ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
***********************************************
ตะวันดั้นเมฆ Sunshine of Love
แด่เธอ...ผู้ที่ยังคงเชื่อมั่นในความรัก และรอคอยว่าสักวันจะได้เจอ "รักแท้"
ตะวัน X บัลลาด
Tawan X Ballad
"ภาพนี้เป็นภาพดวงตะวันกลมๆและวิวแบบง่ายๆดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เมื่อผมยิ่งมองยิ่งจ้องแล้ว ทำไมมันดูมีความสุขใจดีจังเลย"
ผมเริ่มต้นออกเดินทางจากเซฟโซนที่ผมสร้างมันขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวของผมเองเอาไว้ ด้วยสาเหตุเพียงเพราะภาพวาดเพียงภาพเดียวเท่านั้น เผื่อว่าผมจะสามารถ "ปลดล็อค" บางสิ่งบางอย่างซึ่งตกตะกอนอยู่ภายใต้ส่วนลึกในหัวใจของผมได้
จนกระทั่งผมได้มาเจอเขาคนนั้น...คนที่ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปตลอดกาล
“พี่ตะวันรักหนูนะ แล้วหนูล่ะ...รักพี่ตะวันหรือเปล่า”
***********************************************
ตะวันดั้นเมฆ Sunshine of Love
BY
Bonheur
(บอนเนอค์)
Hashtag #ตะวันดั้นเมฆ
Chapter 7
เลือดกำเดา
เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ เจ้าม้าพายุก็นำพาเรามาถึงที่หมายครับ รวดเร็วดั่งใจนึกเสียจริงๆ
“ถึงแล้ว”
“ครับ”
“ค่อยๆลงมานะ จับมือผมเอาไว้”
“ได้ครับ”
ฮึบ!
ผมค่อยๆลงมาจากหลังม้าตามที่คุณตะวันบอกครับ เขาค่อยๆประคองผมลงมาเพราะรู้ว่าผมไม่เคยมีทักษะใดๆในการขี่ม้ามาก่อน หลังจากนั้นคุณตะวันก็ลงจากหลังเจ้าพายุตามมาครับ ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเป็นอะไรนะครับ เผลอแป๊บเดียวพี่แกจูงเจ้าพายุไปผูกไว้กับต้นไม้ใกล้ๆเพื่อกันมันหนีไปเที่ยวแล้ว จากนั้นเขาก็เดินมาหาผมครับ
“เป็นยังไงบ้าง วิวตรงจุดนี้”
“งดงามจริงๆครับ”
ทิวทัศน์เบื้องหน้าส่งผ่านเข้ามาในรูม่านตาของผม ณ ตอนนี้มิผิดเพียงดุจดั่งดาวดึงส์ ธารน้ำตกไหลเอื่อยอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลราวปุยนุ่น ความใสของนทีธารแวววาวราวกระจกแก้วสามารถส่องทะลุลงไปถึงเบื้องล่างเปรียบอย่างว่าล่องหน สีสันสายชลครามอร่ามมลังเมลืองยามริ้วธาราต้องกระทบรัศมีอังศุมาลีพลันผุดขึ้นเป็นริ้วรุ้งย่อมส่งยิ้มให้ดูชื่นใจในอัศจรรย์ธรรมชาติเป็นนักหนา เสียงซ่าซ่ายามวารีแหวกชำแรกเซาะร่องโขดหินแซ่ซ้องว่าวงดนตรีประโคมโหมก้องพนา อีกทั้งนภายังดำดิ่งลงมาสะท้อนให้ยล งดงามดั่งต้องมนต์เที่ยวเล่นชมแดนสรวงสุราลัย
“ถึงกับพูดไม่ออกเลยหรือไง”
“ใช่ครับ ภาพข้างหน้าตอนนี้มัน...สวรรค์ชัดๆ”
“น้ำตกนี้มีชื่อว่า ‘วิมานทิพย์’ เพราะผู้เฒ่าผู้แก่สมัยก่อนท่านเล่ากันมาว่า มีนางอัปสรนางหนึ่งบนสวรรค์ออกมาเที่ยวเล่นยังแดนมนุษย์ เผอิญนางอัปสรนางนั้นเห็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งนอนสลบไสลอยู่ก็เลยเหาะลงมาดู หลังจากนางอัปสรเห็นดวงหน้าชายหนุ่มผู้นั้นก็พลันราวกับโดนกามเทพแผลงศรรักปักอก นางอัปสรจึงร่ายมนตราเสกน้ำตกแห่งนี้ขึ้นมา เมื่อชายหนุ่มรูปงามคนนั้นฟื้นคืนสติขึ้นเพราะความหอมเย็นชุ่มฉ่ำของสายน้ำทิพย์ที่นางอัปสรนำมาลูบไล้ปลอบประโลมผิวหน้าของเขา ชายหนุ่มได้เห็นถึงกับตกตะลึงในความงดงามเหนือมนุษย์ของนางอัปสร ในที่สุดทั้งคู่ต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกันและอยู่อาศัยด้วยกันที่นี่ดุจเป็นวิมานทิพย์นั่นเอง”
“ฟังดูแล้วโรแมนติกจังเลยนะครับ”
“ใช่ แต่ว่าที่นี่ไม่ค่อยมีใครเข้ามาถึงกันนักหรอกเพราะว่าเส้นทางค่อนข้างไกลสลับซับซ้อนเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าถึง และน้ำตกแห่งนี้ก็เป็นทรัพยากรอันล้ำค่าและอุดมสมบูรณ์ของไร่เราด้วย คนภายนอกน้อยคนนักที่จะได้เห็น มีแต่คนสำคัญเท่านั้นที่จะได้รับการพามาที่น้ำตกนี้”
“แสดงว่าผม...เป็น...คนสำคัญ”
“ใช่!”
“...”
ผมนี่นะเป็นคนสำคัญของเขา ถึงขนาดที่เขาพามาที่น้ำตกลึกลับที่ซ่อนอยู่ใจกลางภูเขาเลย ไม่น่าเชื่อว่าเขาก็เป็นคนดีเหมือนกัน
“คุณเป็นคนสำคัญของคุณย่าน้อง”
“...!”
“ผมเลยพามาตามคำสั่งของคุณย่า”
“งะ...งั้นเหรอครับ จริงสินะครับ เพราะเป็นคำสั่งคุณย่า คุณถึงพาผมมา”
“อือ...ก็คงงั้นแหละ”
“...”
ว่าแล้วเชียวว่าทำไมถึงยอมลงแรงพาผมมา เป็นเพราะทำตามคำสั่งนั่นเอง เสียดายที่ผมคิดผิดไป
“ตอนที่เราขี่ม้ามาด้วยกันเหงื่อที่หลังคุณออกมาเยอะมากเลย กลัวเหรอ”
“เอ่อ...ปะ...ปล่าวครับ”
“ตอนนี้เสื้อของผมเปียกชุ่มเพราะเหงื่อของคุณไปหมดแล้ว”
“ขะ...ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมขอลงไปล้างตัวในน้ำตกประเดี๋ยวนะ”
“คะ...ครับ”
“คุณจะลงมาล้างตัวด้วยหรือเปล่าล่ะ”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ...ผะ...ผม...หนาว”
“งั้นก็ตามใจ รออยู่แถวนี้ก็แล้วกัน”
ฟึ่บ!
“เฮ้ย!...นะ...นี่คุณกำลังจะทำอะไรน่ะ ถอดเสื้อถอดกางเกงออกทำไม”
“ก็ผมจะลงไปในน้ำตก คุณจะให้ผมลงไปทั้งๆที่ใส่เสื้อผ้าทั้งชุดแบบนี้น่ะเหรอ”
นายตะวัน นายจะมาแก้ผ้าตรงนี้ไม่ได้นะ ถ้าไม่อายผมก็ควรจะอายผีสางเทวดาหรือนางอัปสรเจ้าของน้ำตกตัวจริงกันบ้างก็ยังดี...ทำไมทำกันแบบนี้ ผมไม่นึกเลยครับว่าจะมีผู้ชายมาแก้ผ้าต่อหน้าผม นายตะวันค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆจนเหลือแต่กางเกงใน Calvin Klein สีขาวสะอาดตา จากนั้นเขาก็โยนเสื้อผ้าทั้งหมดมาที่ผมและให้ผมนำไปผึ่งลมให้แห้ง ส่วนตัวเขาที่ล่อนจ้อนมีแค่กางเกงในปิดของสงวนไว้ตัวเดียวก็ค่อยๆเดินดุ่มลงไปในน้ำตกพร้อมแหวกว่ายในนั้นอย่างชื่นใจราวกับตัวเองเป็นปลาอยู่ในน้ำ แต่ด้วยความที่ว่าน้ำนั้นมันใสมากราวกับกระจก มันก็เลยทำให้ผมสามารถมองทะลุไปถึงไหนต่อถึงไหนเลยนี่ล่ะสิครับ ตอนนี้ผมเลยเห็นเหมือนมีพ่อปลาฉลามตัวใหญ่พร้อมลูกปลาช่อนตัวเขื่องที่เกาะติดมาพร้อมกันอยู่ตรงกลางลำตัวแถวหว่างขาของเขาแหวกว่ายเล่นน้ำอยู่อย่างสบายใจเฉิบโดยมีแค่กางเกงในสีขาวบางห่อหุ้มเอาไว้เพียงเท่านั้น
“คุณ! คุณเป็นอะไรน่ะ”
“คะ...ครับ ทำไมหรือครับ เกิดอะไรขึ้น”
“ก็คุณเลือดกำเดาไหลน่ะ”
“เลือดกำเดา?”
“ใช่! เลือดกำเดาไหลออกมาเลอะเสื้อคุณหมดแล้ว”
“เฮ้ยยยยย! ละ...เลือด...เลือดไหลออกมาเมื่อไหร่วะ”
“หยิบเสื้อของผมมาซับเลือดเอาไว้ก่อนเดี๋ยวผมจะรีบขึ้นไปดูคุณ”
“ดะ...ได้ครับ”
โอ้ยยยยย...ตายยยยยแล้ววววว ทำไมมันน่าขายหน้าแบบนี้ ไอ้เลือดกำเดาเจ้ากรรมทำไมมันมาไหลอะไรตอนนี้วะ แค่มองนายตะวันเล่นน้ำอยู่เท่านั้นเอง ทำไมมันเกิดอะไรขึ้นกับผมนี่ อายครับอายมากงานนี้ บอกเลยว่าไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนดี ทีนี้พ่อปลาฉลามไม่รอช้ารีบรุดขึ้นมาจากน้ำตก บึ่งเข้าช่วยผมเลยครับ
“คุณทำตามที่ผมบอกนะ คุณนั่งโน้มตัวไปด้านหน้าเอาไว้ แล้วเอานิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้บีบปีกจมูกเอาไว้ให้แน่นๆเลย จากนั้นคุณหายใจทางปากแทน รอเวลาสักราวห้าถึงสิบนาทีผ่านไป เลือดกำเดาก็น่าจะหยุดไหลแล้วล่ะ”
“คะ...ครับ”
ผมค่อยๆทำตามที่คุณตะวันบอกอย่างเก้ๆกังๆ
“เอาอย่างนี้ คุณเขยิบมานั่งข้างหลังผมนะ แล้วโน้มตัวลงมาเอาหน้าผากของคุณแนบกับหลังของผมเอาไว้ คุณจะได้ไม่เมื่อยคอ”
“...”
“เอ้า! อย่ามัวอืดอาดสิ มานี่มาเดี๋ยวผมทำเอง”
“...!”
คุณตะวันไม่รอช้า เขาเข้ามานั่งใกล้ๆผมแล้วให้ผมทำตามที่เขาบอก ตอนนี้หน้าผากของผมแนบชิดกับแผ่นหลังอันเรียบเนียนแต่บึกบึนของเขาแบบเต็มๆเลยครับ บรรยากาศรอบๆเราตอนนี้มีแต่เสียงน้ำตกไหลผ่านกระทบร่องหินดังซ่า แต่เสียงที่ผมได้ยินดังกว่าคือ เสียงหัวใจของคุณตะวันครับ ตอนนี้เสียงหัวใจของเขากำลังเต้นตุบๆราวกับตกใจไปว่าผมจะเป็นอะไร แต่ตอนนี้มันค่อยๆสงบลงแล้วครับ มีแต่เพียงเสียงลมหายใจของเราสองคนเท่านั้นที่โลดแล่นอยู่ ทำไมผมถึงรู้สึกหวิวใจยังไงก็ไม่รู้ครับเวลาที่ได้ซบคุณตะวัน ยิ่งขณะที่ผมหลับตาผมยิ่งรู้สึกสัมผัสได้ถึงไออุ่นเวลาที่เขาอยู่ใกล้ๆ มันรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆจนผมอยากจะอยู่แบบนี้ไปอีกนานๆ
“ผมว่าคุณคงเหนื่อยและพักผ่อนน้อย คุณย้ายตัวลงมานอนเลยแล้วกันนะ”
“นอน?”
“ใช่ นอน คุณลงมานอนหนุนตักผมนี่แหละ นอนพักสักหน่อยอาการน่าจะดีขึ้น เดี๋ยวผมประคองคุณเอง”
คุณตะวันค่อยๆประคองผมลงไปนอนหนุนตักของเขาครับ เขาค่อยๆจับศีรษะของผมอย่างแผ่วเบาแล้วช้อนลงไปที่ตักนุ่มแน่นของเขาครับ เขาบอกให้ผมเหยียดตัวตามสบายไม่ต้องเกร็ง และให้นอนในท่าที่ผ่อนคลายมากที่สุดครับ
“คุณนอนพักสักหน่อยนะ”
“ครับ ขอบคุณครับ คุณตะวัน”
“อืม”
บรรยากาศงดงามวิเศษขนาดนี้ ละอองน้ำตกเย็นฉ่ำ โอโซนบริสุทธิ์จากสายธาราและหมู่แมกไม้เขียวขจีผลิช่อผกานานาพรรณ เสียงวิหคตัวน้อยนิดร้องเรียกคู่เคล้าคลอเคลียหยอกกันไปมา ยิ่งทำให้ผมเริ่มเคลิ้มหลับได้ไม่ยากครับ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าคุณตะวันกำลังลูบหัวผมอย่างแผ่วเบาอยู่ก็ไม่รู้ หรือว่านี่จะเป็นฝันหวานที่นางอัปสรเสกสร้างขึ้นมาในวิมานทิพย์ของนาง สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของผมคือ ผมมีความสุขมากมายที่สุดดุจดั่งอยู่ในวิมานทิพย์เลยครับ เสียงน้ำตกไหลรินเรื่อยผ่านไปราวทำให้ตกอยู่ในภวังค์...
...ซ่าาา...ซ่าา...ซ่า...
...ซ่าาา...ซ่าา...ซ่า...
...ซ่าาา...ซ่าา...ซ่า...
.........ผม...ชอบคุณนะ..........
...ซ่า...ซ่าา...ซ่าาา...
...ซ่า...ซ่าา...ซ่าาา...
...ซ่า...ซ่าา...ซ่าาา
“คุณย่าว่าพี่ตะวันกับพี่บัลลาดยังทะเลาะกันอยู่อีกหรือเปล่าคะ”
“ย่าก็ไม่รู้เหมือนกันนะหลานฟ้า ว่าพวกเขาจะญาติดีกันหรือยัง”
“แต่พี่อิ่มกับพี่เอมคิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะคุณฟ้า”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิคะ ฟ้าชอบพี่บัลลาด ฟ้าอยากให้พี่บัลลาดอยู่กับเราที่นี่ไปตลอดเลยค่ะ”
“แหมยายฟ้า คิดเหมือนย่าเลยนะ ย่าก็อยากให้พ่อบัลลาดเขาอยู่กับเราต่อไปนานๆเหมือนกัน เผื่อว่าอาจจะมีอะไรๆในไร่ปลายฟ้านี้ช่วยเยียวยาพ่อบัลลาดได้บ้าง”
“คุณย่าหมายถึงอะไรหรือคะ เยียวยา”
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก”
“คุณย่า น้องฟ้า พี่อิ่ม พี่เอม มาทำอะไรกันอยู่ตรงนี้ครับ นั่งพร้อมหน้ากันเลยเชียว”
“อ้าว! ตาผา งานเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือจ๊ะ”
“ครับคุณย่า ไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ ผมจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
“แล้วพี่บัลลาดอยู่ไหนล่ะคะพี่ผา ทำไมพี่บัลลาดไม่มากับพี่ผาล่ะคะ”
“เผอิญพี่ผาต้องกลับมาสะสางงานนิดหน่อยน่ะครับน้องฟ้า พี่เลยฝากพี่ตะวันดูแลคุณบัลลาดแทนน่ะครับ”
“แล้วพี่ผาไม่กลัวว่าพี่สองคนนั้นเขาจะทะเลาะกันอีกเหรอคะ”
“ทะเลาะ? หมายความว่าไงครับน้องฟ้า”
“ก็พี่ตะวันน่ะสิคะ บอกว่าพี่บัลลาดเป็นคนไม่ดีจะมาหลอกลวงพวกเรา”
“หลอกลวง? ยังไงหรือครับ”
“ฟ้าก็ไม่รู้ค่ะ แต่ว่าเท่าที่ฟ้าเห็น พี่บัลลาดก็เป็นคนน่ารักดีนะคะ พี่ผาคิดเหมือนฟ้าไหมคะ”
“ครับ คุณบัลลาดเขาน่ารักดีครับ”
“มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยเท่านั้นเองล่ะ ย่าว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก”
“แล้วที่น้องฟ้าบอกมาอย่างนี้ เราให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันจะไม่เป็นอะไรหรือครับคุณย่า”
“ย่าว่าไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกนะ แต่น่าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นด้วยซ้ำไป”
“เรื่องดีๆเหรอครับ”
“ใช่แล้ว”
“เรื่องอะไรหรือคะคุณย่า”
“ย่าว่าพวกเราคอยดูกันต่อไปก็แล้วกันนะ”
“...อือ...อืม...อืม...”
“ตื่นแล้วเหรอคุณ”
“นี่กี่โมงแล้วครับ ผมนอนหลับไปนานเท่าไหร่”
“เริ่มเย็นแล้ว คุณนอนหลับไปพักใหญ่เลยล่ะ เล่นเอาผมขาชาเลย”
ผมนี่รีบลุกขึ้นจากตักคุณตะวันอย่างว่องไวเลยครับ ผมมาทำเลือดกำเดาไหลให้ขายหน้าเขา มิหนำซ้ำยังเป็นภาระให้เขาคอยช่วยเหลือ แล้วผมยังมานอนหลับอุตุจนเขาถูกเหน็บกินขาอีก ผมนี่อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนแล้วครับ
“ขอโทษครับคุณตะวัน ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณขาชานะครับ เดี๋ยวผมนวดให้นะครับ ตรงนี้ใช่ไหมครับ”
“โอ๊ยยยยย!...เจ็บๆๆ เบาๆมือหน่อยก็ได้คุณ นี่กะจะเอาให้เดินกันไม่ได้เลยเหรอ”
“ขอโทษครับ เดี๋ยวผมทำเบาๆครับ แรงแค่นี้พอไหมครับ”
“อืม...ดี กำลังดี ใช้ได้เลย อย่างนั้นแหละ”
“ครับ ถ้าคุณปวดเมื่อยหรือเหน็บชาตรงไหนก็บอกมานะครับ เดี๋ยวผมนวดให้ครับ”
“ขอบคุณนะ แค่นี้ก็ดีขึ้นแล้ว”
“ครับ”
“เดี๋ยวเรากลับกันเลยดีกว่า แสงกำลังจะหมดแล้ว และผมว่าคุณก็น่าจะเริ่มหิวแล้วด้วย จริงไหม”
“...ครับ”
พ่อคุณเอ๊ยยยยย...ทำไมถึงได้รู้ดีไปหมดทุกเรื่องเลย ขนาดท้องเราร้องจ๊อกๆเบาๆยังได้ยินเสียงอีก แต่งานนี้ก็ต้องขอบคุณเขานะที่มีน้ำใจช่วยผมไม่อย่างนั้นผมแย่แน่เลย
“เดี๋ยวขอผมใส่เสื้อผ้าก่อนนะ แล้วเราค่อยกลับกัน”
“ได้ครับ...เอ่อ...แล้วก่อนหน้านี้ที่ผมนอนหลับไป คุณตะวันไม่หนาวหรือครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่เท่าไหร่”
“ผม...ขอบคุณคุณตะวันมากครับ”
“...อือ”
สิ้นบทสนทนา คุณตะวันก็แต่งตัวเสร็จพอดี จากนั้นเขาก็เดินไปยังเจ้าพายุที่ถูกผูกเชือกเอาไว้กับต้นไม้ใกล้ๆ ส่วนผมก็เดินตามเขาไปเหมือนเดิมครับ และอีกครั้งที่ผมได้นั่งชิดกับเขาบนอานม้าตอนขากลับครับ ซึ่งผมก็ยังรู้สึกตื่นเต้นและหวิวใจเหมือนเดิมครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะห้ามความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร มันคอยที่จะผุดจากข้างในออกมาเรื่อยๆอยู่ตลอดเวลา แถมผมยังรู้สึกกึ่งแปลกใจกึ่งรู้สึกดีกับมันด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นอย่างนี้เรื่อยไปไหม
“เดี๋ยวเราค่อยๆไปก็แล้วกัน ถ้าสะเทือนมากเดี๋ยวคุณจะไม่สบายอีก”
“ครับ”
“ว่าแต่คุณมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ดีๆถึงเลือดกำเดาไหลได้ หรือเพราะไม่ถูกกับอากาศที่นี่”
“...เอ่อ...ที่ผมเลือดกำเดาไหลก็เพราะ...”
โอ๊ยยยยย...จะเพราะอะไรล่ะ ก็เพราะปลาช่อนตัวเขื่องของนายนั่นแหละนายตะวัน เล่นมาแก้ผ้าล่อนจ้อนถอดโชว์ผมเกือบหมด แต่นี่ยังดีนะที่ยังเหลือชิ้นสุดท้ายกันของสงวนเอาไว้ แล้วดันลงไปเล่นน้ำตกใสแจ๋วขนาดนั้น ใส่กางเกงในสีขาวมันก็เห็นทะลุไปถึงไหนต่อถึงไหนน่ะสิ แค่ย้อนกลับไปหวนคิดก็พาลเอาเลือดกำเดาจะพุ่งอีกรอบแล้วนี่
“เพราะอะไรเหรอ?”
“เพราะ...อากาศมันหนาวๆน่ะครับ จมูกมันเลยแห้งจนเลือดไหลมั้งครับ”
“ไหนขอผมดูหน่อยสิ”
หลังจากพูดจบ คุณตะวันก็หยุดเจ้าพายุให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ครับ แล้วเขาก็ใช้ฝ่ามือของเขาทั้งสองข้างจับลงบนแก้มของผมแล้วจับผมให้หันหน้าไปทางเขาครับ
“น่าจะดีขึ้นแล้วนะ”
“คะ...ครับ”
ตอนนี้หน้าของเราสองคนเกือบจะชนกันแล้ว ห่างกันแค่เพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น แสงสุริยาขณะใกล้ร้างลาลับเส้นขอบฟ้าตกกระทบลงบนม่านตาของเขา มันดูสะอาดใสแวววาวพร่างพราวราวมณีละเล่นแสงอัคคีฉายส่องระยิบระยับ ผมมองเห็นหน้าของตัวเองที่ตอนนี้สะท้อนจากกระจกตาของเขา แก้มของผมมันแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุกไปหมดแล้ว ลมหายใจยังยักย้ายถ่ายเทไปมาระหว่างประสานสายตา ไออุ่นนั้นตกกระทบลงบนใบหน้ายิ่งทำให้รู้สึกวาบหวามในอก อากาศภายนอกที่เย็นซ่านกลับมิอาจดับร้อนที่สุมทรวงได้ ทำไมเขาถึงได้มีเสน่ห์ร้ายเหลือถึงเพียงนี้
“ถ้าไม่เป็นไรแล้วเราก็ไปกันต่อนะ”
“ครับ”
ทินกรเริ่มจรจากขอบฟ้า ไอเย็นจากขุนเขายะเยือกขึ้นแต่ไออุ่นจากกายเขากลับไม่ลดลง มันยิ่งทวีคูณขึ้นทุกครั้งที่แนบชิดใกล้ สายลมหนาวลอยผ่านไหลไปมาทั่วใบหน้าและสรรพางค์กายแต่มิวายวอดสิ้นไฟกายาเคียงเคล้าคู่
“คุณบัลลาด”
“ครับ”
“คุณ...เอ่อ...จะกลับไปกรุงเทพเมื่อไหร่”
“ก็คงจะสักพักมั้งครับเพราะผมยังไม่ได้ไอเดียในการเขียนนิยายรักโรแมนติกเลยครับ”
“...”
“แต่ถ้าคุณตะวันไม่สะดวกใจ ผม...จะพยายามและรีบกลับกรุงเทพให้เร็วที่สุดครับ”
“...”
“เพราะผมรู้ว่าคุณ...คงไม่ค่อยชอบผมสักเท่าใดนัก มันก็อาจจะเป็นการดีสำหรับคุณ ถ้าหากว่าผมทำงานเสร็จไวแล้วรีบกลับบ้านที่กรุงเทพ คุณก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจด้วยหากมีผมอยู่คอยขวางหูขวางตาคุณ”
“...”
“...”
“คุณบัลลาด”
“ครับ”
“คุณ...จะอยู่ที่นี่ต่อเรื่อยๆก็ได้นะ”
“อะ...อะไรนะครับ”
“ผมบอกว่า คุณจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกเรื่อยๆก็ได้นะ”
“จริงเหรอครับ”
“จริง”
“...”
“เพราะคุณย่าน้องท่านจะได้มีคนคุยแก้เหงาด้วย และดูเหมือนทั้งภูผาและน้องฟ้าก็คงอยากจะให้คุณอยู่ต่อ”
“อ๋อ...เป็นอย่างนี้นี่เอง”
“...”
“แล้ว...เอ่อ...”
“อะไร”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไรครับ”
“...”
“...แล้วคุณตะวันล่ะครับ คุณต้องการให้ผมอยู่ที่นี่ต่อหรือเปล่า...”
...ผมได้แต่เพียงถามเขาอยู่ในใจไม่กล้าที่จะพูดออกไปเพราะมันอาจจะดูไม่ดีนักในสายตาของเขา เขาอาจจะมองว่าผมจะมาเกาะติดครอบครัวของเขาก็ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ผมเป็นเพียงแค่คนอื่นคนไกลเท่านั้นที่หลงเข้ามาในไร่ปลายฟ้านี้ ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตามแต่ ผมคงไม่อาจปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ และแม้ว่าผมจะรู้สึกดีกับคนที่นี่และสถานที่นี้มากแค่ไหน แต่ยังไงสักวันหนึ่งผมก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตของผมที่กรุงเทพเหมือนเดิม ดังนั้นจะถามหรือไม่ถามคุณตะวัน สุดท้ายแล้วผมก็ต้องลาจากไปอยู่ดี
...โดยไม่มีคำพูดใดๆ เราสองคนขี่เจ้าพายุกลับเรือนไปอย่างไม่เอื้อนเอ่ยวาจา
“เอาล่ะ ถึงเรือนสักทีนะ เดี๋ยวผมลงก่อนคุณค่อยลงตามนะ”
“ครับ”
“ค่อยๆลงนะ ระวังๆล่ะ เอ้า! หนึ่ง สอง สาม...”
“ครับ...ฮะ...เฮ้ย!”
“ระวัง!”
พรวด!
ด้วยความเหม่อและใจลอยของผมเองที่ไม่ระวังตัวจึงทำให้ผมลื่นไถลลงจากอานม้า แต่เคราะห์ดีที่คุณตะวันคว้าตัวผมเอาไว้ได้ทันท่วงทีก่อนที่เราสองคนจะล้มตัวลงไปนอนบนพื้นหญ้าโดยเขาใช้ร่างของเขาเป็นเบาะรองรับผมเอาไว้ และแล้ว...
จุ๊บ!
...ปากของเราดันไปเผลอบดขยี้กันตอนไหนก็ไม่รู้...
TBC.
แหม ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะรู้คราวนี้แหละว่ามีปลาฉลามกับปลาช่อนอาศัยอยู่ในน้ำตกด้วย เล่นทำเอาน้องบัลลาดของเราเสียเลือดเป็นปี๊บ คิกๆๆ ส่วนอีพี่ตะวันนี่ก็ยั่วยวนสุดฤทธิ์ พี่หวังอะไรของพี่หรือเปล่า เอ...หรือว่าเพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันเลยไม่คิดอะไรหว่า นึกจะถอดเสื้อถอดผ้าก็ถอดเลยเนอะ แถมตบท้ายก็มีจุ๊บเจิ๊บอะไรกันอี๊ก ไม่รู้งานนี้ใครกันแน่ที่เป็นจอมวายร้าย ฮ่าๆๆๆ
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยจ้า เลิฟยูนะคนอ่านผู้น่ารักของเขา :ruready :m25: :L1:
มีคนเคยถามผมว่าผมหล่อไหม ผมตอบไปว่าผมไม่รู้สิแต่ชีวิตนี้ไม่เคยขาดหญิงที่ต่อคิวรอเข้าหาผม แต่ถ้าถามผมว่าผมเรียนเก่งไหม ผมก็ตอบว่าผมเรียนได้เกรดเอทุกวิชา และถ้าหากผมทำวิทยานิพนธ์สำเร็จ ผมก็ว่าจะเรียนต่อดร.ทันที ผมก็เลยบินมาหาเพื่อนผมถึงไร่ปลายฟ้าเพื่อทำตามแผนที่วางเอาไว้ แต่มันผิดแผนก็อีตรงที่ผมได้แฟนติดไม้ติดมือมาด้วยนี่สิ คุณคิดว่าดีไหมล่ะ ฮ่าๆๆ
ผา x ป้อม
"แบบนี้นะครับคุณป้อม....จับมันเอาไว้ให้เต็มกำมือแล้วค่อยๆคลึงค่อยๆขยำมันไปจนมันเริ่มฟูขึ้นนะครับ"
คุณ...ผา...อ๊าาาาา...ฟูแล้วครับ...
******696969696969696969696969696969696969696969******
Chapter 12
แอบปลื้ม
“บัลลาดๆ ตื่นหรือยัง”
“อืม...อือ”
“ไอ้นี่มันขี้เซาจังเลยเว้ย ไอ้บัลลาด”
“โอ๊ย...อย่ากวนกู...กูจะนอน”
“เออ นั้นมึงนอนไปเลย กูขอไปวิ่งออกกำลังกายสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนนะ”
“อืม...”
“อ้าว หลับไปเลยนะมึง กูไปดีกว่า”
เช้านี้เป็นวันแรกครับที่ผมออกมาวิ่งเหยาะท่ามกลางธรรมชาติสวยงามพร้อมอากาศบริสุทธิ์ให้สูดเข้าปอดอย่างสดชื่นหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์โดยไม่ต้องทนสูดเขม่าควันพิษเหมือนตอนอยู่ที่กรุงเทพครับ การที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อมาหาข้อมูลทำวิทยานิพนธ์ครับ ถ้าผมสามารถปิดเคสนี้ได้ ผมก็กะว่าจะเรียนต่อระดับปริญญาเอกเลยครับ ก็อย่างว่า คนมันไฟแรงนี่นะ แต่จริงๆแล้วผมมาที่นี่ก็เพราะเป็นห่วงไอ้บัลลาดมันด้วยล่ะครับ ผมอยากจะมาดูด้วยว่าเพื่อนผมยังอยู่ดีมีสุขอยู่หรือเปล่า พอเห็นมันโอเค ผมก็สบายใจครับ
“อากาศที่นี่แม่งโคตรสดชื่นดีจริงๆเลยว่ะ สวรรค์บนดินชัดๆ ไอ้บัลลาดนี่นะไอ้ขี้เซา มึงพลาดของดีแล้ว มัวแต่นอนหลับอุตุลูกเดียว นอนมากๆเดี๋ยวก็กลายเป็นหมูเข้าสักวัน”
ผมวิ่งไปเรื่อยๆครับ ไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็เพราะผมอยากจะชมธรรมชาติสวยๆของไร่ปลายฟ้าไปด้วยครับ แต่พอวิ่งไปสักพักหนึ่ง ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครก็ไม่รู้วิ่งตามหลังผมมาครับ และตอนนี้เสียงฝีเท้านั้นก็เข้ามาประชิดผมเเล้วครับ
“อรุณสวัสดิ์ครับ ออกมาวิ่งแต่เช้าเลยนะครับ”
ใครก็ไม่รู้ อยู่ดีๆก็เข้ามาทักผม แต่ผมก็ไม่ได้หยุดวิ่งนะครับ เพราะตอนนี้ผมกำลังเบิร์นได้ที่เลย แต่เขาก็ยังคงวิ่งตามผมมาข้างๆครับ แล้วก็เพราะด้วยความสงสัยว่าเขาคนนี้เป็นใครกันแน่ ผมจึงเอ่ยคำถามออกไปยังเขาคนนั้น
“ขอโทษนะครับ คุณเป็นใครครับ?”
“อ้อ! ผมก็ลืมแนะนำตัว ผมชื่อภูผาครับ ผมเป็นหลานคุณย่าน้องครับ เห็นคุณย่าบอกว่ามีเพื่อนคุณบัลลาดมาหาที่ไร่ของเรา ผมคิดว่าน่าจะเป็นคุณครับ เพราะผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน”
“อ๋อ หลานคุณย่าน้องนี่เอง สวัสดีครับคุณภูผา ผมชื่อทรงยศครับ เรียกผมว่าป้อมก็ได้นะครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณป้อม”
“เช่นเดียวกันครับ”
“คุณชอบออกมาวิ่งเหยาะตอนเช้าๆด้วยเหรอครับ”
“ใช่ครับ ผมว่าสุขภาพร่างกายเป็นเรื่องสำคัญนะครับ และมันก็ทำให้สมองปลอดโปร่งด้วยครับ”
“ดีจังเลยนะครับ แล้วคุณบัลลาดไม่ได้ออกมาวิ่งด้วยเหรอครับ”
“โอ๊ย ขานั้นผมปลุกมันให้มาวิ่งเป็นเพื่อนด้วยกันแล้วครับแต่มันก็นอนต่อ ผมล่ะเบื่อมันจริงๆไอ้หมอนี่”
“ดูท่าทางคุณสองคนจะสนิทกันมากนะครับ”
“มากที่สุดเลยครับ เรียกได้ว่าไอ้บัลลาดเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมก็ว่าได้”
“ว่าแต่ เราจะวิ่งไปคุยไปแบบนี้เหรอครับ”
“อ้าว ผมก็ลืม นั้นเราหยุดวิ่งแล้วไปนั่งพักก่อนก็แล้วกันครับ”
“ดีครับ”
ตอนนี้เราสองคนมานั่งพักอยู่ที่ริมทะเลสาบครับ คนที่นี่เขาดีกันจริงๆเลยครับ หนึ่งในนั้นก็คุณภูผานี่แหละ เขาเป็นคนที่อัธยาศัยดีมากคนหนึ่งเลยครับ ผมสัมผัสได้จากการมองแววตาคุณภูผา ผมก็มองออกแล้วครับ
“คุณภูผาก็ชอบออกกำลังกายเหรอครับ”
“ใช่ครับ ผมรู้สึกสบายใจครับเวลาได้เสียเหงื่อไปกับการวิ่งตอนเช้าๆ”
“ท่าทางคุณจะชอบออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะครับ เพราะรูปร่างคุณดีมาก แค่เห็นมัดกล้ามผมก็รู้แล้วครับ”
“แต่คงไม่เท่าคุณป้อมหรอกครับ จริงไหมครับ”
“ก็น่าจะจริงครับ ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ”
ผมกับคุณภูผา เราสองคนต่างคุยกันถูกคอ ชื่นชอบในอัธยาศัยซึ่งกันและกัน เราทั้งสองคนต่างหัวเราะร่วนเลยครับ
“ผมขอถามคุณป้อมได้ไหมครับ”
“อะไรหรือครับ”
“คุณบัลลาดเขามาที่นี่ แฟนเขาไม่เป็นห่วงหรือครับ”
“โอ๊ย...ไอ้บัลลาดมันโสดครับ มันรักความสันโดษน่ะไอ้นักเขียนนี่ วันๆมันก็ขลุกอยู่แต่ในคอนโดของมัน มันไม่ชอบออกไปไหนหรอกครับ แล้วอย่างนี้มันจะเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟนล่ะครับ แค่มันมาตั้งไกลถึงที่นี่ผมก็ประหลาดใจจะแย่แล้วครับ ยิ่งนึกยิ่งขำ ไอ้บ้าเอ๊ย ฮ่าๆๆๆ”
“เหรอครับ”
“แล้วคุณภูผาอยากจะรู้ไปทำไมเหรอครับ”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไรครับ”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปวิ่งกันต่อดีไหมครับ”
“ไปครับไป”
เราสองคนวิ่งกันมาสักพัก คุณภูผาก็วิ่งนำทางผมมาส่งเรือนที่ผมนอนเมื่อคืนครับ
“ถ้ายังไงว่างๆก็ออกมาวิ่งด้วยกันอีกนะครับ”
“ครับ คุณภูผา”
“เอาไว้เจอกันครับ”
“ครับผม”
จากนั้นผมก็ขึ้นเรือนไปครับ พอเข้าไปในห้องก็ยังเห็นไอ้บัลลาดมันหลับอยู่เลย นี่มันคนหรือแมววะ นอนเอาโล่เลยนะมึง ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เหนียวตัวจะแย่แล้ว ผ้าขนหนูๆ อ้อ...ผ้าขนหนูอยู่นี่เอง เอาล่ะ ถอดเสื้อผ้ากางเกงในเสร็จเรียบร้อยก็โยนลงตะกร้าแล้วไปอาบน้ำดีกว่าจะได้สดชื่น กระจกๆอยู่ไหน ขอส่องกล้ามตัวเองหน่อยสิว่าไปถึงไหนแล้ว อืม...ใช้ได้เลย หุ่นลีนฟิตดีจริงๆเรา ยิ่งพอนุ่งแต่ผ้าขนหนูผืนเดียวยิ่งเห็นลอนกล้ามชัดเจน เอ๊ะ! นั่นใครมายืนอยู่ตรงนั้นน่ะ
“คุณป้อมครับ ผมภูผาเอง คุณช่วยลงมาเอาของใช้ส่วนตัวหน่อยครับ คุณย่าให้พี่อิ่มพี่เอมเอามาให้ แต่ผมเจอพี่แกกลางทางพอดี ผมก็เลยอาสาเอามาให้แทนครับ”
“ครับๆ เดี๋ยวผมลงไปเอาครับ”
คุณภูผาแกนี่ดีนะครับ อุตส่าห์วิ่งกลับมาเอาของมาให้ ผมต้องรีบวิ่งไปเอาแล้ว เดี๋ยวแกยืนรอนานจะเสียมารยาท
“มาแล้วครับ มาแล้ววววว”
พรึ่ด!
“เฮ้ยยยยย! เชี่ยยยยย...”
“คุณป้อมระวัง!”
ฟุ่บ!
โอ๊ย! ไอ้พื้นบ้า! ทำไมมันลื่นอย่างนี้วะ โชคดีนะที่ผมคว้าราวบันไดเอาไว้ได้ทัน ยังสามารถทรงตัวไม่หัวทิ่มให้อับอายขายขี้หน้าคุณภูผา ถึงแม้ว่าผมจะเซถลามาหาเขา จนเขาต้องคว้าตัวผมมาประคองเอาไว้ก็เถอะ
“เกือบไปแล้วเชียว หัวเกือบทิ่มเข้าแล้ว ขอโทษครับคุณภูผาที่ผมซุ่มซ่ามเดินไม่ระวังและก็ขอบคุณครับที่คุณจับผมไว้ทัน”
“...”
“คุณภูผาครับ เป็นอะไรไปครับ?”
“...”
“คุณภูผา หลับตาปี๋เลย ฝุ่นเข้าตาหรือครับ”
“เอ่อ...ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้ฝุ่นเข้าตา แต่...”
“แต่อะไรครับ”
“เอ่อ...คือว่า...ผ้าขนหนูของคุณมันหลุดลงมากองกับพื้นแล้วครับ”
“ผ้าขนหนู...หลุด...ลง...มากอง...กับ...พื้น...”
“ใช่ครับ”
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยย! ฉิบหายแล้ววววววววววว...เชี่ยยยยยยยยยย!”
ผมนี่รีบคว้าผ้าขนหนูขึ้นมานุ่งด้วยความไวแสงเลยครับ จากนั้นก็รีบพุ่งขึ้นบนเรือนแบบไม่คิดชีวิต ทำไมวะ ทำไมต้องมาแก้ผ้าให้ผู้ชายด้วยกันเองดูแบบนี้ด้วยวะนี่กู ไอ้ป้อมเอ๊ยยยยยย โอ๊ยยยยยยย แม่ง...อยากจะวิ่งรอบสนามสักสิบรอบให้หายขายขี้หน้า อ๊ากกกกกกกกกกก...
“นั้นผมวางของไว้ตรงนี้นะครับ ผมไปละครับ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปครับ ได้แต่รีบวิ่งมาเข้าห้องน้ำให้เร็วที่สุด ก่อนที่หน้าของผมจะแตกละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้มันก็ร้าวร่วงหล่นแทบไม่เหลือเค้าเดิมแล้วครับ คุณภูผาเองก็คงทนเห็นภาพอุจาดตาแบบนี้ไม่ไหวเหมือนกัน โอ๊ยกู! ทำไมต้องมาตกม้าตายตอนนี้ด้วยวะ นี่อุตส่าห์จะเริ่มเช้าวันแรกให้ดีๆ แม่งก็มาแก้ผ้าให้หลานชายคุณย่าดูเลย โธ่เว้ยยยยยยยยย...
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”
“เชี่ย! เสียงใครร้องวะ ใครเป็นอะไร เฮ้ย! ไอ้ป้อม เสียงมึงรึเปล่าวะ มึงเป็นอะไรของมึง เล่นทำเอากูตกใจตื่นเลย”
“เออ! เสียงกูเอง กูไม่ได้เป็นอะไร กูแค่อยากร้อง มึงไปนอนต่อเลยไป”
“โอ๊ย มึงเล่นแหกปากตะโกนลั่นจนเรือนสะเทือนขนาดนี้ กูหลับไม่ลงแล้วเว้ย”
“นั้นก็ดี มึงตื่นมาเป็นเพื่อนกูได้แล้ว ไม่รู้จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน ไม่ต้องถามกูแล้วนะ กูจะอาบน้ำ”
“เป็นอะไรของมันวะ ไอ้นี่ สงสัยไปวิ่งเหยียบขี้หมามาแหงเลย ประสาทว่ะ เฮ้อ...”
“ไอ้ป้อมเอ๊ยไอ้ป้อม ทำไมมึงต้องทำตัวขายหน้าเขาด้วยวะ” ผมบ่นกับตัวผมเองขณะที่ผมเอาน้ำเย็นๆจากฝักบัวรดหัวร้อนๆของผม อย่างนี้ถ้าผมเจอหน้าคุณภูผาอีกทีแล้วผมจะทำตัวยังไงดีนี่ โอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งเครียด ผ้าหนอผ้า ทำไมเอ็งต้องมาหลุดผิดที่ผิดทางด้วยวะ เฮ้อ...
หลังจากผมอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวรอไอ้บัลลาดมันอาบน้ำต่อครับ จนมันอาบน้ำเสร็จนั่นแหละ มันก็ออกมา
“เดี๋ยวกูพามึงไปกินข้าวเช้านะ”
“ที่ไหนวะมึง ในตัวเมืองหรือวะ ก็ดีนะเพราะกูอยากจะลองกินขนมจีนน้ำเงี้ยวแบบต้นตำรับอยู่พอดีเลยว่ะ มาถึงที่นี่ถ้าไม่ได้กินก็เหมือนมาไม่ถึงหรือเปล่าวะ ฮ่าๆๆๆ”
“โนๆๆๆไอ้ป้อม กูจะพามึงขึ้นไปกินข้าวบนเรือนคุณย่านี่แหละ ถ้ามึงไม่ได้ลองกินนะถือว่ามึงพลาดมากเลยว่ะ ไม่ใช่แค่มึงมาไม่ถึงอย่างเดียวนะ มึงยังไถลออกนอกถนนไปเลย”
“ไอ้ขี้โม้ ขนาดนั้นเลย”
“เออ กูไม่ได้โม้ เพราะบ้านนี้เขาทำอาหารอร่อยจริง โดยเฉพาะคุณภูผานะมึงที่สุดของที่สุดไปเลยว่ะ”
“คุณภูผา!?”
“เออ คุณภูผา เขาเป็นเชฟ เขาทำอาหารโคตรอร่อยเลยมึง กูได้กินอาหารที่เขาทำมาให้กูกินครั้งแรกนะ กูนี่ลืมอาหารทุกอย่างที่กูเคยกินมาทั้งชีวิตเลยว่ะ รสชาติแม่งเทียบกันไม่ติดไม่เห็นฝุ่นเลยด้วยซ้ำ กูรับรอง ถ้ามึงมีวาสนาได้กินนะ มึงจะติดใจ เพราะคุณภูผาทำอาหารเก่งและอร่อยมากก็จริง แต่เขาไม่ค่อยได้ทำบ่อยหรอกมึง”
“เออ”
“เป็นอะไรของมึงวะ กูบรรยายมาเสียยืดยาว มึงตอบกูคำเดียวว่าเออ”
“เออ”
“ไอ้นี่แม่งกวนว่ะ ไปๆกูหิวข้าวแล้ว”
“เออ”
ผมจะต้องไปเจอคุณภูผาจริงๆใช่ไหมครับ โอ๊ย ผมยังหน้าชาไม่หายเลย เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตีมึนไปเดี๋ยวเรื่องน่าอายก็ผ่านไปเอง
“มากันแล้วเหรอหนุ่มๆ ย่ารอกินข้าวอยู่พอดีเลยเชียว มาๆกินข้าวกันก่อนที่กับข้าวจะเย็นไปเสียก่อน”
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณย่า วันนี้ผมพาไอ้ป้อมมาด้วยนะครับ”
“อรุณสวัสดิ์ครับ ป้อมรบกวนด้วยนะครับคุณย่า”
“จ้า มาเลย ย่ายินดี เห็นหลานๆมากินข้าวกับย่า แค่นี้ย่าก็ชื่นใจแล้ว”
“สวัสดีค่ะพี่บัลลาด”
“สวัสดีครับน้องฟ้า พี่บัลลาดขอแนะนำเพื่อนซี้พี่บัลลาดอย่างเป็นทางการนะครับ น้องฟ้าครับ พี่คนนี้ชื่อพี่ป้อมนะครับ ส่วนไอ้ป้อมสาวน้อยคนนี้เป็นหลานคุณย่าอีกคนหนึ่งชื่อน้องฟ้า”
“สวัสดีค่ะพี่ป้อม ยินดีต้อนรับพี่ป้อมสู่ไร่ปลายฟ้านะคะ”
“สวัสดีครับน้องฟ้า ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“แม่อิ่มแม่เอมแล้วหลานชายฉันหายไปไหนอีกแล้วล่ะ”
“คุณๆกำลังขึ้นมาแล้วค่ะ อิ่มกับเอมไปตามมาแล้วค่ะคุณย่า”
“พูดยังไม่ทันขาดคำก็มาพร้อมกันสองคนเลยหลานชายสุดที่รักของฉัน มาเร็วพ่อตะวัน พ่อภูผา มากินข้าวพร้อมกัน มานี่มา”
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณย่า”
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
“พ่อป้อม รู้จักกับหลานชายย่าหรือยังจ๊ะ มาทำความรู้จักกันหน่อยมา พ่อรูปหล่อคนนี้น่ะชื่อตะวัน เป็นหลานชายคนโตของย่าเอง”
“สวัสดีครับ ผมทรงยศหรือจะเรียกผมว่าป้อมก็ได้ครับ”
“สวัสดีครับ ผมทิพากรหรือตะวันครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ส่วนอีกคนที่รูปหล่อไม่แพ้พี่ชายชื่อว่า...”
“คุณย่าครับ เรารู้จักกันแล้วครับ ผมเจอคุณป้อมวิ่งออกกำลังกายเมื่อตอนเช้าอยู่พอดีครับ เลยเข้าไปทำความรู้จักมาเรียบร้อยแล้ว”
“อ้าว รู้จักกันแล้วเหรอ ดีๆๆ ย่าจะได้ไม่ต้องแนะนำซ้ำอีกรอบ นั้นก็ตามสบายกันเลยนะ”
เวลาที่ผมเห็นคุณภูผา เหตุการณ์อุจาดตานั้นก็ตามมาหลอกหลอนผมเหมือนเป็นเงาตามตัวเลยครับ ผมนี่ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดแล้วไม่รู้จะทำหน้าตายังไงดี ยิ่งคิดยิ่งน่าขายหน้าครับ ผมได้แต่หลบสายตาคุณภูผา ไม่กล้ามองเขาตรงๆเหมือนตอนที่วิ่งเหยาะกับเขาครับ ก็คนมันอายนี่นาจะให้ทำอย่างไรล่ะครับ แต่ดูท่าทีของคุณภูผา เขาก็เฉยๆนะครับ สงสัยเขาก็ไม่ได้อยากจะมาเจออะไรแบบนี้เหมือนกันนั่นล่ะครับ ดีหน่อย หายเครียดไประดับหนึ่งแล้วเรา
“มาๆ กินข้าวกันดีกว่า วันนี้พ่อผาเขาลงครัวเองอีกแล้วนะ มาเริ่มกินกันเลย”
อยู่ดีๆไอ้บัลลาดก็เอาข้อศอกมันมากระทุ้งผมครับ เหมือนว่าจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้ผมรู้ตัว ถ้าไม่ผิดอะไรก็คงเป็นเรื่องรสชาติอาหารฝีมือคุณภูผาที่มันเล่าให้ผมฟังเมื่อเช้านั่นล่ะครับ
“คุณป้อมลองกินนี่ดูนะครับ ผมลองคิดสูตรใหม่ขึ้นมา คุณน่าจะชอบครับ”
คุณภูผาไม่รอช้าครับ ตักอาหารมาให้ผมได้ลองชิม ผมก็ไม่ขัดศรัทธาครับ เลยกินคำเดียวหมดเลยครับ หลังจากได้ชิมแล้วก็...
“เชี่ย!”
“...!?”...
ทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียวกันหมดเลยครับหลังจากที่ผมเผลออุทานคำที่ไม่น่าจะไพเราะออกไป
“คุณป้อมไม่ชอบเหรอครับ หรือว่ามันไม่อร่อย”
อยู่ดีๆน้ำตาผมก็ร่วงลงมาครับ คือแบบว่า แม่ง!...โคตรของโคตรของโคตรของโคตรอร่อยเลยอะ แม่งคือไอ้บัลลาดมันไม่ได้โม้จริงๆด้วย ผมไม่เคยกินอาหารอะไรที่มันอร่อยได้ถึงสุดยอดเยี่ยงนี้มาก่อนเลยในชีวิต ทุกอย่างมันลงตัวไปหมดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาของอาหาร รสชาติ กลิ่นหอม ส่วนผสมทุกอย่างที่อาหารจานนี้ส่งตรงมาถึงประสาทสัมผัสทุกส่วนของผม บอกได้คำเดียวเลยครับว่า...
“สมบูรณ์แบบ!”
“นั่น! ถึงกับน้ำตาไหลเลยเหรอมึง ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ไร้ที่ติจริงๆด้วยว่ะ”
“กูบอกแล้วว่ากูไม่ได้โม้ คุณภูผาทำอาหารเลิศจริงๆ ใช่ไหมครับคุณภูผา”
“ขอบคุณครับคุณบัลลาด ถ้าอาหารที่ผมทำรสชาติดี คุณป้อมก็กินเยอะๆนะครับ”
“ครับผม”
“มีคนมาหลงสเน่ห์ปลายจวักของพ่อผาอีกคนแล้วนะ ย่าว่าแล้วพ่อป้อมต้องชอบ ฮ่าๆๆ”
“มึงอย่าเหมาหมดคนเดียวนะเว้ย เกรงใจเจ้าบ้านเขาบ้าง”
“เออ กูรู้แล้วน่ะ”
“เอ้า กินกันต่อเลย ย่ากินต่อไม่รอแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ”
หลังจากที่เราทุกคนกินอาหารจนหมดเกลี้ยง คุณย่าก็เรียกคุณตะวันเข้าไปในห้องครับเหมือนว่าจะคุยธุระกัน ส่วนน้องฟ้าก็ขอตัวไปทำการบ้านครับ ก็เหลือผม ไอ้บัลลาด แล้วก็คุณภูผา
“เดี๋ยวผาขอตัวไปช่วยพี่อิ่มพี่เอมล้างภาชนะต่างๆก่อนนะครับ”
“เฮ้ยมึง! อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ล้างถ้วยล้างชามของท่านให้เกลี้ยง”
“มึงมามุกไหนของมึงวะไอ้ป้อม”
“ก็กูว่าให้เราไปช่วยเขาทำงานบ้างก็ดีนะ”
“เออว่ะ มึงนี่ก็คิดดีทำดีเป็นเหมือนกันนะไอ้ป้อม”
“กูดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเว้ย”
“งั้นคุณผาครับ เดี๋ยวพวกเราขอไปช่วยคุณนะครับ”
“ได้ครับ ตามมาเลยครับ”
พอมาถึงในครัว เราก็ช่วยกันตั้งหน้าตั้งตาล้างจานชามที่เราเพิ่งจะกินกันหมดไปเมื่อกี้นี้ครับ รวมทั้งภาชนะอื่นๆที่ใช้ในการประกอบอาหารด้วย
“คุณภูผานี่ดีนะครับ กินเสร็จก็มาช่วยล้างด้วย”
“ก็คนที่รักจะทำอาหารก็ต้องทำให้ครบทำให้เป็นทุกอย่างนั่นแหละครับ ผมทำจนชินแล้วครับ ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระอะไร”
ผมฟังทั้งไอ้บัลลาดกับคุณภูผาคุยกันไปคุยกันมาจนเพลินเลยครับ มือผมก็ล้างจานไปด้วย สองคนนี้ดูแล้วเข้ากันได้ดีเลยทีเดียวครับ ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรหรอกครับ เพราะไอ้บัลลาดความจริงมันก็คุยสนุกครับถ้าลองได้สนิทกับมันมากๆจริงๆ ส่วนคุณภูผาเองก็เป็นคน nice อยู่แล้วก็เลยไปด้วยกันได้ดีครับ
เพล้ง!
“โอ๊ย!”
“เฮ้ย! ไอ้ป้อมเป็นไรวะ กูได้ยินเสียงจานหล่นแตก”
“เศษจานที่แตกมันบาดมือกูว่ะเพื่อน อูย”
“ไหนๆขอผมดูแผลหน่อยครับ”
“นี่ครับ”
“ไม่เป็นไรครับ แผลยังไม่ลึกมาก ทำแผลเบื้องต้นได้ครับ ไม่ต้องถึงกับเย็บ”
“นั้นเดี๋ยวผมไปเอายากับพลาสเตอร์ปิดแผลมาให้นะครับคุณภูผา พี่อิ่มพี่เอมครับ พาบัลลาดไปเอายาหน่อยครับ ไอ้ป้อมมันโดนเศษจานแตกบาดเอาครับ”
“ค่ะๆ”
ไอ้บัลลาดมันกุลีกุจอไปหายาให้ผมใหญ่เลยครับ ผมชอบมันก็ตรงนี้ล่ะครับ เห็นเพื่อนเป็นอะไรมันไม่เคยรีรอที่จะช่วยเหลือโดยที่ผมไม่ต้องร้องขอ ผมล่ะซาบซึ้งใจจริงๆครับ ส่วนคุณภูผาก็หาผ้าสะอาดมาช่วยห้ามเลือดไม่ให้ไหลมากไปกว่านี้ครับ
“คุณป้อมเจ็บมากไหมครับ”
“ไม่เท่าไหร่ครับ อูย”
“เลือดไหลเยอะเลยครับ”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวก็หยุดไหลไปเอง”
“ดูคุณป้อมสีหน้าแลดูซีดๆนะครับ”
“คือ...ผมไม่ค่อยชอบเห็นเลือดนักน่ะครับ แหะๆ”
ฟุ่บ!
“ถ้าอย่างนั้น คุณหลับตาแล้วกอดผาเอาไว้นะครับ แค่นี้คุณก็ไม่เห็นเลือดแล้ว คุณจะได้หายกลัวเสียที”
อะไรกัน! อยู่ดีๆก็มีผู้ชายมากอดผมครับ แล้วบอกให้ผมกอดเขากลับ
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ”
“เอ่อ...ครับ”
แต่ผมก็ไม่ไหวจริงๆครับที่จะเห็นเลือดสดๆ ผมก็เลยยอมทำตามที่คุณภูผาบอกครับ
“ดีมากครับ เยี่ยมเลย อย่างนั้นแหละครับ หลับตาเอาไว้นะ ไม่เจ็บแล้ว”
มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกจริงๆครับ ผมรู้สึกไม่กลัวอย่างที่เขาบอกจริงๆ ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกครับ เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้ ขนาดผมเคยกอดบรรดาสาวสวยที่มารุมตอมผมที่ผ่านมาตั้งหลายคนก็ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้ครับ สงสัยจะเป็นเพราะผมกลัวเลือดด้วยนั่นแหละ มันก็เลยรู้สึกอุ่นใจเวลาที่มีคนมาดูแล ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ
“ไอ้ป้อม กูมาแล้ว รีบทำแผลเลยมึง เดี๋ยวมึงจะเป็นลมเพราะเห็นเลือดไปอีก”
“เออๆๆ ขอบใจว่ะเพื่อน”
“เดี๋ยวผาช่วยนะครับ คุณป้อมอยู่นิ่งๆนะครับ”
“เอ่อ...ครับ”
เพียงแค่ชั่วครู่ครับ คุณภูผาก็ทำแผลให้ผมเสร็จเรียบร้อยเป็นอย่างดี แถมจัดระเบียบผ้าพันแผลได้อย่างสวยงามด้วยครับ คุณภูผานี่ใส่ใจทั้งอาหารทั้งเรื่องอื่นจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
“ขอบคุณครับ คุณภูผา”
“ยินดีครับ”
ผมได้แต่ยิ้มให้เขาครับ เขาก็ยิ้มตอบผม
“คุณบัลลาด เดี๋ยวรบกวนพาคุณป้อมขึ้นเรือนดีกว่าครับ ตรงนี้เดี๋ยวผมกับพี่อิ่มพี่เอมจัดการต่อเองครับ ถ้ามือโดนน้ำแผลจะไม่หายนะครับ”
“โอเคครับ ไปไอ้ป้อม มึงนี่ซุ่มซ่ามตลอดเลยนะมึง”
“เออ”
“แล้วเจอกันครับ”
พอผมกับไอ้บัลลาดคล้อยหลังมา เราก็เริ่มคุยกันครับ
“คุณผานี่แม่งแสนดีจริงๆว่ะ มึงว่าไหมไอ้ป้อม”
“เออ”
“ใครได้เขาไปเป็นแฟนนะมึง กูว่าสบายไปทั้งชาติว่ะ ทั้งหล่อทั้งรวยแถมนิสัยยังดี พรสวรรค์เรื่องการทำอาหารก็มี ไม่ขาดตกบกพร่องอะไรเลยว่ะ มึงว่าไหม”
“เออ”
“อีกแล้ว ตอบเออคำเดียวตลอดเลยมึง เบื่อจริงๆ นี่กูคุยกับหุ่นยนต์หรือยังไงวะ ไป กลับเรือนโลด”
ผมไม่ได้ตอบอะไรไอ้บัลลาดกลับไปครับ เพราะผมกำลังมองผ้าพันแผลที่อยู่บนมือของผมอยู่และเพราะอะไรก็ไม่รู้ครับ ผมถึงได้ยิ้มให้กับผ้าพันแผลนั้นไม่ยอมหุบเสียที
TBC.
ขอเปิดตัวคู่รอง "ผา x ป้อม" อย่างเป็นทางการค้าบโพ้มมมมมมมมม! ในเมื่อมีคู่หลักก็ต้องมีคู่รองถูกมะ นักเขียนก็เลยจับคู่นี้มาจัดให้แบบไม่น้อยหน้าคู่พี่ตะวันกับน้องบัลลาดแน่นวลลลล รับประกันว่านักอ่านต้องถูกใจแน่งับบบ ในตอนต่อๆไปก็จะเล่าสลับคู่กันไปมานะเคอะ อย่าสับสนเด้อหล้า ฮ่าๆๆๆ (แต่ถ้าเกิดสลับคู่เป็นพี่ตะวันกับนายป้อมหรือพี่ผากับนุ้งบัลลาดจะเป็นไงน้าาา อิอิ รอลุ้นนาจาาาา)
นักเขียนรักนักอ่านทุกคนนะจ๊ะ บะบุย
:กอด1: