ในตอนเช้า คุณนายแม่ก็ปลุกอาร์ตกับฟิวมาทำบุญใส่บาตรด้วยกัน ก่อนที่ท่านจะผูกข้อไม้ข้อมือรับขวัญทั้งสองคน หลังจากนั้นอาร์ตก็พาน้องไปบ้านญาติผู้ใหญ่ ให้ท่านได้ผูกแขนให้ตนกับน้องด้วย ดูท่าน้องจะชอบใจใหญ่ เห็นลูบด้ายที่ข้อมือแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว มีเอามาอวดด้วยว่าของตนเองมีหลายเส้นกว่าของพี่
พอพาน้องตระเวนไหว้ปู่ย่าตายายเป็นที่เรียบร้อย อาร์ตจึงพาน้องไปเที่ยวชมตลาดของคุณนายแม่ หาซื้อของใช้ของกินกันแถวนั้น ขากลับเลยได้ข้าวของพะรุงพะรังกลับมา โดยที่น้องถือแค่ไอติมมะพร้าวของตัวเองเพียงอย่างเดียว
แม่ค้าในตลาดก็แอบมองแล้วซุบซิบกันเองบ้าง ก็แทบทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้ว่าอาร์ตชอบผู้ชายด้วยกัน แล้วเห็นมาเดินกับเด็กหนุ่มแปลกหน้าเช่นนี้แล้วจะไม่ให้คิดอย่างไรไหว เสียงซุบซิบจึงมีมาให้ได้ยินไม่ขาด ดูเหมือนฟิวก็จะรู้ แต่ก็ทำเป็นไม่ใส่ใจ เดินส่งยิ้มหวานให้ชาวบ้านเขาไปทั่ว จนได้ของกินฟรีมามากมาย
“อาร์ต นั่นใช่อาร์ตหรือเปล่า?”
เสียงทักดังมาจากด้านหลัง ทำให้ทั้งอาร์ตและฟิวหันกลับไปมอง สาวสวย ตาคม หุ่นอวบอึ๋ม เดินเข้ามาหาอาร์ต ทำให้ฟิวก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
“กลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไร วิไม่เห็นได้ข่าว” สาววิถามไถ่อย่างคนสนิทชิดเชื้อ
อาร์ตยิ้มให้เพื่อนเก่าแก่ หรือจะเรียกว่าคนรักเก่าดี เพราะช่วงเวลาหนึ่งทั้งคู่ก็เคยคบหาดูใจกันอยู่ แต่เพราะยังเด็กด้วยกันทั้งคู่ สุดท้ายจึงต่างเลิกราแล้วกลับมาสานสัมพันธ์ฉันเพื่อนกันเรื่อยมาจนปัจจุบัน
“เพิ่งมาถึงเมื่อวานนี่เอง แล้วนี่วิเป็นไงบ้าง ไม่เจอกันซะนาน สบายดีไหม?”
“ก็เรื่อย ๆ แหละ นี่วิก็เปิดร้านเสริมสวยอะไรไปตามเรื่อง ก็พออยู่ได้”
สองหนุ่มสาวพูดคุยกันอย่างออกรส ฟิวจึงถอยออกมานั่งรอที่ร้านค้าใกล้ ๆ ซึ่งป้าคนขายก็ยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง สอบถามราวเป็นลูกเป็นหลานตนเอง ฟิวก็ได้แต่ยิ้ม ตอบคำถามบ้างตามสมควร แต่สายตาก็ไม่ได้ละไปจากหนุ่มผิวเข้มที่กำลังสนทนากับสาวตรงหน้า
“อาร์ต ๆ หนุ่มน้อยคนนั้นใครกันน่ะ หน้าตาน่าเอ็นดูเชียว เธอก็รู้ว่าฉันรักเด็ก อยากเลี้ยงดูจริง ๆ เลยอ้า”
สาววิออกอาการเพ้อ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นจ้องเขม็งมายังตนกับเพื่อนอยู่นานแล้ว หน้าตาดี ดูมีอันจะกินขนาดนี้ แถมยังเดินไปไหนมาไหนกับอดีตคนรักของเธอเสียอีก ท่าทางจะเป็นคนพิเศษ พอเธอพูดอะไรนิดหน่อยเพื่อนสนิทชิดใกล้ก็ออกอาการคิ้วกระตุกเสียแล้ว งานนี้ท่าจะจริงดังเสียงเล่าลือว่าลูกชายเจ้าของตลาดพาแฟนมาเที่ยวบ้าน เพราะได้ยินมาแบบนั้น สาววิถึงได้ถ่อมาให้เห็นกับตาถึงที่นี่อย่างไรล่ะ อย่านึกว่ามันคือเรื่องบังเอิญ ความบังเอิญไม่มีในโลกสำหรับวิกานดา
“น้องเขาชื่อฟิว เห็นว่ามีแฟนแล้วนะ แฟนเขาขี้หึงซะด้วย” อาร์ตหันไปมองตามมือเพื่อนที่ชี้ไปยังที่รักของเขา ทั้งยังตอบคำถามเพื่อนพร้อมดักทางไว้อีกต่างหาก
“ต๊าย ของต้องห้าม ท้าทายไม่เบา”
“เฮ้ย ๆ เพลาหน่อยดีไหม น้องเขามีแฟนแล้วนะ”
อาร์ตรีบดักคอ แต่เพื่อนตัวดีทำหูทวนลม ตรงดิ่งไปหาฟิวที่นั่งรอพี่จนเซ็งแล้วในตอนนี้
“เดี๋ยว!”
อาร์ตรั้งแม่เพื่อนสาวไว้ก่อนถึงตัวฟิวที่ทำหน้าเอ๋อเมื่อเห็นว่าพี่สาวคนสวยตรงมาหาตนเอง
“ขอโทษที แต่คนนี้ให้ไม่ได้ หวง”
บอกพร้อมยักคิ้วให้อีกด้วย ต่อมกรี๊ดของสาววิเลยแตกกระจายเมื่อเพื่อนบอกออกมาโดยไม่สงวนท่าทีแม้แต่น้อย
“อาร์ตน่ะ ทำไมวิถึงไม่เจอก่อนเนี่ย น่ากินขนาดนี้ เจ้ชอบ”
วิเชยคางฟิว เล่นหูเล่นตาใส่อย่างยั่วเย้า ฟิวเลยได้โอกาสเอาคืน ยิ้มหวานให้คุณพี่สาวตามน้ำพี่เขาไป คราวนี้เลยกลายเป็นว่าคู่สนทนาของสาววิกลายเป็นหนุ่มเมืองกรุงอย่างฟิวแทน ปล่อยให้อาร์ตเป็นฝ่ายนั่งแห้งเหี่ยวไม่มีใครสนใจ
“ปล่อยให้เขายั่วอยู่ได้นะ”
พอกลับมาถึงบ้าน อาร์ตจึงสอบสวนน้องในทันที หวงนะนี่ ถึงจะรู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย แต่แฟนตัวเองไปพูดคุยสนิทชิดเชื้อกับคนอื่นแบบนี้ ไม่ให้หึงหวงอย่างไรไหว
“ก็ใครกันล่ะที่เริ่มก่อน?”
คนน้องว่าน้ำเสียงสะบัด เอาไอติมที่ตอนนี้คงละลายหมดแล้วยื่นให้พี่ไปใส่ตู้เย็น ส่วนตนเองเดินลิ่วขึ้นห้องเพื่อไปอาบน้ำ ออกไปเดินข้างนอกไม่นาน เหนียวตัวไปหมดแล้ว
อาร์ตที่เก็บของเสร็จแล้วเดินตามน้องขึ้นมาบนห้องด้วย น้องยังอยู่ในห้องน้ำ อาร์ตจึงนั่งรอ เมื่อน้องออกจากห้องน้ำมา อาร์ตจึงเดินตามน้องที่กำลังหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ กอดรวบร่างกายขาวเนียนที่ยังเย็นชื้นด้วยไอน้ำ แถมยังหอมกรุ่นน่าสัมผัส
“ที่พูดเมื่อกี้ หึงเหรอ?”
“คงไม่หรอกมั้ง”
ฟิวทำเป็นไม่สนใจ มือยังค้นหาเสื้อผ้าตัวที่ถูกใจในตู้อยู่ จนเมื่อถูกริมฝีปากร้อนขบเม้มใบหูที่ไวต่อสัมผัส ฟิวถึงได้หยุดมือแล้วหดคอหนี
“ชอบนะแบบนี้ หึงพี่บ้างก็ดี จะได้รู้สึกว่าพี่เป็นที่รัก”
สบประสานนัยน์ตาโตที่มองตอบมา แขนเรียวโอบรั้งรอบคอพี่ให้โน้มลงมาหา กดจมูกหอมแก้มที่เริ่มสากด้วยไรเคราอย่างเอาใจ
“แค่นี้ยังรักไม่พออีกเหรอ?”
“ยัง ขอมากกว่านี้อีก มาก… ยิ่งกว่านี้”
พูดเพียงเท่านั้นร่างน้องก็ลอยหวือเพราะน้ำมือคนตัวสูงใหญ่ที่นำพาไปยังสมรภูมิรักที่ตั้งรอล่อสายตาอยู่กลางห้อง ชักนำสุดที่รักให้ร่วมดื่มด่ำกับรสสัมผัสที่หอมหวาน พร้อมอารมณ์รักที่พุ่งทะยานสูงจนแทบแตะปลายฝัน
บอกย้ำคำรักซ้ำ ๆ ทั้งการกระทำและคำพูด กระซิบคำหวานที่มีต่อกันเนิ่นนาน จวบจนเรี่ยวแรงสุดท้ายที่ถูกปลดปล่อย ก่อนก้าวเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสุขสมไร้ซึ่งสิ่งกังวลใจ และภยันตรายใดเมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน
……
ฟิวพลิกตัวควานหาไออุ่นข้างกายอย่างงัวเงีย แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ตาปรือปรอยเริ่มกะพริบ ขยับลุกโงนเงนทรงตัวไม่ค่อยอยู่ เหลียวมองรอบกายแต่ก็ไร้เงาคนเป็นพี่ มือเรียวขยับยกขึ้นจะขยี้ตาด้วยความเคยชิน แต่สัมผัสแปลกปลอมบนนิ้วทำให้เจ้าของมือหยุดชะงักงัน นิ่งไปชั่วอึดใจ
สัมผัสเย็นวาบของวัตถุบนนิ้วมือไม่ได้ทำให้ใจของเขาเย็นเยียบตามไปด้วย แต่มันกลับอบอุ่นไปทั้งหัวใจกับสิ่งที่พี่ทำให้ เล็กน้อย… แต่รู้สึกได้ถึงความรักมากมายที่พี่มอบให้ผ่านของสิ่งนี้
นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามความเรียบลื่นของมัน ไม่ได้หรูหรา แต่สัมผัสได้ถึงความจริงใจ แหวนทองคำขาวแทนใจที่นิ้วนางข้างซ้าย ฟิวหัวเราะกับตัวเองเบา ๆ แต่กลับรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นข้างแก้ม สายตาจับจ้องแหวนที่นิ้วมือไม่คลาย เพิ่งสัมผัสและรู้ซึ้งถึงคำว่า ยิ้มทั้งน้ำตา มันเป็นเช่นไร
แกร๊ก
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ?”
อาร์ตเปิดประตูเข้ามาเห็นว่าน้องกำลังนอนดูแหวนที่ตนเองสวมให้น้องตอนหลับอยู่ก็ชะงักไปนิด ก่อนเดินเข้าไปหา พอนั่งลงที่ปลายเตียง ฟิวรีบขยับมาหาพี่ทันที กอดเกี่ยวรอบคอพี่ไว้จากด้านหลัง เกยคางบนไหล่หนาอย่างออดอ้อน
อาร์ตกดจมูกหอมแก้มใสของคนช่างอ้อนอย่างรักใคร่เอ็นดู ไม่ว่านานเท่าไร ฟิวก็ยังคงเป็นฟิวอยู่เช่นเดิม ต่อให้จริงจังแค่ไหนกับบทบาทหน้าที่การงาน แต่เมื่ออยู่ด้วยกันเช่นตอนนี้ น้องก็ยังคงเป็นสุดที่รักของเขาดังเดิม
“พี่อาร์ต”
“หืม?”
“ผมรักพี่”
ฟิวบอกพี่โดยไม่มีเคอะเขิน มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับทั้งคู่ไปแล้วที่จะบอกรักกันบ่อย ๆ เพราะเวลาที่เสียไปมันทำให้พวกเขาตระหนักเป็นอย่างดีแล้วว่า คำว่ารักสำคัญแค่ไหน
“พี่ก็รักฟิว รักมาก”
อาร์ตปลดแขนน้องออก ก่อนจะเปลี่ยนให้น้องมานั่งพิงอกตัวเองแทน มือหนาลูบไล้ไปตามนิ้วเรียวที่สวมแหวนแทนใจของเขา กระซิบถามคนในอ้อมแขนเบา ๆ
“ชอบไหม?”
ฟิวพยักหน้าให้พี่แล้วยิ้มกว้าง บ่งบอกว่าชอบของสิ่งนี้เป็นอย่างมาก ยื่นมือไปจนสุดแขน เอนกายพิงอกพี่ เฝ้ามองดูของถูกใจ เอ่ยถามพี่น้ำเสียงมีความสุข หัวใจพอง ๆ ฟู ๆ จนล้นอกแล้วในตอนนี้
“ทำไมพี่ไม่ให้ตอนผมตื่น?”
เอียงคอมอง รอคำตอบจากพี่ ตาใส ๆ ที่จ้องมองมามันช่างดึงดูดเขาทุกทีไป ให้อยากแนบชิด ไม่อยากผละห่างไปไหน
“แบบนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ”
อาร์ตหอมแก้มคนขี้สงสัยอีกฟอดใหญ่ น้องจึงหอมคืนบ้าง
“ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกอย่างที่พี่ทำให้ผม”
อาร์ตกระชับอ้อมกอดแน่นเข้า ซบใบหน้าลงบนบ่าเล็ก กระซิบคำหวานบอกน้องให้รู้ถึงความในใจ
“ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก เพราะต่อแต่นี้ไป พี่จะทำให้ฟิวทุกวัน ทุกวัน จนมันกลายเป็นเรื่องปรกติธรรมดา สำหรับพี่ ความรักของพี่มันไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน แต่ความรักที่แสนธรรมดานี้มันพร้อมจะเป็นของฟิว แค่เพียงคนเดียว… ตลอดไป”
“พี่อาร์ต”
ฟิวไล้มือข้างที่สวมแหวนบนเรียวปากพี่ อาร์ตจึงไล่ตามประทับรอยจุมพิตบนแหวนกลมเกลี้ยง สบตาหวานใสที่มองมาอย่างมีความหมาย เสียงทุ้มหวานเอ่ยถามดั่งต้องการความมั่นใจ
“เราจะมีกันและกันตลอดไปใช่ไหม?”
“ใช่ มี ‘เรา’ ตลอดไป”
น้ำเสียงหนักแน่นที่เอ่ยบอก นั่นคือคำมั่นที่อาร์ตให้กับน้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
❤❤END❤❤
:pig4: :pig4: :pig4: