พิมพ์หน้านี้ - [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แจ้งข่าว P.3 || [14.7.19]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: phoenixes ที่ 01-12-2017 22:04:57

หัวข้อ: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แจ้งข่าว P.3 || [14.7.19]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 01-12-2017 22:04:57
อ้างถึง

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด


2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด



3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง



16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************


หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 01-12-2017 22:06:59
สารบัญ





★  บทนำ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64145.msg3746366#msg3746366)
★  ตอนที่ 1  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64145.msg3752067#msg3752067)
★  ตอนที่ 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64145.msg3771701#msg3771701)
★  ตอนที่ 3  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64145.msg3783890#msg3783890)
★  ตอนที่ 4  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64145.msg3800489#msg3800489)
★  ตอนที่ 5  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64145.msg3956862#msg3956862)






★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★

หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 01-12-2017 22:07:54
แรงดึงดูด



บทนำ





   “พี่ปั้นหวัดดีค่ะ”




   “เฮียปั้นมาๆ”




   “ปั้นมาเช้าจังเลย”




   “น้องปั้นไปกินข้าวกับพี่มั้ยจ๊ะ”




   “ไอ้สัดปั้นทางนี้ๆ”





คนบางคนก็เกิดมาพร้อมกับความพิเศษบางอย่างที่ดึงดูดผู้คนให้เข้าหา ห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนพี่น้อง ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนร้องเรียกชื่อ เอ่ยทักทาย สาวๆก็ส่งสายตาทอดสะพานให้ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยยันหลังมหาวิทยาลัย เดินไปคณะไหนก็มีแต่คนรู้จัก บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าลงสมัครพรรคการเมืองคงได้รับเลือกเป็นส.ส. เพราะฐานเสียงล้นหลาม





ส่วนคนบางคนก็เปรียบเสมือนจุดเล็กๆบนโลกที่ถึงแม้นั่งเพ่งก็ยังไม่มีใครมองเห็น ราวกับอากาศธาตุ ไร้ตัวตน จะอยู่หรือจะไปก็ไม่มีใครสนใจ ชีวิตเรียบง่าย จนไม่คิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะมีแรงดึงดูดให้ผู้คนหันมาสนใจและวิ่งเข้าหา ชีวิตที่เรียบง่ายต้องวุ่นวายเพราะคนๆเดียว





ไม่ว่าจะเป็นเพราะความเมา ความคึกคะนอง อยากรู้อยากลองหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ขอไปที่นั่น ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคนๆนั้น








----------------------------------------


มาเปิดเรื่องใหม่ไว้รอค่า แฮ่
ฝากไว้ในอ้อมใจอีกเรื่องนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-12-2017 23:00:51
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 01-12-2017 23:07:36
 :-[
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 02-12-2017 01:18:25
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 02-12-2017 10:19:38
 :hao6: :hao6: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 02-12-2017 10:54:39
 :mc4:รอติดตามนะคะ
เห็นบอกในเฟสว่าอาจจะไม่แต่งพาย ใจนึงก็เสียดายนะแต่อีกใจก็แอบดีใจเล็กๆว่าไม่ต้องร้องไห้สงสาร^^
และถ้าแต่งพายป้าคงจะไม่ได้เข้ามาอ่านให้กำลังใจบ่อยๆเป็นคนชอบอ่านดราม่าแบบจบแล้วอ่าค่ะ
แต่ก็อยากเห็นเส้นทางความรักของพายนะ ยังไงถ้ามีเวลาว่างพอจะแต่งป้าก็รอจะอ่านอยู่ตลอดน้า
ขอบคุณค่ะ :กอด1:


หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 02-12-2017 11:55:43
รอนะคะ

เห็นว่าคุณ zero แต่งเลยตามมา

ชอบรักไม่ได้ออกแบบมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : บทนำ P.1 || [1.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 02-12-2017 14:49:34
เข้ามารอ :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 11-12-2017 22:14:12
แรงดึงดูด  by zero





- 1 -




“แกๆ พี่ปั้นมาๆ”



“อ๊าย แกกก หล่ออะ หล่อมากๆเลย”



“โอ๊ย พ่อของลูก แกๆ หน้าฉันเป็นไง ผมโอเคยัง”



“แก๊ มากันครบกลุ่มเลย อาหารตามากๆ”




เสียงของสาวๆรอบตัวผมดังลามจากอีกโต๊ะไปสู่อีกโต๊ะหนึ่งอย่างรวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่ง เพียงแค่มนุษย์ผู้ชาย สูงยาวเข่าดีกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในโรงอาหารของคณะ โรงอาหารเล็กๆ ที่พอเพียงเลี้ยงปากเลี้ยงท้องชาวเราเศรษฐศาสตร์ รสชาติก็ธรรมดาแต่เมื่อเวลาหิวก็อร่อยดีเหมือนกัน คนส่วนมากที่กินอาหารที่นี่ก็เพราะไม่อยากเสียเวลาเดินไปโรงอาหารกลางหรือโรงอาหารคณะใกล้เคียงอย่างวิศวะที่มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ซึ่งสาวๆส่วนใหญ่ก็มักจะหอบสังขารพากันไปอย่างมีจุดประสงค์ แต่ส่วนพวกเด็กมีเงินทั้งหลายก็จะพากันขับรถกันออกไปหาอะไรกินกันตามห้างที่อยู่ไม่ไกลหรือร้านอาหารติดแอร์หน้ามหาวิทยาลัยมากกว่า โดยเฉพาะรุ่นพี่กลุ่มนี้ แต่วันนี้แปลกกลับแวะเวียนมาที่นี่ได้



“เฮียแม่งฮอตไม่เปลี่ยน ของเขาดีจริงๆ”



“อือ”ผมตอบรับอย่างเนือยๆ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นไปกับสาวๆรอบตัว หรือเหมือนกับไอ้ภีมที่มองไอดอลในดวงใจจนเหลียวหลัง เพราะตอนนี้ผมกำลังทำบัญชีรายรับรายจ่ายของตัวอยู่ ทำเป็นประจำทุกวันไม่เคยขาดมาหลายปี




“เฮ้ย! มึงนี่หัดสนใจรอบข้างบ้างดิว้า วันๆเอาแต่ก้มอยู่กับสมุดบัญชีหนังหมากับหนังสือเรียน”



“เอ้า ก็ของพวกนี้มันดีกับชีวิตกูนี่หว่า”ผมจะสนใจกับสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง การเรียน การทำมาหากินสร้างรายได้ อะไรที่ต้องเสียเงินหรือขัดขวางความก้าวหน้าในอนาคตผมจะไม่ค่อยสนใจ



อันที่จริงแล้วการสร้างคอนเนคชั่นตอนเรียนมหาวิทยาลัยนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่ผมเป็นพวกไม่ชอบใส่หน้ากากเข้าหาใคร ในคณะแห่งนี้แบ่งคนออกเป็นสามประเภทใหญ่ๆ หนึ่งพวกขยันเรียน ไม่ค่อยเข้าสังคมแต่ชอบเข้าหาอาจารย์ เพื่อนคนไหนที่ไม่เอื้อประโยชน์เรื่องการเรียนก็ไม่มาสุงสิงด้วย สงสัยจะกลัวโดนดูดความรู้มั้ง สองพวกชนชั้นสูง ไฮโซทั้งหลายที่มาเรียนที่นี่เพื่อหาคอนเนคชั่น เรียนบ้างเล่นบ้างจบไปก็มีงานที่บ้านรองรับ คนกลุ่มนี้ก็มีเป็นจำนวนไม่น้อยและเหมือนจะมีสิทธิ์มีเสียงมากในคณะ ประเภทสุดท้ายก็คือพวกธรรมดาสามัญชน เรียนกลางๆ บ้านไม่รวย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผมเอง



แน่นอนว่าการเลือกคบคนก็มักจะคบพวกเดียวกัน พวกเรียนเขาก็เอื้อประโยชน์ด้านการเรียน แต่ผมก็รู้สึกว่าเขาก็แข่งกันเอง พวกคนมีเงินก็คบกันเอง ใครที่ไหนจะอยากมาผูกมิตรกับมนุษย์ธรรมดาอย่างผมที่ไม่สามารถเอื้อประโยชน์ใดๆได้เลย แต่โชคดีหน่อยที่เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมหัวเกรียนกางเกงขาสั้นอย่างไอ้ภีมมันเลือกคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครลดตัวลงมาคบกับผมเป็นแน่ ถึงจะไม่ชอบสุงสิงกับใครแต่ก็ใช่ว่าจะชอบอยู่ตัวคนเดียว ผมก็เป็นสัตว์สังคมนะแต่สังคมของผมมันก็ธรรมดาไม่ได้อู้ฟู่หรูหราเหมือนใครๆเขา



แต่ก็มีหลงผิดมาอยู่หนึ่งคนนะ เดินยิ้มหวานมาแต่ไกล



“ภีม คราม หวัดดี”



“หวัดดีตาม”ผมส่งเสียงทักทายพร้อมรอยยิ้ม เห็นตามทีไรรู้สึกเหมือนเห็นแบคกราวด์ด้านหลังเป็นทุ่งดอกไม้บานสะพรั่ง เหมือนฤดูใบไม้ผลิ ไม่ว่าจะเหนื่อยมาจากไหนแค่เห็นหน้าและรอยยิ้มตามก็รู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยา เปรียบเหมือนเทวดาตัวน้อยที่มาอยู่ผิดที่ผิดทาง




   “หวัดดีไอ้กุ้งแห้ง”



   “เมื่อไหร่จะเลิกเรียกเราว่ากุ้งแห้งวะ”



   “ก็ตอนมึงเลิกผอมนั่นแหละ นี่มึงผอมลงอีกแล้วป่ะวะ ปิดเทอมที่บ้านไม่ทำอาหารให้แดกไงวะ”



   “บ้าดิ เราก็กินปกตินะเว้ย ภีมมั่วแล้ว”ถึงจะพูดวะพูดเว้ย ตามประสาผู้ชาย แต่ตามก็ไม่เคยพูดคำหยาบไปกว่านี้ ไม่พูดกูมึงกับพวกผม แต่ให้พวกผมพูดกับมันได้ อีกทั้งท่าทางมันดูนุ่มนิ่มผมก็ไม่กล้าหยาบคายใส่มันมาก ภาษาพูดของพวกเราเลยปนๆกันหลายระดับ ตอนแรกก็งงๆ แต่อยู่กันไปก็ชินเอง จะมีแต่ไอ้ภีมนี่แหละที่ชอบปล่อยหมาไปกัดขาตามอยู่เรื่อย



   “แต่กูว่ามึงผอมลงจริงๆนะ”ผมออกความเห็น แขนก็เรียวเล็กกว่าเดิม ทั้งที่บ้านมันก็มีอันจะกิน แล้วก็ไปอังกฤษมาตั้งสิบกว่าวันก่อนจะเปิดเทอม อาหารฝรั่งก็รู้ๆอยู่ว่าอัดแน่นไปด้วยเนื้อนมไข่แต่ทำไมไม่เห็นอ้วนขึ้นเลย



ไอ้ตามหรือตามสิทธิ์ มันเป็นลูกคุณหนูแต่ไม่เหมือนลูกคุณหนูมากๆ คือที่บ้านมีฐานะดี แต่ถูกเลี้ยงดูมาแบบติดดิน ผมเคยไปที่บ้านมันหลายครั้ง พ่อแม่มันท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดีและน่ารักมาก ไม่รังเกียจผมที่มาคบกับลูกชายท่าน ซ้ำยังคอยถามว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือได้มั้ยให้บอกมาเลยอย่าเกรงใจ แต่ใครจะไปกล้าบอกละครับว่าผมเดือดร้อนเรื่องเงินขอผมยืมสักสี่ห้าล้านได้มั้ย มีหวังท่านได้หงายหลัง พอลุกขึ้นได้ก็จะมาไล่เตะผมออกไปจากชีวิตลูกชายเขาทันที



“แล้วเมื่อเช้าอาจารย์สั่งงานอะไรมั้ย”เมื่อเช้ามันต้องไปส่งญาติมันกลับอังกฤษเลยไม่ได้มาเรียบคาบเช้าด้วยกัน



“ไม่มี แค่สอนไปหัวข้อเดียวไม่ยากนะ มึงลองอ่านตามชีทดู ไม่เข้าใจถามกูได้”วันนี้เปิดเทอมวันแรกตรงกับวันศุกร์ด้วย อาจารย์เลยยังไม่ใส่อะไรเต็มที่เพราะมาเรียนแค่วันเดียวก็ต้องหยุดอีกแล้ว ผมเลยข้องใจว่าทำไม่เลื่อนเปิดเทอมไปวันจันทร์เลยทีเดียว



“โอเค งั้นเดี๋ยวเราไปซื้ออะไรมากินก่อน หิวจะแย่”



“เออ กูฝากซื้อน้ำด้วยแห้ง”



“จิ๊ ฝากก็เอาเงินมา”



“โหย ออกไปก่อนดิ กูไม่มีเศษ”



“ตลอดเลยอ่ะภีม”



“แหมนิดๆหน่อยๆ แล้วกูก็เลี้ยงข้าวมึงกลับทุกที อย่างกเลยคนสวย”



“ภีม!”



“เออๆ กูไม่แกล้งแล้ว เอาแฟนต้าน้ำแดงนะ”



“อือ”



ผมส่ายหัวระอาไอ้ภีมมันชอบแกล้งตามให้โกรธไม่รู้เป็นอะไร สงสัยเป็นโรคจิตอ่อนๆ



“มึงนี่นะ ชอบแหย่มัน”



“กูมีความสุขอ่ะ”มันยอมรับหน้าชื่นตาบาน



“หึ ชักช้าระวังหมาคาบไปแดก”



“อะไรของมึง ก้มหน้าทำบัญชีไปอย่าวุ่นวือ”



“อย่ามาขอให้กูช่วยทีหลังนะ”



“อะไร๊ ช่วยอะไรไม่มี”



อย่าคิดว่าผมมองไม่ออก ไอ้เพื่อนรักของผมคนนี้มันชอบตาม การกระทำของมันเข้าข่ายที่ว่าเด็กผู้ชายชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบ แต่พึงระวังไว้แกล้งไปแกล้งมาจะได้กินแห้ว ใครที่ไหนบ้างที่จะชอบถูกแกล้ง ถ้ามีละก็แม่งต้องเป็นโรคจิตพอกัน



   ผมเบื่อไอ้เพื่อนปากแข็ง มันไม่บอกผมก็ไม่ง้อ เรื่องของมัน หันมาสนใจยอดเงินคงเหลือในเดือนนี้ดีกว่า เพื่อนหาว่าผมเป็นคนขี้งก ขี้เหนียว เค็มจนเกลือเรียกพี่ แต่ผมก็เป็นแค่คนที่รู้จักใช้เงินเป็นเท่านั้นเอง คนเราจะต้องรู้จักใช้รู้จักเก็บ วันข้างหน้าจะได้ไม่ลำบาก เราไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะต้องเจอกับอะไร การเตรียมความพร้อมด้านการเงินไว้เป็นสิ่งที่สมควรทำที่สุด ผมมีรายได้อยู่สามทาง หนึ่งคือได้จากแม่ทุกเดือน สองเงินที่ได้จากการสอนพิเศษคณิตศาสตร์เด็กม.ปลายในช่วงเย็นในจันทร์ถึงวันพุธ และสามเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษในคืนวันพฤหัสและศุกร์ วันเสาร์ผมจะกลับบ้านไปหาแม่แลพกลับหออาทิตย์เพื่ออ่านหนังสือ



   “พี่ปั้น พี่โดม พี่วอย พี่ชิดหวัดดีค้าบ”



เสียงทักทายของไอ้ภีมทำเอาผมที่กำลังจะจดค่าถ่ายเอกสารเมื่อเช้าต้องหยุดชะงัก เงยหน้ามองกลุ่มคนที่มายืนอยู่ตรงโต๊ะ ผมยกมือขึ้นสวัสดีพี่ปีสามสี่คนที่ยืนกดดันอยู่



“เออหวัดดี”พี่โดมทักทายกลับ ส่วนพี่ๆคนอื่นทำเพียงพยักหน้ารับ



“พวกพี่ๆไม่มีโต๊ะนั่งอ่ะ เราเลยชวนมานั่งด้วย”ไอ้ตามบอก



“เออพวกกูนั่งด้วยได้มั้ย เดี๋ยวมีเรียนจะรีบกินรีบไป”พี่โดมเป็นคนพูด



“ได้ดิพี่ ไม่มีปัญหา นั่งเลยๆ”



“เออขอบใจ”



“มีกันแค่สามคนพวกมึงเสือกนั่งโต๊ะยาวกันนะ”คราวนี้พี่วอยบ่น คือปกติโรงอาหารคณะผมมันไม่เคยเกิดปัญหาโต๊ะเต็ม อย่างที่บอกว่ามีตัวเลือกอื่นอีกเยอะสำหรับเด็กคณะนี้ แต่ที่วันนี้เต็มอาจเป็นเพราะกลุ่มพวกพี่เขามากินที่นี่ก็เป็นได้ ก่อนหน้านี้ยังมีโต๊ะว่างเป็นสิบๆโต๊ะอยู่เลย ก็นะแต่ละคนตัวท็อปทั้งนั้นเหมือนเลือกคบเพื่อนที่หน้าตา ตอนนี้เลยมีแต่คนมองมาที่โต๊ะเหมือนมีบอยแบนด์เกาหลีมาปรากฏตัว



“แหม ก็โต๊ะประจำอ่ะพี่ พวกผมนั่งตลอด กินข้าว อ่านหนังสือ ก็โต๊ะนี้แหละ ไอ้ครามมันชอบ ตรงนี้ใกล้บ่อปลา ต้นไม้เยอะดีด้วย”ใช่ครับ มันเป็นมุมที่ผมชอบ อ่านหนังสืออยู่ เบื่อๆก็มองดูปลาคราฟสีส้ม สีขาวว่ายไปมาจนเกิดความสงสัยว่ามันไม่เวียนหัวเหรอวะ แถมบริเวณนี้ยังงดสูบบุหรี่อีกด้วย สวรรค์ชัดๆ



“ทำไมวะ ใกล้บ่อปลา เวลาหิวเพื่อนมึงจะลงไปจับมาทุบหินแล้วแดกเหรอ”เชี่ย ผมไม่ใช่กอลั่มนะเว้ยไอ้พี่โดม



“เหอะๆ เพื่อนผมไม่ชอบกินปลาอ่ะ มันชอบกินไก่สด เนี่ยลากลงไปกินในบ่อประจำ น้ำในบ่อเน่าต้องโทษมันเลย”



“เชี่ยภีม! กูเพื่อนมึงนะ นี่เพื่อนไง”



“ฮ่าๆ ไอ้เชี่ย กูขำ”พี่โดมหัวเราะลั่นไม่เกรงใจใครเลย ไม่มีการห่วงภาพลักษณ์ คนอื่นๆก็พอกัน เออ เอากันเข้าไปแม่งนั่งหัวเราะกันทั้งโต๊ะเหมือนเมาเนื้อ ขนาดไอ้พี่ปั้นกับพี่ชิดที่เงียบๆยังหลุดหัวเราะอ่ะคิดดู



“มึงกินข้าวแล้วเหรอไอ้ภีม”



“เรียบร้อยแล้วพี่ หิวทนไม่ไหวไอ้ตามมันมาช้า”



ไอ้ภีมมันรู้จักกับพวกพี่กลุ่มนี้ดีเพราะเล่นบาส เตะบอลด้วยกันบ่อยๆมันเป็นน้องรหัสแฟนพี่โดมด้วย แต่นอกเหนือไปจากนั้นพี่ปั้นกับพี่ชิดเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนสมัยมัธยมของเราทั้งคู่ด้วย ไอ้ภีมมันเป็นเด็กกิจกรรมที่ใครๆก็รู้จักมัน เพราะสาระแนกับเขาไปทั่วแตกต่างจากผมที่เป็นเพื่อนสนิทมัน ผมค่อนข้างเก็บตัว (เพื่อนว่ากันแบบนั้น) แต่ความจริงแล้วผมไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นหรือทำกิจกรรมอะไรพวกนั้น เวลาของผมหมดไปกับการช่วยแม่ทำงานที่ร้านและหางานพิเศษทำเพื่อช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายที่บ้าน



“แล้วพี่จินอ่ะ”พี่จินคือพี่รหัสไอ้ภีม



“วันนี้ไม่มา พาแมวไปหาหมอ เชี่ย พูดแล้วอารมณ์เสีย เห็นแมวดีกว่ากู”



“มันก็ถูกแล้วนี่พี่”



“เดี๋ยวกูถีบไปนู่น”



ผมนั่งฟังพวกเขาคุยกันเงียบๆ ทำตัวให้ไร้ตัวตนที่สุด ทุกคนในโต๊ะนี้ยกเว้นผมเป็นเหมือนดวงดาวที่จรัสแสง ส่วนผมเป็นแค่เศษหินเล็กๆในอวกาศ สายตาจากโต๊ะอื่นที่มองมาก็ชื่นชนพวกพี่ๆ และเพื่อนผม



“เห้ย! นั่งเงียบ มึงไม่แดกข้าวไง เลิกทำได้แล้ว เงินมึงไม่งอกออกมาเป็นล้านหรอก”แล้วมันก็หันมาระรานผม บนโต๊ะนี้ไอ้ภีมพูดมากที่สุดแล้ว



“เรื่องของกู”



“เดี๋ยวกูตบปาก”เรื่องของกูเป็นคำต้องห้ามมากๆ สำหรับไอ้ภีม มันบอกว่าไม่มีเรื่องของผมเรื่องไหนที่ไม่ใช่เรื่องของมัน ด้วยความที่เราเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปี เลยทำให้มันรับรู้ปัญหาของผม และที่ผมมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะมีเพื่อนอย่างมันคอยช่วย ครอบครัวของมันด้วย



“มึงสองตัวนี่เหมือนผัวเมีย”พี่โดมออกความเห็น เอาอะไรมามองว่าผมกับไอ้หน้าปลาตีนนี่เป็นผัวเมียกัน



“เห้ย พี่ อย่าคิดแบบนั้น ฟ้าจะผ่าเอา ให้ผมเอามันผมเอาไอ้ส้มเช้งในบ่อยังดีกว่า”



“ส้มเช้ง????”สี่เสียงประสานกัน



“ปลาคราฟในบ่ออ่ะพี่มีตัวนึงสีส้มทั้งตัวชื่อส้มเช้ง ไอ้ครามมันตั้งให้”



“น้องครามครับน้องขาดหรือน้องเกินครับเนี่ย”ไอ้พี่วอยหันมาถามผม สีหน้ามันล้อเลียนมาก ขาดหรือเกินนั่นหมายถึงสติปัญญาผมใช่มั้ย ทำไมวะทีหมาแมวยังตั้งชื่อได้เลย ตั้งชื่อให้ปลาผิดปกติตรงไหน



“พี่อย่าไปว่ามัน เดี๋ยวมันงอน แก้มป่องลอยไปกับลมแล้วจะตามเก็บไม่ทัน”



“ฮ่าๆ”



ไอ้เชี่ยภีมมันขยันขายผมจริงๆ ผมกลายเป็นตัวตลกให้พวกพี่มันหัวเราะแกล้มข้าวมันไก่ไปแล้ว



“นั่นกล่องอะไร”พี่ชิดพูดขึ้นมาครั้งแรกตั้งแต่นั่งร่วมโต๊ะ ยกเว้นตอนข้องใจชื่อส้มเช้งอ่ะนะ



“กล่องข้าวไอ้ครามมันอ่ะ”ผมกำลังจะอ้าปากตอบแต่ไอ้เพื่อนตัวดีก็ชิงตอบก่อน เออ ดี กูไม่มีบทพูดเลย ได้แต่คิดอยู่ในใจเนี่ย



“โหย มีข้าวกล่องมาด้วย โตขนาดนี้ยังพกข้าวกล่องมากินอีกเหรอ น้องครามอยู่ป.สองเหรอครับ”เป็นพี่วอยอีกครั้งที่ทำหน้าตาล้อเลียนผม แต่ครั้งนี้ผมไม่ขำ ไอ้ภีมกำลังจะอ้าปากตอบแทน แต่ผมชิงพูดขึ้นก่อน ตอนนี้ถึงบทผมแล้ว



“ทำไมครับ มีกฏหรือข้อห้ามไหนบอกว่าเด็กมหาลัยห้ามพกข้าวกล่องมากินเหรอครับ”หน้าผมร้อนวูบวาบจากอารมณ์กรุ่นข้างใน



“ก็...เปล่า เห้ย น้องขึ้นทำไม พี่แค่สงสัยอ่ะ”



“มันมีอะไรน่าสงสัยเหรอครับก็แค่ข้าวกล่องอ่ะ!”



“ครามใจเย็นนะ”ตามมันเอามือลูบแขนผมเบาๆ เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองยืนอยู่ ไม่ต้องถามว่าเด่นแค่ไหน แค่พวกพี่ๆมันมานั่งก็เป็นจุดรวมสายตาอยู่แล้ว ผมยังยืนแล้วพูดเสียงดังอีก พอรู้ตัวว่าขาดสติไปชั่วครู่ ผมก็ไม่กล้านั่งร่วมโต๊ะต่อเก็บข้าวของแล้วเดินออกมาเลย ไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนทั้งสองคน ต้องพาตัวเองไปสงบสติอารมณ์ก่อน



ผมเดินมาจนถึงสวนหย่อมข้างคณะเพราะแดดแรงเลยไม่มีคนมานั่งเล่นที่โต๊ะม้าหิน พอหัวเย็นลงก็สำนึกได้ บ้าแท้ๆ ผมทำอะไรลงไป ผมเผลอไปนึกถึงเหตุการณ์แย่ๆในอดีต พอถูกพี่เขาถามแบบนั้นก็เลยของขึ้น มาคิดอีกทีพี่เขาอาจจะไม่ได้มีเจตนาอื่นนอกจากสงสัยอย่างที่บอกจริงๆ




X




“มึงไปไหนมาเนี่ยกูกับแห้งตามหาจนทั่ว”



ผมเดินเข้าห้องมาในคาบบ่าย อาจารย์ยังไม่เข้า พอมีเวลาให้ได้พูดคุยอยู่  หลังจากเดินไปที่สวนหย่อมและนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินข้าว เลยไปหามุมสงบกินข้าวกล่องที่เตรียมมาจากบ้านอย่างสุขใจแต่ไม่สุด ยังคงคิดถึงเรื่องที่ผมเสียมารยาทกับพวกพี่ๆอยู่



“แถวนี้แหละ เออ แล้วพี่เขาว่าอะไรมึงมั้ยตอนกูเดินออกมา”



“ก็ไม่อ่ะ พี่เขาแค่งงว่ามึงเป็นอะไร แต่กูอธิบายไปแล้ว”



“อธิบายว่า?”



“เรื่องของกู”



“ควาย”ผมด่ามัน มันพูดได้ครับคำนี้ แต่ผมห้ามพูด มันบอกว่าแค่ผมคิดเรื่องของตัวเองก็พอแล้ว ไม่ต้องไปเสือกคิดเรื่องของมัน แปลอย่างสวยงามก็คือมันเป็นห่วงผมเพราะผมมีเรื่องให้คิดเยอะแล้วและมันยินดีที่จะแบ่งไปคิดให้ด้วย แต่มันจะไม่ยอมให้ผมไปแบ่งเรื่องของมันมาคิด มันกลัวผมเครียดเกินไป จะหาเพื่อนแสนดีและสารเลวในบางครั้งแบบมันได้จากที่ไหนอีก



“ตาม ไอ้ภีมมันบอกพี่เขาว่าไง”



“ไม่รู้อ่ะ เราเดินตามครามออกมา”



“แต่ขาสั้นไง ตามไปติดๆยังคลาดสายตา”



“จะไม่ว่าเราสักคำได้มั้ยเนี่ยภีม”



“ไม่ได้ มันคือความสุขกู”



“นิสัยไม่ดี”นี่แหละครับ ตามก็ด่าได้แค่นี้ นิสัยไม่ดี นิสัยเสีย บ้า เลว แล้วไอ้คนถูกด่ามันรู้สึกอะไรที่ไหนกัน ยังทำหน้าทำตาล้อ ขยับปากนิสัยไม่ดีๆเหมือนเด็กปัญญาอ่อน



สงครามเล็กๆสงบลงเพราะอาจารย์เข้ามาในห้องและเริ่มสอนทันที ผมตั้งใจฟังตั้งใจจดจนหมดคาบ ตารางสอนพิเศษและงานพิเศษผมจะเริ่มสัปดาห์หน้า วันนี้พอเลิกเรียบผมเลยตรงกลับห้องมีไอ้ภีมขับรถมาส่งผมก่อนที่มันจะขับไปส่งตามที่บ้านเพราะวันนี้ตามไม่ได้เอารถมา ถึงจะชอบแกล้งชอบแหย่แต่มันก็ตามเทคแคร์ตามอย่างกับอะไรดี ถ้าตัดเรื่องกวนประสาทออกไป ผมว่าตามน่าจะมองออกได้สักทีนะว่าไอ้ภีมคิดยังไง



ห้องพักของผมมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ พอให้ผู้ชายคนเดียวอยู่ได้สบาย การเดินทางไปมหาวิทยาลัยก็อยู่ในระยะสะดวกเดิน ปากซอยหาของกินง่ายมีคนพลุกพล่านไม่เปลี่ยว ระบบรักษาความปลอดภัยโอเค ค่าเช่าก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ใจจริงผมจะเช่าที่ถูกกว่านี้แต่แม่กับพี่สาวผมมาดูแล้วบอกไม่โอเค ไม่ปลอดภัย และแม่อยากให้ผมไปอยู่อีกหอหนึ่งด้วยซ้ำเพราะมันใหม่และกว้างกว่า อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีร้านสะดวกซื้ออยู่ใต้หอ แต่ผมเห็นว่ามันแพงเกินไป ผมมีห้องไว้พักอาศัยไม่ได้อวดใครหรือพาใครมาอยู่ด้วย ดังนั้นห้องที่อยู่ปัจจุบันนี้จึงเป็นอะไรที่ลงตัว เป็นการพบกันครึ่งทางระหว่างแม่กับผม



ผมเปิดประตูระเบียงเพื่อออกไปทักทายลูกรัก กระบองเพชร กุหลาบหิน ประมาณสิบต้นเรียงรายอยู่บนชั้นสแตนเลส บางต้นก็กำลังออกดอก เห็นแล้วต้องยิ้มกับความสุขเล็กๆเหล่านี้ ชื่นชมสมอารมณ์หมายแล้วก็เข้าไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวกินมื้อเย็น กับข้าวฝีมือแม่ที่ห่อมาจากบ้าน แต่ยังไม่ทันได้เปิดกล่องเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นเสียก่อน



“ว่าไงวะ”ไอ้ภีมคือคนที่โทรมา



“แต่งตัวเตรียมไว้เลย เดี๋ยวอีกสักชั่วโมงกูเข้าไปรับ”



“หะ รับไปไหน?”เพิ่งแยกกันไม่ถึงชั่วโมงเลย



“แดกเหล้า”



“เชี่ย กูไม่ไป”



“มึงต้องไป งานนี้ฟรีมีคนเลี้ยง อีกอย่างมึงจะไปเที่ยวกับพวกกูได้ก็แค่ช่วงนี้ป่ะวะ เดี๋ยวมึงก็ไม่ว่าง และนี่นานทีปีหนสำหรับมึง  พรุ่งนี้ก็วันหยุดมึงบอกเองว่าเสาร์นี้จะไม่กลับบ้าน ดังนั้นมึงต้องไป”ผมไม่น่าไปบอกมันเลยว่าจะไม่กลับบ้าน แม่เห็นว่าผมเพิ่งมาจากบ้านเมื่อวานเลยบอกว่าให้กลับอาทิตย์หน้าแทน



“มัดมือชกกูว่างั้น ถ้ากูยืนยันว่าไม่ไปอ่ะ”



“...”



“เชี่ย! มึงไม่ต้องเงียบกดดันกูเลย”



“.......................”



“เออ กูไปก็ได้!”ไม่เคยใจแข็งกับมันได้เลยจริงๆ เบื่อตัวเองเหมือนกัน



“เค เจอกันเพื่อนรัก ติ๊ด...”



“ควายเอ๊ย”ผมได้แต่ด่ามันตามหลัง เกิดบ้าอยากจะกินอะไรขึ้นมาตั้งแต่เปิดเทอมวะ แล้วใครที่เลี้ยงผมได้แต่คิดสงสัยแต่ไม่ได้โทรกลับไปถาม ใครเลี้ยงเดี๋ยวก็รู้เอง แต่ผมว่ามันนั่นแหละไม่มีใครหรอก ก็ถือว่าหยวนๆไป อย่างที่มันว่าผมไม่ค่อยได้เที่ยวกลางคืน เพราะมันเปลืองตังค์ไม่ใช่อะไร เหล้าผมก็ดื่มได้แต่ไม่ดื่มดีกว่า ไม่อยากเสียเงินแล้วยังทำลายสุขภาพอีกต่างหาก



ผมกินข้าวเย็นเสร็จก็แต่งตัวรอไอ้ภีมมารับ ก็ชุดง่ายๆตามประสาวัยรุ่น เสื้อยีดกางเกงยีนส์พอดีขา รองเท้าผ้าใบ คู่นี้พี่สาวซื้อให้ ตอนที่ได้รับมาก็อึ้งนิดๆบ่นพี่หน่อยๆว่าแพงซื้อมาทำไม แต่ปากนี่หุบยิ้มไม่ลงเลยจริงๆ ก็ผมชอบและอยากได้มากๆ แต่มาคิดแล้วว่าใส่แล้วมันก็เดินได้เหมือนรองเท้าทั่วไป ไม่ได้ทำให้เดินเร็วขึ้นหรือเหาะได้ผมก็เลยไม่ซื้อ



“โอ๊ย ครามหยุดทำไม เราเจ็บนะ”ผมไม่สนคำประท้องของไอ้ตามที่เดินเอาหน้ามาชนไหล่ผม เพราะสายตามัวแต่จ้องไปที่โต๊ะด้านใน ซึ่งมีคนกำลังกวักมือเรียกไอ้ภีมอยู่



 “เชี่ยภีม ทำไมไม่บอกกูว่าคนที่เลี้ยงเป็นพวกพี่เขาวะ”



“เอ้าก็มึงไม่ถามนี่หว่า”



“แต่มึงควรคิดได้นะ เมื่อกลางวันกูทำอะไรไว้ ยังจะให้กูเสนอหน้ามาแดกฟรีของเขาอีกนะ”



“เอาน่าพี่ๆเขาไม่ได้ติดใจอะไร มึงไม่ต้องคิดมาก”



“ไม่เอากูจะกลับ”



“เชี่ยนี่กูไม่ให้กลับ ถ้ามึงรู้สึกผิดมึงก็แค่ขอโทษพี่เขาป่ะวะ พี่เขาไม่อะไรกับมึงอยู่แล้ว แมนๆคุยกัน”



“แล้วเขาจะมองกูยังไงวะ จะไม่คิดเหรอว่ากูไปขอโทษเขาเพื่อหวังจะกินของฟรี”



“โอ๊ย เชี่ยมึงคิดมากไปละ พี่วอยเขาให้กูชวนมึงด้วยแสดงว่าเขาไม่ได้คิดอะไร ไปๆ พี่เขามองมาแล้ว”มันดันหลังผมมาจนถึงโต๊ะเลยจำต้องไหว้พวกพี่ๆเขา ก่อนจะถูกไอ้เพื่อนชั่วผลักไปนั่งข้างพี่วอยที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวคนเดียว สารเลวจริงๆ



“กว่าจะมาถึงโต๊ะ มึงคุยอะไรกันนักหนาวะ”



“ไอ้ครามมันจะกลับอ่ะดิ อุตส่าห์มาถึงที่มาถึงจะกลับเลย บ้าไปแล้ว”มันเริ่มขายผมอีกแล้ว ไว้หน้ากูก็บ้างก็ได้ นี่เพื่อนไง มึงจำไม่ได้เหรอ



“ทำไมหรือมึงรังเกียจที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับพวกกูวะ”



“เห้ย เปล่าพี่ ผมเกรงใจ ที่มาผมนึกว่าไอ้ภีมมันจะเลี้ยง ไม่คิดว่ามันจะพามากินกับพวกพี่”



“คิดมากไอ้ห่า มึงก็รุ่นน้องกูแดกๆ ไอ้ชิดชงมาให้มันดิ”



ผมรับแก้วมาจากพี่ชิดพร้อมกับคำขอบคุณ ก่อนจะกวาดสายตามองไปทั่วทั้งโต๊ะที่มีสมาชิกอยู่สี่คน พี่จินแฟนพี่โดมมาด้วย พี่ชิดกับพี่วอยฉายเดี่ยว แต่เหมือนสมาชิกของแก๊งบอยแบนด์นี้จะขาดไปหนึ่งคน แล้วผมก็ไม่ต้องข้องใจนานเมื่อคนข้างๆผมถามขึ้นมา



“เชี่ยปั้นมันจะมามั้ยวะ”



“ไม่รู้ว่ะ ตอนเย็นกูเห็นออกไปกับกี้”พี่ชิดตอบ



“เอ้า แล้วมึงบอกมั้ยว่า...”พี่วอยเว้นคำในช่องว่างไว้ แต่เหมือนคนอื่นๆจะเข้าใจกันดี



“กูไลน์ไปบอกนะ เพราะโทรแล้วมันไม่รับสาย”



“กูว่ากี้คงไม่ปล่อยมันมาง่ายๆ ต้องเล่นจนน้ำหมดตัว ขาสั่น”



“โดม พูดจาน่าเกลียด”



“โหย ที่รักอ่ะมันเป็นเรื่องธรรมชาตินะตัวเอง”



“ธรรมาชาติหรือหื่นกาม”



“โอ๊ยๆ เจ็บครับ เจ็บแล้ว”ผู้ชายตัวใหญ่ดิ้นพล่านเพราะถูกบิดเอว ผมกลั้นยิ้มจนปวดแก้มที่เห็นพี่โดมหงอกับแฟนตัวเอง พูดจาเค้าตัวเองเสียงอ่อนเสียงหวานก็ดูน่ารักและตลกดี หันไปเจอพี่วอยที่กำลังมองผมอยู่ถึงกับสะดุ้งแล้วก็นึกขึ้นได้ เลยขอโทษเขาเรื่องตอนกลางวันไป ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร ผมก็รู้สึกโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก



“แต่กูสงสัย กูถามได้มั้ยวะ ทำไมมึงต้องของขึ้นด้วย”



“ก็ตอนมัธยมผมพกกล่องข้าวไปกินทุกวันก็โดนเพื่อนล้อตลอดผมเลยรู้สึกไม่ดี”



“อ่อ มึงจะไปสนทำไมวะ จะล้อก็เรื่องของมัน มึงไม่ได้ไปขอข้าวบ้านมันกินสักหน่อย”



“นั่นดิพี่ผมก็คิดอย่างนั้น แต่เวลามันพูดทีไรผมก็ของขึ้นทุกที มีอยู่ครั้งหนึ่งโมโหมาก ปากล่องข้าวใส่หน้าพวกมันเลย เกือบได้ต่อยกันแล้วด้วย แต่ไอ้ภีมเข้ามาห้ามก่อน”



“เปรี้ยวนักนะมึงตัวแค่นี้”



“ก็มันโมโหอ่ะพี่”



 “เออกูเข้าใจ เป็นกูถีบยอดหน้าตั้งแต่ล้อครั้งที่สองละ”



“ไหนว่าให้ปล่อยไปไง”



“ครั้งสองครั้งกูก็ปล่อยหรอก มากๆเข้าจะเอาไว้ทำพ่อเหรอ”



 “น่ะ เห็นมั้ย เป็นใครก็ของขึ้นทั้งนั้น”



“เออๆกูไม่เถียงละ แต่มึงนี่ก็เป็นคนคุยง่ายนี่หว่า”



“หะ? อะไรอ่ะพี่”



“ตอนแรกกูว่ามึงดูเข้าถึงยาก กิจกรรมก็ไม่ค่อยเข้า ปกติแล้วถ้าไม่เห็นมึงนั่งที่โต๊ะหินหน้าคณะกับไอ้ภีมพวกกูก็ไม่เห็นมึงที่อื่นเลย เป็นพวกเก็บตัวเหรอมึงอ่ะ”



“ก็เปล่านะ ผมก็ปกติ แต่หลังเลิกเรียนผมต้องไปสอนพิเศษไปทำงานเลยไม่ได้สังสรรค์กับคนอื่นเขา แล้วคนอย่างผมไม่มีใครเขาอยากคบด้วยหรอก”



“กูว่ามึงนี่ไม่ปกติแล้ว”



“ยังไงอ่ะพี่”



“เห้ย ไอ้ชิดรุ่นน้องมึงมันบอกว่าคนอย่างมันไม่มีใครอยากคบด้วยว่ะ”พี่วอยหันไปเรียกพี่ชิดที่กำลังกดโทรศัพท์เล่น ผู้ชายที่หล่อติดอันดับต้นๆของมหาวิทยาลัย อมยิ้มนิดๆมองมาทางผม



“คิดไปเองหรือเปล่าว่าไม่มีคนอยากคบ แต่ก็ดีแล้ว...”



“หืม? พี่ชิดว่าอะไรนะ”นักดนตรีซาวด์เช็คพอดีผมเลยได้ยินไม่ถนัด



“เปล่า มาๆชนแก้ว”แล้วผมก็ชนแก้วพี่เขาอย่างงงๆ อะไรของพวกพี่เขาวะ



“เอ้าๆ พวกมึงสองตัวตีอะไรกัน”เพราะเสียงพี่โดมทักขึ้นมา ผมเลยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมเพื่อนที่มาด้วยไปเลย มัวแต่คุยกับพี่วอย มันสองคนไปนั่งโซฟาอีกตัวที่ว่างอยู่ซึ่งนั่งได้สองคนพอดี



“เปล่าครับพี่”ตามหันมายิ้มแหยให้ทุกคน ก่อนจะหันไปค้อนให้ภีมที่นั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อกี้มันทำอะไรกันวะ



“ไอ้ครามๆ”หันหันมาตามเสียงเรียกและแรงสะกิดของคนข้างๆ



“ครับ?”



“น้องตามเพื่อนมึงมีแฟนยังวะ?”



“พี่ถามทำไมอ่ะ?”



“กูชอบ จีบได้มั้ยวะ?”



ผมหันไปมองไอ้ภีมทันที แต่มันก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย งานจะเข้ามึงแล้วยังไม่รู้ตัวอีกภีมากร!




.


.


.


(มีต่อ)






หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 11-12-2017 22:14:59
(ต่อ)

.


.


.


“พี่พอแล้วครับ”แต่เหมือนพี่วอยจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แก้วผมพร่องทีไรก็ยกไปให้พี่ชิดเติมตลอดจนจากชงอ่อนๆกลายเป็นเข้มไปแล้ว



“พออะไรของมึง ของฟรีกินๆเข้าไป”



นั่นแหละครับทั้งโดนโน้มน้าวเกลี้ยกล่อมจนผมรู้สึกว่าถูกมอมเหล้ากลายๆ ทำให้ตอนนี้เริ่มมึนร่างกายอ่อนเปลี้ยกระดูกอ่อนแรงทรงตัวไม่ค่อยไหว



“เชี่ยภีม มึงปายหนายวะ”ทำไมผมพูดไม่ชัดเนี่ย



“ห้องน้ำ ทำไมมึงจะเข้าไปด้วยไง?”



“ไม่ๆ กูไม่ปาย เชิญๆ เชิญคร้าบพี่”



“เมาแล้วมึงอ่ะ”



“ไม่เมา”



“ไม่เมา เหรอๆๆ”ไม่พูดเปล่ามันยังมาผลักหัวผมตามจังหวะเหรอๆของมันแล้วสะบัดตูดไป เลวจริง ผลักแล้วไม่รับผิดชอบ โลกมันก็เอียงหมดแล้วเนี่ย! ทรงตัวไม่อยู่อ่ะ



“โอ๊ย! เจ็บอ่ะ”เจ็บแขนจัง



“ไอ้ปั้นมาแล้วเหรอ แล้วมึงไปดึงแขนน้องมันทำไม”



“ก็เมื่อกี้มันเอนจะล้มอยู่แล้วกูเลยช่วยดึงไว้”



“ล้มก็ไม่เห็นเป็นไรนี่หว่า ไอ้วอยก็นั่งอยู่ล้มใส่ไอ้วอยไม่กลิ้งตกพื้นมันไม่เจ็บหรอก”



ผมเห็นด้วย พี่ชิดพูดถูก



“ช่ายๆ แต่ตอนนี้ครามเจ็บแขนอ่ะ”ไม่ต้องมาขมวดคิ้วใส่เลย บอกว่าเจ็บแขนๆ ยังจะบีบแน่นอีกอ่ะ!



“มองหน้าพี่ทำไม”



ดุทำไมอ่ะ!



“งั้นไม่มองหน้าก็ได้”ผมเลยก้มลงมามองอย่างอื่นแทน เข็มขัดสวยดี ซิปก็รูดแล้ว แต่ที่นูนๆในกางเกงนั่นคืออะไรอ่ะ ลองจับได้มั้ย ทำไมรู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูด



หมับ!



“เห้ย!”เสียงพี่ปั้น



“เชี่ย!”พี่วอย



“ว้าย!”พี่จิน



“ครามทำอะไรเนี่ย!”ตาม



“ฮ่าๆๆๆๆๆ”พี่โดม



เห็นมั้ยผมจำเสียงได้ทุกคน ไม่เมาสักหน่อย แต่ที่จับในมือนี่คืออะไรอ่ะ ทำไมพี่ปั้นต้องมองแบบนั้นด้วยอ่ะ จับไม่ได้เหรอ หวงเหรอ บีบแม่ง!








----------------------------------
เอาน้องครามมาส่งก่อน เดี๋ยวอีก 2-3 วันจะเอาน้องน้ำน่านมาส่ง ฮี่ๆ

แท็ก #ทีมปั้นคราม   นะคะ

ปล. ทำไมมันยาวเกินรีพลาย ฮือออ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 11-12-2017 22:33:03
เดี๋ยวนะ ครามลูกหนูจับอะไรพี่เขาคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 11-12-2017 22:52:47
น้องครามลูกกกกก  :laugh:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 11-12-2017 23:06:41
เหอๆๆ  รออ่านน้ำน่านจ้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 12-12-2017 02:23:09
มีบีบด้วยอ่ะ5555 เอออออ ใครกันแอบชอบน้องครามอยู่?

#รอน้ำน่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-12-2017 03:08:09
อะ จะเอาเรื่องไหมหนอ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 12-12-2017 07:03:03
พี่ปั้นนี่ชอบครามอยู่ปะ เหมือนเพื่อนๆพี่เค้ารู้กันอะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 12-12-2017 07:09:56
  :laugh:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-12-2017 16:00:01
อ้าวๆ......คราม ของตัวเองก็มี ไปจับของพี่ปั้นเขาทำไม

ว่าแต่เอาน้ำออกแล้วไม่ใช่เหรอ
ทำไมมันถึงเตะตาครามได้ แสดงว่าใหญ่มิใช่น้อย  :laugh:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: JellyKei ที่ 12-12-2017 18:06:54
เดี๋ยวๆๆๆ​ จับไม่พอยังจะไปบีบของเค้าอีกนะลูก555555555555555​
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 12-12-2017 19:30:18
ครามใจเย็นนะ 55555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 12-12-2017 21:11:45
อย่าไปบีบของเขาสิลูก  เดี๋ยวมันก็ฉกตอบหรอก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 18-12-2017 12:34:33
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 29-12-2017 22:31:29
โอ้ยยยยน่าสนุก ตามค่าาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 01-01-2018 16:12:10
ครามเมาจัด555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 1 P.1 || [11.12.17]
เริ่มหัวข้อโดย: krayfanxing ที่ 01-01-2018 22:58:36
หนูลูก น้องครามถ้าหนูไม่เสียตัวตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ายังไงแล้วเด้อ ไปจับของพี่ปั้นทำไม ฮ่าๆๆ มีสามีแน่งานนี้
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 14-01-2018 22:54:31
แรงดึงดูด by zero





- 2 -






   “ครับ ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจครับ”



   “.........”




   “ขอบคุณที่พี่โทรมาแจ้งนะครับ”




   เฮ้อ...ผิดแผนไปหมดเลย



   ผมทิ้งตัวนั่งตรงโต๊ะประจำในโรงอาหารช่วงสิบเอ็ดโมง คนยังน้อยโต๊ะเลยไม่ได้ถูกจับจอง ไอ้ภีมนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะหน้ามันมีน้ำวางอยู่หนึ่งโหล น้ำที่นี่จะขายเป็นโหลครับ ลักษณะเหมือนขวดโหลโอวัลตินใหญ่ๆกินทีสะใจมาก ราคาไม่แพงด้วย




   “เป็นไรวะ แล้วมึงคุยกับใคร”




   “เจ้าของร้านที่กูจะไปทำงานพิเศษ เขาบอกว่าเขาได้พนักงานประจำแล้วสองคน ตอนนี้ไม่รับพนักงานพาร์ทไทม์เลยโทรมาบอกว่ากูไม่ต้องไปทำงานแล้ว”




   ผมรู้สึกเซ็งเป็นอย่างมากกับการชวดงานในครั้งนี้ เพราะจะหาร้านที่ดูไม่ค่อยอันตรายแล้วได้เงินเยอะนั้นยากมากๆ จะหาว่าผมเลือกงานก็ไม่ใช่เสียทีเดียว แต่เป็นเพราะแม่กับพี่สาวผมขอไว้ ถ้าหากว่าผมจะทำงานหาเงินพิเศษ ร้านที่เลือกทำก็ต้องผ่านการพิจารณาจากทั้งคู่ก่อน ว่าเป็นที่อโคจร มีอันตรายมั้ย จะส่งผลกระทบต่อการเรียน การนอนหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นจะไม่อนุญาตให้ผมทำ




   “เอ้า ทีนี้มึงก็ว่างเลยดิ”




   “อือ มันอะไรกันวะเนี่ย”ผมเอามือขยุ้มผมตัวเอง เมื่อวันอาทิตย์น้องที่ผมเคยสอนเขาเรียนพิเศษโทรมาบอกว่า น้องอีกคนที่เขาแนะนำมาให้มาเรียนกับผม เขาไม่เรียนแล้ว ทางบ้านจะให้ไปเรียนกับสถาบันกวดวิชาชื่อดังแทน ผมก็เข้าใจนะถ้าพ่อแม่มีเงินเขาก็อยากให้ลูกไปเรียนในที่ดีๆทั้งนั้น




   “เอาน่า เทอมนี้เราก็เรียนกันหนักขึ้น มึงก็ไม่ต้องทำแล้ว”



   “แต่กูอยากหาเงินด้วยตัวเอง”ผมไม่อยากให้แม่กับพี่สาวเหนื่อยมากกว่านี้ อะไรที่ช่วยได้ผมก็อยากช่วย




   “คราม มึงไม่ได้ลำบากเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ พี่มึงก็เรียนจบมีงานดีๆทำ มีครอบครัวที่ดีพี่เขยมึงก็มีเงิน แต่กูไม่ได้หมายความว่าให้มึงไปเกาะพี่เขยมึงกิน กูแค่อยากจะบอกว่าแม่มึงก็ไม่ได้มีภาระอะไรแล้ว พี่มึงก็ไม่ได้ลำบากกับการส่งมึงเรียน”




   “กูรู้”แต่มันก็มีบางอย่างที่ผมอยากได้ก็อยากจะหาเงินเอง คนที่เคยทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเอง จู่ๆจะมาอยู่เฉยๆได้ยังไง เมื่อก่อนผมกับครอบครัวลำบากกันมาก แต่โชคดีที่มีคนมีเมตตาให้ความช่วยเหลือแม่ พี่สาวและผมให้พอมีที่ทางทำมาหากิน แม้ในตอนแรกจะลำบาก แต่ด้วยความขยันและไม่เกี่ยงงานของพวกเราสามคน จึงมีวันนี้ได้ วันที่มีกินมีใช้ไม่ขัดสน แต่ผมก็ยังจำรสชาติของความลำบากในตอนนั้นได้




   “กูรู้ว่ามึงอยากหาเงินใช้เอง แต่มึงลองหาทางทำอย่างอื่นดูมั้ย ไม่ต้องไปหลังขดหลังแข็งสอนแล้วได้เงินไม่เท่าไหร่ หรือกลับห้องดึกๆดื่นๆเพราะทำงานตามร้านอาหาร”




   “เออ ไว้กูจะลองคิดดู แต่ตอนนี้กูเซ็ง มึงเลี้ยงน้ำกูหน่อย”




“หาเรื่องแดกฟรีสิมึงเนี่ย เออ เดี๋ยวป๋าเลี้ยงเอง อยากแดกไรก็ไปซื้อ ซื้อมาให้กูอีกโหลด้วย”มันว่าพร้อมดูดน้ำในโหลดังฟืด ให้รู้ว่าหมดแล้ว ผมเดินไปซื้อชาเชียวนมมาสองแก้วเพราะขี้เกียจคิด กลับมาก็เจอตามยิ้มหวานต้อนรับ




“กินไรมายังตาม”



“ยังเลย ภีมให้มากินที่นี่ด้วยกัน”




“อ่อ งั้นไปซื้อกัน”




“ภีมเอาไร เดี๋ยวซื้อมาให้เลย”




“ข้าวหน้าเป็ดเพิ่มหมูกรอบหมูแดงด้วย เพิ่มข้าวด้วยนะ”




“เยอะ”ตามว่า แต่ปกติของไอ้ภีมมันกินเยอะอยู่แล้วถึงได้ตัวโต มันไม่ได้อ้วนนะครับ แต่ตัวใหญ่ ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมันก็บ้าออกกำลังกายไปฟิตเนสประจำตอนนี้มันถึงได้ตัวหนา มีกล้ามมีซิกแพ็คไว้ขยี้ใจสาวแล้วก็หนุ่มแถวนี้ด้วย เวลามันไปเล่นบาสแล้วถอดเสื้อทีไร ตามงี้มองตาปรอย แต่พอรู้ตัวว่าผมมองอยู่มันก็จะเฉไฉไปมองที่อื่น




“เออน่ะ เอาเงินที่ไอ้ครามจ่ายไปเลยของมึงทั้งสองคนด้วยวันนี้ป๋าเลี้ยง”




“โห วันนี้ต้องหิมะตกแน่ๆ”




“มึงก็เว่อร์ กูเลี้ยงมึงบ่อยๆ มันคงตกจนเป็นภูเขาน้ำแข็งแล้วมั้ง”




“ถ้ามึงสองคนจะจีบกัน งั้นกูไปก่อนนะ”




“เห้ย บ้าจีบอะไรเล่า ไปเลยคราม”มันดันหลังผมแต่ถ้าตาไม่ฝาดผมเห็นว่าหน้ามันแดงหน่อยๆนะ




“อยากกินก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นอ่ะ”ไอ้ตามบอก




“เอองั้นไปกัน กูอยากกินเย็นตาโฟต้มยำร้านนั้นพอดี”



ในวันปกติผมก็ซื้ออาหารตามร้านกินนี่แหละครับ แต่ถ้ากลับบ้านก็จะมีข้าวมากินเอง ฝีมือแม่นี่เด็ดที่หนึ่งจนต้องบอกต่อให้ไปอุดหนุนที่ร้าน แม่ผมเปิดร้านอาหารตามสั่ง แต่ในตอนเช้าจะมีข้าวแกงขายสำหรับคนที่จะซื้อไปใส่บาตรหรือเสาะหาไปทานที่ทำงานกันในตอนเช้ากับข้าวประมาณ ห้าอย่างสลับกันไปในแต่ละวัน พอสายหน่อยก็จะเป็นตามสั่ง แถวนั้นมีออฟฟิศเยอะเลยทำให้รายได้ดี แถมรสชาติอาหารก็ถูกปากคนแถวนั้นจึงมีลูกค้าประจำติดหนึบหนับ




เมื่อก่อนผมก็ช่วยแม่ทำงานทุกวันก่อนไปเรียนก็ช่วยเตรียมของ เตรียมเปิดร้าน พี่สาวผมช่วยทำอาหาร ตอนเย็นกลับมาก็เก็บล้าง และเตรียมของสำหรับวันถัดไป เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้พัก ผมกับพี่สาวหุ้นกันจากเงินเก็บที่ได้จากการไปโรงเรียนไปซื้อหมูกับไก่มาหมักและปิ้งขายในตอนเช้า ทำอยู่แบบนี้วนไปจากเหน็ดเหนื่อยก็กลายเป็นชินชา แต่เป็นความชินชาที่มีความสุข ได้อยู่กับคนที่เรารักและรักเราจริง ลำบากกายแต่หัวใจเรากลับมีความสุข




“ครามเดี๋ยวเราไปสั่งข้าวให้ภีมแล้วก็ซื้อน้ำก่อนนะ ฝากสั่งก๋วยเตี๋ยวให้ด้วย”




“ได้ๆ เอาเงินนี่ไปด้วย”ผมยื่นแบงค์ร้อยให้ตามไป อีกฝ่ายก็ไม่ปฏิเสธในการใช้เงินของไอ้ภีม ยังมีเงินอีกสามร้อยกว่าบาทอยู่กับผม ตอนไปซื้อน้ำมันให้แบงค์ม่วงมา




ผมต่อคิวเพื่อรอก๋วยเตี๋ยว เจ้านี้น่าจะรสชาติดีที่สุดแล้วล่ะ โชคดีที่มีคิวก่อนผมแค่สองคิว ระหว่างรอก็รู้สึกเหมือนมีคนมายืนต่อ แต่ผมไม่ได้สนใจ กำลังคิดว่าจะหาทางหารายได้ยังไงดี หรือว่าผมควรหาอะไรมาขาย ตอนนี้ขายออนไลน์กำลังบูมมากๆ แต่สินค้าเราต้องน่าสนใจและมีเอกลักษณ์ เพราะถ้าขายสินค้าดาษๆแล้วขายทีหลังคนอื่นมันก็จะยิ่งยาก เพราะมีคนครอบครองตลาดไปแล้ว




“ไอ้ปั้น! สั่งหมูตุ๋นเส้นเล็กให้กูด้วยพิเศษเครื่องนะมึง”




ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมา แต่ยังไม่ได้หันไป




“มึงตะโกนแบบนี้ป้าเขาคงได้ยินแล้วแหละ”เสียงทุ้มพูดขึ้น ดังอยู่ด้านหลัง ผมค่อยๆหันไป ร่างสูงๆของพี่ปั้นยืนห่างผมไปแค่เล็กน้อย เล็กน้อยมากๆเพราะตอนหันไปหน้าผมกับไหล่พี่ปั้นนี่เกือบจะสัมผัสกันได้อยู่แล้ว พอเงยหน้าขึ้นก็สบตาคมเข้มที่มองลงมาพอดี





ตึก ตึก ตึก





“วะ...หวัดดีครับพี่”ตั้งแต่คืนนั้นก็ผ่านมาสามวันแล้ว ผมเพิ่งได้เจอเขา วันนั้นเมาหนักมาก ไม่รู้ตัวเลย ภาพตัดไปตอนไหนก็ไม่รู้




“อือ”เขาตอบรับสั้นๆ ดูไร้อารมณ์สุด ทำไมต้องมองผมนิ่งขนาดนี้เนี่ย




“กินก๋วยเตี๋ยวเหมือนกันเหรอพี่”นี่ผมถามอะไรออกไปเนี่ย




“กินข้าวมันไก่มั้ง ต่อแถวอยู่เนี่ย”




นั่นไง โดนย้อนกลับมาตอกย้ำให้รู้ว่าตัวเองโง่มากจริงๆ




“หึ เรากินไร”จู่ๆพี่มันก็หัวเราะ ก่อนจะถามกลับ



“วุ้นเส้นโฟต้มยำ”




“สั่งให้ด้วยดิ พี่กินเหมือนกัน”




“แล้วของพี่วอยอ่ะ”




“สั่งไปด้วยเลย”




“ครับๆ”ผมรับปาก เพราะคิดว่าเดี๋ยวพี่เขาคงไปซื้อน้ำหรืออย่างอื่นเลยฝากสั่ง แต่เขาก็ยังยืนอยู่ด้านหลัง ผมรับรู้ได้จากไอร้อนของร่างกาย และกลิ่นน้ำหอมของเขา




“อ้าว พี่ไม่ไปซื้อน้ำเหรอ”




“ไอ้วอยซื้อให้แล้ว”




“แล้วพี่ฝากผมสั่งทำไมอ่ะ”




“พอใจ มีปัญหา?”




“ไม่มีครับพี่ ใครจะกล้ามี”ท้ายประโยคผมพึมพำกับตัวเอง แต่ไม่คิดว่ามันจะได้ยิน




“บ่นไร”




“เปล๊า”



“หึหึ สั่งได้แล้ว ถึงคิวแล้วเนี่ย”




พี่ปั้นดันหลังผมเบาๆ ให้เดินขึ้นไปข้างหน้า ผมเลยรีบสั่งป้าตามออเดอร์ที่รับมาและรออยู่หน้าร้าน ข้างๆมีพี่ปั้นยืนอยู่ มือกดโทรศัพท์ยุกยิกก่อนจะยัดใส่กระเป๋ากางเกง




“มองไร”



“มองพี่”




“มองไม”



“ก็แค่มอง”ก็แค่มองอ่ะครับ มองแบบเฉยๆว่าพี่มันทำอะไรงี้




“มองมากระวังตกหลุมรักพี่เข้าล่ะ”พูบจบแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก




ตึก ตึก ตึก




มีใครเคยบอกเขามั้ยนะว่าทำแบบนี้แล้วคนมองอาจจะตายเอาง่ายๆ คนบ้าอะไรโคตรดูดี ตอนนิ่งๆเงียบๆก็น่ามองแล้วนะ แต่ตอนกวนตีนขี้เล่นแบบนี้ยิ่งมีเสน่ห์เข้าไปใหญ่



“ได้แล้ว อีกชามของใครวะ ต้องปรุงมั้ย”



“อ๋อ ของตามอ่ะพี่ มันกินแบบไม่ปรุง”ผมถือมาสองชามไม่ต้องปรุงทั้งคู่ของผมนี่มันต้มยำปรุงสำเร็จมาแล้ว แต่ตามมันกินแบบไม่ปรุงได้



“เออ เหมือนไอ้วอยเลย สองคนนี้มีอะไรคล้ายกันนะ”



“ไม่ต้องชงให้เพื่อนเลยพี่”



“ทำไม เพื่อนเรามีแฟนแล้ว?”



“เปล่า แต่มีคนในใจแล้ว”



กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละภีมากร!




ผมไม่คิดว่าพี่ปั้นจะช่วยเพื่อนตัวเอง นี่คงรู้กันทั้งกลุ่มและก็คงเริ่มต้นการจีบแน่ๆ ถึงได้มานั่งรวมโต๊ะกันได้ แต่ตำแหน่งที่นั่งก็ทำให้ผมอุ่นใจได้เมื่อตามมันนั่งข้างในสุดถัดมาก็เป็นไอ้ภีมที่นั่งเบียดติด แต่ฝั่งตรงข้ามกลับเป็นพี่วอยที่นั่งมองให้ตามตาเชื่อม พวกพี่ๆเขาจับจองพื้นที่กันแล้วเลยเหลือที่ว่างคือฝั่งไอ้ภีมผมเลยนั่งข้างมัน พี่ปั้นแทนที่จะนั่งฝั่งเดียวกับเพื่อนกับมานั่งข้างผมเสียอย่างนั้น



“พวกนั้นมีแต่ตัวควายๆ นั่งด้วยแล้วอึดอัด พี่ถนัดซ้ายด้วย”พี่ปั้นบอกมาอย่างนี้ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่พอเงยหน้าก็เห็นพวกพี่ๆเขาอมยิ้มกัน พี่โดมนี่ยกน้ำขึ้นมาดูดแล้วเบนสายตาไปทางอื่น พี่ชิดก็กระแอมไอเหมือนข้าวติดคอ ท่าทางมีพิรุธสุดๆ อะไรของพวกพี่เขาวะ




“วันนี้น้องครามไม่เอาข้าวกล่องมาเหรอ เห้ยอย่าโกรธนะถามเฉยๆไม่ได้จะล้อ”พี่วอยรีบออกตัว กลัวผมจะของขึ้น




“ไม่โกรธหรอกพี่ ผมจะเอามาก็ตอนได้กลับบ้านอ่ะ ปกติผมก็ซื้อกินเอานั่นแหละ”




“อ๋อ ทำเองเหรอ”พี่โดมถามบ้าง




“เปล่าครับ ฝีมือแม่ ที่บ้านเปิดร้านตามสั่งครับ มีขายข้าวแกงด้วย กลับบ้านผมก็จะเอาติดมาด้วย”ผมเล่าอย่างไม่ปิดบัง ใครรับได้ก็รับรับไม่ได้ก็เรื่องของเขา ผมภูมิใจแม่ของผม และโชคดีที่พี่ๆไม่มีท่าทีรังเกียจอะไร



“จริงดิ ดีว่ะอยู่แถวไหนเผื่อพวกพี่ไปอุดหนุน”พี่โดมว่า




“ไกลนะพี่แถวรังสิตอ่ะ”




“ก็ไม่ไกลเท่าไหร่นะ ขับรถไปแป๊บๆก็ถึงแล้ว”เออ ผมก็ลืมไปสำหรับคนที่นั่งรถเมล์ฝ่าฟันรถติดในเมืองออกนอกเมืองอย่างผมก็รู้สึกว่าไกลมาก แต่คนมีรถอะไรก็สะดวก




“ว่าไงไอ้ปั้น ไปอุดหนุนร้านน้องเขาหน่อยมั้ยมึง”




“พวกมึงไปกูก็ไป”




“งั้นพวกกูไป”พี่วอยสรุปเองเสร็จสรรพ




“น้องครามแอดไลน์แล้วแชร์โลเคชั่นมาให้พี่ที”พี่วอยละมือจากตะเกียบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดๆแล้วโชว์คิวอาร์โค้ดมาให้ผม ทำไมพี่ต้องรีบเบอร์นี้ด้วยครับ อยากจะไปอุดหนุนกันจริงๆใช่มั้ย แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจและจะได้ลูกค้าใหม่ ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแอดไลน์พี่เขาเสร็จสรรพ




“นี่พี่ไม่ได้คิดจะจีบเพื่อนผมใช่มั้ยเนี่ย”ไอ้ภีมทะลุกลางปล้องขึ้นมา ผมนี่สำลักเย็นตาโฟเลย เออ พี่วอยจีบเพื่อนมึง แต่ไม่ใช่กูเว้ย!




“เพื่อนมึงคนไหนอ่ะ”พี่วอยถามยิ้มๆ ไอ้ภีมนิ่งหรี่ตามองแบบไม่ไว้ใจ มึงควรไหวตัวได้ละนะไอ้ภีม




“ถ้าเป็นไอ้เกลือนี่พี่จีบไปเหอะ แต่ไอ้แห้งนี่ไม่ได้ผมหวง”




เชร้ดดดดดดด ภีมากรคนจริง! ทำเอาทั้งคนจีบและคนถูกจีบหน้าเหวอ ผมชะโงกมองไอ้ตามที่ตอนนี้เปลี่ยนจากอึ้งแล้วเป็นเขินหน้าแดงแทน เอาละเว้ย!




“เรื่องจริง? มึงสองคน?”พี่วอยถาม เอานิ้วชี้สองนิ้วมาชนกัน




“ก็คุยๆกันอยู่”ภีมมันตอบอยู่คนเดียว ส่วนไอ้ตามคงช็อควิญญาณออกจากร่างไปแล้วแน่ๆ ก็ไม่ได้มีวี่แววที่ไอ้หมีควายมันจะบอกรักชอบมาก่อน จู่ๆมาพูดกลางวงข้าวท่ามกลางสักขีพยานหลายชีวิต ไม่ช็อคก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ขอแค่มันอย่าปฏิเสธไอ้ภีมให้หน้าแตกก็แล้วกัน ไม่งั้นจบไม่สวยแน่ๆ




“ยิ้มอะไร”คนข้างๆกระซิบถามผม เพิ่งรู้ตัวว่ายิ้ม




“ไม่มีอะไร”




“ตกลงเพื่อนเราชอบกันจริงๆ”




“ภีมมันก็บอกแล้วนี่”




“เห้ยๆ มึงสองคนทำไรกัน แอบจับไข่กันใต้โต๊ะหรือไง”



ผมสะดุ้ง พี่วอยแม่งมายุ่งวุ่นวายกับผมทำไม เคลียร์กับไอ้ภีมจบแล้วหรือไงเนี่ย




“พูดอะไรของพี่เนี่ย ใครจะไปทำอย่างนั้น”พอผมพูดจบทุกคนก็ฮาครืนทันที ผมหันไปมองพี่ปั้นรายนั้นหันหน้าไปทางอื่นแต่หูแดงมาก




เขิน?




“อะไรอ่ะ”ผมหันไปถามไอ้ภีม มันหัวเราะจนน้ำตาไหล ขำอะไรกันเนี่ย




“ไม่มีอะไร กูแค่ขำที่พี่วอยแซวมึงเฉยๆ”




“น้องครามไม่ได้แอบจับของเพื่อนพี่อยู่ใช่มั้ยครับ”พี่โดมถามยิ้มๆ เพิ่งจะหยุดหัวเราะได้




“บ้าสิพี่ ผมไม่ได้โรคจิตนะ แล้วทำไมผมต้อง เอ่อ...ไปจับด้วยเล่า”




“นั่นสิ ทำไมต้องจับนะ ฮ่า”




“ควาย พวกมึงพอได้แล้ว อิ่มแล้วก็รีบไปเรียน”พี่เขาว่าอย่างนั้นแล้วก็ลุกขึ้นหยิบชามเดินออกไปเลย พวกพี่ๆคนอื่นเลยไปด้วย กินกันไวมากหมดกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้




“แล้วเจอกัน พวกกูไปเรียนก่อน ส่วนน้องตามครับ แฟนเผลอแล้วเจอกันนะครับ”




“พี่แม่งไปเลยไป”ไอ้ภีมออกปากไล่ดูมันหงุดหงิดจริงๆ ว่าแต่มึงไปเป็นแฟนตามตั้งแต่เมื่อไหร่?





X







หลังจากกินข้าวเสร็จไอ้ภีมก็ลากตามออกไปคุยกันตามลำพัง ผมเลยพาตัวเองไปห้องสมุดรอเวลาเข้าเรียน พอเข้าห้องมาก็เจอมันสองตัวเล่นบทพ่อแง่แม่งอนกันอยู่ ไอ้ภีมมันชอบแหย่ตามให้หงุดหงิดแล้วก็ค่อยง้อ คนปกติเขาไม่ทำกันหรอกครับ




“ว่าไงพวกมึง ตกลงเปลี่ยนสถานะกันหรือยัง”




“ก็เป็นเพื่อนกัน”ตามบอก




“เพื่อนหน้ามึงอ่ะแห้ง อย่าเล่นตัว”




“อะไรเล่า ตัวเองเคยจีบหรือยังโมเมว่ะ”




“จีบมาเป็นปีแล้ว มึงอ่ะรู้สึกช้าแห้ง”




“อะไรที่ว่าจีบ ไอ้การแกล้งไม่เว้นวันนั่นอ่ะนะ”




“เออ นั่นแหละวิธีของกู”




“นิสัยไม่ดี”หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองเลยเพื่อนผม




“พวกมึงนี่นะ ชอบกันก็คบๆไปดิวะ ชีวิตมันสั้นจะเสียเวลาไปทำไมวะ”




“ครามไม่ตกใจเหรอ”




“ตกใจอะไร ที่รู้ว่ามึงสองคนชอบกันอ่ะนะ กูรู้มานานละ รออยู่ว่ามึงจะได้กันเมื่อไหร่เท่านั้นเอง”



“ครามบ้า!”นั่นแหละครับ ตัดบท หน้าแดง และอาจารย์ก็เข้ามาสอน



พอเลิกเรียนก็แยกย้ายกันไป ไอ้ภีมเดินไปส่งตามที่รถ เห็นบังคับกันอยู่นานว่าต่อไปไม่ให้ตามขับรถมาเอง มันจะไปรับไปส่ง กว่าจะตกลงกันได้ผมแทบเอาเต๊นท์มากางนอนรอหน้าคณะ




“ไปมึง เดี๋ยวกูไปส่ง”




“เออ แต่ต่อไปก็ไปส่งกูไม่ได้แล้วดิ”ผมแซวมันพร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัย




“ได้ดิ กูไปส่งมึงก่อนแล้วค่อยไปส่งเมียไง”




เดี๋ยวๆ มึงเพิ่งจะบอกความรู้สึกกันวันนี้ แล้วเป็นเมียเลยเหรอ ข้ามขั้นไปมั้ย แบบนี้ก็ได้เหรอ




“กูจะฟ้องตาม”




“เอ้ย ครามเพื่อนรักอย่าทำแบบนั้นเดี๋ยวมันโกรธกูไม่ยอมคบด้วยแย่เลย”




“ทำไมมึงไม่คบกันวะ”




“มันนั่นแหละที่ยังไม่ยอมคบกับกู มันบอกขอเวลามันตั้งตัวก่อน มันเร็วเกินไป เร็วเชี่ยไร ช้ามาเป็นปีแล้ว”




“ก็มึงไม่ชัดเจนไง ควาย พอจะชัดเจนมึงก็เร็วเหมือนฟ้าฟาด”แบบเปรี้ยงเดียวกลางกบาล




“เออ ผิดที่กูเอง ต่อไปนี้กูจะทำให้มันมั่นใจว่ากูชอบมันจริงๆ”



“ดีแล้ว คนนี้ดีนะมึงนิสัยดีมาก อย่าให้มันหลุดมือ อย่าทำให้มันเสียใจ”




“กูรู้ ตอนแรกกูก็ตั้งใจว่าจะสารภาพกับมันแหละ เพราะกูแน่ใจว่ามันรู้สึกอะไรๆกับกูเหมือนกัน แต่พี่วอยออกตัวแรง วันนี้กูเลยต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม”




“ขอให้มึงมีความสุข”




“ขอบใจเว้ย แต่หวังว่าพี่วอยคงจะไม่เบนเข็มไปหามึงทันทีนะ”




“ไม่หรอกเว้ย”ผมรู้สึกว่าพี่วอยมันไม่ได้คิดอะไรกับผมหรอก และถ้าจะหันมาจีบผมจริงๆคงเซย์บายอ่ะ คนอะไรโลเลเปลี่ยนใจง่าย




“ไม่ก็ดีแล้ว แต่ถ้าจีบจริงกูว่าพี่เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร กูรู้ครามว่ามึงชอบแบบไหน ถ้าจะเปิดใจคบใครสักคนกูว่ามันถึงเวลาแล้วว่ะ”




ครับ เป็นเพื่อนกันมานาน ต่างคนต่างรู้กันดีว่ารสนิยมเป็นแบบไหน พวกผมเรียนชายล้วน ผมไม่เคยมีแฟน แต่ไอ้ภีมมันเคยมี คบอยู่สองคนเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนหน้าตาน่าเอ็นดู แต่ว่าแต่ละคนคบได้ไม่นานก็เลิกกันไป ก็เด็กน้อยชอบเรียกร้อง ไอ้ภีมมันขี้รำคาญก็เลยเลิกดื้อๆ พอจบกับคนที่สองมันก็ไม่ได้คบใครอีกเลย แต่ก็มีแอบไปกินเด็กบ่อยๆกับพวกเพื่อนนักบาสของมัน




ส่วนผมมีคนเข้ามาคุยด้วยบ้าง แต่ผมไม่ค่อยได้ให้ความสนใจพวกเขา หลายคนว่าผมเย็นชา นานวันเข้าก็เริ่มเบื่อกันและห่างหายไปเอง ตลอดเวลาหกปีที่เรียนอยู่ในโรงเรียนชายล้วนชื่อดังผมเลยโสดสนิท




“กูก็ยังไม่ได้อยากคบใคร”ผมตอบมันไป




“ยังไม่ได้อยากคบใครหรือว่ายังลืมคนในใจไม่ได้?”




ครับ โสดสนิท แต่ในใจกลับมีใครบางคนอยู่ในนั้นมาตลอด คนที่แม้แต่ไอ้ภีมก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร คนที่อยู่สูงเกินจะเอื้อมถึง




“ถึงแล้ว ขอบใจที่มาส่ง”




“เลี่ยงตลอดนะมึง ชาตินี้กูจะได้รู้มั้ยว่ามึงชอบใครว้า”




“ไม่ได้สำคัญอะไร มึงเอาเวลาไปคิดถึงว่าที่แฟนมึงดีกว่ามั้ย”




“เออๆ เจอกันพรุ่งนี้”




ผมมองรถมันที่ขับออกไปจนลับตา ดีใจที่เพื่อนรักสมหวังในความรัก ถึงจะยังไม่เป็นทางการแต่มันก็คืบหน้าแบบก้าวกระโดด และก็อดเหงาไม่ได้ ต่อไปพวกมันคงมีเวลาให้ผมน้อยลงเพราะเอาเวลาไปสวีทกันแน่ๆ งานผมก็ไม่มีทำด้วย ต้องเหี่ยวเฉาแน่ๆไอ้ครามเอ๊ย




.


.


.

(มีต่อ)




หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 14-01-2018 22:56:17
.


.


.





“หืม?”



ผมเดินกลับมาโต๊ะก็พบว่าสมาชิกเพิ่มขึ้น น่าแปลกพักนี้พวกพี่ๆมักจะมากินข้าวกับพวกผมบ่อยๆ ทั้งที่ปีที่แล้วแทบไม่ได้เจอหน้าเลย




“หวัดดีครับ พักนี้เจอพวกพี่บ่อยเนอะ”โต๊ะผมกลายเป็นจุดสนใจ จริงๆ กลุ่มผมกลายเป็นจุดสนใจของสาวๆมาพักหนึ่งแล้วหลังจากที่กลุ่มพี่ปั้นมานั่งกินข้าวกลางวันด้วยอาทิตย์ละสามครั้งโดยประมาณ




“ก็ขี้เกียจออกไปหากินข้างนอกเสียเวลาด้วย”




“น้องครามสั่งอะไรมาอ่ะน่ากินจัง”พี่จินแฟนพี่โดมถามหลังจากผมวางผัดกะเพราทะเลวุ้นเส้นใส่หมูกรอบด้วย วันนี้อยากกินหลายอย่างเลยยอมเสียเงินเพิ่มขึ้น พอผมบอกเมนูไป พี่ๆเขาก็สั่งตามโดยให้พี่วอยไปสั่งมาให้




“วันนี้พี่ปั้นไม่มาเหรอครับ”




“เดี๋ยวก็คงมาอ่ะ”พี่โดมเป็นคนตอบด้วยร้อยยิ้มแห้งๆ ยังไม่ทันขาดคำคนที่ผมถามถึงก็มาพร้อมกับมีผู้หญิงสวยเปรี้ยวคนนึงควงแขนมาด้วย




“ทำไมถึงมากินที่โรงอาหารคณะกันด้วย ร้อนก็ร้อน อาหารก็ไม่ได้เรื่อง”มาถึงก็มีปัญหาเลยครับ ผมเหลือบมองเธอเล็กน้อยก่อนจะหันมาสนใจข้าวในจานของตัวเองน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ




“กี้ เสียงดังทำไม ก็บอกแล้วว่าถ้าไม่อยากกินก็ไปกินที่อื่น”



“ก็ปั้นกินที่นี่ จะให้กี้ไปกินคนเดียวหรือไง”




“ปกติก็มีเพื่อนกินออกเยอะไม่ใช่ไง”




ไม่รู้ว่าเข้าใจไปเองหรือเปล่าแต่พี่ปั้นเน้นคำว่ากินมาก




“ปั้นอ่ะ กี้ไม่มีใครนะ”



“กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง”พี่จินพูดขึ้นมาเบาๆ ท่าทางจะไม่ชอบผู้หญิงที่ชื่อกี้เอามากๆ โชคดีที่พี่ปั้นกับผู้หญิงคนนั้นแยกตัวไปนั่งที่โต๊ะข้างๆเลยไม่ได้ยิน แต่ทางฝั่งผมนี่ได้ยินเสียงแหลมๆของเธอเต็มๆหู ไม่เจ็บคอบ้างหรือไงนะ




“อยากจะมีใครปั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”



“ปั้น!”




“ถ้าจะกินที่นี่ก็ลดเสียงลงด้วย ถ้าทำไม่ได้ก็ไปกินที่อื่น”พูดจบพี่ท่านก็เดินฉับๆไปสั่งข้าวปล่อยให้ผู้หญิงเดินตามขาขวิด




“พี่ปั้นพูดกับแฟนแบบนั้นไม่กลัวเขาโกรธเหรอเนี่ย”ผมอดสงสัยไม่ได้จริงๆ




“มันไม่ใช่แฟนปั้นน้องครามอย่าเข้าใจผิด”พี่จินรีบตอบเหมือนจะแก้ตัวแทนให้




“แค่คนที่เคยนอนด้วยแล้วก็ไม่ยอมปล่อยติดหนึบเป็นเห็บหมา ทั้งที่ตัวเองก็ไปกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ที่บ้านก็ออกจะรวย ไม่น่าทำตัวแบบนี้ ปั้นแม่งก็ไม่ได้เรื่องเอาไปได้ยังไง หรือเห็นตูดเห็นนมเข้าหน่อยเลยหน้ามืด”




“ที่รักอย่าของขึ้นน้า ไม่เอา ไม่พูดเรื่องของคนอื่นเนอะ”พี่โดมลูบแขนแฟนตัวเอง ปลอบประโลมให้เย็นลง แต่ละคำที่พี่จินพูดออกมาถ้าผมเป็นคนที่ถูกพูดถึงต้องมีสะอึกกันบ้าง




“เห็นแล้วรำคาญตา”




“จ้า ที่รักไม่ต้องไปมองเนอะ นี่อ่ะแตงโมปั่นเย็นชื่นใจ”




“เด็ดอยู่นะพี่ ผมก็เข้าใจพี่ปั้นอยู่”ไอ้ภีมแสดงความคิดเห็นบ้าง เล่นเอาคนข้างตัวมันตาเขียวปั๊ด



“รู้ได้ไงว่าเด็ด”



“เอ้ย หมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกเฉยๆ อย่าคิดไปไกลนะแห้ง”




“แล้วไป”



“กี้มาไงวะนั่น”พี่วอยเดินกลับมาพร้อมกับข้าวสองจาน ที่เหลือให้พี่ชิดเดินไปเอา คนนี้พูดน้อยมาก นานๆจะได้ยินเสียงเขาที



“ตามไอ้ปั้นมา”




“เอ้า แล้ว...”พี่วอยหยุดพูดไป คิ้วขมวดมองหน้าพี่โดมพี่โดมที่ส่ายหน้าไปมา คือดูรู้กันแค่สองคน




“เดี๋ยวให้มันเคลียร์เอง”




“เออ”



ผมไม่ได้สนใจโต๊ะข้างๆอีก เพราะทั้งคู่ไม่ได้กลับมา ไปไหนกันก็ไม่รู้



“ครามเป็นอะไรเงียบๆไป”คนที่เงียบที่สุดในกลุ่มกลับเป็นคนทักผม คนอื่นๆเลยหันมาสนใจผมบ้าง ซึ่งไม่จำเป็นเลย ปล่อยผมนั่งเงียบๆไปก็ได้ครับ




“อ๋อ แค่กำลังคิดว่าจะหางานพิเศษอะไรทำดีครับ”ผมดึงเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดแทน ที่จริงผมคิดเรื่องอื่นอยู่แต่ผมก็ปัดมันทิ้งไปอย่างรวดเร็ว




“ปกติทำงานพิเศษด้วย?”




“ปีที่แล้วก็สอนพิเศษแล้วก็ทำงานที่ร้านอาหาร แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วเลยว่าจะหางานอื่น”




“มึงยังไม่เลิกคิดหางานอีกเหรอ”ไอ้ภีมยื่นหน้ามาเสือกทันที




“เออ กูไม่อยากอยู่เฉยๆ”เรื่องขายของออนไลน์ผมก็ศึกษาอยู่ แต่ผมไม่คิดว่าจะทำแค่อย่างเดียว




“ทำอะไรเป็นมั่งล่ะ”



“เพื่อนผมทำได้ทุกอย่างอ่ะพี่ สนใจรับมันไปเป็นเมดมั้ย ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว เก็บขยะ ปลูกต้นไม้”ไอ้ภีมจัดการขายผมเต็มที่ พี่ชิดเขาถามกูมั้ยภีม ผมปรายตามองมัน




“อย่ามองกูแบบนั้น นี่กูช่วยมึงหางานอยู่นะ”




“ฮ่าๆ พอดีพี่มีแม่บ้านทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางคนที่ต้องการอยู่นะ เดี๋ยวพี่ถามให้ ว่าแต่เราอยากทำงานแบบนี้จริงๆเหรอ ขอโทษทีนะ ที่บ้านมีปัญาเรื่องการเงินเหรอ”




“ผมแค่อยากทำงานหาเงินใช้เองด้วยไม่อยากรบกวนที่บ้านอย่างเดียว งานอะไรผมก็ทำหมดครับพี่แค่ไม่เบียดเบียนเวลาเรียนกับเวลาของครอบครัว”
“เป็นเด็กดีจัง”พี่จินพูดขึ้นมา รู้สึกดีใจนะครับที่คนมองเห็นความดีของเรา ไม่ได้มองด้วยความดูถูกเหยียดหยาม ผมเจอคนประเภทนั้นมาเยอะ เลยทำให้ต้องสร้างเกราะป้องกันขึ้นมา




“ถ้าอยากทำงานเดี๋ยวพี่ช่วยหาให้แล้วกัน อยากได้งานแบบไหนเป็นพิเศษมั้ยล่ะ”




“ขอเป็นงานที่ทำหลังเลิกเรียนได้ครับพี่ แล้วก็ไม่ใช่ที่อโคจร แม่กับพี่สาวผมเขาเป็นห่วงครับ”




“ได้ เดี๋ยวได้เรื่องยังไงพี่บอกแล้วกัน”




“ขอบคุณมากครับพี่ รบกวนพี่ด้วยนะครับ”ผมเห็นว่าพี่เขาคงน่าจะรู้จักคนเยอะ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการมานั่งงมหาคนเดียว เพราะเงื่อนไขของแม่กับพี่สาวที่ยื่นมาทำให้ผมมีทางเลือกน้อยมาก




X


“มึงว่าพี่ชิดเขาจะหางานอะไรมาให้มึงทำวะ”



“ไม่รู้ว่ะ แต่ไม่น่าจะเป็นงานที่แย่”




“จริงๆเราอยากให้ครามไปช่วยงานที่ร้านอาหารพี่เรานะ แต่มันกระทบเวลาเรียนนี่สิ”ตอนนี้เราอยู่กันในรถของไอ้ภีม กำลังเคลื่อนตัวออกจากหน้าคณะ




“ไม่เป็นไรหรอกตาม กูเข้าใจ ถ้าสุดท้ายหาไม่ได้จริงๆกูก็ไม่ซีเรียสแล้วว่ะ”ไปตั้งหน้าตั้งหน้าขายของออนไลน์ก็ได้ แค่ต้องศึกษาตลาดมากๆ ต้องเอาวิชาที่เรียนอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด



ติ๊ง



เสียงเตือนข้อความไลน์ผมดังขึ้น รูปโพรไฟล์ที่เห็นคือพี่ชิดผมแลกไลน์กับพี่เขาไว้เมื่อกลางวัน ไปๆมาๆก็มีไลน์พวกพี่เขาทุกคนที่นั่งตรงโต๊ะนั้น พี่ชิดส่งข้อความมาบอกว่าหางานให้ได้แล้ว ให้คุยกับคนที่ว่าจ้างเอง แล้วเขาก็ลากใครบางคนเข้ามาในแชทแล้วพี่เขาก็เอาตัวเองออกจากกรุ๊ปแชทชั่วคราวนี้ไป ผมมองชื่ออีกคนที่ยังอยู่ในห้องแชทนิ่ง






Athip_Pun






   เหมือนมีบางอย่างดึงดูดผมให้เข้าใกล้เขาเข้าไปทุกที ทั้งที่อยู่นอกวงโคจรมาตั้งนาน ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้ใกล้ไปมากกว่านี้อีกเลย







---------------------------


เจอกันตอนหน้าจ้า น้องครามยังไม่โดนงูพี่ปั้นฉกตายนะค้า ยังมีชีวิตอยู่ 5555

เผื่อมีใครอยากพูดถึงในทวีต ติด #ทีมปั้นคราม  ด้วยนะค้า จะตามไปส่องค่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 15-01-2018 07:10:54
พี่ปั้นชอบครามแน่นอนน แล้วครามก็เหมือนจะแอบชอบพี่ปั้นมานานด้วยใช่ไหมนั่น
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 15-01-2018 08:45:40
ครามนี่แอบชอบปั้นมานานเท่าไหร่แล้วคะเนี่ย
คงเดาไม่ผิดเนาะะะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 15-01-2018 09:11:55
เดี๋ยวคำพูดตัวเองก็ย้อนกลับเข้าตัวเด้อ "ชอบกันทำไมไม่คบกัน" นี่อ่ะ

หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 15-01-2018 13:55:21
เรื่องนี้สนุกมาก ครามน่ารักมีความมึนแบบกำลังดี ทัศนคติดี
มีความรู้จักคิด คิดได้คิดเป็น ชอบเรื่องทำบัญชีรายวันมากๆๆๆ  o13
นี่ป้าก็ให้ลูกทำส่งอยู่ แต่ถ้าเมื่อไรเลิกบังคับส่งเขาคงเลิกทำ
ชอบที่ครามทำด้วยตัวเองเองเพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่ควรทำ(แอบอิจฉาแทนลูก555)
ต่อไปขอเข้าสู่ขั้นเดาทางคนแต่ง^^ ครามแอบรักพี่ปั้นใช่ไหมมมมมม ตอบบบบ
พี่ปั้นแอบชอบครามอ่ะชัวร์ๆเพื่อนชงแถมพิรุธเพียบขนาดนั้น :hao3:
ที่ยังไม่ชัวร์คือครามก็เช่นกัน แต่ก็เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วแหละ
แหมๆ จิตใต้สำนึกแรงขนาดคว้าไข่มาบีบตอนเมา ก็น่าจะพอยืนยันได้อยู่นา
รออ่านโมเม้นต์คุณแม่บ้านกะเจ้าของห้องสวีทกันมากกว่าการบีบไข่อยู่นะคะ
ขอบคุณจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 15-01-2018 14:36:45
มารอ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-01-2018 18:10:46
จนถึงตอนนี้
ครามยังไม่รู้สินะว่าไปจับ ไปบีบน้องของพี่ปั้น

กลุ่มพี่ปั้น รับรู้ว่าพี่ปั้นชอบคราม
แต่ว่าชอบตั้งแต่มอปลาย หรือเพิ่งมาชอบตอนนี้
พี่ปั้น จัดการกับหญิงตื๊อให้ชัดเจนนะ
ไม่งั้นนางมารังควานครามแน่ ถ้ารู้  :hao3: :hao3: :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 15-01-2018 22:41:12
ชอบ  ปั้นครามจ้า
พี่ปั้นเร่มจีบแล้ว  เมื่อไหร่น้องครามจะรู้ตัวเนี่ย  อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 15-01-2018 23:27:13
พี่ปั้นมาแผนไหนดีคะ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 16-01-2018 03:31:52
ปั้นชอบคราม แล้วครามก็ชอบปั้น เราคิดแบบนี้นะ แต่เราก็เป็นห่วงครามอ่ะ คือปั้นสาวเยอะอ่ะ ดูเจ้าชู้ กลัวทำครามเสียใจ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-01-2018 07:43:46
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: flyingploy ที่ 16-01-2018 12:15:56
โอ๊ยยยยยยยยยยยย อ่านแล้วเขิน  อ่านแล้วฟิน ขอบคุณที่แต่งเรื่องน่ารักๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้นะ
คือท่าทางเพื่อนพี่ปั้นนี่พิรุธสุดๆ น้องครามก็น่ารักจ๊นนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 16-01-2018 13:11:40
หือออออ ต่างคนต่างชอบป่าวว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 18-01-2018 10:17:06
คนในใจน้องครามคือพี่ปั้นแน่ๆ ใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 18-01-2018 17:19:56
เอาล่ะซิ
แรงดึงดูดเริ่มหมุนเหวี่ยงสองคนเข้าหากันแว้ววววววว
 :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 2 P.1 || [14.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-01-2018 20:45:49
เมื่อไหร่เค้าจะจับไข่กันอีกอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 04-02-2018 22:32:12
แรงดึงดูด by zero




- 3 -





   ช่วงนี้ชีวิตผมดูว่างเปล่า เพราะหลังจากเลิกเรียนแล้วก็ไม่มีงานให้ทำ ไม่มีสอนพิเศษ ไม่มีงานที่ร้านอาหาร ช่วงเย็นจึงผ่านไปด้วยการอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนและอ่านล่วงหน้าสำหรับคาบถัดไป ถึงแม้ว่าจะรักเรียนแค่ไหน แต่ผมก็รู้สึกว่าขยันเกินไปหรือเปล่านะ แต่เอาจริงๆแล้วผมแค่ไม่ชินกับการว่างงานและไม่ชินกับการไม่มีรายได้เข้ากระเป๋า




พอเล่าให้แม่ฟังทางนั้นก็รีบบอกมาทันทีว่าดีแล้ว แม่อยากให้ผมตั้งใจเรียนและใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นให้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ แม่กับพี่จะเป็นคนรับผิดชอบเอง แต่ผมรู้สึกเหมือนเอาเปรียบพี่สาวยังไงไม่รู้ พี่เอมก็จบมาด้วยการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ผมงอแงใส่แม่จนแม่เบื่อจะคุยด้วย เลยส่งไม้ต่อให้พี่เอมมาคุยต่อ พี่เอมบ่นจนหูชาและปิดท้ายด้วยการห้ามผมไปทำงานที่ไหนอีก แต่ถ้าจะทำงานที่ทำต้องผ่านเงื่อนไขที่คุณเธอตั้งไว้ ก่อนเริ่มทำงานต้องให้ไปดูว่าสถานที่ นายจ้าง บลาๆ ปลอดภัยหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าตัวเองดูเป็นสาวน้อยบอบบางอ่อนต่อโลกมากที่ต้องคอยให้แม่กับพี่สาวมาคอยเป็นห่วงทั้งๆที่ผมก็เป็นผู้ชายควรจะต้องเป็นคนดูแลสาวๆทั้งสองคนมากกว่า แต่ว่ามีคนเป็นห่วงใยเราก็ยังดีกว่าไม่มีใครสนใจใช่มั้ยครับ



   ติ๊ง



    ระหว่างที่ผมนอนมองเพดานห้องอย่างเลื่อนลอย เพราะอ่านหนังสือจนไม่รู้จะอ่านอะไรแล้ว เสียงเตือนจากแอปพลิเคชั่นสุดฮิตก็ดังขึ้น ผมเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า กระดึ๊บไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นข้างเตียง



   หืม?




   พอเห็นชื่อเจ้าของข้อความที่แสดงหน้าจอผมเลยรีบปลดล็อคแล้วเข้าไปอ่านข้อความเต็มๆทันที





Athip_Pun
ตอนนี้ว่างมั้ย? 16.31




ตั้งแต่พี่ชิดแชร์คอนแทคมาให้ผมก็แอดไลน์พี่ปั้นไว้ ส่งสติ๊กเกอร์และข้อความไปบอกว่านี่ครามเองเพื่อเป็นการทักทาย เขาอ่านแล้วก็เงียบไป ผมเลยคิดว่าพี่เขาคงยังไม่สะดวกตอบเลยไม่ได้ว่าอะไร จนสัปดาห์หนึ่งผ่านไปก็ไม่ได้ตอบ คงยุ่งมากจริงๆ...ยุ่งจนผมหมดหวังว่าจะได้งานใหม่ ผมเองก็ไม่ได้ทักท้วงเขาไปเพราะมันจะเป็นการรบกวนเปล่าๆ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ตอนที่บอกพี่ชิดไปผมก็แค่แถแท่ดๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย แต่พี่เขาก็เสนอตัวมาผมก็เลยสนอง ถือว่าได้ประโยชน์เลยไม่ปฏิเสธ แล้วจู่ๆคนที่เงียบไปหาย ก็ทักมา ถามว่าว่างมั้ยคืออะไร ผิดคนหรือเปล่า?



                           
Chakram_p
                     16:35 พี่หมายถึงผมเหรอครับ?



Athip_Pun
นี่ไลน์ใคร? 16.35



                           
Chakram_p
                     16:35 ครามครับ รุ่นน้องที่คณะพี่




Athip_Pun
งั้นก็ใช่สิ ทักไลน์ใครก็แสดงว่าถามคนนั้น ไม่งั้นจะทักเพื่อ? 16.36
ตกลงว่างมั้ย? 16.36




เหมือนโดนด่าว่าโง่ยังไงไม่รู้แหะ




                                                                                         
Chakram_p
                     16:38 ขอโทษครับ ผมคิดว่าพี่ทักคนผิด
                                                        16:38 ตอนนี้ผมว่างครับ พี่มีอะไรหรือเปล่า




Athip_Pun
งั้นมาเจอพี่ที่ร้านบิ๊กมิลค์ห้าโมงเย็น 16:39





                                                                                  
Chakram_p
                                                                                 16:40 อ่า ได้ครับ







   ผมตอบรับกลับไปอย่างงงๆ แต่ด้วยความที่ว่างไม่มีอะไรทำ ออกไปเจอก็ได้ อีกฝ่ายน่าจะคุยกับผมเรื่องงานแน่ๆ แต่จะว่าไปพี่เขาก็น่าจะบอกทางไลน์หรือไม่ก็โทรมาก็ได้ ผมคิดวนไปวนมาจนแต่งตัวเสร็จภายในสิบนาที ร้านบิ๊กมิลค์ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัย เป็นร้านขายเครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนผสมมากมายหลายเมนู แต่จุดขายหลักคงเป็นหน้าอกหน้าใจเจ้าของร้านที่ไปอัปไซส์มาให้เข้ากับชื่อร้าน แน่นอนว่าหนุ่มๆแวะเวียนไปชิมนมจนแน่นร้านตลอด อันที่จริงเครื่องดื่มเขาก็อร่อยมากนะครับ ไอ้ภีมมันเลี้ยงผมกับตามบ่อยๆ




   ใช้เวลาเกือบสิบนาทีผมก็เดินมาถึงหน้าร้านพอดี มองไปด้านในเห็นโต๊ะเต็มทุกโต๊ะ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ผลักประตูเข้าไป เสียงกรุ้งกริ้งของกระดิ่งประตูทำให้พนักงานกล่าวต้อนรับด้วยน้ำเสียงสดใส ผมกวาดสายตามองไปทั่วร้านเพื่อหาคนที่นัดผมมา แต่กลับมองไม่เห็นเลยลองเดินขยับไปด้านข้างแล้วมองเข้าทางด้านในสุดที่เป็นจุดอับสายตาเมื่อครู่ก็เจอพี่ปั้นในชุดนักศึกษานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่คนเดียว แต่โต๊ะรอบข้างเต็มไปด้วยผู้หญิงที่จ้องมองกันอย่างไม่เกรงใจ บางทีผมก็คิดนะว่าพี่เขาใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง กับสายตาที่คอยจับจ้องไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร กับใคร ดูไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย




   “ดีครับพี่”เอ่ยทักคนหน้าหล่อเหมือนรูปปั้น เครื่องหน้าดูดีเหมาะเจาะไปหมด อยากได้สักครึ่งหนึ่งของพี่เขา แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า หน้าตาบ้านๆแบบนี้ก็ดีแล้วไม่เป็นจุดสนใจ ไม่มีใครมาวุ่นวาย




   “ช้า”




   “ผมรีบสุดๆแล้วครับ เดินจนขาจะพันกันแล้วครับ”ผมพูดพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงตรงข้าม




   “ขาสั้นแค่นี้ยังจะพันกันได้อีกเหรอ”




   “..........”พูดงี้เรียกผมไปกระทืบกลางสี่แยกดีกว่าครับ




“หึ พี่ล้อเล่น”ใครเขาให้เอาเรื่องพวกนี้มาล้อเล่นเนี่ย




“หน้างอๆ มาๆ พี่เลี้ยงนมแก้วนึงเลยเอ้า”




“แก้วใหญ่เลยนะครับ”




“เด็กงก”




“เปล่างก แต่เมื่อกี้ผมเสียใจมากเลยนะครับ พี่ล้อปมด้อยผมอ่ะ ต้องแก้วใหญ่เท่านั้นถึงจะหาย”




“หึหึ เพิ่งรู้ว่าไม่ใช่คนเงียบๆ”




“หืม?”หมายความว่าไง? ผมพูดมากไปเหรอ




“เปล่า ไม่มีอะไร ป่ะ อยากกินไรไปสั่ง พี่รอ”พี่เขาบอกยิ้มๆพร้อมกับยื่นแบงค์สีเทามาให้หนึ่งใบ




“เอ้ย พี่ผมล้อเล่น”ถึงจะชอบของฟรี ชอบหลอกให้ไอ้ภีมเลี้ยงบ่อยๆ แต่กับคนอื่นผมก็ไม่ได้อยากได้หรอก มันไม่สนิทใจ




“ไปสั่งมา กล้าขัดรุ่นพี่เหรอ”




“ขี้โกงอ่ะ”ใช้อำนาจรุ่นพี่ในทางที่มิชอบ




“บ่นๆ เร็วไปสั่งมา”




“ครับๆ”ผมเดินมาสั่งนมปั่นเมนูโปรด ถึงจะเกรงใจเจ้าของเงินแต่ขอแอบเพิ่มวิปครีมกับราดคาราเมลอีกนิดหน่อย ผมชอบมันหอมหวานดี ยืนรอไม่นานก็ได้เครื่องดื่ม ผมนำเงินทอนมาคืนพี่ปั้นที่รออยู่ พี่รับคืนไปพร้อมเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะเอ่ยชวนผมออกจากร้าน




“จะไปไหนครับ?”นึกว่าจะนั่งคุยกันในร้านเสียอีก




“หิว ไปหาอะไรกินกัน”




“แล้วพี่นัดผมมาที่ร้านนมทำไมครับ”




“ตอนแรกมันยังไม่หิว แต่พอเห็นหน้าเราแล้วหิว กินอะไรมาหรือยังล่ะ”เห็นผมเป็นอาหารหรือไง เห็นหน้าแล้วหิว ผมยังไม่ได้กินอะไรมาเพราะยังไม่ถึงเวลา แต่ตอนนี้ท้องก็ร้องแล้ว ทว่าจะให้ไปกินกับพี่เขาผมก็นึกถึงเงินในกระเป๋าขึ้นมา พี่ปั้นต้องกินหรูแน่ๆ




“ทำไมคิดนานแค่ถามว่ากินข้าวเย็นหรือยัง”




“ยังครับ พี่จะไปกินที่ไหนเหรอ”ขอรู้ชื่อร้านให้อุ่นใจก็ยังดี แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ให้ความร่วมมือ




“ตามมาเดี๋ยวก็รู้”พี่ปั้นเป็นคนที่ชอบออกคำสั่งแหงๆ ผมก็ได้แต่เดินตามต้อยๆไปขึ้นรถญี่ปุ่นสีดำเงาวับ ถึงจะเป็นรถญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ได้ธรรมดานะครับ แอคคอร์ด ไฮบริด




“คาดเข็มขัดด้วย”พี่ปั้นดุเบาๆ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเอื้อมมือไปดึงสายเข็มขัด อีกฝ่ายก็โน้มตัวเข้ามาแล้วจัดการให้เสร็จสรรพ ก่อนจะถอยกลับหลังพวงมาลัยตามเดิน ทิ้งไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมจางๆคลอเคลียจมูกผม น่าจะเป็นกลิ่นที่เขาใช้ประจำ เพราะครั้งก่อนผมก็ได้กลิ่นนี้
ผมนั่งนิ่งไม่กล้าแม้กระทั่งจะยกแก้วนมปั่นขึ้นมาดูด แต่ก้อนเนื้อในอกเต้นตึกตักไม่ยอมลดจังหวะลงเลย




“ไม่อร่อย?”




“ครับ?”




“ในมือน่ะ”




“อ๋อ อร่อย เมนูโปรดเลย”




“ไม่เห็นกิน เดี๋ยวก็ละลายหมดหรอก”




พอพี่ปั้นบอกผมก็ค่อยๆยกแก้วขึ้นมาดูด รถเคลื่อนตัวออกจากที่จอดอย่างนุ่มนวล พี่ปั้นขับรถด้วยมือเดียว อีกมือวางไว้บนเกียร์ เสื้อนักศึกษาที่ถูกพับแขนมาไว้ที่ข้อศอก ทำให้พี่ปั้นดูเท่มาก ผู้ชายที่ทำให้ผู้ชายด้วยกันรู้สึกชื่นชมได้นี่ นับว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ผมว่าหลายๆคนก็คงอยากจะฮอตมีสาวติดตรึมอย่างพี่ปั้นกันทั้งนั้น




“จ้องกันแบบนี้พี่ก็เขินเป็นนะ”




ผมสะดุ้งเมื่อถูกทักขึ้นมา เผลอมองนานไปหน่อย พี่ปั้นยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาปิดปากตัวเองก่อนจะวางลงบนเกียร์เหมือนเดิม




“ขอโทษครับ”




“ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ครามจ้องซะจนพี่เขินน่ะ เดี๋ยวก็ขับรถชนกันพอดี”




“คนอื่นก็จ้องพี่ตั้งเยอะตั้งแยะพี่ไม่ชินเหรอครับ”




ในร้านนมเมื่อกี้ก็เห็นนั่งนิ่ง ไม่สนใจโลกด้วยซ้ำ




“มันไม่เหมือนกัน”




“หืม?”พี่ปั้นพูดอะไรไม่รู้เสียงเบาเชียว




“ที่สั่งมานั่นน้ำอะไรอ่ะ”




“อ๋อ นมปั่นครับ เพิ่มวิปครีม ราดคาราเมล อร่อยนะ”




“อร่อยจริงอ่ะ?”




“จริงครับ”




“สงสัยต้องลอง”




“วันหลังพี่ลองสั่งดูนะครับ”




“ทำไมต้องวันหลัง”




“หืม?”




“พี่ขอชิมหน่อยสิ”




“แต่ผมกินไปแล้ว”




“ไม่เป็นไร พี่ไม่ถือ ไหนเอามาให้พี่ลองหน่อย”




พี่ปั้นพูดมาแบบนั้นผมก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยื่นแก้วไปให้ แต่พี่เขายังเฉย




“พี่ขับรถอยู่”




หมายความว่าจะให้ผมป้อนสินะ พอคิดได้ดังนั้นจึงเลื่อนแก้วให้หลอดไปจรดกับริมฝีปากพี่เขาพอดี พี่ปั้นดูดของเหลวในแก้วไปนิดหน่อย




“หวาน”




“อร่อย”




“หวาน”




“.....”




“หึ ปากยื่นไปถึงกระโปรงรถแล้ว”




เกินไป! ผมรีบเม้มปาก เลยได้เสียงหัวเราะเบาๆเป็นสิ่งตอบแทน




“ก็อร่อยดี แต่หวานไปหน่อย”




“พี่ไม่ชอบของหวานเหรอ”




“ก็เป็นบางอย่าง แต่ก็ไม่ค่อยชอบหวานมากอยู่ดี แล้วเราชอบหวาน?”




“ก็เป็นบางอย่าง”ผมเลียนแบบคำตอบพี่เขา อะไรที่ควรหวานมันก็ต้องหวาน แต่บางอย่างไม่จำเป็นต้องหวาน แล้วดันหวานผมก็ไม่ค่อยชอบ โดยเฉพาะกับข้าวหวานๆ




“พี่คิดว่าครามเป็นคนเงียบๆนะเนี่ย”




รอบสองแล้วนะ




“พี่ว่าผมพูดมากเหรอ”




“ไม่ได้หมายความอย่างนั้น ปกติเห็นไม่ค่อยคุยกับใครนอกจากภีม นึกว่าเป็นคนคุยไม่เก่ง ไม่ค่อยพูดซะอีก แต่นี่ก็พูดคุยปกตินี่ แถมยังกวนอีกนะเรา”




“ผมกวนพี่เหรอ?”ผมไม่รู้ตัวเลยว่าไปกวนประสาทพี่เขาตอนไหน ผมก็ลืมตัวไป ว่าจริงๆแล้วก็ไม่ได้สนิทกับพวกพี่เขา ถึงจะเคยเห็นหน้าค่าตากันบ่อยๆ เผลอทำอะไรไม่ควรไปหรือเปล่า




“ถ้าผมพูดหรือทำอะไรไม่ดี ผมขอโทษนะครับ”




“ก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ไม่ต้องเกร็ง ทำตัวปกติเถอะ เป็นตัวเองในแบบที่เป็น”




รอยยิ้มของพี่ปั้นทำเอาผมเบลอไปชั่วขณะ พี่ปั้นมีหน้าตาเป็นอาวุธและรอยยิ้มที่ทำลายล้าง






X





พี่ปั้นแวะห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากหอพักของผมเท่าไหร่ แต่ที่ใช้เวลาเดินทางเพราะรถค่อนข้างติด พี่ปั้นจอดรถแล้วส่งกุญแจให้พนักงาน จากรูปการณ์แล้วพี่ปั้นน่าจะมีสิทธิพิเศษบางอย่าง แต่ผมไม่ได้ถามสิ่งที่สงสัยออกไป ได้แต่เดินตามพี่ปั้นเข้าห้างไปเงียบๆ ขึ้นชื่อว่าห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าเมื่อไหร่ตอนไหนก็คนเยอะเสมอ อ้อ ยกเว้นตอนห้างปิดอ่ะนะ




ผมกำกระเป๋าสตางค์แน่น ภาวนาไม่ให้พี่ปั้นเลือกร้านที่แพงนัก ที่จริงอาหารจานละสองสามร้อยผมก็มีเงินจ่าย แต่ที่คร่ำครวญอยู่นี่เพราะเสียดายเงินครับ ช่วงนี้ไม่มีรายได้อะไร นอกจากเงินจากแม่กับพี่สาวที่โอนเข้าบัญชีให้ ผมไม่ควรมาฟุ่มเฟือยกับเรื่องแบบนี้




“อยากกินอะไร”




“แล้วแต่พี่เลย”ใจจริงอยากจะบอกข้าวแกงฝั่งตรงข้ามห้างแต่ก็เกรงใจ




“แน่ใจนะว่าให้พี่เลือก”พี่ปั้นยิ้มแปลกๆ หมายความว่ายังไง



“พี่ชอบอาหารญี่ปุ่น เรากินได้มั้ย”




“ได้ครับ”




“ได้แน่นะ ไม่ต้องตอบเพราะเกรงใจพี่ จริงๆพี่ก็กินได้หมดแหละ แต่ร้านที่จะพาไปอร่อยมาก แต่ถ้าเราไม่ชอบก็เลือกร้านอื่นได้”




“กินได้แน่นอนครับ”




ถึงจะไม่ค่อยสันทัด แต่ผมก็เคยกิน ตามมันชอบเลยมากินกันหลายครั้ง ซึ่งผมก็เจียดๆเงินมา แล้วก็ไปประหยัดเอามื้ออื่น แต่ดูท่าว่าหลังจากมื้อนี้แล้วผมต้องซัดมาม่าเป็นอาหารหลักแน่นอน ผมเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูด้วยตัวลีบๆ พนักงานในร้านดูให้ความเคารพพี่ปั้นจนผมอดแปลกใจไม่ได้ พี่ปั้นพาผมไปยังห้องส่วนตัวที่ถูกแบ่งไว้เป็นสัดส่วน




“พี่ปั้นมาบ่อยเหรอ”




“ก็ไม่เชิง ที่นี่เป็นร้านขอพี่เขยน่ะ เขาเป็นคนญี่ปุ่น เป็นเชฟ”




“อ๋อ”




“อยากกินอะไรสั่งได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ มื้อนี้ไม่ต้องจ่าย”




“ครับ?”




“ก็บอกแล้วร้านพี่เขยพี่เอง กินได้ฟรี”




คำบอกเล่าของพี่ปั้นทำให้ผมเกร็งเข้าไปอีก ค่อยๆเปิดดูเมนูทีละหน้า และเลือกสั่งอย่างระมัดระวัง ไม่ให้แพงไปเพราะมันจะดูไม่ดี แต่มันก็เลือกยากเหลือเกินเพราะแต่ละอย่างนั้นราคาสูงจนไม่กล้าสั่งเลย ผมเปิดวนไปมาจนมาจบที่ชุดเซ็ตหนึ่ง




“เลือกได้หรือยัง”




“ครับ ผมเอา...”ผมบอกเมนูไป พี่ปั้นพยักหน้ารับก่อนจะถามว่าเอาอย่างอื่นอีกมั้ย พอผมบอกว่าไม่เอาแล้วเขาก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหาร พี่ปั้นสั่งมาอีกสี่ห้าอย่าง




“ทำไมมองพี่แบบนั้น”




“พี่กินหมดเหรอ”พี่ปั้นไม่ตอบเอาแต่ยิ้ม โทรศัพท์เขาที่วางบนโต๊ะสั่นทำให้ต้องเหลือบตาไปดู พี่ปั้นหยิบขึ้นมาพิมพ์อะไรสักอย่างลงไป ผมเลยนึกขึ้นได้ว่ายังไม่รู้เลยว่าพี่ปั้นเรียกผมออกมาทำไม แล้วเรามาไกลถึงนี่ได้ยังไง




“พี่ปั้นเรียกผมออกมามีอะไรครับ”ผมถามเมื่อเห็นเขาคุยธุระเสร็จแล้ว




“นึกว่าจะไม่ถาม”




“ก็พี่นั่นแหละทำผมลืมเลย”




“หึหึ เอ๋อน้อย”




“ผมไม่ได้เอ๋อนะ ทำไมพี่ชอบว่าผมจัง”เดี๋ยวเตี้ย เดี๋ยวโง่ ถึงจะไม่ได้พูดตรงๆแต่ความหมายก็ตีไปทางนั้น นี่ยังมีเอ๋ออีก




“ไม่ได้ว่า เรียกด้วยความเอ็นดู”




ผมยู่ปากใส่ เอ็นดูเกินไปมั้งเนี่ย




“เห็นไอ้ชิดว่าจะหางานทำ”




“ครับ พี่มีงานให้ผมใช่มั้ย เห็นพี่ชิดให้ถามพี่”




“ก็มีอยู่หรอกนะ แต่เดี๋ยวกินก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องงานดีกว่า”




“อ่าครับ”จะทำอะไรได้ พี่ปั้นว่าไงผมก็ว่าตามนั้น เหมือนพี่เขากุมชีวิตผมไว้เลย




อาหารทยอยมาเสิร์ฟกลิ่นหอมยั่วยวนมาก จากราคาแล้ววัตถุดิบในแต่ละจานนั้นเกรดพรีเมี่ยมแน่นอน พี่ปั้นสั่งข้าวหน้าปลาไหลมา น่ากินมาก



“มองแบบนี้ถ้าไม่แบ่งให้พี่คงจะใจร้ายมากสินะ”




“เอ้ย ผมแค่มองเฉยๆหรอก ว่ามันคืออะไร”




“ชิมได้พี่ไม่หวง ส่วนพวกนี้พี่สั่งมาให้ เมนูขึ้นชื่อของร้านเลยนะ มาทั้งทีต้องได้กิน”




“มันเยอะเกินไป”




“ก็ช่วยๆกันกิน เดี๋ยวก็หมด มันไม่ได้เยอะมาก”พี่ปั้นว่าแล้วเริ่มลงมือจัดการอาหารตรงหน้า ผมสั่งชุดสเต็กเนื้อมานั่งกินเงียบๆ พี่ปั้นก็ขยั้นคะยอให้ผมชิมอย่างอื่น แล้วเขาก็แย่งเนื้อผมไป ผมมองตาละห้อยก่อนจะได้ปลาไหลชิ้นสวยชุ่มฉ่ำซอสมาวางในบนข้าวแทน ไม่รอช้าผมนำมันเข้าปากและรับรู้ได้ถึงความฟินระดับสิบ อยากจะเคี้ยวนานๆให้สมกับความอร่อยแล้วค่อยกลืน




“หึหึ ทำหน้าฟินซะ พี่สั่งให้อีกเอามั้ย”




ผมส่ายหน้าทันที แค่ที่สั่งมาก็อิ่มแล้ว ขืนสั่งมาอีกได้เหลือแน่ๆ จบของคาวพี่ปั้นก็จัดของหวานมาให้ ไม่ได้ถามความสมัครใจของผมเลย แต่เขาบอกว่าเมนูเด็ดใครมาก็ต้องสั่งผมเลยวางใจเรื่องรสชาติ จริงๆแล้วไม่ต้องกังวลด้วยซ้ำ เพราะทุกจานที่ผมได้ลิ้มลองมันสุดยอดทั้งนั้น





“เรื่องงานน่ะ เราอยากทำจริงๆใช่มั้ย”





จู่ๆพี่ปั้นก็พูดขึ้นมา ซึ่งมันควรจะเป็นเรื่องที่เราคุยกันเป็นอันดับแรกไม่ใช่การมานั่งทานอาหารด้วยกันแบบนี้




“ใช่ครั้บ แต่ผมต้องขอทราบก่อนว่าเป็นงานแบบไหน กระทบเวลาเรียนหรือเปล่า แล้วก็สถานที่ปลอดภัยมั้ย”




พอพูดจบพี่ปั้นก็เลิกคิ้วขึ้น หน้าเครียด




“ผมไม่ได้อยากเรื่องมากนะครับ แต่ที่บ้านเขาขอมา ถ้าผมจะทำงานมันก็ต้องผ่านเงื่อนไขที่ตั้งไว้ แล้วต้องให้พี่สาวผมมาดูสถานที่ก่อนจะตกลงทำงานด้วย”




“แล้วที่ผ่านมาทำงานอะไร”




“สอนพิเศษกับร้านอาหาร แต่ตอนนี้ไม่มีคนมาเรียนด้วย แล้วร้านอาหารก็มีพนักงานประจำแล้ว ผมเลยต้องหางานใหม่”




รู้สึกเหมือนกำลังถูกสัมภาษณ์งานแบบไม่รู้ตำแหน่งที่กำลังจะทำ




“เห็นชิดบอกว่าเราทำอาหารได้ ทำงานบ้านได้”




“ครับ”




“พี่เพิ่งเลิกจ้างแม่บ้านไป ตอนนี้ยังไม่ได้รับคนใหม่ ถ้าเราสนใจอยากทำงานพี่ก็ยินดีจ้างเรานะ”




“จริงเหรอครับ!”ผมตาโต




“อืม งานก็มีแค่ทำความสะอาดห้อง ส่งผ้าไปซัก ทำอาหารให้พี่ ขอแค่มื้อเย็นในแต่ละวันก็พอ”




“ได้ครับไม่มีปัญหา แต่พี่ช่วยบอกผมด้วยนะครับว่าพี่ชอบทานอาหารแนวไหน แต่ถ้าญี่ปุ่นผมคงทำไม่ได้”





“ฮ่าๆ อาหารไทยธรรมดานี่แหละ ถึงจะบอกว่าชอบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องกินเป็นอาหารหลักสักหน่อย”





“โอเค ค่อยดีหน่อย แพ้อาหารอะไรบอกผมด้วยนะครับ ผมไม่อยากฆ่านายจ้างด้วยมือตัวเอง”




“เดี๋ยว พี่เป็นนายจ้างแล้วเหรอ ไหนว่าก่อนรับงานต้องให้พี่สาวมาดูสถานที่ก่อนไง”




“ห้องพี่คงไม่ได้อยู่บนร้านอาบอบนวดใช่มั้ยครับ”




“เดี๋ยวเถอะ”ผมหดคอหนีมะเหงกของพี่ปั้นที่พุ่งตรงมากลางหัว




“คิดได้ไงวะ หน้าพี่เป็นคนแบบนั้นหรือไง”




“ผมก็แค่ถามเฉยๆ”




“งั้นเดี๋ยวพาไปดูห้องพี่แล้วกัน จะได้รู้ไว้ แล้วเราจะพาพี่สาวมาเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน ส่วนค่าเหนื่อยพี่ให้วันละสองพัน”




“สองพัน!!”





“ทำไม? น้อยไปเหรอ”





“มันมากเกินไปต่างหากครับ”ผมว่าได้วันละห้าร้อยก็หรูแล้วอ่ะ ผมไม่ได้ทำงานเต็มเวลาด้วย




“ราคานี้พี่จ่ายไหวและพอใจจะจ่าย ถือว่าตกลงตามนี้นะ”




“ครับ”พี่ปั้นเป็นจอมเผด็จการ แต่ผมไม่เสียประโยชน์ก็โอเค ผมจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ขัดพื้นให้เงาวับ รังสรรค์เมนูอาหารที่อร่อยจนพี่ปั้นต้องร้องขอชีวิต ตอนนี้ผมคิดไปไกลแล้วแม้จะยังไม่ได้บอกแม่กับพี่เอมก็ตาม แต่ร้อยทั้งร้อยผมมั่นใจว่าทั้งสองคนคงไม่คัดค้าน เมื่อได้เห็นห้องอันหรูหราของพี่ปั้น ที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้นสูงสุดของห้างแห่งนี้ แต่จริงๆก็ไม่เชิงว่าบนห้าง เป็นอาคารสำนักงานที่เชื่อมกับห้างโดยเดินผ่านตัวห้างมาได้เลย ผมเคยได้ยินมาว่าบ้านพี่ปั้นมีธุรกิจห้างสรรพสินค้าแต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นห้างดังแห่งนี้




“ปกติพี่ไม่ได้จ้างแม่บ้านบริษัทเหรอ”





“ก็จ้าง แต่มีปัญหาเลยเลิกจ้างไป”





“เขาขโมยของพี่เหรอ”ก็ของแต่ละอย่างท่าทางหลายตังค์ ขโมยไปขายสักชิ้นสองชิ้นก็สบายละ





“เปล่าหรอก เราไม่ต้องไปสนใจ มาดูดีกว่าว่าอะไรตรงไหนบ้าง”





พี่ปั้นพาชมห้องที่น่าจะเรียกว่าเพนท์เฮ้าส์ได้ มีสองชั้นสิ่งที่น่าสนใจคือโซนห้องครัว มีอุปกรณ์ครบ แต่ดูแล้วพี่ปั้นไม่น่าจะเป็นคนชอบทำอาหาร




“พี่อยู่กับใครหรือเปล่าครับ?”





“ไม่นี่ อยู่คนเดียว ถามทำไม?”





“เห็นมีห้องครัว ดูแล้วพี่ไม่น่าจะชอบทำอาหาร”




“ก็ตามนั้น แม่เป็นคนออกไอเดียตกแต่งที่นี่แล้วเขาชอบทำอาหาร แต่ก็ไม่ได้มาอยู่หรอก เขาอยู่บ้านใหญ่กัน”




“อ๋อ”




พี่ปั้นเลยเล่าให้ฟังอีกเล็กน้อยว่าเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนเข้ามหาวิทยาลัยเพราะมันใกล้ไปเรียนสะดวก ส่วนคนอื่นๆก็อยู่บ้านตามปกติ มีพี่สาวที่แยกไปอยู่กับสามีหลังแต่งงาน ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่นี่




“เป็นไง พอไหวมั้ย”พี่ปั้นหนัมาถามเมื่อพาผมดูห้องคร่าวๆแล้ว ห้องใหญ่ขนาดนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องจ้างแพง




“ไหวครับ”




   “โอเค เอาไว้เริ่มงานจริงจัง พี่จะบอกอีกทีว่าต้องทำอะไร ส่วนไหนบ้าง”




   “ได้ครับ ผมอาจจะรบกวนพาพี่สาวมาดูห้องอีกครั้ง”




   “ไม่มีปัญหา จะมาเมื่อไหร่ก็บอกพี่ล่วงหน้าสักวันสองวันนะ แล้วเริ่มงานได้วันไหนก็บอกพี่ แต่เร็วหน่อยก็ดี”





   “ได้ครับ”ผมรับปาก อยากได้งานนี้มากๆ ปลอดภัยแน่นอน แถมรายได้ดี ไม่ไกลจากที่พัก ไม่เบียดเบียนเวลาเรียน ตรงตามเงื่อนไขทุกอย่าง




   “งั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับ พี่จะได้พัก”





   “เดี๋ยวพี่ไปส่ง”





   “ไม่เป็นไรครับ”





   “จะไปส่ง อย่าดื้อ”




   ครับ ผมไม่ควรขัดใจว่าที่นายจ้าง เดี๋ยวจะโดนลดค่าจ้าง เลยทำตัวเป็นเด็กดีด้วยการให้ท่านเขาไปส่ง สรุปว่าวันนี้เป็นวันดีได้กินฟรีและได้งานทำ แถมมีสารถีที่คนทั้งมหาวิทยาลัยหมายปองไปส่งถึงหอพัก ทว่าผมกลับลืมเรื่องสำคัญไปเสียสนิทที่ว่าจะไม่เข้าใกล้พี่ปั้นไปมากกว่านี้ แต่เอาเถอะขอให้ได้งานก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แค่คิดถึงเงินวันละสองพันก็สุขใจเกินพอ







-------------------------------
แรงดึงดูดอะไร๊ ไม่มีทั้งนั้น แรงเงินอย่างเดียวเลยที่ทำให้น้องครามวิ่งเข้าหาพี่ปั้น 555+
เรื่องค่าจ้างอย่าตกใจไป พี่ปั้นรวยพี่ปั้นสะดวกแบบนี้ค่ะ
และเรื่องนี้เราไม่ได้แต่งให้ตัวละครมีความซับซ้อนมาก อยากแต่งฟีลน่ารักสบายๆ
แม้น้องครามจะดูเป็นเด็กมีปมเรื่องเงินๆทองๆ แต่รับรองว่าไม่ดราม่าแน่นอนค่ะ
ฝาก #ทีมปั้นคราม  ไว้ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 05-02-2018 02:13:51
พี่ปั้นสายเปย์สุดดดดดดดดดดดด
ต้องวางแผนไว้แล้วแน่เลยให้น้องมาทำงานอ่ะ คิดไรกับน้องใช่มะะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-02-2018 06:20:20
พี่ปั้น ออกตัวอ่อยคราม แล้ว
ดูท่าจะเอ็นดูครามมากเลย

ที่ว่าแม่บ้านมีปัญหา
สงสัย คงจะยั่วยวนพี่ปั้นแน่เลย :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 05-02-2018 07:24:49
ครามคงจะยั่วยวนพี่ปั้นแน่เลย  :z3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 05-02-2018 07:38:48
น้องครามขี้งกนะเนี่ย  อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 05-02-2018 11:29:31
รอติดตามจร้าาา  :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 05-02-2018 13:31:14
 :pig4:ก่อนอื่นเลยขอขอบคุณกับความไม่ซับซ้อนและฟีลน่ารักสบายๆที่ใฝ่ฝัน(ฮา)
และจะด้วยแรงอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เขาทั้งคู่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน :hao6:
นี่ก็ไม่ได้อยากได้อะไรมากมาย
ก็แค่รอฟินไปวันๆเท่านั้นเอง แฮ่^^ :hao3:
ขอบคุณค่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 05-02-2018 14:29:57
น้องน่ารัก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 3 P.2 || [04.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 05-02-2018 21:44:52
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 05-03-2018 19:28:35
แรงดึงดูด by zero





- 4 - 




   
   “แม่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำงานแล้ว”




   “แต่ครามอยากทำนี่”




   “เดี๋ยวนี้ดื้อกับแม่นะ”




   “ครามดื้อมานานแล้วแม่ก็รู้ โอ๊ยๆ ครามเจ็บ แม่อย่าหยิก ครามเจ็บ”




   ผมดิ้นรนจนหลุดจากกรงเล็บของแม่ ไม่รู้เนื้อหนังติดไปบ้างหรือเปล่า เจ็บเหมือนจะตาย คุณนายยืนมองตาเขียว ก่อนจะหายใจเฮือกใหญ่ ผมยิ้มประเหลาะพาตัวเองเข้าไปคลอเคลียออดอ้อนอย่างที่ชอบทำประจำ แม่ใจแข็งกับผมได้ไม่นานหรอก




   “ให้ครามหาเงินใช้เองบ้างนะแม่ รับรองไม่กระทบกับการเรียนแน่นอน”




   “แม่ไม่อยากให้ครามเหนื่อย”




   “ครามไม่เหนื่อยหรอก เมื่อก่อนเราเหนื่อยกันกว่านี้ก็ยังผ่านมาได้เลย”




   “ห้ามยังไงก็ไม่ฟังสินะ”




   “อื้อ”




เพี๊ยะ!




โดนไปอีกหนึ่งดอกขึ้นรอยแดงที่แขนครบห้านิ้ว แม่ผมทำตามสุภาษิตที่ว่ารักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี แม่ผมตีจริงส่วนผมก็เจ็บจริง จำได้ว่าตอนเด็กถ้าดื้อมากๆแม่จะตีด้วยก้านมะยม เวลาแม่ตีจะไม่ใช้ก้านเดียวนะครับ แม่จะเอามาห้าหกก้านรูดใบออกแล้วมัดรวมกัน ฟาดมาที่น่องเน้นๆ คุณเอ๊ย อย่าให้บรรยายถึงรสชาติ มันตราตรึงใจจนทุกวันนี้




“แม่อ่ะ”ผมทำหน้างอใส่ปล่อยแขนที่กอดแม่ออก




“ไม่ต้องมางอนแม่เลย ไหนบอกมาสิงานอะไรที่เราจะไปทำ”




ผมเล่าให้แม่ฟัง พร้อมกับช่วยเตรียมอาหารเย็นไปด้วย ผมกลับมาหาแม่ในเย็นวันศุกร์ เลิกเรียนปุ๊บก็กลับปั๊บ เพราะอยากอยู่กับแม่นานๆ วันนี้มีแกงเลียง กับผัดพริกหยวกหมู มีขนมหวานเป็นทับทิมกรอบที่ป้าข้างบ้านให้มา




“แน่ใจนะว่าเราจะทำได้ ถึงเราจะทำงานบ้าน ทำกับข้าวได้ แต่ยังไงเราก็ไม่ใช่มืออาชีพนะ”




“ได้สิแม่ ครามซะอย่าง อีกอย่างพี่เขาก็เสนอมาเองด้วย ก็ไม่น่าจะเรื่องมากอะไร แถมให้ค่าจ้างวันละสองพันแน่ะ”




“มากไปหรือเปล่าลูก”




“เขารวยอ่ะแม่”ก็คงมีเหตุผลนี่แหละนะ ที่พี่ปั้นจ่ายได้ไม่ได้ลำบากเลยสักนิด เหมือนกับเงินสองพันบาทไม่ได้ไปสะกิดรูขุมขนพี่เขาเลย




“นั่นยิ่งแล้วใหญ่ ถ้ามีเงินก็น่าจะจ้างพวกแม่บ้านตามบริษัท หรือไม่ก็ต้องมีคนมาคอยดูแลอยู่แล้วนะ”




“พี่เขาบอกว่าก็เคยจ้าง แต่มันมีปัญหาเขาเลยเลิกจ้าง แต่ครามก็ไม่ได้ถามเขาหรอกแม่ว่าปัญหาอะไร ครามไม่อยากโดนว่าว่าสอดรู้สอดเห็น”




“จ้า พ่อเด็กดี”




“ที่หนึ่งเลยล่ะ”แม่ค้อนขวับ ผมยิ้มแฉ่งรับ




“ถ้าครามว่าโอเคแม่ก็โอเค แต่พี่เราเขาจะโอเคด้วยมั้ย”




“เดี๋ยวครามให้พี่เอมไปดูสถานที่ทำงานก่อนก็ได้ พี่ปั้นเขาไม่ติดอะไร”




“งั้นคงจะเดือนหน้าเลยนะ”




“ห๊ะ ทำไมอ่ะแม่”




“พี่เอมเขาไปฮ่องกงกับวิค เห็นว่าครั้งนี้จะไปเป็นเดือนเลย”




“ทำไมไม่มีใครบอกครามเลย”ผมโวย คุยกันล่าสุดก็ไม่เห็นพูดถึงเลย ใจร้าย เดือนหน้าพี่ปั้นคงไม่รอแน่ ไม่งั้นห้องหรูคงกลายเป็นรังหนู เมื่อรอไม่ได้เงินสองพันของผมก็คงหลุดลอยไป




“แม่ก็บอกอยู่นี่ไง”




“ถ้างั้น ครามจะทำงานนะ ไม่รอให้พี่เอมไปดูแล้ว”




“ไปเคลียร์กับพี่เขาเองแล้วกัน”




“ถ้าแม่ให้ พี่เอมก็ต้องให้”




“จะไม่บอกพี่เขาว่างั้น”




“รอพี่เอมกลับมาก่อนค่อยบอก เพราะพี่เอมไม่ยอมบอกครามก่อนไป ครามงอน!”




“เด็กคนนี้นี่”แม่คงเอือมกับผมแล้วเลยหันไปสนใจน้ำแกงที่กำลังเดือดปุดๆแทน ผมตัดสินใจแล้วว่าจะทำงานกับพี่ปั้น งานดี รายได้งามอย่างนี้จะหาที่ไหนได้อีก ทำแค่สองสามชั่วโมงแล้วก็กลับห้อง สบายจะตาย พอตกลงกับตัวเองได้ผมก็ไลน์ไปบอกพี่ปั้นทันทีกลัวพี่เขาเปลี่ยนใจ ตอนแรกว่าจะโทรไปแต่เกรงว่าจะรบกวนเวลาส่วนตัวของพี่เขาเลยได้แต่ส่งข้อความผ่านแอปสีเขียวไปว่าผมพร้อมไปทำงานได้วันจันทร์เลย พี่ปั้นมาตอบตกลงอีกทีตอนดึกแล้ว ดีที่ผมยังเอ้อระเหยนอนอ่านการ์ตูนอยู่เลยได้คุยกันอีกนิดหน่อย พอดีลงานกับจบก็แยกย้ายกันไปด้วยสติ๊กเกอร์กู๊ดไนท์หนึ่งตัว เลือกตัวที่น่ารักที่สุดส่งไปให้ เจ้านายใหม่จะได้เอ็นดู




ผมใช้เวลาวันหยุดอยู่ที่บ้านไม่ออกไปไหน แกล้งแม่ งอนแม่ แล้วก็อ้อนแม่ ทำวนไปอยู่อย่างนี้จนถึงบ่ายวันอาทิตย์ที่ต้องกลับหอพัก แม่ทำกับข้าวไว้ให้หลายอย่าง รวมไปถึงเจ้านายใหม่ของผมด้วย ผมโทรไปถามพี่ปั้นว่าอยากทานอะไรจะได้เตรียมวัตถุดิบได้ถูก พี่เขาก็บอกว่าอะไรก็ได้ ผมเลยให้แม่ทำหมูอบรสชาตินุ่มนวล เนื้อหมูละลายในปากให้พี่ปั้น แล้วผมจะทำข้าวผัดสับปะรดให้กินคู่กันประเดิมเป็นมื้อแรก





   
X






ผมกลับถึงห้องพักตอนบ่ายแก่ เอากับข้าวบางส่วนแช่ตู้เย็นเก็บไว้กินวันอื่น รวมถึงหมูอบของพี่ปั้นด้วย จากนั้นก็ทำความสะอาดห้อง เอาผ้าไปซักกว่าจะเสร็จก็ได้เวลาของมื้อเย็น แต่ตอนตากผ้าแอบเห็นว่าแคคตัสลูกรักที่ประคบประหงมมาเป็นปี แอบออกดอก เป็นตุ่มตูมๆขึ้นมาสามตุ่ม ลุ้นมาตั้งนานพอเผลอหน่อยออกดอกเฉย




“เห้ย แอบออกไม่บอกกันก่อนเลย”ผมดีใจมากหยิบมันขึ้นมาพิจารณาก่อนจะวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปแล้วอัปโหลดลงอินสตาแกรม



ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนแรกที่มากดไลค์ผมชื่อไม่คุ้นตา ดิสเพลย์เป็นท้องฟ้า พอกดเข้าไปก็เป็นแอคเคาน์ล็อค ดูจำนวนคนที่ติดตามก็มีไม่เยอะ จำนวนโพสต์ก็ประมาณสองร้อยกว่ารูป ใครเนี่ย แต่คอมเม้นต์จากไอ้ภีมก็ดึงความสนใจผมไป ไอ้เพื่อนไม่รักดี ริอาจจะเอาน้ำร้อนมารดเด็กๆของผม เถียงไปเถียงมา คุณภีมากรก็เสนอหน้ามาถึงห้อง




“อะไรของมึงเปลี่ยวมากเหรอ”ผมเปิดประตูให้ไอ้ภีมที่ทำหน้าเซ็ง




“เออ เงี่ยนมากอยากหาที่ระบาย”




“นู่นห้องน้ำ อย่าทำเลอะ”




“เชี่ย กูพูดเล่นมั้ย”




“กูก็พูดเล่นมะ ตกลงเป็นไรหน้าเป็นตูดมาเนี่ย”




“เบื่อๆ เซ็งๆ”




“มันต้องมีสาเหตุ”




“หิว มีไรให้กูกินมั่ง”




“ถ้าลีลากูจะถีบมึงให้ตกเตียงเลยหมาภีม”




“เดี๋ยวดิน้องเกลืออย่าใจร้ายกับกู หิวเนี่ย อิ่มแล้วเดี๋ยวเล่า”




“กับข้าวในกล่องนั่นอ่ะ มีพะโล้กับปลาราดพริก มึงอุ่นดิ เดี๋ยวกูไปกินด้วย”แทนที่จะได้เอาไว้กินมื้ออื่นเพื่อประหยัด ต้องมาถูกล้างผลาญลงกระเพาะไอ้ภีมซะงั้น เห็นแก่หน้างอๆของมันหรอกนะ ผมจะยอมสละอาหารฝีมือแม่ให้มันได้เชยชม




“เห้ย หมูอบน่ากินนน กูกินนะ”




“ห้ามกินเว้ย! อันนั้นไม่ได้”




“ขี้งก”




“ของพี่ปั้นเว้ย อย่างอื่นก็มีเยอะแยะมึงก็เลือกกินไปดิ”




“ห๊ะ? ของพี่ปั้น ทำไมต้องมีให้พี่ปั้นวะ”




“เออ กูลืมบอก กูจะไปทำงานกับพี่ปั้นอ่ะ”




“งานไรวะ”




“ก็งานบ้านไง ตามที่มึงไปโฆษณากูไว้กับพี่ชิด ว่ากูทำงานบ้าน ทำอาหารได้ พี่ชิดเอาไปบอกพี่ปั้น พี่ปั้นเขาต้องการคนพอดีก็เลยจ้างกู แล้วกูก็ตกลง”




“จนได้นะมึง หางานจนได้ ตอนนั้นกูก็พูดไปงั้น ไม่คิดหรอกว่าใครเขาจะจ้างมึงไปทำงานบ้าน เดี๋ยวนี้เขามีบริษัทแม่บ้านเยอะแยะ หรือไม่ก็จ้างพวกแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฏหมายมาทำงานบ้านเหมือนบ้านกูอ่ะ”




“เอาเหอะ จะยังไงก็ช่างพี่ปั้นเขาให้กูทำงาน จบนะ”




“จ้าๆ เอาที่มึงสบายใจ แต่ก็ดี มึงไปทำงานกับพี่ปั้น คนกันเองก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”




“รายได้ก็ดี”




“ไอ้เกลือเอ๊ย”




“แล้วมึงอ่ะ บอกกูได้ยัง เป็นไรถึงได้หอบร่างมาหากู”




“อิ่มก่อนแล้วจะเล่า”




“ไม่เล่าก็ไม่ต้องแดก”ผมดึงจานข้าวมันออก




“เชี่ยนี่! เออ เล่าก็ได้”




“กูเซ็งตามอ่ะแม่ง”




“อะไรกันอีกวะ”




“กูขอมันเป็นแฟน มันไม่ตกลง มันบอกขอเวลากูก็ให้ไปแล้วไง”




“มึงให้ไปกี่วัน”




“7 วันมันก็มากพอแล้วเว้ย”




“พ่อหนุ่มใจร้อน กูว่าตามมันก็อยากคบกับมึงแหละ แต่คงอยากแกล้งมึงให้งุ่นง่านมากกว่า มึงไปแกล้งมันไว้เยอะ”




“เดี๋ยวกูจับปล้ำแม่ง”




“มึงทำงั้นจริงก็รอให้ญาติๆตามมากระทืบมึงได้เลย”ตามเป็นคนญาติเยอะ เป็นที่รักและเอ็นดู ใครมาทำอะไรหลานรักคงไม่ตายดี




“กูก็ว่างั้น แล้วทำไงมันจะยอมคบว้า เล่นตัวจริงไอ้สัด มันเขี้ยวเว้ย”




ผมส่ายหน้าให้กับความบ้าบอของภีมากร ที่กลายร่างเป็นหมีงุ่นง่านที่เห็นกระปุกน้ำผึ้งวางตรงหน้าแล้วไม่มีปัญญาเปิดฝากิน




“กินๆไปซะ ท้องอิ่มสมองจะได้แล่น จะได้คิดว่าทำยังไงตามถึงจะยอมมึง”




“พะโล้แม่งอร่อยว่ะ แต่กูยังอยากกินหมูอบอยู่นะ”




“เออๆ วันไหนว่างกูไปทำให้กินที่ห้อง”




“ดีมากเพื่อนรัก”




“แต่มึงต้องจ่ายค่าวัตถุดิบทั้งหมดนะ”




“ไอ้เกลือ!”
   




   x





   วันแรกของการทำงานพ่อบ้านและพ่อครัวหัวป่าก์ของผม เริ่มด้วยการนั่งรอนายจ้างที่ใต้ตึกคณะคนเดียวเพราะเพื่อนสองคนพากันไปเดต หมั่นไส้!




   เมื่อตอนเที่ยงกลุ่มพี่ปั้นไม่ได้แวะมาทานข้าวกลางวันที่โรงอาหารเหมือนทุกที มีเพียงข้อความที่ส่งมาบอกก่อนผมเข้าเรียนคาบบ่ายว่า หลังเลิกเรียนให้ผมรอใต้ตึก จะได้กลับคอนโดไปพร้อมกัน แต่ผมบอกพี่ปั้นว่าต้องแวะไปซุปเปอร์มาร์เกตซื้อพวกของสดก่อน แล้วก็ต้องแวะที่ห้องเพื่อไปเอาหมูอบในตู้เย็นด้วย แต่พี่ปั้นก็ยังยืนยันให้ผมรอ โอเค รอก็รอ


ระหว่างรอผมก็ทำบัญชีรายรับรายจ่ายไปด้วย ช่วงที่ผ่านมาก็มีแต่รายจ่าย อยากจะร้องไห้ แต่ต่อจากนี้ผมจะกลายเป็นนักศึกษาปีสองที่มีรายได้วันละสองพันบาท ความฟินมันอยู่ตรงนี้ แต่ผมไม่ได้คิดจะเอาเก็บไว้ทั้งหมด จะแบ่งส่วนหนึ่งไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้พี่ปั้นด้วย เพราะถึงพี่ปั้นจะบอกว่ามีกำลังจ่ายไหวแต่ผมก็คิดว่ามันมากไปอยู่ดีเลยหาทางออกด้วยวิธีนี้




“ขยันจังเว้ย”




ผมสะดุ้งเพราะเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง แต่พอจะขยับตัวนั่งตรงๆ ก็ดันติดแผ่นอกใครสักคนที่โน้มตัวลงมาเท้าแขนกับขอบโต๊ะ




“เชี่ยวอย มึงขยับออกมาให้ไว”ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่โดม คนด้านหลังผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะขยับตัวมา




“อะไรของพวกพี่อ่า”




“ไม่มีอะไร เห็นนั่งง่วนทำอะไรสักอย่างอยากรู้ก็เลยแอบดู”พี่วอยบอกแล้วนั่งลงข้างผม ส่วนพี่โดมเลื้อยไปกับม้านั่งฝั่งตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว




“ทำไมมีแค่พวกพี่สองคนละครับ”




“ไอ้ปั้นกับไอ้ชิดมันคุยกับอาจารย์อยู่ เดี๋ยวก็มา”




“โดม!”




“จ๋า!”พี่โดมลุกพรวดขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงหญิงอันเป็นที่รัก




“เดี๋ยวจินไปกินข้าวกับพวกแป้งนะ จะไปช้อปปิ้งตามประสาผู้หญิงด้วย โดมกลับบ้านไปก่อนเลยไม่ต้องไปส่ง”




พี่จินพูดรัวทีเดียวจบก็เดินไปกับกลุ่มเพื่อนอีกสามคน ทิ้งให้แฟนหนุ่มนั่งเอ๋อ อ้าปากค้างเพราะพูดไม่ทัน




“อะไรวะ โดนเทซะงั้นกู ว่าจะชวนไปกินบุฟเฟ่ต์เปิดใหม่หลังมอ”




“งั้นเดี๋ยวกูกับไอ้ชิดไปเป็นเพื่อนมึงเอง”




“น่าเสียดายที่ครามต้องไปทำงานห้องไอ้ปั้น ไม่งั้นจะพาไปกินด้วย”




“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันครับ”ผมไม่ปฏิเสธพี่เขาให้เสียน้ำใจแต่ก็คิดว่ามันคงไม่มีโอกาส เพราะผมต้องทำงานห้องพี่ปั้นทุกวัน




“พวกมึงนั่งรออะไรไม่กลับบ้านกันวะ”พี่ปั้นมาพร้อมกับพี่ชิด คู่หูดูโอ้ที่เห็นบ่อยๆตั้งแต่สมัยมัธยม




“กูก็นั่งเป็นเพื่อนน้องรอมึงไง”




“กูมาแล้วงั้นพวกมึงก็กลับกันไปได้แล้ว”




“ทำเป็นไล่ เออ พวกกูไปก็ได้ ไอ้ชิดไปแดกบุฟเฟ่ต์หลังมอกัน”พี่วอยว่าแล้วก็ลากพี่ชิดที่ยังไม่ทันตอบตกลงออกไป พี่โดมหันมาบอกให้ผมโชคดีแล้วก็ตามไปอีกคน




“เราก็ไปกันได้แล้ว”




ผมเดินตามเจ้านายไปขึ้นรถ ที่จอดบริเวณหน้าคณะ ถึงจะเป็นเวลาเย็นแล้วแต่มีหลายคนเพิ่งเลิกเรียนจึงมีสายตาจับจ้องมาที่ผมที่เดินตามพี่ปั้น ก็นะเดินกับคนดังย่อมตกเป็นเป้าสายตา พอขึ้นรถได้ผมก็รีบคาดเข็มขัดทันทีไม่รอให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย




“ไปที่หอผมก่อนนะครับ”




“โอเค แล้วรอพี่นานมั้ย




“ก็เกือบชั่วโมงได้ครับ แต่ผมไม่ได้รีบอะไร”ก็มีแค่งานที่ต้องไปทำ ไม่รอเจ้าของห้องก็คงไม่ได้ทำ




“โทษทีนะ”




“ไม่เป็นไรครับ”




“แล้วนี่ไม่พาพี่สาวมาดูสถานที่ก่อนรับงานหรือไง




“พอดีพี่ผมไปต่างประเทศกะทันหัน อีกนานกว่าจะกลับ แต่ผมบอกแม่แล้วแม่ก็โอเค เลยไม่มีปัญหาอะไรครับ”




“เห็นพูดถึงแต่แม่กับพี่สาวแล้วพ่อเราล่ะ”




“เขาก็อยู่กับครอบครัวของเขาครับ”




“อ่อ เออ วันนี้จะทำอะไรให้พี่กินล่ะ”




ผมต้องขอบคุณพี่ปั้นที่จับความรู้สึกผมได้เร็วมากและพาเปลี่ยนเรื่อง ผมไม่อยากพูดถึงคนที่ทำไม่ดีกับแม่สักเท่าไหร่ ถึงจะผ่านมาหลายปี แต่เรื่องบางเรื่องเวลาก็ไม่สามารถลบเลือนมันไปจากใจเราได้




“ผมให้แม่ทำหมูอบให้พี่ ที่เรากำลังจะเอาที่หอผมนี่แหละ ส่วนผมเดี๋ยวจะไปทำข้าวผัดสับปะรดให้กินคู่กัน”




“ฟังดูน่าอร่อยแหะ”




“แค่ฟังมันไม่อร่อยหรอกครับ พี่ต้องกินและรับรองว่าอร่อยทุกอย่างแน่นอน”




“หึหึ แล้วพี่จะรอชิม แต่ก่อนอื่นถึงหอแล้วนะ รีบขึ้นไปเอาหมูอบของพี่ลงมาสักที อย่ามัวแต่โม้”




“คร้าบๆ”ผมยู่จมูกใส่ไปหนึ่งที เรื่องอะไรมาหาว่าผมโม้ก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไปอย่างเร็วรี่




จากหอผมก็ไปต่อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ สอบถามกับพี่ปั้นแล้วว่าที่ห้องมีอะไรบ้างก็ได้ความว่านอกจากเครื่องครัวแล้วก็ไม่มีเครื่องปรุงอย่างอื่นเลย ผมเลยต้องซื้อทั้งข้าวสาร เครื่องปรุงรส น้ำมันพืช และอะไรอีกหลายอย่าง พี่ปั้นบอกให้หยิบมาทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ พอเสร็จจากของพวกนี้แล้วก็มาเลือกอาหารสดที่พอทำอาหารได้อีกสองสามวัน ผมไม่อยากตุนไว้เยอะเพราะอยากให้วัตุดิบสดใหม่เสมอ




 “พี่ปั้นชอบกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ”




“จริงๆอะไรก็ได้ พี่กินได้หมด รสจัด รสจืด ไม่เกี่ยง”




“พี่เป็นพวกลิ้นจระเข้หรือไงเนี่ย”ถามกี่ทีอะไรก็ได้




“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ยเล่า เอาเป็นว่าครามทำอะไรให้พี่กินพี่ก็กิน”




ดูเลี้ยงง่ายดีจัง...




“โอเคครับ งั้นผมจะทำต้มยำอึ่ง ผัดเผ็ดตุ๊กแก แย้แดดเดียว แล้วก็....”




“พอเลยๆ กวนนะเนี่ย เอาแบบธรรมดาก็พอครับ พิสดารเกินไปพี่ก็ไม่ไหว”




“ไหนบอกอะไรก็ได้ไง”ผมหรี่ตามอง พี่ปั้นทำหน้าเหมือนอยากจะเข้ามาขย้ำผม ผมเลยฉีกยิ้มสู้ อีกฝ่ายทำเพียงส่ายหน้า แล้วโยนพวกขนมขบเคี้ยวใส่รถเข็น




“ส่วนมากก็ชอบพวกอาหารจานเดียวง่ายๆ ราดหน้าก๋วยเตี๋ยว ข้าวกะเพราไก่ทำนองนี้”




“ปกติไปร้านตามสั่งพี่ก็สั่งแต่เมนูพวกนี้ใช่มั้ย”




“ใช่ ทำไมเหรอ?”




“เขาไม่เรียกอะไรก็ได้แล้วครับ แบบนี้เรียกสิ้นคิด พี่ได้สารอาหารครบหรือเปล่าเนี่ย”




“ได้ครบอยู่แล้วน่า เพราะถ้าพี่คิดไม่ออกไอ้พวกนั้นมันก็สรรหาเนมูอะไรมาสั่งกันบ้างก็ไมรู้พี่ก็ตามๆมันไป แต่ส่วนมากก็เข้าร้านอาหารที่เขามีเมนูมาให้เลือกอยู่แล้ว




ก็นะ ลืมไปเลยว่าคุณเขารวย น้อยครั้งที่จะเข้าร้านอาหารตามสั่งแบบบ้านๆ แต่ร้านพวกนั้นก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคนกินนี่แหละ ดูท่าแล้วจะเป็นพวกที่ฟังแต่เมนูเดิมๆ




“ก็ยังดี แต่ต่อไปนี้รับรองว่าพี่จะได้สารอาหารครบถ้วน”สารพัดเมนูผุดขึ้นมาในหัวผมมากมาย สงสัยกลับไปต้องไปลองจดและลองจัดว่าแต่ละวันจะทำอะไรให้พี่ปั้นกินดี พอคิดได้ดังนั้นของที่ตั้งใจว่าจะซื้อไปเผื่อก็คงต้องหยุดไปก่อน เอาไว้จัดสรรเมนูได้ค่อยซื้อใหม่พรุ่งนี้




“ครบแล้วเหรอ”




“ครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อน ของวันอื่นค่อยมาซื้อแล้วกัน”




“ไหนๆก็มาแล้วซื้อไปเลยก็ได้นะ”




“ไม่เอาครับ ผมอยากได้ของสดใหม่มากกว่า แล้วซุปเปอร์มันก็ไม่ไกลด้วย ไปมาสะดวกอยู่แล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อน”




“เอางั้นก็ได้”




   จ่ายเงินเสร็จก็ช่วยกันขนของมาที่รถและตรงกลับคอนโด พี่ปั้นให้คีย์การ์ด กุญแจสำรอง และสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าห้องให้ผมเรียบร้อย ผมก็ไล่เจ้าของห้องให้ไปอาบน้ำ ส่วนตัวเองก็ทำอาหารมื้อเย็น




   “อ้าว ทำไมไม่ไปอาบน้ำล่ะครับ”




   “เดี๋ยวค่อยอาบ เรามีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย”




   “ไม่เป็นไรครับ นี่มันหน้าที่ผม เจ้านายเชิญไปนั่งดูทีวีดีกว่าครับ อาหารเสร็จแล้วผมจะไปเรียก”




   “ทีวีไม่มีอะไรน่าดู งั้นพี่นั่งดูครามทำอาหารแล้วกัน”




   ถึงจะงงว่าการนั่งดูผมทำอาหารมันมีอะไรน่าสนใจมากกว่ารายการทีวี ซึ่งคนมีห้องหรูอย่างพี่ปั้นคงจะติดจานทุกจาน มีเคเบิ้ลนั่นนี่เต็มไปหมด ช่องรายการให้ดูเป็นร้อยๆช่องแน่นอน มันต้องมีสักรายการที่น่าสนใจบ้างแหละ แต่ในเมื่อพี่เขาว่างั้นผมก็ไม่มีข้อโต้แย้ง ได้แต่เร่งมือทำอาหาร เพิ่มต้มจืดฟักใส่ปีกบนไก่และเห็ดหอมเพื่อให้ซดน้ำคล่องคอไปอีกอย่าง




   “ชอบทำอาหารมากเลยเหรอ”




   “ตอนแรกก็ไม่ชอบหรอกครับ แต่ต้องช่วยแม่ทำทุกวัน มารู้ตัวอีกทีก็รู้สึกรักการทำอาหารไปแล้วครับ”




   “ดีจัง ยังไงก็ไม่อดตาย”




   “ถึงทำไม่เป็นก็ไม่อดตายครับ ถ้าพี่มีเงินซะอย่างซื้อกินเอาก็ได้”




   “ฮ่าๆ ก็จริง”




   “หิวหรือยังครับ”




   “ก็นิดหน่อย แต่พี่รอได้ ไม่ต้องรีบหรอก ทำไปตามปกติเถอะ”




   ถึงพี่ปั้นจะบอกอย่างนั้นแต่ผมก็ต้องเร่งมือทำอยู่ดี เพราะยังมีงานอย่างอื่นรออยู่ แต่สายตาที่พี่ปั้นจ้องมองตลอดเวลาที่ผมทำอาหารมันทำให้รู้สึกเกร็งๆยังไงไม่รู้




   “เอ่อ พี่ปั้นอย่าเอาแต่จ้องผมสิ เดี๋ยวก็ผมก็หยิบเกลือมาใส่แทนน้ำตาลหรอก”




   “หึ ถ้าไม่อยากให้พี่จ้องก็หาอะไรให้พี่ทำสิ”




   “งั้นพี่เอาหมูอบในเวฟใส่จานทีนะครับ แล้วถ้าข้าวสุกแล้วพี่ตักใส่ถ้วยนี้ให้ผมหน่อยครับ”ถือโอกาสใช้เจ้านายเสียเลย แต่ห้ามหักเงินค่าจ้างเพราะเสนอตัวมาทำให้เอง




   “โอเคได้”




   ผมทำต้มจืดก่อน เพราะข้าวผัดสับปะรดต้องรอข้าวสุกก่อน ถ้ามีเวลามากกว่านี้ผมจะแกะสลักฟักให้ทุกชิ้นเลย ให้สมกับค่าแรงสองพัน




   “หอมจัง ขอชิมได้มั้ย”




   “อดใจรอก่อนครับ มันยังไม่ได้ที่เลย”




   “ตอนแรกก็หิวนิดเดียวนะ แต่พอได้กลิ่นอาหารเท่านั้นพยาธิพี่ร้องประท้วงกันใหญ่เลย”




   “งั้นพี่ก็กินหมูอบรองท้องไปพลางๆก่อนครับ”




   “รอตอนเสร็จทีเดียวดีกว่า”




พี่ปั้นช่วยหยิบจับนั่นนี่จนอาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย อันเชิญเจ้านายนั่งประจำที่ พี่ปั้นมองอาหารสามอย่างบนโต๊ะด้วยตาเป็นประกาย




“งั้นผมขอตัวไปทำความสะอาดห้องนะครับ”




“มานั่งกินด้วยกันก่อน”




“หา?”




“เยอะแยะแบบนี้พี่จะกินยังไงหมด มานั่งกินด้วยกันก่อน”




“แต่ว่า...”




“คราม พี่จ้างให้เรามาทำงานก็จริง แต่พี่ก็ยังเห็นเราเป็นน้องอยู่นะ ไม่ใช่ลูกจ้าง มานั่งกินด้วยกันเถอะ พี่กินคนเดียวมันก็เหงาๆนะ”พี่ปั้นทำหน้าน่าสงสาร อีกอย่างผมก็หิวแล้วเหมือนกันเลยไม่ปฏิเสธ




“ก็ได้ครับ”




ผมไปตักข้าวผัดแล้วมานั่งฝั่งตรงข้ามพี่ปั้น ผมตกหมูอบใส่จานพี่ปั้น




“หึหึ อะไรจะลุ้นขนาดนั้น”พี่ปั้นชะงักช้อนที่กำลังจะเข้าปาก ผมลุ้นจนลืมหายใจ




“ก็อยากรู้ว่าจะถูกปากมั้ย ถ้าเกิดวันแรกทำแล้วไม่ประทับใจพี่ผมก็เฟลแย่เลย”พี่ปั้นยิ้มก่อนจะส่งหมูอบเข้าปาก อีกฝ่ายหลับตาเคี้ยวช้าๆเหมือนจะซึบซับรสชาติของมันอยู่




“เป็นไงพี่”




“อร่อยมาก ฝีมือคุณแม่เด็ดสมคำคุยจริงๆ”




ผมยิ้มรับหน้าบาน




“ดีใจอะไรขนาดนั้น ไม่ได้ชมฝีมือเราสักหน่อย อย่าลืมสิคนที่ต้องทำให้พี่กินทุกวันคือเราไม่ใช่คุณแม่”




“ชมแม่ก็เหมือนชมลูกแหละพี่ งั้นพี่ลองชิมข้าวผัดสิ”




ผมคะยั้นคะยอให้พี่ปั้นลองชิมข้าวผัดที่ผมทำอย่างสุดฝีมือ คัดเลือกวัตถุดิบอย่างดี แต่อีกฝ่ายกลับทำสีหน้าเฉยๆ ดื่มน้ำตามหลังจากที่กลืนคำแรกลงไป




“ไม่อร่อย ไม่ถูกปากเหรอครับ”




“วันหลังทำเมนูอื่นนะ”




“คะ...ครับ”โคตรรู้สึกแย่เลยอ่ะ ผมมั่นใจในฝีมือตัวเองมากเลยนะ เพราะได้วิชาจากแม่มาเยอะ




“อย่าทำหน้าหงอยสิ พี่แค่อยากรู้ว่าเมนูอื่นจะอร่อยมากเหมือนกันหรือเปล่า”




ฮึ่ย!




“หึ ปากจะชิดจมูกอยู่แล้ว อ่ะ กินเข้าไปแล้วจะได้รีบไปทำงาน เดี๋ยวก็ไม่ได้กลับห้องหรอก”




ผมอ้าปากงับข้าวผัดสับปะรดจากช้อนที่ยื่นมา รสชาติอร่อยเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ผมย่นจมูกให้คนขี้แกล้งด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะรีบจัดการมื้อเย็นให้เรียบร้อยแล้วไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ การเริ่มงานวันแรกยังคงมีอะไรติดบัดบ้างเล็กน้อยตามประสามือใหม่ไร้ประสบการณ์แบบมืออาชีพ แต่ก็ไม่มีอะไรเกินความสามารถ ปิดท้ายด้วยการที่เจ้าของห้องมาส่งผมเวลาสามทุ่มนิดๆ ด้วยเหตุผลว่าเป็นทางผ่าน เพราะคุณเขาจะออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ แหม เริ่มตั้งแต่ต้นสัปดาห์กันเลยทีเดียว ผมได้แต่ค่อนขอดในใจเท่านั้นแหละครับ ไม่คิดจะสอดปากเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านายแต่อย่างใด เดี๋ยวเงินสองพันที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าสตางค์จะปลิดปลิวไป จบวันดีๆด้วยกระเป๋าตุงๆ






------------------------------------
พาน้องครามมาส่งก่อนบินจ้า เจอกันตอนเรากลับมานะคะ จุ๊บๆ



   
   

หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-03-2018 01:28:25
แหมอิจฉาจัง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 06-03-2018 13:04:43
และแล้วพี่ปั้นก็ได้กินข้าวฝีมือน้องเกลือ
หวานเกิ๊นนนนนน
กดเป็ดน้อยและบวกรัวๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 06-03-2018 14:52:37
มีความเนียนแอบป้อนข้าวน้องนะคะ^^
ค่อยๆขยับใกล้กันไปเรื่อยๆ
รออ่านต่อจ้า :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ygff0429 ที่ 06-03-2018 17:31:07
แหมแหมมีปงมีป้อนนะคะ o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-04-2018 23:46:43
 :pig4: :pig4: :pig4:

พี่ปั้นใช้ครีมยี่ห้ออะไรครับ?

เนียนเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 01-05-2018 13:26:10
 :hao7:  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 02-05-2018 19:53:41
 :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 03-05-2018 02:17:33
 o13 ดึงเข้าไป..... ดูดเข้าไปค่ะ  o13 ชอบบบบ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 03-05-2018 11:37:15
เข้ามารอด้วยคน
รอ รอ รอ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 03-05-2018 19:11:08
น้องครามมีความเป็นแม่ศรีเรือนสุดๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 06-05-2018 20:34:46
 :katai1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 23-06-2018 16:28:27
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 4 P.2 || [05.03.18]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-07-2018 18:07:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 16-10-2018 10:15:43
แวะมาบอกว่า เดี๋ยวมาต่อนะคะ
หายไปนานหน่อย แต่ไม่ทิ้งไปไหนน้าาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-10-2018 14:08:01
จ้า  รออ่านนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 17-10-2018 10:14:46
นานแค่ไหนก็รอครับ
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 12-11-2018 11:41:13
 :hao7:   น่ารัก....น่าสนุก......แต่กลัวค้างงงงงงงงงงฝฝฝฝ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 22-12-2018 06:31:34
น้องครามพี่ปั้น อยู่ด้วยกันน่ารักมาก
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 24-12-2018 01:55:00
ตลกแรงเงินดูด งานนี้ใครจะเผยตัวออกมาก่อนกันนะ >..<
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: เปลว แว๊บแว๊บ ที่ 30-12-2018 03:52:35
  :katai5:ไม่เดี๋ยวแล้วค่าาาาาา 55555 จะปีใหม่แล้ว แต่ยังไงก็ HNY2019 นะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 14-01-2019 08:04:07
 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 14-01-2019 17:32:15
น้องครามน่ารัก ถ้าเป็นพี่ปั้นก็จะหลอกล่อไปให้ทำอาหารให้กินนะเนี่ย 555
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แวะมาบอกข่าว P.3 || [16.10.18]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 22-02-2019 11:59:11
พี่ปั้น น้องคราม เมื่อไรจะกลับมา


ป้าคิดถึง กลับมาเถอะนะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 19-03-2019 21:14:17
ใครที่ลืมเนื้อเรื่องไปแล้ว ย้อนกลับไปอ่านใหม่ได้ค่ะ T^T







แรงดึงดูด 5 by zero





   ยอดเงินเก็บในบัญชีที่เพิ่มขึ้นทำให้ผมเป็นสุขใจยิ่งนัก งานพิเศษสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจนน่าตกใจอยู่เหมือนกัน ที่ตั้งใจไว้ว่าจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาเป็นค่าวัตถุดิบในการทำอาหารให้พี่ปั้นด้วย ก็ทำได้อยู่แค่สองครั้งเท่านั้นเพราะพอพี่ปั้นรู้ ผมก็ถูกบ่นเป็นชุด รัวจนอยากจะส่งพี่ปั้นไปแข่งเดอะแร๊ปเปอร์ บ่นเสร็จก็เอาซองหนึ่งซองยัดใส่มือผมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ




พอเปิดซองดูก็ต้องร้องอื้อหือ อู้หู โอ้โห กับจำนวนเงินที่อัดแน่นซองแทบปริ มันมากมายจนอยากจะถามว่าจะให้ผมไปซื้อเนื้อยูนิคอร์นมาทำสเต๊กหรือไงครับพี่ แถมยังบอกว่าถ้าผมอยากจะทานอะไรก็ซื้อมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ถึงจะได้รับอนุญาตแต่ผมก็ยังเกรงใจอยู่ดี แต่ถ้าไม่ซื้อมาเลยก็จะถูกคุณท่านบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ก็เลยต้องซื้อติดมือมานิดๆหน่อยๆ ปกติทำอาหารเย็นเสร็จ รายนั้นก็ชวนผมให้ผมทานข้าวเป็นเพื่อนด้วยทุกที ดังนั้นเมนูที่ผมทำให้พี่ปั้น บางครั้งก็แอบทำของชอบของตัวเองเข้าไปด้วย




   ผมทำงานกับพี่ปั้นมาได้เดือนแล้วพี่สาวผมรับรู้แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่มีบ่นบ้างที่ผมเก็บเงียบไม่ยอมบอก ส่วนเรื่องงานก็ปกติดี งานไม่หนัก ส่วนมากคือการทำอาหารเย็นให้พี่ปั้น ส่วนการทำความสะอาดนั้นแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยเลย เพราะห้องสะอาดมาก เหมือนทุกตารางนิ้วของห้องไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน ห้องที่ทำบ่อยที่สุดก็คงเป็นห้องนอนกับห้องหนังสือ




ใครจะไปรู้ว่าจะมีห้องหนังสือที่อาจจะเรียกได้ว่าห้องสมุดขนาดย่อมซุกซ่อนอยู่ ตอนที่มาวันแรกผมก็ยังไม่ทันสังเกต มีหนังสือทุกประเภทเรียงกันตั้งแต่พื้นจรดเพดานห้อง เวลาจะหยิบจากชั้นบนๆก็ต้องปีนบันไดขึ้นไป พี่ปั้นเล่าว่าครึ่งหนึ่งเป็นหนังสือของพี่ปั้นเอง ส่วนนิยายรักหวานแหวว กับหนังสือทำอาหารอะไรพวกนี้จะเป็นของแม่และพี่สาวซึ่งผมชอบมาอ่านบ่อยๆในช่วงเวลาว่างเพื่อประดับความรู้เรื่องการทำอาหาร



   วันนี้พี่ปั้นบอกว่าจะกลับดึกหน่อยเพราะต้องไปงานเลี้ยงอะไรไม่รู้ แต่ให้ผมมาทำกับข้าวไว้รอ ยังไงก็จะกลับมาทาน ผมเลยเลือกทำข้าวต้มกุ๊ยกับกับข้าวอีกสามอย่างไว้รอ เพราะไม่อยากให้พี่ปั้นทานอะไรหนักๆก่อนนอน เอาแค่ให้อิ่มท้องเบาๆก็พอ จะได้ไม่อึดอัดตอนนอน ส่วนมื้อเย็นของตัวเองก็ไข่ดาวสองฟองราดซอสแม็กกี้ เป็นเมนูโปรดของผมตั้งแต่เด็กเลย ไข่แดงสุกๆ ไข่ขาวกรอบๆ ฟินมาก




   พอจบมื้อเย็น ผมก็เริ่มทำงานส่วนอื่นต่อ ก็ปัดกวาดเช็ดถูทั้งที่มันก็สะอาดดีอยู่แล้วแต่ถ้าไม่ทำเลยผมก็รู้สึกไม่สบายใจ จากนั้นก็รดน้ำต้นไม้ที่ระเบียงและตามจุดอื่นๆ ตั้งแต่ผมมาดูแลมันก็เริ่มสวยเปล่งปลั่งและออกดอกจนพี่ปั้นออกปากชม สร้างความภูมิใจให้กับผมมาก ส่วนเรื่องซักผ้ารีดผ้าที่พี่ปั้นเคยบอกไว้ตอนแรกก็ไม่ได้ทำ เพราะคุณชายเขาส่งร้านซักรีด ไปๆมาๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองได้ทำงานน้อยมากไม่สมกับค่าจ้างเลย


 

   นั่งๆนอนๆ หลังจากทำความสะอาดเสร็จ ทำการบ้านก็แล้ว เล่นเกมก็แล้วจนห้าทุ่มพี่ปั้นก็ยังไม่กลับมา ผมก็ไม่กล้ากลับก่อน เพราะถ้าพี่ปั้นมาผมก็ต้องคอยอุ่นอาหารให้ จะให้เจ้านายมาทำเองก็กระไรอยู่ อีกอย่างพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ที่ผมไม่ต้องกลับบ้าน เพราะแม่กับคุณป้าคุณน้าแถวบ้านชวนกันไปไหว้พระทำบุญตามประสาคนแก่ที่ต่างจังหวัดไปกันหลายวัน ผมว่าก็ดีเพราะแม่จะได้พักผ่อน ได้เที่ยวบ้าง




   ผมนั่งไถฟีดอินสตาแกรมไปเรื่อย ดูรูปดาราบ้าง คลิปตลกบ้าง จนไม่รู้จะดูอะไรก็ไล่ดูของเพื่อนแต่ละคนว่าไปทำอะไรกันมาบ้างซึ่งเพื่อนผมก็มีไม่เยอะเท่าไหร่ มาสะดุดตรงรูปหนึ่งที่ทำเอาผมเบ้ปากใส่ ไอ้หมาภีมคนอวดแฟน ในที่สุดมันก็ได้ใช้สถานะแฟนกันสักที หลังจากไอ้ภีมตามจีบมาร่วมเดือน จีบแบบที่คนที่ชอบเขาจีบกันจริงๆ ไม่ใช่ทำเหมือนที่ผ่านมาที่คอยแกล้งคอยกัดกันไม่เว้นวัน ผมกดหัวใจให้มันก่อนจะเข้าไปคอมเม้นต์ด้วยอิโมติคอนมองบนเป็นแถวยาวด้วยความหมั่นไส้ แล้วภีมากรก็ตอบกลับมาอย่างไว




Peempeema @Chakram_p อะไรของมึ๊งงงงง



Chakram_p @Peempeema เหม็งฟามรัก



Peempeema @Chakram_p อ่อ อิจฉานี่เอง



Chakram_p @Peempeema ใคร๊! เขาจะไปอิจฉาคนอย่างมึง @Tammm คิดผิดคิดใหม่ได้นะเพื่อน กุหวังดี



Peempeema @Chakram_p สร้างความร้าวฉานนะมึง เด่วกูโบกให้เตี้ยกว่าเดิมไอ้เกลือ



Tammm @Peempeema ทำไมต้องทำร้าย @Chakram_p ด้วย



Peempeema @Tammm กูจะทำร้ายใครก็ได้ แต่ไม่ทำร้ายมึงแน่นอนครับแฟน



Tammm @Peempeema ❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤



Chakram_p ปล่อยให้กุเน่าตายไป บาย




ผมเบ้ปาก มองบน เลิกสนใจพวกมันสองคนหลังจากเจอหัวใจกระหน่ำมาสิบดวง มองนาฬิกาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจทิ้ง เที่ยงคืนกว่าแล้ว ผมอยากกลับห้องไปนอนจะแย่ หาวเกินสิบหาว เปลือกตาก็หนักจนต้านทานไม่ไหวอยู่แล้ว ผมปล่อยตัวไหลไปตามพื้นพรมหนานุ่มหน้าทีวี คว้าหมอนอิงมากอดไว้ ขอพักสายตาสักห้านาทีสิบนาทีแล้วค่อยโทรหาพี่ปั้น แต่กลายเป็นว่ามารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่รู้สึกว่าโดนรัดจนแน่นขยับตัวไม่ได้ ลืมตาขึ้นมาก็เจอกับอะไรบางอย่างที่ต้องเพ่งมองแล้วเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่ามันคือหน้าอกเปลือยเปล่าอกของคนๆหนึ่ง




“พี่ปั้น!!!”




“...อื้อ”




ผมได้เสียงครางตอบรับมาแค่ครั้งเดียว เปลือกตาพี่ปั้นยังปิดสนิท ทว่าวงแขนยังกอดผมไว้ไม่ปล่อย ซ้ำยังแน่นกว่าเดิม คัฟเวอร์เป็นงูหรือไงครับพี่! เขาว่างูรัดจะได้คู่ แต่รัดขนาดนี้ผมคงตายก่อนได้เจอคู่




“พี่ปั้นๆ”ผมเรียกอีกครั้ง  แต่ก็ไร้ความเคลื่อนไหว ขี้เซาเกินไปแล้ว แล้วเมื่อคืนกลับมาตอนไหน ผมมานอนบนเตียงได้ยังไง มีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบ




“อ๊ะๆๆ พี่ปั้นนนน อื้อออ”




“โอ๊ย!!!”



หลังจากเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดของอีกฝ่ายผมก็กระโดดลงมายืนหอบอยู่ข้างเตียง หัวใจเต้นรัวแรงแทบจะหลุดออกมานอกอก เกือบไปแล้ว ไม่รู้ว่าพี่ปั้นกำลังฝันถึงใคร หรือคิดว่าผมเป็นใครที่นอนกอดอยู่ จู่ๆก็มาไซ้คอแล้วทำท่าจะจูบอีกต่างหาก!




“คราม...โอย...”พี่ปั้นนอนครวญครางเอามือกุมเป้าหน้าดำหน้าแดงอยู่บนเตียง ไม่ได้ตั้งใจนะแค่ตกใจแล้วก็เผลอถีบไปเต็มแรงมันดันไปโดนกล่องดวงใจของพี่เขาพอดี




“ผมขอโทษ ก็พี่อ่ะ...ทำผมตกใจ”ผมเดินไปนั่งข้างเตียงแต่ก็ทิ้งระยะห่างไว้ไม่มากไม่น้อย เห็นสภาพพี่ปั้นแล้วก็สงสารและรู้สึกผิดนิดๆ




“ผมขอโทษครับ”




พี่ปั้นพยักหน้าให้แล้วยกมือขึ้นเหมือนจะห้ามให้ผมหยุดพูด อีกฝ่ายนอนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วผ่อนออกมา เหมือนความเจ็บปวดที่ได้รับจะทุเลาลงแล้ว




“อ่า...พี่ทำอะไรเรา?”พี่ปั้นถามหลังจากลุกขึ้นนั่งท่าปกติได้แล้ว ดูเหมือนเขาจะตื่นเต็มตาแล้ว




“กะ...ก็พี่...พี่...”




“หืม? พี่อะไร?”




“พี่จะจูบผมอ่ะ!”




“จริง?”




“อื้อ!”อะไรเล่า ทำไมต้องทำหน้าไม่เชื่อแบบนั้นด้วย




“อ่า โทษที พี่นึกว่าฝันไป”




ฝัน?? ฝันอะไรของเขาเนี่ย ถึงมาไล่จูบคนอื่น แต่ผมก็ไม่ได้ถามออกไป กลัวว่าจะได้คำตอบที่ไม่อยากฟังสักเท่าไหร่




“แล้วเมื่อคืนพี่กลับมากี่โมงครับ ผมมานอนอยู่นี่ได้ไง”




“เกือบตีสองน่ะ ช้ากว่าที่คิด พี่กลับมาก็เห็นเรานอนอยู่ที่โซฟากลัวจะนอนไม่สบายเลยพามานอนที่เตียง โทษทีนะที่ทำให้รอ”




“ไม่เป็นไรครับ แต่แปลกจัง ผมเดินมานอนแบบไม่รู้ตัวได้ยังไง”เป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ ยังไงก็ต้องรู้สึกตัวสิ



“ใครว่าเดินมา พี่อุ้มต่างหาก”





!!!??







X








“นี่ เลิกทำหน้างอได้แล้ว แค่อุ้มเอง ไม่ได้ปล้ำสักหน่อย”




ผมหันไปค้อนใส่พี่ปั้นที่เอาแต่หัวเราะอารมณ์ดี บ้าจริง ผมไม่ได้โกรธหรอกที่ถูกอุ้ม แต่มันทำตัวไม่ถูก ทั้งเขินทั้งอายเมื่อคิดว่าตัวเองหลับลึกเกินไปแถมตื่นขึ้นมายังไปซุกอกพี่เขาอีก น้ำก็ไม่ได้อาบ ไม่รู้พี่ปั้นจะเหม็นตัวผมหรือเปล่า




“มานั่งกินด้วยกันก่อน”




“ไม่เอาครับ ผมจะกลับแล้ว”มื้อดึกที่ผมเตรียมไว้กลายเป็นมื้อเช้าของพี่ปั้นที่กลับดึกก็ยังอุตส่าห์มาเก็บอาหารพวกนี้เข้าตู้เย็นอีก และเพราะผมไปปลุกพี่เขาแบบฮาร์ดคอร์ อีกฝ่ายก็เลยไม่ได้นอนต่อ ตอนนี้ก็มานั่งหล่ออยู่ที่โต๊ะอาหารเพื่อทานมื้อเช้าที่ผมอุ่นให้ใหม่




“จะรีบกลับไปไหน นัดใครไว้?”




ทำไมต้องทำหน้าหาเรื่องด้วยเล่า




“เปล่าสักหน่อย ผมยังไม่ได้แปรงฟันเลย น้ำก็ยังไม่ได้อาบตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้วอ่า จะกลับไปอาบน้ำครับ”




“ห้องพี่ก็มีน้ำให้อาบนะ อาบที่นี่ก็ได้”




“ไม่เป็นไรครับ ให้ผมกลับเถอะ”




“ทำไมต้องดื้อกับพี่ด้วย หืม?”




“......”แค่จะกลับห้องตัวเอง ผมดื้อตรงไหนเนี่ย เดี๋ยวกัดหูซะเลย




“ไม่ต้องมาทำปากยื่นเลย ตามพี่มา”




ผมเดินตามพี่ปั้นเข้ามาในห้องนอนอีกรอบ ร่างสูงๆเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นมาให้ผมที่มองตาปริบๆ




“ไปอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันซะ แล้วมากินข้าวเช้ากับพี่ เดี๋ยวรอ”




“ให้ผมกลับเลยก็ได้นะ”




ผมหดคอหนี มะเหงกที่จะเขกลงมาบนหัวตัวเอง โทษฐานที่ขัดคำสั่งพี่ท่าน พอเห็นท่าทางเหมือนเต่าหลบเข้ากระดองของผมพี่เขาก็เลยหัวเราะออกมา




“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย ไปอาบน้ำเร็ว อย่าดื้อ”




“เรื่องอะไรครับ”




“ไปอาบน้ำก่อน”พี่ปั้นทำตาดุใส่ที่ผมไม่ยอมไปอาบน้ำสักที ผมเลยมุ่ยหน้าใส่ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำที่กว้างขวางเกือบจะเท่าห้องที่ผมเช่าอยู่




“แปรงสีฟันกับผ้าเช็ดตัวในตู้หยิบใช้ได้เลยนะ”




เสียงพี่ปั้นร้องบอกอยู่หน้าประตูห้องน้ำ ผมรับคำก่อนจะมองตัวเองในกระจกพลางคิดไปด้วยว่าพี่ปั้นจะคุยเรื่องอะไรกับผม อย่าบอกนะว่าจะเลิกจ้างผมแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นผมจะทำยังไงดี มีอะไรที่ผมทำผิดพลาดไป หรืองานที่ทำไม่สมกับค่าจ้าง ผมยินดีให้ปรับลดลงได้นะ มีรายได้เล็กๆน้อยๆก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆหายใจทิ้งไปวันๆ




กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะมัวแต่คิดว่าพี่ปั้นจะคุยเรื่องอะไร จนมานึกได้ว่าอีกฝ่ายรอทานข้าวอยู่ก็ใช้เวลาในห้องน้ำไปนานมากแล้ว




“ขอโทษที่ให้รอนานครับ”




“ไม่เป็นไร พี่ไม่รีบ เสื้อตัวใหญ่ไปหน่อยเนอะ”




“ครับ”จริงๆมันก็ใหญ่มากว่าผมไปไซส์นึง แต่สำหรับพี่ปั้นมันคงพอดีตัวเพราะพี่เขาตัวใหญ่ มีกล้ามแขนกล้ามหน้าท้องด้วย หุ่นดีแบบพวกที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ไม่ได้ล่ำกล้ามปูชวนให้ขนลุก ผมเคยเห็นพี่ปั้นถอดเสื้อเดินไปเดินมาในห้องหลังออกกกำลังกายเสร็จ อยากจะถ่ายรูปไปขายให้กับแฟนคลับพี่เขามาก คนอะไรจะฮอตฉ่าทุกองศา แต่ผมก็มองได้ไม่นานหรอกครับ เขิน ฮือออ




พอจบมื้อเช้าผมก็เก็บล้างส่วนเจ้าของห้องหายเข้าไปในห้องนอน ผมก็พยายามหาอะไรทำ ไม่ให้ตัวเองว่าง เดินออกไปสนทนากับต้นไม้ดอกไม้ที่ระเบียงก่อนจะเข้ามาก็เห็นพี่ปั้นกวักมือเรียกให้ไปนั่งที่โซฟา




“พี่มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ หรือว่าไม่ให้ผมทำงานแล้ว ผมทำอะไรไม่ถูกใจหรือเปล่าพี่บอกผมได้นะ ผมจะปรับปรุงตัว พี่ยะ...”




“เดี๋ยวๆ ใจเย็น พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”พี่ปั้นพูดกลั้วหัวเราะ ตาคมๆนั่นยิบหยี ผมชอบเวลาที่พี่ปั้นหัวเราะแบบนี้ที่สุด รู้สึกได้ว่ามันคือการหัวเราะมาจากข้างใน ดูสดใสเหมือนพระอาทิตย์ยามเช้า




“มองแบบนี้ต้องการอะไรจากพี่?”




“อะ...อะไรเล่า ผมก็มองปกติ”




“นึกว่าตกหลุมรักพี่ซะอีก”และผมก็เกลียดรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของพี่ปั้นที่สุดเช่นกัน มันทำให้ผมหน้าร้อนแปลกๆ




“พะ...พี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”




เปลี่ยนเรื่องดีกว่า ผมไม่อยากจ้องตากับพี่ปั้นานๆ อีกฝ่ายก็เหมือนจะรู้ทันถึงได้หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ก็ยอมเปลี่ยนเรื่องให้




“พี่จะบอกว่าวันนี้เพื่อนพี่จะมาดูบอลกัน แต่จะมากินข้าวนั่งเล่นกันตั้งแต่ตอนเย็นก็เลยอยากให้ครามช่วยทำอาหารให้หน่อย”




“พวกพี่โดมเหรอครับ”




“ใช่ สะดวกมั้ย?”




“ได้ครับ ผมทำให้ได้”




“โอเค เดี๋ยวพี่ให้พิเศษ”




“ผมขอไม่รับได้มั้ยอ่า แค่ที่พี่ให้ผมทุกวันก็มากพอแล้ว ถือว่านี่เป็นบริการพิเศษจากผมแล้วกันนะ”




ทำอาหารไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับผมเลย วันนี้ถือว่าเป็นการทำงานชดเชยกับผ่านๆมา ที่งานมันดูน้อยไม่สมค่าจ้างสักเท่าไหร่




“แต่ว่ามันเยอะนะ หลายคน คงต้องทำหลายอย่าง”




“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมเต็มใจ”




“ถ้าอย่างนั้นชวนไอ้ภีมกับตามด้วยสิ”




“เอ๊ะ?”




“ก็ถ้ามีแต่พวกเพื่อนพี่เดี๋ยวครามเหงานะ ชวนเพื่อนมาด้วย หลายๆคนจะได้สนุก ยังไงคืนนี้ก็คงอยู่ยาวกันนั่นแหละ”




“จะดีเหรอครับ”




“ดีสิ ห้ามปฏิเสธ”




ผมย่นจมูกใส่ คนอะไรเผด็จการ




“ก็ได้ครับ ถ้าสองคนนั้นว่างนะครับ”ผมแบ่งรับแบ่งสู้ ความจริงถ้ามีสองคนนั้นมาด้วยก็อุ่นใจเหมือนกัน ผมทำตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ถ้าหากจะมีแต่พวกเพื่อนของพี่ปั้น ถึงแม้ว่าจะได้เจอและได้คุยกันบ่อยกว่าเมื่อก่อนก็ตาม แต่อีกใจผมก็เกรงใจเจ้าของห้องด้วยถึงจะเอ่ยปากชวนก็เถอะ




“เป็นอะไรไป”



“ปะ...เปล่าครับ”




“ไม่ต้องคิดมากน่า แค่ทำอาหารให้อร่อยๆก็พอ โอเคนะ”สัมผัสจากฝ่ามือที่ลูบบนศีรษะผมเบาๆ ทำให้ยิ้มออกมาได้ รอยยิ้มอ่อนโยนของพี่ปั้นที่ผมอยากจะเก็บเอาไว้คนเดียว




“โอเคครับ”




“เอาล่ะ งั้นเดี๋ยวเราออกไปซื้อของกัน กว่าจะเสร็จ กว่าจะได้เตรียมของก็คงได้เวลาพอดี”






X






“ครามจะทำอะไรบ้าง”




“ผมว่าถามพี่ๆเขาดีมั้ยครับ ว่าอยากทานอะไรกัน”




“ก็ได้ แต่ถ้ามันยากไปก็ไม่ต้องตามใจพวกมันนะ”พูดเสร็จก็ส่งโทรศัพท์ตัวเองมาให้ผม




“ครับ?”




“ไลน์ถามพวกมันดู ชื่อกรุ๊ปกรุ๊ปนี้ผู้หญิงเป็นใหญ่”พี่ปั้นบอก ผมยังคงมองโทรศัพท์เครื่องหรูที่ปลดล็อคด้วยการสแกนนิ้วมือตาปริบๆ




แต่ว่านะ ชื่อกรุ๊ปนี่มันอะไรกัน...




“พี่ปั้นถามก็ได้ครับ”ผมไม่กล้าใช้โทรศัพท์สุดหรูนี้ เกิดมือไม้อ่อนทำตกไปนี่ไม่มีปัญญาซื้อคืนแน่ๆ




“ครามเอาไปคุยเลย จะได้ไม่ต้องคุยผ่านหลายต่อ”พี่ปั้นยัดเยียดโทรศัพท์ตัวเองใส่มือผม




พอกดเข้าไปในกรุ๊ปก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงชื่อแบบนั้น ในกรุ๊ปมีพี่จินเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียว คาดว่าคงกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ




Athip_Pun

10:35  พี่ๆครับ เย็นนี้อยากทานอะไรกันครับ



โดมมาเป็นลำ

พี่ๆ?? มึงเสียน้ำมากจนเบลอ? 10:35



                           
Chidtawan

ใคร? 10:36




JRVoy

มึง 10:36

เป็น 10:36

ใคร 10:36

ใช่ 10:37

เพื่อน 10:37

กู 10:37

เหรอ 10:37




โดมมาเป็นลำ

ไอ้สัดวอยเดี๋ยวเจอตีนกู 10:38

เป็นเหี้ยอะไรพิมพ์มาทีละคำ พ่องงง 10:38




JRVoy

เก้วกาดดดดด โดมไม่น่ารักเลยนะคะ 10.39

*ส่งสติ๊กเกอร์ 10:40





โดมมาเป็นลำ


ค_ 10.40





มาเป็นลำจริงๆด้วย...






“ว่าไง มีใครตอบหรือเปล่า”




ผมยิ้มแหยให้เจ้าของโทรศัพท์ เสียเวลาไปห้านาทีโดยไม่มีสาระอะไรเลย ตอนนี้เราลงลิฟท์มาถึงชั้นทางเชื่อมที่จะเข้าตัวห้างเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้ไปซื้อของที่ไหนไกล ก็ในซุปเปอร์ในห้างของพี่ปั้นนี่แหละ แต่ก่อนหน้านี้พี่ปั้นพาผมกลับห้องเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บกระเป๋ามาค้างที่ห้องพี่ปั้นอีกคืน ก็เลยต้องเดินทางวนไปวนมาให้เปลืองน้ำมันเล่น




“ยังเลยครับ เดี๋ยวผมถามใหม่”คงต้องแนะนำตัวไปก่อนสินะ




“เอ๊ะ?”ผมเหลือบมองคนข้างๆที่จู่ๆก็มาโอบไหล่ผม ตกใจหมดเลย




“คุยไป เดี๋ยวพาเดินเอง จะได้ไม่ไปชนคนอื่น”




“คะ...ครับ”ผมก้มหน้างุดรีบเข้าสู่บทสนทนา รีบคุยรีบคืนโทรศัพท์แล้วจะได้เดินเอง เพราะเดินแบบนี้มันไม่ดีกับใจเท่าไหร่เลย ฮือออ





Athip_Pun
                     10:45  ผมครามครับ
10:45  พี่ปั้นบอกว่าพี่ๆจะมาที่ห้อง
10:46  เลยจะถามว่าพี่ๆอยากทานอะไรกันครับเย็นนี้





JRVoy

วะวะ วะว้าววว 10:46

กินชะครามได้ป่ะคับ 10:47

ยำชะคราม 10:47

แกงส้มชะคราม 10:48

ชะครามทอดไข่ 10:48





เอ่อ...พี่เขาอยากกินจริงๆใช่ไหม?





Chidtawan

มึงไม่อยากแก่ตายใช่มั้ยไอ้วอย 10:48




โดมมาเป็นลำ

กูว่ามึงจะได้กินยำตีนมากกว่านะ 10:49





JRVoy

ยำตีนไก่? 10:50





“อ๊ะ”


จู่ๆโทรศัพท์ในมือผมก็ถูกดึงออกไป พี่ปั้นหยุดเดิน พิมพ์แชทรัวๆ หน้าโหด คิ้วขมวด ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนมาให้ แล้วเอามือมาแปะไว้บนไหล่ผมเหมือนเดิม ข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอทำเอาผมหลุดยิ้ม ทำไมต้องหัวร้อนขนาดนี้อ่ะ



Athip_Pun
                     10:51  ตีนกูนี่แหละ!
10:51  สัดวอย ไร้สาระฉิบหาย อยากกินอะไรก็บอกมา
10:52  ลีลานักก็ไม่ต้องแดก!!!



โดมมาเป็นลำ

นั่นไง พ่อมึงมา 10.52




Chidtawan

หึหึ 10:53




JRVoy

กลัวแล้วคับพ่อ หยอกนิดหยอกหน่อยทำเป็นหัวร้อน ไอ้สัด! 10:53







X







หลังจากนั้นก็ได้ข้อสรุปว่าผมทำอะไรพวกพี่เขาก็กินได้ทั้งนั้น แต่มันก็ยากนะครับ ผมว่าคิดเมนูอาหารนี่ยากกว่าการลงมือทำซะอีก แต่โชคดีที่พี่จินเข้ามาอ่านในกรุ๊ปแล้วช่วยออกไอเดียให้ เพราะรู้ว่าแต่ละคนชอบไม่ชอบอะไร ซึ่งเบาแรงไปเยอะ ก็สมชื่อกรุ๊ปแหละครับ ไม่มีใครกล้าขัดพี่จิน เออออตามกันหมด เมื่อมีเมนูที่ชัดเจน ขั้นต่อไปก็คือการซื้อของ



 
พี่ปั้นพาผมมาที่ซุปเปอร์ชั้นล่างของห้าง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ของสดเยอะแยะมากมาย มีทั้งผักผลไม้ที่มาจากโครงการหลวงและนำเข้ามาจากต่างประเทศ พี่ปั้นเข็นรถส่วนผมเป็นคนเลือกวัตถุดิบ เริ่มจากการซื้อเครื่องปรุงที่หนักๆก่อนแล้วค่อยไปซื้อของสด ระหว่างเลือกซื้อพี่ปั้นก็คอยถามนั่นถามนี่เกี่ยวกับการเลือก ขั้นตอนการทำ ดูเหมือนเด็กชายตัวน้อยที่อยากรู้อยากเห็นไปหมด ผมว่าน่ารักดี




พี่ปั้นบอกว่าสกิลการทำอะไรของตัวเองนั้นเข้าขั้นติดลบ ขนาดจะต้มมาม่ายังดิบเลย ผมถึงกับพูดไม่ออก แค่กดน้ำใส่ปิดฝาไว้สามนาที ทำไมยังทำให้ดิบได้ พี่เขารู้หรือเปล่านะว่ามันต้องใช้น้ำร้อน ไม่ใช่น้ำเย็น



“ไม่เป็นไร พี่ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ผมจะทำให้พี่กินเอง”



“ทุกมื้อเลยหรือเปล่าล่ะ”



“ถ้าพี่ต้องการผมก็ทำให้ได้นะ ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วย”



“ถ้างั้น ย้ายมาอยู่ด้วยกันสิ”



“หา...?? ว่าไงนะครับ”



อะไรย้ายๆนะ เมื่อกี้ผมฟังไม่ทันเพราะพี่ปั้นพูดเบาและผมก็มัวแต่มองน้องปลาตาใสแจ๋วในกระบะอยู่ พอหันไปมอง พี่ปั้นก็ทำแค่ยิ้มแล้วยักไหล่ให้ อะไรของเขานะ



“ยังขาดอะไรอีก”



“อ่า กุ้งกับปลาหมึกครับ”เมนูอาหารวันนี้ก็สิบอย่างถ้วน หลังจากซื้อของเสร็จผมก็ต้องเริ่มลงมือทำเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่เสร็จ พี่ปั้นอาสาว่าจะช่วยทำ แต่ผมก็แอบหวั่นๆยังไงไม่รู้



“ของครบแล้วใช่มั้ย?”ผมวางปลาหมึกถุงโตลงในรถเข็น พี่ปั้นก็ถามขึ้นพอดี



“ครบแล้วนะครับ”ผมมองรายการต่างๆที่จดไว้ในโน้ตของโทรศัพท์



“งั้นรอพี่ตรงนี้ก่อนนะ”



ผมทำตามคำสั่งของเจ้านาย ยืนเฝ้ารถเข็นอยู่ที่เดิม พี่ปั้นหายไปเกือบสิบนาทีก่อนจะเดินกลับมาตัวปลิว




“พี่ไปซื้ออะไรมาเหรอ”



“ไปสั่งเครื่องดื่มมาน่ะ เดี๋ยวให้เขาเอาขึ้นไปส่งให้ที่ห้อง ส่วนนี้เราไปจ่ายเงินกัน เดี๋ยวมีคนมาช่วยขนไปส่งให้”พี่ปั้นบอกและเข็นรถไปจุดจ่ายเงิน ค่าเสียหายในรถเข็นนี่เล่นเอาผมรู้สึกวิงเวียนขึ้นมา กลัวเหลือเกินว่าจะทำออกมาไม่อร่อยสมกับวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมแถมราคายังแพงจนผมตัวซีดตัวสั่นนี้



พอจ่ายเงินเสร็จพี่ปั้นก็พาผมไปหาอะไรทานเป็นเมื้อกลางวัน ตลอดเวลาที่เดินข้างกันผมก็แอบสังเกตว่ามีสาวๆหลายคนแอบชำเลือกมองพี่เขา แต่เจ้าตัวก็ดูไม่ได้แคร์กับสายตาเหล่านั้น คงโดนมองจนชินแล้ว ขนาดแค่ใส่กางเกงขาสั้นสามส่วน เสื้อยืดกับรองเท้าแตะเท่านั้นยังดูดีขนาดนี้ อดที่จะก้มลงมองตัวเองไม่ได้ เหมือนเด็กรับใช้เดินตามเจ้านายไม่มีผิด ฮืออ






X







“ทำแบบนี้ใช่มั้ย?”



ผมหันไปมองก่อนจะพยักหน้าให้ ผมว่าสกิลการทำอาหารของพี่เขาไม่ได้แย่นะครับ แต่พี่เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงมากกว่า ถ้ามีคนสอนก็คงทำได้ไม่ยาก พี่ปั้นเป็นคนหัวไว แค่อธิบายและทำให้ดูรอบเดียว อีกฝ่ายก็สามารถทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะการทำกุ้งกับปลาหมึกที่ผมกังวลในตอนแรก




“พี่เก่งจัง บางคนก็สอนตั้งหลายรอบกว่าจะทำได้”



“มันก็ไม่ได้ยาก ขึ้นอยู่กับความตั้งใจมากกว่า”



ผมยิ้ม เวลาพี่ปั้นตั้งใจทำอะไรนี่เท่จริงๆ ผมเพิ่งมาสังเกตว่าพี่ปั้นไม่ได้พูดจากวนประสาทผมเหมือนตอนแรกๆที่คุยกันแล้ว ไม่รู้ว่ามันเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนไหน แต่ที่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว




“งั้นต่อไปผมจะสอนให้พี่ทำอาหารแบบง่ายๆกินเองดีมั้ยครับ”



“ไม่เอา”



“อ้าว ทำไมอ่ะ”



“ก็มีเราทำให้กินแล้ว พี่จะทำเองทำไม”



“ถ้าวันไหนผมไม่อยู่ไง พี่จะได้ทำเอง”



“แล้วเราจะไปไหน?”



“ก็เผื่อไว้ไงครับ”พี่ปั้นคงไม่ได้กะให้ผมทำอาหารให้ทานไปตลอดชีวิตหรอกใช่ไหม



“ถ้าเราไม่อยู่ พี่ก็ซื้อกินไง ไม่งั้นก็กลับบ้านให้แม่ทำให้”พี่ปั้นยักคิ้วให้



“อ่า นั่นสินะ” ถึงไม่มีผมพี่ปั้นก็อยู่ได้อยู่แล้ว พอคิดแล้วก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา



“แต่ว่าพี่ชอบอาหารที่เราทำให้กินมากกว่า”



ผมชะงักไปนิด ไม่กล้าหันไปมองคนพูด ได้แต่ก้มหน้าก้มตา หมักหมูตรงหน้าต่อไป



“ไม่อร่อยเท่ากับร้านอาหารหรอกครับ”



“แต่พี่ว่ามันอร่อยที่สุดนะ”



“พี่ปั้นลิ้นจระเข้มากกว่า”



“จิ๊ คนเขาชม ยังจะมาว่ากันอีก”ผมหันไปฉีกยิ้มให้อีกคนที่เริ่มจะหัวร้อนขึ้นมา ก่อนที่ดวงตาคู่คมนั่นจะหรี่ลงแล้วฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา พอพี่ปั้นวางมีดแล้วเดินเข้ามาใกล้ ผมก็เริ่มไม่ไว้ใจ ถอยหลังหนีแต่ก็ช้ากว่าแขนยาวๆที่เอื้อมมือมาจับผมไว้



“ไม่อยากรู้เหรอว่าทำไม อาหารที่ครามทำถึงอร่อยที่สุด”



“ท...ทำไมครับ?”ถามอย่างเดียวก็ได้มั้ง ไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้หรอก



“เพราะความรักยังไงล่ะ”



“....เอ๋??”



รัก...??!!




“ครามใส่ความรักลงไปให้พี่กินยังไงล่ะ”




ความรักงั้นเหรอ...



“รักในการทำอาหารยังไงล่ะ หึหึ”พี่ปั้นปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างคนขี้เล่น




“พี่รู้นะว่าครามตั้งใจทำให้พี่กินทุกอย่างเลย”




“อ๋อ ก็ต้องตั้งใจสิครับ พี่ปั้นเป็นเจ้านายผมนี่นา”ผมแอบถอนใจโล่งอก ทำไมชอบมาทำให้ใจหายใจคว่ำด้วยก็ไม่รู้




นึกว่าตัวเองว่าแสดงออกชัดเจนเกินไปเสียอีก...









-------------------------
กลับมาแล้วค่ะ...ช้าไปหน่อย (ไม่หน่อยหรอก ฮ่า)
ขอโทษที่หายไปนานค่ะ ไปตามหาแพสชั่นให้ตัวเองอยู่
รู้สึกเนือยๆเหนื่อยๆ หัวสมองไม่แล่นก็เลยพักไปนาน
ตอนนี้กลับมาแล้วค่ะ พาพี่ปั้นและน้องครามที่น่ารักกลับมาด้วย
ยังคงเน้นว่าเรื่องนี้อยากจแต่งแบบเบาๆ น่ารักๆ ไม่คิดอะไรมาก
และก็จะไม่ทิ้งไปไหนนะคะ  :L2:

คิดถึงคนอ่านทุกคนเลย และขอบคุณที่ยังระลึกถึงกันอยู่นะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-03-2019 21:37:41
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 19-03-2019 21:41:32
หือ พี่ปั้นเนียนมากๆ เอะอะจับเอะอะหยอด เพื่อนแซวน้องนิดๆหน่อยๆก็ไม่ได้
คนอ่านเขินหมดแล้วค่า
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-03-2019 23:46:40
โอ๊ยยย ครามลูก พี่ปั้นอ่อยขนาดนี้ จับเลยลูก 5555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-03-2019 01:30:49
อ่ะๆๆๆ เนียนจ้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 20-03-2019 10:37:07
พี่ปั้นน่าร้ากกกกกกกกก
มีความหวงอย่างออกหน้าออกตา
+1 รัวๆ อยากไปเกาะซุปเปอร์แอบส่องคนซื้อของ
 :mew1:
อยากกินข้าวผัดชะคราม
ฟิ้วววววววววว หลบพี่ปั้นแป๊บ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 20-03-2019 12:58:40
กลับมาแล้ววววววว     :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-03-2019 13:30:27
น่าสนใจๆ ตามอ่านๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 21-03-2019 19:42:11
มาเป็นกำลังใจให้คร่า ^^
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: ohanaeo ที่ 22-03-2019 18:50:34
น้องครามมาแล้ว :impress2:
แหม พี่ปั้น มีความชวนน้องไปอยู่ด้วยกัน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 14-07-2019 22:02:04
เดี๋ยวมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : CH 5 P.3 || [19.3.19]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-07-2019 22:09:16
เดี๋ยวมาต่อนะคะ

รออออออ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แจ้งข่าว P.3 || [14.7.19]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 15-07-2019 21:41:00
รออออออออิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แจ้งข่าว P.3 || [14.7.19]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 17-08-2019 17:36:47
รอคุณคนเขียน เป็นกำลังใจให้นะคะ

 :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แจ้งข่าว P.3 || [14.7.19]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 19-03-2020 20:25:11
 :กอด1:คิดถึง รออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แจ้งข่าว P.3 || [14.7.19]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 19-03-2020 22:13:14
รออยู่นะ รีบมาต่อเร็วๆน้าาาาาาาา  :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- แรงดึงดูด ----- : แจ้งข่าว P.3 || [14.7.19]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 09-01-2021 11:40:16
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คิดถึงเรื่องนี้ เรายังรออ่านอยู่นะคะ  :L2: