พิมพ์หน้านี้ - Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนพิเศษ Rain Drop] 30.03.20

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Marine.blackqueen ที่ 22-12-2017 21:08:00

หัวข้อ: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนพิเศษ Rain Drop] 30.03.20
เริ่มหัวข้อโดย: Marine.blackqueen ที่ 22-12-2017 21:08:00
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

...




-BlackQueen-
-BQ- รักต้องตาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57651.0)
Just a Kiss  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=62683.0)
One Night คืนหนึ่ง... (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=62265.0)
Into the Dark (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64310.0)
Constellation (星) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64426.0)
Silenced Scream (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65388.0)


หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Marine.blackqueen ที่ 22-12-2017 21:13:01
Rain
เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน
-BlackQueen-



ฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทั้งที่ควรจะผ่านพ้นช่วงเวลาหน้าฝนมาแล้วแท้ๆ ผมสะบัดหัวที่เปียกชุ่มสองสามทีขณะที่เข้ามาหลบฝนหน้าร้านสะดวกซื้อคู่บ้านคู่เมืองอย่างเซเว่น-อีเลฟเว่น



"ตกหนักจนมองไม่เห็นทางเลยเนอะ" อยู่ๆผู้ชายที่ยืนอยู่ก่อนแล้วก็พูดขึ้นมา ผมเหลือบตาไปมองพร้อมกับคำถามในใจ ..มึงเป็นใครวะ เขายิ้มกว้างจนเห็นฟันเกือบทุกซี่แสดงความเป็นมิตรออกมา ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าชุดที่เขาใส่คือชุดนักศึกษาที่เดียวกับผม และมันเปียกปอนไม่ต่างกัน



"อืม ขี่รถต่อไม่ได้เลย" ผมตอบกลับไปอย่างเสียมิได้ ในเมื่ออีกฝ่ายรอคำตอบเหมือนหมารอคำชมขนาดนั้นแล้ว



"น้ำจะท่วมอีกไหมนะ" เขาพึมพำขณะที่ขยับเข้ามาใกล้ผมเพื่อเปิดทางให้คนอื่นได้เข้าร่มมาหลบฝนด้วย



ผมเดินออกมาจากเซเว่นพร้อมกับถุงอาหารประทังชีวิตถุงใหญ่ แล้วก็บังเอิญเจอไอ้หน้ายิ้มคนนั้นอีกครั้ง วันนี้เขาใส่ชุดลำลองเป็นเสื้อยืดสีกรมกับกางเกงขาสั้นสไตล์เด็กหอกำลังป้อนไส้กรอกให้กับเจ้าถิ่นอย่างพี่หมาที่ชื่อสิงโต



"ซื้อเยอะจัง" เขาทัก ผมเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ปกติคงแปลได้ว่า 'เสือกจัง'



"เพื่อนฝากซื้อด้วยน่ะ" แล้วผมก็ต้องตอบคำถามนั้นอย่างเสียมิได้อีกแล้ว เมื่ออีกฝ่ายจ้องมองอย่างรอคอย



"อ่อ ทำไมยังใส่ชุดนักศึกษาล่ะ มีเรียนวันนี้ด้วยเหรอ" เป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะถอนหายใจแรงๆแล้วบอกว่า 'เสือกจังวะ' แต่ไอ้หน้าซื่อๆกับยิ้มโง่ๆนั่นก็ทำให้ผมยอมตอบอย่างผู้ได้รับการอบรมมารยาทมา



"ยังไม่ได้กลับห้องตั้งแต่เมื่อวาน"



"โห เหนื่อยแย่เลยดิ พักบ้างนะ" พอพูดจบพร้อมกับพี่สิงโตงาบไส้กรอกคำสุดท้ายหมดไป เขาก็ลุกเดินไปที่ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ฟีโน่ของเขาแล้วหันมายิ้มให้ผม "แล้วเจอกัน ไปล่ะ"



หลังจากวันนั้นมาพวกเราก็จะบังเอิญเจอกันที่เดิมนี้อยู่บ่อยๆ บทสนทนาเริ่มยาวขึ้น รู้จักกันมากขึ้น สนิทสนมกันมากขึ้น จนกระทั่งมันพัฒนาไปไกลมากกว่าแค่คนรู้จักกันหน้าเซเว่น



เราตกลงคบหากันหลังที่เจอกันในวันฝนตกนั้นสองปี ในช่วงแรกๆผมก็ยังไม่แน่ใจเพราะไม่เคยชอบผู้ชายด้วยกันมาก่อน แต่เวลาและรอยยิ้มของเขาช่วยให้ผมตัดสินใจได้ เรากลายเป็นคู่รักวัยรุ่นทั่วๆไป เขาย้ายออกจากหอในมาอยู่กับผม มีทะเลาะกันบ้างแต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ผ่านเรื่องดีร้ายไปด้วยกัน ค่อยๆโตไปด้วยกัน



"เอาอันนี้ด้วยดิ" เขาคว้ากล่องถุงยางมาวางรวมกับของกินที่ผมมักจะซื้อไปตุนไว้บนเคาน์เตอร์จ่ายเงิน พนักงานมองหน้าเราด้วยสีหน้าที่ออกจะเหยียดหยัน ผมพยายามไม่ใส่ใจเหมือนกับที่ผ่านๆมา จริงๆผมควรจะชินได้แล้ว แต่ในใจลึกๆผมก็ยังรู้สึกแย่ แย่จนอยากจะกระชากพนักงานนั่นมาต่อยให้คว่ำ



"มองกันขนาดนี้เลยเหรอครับ" กลายเป็นเขาที่พูดออกไป และมันทำให้ผมประหลาดใจมากจริงๆที่คนเรียบง่ายอย่างเขาไปหาเรื่องใครก่อน



"นี่มันปีไหนแล้วครับพี่ โลกเปิดกว้างแล้ว พี่ก็น่าจะเปิดหูเปิดตาตามชาวบ้านเขาบ้างนะครับ" ถ้อยคำเจ็บแสบที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากผู้ชายคนนี้ดาเมจแรงมากถึงขนาดที่พนักงานหน้าเจื่อนไปอย่างเห็นได้ชัด เขาหันหน้ามามองผมแล้วยิ้มร่าอย่างเจ้าตัวชอบทำเสมอ "เย็นนี้ไปดูหนังกันนะที่รัก"



บางทีอาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มเจิดจ้าของเขา หรืออาจจะเพราะความกล้าที่จะแสดงจุดยืนของตัวเองโดยไม่สนสายตาใคร หรืออาจจะเพราะเป็นนิสัยแปลกประหลาดนั่น ผมจึงกล้าที่จะตอบรับออกไปด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกัน



"ไปสิ"



พวกเราเดินผ่านช่วงเวลาต่อจากนั้นมาอีกสองปีเต็ม ผมเหลือเวลาเรียนอีกหนึ่งปี ในขณะที่เขาจบการศึกษาและเข้าสู่ช่วงวัยของการทำงานแล้ว เรายังอยู่ด้วยกัน อาจจะไกลจากที่ทำงานเขาอยู่บ้าง แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร



"ที่รัก เอาน้ำอะไร" เขาหันมาถามผมที่กำลังง่วนอยู่กับการเลือกขนมโซเดียมสูง



"อะไรก็ได้" ผมตอบส่งๆไป ผมเดาว่าเขาคงยิ้มแล้วส่ายหัวขณะที่คว้าขวดชาเขียวรสดั้งเดิมที่ผมชอบ



"แก ดูนั่นดิ น่ารักเนอะ"
"ไหนๆ"
"นั่นไง คนใส่สูทกับนักศึกษาอ่ะ"
"เออ น่ารักดี เสี่ยกับเด็กเสี่ยงี้"
"ชู่ว์ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก"



ผมทำเป็นหูทวนลมกับบทสนทนาและเสียงหัวเราะคิกคักน่ารำคาญนั่น ผมไม่ชอบเลยจริงๆกับการตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น ทั้งที่ผมกับเขาก็แค่คู่รักคู่หนึ่งท่ามกลางประชากรหลายล้านคู่บนโลกใบนี้ ผมเห็นพวกสาวๆที่กรี๊ดกร๊าดคู่รักเกย์กันมาบ้าง และบางคู่เขาก็ชอบ แต่ไม่ใช่กับผม ผมไม่ชอบ ผมอยากมีความรักที่เรียบง่ายและเป็นส่วนตัว



"อย่าคิดมากนะ" เขาบอกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้ผมสงบลงเช่นเคย



"แล้วคืนนี้นอนไหน" ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ในขณะที่จ่ายเงินไปด้วย



"คอนโดรุ่นพี่ที่ทำงานน่ะ ไม่ต้องหึงนะ ไม่นอกใจหรอก" ผมสามารถเดาสีหน้าของอีกฝ่ายได้ทันที รอยยิ้มเล็กๆกับดวงตาที่หยีลงเล็กน้อย



"ใครจะไปหึง แล้วกลับเมื่อไหร่" ผมรู้สึกเขินแต่ก็อายเกินกว่าจะยอมรับ เลยได้แต่เฉไฉไปเรื่องอื่น



"พรุ่งนี้เช้าแหละมั้ง นี่กินไรยัง"



"กำลังซื้อเซเว่นเนี่ย"



"เซเว่นอีกแล้วเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่ำๆไปกินร้านนั้นกันไหม"



"ร้านไหน"



"ร้านที่เคยไปกินด้วยกันตอนนั้นไง"



"อ่อ ก็ได้" เราเงียบกันไปพักหนึ่งก่อนผมจะรู้สึกตัวว่าควรวางสาย "งั้นก็แค่นี้นะ รีบกลับมาล่ะ"



ผมตัดสายไปแล้ว แต่แก้มกลับร้อนฉ่า ผมรีบขึ้นคร่อมสกู๊ปปี้ไอของตัวเองแล้วบึ่งกลับหอทันที



"พรุ่งนี้ต้องไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดนะ" เขาบอกตอนที่ยืนรอผมสูบบุหรี่อยู่ข้างเซเว่นเดิมนั้น



"อ่า พรุ่งนี้ก็คงนอนสตูเหมือนเดิมอ่ะ งานเดือด" ผมทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้



"อย่าทิ้งลงพื้นสิ" เขาดุไม่จริงจังนักแล้วก้มลงไปเก็บก้นกรองที่ผมขยี้จนแบนติดพื้นไปทิ้งลงถังขยะ



"กลับกันเถอะ" ผมยื่นมือออกไปพร้อมกับใบหน้าแดงซ่าน ถึงจะคบกันมาหลายปี ทำนู่นทำนี่กันมาหมดแล้ว แต่ผมก็ยังเขินอายเวลาที่จะทำอะไรกุ๊กกิ๊กแบบคู่รักอยู่ดี



"ป่ะ กลับกัน" เขายื่นมือมากุมประสานกับผมแล้วเราก็ออกเดินกลับบ้านของเราด้วยกัน



ผมเดินอย่างเลื่อนลอยมองหากาแฟกระป๋องกับเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อทำให้ตัวเองตาสว่าง
'ของพวกนี้กินบ่อยๆไม่ดีนะ เอานี่ไปด้วย'



พอมาถึงโซนอาหารแช่แข็ง ก็เลือกเอาข้าวผัดกะเพรา อาหารสิ้นคิดของสิ้นคิดอีกที
'วางไว้นั่นเลย เดี๋ยวพาไปกินร้าน'



ขนมขบเคี้ยวที่ผมมักจะขนไปตุนไว้เหมือนกลัวน้ำท่วมดูไม่น่ากินอีกต่อไป
'รสนี้ออกใหม่นะ ลองยัง'



ผมเดินไปหยิบผงซักฟอกถุงใหญ่ แล้วก็เปลี่ยนใจไปหยิบถุงเล็กแทน
'ของยี่ห้อนี้ซักเสื้อขาวดีกว่า เอาถุงใหญ่ไปเลยเนอะ จะได้ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ'



ผมวางทุกอย่างลงบนเคาน์เตอร์ พนักงานวันนี้เป็นพี่ผู้หญิงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เธอยิ้มให้ผม และผมพยายามยิ้มตอบ



'ที่รัก ถุงยางหมดแล้ว เอาเป็นอันนี้เนอะ'
'เอาลูกอมเพิ่มด้วย'
'ซื้อทิชชู่ไปเผื่อด้วย ในงานมันร้อนนะ'
'ไส้กรอกถุงนี้ของพี่สิงโต ส่วนอันนี้ของเรา'
'ข้างนอกฝนตกอีกแล้ว'



เรื่องราวมากมายไหลย้อนเข้ามาในหัวผม ทุกที่มีแต่เงาของเขาเต็มไปหมด ผมไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้อีกต่อไป น้ำตาผมรื้นออกมาจากหางตา พี่พนักงานตกใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เธอคงเข้าใจดีว่าเพราะอะไร



ก็ในเมื่อวันนี้...มันเหลือแค่ผมคนเดียว


..END..
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 22-12-2017 21:32:52
อ่าว..ววววววววววว  :sad3: :sad3: :sad3: ว่าแต่เค้าจากเป็น หรือจาก... :confuse: :confuse: :confuse:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: a.amyw ที่ 24-12-2017 00:04:05
ห้ะะะะ พระเอกตายหรอ ห้ะะห้ะห้ะะะะ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-12-2017 09:10:42
จะจบแบบนี้ไม่ได้น้าาาาาาา มันค้างงงงงงงงง :ling2:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 24-12-2017 09:45:51
ว่าแล้วเชียว  :z3:  บวกเป็ดโล้ด

กำลังหวาน แล้วหักจบแบบเศร้า  :m15:

ช้ำในแพพ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 24-12-2017 09:53:08
ท้ายๆเรื่องพอจะเดาตอนจบได้ แต่ก็เศร้าเนอะ
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: baibuabuaz ที่ 25-12-2017 18:44:32
อ้าวววววว เศร้าเฉย :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 30-12-2017 23:26:47
เอ้า งี้เลยเหรอออ น้ำตาาาา
จากไปนี่คือเลิกกันหรือเขาไม่อยู่แล้ว...
แต่จะแบบไหนก็ปวดใจจจจ
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 05-01-2018 19:19:17
แซดเอนไปอีก แงงงงง แต่เราชอบจังเลย อินมากกก
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rainy_bl ที่ 05-01-2018 19:29:10
 :katai1: :katai1: ตะไมออกมาแบบนี้ง่าา แต่ชอบมากอินไปกับตัวอักษร หวังว่าจะมาเลยนะคะ แงงงงง
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 05-01-2018 19:46:01
อ้าว คนพี่ไปไหนล่ะ????  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 06-01-2018 08:57:22
อ่าววววววว ฮืออออ
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 07-01-2018 03:09:18
 :a5:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-02-2018 21:50:21
 :a5:  หลอกเราด้วยความอ่อนโยน
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: lalun ที่ 25-02-2018 22:31:04
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 25-02-2018 23:00:14
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Wanwann ที่ 25-02-2018 23:20:00
ทำไม ทำกับเราแบบนี้ :o12:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Meercorn ที่ 25-02-2018 23:51:14
ห้ะ!! จบแล้วหรอ..  :a5:
คือเปิดเรื่องมารักกันก็พอเดาได้นะว่าจะจบยังไง แต่ เอ๊ะ ยังไงไม่ทันตั้งตัวเลย555555 แต่แอบสงสัยว่าจากเป็นหรือจากตายอ่า แต่นี้คิดว่าอีกคนไปมีคนอื่นถูกม้ะ เดาเอาจากไปนอนห้องคนอื่น วอนเฉลยทีมันค้าง :hao5:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: earthhhs ที่ 26-02-2018 01:11:52
อ่านตอนแรกนึกว่าพระเอกตาย แต่พอผ่านไปสักพักกลับมาอ่านอีกที เอ๊ะใจว่าไปนอนห้องคนอื่นเลยคิดว่ามีคนอื่นแน่เลย อยากให้มีตอนพิเศษมาเฉลยจังค้างคาใจสุดๆ :ling1: :ling1: :z3:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: NaunaeZaa ที่ 26-02-2018 10:57:38
อ่านจบแล้วสตั้นไปซัก 10 วิ o22 o22 o22
เอ่ออ...ไม่รู้จะพิมไรดีแหะ55555 รู้สึกแบบบบ...ว่างเปล่ามาก55555
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: dino94 ที่ 26-02-2018 15:10:17
อ่า
เอ่ออ ฆ่ากันตายด้วยสามบรรทัด ฮื่อ :mew6:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 27-02-2018 18:29:41
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 28-02-2018 08:10:45
สารภาพว่าอ่านเพลินมาก จนสะดุดตอตอนจบนี่ปหละ แบบ :a5: เฮ้ยๆๆๆๆๆๆ เหี้ยมไรวะะะ กลับขึ้นไปอ่านอีกที โอยยยย อะไร ยังไง หัวใจชั้นนนน  :z3:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 28-02-2018 09:44:27
รู้มาก่อนว่าเรื่องนี้ดราม่า อ่านๆไปก็ระแวงไปพอเริ่มปล่อยใจอินไปกับความรักของทั้งสองคนได้ไม่นานก็จบ
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 02-03-2018 00:38:05
เป็นงงๆติดสตั้นนนน แงงงง :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: NINNILL ที่ 02-03-2018 21:40:19
 :z3: :z3: :z3:   END so sadd :sad4:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 01-10-2018 08:45:32
 o13
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 02-10-2018 23:40:08
จากเป็นรึจากตาย แต่ถ้าจากตายยังเจ็บน้อยกว่าจากเป็นอีกนะ สู้ๆนะหนู :pig4:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zuunkung ที่ 16-03-2019 14:09:19
 :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Fufufeel ที่ 16-03-2019 19:48:14
หน่วงดีแท้เลยค่ะ ฮือออออออ :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Fufufeel ที่ 13-08-2019 12:47:40
จากแบบไหนก็เศร้าอยู่ดี แงงงงงงงงง :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Rain Drop..เรื่องราวมันจบลงไปกลางฝน [ตอนพิเศษ]
เริ่มหัวข้อโดย: Marine.blackqueen ที่ 30-03-2020 04:14:42
Rain Drop
เรื่องราวมันจบลงไปกลางฝน
-BlackQueen-



          วันนั้น ย้อนไปตอนที่ผมอยู่ปีหนึ่ง ผมเป็นเด็กติดบ้านมาก การออกมาอยู่หอจึงเป็นสิ่งแปลกใหม่ขั้นสุด ผมไม่ชินกับการอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เวลาว่างผมจึงใช้มันไปกับการขี่รถวนในรั้วมหา'ลัย แอบไปงีบใต้ต้นไม้บ้าง ข้างสระน้ำตามสวนหย่อมบ้าง แล้วก่อนจะกลับหอ ผมจะแวะซื้อของกินที่เซเว่นเป็นประจำ



          กิจวัตรประจำวันของผมก็วนลูปอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งวันที่ฝนเทลงมาอย่างไม่มีเค้าลางเตือนล่วงหน้าใดๆ ผมจอดรถแล้วเดินเข้าไปหลบใต้หลังคา ตัวเปียกโชกไปหมด



          อากาศที่ปลอดโปร่งถูกแทนที่ด้วยม่านฝนเม็ดใหญ่ที่ตกกระแทกพื้น ละอองน้ำกระจายไปทั่ว ผมสูดหายใจเฮือกใหญ่ กลิ่นไอดินกับความชื้นที่น่าโหยหา ถึงแม้ว่าที่กลางเมืองแห่งนี้กลิ่นจะจางมากก็ตาม มันก็ยังทำให้ผมรู้สึกดีอยู่ดี... ผมชอบฝน



          ไม่นานคนก็หนาตาขึ้นบนพื้นที่เล็กๆ นี้ ทุกคนต่างมาหลบฝน ทุกคนดูหงุดหงิดและเหลือบมองเวลาจากนาฬิกาและมือถือกันแทบทุกนาที มันดูน่าอึดอัดเหลือเกินสำหรับผม



          จนกระทั่งเขาเดินเขามา ความแตกต่างที่น่าสนใจ เขาใส่ชุดนักศึกษาแบบเดียวกับผม เขาสะบัดผมเปียกชุ่มแล้วเสยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก เขายืนสงบนิ่งมองน้ำที่ไหลลงจากหลังคาเป็นสายลงสู่ถนน



          "ตกหนักจนมองไม่เห็นทางเลยเนอะ" ผมทักออกไป ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมแค่อยากจะคุยกับเขาเท่านั้นเอง



          "อืม ขี่รถต่อไม่ได้เลย" เขาชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะตอบเรียบๆ



          "น้ำจะท่วมอีกไหมนะ" ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ




          ผมบังเอิญเจอเขาอีกครั้งในสถานที่เดิม ผมกำลังป้อนไส้กรอกให้หมาพันธุ์โกลเด้นผสมที่ชื่อพี่สิงโตอยู่ ผมให้พี่แกประจำจนสนิทกันแล้วครับ ทุกวันนี้เดินผ่านเฉยๆ ไม่ได้เลย ถูกเขี่ยขาตลอด



          “ซื้อเยอะจัง” ผมทักคนที่หิ้วของเต็มสองมือ เขาเลิกคิ้วขึ้นงงๆ คงจำผมไม่ได้ล่ะมั้ง



          “เพื่อนฝากซื้อด้วยน่ะ” แต่เขาก็ยอมตอบผมนะ



          “อ่อ ทำไมยังใส่ชุดนักศึกษาล่ะ มีเรียนวันนี้ด้วยเหรอ” ผมไม่ได้ถามเพราะเขายังใส่ชุดนักศึกษายับย่นอยู่บนตัวทั้งที่เป็นวันหยุดหรอก ผมรู้ว่าหลายๆ คนต้องเข้าไปทำงานในมหา’ลัย แต่เป็นเพราะผมไม่รู้จะชวนเขาคุยอะไรต่างหาก



          "ยังไม่ได้กลับห้องตั้งแต่เมื่อวาน" เขาทำหน้าตึงแต่ก็ยอมตอบด้วยเสียงราบเรียบอีกแล้ว ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่เริ่มรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา



          “โห เหนื่อยแย่เลยดิ พักบ้างนะ” ผมบอกเขา ก่อนจะรีบชิ่งหนีขึ้นฟีโน่สีฟ้าของตัวเองแล้วบึ่งกลับหอทันที



          ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกอยากคุยกับเขานัก อยากรู้จักเหรอ หรืออยากเป็นเพื่อนด้วย แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็คงตื่นเต้นที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่มากไปหน่อย ก็ไอ้ก้อนเนื้อในอกมันดันเต้นตุบตับแรงขึ้นมากว่าปกตินี่น่า




          ผมเจอเขาที่เดิมอีกแล้ว หน้าเซเว่น แต่วันนี้เขาใส่ชุดสบายๆ เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มและรองเท้าแตะ เขาดูเหมือนเพิ่งตื่นนอนเลย แต่ในถุงพลาสติกสีขุ่นกลับมีเครื่องดื่มชูกำลังอยู่ตั้งครึ่งโหล ผมเผลอคิดเล่นๆ ว่าต้องโด๊ปไปกี่ขวดหัวใจเขาถึงจะเต้นแรงเท่ากับผมตอนนี้กันนะ



          “สิงโตล่ะ” คราวนี้เขาเป็นคนเริ่มพูดก่อน ไม่อยากเชื่อเลย แต่ก็รู้สึกดีเป็นบ้า



          “วันนี้คงกลับบ้านมั้ง” ผมตอบ มองซ้ายขวาเผื่อว่าจะเห็นเงาเจ้าสี่ขาสีปอนตัวนั้น เผื่อว่าจะได้มีเรื่องให้คุยกับเขามากกว่านี้หน่อย



          “มันมีบ้านด้วยเหรอ” เป็นเขาที่ต่อบทสนทนา ลักกี้เป็นบ้า



          “มีสิ ร้านขายไก่ทอดตรงโน้น” ผมชี้ไปทางหัวมุมซอยที่ถัดจากร้านค้าสะดวกซื้อที่เราอยู่ไปสองคูหา ร้านไม่ได้อยู่ตรงหัวมุมครับ ต้องเลยไปอีกนิดหน่อย



          “เหรอ นึกว่าหมาจร” เขาพูดเบาๆ ไม่ได้ดูสนใจอะไรมากมาย ผมไม่อยากให้มันจบตรงนี้เลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อเขาตรงดิ่งไปสตาร์ทเครื่องรถมอเตอร์ไซต์สกู๊ปปี้ไอของเขาแล้วบิดผ่านไปโดยไม่มีการบอกลาสักคำ




          เรายังบังเอิญเจอกันที่เดิมบ่อยๆ พูดคุยกันจากเล็กๆ น้อยๆ ก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น ผมกับเขากลายเป็นคนรู้จัก กลายเป็นเพื่อน แล้วก็กลายเป็นแฟนกันตอนที่เรากำลังขึ้นปีสาม ผมเป็นฝ่ายบอกว่าชอบออกไป แต่เขากลับเป็นคนให้สถานะที่ชัดเจนระหว่างเรา



          “งั้นจะคบกันไหม” หลังจากที่ผมบอกว่าชอบเขาไปหนึ่งอาทิตย์ นี่คือสิ่งที่เขาถามกลับมา



          “อะไรนะ”



          “คบกันไหม” ผมไม่เชื่อหูตัวเองเลยสักนิด แบบมันค่อนข้างจะน่าตกใจอยู่ ผมดีใจนะ แต่มันประหลาดใจมากกว่า ผมชอบเขา แต่เขาไม่เคยบอกว่าเขาคิดกับผมแบบไหน พอผมถามไป เขาก็ตอบกลับมาแค่..



          “ไม่รู้ว่าชอบรึเปล่า แต่ไม่ได้เกลียด ตอนอยู่ด้วยกันมันก็..ไม่แย่”



          “แน่ใจแล้วเหรอ” ผมถามย้ำ กุมมือเขาไว้ตั้งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขาครุ่นคิดซ้ำอีกรอบ ก่อนจะมองสบตาผมอย่างจริงจัง ถึงคำตอบของเขาจะแผ่วเบา แต่มันก็ชัดเจนในความคลุมเครืออยู่เหมือนกัน



          “ไม่แน่ใจ แต่อยากลองดู”

          ถ้าเขาไม่ชอบผมเลยสักนิด เขาจะกล้าเสี่ยงลองทั้งที่ไม่แน่ใจงั้นเหรอครับ




          “บุหรี่ด้วยเหรอ” ผมถามเสียงอ่อน เมื่อเห็นซองลายน่ากลัววางปนกับของอย่างอื่นบนเคาน์เตอร์จ่ายเงิน เขาสูบบุหรี่ สูบมาสักพักแล้วครับ ตั้งแต่ก่อนที่เราจะตกลงคบหากัน แต่ตอนนั้นยังไม่ติด ส่วนตอนนี้ผมกลับได้กลิ่นติดตัวเขาอยู่ตลอดเลย



          “อืม หมดพอดี” เขาตอบแค่นั้น ผมได้แต่พยักหน้ารับไปตามนั้น ผมไม่มีความตั้งใจที่จะบังคับให้เขาเลิกสูบหรอกนะ แค่เป็นห่วงสุขภาพของเขาเท่านั้นเอง



          ผมมองเขาพ่นควันสีเทาออกมา ส่วนผมนั่งดมกลิ่นเหม็นไหม้เฝื่อนๆ อยู่ข้างๆ บนระเบียงเล็กๆ ของห้องเช่าของเขา ซึ่งตอนนี้ต้องเรียกว่าของเรา



          เขานั่งยองลงมาให้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน คีบมวนบุหรี่มาแนบริมฝีปาก สูบเอานิโคติดเผาไหม้ก้อนใหญ่เข้าไป



          ชั่วขณะหนึ่งผมคิดว่าเขาจะโน้มตัวมาจูบผม แต่เปล่า เขาพ่นควันมือสองนั้นใส่หน้าจนผมสำลักไอออกมา แล้วเขาก็หัวเราะ เขี้ยวของเขาโชว์ให้เห็นเวลาที่เจ้าตัวอ้าปาก และผมชอบมันมากเกินกว่าจะติดใจเอาความ




          สองปีหลังจากที่เราอยู่ในสถานะแฟนของกันและกัน ผมก็เรียนจบก่อน เพราะคณะผมเรียนสี่ปี ส่วนเขาเรียนห้า เรายังคงอยู่ด้วยกันที่หอใกล้มหา’ลัยที่เดิม มันไกลจากที่ทำงานผมนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไร ผมอยากอยู่กับเขา ค่อยไว้ไปหาที่ใหม่กันตอนเขาทำงานแล้วเอา



          “ได้นอนบ้างรึยัง” ผมตื่นมาตอนเช้ามืดเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน เห็นเขาซดกาแฟกระป๋องแล้วโยนทิ้งไม่ตรงถังเลยเดินเข้าไปเก็บทิ้งดีๆ ให้



          “หื่อ” เขาครางตอบในคอ ผมเดินไปโอบเขาจากด้านหลัง วางคางเกยไหล่มองเลยไปถึงมือที่กำลังแปะชิ้นส่วนเข้าไปยังโมเดลรูปร่างแปลกตาตรงหน้า นึกอยากปิดตาแล้วลากเขาไปนอนบนเตียง กอดเอาไว้ไม่ให้ลุกไปทำอะไรต่อได้อีก แต่ผมก็ทำได้แค่นึกในใจ



          ผมกดจมูกกับปากลงแนบลาดไหล่ที่เปลือยเปล่าของเขาทีหนึ่งก่อนจะเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแปรงฟัน ออกมาอีกทีในชุดทำงาน



          เขาหันมายิ้มอ่อนแรงให้ผมก่อนที่จะออกจากห้อง ผมยิ้มตอบ อยากให้เขาไปนอนเสียเดี๋ยวนั้นเลยจริงๆ ให้ตายสิ




          ผมกอดเขาเอาไว้เพราะพรุ่งนี้ผมต้องออกเดินทางแต่เช้าไปทำงานที่ต่างจังหวัดสามวันสองคืน ในขณะที่เขาเองก็บอกว่าจะไปค้างที่สตูฯของคณะเพื่อปั่นธีสิสจบของเขากับเพื่อนๆ ที่ร่วมชะตากรรมเดียวกัน



          “จะกลับมาตอนไหน” เขาถาม ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นก่อนจะตอบ



          “วันศุกร์”



          “ตอนไหนล่ะ”



          “น่าจะถึงบ่ายๆ” ผมฝังจมูกลงบนคอของเขา สูดกลิ่นที่ทำให้ใจสงบได้มากกว่ากลิ่นฝนเข้าปอดแรงๆ



          “อืม” เขาตอบกลับมาเพียงเท่านั้น ผมเลยหยอดกลับไปนิดหน่อย



          “คิดถึงล่ะสิ”



          “ก็...” เขาเว้นช่วงไปเพื่อหลิกตัวกลับมาหาผม ยกแขนขึ้นพาดเอวกอดผมกลับ “นิดนึง”



          “แต่นี่คิดถึงมากเลยนะ” เขาหัวเราะเมื่อผมพูดอย่างนั้น ผมเลยหัวเราะตาม



          “เว่อร์”



          “พูดจริงนะ”



          “รู้” หลังจากนั้นเขาก็จูบผม จูบอ่อนโยนที่อ้อยอิ่งกินเวลาและวาบวามจนรู้สึกเหมือนจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น

          แต่ถ้าผมต้องตายด้วยจูบของเขา ผมก็ยินดีนะ




          ผมมาถึงที่หมายในตอนหัวค่ำกับรุ่นพี่ที่ทำงานที่ค่อนข้างสนิทกันถึงขั้นเคยไปค้างด้วยตอนที่ทำโอทีจนดึกดื่น ห้องที่ถูกจองไว้เป็นห้องเตียงแฝดห้องเดียว ผมเลยหลบออกมาที่ระเบียงเล็กๆ ที่มองเห็นทะเลไกลๆ เพื่อคุยโทรศัพท์



          “ถึงแล้วเหรอ” ปลายสายถามมาทันทีที่รับโทรศัพท์



          “อื้อ ห้องที่พักมองเห็นทะเลด้วย แต่ไกลมากเลย” ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ มาตามสาย



          “ก็ไปทำงานไม่ได้ไปเล่นน้ำ” ผมยิ้ม และอยู่ๆ ก็คิดอะไรขึ้นมาได้



          “ไว้คราวหน้ามาด้วยกันนะ มาพักผ่อน” ผมคิดขึ้นมาได้ว่าผมกับเขายังไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนไกลๆ ด้วยกันเลย



          “สองคนเหรอ” ผมรู้สึกได้ว่าเขากำลังยิ้มอยู่แม้จะไม่เห็นหน้า



          “สองคนสิ”



          “อืม ขอคิดดูก่อนนะ”



          “อย่าคิดนานล่ะ”



          “ไม่นานหรอก” ผมหัวเราะ กำลังจะพูดแต่เขาพูดต่อเสียก่อน “รอได้รึเปล่า”



          ผมพรูลมหายใจยาวๆ ออกมา รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูกเวลาที่เขาพูดอะไรแบบนี้ อาจจะเพราะปกติเขาไม่พูดล่ะมั้ง



          “ได้อยู่แล้ว นานแค่ไหนก็รอ” ผมบอกไปตามที่คิดจริงๆ




          คืนสุดท้ายของการทำงานที่ต่างจังหวัด ผมใกล้จะได้กลับไปหาเขาแล้ว ผมเลยอารมณ์ดีสุดๆ พี่ที่มาด้วยกันก็เหมือนกัน เขาขับรถไปพลางผิวปากไปด้วย ถึงแม้ว่าฟ้าข้างนอกมันจะไม่เป็นใจเลยก็ตาม



          “อารมณ์ดีเชียวนะ” คนขับรถที่อารมณ์ดีไม่ต่างกันหันมาแซวผมยิ้มๆ



          “พี่ก็ด้วยแหละ” ผมตอบ รู้สึกว่าต้องเปล่งเสียงดังกว่าปกติเพื่อแข่งกับเสียงฝนที่ซัดสาดอยู่ข้างนอก



          “แน่นอน จะได้กลับไปนอนเล่นเกมที่ห้องแล้ว” เขาบอก ก่อนจะถาม “มึงล่ะ อารมณ์ดีอะไร”



          “ผมจะได้กลับไปนอนกอดแฟนที่ห้องไง” พี่เขาหัวเราะกับคำตอบผมอย่างชอบใจ ผมเองก็ยิ้มกว้างเต็มหน้า รู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ จนแทบรอวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว



          ผมจำได้ว่าเส้นทางที่เราผ่านมาเมื่อตอนกลางวันนั้นมองเห็นทะเล แต่ตอนนี้มองออกไปกลับเห็นเพียงความมืดมิดที่มีม่านฝนปกคลุมจนเป็นฝ้าขาว พี่เขาชะลอความเร็วลงเพราะวิสัยทัศน์เบื้องหน้าไม่ดีเลยสักนิด ไฟตัดหมอกที่เปิดไว้ยังทะลุมวลน้ำไปได้แค่ไม่กี่เมตร



          “ไม่คิดว่าจะตกหนักขนาดนี้เลยนะเนี่ย” พี่เขาพึมพำ



          “เอาไงดีพี่ จอดข้างทางก่อนมั้ย” ผมเสนอ



          “อืม แต่จอดกลางถนนคงไม่ดี ผ่านตรงนี้ไปกูจำได้ว่ามีไหล่ทางให้จอดได้อยู่” ผมพยักหน้าขณะที่พี่เคลื่อนรถต่อไปด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก แต่ก็ต้องเหยียบคันเร่งเพื่อฝ่าน้ำหนักของฝนที่กระหน่ำลงมา



          รถของพวกผมคลานมาใกล้ถึงที่หมายแล้วครับ เห็นแสงไฟท้ายรถสีแดงเป็นวงเล็กๆ อยู่ข้างทางเป็นสัญญาณว่ามีรถคันอื่นจอดอยู่ก่อนแล้ว พี่ที่ขับรถอยู่ตีไฟเลี้ยวเตรียมหักพวกมาลัยเข้าจอดตาม แต่อยู่ๆ ภาพตรงหน้ามันก็สว่างวาบขึ้นมา



          ทุกอย่างเหมือนเป็นภาพสโลว์ ผมเห็นแสงไฟสูงสว่างจ้าจากหน้ารถคันอื่นสาดแยงเข้ามา มันสาดผ่านเม็ดฝนจนเห็นเงาหยดน้ำเล็กๆ กระจายไปทั่ว แล้วหน้ารถอีกคันก็เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะห่างที่ลดลง แล้วผมก็รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่เข้าปะทะ มันแรงมาพอที่ผมจะเด้งไปชนกับคอนโซลด้านหน้าแล้วเข็มขัดนิรภัยก็เหวี่ยงผมกลับไปชนเบาะจนจุกอีกครั้ง



          โลกของผมกำลังหมุน ไม่รู้ว่าหมุนเพราะหัวผมกระแทกหรือรถมันเหวี่ยงอยู่กันแน่ แต่จะทางไหนผมก็ไม่คิดว่ามันสำคัญทั้งนั้นแหละ



          ตอนนี้ในหัวผมมันปรากฏหน้าพ่อกับแม่ขึ้นมาชัดเจนมาก ผมรู้สึกผิดถ้าต้องจากพวกเขาไปก่อน แล้วก็มีอีกใบหน้าหนึ่งโผล่เข้ามาในใจ และความรู้สึกครั้งนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกผิด แต่เป็นความเสียใจต่างหาก



          ผมอยากโทรศัพท์ต่อสายตรงหาเขาในตอนนี้เลย อยากพูดกับเขา อยากบอกกับเขา



          จริงๆ แล้วผมอาจจะอยากไปอยู่ตรงหน้าเขามากกว่า อยากเจอ อยากกอด อยากสัมผัส 



          แรงกระแทกอีกระรอกรุนแรงไม่เท่าครั้งก่อน แต่ผมรู้สึกได้ว่าเรากำลังไถลไปตามถนนเปียกลื่นอย่างไร้แรงต้าน ในหูผมอื้ออึงไปหมด มันได้ยินแต่เสียงของฝน



          ผมชอบเสียงฝนเพราะมันทำให้ผมสงบใจได้ แต่ตอนนี้มันตรงกันข้ามเลย



          ใบหน้าของผมชุ่ม และกลิ่นคาวคลุ้งในปากก็บอกผมว่ามันไม่ใช่น้ำ ผมยกมือขึ้นมาปาดมันออกจากหน้าอย่างยากลำบาก มือผมสั่นระริก ผมมองรอบข้างไม่เห็นเพราะความพร่าเลือนจากเลือดที่ไหลเข้าตา



          ในตอนนั้นอยู่ๆ ผมก็คิดถึงตอนที่เขาพ่นควันใส่หน้าขึ้นมา มันเป็นควันบางเบาแต่ก็ทำผมแสบตาไปหมด ภาพตรงหน้าพร่าเลือน แต่สัมผัสร้อนผ่าวบนริมฝีปากกลับชัดเจน



          ผมน่าจะขอให้เขาเลิกบุหรี่ตั้งแต่ตอนนั้น ผมเริ่มคิดอะไรบ้าๆ ออกมาแล้ว แต่ผมน่าจะทำแบบนั้นจริงๆ เพราะผมกลัวว่าถ้าวันนึงในอนาคตที่ไกลกว่านี้เขาจะล้มป่วยลง แล้วไม่มีผมคอยดูแล



          แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมคงกำลังจะเป็นบ้า ที่อีกใจกลับคิดว่าดีแล้วที่ไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะถ้าหากว่าเขาเลิกไปแล้ว แต่กลับมาสูบอีกครั้งเพราะผมแล้วล่ะก็ มันคงเจ็บปวดกว่าเดิมหลายเท่าเลย



          แรงกระแทกอีกครั้ง เราหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมีแรงกดทับจากรถอีกคันที่ไหลมาด้วยกันพุ่งเข้าใส่ซ้ำ หูผมกลับมาได้ยินเสียงแล้ว มันเป็นเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดของเหล็กที่ถูกบิดจนฉีกขาด แล้วผมก็รู้สึกเหมือนกำลังลอยคว้าง



          หูของผมกลับไปอื้ออึงอีกครั้ง ดวงตาพร่าเลือนนั้นเห็นเพียงความมืดที่มีแสงสลัวสาดแทงเข้ามา



          แต่ผมกลับได้ยินชัดเจน และเห็นภาพได้แจ่มแจ้ง



          ผมเห็นเขา ในชุดนักศึกษาเปียกแฉะ กำลังหลบฝนอยู่ท่ามกลางผู้คน แต่ผมก็มองเห็นเขาเพียงคนเดียว



          ภาพมันซ้อนทับกับครั้งแรกที่เราพบกัน แต่ต่างกันตรงที่ผมยืนอยู่เคียงข้างเขา มือเราประสานกันแน่น ผมเห็นแววตาที่หันมาสบ รอยยิ้มร้ายกาจตรงมุมปากที่ยกขึ้นนิดๆ กับเสียงราบเรียบเอ่ยถาม



          ‘รอได้รึเปล่า’



          ได้ ได้อยู่แล้ว ผมตอบในใจ



          แต่ก็รู้ว่าจริงๆ แล้วผมทำไม่ได้หรอก





          อา.. ผมอยากบอกเขาว่าผมรักเขา

          รักมากจริงๆ





...END...



สวัสดีค่ะ สองปีกว่าๆ จากที่เขียนเรื่อง Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน ไป ภาษาสำนวนก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมากเลย ไม่รู้ว่าจะยังคงให้บรรยากาศแบบเดิมได้รึเปล่านะคะ
แต่ Rain Drop..เรื่องราวมันจบลงไปกลางฝน เรื่องนี้ก็เป็นพล็อตที่รีนคิดเอาไว้ตั้งแต่ตอนนู้นแล้วล่ะค่ะ แต่เพิ่งมาเขียนเอาตอนนี้ แง้
ยังมีคนตามหรือคิดถึงเรื่องนี้อยู่บ้างรึเปล่ารีนก็ไม่รู้นะคะ แต่ก็รู้สึกว่าอยากจะเติมมันออกมาให้เต็มสักทีเนอะ ถึงจะใช้เวลาเนิ่นนานเหลือเกินก็ตาม ยังไงก็หวังว่าตอนนี้จะช่วยไขข้อข้องใจของทุกคนได้นะคะ

ขอบคุณที่เดินมาด้วยกันจนถึงวันนี้ค่ะ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดของรีนเลยก็ว่าได้

แล้วก็ขอขายของนิดนึงเนอะ ตอนนี้รีนกำลังเขียนเรื่องยาวอยู่ด้วยนามปากกาใหม่ February Sea อยู่ค่ะ
เป็นดราม่าเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเดินเรื่องยาวๆ เกือบ 20 ปี ยังไงก็แวะไปให้กำลังใจกันได้นะคะ ที่ Ashtray ขี้เถ้ากับการเผาไหม้ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71663.0)

และสำหรับเรื่องนี้ก็ขอขอบคุณอีกครั้งจากใจค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-03-2020 22:23:32
อ่าว..ววววววววววว  :sad3: :sad3: :sad3: ว่าแต่เค้าจากเป็น หรือจาก... :confuse: :confuse: :confuse:

ได้คำตอบแล้ว... :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Rain..เรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเพราะฝน [ตอนพิเศษ Rain Drop] 30.03.20
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae123 ที่ 14-04-2020 23:36:49
อ่านแรกๆ ดีจังเลยอ่ะ
พบกันคืนฝนตก ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์
แต่พออ่านจบน้ำตาไหลเลยจ้าา  :o12: