พิมพ์หน้านี้ - พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Polkaneko ที่ 19-08-2018 22:47:11

หัวข้อ: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 19-08-2018 22:47:11
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา

เคยไหมที่เวลาเจออะไรที่มันน่ารักมาก ๆ แล้วรู้สึกอยากจะจับเจ้าสิ่งนั้นมาขยำเป็นก้อนแล้วยัดเข้าปาก แล้วกลืนลงท้องไม่ให้เหลือซากให้ใครได้เห็น
ความรู้สึกของพี่เสือเวลาอยู่กับน้องแฮมก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน...
ถ้าพี่เสือจับน้องแฮมกินได้เหมือนขนม พี่เสือจะกินมันทั้งเช้า กลางวัน เย็น ให้ครบสามมื้อไปเลย!

น่ารักเกินไปจับแดกแม่งให้หมด!



-----------------------------------------------

ฝากพี่เสือกับน้องแฮมแฮมด้วยน้าาาา *ไหว้ย่อ*
หัวข้อ: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 19-08-2018 22:48:54
ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ
             

                ประตูรั้วสีขาวยังปิดสนิท รถซีอาร์วีสีดำคันเก่งก็ยังคงจอดอยู่ที่ประจำ หน้าประตูรั้วปรากฏร่างผู้ชายตัวเล็กในชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยมตั้งแต่หัวจรดเท้ารวมทั้งกระเป๋าเป้สีแดงสดใสไม่ต่างกับแสงแดดยามเช้าในเวลานี้ เขาชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน

                “น้าปลาครับ น้าปลา”

                เขาตะโกนเรียกหญิงวัยกลางคนที่เดินอยู่ภายในบ้าน

                “อ้าว น้องแฮม มาหาพี่เสือเหรอลูก”

                “น้องแฮมนัดกับพี่เสือไว้ว่าจะไปมหาลัยด้วยกัน แต่ไม่เห็นพี่เสือมารับสักที”

                น้าปลาเดินมาเปิดประตูรั้วให้เด็กหนุ่มเข้ามา

                “จริงสิ วันนี้น้องแฮมกลายเป็นนักศึกษาปี 1 แล้ว”

                “น้องแฮมใส่ชุดนักศึกษาแล้วดูหล่อไหมฮะ”

                แฮมหมุนตัวอวดชุดนักศึกษาก่อนจะยิ้มกว้างจนตาหยี่ น้าปลายิ้มด้วยความเอ็นดู

                “หล่อมากเลยครับ”

                “แล้วนี่พี่เสืออยู่ไหนเหรอครับ”

                เขามองซ้ายมองขวาไม่เห็นแม้แต่เงาของพี่ชายข้างบ้าน

                “น่าจะยังไม่ตื่นน่ะลูก น้องแฮมขึ้นไปปลุกพี่เขาให้หน่อย เดี๋ยวก็สายกันพอดี”

                “ฮะ”

                แฮมวางเป้ไว้ที่โซฟากลางห้องรับแขกก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดไปด้วยความคุ้นเคย เขาหยุดที่หน้าห้อง ๆ หนึ่ง ลองเคาะประตูเรียกดูก่อน

                “พี่เสือ ๆ น้องแฮมมาแล้วนะ”

                ไม่มีเสียงตอบรับจากคนในห้อง แฮมลองเอาหูแนบกับประตูก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

                “สงสัยพี่เสือจะยังไม่ตื่น น้าปลาบอกให้ขึ้นมาปลุกพี่เสือ งั้นน้องแฮมจะเข้าไปแล้วนะ”

                แฮมลองบิดลูกบิดประตู โชคดีที่มันไม่ได้ล็อก พอเข้ามาในห้องก็พบกับแอร์เย็นฉ่ำจนแฮมรู้สึกขนลุก เขาเอามือลูบ ๆ แขน ก่อนจะค่อย ๆ ย่องไปยังเตียงที่ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของห้อง

                คนที่เขาขึ้นมาตามยังคงซุกตัวอยู่ภายใต้ก้อนผ้าห่มนั่นแน่ๆ คิดแบบนั้นแฮมก็จัดการดึงผ้าห่มออกทันที

                “พี่เสือ พี่เสือตื่น นี่มันจะเจ็ดโมงแล้วนะ เดี๋ยวน้องแฮมไปไม่ทัน”

                แต่ยิ่งดึงคนที่นอนอยู่ก็ยิ่งรวบผ้าห่มไว้แน่น ส่งแต่เสียงงึมงำออกมาจากใต้ผ้าห่ม เขาออกแรงดึงจนเหนื่อยคนบนเตียงก็ไม่มีท่าทีจะลุกสักที

                “พี่เสืออ่ะ น้องแฮมเหนื่อยแล้วนะ”

                คนตัวเล็กเบะปากทำแก้มพอง เรียกอย่างไงพี่เสือก็ไม่ยอมลุกสักที แบบนี้ต้องไปสายแน่ ๆ เลย

                ไม่เอาน้าา...น้องแฮมไม่อยากไปสายตั้งแต่วันแรก

                สงสัยน้องแฮมคงต้องเพิ่มความพยายามขึ้นแล้วละ เมื่อคิดแบบนั้น แฮมจึงตัดสินใจปีนขึ้นไปเตียง กระชากผ้าห่มที่คลุมตรงหมอนออกสุดแรงที่มี

                “พี่เสือตื่น”

                แฮมดึงผ้าห่มออกได้ในที่สุด เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มที่ดวงตายังปิดสนิท แต่คิ้วหนานั่นขมวดมุ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

                คนตัวเล็กกระเถิบเข้าไปเขย่าแขนคนที่นอนอุตุอยู่เบา ๆ

                “พี่เสือ ๆ ตื่น ๆ ลุกขึ้นมา”

                เขาพยายามจะดึงแขนพี่เสือของเขาให้ลุกขึ้น แต่คนตัวโตกว่ากลับไม่ยอมให้ความร่วมมือเลย ส่งเสียงงึมงำว่าจะนอนแล้วก็หลับต่อ

                แฮมถอนหายใจด้วยความสิ้นหวัง เขายกมือขึ้นเกาหัว เม้มริมฝีปากบางอย่างใช้ความคิด ก่อนจะตัดสินใจกระชากผ้าห่มออกจากตัวคนที่บนเตียง

                “ง่ะ พี่เสือทำไมนอนแก้ผ้า”

                คนตัวเล็กรีบยกมือขึ้นปิดตาทันทีก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนมือลงมามองร่างสูงใหญ่ที่นอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียง แก้มขาว ๆ ขึ้นสีระเรื่อ นี่ยังดีนะที่ข้างล่างยังมีบ๊อกเซอร์อยู่ ไม่งั้นน้องแฮมต้องเป็นตากุ้งยิงแน่ ๆ

                “อือ หนาว”

                เสียงพี่เสือพึมพำเบา ๆ พร้อมกับมือที่ขยับควานหาผ้าห่ม แฮมเห็นแบบนั้นก็จับแขนพี่ชายเอาไว้กะว่าจะดึงให้ลุกขึ้น แต่กลายเป็นว่าพอออกแรงดึงกลับโดยคนบนเตียงดึงกลับ แถมยังคว้าตัวไปกอดแทนหมอนข้างเสียอย่างนั้น

                “พี่เสือปล่อยน้องแฮมเดี๋ยวนี้นะ เสื้อใหม่น้องแฮมยับหมดแล้วเนี่ย”

                แฮมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวโต แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งโดนกอดแน่นขึ้นจนเขาอึดอัดไปหมดแล้วเนี่ย

                ส่วนเสือที่นอนอยู่ก็รู้สึกเหมือนมีตัวอะไรมากวนการนอนหลับของเขา เสียงงุ้งงิ้ง ๆ ข้างหูนี่น่ารำคาญชะมัด หนาวก็หนาว ผ้าห่มก็แม่งหายไปไหนวะ เลยดึงไอ้ตัวงุ้งงิ้งมากอดไว้ซะเลย จะได้เงียบ ๆ แล้วเขาจะได้นอนต่อเสียที

                “พี่เสือออ น้องแฮมหายใจไม่ออก ปล่อยเดี๋ยวนี้น้า”

                ยังไม่หยุดอีกไอ้เสียงงุ้งงิ้งนี่...

                เสือเลยจัดการพลิกตัวคนในอ้อมกอดลงบนที่นอน พร้อมกับจัดการเอาขาพาดกดคนตัวเล็กไว้กับเตียง

                “หวายยย พี่เสือ ทับน้องแฮมทำไม”

                “อืม เงียบ ๆ คนจะนอน”

                เสือดุเจ้าตัวเล็กที่ยังทำเสียงงุ้งงิ้งไม่ยอมหยุด เขาขยับตัวซุกหน้าเข้ากับซอกคอขาว สูดกลิ่นหอม ๆ คล้ายกับกลิ่นหวาน ๆ เหมือนคุกกี้อบใหม่เข้าไปเต็มปอด

                อืม หอมจัง

                ว่าแล้วพี่เสือก็ขอดมสักหน่อย จมูกโด่งซุกไซ้ไปที่ซอกคอของคนตัวนิ่ม ไล่สูดกลิ่นไปจนถึงซอกคออีกด้าน

                “คิก พี่เสือไม่เอา น้องแฮมจักกะจี้”

                คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักเมื่อพี่เสือทำยุกยิกอยู่บนตัว

                “โอ้ย พี่เสือกัดน้องแฮมทำไม”

                พี่เสือนิสัยไม่ดี อยู่ดี ๆ ก็มากัดตรงคอน้องแฮม

                “เงียบ ๆ เถอะ”

                เสียงทุ้มกระซิบข้างหูก่อนจะงับเบา ๆ ที่ใบหูนิ่ม ทำเอาแฮมย่อคอทันทีด้วยความรู้สึกขนลุก

แค่จะขอชิมหน่อยเดียวเท่านั้นแหละ

แต่ยี่ห้อพี่เสือไม่ได้หยุดแค่ชิมหรอก มือใหญ่ถลกเสื้อเชิ้ตขาวออกจากกางเกงสแล็คถูกระเบียบก่อนจะล้วงเข้าไปสัมผัสหน้าท้องแบนราบ

“อือ พี่เสือไม่เอาสิ เดี๋ยวชุดใหม่น้องแฮมยับ ลุกได้แล้วพี่เสือ”

น่ารำคาญจริง ทำให้เงียบดีกว่า...

พี่เสือก็เลยจัดการปิดปากเจ้าหนูแฮมขี้โวยวายด้วยริมฝีปากตัวเอง ขบริมฝีปากล่างเบา ๆ ให้อีกฝ่ายเผยอรับ

“อือ”

คนตัวเล็กได้แต่ส่งเสียงประท้วงอยู่ในคอที่อยู่ดี ๆ พี่ชายก็มากัดปาก แถมยังเอาลิ้นเข้ามาดุ้น ๆ ในปากอีก พี่เสือส่งลิ้นเข้าไปสำรวจภายในปากเล็กนั้น เป็นจูบที่มีรสชาติเหมือนกับคุกกี้เนยอบใหม่ ๆ หอมหวานจนอยากชิมแล้วชิมอีก เขาชิมจนพอใจแล้วค่อยผละออกมาสูดกลิ่นหวาน ๆ ต่อ

หลังจากที่อีกฝ่ายยอมเปิดปากให้ น้องแฮมก็ได้แต่นอนหายใจหอบหน้าแดงปล่อยให้พี่ชายยุกยิกอยู่บนตัว ฝ่ายพี่ชายก็มือซนสำรวจคนตัวเล็กไม่หยุดจนมือเลื่อนไปปลดหัวเข็มขัด คนในอ้อมกอดถึงได้ส่งเสียงประท้วงอีกครั้งพร้อมกับคว้ามือที่กำลังซุกซน

“พี่เสือแก้ผ้าน้องแฮมทำไม อือ ไม่เอานะ เดี๋ยวน้องแฮมไปสาย พี่เสือไม่แกล้งน้องแฮมสิ”

คราวนี้ละคนเป็นพี่ถึงได้ตื่นเต็มตา ลืมตาขึ้นมองคนที่นอนทำตาโตหัวยุ่งอยู่ใต้ร่าง

ตายห่า เกือบไปแล้วกู...

พี่เสือรีบลุกขึ้นนั่งเอามือขยี้หัวสลัดความง่วงทิ้ง เกือบจะได้กินเจ้าหนูแฮมนี่เป็นอาหารเช้าแล้วไหมละ

“พี่เสือนิสัยไม่ดี แกล้งน้องแฮมแต่เช้า” แฮมลุกขึ้นนั่งตามพี่ชาย ทำปากยื่นแก้มป่องโวยวายคนขี้แกล้ง “ดูสิ เสื้อผ้าชุดใหม่ของน้องแฮมยับหมดเลย”

เสือมองภาพตรงหน้าก็ต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ภาพเจ้าหนูตัวขาวนั่งอยู่บนเตียงนอนในสภาพเสื้อเชิ้ตขาวหลุดลุ่ยไหล่ตก เนคไทสีดำถูกคลายลงมาจนเกือบหลุด เผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีขาวเนื้อบางข้างใน แล้วไหนจะปากเจ่อ ๆ กับแก้มแดง ๆ นั่นอีก เรียกว่าตอนนี้เสือ’ตื่น’แล้ว

“น้องแฮมเข้ามาทำไม” เขาถามน้องชายข้างบ้านเสียงแหบแห้ง

“ก็พี่เสือบอกว่าจะพาน้องแฮมไปส่ง น้องแฮมก็มารอตั้งแต่เช้า แต่พี่เสือไม่ยอมลงมาสักที น้าปลาก็เลยให้น้องแฮมขึ้นมาปลุกพี่เสือ จริงสิ พี่เสือรีบไปอาบน้ำเลย น้องแฮมไม่อยากไปสายตั้งแต่วันแรกนะ”

ไม่เพียงแค่พูดเจื้อยแจ้ว น้องแฮมยังลุกขึ้นมาฉุดพี่ชายให้ลุกขึ้นด้วย

เสือเห็นสภาพเครื่องแต่งกายของน้องแล้วอยากจะเขกหัวตัวเอง อีกนิดซิปกางเกงก็จะถูกรูดลงมาอยู่แล้วเชียวเกือบไปแล้วสิ ๆ

“แต่งตัวให้มันเรียบร้อยก่อนน้องแฮม”

ได้ยินแบบนั้นแฮมก็ก้มลงสำรวจตัวเองก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่ตัวต้นเหตุ

“ง่ะ ก็เพราะพี่เสือนั่นแหละ นิสัยไม่ดี มาแกล้งน้องแฮมทำไม”

เจ้าหนูตัวเล็กโวยวายต่อว่าพร้อมกับเอียงคอโชว์หลักฐานการ’แกล้ง’ของพี่ชาย

“เนี่ย กัดน้องแฮมด้วย เจ็บจี๊ดเลย กัดปากน้องแฮมอีกแล้วด้วย”

พี่เสือรีบดึงมือขาว ๆ ที่กำลังเกาต้นคอตัวเองตรงรอยกัดก่อนที่มันจะขึ้นรอยไปมากกว่านี้

“พี่เสือขอโทษ ก็น้องแฮมมากวนพี่เสือตอนนอน พี่เสือก็เลยละเมอ”

“พี่เสือละเมออะไรก็ไม่รู้ ปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น”

แต่ตอนนี้พี่เสือตื่นไปทั้งตัว ทิ้งไว้นานกว่านี้ไม่ดีแน่ ๆ รีบให้น้องแฮมออกไปก่อนดีกว่า

“มา พี่เสือช่วยแต่งตัวแล้วเดี๋ยวน้องแฮมลงไปรอข้างล่างนะ”

“อือ”

เจ้าตัวเล็กพยักหน้าก่อนจะยืนขึ้นตรงข้างเตียงให้พี่ชายที่นั่งอยู่บนเตียงช่วยจัดเสื้อผ้า ปากก็พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด

“แล้วชุดนักศึกษาของน้องแฮมยับแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอพี่เสือ คุณครู เอ้ย อาจารย์จะดุไหมอ่า”

“ไม่ดุหรอก”

พี่เสือช่วยติดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่เมื่อครู่เขาเป็นคนปลดเองกับมือ เขาช่วยสอดเสื้อเข้าไปในกางเกงสแล็คใส่เข็มขัดให้เรียบร้อย ก่อนจะรูดเนกไทสีเข้มให้ชิดคอและจัดปกคอเสื้อให้เข้าที่

“เอาละ เรียบร้อยแล้ว”

มือใหญ่ของพี่เสือช่วยลูบผมเผ้าของน้องให้ด้วยก่อนจะอดใจไม่ได้ดึงหัวทุย ๆ มาหอมฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“เมื่อเช้าน้าขวัญอบคุกกี้เนยเหรอ”

กลิ่นนมเนยหวาน ๆ ที่ยังติดตัวเจ้าหนูแฮมของเขาทำให้เสือถามขึ้นมา

“ใช่ ๆ พี่เสือรู้ได้ไง เมื่อเช้าแม่อบคุกกี้เนยให้น้องแฮมเอาไปแจกเพื่อนใหม่ที่มหาลัย อร่อยมากเลย พี่เสือจะชิมไหม แต่มันอยู่ในเป้นะ น้องแฮมวางไว้ข้างล่าง เดี๋ยวลงไปน้องแฮมจะเอาให้ชิมนะ”

“ไม่ต้องหรอก พี่ชิมแล้ว”

“เอ๋ พี่เสือชิมตอนไหน เมื่อเช้าพี่เสือไม่ได้ไปบ้านน้องแฮมนี่” น้องแฮมเอียงคอสงสัยในคำพูดพี่เสือ

“ก็ที่น้องแฮมเคยเอามาให้ไง ไป ๆ ลงไปรอข้างล่าง พี่จะไปอาบน้ำ”

คนตัวโตรีบตัดบท และรีบไล่เจ้าเด็กขี้สงสัยให้ออกจากห้อง

“โอเค พี่เสือรีบเลยนะ สายแล้ว ๆ”

“เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนน้องแฮม”

แฮมที่กำลังจะพุ่งออกจากห้องหันมาตามเสียงเรียกของพี่ชาย

“น้องแฮมอย่าบอกแม่เรื่องที่พี่เสือกัดนะ”

ต้องห้ามกันไว้ก่อน ไม่งั้นเจ้าตัวยุ่งเผลอเล่าอะไรให้แม่เขาฟังแล้วมีหวังเขาโดนสวดยับแน่ ๆ

“พี่เสือกลัวน้าปลาจะดุละสิ น้องแฮมไม่บอกก็ได้ แต่เย็นนี้พี่เสือต้องพาน้องแฮมไปกินไอติมนะ”

“ไอติมอีกละ”

นี่ก็ชอบกินจังเลยไอติมเนี่ย แล้วคิดสภาพผู้ชายตัวโตหน้าเข้มแบบเขานั่งกินไอติม มันไม่ได้ไง เสียลุคหมด

“ไม่งั้นน้องแฮมจะฟ้องน้าปลาว่าโดนพี่เสือกัดตั้งหลายที”

“ครับ ๆ ไอติมก็ไอติม”

เดี๋ยวนี้พอโตขึ้นแล้วหัดต่อรองนะน้องแฮม

พอเจ้าหนูตัวจ้อยออกจากห้องไปแล้ว เสือก็ก้มลงมองช่วงล่างของตัวเองที่นูนขึ้น โชคดีที่เมื่อกี้เอาผ้าห่มบังไว้ แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะเจ้าหนูแฮมตัวนิ่มนั่นแหละทำให้เขาเป็นแบบนี้ สงสัยต้องรีบทำเวลาในห้องน้ำเสียแล้วไม่งั้นสายแน่ ๆ

หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย เสือก็ลงมาเห็นน้องชายข้างบ้านกำลังนั่งคุยอยู่กับแม่ของเขา เจ้าตัวเล็กยิ้มร่าทันทีที่เห็นเขา

“พี่เสือมาแล้ว”

“กว่าจะตื่นนะพี่เสือ เห็นน้องแฮมบอกว่าปลุกอย่างไงก็ไม่ยอมตื่น สัญญาว่าจะไปส่งน้องแฮมไม่ใช่เหรอ”

“เมื่อคืนเสือนอนดึกไปหน่อยน่ะแม่” เสือส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้แม่

“พี่เสือ ๆ ไปกัน ๆ”

น้องแฮมสะพายกระเป๋าใบเก่งแล้วลุกมาเกาะแขนพี่ชาย

“งั้นเสือไปก่อนนะแม่”

“ขับรถดี ๆ นะพี่เสือ อยู่ที่มหาลัยก็ดูแลน้องแฮมด้วย”

น้าปลาฝากฝังน้องชายข้างบ้านคนโปรดให้ลูกชายช่วยดูแล เสือส่งเสียงตอบรับก่อนจะคว้ากุญแจรถเดินนำน้องแฮมไปขึ้นรถ

“คร้าบบบ”

 

รถซีอาร์วีสีดำจอดหน้าคณะศึกษาศาสตร์เพื่อส่งเด็กปี 1 ให้ทันวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ของคณะ แฮมรีบเปิดประตูฝั่งข้างคนขับแล้วกระโดดลงกำลังจะออกตัววิ่งไปหาเพื่อน ๆ ก็ได้ยินเสียงเตือนเสียก่อน

“น้องแฮมอย่าวิ่ง”

กึก...

น้องแฮมหยุดแล้วหันมามองคนที่พาเขามาส่งได้ทันเวลาพอดีด้วยสีหน้าลังเล

“แต่ว่าโอ๊ตกวักมือเรียกแล้วนะพี่เสือ แล้วคนอื่นเขาก็ไปรวมกันอยู่ตรงโน้นหมดแล้วด้วย”

คนตัวเล็กชะเง้อมองดูเด็กปี 1 คนอื่น ๆ ที่กำลังไปรวมตัวกันอยู่ที่ลานคณะ ดูเหมือนกำลังเช็กชื่อกันอยู่ด้วยสิ

เสือที่ก้าวลงมาจากรถแล้วเหลือบมองกลุ่มนักศึกษาตรงนั้นแล้วหันกลับมาสนใจเจ้าหนูแฮมด้วยความหนักใจ

                มีแต่พวกเด็กผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจ...

                “เดี๋ยวพี่เสือเดินไปส่งดีกว่า”

                “ไม่เอาอ่ะ น้องแฮมโตแล้ว จะให้พี่เสือไปส่งได้ไง”

                น้องแฮมขมวดคิ้วทำหน้าจริงจัง

                “นี่เพื่อน ๆ เขาไปเข้าแถวกันหมดแล้วนะ เดี๋ยวพี่เสือจะได้ช่วยพูดให้ รุ่นพี่จะได้ไม่กล้าว่าน้องแฮมมาสายไง”

                คนตัวเล็กทำท่าคิดตาม ได้ยินจากโอ๊ตว่าพวกเด็กปี 1 ถ้าทำตัวมีปัญหาจะโดนรุ่นพี่แกล้งเอาได้

                “งั้นก็ได้”

                แฮมเดินนำพี่ชายไปหาเพื่อนสนิทที่ยืนรออยู่ โอ๊ตยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าเป็นพี่เสือ เขารู้จักกับแฮมมาตั้งแต่เรียนมัธยมต้น จึงรู้จักคุ้นเคยกับพี่ชายข้างบ้านที่คอยรับคอยส่งเพื่อนเขาคนนี้เป็นอย่างดี

                “น้องคะ น้อง 2 คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะค่ะ มาลงชื่อหรือยัง”

                รุ่นพี่ปี 2 ที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะตะโกนเรียกพวกเขา โอ๊ตจึงรีบสะกิดเพื่อนให้เดินไปด้วยกัน โดยมีเสือเดินตามหลังมาเงียบ ๆ

                “หาดูชื่อตัวเองแล้วเซ็นรับป้ายชื่อค่ะ เร็ว ๆ ด้วยนะคะ เพื่อน ๆ รอกันนานแล้ว”

                พี่ผู้หญิงผมยาวอีกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ทำเอาเด็กใหม่ถึงกับตัวลีบ เปิดหาชื่อตัวเองกันมือระวิง เสือจึงเขยิบเข้าไปใกล้โต๊ะ

                “ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีถนนตรงหน้ามหาลัยรถมันติด พี่ก็เลยมาส่งน้องสายไปหน่อย”

                “อุ้ย พี่เสือ”

                รุ่นพี่ที่เมื่อกี้ยังนั่งหน้าบึ้งอยู่แท้ ๆ กลับยิ้มหวานทันทีที่เห็นหน้าคนที่กำลังก้มตัวลงมาคุยกับเธอ

                ก็นี่มันพี่เสือ ปี 4 อดีตเดือนคณะวิศวะสุดหล่อที่ใคร ๆ ต่างล่ำลือกันถึงกิตติศัพท์ความเป็นคาสโนว่า ตัวจริงดูใกล้ ๆ หล่อเข้มกว่าที่เคยเห็นไกล ๆ ตั้งเยอะ

                “นี่น้องชายพี่เสือเหรอคะ”

                เธอรีบเปลี่ยนน้ำเสียงทันที เหลือบมองเด็กหนุ่มตัวขาว ๆ หน้าใสกิ๊กที่พี่เสือยืนประกบไม่ห่าง เห็นป้ายชื่อที่เพื่อนเธอเพิ่งส่งให้ห้อยคอ เขียนชื่อว่า ‘แฮม’

                “ใช่ครับ อย่างงั้นพี่ฝากน้องแฮมด้วยนะครับ”

                ว่าแล้วพี่เสือก็ส่งยิ้มมุมปากเท่ ๆ ให้กับสาว ๆ ทำเอาพวกเธออ่อนระทวย รับปากจะดูแลน้องชายของพี่เสือเป็นอย่างดี เมื่อจัดการฝากฝังน้องชายเรียบร้อย เขาก็ขอตัว

                “งั้นพี่ไปก่อนนะครับ แล้วตอนเย็นจะมารับ”

                ก่อนไปเสือหันไปคุยกับน้องแฮม มือใหญ่วางบนหัวทุย ๆ ก่อนจะขยี้เบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ทำเอาสาว ๆ ที่แอบมองถึงกับกรีดร้องในใจ

                “ฮะพี่เสือ”

                น้องแฮมพยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มกว้างจนตาหยี่ให้พี่ชาย ทำเอาเสือต้องหักห้ามใจอย่างหนักไม่ให้คว้าตัวน้องมาฟัดต่อหน้าคนอื่น

เสือหันไปหาโอ๊ตเพื่อนสนิทของน้อง ก่อนจะส่งสายตาแบบที่รู้กัน

“พี่ฝากด้วยนะโอ๊ต ถ้ามีอะไรก็ไลน์ไปบอกพี่ได้เลย”

“โอเคครับ”

พี่เสือตบบ่าเขาเบา ๆ ก่อนจะเดินเท่ ๆ กลับไปยังรถที่จอดขวางอยู่ตรงหน้าคณะ โอ๊ตหันกลับมามองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังยิ้มแฉ่งให้เพื่อนใหม่ เห็นสายตาเป็นประกายของผู้ชายหลายคนที่มองมาแล้วก็ได้แต่กลุ้มใจ สงสัยเขาต้องขอค่าจ้างพิเศษจากพี่เสือเพิ่มในการดูแลเพื่อนตัวจิ๊ดคนนี้เสียแล้วสิ

 

TBC....



เรื่องนี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบที่ตัน ๆ เรื่องอื่น แต่อยากเขียนอะไรสักอย่าง เลยเกิดเป็นเรื่องนี้ขึ้นมาแบบปุ๊บปั๊บ อย่างไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ [19/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 20-08-2018 00:54:18
อุ้ยตายเริ่มมากก็รุนแรงซะแล้ว  :hao6:
อิตาเสือนี่น่าจับดีดขามากขึ้นสตาร์ทติดเร็วเชียวนะ  :hao3:
ว่าแต่ CRV ของเสือน้อยคุงเป็นตัว 1.6 turbo iDtech หรือเปล่าคะคือรอบต่ำก็พุ่งแล้วว  :hao7:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ [19/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 20-08-2018 02:01:13
 :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ [19/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-08-2018 10:07:34
 :L2: :pig4:

น่ารัก
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ [19/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-08-2018 17:23:47
อะไรยังไง พี่เสือ~ :hao3:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ [19/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 22-08-2018 08:48:08
เริ่มต้นอย่างน่ารักเลย

.... จะรออ่านนะคะ
และหวังว่าจะไม่ดราม่าอย่างหนักหน่วงเนอะ :mew3:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ [19/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-08-2018 10:28:32
ชอบเรื่องแนวนี้ น่ารักดี ชอบน้องแฮม
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ [19/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 22-08-2018 19:52:37
น้องแฮมน่ารักกก ใสซื่อมากหนู

 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 1 อย่าแหย่เสือหลับ [19/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-08-2018 20:47:18
อุ้ย พี่เสือ เหยื่อน่ากลืนมาก
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 2 ใจดี(ไม่)สู้เสือ [23/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 23-08-2018 21:47:00
ตอนที่ 2 ใจดี(ไม่)สู้เสือ


พอถึงตอนเย็นหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมปฐมนิเทศและรับน้องใหม่ รถซีอาร์วีสีดำคันเดียวกับเมื่อเช้าก็มาจอดที่หน้าคณะศึกษาศาสตร์เช่นเดิมอย่างไม่กลัวว่าพี่ยามจะมาไล่ เจ้าของรถลงไปยืนทำเท่พิงประตูรถฝั่งคนนั่ง ให้นักศึกษาสาว ๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ชื่นชมความหล่อของอดีตเดือนวิศวะ

แฮมที่กำลังโบกมือบ๊ายบายเพื่อนใหม่และรุ่นพี่ก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาพี่ชายทันทีที่เห็น

“พี่เสือ”

คนตัวเล็กยิ้มแฉ่งเมื่อเห็นพี่เสือมาตามนัด ตรงเข้าไปเกาะแขน

“ไอติม ๆ”

“ใจเย็นสิน้องแฮม”

คนเป็นพี่หลุดขำด้วยความเอ็นดูที่เจ้าหนูแฮมเอาแต่นึกถึงของกิน ก่อนจะสังเกตเห็นว่าน้องแฮมอยู่ในสภาพที่ผมถูกมัดเป็นจุกน้ำพุเปิดหน้าผากโชว์เหม่ง ส่วนแก้มใส ๆ ทั้ง 2 ข้างก็ถูกปะแป้งจนขาววอก

“แล้วนี่จะไปกินไอติมทั้งสภาพแบบนี้น่ะเหรอ”

“ง่า ทำไมอ่ะ ไปไม่ได้เหรอ”

ก็ตอนที่ทำกิจกรรมพวกพี่ ๆ ยังบอกว่าน้องแฮมแต่งแบบนี้แล้วดูน่ารัก ปะแป้งขาว ๆ เย็น ๆ น้องแฮมชอบ

“คนอื่นเขาจะได้คิดว่าพี่เลี้ยงกุมารทองน่ะสิ”

“ไม่เอานะ น้องแฮมไม่ใช่กุมารทอง”

กุมารทองมันคือผีนี่ น้องแฮมเคยดูในละครกับแม่

โอ๊ตเดินมาสมทบกับคนทั้งคู่ในสภาพที่ไม่ต่างกันกับน้องแฮมเท่าไหร่ เพียงแต่ผมถูกมัดแกละเป็น 2 จุกเท่านั้น จนเสืออดไม่ได้ที่จะแกล้งแหย่

“อ้าว ไม่ใช่กุมารทอง แต่เป็นรักยมสินะ”

“โอ้ย พี่เสือ ผมไม่อยากเป็นรักยมคู่กับเจ้าหนูนี่หรอก”

“เราก็ไม่อยากเป็นรักยมคู่กับโอ๊ตเหมือนกันแหละ”

แฮมทำปากยื่นใส่เพื่อน เห็นท่าเพื่อนรักจะแตกคอกันเพราะเรื่องรักยมเสียแล้ว พี่เสือได้แต่ยิ้มขำ ก่อนจะหันไปถามโอ๊ต

“ทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหมโอ๊ต”

“พี่เสือไม่ต้องห่วงครับ ผมจัดการกันให้หมดเรียบร้อย แต่งานนี้คงต้องขอเพิ่มนะพี่ ไอ้หนูจิ๊ดนี่เรียกคนมาไม่หยุดจริงๆ”

มีทั้งเพื่อนใหม่ทั้งรุ่นพี่วนเวียนมาขอเบอร์ขอไลน์ของแฮม เขานี่ต้องคอยตามประกบทั้งวัน

“ได้ เดี๋ยวพี่จะให้เป็นพิเศษ”

“ขอบคุณครับ” โอ๊ตยิ้มด้วยความยินดี พี่เสือแกใจป้ำเสมอถ้าเป็นเรื่องเพื่อนตัวเล็กของเขาคนนี้

“คุยอะไรกันเหรอ พี่เสือจะให้อะไรโอ๊ต แล้วน้องแฮมละ ไม่ให้เหรอ”

น้องแฮมมองหน้าพี่ชายกับเพื่อนสลับกันด้วยความสงสัย

“พี่เสือให้โอ๊ตช่วยทำงานให้น่ะครับ โอ๊ตทำดี พี่เสือก็เลยจะให้รางวัล”

“อ้อ แบบนี้นี่เอง”

น้องแฮมเข้าใจ ก็โอ๊ตเป็นคนขยัน ทำงานเก็บเงินได้ตั้งเยอะ โอ๊ตเคยเล่าว่าตอนปิดเทอมโอ๊ตไปทำงานพิเศษที่ร้านไอติมในห้างด้วย

“ใช่ ๆ ไอติม โอ๊ตไปกินไอติมกัน พี่เสือบอกจะเลี้ยงไอติม”

โอ๊ตเหลือบมองหน้าคนที่จะเป็นเจ้ามือ เห็นสายตานิ่ง ๆ ส่งมาให้คงไม่ได้คิดที่จะเลี้ยงเขาด้วยแน่ ๆ

“เอ่อ แฮมไปกับพี่เสือเถอะ เราต้องรีบกลับน่ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”

“โอเค บ๊ายบายโอ๊ต”

แฮมโบกมือหยอย ๆ ให้เพื่อนที่เดินแยกไปอีกทาง

“ป่ะ น้องแฮมขึ้นรถ”

พี่เสือเปิดประตูให้น้องขึ้นไปนั่ง มือใหญ่คว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ด้วย คนตัวเล็กยิ้มขอบคุณ ก่อนที่เขาจะอ้อมมาขึ้นรถฝั่งคนขับ เสือมองดูหน้าน้องชายอีกที ก็จะเอ่ยถาม

“น้องแฮมมีทิชชูเปียกใช่ไหม”

“มีฮะ พี่เสือจะเช็ดมือเหรอ”

แฮมเปิดกระเป๋าเป้คุ้ยหาทิชชูเปียกที่แม่เอาใส่ไว้ให้เมื่อคืนก่อนจะยื่นให้พี่ชาย พี่เสือรับมาดึงทิชชูเปียกออกจากซอง

“น้องแฮมอยู่นิ่ง ๆ ก่อนนะ”

แล้วพี่เสือก็ค่อย ๆ เช็ดคราบแป้งที่ติดอยู่บนหน้าของคนตัวเล็กออกจนเห็นแต่แก้มใส  ๆ

“เอาจุกออกด้วยเนอะ” ว่าแล้วพี่เสือก็จัดการแกะหนังยางที่มัดผมน้องออก ไอ้รุ่นพี่พวกนั้นก็ดันใช้หนังยางมัดถุงแกงมามัด ดูสิพันกับผมนิ่ม ๆ ของน้องแฮมไปหมด แกะเสร็จก็จัดการใช้มือสางผมให้ลงมาปิดหน้าผากตามเดิม

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“ขอบคุณฮะ”

น้องแฮมยิ้มให้จนตาหยี่ พี่เสือที่อดใจมาแต่เช้าเลยจุ๊บแก้มนิ่มไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นเขี้ยว ดีที่รถของเขาติดฟิล์มค่อนข้างทึบทำให้คนที่เดินผ่านไปมาไม่มีใครสังเกตเห็น

“ป่ะ ไปกินไอติมกัน”

“เย้”

เสือขับรถพาน้องแฮมมายังคาเฟ่ขนมหวานร้านประจำที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเขานัก คนน้องเปิดประตูกระโดดลงจากรถทันทีที่รถจอดสนิท จนพี่ชายต้องส่ายหัวแล้วรีบตามลงไป น้องแฮมตรงไปที่หน้าเคาน์เตอร์ พี่สาวเจ้าของร้านส่งยิ้มให้เมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบว่าเป็นลูกค้าขาประจำ

“วันนี้จะทานอะไรดีคะน้องแฮม”

“น้องแฮมเอาไจแอนท์สตอเบอรี่ฟาเฟต์ครับ”

“มากไปน้องแฮม” เสือรีบปรามน้องก่อนจะหันไปเปลี่ยนเมนู “พี่ครับเอาแค่ฟาเฟต์ธรรมดาก็พอครับ ส่วนของผมขอเป็นช็อกโกแลตปั่นแก้วหนึ่งครับ”

“ได้ค่ะพี่เสือ ไปนั่งรอได้เลยค่ะ เดี๋ยวพี่ยกไปให้”

“พี่เสืออ่ะ ก็ไหนบอกว่าจะเลี้ยงน้องแฮมไง” แฮมหันมาทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย

“ก็เลี้ยงไงครับ แต่ไม่เอาถ้วยใหญ่ เดี๋ยวต้องกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านอีกนะ”

“งั้นก็ได้”

น้องแฮมยอมรับเหตุผลของพี่เสือก็ได้ ไม่งั้นจะกินข้าวของแม่ได้น้อย

ทั้งคู่พากันเดินมานั่งที่โต๊ะประจำตัวในสุด ลักษณะที่นั่งเป็นโซฟาบุนวมรูปครึ่งวงกลม พี่เสือเลยให้น้องเข้าไปก่อนแล้วตัวเองจึงนั่งต่อ รอสักพักพี่เจ้าของร้านก็ยกไอศกรีมและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ

“สตอเบอรี่”

น้องแฮมทำตาโตเมื่อเห็นฟาเฟต์ที่ตัวเองสั่งก่อนจะใช้ช้อนจ้วงตักสตอเบอรี่ลูกโตที่อยู่บนสุดเข้าปากทั้งลูก

“เปรี้ยวอ่ะ”

น้องแฮมหลับตาปี๋ทำท่าทางเข็ดฟัน แล้วตักไอศกรีมเข้าปากต่ออย่างมีความสุข พี่เสือมองคนตัวเล็กกินด้วยความเอ็นดู เห็นวิปครีมเลอะที่มุมปากก็เอ่ยทัก

“กินดี ๆ สิน้องแฮม เลอะปากหมดแล้ว”

“เลอะเหรอ ตรงไหนอ่ะ”

น้องแฮมเงยหน้าขึ้นมาถามพี่เสือตาแป๋ว

“เดี๋ยวพี่เช็ดให้”

ว่าแล้วพี่เสือก็ก้มลงเลียที่มุมปากของคนตัวเล็ก ปลายลิ้นตวัดวิปครีมหวาน ๆ เข้าปาก

“อร่อยดี”

พี่เสือเลียที่ริมฝีปากตัวเองแล้วส่งยิ้มให้น้อง

“อร่อยเนอะ น้องแฮมชอบมาก”

น้องแฮมส่งยิ้มหวานให้พี่ชายใจดีที่ช่วยเช็ดปากก่อนจะตักไอศกรีมรสสตอเบอรี่คำโตเข้าปากต่อ

“พี่เสือขอชิมอีกได้ไหม”

คนตัวเล็กพยักหน้าหงึก ๆ เพราะไอศกรีมยังเต็มปาก พร้อมกับดันถ้วยไอศกรีมไปให้พี่ชาย

น้องแฮมใจดี ไม่หวงของอร่อยอยู่แล้ว

เสือหันไปมองข้างหลัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเดินมาทางนี้และโต๊ะข้าง ๆ ก็ไม่มีคนนั่งก็ก้มลงมาชิมไอศกรีมจากน้องแฮม เขาจับคางของน้องให้เงยหน้ารับก่อนจะประกบริมฝีปากลงบนปากเล็ก ส่งปลายลิ้นแทรกเข้าไปข้างในจัดการลิ้มรสไอศกรีมที่ยังละลายไม่หมดจนไม่เหลือแล้วจึงถอนริมฝีปากออก

แฮมใช้ลิ้นเล็ก ๆ เลียที่ริมฝีปากล่างของตัวเองก่อนจะเบะปากทำแก้มพอง

“ทำไมพี่เสือไม่ตักกินเอง มาแย่งที่น้องแฮมกำลังกินอยู่อีกแล้ว”

“ก็กินแบบนี้มันอร่อยกว่านี่ครับ” เสืออมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะก้มลงดูดช็อกโกแลตปั่นที่สั่งมา

“จริงเหรอพี่เสือ งั้นเอาไว้น้องแฮมจะไปแย่งโอ๊ตกินแบบนี้บ้าง”

แค่ก ๆ

ช็อกโกแลตปั่นแล้วจะพุ่งออกจากปาก เสือรีบหยิบทิชชูเช็ดปากก่อนจะหันไปหาคนที่นั่งกินไอศกรีมต่อเฉยโดยไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด

“ห้ามทำนะน้องแฮม ห้ามไปแย่งคนอื่นแบบนี้เด็ดขาด”

เสือเอ่ยห้ามน้องเสียงแข็ง คนเดียวที่จะทำได้คือเขาเท่านั้น

“ทำไมอ่ะ ก็เมื่อกี้พี่เสือยังทำเลย”

“ไม่ได้ แย่งคนอื่นแบบนี้มันไม่ดีนะน้องแฮม”

“อ้าว แล้วพี่เสือทำทำไมละ งั้นพี่เสือก็เป็นคนไม่ดีสิ”

คิ้วของน้องแฮมขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ อะไรของพี่เสือ

เสือยกมือขึ้นเกาหัวพยายามคิดหาเหตุผลมาอธิบายเจ้าหนูแฮมจำไมของเขา ยิ่งโตก็ยิ่งสงสัยมาก ทีเมื่อก่อนทำแบบนี้ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร

“แบบนี้เขาไว้ทำกับคนที่สนิทกันมาก ๆ เท่านั้นรู้ไหม โอ๊ตเป็นเพื่อนน้องแฮมก็จริง แต่ไม่ได้สนิทเหมือนพี่เสือ ถ้าน้องแฮมไปทำแบบนี้กับคนอื่น เขาอาจจะโกรธก็ได้”

“งั้นน้องแฮมทำกับพี่เสือได้ใช่ไหม”

เจ้าหนูแฮมของเขาหันมาถามตาใสขณะที่กำลังเลียช้อนไอศกรีมอยู่

“ได้สิ แต่น้องแฮมต้องไม่ให้คนอื่นเห็นนะ เดี๋ยวเขาจะว่าน้องแฮมได้”

น้องแฮมพยักหน้าแสดงว่าเข้าใจในสิ่งที่พี่ชายบอกแล้วหันไปสนใจกับไอศกรีมตรงหน้าต่อ

เสือลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าขืนเจ้าหนูแฮมของเขาเกิดอยากไปทดลองทำอะไรแบบนี้กับคนอื่น เขาคงอกแตกตาย อุตส่าห์เลี้ยงมากับมือตั้งแต่เล็ก ๆ จะยอมให้เป็นของคนอื่นได้อย่างไง แล้วยิ่งตอนนี้น้องแฮมเข้ามหาลัยแล้วด้วย มีโอกาสเจอคนตั้งเยอะตั้งแยะ น้องแฮมของเขาไม่มีทางทันเล่ห์เหลี่ยมของไอ้พวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ (?) พวกนั้นได้แน่ ๆ ฉะนั้นเขาจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

“น้องแฮม วันนี้ที่คณะเป็นอย่างไงบ้างครับ”

“ตอนเช้าอาจารย์ก็มาปฐมนิเทศ แล้วตอนบ่ายพี่ ๆ ก็พาไปเล่นเกมละ ใครแพ้ก็โดนทำโทษ น้องแฮมกับโอ๊ตก็เลยโดนมัดจุกกับปะแป้ง แล้วก็น้องแฮมได้เต้นไก่ย่างด้วยนะ พี่เสืออยากดูไหม เดี๋ยวน้องแฮมเต้นให้ดู”

น้องแฮมทำท่าจะลุกขึ้นเต้นไก่ย่างให้พี่ชายดูกลางร้าน

“ไว้กลับไปที่บ้านค่อยเต้นก็ได้” พี่เสือดึงแขนน้องแฮมให้นั่งลงตามเดิม “แล้วมีใครเข้ามาคุยกับน้องแฮมบ้างไหม”

“มีเยอะเลย”

“ห๊ะ เยอะเลยเหรอ”

“อือ” น้องแฮมพยักหน้า “มีเพื่อนใหม่แล้วก็มีรุ่นพี่เข้ามาคุยกับน้องแฮมตั้งหลายคน เขาบอกว่าน้องแฮมน่ารักด้วยละ เขาบอกว่าอยากคุยกับน้องแฮม จะขอเบอร์โทรกับไลน์ด้วย”

หนอย ไอ้เจ้าพวกนั้น

“แล้วน้องแฮมให้เขาไปไหม”

“น้องแฮมไม่ได้ให้ โอ๊ตบอกว่าเราไม่ควรให้เบอร์คนที่เพิ่งรู้จัก เขาอาจจะเป็นคนขายประกัน แล้วโทรมาตื้อให้ซื้อประกันก็ได้ เขาถึงชมว่าน้องแฮมน่ารัก”

ไอ้โอ๊ตทำดีมาก สมแล้วที่เขาไว้ใจให้มันเป็นมือขวาคอยดูแลเจ้าหนูแฮมของเขา

“ดีแล้ว น้องแฮมจะให้เบอร์ใครสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ มีอะไรน้องแฮมต้องถามพี่เสือไม่ก็โอ๊ตก่อน”

“อือ น้องแฮมจะถามก่อน” คนน้องรับปากพยักหน้าหงึก ๆ

“ดีมากครับ”

เสือลูบหัวน้องเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูที่คนตัวเล็กเชื่อฟังที่เขาบอก

 

 

พอกินไอศกรีมเสร็จพี่เสือก็ขับรถพาน้องกลับบ้าน หลังที่เขาจอดรถสนิทในโรงรถเรียบร้อย เสือก็หันไปคว้าแขนคนตัวเล็กที่กำลังจะเปิดประตูรถ

“เดี๋ยวก่อนน้องแฮม”

น้องแฮมหันมามองด้วยความสงสัย

“พรุ่งนี้เช้าน้องแฮมมารอพี่เสือที่บ้านนะครับ พี่เสือจะไปส่ง”

คนตัวเล็กยิ้มกว้างทันที

“จริง ๆ นะ”

“จริงสิครับ ไม่ใช่แค่พรุ่งนี้นะ พี่เสือจะไปส่งน้องแฮมทุกวันเลย ดีไหม”

“ดีที่สุดเลย พี่เสือใจดีที่สุด”

น้องแฮมดีใจมาก แบบนี้น้องแฮมก็จะไปเรียนพร้อมกันกับพี่เสือทุกวัน เหมือนตอนที่อยู่โรงเรียนก่อนเข้ามหาลัยเลย

“พี่เสือใจดีแบบนี้น้องแฮมไม่มีรางวัลให้บ้างเหรอ วันนี้พี่เสือก็พาน้องแฮมไปกินไอติมที่ชอบด้วย” เสือแกล้งถามด้วยตาเว้าวอน

“พี่เสืออยากได้รางวัลเหรอ” แฮมเปิดกระเป๋าออกมาหยิบคุกกี้ที่เหลืออยู่ถุงสุดท้ายที่ตอนแรกจะให้โอ๊ตแต่โอ๊ตบ่นปวดฟันก็เลยไม่เอา

“งั้นน้องแฮมให้คุกกี้กับพี่เสือเป็นรางวัลนะ”

เสือรับคุกกี้มา คุกกี้ของน้าขวัญอร่อยก็จริง แต่เขาอยากได้อย่างอื่นมากกว่า

“แต่พี่เสืออยากได้รางวัลอย่างอื่นอีก”

“เอ๋ พี่เสือจะเอาอะไรเหรอ”

“รางวัลเด็กดีของพี่เสือไงครับ”

“อ้อ”

น้องแฮมเข้าใจละ แล้วพี่เสือก็ไม่บอกตั้งแต่แรก

รางวัลเด็กดีเป็นข้อตกลงของพวกเขาตั้งแต่เด็กแล้ว เวลาที่คนหนึ่งทำดี อีกคนก็จะให้รางวัลเด็กดีเป็นกำลังใจ

คนน้องเขยิบเข้าไปใกล้พี่ชาย เขาประคองใบหน้าหล่อเข้มไว้ด้วยสองมือ ก่อนจะจุ๊บเบา ๆ ที่หน้าผาก แล้วจุ๊บที่แก้มทั้งสองข้าง ปิดท้ายด้วยก็จุ๊บที่ริมฝีปาก เมื่อให้รางวัลเด็กดีเรียบร้อยแล้วน้องแฮมก็ถอยออกมายิ้มหวานให้พี่ชาย

“น้องแฮมให้รางวัลพี่เสือคนดีแล้วน้า”

ทำไมเจ้าหนูแฮมของเขามันน่าฟัดแบบนี้

“ขอบคุณครับ งั้นพี่เสือให้รางวัลกับน้องแฮมบ้างนะ”

“น้องแฮมก็ได้รางวัลเหรอ”

“ก็ให้รางวันที่วันนี้น้องแฮมเป็นนักศึกษาวันแรกไง”

“เอ๋”

พี่เสือไม่ปล่อยให้น้องแฮมทำหน้าสงสัยนาน เขาประคองใบหน้าเล็ก ๆ นั้นไว้ จุ๊บที่หน้าผากและแก้มทั้งสองเหมือนกับที่น้องทำเมื่อกี้ ต่างกันตรงขั้นตอนสุดท้ายแทนจะที่เป็นจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปากกลับเป็นดีฟคิสที่ลึกซึ้งจนน้องแฮมแทนจะขาดใจอยู่แล้ว

                เสือที่ยังประคองหน้าน้องไว้กดจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากนั้นซ้ำอีกที

                “เด็กดีของพี่เสือ”

เพียงแค่นั้นน้องแฮมก็ยิ้มกว้างเมื่อได้คำชม

“แล้วอีกอย่างน้องแฮมห้ามกลับบ้านกับคนอื่นนะ พี่เสือจะไปรับทุกวัน เข้าใจไหมครับ”

พี่เสือสำทับอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“แล้วถ้าพี่เสือไม่ว่างล่ะ”

น้องแฮมถามด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่พี่เสือเข้ามหาลัย บางวันพี่เสือก็กลับดึก อย่างเมื่อวานตอนเย็นพอคุยกับน้องแฮมเสร็จพี่เสือก็ออกไปไหนก็ไม่รู้ น้องแฮมเข้านอนแล้วก็ยังไม่เห็นว่าพี่เสือกลับมา

“ก็ให้โอ๊ตมาส่ง ห้ามกลับคนเดียว โอเคนะ”

“โอเคฮะ”

คนตัวเล็กยกมือขึ้นมาทำเป็นรูปวงกลมตรงตาตัวเอง พี่เสือขยี้หัวน้องเบา ๆ ก่อนทั้งคู่จะลงจากรถ น้องแฮมโบกมือให้เขาก่อนจะเดินเข้าบ้านหลังติดกัน เสือมองตามจนเห็นว่าน้องปิดประตูและเข้าบ้านไปเรียบร้อยแล้วจึงเข้าบ้านตัวเองบ้าง

“กลับมาแล้วครับ”

“เป็นไงบ้างพี่เสือ น้องแฮมไปมหาลัยวันแรก น้องโดนใครแกล้งหรือเปล่า แม่เห็นเดี๋ยวนี้มีข่าวรับน้องกันรุนแรง”

เห็นหน้าก็ถามหาลูกชายข้างบ้านเป็นชุดเลยนะแม่

“ตอนเสือเข้าปี 1 ไม่เห็นแม่จะถามเสือแบบนี้บ้างเลย”

“แหม ก็พี่เสือของแม่น่ะเก่ง ใครก็ทำอะไรพี่เสือไม่ได้หรอก แต่น้องแฮมน่ะใสซื่อน่าเอ็นดู ตัวก็เล็กนิดเดียว”

“ไม่ต้องห่วงหรอกแม่ เสือไม่ให้ใครทำอะไรน้องแฮมหรอก”

เสือตอบแม่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเป็นประกายจริงจัง

ไม่ว่าไอ้พวกเหลือบไรตัวไหนก็ไม่มีทางแตะต้องเจ้าหนูแฮมของเขาได้แม้แต่ปลายเส้นผมหรือแต่เงาของน้องก็ไม่ได้

 

 

TBC...


พี่เสือหรือปลาตอด ตอดเล็กตอดน้อยตลอด 555
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 2 ใจดี(ไม่)สู้เสือ [23/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 23-08-2018 22:09:59
น่าติดตามมมมค่า ที่จริงเอือมนิยายแบบนายเอกน่ารักแบ๊วๆมากกกกกกกกก นี่พึ่งเทนิยายเรื่องนึงไป ตามมา 30กว่าตอน ทนอ่านไม่ไหว แรกๆก็สนุกดี พอนานๆเข้าคนแต่งทำให้นายเอกดูเป็นเด็กออทิสติกเลยอะ ทั้งความคิดความอ่านคือแบบ จะเอาน่ารักแบ๊วๆซะไม่อิงความเป็นจริงเลย  สรุปเท ไม่สามารถกลับไปอ่านต่อได้อีก

เราจะรอดูเรื่องนี้ว่าจะเป็นไปในทางไหน
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 2 ใจดี(ไม่)สู้เสือ [23/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-08-2018 23:05:54
555พี่เสือขี้หวงอ่ะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 2 ใจดี(ไม่)สู้เสือ [23/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 24-08-2018 02:22:03
 :hao7: พี่เสือคงต้องกลุ้มใจหนัก...ก็น้องน่ารักน่าฟัดน่าจับทานลงท้องอยู่ทุกเวลาเลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 2 ใจดี(ไม่)สู้เสือ [23/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-08-2018 06:50:47
น้องคะ เกือบเสียตัวให้อีพี่เสือแล้วนะรู้ไหม
นอนตื่นสายแล้วยังลวนลามน้องอีกนะน่าฟาดก้นเสือจริงๆ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 2 ใจดี(ไม่)สู้เสือ [23/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-08-2018 11:36:06
พี่เสือนี่แหละ น่าระวังสุดแหละ 5555 น้องแฮมหนูลูก รวะวังเสือจะกัดเอานะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 2 เสือไม่สิ้นลาย [30/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 30-08-2018 22:35:16
ตอนที่ 3  เสือไม่สิ้นลาย



คืนวันศุกร์หลังจากที่พี่เสือทำตัวดีมาทั้งสัปดาห์ด้วยการไปรับไปส่งน้องชายข้างบ้านของเขาทุกวัน คืนนี้ก็ถึงเวลาลั่นลาของเขาแล้ว ได้เวลาที่เสืออย่างเขาจะออกล่าเหยื่อสักที อยู่กับเจ้าหนูแฮมถึงอยากจะจับกินแค่ไหน เขาก็ทำไม่ได้ ได้แต่ชิม ๆ เท่านั้น คืนนี้ละเขาจัดให้สมกับฉายาคาสโนว่า

เสืออาบน้ำฉีดน้ำหอมจนหอมฟุ้ง เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดีระหว่างที่แต่งตัว เสื้อเชิ้ตสีดำที่ปลดกระดุมเม็ดบนไว้ 2 เม็ดกับกางเกงยีนต์ขายาวสีเข้มยิ่งเสริมให้เขาดูมีเสน่ห์ เสือยิ้มให้ตัวเองในกระจกก่อนคว้ากุญแจรถก้าวออกจากห้อง แต่พอเปิดประตูเขาก็พบกับดวงตาแป๋ว ๆ คู่หนึ่งกำลังจ้องเขาอยู่

“น้องแฮมมาได้ไง”

น้องชายข้างบ้านของเขาที่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นแบบที่เจ้าตัวชอบใส่นอนมายืนทำอะไรหน้าห้องเขาในเวลานี้

“น้องแฮมจะมาชวนพี่เสือไปดูหนังที่บ้าน โอ๊ตให้ยืมแผ่นมา แต่มันเป็นหนังผี แม่เลยไม่ยอมดูด้วย น้องแฮมไม่กล้าดูคนเดียว พี่เสือไปดูเป็นเพื่อนน้องแฮมหน่อยนะ”

เจ้าตัวเล็กกระพริบตาปริบ ๆ มือเล็กคว้าแขนพี่ชายเขย่า

“นะ ๆ ไปดูเป็นเพื่อนน้องแฮมหน่อย”

“เอ่อ” พี่เสือทำหน้าลำบากใจ

“วันนี้ไม่ได้ พี่เสือมีนัดแล้ว กำลังจะออกไป”

“พี่เสือจะไปไหนเหรอ”

“เอ่อ...พี่เสือจะไปหาเพื่อน นัดกับเพื่อนไว้”

“ไปเที่ยวกลางคืนน่ะเหรอ”

น้องแฮมจำได้ น้าปลาเคยบอกว่าพี่เสือชอบออกไปเที่ยวกลางคืน กลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ

“งั้นน้องแฮมไปด้วย น้องแฮมอยากไปเที่ยวกลางคืน”

น้องแฮมอยากรู้ว่าเที่ยวกลางคืนมันเป็นอย่างไง มันต้องสนุกแน่ ๆ พี่ชายของเขาถึงไปบ่อย ๆ

“ไม่ได้ น้องแฮมไปไม่ได้”

พี่เสือรีบห้าม จะให้เจ้าหนูแฮมไปเที่ยวที่อโคจรแบบนั้นได้อย่างไง

“ทำไมละ ก็พี่เสือยังไปได้เลย น้องแฮมก็ต้องไปได้สิ”

“ไม่ได้ เด็กเขาไม่เที่ยวกลางคืนกัน พี่เสือเป็นผู้ใหญ่แล้ว”

“น้องแฮมก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ เข้ามหาลัยแล้วด้วย”

“ไม่ได้ ยังเป็นผู้ใหญ่ไม่พอ น้องแฮมต้องอายุครบ 20 ก่อน”

เสือบ่ายเบี่ยงแบบขอไปที

“ง่า อีกตั้งนาน”

น้องแฮมทำหน้ามุ่ย เขาเพิ่งอายุครบ 18 ปีเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา อีกตั้ง 2 ปีกว่าเขาจะอายุ 20 ปี

พี่ชายลูบหัวน้อง ส่งยิ้มปลอบใจ

“ตอนนี้น้องแฮมกลับบ้านไปก่อนเนอะ”

“แต่น้องแฮมไม่อยากดูหนังคนเดียวนี่” น้องแฮมเริ่มจะงอแง ทำปากคว่ำ

“งั้นเอาแบบนี้ไหมครับ พรุ่งนี้พี่เสือจะไปดูเป็นเพื่อน คืนนี้น้องแฮมกลับไปนอนก่อนนะ”

คนตัวเล็กเบะปากแบบไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ต้องยอม

“พี่เสือสัญญานะ”

น้องแฮมยื่นนิ้วก้อยให้พี่ชาย เพื่อเกี่ยวแทนคำสัญญา

“สัญญาครับ”

พี่เสือรีบดันตัวน้องชายออกไปแล้วจัดการปิดประตู

“เดี๋ยวพี่เสือไปส่งนะ”

เสือเดินมาส่งน้องชายถึงหน้าบ้าน เจ้าตัวเล็กยังคงหน้ามุ่ยอยู่แต่ก็ไม่บ่นอะไร หลังจากนั้นเขาก็ขับรถออกไปหาเพื่อนตามที่นัดกันไว้

“ไอ้เสือทางนี้”

นิวตะโกนทักเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามาในร้าน เสือเดินมาหาเพื่อนที่โต๊ะ กวาดตามองเห็นแต่นิวกับเอ้นั่งดื่มกันอยู่สองคน

“ไอ้นะละไปไหน”

ปกติกลุ่มของเขามีกันทั้งหมด 4 คน ที่ไปไหนไปกันตลอด

“มึงมาช้า ไอ้นะมันก็เลยล่วงหน้าไปก่อนแล้วว่ะ”

เอ้ทำท่าบุ้ยใบ้ไปทางบาร์เครื่องดื่ม เสือก็เห็นเพื่อนของเขากำลังยืนคุยอยู่กับสาวหมวยหน้าหวาน ดูท่าทางคงคุยกันถูกคอมาสักพักแล้ว เพราะเขาเห็นมือของนะโอบรอบเอวของผู้หญิงคนนั้น

“สวยใช้ได้เลยวะ”

“ก็แน่ละ นั่นมันน้องกิ๊ฟ ลีดมหาลัยเลยนะโว้ย แม่ง ขาวสัด”

เอ้บรรยายสรรพคุณของคู่ควงคนล่าสุดของเพื่อนให้ฟัง

“ว่าแต่มึงทำไมมาช้าจังวะ” นิวถามเสือหลังจากยื่นแก้วเหล้าที่เพิ่งชงให้

“พอดีตอนจะออกจากบ้านเจอน้องแฮมน่ะ กูก็เลยออกมาช้า”

“น้องแฮมที่อยู่ข้างบ้านมึงอ่ะน่ะ ได้ยินมาว่ามึงไปรับไปส่งเด็กที่คณะศึกษาทุกวัน ก็คงน้องแฮมนี่สินะ”

“เอ่อ คนนี้แหละ”

“น้องแฮมไหนวะ”

เอ้หันมาถามด้วยความสงสัย เขากับนะเพิ่งรู้จักกับเสือและนิวตอนที่เข้าปี 1 ต่างกับเสือและนิวที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยม

“เด็กไอ้เสือมันน่ะ เลี้ยงต้อยมาตั้งแต่เด็ก แม่ง น่ารักโคตร ๆ เลยละมึง ตางี้โต ปากแดง ๆ ตัวก็โคตรขาว”

“มากไปละไอ้สัดนิว นั่นมันน้องกู” เสือหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อน

“ก็เพราะเห็นว่าเป็นน้องมึง กูก็เลยไม่ยุ่งไง”

“ทำไมวะไอ้เสือ มึงหวงน้องมึงไว้กินเองเหรอ” 

“เออ คนนี้กูจองตั้งแต่เด็กละ ใครก็ห้ามแตะ”

“ก็มัวแต่จอง แม่งไม่เห็นได้แดกสักที”

“น้องกูยังเด็ก กูรอให้น้องพร้อมก่อน”

“พี่เสือก็เลยต้องออกมาล่าเหยื่อข้างนอกแบบนี้สิ”

เสือจิปากอย่างขัดใจที่เพื่อนรู้ทัน ถ้าไม่ออกมาหาเหยื่อข้างนอก เขาคงอดทนไม่ไหว ก็อยู่กับน้องมันแบบนั้นต้องห้ามใจแค่ไหนไม่ให้จับมาฟัดวันละ 2-3 รอบ

“มัวแต่ชักช้า ระวังหมาจะคาบไปแดกนะไอ้เสือ”

“ลองหมาตัวไหนกล้ามายุ่งกับน้องกู กูเอาตายแน่”

เพื่อนทั้งสองของเขาหัวเราะขอบใจ ก่อนจะชวนกันดื่มต่อพร้อมกับสายตาก็คอยมองหาเหยื่อที่จะไปกับพวกเขาในคืนนี้

ถ้าไม่หาว่าอวยจนเกินไปก็ต้องขอบอกว่ากลุ่มของพวกเขาแต่ละคนหน้าตาดีจนได้ชื่อว่าเป็นแก๊งหนุ่มหล่อของคณะเลยทีเดียว ออกล่าเหยื่อพร้อมกันเมื่อไหร่ไม่เคยที่จะต้องกลับมือเปล่า

และคืนนี้ก็เช่นกัน...

หลังจากนั่งดื่มกันสักพัก นิวก็หายไปกับสาวผมสั้นหุ่นเอ็กซ์สุด ๆ ส่วนเอ้ก็กำลังนั่งคุยอยู่กับสาวน้อยผมยาวที่มือก็ลูบต้นขาของเพื่อนเขาไปด้วย เดาได้ไม่ยากว่าเธออยากจะได้อะไรจากเพื่อนของเขา

ส่วนเสือน่ะเหรอ ตอนนี้เขากำลังโอบสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ลุคใส ๆ แต่คงจะไม่ได้ใสอย่างที่เห็นเพราะเจ้าหล่อนแทบจะขึ้นมานั่งบนตักของเขา ขณะที่มือของเขาเองก็ลูบต้นขาขาวที่โผล่ออกมากระโปรงบานสีขาวสั้น

“น้ำแข็งว่าเราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันไหมคะ”

หลังจากที่ปล่อยให้เขาลูบอยู่สักพัก สาวเจ้าก็ออกปากชวน

“ที่ไหนดีละครับ”

“คอนโดของน้ำแข็งอยู่ไม่ไกล เราไปคุยกันที่นั่นไหมคะ”

สาวออกปากชวนขนาดนี้มีหรือเสือจะปฏิเสธ เขาลุกขึ้นบอกกับเอ้ที่กำลังแลกลิ้นกับสาวในอ้อมกอดอยู่

“กูไปก่อนนะ”

ก่อนที่เสือจะโอบเอวสาวน้อยน้ำแข็งออกไป ทันทีที่ขึ้นมาบนรถ เสือก็ดึงหญิงสาวมาประกบจูบร้อนแรงทันทีโดยที่เธอเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มือของเขาที่กำลังล้วงเข้าไปใต้กระโปรงก็ถูกจับเอาไว้

“อย่าใจร้อนสิค่ะ เดี๋ยวก็ถึงคอนโดน้ำแข็งแล้ว”

เสือรีบสตาร์ทรถและขับออกจากผับอย่างรวดเร็ว จริงอย่างที่น้ำแข็งว่า คอนโดของเธออยู่ไม่ไกลเลย พวกเขาควงกันขึ้นไปบนห้อง หลังจากที่ฝ่ายหญิงไขกุญแจห้องก็จูงมือพาเขาเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว

“ดื่มอะไรหน่อยไหมคะ”

“ตอนนี้ผมอยากกินน้ำแข็งมากกว่า”

เสือตรงเข้าไปจูบหญิงสาวตรงหน้าอย่างร้อนแรง มือก็ล้วงเข้าไปใต้กระโปรงบีบขยำสะโพกด้วยแรงอารมณ์ขณะที่ขาก็ดันตัวน้ำแข็งไปที่โซฟา เขาผลักเธอลงบนโซฟาพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกแล้วสลัดออกจากตัว ส่วนเจ้าของห้องเองก็จัดการถอดเสื้อสายเดี่ยวสีขาวทิ้งเผยให้เห็นเนินอกขาวกับเอวคอด

เสือก้มลงซุกซอกคอขาวหวังจะสูดกลิ่นเนื้อสาว หากเขาได้กลิ่นแต่กลิ่นน้ำหอมหวานเอียนกับกลิ่นเครื่องสำอางประทินผิว ไม่น่ากินเหมือนกลิ่นนมเนยหวาน ๆ เสือพยายามสลัดความคิดทิ้ง มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระโปรงขาวก่อนดึงชั้นในออก น้ำแข็งที่ตอนนี้อยากจะละลายใจจะขาดปรือตามองหนุ่มหล่อที่คร่อมอยู่บนตัวเธออย่างเชิญชวน

เสือรีบปลดเข็มขัดออก มือถือที่อยู่กระเป๋ากางเกงช่างเกะกะ เขาจึงดึงออกมาจะวางบนโต๊ะ หากยังไม่ทันวางลงบนโต๊ะ โทรศัพท์ในมือก็แผดเสียงดังขึ้นพร้อมกับโชว์ใบหน้าเปื้อนยิ้มของน้องชายข้างบ้านที่เขาบันทึกรายชื่อไว้

น้ำแข็งกระตุกแขนเสือเมื่อเห็นเขาเอาแต่จ้องโทรศัพท์ที่ดังอยู่ให้รีบตัดสายแล้วมาจัดการเรื่องที่ค้างคาอยู่เสียที

หากเสือกลับกดรับสาย ทำเอาเธอถึงกับอ้าปากค้าง

“ฮัลโหล”

‘พี่เสืออยู่ไหน ยังไม่กลับบ้านเหรอ’

“พี่เสืออยู่ข้างนอก น้องแฮมมีอะไรเหรอครับ”

น้ำแข็งเห็นชายหนุ่มที่เธอมามัวแต่คุยโทรศัพท์ก็อยากจะเรียกร้องความสนใจบ้าง เธอลุกขึ้นผลักเสือให้เอนตัวลงกับโซฟา

“ดะ เดี๋ยวครับ” เสือส่งเสียงห้าม

‘พี่เสือว่าอะไรนะ แล้วเมื่อไหร่พี่เสือจะกลับอ่ะ’

“น้องแฮมทำไมไม่นอน ดึกแล้วนะ”

‘น้องแฮมนอนไม่หลับ อยากดูหนัง’

น้ำแข็งจัดการรูดซิปกางเกงลงแล้วลูบไล้สิ่งที่พองตัวอยู่ก่อนจะดึงบ๊อกเซอร์สีดำลงเผยให้เห็นสิ่งที่ทำให้เธอถึงกับตาโตด้วยความตื่นเต้น

“อ้า อย่าเพิ่ง”

เสือเผลอส่งเสียงครางเข้าไปในสายด้วยเมื่อถูกมือนิ่มสัมผัส

‘พี่เสือทำไมทำเสียงแปลก ๆ ทำอะไรอยู่เหรอ’

“ปะ เปล่า”

เสือพยายามจะขยับตัวหนี แต่ก็ไม่ทันหญิงสาวที่ตอนนี้ดูเธอจะกลายเป็นน้ำเดือดไปแล้วเพราะเธอจัดการครอบครองเขาไว้ในปากเรียบร้อย

“อ้า เบา ๆ หน่อยครับ อะ...’

‘พี่เสือทำเสียงแปลก ๆ อีกแล้ว ไม่สบายเหรอ รีบกลับบ้านเถอะพี่เสือ’

“อืม...”

เสือส่งเสริมคำรามอยู่ในลำคอเมื่อถูกรุกช่วงล่างอย่างหนัก

‘พี่เสือ พี่เสือได้ยินน้องแฮมไหม ทำไมพี่เสือเงียบไปแล้ว’

“ดะ ได้ยินครับ”

โดนทำตอนที่มีเสียงใส ๆ ของน้องแฮมเรียกชื่อของเขาอยู่ข้างหูแบบนี้ ในหัวของเขาตอนนี้มีเลยแต่ภาพเจ้าหนูแฮมตัวขาว ๆ ของเขากำลังมุดอยู่ที่หว่างขาและปรนเปรอเขาด้วยปากเล็ก ๆ นั้น พอคิดแบบนั้นเขาก็อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

“น้องแฮมเรียกชื่อพี่เสืออีกสิครับ”

‘ให้เรียกพี่เสือทำไมเหรอ’

“อ่ะ เรียกอีก” เขากดหัวของน้ำแข็งไว้ก่อนจะขยับเด้งตัวขึ้น

‘พี่เสือ’

“น้องแฮม”

‘พี่เสือกลับเร็ว ๆ นะ น้องแฮมจะนอนแล้ว กู๊ดไนท์ฮะ’

ว่าแล้วน้องชายของเขาก็วางสายไป เสือขยับสะโพกไวขึ้นก่อนที่จะปลดปล่อยภายในปากของน้ำแข็ง

“อ้า น้องแฮม”

เสือหลับตาลงด้วยความรู้สึกโล่งสบายก่อนจะต้องร้องลั่นเมื่อโดนตีเข้าที่แขนเต็มแรง

“โอ้ย ตีผมทำไม”

เขาลืมตามองหญิงสาวเจ้าของห้องที่ยืนจ้องเขาตาเขียว ก่อนที่เธอจะคว้าเสื้อผ้าของเขายัดใส่มือ

“ออกไปเลยนะ แตกในปากชั้นแต่ครางชื่อคนอื่นเนี่ยนะ มันจะหยามกันมากไปแล้ว”

“เดี๋ยวก่อนน้ำแข็ง นั่นผมคุยโทรศัพท์กับน้อง”

“ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป”

น้ำแข็งเขวี้ยงหมอนอิงใส่เขาอย่างเกรี้ยวกราด จนเขาต้องรีบหอบเสื้อผ้าออกมาแต่งตัวที่หน้าห้องหลังจากที่น้ำแข็งปิดประตูกระแทกใส่

เสือขยี้หัวด้วยความหงุดหงิด เพราะเจ้าหนูแฮมตัวดีดันโทรมาเวลาที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เขาก็เลยอดกินน้ำแข็งแถมยังโดนไล่ออกจากห้องแบบไม่มีดี รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั้น เสียยี่ห้อพี่เสือหมด

 

 

อึดอัด...

ความรู้สึกแรกเมื่อเสือรู้สึกตัวตื่นขึ้นคือความรู้สึกอึดอัดคล้ายกับถูกทับ เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นก็ต้องสะดุ้งเมื่อเจอกับดวงตากลมโตที่จ้องเขาจนชิด

“น้องแฮม”

“พี่เสือตื่นแล้ว ๆ”

เจ้าตัวเล็กยิ้มแฉ่ง ลุกขึ้นจากตัวเสือที่เมื่อครู่เขานอนทับเพื่อชะโงกหน้าเข้าไปมองหน้าพี่ชาย ตอนแรกน้องแฮมคิดจะเข้ามาปลุกแต่เห็นพี่เสือกำลังหลับสบายก็เลยเข้าไปดูใกล้ ๆ ว่าเมื่อไหร่พี่เสือจะตื่น

“น้องแฮม ทำไมมาแต่เช้า”

เสือที่ยังงัวเงียเหลือบมองนาฬิกาบนหัวเตียง นี่มันยังไม่ 8 โมงเช้า เมื่อคืนกว่าเขาจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบตีสองแล้ว

“น้องแฮมมารับพี่เสือไปดูหนังตามสัญญาไง”

ท่าทางเจ้าหนูแฮมจะตื่นนอนแล้วมาปลุกเขาเลย น้องยังอยู่ในชุดนอนเสือยืดผ้าย้วย ๆ ที่คอกว้างจนเห็นไหปลาร้าและยาวจนเกือบจะคลุมกางเกงขาสั้น ยิ่งตอนน้องก้มลงมาเมื่อกี้ เขาแทบจะมองไปเห็นถึงสะดือ

“นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะน้องแฮม ขอพี่เสือนอนต่ออีกหน่อย”

“แต่ว่าน้องแฮมอยากดูหนังแล้วนี่”

“ขอพี่เสือนอนอีกนิดนะแล้วค่อยไปดูหนังกัน” เสือดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า แต่ติดที่ถูกน้องแฮมนั่งทับอบู่

“แต่ว่า..”

เจ้าตัวเล็กยังนั่งทำตาปริบ ๆ อยากให้พี่ชายลุกไปดูหนังด้วยกัน เสือก็เลยตบที่ฟูกข้างตัว

“น้องแฮมก็มานอนด้วยกันก่อน เดี๋ยวตื่นแล้วค่อยดูหนัง”

เสือดึงน้องให้นอนลง ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมแล้วกอดน้องไว้ในอ้อมแขน น้องแฮมดิ้นขยุกขยิก พี่เสือเลยกระชับกอดให้แน่นขึ้น

“แต่น้องแฮมไม่ง่วงนะพี่เสือ”

“แต่พี่ง่วงนี่ครับ นอนนะเด็กดี”

พี่เสือจูบหน้าผากเนียนของน้องพร้อมกับลูบหลังกล่อมก่อนที่จะค่อย ๆ เคลิ้มหลับสนิท....

 

...เสียที่ไหน

 

“พี่เสือ ปล่อยน้องแฮม น้องแฮมอึดอัดอ่ะ”

เจ้าหนูแฮมของเขาไม่ให้ความร่วมมือเลย เอาแต่ดิ้นไปดิ้นมาทำเอาเสือไม่สามารถที่จะนอนต่อได้

“น้องแฮมอย่าดิ้นสิ”

“พี่เสือก็ปล่อยสิ ปล่อยน้า”

คนตัวเล็กยังคงโวยวายงุ้งงิ้งอยู่ในอ้อมกอด หนักเข้าถึงกับถีบขาเสืออุตลุด

“โอ้ย น้องแฮม”

“น้องแฮมจะไปดูหนังแล้ว”

ก่อนที่จะโดนเจ้าหนูแฮมประทุษร้ายไปมากกว่านี้ เสือเลยคว้าผ้าห่มมาจัดการม้วนหนูแฮมกลายเป็นผ้าห่มไส้แฮม ที่โผล่แค่หน้าออกมาเท่านั้น

“พี่เสือแกล้งน้องแฮม พี่เสือนิสัยไม่ดี”

เจ้าหนูตัวจิ๊ดยังโวยวายไม่เลิก คราวนี้เบะปากทำท่าเหมือนจะร้องไห้อีก

“น้องแฮมก็อยู่เฉย ๆ สิ พี่เสือง่วงนอน”

“น้องแฮมจะไปดูหนัง”

โอ้ย ทำไมวันนี้น้องมันงอแงแบบนี้เนี่ย

“เอางี้ ถ้าน้องแฮมยอมอยู่เงียบให้พี่เสือได้นอนต่อสัก 2 ชั่วโมง พี่เสือจะพาไปดูหนังที่โรงหนังเลย โอเคไหมครับ”

ได้ยินข้อเสนอแบบนี้ น้องแฮมก็ตาเป็นประกายทันที

“จริงนะพี่เสือ”

“จริงสิ เอาละให้พี่เสือนอนได้แล้ว”

เสือจัดการแกะเจ้าตัวเล็กออกมาจากผ้าห่มแล้วนอนกอดน้องโดยเอาหน้าซบลงบนไหล่ขาว ๆ ที่โผล่พ้นเสือยืดตัวโคร่ง

“ต้องนอนกอดกันด้วยเหรอ”

น้องแฮมถามพร้อมกับทำคอย่นเมื่อจมูกโด่งของพี่ชายคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอ

“อือ นอนเถอะ”

“แต่น้องแฮมไม่ง่วงนะ ต้องนอนด้วย อือ..”

ยังไม่ทันที่น้องแฮมจะพูดจบประโยค พี่เสือก็จัดการทำให้น้องเงียบเสียงด้วยริมฝีปากตัวเอง เขาไล่ต้อนลิ้นเล็ก ๆ นั้นจนเจ้าหนูแฮมหมดแรง ได้แต่นอนมองเขาตาปรือเมื่อเขาถอนริมฝีปากออก เสือจุ๊บเบา ๆ ที่ปากเล็กนั้นอีกที

“นอนนะครับ”

คราวนี้เจ้าตัวเล็กยอมนอนนิ่ง ๆ ให้เขากอดแต่โดยดี

 

TBC...



อิพี่เสืออออออ

 
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 3 เสือไม่สิ้นลาย [30/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-08-2018 23:27:44
เอะอะดูดแฮม
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 3 เสือไม่สิ้นลาย [30/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 31-08-2018 00:24:18
น้องหนูของเราร้ายกาจมากกวงวารอิตาเสือจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 3 เสือไม่สิ้นลาย [30/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 31-08-2018 00:32:15
 :hao3: หลอกล่อน้องสุดๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 3 เสือไม่สิ้นลาย [30/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 31-08-2018 11:02:03
น้องน่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 3 เสือไม่สิ้นลาย [30/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 31-08-2018 11:39:54
แมวหรือเสือ ... นัวเนียทุกโอกาสเลย
สงสารน้อง เมื่อไหร่จะโต๊  :mew5: 555+
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 3 เสือไม่สิ้นลาย [30/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 31-08-2018 11:59:21
น้องแฮม น่าจะงอนพี่เสือ ไปเลย ชิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 3 เสือไม่สิ้นลาย [30/08/18]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 01-09-2018 20:44:29
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?) [05/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 05-09-2018 23:07:14
ตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?)


“พี่เสือเร็ว ๆ”

เจ้าหนูตัวจ้อยที่วิ่งนำหน้าเขาหันมากวักมือเรียกเสือที่เดินตามหลัง ขายาว ๆ ของเขารีบก้าวไปหาน้อง

“พี่เสือบอกว่าไม่ให้วิ่งไงครับ”

เสือทำเสียงดุ น้องแฮมหดคอก่อนจะแลบลิ้นทะเล้น

“ก็น้องแฮมอยากดูหนังไว ๆ”

หลังจากที่ครบสองชั่วโมงตามที่ตกลงกัน นาฬิกาปลุกเวอร์ชั่นแฮม ๆ ของเขาก็ปลุกเขาให้ลุกขึ้นตามเวลาเป๊ะ เสือจึงต้องพาน้องชายข้างบ้านออกมาดูหนังตามสัญญา

“แล้วน้องแฮมอยากดูเรื่องไหนเหรอ”

เสือคว้ามือน้องเอาไว้ จะได้ไม่วิ่งไปไหนอีก

“น้องแฮมอยากดูฟิฟตี้เชดส์ออฟเกรย์”

คนเป็นพี่แทบจะสะดุดล้มหัวทิ่มพื้นเมื่อได้ยินชื่อหนังที่น้องอยากจะดู

“น้องแฮมรู้จักหนังเรื่องนี้ด้วยเหรอ”

เจ้าหนูแฮมพยักหน้าหงึกหงัก ปากก็พูด

“โอ๊ตบอกว่ามันเป็นหนังสำหรับผู้ใหญ่ น้องแฮมอยากเป็นผู้ใหญ่เร็ว ๆ น้องแฮมจะดูเรื่องนี้”

เสือแทบอยากจะไปเคาะกระโหลกไอ้เจ้าโอ๊ตที่มันบอกน้องเขาแบบนี้ มาแนะนำหนังแบบนี้ให้เจ้าหนูแฮมของเค้าได้อย่างไง ใจแตกกันหมดพอดี

เอ๊ะ...หรือว่าจะให้น้องดูเรื่องนี้ดี เผื่อว่าน้องจะสนใจอยากทำแบบในหนัง โซ่ แส่ กุญแจมือ...หึ หึ...

“พี่เสือ พี่เสือเป็นอะไรเหรอ”

เสือหันไปมองน้องแฮมที่กำลังเขย่าแขนเขาอยู่

“อยู่ดี ๆ พี่เสือก็หัวเราะ แล้วก็ทำหน้าตาน่าเกลียด”

“เอ่อ พี่เสือคิดอะไรนิดหน่อยนะ” เสือยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง เมื่อกี้เขาเผลอทำสีหน้าแบบไหนนะน้องมันถึงบอกว่าน่าเกลียด

“เอ๋”

น้องแฮมเอียงคอมองเขาด้วยสายตาสงสัย เสือจึงรีบกลบเกลื่อน

“เรื่องนี้ไม่สนุกหรอก น่าเบื่อจะตาย พี่เสือว่าน้องแฮมเปลี่ยนไปดูเรื่องอื่นเถอะ”

“พี่เสือว่าไม่สนุกเหรอ งั้นน้องแฮมเปลี่ยนก็ได้”

เสือจูงมือน้องแฮมไปซื้อตั๋วหนังพร้อมกับซื้อป๊อปคอร์นถังใหญ่ที่เป็นชุดสะสมรูปซุปเปอร์ฮีโร่ที่กำลังเข้าฉายอยู่ให้คนตัวเล็กอุ้มไว้ในอ้อมแขน

เขาเลือกที่นั่งแบบโซฟายาวจะได้เหยียดแข้งเหยียดขาสบาย ๆ ขณะที่คนตัวเล็กยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิกอดถังป๊อปคอร์นไว้บนตัก ตอนที่เข้ามาในโรงหนัง บนจอเริ่มฉายหนังตัวอย่างแล้ว เสือเอนตัวลงอ้าปากหาวปากกว้างจนน้ำตาเล็ด ถึงจะได้นอนต่ออีกหน่อยแต่เขาก็ยังง่วงอยู่ดี กำลังนั่งเคลิ้ม ๆ เกือบจะหลับไปอีกรอบพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนเมื่อเพลงสรรเสริญดังขึ้น หนังที่แฮมเลือกเป็นหนังซอมบี้ที่เพิ่งเข้าฉาย นี่อุตส่าห์หลบหนังผีลงแผ่นของเจ้าโอ้ตจากที่บ้านแล้วก็ยังต้องมาเจอซอมบี้ในโรงหนังอีกเหรอ เสือนั่งดูไปหาวไปเป็นพัก ๆ ส่วนแฮมนั่งจ้องหน้าจอเขม็งพร้อมกับหยิบป๊อปคอร์นเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ใจจดใจจ่ออยู่แต่ภาพบนจอ ไม่สนใจพี่ชายที่มาด้วยกันเลยแม้แต่น้อย

ถ้าหวังจะให้น้องแฮมตกใจกลัวซอมบี้จนผวาเข้ามากอดแล้วให้เขาปลอบละก็ไม่มีทาง ถึงน้องแฮมจะกลัวผี แต่กลับชอบซอมบี้เสียอย่างงั้น เห็นท่าทางใส ๆ แบ๊ว ๆ แบบนั้นชอบอะไรโหด ๆ ไม่เข้ากับหน้าตาเลยจริง ๆ ดูสิจ้องจอตาแทบจะไม่กระพริบเลย

หึ...นี่เห็นซอมบี้นั่นดีกว่าพี่เสือสุดหล่อคนนี้เหรอน้องแฮม

เสือก็เลยดึงตัวน้องให้เอนตัวซบลงบนอก แต่น้องแฮมกลับเอามือยันอกเขาไว้แล้วเขยิบห่างออกไปโดยที่ไม่ละสายตาจากฉากที่ซอมบี้กำลังรุมกัดกินเหยื่อ

“น้องแฮมครับ ขยับมานั่งใกล้ ๆ พี่เสือหน่อยสิ” เสือแกล้งสะกิดแขนน้อง

“น้องแฮมจะนั่งดูหนัง ไม่อยากนั่งเบียดกับพี่เสือ”

แต่มีเหรอเสือจะยอม เขาเขยิบไปใกล้น้องมากขึ้นก่อนจะกระซิบบอก

“แต่พี่เสือหนาวนี่ครับ แอร์ในโรงหนังเย็นมากเลย ขอพี่เสือกอดน้องแฮมหน่อยนะ”

เสือทำท่าขนลุกลูบแขนทำเป็นหนาวจนโอเวอร์ ตอนแรกเขานึกว่าจะไม่ได้ผลเพราะเห็นน้องย่นคิ้วเข้าหากัน แต่สุดท้ายน้องแฮมก็ยอมขยับเข้ามาใกล้ให้เขาได้กอดสมใจ

“แต่พี่เสือต้องกอดเฉย ๆ ไม่ทำยุกยิกกับน้องแฮมเหมือนคราวก่อนนะ น้องแฮมดูหนังไม่รู้เรื่องอ่ะ”

“ได้ครับ”

เขาจัดการดึงคนตัวเล็กให้เอนตัวพิงบนอกแล้วสวมกอดน้องจากทางด้านหลัง เอาคางเกยไว้บนบ่าเล็ก เจ้าหนูของเขาหันกลับไปสนใจซอมบี้ในจออีกครั้ง ขณะที่มือก็ล้วงป๊อปคอร์นในถังเข้าปาก

“พี่เสือขอกินบ้างสิครับ”

 น้องแฮมหยิบป๊อบคอร์นยื่นให้โดยที่ตายังจ้องอยู่ที่จอหนัง เขาก็เอาปากงับไว้ แกล้งงับปลายนิ้วของน้องไปบ้างเพื่อให้น้องหันมามอง เสืออ้อนให้น้องป้อนเขาเป็นพัก ๆ พลางสูดกลิ่นหอม ๆ จากซอกคอขาว

น้องแฮมค่อนข้างจะมีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นกลิ่นคล้าย ๆ กับนมเนย คงเป็นเพราะว่าที่บ้านของน้องเป็นร้านเบเกอรี่ น้าขวัญจะอบขนมทุกวันเลยเจ้าหนูแฮมก็ชอบไปป้วนเปี้ยนในครัว น้องก็เลยมีกลิ่นหอม ๆ หวาน ๆ ติดตัว ชวนให้น่าจับเข้าปากแล้วกลืนลงท้องเสียจริง ๆ

เสือเริ่มซุกจมูกโด่งเข้าคลอเคลียกับคอขาว ๆ มือใหญ่ที่ตอนแรกแค่กอดเริ่มล้วงเข้าไปใต้เสื้อยืดลูบหน้าท้องเนียนนุ่มมือ น้องแฮมขยับตัวหนีแล้วหันมาทำเสียงดุ

“พี่เสือไม่ยุกยิกสิ น้องแฮมจะดูหนัง”

“น้องแฮมก็ดูไปสิ”

เขายังไม่หยุดทำยุกยิกกับตัวน้อง น้องแฮมวางถังป๊อปคอร์นลงบนโซฟาข้างตัว แล้วเอามือมาจับมือพี่เสือไว้

“ถ้าพี่เสือไม่หยุด น้องแฮมจะไม่ให้กอดแล้วนะ”

เจ้าหนูแฮมของเขาขมวดคิ้วไม่พอใจ เขายังไม่อยากให้น้องงอนก็เลยยอมเอามือออกจากเสื้อน้องแล้วกอดเอวไว้เท่านั้น แค่นั้นน้องแฮมก็พอใจกลับไปสนใจซอมบี้ที่วิ่งไล่ฆ่าตัวเอกบนจอต่อ

 

 

“หนังสนุกเนอะพี่เสือ น้องแฮมชอบตอนที่ซอมบี้ออกมาไล่ตามพระเอกแล้วพระเอกหันมายิงซอมบี้หัวกระจุยมากเลย”

เจ้าหนูแฮมยิ้มร่ามีความสุข ยังเม้าถึงฉากโชกเลือดที่ประทับใจไม่หยุดเมื่อพวกเขาเดินออกจากโรงหนังลงบันไดเลื่อนมาแล้ว เขายิ้มให้น้องด้วยความเอ็นดู สายตาก็เหลือบไปเห็นสองสาวที่ขึ้นบันไดเลื่อนสวนมามองมาที่เขาแล้วหันไปอมยิ้มให้กันแล้วหันไปซุบซิบ แต่เขาก็หูดีพอจะได้ยิน

“หล่อมากอ่ะแก”

“ดูยิ้มสิ โคตรหล่ออ่ะ”

เสือยกมือขึ้นเสยผมเท่ ๆ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก นี่ขนาดว่าวันนี้ตอนออกจากบ้านเขารีบ ๆ ง่วง ๆ ก็เลยไม่ได้จัดเต็มเท่าไหร่นะ

“พี่เสือ ๆ โทรศัพท์ดังฮะ”

น้องแฮมกระตุกแขนพี่ชายเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของเสือดังลั่นแต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมรับสักที เสือล้วงโทรศัพท์ออกมาก็เห็นว่าคนที่โทรมาคือคุณนายแม่ที่บ้านของเขาเองก็รีบรับ

“ครับแม่”

‘ดูหนังเสร็จแล้วเหรอพี่เสือ’

“ครับ กำลังจะกลับกันแล้วครับ”

‘พี่เสือพาน้องหาอะไรกินก่อนเข้าบ้านมาเลยนะลูก’

“อ้าว แต่น้องแฮมบอกเย็นนี้น้าขวัญจะทำพิซซ่าให้กินนี่ครับ” เขาจำได้เพราะก่อนออกมาน้องแฮมยังชวนเขากลับไปกินพิซซ่าที่บ้านตอนเย็น

‘เดี๋ยวแม่กับน้าขวัญต้องไปงานศพเพื่อนที่ระยอง เพื่อนสมัยมัธยมน่ะ นี่ก็เพิ่งรู้ข่าวเมื่อกี้ ก็เลยว่าจะไปค้างที่โน้นกันสักคืน’

“แม่ขับรถไปไหวเหรอครับ ให้เสือขับไปให้ไหม”

‘ไม่เป็นไร พี่เสืออยู่บ้านเป็นเพื่อนน้องเถอะลูก นี่น้าขวัญเขาจะขอคุยกับน้องแฮมหน่อย’

เสือยืนโทรศัพท์มือถือให้น้องแฮมที่ยืนมองตาแป๋ว

“น้าขวัญจะคุยด้วยน่ะ”

“ฮะแม่”

‘คืนนี้แม่ไม่อยู่บ้านนะ เดี๋ยวน้องแฮมให้พี่เสือพาไปกินข้าวแล้วกลับมาบ้านคืนนี้ก็ไปนอนกับพี่เสือนะลูก’

“ได้ฮะ แล้วแม่จะไปไหนเหรอ”

‘แม่ไปงานศพที่ระยองกับน้าปลาน่ะ น้องแฮมเป็นเด็กดีอยู่กับพี่เสือนะครับ’

“แม่กลับมาเร็ว ๆ นะ”

‘จ๊ะ พรุ่งนี้เย็น ๆ แม่ก็กลับละลูก ขอแม่คุยกับพี่เสือหน่อยสิน้องแฮม’

“พี่เสือ ๆ” แฮมยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้พี่ชาย “แม่จะคุยด้วย”

“ครับน้าขวัญ”

‘คืนนี้น้าฝากน้องไปนอนด้วยคนนะพี่เสือ’

“หา ให้น้องแฮมมานอนกับเสือเหรอครับ” เสืออุทานด้วยตกใจ

‘น้าไม่อยากให้น้องนอนคนเดียว หรือเสือจะมานอนเป็นเพื่อนน้องแฮมที่บ้านน้าแทนก็ได้นะลูก’

“ให้น้องมานอนห้องเสือก็ได้ครับ”

ห้องน้องแฮมเป็นเตียงเดี่ยว ให้เขาไปนอนกับน้องคงอึดอัดแย่

‘งั้นน้าฝากน้องด้วยนะ’

“ครับ”

เมื่อวางสายแล้วเสือก็หันไปมองน้องชายข้างบ้านที่กำลังจ้องเขาอยู่

“คืนนี้น้องแฮมต้องไปนอนบ้านพี่เสือนะครับ”

“แม่บอกแล้ว แม่บอกให้พี่เสือพาไปกินข้าวด้วย”

“แล้วจะกินอะไรละเรา พิซซ่าไหม แทนของที่น้าขวัญไม่ได้ทำให้ไง”

เจ้าหนูแฮมส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“น้องแฮมจะรอกินพิซซ่าของแม่วันหลัง”

“งั้นจะกินอะไรละครับ”

“กินสเต๊ก น้องแฮมอยากกินเนื้อ”

เพิ่งดูซอมบี้มาก็อยากจะกินเนื้อเลย

“กินเนื้อก็กินเนื้อ ป่ะ”

ว่าแล้วเสือก็โอบคอน้องแฮมพาไปร้านสเต๊กตามที่น้องอยากกิน พลางคิดว่าคืนนี้เขาจะรับมืออย่างไงดีกับการที่มีเจ้าหนูตัวนิ่ม ๆ หอม ๆ อยู่บนเตียงด้วยทั้งคืน

หรือจะแวะร้านขายยาก่อนเข้าบ้านเลยดีไหมนะ…

 

 

TBC...



พี่เสือคะ คิดจะทำอะไรคะ.....
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?) [05/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-09-2018 23:13:31
น้องแฮมจะรอดไหมนะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?) [05/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 06-09-2018 01:45:06
หนูน้อยของเราแอบซาดิสนะเนี่ย  :a5:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?) [05/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-09-2018 14:44:34
น้องแฮม หนูจะรอดมั้ยลูก อิพี่เสือชักจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?) [05/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 06-09-2018 17:20:36
เสือนอนพื้น แฮมนอนเตียง
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?) [05/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-09-2018 17:21:39
จะแวะซื้อยาโด๊ปหรอลุงเสือ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?) [05/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 06-09-2018 20:12:32
พี่เสือจะแวะซื้อยานอนหลับใช่มั้ยคะ คิดบวกค่ะยังไม่ได้คิดในทางเสื่อมเสีย
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตตอนที่ 4 อย่าฝากปลาย่างไว้กับเสือ(?) [05/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 06-09-2018 22:27:51
พี่เสือจะซื้อยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ให้น้องชิมิ ชิมิ
แบบว่า น้องแฮมกินเนื้อไง ท้องอืดดดดดด เนอะ ๆ
เนอะพี่เสือเนอะ   :mew3:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 5 แมวไม่อยู่เสือ(?)ร่าเริง [09/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 09-09-2018 12:29:54
ตอนที่ 5 แมวไม่อยู่เสือ(?)ร่าเริง



ตอนนี้เสือกำลังนั่งพิงหัวเตียงที่ปูด้วยผ้าปูสีน้ำเงินเข้มลายดวงดาวและท้องฟ้า เขาสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ดูรูปสาว ๆ ในไอจีไปเรื่อยเปื่อยระหว่างที่รอเจ้าหนูแฮมเข้าไปอาบน้ำก่อนที่จะไปนอนค้างที่บ้านของเขา รอจนเกือบจะหลับน้องแฮมก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนตัวเก่ง เสื้อยืดคอย้วย ๆ กับกางเกงขาสั้น แถมหัวเปียกซกจนน้ำหยดติ๋ง ๆ

“น้องแฮมทำไมไม่เช็ดผมละครับ”

“เนี่ยเหรอ”

แทนที่จะเอาผ้าเช็ดผมน้องกลับสะบัดหัวตัวเองไปมาจนน้ำกระเด็นไปทั่ว เสือทนไม่ไหวเลยลุกไปแย่งผ้าขนหนูมาคลุมหัวน้องแล้วพาไปนั่งบนเตียง

“เช็ดให้มันดี ๆ สิ”

เสือขยี้ผ้าขนหนูลงบนผมเปียก น้องแฮมเงยขึ้นมองพี่ชายก่อนจะส่งยิ้มตาหยี

“พี่เสือใจดี”

พอเห็นแก้มใส ๆ ปากชมพู ๆ ของคนตรงหน้าเสือก็อดใจไม่ได้ ก้มลงไปจุ๊บเหม่งทีหนึ่งด้วยความหมั่นเขี้ยว เขาเช็ดจนผมน้องพอหมาดก็ลุกเอาผ้าขนหนูไปพาดตรงราวตากผ้าเช็ดตัวก่อนจะเดินมาจับมือน้อง

“ไปนอนบ้านพี่เสือกันนะ”

แฮมพยักหน้ารับ

“อือ เอาพะโล้ไปด้วยนะ”

ว่าแล้วจะหันไปคว้าตุ๊กตาปลาวาฬสีน้ำเงินตัวโปรดติดมือมาด้วย เสือมองดูตุ๊กตาตัวนั้นด้วยความรู้สึกคุ้นตา

“นี่น้องแฮมยังเก็บพะโล้ไว้อีกเหรอ”

เสือยื่นมือไปขอตุ๊กตามาดู ตุ๊กตาปลาวาฬตัวเก่าตัวนี้พ่อของเขาซึ่งเป็นวิศวกรปิโตรเคมีทำงานกลางทะเลซื้อมาฝากพวกเขาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม ของเขาเองก็มีตัวหนึ่งแต่เป็นสีเทา

“ต้องเก็บไว้สิ ถ้าไม่มีพะโล้ น้องแฮมนอนไม่หลับอ่ะ”

ก็คงเหมือนพวกติดหมอนเน่าสินะ

“ว่าแต่พี่เสือเอาจับฉ่ายไปไว้ที่ไหนเหรอ น้องแฮมไปห้องพี่เสือ ไม่เคยเห็นจับฉ่ายเลย”

หากพะโล้คือชื่อตุ๊กตาปลาวาฬของน้องแฮม จับฉ่ายก็คือตุ๊กตาของเขานั่นเอง ตอนที่ได้รับตุ๊กตาสองตัวนี้มา น้องแฮมชอบกินพะโล้มาก ก็เลยตั้งชื่อให้ว่าพะโล้ แล้วลามมาถึงตัวของเขาด้วย ที่มีชื่อเป็นกับข้าวที่ขึ้นโต๊ะวันเดียวกัน

“สงสัยจะอยู่ในกล่องมั้ง แม่น่าจะเก็บไว้”

พอขึ้นชั้นมัธยม ก็มีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าตุ๊กตาพวกนี้เยอะแยะ เขาก็เลยไม่ได้ใส่ใจมันอีก

“เหรอ” น้องแฮมเม้มปากหน้าเศร้า “แบบนี้จับฉ่ายก็คงเหงาแย่”

“ไม่เหงาหรอก จับฉ่ายมีเพื่อนตั้งเยอะ อุลตร้าแมนกับแบทแมนก็อยู่ด้วย”

เสือคิดว่าแม่คงเก็บพวกของเล่นสมัยเด็กของเขาไว้อยู่

“งั้นเราไปหาจับฉ่ายกันไหมพี่เสือ”

“ห๊ะ ไปหาทำไมละน้องแฮม”

“ก็น้องแฮมไม่อยากให้จับฉ่ายอยู่ตัวเดียวนี่ น้องแฮมจะพาจับฉ่ายมาอยู่กับพะโล้”

น้องทำตาละห้อย เขาสงสารจับฉ่ายที่ต้องไปอยู่ในห้องเก็บของมืด ๆ

“พี่ไม่แน่ใจนะว่าจับฉ่ายยังอยู่หรือเปล่า”

ไม่ใช่ว่าแม่ของเขาเก็บไปบริจาคหมดแล้วเหรอ

“ลองหาดู ๆ นะ ๆ พี่เสือ”

น้องแฮมช้อนตามองพี่ชายด้วยตาใส ๆ มือข้างที่ว่างกระตุกชายเสื้อพี่ชาย แบบนี้มีเหรอที่พี่เสือจะทานทนไหว

“ลองไปหาดูก็ได้”

“เย้ ๆ ป่ะ ไปหาจับฉ่ายกัน”

น้องน้อยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ยื่นมือให้พี่ชายข้างบ้านจับจูงลงมาชั้นล่าง เสือจัดการเช็คประตูหน้าต่างว่าปิดเรียบร้อยแล้วหรือเปล่า ก่อนจะจัดการล๊อกบ้านของแฮมให้เรียบร้อย ส่วนเจ้าของบ้านกลับหอบขนมของกินและตุ๊กตาเต็มอ้อมแขน พอพี่หันมามองเจ้าตัวก็ยกให้ดู

“เสบียงไงพี่เสือ เดี๋ยวน้องแฮมแบ่งให้พี่เสือนะ”

นี่เจ้าตัวเล็กคิดว่าการไปค้างบ้านเขาคือการไปเข้าค่ายหรือไงถึงต้องเตรียมของกินไปเยอะขนาดนี้

เสือคว้าถุงเสบียงมาถือเอาแทนแล้วจูงมือน้องแฮมพาเข้าบ้าน เขาวางของไว้ที่โซฟาก่อนจะพาไปยังห้องเก็บของที่อยู่ติดกับห้องครัว จัดการไขประตูเข้าไปคลำหาสวิตซ์อยู่สักพัก หลอดไฟให้ห้องก็สว่างขึ้น ข้าวของต่างถูกวางไว้บนชั้นอยู่เป็นระเบียบ เสือมองไปรอบคิดว่ากล่องกระดาษที่อยู่บนชั้นนี่สักกล่องคงเป็นกล่องที่เก็บของเล่นของเขา จึงเดินเข้าไปยกลงมาจากชั้น ฝุ่นที่เกาะอยู่บนกล่องกระดาษที่ไม่มีใครแตะต้องมานานกระจายฝุ่นจนเขาต้องเบือนหน้าหนี หันไปเห็นเจ้าหนูแฮมกำลังเดินเข้ามาก็รีบร้องห้าม

“น้องแฮมไม่ต้องเข้ามา ในนี้มีแต่ฝุ่น รอพี่เสืออยู่ข้างนอกนะ”

“แต่ว่าน้องแฮมอยากช่วยหาจับฉ่ายนี่”

น้องแฮมยืนทำตาปริบ ๆ แต่คราวนี้พี่เสือไม่ยอมหรอก

“รออยู่ข้างนอกนั่นแหละ อาบน้ำมาแล้วเดี๋ยวจะเปื้อนฝุ่นเปล่า ๆ โดนฝุ่นมาก ๆ ภูมิแพ้กำเริบขึ้นมา น้าขวัญจะดุเอานะ”

เมื่อจำนนด้วยเหตุผลของพี่ชาย แฮมก็เลยได้แต่ยืนกอดตุ๊กตาพะโล้ชะเง้ออยู่ที่หน้าประตู มองเสือหยิบของในกล่องออกมา

เสือรื้อดูของข้างในกล่องออกมา กล่องนี้มีแต่พวกเครื่องครัวที่ไม่ค่อยได้ใช้ เขาจึงยกขึ้นเก็บแล้วยกอีกกล่องลงมา ก็ยังเป็นกล่องเก็บพวกของใช้กระจุกกระจิกที่ไม่รู้แม่จะเก็บไว้ทำไม เสือยกกล่องกระดาษลงมาอีก 2-3 กล่อง

“พี่เสือเจอจับฉ่ายหรือยัง”

“ยัง”

เขาปาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผาก ใช้มือจับเสื้อกระพือคลายร้อน ตอนนี้เขารู้สึกเหนอะหนะไปหมด อยากจะเลิกหาตุ๊กตาปลาวาฬสีเทานั้นแล้วขึ้นไปอาบน้ำ ติดตรงน้องแฮมยังยืนมองเขาด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความคาดหวัง เสือก็เลยต้องเปิดกล่องกระดาษพวกนี้เพื่อหาจับฉ่ายต่อไป

เมื่อกล่องกระดาษถูกยกลงมาจนเกือบจะหมดชั้น ในที่สุดเสือก็เจอเจ้าปลาวาฬตัวสีเทานอนเอ้งแม้งอยู่ในกล่องร่วมกับอุลตร้าแมนและแบทแมนพร้อมกับของเล่นสมัยเด็กของเขา 

“เจอแล้ว”

เสือหยิบขึ้นมาด้วยความดีใจ เขาชูให้น้องแฮมดูก่อนจะยื่นให้น้อง แฮมยิ้มกว้างแล้วรับจับฉ่ายไปกอดร่วมกับพะโล้ ส่งเสียงงุ้งงิ้งคุยกับตุ๊กตาในอ้อมแขน

“จับฉ่ายมาอยู่ด้วยกันกับพะโล้นะ”

ส่วนเจ้าของบ้านก็ต้องจัดการยกกล่องทั้งหมดกลับขึ้นชั้นเหมือนเดิม ทำให้เสื้อเชิ้ตของเสือชุ่มไปด้วยเหงื่อแถมยังเต็มไปด้วยฝุ่นจนเขารู้สึกคันคะเยอไปทั้งตัว

“เอาละ พี่เสือขอไปอาบน้ำก่อนนะ”

เสือในสภาพเหงื่อซกเดินนำน้องแฮมที่หอบหิ้วตุ๊กตาตามขึ้นมาด้วย พอเข้าห้องเขาก็จัดการเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ หยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ส่วนแฮมก็ปีนขึ้นเตียงพร้อมกับพะโล้และจับฉ่าย

เสือตั้งใจอาบน้ำเป็นพิเศษเพื่อจะได้ตัวหอม ๆ เวลากอดน้องแฮม กว่าจะอาบเสร็จก็ปาไปครึ่งชั่วโมง แต่พอออกจากห้องน้ำ เขาก็ยังเห็นน้องแฮมยังงุ้งงิ้งกับ 2 ปลาวาฬไม่เลิก เสือเห็นแบบนั้นก็รีบเป่าผมให้แห้งจะได้ขึ้นเตียงไปกอดน้องแฮมเร็ว ๆ

“น้องแฮมครับ”

เสือเข้าไปสวมกอดน้องแฮมที่กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง เขาสูดกลิ่นหอมจากผมของน้อง แขนก็โอบกอดกระชับมากขึ้น แต่คนในอ้อมกอดของเขากลับสนใจแต่ตุ๊กตาในมือ เขาจึงจับร่างเล็กให้พลิกตัวขึ้นมา

“พี่เสืออยากเล่นกับจับฉ่ายเหรอ”

น้องถามเขาตาแป๋วพร้อมกับยื่นตุ๊กตาปลาวาฬในมือให้

เสือจับตุ๊กตาจากมือน้องไปวางไว้ข้างหมอน มองคนที่นอนดูด้วยสายตาเป็นประกายแวววับ

“พี่เสืออยากเล่นกับน้องแฮมมากกว่า”

น้องแฮมกระพริบตาปริบ ๆ ด้วยความสงสัย

“จะเล่นอะไรเหรอ”

“เล่นแบบผู้ใหญ่ น้องแฮมสนใจไหม”

เจ้าหนูแฮมตาเป็นประกายด้วยความสนใจ พยักหน้าตกลง

“เล่น ๆ น้องแฮมอยากเป็นผู้ใหญ่”

พอได้รับคำอนุญาต พี่เสือก็ก้มลงประทับริมฝีปากลงบนปากเล็ก ๆ นั่นทันที เขาขบเม้มริมฝีปากล่างของคนตัวเล็ก ดูดดึงเบาให้เจ้าตัวเผยอปาก ก่อนจะละเลียดชิมความหวานภายใน ก่อนจะผละออก เขามองน้องแฮมที่นอนมองตาเยิ้มอยู่

“เป็นผู้ใหญ่ต้องเล่นกัดปากกันด้วยเหรอพี่เสือ”

น้องถามเสือเสียงสั่นพร่า แลบลิ้นเล็ก ๆ ออกมาเลียริมฝีปากที่โดนกัดเมื่อครู่ เสือเห็นภาพนั้นก็อดใจไม่ไหวก้มลงจูบอีกครั้งจนน้องต้องประท้วงด้วยการเอาตุ๊กตาปลาวาฬตีที่หลัง เขาจึงยอมปล่อย แย่งตุ๊กตาโยนไปข้างหลัง ก่อนจะก้มลงซุกซอกคอขาวสูดกลิ่นหอมนมเนยประจำตัวของเจ้าหนูแฮม

น้องแฮมสะดุ้งเมื่อรู้สึกเจ็บจิ๊ดตรงแถวไหปลาร้า เขาพยายามจะเขยิบตัวหนี พี่เสือเล่นอะไรก็ไม่รู้เอาแต่กัดน้องแฮมอยู่นั่นแหละ มือจะยุกยิกเข้าไปในเสื้อน้องแฮมทำไมก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้น้องแฮมรู้สึกเย็นพุงไปหมด เพราะพี่เสือเล่นถลกเสื้อขึ้นมาจนเกือบถึงหน้าอก

“อือ พี่เสือ น้องแฮมไม่เล่นแล้ว”

ไม่เห็นสนุกเลย แถมยังรู้สึกวูบวาบในท้องแบบแปลกด้วย น้องแฮมไม่เอาแล้ว

น้องแฮมพยายามประท้วง อยากจะเลิกเล่นเกมผู้ใหญ่นี้แล้ว

“พี่เสือ ๆ”

น้องแฮมส่งเสียงเรียกพี่ชาย ตอนนี้พี่เสือหยุดกัดเขาแล้ว ตอนนี้เขาโดนทับจนหายใจจะไม่ออกแล้ว พี่เสือตัวใหญ่จะแย่ มานอนทับน้องแฮมได้ไง

เมื่อเห็นพี่เสือไม่หือไม่อือ เขาก็ค่อย ๆ ดันตัวพี่ชายตัวโตให้ออกจากตัว ก่อนจะชันตัวขึ้นมองพี่เสือที่นอนหลับตาพริ้ม ลมหายใจเข้าออกที่เสมอสม่ำบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวหลับสนิทไปแล้ว

“อ้าว พี่เสือหลับแล้วเหรอ”

น้องแฮมลุกขึ้นไปหยิบจับฉ่ายมาวางข้างพี่ชาย เผื่อว่าพี่เสือจะได้เอาไว้กอด เขาจัดการดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวพี่เสือก่อนจะลุกขึ้นไปปิดไฟ แล้วมุดผ้าห่มเข้ามานอนกอดพะโล้จนหลับไปบ้าง

 

แสงแดดที่ส่องแยงตาทำให้เสือต้องรู้สึกตัวตื่น เขาขยี้ตาด้วยความงัวเงียก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจ

ตุ๊บ

ตุ๊กตาปลาวาฬชื่อจับฉ่ายกลิ้งอยู่บนที่นอน เสือหยิบขึ้นมาดูแล้วก็นึกขึ้นได้เมื่อคืนเจ้าหนูแฮมข้างบ้านมานอนค้างที่บ้านเขา แล้วเขาก็กะว่าจะจัดการกับเจ้าหนูน่ากินตัวนี้ให้สมใจอยาก แต่เขาดันเหนื่อยจนเผลอหลับไปได้เสียนี่

เสือทึ้งหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด นาน ๆ ถึงจะมีโอกาสงาม ๆ แบบนี้สักที แล้วนี่เมื่อไหร่จะได้กินเจ้าหนูแฮมสักที

ว่าแต่น้องแฮมหายไปไหน...

เสือกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง เปิดผ้าห่มดูก็ไม่เห็นร่างเล็กของเจ้าหนู

“น้องแฮม อยู่ในห้องน้ำเหรอ”

เขาลองตะโกนเรียกดูแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา เสือเลยลองลุกไปดูที่ห้องน้ำก็เจอแต่ความว่างเปล่า

“ไปไหนของเขาวะ”

เสือเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ได้ยินเสียงทีวีเปิดก็รู้ว่าคนที่เขาตามหาอยู่ลงมาดูทีวีอยู่นี่เอง เมื่อเสือเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นน้องแฮมกำลังกอดพะโล้เอาไว้ อีกมือก็กำลังหยิบเอาเอแคลร์เข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ

“พี่เสือตื่นแล้วเหรอ”

น้องแฮมได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันมายิ้มแฉ่งให้พี่ชายที่เดินทำหน้ายุ่งมาหา

“กินขนมไหม น้องแฮมเอามาเยอะเลย”

แฮมยื่นถุงขนมที่หิ้วมาด้วยเมื่อคืนให้เสือที่ตอนนี้ลงมานั่งเบียดด้วยกันบนโซฟา ก่อนจะหันกลับไปสนใจสารคดีเพนกวินกำลังวางไข่ในทีวีต่อ

เสือวางถุงขนมลงบนโต๊ะ หันไปมองคนข้างตัวที่ตอนนี้สนใจแต่ไข่เพนกวิน ไม่ได้สนใจเขาที่มานั่งด้วยเลย เสือเลยขยับเข้าไปใกล้อีกนิด กระแซะเข้าไปอีกหน่อย มือโอบเอวน้องไว้ ก่อนจะกระซิบข้างหู

“น้องแฮมครับ เรามาต่อเมื่อกี้กันนะครับ”

“พี่เสืออยากเล่นอีกเหรอ” น้องหันมามองเขาตาใสก่อนจะย่นคิ้วไม่ชอบใจ “แต่น้องแฮมไม่ชอบอ่ะ เล่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่หนุกเลย เจ็บด้วย”

เนี่ย เมื่อเช้าน้องแฮมส่องกระจกดูที่คอมีรอยกัดเป็นจ้ำ ๆ ตั้ง 2-3 รอย

“น้องแฮมต้องเล่นต่อ เดี๋ยวน้องแฮมก็จะสนุกกับมัน เชื่อพี่เสือสิ”

เสือพยายามตะล่อมน้องเผื่อจะมีหวัง มือของเขาลูบขาขาวที่โผล่ออกมาจากกางเกงขาสั้น จมูกโด่งพยายามจะซุกไซ้บริเวณไหล่ลาด แต่กลับโดนเจ้าหนูแฮมเบี่ยงตัวหนีแถมไม่พอยังเอาตุ๊กตาพะโล้มาดันหน้าเขาเอาไว้อีก ได้แต่กลิ่นตุ ๆ ของเจ้าตุ๊กตาตัวเก่า

“ไม่เอาอ่ะ ตอนนี้น้องแฮมไม่อยากเล่นแล้ว น้องแฮมกลับไปอาบน้ำที่บ้านดีกว่า”

ว่าแล้วเจ้าตัวเล็กก็ลุกพรวดพร้อมกับหิ้วพะโล้กลับไปด้วย พี่เสือได้แต่ร้องเรียก จะคว้าตัวไว้ก็ไม่ทัน

“เดี๋ยวก่อนสิ น้องแฮมกลับมาก่อน”

“ไว้วันหลังค่อยเล่นกันนะพี่เสือ”

สุดท้ายพี่เสือก็ได้แต่ทำตาปริบ ๆ มองน้องแฮมเดินออกจากบ้านไป

 

TBC...



โถ สงสารพี่เสือเค้านะคะ 555

 
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 5 แมวไม่อยู่เสือ(?)ร่าเริง [09/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-09-2018 13:15:05
คิดจะเต๊าะเด็กใจต้องนิ่งนะพี่เสือ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 5 แมวไม่อยู่เสือ(?)ร่าเริง [09/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-09-2018 14:36:58
น้องแฮมเคยฝันเปียกไหมลูก ผ่านเสือสิงห์กระทิงแรดช่วงมอปลายมาได้ไง
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 5 แมวไม่อยู่เสือ(?)ร่าเริง [09/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 09-09-2018 16:13:53
น้องแฮม...เข้าเรียนมหาลัยแล้ว ... เนี่ยนะ?

ไม่เคยดูละคร ไม่เคยอ่านการ์ตูน
ไม่เคยเห็น "การกัดปาก" มาก่อนเลยเหรอ? :hao3:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 5 แมวไม่อยู่เสือ(?)ร่าเริง [09/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 09-09-2018 21:30:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 5 แมวไม่อยู่เสือ(?)ร่าเริง [09/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 10-09-2018 13:11:11
ใสซื่อ ..
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 6 : เสือหวงก้าง [15/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 15-09-2018 20:38:24
ตอนที่ 6  เสือหวงก้าง




                “ไง ไอ้เสือ เสาร์อาทิตย์หายหัวไปเลยนะมึง กูชวนไปมากินเหล้าก็ไม่ยอมออกมา”

                เอ้เอ่ยทักเสือทันทีเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาภายในห้องเรียน เขาเพิ่งแวะไปส่งน้องแฮมที่คณะมา เจ้าหนูตัวจิ๋วนั่นพอเห็นเพื่อน ๆ ก็ยิ้มกว้างแล้วรีบกระโดดลงรถไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองพี่เสือคนนี้เลย

                เดี๋ยวนี้มีเพื่อนใหม่เยอะแยะก็ไม่สนใจพี่เสือแล้วสินะ คิดแล้วมันน่าน้อยใจจริง ๆ

                สีหน้าที่แสดงออกตอนที่เสือไปนั่งข้างนะก็เลยดูเนือย ๆ สักหน่อย

                “มัวแต่ไปกกอยู่กับใครที่ไหนเปล่าวะ”

                เอ้หันมาถามบ้าง เขาหรี่ตามองมาที่เสืออย่างจับผิด

                “เอ่อ นั่นสิ น้องน้ำแข็งใสอะไรนั่นเป็นไงบ้างวะ”

                พอได้ยินชื่อนี้เขายิ่งรู้สึกเซ็งกว่าเดิมอีก เกือบโดนน้ำแข็งฟาดหัวแตกแล้วละสิไม่ว่า

                “ก็ไม่เป็นไง”

                “ดูท่าทางแปลก ๆ นะมึงน่ะ”

                นะที่นั่งเงียบมานานเอ่ยทักบ้าง เมื่อเห็นว่าเพื่อนทำหน้าเบื่อโลกเสียเต็มทน

                “กูแค่เบื่อ ๆ”

                “อะไรวะ เดี๋ยวนี้พี่เสือกลายเป็นคนขี้เบื่อไปแล้วเหรอ”

                “อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเป็นผีบ้านผีเรือนเลยนะมึง”

                เอ้แกล้งแซวโดยมีนิวเป็นลูกคู่แกล้งแหย่ด้วย

                “ผีบ้านมึงสิไอ้นิว”

                ไอ้สองคนนั่นกลับหัวเราะขำที่เห็นเสือด่ากลับแบบนี้

                “แล้วนี่น้องข้างบ้านมึงเป็นไงบ้างวะ”

                เอ้ถามต่อ เขาจำได้ว่าครั้งก่อนตอนไปเที่ยวด้วยกัน นิวพูดถึงเด็กข้างบ้านที่เสือมันเฝ้าเทียวรับเที่ยวส่งอยู่ สงสัยว่าคนนี้จะตัวจริงของเพื่อนเขาเสียละมั้ง

                “ใกล้จะได้แดกหรือยังวะ”

                เสือหันไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะหายใจเฮือกใหญ่ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด ถ้าวันนั้นเขาไม่เผลอหลับไปก่อน ป่านนี้เขาก็คงได้ลิ้มรสหอมหวานของเจ้าหนูตัวนุ่มนิ่มของเขาไปแล้ว

                “อะไรวะ ถามแค่นี้ต้องทำหน้าซังกะตายด้วย”

                “ก็ยังแดกแห้วอยู่เหมือนเดิมน่ะสิไอ้เอ้ พี่เสือคาสโนว่า ฟันสาว ๆ มานับไม่ถ้วน แต่กลับมาเสียฟอร์มเพราะน้องเขาคนเดียว”

                นิวหัวเราะชอบใจ ไม่รู้ทำไมเพื่อนของเขาถึงแพ้ทางน้องมันทุกที

                “นี่พวกมึงพูดถึงใครวะ”

                นะถามขึ้นด้วยความสงสัยว่าเพื่อน ๆ กำลังพูดถึงใครกัน

                “ก็เด็กไอ้เสือมันไง เรียนปี 1 มหาลัยเรานี่แหละ เห็นไอ้นิวบอกน่ารักมาก ไอ้เสือแม่งโคตรหวง”

                “เหรอวะ ขนาดไอ้เสือหวงแสดงว่าแม่งต้องเด็ดจริง กูชักอยากจะเห็นหน้า”

                “ไอ้นะ มึงหยุดเลย ไม่ต้องมายุ่งกับน้องกูเลย”

                เสือรีบเบรกเพื่อนทันที ยิ่งไอ้นะยิ่งไม่น่าไว้ใจ ไอ้นี่มันร้ายนัก เรียกว่าผีย่อมเห็นผีด้วยกันก็ว่าได้

                “พูดแบบนี้กูยิ่งอยากเห็น”

                นะยิ้มที่มุมปากด้วยความสนใจ เห็นท่าทางเสือแล้วดูน่าสนุกดี

                “กูด้วย ๆ งั้นตอนเย็นพวกเราตามไอ้เสือไปรับน้องเขาดีกว่า”

                เอ้สนับสนุนเต็มที่ เขาก็อยากเห็นเด็กของไอ้เสือเหมือนกัน ยิ่งเห็นมันหวงขนาดนี้ยิ่งอยากเห็นหน้า

                “พวกมึงหยุดความคิดไปเลย อย่าไปยุ่งกับน้องกูนะโว้ย”

                เสือแยกเขี้ยวใส่เพื่อนด้วยความหวงสุดชีวิต อย่าหวังว่าใครจะยุ่งกับน้องแฮมของเขาได้

                “เรื่องของมึงสิ”

                เอ้แลบลิ้นปลิ้นตาใส่เพื่อน นิวได้แต่โคลงหัวยิ้มขำ ส่วนนะนั่งยิ้มกริ่ม ก่อนที่เสือจะโวยวายมากไปกว่านี้ อาจารย์ก็เข้ามาในห้องพอดี เขาจึงต้องสงบปากสงบคำ ได้แต่ส่งสายตาอาฆาตไปให้บรรดาเพื่อนตัวแสบ

 

                แต่แล้วทุกคนก็ไม่ต้องรอถึงตอนเย็น เพราะพอหมดเวลาคาบแรก โทรศัพท์มือถือของเสือก็สั่นราวกับตั้งเวลาไว้ เสือขมวดคิ้วเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ

                “ว่าไงครับน้องแฮม”

                เสือรีบกดรับสายทันที พลางสงสัยว่าทำไมเจ้าตัวเล็กถึงโทรมาเวลานี้

                ‘พี่เสือ แย่แล้ว ๆ ทำอย่างไงดี ฮือ น้องแฮมต้องโดนทำโทษแน่ ๆ เลย’

                เสียงในสายฟังดูร้อนรนจนเสือต้องปลอบให้น้องพูดช้าลง

                “เดี๋ยวก่อนน้องแฮม ใจเย็น ๆ ก่อน มีเรื่องอะไรค่อย ๆ บอกพี่เสือมานะครับ”

                ‘คือป้ายชื่ออ่ะ ป้ายชื่อของน้องแฮมที่รุ่นพี่บอกว่าต้องห้อยมาทุกวัน’

                “แล้วอย่างไงครับ”

                ตอนที่เขาอยู่ปีหนึ่งก็โดนสั่งให้ห้อยป้ายแบบนี้เหมือนกัน โคตรจะหน้าอายเลย ดีนะที่เขาหล่อและดูดี มันก็เลยดูไม่ค่อยแย่เท่าไหร่

                ‘มันหายไปน่ะพี่เสือ หายไปไหนก็ไม่รู้ เมื่อเช้าน้องแฮมก็หยิบออกมาจากบ้านแล้วนะ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว ทำไงดีละพี่เสือ’

                นั่นน่ะสิ เมื่อเช้าเขาก็ยังเห็นน้องแฮมหยิบออกมาดูตอนที่นั่งรถมาด้วยกันอยู่เลย

                “เมื่อเช้าพี่เห็นน้องแฮมหยิบออกมาตอนอยู่บนรถ น้องแฮมทำตกไว้ในรถหรือเปล่า”

                ‘บนรถพี่เสือเหรอ ต้องใช่แน่ ๆ เลย งั้นน้องแฮมไปหาพี่เสือที่คณะ เดี๋ยวเจอกันนะครับ’

                “เดี๋ยวก่อนน้องแฮม เดี๋ยว...อย่าเพิ่งมา...”

                ยังไม่ทันที่เสือจะได้พูดจบประโยค น้องแฮมก็วางสายไปแล้ว แถมโทรกลับไปก็ไม่ยอมรับอีก แล้วนี่จะมาคณะนี้อย่างไงกัน

                “มีไรวะเสือ”

                นิวเดินมาเอาแขนพาดบ่าเพื่อน เขาเห็นมันเดินหลบออกมาคุยโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อกี้ละ

                “ก็น้องแฮมอ่ะดิ จะมาหาที่คณะตอนนี้” เสือหันไปบอกเพื่อน

                “ห๊ะ น้องอ่ะนะ มาทำไมวะ”

                “บอกว่าทำป้ายชื่อหาย สงสัยจะหล่นอยู่ในรถว่ะ เดี๋ยวกูลงไปเปิดรถให้น้องก่อน ฝากพวกมึงเช็คชื่อให้ด้วย”

                เอ้ที่เดินตามหลังมาได้ยินว่าน้องแฮมเด็กไอ้เสือจะมาที่คณะก็หูผึ่งทันที

                “เด็กมึงจะมาเหรอวะ ดีเลย ขอกูตามไปด้วยดิ”

                “เฮ้ย ไม่ได้ กูไม่ให้มึงตามไป” เสือร้องห้ามเสียงหลง

                “อะไรวะ แค่ไปดูเองเปล่าวะ ทำเป็นหมาหวงก้างไปได้”

                “จะก้างหรือกระดูก กูก็ไม่ให้มึงไปยุ่งวุ่นวายกับน้องกู”

เอ้จิ๊ปากด้วยความไม่พอใจ ทำปากขมุบขมิบด่าเพื่อน

                “กูไปละ เดี๋ยวมา”

                เสือรีบเดินไปรอน้องที่หน้าคณะวิศวะ เอ้มองตามหลังเพื่อนที่เดินห่างไปไกลแล้ว ก่อนจะหันมาชวนพวกที่เหลือ

                “ป่ะ มึงไปกัน” ว่าแล้วก็เดินไปทางเดียวกับเสือ จนนิวต้องร้องทัก

                “เฮ้ย ห้องเรียนไปทางโน้นนะไอ้เอ้”

                “เอ่อ กูรู้ แต่กูอยากเห็นเด็กไอ้เสือมากกว่า มึงก็อยากเห็นใช่ไหมไอ้นะ” เอ้หันมาหาเสียงสนับสนุน

                “กูอย่างไงก็ได้ว่ะ”

                “งั้นมึงก็มากับกู ไปแอบดูเด็กไอ้เสือกัน”

                “ไอ้เอ้มึงนี่มันขี้เสือกจริง ๆ”

                “มึงเคยเห็นน้องมันแล้ว มึงไม่ต้องมาก็ได้ ไปเช็คชื่อให้พวกกูด้วย”

                “เอ่อ ๆ เดี๋ยวกูเช็คชื่อให้”

                “ป่ะไอ้นะ เดี๋ยวไม่ทันเห็นหน้าน้องมัน”

                นิวได้แต่ส่ายหัวระอากับความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนตัวเอง ก่อนจะเดินกลับไปเข้าชั้นเรียน

 

                เสือยืนชะเง้ออยู่หน้าตึกคณะสักพักก็เห็นคนตัวเล็กคุ้นตาวิ่งตุบ ๆ นำเพื่อนมาทางที่เขายืนอยู่พร้อมกับส่งเสียงก่อนที่ตัวจะมาถึง

                “พี่เสือ ๆ”

                “น้องแฮม พี่เสือบอกไม่ให้วิ่งไงครับ”

                น้องแฮมวิ่งมาหยุดตรงหน้าเสือ พลางหอบแฮ่ก เสือมองเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาที่แก้มแดงระเรื่อนั้น

                “ดูสิ เหงื่อท่วมเลย”

                คนตัวเล็กยิ้มแหะ ๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเช็ดเหงื่อ พอดีกับที่โอ๊ตเดินตามมาสมทบ

                “รถอยู่ไหนละพี่เสือ เร็วเข้า ๆ ไปหาป้ายชื่อกัน”

                เขาเข้าไปเขย่าแขนพี่เสือ นี่น้องแฮมรีบมาสุด ๆ เลยนะ

                “ใจเย็นก่อนไหมแฮม เพิ่งเดินมาถึงก็จะไปอีกแล้วเหรอ เราเหนื่อยนะ”

โอ๊ตที่สภาพเหงื่อท่วมไม่ต่างกันเพราะเดินฝ่าแดดมาบ่นกระปอดกระแปด

                “โอ๊ตเดินมาช้าแล้วยังบ่นอีก ก็ตัวเองมีป้ายชื่อแล้วนี่” แฮมเบ้ปากใส่เพื่อนสนิทก่อนจะหันมากระตุกแขนพี่ชาย

                “ป่ะ รถจอดอยู่ทางโน้น”

                เสือเดินนำน้อง ๆ ไปยังลานจอดรถ จัดการเปิดรถให้เจ้าตัวเล็กมุดเข้าไปหาป้ายชื่อที่คาดว่าหล่นตอนที่เจ้าตัวหยิบออกมาดูเมื่อเช้า และก็จริงตามคาดป้ายชื่อตกอยู่ใต้เบาะที่นั่งข้างคนขับ คงร่วงตอนที่เจ้าตัวลงจากรถนั่นแหละ

                “เจอแล้ว ๆ”

                น้องแฮมโบกป้ายชื่อในมือที่เขียนว่า ‘แฮม’ ด้วยรอยยิ้มร่าเริงให้กับพี่ชายและเพื่อนดู

                “ไหน ๆ คนนี้ไหนวะน้องแฮมของไอ้เสือ”

                เสือหันควับไปทันทีที่ได้ยินเสียง แล้วเขาก็เห็นเพื่อนสองคน เอ้และนะยืนอยู่ข้างหลัง กำลังมองมายังเด็กปีหนึ่งทั้งสองคนด้วยความสนอกสนใจ

                “อ้อ คนนี่สินะน้องแฮม”

                เอ้มองป้ายชื่อที่อยู่ในมือของเด็กผู้ชายตัวเล็ก หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ถึงจะผิดคาดที่น้องสุดหวงของเสือเป็นเด็กผู้ชาย แต่เขาก็เห็นด้วยที่ว่าน้องแฮมน่ารักมากจริง ๆ

                เสือมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนสลับกันด้วยความหงุดหงิดจนออกอาการ

                “พวกมึงนี่มัน...ตามกูมาทำไมวะ”

                เอ้ไม่สนใจอาการฮึดฮัดของเพื่อน เขาเดินเข้าไปใกล้น้องแฮมพร้อมกับส่งยิ้มให้

                “สวัสดีครับน้องแฮม พี่ชื่อพี่เอ้ เป็นเพื่อนของเสือ”

                น้องแฮมกระพริบตาปริบ ๆ เขาหันมามองพี่ชาย เห็นพี่เสือถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้าให้อย่างเสียไม่ได้ แฮมจึงหันมายิ้มกว้างแล้วยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองคน

                “หวัดดีฮะ น้องแฮมเป็นน้องพี่เสือ”

                เสือมองด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นสายตาวาววับของไอ้เพื่อนชั่วที่มองเจ้าหนูแฮมของเขา

                “พี่ชื่อพี่นะ” นะเอ่ยแนะนำตัวบ้างก่อนจะหันไปมองเด็กปีหนึ่งอีกคนที่ยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ “แล้วคนนี้ใครเหรอครับ”

                โอ๊ตมองเพื่อนของพี่เสือด้วยความระแวง จากการรับหน้าที่คอยเป็นไม้กั้นหมาให้กับเพื่อนสนิทมาแรมปี ทำให้เขาพอจะรู้สึกได้ว่าสายตาคม ๆ ของรุ่นพี่คนนี้ที่มองมามันไม่น่าไว้ใจนัก

                “เพื่อนน้องแฮมชื่อโอ๊ต มาจากข้าวโอ๊ต”

                “แฮม”

                เจ้าหนูแฮมเพื่อนเขาดันแนะนำตัวแทนเขาเองไปเสร็จสรรพ แถมยังหันมายิ้มแฉ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีก

                ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ให้บอกใครว่าเขาชื่อข้าวโอ๊ต

                “ชื่อข้าวโอ๊ตเหรอ” รุ่นพี่ที่ชื่อพี่นะมองจ้องมาที่ใบหน้าของเขาก่อนจะยิ้มมุมปากชวนให้รู้สึกแปลก ๆ

                “ชื่อน่ารักเหมาะกับน้องดีนะครับ”

                โอ๊ตเผลอเม้มปากแน่น เขาไม่ชอบใจเลยจริง ๆ ไม่ชอบใจผู้ชายที่ชื่อนะคนนี้เลย

“แฮม ไปกันเถอะ”

โอ๊ตเอ่ยปากชวนเพื่อนกลับ เขาไม่อยากอยู่ตรงนี้ต่อแล้ว รู้สึกอยากไปให้ไกลจากสายตากับรอยยิ้มของเพื่อนพี่เสือคนนี้

“อ้าว จะรีบกลับไปทำไม เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงน้ำก่อนดีกว่า เดินมาตั้งไกล”

เอ้รีบชวนน้องทั้งสองเอาไว้ ยังไม่ทันจะได้ทำความรู้จักคุ้นเคยเลย เขาอยากรู้ว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงหวงเด็กคนนี้นัก

“ไม่ต้องเลยมึง” เสือทำตาเขียวปั๊ดให้เพื่อนก่อนจะหันมาพูดกับน้องแฮมเสียงนุ่ม “พี่เสือว่าน้องแฮมรีบกลับไปคณะก่อนนะครับ”

“กลับเหอะ เดี๋ยวไปเรียนอีกวิชาไม่ทันนะแฮม”

โอ๊ตกระตุกแขนเสื้อเพื่อนให้เร่งตัดสินใจ

“งั้นน้องแฮมไปก่อนนะพี่เสือ เจอกันตอนเย็นนะ”

“ครับ”

โอ๊ตรีบลากแขนเพื่อนกลับไปทางคณะศึกษาศาสตร์ทันที น้องแฮมหันมาโบกมือหยอย ๆ ให้พี่ชาย รวมถึงเผื่อแผ่ยิ้มหวาน ๆ ให้กับเอ้และนะด้วย

“แม่ง...น่ารักชิบหาย” เอ้มองตามคนตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ที่เดินลับตาไปแล้ว

“ไอ้เอ้ มึงหยุดเลยนะ อย่ามายุ่งกับน้องกู”

เสือทำท่าเหมือนจะคำรามแล้วตะปบเพื่อน

“อะไร กูก็แค่อยากทำความรู้จักกับน้องเขาเอง มึงนี่ก็หวงจัง”

“น้ำหน้าอย่างมึงคิดอะไรอยู่ทำไมกูจะไม่รู้วะไอ้เอ้”

เสือชี้หน้าเพื่อนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง

“ถ้ามึงยังอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่ คนนี้กูขอ อย่ายุ่งกับน้องกู”

เอ้เห็นเพื่อนดูไม่ได้ล้อเล่น  แววตาเคร่งเครียดนั่นทำราวกับจะฆ่าเขาได้ถ้าหากเขาเผลอไปยุ่งกับเด็กน้อยน่าเอ็นดูคนนั้น

“เอ่อ ๆ กูก็แค่ล้อเล่นเปล่าวะ มึงนี่ก็หวงเกิน”

“หึ”

นะเผลอส่งเสียงขำในลำคอให้ได้ยิน เสือหันไปมองไอ้คนที่ใบหน้ามีรอยยิ้มจาง ๆ อยู่เสมอด้วยความระแวง

“มึงไม่ได้คิดอะไรกับน้องกูใช่ไหมไอ้นะ”

นะส่ายหน้าอย่างเห็นเป็นเรื่องขำ

“กูไม่ยุ่งกับน้องมึงหรอก ไม่ใช่แบบที่กูสนใจ”

“เอ่อ งั้นก็แล้วไป”

เสือหันกลับไปมองเอ้ตาขวางอีกรอบ จนคนโดนมองเริ่มโวยวาย

“กูบอกว่าไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่งสินะ มึงนี่ก็ระแวงเกินไปแล้ว”

“ก็มึงมันไม่น่าไว้ใจนี่วะ”

นะได้แต่ยิ้มขำเดินตามเพื่อนสองคนที่กัดกันไปตลอดทางกลับห้องเรียน

น้องแฮมของเสือก็น่ารักดีอยู่หรอกนะ แต่เขาไม่สนใจเจ้าหนูใส ๆ แบบนั้นหรอก เจ้าลูกแมวตาวาว ๆ ที่อยู่ข้างกันนั่นตั้งหากที่ดูน่าสนใจกว่า เขายังไม่ทันจะทำอะไรก็ทำท่าเหมือนจะพองขนขู่เขาเสียแล้ว

แบบนั้นสิถึงจะน่าสนุก...

 

TBC...



นิยายเรื่องนี้เราแต่งขึ้นเพราะอยากจะแต่งอะไรสักอย่างตอนที่นึกนิยายอีกเรื่องไม่ออกน่ะค่ะ บอกตรงๆว่าเรื่องนี้ไม่มีพลอตที่คิดไว้ก่อนเลย เราแต่งเพราะความสนุกส่วนตัวของเราล้วนๆ อาจจะมีหลายจุดที่ไม่ดีนัก เราก็ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้าหากเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นแบบที่อยากอ่าน ส่วนคนที่ชอบ เราก็ดีใจมากค่ะ มีกำลังใจที่ดีมากๆเลยค่ะ *ไหว้ย่อ*

 

               
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 6 เสือหวงก้าง [15/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-09-2018 21:18:16
น้องๆรู้จักกลัวอีพวกพี่บ้างก้อดีนะจ้องจะกลืนลงท้องตลอดเวลาเลย 55
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 6 เสือหวงก้าง [15/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 15-09-2018 21:44:24
พี่นะดูร้ายมาก ชอบคู่นี้ โอ๊ตจะตามเล่ห์เหลี่ยมพี่นะทันไหม
หรือได้แค่พองขน ฮา

 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 6 เสือหวงก้าง [15/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-09-2018 23:29:50
เพื่อนพี่เสือดูโรคจิตไปนะ555
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 6 เสือหวงก้าง [15/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 16-09-2018 12:20:35
ความน่ารัก มาได้เรื่อยๆ ..
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 6 เสือหวงก้าง [15/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: TheBig ที่ 17-09-2018 06:06:09
น่ารักจังค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 7 เสือร้าย [22/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 22-09-2018 21:15:43
ตอนที่ 7 เสือร้าย


                “กูว่าน้องเขาใสซื่อเกินไปหรือเปล่าวะไอ้เสือ นี่เด็กมหาลัยแล้วนะเว้ย”

                หลังจากเอ้สาบานเป็นรอบที่ร้อยว่าจะไม่ยุ่งกับเด็กน้อยในสังกัดของเพื่อนรักแล้ว เสือถึงยอมวางใจและเล่าเรื่องราวของน้องให้พวกเขาฟัง

                “เอ่อ กูรู้”

                เสือกระแทกแก้วชาเย็นลงบนโต๊ะในโรงอาหาร ตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะกินข้าวกลางวันกันเสร็จ

                “ก็กูชอบที่น้องแฮมเป็นเด็กใส ๆ แบบนี้นี่ว่ะ กูเลี้ยงมากับมือเลยนะเว้ย ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม”

                กว่าจะเลี้ยงให้น้องแฮมบริสุทธิ์ไร้เดียงสาขนาดนี้มันไม่ใช่ง่าย ๆ เลยนะ เขาต้องค่อยเลี้ยงดูทะนุถนอมเจ้าหนูแฮมตั้งแต่เล็ก ๆ  พ่อของน้องแฮมเสียไปตั้งแต่น้องแฮมสามขวบ น้าขวัญที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงย้ายมาอยู่ข้างบ้านของเพื่อนสนิทซึ่งก็คือแม่ของเขา พ่อก็อยู่กลางทะเล นาน ๆ จะกลับมาบ้านสักที เสือจึงเป็นทั้งพี่ชายและพี่เลี้ยง และแน่นอนว่าเขาสกรีนทุกอย่างที่น้องแฮมจะต้องเจอ เขายอมรับก็ได้ว่าเขาชอบน้องแฮมตอนยังเป็นเด็กเล็ก ๆ ตาโตใสแจ๋ว เรียกพี่เสืออย่างงั้น พี่เสืออย่างงี้ น่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด

                “งั้นมึงก็ไม่มีทางได้แดกน้องหรอก ปล่อยให้น้องใส ๆ แบบนั้นต่อไปเหอะ”

                เอ้สัพยอก มิน่าน้องมันถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย นิวหัวเราะก๊ากเมื่อเห็นเสือเหลือบมองเอ้ตาขวาง

                “แล้วทำไมมึงไม่สอนน้องมันละวะ”

                นะตบบ่าเสือเบา ๆ ก่อนจะยิ้มที่มุมปากด้วยท่าทางสบาย ๆ

                “สอนน้องให้รู้ทุกอย่างด้วยตัวมึงเอง ฟังดูน่าสนใจไหมละ”

                เสือใช้นิ้วหัวแม่มือลูบที่ริมฝีปากอย่างใช้ความคิดก่อนจะยกยิ้ม

                เป็นความคิดที่ดีจริง ๆ

 

                ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว~

                “พี่เสือ น้องแฮมหนวกหู”

                เสือหันมามองคนที่นั่งอยู่เบาะข้าง ๆ ที่กำลังทำคิ้วย่นเพราะเสียงร้องเพลงที่ดังลั่นรถของเขา

                “ไม่เพราะเหรอ”

                เจ้าหนูแฮมส่ายหน้าแบบไม่รักษาน้ำใจกันเลย เสือก็เลยได้แต่ลดเสียงวิทยุให้เบาลง ก่อนจะเอ่ยชวนน้องแฮม

                “วันนี้ไปกินไอติมกันไหมครับ เดี๋ยวพี่เสือพาไป”

                เขากะว่าจะเอาใจน้องก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสสอนอะไรต่อมิอะไรให้เด็กน้อยของเขา

                น้องส่ายหัวทำหน้ามุ่ย ๆ เสือเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจว่าทำไมวันนี้เจ้าหนูแฮมไม่ยักกะสนใจไอศกรีมของโปรด แถมเจ้าตัวยังดูไม่ค่อยร่าเริงผิดกับเมื่อตอนที่แวะมาหาเขาที่คณะ

                “น้องเสือปวดท้อง อยากกลับบ้าน”

                “เอ๊ะ ไปกินอะไรมาเหรอถึงปวดท้อง”

                “ไม่รู้อ่ะ น้องแฮมก็กินข้าวที่โรงอาหารเหมือนเดิมนะ”

                “งั้นรีบกลับบ้านนะครับ”

                น้องแฮมพยักหน้า ก่อนจะพิงประตูอย่างเนือย ๆ เสือเหลือบมองคนที่นั่งข้าง ๆ ปกติน้องแฮมจะค่อนข้างพลังเยอะ ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา พอเจ้าหนูหงอย ๆ แบบนี้ก็อดสงสารไม่ได้

                เสือรีบขับรถกลับมาที่บ้านเมื่อจอดรถเรียบร้อยเขาก็หันไปถามน้องที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถ

                “น้องแฮมไหวไหม แล้วมียาหรือเปล่า”

                “ไหวฮะ มียาอยู่ในตู้ที่บ้าน น้องแฮมกลับก่อนนะพี่เสือ”

                เจ้าตัวเล็กเดินซึม ๆ กลับเข้าบ้านไป เสือมองจนน้องปิดประตูเข้าบ้านไปแล้วก็เข้าบ้าน เขาเดินเข้าไปในครัวเห็นแม่กำลังทำกับข้าวอยู่

                “กลับมาแล้วครับ”

                เสือเดินไปเปิดฝาชีที่ครอบกับข้าวไว้ วันนี้มีหมูทอดกระเทียมกับแกงจืดเต้าหู้ไข่แฮะ

                “กลับมาพร้อมน้องหรือเปล่าลูก”

                “ไปด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิครับ”

                “ดีจัง ตั้งแต่น้องแฮมไปเรียนมหาลัย พี่เสือก็กลับบ้านเร็วทุกวันเลย ถึงดึก ๆ จะแอบออกไปอีกก็เถอะ”

                เสือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หยิบหมูทอดในจานมาชิม

                “แม่มียาแก้ปวดท้องไหมครับ”

                “พี่เสือปวดท้องเหรอลูก”

                “น้องแฮมน่ะครับ ไม่รู้ที่บ้านมียาหรือเปล่า”

                “ยาธาตุอยู่ในตู้ยาน่ะลูก พี่เสือจะเอายาไปให้น้องก็เอาปิ่นโตที่แม่เตรียมไว้ไปให้ด้วยนะ เห็นน้าขวัญบอกจะกลับดึก”

                เสือคว้าปิ่นโตสามเถาที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินไปยังตู้ยาตรงบันได หยิบเอายาธาตุที่มีรูปกระต่ายกำลังบินออกมาแล้วเดินไปกดกริ่งบ้านที่อยู่ติดกัน

                เจ้าของบ้านเดินมาเปิดประตูรั้วด้วยสีหน้าที่ยังไม่ดี เสือลูบหัวน้องเบา ๆ

                “กินข้าวกินยาหรือยังครับ”

                “กินยาแล้ว กำลังจะหาข้าวกินแต่แม่ไม่ได้ทำอะไรไว้เลย แม่บอกจะกลับดึก น้องแฮมว่าจะต้มโจ๊กซองกิน”

                “ไม่ต้องแล้ว พี่เสือเอาปิ่นโตมาส่ง” เสือชูปิ่นโตที่ถือมาให้น้องดู

                “ดีเลย น้องแฮมก็ไม่อยากกินโจ๊กซอง”

                เจ้าหนูแฮมยิ้มตาหยี เห็นแบบนี้คนเป็นพี่ก็อุ่นใจว่าน้องไม่ได้เป็นอะไรมาก เขาเดินตามน้องเข้ามาในบ้าน จัดการแกะปิ่นโตวางไว้ที่โต๊ะให้เรียบร้อยในขณะที่เจ้าของบ้านเดินไปหยิบช้อนส้อม

                “พี่เสือกินด้วยกันไหม” แฮมหันไปถามพี่ชาย

                เสือส่ายหน้า เขาเปิดตู้เย็นเทน้ำใส่แก้วมาวางไว้ที่โต๊ะ “เดี๋ยวพี่กลับไปกินที่บ้านเป็นเพื่อนแม่”

                แฮมจึงหยิบอุปกรณ์ในการกินมาเพียงชุดเดียวก่อนจะลงมือ เสือยังนั่งอยู่เป็นเพื่อน มองน้องตักเต้าหู้ไข่เข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ

                “น้าขวัญบอกว่าจะกลับมากี่โมง”

                “แม่บอกอาจจะเกินห้าทุ่ม ถ้าน้องแฮมง่วงก็ให้นอนก่อนเลยไม่ต้องรอ”

                ห้าทุ่ม...งั้นก็มีเวลาอีกหลายชั่วโมงสินะ

                เสือยิ้มที่มุมปากเมื่อมองเจ้าหนูแฮมที่กำลังตักหมูทอดเข้าปาก

                “งั้นเดี๋ยวพี่เสือมาอยู่เป็นเพื่อนละกัน น้องแฮมจะได้ไม่ต้องอยู่บ้านคนเดียว”

                “อ้าว งั้นน้าปลาก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวสิ” น้องแฮมเงยหน้าขึ้นถามพี่ชายตาแป๋ว

                “ก็น้องแฮมไม่สบาย พี่เสือไม่อยากให้อยู่คนเดียวไงครับ”

                น้องแฮมพยักหน้างึกงักก่อนจะกินข้าวต่อ เสือรอจนน้องกินข้าวเสร็จก็เก็บปิ่นโตกลับบ้านมากินข้าวที่บ้านพร้อมกับแม่ ก่อนจะรีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ก่อนออกจากบ้านเขาตะโกนแม่ให้รู้ว่าไปอยู่ที่บ้านข้าง ๆ

                เสือเดินเปิดประตูรั้วเข้ามาเลยเพราะเมื่อกี้ตอนเขาออกไปไม่ได้ล็อคประตู พอเข้ามาในบ้านของแฮมก็เห็นเจ้าของบ้านนอนดูทีวีอยู่ตรงโซฟา

                “หายปวดท้องหรือยังครับ”

                เสือลงไปนั่งเบียดคนที่นอนอยู่ เขาเอามือแตะหน้าท้องของน้องผ่านเสื้อยืด

                “ก็ยังปวดอยู่หน่อย ๆ พี่เสือ”

                เจ้าตัวเล็กลุกขึ้นนั่งเพื่อให้เสือขยับนั่งบนโซฟาได้มองขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะลงไปขดตัวนอนหนุนตักพี่ชายโดยหันหน้าออก ทำเอาเสือแอบอมยิ้ม น้องแฮมพอไม่สบายทีไรมักจะอ้อนแบบนี้ เขาปัดผมหน้าที่ปรกหน้าออกก็จะก้มลงจุ๊บหน้าผากด้วยความเอ็นดู

                แฮมหลับตาพริ้มตอนที่พี่เสือก้มลงมาจุ๊บเหม่ง เขาชอบสัมผัสอ่อนโยนแบบนี้เวลาที่ไม่สบาย มันช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้น คนตัวเล็กจึงขยับตัวขึ้นนอนหงายสบตาพี่ชาย ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้พี่เสือตาวาวขึ้นมา

                “พี่เสือ มาจุ๊บหน่อย”

                เสือมองคนที่นอนทำตาใสทำปากจู๋รอให้เขาก้มลงไปจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปาก ในฐานะพี่ที่ดีเขาก็ต้องทำตามที่น้องขอโดนการก้มลงจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปาก พอถอยออกมาก็เห็นรอยยิ้มชอบใจของน้องแฮม

                “จุ๊บอีก ๆ”

                เมื่อได้ยินแบบนั้นมีหรือที่พี่เสือจะปล่อยให้น้องต้องรอนาน เขาก้มลงแตะบนริมฝีปากของน้องเบา ๆ ก่อนจะบดริมฝีปากแรงขึ้นแล้วขบริมฝีปากล่างของน้องแฮมเบา ๆ ให้เผยอปากให้เขาเข้าไปชิมความหวานภายในจนพอดีถึงยอมปล่อยให้น้องได้หายอกหายใจบ้าง

                เสือก้มลงมองคนบนตักที่หายใจแรง ปากเล็ก ๆ นั่นเผยอและดูชุ่มชื้นไปด้วยน้ำลาย เสือจึงใช้นิ้วหัวแม่มือเช็คริมฝีปากให้น้อง

                “พี่เสือขี้โกง น้องแฮมบอกให้จุ๊บเฉย ๆ มากัดปากน้องแฮมทำไม”

                น้องแฮมทำปากเบะ เมื่อกี้โดนพี่เสือกัดอีกละ แล้วก็มาดูดปากทำน้องแฮมหายใจไม่ออกอีกแล้ว หลัง ๆ ทำไมพี่เสือชอบทำแบบนี้ก็ไม่รู้

                คนเป็นพี่มองน้องด้วยความเอ็นดูก่อนจะอธิบายสิ่งที่เขาทำ นี่คงเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้สอนน้องให้เป็นงานเสียที

                “เมื่อกี้ที่พี่เสือทำเขาเรียกว่าจูบครับ”

                “จูบ” น้องแฮมลุกขึ้นนั่งเอ่ยทวนคำที่เขาบอก “แบบที่เขาทำกันในทีวีน่ะเหรอ”

                น้องแฮมเคยเห็นนะ ถึงแม่จะไม่ค่อยให้ดูก็เถอะ

                “แบบนั้นแหละครับ”

                “แล้วทำไมพี่เสือต้องจูบด้วยละ เราแค่จุ๊บกันไม่ได้เหรอ”

                จุ๊บกันเหมือนที่น้องแฮมจุ๊บกับแม่ จุ๊บกับคุณยายที่ตอนนี้อยู่บนสวรรค์แล้ว จุ๊บกับพะโล้แบบนั้นไม่ได้เหรอ

                “ก็เพราะน้องแฮมคือคนพิเศษของพี่เสือไงครับ”

                “คนพิเศษ” น้องแฮมทำหน้างง ๆ เขาก็เลยขยายความ

                “ใช่ครับ น้องแฮมเป็นคนพิเศษที่สุดของพี่เสือ พี่เสือก็เลยอยากทำอะไรกับน้องแฮมเป็นพิเศษไง”

                “คนพิเศษนี่เขาต้องจูบกันเหรอ”

                “ครับ จูบกัน น้องแฮมชอบจูบกับพี่เสือไหม”

                เสือคว้ามือนิ่มของน้องมาคลึงเล่นก่อนจะยกขึ้นจรดที่ริมฝีปากเบา ๆ เขารู้ว่าเจ้าหนูแฮมชอบสัมผัสอ่อนโยนแบบนี้

                น้องนิ่งไป คงกำลังใช้ความคิดอยู่ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก

                “น้องแฮมไม่รู้อ่ะ มันแฉะ ๆ แล้วก็หายใจไม่ค่อยออก แล้วก็หวิว ๆ เหมือนเวลาไปเล่นไวกิ้งเลย”

                “งั้นต้องทำบ่อย ๆ พี่เสือรับรองว่าน้องแฮมจะชอบ” พี่ชายยังคงล่อลวงเด็กน้อยต่อไป

                “ต้องทำบ่อย ๆ ด้วยเหรอ”

                “ใช่ครับ” ว่าแล้วพี่เสือก็จัดจูบไปอีกครั้งหนึ่ง เพื่อน้องจะได้รู้สึกชินและชอบจูบของเขาเร็ว ๆ

                เสือหลุดยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นว่าพอเขาถอนริมฝีปากออก เจ้าหนูแฮมก็เอามือแตะที่ริมฝีปากพร้อมกับทำคิ้วยุ่งคล้ายกับกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่พวกเขาทำอยู่

                “ยังมีอย่างอื่นมากกว่าจูบอีกนะครับที่คนพิเศษเขาทำกัน”

                คนเจ้าเล่ห์ลองเกริ่นไว้ก่อน เพื่ออะไร ๆ จะได้ง่ายขึ้น

                “ทำอะไรเหรอ”

                เจ้าหนูจำไมถามตาแป๋ว นอกจากจูบนี่ยังมีอะไรอีกเหรอ ทำไมการเป็นคนพิเศษนี่ต้องทำอะไรเยอะแยะจัง

                “น้องแฮมอยากรู้เหรอ”

                “อือ”

                “งั้นน้องแฮมก็ต้องให้พี่เสือเป็นคนพิเศษของน้องแฮมเหมือนกันนะครับ”

                คนพิเศษเหรอ...

                น้องแฮมนิ่งก่อนจะพยักหน้ารับ

                “ได้ น้องแฮมให้พี่เสือเป็นคนพิเศษก็ได้”

                “ดีมากครับ”

                เสือโยกหัวน้องด้วยเอ็นดูพร้อมกับยิ้มละมุนขัดกับในใจเสือที่กำลังร้องคำรามด้วยความดีใจ

                หึ ๆ เริ่มต้นไปได้สวย...

 

                TBC...

               

            การล่อลวงเด็กก็เริ่มต้นขึ้น......คุกๆ...เอ๊ะ น้องแฮมสิบแปดแล้ว ไม่คุกแล้วสินะ หุหุ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 7 เสือร้าย [22/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 22-09-2018 21:37:01
โอ้ยยยย พี่เสือสอนอะไรน้อง
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 7 เสือร้าย [22/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-09-2018 01:20:19
หลอกเต๊าะน้องแบบเนียนๆ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 7 เสือร้าย [22/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 23-09-2018 12:05:28
กว่าจะได้สอน .. สงสัย
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 7 เสือร้าย [22/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 23-09-2018 12:12:15
พี่เสือคนเจ้าเล่ห์
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 7 เสือร้าย [22/09/18]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 23-09-2018 14:02:30
ตามมม
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 8 แมวเอ๋ยแมวเหมียว [13/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 13-10-2018 22:16:50
ตอนที่ 8 แมวเอ๋ยแมวเหมียว


                พอหมดคาบเรียนสุดท้ายของนักศึกษาปีหนึ่ง คณะศึกษาศาสตร์ แฮมและโอ๊ตก็เดินออกมารอพี่เสือที่หน้าคณะเหมือนทุกวัน สักพักรถซีอาร์วีสีดำก็มาจอดเทียบ แฮมโบกมือลาเพื่อนก่อนจะขึ้นรถไปกับเสือ

                โอ๊ตมองดูรถที่เคลื่อนออกไปแล้วก็เดินไปอีกทาง ส่วนตัวเขาเองก็แวะไปเอาหนังสือที่จองไว้ที่ห้องสมุดก่อนกลับหอที่อยู่ห่างมหาวิทยาลัยไปไม่ไกลนัก

                หลังจากออกมาจากห้องสมุดฟ้าก็เริ่มมืด โอ๊ตเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นเมฆครึ้มดำเริ่มลอยเข้ามาใกล้ เขากระชับกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ก่อนจะเร่งฝีเท้าออกเดิน หวังว่าเขาจะกลับถึงหอได้ทันก่อนฝนจะตก

                แต่ดูเหมือนฟ้าจะไม่เป็นใจกับคำขอของเขา เพราะเมื่อเดินไปได้ไม่ถึงสิบนาที เม็ดฝนก็เริ่มร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า โอ๊ตมองหยดฝนในมือก่อนจะถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ รู้แบบนี้ให้พี่เสือแวะไปส่งที่ป้ายรถเมล์ตามคำชวนก็ดี วันนี้ดันลืมร่มไว้ที่ห้องด้วยสิ

                เอาวะ รีบวิ่งไปก็คงไม่เปียกเท่าไหร่หรอกมั้ง

โอ๊ตรีบวิ่งลัดเลาะไปตามทางเดินในมหาลัย แต่ไม่ทันไรฝนเจ้ากรรมก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนเขาต้องวิ่งหูลูบเปียกซกไปหลบอยู่ที่บันไดใต้อาคารที่อยู่ใกล้ ๆ เขาปลดกระเป๋าเป้ลงมาดูว่ามีอะไรเสียหายหรือเปล่า โชคดีที่กระเป๋าเป็นผ้าแบบกันน้ำ พวกหนังสือและชีทเรียนที่อยู่ข้างในเลยไม่เสียหาย คนตัวเล็กมองสายฝนที่ไม่มีทีท่าจะหยุดตกง่าย ๆ แล้วก็ได้แต่เซ็ง คงต้องนั่งรออยู่ตรงนี้ไปก่อนจนกว่าฝนจะซาพอให้เขาเดินไปได้

คิดได้แบบนั้นโอ๊ตก็นั่งลงตรงบันไดขั้นบนสุด เอาวางกระเป๋าไว้บนตัก เสื้อนักศึกษาของเขาเปียกไม่น้อยเลย เห็นทีกลับไปคงต้องรีบอาบน้ำสระผมไม่งั้นจะเป็นหวัด แล้วนี่เย็นนี้เขาจะกินอะไรเป็นมื้อเย็นดีนะ ข้าวมันไก่หรือว่าข้าวหมูกรอบดี หลังว่าร้านป้าคงไม่รีบปิดนะ แวะซื้อน้ำเต้าหู้ไปกินก่อนนอนด้วยดีกว่า

โอ๊ตนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยฆ่าเวลาระหว่างที่นั่งรอ เนื่องจากเป็นตอนเย็นหลังเลิกเรียนแล้ว นักศึกษาส่วนใหญ่ต่างพากันกลับไปแล้ว บรรยากาศรอบตัวจึงค่อนข้างวังเวง ได้ยินแต่เสียงฝนที่สาดลงมาอย่างไม่ยอมหยุดเสียที

“เฮ้อ เมื่อไหร่จะหยุดเนี่ย หิวแล้วนะ”

โอ๊ตถอนหายใจและบ่นออกมาเสียงดังด้วยความเบื่อ

“กลับด้วยกันไหมครับข้าวโอ๊ต”

คนที่นั่งอยู่สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ๆ ที่ข้างหู เขาหันขวับไปก็พบใบหน้าหล่อตี๋ที่ก้มลงมาในระยะประชิด โอ๊ตผงะยืนขึ้นและถอยห่างทันทีโดยอัตโนมัติจนเกือบจะตกบันได

นะส่งยิ้มให้กับเด็กปีหนึ่งต่างคณะที่ทำหน้าตาตื่นเมื่อเห็นหน้าเขา เขาเพิ่งลงมาจากตึกหลังจากคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องโปรเจ็คเสร็จ พอกำลังจะเดินไปที่รถสายตาก็เหลือบไปเห็นว่ามีนักศึกษานั่งอยู่ตรงบันได เขาก็เลยเดินมาดูเผื่อมีอะไรให้ช่วย ไม่คิดว่าจะเป็นเจ้าลูกแมวขนฟูที่เขาเจอเมื่อวันก่อน

“ติดฝนกลับไม่ได้เหรอครับ”

ดูจากสภาพน้องที่เปียกเป็นลูกแมวตกน้ำแบบนี้คงวิ่งตากฝนมาหลบอยู่ตรงนี้สักพักแล้วสินะ

โอ๊ตเม้มปากแน่น ตอนที่วิ่งมาเขาก็ไม่ทันได้ดูว่าตึกที่วิ่งเข้ามาหลบฝนคือตึกของคณะวิศวะ แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าจะบังเอิญเจอกับเพื่อนพี่เสือคนนี้

คนที่เอาแต่ยิ้มอยู่ได้เกือบตลอดเวลา

นะมองคนที่ไม่ยอมพูดอะไร จะว่าน้องจำเขาไม่ได้ก็ไม่น่าจะใช่ แต่ไอ้ท่าทางระแวงตัวพองกอดกระเป๋าไว้แน่นแบบนั้นคืออะไรกัน นะได้แต่นึกขำในใจด้วยความเอ็นดู

“อย่างไงติดรถพี่ไปลงตรงที่ต่อรถดีไหมครับ”

นะขยับตัวเข้าใกล้น้องอีกหน่อย โอ๊ตพอเห็นแบบนั้นก็รีบปฎิเสธ

“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้”

“จะดีเหรอครับ ดูสิเปียกหมดแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ”

“ผมไม่เป็นไร เปียกนิดหน่อยเดี๋ยวก็แห้ง”

พูดยังไม่ทันขาดคำ ลมเจ้ากรรมก็ดันพัดฝนให้สาดเข้ามาทางที่โอ๊ตยืนอยู่พอดี ทำเอาเขาเปียกยิ่งกว่าเดิมอีกและเขาก็ต้องเขยิบเข้ามาใกล้คนที่ยืนมองอยู่อย่างเสียไม่ได้

“ท่าทางฝนคงจะตกแบบนี้ทั้งคืน แล้วเดี๋ยวลุงยามก็จะมาปิดตึกแล้วนะครับ”

โอ๊ตเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ นี่ก็เกือบทุ่มแล้ว เอาอย่างไงดี เขามองเพื่อนพี่เสือที่เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อวันก่อนด้วยความลำบากใจ ก่อนจะตัดสินใจในที่สุด

“งั้นผมขอติดรถไปลงตรงป้ายรถเมล์หน้ามอได้ไหมครับ”

นะยิ้มไม่ตอบ เขาหยิบร่มที่ติดมาในกระเป๋าสะพายออกมากางก่อนจะชวนอีกคนเข้ามาในร่มด้วย

“รถพี่จอดอยู่ตรงหน้าคณะนี่เอง”

“ครับ”

โอ๊ตตอบรับเสียงเบาก่อนจะจำใจเดินคู่กันไปกับรุ่นพี่ต่างคณะ เขาเว้นระยะระหว่างกันจนตัวแทบจะไม่อยู่ในร่มเลย จนนะเอาต้องเป็นฝ่ายขยับเข้าไปใกล้แทน

“เขยิบเอามาอีกสิครับ เดี๋ยวก็โดนฝนหรอก”

คนตัวสูงเข้ามาใกล้จนโอ๊ตรู้สึกถึงไออุ่นจากร่างสูงใหญ่ของอีกคน เขาพยายามเร่งฝีเท้าเดินไปที่รถ นะกดรีโมตเปิดรถมาสด้าสีขาวที่จอดอยู่เพียงคันเดียว เขาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้น้องขึ้นไปนั่งก่อนที่ตัวเองจะอ้อมมาขึ้นรถ

“คาดเข็มขัดด้วยสิครับ”

นะหันไปมองคนที่ยังนั่งเฉยเมื่อเขาคาดเข็มจัดนิรภัยให้ตัวเองแล้ว

“เอ่อ เดี๋ยวผมก็ลงแล้วครับ”

“ไม่ได้นะ มันอันตราย ถึงจะใกล้ก็เถอะ” เขาเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี ก็จะพูดยิ้ม ๆ “หรือจะให้พี่คาดให้ครับ”

“ไม่เป็นไรครับ” โอ๊ตรีบคว้าสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดทันทีเมื่อเห็นว่านะไม่ได้พูดเปล่าแต่ทำท่าจะเอื้อมมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เขาจริง ๆ

“หนาวเหรอครับ”

พอขับออกมาจากคณะ นะก็เอื้อมมือไปลดแอร์ลงเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งข้าง ๆ นั่งตัวสั่นกอดกระเป๋าเป้ไว้แน่น เจ้าของรถกดเปิดซีดีให้เล่นเพลงเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบจนเกินไป เพราะโอ๊ตเอานั่งทำหน้านิ่งไม่พูดอะไรเลย นะยิ้มมุกปากก่อนจะแอบมองเจ้าเด็กที่นั่งมาด้วยกันระหว่างขับรถ

ตาเรียวกับจมูกรั้นแบบนี้ท่าทางจะดื้อไม่ใช่น้อยเลยสินะ

“บ้านข้าวโอ๊ตอยู่แถวไหนเหรอครับ” นะลองชวนคุยดู เจ้าเด็กนี่คงไม่ปล่อยให้เขาพูดคนเดียวหรอกมั้ง

“ผมอยู่หอน่ะครับ” โอ๊ตตอบโดยไม่หันมามองคนถาม

“พี่ก็อยู่หอเหมือนกัน เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับบ้าน”

“แล้วนี่ข้าวโอ๊ตจะลงตรงไหนเหรอครับ” นะยังคงชวนคุยไปเรื่อย ๆ ตามนิสัยที่เป็นคนอัธยาศัยดี

“เรียกผมว่าโอ๊ตเฉย ๆ ดีกว่าครับ”

“ทำไมละ พี่ว่าชื่อข้าวโอ๊ตก็ฟังดูน่ารักดีนะครับ”

ก็เพราะมันฟังดูน่ารักมุ้งมิ้งเกินไปนั่นแหละ เขาถึงไม่อยากจะให้ใครเรียกชื่อนี้ ฟังดูหน่อมแน้มชะมัด

“มันเป็นชื่อที่เรียกกันตอนเด็ก ๆ น่ะครับ ตอนนี้ไม่มีใครเรียกชื่อนี้แล้ว”

“ถ้าอย่างงั้นขอพี่เรียกข้าวโอ๊ตก็แล้วกันนะครับ”

“เอ๊ะ” โอ๊ตทำหน้ายุ่ง

ทำไมถึงเข้าใจอะไรยากแบบนี้เนี่ย ก็เพิ่งบอกว่าไม่ให้เรียกก็ยังจะเรียกอีก กวนประสาทชะมัด

นะแสร้งทำเป็นมองกระจกมองข้าง ยิ้มขำกับท่าทางฮึดฮัดของเจ้าลูกแมว

“ตกลงข้าวโอ๊ตจะให้พี่ไปส่งตรงไหนเหรอครับ”

โอ๊ตพ่นลมหายใจออกมาอย่างขัดใจ เออ อยากจะเรียกอะไรก็เรียกไป อย่างไงคงไม่ได้พบเจอกันอีกละ

“เดี๋ยวจอดตรงป้ายรถเมล์หน้ามอที่อยู่ข้างหน้าครับ”

นะเปิดไฟเลี้ยวจะเข้าชิดข้างทาง เขาขะเง้อมองดูป้ายรถเมล์ที่มีคนยืนรออยู่สองสามคน

“ต้องนั่งรถไปไกลไหมครับ แล้วนี่จะเข้าหออย่างไง”

“นั่งวินตรงป้ายรถเมล์ไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้วครับ”

“อืม แต่ไม่เห็นมีวินสักคันเลยนะครับ ฝนตกขนาดนี้เขาคงกลับบ้านไปหมดแล้วมั้ง”

คนที่มองหาวินมอเตอร์ไซค์อยู่เม้มปากแน่น จริงอย่างที่พี่เขาพูด ป่านนี้พวกพี่วินคงกลับบ้านไม่ออกมาแล้วละ และไอ้ฝนบ้านี่ก็ยังไม่หยุดสักที หรือว่าเขาจะต้องเดินกลับเอง ตรงหน้าปากซอยน้ำมักจะขังเวลาฝนตกหนักด้วยสิ

“เอางี้ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่หอดีกว่า” นะเสนอตัวอย่างใจดี

“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้” แต่อีกคนกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย

“ไม่ต้องเกรงใจ อย่างไงพี่ก็ผ่านทางนี้อยู่แล้ว” นะหันมายิ้มให้แบบสบาย ๆ

ไม่ได้เกรงใจเว้ย แต่ไม่อยากให้มาส่ง เข้าใจไหม

โอ๊ตได้แต่ส่งเสียงประท้วงอยู่ในใจ แต่ดูจากสายฝนที่แม้จะซาลงไปบ้าง แต่ถ้าให้เดินกลับจริง ๆ เขาก็คงมีสภาพไม่ต่างจากตกน้ำมา ก็เลยจำต้องยอมให้เพื่อนพี่เสือคนนี้ไปส่ง

 “เลี้ยวตรงไหนก็บอกพี่ก่อนนะครับ”

นะเหลือบดูเจ้าตัวเล็กที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ท่าทางจะไม่เต็มใจให้เขาไปส่งที่หอเท่าไหร่นัก เขาเห็นสายตาที่แอบมองมาที่เขาด้วยความไม่ไว้ใจ

                “เอ่อ เลี้ยวซ้ายซอยข้างหน้าครับ”

                รถมาสด้าสีขาวเลี้ยวเข้ามาในซอยที่มีหอพักเรียงรายอยู่ตามคำบอก โอ๊ตชี้ไปที่ร้านข้าวมันไก่ที่อยู่ซ้ายมือข้างหน้า

                “จอดตรงร้านนั้นก็ได้ครับ”

                “อ้าว แล้วไม่ให้พี่ไปส่งที่หอเลยละ”

                “ผมจะแวะซื้อข้าวก่อนน่ะครับ”

                นะจอดรถตรงริมฟุตบาทหน้าร้าน เขาเอื้อมมือไปที่เบาะหลัง หยิบร่มคันเดิมที่วางไว้มายื่นให้น้อง

                “งั้นข้าวโอ๊ตเอาร่มพี่ไปละกัน จะได้ไม่เปียกตอนเดินกลับหอ”

                โอ๊ตมองดูร่มสีน้ำเงินเข้มที่ถูกยื่นมาตรงหน้า นะเห็นน้องไม่ยอมรับเสียทีก็คว้ามืออีกฝ่ายมาแล้วยัดร่มใส่ในมือ

“ไม่ต้องห่วงว่าพี่จะตากฝน เพราะที่จอดรถอยู่ใต้หอ อย่างไงพี่ก็ไม่เปียก”

โอ๊ตมองร่มในมือพลางเหลือบมองเจ้าของร่ม

ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักหน่อย ที่เขาคิดมากอยู่คือถ้ารับร่มมาแล้วก็ต้องเอามาคืน แบบนี้ก็อาจจะต้องเจอกับเจ้าของร่มอีกน่ะสิ

โอ๊ตถอนหายใจก่อนจะยกมือไหว้คนที่อุตส่าห์มาส่งทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ขอ

“ขอบคุณนะครับ”

นะมองคนที่เปิดประตูลงรถไปแลtรีบวิ่งเข้าไปในร้านข้าวแล้วก็ขับรถออกมา เขาขับตรงเข้ามาในซอยเรื่อย ๆ ไม่ได้ขับเข้ามาเพื่อหาที่กลับรถอย่างที่โอ๊ตเข้าใจ แต่เขากลับเลี้ยวรถเข้าไปจอดใต้หอพักแห่งหนึ่งที่อยู่เลยเข้ามาอีกประมาณร้อยเมตร

ใช่แล้ว เขาพักอยู่ซอยเดียวกับข้าวโอ๊ต

ถึงวันนี้จะไม่ได้ไปส่งเจ้าลูกแมวที่หอ แต่นะคิดว่าอยู่ซอยเดียวกันแบบนี้คงมีโอกาสบังเอิญเจอกันอีกบ่อย ๆ ไม่เป็นไร เขาไม่รีบ นะฮัมเพลงระหว่างเดินขึ้นห้องอย่างอารมณ์ดี

 

เช้าวันต่อมาระหว่างทางที่ขับรถออกจากซอย นะก็สังเกตไปด้วยว่าจะมีเด็กปีหนึ่งคณะศึกษาคนนั้นเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ หน้าหอแถวนี้บ้างหรือเปล่า แต่ดูเหมือนเรื่องบังเอิญคงไม่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ เขาจึงไม่เจอคนที่อยากเจอ

แต่พอเดินเข้าห้องเรียนไปสมทบกับเพื่อน ๆ ที่นั่งกันอยู่ก่อน เสือก็ยื่นร่มคันคุ้นตามาให้

“เอาไป โอ๊ตฝากมาคืน”

นะรับร่มคันสีน้ำเงินมา รอยยิ้มผุดขึ้นมาที่มุมปากเมื่อนึกถึงคนที่ฝากมา

นี่ใจคอจะไม่มาเจอกันเลยสินะ

“โอ๊ต...โอ๊ตนี่ใครวะ”

คนชอบยุ่งเรื่องของเพื่อนยืนหน้ามาถาม เอ้มองร่มในมือนะด้วยความสนใจ

“คนที่มึงเจอพร้อมน้องแฮมเมื่อวันก่อนไง”

“อ้อ แล้วทำไมร่มไอ้นะถึงไปอยู่กับน้องเขาได้ละวะ”

“กูจะไปรู้เหรอ มึงก็ถามมันสิ” เสือบุ้ยใบ้ไปทางเจ้าของร่ม

“ทำไมร่มมึงถึงไปอยู่กับน้องวะไอ้นะ”

นะส่ายหัวให้กับความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนก่อนจะนั่งลงข้างเสือ

“อ้าว ไม่ยอมบอกกูอีก” เอ้เริ่มโวยวายเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่สนใจ

“กูแค่บังเอิญเจอน้องตอนที่ฝนตกเมื่อวาน เห็นน้องมันไม่มีร่ม กูก็เลยให้ยืมร่มไปก็เท่านั้น”

“อ้อ กูก็นึกว่ามีอะไร” พอได้คำตอบ เอ้ก็เลิกสนใจ หันกลับไปคุยกับนิวเรื่องที่คุยกันค้างไว้ก่อนที่นะจะเข้ามา

คนที่มักจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอมองร่มที่อยู่ในมือ คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะไม่ต้องเจอเขาอีกงั้นเหรอเจ้าแมวน้อย

 

TBC...

 

เจ้าแมวน้อย~~

ขออภัยที่หายไปนานน้าาาา
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 8 แมวเอ๋ยแมวเหมียว [13/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 14-10-2018 02:43:48
 :mew1: คิดถึงน้องแฮมกับพี่เสือมากกกมายยยยค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 8 แมวเอ๋ยแมวเหมียว [13/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 14-10-2018 19:55:53
ข้าวโอ๊ตเหมือนแมวเหมียวจริงๆด้วย น่าร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 8 แมวเอ๋ยแมวเหมียว [13/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-10-2018 10:03:22
นุ้มมิ้ิ้งมาก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 9 ชาติเสือต้องไว้ลาย [19/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 19-10-2018 21:07:43
ตอนที่ 9 ชาติเสือต้องไว้ลาย



หลังจากวันที่น้องแฮมยอมตกลงเป็น ‘คนพิเศษ’ ตามคำล่อลวงของพี่เสือ พี่ชายข้างบ้านคนนี้ก็เริ่มสอนอะไรต่อมิอะไรให้กับน้องบ้าง

อย่างวันนี้...วันที่แม่ของพวกเขาทั้งคู่ออกไปช๊อปปิ้งตามประสาสาว ๆ

...ทางสะดวก

 

“น้องแฮมครับ”

“อือ”

น้องแฮมส่งเสียงขานรับเบา ๆ แต่ตากลมโตยังจ้องอยู่ที่หนังสือการ์ตูนในมือที่เสือเพิ่งซื้อมาเมื่อวานยกชุดเพราะวันก่อนได้ยินเจ้าหนูแฮมคุยกับโอ๊ตว่ามีเพื่อนผู้ชายที่คณะชวนน้องแฮมให้ไปอ่านการ์ตูนที่บ้าน พอน้องแฮมโบยมือบ๊ายบายแม่ที่หน้าบ้านเรียบร้อย พี่เสือก็พาเจ้าหนูแฮมขึ้นมาอ่านการ์ตูนบนห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำไว้รอท่า

เมื่อเห็นว่าน้องแฮมยังนอนคว่ำหน้าอ่านการ์ตูนไม่สนใจเขาเลย เสือจึงขยับเข้าไปคร่อมตัวน้องวางปลายคางลงไปไหล่ของคนที่นอนอยู่

“สนุกไหมครับ”

เสือเอ่ยถามพลางดมกลิ่นแชมพูอ่อน ๆ บนเส้นผมอ่อนนิ่ม

“อือ สนุกอย่างที่กัซบอกจริง ๆ ด้วยละพี่เสือ”

“กัซ?” เสือเอ่ยทวนชื่อที่ไม่คุ้นหู

“กัซคนที่ชวนน้องแฮมไปอ่านการ์ตูนที่บ้านไง กัซบอกที่บ้านกัซมีการ์ตูนเยอะแยะไปหมดเลยนะพี่เสือ”

น้องแฮมหันมาเล่าเจื้อยแจ้วตาเป็นประกาย แต่พี่เสือได้ยินแล้วคิ้วขมวดไม่ชอบใจนัก

“ทำไมต้องไปที่บ้านด้วย เอามาให้ยืมอ่านที่มหาลัยก็ได้”

“กัซบอกเดี๋ยวยืมกันหลายคนแล้วหนังสือมันจะหาย ถ้าน้องแฮมอยากอ่านก็ไปอ่านที่บ้านกัซเอง”

เหอ...ไอ้เด็กเวร

นึกเหรอว่าเขารู้ไม่ทัน คิดจะมายุ่งกับเจ้าหนูแฮมของเขาอย่างงั้นเหรอ

“น้องแฮมไม่ต้องไปที่บ้านเพื่อนคนนั้นหรอก รบกวนเขาเปล่า ๆ เกรงใจคนที่บ้านเขาด้วย”

“แต่น้องแฮมอยากอ่านการ์ตูนอ่ะ” แฮมเอียงคอทำคิ้วย่นปากยื่น

เสือโอบคนที่อยู่ในอ้อมแขนก่อนจะยิ้มใจดีให้

“น้องแฮมอยากอ่านเรื่องไหนก็บอกพี่เสือนะครับ เดี๋ยวพี่เสือจะหามาให้”

“จริง ๆ นะ” น้องแฮมตาเป็นประกาย

“จริงสิ”

พี่เสือยอมทุ่มเงินเก็บในบัญชีเพื่อน้องแฮมเลยละ ยิ่งได้เห็นเจ้าหนูแฮมของเขายิ้มดีใจจนตาหยีแบบนี้พี่เสือยิ่งทุ่มสุดตัว ไหน ๆ ก็จ่ายไปเยอะสำหรับการ์ตูนยกชุดนี่ เขาขอถอนทุนคืนสักหน่อยเถอะ ว่าแล้วพี่เสือก็เอ่ยขอรางวัลกับน้องแฮม

“เนี่ย พี่เสืออุตส่าห์หาการ์ตูนมาให้น้องแฮมอ่าน น้องแฮมจะไม่ให้รางวัลพี่เสือบ้างเหรอ”

“รางวัลเหรอ” น้องแฮมหันมาทำหน้างง ๆ ก่อนจะร้องอ๋อ “ได้ ๆ เดี๋ยวน้องแฮมให้รางวัลพี่เสือน้า”

คนตัวเล็กวางการ์ตูนลงก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เสือที่นอนกอดน้องอยู่ก็พลอยลุกขึ้นตามไปด้วย สองมือของน้องแฮมประคองใบหน้าหล่อเข้มไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะจูบเบา ๆ ที่หน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะจุ๊บเบา ๆ ปิดท้ายที่ริมฝีปากหยัก  แล้วส่งยิ้มหวานให้กับพี่ชาย แต่มีหรือที่แค่นี้จะทำให้คนอย่างพี่เสือพอใจ เสือรวบเอวเล็กไว้ด้วยมือข้างเดียวแล้วมืออีกข้างก็ประคองท้ายทอยของน้องไว้ก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปบนปากนุ่มนิ่ม เขาตักตวงความหอมหวานจนรู้ตัวอีกทีเจ้าหนูแฮมก็นอนทำตาปรือหลังติดเตียงไปแล้ว

แต่คิดเหรอว่าพี่เสือจะยอมหยุดแค่นี้ มันถึงเวลาที่ต้องไปไกลกว่าจูบแล้ว

มือของเสือถลกเสื้อยืดของน้องขึ้นก่อนจะลูบไล้ไปตามหน้าท้องเนียนขณะที่ริมฝีปากและจมูกก็วนเวียนสูดกลิ่นหอมหวานเหมือนขนมอบใหม่อยู่แถว ๆ ซอกคอขาว ก่อนที่มือซุกซนของเสือจะปลดกระดุมกางเกงขาสั้นแล้วเข้าไปทักทายส่วนที่อยู่ใต้ชั้นในสีขาว

“อือ...พี่เสือ”

น้องแฮมส่งเสียงประท้วงเมื่อเสือออกแรงสัมผัสมากขึ้น เขารีบคว้าข้อมือของพี่ชายเอาไว้

“ไม่จับตรงนั้นสิ”

“ทำไมละครับ”

เสืองับเบา ๆ ที่ริมฝีปากบาง

“น้องแฮม...รู้สึกแปลก ๆ” น้องแฮมเม้มปากก่อนจะพูดต่อเสียงเบา “มันน่าอายอ่ะ”

“น้องแฮมจะอายพี่เสือทำไมละ” รอยยิ้มใจดีถูกส่งให้น้องชาย ก่อนที่เสือจะล้มตัวลงนอนตะแคงข้าง “งั้นน้องแฮมก็จับของพี่เสือบ้างนะ จะได้ยุติธรรม”

เสือจับมือนิ่มของน้องเข้าไปในกางเกงบอลของตัวเอง ให้สัมผัสกับตัวตนของเขาที่อยู่ข้างในนั้น

“น้องแฮมทำตามพี่เสือนะครับคนเก่ง” เสือกระซิบบอก

มือซุกซนของเสือกลับไปยังเป้าหมายเดิม คราวนี้เขารูดซิปกางเกงของน้องลง ลูบไล้สิ่งที่นูนอยู่ก่อนจะจัดการดึงขอบกางเกงชั้นในลงและกอบกุมไว้ในมือ น้องแฮมกระตุกตัวหนีแต่ถูกแขนของเสือโอบกอดไว้

“ทำแบบที่พี่ทำสิครับ”

แฮมหายใจถี่ มองหน้าพี่ชายแล้วก้มลงมองสิ่งที่มือเขาแตะอยู่ หัวใจของเขาเต้นแรงก่อนที่จะทำแบบเดียวกันกับที่พี่เสือทำกับเขา เสือส่งเสียงครางเบา ๆ ด้วยความพอใจเมื่อถูกสัมผัสด้วยมือนิ่มของน้อง แค่เพียงโดนน้องแตะเบา ๆ ของเขาก็แข็งขึ้นมาทันที เขาเห็นน้องก้มมองสิ่งที่อยู่ในมือหน้าตาตื่นก็นึกเอ็นดูจนขยับเข้าไปจูบที่ริมฝีปากอีกที เสือขยับมือและใช้นิ้วขยี้ที่ส่วนปลายของน้อง คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก็จะหลุดครางออกมา ปลายเท้าจิกงุ้มเมื่อพี่เสือขยับมือมากขึ้น

“ทำให้พี่เสือด้วยสิ”

เสือเอ่ยเตือน แฮมปรือตามองพี่ชายก่อนจะขยับมือแบบเดียวกันกับที่พี่ชายทำให้ตน เสือคำรามอย่างพอใจ เจ้าหมูแฮมของเขาเป็นเด็กหัวไว เขาทำแบบนั้น น้องก็เลียนแบบได้แบบเดียวกันไม่มีบกพร่อง เขาเร่งมือให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น จนในที่สุดเจ้าหนูแฮมน้อยในมือของเขาก็ปลดปล่อยออกมา น้องนอนหายใจหอบอย่างอ่อนแรง มือที่กอบกุมเขาอยู่ก็พลอยหยุดนิ่งไปด้วย

คงจะเหนื่อยเกินไปสำหรับมือใหม่แบบน้องแฮม เสือจึงวางมือทับลงบนมือของน้องแล้วจัดการรูดมันขึ้นลงด้วยตัวเอง จนในที่สุดพี่เสือก็สงบลงได้ภายใต้อุ้งมือของน้องสมใจอยาก

มันเยี่ยมมาก ดีกว่าที่เสือเคยจินตนาการไว้จริง ๆ

“น้องแฮมเก่งจัง”

เสือจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเป็นรางวัลให้กับน้องแฮมก่อนจะดึงน้องมากอด ให้น้องซบลงบนบ่า สูดกลิ่นแชมพูอ่อน ๆ บนผมนิ่ม

 “น้องแฮมทำให้พี่เสือมีความสุขที่สุดเลยรู้ไหมครับ น้องแฮมละชอบไหม”

เสือเอ่ยชมพลางลูบหลังของน้องเล่น แฮมเงยหน้าขึ้นมาพี่ชาย ทำหน้างง ๆ กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำกันระหว่างเขากับพี่เสือคืออะไร บอกไม่พูดว่าชอบไหม มันทำให้เขารู้สึกร้อนผ่าวและวาบหวามจนหัวใจเต้นแรงอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ไม่ใช่ความรู้สึกที่แย่หรืออะไรทำนองนั้น

                “พี่เสือ”

                แฮมดันตัวออกจากอ้อมกอดของเสือ ยกมือของตนข้างที่จับของพี่เสือเมื่อครู่นี้ขึ้นมาดู มองคราบขาวเปรอะที่ปลายนิ้วและอุ้งมือขาว

                “มือน้องแฮมเลอะแล้วมันก็เหนียว ๆ ด้วยอ่ะ”

                คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความสงสัยจนเสือหลุดขำ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นไปหยิบกล่องทิชชู่ที่วางบนโต๊ะมา จัดการเช็ดทำความสะอาดทั้งมือและตรงนั้นของเจ้าหนูแฮมจนสะอาด พร้อมทั้งดึงกางเกงน้องขึ้นมา จัดการรูดซิปติดกระดุมให้ด้วย ก่อนจะหันมาจัดการกับตัวเองต่อจนเรียบร้อย พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับดวงตากลมโตกำลังจ้องมองเขาด้วยความสนใจ เสือยิ้มก่อนจะเอ่ยถาม

                “มองพี่เสือทำไมครับ”

                “เมื่อกี้ทำไมพี่เสือไม่จับของตัวเองละ ทำไมต้องให้น้องแฮมจับ แล้วพี่เสือจับของน้องแฮมทำไม”

                แฮมเอียงคอถามด้วยความสงสัย เสือถอนหายใจ พอได้สติน้องแฮมของเขาก็กลายร่างเป็นเจ้าหนูจำไมทันที เสือลูบหัวน้องก่อนจะนึกหาคำอธิบาย

                “ก็เพราะเราสองคนเป็นคนพิเศษของกันและกันอย่างไงละครับ น้องแฮมจำที่พี่เสือบอกไว้ได้ไหม”

                “อือ” น้องแฮมพยักหน้า จำได้สิ น้องแฮมเป็นคนพิเศษของพี่เสือ แล้วพี่เสือก็เป็นคนพิเศษของน้องแฮม

                “ที่เราทำมันเป็นเรื่องที่คนพิเศษเท่านั้นที่จะทำกัน น้องแฮมจำไว้นะ”

                “ห้ามไปทำกับคนอื่นใช่ไหม น้องแฮมรู้น่า” เจ้าหนูทำจมูกย่นใส่พี่ชาย

                “ถูกต้อง ทำได้กับพี่เสือคนเดียวเท่านั้นนะ” เสือเอ่ยย้ำอีกที

                “ได้ ทำกับพี่เสือคนเดียว”

                เสือมองน้องชายที่พยักหน้างึก ๆ ด้วยความพอใจที่น้องเข้าใจอะไรง่าย ๆ

                “แล้วก็ห้ามทำคนเดียวด้วยนะ ถ้าน้องแฮมอยากทำอีก ต้องมาทำกับพี่เสือนะครับ”

                “จะทำอีกเหรอ” แฮมทำตาโต ต้องทำแบบเมื่อกี้กับพี่เสืออีกเหรอ

                “ทำอีกสิครับ แล้วพี่เสือจะสอนให้มากกว่านี้อีกนะ”

                “มีมากกว่านี้อีกเหรอ”

                “ไว้น้องแฮมก็จะรู้เอง”

เสือแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เขายังมีอะไรจะสอนเจ้าหนูแฮมของเขาอีกเยอะแยะ คราวหน้าจะสอนให้น้องทำอะไรดีนะ

                “ว่าแต่น้องแฮมหิวหรือยัง นี่ก็เกือบเที่ยงละ” เสือเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง

                “นิดนึงฮะ”

                น้องแฮมหยิบการ์ตูนที่อ่านค้างไว้เมื่อกี้มาอ่านต่อ

                “งั้นลงไปกินข้าวกันดีกว่า เมื่อเช้าแม่ทำทอดมันกุ้งไว้ให้น้องแฮมด้วยนะ”

                “เย้ ทอดมันกุ้ง ป่ะ ไปกินทอดมันกุ้งกันพี่เสือ”

                พอได้ยินว่ามีของโปรด น้องแฮมก็รีบลุกจากเตียงของเสือทันที เสือโยกหัวน้องด้วยความเอ็นดูก่อนจะพากันลงไปหาข้าวเที่ยงกินที่ชั้นล่าง

 

 

                เสือผิวปากเดินเข้าห้องเรียนอย่างอามรณ์ดีจนเพื่อน ๆ หันมามอง

“เดี๋ยวนี้หน้าตาสดชื่นนะไอ้เสือ” เป็นนิวที่เอ่อทักก่อนเป็นคนแรกเมื่อเสือเดินมาถึงที่โต๊ะ

                “นั่นสิ ดูมีความสุขเหลือเกิน มีอะไรดี ๆ ก็บอกกันมั้งนะพวก” เอ้ยังคงทำหน้าสนใจใคร่จะรู้เรื่องของเพื่อนเหมือนเดิม

                “ก็นิดหน่อย”

                เสือตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่

                “อย่ามาทำเป็นอมพะนำ มีอะไรก็รีบเล่ามาเลยมึง” เอ้เอาศอกกระทุกแขนเพื่อน

                “เจอสาวคนไหนเด็ดเหรอวะ”

                “สาวที่ไหน กูไม่เห็นไอ้เสือมันไปเที่ยวตั้งนานละ”

                นะส่ายหัวไม่เห็นด้วยกับที่นิวพูด ช่วงนี้ไอ้เสือของพวกเขาแทบจะไม่ไปสังสรรค์กับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ เอะอะก็รีบกลับบ้าน

                “นั่นสิ กูไปเที่ยวทีไร แม่งเจอแต่สาว ๆ ถามหาไอ้เสืออยู่นั่นแหละ” เอ้พยักหน้าเห็นด้วย

                “ไม่ใช่สาวที่ไหนทั้งนั้นแหละ”

                “ถ้าไม่ใช่สาว งั้นก็มีคนเดียวที่ทำให้มึงอารมณ์ดีขนาดนี้” นิวยกมือขึ้นชี้หน้าเพื่อน “น้องแฮมละสิ”

                เสือเพียงแต่ยิ้มกริ่มแต่ก็ไม่ปฏิเสธ เรียกเสียงโห่จากเพื่อน ๆ ด้วยความหมั่นไส้ รุมด่าว่าหลอกเด็ก ล่อลวงเด็กบ้างละ

                “พวกมึงด่าไปกูก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก กูรู้แต่ว่าน้องแม่งโคตรดีอ่ะ รู้งี้กูทำแบบนี้ตั้งหากละ”

                เสือยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าของพวกเพื่อน ๆ

                “ไอ้เลว ไอ้คนหลอกลวง ล่อลวงเยาวชนของชาติ”

                “ไม่ต้องมาด่ากูเลยไอ้เอ้ กูเห็นมึงแอบไปม่อเด็กสาธิตอยู่เลย มันก็ไม่ได้ดีกว่ากันหรอกว่ะ”

                “นั่นมันเพื่อนน้องสาวกูโว้ย มึงอย่ามาใส่ร้ายกู”

                เอ้รีบแก้ตัวโวยวายเสียงดัง เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อน ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะหูแดงบ่นอุบอิบว่า แค่น้อง ไม่ได้มีอะไร

                ระหว่างที่นั่งขำเอ้กันอยู่ นะก็สะกิดเสือเบา ๆ ก็จะกระซิบถามบางอย่าง

                “กูขอเบอร์ข้าวโอ๊ตหน่อยสิวะ มึงมีใช่ไหม”

                “หือ เบอร์โอ๊ตเพื่อนน้องแฮมน่ะเหรอ” เสือขมวดคิ้วด้วยความฉงน

“ก็คนนั่นแหละ มึงให้กูได้ไหมละ" นะตอบด้วยรอยยิ้มแบบที่มักจะเห็นอยู่ประจำ

นี่มันชักจะอย่างไง ๆ แล้วนะ ทำไมเพื่อนเขาถึงมาขอเบอร์เพื่อนของน้องแฮม เสือจึงถามเรื่องที่สงสัยออกไป

“นี่มึงสนใจโอ๊ตเหรอวะไอ้นะ”

“ก็ทำนองนั่น มึงจะให้กูได้เปล่าละ”

“ไอ้ให้มันก็ให้ได้ แต่กูไม่อยากเห็นมึงไปหลอกน้องมันว่ะ”

โอ๊ตเป็นเพื่อนสนิทของน้องแฮมที่เสือเองก็รู้จักมานาน เขาก็เห็นมันเหมือนน้องชายคนหนึ่ง

“มึงรู้ได้ไงว่ากูจะไปหลอกน้องมัน”

นะยังคงพูดด้วยรอยยิ้มที่แต้มบนหน้าเหมือนเดิม เสือพยายามจะมองเข้าไปในดวงตาสีเข้มของเพื่อน เผื่อว่าจะมองว่ามันกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่

“ก็...ไม่รู้สิ มึงจะบอกว่ามึงชอบโอ๊ตงั้นเหรอ”

“แล้วถ้ากูบอกว่าใช่ละ”

สายตาของนะที่มองตอบมาทำให้เสือตัดสินใจปลดล็อคโทรศัพท์มือถือแล้วยื่นหน้าจอที่โชว์ชื่อและเบอร์โทรที่เมมไว้ให้

“กูหวังว่ามึงจะไม่ทำน้องมันเสียใจนะ”

“ขอบใจว่ะ”

หวังว่าเขาคงมองเพื่อนตัวเองไม่ผิดนะ ไม่งั้นเขาคงรู้สึกผิดกับโอ๊ตมากแน่ ๆ

 

TBC...

หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 9 ชาติเสือต้องไว้ลาย [19/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 20-10-2018 03:40:10
 :hao7:  :hao7:  :hao7: อ๊ากกกกกก  :hao7: พี่เสือแผนเหนือเมฆมากกกก  :hao3:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 9 ชาติเสือต้องไว้ลาย [19/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-10-2018 23:03:19
พี่เสือร้ายมากกกก
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 10 เสือกับหนู, หมากับแมว [23/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 23-10-2018 12:38:01

“ทำไมพี่เสือถึงยังไม่มีแฟน”

อยู่ ๆ น้องแฮมก็ถามขึ้นมาทันทีที่ขึ้นรถเมื่อเสือไปรับที่คณะ

“หือ อะไรนะครับ”

“น้องแฮมถามว่าทำไมพี่เสือถึงยังไม่มีแฟน พี่เสือยังไม่แก่สักหน่อยทำไมหูไม่ดีแล้วอ่ะ” น้องแฮมหันมาทำจมูกยู่ใส่พี่ชาย

“ทำไมอยู่ ๆ ถึงถามเรื่องนี้ละครับ”

“ก็พวกพี่ ๆ ผู้หญิงที่คณะเขาถามน้องแฮมว่าทำไมพี่เสือถึงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที เห็นแต่คั่วสาว ๆ ไปทั่ว”

วันนี้น้องแฮมเจอกับรุ่นพี่สาว ๆ แก๊งใหญ่ที่โรงอาหารคณะ พวกพี่ ๆ กวักมือเรียกน้องแฮมไปเลี้ยงน้ำเลี้ยงขนมแล้วก็เอาถามแต่เรื่องของพี่เสือ

“คั่วสาว ๆ นี่มันอย่างไงเหรอพี่เสือ เหมือนคั่วเกาลัดไหม”

เสืออึ้งไปก่อนจะหาคำตอบมาอธิบาย

“เออ...หมายถึงมีเพื่อนเป็นสาว ๆ เยอะน่ะครับ”

“อ้อ” น้องแฮมพยักหน้าเข้าใจ

“แล้วทำไมไม่มีแฟนอ่ะพี่เสือ”

ยังจะกลับมาคำถามเดิมอีก และดูน้องอยากจะรู้คำตอบจริงจังถึงได้จ้องเขาตากลมแป๋วแบบนี้

“พี่เสือไม่อยากมีแฟนเหรอ”

“ก็พี่เสือมีน้องแฮมแล้วนี่ครับ” เสือหันมายิ้มหล่อ ๆ ให้กับเจ้าหนูจำไมของเขา

“แต่น้องแฮมไม่ใช่แฟนพี่เสือนี่ น้องแฮมเป็นน้องพี่เสือตั้งหาก ไม่เหมือนกันสักหน่อย”

“แล้วน้องแฮมอยากเป็นแฟนพี่เสือไหมละครับ” เขาลองแหย่ถามดูเล่น ๆ

“แฟนพี่เสือเหรอ” คนตัวเล็กเอียงคอทำท่าคิดหนักก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วส่ายหน้ารัว ๆ

ปฏิกิริยาแบบนั้นมันแปลว่าอะไรน้องแฮม!

“ไม่เอาอ่ะ น้องแฮมไม่อยากเป็นแฟนพี่เสือ”

“ทำไมละ”

เป็นแฟนเขามันไม่ดีตรงไหน นี่พี่เสือหนุ่มฮอตสุดหล่อของคณะวิศวะเลยนะ น้องแฮมจะมาปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยแบบนี้ไม่ได้ สาว ๆ ครึ่งค่อนร้านเหล้าแถวมหาลัยต้องร้องไห้แน่ ๆ

“ก็พวกพี่ ๆ ที่คณะบอกว่าใครเป็นแฟนพี่เสือคงปวดหัวแย่เพราะพี่เสือเจ้าชู้ มีกิ๊กเต็มไปหมด น้องแฮมไม่อยากปวดหัวอ่ะ”

พวกรุ่นพี่คณะนี้มันเอาอะไรมาใส่หัวเจ้าหนูแฮมของเขาวะเนี่ย ท่าทางจะนินทาเขาให้น้องฟังเยอะแน่ ๆ

“น้องแฮมอย่าไปฟังที่พวกนั้นพูด เขาไม่ได้สนิทกับพี่เสือก็พูดไปเรื่อย น้องแฮมก็รู้ว่าพี่เสือเป็นคนดี ใจดีใช่ไหมครับ”

น้องแฮมนิ่งไปชั่วขณะ จนเสือใจหายวาบ ก่อนที่คนตัวเล็กจะพยักหน้างึกงัก

“อือ พี่เสือใจดีที่สุดเลย”

ใช่ ๆ พี่เสือใจดีมาก ๆ ขออะไรก็ให้ทุกอย่างเลย

“แบบนี้อยากเป็นแฟนพี่เสือหรือยังครับ”

“ไม่อยาก”

“อ้าว”

“ก็พี่เสือบอกน้องแฮมเป็นคนพิเศษแล้วไง ทำไมต้องเป็นแฟนอีกอ่ะ เป็นหลายอย่างจัง” น้องแฮมจำได้นะที่พี่เสือบอกว่าเขาคือคนพิเศษของพี่เสือ

“เอ่อ...ก็ใช่ครับ” พี่เสืออึ้งไปกับคำที่น้องย้อน

“แต่เป็นแฟนอีกก็ได้ไง“

“พี่เสืออยากเป็นแฟนน้องแฮมเหรอ”

น้องแฮมมองหน้าพี่ชายสุดหล่อ หรือจริง ๆ แล้วพี่เสือก็อยากจะมีแฟน แต่ว่าไม่กล้าขอคนอื่นเป็นแฟน ถึงได้มาเซ้าซี้ถามน้องแฮมแบบนี้

เสือชะงักกับคำถามของคนเป็นน้อง นั่นสิ เขารู้ว่าน้องแฮมเป็นคนพิเศษสำหรับเขา ที่อยากจะเก็บไว้ข้าง ๆ ตัว อยากจะกลืนกินไม่ให้เหลือ แต่กับคำว่าแฟน...

“พี่เสือ ๆ น้องแฮมจะกินไก่ทอด”

“ห๊ะ”

หันมาอีกทีก็เห็นน้องทำตาโตชี้ป้ายบิลบอร์ดข้างหน้าที่เป็นรูปโฆษณาไก่ทอดรสชาติใหม่

“แวะซื้อแบบนั้นไปกินกันนะพี่เสือ นะ ๆ น้องแฮมอยากกิน”

เสือยกมือข้างหนึ่งขยี้หัวน้องด้วยความเอ็นดู “โอเคครับ”

“เย้ ๆ ไก่ทอด ๆ”

น้องแฮมยิ้มแป้นดีใจ เสือมองดูก็อมยิ้ม ท่าทางเจ้าหนูคงจะลืมเรื่องที่ถามเมื่อกี้ไปแล้วสินะ

เหลือแต่เสือที่ยังคงติดค้างเรื่องนี้ไว้ในใจ…

 

หลังจากคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องโปรเจคเรียบร้อย เสือกับนิวก็เดินลงมาจากตึกพร้อมกัน

“อาจารย์ว่าไงมั้งวะ” นิวถามถึงโปรเจคของเสือที่เห็นเข้าไปคุยกับอาจารย์ตั้งนาน

“แกให้ไปหาข้อมูลมาเพิ่มว่ะ มันยังไม่พอถ้าจะทำเรื่องนี้จริง ๆ”

“เหรอวะ”

นิวสังเกตเห็นเสือดูนิ่ง ๆ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงตบไหล่หวังจะให้กำลังใจเพื่อน

“เฮ้ย มึงไม่ต้องเครียด เดี๋ยวกูช่วย ของกูหัวข้อผ่านละ”

“เอ่อ ขอบใจมึง กูแค่คิดเรื่องอื่นนิดหน่อยน่ะ”

“เรื่องน้องเหรอ”

เสือหันไปมองเพื่อนสนิทด้วยความประหลาดใจ นิวหัวเราะขำก่อนจะบอก

“ตั้งแต่รู้จักกันมา กูก็เห็นมึงสนใจอยู่ไม่กี่เรื่อง แล้วเรื่องน้องแฮมก็ดูมึงใส่ใจเป็นพิเศษ”

“เอ่อ ก็ประมาณนั้น”

“แล้ว...ตกลงมีเรื่องอะไรวะ”

นิวทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็นจนเสือส่ายหน้าระอา

“มึงนี่ขี้เสือกเหมือนกันเนอะ”

แต่นิวกลับหัวเราะชอบใจ ไม่ได้ถือสาอะไรที่โดนด่า เสือถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยอมบอก

“กูกำลังคิดว่ากับน้องแฮม กูควรจะทำอะไรให้มันชัดเจนเสียที”

“อย่างไงวะ”

“กูว่าจะขอคบกับน้องเป็นแฟน”

เสือก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าถ้าเขาคุยเรื่องนี้กับน้องแล้วจะเป็นอย่างไง แล้วที่บ้านของพวกเขาอีกจะว่าอย่างไงกับความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่

“เอางั้นเลยเหรอวะ” นิวถามเพื่อนให้แน่ใจ

“อือ”

“งั้นก็ขอให้มึงโชคดีละกัน”

เสือยิ้มมุมปากให้เพื่อนที่ตบไหล่เบา ๆ

ก็หวังว่าแม่ของเขาจะไม่ฟาดกบาลเขาแตกที่บังอาจไปยุ่งกับหลายชายสุดที่รักนะ...

 

 

“ไอ้พี่เสือออออ”

ทันทีที่เสือลงจากรถก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อเขาดังลั่น มันตะโกนเสียคนจะหันมามองทั้งคณะแล้วมั้ง

“อะไรของมึงไอ้โอ๊ต”

“โอ้ย กูเจ็บ”

เสือร้องลั่นเมื่ออยู่ ๆ โอ๊ตก็วิ่งมาเตะขาเขาจนเกือบแทบทรุด น้องแฮมที่วิ่งตามหลังมาทำตาโตที่เห็นเพื่อนรักกระโดดเตะพี่ชาย

“ทำบ้าอะไรไอ้ลูกแมว”

“ก็ใครใช้ให้พี่เอาเบอร์ผมไปให้คนอื่นละวะ” โอ๊ตโวยวายอย่างเกรี้ยวกราด ขู่ฟ่อ ๆ ใส่พี่ชายของเพื่อนสนิท

เพราะไอ้พี่เสือเลย ผู้ชายคนนั้นถึงโทรมาหาเขาได้ เมื่อวานอยู่ ๆ ก็มีเบอร์แปลกโทรหา เขาก็ไม่ได้คิดอะไรจึงรับสายไป ถึงได้รู้ว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนไอ้พี่เสือ

ผู้ชายที่มีรอยยิ้มไม่ค่อยน่าไว้ใจคนนั้น…

“อะไร มึงรู้ได้ไงว่าเป็นกู มีกูคนเดียวหรือไงที่มีเบอร์มึง” เสือทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“ก็ถ้าไม่ใช่พี่ แล้วเพื่อนพี่จะเอาเบอร์ผมมาจากหมาที่ไหน”

“อ้าว ไอ้นี่ กูเสือโว้ย ไม่ใช่หมา”

ไอ้ลูกแมวนี่เดี๋ยวเขาก็ตบคว่ำเลยนี่ ชักจะลามปามขึ้นทุกวัน ไม่น่ารักเอาเสียเลย ไอ้นะท่าทางจะเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ

“เอ่อ กูให้ไอ้นะมันไปเอง แล้วจะทำไม มันโทรไปหามึงแล้วอย่างไง มันจีบมึงเหรอ”

“จีบบ้าอะไร” โอ๊ตพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด

“โอ๊ตใจเย็น ๆ อย่าดุพี่เสือสิ เพื่อนพี่เสือเป็นคนดีนะ”

น้องแฮมรีบห้ามศึก เพื่อนพี่เสือใจดีจริง ๆ นะ ทั้งพี่นิว พี่เอ้ แล้วก็พี่นะด้วย แถมหล่อเหมือนพี่เสือทุกคนเลยด้วย

“ดีกับผีอ่ะดิ”

“อ้าว โอ๊ตเป็นผีเหรอ เราก็เห็นพี่เขาดีกับโอ๊ตนะ” น้องแฮมเอียงคอถามเพื่อนตาแป๋ว

“โอ้ย พี่เสือเอาไอ้นี่กลับบ้านไปเลยไป”

โอ๊ตเริ่มจะพาลกับเพื่อนอีกคนแล้ว หันไปแยกเขี้ยวใส่

“น้องแฮมกลับกันเถอะ ปล่อยเพื่อนน้องแฮมเป็นบ้าไปคนเดียวเหอะ”

“งั้นเรากลับแล้วนะโอ๊ต เจอกันพรุ่งนี้นะ”

“เออ ๆ กลับไปเหอะ”

โอ๊ตโบกมือไล่เพื่อนกับพี่ชายของมันให้กลับไปได้แล้วก่อนจะเดินไปโบกพี่วินให้ไปส่งแถวหลังมหาลัย วันนี้โอ๊ตมาช่วยงานที่ร้านกาแฟของรุ่นพี่ที่รู้จักกันซึ่งเพิ่งเปิดได้ไม่นาน เป็นการหาค่าขนมเพิ่ม

“มาแล้วเหรอโอ๊ต”

“หวัดดีครับพี่” โอ๊ตยกมือไหว้พี่นันเจ้าของร้านที่เอ่ยทัก

“เป็นอะไรวะ หน้าหงิกเชียว”

“เอ่อ หงุดหงิดอากาศมันร้อนน่ะพี่”

“เหรอวะ อย่าเผลอไปทำหน้าแบบนี้ใส่ลูกค้าพี่ก็แล้วกัน เดี๋ยวเขาจะกลัวกันหมด”

พี่นันเอ่ยเตือนขำ ๆ เพราะงานของพวกเขาเป็นงานบริการ ต้องใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ

“พี่ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ก็รู้ว่าผมยิ้มสั่งได้”

โอ๊ตยิ้มอวดก่อนจะกวาดตามองว่าในร้านมีลูกค้าอยู่พอสมควร เห็นแบบนั้นเขาจึงรีบเดินไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนใส่ชุดยูนิฟอร์มของร้านพร้อมกันผ้ากันเปื้อนก่อนจะออกมารับลูกค้าด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องหงุดหงิดใจอะไรเลย

“สวัสดีครับ ไม่ทราบคุณลูกค้าจะรับอะไรครับ”

พี่นันเชื่อแล้วจริง ๆ ว่ายิ้มของเจ้าโอ๊ตมันสั่งได้จริง ๆ

 

ขณะที่โอ๊ตกำลังเก็บแก้วกาแฟบนโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งลุกออกไป เขาก็รู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลัง เหลือบตามองก็เห็นรองเท้าหนังราคาแพง

“สักครู่นะครับคุณลูกค้า”

เห็นแบบนั้นโอ๊ตก็รีบเช็ดโต๊ะโดยเร็ว เขาไม่อยากให้ลูกค้าต้องยืนรอนาน พอจัดการเรียบร้อยเขาก็หันไปยิ้มกว้างให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“เชิญครับคุณลูกค้า”

“ขอบคุณนะครับข้าวโอ๊ต”

รอยยิ้มการค้าของโอ๊ตหุบทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่คือใคร

นะส่งยิ้มให้ วันนี้เขาโชคดีจริง ๆ ไม่คิดว่าการลองแวะเข้ามาร้านกาแฟเปิดใหม่จะทำให้เขาได้เจอกับข้าวโอ๊ต

“ข้าวโอ๊ตทำงานที่นี่เหรอครับ” นะนั่งลงบนเก้าอี้บุบนวม เงยหน้าขึ้นถาม

“ครับ”

ก็เห็นอยู่ว่าใส่ยูนิฟอร์มของร้านยังจะถามอีก

“ทำไมพี่โทรหาไม่รับสายเลยละครับ”

โอ๊ตแอบลมหายใจด้วยความเซ็งก่อนจะฉีกยิ้มให้

“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะรับอะไรครับ”

เมื่อเห็นว่าโอ๊ตเลี่ยงคำถาม นะก็ไม่เซ้าซี้ต่อ

“ข้าวโอ๊ตมีอะไรแนะนำบ้างละครับ”

“ก็มีพวกกาแฟ น้ำผลไม้ แล้วก็เค้กครับ”

“งั้นเอาอเมริกาโน่แล้วก็เค้กอะไรที่ไม่ค่อยหวานสักชิ้นหนึ่งก็แล้วกันครับ ข้าวโอ๊ตเลือกให้พี่หน่อยนะครับ”

“แค่นี้นะครับ รอสักครู่ครับ”

“พี่นัน อเมริกาโน่กับเลมอนพายโต๊ะสี่ครับ”

โอ๊ตเดินมาบอกที่เคาน์เตอร์ พี่นันชะโงกดูลูกค้ารูปหล่อเจ้าของออเดอร์ที่นั่งอยู่เพียงลำพัง

“คนรู้จักเหรอ”

“ก็ไม่ได้อยากรู้จักหรอกครับ” โอ๊ตทำหน้าเซ็ง

“สวัสดีครับ เชิญครับ”

พี่นันหัวเราะขำเมื่อเห็นลูกน้องทำหน้าเหม็นเบื่ออยู่แท้ ๆ พอได้ยินเสียงเปิดประตูร้านก็หันไปยิ้มแย้มได้อย่างเป็นธรรมชาติสุด ๆ

“อ่ะ เอาไปเสิร์ฟ แล้วยิ้มให้เขาด้วยละ” พี่นันยื่นถาดใส่กาแฟกับขนมให้

“ครับ ๆ รู้แล้วน่า”

“ขออนุญาตเสิร์ฟครับ”

โอ๊ตวางแก้วกาแฟและเลมอนพายลงบนโต๊ะโดยไม่ลืมยิ้มให้ตามที่เจ้านายสั่ง

“ขอบคุณครับ” นะเงยหน้าส่งยิ้ม

“ข้าวโอ๊ตยิ้มแบบนี้ก็น่ารักดีนะครับ”

คนที่ถูกชมว่าน่ารักหุบยิ้มทันที ทำเอานะกลั้นขำด้วยความเอ็นดูในปฏิกิริยาของเจ้าลูกแมวที่เดินหน้าบึ้งกลับไปเสียแล้วก่อนจะยกกาแฟขึ้นชิม

สงสัยเขาจะได้ร้านกาแฟร้านประจำร้านใหม่แล้วละ

 

TBC...



สนุกไม่สนุกอย่างไงติชมกันได้น้าาาา  :mew2:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 10 เสือกับหนู, หมากับแมว [23/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 23-10-2018 18:06:02
พี่เสือขอเจ้าหนูแฮมเป็นแฟน
แล้วน้องจะเข้าใจไหมล่ะเนี่ย
อยากอ่านพาร์ทน้องแฮมบ้างจัง

เอ็นดูข้าวโอ๊ต ยิ้มสั่งได้ ฮา
น่ารักน่าบีบมาก

 :pig4:

หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 10 เสือกับหนู, หมากับแมว [23/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-10-2018 20:31:59
งานนี้ยากหน่อยนะพี่เสือ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 10 เสือกับหนู, หมากับแมว [23/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 23-10-2018 23:48:07
ทำไมพี่เสือเจ้าเลห์แบบนี้ หลอกน้องแฮมแบบเนียนๆ ตลอดดด  o12 o12
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 10 เสือกับหนู, หมากับแมว [23/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 24-10-2018 09:50:09
พี่เสือเริ่มจะกินเด็กเต็มๆ แล้ว
น้องแฮมตามพี่เสือให้ทัน
ข้าวโอ๊ตน่ารัก
 :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 11 หนูไม่รู้ [28/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 28-10-2018 15:44:57

ตอน หนูไม่รู้

 

                น้องแฮมไม่เข้าใจพี่เสือ...

                เดี๋ยวนี้พี่เสือชอบทำตัวแปลก ๆ ชอบทำอะไรแปลก ๆ ที่น้องแฮมไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม วันก่อนบอกว่าให้น้องแฮมเป็นคนพิเศษ แต่มาเมื่อวานบอกจะให้น้องแฮมเป็นแฟน

                แล้วทำไมน้องแฮมต้องเป็นแฟนพี่เสือด้วย

                ไม่เข้าใจเลย...

 

                “พี่เสือยังไม่มาอีกเหรอ”

                ข้าวโอ๊ต เอ้ย ไม่ได้สิ ข้าวโอ๊ตบอกให้เรียกว่าโอ๊ตเฉย ๆ เพราะน้องแฮมไปแนะนำกับเพื่อนพี่เสือว่าเพื่อนชื่อข้าวโอ๊ต น้องแฮมเลยโดนโอ๊ตบ่นยืดยาวว่าบอกตั้งหลายทีแล้วว่าให้เรียกโอ๊ตเฉย ๆ นั่นแหละ โอ๊ตเฉย ๆ นั่งลงข้างน้องแฮมที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ

                “พี่เสือส่งไลน์มาบอกว่าอาจารย์เรียก จะมาช้าหน่อย”

                น้องแฮมมองหนังสือเล่มโตที่โอ๊ตแบกมาด้วย ท่าทางจะหนักน่าดู

                “นี่โอ๊ตจะเอาหนังสือไปคืนเหรอ แล้วไม่ต้องรีบไปร้านกาแฟเหรอ”

                โอ๊ตส่ายหัวก่อนจะทำหน้าเซ็งเมื่อนึกถึงงานพาร์ทไทม์ที่ทำอยุ่

                “วันนี้หยุดน่ะ ดีแล้ว ไม่ต้องเจอคนน่ารำคาญ มาอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน”

                “ใครเหรอคนน่ารำคาญของโอ๊ต” น้องแฮมถามด้วยความอยากรู้

                “เฮ้ย ไม่ใช่ของเราสิ”

                ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ ทำไมโอ๊ตต้องทำหน้าแดง ๆ ด้วยละ

                “ไม่ใช่ก็ได้ ว่าแต่ใครเหรอ”

                “แฮมไม่ต้องรู้หรอก ก็แค่คนน่ารำคาญ”

                โอ๊ตตัดบททำเอาน้องแฮมทำปากยู่ผิดหวังที่จะได้รู้เรื่องของเพื่อนสนิท ยังไม่ทันที่เขาจะถามต่อก็มีคนเดินเข้ามาหาพอดี

                “อ้าว น้องแฮมยังไม่กลับบ้านเหรอครับ”

                น้องแฮมเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเป็นรุ่นพี่ปีสองที่คณะนั่นเอง เขาจำได้ว่าเป็นพี่กลุ่มสันทนาการตอนรับน้อง ว่าแต่พี่เขาชื่ออะไรนะ น้องแฮมจำไม่ได้แล้วอ่ะ ยิ้มให้ก่อนก็แล้วกัน

                “น้องแฮมรอพี่เสือมารับน่ะฮะ”

                “พี่เสือ...ที่อยู่วิศวะน่ะเหรอ”

                “พี่เสือคนนั้นแหละครับ” โอ๊ตตอบแทน เขารู้จักพี่คนนี้ พี่ตี๋อยู่ปีสอง มีข่าวว่าเห็นใครน่ารัก ๆ ก็ม่อไปทั่ว

                “งั้นให้พี่ไปส่งไหมครับ เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรอร่อย ๆ กินก่อนกลับบ้าน”

                “ของอร่อย ๆ เหรอ” น้องแฮมตาลุกแววก่อนพยักหน้างึกงัก “ไปครับ”

                “เฮ้ย เดี๋ยวพี่เสือก็ดุหรอก พี่เสือบอกให้รอไม่ใช่เหรอ” โอ๊ตรีบเบรก ไอ้เจ้าหนูแฮมนี่ก็เห็นแก่ของกินตลอด ยอมตกลงไปกับเขาง่าย ๆ แบบนี้ได้ไง

                “ก็น้องแฮมเขาอยากไป คงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับน้อง”

                เป็นสิ ทำไมจะไม่เป็น พี่เสือได้โมโหแน่ ๆ ถ้าขืนเข้าปล่อยให้เจ้าหนูแฮมไปกับคนอื่น มีหวังเขาโดนตัดเงินพิเศษน่ะสิ

                โอ๊ตเบ้ปากใส่รุ่นพี่ก่อนจะหันมาจัดการกับเพื่อนสนิท ดูมัน ยังจะไปยิ้มหวานให้พี่เขาอีก

                “แฮมอยากโดนพี่เสือโกรธเหรอ จำได้ไหมว่าพี่เสือสั่งไว้ว่าอย่างไง”

                “ง่ะ ไม่เอาพี่เสือโกรธ” เจ้าหนูแฮมส่ายหน้า ตอนพี่เสือโกรธน่ากลัวจะตาย “งั้นน้องแฮมไม่ไปแล้ว น้องแฮมจะรอพี่เสือ”

                “ได้ยินแล้วนะครับ เชิญพี่กลับไปก่อนที่พี่ผมจะมาได้เลยครับ”

โอ๊ตหันไปส่งยิ้มเย็นให้รุ่นพี่ที่ยืนอยู่พร้อมกับโบกมือให้  เห็นไล่กันแบบนี้หนุ่มรุ่นพี่จะดันทุรังอยู่ต่อไปก็กระไรอยู่ เขาจึงหันหลังเดินกลับไปอย่างเซ็ง ๆ แต่นั่นแหละใครจะอยากมีปัญหากับพี่เสือแห่งคณะวิศวะ

                “งั้นเรานั่งเป็นเพื่อนแฮมจนกว่าพี่เสือจะมาละกัน”

จะได้ไม่มีใครมาวุ่นวายวอแวกับเจ้าหนูแฮมเสน่ห์แรงนี่อีก นั่งรอก็ไม่นั่งเฉย ๆ ดันนั่งยิ้มหวานให้ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาทั่วไปหมด นั่น ผู้ชายที่เดินลงมาจากตึกก็โบกมือให้อีก

                “ข้าวโอ๊ตใจดีจัง” น้องแฮมยิ้มกว้างหลังจากโบกมือให้ใครก็ไม่รู้ แต่คุ้น ๆ ว่าเรียนอยู่เซคเดียวกัน

                “บอกว่าไม่ให้เรียกข้าวโอ๊ตไง แล้วนี่ไปโบกมือให้เขาทำไม รู้จักเขาเหรอ” โอ๊ตทำเสียงดุใส่จนน้องแฮมได้แต่ยิ้มแหย ๆ เอามือวางบนตักอย่างเรียบร้อย

                “แฮะ ๆ โทษที”

                “ว่าแต่ตอนนี้กับพี่เสือเป็นอย่างไงบ้างละ”

                โอ๊ตถามถึงความคืบหน้าระหว่างเพื่อนรักกับพี่ชายข้างบ้าน ตอนนี้ทั้งมหาลัยลือกันว่าพี่เสือหนุ่มวิศวะสุดหล่อถอดเขี้ยวถอดเล็บกลายเป็นเสือสิ้นฤทธิ์ไปแล้ว เอาแต่มาเฝ้าน้องชายทุกวี่ทุกวัน

                “อย่างไงนี่อย่างไงเหรอ” น้องแฮมเอียงคอถาม

                “ก็...หมายความว่าพี่เสือเขาดีกับแฮมไหม เวลาอยู่กับแฮมพี่เสือเขาทำอะไรบ้าง”

                อย่าหาว่าโอ๊ตเสือกเลยนะ แต่เขาอยากรู้ เป็นห่วงเจ้าหนูเพื่อนรักด้วย ไม่รู้ว่าพี่เสือคิดอย่างไงกับเพื่อนของเขากันแน่ ดูเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนเอาเสียเลย เขารู้แต่ว่าพี่เสือหวงแฮมมาก ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าในฐานะอะไร

                แฮมนิ่งจนโอ๊ตรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในตัวเพื่อนของเขาที่ไม่ปกติ ก่อนที่แฮมจะยอมเอ่ยออกมา

                “พี่เสือแปลก ๆ ไปอ่ะ ชอบทำอะไรแปลก ๆ กับเรา”

                “หือ อะไรแปลก ๆ ที่ว่านี่มันอย่างไง” โอ๊ตขยับเข้ามาใกล้ด้วยความสนใจ

                “ก็บางทีพี่เสือก็ชอบมาจับตรงนั้นของเรา แล้วก็ให้เราจับของเสือด้วย บอกว่าคนพิเศษเขาทำให้กัน พี่เสือบอกว่าเราเป็นคนพิเศษของพี่เสือ”

                “เฮ้ย พี่เสือทำถึงขนาดนั้นแล้วเหรอ”

                โอ้ย ตายแล้ว ไอ้พี่เสือนี่มันเสือร้ายจริง ๆ เขาฟังละจะเป็นลม นี่มันเข้าข่ายล่อลวงเยาวชนของชาติชัด ๆ ไหนบอกจะรอไอ้เจ้าหนูนี่โตก่อน

                “แล้วอย่างไงอีก” โอ๊ตชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ หูผึ่งเตรียมรับข้อมูลเต็มที่

                “แล้วเมื่อวานอยู่ ๆ พี่เสือก็มาบอกให้น้องแฮมเป็นแฟนพี่เสือ”

                “หา อะไรนะ เป็นแฟนเนี่ยนะ”

                ไม่น่าเชื่อ ผู้ชายไม่ชอบการผูกมัดแบบพี่เสือเนี่ยนะจะว่าแฮมเป็นแฟน

                “อือ ใช่ พี่เสือบอกให้เป็นแฟนกัน” น้องแฮมพยักหน้า

                “ไหนเล่าให้มันละเอียด ๆ สิแฮม”

                “ทำไมโอ๊ตอยากรู้เรื่องของเราจัง”

                “เอ่อ เล่ามาเหอน่า”

 

                เมื่อวานพอกลับถึงบ้าน หลังจากลงจากรถแล้วแฮมกำลังจะเดินกลับเข้าบ้านของตนก็ถูกพี่เสือรั้งไว้ เขาหันมองด้วยความสงสัย

                “พี่เสือมีอะไรเหรอ”

                แล้วอยู่ ๆ พี่เสือก็ดึงเขาเข้าไปกอด กอดไว้แน่นจนเขาเกือบหายใจไม่ออก ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู

                “น้องแฮมเป็นแฟนกับพี่เสือนะครับ”

                แฮมดิ้นจนหลุดแล้วดันพี่ชายให้ออกห่าง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจนัก

                “น้องแฮมบอกแล้วไงว่าไม่อยากปวดหัว น้องแฮมไม่เป็นแฟนพี่เสือหรอก” พูดจบเขาก็หันหลังจะกลับบ้านแต่ก็โดนพี่เสือดึงแขนไว้อีก

                อะไรของพี่เสือเนี่ย

                “ทำไมละ น้องแฮมไม่รักพี่เสือเหรอ”

                ทำไมพี่เสือต้องทำหน้าเศร้าแบบนั้นด้วย

                “รักสิ แต่ไม่อยากเป็นแฟนนี่”

                “เป็นแฟนกันเถอะนะ”

                “ไม่เอาอ่ะ ก็บอกแล้วว่าไม่อยากเป็นแฟน” แฮมส่ายหัวพรืด ยังยืนยันคำเดิม

                ทำไมวันนี้พี่เสือพูดไม่รู้เรื่องเลย น้องแฮมเริ่มจะโมโหแล้ว แฮมทำหน้ามุ่ยก่อนจะแกะมือพี่เสือออกแล้วเดินกลับเข้าบ้านไปโดยไม่สนใจพี่ชายที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

 

                “แล้วเมื่อเช้าพี่เสือก็ทำเป็นงอนเรา ไม่ยอมคุยด้วย เราต้องง้ออยู่ตั้งนาน”

                อ๋อ ที่รถมาจอดตั้งนานแล้วไม่ลงมาสักทีนี่มัวแต่ง้อกันอยู่สินะ

                โอ๊ตนึกถึงเมื่อเช้าตอนที่เขาเห็นรถพี่เสือมาจอดหน้าคณะ เขายืนรอตั้งนานสองนานกว่าเพื่อนเขาจะลงมาจากรถได้ แถมสภาพนี่ปากเจ๋อหน้าแดงเชียว

                “พี่เสือนี่ไม่มีความโรแมนติกเอาเสียเลย เล่นขอเป็นแฟนกันทื่อ ๆ แบบนี้เนี่ยนะ” โอ๊ตส่ายหัว สงสัยเพราะมีแต่สาว ๆ เข้าหาสินะ พี่แกถึงนึกว่าคนทั้งโลกจะยอมเป็นแฟนด้วยง่าย ๆ พูดคำเดียวก็โอเคแล้วงี้

                “ทำไมพี่เสือถึงอยากจะเป็นแฟนเราให้ได้ด้วยละโอ๊ต”

                น้องแฮมถอนหายใจเบา ๆ เพราะเขาไม่รู้จะไปถามใครก็เลยต้องมาถามเอากับเพื่อนสนิท

                “อ้าว ถามเรา เราจะไปรู้เหรอ”

                เรื่องนี้โอ๊ตว่าโอ๊ตจะไม่ยุ่ง

                “ง่ะ โอ๊ตตอบดี ๆ สิ”

                เห็นแฮมทำท่าหงอย ๆ โอ๊ตก็ได้ถอนหายใจในความซื่อของเพื่อนที่ไม่โตสักที

                “เอ่อ ก็พี่เสือเขารักแฮมไง”

                “รักแล้วต้องเป็นแฟนกันด้วยเหรอ”

น้องแฮมถามตาใสทำเอาโอ๊ตถึงกับอึกอัก จะว่าไปมันก็จริงอย่างที่แฮมถาม รักก็ไม่ได้หมายความว่าต้องคบเป็นแฟนกันเท่านั้น ในเมื่อความรักมันมีหลายรูปแบบ ว่าแต่จะให้แฮมเข้าใจความรักของพี่เสือได้อย่างไงละ

                “เอ่อ มันก็ไม่เชิง”

                “แบบนี้เรารักโอ๊ต เราก็ต้องเป็นแฟนโอ๊ตด้วยสิ”

                “เฮ้ย มันไม่ใช่แบบนั้น แฮมจะมาเป็นแฟนกับเราได้ไงละ”

                “แล้วทำไมเราต้องเป็นแฟนพี่เสือด้วยล่ะ”

                โอ๊ตถึงกับยกมือขึ้นเกาหัวแกรก บทเจ้าหนูแฮมนี่จะมีปัญหา อธิบายอย่างไงก็ไม่ยอมเข้าใจเลยจริง ๆ ตอนนี้เขาเริ่มจะปวดหัวแทนพี่เสือแล้วละ

                “เออ ช่างมันเถอะ” ปล่อยให้เป็นเรื่องของพี่เสือไปก็แล้วกัน โอ๊ตจะไม่ยุ่ง

                พูดถึงยังไม่ทันขาดคำ โอ๊ตก็เหลือบไปเห็นรถซีอาร์วีคันคุ้นตามาจอดท้าทายลุงยามตรงที่เดิมก่อนที่โทรศัพท์มือถือของแฮมจะดังขึ้น

                “นั่นไงพี่เสือมาโน้นแล้ว แฮมไปถามพี่เสือเองละกัน”

                แฮมกดรับสายบอกว่ากำลังจะเดินไปที่รถ โอ๊ตเลยเดินไปส่งและถือโอกาสคุยกับพี่ชายเพื่อนสนิทสักหน่อย

                “หวัดดีพี่เสือ”

                เสือลดกระจกรถส่งเสียงทักทายเพื่อนน้อง “ไงโอ๊ต ได้ข่าวว่ามีคนไปเฝ้าที่ร้านทุกวันเลยเหรอวะ”

                “เหอ ฝากบอกเพื่อนพี่ด้วยว่าไปกินกาแฟร้านอื่นบ้างก็ได้ ผมรำคาญ” โอ๊ตกรอกตาพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

                “เพื่อนพี่ไม่ดีตรงไหนวะ รูปก็หล่อ พ่อก็รวย”

                “ไม่ดีตรงผมไม่ชอบไง”

                “ก็ลอง ๆ เปิดใจดูหน่อยสิว่ะ ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน ผู้ชายเหมือน ๆ กัน”

                ก็เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันนี่แหละ เขาถึงรู้ว่าผู้ชายแบบนั้นไว้ใจไม่ได้ ขึ้นเผลอใจให้มีหวังมีแต่เสียกับเสีย

                “เดี๋ยวผมจะยุให้แฮมมันเปิดใจกับพวกรุ่นพี่ที่มาจีบมั้ง”

                “เฮ้ย อย่านะโว้ย” เสือโวยวายทันที แค่นี้เขาก็แย่แล้ว

                “ใครมาจีบเราเหรอโอ๊ต”

แฮมชะโงกหน้าเข้ามาร่วมวงด้วยเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง โอ๊ตหมายถึงใครเหรอ

                “เออ ไม่มีอะไรหรอก แฮมกลับบ้านได้แล้ว” โอ๊ตปรายตามองพี่เสือที่นั่งทำหน้าเป็นตูดเพราะคำพูดของเขา ก่อนจะเปิดประตูให้และตบหลังแฮมเบา ๆ ให้ขึ้นรถ “สงสัยอะไรก็ถามพี่เสือนะ”

                “งั้นกลับละนะ บ๊ายบาย” น้องแฮมโบกมือลาให้โอ๊ตที่เดินแยกไปอีกทาง

                “คุยอะไรกับโอ๊ตมาเหรอครับ” เสือหันมาถามน้องแต่ยังไม่ยอมจะออกรถ

                “คุยเรื่องพี่เสือ” น้องแฮมเงยหน้าตอบหลังจากคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว

                “คุยเรื่องพี่ทำไม”

                “คุยว่าพี่เสือเดี๋ยวนี้พูดไม่รู้เรื่อง”

                คิ้วหนาได้รูปขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อได้ยินคำตอบของน้อง เขาเนี่ยนะพูดไม่รู้เรื่อง

                “พี่เสือพูดไม่รู้เรื่องอย่างไงเหรอน้องแฮม”

                “ก็เรื่องเป็นแฟนไง พี่เสือพูดไม่รู้เรื่อง”

                “ก็แล้วทำไมน้องแฮมไม่ยอมเป็นแฟนพี่เสือละ” เสือพูดด้วยความอ่อนใจ เขาขอน้องเป็นแฟน แต่น้องกลับดื้อไม่ยอมท่าเดียว

                “ก็ไม่อยากเป็นอ่ะ” น้องแฮมตอบเสียงอ้อมแอ้มก้มหน้ามองฝ่ามือตัวเองที่วางอยู่บนตัก

                “น้องแฮมไม่อยากอยู่กับพี่เสือแล้วเหรอครับ”

                เสือจับไหล่คนตัวเล็กให้หันหน้ามาคุยกันตรง ๆ เขาอยากรู้ว่าน้องกำลังคิดอะไรอยู่ เหมือนเขาจะเข้าใจแต่จริง ๆ เขาไม่รู้เลยว่าภายในหัวเล็ก ๆ นั้นกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

                “อยากสิ น้องแฮมอยากอยู่กับพี่เสือ”

                “งั้นก็เป็นแฟนกัน”

                “ไม่เอา ไม่เป็นแฟน”

                ทำไมจะต้องเป็นแฟน ไม่เป็นแล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอ เหมือนที่ผ่านมาไง อยู่ด้วยกันแบบนั้นไม่ได้เหรอ

                “งั้นก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน”

                เสือปล่อยมือจากหัวไหล่ของน้องก่อนจะออกรถด้วยสีหน้านิ่งเฉยจนน้องแฮมที่มองอยู่รู้สึกกลัว

                “ง่ะ ไม่เอาแบบนี้สิพี่เสือ”

                แฮมแตะแขนพี่เสือเบา ๆ แต่คนเป็นพี่ก็ยังเฉย นิ่งเสียจนน้องแฮมรู้สึกใจเสีย เขากัดริมฝีปากก่อนจะหดมือกลับมาแล้วได้แต่เหลือบมองพี่เสือเป็นพัก ๆ ระหว่างทางกลับบ้านที่มีแต่ความเงียบไปตลอดทาง

                เมื่อถึงบ้านหลังจากจอดรถเสือก็เปิดประตูลงจากรถไปเลยโดยไม่พูดอะไร ไม่แม้แต่จะหันมามองคนที่นั่งมาด้วยกันเลยด้วยซ้ำ แฮมเห็นแบบนั้นก็รีบเปิดประตูวิ่งตามลงมา เขาวิ่งไปดึงแขนพี่เสือไว้

                “พี่เสือ”

                น้องแฮมกระตุกแขนพี่ชายให้หันมามองกัน เสือหันกลับมามองมือของเขาที่จับแขนด้วยสายตาเย็นชาจนเขาขนลุก

                “พี่เสือไม่งอนสิ”

                “พี่ไม่ได้งอน พี่จะเข้าบ้าน”

                น้องแฮมเม้มปากช้อนตามองพี่ชายด้วยความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ

                “พี่เสือโกรธเหรอ”

                พี่เสือไม่ตอบแต่กลับปลดมือเขาออกแล้วเดินหันหลังเข้าบ้านไปเลย ทิ้งให้เขายืนอยู่เพียงลำพัง

                แย่แล้ว...น้องแฮมทำให้พี่เสือโกรธแล้ว...

 

                TBC...

 

 น้องแฮมยังไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เสือต้องยึดติดกับคำว่าแฟน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเขาก็อยู่ด้วยแบบนี้มาตลอด เจ้าหนูเลยเกิดอาการต่อต้านตามวัย

ไว้ตอนหน้ามาดูว่าน้องแฮมไปง้อพี่เสือกันนะ^^
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 11 หนูไม่รู้ [28/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-10-2018 19:21:44
ฟงแฟนช่างมันลูกเอ๊ย  ข้ามขั้นดีกว่าไม่ต้องปวดหัวเนาะ พี่เสือรวบหัวรวบหางจับทำเมียเลยง่ายกว่าค่ะ
น้องโอ๊ตไม่ใจอ่อนสักทีสงสัยต้องรอให้น้องแฮมมาช่วยเชียร์
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 11 หนูไม่รู้ [28/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 28-10-2018 20:14:32
อยาก่านตอนลูกแมววว  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 11 หนูไม่รู้ [28/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-10-2018 03:50:28
อีเสือมันร้าย อิอิ จะให้น้องง้อละสิ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 11 หนูไม่รู้ [28/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-10-2018 04:22:36
เรารู้นะเสือ ว่าเสือจะใช้จังหวะนี้เคลมน้องใช่มั้ย
เธอหลอกเราไม่ได้หรอก5555 :laugh:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 11 หนูไม่รู้ [28/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 29-10-2018 10:09:26
น้องแฮมจะไปกับเขาเพราะของกินไม่ได้นะลู๊กกกก  o6
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 11 หนูไม่รู้ [28/10/18]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 29-10-2018 20:56:35
โถถถถ แล้วเมื่อไรน้องจะเข้าใจล่ะ นี่โกรธจริงหรือแกล้งโกรธน้องเนี่ย?
หัวข้อ: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 12 อยากจะง้อเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ [4/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 04-11-2018 17:00:15
ตอน อยากจะง้อเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ

 

               
                 

                พี่เสือโกรธแล้ว...

                แฮมส่งไลน์ไปหาพี่เสืออ่านแล้วแต่ก็ไม่ยอมตอบ ไปหาที่บ้านพี่เสือก็ไม่ยอมให้เข้าห้อง บอกว่าปวดหัวอยากพัก ทำเอาเขาได้แต่เดินคอตกกลับเข้าบ้าน

ฮืออออ ทำอย่างไงดีละ

                “โอ๊ต แย่แล้ว ๆ ฮืออออ”

                แฮมคิดอะไรไม่ออกจึงกดโทรหาเพื่อนสนิทเพื่อขอคำปรึกษา

                ‘อะไรวะแฮม คนจะนอนแล้ว’

                “โอ๊ตอย่าเพิ่งนอน ช่วยเราก่อน”

                “เอ่อ ๆ เป็นอะไรอีกละ เล่ามาดิ”

                “พี่เสือโกรธเราแล้ว ไม่ยอมคุยด้วยเลยอ่ะ เราจะทำอย่างไงดีโอ๊ต”

                ‘ก็แล้วไปทำอะไรให้พี่เขาโกรธละ’

                “ก็เรื่องเป็นแฟนอ่ะ พี่เสือจะให้เราเป็นแฟนให้ได้ แต่เราไม่อยากเป็นนี่ พี่เสือก็เลยบอกว่างั้นไม่ต้องมาอยู่ด้วยกัน โอ๊ต พี่เสือโกรธแล้ว” แค่นี้ก็ต้องโกรธด้วย น้องแฮมเบะปาก

                ‘อือ ๆ แล้วไง’

                เขาได้ยินเสียงโอ๊ตหาวหวอดใหญ่ ท่าทางจะไม่ได้ตั้งใจฟังที่เขาพูดเลย

                “โอ๊ต ช่วยเราคิดหน่อยสิ” เขาส่งเสียงงอแงใส่เพื่อนสนิท กลิ้งไปมาบนเตียง

                ‘แฮมก็ง้อพี่เสือสิ’

                “ง้อแล้ว ทั้งไลน์ไปหา ทั้งไปที่บ้าน แต่พี่เสือก็ไม่ยอมคุยด้วย แล้วจะให้เราทำอย่างไงละโอ๊ต” แฮมโอดครวญ นี่เขาพยายามง้อพี่เสือสุด ๆ แล้วนะ

                ‘แฮมก็ยอมเป็นแฟนพี่เสือไปสิ’

                “แต่เราไม่ได้อยากเป็นแฟนพี่เสือ”

                ‘เราถามจริง ๆ นะแฮม ทำไมถึงไม่อยากเป็นแฟนกับพี่เสือละ’

                “ก็...ถ้าเป็นแฟนมันเลิกกันได้ไม่ใช่เหรอ พอเลิกกันก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เหมือนบ้านโอ๊ต”

                เมื่อก่อนโอ๊ตก็มีบ้านที่มีพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยพร้อมหน้า แต่พอขึ้นมอปลายพ่อกับแม่โอ๊ตก็เลิกกัน แม่โอ๊ตแต่งงานใหม่ ส่วนพ่อก็กลับไปอยู่ทางใต้ โอ๊ตไม่อยากย้ายไปต่างจังหวัดเพราะจะเรียนต่อที่กรุงเทพ แต่จะให้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ของแม่ก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจ สุดท้ายโอ๊ตก็เลยต้องอยู่หอคนเดียว

                น้องแฮมไม่อยากจะต้องอยู่คนเดียวแบบนั้น

                ‘เฮ้อ ทุกคู่ไม่ได้เป็นอย่างพ่อแม่เราสักหน่อยแฮม คนเราไม่รักกันแล้วอยู่ด้วยกันไปมันก็มีแต่ความทุกข์ เอาแต่ทะเลาะกัน เดี๋ยวนี้พ่อกับแม่เราเขาก็ต่างมีความสุขดี เราเองอยู่แบบนี้ก็สบายดี’

                “เราขอโทษนะโอ๊ตที่พูดถึงบ้านโอ๊ต”

                ‘ไม่เป็นไร มันผ่านมาแล้ว เราโอเค...เราว่าแฮมรีบหาวิธีง้อพี่เสือดีกว่านะ พี่เสือเขารักแฮมนะ แฮมก็รักพี่เสือไม่ใช่เหรอ’

                “อือ” แฮมพยักหน้างึกงักใส่โทรศัพท์มือถือ

                ‘ถ้างั้นก็รีบไปหาทางคืนดีกันพี่เสือนะ เป็นแฟนพี่เสือก็ดีออกนะ มีคนอยากจะเป็นค่อนมหาลัยยังไม่ได้เป็นเลย’

                “อือ พรุ่งนี้เราจะรีบไปง้อพี่เสือแต่เช้าเลย”

                ‘ดีแล้ว ๆ งั้นเราไปนอนก่อนนะ ง่วงจะตายอยู่แล้ว’

                “ขอบคุณนะโอ๊ต ฝันดีน้า”

                แฮมวางสายเพื่อนสนิทก็ล้มตัวลงนอนมองเพดาน เขาจะหาวิธีง้อพี่เสืออย่างไงดีนะ

 

                เช้าวันเสาร์ต่อมา แฮมโผล่มาที่บ้านของเสือแต่เช้าตรู่ แต่กลับเจอแต่น้าปลาที่กำลังหิ้วตะกร้าผ้าลงมาซัก

                “น้าปลา พี่เสือละฮะ”

                “พี่เสือยังไม่ตื่นเลยลูก เมื่อกี้น้าเพิ่งไปเอาผ้ามาจากห้องพี่เสือ น้องแฮมขึ้นไปหาพี่เขาสิลูก”

                “ฮะ”

พอได้ยินแบบนั้นแฮมก็ตรงขึ้นไปยังห้องนอนของเสือที่อยู่บนชั้นสองทันที เปิดเข้าไปในห้องนอนที่เขามักจะมาเที่ยวเล่นอยู่บ่อย ๆ เจ้าของห้องยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง

“พี่เสือ ๆ”

น้องแฮมส่งเสียงเรียกพี่ชายเบา  ๆ ไม่กล้าทำเสียงดัง เกรงใจคนที่กำลังหลับสบายอยู่ เดี๋ยวเกิดพี่เสือตื่นขึ้นมาแล้วหงุดหงิดที่นอนไม่พอ เขาจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่

“ยังไม่ตื่นเหรอ”

น้องแฮมชะโงกหน้าเข้าไปดู เห็นพี่เสือนอนหลับตาพริ้มอยู่ก็เลยตัดสินใจนั่งลงข้างเตียงรอให้พี่ชายตื่น รอจนตัวเขาเองก็เกือบจะหลับไปด้วยแล้วซ้ำ คนบนเตียงถึงขยับตัว แฮมรีบขยับตัวไปเกาะขอบเตียงทันที

เสือเริ่มรู้สึกตัวตื่นขยับตัวเหยียดแขนขาก่อนจะพลิกตัวไปอีกฝั่ง พอลืมตาขึ้นมาก็สบตาเข้ากับดวงตากลมแป๋วที่โผล่พ้นขอบเตียงมา

“เฮ้ย”

เสือสะดุ้งสุดตัวก่อนจะเด้งตัวหนี นี่ห้องเขามีผีลูกกรอกด้วยเหรอ

“พี่เสือตื่นแล้ว”

เป็นน้องชายข้างบ้านที่ฉีกยิ้มจนตาหยีอยู่ข้างเตียงนี่เอง เขาถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“น้องแฮมเล่นอะไรเนี่ย พี่เสือตกใจหมด”

เสือขยี้หัวสลัดอาการง่วง เขามองน้องแฮมที่ยังคงนั่งทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างเตียง  นี่คงคิดจะมาง้อเขาละสิ

เชอะ เขาไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ หรอก

“น้องแฮมมาหาพี่เสือ เมื่อวานน้องแฮมขอโทษ พี่เสือไม่โกรธน้องแฮมนะ ดีกันเถอะ นะ ๆ”

เจ้าหนูน้อยของเขาทำหน้าตาน่าสงสาร ปากเล็ก ๆ นั่นเม้มน้อย ๆ พร้อมกับที่เจ้าตัวยืนนิ้วก้อยมาหาเขา เสือเพียงแต่มองนิ่งทำหน้าเฉยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“น้องแฮมทำอะไรผิดเหรอถึงต้องมาขอโทษพี่เสือ”

ง่ะ พี่เสือทำหน้าโหดจัง ทำตาดุ๊ดุ

“ก็...ที่น้องแฮมไม่ยอมเป็นแฟนพี่เสือไง” น้องแฮมตอบเสียงอ่อย ๆ “แต่น้องแฮมอยากอยู่กับพี่เสือนะ อยู่ด้วยกันนะ ๆ”

“พี่ก็บอกแล้วไงว่าถ้าไม่เป็นแฟนก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน”

ถึงจะดูใจร้าย แต่เสือก็ยื่นคำขาดกับน้องไป เขามองดูคนตรงหน้าที่ทำหน้าหงอยสุด ๆ เม้มปากแน่นอย่างชั่งใจ

“ต้องเป็นแฟนกันจริง ๆเหรอ”

เสือไม่ตอบ เขาลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่ประตูห้อง น้องแฮมมองตามด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก

“เป็นก็ได้ น้องแฮมยอมเป็นแฟนพี่เสือก็ได้”

เสือที่ยืนหันหลังให้น้องอยู่หน้าประตูแอบยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะทำเป็นเก๊กเสียงเข้ม

“ถ้าไม่เต็มใจ ไม่ต้องก็ได้นะน้องแฮม พี่เสือไม่ว่าหรอก”

แฮมพอได้ยินอย่างงั้นก็รีบลุกขึ้นไปเกาะแขนพี่ชายไว้แน่น

“น้องแฮมเต็มใจ น้องแฮมจะเป็นแฟนพี่เสือ ทีนี้พี่เสือหายโกรธแล้วใช่ไหม” เขาช้อนตามองใบหน้าของพี่เสือที่ยังคงทำหน้าเรียบเฉยจนเขาใจไม่ดีเลย

ทำไมพี่เสือง้อยากจัง น้องแฮมไม่รู้จะทำอย่างไงแล้วนะ

เสือแสร้งทำเป็นถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันหน้ามาน้อง ในขณะที่มืออีกข้างของเขาเองจับลูกปิดประตูไว้ก่อนจะกดล็อค

“พี่เสือไม่โกรธหรอก พี่เสือแค่น้อยใจที่น้องแฮมทำเหมือนไม่รักพี่เสือเลย”

“รักสิ น้องแฮมรักพี่เสือนะ รักมาก ๆ เลยด้วย” แฮมรีบบอกทันทีไม่งั้นเดี๋ยวพี่เสือจะงอนอีก

เสือลูบหัวน้องเบา ๆ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหู

“โทษฐานที่ทำให้เสือน้อยใจ น้องแฮมต้องโดนทำโทษนะครับ”

ไม่ต้องรอให้น้องแฮมสงสัยว่าทำโทษอย่างไง เขาก็จัดการอุ้มเจ้าหนูแฮมตัวจ้อยไปที่เตียงนอน ทันทีที่แผ่นหลังของน้องสัมผัสฟูก เสือก็ล้มตัวลงทาบทับแล้วบดริมฝีปากกับปากเล็ก ๆ ที่กำลังจะอ้าปากถามทันที เขาจูบคนตัวเล็กให้สมยาก ทั้งดูดดึงขบเม้มริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นจนบวมแดงก็จะขยับตัวออกมาดูผลงานตัวเอง

ตอนนี้น้องชายข้างบ้านของเขานอนอยู่บนเตียงอยู่ในสภาพหายใจหอบ ริมฝีปากแดงก้ำเลอะไปด้วยน้ำลายจากการจูบ แก้มใสขึ้นสีระเรื่อ กับดวงตากลมตาโตที่มองเขาด้วยมึนงง

เสือจับชายเสื้อยืดของน้องก่อนจะถลกขึ้นจากตัว ตามด้วยปลดกางเกงขาสั้นให้หลุดจากปลายเท้า

“พี่เสือจะทำอะไร”

ตอนนี้บนตัวเขาเหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในสีขาวตัวเดียวอยู่เท่านั้น และพอแฮมยกมือขึ้นบังส่วนที่กางเกงชั้นในปกปิดอยู่ เขาก็โดนพี่เสือจับมือเอาไว้

“น้องแฮมต้องอยู่นิ่ง ๆ ห้ามขยับตัว ห้ามส่งเสียงด้วยครับ ไม่งั้นพี่เสือไม่หายโกรธให้นะ”

น้องแฮมพยักหน้า หมายความว่าเขาต้องอยู่เฉย ๆ นอนนิ่ง ๆ ก็พอใช่ไหม แล้วพี่เสือก็จะหายโกรธเองอย่างงั้นเหรอ

เสือวางมือน้องไว้ข้างลำตัว ก่อนที่ตัวเขาเองจะลูบนิ้วลงบนกางเกงชั้นในของน้องทำเอาเจ้าตัวถึงกับเกร็งตัวทันทีแล้วถอดมันไปออกไปทางปลายเท้า

แฮมพยายามบิดขาเข้าหากันเพื่อปิดบังส่วนตัวกลางลำตัวเมื่อพี่เสือพยายามจะอ้าขาทั้งสองข้างของเขาออกจากกัน แต่โดนพี่เสือมองปรามด้วยสายตาดุ ๆ

“น้องแฮม พี่เสือบอกว่าอย่างไงครับ”

                น้องจึงยอมปล่อยให้พี่เสืออ้าขาเขาออกแล้วมานั่งแทรกก่อน เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อพี่เสือจับที่ตรงกลางตัวแล้วลูบมันเบา ๆ เขาผงกหัวขึ้นมอง นี่พี่เสือจะทำแบบวันก่อนเหรอ

                แต่เปล่าเลย เสือรูดชักอยู่เพียงสองสามที เขาก็ก้มหน้าลงตวัดลิ้นลงบนส่วนปลายที่อ่อนไหวแล้วดูดกลืนส่วนหัวเข้าไป

                “พะ พี่เสือ”

                น้องแฮมรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมดกับภาพที่เห็น พี่เสือกำลังจะทำอะไร จะกินเขาเหรอ นี่เหรอที่พี่เสือบนว่าจะลงโทษ

                “พี่บอกว่าห้ามส่งเสียงไงครับ น้องแฮมต้องเงียบนะ”

เสือละจากสิ่งที่อยู่ในปากมาดุน้องก่อนจะก้มลงบนจัดการกับสิ่งที่อยู่ในมือต่อ เขาดูดกลืนส่วนปลายเข้าไปในปาก ปลายลิ้นก็ตวัดเลียไปรอบ ๆ เสือรู้สึกถึงอาการเกร็งของคนที่ถูกกระทำ ยิ่งเมื่อโดนเขาสั่งห้ามไม่ให้ขยับหรือส่งเสียง เจ้าตัวก็ดูจะถูกกระตุ้นได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก ปลายเท้าของน้องแฮมที่ถูกชันขาขึ้นทั้งสองข้างจิกงุ้ม สองมือของน้องก็ขยุ้มผ้าปูเตียงจนยับย่น

เขาเหลือบตาขึ้นมองหน้าก็สบสายตาเข้ากับดวงตาหวานฉ่ำที่กำลังมองการกระทำของเขาอยู่อย่างใคร่รู้ เขาก็ยิ่งดูดกลืนตัวตนของน้องเข้าไปมากกว่าเดิม เขาเห็นน้องกัดริมฝีปากไว้แน่น พยายามห้ามเสียงไม่ให้หลุดออกมา เห็นแบบนั้นเขาก็ต้องให้รางวัลกับน้อง โดยการขยับก้มลงรูดฝีปากเข้าออกเร็วขึ้น ขณะที่มือก็รูดตรงส่วนโคนช่วยไปด้วย จนในที่สุดน้องแฮมก็ปลดปล่อยออกมาในปากของเขา เสือจัดการกลืนมันลงไปและเลียส่วนปลายจนสะอาดก่อนจะเขยิบตัวขึ้นไประดับเดียวกับใบหน้าของน้อง

เจ้าหนูแฮมนอนมองเขาตาปรือ ริมฝีปากบวมช้ำจนน่าสงสาร เสือก้มลงจูบที่ริมฝีปากของน้องเบา ๆ ก่อนพรมจูบไปทั่วทั้งหน้านั้นด้วยความรักใคร่

“เป็นอย่างไงบ้างครับ” เขาลูบผมน้องด้วยความเอ็นดู

น้องแฮมเม้มปากก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อย

“น้องแฮมคิดว่าพี่เสือจะกินน้องแฮมเข้าไปซะแล้ว”

เสือหลุดขำคำพูดของน้อง ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะกลืนกินน้องแฮมเข้าไปทั้งตัวเหมือนกัน กินจนไม่ให้เหลือซากให้ใครหน้าไหนมีโอกาสจะได้ลิ้มรสเจ้าหนูแฮมเนื้อหวานแบบเขาอีก

“พี่เสือหายโกรธแล้วใช่ไหม” แฮมถามตาแป๋ว ก็เขาเห็นพี่เสือหัวเราะแล้วนี่ ทำโทษก็ทำไปแล้วด้วย

เสือยิ้มให้น้องก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากน่าเอ็นดูนั่นอีกครั้ง

“ยังครับ น้องแฮมต้องทำอะไรให้พี่เสือก่อน”

“ต้องทำอะไรอีกเหรอ” ง่ะ พี่เสือนี่ง้อยากจริง ๆ ต่อไปเขาจะไม่ทำให้พี่เสือโกรธอีกแล้ว

“น้องแฮมต้องทำแบบที่พี่เสือทำเมื่อกี้ให้พี่เสือก่อนครับ”

“เอ๊ะ” น้องแฮมทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก

เขาต้องทำอย่างไงละ ทำแบบพี่เสือเมื่อกี้นะเหรอ หมายความว่าเขาต้องกินพี่เสือเข้าไปเหรอ

“เอาละ ลุกขึ้นครับ”

เสือดึงแขนน้องแฮมให้ลุกขึ้นก่อนจะจัดท่าให้น้องนั่งคุกเขาอยู่ข้างเตียงตรงหน้าเขา

“ถอนกางเกงให้พี่เสือก่อนครับ”

น้องแฮมเงยหน้ามองพี่ชายก่อนจะดึงกางเกงบ๊อกเซอร์ที่อยู่ตรงหน้าลงไปกองที่ปลายเท้า น้องแฮมทำตาโตทันทีสิ่งที่อยู่ข้างในเด้งปรากฏตัวขึ้นมาให้เห็น เขาจะ ‘กิน’ มันได้หมดเหรอ

เสือจัดการใช้ปลายเท้าเขี่ยกางเกงบ๊อกเซอร์ไปข้าง ๆ แล้วนั่งลงเตียง อ้าขาออกแล้วให้น้องเขยิบมาใกล้

“น้องแฮมทำเหมือนที่พี่ทำเมื่อกี้สิครับ พี่เห็นนะว่าเราดูอยู่ตลอด”

แฮมเม้มปากก่อนจะตัดสินใจจับส่วนนั้นของพี่เสือด้วยสองมือ เพียงแค่เขาจับเบา ๆ ตรงนั้นของพี่เสือจะแข็งขึ้นมาทันทีจนเขาตกใจ น้องแฮมเหลือบตามองพี่ชาย เห็นพี่เสือพยักหน้าให้ เขากลับมามองสิ่งที่อยู่ในมือ กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ก่อนจะก้มลงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไปรอบ ๆ ปลายหัวหยิกแล้วดูดกลืนมันช้า ๆ แล้วช้อนตาขึ้นมองคนเป็นพี่ว่าเขาทำถูกไหม

พี่เสือแทบอยากจะปลดปล่อยเดี๋ยวนั้นเลยเมื่อสบสายตาใสที่มองช้อนขึ้นมาขณะที่ส่วนนั้นของเขากำลังอยู่ในปากของน้อง เรียกได้ว่าเป็นภาพในฝันของเขาเลยก็ว่าได้

พี่เสือแอ่นตัวด้วยความเสียวซ่านเมื่อน้องแฮมขยับริมฝีปากเข้าออก น้องแฮมเป็นเด็กหัวไว สอนอะไรแป๊บเดียวก็ทำได้แล้ว แถมยังเป็นนักเรียนที่เก่งอีกด้วย

“อ่า..น้องแฮม”

เสือถึงกับส่งเสียงครางเมื่อน้องดูดดุนส่วนปลายที่อ่อนไหวและตวัดลิ้นไปทั่วทั้งตรงนั้นของพี่เสือ ยิ่งเห็นพี่เสือมีปฏิกิริยา ที่น้องแฮมเดาเอาเองว่าพี่เสือน่าจะชอบเพราะถึงกับจับหัวน้องแฮมให้ขยับเข้าไปลึกกว่าเดิม น้องแฮมก็ยิ่งออกแรงขยับริมฝีปากเข้าออกมาขึ้น แต่ด้วยความไม่คุ้นชิน ทำให้มีบางจังหวะที่เขาเผลอเอาฟันไปครูดกับของพี่เสือ ทำเอาพี่เสือร้องซี๊ดเลย เขาจึงต้องระวังเวลาขยับเข้าออก

“ไม่ไหวแล้ว”

เขาเหลือบขึ้นมองพี่เสือทำเสียงกระเส่าก่อนที่จะถูกพี่ชายจับหัวแล้วกระแทกเข้ามาในปากจนเขาเกือบจะสำลักสองสามที แล้วพี่เสือก็ดันตัวเขาออกมาแล้วอะไรบางอย่างสีขาวขุ่นก็พุ่งเลอะหน้าและริมฝีปากของเขา

น้องแฮมกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปาดของเหลวสีขาวที่กระเด็นมาติดอยู่ตรงริมฝีปากขึ้นมาดูด้วยความงุนงง

“เฮ้ย น้องแฮม พี่ขอโทษ”

เสือเห็นแบบนั้นก็รีบหยิบกระดาษทิชชูบนโต๊ะหัวเตียงมาเช็คคราบบนหน้าให้น้องจนสะอาด นี่เขาอุตส่าห์ไม่แตกในปากน้อง ก็ดันแตกใส่หน้าน้องจนเลอะเทอะไปหมด

แต่ภาพเมื่อกี้ตอนที่คราบขาว ๆ เปรอะอยู่บนหน้าน้องแฮมนี่เอ็กซ์สุด ๆ แทบอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ในคอลเลคชั่นส่วนตัว เพียงแต่เขาไม่ได้โรคจิตขนาดนั้น

“โอเค สะอาดละ”

หลังจากจัดการคราบอะไรต่อมิอะไรบนตัวน้องเรียบร้อย เขาก็หอมแก้มใส ๆ ทั้งสองข้างให้ชื่นใจ ก่อนจะหยิบเสื้อหยิบกางเกงของน้องที่ถูกถอดกระจัดกระจายมาใส่ให้ รวมทั้งกางเกงของเขาเองด้วย เสร็จแล้วเสือก็จับน้องนั่งบนเตียงก่อนจะสวมกอดน้องจากทางด้านหลังเอาคางวางลงบนบ่าของคนตัวเล็กกว่า

“ต่อไปนี้น้องแฮมไปแฟนพี่เสือแล้วนะครับ”

“อือ” น้องส่งเสียงรับเบา ๆ

“เป็นแฟนพี่เสือแล้วก็ห้ามให้ใครมาจีบนะรู้ไหม”

น้องแฮมเอียงคอมองพี่ชายที่กลายเป็นแฟนหมาด ๆ ด้วยความฉงน

“น้องแฮมไม่มีคนมาจีบนะ”

น้อยไปละสิ เจ้าโอ๊ตมารายงานเขาว่ามีทั้งรุ่นพี่ทั้งรุ่นเดียวกัน ทั้งในและนอกคณะ ขยันมาขายขนมจีบให้เจ้าหนูของเขาตลอด จนโอ๊ตมันประท้วงจะขอค่าแรงเพิ่มเพราะงานเยอะเกินไปแล้ว

“ถ้ามีใครที่ไม่ใช่โอ๊ตมาชวนไปไหน น้องแฮมก็ห้ามไป ถ้าเขามาขอเบอร์ขอไลน์ก็ห้ามให้ บอกไปเลยว่าน้องแฮมมีแฟนแล้ว แล้วก็อย่าไปยิ้มให้ใครเขาไปทั่วละ เข้าใจไหมครับ”

คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินที่พี่เสือบอก ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวไว้เขาไปถามข้าวโอ๊ตเอาก็ได้ คิดดังนั้นน้องแฮมก็เลยพยักหน้าให้พี่เสือไปก่อน

“อือ”

“ดีมาก น้องแฮมเด็กดี” เสือจุ๊บเบา ๆ ที่ปากน้องเป็นรางวัล ส่วนน้องแฮมก็ยิ้มร่าเมื่อได้รับคำชม

เสือกอดซุกหน้ากับต้นคอขาวพร้อมกับสูดกลิ่นนมเนยไปตัวของน้อง เขาชอบกลิ่นของน้องแฮมที่สุด ไม่หอมฉุนเหมือนกลิ่นน้ำหอมที่พวกสาว ๆ ชอบใช้กัน แต่เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกอยากจะกลืนกินทั้งตัว มือที่โอบอยู่รอบเอวก็มุดเข้าไปลูบไล้หน้าท้องเนียน ๆ นุ่มมือเล่น

โครก

เสียงท้องของคนในอ้อมกอดร้องดังลั่น น้องแฮมหันมามองหน้าพี่เสืออย่างอาย ๆ จนเสือหลุดขำด้วยความเอ็นดู

“นี่ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเหรอครับ”

“ก็น้องแฮมรีบมาหาพี่เสืออ่ะ”

เมื่อเช้าพอตื่นนอนแฮมก็รีบอาบน้ำแต่งตัวมาบ้านพี่เสือ ไม่ทันได้กินข้าวเช้าที่แม่เตรียมไว้ให้ นั่งรอพี่เสือตื่นอยู่จนเกือบจะหลับ แล้วพอพี่เสือตื่นก็ลงโทษเขาอยู่ตั้งนาน ตอนนี้น้องแฮมหิวจนไส้กิ่วแล้วเนี่ย

“งั้นเดี๋ยวพี่เสือรีบไปอาบน้ำแล้วเราลงไปกินข้าวกันนะ”

เสือหอมแก้มน้องอีกทีก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัว เดินผิวปากเข้าห้องน้ำอย่างอารมณ์ดีสุด ๆ

 

 

TBC.



พี่เสือมันมารยา น้องแฮมอย่าไปเชื่อออออ

พี่เสือยังไม่ได้กินเจ้าหนูง่าย ๆ หรอกค่ะ ของดีต้องค่อยๆกิน อิอิ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 12 อยากจะง้อเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ [4/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-11-2018 18:26:47
โอ้ยย ไม่ไหวละ ไอ้พี่เสือนี่ทำไมร้ายขนาดนี้
น้องแฮมสเตอร์น้อยกำลังจะโดนกลืนลงท้องละ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 12 อยากจะง้อเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ [4/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-11-2018 22:45:14
 มารยาของพี่เสือนี่มัน...5555
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 12 อยากจะง้อเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ [4/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-11-2018 23:03:21
จนได้นะอีเสือ อีพรากผู้เยาว์ น้องโดนอีเสือกระทำชำเรา 555555555
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 12 อยากจะง้อเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ [4/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 06-11-2018 12:57:49
 :haun4:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 12 อยากจะง้อเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ [4/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 06-11-2018 16:39:58
พี่เสือมารยามากกก ในที่สุดก็บีบบังคับน้องจนสำเร็จได้อ่ะเนอะ แหมมมม
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 13 จับแมวมือเปล่า [17/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 17-11-2018 20:41:19
ตอน จับแมวมือเปล่า

มาอีกละ...

โอ๊ตมองผู้ชายที่เปิดประตูร้านเข้ามา คนที่มาบ่อยเสียจนเรียกได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านไปแล้ว

“ลูกค้า ๆ ท่องไว้นะโอ๊ต”

โอ๊ตงึมงัมกับตัวเองก่อนจะเดินมาหานะที่นั่งอยู่ซึ่งโต๊ะตัวเดิมแทบทุกครั้งที่เขามาร้านนี้ ก่อนจะฉีกยิ้มให้ตามมารยาท

“ไม่ทราบจะรับอะไรครับ”

“พี่ขอคาปูชิโน่ แล้วก็แอปเปิ้ลทาร์ตก็แล้วกันครับข้าวโอ๊ต”

นะส่งยิ้มให้คนรับออเดอร์ที่ยืมยิ้มอยู่แต่ตาไม่ยิ้มตามไปด้วยเลย

โอ๊ตแอบเบ้ปากเมื่อหันหลังเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์พอดีกับที่ประสานสายตาจับผิดของพี่นัน เขาเลยได้แต่ยิ้มแหย ๆ พี่นันย้ำแล้วย้ำอีกไม่ให้ทำหน้าแบบนี้ให้ลูกค้าเห็น แต่กับคนอื่นเขาก็ไม่เป็นนะ เป็นก็แต่กับคนนี้คนเดียวเท่านั้นแหละ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่พอเห็นรอยยิ้มของเพื่อนพี่เสือคนนี้ทีไร เขารู้สึกแปลก ๆ อย่างไงก็ไม่รู้

ไม่ชอบเลย ยิ่งเวลาสบตาคู่นั้นด้วยแล้ว ไม่ชอบเลยจริง ๆ

สรุปว่าไม่เห็นหน้าเลยน่าจะดีที่สุด แต่ดูแล้วความปรารถนาของเขาคงไม่สมหวังเพราะอีกฝ่ายก็ยังลอยหน้าลอยตามาดื่มกาแฟที่ร้านได้ทุกวี่วัน  ร้านอื่นไม่มีให้ไปบ้างหรือไง

แต่เขาก็ได้แต่บ่นอยู่ในใจ เพราะเมื่อพี่นันส่งถาดที่มีเครื่องดื่มและขนมที่นะสั่งมาให้ก็ถูกทัก

“ทำหน้างออีกละ”

“ขอโทษครับ” โอ๊ตเสียงอ่อยทำหน้าเจื่อน

“ว่าแต่นั้นมันรุ่นพี่ของโอ๊ตนี่ มาทุกวันเลยนะ” พี่นันหยุดคิดแป๊บนึงก่อนจะเอะใจบางอย่าง “ไม่สิ เขามาเฉพาะวันที่โอ๊ตมาทำงานเท่านั้น พี่ว่าเขาตั้งใจมาหาโอ๊ตนะ”

“บังเอิญน่ะครับ” โอ๊ตเสก้มลงหยิบถาดเครื่องดื่มหลบสายตาล้อเลียนของเจ้านาย “ผมยกไปเสิร์ฟก่อนนะครับ”

“จ้า แล้วก็อย่าลืมยิ้มด้วยละ”

“ครับ ๆ จะยิ้มเดี๋ยวนี้ละครับ”

ลูกจ้างคนเก่งส่งยิ้มหวานให้จนพี่นันขำกิ๊ก ก่อนจะยกถาดเครื่องดื่มไปยังโต๊ะของคุณลูกค้าประจำ

“คาปูชิโน่กับแอปเปิ้ลทาร์ตได้แล้วครับ”

“ขอบคุณนะครับข้าวโอ๊ต”

ยิ้มอีกแล้ว...

โอ๊ตเสหลบสายตาแวววับที่มองมา ขณะที่กำลังหมุนตัวกลับไป นะก็เอ่ยขึ้นมา

“เลิกงานแล้ว ให้พี่ไปส่งนะครับ”

นะเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ก็สองทุ่มกว่าแล้ว ใกล้เวลาที่ร้านนี้จะปิดตอนสามทุ่มตรง 

“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองดีกว่า”

โอ๊ตปฏิเสธอย่างสุภาพแต่ก็เย็นชาอยู่ในที แต่มีหรือที่นะจะยอมแพ้ง่าย ๆ

“ให้พี่ไปส่งนะครับ ดึกแล้ว ไม่รู้ถ้าเรียกวินจะมีหรือเปล่า”

“งั้นก็ตามใจครับ”

นะยิ้มยินดีที่โอ๊ตยอมตอบรับ เขานั่งจิบกาแฟกินขนมไปพลาง ๆ ระหว่างรอ พอถึงเวลาปิดร้านเพื่อไม่ให้เกะกะนะจึงออกไปยืนรออยู่ตรงหน้าร้าน แต่เขารอจนกระทั่งดวงไฟในร้านถูกดับลงและเจ้าของเดินออกมาล็อกประตูแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่เขารออยู่ นะจึงเดินเข้าไปถามพี่เจ้าของร้าน

“ขอโทษครับ โอ๊ตยังไม่ออกมาเหรอครับ”

“อ้าว โอ๊ตมันกลับไปสักพักแล้วนะคะ เดินออกทางข้างหลังร้านน่ะ”

เจ้าแมวน้อยเล่นเขาแล้วไหมละ

นะก้มหัวขอบคุณพี่เจ้าของร้านก่อนจะส่ายหน้ายิ้มขำให้กับตัวเองที่เผลอหลงเข้าใจนึกว่าข้าวโอ๊ตจะยอมกลับกับเขาง่าย ๆ เจ้าแมวดื้อก็ยังเป็นเจ้าแมวดื้อเหมือนเดิม

สงสัยงานนี้เขาต้องใช้ตัวช่วยซะแล้วสิ...

 

“โอ๊ต ๆ เย็นนี้โอ๊ตว่างใช่ป่ะ ไม่ต้องไปทำงานพิเศษใช่ไหม”

หลังจากอ่านไลน์ที่เด้งมาตอนที่พวกเขากำลังกินข้าวกลางวันกันในโรงอาหารของคณะ แฮมก็เงยหน้าขึ้นมาถาม

“อือ ใช่”

โอ๊ตตักปลาทูทอดของโปรดเข้าปากก่อนจะพยักหน้า

“พี่เสือให้ชวนโอ๊ตไปกินหมูกระทะด้วยกัน ไปนะ ๆ” แฮมส่งสายตาเป็นประกายบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวอยากไปกินหมูกระทะเย็นนี้มากแค่ไหน

“ไม่เอาอ่ะ เปลือง”

“ไม่เปลือง ๆ พี่เสือบอกจะเลี้ยง”

“หือ พี่เสือจะเลี้ยงเหรอ” โอ๊ตเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ ๆ พี่เสือเลี้ยง ๆ” แฮมพยักหน้าหน้างึกงักยืนยันคำพูด พี่เสือบอกว่าจะเลี้ยงจริง ๆ นะ บอกว่าเลี้ยงหมดทุกคนเลย พี่เสือไลน์มาย้ำนักย้ำหนาว่าต้องชวนโอ๊ตไปด้วยกันให้ได้

“ทำไมอยู่ดี ๆ พี่เสือถึงจะเลี้ยงเราละ”

“พี่เสือบอกว่าจะเลี้ยงฉลองที่เรายอมเป็นแฟนพี่เสือ พี่เสือบอกต้องฉลองใหญ่”

เพื่อนตัวเล็กของเขาที่เพิ่งมีแฟนหมาด ๆ ยกมือขึ้นเกาต้นคอแก้เขิน ยิ้มอายแก้มแดงน่าเอ็นดู

โอ๊ตยิ้มขำ วันก่อนแฮมมาเล่าให้เขาฟังว่าพี่เสือโกรธ สุดท้ายง้อไปง้อมาสรุปว่ายอมคบเป็นแฟนกับพี่เสือเสียอย่างงั้น แบบนี้ก็เข้าทางพี่เสือเลยสินะ

“พี่เสือนี่ขี้เวอร์จริง ๆ”

“โอ๊ตไปกินหมูกระทะด้วยกันนะ” แฮมคะยั้นคะยออยากให้เพื่อนไปด้วย ไปกันหลายคนสนุกดี

“ไปสิ”

โอ๊ตพยักหน้า เรื่องของฟรีขอให้บอก โอ๊ตไม่พลาดอยู่แล้ว

 

ตกเย็นหลังเลิกเรียน รถซีอาร์วีคันเดิมก็มาจอดรับเด็กปีหนึ่งทั้งสองที่หน้าคณะศึกษาศาสตร์ไปยังร้านหมูกระทะยอดฮิตแถว ๆ มหาลัย น้องแฮมรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วกวักมือเรียกพี่กับเพื่อนให้รีบเดินมา เสือนั่งลงข้างน้องแฮม โอ๊ตจึงเดินมานั่งฝั่งตรงกันข้ามกับเพื่อนสนิท

“กินให้เต็มที่เลยโอ๊ต”

“ขอเป็นพรีเมียมได้ไหมอ่ะ ไหน ๆ ก็เลี้ยงน้องทั้งที”

ร้านนี้นอกจากจะมีไลน์หมูกระทะและของกินเล่นตามมาตรฐานร้านหมูกระทะแล้ว ยังมีบุฟเฟต์ปิ้งย่างพวกอาหารทะเลพวกกุ้งหอยปูปลาอีกด้วย

“เออ ๆ มึงอยากกินอะไรก็เอาเลย”

เสือพูดแบบไม่ใส่ใจนักก่อนจะหันไปสนใจคนน่ารักที่นั่งข้างกายแทน เขาลูบหัวน้องด้วยความเอ็นดู “น้องแฮมกินอะไรดีครับ เดี๋ยวพี่เสือไปตักให้นะ”

“น้ำเสียงสองมาตรฐานนะพี่” โอ๊ตเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้

“อ้าว ก็นี่แฟนกู”

ว่าแล้วเสือก็โอบไหล่น้องแฮมโชว์ให้คนโสดตาร้อนเล่น โอ๊ตได้แต่ทำหน้าเหม็นความรักของรุ่นพี่ขี้อวด ก่อนจะลุกไปตักอาหารมาจนเต็มโต๊ะ

“เอาหมูพี่เสือ”

น้องแฮมชะโงกดูบนเตาย่าง เสือคีบหมูสามชั้นชิ้นใหญ่วางลงบนจาน น้องแฮมทำท่าจะคีบเข้าปากทันทีแต่ถูกพี่เสือร้องห้ามเสียก่อน

“อย่าเพิ่งน้องแฮม รอให้มันเย็นก่อน”

เสือใช้ช้อนตัดหมูให้เป็นชิ้นพอดีคำก่อนจะคีบขึ้นมาเป่าสองสามทีแล้วส่งให้น้อง

“อร่อย”

น้องแฮมยิ้มจนตาปิดเคี้ยวตุ้ย ๆ น่าเอ็นดู

“อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะครับ”

พอเห็นน้องชอบ แฟนที่ดีอย่างเสือก็จัดการคีบอาหารจากเตาหมูกระทะให้น้องแฮมจนพูนจาน

“เฮ้ย นั่นมันกุ้งผมนะ”

“มึงก็ย่างใหม่สิวะ ตักมาตั้งเยอะตั้งแยะ”

เสือไม่สนใจตั้งอกตั้งใจแกะกุ้งป้อนน้องที่เอาแต่เคี้ยวจนแก้มตุ๋ย

“ก็ทำไมพี่เสือไม่ย่างเองละ เอาแย่งของผมทำไม” โอ๊ตแกล้งทำเป็นโวยวายใส่พี่เสือไปอย่างงั้นแหละ ไม่ได้หวงจริงจังอะไรหรอก

“ให้พี่ย่างให้ไหมครับ”

โอ๊ตสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงคุ้นหู เป็นนะที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลังพร้อมกับพวกเพื่อนพี่เสืออีกสองคน ก่อนที่นะจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างเขา

“ทำไมมาช้าจังวะพวกมึง”

“กูมัวแต่วนหาที่จอดอยู่น่ะ”

พี่ที่ดูเหมือนจะชื่อนิวเป็นคนตอบ ส่วนอีกคนยกมือเรียกพนักงานนั่นรู้สึกจะชื่อเอหรือเอ้นี่แหละ โอ๊ตแอบเหลือบมอง

“พี่ ๆ สวัสดีครับ”

น้องแฮมยกมือไหว้เพื่อนพี่เสือพร้อมกับส่งยิ้มหวานโอ๊ตยกมือไหว้ตามไปด้วย ก่อนจะหันไปทำตาเขียวให้พี่เสือ

ไอ้พี่เสือนะไอ้เสือ ไม่บอกกันเลยว่าพวกเพื่อน ๆ ก็มาด้วย

“น้องแฮมนี่น่ารักจริง ๆ เสียดายไม่น่าเป็นแฟนไอ้เสือมันเลย” เอ้แกล้งเย้าเล่น

“อ้าว ไอ้เอ้ปากหมา มึงกลับบ้านไปเลยมึง” เสือแยกเขี้ยวใส่เพื่อน

“เพราะแบบนี้มันถึงต้องฉลองใหญ่ที่น้องยอมเป็นแฟนมันไงไอ้เอ้”

เสือปาตะเกียบในมือใส่หัวนิวทันทีที่พูดจบ เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งโต๊ะ ยกเว้นคนนั่งข้างนะที่เอาตะเกียบพลิกหมูบนกระทะอย่างเงียบ ๆ

“ข้าวโอ๊ตชอบกินอะไรมั่งครับ”

นะเอียงคอถามคนที่นั่งอยู่ข้างกันที่ดูเหมือนจะนั่งเงียบตั้งแต่ตอนที่พวกเขามาถึง

“ก็...กินได้หมด”

โอ๊ตตอบเสียงเบาแต่ไม่หันไปมองเอาแต่ก้มหน้าก้มตาคีบอาหารเข้าปากไม่พูดไม่จา

”งั้นกินเยอะ ๆ นะครับ”

กุ้งแม่น้ำตัวโตที่ถูกแกะอย่างเรียบร้อยพร้อมเข้าปากถูกวางลงบนจานทำให้โอ๊ตเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นรอยยิ้มของนะที่ส่งมาให้

“ไม่เป็นไรครับ ผมแกะเองได้”

หากนะเพียงแค่ยิ้ม ๆ แล้วใช้ช้อนส้อมแกะกุ้งในมือต่ออย่างชำนาญ

“หูย พี่นะแกะกุ้งเก่งจัง” น้องแฮมทำตาโตชื่มชมจนเสือทนไม่ได้

น้องแฮมจะชมคนอื่นต่อหน้าพี่เสือแบบนี้ไม่ได้

“พี่เสือก็แกะกุ้งให้น้องแฮมนะครับ นี่ไง”

เสือเอาส้อมจิ้มกุ้งป้อนถึงปากน้องแฮมอย่างเอาใจสุดฤทธิ์ สวีทกันไม่แคร์สายตาหมั่นไส้จากผู้ร่วมโต๊ะที่ถูกส่งมา

“แหม แกะกุ้งให้กูบ้างสิวะไอ้นะ กูก็อยากกินกุ้งเหมือนกัน”

เอ้ที่นั่งข้างกันแกล้งทำเป็นยื่นจานมาตรงหน้าเพื่อน นะหันไปยิ้มก่อนจะเอาหัวกุ้งที่แยกออกมาวางลงบนจานคืนให้

“อย่างมึงกินหัวกุ้งไปนะ”

“โห อะไรวะ นี่เพื่อนมึงเอง” เอ้ประท้วงทำเป็นโอดครวญดีดดิ้นพอให้น่าถีบ

“ก็เพราะเป็นเพื่อนไงมึง ถ้ามึงอยากกินกุ้งที่ไอ้นะแกะ มึงต้องเป็นอย่างอื่น”

นิวเอาตะเกียบชี้หน้าเอ้แต่สายตาแอบเหล่มองคนที่เป็น’อย่างอื่น’ของนะ เอ้มองตามสายตาของเพื่อนก่อนจะทำหน้ากรุ้มกริ่ม

“อ่อ ต้องเป็นคนพิเศษสินะ”

โอ๊ตลุกพรวดขึ้นทันทีทำเอาคนทั้งโต๊ะหันไปมองด้วยความตกใจ

“เราจะไปตักของเพิ่ม แฮมจะเอาอะไรไหม” โอ๊ตถามเสียงนิ่ง

“งั้นเอาสามชั้นอีกนะโอ๊ต”

โอ๊ตพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไปยังไลน์อาหารที่อยู่ไม่ไกล

“พวกมึงนี่มันจริง ๆ เลย ถ้าน้องโกรธกูขึ้นมามื้อนี่พวกมึงจ่ายกันเองเลย”

นะชี้หน้าคาดโทษเพื่อนทั้งสองคนที่ทำหน้าเจื่อนแล้วรีบลุกตามโอ๊ตไป

“สมน้ำหน้าพวกมึงสองคน” เสือได้ทีซ้ำทันที

“กูก็แค่แหย่เล่น ๆ”

“นี่น้องมันจะโกรธหรือเปล่าวะ” นิวถามเสียงอ่อย เห็นน้องมันเดินหน้าหงิกไปเลย

“ระวังโอ๊ตมันจะกระโดดเตะปากมึงละกัน ยิ่งดุ ๆ อยู่”

“ตัวเท่านั้นอ่ะนะ” เอ้ทำท่าไม่เชื่อ

“มึงคิดว่าโอ๊ตมันหงิม ๆ หรือไง ถ้ามันไม่มีดีพอตัว กูไม่กล้าฝากให้มันช่วยดูน้องแฮมหรอก”

“อย่างไงวะ”

“เห็นอย่างนั้นเทควันโดสายดำเลยนะ เรียนมาตั้งแต่ประถม” เสือเอาตะเกียบชี้หน้าเพื่อนทั้งสองคน “พวกมึงระวังปากไว้เหอะ”

นิวกับเอ้สบตากัน ไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่เสือบอก แต่เห็นท่าทางไอ้เสือมันก็ไม่น่าจะโกหก

“แล้วแบบนี้ไอ้นะมันจะโดนอะไรเหรอวะ” เอ้ลองถามดู

“ก็ถ้ามันไม่คิดจะปล้ำน้องก็คงไม่เป็นไรหรอก”

เสือพูดแค่นั้นแล้วก็หันไปสนใจเทคแคร์แฟนเด็กของตนต่อ ปล่อยให้เพื่อนทั้งสองมองหน้ากันทำตาปริบ ๆ

 

นะรีบเดินตามโอ๊ตที่คว้าจานมาตักหมูสามชั้นตามที่เพื่อนขอ เขาจึงเดินเข้าไปเพื่อจะช่วยถือ

“ให้พี่ช่วยตักไหมครับข้าวโอ๊ต”

โอ๊ตเพียงแค่ชายตามองก่อนจะหันกลับไปสนใจไลน์อาหารต่อ

“ไม่ต้องหรอก พี่อยากตักอะไรก็แล้วแต่พี่เถอะครับ”

“ข้าวโอ๊ตชอบกินปลาหรือว่าหมึกไหมครับ”

“ไม่เป็นไรครับ”

โอ๊ตบอกปัดแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ ยืนจานหมูสามชั้นให้แฮมที่ยิ้มแฉ่งขอบคุณก่อนจะนั่งเงียบ นะเดินตามมานั่งด้วยพยายามจะชวนน้องคุยแต่โอ๊ตก็ตอบเพียงครับกับไม่ครับ จนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศกร่อย ๆ ผิดแผนที่นะอุตส่าห์ขอให้เสือช่วยขอให้น้องแฮมชวนโอ๊ตออกมากินหมูกระทะด้วยกันเพื่อที่นะจะได้มีโอกาสพูดคุยกับโอ๊ตมากขึ้น นิวกับเอ้ทำหน้าสำนึกผิด กินหมูกระทะแบบไม่ค่อยแฮปปี้นักจะมีเพียงก็แต่คู่รักคู่ใหม่อย่างพี่เสือกับน้องแฮมเท่านั้นที่ดูจะกระหนุงกระหนิงกันไม่สนดราม่าใด ๆ

พอเห็นว่าอิ่มกันแล้วเสือก็เรียกเช็คบิล แล้วหันมาถามว่าแต่ละคนจะกลับกันอย่างไง

“ข้าวโอ๊ตกลับกับพี่นะครับ หอเราอยู่ทางเดียวกัน”

นะเอ่ยปากชวนคนข้างกายทันที

“เอ่อ ๆ งั้นโอ๊ตไปกับไอ้นะมันละกัน พี่จะได้ไม่ต้องอ้อมไปส่ง”

โอ๊ตหันไปมองหน้าพี่เสือที่เสหลบสายตาหันไปจับผมของแฮมเล่น เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้าทำเอานะอมยิ้ม

“ก็ได้ครับ”

“งั้นเดี๋ยวกูกลับกับไอ้นิว มันจะแวะไปเอาหนังสือที่หอกูพอดี”

เอ้บอกแบบนั้น หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ โอ๊ตเดินตามนะมายังรถมาสด้าสีขาวที่เขาเคยนั่งมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้

“เชิญครับ”

โอ๊ตมองนะที่เปิดประตูรถให้ด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก แต่ก็ยอมขึ้นไปนั่งบนรถแต่โดยดี ซอยที่อยู่ของหอพักของพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้ไกลจากร้านหมูกระทะ ใช้เวลาไม่นานรถของนะก็เลี้ยวเข้าซอย นะเหลือบมองคนที่นั่งเงียบทางที่นะขับรถออกมาจากร้าน เขารู้ว่าน้องไม่พอใจในสิ่งที่นิวกับเอ้พูดที่โต๊ะ

“พี่ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะครับ ที่พูดแบบนั้น พวกมันอาจจะพูดจาไม่เข้าหูไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาอะไรไม่ดีหรอก”

โอ๊ตเม้มริมฝีปากก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา

“ผมไม่ชอบที่เพื่อนพี่พูดแบบนั้น ผมไม่ตลกด้วยหรอกนะ”

“พี่ขอโทษ พวกมันแค่อยากจะล้อเราเล่น”

ก่อนที่คำพูดในใจจะพรั่งพรูออกมาให้รู้ถึงความอัดอั้นตันใจ

“ผมก็ไม่ชอบให้พี่ทำกับผมแบบนี้ด้วย ผมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะให้พี่มาคอยนั่งเฝ้าทุกวัน ผมไม่ชอบสายตาที่พี่มองผมเลย ผมถามจริง ๆ พี่คิดอย่างไงกับผมเหรอ คิดจะมาปั่นหัวผมเล่นสนุก ๆ หรือไง บอกเลยนะว่าผมไม่ชอบเป็นของเล่นใคร”

นะงุนงงกับท่าทีของโอ๊ตที่อยู่ ๆ น้องก็ดูเหมือนจะน็อตหลุด เขารีบตบไฟเลี้ยวหักพวงมาลัยเข้าจอดข้างทางตรงหน้าร้านมินิมาร์ท เมื่อจอดรถเรียบร้อยหันมาก็พอกับแววตาเอาเรื่องของเจ้าลูกแมวที่พร้อมจะแยกเขี้ยวใส่เขา

นะยิ้มให้อย่างใจเย็น ซึ่งไม่ได้ทำให้โอ๊ตรู้สึกเย็นลงเลย

“พี่ขอโทษนะครับถ้าทำให้ข้าวโอ๊ตรู้สึกไม่ดี แต่พี่ไม่ได้จะแกล้งข้าวโอ๊ตเล่นนะ” นะหันหน้ามาสบตากับน้องตรง ๆ“พี่บอกตามตรงว่าพี่สนใจข้าวโอ๊ต”

“ผมไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่พี่เคยควง”

อย่านึกว่าโอ๊ตจะไม่รู้เรื่องข่าวคาวมากมายของพี่เสือกับแก๊งค์เพื่อน

“พี่รู้ครับ เมื่อก่อนพี่อาจจะชอบผู้หญิงพวกนั้น แต่ตอนนี้พี่ชอบข้าวโอ๊ตนี่ครับ”

โอ๊ตรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำสารภาพอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ พูดออกมาได้ไม่เขินบ้างหรือไง

“พี่อย่ามาพูดพล่อย ๆ แบบนี้นะ บอกวันก่อนชอบแบบหนึ่ง วันนี้ชอบอีกแบบ แล้วพรุ่งนี้พี่ไม่เปลี่ยนใจอีกเหรอ”

นะปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วเขยิบเข้าไปใกล้โอ๊ตที่พอเห็นแบบนั้นก็ถอยไปจนหลังติดกับประตูรถ

“ข้าวโอ๊ตก็ให้โอกาสพี่พิสูจน์สิครับ”

สายตาของนะที่กำลังสะท้อนภาพของเขาอยู่ไม่ได้มีท่าทีว่าล้อเล่น และไม่ได้มีรอยยิ้มแต้มที่มุมปากนั้นเหมือนทุกที

                “จะทำอะไรน่ะ...”

                นะขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นจนห่างจากใบหน้าตื่น ๆ ของโอ๊ตแค่คืบ

                “พี่อยากให้โอ๊ตรู้ว่าพี่จริงจัง”

“ตะ แต่...ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ชอบพี่ พี่ไม่เข้าใจเหรอ”

โอ๊ตเริ่มตะกุกตะกักแต่ก็ทำใจกล้าขู่ฟู่

“แต่ข้าวโอ๊ตยังไม่ได้รู้จักพี่ดีเลยนะ”

“พี่ก็ไม่ได้รู้จักผมดีเหมือนกัน” โอ๊ตสวนกลับ

แล้วมาพูดว่าชอบง่าย ๆ แบบนั้นได้อย่างไง...

“งั้นก็ให้โอกาสเราสองคนทำความรู้จักกัน มาเรียนรู้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไงก่อนดีไหมครับ แบบนี้แฟร์ ๆ ไปเลย”

โอ๊ตขมวดคิ้ว หมายความว่าอย่างไงกันที่บอกว่าเรียนรู้กัน

“ตกลงตามนี้นะครับ ตั้งแต่พรุ่งนี้พี่จะจีบเราแบบจริง ๆ จัง ๆ เตรียมใจไว้เลยนะ”

“เดี๋ยว อะไรของพี่ ผมยังไม่ได้ตกลงเลย”

นะถอยกลับมาที่เดิมก่อนจะสตาร์ทรถ ไม่สนใจเสียงประท้วงของคนที่นั่งมาด้วย

“หอข้าวโอ๊ตอยู่ตรงไหนครับ”

คนถูกถามทำหน้าหงิกก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยอมบอกโดยดี

“ตึกสีเทาที่อยู่ข้างมือข้างหน้า”

เขาอยากจะกลับห้องเต็มแก่แล้วเหมือนกัน

“พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมงครับ”

นะถามขึ้นเมื่อรถจอดสนิทที่หน้าหอพักที่โอ๊ตบอก โอ๊ตที่กำลังจะปลดเข็มขัดหันมาถามด้วยความสงสัย

“ถามทำไม”

“ก็ตอบหน่อยสิครับ”

คนตรงหน้ากลับมาเป็นพี่นะคนเดิมที่มีรอยยิ้มอยู่บนหน้าเป็นนิจ พอเห็นว่าโอ๊ตนิ่งไม่ตอบ เขาก็เพียงแค่ยักไหล่

“งั้นพี่โทรไปถามน้องแฮมก็ได้”

“เก้าโมง”

โอ๊ตตอบห้วน ๆ แต่ก็ทำให้นะพอใจ

“งั้นแปดโมงสิบห้าพี่จะมารับไปกินข้าวเช้านะครับ”

“เฮ้ย เดี๋ยว ผมไม่ได้บอกว่าจะไปกับพี่สักหน่อย”

คนที่โดนมัดมือชกโวยวายทันที นะไม่สนใจ เขากดปลดล็อคประตูรถให้แล้วหันไปส่งยิ้มให้คนที่ทำท่าราวกับกำลังพองขนพร้อมจะกระโดดข่วน

“ฝันดีนะครับ ถ้าจะให้ดีก็ฝันถึงพี่ด้วยนะครับ”

โอ๊ตทำตาโตก่อนจะรีบเปิดประตูลงจากรถแล้วจ้ำฝีเท้าขึ้นตึกไปทันที กลัวว่านะจะทันเห็นสีหน้าของเขาว่ามันขึ้นสีระเรื่อ

 

TBC...

 ขอโทษที่ตอนนี้มาช้านะคะ >_<

พี่นะเริ่มเอาจริงแล้ว ส่วนพี่เสือกับน้องแฮมเข้าโซนสวีทไม่แคร์เวิล์ดไปแล้วค่ะ 555

 
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 13 จับแมวมือเปล่า [17/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-11-2018 21:00:42
น่าร้ากกก
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 13 จับแมวมือเปล่า [17/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 17-11-2018 21:11:23
พี่เสือกับน้องแฮมสวีทกันน่ารักกกกกกกก
พี่นะสู้ๆ ข้าวโอ๊ตก็ใจแข็งไปนานๆเลย  :t2:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 13 จับแมวมือเปล่า [17/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-11-2018 22:36:01
โอ๊ตเจอแบบนี้ไปก็ใจบางไปสิ :ruready
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 13 จับแมวมือเปล่า [17/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-11-2018 23:00:03
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 13 จับแมวมือเปล่า [17/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 18-11-2018 13:14:48
ข้าวโอ้ตรีบๆใจอ่อนให้พี่นะเถอะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 13 จับแมวมือเปล่า [17/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-11-2018 05:17:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 13 จับแมวมือเปล่า [17/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 20-11-2018 07:59:01
 :impress2: ชอบความไม่แคร์เวิล์ดใดๆของคู่เสือแฮม  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 14 แมวกับหนู [28/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 28-11-2018 22:48:46
ตอน แมวกับหนู

 

                หลังจากที่โดนพี่เสือล่ำลาบนรถจนหนำใจ น้องแฮมก็ลงมาจากรถซีอาร์วีคันเดิมที่โดนลุงยามเขม่นเพราะมาจอดแช่ตรงหน้าคณะได้ทุกวัน แฮมมองไปรอบ ๆ เพื่อหาเพื่อนสนิท ปกติโอ๊ตจะมาถึงก่อนเขา แต่วันนี้มองไปจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเพื่อนรัก แฮมจึงนั่งรออยู่แถว ๆ โต๊ะหินอ่อนตรงหน้าตึกก่อน

                “อ้าว น้องแฮม ทำไมมานั่งคนเดียวละจ๊ะ”

                แฮมหันไปตามเสียงเรียก พอเห็นว่าเป็นรุ่นพี่คณะก็ยิ้มกว้างให้พี่ทั้งสองคนที่เดินเข้ามาหา

                “น้องแฮมรอโอ๊ตน่ะฮะ”

                พี่สาวทั้งสองสบตากันก่อนจะนั่งลงประกบน้องแฮมซ้ายขวา

                “น้องแฮมเป็นน้องพี่เสือจริง ๆ เหรอ”

                “เปล่าฮะ น้องแฮมเป็นน้องข้างบ้านของพี่เสือ”

                “อยู่บ้านติดกันเลยเหรอ”

                น้องแฮมพยักหน้า อยู่บ้านติดกันตั้งแต่น้องแฮมเกิดเลยละ

                “งั้นน้องแฮมก็ต้องรู้เรื่องพี่เสือเยอะล่ะสิ” สองสาวซักด้วยความอยากรู้ ก็แหม นั่นพี่เสือหนุ่มฮอตของมหาลัยเชียวนะ

                น้องแฮมย่นคิ้ว ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเรื่องของพี่เสือนี่หมายถึงเรื่องไหนบ้าง ถ้าถามว่าพี่เสือเรียนได้เกรดเท่าไหร่ น้องแฮมก็ตอบไม่ได้หรอกนะ

                “พี่เสือมีแฟนหรือยัง เขาคบใครอยู่หรือเปล่า”

                ถ้าเป็นเรื่องนี้น้องแฮมรู้ จึงยิ้มกว้างตอบอย่างฉะฉาน

                “มีแล้วฮะ”

                “หือ ใครเหรอแฟนพี่เสือ เรียนอยู่ที่นี่ไหม คณะไหนเหรอ”

                “เรียนที่นี่แหละฮะ คณะศึกษา”

                “ห๊ะ เด็กคณะเราเหรอ” รุ่นพี่หันไปถามเพื่อนด้วยความฉงน “ใครวะแก ฉันไม่เห็นพี่เสือควงสาวคณะเรามาตั้งนานแล้วนะ”

                “นั่นน่ะสิ แน่ใจนะน้องแฮมว่าไม่ได้จำผิด” ประโยคหลังหันกลับมาถามหนุ่มรุ่นน้อง

                น้องแฮมพยักหน้า จะจำผิดได้อย่างไง ไม่มีใครจำคณะที่ตัวเองเรียนผิดหรอกน่า

                รุ่นพี่ทั้งสองงงหนักกว่าเดิม กำลังจะถามต่อว่าผู้หญิงที่น้องแฮมบอกว่าเป็นแฟนพี่เสือเป็นใครก็พอดีกับที่แฮมหันไปเห็นคนที่ตัวเองกำลังรออยู่ลงมาจากรถเก๋งสีขาวตรงหน้าคณะ

                “โอ๊ตมาแล้ว น้องแฮมไปก่อนนะครับ”

                น้องแฮมส่งยิ้มให้พี่สาวทั้งสองที่มานั่งเป็นเพื่อนก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนสนิท

                “โอ๊ต”

                “อ้าว แฮม มานานแล้วเหรอ”

                “อือ เมื่อกี้เราเห็นมีคนมาส่งโอ๊ตด้วยเหรอ” แฮมถามเพราะปกติโอ๊ตจะนั่งพี่วินมา ไม่เคยเห็นมีใครมาส่งมาก่อน

                “ใคร อะไร ไม่มี๊” โอ๊ตชะงักก่อนจะรีบปฎิเสธ

                ทำไมโอ๊ตต้องทำเสียงสูงแบบนั้นด้วยละ แฮมมองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย โอ๊ตพิลึกจัง ก็เขาเห็นโอ๊ตลงมาจากรถคันนั้นชัด ๆ ยังจะบอกไม่มีอีก

                “มีสิ รถเก๋งสีขาวอ่ะ จอดที่ข้างคณะ เราเห็นนะ”

                “อ๋อ เพื่อนน่ะ เจอแถว ๆ หอ เขาก็เลยให้ติดรถมาด้วย”

                พอเห็นว่าแฮมไม่เชื่อ เขาจึงกลบเกลื่อนไปแบบนั้น

                “อ๋อ”

แฮมพยักหน้างึกงักแล้วไม่ถามอะไรต่อทำให้โอ๊ตโล่งใจไปได้เปาะหนึ่ง

ก็เพราะคนที่มาส่งเขานั่นแหละ เมื่อคืนเขาก็บอกแล้วว่าไม่ไปด้วย แต่พอเขาเดินลงมาจากหอก็เจอรถพี่นะจอดรออยู่หน้าหอ พอเขาไม่ยอมขึ้นก็บอกว่าจอดรถนานแล้วถ้าไม่รีบขึ้นก็จะขวางทางเข้าออกหอพักอยู่แบบนี้ โอ๊ตจึงต้องยอมขึ้นรถมาด้วยอย่างเสียไม่ได้

เอ่อ...ก็แค่ไปแวะกินโจ๊กด้วยอีกอย่าง

ปกติเขาก็หาอะไรกินแถวหน้าหอไม่ก็ซื้อของกินในเซเว่นก่อนมาเรียนนั่นแหละ แต่พอพี่นะมารอที่หน้าหอแบบนี้เขาก็ไม่ทันได้แวะที่ไหน ก็เลยต้องยอมไปกินโจ๊กตามที่คนขับรถพาไป

ไม่ได้เต็มใจไปหรอกนะ...ถึงโจ๊กที่ไปกินมันจะอร่อยก็เหอะ

“โอ๊ต ๆ”

โอ๊ตสะดุ้งเมื่อถูกแตะเข้าที่แขนเบา ๆ พอหันไปก็เห็นแฮมมองเขาตาใสอยู่

“มีอะไรเหรอ”

“เราขอยืมเลคเชอร์หน่อยสิ เหมือนคาบที่แล้วเราจะจดไม่ครบอ่ะ”

“อ่า..เอาไปสิ” โอ๊ตยืนสมุดจดเลคเชอร์ให้ไป รู้สึกแปลก ๆ ในใจชอบกล

บ้าจริง...เมื่อกี้เขาเผลอนึกถึงผู้ชาย ๆ นั้นได้อย่างไงกัน

 

                “ตกลงตอนไปส่งโอ๊ตเมื่อวานเป็นไงบ้างวะ”

                เมื่อนะเดินมายังโต๊ะที่กลุ่มเพื่อน ๆ นั่งกันอยู่ก่อน เสือก็เปิดประเด็นถามทันที ทั้งนิวทั้งเอ้ก็หันมาทำตาลุกวาวด้วยความสนใจ

                “ก็ไม่อย่างไง” นะตอบยิ้ม ๆ เรียกความหมั่นไส้จากเพื่อนได้ไม่น้อย

                “มึงเล่ามาเสียดี ๆ กูอุตส่าห์ช่วย ตกลงมึงกับโอ๊ตนี่อย่างไงแน่” เสือเอานิ้วเคาะโต๊ะรอคำตอบ ทำเป็นยึกยักอยู่ได้

                “กูก็แค่ไปส่งน้องที่หอ ก็ไม่ได้มีอะไร”

                “ไม่มีอะไรของมึงนี่หมายความว่าตอนนี้ยังไม่มี แต่ต่อไปมึงจะอะไรกับน้องมันใช่ไหมวะ”

                เอ้ยืนหน้าเข้ามาถามหยอก แต่นะก็เพียงแค่ยิ้มกริ่มไม่ยอมตอบ

                “มึงนี่มันชั่วร้าย คิดจะหลอกลวงเด็กชัด ๆ”

                “ด่ากูนี่ไม่ดูตัวเองเลยนะไอ้เสือ”

                “อะไร น้องแฮมของกูนี่รักจริงหวังแต่งโว้ย กูเลี้ยงดูทะนุถนอมมาเองกับมือจนโตมาน่ารักขนาดนั้น เรื่องอะไรกูจะยอมเสียน้องให้คนอื่นว่ะ”

                นะส่ายหัวยิ้มขำกับคำพูดของเพื่อนสนิท เลี้ยงต้อยมาตั้งแต่น้องยังเด็ก ๆ ยังจะมีหน้ามาคุย

“เอ่อ กูไปฉี่ก่อนนะ เดี๋ยวมา”

                เสือบอกก่อนจะลุกออกไปห้องน้ำ เอ้รีบกระเถิบเข้าไปใกล้นะทันที

                “กูถามจริง ๆ ไอ้นะ มึงชอบน้องเขาตรงไหนวะ แต่ก่อนกูก็เห็นมึงควงแต่สาวอกตู้ม ๆ”

                “ไม่รู้สิ”

                “อ้าว” ทั้งเอ้ทั้งนิวต่างร้องออกอย่างพร้อมเพรียงและทำหน้างงเต๊ก

                “กูรู้แค่ว่ากูชอบน้องเขา ทำไมต้องมีเหตุผลเยอะแยะในการจะชอบใครสักคนด้วยวะ ชอบก็คือชอบเปล่าวะ”

                “เอ่อ ว่ะ”

                “ที่ไอ้นะพูดมันก็ถูกนะ” นิวพยักงึกงักเห็นด้วยกับสิ่งที่เพื่อนพูดมา

                ชอบก็คือชอบ ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอะไรให้มันมากมาย

                “ไอ้นะ กูเตือนมึงหน่อยละกัน” นิวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาต้องเตือนเพื่อนไว้ก่อนด้วยความเป็นเพื่อนที่แสนดี

                “คืองี้น้องโอ๊ตของมึงน่ะ เห็นตัวเล็ก ๆ อย่างงั้นเทควันโดสายดำเลยนะมึง”

                “ใช่ เกิดมึงทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า จะโดนน้องเขากระโดดเตะก้านคอเอานะโว้ย” เอ้สำทับพยักหน้ายืนยัน

                “พวกมึงไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนกันวะ” นะขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อได้ยินเรื่องที่เพื่อนบอก

                “ก็ไอ้เสือมันเล่าให้พวกกูฟังเมื่อวานตอนที่มึงลุกตามน้องไป มึงจะทำอะไรก็ระวังตัวหน่อยนะ”

                “ใช่ ๆ จะคิดจับน้องมันกดก็ระวังจะโดนเตะสลบละ”

                “ไอ้บ้า กูไม่ได้ชั่วแบบนั้น” นะส่ายหัวกับความคิดของพวกมัน นี่เห็นเขาเป็นพวกหื่นกาม จ้องแต่จะจับน้องมันกินอย่างเดียวหรือไง “กูว่าพวกมึงแม่งโดนไอ้เสือมันอำมากกว่า”

                “หรือไอ้เสือมันจะหลอกเราจริง ๆ วะนิว”

                เมื่อเห็นนะไม่เชื่อแถมยังขำเรื่องที่พวกเขาบอก นิวกับเอ้ก็หันมามองหน้ากัน

                “กูก็ไม่รู้ว่ะ”

 

                หลังจากที่อาจารย์ปล่อยในคาบสุดท้าย โอ๊ตก็รีบเก็บของข้าวอย่างรวดเร็ว ส่วนแฮมก็ยังเอ้อระเหยนั่งขีด ๆ เขียน ๆ อะไรเล่นอยู่

                “แฮม วันนี้พี่เสือเลิกกี่โมง”

                “พี่เสือบอกวันนี้เลิกตั้งแต่บ่ายสามแล้ว ถ้าเราเลิกแล้วให้ไลน์ไปบอก”

                “อ้าว งั้นก็รีบไลน์ไปบอกดิ มัวแต่นั่งเล่นอยู่นั่นแหละ” โอ๊ตเร่งเพื่อน นี่มันก็สี่โมงแล้ว เขาจะได้รีบไปเหมือนกัน

                “เราก็กำลังจะพิมพ์ไปนี่ไง”

                แฮมหยิบโทรทัศน์มือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาพี่เสือ โอ๊ตมองอย่างละเหี่ยวใจในความชักช้าของเพื่อน

                “พิมพ์เสร็จแล้วก็รีบเก็บของลงไปรอที่หน้าตึกได้แล้ว เร็ว ลุก”

                โอ๊ตหยิบกระเป๋าเป้าสีแดงของแฮมยื่นให้เจ้าตัว ก่อนจะดึงแขนให้รีบออกจากห้อง แฮมทำปากยู่ใส่เพื่อนสนิทที่ดูลุกลี้ลุกลนชอบกล

                “เรารู้แล้วน่า ทำไมข้าวโอ๊ตต้องเร่งด้วยอ่ะ”

                “ก็เรารีบ แล้วก็บอกหลายทีแล้วไงว่าไม่ให้เรียกข้าวโอ๊ต”

                โอ๊ตหันไปเอ็ดแฮมด้วยความหงุดหงิด

                “ทีพี่นะทำไมโอ๊ตให้เรียกได้อ่ะ เราได้ยินนะ ไม่เห็นโอ๊ตว่าอะไรเลย” แฮมเบ้ปากเดินตามโอ๊ตที่ลงบันไดไปก่อน

                เขาได้ยินพี่นะเรียกโอ๊ตว่าข้าวโอ๊ตทุกคำ ไม่เห็นโอ๊ตจะเคยว่า เขาเรียกมาก่อนแท้ ๆ กลับโดนโอ๊ตบ่นตลอด ไม่เห็นจะยุติธรรมเลย

                “นั่นก็ไม่ได้อยากให้เรียก เขาเรียกเอง”

                เขาห้ามพี่นะได้เสียทีไหนละ ก็เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

                “แล้วก็มาห้ามแต่เรา ข้าวโอ๊ตลำเอียง”

                แฮมยังไม่หยุดบ่น โอ๊ตตวัดสายตามองด้วยความรำคาญ

                “แฮมอย่ามางอแงใส่ เราไม่ใช่พี่เสือนะ”

                “ชิ” แฮมได้แต่ทำหน้าง้ำเมื่อโดนเพื่อนว่า

                ทั้งสองคนเดินมาเถียงกันมาตลอดจนถึงโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะที่แฮมมักนั่งรอพี่เสืออยู่ตรงนี้เป็นประจำ

                “พี่เสือใกล้จะมายัง”

                โอ๊ตกดมือถือดูเวลา สายตาก็สอดส่องไปรอบ ๆ เพราะรับปากพี่เสือไว้จะคอยดูไอ้เจ้าหนูแฮมเวลาอยู่ที่คณะหลังจากที่ไปรายงานพี่เสือว่ามีรุ่นพี่บางคนเข้ามาเกาะแกะเด็กของพี่เสือ เขาก็เลยต้องอยู่เป็นเพื่อนแฮมจนกว่าพี่เสือจะมาตามที่รับปากไว้

                “พี่เสือบอกรอแป๊บนึง พี่เสือคุยกับอาจารย์ใกล้จะเสร็จละ เดี๋ยวมา”

                ทันใดนั้นสายตาของโอ๊ตก็พลันเหลือบไปเห็นรถคันสีขาวคุ้นตาทั้งรุ่นและทะเบียน โอ๊ตลุกพรวดขึ้นทันทีรีบบอกกับแฮม

                “แฮมรอพี่เสือคนเดียวได้ใช่ไหม เดี๋ยวเราต้องรีบไปแล้ว”

                “อ้าว โอ๊ตจะรีบไปไหน วันนี้ไม่ต้องไปทำงานพิเศษไม่ใช่เหรอ” แฮมทำหน้างง ๆ กับท่าทางของเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนกำลังจะหนีใครอย่างนั้นล่ะ

                “เอ่อ...เรามีธุระ ต้องไปซื้อของน่ะ”

                “อือ” แฮมพยักหน้ารับ

                “งั้นเราไปก่อนนะ แฮมรอพี่เสืออยู่ตรงนี้ ใครมาชวนไปไหนก็ห้ามไป เข้าใจไหม” ก่อนไปโอ๊ตสำทับไว้อีกที ต้องกันไว้ก่อน ไม่งั้นเจ้าหนูนี่เผลอไปใครไปจะยุ่งกันใหญ่

                “อือ รู้แล้วน้า” แฮมทำปากยื่นใส่เพื่อน ทั้งพี่เสือทั้งโอ๊ตเลยชอบย้ำเรื่องนี้กับเขาจัง

                โอ๊ตเห็นรถคันนั้นจอดที่หน้าคณะแล้ว เขาก็รีบลาแล้ววิ่งหายไปทางด้านหลังคณะทันที ทิ้งให้แฮมมองตามตาปริบ ๆ

                สงสัยต้องเป็นของสำคัญมากแน่ ๆ โอ๊ตถึงรีบไปขนาดนั้น

                “น้องแฮม”

                “พี่นะ สวัสดีครับ”

                แฮมยกมือไหว้เพื่อนพี่ชาย นะมองไปรอบ ๆ เมื่อกี้ตอนจอดรถเขาว่าเขายังเห็นเจ้าแมวน้อยนั่งคุยอยู่กับน้องแฮมอยู่เลย แต่พอลงรถมาโอ๊ตกลับหายตัวไปไหนแล้วล่ะ

                “โอ๊ตล่ะครับ เมื่อกี้พี่ยังเห็นอยู่กับแฮม”

                “กลับไปแล้วฮะ โอ๊ตบอกรีบไปซื้อของ”

                หึ คิดว่าแค่นี้จะหนีเขาพ้นเหรอข้าวโอ๊ต

                นะยิ้มให้กับตัวเองที่อุตส่าห์รีบมาเมื่อรู้จากเสือว่าแฮมเลิกเรียนแล้ว เขายืนคุยกับแฮมอีกสองสามคำก็รีบขอตัว เขาจำได้ว่าวันนี้น้องไม่มีงานที่ร้านกาแฟ ถ้าอย่างนั้นก็คงจะกลับหอเลย ไปดักรอที่หอน่าจะได้ดีกว่า

                แฮมมองตามเพื่อนพี่ชาย วันนี้มีแต่คนรีบร้อนแฮะ ส่วนเขามีเวลาเหลือเฝือนั่งรอพี่เสือชิล ๆ ต่อไปได้สบายมาก แต่นั่งอยู่คนเดียวก็เหงา ๆ เหมือนกันนะ

                เขาหันซ้ายหันขวาชะเง้อมองไปทางหน้าคณะก็ไม่เห็นพี่เสือมาสักที พลันสายตาก็เห็นคนรู้จัก แฮมยิ้มกว้างทันที

                “พี่ครีมฮะ พี่ครีม”

แฮมตะโกนเรียกพร้อมกับโบกมือหยอย ๆ ให้กับสาวสวยที่กำลังเดินผ่านมา คนที่ถูกเรียกพอเห็นว่าเป็นแฮมก็ยิ้มให้แล้วเดินเข้ามาหา

                “เจอน้องแฮมพอดีเลย พี่กำลังคิดว่าจะโทรหา”

                ครีมยิ้มหวานให้ก่อนจะยื่นถุงกระดาษในมือให้กับแฮม

                “พี่ไปเที่ยวญี่ปุ่นมา ซื้อขนมมาฝากน้องแฮมเยอะแยะเลย”

                พอได้ยินว่าเป็นขนมของชอบ แฮมก็ยิ้มจนตาหยี รีบยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะรับของมาเปิดดู

หูย มีขนมน่าอร่อยเต็มเลย

“พี่ครีมใจดีที่สุดเลยฮะ”

“น่ารักจังเลยเรา” ครีมยกมือขึ้นจับแก้มป่อง ๆ ของน้องแฮมด้วยความหมั่นเขี้ยว เด็กอะไรน่ารักจริง ๆ

พี่ครีมสาวสวยปีสี่แห่งคณะศึกษาศาสตร์เป็นพี่รหัสของเขาเอง น้องแฮมชอบพี่ครีมมาก ๆ เลยละ เพราะนอกจากจะสวยแล้วยังใจดีกับน้องแฮมสุด ๆ เลย ชอบซื้อขนมมาให้น้องแฮมบ่อย ๆ

“น้องแฮมแกะขนมกินเลยได้ไหมฮะ”

แฮมเงยหน้ามองพี่รหัสตาแป๋วทำเอาครีมใจอ่อนยวบ อยากจะจับน้องฟัดสักที ทำไมถึงได้น่ารักแบบนี้นะ

“เอาเลยน้องแฮม ชอบอันนั้นก็บอกพี่นะ ไว้พี่จะเอามาให้อีก”

แฮมแกะขนมในมือเอาเข้าปากก่อนจะทำหน้าฟินจนครีมยิ้มด้วยความเอ็นดู

“แล้วนี่น้องแฮมทำไมมานั่งอยู่คนเดียวละคะ ไม่กลับบ้านเหรอ”

“น้องแฮมรอพี่เสือมารับน่ะฮะ”

“พี่เสือ...”

“น้องแฮม กลับบ้านได้แล้วครับ”

ยังไม่ทันที่ครีมจะพูดจบ เจ้าของชื่อก็ส่งเสียงเรียกน้องรหัสของเธอมาแต่ไกล พอหันไปมองก็ใช่เสือคนเดียวกับที่เธอนึกไว้จริง ๆ ด้วย

“อ้าว ครีม”

เมื่อเสือเห็นหญิงสาวที่นั่งอยู่กับแฟนเด็กของเขาก็เอ่ยทักด้วยความคุ้นเคย

“หวัดดีจ๊ะเสือ”

ครีมยิ้มให้ตามประสาคนรู้จักกัน ตอนอยู่ปีสองเธอและเสือเคยมีโอกาสถือป้ายในงานกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย ก็เลยรู้จักกันตั้งแต่ตอนนั้น ตอนแรกมีข่าวว่าเธอกับเสือกิ๊กกั๊กกันด้วยซ้ำ

“บังเอิญจัง ครีมเป็นพี่รหัสของน้องแฮมน่ะ นี่ก็แวะเอาขนมมาฝาก”

“อ้อ ที่น้องแฮมบอกว่ามีพี่รหัสทั้งสวยทั้งใจดีก็คือครีมสินะ”

มิน่าละ เสือมองเจ้าหนูแฮมที่เอาแต่เคี้ยวขนมจนแก้มตุ้ย ไม่ได้สนใจเขาที่เดินมาหาเลยสักนิด

“กินขนมเยอะขนาดนั้นเดี๋ยวก็กินข้าวเย็นไม่ได้หรอกน้องแฮม เอาเก็บไว้กินวันอื่นบ้างก็ได้”

พี่เสือแย่งถุงขนมในมือน้องพร้อมกับคว้ากระเป๋าเป้สีแดงใบเก่งของน้องมาถือไว้

“ง่ะ ขอน้องแฮมกินอีกหน่อยไม่ได้เหรอฮะ”

น้องแฮมทำเสียงงุ้งงิ้งกระพริบตากลมโตออดอ้อนพี่เสือให้เห็นใจอนุญาตให้กินขนมของโปรดอีกสักคำสองคำก็ยังดี

“ไม่ได้ครับ กินเยอะไปแล้วนะเรา”

“น้องชายเสือนี่น่ารักจังเลยนะ”

เห็นละอยากจะฟัดจริง ๆ ครีมมองน้องแฮมที่กำลังทำแก้มป่องใส่พี่ชายด้วยความรู้สึกหมั่นเขี้ยวสุด ๆ

ส่วนเสือนั่นก็ยืดใหญ่เมื่อมีคนชมน้องแฮมสุดที่รักของเขา น้องแฮมน่ะน่ารักที่สุดอยู่แล้ว

“ป่ะ กลับบ้านกันได้แล้วครับ”เสือยื่นมือให้น้องแฮมจับก่อนจะดึงเจ้าหนูน้อยให้ลุกขึ้น

“เดี๋ยวก่อน อย่าลืมเอาขนมไปด้วย”

ครีมหยิบถุงขนมที่วางไว้ส่งให้ หากเป็นเสือที่ยื่นมือมารับก่อนจะส่งยิ้มขอบคุณ

“งั้นเสือไปก่อนนะครีม ไว้วันหลังค่อยคุยกัน”

หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะโบกมือตอบให้กับน้องแฮมที่ยกมือขึ้นบ๊ายบาย ครีมมองตามทั้งสองจนขึ้นรถไปแล้วก็เดินกลับไปที่รถของตนบ้าง

               

                “พี่เสือ ขอน้องแฮมกินขนมอีกหน่อยไม่ได้เหรอ”

                พอขึ้นมาบนรถน้องแฮมก็ยังไม่อาจหักใจจากขนมที่พี่ครีมเอามาฝากได้ เจ้าหนูแฮมจึงพยายามส่งสายตาปิ๊ง ๆ อ้อนพี่เสือ

ก็มันอร่อยสุด ๆ ไปเลย น้องแฮมชอบมาก

“ไม่ได้ครับ เดี๋ยวก็อิ่มจนกินข้าวไม่ลงนะ” เสือไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ

“ฮือ แต่น้องแฮมอยากกินอีกอ่ะ นะ ๆ พี่เสือ”

                น้องแฮมทำปากยู่ สองมือเกาะแขนพี่ชายที่พ่วงตำแหน่งแฟนด้วย

“งั้นก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนครับ”

“อย่างไงเหรอ”

                รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปากของเสือร้าย

“จูบพี่เสือก่อนครับ”

น้องแฮมยิ้ม นึกว่าพี่เสือจะให้ทำอะไรยาก ๆ เสียอีก จูบแค่นี้เองสบายมาก ว่าแล้วเจ้าตัวก็ชะโงกหน้าเข้าไปสัมผัสริมฝีปากของพี่เสือเบา ๆ

จุ๊บ

“นี่มันไม่ใช่จูบนะน้องแฮม พี่เสือไม่เอาจุ๊บ”

ง่ะ พี่เสือเรื่องมากจัง ปากโดนปากมันก็จูบเหมือนกันนี่

น้องแฮมเกาหัวแกรก คิ้วเรียวย่นเข้าหากัน เสือจึงอธิบายเพิ่ม

“ทำแบบที่พี่เสือสอนไงครับ จำได้ไหม”

“อ๋อ”

น้องแฮมพยักหน้า เข้าใจละ ก่อนที่จะประคองใบหน้าหล่อเข้มนั่นไว้ด้วยสองมือแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปาก ปลายลิ้นเล็กแทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดภายในอย่างที่พี่ชายคนนี้เคยสอนไว้ อาจจะยังไม่ชำนาญเท่ากับครู แต่ก็ทำให้เสือพอใจมากเมื่อคนตัวเล็กผละออกไป

“เก่งมากครับ”

พี่เสือขยี้ผมนุ่มของน้องแฮมเป็นการชมเชย เขาเอื้อมมือไปยังเบาะหลังแล้วหยิบกล่องขนมในถุงที่ครีมให้มายื่นให้น้อง

“รางวัลครับ”

“เย้ ๆ”

น้องแฮมยิ้มจนตาปิดเมื่อจะได้กินขนมอย่างใจอยาก ส่วนเสือเองก็ยิ้มกริ่มรู้สึกได้กำไรทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้ลงทุนอะไรเลย

 

TBC...


 ข้าวโอ๊ตชอบเล่นซ่อนหาค่ะ 555
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 14 แมวกับหนู [28/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-11-2018 23:26:31
อ้าวว หญิงครีมจะมาแอบชอบพี่เสือรึป่าวนะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 14 แมวกับหนู [28/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-11-2018 04:47:29
ครีมจะทำให้น้องเข้าใจผิดรึเปล่าอ่า
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 14 แมวกับหนู [28/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-11-2018 07:18:49
แหม ใครๆก็ดูออก ครีมไม่น่าโง่นะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 14 แมวกับหนู [28/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-11-2018 09:17:56
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 14 แมวกับหนู [28/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 29-11-2018 11:08:05
แหมมมมม พี่เสือก็หากำไรกับน้องตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 14 แมวกับหนู [28/11/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 29-11-2018 17:34:21
พี่นะ ข้าวโอ๊ตๆๆๆๆๆๆ
ชูป้ายไฟ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 15 เสือสันหลังหวะ [9/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 09-12-2018 22:10:05
ตอน เสือสันหลังหวะ

 

“นี่พี่ไม่มีงานมีการอะไรทำหรือไง”

โอ๊ตทำหน้าหงิกใส่คนที่ยืนรออยู่ใต้หอ นี่ขนาดวันเสาร์นะ เขาที่กำลังจะไปร้านกาแฟเพื่อทำงานพิเศษยังเจอพี่นะยืนรออยู่ที่หน้าหอพักอีกแล้ว

“มีครับ ก็มารับข้าวโอ๊ตไปส่งไงครับ” พี่นะตอบยิ้ม ๆ ตามสไตล์

“ผมไปเองได้” โอ๊ตขมวดคิ้วเข้าหากันบอกให้รู้ว่าไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก

“ให้พี่ไปส่งเถอะนะครับ”

“ไม่ไป” โอ๊ตปฎิเสธเสียงแข็ง

“ไปกับพี่เขาเถอะโอ๊ต ลุงเห็นเขามารอเราตั้งแต่บ่ายสองละ”

ลุงยามที่เฝ้าหน้าหอบอกด้วยความเห็นใจพ่อหนุ่มรูปหล่อที่มารอตั้งนานละ บอกให้โทรขึ้นไปก็ไม่ยอมโทร บอกขอรออยู่ตรงนี้ก็พอ

โอ๊ตมองหน้าพี่นะ นี่มันก็เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว แล้ววันนี้อากาศก็ร้อนมากด้วย

“มารอทำไม มีธุระอะไรก็โทรมาบอกผมก็ได้”

“ข้าวโอ๊ตก็ปลดบล็อกเบอร์โทรพี่ก่อนสิครับ พี่จะได้โทรหาได้”

โอ๊ตถึงกับทำหน้าไม่ถูก ลืมไปเลยว่าตอนนั้นโมโหที่พี่เสือให้เบอร์ของเขากับอีกฝ่ายไป ก็เลยกดบล็อกไปตั้งแต่ตอนนั้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจัดการปลดล็อกเบอร์ที่เมมชื่อว่าพี่นะ

“โทรมาแต่ธุระจำเป็นละ”

โอ๊ตเอ่ยโดยไม่เงยหน้ามองคนตรงหน้า นะผุดยิ้มด้วยความเอ็นดู

“ครับ พี่จะไม่โทรมากวนพร่ำเพรื่อ”

“ตกลงกันเสร็จแล้วก็ไปกันได้แล้วหนุ่ม ๆ จอดรถไว้ตรงนี้นาน ๆ เดี๋ยวเจ้าของหอเขาจะมาบ่นลุงอีก ยิ่งขี้บ่นอยู่”

โอ๊ตส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้ลุงยามด้วยความเกรงใจ ก่อนจะหันไปทำตาเขียวใส่ตัวต้นเหตุที่ยังยืนยิ้มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ได้

“ก็ขึ้นรถสิพี่” โอ๊ตเดาะลิ้นอย่างขัดใจ

นะยิ้มด้วยความยินดีก่อนจะรีบเปิดประตูรถให้โอ๊ตขึ้นไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถที่ทำหน้าเป็นตูด

“ต่อไปนี้ไม่ต้องมารับผมแล้วนะ”

โอ๊ตพูดโพล่งขึ้นมาเมื่อนะขับรถเคลื่อนตัวออกจากหอพักของเขา

“ก็พี่อยากมารับนี่ครับ”

“แต่ผมไม่อยากมากับพี่นี่”

“แต่พี่จีบข้าวโอ๊ตอยู่นะครับ”

พอได้ยินคำว่าจีบ โอ๊ตก็เม้นปากเข้าหากันทันที สายตาเหลือบมองคนที่พูดออกมาได้ไม่อายปากจีบเจิบอะไรกัน

เหอ เดี๋ยวเบื่อแล้วก็คงเลิกไปเองละมั้ง ทำเป็นพูดดี

“และพี่ขอบอกไว้ว่าพี่เป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ นะครับ”

นะยิ้มให้ก่อนหันไปขับรถพร้อมกับฮัมเพลงคลอเสียงเพลงที่เปิดอย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้คนถูกจีบนั่งหน้าร้อน ๆ อยู่ข้าง ๆ

 

“พี่จะแวะไปที่คณะหน่อยนะครับ เดี๋ยวกลับมาหานะ”

นะจอดส่งโอ๊ตที่หน้าร้านแต่ไม่ได้ลงมาด้วย โอ๊ตที่กำลังเปิดประตูลงไปชะงักก่อนจะก้าวลงจากรถ

“ก็แล้วแต่พี่สิ”

โอ๊ตรีบเดินเข้าร้าน เขาเห็นพี่นันมองตั้งแต่เขาลงจากรถมาแล้วและก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด

“ใครมาส่งเหรอโอ๊ต” พี่เจ้าของร้านเอ่ยทักเมื่อโอ๊ตเดินเข้ามาในร้าน

“เอ่อ...เพื่อนน่ะครับ”

“เหรอ พี่ว่าคนขับดูคุ้นตาจัง” พี่นันหันมามองหน้าโอ๊ตแล้วยิ้มเหมือนผู้ใหญ่ที่จำผิดเด็กได้“เหมือนน้องผู้ชายคนที่ชอบมานั่งเฝ้าโอ๊ตเลย”

“เฝ้าอะไรกันพี่ ไม่มีสักหน่อย” ทำเอาโอ๊ตทำตัวไม่ถูก “ผมเอากระเป๋าไปเก็บก่อนนะ”

“จ้า ๆ ไม่ได้เฝ้าก็ไม่ได้เฝ้า”

พี่นันยิ้มขำ ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าน้องผู้ชายคนนั้นมาเฉพาะวันที่โอ๊ตมาทำงานพิเศษ แถมยังเคยอยู่รอโอ๊ตตอนปิดร้านด้วย ยังจะทำปากแข็งอีก

 

“สวัสดีครับ”

โอ๊ตเอ่ยทักทายลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน ใกล้ช่วงสอบแบบนี้มักจะมีลูกค้าเข้ามานั่งอ่านหนังสือพอสมควร โอ๊ตรีบเดินไปรับออเดอร์จากโต๊ะที่เพิ่งเข้ามานั่ง

“อ้าว โอ๊ตทำงานที่ร้านนี้เหรอจ๊ะ”

โอ๊ตยิ้มให้คนคุ้นหน้าคุ้นตาที่นั่งกันอยู่ สามสาวนี่เป็นรุ่นพี่ปีสองที่คณะของเขาเอง

“ครับ พี่ ๆ จะรับอะไรกันดีครับ”

พวกสาว ๆ สั่งเครื่องดื่มและขนมกับโอ๊ตเสร็จแล้วก็หันไปเม้ากันต่อ โอ๊ตที่กำลังจะหมุนตัวกลับบังเอิญได้ยินชื่อคุ้นหูเลยหยุดฟัง

“นี่แกรู้เรื่องพี่เสือวิศวะมีแฟนอยู่คณะเราไหม”

“เอ่อ ได้ยินกิ๊ฟมันเล่าให้ฟังมาว่าน้องพี่เสือบอกมาแบบนั้น มิน่าถึงมาคณะเราบ่อย ๆ”

“นี่ ฉันรู้แล้วนะว่าใครคือแฟนพี่เสือ”

“ใครวะบี”

“ก็พี่ครีมดาวปีสี่ไงแก” พี่บีทำเสียงอวดที่ตัวเองเป็นคนรู้เรื่องนี้

“จริงเหรอวะ ฉันได้ยินว่าพี่ครีมมีแฟนอยู่แล้วนะ” พี่อีกคนทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ

“จริง ๆ ก็เมื่อวันก่อนฉันกับบีเห็นพี่ครีมซื้อของมาให้พี่เสือ ยืนจับมือกันอยู่หน้าคณะกับตาเลย”อีกคนรีบเสริมทันที

“ใช่แก แล้วฉันยังได้ยินมาว่าตอนปีหนึ่งอ่ะ พี่เสือกับพี่ครีมกิ๊กกันตั้งแต่ตอนงานกีฬามหาลัยแล้ว”

“ก็เหมาะกันดีนะ ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อ”

ไอ้พี่เสือ...

โอ๊ตที่แอบฟังอยู่ถึงกับขมวดคิ้วมุนเข้าหากัน นี่มันเรื่องอะไรกันวะ

 

แต่ความซวยกลับตกอยู่กับคนที่เพิ่งเดินหน้าเปื้อนยิ้มเข้ามาภายในร้านกาแฟ พอโอ๊ตเห็นหน้านะก็ทำตาขวางฮึดฮัดใส่ ทำเอานะถึงกับงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าแมวขี้เหวี่ยงของเขา

“เครื่องดื่มที่สั่งได้แล้วครับ”

โอ๊ตวางแก้วเครื่องดื่มที่นะสั่งบนโต๊ะ แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนที่จ้องมองอยู่

“เดี๋ยวสิครับ”

นะคว้ามือของคนตัวเล็กไว้ โอ๊ตทำตาดุใส่ทันทีพร้อมกับเกร็งแขนแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือของหนุ่มรุ่นพี่ออก

“อย่าเพิ่งไปนะครับ คุยกันก่อน”

นะยอมปล่อยมือโดยดีและส่งสายตาวิงวอนไปให้เด็กน้อยของเขา

“ผมต้องไปทำงานต่อ”

“พี่จะถามแค่สองสามคำเองครับ”

เมื่อเห็นว่าโอ๊ตไม่ได้ขยับตัวเดินหนีไปไหน นะจึงพูดต่อ

“ข้าวโอ๊ตโกรธอะไรพี่เหรอครับ”

“เปล่า”

“แล้วทำไมทำหน้าบึ้งเหมือนกำลังโมโหพี่แบบนี้ละครับ”

โอ๊ตรู้สึกตัวว่าตัวเองพาลงี่เง่าเกินไปหน่อยก็รู้สึกผิด ท่าทางที่แสดงออกมาจึงอ่อนลง ก่อนจะพูดเสียงหงุดหงิด

“เป็นเพราะพี่เสือเพื่อนพี่นั่นแหละ”

“เสือ...เสือมันเกี่ยวอะไรกับเราด้วยเหรอครับข้าวโอ๊ต”

จริง ๆ เรื่องที่พี่เสือจะไปกิ๊กกับใครมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเขาหรอกนะ แต่แฮมเป็นเพื่อนสนิทของเขานี่ คงไม่ผิดที่เขาจะรู้สึกไม่ดีแทนเพื่อน

“เมื่อกี้ผมได้ยินพวกรุ่นพี่เขาพูดกันว่าพี่เสือจีบรุ่นพี่ที่คณะผม แล้วพี่คนนั้นน่ะเป็นพี่รหัสแฮมมันด้วย ทำไมพี่เสือทำแบบนี้ละครับ”

“แล้วข้าวโอ๊ตก็เชื่อที่คนอื่นเขาพูดเหรอครับ”

“ก็....ใครจะไปรู้ละ เจ้าชู้แบบพี่เสือก็อาจจะจริงก็ได้”

“พี่ว่าข้าวโอ๊ตรู้จักเสือมันดีกว่าพวกนั้นนะครับ”

พอนะพูดแบบนี้โอ๊ตก็ทำหน้าไม่ถูก ได้แต่เม้มปากเข้าหากัน ก้มหน้าหลบสายตาคมที่มองมา นะยิ้มก่อนจะแตะที่แขนของโอ๊ตเบา ๆ

“หรือว่าข้าวโอ๊ตกลัวพี่จะเป็นเหมือนเสือ ไม่ต้องกลัวนะครับ รับรองพี่ไม่มีวอกแวกไปหาคนอื่นแน่ๆ”

โอ๊ตเงยหน้าขึ้นสบตาคนพูดก็เจอกับรอยยิ้มเย้ากับแววตาเป็นประกายระยิบระยับทำเอาเขารู้สึกร้อนเห่อที่แก้มทั้งสองข้าง

“ผมไปทำงานแล้ว เดี๋ยวโดนดุ”

โอ๊ตเดินกอดถาดก้มหน้าก้มตารีบกลับไปที่เคาน์เตอร์ทันที ปล่อยให้นะมองตามด้วยความนึกเอ็นดูในอาการเขินของเจ้าลูกแมว

ว่าแต่ไอ้เจ้าเสือเพื่อนเขามันไปทำเรื่องอะไรไว้ละเนี่ยถึงมีข่าวลือแบบนี้ได้ นะก็ได้แต่สงสัย

 

 

เช้าวันจันทร์เสือขับรถมาส่งน้องแฮมเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้น้องแฮมหอบเอาขนมที่แม่ฝากมาแจกเพื่อน ๆ ด้วย ในฐานะแฟนหนุ่มที่แสนดีเสือจึงชวนน้องหิ้วของไปส่งที่ใต้ตึกโดนฝากรถไว้กับลุงยามที่ขี้เกียจจะห้ามมันจอดแล้ว

“พี่เสือวางไว้ตรงนี้นะครับ”

เสือวางถุงขนมถุงใหญ่ไว้บนโต๊ะ กวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างผ่าน ๆ ก่อนจะหันมาบอกแฟนตัวเล็กของตน

“แจกขนมได้ แต่ห้ามแจกเบอร์โทรห้ามแจกไอดีไลน์นะครับ”

“อือ” น้องแฮมพยักหน้ารับ

“เลิกเรียนแล้วไลน์บอกพี่เสือด้วยนะครับ”

“โอเค” น้องแฮมยกมือขึ้นมาทำเป็นวงกลมให้

พี่เสือลูบผมนุ่ม ๆ ด้วยความเอ็นดู นี่ถ้าไม่ติดว่าพวกเขายืนอยู่กลางคณะศึกษาศาสตร์จะจับเจ้าหนูแฮมฟัดจนหนำใจเลย เขาก็เลยได้แต่หักห้ามใจไว้ค่อยไปทบต้นทบดอกตอนเย็น

“พี่เสือคะ”

ยังไม่ทันที่เสือจะได้ล่ำลาแฟนเด็กก็มีสาว ๆ เดินเข้ามาหาสองสามคน ดูท่าจะเป็นรุ่นพี่ของน้องแฮมเพราะเห็นยกมือไหว้ เขาจึงส่งยิ้มทักทายกลับไป

“สวัสดีครับ”

“พี่เสือมาหาพี่ครีมเหรอคะ มาแต่เช้าเชียว”

“ครีม...” เสือทำหน้างง ๆ

“เมื่อกี้จิ๊บเห็นพี่ครีมอยู่ตรงสโม เดี๋ยวจิ๊บไปเรียกให้ไหมคะ”

“เอ่อ ไม่ต้องเรียกครับ คือเดี๋ยวพี่ต้องรีบไป พอดีจองรถไว้ตรงหน้าคณะน่ะครับ” เสือรีบร้องห้ามทั้ง ๆ ที่ก้ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปตามครีมมาด้วย

“อ้าว จะไปแล้วเหรอคะ”

“ครับ พี่ไปก่อนน่ะน้องแฮม”

น้องแฮมยกมือบ๊ายบายพี่เสือที่เดินออกไปอย่างงง ๆ

 

นะที่กำลังจะเดินขึ้นตึกเหลือบเห็นเสือเพิ่งเดินมาถึงคณะพอดีจึงเรียกให้เพื่อนมาหา

“เสือ ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

“มีอะไรวะ”

“มึงจีบครีมที่อยู่ศึกษาเหรอวะ”

“เฮ้ย จะบ้าเหรอ ไม่มีโว้ย” เสือรีบปฏิเสธทันที อยู่ ๆ ไอ้นะมันเอาอะไรมาถามเขา “ตอนนี้กูมีน้องแฮมคนเดียว จริงจังมากด้วย”

“แล้วทำไมมีข่าวลือว่ามึงกิ๊กกับคนชื่อครีมวะ” นะบอกตามที่ได้ยินมา

“ไม่รู้โว้ย” เสือส่ายหน้าโวยวายก่อนจะเอะใจ “มิน่าละ เมื่อเช้ากูไปส่งน้องแฮมที่คณะ ถึงมีคนมาทักกูแปลก ๆ”

ตอนนี้เสือรู้แล้วว่าทำไมเมื่อกี้พวกรุ่นพี่ของน้องแฮมถึงทักเขาแบบนั้น คงเข้าใจว่าเขามาหาครีมแน่ ๆ

“แน่ใจนะว่ามึงไม่ได้ไปทำหน้าม่อใส่เขาไว้ตอนไหน คนนี้ตอนปีหนึ่งเห็นว่ามีข่าวกิ๊กกับมึงด้วยไม่ใช่เหรอ”

นะหรี่มามองเพื่อนสนิทอย่างจับผิด ประวัติเรื่องผู้หญิงของไอ้เสือก็ไม่ได้ดีอะไร

“กิ๊กบ้าอะไร ครีมมีแฟนเรียนนายร้อย ตอนนี้จบมาติดยศแล้วมั้ง กูแค่ไปส่งเขาครั้งสองครั้งช่วงซ้อมที่เลิกดึก ๆ ก็เท่านั้น แม่งก็ลือกันไปเอง”

เสือปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับเล่าเรื่องของครีมให้นะฟัง ตอนแรกเขาก็ว่าครีมสวยดี แต่พอเจอแฟนครีมตอนแวะไปส่งที่บ้านแล้วไม่กล้าเสี่ยง เขายังไม่อยากโดนกระทืบม้ามแตก

“เอ่อ ตอนนี้คนเขาก็ลือกันทั้งคณะศึกษาแล้วมั้ง นี่กูก็รู้มาจากข้าวโอ๊ต”

“ชิบหายละ ไอ้เจ้าโอ๊ตดันรู้อีก น้องแฮมจะรู้ด้วยไหมวะเนี่ย”

คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความกลุ้มใจกับข่าวลือที่เกิดขึ้น

“กูว่าไม่น่าจะพลาดว่ะ”

นะตบบ่าเสือด้วยความเห็นใจในชะตากรรม

 

TBC...


น้องแฮมรู้ข่าวนี่จะเป็นอย่างไงน้า...

 
 

หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 15 เสือสันหลังหวะ [9/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-12-2018 00:05:29
สมน้ำหน้าอีพี่เสือ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 15 เสือสันหลังหวะ [9/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 10-12-2018 00:07:49
 :m16: :m16: ไอ้พวกชั่งเม้านี้ก็นะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 15 เสือสันหลังหวะ [9/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: pranliew ที่ 10-12-2018 16:34:08
พี่เสือห้ามทำน้องร้องไห้นะ!!! รีบไปจัดการข่าวลือออ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 15 เสือสันหลังหวะ [9/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-12-2018 18:54:33
อิครีมสร้างเรื่องสินะ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 15 เสือสันหลังหวะ [9/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-12-2018 19:29:07
ถ้าครีมแค่อยากรู้ว่าเสือกับแฮมเป็นอะไรกันก้อแค่หลอกถามน้องแฮมสิ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 15 เสือสันหลังหวะ [9/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 10-12-2018 21:15:52
สมหน้าา มั่วดีน้ากก
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 15 เสือสันหลังหวะ [9/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 11-12-2018 12:53:13
เดี๋ยวพี่เสือจะโดนน้องแฮมจัดการ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 16 เสือไม่ซุ่ม [23/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 23-12-2018 18:57:05
ตอน เสือไม่ซุ่ม

 

                หลังจากเลิกเรียนเสือก็รีบบึ่งรถไปที่คณะศึกษาทันที เนื่องจากเขาพยายามโทรหาน้องแฮมหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ติด ในใจคิดกังวลไปสารพัดว่าน้องแฮมอาจจะรู้เรื่องข่าวลือระหว่างเขากับครีม แล้วอาจจะเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า อาจจะโกรธจนปิดเครื่องแบบนี้ เสือลองโทรหาโอ๊ตก็ไม่ยอมรับสาย ดังนั้นพอจอดรถที่หน้าคณะศึกษา เสือก็รีบย่ำเท้าเข้าไปในตึกเรียนของเด็กคณะนี้ทันที ซึ่งเขาก็เจอคนที่เขาตามหาอยู่กำลังนั่งอยู่กับหญิงสาวที่กำลังเป็นข่าวกับเขาพอดี เจ้าโอ๊ตเองก็นั่งอยู่ด้วย

                “น้องแฮม” เสือรีบรุดเข้าไปหาเด็กน้อยของเขาด้วยความร้อนใจ

                น้องหันมาตามเสียงเรียกของเขา แล้วเสือก็ต้องใจหายเมื่อเห็นคนรักทำตาแดง ๆ เหมือนผ่านการร้องไห้มา

                “น้องแฮมเป็นอะไรครับ ใครทำอะไรหรือเปล่า”

                เสือเข้าไปกอดแฮมไว้ทันที น้องแฮมซึ่งนั่งอยู่กอดเอวเขาไว้แน่นซุกหน้าเข้ากับอกของเขา เสือลูบหัวปลอบน้องเบา ๆ

                “เสือมาก็ดีละ”

                เขาเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นครีมนั่งหน้าตาเคร่งเครียด สีหน้าดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก

                “เสือคงรู้เรื่องข่าวลือระหว่างครีมกับเสือแล้วใช่ไหม”

                “อือ เพิ่งได้ยินเมื่อเช้า”

                “ครีมก็เพิ่งรู้ตอนมาถึงคณะนี่แหละ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงลือกันไปแบบนั้นได้”

                เมื่อเช้าเธอมาถึงคณะก็มีรุ่นน้องเดินมาบอกว่าแฟนมาหา ทำเอาเธอถึงกับงง เพราะแฟนหนุ่มของเธอน่าจะติดราชการอยู่และเขาก็ไม่เคยมาหาเธอที่มหาวิทยาลัย กว่าจะเข้าใจว่าพวกนั้นกำลังเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเสือ

                “ผมได้ยินพวกพี่ปีสองเขาพูดกันน่ะครับ” โอ๊ตที่นั่งอยู่ด้วยพูดแทรกขึ้นมา

                “เด็กพวกนี้นี่เอาเรื่องไม่จริงไม่พูดแบบนี้ได้อย่างไง” ครีมบ่นอย่างหัวเสีย ป่านนี้คงเอาไปเม้ากันสนุกปากแล้วสินะ

                “พี่เสือ” น้องแฮมช้อนตามองพี่ชาย ปากเล็กเบะออกคล้ายจะร้องไห้ “พวกพี่ ๆ เขาบอกว่าพี่ครีมเป็นแฟนพี่เสืออ่ะ ทำไมพี่ครีมถึงเป็นแฟนกับพี่เสือ แล้วน้องแฮมล่ะ”

                “ครีมไม่ได้เป็นแฟนพี่”

                “พี่ไม่ได้เป็นแฟนเสือ”

                สองเสียงเอ่ยขึ้นมาแทบจะพร้อมกันทั้งเสือและครีม น้องแฮมหันมองทั้งสองคนก่อนจะกลับมาจ้องหน้าคนรัก เขากำเสื้อของเสือไว้แน่นราวกับจะยึดไว้ให้แน่ใจ

                “อึก จริง ๆ นะ”

                “จริงสิครับ ก็พี่เสือเป็นแฟนน้องแฮมไงครับ”

                “นี่ตกลงเสือกับแฮมคบกันจริง ๆ ใช่ไหม”

                ครีมถามย้ำอีกที จริง ๆ หญิงสาวก็พอจะมองออกถึงความสัมพันธ์ของเสือกับหลานรหัสของเธอที่ดูจะมากเกินกว่าพี่น้องธรรมดา

                “อือ เราคบกับแฮมอยู่”

                ได้ยินเสือบอกชัดเจนแบบนี้ครีมก็โล่งใจ เธอไม่อยากมีข่าวลือเรื่องชู้สาวเพราะแฟนหนุ่มของเธอค่อนข้างจะขี้หึงไม่น้อย ตอนปีหนึ่งที่รู้ว่าเสือไปส่งเธอที่บ้านก็เกือบจะเป็นเรื่องไปแล้วครั้งหนึ่ง

                “งั้นเสือก็ต้องบอกให้ทุกคนรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไง ปล่อยให้ลือกันไปผิด ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ มันเสียทั้งเสือกับแฮม เสียทั้งครีมด้วย นี่ถ้าพี่บอลรู้ละก็แย่แน่ ๆ”

                “เรื่องนี้เดี๋ยวเราจัดการเอง ครีมไม่ต้องเป็นห่วง” เสือรับปากอย่างหนักแน่น เขาก็ระแวงกลัวโดนแฟนของครีมกระทืบเหมือนกัน

                “ครีมฝากด้วยนะเสือ นี่ก็พยายามปฏิเสธไปหลายคนละว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ก็ยังมีคนคิดว่าครีมกั๊กเรื่องที่กิ๊กกนกับเสือ”

                “ไอ้พวกสร้างข่าวลือกันสนุกปากแต่ไม่คิดว่าคนอื่นจะเดือดร้อนนี่มันน่านัก”

                ถ้าเขารู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือบ้า ๆ นี่รับรองโดนดีแน่

                “งั้นครีมกลับก่อนนะเสือ พี่กลับก่อนนะคะน้องแฮม ไม่ต้องคิดมากนะ พี่กับเสือไม่ได้มีอะไรกันจริง ๆ พี่มีแฟนอยู่แล้ว” ครีมลุกขึ้นก่อนจะไปเธอก้มลงยิ้มให้หลานรหัส

                “ฮะ”

                น้องแฮมพยักหน้าเข้าใจ เขารู้ว่าพี่ครีมเป็นคนดี พี่ครีมจะไม่หลอกเขา

                “น้องแฮมไม่ต้องคิดมากนะครับ พี่เสือมีน้องแฮมคนเดียวนะ”

                “จริงเหรอ” โอ๊ตที่นั่งเงียบ ๆ มาตั้งนานถามเสียงสูงจนเสืออยากจะทำร้ายร่างกายไอ้เด็กเตี้ยกวนประสาทสักที

                “ไอ้โอ๊ต เดี๋ยวมึงจะโดนกูเตะ ทำไมไม่ช่วยดูแลแฟนกูเลยวะ” เสือหันไปแยกเขี้ยวใส่โอ๊ตที่ยังทำหน้าทำตายียวน

                “อ้าว แฟนพี่พี่ก็ต้องดูแลเองสิ”

                “เดี๋ยวมึงจะโดน” เสือชี้หน้าไอ้ตัวแสบแล้วกลับมาสนใจแฟนตัวเล็กของตนต่อ “ทำไมพี่เสือโทรหาน้องแฮมไม่ติดเลยครับ”

                “โทรศัพท์น้องแฮมเหรอ” น้องแฮมกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้สีแดงหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมา “อ้าว แบตหมดอ่ะพี่เสือ”

                เสือก้มมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่มืดสนิทในมือน้อง แล้วได้แต่ถอนหายใจ

                “ช่างมันเถอะ เรากลับบ้านกันก่อนเถอะนะ”

                “อือ” น้องแฮมพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยื่นมือให้พี่เสือจับจูง

                “เดี๋ยวพี่เสือ” โอ๊ตลุกขึ้นขวางทางเสือเอาไว้ ทำเอาเสือถึงกับหงุดหงิด

                ไอ้ลูกแมวนี้มันอะไรหนักหนา ไอ้นะอยู่ไหนวะมาเอาเด็กมึงไปไกล ๆ สิ

                “อะไรของมึงอีกไอ้โอ๊ต”

                “ผมหวังว่าคราวนี้พี่จะจัดการอะไรให้มันชัดเจนเด็ดขาดนะ หวังว่าต่อไปคงไม่มีข่าวว่าใครเป็นแฟนพี่อีก”

                โอ๊ตไม่อย่าเห็นเพื่อนรักของตนต้องเสียใจเพราะความเจ้าชู้ของพี่เสืออีก ถึงเรื่องพี่ครีมมันจะไม่จริง แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากความหน้าม่อไปทั่วของไอ้พี่เสือนี่แหละ

                “เอ่อ กูรู้น่าว่าจะต้องทำอย่างไง”

                “ก็ขอให้ทำได้อย่างที่พูดละกัน” โอ๊ตยักไหล่ทำท่าเหมือนไม่ได้เชื่อคำที่เสือพูดเท่าไหร่นัก

                “มึงไม่ต้องทำมาเป็นปากดีเรื่องคนอื่นเลยไอ้โอ๊ต” เสือสวนกลับเข้าให้บ้าง เขาหรี่ตามองโอ๊ตอย่างจับผิด “เรื่องของมึงกับเพื่อนกูตกลงจะอย่างไงแน่”

                “อะไร เรื่องของเพื่อนพี่เกี่ยวอะไรกับผมละ”

                โอ๊ตทำหน้าตาเลิกลักมีพิรุธจนเสือยิ้มเยาะ

                “แหม เทียวรับเทียวส่งกันทุกวันแบบนี้ มึงยังบอกไม่เกี่ยวกันอีกเหรอ”

                “...”

                “ดีแต่ว่าคนอื่นนะมึง ทีเรื่องตัวเองละพูดไม่ออก” พอเห็นโอ๊ตพูดไม่ออก เสือก็ยิ่งขยี้ใหญ่ ไหน ๆ ก็ถือโอกาสพูดช่วยเพื่อนไปด้วยเหรอ ดู ๆ แล้วโอ๊ตมันก็ดูมีท่าทีให้ไอ้นะไม่น้อย

                “มึงอยากให้เรื่องกูกับน้องแฮมชัดเจน มึงก็ควรจะชัดเจนกับเพื่อนกูเหมือนกัน”

                “ยุ่งน่า” โอ๊ตทำหน้ามุ่ย

                “มึงไปคิดให้ดี ๆ ละกัน เก่งนักนี่มึงน่ะ”

                “ไอ้พี่เสือ จะกลับก็รีบกลับไปเลยไป” โอ๊ตรีบไล่เมื่อเห็นว่าตัวเองเพลี้ยงพล้ำให้พี่เสือไปไม่น้อย

                “เออ กูไปละ ป่ะ น้องแฮมเรากลับกันเถอะครับ”

                ว่าแล้วเสือก็โอบไหล่คนรักพากลับไปยังรถที่จอดอยู่หน้าคณะ เสือขับรถพาน้องแฮมตรงมาที่บ้านเลยเพราะเขาอยากจะคุยกับน้องแฮมให้เข้าใจก่อน เมื่อเสือจอดรถในบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันมาถามน้องแฮมที่นั่งเงียบมาตลอดทาง

                “น้องแฮมโอเคไหม ยังคิดมากเรื่องครีมอยู่หรือเปล่า”

                น้องแฮมส่ายหน้าแต่ก็ยังดูไม่ร่าเริง เสือยกมือขึ้นลูบหัวน้องเบา ๆ ก่อนจะยิ้มเอาใจ

                “งั้นน้องแฮมร้องไห้ทำไมครับ บอกพี่เสือได้ไหม”

                คนถูกถามนิ่งคิด แววตาดูสับสนก่อนจะช้อนตามองพี่เสือแล้วพูดสิ่งที่คิดออกมา

                “ก็...ไม่รู้เหมือนกัน น้องแฮมได้ยินคนโน้นคนนี้มาพูดว่าพี่เสือเป็นแฟนกับพี่ครีม ทั้ง ๆ มันไม่ใช่ความจริงสักหน่อย พี่เสือเป็นแฟนน้องแฮมตั้งหาก แต่ก็ไม่มีใครฟังที่น้องแฮมพูดเลย”

                น้องแฮมไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ความจริงน้องแฮมตั้งหากที่พี่เสือขอเป็นแฟน ทำไมพวกนั้นถึงพูดว่าพี่ครีมเป็นแฟนพี่เสือ ให้ข่าวมั่วที่สุดเลย น้องแฮมไม่ชอบอ่ะ

                “โถ น้องแฮม พี่เสือขอโทษน่ะครับ”

                พี่เสือคว้าตัวน้องน้อยไปกอดไว้แนบอก น้องแฮมส่ายหน้ากับอกแกร่งของคนรัก

                “พี่เสือไม่ต้องขอโทษ คนพวกนั้นตั้งหากที่พูดไม่จริง”

                “น้องแฮมไม่ได้โกรธพี่เสือใช่ไหมครับ” เสือดันตัวน้องออกมาจ้องมองคนตัวเล็กที่ยิ้มออกแล้ว น้องยิ้มหวานให้เขาก่อนจะพยักหน้างึกงัก

                “น้องแฮมไม่โกรธพี่เสือหรอกฮะ”

                “น่ารักมากเลยครับเด็กดีของพี่เสือ” เสือประคองใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูด้วยสองมือ “งั้นพี่เสือต้องให้รางวัลเด็กดีหน่อยละ”

                พี่เสือจัดการให้รางวัลเด็กดีโดยเริ่มจากการจูบหน้าผากเนียนตามด้วยหอมแก้มใส ๆ ทั้งสองข้าง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจูบที่ริมฝีปาก พี่เสือขบเม้นดูดดื่มความหอมหวานภายในริมฝีปากเล็กจนพอใจแล้วจึงผละออก มองผลงานของตัวเองด้วยความพอใจเมื่อเห็นน้องแฮมปรือตามองพร้อมกับเผยอปากอย่างยั่วยวนโดยไม่ตั้งใจจนเสืออดไม่ได้ที่จะก้มลงไปตักตวงความหอมหวานอีกครั้ง

                “น้องแฮมมาถ่ายรูปกันดีกว่า”

                เจ้าหนูแฮมตัวน้อยมองเขาอย่างงง ๆ เมื่ออยู่ ๆ คนรักก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เสือเปิดโหมดเซลพี่แล้วขยับเข้าไปจนริมฝีปากอยู่ชิดแก้มใสก่อนจะกดถ่ายรูป

                “พี่เสือถ่ายอะไรอ่ะ น้องแฮมยังไม่ได้ยิ้มให้กล้องเลยนะ”

                ไม่ได้มองกล้องด้วย มัวแต่งง ๆ ที่อยู่พี่เสือก็หอมแก้มตอนที่บอกว่าจะถ่ายรูป แบบนี้รูปน้องแฮมจะดูเด๋อ ๆ หรือเปล่า ขอพี่เสือถ่ายใหม่ได้ไหมอ่ะ

                “ไม่เป็นไรครับ รูปนี้ก็ดีแล้ว” เสือเปิดเช็ครูปในโทรศัพท์ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความพึงใจ เขากดเอาไปในอินสตาแกรมที่มีคนติดตามนับหมื่นก่อนจะโพสรูปนั้น

                หึ คราวนี้ชัดเจนพอหรือยัง

                “ป่ะ น้องแฮม เข้าบ้านกันเถอะ”

 

                ณ ร้านกาแฟที่โอ๊ตทำงานพิเศษอยู่ ลูกค้าประจำอย่างนะก็มานั่งจิบกาแฟที่ร้านพร้อมกับเฝ้าเจ้าแมวน้อยของเขาอย่างเช่นทุกวัน เขาเงยหน้าขึ้นจากโน้ตบุ๊คที่เอามานั่งทำงานด้วยเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากกรุ๊ปไลน์ในโทรศัพท์มือถือ เมื่อเห็นเป็นข้อความจากกลุ่มเพื่อนสนิทจึงหยิบมาเปิดดู

Newyear : เฮ้ย พวกมึงเห็นรูปในไอจีไอ้เสือยังวะ

Newyear : แม่ง โคตรอวดอ่ะ

Ae999 : โคตรแกรนด์โอเพ่นนิ่ง

Ae999 : กูอิจฉาโว้ยยยย

Ae999 : (ส่งสติ๊กเกอร์กระต่ายตาลุกเป็นไฟ)

                นะจึงเปิดเข้าไปดูในอินสตราแกรมที่นิวพูดถึง พอเขาเห็นรูปล่าสุดที่เสือโพสก็หลุดหัวเราะออกมา ไอ้เสือเพื่อนเขามันเอาจริงแล้วโว้ย

                “นั่งหัวเราะคนเดียวเป็นคนบ้าไปได้”

                คนที่กล้าพูดกับเขาแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพนักงานหน้าใสที่เป็นเหตุผลให้เขามานั่งดื่มกาแฟที่นี่ได้ทุกวันนั่นแหละ

                “ข้าวโอ๊ตเห็นรูปที่เสือมันอัพในไอจีหรือยังครับ”

                โอ๊ตส่ายหน้า ถึงพี่นันจะอนุญาตให้เขาพกโทรศัพท์มือถือในเวลางานได้ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเอามาเปิดดูเล่นโซเชี่ยลได้

                นะจึงยื่นโทรศัพท์ของเขาให้คนตัวเล็กดู โอ๊ตทำตาโตทันทีเมื่อเห็นรูปบนหน้าจอ เป็นรูปที่เสือกำลังหอมแก้มเพื่อนสนิทของเขาพร้อมกันแคปชั่นใต้ภาพว่า

                ‘My lovely boy แฟนผมน่ารักไหมครับ’

                “โอ้โห”

                โอ๊ตไม่คิดว่าพี่เสือจะเล่นใหญ่ขนาดนี้ พอกดเข้าไปอ่านดูคอมเม้นก็เห็นทั้งสาวเล็กสาวใหญ่สาวแท้สาวเทียมกรีดร้องผ่านตัวอักษรเต็มไปหมด ส่วนใหญ่หวีดเสียดายที่พี่เสือเปิดตัวแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่โอ๊ตก็เห็นบางคอมเม้นหวีดด้วยความฟินที่เห็นแฟนของเสือเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก โอ๊ตเลื่อนดูผ่าน ๆ ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของเครื่อง

                “เพื่อนพี่นี่ก็เล่นใหญ่เหมือนกันเนอะ”

                “ก็จะได้กลบข่าวลือที่ว่าไงครับ”

                “ก็ดี คราวนี้พี่เสือจะได้ไม่ไปยุ่งกับผู้หญิงที่ไหนจนเป็นข่าวอีก” โอ๊ตกอดถาดที่ถือมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                “ข้าวโอ๊ตหึงแทนเพื่อนเหรอครับ เอ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องแฮมเป็นเพื่อนสนิทกับข้าวโอ๊ต พี่คงคิดว่าเราหึงไอ้เสือมันแน่ ๆ” นะแกล้งแหย่เมื่อเห็นว่าเจ้าลูกแมวของเขาดูจะใส่ใจเรื่องของเสือและแฮมเป็นพิเศษ

                “จะบ้าเหรอ” โอ๊ตแวดใส่นะทันที พูดอะไรไม่เข้าหูเลย คิดได้ไงว่าเขาจะหึงไอ้พี่เสือเนี่ยนะ “ผมแค่ไม่ชอบคนเจ้าชู้”

                “พี่ก็ไม่เจ้าชู้นะครับ”

                นะยิ้มกริ่ม ยิ่งทำให้โอ๊ตไม่อยากจะเชื่อคำพูด

                “เหอ กล้าพูดนะพี่”

                “ลองถ้าพี่รักใครแล้ว พี่จะหยุดอยู่ที่คน ๆ นั้นคนเดียวเท่านั้นครับ”

                “แค่คำพูด จะพูดให้ดูดีอย่างไงก็ได้นี่ครับ”

                โอ๊ตเปรยตามองคนที่นั่งยิ้มอยู่ก่อนจะหมุนตัวหมายจะเดินออกมา แต่กลับถูกนะคว้าแขนเอาไว้ เขาหันมามองก็เห็นนะกำลังจ้องมาที่เขาด้วยแววตาจริงจัง

                “งั้นโอ๊ตก็พิสูจน์ด้วยตัวเองไหมละครับ”

                บนใบหน้าหล่อตี๋นั้นไม่ได้แต้มด้วยรอยยิ้มเหมือนทุกที ทำเอาหัวใจของคนฟังเต้นแรงอย่างประหลาด

                “เป็นแฟนพี่นะครับ”

                “จะ...จะบ้าเหรอ มาขอกลางร้านแบบนี้ได้ไง”

                โอ๊ตหันไปมองรอบ ๆ ถึงวันนี้จะไม่ค่อยมีลูกค้าในร้าน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีใครได้ยินประโยคเมื่อครู่ของนะหรือเปล่า แต่แค่นี้เขาก็เขินจนหน้าร้อนผ่าวไปหมดแล้ว ไอ้พี่นะเล่นขอกันง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไง

                “ก็พี่เห็นเสือมันประกาศว่าเป็นแฟนกับน้องแฮมแบบนั้น พี่ก็อยากให้คนอื่นรู้เหมือนกันนี่ครับ”

                “เดี๋ยว ผมยังไม่ได้บอกว่าจะคบกับพี่สักหน่อย”

                พี่เสือกับแฮมตกลงเป็นแฟนกันอยู่แล้ว จะประกาศแบบนั้นมันก็ไม่แปลก แต่เขายังไม่ได้เป็นอะไรกับนะเลยนะ

                “โอ๊ตไม่ชอบพี่เลยเหรอครับ”

                สายตาของนะที่มองเขาตาละห้อย เหมือนหมาที่กำลังรอเจ้าของอนุญาตอย่างมีความหวังไม่มีผิด ทำเอาใจไม่รักดีของโอ๊ตอ่อนยวบลง

                “มัน...คือว่า...”

                เขาพูดปฏิเสธไม่ออก มันกลายเป็นแบบนี้ได้ไง ทำไมเขารู้สึกเหมือนกำลังถูกมัดมือชกอยู่

                “โอ๊ต พี่ว่าแกยอมตกลงเถอะ อย่างน้องนะนี่แรร์ไอเทมเลยนะ”

                “เดี๋ยว พี่นันมาได้ไง”

                เจ้าของร้านที่ไม่รู้มาตั้งแต่ตอนไหนโผล่หน้ามาจากด้านหลังของเขา โอ๊ตรีบปลดมือของหนุ่มรุ่นพี่ที่จับแขนของเขาอยู่ออก

                “พอดีพี่แอบฟังอยู่น่ะ” พี่นันยิ้มทะเล้นก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง “ตกลงว่าอย่างไง พี่ละสงสารน้องนะ เห็นมาเฝ้าเราทุกวันเลย ถ้าไม่ได้ชอบเขาก็คงไม่ยอมให้เขาทำแบบนี้หรอกมั้ง จริงไหมละ”

                คนตัวเล็กก้มหน้าเม้มปากแน่น นะที่กำลังรอคอยคำตอบอย่างมีความหวัง เขาลุ้นจนเกร็งไปหมด

                “ก็ได้”

                โอ๊ตอ้อมแอ้มตอบเสียงอยู่ในคอ ทำเอาทั้งนะและพี่นันขมวดคิ้วด้วยความไม่แน่ใจในคำพูดที่ได้ยินเท่าไหร่นัก

                “เมื่อกี้ข้าวโอ๊ตพูดว่าอะไรนะครับ”

                “ก็ได้ไง...คบก็ได้”

                โอ๊ตพูดด้วยสีหน้าแดงแจ๋ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นนะกำลังมองเขาด้วยสายตายินดีพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เห็นแบบนั้นเจ้าแมวน้อยก็รีบหันกลับจ้ำอ้าวไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ เขาแทบจะเอาหน้ามุดกับถาดที่ถือมาอยู่แล้ว

                โอ้ย พูดออกไปแล้ว ๆ

                “โอ๊ต พี่ยังได้ยินไม่ชัดเลยนะ กลับมาพูดอีกทีสิ” เสียงพี่นันดังไล่หลังมาแซวอีก

                “พี่นันหูตึงแล้วละครับ ปิดร้านไปเช็คหูบ้างก็ดีนะพี่”

                “ไอ้เจ้าโอ๊ต”

 

                TBC...



                           เขาเป็นแฟนกันแล้วจ้าาาาาา

               
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 16 เสือไม่ซุ่ม [23/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-12-2018 00:03:29
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 16 เสือไม่ซุ่ม [23/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-12-2018 08:37:41
งุ้ยยย เขินจังเลย :-[
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 16 เสือไม่ซุ่ม [23/12/18]
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 26-12-2018 17:15:54
 :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Polkaneko ที่ 23-02-2019 19:38:23

ตอน เสือจนตรอก

 

                บางทีเสือคงจะลืมไปว่าในบรรดาคนที่ติดตามอินสตาแกรมของตนนับหมื่นนั้น มีคุณนายปลามารดาสุดที่รักรวมอยู่ด้วย...

 

                “แม่ครับ มีอะไรให้เสือกินมั่ง หิวจะแย่แล้ว”

                เสือเดินหาวลงบันไดมาในช่วงสายของวันเสาร์ เห็นแม่ของเขากำลังนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก เขาจึงเดินเข้าสวมกอดจากทางด้านหลัง

                “หิวจังเลย”

                เสือออดอ้อนออเซาะเหมือนทุกครั้งแต่ครั้งนี้แม่กลับนั่งนิ่งไม่ได้ยิ้มแย้มให้เขาเหมือนเช่นทุกทีแถมบรรยากาศรอบตัวยังดูอึมครึมน่ากลัวอย่างไรก็ไม่รู้

                “เอ่อ แม่เป็นอะไรเปล่าครับ”

                “เสือ”

                คุณนายเรียกชื่อเขาเสียงแข็งท่าทางเคร่งเครียด

                “มานั่งตรงนี้สิ”

                เสือคลายอ้อมแขนด้วยอาการงง ๆ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตามที่แม่ชี้

                “บอกแม่มาตามตรงว่าเสือกับน้องแฮมเป็นอะไรกัน”

                เสือนิ่งไปกับคำถามที่ได้ยิน นี่แม่เขาระแคะระคายอะไรหรือเปล่า

                “เป็นอะไรล่ะแม่ น้องแฮมก็เป็นน้องเสือไงครับ” หากแต่เขายังพยายามทำใจดีสู้คุณปลาที่ดุยิ่งกว่าเสือ

                “แน่ใจนะว่าจะตอบแม่แบบนี้”

                คุณปลาจ้องเขาเขม็งก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอก่อนจะยืนให้ลูกชาย เสือกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอเมื่อเห็นภาพที่โชว์บนหน้าจอ

                มันคือภาพล่าสุดในอินสตาแกรมของเขา...

                “My lovely boy แฟนผมน่ารักไหมครับ” แม่ของเขาดึงโทรศัพท์ไปอ่านแคปชั่นที่โพสไว้ “แล้วนี่มันหมายความว่ายังไงเหรอเสือ”

                “เอ่อ...คือ...”

                เมื่อเห็นลูกชายคนเดียวของเธออึกอักพูดไม่ออก คุณปลาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก

                “แม่สอนให้เสือเป็นลูกผู้ชาย กล้าทำก็กล้ารับไม่ใช่เหรอ”

                พอโดนแม่ว่าตรง ๆ เสือถึงกับสะอึก รู้สึกหน้าชาที่ทำตัวไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย เขาจึงตัดสินใจเล่าทุกอย่าง

                “คือเสือกับน้องแฮมเราเป็นแฟนกันครับ”

                “ตั้งแต่เมื่อไหร่”

                “ก็เพิ่งจะตกลงคบกันได้เดือนกว่า ๆ ครับ”

                คุณปลาพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ไอ้ลูกชายตัวดีที่นั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมหมดมาดตรงหน้านี่มันน่าตีนัก ทำไมถึงทำอะไรไม่คิดเลย

                “แล้วคิดจะบอกแม่กับน้าขวัญเมื่อไหร่”

                ...

                มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับเธอมา ทำเอาคุณปลาถึงกับของขึ้นลมออกหู

                “เสือ! นี่ถ้าแม่ไม่เห็นในไอจีก็ไม่คิดจะบอกผู้ใหญ่กันเลยหรือไง”

                คุณปลาแวดขึ้นเสียงสูงลั่นบ้าน จนเสือสะดุ้งคอหด

                “เห็นแม่กับน้าขวัญเป็นหัวหลักหัวตอเหรอ ถึงได้ทำอะไรไม่เห็นหัวผู้ใหญ่แบบนี้ แล้วนี่แม่จะกล้าไปสู้หน้าน้าขวัญเขาได้ยังไง ลูกชายเราดันไปล่อลวงลูกบ้านเขาแบบนั้น คิดบ้างหรือเปล่าว่าแม่กับน้าขวัญจะเข้าหน้ากันติดไหม ถ้าน้าขวัญเขาไม่โอเคกับเรื่องนี้”

                “ขอโทษครับแม่”

                เสือเอ่ยเสียงอ่อย เพราะแบบนี้เขาถึงยังไม่อยากให้แม่รู้ ก็แม่เวลาโกรธน่ากลัวจะตาย

                “ไม่ใช่แค่แม่ คนที่เสือควรจะไปขอโทษอีกคนคือน้าขวัญ”

                คุณปลาถอนหายใจเมื่อนึกถึงเพื่อนรักที่รู้จักและสนิทสนมไว้ใจครอบครัวของเธอไม่ต่างจากคนในครอบครัวเดียวกัน แต่ลูกชายหน้าม่อของเธอดันทำเรื่อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเด็กหัวอ่อนอย่างน้องแฮมต้องโดนลูกชายเจ้าเล่ห์ของเธอชักจูงให้คล้อยตามแน่ ๆ

                โธ่ น้องแฮมของน้า

                “ครับ เดี๋ยวเสือจะไปขอโทษน้าขวัญครับ”

                เสือแอบชำเลืองมองแม่ที่นั่งทำหน้าเครียด เขาไม่แน่ใจว่าแม่จะรับได้ไหมกับการที่ลูกชายจะรักกับผู้ชายเหมือนกัน

                “แล้วแม่ล่ะครับ โอเคไหมที่เสือคบกับน้องแฮม”

                คนเป็นแม่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะมองหน้าลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ

                “ไม่โอเคแล้วยังไง ชีวิตของเสือ มันจะสุขจะทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับเสือ ไม่ใช่แม่”

                “อ้าว แล้วแม่โมโหเสือทำไม”

                “แม่โมโหที่เราคบกับน้องแฮมแล้วไม่บอกแม่ตั้งหาก” คุณปลาพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโมโห ยิ่งเห็นเจ้าตัวดียิ้มเจื่อน ๆ ยิ่งอยากจะฟาดสักที

                “แล้วนี่เลยเถิดกันไปถึงขั้นไหนแล้ว เราทำอะไรน้องไปหรือยัง” คุณปลาถามไปตามตรงเพราะไม่ไว้ใจนิสัยคาสโนว่าของลูกชาย อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ไม่เห็นเพียงแต่เธอไม่พูดแค่นั้นเอง

                “ยังครับ เสือยังไม่ได้มีอะไรกับน้อง”

                เสือส่ายหน้าหวืด นึกถึงเหตุการณ์ที่จวนเจียดจะเลยเถิดไปหลายทีแล้วก็เสียวสันหลังวาบ

                “แต่ก็คงหาเศษหาเลยกับน้องไปเยอะแล้วสินะ”

                เขาได้แต่ทำหน้าเจื่อน พี่เสือคนคูลพออยู่ต่อหน้าคุณปลาก็หงอกลายเป็นลูกแมวเชื่อง ๆ

                “แล้วนี่เราจะเอายังไง คิดดี ๆ ใช่ไหม จริงจังเรื่องน้องแฮมแค่ไหน”

                คุณปลาคาดคั้นซักจำเลยที่ได้แต่นั่งเรียบร้อยสงบเสงี่ยมกว่าปกติ

                “จริงจังสิครับ ไม่งั้นเสือจะเปิดตัวว่าเป็นแฟนเหรอ”

                อุตส่าห์ลงทุนเล่นใหญ่แกรนด์โอเพ่นนิ่งจนโดนแม่จับได้เลยนะ

                “แล้วถ้าน้าขวัญเขาไม่โอเคที่จะให้ลูกเขามาคบกับเรา เสือจะทำยังไง”

                คุณปลาตั้งคำถามที่ทำให้เสือต้องคิดหนัก เขาเขยิบเข้าไปหาแม่แล้วคว้ามือมากุมไว้ ช้อนสายตาออดอ้อน

                “แม่ก็ช่วยพูดให้เสือหน่อยนะครับ แม่เป็นเพื่อนรักน้าขวัญนี่ นะ ๆ ช่วยเสือหน่อย”

                “ไม่ได้ เรื่องนี้แม่จะไม่ช่วย”

                แต่แม่ของเขากลับปฏิเสธทันที ทำเอาเสือถึงกับเหวอ

                “อ้าว ทำไมล่ะแม่”

                “ก็เพราะมันเป็นเรื่องที่เสือต้องรับผิดชอบเอง เสือต้องทำให้น้าขวัญไว้ใจว่าจะดูแลลูกเขาได้”

                มือของคุณปลาตบลงบ่าลูกชายคนเดียวที่กำลังทำหน้าหงอยเพื่อให้กำลังใจ

                “เสือก็รู้ว่าน้าขวัญเขามีน้องแฮมแค่คนเดียว น้องแฮมเป็นทุกอย่างในชีวิตน้าขวัญ ถ้าเสือจะมาทำเล่น ๆ กับลูกเขา น้าขวัญคงไม่ยอมหรอก”

                “แต่เสือรักน้องแฮมจริง ๆ นะแม่ เสือรักของเสือมาตั้งนานแล้วด้วย”

                รักตั้งแต่วันที่น้าขวัญจูงมือน้องแฮมตัวน้อย ๆ ย้ายมาอยู่ข้างบ้านของเขา เด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูที่ยิ้มให้เขาจนตาหยีตั้งแต่แรกเจอ ยิ่งน้องโตขึ้นเขาก็ยิ่งรัก ทั้งรักทั้งหวงเอามาก ๆ ด้วย

                “งั้นเสือก็ต้องทำให้น้าขวัญรู้ ทำให้น้าเขาเข้าใจและเชื่อใจในตัวเสือ”

                “ครับ เสือจะพยายาม”

 

                รถมาสด้าสีขาวเลี้ยวเข้ามาจอดใต้หอพัก นะปลดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะหันไปถามคนที่นั่งมาด้วยกัน

                “ข้าวโอ๊ตขึ้นไปนั่งรอพี่บนห้องไหมครับ”

                “พี่แค่ขึ้นไปเอาหนังสือให้เพื่อนไม่ใช่เหรอครับ ผมรออยู่ในรถก็ได้”

                โอ๊ตเลิกคิ้วขึ้นมอง พวกเขากำลังจะออกไปกินมื้อกลางวันกัน แต่อยู่ ๆ ตอนที่พี่นะขับรถไปรับเขาที่หอ เพื่อนของพี่นะก็โทรมาบอกว่าต้องใช้หนังสือที่พี่นะยืมมาด่วนให้แวะเอาไปให้ที่คณะด้วย พวกเขาก็เลยต้องกลับมาที่หอพักของพี่นะ

                “พี่ไม่อยากให้เรานั่งรออยู่ในรถคนเดียว มันอันตรายนะครับ”

                อยู่บนห้องสองต่อสองกับพี่นะไม่อันตรายกว่าเหรอ...

                โอ๊ตได้แต่แอบคิดในใจ เขามองหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟน ผู้ที่เคยมีข่าวความเจ้าชู้ไม่น้อยหน้ารุ่นพี่คนสนิทของเขาเลย แต่ดูแล้วท่าทางพี่นะก็ไม่ได้มีท่าทีหรือพิรุธอะไรน่าสงสัย

                คงไม่ได้มีแผนอะไรหรอก...มั้ง...

                “ก็ได้ครับ”

                โอ๊ตเปิดประตูก้าวเท้าตามนะขึ้นลิฟท์ไปชั้นหกอย่างเงียบ ๆ นะเปิดประตูเดินนำเข้าไปในห้อง หากคนที่เด็กกว่ากลับหยุดยืนรออยู่เพียงแค่หน้าประตูเท่านั้น นะยิ้มเมื่อเห็นโอ๊ตไม่ยอมเข้ามาในห้องสักจึงเอ่ยปากชวน

                “ข้าวโอ๊ตเข้ามาสิครับ มานั่งรอข้างในก่อน ขอเวลาพี่หาหนังสือแป๊บนึงนะครับ ไม่รู้พี่เอาไปเก็บไว้ตรงไหน”

                เมื่อเห็นโอ๊ตยังยืนนิ่ง เจ้าของห้องก็กลับมาสนใจรื้อหาหนังสือที่เขายืมมาจากเพื่อนเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนต่อ โอ๊ตชะโงกหน้าส่องสายตาเข้ามาสำรวจภายในห้อง ถึงพวกเขาจะคบกันมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่โอ๊ตเพิ่งเคยขึ้นมาที่ห้องของแฟนหนุ่มเป็นครั้งแรก

                “โทษครับ หลบหน่อยครับ”

                โอ๊ตรีบเบี่ยงตัวหลบเข้ามาในห้องเมื่อหันไปเห็นว่ามีผู้ชายกำลังแบกโทรทัศน์เดินผ่านหน้าห้องไปยังลิฟท์ ดูเหมือนห้องเยื้อง ๆ กันกำลังขนของย้ายห้องอยู่ เขาเห็นผู้หญิงอีกคนยกกระติกน้ำร้อนออกมาวางบนกล่องพลาสติกที่ตั้งอยู่หน้าห้องนั้น ท่าทางจะขนกันอีกหลายรอบ

                เห็นแบบนั้นโอ๊ตจึงปิดประตูห้องแล้วยืนลังเลอยู่ตรงนั้น ห้องของนะไม่ได้มีโซฟา มีเพียงเก้าอี้ตัวเดียวตรงโต๊ะเขียนหนังสือซึ่งงถูกเจ้าของห้องใช้วางหนังสือที่รื้อออก พอนะหันมาเห็นก็ยิ้มให้

                “นั่งรอบนเตียงก่อนก็ได้ครับ”

                โอ๊ตมองเตียงขนาดควีนไซส์ที่ตั้งอยู่กลางห้องด้วยสายตาไม่ไว้ใจนัก แต่จะให้ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่แบบนี้ก็ดูจะยังไงอยู่ เขาจึงถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งที่ปลายเตียงที่ปูผ้าปูสีเทาอ่อน สายตาก็มองสำรวจรอบ ๆ ห้องพักขนาดมาตรฐาน นอกจากเตียงที่เขานั่งอยู่แล้วก็มีตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ และชั้นวางของบิวท์อินบนผนังที่ยาวไปจนถึงชั้นหนังสือที่อยู่ติดกับโต๊ะเขียนหนังสือ นอกจากโทรทัศน์กับหนังสือที่วางอยู่สองสามตั้งเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่มีอะไรในห้องนี่แสดงถึงตัวตนของเจ้าของห้องเลย รูปถ่ายสักใบก็ไม่มี พลันสายตาเขาก็เห็นกระเป๋าสีดำรูปทรงเหมือนกระเป๋าใส่กีต้าร์วางอยู่ข้างหัวเตียง

                “มองหาอะไรอยู่เหรอครับ”

                โอ๊ตสะดุ้งหันขวับมาทันทีเมื่อนะก้มลงกระซิบถามทำให้จังหวะที่เขาหันไปแก้มไปโดนปลายจมูกของคนที่ยืนอยู่พอดี คนอายุน้อยกว่าผงะออกทันทีพร้อมกับทำหน้าตื่น หากนะกลับเพียงยิ้มน้อย ๆ แล้วนั่งลงข้างกันบนเตียง

                “พี่ถามว่ามองหาอะไรอยู่เหรอ”

                “เออ พี่นะเล่นกีต้าร์ด้วยเหรอครับ” โอ๊ตซ่อนความรู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้าด้วยการถามถึงสิ่งที่เขาเพิ่งละสายตามา

                นะหันมองตามสายตาของคนที่นั่งอยู่ก่อน “ก็เล่นบ้างเวลาว่าง ๆ น่ะ โอ๊ตอยากฟังไหมล่ะครับ”

                “ไม่เป็นไรครับ”  โอ๊ตส่ายหน้าก่อนจะก้มลงมองหนังสือสองเล่มที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย “หาหนังสือเจอแล้วใช่ไหมครับ”

                “อือ โอ๊ตหิวหรือยังครับ”

                นะถามด้วยความเป็นห่วงที่น้องต้องหิ้วท้องรอ หากโอ๊ตกลับส่ายหน้า

                “ก่อนที่พี่นะจะไปรับ ผมเพิ่งกินขนมไปน่ะครับ”

                “งั้นพี่ขอแวะไปที่คณะก่อนนะครับ แล้วเราค่อยไปหาข้าวกินกัน”

                โอ๊ตกำลังจะลุกขึ้นก็พอดีกับที่โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขาดังขึ้น เขาจึงหยิบขึ้นมากดรับแล้วลุกเดินเลี่ยงออกมาคุยที่ระเบียงห้อง

                “ครับแม่”

                นะมองตามหลังแฟนรุ่นน้องที่ลุกออกไป ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์เบา ๆ

                “โอ๊ตกำลังจะออกไปกินข้าว แม่ละครับ กินข้าวหรือยัง”

                “ครับ กลับวันเสาร์หน้า”

                “โอ๊ตก็คิดถึงเหมือนกัน”

                เมื่อวางสายแล้วโอ๊ตก็เดินกลับเข้ามาก็เห็นเจ้าของห้องมองมาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก เขาจึงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

                “เวลาโอ๊ตแทนตัวเองว่าโอ๊ตก็ฟังดูน่ารักดีนะ พี่ชอบ”

                โอ๊ตเสหลบสายตาเป็นประกายของคนที่มักจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ คำว่าชอบของนะทำให้เขาหัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ

                “ไปกินข้าวกันเถอะครับ”

                โอ๊ตทำท่าจะเดินไปที่ประตูห้องแต่ถูกคนที่ยังนอนอยู่บนเตียงคว้าข้อมือเอาไว้ก่อน เขาหันมามองด้วยความตกใจแต่ก็พยายามจะทำหน้านิ่งไว้

                นะพยายามกลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าตื่น ๆ ของเจ้าแมวน้อยตรงหน้า น้องมันน่าแกล้งเสียจริง ๆ

                “อยากให้เวลาคุยกับพี่ ข้าวโอ๊ตแทนตัวเองว่าโอ๊ตได้ไหมครับ”

                “ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ชิน”

                นะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเขยิบเข้าไปชิดคนที่เอาแต่หลบสายตาของเขา เขามองคนตัวเล็กกว่าด้วยความเอ็นดูก่อนจะก้มตัวลงให้สายตาอยู่ระดับเดียวกันแล้วจ้องตาคนรักพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ

                “นะครับ พี่อยากได้ยิน นะครับข้าวโอ๊ต”

                โอ๊ตเม้นปากแน่นเมื่อถูกจู่โจมด้วยสายตาและน้ำเสียงขอร้องนิด ๆ ของอีกฝ่าย

                “ไปเถอะครับ เดี๋ยวเพื่อนพี่จะรอ”

                โอ๊ตหันหน้าหนีไปอีกทาง นะเลยได้แต่ยักไหล่ก็จะยืดตัวขึ้นเต็มความสูงแต่ทว่าก็ยังไม่ยอมปล่อยข้อมือที่จับเอาไว้

                “เอ่อ” โอ๊ตหันมามองข้อมือตัวเองก็จะช้อนตาขึ้นมองคนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ปล่อยสิครับ”

                “ก็โอ๊ตไม่ยอมทำตามที่พี่ขอ งั้นพี่ก็ขอจับมือหน่อยละกันนะ”

                ไม่พูดเปล่านะยังชูมือที่จับไว้ขึ้นมาด้วย โอ๊ตได้แต่ถอนหายใจก่อนจะพูดบางอย่างที่ทำให้คนฟังถึงกับยิ้มกว้าง

                “ถ้าพี่จับมือโอ๊ตไว้แบบนี้จะล็อคห้องยังไงล่ะครับ โอ๊ตว่าเรารีบกันดีกว่า”

                นะยอมปล่อยมือตามที่น้องขอ แต่ก็นั่นแหละ พอเขาล็อคประตูห้องเรียบร้อย มือใหญ่ก็คว้ามืออีกคนทันที หากคราวนี้นะประสานนิ้วมือของพวกเขาไว้ด้วยกันโดยไม่สนใจคนที่ยืนทำตาโตสีหน้าเลิ่กลั่ก

                “พี่นะ เดี๋ยวคนอื่นเห็น”

                “คนเป็นแฟนกัน เดินจับมือกันมันเรื่องธรรมดานะครับ” นะยิ้มให้ก่อนจะจูงมือแฟนเด็กของตัวเองไปที่รถ

                “แต่ว่า...”

                โอ๊ตก็ยังรู้สึกไม่ชินอยู่ดี ทำแบบนี้มันน่าอายจะตายไป

                “ไม่ต้องเขินหรอก พี่ไม่ได้จะจูบข้าวโอ๊ตสักหน่อย” นะหันมาทำหน้าทะเล้น

                “พี่นะ!”

                คราวนี้มืออีกข้างของโอ๊ตที่ว่างอยู่ฟาดลงมาแขนเขาทันที ทำเอานะซูดปากด้วยความเจ็บแต่ก็ยังกุมมือไว้ไม่ปล่อย ส่วนโอ๊ตก็ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายกุมมือของตนต่อไปโดยไม่ว่าอะไรจนถึงรถ

                ทำไมยิ่งนับวันการกระทำของผู้ชายคนนี้ถึงมีผลต่อเขามากขึ้นนะ...

                แย่แล้วไอ้โอ๊ต...

 

                TBC…



     ต้องขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนาน ข้าน้อยผิดไปแล้ว ฮือออออ

     ยังมีใครรออ่านพี่เสือน้องแฮม พี่นะกับข้าวโอ๊ตไหมนะ  :mew2:
     

       
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-02-2019 20:15:24
จัดงานหมั้นเลยไหมคะแม่ๆ
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-02-2019 01:54:07
หายไปนานมากกกก  คุณแม่เล่นใหญ่อยู่นะ555
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 28-04-2019 00:03:08
 :katai2-1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-04-2019 11:50:34
หายไปนานจังเลยยยยย