั่งอยู่ก่อนแล้ว ผมคงจะตื่นสายจริงๆ เขาปิ้งขนมปังทาเนย กินกับกาแฟอย่างง่ายๆ





“ขอโทษครับ ผมตื่นสาย” ผมบอกชาร์ลแค่ยิ้มตอบกลับมา



“ลองตื่นสายบ้างก็ได้นี่”



“ผมจะทำแซนวิชให้นะ..” ผมบอกและพยายามที่จะเดินไปถึงเค้าเตอร์ครัวให้ได้เหมือนปกติ ถ้าหากว่าผมไม่สะดุดขาตัวเองเสียก่อน







โครม!!



“อาลัน! ” ชาร์ลพุ่งเข้าหาผมได้ในก้าวเดียวแต่ก็ไม่ทัน ผมคว้าเก้าอี้เอาไว้ได้ แต่แขนก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะพยุงตัว ใบหน้าห่างจากขอบโต๊ะเพียงคืบเดียว



“ตัวร้อน ไม่สบายนี่” ผมกำลังจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ชาร์ลก็อุ้มผมขึ้นมาจากพื้นได้อย่างง่ายดาย



“อย่าบอกมารีน่านะ ผมขอร้อง” มารีน่าไปทัวร์งานแฟชั่นที่ฝรังเศสเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ชาร์ลไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่อุ้มผมกลับไปที่ห้องนอน





มันควรจะจบลงที่ผมเป็นไข้ กินยาและนอน ผมอยากให้มันจบลงแค่ตรงนั้นจริงๆ ถ้าชาร์ลไม่เลิกเสื้อผมขึ้นเพื่อจะเช็ดตัวให้ ร่องรอยมากมายมันทำให้ผมไม่สามารถพูดอะไรได้เลยราวกับจำนนต่อหลักฐาน ผมไม่เคยเห็นเขาโกรธมาก่อน ผ้าขนหนูชุบน้ำในมือถูกปาลงพื้นอย่างแรงจนผมสะดุ้ง ชาร์ลหัวเสียมากผมรู้ เขาเสยผมขึ้นพลางกัดฟันกรอด





“ฝีมืออีธานใช่ไหม” แม้ผมจะก้มหน้าแทนคำตอบ แต่ชาร์ลก็รู้อยู่ดี



‘f**k’ เขาสบถออกมาเป็นคำหยาบคายอย่างที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน





“ชาร์ล...”ผมเรียกชื่อเขาแผ่วเบาใบหน้าเขายังโกรธเกรี้ยว เหมือนไม่มีทางไหนเลยที่ผมจะทำให้ไฟโมโหในตัวเขาดลง บางทีพี่อาจจะได้ส่วนนี้มาจากชาร์ลเต็มๆ





“เจ็บมากไหม ไปหาหมอรึเปล่า” ผมน้ำตารื้นอีกครั้งแต่ก็ยังกลั้นเอาไว้ได้ ถึงแม้พี่จะเอาทุกอย่างมาลงที่ผม แต่พี่ก็อ่อนโยนกับผมมากนั่นทำให้ผมรู้สึกผิดที่ยินยอมพร้อมใจไปกับพี่





“อย่าโทษพี่...ผมผิดเอง...อย่าทะเลาะกัน...ได้โปรด” ผมอ้อนวอนขอร้อง ชาร์ลจูบที่หางตา ตรงที่น้ำตาผมไหล และที่แก้มราวกับปลอบโยนว่าไม่เป็นไร





ชาร์ลจูบหน้าผากผมเหมือนเคยและกำลังจะผละออกไป เป็นผมเองที่คว้าชายเสื้อเขาไว้ ชาร์ลมองผมเนิ่นนานราวชั่งใจ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ในขณะที่ผมปิดเปลือกตาลง น้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง ชาร์ลจูบผมอย่างอ่อนโยนและผมก็ยินดีจะรับมัน ความอบอุ่นที่ชาร์ลมอบให้ มันทำให้จิตใจที่แห้งแล้งของผมชุ่มชื่นขึ้นมา ความสุขเหมือนจะเอ่อล้นเต็มอก และผมก็เจ็บปวดไปพร้อมๆ กันเมื่อนึกถึงพี่ขึ้นมา





ผมอยากจะขอให้เขาอยู่กับผมจนผมหลับไป อยากให้ชาร์ลกอดเอาไว้ในอ้อมแขนเหมือนเมื่อครั้งก่อนนั้น ผมรู้สึกปลอดภัยและไม่กลัวอะไร





“นอนพักเถอะ ฉันจะอยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน” ราวกับว่าเขาจะอ่านใจผมได้ ผมพยักหน้าและหลับตาลงตอนที่ชาร์ลจูบหน้าผากผมอีกครั้ง





ด้วยพิษไข้และยามันทำให้เปลือกตาผมหนักอึ้ง ผมรู้สึกเหมือนถูกขยับตัว รู้สึกได้ถึงเจลเย็นๆ ที่ป้ายลงมาเบาๆ ที่ตรงช่องทางด้านหลัง แต่ด้วยฤทธิ์ยาแก้ไข้ก็ทำง่วงงุนเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมาดู ในความฝันนั้นผมได้ยินเสียงทุ้มของชาร์ลตลอดเวลา มันทำให้ผมอุ่นใจและรู้ว่าเขาทำตามสัญญาจริงๆ





ผมตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเย็นแล้ว พอลืมตาขึ้นมา ชาร์ลก็อยู่ตรงหน้าและกำลังยิ้มให้ เขาอยู่ตรงนั้นตลอดเวลาอย่างที่ได้ให้สัญญา



“ดีขึ้นไหม? ” ผมพยักหน้า ชาร์ลเดินเข้ามาหาช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นนั่ง ความรู้สึกเหนอะหนะตรงด้านหลังก็เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ฝัน ผมทำเองไม่ได้แน่...และก็คงจะเป็นชาร์ล...หน้าผมคงแดงทันทีที่หันไปเห็นหลอดยาข้างเตียง



“ต้องทายา ไม่งั้นจะอักเสบ แล้วไข้จะขึ้นอีก” ชาร์ลบอกเหมือนจะอ่านความคิดผมได้ หน้าผมร้อนมากแค่คิดว่าโดนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว มันร้อนมากจริงๆ



“ขอบคุณครับ” ในความอายผมทำได้แค่ขอบคุณ ผมไม่รู้ว่าชาร์ลกำลังยิ้มอยู่หรือเปล่า แต่เชื่อเถอะผมได้ยินเสียงเขาหัวเราะ และทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตอนที่ผมเงยหน้ามองเขา



“เดี๋ยวต้องกินข้าว และกินยา จะลงไปข้างล่างหรือกินบนนี้ดี? ” ผมยกให้ชาร์ลเป็นจอมเปลี่ยนเรื่องได้อันดับหนึ่งเลยจริงๆ



“ชาร์ลล่ะ...” ผมถาม เขาทำสีหน้าครุ่นคิด



“ข้างล่างแล้วกัน เดี๋ยวให้แม่บ้านมาเปลี่ยนผ้าปูให้ด้วย” ชาร์ลบอกพลางช้อนตัวผมขึ้นจากที่นอน อุ้มผมไว้ในท่านั่ง โดยใช้แขนเพียงข้างเดียวรองรับน้ำหนัก ผมเกาะไหล่เขาเอาไว้แน่น



“ผมเดินเองก็ได้”



“รู้...แต่ฉันอยากอุ้ม”





ผมอดเม้มปากเข้าหากันไม่ได้เลย เพียงชั่วไม่กี่ชั่วโมงที่ผมหลับไป เหมือนมีอะไรเกิดขึ้นกับชาร์ลคนก่อนรึเปล่า ชาร์ลทำให้ผมรู้สึกเขินมากมาย เขินเกินไป จนหัวใจเหมือนจะทำงานหนักตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน





ชาร์ลดูแลผมตลอดหลังจากนั้น กินข้าว กินยา เช็ดตัว และทายา (แม้ว่าผมจะขอทำเอง แต่ก็ไม่เคยเอาชนะเหตุผลของเขาได้เลย) ผมไม่เจอหน้าพี่หลังจากวันนั้นอีกหลายวัน ผมได้ยินเสียงรถพี่กลับมาบ้านในตอนดึก และมักจะมีเงาใครบางคนยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องแต่ไม่รุกล้ำเข้ามา...เนิ่นนานก่อนจะจากไปเงียบๆ และเสียงประตูห้องพี่ที่เปิดและปิดลง





**********************







#Talk


สาแก่ใจอิพี่แล้วหรือยัง //ตบตี!!

ขอบคุณทุกคนมากมายที่ติดตาม และพังเรือของอิพี่ไปแล้ว 5555

สงสารน้อง โปรดติดตามน้องด้วยนะ >..<

หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เมามาย
เริ่มหัวข้อโดย: Fengfang ที่ 30-06-2019 21:59:27
อยากอ่านต่อแล้ว อิพี่หายไปไหน ค้างแรง
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เมามาย
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 01-07-2019 00:11:18
:pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เมามาย
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-07-2019 02:20:06
ยังไงดี ต่างคนต่างไม่พูด อึดอัดแทน :z3:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #สองใจ
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 01-07-2019 11:24:47
ร่างกายผมกลับมาเป็นปกติหลังจากผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ พี่ไม่ได้เข้าใกล้ผมอีกหลังจากวันนั้น เพราะผมเองที่ควบคุมตัวเองไม่ให้สะดุ้งหรือตัวสั่นยามที่เราเจอกันได้ เป็นปฏิกิริยาทางร่างกายที่เป็นไปเอง





‘ลำบากใจ’
สีหน้าพี่เปลี่ยนไปทุกครั้งที่เขาเจอผม

ผมคิดเอาเองว่าอาจจะเป็นอย่างนั้น ผมอยากบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรแต่มันห้ามอาการทางร่างกายไม่ได้ อาจจะเป็นผมที่หลบหน้าเขา หรืออาจเป็นเพราะเขาไม่อยากเจอผมแล้วก็ได้





ชาร์ลดูแลผมดีมากถึงขนาดไม่เข้าบริษัทเกือบ 1 อาทิตย์เต็มๆ ตอนที่ผมป่วย และผมจำเป็นต้องเชื่อฟังอย่างมากเพราะกลัวจะไปรบกวนเวลางานของเขา แต่เขาก็มักจะพูดกับผมว่า ‘ไม่เป็นไร’ อยู่เสมอ ผมไม่ได้กวนใจตอนที่เขาเริ่มเปิดโน้ตบุ๊คทำงาน แค่ขอนั่งวาดภาพอยู่ใกล้ๆ เราสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก เนื่องจากหมกมุ่นอยู่กับงานของตัวเอง และเมื่อผมลืมเวลา ชาร์ลก็จะเข้ามาเตือนผมเสมอ





จูบของชาร์ลอ่อนโยนมาก อ่อนโยนมาจนเกินไป มันทำให้ผมรู้สึกอยากเรียกร้องมากขึ้น...และมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขารู้และไม่ต่อว่าอะไรผมเลยตอนที่ผมโน้มตัวไปคล้องคอเขาไว้ ชาร์ลหัวเราะขบขันในท่าทีเคอะเขินของผมหลังจากนั้น และผมก็ชอบมัน ความหอมหวานรอบๆ ตัวชาร์ลมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังเสพติด แม้ว่าผมจะไม่เข้าใจมันก็ตาม





ชาร์ลไม่เคยบังคับเอาอะไรจากผมเลย เขาเพียงจูบเบาๆ ที่หน้าผากและที่หัวของผมเท่านั้น มีแต่ผมที่ส่งสายตาอ้อยอิ่งไปหายามที่เขาผละออกไป





“อาลัน...สายตาแบบนั้น...ไม่ดีเลย” เขาต่อว่าในตอนที่เดินกลับมาหาผมอีกครั้งและเราก็จูบกัน จนผมหมดเรี่ยวแรงหายใจเหนื่อยหอบ ชาร์ลถึงจะยอมปล่อย แล้วจากนั้นเราสองคนก็ต่างหันหน้าไปสนใจงานของตัวเอง





ผมรู้ว่ากำลัง ‘อ้อน’ อย่างเห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจ แต่มันช่วยไม่ได้เลยในเมื่อความอ่อนโยนของชาร์ลช่วยให้หัวใจของผมอบอุ่นขึ้นมา





...............................





ตอนนี้ผมกำลังหมกมุ่นอยู่กับคอลเลคขั่นใหม่ในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง แม็ค VDO call หาผมทันทีที่เปิดเมลดูภาพร่างที่เพิ่งส่งไป





“ว่าไงครับแม็ค” ผมกดตอบรับจังหวะที่ชาร์ลเดินออกไปคุยโทรศัพท์อีกทาง





“อาลัน...คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิของลูกน่ะ..” เป็นมารีน่าที่โผล่เข้ามาในกล้องแทนที่จะเป็นแม็ค...ผมก็ลืมไปว่าคนแรกที่จะสานต่อแบบร่างของผมจะต้องเป็นมารีน่าก่อน





“ครับ? ”





“เป็นอะไรรึเปล่า ลูกสบายดีใช่ไหม” หัวใจผมไหววูบเมื่อได้ยินคำถามของมารีน่า หลบสายตาหันกลับไปมองแบบร่างของตัวเอง ...ผมคงจะเผลอทิ้งความรู้สึกของตัวเองลงไปในชิ้นงาน คอลเลคชั่นที่ควรจะสดใสในยามที่ดอกไม้กำลังผลิบานกลับเป็นสีหม่นหมองแทน





ลึกๆ แล้ว...ผมคิดถึงพี่ แม้จะมีชาร์ลอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา





“ผมสบายดีมากๆ ” มารีน่าขมวดคิ้วพร้อมหรี่ตาจ้องมองมา สีหน้ายังคงเคลือบแคลงสงสัย “ ผมแค่ลองคิดดู ดอกไม้ในสวนไหนๆ ก็เบ่งบานสวยพร้อมกันหมด เลยไม่อยากไปแข่งด้วยสีสันที่มันแรงเกินไป สีโทนเรียบจะทำให้เราดูเด่นได้” ผมอธิบายเหตุผลที่เพิ่งคิดขึ้นมาได้อย่างคล่องแล้วไม่น่าจะมีพิรุธใดให้มารีน่าสงสัยได้อีก





“พวกเขาดูแลลูกดีใช่ไหม อาลัน” มารีน่ายังคงไม่วางใจง่ายๆ





“ครับ” ผมตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ด้วย





“ก็ต้องดูแลดีสิ อาลันเป็นNo.1ของเราเชียวนะ! ถ้าไม่ดีฉันจะไปเตะก้นพวกเขาเอง” เสียงแม็คตะโกนเข้ามา ผมแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน ยังคุยกับมารีน่าและแม็คอีกสักพักก่อนจะกดวางสาย





หัวใจผมเริ่มหนักอึ้งอีกครั้งเมื่อนึกถึงคำพูดของแม็ค ‘อาลันเป็นNo.1ของเราเชียวนะ’ มันคือความจริงที่ผมลืมเลือนไป ความจริงที่ว่าผมเป็นตัวประกันเพื่อให้มารีน่าทำงานให้ชาร์ล…





ตั้งแต่เด็กแล้ว...ที่ความสุขของผมมักจะจบลงอย่างรวดเร็วเสมอ ราวกับว่าผมไม่มีสิทธิ์ครอบครอง





ผมดำดิ่งสู่โลกของความจริงที่ขมขื่นอีกครั้ง





ปรับชีวิตให้กลับมาวนอยู่ในเส้นทางที่มันควรจะเป็น ตื่นเช้า ทำอาหารให้ชาร์ลส่งเขาไปทำงาน ขึ้นห้อง รอจนได้ยินเสียงรถพี่ออกไป แล้วค่อยออกไปนั่งวาดรูปที่สวน ออกแบบคอลเลคชั่นใหม่ให้มารีน่าและแม็คอย่างที่มันควรจะเป็น ตกเย็นทำอาหาร ทานข้าวพร้อมชาร์ล และขึ้นห้องนอน





ชาร์ลยังคงอ่อนโยนเสมอ เขาระมัดระวังที่จะไม่แตะต้องผมเกินไป ไม่รุกล้ำเกินความจำเป็นถ้าผมไม่ร้องขอ ผมตอบเขาว่า ‘สบายดี’ และ ‘ไม่เป็นอะไร’ จบด้วยรอยยิ้มโง่ๆ กลบเกลื่อน จูบของชาร์ลยังทำให้ผมมีความสุขเสมอ สุขเสียจนผมรู้สึกเศร้า และยิ่งเจ็บปวดเมื่อนึกไปถึงพี่





เราไม่ได้คุยกันอีกเลยตั้งแต่วันนั้น อาจเป็นผมที่หลบหน้าเขา หรืออาจจะเป็นเขาที่ไม่อยากเจอผมอีกแล้วก็เป็นได้







‘น้องเป็นของพี่’



ผมโกรธตัวเองที่ยังจำได้ชัดเจนทุกถ้อยคำและการกระทำ ราวกับว่าความเจ็บปวดคือเพื่อนแท้เพียงหนึ่งเดียวที่ผมสมควรมี





……………..





นัดกันทานข้าวกันในวันสุดสัปดาห์จึงมีแค่ ผม มารีน่า แม็ค และชาร์ล เราทานข้าวพูดคุยเรื่องไร้สาระ แม็คคุยโวอวดงานโชว์ของตัวเอง กับมารีน่าที่ใส่ชุดฟินาเร่เดินปิดรายการล่าสุดที่ทำ สักพักชาร์ลก็ขอตัวกลับไปทงานต่อบนห้อง เราสามคนยังนั่งคุยกันถึงเรื่องต่างๆ ตรงสระน้ำ





"มารีน่าถ้าผมวาดรูปได้เยอะๆ แล้วถ้าเราจะมีเงินเยอะๆ …” ผมก้มหน้าเม้มริมฝีปาก ก่อนจะตัดสินใจพูดต่อ





“ถ้าเป็นแบบนั้นผมไปอยู่กับมารีน่าได้ไหม" มารีน่ามีสีหน้าแปลกใจทันทีที่ผมถามจบ





มารีน่าวางมือบนหัวผมแล้วลูบเบาๆ





"ชาร์ล...ดูแลลูกไม่ดีอย่างนั้นหรือ? " ผมรีบส่ายหน้าทันที 'ชาร์ลไม่เคยไม่ดูแล' และเถียงประโยคนั้นในใจ





"ผมแค่ลองถามดูน่ะ" แล้วทำเป็นยิ้มกลบเกลื่อน





ผมรู้ดี...ไม่ใช่แค่ผมเธอเองก็มีบาดแผลในใจเช่นกัน เธอโทษว่าการที่ผมต้องมาเจอเรื่องร้ายแรงในอดีตเป็นเพราะเธอดูแลผมไม่ได้





“แค่..แค่บางทีผมก็อยากจะลองพึ่งตัวเองบ้าง ผมโตแล้วนะ” ผมแสร้งทำเป็นยิ้มซุกซน เมื่อมารีน่ายังคงทำหน้าเศร้า





“ลูกยังเป็นเด็กน้อยเสมอสำหรับแม่” มารีน่ายิ้มอ่อนโยน ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดแล้วโยกตัวไปมาเหมือนตอนที่ผมยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ และเมื่อแม็คเดินกลับมาหลังจากไปเอาเครื่องดื่มในบ้าน เราก็คุยกันถึงเรื่องงานโชว์ครั้งต่อไปกันอย่างสนุกสนาน





มารีน่านอนค้างกับผมในคืนนั้นและกลับออกไปในตอนเช้าตรู่เมื่อแม็คโทรตาม ผมจัดอาหารเช้าง่ายๆ ให้แน่นอนว่าเผื่อให้แม็คด้วย ก่อนส่งเธอขึ้นรถหน้าบ้าน





..................





มาคิดทบทวนดูแล้ว ผมไม่เคยได้ออกไปไหนเพียงลำพังกับมารีน่าหรือแมคเลย ในทุกๆ ครั้งจะมีบอดี้การ์ดของชาร์ลอย่างน้อยสองคนตามไปด้วยเสมอ ผมไม่เคยคิดอะไร..จนกระทั่งวันนี้





เขาเป็นห่วง หรือว่าเพราะกลัวว่ามารีน่าหรือแม็คจะพาผมหนีไป





ผมเข้าใจว่า alanmaria เริ่มโด่งดังและมีชื่อเสียงแล้ว และในส่วนของแบล็คดีไซเนอร์ที่ใครๆ ต่างก็พูดถึง มันลึกลับและน่าค้นหานั่นยิ่งทำให้เรื่องราวมันน่าติดตาม และผมคือคนนั้น… No.1 ที่หาตัวจับยากอย่างที่แม็คว่า และผมก็ไม่ได้แคร์ด้วยถ้ามารีน่าจะอ้างสิทธิ์นั้นว่าเป็นของเธอเพียงคนเดียว เพราะถ้าไม่มีเธอ ตัวผมก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน





ชาร์ลยังคงดูแลผมอย่างดีในทุกๆ วัน ยิ่งผมซึมซับความอบอุ่นอ่อนโย่นนั่นมากขึ้นเท่าไหร่ หัวใจผมก็จะเจ็บและสะอื้นในอกทุกครั้ง ผมเสพติดเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน ในเวลาเดียวกันนั้น...ผมก็คิดถึงพี่ด้วย





พี่...ที่ยังคงผูกมัดผมเอาไว้อย่างแน่นหนาด้วยความเร่าร้อน แม้เราแทบจะไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ยิ่งเรื่องทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันเหมือนเมื่อก่อนดูแทบจะไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ แต่ทุกครั้งที่ผมเลี่ยงที่จะเจอพี่ไม่ได้..ผมก็จะปล่อยให้มันเลยตามเลย หรือบางทีอาจเป็นเพราะลึกๆ แล้วผมต้องการ..





เงาคนเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าประตูในตอนที่ส่งชาร์ลไปทำงานเรียบร้อยแล้ว ผมจะไม่เปิดออกไปก็ได้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็จะไม่ต้องเจอหน้าพี่ ในใจผมคิดแบบนั้น แต่มือกลับเอื้อมไปหมุนลูกบิดและเปิดมันออก





ลึกๆ แล้วอาจจะเป็นความตั้งใจของผมเอง





พี่ยืนอยู่ตรงนั้น...เหมือนทุกครั้ง..เราจ้องมองกันโดยไม่พูดอะไร แล้วพี่ก็รั้งผมเข้าไปกอด แม้ว่าผมจะตัวสั่นเหมือนลูกนก แต่พี่ก็จูบอย่างเร่าร้อนเหมือนคืนวันนั้น



ผมสั่นสะท้านในอก...ไม่สามารถปฏิเสธพี่ได้เลย



ผมยินยอมพร้อมใจและครางสุขสมครั้งแล้วครั้งเล่าใต้ร่างของพี่….





*******************





วอนแม่ยกตั่งต่าง โปรดเห็นใจน้องด้วย

#ขอบคุณที่ติดตาม
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #สองใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 02-07-2019 11:18:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #สองใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-07-2019 19:41:18
ไม้เรียวสั่นริกๆแล้ว
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #วังวน
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 03-07-2019 12:40:37


ผมเปิดประตูห้องเพื่อจะออกไปเตรียมอาหารเย็นเพื่อรอคอยการกลับมาชาร์ล เพราะเขาไม่ได้กลับมา 2 วันแล้วเนื่องจากไปคุยธุระที่ต่างเมือง สองวันมานี่ผมจึงใช้ชีวิตอย่างเงียบที่สุด เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ออกมา แต่วันนี้ชาร์ลส่งข้อความมาบอกว่ากำลังจะกลับและทันช่วงมื้อเย็น ผมอยากออกไปรอต้อนรับเขา



การทำอาหารมื้อเย็นคือความบันเทิงของผม มันสนุกดี ทั้งกลิ่นเครื่องปรุง และขั้นตอนในการทำ กลิ่นอาหารที่กำลังปรุงสุก มันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย



“อ๊ะ! ….” อ้อมแขนแข็งแรงของใครบางคนสอดเข้ามากอดจากด้านหลังขณะที่ผมกำลังสาละวนกับการเตรียมสลัดจานสุดท้าย



“พี่...” เพราะผมไม่ได้สังเกตว่ารถพี่ยังจอดอยู่ พี่ไม่ได้ตอบรับคำเรียกของผม แต่กลับโน้มลงมาจูบโดยไม่พูดไม่จา



ผมถูกพี่กดกอดจากด้านหลัง จูบของพี่มักรุนแรงเร่าร้อนตั้งแต่แรก ฝ่ามือทั้งสองข้างบีบขย้ำแผ่นอกที่แบนเรียบ สะกิดจนเป็นติ่งไตชูชันขึ้นมา ทุกครั้งที่ผมแอ่นอกหนี มันก็เหมือนกับว่าผมกำลังส่ายสะโพกบดเบียดกับร่างกายของพี่ที่ด้านหลังอย่างน่าอาย



พี่หัวเราะในลำคอในขณะที่ผมรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว ฝ่ามือร้อนเริ่มสอดเข้ามาในเสื้อยืดของผม ปลายนิ้วบิดบี้ขยี้ยอดอกทำให้ผมอยู่ไม่สุข ส่วนล่างตรงกลางลำตัวเริ่มถูกรุกล้ำ พี่สอดมือเข้าไปในกางเกงแล้วครอบครองตรงส่วนนั้น หยอกล้อจับรูดชักนำจนผมคล้อยตามในเวลาไม่นาน



"พะ...พี่..."



กางเกงที่สวมอยู่ถูกพี่รูดไปกองที่ปลายเท้า ในขณะที่เสื้อยืดถูกเลิกร้นไปจนถึงคอ มีเพียงผ้ากันเปื้อนที่ทำให้ผมยังไม่เปลือยกายน่าอายอยู่ในครัว



"อาลัน..." พี่กระซิบที่ข้างหูขณะที่ผมยังหอบเหนื่อย "กางขาออก" คำสั่งของพี่ทำให้ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากัน



และเมื่อพี่ย่อตัวลงไปนั่งคุกเข่าที่ข้างหลัง ผมก็ทำตามคำสั่งพี่อย่างว่าง่าย



"อ๊ะ...อ๊ะ...พี่...อย่า...อย่า..."

ผมหวีดร้องคราง ใบหน้าเชิดขึ้นอย่างเสียวซ่าน เขย่งยืนด้วยเพียงปลายเท้า



เสียงร้องห้ามของผมคงกลายเป็นเสียงยุยงให้พี่กลั่นแกล้งผมเข้าไปอีก จูบ และฟันคมที่ขบลงบนเนื้อแถวนั้นมันทำให้เจ็บเสียวราวกับกำลังโดนพี่ทำโทษ



"อาลัน....จูบพี่..." พี่โน้มตัวเข้ามาหา ผมทำตามที่พี่บอกอย่างว่าง่าย แล้วพี่ก็ให้รางวัลด้วยการแทรกกายเข้ามามาพร้อมกับรั้งสะโพกของผมบดเบียดเข้าหา



ผมทำได้แค่หวีดร้องในลำคอเพราะพี่ยังไม่ยอมปล่อยจูบ สะโพกถูกยึดแน่น



มือสองข้างทำได้แค่เกาะจิกกับเค้าเตอร์หินอ่อนเอาไว้แน่นเมื่อสะโพกถูกรั้งให้โก่งไปด้านหลังจนปลายเท้าไม่แตะพื้น



"พี่...พี่..อ๊าาาาา" พี่ถาโถมเข้ามาดั่งพายุ เร่าร้อน รุนแรง ตอกลึกเข้ามาในกายแล้วปลดปล่อยเข้ามาหลายครั้งหลายครา



ผมครางจนเสียงแหบแห้ง เสียงเนื้อเปลือยเปล่ากระทบกันยังดังก้องในห้องครัว ไออุ่นฉีดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับผมที่ปลดปล่อยจนผ้ากันเปื้อนด้านหน้าเปียกชุ่ม พี่ปล่อยค้างให้เราสองคนเชื่อมกันอยู่อย่างนั้นอีกสักพักก่อนจะยอมถอนกายออกไป



ผมทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างหมดแรง พี่ก้มลงมาจูบผมอีกครั้งก่อนจะช้อนตัวขึ้นมาในอ้อมแขน ผมหมดเรี่ยวแรงเกินกว่าจะปฏิเสธอะไร



พี่อุ้มผมที่อ่อนแรงไปส่งที่หน้าห้อง แล้วก็ได้ยินเสียงรถพี่ขับออกไป



ผมทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนล้า ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย ความสุขสมตอนที่พี่กอดหายวับไปกับตาราวกับฝันดี แล้วก็ต้องตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง ผมสะอื้นซุกหน้ากับหมอนอย่างเหนื่อยอ่อน



............................



และมารู้สึกตัวอีกครั้งตอนได้ยินเสียงเคาะประตู ผมรวบรวมเรี่ยวแรงเดินโซเซไปเปิด เป็นชาร์ลที่เพิ่งกลับมาจากทำงาน ในมือมีผ้ากันเปื้อนที่ผมคงจะลืมทิ้งไว้ในครัว ในสภาพที่เห็นก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น





"ฝีมืออีธานใช่ไหม"



ทำได้แค่พยักหน้าตอบคำถาม ชาร์ลดึงตัวผมไปกอดแนบอกแล้วลูบหัวเบาๆ น้ำตาที่หยุดไปแล้ว ไหลออกมาอีกรอบ



“ไม่ร้องนะ ฉันอยู่นี่...ไม่ต้องร้องแล้ว...” ยิ่งชาร์ลปลอบเท่าไหร่ก็ยิ่งดูเหมือนผมจะสะอื้นหนักขึ้น เขาอุ้มผมเดินกลับเข้าไปในห้อง วางให้นั่งลงบนเตียงแล้วคุกเข่าอยู่ตรงหน้า



“อึก...ผม...”

ชาร์ลปลอบผมที่สะอื้้นด้วยการจูบเบาๆ ที่หน้าผาก ใช้ปลายนิ้วปาดน้ำตาที่เลอะแก้มออกให้อย่างแผ่วเบา แล้วสำรวจร่างกายของผมไปทั่ว เพราะผมร้องไห้จนหลับไป จึงยังไม่ได้ทำความสะอาด คราบต่างๆ ยังเลอะไปตามเรียวขา พยายามจะหดขาหนีฝ่ามือหนาที่แตะลงมาด้วยความอับอาย แต่ชาร์ลก็ยึดเอาไว้



“อ๊ะ...ชาร์ล...” ริมฝีปากร้อนจูบลงบนต้นขา ผมสะดุ้งรู้สึกหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้สึกรังเกียจแต่เป็นความวาบหวามในอก ก่อนที่ชาร์ลจะโน้มใบหน้าผมลงไปให้จูบเขาที่ริมฝีปากอีกครั้ง



เขาจูบผมที่ปาก หอมแก้ม หน้าผาก มันเป็นการปลอบโยนของชาร์ล ความอ่อนโยนของชาร์ลที่ทำให้ผมไม่สามารถปฏิเสธได้



เขากำลังปลอบผม



“ไปอาบน้ำ ล้างตัว เดี๋ยวลงไปทานข้าวกัน” ชาร์ลบอกพร้อมกับโยกหัวผมเบาๆ แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูกับชุดส่งให้



“อ๊ะ...ขะ..ขอโทษครับ” ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นไปรับของในมือชาร์ล ขาผมก็อ่อนแรงจนเซเกือบจะทรุดลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ได้ชาร์ลรับตัวเอาไว้ทัน



“อ่า...ช่วยไม่ได้นี่นะ” เสียงชาร์ลบ่นขณะที่ผมยังอยู่ในอ้อมแขน และยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเขาก็อุ้มผมขึ้นมาโดยใช้แขนเพียงข้างเดียวช้อนใต้ขา



“ชาร์ล! ”



“วันนี้ให้ฉันอาบให้ก็แล้วกัน”



ผมตกใจทำตาโตใส่เขา



“เดี๋ยวครับชาร์ล! ...ผม..ผมอาบเองได้” ผมบอกขณะใช้เรี่ยวแรงที่มีขืนตัวออกจากอ้อมแขนเขา แต่ไม่ช่วยอะไรเลย เขาทำเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็กๆ ในอ้อมแขนเขา



“อายเหรอ..? ”



ผมก้มหน้าเม้มปากแน่น และนั่นคือคำตอบว่า ‘ใช่’



ชาร์ลหัวเราะราวกับชอบอกชอบใจ



“ฉันเคยเห็นมาหมดแล้วนี่น่า”



“ชาร์ล!! ” ผมแทบจะตะโกนใส่หน้าเขาก็ว่าได้ แต่ด้วยความที่เสียงแหบแห้งจากการร้องไห้จึงทำได้แค่นั้น เมื่อกี้เขายังปลอบโยนผมอยู่เลยนะ!



“ผมอาบเองได้” ผมยังคงก้มหน้าเม้มปากและใช้แขนยันไหล่กว้างเอาไว้เพื่อขืนตัวออกจากอ้อมแขนชาร์ล



“รู้...” ชาร์ลว่า “แต่ฉันอยากอาบให้” แล้วก็พาผมที่กำลังทำหน้าเหวอเดินเข้าห้องน้ำไปทั้งอย่างนั้น







...บางทีชาร์ลก็เอาแต่ใจเกินกว่าที่ผมจะรับมือได้





ผมถูกวางลงตรงชั้นหินอ่อนข้างอ่างล้างหน้า ก่อนที่ชาร์ลจะค่อย ๆ บรรจงรูดเสื้อยืดออกไปจากตัวผม ต่อด้วยกางเกงกระทั่งชั้นในตัวสุดท้ายถูกรูดออกไปจากปลายเท้า จนเปลือยเปล่า มันน่าอาย ผมหน้าร้อนผ่าวไปหมด ชาร์ลเหมือนรู้ เขาโนโน้มมาจูบที่แกแก้มเบาๆ ก่อนอุ้มผมมที่เปลือยเปล่าไปยืนใต้ฝักบัว



"อาลัน..." เสียงเรียกชื่อเบาๆ ตอนที่ผมหมุนตัวหันหลังให้เพราะความอาย ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะแตะเบาๆ ที่แผ่นหลังไล่เรื่อยไปทั่ว ถ้าให้เดา...คงจะเป็นร่องรอยที่พี่เป็นคนทำเอาไว้ ผมพลาดไปเอง แต่จะช้าหรือเร็วชาร์ลก็จะต้องเห็นอยู่ดี



"อ๊ะ...ชาร์ล..." ผมครางเมื่อริมฝีปากอุ่นแตะลงบนต้นคอทางด้านหลัง ผมไม่เห็นว่าชาร์ลทำหน้ายังไง แต่สัมผัสที่เขาทำมันทำให้ใจผมสั่นวาบหวามในอกอย่างช่วยไม่ได้



สัมผัสที่แสนอ่อนโยนของชาร์ลประทับไปทั่วแผ่นหลังของผม ก่อนที่น้ำอุ่นจากฝักบัวในมือชาร์ลจะราดรดลงมา ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่วเบาไปทั่วตัว จนกระทั่งถึงสะโพก เมื่อผมเหลือบมองไปทางด้านหลัง ชาร์ลกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นโดยไม่กลัววเปียก



"เปิดให้ฉันดูหน่อยได้ไหม" ผมรู้เขาหมายถึงอะไร แม้จะน่าอายจนแทบจะอยากมุดหน้าเข้าไปในกำแพง แต่ก็กัดฟันข่มความอายยื่นมือไปด้านหลังจับเนินเนื้อด้านหลังแล้วแหวกออกด้วยตัวเอง สายน้ำอุ่นจาฝักบัวถูกฉีดรดตรงช่องทาง



"อ๊ะ...อ๊าาาา...ชาร์ล...อึก.." สะโพกส่ายหนีอย่างลืมตัวเมื่อปลายนิ้วของชาร์ลแตะลงตรงช่องทาง ก่อนจะสอดเข้ามาคว้านข้างใน ผมกัดปากกลั้นเสียงคราง ปลายนิ้วเรียวสอดเข้ามาอย่างง่ายดายสอดควานเอาคราบขาวที่ยังคั่งค้างด้านในไหลย้อยออกมา



"อาลัน...อยู่นิ่งๆ " ชาร์ลบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกดจูบตรงสะโพก นั่นทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบเกร็งสะท้าน



"เจ็บไหม? " เขาเอ่ยถาม และผมก็ส่ายหน้าแทนคำตอบ มันไม่เจ็บแล้วตั้งแต่ที่ชาร์ลเริ่มจูบ



ผมหอบหนักเมื่อจำนวนนิ้วในช่องทางเพิ่มขึ้น สะโพกบิดเกร็งโอนแอ่นไปด้านหลังราวกับต้องการมากขึ้น แม้จะอับอายแต่ร่างกายกลับซื่อตรง ตรงส่วนอ่อนไหวด้านหน้าชูชันสั่นระริกอย่างช่วยไม่ได้....และชาร์ลก็รู้...



"เด็กดี...ไม่เอาไม่ร้อง...ถ้าเธอรังเกียจ ฉันจะไม่ทำ...ไม่ต้องกลัวนะ" ชาร์ลลุกขึ้นมากอดผมที่สะอื้นเอาไว้แน่น เขาจูบอ่อนโยนที่หัว และผมก็ส่ายหน้ากับอกกว้างของเขา



"อึก..ผม...ผมไม่เคยรังเกียจชาร์ล ไม่เคยเลย" ผมบอกปนเสียงสะอื้น ชาร์ลเชยคางผมให้เงยหน้าไปรับจูบร้อนแรงของเขา





ชาร์ลไม่ได้ทำอะไรผมไปมากกว่าการจูบและอาบน้ำให้จนสะอาดหมดจดไปทั้งตัว ทั้งข้างนอกและข้างใน ผมครางสุขสมและปลดปล่อยไปสองครั้งด้วยมือเขา และเมื่อล้างตัวเสร็จชาร์ลก็แค่ถอดเสื้อผ้าชุดที่ใส่เพราะมันเปียกชุ่มไปหมดออก ใช้เพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวแล้วเดินกลับห้องของตัวเองไปทั้งอย่างงั้น



และผมที่โดนสั่งให้รออยู่ในห้อง ก็ไม่สามารถสลัดภาพชาร์ลออกไปจากหัวได้เลย



เป็นความสุขปนทรมาน จากความรู้สึกผิดบาป คิดถึงพี่ และอ้อนวอนชาร์ล ความรู้สึกผิดและสุขสมเกาะกุมหัวใจ วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา





ผมเสพติดการมีชาร์ล





และไม่สามารถปลอยมือจากพี่ได้เช่นกัน







*******************



#Talk

ทุกค๊นนนนนนนนน กลับมาหาน้องก๊อนนนนน T_T

เป็นกะลังใจให้น้องกันด้วยนะ (หรือควรเป็นกำลังใจให้ชาร์ล)

ฉันจะลงโทษอิพี่ให้เอง -*-

หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #วังวน
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-07-2019 14:44:50
เมื่อไหร่ชาล์ลจะมีบทกับน้องบ้างอ่า
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #วังวน
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 03-07-2019 14:56:31
ชาร์ล อาลัน อีธานจะไม่คุยกันหน่อยเหรอว่าที่ทำกันอยู่นี่มันคืออะไร  :katai1:
โมโหอิพี่อีธานสุด แกทำกับน้องขนาดนี้แล้วแกยังอิจฉาอะไรชาร์ลอีก แล้วทำไมไม่คุยกับน้อง!!

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #วังวน
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 03-07-2019 16:22:25
พี่อย่าใจร้ายกะน้องเลยยยยย
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #วังวน
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 03-07-2019 22:11:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #วังวน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 04-07-2019 09:27:27
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #มัวเมา
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 04-07-2019 11:19:52
....

....

....



...วันแล้ววันเล่าเท่าที่พี่ต้องการ





และในทุกครั้งที่พี่ 'ทำ' ผมยินยอม





แม้จะเจ็บปวดใจเจียนตายทุกครั้ง ชาร์ลก็จะเข้ามาปลอบโยนด้วยความอบอุ่นทั้งหมดที่มี





ราวกับว่าผมเรียกร้องพี่ เพื่อใช้มันเป็นเครื่องต่อรองในการอ้อนชาร์ล





ความเอาแต่ใจและเห็นตัวอย่างร้ายกาจของผม คงจะต้องถูกพระเจ้าลงโทษในสักวัน











..





.





งานเปิดตัวคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิของ alanmaria ประสบความสำเร็จอย่างมาก แม็คโทรมากรีดใส่ผมจนแก้วหูแทบแตก แถมยังบังคับให้ผมเปิดดูโชว์ออนไลน์และข่าวต่างๆ ที่สือในโซเชียลต่างพูดถึงความแปลกใหม่ของเรา งานโชว์ประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากสีสันตระการตา และเปิดโชว์ด้วยชุดสีดำ ไล่ระดับสี เทา กรม ฟ้า และเป็นสีอ่อนเรียบไล่เรียงลำดับลงมา เมื่ออยู่ท่ามกลางสีสันสดใส ไม่จำเป็นต้องไปแข่งขัน แต่ก็สามารถโดดเด่นได้เช่นกัน ทีมงานทำได้อย่างดีเยี่ยม ดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก





ผมจมดิ่งไปกับการไล่เปิดดูลิ้งข่าวจากสำนักต่างๆ ที่พูดถึงและแชร์งานของเราจากคำโอ้อวดของมารีน่าและแมค





“เธอน่าจะมางานเลี้ยงกับพวกเราด้วย” แม็คบ่นเสียงน้อยใจ เพราะผมปฏิเสธที่จะไปงานทุกครั้ง เมื่อก่อนจะเป็นพี่ที่จะกลับมาเล่าเรื่องโชว์เรื่องงานเลี้ยงให้ฟัง





แต่ตอนนี้ไม่มี…





แต่ภาพพี่...ที่อยู่ในข่าวล่าสุดที่ผมเปิดอ่าน พี่ยืนอยู่ตรงนั้นกับผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งในมือถือแก้วเครื่องดื่ม ส่วนอีกมือโอบอยู่ตรงสะโพก ภาพพี่ที่ก้มลงไปกระซิบกระซาบกับผู้หญิงคนนั้น มันทำให้คืนวันที่ผมลืมเลือนไปย้อนกลับมา…





ผมคงคิดไปเองว่า ที่พี่กอดผม นั่นเพราะพี่ต้องการผม….แต่ไม่ใช่เลย…









“เป็นอะไรไป หืม? ” เสียงชาร์ลเอ่ยถามขณะที่เรานั่งทานข้าวเย็นกัน ผมส่ายหน้าแล้วก้มเขี่ยเส้นสปาเกตตีในจานต่ออย่างเหม่อลอย





“อาลัน...”





“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ไม่หิว”





“งั้นเหรอ? ”





ชาร์ลไม่ได้เซ้าซี้ต่อหลังจากนั้น นั่นเพราะเขาใจดีกับผมเสมอ เหมือนตอนที่ผมอ้อนให้เขาจูบ ถ้าผมไม่เรียกร้องเขาก็จะหยุดอยู่แค่นั้น





การจูบส่งผมเข้านอนเหมือนจะเป็นงานประจำของชาร์ล เขาจะส่งผมที่หน้าห้อง จูบหน้าผาก หอมแก้มเบาๆ แล้วบอกให้ฝันดี รอจนกระทั่งผมเข้าห้องและปิดประตู เขาถึงจะเดินจากไป





แล้วพี่ก็จะเข้ามาหลังจากนั้น






“พี่...ทำไม? ..อื้อ..” ผมถามเสียงหอบหนักตอนที่พี่ถอดถอนกายออก หลังจากสุขสมปลดปล่อยในตัวผมจนพอใจรอบที่สาม





“อะไร? ยังไม่พอเหรอ? ” พี่ถามกลับพร้อมกับเสียงหัวเราะราวกับจะเยาะเย้ย ผมหดขาหดตัวแนบไปกับผ้าห่มทันที





“ทำไม...พี่ถึงกอดผม..” เกิดความเงียบงันหลังจบคำถาม





ผมอยากรู้คำตอบ ในขณะเดียวกันก็หวาดกลัวที่จะได้ยิน





พี่ลุกออกจากเตียง หยุดยืนนิ่ง ในความมืดผมมองไม่เห็นสีหน้าของพี่ และความเงียบมันทำให้หัวใจที่ว่างเปล่าของผมถูกกัดเซาะ พี่ออกไปจากห้องโดยไม่ตอบคำถาม ผมไม่ได้ร้องไห้แล้วในคืนนั้น เหมือนหัวใจมันเจ็บจนชาจนน้ำตาไม่อยากจะไหลออกมาแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมเหนื่อยล้าเกินไป





....................................





ผมกอดเข่าจมอยู่กับความคิดตัวเองเงียบๆ อยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก เหม่อมองออกไปตรงสวนหลังบ้านจนกระทั่งฟ้าเริ่มมืด ไม่ได้ยินเสียงรถของชาร์ลที่กลับเข้ามา



“อ๊ะ” เป็นชาร์ลที่เดินเข้ามาข้างหลังเงียบๆ และคงจะเห็นว่าผมไม่รู้ตัว เขาถึงจู่โจมด้วยการหอมแก้มเบาๆ แต่ผมก็สะดุ้งลุกหนีเขาไปด้วยความตกใจ



“ฉันเอง ขอโทษที่ทำให้ตกใจ”



“ผมขอโทษครับ” ที่จริงควรเป็นผมมากกว่า เพราะชาร์ลมีสีหน้าวิตกกว่าผมเสียอีก



“เป็นอะไรไป? มีเรื่องอะไรรึเปล่า? ” ชาร์ลพูดเสียงอ่อนโยน และผมส่ายหน้าแทนคำตอบแทบจะทันที



“เปล่าครับ” ปฏิเสธโดยไม่หันไปสบตาเบือนหน้าไปทางอื่น



“อาลัน...” ชาร์ลคาดคั้น และผมก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเมินเฉย ความเก็บกดที่ผ่านมาหลายวันมันทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เหมือนตอนที่โดนจับได้ว่าทำผิดแล้วต้องการจะกลบเกลื่อน



“ไม่มีอะไร ผมไม่ได้เป็นอะไร” ผมเริ่มเสียงแข็งใส่ชาร์ลผมรู้ตัวดีว่าไม่ควร ชาร์ลไม่ได้ผิดอะไร แต่เพราะความใจดีของเขาที่ทำให้ผมกล้าทำอะไรแบบนั้น



“อาลัน...มานี่มา..มาคุยกันดีๆ ” ชาร์ลพยายามยื่นมือมาหา แต่ผมกลับก้าวถอยหนีไปด้านหลัง เขาจึงยกมือค้างอยู่แบบนั้น ผมก้มหน้าเม้มริมฝีปากแน่น



“คุณไม่ต้องมาทำดีกับผมก็ได้” ผมรู้นั่นไม่ใช่ความผิดของชาร์ล และรู้ว่าไม่ควรเอาความโมโหและหงุดหงิดใดๆ มาลงกับเขา แต่ผมก็ไม่สามารถหยุดตัวเองได้ ขอบตาผมเริ่มร้อนผ่าว ตอนที่เห็นสีหน้าชาร์ล…



“อาลัน...ฉันทำอะไรไปอย่างงั้นหรือ? ” ใจผมอยากจะตะโกนออกไปว่า ‘ไม่ใช่ ไม่ใช่ความผิดของเขา’ อยากจะวิ่งเข้าไปหาอกเขาให้เขากอดผมเอาไว้แน่นๆ แต่สิ่งที่แสดงออกไปกลับตรงกันข้าม..



ผมเป็นแค่ตัวประกัน คุณไม่ต้องมาทำดีกับผมขนาดนั้นก็ได้! ” มันจะทำให้ผมเสพติดและคิดเข้าข้างตัวเองแบบผิดๆ ผมตะโกนต่อในใจ พลางยกแขนปาดน้ำตาออกไปอย่างรีบร้อน



“ตัวประกัน? ” ชาร์ลขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ



แต่ผมก็ยังพูดต่อ..



“เพื่อให้มารีน่ากับแม็คทำงานให้” นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพูดทุกอย่างในใจออกไปจนหมดสิ้น ใส่อารมณ์ทั้งหมดลงไปขนาดที่ว่ากับมารีน่าก็ไม่เคยเห็น ในอกผมเจ็บปวดกับความจริงที่พูดออกไปจากปาก เพราะนั่นมันเท่ากับว่าผมต้องยอมรับมันอย่างช่วยไม่ได้



ราวกับว่านั่นเป็นความผิดของชาร์ล



ชาร์ลยืนนิ่งด้วยสีหน้างงงันสับสนแบบนั้นไปหลายนาที ก่อนจะเปิดปากถามด้วยน้ำเสียงเหมือนหมดเรี่ยวแรง สีหน้าสลดวูบของชาร์ลทำให้หัวใจของผมกระตุกวูบไหวเช่นเดียวกัน



“เธอคิดอย่างนั้น...มาตลอดเลยหรือ? ”



น้ำตาผมเริ่มไหลออกมาแล้ว ผมจึงไม่ได้ตอบคำถามของเขา ได้แต่เบือนหน้าไปอีกทางแล้วยกแขนปาดมันออกให้พ้นขอบตาอีกครั้ง



“งั้นเธอก็คงเห็นฉันเป็นแค่ตัวแทนอีธานเหมือนกัน” คำพูดของเขาทำให้ผมหันกลับไปมอง ชาร์ลส่งยิ้มเศร้าสร้อยมาให้ เป็นผมเองที่ยืนนิ่งไปเนิ่นนาน



ผมกำลังสับสนงุนงง ย้อนไปในความคิด ผมไม่เคยเห็นชาร์ลเป็นตัวแทนใคร แม้ผมจะคิดถึงพี่ แต่ก็ไม่เคยเห็นพี่อยู่ในตัวเขา ชาร์ลก็คือชาร์ล ไม่เคยเป็นคนอื่นไปได้เลย



“ชาร์ล..” ผมเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง



“ฉันคิดว่าจะเป็นแบบนั้นต่อไปก็ได้ ให้เป็นตัวแทนก็ได้ แค่ได้อยู่ใกล้เธอ...ได้จูบเธอ...ฉันควรจะพอใจแค่นั้น แต่ไม่ใช่เลย...ฉันต้องการเธอมากขึ้นทุกวัน” เขาย่อตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมเสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ใบหน้านั้นหมองเศร้าลงอย่างชัดเจน



“ชาร์ล...” ผมเริ่มเสียงสั่นเมื่อเอ่ยเรียกชื่อเขาเป็นครั้งที่สอง ในอกเหมือนเจ็บจุก



“อยากให้เธอพึ่งพา เรียกหาแต่ฉัน อยากให้รู้สึกเหมือนจะอยู่เองไม่ได้…..ถ้าไม่มีฉัน” เขายอมรับออกมาอย่างง่ายดาย สายตาที่มองตรงมายังผมไม่ได้ปิดบังความต้องการอีกต่อไป



หัวใจที่เจ็บปวดไปกับการคิดแต่เรื่องเลวร้ายหลายวันที่ผ่านมา รู้สึกเหมือนได้ถูกเยียวยาในพริบตา



น้ำตาผมไหลออกมาแล้วตอนที่เขายื่นมาออกมาตรงหน้า ชาร์ลไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย เป็นผมเองที่เดินเข้าไปหาเขาอย่างง่ายดาย ปล่อยให้เขารั้งตัวเข้าไปกอด ผมสะอื้นกับอกกว้าง ฝ่ามือที่เคยอบอุ่นวางลงบนหัวผมแล้วลูบเบาๆ ชาร์ลจูบบนเรือนผม กอดผมที่เบียดเข้าหาเขาเอาไว้อย่างทะนุถนอม ถ้านั่นเป็นแผนการของเขาละก็...เขาทำสำเร็จแล้ว



ผมคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีชาร์ล ผมยอมรับมันได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดเลย



จูบชาร์ลยังคงอ่อนโยน เสียงเขาครางในลำคอตอนที่ผมตอบสนอง เขาหลอกล่อให้เรียกร้องและผมก็ไขว่คว้า ปลายลิ้นสอดเข้ามาในปาก เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ตัวผมถูกยกขึ้น เรียวขาผมเกาะเกี่ยวเอวหนาของชาร์ลเอาไว้เพราะกลัวตก ระยะทางไปถึงห้องของชาร์ลเหมือนใกล้มากทั้งที่ผมไม่เคยเข้ามา มารู้ตัวจนกระทั่งแผ่นหลังสัมผัสกับเตียง…



ชาร์ลจูบผมราวกับว่ามันไม่พอ เขาเก่งเรื่องหลอกล่อให้ผมคล้อยตามได้เสมอ ผมอ้อนวอน ชาร์ลตักตวง กระทั่งเราสองคนเปลือยเปล่า ชาร์ลลุกขึ้นนั่งคร่อมตัวผม มองผมที่นอนแผ่เปลือยเปล่า ลากปลายนิ้วลงไปบนผิวของผมแผ่วเบาแต่กลับทำให้ตรงที่ถูกแตะร้อนผ่าวราวกับถูกแผดเผา เลี่ยงหลบไปทางไหนไม่ได้เลยในเมื่อเรียวขาทั้งสองข้างเกาะเกี่ยวอยู่ที่เอวเขา



“อ่าาาา ” ผมแอ่นอกสะท้านเมื่อริมฝีปากชาร์ลจูบบนแผ่นกดและงับยอดอกที่แข็งขืนนั้นเบาๆ ริมฝีปากร้อนจูบซับไปทั่วผิวกาย ผมทำได้บิดตัวร้อนรนใต้ร่างกายกำยำนั่นอย่างไร้เรี่ยวแรง



“อาลัน...อ่า...” ชาร์ลคว้ามือทั้งสองข้างของผมขึ้นไปจูบหนักๆ ราวกับจะยืนยันคำพูดด้วยการกระทำ



“อาลัน...ฉันต้องการเธอมาก...เข้าใจไหม..” ความรักของชาร์ลนั้นแสดงออกมาจากดวงตาและทุกการกระทำอย่างไม่ต้องสงสัย ผมไม่ควรคิดสงสัยเลย



ชาร์ลโน้มตัวลงมาทาบทับพร้อมกับจูบร้อนแรงจนหัวผมมึนไปหมด ทุกสัมผัสทุกอย่างที่ชาร์ลทำมันอ้อยอิ่งและเรียกร้องมันทำให้ผมคลั่ง ผมตอบสนองไปโดยไม่รู้ตัวเลย



เขาเริ่มต้นและผมก็คล้อยตาม ทุกส่วนที่ชาร์ลแตะต้องและครอบครองร้อนผ่าว



“อื้อ..ชาร์ล...ชาร์ล….” เสียงผมสะอื้นเพราะกำลังรู้สึกเหมือนจะสำลักความสุขและตายได้ในตอนนี้ แต่ชาร์ลก็กระชากลมหายใจผมขึ้นมาแล้วสอดแทรกตัวตนที่ร้อนแรงราวกับจะเผาให้ผมมอดไหม้ ความอ่อนโยนเนิบนาบในคราแรกทำให้ผมแทบขาดใจตายและในนาทีต่อมาเขาก็เคลื่อนไหวรุนแรงราวกับพายุโถมเข้าใส่ เนื้อตัวผมโยกไหวไปตามแรง





ชาร์ลครางเรียกชื่อผมไม่หยุด และผมเองก็ส่งหวีดหวิวเรียกร้องอย่างไม่อาย ปลดปล่อยในตัวผมครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับว่ามันจะไม่มีจุดจบสำหรับเรา จนเป็นผมเองที่ยอมพ่ายแพ้จนหลับไป





รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...กับอกหนาบนเตียงกว้าง ชาร์ลกอดผมเอาไว้ให้ผมนอนหนุนแขนของเขา ผมรู้สึกเหนื่อยล้าแต่ไม่ได้เจ็บปวดเนื้อตัวทั้งที่เราทำกันไปขนาดนั้น ชาร์ลเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ร่องรอยความเจ็บที่ด้านหลังทำให้รู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวจนต้องซุกอิงแอบไปกับอกกว้างอีกครั้ง การขยับตัวของผมทำให้ชาร์ลตวัดแขนอีกข้างมากอดผมเอาไว้





กลิ่นของชาร์ลทำให้ผมเริ่มง่วง ...และก็นั่นนับเป็นอีกคืนที่ผมหลับไปและฝันดีมากๆ







***********



#Talk


คุณค่ะ!!!! คุณชาร์ลอ่อนโยนไม่ไหวแล้วค่าาาาาาา

ในส่วนของอิคุณพี่ที่ตกป่องไปแล้วเรียบร้อย

แต่ว่า...ใจเย็นๆ กันก่อนทุกคน #เรื่องนี้มีเงื่อนงำ


#ฝากติดตามน้องด้วยจ้าาา

หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #มัวเมา
เริ่มหัวข้อโดย: pixie ที่ 05-07-2019 00:35:58
ชอบมากค่า น้องง ไม่ต้องรู้สึกผิดไปค่า ฟาดไปเลยด้วยอินเนอร์ Why choose when you can have them all

เรื่องเทคนิคการเขียนไม่ติดเลยค่า
แต่อยากให้คนเขียนเปลี่ยนหัวข้อนิดนึงตอนอัพเดทน่ะค่ะ เพิ่มเป็นเลขตอนหรือวันที่ก็ได้ เวลาอัพกระทู้คนอ่านจะได้ทราบว่ามีการเพิ่มเนื้อหานิยาย ไม่ใช่การคอมเมนท์ค่ะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #แตกหัก update 5/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 05-07-2019 10:10:42



ปังๆ



ประตูห้องชาร์ลถูกทุบจากข้างนอกเสียงดังผมผวาตื่นขึ้น ชาร์ลกอดผมเอาไว้และปลอบว่าไม่เป็นอะไรก่อนจะลุกขึ้นไปเปิด



เป็นพี่ที่อยู่ตรงนั้น ใบหน้าแดงก่ำหายใจหอบกำลังเมามาย ในมือมีสมุดสเกตภาพของผม...พี่คงจะไปห้องผมมาก่อนหน้านี้ พี่ดูเกรี้ยวกราดเบียดตัวเข้ามาในห้อง โดยที่ผมยังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มบนเตียงของชาร์ล





“มีอะไร อีธาน”





“อยู่นี่เองสินะ” น้ำเสียงพี่ดูเหยียดหยาม





"นี่เอากันไปรึยังล่ะ" เสียงพี่ถามลอดไรฟัน ขณะที่ชาร์ลเดินเข้ามากั้นกลางระหว่างเรา





“อีธาน”



"อ่อ...ผมคงจะถามคำถามผิด" คราวนี้พี่ตะโกนเสียงดังลั่น ผมสะดุ้งตัวสั่นน้ำตาหยดเผาะอย่างช่วยไม่ได้ อะไรบางอย่างในตัวพี่ ทำให้ผมหวนนึกถึงนรกในอดีต ผมกลัว...กลัวจนไม่กล้าส่งเสียงออกมา…



“อีธาน หยุด! ”





“เอากันมากี่ครั้งแล้ว!! ”





เพี้ยะ!



ชาร์ลฟาดมือลงบนใบหน้าของพี่จนหันไปด้านข้าง ความแรงทำให้หน้าพี่ขึ้นสีเป็นรอยมือ พี่หันกลับมาด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว ขบฟันจนขึ้นเป็นสัน ผมตัวสั่นและเริ่มสะอื้น ตั้งแต่อยู่มานี่ไม่เคยเห็นพี่ทะเลาะกับชาร์ลเลยสักครั้ง พี่เคารพพ่อมาก เทิดทูนเดินตามรอยเท้าทุกก้าว ชาร์ลเองก็ไม่เคยแม้แต่จะขึ้นเสียงใส่ ไม่เคยเลยสักครั้ง





คราวนี้ถึงกับลงไม้ลงมือ





มันเป็นเพราะผม





เพราะผมคนเดียว





"อาลันมานี่! " พี่พยายามยื่นมือมาคว้าตัวผม แต่ชาร์ลเอี้ยวตัวบังไว้





"ไปทำหัวให้เย็นก่อน ค่อยมาคุย"





"อาลัน พี่บอกให้มานี่!! "



พี่ทำเหมือนไม่เห็นว่าชาร์ลยืนอยู่ตรงนั้น พยายามยื่นมือมาคว้าตัวผมให้ได้ และผมก็กลัวเกินกว่าจะก้าวไปหา เมื่อชาร์ลรั้งตัวผมเข้าไปหาผมถึงได้ซุกหน้าสะอื้นอยู่กับอกกว้างของเขา



"อีธาน!! น้องกลัว...ออกไปก่อน..." ชาร์ลยังคงคุมโทนเสียงนิ่งเรียบ





"พ่อไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับผมเรื่องนี้"





ในขณะที่ทุกคนยังตวาดกันเสียงลั่นบ้าน บ้านที่เคยมีแต่ความสุข ตัวผมยังคงสะอื้นไม่หยุด ภาพความรุนแรงในอดีตมันเหมือนถูกกรอซ้ำเข้ามาในหัวทั้งที่ควรจะลืมไปแล้ว





....ผมก็แค่ทำเป็นเหมือนว่าลืมมันไป





"มานี่ อาลัน!"





"อีธาน น้องกำลังกลัว" เสียงของชาร์ลยังคงอ่อนโยนเสมอ แขนข้างที่โอบกอดผมเอาไว้ ยังทำให้อุ่นใจปลอดภัยเสมอ





"แล้วพ่อมีสิทธิ์อะไร น้องเป็นของผม!! " พี่เริ่มคำรามใส่อย่างไม่เกรงกลัว





ชาร์ลนิ่งเงียบ บรรยากาศในห้องมีแต่ความน่าอึดอัด





"แกหมดสิทธิ์นั้น ตั้งแต่วันที่แกเที่ยวเอาผู้หญิงที่ไหนมานอนกกด้วยแล้ว"





"นั่นมันก็เรื่องของผม! "





"อีธาน!!! " คราวนี้ชาร์ลเริ่มขึ้นเสียงบ้าง อ้อมแขนที่โอบรอบตัวผมแน่นขึ้นตามแรงอารมณ์





ผมยิ่งสะอื้นหนัก และเริ่มปวดหัว ในอกมันเจ็บหน่วงราวกับว่าจะระเบิดออกมาเสียให้ได้





"หยุด...ได้โปรด..หยุดเถอะ" ผมพูดปนสะอื้นกับอกชาร์ล แต่มันคงเบาเกินกว่าที่ทุกคนจะได้ยิน





"ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่องก็ออกไปก่อน พ่อจะคุยกับน้องเอง"





เสียงพี่เดาะลิ้นพลางเสยผมด้วยใบหน้าที่ยังโกรธจัด





"จะนั่งคุยหรือนอนคุยกันล่ะ! "





"อีธาน!! " ชาร์ลตวาดเสียงดังอีกครั้ง





และพี่ก็โต้ตอบด้วยการเหวี่ยงของในมือลงพื้นอย่างแรง มันคือสมุดภาพของผมที่พี่ถือติดมือมา





โครม!! มันกระเด็นไปชนเข้ากับโต๊ะที่ชาร์ลวางเหยือกน้ำไว้ และมันก็ล้มลง น้ำในเหยือกไหลลงข้างล่างและเหยือกแก้วกลิ้งลงตกบนพื้น





เพล้ง!!
เหยือกแก้วตกลงมาแตกละเอียด





“อาลัน”





ผมผวาหลุดออกจากอ้อมแขนของชาร์ลคว้าสมุดเล่มนั้นเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่ทัน มันเปียกชุ่ม ผมรู้สึกเจ็บที่ขาเหมือนโดนอะไรบาดเอา แต่ก็ไม่ได้ร้องออกมา เพียงแค่กอดสมุดภาพที่เปียกเอาไว้กับอกโดยไม่สนใจเสียงเรียกของชาร์ล ผมขดตัวลงกับพื้นกอดสมุดไว้กับอกตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เหมือนโดนความกลัวในอดีตเข้าครอบงำ ยามที่เงาใครบางคนกำลังใกล้เข้ามา...





….ผมกลัวเหลือเกิน





"อาลัน! "





สองเสียงประสานกันเรียกชื่อผมคือสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยิน ก่อนที่โลกของผมจะดับวูบลง







.................................







เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าผนังห้องเป็นสีขาวคุ้นตา ผมตื่นแล้ว เพียงแต่ทุกคนยังไม่สังเกตเห็นเพราะคุยอยู่กับคุณหมอ



'คนไข้เคยมีเหตุการณ์สะเทือนใจมากมาก่อนไหมครับ'



'ครับ'



เป็นเสียงของชาร์ลที่ตอบรับคุณหมอ



'ในกรณีนี้จิตใจคนไข้บอบบางมาก และมันส่งผลถึงร่างกาย สถานการณ์เลวร้ายที่สุดเท่าที่เจอมา คือเหลือแค่ร่างกาย'



'คุณหมอหมายความว่ายังไง'



เสียงที่ดูร้อนรนนั่นเป็นเสียงพี่



'จิตใจคนเราเป็นระบบที่ซับซ้อนมากนะครับ หากเจ็บปวดมากเกินไป คนไข้บางรายก็เลือกที่จะลืมทุกอย่าง หรือบางคนก็เลือกที่จะหายไป คือปล่อยให้จิตใจตายไปแบบที่ยังมีลมหายใจครับ'





ผมหลับตาลง ในอกยังคงเจ็บปวดเหลือเกิน





ผมไม่อยากลืมใคร





ผมรักมารีน่า





ผมรักแม็ค





ผมรักพี่และรักชาร์ลด้วย.....





ผมสะอื้นออกมาเงียบๆ พยายามนอนหลับตานิ่งๆ จมอยู่ในความคิด





.............................





วันรุ่งขึ้นหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ มีเพียงแผลตามตัวที่ยังต้องรักษา เศษแก้วที่แตกในคืนนั้นแทงที่ฝ่าเท้าตอนผมโดดลงไป ความคมบาดลงที่น่องตอนที่ผมทรุดนั่ง และที่มือตอนที่ผมคว้าสมุดเข้ามากอดแนบอก เหมือนกับว่ามันได้บาดลึกลงในใจจนเป็นแผลเหวอะหวะด้วยเช่นกัน



"อย่าบอกมารีน่า ได้โปรด" ผมขอร้อง ชาร์ลพยักหน้ารับปาก



ระหว่างทางกลับบ้านชาร์ลดึงมือผมไปเกาะกุมเอาไว้ ผมปล่อยให้เขาทำแบบนั้นมันทำให้ผมอุ่นใจ และแน่นอนมันเจ็บปวดไปพร้อมกันๆ



เมื่อถึงบ้าน พี่นั่งรอผมอยู่ที่ประตูหน้า ผมปล่อยให้ชาร์ลเดินจูงมือผ่านหน้าเข้าไป พี่ทำแค่เดินตามหลังเราสองคนมาเงียบๆ จนถึงหน้าห้องโดยไม่พูดอะไร



"ผมอยากพัก" ผมหันไปบอกชาร์ล เขาพยักหน้าว่าเข้าใจ



"ต้องกินข้าวและกินยาตรงเวลานะ รู้ใช่ไหม" ผมพยักหน้ารับคำแล้วเดินเข้าห้องไปโดยไม่ทักพี่สักคำ



ผมเป็นใจร้าย ผมรู้ตัวดี....





ผมใช้เวลานั่งจมอยู่กับความคิด เหม่อมองออกไปนอกระเบียง หยิบสมุดวาดภาพเล่มเก่าขึ้นมาดู พี่เป็นคนให้ผม ส่วนหนึ่งมันเปียกน้ำ ในหน้าสุดท้ายเป็นรูปของชาร์ลที่ลงวันเวลาไว้ เป็นวันแรกที่เขาช่วยผมจากขุมนรกนั่น และภาพต่อมาคือภาพของผมและพี่ตอนที่เราตกน้ำไปด้วยกัน





ผมสะอื้นหวนคิดถึงพี่ในวันนั้น พี่ที่อ่อนโยนและใจดี พี่ที่ทำใหผมตกหลุมรัก...ในจูบเดียว...





ผมรักพี่ ในขณะเดียวกันผมก็ขาดความอบอุ่นที่ได้รับจากชาร์ลไม่ได้เช่นกัน





...ใช่...และผมก็รักชาร์ลด้วย..







“พ่อจะเอายังไง!! ”



เสียงพี่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวในห้องรับแขกข้างล่าง พวกเขาคงไม่รู้ว่าผมยังไม่หลับและออกมาเพื่อจะลงไปหาน้ำดื่ม



“อีธาน! ”



“กี่ครั้งแล้ว ที่พ่อกับน้องทำ...” เสียงพี่ทุ้มต่ำจนน่ากลัว “..กันลับหลังผม” ท้ายประโยคเสียงพี่สั่นด้วยความโกรธ



ชาร์ลยังเป็นชาร์ลที่สงบนิ่งได้เสมอ เขาเป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาในขณะที่พี่กำลังโกรธ...โกรธมาก



“พ่อก็รู้ดีว่าผมกับน้อง….” พี่กำหมัดแน่นตอนพูด “...ก็ยังทำ..ทำไม” พี่ถามราวกับเจ็บปวด เพราะรักและเคารพชาร์ลมากมายเหลือเกิน



ชาร์ลยังคงปล่อยให้ห้องตกอยู่ในความเงียบอีกพักใหญ่ราวกับจะรอให้พี่คลายความโกรธลง



“ฉันพยายามหยุดตัวเองแล้ว อีธาน พยายามแล้ว” ชาร์ลพูดด้วยเสียงเยือกเย็น ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองราวกับเหนื่อยอ่อน ก่อนจะพูดต่อ



“แต่แกทำน้องร้องไห้ ทำน้องเจ็บ ย่ำยีน้องเหมือนไม่มีค่าเลย ทำไมอีธาน? ” และเป็นชาร์ลที่ถามกลับ คำถามนั้นทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน



ไม่มีคำตอบใดหลุดออกมาจากปากพี่ให้ได้ยิน ‘เหมือนไม่มีค่าเลย’ เหมือนโดนปลายหอกที่แหลมคมทิ่มลงกลางใจ น้ำตาผมเริ่มไหลออกมา ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปอย่างเงียบๆ



ชาร์ลอาจจะแค่ทำไปเพราะสงสาร….ผมรู้...รู้ว่าไม่ควรคิดร้ายแบบนั้นกับชาร์ล แต่ความน้อยอกน้อยใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมันกำลังทำร้าย ให้ใจผมคิดหาทางออกอื่นไม่ได้เลย





ผมเริ่มขดตัวลงบนเตียงแล้วเริ่มสะอื้นอีกครั้ง





ผมคนเดียวที่ทำให้เรื่องทั้งหมดบิดเบี้ยวไป





....เป็นผมคนเดียว





***********************






#สงสารน้องเม้นให้กำลังใจน้อง และคนแต่งกันได้นะ T_T

อิพี่มันใจร้อน ส่วนชาร์ลก็ใจเย็นเกิ๊นนนนนน

#เรื่องนี้มีเงื่อนงำ โปรดติดตามตอนต่อไป


ชอบมากค่า น้องง ไม่ต้องรู้สึกผิดไปค่า ฟาดไปเลยด้วยอินเนอร์ Why choose when you can have them all

เรื่องเทคนิคการเขียนไม่ติดเลยค่า
แต่อยากให้คนเขียนเปลี่ยนหัวข้อนิดนึงตอนอัพเดทน่ะค่ะ เพิ่มเป็นเลขตอนหรือวันที่ก็ได้ เวลาอัพกระทู้คนอ่านจะได้ทราบว่ามีการเพิ่มเนื้อหานิยาย ไม่ใช่การคอมเมนท์ค่ะ

ขอบคุณมากๆ สำหรับคำแนะนำ  :heaven วันนี้อัพเดทวันที่ให้แล้วจ้า :-[
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #แตกหัก update 5/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 05-07-2019 11:17:49
สงสารน้องอาลัน โดนทำร้ายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สงสารชาร์ล น้องยังคิดว่าทุกอย่างที่ชาร์ลทำให้เพราะความสงสารอยู่เลย แล้วยังต้องมาทะเลาะกับลูกอีก คนเป็นพ่อดันไปรู้สึกรักคนเดียวกับลูก ชาร์ลคงรู้สึกผิดมาก
ส่วนนังพี่อิธาน..โมโห! หัวร้อนเลย  :m16:
มีอะไร ทำแบบนี้ทำไมพูดออกมาสิ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #แตกหัก update 5/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-07-2019 00:09:27
อยากรู้ความคิดของอีธานมากเลย ว่าทำแบบนี้ทำไม?
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตัดสินใจ update 8/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 08-07-2019 09:18:27
 
ผมรู้สึกผิดทุกครั้งที่อยากมองหน้าพี่ ขณะที่ในใจนึกอาลัยอาวรณ์ชาร์ล


ผมจึงใช้เวลาส่วนใหญ่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง การตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกมันทำให้จิตใจผมสงบลงมาได้ แม้จะแค่ชั่วครั้งชั่วคราวก็ตามที การวาดรูป ภาพร่างงานให้มารีน่า หรือบางครั้งก็แค่นั่งมองสวนที่อยู่ด้านนอกจากระเบียงห้องของตัวเอง


ชาร์ลแวะมาเคาะประตูห้องผมวันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น เพื่อให้ผมลงไปทานข้าว ทานยา ล้างแผล และส่งเข้านอน ผมทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย และแน่นอนว่าในช่วงมื้อเย็นพี่จะกลับมาร่วมโต๊ะกับเราด้วยเสมอ...เหมือนเมื่อก่อน แต่อะไรบางอย่างระหว่างเรา 3 คนมันเปลี่ยนไป


ไม่มีบทสนทนาเฮฮาระหว่างเราบนโต๊ะอาหาร ไม่มีแผนกิจกรรมออกไปข้างนอกเหมือนแต่ก่อนที่ผมมักจะเฝ้าคอยเสมอ พี่และชาร์ลไม่ได้ตะคอกใส่กันแล้ว มีแต่ความเงียบงันระหว่างเรา มีเพียงเสียงช้อนและจานกระทบกัน จนผมลุกขึ้น และบอกว่า ‘อิ่มแล้ว’ ชาร์ลจึงเอายามาให้ เขาตามใจผมเสมอ และเดินไปส่งผมที่หน้าห้องทุกคืนเหมือนทุกๆ วัน


ผมอยากคุยกับพี่บ้าง แต่ผมไม่รู้จะเริ่มต้นประโยคด้วยอะไรดี ในใจส่วนลึกผมอยากขอโทษพี่มาก แต่ในอกผมมันก็เจ็บปวดจนไม่สามารถเค้นคำพูดใดออกมาได้ และความรู้สึกผิดในใจนั้นมันก็ส่งผลต่อชาร์ลด้วยเหมือนกัน ผมไม่สามารถมองหน้าและสบตาเขาได้เลย รวมไปถึงไม่สามารถไปอ้อนขอให้เขาใจดีได้อีกต่อไป


แม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ผมกลับคิดถึงคนทั้งคู่จับหัวใจ เหมือนผมยืนอยู่ตรงกลางขณะที่มีทั้งสองคนที่คิดถึงอยู่ข้าง แต่ไม่สามารถเงยหน้ามองใครได้เลย


ความมืดโรยตัวลงมาอีกวัน และผมก็ยังคงนั่งกอดเข่าอย่างเงียบงันอยู่ในห้องของตัวเอง


พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว….


ผมทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับเสียงถอนหายใจ


ข่มตาให้หลับลงพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้ง…


………


เช้าวันนี้ผมตื่นขึ้นมา เข้าครัวเตรียมอาหารเช้าให้ชาร์ล และพี่ เหมือนวันก่อนๆ ชาร์ลคลี่ยิ้มยินดีทันทีที่เห็น ผมอาจจะไม่ได้ยิ้มตอบไป เขาเลยย่อตัวนั่งลงตรงเก้าอี้หลังเค้าเตอร์ ผมรินกาแฟร้อนใส่แก้วให้เหมือนเคย


“อร่อยนะ ไม่ได้กินนานแล้ว”


“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มจางๆ ตอบชาร์ล เราไม่ได้พูดอะไรกันต่อ เมื่อเสร็จอาหารเช้าผมก็แค่เข้าห้องเหมือนวันก่อนๆ


เพียงแต่วันนี้ผมไม่ได้หยิบสมุดออกมาวาดภาพ หรือเปิดคอมทำงาน ผมเช็คอินเข้าไปดูยอดเงินในบัญชีตัวเองที่แม่จัดการโอนให้ทุกเดือน เพราะไม่ได้ใช้ทำอะไรนอกจากซื้ออุปกรณ์ในการวาดรูป ตัวเลขในนั้นจึงสูงพอที่จะทำให้ผมอยู่ที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องทำงาน...ได้หลายปี แต่ก็นั่นแหละ ผมคงทิ้งมันไม่ได้….งานก็เป็นอีกสิ่งที่ผมรักเช่นกัน


แต่ครั้งนี้ผมตัดสินใจแล้ว


ผมหลับตารวบรวมความกล้า ร่างอีเมลฉบับหนึ่งถึงมารีน่า


..................................................................................................


มารีน่า….

ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมแค่อยากจะออกไปใช่ชีวิต อยากจะออกไปสัมผัสโลกข้างนอกบ้าง ผมแค่ไม่อยากโดนกักอยู่แต่ในบ้าน ทุกคนยังติดต่อผมด้วยอีเมลฉบับนี้ได้เสมอ บอกแม็คว่าไม่ต้องห่วง ผมจะส่งงานให้ตามเวลา ถ้าผมเบื่อแล้วจะกลับไปเองนะครับ

รักเสมอ
Alano

..................................................................................................



อิสระเป็นสิ่งที่ผมใช้อ้างกับ ฟังดูขี้โกง แต่เชื่อเถอะว่ามันได้ผล และมารีน่าจะไม่กังวลใจเกินไป แล้วตั้งค่ากำหนดส่งเมลล์ในวันพรุ่งนี้ตอนเย็น ถึงตอนนั้น ผมก็คงถึงจุดหมายที่ไหนสักแห่งแล้ว ผมหวังอย่างนั้น พลางหลับตาลงไล่น้ำตาหยดหนึ่งที่ขังอยู่ในขอบตาออกมาอย่างเงียบงัน…


เหมือนครั้งนี้โชคเข้าข้างและพระเจ้าได้อวยพรผมแล้วจริงๆ การออกจากบ้านมันช่างง่ายดายมากจนแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะผมไม่มีวี่แววว่าจะหนีไปไหนได้ ก็เลยไม่มีใครสนผมคนที่มักจะเก็บตัวเงียบๆ อยู่ในห้องเพียงคนเดียว


เมื่อตัดสินใจได้ ผมหอบสมุดวาดรูปเล่มเก่าไปหนึ่งเล่มพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับวาดรูป และโน้ตบุ๊คเครื่องประจำ เพื่อที่จะไม่เป็นที่สังเกตตอนที่เดินออกไปหน้าบ้าน รถพี่ยังจอดอยู่ในโรงจอดรถ และจะยังคงไม่ตื่นจนกว่าจะเที่ยง ผมทักทายโจชัวร์ที่หน้าประตูด้วยสีหน้าปกติ ชูอุปกรณ์วาดรูปให้เขาดูเหมือนทุกครั้งที่ผมออกไปที่สวน


เมื่อออกมาได้ครึ่งทางระหว่างบ้านก่อนจะถึงร้านตรงหัวมุมถนน ผมก็โบกรถให้พาไปยังห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด จัดการถอนเงินสดจำนวนหนึ่ง หยิบแผนที่ท่องเที่ยวที่แจกฟรีตามห้างมาหนึ่งแผ่น เดินไปแผนกเสื้อผ้า ซื้อชุดใหม่สองสามชุด แล้วจัดการเปลี่ยนมันในห้องน้ำ ทิ้งตัวตนที่ออกมาจากบ้านก่อนจะเดินออกมาด้วยผมลุคใหม่ เหมือนวัยรุ่นทั่วไป พร้อมกับปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด


ผมก้าวขึ้นรถประจำทางคันแรกที่เจอ นั่งไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จุดหมาย ลงตรงที่อยากลง ขึ้นรถประจำทางคันแรกที่จอดตรงป้าย แล้วไปต่อเรื่อยๆ จนขอบฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้ม รถประจำทางก็พาผมห่างออกจากตัวเมืองทุกที….ทุกที…


ชาร์ลกับพี่จะรู้หรือยัง...



……



ชาร์ลกลับมาบ้านให้ทันมื้อเย็นเหมือนทุกวัน เห็นรถของลูกชายจอดเรียบร้อยอยู่ในโรงจอด วันนี้ก็คงจะได้ทานข้าวพร้อมหน้ากันอีกเหมือนเคย อีธานพยายามจะทำตัวให้ดีขึ้นเขารู้ แต่เขาก็ห่วงอีกคนเกินกว่าจะเอ่ยปากเปิดเรื่องให้มาเปิดอกคุยกัน จิตใจของอาลันยังบอบบางเกินไป


ไฟในห้องรับแขกมืดตอนที่ก้าวเข้าไปในตัวบ้าน ในห้องครัวก็เช่นกัน เขาหวังจะเจอหน้ายิ้มแย้มของอาลันรอเสิร์ฟชา ของว่างก่อนอาหาร และเตรียมอาหารสำหรับมือเย็น ...เขาอาจจะหวังมากเกินไป


เลยเวลาอาหารเย็นมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าอาลันจะลงมา กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้า ชาร์ลหันกลับไปมองแต่ก็กลายเป็นอีธานแทน สองพ่อลูกได้แต่มองหน้าสบตากัน


"น้องล่ะ? " เป็นคำถามที่เอ่ยออกมาแทบจะพร้อมกัน


ชาร์ลขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ไม่กี่อึดใจที่เขาเร่งเท้าเดินสวนขึ้นไปยังห้องของอาลัน โดยมีลูกชายเดินตามมาด้วยติดๆ


ก๊อก ก๊อก


ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่ในใจชาร์ลก็ยังคิดว่าเจ้าของห้องอาจจะแค่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับงานจนลืมเวลา แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอีกใจมันร้อนรนด้วยสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง



รอยยิ้มของอาลันเมื่อเช้า พอนึกถึง ไม่รู้ว่าทำไมมันทำให้หัวใจเย็นเฉียบ


"อาลัน...อาลัน..เธออยู่ข้างในรึเปล่า"


ไม่มีเสียงตอบกลับ ทั้งยังไม่มีวี่แววความเคลื่อนไหวข้างใน


"อาลัน...ได้เวลาอาหารเย็นแล้วนะ ถ้าเธออยู่..."


"พ่อหลบ...ผมเอง" ความใจร้อนของอีธานมีประโยชน์ขึ้นมาบ้างในตอนนี้ กุญแจห้องน้องที่เคยขโมยมาเก็บไว้ได้ใช้ประโยชน์ แม้จะโดนชาร์ลมองด้วยสายตาไม่พอใจก็ตามที


ภายในห้องมืดสนิทตอนเปิดเข้าไป ไม่มีวี่แววเจ้าของห้อง อีธานเริ่มวิ่งไปทั่ว ทั้งระเบียงที่เจ้าตัวเคยนั่งวาดรูปเป็นวันๆ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ


ชาร์ลเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ทุกอย่างยังอยู่ครบ ไม่สิ..อาลันไม่ค่อยแต่งตัว เสื้อผ้าก็มักจะใส่ชุดเดิมๆ จึงไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่สิ่งที่หายไปคือกระเป๋าเป้สำหรับใส่โน้ตบุ๊ค กับสมุดวาดรูปเล่มโปรดของเจ้าตัว


"พ่อ!! น้องไปไหน? "


นั่นคือคำถามที่ชาร์ลก็ถามตัวเองในใจเช่นกัน


บ้านหลังนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จึงไม่น่าแปลกที่จะมีกล้องวงจรปิด เมื่อเปิดระบบของกล้องแล้วเล่นย้อนหลังตั้งแต่ช่วงสายที่เจอกันครั้งสุดท้าย ไม่มีอะไรที่อาลันทำผิดสังเกตุเลย มีเพียงช่วงเวลาหนึ่งที่เจ้าตัวสะพายเป้โน้ตบุ๊คไว้ พร้อมกับสมุดเล่มนั้น เดินออกจากบ้านไปด้วยท่าทีธรรมดา เหมือนที่ออกไปวาดรูปที่สวนในวันที่อยากออกไปเหมือนทุกๆ วัน


“แปลก! ปกติจะไม่เอาโน้ตบุ๊คออกไปด้วย” ชาร์ลบ่นพึมพำกับตัวเอง เพราะโดยปกติสิ่งที่เจ้าตัวจะพกติดไปตลอดเวลาคือสมุดกับอุปกรณ์วาดรูป พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะเปิดใช้เฉพาะเวลาทำงาน และคุยกับมารีน่าหรือแม็คเท่านั้น


"น้องจะถูกใครจับไปอีกรึเปล่า หรือโดนใครทำร้ายอีกไหม เราควรโทรหามารีน่า! " อีธานเริ่มร้อนรน


"เดี๋ยว! " ชาร์ลยกมือห้ามลูกชายเอาไว้ แม้ในสถานการณ์แบบนี้เขาก็ยังใจเย็นคิดทบทวน หากอาลันโดนจับตัวไปจริง คนแรกที่จะต้องรู้คือมารีน่า และคนต่อมาจะต้องเป็นเขา นี่เท่ากับว่าไม่ใช่เรื่องของการถูกจับตัวไป


ชาร์ลเปิดกล้องอีกมุมตรงถนนดูตั้งแต่ตอนที่อาลันเดินออกไป จนเกือบจะพ้นมุมกล้อง แต่ก็ยังพอเห็นหัวรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดครู่หนึ่ง แม้จะมองไม่เห็นว่าเป็นใครที่โบกและขึ้นไป แต่มันเป็นจังหวะเวลาเดียวกันกับตอนที่อาลันเดินไปถึงตรงนั้นพอดี


แล้วอีธานที่นั่งดูอยู่ด้วยก็ฉลาดพอจะเข้าใจสถานการณ์ รีบกดโทรศัพท์ไปหาร้านค้าตรงหัวมุม ให้เปิดกล้องวงจรปิดตรงหน้าร้าน บอกรายละเอียดและช่วงเวลาเดียวกัน เพราะถ้าจะเดินไปที่สวนจะต้องผ่านหน้าร้านไปก่อน น้องบอกว่าสนิทกับป้าเจ้าของร้าน ไม่มีทางที่จะไม่แวะทักทายกัน


กว่าครึ่งชั่วโมงที่นั่งดูเวลานั้นซ้ำไปซ้ำมา ที่ร้านก็ส่งภาพกล้องวงจรปิด ณ ช่วงเวลานั้นมาให้ นับไป 1 ชั่วโมง ไม่มีวี่แววของอาลันเดินผ่านกล้องไปแม้แต่วินาทีเดียว นั่นก็หมายความว่า...น้องไม่ได้เดินไป และแท็กซี่คันนั้น ก็ไม่ผิดแน่นอน


"น้องไปไหน? " อีธานเอ่ยถามแผ่วเบาจนเหมือนพูดกับตัวเอง "หรือไปหามารีน่า? "


นั่นเพราะอีธานรู้ดีอีกนั่นแหละว่าอาลันไม่มีที่พึ่งพาที่ไหนอีก


"มารีน่า อยู่งานโชว์ที่ฝรั่งเศส น้องก็รู้ดี"


"อ่า..." อีธานทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ ยกมือขึ้นกดขมับที่กำลังปวดหนึบ


อาลันไม่เคยไปไหนคนเดียวไกลกว่าสวนตรงหัวมุมถนนนี่เลย แล้วนี่น้องหายออกไปตั้งแต่ตอนบ่าย น้องจะไปไหนได้กัน?


ชาร์ลโทรสั่งให้คนสนิทอย่างฟิลิปสืบทุกเรื่องโดยเริ่มต้นจากแท็กซี่เมื่อตอนบ่าย กล้องอื่นตรงมุมถนนสามารถจับภาพรถและมองเห็นป้ายทะเบียนได้ ทีมของฟิลิปทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มาทางตันตรงที่น้องเบิกเงินสดออกไปจำนวนหนึ่ง แล้วจากนั้น...สัญญาณทุกอย่างก็หายไป




****************************


#Talk

เคารพในการตัดสินใจของน้อง :hao5:

มาดูกันว่าพ่อลูกคู่นี้จะทำไงต่อ
#รักน้องฝากติดตามน้องด้วยนะ

หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตัดสินใจ update 8/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-07-2019 09:46:36
 :เฮ้อ::เอาใจช่วยสองพ่อลูก
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตัดสินใจ update 8/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 08-07-2019 12:32:56
ขอให้น้องอาลันอย่าไปเจอคนไม่ดีหรือเรื่องร้ายๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตัดสินใจ update 8/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: pixie ที่ 08-07-2019 17:07:34
ต้องให้เวลาน้องเนอะ

คิดตามต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตัดสินใจ update 8/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-07-2019 06:39:27
เนื้อเรื่องน่าติดตามค่ะ

หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : อีธาน update 10/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 10-07-2019 08:17:51

ตั้งแต่เกิดมาและจำความได้ ก็มีผมและพ่อสองคน แต่ก่อนหน้านั้นปู่ย่าเล่าให้วีรกรรมพ่อให้ฟังว่าเละเทะมาก จนมาเป็นผู้เป็นคนได้ขนาดนี้เพราะมีผม (นั่นมันทำให้ผมภูมิใจในตัวเองนิดๆ) พ่อทำทุกอย่างให้ผมเองขณะที่ยังเป็นแค่วัยรุ่น เราสนิทกันมากในทุกเรื่องเพราะเขาสอนผมไม่ว่าจะเรื่องอะไร เป็นแบบอย่างให้ผมก้าวเดินตามได้อย่างไม่ลังเล





"แกมันไม่มีแม่"





"แม่แกทิ้ง สมน้ำหน้า"





"ลูกไม่มีแม่"





โอเค มันเลี่ยงไม่ได้หรอกที่ในวัยเด็กจะเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ถามว่าผมขาดเหรอ? พ่อไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าขาดเหลืออะไรเลยในชีวิต เขาสอนให้ผมมองทุกอย่างตามความจริง แต่ในบางครั้งความจริงมันก็เป็นสิ่งที่คนอื่นรับไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ





"ฉันไม่มีแค่แม่ แต่ฉันมีทุกอย่างที่พวกนายไม่มี"





ผมพูดแค่นี้เอง แล้วเด็กพวกนั้นก็กรูกันเข้ามา และนั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่โรงเรียนเชิญผู้ปกครองเข้ามาพบ ผมบอกพ่อตามความจริงตามเคย ที่จริงเขางานยุ่งมากจะให้ผู้ช่วยฟิลิปมาก็ได้ผมไม่แคร์หรอก แค่ปากแตกกับรอยฟกช้ำตามตัวเล็กน้อย ซึ่งฝ่ายนั้นก็โดนไม่น้อยหรอก





พ่อโกรธมากผมดูออก ท่าทีเรียบๆ นิ่งๆ นั่งเอามือประสานกันไว้ที่เข่า





"...ครับคุณเกรย์ ผมต้องเรียนให้ทราบถึงปัญหา เรื่องอีธาน...."





"ครับ" พ่อเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามกลับ





"เรื่องค่าเสียหาย กับค่าชดเชย"





"เรื่องค่าเสียหายของทางโรงเรียน ผมจะชดใช้ให้เองทั้งหมด" หน้าต่างห้องเรียนแตกเพราะผมเหวี่ยงเก้าอี้ไปโดน กับพวกโต๊ะและข้าวของในห้องที่ผมพอจะคว้าได้ตอนนั้นน่ะนะ ผมยอมรับตรงๆ กับพ่อว่าขาดสติตอนที่พวกนั้นเริ่มเอาไม้ฟาดผม ดีว่าเอาแขนรับไว้ไม่งั้นก็คงได้เลือดที่หัว หนึ่งในพวกนั้นหัวแตก อีกคนแขนหักมั้งนะ ที่เหลือก็...ไม่รู้สิ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่โดนจับแยกแล้ว





"ส่วนเรื่องค่าชดเชย อีธานเป็นฝ่ายที่โดนรุมทำร้าย 3 ต่อ 1 ไม่สิ 5 ผมเกรงว่าคุณจะพูดผิดคน" คราวนี้พ่อโยกตัวไปด้านหน้าแล้วจ้องมองครูใหญ่ตรงๆ พ่อไม่ได้ปกป้องผมเกินจริง แต่เขาเป็นนักธุรกิจที่เก่ง เรื่องยอมเสียเปรียบจะไม่เกิดขึ้น





"ทางผู้ปกครองฝ่ายนั้นส่งหนังสือร้องเรียนมาครับ" คุณครูยื่นหนังสือมาตรงหน้าและเริ่มเหงื่อตก เมื่อเห็นสีหน้าพ่อเริ่มตึงเครียด





"ที่ทางผมไม่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องของเด็ก อ่า...ผมคงคิดไปเองว่าทางนั้นน่าจะเข้าใจ"





"ครับ, คือทางเราเข้าใจ แต่ว่า..." ครูใหญ่ทำท่าจะพูด แต่พ่อยกมือห้าม





"ผมจะจ่ายค่าชดเชยให้ก็ได้ ถ้าเรื่องมันจบ โอเคไหม" ผมแอบผิดหวังเล็กๆ กลอกตามองบนแล้วถอนหายใจ ไม่คิดว่าพ่อจะใช้เงินให้เรื่องมันจบง่ายๆ แบบนี้ ครูใหญ่เองก็คงคิดเหมือนกัน





"ขอบคุณมากครับคุณเกรย์ ทางเรายินดีที่จะรับรองว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก.." พ่อยกมือห้ามให้หยุดพูดอีกครั้ง คราวนี้ชักสีหน้าว่ารำคาญ





"อีธานจะไม่มาเรียนที่นี่อีกนับตั้งแต่พรุ่งนี้ รวมไปถึงเรื่องเงินบริจาคของเราด้วยเช่นกัน"





"คะ...คุณเกรย์…."





พ่อลุกขึ้นยืนตัวตรงสีหน้าเรียบเฉย ผมอยากจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นหน้าครูใหญ่ แต่ขืนทำแบบนั้นโทษของผมจะเพิ่มขึ้น พ่อสอนว่าอยู่ต่อหน้าคนอื่น ให้แสดงอารมณ์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้





"ทำเรื่องจ่ายค่าชดเชย ค่าเสียหายให้จบ" พ่อหันไปบอกฟิลิป "แล้วทำเรื่องฟ้องร้องทางโรงเรียน เรื่องความปลอดภัยของเด็ก รวมไปถึงผู้ปกครองฝั่งนั้นเรื่องการทำร้ายร่างกายด้วย" ฟิลิปพยักหน้ารับคำโดยไม่ถาม





"คะ...คุณเกรย์ครับ!! "





คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าเรื่องจบยังไง ทีมของพ่อสามารถเข้าถึงข้อมูลกล้องวงจรปิดของโรงเรียนได้ตั้งแต่วันที่มีเรื่องกันแล้ว (นั่นไม่ใช่เพราะจะปกป้องผมหรอกนะ เพราะเขาต้องการยืนยันว่าสิ่งที่ผมรายงานเป็นเรื่องจริงต่างหาก) เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักธุรกิจอย่างเขาเลย





พ่อไม่ชอบที่ตัวเองจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม





และพ่อก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เขาทำ...ปกป้อง และทำเพื่อผมเสมอ





แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ถูกลงโทษ ผมโดนกักบริเวณหนึ่งเดือนเต็มๆ เหตุผลคือต้องการให้ผมคิดทบทวนความผิด แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก็ตาม





"เราแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นได้อีธาน ไม่จำเป็นต้องหาเรื่องเจ็บตัว" พ่อสอนผมแบบนั้น





ใครจะว่าผมติดพ่อก็ได้ผมไม่เถียง การตามติดชีวิตเขาไปทำงานมันสนุกกว่าการไปเที่ยวเล่นอีก ผมชอบฟังเวลาเขาคุยข้อแลกเปลี่ยนกัน พ่ออธิบายให้ฟังทุกเรื่องทุกอย่างที่ผมอยากรู้ สอนเรื่องกลไกการตลาดทิศทางแนวโน้มในการเลือกคน เขาเป็นพ่อ เป็นเหมือนพี่ชายคนโต และเหมือนเจ้านาย ผมจึงเคารพรักและเทิดทูนเขายิ่งกว่าใคร





"ทำไมพ่อไม่หาใครสักคนล่ะ ที่แบบว่า..." ผมถามขณะที่เราอยู่ในงานเลี้ยงทางธุรกิจ ผู้หญิงมากมาย ทั้งดารานางแบบ จะเลือกเอาเลยก็ได้ที่ต้องการ แต่เขาก็ทำเป็นไม่สนใจ หรือบางทีผมคิดว่าเขาอาจจะเกรงใจผมก็ได้





"ฉันไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก" ผมแทบหลุดหัวเราะออกมา แต่มันจะเสียมารยาทเมื่อยังอยู่ในงาน





"สมัยไหนแล้วน่าพ่อ สนุกกับชีวิตบ้างเถอะ" แบบว่าบางครั้งผมก็กลัวว่าเขาจะกลายเป็นคนเย็นชาไม่มีหัวจิตหัวใจไปซะก่อนแก่น่ะนะ





"ความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวมันไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรอกนะ"





อ่า...ผมเข้าใจว่าความสนุกครั้งล่าสุดของเขาคือการมีผม





"ผมอยากให้พ่อมีความสุข" พ่อหัวเราะกับคำพูดของผม





"ทุกวันนี้ฉันดูไม่มีความสุขขนาดนั้น? " อ่า...และเขาก็ดูมีเสน่ห์ขึ้นไปอีกสิบเท่าได้มั้งเวลาทำหน้าแบบนั้น ดูจากกิริยาสาวๆ ที่เล็งเขาไว้ต่างหน้าแดงกันไปแถบๆ





ผมรู้เขามีความสุข...เพราะมีผม (จากคำยืนยันของปู่กับย่าน่ะนะ) ชีวิตเขามีความหมายเพราะมีลูกชายอย่างผม และผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวันทำให้เขาผิดหวัง







จนวันที่มีใครเข้ามาในชีวิตเราสองคน...





ในวันแรกที่เราพบกัน พ่ออุ้มร่างที่โชกเลือดไว้ในอ้อมแขน ตัวเล็กกว่าที่ผมคิดเอาไว้เสียอีก ผอมบาง แต่กลับไม่ร้องเลยสักแอะทั้งที่เจ็บขนาดนั้น ภาพนั้นยังติดตาจำถึงทุกวันนี้





“มานี่มา” ผมโอบไหล่น้องเอาไว้ตอนที่พวกเราเดินสวนคนแปลกหน้าแล้วน้องก็มักจะสะดุ้งหรือไม่ก็หยุดก้าวขาทุกครั้งที่มีคนเดินเฉียดเข้ามาใกล้





ปกติแล้วเราจะไปไหนกัน 3 คนเสมอ พ่อกับผมจะช่วยเดินขนาบข้างน้องตลอด แต่วันนี้เราหนีเที่ยวกันแค่สองคน แรกๆ มันก็สนุกดี แต่พอเห็นอาการน้องแล้วผมก็ว่ามันน่าเป็นห่วงมากกว่า จะโทรชวนพ่อมาตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว กลับไปมีหวังไม่พ้นโดนด่ายาว





“ขะ..ขอโทษครับ” น้องเอ่ยเสียงเบา





“คราวหน้าชวนพ่อมาด้วยดีกว่า” ผมบอกพร้อมกับหัวเราะท่าทางของน้อง แล้วก็โดนสายตาคู่นั้นมองค้อนเข้าให้ นี่กับคนรู้จักนะผมควรภูมิใจที่ได้รับสิทธิ์นั้นใช่ไหม พักนี้ชักจะทำตัวให้น่ามันเขี้ยวขึ้นทุกที





“พี่...พี่กับชาร์ลรำคาญผมไหม” น้องถามเสียงสั่นเครือ ไม่รู้ว่าคิดอะไรไปไกลแค่ไหนแล้ว ผมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น





“เห็นเป็นแบบนั้นเหรอ”





น้องส่ายหน้ารัวกับอกผมแทนคำตอบ





“งั้นก็ไม่ต้องคิดมาก โอเคไหม? ” ผมอดยื่นมือไปบีบปลายจมูกเจ้าตัวด้วยความมันเขี้ยวไม่ได้ เวลาน้องทำหน้างอนๆ แล้วมองค้อนใส่ มันทำให้หัวใจผมรู้สึกไหววูบ







ผมไม่เคยนึกอยากปกป้องอะไรเลยในชีวิต จนมีน้องเข้ามา อ่อนแอบอบบาง และตามติดผมเหมือนลูกแมว เวลาน้องยิ้มหรือหัวเราะมันทำให้โลกของผมสดใส นอกจากพ่อแล้วชีวิตผมไม่เคยมีใคร เวลาที่น้องต้องการผม มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ





วันนั้นที่สระน้ำ ผมเองก็ได้เห็นกับตาแล้วว่าสิ่งที่ผมคาดคิดไว้เป็นเรื่องจริง สายตาของพ่อที่มองน้อง มันไม่เหมือนที่ผมเคยเห็นตอนพ่อมองใคร มันลึกซึ้ง มันมีความหมาย เพราะเราพ่อลูกสนิทกันอย่างที่เรียกได้ว่าแทบจะอ่านใจกันได้ ...ทำไมผมจะไม่รู้





พ่อให้ผมได้ทุกอย่าง เพียงแค่ผมเอ่ยปาก





และชีวิตผมไม่เคยอยากได้อะไร...ที่เป็นของพ่อ...ไม่เคย...





ที่อยากให้พ่อมีความสุข ผมก็พูดจริงจากใจ แต่ผมก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยเช่นเดียวกัน







“ทำไม...พี่ถึงกอดผม..”  ผมได้แต่ยืนนิ่งไปกับคำถามของน้อง พร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้ง ผมอยากจะยื่นมือไปรั้งร่างเล็กบอบบางนั่นมากอดปลอบ แล้วสารภาพทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ด้วยทิฐิที่ไม่ควรมี ไม่ควรมีเลย...มันทำให้ผมเลือกที่จะเดินจากไปอย่างเงียบๆ





วันแรกที่ผมได้ครอบครองน้อง ยิ่งได้ประกาศตัวเป็นเจ้าของ มันทำให้ผมก็ยิ่งได้ใจ





แต่ไม่ว่ายังไงผมไม่สามารถทำให้น้องหันกลับมามองผมได้ ด้วยสายตาอย่างที่น้องมองพ่อ





ความอิจฉาทำให้ผมสร้างกับดักกักน้องเอาไว้ด้วยความเห็นแก่ตัว ความอยากได้ อยากครอบครอง ทำให้ลืมมองน้องว่าเจ็บปวดแค่ไหน



และเป็นผมเองที่เป็นคนผลักไสให้น้องไปซบอกพ่อ





น้องรักผม ผมรู้ดี .......และก็รักพ่อด้วย ผมก็รู้อีกเช่นกัน





ผมอยากเอาชนะพ่อ จนลืมหันไปมอง ว่าน้องเป็นยังไง… จนวันที่น้องเลือกที่จะหนีไป ความรู้สึกผิดมากมายกัดเซาะในใจ



เจ็บปวด และคิดถึงน้องเจียนตาย นับคืนนับวันในการตามหาน้อง



ฝันร้ายทุกคืนหลอกหลอน สภาพน้องโชกเลือด น้องร้องไห้ แค่ในฝัน มันทำให้ผมเกือบจะเป็นบ้าตาย





"ฉันขอโทษ...ขอโทษทุกอย่าง...ทุกอย่างเลย"



พ่อเอ่ยขอโทษราวกับว่าจะรับเอาความผิดทุกอย่างมาไว้ที่ตัวคนเดียว





ผมจ้องมองคนตรงหน้าราวกับจะมองให้ทะลุไปถึงจิตใจ





พ่อเองก็พ่ายแพ้จนหมดสภาพไม่ต่างกัน





*************************





กราบขอบพระคุณทุกคนที่ติดตาม และคอมเม้นท์ทุกคอมเม้นท์ :pig4:

อิพี่กำลังถูกลงโทษแล้ว #วานเห็นใจ



#รักน้องสงสารน้อง ฝากน้องด้วยจ้า :hao5:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : อีธาน update 10/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 10-07-2019 10:35:12
ตามอ่านมาจนทัน สงสารก็สงสาร ดีใจก็ดีใจ เพราะอย่างน้อยมั่นใจได้ว่าน้องเจอคนที่จะปกป้องถึง 2 คน แต่นะต้อนนี้ต้องเอาใจช่วย 2 พ่อลูกให้ตามน้องกลับมาให้ได้ก่อน

ขอบคุณ นักเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : อีธาน update 10/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 10-07-2019 15:53:11
คงถึงเวลาที่สองพ่อลูกต้องคุยกันให้รู้เรื่องแล้วล่ะ ปรับความเจ้ากันเรื่องน้องซะ ใช้ความมีเหตุผลคุยกัน อย่าใช้อารมณ์ อีธานเองต้องควบคุมอารมณ์ในการคุยกับพ่อด้วย

เราว่าควรบอกมาลีน่าด้วยเรื่องความรู้สึกที่มีต่อน้องนะ ใจ ๆ กันไปเลย รักน้องแล้วก็ควรบอกกล่าวกัน ชาร์ลเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว เราว่ามาลีน่าต้องรับฟังแน่

หวังการที่น้องออกไปใช้ชีวิตคนเดียวจะไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : ชาร์ล update 11/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 11-07-2019 09:17:51

"เด็กคนนั้นจะทำทุกอย่างให้คนรอบข้างพอใจ โดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นยังไง"

มารีน่าบอกเอาไว้ในวันแรกที่อาลันเข้ามาอยู่ในบ้าน





อาจจะจริงอย่างที่เธอบอก อาลันจัดว่าเด็กเรียบร้อย เป็นเด็กดีมาก ไม่เคยเรียกร้อง ไม่ดื้อ



พอคิดย้อนไปถึงอดีตพ่อเลี้ยงที่ทำร้ายเด็กแบบนี้ได้ลงคอ ก็ยิ่งไม่เข้าใจ แต่ก็นั่นแหละ เราตกลงว่าจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว





อาลันแทบจะพูดแบบนับคำได้ในช่วงแรก ออกจากห้องเฉพาะตอนทานข้าว หรือตอนไม่มีคนอยู่บ้าน นั่นไม่ใช่เพราะดื้อหรืออะไร แต่เพราะความกลัวลึกๆ ในใจ ทุกๆ อย่างที่ทำ จะระมัดระวังที่จะไม่ไปกระทบกระทั่งใคร สะดุ้งทุกครั้งที่ยื่นมือเข้าใกล้ เหมือนลูกแมวขี้กลัวที่ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ผมเลยสั่งให้แม่บ้านสลับเวลาเพื่อให้ไม่กวนน้องมาก



กลายเป็นว่าคนในบ้านต้องปรับตารางตามน้องไปโดยไม่รู้ตัว





ผ่านไป 3 เดือน ถึงเริ่มคุยกับผมและอีธานเป็นประโยค เริ่มเงยหน้ามองคู่สนทนา ไม่ถามคำตอบคำ





และใช้เวลากว่าครึ่งปี ถึงได้ยอมให้พาออกไปข้างนอกบ้านบ้าง ผมกับอีธานจะคอยเดินขนาบข้างอาลันเสมอเมื่อออกไปข้างนอก ให้น้องได้เบาใจเวลาที่มีคนแปลกหน้าเดินผ่านน้องจะได้ไม่ต้องสะดุ้งหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา





แต่ถึงออกไปข้างนอกกันจริงๆ แทนที่จะไปแหล่งช้อปปิ้งหรือสถานที่ที่วัยรุ่นชอบไป อาลันกลับชอบที่จะไปที่ที่เงียบๆ คนไม่พลุกพล่าน เช่น พิพิธภัณฑ์ หรือไม่ก็สวนสาธารณะที่มีสวนสวยๆ มากกว่า นั่นเพราะว่าสิ่งที่เจ้าตัวต้องเอาไปด้วยตลอดคือสมุดวาดรูป เหมือนการวาดรูปคืออิสระที่เจ้าตัวสามารถทำได้อย่างที่ใจต้องการ







"นี่..." อาลันสะดุ้งตอนที่ผมแอบเปิดดูสมุดวาดรูป นั่นเพราะรูปส่วนใหญ่ของน้องถ้าไม่ใช่วิวสวน ดอกไม้ ส่วนใหญ่จะเป็นรูปโครงร่างของชุดที่ออกแบบ





แต่ในหน้าสุดท้ายของเล่ม มันทำให้ผมแปลกใจ





"ฉันเหรอ.." เจ้าตัวทำหน้าตกใจเหมือนเด็กโดนจับได้ว่าทำผิดอะไร ในภาพเป็นรูปผู้ชายคนหนึ่งอุ้มเด็กคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน ผมจำได้ มันเป็นวันแรกที่เราเจอกัน น้องพยักหน้าตอบแล้วก้มหน้าเลยไม่ได้เห็นว่าผมกำลังยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู





"คุณโกรธไหม? "





"เรื่อง? " เมื่อถามกลับ น้องก็ช้อนสายตามองมาทำท่ากล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะพูดออกมาเสียงแผ่ว





"ก็...ปีกคุณ...สีดำ..."





อ่า....ใช่ เงาในรูปส่วนที่คล้ายปีกถูกระบายเป็นสีดำ ที่จริงผมไม่ได้คิดถึงความหมายของมันด้วยซ้ำ





"ทำไมล่ะ? " น้องทำท่าอึกอักในคำถามที่สอง





"ก็...ก็..เทวดาปีกต้องเป็นสีขาว"





คราวนี้ผมหลุดหัวเราะออกมาจริงๆ ให้ตายเถอะ! ไม่รู้ว่าไปฝังใจอะไรมา หน้าตาของอาลันตอนนี้ดูสับสน ไม่เข้าใจ และต่อมาก็เหมือนจะหวาดกลัว นั่นทำให้ผมวางมือลงบนหัวเขาแล้วจับโยกไปมาเบาๆ





"ฉันไม่ใช่เทวดาหรอก เชื่อเถอะ! " คราวนี้น้องเม้มปากขมวดคิ้ว ผมคิดว่าถ้าผมอ่านใจอีธานได้ ผมก็น่าจะอ่านสีหน้าของน้องได้เหมือนกัน ตอนนี้เจ้าตัวกำลังไม่พอใจคำพูดของผม





"ชาร์ล...เป็นเทวดาสำหรับผม" คราวนี้น้องแย่งสมุดวาดรูปจากมือผมไปกอดไว้ราวกับหวงแหน กิริยานั้นทำให้คนฟังใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว





โอเค..นี่เป็นครั้งแรกที่ผมโดนเถียงกลับ แล้วก็โดนโกรธใส่ด้วย แต่...เชื่อเถอะว่าต่อให้เป็นอีธานมาได้ยินประโยคเมื่อกี้ ก็ต้องหัวเราะแบบผมนี่แหละ ชาร์ล...เป็นเทวดาสำหรับผม ความรู้สึกอุ่นในอกที่ร้างห่างจากใจมานานแสนนานพลันเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว





"โอเค..ถ้างั้นทำไมปีกฉันถึงเป็นสีดำล่ะ"





อาลันขมวดคิ้ว สีหน้าครุ่นคิด ราวกับกำลังค้นหาคำตอบมาอธิบาย และผมก็ต้องกลั้นหัวเราะแทบตายกับท่าทางแบบนั้น





"ผมเห็นแบบนั้น วันที่คุณช่วยผม"





"อ่า...งั้นสินะ" น้องเจ็บมาก โดนตีหัวแตก เลือดส่วนหนึ่งคงไหลเข้าตา สาเหตุน่าจะมาจากตอนนั้น สายตาของผมอดมองที่รอยแผลเป็นของน้องไม่ได้เลย แค่คิดว่าเด็กตัวเล็กตรงหน้าโดนกระทำระยำอะไรมาบ้าง ก็เผลอกัดฟันแน่น





"เธอไม่กลัวเหรอ ฉันที่มีปีกสีดำน่ะ" ผมถามต่อ ก่อนคำตอบเป็นรอยยิ้มสดใสของเจ้าตัว





"ไม่ ผมไม่กลัวชาร์ลหรอก" พอเป็นประโยคที่หลุดออกมาจากปากอาลัน ทำไมผมถึงรู้สึกอยากแกล้งให้กลัวขึ้นมานะ หรือผมควรจะทำหน้าโหดสักหน่อย





"แน่ใจ? " แกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วทำหน้าโหดใส่ ผลที่ได้คืออาลันหัวเราะคิกคักใส่หน้ากลับมาซะงั้น บางทีผมควรจะต้องเอาจริงบ้างแล้ว



แต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของน้องแม้จะแค่แกล้งทำโหดใส่ยังทำไม่ได้เลย ก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองใจอ่อนได้ขนาดนี้



"ชาร์ลใจดี..เสมอเลย..กับผมแล้วก็พี่ด้วย" น้องตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส ผมแพ้อย่างราบคาบ





อีธานที่เพิ่งเดินกลับมาพร้อมของกินเริ่มบ่น เราสองคนหันไปหัวเราะ ก่อนจะปล่อยให้น้องหันไปสนใจการวางรูปต่อ เราสองคนพ่อลูกแค่นั่งรอเงียบๆ อีธานทิ้งตัวลงนอนผ่อนคลาย ส่วนผมก็นั่งอ่านข่าวไปเรื่อยๆ จนกว่าน้องจะพอใจชวนพวกเรากลับนั่นแหละ





การมีอาลันเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรามันทำพวกเรามีความสุข...มันควรจะเป็นแบบนั้น





...............................





“นี่ฝีมืออีธานใช่ไหม”





ที่จริงผมไม่ควรจะถามเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความโมโห นั่นทำให้คนถูกถามสะดุ้งดวงตาที่แดงก่ำจากการร้องไห้มาอย่างหนัก เริ่มมีน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง มันช่วยไม่ได้เลยที่จะรวบร่างเล็กนั่นเข้ามากอด ขณะที่หัวใจของผมรู้สึกหน่วง มีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้น ไม่มีถ้อยคำต่อว่าฟ้องร้องผู้กระทำย่ำยีหลุดออกมาแม้แต่คำเดียว ....น้องคงรักอีธานมาก ความคิดนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดในอกหนักไปอีก





ครั้งแรกที่รู้ว่าอาลันโดนย่ำยี ราวกับหัวใจผมโดนบีบอย่างรุนแรง ราวกับกระเบื้องเคลือบที่ดูแลทะนุถนอมมาอย่างดี ถูกทำให้เป็นรอยด้วยฝีมือลูกชายของตัวเอง และหากอาลันเป็นเพียงกระเบื้องเคลือบ ผมคงจะบอกอีธานว่าไม่เป็นไร แต่อาลันเป็นมากกว่านั้น





หลายครั้งหลายคราที่อีธานทำให้ผมโมโหจนขาดสติ แต่นั่นมันทำให้ผมมีเหตุผลที่จะกอดร่างเล็กบอบบางนี้เอาไว้ในอ้อมแขน ให้อีกฝ่ายได้ออดอ้อนจนกว่าจะพอใจ ความผิดบาปในใจถูกคำว่า 'ปลอบโยน' มาใช้เป็นเหตุผล แม้จะรู้สึกผิดต่อลูกชาย แต่ก็ไม่สามารถปล่อยอาลันออกไปจากอ้อมแขนได้เลย ยิ่งนานวันเข้า ก็ยิ่งถล่ำลึกจนไม่อาจถอนตัวได้อีก





แรกเริ่มจากการกอดปลอบ ผมควรจะพอใจแค่นั้น แค่ได้เป็นที่พักพิงในยามที่อาลันอ่อนแอ แต่ผมก็ขี้โกงและตักตวงความหอมหวานนั้นอย่างคนฉวยโอกาส จูบที่เหมือนจะเป็นการปลอบบอกว่าไม่เป็นไร จนกลายมาเป็นจูบที่เกิดจากความเสน่หา เปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นเร่าร้อน





...ในวันที่ได้ครอบครอง….มันเป็นไปด้วยความยินยอมพร้อมใจ แม้จะรู้สึกผิดบาป แต่ก็สุขสมเจียนตายเช่นกัน ยิ่งได้ครอบครอง น้องที่ร้องครางสะท้านใต้ร่างผม ยิ่งทำให้ลุ่มหลงมัวเมา สุขสมจนลืมความผิดบาป ครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่สามารถถอนตัวได้ การตอบสนองและเรียกร้องอย่างไร้เดียงสานั้น ทำให้ผมแทบคลุ้มคลั่งจนยากที่จะควบคุม





ผมไม่สามารถปล่อยมือจากอาลันได้อีกต่อไป...







"ฉันขอโทษ...ขอโทษทุกอย่าง...ทุกอย่างเลย" เอ่ยปากบอกลูกชายอย่างสิ้นหวัง





ในวันที่อาลันหายตัวไป เหมือนได้พรากเอาหัวใจของเราสองคนไปพร้อมกันด้วย







********************************





ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ สำหรับใครที่อยากตีอิพี่ ฝากตีให้แล้วนะ :beat:

ตอนหน้าเรามาตามหาน้องกัน

สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมน้องหนีได้ ทั้งที่คุมเข้มขนาดนั้น

เดี๋ยวให้น้องมาเฉลย เป็นกำลังใจให้น้องด้วยนะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : ชาร์ล update 11/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 11-07-2019 11:46:44
สนุกมว๊าก
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : ชาร์ล update 11/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 11-07-2019 11:58:39
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ ปกติจะไม่ชอบอะไรที่เป็น 3 p ค่ะ
พออ่านเรื่องนี้ คงต้องพิจารณาใหม่ค่ะ สนุกค่ะ
เข้าใจว่าทำมั้ยต้อง 3 p เพราะน้องเคยเจอเรื่องร้ายๆ
มาก่อนนี้เอง รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : ชาร์ล update 11/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 11-07-2019 17:41:45
ตอนน้องยิ้ม หัวเราะ ในน่ารักน่าเอ็นดูมาก
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : ชาร์ล update 11/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-07-2019 18:35:00
 :3123: :L2: :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : ชาร์ล update 11/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 11-07-2019 21:38:14
อย่าลืมคุยกันให้เข้าใจนะ ทั้งพ่อและลูกเลย
แล้วไปออกตามหาน้องกัน
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : ชาร์ล update 11/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 11-07-2019 23:25:19
สนุกรอติดตามต่อนะคะ :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #[Part] : ชาร์ล update 11/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 12-07-2019 05:36:13
อยากบอกว่าสมน้ำหน้าทั่งสองพ่อลูกเลย
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตามหา update 12/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 12-07-2019 09:41:45
ก่อนอื่น ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน :กอด1:
และขอบคุณมากกกกกกกกกกกก สำหรับคอมเม้นท์ทุกคอมเม้นท์
ดีใจที่ทุกคนชอบ(แม้จะหมั่นไส้อิพี่ก็ตามที) 5555+
ไปตามติดกันต่อไปเลยจ้าาา
  :pig4:

***********************



“ฉันขายวิญญาณให้ปีศาจไปแล้ว นับจากนี้ต่อไปอย่าได้มายุ่งกับฉันและลูกอีก จงออกไปจากชีวิตของพวกเราซะ ไม่งั้นคราวต่อไปฉันจะไม่หนี และจะไม่ปรานีคุณอีกต่อไป”



มารีน่าประกาศกร้าวกับอดีตพ่อเลี้ยงของอาลันในวันที่มาขอให้พ่อเข้าไปช่วยน้องออกมา อีธานยังคงจำมันได้ดี เธอเหยียดยิ้มเยาะหยันผู้ชายขี้แพ้คนนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าเพิ่งจะผ่านการร้องไห้สะอื้นมาอย่างหนักก็ตาม



เธอเอ่ยปากบอกผู้ชายคนนั้นอย่างกล้าหาญและเธอก็คงไม่ให้อภัยพวกเราเช่นกัน





อีธานนั่งเอามือกุมขมับอย่างสิ้นหวัง เขาไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้โทรมแบบนี้ หนวดเครารก ผมเผ้าไม่สนใจจะตัดหรือจัดทรง ออกจากบ้านทุกวัน ขับรถไปเรื่อยเพื่อจะตามหาน้อง แต่ก็ไร้วี่แวว รู้ว่าน้องไม่มีเพื่อนที่ไหน ไม่มีใครให้พึ่งพา หวนคิดจะไปพึ่งมารีน่า ก็โดนไล่กลับมาอย่างไร้เยื่อใย





“อย่าได้คิดจะจับสัญญาณมือถือฉันเด็ดขาด ฉันไม่ให้อภัยพวกคุณแน่” มารีน่าพูดดักทางพวกเราด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว

ไม่ต้องสาบานยังรู้เลยว่าเธอพูดจริงทำจริง




แต่พวกเราก็ยังคงไม่เลิกตื๊อ แม้สภาพจะไม่ต่างจากหมาจนตรอก แม้รู้ว่าจะโดนด่าไล่กลับอีกครั้งก็ตาม





"ถ้าคุณคิดว่าอาลันอยู่ที่นี่ละก็ผิดแล้ว" มารีน่าแสดงความจริงใจด้วยการเปิดเมลล์ฉบับสุดท้ายของน้องให้ดู มันเป็นความจริง





"ฉันผิดหวังในตัวพวกคุณมาก" เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด





"เราไม่ทราบจริงๆ ค่ะ อาลันยังคงส่งงานให้ตามกำหนดเดิมไม่มีผิดปกติแม้แต่น้อย" แม็ครายงานเพิ่มเติม





"ไม่รับโทรศัพท์เลยหรือ? " ชาร์ลเอ่ยถามบ้าง และแม็คก็ส่ายหน้าอีกเช่นเคย





"มีแชทคุยผ่านเมลบ้าง แต่ก็ถามคำตอบคำ ถ้าจะขอ vdo call จะออฟไลน์ทันทีค่ะ" แม็คเป็นคนพูดเพราะมารีน่ากำลังยกมือปิดหน้าและเริ่มร้องไห้





“ฉันเคยบอกคุณแล้วชาร์ล...เตือนคุณแล้ว” มารีน่าพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด “เด็กคนนั้นจะทำทุกอย่างให้คนรอบข้างสบายใจ โดยไม่สนว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้าง” มารีน่าเม้มปาก “ฉันเตือนคุณแล้ว” ก่อนที่น้ำตาจะหยดลงและเริ่มสะอื้นอีกครั้ง





“มารีน่า ผมขอโทษ ผมผิดเอง” เธอกำมือเข้าหากันแน่นตอนที่ชาร์ลพูด นั่นเพราะเธอให้ความเคารพชาร์ลมาก





“ฉันในฐานะผู้บริหาร อาลันยังทำงานให้เราเหมือนปกติได้” เสียงเธอเริ่มสั่นตอนเริ่มพูดประโยคต่อมา “แต่ในฐานะแม่ ฉันจะไม่ช่วยพวกคุณตามหาเขา ในเมื่อเขาเลือกตัดสินใจแบบนั้นด้วยตัวเอง ฉันก็จะสนับสนุนเขา” มารีน่าพูดก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน ได้ยินเสียงร้องไห้โฮจากข้างใน





ในหัวใจรู้สึกหนักอึ้ง เมื่อได้ยินคำพูดของมารีน่าแต่ผมเข้าใจเธอ เข้าใจดี





แม็คเป็นคนเดียวที่พอจะให้ข้อมูลกับเราได้บ้าง เช่นภาพร่างของน้องกับโทนสีของงานที่น้องส่งมาให้ ผมกับพ่อเคยได้อยู่ดูตอนน้องออนไลน์แชทคุยกับแม็ค น้องยังคุยเรื่องสัพเพเหระด้วยข้อความปกติ ถามสารทุกข์สุกดิบของคนอื่นๆ โดยไม่มีผมและพ่อหลุดมาในประโยคสนทนาแม้แต่คำเดียว









มันคือการลงโทษที่แสนสาหัส พวกเราสมควรโดนแล้ว







ทีมของพ่อทำงานอย่างมืออาชีพ แต่กลับไม่พบร่องรอยที่พอใจ เราตามรอยเมลล์ ตามรอยเงิน แต่น้องก็ฉลาดกว่าที่เราคิดเอาไว้ น้องใช้แต่เงินสด ใช้ชื่อปลอมในการจองที่พัก หลังจากพวกเราใช้วิธีการตามรอยเงิน กว่าจะเจอน้องก็ย้ายที่ออกไปแล้ว เราจนปัญญา....ตอนนี้มีเพียงเมลล์ส่งงานเท่านั้นที่เป็นเครื่องยืนยันว่าน้องยังปลอดภัยดี





สามเดือนกว่าแล้วที่น้องหายไป





อีธานร้อนรนจนแทบจะเป็นบ้าตายได้





"ทำไมพ่อยังดูสบายใจอยู่ได้! " ด้วยปกติก็เป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว คนอย่างอีธานจำต้องหาที่ระบาย





"ฉันดูเป็นอย่างนั้น? " ชาร์ลเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะหลับตาลง ยกมือนวดระหว่างคิ้วก่อนระบายลมหายใจออกยาวเหยียด





"ผมคิดถึงน้อง...คิดถึงมาก" อีธานยอมรับด้วยน้ำเสียงแหบพร่าคล้ายสะอื้นในคอ "กับน้องมันไม่เหมือนคนอื่น" อีธานพูดเหมือนเพ้อ เหม่อลอยใจคิดไปถึงคนที่กำลังตามหา





"น้องไม่ได้ปฏิเสธผมเลย ตอนที่ผมทำกับน้อง” ผมบอกพ่อด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดและสิ้นหวัง “ผมก็เลยคิดว่าระหว่างเรามันดี” เสียงเริ่มสั่นเครือ





“อีธาน...น้องเคยโดนทำร้ายตอนเด็ก จนซี่โครงหักและไม่ร้องออกมาสักคำ” คำพูดของชาร์ลทำให้หัวใจของอีธานเย็นวาบ ยิ่งรู้สึกผิดลึกลงไปในหัวใจ





หวนนึกถึงเรื่องที่แม็คเล่าให้ฟัง ตอนที่มารีน่าเข้ามามาขอร้องให้พ่อช่วยน้องในครั้งแรก แม็คเล่าว่าอาลันในวัย 5 ขวบ ยอมให้พ่อเลี้ยงซ้อมจนซี่โครงหักเพียงเพื่อรอยยิ้มของแม่





"ผมผิดเอง" คนอย่างอีธานเพิ่งเรียนรู้ว่าพ่ายแพ้หมดสภาพ





"รู้ตัวก็ดี"





"อย่างกับพ่อไม่เคยทำผิดอะไรงั้นแหละ! "





ชาร์ลมีสีหน้าครุ่นคิดแต่ไม่ได้ตอบคำถาม วูบหนึ่งอีธานรู้สึกผิดที่ตัวเองปากไว





"ถ้าเจอน้อง เราจะทำยังไงต่อ"





อีธานไม่ได้ตอบในทันที เขานิ่งเงียบจมกับความคิด





"ผมยอมแล้ว ทุกอย่างเลย ขอแค่หาน้องเจอ" อีธานผ่อนลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนและจนมุม





"อีธาน...." ชาร์ลเอ่ยชื่อลูกชายและนิ่งไป อีธานจ้องมองอย่างรอคอย





"ฉันขอโทษ...ขอโทษทุกอย่างเลยเหมือนกัน...ทุกอย่างเลย"





อีธานเบิกตากว้างจ้องมองคนตรงหน้าราวกับจะมองให้ทะลุไปถึงจิตใจ





ชาร์ลเองก็พ่ายแพ้จนหมดสภาพไม่ต่างจากเขา





เราทั้งคู่ต่างพ่ายแพ้ให้แก่กัน....





"ผมไม่สนอะไรแล้ว ขอแค่ตามน้องให้เจอ นานกว่านี้ไม่ไหวแน่" นี่แค่สามเดือนเขาสองคนพ่อลูกยังย่ำแย่ขนาดนี้





"มีอยู่อีกอย่างที่ยังไม่ได้ทำ"





อีธานมองหน้าชาร์ลอย่างรอคอยคำตอบ





"ปูพรม*"





"? " อีธานยังคงไม่เข้าใจ





"อ่า....เริ่มเลยแล้วกัน"





ถึงตอนนี้อีธานก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ แล้วจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รู้จักอำนาจของเงินและตระกูลตัวเอง





ทำไมพ่อไม่ทำตั้งนาน!!!






*********************



#Talk

ตีแขนชาร์ลไป1ที แล้วพูดประโยคเดียวกับอิพี่ 'ทำไมไม่ทำตั้งนาน!!'

น้องหนีปัยยยยยยยยย เด๋วๆๆๆ 5555+  :laugh:

ขอบคุณทุกกำลังใจ และทุกเม้นท์ด้วยจ้าาาา  :hao5:

...............................................................................



*ปูพรม มีความหมายตรงคือ คลี่พรมที่เป็นม้วนออกแล้ววางแผ่ออกไป เช่น ห้องรับแขกบ้านนี้เป็นพื้นไม้แล้วปูพรมสีเขียวตลอดทั้งห้อง.

คำว่า ปูพรม ใช้ในความหมายเปรียบเทียบ หมายถึง ทำให้กระจายไปอย่างทั่วถึง

เช่น เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบปูพรมเพื่อทำลายเมือง. หมายถึง อาการระดมคนจำนวนหนึ่งทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งพร้อม ๆ กันในลักษณะค้นหาอย่างถี่ถ้วน มิให้สิ่งที่ต้องการหานั้นรอดสายตาไปได้ เช่น ตำรวจระดมกำลังปูพรมค้นหาพยานวัตถุในที่เกิดเหตุ  ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดสิ้นจากชุมชนก็ต้องปูพรมออกตรวจค้นให้ทั่วทุกตารางนิ้ว. หรือมีลักษณะที่ครอบคลุมทั่วทุกแห่งพร้อมกันหมด เช่น วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะระดมคนออกปูพรมแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ชาวนาทั้งจังหวัด

เพิ่มติมความหมาย : ขอบคุณสำนักงานราชบัณฑิตยสภา
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตามหา update 12/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-07-2019 22:51:05
เพิ่งนึกได้เหรอชาล์ล5555
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตามหา update 12/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 13-07-2019 04:59:44
น่าจะทำตั้งแต่วันที่น้องออกไปจากบ้านแล้วนะชาร์ล
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เจอตัว update 13/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 13-07-2019 10:58:20


ภาพตรงหน้าเป็นหาดทรายสีขาวทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา ก่อนจะไปบรรจบกับแผ่นน้ำสีฟ้า และเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าหาเป็นระยะๆ เสียงคลื่นมันทำให้ผมสงบลงได้





กี่วันแล้วนะ ...ผมไม่ได้นับมัน ปล่อยให้ค่ำแล้วก็เช้า พอตื่นมาก็ทำธุระส่วนตัว วาดรูป.....และวาดรูป..... และนอนเมื่อฟ้ามืดลงอีกครั้ง ไม่ได้สนใจจะดูเวลา ไม่ได้พูดคุยกับใคร นอกจากแมคและแม่ผ่านทางเมลล์เท่านั้น แม้ว่ารีสอร์ทที่มาเช่าอยู่จะสวยงามมากราวกับสวรรค์ สงบเงียบ เป็นส่วนตัวอย่างที่ต้องการ แต่อย่างมากผมก็ทำได้แค่เดินออกไปที่หาดบริเวณหน้าบ้านพัก เอาเท้าจุ่มน้ำให้คลื่นซัดฝ่าเท้าแล้วเดินกลับมาวาดรูปต่อ





และบางครั้ง น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง





ผมห้ามตัวเองแล้วนะ ห้ามใจแล้วว่าจะไม่คิดถึงใคร แต่มันห้ามได้ที่ไหน ผมสะอื้น กอดเข่าตัวเอง ร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง บางครั้งก็ร้องจนตาบวมไปหมด ผมคิดว่ามันคือการลงโทษ





ผมผิดเอง





ผมผิดเอง





และเป็นผมที่ต้องออกมา





วันและคืนผ่านไป





ผมวาดงานมากมายจนแทบจะเรียกได้ว่ารีสอร์ตแห่งนี้เป็นออฟฟิศของผมไปแล้ว เพราะการวาดภาพคือทุกสิ่งทุกอย่างมันทำให้ผมไม่ต้องนึกถึง ‘ใคร’ ผมไม่เจ็บในอกเมื่อลงมือวาด และบางครั้งมันก็เยอะจนต้องถ่ายเป็นภาพร่างส่งไปให้แม็คจัดการต่อเอาเอง ถ้าปีนี้มีโบนัสผมคิดว่าผมน่าจะซื้อเกาะนี้ได้เลยด้วยซ้ำ





ผมคิดไปให้ถึงฤดูกาลหน้า คอลเลคชั่นต่อๆ ไป คิดไปถึงเซ็ตรองเท้าและกระเป๋า หมวก รวมไปถึงถุงมือและผ้าพันคอ และก็อย่างที่คิด..แม็คโวยวายแต่ก็พอใจกับชิ้นงานของผมมากเช่นกัน





ผมกดปิดหน้าจอโน้ตบุ๊คลง กอดเข่าและนั่งมองเกลียวคลื่นอีกครั้ง วันนี้ผมมีเรื่องมากมายต้องไปทำ และแม่บ้านอาจจะเข้ามาทำความสะอาด คงต้องเก็บกวาดแบบร่างมากมายที่กระจายเต็มพื้นนั่นเสียก่อน แล้วก็จะต้องออกไปติดต่อที่ฟร้อนท์ขอให้หารถพาเข้าเมือง ผมอยากได้เสื้อผ้าใหม่สักสองสามชุด และเบิกเงินสดเอาไว้ใช้ยามจำเป็น





และแน่นอนว่าหลังจากนั้น ผมก็ต้องไปจากที่นี่เช่นเดียวกัน ผมคงคิดถึงหาดทรายสวยๆ และความสงบเงียบของที่นี่มาก





ก๊อก ก๊อก





‘อาหารเช้ามาส่งครับ’





ผมเหลือบมองนาฬิกาเมื่อเวลาที่ต้องขยับตัวมาถึง แต่ก็ขี้เกียจเกินกว่าจะขยับเขยื้อนกาย ผมยังนั่งกอดเข่าและซุกหน้าลงไปอยู่อย่างนั้นราวกับเด็กดื้อที่ทำเป็นไม่ได้ยิน สักพักก็ได้ยินเสียงเสียบคีย์การ์ด เสียงประตูเปิดเข้ามากับเสียงล้อลากของรถเข็น ...แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน





เสียงประตูปิดลงอีกครั้ง ผมคิดว่า room service คงจะออกไปแล้วเมื่อไม่เห็นเงาเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ตรงระเบียง





มีเพียงความเงียบและเสียงคลื่นเหมือนเช่นเคย ผมกอดตัวเองให้แน่นขึ้น ซุกหน้าลงกับเข่า





“ถ้าไม่กินตอนนี้ อาหารจะเย็นหมดนะ”





เสียงทุ้มอ่อนโยนคุ้นหูที่ได้ยินทำเอาสะดุ้ง ขอบตาร้อนผ่าวฉับพลันเพียงแต่ไม่ได้หันกลับไปมอง เป็นเสียงที่ผมจำได้ดี ดีเกินไปจนนึกโมโหตัวเอง ผมเลือกที่จะยกมือขึ้นปิดหูตัวเองราวกับว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงที่หลอกหลอน จิตใจผมกำลังสงบลงแล้ว ผมไม่ได้ร้องไห้กับตัวเองมาหลายวันแล้ว





แต่แล้วฝ่ามือหนาที่แตะลงบนไหล่และออกแรงบีบเบาๆ ก็ทำให้ผมตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้ ขอบตาที่ร้อนผ่าว ผมสะอื้นจนตัวสั่นไม่สามารถห้ามตัวเองได้ อ้อมแขนแข็งแรงที่ผมจดจำมันได้อย่างแม่นยำรั้งเอาตัวผมเข้าไปกอดซุกเอาไว้





“น้องผอมไปแล้วนะ”


เสียงของพี่ อ้อมกอดของพี่ ทำให้ผมปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น ผมซุกหน้าลงไปกับแผ่นอกกว้างนั้นอย่างไม่ลังเล





ชาร์ลย่อตัวลงมานั่งข้างๆ อีกฝั่ง พลางยกมือขึ้นลูบหัวผมที่สะอื้นอยู่กับอกพี่อย่างอ่อนโยน ในใจของผมกำลังเจ็บปวด เจ็บปวดมากๆ เมื่อคิดไปเองว่าระยะทางและเวลาที่ผ่านมามันจะทำให้ผมลืมคนทั้งสองได้ง่ายๆ





ผมคงโง่มาก…







-----







ผมร้องไห้สะอื้นอยู่อย่างนั้นราวชั่วโมง รู้สึกเจ็บตา และปวดหัวไปหมด ร้องจนไม่มีเสียงจะสะอึกสะอื้น และทั้งสองคนก็ยังคงนั่งนิ่งปลอบโยนผมอยู่อย่างนั้นโดยไม่ปริปากบ่น





“พาน้องไปล้างหน้า แล้วไปทานข้าวเถอะ” ชาร์ลบอกขึ้นมาในที่สุด และพี่ก็ยอมผละออก ก่อนจะสอดตัวใต้แขนและอุ้มผมขึ้นมาอย่างง่ายดาย





‘ผมอยากจะเดินเอง’ แต่ก็ไม่มีแรงให้เสียงเล็ดลอดออกมา





พี่เอาผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดใบหน้าให้อย่างเบามือด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ผมจ้องมองทุกการกระทำ พี่ดูโทรมไปมากขอบตาดำคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอน อาจะผอมลง ผิวสีเข้มขึ้นเหมือนกร่ำแดด แต่มือหนาก็ยังเช็ดหน้าเช็ดตาให้อย่างอ่อนโยน





พี่กดจูบเบาๆ ที่หน้าผากมันทำให้ผมรู้สึกอุ่นในอย่างประหลาด แล้วก็พากันออกมาจากห้องน้ำ ชาร์ลจัดอาหารเรียบร้อยแล้ว เรานั่งทานข้าวกันเงียบๆ โดยไม่มีใครพูดอะไร ผมไม่รู้รสชาติอาหารที่เคี้ยวและกลืนลงไปหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตักอะไรมากิน ไม่กล้ามองอีกสองคนที่นั่งขนาบข้างว่าได้กินอะไรไหม อาหารอร่อยรึเปล่า





แกร๊ก





เสียงผมวางช้อน และมันคงก็คงแรงไปหน่อย ทุกคนก็เลยหันมามอง





“อิ่มแล้วหรือ? กินอีกหน่อยไหม? ถ้าไม่อร่อยเดี๋ยวสั่งอันใหม่ให้...” ชาร์ลยังคงเป็นคนที่ใส่ใจและอ่อนโยนกับผมเสมอ





ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ และคงเผลอกัดปากตัวเอง พี่ถึงได้เอื้อมมือมาแตะให้รู้ตัว





น้ำตาผมหยดแหมะลงบนตักอีกครั้งในขณะที่ยังก้มหน้า





ความรู้สึกเจ็บปวดหนักหน่วงในอกเหมือนวันแรกๆ มันจู่โจมเข้ามาอีกแล้ว และคราวนี้มันสาหัส





“ชู่ววว์ ไม่เอาไม่ร้องแล้วนะ ตาบวมไปหมดแล้ว”





เสียงชาร์ลดุเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบ





“ผม...อึก...ผม...หนีมา...หนีมาแล้ว” ผมพยายามอย่างมากที่จะพูดออกมาเป็นประโยคให้ได้





“ต่อให้น้องจะหนีไปไหนอีก พี่ก็จะตามให้เจอ!” พี่พูดเสียงดัง ปลายเสียงนั้นสั่นจนไม่สามารถควบคุมได้ ก่อนยกมือลูบหน้าและเสยผมไปมาราวกับว่าความอดทนได้หมดลงแล้ว





“อีธาน...” ชาร์ลปราบเสียงครางต่ำ ไม่ได้ตะโกนใส่พี่





“ห้าม!! ต่อไปนี้ ห้ามทำแบบนี้อีก” และดูเหมือนพี่ไม่ใช่คนที่จะฟังอะไรง่ายๆ ในน้ำเสียง สีหน้า และสายตาของพี่มีแววเจ็บปวด





“อีธาน! ให้พ่อคุยกับน้องเอง”





“ผมขอนั่งอยู่ตรงนี้นะ!!” พี่บอกเสียงหนักแน่นและไม่ยอมปล่อยมือจากผมง่ายๆ





ชาร์ลพยักหน้าตอบลูกชายพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะหันมาทางผมและจับมือข้างหนึ่งไปถือไว้หลวมๆ





“อาลัน...อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ อย่าหนีพวกเราไปอีก...” ชาร์ลยกมือปาดน้ำตาที่แก้มให้ผม





"เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมกัน ใช่ไหมครับ"







"ไม่" พี่สวนตอบมาในทันที และมันทำให้ใจของผมมืดมนราวกับดิ่งลงเหว





"พี่รักน้องมากเกินกว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว"



แล้วประโยคต่อมาของพี่ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าถูกกระชากขึ้นมาจากการจมดิ่งแล้วลอยขึ้นมาในอากาศ





พี่รักผม





ชาร์ลจูบมือผมข้างหนึ่ง และพี่ก็ทำตามกับมืออีกข้าง





"พวกเราขาดเธอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่มีทางเลย" เสียงกระซิบของชาร์ล ราวกับเสียร่ายมนตร์บางอย่างใส่ผม



"เธอจะยอมรับความรักจากพวกเราได้ไหม" มันเป็นความรู้สึกที่สุขมาก สุขมากเสียจนผมรู้สึกเจ็บปวดในอก ผมสะอื้นออกมา แล้วชาร์ลก็เข้ามากอดผมเอาไว้ ส่วนพี่ก็ยังไม่ปล่อยมือที่สอดประสานปลายนิ้วของเราเอาไว้อย่างกับจะให้คำมั่นสัญญา





"ผะ...ผมควรได้รับมันอย่างนั้นหรือ" ผมยังสะอื้นกับอกชาร์ลและกำมือพี่เอาไว้แน่น





"ต้องเป็นเธอเท่านั้น อาลัน แค่เธอ"







ผมกำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิน ตอนนี้หัวผมคงปวดมากและความคิดในสมองคงกำลังตีกันอย่างหนัก ก่อนจะได้เอ่ยถามอะไร พี่ก็คว้ามืออีกข้างผมจับไปแนบกับหน้าแล้วกดจูบลงมาหนักๆ กลางฝ่ามือ สายตาที่พี่มองมามันทำให้ผม...ร้อนวูบในอก ในขณะที่มืออีกข้างถูกชาร์ลกดจูบเบาๆ อย่างนุ่มนวลบนหลังมือ และนั่นมันก็ทำให้หัวใจของผมมันเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา





มันทั้งสับสน เจ็บปวดในอก แต่ก็มีความสุขล้นออกมาเท่าๆ กัน จนผมรู้สึกเวียนหัว







“ฉันขอโทษ...” ชาร์ลพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน พร้อมกับจูบตรงหน้าผากผม ที่เดียวกับพี่จูบไปก่อนหน้านี้ มันอบอุ่นและผมก็หวาดกลัวความอ่อนโยนนั้นไปพร้อมๆ กัน





“อย่าหนีไปจากพี่อีก …...อย่าทำอีก...จะให้พี่ไถ่โทษแบบไหนก็ได้” แล้วพี่ก็รวบตัวผมเข้าไปกอด คราวนี้พี่ไม่ได้ตวาดแต่กลับร้องขอพร้อมกับฝังจูบหนักๆ ลงตรงซอกคอของผมอย่างถือวิสาสะ





“ทะ..ทำไม...” ผมเอ่อยถาม ยังคงงุนงง และวาบหวามกับสัมผัสของพี่ที่ยังซุกไซ้ซอกคอผมต่อหน้าต่อตาชาร์ลอย่างไม่เกรงกลัว





“อยู่กับพวกเรา อาลัน” คราวนี้เป็นคำขอจากชาร์ลบ้าง ผมหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน และพี่เองที่ไม่โวยวายเหมือนคราวก่อน





“อาลัน….” ผมหันไปตามเสียงเรียกของพี่ และก่อนที่จะได้เอ่ยถามอะไร ริมฝีปากหนาก็กดลงมา เพียงผมอ้าปากรับ พี่ก็รุกโหมเข้าใส่อย่างหิวกระหายจนแทบสำลัก ปลายลิ้นสอดคว้านเข้ามาข้างในโพรงปากอย่างเร่าร้อน และหลังจากที่พี่ปล่อยผมเป็นอิสระ ยังไม่ทันที่จะหายใจได้เต็มปอด ชาร์ลก็มอบจูบที่แสนอ่อนโยนให้ผมอีกครั้งเนิ่นนาน







**********************





อยากจะตีอิพี่แรงๆ จอมโวยวาย 5555+ :laugh:

ขอบคุณทุกคนแรงๆ ด้วยเหมือนกันที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ :mew1:

หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เจอตัว update 13/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 13-07-2019 12:18:52
ไม้เรียวในมือสั่นไปหมดแล้ว อยากตีสองพ่อลูกนี่จริงๆ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เจอตัว update 13/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-07-2019 12:36:41
สองพ่อลูกต้องโดนตี  ทำน้องร้องไห้ตลอด
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เจอตัว update 13/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 13-07-2019 12:43:45
ในที่สุดก็เจอน้องซะที ถ้าหากน้องไม่หนี
พ่อลูกคู่นี้ก็คงไม่คุยกัน น้องก็ยังเจ็บต่อไป
ดีแล้วน้องจะได้พบความสุขซะที
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เจอตัว update 13/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 13-07-2019 14:11:00
ดีใจที่เจอน้องแล้ว
ต่อไปก็ต้องพูดคุยกับน้องให้เข้าใจในเรื่องของความสัมพันธ์นี้ แล้วก็ต้องบอกมาลีน่าด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เจอตัว update 13/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 13-07-2019 16:10:11
พ่อลูกคู่นี้ทำน้องร้องไห้อีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #เจอตัว update 13/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 13-07-2019 18:27:55
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ปรับความเข้าใจ update 15/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 15-07-2019 09:36:02

ความรู้สึกผิดบาปในใจถูกแทนที่ด้วยความสุขและความอบอุ่น เราสามคนคุยเคลียร์ทุกปัญหาทุกข้อตกลงระหว่างเรา พี่ยินดีที่จะแสดงความเป็นเจ้าของและปกป้องผมไม่ว่าจะต้องออกสังคมหรือรับหน้ากับสถานการณ์อะไรพี่ก็ยินดี


แต่ผมไม่ได้ต้องการฐานะอะไรนั่นหรอกจริงไหม?



แต่สำหรับชาร์ลเป็นเรื่องสำคัญของความน่าเชื่อถือ ตอนแรกชาร์ลจะไม่ยอม แต่เหตุผลของพี่คือต้องการปกป้องผมและชาร์ล และหากเกิดปัญหาที่มันยิ่งใหญ่กว่านั้น อย่างน้อยๆ ก็จะมีชาร์ลคอยซัพพอร์ทให้อีกที





ในส่วนของชาร์ลที่ยินดีจะดูแลผมกับพี่ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตาม ที่จริงแล้วชาร์ลก็ถนัดเรื่องตามใจอยู่แล้ว เราสามคนจะกลับไปอยู่ด้วยกัน ที่สำคัญพี่กับชาร์ลให้สัญญาว่าเราจะไม่ทะเลาะกันอีก





ผมคิดว่าตอนนี้ตัวเองคงจะมีความสุขเกินไป ได้รักพี่ให้พี่ได้อยู่ใกล้ๆ ในขณะที่มีชาร์ลอยู่ให้อ้อนด้วย







“พี่ถามอะไรหน่อย” เราสามคนนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่สุดของรีสอร์ต (ชาร์ลสั่งให้เปลี่ยนห้องตั้งแต่เมื่อเย็น) ผมนอนกลางหนุนแขนชาร์ล พี่อยู่อีกฝั่งและกอดเอวผมเอาไว้ ก่อนจะลุกขึ้นเอาแขนข้างหนึ่งเท้าเตียง แล้วเอ่ยถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง





“พี่สงสัย...ว่าเราไปจำวิธีการหนีแบบนี้มาจากไหน” ราวกับว่าเป็นเรื่องติดใจมากสำหรับพี่ และเมื่อหันไปมองชาร์ลเขาก็กำลังจ้องมองผมอย่างรอคอยคำตอบเช่นกัน ผมหนีไปไหนไม่ได้หรอกตอนนี้เพราะอ้อมแขนชาร์ลโอบรอบเอวเอาไว้





เรื่องที่ผมหนีชาร์ลกับพี่ได้ 3เดือนกว่าๆ น่ะเหรอ…







“ผม...” ประเด็นแรกผมเป็นคนไม่ค่อยพูดก็จริง แต่ผมสังเกตและจดจำคนรอบข้างเสมอ ผมจะรู้สึกได้เร็วกว่าคนอื่นถ้าทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจ หรือโกรธ และผมรู้ว่าชาร์ลมีอำนาจในการตามใจพี่มากมายขนาดไหน ถ้าพี่กับชาร์ลจะตามหา เขาจะต้องทำทุกวิถีทาง เพราะงั้นผมก็จะต้องหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย





“ผมจำมาจากในหนัง”





“หา!!!?” พี่ทำหน้าเหวอเหมือนโดนผีหลอก ส่วนชาร์ลกดคางลงบนหัวผม แล้วก็กลั้นหัวเราะตัวสั่นจนผมรู้สึกได้





พี่ยกมือกุมหัวแล้วหันไปสบตากับชาร์ล “พ่อ!! พ่อควรดุน้องสิ” พี่หันไปดุชาร์ลให้ดุผม...ทำไมมันกลายเป็นเรื่องซับซ้อนไปแล้ว





“ฉันคงต้องจำกัดการดูหนังของเธอหน่อยแล้วอาลัน” ชาร์ลทำเสียงจริงจังมาก นั่นทำให้ผมรั้งผ้านวมขึ้นมาสูงเกือบปิดหน้าเหมือนคนสำนึกผิด





ทั้งสองคนจ้องมองมาที่ผมที่นอนอยู่ตรงกลาง ปล่อยห้องกว้างๆ ให้ตกอยู่ในความเงียบสงัดจนน่ากลัว ผมหดตัวเข้ากับผ้านวม อยากย่อส่วนให้ตัวเหลือเพียงเศษเสี้ยวที่เล็กที่สุด







-------------





อีธานหันไปสบตากับชาร์ลราวกับกำลังคุยกันด้วยกระแสจิต

พ่อใช้ทุกวิถีทางในการตามหาน้อง ใช้ทีมงานที่ดีที่สุด จ้างนักสืบเอกชนแทบจะหมดวงการนักสืบ ใช้เส้นสายทางราชการ แถมยังลงประกาศลงไปว่าหากใครให้เบาะแสที่จะทำให้ตามน้องเจอได้ จะเพิ่มเงินรางวัลอีก5เท่าจากค่าจ้าง เมื่อเครือข่ายที่จ้างวานแจ้งพิกัดคร่าวๆ มา ก็ใช้อำนาจทุกวิถีทาง




ผ่านไป 1อาทิตย์หลังจากที่พ่อบอก ‘ปูพรม’ ก็ได้รับข้อความ ‘มีข่าวดี’ ในใจอีธานหวังเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้วว่าต้องเป็นเรื่องของน้อง แต่พ่อกำลังคุยโทรศัพท์เหมือนมีงานสำคัญและส่งสัญญาณให้เงียบลงก่อน





โอเค ผมจะใจเย็นและรอก็ได้ อีกไม่กี่นาที





“ได้, บอกไปว่าฉันตกลงตามนั้น” พ่อยังคงไม่เสร็จเรื่องงาน หันมาดุที่ผมนั่งเขย่าขาเสียงดัง ‘กึกๆ ’ เพราะมันรบกวนสมาธิ





“แจ้งด้วยว่าฉันกับลูกชายจะเข้าไปดูเอง” ผมถลึงตาใส่พ่อเมื่อได้ยินประโยคนั้น ทำไมยังทำตัวสบายๆ อยู่ได้ทั้งๆ ที่ผมไม่มีกระจิดกระใจจะทำงาน





“ไง”





“ผมไม่ไปด้วยหรอกนะ” ผมไม่สนใจคำทักทายนั่นและยังคงหัวเสีย แต่กลับยิ้ม...แบบเหมือนสบายใจอะไรนักหนา มันทำให้ผมรู้สึกหมั่นไส้ไปนะบางที “ไหนข่าวดีของพ่อ? ” ผมเปิดประเด็น





“เย็นไว้อีธาน”





“เหอะ! ใครจะไปใจเย็นแบบพ่อได้” อีธานต่อว่าด้วยอารมณ์หงุดหงิด แต่ก็ไม่สามารถขัดใจพ่อได้





-------------







“จำมาจากหนังเนี่ยนะ! ให้ตายเถอะ! ” พี่พูดเสียงขึ้นจมูกเหมือนคนหัวเสียสุดๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแผ่ แล้วระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น ส่วนชาร์ลนั้นรั้งผมเข้าไปกอดแรงๆ กอดแบบแน่นมากๆ ราวกับว่านั่นเป็นการลงลงโทษ





“ก็ผมไม่รู้จะทำยังไงนี่” ผมพูดเสียงอู้อี้อยู่กับอกชาร์ล เขาดันไหล่ผมให้ตัวเอาออกห่างจากกัน พอเงยหน้าขึ้นมองเขาก็จูบอ่อนโยนตรงหน้าผาก ส่วนพี่ก็พลิกตัวกลับมากอดเอวผมแน่น ซบหน้ากับแผ่นหลังพร้อมกับพรมจูบไปทั่ว





เมื่อกี้คือการลงโทษแต่ตอนนี้พวกเขากำลังปลอบโยน ผมเองก็รู้ว่าตัวเองผิดที่ไปสร้างบาดแผลในใจให้ทั้งสองคน พี่เล่าว่าตอนที่จินตนาการไปว่าผมอาจจะถูกใครทำร้ายจนเก็บไปฝันมันทรมานมาก





“อื้อ..ผะ..ผมจะไม่ทำอีก...ไม่ทำอีกแล้ว” เสียงสั่นสะท้านนั่นเพราะว่าพี่เริ่มจูบต่ำลงไปเรื่อยๆ จนถึงขอบกางเกงนอนแล้วตอนนี้ ผมไม่ได้ห้ามพี่ที่ทำแบบนั้นแต่ผวาไปกอดอ้อนชาร์ล และดูท่าว่าจะคิดผิด เพราะชาร์ลไม่มีทีท่าจะห้ามพี่เลย





พี่เหมือนจะรู้ ขยับตัวขึ้นมาแล้วโน้มตัวจูบแก้มผมแรงๆ เสียงดัง ก่อนจะล้มตัวลงนอนซ้อนข้างหลังแล้วกอดผมเอาไว้เหมือนเดิม





“จะลงโทษยังไงดี” เสียงพี่พึมพำเบาๆ ราวกับจะถามความเห็นชาร์ล





ส่วนผมได้แต่นอนตัวลีบอยู่ตรงกลางหนีไปไหนไม่ได้เลย





“คราวหน้าถ้าจะดูหนัง ก็เรียกพวกเราละกัน”ชาร์ลกระซิบบอก ผมรีบพยักหน้ารัวแล้วเบียดตัวเข้ากอดชาร์ลเอาไว้แน่น นั่นไม่ใช่เพราะรังเกียจหรือกลัวพี่ แต่กลัวใจตัวเองจะปล่อยให้พี่ทำตามใจต่างหาก





“พ่อตามใจน้อง! ” พี่ต่อว่า และชาร์ลก็หัวเราะตอบ





“จูบพี่หน่อย” ผมหันไปทำตาโตใส่พี่กับคำขอน่าอายนั่น แต่พี่กลับยิ้มกรุ้มกริ่มตอบกลับมา พลางชี้ไปตรงมุมปากตัวเอง “goodnight kiss” พี่ยังเซ้าซี้ยืนยันว่าจะเอาตามคำเรียกร้องให้ได้ ผมหันกลับไปมองหน้าชาร์ลแบบกล้าๆ กลัวๆ





“จะได้นอนกันเสียที” ชาร์ลว่า...คือเห็นด้วยกับคำขอของพี่อย่างงั้นเหรอ? มีแต่ผมที่รู้สึกอายและเชินจนแทบจะเป็นบ้าตายอยู่คนเดียว





ผมเม้มปากแน่นหันไปมองพี่ที่เงยหน้าขึ้นมาด้วยสายตารอคอย





‘จุ๊บ’ เพียงแวบเดียวที่ผมก้มลงไปแตะริมฝีปากของพี่ แล้วรีบหมุนตัวกลับเข้าไปกอดชาร์ลพร้อมกับจุ๊บที่คางเขาเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าซบลงไปกับอกกว้างของชาร์ลด้วยความอาย ไม่กล้ามองหน้าใคร ได้ยินเสียงชาร์ลหัวเราะเบาๆ และเสียงบ่นพึมพำของพี่ก่อนที่ไฟในห้องจะดับลง





และคืนนั้นก็เป็นคืนแรกที่ผมหลับสนิท อ้อมแขนและอ้อมกอดของทั้งสองคนทำให้ผมฝันดี





-----------------





ผมไม่ค่อยได้ออกมาเดินเล่นตามชายหาด ตั้งแต่เปลี่ยนที่อยู่เวียนไปเรื่อยตลอดสามเดือนกว่าๆ มานี่ อย่างเก่งเลยก็แค่นั่งมองวิวสวยๆ ตรงหน้าราวกับว่าไม่มีสิทธิ์แตะต้อง แต่วันนี้ผมมีพี่..





พี่จูงมือผมออกมาเดินรับแสงแดดยามเช้า เดินเท้าเปล่าเหยียบทรายเนื้อละเอียดเรื่อยไปตามหาด ต่อว่าเรื่องที่ผมซูบไปแล้วแกล้งอุ้มผมพาดบ่าทำท่าจะทุ่มลงน้ำ พี่สนุกที่ได้แกล้งผม ในขณะที่ชาร์ลนั่งรอเราอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องนั่งอ่านข่าวพร้อมกับจิบกาแฟไปด้วย





เราสองคนกลับมาเมื่อได้เวลาอาหารเช้า พี่ทิ้งตัวผมที่เกาะอยู่บนหลังบนตักชาร์ล และเขาก็ยอมละสายตาจากข่าวที่กำลังอ่าน รับตัวผมลงไปนั่งบนตัก





“หน้าแดงไปหมดแล้ว ได้ทาครีมกันแดดรึเปล่า” ชาร์ลลูบไล้ไปตามแก้มผมเบาๆ





“แค่แดดตอนเช้าเองครับ” ผมไม่ได้ร้อนแดดหรอกเชื่อสิ มันร้อนที่มีคนรักสองคนอยู่ใกล้ๆ ต่างหาก





พี่ก้มลงมาจูบหน้าผากผมที่นั่งอยู่บนตักชาร์ลได้ราวกับเป็นเรื่องธรรมดา ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านพักเพื่อไปเอาอาหารเช้ามาให้





ชาร์ลหัวเราะที่ผมทำหน้าเหวอ แล้วก็หอมแก้มผมอีกทีตอนที่พี่เดินกลับออกมา เป็นการยืนยันว่าผมไม่ได้ฝันไป และไม่มีวี่แววความขุ่นเคืองออกมาจากทั้งสองคนเลยแม้แต่น้อย พวกเขาทำตามสัญญา





พี่กับชาร์ลกำลังเก็บของ พวกเรากำลังเตรียมตัวกลับบ้าน ส่วนผมไม่มีอะไรให้เก็บมากมายอยู่แล้ว จึงมานั่งรอสองคนอยู่ตรงระเบียง และคงติดเป็นนิสัยเสียแล้วกับการนั่งเหม่อมองวิวตรงหน้า เสียงคลื่น ลมเย็น ที่แตกต่างคือวันนี้ไม่ได้หม่นหมองเหมือนวันก่อนๆ







“จะมาที่นี่อีกเมื่อไหร่ก็ได้น่า” พี่บอกพร้อมกับย่อตัวลงนั่งข้างๆ เมื่อเห็นผมทำท่าอาลัยอาวรณ์





“เราจะกลับมาเที่ยวกันเหรอ? ” ผมถามและพี่ก็ทำท่ายักไหล่สีหน้ากวนๆ





“พ่อซื้อที่นี่ไว้แล้ว” ผมยิ่งงงหนักเข้าไปอีก และพอหันไปมองชาร์ลเขาก็เพียงยิ้มแบบสบายๆ





“ซื้อ? ” หมายถึง…. “รีสอร์ตนี้? ” พี่พยักหน้าตอบ ในขณะที่ผมยังอึ้ง





ชาร์ลเพียงแค่ยกชาขึ้นมาจิบและพูดว่า







“ตอนแรกว่าจะซื้อทั้งเกาะ แต่เขาไม่ขายน่ะ”







“หา!!!”







พ่อลูกคู่นี้….พวกเขาจะซื้อทุกอย่างที่ผมเข้าไปแตะต้องไม่ได้!





แล้วผมพูดอะไรได้ไหม?







******************TBC





หรือพวกเราควรสงสารน้องดีนะ 55555

ตอนหน้าจะเป็นตอน 'จบ' แล้วนาจา

ณ จุดจุดนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน

ทุกคนที่กดให้กำลังใจน้อง #รักมาก

ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นท์ของทุกคน มีค่าและดีต่อใจนักเขียนมาก

มีกำลังใจที่จะเขียนงานต่อๆ ไป ขอบคุณทุกคนมากๆๆๆๆ #รักแรงๆ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ปรับความเข้าใจ update 15/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 15-07-2019 12:53:38
ว้าวเจอกันแล้ว ดีต่อใจมาก ๆ เลย
 :กอด1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ปรับความเข้าใจ update 15/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 15-07-2019 15:18:40
เห็นด้วยกับน้อง จะซื้อทุกอย่าที่น้องแตะไม่ได้ เกลียดความรวย
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ปรับความเข้าใจ update 15/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 15-07-2019 18:07:40
ขออนุญาตเกลียดความรวยของชาร์ล 555

เปย์หนักจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบ] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 17-07-2019 09:10:03


“ใจเย็นอีธาน อย่าทำน้องแรง”





เสียงปรามของชาร์ลดังเข้าหู เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในบ้านและทันทีที่เราสามคนเดินเข้าบ้านมา พี่ก็คว้าผมเข้าไปจูบแบบไม่ทันให้ตั้งตัว





“อื้อ...รู้...รู้แล้ว...” เสียงพี่ตอบรับคำชาร์ลแต่ะการกระทำ...ผมจมอยู่ในอ้อมแขนของพี่และถูกยกตัวลอยหวือ จำต้องยกขาขึ้นเกี่ยวเอวพี่ไว้ตอนที่พี่เดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง





พี่พาผมเข้าไปในห้องของชาร์ลเพราะเจ้าของห้องเป็นฝ่ายเปิดประตูเชื้อเชิญเข้าไปด้วยตัวเอง





ผมยังคงโดนปล้ำจูบจากพี่อย่างหื่นกระหาย เสื้อผ้าหลุดลุ่ยอย่างง่ายดาย เพราะเดิมทีผมก็ไม่ได้ใส่ใจว่าวันๆ จะสวมใส่อะไร และที่สำคัญชาร์ลเดินตามพวกเราเข้ามาในห้องด้วย





เนื้อต้วผมเปลือยเปล่า ในขณะที่พี่ก็กำลังเร่งปลดเสื้อผ้าตัวเองเช่นกัน ผมนอนหอบมองกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ของพี่อย่างโหยหา เรียวขาถูกแยกออกกว้างในสภาพเปลือยเปล่า ถูกสายตาของพี่โลมเลียจ้องมองทุกสัดส่วน และที่สำคัญยังมีสายตาอีกคู่จ้องมองมา นั่นทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบวาบอย่างแปลกประหลาด





ชาร์ล...กำลังนั่งมองพวกเราอยู่ตรงมุมห้อง สายตาคู่นั้นมองตรงมา ความต้องการในแววตาส่งมาอย่างเปิดเผย





“อ่า...” ผมครางเมื่อพี่แตะริมฝีปากลงมาบนยอดอก ขบฟันลงไปหยอกล้อ จนทำให้ผมแอ่นอกตาม ปลายลิ้นร้อนลากเลื่อยลงไปยังหน้าท้อง ผมครางกระสันบิดเกร็งหน้าท้องอย่างทรมาน จวบจนพี่ลากปลายลิ้นลงไปและครอบครอง ผมแอ่นกายเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว ปล่อยให้พี่ได้ดูดได้จูบอย่างที่พี่ต้องการ เพราะผมเองก็ต้องการมันเช่นกัน





“อ๊ะ...อ๊าาาา”



พี่ทำทุกอย่างด้วยความอ่อนโยนหากแต่ร้อนแรงทุกสัมผัส จูบของพี่ช่วยปลอบโยนก่อนจะแทรกกายเข้ามาด้วยความปรารถนาที่ร้อนแรงใรคราวเดียว มันเจ็บจุก แต่ผมก็รับพี่เอาไว้ได้ทั้งหมด





“พี่...อื้อ….พี่..”ผมกรีดร้องคราง ปรือตามองคนที่นั่งดูพวกเราอยู่ตรงปลายเตียง มีบางครั้งที่ชาร์ลกัดฟันแน่น แต่ก็ยังคงนั่งรอราวกับต้องการพิสุจน์ความอดทนของตัวเอง





“อาลัน...น้องของพี่...พี่รักน้องมาก...” พี่เรียกชื่อผมไม่หยุดพร้อมโหมกระหน่ำเข้ามาราวกับพายุ ถ้อยคำกระซิบพร่ำบอกรักนั่นทำให้ผมแทบจะคลั่งตาย ทั้งทรมานและสุขสม แล้วปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้ามาข้างในพร้อมกับผมที่ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน ก่อนจะถอนกายออกไป ผมรู้สึกเหมือนใจหายวาบ พี่จูบที่ปากผมอีกครั้ง ก่อนจะผละเดินหยิบผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ





นั่นทำให้ผมแปลกใจ เพราะครั้งเดียวสำหรับพี่...ไม่เคยพอ





ในขณะที่ผมยังคงนอนหมดเรี่ยวแรงและสงสัย เตียงก็ยวบยาบ เพียงเอี้ยวหน้าไปมองจูบโอนโยนก็กดลงมาปิดปาก ผมตัวสั่นอีกครั้งกับความอ่อนโยนที่ชาร์ลมอบให้ พี่ยังอยู่ในห้องน้ำ ผมได้ยินเสียงเปิดน้ำไหล





แต่ดูเหมือนชาร์ลจะไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนั้น เมื่อเขากำลังละเมียดละไมจูบผมไปทั่วแผ่นหลังที่เปลื่อยเปล่า เลื่อนมือไปสะกิดยอดอกผมให้สั่นสะท้านอีกรอบ เขาเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก จูบพรมผมไปทั่วร่างที่มีแต่คราบอย่างไม่รังเกียจ





“ยะ...อย่า...อื้อออ...มัน...” ผมตกใจผวาวูบเมื่อถูกจับตัวพลิกให้นอนคว่ำ และสะโพกถูกรั้งให้โก่งขึ้น สายตาจ้องมองอย่างพิจารณา พร้อมกับปลายนิ้วที่นวดวนลงไป ผมส่ายสะโพกหนีแต่ก็ถูกมือชาร์ลยึดเอาไว้





"ให้ฉันดู" ชาร์ลไม่ได้บังคับ แต่นั่นมันทำให้ผมอายจนต้องกดหน้าลงไปกับหมอน





"อาลัน..." เสียงชาร์ลกัดฟันกรอด เมื่อสะโพกเล็กเริ่มขยับส่ายไปมา มันจะทำให้เขาทนไม่ไหว

 



"เจ็บไหม...? " ชาร์ลถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และผมก็ส่ายหน้าพร้อมกับครางตอบเสียงอู้อี้กับหมอน





"อ่า...อ่า....ชาร์ล"





"อื้อ..ชาร์ล...อึก...ผม...มัน..สกปรก" อาลันครางสะอื้น





"ไม่เป็นไร เด็กดี...ไม่เป็นไร...เธอไม่สกปรกเลย..." ชาร์ลโน้มตัวไปจูบเรือนผมสีอ่อน จูบที่ขมับ ซุกไซ้ไซ้ไล่เรื่อยไปตามผิวขาวนวลเนียน ไหล่มลไหวสะท้าน แผ่นหลังเล็กแอ่นเกร็ง อาลันคงไม่รู้ตัวว่าตัวเองช่างยั่วขนาดที่ผู้ใหญ่อย่างเขาก็ไม่สามารถห้ามใจไม่ให้หลงใหลได้เลย





“อ่า...ให้ตายเถอะ...” เสียงชาร์ลครางคำรามอย่างดุดัน





“อ่าาาา….” เสียงหวีดร้องเมื่อชาร์ลฝังกายเข้ามาในคราวเดียว มันง่ายดายเพราะก่อนหน้านี้พี่ได้เปิดทางไว้แล้ว ความใหญ่โตคับแน่นทำเอาจุกเสียด ยิ่งขยับหนี ชาร์ลก็ยิ่งบดเบียดเนื้อตัวให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม





ชาร์ลไม่เหมือนพี่...ยามติดไฟแล้ว





พี่จะเร่าร้อนรุนแรงปั่นป่วนให้คลั่งตั้งแต่แรกเริ่ม จวบจนสิ้นสุดก็ยังทำให้รู้สึกต้องการซ้ำๆ แต่ชาร์ลจะค่อยเติมเชื้อไฟราวกับจะทำให้ความร้อนค่อยๆ แผดเผา หลอกล่อให้ลุ่มหลงมัวเมาไปกับรสสัมผัส แล้วจากนั้นจะโหมกระพือความร้อนแรงถาโถมเข้ามา





“อาลัน….อาลัน...”





เสียงชาร์ลครางเรียกพร้อมกับโหมกระหน่ำกายเข้ามา สะโพกผมถูกล็อคเอาไว้จากด้านหลังรองรับความเร้าร้อนของชาร์ เหลวที่ค้างคาในครั้งแรกทำให้เสียงเนื้อกระทบกันดังก้อง ผมปรือตามองพี่ที่เปลือยกายออกมาจากห้องน้ำ ตรงส่วนนั้นยังคงแข็งแรงไม่ยอมสงบ พี่ยืนมองผมกับชาร์ลอยู่ตรงหน้าประตูราวชั่งใจ





“อ่า...พี่...พี่...” ผมร้องเรียก ไม่ใช่จะฟ้องหรือร้องขอ แต่ทนไม่ไหว ชาร์ลติดไฟแล้วและมันกำลังเผาไหม้ผมให้ตายด้วยความปรารถนาของเขา





“แล้วบอกให้ผมเบาๆ ไง” เสียงพี่ที่เดินมาทำเสียงดุชาร์ล พี่นั่งลงและสอดประสานจับมือผมเอาไว้ข้างหนึ่ง พร้อมกับรั้งหน้าผมไปจูบปลอบโยนแต่มันไม่ช่วยอะไรเลยเลย ไม่ช่วยเลยยิ่งทำให้รู้สึกว่ากำลังโดนทั้งสองคนทำให้คลั่ง ในเมื่อชาร์ลยังโหมเข้ามาไม่หยุด





“อ่า...มัน...มันไม่ได้เลย...” เสียงชาร์ลตอบกลับ





“อ่าาาาา ชาร์ล...ชาร์ล...” ผมกรีดร้องเมื่อโดนชาร์ลบดขยี้จากด้านหลังตอกลึกเข้ามา พร้อมกับความร้อนผ่าว ผมรู้สึกเหมือนถูกทั้งสองคนจับโยนขึ้นไปสูงๆ ก่อนที่ชาร์ลจะถอนตัวออกไป หัวใจผมรู้สึกว่างเปล่า





แต่ก็เพียงไม่นาน...พี่ก็จับผมไปนั่งซ้อนบนตักอีกครั้ง…





ผมคล้องแขนรอบคอพี่แล้วซบหน้าลงไปกับไหล่ ปล่อยให้พี่ยึดสะโพกเอาไว้แล้วกดลงครอบครองของพี่อีกครั้ง





“พี่รักน้องนะ อาลัน...รักมาก..” พี่กระซิบบอกรักอีกครั้งราวกับจะปลอบโยน





“ฉันก็รักเธอ อาลัน” และชาร์ลก็ทำให้ผมขนลุกซู่ด้วยการจูบไปทั่วแผ่นหลังของผมพร้อมกระซิบบอกคำหวาน ราวกับไม่มีใครยอมใคร และผมกำลังจะคลั่งตายเสียให้ได้กับการปรนเปรอของพวกเขา





“อื้อ..ผม..ผมก็รัก..รักพี่...รักชาร์ล อื้ออออ” ชาร์ลให้รางวัล ด้วยการรั้งใบหน้าผมไปจูบหนักหน่วง ในขณะที่พี่เริ่มขยับอีกครั้ง





“ชาร์ล...ชาร์ล...อ๊าาาา” ผมครางเรียกชื่อชาร์ลราวกับจะฟ้องว่าพี่กำลังเอาเปรียบผม และเขาก็จูบที่ขมับผมราวกับจะปลอบโยน แต่พี่ก็ไม่ได้เบาแรงลงเลย ยิ่งเร่งจังหวะร้อนแรงมากขึ้น....มากขึ้น...จนถึงปลายสุดของอารมณ์







ชาร์ลปล่อยให้พี่คว้าผมเข้าไปจูบหนัก แล้วช้อนตัวผมจากตักพี่ อุ้มขึ้นมาเหมือนผมเป็นเด็กสิบขวบ ก่อนพาเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับสั่งให้พี่เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ผมหมดแรงแล้วตอนที่ถูกพาเข้ามานั่งในอ่าง ฝ่ามือหนาลูบไล้ทำความสะอาดไปทั่วตัว





“เด็กดี..เกาะขอบไว้ ต้องทำความสะอาดตรงนี้ด้วย” ชาร์ลหมุนให้ผมหันหลังไปเกาะขอบอ่างอาบน้ำเอาไว้ ผมทำตามอย่างว่าง่ายแม้จะรู้สึกอายแต่ก็ไม่มีแรงเหลือจะต่อต้าน





“อ๊าาาา ชาร์ล...ชาร์ล...” ผมผวาแอ่นสะโพกไปด้านหลังอีกครั้ง เมื่อชาร์ลเริ่มจะเผาผมให้มอดไหม้อีกครั้ง





“ได้ไหมอาลัน ขอได้ไหม...” เสียงกระซิบอ่อนโยนไถ่ถาม ผมไม่สามารถปฏิเสธชาร์ลได้ ไม่มีวันเลย ไม่ว่าชาร์ลจะร้องขอหรือไม่ก็ไม่ก็ตาม ผมพร้อมและยินยอม





ผมร้องครางด้วยความสุขสมอีกครั้งในห้องน้ำ ชาร์ลจูบอ่อนโยนอีกครั้ง และคราวนี้ก็ถึงเวลาอาบน้ำจริงจังเสียที





“อาบน้ำนานนะ” เสียงพี่เอ่ยทักตอนที่ชาร์ลอุ้มผมที่หมดแรงออกมา





“โทษที” ชาร์ลตอบด้วยเสียงราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น





ผมถูกวางให้นั่งบนเตียง แล้วทั้งสองคนช่วยกันหยิบโน่นนี่ พี่หยิบผ้ามาเช็ดผมให้ ในขณะที่ชาร์ลไปหยิบชุดนอนมาเปลี่ยนให้ ผมแทบไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง...ที่จริงไม่เหลือแรงแล้วมากกว่า จนกระทั่งปิดไฟนอนพร้อมกับจูบที่แก้มกับหน้าผากอีกคนละครั้ง อ้อมแขนและอ้อมกอดทั้งสองคนโอบรอบตัวผมเอาไว้





พี่เป็นคนทำให้ผมคลุ้มคลั่งร้อนเป็นไฟ





ในขณะที่ชาร์ลทำให้ผมเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น






………………….





กว่าผมจะลุกออกจากเตียงได้ก็ช่วงเย็นของอีกวัน พี่เข้ามาปลุกและบอกว่าอีกเดี๋ยวมารีน่ากับแม็คจะเข้ามา ชาร์ลสั่งให้แม่บ้านเตรียมอาหารไว้ให้เรียบร้อยแล้ว





มารีน่ารั้งผมเข้าไปกอดแน่น ถามย้ำด้วยประโยคเดิมว่า ‘ไม่เป็นไรใช่ไหม’ เกือบสิบรอบเห็นจะได้ แถมยังจับตัวผมหมุนไปมาสำรวจดูว่ามีอะไรสึกหรอไหม? ..อันที่จริงผมตัวร้อนนิดหน่อยจากกิจกรรมเมื่อคืน >///< เลยบอกมารีน่าไปว่าเวียนหัวนิดๆ จากการเดินทาง





และก่อนที่แม็คจะเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย ชาร์ลก็สั่งให้เตรียมอาหารทันที





“ถ้าพวกเขาดูแลลูกไม่ดี คราวนี้ไปอยู่กับแม่นะ” มารีน่าลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน





แต่พี่ที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็ไวกว่าด้วยการคว้ามือผมไปกุมเอาไว้ (ต่อหน้าทุกคน) แล้วประกาศกร้าว





“ผมสัญญาว่าจะดูและน้องให้ดีที่สุด และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกเด็ดขาด” ทั้งโต๊ะเงียบลงทันทีที่พี่พูดจบ และผมก็อายเกินกว่าจะเงยหน้ามองใคร แล้วพี่ก็พูดต่อ



“ให้พ่อเป็นพยานได้เลย” พี่หันไปมองหน้าสบตากับชาร์ลราวกับกำลังสื่ออะไรในใจถึงกัน และชาร์ลก็พยักหน้าตอบกลับมา





“สัญญาว่าจะดูแลอย่างดี” คำสัญญาของชาร์ลและพี่ ทำให้ผมรู้สึกตื้นตันในอก และจำต้องก้มหน้าเม้มริมฝีปากแน่นข่มความเขินอายทั้งที่หัวใจเต้นแรงเหมือนจะระเบิดออกมา ผมบีบมือตอบพี่แน่นมากๆ ราวกับว่าจะส่งแรงทั้งหมดนั่นไปให้ชาร์ลด้วย





“ฉันก็แค่พูดเผื่อไว้” มารีน่าทำเป็นยักไหล่พร้อมกับยกไวท์ขึ้นจิบอย่างไม่สนใจ นั่นทำให้บรรยากาศโต๊ะอาหารกลับมาเป็นครึกครื้นอีกครั้ง...





มารีน่านอนค้างกับผมในคืนนั้น เราสองคนคุยกันในทุกๆ เรื่อง ผมยอมรับตรงๆ ว่าผมชอบพี่ เธอไม่ว่าอะไรนอกจากรั้งตัวผมเข้าไปกอด ยินดีกับสิ่งที่ผมเลือก และยอมรับในความพยายามของพี่ตอนที่ผมหายตัวไป และในเมื่อไม่มีคำถามถึงชาร์ลผมจึงเลือกที่จะเงียบไว้ แม้ในใจลึกๆ จะรู้สึกผิดต่อชาร์ลและมารีน่าด้วยก็ตาม





หลังมื้อเช้าวันนั้น ผมเดินมาส่งมารีน่าและแม็คที่หน้าบ้านพร้อมกับสัญญาว่าจะไปหาที่ออฟฟิศบ่อยๆ โบกมือลาทั้งสองคน ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน





พี่กับชาร์ลยืนรอผมอยู่ และผมหยุดยืนนิ่งอยู่กลางบ้านมองหน้าทั้งสองคน ไม่กี่วินาทีหรอก ที่ผมตัดสินใจอ้าแขนกว้างแล้ววิ่งเข้าไปหาทั้งสองคนที่อ้าแขนรอรับผมอยู่เช่นกัน





เราสามคนกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือความรักที่ขนาบสองข้างตัวผม





ชาร์ลดูแลพี่และผมดีมาก เรียกว่าตามใจจะถูกกว่า





ในขณะที่พี่สัญญาว่าจะปกป้องผมและชาร์ล





และผมเอง…..ที่ยอมรักทั้งสองคนจนหมดหัวใจ







*******************END********************







#จบแล้วจ้า

ขอบคุณทุกคนเลยยยยยย

ขอบคุณที่ชอบน้องเชียร์น้อง

ขอบคุณที่รักชาร์ล และขอบคุณที่หมั่นไส้อิพี่ //เด๋วๆๆๆ55555

อาจจะมีตอนพิเศษมาให้หายคิดถึงกันบ้าง

ว่างๆ ก็แวะมาหาน้องกันได้นะ

#รัก



หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 17-07-2019 13:46:47
ขอบคุณที่ลงนิยายดี ๆ ให้อ่านจนจบค่ะ
เรื่องนี้น่ารักดีมีหน่วงนิด ๆ หวานหน่อย ๆ
บท NC เขียนได้ดี ไม่เยอะจนน่าเบื้อไม่น้อยจนเกินไป
ใช้ภาษาสือออกมาชัดเจน ไม่ดูเปลือยไม่ดูแบบโจ่งแจ้งจนเกินเหตุ แต่สวยงามคะ
รอตอนพิเศษ นะคะ

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 17-07-2019 15:19:13
น่ารักละมุนละไมมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-07-2019 01:01:15
ดีใจกับทุกคน ลงเอยซะที
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 19-07-2019 12:15:49

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 19-07-2019 23:56:24
ครบรส
อยากอ่านอีก
ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 20-07-2019 08:40:33
ละมุนมาก :mew1:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวยุ่ง ที่ 20-07-2019 09:23:25
สนุกมากกกกกกก อยากอ่านต่อแบบยาวๆๆๆไปเรื่อยๆเลยค่ะ น้องน่าเอ็นดู น่ากอดปลอบ น่าโอ๋เป็นที่สุด ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ นะคะ เราชอบมากๆๆเลย
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 20-07-2019 18:42:03
ชอบมากๆ เลยค่ะ
อยากอ่านอีกๆ  :ling1:
สนุกมากๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: FaX ที่ 21-07-2019 23:32:18
ขอบคุณนิยายดีๆแบบนี้มากเลยค่ะ 3p จงเจริญ นานๆทีจะมีคนแต่ง รอคอยมานานมากก รักคนเขียน :mew1:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ยอมรัก [จบแล้ว] update 17/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 22-07-2019 02:37:59
เป็รเรื่องที่เปิดมาก็กลัวดราม่าแล้วเพราะมีพ่อเลี้ยงใจร้าย แต่ก็บรรยายชั่วครู่จบไปเลยอ่านต่อเรื่อยๆและไม่สามารถหยุดได้ เรื่องระกสามคนนี่เป็นเรื่องที่จะยอมรับกันได้ทุกฝ่ายยากจริงๆดีแล้วที่มองเห็นความสุขของน้องก่อนทีอะไรจะแย่ลง ขอบคุณนักเขียนมากเลยสำหรับเรื่องน่ารักๆนี้ เหมือนเอาทุกแนวที่ชอบมาอยู่ด้วยกัน555
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 22-07-2019 09:02:51
ตอนพิเศษ : ความอดทน


"ผมควรจะทำยังไงกับน้องดี"





ชาร์ลละสายตาจากแทปเล็ตในมือมองหน้าลูกชายที่กำลังมีสีหน้าเคร่งเครียด ขณะที่กำลังขยับแขนโอบรอบเอวเปลือยเปล่าของอาลันที่กำลังหลับสนิท





"ทำไม? "





อีธานถอนหายใจพร้อมกับฝังจูบหนักๆ ลงตรงซอกคอ และทำท่าว่าจะไม่พอละเมียดละไมชิมไปจนถึงไหลขาว และเจ้าตัวก็เริ่มขยับยุกยิก





"เบาหน่อย น้องหลับอยู่" ชาร์ลหันไปดุลูกชาย เอื้อมมือไปแตะหลังคนนอนหลับเบาๆ ราวกับปลอบให้นอนหลับฝันดี





"นั่นแหละปัญหา" อีธานขบฟันกรอด "ผมทำน้องเบาไม่ได้เลย มันเหมือน....มันไม่พอ...."





อีธานยอมรับตรงๆ นึกภาพตอนที่ได้ครอบครองร่างกายนี้ แผ่นหลังเล็กหมอบโค้งไปกับเตียงในขณะที่สะโพกโก่งรับแรงกระแทกจากด้านหลัง หรือจะเป็นตอนที่ถูกอ้อนกอดจากข้างหน้าด้วยแววตาเว้าวอนอีก คำว่า ‘พอ’ ใช้กับน้องไม่ได้เลย แล้วยิ่งนับวันก็ยิงเหมือนยาเสพติดที่ต้องเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ





“อ่า...อาลัน..พี่ขออีกได้ไหม...ขออีกได้รึเปล่า” เมื่อผมยึดสะโพกน้องให้โก่งขึ้นสูง แผ่นหลังเล็กโค้งมนได้รูป น้องกดหน้าเสือกไสไปกับเตียงด้วยความเสียวซ่าน ตอนที่น้องบิดกายหันกลับมามองผม ดวงตาคู่นั้นหวานฉ่ำ ใบหน้าน้องดูเอียงอาย และเมื่อผมกระแทกกายตอกย้ำเข้าไป น้องก็หลับตาพริมครางกระเส่า





“อ่า..พี่...แรงๆ ...ทำแรงๆ ...อ๊าาา”





ทนไม่ไหวหรอกคุณเชื่อไหม





และพ่อเอาผมตายแน่ ถ้าผมทำแรงๆ อย่างที่ใจอยาก





‘พ่อเป็นคนออกกฎ และผมกับน้องก็ยินดียอมรับมัน’





“อาลัน...น้อง...ซี้ดดดด..อย่ายั่วพี่”





เสียงเนื้อเปลือยเปล่ากระแทกกระทั้นดังก้อง ร่างเล็กสั่นคลอนไปตามแรง ทั้งอย่างนั้นปากก็ยังครางเรียกร้องไม่หยุดหย่อน





และเพราะน้องเป็นเด็กดีที่น่ารักมาก...





เมื่อผมเริ่มน้องจะเรียกหาพ่อ และเมื่อพ่อเริ่มน้องจะเรียกหาผม โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวด้วย...ใครกันแน่ที่โดนทรมาน







ชาร์ลถอนหายใจยาวเหยียด หลับตาเอนหัวพิงขอบเตียงราวกับต้องใช้ความคิดอย่างหนัก เข้าใจมันดีทีเดียว แต่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าผ่านความต้องการมาหลากหลาย แต่..ไม่เคยมีใครทำเขาขาดสติได้อย่างอาลัน การตอบสนองอย่างไร้เดียงสานั้นยิ่งทำให้อารมณ์เพิ่มสูงขึ้นจนเกือบจะรั้งตัวเองให้หยุดได้ หลายครั้งหลายครา





บางครั้งวันที่ความต้องการมันหนักหน่วง เขาก็อยากจะบอกอีธานเรื่องการแบ่งเวลา แต่มันไม่ได้เลย..





ไม่ว่าใครจะเป็นคนเริ่ม อาลันจะเรียกร้องหาอีกคนตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว...อีธานก็รู้ดี





"ต้องอดทน อีธาน น้องจะบาดเจ็บเอาได้"





"ผมรู้...ผมรู้..." อ้อมแขนที่ตระกองกอดเอวผอมขยับเพียงหลวมๆ "แต่พอเริ่มไปแล้ว มันก็อดทนยาก...น้อง...น้องยั่วมาก...พ่อก็รู้" อีธานพูดต่อเสียงอู้อี้





ชาร์ลไม่ได้ตอบกลับ หากแต่ลึกๆ แล้วเห็นด้วยกับคำพูดอีธาน ภาพอาลันในความทรงจำเริ่มทำให้ความอดทนลดน้อยลงทุกวันๆ





"พ่อเคยไหม...ที่แบบเห็นน้องแล้วก็อยากจับกดตรงนั้นเลย" อีธานพูดด้วยน้ำเสียงอดทน ฝังจูบลงบนไหล่เปลือยเปล่าอีกครั้งก่อนจะขยับผ้าห่มขึ้นมาปิดคลุมผิวกายให้





ชาร์ลหลับตานึกภาพตัวเองที่จินตนาการว่าจับกดอาลันที่ห้องครัวในชุดคาดผ้ากันเปื้อน โดยไม่สนว่าใครจะมาเห็น สะโพกเล็กบิดเร้า มือเกาะขอบอ่างล้างจาน.... หรือบางครั้งที่อีธานพาไปฝากไว้ที่บริษัท อาลันมักจะวิ่งโผเข้ามาให้กอด ใจอยากปิดห้องแล้วจับน้องกดลงโต๊ะทำงานเสียเดี๋ยวนั้น อยากได้ยินเสียงครวญคราง จินตนาการว่าจับร่างบอบบางนั่นวางบนโต๊ะทำงาน แล้วโหมเข้าใส่..

เสียงครางเรียกชื่อเขา...แม้เป็นเพียงแค่จินตนาการชาร์ลก็ขบฟันจนขึ้นเป็นสัน





"....เคย"





คำตอบเสียงเคร่งเครียดของชาร์ลทำเอาอีธานหลุดขำ นึกภาพพ่อตัวเองที่สุขุมนุ่มลึกวางตัวเคร่งขรึมตลอดเวลา หลุดออกจากภาพลักษณ์ไม่ออกจริงๆ



..แบบว่าบางทีก็อยากให้พ่อหลุดเหมือนกัน



"ก็ไม่ต่างกันหรอก" อีธานต่อว่าด้วยน้ำเสียงขบขัน



"น้องมีคนเดียวอีธาน หาใหม่ไม่ได้ ต้องอดทน" ชาร์ลย้ำเสียงหนักแน่น





"ถึงหาใหม่ได้ ผมก็ไม่หาหรอก"





"อืม"





"แต่น้องควรรู้ว่าตัวเองยั่วแค่ไหน" อีธานวนกลับมาที่จุดยืนเดิมอีกครั้ง





คราวนี้ชาร์ลหัวเราะขบขันบ้าง





"นั่นสิ" และตอบรับคำของลูกชายอย่างช่วยไม่ได้





ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ อีธานซุกหน้าอยู่ตรงซอกคอขาว กัดเม้มไหล่เล็กเบาๆ อย่างมันเขี้ยว ชาร์ลเกลี่ยไรผมที่ตกปิดหน้าเนียนอย่างเบามือ คนกลางเพียงคนเดียวที่ยังคงนอนหลับสนิทในขณะที่อีกสองคนกำลังปั่นป่วน





"ผมไปห้องน้ำนะ"





"อืม"





ชาร์ลปิดหนังสือในมือ เอื้อมไปปิดโคมไฟ ขยับตัวสอดแขนให้คนตัวเล็กนอนหนุนได้หลับสบาย





"หลับซะนะ ถัาขืนพี่รู้ว่าเราตื่นอยู่ โดนจับกินถึงเช้าแน่" นั่นไม่ใช่คำขู่ อาลันรู้ดี ในความมืดนั้นปากบางเม้มเข้าหากันพลางซุกตัวเข้าหาอกกว้างของชาร์ล



ไม่ใช่ว่ากลัวพี่ แต่อาลันกลัวว่าถ้าได้เริ่ม...มันไม่มีทางที่จะได้หยุดง่ายๆ แน่





"พ่อพูดกับใคร? " อีธานที่ออกมาจากห้องน้ำทันได้ยินเสียงพึมพำพอดี





"บอกให้น้องหลับฝันดี" ชาร์ลบอกพร้อมกับทำท่าจุ๊ปากไม่ให้ลูกชายส่งเสียงดัง





อีธานก้าวขึ้นเตียงโน้มตัวหอมแก้มคนที่อยู่ในอ้อมแขนพ่ออย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ 'good night' กระซิบบอกก่อนจะแทรกตัวใต้ผ้าผืนเดียวกัน เกาะเกี่ยวกอดเอวเล็กแล้วหลับไป







และคืนนั้น อาลันก็ได้แต่ขบคิดกับตัวเองเงียบๆ ว่าตัวเองไปยั่วทั้งสองคนตอนไหนกัน....







********************









ตอนพิเศษจ้าาาา >/////<

ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านจ้าาาา :hao7:

ฝากไว้ให้คิสสสส...คิดถึงน้องก็เม้นท์หาน้องกันได้นะ

อยากเจอน้องกับคุณพ่อและคุณพี่กันอีก..แบบไหน ก็บอกได้...
#อาหารตามสั่ง อิอิ :katai4:



หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 22-07-2019 11:52:36
น้องอาลันจะนั่งเฉยๆ เดินเฉยๆ สองพ่อลูกก็มองเป็นน้องยั่วไปหมดนั่นแหละเพราะหลงน้องกันหนักมาก  :laugh:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: TuEyyy ที่ 23-07-2019 17:18:56
น่ารักมากกก คือ...ดีมาก ชอบค่ะ ชอบ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 23-07-2019 21:11:46
คิดถึงน้องงงง
ขอยาวๆหน่อย
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: panda_tuesday ที่ 23-07-2019 21:34:02
เล่นใหญ่เก่งไงอีธาน เจอน้องอาลันเล่นบ้าง ไปไม่เป็นทั้งพ่อทั้งลูกเลย 5555 :z1:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: วายเอโอไอ ที่ 25-07-2019 18:32:56
อ่านรวดเดียวคือดีมาก ชอบเรื่องนี้นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 26-07-2019 13:08:37
กดเข้ามาอ่านแบบคนใจบาปแท้ๆ :laugh:
แล้วก้หยุดไม่อยู่ อ่านรวดเดียวเลย เขียนได้ดีค่ะ สำนวนภาษา สะเทือนใจจนฯ้ำตาซึม สงสารน้องจับหัวใจ
ชอบตอนน้องอยู่ด้วยพี่และชาร์ลน่ารักมากๆ มีความลงตัวทั้งสามคน
nc ดีมากกกก ไม่มากไม่น้อยแต่สื่ออารมณ์ได้เต็มๆ แอบบอกว่าคาดหวังเล็กๆตอนครั้งแรกกับชาร์ล แต่เกินคาดทำเอา...ฮืออออ ไม่ไหวกับใจ :jul1: :jul1: :jul1:

ยังไม่อยากให้จบเลย แต่ตอนพิเศษ เป็นแบบ #อาหารตามสั่ง ขอแบบน้องหึงชาร์ล งอลพี่ แล้วดื้อขั้นสุดในแบบของน้องอีกได้ไหมค่ะ สองพ่อลูกคงหัวปั่นน่าดู  :hao7:

ขอบคุณนะคะ เป็นนิยายที่ทำให้คนใจบาป ร้องไห้ กรี๊ดร้องงงง ใจสั่นระรัว แงงง  :-[
และยิ้มขำไปพร้อมกันๆ ส่วนมากจะฮาอิพี่ ที่ออกอาการผีบ้าจนน่าตบ แต่ก็รักน้องเวอร์
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 28-07-2019 16:54:15
โอยเรื่องนี้คือ ดี
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 28-07-2019 18:15:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #ตอนพิเศษ : ความอดทน up 22/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 29-07-2019 07:35:45
 :katai1:   อยากอ่านตอนพิเศษอีกหลายๆๆๆๆตอน.... มาอ่านตอนตลาดวายแล้ว  คนแต่งจะเห็นหรือเปล่าน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.champingon ที่ 29-07-2019 11:38:09
#พิเศษ : เอาใจ


แม้ว่าทุกวันนี้ผมจะมีความสุขมาก แต่ลึกๆ แล้วผมรู้สึกผิดต่อชาร์ล แม้ว่าตอนอยู่ในบ้านหรือสถานที่ที่เป็นส่วนตัว ผมสามารถอ้อนเขาได้โดยไม่มีขีดจำกัดก็ตามที แต่ในยามที่เราสามคนออกไปข้างนอก พี่สามารถเดินจับมือผมได้อย่างเปิดเผย ในขณะที่ชาร์ลเดินอยู่ข้างๆ ผมมีความสุข และผมอยากให้ทุกคนมีความสุขเท่าๆ กัน





ผมเคยลองเอื้อมมือไปคล้องแขนชาร์ลในขณะที่พี่ยังจับมือผมเอาไว้ เขาหยุดชะงักหันไปมองหน้าพี่ เราสามคนเลยต้องหยุดเดินก่อนที่ผมจะค่อยๆ คลายแขนออกแล้วหันไปซบตัวกับแขนพี่แทน เราสามคนไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้น







...มันอาจจะไม่เหมาะสมก็ได้ ผมคิดเอาเองในใจ





…..







ตั้งแต่ตกลงอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ บ้านก็มีแต่ความสุข อีธานอดนึกเสียดายไม่ได้ว่าทำไมไม่คุยกับพ่อดีๆ ก่อนหน้านั้น แต่ก็อย่างว่า เรื่องบ้างเรื่องถ้าไม่ได้เรียนรู้เราก็จะไม่จดจำ





และพอได้ไฟเขียวจากมารีน่า คราวนี้อีธานก็แทบจะพาน้องติดตัวไปทุกที่ก็ว่าได้ เคยถามว่าน้องเบื่อไหม...จำตัวคลี่ยิ้มจนตาหยีแล้วส่ายหน้า ถ้าน้องมีความสุขจะเอาอะไรก็ได้





“รอที่ห้องพ่อก่อนนะ พี่ต้องประชุมก่อน เสร็จแล้วกลับบ้านพร้อมกัน” อีธานบอกพร้อมกับจุ๊บหน้าผากไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว หันไปมองพ่อตัวเองแล้วส่งสายตาเป็นนัยมาทางน้อง





ก็ระยะหลังมานี่ น้องดูซึมไป ถามหาสาเหตุเจ้าตัวก็คงไม่บอกง่ายๆ การทำตัวให้ทุกคนพอใจคงเป็นนิสัยติดตัวที่แก้ได้ยากไปแล้วสำหรับน้อง การไม่พูดอะไรเลยก็เหมือนกัน อีธานไม่อยากให้มันก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก ถึงได้หาโอกาสให้พ่อช่วย นั่นเพราะรู้ตัวเองว่าเป็นคนใจร้อนอดทนรออะไรได้ไม่นาน กลัวอารมณ์ตัวเองจะทำให้พลาดพลั้งขึ้นมา แล้วรอบนี้จะโดนพ่อด่าเป็นสองเท่าด้วย





ชาร์ลพยักหน้าตอบลูกชายสบตากันราวกับอ่านใจกันได้ ในขณะที่อีกคนยังคงก้มหน้ากอดไอแพดในมือ จนกระทั่งอีธานเดินออกจากห้องไป





“อาลัน มานี่มา” ชาร์ลเอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวยังคงยืนนิ่ง





ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ทุกคนต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน





อาลันเป็นเด็กที่ไวต่อความรู้สึกคนรอบข้าง และชาร์ลก็เป็นพวกช่างสังเกตความรู้สึกคน แม้อารมณ์เพียงเล็กน้อยก็ตาม





เมื่อเจ้าตัวเดินเข้ามาใกล้ ชาร์ลก็ยื่นมือไปรั้งเข้าตัวเข้ามากอด





“อ๊ะ..ชาร์ล..” อาลันตกใจเมื่อถูกยกตัวขึ้นไปนั่งซ้อนบนตักกว้าง ชาร์ลสอดแขนกอดเอวผอมเอาไว้หลวมๆ ก่อนวางคางลงบนไหล่เล็ก เจ้าตัวเกร็งขืนตัวอยู่ในอ้อมแขนไม่ยอมเอนตัวพิงลงมา





“ไม่ชอบให้ฉันกอดหรือ? ”





“มะ..ไม่ใช่ครับ” อาลันตอบคำถามแทบจะทันที





“อาลัน...” ชาร์ลเรียก และรอคอย เจ้าตัวยังคงก้มหน้านิ่ง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน





“อ๊ะ…! ” พอหันหน้าไปตามเสียงเรียก ชาร์ลที่รออยู่แล้วก็จูบตรงริมฝีปากบาง รอยยิ้มอบอุ่นของชาร์ลส่งผลให้อาลันหน้าแดง ก่อนจะเอนตัวพิงอกกว้างเพื่อซ่อนใบหน้าที่ร้อนผ่าว





ชาร์ลหัวเราะชอบใจ อย่างน้อยอาลันก็ยังเป็นแมวน้อยขี้อ้อนคนเดิม ยอมให้กอดและนั่งซบอยู่บนตักอย่างงั้น ในขณะที่มือชาร์ลก็ยังคงตรวจเซ็นเอกสาร พูดคุยกันในเรื่องต่างๆ จนเมื่ออีธานกลับมาน้องก็ยังคงนั่งอยู่บนตักไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากอาลันคนเดิม ยอมให้อีธานเดินเข้ามาหอมแก้มคลอเคลียในขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดชาร์ล





จนชาร์ลเสร็จงาน ทั้งสามคนจึงตกลงว่าจะออกไปหาอะไรทานกันก่อนกลับบ้าน





นั่นแหละคนช่างสังเกตอย่างชาร์ลถึงได้รู้ถึงความผิดปกติ น้องจะระวังทุกการเคลื่อนไหวตั้งแต่ก้าวออกจากห้อง เช่นการเดินเกาะแขนเบียดตัวไปกับอีธาน ระวังที่จะไม่สัมผัสโดนตัวชาร์ล แม้กระทั่งตอนที่ชาร์ลตักอาหารให้ น้องยังดูหวาดระแวงมองไปรอบๆ โดยไม่รู้ตัว เหมือนแววตาคู่นั้นจะคอยระวังสายตาคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา สลับกันถ้าเป็นการดูแลจากอีธานน้องจะผ่อนคลายกว่ามาก







ชาร์ลและอีธานหันมาสบตากันราวกับรู้ถึงความคิดกันและกัน สายตาอีธานคือเห็นใจคนเป็นพ่อ ส่วนชาร์ลรู้สึกเจ็บลึกๆ ในอก กับความผิดแปลกนี้









“อาลัน เรามีเรื่องต้องคุยกัน”





ชาร์ลพูดขึ้นเมื่อพวกเราสามคนถึงบ้าน อาลันมีสีหน้าตกใจด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังของคนพูด และช่วยไม่ได้ที่น้องจะหันไปมองหาอีธานราวกับขอความช่วยเหลือ





“พี่...จะอยู่ใกล้ๆ นี่แหละนะ” อีธานไม่ได้เดินเข้ามากอดปลอบและก้มลงจูบที่หน้าผากด้วยเพราะเห็นสีหน้ากังวลของน้อง แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่พ่อจะทำอะไรที่เป็นการทำร้ายน้องโดยเด็ดขาด แต่ในใจก็รู้สึกหนักอึ้งไม่ต่าง ด้วยสีหน้าแววตาเศร้าหมองของพ่อส่งผลต่ออีธานเช่นกัน





“อาลัน..” น้องไม่ได้ดิ้นหรือขัดขืนตอนที่ชาร์ลเดินเข้ามารวบตัวไปกอด ไม่ได้สะดุ้งหรือระแวดระวังเหมือนตอนอยู่ในร้านอาหาร แววตาคู่นั้นที่มองกลับมามีแววสับสน





“ชาร์ล…? ” อ้อมแขนเล็กโอบกอดตอบอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ





ชาร์ลคลายอ้อมแขนแล้วจูงมือน้องไปยังโซฟา เจ้าตัวเดินตามมาแต่โดยดี ไม่มีขัดขืนตอนที่นั่งลงแล้วรั้งลงไปนั่งซ้อนกันบนตัก ชาร์ลไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแต่รั้งใบหน้าอาลันให้หันมามองสบตากันนิ่ง ปลายนิ้วแตะสัมผัสแก้มเนียนเบาๆ ไม่มีแววรังเกียจในดวงตาคู่สวย จนกระทั่งใบหน้าถูกรั้งเข้ามาจูบอาลันก็ไม่ได้ขัดขืน ยังคงตอบรับ และเรียกร้องอย่างไร้เดียงสาเช่นเคย ใบหน้าขาวแดงเรื่อเขินอาย กลายเป็นชาร์ลเองที่ไม่เข้าใจ





“เธอกำลังทำให้ฉันสับสน” ชาร์ลบอกออกมาตามตรง และคนถูกต่อว่าก็มีสีหน้างุนงงมองตอบกลับมาอย่างไม่เข้าใจ


“ฉันคิดว่าเธอรังเกียจฉัน” น้องทำตาโตแล้วส่ายหน้ารัว





“ไม่ใช่...ไม่ใช่แบบนั้น..” พอรู้สึกว่าทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจขึ้นมา สีหน้าอาลันก็สลดวูบขอบตาเริ่มแดงขึ้นมาทันที ความคิดว่า ‘รังเกียจ’ ไม่เคยอยู่ในเศษเสี้ยวความรู้สึกเลยสักนิด







“แล้วเป็นแบบไหน ช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจหน่อยได้ไหม” น้ำเสียงของชาร์ลยังคงอ่อนโยน นั่นยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกอยากจะสะอื้นออกมาแล้วโผกอดแน่นๆ





“ฉันทำอะไรให้เธอรู้สึกไม่ดีรึเปล่า”





อาลันทำตาโต ส่ายหน้ารัว ไม่มีอะไรที่ชาร์ลทำให้แล้วไม่ดี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับมาคือดีที่สุดเท่าที่เคยได้ ทั้งการดูแลเอาใจใส่ และความรักที่ชาร์ลมอบให้





...แค่อยากตอบแทนกลับให้ได้สักเสี้ยวหนึ่งที่ได้รับมา







ชาร์ลต้องรู้สึกแย่แค่ไหน อาลันไม่เคยรู้ตัวเลย เพียงแต่คิดเอาเองว่า กลัวชาร์ลจะเดือดร้อน กลัวคนอื่นๆ จะมองชาร์ลไม่ดี กลัวว่าชาร์ลจะโดนตำหนิ ความคิดเหล่านั้นทำให้เกิดความหวาดระแวงและแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว...ทั้งๆ ที่รักมาก







ชาร์ลกอดปลอบลูกแมวน้อยที่ซบอยู่กับอกเบาๆ และเมื่อเห็นว่าน้องร้องไห้ออกมาอีธานก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ ด้วยความเป็นห่วง





“ผะ..ผม..ผมแค่คิดว่าชาร์ลจะลำบาก ถ้า..ถ้าผมแสดงออกว่ารักชาร์ลออกมาตอนอยู่ข้างนอก อึก..! ” ไม่มีทางเลยที่จะรังเกียจไม่มีเลย ...มีแต่อยากจะรัก แต่อาลันไม่ใช่คนที่จะมีประสบการณ์การใช้ชีวิตในสังคมและสายตาคนรอบข้างมากมายนัก การแสดงออกมามันก็เลยกลายเป็นตรงกันข้าม







สองพ่อลูกหันไปมองหน้าสบตากันแล้วต่างถอนหายใจออกมาเบาๆ





อาลันยื่นมือมาให้อีธานที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ขณะที่ยังนั่งซบอกอยู่บนตักชาร์ล





“แต่ว่า...เวลาอยู่ข้างนอกผมอ้อนพี่ได้ แต่ชาร์ลเหมือนถูกทิ้งไว้คนเดียว ผมแค่… แค่อยากให้ชาร์ลมีความสุขด้วย...ผม...ผม...ขอโทษ” อาลันสะอื้นหนักแล้วคราวนี้ อีธานเลยเอื้อมมือมาปาดน้ำตาที่นองหน้าออกให้





คราวนี้ชาร์ลและอีธานถึงได้เข้าใจเสียที...อาลันเป็นเด็กดีเกินไป





น้องแค่อยาก ‘เอาใจ’ ทุกคนอย่างเท่าเทียม





ในอกที่หนักหน่วงกลายเป็นฟองฟูเมื่อเข้าใจ ชาร์ลถึงกับกระตุกยิ้มออกมา กระชับอ้อมแขนกอดแน่นขึ้น นับจากนี้ต่อไปคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอาลัน เจ้าแมวขี้อ้อนตัวน้อยๆ แต่กลับมอบความรักที่ยิ่งใหญ่ได้มากมายขนาดนี้







“เด็กโง่...ไม่จำเป็นเลย ฉันมีความสุขมากที่เธอรักฉัน มีความสุขมากๆ ” ชาร์ลยืนยันคำพูดด้วยการฟัดจูบหอมแก้มคนในอ้อมแขนไม่หยุด





“อ่า...อิจฉาพ่อจัง”และอีธานก็ทำลายบรรยากาศหวานซึ่งพังลงในพริบตา คนที่กำลังจะร้องไห้กลายเป็นหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาแทน





“ผมก็รักพี่ด้วยนี่….อื้อ..”





คำบอกรักของอาลันถูกให้รางวัลด้วยการจูบดูดดื่มจากอีธาน





“ฉันคงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเธอ..อาลัน..” ชาร์ลบอกพร้อมกับกอดและหอมแก้มใสอีกครั้ง





“พี่ก็เหมือนกัน” อีธานบอกต่อบ้าง อย่างเอาใจ





ทั้งสองคนนิ่งเงียบ จ้องมองคนที่อยู่ตรงกลาง ราวกับรอคอย





“ผมก็เหมือนกัน” อาลันตอบอย่างเขินอาย ซบหน้าไปกับอกกว้างของชาร์ลแต่ก็ยังไม่ปล่อยมืออีธาน







และเมื่ออีธานโน้มตัวลงมาจูบอีกครั้ง ค่ำคืนแห่งการบอกรักกัน...ก็เพิ่งเริ่มต้นขึ้น...







*****************





#Talk

ตอนพิเศษเอาใจทุกคน #เหม็นฟามรัก 55555555 :hao7:

ก็ยังคิดถึงน้องเรื่อยๆ ก็จะผลิตตอนพิเศษออกมาเรื่อยๆ แต่จะผิดกฎเว็บไหม :sad4:

ไม่อยากให้ทุกคนลืมน้อง อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ >..< (หรือเราควรเปิดภาค #พิเศษ กันละ)

ปล.อาจจะไม่ได้ตอบทุกเม้นท์ แต่อ่านทุกเม้นท์จริงๆ นะ #มันดีต่อใจมากๆ :mew1:
ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่าน ดีใจที่ชอบกัน
 :-[
กดเข้ามาอ่านแบบคนใจบาปแท้ๆ :laugh:
แล้วก้หยุดไม่อยู่ อ่านรวดเดียวเลย เขียนได้ดีค่ะ สำนวนภาษา สะเทือนใจจนฯ้ำตาซึม สงสารน้องจับหัวใจ
ชอบตอนน้องอยู่ด้วยพี่และชาร์ลน่ารักมากๆ มีความลงตัวทั้งสามคน
nc ดีมากกกก ไม่มากไม่น้อยแต่สื่ออารมณ์ได้เต็มๆ แอบบอกว่าคาดหวังเล็กๆตอนครั้งแรกกับชาร์ล แต่เกินคาดทำเอา...ฮืออออ ไม่ไหวกับใจ :jul1: :jul1: :jul1:

ยังไม่อยากให้จบเลย แต่ตอนพิเศษ เป็นแบบ #อาหารตามสั่ง ขอแบบน้องหึงชาร์ล งอลพี่ แล้วดื้อขั้นสุดในแบบของน้องอีกได้ไหมค่ะ สองพ่อลูกคงหัวปั่นน่าดู  :hao7:

ขอบคุณนะคะ เป็นนิยายที่ทำให้คนใจบาป ร้องไห้ กรี๊ดร้องงงง ใจสั่นระรัว แงงง  :-[
และยิ้มขำไปพร้อมกันๆ ส่วนมากจะฮาอิพี่ ที่ออกอาการผีบ้าจนน่าตบ แต่ก็รักน้องเวอร์

ขอบคุณมาก #เจ้าคนใจบาปทั้งหลาย :hao7:
รีเควสตามสั่งตอนนี้มีดังนี้
ทำน้องแรงๆ > ชาร์ลหึง > น้องหึง > น้องงอน > น้องดื้อ และอิพี่เป็นบ้า 555555555
เดี๋ยวดูก่อนว่าจะเอาอะไรมาผัดรวมได้บ้าง  :laugh:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 29-07-2019 12:21:15
 :hao6:  น้องน่ารักมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 29-07-2019 22:29:51
โอ้ยตาย คนอ่านตาย น่ารักอะไรเบอร์นี้  :o8:
ขอตอนพิเศษไปเลื่อยๆนะคะ ต้องการตามติดชีวิตน้อง  :mew3:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 31-07-2019 04:12:10
อยากอ่านต่อเรื่อยๆ เลย   :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 31-07-2019 08:23:41
ต่ออีกๆๆนะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 31-07-2019 13:48:00
น้องงงงงงงงงงงง รู๊กก ทำไมหนูน่ารักอย่างนี้  :hao5:

โอ้ยยย อยากบีบๆ ฟัดแก้มน้องงงง /อิพี่ถีบหงายเงิบ  :z6:

แงงงง ดีใจตอบเม้นเราด้วย  :-[
ถูกใจตอนสเปฯมากกกกกกกก น่ารักทุกตรงจนโลบแล้วเนี่ย 5555 อยากให้มีอีกเรื่อยๆ
อยากตามติดชีวิตน้อง ชอบมากเลยเวลา เปิดมาเจอเรื่องที่ชอบมากๆแต่จบไปแล้ว ลงตอนสเปฯ เหมือนเปิดเจอของขวัญจากคนที่เราคิดถึง มันดีต่อใจมากๆ เจอทีแทบกรี๊ดร้องง
ขอบคุณนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tookta ที่ 06-08-2019 18:45:02
ขอบคุณนะคะ
อาลันน้อยเป็นแมวขี้อ้อน ขี้ยั่ว แบบนี้ใครจะอดใจไหว...
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ASAMENG ที่ 08-08-2019 20:39:27
 o13 อบอุ่นและอีโรติคมากๆ  :hao3:
จริงๆแล้วเรื่องนี้สามารถต่อภาคได้เลยนะ
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเฉยๆ ไม่ต้องซีเรียล
ขอบคุณมากๆที่เขียนงานดีๆแบบนี้ออกมาให้อ่านนะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Mushroom_mus ที่ 10-08-2019 14:55:20
เนื้อเรื่องละมุนมาก หลงรักคุณชาร์ล​ด้วย
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 12-08-2019 09:51:11
พ่อลูกแซ่บมาก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 12:07:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: reginasorn ที่ 12-09-2020 10:38:28
ชอบบบบบบบบ อบอุ่นมากกกกก :-[
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lilchubby ที่ 12-09-2020 19:47:52
ชอบบบบบ อ่านรวดเดียวจบเลย ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 12-09-2020 21:31:34
แมวน้อยยยยยยย น่ารัก ฮืออออ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 13-09-2020 07:48:13
ง่าาา ชอบเรื่องนี้มากเลย ไม่อยากให้จบ อยากอ่านไปยาวๆ
อบอุ่น ละมุนมาก ชอบชาร์ล อบอุ่น อ่อนโยน
อีพี่ก็ร้อนแรงมากกก
น้องก็ขี้อ้อน
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ยอมรัก [Yaoi][3p] > #พิเศษ : เอาใจ up 29/7/2562
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 13-09-2020 10:27:35
สงสารน้องเลยต้องรับศึกหนักจากสองพ่อลูก แต่รู้แหละว่ามีความสุข :katai2-1: :pig4: