ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
**********************************************
only love:แค่รัก
(https://www.img.live/images/2018/08/14/108c83f36dbcfcf9dfd3ce2db6e5bca1.jpg)
ผมรู้แค่ว่ารักก็คือรัก........แต่รักมันก็ควรที่จะรู้สึกทั้งสองฝ่าย
.
.
ไม่ใช่แค่คน....คนเดียว
.
.
.
มันไม่ใช่กับทุกคนที่แค่รัก.....ก็สุขใจแล้ว
* * * *
- ๔ -
“ปล่อยได้แล้ว....ถึงห้องแล้วก็ปล่อย”
“หิว”
“ก็ไปในครัวสิ ขอเกินเยอะแยะพึ่งซื้อของมาไว้”
“ทำให้กินหน่อย”
“ไม่จะอาบน้ำ” อยากกินก็ทำกินเองดิ ผมเหนียวตัวจะแย่แล้ว ผมจะอาบน้ำ เข้าใจมั้ยว่าอยากอาบน้ำ น้ำ น้ำ น้ำ น้ำ น้ำ.....
“เชี้ย!....ลงไปหนัก” โซฟาก็มีเท่านี้ยังจะขึ้นมานอนเบียดอีก แล้วกระโดดลงมาทับมึงคิดว่ามึงตัวเล็กตัวน้อยรึไงวี ผู้ชายสองคนที่ไม่ได้ตัวเล็กตัวน้อยมานอนเบียดกันมันใช่เรื่องมั้ย เดี๋ยวบ้องหูเลย
“พบนอนดีๆดิ เดี๋ยวก็ตกโซฟาหรอก”
มึงควรจะคิดได้นะว่าเพราะใครที่มันทำให้กูจะตกโซฟา ผมนอนตรงนี้ก่อนแล้วยังมีหน้ามานอนเบียดอีก ก็หลังจากอาบน้ำออกมาเห็นคนบ่นหิวก่อนหน้านี้นั่งคอยอยู่ในครัว เห็นแล้วก็อ่อนใจจนใจอ่อนเลยต้องหาอะไรให้กิน ไม่ใช่อะไรผมก็หิวไง ไหนๆก็จะทำแล้วก็ทำเผื่ออีกคนด้วยแล้วกันจะได้ไม้ต้องมาทำหน้าตาเหมือนหทาหง่อยใส่แบบนี้
ทั้งตัวผมเองและเด็กนั่นกินอิ่ม ผมก็เลยลุกหนีออกมาให้เด็กนั่นเก็บจานไปล้างทั้งชองผมและของมัน ไหนๆผมทำให้กินแล้วก็ตอบแทนด้วยการล้างจานด้วยแล้วกัน พออิ่มหนังท้องมันก็เริ่มตึง ผมเลยหนีมานอนที่โซฟาแต่ไม่วายยังมาโดนเบียดเบียนโซฟาทั้งๆที่ผมนอนจนเต็มแล้วแท้ๆ
“อ๊ะ” ในขณะที่ผมโดนนอนซ้อนอยู่ข้างหลัง ก็โดนมือทั้งสองข้างของคนที่นอนซ้อนอยู่ที่ด้านหลังล็อกตัวไว้ไหนจะขาอีก ผมขัดขืนจนผมเริ่มจะจำยอม นอนนิ่งๆ ขาที่เคยล็อกผมอยู่ก็ค่อยๆขยับมาแซกกลางระหว่างขาของผมพร้อมมือซ้ายที่ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาล็อคคอของผมส่วนมือขวาค่อยๆไหลลงไปตามหน้าท้องจนค่อยๆไหลเข้าไปในกางเกง สัมผัสกับจุดกึ่งกลางลำตัว จนผมต้องรีบเอามือไปตะครุบมือเย็นนั้นไว้แต่ผมคงคิดช้าไปที่จะหยุดมือนั้นทำให้มันยิ่งแนบไปกับจุดกึ่งกลางลำตัวจนแทบไม่มีช่องว่าง
“หึ อยากขนาดนั้นเลยรึไง”
“....”ตอนนี้ผมร้อนไปทั้งหูแล้ว
“วะ วะ วี อืม อ๊ะ วะ” อย่าขยับมือสิโว้ย ยิ่งขยับมันก็ยิ่งสู้มือสิ
“เด็กดี” เด็กดีกับผีสิ อย่าขยับ ถ้าขยับอยู่แบบนี้จะไม่นอนอยู่เฉยๆแล้วนะ
“อืม..”
“ยอมแล้วหรอ”
“ยะ....หยุดทำไม” ใกล้แล้วแท้มาหยุดกลางทางแบบนี้พี่ไม่ปลื้มเลยนะน้องวี
“เฮ้ย!” ไอ้นี่ ทำอะไรไม่ดูสถานที่เลยถ้าตกลงไปนะแม่จะบ้องหูซ้ายบ้องหูขวาให้ เล่นพลิกตัวผมขึ้นไปอยู่ข้างบนแล้วดันให้ผมนั่งทับอยู่กลางลำตัว ในทีแรกผมก็นั่งอยู่ช่วงท้อง คงจะไม่ได้ตำแหน่งที่ต้องการ เลยดันตัวผมลงไปนั่งทับลูกชายที่แข็งขันพร้อมรบ
“อืม...”อย่ามาทำเสียงแบบนี้ผมใจสั่นไปหมด
ทันทีที่ผมนั่งทบอะไรแข็งๆที่ดันอยู่ที่ก้นผม ผมเล่นเอาไม่กล้าขยับ ถึงเราจะมีอะไรกันหลายครั้งต่อหลายครั้งแต่มันก็ยังไม่ชินที่จะต้องอยู่ข้างบนแบบนี้ตั้งแต่เริ่มกิจกรรม ไอ้อยู่ข้างบนแบบนี้มันก็เคยแต่มันก็ต้องผ่านกิจกรรมเข้าจังหวะไปช่วงหนึ่งแล้วแบบอาการเขินอายมันก็หายไปแล้ว แต่แบบนี้มันไม่ใช่ไง ยางบนหน้ามันก็ยังมีอยู่ไง
“เขินรึไง ทำเป็นไม่เคย”
“อ๊ะ”
ปัก!
รู้ว่าผมเขินก็เอาใหญ่เลยนะ ผมนั่งตัวเกรงทำอะไรไม่ถูก ก็มีมือสองข้างมาขยำก้นผมทั้งสองข้างพร้อมกันแรงๆ ผมเลยทุบอกไอ้คนที่แก้ผมไปเต็มแรงเหมือนกัน
“เลิกเกรงได้แล้วทำเป็นไม่เลย”
“อืม.....อ๊า” จากที่ขยำแรงในทีแรกก็เปลี่ยนมานวดคลึงเบาที่แก้มก้นทั้งสองข้าง มันช่วยลดอาการเกรงของผม มันทำให้ผมค่อยๆผ่อนคลาย กลับมามีอารมณ์ร่วมจนผมเริ่มที่จะกดตัวลงไปบดคลึงลงบนแกนกลางลำตัวของอีกฝ่าย
“อ่า....ดี...อืม” ตอนนี้ผมแทบไม่เป็นตัวของตัวเองผมเริ่มให้อารมณ์อยู่เหนือทุกสิ่ง ให้อารมณ์นำพา จนคนที่อยู่ข้างล่างดึงผมลงไปรับจูบที่ร้อนแรงที่มาพร้อมอาการอึกอัดที่เริ่มแทรกมาที่ช่องทางด้านหลัง
“อืม...”
“พบเอื้อมมือหยิบถุงยางในกระเป๋าบนโต๊ะให้หน่อย”
“ปล่อยกะ...อืม ก่อนจะหยิบให้นี่ไง”
“ก็เอื้อมไปแต่แขนสิ จะขยับตัวทำไม”
อ่าว! ก็มันเอื้อมไม่ถึงไงกูเลยต้องเอื้อมไปทั้งตัว คนที่อยู่ข้างล่างก็ไม่มีทีท่าจะยอมกับจับเอวผมกดลงทำให้นิ้วที่กำลังทำหน้าที่อยู่เข้าไปได้ลึกมายิ่งขึ้น โอ้ย!! จะไม่ไหวแล้วจะ จะไม่ใส่ก็ไม่ได้ ผมก็เลยต้องพยายามยื่นมือจนสุดแขนจนสามารถเกี่ยวกระเป๋าบนโต๊ะได้ทั้งกระเป๋าค้นเจอเพียงเดียวงันก็หมายความว่า
“รอบเดียว”
“ไม่ ลิ้นชักตรงกระจกยังมีอยู่จำได้” ความจำดีเหลือเกิน
“ชิ”
“ใส่ให้หน่อยสิ”
ชิ เอาน่าของเคยๆ ไม่ต่างจากใส่ให้ของตัวเองหลอกน่า
“ยกตัวหน่อยสิ....แบบนั้นแหละ ค่อยๆลดตัวลงมา....อืม...”
“อืม.....พู่” ผมมถึงกับเป่าลงออกปาก มันอึดอัดจนผมต้องขยับตัวไปมา ให้อาการอึกอัดมันหายไปแล้วแปลเปลี่ยนให้เป็นความรู้สึกอื่นเข้ามาแทน
“อ๊า....พบใจเย็นๆ” ผมไม่ได้สนใจเสียงที่เรียก ผมแค่ต้องการให้มันมากกว่านี้รู้สึกมากว่านี้
อืม....เป็นอีกวันที่ผมรู้สึกเหมือนโดนผีอำ ช่วงบนขยับไปไหนไม่ได้ ช่วงล่างถึงขยับได้แต่ก็เจ็บจนเกินกว่าจะเคลื่อนไหว เมื่อวานไม่น่าห้าวเลย แล้วเป็นไงละ ระบมไปทุกรูขุมขนกันเลยทีเดียว
“ปล่อยก่อน”
“จะรีบไปไหนวันนี้วันหยุด”
“เหนียวตัวอยากอาบน้ำ”
หลังกิจกรรมเข้าจังหวะเมื่อวานเสร็จก็หลับใหลไปตอนไหนก็ไม่ทราบได้ แต่จากความรู้สึกของร่างกายผมน่าจะผ่านการเช็ดทำความสะอาดมาบ้าง แต่มันยังไม่พอ มันยังรู้สึกไม่สบายตัวอยากที่จะไปอาบน้ำให้สบายตัว แต่คนตัวอุ่นที่อยู่ข้างๆไม่ยอมให้ความร่วมมือ
“นอนเป็นเพื่อนกันก่อน เดียวตื่นแล้วอาบให้”
“ไม่” อาบเองได้ อาบเองสบายใจกว่าปลอดภัยกว่า
“อย่าดื้อหลับตาเร็ว” ก็บอกอยู่ว่าไม่ไง เด็กนั่นพูดทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ ผมก็ยังพยายามขยับยุกยิกเพื่อที่จะไปอาบน้ำให้ได้ จนเด็กนั่นค่อยๆหรี่ตาขึ้นมามอง
“อืม” แล้วบังคับผมให้หลับด้วยการใช้มือกดหัวผมให้จมไปในอกที่แข็งไม่เห็นนุ่มนิ่มชวนนอน พร้อมมืออีกข้างยังลูบช่วงสะโพกที่เจ็บของด้วยแรงที่ชวนหลับไหลเข้าสู่นิทราอีกครั้ง ลืมไปเลยว่าอยากอาบน้ำ
Tru….Tru…Tru
“คิดถึงหรือไง”
[เลิกงานแล้วไปกินข้าวกัน]
“คิดถึงก็บอกว่าคิดถึงไม่ใช่ชวนกินข้าว”
[อืม....จะไปไหม]
“ว่าไงนะ”
[....คิดถึง....เย็นนี้ไปกินข้าวกันเดียวไปรับ]
“ฮ่าๆ ก็แค่นั้น ได้สิ แล้วรู้รึไงทำงานอยู่แถวไหน”
[รู้]
“บ๊ะ! เลิกทุ่มนึงนะ ละ...”
อ่าว! ไอ้เด็กนี่ ยังคุยไม่จบเลย คุยธุระของตัวเองเสร็จก็ไม่สนธุระของคนอื่นรึเรื่องที่คนอื่นเค้าอยากคุยด้วยเลย ให้ตายสิไอ้เด็กนี่ อย่าให้เจอนะจะตีให้ก้นลายเลย
จากสุดสัปดาห์นั้นที่อยู่ด้วยกัน นี่ก็ผ่านมาเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เด็กนั่นหายไป แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาจนวันนี้ที่เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ของคนทำงาน เด็กนั่นก็ติดต่อกับมาพร้อมทั้งยังชวนผมไปกินข้าวเย็นอีก ได้ยินมั้ยว่านายรวีชวนผมไปเดินข้าวเย็น ผมละอยากกดว้าวเลย
“พี่ต้าๆ พี่พบเป็นอะไรไม่รู้มองโทรศัพท์แล้วยิ้มคนเดียวเหมือนโรคจิตเลยพี่ รึพี่เค้าทำงานหนักเกินไปรึป่าวนะ”
“เสือก”
“สมน้ำหน้า เรื่องนี้กูจะไม่ยุ่ง”
“อ่าว! พี่พบพี่ด่าผมทำไมผมน้องพี่นะ”
“ไม่ต้องเลยไอ้นัทไม่ต้องหันหน้ามาขอความช่วยเหลือจากกู กูไม่รู้ กูทำงานอยู่” อ่าวๆคู่หูวงแยกซะแล้ว แย่เลย
“แฮ่ๆ ผมทำงานดีกว่า”
ทั้งๆแค่อยากจะแกล้งคนที่หาไปตลอดสัปดาห์ให้เขิน แต่ทำไมมันกลับกลายเป็นผม ที่เจอประโยคที่แสนธรรมดาที่บอกว่า “คิดถึง” ผมว่าผมผิดปกติแล้วสิ วู้! ทำไมหูผมร้อนแบบนี้นะ
กรุ๊ง กริ๊ง กรุ๊ง กริ๊ง
“สวัสดีค่ะ มาติดต่ออะไรคะ”
“มาหาพบอยู่มั้ยครับ”
“มาหาพี่พบหรอคะ นั่งรอตรงนี้ก่อนก็ได้ค่ะ พี่เค้าออกไปซื้อกาแฟข้างนอกเดี๋ยวก็มา รอสักครู่นะคะ”
“ครับ”
กรุ๊ง กริ๊ง กรุ๊ง กริ๊ง
“กูกินมาเป็นปีพึ่งรู้ว่าเป็นร้านของแซม ถึงว่ามึงไปกินแต่ร้านนี้ ร้ายนี่หว่าไอ้เสือ”
“ร้ายอะไร เพื่อนกัน ร้านเพื่อนก็ต้องไปอุดหนุนช่วยเพื่อนไง ไม่มีอะไรมากกว่านี้จริงๆ”
“เออเพื่อนกูแต่ไม่แน่ใจว่าเพื่อนมึงรึป่าวนี่สิ”
“สัด”
โอ๊ะ มีลูกค้าเข้าหรอ ผมละแจกสัดเต็มออฟฟิศเลย
“ลูกค้าหรอว่ะนัด”
“ไม่แน่ใจอ่ะพี่ต้า เค้าบอกมาหาพี่พบ”
“อ่อ” สัดต้าไม่ต้องมองกูด้วยสายตาแบบนั้น
“ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลย” อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะเลิกงาน รึว่าจำเวลาเลิกงานผมผิดนะ
“คอยได้”
“อ๊ะ อืม เออ พวกมึง เด็กนี่ชื่อวี ส่วนคนนี้ชื่อ นัด พลอย เบ้น แล้วไอ้ที่ยืนดูดกาแฟนั่นชื่อต้า ส่วนไอ้คนนั่งอยู่โน้นชื่อมอส เออแล้วน้องคนนี้ชื่อ วี นะ”
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ/ค่ะ”
“ทำตัวตามสบายเลยนะ” กูว่ามึงมากกว่าต้าที่ต้องทำตัวตามสบายไม่ใช่มองมาด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็นแบบนั้น คนอื่นๆก็ด้วยมองอยู่ได้ไปทำงานทำการกันได้แล้ว
“ใครว่ะพบ” อ่าว ที่กูแนะนำตัวกันไปมึงไม่ได้รับรู้เลยหรอมอส มันนั่งเสนอหน้ามาจะสองชั่วโมงแล้วนะเพื่อน
“น้องมันชื่อวี”
“สวัสดีครับ” แนะ! มือไม้อ่อนจริงๆนะเด็กน้อย ทีกูเจอกันแต่ละทีไม่เคยจะยกมือไหวมือไม้อ่อนแบบนี้ แค่พูดครับลงท้ายประโยคก็ยังไม่เคยจะมีเลย
“พบมันมีแต่พี่นิ แล้วมันไปมีน้องตอนไหน แล้วมึงเป็นใครอะไรยังไงกับพบมันว่ะ” ถามจริงตอบจริงยิ่งกว่าเรื่องเล่าเช้านี้อีกมึงเนียนะมอส
“ถามน้องมันสิ” ถามสิมอสถามมึงถามเลย
“เออ ก็กูถามน้องมันอยู่นิไง ว่าไง” ดีมากเพื่อนมอส ถามเลยๆกูก็อยากรู้
“พี่น้องครับพอดีรู้จักกันนานแล้ว และพอดีผมให้เค้าไปช่วยงานวันนี้เลยนัดทานข้าวเย็นตอบแทนน่ะครับ”
“ตามนั้น พี่น้องที่รู้จัก รู้แล้วก็ไปทำงานไป” จบนะ พี่น้องที่รู้จัก พี่น้องที่รู้จัก ประโยคเดียวลบล้างหมดแล้วไอ้อาการที่ทำให้หูร้อนก่อนหน้านี้ พี่น้องไงไม่รู้จักหรอ ถึงจะท้องชนกันก็เถอะ แถมยังรู้จักกันนานแล้วด้วย ใช่ นานแล้วด้วย นานแล้วด้วย
“อ่อ ตามสบายนะกูไปขี้ดีกว่า”
“คิดถึงหรอถึงรีบมา” เอาให้สุดอย่าไปกลัวไอ้พบ ฮึบไว้ๆ
“เลิกเรียนแล้วไม่รู้จะไปไหน” หรอ หรอ พูดกันก็มองหน้าสิ
“ทั้งออฟฟิศมีกันแค่นี้หรอ” แนะเปลี่ยนเรื่องเลยนะ
“อืม มีกันแค่นี้แหละ home office รู้จักรึป่าว”
“อืม ทำเองหรอ” เด็กนั่นนั่งมองไปทางงานที่ผมทำงานอยู่พักใหญ่ก็เอ่ยขึ้นมา พูดเหมือนคนแบบผมไม่น่าทำงานแบบนี้ได้ยังงันแหละ
ด้วยความที่ออฟฟิศผมมีขนาดเล็ก และพนักงานก็ไม่ได้เยอะเมื่อเทียบกับงานที่เข้ามาในตอนนี้ แต่ก็ไม่ใช่เยอะจนล้นมือพางานจะเสียไปด้วย ผมก็รับเท่าที่เราสามารถทำได้ คนนึงต่อหนึ่งโครงการ แต่ถ้าอยากให้เราทำงานให้จริงๆก็ต้องรอตามคิว หนึ่งโครงการก็หนึ่งถึงสองเดือนแล้วแต่ขนาดของโครงการ หรือบางโครงการก็ลากไปครึ่งปีถึงหนึ่งปี
แต่ส่วนใหญ่โครงการใหญ่ๆที่ใช้เวลานานๆก็ทำกันสองสามคนมากกว่าที่จะทำคนเดียวแต่ถ้าอยากให้เราไปคุมงานก่อสร้างให้ก็จะเพิ่มเวลาที่อยู่กับโครงการนั้นยาวนานเพิ่มไปอีกปีสองปีอยู่กันจนโครงการนั้นสำเร็จพร้อมเข้าใช้งาน คนคนนึงรับมากกว่าหนึ่งงานแล้วแต่เห็นสมควร พูดถึงงานมากๆ แล้วพานจะให้ยากลางานกลับไปนอนโง่อยู่ที่เตียง รู้สึกง่วงขึ้นมาทันที หาวววววววว เตียงจ๋า
“แล้วตอนนี้thesisเป็นไงบ้าง เสร็จหรือยัง”
“ยัง แต่ไม่ต้องห่วงหรอก” ทำไมรู้สึกโดนด่าว่าเสือกว่ะ แต่คงไม่ใช่หรอกผมเชื่อแบบนั้น คิดมากน่า
“.....”
“.....” หึ พอผมเงียบกลับเงียบตามอีกชวนคุยสิ ชวนคุย
“ห่วงไม่ได้รึไง”
“ห่วงทำไมห่วงตัวเองก่อนเถอะ” ฮู้ หักหาญน้ำใจนายพบตะวันเหลือเกิน นายรวี อยากจะเอาหัวมุดเข้าไปในจอคอมเหลือเกิน พบตะวันแกกำลังหวังอะไรอยู่
“เอาเท่านี้ก่อนครับ”
“ ค่ะ ทวนรายการอาหารที่สั่งนะคะ.......... รออาหารสักครู่นะคะ”
มองอะไร มองอะไรมองกันขนาดนี้พาพี่ไปมองต่อที่ห้องก็ได้นะที่ไม่ว่า
Tru….Tru..Tru..
THA:AHT
เพื่อนพบ เพื่อนต้าหิวข้าวจังครับ
โอ้ยลืมไป
เพื่อนต้องไปกินข้าวกับเด็ก
TAWAN
หิวก็หาอะไรแดกซะนะ
ปากจะได้ไม่ว่าง
THA:AHT
อยากกินเด็ก
TAWAN
สัด
“จะกินรึจะเล่นโทรศัพท์”
“รู้แล้วน่า”
“รู้ก็วางสิ” ผมได้แต่ส่งสายตาหงุดหงินกลับไปให้
* * * *
- ๖ -
กรุ๊ง กริ๊ง กรุ๊ง กริ๊ง
“สวัสดีค่า ยินดีต้อนรับค่า”
ทันทีที่ผมเปิดประตูร้านcaf’e เล็กๆที่แฝงอยู่ในเมืองที่วุ่นวาย กลิ่นหอมของของหวานน่าชนิด และเสียงใสๆของบรรดาพนักงานภายในร้าน ก็ปะทะสู่ร่างกาย จนทำให้สารเอ็นโดรฟินในร่างการหลั่งออกมา บอกเลยนี่ร้านประจำของผมเลยนะ เวลาเหนื่อยๆถ้าร่างกายได้รับน้ำตาลมันจะช่วยให้คุณกลับมาสดใสวิ้งแวววาวได้จริงๆนะ แต่จะให้กินน้ำตาลทรายเล่นมันก็ดูแปลกๆ มันก็เลยต้องออกมารับน้ำตาลในรูปแบบอื่นแทนแบบนี้
“อ่าวพี่พบนี่เอง วันนี้รับอะไรดีคะ หรือว่ามาหาพี่แซม”
“แล้วพี่จะมาหามันทำไมเล่ามาร้านขนมก็ต้องมากินขนมหวานสิ ตอนนี้ร่างกายพี่ต้องการของหวานสุดๆ”
“ฮ่าๆ นี่อดหลับอดนอนมาอีกแล้วสินะคะ เลือกเลย ทั้งเค้กทั้งขนมพึ่งมาใหม่เมื่อเช้านี้เอง ขนมเต็มตู้พร้อมให้พี่พบเลือกเลยค่ะ”
“ครับ” ด้วยความที่มาบ่อยถึงจะไม่ได้มาด้วยตัวเองฝากคนอื่นมาบ้าง เลยทำให้สนิทกับพนักงานที่นี่เลยสามารถคุยแซวเล่นกันเป็นปกติ ต้องรีบไปเลือกขนมแล้วร่างกายประทวงว่ารีบเติมน้ำตาลให้ฉันได้แล้ว ให้เร็วให้ไว ถ้าทำได้....
“ตกลงพี่พบรับสามชิ้นนะคะ แล้วจะรับน้ำด้วยมั้ยคะ”
“ไม่ครับเอาแค่นั้นแหละ พี่มีน้ำแล้ว” น้ำสีเขียวของร้านน้องหมวยคนสวยเจ้าประจำของผมเอง
“ค่ะ ทั้งหมดสามร้อยสามสิบห้าบาทค่ะ รับมาหนึ่งพันนะคะ ส่วนนี่เงินทอนหกร้อยหกสิบห้าบาทค่ะพี่พบไปเลือกที่นั่งก่อนนะคะเดียวหนูเอาไปเสิร์ฟขนมให้ที่โต๊ะนะคะ”
“ขอบคุณนะครับ”
ทันทีที่ได้เค้กทั้งสามชิ้นมา ผมไม่สนใจหน้าตาเค้กหรือการตกแต่งจากที่สวยงามถ้าเป็นใครหลายๆคนอาจจะต้องยกมือถือมาถ่ายภาพความสวยงามนี้เก็บไว้ผมก็เป็นแต่ตอนนี้ไม่ใช่ เพราะผมลงมือตัดเค้กนั้นเข้าปากทันทีเพื่อที่จะลิ้มรสความหวานอ่อนนุ่มลิ้น เหมือนได้เติมพลัง ทันทีที่ลิ้มรส
เพี๊ยะ!
“มาร้านเราทำไมไม่บอกเรา”
“ตีทำไมเนียเจ็บนะ” มาตีตอนคนกำลังจะเอาเค้กเข้าปาก ถ้าเค้กที่มือตกขึ้นมา ผมจะเอาซ้อมตีหัวเจ้าของร้านเลย
“สม ก็มาร้านเราแล้วไม่บอกเรา”
“อ้าว! ก็มากินเค้ก ไม่ได้จะมาหาแล้วจะบอกทำไมเล่า ตีมาได้แม่งอย่างเจ็บ”
“ก็....ก็ไม่เจอกันตั้งนาน ไม่คิดถึงกันบ้านรึไง”
“ไม่...หน้าตาแบบนี้ใครจะไปคิดถึง”
“งันไม่ต้องกิน”
“ได้ไงจ่ายตังแล้วถือว่าเป็นของกูแล้ว เป็นเจ้าของร้านประสาอะไรเนีย จรรยาบรรณอ๊ะมีรึป่าว”
“ไอ้นี่นิ”
“....”
“....” แซมยังไงก็ยังเป็นแซมนิสัยไม่เปลี่ยนเลยไม่ว่าจะตอนนั้นหรือตอนนี้
“ที่ร้านเป็นไงบ้างช่วงนี้”
“ก็ดีนะแต่ช่วงนี้ลูกค้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้นหลังจากมีเพจอะไรสักอย่างนี่แหละมา เราไม่แน่ใจชื่อว่าอะไรสักอย่างมารีวิว”
“ก็ดีแล้วนิ”
“มันก็ดีแต่ เออก็ดีแหละ แล้วช่วงนี้ตัวเป็นไงบ้าง ไม่เจอกันตั้งนาน ไม่มาหากันบ้างเลยนะรู้มั้ยว่าคิดถึง”
“ตัวเตออะไร ใครบอกว่าไม่มา ก็อยากไม่อยู่ร้านเองช่วยไม่ได้”
“ง๊ะ ก็อยากเรียกนิ ทีเมื่อก่อนยังเรียกได้เลย”
ป๊อก!
ผมเอาซ้อมตักเค้าตีหัวเจ้าของร้อนไปโทษฐานเล่นหูเล่นตาจนน่าหมั่นไส้ว่าจะไม่ทำแล้วนะ
“ก็เหมือนเดิมแหละ” ทำงานแล้วก็กลับไปนอนแล้วก็มาทำงาน
“นิก็พูดให้มายาวมันมากกว่านี้ไม่ได้รึไง คนเค้าอุสาชวนคุย”
“ก็ถามเรื่องอื่นสิถามเรื่องงานก็ตอบได้แค่นี้แหละ ความลับของลูกค้ารู้จักมั้ยฮ่ะ เอามาบอกรึนินทาลับหลังมันไม่ดี”
ผมคุยสัพเพเหระกันไปสักพัก แซมก็ขอตัวกลับเข้าไปในครัวก่อนเพราะอบขนมทิ้งไว้ใกล้ได้เวลาแล้ว มือผมไปโดนรึไปจับอะไรมาตอนไหนทำไมมันเหนียวๆแบบนี้ ผมเลยลุกเดินไปห้องน้ำที่มีไว้บริการให้ลูกค้าที่มาใช้บริการร้าน เพื่อจะเข้าไปล้างมือ ตอนเดินไปล้างมือผมก็ไม่สนใจโต๊ะที่นั่งของลูกค้าคนอื่นๆ แต่ตอนที่จะออกจากห้องน้ำเพื่อกลับมายังที่โต๊ะที่ยังเลือกเค้กอีกชิ้นที่รอให้ผมจัดการ
แต่สายตาเจ้ากรรมดันให้ผมไปสบตากลับใครคนนึง ทั้งผมและทั้งเค้าคนนั้นต่างสบสายตากัน แต่สายตาผมกลับยอมแพ้ที่จะเล่นเกมจ้องตาเลยทำให้สายตาของผมหลบจนไปพอกับผมหญิงที่สวยคนหนึ่งที่เห็นพียงหนึ่งครั้งก็จำได้ดี จนผมต้องกลับไปสบสายตากลับเค้าคนนั้นอีกครั้ง ผมเลยยิ้มให้กับเค้ายิ้มที่เหมือนทุกทีที่ผมยิ้มให้ แล้วผมเลิกสนใจสายตาที่ส่งมาให้แล้วเดินกลับมายังโต๊ะที่ยังเหลือเค้กที่รอผมกลับมาจัดการต่อ
ตลอดที่เดินกลับมา ผมบอกกับตัวเองว่า........”วันนี้มันคือวันหยุดของผม มันคือของผม”
ตอนนี้เวลาน่าจะตีหนึ่งได้ ผมก็ยังไม่ได้กลับห้อง ไม่ใช่สิกลับไปแล้วแต่กับเจอกลับใครบางคนที่นั่งรออยู่หน้าห้องเลยหันหลังกลับออกมาก่อนที่ใครคนนั้นจะเห็นผม ผมเลยเลือกที่จะมานอนเล่นอยู่ที่ชั้นบนของออฟฟิศที่ทำไว้เป็นที่พักผ่อน ผมไม่รู้จะไปไหน
จะไปห้องเพื่อนก็เกรงใจเพราะนี่มันก็ดึกมากแล้วผมคิดว่าเพื่อนก็ต้องการเวลาที่เป็นส่วนตัวบ้าง ผมดูนอนหนังอยู่บนชั้นบนของออฟฟิศตลอดการดูหนัง โทรศัพท์ของผมก็ดังตลอดเวลาอาจมีหายไปพักใหญ่แต่สุดท้ายก็ดังมาอีก ดังมาเรื่อยๆ ผมก็ไม่ได้สนใจผมเลือกที่จะปิดเสียงแทนการที่จะปิดเครื่อง
หลังจากที่ผมไม่ได้กลับห้องในวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอเด็กนั่นอีกเลย มานานเท่าไรแล้ว
หนึ่งเดือน
สองเดือน
สามเดือนแล้วสินะ ทำไมผมจำได้น่ะหรอ ก็ผมเล่นนับมันทุกวันว่าผมไม่ได้เจอกัน ไม่ใช่ผมไม่รู้สึก เพราะผมรู้สึกไงผมถึงจำได้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหน
“ไปไหนพี่”
“กินเค้ก”
“พี่เบาหวานมันจะถามหานะ ช่วงนี้เล่นกินทุกวันเลย”
“ถ้ากูตายก็อย่าลืมมางานกูแล้วกัน แล้วทำงานที่เหลือแทนด้วยแล้วกันยกให้”
กรุ๊ง กริ๊ง กรุ๊ง กริ๊ง
“สวัสดีค่า เชิญค่า”
“...”
“อ่าวสวัสดีค่ะพี่พบ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะคะ”
“อืม”
“อ่าวพบ วันนี้จะกินอะไรดี จะกินเค้กรึกินเราดี”
“กินเค้กดีกว่ากินอย่างอื่นกลัวท้องเสีย”
“แม่ะ! เมื่อก่อนไม่เห็นจะพูดแบบนี้ เมื่อก่อนละกินเอาๆ”
“ก็ตอนนี้ของมันเก่าแล้วไง พาลจะท้องเสียเอา”
“ไอ้บ้าพบ”
“พี่ๆค่ะ ใจเย็นนะลูกค้าเยอะนะพี่ๆ อายลูกค้าเค้า” ดูไว้แซมลูกน้องยังอาแต่เจ้าของนิไม่มีเลย
“เบื่อขี้หน้าจริงๆ หลบไปเลยจะไปเลือกเค้ก”
พึบ!
ผมนั่งกินเค้กอยู่บริเวณโต๊ะริมกระจกที่อยู่ในสุด ที่ไม่ค่อยมีผู้คนผ่าน ตอนนี้ก็บ่ายกว่าแล้วเลยทำให้ผู้คนในร้านบางตาลง แต่เก้าอี้ตรงข้ามกลับมีคนคนนึงมานั่งทั้งที่ไม่ได้ขออนุญาตใดๆจากผม
จนผมไล่สายตาจากเค้กที่กินอยู่ค่อยๆขึ้นไป จนสบตากับสายตาที่ไม่ได้ พบกันแสนนาน
“สวัสดี” ผมทักเค้าไป แต่เค้ากลับไม่ตอบเอาแต่จ้องหน้าผมแบบนี้....บ้าน่าเขินนะ
“....”
“ไม่เจอกันตั้งนานเลย เป็นไงบ้าง”
“ก็สบายดี” เค้าตอบผมแล้วไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นใบ้ไปเสียแล้ว
“ก็ดีแล้ว”
“....”
“วีอยู่นี่เอง อ่าวพี่พบสวัสดีค่ะ ไม่เจอกันนานเลยสบายดีมั้ยค่ะ”
“สบายดีครับ แล้วน้องฟ้าเป็นไงบ้างครับ ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เจอกันเลยเนอะ”
“ฮ่า ฮ่า ค่ะ นั้นสิค่ะไม่ได้เจอกันเลย”
“แล้วมากินเค้กเหมือนกันหรอครับ”
“ใช่ค่ะ แต่กำลังจะกลับแล้ว”
“แล้วช่วงนี้น้องฟ้าเป้นไงบ้างครับ เจ้าวีดูแลดีมั้ย ถ้าดูแลไม่ดีบอกพี่ได้นะจะได้จักการให้”
“ไม่ต้องห่วงเลยค่ะพี่พบวีเป็นแฟนที่ดีมาก แต่ถ้าวันไหนเค้าทำฟ้าเสียใจฟ้าจะมาฟ้องพี่พบแล้วให้พี่พบจัดการเลยค่ะ”
“อา....ครับงันตามสบายเลยนะครับ พี่คุยธุระกับวีเสร็จแล้วกลับกันดีนะ ไว้เจอกันใหม่นะครับ”
“อ่อค่ะ งันวีไปกัน เดียวฟ้าต้องไปซื้อชุดออกงานกับคุณแม่พรุ่งนี้อีกเดียวไม่ทัน”
“ครับ”
ไปแล้ว….เค้าดูเหมาะสมกันดีนะครับ
Tru….Tru…Tru..
Vวี่
คืนนี้อยู่ห้องด้วย อย่าไปไหน
TAWAN
น่าจกลับถึงห้องสามถึงสี่ทุ่ม
เงียบ ขึ้นอ่านแต่ไม่ได้ตอบกลับมา ผมจ้องโทรศัพท์เป็นเวลานานเพื่อหวังว่าใครคนนั้นจะตอบว่ารับรู้มากกว่าจะขึ้นว่าอ่านแล้ว มันนานจนผมต้องถอดใจที่จะจ้องกดดันโทรศัพท์เพื่อนให้ใครสักคนตอบกลับมา จนต้องตัดใจกลับมาจ้องมองจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดงานค้างไว้อยู่
ตอนนี้ผมกลับมาอยู่ที่ห้องตัวเองทั้งๆที่พึ่งจะเวลาแค่ทุ่มกว่าๆ ผมทำอาหารเหมือนทุกครั้งที่เคยทำตลอดสามเดือนที่ผ่านมา แต่รอบนี้กลับมีกับข้าวที่ทำมากกว่าปกติสองสามอย่าง แล้วรีบไปอาบน้ำ จนมองดูเวลายังไม่ถึงเวลานัดผมเลยไปนั่งดูรายการต่างๆในทีวีรอฆ่าเวลาจนเวลาร่วงเลยเข้าสู่วันใหม่โดยที่ไม่รู้ตัว ว่าได้เลยเวลาทานข้าวเย็นจนจะเป็นกินข้าวเช้าแทนกินได้ไม่กี่คำผมก็รู้สึกแสบตาขึ้นมาโดยไม่สามารถหาสาเหตุได้
อ่า ตาผมเหงื่อออกนี่เอง ฮึ มันน่าจะเกิดจากผมจ้องทีวีนานเกินไปแน่เลย ผมเก็บกับข้าวเอาไว้ให้พวกที่ออฟฟิศนั้นกินในตอนเช้าดีกว่าได้ไม่ต้องแวะ ซื้อข้าวแวะแค่ซื้อน้ำใบบัวบกขอผมก็พอ ได้เวลาไปอาบน้ำแล้วนอนดีกว่านี่ก็เลยเวลานอนมาเยอะแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นไม่ไหวเอา กินแล้วนอนนี่มันดีจริงๆ
ผมว่าถ้าเงินเดือนนี้ออกผมจะไปซื้อเตียงใหม่ซักหน่อย รู้สึกเตียงมันกว้างเกินความจำเป็น
“พี่พบไปทำอะไรมาตาบวมแล้วแดงอะไรขนาดนั้น เดียวนะพี่ เดียวพลอยไปเอาน้ำแข็งมาประคบตาให้นะ”
งือ....ปวดตาตื่นมาก็ปวดตาเลย ที่จริงก็ไม่ขนาดนั้นหรอกผมหาเรื่องอู้งานตังหาก ผมนอนใช้ผ้าเย็นจากน้องพลอยประคบตาอยู่บนชั้นสองของออฟฟิศ ได้พักใหญ่แล้ว แล้วก็รู้สึกได้ว่ามีคนเปิดประตูเดินเข้ามาภายในห้องแล้วมานั่งอยู่ข้างๆโซฟาที่ผมนอนอยู่
“ไง....ถ้าไม่ไหวก็ถอยออกมาจบตอนนี้ดีกว่าเจ็บนานนะ”
“กูไม่เป็นไร”
“มึงบอกไม่เป็นไร แต่สภาพมึงมันสวนทางกับคำพูดของมึงนะ”
“กู....ไม่รู้สิ”
“กูไม่เชื่อว่ามึงไม่รู้ กูว่ามึงรู้ ถ้ามึงไม่ไหวก็ออกมารึไม่ก็แชร์ให้พวกกูฟังบ้างก็ได้ อย่าลืมว่ามึงไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้”
“เออ....ไม่ต้องกลัวหรอก กูรู้อยู่แล้วว่าตอนจบสุดท้ายเรื่องนี้มันจะต้องเป็นอย่างไร”
“มึงแน่ใจ”
“แน่สิ....ตอนนี้กูแค่กำลังเดินเพื่อให้ไปถึงตอนจบตอนนั้น อีกแค่ไม่กี่ก้าวมันก็จะจบแล้ว”
“มึงกำลังเดินหรือมึงแค่กำลังซื้อเวลา”
“....”
“งันแปลว่ามึงเห็นแล้ว”
“อืม” เห็นแล้ว....
เห็นกลับตาเลยด้วยว่าเค้าเป็นแฟนกันแล้ว แถมไม่ได้ยินมาจากคนอื่นแต่ได้ยินมาจากคนของเค้าที่เค้าเรียกว่าแฟน แถมเมื่อคืนก็ยังเห็นว่าเค้าฉลองคบรอบสองเดือนของการเป็นแฟนกันด้วย ไปฉลองกันที่ร้านอาหารบนยอดตึกสูงด้วนนะ ภาพที่ถ่ายออกมาสวยมากๆเลยด้วย มากจนติดตาติดใจเลย
“เออ ทั้งกูทั้งต้ายังอยู่ข้างมึงนะ ที่จริงไอ้ต้ามันก็อยากมาคุยด้วยแต่มันกลัวจะทำให้มึงยิ่งแย่มันเลยส่งกูมาคนเดียว”
“....” กูไม่ได้แย่อะไรสักหน่อยกูปกติดีแค่ปวดตานิดหน่อยเอง ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้
“นอนอยู่ที่นี่ให้สบายใจ วันนี้ไม่ต้องทำงานก็ได้ กูไม่หักเงิน”
“ได้ข่าวว่ากูเป็นคนจัดการเรื่องจ่ายเงินเดือน”
“เออถ้าหิวข้าวรึอยากได้อะไรก็โทรมาบอกกูแล้วกัน กูไปแหละ”
“เออ”
ผมรู้ว่าพวกมันสองคนจับความผิดปกติที่เกิดรอบๆตัวผมได้เสมอแต่รอบนี้มันคงจะหนักจริงมอสมันถึงเลือกที่จะเดินมาคุยกับผม รู้แย่นะครับที่ทำให้คนที่อยู่รอบๆตัวเป็นห่วง
ผมเจ็บ....ใช่ผมเจ็บผมรู้ว่าอะไรที่ไม่ใช่ของตัวเองซักวันมันก็ต้องจากต้องหายไปมันก็เหมือนความรักแหละ ผมไม่เคยเชื่อว่าการที่บอกว่าขอแค่ได้รักข้างเดียวก็สุขใจ หรือว่าใครจะทำได้ก็เรื่องของเค้าแต่มันใช้ไม่ได้กลับผมและผมก็ไม่คิดที่จะไปแย่งชิงที่จะได้มันมาด้วยเพราะสุดท้ายอะไรที่มันไม่ใช่ต้องให้เราจับมันไว้แน่นแค่ไหนมันก็หลุดลอยจากไปอยู่ดี
เหมือนความรักของผมไง
ผมว่าผมไม่เดินแล้ว....ผมเหนื่อยกับอะไรที่มันไม่แน่นนอน หรือมันไม่แน่นอนมาตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ในตอนนั้นผมอาจจะมองไม่เห็นเพราะผมกำลังหลงระเริงกับความรู้สึกที่หอมหวานนั้นอยู่....แต่นอนนี้มันไม่ใช่
TAWAN:พี่ว่าหลังจากนี้เราอย่ามาเจอกันเลยดีกว่า แล้วก็ดีใจด้วยที่เจอคนที่ใช่ พี่เลยคิดว่าพวกเราก็ไม่ควรที่จะทำให้เค้าคนนั้นเสียใจ เรายังพี่น้องกันได้นะ แต่แค่ไม่ใช่ตอนนี้ ขอโทษนะ มีความสุขมากนะน้องชาย พี่ยังเป็นพี่ชายของวีเสมอนะ แต่แค่ไม่ใช่ตอนนี้ ขอบคุณนะ
ผมคิดดีแล้วที่จะส่งไปแบบนั้น ไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะได้อ่านมันรึป่าวแต่นั้นคือส่งที่ผมตัดสินใจแล้ว
ขอโทษ...สักวันพี่ชายคนนี้จะกลับมาในฐานะ.....พี่ชายจริงๆ
แต่ในตอนนี้ ขอที่จะเซฟใจตัวเองก่อน ขอเห็นแก่ตัว
ยินดีกับความรักของวี อยากจะขอให้รักกันนาน
รักกันเรื่อยไป
รักกันมากๆ
เพราะผมก็จะรักตัวเองให้มากขึ้นเหมือนกัน
“เมื่อไรมึงจะกลับห้องตัวเองว่ะกูไม่กล้าพาหญิงเข้าห้องแล้วเนีย”
“มีเมียแล้วหรอ”
“ตบปากอย่าเรียกเมียเกรงใจเค้าเรียกแฟนก็พอเว้ย”
“ตัวจริงหรอ”
“ไม่รู้สิกูรู้แค่ว่าตอนนี้มันโอเค”
“ดีใจที่มึงหาเจอ”
“ต้ากูทำข้าวกลางวันเผื่อไว้ให้แล้วนะ กูไปแหละ”
“เฮ้ยมึงไปไหน แล้วนั้นมึงขนกระเป๋าไปไหน”
“กลับห้องกูสิ”
“เฮ้ย!! มึงคิดมากเรื่องที่กูพูดใช่มั้ย กูขอโทษ มึงไม่ต้องไปไหนมึงอยู่นี่แหละพบ”
“ไม่กูเบื่อห้องมึงแล้ว”
“ไอ้พบไม่เอาแบบนี้ดิ”
“แบบนั้นแบบนี้อะไรเล่ามึงอย่ามาคิดมาก กูไม่ได้เป็นอะไรกูแค่จะกลับห้องไปเก็บกวาดห้องบ้างนี่ก็ไม่ได้กลับไปนานแล้ว”
“กูขอโทษ”
“ขอโทษเชี้ยอะไร ไม่ต้องกลัวกูกลับไปเก็บกวาดห้องก่อนเดี๋ยวกูกลับมาใช้น้ำไฟฟรีห้องมึงใหม่”
“จริงนะ รีบกลับมานะกูคิดถึง”
“จ๊ะ”
ปัง!
กูขอโทษที่ทำให้มึงลำบากใจ กูลืมไปมึงก็ต้องมีชีวิตของมึง ขอโทษที่กูเห็นแก่ตัวไปหน่อยที่กูเอาแต่ใจ จนลืมว่ามึงก็ต้องการความเป็นส่วนตัวเหมือนกัน ไอ้พบทำไมมึงถึงพึ่งคิดได้น่า
ผมกลับมาห้องตัวเองในรอบครึ่งปี แต่แปลกที่ห้องผมกลับไม่มีฝุ่น และไม่มีกลิ่นอับใดๆ ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติที่มันควรจะเป็นในใจผมคิดว่ามันก็ใช่แบบที่ผมคิดแต่ผมไม่อยากที่จะเข้าข้างตัวเองเกินไป ผมเลยลงไปที่ส่วนล๊อบบี้เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ในชั้นที่ผมอยู่ ภาพที่ปรากฏทำให้ผมตัดสินใจที่จะเป็นรหัสห้องพร้อมที่คีย์การ์ด ผมจัดการทำการทำความสะอาดห้องเปลี่ยนกลิ่นน้ำยาถูพื้นใหม่ ซักผ้าปูที่นอนหมอนผ้าห่ม หรือเสื้อผ้าด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มใหม่
“ไหนมึงบอกจะกลับไปนอนห้องกูไง”
“ไม่เอากูเบื่อกูทที่จะไปนอนห้องมึงแล้วนอนอยู่ที่ออฟฟิศดีกว่าจะได้ตื่นสายได้”
“มึงไปพูดอะไรไม่เข้าหูมัน” ‘ มอสมึงอย่ามองไอ้ต้าด้วยสายตาแบบนั้นเดี๋ยวมันก็หนีไปร้องไห้ในห้องน้ำอีกหรอก มันยิ่งเซนซิทีฟง่าย กระทบจิตใจหน่อยหนีไปร้องไห้ในห้องน้ำตลอดแล้วลำบากคนที่จะเข้าห้องน้ำนะ
“ไอ้ต้ามันไม่ได้ทำอะไรหรือว่าอะไรกูหรอก กูเบื่อแล้วไง ห้องมึงก็นอนแล้วห้องไอ้ต้าก็นอนแล้วกูเลยเปลี่ยนมานอนออฟฟิศบ้างแค่นั้นเอง” มันก็ไม่ได้แย่นะที่นอนออฟฟิศใกล้ที่กินหาอาหารกินง่ายใกล้ที่ทำงานด้วยใกล้มากๆด้วยตื่นสายสบายเลย
“กูขอโทษ”
“ถ้ามึงขอโทษอีกกูจะหักเงินมึง”
“งึ”
“นัดพี่วานไปซื้อชากับเค้ามาให้กินหน่อยสิ” ร่างกายมันเกิดอาการต้องการน้ำตาลอีกแล้ว
“พี่พบขึ้นเงินเดือนให้ผมเลยนะ ตอนนี้ผมมีตำแหน่งเป็นไลน์แมนเพิ่มขึ้นมา”
“เออ” เงินเดือนเท่าเดิมเพิ่มเติมจะใช้แม่งทุกวัน แต่ผมไม่พูดออกไปหรอเดี๋ยวนัดมันรู้ตัว
“จริงอ่ะ”
“จริงดินี่ใคร เดียวเพิ่มให้สิบบาท”
“โฮ้ จะเอาอะไรสั่งมา แล้วคนอื่นเอาไรมั้ย ผมได้ไปทีเดียว ผมกลัวดำ” แม่ะพ่อหนุ่มผิวบอบบางพ่อลูกคุณหนูตีนแดงตะแคงตีนเดิน
“พบมึงรีบเก็บของไปไหนว่ะ”
“ห้อง”
“ฮือ วันนี้กลับไปนอนห้องหรอ”
“อืมใช่ กลับไปนอนห้อง”
“กูไปนอนด้วยสิ กูอยากไปนอนห้องมึงบ้าง”
“เออ ไปช่วยกูเก็บกวาดห้องด้วย”
“ได้...มอสมึงไปมั้ย”
“เออ ขอเซฟงานแปบ”
“โอ้ยอิ่ม อิ่มจนปวดท้อง”
“ตะกละไม่เข้าเรื่อง”
“ก็นานแล้วที่ไม่ได้กินอาหารที่พบมันทำ ได้กินแล้วคิดถึง ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งกิน”
“แน่นท้องก็อย่าพึ่งนอนสิมึงเดี๋ยวก็ย้อนหรอก อยากทำอะไรก็ทำไปนะกูไปอาบน้ำก่อน”
หลังจากที่กลับมาจากออฟฟิศที่ผมบอกว่าจะเอามันสองคนมาช่วยทำความสะอาดที่ห้องแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ก็แค่ดูดฝุ่นถูพื้น เปิดหน้าต่างไล่อากาศในห้องแล้วก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอนนิดหน่อยไม่ได้ทำอะไรมา ไหนๆสองคนมันก็มาช่วยแล้วเลยทำอาหารเลี้ยงมันสักหน่อยแต่ก็นานแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรให้มันกินมานานแล้ว
แล้วก็เป็นไปตามที่ต้ามันบ่นเพราะมันกินอาหารทุกอย่างเรียบแบบสะอาดทุกจาน จนคนทำแบบผมแอบภูมิใจ หลังกินอาหารเสร็จก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำจนสุกท้ายก็หอบผ้ามาปูนอนกันหน้าทีวีทั้งๆเตียงในห้องก็นอนกันพอแท้ๆ
“มึงนอนกันยังว่ะ”
“ว่าไง”
“พบ พบมึงนอนยัง”
“เออ”
“นึกว่านอนแล้ว”
“....”
“....”
“มานอนรวมกันแบบนี้แล้วนึกถึงสมัยเรียนเนอะ”
นั้นสินะ....ขอบคุณพวกมึงนะที่ไม่ค่อยจะทิ้งกูไว้ข้างหลัง....ขอบคุณ
* * * *