พิมพ์หน้านี้ - [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Anynomous ที่ 17-04-2018 13:57:13

หัวข้อ: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 17-04-2018 13:57:13
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม












เรื่องเล่า เงากระจก











"เพราะว่าบัดนี้เราเห็นสลัวๆเหมือนดูในกระจก
แต่เวลานั้นจะได้เห็นหน้ากันชัดเจน.."



--คัมภีร์ไบเบิล ,1 โครินธ์ 13--



หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : เก้าอี้ไม้สีน้ำตาล)
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 17-04-2018 13:58:34







เก้าอี้ไม้สีน้ำตาลในสวนสาธารณะ





ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลในสวนสาธารณะ
เวลาช่วงบ่ายแก่ๆ..บ่ายสาม บ่ายสี่โมงเย็น.. สวนสาธารณะแห่งนี้กำลังคึกครื้นได้ที่เลยทีเดียว..


พ่อแม่มือใหม่พาลูกๆมาเล่นสนามเด็กเล่น..
คนวัยทำงานมาออกกำลังกายหลังเลิกงาน..
เด็กๆวัยรุ่นมาเดินเม้าท์ .. ชายวัยกลางคนที่ถูกเมียบังคับให้พาหมามาเดินเล่น..
คนรุ่นปู่ย่ามารำไทเก๊ก..



ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลในสวนสาธารณะ..



อันที่จริงแล้วผมคุ้นเคยกับสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นอย่างดี..


มันอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมนัก

และตอนที่ยังเด็ก ผมกับเพื่อนสนิทจะมาเล่นที่นี้เป็นประจำ..



วิ่งไล่จับบ้าง สนามเด็กเล่นบ้าง.. โตเป็นวัยรุ่นขึ้นมาหน่อยก็เอาสเกตบอร์ดมาเล่นบ้าง..



เรียกได้ว่าสำหรับคนในย่านชุมชนแห่งนี้..
สวนสาธารณะนี้เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองก็ไม่ปาน..



พอโตขึ้นมาอีกผมก็เหมือนเด็กวัยรุ่นหลายๆคน..
อยากไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ไหนก็ได้.. ขอแค่ให้ไกลบ้านเข้าไว้..


ผมจึงเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ
และผมก็สอบติด..


หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยได้กลับมาที่บ้านมากนัก..




หลังจากเรียนจบ ผมก็เข้าทำงานในบริษัทเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง..
ทำงานมาได้หลายปี..จนเงินเดือนขึ้นสูงแบบที่ชนเพดาน


ทั้งงานที่รัดตัว ทั้งชีวิตเมืองกรุงที่วุ่นวาย ค่าครองชีพที่สูง ราคาชีวิตที่ต้องจ่ายนั้นแพงเสียยิ่งกว่าในแต่ละวัน..


ทำให้ผมแทบจะไม่ได้กลับบ้านเลย..ตลอดหลายปีมานี้..





จนถึงช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาอย่างมาก.. หุ้นในตลาดเป็นสีแดงเถือกและร่วงลงเหมือนใบไม้
ประเทศของเราไม่ได้รับความเชื่อมั่นในการลงทุนจากต่างชาติ..


แม้ข่าวในทีวีจะบอกว่าเศรษฐกิจกำลังจะดีขึ้น..

แต่ผมคนที่ทำงานด้านนี้.. นั่งเฝ้าจอคอมพิวเตอร์และประเมินตัวเลขอยู่ทุกวันรู้ดี..

นี้ไม่ใช่ภาวะที่จะเอาโพลที่จ้างทำมาหลอกลวงคนได้อีกต่อไป..




..และมันก็จริงอย่างที่ผมคิด..




บริษัทของผมปรับลดพนักงาน..



พนักงานเอกชนเงินเดือนสูงจนชนเพดานอย่างผม..
แพ้ให้กับเด็กรุ่นน้องที่จบจากสถาบันเดียวกัน..


เขาอ่อนเยาว์ประสบการณ์ ..และราคาค่าจ้างก็อ่อนไปด้วย..


บริษัททำได้แค่นั้น..



ผมได้รับเงินก้อนสุดท้ายจากแผนกการเงิน..
ในจดหมายเขียนขอบคุณที่ผมทำงานเพื่อบริษัทอย่างหนักมาโดยตลอด..

และขอโทษที่บริษัทไม่สามารถพยุงตัวต่อไปหากไม่ตัดรายจ่าย'บางส่วน'ออกไป..





ขอบคุณที่จับมือเคียงข้างกันมา..


ขอบคุณและไสหัวไปได้แล้ว..



มันว่าอย่างนั้นแหละ..







เพราะงั้นตอนนี้ผมถึงมานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สีน้ำตาล ในสวนสาธารณะ





ผมจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ขณะที่ปล่อยให้ควันอ้อยอิ่งลอยไป..ผมก็มองบรรยากาศเก่าๆนี้ไปด้วย..



ผมมองเห็นเด็กๆกลุ่มหนึ่งวิ่งไล่จับผีเสื้อกันอยู่..


และนั้นก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวสมัยเด็ก


เหตุที่ผมคุ้นเคยกับสวนสาธารณะแห่งนี้...










'ฮึก...'

มินเป็นเพื่อนสนิทที่สุดในวัยเด็กของผม.. เขาเป็นเด็กชายตัวเล็ก บอบบาง และมักจะโดนแกล้งอยู่เสมอ

และตอนเด็กๆทุกคนคงจะรู้ว่ามันจะมีเด็กประเภทหนึ่ง..เด็กที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มเด็กเสมอ.. เด็กที่แข็งแกร่ง เด็กที่ชอบทำตัวเป็นฮีโร่ปกป้องทุกๆคน..


และผมเป็นเด็กผู้ชายประเภทนั้น



'เกิดอะไรขึ้น..ใครทำอะไรมิน'


ผมถามก่อนจะจับไหล่เพื่อนสนิทให้เงยหน้ามองผม..




'ครอบครัวเรา..ฮึก..เกิดอุบัติเหตุ..ทุกคน..ทุกคนไปหมดแล้ว'



ผมเบิกตากว้าง..สำหรับเราในวัยแปดขวบ..เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่เด็กจะรับได้..
ผมเห็นเพื่อนสะอื้นตัวโยน..น้ำตานองหน้า..


ผมคิดถึงลุงไม้..พ่อของมิน.. ลุงเป็นคนใจดีและมักจะทำอาหารอร่อยๆให้เรากินเสมอตอนที่ผมไปนอนบ้านมิน..
น้องใหม่..น้องสาวของมิน.. เด็กหญิงจอมแก่นที่มักจะทำตัวติดสอยห้อยตามพวกเราเสมอ
แล้วคุณแม่ของมิน..น้าอ้อยที่ทั้งใจดี ทั้งดุ.. แต่ก็รักพวกเราไม่แพ้ใคร..




ผมกอดปลอบเพื่อนรัก..พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องไห้ตาม..





ผมต้องเข้มแข็ง..


เขาไม่เหลือใครแล้ว..




'แม่..ฝากดูแลมินด้วยนะฮะ!'


ผมตะโกนบอกแม่ก่อนจะผลุนผลันวิ่งออกจากบ้านไป..






พอออกมาจากบ้านแล้วผมถึงอนุญาตให้ตัวเองน้ำตาไหลได้..



ผมรักเพื่อนมาก



รักพอที่จะเจ็บปวดแทนเขา..



ผมวิ่งไปยังสวนสาธารณะและสะดุดกึกเมื่อเห็นผีเสื้อฝูงใหญ่..




..มันค่อยๆเคลื่อนตัวไปเป็นขบวนอย่างอ้อยอิ่ง..




ผมเปลี่ยนทิศทางการวิ่งก่อนจะหันตัวเดินตามผีเสื้อฝูงนั้นไป..


และผมก็เดินมาพบกับ..




ลุงไม้กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเก้าอี้สีน้ำตาลในสวนสาธารณะ..



ผมตกตะลึง..




'ล..ลุงไม้?! .. ลุงยังไม่ตายเหรอฮะ'

ผมถามในขณะที่เช็ดคราบน้ำตา..



'อ้าว ไอ้กล้า..ตายอะไรของเอ็ง..มาถึงก็แช่งกันเลยนะ..'



'ต..แต่? ลุงเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางนี่ฮะ..'



'..เดินทาง? อ้อ ไปโคราช..นะเรอะ ข้าเดินทางพรุ่งนี้เว้ย เอ็งนี่ชักจะมั่ว..'


'ห..หา.. แต่วันนี้วันที่ 17 เมษา..'


'16 ต่างหาก'

ลุงไม้พูดก่อนจะเอาโทรศัพท์ให้ผมดู..ตัวหนังสือขาวดำในโทรศัพท์รุ่นเก่าบอกว่าวันนี้คือวันจันทร์ที่ 16 เมษาจริงๆ..





..แต่เมื่อเช้า..เรายังดูปฏิทินอยู่เลยนี่..มัน 17 เมษาแล้วนะ..





'ลุงไม้ฮะ..พรุ่งนี้ลุงอย่าเดินทางได้ไหม'


เมื่อไม่แน่ใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นผมเลยขอร้องออกไป..


'ข้าต้องไปไหว้กระดูกปู่ย่าทุกปีนี่นา..'


'..คือ..มินขอร้องผมฮะ บอกว่าไม่ให้ลุงไป.. เขาขอให้ไปวันที่ 18 ได้ไหม.. เขาอยากไปพร้อมกับทุกคน..นะฮะ'


ผมรีบโกหกไปเพราะวันที่ 17 มินไม่ไปกับครอบครัวเนื่องจากติดทำรายงานคู่ที่บ้านผม..


'อะไรของเอ็ง..'

'..นะฮะ..ลองคุยกับมินดูก็ได้ถ้าไม่เชื่อ'

ผมขอร้องอีกครั้ง และชายวัยกลางคนพยักหน้า





..................................



แต่กลับกลายเป็นว่าเรื่องราวไม่ออกมาดีอย่างที่ผมคิด..

ในวันถัดมาครอบครัวของมินยกเลิกการเดินทางไปโคราช..
แต่ข่าวน่าเศร้าของถังแก๊สที่ระเบิดจนทำให้บ้านไฟไหม้นั้นดังมาถึงบ้านผมในเวลาอันรวดเร็ว..



..ตายในกองเพลิงทั้ง 3 ศพ..




'ฮึก...กล้า..เราจะทำยังไงดี..'


ร่างบางร้องไห้จนตัวโยน..ตาแดงก่ำ..

ครอบครัวที่รักจากไป..แม้กระทั่งบ้านที่อยู่อาศัยยังไม่มี..



ผมตะโกนบอกแม่ให้ดูแลมินอีกครั้ง..ก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านไป



..คราวนี้ผมรู้ว่าต้องวิ่งไปที่ไหน..



ผมวิ่งนำฝูงผีเสื้อที่เคลื่อนตัวเชื่องช้าราวกับจะล้อเลียน..


ก่อนจะเดินไปถึงเก้าอี้ไม้สีน้ำตาล..ที่มีลุงไม้นั่งสูบบุหรี่อยู่..เป็นอย่างที่ผมคิด..



'ลุงต้องไม่ไปโคราช'

ผมบอก ไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรทั้งนั้น..


'และอย่าทำอาหารโดยใช้แก๊ส..'


'เป็นบ้าอะไรของเอ็งไอ้ต้นกล้า'
ลุงไม้พูด ก่อนจะหัวเราะ.. แต่ผมไม่หัวเราะด้วย..




..................................



วันนี้ผมวิ่งไปที่สวนสาธารณะอีกครั้ง..


วันแล้ววันเล่า..

กี่วันแล้วนะ..


ทำไมถึงแก้ไม่ได้สักที..


หากครอบครัวของมินไม่ตายด้วยอุบัติเหตุรถยนต์..

พวกเขาก็จะตายด้วยอุบัติเหตุอย่างอื่น..


และดูจะร้ายเเรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ..



ผมที่ตอนนี้สภาพอิดโรย ขอบตาดำคล้ำ และดวงตาลึกโหล..

พยายามวิ่งไปที่สวนสาธารณะอีกครั้ง..




ก่อนจะให้คำแนะนำใหม่แก่ลุงไม้..





.................................




'ว่ายังไงนะเเม่'

ผมพูดกับแม่เพราะไม่แน่ใจสิ่งที่ได้ยินอีกครั้ง..



'ครอบครัวหนูมิน.. เกิดอุบัติเหตุ.. เสียหมดแล้วทั้ง 4 คนเลย..'


ผมกัดฟันแน่น.. ผมโกรธ..


โกรธโชคชะตาบ้าๆที่มาเล่นตลกกับผม กับเพื่อนของผม กับความรู้สึกของเรา..



'ช่วงนี้ลูกดูเหนื่อยมากนะกล้า.. ลูกจะไปงานศพกับแม่ไหม..'


ผมไม่ตอบแม่แต่วิ่งออกจากบ้านไป



วิ่งตรงไปยังสวนสาธารณะ..


ที่ที่ฝูงผีเสื้อซึ่งเคลื่อนตัวอ้อยอิ่งรอผมอยู่..



.................................



คราวนี้ลุงไม้ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม.. สูบบุหรี่ตัวเดิม..


มีเพียงแววตาของผมที่เปลี่ยนไป..


ผมไม่อาจฝืนโชคชะตาได้..

และยิ่งทำยิ่งมีแต่เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น..



อย่างน้อยที่สุด..


อย่างน้อยที่สุด มินต้องไม่ตาย..



ผมนั่งลงข้างๆลุงไม้.. คิดถึงสภาพของตน.. ที่ทั้งเหนื่อยล้า.. ดวงตาดำคล้ำและอิดโรย..





'พรุ่งนี้เดินทางปลอดภัยนะฮะ.. ผมจะดูแลมินเอง'


ผมบอกลุงไม้.. และสัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้ผมจะไม่มาที่นี้อีก..




..................................





ผมกอดปลอบเพื่อนรักที่กำลังร้องไห้ สะอื้นตัวโยนในอ้อมแขนผม..


'ไม่เป็นไรนะ..ไม่เป็นไร'

ผมกระซิบ.. แต่รู้ดีว่าการไม่เป็นไรนั้นยากเช่นใด..
ผมปล่อยให้เขาร้องไห้ไปเรื่อยๆ



..หลังจากงานศพจบลง มินก็ต้องย้ายไปอยู่กับป้าที่โคราช..
ญาติของเขาที่เหลืออยู่..


หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย..


จนกระทั่งผมตกงานและกลับมาที่นี้..


ผมได้รู้ว่าเขาทำงานเป็นนักเขียนหนังสือและวาดภาพประกอบ..
อาชีพของเขารายได้ไม่ค่อยดีนัก..แต่ก็เพราะว่าที่นี้คือต่างจังหวัด..

เขาใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบายๆ..อาทิเช่น ปลูกผักกินเอง หรือเลี้ยงไก่ อะไรเทือกนั้น..


เขายังคงอยู่บ้านหลังเดิมของเขา..


และเราก็กลับมาสนิทกันอย่างรวดเร็ว..


นั้นเพราะว่าเขายังคงไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อยังเด็ก..


อ่อนโยน.. อ่อนหวาน.. ใจดี


มินก็คือมินนี่นะ..





ผมมองควันบุหรี่ที่อ้อยอิ่งล้อเเสงตะวันแล้วคิดฉงนกับสถานที่แห่งนี้..

สวนสาธารณะที่มีความทรงจำร่วมกับผมมากมาย..




"เย็นนี้ไปกินข้าวเย็นกับผมนะ"


ร่างบางที่ผมคุ้นเคยเดินมาหาผมก่อนจะนั่งลงข้างๆ..


ผมหันไปมองหน้าเขา




มินมีสภาพอิดโรย.. ขอบตาดำคล้ำ และดวงตาลึกโหล..

เขาเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก..









..ผมมองเห็นผีเสื้อตัวหนึ่งบินอ้อยอิ่งตามฝูงกลับเข้าไปยังพุ่มไม้..








และทันใดนั้นผมก็เข้าใจ











ผมเลื่อนมือไปกุมมือที่บอบบางของเขา..






"พอเถอะ..นายทำมันไม่ได้หรอก"



ผมพูด..และอยู่ๆร่างบางก็สั่นสะท้าน..




"..น..นายรู้.."



ผมไม่ตอบแต่มองหน้าของเขา.. ร่างกายที่บอบบาง ดูเหมือนแค่ลมพัดก็จะปลิวเสียแล้ว..
ขอบตาดำคล้ำและดวงตาที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก..





ผมบีบมือเขาไว้เเน่น..





"อวยพรให้ฉัน"




ผมพูดและเขาเริ่มร้องไห้จนตัวโยน.. เหมือนเมื่อยังเด็ก..
ผมกอดเขาไว้เเน่น..เสียงสะอื้นนั้นฟังดูเศร้าและเเสนหวาน..

..ทว่าลึกซึ้งและคุ้นเคย..




แต่คราวนี้ผมวิ่งหนีเขาไม่ได้..




ผมวิ่งออกมาไม่ได้อีกต่อไป








เพราะตอนนี้ผมอยู่ที่สุดขอบของปลายทาง..






..ที่นั่งพักของผู้ลาจาก..











เก้าอี้ไม้สีน้ำตาลในสวนสาธารณะ


















จบ


Anynomous
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : เก้าอี้ไม้สีน้ำตาล)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 17-04-2018 14:23:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : เก้าอี้ไม้สีน้ำตาล)
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 17-04-2018 15:11:56
มาดีๆแล้วเชียว ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ  :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 17-04-2018 15:46:54







ชีวิตสิงห์ๆ(1)







สิงโตนั้นไม่ใช่เสือ.. สิงโตนั้นไม่ใช่แมว..


เราไม่ออดอ้อนเคลียคลอ


เราสง่างามและสร้างสรรค์



แม่ของข้าบอกเช่นนั้นตอนที่ข้ายังเด็ก

ในฝูงของเรามี'แม่ๆ'หลายตัว.. แต่แม่แท้ๆของข้านั้นรักข้าที่สุด.. นั่นแน่อยู่แล้ว..




แม่เป็นนักล่าที่สง่างาม


ข้ากับพี่น้องชอบแอบดูการล่าของแม่อยู่ในพุ่มไม้..


แม่แท้ๆของข้าไม่ใช่สิงโตตัวที่ไล่ต้อนพวกกวางหน้าโง่
แต่แม่เป็นประเภทที่จะไปดักรอเหยื่ออยู่ที่ปลายทาง..



และกระโดดงับคอพวกมันจนจมเขี้ยว..ในครั้งเดียว..




..อา..ทุกครั้งที่เห็นเลือดพุ่งกระฉูดข้าอดไม่ได้ที่จะกระโดดไปแจมทุกครั้ง..





ง่ำ..ง่ำ..ฝังให้จมเขี้ยวไปเลย...




สีแดงมันทำให้ข้าคึกครื้น..


ข้าชอบสีแดงนะ..ชอบมากๆเลย




"บางทีเราไม่ต้องวิ่งไล่ต้อนพวกกวางหน้าโง่ เมื่อมีสิงโตหน้าโง่ตัวอื่นต้อนให้อยู่แล้ว"

แม่พูดขณะที่ใช้คมเขี้ยวทึ้งเนื้อสะโพกเจ้ากวางออกมา..


"หืมม ว่าไปนะยะ.. เพราะว่าแกไม่ปราดเปรียวเท่าฉันก็ต้องไปดักเหยื่ออย่างนั้น.. วิ่งไล่น่ะสนุกกว่าเยอะ"

แม่สิงโตอีกตัวหนึ่งพูด..


ในฝูงของเรามีแม่สิงโตหลายตัว.. บางตัวก็รักใคร่กลมเกลียวกันดีเหมือนพี่น้อง
บางตัวก็ขยันสร้างปัญหากัดกันเองไปวันๆ..



..แม่ที่เคารพของข้าเป็นประเภทหลัง..



ก็แม่เป็นสิงโตที่ไม่อินังขังขอบกับใคร
แม่อยู่ได้ด้วยตัวแม่เองตั้งเเต่ยังสาว..พอมาอยู่ฝูงกับพ่อ แม่ก็จำเป็นต้องยอมพ่อ เเต่ไม่ได้หมายรวมถึงการยอม'เมีย'ตัวอื่นๆ..



สังคมหลายเมียก็น้ำเน่าอย่างนี้แหละ



แต่ข้ากับน้องๆเห็นภาพเหล่านี้จนเคยชิน
ในบรรดาน้องสาวของข้าหลายตัว อาจมีบางตัวต้องกลายมาเป็นเมียข้าในอนาคต



แค่คิดก็จะอ้วกเเล้ว..


ข้าบอกแม่ แต่แม่บอกว่า ข้าจะกลับคำพูดเมื่อโตขึ้น..


ข้าไม่คิดงั้น แต่แม่ว่างั้น ข้าจึงไม่เถียง..






"แล้วน้องชายกับพ่อล่ะ"

ข้าถามแม่


"ลูกต้องเอาชนะพวกเขา หากอยากเป็นจ่าฝูงที่นี้.. หรือไม่ก็ยอมแพ้ แยกตัวออกไปตั้งฝูงเอง"



"ลูกอยู่ตัวเดียวได้ไหมแม่"



"ได้ แต่ไม่ค่อยมีใครทำกันหรอก.. มันพิลึก.. เจ้าจะกลายเป็นสิงโตชราที่โดดเดี่ยว ไร้อำนาจและบริวาร"


ข้าฟังขณะที่นอนซุกตัวอยู่ข้างแม่..


"เจ้ารูปร่างดี หน้าตาหล่อ ท่าทางจะโตมาแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพี่น้อง.. แม่อวยพรให้เจ้าฆ่าพ่อสำเร็จเมื่อโตขึ้น"

แม่อวยพรให้ข้าเช่นนี้ทุกคืนก่อนนอน..แม่ของข้านั้นช่างรักข้าเสียจริง..


"ข้าจะกัดพ่อให้จมเขี้ยว"

ข้าบอกแม่ก่อนจะหลับตาลง



..................................




ข้าโตขึ้นเป็นสิงโตหนุ่มที่สง่างาม เข้มแข็ง ปราดเปรียวอย่างที่แม่คาดหวังไว้..


ปกติแล้วในฝูงเราสิงโตจ่าฝูงจะไม่ออกล่าถ้าไม่จำเป็น..


ข้าเหลือบสายตามองพ่อที่นอนขึ้นอืดอยู่ครึ่งค่อนวันก่อนจะเดินเข้าไปรวมกับพี่น้อง..



"พี่จะออกล่ากับเราหรือวันนี้"

น้องสาวของข้าถาม.. ข้าพยักหน้า เธอเอาหัวเข้ามาคลอเคลียข้าเบาๆ



"ถ้าอย่างนั้นเราจะล่าสัตว์ใหญ่ขึ้น.. เพราะมีพี่ที่แข็งแกร่งที่สุด.."

น้องสาวพูดก่อนจะเลียแผงคอให้ข้า..



ข้าอยากอ้วกจึงเดินหนี




สักพักฝูงสิงโตหนุ่มสาวเดินตามข้ามา.. พวกเขาเคารพข้า และคาดหวังให้ข้าเป็นผู้นำในการล่าครั้งนี้..




"เราจะล่าอีแลนด์ตัวเมีย"


อีแลนด์เป็นสัตว์จำพวกแอนทีโลปประเภทหนึ่ง.. ตัวผู้นั้นมีน้ำหนักถึงแปดเก้าร้อยกิโล..
แม้ตัวเมียจะเล็กกว่า แต่น้ำหนักสามสี่ร้อยกิโลรวมกับเขายาวๆของพวกมัน..


นี้คืองานยาก..งานหินสำหรับเราโดยแท้..


ข้าประเมินสภาพของกลุ่มล่าของเราในตอนนี้.. ข้าน้ำหนักตัวสองร้อยกว่าโล..
เรามีสิงโตหนุ่มตัวผู้น้องชายข้าอีกตัว ซึ่งขนาดไล่เลี่ยกันกับข้า
และสิงโตตัวเมีย..เหล่าน้องสาวของข้าอีกสามสี่ตัว..


เกินพอด้วยซ้ำสำหรับสัตว์นักล่าอย่างเรา..




"เจ้า ค่อยๆไล่ต้อนมันจากริมน้ำมาแถวถ้ำ.. แยกมันออกจากฝูง.. ส่วนเจ้า ไปไล่ต้อนตัวผู้กับลูกๆมันให้ไปทางอื่น.. และเจ้า..น้องชายข้า จงไปดักรอมันอยู่ในถ้ำ และฝังเขี้ยวลงไปให้จมคอเสีย"

ข้าค่อยๆอธิบายแผนการล่าให้กับสมาชิกในฝูงฟัง


"แล้วท่านพี่จะทำอะไร"

น้องชายของข้าถาม

"ข้าจะคอยดูแลให้สถานการณ์อยู่ในความเรียบร้อย"

..ข้าจะไปเดินเล่น..ข้าคิดในใจ..

ด้วยจำนวนเท่านี้กับแอนทีโลปหน้าโง่ตัวหนึ่ง..พวกเจ้าไม่ควรทำให้มันยุ่งยาก..

หลังจากวางแผนเรียบร้อยข้าก็เดินทำท่าทีสำรวจละเเวกป่าด้วยท่าทางสง่างาม..








"จ่าฝูงนั้นอู้งานได้สินะ"

ข้าได้ยินเสียงแมวแมวอย่างเกียจคร้านดังมาจากบนต้นไม้.. ข้าเงยหน้ามอง..

พบกับเสือดาวตัวหนึ่งกำลังนอนเหยียดตัวอยู่บนต้นไม้..ดวงตาสีเหลืองจ้องมองข้า ก่อนจะอ้าปากหาวหวอดใหญ่..


"ข้าไม่ใช่จ่าฝูง..นั่นมันพ่อของข้า"

ข้าตอบก่อนจะใช้ดวงตาสีอำพันเข้มจ้องไปที่สิ่งมีชีวิตแมวๆที่ดูขี้เกียจสันหลังยาวตัวนี้..


เขาไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด..


หรือถือดีว่าตนอยู่บนต้นไม้? เหนือกว่าข้า..



"ข้าว่าพวกเขาทำไม่สำเร็จหรอก..ฝูงของเจ้าน่ะ.."

เสือดาวตัวเดิมยังคงพูดจาสบประมาทฝูงของข้าก่อนจะหลับตาลงอย่างเกียจคร้าน..


"ทำไมเจ้าพูดเช่นนั้น"


"ข้ามองเห็นจากบนต้นไม้นี้..พวกเขาเลือกเหยื่อเป็นอีแลนด์แม่ลูกอ่อน.. มันไม่มีทางออกห่างจากลูกน้อยอย่างที่พวกเจ้าหวัง.."


"แต่ข้าไม่ได้บอกให้พวกเขาเลือกอีแลนด์แม่ลูกอ่อน.."


"แต่เจ้าก็ไม่ได้ห้าม..เจ้าคิดว่าพวกเขาฉลาดหรือยังไงล่ะ.. ข้ามองจากยอดเขาและอยู่บนต้นไม้อีกทียังรู้ว่าพวกเขาโง่"

เสือดาวยังคงหลับตาอย่างเกียจคร้านเช่นเดิมขณะพูด..


"เจ้าประชดประชันเก่ง..ไม่ออกล่าบ้าง"

ข้าพูดด้วยความโมโหนิดๆ..


"ลงไปเจ้าก็ฝังเขี้ยวลงคอข้ากันพอดี..คำแนะนำจากข้านะ..พ่อสิงโต..ไปช่วยพวกเขาซะ ไม่งั้นเจ้าพลาดอาหารมื้อเย็นแน่.."




ข้าไม่ตอบแต่หันหลังกลับ..วิ่งตรงไปยังพุ่มหญ้าที่การล่าอีแลนด์ตัวเมียกำลังเริ่มขึ้น..





หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-04-2018 17:58:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 17-04-2018 18:37:03





ชีวิตสิงห์ๆ(2)






ข้าลากอีแลนด์ตัวเมียไปยังทุ่งหญ้า ก่อนจะลงมือกัดกินสะโพกอันเต่งตึงของนาง..


หลังจากเห็นข้าลงมือกินแล้ว น้องชายและน้องสาวของข้าก็เข้ามาร่วมกินด้วย



"ทีหลังพวกเจ้าต้องเลือกเหยื่อให้รอบคอบกว่านี้"

ข้าหันไปบอกน้องๆ และพวกเขาครางรับ


หลังจากล่าเหยื่อเสร็จ ข้ากับน้องๆก็เดินทางกลับที่พักของฝูง..




"เมื่อไหร่พี่จะล้มอำนาจพ่อ"

น้องชายของข้าถามขณะใช้จมูกดุนดันหน้าผากของข้า ข้าใช้จมูกชนหน้าผากเขาตอบ


"อีกไม่นานนัก"

ข้าพูดแม้ในใจจะไม่ได้คิดเช่นนั้น


มันเป็นหน้าที่..หากข้าไม่ทำเช่นนั้นข้าก็ต้องไสหัวออกจากกลุ่ม กลายเป็นสิงโตเร่ร่อน..


แต่ลึกๆแล้วข้ารู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป..

และการขึ้นเป็นจ่าฝูงไม่อาจเติมเต็มความปรารถนาของข้าได้..







เย็นวันนั้นข้าออกไปเดินเล่นแถวบริเวณที่ไปล่าตัวอีแลนด์อีกครั้ง..






"เจ้ากลับมาเพราะคิดถึงข้าหรือ จ่าฝูง.."


เสียงแมวๆดังขึ้นอย่างเกียจคร้าน มันเจ้าเล่ห์ ฟังแล้วน่าหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก..



..ตุบ..


เสียงฝีเท้าของเสือดาวที่กระโดดลงมาบนพื้นข้างๆข้าดังขึ้นเบาๆ..


เขาตัวเล็กกว่าข้ามาก.. น้ำหนักน่าจะอยู่ราวๆหกสิบกิโลเท่านั้นเอง..
ข้าใช้สายตามองเขาแบบที่มองประเมินดูเหยื่ออยู่เสมอ



"ข้าไม่ใช่จ่าฝูง.. ข้าบอกแล้วไง"


"เจ้าไม่เถียงเรื่องคิดถึงข้า.. แต่กลับเถียงเรื่องที่ไม่ใช่จ่าฝูง.."

เสือดาวเดินอย่างปราดเปรียวข้างๆข้า.. ข้าไม่ตอบอะไรเขา

พูดไปก็หงุดหงิดเปล่าๆ




"เจ้าไม่กลัวข้าแล้วรึ"

ข้าถามในลำคอ เสียงต่ำ..


"ราตรีเป็นเวลาของข้า.. เจ้าตามข้าไม่ทันหรอก แม้ว่าจะอยากสักเพียงไหน"

เจ้าเสือดาวพูดขึ้นอย่างอวดดี


"ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาดพอที่จะไม่ล่าข้า..มีกวางหน้าโง่อีกมากมายรอเจ้าไปล่าอยู่ ไม่ต้องมาเสียพลังงานกับสัตว์คมเขี้ยวเช่นข้า"

เจ้าเสือดาวยังคงพูดต่อ..


"ข้าไม่เสียพลังงานกับสัตว์แมวๆเช่นเจ้า"


เเมวตัวโตข้างๆข้าคำรามก่อนจะพูดว่า..


"ข้าไม่ใช่แมว..ข้าเป็นเสือ"

ข้าไม่ตอบอะไรแต่ใช้ลิ้นสากๆเลียคอเขาหนักๆสองสามครั้ง เจ้าแมวตัวโตครางในลำคอ
ข้าแค่นเสียงหัวเราะ

"เจ้าเล่นงานจุดอ่อนข้านี่!"

"ก็เจ้ามันแมว..ถ้าหงายท้องให้ข้า ข้าจะเลียให้ เจ้าคงครางจนตาย"

ข้าพูดในขณะที่แมวตัวโตข้างๆหูผึ่ง..


"..เจ้าจะเลียให้จริงรึ?!"


"ลองดูสิ"


ข้าใช้ดวงตาอำพันมองดูเขาด้วยความสนุก..


เสือดาวนั้นปราดเปรียว สง่างาม สันโดษ เจ้าเล่ห์..

เขาไม่เหมือนสิงโตสาวพี่น้องของข้า..พวกนางทึมทึบ รักข้า ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม.. และน่าเบื่อ



"เจ้าจะฝังเขี้ยวลงไปที่ท้องของข้ามากกว่า"

เสือดาวพูดก่อนจะทำหน้าลังเล.. เขาฉลาด..และไม่ไว้ใจข้าง่ายๆ.. นั่นทำให้ข้านึกสนุกขึ้นมาก..


"เอาเถอะ.. แล้วนี่เจ้าจะไปไหนรึ"

ข้าถามและตั้งเป้าหมายในใจลึกๆว่าจะทำให้เขาไว้ใจจนนอนหงายท้องให้ข้าให้ได้..


"..ยามค่ำคืนเป็นเวลาล่าของข้า.."

เสือดาวพูดขณะที่สายตาสอดส่องไปในความมืด..


"เจ้ากำลังจะล่าอะไร"


"กระต่าย"

ข้าขำพรืด..


สัตว์ตัวเล็กขนาดนั้นนี้นะ..มันต้องจริงจังขนาดนี้เลยรึ..


"มันไม่เท่ แต่ข้าก็อิ่ม ข้าจะไปต่อสู้กับสัตว์มีเขา ตัวใหญ่ มีเขี้ยวไปทำไม ในเมื่อยังมีลูกบอลขนนุ่มให้ข้าเคี้ยว"


"เจ้าไม่มีปัญญาล่าสัตว์ตัวใหญ่"


"นั่นไม่ใช่ความจริงเลย ข้าไม่ได้อยู่เป็นฝูงยั้วเยี้ยแบบเจ้า ข้ากินแค่ตัวเอง ไม่จำเป็นต้องล่าสัตว์ใหญ่"

เขาพูด ฟังดูโกรธที่ข้าดูถูกเขา ..แถมยังเปรียบเทียบว่าฝูงข้ายั้วเยี้ยอีก.. ปากคอเราะร้ายนัก



เจ้าเสือดาววิ่งเยาะๆไปใต้ต้นไม้..

และไม่นานก็วิ่งกลับมา พร้อมกับคาบลูกกระต่ายที่คอหักไว้ในปาก2-3ตัว..


"ไม่เอาแม่มันมาด้วย"

ข้าพูดขณะมองเขาเคี้ยวเนื้อกระต่ายหอมหวานกร้วมๆ


"แล้วใครจะออกลูกครอกต่อไปให้ข้ากินล่ะ..เจ้านี่..ถามอะไรโง่ๆ"

แน่ะ..โดนด่าอีกข้า..เกิดมาเสียชาติเกิดสิงโตชะมัด.. มาโดนแมวด่าว่าโง่แบบนี้..


"เจ้ากินแค่นี้อิ่มเหรอ"

ข้าถามขณะมองเนื้อลูกกระต่าย..อันน้อยนิด.. เขาไม่ตอบ..


คงจะไม่อิ่ม..

แต่ด้วยศักดิ์ศรีความเป็นแมว(?)จะตอบแบบนั้นคงจะอายข้า..


ข้าเหลือบสายตาไปเห็นสุนัขจิ้งจอกตัวผู้ตัวหนึ่ง..

มันเห็นข้าเช่นกัน..แต่ยังคงเดินอย่างระเเวดระวัง..และไม่วิ่งหนี..


สุนัขจิ้งจอกฉลาด..มันรู้ว่าเวลากลางคืนไม่ใช่เวลาล่าของข้า..


..มันจึงไม่กลัว..



ข้ากระโจนเข้าไปตะครุบมันครั้งเดียว..
ก่อนจะใช้กรามอันแข็งแกร่งกัดคอมันจนเลือดพุ่งกระฉูด..


ข้าคาบมันมาให้เจ้าเสือดาว..


"ของเจ้า"


เจ้าเสือดาวมองข้าอย่างลังเลก่อนจะลากสุนัขจิ้งจอกขึ้นไปกินบนต้นไม้..


หลังจากกินเสร็จเขาก็บอกข้าว่า


"เจ้าควรกลับไปฝูง"

"ทำไม"
ข้าถาม

"ข้าจะนอนแล้ว.. ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาตามติดข้าทำไม.. ข้ารู้สึกไม่ปลอดภัย"
เจ้าเสือดาวพูดและไม่ยอมลงมาจากต้นไม้

ข้าตอบเขากลับเบาๆ


"ข้าแค่สนใจเจ้า"

ข้าบอก


"ข้าอยากเลียท้องเจ้า"

ข้าพูดต่อ และเศษสุนัขจิ้งจอกก็ตกลงมาที่พื้น..


"เจ้าวางแผนกินข้าหรือเปล่า"

"เปล่า"
ข้าตอบ

และไม่มีเสียงใดๆกลับมาจากต้นไม้อีก..


ข้าเดินทางกลับอาณาเขตที่พัก



.................................


หลังจากนั้นทุกคืนข้าจะออกมาเดินเล่นกับเจ้าเสือดาว..

ข้ารู้จักเขามากขึ้น พอๆกับที่เขารู้จักข้า..


เขารักสันโดษ ฉลาดเฉลียว และไม่ชอบให้ข้าเรียกว่า'แมว'


ข้าใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่เขาจะไว้ใจข้า..


แต่เมื่อเขาไว้ใจข้าแล้ว

เขาก็ติดหนึบข้าเหมือนแมวที่มีเจ้าของ..



และเขาชอบเคลียคลอเป็นอย่างมาก..



อย่างเช่นตอนนี้


ข้านอนอยู่ใต้พุ่มไม้ และมีเสือดาวกำลังเอาหัวมาซุกไซ้ข้า..


"เลียข้า"

เขาส่งเสียงเเง้วๆขอร้องให้ข้าเลีย..

เขาดูจะชื่นชอบการถูกเลียมากเป็นพิเศษ

ข้ากดลิ้นสากไล้ไปตามใบหน้า ตามคอ ..เจ้าแมวตัวโตครางฮืออย่างพอใจ

เขาเองก็ชอบเลียข้า..เขาชอบออดอ้อน พะเน้าพะนอ และจะใช้เวลาคลอเคลียข้าอยู่เป็นวันๆ..


"เจ้าจะไปแล้วหรือ.."

เจ้าเสือดาวถามเมื่อเห็นข้าลุกขึ้น ข้าพยักหน้าก่อนจะกดจมูกแนบหน้าเขาหนึ่งที

'วิธีบอกลาของพวกสิงโต'


"ถ้าเจ้าขึ้นเป็นจ่าฝูง..เจ้าจะได้มา'เล่น'กับข้าอีกไหม"


"คงไม่หรอก..ข้าคงต้องนอนขึ้นอืดเหมือนพ่อของข้า กับผสมพันธ์กับเมียซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของข้า"

ข้าพูด

"งั้นเจ้าไม่ขึ้นเป็นจ่าฝูงได้ไหม"

เจ้าเสือดาวยังพูดและเคลียคลอข้า..


แหม..มันช่างน่ารักเสียจนข้าอยากขย้ำเขาตรงนี้เลย..ให้ตาย


"ไม่งั้นข้าก็ต้องกลายเป็นสิงโตโดดเดี่ยว..ถูกขับไล่ออกจากฝูง.."


"เจ้าจะไม่โดดเดี่ยว..มาอยู่กับข้า"
เจ้าเเมวตัวโตยังคงอ้อนข้าต่อ..


"เจ้าไม่อยากให้ข้ามีอำนาจบารมีน่าเกรงขามรึ..เจ้าอยากให้ข้ากลายเป็นสิงโตโดดเดี่ยวน่าสมเพชหรือ.."

เขาพยักหน้า


"เจ้านี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆ.."

ข้าพูดก่อนจะเลียเขากลับ เจ้าเสือดาวครางอีกครั้งก่อนจะเลียแผงคอข้า


"ข้าก็ว่างั้น.."



.................................


ข้าคิดไม่ตกว่าจะขึ้นเป็นจ่าฝูงหรือออกไปอยู่กับเจ้าเสือดาวดี..

เมื่อข้าถามเเม่ แม่ข้าก็บอกว่า


"เจ้าควรหาเมีย..เจ้าหลงไอ้ลูกเสือดาวจนโง่ไปแล้วหรือไง.."


"ข้าไม่ได้หลง.."


"แล้วเจ้าจะทิ้งชีวิตสุขสบายอย่างกับพระราชาในฝูงไปแลกกับการต้องหาอาหารเองทุกวันกับไอ้เสือดาวนั่นหรือ.."


"ถ้าเจ้าไม่หลงมันจริง เจ้าจะไม่มาถามแม่ด้วยซ้ำ..แล้วอีกอย่างนะ..ตัวเจ้ามีแต่กลิ่นแมว!"


"..แม่.."


"แม่ไม่น่าเลี้ยงให้เจ้าเกิดมาโง่เช่นนี้.."

แม่พูดอย่างผิดหวังในตัวข้ายิ่งนัก..


"ถ้าเจ้าเลือกไม่ได้แม่จะจัดการให้เอง"



..................................






และหลังจากวันนั้นข้าก็ไม่เจอเสือดาวอีก..

แม้ว่าข้าจะไปที่ที่เราพบกันทุกคืน..

ต้นไม้ที่เขาชอบไปอยู่..

ข้าก็ไม่เจอเขา..





ตอนนั้นข้ารู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า..


ข้าไม่ออกล่า
กินอะไรไม่ได้..แต่ก็นอนไม่หลับ..




น้องสาวของข้าพยายามมาเคลียคลอ

ส่วนน้องชายก็อาศัยจังหวะที่ข้าอ่อนแอนี้ท้าประลองกับข้า..


แต่เขาก็ไม่อาจเอาชนะข้าได้เช่นเดิม..





"เจ้าไปท้าประลองกับพ่อซะ"

แม่ของข้าพูด..ในสังคมฝูงสิงโตนั้น พ่ออาจมีอำนาจมากที่สุด.. แต่แม่เป็นตัวบงการ..
แม่บงการทุกๆอย่าง..


"แม่ทำอะไรกับเสือดาวของข้า!"

ข้าคำรามใส่นาง


"ข้าให้น้องสาวของพวกเจ้าไปจัดการมัน..ขนาดตัวห้าสิบหกสิบโลนี้กินไม่อิ่มหรอก..แต่ก็ช่วยให้เจ้าเข้าลู่เข้าทางขึ้นเยอะ..ลูกแม่"


ข้ากัดฟัน คำรามเสียงต่ำ..



"จงใช้ความโกรธนั้นนำตำแหน่งจ่าฝูงมาสู่ตัวเจ้าเสีย"


"ข้าไม่ทำ! หากแม่ต้องการมันมากนักแม่ก็ลงมือฆ่าพ่อเองเลย เขานอนขึ้นอืดทั้งวัน ไม่ครณามือแม่หรอก!"

ข้าพูดก่อนจะวิ่งออกจากอาณาเขตฝูงไป..



วิ่งไปยังต้นไม้ที่ข้าพบเจอกับเขาเสมอ..




"วนเวียนหาอะไร.. จิตใจช่างวกวน.."

เสียงแหบๆขู่ฟ่อๆดังมาจากต้นไม้.. ผู้มาใหม่นิรนามเลื้อยตัวสีดำเกล็ดวาวลงมาใกล้ๆข้า..



"เจ้าพอจะรู้ไหมว่าเสือดาวที่ชอบอยู่บนต้นไม้นี้หายไปไหน.."

ข้าพูดกับงูเจ้าเล่ห์.. ไม่ยอมรับว่าเขาถูกน้องสาวและเเม่ของข้ารุมทึ้งกินไป..



"อ้อ..เจ้าตามหาเมียเจ้า.."

เสียงงูฟ่อๆดังขึ้นอีกครั้ง..


ข้ากำลังจะปฏิเสธ ..แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าตามหาเขาเจอในครั้งนี้.. ถ้าเขายังไม่ตาย..

ข้าจะทำให้เขาเป็นเมียข้า..เป็นเมียข้าจริงๆ..



"เจ้าเห็นไหม.."




"ข้าเห็น.. ข้าเห็นทุกอย่าง.."

งูเจ้าเล่ห์พูดก่อนจะขยายรูม่านตาแล้วจ้องมองข้า..



"ฝูงของเจ้าพยายามล่าเขา..แต่เขาฉลาด..เขาปราดเปรียว.. ทว่ากำลังน้อยกว่า..
เขาหนีไปทางแม่น้ำ.. แต่สภาพสะบักสะบอมน่าดู.. เจ้าต้องโชคดีมากหากเขายังไม่ตาย.."



"โอ..ข้าขอบใจเจ้ามาก.. เจ้าต้องการอะไรตอบแทนหรือ เจ้างู"

ข้าถามอย่างซึ้งใจที่เขาบอกที่อยู่ของเสือดาวให้ข้ารับรู้..



"ถ้าเจ้าตามหาเขาเจอแล้ว..อย่าพาเขากลับมาที่นี้อีก..ไอ้เสือดาวเจ้าเล่ห์นั้นมันจ้องจะกินข้า.."

งูเฒ่าบอกก่อนจะเลื้อยกลับขึ้นต้นไม้ไป..ข้ารับคำเขา..


ก่อนจะออกเดินทาง..



เดินทางออกจากฝูง..




สละชีวิตที่มีและอำนาจเพื่อตามหาเขา..






ข้ากลายเป็นสิงโตโดดเดี่ยวโดยสมบรูณ์






หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-04-2018 20:21:19
ขอให้น้องเสือดาวยังมีชีวิตอยู่..ชอบตอนอ้อนกัน..น่ารัก :catrun:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 17-04-2018 21:07:10



ชีวิตเสือๆ(1)





"ลงมาเถอะน่า..ไม่งั้นข้าจะเขย่าจนเจ้าตกลงมา..แล้วขย้ำเจ้าซะ!"

นางสิงห์ตัวหนึ่งคำรามจากล่างต้นไม้..

แม้ข้าจะเห็นนางเพียงตัวเดียว..แต่สัมผัสของข้ารับรู้ได้..มีพวกนางอีกสองสามตัวที่แอบอยู่..

และน่าจะมีอีกหนึ่งตัวที่กำลังรอคอย..


รอคอยอย่างใจเย็น

ที่จะได้ฝังคมเขี้ยวลงไปที่คอข้า..




"มายุ่งกับข้าทำไม"

ข้าถาม..แม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว..



"เจ้ามายุ่งกับพี่ชายของเรา..เขาเป็นว่าที่จ่าฝูง..แต่ตั้งแต่ติดเจ้าเขาก็หลงเจ้างอมแงม..สิ้นไร้ความทะเยอทะยานใดๆไปหมด.."



"แล้วมันความผิดข้าหรือไงกัน! ไปบอกพี่ชายเจ้าสิ!"

ข้าเถียง ถึงแม้จะรู้อีกเช่นเคยว่าเป็นความผิดของตนเต็มๆ..







ข้าสารภาพว่าข้าหลงใหลเขาตั้งเเต่เเรกพบ..

ทั้งท่วงท่าสง่างาม ความเป็นผู้นำ ไหนยังจะเเผงคอสุดเซ็กซี่นั้นอีก..


แง้วว...อยากได้มาเป็นของเล่นง่ะ! หมั่นเขี้ยว!!


แต่ข้าเป็นเสือดาว..

ไอ้ครั้นจะเข้าไปเคลียคลอพะเน้าพะนอเขาง่ายๆนั้นมันเสียศักดิ์ศรีไปหน่อย..


ข้าจึงพยายามทำทุกวิธีทางให้เขาสนใจในตัวข้า..



เริ่มตั้งแต่แสร้งทำตัวนอนเหยียดยาวเซ็กซี่บนต้นไม้
หรือทำตัวเป็นว่าไม่สนอกสนใจเขา..


จนกระทั่งเขาสนใจข้าจริงๆนั่นแหละ..



ข้าก็เเทบจะปกปิดเขี้ยวเล็บตัวเองไว้ไม่อยู่..


ไอ้สัญชาตญาณเดิมๆอย่างการอ้อน กระเง้ากระงอด เคลียคลอ
ก็ยิ่งทำให้ข้าอยากคลุกคลีกับเขามากขึ้น..


ข้าได้รู้จากปากเขาว่าเขาไม่มีกระจิตกระใจจะเป็นจ่าฝูงตั้งแต่แรก..
ภาพจ่าฝูงที่เขาเห็นคือ พ่อที่วันๆเอาแต่นอนขึ้นอืด กับจับคนในครอบครัวทำพันธุ์..


ฟังเขาเล่าแล้วข้ายังอยากอ้วก



คือสังคมที่เราโตมามันต่างกัน

เสือดาวอย่างข้าอยู่กับแม่ไม่ถึง 2 ปี เราก็แยกย้ายออกไปมีชีวิตใครชีวิตมัน

เราถูกสั่งสอนให้พึ่งตนเอง ข้าจึงสันโดษอยู่เสมอ..

และคนในตระกูลของข้าก็ไม่มีพฤติกรรมจับพี่น้องของตนมาทำเมีย
หรือให้จ่าฝูงมีหน้าที่นอนขึ้นอืดอยู่อย่างเดียวด้วย..



ตอนที่เขาบอกว่า เขาอยากออกจากฝูงมาอยู่กับข้า

ข้าจึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง..




แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับเหล่านางสิงห์ที่หวังจะเอาพี่ชายตัวเองเป็นพ่อพันธุ์พวกนี้...




"ไอ้เสือดาวเจ้าเล่ห์..ลงมาเดี๋ยวนี้นะเเก!!"

เมื่อเห็นว่าข้าไม่มีทีท่าจะลงไป.. นางสิงโตจึงตะปบต้นไม้อย่างแรง..



"อย่าทำงั้นเลย! เจ็บมือเปล่าๆ"
ข้าพูดหยอกล้อกวนตีน..อันเป็นนิสัยของข้า.. แม้ว่าลึกๆในใจจะหวั่นอยู่มากโข..


แต่ต้นไม้นี้แข็งแกร่งพอ..ถ้าไม่ใช่ตัวแรดก็โค่นมันไม่ได้หรอก..ข้านึก


นางสิงห์เพียรพยายามอยู่ครึ่งค่อนวัน

ทั้งด่า ทั้งสบถถ้อยคำหยาบคายแบบที่ถ้าเทพเจ้าเเห่งสัตว์มาได้ยิน..
เขาได้เเช่งนางตกนรกแน่


สักพักนางจึงยอมล่าถอยไป..

แต่ก่อนไปนางไม่วายงอแงบอกข้าว่า


"ข้าจะฟ้องท่านแม่! ข้าจะให้แม่มาจัดการเจ้า!"

นางคำรามก่อนจะสะบัดตูดหนีไป..

ข้าหัวเราะในลำคอ..



ข้าคิดถึงนางสิงโตแก่ๆ..เขี้ยวเล็บจะสักเท่าไหร่กันเชียว..







วันถัดมานางสิงโตแก่ปรากฎตัวขึ้น..


ข้าเกร็งตัวด้วยความระเเวดระวัง..



รัศมีบางอย่างรอบตัวนางบอกถึงความเป็นผู้ล่า..
กลิ่นเลือดคาวคุ้งและประกายเหี้ยมโหดในแววตา..



นางฉลาดเฉลียว..




นางอันตราย!!..




ใจข้าอยากจะร้องแง้วๆแล้วตะเกียกตะกายหนีจากต้นไม้นี้ไปเสียเดี๋ยวนี้..
แต่สมองของข้าร้องเตือนให้อย่าทำเช่นนั้น..



นางกำลังขู่ขวัญเจ้า..นางจะทำให้เจ้าหวาดกลัว..จนต้องหนีลงมา..





"ช่วงนี้สิงโตมีธุระกับข้าบ่อยจริง"

ข้าทำใจดีสู้สิงห์ก่อนจะพูดกับนาง


"ข้ามีธุระกับเจ้าเหมือนที่มีธุระกับกวาง.."

นางบอก..และข้ากลืนน้ำลายดังเอื้อก..



"ลูกชายเจ้ามาตามข้าเอง"

ข้าพูด..ไม่ยอมตะโกนบอกนางต่อไปว่า.. เรารักกัน! ..เรารักกันนะครับแม่! อะไรน้ำเน่าเทือกนั้น...

ตอนนี้ข้าขอเอาตัวรอดเป็นยอดดีก่อน..ขืนพูดงั้นได้กลายเป็นอาหารแน่!



"หึ..ไอ้เสือดาวเจ้าเล่ห์..คิดว่าข้าไม่รู้หรือ.. ข้าได้กลิ่นความกลัวของเจ้า.."


..ข้าน่าจะเอาตัวไปชุบน้ำโคลนก่อนมานี้นะ..บ้าชะมัด!!


"จมูกเจ้าไม่ดีแล้วล่ะ..กลิ่นของแอนทีโลปรึป่าวค้าบ.."

ข้ายังคงลอยหน้าลอยตากวนตีนต่อตามวิสัย..แม้ตัวข้าจะใกล้เคียงกับคำว่า'อาหาร'ขึ้นไปทุกที..



นางยิ้มเยาะ ไม่กล่าวอะไร.. และเเล้วข้าก็เห็น..





จำที่ข้าเคยบอกได้ไหม.. คงมีแต่ตัวแรดที่ล้มต้นไม้นี้ได้..


และข้ามองเห็นแรดฝูงหนึ่งวิ่งมาทางนี้..

จากสายตาที่มองได้ไกลของข้า.. ข้าเห็นลูกสมุนนางสิงห์ไล่ต้อนมันมาอยู่..



ข้าอ้าปากร้องเมี้ยว!! กันเลยทีเดียว..



นางสิงโตคำรามด้วยชัยชนะ..







"สัสเอ้ยยยย!!"

ข้าตะโกน..


..ก็สัตว์จริงๆ..



ชิบหายแล้ว!


สัญชาตญาณเอาตัวรอดของข้าเด้งขึ้นเหมือนสปริงที่ถูกกดทับมานาน..





คิดสิเว้ยคิด!!.. ข้าจะไม่ยอมมาตายเพราะเเรดตูดใหญ่พวกนี้เด็ดขาด!!




ในจังหวะที่พวกเเรดวิ่งเข้ามาชนต้นไม้นั้นเอง..


ข้าก็กระโจนลงไปบนตัวเเรดตัวหนึ่ง..




"กรี้ดดดดด มีเสือดาววว ทุกคนน หนีเร้วววววว!!"



แรดอวบอ้วนที่ข้าเกาะอยู่ทั้งวิ่งทั้งสะบัดตัวข้าออก..ฝูงแรดแตกตื่น
ข้างหลังก็มีสิงโต.. ถ้าข้าลงตอนนี้..


ไม่ถูกแรดเหยียบตายก็โดนสิงโตฟัดแน่..




..คิดสิโว้ยย ไอ้เสือออ คิดดดด...




"ไปแม่น้ำ!!! "

ข้าตะโกนบอกแรดที่ข้าเกาะอยู่..



"กรี้ดดดดดด!! เสือดาวอยู่บนตัวข้าาาาาาา!!"



"โว้ยยยยยย ไปแม่น้ำสิวะะะ ไม่งั้นข้ากัดเจ้าคอขาดแน่!!!!"



"กรี้ดดดดดดดดด"


แรดตัวนั้นพยายามวิ่งอย่างสุดชีวิต.. สิงโตตัวอื่นๆเริ่มพลัดหลงกับข้า..


แต่นางสิงโตชราผู้เขี้ยวลากดิน..ไม่ยอมละเป้าหมายจากข้าเลยแม้แต่น้อย




"เร็วกว่านี้!!! ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้าซะะะะะ"


"กรี้ดดดดดดดดด"


โว้ยยยย หนกหูชิบหายเลยว้อยยยยย ข้าคิดในใจ..เหงื่อไหลเต็มตัว
ขนลุกชัน.. กรงเล็บกางเตรียมพร้อมกระโจน..


เมื่อแรดวิ่งไปถึงแม่น้ำ
ข้าก็กระโจนลงจากนางด้วยความรวดเร็ว

ก่อนจะว่ายน้ำเป็นลูกหมาตะเกียกตะกายข้ามฝั่งไป..



ข้าหันกลับไปมองนางเสือที่ยืนอยู่บนศพของแรดน้อยผู้เป็นพาหนะให้ข้ามาจนถึงเมื่อครู่นี้..


เลือดไหลออกจากคอของแรดตัวนั้น..


ช่างเป็นภาพที่..สง่างาม..และสยองขวัญเป็นที่สุด..




"เจ้าควรฝึกว่ายน้ำ!"

ข้าตะโกนไป..ยังมิวายกวนตีนนาง..


ข้ารู้สึกเหมือนข้าเป็นผู้ชนะในศึกนี้..

แต่สายตาเย้ยหยันกับรอยยิ้มเยาะของนางไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกเช่นนั้น..



นางมองข้า


และข้าก็เข้าใจ..





ข้ากลับไปไม่ได้อีก..



นางต้องการไล่ข้าออกจากอาณาเขต..




นางทำสำเร็จแล้ว..








................................



ข้าเดินเลียบไปตามแม่น้ำอย่างเศร้าสร้อย


จริงๆพวกเสือดาวอย่างข้ามักตั้งอาณานิคมอยู่แถวแม่น้ำ..



ข้าพบอาณานิคมของเสือดาวสี่ห้าตัวแถวนี้..


บางครั้งบางคราเสือดาวก็จับกลุ่มล่าเหมือนสิงโต..
แม้จะมีไม่บ่อยนัก..


และข้าก็ถูกสอนมาให้รักสันโดษเกินกว่าจะเข้ารวมกับพวกเขาได้



"อย่างน้อยพักอยู่ที่นี้สักสองสามวันก่อนก็ได้..เจ้าเสือน้อย"

เสือดาวเฒ่าตัวหนึ่งบอกกับข้า..


"ข้ารู้เจ้าเจอเรื่องบอบช้ำมา..อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำเป็นอาณาเขตของฝูงสิงโตที่ยิ่งใหญ่.. มันปกครองโดยสิงโตทรงอำนาจ..แต่ที่มีอำนาจจริงๆคือนางสิงห์.. นางฉลาด... ตลอดหลายปีมานี้พวกข้าถูกกันให้อยู่แค่อีกฝั่งของแม่น้ำเท่านั้น.."


"แต่ข้าก็ยังอยู่ที่นั้นได้.."


ข้าพูดด้วยความงุนงง..


"ก็ก่อนหน้านั้นเจ้าไม่ไปยุ่งกับลูกชายของนาง.."


"เจ้ารู้ได้อย่างไร ตาเฒ่า!"

ข้าถามด้วยความตกใจ..



"เรื่องของพวกเจ้าน่ะ เขาเมาท์กันให้แซ่ด.. ไอ้พวกนกแร้ง นกจิ้บมันเห็นพวกเจ้ากระหนุงกระหนิงเคลียคลอกัน..มันก็มาบอกข้า..ไหนจะพวกงู พวกกระต่าย พวก.."


"เออๆ พอๆ ข้ารู้ละว่าเจ้ารู้มาจากไหน"

ข้าพูดก่อนจะหันหน้าหนี..หน็อยยย ไอ้พวกสัตว์ปากมากขาเม้าท์! โดยเฉพาะแก๊งค์อีแร้งแห่งซาฟารี.. อีพวกนั้นนี้คงใส่สีตีไข่จนข้าไม่เหลือชิ้นดีไปแล้ว!


"แต่พวกข้ากับสัตว์น้อยใหญ่เชียร์คู่เจ้านะ.."


ข้าที่เดินๆอยู่เกือบเบรคหัวทิ่ม!


"ตาเฒ่า!! ไหงงั้น!!"


โอเค..ข้าไม่รู้มาก่อนว่าเรื่องของเราจะเป็น Talk of The Safari ..แต่พอข้ารู้ว่าเราเสือกมีแฟนคลับด้วยนี่ข้าเเทบหัวทิ่ม..นี่มันจะไม่พิลึกไปหน่อยเหรอวะ..สามัญสำนึกของสัตว์ธรรมดามันหายไปไหนหมด! (หายไปตั้งแต่เจ้าไปยั่วสิงโตแล้ว! : Anynomous)



"ก็ถ้าปล่อยให้สิงโตหนุ่มตัวนั้นขึ้นเป็นจ่าฝูง..ทั้งความฉลาด ความแข็งแกร่ง และความเหี้ยมโหดของเขากับแม่ของเขา ต้องทำให้ซาฟารีนี้ลุกเป็นไฟแน่..

การที่สิงโตตัวผู้จ่าฝูง มักจะเฉื่อยชา.. ออกล่าแค่เฉพาะยามจำเป็น นั้นเป็นกลไกของพระเจ้าแห่งสัตว์.. ทำให้ทุกชีวิตอยู่ในสมดุล..ล่าแค่พอกิน มีอาณาเขตแค่พออาศัย.."



"แต่สิงโตหนุ่มกับแม่ของเขานั้นไม่เหมือนกัน..เจ้าคงรู้ความฉลาดของผัวเจ้าเป็นอย่างดี.."


ข้าสะดุดหัวทิ่มอีกครั้ง..ผัวบ้าอะไรตาเฒ่า!!!!
อีนกแร้งจอมใส่สีตีไข่! มันเเต่งเรื่องจนข้าฟังแล้วยังต้องอาย..

ถ้าไม่ติดว่ารสชาติเนื้อมันหยาบมาก! ข้าจะจับกินแม่งให้หมดทั้งรังเลยคอยดู!



"พื้นมีอะไรรึ..เจ้าสะดุดบ่อยจัง"


"ตาเฒ่าอย่ากวนตีน"

..ตาเฒ่าไม่วายกวนตีนข้าแบบที่เผ่าพันธุ์เราชอบทำ

นี้คงเป็นอีกเหตุผลที่เสือดาวอย่างพวกข้ารักสันโดษ..


เพราะอยู่ด้วยกันเเล้วมันจะกวนตีนกันจนอยู่ไม่ได้ไง!

แม่ง!! แต่ละตัว!!



"ส่วนความฉลาดกับความโหดเหี้ยมของนางสิงห์นั้น..เจ้าเจอมากับตัวก็คงรู้ดี..
พวกสัตว์น้อยใหญ่ละเเวกนี้หวาดกลัวนางกันทั้งนั้น..นี้ขนาดตอนนี้นางเป็นแค่เมียจ่าฝูงนะ..
ลองคิดภาพนางกลายเป็นทั้งแม่ ทั้งเมียจ่าฝูงสิ.."



"แง้ว!!!"


ข้าตกใจกับคำพูดของตาเฒ่าถึงขนาดเผลอร้องแง้วออกมา..



"ไม่จริงน่าตาเฒ่า! ..เอากับลูกชายตัวเองเนี้ยนะ?!!"


"เจ้าอย่าเอ็ดไป..พวกสิงโตมันเป็นอย่างนี้แหละ.."


"โอ้มายแอนิมอลก้อด! ข้าจะอ้วก!!"


"ข้ารู้ ข้ารู้.. ข้าก็เหมือนกัน!"



"เอาเป็นว่าตอนนี้สัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายพร้อมจะช่วยพวกเจ้า! เจ้าเองก็ต้องทำหน้าที่เมียที่ดี! พาผัวเจ้าหาอาหารอยู่กินกันแค่นั้น.. ไม่ต้องไปตั้งฝูงทำลายสมดุลแบบที่แม่สิงห์ต้องการ.."


"เฮ้ยยย ข้าไม่ใช่เมียมัน! ข้าแค่ชอบคลอเคลียมันเฉยๆ!!"


"อะไรนะ!!!"

คราวนี้ตาเฒ่าสะดุดหัวทิ่มบ้าง..


"จริง!! ตาเฒ่า! พวกข้าไม่เคยแสดงความรักกันเเบบนั้น!! อ้อ แล้วเอาไปบอกกันให้หมดป่าเลยนะ! อีพวกแร้งที่แอบฟังอยู่!! พวกข้ายังไม่เคยเอากันโว้ยยยยยย!!"

ข้าพูดก่อนจะคำรามเสียงดังจนอีแร้งบินออกมาจากต้นไม้..


"แหมมมม รู้ด้วยหรอจ้ะะะะ"


"เห็นข้าเป็นแมวหรือไง! อีพวกช่างสอด!"


"แหมมมม อย่าโกห้กให้อายแอนิมอลก้อดเล้ย.. พวกเจ้าเลียกันทั้งวันทั้งคื้น"


"ข้าเเค่ชอบโดนเลีย!! เจ้าอยากให้ข้าเลียบ้างไหมละ หา!"

ข้าพูดและรู้สึกอยากถอนขนอีแร้งจอมเกรียนนี้จริงๆ!..ทั้งปากมาก สอดรู้ และไอ้สำเนียงเหน่อๆแบบคนที่มาจากผืนป่าฝั่งใต้ของมันก็ทำให้ข้าอยากจะตะปบปากเสียจริง..



"ไม่จริง...สายข่าวข้าบอกว่าสิงโตกำลังออกตามหาเจ้า..ถ้าเขารู้ว่าเจ้าเห็นเขาเป็นแค่เครื่องมือเลียเคลื่อนที่..พวกเราตายห่ากันหมดแน่"

ตาเฒ่าบอกก่อนจะหันขวับมาคำรามใส่ข้า


"เจ้าต้องเป็นเมียมัน!"


"ไม่มีทาง!"
ข้าคำรามกลับ..


"ไม่งั้นเราจะตายห่าหมดป่า!"


"ตาเฒ่าก็เสนอตูดให้มันเองดิ! สำหรับข้า เจ้าสิงโตเป็น'เพื่อนเลีย'ของข้า!"



"แหมมมม เพื่อนกันมันส์ดี!!"



"อีนกแร้ง!!!!"

ข้าตะโกนด่าไม่วายโดดตะปบมันไปทีหนึ่ง.. แต่มันบินโฉบหลบกรงเล็บข้าไปได้..


พริ้วนักนะเอ็ง!!!


"ยังไงก็ช่าง! ข้ากับประชาสัตว์อีกทั่วผืนป่าจะทำให้เจ้ากับสิงโตหนุ่มนั่นได้กันให้ได้!!"

ตาเฒ่าประกาศกร้าว


"ไอ้พวกสัตว์โลกโสมม!!!!"

ข้าตะโกนกลับ




หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: SmileCheek ที่ 17-04-2018 21:23:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-04-2018 22:23:02
เรื่องแรกทำเอาอึ้งไปเลย แต่ก็เคลียร์
ส่วนเรื่องสิงโตกับเสือดาว ฮ่า ๆ เราคงอยู่ฝ่ายสัตว์ป่าส่วนใหญ่สินะ เชียร์ให้เขาได้กัน ฮา
ชอบให้เลียและชอบเลียดีนัก ไปเป็นเมียพี่สิงโตเลยนะน้องเสือดาว ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: Pinkii ที่ 17-04-2018 22:46:02
เรื่องแรก คือเศร้าอ่ะ :o12: :o12: พอคิดว่ามินต้องย้อนมาวันนี้ไม่รู้กี่ครั้ง :hao5: :hao5: :o12:
แล้วตอนพระเอกคิดออกว่ามินพยายามยื้อชีวิตตัวเองนี้คือ :o12: :o12:
ส่วนเรื่องสองเหมือนคุณเอนี่เอามาปลอบ :hao7: :hao7: น้องเสือน่ารักมากก ฮามากก
อยู่ทีมนกแร้งค่ะตอนนี้ 5555555 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-04-2018 23:17:44
โอโมโม๊ะ!!!! มายแอนนิมอลก็อด...ดดด สนุกอะไรเยี่ยงนี้ เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ    :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 18-04-2018 09:27:50




ชีวิตเสือๆ(2)








ข้ารู้สึกว่าสิ่งต่างๆมันพิลึกพิลั่นไปหมด!


ข้ารักเพื่อนเลียของข้า! แน่ล่ะ.. แต่ข้าก็ไม่อยากให้เขาต้องละทิ้งชีวิตอันรุ่งเรือง..มาอยู่กับข้า..


แม้ข้าจะชอบอ้อนเขาอย่างนั้นก็เถอะ..

แต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะคิดจริงจัง..


ข้าไม่เข้าใจแวดวงสิงโตนัก
แต่เท่าที่ข้าฟังเขาเล่ามา..การเป็นสิงโตโดดเดี่ยวนั้นน่าเศร้า..แม่เขาปลูกฝังมาเเต่เด็กว่าสิงโตโดดเดี่ยวนั้นไร้บารมี
ไม่น่าเกรงขาม และจะตายอย่างชราจากไปอย่างโดดเดี่ยว..


เขาเล่าให้ข้าฟังอย่างนั้น

ข้าเลยไม่เคยคิดว่าเขาจะทิ้งชีวิตอันหรูหรา สะดวกสบาย รายล้อมไปด้วยบริวารและ..เอ่อ..ทาสกาม บำเรอรักอะไรเทือกนั้น..มาตามหาข้า..




..บ้าน่า!! ข้าก็แค่เพื่อนเลียกระหงุงกระหงิงเองนะ..มันต้องลงทุนทำอะไรขนาดนั้นหรือยังไงกัน!!



ข้าฟังอีนกแร้งจอมสอดเล่าแล้วยังไม่อยากจะเชื่อ..


จากเท่าที่ข้าได้ใช้ชีวิตร่วม..เอ้ยยย ได้ใช้เวลาร่วมกับเขามา..
ข้าก็รู้ว่าเขาเป็นสิงโตฉลาด แข็งแกร่ง เยือกเย็น..


โอเค เขาโหดเหี้ยมด้วย(แม้จะไม่ใช่กับข้าก็เถอะ)

ไม่มีทางหรอกน่า..เขาคงไม่ทำอะไรบ้าๆแบบนั้น..




"เจ้าพูดจริงดิ อีนกแร้ง"

ข้าถามย้ำอีกครั้ง


"โอ้ยยยย เจ้าเป็นพวกย้ำคิดย้ำทำรึไง๊ ให้ข้าบินพาเขามานี่เลยไหมจะได้ถามกันเอง..พี่น้องข้าบอกว่าเขากำลังมุ่งหน้ามายังแม่น้ำ.."


"ใครบอกเขาเรื่องที่อยู่ข้ากัน!"


"ตางูเฒ่าสายข่าวเรานะสิ! รายนั้นน่ะ หัวหน้าแฟนคลับคู่พวกเจ้าเลยนะ.."


ห้ะ...ตางูเฒ่าที่ชอบแกล้งทำเป็นนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนต้นไม้อ่ะนะ?!..


"ตางูเฒ่านี้แหละบอกเราว่าเจ้าเป็นเมียพ่อหนุ่มสิงโตนั้น.. ข้าถามอะไรหน่อยสิ.."


"อะไร!"


"เจ้าไม่เจ็บเหรอ..แกว๊วกกกก!!"

เสียงร้องอันหลังนี้ข้าตะปบมันเอง.. หนังอีแร้งหลุดติดกรงเล็บข้ามา..
ข้าเลียกินอย่างเซ็กซี่(?)ก่อนจะถุยทิ้งแทบไม่ทัน..



"เจ้าไปกินควายเน่ามาหรือไงกัน!"


"กินไบซันเน่ามาต่างหาก..อูยยย เจ็บชะมัด! ไอ้เสือดาวโหด!! "


ข้าโหดได้มากกว่านี้แน่หากเจ้ายังไม่หุบจะงอยปากของเจ้าไปซะ..




"บ้าชะมัด..ข้าควรทำไงดีวะเนี่ย.."

ข้าบ่นพึมพำกับตัวเองขณะเดินเตร็ดเตร่เข้าไปในป่าลึกเรื่อยๆ..




"มีเสือดาวเศร้าสร้อยหลงมาแถวนี้หรือ.."


ข้าหันไปตามเสียงและพบกับ...



สิงโตชราตัวหนึ่ง..




"ข้าไม่รู้มาก่อนว่าป่าฝั่งนี้มีสิงโตด้วย.."



"ข้าคือสิงโตเร่ร่อน..และแก่ชราจนไม่มีใครพูดถึง.."

ข้ามองสิงโตชราอย่างตกใจ..

แม้เขาจะพูดเช่นนั้นแต่สภาพของเขาไม่ได้น่าสมเพชเลยสักนิด..

เขายังคงดู..สง่างาม.. เหมือนกับสิงโตที่อยู่ในฝูง..



"ทำไมเจ้าถึงออกจากฝูงมา"

ข้าถามสิงโตชราอย่างสนอกสนใจ..


"ข้าพ่ายแพ้ต่อพี่ชายของข้า..และถูกขับไล่ออกมา.. มันก็เท่านั้นแหละ"


"ชีวิตของเจ้าเมื่อโดดเดี่ยว น่าสมเพชหรือไม่"

ข้าถามออกไปตรงๆและเขาหัวเราะ..


"เจ้าเป็นห่วงคู่ของเจ้าหรือไงกัน ถึงได้ถามข้าเช่นนี้.. เจ้าเสือน้อย.."

ข้าเเทบสะดุดหัวทิ่มอีกครั้ง


"เจ้าก็รู้?!"



"เรื่องของพวกเจ้า..แม้แต่สิงโตชราที่ปลีกวิเวกมาอยู่ในถ้ำอย่างข้ายังรู้.."



หน็อยย อีพวกนกปากมาก! ตางูเฒ่าปากดี! ข้าคิดอย่างขุ่นข้องใจ..




"ข้าน่าสมเพชอย่างที่เจ้าว่า.. ข้าต้องหาอาหารเอง ไม่มีเมียเป็นของตัวเอง.. บางทีข้าต้องไประบายอารมณ์กับกวางป่าไม่รู้อิโหน่อิเหน่.."


ข้าคิดภาพตามก่อนจะทำหน้า...อี๋ยยยย์...น่าสมเพชจริงๆนั่นแหละ!



"แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น..ข้าก็มีอาหารกิน..สุขภาพแข็งแรงดีเพราะต้องออกล่าอาหารเอง.. เพียงแค่ไม่มีบริวารห้อมล้อมเท่านั้นแหละ..แต่ข้าก็มีเพื่อนในป่าอยู่บ้าง..เท่านั้นข้าก็มีความสุขละ.."


"อย่างกวางที่เป็นคู่ให้เจ้านะเหรอ.."

ข้าถาม..อยากจะอ้วก..


"อ้อ คู่ของข้าทุกตัวข้าจับกินหมดน่ะ.."


ข้าฟังละสมเพชยิ่งขึ้นไปอีก..



"โอเค..สิงโตเฒ่า"

ข้าพูดก่อนจะมองหน้าเขา..



"ออกไปไกลๆข้า..เจ้ามันวิตถาร.."

สิงโตเฒ่าหัวเราะก่อนจะมองข้า..


"ข้ารู้สัตว์น้อยใหญ่เชียร์พวกเจ้า..พวกเขาอยากให้สิงโตหนุ่มนั้นอยู่กับเจ้า..ในป่าแห่งนี้.."


"แต่มีสัตว์อยู่ตัวหนึ่ง ที่ไม่ต้องการ..ข้าไม่ต้องการให้ในป่าแห่งนี้มีสิงโตตัวอื่นนอกจากข้า!"

สิงโตเฒ่าคำรามก่อนจะกระโดดตะปบกลางลำตัวข้า..
ข้ากระโดดหลบแต่ก็โดนกรงเล็บข่วนอยู่ดี..



"มาให้ข้าจับทำเมียก่อนจะกินเจ้า!!"

สิงโตเฒ่าคำรามก่อนจะพุ่งเข้าหาข้าอีกครั้ง..


สัญชาตญาณทั้งหมดในตัวข้าบอกว่าข้ากำลังเป็นเหยื่ออย่างสมบรูณ์..


ข้าน้ำหนักหกสิบกิโลกรัมในขณะที่สิงโตเฒ่าหนักเกือบสองร้อยกิโล..
ข้าว่องไวกว่าก็จริง..แต่ที่นี้ไม่มีทุ่งกว้างให้หนี..


ข้าแพ้ทางการต่อสู้ระยะประชิด..ในขณะที่สิงโตเป็นเผ่าพันธุ์ที่โดดเด่นด้านประชิดตัวมากที่สุด..






"โฮกกก!!!!"




เสียงคำรามที่ข้าคุ้นเคยดังขึ้น ก่อนที่ข้าจะเห็น..สิงโตหนุ่มขนาดใหญ่กระโดดตะปบสิงโตเฒ่า
เขากัดสิงโตเฒ่าจนจมเขี้ยว.. ใช้กรงเล็บตะปบตาสิงโตเฒ่าจนลูกตาหลุดติดกรงเล็บออกมา..
ก่อนจะขย้ำ..ขย้ำ..ขย้ำซ้ำอีกครั้ง..



ข้ากลืนน้ำลายดังเอื้อก..



ไม่ใช่เพราะหิว..

..แต่เพราะข้ากลัว(ว้อยยย!!)



"เจ้าหิวหรือ..มากินสิ..นี่ของเจ้า"

สิงโตหนุ่มเพื่อน(?)รักของข้าพูดขึ้น..กลิ่นคาวเลือดออกมาจากปากของเขา..



"ม..ไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือ"

ข้าพูด


"ในอาณาเขตของข้า ต้องมีข้าเป็นผู้นำ เพียงตัวเดียว"

สิงโตหนุ่มพูดข้อความเยือกเย็นด้วยเสียงหวานซึ้ง..ก่อนจะเดินมาเอาหัวมาชนกับข้าเบาๆ..


'การทักทายของพวกสิงโต'



"เจ้ามาที่นี้ได้อย่างไร"


"ข้าตามอีนกแร้งมา..มันเล่าให้ข้าฟังว่าเจ้าคิดถึงข้ามากขนาดไหน.."


อีสัส!! ข้าด่ามันในใจ





"ข้ายอมละทิ้งศักดิ์ศรี ข้าทาสบริวาร.. ขอแค่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันกับเจ้า.."

สิงโตหนุ่มพูดก่อนจะใช้ลิ้นสากๆเลียหน้าและคอของข้า..ข้าเผลอครางฮือ..อย่าเล่นแบบนี้สิวะ!


"เอ่อ..คือข้า.."





และทันใดนั้นก็มีดอกไม้โปรยลงมาจากนกจิ้บๆ..
มีสัตว์น้อยใหญ่โผล่หัวแสดงตัวออกมาจากพุ่มไม้..




"ยินดีด้วย!! รักกันนานๆนะ!!!"

เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีจากสัตว์น้อยใหญ่ดังเซ็งแซ่..นำทีมโดยเสือดาวเฒ่าและตางูเจ้าเล่ห์ที่เลื้อยเอาดอกไม้มาวางตรงหน้าข้า..




พวกมันจัดฉากบังคับข้า!! ไอ้พวกสัตว์โลกโสมม!!!




"ข้าไม่สนใจฝูง..ขอแค่ข้ามีเจ้า.. ข้าจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป.."



ส่วนไอ้นี้ก็ยังพูดชวนหวานซึ้งไม่เลิก!!..
ล..แล้วข้าจะทำยังไงได้ละวะ!!



"เป็นเมียข้านะ"


ข้าอ้าปากค้าง..มองศพสิงโตเฒ่าลูกตาหลุดที่นอนอยู่ตรงหน้า.. มองสิงสาราสัตว์จอมเสือกที่โห่หิ้วอยู่รอบๆ..


..ไอ้ดอกไม้เหี้ยนี่ก็เมื่อไหร่จะเลิกโปรยวะ?!!!..




บรรยากาศโดยรวมโรแมนติกชิบหายจนข้าไม่กล้าปฏิเสธไป..




"แม่เจ้าจะไม่มาตามแน่นะ..?"

ข้าถามขึ้นเบาๆอีกครั้ง


"นางไม่มายุ่งหรอก..ที่นี้ไม่ใช่อาณาเขตของนาง.."

ข้าเดินเข้าไปหาเขาก่อนจะใช้ลิ้นเลียแผงคอให้เขา และใช้หัวซุกไซ้เขา


"งั้นก็ได้"


ข้าพูดและเสียงโห่หิ้วจากเหล่าประชาสัตว์ก็ดังขึ้น..



"..เจ้าช่วยอะไรข้าหน่อยสิ.."
ข้าพูดก่อนจะมองเขาอย่างออดอ้อน..


"ข้าหิวจัง..อยากกินไอ้พวกที่มารุมเสือกนี้ให้หมดเลย.."



"ได้เลย..เมียข้า"


สิงโตหนุ่มพูดและสัตว์น้อยใหญ่ก็หายหัวแบบ...


หายวับ!! ไปกับตา..









................................




"ข้าว่าเราคิดผิดนะที่เชียร์ให้มันได้กันเนี่ย.."

เสียงเล็กๆเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆเสือเฒ่า..


"ข้าว่าไอ้เสือดาวนั้นมันฉลาดเหลือร้ายกว่านางสิงห์อีก.."



"..เราตายห่ากันหมดแน่!"





"เราตายห่ากันหมดแน่!"





เสียงนกแร้งดังขึ้นสะท้อนก้องไปทั่วทั้งผืนป่า..













---ยะ..ยังไม่จบงับ..แง้ว!!---








ปล.ตอนหน้าเรื่องราวหลังเเต่งงาน(?!) ความกวนของน้องเสือความเฮี้ยวของพี่สิงห์ยังไม่จบเพียงเท่านี้!!
+ แน่นอนว่า..เรื่องสั้นชุดนี้...มี NC เด้อพรี่น้อง! (เตือนไว้ก่อน!)


คุณผู้อ่าน: เอาจริงดิ้?
Anynomous : YES!!


เป็นเรื่องเล่าเงากระจกทั้งที! จะเพี้ยนไปทางไหนต้องไปให้สุดติ่ง..
นี้คือคติอินดี้ของเอนี่โนมัสจ้า! //เปิดหนังสือดูกายวิภาคของสิงโตกับเสือดาวแปป!!



หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 18-04-2018 10:32:56
น่ารักมาก ชอบที่สุด รอตอนเข้าหอฮะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 18-04-2018 22:31:19
โอ้ยยยยย คิดได้ไงอ่ะะะะะ บอยเลิฟเวอร์ชั่น สิงห์สาราสัตว์ ณ ทุ่งหญ้าซาฟารี ฮือออออออออออออ ผัวเมียคู่นี้จัดว่าเด็ดกันทั้งคู่เด้ออ  :hao7: ชอบตอน 'เลีย' ตั่งต่าง porn x100  :m25: แผ่นดินไหวแต่น้องว่าน้องไม่ไหว  :jul1: รู้สักเหมือนได้รับการเยียวยาจากเรื่องแรก  :hao5: ชอบบบบบบบบบบบ โอย รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้วววววววว  :katai1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 19-04-2018 13:13:28





ชีวิตสิงห์เสือ(1)






โอ้ย โอ้ย.. โอ้ยยย ข้าจะเอายังไงกับชีวิตต่อดีวะ..


ข้าคิดด้วยความอเนจอนาถใจ..


..คือ..จะเริ่มยังไงดีล่ะ..


ตอนนี้ข้าตกอยู่ในสถานะ'เมีย'ของเพื่อนเลียของข้า..
เหตุเพราะโดนกดดันทางบริบทสังคมล้วนๆ!

..มันเหมือนกับพวกมนุษย์ที่ถูกขอแต่งงานกลางฝูงชนนั่นแหละ..
จะปฏิเสธก็กลัวเจ้าบ่าวหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ!

จะตอบบ้าอะไรได้นอกจาก เยส.. ไอดู้!!! (สำเนียงอีนกแร้ง)..



"Purr...."


เจ้าสิงโตตัวใหญ่นอนครางในลำคอเบาๆเมื่อข้าขยับตัวซุกไซ้เขา
เราตัวติดกันแทบจะทั้งวัน ยกเว้นเวลาที่เขาออกไปหาอาหารให้ข้า..


ข้าก็ชอบนะ ที่ได้นอนเล่นสบายๆอย่างเกียจคร้านกับเขา..
แถมเวลาที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ..ข้าก็ไม่ค่อยได้ระเเวดระวังภัยจากสัตว์อื่นด้วย..


เพราะในรัศมีที่เป็นอาณาเขตของเขาหลายสิบกิโลเมตรนี้..
ไม่มีสัตว์นักล่าตัวไหนกล้าหือกับเขาเลย..





"อูยยย อิจฉาอ่า.. ได้ผัวดี ชีวีมีสุข!!"




"อีนกแร้ง! อย่าปั่นได้ป้ะ!"

ข้าคำรามใส่มันอย่างรำคาญใจ..อีนกแร้งนี้ก็อีกตัว.. ข้าไม่รู้จะทำไงกับมันละ
ทั้งกวนตีน ยอกย้อน สนับสนุนพวกข้าจนออกนอกหน้า..


ข้าไม่รู้ว่ามันมีส่วนได้ส่วนเสียกับการสละอำนาจของเจ้าสิงโตตรงไหน..

อย่างตาเฒ่าเสือดาวกับเฒ่างูนั้นข้ายังพอเข้าใจ..
แต่กับนกแร้งที่แทบจะไม่มีศัตรูตามธรรมชาติเลย(เพราะไม่มีใครกินมันลง! นี่ข้าพูดจริงๆน่ะ!)

ข้าไม่รู้มันจะดีอกดีใจอะไรกับชีวิตข้านักหนา!!



"แหมมมม เจ้านี่ก็จะคุมโทนดุไปทึงไหน้ เจ้าควรดีใจนะที่ได้ผัวเป็นเจ้าป่า กล้ามเนื้อกับลีลาคงเเซ่บเว่อร์..อุ้ย จะว่าไป ข้าไปได้ยินข่าวแซ่บๆข่าวนึงมาล่ะ.."


ข้าหูผึ่ง..มองหน้าอีนกแร้งที่ดูพออกพอใจที่ได้กำความลับ..


"ข่าวอะไรว้ะ?"

"ก็เรื่องความมั่นคงของเจ้ากับพ่อสิงโตรูปหล่อน่ะสิ..อิอิ.."

อีนกแร้งพูดจบก็หัวเราะคิกคัก ก่อนจะยื่นจะงอยปากไปทางซ้าย ซ้าย ขวา ขวา เป็นจังหวะ.. ที่มันคิดไปเองว่าน่ารัก..!!


"เจ้าจะลีลาหาพระเเสงดาบง้าวทำไมห้ะ..บอกให้มันจบดิ!"


"...แหมมมม ใจเย่ะๆสิจร้ะะ..ข้าก็กำลังจะเล่าอยู่..ทางทิศตะวันออก ห่างจากที่นี้ไปเกือบ 40 โลได้.. ตอนนี้มีสิงโตสาวโดดเดี่ยวกำลังเดินทางมาทางนี้น่ะสิ.."


"แล้วมันเกี่ยวไรกับข้ากับสิงโต"


"เจ้าไม่ค่อยรู้จักวิถีชีวิตสิงโตสินะ..ลองถามผัวสุดหล่อของเจ้าดูสิ.. รับรองว่าเจ้าจะเข้าใจ..ว่าข่าวนี้แซ่บเว่อร์ขนาดไหน!"


"แล้วทำไมเจ้าไม่บอกข้ามาตรงๆเลยวะห้ะ!"


ข้าแง้วๆใส่อีนกแร้งอย่างรำคาญก่อนจะหันมาใช้ลิ้นเลียหน้ากับจมูกเจ้าสิงโตหนักๆ..


"หืมมม"



"ตื่นเถอะ..ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า"



ข้าได้ยินเสียงอีนกแร้งพึมพำว่า..'แหมมม ทีงี้ละเสียงสอง! เสียงออดอ้อนน' ข้าหันไปแยกเขี้ยวใส่มัน..



"ว่ายังไงหรือ เมียข้า"


ข้ากลอกตา..ไม่ชินสักทีเวลาเขาเรียกข้าแบบนี้..



"ครือ.. สิงโตสาวโดดเดี่ยวนี่มีด้วยเหรอ.. มันเป็นยังไงง่า.."

ข้าถามก่อนจะซุกไซ้ออดอ้อนเขาแบบที่ข้าชอบทำเสมอ..







ข้าไม่ได้เเรดนะ..






ข้าเสือดาว!
 



"อ้อ..สิงโตสาวโดดเดี่ยว..มีสิ..บางครั้งบางคราสิงโตตัวเมียที่เริ่มเป็นวัยรุ่น..จะเดินทางออกจากฝูงเก่าของตัวเอง..
บางทีก็เพื่อหาสิงโตโดดเดี่ยวไปตั้งฝูงใหม่.. หรือบางทีก็เพื่อฝากตัวเข้าร่วมกับฝูงใหม่อื่นๆ.."



"แปลว่าสิงโตสาวโดดเดี่ยวน่าสมเพชไหม"

ข้าถามก่อนจะมองเขาตาเเป๋ว.. เขาเลียข้ากลับหนักๆด้วยความรัก(ฮิ้ววว เขินจุง!.....



แร้ดแรดดด : เสียงอีนกแร้ง


อย่าเสือกเดี๋ยวเหงือกสั่น! : เสียงข้า)





"กลับกันเลยนะ..สิงโตสาวโดดเดี่ยวส่วนใหญ่นั้นฉลาด มีความคิดเป็นผู้นำ และสง่างาม..
แม่ของข้าก็เคยเป็นสิงโตสาวโดดเดี่ยวมาก่อน.. ก่อนจะฝากตัวเข้ามาอยู่ในฝูงกับพ่อข้า
และกุมอำนาจสำเร็จในเวลาต่อมา.."


สิงโตเล่าให้ข้าฟังด้วยความภาคภูมิใจ..ในแม่ใจร้ายหนังเหี่ยวเขี้ยวลากดินของเขา..




ข้าขมวดคิ้ว เริ่มกังวลเล็กน้อย..



..ถ้าแม่สิงโตสาวตัวนั้นเดินทางมาถึงที่นี้..



แล้วเพื่อนเลียข้าเกิดตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว...เธอใช่ไหมเป็นคนผลักฉันขึ้นมาล่ะ?!


แถมพวกตัวผู้ส่วนใหญ่ก็ชอบหาเมียที่เหมือนแม่ตัวเองทั้งนั้น..




เอ่อ..ข..ข้า ข้าไม่ได้คิดกับเขาแบบนั้นนะ! แต่ข้าเป็นพวกขี้หวง!
ข้าไม่ชอบให้ของของข้าไปเป็นของคนอื่นด้วย!!

แต่ข้าจะไม่มีวันทำตัวให้เขารู้เด็ดขาดว่าข้าหวงเขา..


ไม่มีวันซะหรอก




"ทำไมอยู่ๆเจ้าถามถึงเรื่องนี้ขึ้นมาหรือ"



"อ่อออ อยู่ๆข้าก็แค่สงสัยขึ้นมาน่ะ.. ไม่มีอะไรหร้อก..."

ข้าพูดก่อนจะกระพริบตาปริบๆช้าๆใส่เขา.. เขาครางฮือในลำคอ..



"ทำไมเจ้าชอบกระพริบตาปริบๆช้าๆใส่ข้า.."




ข้าไม่ตอบแต่ซุกหน้าลงที่แผงอกของเขาแทน..





..................................




"อีนกแร้ง ตาเฒ่าเสือ! ตาเฒ่างู! ข้าขอเรียกประชุม!"


"อะไรอีกละ..วุ้ย! คนหนุ่มสาวนี่วุ่นวายจริง!"
ตาเฒ่าเสือพูดก่อนจะมองมาที่ข้าอย่างเซ็งๆ..


ข้าไม่พูดพล่ามทำเพลงแต่เข้าเรื่องในทันที..


"มีสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายและเป็นภัยต่อความมั่นคงกำลังมุ่งหน้ามาที่นี้!"

ข้าพูด และหยุดจังหวะเว้นวรรคให้พวกตาเฒ่าได้ใช้สมองคิด..


"มันคือสิงโตสาว..ถ้ามันมาถึงที่นี้ มันกับสิงโตหนุ่มเพื่อนเลียข้าได้ซะบะละฮึ่มกันแน่! และนางก็วางแผนจะตั้งฝูงสิงโตในป่าแห่งนี้..และพวกเจ้าทั้งหมด! จะถูกขับไล่ออกจากป่าด้วย!"


"ด..เดี๋ยวๆ! ไอ้เสือดาว! เจ้ารู้ได้ไงว่านางจะทำงั้น!"


"สิงโตสาวโดดเดี่ยวก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดนั่นแหละ!"


"ถ้าเป็นงั้นจริงนี่ชิบหายเลยนา.."

ตาเฒ่าเสือพูด


"ข้าว่าเจ้าหวงผัวเจ้ามากกว่า..ตามนิสัยแมวๆน่ะ.."

ตาเฒ่างูพูดด้วยเสียงเนิบนาบ..แต่กระตุ้นส้นเท้าข้าได้เป็นอย่างดี..


"นั่นไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย..ความมั่นคงล้วนๆ!"

ข้ายังคงลอยหน้าลอยตาพูด ไม่สนใจตาเฒ่างูที่ดูพออกพอใจแปลกๆ(?)


"แล้วเจ้ามีแผนว่าอย่างไร.."
ตาเฒ่าเสือถาม..



"คืองี้.. ข้าจะให้อีนกแร้ง..ไปตีซี้กับนาง.. นำทางนางไปฝากตัวยังทุ่งฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ.."



"ฝูงเก่าของผัวเจ้า?"



"ใช่"
ข้าพยักหน้า


"และตาเฒ่างู..ข้ารู้เจ้าเข้าๆออกๆในอาณาเขตนั้นอยู่ประจำ.. ช่วยกระจายข่าวเรื่องนางสิงโตที่วางแผนจะยึดอำนาจฝูงให้ข้าด้วย.."



"โอ้มายแอนิมอลก้อด! เสือดาว! เจ้ามันชั่วร้ายจนพระเจ้าไม่อาจให้อภัย!"




ข้ากลอกตามองตาเฒ่าทั้งสอง ก่อนจะหาวหวอดๆ


"ข้าก็ว่างั้น"

..................................


หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 19-04-2018 16:11:43
ไหนๆๆๆ ไหน เอ็นซีคระะะ?? (รู้เลยนะคระว่าเปนคนยังไงงง)55555555555555555555  :hao7:
น้องแมวววว โอ้ยน่ารักกรุ๊งกริ๊งมากจ้า มีความหวงผ. เอ้ย ยังไม่ได้กัน เพื่อนเลียสิ อิอิ  :z1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 20-04-2018 09:59:08
.................................




และแล้ววันที่นางมาถึงป่าก็มาถึง..

ข้าแอบดูจากต้นไม้อยู่ไกลๆก็รู้ว่านางสง่างามพอตัวเลยทีเดียว..


ทั้งท่วงท่าการเดิน.. เสียงขู่กรรโชก..ดวงตาสีอำพันเข้ม..


ข้าเห็นเจ้าสิงโต..เพื่อนเลียของข้า เดินไปหานาง..ก่อนจะใช้หน้าผากชนกับนางเบาๆ..


แบบที่เขาเคยบอกข้าว่า ..เป็นการทักทายของพวกสิงโต..


แบบที่เขาเคยทำกับข้า..



ข้าเห็นพวกเขาเดินคู่กัน..
ดูคุยกันกระหนุงกระหนิงเชียว..




น่าจะสนุกนะ..


เขาน่าจะชอบ..





"ชิบหายแล้ว..เจ้าเสือน้อย.. อย่าไปยอมนา.."


ตางูเฒ่าเลื้อยมาสังเกตการณ์อยู่ข้างๆข้า..


ข้าส่ายหัว..




"ข้าสู้นางไม่ได้.. ไม่ว่าจะกรณีใดๆ"



ข้าพูด..และมันเป็นความจริง..


นางแข็งแกร่งกว่าข้า.. สง่างามกว่า.. คู่ควรกว่า..




"แต่พ่อสิงโตนั้นรักเจ้า..เขารักเจ้าถึงขนาดยอมสละชีวิตที่เขาสมควรมี..
ข้าไม่คิดว่าเขาจะเลิกรักเจ้าง่ายๆเพียงเพราะนางสิงห์จากที่อื่นตัวเดียวหรอกนะ.."





"..นั่นอาจจะไม่จริงก็ได้.. เขาอาจแค่ไม่อยากมีเมียเป็นน้องสาวตัวเอง..หรือนอนขึ้นอืดแบบพ่อ..
แต่ถ้ากับนาง..เขาเหมาะสมทุกอย่าง.. ถ้าเริ่มสร้างฝูงใหม่..เขาก็ไม่ต้องเอาแต่นอนขึ้นอืดด้วย.."

ข้าพูดกับตัวเองเบาๆ..มันเหมาะสมทุกอย่างจริงๆ..



"เจ้าอย่าพึ่งคิดเองเออเองเลย..อย่างน้อยก็ลองพูดคุยกับเขาดูเสียก่อนเถิด.."

งูเฒ่าพูดด้วยเสียงเนิบนาบ..แต่คราวนี้เสียงนั้นฟังเจ้าเล่ห์น้อยลง..มีเมตตามากขึ้น..




"และอีกอย่างนะ..เจ้าเสือน้อย..เรื่องมันจะง่ายกว่านี้มากหากเจ้าหัดพูดจาให้ตรงกับใจตัวเองเสียบ้าง"

งูเฒ่าพูดก่อนจะเลื้อยเนิบนาบจากไป..




"เจ้าติดตามดูพวกข้าตลอดมาเลยรึ?"

ข้าถามงูเฒ่าเป็นครั้งสุดท้าย..


"ข้าเห็น..ทุกอย่าง.."
งูเฒ่าบอก





"โรคจิต"

ข้าพูด



..................................



คืนนั้นข้าตัดสินใจนอนอยู่บนต้นไม้..


"ไม่ลงมานอนกับข้าหรือ เมียรัก,."


"วันนี้ข้าอยากนอนบนนี้.."

ข้าพูด..


"แล้วเจ้าคุยกับนางมาเป็นไงบ้างล่ะ..นางสิงห์ตัวนั้น"

ข้าถาม..


"นางฉลาด.. มีความคิดมากเลย นางเดินทางมาค่อนข้างไกล เลยอยากพักที่นี้สักสี่ห้าวัน.."


"เหรอ"
ข้าพูด..


"นางวางแผนอยากฝากตัวเข้ากับฝูงที่มีความมั่นคง..หรือไม่ก็สร้างฝูงของตนใหม่.. ข้าคุยกับนางวันนี้เเล้วก็นึกถึงแม่ข้าขึ้นมาเลย.."


"รู้.."

ข้าพูด


รู้แล้วเขาดีขนาดไหน.. แตกต่างจากฉันที่ชีวิตวุ่นวาย.. ไม่โกรธเธอแล้ว ..ก็เพราะเธอกับเขานั้นคู่กัน...!!!



แง้งงงงงงงงงงงง....



ข้าไม่พูดอะไรอะไรต่อ ได้เเต่กล้ำกลืนความรู้สึกแปลกๆ.. เจ็บปวดไว้ข้างใน


พิลึก.. ข้าพิลึกไปแล้ว...




"จริงๆนางก็ชวนข้าตั้งฝูงด้วย"

ข้าหูผึ่ง.. รอฟังประโยคถัดไปของเขา..





"..แต่ข้าปฏิเสธไป.."






"เจ้าก็รู้ข้าไม่อยากเป็นเหมือนพ่อ.."




ข้ากระโดดตุบลงมาที่พื้นข้างเขาอย่างแผ่วเบา..
ก่อนจะซุกตัวลงในอ้อมอกของเขาแบบที่ข้าชอบทำ..




งือออ.. อย่าทิ้งข้าไปนะ.. อย่า..



ข้าคลอเคลียเขายิ่งขึ้น..ใช้ภาษากายแทนคำพูดแบบที่ข้าชอบ..




"แต่เจ้าบอกว่านางเหมือนแม่เจ้า.."

ข้าพูดก่อนจะซุกหน้าลงแผ่นอกของเขา..



"เจ้าคิดว่าข้าหนีมาที่นี่เพราะอะไรล่ะ... ถ้าข้าอยากอยู่กับแม่ ข้าคงไม่มาหรอก.."


เขาพูดก่อนจะใช้ลิ้นสากๆเลียหัวข้า.. เขาใช้จมูกดุนดันตัวข้าให้พลิกตัวนอนหงายท้อง
ก่อนจะเลียแผงอกไล้ไปถึงท้องของข้า...


ข้าชอบตอนเขาทำแบบนี้.. ข้าครางฮือ..
ก่อนจะกระพริบตาปริบๆช้าๆใส่เขา..




"นั่นไง.. กระพริบตาแบบนี้อีกแล้ว.. มันหมายความว่าอย่างไรหรือ"
สิงโตหนุ่มถามข้าก่อนจะใช้ดวงตาสีอำพันเข้มจ้องมาที่ข้าอย่างสนอกสนใจ..



ตอนแรกข้าว่าจะไม่ตอบเขา..


แต่แล้วก็นึกถึงคำของตาเฒ่างูขึ้นมาได้..






"ในภาษาของเผ่าพันธุ์ข้า.."

ข้าพูด ก่อนจะใช้ดวงตาสีเหลืองอ่อนสบตาเขา..





"กระพริบตาปริบๆช้าๆแปลว่า.. 'ข้ากำลังตกหลุมรักเจ้า'.."





เจ้าสิงโตนิ่งไปสักพักก็เอาจมูกมาชนหัวข้า..



"เจ้าเล่นทำตัวแบบนี้.. ข้าจะเปลี่ยนใจไปหาใครอื่นได้...แมวเจ้าเล่ห์"


ข้ากระเง้ากระงอดเขากลับ..


แหม..ข้าไม่ได้ยั่วนะ..



ข้าไม่ใช่แมวเจ้าเล่ห์..




ก็ข้าเสือดาว..



..................................
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 20-04-2018 10:04:30
ไหนๆๆๆ ไหน เอ็นซีคระะะ?? (รู้เลยนะคระว่าเปนคนยังไงงง)55555555555555555555  :hao7:
น้องแมวววว โอ้ยน่ารักกรุ๊งกริ๊งมากจ้า มีความหวงผ. เอ้ย ยังไม่ได้กัน เพื่อนเลียสิ อิอิ  :z1:


ฮ่าๆ คุณ Yunnutjae .. เข้ามาCommentหา NC ทุกเรื่องเลยนะคะ (แซวว)
ตอนหน้านี้แหละค่ะ NC จริงๆแบ้ว! เจ้าลูกแมวยอมรับพี่สิงโตแล้วค่ะ(เขินนนน..ฮิ้วว!) :กอด1: :กอด1:

Anynomous
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 20-04-2018 10:38:34
5555555555555555555555555 อะไรคือโดนไรท์แซวว่ากาม  :laugh:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-04-2018 14:24:06
คุณงูคงเอ็นดูน้องเสือดาวอยู่ไม่น้อย...น่ารัก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 22-04-2018 18:11:38






ชีวิตสิงห์เสือ(2)





ตอนที่ข้าตัดสินใจออกมาจากฝูง
แปลกที่ข้าไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนมากเหมือนที่เจ้าแมว(เสือว้อยย! :เสือดาว)พยายามดราม่าให้อีแร้งฟัง..

เอาเข้าจริงข้าก็คิดถึงเจ้าแมวเท่านั้นแหละ(ก็บอกว่าเสืออออ!! :เสือดาว)


แม่ข้าโมโห ทั้งก่นด่าว่ามันเป็นการตัดสินใจที่โง่ที่สุด



ข้าว่าแม่ไม่รู้หรอก

แม่ไม่เข้าใจว่า ข้ารู้สึกอย่างไร คิดเช่นไร..


กับการที่ต้องโตมาโดยมีแม่เป็นแบบอย่าง
มีพ่อที่นั่งๆนอนๆขึ้นอืดและกลายเป็นเครื่องมือผสมพันธ์ุ..


สักวันหนึ่งพ่อก็จะโดนสิงโตแข็งแกร่งสักตัวฆ่า..



ต่อให้ไม่ใช่ข้า.. ก็มีตัวอื่นอยู่ดี




ถ้าข้ากลายเป็นแบบพ่อ..

อนาคตของข้าก็คงบัดซบไม่ต่างกัน..



ความจริงถ้าแม่สอนให้ข้าเกิดมาโง่..
เป็นสิงโตที่ใช้ชีวิตงกๆตามขนบธรรมเนียมสิงโต..


ข้าอาจจะไม่กล้าตัดสินใจแบบนี้


แต่ก็เพราะข้าเชื่อในพลังของตนเอง ข้าแข็งแกร่ง องอาจ สง่างาม..
แม้จะโหดเหี้ยม รักการฆ่าฟัน.. และเลือดเย็นไปบ้าง..



แต่ข้าไม่ใช่สิงโตบ้าอำนาจ



ข้ามีความสุขกับการได้อยู่กับเสือดาวที่ข้ารัก
นอนเคลียคลอให้เขาพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจข้า..


ออกล่าเมื่อจำเป็น..


แค่นั้นแหละความสุขของข้า..






"พี่บ้าไปแล้วหรือ!"

น้องชายของข้าผู้เดินทางมาเยี่ยมได้ถามขึ้น


"ข้าบ้า ข้ายอมรับ.."

ข้าพูดกับน้องชาย ก่อนจะเอาหน้าผากชนเขาเบาๆ โดยมีเมียของข้าสอดส่องสายตาอย่างไม่ไว้ใจน้องชายอยู่บนต้นไม้..เมียข้าเป็นพวกระเเวดระวัง เขาไม่ไว้ใจใครง่ายๆตามประสาแมวตัวโตทั่วๆไป.. (เสือว้อยยยยยย!!! :เสือดาว!!)




"เจ้าน่าจะดีใจที่พี่ไม่อยู่.. เจ้าจะได้ขึ้นเป็นจ่าฝูงง่ายขึ้น.."

ข้าพูด ก่อนจะนั่งลงอย่างสง่างาม


"ข้าไม่มีทางเอาชนะพ่อได้..เรื่องนั้นพี่ก็รู้ดี! อีก 10 ปีจนเขาแก่นู้นแหละข้าถึงจะได้เป็น.."


"ว่าแต่..เมียของพี่นี่..หน้าตาแปลกพิลึก.."


"ข้าก็รักของข้า"


"โหหห เจ้าหน้าตาหล่อตายแหละ มีหน้ามาพูด"
เสียงแมวๆดังมาจากบนต้นไม้..


"ข้าถามจริง..เขาตัวเล็กมาก..พี่ผสมพันธุ์กันยังไง"


"ข้าว่าน้องชายเจ้าขี้เสือกนะ!"


"เอ่อ.."


คือความจริงข้าไม่อยากพูดหรอก..

แต่ตั้งแต่ที่เขาตกลงเป็นเมียข้า..ข้ายังไม่ได้แตะเขาแบบนั้นเลยแม้แต่ปลายกรงเล็บ..



"อย่าบอกนะว่าพี่ยังไม่เคยกับเขา"


ข้าพยักหน้า ถอนหายใจ ให้ทำไงได้.. เขาไวกว่าข้า และจริงๆแค่เลียกับคลอเคลียกันทั้งวันข้าก็มีความสุขจะตายแล้ว..
แต่ถ้าข้าเริ่มส่ง'กลิ่น'ของเผ่าพันธุ์ข้าในฤดูผสมพันธ์เมื่อไหร่.. เขาก็จะปีนหนีขึ้นต้นไม้อย่างรวดเร็ว..



ข้าพาน้องชายเดินออกมาไกลจากบริเวณที่เมียข้าอยู่..ก่อนจะขอคำปรึกษาจากเขา..





"จริงๆข้าก็ลำบากใจมาก..เจ้าก็รู้ สิงโตอย่างพวกเรา.."


"ข้าลำบากใจแทนเมียพี่มากกว่า.. เขาไม่รู้เหรอว่าพวกเราน่ะไม่มีฤดูผสมพันธุ์แบบพวกเเมวอย่างเขา!..
เขาเป็นเมียพี่แต่กลับไม่รู้เรื่องแบบนี้เนี้ยนะ..พี่จะทนไหวได้ยังไง.."

น้องชายข้าบอกก่อนจะมองหน้าข้าอย่างกังวลใจ


"ถ้าไม่ไหวพี่กลับฝูงได้เสมอนะ แม่ฝากให้ข้ามาบอก.."


"เพื่อจะกลับไปผสมพันธุ์กับน้องสาวนะเหรอ..เจ้าก็รู้จักข้าดี..ข้าไม่อยากทำเช่นนั้น.."


"ถ้างั้นพี่ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ.."


ข้าส่ายหัว..


"ข้ามีความสุขดี"


"พี่!! .. พี่จะปล่อยให้ไอ้แมวนั่นหลงระเริงลอยตัวงี้ไม่ได้นะ! ถ้าพี่เลือกเขาเป็นคู่แต่ต้องไประบายอารมณ์กับต้นไม้ ก้อนหิน ข้าแค่คิดภาพก็อยากจะร้องไห้แทนแล้ว!!"


"แล้วจะให้ข้าทำยังไง.."


"ถ้าพี่ไม่พูดกับเขาก่อน ตอนที่พี่มีอารมณ์มากๆจริงๆ ไอ้แมวนั่นตายคาอุ้งมือพี่แน่..ตายจริงๆแบบข้าไม่ได้เปรียบเทียบด้วย..พี่ก็รู้.."


ข้าคิดภาพตามน้องชาย..เออ..จริงของมัน!


"ถ้าพี่ไม่พูด..ข้าจะพูดให้เอง.."



..................................





"เฮ้! เจ้าแมว.. ข้ามีเรื่องคุยกับเจ้าหน่อย!"

น้องชายข้าตะโกนขึ้นไปบนต้นไม้.. เมียรักข้าหาวเสียงหวอด ก่อนจะค่อยๆกระโดดลงมาบนพื้นอย่าง..สง่างาม..


"เสือดาวโว้ย!"


"เออ! นั่นแหละ.. เจ้าเป็นเมียพี่ข้าใช่หรือไม่"



"เออ..ใช่มั้ง! มีไร?"



"ถ้างั้นข้าขอบอกเจ้าอย่าง..เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและขนนุ่มๆของเจ้า.. ถ้าเจ้า! ไม่ยอมให้พี่ข้าผสมพันธุ์บ้าง..สักวันหนึ่ง..พี่ข้าจะกดกลั้นอารมณ์ไม่ไหวอีกต่อไป..และเจ้าจะตาย.. ตายแน่ๆ"


"พูดเรื่องอะไรของเจ้า.. ถ้าถึงฤดูผสมพันธุ์ข้าก็จะช่วยเต็มที่น่า.. ข้ารู้เรื่องการเป็นเมียดี!"

เมียข้าขมวดคิ้วก่อนจะพูดปัดๆไปอย่างไม่แยแสนัก.. ง่า..ทำไมเขาชอบทำท่าทางไม่ค่อยไยดีข้าเลย (น้ำตาซึม..)


"นี่เจ้าจะน้ำตาซึมทำไมวะเนี่ย..ข้าก็บอกอยู่ว่าจะช่วยไง.."

เมียข้าเดินมาก่อนจะเลียแผงคอข้าเบาๆ..ข้ากดหัวซุกไซ้เขากลับ..


"เจ้าไม่รู้เรื่องอะไรของผัวเจ้าเลย.. พี่ชายข้า.. เผ่าพันธุ์ของเราไม่มีฤดูผสมพันธุ์แบบแมวอย่างเจ้า!"

น้องชายข้าคำรามเบาๆ..ดูเหมือนเขาจะเริ่มโกรธ ข้าเลยรีบเอาตัวไปขวางเมียรักไว้ก่อน..





"..ห้ะ! เจ้าว่ายังไงนะ?!!"




"ก็ตามนั้นแหละ! เราผสมพันธ์ได้ตลอดทั้งปี และตามอารมณ์ด้วย!"



"แง้วว!!"

เมียข้าเผลอร้องแง้ว! ออกมา ...ข้าชอบเขาตอนตาโตๆแล้วร้อง 'แง้ว!' นะ..มันน่ารักดี..



"ข..ข้า.. ข้าไม่มีวันทำงั้นอ่ะ! ..ต..ตลอดปี.. แถมตามอารมณ์ด้วยเนี้ยนะ?!!"



"ถ้าเจ้าไม่ทำหน้าที่ของเจ้า! สักวันพี่ชายข้าคงทนไม่ไหว หอบผ้าหอบผ่อนกลับฝูงเราเป็นแน่!..ซึ่งก็คงเป็นโชคดีของพวกข้า!"


น้องชายข้าขู่เมียข้า..ซึ่งข้ารู้สึกขอบคุณเขาเล็กน้อย ที่ไม่พูดถึงตัวเลือกอื่นที่ดูวิตถาร..
อย่างการระบายอารมณ์กับก้อนหิน ต้นไม้ ใบหญ้า เป็นต้น



"อ..เออๆ!! ข้าจะเก็บไปพิจารณาดู! ..เจ้าไสหัวกลับฝูงไปได้แล้ว! ป่านนี้น้องสาวคงอยากเลียเจ้าใจจะขาด!!"

เมียข้ายังคงกวนตีน แถมปากคอเราะร้ายใส่น้องชายข้า เขาได้แต่ครางฮืมๆในลำคอใส่..
แต่ไม่กล้าทำอะไรเจ้าแมวตัวโตเนื่องจากรู้ว่ามีข้าอยู่..


หลังจากนั้นข้าก็เดินมาส่งเขาที่ชายป่า..




"ฝากบอกแม่กับน้องด้วยว่าข้าคิดถึงพวกนาง"

ข้าบอกน้องชาย..


"และข้าขอโทษด้วย ที่เมียข้าค่อนข้างกวนตีน.. ปากคอเราะร้าย แถมยังนิสัยแปลกๆไปนิด.."


"ไม่ต้องขอโทษหรอกพี่.. ข้าเริ่มรู้สึกว่าเขาน่ารักดีเหมือนกัน"

น้องชายข้าตอบและทำหน้าเข้าอกเข้าใจข้า


ข้าแยกเขี้ยวใส่



..................................


ข้าใช้ลิ้นสากๆไล้เลียไปตามหน้าท้องเมียรักที่นอนหงายไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่..
เขาครางฮือในลำคอ ดูพออกพอใจ และยังใช้ฝ่ามือนุ่มๆนั้นตะปบคอข้า..



หืมม..มันช่างเซ็กซี่อะไรอย่างนี้!




"ข้ามาคิดๆดูแล้วนะ..ตามที่น้องชายเจ้าบอก"


เมียข้าพูดขึ้นและข้าหูผึ่ง..เกือบฝังเขี้ยวลงไปจมคอเขา..



"ใจเย้น!"



"เจ้าคิดว่าอย่างไร"

ข้าถาม คำรามเบาๆ..



"ข้าโอเค.."

แมวตัวโตที่อยู่ใต้ตัวข้าพูดเสียงสั่นๆ..


"แน่นะ?"


ข้าถาม



"แต่เจ้าต้องห้ามกลับไปหาพวกนาง.. ข้าเผ่าพันธุ์เสือไม่มีคติเเชร์ผัวให้ใคร.. เข้าใจป่ะ"

เมียข้าพูดและข้าไม่พูดพล่ามทำเพลงอีกต่อไป..



ถ้าเอาเเค่เรื่องสัญชาตญาณดิบล้วนๆ..


ข้าว่าข้าโหดไม่แพ้ใคร..

ก็ข้ามันสิงโต



..................................



ข้าเดินอ้อมไปด้านหลังของเขา ก่อนจะตะปบตัวเขาให้อยู่นิ่งๆใต้ร่างของข้า..
และไม่จำเป็นต้องมีอารัมภบทใดๆ..

ข้ายื่นแกนกลางลำตัวเข้าไปในร่างของเขาในครั้งเดียว

ก่อนจะกระเเทกตัวเข้าออกอย่างแรงตามสัญชาตญาณดิบที่พุ่งขึ้นมา..


เจ้าเเมวตัวโตพยายามพลิกตัวกลับมาตะปบข้า.. แต่ข้างับคอเขาให้อยู่นิ่งๆ..
ข้าหนักกว่าเขาร่วมเกือบสองร้อยโล..และข้าไม่ลังเลที่จะใช้ความได้เปรียบนี้บังคับเขาเลย..



"แง้วว~~"


เมียข้าเอาแต่ร้องครวญครางกับพยายามดิ้นตัวออก

แต่เขาตัวเล็ก..และมันก็เร้าอารมณ์ดิบข้ามากๆ..



"อยู่นิ่งๆ! ไม่งั้นเจ้าจะเจ็บยิ่งกว่านี้..!"

ข้าคำรามบอกเขาเสียงต่ำ ก่อนจะโถมน้ำหนักกดทับตัวเขาอีกครั้ง..



หลังจากข้าฉีดน้ำเข้าไปในตัวเขาเสร็จ..ข้าถอนตัวออกให้เขาได้พัก..
แต่ไม่นานนักข้าก็คร่อมตัวเขาไว้อีกครั้ง..



..เขาต้องเรียนรู้ว่าการเป็นเมียสิงโตมันไม่ง่าย..



เผ่าพันธุ์ของข้านั้นให้กำเนิดลูกยากและให้กำเนิดลูกได้น้อยในแต่ละปี..
กลไกธรรมชาติจึงทำให้พวกข้ามีสัญชาตญาณดิบเหลือล้น..



ข้ากระหาย..และ ข้าไม่รู้จักพอ..



ข้าทั้งขบ ทั้งกัดเขา แถมยังกระเเทกตัวเขาอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง..
ข้าฉีดน้ำใส่ตัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักพอ..



..ข้าขอโทษนะ..มันหยุดไม่ได้จริงๆ..




จนจบวันนั้นร่างของเมียข้าก็ดูอ่อนแรงเกินกว่าจะปีนต้นไม้หนีข้าได้..
ข้านอนอยู่ข้างๆเขา..และเลียเขาหนักๆตลอดทั้งคืน..





"แงงงงงงง.."




"..ข้าขอโทษ.."




"เจ้าทำข้าเจ็บ!...เจ็บโคตรๆ!..."




"ข้าฝืนไม่ได้..มันเป็นไปตามธรรมชาติ.."

ข้าพูดก่อนจะเลียเขาหนักๆไปอีกสองสามที..


"มันไม่ธรรมชาติตั้งแต่เจ้ามาคู่กับข้าแล้ว.."

เมียข้าบ่นอุบอิบก่อนจะเอาหัวซุกไซ้ข้า..ข้าดีใจ.. มันแปลว่าเขาไม่ได้โกรธข้ามากมายเหมือนที่เขาแสร้งทำ


"แถมข้ายังหนีไม่ได้เพราะของเจ้ามันมีปลายเกี่ยวในตัวข้าไว้อีก..นี้กะจะยึดข้าทำแม่พันธุ์เลยหรือไง!"

เขาบ่นกระปอดกระแปด


"ข้าก็อยากอยู่"


"ยัง...ยังไม่สำนึก!"


เมียข้าบ่นก่อนจะงับหูข้าเบาๆ..






..เอ่อ.. ให้ตาย...ข้าเริ่มมีอารมณ์อีกแล้วสิ














--จบแล้วจ้าา!!--






ตอนหน้าตอนพิเศษ : NC แบบแมวๆ.. อีกหนึ่งตอน ก็จะจบซีรี่ย์สิงห์เสือแล้วเด้อพรี่น้อง!



Anynomous
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 22-04-2018 22:34:22
เป็นคู่ที่น่าเอ็นดู   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 24-04-2018 07:30:12
ไม่อยากให้จบเลยยย แง้วววววววว!!  :katai1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 26-06-2018 23:39:10


ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยย!!)







"นายเล้ง แซ่กิม อายุ 37 ปี เสียชีวิตจากการโดนคู่อริยิงเจาะกบาล ศพหาไม่พบคาดว่าโดนเอาไปถ่วงน้ำทำลายหลักฐาน..ตลอดชีวิตทำตัวเหลวแหลก หนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 14 ไปฝากตัวทำงานในกลุ่มนึ่งออ มาเฟียจีนที่มีอิทธิพลอันดับต้นๆของประเทศ โชคดีด้วยชื่อและโหงวเฮ้งที่เข้ากับกลุ่มมังกร หัวหน้าแก๊งค์จึงเอ็นดูเป็นพิเศษ เลื่อนขั้นเพื่อไปประกอบกรรมทำชั่วเพิ่มอีกมากมาย นิสัยส่วนตัว เหลาะแหละ อันธพาล โง่.."



ผมมองชายร่างสูงผิวสีดำสนิทตรงหน้าอ่านรายงานประวัติชีวิต'โดยย่อ'ให้ท่านยมบาลฟังแล้วก็อดชักสีหน้าไม่ได้..



"มึงช่วยพูดถึงกูดีๆบ้างดิวะ ไอ้ห่านี่!"



"..แถมยังขู่เจ้าหน้าที่.."

ชายร่างสูงพูดก่อนจะเหลือบสายตามองผม..หน็อยย มันน่านักไอ้นี้!!
ถ้าไม่ติดว่ามีไอ้โซ่บ้าๆผูกผมติดกับเก้าอี้อยู่ละก็ มันโดนตั๊นหน้าหงายไปนานแล้ว!!



"..เพราะงั้นเราถึงต้องมัดหมาบ้าล่ามโซ่ยังไงล่ะครับ"


หาาา..นี้มันอ่านความคิดผมออกด้วยเหรอนี้!!!..






โอเค ..ขอทวนคร่าวๆก่อน



ตอนนี้ผมตายไปแล้วใช่ไหม
แล้วมาอยู่ต่อหน้ายมบาลตัวสีแดงเหมือนแสงตะวัน!
กับกำลังฟังรายงานจากไอ้คุณผู้ช่วยตัวสูงที่หน้าตากวนตีนนี้!


.....



ไอ้เสี่ยชัย! สั่งลูกน้องมาเจาะกบาลกูซะได้! ไอ้เหี้ยเอ้ยย!!
หมาลอบกัดชิบหาย! มึงนะมึง! อย่าให้ตั้วเฮียกูรู้เรื่องนี้นะ! มึงไม่ตายดีแน่ ไอ้สัตว์นรก!






"ทวนเสร็จหรือยังครับ"



ผมมองไปยังไอ้คุณผู้ช่วยยมบาลที่มีหน้าตาเบื่อหน่ายเสียเหลือเกินแล้วก็พยักหน้าแบบขอไปที




"เออ เอาเหอะ จะส่งไปนรกขุมไหนก็บอกมาเลย"

ผมพูดก่อนจะเอนหลังหลับตา




ความตายของผมเกิดขึ้นรวดเร็วจนผมไม่นึกเสียดายชีวิต..

ไม่มีความกลัว.. ไม่มีความโกรธแค้นใดๆหลงเหลืออยู่


ไม่มีพันธะ.. ไม่มีคนให้คิดถึง..





..ใช่หรือเปล่านะ...




พ่อ..ตาแก่ที่ทุบตีผมกับแม่และพี่สาวตอนเด็กๆอยู่นรกขุมไหนกันนะตอนนี้..
แม่..กับพี่.. พี่จะเสียใจไหมนะถ้ารู้เรื่องนี้เข้า .. พี่จะเสียใจไหมวันนั้น วันที่พี่ไล่ผมออกจากบ้าน..
วันที่พี่บอกให้ผมหนีไป..


แม่..ผมขอโทษ..ผมเป็นลูกที่แย่ เป็นผู้ชายแท้ๆแต่กลับเอาแต่วิ่งหนีหางจุกตูด
เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ที่ทำได้คือวิ่งไปซื้อเหล้าให้พ่อ..


พอผมหันหลังออกจากครอบครัวแล้วผมก็ไม่เคยหันกลับไปอีก..



ตอนที่คิดขึ้นมาได้ว่ายังมีครอบครัวอยู่ก็ตอนที่ตายห่าไปแล้ว..


ฮ่าฮ่าฮ่า..สะใจดีไหม..


ไอ้พระเจ้าเฮงซวย..



กูไม่ไปก็ได้สวรรค์..ถ้าต้องไปเจอมึงน่ะ ..

ขอไม่ไปดีกว่า...







"เฮ้ยๆ เอ็งอย่าลามปามเดี๋ยวพวกข้าจะงานเข้า"

อยู่ๆท่านยมบาลร่างแดงที่นั่งบนบังลังก์เงียบๆมาตลอดก็พูดขึ้น



"ข้าขอพูดก่อนเลยนะ..ว่า ข้าต้องขอโทษแทนพนักงานของข้า.. ที่ไปเก็บวิญญาณมาซี้ซั้ว..
จริงๆชะตาชีวิตเอ็งจะตายในอีก 30 ปีข้างหน้า.. ด้วยโดนคู่อริเจาะกบาลนี้แหละ.. แต่ตอนนั้นเอ็งจะขึ้นเป็นหัวเรือใหญ่ในแก๊งค์นึ่งออแล้ว.. ข้าก็ไม่อยากพูดอะไรมากหรอกนะ.. แต่.. เอาเป็นว่า.. ข้าจะมอบชีวิตใหม่ให้เอ็งละกัน.."




"เดี๋ยว!! ถ้าตามที่ท่านยมเล่า..ผมควรจะได้ขึ้นเป็นใหญ่ไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ให้ชีวิตเดิมผมคืนล่ะ! คนของท่านทำงานผิดพลาดน่ะ.."


ที่นี้มีศาลให้ฟ้องไหม!! หรือผมต้องฟ้องคนที่ดูแลทั้งหมด?! ใคร?!!
พระเจ้าเหรอ!!!!???



"ย..อย่าให้เรื่องมันถึงขนาดนั้นเลย!"

ท่านยมรีบพูดขึ้นขัดความคิดผมอย่างด่วนจี๋..


"ความจริง..ถ้าเจ้ายังมีร่างอยู่.. ข้าก็พอจะเอาวิญญาณกลับเข้าให้ได้..
แต่ร่างเจ้าจากรายงาน น่าจะโดนถ่วงแม่น้ำไปแล้ว.. แถมเราเหล่าคนใต้ผืนดินก็มีความสามารถเเค่หาวิญญาณ ไม่ได้หาร่างเสียด้วย เราเลยยังไม่เจอร่างของเจ้า.."


ท่านยมตัวแดงพูด


"อาจโดนปลากินไปหมดแล้วขอรับ ท่านยม"

อันนี้ไอ้คุณผู้ช่วยพูด!



"และเจ้ามีโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะกลับไปมีชีวิตอีกครั้ง..คือ การเข้าไปอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มคนนี้..เลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า.."



ภาพในหัวผมฉายภาพเด็กหนุ่มใบหน้าขาวซีด ผมสีดำสนิท กำลังนอนหายใจรวยรินใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ในโรงพยาบาล..ใบหน้านั้นช่างละม้ายคล้ายกับผมสมัยเป็นวัยรุ่นเสียจริง..แต่หวานละมุนยิ่งกว่า..



"บ้าน่า!!! ผมไม่มีลูก!!"

ผมกำลังจะเถียงต่อ.. แต่ความทรงจำสมัยเป็นวัยรุ่นคึกคะนองผุดขึ้นมา..




...ฟ้า...สาวเสิร์ฟอาหารในบาร์ที่ผมชอบไปสมัยก่อน..
เราเคยคบกันเป็นแฟนช่วงหนึ่ง..เธอเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยและดีมาก แบบที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต..
ช่วงชีวิตของผมตอนนั้นมีความสุขมาก..

แต่ผมกลัวว่าด้วยงานของผม จะทำให้เธอได้รับอันตราย

ผมจึงตัดสินใจบอกลาเธอ..


เธอควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้
ไม่ควรจมปลักอยู่กับคนไร้หัวนอนปลายเท้า..


อันธพาลชั้นต่ำ สวะสังคมแบบผม..







ผมไม่รู้มาก่อนว่าเธอท้อง..

จนกระทั่งวันสุดท้ายเธอก็ไม่ยอมบอก..




"..ลูก..ลูกของผมจริงๆเหรอ.."

ผมพูดเสียงสั่น..ภาพในหัวฉายภาพเด็กหนุ่มคนเดิมที่คราวนี้ดูอาการหนักขึ้น..
หมอกับพยาบาลวิ่งเข้ามารุมที่เตียงของเขา..

เสียงเครื่องช่วยหายใจกับเสียงเครื่องกระตุ้นหัวใจดังสลับกันจนผมเวียนหัวไปหมด..



"เกิดอะไรขึ้นกับเขา.."





"เขากำลังจะตาย"



"วิญญาณของเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ มันท้อเเท้..สิ้นหวัง.. โดดเดี่ยวเหลือเกิน..
เราเรียกวิญญาณพวกนี้ว่า 'ผู้หลงทาง' .. ตอนนี้วิญญาณดวงน้อยๆนั้นล่องลอยไปไกลแสนไกล...

การจะตามเขากลับมานั้นเป็นหน้าที่ของเรา...


แต่หน้าที่ของคุณคือ..เข้าไปอยู่ในร่างของเขาจนกว่าเราจะเจอดวงวิญญาณของผู้หลงทาง..หรือไม่ก็จนกว่าจะมีร่างใหม่ให้คุณอยู่จนครบอายุขัย.."




"...คุณไม่มีทางเลือก คุณเล้ง"






หมดเวลาแล้ว!!!!

หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 27-06-2018 11:15:20
กรี๊ดดดดดดดดดดด ไรท์มาเปิดเรื่องใหม่ว่ะะะะ  รักส์ :กอด1: ติดตามเด้ออ~~~~
สงสัยนิดนึง ไม่เปิดเป็นเรื่องใหม่ไปเลยอะคะ นี่นึกว่ามาต่อตอนพิเศษ....แต่ชื่อเรื่องก็เรื่องใหม่นี่หว่า เอ้า ใครงงวะ 555555555555555
รอตอนต่อไปอยู่เด้อ  o13
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-06-2018 15:07:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 28-06-2018 00:16:38



ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยย!)






เสียงปี้บบบบบบบบบบบบบบบ ยาวแสบแก้วหูดังขึ้นในหัว







เจ็บ..เจ็บจนแทบขาดใจ..




ทรมาน...ทรมานเหลือเกิน..





หายใจ...หายใจไม่ออก




ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะจมน้ำตอนที่มีเสียงขึ้นมาว่า...







"คุณหมอคะ!... คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ!!!...."




ผมปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด..แต่ความทรงจำที่อยู่ในขุมนรกนั้นชัดเจน..


ผมเหลือบมองฝ่ามือตัวเอง..


มันเล็ก ขาวซีด และนุ่มนิ่ม..


แบบที่ไม่ใช่มือผมแน่ๆ..



แสดงว่าตอนนี้ผมเข้ามาอยู่ในร่างของลูกชาย..จริงๆ..



แต่ผมกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่น้อย!





...................................



ผมพักฟื้นอยู่โรงพยาบาลนานเกือบสองอาทิตย์..

ในใจก็นึกสงสัยเรื่องของเจ้าลูกชายคนนี้ขึ้นมา..


เด็กที่เข้าโรงพยาบาล อาการหนักขนาดนี้ กลับไม่มีใครมาเยี่ยมสักคน..
มันไม่มีเพื่อนเลยหรือไง....


ผมพอรู้ข้อมูลคร่าวๆจากที่พยาบาลบอก ว่าลูกชายผมชื่อว่า วาโย แซ่กิม..
..วาโยเเปลว่าลม..ฟ้าคงตั้งชื่อลูกให้สอดคล้องกับเธอ..


ผมสะอึกที่เธอเลือกใช้นามสกุลผมให้กับลูก..

เธอคงตั้งใจจะบอกผมเมื่อลูกโตขึ้น..หรืออย่างไรผมก็ไม่อาจทราบได้..



เพราะฟ้าเกิดอุบัติเหตุ รถชนตายตั้งแต่สองปีก่อน..

ตอนนี้วาโยอยู่กับยาย..



"น้องวา..วันนี้กินข้าวเยอะเป็นพิเศษนะคะ ดีจัง จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วน้า"

พยาบาลเดินมายิ้มให้ผมอย่างเอ็นดู..

ดูท่าเจ้าลูกชายผมตอนที่ยังมีชีวิตอยู่จะเป็นที่รักที่เอ็นดูของผู้ใหญ่อยู่พอสมควรนะเนี่ย..

คิดแล้วก็ชื่นอกชื่นใจ!!



"ขอบคุณครับ"


อรั้ยยยย!! เสียงก็ยังเพราะอ่ะ!! นี่ลูกคร๊ายยย มันน่ารักน่าเอ็นดูจังง!!

ผมหยิบกระจกขึ้นมาดูก่อนจะหยิกแก้มขาวๆของลูกชายอย่างมันเขี้ยว..
แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่..



ท่ามกลางสายตาประหลาดใจ...ของพี่พยาบาลและคนไข้คนอื่นๆ



"เพี้ยนชัดๆ"

ผมได้ยินเสียงป้าเตียงข้างๆลอยมากระทบหู แต่ตอนนี้ผมอารมณ์ดีเกินกว่าจะมามีเรื่องกับคนแก่
ก็เลยทำเป็นปล่อยผ่านไป!




................................




"วา!!! โอ้ยย ขวัญเอ้ยขวัญมาหลานยาย!! ยายสวดมนต์ให้เจ้าทุกคืนเลยนะ..แต่หลานไม่ฟื้นสักที.. ยายเลยสงสัยว่าเจ้ากรรมนายเวรมันเยอะจากไอ้ผู้ชายเลวที่เป็นพ่อของหลาน..ยายเลยสวดมนต์ให้มันด้วย..ปรากฎว่าหลานฟื้น..มันใช่จริงๆ!"

ยายพูดแล้วน้ำหูน้ำตาไหลมากอดผม..


หน็อยยายแก่...ด่าผมเสียไม่มีชิ้นดีเลยนะว้อย!!(ถึงกูจะชั่วจริงก็เหอะ! )


"วา..อย่าคิดแบบนั้นอีกนะลูก.. ไม่เอาแล้วนะ.. ถ้าวาฆ่าตัวตายไป ใครจะอยู่กับยาย.."



...ผมอึ้ง..

นี่ลูกชายผมไปนอนโรงพยาบาลเพราะคิดฆ่าตัวตายเหรอนี่...




เรื่องอะไรกันที่ทำให้เด็กอายุ 15 อยากจะลาจากโลกได้ขนาดนี้..




..เจ็บปวดขนาดนั้นเลยเหรอลูก...



ผมคิดในใจ..



...................................



ผมเดินเข้าไปในห้องนอนเล็กๆของเจ้าลูกชาย
ในห้องแม้จะเล็กแต่ก็สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย..

ที่เตียงนอนมีรูปภาพสีจางๆของฟ้าที่กำลังอุมเด็กชายตัวน้อยอยู่ในอ้อมแขน..



ผมเปิดดูตู้เสื้อผ้า..มีชุดเก่าๆกับชุดนักเรียนชาย รวมกันไม่เกิน 5 ชุด..
กางเกงในกับถุงเท้ามีรอยประ..




"ยาย!!!"

ผมตะโกนออกจากห้องด้วยเสียงหวานๆสุดน่ารักของลูกชาย..



"มีอะไรลูก"



"มีเข็มกับด้ายไหม!!"



..................................


ผมตัดสินใจเย็บรอยประกางเกงในกับถุงเท้าของวาโยให้เรียบร้อย
ก่อนจะนอนแอ้งแม้งอยู่ในห้องของลูกชาย


พยายามจินตนาการว่าเด็กอายุ 15 จะทำอะไรในวันที่น่าเบื่อเช่นนี้..


"วา..เหนื่อยมากเหรอลูก..ปกติหลานจะอ่านหนังสือตลอด..แต่พักแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ"

ยายเเก่พูดก่อนจะนั่งลงข้างๆผม แล้วลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา..
ผมพยักหน้า.. เก็บรายละเอียดของเจ้าลูกชายเมื่อครั้งยังมีชีวิตผ่านคำบอกเล่าของแม่ยาย

ดูท่าจะเป็นเด็กตั้งใจเรียนพอตัวเลยสินะ..ลูกพ่อ..


"พรุ่งนี้จะไปโรงเรียนเลยไหมลูก"


ผมขมวดคิ้ว..ถ้าเป็นผมคงโดดร่มไปแล้ว..
แต่นี้เป็นลูกชาย..และเขาดูท่าจะให้ความสำคัญกับการเรียนมากๆ..


"แน่นอนครับ! คุณยายยยยย"

ผมยิ้มกว้างลากเสียงยาว แต่ดูเหมือนว่าจะทำให้แม่ยายขมวดคิ้วด้วยความสงสัย..


"ฟื้นมาแล้วร่าเริงขึ้นเลยเหรอลูก..แปลกเนอะ แต่ก็ดี ยายก็ไม่อยากให้วาซึมๆเงียบๆเหมือนเมื่อก่อน..มีอะไรก็บอกยายได้นะลูก"


คราวนี้กลับเป็นผมที่ขมวดคิ้วแทน..


ดูท่าเจ้าลูกชายจะมีปัญหาเยอะเกินกว่าที่ผมคิดเสียแล้วสิ...



..................................




"อรุณสวัสดิ์ทุกคน! ฉันกลับมาแลัว!!"


ผมเปิดประตูห้องม.4/1 เข้าไปด้วยความอลังการ.. และความคาดหวังว่าลูกชายจะได้รับการต้อนรับอันอบอุ่นจากเพื่อนๆ...


แต่เปล่าเลย..  ทุกคนหันมามองผม.. กลับไปซุบซิบนินทาอะไรบางอย่าง..
และเดินกลับไปนั่งที่เดิมอย่างรังเกียจ..




ผมเบะปาก


คิดว่ากูแคร์หรือไง..



มึงจะเเกล้งใครก็ได้...แต่คนนั้นต้องไม่ใช่ลูกกู!


ผมยกกระเป๋าขึ้นก่อนจะเดินไปหาที่นั่งเหมาะๆแถวๆหลังห้องแล้ววางกระเป๋าลงไป




"เฮ้ย! นั่นมันที่ของลูกพี่ริว! ไอ้ตุ้ดวา!! มึงบ้าไปแล้วเหรอวะ!!"

เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น


ผมเอนหลัง กอดอก


"มึงว่าใครตุ้ดนะ.."


ผมหรี่ตามองมัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียง..หวานๆ

สัสสส!!!....ไอ้ลูกชายยยย เมื่อไหร่เสียงมึงจะแตกหนุ่มห้ะ..!!



เด็กหนุ่มวัยรุ่นผิวเข้มขมวดคิ้วมองผมอย่างไม่เข้าใจ..



วันนี้วาโยแปลกไป...แววตาของมันเปลี่ยน...และสิ่งนี้ทำให้พวกมันกลัว



"ไอ้ตุ้ด! มึงจะลุกดีๆหรือจะให้ลูกพี่กูเตะโด่งมึงออกไป!! ห๊ะ!!"

ไอ้เด็กหนุ่มตรงหน้าผมยังคงโหวกเหวกโวยวาย ผมมองซ้าย มองขวา..



"ลูกพี่มึงยังไม่มานี่..ที่นั่งน่ะ ใครมาก่อนได้ก่อนไม่ใช่รึไง"


ผมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆก่อนจะแสยะยิ้ม..



ขอบอกเลยนะ..ว่าผมเนี่ย..อันธพาลตัวพ่อ!
ไอ้พวกเกิดมาไม่ทันสิบปี อย่ามาวัดกันเลย..กระดูกมันคนละเบอร์!!


เด็กหนุ่มสองสามคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก..
แต่แล้วคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำที่สุด ก็ก้าวเข้ามา..ก่อนจะกระชากแขนผมขึ้นอย่างแรง..



ผมลุกขึ้น กระทืบเท้ามันเเรงๆทีหนึ่งจนมันร้องโอ๊ย!! แล้วปล่อยมือผม


"มันเจ็บนะโว้ย! ไอ้สัส!!"

มันโวยวายก่อนจะชี้หน้าผมอย่างหาเรื่อง


"กูก็เจ็บ!"
ผมพูดก่อนจะจับแขนตัวเอง..

แม่ง..ร่างนี้มันบอบบางกว่าที่ผมคิดเสียอีก!!
ผมเหลือบมองแขนขวาที่ตอนนี้ขึ้นรอยแดงอย่างรวดเร็ว..



ใครทำลูกกูเจ็บ...มึงต้องเจ็บยิ่งกว่า!!



ผมพยักหน้า..


อย่างที่ใครๆก็บอก


ผมมันโง่ เป็นอันธพาลมาทั้งชีวิต..

จะตัดสินด้วยวิธีอื่นนอกจากแลกกำปั้นคงไม่มี



"มึงจะเอาเหรอวะ!! ไอ้ตุ้ด!!"

เสียงของเด็กหนุ่มสองสามคนดังขึ้นมา พวกมันเริ่มเดินตีวงล้อมเข้ามากดดันผม..



"มาสิวะ..อยากคลานกลับบ้านไปหาพ่อมึงมากใช่ไหม ไอ้พวกเด็กเปรต!"

ผมพูดก่อนจะจับแขนไอ้เด็กตรงหน้าบิดม้วนไปด้านหลัง เเละใช้เข่าเดาะมันให้ทรุดลง
ร่างของเจ้าลูกชายมีกำลังน้อยกว่าที่ผมคิดก็จริง แต่มีความว่องไวมากกว่า..

ถ้าเทียบกับไอ้พวกเด็กเกเรที่แม้จะมีกำลังมาก แต่ไม่รู้จักวิธีกำหมัดต่อสู้เลยสักนิดพวกนี้..

ผมคิดว่าผมชนะได้สบายๆ..


..ท้าผิดคนแล้วไอ้น้อง..



ผมเตะสวนไอ้คนที่จะเข้ามาประกบผมทางด้านหลัง
ก่อนจะใช้หมัดซ้ายเหวี่ยงไปหาคนด้านขวา
พอมันล้มลง ผมไม่รีรอที่จะเหยียบกระเเทกกล่องดวงใจมันไปหนึ่งที!!



"เจ็บ!!!!!"


มันร้องโอดโอยก่อนจะนอนกุมไข่ตัวงอ


"ไปบอกพ่อมึงนะจ้ะ"


ผมพูดก่อนจะยิ้มให้


ไอ้คนที่เหลืออยู่ทางซ้ายดูมีทีท่ากล้าๆกลัวๆที่จะเข้ามาหาผม..
ผมหันไปประจันหน้ากับมัน สบตา เอาเรื่อง..






"เอาไง? จะพิทักษ์เก้าอี้ให้ลูกพี่มึง หรือจะพิทักษ์ไข่ตัวเอง เลือกเอา"

ผมพูด ส่งยิ้มกวนโอ๊ยไปหนึ่งที..



มันรีบวิ่งออกจากห้องไปเหมือนหมาจุกตูด


ผมก้มลงเก็บกระเป๋า ก่อนจะนั่งลงเอนหลังบนเก้าอี้ที่คิดว่านั่งสบายดีที่สุด..



"ทำเลมันดีที่สุดใช่ไหมล่ะ"

เสียงเรียบๆของผู้ที่ก้าวเข้ามาใหม่เอ่ยก่อนจะเดินมาค้ำหัวผม..


เด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิง มีใบหน้าหล่อเหลา สะดุดตา ท่าทางดื้อรั้นเอาแต่ใจของเขาบอกถึงการเคยชินกับอำนาจ..

ผมเห็นไอ้เด็กที่วิ่งออกไปเมื่อกี้ยืนหลบอยู่หลังเขา


ผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดทันที..





"ใช่.."

ผมตอบ สบสายตาเด็กหนุ่มผมเเดงที่จ้องกลับมาอย่างไม่ลดละ..


"ต..แต่ตรงนี้เป็นที่ของคุณริว.."

ไอ้คนข้างหลังยังพยายามพูดแทรกขึ้นมา..มันคงอยากให้ผมโดนจัดการเต็มทน..


"ก็กูจะนั่ง"

ผมพูด ก่อนจะเหลือบตามองท้าทาย





"โดนพวกไอ้แฟนต้าทำจนความจำเสื่อมไปแล้วหรือไง สนุกดีไหมละ"

ผมขมวดคิ้ว


"มึงพูดเรื่องอะไร"


"ไม่ต้องมาทำใสซื่อ คลิปมึงคนเขาเห็นกันทั่วโรงเรียน.. เอาดิ ครางชื่อแม่งให้กูฟังหน่อย"




"กูถามว่ามึงพูดเรื่องอะไร!"


ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ กระชากคอเสื้อเด็กหนุ่มตรงหน้าจนมันต้องโค้งลงมาคุยกับผม..


"หึ...หรือว่ามึงกระทบกระเทือนจนความจำเสื่อมไปจริงๆ.. กูว่ากระทบแรงนะ"

พอไอ้ผมแดงพูดอีกครั้ง เพื่อนในห้องก็เฮขึ้นมา..
ผมได้ยินเสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น..


'น่าขยะแขยง..'


'อือ..น่าขยะแขยง'


'อี๋...ได้ยินมาว่ากับคุณครูก็ไม่เว้น'


'มันอมให้หมดตั้งแต่ภารโรงยันผอ.'




ผมพยักหน้า เม้มปาก

พอเข้าใจเรื่องต่างๆมากขึ้นแบบที่ไม่ต้องมีใครอธิบาย..



"เอาเป็นว่าถ้าใครอยากแหกปากด่ากู แหกออกมาเลยละกัน ซุบซิบกันของพวกมึงมันน่ารำคาญ..
แล้วกูก็ไม่สนเรื่องที่ผ่านไปแล้ว สำหรับกูพวกมึงทั้งหมดมีค่าไม่ต่างกับเศษขยะ มัดๆรวมกันมากูก็คงทำได้แค่เอาไปโยนทิ้ง..จากนี้ต่อไปจะไม่มีวาโยคนเดิมที่พวกมึงรู้จัก!!"

ผมพูดเสียงดังเพื่อให้ทุกคนในห้องเข้าใจกันอย่างชัดเจน..




"มีใครมีปัญหาไหม?"

ผมถาม กวาดสายตาไปรอบห้อง  เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ซุบซิบนินทาก่อนหน้านี้พากันหลบสายตากันหมด




ผมส่งยิ้มบางๆให้เด็กหนุ่มผมเเดงเพลิงตรงหน้า
ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายใจ



..................................




หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 28-06-2018 00:28:27
สวัสดีค่ะ! Anynomous เองค่ะ :D

สำหรับคำถามของคุณ Yunnutjae นะคะ ที่ว่าทำไมไม่ตั้งเรื่องใหม่ไปเลย(ฮาา)
เรื่องนี้เป็นความตั้งใจของผู้เขียนเองค่ะ ที่อยากรวมหลายๆเรื่องสั้นของตัวเองไว้ในชุดเรื่องสั้นสักชุด
และหลังจากนี้หากว่างจากงานประจำก็จะมาเขียน มาอัพเรื่อยๆในชุด ผู้เขียนรู้สึกว่ามันง่ายและสะดวกกว่าเปิดกระทู้ใหม่เเละพิมพ์จั่วหัวเดิมๆทุกรอบค่ะ!



ขอบคุณที่ติดตามนะคะ[โค้ง]


หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 28-06-2018 15:14:38
อ่อ อย่างนี้นี่เองงงงงงงงงงงงงงงงง  o18
น้องวาคนใหม่ไฉไลกว่าเดิมมม เปิดตัวพระเอกยังนะ  :m20:
มารอไรท์ที่ท่าน้ำทุกวันนะคะะะะะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 28-06-2018 16:48:18
ขอหมายเลขตอนเหมือนเดิมด้วย..ยยยยยยยยยยยยยย ไม่อยากพลาด 
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 2 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: 19august ที่ 28-06-2018 19:40:34
เรื่องสิงห์เสือน่าร้ากกกกกกกกกก
ยังรอคอย nc ตามประสาเสือๆอยู่นะคะะะ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 2 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Stmmltww ที่ 28-06-2018 19:45:34
สนุกมากค่าาาาา อยากรู้ว่าน้องวาจะกลับร่างมั้ย แต่ดูแล้วคุณพ่อคนดีน่าจะโดนริวงาบ :hao3:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 2 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-06-2018 19:52:47
สนุกทุกเรื่องเลยค่าาา ชอบมากกกก  :hao5:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 2 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: dino94 ที่ 28-06-2018 22:28:21
น้องวาคนเก่าน่าสงสารร
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 2 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: mkooo ที่ 28-06-2018 22:32:37
ขอบคุณมากๆค่า เรื่องน้องสิงโตกะน้องเสือสนุกมากๆการบรรยายเราชอบสุุดๆ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ สนุกมาก  ชอบน้องเสือมาก น่ารักมาก แง้ววววว
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 2 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 29-06-2018 01:47:28
เรื่องแรกคือ เศร้า
เรืีองที่สองคือ เร่าร้อน
 เรื่องที่สามนี่ต้องเฝ้ารอกันต่อไป
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 2 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 29-06-2018 20:04:08




ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยย!)





"ไอ้ตุ้ด!... เฮ้!! เรียกแล้วไม่ได้ยินเหรอวะ!..."

เสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากด้านหลัง ขณะที่ผมกำลังยืนรอโบกรถเมล์กลับบ้าน..


เด็กสมัยนี้มันเป็นเหี้ยอะไรกันหมด..พูดกันเบาๆมันจะตายห่าหรือไง..


..ไอ้สัสกูงง!!



ผมหันซ้ายหันขวาดูว่ามันเรียกใคร ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงไอ้เด็กวัยรุ่นแก๊งค์เดิมตะโกนว่า..



"มึงนั่นแหละ!! ไอ้เหี้ย!!"


ผมขมวดคิ้ว ชี้ที่ตัวเองทีนึง ก่อนจะมองหน้าพวกมัน



"..กู?"



"เออ!!"




ผมถอนหายใจ ขมวดคิ้วจนพันกันยุ่ง..วันนี้ชีวิตกูยังวุ่นวายไม่พออีกเหรอวะ?!


เริ่มตั้งแต่เช้า โดนเด็กเห่อหมอยหาเรื่อง..
ในคาบเรียน กูก็พยามทำเป็นตั้งใจเรียนแทนลูกทั้งๆที่ฟังห่าอะไรไม่ออกเลยสักตัว..
ตกเย็น ยังจะต้องมาโดนจิ๊กโก๋ป้ายรถเมล์เรียกมาด่าอีก..



กูทำเวรทำกรรมอะไรไว้กับพวกมึงเนี่ย?! ไอ้พวกชิบหาย..


"อ้าว นิ่งทำไมไอ้ตุ้ด? ..มองหน้าหาเรื่องเหรอวะ.. ห้ะ!"

ไอ้เด็กจิ๊กโก๋คนหนึ่งโวยวายขึ้นอีก..


พวกมึงไม่เหนื่อยกันบ้างหรือไง.. กับไอ้การโชว์กร่างกับใครต่อใครน่ะ..


"มึงเรียกกูไหม จะให้กูมองหมาตัวไหนล่ะ"

ผมตอบแบบขอไปที รำคาญจะมารักษามารยาทกับไอ้พวกมารยาททรามนี้..


"โหหห จริงด้วยครับลูกพี่ เขาลือกันให้แซ่ดว่าไอ้ตุ้ดวามันเปลี่ยนไป ถึงขนาดไปท้าต่อยตีด้วยนะลูกพี่"



"เขาที่มึงว่านะเขาไหนวะ ไอ้เด็กข้างไข่จิ๊กโก๋... กูก็อยู่ของกูดีๆ"
ผมถามกลับด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

พวกมันหันมองหน้ากันตาปริบๆ.. ก่อนที่ลูกพี่มันจะใช้ฝ่ามือประชิดหน้าผากผมอย่างว่องไว



"ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า...ไปโดนตัวไหนมาวะ?!"


ผมปัดฝ่ามือออกก่อนจะมองหน้าพวกมันสามคนตรงๆ



"กูแค่ความจำเสื่อมนิดหน่อย หมอบอกว่าพฤติกรรมอาจเปลี่ยน จุดเดือดต่ำขึ้น ยั่วตีนง่ายขึ้น และขืนมึงยังขวางทางขึ้นรถเมล์กูอยู่อย่างนี้ อีกไม่นานกูจะขึ้น.. พอใจยัง?"


ผมพูดก่อนจะวางกระเป๋าเป้เก่าๆที่สะพายอยู่ลง
พร้อมๆกับที่พวกจิ๊กโก๋วัยรุ่นตีวงล้อมเข้ามาใกล้ขึ้น..



.................................



"โถ่ว้อยย! ไอ้ตุ้ดวาความจำเสื่อมแบบนี้ใครจะทำข้อสอบแก้ให้พวกเราวะ"


ผมนั่งกระดิกนิ้วเท้าอยู่ในศาลาแถวป้ายรถเมล์..
โดยมีไอ้จิ๊กโก๋สามตัว ไอ้เอก ไอ้ไม้ ไอ้ซิม นั่งรายล้อมอยู่

"ป้าบบ!"


"โอ๊ยย ตบหัวกูทำไมไอ้ตุ้ดด!!"

ไอ้ซิมโวยวายเมื่อผมพันกระดาษให้เป็นท่อนกลมก่อนจะตบหัวมันไปหนึ่งที


"เรียกกูตุ้ด, กูตบ.. กูชื่อวา!"

"หน็อยย..ไอ้..!"
ไอ้ซิมกำลังจะขึ้นเสียงด่าผม ผมใช้กระดาษตีท้องมันไปทีนึง..ที่ที่มันโดนผมอัดเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน..



"โอ้ยยย!!"


"ข้อสอบแก้ พวกมึงก็พยามทำเองดูดิวะ เรียนก็เรียนมาเหมือนกัน"
ผมพูดก่อนจะไล่มองหน้าพวกมันทีละตัว..


"เรียนห่าอะไรล่ะ ใครจะไปเข้าทุกคาบแบบมึง!"
ไอ้เอก ผู้ดูจะเป็นหัวหน้าแก๊งค์จิ๊กโก๋ป้ายรถเมล์พูดขึ้นด้วยความเซ็ง..

"อะเหรอ เมื่อก่อนกูเข้าทุกคาบเลยเหรอ?"
ผมถามถึงชีวิตของลูกชายด้วยความสนอกสนใจ...

จะว่าไปคบๆกับไอ้พวกเด็กเหี้ยนี่ไว้ก็ไม่เลวแฮะ.. มันโง่ หลอกง่ายดี
บอกว่าตื่นมาจากโรงบาลความจำเสื่อมมันก็เชื่อ!(คนปกติที่ไหนเขาเชื่อเรื่องแบบนี้กันวะ พวกห่านี้สงสัยดูละครมากไป!)..ดูซื่อๆ ไม่มีพิษไม่มีภัย..


"เมื่อก่อนมึงโคตรจะตั้งใจเรียน เพราะมึงต้องได้ทุนไง เกรด 3.8 ขึ้นได้เรียนฟรี อย่างมึงนี่4.00แน่ๆ ใครๆก็รู้"

ไอ้ซิมพูดก่อนจะมองหน้าผมอย่างงงๆ

"ไม่อยากจะเชื่อขนาดสมการง่ายๆตอนนี้มึงยังแก้ไม่เป็น..โง่กว่ากูอีก..โอ๊ยย!!"


..แหม เดี๋ยวกูป้าบเข้าให้!



"เดี๋ยวความจำกลับมากูก็เทพเองเเหละ"

ผมพูดแบบผลักภาระให้ไอ้พวกยมบาลที่กำลังตามหาวิญญาณลูกชายผม..

ผมไม่ได้คิดจะสิงร่างลูกชายเป็นวิญญาณเร่ร่อนแบบนี้ตลอดไปหรอก
อย่างดีก็คงอีกไม่กี่อาทิตย์นั่นแหละ..


ระหว่างนี้..ก็ถือซะว่าเตรียมตัวไม่ให้ใครมารังแกลูกได้ในอนาคตแล้วกัน..


"แล้ว 2X ตรงนี้มันต้องย้ายไปไหนวะ ย้ายยังไง.."
ไอ้ไม้ที่ดูเอาการเอางานที่สุดพูดขึ้น ผมก้มลงไปดูสมุดกับพวกมันแล้ว..งงชิบหาย..


"เอ่อ.."
อันนี้ผม..


"อืมม.."
อันนี้ไอ้เอก..


"เอ.."
อันนี้ไอ้ซิม..


"สรุปว่าไงวะ..ควาย!"
ไอ้ไม้พูดก่อนจะสบถ..เล่นเอาเราสามคนที่เหลือสะดุ้งกันเป็นแถว..





"2 มันหารอยู่ มึงก็ย้ายไปคูณ"

เสียงเรียบๆเสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับเด็กหนุ่มผมแดงเพลิงที่ยืนพิงพนักศาลาแถวป้ายรถเมล์อยู่..


..แหม..เปิดตัวได้พระเอกมากเว่อ..ไอ้สัสส


"อ่ออออ"

พวกไอ้เอก ไอ้ไม้ ไอ้ซิม อ๋ออออ ขึ้นพร้อมกัน ...เหลือแต่กูที่งง..กูนี้ควายแท้ๆ!


"มึงมาทำไรวะ ริว"
ผมหันไปถามไอ้พระเอกอย่างงงๆ มันขมวดคิ้ว แต่ไม่ยอมตอบ ไอ้เอกจึงช่วยตอบให้..


"มึงความจำเสื่อมนี่เนาะ.. อาจจะลืม คือสมัยก่อนพวกกูบังคับให้มึงทำข้อสอบแก้ให้แบบนี้แหละ ตอนมึงยังไม่โง่อ่ะ (จะย้ำทำเหี้ยไร : ผม) ไอ้ริวมันก็จะชอบมาดู มาคอยตามบังคับให้มึงไปทำนู้นทำนี้ต่อ"

"ทำนู้นทำนี้?"

"ก็เป็นเบ๊มันนั่นแหละ"

"อ่ออออ"

คราวนี้ผมถึงเข้าใจ.. เอ้อ ลูกกูมีความสัมพันธ์กับ'เพื่อนร่วมห้อง'ในแบบ ทาส กับ เจ้านาย นี้หว่า..


"กูไม่ทำแล้วนะ"
ผมหันไปหาริวก่อนจะส่งยิ้มเย็นๆไปให้



น่าแปลกที่เขาพยักหน้า..



.................................


หลังจากที่นั่งดูริวสอนไอ้พวกแก๊งค์สามช่าจนเสร็จ ผมก็กำลังจะเดินขึ้นรถเมล์..(ไอ้สัส วนมาสิบคันแล้ว..กูพึ่งได้ขึ้น!)
แต่ทันใดนั้นริวก็คว้ามือผมเอาไว้ก่อน..

"มึงปล่อย! นี่คันที่สิบแล้ว!!"

ผมรีบร้องก่อนจะสะบัดมือออก แต่เจ้าตัวไม่วายดึงผมลงจากตัวรถ


"ปกติมึงกลับกับกู.."


"อะเหรอ"


"ใช่"
ร่างสูงพูดก่อนจะเดินกึ่งลากกึ่งดึงผมไปที่รถ..(หื้มมม เด็กม.ปลายสมัยนี้มันขับรถเร็วจริงวุ้ย!)


หลังจากขึ้นรถมาอย่างง่ายดายไม่มีเล่นตัวเหี้ยอะไรทั้งนั้น(จะเล่นตัวทำไมละคร้าบ ค่ารถเมล์ตั้งสิบบาท นี้รถฟรี!)
ผมก็มานั่งสบายๆอยู่ข้างๆไอ้เด็กผมแดง ที่กำลังขับรถ เก๊กขรึม ทำเท่.. อยู่ในขณะนี้..



"แหม..เท่เชียวนะมึงง กริ๊วๆ"
ผมแซวก่อนจะทำท่าล้อเลียนไอ้เด็กข้างๆ..

มันหันมองมาทางผม ก่อนจะหลบสายตาอย่างรวดเร็ว

"มึงคิดว่างั้นเหรอ"

"เปล่า ก็แค่คิดว่ามึงคงอยากได้คำชมอ่ะ เก็กขรึมขนาดนี้"
ผมพูดอย่างสบายๆแบบคนที่ผ่านอะไรมามาก.. อายุกูก็รุ่นๆพ่อมึงอ่ะ เด็กวัยรุ่นแบบมึงมองตาก็เห็นไปถึงตาตุ่มแล้ว!




"ไอ้พวกแฟนต้า..มันโดนไล่ออกจากโรงเรียนแล้วนะ.. แต่มันรวย เดี๋ยวก็คงโผล่มาในเครื่องแบบโรงเรียนอื่นอยู่ดี"

อยู่ๆ ริวก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบอีกครั้ง..



"แฟนต้า?"



"มึงจำมันไม่ได้?"



"อือ"

ผมตอบ ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจสายตาเศร้าปนโกรธแค้นของเด็กหนุ่มข้างๆ..





"กูขอโทษนะ"




อยู่ๆเด็กหนุ่มข้างๆก็พูดขึ้นมาเบาๆ..เสียงนั้นสั่นน้อยๆ.. ดูราวกับอารมณ์รุนแรงบางอย่างกำลังจะปะทุออกมา..




ทั้งๆที่ผมไม่รู้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้..

ทั้งๆที่ผมไม่มีความทรงจำใดๆของลูกชายเลย..




ทว่าผม


กลับเจ็บปวดอย่างยิ่ง..






มันเจ็บ



ลึก



ลึกลงข้างใน





เจ็บปวดเหลือเกิน



เปราะบางเหลือเกิน..




แตกสลาย..




น้ำตาผมไหลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว
แม้ว่าผมจะรีบหันออกไปทางนอกกระจกรถ..


รีบพูดตอบเด็กหนุ่มข้างๆไปว่า..ไม่เป็นไร..


แต่ลึกๆข้างในผมยังคงเจ็บ


..เจ็บปวดอยู่ดี



และดูเหมือนว่าคนข้างๆเองก็รู้สึกตัว..


เราไม่พูดอะไรกันเลยหลังจากนั้น
แต่ทว่าริวก็สามารถขับมาส่งผมที่บ้านได้โดยที่ผมไม่ได้บอกทางแม้แต่น้อย..





ดูเหมือนว่ายังมีเรื่องราวอีกมากที่ผมยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวเขา..ลูกชายของผม
ความเจ็บปวด..ความเศร้า..ความโดดเดี่ยว..ความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่นๆ..เหตุการณ์ในชีวิตของเขา..



..ตลอดระยะเวลา 15 ปี



ผมไม่อาจทดแทนได้ในช่วงเวลาไม่กี่วัน..
ไม่อาจรับรู้ความรู้สึกโดดเดี่ยวท่วมท้นทั้งหมดได้ในช่วงเวลาไม่กี่วัน..



แต่ผมจะแบกรับมันไว้..


ผมจะแบกรับมันไว้ให้..



กลับมาเถอะนะลูกพ่อ..





อย่าได้ล่องลอยไปไม่หวนกลับดังสายลม


หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 3 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 29-06-2018 20:42:54
เอ้า เศร้าตามเลยอะ เกิดอะไรขึ้นกับน้องวา  :m15:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 3 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 29-06-2018 20:58:23


..ชุดเรื่องสั้น..By ✈️ Anynomous ..


สวัสดีค่ะ ! เอนี่ฯเองค่ะ ><\\ เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนที่ชอบเขียน ชอบเล่าเรื่องราวเป็นงานอดิเรก
และหลงเสน่ห์ของการเขียนเรื่องสั้น,เรื่องสั้นๆ(ไม่เกิน10ตอนจบ) โดยผู้เขียนใช้เวลาว่างๆจากการทำงานประจำ
ค่อยๆเขียนไปทีละเรื่อง จนท้ายที่สุดก็พบว่า ตนเองเขียนเรื่องสั้นไปค่อนข้างเยอะ(มาก!)
หลังจากนี้จึงอยากจะรวมเรื่องสั้นทั้งหลาย ให้อยู่ในกระทู้เดียว คือ ชุด'เรื่องเล่าเงากระจก'
เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ติดตาม และเลือกอ่านเฉพาะเรื่องที่คุณผู้อ่านสนใจ(ฮา!)

จึงได้จัดทำสารบัญชุดเรื่องสั้นขึ้นมา ดังนี้ค่ะ..


✈️ เมื่อผมสบตากับปีศาจ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63359.60)

✈️ คู่จิ้นฟินเว่อร์ ❤️  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66536.0)

✈️ เรื่องมันสั้น..เมื่อผนังกั้นไว้  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66910.0)

✈️Rules of survival สังคมลามไข่..ใครก็ได้ฆ่ากูที! (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66577.0;nowap)

✈️ เก้าอี้ไม้สีน้ำตาลในสวนสาธารณะ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66935.0)

✈️ ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66935.0)

✈️ ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยย!!) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66935.0)




ปล.เรื่องยาวของผู้เขียนสามารถหาอ่านได้ตามบอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบเเล้ว! เรื่อง ✈️จาก Newyork สู่ Khonkaen ..แต่ถึงจะเป็นเรื่องยาว ก็มีเพียง 30 กว่าตอน เท่านั้นค่ะ (ฮา)




สุดท้ายนี้ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตาม ไม่ว่าจะนักอ่านที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี หรือพึ่งมาพบกัน หรือเพียงผ่านมาก็ตาม ผู้เขียนเองมีความสุขและสนุกทุกครั้งเมื่อได้ทำงานอดิเรกที่ตนเองรักนี้ และหวังว่าความสนุกและความสุขนี้จะส่งผ่านไปยังผู้อ่านทุกท่านด้วยเช่นกัน

ขอบคุณค่ะ

(โค้ง)

Anynomous
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 29-06-2018 22:54:19



ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยย!)




"ไอ้วา มึงหลบไป!!"

ไอ้เอกตะโกนมาขณะที่มันวิ่งหน้าตั้งมาทางป้ายรถเมล์ ...โดยมีไอ้ซิม ไอ้ไม้..ที่วิ่งตามมาอยู่..


"ไอ้เชี่ยซิมเลือดสาด!!"
ไอ้ไม้ตะโกนเมื่อเห็นเพื่อนทรุดลงไปกับพื้น ก่อนจะลากไอ้ซิมวิ่งมาทางป้ายรถเมล์
ผมมองเห็นเด็กวัยรุ่นอีกครึ่งโหลถือไม้หน้าสามกับไม้ฝังตะปูวิ่งตามมา..


ไอ้ไม้ลากไอ้ซิมขึ้นรถเมล์ ก่อนที่ไอ้เอกจะถอดเสื้อคลุมมันเอามาให้ผม


"มึงใส่ไว้! เดี๋ยวพวกแม่งเห็นเสื้อโรงเรียนเราจะยำมึงไปด้วย!"



"มึงไม่ขึ้นรถเมล์ไปกับไอ้ไม้ไอซิมวะ?!"
ผมถามด้วยความตกใจขณะที่เห็นรถเมล์เคลื่อนตัวออกไป..


"มันทำเพื่อนกูเจ็บ..มันต้องเจ็บยิ่งกว่า!"


ผมมองหน้าไอ้เอก..

ก่อนจะหันไปมองแก๊งค์อันธพาลครึ่งโหลที่หันซ้ายหันขวามองหาคู่อริอยู่..




"โอ๊ยยย! มึงตีกูทำไมเนี้ย!"

ไอ้เอกร้องเสียงหลงเมื่อผมเขย่งตัวไปบิดหูมันแรงๆ 1 ที..


"โง่!"


"คนตั้งครึ่งโหลมึงจะไปสู้มันได้ไง..มึงคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังบู๊หรอสัส..อาวุธมันก็มี!"
ผมพูดก่อนจะดึงมันลงมานั่งรอรถเมล์ข้างๆ..ย่อตัวมันลงมาไม่ให้เป็นที่สังเกตก่อน..


"กูก็มีอาวุธ!"

ไอ้เอกพูดก่อนจะตบบางสิ่งในกระเป๋าเป้..

ผมเหลือบมอง ขมวดคิ้ว ... ไอ้เอกรูดซิบกระเป๋าออกแง้มให้เห็นบางสิ่งข้างใน..มันวาว สีดำด้าน.. ด้ามน้ำตาลเข้ม




"ไอ้สัส ปืนอัดลมเนี้ยนะ.."


"มึงรู้?!"


"มึงจะเอา Colt 1911 ไปสู้ไม้ฝังตะปูเหรอวะ.. มีแต่ควายเท่านั้นแหละที่จะโดนมึงหลอกได้"

ผมพูดด้วยความที่เชี่ยวชาญและอยู่ในแวดวงอาวุธและสินค้าเถื่อนมานาน.. ในขณะที่ไอ้เอกทำหน้าอึ้งๆ..

แต่เราไม่มีเวลาเตรียมแผนรับมืออะไรนัก เพราะไอ้พวกอันธพาลครึ่งโหลดูเหมือนจะหาเราเจอพอดี..


พวกมันวิ่งกันเข้ามา เป็นเวลาเดียวกันกับที่ ไอ้เอกดันผมไปข้างหลัง..



"มึงหนีไป!"



..ผมหันไปมองแผ่นหลังของเด็กโง่ที่รักพวกพ้องยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง
แล้วก็กลับคิดถึงตัวเองเมื่อยังเป็นวัยรุ่นขึ้นมา..


ไม่ได้กล้าหาญ..แต่โง่..


ทว่าไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำ..





ไอ้หมอนี่มันจะตายแน่ๆ..


จะตายแน่ๆในสักวันหนึ่ง..













ผมกลับหลังหัน..ออกวิ่ง



.................................



หลังจากออกมาจากโรงพัก..ผมก็พาไอ้เอกไปโรงบาล..





"มึงไม่น่าไปพาตำรวจมา..นี่มันเรื่องของกูกับพวกมัน"

ไอ้เอกพูด..ทั้งที่หน้าและไหล่ขวาบวมเป่ง..



"ถ้ากูไม่พาตำรวจมา, รถที่มารับมึงจะเป็นปอเต๊กตึ๊ง..ไม่ใช่รถโรงบาล"

ผมพูด



"มึงไม่เข้าใจหรอก วา มึงมันเด็กดี .. เรื่องแบบนี้ กับไอ้พวกเหี้ยนั่น มันไม่จบแค่นี้แน่.."

ไอ้เอกยังคงพูดต่อ ผมเอาน้ำแข็งประคบไหล่ช่วยมันไปด้วย..


"กูเข้าใจสิ"

ผมบอก..เข้าใจดีเลยแหละ..


"กูเข้าใจ มึงอาจจะคิดว่านี้คือทุกอย่าง.. สำหรับมึง.. ศักดิ์ศรี ..เพื่อนพ้อง.. คือทุกอย่าง ..
แต่เมื่อโตขึ้น มึงจะเข้าใจ.. มีบางสิ่งสำคัญกว่านั้น บางสิ่งที่มึงต้องมีชีวิตอยู่ ถึงจะมองเห็น.."




"อย่าเอาชีวิตไปทิ้งแบบโง่ๆ"

ผมบอก..เผลอกดน้ำแข็งลงแรงขึ้น..




"กูไม่ตายง่ายๆหรอก"
ไอ้เอกบอกก่อนจะทำหน้าเข้มใส่ผม..


"กูไม่ได้หมายความว่ามึงจะตาย.. แต่ชีวิตที่มึงจะเสียไปต่างหาก.. มึงกะจะเป็นอันธพาลวิ่งหนีไม้หน้าสามแบบนี้ไปตลอดชีวิตไหมล่ะ.. หรือจบแล้วไปเป็นลูกน้องมาเฟียที่ไหนสักแห่ง ขายยา เล่นผู้หญิง ไปเป็นมือขวา แล้วลงท้ายชีวิตด้วยการโดนยิงแสกกบาล ตายแบบที่หาร่างตัวเองไม่เจอ .."



"กูพูดจริงๆเลยน่ะ..มันไม่สนุกหรอก.."



ไอ้เอกเงียบ.. ผมก็เงียบ

สักพักเขาจึงพูดขึ้นว่า..


"แล้วจะให้กูทำไง..มันไม่ได้เลิกตอแยกันง่ายๆ.."


"..มึงขอโทษพวกมันได้ไหมล่ะ"


"ไม่มีทาง"



"อืม, กูก็คิดว่างั้น เพราะงั้นกูจะไปขอโทษแทนมึงเอง.."


..................................


ผมเดินทางกลับมาโรงพักโดยมีไอ้เอกที่คอยห้ามแกมขอร้องอยู่ตลอดเวลา..

พอผมไปถึงก็ปรากฎว่าไอ้เด็กอันธพาลพวกนั้นยังคงอยู่ในคุก..
พอมันเห็นหน้าผมมันก็ร้องโหวกเหวกโวยวายทันที..


"ไอ้เหี้ยนี้แหละที่พาตำรวจมาจับพวกเรา!"


"ไอ้หน้าตุ้ด!! สงสัยเป็นเมียไอ้เอกมัน!!"



"พวกมึงว่ายังไงนะ!!"


"ไอ้เอก! มึงหยุด"
ผมพูดเสียงเรียบก่อนจะกอดอกมองพวกอันธพาลที่อยู่ในกรง..



"กรงนี้เหมาะกับพวกมึงดีนี่"



..ชะอุ่ย...ลืมไปว่าจะมาขอโทษ!

ผมพูดจบก่อนจะเบิกตาโตนิดๆในขณะที่ไอ้เอกถึงกับหันขวับมาทางผมก่อนจะกระซิบ..

..ไหนมึงว่าจะประนีประนอมไงวะ..ชิบหาย


"ไอ้หน้าตุ้ด!! ลูกพี่กูมามึงเจอแน่! ลูกพี่กูเป็นมาเฟียนะเว้ย!!"



เหรอ..

ผมมองหน้า เผลอยิ้มเหยียดอย่างไม่ได้ตั้งใจ..




..กูก็มาเฟียว่ะ..






"นั่นไง! ลูกพี่ครับบ ช่วยพวกผมด้วยย!"


ไอ้พวกอันธพาลพากันร้อง ทั้งสบถด่าผมกับไอ้เอก ทั้งขอร้องให้ผู้มาใหม่จัดการกับพวกผมซะ..


ผมหันหน้ากลับไป..คาดว่าคงเจอพวกนักเลงปลายแถวที่อยากได้เด็กอันธพาลเป็นสมุน..




..แต่ผิดคาด..





ใบหน้าคุ้นเคยกำลังเดินเข้ามา..รูปหน้าคมเข้มชัดเหมือนคนจีนจากแผ่นดินใหญ่..ร่างสูงสง่าและท่าทางมีอำนาจเสมือนว่าเคยชินกับการใช้อำนาจอยู่ตลอดเวลา..ข้างๆเขาคือชายอ้วนหัวล้านลงพุง..แววตาหลุกหลิกไม่มั่นคงนัก..



ตั้วเฮีย..กับ..เสี่ยชัย..



ทำไม..



ทำไมมาอยู่ด้วยกันได้..



เสี่ยชัยคนที่ผมแน่ใจว่ามันสั่งลูกน้องมาเจาะกบาลผม..
กับตั้วเฮีย..ว่าที่ผู้นำมังกรคนต่อไป.. หัวหน้าที่ผมรักและเคารพสุดหัวใจ.. บุคคลผู้ซึ่งเคยมีผมเป็นมือขวา....




"พวกนี้เหรอ ลูกน้องชุดใหม่ของคุณ.. ชัย"
ตั้วเฮียพูดก่อนจะกวาดสายตามองดูเด็กอันธพาลในกรง ก่อนจะหยุดสายตามองที่ผม..




ชั่วแวบหนึ่งเท่านั้นที่เราสบตากัน..
ผมซ่อนความเจ็บปวดทั้งหมดไว้ไม่ได้เลย..




ตั้วเฮีย..กับ เสี่ยชัย..
ตั้วเฮียจะรู้เรื่องที่ผมโดนฆ่าหรือยัง...
รู้จากเสี่ยชัยอย่างนั้นหรือ?

ผมไม่อาจซ่อนความคิดที่ว่า..ตั้วเฮียรู้เรื่องคำสั่งฆ่าผมตั้งแต่แรก..
หรือแม้กระทั่ง..เขาอาจจะเป็นคนวางแผนเองด้วยซ้ำ..ไว้ได้




ผมนี่โง่จริงๆที่เผลอไปคิดว่า..ตั้วเฮียจะต้องแก้แค้นให้ผม..
เขาจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคู่ค้าคนสำคัญ..เพื่อเเลกกับลูกน้องโง่ๆที่ไปยอมทำตัวให้ถูกเจาะกลางบาลง่ายๆทำไม..





"รวมถึงเด็ก..พวกนี้ด้วยหรือ"

ตั้วเฮียชี้มาที่ผมกับไอ้เอก..


ไอ้พวกอันธพาลในกรงโหวกเหวกโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์กันขึ้นมา..




"เราไม่ใช่ลูกน้องของเขา"


ผมบอก สบตาตั้วเฮีย เหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตในคราก่อน..



"บอกลูกน้องของ'พวกคุณ'ด้วย เอาเวลาไปทำตามคำสั่งของหัวหน้า ดีกว่าเที่ยวทำตัวเป็นอันธพาลชั้นต่ำ หาเรื่องเข้ากรงไปวันๆ"

ผมพูด นิ่ง.. รอรับผลใดๆก็ตามที่อาจเกิดขึ้นตามหลังการปากดีของตัวเอง..


"ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่ ลูกน้องอั้วไม่ต้องให้ใครมาสั่งสอน รู้รึเปล่าว่าพวกอั้วเป็นคราย"
เสี่ยชัยพูดก่อนจะกวักมือเรียกลูกน้องสามสี่คนเดินวงล้อมเข้ามา..


กะจะขู่ผม.. เพราะเห็นว่าผมมันแค่เด็กวัยรุ่นตัวเล็กๆ..


ไอ้เอกรีบยกมือไหว้ขอโทษขอโพย..


"ข..ขอโทษครับ.. เพื่อนผมสมองมันไม่ปกติ มันเกิดอุบัติเหตุ มันบ้าๆหน่อยครับเสี่ย.. ปล่อยมันไปเถอะครับ!"


ผมยกมือขึ้นบอกให้ไอ้เอกหยุด..




"ขอโทษ"

ผมยกมือขึ้นไหว้ ก่อนจะหันหลังกลับ..



แต่สัญชาตญาณบางอย่างบอกผมว่า ถ้าหันหลังกลับตอนนี้.. ผมจะต้องตายแน่ๆ..
ผมยกมือขึ้นตั้งการ์ดที่ท้องเเทน..

และก็จริงดังคาด! สันฝ่ามือของลูกน้องเสี่ยคนหนึ่งกระเเทกลงมาที่แขนของผม..


ถ้าไม่ตั้งเเขนเอาไว้ มีหวังอวัยวะในช่องท้องแตกแน่..

ด้วยแรงขนาดนี้..ทำเอาผมปวดหนึบไปทั้งแขนซ้าย...

ผมก้มตัวลงก่อนจะอาศัยความคล่องตัวอ้อมไปด้านหลังลูกน้องคนนั้น ก่อนจะดึงเเขนมันลงและขัดขาทั้งสองข้างให้ล้ม..


ทำได้เท่านี้จริงๆ.. ด้วยกำลังแขนของร่างนี้..
มันบอบบางเหลือเกิน!

ลูกน้องอีกคนเดินเข้ามา ก่อนที่จะล็อกตัวผมเอาไว้


"หมาบ้านักเหรอมึง ไอ้เด็กพึ่งเกิด"

ไอ้คนที่โดนขัดขาล้มไปตอนแรกพูดขึ้น.. ก่อนจะเงื้อหมัดซ้ายเพื่อที่จะอัดผม..






"พอแค่นั้นแหละ"

เสียงเรียบๆแต่ทรงพลังของตั้วเฮียพูดขึ้น ก่อนจะค่อยๆเดินมาตรงหน้าผม..



ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองผมด้วยความดุดัน

ผมจ้องตอบกลับไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง..ที่ไม่แพ้กัน..




ผมจะอยู่ข้างๆตั้วเฮีย..ผมไม่เคยคิดว่าสักวันจะได้มาอยู่ตรงข้ามเขา.. ผมไม่เคยคิดเลย..






"เอามันขึ้นรถไปด้วย, ฉันสนใจมัน"


สิ้นคำสั่งตั้วเฮีย..ปลายวัตถุมัจจุราชสีเงินเย็นเฉียบจ่ออยู่ใต้เสื้อของผม..
มันไม่ใช่ปืนอัดลมแบบที่ไอ้เอกใช้..และมันเป็นคำสั่งตั้วเฮีย


..คำสั่งของพี่ชายใหญ่แห่งนึ่งออผู้ไม่มีใครขัดขืนได้..



ผมมองหน้าไอ้เอกที่ซีดเผือด..เหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ..
มองหน้าตั้วเฮียที่หลังจากออกคำสั่งแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจไยดีผมอีก
มองหน้าเสี่ยชัยที่ดูสะใจที่ผมโดนปืนจี้



แต่ใบหน้าหนึ่งที่ผมมองไม่ได้ในตอนนี้..
คือใบหน้าตัวเอง.. ใบหน้าของลูกชาย..



คนที่ผมรักนักหนา..
คนที่ผมสัญญาว่าจะปกป้องเขา..





..ดูเหมือนคนที่กำลังจะพลาดเป็นตัวผมเอง..
ตั้วเฮียไม่ใช่คนที่ทำอะไรเล่นๆ.. 


ถ้าคนฉลาดอย่างตั้วเฮียเล่นหมากฝั่งตรงข้ามกับผม..
ผมก็จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังที่สุด


ในฐานะคนที่อยู่ข้างๆ คอยหยิบหมากตาแล้วตาเล่าให้เขา

ผมรู้จักเขาดียิ่งกว่าใคร..


เดิมพันครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ใช้'ชีวิต'.. แต่มันใช้'วิญญาณ'..





Game on BRO




หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-06-2018 23:55:51
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 30-06-2018 03:15:22
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : เก้าอี้ไม้สีน้ำตาล)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 05:16:01
 :monkeysad: พีคมากอ่ะ  :o12: :o12: :o12:  :sad4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 05:25:11
 :a5: o22
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 05:38:19
ตล๊กกกก 55555555555  :laugh: :m20: มีทั้งแรดกรี๊ด

ทั้งแร้งขี้เม้าท์ต่างๆนานา แถมอีแร้งเหน่อด้วยนะ  :m20: โอ้ย พีค
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(1))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 05:45:55
เอ้าคุณตางู ถถถถ ที่แท้ก็แฟนคลับสิงดาวนี่เอง~

ลั่นตรงอีสัส 55555555555
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 05:52:37
5555555 ชอบนกแร้งอ่ะขี้เม้าท์เว่อร :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 06:11:13
 :laugh: :pigha2: โอ้ยขำ หมดสภาพเสือดาวเลยลูก  :laugh:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 06:16:02
แง้ สงสารน้อง สงสารลูกของเล้ง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 06:21:48
 :hao5: :sad4: น้องวาโยลูก~ เกิดอะไรขึ้น!  ใครมันเป็นคนทำ

คุณพ่อเล้งไปจัดการมันเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 2 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 06:27:34
แง้ ยิ่งอ่านยิ่งสงสารวา
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-06-2018 06:34:45
โอ้ยยย  อิตาเล้งแกก็นะ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-06-2018 09:32:47
โอ๊ย........ชอบบบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
สนุกกกกกกก ถูกใจ  :mew1: :mew1: :mew1:

ชอบเรื่อง ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!)  :3123: :3123: :3123:
เรื่องสิงห์ เสือ ก็ชอบ  :mew1:

กระต่าย กลายเป็นหมาป่าแล้ว  ฮี่ ฮี่
จัดการไอ้พวกที่รังแกลูกชายให้จมดินเล้ยยยยย 
รอตอนใหม่นะ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 30-06-2018 10:24:30
ว้อยยยยย
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 30-06-2018 11:38:25
เอ้าาาาา ทำไมดูมีเงื่อนงำ ขุ่นพ่อคะทำให้ร่างของน้องวางานเข้าแล้วววววว
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 30-06-2018 12:02:38
ดีงาม
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 30-06-2018 13:13:28
มารออออ รอน้องวา
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 30-06-2018 14:11:38
ชอบทุกตอนเลย
ตามติด
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 30-06-2018 15:50:36
สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 4 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 30-06-2018 17:40:44
แงงงงงงง ตั่วเฮียสั่งฆ่าลูกน้องตัวเองเหรอ ฮือออออ เจ็บปวดแทน
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 30-06-2018 20:22:59




ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยย!)





..เงียบ..


รถยุโรปหรูคันเดิมที่ผมคุ้นเคย.. กลิ่นน้ำหอมเดิมๆที่ผมคุ้นเคย..กลิ่นไม้กฤษณา..น้ำหอมราคาแพงลิบที่ผมเคยหลุดปากพูดว่ามันหอมดี.. และตั้วเฮียก็ใช้กลิ่นเดิมๆมาตั้งแต่นั้น.. 5 ปี..


บรรยากาศกดดัน ทว่าคุ้นเคย..

ผมจึงรู้สึกผ่อนคลายกว่าที่คิด..



หลังจากถูกโยนส่งๆเข้ามาในรถ ผมจึงรู้ว่าตั้วเฮียมาคนละคันกับเสี่ยชัย..
ดูเหมือนว่าพวกเขานัดมาเจอกันเฉยๆ..


มีความลับอะไรซ่อนอยู่กับเด็กอันธพาลพวกนั้นกัน..
มันสำคัญอะไรถึงขนาดที่สองคนสำคัญๆถึงต้องมาดู..




"ชื่อ"


ตั้วเฮียพูดลอยๆขึ้นมากลางอากาศ




"วาโย"


ผมตอบ ผมรู้ ตั้วเฮียไม่ชอบให้พูดซ้ำสอง



"อายุ.."


"15"



"บ้านอยู่ไหนล่ะเรา.."


อยู่ๆตั้วเฮียก็เปลี่ยนน้ำเสียงพูด..อ่อนโยนขึ้น ..

ราวกับเป็นคนละคน..



..อย่าบอกนะว่าพี่แกพึ่งตระหนักได้ว่าไอ้ร่างนี้ของผมมันอายุแค่ 15 น่ะ!




"อยู่แถวพุทธมณฑลครับ.."







"..ตั้วเฮีย"


อยู่ๆชายร่างสูงก็พูดขึ้น..



"ห้ะ.."



"เรียกฉันว่าตั้วเฮีย.."





ผมนิ่ง อึ้ง.. ไม่จริงน่า.. ตั้วเฮียไม่ยอมให้คนทั่วๆไปเรียกเขาอย่างนั้น..
ปกติทุกคนจะเรียกเขาว่า 'ท่านชิงหลง'.. ซึ่งเป็นชื่อจริงของเขา..

จะมีก็แต่คนร่วมสายเลือด ลูกน้องคนสนิท.. ..เช่น.. ผม เท่านั้น ที่เรียกเขาว่า 'ตั้วเฮีย' ซึ่งมีความหมายว่า พี่ชายใหญ่..



"ไหนเรียกสิ.."

ร่างสูงพูดก่อนจะปราดตามองผมอย่างวางอำนาจ...


ไอ้รัศมีที่แผ่มาข่มคนอื่นตลอดเวลานี้จะผ่านมากี่ปีก็ยังไม่เคยต่าง..






"..ตั้วเฮีย?"


ผมพูด..ลังเลเล็กน้อย..





แต่ดูเหมือนมันจะทำให้ชายร่างสูงพึงพอใจอย่างมาก



"ดี..ต่อไปให้เรียกฉันอย่างนี้.. เข้าใจไหม"



ผมพยักหน้าเบาๆ


หลังจากนั้นรถทั้งคันก็เต็มไปด้วยความเงียบ..


เงียบสงบ และน่าคิดถึงอย่างประหลาด..



รถยนต์หรูคันเดิมเเล่นไปอย่างเงียบเชียบ ด้วยฝีมือลูกน้องคนสนิทคนเดิม.. คนขับรถที่ผมเองก็คุ้นหน้าคุ้นตากับเขาเป็นอย่างดี รถยนต์เเล่นไปในทางที่ผมคุ้นเคย.. สถานที่ที่ตั้วเฮียต้องไปทุกอาทิตย์





เมื่อรถจอดลงข้างหน้าสุสานจีนโบราณอย่างเงียบเชียบ
ชายร่างสูงเดินนำผมลงไปจากรถ
เขาหันกลับมามองผมที่ทุลักทุเลถอดสายนิรภัยให้ตัวเองอย่างน่าสมเพช
สักพักจึงโน้มตัวเข้ามาในรถ.. ปลดสายนิรภัยรถยนต์ให้ผม..




เขาผู้ไม่เคยก้มหัวให้ใคร..





"อะ...ขอบคุณ"


ผมพูด ขมวดคิ้ว.. ทั้งสงสัยระคนแปลกใจ

ก็เพราะคิดว่ารู้จักเขาดีกว่าใครๆ.. ผมไม่เคยเห็นมุมเงียบสงบ อ่อนโยน และทรงพลังเช่นนี้ของเขา..



ตั้วเฮียในสายตาของผมนั้น เป็นบุคคลที่น่านับถือ ในเรื่องความแข็งแกร่ง เยือกเย็น และอำมหิตเป็นที่สุด..
ไม่ใช่ตั้วเฮียคนที่จะช่วยเหลือเด็กหนุ่มตัวเล็กๆ.. ไม่ใช่เลย..




..ผมเข้าใจถูกหรือเปล่านะ..





ลงมาสิ"



ผมกระโดดลงจากรถ ตามแผ่นหลังกว้างไป..ผมรู้ทิศทางที่เขาจะไปอยู่แล้ว..




สุสานของบรรพบุรุษ..



ที่ที่เขาจะมาทำความเคารพเสมอ..





แต่ครั้งนี้เขากลับเดินออกไปอีกทาง..

สุสานสดใหม่ที่มีดอกไม้สีขาววางไว้ดอกหนึ่ง.. ปลอกลูกกระสุนสีทอง 1 ปลอก..
ตัวอักษรสีทองเรียบง่ายสลักเอาไว้บนแผ่นหินสีเทาดาดๆ...





'มังกร'




ร่างสูงนำดอกไม้สีขาวหนึ่งดอกวางข้างๆดอกเดิม.




ก่อนจะถอยกลับมายืนข้างๆผม..










"ใครเหรอครับ"






"เขาตายเพราะฉัน เพราะฉะนั้น เขาจึงเป็นคนสำคัญ"





ผมเม้มริมฝีปากแน่น.. มองหน้าเขา เผลอพูดสิ่งที่คิดออกไป..






"ผมว่าไม่"



ตั้วเฮียหันขวับ..เขามองหน้าผมด้วยแววตาดุดันทว่าสงบนิ่งเหลือเกิน...




..ผมอ่านความรู้สึกคุณไม่ออกหรอก.. ผมไม่เข้าใจ..







"ถ้าเขาสำคัญสำหรับคุณจริง คุณจะไม่ปล่อยให้เขาตายเพราะคุณ"


ผมพูด เสียงสั่นเล็กน้อย..




"แต่ผมเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องของความสำคัญ .. มันเป็นเรื่องของความจำเป็น"

ผมพูดต่อ..


"อายุ 15 แต่พูดจาเหมือนคน 50"
ร่างสูงพูดก่อนจะใช้ฝ่ามือหนาจับใบหน้าของผมเชิดขึ้น..


ประจันหน้ากับเขา..



"ดูเหมือนนายจะชอบสบตาตั้วเฮียนะ.. ชอบฉันหรือไง เด็กน้อย"


ตั้วเฮียพูดขณะที่ริมฝีปากมีรอยยิ้มเล็กๆ ... ผมส่ายหน้า



"ไม่มีทาง"









"แต่ฉันชอบเธอ"


ผมตาโต ตกใจในสิ่งที่ได้ยิน




"ไม่เคยได้ยินหรือไง มาเฟียน่ะเลี้ยงทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย.."

ผมมองหน้าตั้วเฮีย ทำหน้าแหยๆ...

เขาคิดจะหลอกเด็กหนุ่มอายุคราวลูกจริงๆเหรอวะ?!!



บัดซบ!!




"ผมไม่มีปัญหาทางการเงิน ผมไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ"


ตั้วเฮียยิ่งหัวเราะชอบอกชอบใจใหญ่เมื่อเห็นผมทำหน้ามุ่ย..


"แต่ฉันอยากช่วยเหลือนี่.. และฉันไม่อนุญาตให้เธอปฏิเสธ"




โฮ้...ใหญ่เหลือเกินนะตั้วเฮีย.. กับเด็กพึ่งเกิดนี่...




"ผมไม่ได้ขายตัว และตอนนี้ก็ยังสบายดี ไม่มีแผนจะไปเป็นเด็กเสี่ยใคร"
ผมพูด กอดอกแน่น..



"เธอมีครอบครัวไหมล่ะ .. พวกเขาสบายดีไหม"
ตั้วเฮียถามยิ้มๆ.. ผมคิดถึงยายแก่ขี้บ่นที่บ้าน.. ก่อนจะกลืนน้ำลายดังเอื้อก..



"อยากให้พวกเขาสบายดีต่อไปใช่ไหม"

ตั้วเฮียถามพร้อมกับรอยยิ้ม...


รอยยิ้มที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้






..................................




"โหหหห ไอ้เชี่ยวาาาา แม่ง ช่วงนี้มีแต่รถหรูมาส่งทุกวันเลยนะโว้ยยย"

ไอ้ซิมแซวขึ้นมาระหว่างพักเที่ยง.. ไอ้ไม้ก็ร่วมผสมโรงเฮฮาด้วย..
มีแต่ไอ้เอกที่นั่งนิ่ง..



"เสือกน่า"


"ใครวะๆๆๆ มึงรับยาเหรอออ"
ไอ้ซิมถามก่อนจะพูดประโยคหลังให้เบาขึ้น..


"ไม่ใช่ว้อย.. ลุงกูเอง ลุงแก่ๆโรคจิตน่ะ"
ผมพูดแบบปัดๆไป ยังไงไอ้พวกนี้มันก็โง่อยู่เเล้ว.. พูดอะไรไปมันก็เชื่อหมดแหละ!


"แหม ลุงหรือผัววว"


"พูดอีกกูตบปาก"
ผมพูดก่อนจะกระดิกนิ้วเท้า..

เวลาผ่านมาเกือบสองสัปดาห์.. ไอ้ซิม ไอ้ไม้ มันยอมรับผมในฐานะสมาชิกในกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย(ถามกูสักคำว่ากูอยากอยู่ไหม?!) เวลามีพวกอันธพาลแก๊งค์อื่นมาหาเรื่อง พวกมันก็จะเก็บผมไว้เหมือนไข่ในหิน (เนื่องจากหน้าตารูปร่างมึงดูเหมือนเจ้าหญิงที่สุด..พวกแม่งว่างั้น!) แต่ถ้าพวกมันโดนอัดจนน่วมกลับมากันหมด ปราการสุดท้ายของแก๊งค์ก็คือผม... ซึ่งตั้งแต่สู้ตัวต่อตัวกับอันธพาลแก๊งค์อื่นมา.. ผมยังไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง..



"แต่มึงแม่งเก่งจริงว่ะ..กูอยากสมองกระทบกระเทือนแล้วตื่นมาสู้เก่งชิบหายแบบมึงมั่ง"

ผมส่ายหัว ถอนหายใจเมื่อได้ยินไอ้ซิมพูด..

"แต่ตื่นมาโง่ชิบหายเลยนะมึง จากคนฉลาดๆ"
อันนี้ไอ้ไม้พูด.. ผมทำเสียงจิ้จ้ะในลำคอ.. แหมมมม พ่อคุณฉลาดดด สัส!


"ไอ้เอก มึงจำพวกไอ้พจน์ได้ปะ มันถึงกับต้องยอมแพ้ไอ้วาว่ะ.."

ไอ้เอกพยักหน้า ยังคงเงียบเหมือนเดิม..


"มึงเป็นเหี้ยไรวะเอก เงียบชิบหาย"
ไอ้ซิมถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงปนอยากรู้..


"เปล่า กูไม่ได้เป็นไร.."
ไอ้เอกพูดก่อนจะเหลือบมองมาทางผม..


ผมสบตามันกลับ พยักหน้า และไม่พูดอะไรต่อ..



.................................




"รับพวกเราไว้เป็นลูกน้องด้วยเถอะครับ!!!"


ผมมองเด็กหนุ่มร่างใหญ่สองคน.. ไอ้พจน์กับไอ้สิงห์.. ที่ยืนก้มหัวให้ผมอยู่ตอนนี้..


"ลูกน้องเหี้ยอะไรของมึง"


"นะครับ!! ลูกพี่วา! พวกเราจะยอมทำทุกอย่างขอแค่เราได้ติดตามลูกพี่ไป ทำเรื่องเหี้ยๆแบบที่ลูกพี่ทำ!"




...ดู..ดูมัน.. ดูมันพูดเข้า!



"เรื่องเหี้ยอะไรวะ.."



"ก็เรื่องที่ลูกพี่สยบแก๊งค์ducking โรงเรียนBได้ด้วยตัวคนเดียว.. เรื่องที่ตีหัวครูพละแล้วพาทั้งคาบโดดวิชานั้น..
เรื่องที่จับลูกน้องมาเฟียเข้ากรง... ไหนจะเรื่องที่หลอกสาวๆโรงเรียนCมาฟันทิ้งเป็นว่าเล่นอีก... ลูกพี่เป็นไอดอลของพวกผมเลยครับ!!"



ด...เดี๋ยวว! ไอ้แก๊งค์Duckingห่าอะไรนั่นก็แค่เด็กเสพยา.. กูแค่โทรเรียกตำรวจมาสลายม็อบพวกแม่งเอง..
ตีหัวครูพละก็เพราะกูกะเเรงไม่ถูก โยนลูกบาสเเรงไปหน่อย ไปโดนหัวครู น็อค คาบนั้นเลยไม่ได้เรียนกันทั้งคาบ..
ลูกน้องมาเฟีย..กูก็วิ่งโร่ไปแจ้งตำรวจ.. ไอ้คนสู้น่ะมันไอ้เอก ไอ้ไม้ ไอ้ซิม .. ไปถามไอ้เหี้ยซิมสิเย็บไปกี่เข็ม!!
ส่วนเรื่องสาวๆโรงเรียนC.. ชีวิตกูสองสัปดาห์นี้ไม่มีสาวไหนนอกจากยายแก่หนังเหี่ยวแม่เมียที่บ้านเลย!!!



มึงเอามาจากไหนกันวะะะะ?!!



"พวกมึงเข้าใจผิดแล้วล่ะ.. กูไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น"
ผมพูด ขยับคอเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง


"ผมว่าแล้วลูกพี่ต้องถ่อมตัว! ลูกพี่นี่เท่จริงๆนะครับ!! พวกผมขอติดตามลูกพี่ไปตลอดหลังจากนี้!!!! ถ้าลูกพี่ไม่ให้ พวกผมจะไม่ยอมเงยหน้าจากพื้น!!"

ไอ้หมีควายสองตัวก้มหัวเขกพื้นดังโป๊ก!! ก่อนจะคว่ำศรีษะลงอยู่อย่างงั้น..



"เออ เรื่องมึงล่ะกัน"


สัส อะไรของพวกแม่ง..
ผมคิดในใจอย่างเซ็งๆ และเดินจากไปเพื่อไปเข้าคาบเรียน


เดี๋ยวแม่งก็เลิกไปเองแหละ..พวกเด็กเพี้ยน!




.................................


หลังจากเรียนเสร็จ..
ผมก็เห็นฝูงนักเรียนรายล้อมบริเวณลานอาคารอยู่


เมื่อผมเดิมเข้าไปก็เห็นไอ้พจน์ไอ้สิงห์ ยังคงทำท่าเดิมอยู่อย่างนั้น..




โอ้ยไอ้สัส กูล่ะอยากเป็นลม!!



"เออออออ"
ผมพูดเสียงยาว


"กูรับๆๆๆๆ ลุกเร็ว อายเค้า พวกเหี้ย!"
ผมพูดก่อนจะกอดอกแล้ว(รีบ)เดินจากไป

โดยมีหมีควายตัวใหญ่วิ่งอย่างดีใจตามมาข้างหลัง..




เอ...ทำไมนับวันเหมือนกูเริ่มจะมีแก๊งค์ของตัวเองแล้วว้า...


.................................



"วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง วา"

ผมมองชายร่างสูงท่าทางภูมิฐานที่นั่งตรงข้ามผมอยู่ในเวลานี้


ตั้งแต่ที่ผมโดนบังคับเลี้ยง(?) ผมก็ต้องมาทานข้าวกับเขา ในภัตตาคารหรูหรา อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
และใช้เวลาร่วมกับเขา ไปสุสาน ไปทำเหี้ยอะไรต่อมิอะไรแล้วแต่ตั้วเฮียจะลากไป อีก 1 วัน


ทั้งหมดนี่แลกกับความปลอดภัยของยายแก่ที่บ้านล้วนๆ!


ไม่รักกันจริงทำไม่ได้นะเนี่ย!!!




"ก็เรื่อยๆอ่ะ ตั้วเฮียล่ะ"


ผมถามกลับแบบตามมารยาท


"แค่ได้เจอกับเราตั้วเฮียก็หายเหนื่อยเเล้ว"



อ...ไอ้สัส! ข้าวแทบพุ่งงง!!!


ถ้าเป็นตั้วเฮียในอดีตน่ะเรอะ.. เล้ง! เอ็งไปจัดการคนนู้นคนนี้ บลาๆๆๆๆ
ไม่มีหรอก มารงมาเรา โอ้ยยย กูอยากจะบ้า!



ผมคิดอย่างเซ็งๆ.. ก่อนจะเหลือบมองไปที่ข้อมือของตั้วเฮีย รอยสีแดงจางๆประทับอยู่ตรงนั้น..


"นั่นไปโดนใครขูดมาน่ะ"


"หือม์...สังเกตด้วยเหรอ.. ดีใจจัง"



โอ้ยย โท้ดทีครับ! ไอ้นิสัยมือขวาที่ต้องดูแลความเรียบร้อยให้ตั้วเฮียมันติดมา!



"ผู้หญิงน่ะ.."





"นายหญิง?"

ผมหลุดพูดออกมาอย่างลืมตัว..ก่อนจะเบิกตาโตนิดๆ..



"อืม..นายหญิง"
ตั้วเฮียพูดก่อนจะมองผม...


สายตาแหลมคมแบบพญาเหยี่ยวทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ..


..เขาจะสังเกตไหมนะ..



"วา.."


"อะ..ครับ?"


"ตั้วเฮียมีเรื่องอยากจะขอร้องน่ะ"


ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อก มองหน้าตั้วเฮีย ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ

รอฟังคำขอร้องที่ไม่อาจปฏิเสธได้.


หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-06-2018 21:44:33
เหมือนจะได้กลิ่นรักสามเส้าลอยมาตามลม  :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 30-06-2018 22:24:05
ใครจะเป็นพระเอกนะะ ระหว่างตั่วเฮีย กับริว ... หรือตั่วเฮียเป็ยพระเอกของพ่อ ริวเป็นพระเอกของลูก
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 30-06-2018 23:48:02
โอ๊ยยย ค้างเฟ้ยยย
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Janemera ที่ 01-07-2018 02:10:35
ลูกพี่ว่าต้องใจแกร่งกว่านี้5555555555
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 01-07-2018 12:54:57
อิหยังวะ 555555555555555
ตั้วเฮียเนี่ย ไม่ได้พ่อก็เอาลูกแทนปะ เดาทางไม่ถูกเลย ฮ่วยๆๆๆๆๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 01-07-2018 18:50:50
ค้างงงงงงง :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 01-07-2018 19:56:56
ริวหายไปไหน กลับมาด่วน
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-07-2018 21:13:53
ขำ ก๊ากกกกกก.....เรื่องความเก่งกาจของวา  :katai2-1:
สามารถปราบแก๊งค์ร.ร.บี  ตีหัวครูพละ ร.ร.หลอกฟันสาวร.ร.ซี
แล้วตั้งแก๊งค์ของตัวเองได้และ  :katai2-1:
มีลูกน้องที่ยอมติดตามลูกพี่ไป ทำเรื่องเหี้ยๆแบบที่ลูกพี่ทำ!   :ling1:

ตั่วเฮีย เป็นอะไรถูกใจวา  :hao3:
เพราะวาไม่เกรงกลัวตนเหมือนเล้งหรือเปล่า 
เอาเรื่องความปลอดภัยของครอบครัววามาข่มขู่
บังคับให้มากินข้าวด้วย   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
มีเรื่องขอร้องวาอีก  เกี่ยวกับนายหญิงสินะ
อยากอ่านต่อแล้ว  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-07-2018 05:02:09
เล้งโว้ยยยยย แกพาร่างลูกไปป่วนอะไรมาบ้างวะเนี่ย :laugh:

แต่ว่านะ ตั่วเฮียคิดอะไรกับวาจริงๆหรอ จริงดิ  :confuse:

แล้วไหนจะมังกรอะไรนั่นอีก แต่คงไม่ใช่หลุมศพเล้งหรอกใช่ไหม

มันแปลกๆอ่ะ ตั่วเฮียมีส่วนรู้เห็นกับการตายของเล้งจริงๆหรอ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 02-07-2018 07:49:48
ตกลงเล้ง(ในร่างวาโย)จะคู่ใครน๊าา
แต่ฮาอ่ะ. ลูกพี่!!!!!!!

 :m20:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 04-07-2018 10:31:15
ขอให้พล็อตเป็นแบบที่หวัง อย่าจบดราม่า
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 05-07-2018 01:00:04
เดาทางไม่ค่อยถูก ว่าจะเป็นตั้วเฮีย หรือหนุ่มผมแดง :katai5:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 26-07-2018 17:09:32
 :serius2:  เข้ามาส่องน้องวา(เล้ง)จ้าาา คิดถึงตาเล้งแล้ว
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 26-07-2018 22:15:37
ห...หายไปนาน
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 5 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Chanik ที่ 27-07-2018 02:41:43
 :sad4: ดะ ดะ โดนเทหรอ...?
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 22-08-2018 12:04:07




ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยย!)




..ผมมองจี้เล็กๆสีทองหม่นๆในมือตั้วเฮีย จี้รูปมังกรที่มีลายบนตัวสลับซับซ้อน.. ที่ฐานมังกรมีลายม้วนเหมือนแทรกผ่านออกมาจากก้อนเมฆ..



..มังกรฟ้า..







"เก็บไว้ให้ดี"


ผมเบิกตาโต อ้าปากค้าง..


ชิงหลง.. มังกรฟ้า..
เป็นสร้อยประจำตระกูล.. สัญลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวที่แสดงถึงพลังอันยิ่งใหญ่และความเข้มข้นของสายเลือดมังกร..



ผมรู้จักมันดี มันเป็นสร้อยประจำตัวของตั้วเฮียมาตั้งแต่ก่อนที่เขาจะรับสืบทอดตำแหน่งผู้นำแห่งนึ่งออด้วยซ้ำ..
สร้อยที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น..


"ผมรับไว้ไม่ได้หรอก"

ผมรีบพูด ..ไม่เข้าใจ.. ทำไมถึงอยากให้ของสำคัญขนาดนี้กับเด็กแปลกหน้าที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน..



มีบางอย่างแปลกไป..



แปลกไปมากๆ..



"ทำไม"

ผมถาม ไม่ยอมรับสิ่งที่อยู่ในมือตั้วเฮียมาง่ายๆ..




"ทำไมต้องเป็นผม?"



"..."



"ทำไมถึงได้ยึดติดกับผมนัก"





"เก็บมันไว้.. วาโย นี้คือคำขอร้องจากตั้วเฮีย"

ชายวัยกลางคนร่างสูงพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะนำมันใส่มือผมอย่างแผ่วเบา



ไม่เข้าใจ ..

ไม่เข้าใจเลยสักนิด..


และผมรู้ดีว่าผมจะไม่มีวันได้รับคำอธิบายใดๆจากเขา..



..ไม่ต่างกับเมื่อวันวาน..


..................................




"ลูกพี่วาาาาาา เอาไงดีกับไอ้เด็กม.1ที่มาโหวกเหวกท้าตีกับเราดีครับบ!!"

ลูกสมุน..เอ๊ยย เพื่อนร่วมรุ่นของผม..ไอ้พจน์ พูดรายงานสถานการณ์เช้านี้ให้ผมฟัง


"ปล่อยมันไป"

ผมพูดเบาๆ ก่อนจะเอาสมุดการบ้านขึ้นมาวางบนโต๊ะ..



ชิบหายล่ะ!..กูยังไม่ได้ทำ!!!




"ลูกพี่ช่างมีเมตตา!!!"




"มึงไม่ต้องตะโกนทุกคำก็ได้มั้งไอ้พจน์! กูไม่ได้หูหนวก!!!"

ผมตะโกนก่อนจะเหวี่ยงกระเป๋าลงพื้น..


"สัส! แล้วนี้หนังสือโจทย์กูหายไปไหนวะ!! การบ้านเเม่งก็ยังไม่ได้ทำ!!"

ผมโวยวายหาหนังสือโจทย์คณิตศาสตร์..กูเอากลับบ้านด้วยไหมวะ..เอากลับหรือยังวะ?
โอยย กูผ่านชีวิตนักเรียนมาไม่รู้กี่ชาติแล้ว..กูจะไปจำได้ไงว่าต้องเอาอะไรกลับบ้านด้วยในแต่ละวัน!

หนังสือโจทย์เอย หนังสือแบบฝึกหัด.. สมุดจดโน้ต.. สมุดส่งงาน..

แม่งจะเเยกกันทำไมเยอะชิบหายวายป่วง! ไม่รวมกันเป็นเล่มเดียวไปเลยวะ?!!

ลำบากกูต้องมานั่งหาอีก.. ซวยชิบหาย!


"ไอ้พจน์!! มึงเรียนห้องเดียวกับกูเหรอ?!"


"เปล่าครับลูกพี่!!!!"


...ไอ้สัสเอ้ย กูบอกแล้วใช่ไหมอย่าตะโกน! กูไม่ใช่ครูฝึกรด.!!


"แล้วมึงมาทำเหี้ยไรตรงนี้ ไปเรียนสิวะ! ขวางทางชิบหาย!"

ผมโวยวายต่อด้วยความหงุดหงิดใจ..




"วาจ๋าาา~~ เอาการบ้านมาลอกหน่อยดิ~!"

ผมหันขวับเมื่อได้ยินเสียงไอ้ซิม ที่วิ่งสไลด์ตัวเข้ามาในห้อง ก่อนจะมายืนยิ้มแป้นแล้นตรงหน้าผม..


"ลอกเหี้ยไรล่ะ กูยังไม่ได้ทำา!!!"


"ชิบหาย!!"


สรุปว่าชั่วโมงนั้นผมต้องโกหกคุณครูว่าลืมเอาการบ้านมา(มุกเก่าๆ) ซึ่งเสือกใช้ได้ผล เพราะหน้าตาเจ้า
ลูกชายผมมันใสซื่อ ดูคุณหนู ไม่น่าจะทำเรื่องเหี้ยๆได้ลง.. ไม่เหมือนกับไอ้ซิม..




"ทำไมครูเชื่อมึงแต่ไม่เชื่อกูวะ?!!"


"เครดิตมันต่างกันว่ะ ไอ้ซิม!"
ผมพูดก่อนจะตบหลังปลอบใจมันไปสองสามที

แต่สถานการณ์ของผมตอนนี้ค่อนข้างลำบาก..
ผมจะปล่อยให้เจ้าลูกชาย.. ต้องตกอยู่ในฐานะเด็กโง่ซ้ำชั้นไม่ได้!


..ชีวิตผมจะเฮงซวย โง่ชิบหายแค่ไหน.. แต่ชีวิตวาโยต้องไม่เป็นแบบผม..


 ..จะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีนะ..


................................



"ริว.. กูขอร้องล่ะ.. ช่วยสอนกูด้วย!"

ผมพูดก่อนจะก้มหน้ายื่นหนังสือปึกใหญ่ให้กับเด็กหนุ่มผมแดงตรงหน้า..


คนร่างสูงโปร่งเลิกคิ้วมองผม..


"คิดถึงกูขึ้นมาแค่ตอนมีปัญหา?"



..ก..ก็ใช่ไง.. เพื่อนมันก็เอาไว้ช่วยกันตอนนี้นี่หว่า?!!


"ไม่ไปถามคนที่ให้มึงนั่ง Lamborghini ,มารับมาส่งทุกวันนั้นล่ะ"

เด็กหนุ่มตรงหน้าพูดต่อก่อนจะทำเป็นเมินผม..



..โอ้ยยย เด็กหนุ่มวัยรุ่นมันเอาใจยากจริงวุ้ยยย!!



"กูบอกแล้วไงนั่นลุงแถวบ้านกู!"


"ถ้ามึงโกหกไม่เก่งอย่าโกหกเลย กูไม่อยากฟัง"


"งั้นมึงอยากได้ยินอะไรล่ะ? ให้กูบอกว่าตอนนี้กูโดนมาเฟียตามต้อยงี้เหรอ? หรือกูเปลี่ยนงานอดิเรกไปรับจ็อบขายตูดเหรอ?! มันก็ไม่ใช่ความจริงไหม.."

ผมพูดติดตลก แต่สีหน้าเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ตลกด้วย..




"มันเป็นใคร"



"..."

ผมมองหน้าเด็กหนุ่มตรงหน้า .. ไม่รู้จะตอบเขาว่าอย่างไร..

ริวไม่เชื่อเรื่องลุงลวงโลกที่ผมแต่งขึ้น

และผมไม่มีปัญญาไปอธิบายให้เขาฟังเรื่องอื่น..


ความเงียบก่อตัวขึ้นระหว่างเรา..
มันค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเหมือนลูกโป่งที่ถูกสูบลม..


ข้างในตัวผมอึดอัดเหลือเกิน..



เอาอีกแล้ว.. ความรู้สึกทรมานแปลกๆนี้มันอะไรกันนะ..



ทำไมมันถึงเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาที่อยู่กับเจ้าเด็กนี้..




"ง..งั้นไม่เป็นไร"

ผมพูด ก้มหน้า แต่เสียงกลับเบาหวิว..




"ช่างเถอะ"

ร่างสูงพูดก่อนจะคว้าข้อมือผม อีกมือก็ถือหนังสือที่ผมนำมาให้เขาสอนด้วย
เราสองคนเดินผ่านทางเดินเชื่อมระหว่างตึก ตึกแล้วตึกเล่า.. จนกระทั่งมาถึง.. ห้องสมุด..



................................


"จำที่นี้ได้ไหม"

ร่างสูงหันมาถาม .. แววตาของเขามีประกายความหวังบางอย่าง


ผมส่ายหัว


ประกายในดวงตานั้นหม่นลง


"วาชอบลากมาอ่านหนังสือ"
เขาพูดก่อนจะมองหน้าผมอย่างจับผิด ผมเม้มปาก แสร้งมองไปทางอื่น


เขายักไหล่ ก็จะบอกให้ผมนั่งลง แล้วกางหนังสือแบบเรียนคณิตศาสตร์เล่มหนาขึ้น...


..................................



"วา.. ตรงนี้มันต้องใช้สูตรนี้.."

เด็กหนุ่มวัยรุ่นพูดก่อนจะใช้ยางลบลบวิธีทำผิดๆของผมออก

"เฮ้อ ทำไมถึงได้โง่อย่างนี้ว้ากู"

ผมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ..
ที่นี้คือนรกด้านการศึกษาชัดๆ!!

"มึงเหนื่อยป้ะริว พอก่อนก็ได้นะ"
ผมพูดก่อนจะเงยหน้ามองเพดานด้วยความอนาถใจในสมองทึมทึบของตัวเอง แต่เด็กหนุ่มวัยรุ่นข้างๆกลับส่ายหัว

"กูไม่เป็นไรหรอก เมื่อก่อนมึงยังยอมเสียเวลาสอนกูตั้งนาน กูโง่กว่านี้เยอะ มึงก็ยังอดทนกับกูอยู่ได้ นิสัยก็เหี้ย เอาแต่ใจตัวเอง ก็มีแต่มึงที่ยังอยู่ข้างๆกู "
เด็กหนุ่มวัยรุ่นพูดก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตาเหม่อมองผ่านตัวผมไป ...ไปยังสถานที่ของวันวาน



"ริว...เมื่อก่อนกูเป็นคนยังไงเหรอ"


อยากรู้... อยากรู้จักเขา

อยากรู้จักเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงคนเดียวคนนี้..



ใครสักคน... คนสุดท้ายที่ผมจะปกป้องไว้ได้


"ขี้แย อ่อนแอ บอบบาง หน้าตุ้ด"




"ไอ้สัสริว"



"แต่ใจดีเหี้ยๆ"

เด็กหนุ่มผมแดงพูดต่อ..ไม่ใช่น้ำเสียงล้อเล่น..ทว่าเศร้าลึกซึ้ง..



"วา.. กูรู้มึงจำได้.. อย่าทำแบบนี้..


ได้โปรดกลับมาเถอะ.."



ประโยคหลังนี้เด็กหนุ่มพูดด้วยเสียงแผ่วเบา..ราวกับจะรู้ว่าต่อให้เสียงดังกว่านี้ก็ส่งไปไม่ถึง..


ผมยิ้ม

ยิ้มให้เขา..ด้วยรอยยิ้มซื่อบริสุทธิ์ของเจ้าลูกชาย..
ทว่าดวงตาที่มองไปยังเด็กหนุ่มตรงหน้านั้นลึกล้ำเฉกเช่นคนที่ผ่านทั้งชีวิตและความตายมา..
ความรู้สึกอึดอัดแน่นที่หน้าอกราวกับจะปะทุออกมา



หายใจไม่ออก..อีกครั้ง


ผมเจ็บ..
ผมกลัว..


แม่.. ยาย..
ช่วยผมด้วย..


ผู้ชายคนนี้เป็นใคร...


ทรมาน..

เหงา..

ไม่อยากออกไป..

ไม่เอาอีกแล้ว..


ช่วยผมด้วย..

ช่วยผมด้วย..

ช่วยผมด้วย..





ในตอนที่ผมหยุด และได้ยินเสียงในตัวเองนั้นเอง..
ช่วงเวลาทรมานเมื่อมีเด็กหนุ่มผมเเดงจ้องมองมาด้วยแววตาเศร้าลึกล้ำ..


ความรู้สึกโหวงๆในอก..


ผมรู้แล้ว..
ว่าวาโยผู้โดดเดี่ยวหายไปที่ไหน






ผมรู้แล้ว..
ว่าความว่างปล่าวซ่อนเขาไว้ได้อย่างไร..






หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-08-2018 14:35:10
 :a5: อิหยังวะ  :o12: ฮือ สงสารวา สรุปริวคือยังไงกันแน่

แถมตั๋วเฮียเรื่องสร้อยอีกอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 23-08-2018 09:55:14
5555555555555555555 คือ ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเลย แถมปมเพิ่มมาอีกต่างหาก  :sad4:
รู้แต่ว่า #ทีมริว ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 23-08-2018 22:36:23
มาต่อแล้ววววว
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 24-08-2018 00:25:30
เฮือกกกกกกกก  :ling1:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 24-08-2018 17:49:09
มาต่ออีกนะ มันค้างคา ขอบคุณที่กลับมาค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-08-2018 21:06:24
หายไปเฉยเลย
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 29-08-2018 14:34:56
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-09-2018 23:01:23
ก็ว่าอยู่ทำไมเนื้อหาคุ้นๆ คือเราอ่านตอนเดิมซ้ำ.....

ผู้แต่งหายไปไหนคะ รออยู่นะคะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: MinorMa ที่ 06-10-2018 20:26:02
รอตอนต่อไปอยู่น้าา
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 18-11-2018 02:38:55
กลับมาเถอะนะคะ ติดมากๆ ได้โปรดดเ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Stmmltww ที่ 20-11-2018 22:42:50
ยังติดตามอยู่ค่า :hao5:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-12-2018 00:58:15
คิดถึงตาเล้งค่าาา แง้
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Fridayzeno ที่ 20-07-2019 22:44:56
แงงงง รออยู่นะคะชอบมากเลย เดาเรื่องไม่ออกแล้ว555 ซับซ้อนเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: janehsih ที่ 20-07-2019 23:53:15
หรือวิญญาณวาโยก็อยู่ในนั้นมาตลอด หรืออยู่กับริว?

สนุกมากเลยค่ะ ชอบมากทุกเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Kitsune1st ที่ 21-07-2019 10:59:47
อ่านแล้วชอบมากกก :hao6:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 21-07-2019 13:48:25
กลับมาได้หรือเปล่า? กลับมาหาฉัน...ทีได้ไหม คนดี   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: lalilali ที่ 21-07-2019 16:41:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 21-07-2019 16:57:56


ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยย!!)




"ก..กูขอตัวกลับก่อนนะ"

ผมรีบพูดขึ้นก่อนที่จะรู้สึกทรมานไปมากกว่านี้..
ผมลุกขึ้นก่อนจะออกกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกจากห้องสมุดไป โดยที่ไม่รอคำตอบจากริว..



..ผมรู้แล้วว่าวาโยอยู่ที่ไหน..



..................................



 
ผมยืนมองตัวเองในกระจกห้องน้ำในบ้าน..



ยืนมองร่างกายบอบบาง มือเล็กนุ่มนิ่ม และใบหน้าที่ละม้ายคล้ายตัวเองตอนหนุ่มแต่อ่อนหวานกว่า..
ดวงตากลมโตกว่า ริมฝีปากบางสวยกว่า..

หวานละมุนนี้คงได้แม่มา...





“วาโย..พ่อรู้ว่าลูกอยู่ในนี้..”

ผมพูดขณะที่จ้องมองดวงตาสีดำสนิทในกระจก...ดำสนิทเหมือนท้องฟ้ายามราตรี


ที่ผ่านมา..
ลูกชายของผมซ่อนตัวอยู่ในนี้นี่เอง..


วิญญาณดวงน้อยๆที่เปราะบางของเขา..

ซ่อนตัวอยู่ในตัวของเขาเอง..

ในส่วนลึกที่สุดของเขา..


วิญญาณดวงน้อยๆนั้นหลีกหนีความจริงที่เจ็บปวด...
หลีกหนีความทรมานและความโดดเดี่ยว...


เขาไม่ยอมออกมา..



นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมยมบาลจึงหาวิญญาณเขาไม่พบ..
และเป็นเหตุผลว่าทำไม..ผมถึงรู้สึกเจ็บปวด..ทรมาน ว่างเปล่า และอึดอัด เมื่อเจอกับสถานการณ์บางอย่าง...หรือคนบางคนที่มีความทรงจำร่วมกันกับเขา...


มันเป็นความรู้สึกเจ็บปวดของเขานั้นเอง...


“พ่อรู้ว่าลูกเจ็บปวด...โศกเศร้า...ลูกคงอยากซ่อนตัวให้ไกลจากทุกสิ่ง..และคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีค่าอะไร..
พ่อไม่อยากจะบอกลูกว่า ชีวิตมันมีค่ามากมาย ให้รักตัวเองมากๆ หรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะ..
พูดไปก็อายเปล่าๆเพราะพ่อก็ไม่เคยทำได้เลย..ทั้งชีวิตของพ่อพิสูจน์เรื่องนั้นแล้ว...”

ผมมองเข้าไปในแววตาของเด็กหนุ่มที่อยู่ในกระจก...
พยายามมองหาตัวตนของเขาในนั้น


ชั่ววินาทีหนึ่งนั้น...แววตาของเขาสั่นไหว


“ใช้ชีวิตต่อไปเถอะลูก พ่อไม่รู้หรอกว่าชีวิตต่อไปจะสนุกสนาน โศกเศร้า สมหวัง หรือผิดหวัง
มันอาจจะไม่ได้ดีนักหรอก..แต่มีแค่คนที่มีชีวิตอยู่เท่านั้นถึงจะรู้ได้..”


ผมหลับตา


มีเพียงความเงียบงัน ว่างเปล่า.. ที่แสนอึดอัดอยู่รอบๆตัว..

ผมเอาแต่บอกให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป บอกว่าคนอื่นๆรักเขามากเพียงใด
แต่มันเหมือนไปไม่ถึงเขาสักที.. เหมือนไม่เคยถึงเลย..

เหมือนว่าผมลืมบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญ

..บางอย่างที่ผมไม่ยอมพูดออกไป



ในฐานะพ่อคนหนึ่ง..
ในฐานะผู้ชายที่ใช้ชีวิตเหลวเเหลก เห็นแก่ตัว..

ไม่เคยหันหลังกลับมาเลยสักครั้ง

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีลูกชายตัวเล็กๆอยู่

ช่วงเวลาสิบกว่าปีของเด็กที่ควรจะมีพ่อคอยโอยอุ้ม คอยปกป้อง คอยคุ้มกัน
คอยเป็นหลักให้เขาตอนที่ร้องไห้

ผมควรจะอยู่ตรงนั้นตอนที่เขาเข้าโรงเรียนครั้งเเรก
ผมควรจะอยู่ตรงนั้นตอนที่เริ่มสังเกตว่าลูกชายมีบาดแผลจากการโดนเพื่อนแกล้ง
ผมควรจะอยู่ตรงนั้นตอนที่เขาอ่อนแอด้านการเล่นกีฬาจนโดนคนอื่นๆล้อ
ผมควรจะอยู่ตรงนั้นตอนที่เขาโดนไอ้เด็กต่างโรงเรียนนั้นทำร้าย
ผมควรจะอยู่ตรงนั้นตอนที่เขาตกหลุมรักเด็กวัยรุ่นเอาแต่ใจที่เป็นผู้ชาย
ผมควรจะอยู่ตรงนั้นตอนที่เขาสับสนว่าการรักใครมันผิดหรือไม่
ผมควรจะอยู่ตรงนั้นตอนที่เขาถูกใช้เป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ของอาจารย์ที่รู้รสนิยมทางเพศของเขา


ผมควรจะอยู่ตรงนั้น


ผมควรจะอยู่ตรงนั้น




“วาโย..พ่อขอโทษ”


เหนือจากทั้งหมดทั้งมวล
ไม่ว่าจะปรัชญามีชีวิตบ้าบอ
ไม่ว่าจะคุณค่าของการดำรงอยู่
ไม่ว่าจะความรักของใครต่อใคร

ไม่มีอะไรที่ผมสมควรพูดมากไปกว่าคำนี้



คำว่าขอโทษ



.................................


หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
ผมรู้สึกเหมือนถูกกระชากออกจากรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง..

รู้ตัวอีกทีผมก็มายืนอยู่ข้างหลัง

ลูกชายที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเอาเป็นเอาตาย..
ลูกชายที่ตอนนี้ผมทำไม่ได้แม้แต่จะกอดด้วยซ้ำ

ผมมองเห็นแม่ยายวิ่งเข้ามาเพราะเสียงสะอื้นร้องไห้
ผมมองเห็นหล่อนกอดหลานที่เลี้ยงดูมาเหมือนลูกแท้ๆ

และนี้คือบทสุดท้ายที่ผมจะมีส่วนร่วม..

ผมมองภาพนั้นเป็นภาพสุดท้าย ก่อนจะเดินหันหลังออกจากบ้านไป..


.................................
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 21-07-2019 17:05:48


สวัสดีค่ะ! เอนี่เองนะคะ!(โค้ง)
ห่างหายกันไปนานเลยย คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า ?

ในที่สุดปมปริศนาที่ว่าหนูวาโยไปอยู่ที่ไหนก็เฉลยแล้วนะคะ!
เเละคงใช้อธิบายความรู้สึกเศร้าแปลกๆตั้งแต่แรกๆได้ดี(ยิ้มม)
ผู้เขียนนั้นรอลุ้นอยู่ว่าจะมีใครทายถูกไหมหนอ :-[

ปมปริศนาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ใครสั่งฆ่าตาเล้ง สร้อยที่หนูวาได้รับคืออะไร
ผู้เขียนได้ซ่อนเฉลยบางส่วนไว้ในแต่ละบทแล้วนะคะ :o8:

การเขียนเรื่องเป็นงานอดิเรกของผู้เขียนยามว่าง
และยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกท่านสนุกสนานกันค่า

 :bye2:
Anynomous

หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: แมว ที่ 21-07-2019 20:14:12
ลุ้นมากว่าตอนจบจะจบอย่างไร :hao5:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: nizxx ที่ 22-07-2019 02:52:40
อะ เอ่อ คุณไรท์บอกว่าซ่อนปมเฉลยไว้หมดแล้วคืองงมาก หาไม่เจอ ขอกลับไปอ่านใหม่อีกรอบก่อนนะคะเผื่อจะเข้าใจยิ่งขึ้น //หรือจริงๆตั่วเฮียรู้ว่าจริงๆในร่างของหนูวามีอีกคนซ่อนอยู่เพราะการกระทำที่คล้ายๆกันของอิเฮียเล้ง//ริวเองก็มีใจให้หนูวาใช่ไหม//แล้วอีเฮียเล้งไปไหนอะคะ กลับมาก่อนนนน //เราอ่านแล้วเศร้าตามแปลกๆ คนนึงยังไม่อยากตายแต่ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงตามที่ใจต้องการเลยคิดว่าช่วงเวลานึงถ้าตายก็ควรค่า แต่อีกคนนึงชีวิตเหมือนมีแค่แก้วบางๆเป็นเปลือกที่ห่อหุ้มความรู้สึกเอาไว้ เป็นแค่เด็กคนนึง แค่เป็นคนลักษณะแบบนี้ก็เลยไม่มีใครปกป้อง จ้องแต่จะทำร้ายกัน จนวันนึงที่ไม่ไหว ไม่อยากใช้ชีวิตต่อไปแล้ว มันเศร้านะคะ แค่หายใจยังไม่อยากทำเลย TT สงสารน้อง อยากดึงน้องมากอด ร้องออกมาเลยลูก ชีวิตก็เป็นแบบนี้ไม่มีอะไรเป็นดั่งใจ ไม่ไหวก็แค่ร้องออกมา ฮวือ (เราเคยอ่านเรื่องเมื่อผมสบตากับปีศาจนานมากๆแล้วน่ะค่ะ ไม่เคยคอมเม้นเลย ปกติจะไปรีทวิตเอา เพิ่งมาเจอเรื่องสั้นเซทนี้เมื่อวาน ชอบมากกก ชอบทุกเรื่องเลย คือเราไม่รู้จะใช้แท็กอะไรหวีด เลย# เรื่องสั้นเงากระจกไว้ คือคอมเม้นยาวมากเลย ขอโทษด้วยนะคะ แต่ชอบงานเขียของคุณไรท์มากๆ ไว้จะพยายามติดตามคอมเม้นให้มันทุกเรื่องเลยนะคะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันให้อ่านกันนะคะ)
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 6 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: Anynomous ที่ 22-07-2019 17:28:40

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆนะคะ
ไม่ว่าจะเเสดงตัวหรือไม่แสดง
คอมเม้นต์ในนี้หรือในTwitter ผู้เขียนได้ตามอ่านหมดแล้วค่ะ(งืออ อดตื่นเต้นตามไม่ได้!)
รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสนุกสนานและชวนให้ขบคิดนะคะ

สำหรับ Hashtag นั้น
จะใช้เป็น #เรื่องเล่าเงากระจก และ #Anynomous ก็ได้ค่า ^_^

ขอบคุณอีกครั้งจากใจจริงค่ะ!
(โค้ง)
Anynomous
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 22-07-2019 22:08:14
เศร้า..แต่หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น  :hao5: :hao5: :hao5:
ปล. ขอวันที่อัพ ห้อยท้ายด้วยได้ไหมจ๊ะ พลาดไปตอนนึง ตอนนี้ทันแล้ว  :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : เก้าอี้ไม้สีน้ำตาล)
เริ่มหัวข้อโดย: NormalVee ที่ 23-07-2019 00:33:27
อย่างน้อยเราพยายามยื้อเขาที่สุดแล้ว อยู่กับคนที่เรารักจนวันสุดท้าย :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน : ชีวิตสิงโตและเสือดาวในแอฟริกา(2))
เริ่มหัวข้อโดย: NormalVee ที่ 23-07-2019 02:45:22
เป็นคู่ที่บันเทิ๊งงงงงงง กองเชียร์ก็บันเทิงงงงง
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: NormalVee ที่ 23-07-2019 03:01:59
ตั่วเฮียรักพ่อ ริวรักลูกใช่มั้ยคะ แล้วอย่างนี้ ตั่วเฮียกับคุณพ่อจะกลับมาเจอกันยังไงนะ หรือที่ตั่วเฮียให้สร้อยวาเพราะรู้ตัวว่าจะตายรึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 30-07-2019 02:55:30
เราก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 30-07-2019 19:32:39
คงคู่พ่อคู่ลูกแล้วแหละ แต่คู่พ่อนี่จะเจอกันอีกได้ยังไง  การให้สร้อยดูเป็นลางร้ายเบาๆ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: janehsih ที่ 01-08-2019 11:19:05
ปมเรื่องพ่อนี่เดาไม่ถูกเลยค่ะ  o22

เอาเป็นว่ารอนักเขียนเฉลย 555555
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 04-08-2019 04:05:54
ตั้วเฮียจะตายรึเปล่า แง้
ไปคู่กันอีกภพไรงี้ ฮือออ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Nnnnn1412 ที่ 05-08-2019 00:37:56
รอมาต่ออยู่นะค้าา
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: janehsih ที่ 07-08-2019 00:13:50
แวะมาคิดถึง  :z10:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 15-08-2019 22:13:30
คิดถึงมากๆค่ะ :hao5:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 16-08-2019 12:32:07
ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ งื้อเรื่องน้องวาโยกำลังเข้มข้นเลย รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: totorobabii ที่ 28-09-2019 14:09:37
เข้ามารอตอนใหม่อยู่นะคะะ :mew6:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 01-10-2019 23:13:17
มารอตอนต่อไปค่ะ อ่านวนไปสองรอบแต่บางปมทางเรายังหาเฉลยไม่เจอเลยค่ะแง้ 555
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: zzcors ที่ 29-03-2020 00:18:24
รอมาตีออยู่นะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไป
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: เกี๊ยวกงจื่อ ที่ 29-04-2020 13:36:02
เนื้อเรื่องน่าติดตาม แต่ละตอนปมน่าสนใจมาก

แต่! อย่าพึ่งทิ้งกันไปนะครับ  :o12:
หัวข้อ: Re: [ชุดเรื่องสั้น] ✈️ เรื่องเล่าเงากระจก (ตอน 7 : ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มมอปลาย(ว้อยยย!!))[21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Chanik ที่ 23-11-2020 09:27:06
เรายังอยากรู้ปมเรื่องเฮียกับพ่ออยู่เลยหรือว่านี้มันคือตอนจบแล้ว แงงงง :hao5: