ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับนิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข 17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
อ่านกันก่อนนะคะ
ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เสียเวลากดอ่านนิยายเพ้อๆ เรื่องนี้ค่ะ
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขียนขึ้นโดยใช้เวลาเขียนทั้งหมด 1 สัปดาห์ จากที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะเป็นเรื่องสั้นๆ ก็กลายเป็นว่าลากไปลากมาซะยาวเหยียด เราโพสต์เรื่องนี้ลงที่นี่เป็นที่ๆ สอง เคยเอาลงที่ธันวลัยไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วค่ะ เผื่อใครจะว่ามันอ่านดูแล้วคุ้นๆ แต่ได้มีการแก้ไขคำกับเพิ่มบางจุดนิดๆ หน่อย ไม่เยอะค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความทรงจำของนพที่มีต่อหนุ่มรุ่นน้องอย่างราฟาตลอดระยะเวลา 20 ปี ซึ่งมีทั้งเรื่องสุขและเศร้า
เรื่องนี้ไม่ได้ออกวายจ๋ามากนะคะ ไม่มี NC เป็นการบรรยายจากฝั่งนพฝ่ายเดียว มันอาจจะดูเพ้อๆ บ้าง หรือประมาณว่ามันบ่นอะไรของมันวะ ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ
***ตัวละครในเรื่องนี้ล้วนเกิดจากการสมมติขึ้นทั้งสิ้น ถ้ามีลักษณะหรือชื่อที่ซ้ำกับบุคคลจริงก็เป็นเรื่องบังเอิญทั้งหมด หากแต่มีการอ้างอิงสถานที่หรือเหตุการณ์จริงบางส่วนเพื่อความสมจริงค่ะ***
นอกจากนี้ยังมีตอนแถม(ที่เขียนติดลมจนยาวเป็นเรื่องใหม่ได้) เป็นเรื่องของฆาเบียร์ หนุ่มที่เคยโผล่มาในตอน First Time ค่ะ ในอนาคตเป็นไปได้ว่าจะหยิบเรื่องของนายนี่มาแตกเป็นอีกเรื่องค่ะ
ถ้าอ่านจบแล้วมีข้อติชมอะไรก็คอมเมนท์มาได้นะคะ จะเป็นกำลังใจอย่างมากสำหรับงานต่อไปของเราค่ะ
UPDATE - 16/7/17
มาเพิ่มตอนพิเศษตอนสุดท้าย เป็นบทสรุปจบเรื่องราวของ ราฟา - นพ - พี่วัฒน์นะคะ ว่าจะจบๆ แต่มันก็ค้างคาใจว่ายังไม่ได้รูดม่านปิดให้เรื่องราวของนพซักที หมดบทนี้แล้วก็จะไม่มีนพโผล่มาเป็นตัวละครหลักอีก ถ้าจะมาอีกทีก็จะเป็นตัวรองในเรื่องอื่นๆ เลยค่ะ (ถ้าจะยังเขียนเรื่องอื่นไหวอีก ฮ่าๆๆ)
นอกจากนี้ยังมีแก้คำผิดกับเพิ่มเติมอะไรนิดๆ หน่อยๆ ในบทอื่นที่เขียนไปแล้วด้วยค่ะ
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
สารบัญ
Para Ti...คำ "รัก" นี้แด่เธอ
---- First Met ----
5 กรกฎาคม 2560
00:01 น.
ตรู๊ดดด
“ว่าไง โทรมาดึกเชียว” เสียงทุ้มที่ปลายสายฟังดูง่วงเล็กน้อย
“หลับแล้วเหรอ?” ผมถาม
“ใกล้แล้วล่ะ นอนอ่านนั่นนี่เพลินๆ... เป็นอะไรหรือเปล่า?” น้ำเสียงนั้นเจือความกังวลเมื่อได้ยินผมถอนหายใจ
“ไม่มีอะไรหรอก แค่...คิดถึง”
“เห้ย อารมณ์ไหน? ร้อยวันพันปีโทรมามีแต่ด่า กินยาผิดเหรอ?”
ปลายสายหัวเราะเบาๆ ผมไม่ตอบ แต่หวนนึกไปยังภาพอดีตอันแสนไกล
ธันวาคม 2534
ที่หน้าป้ายประกาศขนาดใหญ่ ณ รร.เชิงดอยแห่งหนึ่ง เหล่านักเรียนชายหญิงพากันเบียดเสียดดูประกาศที่อาจารย์เพิ่งนำมาติด
“ไอ้ต้า อย่าบังสิวะ กูมองไม่เห็น” ผมบ่นกระปอดกระแปด
“เออๆ กูหลบให้มึงก็ได้ไอ้เตี้ยนพ อยากดูก็เชิญ มาเล็งเด็กๆ ของมึงซะ ขอให้ได้น้องรหัสผู้หญิงซะทีล่ะ เจอน้องชายมาสองปีแล้วนี่”
...ครับ ไอ้เตี้ยนพคือผมเอง สำหรับเด็กม. 3 แล้ว ส่วนสูง 150 เซนติเมตรของผมนั้นถือว่าโตช้ากว่าเพื่อนๆ ในชั้นเดียวกัน แล้วพวกผมมาทำอะไรที่หน้าบอร์ดนี้? ก็วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบเข้าของนักเรียนใหม่ที่จะเข้าศึกษาต่อ ม. 1 ในปีการศึกษาหน้าที่โรงเรียนในสังกัดมหาวิทยาลัยเชิงดอยแห่งนี้ บรรดาพวกรุ่นพี่ทั้งหลายต่างพากันมาดูชื่อน้องรหัสในปีหน้า อีกทั้งมาเล็งเด็กๆ (ที่มีแววว่าจะ)หน้าตาดีจากชื่อ
“หูยยย มีสาวญี่ปุ่นด้วยว่ะมึง” ไอ้ต้าเพื่อนสนิทของผมสะกิดยิกๆ
“ดูนี่ๆ เรนะ อาโออิ ชื่อเพราะเนาะ” มันยิ้มทำหน้าชวนฝัน
“น้องคนนี้ก็ชื่อสวย พิมพ์ดาว โอ๊ะ นั่นก็ชื่อน่ารัก” นั่นนี่นู่นของมันไป
ผมส่ายหัวเบาๆ ขำในท่าทางของมัน ผมไล่สายตาตามรายชื่อช้าๆ จนเจอชื่อน้องรหัส ในที่สุดผมก็ได้น้องรหัสผู้หญิงซะที สายตาผมไล่เรียงตามรายชื่อต่อแล้วมาสะดุดที่ชื่อหนึ่ง
“แม่ม ชื่อยังกะนักบอล” ผมรำพึงกับตัวเองเบาๆ พร้อมอ่านชื่อนั้นช้าๆ
“ราฟาเอล รุ่งโรจน์ ปาเรร่า” แล้วรุ่งโรจน์นี่มันนามสกุลหรือชื่อล่ะเนี่ย?
เสียงรุ่นพี่สาวๆ กรี๊ดกร๊าดอยู่ข้างหลังผม
“แกๆ มีฝรั่งด้วย”
“อื้อ ดูจากชื่อแล้วต้องหล่อแน่ๆ เลยแก”
ก็ว่ากันไปนั่น แต่ผมก็แอบอยากเห็นหน้าน้องคนนี้นะ ว่าจะหน้าตาดีสมชื่อไหม
ต้นเดือนมิถุนายน 2535
ผมขึ้นม. 4 แล้วครับ วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก หลังจากวุ่นๆวายๆ ลงทะเบียน ก็ถึงเวลาเปิดเทอมสักที ในช่วงม.ปลายนี้ ผมเข้าเรียนในแผนศิลป์ – ฝรั่งเศส ผมดีใจที่ไม่ต้องเรียนวิทย์ฯ และคณิตฯ ที่เป็นยาขมของผมมากเท่ากับตอนม. ต้น แต่แอบเศร้านิดหน่อยที่ต้องแยกห้องกับไอ้ต้าเพื่อนเลิฟซึ่งเป็นเด็กวิทย์ - คณิตห้อง 1 แต่อย่างน้อยก็ยังจะได้เจอมันบ้างตอนทำกิจกรรมชมรม
ทั้งมันและผมอยู่ชมรมเดียวกันคือชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ วันนี้พี่ประธานเรียกพวกสมาชิกมาที่ชมรมเพราะเราจะมาคุยกันเรื่องแนะนำชมรมและรับสมัครสมาชิกใหม่ ผมคงมาถึงชมรมเร็วไปหน่อยเพราะยังไม่มีใครมาสักคน ผมดูบอร์ดที่ติดรูปกิจกรรมดูนกที่พวกเราไปมาเมื่อปีที่แล้ว ผมอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นรูปที่ไอ้ต้ากอดคอผมแล้วทำหน้าทะเล้นใส่กล้อง ผมคงต้องแอบขอพี่ฟางประธานชมรมอัดให้ผมซักรูป
มาถึงตอนนี้พวกคุณคงรู้กันแล้วว่าผมไม่ได้คิดกับไอ้ต้าแค่เพื่อน ผมรู้ตัวว่าไม่ชอบผู้หญิงมาตั้งแต่ ม.1 แล้ว ผมมาจากโรงเรียนชายล้วน พอมาเข้าโรงเรียนสหฯ แทนที่ผมจะตื่นตาตื่นใจไปกับสาวๆ ผมกลับออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ แต่กลับไปใจเต้นแปลกๆ กับรุ่นพี่หนุ่มๆ นักกีฬา ผมเริ่มสนิทกับต้าตั้งแต่ม.1 ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ แต่ความสดใสร่าเริงและบุคลิกที่เป็นผู้นำของมันดึงดูดสายตาผมจนตามมันมาเข้าชมรมอนุรักษ์ฯ นี่แหละ
“ไงจ๊ะ นพน้อย ไม่เจอกันสามเดือนมึงสูงขึ้นมั่งป่าววะ?” ผมสะดุ้งเฮือก ตอนไอ้ต้าย่องเข้ามาโอบคอผมหมับ
“เชี่ยนี่ กูหัวใจวายตายไปทำไงวะ แล้วกูสูงขึ้นอีก 5 เซ็นต์ ไม่ใช่นพน้อยแล้วเว้ย ?” ผมหันไปโวยใส่ไอ้ต้าและผองเพื่อนที่ยืนหัวเราะท่าทางของผม
“แล้วมึงเหม่ออะไรอยู่วะ มองกระดานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้” จะให้ผมตอบได้ไงว่าผมยิ้มให้รูปมัน?
“เออ เมื่อกี้กูแอบไปดูเด็กปี 1 ซ้อมเชียร์มาว่ะ” โรงเรียนผมดังด้านการขึ้นเชียร์ และเราเริ่มซ้อมกันจริงจังตั้งแต่ม. 1 ครับ
“ไม่ต้องเลย ไม่ต้องอ้างเชียร์ มึงแอบไปเล็งน้องเรนะ น้องพิมพ์ดาวและน้องนั่นนี่ของมึงใช่มะ? ผมดักคอมันอย่างรู้ทันเพราะช่วงแรกของเชียร์ต้องให้น้องๆ แนะนำตัวด้วยชื่อจริง
“แหมมมม รู้ใจสมเป็นที่รักไอ้ต้าจริงๆ นะไอ่นพ” ไอ้เปี๊ยกปากหมาประจำกลุ่มแซว หัวใจผมกระตุกวูบ ไอ้พวกนี้ชอบแซวผมเป็นที่รักไอ้ต้า คงเพราะเรามักไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดตอนช่วงม. ต้น
“แล้วเป็นไง มีน้องๆ น่ารักมั่งไหม?”
“ก็...น่ารักแบบเด็กม. 1 น่ะมึง ต้องดูกันไปยาวๆ แต่น้องเรนะนี่กูจอง!” ผมหัวเราะเบาๆ กับท่าทางจริงจังของมัน
“แต่ฉันเฟลกับน้องอะไรนะ ที่ชื่อฝรั่งๆ อ่ะ” เบิร์ด สาวน้อยร่างป้อมหนึ่งเดียวของกลุ่มเราพูด “ไม่หล่ออย่างที่คิดเลยอ่ะ ตัวผอมๆ หน้าเนิร์ดๆ เจ๊เซ็งเลย”
‘ราฟาเอล รุ่งโรจน์ ปาเรร่า’
ชื่อนั้นผุดขึ้นมาในหัวผม ทำไมผมถึงจำชื่อนี้ได้กันนะ?
“อ้าว เด็กๆ มากันนานยัง?” พี่ฟางประธานชมรมร้องทัก “มาครบกันแล้ว งั้นเรามาคุยกันเรื่องแนะนำชมรมในวันเปิดชมรมกัน”
โรงเรียนผมจะมีการจัดงานเปิดชมรมให้เด็กๆ ปี 1 ได้เข้ารับการแนะนำกิจกรรมต่างๆ ของชมรม และรับสมัครสมาชิกใหม่ มันไม่ใช่กิจกรรมภาคบังคับ แต่เด็กๆ ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเข้าชมรมใดชมรมหนึ่ง ชมรมอนุรักษ์ฯ ของเราก็เป็นที่นิยมในระดับหนึ่งและมีเด็กๆ แวะเวียนกันเข้ามาชมบอร์ดที่จัดไว้ คนพูดเก่งเป็นต่อยหอยอย่างไอ้ต้าก็รับหน้าที่กล่อมน้อง ส่วนผมที่พูดไม่เก่งนักก็ทำหน้าที่เฝ้าโต๊ะรับสมัคร
‘ราฟาเอล รุ่งโรจน์ ปาเรร่า’
ผมเงยหน้าขึ้นมองเด็กชายร่างเพรียวที่ยืนเขียนชื่อตัวเองตรงหน้า ร่างนั้นสูงเกือบเท่าผม จมูกที่โด่งทำให้รู้ว่ามีเชื้อสายตะวันตก แต่เครื่องหน้าอื่นไม่ได้โดดเด่นอะไรตามที่ยัยเบิร์ดบ่น เว้นแต่ตาที่คมวาวสีน้ำตาลอ่อนคู่หนึ่ง
“มีอะไรติดหน้าผมเหรอพี่?” อ้าว ไอ้เด็กนี่ เจอหน้ากันก็ปากดีแล้ว
“เปล่า แค่คิดว่าหน้าน้องไม่ค่อยฝรั่งเหมือนชื่อเลยนะ” ผมจิกกลับไปอย่างลืมตัว
“โหย พี่พูดแบบนี้พ่อผมเสียใจแย่เลย” ผมแทบอยากกัดลิ้นตัวเอง ดันเผลอเสียมารยาทกับเด็กที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกไปได้ น้องมันจะโกรธไหมนั่น แต่เมื่อเห็นตาคมๆ นั้นฉายแววยิ้มผมก็ค่อยเบาใจ
“โทษทีๆ ว่าแต่เราจะให้พี่เรียกชื่อไหน? รุ่งโรจน์นี่ชื่อหรือนามสกุล?” ผมถามสิ่งที่สงสัยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
“ราฟาเอลเป็นชื่อแรก รุ่งโรจน์เป็นชื่อรอง ปาเรร่าเป็นนามสกุลพ่อ แล้วถ้าจะให้ถูกต้องตามธรรมเนียมสเปน ต้องใส่นามสกุลแม่คือวงค์แก่นจันทร์ไปด้วยครับ...” นั่น ยากได้อีก แล้วตกลงจะให้เรียกชื่อไหนล่ะเนี่ย
“...ที่บ้านเรียกผมว่าราฟาครับ พี่เรียกผมราฟาก็ได้ ถ้าเรียกครบเต็มยศคงเหนื่อยแน่” มันฉีกยิ้มกว้างให้ผม
ครับ...และนี่ คือการพบกันครั้งแรกของผมกับเจ้าเด็กแสบราฟา
###################################################
[/font]
[/size]
Para Ti...คำ "รัก" นี้แด่เธอ
---- For Your Precious Memories (ตอนจบ) ----
กันยายน 2549
ราฟาแต่งงานแล้วครับ พิธีจัดขึ้นที่โบสต์คริสต์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ใบหน้าของร่างสูงในชุดทักซิโดสีฟ้าเบบี้ บลูฉายแววแห่งความสุขพร้อมเกาะกุมมือบอบบางของน้องแจงไว้แน่นตลอดงาน ผมดีใจกับมันจริงๆ ที่ในที่สุดมันก็ได้คนที่จะมาดูแลมันตลอดชีวิตแล้ว เมื่อบาทหลวงประกาศให้ทั้งคู่เป็นสามี ภรรยา เมื่อริมฝีปากทั้งคู่สัมผัสกัน ผมอดไม่ได้ที่จะกุมมือคนที่นั่งข้างตัว พี่วัฒน์บีบมือผมตอบเบาๆ ผมสะดุ้งเมื่อพี่วัฒน์ยกมือเช็ดหยาดน้ำใสๆ จากหางตาของผม ผมไม่รู้ตัวเลยว่ามันไหลออกมาเมื่อไหร่...และทำไม
หลังพิธีทางศาสนา บ่าวสาวที่ยิ้มและหัวเราะให้กันอย่างมีความสุขเรียกบรรดาสาวโสดในงานมารวมตัวกันหน้าโบสถ์ สาวๆ พวกนั้นเบียดเสียดกันเพื่อรอรับช่อดอกไม้จากเจ้าสาว ผมเดินหลบออกไปอยู่หลังกลุ่มสาวๆ ผมเห็นราฟากระซิบเบาๆ ที่หูน้องแจง พร้อมหัวร่อต่อกระซิกกัน ผมมองภาพนั้นเพลินๆ เมื่อ...
ตุ้บ!!!
ผมตะครุบช่อกุหลาบงามที่มากระทบอกผมแทบไม่ทัน
“อุ๊ย โยนแรงไปหน่อย ขอโทษนะเพื่อนๆ” สาวแจงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้หันไปขอโทษพวกสาวๆ ผมหันไปมองไอ้ตัวแสบที่ปิดปากหัวเราะคิกคักอยู่ ฝีมือมันแน่ๆ
“เอ้า ได้ช่อดอกไม้แล้ว รีบๆ หาคนแต่งด้วยได้แล้วพี่นพ” มันกระเซ้าผม แต่ตามองไปที่พี่วัฒน์นู่น หน้าผมงี้ร้อนไปหมดครับ ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานแต่งมันผมจะไปเตะมันให้ซักป้าบ
ดอกไม้ช่อนั้นแขวนอยู่ที่หัวเตียงของผมนานหลายปีจนกระทั่งมันหลุดร่วงไปตามกาลเวลา
5 กรกฎาคม 2550
ปีนี้ผมไม่ได้โทรไปสุขสันต์วันเกิดมันครับ ที่จริงผมแทบไม่ได้โทรหามันแล้ว ผมไม่อยากรบกวนเวลามันกับน้องแจง ผมรู้ว่าน้องแจงคงไม่ว่าอะไรถ้าผมโทรไป แต่เป็นตัวผมเองที่ไม่สะดวกใจที่จะโทร เราเจอกันบ้างเมื่อมันมากินกาแฟที่ร้านก่อนที่น้องผมจะตัดสินใจปิดร้านตอนต้นปีที่ผ่านมาก จากนั้นก็เจอตอนเหยี่ยวชวนไปดูการแสดงนั่นนี่ เจอกันตามห้างบ้าง แต่เราไม่ค่อยได้คุยอะไรกันยาวๆ อีก ตัวผมเองก็เริ่มไม่ค่อยมีเวลาว่าง ตอนนี้ผมอยู่บ้านกับพ่อแค่ 2 คน เพราะน้องชายได้งานที่กทม. หลังเลิกงานผมจะโต๋เต๋ทำนั่นทำนี่ของตัวเองสักพัก พอค่ำก็เข้าบ้านมาจัดการเรื่องอาหารให้พ่อ ผมว่าสิ่งที่ผมกลัวเมื่อตอนตัดสินใจเลิกสอนในม. กำลังเริ่มเป็นจริงแล้ว
ตุลาคม 2551
ผมเริ่มแฮงก์เอาท์กับกลุ่มเพื่อนใหม่ เราเป็นกลุ่มที่เจอกันทางพันทิป เรานัดกันกินข้าวเป็นประจำ ผมเริ่มสนิทกับน้องคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนใหม่เป็นพิเศษ น้องเจเป็นหนุ่มน้อยร่างบาง ผิวขาวท่าทางเรียบร้อย อิมเมจประมาณกระต่ายน้อยครับ แต่ใครจะรู้ว่าข้างในมันนี่คือเสือดีๆ นี่เอง สาวๆ น้ำตาตกเพราะมันมาเยอะแล้ว
ไอ้เด็กเจนี่มันแสบครับ มีครั้งนึง ผมบังเอิญไปเจอพี่ภูมิกับเมียแกที่สตาร์บัคส์ (ครับ เมีย ในที่สุดพี่ภูมิก็แต่งงานกับผู้หญิงที่แกคบหาอยู่จนได้) เราเดินชนกันก็เลยจำเป็นต้องทัก พอเจรู้ว่านี่คือพี่ภูมิ มันงี้รีบมาทำท่าประจ๋อประแจ๋ผม พอไปนั่งโต๊ะมันก็ทำจับมือจับไม้ผมโดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง ถ้าไม่ห้าม มันคงจูบปากผมไปแล้ว ผมรู้สึกเลยว่าพี่ภูมิมองตาม เจมันกระซิบผมว่าที่ทำงั้นเพราะอยากให้พี่ภูมิแกเห็นว่าผมมีชีวิตที่เป็นสุขดี
ชีวิตผมก็เป็นสุขดีจริงๆ ครับ ผมแบ่งเวลาระหว่างที่ทำงาน บ้านและชีวิตส่วนตัวได้แล้ว ผมยังคบหากับพี่วัฒน์ แต่ผมยังไม่ให้ใจผมไปเต็มร้อย เราคุยโทรศัพท์กันน้อยลงเนื่องจากยุ่งกันทั้งสองฝ่าย แต่ก็พยายามหาเวลาเจอกันอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้งรวมทั้งหาทางไปเที่ยวไกลๆ กันปีละหน ผมก็ยังวีนแตกใส่แกบ่อยครั้ง ส่วนแกก็ทนเหมือนเดิม แต่เราก็พอใจกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้
ปีนี้ทั้งปี ผมไม่ได้โทรคุยกับราฟาเลย มีแค่แชทคุยกันสั้นๆ เมื่อเจอมันออนไลน์ใน msn
กันยายน 2552
‘พี่นพ เฟซพี่มีแต่ของกิน มิน่าบวมเอาๆ’ นี่คือประโยคแรกที่มันทักผมหลังจากผมรับแอดมันในเฟซบุ้ค
'ไอ้เด็กเปรต! ในนี้ก็ยังปากด๊อกเหมือนเดิมนะมึง’ นี่คือคำต้อนรับของผม
5 กรกฎาคม 2553
“สุขสันต์วันเกิดว่ะ”
ผมพิมพ์ข้อความสั้นๆ ลงในเฟซมันพร้อมแนบรูปเค้กช็อคโกแลต ผมดีใจมากที่หามันเจอบนเฟซบุ้ค ตั้งแต่รับแอดมัน ผมได้รับรู้ถึงชีวิตของมันโดยตลอด รู้ว่ามันเข้าไปเรียนป. โทที่ม. และกำลังจะจบ ชีวิตมันแฮ้ปปี้ดี เราคุยกันออนไลน์บ้าง เมนท์กันบ้าง กดไลค์นั่นนี่กันบ้าง ผมเคยคุยกับเหยี่ยวซึ่งเจอตัวเป็นๆ ของราฟาบ่อยกว่าผมว่าว่างๆ จะแวะไปหามันที่บ้านมั่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มีโอกาสไปซะที ก็เลยได้แต่ส่องเฟซมันไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ผมกับน้องเจแทบจะตัวติดกันตลอดเวลาครับ เราสองคนเข้ากันได้สุดๆ ทั้งรสนิยมการกิน การใช้ชีวิต ความชอบหลายๆ อย่าง ผมไปไหนมาไหนกับมันจนทุกคนคิดว่ามันเป็นแฟนผม แต่เราไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้นครับ ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับมันทั้งๆ ที่อยู่ใกล้ชิดกันตลอด ตอนแรกพี่วัฒน์ก็กังวลอยู่ แต่หลังจากผมยืนยันแน่ชัดว่าไม่มีอะไรแน่ แกก็เข้าใจ แถมยังกลายเป็นเพื่อนกับมันไปด้วย
กับพี่วัฒน์...เราสองคนก็ยังมีความสัมพันธ์แบบเดิม ทะเลาะกัน งอนกัน ดีกัน มันเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตคู่เราไปแล้ว เขาไม่ได้มองหาใครใหม่ ผมเองก็ไม่ได้ต้องการจะมีใครอีก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีตามครรลองของมันเอง
กันยายน 2555
ชีวิตผมก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นครับ มีแต่น้ำหนักที่ขึ้นพรวดๆ พี่วัฒน์บ่นบ้างแต่ก็เอา...เอ๊ย!! จุ๊ๆๆ
ผมก็ยังตัวติดกันกับเจเหมือนเดิม ไปเที่ยวนั่นกินนี่เรื่อยไป การเจอเพื่อนที่เข้ากันได้นี่มันดีจริงๆ ครับ ผมรู้สึกว่าชีวิตผมมันสมบูรณ์แล้ว มีทั้งคนที่รักและมีคนที่เข้าใจอยู่ใกล้ๆ ผมไม่ปรารถนาอะไรอื่นอีกแล้ว
อ้อ วันนี้ผมเจอราฟากับน้องแจงครับ พวกเขากำลังจะมีลูกคนแรกกัน กำหนดคลอดต้นๆ ปีหน้า ผมดีใจกับน้องมันจริงๆ ที่ในที่สุดมันจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ซะที
กรกฎาคม 2556
“พวกเราจะไปดูหลานกัน นพจะไปด้วยป่าว?” เหยี่ยวโทรมาถามผม น้องซอลมาเยี่ยมเหยี่ยวจากกทม. พวกเขาเลยว่าจะไปรับขวัญหลานกันซักหน่อย อ. สดศรีตั้งชื่อให้หลานสาวว่า ลินดา ชื่อที่เป็นได้ทั้งชื่อไทยและชื่อภาษาสเปน ผมเองก็อยากไปแต่ติดที่ต้องดูพ่อ
“ยังไม่สะดวกอ่ะ เหยี่ยว ช่วงนี้พ่อไม่ค่อยสบาย ไว้ถ้าเรียบร้อยแล้วเราค่อยนัดกันอีกทีนะ” ผมบอกไปตามนั้น
พ่อผมเกิดปวดท้องอย่างหนักเมื่อเดือนที่แล้ว ผลการตรวจบอกว่ามีก้อนเนื้ออุดตันที่ลำไส้และต้องผ่าตัดด่วน ผลชิ้นเนื้อบอกว่าเป็นมะเร็ง ตอนนี้พ่อต้องปรับการใช้ชีวิตใหม่หมด อีกทั้งต้องไปทำคีโมแทบทุกเดือน โชคดีที่น้องคนเล็กผมออกงานและกลับมาอยู่เชียงใหม่ได้เกือบปีแล้ว ผมเลยพอได้หายใจหายคอได้บ้าง
‘ไว้พ่อหายแล้วค่อยเจอกันนะ ราฟา น้องแจง ลินดา’
มีนาคม 2557
พ่อผมเสียแล้วครับ ทั้งๆ ที่ผลคีโมออกมาดีแต่พ่อผมกลับเสียด้วยโรคแทรกซ้อนอย่างปอดอักเสบ พ่อเข้าไอซียูอยู่หลายวันแต่ในที่สุดก็สู้ไม่ไหวและจากไปในที่สุด เมื่อเสร็จงานศพ ผมรู้สึกแย่มากและต้องการคนคุยด้วย คนแรกที่ผมนึกถึงไม่ใช่พี่วัฒน์หรือน้องเจ แต่เป็นไอ้เด็กปากจัดคนนี้...ผมโทรหาราฟา
“ว่างคุยป่าววะ?”
“คุยได้พี่ ลูกเพิ่งหลับ...เสียใจด้วยนะพี่นพ”
“...ผมแวะไปงานมาแป๊บนึง แต่เห็นพี่ยุ่งเลยไม่ได้ไปทัก...”
“...แล้วพี่เป็นไงมั่ง หายเหนื่อยหรือยัง? กินข้าวกินน้ำมั่งนะ” น้ำเสียงของมันอบอุ่นเหลือเกิน
“ราฟา กูรู้สึกแย่ว่ะ...กูกับพ่อทะเลาะกันก่อนเค้าเสีย...เรายังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันเลย” ผมเล่าให้มันฟัง
“เราทะเลาะกัน แล้วเค้าบอกว่า...” ผมกลั้นสะอื้น
“เค้าบอกว่า กูไม่เคยทำให้เค้าภูมิใจได้สักอย่าง”
“...กูก็ทิฐิ ไม่ยอมคุยกับเค้า สุดท้ายเราก็ไม่ได้คุยกันดีๆ”
ราฟายังคงเป็นผู้ฟังที่ดี มันนิ่งฟังคำพูดที่พรั่งพรูออกจากปากผม สุดท้ายมันก็หาทางพูดจนผมรู้สึกดีขึ้นจนได้ เหมือนอย่างที่เคยทำมาทุกครั้ง
"พี่นพนี่น้า พี่ต้องเรียนรู้การแสดงความรู้สึกตัวเองมั่ง" มันบ่นต่อ
“อย่างที่ผมบอกอ่ะ พี่ สุดท้ายคนเรา มีอะไรก็ต้องพูดกัน รู้สึกอะไรก็บอก แล้วอะไรๆ ก็ดีเอง...อย่างกับพี่วัฒน์ก็เหมือนกัน”
“หยุดเลย ไอ้นี่ ขยันทำคะแนนให้พี่มันจริง ได้สินบนมาเหรอ?”
ผมที่สบายใจขึ้นมากแล้วกลั้นยิ้ม ทำเสียงเข้มใส่มัน ผมรู้ตัวมาพักใหญ่แล้วว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่วัฒน์ แต่ผมขอปากแข็งต่ออีกสักหน่อย
“ขอบใจว่ะ ตลอด 20 ปีนี้ กูมาร้องไห้กับมึงนี่กี่ครั้งแล้ว? เบื่อหรือยัง?” ผมอ้อมแอ้มถาม
“ไม่เบื่อหรอกพี่ มีอะไรก็คุยมาได้นะ อินบ็อกซ์มาก็ได้” ผมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จากทางปลายสาย
“ลูกตื่นแล้วเหรอ? งั้นกูวางก่อนดีกว่า ไว้ว่างๆ จะแวะเข้าไปหานะ ไม่ได้เจอมึงกับน้องแจงนาน คิดถึงเหมือนกัน” ผมพูดออกไปตรงๆ
5 กรกฎาคม 2557
‘Happy Birthday นะเว้ย มีความสุขมากๆ ล่ะ’
ผมโพสต์บนเฟซบุ้คของราฟาพร้อมแนบรูปดอกไม้ช่อโต ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่คุยกัน ผมก็ยังไม่ได้แวะไปหามัน เดี๋ยวพรุ่งนี้แวะเข้าไปหาดีกว่า ไม่ได้ตัวมันเป็นๆ นานแล้ว คิดถึงตาคมๆ ของมันเหมือนกันน้อ
14 กรกฎาคม 2557
‘ไง พี่นพ ว่าจะมาหาผมวันก่อนแล้วหายไปเลย’ มันพิมพ์มาใน fb messenger
‘โทษทีว่ะ วิกฤตทางอารมณ์นิดหน่อย แม่ม อิพี่วัฒน์กวนตีนกูอีกแล้ว’
‘คู่นี้มันยังไงกันน่ะ ตกลงจะรักหรือเกลียดกัน? หรือพี่วัฒน์แกจะเป็นมาโซฯ?'
'...ว่าแต่เม้คอัพ เซ็กส์นี่มักจะเด็ดใช่ไหม พี่นพ?’
‘เสือก!!!’ ไอ้เด็กนี่มันร้ายนัก
มันพิมพ์อีโมติค่อนคนแลบลิ้นมาเป็นสิบตัวกลับมา
'...อยากบอกอะไรก็รีบบอกกันซะนะ ก่อนจะสายไป...' มันสำทับ
'ไว้หายเขินก่อนค่อยบอกว่ะ' นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ผมบอกมัน
20 กรกฎาคม 2557
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเมื่อก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นชื่อคนโทรมา
“ไง เหยี่ยว โทรมาซะดึกเชียว มีอะไร?”
“นพ...รู้เรื่องราฟาหรือยัง?”
เสียงที่ปลายสายฟังดูร้อนรน สิ่งถัดไปที่ได้ยินทำให้ผมชาวาบไปทั้งตัวเหมือนสายฟ้าฟาดลงไปกลางใจ
“มันเป็นลมล้มไป ตอนนี้อยู่ไอซียูอยู่ ...ฮัลโหลๆ นพ ฟังอยู่ไหม?”
ผมสั่นไปทั้งตัว ในหัวผมขาวโพลนไปหมด
“เราอยากไปหามัน มันอยู่ที่ไหน เราจะไปหา”
ผมพูดอย่างไร้สติ เหยี่ยวรีบห้ามผมไว้ บอกว่าให้รอฟังอยู่ที่บ้านดีกว่า ผมวางสายด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง...น้ำตาร่วงพรูออกมาอย่างสุดกลั้น
‘มึงต้องไม่เป็นอะไรนะ ราฟา มึงต้องไม่เป็นอะไร กูยังไม่ทันได้บอกมึงเลย...”
ผมอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างในโลกขอให้มันปลอดภัย
25 กรกฎาคม 2557
ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง
ราฟาจากไปอย่างสงบในเช้าของวันถัดมา ผมเสียน้ำตาอย่างหนักให้กับการจากไปของมัน แม้ผมผ่านความตายของคนรอบข้างมาหลายครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เหมือนครั้งนี้เพราะมันเป็นการจากไปแบบไม่ทันรู้ตัว
ในงานศพของราฟา ผมได้เจอลูกสาวมันเป็นครั้งแรก ผมยิ่งรู้สึกแย่ยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยนั้นโตแค่ไหนแล้ว
...นี่ผมละเลยไม่ให้ความสำคัญกับคนที่ผมบอกว่าแคร์ถึงขนาดนั้น?
การที่เฝ้าดูพวกเขาทางโซเชียลมีเดียทำให้ผมนึกเอาเองว่าเราได้เจอกันบ่อย แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย มันไม่สามารถทดแทนความรู้สึกได้ชัดเจนเท่ากับการพบปะกันจริงๆ
ที่บ้าน ผมนั่งเหม่อเหมือนคนไร้ใจ
หลายครั้งที่ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึก
ผมรับไม่ได้กับความจริงที่ว่าผมจะไม่ได้เจอมันอีกในชีวิตนี้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้เจอตัวกันแต่ผมยังรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของมันเสมอ
แม้ห่างหายกันไป ผมก็รู้ว่ามันยังอยู่ในระยะเอื้อมถึงตลอด
ผมไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กับมันเพราะผมชะล่าใจคิดไปว่าเรามีเวลาอีกทั้งชีวิตที่จะได้พบเจอกัน
ผมคิดเอาว่าผมสามารถไปพบเจอมันได้ทุกครั้งที่ต้องการ
‘เดี๋ยวก็ได้เจอ’
‘ไว้ค่อยไปหาก็ได้’
‘บ้านมันอยู่แค่นี้เอง’
‘ไว้ค่อยโทรหามัน’
แต่ในตอนนี้ผมไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งเหล่านั้นแล้ว
ผมจรดริมฝีปากที่ปลายนิ้วและแตะไปบนรูปที่ตั้งหน้าเมรุ...นี่เป็นจูบแรกและจูบเดียวเพื่ออำลาคนสำคัญที่เป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นคนรู้ใจ
น้ำตาผมไหลออกมาไม่หยุดเมื่อเห็นควันจากปล่องเมรุ
‘กูเข้าใจแล้วที่มึงบอกว่าให้แสดงความรู้สึกออกมาก่อนที่จะไม่มีโอกาส’
ตอนนี้โอกาสของผมที่จะบอกว่าผมรู้สึกกับมันยังไงหมดไปแล้ว
...โอกาสที่ผมจะบอกว่าผมขอบคุณมันแค่ไหนที่อยู่ในชีวิตผมมาตลอด 22 ปี...
โอกาสที่จะบอกว่ามันสำคัญต่อชีวิตผมแค่ไหน...ไม่มีอีกแล้ว
ผมรู้สึกว่างเปล่าเหมือนมีรูขนาดใหญ่ในใจ ส่วนหนึ่งของชีวิตผมตายไปพร้อมกับมันด้วย
ต่อไปนี้ผมจะไม่ปิดบังความรู้สึกของตัวเอง ผมจะให้ความสำคัญกับคนรอบข้างและแสดงออกให้เขารู้ว่าผมคิดอย่างไร
5 กรกฎาคม 2560
ราฟาจากผมไปเกือบสามปีแล้วครับ
หลายครั้งที่ผมเหมือนเห็นมันอยู่ในฝัน
บางครั้งผมเผลอไผลนึกไปว่ามันยังอยู่
เผลอคิดไปว่าคิดถึงมันจัง อยากโทรหาหรือคิดว่าเดี๋ยวไปหามันดีกว่า แต่ก็ต้องน้ำตาร่วงทุกครั้งที่นึกได้ว่าผมไม่อาจจะเจอหน้ามันได้อีกแล้วในชีวิตนี้
แต่ผมก็ยังเป็นผม สันดานเดิมมันแก้ยาก ผมไม่ได้แวะเวียนไปหาน้องแจงและลูกบ่อยเท่าที่ควร ผมยังคงทะเลาะเหวี่ยงวีนใส่พี่วัฒน์ ยังคงไม่ตอบรับทุกครั้งที่เขาบอกว่ารักหรือบอกว่าคิดถึง ผมปากแข็งเกินไปที่จะแสดงความจริงในใจของผมให้เขารู้ ทั้งๆ ที่ผมเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าผมไม่สามารถจากคนๆ นี้ไปได้อีก แต่ผมก็ทิฐิเกินไป
แต่ในวันนี้ของทุกปี วันที่ 5 กรกฎาคม ผมจะเปิดใจ ผมจะบอกความรู้สึกของผมให้แก่พี่วัฒน์เพื่อเป็นการอุทิศแด่ความทรงจำของราฟา
" ..."
“นพครับ” เสียงทุ้มนั้นทำให้ผมตื่นจากภวังค์
“ครับ พี่วัฒน์”
“อารมณ์ไหนถึงมาบอกว่าคิดถึงพี่?...อ๋อ หรือวันนี้...?”
พี่วัฒน์คงนึกออกแล้ว
“โอเค...พี่พร้อมรับฟังแล้ว” เสียงนั้นเคร่งขรึมขึ้น
“พี่วัฒน์ครับ...”
ผมหลับตาลงนึกถึงความทรงจำของคนที่สอนผมให้รู้ถึงความสำคัญของการเอ่ยคำๆ นี้
“รักนะครับ”
***********************************
ปัจฉิมบท
ผมวางดอกลิลลี่สีขาวช่อหนึ่งบนแท่นหินแกรนิตขนาดใหญ่อันเป็นที่พักผ่อนตลอดกาลของคนสำคัญของผม ผมมองไปที่ชื่อบนป้ายนั้น
‘ราฟาเอล รุ่งโรจน์ ปาเรร่า’
ชื่อนี้ทำให้ผมหวนนึกถึงครั้งแรกที่ผมได้เจอมัน
ผมกลับมาที่บ้าน ความทรงจำของผมเกี่ยวกับมันพรั่งพรูออกมา ในวันนี้ผมจะบันทึกไว้ให้หมดเพื่อที่ผมจะได้ไม่ลืม ผมเปิดคอมและเริ่มพิมพ์ลงไปอย่างตั้งใจ
“... 5 กรกฎาคม 2560
00:01 น.
ตรู๊ดดด
“ว่าไง โทรมาดึกเชียว” เสียงทุ้มที่ปลายสายฟังดูง่วงเล็กน้อย
“หลับแล้วเหรอ?” ผมถาม
“ใกล้แล้วล่ะ นอนอ่านนั่นนี่เพลินๆ... เป็นอะไรหรือเปล่า?” น้ำเสียงนั้นเจือความกังวลเมื่อได้ยินผมถอนหายใจ
“ไม่มีอะไรหรอก แค่...คิดถึง”
“เห้ย อารมณ์ไหน? ร้อยวันพันปีโทรมามีแต่ด่า กินยาผิดเหรอ?” ปลายสายหัวเราะเบาๆ ผมไม่ตอบ แต่หวนนึกไปยังภาพอดีตอันแสนไกล...”
########### F I N ###########
ตอนหลักที่เกี่ยวกับนพและราฟาจบลงตรงนี้นะคะ ถ้ามีใครเศร้าให้กับราฟาบ้างและให้ความสำคัญกับการเอ่ยความรู้สึกของตนออกมาให้กับคนสำคัญของตนเพิ่มขึ้น ไรท์จะดีใจมากค่ะ
เดี๋ยวมีต่ออีกสองตอนพิเศษเป็นเรื่องราวของนพกับฆาเบียร์จากตอน First Time นะคะ เป็นช่วงที่นพอยู่อเมริกา มีฉากเลิฟๆ ติดเรทด้วยนะคะ แต่เป็นการลองเขียนดูครั้งแรก อาจจะประดักประเดิดไปบ้างก็ต้องขออภัยค่ะ [/font][/size]