ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
--------------------------------------------------
►3KINGS ตอน จักรพรรดิ◄
ความรักสามรูปแบบของพี่น้องสามคิง จักรพรรดิ ฮ่องเต้ ประมุข
ไม่ใช่นิยายแฟนตาซีนะคะ ฮาาา
"ได้แต่ขอดูแลรักเธอแค่เพียงไกลๆ และยังเก็บอยู่ในใจตลอดมา"
Fan Page: Chesshire. (https://www.facebook.com/Chesshire04/)
Twitter: @Chesshire04 (https://twitter.com/Chesshire04)
.
.
นิยายของเรา
Oxygen ออกซิเจน #โซโล่กีล์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56726.0)
Nitrogen ไนโตรเจน #คุณภูชายเก้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59678.0)
ANAKIN อนาคิน #ภามเจได (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66695.0)
3KINGS ตอน จักรพรรดิ #สามคิง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61835.0)
3KINGS ตอน ประมุข #สามคิง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68472.0)
-0-
นี่คือเพลงรัก...ที่เขียนอยู่แสนนาน
อยู่ในใจฉัน...ใจความสำคัญยังขาดหาย
ทุกสิ่งที่คิด...เริ่มพังทลาย
กระจัดกระจาย...ควบคุมเท่าไรก็ไม่ทัน
ตั้งแต่พบเจอความเป็นจริง...ว่าเธอไม่เคยต้องการ
แม้ฉันเติมมันด้วยคำๆ ไหน
ยังไม่รู้จริงๆ ต้องทำอย่างไร
เมื่อได้รู้...ปลายทางไม่มีเส้นชัย
ได้แต่ขอ...ดูแล รักเธอ แค่เพียงไกลๆ
และยังเก็บอยู่ในใจตลอดมา...
[เพลงรัก - ซิน Singular]
หากพูดร้านดอกไม้ที่มีชื่อเสียง ร้านของ ‘คุณภีม’ คงไม่พ้นถูกพูดถึง แม้จะเพิ่งย้ายมาไม่กี่เดือน ดูภายนอกเหมือนจะเป็นเพียงร้านดอกไม้ธรรมดา หรืออาจต้องบอกว่ามีดอกไม้น้อยกว่าคนอื่นเสียด้วยซ้ำ แต่ร้านดอกไม้ร้านนี้ก็ยังมีคนรู้จักมากหน้าหลายตา ด้วยราคาที่ไม่แพง ดอกไม้ที่สดใหม่อยู่เสมอ กิริยามารยาทของพนักงาน และที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้าของร้านหนุ่มหน้าตาดีที่ทำให้ใครต่อใครหลงใหลมานักต่อนัก
“คุณภีม ดอกไม้ที่อ้อสั่งได้หรือยังคะ” หญิงสาวพนักงานออฟฟิศหน้าตาสะสวยคนหนึ่งยื่นหน้าเข้าไปถามคนที่กำลังจัดวางดอกกุหลาบอยู่ด้านในร้านด้วยน้ำเสียงสดใส
“คุณอ้อ…” เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นจากถังกุหลาบก่อนจะยกยิ้มให้ลูกค้าคนแรกของวัน ภีมภัทรจัดวางกุหลาบดอกสุดท้ายลงในถัง เสร็จแล้วจึงหันไปหยิบช่อดอกไม้สีขาวสะอาดตาที่จัดเรียงไว้แล้วออกมา “ผมจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ ถ้าคุณอ้อไม่ชอบตรงไหนบอกผมได้เลยนะ”
“คุณภีมเคยจัดไม่ถูกใจอ้อที่ไหนล่ะคะ...งั้นอ้อขอตัวก่อนนะ ใกล้เข้างานแล้ว เอาไว้จะมาอุดหนุนใหม่นะคะ” ลูกค้าสาวรับดอกไม้ช่อโตมาจากมือเจ้าของร้าน เธอยิ้มกว้างเมื่อเห็นภีมภัทรพยักหน้ารับ เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก็รีบหมุนกายไปทำงาน เพราะเกรงว่าถ้าอยู่นานกว่านี้จะโดนเจ้านายต่อว่า และกลัวจะเป็นการทำผิดต่อสามีที่ตัวเองเอาแต่มองผู้ชายอื่น
ภีมภัทรเป็นชายหนุ่มเสน่ห์แรงที่ดูโดดเด่นกว่าคนอื่นในวัยเดียวกันพอสมควร ด้วยอายุยี่สิบกลางๆ เมื่อบวกเข้ากับหน้าตาคมคายตามสมัยและท่าทางสุภาพมีมารยาททำให้เขากลายเป็นที่รักของใครหลายๆ คนในละแวกนี้ได้ไม่ยาก เห็นได้จากบรรดาหญิงสาวทั้งวัยมหา’ลัยและวัยทำงานที่เที่ยวมาขายขนมจีบให้แทบทุกวัน แต่แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ยังไม่มีใครได้หัวใจเขาไปเสียที จนเกิดข่าวลือว่าเจ้าของร้านมาดคุณชายอาจเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันโด่งดังไปทั่ว ถึงอย่างนั้นภีมภัทรก็ไม่เคยปฏิเสธ เขาทำเพียงแค่ส่ายหน้าให้กับถ้อยคำเหล่านั้น
“คุณภีม...โทรศัพท์ครับ” เด็กหนุ่มวัยรุ่นท่าทางกระฉับกระเฉงรีบวิ่งมาหาเจ้านายตัวเองก่อนจะยื่นโทรศัพท์ส่งให้ หลังจากนั้นก็เข้าไปรับช่วงต่อเอาดอกไม้ใส่กระถางอย่างรู้งาน เรียกสายตาพึงพอใจจากคนมองได้ไม่น้อย
เจ้าของร่างสูงโปร่งเหลือบมองจอเพื่อดูชื่อคนโทรเข้าเพียงครู่เดียว ก่อนเขาจะเดินเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์บริเวณหลังร้าน เพราะรู้ดีว่าวิบูลย์ พ่อของตนเองเป็นคนแบบไหน ลองถ้าได้รู้ว่าเขาออกมาทำงานหน้าร้านด้วยตัวเอง ไม่ได้คุมอยู่เบื้องหลังแบบที่คิด ฝั่งนั้นคงหาเรื่องบ่นเป็นชุดแน่
[ภีม]
“ครับพ่อ”
[เรื่องที่พ่อขอไปว่ายังไง]
ภีมภัทรถอนหายใจยาวเมื่อเข้าใจว่าบิดาของตนต้องการอะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่วิบูลย์พูดซ้ำๆ อยู่หลายครั้งตั้งแต่เขาได้กลับบ้านครั้งล่าสุด ซึ่งก็ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาตอบรับคำขอ แต่น่าแปลกที่คนไม่ชอบเซ้าซี้อย่างวิบูลย์ไม่ยอมแพ้เสียที
“พ่อก็รู้ไม่ใช่เหรอครับว่าภีมต้องทำงานที่ร้าน จะให้ไปขลุกอยู่ในไร่ได้ยังไงกัน”
[แค่ร้านดอกไม้ไม่ได้ใหญ่โต เราก็จ้างคนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ถ้าจะทำเองทุกอย่างจะจ้างทำไมกัน] ปลายสายส่งเสียงแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย ซึ่งคนฟังเองก็รู้ดีว่าเพราะอะไรพ่อของตนถึงได้เป็นแบบนั้น
“แต่…”
[ลดลงหน่อยเถอะ นิสัยไม่ไว้ใจใครน่ะ ลูกจ้างก็ทำงานกับเรามานาน จะต้องคอยกำกับทุกอย่างเลยหรือไง]
หากสามารถเถียงได้ภีมภัทรคงไม่นิ่งให้บิดาตำหนิ แต่เพราะรู้ว่าสิ่งที่ได้ยินคือความจริงทุกอย่าง เขาจึงทำได้เพียงนิ่งเงียบเพื่อรับฟังถ้อยคำเหล่านั้น…
“แต่พ่อจะให้ภีมไปดูแลใครที่ไหนก็ไม่รู้…”
[ใครว่าไม่รู้จักล่ะ เมื่อก่อนยังเดินตามเขาต้อยๆ อยู่เลยไม่ใช่หรือไง]
“พ่อหมายถึงใครครับ”
[สามพี่น้องนั่นไง ที่ชื่อประมุข ฮ่องเต้ จักรพรรดิ ตอนเด็กๆ เรายังเคยพามาแนะนำให้พ่อรู้จักอยู่เลย แถมยังบอกว่าชื่อพวกนั้นเท่กว่าของตัวเองอีก]
คราวนี้ใบหน้าที่ราบเรียบมาตลอดพลันแปรเปลี่ยนเป็นตกใจสุดขีด แม้แต่หัวใจที่เคยเต้นอย่างสงบก็กระหน่ำเต้นรัวแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก...เพียงเพราะได้ยินชื่อของใครคนหนึ่งซึ่งไม่ได้ยินมานาน
“พ่อเคยบอกภีมว่าเขาเดินไม่ได้...ใครครับที่เดินไม่ได้”
[อืม...รู้สึกจะเป็นพี่คนโตที่ชื่อจักรพรรดิ]
“...”
[ภีม?]
“เข้าใจแล้วครับ…” เจ้าของเสียงหยุดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาลงแน่นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่างซึ่งกำลังปะทุ
อารมณ์บางอย่าง...ซึ่งเขาเคยคิดว่าหลงลืมไปนานแล้ว
[ลูกหมายถึง…]
“ภีมจะดูแลเขาเอง”
แม้จะวางสายที่คุยกับวิบูลย์ไปแล้ว หากคนที่ยังตกอยู่ในภวังค์ก็ยังไม่มีทีท่าจะขยับไปไหน มือเรียวยกขึ้นทาบทับบริเวณแผ่นอกตรงตำแหน่งที่มีก้อนเนื้อขนาดเท่ากำปั้นของตนเองเต้นอยู่ ก่อนเจ้าของมือจะค่อยๆ ขยำเสื้อบริเวณนั้นแน่นขึ้นเรื่อยๆ ตามการสั่นไหวของความรู้สึกในยามนี้
“พี่จักร…”
หากใครสักคนได้ยิน...คงไม่พ้นคิดว่าผู้พูดกำลังเศร้าเสียใจอย่างหนัก เพราะน้ำเสียงนั้นไม่เพียงแค่เจ็บปวด...แต่มันกลับรวดร้าวราวกับจะขาดใจ ต่อให้บอกว่าฟังแล้วเจ็บตามก็คงไม่เกินจริงนัก
ก๊อก ก๊อก
เจ้าของห้องหันขวับไปมองประตูด้วยความตกใจก่อนจะรีบเก็บท่าทีและสีหน้าทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่คนจากด้านนอกเปิดประตูเข้ามาด้านในพอดี
“คุณภีมครับ...”
“ว่าไง ปกรณ์” ภีมภัทรเอนกายพิงเก้าอี้ส่วนตัว ใบหน้าราบเรียบไร้รอยยิ้มการค้าเฉกเช่นเวลาเจอลูกค้าทำให้คนมองรู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแค่มองปกรณ์ก็รับรู้ได้ในทันทีว่าเจ้านายตนเองไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะพูดคุยกับใครนัก
“คือ...ปอนด์บอกผมว่าคุณภีมจะเข้าสวน”
“ใช่ ผมจะเข้าไปดูกุหลาบหน่อย” คนพูดขยับกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะคว้าข้าวของใส่กระเป๋า
“อ๋อ กุหลาบสีน้ำเงิน...คุณภีมดูรักกุหลาบต้นนั้นมากเลยนะครับ” ปกรณ์สูดเข้าใจเข้าจนสุดเมื่อเห็นเจ้านายหยุดชะงักทุกอย่างกะทันหัน ทั้งยังหันมามองเขาด้วยใบหน้าที่ดูมืดมนกว่าปกติ
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ”
คราวนี้ผู้เป็นลูกจ้างถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นเจ้านายของตนกลับไปทำหน้าตาราบเรียบเช่นเดิม เขาครุ่นคิดเรียบเรียงคำพูดอยู่ในใจชั่วครู่เพราะไม่อยากโดนดุ แม้ปกติภีมภัทรจะไม่ใช่คนน่ากลัวอะไร แต่ก็ไม่ใช่คนที่เรียกได้ว่าใจดีนัก รอยยิ้มบนใบหน้าจะเกิดขึ้นก็ตอนที่ได้พบเจอกับลูกค้าเท่านั้น ซึ่งเขาที่ทำงานด้วยมานานย่อมรู้ดีว่านั่นเป็นเพียงรอยยิ้มการค้าที่ไร้ซึ่งความจริงใจใดๆ
“ครั้งนั้นผมตามคุณภีมเข้าไร่...แล้วบังเอิญไปเห็นตอนที่คุณภีมดูแลมันเข้าน่ะครับ” แม้ไม่อยากบอกให้รู้เพราะลูกจ้างไม่ควรยุ่งเรื่องของเจ้านาย แต่ด้วยประสบการณ์ที่ได้ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ร้านยังอยู่ที่กรุงเทพ ปกรณ์จึงรู้ดีว่าภีมภัทรเป็นคนแบบไหน เขาไม่มีทางโกหกได้แน่ๆ ทางเลือกเดียวที่มีคือการบอกความจริงเท่านั้น “ผมเห็นว่าตอนนั้นคุณภีมดู...อ่อนโยนกว่าปกติ”
ภีมภัทรในยามปกติเมื่ออยู่กับลูกค้าก็จะเป็นแบบหนึ่ง พออยู่กับลูกจ้างก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่ปกรณ์มีโอกาสได้เห็นอีกฝ่ายแสดงออกแบบนั้น ซึ่งมันเป็นการแสดงออกที่ดูอ่อนโยนแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทว่าเมื่อพูดไปแล้วก็ต้องยืนเครียดเหมือนเดิม เมื่อไม่ได้รับคำตอบใดๆ ตอบกลับมา อีกทั้งเจ้านายยังยกกระเป๋าขึ้นสะพายแล้วเดินผ่านเขาไปเลยอีกต่างหาก
“ผมจะให้คุณเลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้จัดการร้านชั่วคราว ช่วยจัดการดูแลทุกอย่างด้วย ผมจะไม่กลับมาที่นี่พักใหญ่” ผู้พูดกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้วี่แววของการล้อเล่น แต่ปกรณ์เหวอสนิทด้วยไม่คาดคิดว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งกะทันหัน
“คะ...คุณภีม”
“ส่วนคำถามที่คุณถาม” ภีมภัทรเปิดประตูออกไปด้านนอก ก่อนเขาจะหยุดเท้าและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “เหตุผลที่ผมใส่ใจมันมากขนาดนั้น...”
“...”
“คงเพราะมันเหมือนผมมากล่ะมั้ง”
.
.
‘จักรพรรดิคือราชา...ลูกต้องยืนอยู่บนจุดสูงสุดเท่านั้น’
ฝ่ามือหนากำแน่นจนสุดแรง ดวงตาคมกริบคู่สวยทอประกายดุดันน่าหวาดหวั่น หากเป็นเมื่อก่อน ‘จักรพรรดิ’ คงลุกขึ้นบันดาลโทสะใส่ข้าวของตามแรงอารมณ์ ทว่ายามนี้เมื่อก้มลงมองขาสองข้างที่ไร้ซึ่งความรู้สึกของตน คนเจ้าอารมณ์ก็ทำได้เพียงเขวี้ยงแก้วน้ำในมือไปจนสุดแรง
เพล้ง!
เสียงแก้วที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ คงทำให้คนนอกห้องตกใจไม่มากก็น้อย เสียงตึงตังจึงดังขึ้นติดๆ กัน ก่อนใครบางคนจะผลักประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต
“พี่จักร!” เจ้าของเสียงรีบสาวเท้าเข้าใกล้คนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกันฉายแววตกใจจนปิดไม่มิด หากเมื่อสำรวจร่างกายของพี่ชายตนเองจนแน่ใจว่าไม่มีร่องรอยบาดเจ็บ เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“เต้…” คนที่เพิ่งตามมาถึงแตะไหล่ ‘ฮ่องเต้’ เบาๆ เป็นเชิงบอกให้ใจเย็นทั้งที่ตัวเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
“ไม่เป็นไรมุข”
‘ประมุข’ พยักหน้ารับโดยไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงมองไปยังร่างกายซูบผอมของพี่ชายคนโตที่ยังนั่งนิ่ง จากนั้นก็ดึงแขนพี่ชายคนรองให้เดินตามออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
สองพี่น้องที่มีหน้าตาคล้ายกันจนเหมือนฝาแฝดพากันเดินออกไปด้านนอกด้วยรู้ดีว่าเรื่องที่กำลังจะพูดถึงคือเรื่องที่ไม่ควรพูดให้คนในห้องได้ยิน และเมื่อออกมาห่างพอสมควรแล้ว ประมุขก็หันกลับไปมองหน้าพี่ชายตัวเองด้วยท่าทางเคร่งเครียดจริงจัง
“เรื่องนั้นเป็นยังไงเต้”
“ไม่มีปัญหา ทางนั้นบอกว่าถ้าพร้อมก็ไปได้เลย” ฮ่องเต้ตบบ่าน้องชายเบาๆ เมื่อเห็นเจ้าตัวถอนหายใจคล้ายโล่งอก ตัวเขาเองก็รู้สึกดีใจไม่แพ้กัน ตอนที่พ่อโทรมาบอกว่าคุณอาวิบูลย์ยินดีช่วยเต็มที่ เขาเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้วด้วยซ้ำ
จักรพรรดิ ฮ่องเต้ และประมุขเคยเป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก พวกเขาทำกิจกรรมด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันจนเหมือนเป็นแฝดสาม แต่แล้วเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่น่าจดจำเกิดขึ้น...จักรพรรดิก็ถูกแยกออกไป จากที่เคยมีสามเหลือเพียงแค่สอง จากที่เคยสนิทกลับกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้า แม้ฮ่องเต้กับประมุขจะรู้ว่าตัวเองยังเคารพรักพี่ชายอยู่เช่นเดิม แต่ระยะห่างและเวลาที่มากขึ้นก็ทำให้ทั้งคู่หลงลืมเรื่องราวในตอนเด็กๆ ไปอย่างช้าๆ...จนกระทั่งพวกเขาได้จักรพรรดิกลับคืนมาอีกครั้ง
พี่ชายที่เคยใจดีและยิ้มแย้มอยู่เสมอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จักรพรรดิกลายเป็นคนน่ากลัวและโมโหร้าย ทั้งหมดเป็นเพราะเขาเคยได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดที่ไม่เคยมีใครไปถึง...แต่หลังจากนั้นก็ถูกฉุดกระชากกลับลงมาสู่จุดต่ำสุด อุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้ขาทั้งสองข้างไร้ความรู้สึก ผู้ชายที่เคยยิ่งใหญ่กว่าใครถูกไล่ต้อนให้กลับมาเป็นสามัญชน แม้แต่มารดาที่เป็นคนดึงตัวไปใช้ประโยชน์ก็เฉดหัวทิ้งอย่างไม่ไยดี
นับแต่นั้นมาฮ่องเต้และประมุขก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้จักรพรรดิกลับมาเป็นพี่ชายที่แสนดีของพวกเขาอีกครั้ง…
“แล้วมึงคุยกับพี่หรือยัง” ผู้เป็นพี่เอ่ยถามน้องชายด้วยใบหน้าแสดงความคาดหวังไม่น้อย และเมื่อเห็นประมุขพยักหน้า เขาก็ต้องยิ้มออกมาอยากอดไม่ได้ “พี่ตกลงเหรอ”
“ใช่...ตอนนั้นพี่จักรกำลังนั่งมองดอกไม้หน้าบ้าน พอเห็นท่าทางดูผ่อนคลายกูเลยรีบเข้าไปคุย” ประมุขยิ้มกว้าง เขาจำได้ดีว่าพี่ชายตนเองพยักหน้าตกลงโดยไม่คิดเลยสักนิด แม้จะรู้ดีว่าจักรพรรดิไม่ได้คาดหวังอะไรอีกแล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะลองดูอีกสักครั้ง
จักรพรรดิเคยตั้งใจรักษาตัวเองมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทำได้เพียงเดือนเดียวก็เลิกไปเพราะไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น แม้แต่น้องชายทั้งคู่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้ เพราะพูดไปก็มีแต่จะทำให้พี่ชายตัวเองโมโหมากขึ้นเท่านั้น ต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจักรพรรดิจะเลิกทำลายข้าวของ แต่นั่นก็แลกมากับการที่เขากลายเป็นคนที่ดูหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต...กลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ โดยไร้จุดหมาย
“กูไม่เห็นพี่จักรกลับไปเป็นแบบนั้นมานานแล้ว” ฮ่องเต้กลับมาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดอีกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าน่ากลัวของพี่ชายที่ได้เห็นเมื่อครู่
“มึงก็รู้ว่าพี่จักรจะเป็นแบบนี้แค่เฉพาะ…”
ยามนึกถึงอดีต…
สองพี่น้องสบตากันนิ่งงันด้วยรู้ว่าไม่ควรพูดออกมา แม้จักรพรรดิจะไม่ได้อยู่ตรงนี้แต่พวกเขาก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกันนักเมื่อต้องนึกถึงสิ่งที่พี่ชายตัวเองเคยเจอ ถึงไม่รู้แน่ชัดทั้งหมด...แต่แค่รับรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้จักรพรรดิเปลี่ยนไป เหตุผลแค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ทั้งคู่เกลียดชังสิ่งที่ทำให้พี่ชายของพวกเขาเป็นเช่นนี้แล้ว
“อย่าพูดเรื่องเก่าๆ เลย...กูขอแค่พี่จักรยอมทำกายภาพบำบัดต่อก็พอแล้ว” ฮ่องเต้ตบไหล่น้องชายเบาๆ ก่อนจะยกยิ้มบางเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่าง “ถ้าได้อยู่กับดอกไม้ที่เคยชอบ...พี่จักรต้องดีขึ้นแน่ๆ”
“กูก็หวังแบบนั้น”
ทุกคน...หวังแบบนั้น
---------------------
TALK: สวัสดีค่ะ ได้เวลาเปิดเรื่องใหม่แล้ว ฝากพี่น้องสามคิงไว้ด้วยนะคะ ตอนแรกแพลนจะเป็นเรื่องสั้น แต่คู่หลักๆ ก็คือพี่จักรกับคุณภีมไม่รู้จะสั้นได้หรือเปล่า เลยตัดสินใจเขียนคู่นี้ก่อนเลย ฝากติดตามด้วยนะคะ หวังว่าจะชอบ...