ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*****************************************************************************************
(เรื่องสั้น)
-" อ ย่ า ใ ห้ ฉั น คิ ด . . . "-
- LeinSter -
[/b]
อย่าให้ฉันคิด : ROOM39
-LeinSter-
[/b][/size]
https://www.youtube.com/watch?v=wy-B-s4SGZY
(ฟังเพลงเพื่อเพิ่มอรรถรส)
22.20 น.
ผมไม่รู้ว่าคืนนั้นในหัวผมคิดอะไรอยู่...รู้แต่ว่ามึนๆ จากเบียร์สองกระป๋อง บรรยากาศบนดาดฟ้า แสงไฟจากตึกสูงของเมืองหลวง ลมเย็นๆ เสียงลมพัด ทุกออย่างล้วนเป็นใจ เพลงในหัวตอนนั้นคือเพลงต้องโทษดาว ของพี่เบิร์ด ผมมานั่งคิดดูเพราะทุกอย่างมันพาไปละมั้งนะ
ผมถึงได้สารภาพความรู้สึกที่มากกว่าเพื่อนกับเพื่อนสนิทตัวเอง.
แล้วหลังจากนั้นผมกับไอ้เรียวก็ไม่ได้เจอกันอีก ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้แชทกันเหมือนปกติ มันคงตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจากปากผมอยู่ไม่น้อย เจ็บนะ....แต่ต้องเข้าใจแล้วให้เวลามันอีกสักหน่อย
แต่อยู่ๆ วันนี้มันก็โผล่มาร้านเหล้าที่ผมร้องเพลงอยู่ มันเร็วเกินไปจนผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่ใช่แค่มันไม่พร้อมที่จะคุยแต่เป็นผมต่างหากที่ยังไม่พร้อมที่จะฟัง เกือบสองเดือนที่ไม่ได้เจอทำให้ผมรู้ว่าผมคิดถึงมันแค่ไหนครั้งจะโทรหาก็กลัวมันไม่ยอมรับสาย แล้วคนที่จะต้องเจ็บปวดก็คือผม คิดไว้ว่าอย่างไงเปิดเทอมผมยังต้องเจอมันอยู่ดี เมื่อถึงตอนนั้นอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดผมจะยอมรับฟังทุกสิ่งทุกอย่าง
“เป็นไงบ้างวะมึง”
ผมเอ่ยถามมันขึ้นก่อนหลังจากที่เราปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมเราทั้งสองนานหลายนาที แม้เสียงรอบข้างจะมีเสียงพูดคุยกันของลูกค้า เสียงฟังสบายหู เสียงโฉงเฉงจากในครัวก็ตาม แต่บรรยากาศรอบตัวกลับดูเงียบงันจนน่าหวั่นใจ
“อยู่บ้านแม่งโคตรหน้าเบื่อ แม่กูให้เฝ้าแต่โรงงานทั้งวันไม่ยอมให้กูออกไปไหนเลยว่ะ”
เหมือนเดิม น้ำเสียง สีหน้า ท่าทางของมันยังคงเหมือนเดิม
“.............”
“ว่าแต่มึงเหอะเป็นไงบ้างวะ? แอบลงซัมเมอร์ไม่ชวนกูกะจะจบก่อนกูรึไง?”
“ยังไงกูก็ไม่ได้กลับบ้านปะวะ? ไหนๆตอนกลางคืนกูก็ร้องเพลงอยู่แล้ว ตอนกลางวันก็ดีกว่านอนอยู่ห้องเฉยๆนี่หว่า”
อยากจัง...ความคุมเสียงตัวเองให้เป็นปกติ
“............”
“............”
“แทน มึงรู้สึกแบบนั้นกับกูมานานแค่ไหนแล้ววะ?”
ไอ้เรียววกเข้าเรื่องที่ยังค้างคา ผมถึงกับหายใจสะดุดกับคำถามของมัน นั่นสิ ผมคิดเกินเลยกับเพื่อนสนิทตัวเองตั้งแต่ตอนไหน....ผมไม่แน่ใจ รู้แค่ว่าตอนที่ไอ้เรียวมันเดินมาบอกข่าวดีว่ามันกับน้องแก้วเป็นแฟนแล้ว ใจผมก็รู้สึกโหวงๆ อย่างที่ไม่ควรจะเป็น ช่วงที่มันติดแฟนใจผมก็เอารู้จักแปลก ตอนแรกก็เข้าใจเองว่าอารมณ์ประมาณตอน ม.6 แต่ยิ่งเห็นมันอี๋อ๋อกับแฟนใจผมก็รู้สึกเจ็บที่ใจ
“ไม่รู้ว่ะ”
“กูไม่รู้มาก่อน....กูขอโทษว่ะแทน”
“เฮ้ย! อย่าคิดมากดิวะ เรื่องแค่นี้กูจัดการของกูเองได้”
“แต่............”
“กูเข้าใจว่ามึงมันคนรักเพื่อน มึงเป็นห่วงความรู้สึกกู กูรู้หน่า”
“มัน.......”
“ไว้ค่อยคุยกันมึง กูต้องเตรียมตัวแล้ว”
พูดเสร็จผมก็ผละออกมาจากมันเลย ไม่รอให้มันได้พูดอะไรต่อ ผมรู้ว่ามันกำลังจะขอโทษที่มันไม่สามารถคิดแบบเดียวกันกับผมไม่ได้ จะให้ผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนมาชอบผู้ชายด้วยกันได้แค่เพราะคำว่ารักคำเดียว ผมว่ามันออกจะเกินจริงเกินไปซะหน่อย แต่เอาไว้ร้องเพลงเสร็จค่อยเคลียร์กันชัดๆอีกทีแล้วกัน ขืนปล่อยให้มันพูดตอนนี้กลัวว่าใจผมจะไม่แข็งพอ ร้องไห้กับคำปฏิเสธของมันขึ้นมาจะยุ่ง เสียงผมอาจจะใช้งานไม่ได้เต็มที่ ไม่อยากทำให้คนที่มารอฟังเสียงของผมต้องผิดหวัง ไหนจะเจ้าของร้านแล้วก็เพื่อนในวงด้วยอีก
“ไหวไหมเนี่ยแทน”
ไอ้เก้ามือกีต้าร์เอ่ยถามเมื่อผมเดินมาถึงหลังเวทีแล้วเห็นตาผมแดงๆ พลางเอามือตบไหลผมปุๆอย่างนึกจะปลอบใจ เก้ามันรู้เรื่องราวทั้งหมดครับ
“สบายมาก”
“เอาน่า สุดหล่อของพวกกูจะตาแดงขึ้นเวทีไม่ได้นะเว้ย แฟนคลับหายหมด” พี่ฮ่องเต้มือคาฮองและร้องประสานเอ่ยปลอบติดตลก ทำให้ผมได้ตอกย้ำกับตัวเองว่าลูกค้าของร้านส่วนหนึ่งคือมาฟังพวกผมเล่นเพลงกัน
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆตั้งสติให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อออกไปมอบเสียงเพลงและความสุขให้กับผู้คนที่ออกมาผ่อนคลายหลังเลิกงานจากการทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์
หน้าที่ของนักดนตรีคือมอบเสียงเพลงและความสุขให้กับคนฟัง ไม่ว่าหลังเวทีอะไรจะเกิดขึ้น แต่เมื่ออยู่หน้าเวทีเหล่านักดนตรีเราจะหยิบยืนเฉพาะความสุขที่ผสมไปกับเสียงเพลงให้ผู้ฟังเท่านั้น
หลังจากนั้น...ค่อยเผชิญกับความจริงที่อาจจะทำให้ผมเจ็บปวดใจก็ตาม
14.34 น.
ผมเปิดประตูห้องเข้ามาหลังจากกลับมาจากไปเรียนในช่วงซัมเมอร์ เป็นเวลาเดียวกับที่ไอ้เก้าโทรเข้ามาพอดี...
“ว่า”
ผมกรอกเสียงลงไปในสมาร์ทโฟนขณะที่กำลังใช่เท้าอีกข้างดันสั้นรองเท้าของอีกข้างให้หลุดออกทีละข้างไปด้วย
[แทน เพลง ‘อย่าให้ฉันคิด’ มึงยังได้อยู่ป่ะวะ?]
“ได้อยู่นะ ทำไมวะ?”
[พี่ฮ่องเต้ว่าจะแอดเพลงนี้เข้าลิสต์วันนี้ ก็เลยให้กูโทรมาถามมึงก่อน]
“เอาดิ กูไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ว่าแต่ทำไมต้องเพลงนี้วะ?”
[เห็นมีคนเอาไปใช้ประกวดหรืออะไรสักอย่างนี่แหล่ะ ตอนนี้กำลังเป็นกระแส”
“อ๋อ จัดมาเลยเพื่อน”
[เดี๋ยวกูส่งลิสต์วันนี้ไปให้แล้วกัน]
“เค เจอกัน บาย”
ผมวางสายจากไอ้เก้าเสร็จก็กดเข้าไปฟังเพลงนี้จากยูทูปอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะผมลืมเนื้อหรือไม่มั่นใจหรอกครับ แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบอยู่แล้ว ผมว่าเนื้อหามันตรงกับผมดี มันเหมือนแทนความรู้สึกของผมที่มันยังค้างคามานานกว่าสี่เตือนเต็มๆ เสมือนคำถามที่ผมอยากจะถามไอ้เรียว....ว่าความรักของเรามันจะมีทางเป็นไปได้ไหม หลังจากที่มันรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับมันไปแล้ว ในเมื่อผมก็ไม่มีใคร...มันก็พึ่งเลิกกับแฟนมันไป
พอที่จะเลื่อนจากเพื่อนสนิท...
....ไปเป็นแฟนกัน ได้หรือเปล่า?
หึ !
ผมก็คิดบ้าคิดบอไปเรื่อย มันก็เป็นผู้ชายผมก็เป็นผู้ชาย มันจะมารักกับผมได้ยังไงกันล่ะ
‘มึงก็คิดไปได้นะไอ้แทน’ ผมว่าตัวเองในใจ
ตั้งแต่ที่รู้จักกันจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันซึ่งคุยกันได้ทุกเรื่อง แทบจะไม่มีอะไรต้องปิดบังกัน มองตาก็รู้ใจ...สำหรับผมกับมันใช้คำนี้คงไม่ผิดไปจากความเป็นจริงนัก จนถึงวันที่ผมบอกความรู้สึกกับมันออกไป ว่าผมคิดกับมันเกินเลยเกินกว่าเพื่อนสนิทไปแล้ว....,ก็คือผมไม่มีความลับอะไรกับไอ้เรียวมันอีกแล้วในวันนั้น
แต่ช่างเถอะครับ ป่านนี้มันคงกลับไปง้อน้องแก้วของมันคืนมาได้แล้วมั้ง ถึงได้เงียบหายไปแบบนี้ หรือไม่ก็คงจะนอนเล่นอยู่บ้านต่างจังหวัดสบายไปใจเฉิบไปแล้ว ส่วนผมเองก็ต้องร้องเพลงทุกวัน ลงเรียนซัมเมอร์อีกต่างห่าง เรียกได้ว่าต่างคนต่างเงียบหายกันไปถึงจะถูก
‘ ได้ฟังเรื่องงราวของเธอ
กับความรักที่กำลังจะจบลง
คงมีแค่ความเป็นห่วง
จากคนที่เป็นเพื่อนจะเหมาะสม ‘
เสียงพี่มน ROOM39 เปล่งไปตามคำร้อง หูได้ฟังเพลงตาจ้องมองเอ็มวี ปากก็ร้องคลอตามไปเรื่อย ทว่าในหัวกลับฉายภาพความทรงจำตามเนื้อเพลง...
ครั้งหนึ่ง...
“ทำไมผู้หญิงแม่งงี่เง่าอย่างงี้วะ แบบนี้ไม่ไหวนะเว้ย ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไรๆ เรื่องกูกับมึงคนแม่งก็คิดกันไปเองนี่หว่า จะให้กูเลิกเป็นเพื่อนกับมึงมันก็ไม่ใช่ป่ะวะ?”
“เอาน่ามึงอย่าคิดมาก รอให้แก้วเค้าอารมณ์ดีก่อนค่อยคุยใหม่”
ผมเอ่ยปลอบไอ้เรียวหลังจากที่มันหัวเสียเพราะคำว่าคู่จิ้น ทำให้น้องแก้วไม่พอใจถึงได้ทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยๆ
เรื่องคู่จิ้นนั่นจะโทษใครก็ไม่ได้ จะโทษไอ้เรียว หรือจะโทษผม หรือจะให้โทษคนที่เอาผมกับมันไปจิ้นล่ะ ถ้าจะผิดทุกคนก็มีส่วนผิดกันหมด ผิดที่ไอ้เรียวชอบเล่นแผลงๆ อย่างกระชากผมไปหอมแก้มต่อหน้าคนอื่น ผิดที่ผมเห็นเป็นเรื่องขำๆซึ่งหลังๆมาต้องขำไม่ออก และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ผมเลิกกับแฟนแต่ผมกับแฟนเรามีระยะทางเข้ามาเป็นปัจจัยอื่นด้วยไงครับ ผมถึงไม่ได้คิดว่าเรื่องคู่จิ้นนี้เลวร้ายอะไร
“กูไม่เคยคิดจะเลิกเป็นเพื่อนกับมึงเพราะเรื่องนี้นะแทน”
แม้จะรู้สึกจุกอกกับคำว่าเพื่อนของมันอยู่บ้าง แต่ผมรู้ว่าคนอย่างไอ้เรียวมันรักเพื่อนมากแค่ไหน จะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่สำหรับคำว่าเพื่อนไอ้เรียวมันให้เต็มร้อยเสมอ
“กูรู้เว้ย กูรู้ ใจเย็นก่อนดิว้า”
“แม่ง แบบนี้เลิกๆ กันไม่ดีกว่าเหรอวะ กลับมาคืนดีกันเดี๋ยวแม่งก็ทะเลาะเรื่องนี้กันอีก”
เรียวมันยังบ่นปากเรื่อยๆ สีหน้าว้าวุ่นใจของมันผมรู้ว่ามันกำลังคิดหาทางออก แต่แค่มันยังไม่เจอก็ทางที่ดีที่สุดสำหรับมันก็เท่านั้น ได้แต่ลูบบ่าของมันให้มันใจเย็นลงอีกสักหน่อยท่าจะดีกว่า
“ไม่เอาน่าเรียว ใจเย็นดิ กูกับมึงแค่ไม่ต้องมาเจอกันบ่อยๆเหมือนแต่ก่อนก็ได้นี่หว่า เหมือนตอนปิดเทอมหรือช่วงสอบมึงก็ไม่ค่อยได้มาเจอกับกูอยู่แล้ว จะต่างกันตรงไหน?”
“แต่คนพวกนั้นแม่งเอาอะไรมาคิดเรื่องแบบนี้วะ คู้จิ้นห่าเหวอะไรนั่นแม่งไม่สนุกแล้วว่ะ”
“มันห้ามไม่ได้หรอกว่ะ ยิ่งกูกับมึงสนิทกันข้ามภาคแบบนี้ยิ่งทำให้คนเพ่งเล็งนะเว้ย อย่างที่กูบอก เราก็แค่เจอกันให้น้อยลงไง”
“..............”
“ลองวิธีนี้ดูก่อนไหม...ถ้ามันไม่ดีขึ้นก็แสดงว่าเราแก้ปัญหากันไม่ถูกจุด ค่อยหาทางแก้ใหม่ โอเค๊?”
ผมพยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้มันอารมณ์เย็นลงก่อน เรียวมันมีท่าทีนิ่งไปเหมือนคนกำลังใช้ความคิด
“...........”
“อย่าพึงคิดอะไรเลยมึง ตอนนี้กูต้องไปร้องเพลงแล้ว”
“กูไปด้วยดิ”
“ไอ้ห่า มึงได้ฟังที่กูพูดไหมเนี่ย กูกับมึงลองไม่ไปไหนมาไหนด้วยกันสักพักก่อนดิ”
“แต่...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแหล่ะมึง เดี๋ยวกูไปถึงร้านช้าพี่ฮ่องเต้ได้ไล่กูออกจากวงแน่ มึงเอ้ย! ชิบหายของจริงล่ะทีนี้....กูไปล่ะ”
ผมรู้จักกับเรียวมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เรียนคณะเดียวก็จริงแต่เรียนกันคนละภาค กิจกรรมรับน้องทำให้ผมกับเรียวรู้จักและสนิทกันในที่สุด ผมกับเรียวถือว่าเป็นเพื่อนซี้กันเลยก็ว่าได้ ชอบทำตัวติดกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน บางวันที่ผมต้องมาร้องเพลงมันยังตามมาเลยครับ
เพื่อนในคณะชอบแซวว่าผมกับเรียวเป็นคู่จิ้นกัน ตอนนั้นผมกันมันขำกับเรื่องนี้มาก เพจคิ้วบอย เพจคู่จิ้นอะไรนั่นชอบเอารูปผมกับเรียวไปลง ยิ่งรูปเวลาอยู่ด้วยกันไปลงแล้วละก็ยอดไลค์กระจาย คนมาเม้นเป็นร้อยเป็นพัน บางวันเบื่อๆก็เข้าไปอ่านคอมเม้นพวกนั้น มันก็น่าตลกดีเหมือนกันที่คนชอบจะเห็นผู้ชายตัวเท่าควายสองคนจิ้นกัน
ครั้งหนึ่ง....
“แม่งคนในนี้ให้กูเป็นเมียมึงเฉยเลยว่ะเรียว”
“งั้นมาให้ผัวหอมหัวหน่อยดิ เมียแทนจ๋า ฮ่าๆ”
“ไอ้สัด อย่างกูไม่ยอมเป็นเมียตัวผู้ด้วยกันหรอกเว้ย ว้ากกกกก! ไอ้ห่าเรียว ไม่เอาไม่เล่น!” แล้วมันก็ไล่หอมหัวผมอย่างที่มันว่า
จริงๆ วิ่งไล่กันอย่างกับเด็กๆ เพื่อนคนอื่นๆก็หัวเราะขำไปกับภาพที่เห็น มันเลยกลายเป็นภาพชินตาสำหรับคนรอบตัว
บางทีกินข้าวกันอยู่ก็มีคนมาขอถ่ายรูปคู่ผมกับเรียว ไอ้เรียวก็ไม่ขัดครับ กอดคอป้อนข้าวผมต่อหน้า ’แฟนคลับ’ ก็มี บางทีหันมาสบตากันหวานซึ้งใส่กันชวนให้รู้สึกสยองเล่นก็มี จนมีงานคู่ติดต่อเข้ามานั่นแหล่ะครับถึงไม่ค่อยได้เล่นกันแบบนั้นอีก รินแฟนผมเขาก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นักรวมทั้งแฟนไอ้เรียวมันด้วย
จะว่าไปตอนนั้นคู่เรียวแทนก็ถือดังข้ามมหาลัยไปเลยทีเดียวครับ แฟนผมอยู่อีกมหาวิทยาลัยยังรู้เรื่องผมกับเรียวเป็นคู่จิ้นกัน แต่ก่อนก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้บ่อยๆ บ่อยเข้าก็เลิกรากันไปในที่สุด
พอผมไม่มีแฟน ผมดันเอาความรู้สึกไปโฟกัสที่ไอ้เรียวซะได้ กอดคอ หยอกล้อกัน บางทีไอ้เรียวแม่งก็ถึงขั้นหอมแก้ม หัวใจผมเริ่มเต้นแปลกไปเมื่ออยู่ใกล้มันทุกครั้ง สับสนกับความรู้สึกเองคิดว่าคงเพราะความเหงา แต่เปล่า...นับวันความรู้สึกยิ่งเพิ่มขึ้นจนผมควบคุมไม่ได้ และที่สำคัญผมไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่าผมหัวใจเริ่มเต้นแรงกับไอ้เรียวตั้งแต่ตอนไหน
ครั้งหนึ่ง...
“พี่คะ ขอถ่ายรูปพี่สองคนได้ไหมคะ?”
“ได้ดิ ไอ้แทนเขยิบมานี่ดิ๊ ว่าแต่น้องทีม เรียวแทน’ หรือ ‘แทนเรียว’ อ่ะ”
“ระ..เรียวแทนค่ะ”
“โอเค”
“อุ๊ป”
ไอ้เรียวมันอาศัยที่ผมกำลังงงตะปบหน้าผมด้วยมือทั้งสูงข้างก่อนจะเอาจมูกของมันมาชนจมูกผม เรียกได้ว่าหน้าแนบหน้า รุ่นน้องกลุ่มนั้นเขินหน้าแดงกรี๊ดลั่นแล้ววิ่งไปเลย ผมต้องเอามือมากุมหน้าอกเอาไว้เพราะหัวใจผมเต้นแรงจนน่ากลัวจะหลุดออกมาได้ แล้วรูปนั้นยังมีมือดีถ่ายไว้ได้ทันจึงเป็นที่โด่งดังอยู่พักใหญ่
“แต่เหมือนว่าในบางครั้งที่เธอจ้องมองฉัน
คล้ายว่าเธอจะต้องการเป็นมากกว่านั้น
และฉันก็เป็นเพียงเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งภายในใจ
นั้นสับสนและยังมีคำถาม
ครั้งหนึ่ง...
“ไอ้แทน ป่านนี้แล้วมึงไม่ไปร้องเพลงหรอวะ?”
“วันนี้กูไม่มีรอบ”
ผมไม่มีรอบเล่นดนตรีทุกวันอังคารครับ ยิ่งอยู่ในช่วงอกหักด้วย ทั้งขี้เกียจด้วย ผมก็นอนจมกองน้ำลายคาชุดนักศึกษาตั้งแต่กลับจากเรียนตอนบ่ายสี่โมงเย็นลากยาวจนถึงสองทุ่มครึ่ง
“ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวดิ๊ หยุดทั้งทีมึงจะนอนทั้งวันทั้งคืนเลยหรือไง”
“อย่ามายุ่งดิ๊ กูจะนอน”
“ให้เดาว่ายังไม่แดกข้าว ประตูห้องแม่งก็ไม่ล็อค” ไม่พูดเปล่ามันยังลากผมลงเตียง
“ไม่แดกโว้ย กูง่วง” หลุดจากมือมันได้ผมก็กระโดนขึ้นเตียงกระพือผ้าห่มคลุมโปรงทันที
“จะเล่นงี้ใช่ป่ะ?.....ย้ากกกก”
อัก!
“ไอ้เรียว ไอ้สัด มึงกระโดนลงมาได้ยังไงไอ้ควาย ตัวหนักอย่างกะควาย ออกไปดิ๊กูหนัก ไอ้เหี้ย!”
ถ้าฟังขัดหูก็ขออภัยด้วยครับ ไอ้เรียวแม่งกระโดดลงมาทับตัวผมดังอั่กกระดูกซี่โครงไม่หักทิ่มปอดตายก็บุญแค่ไหนแล้ว แถมผมดิ้นยังไงมันก็ไม่ยอมลงไปจากตัวผมสักที
“ลุกขึ้นมาอาบน้ำ ไปแดกข้าวกับกู” มันว่าพลางเลิกผ้าห่มส่วนที่คลุมหัวผมอยู่ออก ตอนนั้นถึงได้เห็นว่าหน้าเรามันใกล้กันแค่ไหน
ตึกตักๆ ตึกตักๆ
หัวใจผมเต้นรัวอย่างไม่มีสาเหตุ แม่งเล่นห่าอะไรของมันไม่รู้จนต้องออกแรง ไอ้สัด!
“กูไม่ไปโว้ย”
“ไม่ไปมึงโดนกูกัดปากมึงแน่”
“ไอ้สัด ไม่ไป”
งับ
เชี่ย!!!!!
ไอเรียวมันงับปากผมอย่างที่มันว่าจริงๆ ที่แรกไม่รู้สึกเจ็บหรอกครับเพราะผมมัวแต่ไปสนใจเสียงเต้นของหัวใจตัวเองอยู่ แต่สักพักแม่งก็กัด แบบกดแรงกัดจริงๆ
“อ๊า.. เอ่บๆๆๆ” (อ้า เจ็บๆๆๆ)
“อะไอไอ๊” (จะไปไหม)
“ไอๆๆๆๆ” (ไปๆๆๆๆ)
“ก็แค่เนี๊ยะ! ลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กูจะพามึงออกไปแดกข้าว” มันปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ แต่มันยังไม่ลุกจากตัวผมครับ ท่าผมกับมันอยู่ในท่าล่อแหลมจนรู้สึกโหวงวูบวาบในช่องท้อง แถมมันยังนั่งทับแทนน้อยที่แม่งแข็งขืนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ใจแทนก็เต้นแรงตุบตับ
แทนน้อยก็แข็งโป๊ก!
ผมเลยผลักมันออกไปให้พ้นตัวแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำทันที
“กูจะพามึงออกไปแดกข้าว”
แดกข้าวเหนียวหมูปลาร้าแถวราชดำเนินสิไม่ว่า แถมเป็นวันที่มีแค่เจ้าเดียวเท่านั้นที่ขาย คิวยาวเป็นสิบๆคิว ผมได้แต่ยืนรอคิวขาแข็งแทน‘แทนน้อย’จนเมื่อยขาไปหมด ให้ตายเหอะ! ช่วยพากูแดกอะไรที่มันง่ายๆ ได้เร็วๆ หน่อยก็ไม่ได้
ยืนรอคิวดัวยกันได้สักพัก มันก็ปลีกตัวไปคุยกับน้องแก้วแฟนมันอยู่นู้นปล่อยผมยืนร้อนเหงื่อซกอยู่หน้าเตานี่ เพื่อนเวร!
จึก...จึก
“ใช่แทน ศิล’กรรม ป่ะ”
อยู่ๆมีสาวสวยน่ารัก‘ต่ะเล่กๆ’มาสะกิดทักผม ยังดีที่มีเพื่อนชวนคุยแก้เซงไม่อย่างนั้นคงกลายเป็นการแดกข้าวที่อาบเหงื่อต่างน้ำของจริง
สุดท้ายไม่ได้แดกอยู่ดี.....
ไอ้เรียวมันเดินหน้าบึ้งมาลากแขนผมออกจากคิวหน้าตาเฉย พาผมขับมอเตอร์ไซค์ลูกรักของมันวนอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยขึ้นไปนั่งฟังมันทะเลาะกับแฟนมันต่อบนสะพานพุทธฯ ถามเอาความถึงรู้ว่าทะเลาะกันอีกแล้วเพราะมือดีถ่ายรูปผมกับไอ้เรียวยืนรอหมูปลาร้าไปลงเพจ แฟนมันเห็นเข้าก็เลยไม่พอใจ ให้เดาก็คงเดาได้ไม่ยากว่าฝีมือใคร น้อง‘ต่ะเล่กๆ’ นั่นล่ะมั้งแต่ช่างเหอะครับมันผ่านมาแล้ว แถมมันยังบอกอีกว่ามันเลิกกับน้องแก้วแล้ว…
ตอนที่ผมเคว้งเพราะเลิกกับแฟนมันก็คอยอยู่เคียงข้าง ทีมันเลิกกับแฟนผมก็จะอยู่เคียงข้างมันเหมือนกัน ผมกับมันนั่งหันหลังอิงกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ปล่อยเสียงผู้คนคุยกัน เสียงเรือ เสียงน้ำ เสียงรถราได้ทำงานอย่างเต็มที่
แต่ก็อดห่วงไม่ได้...
“ปัญหามันอยู่ที่กูกับมึงไปไหนมาไหนด้วยกันอีกแล้วใช่ไหมวะ?”
ผมเอ่ยถามเสียงเรียบ มันถอนหายใจก่อนจะทิ้งหัวมาพาดไว้บนบ่าของผม ผมจำต้องขยับตัวตามแล้วทิ้งหัวลงบนบ่ามัน
“ช่างมันเหอะว่ะแทน กูเลือกไม่ได้หรอก มึงกับกับแก้วกูเลือกไม่ได้”
“ก็เลือกแฟนดิวะ เพื่อนยังไงก็คือเพื่อนนะเรียว”
ผมพูดแนะนำ เพราะเพื่อนยังไงก็คือเพื่อน อยู่ห่างกันคนละซีกโลกก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แม้ตอนที่พูดออกไปหัวใจจะรู้สึกปวดหนึบก็ตาม
“ที่กูต้องเลือกไม่ใช่เพื่อนกับแฟนดิ แต่เป็นมึงกับแก้วต่างหาก”
“เหรอวะ?” รู้สึกดีจังแฮะ
“กูเป็นเพื่อนมึงมาสามปีนะเว้ย กูเลิกเป็นเพื่อนมึงเพราะผู้หญิงคนเดียวกูทำไม่ได้หรอก”
“เลือกแฟนดิวะเรียว”
“กูไม่เลือก ถ้าจะให้กูเลือก....” เรียวว่าก่อนคำจะขาดห้วงไปสักอึกใจ”...กูจะเลือกมึง”หัวใจที่ปวดหนึบโหวงๆ กลับพองโตขึ้นมา แต่ก็กลับไปปวดหนึบอย่างเดิมหากครั้งนี้รุ่นแรงกว่าเก่า”...มึงเพื่อนรักกูนะเว้ยแทน”
“ขอบใจ”
เสียงผมแหบพร่า ไม่รู้มันจับสังเกตได้หรือเปล่าหากแต่มันก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย ต่างฝ่ายต่างเงียบให้เสียงรอบข้างดังไปอย่างที่มันควรจะเป็น ปล่อยความรู้สึกหลุดลอยออกไปให้ไกลแสนไกลอย่างไม่มีจุดหมาย เผื่อว่าความรู้สึกบางอย่างที่ผมไม่ควรเกิดขึ้นมันจะได้หาทางกลับมาไม่ถูก
.......ใจผมจะได้กลับไปเป็นเพื่อนมันอย่างเดิม
‘อาจเป็นฉันที่คิดเกินไป อ่อนไหวเพราะเพียงแค่คำว่าใกล้ชิด
ที่ปรึกแค่เพื่อนสนิท เธออาจไม่คิดมากเกินจนเลยไปอย่างฉัน’
คืนนั้น...
“กูหาตั้งนาน มานั่งทำเอ็มวีอะไรอยู่ตรงนี้วะ”
ผมหันไปยังต้นเสียง ไอ้เรียวเดินขึ้นมาบนดาดฟ้าพร้อมเบียร์แพ็คสี่กระป๋อง ก่อนที่มันจะนั่งลงม้านั่งเก่าๆข้างๆผม
“เอ้า ของมึง”
มันลงมือเปิดกระป๋องเบียร์ส่งมาให้ ผมรับมาได้ก็ซดรวดเดียวครึ่งกระป๋อง
“ขอบใจ ว่าแต่มึงเหอะซื้อเบียร์มาขนาดนี้มีเรื่องกลุ่มล่ะสิท่า” เอ่ยถามมันอ้อมๆ หากแต่มันเฉไฉไปเรื่องอื่น
“กูไม่เคยขึ้นมาบนนี้เลยว่ะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ ไม่น่าล่ะกูเคยไปเคาะห้องหลายครั้งเห็นเงียบกูก็นึกว่าไปติดสาวที่ไหน”
“กับน้องแก้วยังไงวะ?” ผมวกเข้าคำถามเดิม กะจะพูดกับเรื่องนี้วันนี้ ว่าผมไม่ไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องของมันอีกแล้ว
ไอ้เรียวกับแก้วคืนดีกันอีกครั้งแล้วก็ทะเลาะกันเรื่องรูปคู่นั่น ผมเลยไปอธิบายให้แก้วเข้าใจ กลับโดนผู้หญิงด่าจนเสียหมากลับมา ผมแค่ขึ้นบนดาดฟ้าหอพักเพื่อมาตัดสินใจว่าจะไม่ยุ่งกับไอ้เรียวอีก แค่อยากตัดสินใจดีๆไม่อยากตัดสินใจเพราะแค่ไม่พอใจที่โดนด่าเสียๆหายๆแบบนั้น
“คราวนี้กูเลิกจริงๆแล้ว กูไม่ไหวว่ะ”
“อืม”
“แทน”
“หือ”
“กูขอบใจนะที่มึงทำเพื่อกู”
“อืม”
“อย่าถามคำตอบคำดิวะ หรือมึงโกรธกู?”
“เปล่า”
“...............”
“เรียว”
“อ่าหะ”
‘อยากจะรู้เพียง
ถ้าไม่มีเขาแล้วเราจะรักกันไหม
หรือแค่ตัวฉันคนเดียวที่คิดฝันไป
จนไกลแสนไกล ว่าเธอนั้นให้ความหวัง
[/b]
ผมซดเบียร์กระป๋องที่สองรวดเดียวจนหมด
“กูรักมึง”
“กูก็รักมึงไง มึงเพื่อนกู”
“กูรักมึงมากกว่าคำว่าเพื่อน...แบบที่คิดกับมึงมากกว่าคนเป็นเพื่อนกัน”
“................”
เรียวมันเงียบไป ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ผมรอว่ามันพูดอะไรออกมาสักอย่าง.......แต่มันก็ไม่พูดอะไรออกมา
ผมเข้าใจ....ว่าที่มันไม่พูดอะไรออกมาเพราะมันแคร์ความรู้สึกผม หรือมันแค่กำลังหาคำพูดที่ทำให้ผมเจ็บปวดน้อยที่สุด เรียวมันเป็นคนรักเพื่อนมันคงไม่อยากพูดอะไรให้ผมเสียใจออกมาแน่ ผมลุกและเดินออกมาจากตรงนั้น เพราะมันก็คงมันกำลังบากใจ
.....เอาไว้ให้เวลามันผ่านไปค่อยให้โอกาสมันพูด
อยากจะรู้เพียง
ถ้าจบกับเขาแล้วเราจะรักกันมั้ย
อย่าปล่อยให้ฉันเฝ้ารอและคิดฝันไกล
คนเดียวเรื่อยไป ถ้าเธอนั้นไม่ต้องการ
อย่าให้ฉันคิดไปเอง’
ผมเผลอไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์…
...ผมเผลอไปเพราะบรรยากาศ
...ผมเผลอทำลายความเป็นเพื่อนของเรา
ทรยศ...ความเป็นเพื่อนที่มันมีให้ผม
ผม...
......เสียใจ
00.45 น.
ผมร้องเพลงเสร็จเที่ยงคืน ใช้เวลาเก็บอุปกรณ์ช่วยไอ้เก้าดับพี่ฮ่องเต้จนเสร็จเดินออกมาหน้าร้านก็พบว่าไอ้เรียวมันไม่อยู่ที่ร้านแล้ว ผมไม่คิดอะไรก็ขับรถกลับหอพัก ว่าจะอาบน้ำก็เลยเข้าดูไปเฟสบุ๊คว่ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่บ้าง
แต่ทันทีที่ผมเปิดหน้าจอขึ้นมา หน้าฟีดก็ขึ้นโพสของไอ้เรียวเป็นคนแรก
....50 นาทีที่แล้ว
สิ่งที่ตาเห็นคือคลิปวีดีโอ รูปที่ค้างหน้าจออยู่เป็นรูปผมกำลังนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างไอ้เก้ากับพี่ฮ่องเต้อยู่บนเวทีพื้นยกสูงจากพื้นร้าน เป็นคลิปที่ถ่ายเอาไว้วันนี้ไม่ผิดแน่เพราะเสื้อผ้าที่ผมใส่ในคลิปเป็นชุดเดียวกันที่ผมใส่อยู่ตอนนี้
ผมกดเล่น....ใจเต้นระรัว
เสียงของผมดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกีต้าร์และให้จังหวะโดยกลองคาฮอง เป็นเพลงที่พึ่งเพิ่มเข้าในลิสต์วันนี้ ‘อย่าให้ฉันคิด’ ทว่าสายตาผมดันไปสะดุดกับข้อความแคปชั่น แม้จะไม่เก่งภาษาอังกฤษแต่ผมก็พอแปลได้บ้าง...
ผมวิ่งออกจากห้องวิ่งตรงไปยังบันใดขึ้นไปที่ดาดฟ้าทันที
....เพราะที่นั่นมันมีคำตอบที่ผมอยากจะฟังที่สุด
.....จากปากของคนที่รักที่สุด
ตอนนี้.....ผมโคตรพร้อมที่จะฟังคำตอบปากจาก
......ไอ้เรียว
Reaw Rawich Pongphibul - กับ Thanawat Tan S. ที่ ร้านภาษาเมา
‘ If not you, then who ? If not now, then when.?’
(ถ้าไม่ใช่เธอ?แล้วจะใช่ใคร? ถ้าไม่เป็นตอนนี้?แล้วจะเป็นตอนไหน?)
#อย่าให้ฉันคิด Cover By @Thanawat Tan S.
กูรออยู่บนดาดฟ้า #เรียวแทน
[คลิปวีดีโอ]
51 นาทีที่แล้ว...
จบ
***************************************************************************************
LeinSter Talk : จะมีเรื่องยาวของร้านภาษาเมาแห่งนี้ด้วยนะครับ อย่าลืมเม้นให้กำลังใจกันด้วยนะครับ
ด้วยรัก
พิเศษ...ดาดฟ้า
[/b][/size]
Reaw Rawich Pongphibul - กับ Thanawat Tan S. ที่ ร้านภาษาเมา
‘ If not you, then who ? If not now, then when.?’
(ถ้าไม่ใช่คุณแ้ลวจะใช่ใคร ถ้าไม่เป็นตอนนี้จะเป็นตอนไหน)
#อย่าให้ฉันคิด Cover By @Thanawat Tan S.
กูรออยู่บนดาดฟ้า #เรียวแทน
[คลิปวีดีโอ]
51 นาทีที่แล้ว....
ผมวิ่งขึ้นบันใดมาเพียงสองชั้นก็ถึงดาดฟ้า แต่ก็เล่นเอาผมหอบจับได้ไม่ยาก ผมยืนเท้าเข่าหอบแหกๆเหมือนหมาหอบแดดอยู่พักหนึ่ง เพราะหัวใจผมเต้นแรงมากเลยครับตอนนี้
“มาช้าว่ะ” ไอ้เรียวมันพูดขึ้นขณะที่เท้ามือกับขอบดาดฟ้าที่ยกสูงจากพื้นหนึ่งเมตร ผมเงยหน้าขึ้นมามองหน้ามัน เห็นมันยิ้ม
อ่อนๆส่งมาให้ แต่เพียงเท่านั้นผมก็แทบจะลืมหอบไปเลยครับ
“โพสนั้นหมายความว่าไง?” แม้จะพอเข้าใจความหมายอยู่บ้างแต่อยากจะฟังจากปากมันมากกว่า อยากให้มันยืนยันด้วยคำพูดของมัน กลัวว่าผมจะแค่คิดไปเอง….
“เอาให้หายเหนื่อยแล้วค่อยคุยก็ได้ กูอยู่ตรงนี้แล้วไง กูไม่หนีมึงไปอีกหรอกนะแทน” มันว่าด้วยใบหน้ายิ้มๆ
เป็นรอยยิ้มที่ชินตา
...เป็นรอยยิ้มที่ผม
...คิดถึง
ผมเดินมายืนข้างๆท่าเดียวกันกับเรียว มองเสี้ยวหน้าหล่อเหล่าที่แหงนมองท้องฟ้า ครั้งนี้ผมรู้สึกว่าผมได้เข้าใกล้เรียวกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเมื่อเห็นรอยยิ้มเล็กๆจากใบหน้าของมัน
“เรียว”
“ว่า?”
“จะตอบกูได้ยังเรื่องโพสนั่น”
มันเหลือบมามองผมแวบหนึ่งแล้วยิ้มก่อนสายตาของเรียวจะกลับไปมองบนท้องฟ้าอย่างเดิม อะไรของมันวะแม่ง! จะหลอกให้ดีใจแล้วค่อยเชือดให้เจ็บงี้หรอ? พอถึงตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาดื้อๆ กลัวว่ามันจะเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ
“เรียว” ผมเรียกชื่อมันอีกครั้ง
“ครับ”
สัด! แค่ครับคำเดียวทำให้ผมใจสั่นได้ขนาดนี้เชียว ใจหนอใจเต้นช้าๆหน่อยดิว้า แค่มันครับใส่แค่นี้เองนะเว้ย
“งั้นลงกูลงไปนอนละลีลาว่ะ” งอนใส่แม่งเลยครับ เล่นไม่ยอมพูดจาเอาแต่ยิ้มอยู่นั่น หึ่ย!
“เดี๋ยวดิ” มันเอ่ยรั้งผม มือมันก็รั้งผมไว้ด้วยครับ “If not you, then who ? If not now, then when.? คำตอบของกู”
“กูแปลไม่ออกหรอก” แปลออกครับผมแปลออก แต่กว่าจะง้างปากให้มันพูดได้นี่เล่นเอาใจผมเขวหมด แกล้งงอนเลยครับทีนี้...
“มึงถามอะไรกูล่ะ”
“ถามอะไรตอนไหน?” เออ...กูอะไรมึงเมื่อไหร่ ตั้งขึ้นมาคุยด้วยก็ไม่คุยด้วย แล้วกูไปถามอะไรมึงตอนไหนกัน?
“อยากจะรู้เพียง...ถ้าจบกับเขาแล้วเราจะรักกันมั้ย...อย่าปล่อยให้ฉันเฝ้ารอและคิดฝันไกล...คนเดียวเรื่อยไป...ถ้าเธอนั้นไม่ต้องการ...อย่าให้ฉันคิดไปเอง มึงไม่ได้ถามกูหรอ?”
ถาม..กูถามมึงนั่นแหล่ะไอ้ห่า ถ้าจะร้องมาเป็นท่อนขนาดนี้ใจกูก็สั่นหมดสิวะ ใจเอ๋ยช่วยเต้นเบากว่านี้หน่อยดิว้า
“เปล่าเว้ย ไม่เกี่ยวกับมึงเลยเหอะ” ผมทำปากแข็งไปงั้นแหล่ะ
“แต่ทำไมหน้ามึงแดงวะ ไม่สบายหรือเปล่า” เขินหน้าแดงงี้หรอ ไอ้สัด! ถ้ามันไม่พูดผมก็ไม่รู้ว่าผมรู้สึกหน้าร้อนๆอยู่เหมือนกัน
“อ่ะเอ่อ...กะ...กู กู เอ้อใช้ๆ กูไม่สบาย งั้นกูไปกินยาละนะ” ผมละล่ำละลักพูดผิดๆถูกๆ เพราะสายตาวิบวับของมันนั่นแหล่ะเป็นต้นเหตุ แถมจะยิ้มกริ่มใส่ผมอีก
เขินเป็นนะเว้ยเฮ้ย!
“เดี๋ยวดิครับ” ไอ้ห่า...มาค้งมาครับอะไรกูเขินหมดแล้วเนี่ย แล้วมึงจะมากอดเอวกูทำไมวะ!! ผมกำลังจะเดินออกมาจากมันแต่มันดันคว้าเอวผมเอาไปกอดเสียอย่างนั้น ตอนนี้ผมกับเรียวกำลังหันเข้าหากัน ยิ่งผมดิ้นมันก็ยิ่งกอดผมแน่น ตอนนี้ช่วงล่างไม่มีที่ว่างอีกแล้ว เรียกว่าแนบชิดกันชนิดที่กว่ายุงบินเข้าไปก็โดนบี้ตายอ่ะ
“มึงเล่นบ้าอะไรวะเนี่ย ปล่อยดิ๊” รู้สึกตัวเองเหมือนพจมานที่โดนคุณภาคกระชากเข้ามากอดไว้บนตัก ดิ้นขัดขืนนะแต่ไม่ยอมลุกออกจากตักคุณภาค ผมก็ไม่ออกเหมือนกันแหล่ะ...กลัวมันไม่ตามมาง้อ เรื่องจะยุ่งไปกันใหญ่ แฮ่ๆ
“เออกูบ้า บ้าที่กูคิดกับมึงแปลกไปนี่แหล่ะ มึงแม่งไม่ยอมฟังอะไรกูเลยสักครั้ง”
“กะ..กูกลัวนี่หว่า” ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มตาหลุบมองต่ำเพราะรู้สึกสู้สายตาของเรียวมันไม่ไหว ใจผมสั่นมากเกินไปแล้วตอนนี้
“กูก็กลัว...มึงรู้อะไรไหม? ที่กูมาวันนี้เพราะกูจะมาบอกกับมึงว่าเราลองมาคบกันไหม แต่มึงทำตัวปกติทุกอย่าง จนกูกลัวว่ามึงตัดใจจากกูไปแล้ว กูถึงได้โพส....” คราวนี้เรียวมันเปลี่ยนเป็นพูดเสียงจริงจัง สายตามคมที่ทอดมองผมอยู่นั่นก็จริงจังไม่แพ้กัน ในแววตาไม่มีแววขี้เล่นเหมือนแต่ก่อน ผมหายใจลำบากเมื่อหน้าเรียวมันเลื่อนเข้าใกล้หน้าของผม ก่อนมันจะเอ่ยคำเสียงแผ่วเบาทว่าดังก้องไปทั่วทั้งหัวใจของผม“If not you, then who ? If not now, then when.? มันแปลว่า ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะใช่ใคร ถ้าไม่จูบมึงตอนนี้กูจะได้จูบมึงตอนไหน”
อื้ม...
ในชีวิตเคยจูบมาก็หลายหน แต่ผมขอยืนยันตรงนี้เลยว่า จูบครั้งนี้ทำให้หัวใจผมอุ่นวาบไปทั้งใจมากกว่าครั้งไหนๆ เริ่มจากเรียวที่เป็นฝ่ายเร้าจูบผมก่อนเป็นจูบที่ร้อนแรงก่อนจะแผ่วลง ริมฝีปากของเราแนบชิดกัน ลมหายใจผสมปนเปกันไปหมด เสียงหัวใจผมเต้นดัง เสียงหัวใจเรียวก็เช่นกัน
“แทน”
“อืม” ผมครางเสียงสั่น
“เป็นแฟนกับกูไหม?”
“If not you, then who ? If not now, then when มันแปลว่า ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะใช่ใคร แล้วถ้ากูไม่เป็นแฟนมึงจะให้กูไปเป็นแฟนใคร อื้มมมม” พูดเสร็จเรียวก็รุกจูบผมอีกครั้ง เป็นจูบที่ดี เป็นจูบที่มีรสหวานลิ้นซ่าบซ่าน เป็นจูบที่ผมจะไม่มีวันลืม.....
“ไปต่อที่ห้องกันกัน” เรียวเอ่ยถามข้างหู
“อืม”
จบจริงๆแล้วนะ
............................................................................
LeinSter Talk :วันนี้เครียดกับงานเลยขึ้นไปยืนบนดาดฟ้า ลมแรงดีครับ เย็นสบายดีพอให้เรื่องเครียดๆผ่อนเบาลงไปได้บ้าง คืนขอหลับเอาแรงพรุ่งตื่นไปรบรากับลูกน้องใหม่
ฝันดีครับ.....
ด้วยรัก-