พิมพ์หน้านี้ - >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Tastsu ที่ 21-06-2017 19:13:19

หัวข้อ: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 21-06-2017 19:13:19
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลงหรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ดการกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับนิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: ตอนที่1 (21/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 21-06-2017 19:14:12
ชี้เเจ้งนะคะเรื่องนี้เราเเต่งตั้งเเต่สมัยเอ๊าะๆ ( :ling1:) 
ดังนั้นเนื้อเรื่องอาจป่วยบ้างเเต่ก็ขออภัยด้วยนะคะ
เเต่อยากลงให้อ่าน :mew1:


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=


“อ้อแอ้ คริ คริ ป๋อม ป๋อม”
 “อาชื่อหอมนะครับ ไข่เจียว” ผมหัวเราะเมื่อไข่เจียวหลานชายที่อีกไม่นานจะ1ขวบเอ่ยเรียกชื่อผมเพี้ยนแต่สำหรับผมช่างน่ารักเสียจริง
 “ป๋อม…..”
 ตัวเล็กจับนิ้วมือของผมแล้วหัวเราะคิกคักน่าเอ็นดู  ผมกดหอมฟอดใหญ่ กลิ่นหอมจากแป้งเด็กทำให้ผมอยากจะซุกอยู่แบบนี้ 
 “อ้าวๆ ซุกหลานแบบนี้เดี๋ยวหลานก็ช้ำกันพอดี”
 “โถ่ แม่ครับก็ไข่เจียวน่ารักนี่ครับ เนอะไข่เจียวเนอะ”
 “แอ้!”
 “เห็นไหมแม่ ไข่เจียวบอกว่าใช่”
 “เฮ้อ….อา หลานคู่นี่นะ แล้วไหมไปไหนซะล่ะถึงให้หอมดูหลานแบบนี้ ดีนะที่แม่กลับจากตลาดเร็วกว่าปกติ” แม่พูดขณะเขย่าขวดนมที่เพิ่งชง 
 “พี่ไปห้างน่ะครับ”
 “แล้วหอมจะกลับคอนโดเมื่อไรล่ะ ไม่รีบไปทำอาหารเย็นให้คิงส์เขาหรือ”
 ผมมองนาฬิกาบนฝาผนังก่อนจะตาโต
 “จริงด้วยผมลืมไปเลยครับแม่ งั้นผมขอกลับเลยนะครับ แม่ดูไข่เจียวได้ใช่ไหมครับ”
 “ได้สิ พูดกับใครฮึ แม่น่ะเลี้ยงหอมกับไหมมานะจ้ะ”   
 “ครับๆ งั้นผมไปก่อนนะครับ“ผมยกมือไหว้แม่ไม่ลืมที่จะหอมแก้มนุ่มๆของหลานชายและหอมแก้มแม่เอาใจ
ผมชื่อต้นหอมอายุ 20 ปี ผมไม่ได้เรียนหนังสือแล้วครับไม่ได้ต่อมหาลัยแต่ใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านแทน ผมออกจากบ้านแล้วย้ายมาอยู่กับสามี ฟังไม่ผิดหรอกครับผมย้ายมาอยู่กับสามีซึ่งก็คือพี่คิงส์ เราสองคนมาอยู่คอนโดด้วยกันประมาณเกือบ 2 ปีได้แล้วหลังจากผมเรียนจบม.ปลาย พี่คิงส์ตอนนั้นก็ ปี 2 ส่วนตอนนี้พี่คิงส์อยู่มหาลัยปี 4 แล้วครับ
 ผมกดโทรไปหาพี่คิงส์ ซึ่งขณะนี้ผมอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตเลยอยากถามว่าพี่เขาจะทานอะไรวันนี้
 “ฮัลโหล พี่คิงส์” 
 “มีอะไร” น้ำเสียงฟังดูห้วนแปลกๆ คงเพราะตอนนี้พี่คิงส์อาจไม่ค่อยว่างจะรับสาย
“คือผมอยากจะถามพี่คิงส์ว่าวันนี้อยากทานอะไรครับ ตอนนี้ผมอยู่ซุปเปอร์มาร์เก็ต”
 “วันนี้พี่ไม่กลับห้อง ต้องทำโปรเจคจบ แค่นี้นะ”
“พะ…”
ตื๊ดๆๆ
ผมลดโทรศัพท์ลงช้าๆ มองของสดและผักในรถเข็นอย่างเหนื่อยใจ  ผมจ่ายเงินและมุ่งหน้าไปยังคอนโด เดี๋ยวนี้พี่คิงส์ไม่ค่อยกลับห้องบอกว่าทำโปรเจคจบ พี่คิงส์เรียนบริหารและต้องรับช่วงต่อบริษัทของพ่อจึงทำให้เขาตั้งใจเรียนอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกน้อยใจในความห่างเหิน
‘พี่อยากมีลูก…..’
ผมเหนื่อยใจทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้ เพราะผมมีลูกให้พี่เขาไม่ได้ก็ผมไม่ใช่ผู้หญิง เราเคยพยายามจะมีลูกด้วยกันโดยการอาศัยวิธีทางวิทยาศาสตร์ คุณหมอฉีด ’ไข่ที่สุกของผู้หญิง’ ที่บริจาคให้และ ’อสุจิของพี่คิงส์’ เข้าไปในร่างกายของผม หมอบอกว่า การท้องแบบนี้ก็เหมือนกับการท้องของผู้หญิงนอกมดลูกแต่น้อยมากนักจะเป็นผล และสุดท้ายก็ไม่ได้ผลผมไม่ท้อง…..แม้จะพยายามหลายครั้งและครั้งล่าสุดคือครั้งที่ 5 ก็ไม่เป็นผลเลย
 ผมนั่งคิดอย่างเหม่อลอยปนน้อยใจ……พี่คิงส์อยากมีลูกแต่กลับเลือกผมที่เป็นผู้ชาย…..ถ้าคบกับผู้หญิงคงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้……แต่แค่คิดว่าพี่คิงส์จะคบกับผู้หญิงหัวใจผมก็เจ็บ……
เสียงสายฝนด้านนอกทำให้ผมตื่นจากพวังค์และรีบไปเก็บผ้าที่ตากไว้ที่ระเบียงเข้ามาในห้อง ผมมองเสื้อผ้าที่เปียกแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ใกล้แห้งแล้วเชียว…..
 ก็อกๆ
 ผมกำลังจะแขวนเสื้อผ้าไว้ในห้องต้องหยุดชะงักกับเสียงเคาะประตู
 “ใครครับ”
ผมเปิดประตูออก ปรากฏหญิงสาวผมยาว ใบหน้าสวยแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางเข้ม เธอสวมชุดเดรสสั้นสีแดง ทำให้ลุคของเธอเป็นสาวเปรี้ยวแสนเซ็กซี่
 “อ้าว ไม่ใช่คิงส์หรอกเหรอ…..ที่อยู่น่าจะถูกนี่นา”
“เอ่อ….”
 “ตายจริงสงสัยฉันคงมาห้องผิดน่ะ โทษทีนะ” เธอจะเดินจากไปแต่ผมเอ่ยขึ้นก่อน
 “….. นี่คือห้องของพี่คิงส์ครับ”
 “อ้าว ใช่หรอกเหรอแล้วคิงส์ล่ะอยู่ไหม”
 “พี่คิงส์บอกว่าวันนี้ไม่กลับครับ”
 “จริงเหรอแย่จังฉันกลับดีกว่า ถ้าคิงส์กลับมาบอกว่าเชอรีนมาหานะ บาย….”
 “เอ่อ เดี๋ยวก่อนครับ”
 “มีอะไรเหรอ”
 “คุณเป็นอะไรกับพี่คิงส์เหรอครับ”
 “อือ….เรียกว่าคู่นอนมั้งจ้ะ” พูดจบเธอก็จากไป
ผมหน้าชาเหมือนถูกใครสาดน้ำเย็นๆที่ใบหน้าอย่างแรง ตัวแข็งทื่อจนก้าวแทบไม่ออก แต่น้ำตากลับไหลแทนคำตอบทุกอย่าง
 ไม่จริงหรอก ก็แค่พูดเล่น  ผมปลอบใจตัวเอง  เช็ดน้ำตาก่อนจะสูดหายใจคิดว่าคำพูดเมื่อกี้คือคำล้อเล่นเท่านั้น บางทีผู้หญิงคนนี้อาจเป็นเพื่อนหรือรุ่นพี่หรือคนรู้จักหรือญาติก็ได้
 ใช่ ต้องเป็นเเบบนั้นเเน่ๆเพราะพี่คิงส์ไม่มีทางนอกใจผม……..
หัวข้อ: ตอนที่2
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 21-06-2017 19:15:40
“อร่อยไหมครับ” ผมยิ้มเมื่อพี่คิงส์กินอาหารแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ วันนี้ผมทำผัดผักใส่ไข่ที่พี่คิงส์ชอบและมักจะชมว่าอร่อยทุกครั้ง ผมนั่งฟังคำตอบของพี่คิงส์ที่คงจะตอบเหมือนทุกที
 “ก็กินได้” คำตอบที่เหนือความคาดหมายทำให้คลายยิ้มแต่ก็ฝืนยิ้มอีกครั้งเพราะแค่เห็นพี่คิงส์กินอย่างอร่อยก็เพียงพอแล้ว
ผมมองไปที่ประตูห้องก่อนจะเอ่ยเสียงสั่น “พะ..พี่คิงส์วันนี้มีผู้หญิงมาหาพี่ด้วย”
พี่คิงส์หยุดชะงักแต่ไม่ได้เงยหน้ามองผม
“เขาบอกว่าชื่อเชอรีน….เขาเป็น..คะ..ใครเหรอครับ”
ใบหน้าหล่อคมซึ่งเป็นที่ต้องตาของบรรดาสาวๆเงยหน้ามองผม “แล้วหอมคิดว่าเขาเป็นใครล่ะ”
“ผมไม่รู้ครับ” ผมก้มหน้า
“หอมเชื่อใจพี่ไหม”
“ผมเชื่อใจพี่” ผมรีบตอบทันที
“งั้นพี่คงไม่ต้องตอบคำถามอะไร แค่หอมเชื่อใจพี่ก็พอ”
ผมนิ่งงันก่อนจะพยักหน้า
 “วันนี้พี่จะไปค้างบ้านพ่อกับแม่นะ”
 “ทะ… ทำไมเหรอครับ พี่คิงส์เพิ่งกลับมาจากมหาลัยเมื่อกี้นี้เอง วันนี้ก็ไม่ค้างอีกแล้วเหรอครับ หรือโกรธที่ผมถามพี่เมื่อกี้นี้”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันก่อนจะเอ่ยขึ้นตะกุกตะกักเหมือนกับว่าเพิ่งได้คิดคำตอบ
 “ไม่ได้โกรธหรอก……คือ……แม่พี่อยากให้พี่กลับบ้านบ้างน่ะ “ ผมหน้าเจือนเล็กน้อย แม่พี่คิงส์ไม่ชอบผม คัดค้านตั้งแต่เริ่มคบยิ่งพอรู้ว่าผมและพี่คิงส์มาอยู่ด้วยกัน เขาถึงกลับเป็นลมเข้าโรงพยาบาล แต่สุดท้ายผมกับพี่คิงส์ก็มาอยู่ด้วยกัน และแม่พี่คิงส์ก็ยังไม่ชอบผมอยู่ดี
ผมหน้าเศร้า “งั้นเดี๋ยวผมทำอาหารสุขภาพให้แม่พี่คิงส์ดีไหมครับเมื่อคืนพี่คิงส์ไม่อยู่ผมดูรายการอาหารด้วย”
“ไม่ต้องหรอก”
 “เอ่อ…..แต่บางทีแม่พี่คิงส์อาจชอบนะครับ”
 “แม่พี่ไม่กินของที่หอมทำ”
 ผมหยุดชะงักก่อนจะพยักหน้าเบาๆ คำพูดไม่กี่คำแต่ทำให้ผมเจ็บจนพูดไม่ออก  ผมเคยคิดว่าสักวันผมกับแม่พี่คิงส์จะเข้ากันได้….แต่คงไม่มีวันนั้น….
“ขับรถดีๆนะครับ”
“อือ…..”
 ผมมองห้องที่ว่างเปล่าหลังจากพี่คิงส์ออกไป  ในหัวหมุนๆรู้สึกจะมีไข้แถมยังรู้สึกเจ็บบริเวณท้องน้อยอีก คงต้องหาเวลาไปหาหมอบ้างแล้ว
 “อ่อก…ก…ก”   3 วันมานี้ผมคลื่นไส้บ่อยขึ้น บ่อยจนแทบไม่มีแรงที่จะเดิน
 “เฮ้อ……เกิดอะไรขึ้นเนี่ยหรือจะเป็นไส้ติ่ง”   ผมจับท้องน้อยตัวเองที่เริ่มเจ็บมากขึ้น
 RrrrrRR
 เสียงมือถือดังขึ้น ผมค่อยๆพยุงตัวเองไปรับสาย
 “ฮะ…ฮัลโหลครับแม่” เสียงผมแหบพร่าเจ็บคอไปหมด
 “หอมเป็นอะไร ทำไมเสียงเป็นแบบนั้นล่ะลูก”
 “ไม่เป็นไรครับแม่ แม่โทรมามีอะไรเหรอครับ”
 “วันนี้ที่บ้านจัดปาร์ตี้เล็กๆน่ะจ้ะ ไหมจะจัดงานวันเกิดให้ไข่เจียว”
 “เอ๊ะ วันนี้วันเกิดไข่เจียวเหรอครับ” ผมเดินไปที่ปฏิทินแล้วหยุดมอง
 “ใช่ หลานอายุ 1 ขวบแล้วนะ”
 “จริงด้วย ผมยังไม่ได้ซื้อของขวัญให้เลย”
 “ไม่เป็นไรหรอกลูก มาที่บ้านก่อนเถอะจ้ะ”
 “ครับๆผมจะรีบไป”
ผมวางสายแล้วเปิดประตูจะออกไปข้างนอก แต่พอเปิดออกไปคนที่ปรากฎตรงหน้าทำให้ผมหยุดชะงัก เมื่อมีผู้หญิงสองคนยืนอยู่หน้าประตู  คนแรกรูปร่างท้วม ใบหน้าถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางชั้นดีแม้วัยจะเข้าสู่ครึ่งร้อยแล้วก็ตาม เครื่องแต่งกายและเครื่องเพชรแสนหรูนั้นไม่อาจคาดเดาและประเมินราคาได้แต่บ่งบอกได้ถึงคนมีฐานะร่ำรวย ส่วนอีกคนค่อนข้างผอมแห้งแต่งกายเหมือนแม่บ้านอายุท่าทางน่าจะใกล้เคียงกัน แต่แววตาทั้งสองคนกลับเหมือนกันคือ เกลียดผม!
“นี่แกเกือบเปิดประตูโดนคุณนายแล้วนะ!” เสียงคนแต่งตัวเป็นแม่บ้านตวาดผมลั่น
 “ขะ…ขอโทษครับคุณ…..นาย”
 หญิงวัยกลางคนเชิดหน้า ไม่แม้แต่อยากจะมองผมให้เสียสายตา
 “ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกเรื่องลูกชายของฉัน”
 ผมหยุดชะงัก ใจคอเริ่มไม่ดี  “ชะ…เชิญคุณนายเข้ามาข้างในเถอะครับ”
 “นึกว่าจะไม่ให้เข้าซะล่ะ”
คุณแม่ของพี่คิงส์มาพร้อมกับคนรับใช้ส่วนตัว ผมรู้สึกคลื่นไส้คงเพราะทุกอย่างเริ่มกดดัน ผมทำตัวไม่ถูกเสมอเวลาอยู่ต่อหน้าแม่พี่คิงส์
 “เดี๋ยวก่อนค่ะคุณนายเดี๋ยวเนียนปัดเสนียดให้ก่อนนะคะ” พูดพลางนำผ้าที่ติดตัวมาด้วยเช็ดโซฟาหลายครั้งก่อนที่คุณนายจะนั่งลง
 “ขอบใจมากเนียน อ้าว จะยืนค้ำหัวฉันอีกนานไหม”
 ผมรีบทรุดนั่งกับพื้น
 “ที่จริงฉันก็ไม่อยากจะมาที่นี่นักหรอกนะ เสนียดมันติดฉันความวิปริตมันก็จะติดฉันด้วย”
 ผมก้มหน้ากลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ พยายามทำตัวให้ชินกับคำด่าและดูถูก มือประสานจับกันอย่างกังวล
 “ฉันมาที่นี่ก็แค่อยากจะบอกกับแกว่า เลิกกับตาคิงส์ซะ”
“ไม่ครับ”
 “หน้าด้านจริงๆ แกนี่มันเกิดมาเป็นผู้ชายแท้ๆแต่ทำตัวผิดเพศขายหน้าวงศ์ตระกูลซ้ำยังนำเชื้อมาให้ตาคิงส์อีก”
 “คุณนายครับ ผมกับพี่คิงส์เรารักกันจริงๆ”
 “รัก!?  นี่เเกคิดไปคนเดียวหรือเปล่า รักกันเหรอ….เฮอะ ลูกชายฉันแค่หน้ามืดชั่วคราวเท่านั้น ลูกฉันปกติดี! แกต่างหากที่วิปริต”
 “คุณนาย….”
 “ฟังฉันนะถ้าตาคิงส์เรียนจบฉันจะให้แต่งงานกับลูกสาวเพื่อนของฉัน”
 ผมเบิกตากว้าง  “คะ…คุณนาย ผมกับพี่คิงส์เราเป็นคนรักกันนะครับ ทำไมคุณนายถึงทำแบบนี้” ใจผมหวิวเจ็บแปล๊บ น้ำตาเอ่อคลอด้วยความกลัวว่าจะเป็นอย่างที่คุณนายบอกจริงๆ
 “เพราะตาคิงส์หล่อและรวยน่ะสิแกถึงจับตาคิงส์ อีตุ๊ด อีกระเทยผิดเพศ!”
 “ฮึกๆๆ จะว่าผมยังไงก็ได้แต่อย่าให้เราเลิกกันเลยนะครับ” ผมยกมือไหว้แล้วกราบแทบเท้าแต่คุณนายชักเท้าหนี
 “ไม่มีทาง ฉันจะจับตาคิงส์แต่งงานและจะให้เลิกกับแก!”
 “พะ…พี่คิงส์ไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกครับ เพราะพี่คิงส์รักผม…”
 “หึ งั้นแกก็รอดูแล้วกันว่าลูกชายฉันจะยังรักแกอยู่ไหม แต่ต่อให้คิงส์ปฏิเสธฉันก็จะให้เลิกกับแกอยู่ดี!”
 “ฮึกๆ ฮือๆๆ คุณนาย…..ผมรักพี่คิงส์จริงๆนะครับ”
 “กรี๊ดดดดด  อย่ามาเกาะขาฉันนะ เนียนเร็วสิมั่วนั่งบื้ออยูนั่นแหละ”
 “นี่แกจะทำอะไรคุณนายน่ะฮะ!”
 ผมเกาะขาคุณนายไม่ปล่อย
 “ไม่ครับ คุณนายผมขอร้อง”
 “มานี่!”  ป้าเนียนจิกหัวและจิกตามเนื้อผมเพื่อให้ปล่อยจากขาคุณนาย
 “โอ๊ยยยย”
 “แกจะทำอะไรคุณนายฮะ”
 เพี๊ยะ! หน้าผมหันไปตามแรงเมื่อถูกตบอย่างเต็มแรง
 “ปะ…เปล่านะครับ”
 “ไปเถอะเนียนขยะแขยงกลับบ้านไปต้องรีบไปล้างขาเสนียดติด”
 ผมกุมแก้ม อยากจะเข้าไปขวางอีกครั้งแต่ก็คงโดนว่าโดนทำร้ายอีก  ไม่มีทางพี่คิงส์จะไม่เลิกกับผมแน่นอน
 ต่อให้คุณนายจะบังคับยังไงก็ตาม!
……………………………………………
“มัวนั่งเหม่ออะไร กินบ้างสิ” พี่ไหมยื่นจานบาร์บีคิวให้ผม
 “ผมไม่ค่อยหิวน่ะครับ”
 “แต่ก็น่าจะกินเค้กหน่อยนะเดี๋ยวไข่เจียวที่หลับอยู่จะตื่นมาร้องไห้”
 “ครับ”
 “แล้วแก้มนั่นไปโดนอะไรมาฮึ แดงเชียวเหมือนรอย…..”
 ผมจับแก้มตัวเอง  “เอ่อ….มันก็แดงปกติดีนี่ครับ”
 “….ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจปรึกษาพี่ได้นะ ถึงพี่จะไม่ค่อยมาบ้าน แต่ก็โทรปรึกษาพี่ได้”
 “ขอบคุณครับ”
 “ไหม จะไหม้แล้ว” พี่พงษ์สามีพี่ไหมเรียก
 พี่ไหมเป็นพี่สาวคนเดียวของผม อายุมากกว่าผม 3 ปี กว่าจะมีวันนี้ได้ทั้งพี่ไหมและพี่พงษ์ก็ผ่านอุปสรรคกันมามากเพราะพี่ไหมท้องก่อนแต่งจำได้ว่าพ่อโกรธพี่อย่างมากและไม่ยอมให้พี่พงษ์เข้าบ้าน ชาวบ้านก็นินทาซ้ำยังคาดเดาว่าทั้งสองคนรักกันไม่รอด แต่ตอนนี้สิรักกันเหมือนข้าวใหม่ปลามัน
 “ไม่ไปนั่งกินกับพี่เขาล่ะ” แม่ที่ไปดูไข่เจียวมานั่งข้างๆผม
 “ปล่อยให้คู่สามีภรรยาเล่นกันดีกว่าครับ”
 “หึๆ ดูสองคนนั้นก็คิดถึงตอนแม่สมัยสาวๆนะ”
 “พ่อหนุ่มๆด้วย” เสียงนั้นดังขึ้นพร้อมกับพ่อที่กลับมาจากทำงานพอดี
 “กลับมาแล้วเหรอครับ”  ผมเดินไปถือกระเป๋าให้
 “คุณไหนบอกว่าวันนี้กลับดึกไงคะ”
“วันนี้อยากมาปาร์ตี้เล็กๆที่คุณโทรบอกน่ะสิ เหลืออะไรบ้างล่ะฮึ”
“ยังมีอยู่เยอะค่ะ” แม่ยิ้ม ก่อนจะเดินนำพ่อไป  ทั้งสองยืนคุยกันกระหนุงหระหนิง
 ผมยิ้มให้กับความรักของพ่อและแม่ที่ไม่มีวันจืดจาง
 แล้วผมล่ะ…..
 ฉันจะให้ตาคิงส์แต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนฉัน
 หัวใจเจ็บ ขออย่าให้เป็นจริงอีกไม่กี่วันพี่คิงส์ก็จะเรียนจบแล้ว
ตอนเช้าพี่คิงส์กลับมาที่ห้อง ผมไม่ได้บอกเขาเรื่องที่คุณนายมาที่ห้องนี้และไม่กล้าถามอะไรทั้งนั้น ผมมองพี่คิงส์ที่กำลังนั่งดูทีวีจากด้านหลัง  จู่ๆน้ำตาผมก็ไหลออกมาเองผมรู้สึกเครียดจนนอนไม่หลับ เครียดถึงขนาดปวดท้องอาเจียนวันละหลายครั้ง ผมปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงร้องไห้ดังออกมา พยายามเช็ดน้ำตาแล้วปั้นหน้ายิ้ม   
 “พี่คิงส์”
พี่คิงส์หันมามองเขายกยิ้มให้ผม
“มีอะไรเหรอ”
“ผม….นึกว่าพี่จะไม่กลับมาแล้ว”
พี่คิงส์หยุดนิ่ง….ทำไมต้องทำหน้าตาเหมือนกับว่าที่ผมพูดมันแทงใจดำพี่ล่ะ
“มีอะไรหรือเปล่า”  พี่คิงส์เดินมาหาผม ผมส่ายหน้าแล้วสวมกอดเขาแน่น
“หอม…”
“ขออยู่แบบนี้ก่อนนะครับ…ผมอยากกอดพี่นานๆ”
เขากอดผมตอบแล้วจูบที่ขมับ ผมหลับตาซบอก….อยากอยู่แบบนี้ตลอดไปไม่อยากแยกจากกัน….ผมเชื่อใจพี่นะ
ตอนเย็นจู่ๆพี่คิงส์ก็อยากพาผมไปดินเนอร์ที่โรงแรมหรูซึ่งเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ผมยิ้มอย่างดีใจแต่พอเห็นราคาอาหารก็ทำให้อดหวั่นไม่ได้
 “แพงนะครับ”
 “นานๆมาที ไม่เป็นไรหรอก” พี่คิงส์ยิ้มแล้วรินไวน์ให้ผม
บรรยากาศการดินเนอร์ในโรงแรมหรูแบบนี้ทำให้ผมเกร็งจนไม่กล้าที่จะทานอะไรเลย ทั้งราคาที่แสนแพง หน้าตาอาหารแสนหรูและอุปกรณ์การกินที่ยุ่งยาก ผมไม่ชอบการทานอาหารแบบนี้เลยถ้าพี่คิงส์ไม่ชวนผมคงไม่มาทานที่นี่แน่ๆ แต่ว่าผมกับพี่คิงส์ตั้งแต่คบกันมาเคยดินเนอร์แค่ครั้งเดียวคือวันที่พี่คิงส์ขอผมแต่งงานไม่สิเรียกว่าขอให้ผมมาอยู่ด้วยมากกว่าแต่ไม่ได้หรูถึงขนาดนี้
“ขอบคุณนะครับที่พาผมมา…….”
 พี่คิงส์ยิ้มบางๆ  “แค่นี้ยังน้อยไปนะที่พี่จะทำให้หอมได้”
พี่คิงส์พูดแล้วมองหน้าผม เหมือนกับกำลังสื่อบางอย่างก่อนจะลงมือทานอาหารแต่ผมกับรู้สึกใจหวิวขึ้นมาดื้อๆเหมือนกับว่าเป็นสัญญาณบางอย่าง…….
เราทานอาหารเย็นกันได้สักพักหลังจากนั้นพี่คิงส์ก็พาขับรถเล่นชมวิวตามชานเมือง ภาพทิวทัศน์ตอนกลางคืนนั้นสวย  ดาวบนท้องฟ้าส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า บรรยากาศเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้แอร์รถเลย
 ผมเอนซบบ่า หลับตานึกถึงเรื่องราวในอดีตที่อดยิ้มไม่ได้
 “นึกถึงครั้งแรกที่เราขับเล่นกันนะครับ ตอนนั้นเราแอบหนีเรียนตอนบ่ายแล้วพี่ก็ขับรถคันนี้พาผมเที่ยว” นึกถึงเรื่องในตอนนั้นผมก็ยกยิ้มแล้วเงยหน้ามองเขา
“…เอ่อ….โทษนะพี่จำไม่ค่อยได้”
 ผมหยุดชะงักกับคำตอบแต่ก็พยายามยิ้มฝืน......ทำไมถึงจำไม่ได้เพิ่งผ่านมาไม่กี่ปีเอง ทั้งๆที่ดอกกุหลาบในวันนั้นผมยังเก็บมาจนถึงในวันนี้
“หอม….”
 “ครับ?”
 “……”
 “พี่คิงส์? จะพูดอะไรกับผมเหรอครับ”
“…..ไม่มีอะไร”
 ผมมองใบหน้าพี่คิงส์ ผมรู้ว่าพี่เขามีอะไรในใจแต่ไม่บอกผม เรื่องอะไรกันที่บอกผมไม่ได้แต่ผมเองก็ไม่อาจที่จะฝืนให้พี่เขาตอบ ได้แต่เอนซบเงียบๆและชมบรรยากาศต่อไป
………………………………………………………..……
 “ถักไปถึงไหนแล้วล่ะ”
 “ใกล้เสร็จแล้วครับแม่”
 “จะเสร็จถึงวันเรียนจบพี่เขาหรือเปล่าล่ะฮึ”
“เสร็จสิครับผ้าพันคอไหมพรมนี้จะต้องเสร็จทันแน่นอนครับ”
 อันที่จริงผมถักมาตั้งแต่ปลายฤดูหนาวแล้ว แต่ตอนนี้ฤดูร้อนผมก็ยังไม่เสร็จเพราะตอนแรกทำไม่เป็นกว่าจะทำได้ก็หมดฤดูหนาวพอดี ผ้าพันคอนี้ผมจึงเปลี่ยนมาเป็นของขวัญวันเรียนจบพี่คิงส์แทน   ถึงแม้จะหมดฤดูหนาวปีนี้แต่จะให้พี่คิงส์ใส่ในฤดูหนาวปีหน้า
 ผมมองผลงานตัวเองแล้วยิ้ม ใกล้เสร็จแล้ว…..
 “แล้วพี่เขาเรียนจบวันไหนล่ะ”
 “วันศุกร์หน้า อ่อก..ก…”  ผมรีบลุกไปห้องน้ำทันทีรู้สึกคลื่นไส้จะอ้วก
 “หอม! หอมเป็นอะไรลูก”
 “อ่อก..ปะ…อ่อก…ก..ก…..เปล่า..ครับ”
 แม่ยืนลูบหลังให้
 “นี่ลูกเป็นมานานหรือยัง”
 “เอ่อ ก็ อ่อก..ก...สักพักเเล้วครับ”
 “แล้วไปหาหมอหรือยัง”แม่ถามด้วยความเป็นห่วง
 ผมวักน้ำเพื่อล้างปากและหน้า หายใจลึกๆเพื่อให้อาการคลื่นไส้หายไป
 “ยังครับ”
 “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแม่พาไป”
 “ไม่ต้องหรอกครับคงเพราะโรคกระเพราะ ทานยาก็หายครับ”
 “แต่เป็นมานานแล้วนี่ ไปหาหมอกับแม่นะ”
 “ผมไม่เป็นไรจริงๆคงเป็นโรคกระเพาะนั่นแหละครับ”
 “เฮ้อ….ถ้าเป็นหนักก็ต้องรีบบอกแม่นะ”
 "ครับผม"
………............................................................
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูทำให้ผมรีบเดินไปเปิด เพราะนั่งคอยพี่คิงส์จนเวลาล่วงเลยถึงตี1แล้ว กลิ่นเหล้าลอยโชยมาแตะจมูก ผมเอ่ยขอบคุณเพื่อนของเขาที่อุตส่าห์พากลับมา ก่อนที่ผมจะรีบประคองพี่คิงส์ไปที่เตียงแล้วหาผ้าเย็นมาเช็ดหน้าให้
 “พี่คิงส์ครับ พี่คิงส์ ”
 “อ้วกกกก”  พี่คิงส์อ้วกทั้งที่ยังนอนอยู่ ผมรีบเอาผ้ามาเช็ดและถอดเสื้อพี่คิงส์ออก พยายามเช็ดคราบต่างๆออกให้จนสะอาด ประคองพี่คิงส์ไปที่โซฟาจัดให้นอน และรีบปูผ้าเตียงใหม่ และประคองพี่คิงส์กลับไปที่เตียงอีกรอบ
ผมจับหัวตัวเองรู้สึกหน้ามืด เพราะทั้งเหนื่อยและอดนอน ทั้งยังต้องคอยดูแลพี่คิงส์ทั้งคืนเพราะมีไข้อ่อนๆ
“อือ….ฮ่าๆๆ กิ๊ฟ ไม่เอาน่า…..”
 ผมหยุดชะงัก
 “พะ..พี่คิงส์”   
 พี่คิงส์จับมือผมแล้วพูด “กิ๊ฟคืนนี้นอนกับพี่น๊า”
 ผมได้แต่นิ่งแล้วปล่อยพี่เขาจับมือผมแล้วเรียกชื่อคนอื่นอยู่แบบนั้น ผมควรจะทำยังไงดีผมควรจะปลุกให้ตื่นแล้วถามให้รู้เรื่องใช่ไหม แต่ผมทำไม่ได้.....ผมกลัว…..กลัวว่าถ้าถึงจุดนั้นเราจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมจึงทำได้แค่ปล่อยทุกอย่างแล้วลืมมัน
……ทรุดนอนข้างๆทั้งที่ร้องไห้…….
 ตอนเช้าพี่คิงส์ยังคงไม่สร่างเมามากนัก ยังปวดหัว โชคดีที่พรุ่งนี้วันหยุด
 “โอ๊ย ปวดหัวสุดๆเลย”
 “ทานข้าวต้มก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยท่านยา” ผมยกข้าวต้มไปที่โต๊ะอาหาร
“อืม”
 พี่คิงส์ขยี้ตาแล้วเดินเซไปอาบน้ำ ผมจัดโต๊ะรอไม่นานพี่เขาก็มานั่งทาน ส่วนผมก็นั่งทานฝั่งตรงข้าม
 “อาการเป็นยังไงบ้างครับ”
 “ไม่เป็นไรมาก แค่กินเหล้าไม่ตายหรอก”
  ".....ครับ" ผมก้มหน้าทานข้าวต้ม แต่ในใจนึกถึงเรื่องเมื่อคืนตลอดเวลา……..
 “หอม…..”
 “คะ…ครับ?”
 "หอมอยากให้พี่ทำอะไรมากที่สุดตั้งแต่คบกันมา”
  “ถามทำไมครับ”
 “………พี่ก็แค่อยากทำให้”
 ผมยิ้มรับ
 “อาทิตย์ที่แล้วพี่พาหอมไปดินเนอร์ วันนี้พี่ก็อยากทำอะไรให้หอมอีก”
 “ทำไมรีบจังล่ะครับ เรายังอยู่ด้วยกันอีกนานนี่ครับ”
พี่คิงส์นิ่ง
 “ถ้าอย่างนั้นหลังพี่คิงส์เรียนจบแล้วกันครับ ตอนนี้พี่คิงส์พยายามในเรื่องเรียนก่อนดีกว่าอีกไม่กี่วันเเล้วนี่ครับ”
 “……..นั่นสิ”
 ผมก้มหน้าทานต่อ  แต่มือหนาของพี่คิงส์กลับเอื้อมมาสัมผัสใบหน้าของผม  สายตาของพี่คิงส์มีบางอย่างอยากบอก เป็นสายตารู้สึกผิด……ผมมองนัยน์ตาอีกฝ่าย รอฟังว่าพี่คิงส์จะพูดอะไร พี่ทำอะไรผิดถึงมีสายตาแบบนี้ต่อผม หรือเพราะเรื่องเมื่อคืนที่พี่ไปอยู่กับคนชื่อกิ๊ฟ…..หรือมีอะไรมากกว่านั้น........
 “พี่คิงส์…”
 “เอ่อ…ไม่มีอะไร ข้าวติดหน้าน่ะ”
 “อ๋อ…ขอบคุณครับ” รับคำทั้งๆที่รู้ว่าพี่คิงส์ต้องมีเรื่องอะไรมากกว่านั้น
 หลังจากทานข้าวเสร็จ พี่คิงส์ก็นั่งดูทีวี  ส่วนผมแยกเสื้อผ้าเพื่อนำไปซัก รอยลิปสติกตรงปกเสื้อพี่คิงส์ทำให้ผมหันไปมองเขาที่ยังคงดูทีวีอยู่
 อยากเดินเข้าไปถาม แต่ขาและปากกลับไม่ขยับ............
 RR..Rrrr เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นของพี่คิงส์
 “ฮัลโหล…กิ๊ฟ…”
 ผมหยุดชะงัก
 "ฉันนึกว่าเมื่อคืนเธอพาฉันมาส่งซะอีก…..วันนี้เหรอ….อืม….” พี่คิงส์หันมามองผมแต่ผมทำเป็นไม่รู้และแยกผ้าต่อ ทั้งๆที่ผมแทบจะหมดเรี่ยวแรง
 “ได้สิ เจอกันคืนนี้อีก……”
 ผมวางผ้าลงหลังจากที่พี่คิงส์วางสาย
 “พี่คิงส์”
 “มีอะไร”
 “ใครโทรมาครับ”
 “เพื่อนที่มหาลัย”  สายตายังดูทีวีเหมือนเดิม
 “แน่ใจเหรอครับ”
 “หอมหมายความว่ายังไง”  พี่คิงส์หันมามองผมอย่างไม่พอใจ
 “คะ….คือผม……ผม……” ผมกำมือแน่นอยากถาม แต่ทำไมปากไม่ขยับ
 “มะ….ไม่มีอะไรครับ”  ผมเดินกลับมาที่เดิม พี่คิงส์ก็หันกลับไปดูทีวีเหมือนเดิม
 ผมได้แต่เม้มปากปล่อยให้น้ำตาไหล ไม่สามารถที่จะถามได้จริงๆกลัวว่าความสัมพันธ์เปลี่ยน ผมเช็ดน้ำตามองรอยลิปสติกแล้วขยี้จนคราบนั้นเละเทะเปื้อนปกเสื้อเป็นรอยกว้าง
 ผมยกตะกร้าไปทางเครื่องซักผ้าที่อยู่ด้านใน ก่อนจะทรุดตัวร้องไห้โฮ
 “ทำไมถึงไม่มีผมคนเดียว….ทำไมครับ…..ฮึก…ก…ก”
 ได้แต่ถามกับตัวเองแต่ไม่สามารถที่จะเอ่ยถามพี่คิงส์ได้เลย…………….



หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่1+2 {21/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 21-06-2017 19:35:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่1+2 {21/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 21-06-2017 21:00:21
ติดตาม
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่1+2 {21/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 21-06-2017 21:23:41
 :mew6: :mew6: :angry2: :angry2: :fire: :m31: :m16:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่1+2 {21/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 21-06-2017 21:29:44
นักเขียนคนนี้มาทีไร ดราม่าทุกที  :monkeysad:
ติดตามค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่1+2 {21/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-06-2017 21:36:57
คุ้น ๆ เหมือนเคยอ่าน
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่1+2 {21/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-06-2017 21:37:47
หอม รู้ทั้งรู้ว่าคิงส์ คนรักเป็นอย่างไร
ที่มีผู้หญิงมาหาบอกเป็นคู่นอน เขาส่งมาบอกให้หอมรู้ซะทีละมั้ง
เมาก็พูดชื่อผู้หญิงอีกคนออกมา แล้วออกไปกับหญิงชื่อนั้น

แม่คิงส์ ก็ขับไล่ รังเกียจ จะให้คิงส์แต่งงานกับลูกสาวเพื่อน
หอม ยังจะอยู่อีกทำไม ก็เขานอกใจ ไม่ได้มีหอมคนเดียว
ไปจากเขาเสียที ให้เขาสวมเขามาตลอด มีศักดิ์ศรีบ้าง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่1+2 {21/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 21-06-2017 23:42:16
เปิดมาก้น่าสงสารเลยยยยย
ผช.ก้เลวววว เหมือนจะบอกก้ไม่บอก
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่1+2 {21/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 22-06-2017 05:56:59
คิง กำลังจะหาโอกาสเลิกกับหอมจะด้วยอะไรก็แลล้วแต่ แต่หอมกำลังท้อง เอาหล่ะสิ ทีนี้ทำไง สงสารหอม
หัวข้อ: ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 22-06-2017 11:10:45
มองแหวนตรงนิ้วนางข้างซ้ายได้แต่นั่งถอนหายใจ มองนาฬิกาก็เกือบเที่ยงคืน ได้แต่นั่งรอ…ครั้งที่เท่าไรแล้วนะที่พี่คิงส์กลับดึกแบบนี้ ถึงแม้จะไม่นอนค้างที่อื่นแต่กลับบ้านเกือบสว่างตลอดก็ไม่ต่างกันเลย ผมต้องอยู่คนเดียวในห้องเงียบๆ กับอาการป่วยที่ไม่หาย บางครั้งหน้ามืดเป็นลมสลบไป ฟื้นขึ้นมาก็ต้องพยุงตัวเองไปกินยา และนั่งรอแบบนี้เกือบทุกวัน
 ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูทำให้ผมรีบเดินไปเปิดจนมันเหมือนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ผมหน้าเจือนเมื่อคนที่พาพี่คิงส์มากลับเป็นผู้หญิง
 “โทษนะคิงส์เมามากเลยอ่ะ หนักด้วยช่วยหน่อยสิ” หญิงสาวอายุน่าจะเท่าพี่คิงส์เอ่ยอย่างอึดอัด
 ผมรีบช่วยประคองพาไปที่เตียงแล้วหาผ้าเย็นมาเช็ดหน้าให้เหมือนทุกวัน
 “หนักนะเนี่ย..เอ่อ..นี่นายฉันขอค้างที่นี่นะ”
 ผมหันไปมองอยากจะปฏิเสธแต่ไม่ทันแล้วเธอพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีไม่รอฟังคำตอบจากผม
ผมทรุดนั่งมองใบหน้าของพี่คิงส์  มือสั่นยากจะสัมผัสใบหน้านี้ได้….กระพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้น้ำตาไหล บางทีผู้หญิงคนนี้อาจเป็นเพื่อนที่มหาลัยจริงๆก็ได้
 “อือ…” 
 “พี่คิงส์”   
 “กิ๊ฟ….”
 ผมได้แต่ปล่อยมือที่กำลังจะเอื้อมทิ้งลงข้างตัว หมดเรี่ยวแรงทันที……….
 “พี่คิงส์นอกใจผมเหรอครับ”  ผมเอ่ยถามขณะที่อีกฝ่ายไม่รู้สึกตัว
 “ทำไมพี่ไม่มีผมคนเดียวครับ” พูดไปน้ำตาผมก็ไหลไป แม้จะพยายามเช็ดออกแต่ก็ยังคงไม่แห้งเหือด
“มีผมคนเดียวได้ไหม…ฮึก…ก…ก จำวันที่พี่สวมแหวนให้ผมไม่ได้หรือครับ ต้องให้ผมเจ็บแค่ไหนถึงจะพอครับ” ผมให้พี่คิงส์สัมผัสนิ้วนางข้างซ้ายที่มีแหวนสีขาวราคาถูกที่พี่คิงส์ซื้อให้ผมช่วงเรียนมัธยมและผมก็ใส่มันเรื่อยมาแม้พี่คิงส์จะซื้อให้ใหม่แต่ผมก็ปฏิเสธเพราะผมรักแหวนแห่งคำสัญญาวงนี้……
 ไม่มีเสียงตอบเพราะผมมันบ้าที่ได้เเต่พูดคนเดียว ….แต่พอเอาเข้าจริงกับไม่กล้าแม้แต่จะถาม
 ผมเดินออกมานอกห้อง  เจอผู้หญิงที่มากับพี่คิงส์กำลังเปิดตู้เย็นพอดี
 “คุณ…”
 “หืม?” เธอหันมามองผม
 “คุณเอาชุดมาจากไหนครับ”  ผมถามเพราะเธอเข้าไปอาบน้ำแต่ทำไมถึงมีชุดเปลี่ยน ตอนเธอเข้ามาก็ไม่ได้มีกระเป๋าเสื้อผ้า   
“อ๋อ…..ก็มันมีอยู่ในตู้เสื้อผ้าน่ะสิ ฉันมาค้างที่นี่ประจำ”
 “ว่ายังไงนะครับ”
 “อ้อ…ตอนที่ฉันมาค้างนายไม่อยู่นี่นะ แล้วเสื้อผ้าฉันก็อยู่หลบซ่อนนายคงไม่เห็น”
ผมขาแทบทรุด จับโซฟาเพื่อไม่ให้ล้ม  “คุณ….คุณเป็นอะไรกับพี่คิงส์ครับ”
 เธอหยุดคิด   “อือ…คู่นอนล่ะมั้งนะ..... เราแค่เล่นๆกันน่ะ” เธอยิ้มแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนที่เป็นห้องของผมกับพี่คิงส์ เธอเดินเข้าไปเหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่ทำประจำ
 รู้สึกคลื่นไส้…..พยายามฝืนลุกแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
 “อึก…อ่อก…ก..ก…”ครั้งนี้อาการคลื่นไส้มากกว่าปกติ คงเพราะผมเครียดมากกว่าทุกวัน……..ผ่านไปนานกว่าผมจะออกจากห้องน้ำแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดิน
มองประตูห้องนอนที่ปิดสนิทผมไม่กล้าเปิดได้แต่ทรุดนั่งบนโซฟา เหม่อลอยมองทีวีที่ไม่มีภาพ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา….แต่ตอนนี้ผมควรทำยังไงดี
 …..เลิกกัน?
 …..ไม่ ผมเลิกไม่ได้
 …..แล้วผมจะทำยังไง
 ผมกุมหัวตัวเอง…..ไร้หนทางจริงๆ ผมควรจะทำยังไงดี นั่งคิดทั้งๆที่ร้องไห้……นานเท่าไรแล้วไม่รู้จนกระทั่งได้ยินเสียง……
 แอ๊ด..ด…เสียงเปิดประตูห้องนอนทำให้ผมหันไปมอง
 “พี่คิงส์….”
 พี่คิงส์ยืนนิ่งท่าทางตกใจที่เห็นผมคงเพราะตลอดเวลาที่ผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่ผมจะไม่อยู่
 “พี่คิงส์….” ผมเดินไปหาเพื่อฟังคำตอบ….
 “ขะ…เขาเป็นใครครับ”
”……..”
 “ฮึก..ก…ก  ผู้หญิงคนนี้เป็นใครครับ บอกผมสิ” ผมมองเข้าไปในห้องนอนซึ่งตอนนี้เธอนอนทับที่ของผมอยู่….
 “หอม……พี่ขอโทษ” น้ำเสียงแทบไม่ได้ยิน พี่เขาไม่กล้าแม้จะมองหน้าผม
 “ฮึก..ก..ก...ก พี่ทำแบบนี้ทำไมครับ พี่ทำทำไม”
 “……..”
 “ผมโง่มากใช่ไหมที่ไม่รู้อะไรเลย ตอบผมสิ!”
 “……..”
 เงียบ…ไม่มีคำตอบ พี่คิงส์หลบสายผม….ผมได้แต่มองพี่เขาทั้งน้ำตารอฟังคำตอบแต่ได้เพียงความว่างเปล่า เวลาผ่านไปจนกระทั่งพี่คิงส์พูดออกมา
 “ถ้าอย่างนั้นเราเลิกกัน….”
 ผมเบิกตากว้าง แล้วรีบเข้าไปสวมกอด
 “ไม่เอา ไม่เลิก...ฮึก…ไม่เลิก ผมไม่เลิกนะ” ผมสวมกอดกลัวพี่คิงส์จะหายไป
 “แต่พี่ทำผิด”
 “ไม่.. พี่อย่าพูดอีกนะ…ฮือๆๆ”
 “หอม….”.
 “ไม่เอาไม่เลิกกัน ผมจะถือว่าวันนี้ไม่มีผู้หญิงคนนี้ ผมจะลืมนะ…นะ…พี่อย่าพูดแบบนี้อีกนะ”
 พี่คิงส์พยักหน้าเบาๆ ถอนหายใจคล้ายเบื่อ
คืนนั้นทั้งคืนผมไม่ได้หลับ ผมนั่งกอดพี่คิงส์บนโซฟาทั้งคืนกลัวพี่เขาจะจากไป....พอตอนเช้าผู้หญิงคนนั้นก็ไปมหาลัยพร้อมพี่คิงส์ ผมได้เเต่ฝืนยิ้มยืนส่ง
 “พี่ไปมหาลัยนะ”
 “ครับ….ผมจะรอนะครับ….”
 “อืม……”
 ผมมองหน้าตัวเองในกระจก สภาพดูไม่ได้เลย ตาบวมผ่านการร้องไห้อย่างหนัก ตอนนี้แค่กระพริบตาก็เจ็บแล้ว
 “ต้องผ่านไปให้ได้…อย่าอ่อนแอนะหอม…”ผมยิ้มให้กับตัวเอง ปลอบใจอย่างโง่ๆ………..


วันศุกร์

 วันนี้พี่คิงส์เรียนจบแล้ว ผมไม่มีโอกาสไปแสดงความยินดีเพราะทางครอบครัวพี่คิงส์ไม่ให้ไป ทั้งร่างกายผมก็ไม่ค่อยดีด้วย อาเจียนไม่หยุด หน้ามืดบ่อยครั้ง แต่ผมก็รอพี่คิงส์ที่คอนโดเตรียมจัดงานฉลองให้
 ……ของขวัญผ้าพันคอในกล่องพร้อม
…….อาหารพร้อม
 ……ของตกแต่งพร้อม
 ผมมองผลงานตัวเองแล้วยิ้ม ห้องนี้กลายเป็นห้องจัดงานเลี้ยงขนาดย่อมไปแล้วเพราะมีของตกแต่งจนห้องดูรกไปเลย ทั้งลูกโป่งที่ประดับเหมือนเด็กๆและเค้กบนโต๊ะที่เขียนว่า พี่คิงส์ยินดีด้วยนะครับที่เรียนจบ
 มองนาฬิกาเย็นมากแล้วอีกไม่นานพี่คิงส์ก็คงจะมา
 ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูทำให้ผมรีบไปเปิดอย่างยินดีแต่ก็ต้องหุบยิ้มลงแทบจะทันทีที่เปิดประตู
 “คุณนาย…….”
 ในจังหวะนั้นผู้ชายหลายคนก็เข้ามาในห้อง ทั้งยังรื้อตู้เสื้อผ้าและของใช้ของพี่คิงส์ใส่เข้ากระเป๋า
 “ทะ..ทำอะไรครับ”
 คุณนายไม่ตอบแต่ยืนบอกผู้ชายเหล่านั้นว่าชิ้นไหนเป็นของพี่คิงส์บ้าง
 “ทะ…ทำอะไรครับจะเอาของพี่คิงส์ไปไหน”
 “หึ ก็เอากลับบ้านน่ะสิ แล้วห้องนี้จะไม่มีคนอยู่อีกต่อไป! แกรีบไสหัวไปได้แล้ว! ”
ผมเบิกตากว้าง อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก “ผะ…ผมไม่เข้าใจ…หมายความว่ายังไงครับ” เอ่ยถามทั้งๆที่แทบจะทรงตัวยืนไม่อยู่ เข่าอ่อนแรงแทบทรุด
 “โง่! จะบอกให้นะตั้งแต่วันนี้ตาคิงส์จะกลับไปอยู่ที่บ้าน”
 ผมเบิกตากว้าง “อะไรนะครับ โกหก!”
 “อาทิตย์หน้าตาคิงส์จะแต่งงาน!”
 “ไม่จริง…..พี่คิงส์ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน”
 “งั้นแกรอฟังข่าวดีเลยแล้วกัน  อ้อ ตาคิงส์เคยบอกฉันว่าเขาเบื่อแกแล้วเขาหมดอารมณ์กับร่างกายผู้ชายอย่างแกแล้ว”
 ผมส่ายหน้า หัวใจคล้ายถูกบีบ
 “ไม่จริง!” ผมรีบวิ่งไปยื้อกระเป๋าที่ใส่ของพี่คิงส์ที่ชายคนหนึ่งถืออยู่
 “อย่าเอาไปนะ จะเอาไปไม่ได้ ฮึก..ก..ก..เดี๋ยวพี่คิงส์ก็กลับมาแล้ว ฮือๆ”
 ปึก! ผมถูกผลักออกจนล้ม
 “ไม่! อย่าเอาไป”
เพล้ง!
ฟึ่บ
กรอบรูปหล่นลงพื้น
เค้กถูกปัดทิ้ง
ทุกอย่างพังทลายเหลือเพียงเศษซากงานฉลองและความทรงจำ
 “ฮึกๆๆ” ผมหยิบมันมากอดไว้ไม่สนใจว่าเศษกระจกกำลังบาดมือ
 “ฮือๆๆ อย่าเอาไป…”
 “แย่งกรอบรูปนั่นมาให้ฉัน” คุณนายสั่งคนให้แย่งไปจากผม
 “ไม่!! อย่า!! เอาคืนมา” พยายามยื้อคืนแต่ไร้ผลได้แค่มองภาพคู่ของผมกับพี่คิงส์ถูกเอาออกจากกรอบรูป
 “เรื่องของแกมันจบแค่นี้แหละ ฉันเสียลูกชายให้แกตั้ง 5 ปี วันนี้แหละที่ฉันจะขอลูกชายคืน”
 “แควก!”
 “ไม่!! อย่าทำแบบนั้น ฮือๆๆ พี่คิงส์!!”
 “แกอย่ามายุ่งกับลูกชายฉันอีก!”
 “ทำไมคุณนายทำแบบนี้ ผมกับพี่คิงส์รักกัน ฮือๆๆเราสองคนรักกัน”
 เพี๊ยะ!
 หน้าผมหันไปตามเเรง รับรู้ถึงรสเลือดในปาก…..
“โอ๊ย!”
คุณนายจิกกระชากเส้นผมของผมอย่างแรง
 “เลิกฝันสักที ตาคิงส์อยากมีลูกแกมีให้ได้ไหม!!” 
ฟึ่บ! พูดพร้อมกับผลักหัวผมอย่างเเรง
 “อึก…ฮือๆๆ”
 “ตั้งแต่นี้ไปอย่ามายุ่งกับตาคิงส์อีก”
ผมทรุดฮวบร้องไห้โฮ  พยายามกราบเท้าทุกคน อย่าเอาของพี่คิงส์ไป อย่าทำร้ายห้องของผม  แต่ไม่มีใครฟังและจากไปเหลือเพียงผมที่นั่งร้องไห้กับเหตุการณ์ที่เหมือนความฝัน…งานฉลองถูกทำลายลงและกล่องของขวัญที่ยังคงอยู่ที่เดิม…แต่คนรับกลับไม่อยู่…
 ผมรีบกดโทรศัพท์หาพี่คิงส์ทันที แต่กลับไม่รับสาย
 “ไม่จริงทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ ผมไม่เชื่อ!  พี่คิงส์ต้องไม่ทิ้งผม ไม่มีทาง!”
 ผมรีบเรียกแท็กซี่ไปบ้านพี่คิงส์ทันที  ผมรู้พี่คิงส์ต้องถูกบังคับแน่ๆ ไม่มีทางที่พี่คิงส์จะทิ้งผม ก็สัญญากันแล้วว่าจะรักผมตลอดไป……..
 ผมเกาะรั้วบ้านมองผ่านเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ก่อนจะกดกริ่งเพื่อเรียกคนให้มาเปิด แม้ตอนนี้ข้างนอกจะมืดมากแต่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวสักนิด
 “มาหาใครคะ….”
 “พะ….พี่คิงส์ครับ” ผมพูดเสียงสั่น รองเท้าผมไม่ได้ใส่เลย อีกมือถือกล่องของขวัญ อีกมือก็เปื้อนเลือดเพราะเศษกระจกจากกรอบรูป แต่ผมไม่ได้สนใจนอกจากต้องการพบพี่คิงส์
 “คุณคิงส์เหรอคะ เอ่อ…..คุณชื่ออะไรเหรอคะ”
 “หอมครับ….ผมชื่อหอม”
 “เอ่อ ฉันจะไปบอกคุณคิงส์ก่อนนะคะ”
 ผมกดโทรศัพท์หาพี่คิงส์อีกครั้ง  “ได้โปรดรับที ผมอยู่ที่นี่แล้ว พี่คิงส์…”เวลาผ่านไปเนิ่นนานไม่มีการตอบรับและประตูรั้วก็ยังไม่ได้ถูกเปิด แม้ผมจะกดกริ่งหลายครั้งแต่ไม่มีใครปรากฏตัวสักคน
 “พี่คิงส์!! ผมมาหาพี่แล้วนะ  เปิดประตูให้ผมที…..กลับบ้านด้วยกันนะ…ฮึก…นี่ไงของขวัญผมเอามาด้วยนะ  งานฉลองผมก็จัด….ขอแค่พี่คิงส์กลับมา…ฮึก...” ผมทรุดตัวหน้ารั้วเมื่อไร้การตอบรับ
 ตาคิงส์เขาเบื่อแกแล้วเขาไม่มีอารมณ์กับร่างกายผู้ชายอย่างแกแล้ว
 “ฮือๆๆ ผมรู้ว่าพี่ถูกบังคับ….ผมรู้….ฮือๆๆ ผมไม่เชื่ออะไรทั้งนั้นนอกจากจะฟังจากปากของพี่เอง”   
“จะออกไปหรือจะให้เรียกตำรวจ” เสียงของใครบางคนดังขึ้น
 “คุณนาย….”
 “ออกไปจากหน้าบ้านฉัน”
 “ผมไม่ไป ได้โปรดให้ผมเจอพี่คิงส์นะครับ คืนพี่คิงส์ให้ผม”
 “ตาคิงส์ไม่อยากเจอแก”
 “ไม่จริงเรารักกัน พี่คิงส์ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ผะ…ผมกราบล่ะครับ ขอร้อง….”
 “ออกไปจากหน้าบ้านฉัน!”
 “คุณนาย….”
 “ถ้าไม่ไป แกได้ไปนอนโรงพักแน่ ไปซะ!”
 “ฮึก..ก..ก”
 “ไป!”
 “ฮือๆๆ” ผมมองไปยังหน้าต่างบานหนึ่งที่มีแสงไฟเปิดอยู่ เห็นเงาของใครบางคนที่ยืนมอง ผมพยายามมองหาแต่ก็ไกลเหลือเกิน
 "บอกให้ไปไง! เนียนไปเอาน้ำร้อนมาราดซิ”
 “ค่ะ คุณนาย”
ผมค่อยๆเดินออกมาเอง ขาแทบหมดแรง  เลือดจากมือไหลไม่หยุด หยดเป็นทาง แต่ผมกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยเพราะผมเจ็บปวดตรงหัวใจมากกว่า…หัวใจของผมตอนนี้มันกำลังจะตาย…..เดินไปตามถนนที่ไม่มีจุดหมายปลายทาง…ผมต้องไปที่ไหนกัน กลับไปห้องที่ไม่มีพี่คิงส์เหรอ…
 ผมมองโทรศัพท์ตัวเอง สายเรียกเข้าทำให้ผมปล่อยโฮ
 “แม่ครับ……”
“หอม…เป็นอะไรลูก”
“ฮือๆๆ”
“หอม!!”
“พี่คิงส์….ไปจากผมแล้ว….”
“ว่าไงนะ! ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหนที่ห้องหรือเปล่า!”
“ผมอยู่ที่……..”
 ผมบอกแม่ก่อนที่จะกดวางสายนั่งเหม่อข้างถนนไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ร่างกายผมถึงถูกโอบกอดจากไออุ่น ผมกอดตอบเมื่อแม่และพ่อเข้ามากอดผม
 “หอมเกิดอะไรขึ้น! ทำไมมาอยู่ที่นี่” พ่อเป็นฝ่ายถาม
 “คุณนายพาพี่คิงส์ไปแล้ว….ฮือๆๆ……..”
 ผมกอดแม่ร้องไห้ รู้สึกปวดหัวมากๆ คลื่นไส้เเละอาเจียนจนไม่มีอะไรออกมาแล้วรู้สึกเจ็บท้องน้อยมากๆ มากจนสติเลือนลางเเละดับวูบลง….ได้แต่หวังว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นเพียงแค่ฝัน
 
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-06-2017 12:29:08
เลว!!!! อย่าให้คนแบบนี้เป็นพระเอกเลยนะ ให้หอมเจอคนที่ดีกว่านี้เถอะ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-06-2017 12:36:36
แอบคิดว่าแท้งไปเลย เลิกกับคนชั่วๆ งี้


แล้วมีชีวิตใหม่
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 22-06-2017 16:44:48
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 22-06-2017 17:47:10
เลว..จริงๆ  สงสาร แต่เด็กในท้อง สู้ๆ นะ นู๋หอม
หัวข้อ: ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 22-06-2017 18:19:06
ในความฝันผมได้แต่วิ่ง…วิ่งตามแผ่นหลังกว้างแล้วสวมกอดแนบชิดกลัวอีกฝ่ายหายไป
‘พี่คิงส์…..กลับมาหาผมแล้วใช่ไหมครับ…ฮึก..อย่าทิ้งผมไปนะ’
 ‘หอม…เราเลิกกันเถอะ’ มือหนาแกะมือผมที่กำลังกอดเขาออก
 “มะ..ไม่ ไม่! ผมไม่เลิก! ”
 เฮือกกกกก ผมสะดุ้งตื่น แสงไฟจากเพดานทำให้หลับตาอีกครั้ง
 “หอม….หอมลูก…”
 “มะ..แม่”
 “ลูกเป็นยังไงบ้าง…รู้สึกไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า”
 “ที่นี่ที่ไหนครับ…”
 “โรงพยาบาลจ้ะ…” จากนั้นแม่ไม่พูดอะไรต่อแค่ลูบหัวผม นัยน์ตาแม่คล้ายเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
 ผมนึกคิดเรื่องต่างๆก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่นี่….พี่คิงส์….
 ผมรีบลุกขึ้นทันที
 “หอมจะทำอะไรลูก!”
 “พี่คิงส์! คุณนายพาพี่คิงส์ไปแล้ว ฮึก…ก…ผมจะไปหาพี่คิงส์”
 “ลูกยังป่วยอยู่นะ”
 “ผมไม่เป็นไร…” ผมจะลงจากเตียงแต่เพราะหน้ามืดจึงทำให้นอนทรุดไปตามเดิม
 “หอมพอเถอะลูก…”
 “ไม่ครับ ผมจะพาพี่คิงส์กลับบ้าน...ผมจะ…” ผมฝืนลุกอีกครั้งแต่คำพูดของแม่ทำให้ผมหยุดการกระทำ
 “ลูกกำลังท้องอยู่นะจะไปไหนไม่ได้เด็ดขาด!”
 ผมชะงักมองใบหน้าของแม่อย่างอึ้งๆ อย่างไม่เชื่อคำพูด
 “หอมกำลังท้องอยู่….ลูกจะไปไหนตอนนี้ไม่ได้ทั้งนั้น”
 ผมค่อยๆจับท้องตัวเอง
 “ผมท้อง……”
 “จ้ะ” แม่ยิ้มแล้วโอบกอดผม “ลูกกำลังท้องนะ…”
 ผมยิ้มทั้งน้ำตา  “ผมต้องรีบบอกพี่คิงส์ เขาต้องดีใจแน่ๆ พี่คิงส์อยากมีลูก”
 “ลูกนอนพักก่อนเถอะ ถ้าไปตอนนี้จะไม่เป็นผลดีต่อลูกในท้อง….เดี๋ยวแม่ไปตามหมอก่อนเพื่อตรวจร่างกายอีกที….และแม่จะกลับมาฟังเรื่องราวทั้งหมดด้วย”
 “ครับ…..”
“ซึ่งจากที่หมอตรวจดูแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมาก แต่ตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์แล้วครับ แต่จะเป็นอันตรายต่อคุณแม่และเด็กอย่างมากเพราะเป็นการท้องนอกมดลูกเหมือนของผู้หญิง ดังนั้นตอนนี้เด็กจะเกาะอยู่บริเวณลำไส้ทำให้ได้รับสารอาหารยากมาก….หมออยากให้ทำใจก่อนครับเพราะมีโอกาสหลุดได้ตลอดเวลา ส่วนคุณแม่หากมีการหลุดของทารกจะทำให้เสียเลือดในช่องท้องเป็นจำนวนมากและอันตรายถึงชีวิต หมอจึงอยากแนะนำให้เอาเด็กออก….”
 ผมเบิกตากว้าง
 “ไม่…ผมไม่เอาออก….”
 “แต่อันตรายมากนะครับ และแม้แต่ผู้หญิงเองยังน้อยมากที่เด็กจะมีชีวิตอยู่ได้ ส่วนผู้ชายในอดีตไม่เคยมีเหตุการณ์การท้องนอกมดลูกแบบนี้ คนเป็นแม่จะมีชีวิตอยู่ได้นะครับ”
 “อึก…ฮึก…แต่ผมอยากมีลูก…พี่คิงส์อยากมีลูก…ผมตั้งใจให้เป็นแบบนี้ผมเตรียมใจตั้งแต่แรกแล้ว”
 แม่กอดผมท่านพยายามให้ผมเลิกคิดมีลูกหลายครั้งแล้วเพราะหมอที่เคยเป็นคนดูแลเคสของผมเคยบอกแล้วว่าอันตรายแต่ผมก็ยังยืนยันที่จะทำต่อไป
“ก่อนที่ผมจะท้อง คุณหมอบอกผมแต่แรกแล้วว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นผมตัดสินใจแล้วเพราะฉะนั้นจากนี้ต่อให้เกิดอะไรขึ้นผมจะไม่เอาเด็กลูกออกเด็ดขาดครับ”
 คุณหมอถอนหายใจแล้วพยักหน้า “ถ้าเป็นความต้องการของคุณ หมอจะช่วยดูแลถึงที่สุดครับ ถึงโอกาสจะน้อยแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย…….หมอชื่อพิสุทธิ์หรือเรียกว่าพิธก็ได้ครับ จากนี้ไปเราจะยังคงเจอกันจนกว่าเด็กคนนี้จะคลอดนะครับ”
 “ขอบคุณครับ….”
 หลังจากนั้นหมอก็ออกไปจากห้อง
 ผมได้แต่ลูบท้องตัวเอง พอคิดว่าตอนนี้ในร่างกายตัวเองมีอีกคนอยู่หัวใจผมก็พองโตด้วยความสุข หากพอนึกถึงพี่คิงส์หัวใจก็ค่อยๆแฟบลง
 “หอม…ลูกต้องดูแลตัวเองดีๆนะลูก”
 “ครับ......และผมจะบอกพี่คิงส์ว่าเรามีลูกกันแล้ว….พี่คิงส์ต้องดีใจแน่ครับ แล้วคุณนายต้องยอมรับผม….”
 แม่จับมือผมแล้วพยักหน้า
 “แต่ตอนนี้ลูกพักผ่อนก่อนเถอะนะ”
……………………………………………
 “เลิกโทรนัดคนอื่นได้แล้วนะตาคิงส์”
 ร่างสูงวางโทรศัพท์ลง เมื่อผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในห้อง
 “ฉลองเรียนจบไงครับแม่”   ใบหน้าหล่อยิ้มกริ่มแล้วเดินมากอดผู้เป็นแม่
 “แต่อาทิตย์หน้าลูกต้องแต่งงานกับลินดาแล้วนะ จะมาทำตัวเถลไถลเหมือนตอนอยู่กับไอ้กระเทยนั่นไม่ได้อีกแล้ว”
 คิงส์หน้าเจือนเมื่อนึกถึงหอม
 “แม่อย่าพูดถึงเขาสิครับ”  คิงส์คลายกอดแล้วเดินไปนั่งเตียงเหมือนเดิม
 “ฉันก็ไม่อยากจะพูดถึงนักหรอก แต่มันเป็นต้นเหตุให้แกทำตัวแบบนี้ถ้าไม่เพราะมันแกคงไม่ออกไปหาเศษหาเลยข้างนอกหรอก”
 คิงส์พ่นลมหายใจ
“แล้วคอนโดผมแม่ยกเลิกเช่าไปแล้วจริงๆเหรอครับ”
“ใช่”
“นั่นมันเหมือนบ้านผมเลยนะ”
“ที่นี่ต่างหากบ้านแก พอแต่งงานแกก็ต้องอยู่กันที่นี่ คอนโดไม่จำเป็นแล้ว”
“เช่าให้ผมเดือนต่อเดือนก็ได้ครับเผื่อลินดาท้องแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
“’งั้นก็ได้ แต่แค่เดือนต่อเดือนนะ“
พูดจบคุณหญิงพิสมัยก็เดินออกไปจากห้อง เหลือเพียงคิงส์ที่ยังคงนั่งไม่ไหวติง….เขากุมขมับ…..พอนึกถึงใบหน้าของหอมที่กำลังร้องไห้หน้าประตูรั้วเมื่อวานแล้วก็รู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายต้องร้องไห้ แต่เขาจะต้องตัดเรื่องนี้ให้ขาดเพราะเขาไม่ได้รักอีกฝ่ายแล้ว…
 เคยคิดว่าตนเองชอบหอมไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชาย ตอนอยู่ม.6 จึงตัดสินใจจีบหอมที่กำลังอยู่ม.3 และเมื่อน้องเขาจบม.ปลายก็ขอให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่…เมื่อมองครอบครัวคนอื่น ที่อยู่พร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก ทำให้เขาคิดได้ว่าควรจะจบความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแค่ตรงนี้จากนั้นก็เริ่มหันหลังให้หอมและเที่ยวผู้หญิงมากขึ้นจนไม่สามารถที่จะกลับมายุ่งกับร่างกายอีกฝ่ายได้อีก
จนเมื่อ 1 ปีก่อนแม่แนะนำลินดาลูกสาวของเพื่อนให้อีกครั้งเพราะเขาเคยปฏิเสธมาแล้ว และจากนั้นได้คบหาลินดามาตลอดโดยไม่ให้หอมรู้ตัว ถามว่าทำไมถึงไม่บอกเลิกก่อน อาจเป็นเพราะสงสารเเละรออย่างหวังลมๆเเล้งๆว่าหอมจะมีลูกให้ได้ เเต่…สุดท้ายก็มีไม่ได้.....และเรื่องมันก็มาสิ้นสุดลงเพราะคนไม่ใช่ก็ต้องเป็นฝ่ายไป
 มองรูปถ่ายในมือถือ เป็นรูปถ่ายคู่ของเขาและหอมหรือแม้แต่รูปเดี่ยวของหอมที่เก็บไว้  เขาตัดสินใจกดลบทุกภาพที่เกี่ยวกับความทรงจำรวมทั้งเบอร์โทรอีกฝ่าย เขาลบทุกอย่างเพื่อลืมและเริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนคนปกติทั่วไป
 “ขอโทษนะหอมแต่เราคงจบกันแค่นี้……….”
 ฟุ่บ  เขาล้มตัวนอนนึกถึงใบหน้าอีกฝ่ายในความทรงจำครั้งสุดท้ายและลืมตาอีกครั้งโดยไม่มีความทรงจำนี้อีกแล้ว
 ลาก่อน………

…………………………………………….

 หลายวันต่อมา
 ในร้านอาหารดังแห่งหนึ่ง  ร่างสูงในชุดสูทนั่งทานข้าวกับร่างระหงในชุดเรียบร้อยสีอ่อน ลินดาหญิงสาวสวยหวานยิ้มเมื่อคิงส์พูดถึงงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
 "ลินดาตื่นเต้นจังเลยค่ะ"
 มือหนาเอื้อมมาสัมผัสมือนุ่ม  "พี่ก็เหมือนกัน……และดีใจที่จะได้แต่งงานกับน้องลินดา"
 อีกฝ่ายเขินหน้าแดง
 คิงส์มองอีกฝ่ายเขินเขาเองก็ยิ้มตาม แม้จะนึกถึงรอยยิ้มของ………เขาพยายามสลัดภาพใบหน้านั้นออกไปจากหัว
 “พี่จะดูแลลินดาเท่าชีวิตพี่……….ในฐานะสามีคนหนึ่งที่จะดูแลลินดาได้”
 “ลินดาก็จะดูแลพี่ให้ดีที่สุดในฐานะภรรยาเช่นกันค่ะ…..” พูดแค่นั้นหญิงสาวก็หลบหน้าด้วยความเขิน
 “ทานเถอะค่ะ เย็นหมดแล้ว เดี๋ยวต้องไปดูสถานที่เเต่งงานเราอีก” เธอยิ้มหวาน
 “ครับ”   คิงส์ยิ้มรับ
 จากนี้ไปเขาต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่…..มีชีวิตที่ดีและลืมเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีตและลืมเขาคนนั้น………….
………………………………………………………….
 “อาการเป็นยังไงบ้างลูก”
 “ดีขึ้นแล้วครับ ไม่ค่อยคลื้นไส้เท่าไรแล้ว…แต่เบื่อมากกว่าครับนอนโรงพยาบาลตั้งหลายวันแล้ว…..”
 ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูมาพร้อมกับพี่ไหมและไข่เจียว
 “พี่ไหม ไข่เจียว”
 “ไงจ้ะ พี่ขอโทษนะที่เพิ่งมาเยี่ยมวันนี้….”
 “ไม่เป็นไรครับ….ไข่เจียวว่าไงตัวเล็ก”
 “หวัดดีฮับ!”
 “ไข่เจียวมาหายายเร็ว”  แม่อุ้มไข่เจียว ส่วนพี่ไหมมาดูผมแทน
 "เป็นยังไงบ้าง ปวดหัว คลื่นไส้ มากหรือเปล่า"
 "ค่อยยังชั่วเเล้วครับ"
 “...........พี่รู้เรื่องหมดแล้วนะเรื่องคิงส์…......”
 ผมหน้าเจือนลง
“คิงส์ทำแบบนี้ได้ยังไง เขาทิ้งหอมได้ยังไง”
 “เปล่านะครับพี่คิงส์ไม่ได้ทิ้ง แต่ถูกคุณนายบังคับต่างหาก”
 “เเล้วทำไมเขาถึงไม่มาหาหอมเลยล่ะ โทรศัพท์มีโทรมาหาบ้างหรือเปล่า ต่อให้ถูกแม่บังคับแค่ไหนแต่ถ้ารักหอมจริงแค่โทรแค่มาหาทำได้อยู่แล้ว”
 ผมเบือนหน้าหนีพยายามกลั้นน้ำตาไว้
“พี่คิงส์ยังรักผมอยู่….”
 “แต่พี่ได้ยินว่าพรุ่งนี้………เขาจะแต่งงานแล้วนะ”
 ผมหันมามองหน้าพี่ไหมทันที
 “อะไรนะครับ”
 ผมมองไปทางแม่ แม่เองก็ตกใจไม่ต่างกัน
 “ข่าวออกจะดังว่าลูกชายคุณโชคชัยและคุณหญิงพิสมัยที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆกำลังจะแต่งงาน”
 “มะ…ไม่จริง!  พี่โกหกผมพี่คิงส์ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่”ผมลุกจากเตียง
 “หอม!” แม่รีบปราม
 “ผมจะไปหาพี่คิงส์เขาถูกคุณนายบังคับถ้าเขารู้ว่าผมท้องพี่คิงส์ต้องกลับมาหาผมและคุณนายจะต้องยอมรับผมแน่ๆครับ”
 “หอม จะไปไหนไม่ได้นะพี่ไม่ได้มาบอกเรื่องนี้ให้หอมไปหาเขา”  พี่ไหมรั้ง
 “ผมไหว้ล่ะ ต้องไปวันนี้เท่านั้น…ถ้าไม่ใช่วันนี้เรื่องทุกอย่างจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว ฮึกๆ ฮือๆ ผมไม่อยากเสียพี่คิงส์ไป....”
 แม่กับพี่ไหมมองหน้ากัน ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพยักหน้ารับ
 ตอนนี้ ผม แม่ พี่ไหมและไข่เจียวกำลังยืนอยู่หน้ารั้วบ้านพี่คิงส์
 กดกริ่งจนกระทั่งมีคนเดินมาหา
 “มาหาใครคะ”
 “มาหาพี่คิงส์ครับ”
 “คุณคิงส์ไม่อยู่ค่ะ ออกไปดูสถานที่จัดงานค่ะ”
 มือผมสั่น
 “ขอผมพบคุณนายได้ไหมครับ”
 “ไม่ได้หรอกค่ะ คุณนายไม่อยากพบคุณ”
 “แต่ฉันอยากพบ เรื่องนี้เราต้องคุยกัน”  แม่พูดเสียงแข็ง
 “ถ้าไม่ให้พวกเราเข้าไปฉันก็จะปีนเข้าไป”  พี่ไหมพูดบ้าง จนลืมว่าตัวเองอุ้มไข่เจียวอยู่
 เธอคนนั้นเลิกลัก  “จะ..จะไปถามคุณนายก่อน”
 พวกเราสามคนยืนรอในขณะที่แดดร้อนมาก แม่เป็นห่วงผมจึงเอาผ้ามาโพกหัวให้
 “ไข่เจียวร้อนแดดแย่เลยครับ”
 “ไม่เป็นไรหรอกพี่ทั้งใส่หมวก เอาผ้าคลุม ไข่เจียวไม่เป็นไรหรอกเนอะ”
 “ฮับ”
เรายืนรอสักพักก็ปรากฎร่างของคุณนายพร้อมกับคนรับใช้คู่กายที่เดินถือร่มให้
 “จะมากันอีกทำไม”   
 “ฉันจะมาพูดเรื่องลูกของฉันและลูกของคุณ” แม่พูด
 “ไม่มีอะไรจะพูดนี่กลับไปได้ล่ะ”
 “นี่คุณ คุณเป็นแม่แบบไหนถึงได้กีดกันความรักของลูก คุณก็รู้ว่าลูกชายของคุณและลูกชายของฉันรักกัน”
 “ลูกชายรักกันเหรอ? วิปริต! คุณต่างหากที่เป็นแม่ไม่ได้เรื่องผู้ชายรักกันทำไมคุณยังยอมรับ คุณเห็นลูกตัวเองรักกับผู้ชายได้งั้นเหรอ”
 “ใช่….ถ้าเขารักกันฉันไม่สนว่าคนอื่นจะคิดยังไง ถ้าเขามีความสุข”
 “แต่ฉันสน!....ลูกชายฉันจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้!”
ครืนนน เสียงรถยนต์ทำให้พวกผมหันไปมอง  รถคันนี้คือรถของพี่คิงส์…...ผมยิ้มแล้วจะเดินไปหาเมื่อพี่คิงส์ลงมาจากรถแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งเดินลงมาจากรถเช่นกัน
 พี่คิงส์มองผม….สายตาช่างห่างไกลเหลือเกิน
 “พี่คิงส์…….”
 “มาทำไม….”
น้ำเสียงช่างฟังดูห่างไกลนัก ทำไมถึงทำสายตาแบบนี้เมื่อมองผม…..ทำไมถึงมีน้ำเสียงเย็นชากับผมนัก.....ขอร้องอย่าทำแบบนี้เพราะมันทำให้ผมกลัวจริงๆ…..
  “กะ…..ก็…..มาหาพี่…..”
 “พี่คิงส์คะ คนนี้คือใครคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม
 “ลินอย่าไปสนใจเลยครับเเค่คนนอก ขึ้นรถเถอะเดี๋ยวจะเข้าไปในบ้านกัน”
 "ค่ะ"
 ผมฟังคำตอบที่ทำให้ขาเกือบไร้เรี่ยวแรง แต่แม่ช่วยพยุงไว้
 “พะ…พี่คิงส์….ทำไมตอบแบบนี้ครับ ผมเป็นเมียพี่นะ”
 “หยุดพูดแบบนี้ได้แล้วหอมเรื่องระหว่างเราจบกันแค่นี้เถอะ พี่จะมีชีวิตใหม่หอมก็ไปมีชีวิตใหม่ซะ”
 “ฮึก..ก…ก  ทำไมจู่ๆพี่ถึงเปลี่ยนไป พี่ถูกบังคับใช่ไหม! พี่รักผมแต่พี่ถูกบังคับ”  ผมเดินไปกอดพี่คิงส์ทั้งน้ำตา 
 “กลับบ้านเรานะครับ……”
 พี่คิงส์จับแขนผมแล้วผละออก
 “พี่ไม่ได้รักหอมแล้วเลิกยุ่งกับพี่สักที!”
 ผมอึ้งจนไม่มีคำพูดที่จะเอ่ย…..ได้แต่ทรุดตัวลงกับพื้น
 “หอม!” แม่และพี่ไหมรีบมาหาผม
 “ทำไมคิงส์ทำแบบนี้ล่ะลูก คิงส์รักหอมไม่ใช่เหรอ” แม่เอ่ยน้ำตาคลอ
 พี่คิงส์เบือนหน้าหนีไม่ตอบ
 “5 ปีที่ผ่านมาไม่มีความรักเหลืออยู่เลยเหรอลูก หอมรักลูกมากนะ……และตอนนี้หอมก็กำลังท้องด้วย”
 พี่คิงส์หันมามองผม เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อ
 “ท้อง?”
 “ใช่ครับพี่คิงส์ ผมท้อง…”ผมค่อยๆพยุงตัวเองอีกครั้ง
 “พี่คิงส์อยากมีลูกใช่ไหมครับ…นี่ไงผมกำลังท้อง…ฮึก….ก….ก”  ผมจับมือหนาให้สัมผัสท้องของผม
 “ลูกของเรา….”
 พี่คิงส์นิ่งงัน
 “คิงส์อย่าไปเชื่อมันนะลูก!” ประตูรั้วถูกเปิดออกคุณนายเดินมาดึงมือพี่คิงส์ที่กำลังจะสัมผัสท้องของผม
 “อย่าไปเชื่อมันผู้ชายที่ไหนจะท้องได้”
 “แต่ลูกชายฉันท้องจริงๆ”
 “ใช่ น้องชายฉันท้อง ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปโรงพยาบาลเพื่อพิสูจน์ก็ได้”
 “เหอะ! คิดว่าฉันโง่แล้วไปตรวจกับเรื่องหลอกลวงงั้นเหรอ ไม่มีทาง…..คิงส์ขับรถเข้าไปในบ้านลูก”
 พี่คิงส์ยังนิ่งมองมาทางผม
 “พี่คิงส์….อย่าทิ้งผมนะ…กลับบ้านด้วยกันนะครับ….ฮึก…เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน…..นี่ไงลูกของเรา” ผมจับมือพี่คิงส์เพื่อให้สัมผัสท้อง แต่กลับถูกสะบัดออก
 “หอม…พอเถอะ! เลิกหลอกลวงพี่สักที! หอมไม่ได้ท้อง ผู้ชายท้องไม่ได้! ถึงแม้จะให้วิทยาศาสตร์ช่วยแต่ไม่เคยได้ผลแต่พอพี่จะไปกลับท้องงั้นเหรอ อย่ามาโกหก!”
 “ผมท้อง! เชื่อผมสิ….ไปโรงพยาบาลก็ได้คุณหมอบอกว่าท้อง”
 “กลับไปได้แล้ว”
 ผมยังยืนนิ่ง…หน้าชากับคำไล่…แต่ผมไม่อยากจากไปทั้งแบบนี้
 “กลับไป!”
 “ไม่กลับ!...เพราะมันใช่ไหมพี่ถึงทิ้งผมไป”  ผมเดินไปที่รถฝั่งที่ผู้หญิงคนนั้นนั่ง แล้วพยายามจะเปิดประตู
 “หอมจะทำอะไร!”
 “ผมก็จะบอกมันว่ามันแย่งพี่คิงส์ไปจากผมน่ะสิ”
 “หยุด! หอมหยุดเดี๋ยวนี้!”
 “กรี๊ดดดด” เสียงกรี๊ดของหญิงสาวข้างในดังขึ้นเพราะผมพยายามทุบกระจกรถและเข้าไป
 "บอกให้หยุดไง!"
 ปึก!
 ตุบ!
 “อึก!”
 ผมถูกกระชากออกแล้วถูกผลักจนล้ม
 “หอม!” แม่และพี่ไหมรีบมาพยุง
 “คิงส์ทำไมต้องรุนแรงแบบนี้ แม่บอกแล้วว่าหอมกำลังท้อง!”
 “พอเถอะครับ กลับไปทั้งครอบครัวเลย……ผมขอบอกตั้งแต่นี้เป็นต้นไปผมกับหอมเราตัดขาดกัน แล้วอย่ามาวุ่นวายกับผมและเมียผมอีก”
 คนฟังหน้าชา….ไม่จริง….นี่ไม่ใช่คำพูดพี่คิงส์!!
 “อ๊ากกกกกก” ผมตะโกนคลั่ง
 “พี่คิงส์รักผมคนเดียว!! พี่คิงส์ไม่ได้รักมัน ผมต่างหากเมียพี่!!” ผมพยายามดิ้นเพื่อให้ออกจากกอดของแม่
 “หอม!! กลับเถอะ…พอได้แล้ว!!” แม่กอดผมแน่น
 “ไม่!!…ฮึก…พี่คิงส์….” ผมพยายามเรียกแต่พี่คิงส์กลับปลอบผู้หญิงคนนั้น สายตามองผมอย่างสมเพชก่อนจะเดินเข้าไปในรถ
 “หอมกลับบ้าน” แม่พูดด้วยเสียงสั่นเครือ  คุณนายมองพวกผมยิ้มเหยียดแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
 “ไม่! พี่คิงส์อย่าไปนะ” ผมสะบัดกอดแม่ออกแล้วรีบวิ่งไปดักหน้ารถที่กำลังจะเข้าไปในบ้าน
 “ผมไม่ให้ไป!....พี่คิงส์ต้องกลับบ้านกับผม….”
 ปี๊นๆๆๆ
 “หอม! กลับบ้านกับแม่”
 “พอเถอะหอม….ยิ่งฝืนหอมก็ยิ่งเจ็บนะ”  พี่ไหมเองก็พยายามยื้อทั้งๆที่กอดไข่เจียวไว้
 “ไม่! ผมจะยืนตรงนี้!.......”
 “ถอยไป!” พี่คิงส์ตะโกนจากในรถทั้งที่เครื่องยังสตาร์ทอยู่  “ถ้าไม่ถอยจะชน”
 “อึก!” ผมกัดปากแน่น
“กลับบ้านเถอะหอม…..พอได้แล้ว” แม่ร้องไห้โฮ
 “แงๆๆ” ไข่เจียวเริ่มร้องไห้เสียงดัง พี่ไหมก็ร้องตาม…
 ปี๊นๆๆๆ
 บรืนนนนน เครื่องยนต์วิ่งเข้ามาเต็มแรง  ผมมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่ไม่ลังเลแม้แต่นิด……ผมได้แต่นิ่งค้างขาไม่ขยับแต่แม่กับพี่ไหมช่วยดึงผมออกมา
รถยนต์แล่นเข้าไปในบ้านพร้อมกับประตูรั้วที่ถูกปิดลง เหลือเพียงพวกผมที่ร้องไห้กอดปลอบกัน
 “พอได้แล้วนะหอม...ฮึก…กลับบ้านลูก…ลืมเขาไปซะ….”
 ผมมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายแล้วกอดแนบอก ไม่จริงใช่ไหม…..แม้จะโกหกตัวเองแค่ไหนแต่เรื่องจริงก็คือไม่มีพี่คิงส์อีกแล้ว
……………………………………………….
 เช้าต่อมาที่แสนเจ็บปวด ผมได้แต่ยืนตรงหน้าโรงพยาบาล ยืนมองขบวนขันหมากจากรถยนต์หลายสิบคันที่แล่นผ่านไป ร้องไห้จนเหนื่อย…เหนื่อยจนเริ่มด้านชา….
 “ขบวนขันหมากใหญ่จังเลยนะ อิจฉาเจ้าสาวจริงๆ”
 “เห็นว่าลูกเศรษฐีกับลูกเศรษฐีนี่ เหมาะสมกันจริงจริ๊ง อย่างพวกเราน่ะไม่มีวาสนาหรอก”
 “นั่นสิ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็สวยหล่อทั้งคู่”
 เสียงพูดคุยของเหล่าคนไข้และญาติคนไข้ดังขึ้น เมื่อเหล่าขบวนขันหมากผ่านมา……..ไม่แปลกที่หลายๆคนจะมายืนมองข้างถนน….เพราะยิ่งใหญ่เหลือเกิน.....
 ผมกุมท้องตัวเองมองภาพตรงหน้าที่พร่าเลือนเพราะม่านน้ำตา ทนมองไม่ได้ผมจึงหันหลังกลับ....มองเห็นคุณหมอเจ้าของไข้พอดี
 “คุณหมอพิสุทธิ์”
 “คุณร้องไห้ทำไมครับ”
 “อะ..เอ่อ  แค่…ยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวครับ พวกเขาเหมาะสมกันจริงๆ…” ผมยิ้มทั้งน้ำตาแล้วเดินกลับไปที่ห้องเพราะฝืนความรู้สึกไม่ได้อีกเเล้ว แต่แขนกลับถูกจับเอาไว้
 “เดี๋ยวผมพากลับไปครับ ผมคิดว่าตอนนี้คุณอยากได้ที่พึ่งเพื่อไม่ให้ตัวเองล้ม…….”
 ผมมองใบหน้าคนพูด…เอ่ยขอบคุณแล้วถูกพยุงเข้าไปในห้องตามเดิม…

..................................................................................

 จากนั้น1อาทิตย์ผมก็กลับบ้านได้ หลังจากที่หมอตรวจเช็คร่างกายและดูอาการหลายวันที่ผ่านมา
 “ถ้าเกิดเรื่องอะไรรีบกลับมาที่โรงพยาบาลเลยนะครับ…ส่วนนี่เบอร์ผมสามารถโทรหาได้ตลอดเวลาครับ…”หมอพิสุทธิ์ยื่นนามบัตรให้กับพ่อ  ผมยกมือไหว้ขอบคุณสำหรับที่ดูแล
 “ผมไปนะครับคุณหมอ”
 “เอ่อ…เดี๋ยวครับ….”
 “ครับ?”
 “ผมจะไปเยี่ยมที่บ้านตามที่อยู่นี้บ่อยๆนะครับ” เขาโชว์ใบประวัติคนไข้ของผม
 ผมนิ่งก่อนจะยิ้มรับ  “……แล้วผมจะรอครับ….”
 ............................................................................
 ผมมองบ้านที่ไม่เคยคิดว่าจะได้กลับมาอยู่เลยเพราะคิดว่าชีวิตนี้ผมจะอยู่กับพี่คิงส์ตลอดไป…….
 “ห้องเดิมของลูกแม่จัดไว้ให้แล้วนะ”
 “ขอบคุณครับ”
 พ่อเดินมาลูบหัวผม…พ่อไม่ว่าอะไรผมสักคำที่เกิดเรื่องแบบนี้ทั้งที่ตอนแรกพ่อค้านเรื่องที่ผมคบกับพี่คิงส์ แต่ตอนนี้พ่อกลับปลอบโยนผม
 “ลูกต้องเข้มแข็งไว้นะเพื่อลูกในท้อง…..ส่วนเรื่องราวที่ผ่านมาคิดว่าเป็นแค่อดีต….หลานคนเดียวพ่อกับแม่เลี้ยงได้อยู่แล้วขอแค่ลูกเข้มแข็ง”
 เหมือนมีก้อนเนื้อจุกตรงลำคอ พูดไม่ออก…ได้แต่พยักหน้ารับ…และซบอกแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ
 “ลืมผู้ชายคนนั้นไปซะ…ต่างคนต่างเริ่มใหม่นะลูก…..ตอนนี้ลูกไม่ได้มีชีวิตเพื่อเขาคนนั้นแล้วแต่มีชีวิตเพื่อลูกของลูกเอง…..”
กลางคืนที่แสนเงียบเหงาผมนั่งมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายด้วยความเจ็บปวด…มองกล่องของขวัญที่ไม่ได้ถูกเปิด…..ช่างไร้ค่าเหลือเกิน…….
เปิดกล่องลับที่เก็บไว้ใต้เตียงเจอกุหลาบแห้งที่พี่คิงส์เคยให้ไว้แต่เขากลับจำไม่ได้สักนิด ทุกอย่างอยู่ในความทรงจำของผมแต่กลับไม่มีในความทรงจำของอีกคนเลย
 พี่ไม่ได้รักหอมแล้ว!
 กลับไป!
 ถ้าไม่ถอยจะชน
ผมหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลรินอาบแก้ม ค่อยๆถอดแหวนออกแล้วเลือกที่จะปิดตายในกล่องเดียวกับกุหลาบแห้ง….ที่ผมไม่ทิ้งเพราะแหวนไม่ผิด…แต่ผิดที่คนให้……ผมจึงทำได้เพียงปิดตายและเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจตลอดไป
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 22-06-2017 19:47:23
คิงเลวมาก จำวันที่ทิ้งหอมไปให้ดีนะ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 22-06-2017 20:05:23
เราเชียร์พี่หมอ คิงส์ใจร้ายโดยนิสัยจิตใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-06-2017 20:58:58
หอมเอ๊ย.....ช่างซื่อ รัก หลงไปได้ คนเลวโคตรแบบนี้
มันมีสัญญาณบอกมาตั้งนานแล้วว่าเขาหมดรักตัวเอง
ถ้าเขารักหอม เขาจะนอกใจหอมได้อย่างไร
พาผู้หญิงมานอนในห้อง ไปเที่ยวกลางคืน ทิ้งหอมอยู่ในห้องคนเดียว
ไหนจะแม่เขาที่รังเกียจหอม ทำร้ายหอม
เจอคำพูดเลิกกัน ก็ไม่ยอม
เขาพูดว่าอย่ามายุ่งกับเมียเขา ไล่ทั้งครอบครัว
บอกว่ามีลูกก็ไม่เชื่อ ไล่ซ้ำอีก
ไม่งั้นเขาจะขับรถชน ยังจะรักลงอีกหรือผู้ชายเลวโคตรคนนี้
หอม.....ตัดใจซะ อย่าเป็นนายเอกที่อ่อนแอเลย เข้มแข็งให้ได้เพื่อลูก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 22-06-2017 21:11:22
อ้าวควายนี่นา โพดหลายโพดเหลือบักห่าคิงส์เหลือเดนจริงๆเลยนะคะมึง ถ้าไอ้คิงส์มีลูกกับชะนีก็อาดริกริก ขอให้มันแท้งนะ สมน้ำสมเนื้อสมน้ำหน้ามันด้วย กราบตีนไม่พออ่ะชาติหมาแบบมันเนี่ย หมาทั้งแม่มันด้วย ถ้าหลังๆมาคืนดีหรือมีเหตุผลอะไร ก็จะด่ามันอย่างนี้แหละ สารเลว
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 22-06-2017 21:30:02
ติดตามค่าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 22-06-2017 21:53:46
คนที่ทิ้งคนรักได้แม้จะคบกันมาหลายปี  แถมยังนอกกายนอกใจอีก   
ถ้าคุณไม่จริงใจ   แล้วคิดว่าใครจะจริงใจกับคุณคะ  คุณคิงส์

 :z6:

ไม่รู้ว่าคุณหญิงสอนอิตาคิงส์มายังไง  ถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้   แย่มากอ่ะ    :fire:

หอม  อดทนเพื่อเด็กน้อยที่จะเกิดมานะ   แล้วหอมจะรู้ว่า  สุขแค่ไหนที่มีเด็กน้อยตาดำๆ  อยู่เคียงข้าง    :กอด1:

ปล.  เหมือนเคยอ่าน  ( คนเขียนลงในธัญวลัยด้วยรึเปล่าคะ  )
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-06-2017 01:33:54
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 23-06-2017 08:30:46
หอมต้องเข้มแข็งหมดเวลาอ่อนแอแล้ว 
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 3+4 {22/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 23-06-2017 10:27:12
คนที่ทิ้งคนรักได้แม้จะคบกันมาหลายปี  แถมยังนอกกายนอกใจอีก   
ถ้าคุณไม่จริงใจ   แล้วคิดว่าใครจะจริงใจกับคุณคะ  คุณคิงส์

 :z6:

ไม่รู้ว่าคุณหญิงสอนอิตาคิงส์มายังไง  ถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้   แย่มากอ่ะ    :fire:

หอม  อดทนเพื่อเด็กน้อยที่จะเกิดมานะ   แล้วหอมจะรู้ว่า  สุขแค่ไหนที่มีเด็กน้อยตาดำๆ  อยู่เคียงข้าง    :กอด1:

ปล.  เหมือนเคยอ่าน  ( คนเขียนลงในธัญวลัยด้วยรึเปล่าคะ  )


ลงธัญวลัยด้วยค่ะ  เเต่เนื้อหาไม่เหมือนกันบางส่วนค่ะเพราะที่ลงที่นี่เนื้อหาเหมือนในหนังสือค่ะ
หัวข้อ: ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 23-06-2017 17:31:15
ผมเปิดหน้าต่างรับแสงแดดยามเช้าพร้อมกับสายฝนที่ตกโปรยปรายส่งท้ายฤดู
 “สวัสดีตอนเช้านะครับ” ผมจับท้องตัวเองบอกสวัสดีตัวเล็กที่อยู่ในท้อง ตอนนี้ผมท้องได้ 4 เดือนแล้วอาการโดยรวมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนักเพราะคุณหมอพิสุทธิ์มาตรวจเกือบทุกอาทิตย์
 หากนับเหตุการณ์ที่ผมเลิกกับพี่คิงส์ก็ผ่านมาได้แค่3เดือนเท่านั้นเอง ถึงแม้ผมจะเลิกรักไม่ได้ทันทีแต่ผมจะพยายามลืมเขาให้ได้และตัดขาดก่อนที่ลูกผมจะเกิด…
ผมมองลงไปที่หน้ารั้วบ้านแล้วถอนหายใจก่อนจะรีบลงไปโดยไม่ลืมหยิบร่มไปด้วย
 “พี่หมอเปียกหมดแล้วครับ” ผมเปิดประตูรั้วให้ร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์เข้ามาในบ้านเเต่ร่มคันเล็กจึงทำให้คลุมไม่ทั่วนัก
 “พี่ขอโทษนะที่ให้หอมมารับแบบนี้”
 “ไม่เป็นไรครับ…..ว่าแต่วันนี้ทำไมมาตรวจเช้าจังล่ะครับ แล้วก็ไม่ใช่วันนัดนี่ครับ”
พี่หมอพิสุทธิ์ยิ้มแล้วยื่นถุงผลไม้มาให้ ทั้งส้ม ฝรั่ง เต็มสองมือ
 “พี่ซื้อผลไม้มาให้ พอดีแวะตลาดนัดเมื่อเช้า”
 “ขอบคุณครับ แต่ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาให้ก็ได้นี่ครับ อีกอย่างบ้านผมไม่ได้อยู่ไกลตลาดเลย”
 “อ่า….นั่นสินะ” พี่หมอยิ้มเจือน
 “แล้วอาการหอมเป็นยังไงบ้าง”
 “ปกติดีครับ”
 “อืม….ถ้านับจากนี้ไม่มีอะไร อีก 5 เดือนก็สามารถผ่าคลอดได้เเล้ว”
 “ฤดูร้อนพอดีเลยนะครับ….เวลาที่ผมจะพบลูก” ผมจับท้องตัวเองแล้วลูบเบาๆ
 เราสองคนนั่งมองสายฝนที่ตกลงมาอย่างเงียบๆ…….ผมเหลือบมองพี่หมอก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำฝนที่เปียกตามไรผมให้เขา
 “โดนฝนจริงๆด้วยสินะครับ ร่มผมเล็กไปจริงๆ” ผมยิ้ม
 พี่หมอมองผมแล้วยิ้มตาม
 “ยิ้มอะไรครับ”
 “พี่เห็นหอมเริ่มยิ้มได้พี่ก็ยิ้มตาม” ผมค่อยๆละมือลง
 “……ผมกำลังยิ้มเพื่อลูกครับ…..ถ้าผมร้องไห้ลูกผมก็จะร้องตาม…..ไม่ได้ยิ้มเพื่อตัวเองหรอกครับ”
พี่หมอไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ได้ยินเสียงถอนหายใจแม้จะแผ่วเบาก็ตาม
 “พี่ไปทำงานก่อนนะครับ…แล้วผลไม้ทานให้หมดด้วยนะลูกจะได้แข็งแรง”
 “เดี๋ยวผมเอาร่มไปส่งหน้าบ้านนะครับเดี๋ยวชุดจะเปียก”
 หลังจากที่พี่หมอไปผมก็กลับมาในบ้านตามเดิม เห็นแม่กำลังมองมาทางผมพอดี
 “คุณหมอเขามาทำไมเหรอลูก”
 “ซื้อผลไม้มาฝากครับ”
 “อืม…..ช่างเป็นคุณหมอที่แสนดีจริงๆ”
 ผมพยักหน้าเบาๆ……
 “ไปหลังบ้านดีกว่าลูก มะลิกำลังหอมเชียว….”
 “ครับ……”
 หลังบ้านเป็นศาลาเล็กๆตั้งในสวนหย่อม มะลิกำลังออกดอกสวยงามกลิ่นหอมโชยมาแตะจมูก แม่ชวนคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยพลางร้อยมาลัย
 ผมมองใบหน้าแม่ที่กำลังพูดไปยิ้มไปแล้วเกิดความรู้สึกผิด ในวันนั้นผมทำให้แม่กับพี่ร้องไห้ ทำตัวน่าสมเพชให้เขาดูถูกทั้งที่โดนไล่ขนาดนั้นแต่ยังยื้อทั้งที่แม่และพี่ห้าม
 “แม่โกรธผมไหมครับ….ที่ผมทำตัวแบบนี้”
 แม่เงยหน้ามอง
“ผมชอบผู้ชาย….ทั้งยังถูกทิ้งแล้วท้องแบบนี้อีก…..”  ผมน้ำตาคลอพยายามกลั้นน้ำตาไว้แต่มันกลับไหลรินออกมา ผมรู้สึกผิดจริงๆที่ทำให้ครอบครัวผมต้องเสียใจแบบนี้….ทำให้พ่อ แม่ พี่ ต้องมารับชะตากรรมกับผม….ผมมันอกตัญญูจริงๆ
 “ทำไมแม่ต้องโกรธแม่ดีใจเสียอีกที่ลูกเลือกที่ทำให้ตัวเองมีความสุข ไม่โกรธเพราะลูกไม่ใช่คนที่ทิ้งไปแต่จะโกรธถ้าลูกยังไม่เลิกที่จะเจ็บปวดแบบนี้”
 “ฮึก..ก..ก  ผมขอโทษจริงๆครับ”
 แม่ยิ้มแล้วลูบหัวผม  “เลิกร้องไห้ได้แล้วโตจนจะมีลูกแล้วนะ….คิดดูสิถ้าตอนนี้ตัวเล็กกำลังวิ่งเล่นในสวนแล้วเห็นแม่ตัวเองร้องไห้จะเป็นยังไงฮึ”
 ผมรีบเช็ดน้ำตาตัวเอง....มองสวนหย่อมจินตนาการถึงตัวเล็กของผม…ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่……
…………………………………………………………………………….
3 ปีต่อมา
 ตุบๆ เสียงวิ่งในสวนหลังบ้านทำให้ผมที่กำลังตากผ้าหันไปมองแล้วยิ้มรับ
 “หมูหันวิ่งทำไมครับเดี๋ยวล้มหรอก” ผมเดินไปหาเเล้วย่อตัวนั่งเพื่อให้ความสูงเท่ากับเจ้าของชื่อ เด็กผู้ชายผิวขาวขมวดคิ้ว แก้มป่อง พุ่งย้วย ทำท่ากอดอกไม่พอใจ
 “ป๋มไม่ได้จื้อหมูหันชักหน่อยนึง”
 “อ้าวไม่ได้ชื่อหมูหันชื่ออะไรล่ะครับ”
 “คิมหันต์ต่างจาก”
 “ใช่เหรอ อ้วนแบบนี้ต้องหมูสิ”
 “แม่จ๊อบแกล้งไปหาคุณจายดีกว่า”
 “พูดให้ชัดหน่อยสิครับหมูหัน.....หึ”
 “จั๊ดแย้ว”   ยังไม่วายหันมาพูดแล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน  ผมส่ายหัวแล้วยกตะกร้าเปล่าที่ตากผ้าเสร็จตามเข้าไปในบ้าน เห็นหมูหันกำลังนั่งตักแม่ ออดอ้อนให้ป้อนขนมแต่ดูจากน้ำหนักตัวอาจจะทำให้แม่ขาชาได้
 “หมูหันอ้วนแล้วยังนั่งตักคุณยายอีก”
 “ดูจิคุณจายแม่จ๊อบแกล้งป๋ม”
 “แบบนี้ให้ยายตีเลยดีไหม”
 “ตีเยยยยย”
 ผมลงไปนั่งข้างๆหมูหัน  “อยากเห็นแม่เจ็บหรือครับ”
 หมูหันขมวดคิ้วคิด “งั้นไม่ต้องตีแย้วกั๊บ เดี๋ยวแม่ย้องไห้”
 ผมและแม่มองหน้ากันเเล้วยิ้ม
 RRrrrR
 เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
 “ฮัลโหลครับพี่ฝน..ตอนนี้เหรอครับ” ผมมองหมูหันอยากจะปฏิเสธแต่ก็ต้องรับคำไป
"ครับ...แล้วผมจะรีบไป….”
 “มีอะไรเหรอหอม”
 “พี่ฝนขอเปลี่ยนกะทำงานน่ะครับ ผมเลยต้องไปเข้ากะตอนนี้เลย”
 “แล้วตอนกลางคืนล่ะ ลูกต้องทำงานตอนคืนต่อเลยเหรอ”
 “ครับ…ฝากคิมหันต์ด้วยนะครับแม่”
 “เเต่ลูกไม่เห็นต้องทำงานขนาดนี้เลยลูก พ่อเขาก็มีเงินเดือน”
 “จะพึ่งแต่พ่อก็ไม่ได้หรอกครับ ผมเองก็อยากเลี้ยงพ่อกับแม่บ้าง" ผมพูดแล้วรีบไปอาบน้ำเพื่อไปทำงานที่ซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งผมเริ่มทำเมื่อ1ปีก่อน
 ขณะเตรียมตัวจะไปทำงานก็เห็นหมูหันยืนนิ่งหน้ามุ่ย
 “ไหนแม่ปอกว่าวันนี้จะปาป๋มไปเที่ยวห้างนี่กั๊บ”
 “วันนี้แม่มีงานด่วนจริงๆลูก…ไว้วันหลังนะ”
 ยังหน้ามุ่ยอยู่
 “คิมหันต์….แม่ขอโทษจริงๆ พรุ่งนี้แม่จะพาไปนะครับ”
 “จั๊ญญานะ”
 ผมยื่นนิ้วก้อยไปให้ นิ้วอ้วนๆเกี่ยวตอบ
 ฟอดดดด  “แม่ไปนะครับ”
 "บ๊ายบายแม่สิลูก"  แม่บอกหมูหันให้ทำตาม แม้จะโบกมือแต่ยังหน้ายังงออยู่แอบเห็นน้ำตาปริ่มอีกด้วย 
 ผมขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังที่ทำงานแม้จะอึดอัดแต่ก็ต้องประหยัดเพื่อลดค่าใช้จ่าย ยิ่งเห็นแววตาของลูกเวลาอยากได้ของหรืออยากพาไปเที่ยวผมก็ได้แต่เศร้าใจ....ผมไม่มีทั้งเงินและเวลามากขนาดนั้น….แต่ก็จะอยากพยายามให้ถึงที่สุดไม่พึ่งพ่อกับแม่มากเกินไป
 “ขอโทษจริงๆนะหอมพี่มีธุระด่วนจริงๆ แล้วจะตอบแทนนะ บาย….”
 ไม่รอให้ผมพูดพี่เขาก็รีบออกไป ผมเปลี่ยนชุดพนักงานแล้วมายืนหน้าเคาน์เตอร์
 เสียงซุบซิบจากจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองเเต่กลุ่มนั้นก็ทำทีไม่ได้คุยกันแล้วแยกย้ายกันไป  ผมเองก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะน่าจะชินกับคำนินทาได้แล้ว
 กระเทยบ้างล่ะ
 เสเเสร้งบ้างล่ะ   
 สำส่อนบ้างล่ะ
 ประโยคท้ายคงมาจากลูกค้าบางคนที่มักจะ….
 “ขอบุหรี่1ซองพร้อมแถมเบอร์โทรได้ไหมครับ”   ผมหยุดชะงักมองคนตรงหน้าที่ยิ้มแป้น  ผมไม่ตอบแต่ยื่นซองบุหรี่ให้แทน
 “ไม่ให้เบอร์ด้วยเหรอครับ”
 “มีลูกแล้วครับ”
 เขาหน้าเหวอ
 ผมคิดเงินแล้วเขาก็รีบเดินออกไป
 เหตุนี้ล่ะ….ผมถึงโดนพวกนั้นนินทาเพราะชอบมีผู้ชายมาจีบ
 ขนาดผมนานๆครั้งจะมาแทนพี่ฝนยังถูกพวกนี้นินทาอีก ไม่ต้องคิดว่าตอนกะกลางคืนเพื่อนร่วมงานที่แสนดีจะนินทาผมแค่ไหน
 “เฮ้อ”
 “ถอนหายใจทำไมครับ”
อีกแล้วเหรอ....ผมเงยหน้ามอง
 “พี่หมอ”
 พี่หมอยิ้มรับ
 “กลับจากอบรมแล้วเหรอครับ”
 “ใช่ครับ…แล้วหอมเปลี่ยนมาทำงานเวลานี้แทนแล้วเหรอ”
 “เปล่าครับมาทำแทนชั่วคราวน่ะครับ”
 “อืม...แต่ทำตอนกลางวันดีกว่าตอนกลางคืนนะ”
 ผมไม่ได้ตอบแต่ถามแทน
 “ว่าแต่จะซื้ออะไรเหรอครับ  ด้านหลังผมอ่อยกันใหญ่แล้วครับ” ผมพูดแล้วปรายตามองพนักงานหญิงด้านหลังที่แทบจะแจกเบอร์เปลื้องผ้ากลางอากาศ
 “อ้อลืมเลย”
 พี่หมอเดินไปกดกาแฟแล้วมาจ่ายเงิน
 “เดี๋ยวพี่จะไปหาคิมหันต์ด้วยนะ”
 “ดีเลยครับ ตอนนี้งอนอยู่ครับช่วยไปปลอบหน่อยนะครับ”
 “ได้สิ” พี่หมอยิ้มแล้วเดินจากไป
 เสียงยินดีตอนรับอัตโนมัติดังขึ้นเมื่อมีคนเดินเข้ามาอีก ผมก้มหัวต้อนรับแต่เมื่อเงยหน้ามองทำให้ผมได้แต่นิ่งค้าง แต่เขากลับไม่สังเกตเห็นผมเลยสักนิด
 “ลินดาไม่อยากดื่มกาแฟที่นี่นะคะพี่คิงส์”
 “ข้างหน้าไม่มี ซื้อที่นี่ไปก่อนเถอะ…..ไปเลือกให้ฉันด้วย”
 “ไม่เอาค่ะ ไม่มีรสนิยมเลยค่ะ”
 “เธอไม่กินแต่ฉันจะกิน รีบๆซื้อมาได้แล้ว” พูดจบพี่คิงส์ก็ออกไปจากร้านปล่อยให้หญิงสาวทำหน้าหงุดหงิดเเล้วปั้นปึ่งไปเลือกกาแฟ
ใบหน้าที่ไม่ได้เห็นเกือบ 4 ปี …..ร่างกายสั่นเทิ้มเล็กน้อยแต่ก็สามารถควบคุมให้เป็นปกติ พลางมองใบหน้านั้น….ดูโทรมขึ้นหนวดรุงรังเหมือนปล่อยตัว….
 เเก้วกาแฟถูกวางตรงหน้าเพื่อรอคิดเงิน......หลังจากที่เธอพยายามเรียนรู้จากคนอื่นว่าจะกดใส่เเก้วยังไง.....คุณหนูจริงๆ...
 “ฮึ่ย! ทำไมต้องมาซื้อของถูกๆ ไร้รสนิยมที่นี่ด้วยนะ”
 ผมรับเงินจากเธอ
 ใบหน้าสวยมองผมแล้วครุ่นคริด
 “นี่นายฉันเคยเจอนายที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า หน้าตาคุ้นเชียว”
 “ไม่รู้สิครับ คนตั้งมากมายอาจมีบางครั้งที่ได้เจอกัน….”
 ปึก!  ผมวางเงินกระเเทก
 “เงินทอนครับ….แต่เป็นแค่เศษเหลือจะรับไหมครับหรือจะบริจาค” ผมเน้นคำว่า’เศษเหลือ’เผื่อเธอจะได้กระตุ้นสมองบ้างว่ากินของเหลือจากผม
 เธอมองอย่างงงๆแล้วรีบหยิบเงินจากไป
  “แค่เศษก็ยังเอานะ…” ผมมองตามหลังเธอไป เห็นเขาคนนั้นยังยืนสูบบุหรี่รอนอกรถ และนั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่เขามองมาทางผมพอดี….สายตาเราประสานกัน…..เขาเองก็มองผมค้างจนบุหรี่ในมือร่วงลงพื้น แต่เป็นผมที่เบือนหน้าเเทน…….ยิ้มรับกับลูกค้าและไม่ได้หันกลับไปมองอีกเลย
………………………………………….
ภายในรถหรูแม้อากาศจะเย็นสบายแต่ความรู้สึกกลับไม่เป็นเช่นนั้น….มีเพียงความเงียบและความหงุดหงิดที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา
 ร่างสูงที่กำลังขับรถไม่ได้สนใจคนข้างกายอย่างใดแต่กลับคิดถึงใบหน้าที่ไม่เจอกันมานานแสนนาน
 ต้นหอม….ชื่อและใบหน้านานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้เอ่ยและได้เจอ….อีกฝ่ายยังคงเหมือนเดิมซ้ำยังดูมีเสน่ห์มากขึ้นผิดกับเขาที่ตอนนี้เเม้แต่หนวดยังไม่ได้โกน ปล่อยตัวมากขึ้น…เพราะความเครียดในแต่ละวัน
 “ลินดาไม่ไปโรงพยาบาลไหนแล้วนะคะ เบื่อ!” ลินดากอดอกไม่พอใจพลางมองใบหน้าสามีแต่กลับไม่ได้รับการตอบกลับ
 “พี่คิงส์….จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอคะ จะให้ลินดาไปหาหมอยันตายเลยเหรอ…ลูกมีไม่ได้ก็ไม่ต้องมีค่ะ…”
 “แต่ฉันอยากมีลูก” เขารีบตอบทันควัน เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ
 ลินดาเม้มปาก  “ไปหามาหลายหมอทั้งในทั้งนอกประเทศ ทำได้ไหมคะ…..ถ้าครั้งนี้ไม่ได้อีกลินดาไม่ทำแล้วค่ะ”
 “นี่เธอคิดจะไม่มีลูกให้ฉันงั้นเหรอ”
 “ใช่ค่ะ….ถ้าบังคับลินดาจะกลับบ้าน”
 “เอาให้จริงเถอะ เธอไม่เคยกลับไปสักครั้ง……กลับเลยไหมล่ะฉันจะได้ไปส่ง”
 “พี่คิงส์!”
 คิงส์ไม่ได้พูดอะไรต่อและไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นรถ
 เมื่อรถยนต์มาถึงบ้าน ร่างสูงก็เดินเข้าไปในบ้านเหมือนไม่มีคนนั่งมาด้วย ลินดารีบเดินตามแล้วดึงแขน
 “ทำไมต้องเย็นชาตลอด เดี๋ยวนี้พี่เป็นอะไร”
 “เบื่อมั้ง”
 “เบื่อ!?  เบื่อเพราะลินดามีลูกให้ไม่ได้ใช่ไหม”
 “เธอคิดว่าฉันจะเบื่อเธอเฉพาะเรื่องลูกงั้นสิ…..นิสัยเธอต่างหากที่ฉันเบื่อ”
 “เหอะ! ตอนคบกันไม่เห็นบอกว่าเบื่อ พอได้กันบอกเบื่อเหรอคะ”
 “นิสัยเธอมันเปลี่ยนไปต่างหาก…..เธอตอนนี้ดูตัวเองด้วยว่ามันเปลี่ยนไปยังไง”
 “ที่ลินดาเปลี่ยนก็เพราะแม่คุณนั่นแหละ! สั่งอยู่ได้ให้รีบๆมีลูก….”
 “พูดอะไรถึงฉันเหรอลินดา……” พิสมัยในร่างท้วมเดินมาหาลูกชายและสะใภ้ ลินดารีบหลบสายตา
 “ปะ..เปล่าค่ะคุณแม่”
 “ถ้าอย่างนั้นมานั่งคุยกันหน่อยสิว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง”
 ลินดาเม้มปากแล้วทำตามที่บอก ส่วนคิงส์เดินไปสงบสติอารมณ์ในสวนแทน
 “หมอว่ายังไงบ้าง” คุณหญิงพิสมัยถาม
 “คือ….หมอบอกว่าถ้า1เดือนนี้ไม่มีอาการอะไรก็คงจะไม่….”
 “ว่ายังไงนะ….นี่เธอจะท้องไม่ได้ตลอดชีวิตหรือไง”
 “ลินดาพยายามแล้วนะคะ หมอบอกว่ามดลูกลินดาอ่อนแอจริงๆยากมาสำหรับการมีลูก…”.
“เหอะ! นี่ฉันได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ใช่ไหมเนี่ย หลานก็มีไม่ได้…รู้แบบนี้ฉันเอาผู้ชายให้ตาคิงส์ทำเมียก็ดี!!” เธอตะคอกเสียงดังไม่สนใจว่าลูกสะใภ้จะเป็นลูกสาวของเพื่อนเพราะนี่มันเกี่ยวของกับทายาทที่จะสืบไปแต่สะใภ้กลับมีลูกไม่ได้
 “ไร้ประโยชน์จริงๆ!”  เธอกล่าวแล้วเดินจากไป
 ส่วนหญิงสาวเธอกำมือแน่น สายตามองไปยังร่างนั้นอย่างไม่เป็นมิตร
 “คอยดูเถอะอีแก่! สักวันแกจะต้องเสียใจที่กล้าทำแบบนี้กับฉัน!” เธอพูดแล้วรีบลุกไปโทรศัพท์ในที่ลับตาคน
“หนูทนไม่ไหวแล้วนะคะแม่จะให้ทนอยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่คะ”
 “ทนอีกหน่อยเถอะลูก…..เพื่อมรดกเชียวนะ”
 “มรดกอะไรคะ! เพราะถือเคล็ดบ้าเคล็ดบอที่ให้หย่ากันแล้วลูกจะดก นี่หนูไปหย่ามาแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับคนนอก….แบบนี้ตลอด4ปีที่หนูทนมาตลอดก็ไร้ประโยชน์สิ สู้เลิกตอนนี้แล้วไปจับเศรษฐีคนใหม่ดีกว่า”
 “เศรษฐีคนใหม่เหรอ…ความคิดดีนี่ลูก!” ปลายสายคล้ายคิดบางอย่างได้พร้อมกับกล่าวอย่างตื่นเต้น
 “ยังไงคะ”
 “เดี๋ยวแม่จะบอกอีกทีหนูอดทนไปก่อนนะ “
 “ฮึ่ย! ถ้าไม่เพราะแม่เอาเงินไปเล่นพนันหมดหนูคงไม่ต้องเอาตัวเข้าแลกแบบนี้หรอกค่ะ....ตอนแรกพวกนี้ก็ดีกับหนู นานๆเข้าร้ายกาจจริงๆ โดยเฉพาะคุณหญิง”
 “เอาน่าทนๆหน่อยนะ”
 “ก็ได้ค่ะ…”
 ลินดาวางสาย  “คอยดูเถอะอีแก่ฉันจะทำให้แกไม่มีที่ซุกหัวนอนเลย”
ทางด้านคิงส์
 เขาได้แต่ยืนนิ่งมองน้ำตกจำลองในสวน ทำไมจิตใจเขาถึงไม่สงบเลยตั้งแต่เจอใบหน้านั้น…..ใบหน้าที่เขาคิดว่าจะลืมไปแล้ว….สายตาที่เคยเศร้าตลอดเวลาแม้จะสบตาเพียงนิดแต่ก็รู้ว่าเปลี่ยนไป
 “จะไปนึกถึงทำไมวะคิงส์ เลิกกันไปตั้งนานแล้ว” เขาพึมพำกับตัวเอง
 ทรุดนั่งบนม้าหินอ่อนนึกถึงเรื่องราวเกือบ4ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่แต่งงาน.....ชีวิตที่คิดว่ามีความสุขกลับไม่เป็นอย่างที่คิด....ตอนคบกับลินดาคิดว่าใช่แต่เมื่อใช้ชีวิตด้วยกันกลับไม่ใช่.....กิริยามารยาทต่างๆผิดเพี้ยนเหมือนถูกฝึกเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้ากันเท่านั้นเเต่พอมาใช้ชีวิตด้วยกันลวดลายเริ่มออก
 อยู่ใกล้ๆพาลหงุดหงิดเพียงครึ่งปีที่แต่งงานเขาก็เริ่มเบื่อ….หากไม่เพราะผู้เป็นแม่ห้ามไม่ให้เลิกกันเขาคงไม่ทนอยู่เเบบนี้…..เหมือนกับ……เขาคิดผิดหรือเปล่าที่ทิ้งคนนั้นไป……..
พี่คิงส์ถอดเสื้อเลยครับเดี๋ยวผมจะซักให้
 ทานข้าวเลยไหมครับผมเตรียมไว้แล้ว
 อย่านอนดึกนักสิครับไม่ดีเลยนะ
 ร่างสูงรีบสลัดเรื่องนี้ออกจากหัว
 "นึกถึงบ้าอะไรวะ"
 เขากดโทรศัพท์หาคู่ควงประจำทันที
 “เบล….เดี๋ยวคืนนี้พี่ไปหา….”
 เขากดปิดสาย….หลับตาลง….ทำไมต้องมาเหนื่อยกับเรื่องนี้ด้วย….ไม่คิดว่าชีวิตต้องมาเป็นแบบนี้……..ตั้งแต่จาก………
 “โถ่เอ๊ย!” เขาสบถอย่างไม่รู้สาเหตุ…ไม่รู้ทำไมถึงต้องหงุดหงิดแบบนี้
…………………………………………………………
 
วันนี้ผมพาหมูหันไปเที่ยวห้างตามสัญญาหลังจากที่เมื่อวานเบี้ยวนัด ท่าทางหมูหันจะดีใจมากมองไปรอบๆตลอดอย่างตื่นเต้น
 “แม่ฮับ แม่ฮับ  ป๋มจ๊อบๆ”
 “หึ….เดี๋ยวกินข้าวกลางวันก่อนค่อยไปเล่นนะครับ”
 “กั๊บป๋ม!”
 มื้อกลางวันเรากินข้าวกันในห้างเมนูธรรมดาแต่ท่าทางเจ้าหมูอ้วนจะกินแบบไม่ธรรมดา
 “ป้อนช้า…”
 “ครับๆคุณชาย” ผมรีบป้อนข้าวผัดให้แต่ท่าทางเจ้าตัวจะกินไม่อิ่มเพราะเกือบหมดจานแต่ยังเคี้ยวตุ้ยๆ พอรู้ตัวอีกทีก็หมดแล้ว
 “ขออีก…”
 “หมดแล้วครับ”
 “แต่ป๋มยังไม่อิ่มเลย”
 “พอแล้วนะครับ….เดี๋ยวอ้วนนะ”
 หมูหันทำปากจู๋   “จุ๊ๆ ไม่ดีนะกั๊บคุณจายบอกว่าป๋มกำลังโตต้องกินเจ๊อะๆ”
 ผมยิ้ม “จำแต่คำแบบนี้นะครับ…..ไม่เอาครับ กินมากเดี๋ยวอ้วกไม่เล่นแล้วเหรอครับ”
 “อ่า…..เล่นๆกั๊บ”
 “ดีมาก” ผมจ่ายเงินแล้วจูงหมูหันมาที่โซนสำหรับเด็ก มีของเล่นหลายอย่างที่เหมาะกับวัย หมูหันทำตาโต
“เล่นดีๆนะครับแล้วให้อยู่ในสายตาแม่นะ”
 “กั๊บป๋ม”
พูดเเล้วก็รีบวิ่งไปนั่งรถสำหรับเด็กขับไปขับมาเผลอไม่นานก็ได้เพื่อนใหม่ซะแล้ว…..ผมก็ได้แต่นั่งมองกับบรรดาผู้ปกครองคนอื่น ผ่านไปสักพักหมูหันก็วิ่งมาหาเพราะหิวน้ำ….ก่อนจะมองไปยังเพื่อนๆ….แล้วหันมามองผมอีกทีเเละยังคงมองไปยังเพื่อนๆที่อยู่กับพ่อแม่แล้วหันมามองผมอีกครั้ง
 “มีอะไรหมูหันสงสัยอะไรลูก”
 หมูหันขมวดคิ้วแล้วมองไปทางพ่อแม่ของเพื่อนอีกครั้งสลับไปมา
 “แม่ฮับ แม่ฮับ ทำไมป๋มไม่เห็นมีป้อเลยล่ะกั๊บ เพื่อนๆมีกันหมดเยยยยย”
 ผมหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำถาม ไม่คิดว่าอายุเท่านี้จะคิดเรื่องนี้แล้ว
 “พ่อหนูก็มีครับ…..แต่ถ้าเขารู้ว่ามีหนูเขาต้องรักหนูมากแน่ๆ”
 “ป้อไปไหนอ่ะกั๊บ”
 ผมเงียบ….ตอบลูกไม่ได้….นิ่งจนหมูหันเริ่มเบะปาก
 “ร้องไห้ทำไมครับอย่าร้องสิ”
 “ป๋มไม่มีป้อ….”
 ผมรีบกอดปลอบ “มีสิครับ”
 “แต่ไม่เห็นมาเยย…เพื่อนๆมีป้อกันหมดเยย ฮึก..ก…”
 “พ่อหนูเขาอยู่ไกลมากๆเลยลูก......อย่าร้องไห้นะครับ”  ผมเช็ดน้ำตาให้
 “เเล้วไกลแค่ไหนกั๊บ…..งั้นป๋มจะหานะป้อต้องแอบป๋มเเน่ๆเยย”
 “ไม่มีหรอกครับที่นี่”
 “มีจิ จะหาให้เจอ…..”พูดแล้วรีบวิ่งไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่
 “ป้อฮับ” เขาดูตกใจมากเมื่อหมูหันเรียกแบบนั้น
 “หมูหัน” ผมรีบไปอุ้มแล้วกล่าวขอโทษ
 “ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ….”
 “แล้วคนไหนป้อฮับ….งั้นป๋มจะหาใหม่….” ยังคงพยายามแล้วดื้อซนต่อไป เรียกหลายคนว่าพ่อจนผมต้องขอโทษหลายครั้ง จนแน่ใจว่าหยุดดื้อแล้วผมจึงมานั่งที่เดิม…ถอนหายใจเฮือกใหญ่…ทำให้มีปมด้อยเสียแล้ว…สงสารแต่คงทำอะไรไม่ได้นอกจากเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด…
“แม่ขอโทษจริงๆที่ทำให้หนูเสียใจแบบนี้…..” ผมพยายามกระพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้ร้องไห้ ผมจะต้องเข้มเเข็งจะมาทำตัวเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกเเล้ว
 “แม่ฮับหิวน้ำ”
 ผมมองขวดที่ว่างเปล่า
“เดี๋ยวแม่ไปซื้อมาให้นะ หนูเล่นที่นี่หรือไปกับแม่ครับ”
 “เล่นกั๊บ”
 “อย่าเดินไปไหนนะ เดี๋ยวแม่มา”
 “กั๊บป๋ม”
 ผมเดินไปซื้อน้ำเปล่าแต่เมื่อกำลังเดินกลับไปหาหมูหันก็ต้องหยุดชะงัก…
 พี่คิงส์……
 มือและขาสั่นเมื่อเห็นเขาคนนั้นอยู่ตรงหน้าพอดี…..เขาเองก็หยุดชะงักเมื่อเห็นผมเช่นกัน ข้างๆมีหญิงสาวเดินควงแขนมาด้วยแต่ไม่ใช่ภรรยา……
 ผมพยายามจะเดินเลี่ยงแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่…..
 “ป้อ!”  หมูหันตะโกนขึ้นแล้ววิ่งมาทางผม  มือชี้ไปที่เขาคนนั้น
 “ป้อฮับ!”
 

หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 23-06-2017 18:56:41
รอลุ้นเลย ว่าคิงจะทำไง หอมดูเหมือนจะยอมทุกเมื่อเลยอ่ะ แต่ก็สงสารเด็กนะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-06-2017 19:05:39
พระเอกนิสัยแบบนี้ ไม่คู่ควรกับคำว่าพระเอกสักนิดเดียว เชียร์ไม่ลงเลย เฮ้อ หมูหันลูกอย่ามีเลยพ่อแบบนี้
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 23-06-2017 19:10:46
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-06-2017 21:21:38
เป็นเรื่องละสิ หมูหัน เที่ยวไปตู่หาพ่อ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-06-2017 21:52:08
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 23-06-2017 22:44:17
อ่ะโหจัญไรตั้งแต่แม่ยันลูก


จะเอามาทำพ่อของลูกนี่คิดดีแน่เหรอ?
แนวคิดกดขี่ผญ.ด้วยกันสุดๆ ให้แต่งงานเพื่อจะได้มีลูกหลาน ถ้างั้นไปจ้างผญ.คนนึงให้ท้องก็พอมั้ง
คนนะไม่ใช่แม่พันธุ์ จะเพาะเด็กทำฟาร์มเรอะ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: MorethanMore ที่ 23-06-2017 23:57:32
เหมือนเคยอ่าน ไม่โอเคเลยอะ คิงส์ มันเลวไป แม่ก็ชั่วไป ทั้งบ้านเลย เอาจริงดิ รักแล้วต้องยอ ทุกอย่างแบบนี้จริงดิ?
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-06-2017 11:26:46
บางทีหอมก็ใสซื่อจนน่าหมั่นใส้
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 24-06-2017 12:51:37
สนุกอ่า มาต่ออีกน้า
หลงหมูหันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-06-2017 16:35:20
จำได้ละ เคยอ่านเรื่องนี้แล้วจริงๆ  ครอบครัวพระเอกรวมทั้งพระเอกโคตรเ-ี้ยมาก

แต่คุณคนเขียนบอกว่าเปลี่ยนเนื้อเรื่องนิดหน่อย ถือโอกาสอ่านใหม่ละกัน
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 24-06-2017 20:53:00
แล้วถ้าคิงกับแม่รู้ว่าหมูหันคือลูกจะมาพรากไปจากหอมป่ะ ยัยป้านั่นต้องทำแน่ๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-06-2017 23:04:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 5 {23/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 25-06-2017 00:10:32
โอ้โห ถ้าจะเป็นลูกหลานท่านจัญ(ไร) ตั้งแต่แม่ยันลูกขนาดนี้่ อย่าเอาไปทำพันธุ์เลยเหอะ  :fire:
หัวข้อ: ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 25-06-2017 00:26:44
ผมอึ้งเมื่อจู่ๆหมูหันก็เรียกพี่คิงส์ว่าพ่อ…เขาเองก็ดูตกใจไม่ต่างกันมองผมและหมูหันสลับกันไปมาอย่างงงๆ
“ป้อฮับ!”
“หมูหัน!” ผมปรามลูกแล้วรีบจูงเพื่อให้กลับไปทางเดิม
“ลูกติดเมียนายหรือไง”   คำพูดของเขาไม่ได้ทำให้ผมสนใจสักนิด พยายามอุ้มหมูหันแต่เพราะหมูหันขืนตัวจึงทำให้น้ำหนักตัวมากอุ้มไม่ไหว
“อย่าดื้อกับแม่นะ”
“เรียกตัวเองว่าแม่ซะด้วย นายนี่อยากเป็นแม่คนมากนักหรือไง”  ผมยังไม่สนใจ
“ป้อฮับ!” หมูหันสลัดมือผมแล้วรีบวิ่งไปหา
“อย่ามาเรียกฉันว่าพ่อ!!” เสียงตวาดทำให้คนรอบข้างหันมามอง หมูหันหยุดชะงักเหมือนทำตัวไม่ถูก เบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดัง ผมรีบวิ่งไปหาลูกแล้วอุ้ม
“ฮึก..ก..ก ฮือๆๆ แม่!...แม่!...”
“แม่อยู่นี่ลูก….แม่อยู่นี่แล้ว” ผมเสียงสั่น…สงสารลูกทำไมเขาต้องมาตะคอกลูกผมแบบนี้ด้วย
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาตะคอกลูกผมแบบนี้!!”
 “ลูกนายไม่ใช่หรือไงที่มาเรียกฉันแบบนี้….หึ นายนี่มันจริงๆเลย ให้ลูกเรียกแม่แล้วตระเวนหาพ่อให้ เหอะ! นี่ตกลงเด็กนี่ลูกกับเมียใหม่หรือลูกติดผัวใหม่ฮะ”
 ผมแกะฝาขวดน้ำออกก่อนจะ…
 ซ่า!
 น้ำสาดไปที่ใบหน้าของเขาอย่างจัง
 “แค่นี้มันยังน้อยไปคนอย่างคุณน่าจะโดนมากกว่านี้!”
 ผู้หญิงที่มาด้วยรีบเช็ดใบหน้าให้ เธอวี๊ดว๊ายตลอด
 “นี่แกทำอะไรพี่คิงส์ฮะ”
 “ก็อย่างที่เห็นสาดน้ำใส่ไงความชั่วมันจะได้ชะล้างบ้าง!”
 “นี่แก!” เธอทำท่าจะมาตบแต่สายตารอบข้างทำให้เธอหยุด
 หมูหันซบกับอกผมยังร้องไห้อยู่คงเพราะกลัวมากไม่เคยโดนตวาดแบบนี้มาก่อน.....แต่เขาเป็นใครกล้าดียังไงมาว่าลูกผมแบบนี้…..ผมจะไม่ให้อภัยเขาที่ทำให้ลูกผมร้องไห้ทั้งที่…..เจอกันครั้งแรกแท้ๆ
 “อย่าร้องนะลูก” ผมจูบปลอบ
 “ฮึก..ก…ก ป๋มกลัว”
 หมับ! ไม่ทันได้ตั้งตัวข้อมือผมก็ถูกคว้าเอาไว้  พี่คิงส์มองผมอย่างไม่สบอารมณ์ยิ่งหนวดเครายิ่งทำให้เพิ่มความน่ากลัวไปอีก แต่ผมไม่ลดละสายตา
 “ปล่อย คุณจะทำอะไร!” ผมอยากจะดึงออกแต่เพราะอุ้มหมูหันอยู่เลยดึงไม่ถนัด
 “กล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับฉัน!”
 “ปล่อย! คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงจะไม่กล้า!”
 “ฮือๆๆ แม่! แม่!” หมูหันร้องไห้โฮ
 “กล้าดีขึ้นนะ”
 “อึก!”
 เขาบีบข้อมือผมแรงขึ้น
“ปะ..ปล่อยแม่นะ! ฮือๆๆ”
 เพี๊ยะๆ  มือเล็กตีแขนของพี่คิงส์พลางร้องไห้โฮ
 “แม่! แม่! ฮือๆๆ ปล่อยแม่!”
 พี่คิงส์ละมือออก
 ผมรีบเดินหนีทันทีไม่เเม้แต่จะหันไปมองให้เสียสายตา…….เดินไปพลางพูดปลอบหมูหันที่ยังร้องไห้สะอื้น
 “หมูหันลูก…”
 “ฮือๆๆแม่….อา….ป๋ม…ฮึก…ป๋มกลัว….”
 “แม่ขอโทษ…แม่ขอโทษนะที่ดูแลหนูไม่ดีอย่าร้องนะลูก จุ๊บ”  ผมจูบแก้มแล้วเช็ดน้ำตาให้
 “ฮึกๆ..ๆ” หมูหันมองหน้าผมน้ำตายังคงไหลต่อ  “ป้อน่ากลัว ฮึก…ก”
 “เขาไม่ใช่พ่อ....ไม่ใช่พ่อ….พ่อของหนูเขาใจดีมากๆเลย…”
 “จริงๆหรอกั๊บ ฮึก..ก..ไม่ใช่ป้อ…..ป้อป๋มใจดี…”
 “ใช่จ้ะ ต่อไปนี้อย่าไปเรียกคนแปลกหน้าว่าพ่ออีกนะ….เพราะหนูจะเสียใจแบบนี้รู้ไหม”
 หมูหันพยักหน้าแล้วกอดซบ
 จากนั้นผมก็พากลับบ้านหมูหันหลับตั้งแต่อยู่บนรถจนถึงบ้าน…….คิดถึงเรื่องที่เจอเขาคนนั้นผมก็ได้แต่โกรธ
 “ทำไมต้องเจอกัน….น่าจะตายๆจากกันไป…”
 “มีอะไรหรือเปล่าลูก”
 พ่อที่เพิ่งกลับมาทำงานเอ่ยถามเมื่อเห็นผมนั่งเหม่อมองหมูหัน
 “ไม่มีอะไรครับพ่อ….เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะครับ”
 “แล้ววันนี้ไม่ทำงานหรือ”
 “ลาแล้วครับหมูหันท่าทางจะไม่สบาย”
 “อ้าว…จริงหรือเนี่ย” พ่อตกใจรีบมาดูหลานจับตัววัดไข้ สีหน้าพ่อไม่ดีเลยเพราะเป็นห่วงมาก
 “ไปหาหมอหรือยัง”
 “ยังเลยครับ….แต่ให้ทานยาแล้ว”
 “เฮ้อ….หลานตามาป่วยซะได้” พ่อลูบผมหมูหัน 
ผมมองหมูหันที่ป่วยก็ได้เเต่ถอนหายใจ…..ผมสงสารลูก….สงสารที่ทำให้แกมีปมด้อยแบบนี้ หากแต่แรกผมไม่คิดที่อยากจะท้องแบบผิดธรรมชาติแกก็คงได้เกิดที่สบายๆมีครอบครัวสุขสันต์มีแม่ที่เหมือนแม่คนอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้ชายแบบผมและไม่ต้องเกิดมามีพ่อใจร้ายแบบนี้

 ตอนกลางคืนหมูหันก็อาการไม่ดีจริงๆ ละเมอว่ากลัวตลอด ทุกคนในบ้านเลยไม่มีใครได้นอนหลับสักคน คืนนั้นพวกผมจึงพาไปโรงพยาบาลแต่โชคดีที่ไม่ป่วยมากหมอจึงให้กลับได้
 “อย่าพาลูกไปในที่แบบนั้นอีกนะ อากาศคงไม่ปลอดโปร่งจริงๆ” แม่ถอนหายใจ หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล
 ผมไม่ได้บอกแม่ว่าเจอพี่คิงส์และสาเหตุที่ทำให้หมูหันไม่สบายก็เพราะเขา ที่ไม่บอกเพราะไม่อยากให้มีพันธะแค้นอะไรต่อกัน ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเจอกันอีก
 “แม่กับพ่อหลับไปก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมเฝ้าเอง”
 “ก็ได้จ้ะ…แต่มีอะไรเรียกแม่กับพ่อนะ”
 “ครับ”
 ผมยังคงนั่งมองลูกอยู่แบบนั้นรู้สึกเสียใจเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต…..ผมไม่รู้ว่าผมเคยรักเขาไปได้ยังไงผมในตอนนั้นช่างโง่จริงๆที่ไม่เคยเห็นธาตุแท้ของเขาเลย ได้แต่ทำเป็นมองข้ามทั้งๆที่รู้ว่าเขาเลวแค่ไหน ถ้าผมไม่ตาบอดเพราะหลงคงเลิกรักไปนานแล้ว…..
 มือป้อมจับนิ้วผมไว้….
“หมูหัน….”
 “แม่ร้องไห้ทำไมกั๊บ”
 “หนูตื่นแล้วเหรอ ตื่นทำไมครับ…หลับเถอะ” ผมเช็ดน้ำตาตัวเอง
 หมูหันลุกขึ้นแล้วมากอดผม “อย่าร้องไห้จิกั๊บ….ไม่ร้องน๊า จุ๊บ!” หมูหันจูบปากผมแล้วยิ้ม ผมหอมแก้มฟอดใหญ่ตอบ
 “ไม่ร้องแล้วครับ…”
 “เด็กดีๆ” หมูหันหัวเราะ แล้วล้มตัวนอนในตักผม
 “ป๋มไม่มีป้อก็ได้กั๊บ….อยู่กับแม่ป๋มมีความสุขที่สุดเยย”  พูดแค่นั้นหมูหันก็หลับไป  ผมฟังคำพูดแล้วก้มหอมอีกครั้ง
 “…เเม่ขอโทษที่คิดว่าไม่อยากให้หนูเกิด...เเม่ขอโทษ...ขอบใจจริงๆที่เกิดมาเป็นลูกของแม่..”

 ………………………………………………………..

 ตอนเช้าพี่หมอก็มาเยี่ยม ซื้อขนมมาฝากเมื่อรู้ว่าหมูหันไม่สบายแต่คิดผิดเพราะคนที่ไม่สบายเมื่อคืนกำลังวิ่งเล่นซนไปทั่ว
 “ตื่นมาก็เป็นแบบนี้แล้วครับ…ผมยังตกใจเลย”
 “เพราะเขามีหอมดูแลไงล่ะ” มือหนาค่อยๆกุมมือผมแต่ผมกลับถอยมือออกมา
 “เพราะหอมยังลืมคนรักเก่าไม่ได้ใช่ไหม....ทั้งๆที่เขาใจร้ายกับหอมมากนั้น”
“พี่หมอพูดอะไร”
 “เขาคือคนที่แต่งงานในวันนั้นใช่ไหม….”
 “ใช่….แต่ผมไม่ได้รักเขาแล้ว”
 “แล้วทำไมหอมถึงไม่ยอมเปิดใจให้พี่บ้าง”
 “ผมเป็นผู้ชายนะครับ….มีลูกอีก….พี่หมอควรมีอนาคตที่ดีกว่านี้ไม่ใช่มาจมปลักกับผม
“ตลอดเวลาพี่ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย”
 “แต่ผมคิด….พี่ไปหาคนที่ดีกว่าผมเถอะ”
 พี่หมอลุกขึ้น “ตลอดเวลาที่พี่อยู่กับหอมมันยังพิสูนจ์ไม่พออีกใช่ไหม พี่รักหอมจริงๆ….แต่ถ้าหอมคิดแบบนี้พี่ก็จนใจ” พูดจบพี่หมอก็ออกจากบ้านและขับรถออกไป
 “เฮ้อ……”ผมได้แต่ถอนหายใจ…..ทำไมชีวิตผมยังต้องมาเหนื่อยกับความรักเเบบนี้ เมื่อไรที่ผมจะมีความสุขจริงๆสักที

………..

 ยามค่ำคืน

ภายในห้องทำงานของโชคชัยหัวหน้าครอบครัวตระกูลไพศาล กำลังตรวจเอกสารจากบริษัทที่กำลังค้าง
ก๊อกๆ
 “ใคร”
 “ลินดาเองค่ะคุณพ่อ”  ลินดาในชุดนอนเดินเข้ามาหา
 “หนูลินมีอะไร…..หรือคิงส์มันยังไม่กลับบ้าน”
 “ค่ะ..ฮึกๆ…พี่คิงส์กลับบ้านดึกทุกวันเลยค่ะ บางวันก็ไม่กลับด้วยค่ะ ฮึกๆ….”
 “คิงส์ชักเหลวไหลขึ้นทุกวัน เดี๋ยวพ่อจะเตือนให้”
 “ขอบคุณมากค่ะ” ลินดาไหว้ในระยะประชิด
โชคชัยมองผ่านเสื้อชุดนอนตัวบางเห็นทรวดทรงแล้วยิ้ม
 ลินดายิ้มตอบแล้วจับมือของอีกฝ่ายมาสัมผัส “ถ้าคุณพ่อชอบลินดาไม่ว่าอะไรนะคะ…..” พูดจบโชคชัยก็คว้าร่างของลินดามาจูบก่อนที่บทรักจะเริ่มในห้องนั้น
 “เมื่อคืนคุณไม่ได้กลับมานอนที่ห้องนี่คะ ไปไหนมา” ทันทีที่โชคชัยนั่งลงเพื่อทานอาหารเช้าพิสมัยก็เอ่ยถามทันที ลินดาเสมองไปทางโชคชัยเล็กน้อยแล้วหันไปมองอาหารของตนตามเดิม เธอยิ้มอย่างอารมณ์ดี
 “ผมก็ทำงานที่ห้องทำงานน่ะสิ”
 “ทั้งคืนเลยเหรอคะ” สายตาจับผิดที่มักจะทำให้คำพูดหลายคนสะดุดเสมอ
 “ก็..ลูกชายคุณมันไม่ยอมช่วยก็ต้องทำเองน่ะสิ .....วันๆเอาแต่เที่ยวเล่น กลางคืนก็ไม่กลับบ้านทำตัวเสเพลไปวันๆ” คำพูดส่งไปทางคิงส์ที่กำลังนั่งเซ็งอยู่กับอาหาร
 “นั่นสิตาคิงส์เมื่อไรแกจะช่วยพ่อแกทำงานสักที จบมาตั้งหลายปีไม่เห็นแกจะช่วยทำงานเป็นชิ้นเป็นอันเลย แล้วแบบนี้จะเรียนมาทำไม”
 "ตำแหน่งที่ให้ผมคือตำแหน่งผู้ช่วยประธานบริษัทเนี่ยนะ งานมันมีอะไรครับ ซ้ำกับตำแหน่งเลขาสิไม่ว่า”
 “แต่ฉันอยากให้แกฝึกงานกับฉันไปในตัว”
 คิงส์วางช้อนลง “ผมไม่อยากทำตำแหน่งนั้นถ้าให้ดีมอบตำแหน่งคณะกรรมการบริษัทให้ผมสักตำแหน่งสิ”พูดจบร่างสูงก็ลุกออกไป
 “แกจะไปไหน” พิสมัยเอ่ย
 “ไปข้างนอกครับ”
 “นี่แกจะทำตัวเถลไถลไปถึงไหน  4 ปีมานี้แกเป็นอะไร แกคนเดิมหายไปไหน..ทำไมถึงกลายเป็นไอ้พวกทำตัวเสเพลไร้ค่าฮะ!”
 คิงส์ถอยหายใจเฮือกใหญ่เริ่มหงุดหงิด
 “เลิกทำตัวแบบนี้สักทีแกจะ30แล้วนะ เตรียมตัวไปบริษัทกับพ่อแกซะ หนวดเคราหัดโกนซะบ้างรู้ไหมหน้าตาแกเหมือนโจรไปทุกวันแล้ว! ”
 “พอเถอะผมเบื่อ! ชีวิตผมผมจัดการเองได้ แม่ไม่ต้องมายุ่ง!” เสียงตวาดทำให้คนฟังนิ่งงันด้วยความตกใจ
 “คิงส์! แกตวาดแม่แกทำไมฮะ” โชคชัยปราม
 ส่วนลินดานั่งยิ้มทานอาหารต่อ
 พิสมัยมองลูกชายอย่างอึ้งๆ ถึงแม้คิงส์จะไม่ค่อยเชื่อฟังเธอมากเท่าไร แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่จะตวาดเธอแบบนี้
 เธอวูบลงกับพื้น
 “แม่!”
 “คุณหญิง!”
โชคชัยและคิงส์รีบมาพยุง
 “มะ….แม่เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”
 พิสมัยจับหัวเพราะหน้ามืด
 “สงสัยความดันจะขึ้น  คิงส์แกไปเอารถมาพาแม่แกไปโรงพยาบาลเร็ว”
 ………………………………………………………………………………….
 “อย่าวิ่งสิครับ มาใส่เสื้อผ้า”
 “ไม่อาววว จับให้ได้จิ” พูดพลางหมูหันก็วิ่งไปรอบบ้านทั้งๆที่ยังแก้ผ้า!
 “หมูหันมาใส่เสื้อผ้าเร็ว”
 “เอิ้กกกก คุณจาย คุณจาย แม่จะมาแย้ววว” วิ่งไปแอบข้างหลังแล้วหัวเราะไม่หยุด คงคิดว่าผมกำลังเล่นไล่จับแน่ๆ
 “รีบๆใส่เสื้อผ้าเร็วเข้าเดี๋ยวไปโรงพยาบาลสายนะ”
“หมูหันไปหาแม่สิลูก แก้ผ้าแบบนี้เดี๋ยวสาวๆก็มาเห็นหรอก”   แม่ผมพูดบอก เจ้าตัวถึงกับตาโตแล้วหน้าแดง ปิดปิกาจูตัวเองไว้แล้วรีบมาหาผม
 “คุณลุงไม่เห็นมาเลยกั๊บ”
 หมูหันพูดขณะที่ผมกำลังใส่รองเท้าให้  ผมได้แต่นิ่ง คุณลุงที่พูดถึงก็คือพี่หมอปกติเวลาหมูหันไปตรวจร่างกายประจำทุกเดือนเขาจะต้องมารับทุกครั้งตั้งแต่หมูหันเกิด…….วันนั้นทะเลาะกันผมไม่ได้โทรไปหาแล้วเขาก็ไม่ได้โทรหาผม แบบนี้คงเข้าหน้ากันไม่ติดแน่ๆ
 ผมเองก็ไม่อยากจะพูดแบบนั้นแต่ว่าถ้าไม่พูดให้ชัดเจนเขาก็จะยังรอผมแบบนี้…ถึงผมเคยมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ใช่ว่าผมจะรักได้ทุกคนเพราะเดิมทีผมก็ไม่ได้รักผู้ชายอยู่แล้วจะให้อยู่ๆรักกันผมคงจะยังเปิดใจไม่ได้จริงๆ
 เสียงรถที่จอดหน้ารั้วทำให้หมูหันรีบวิ่งไปทันทีเพราะเป็นเสียงที่คุ้นเคย ผมก็เดินไปดูเช่นกัน เห็นพี่หมอยิ้มกว้างให้หมูหันแล้วอุ้มร่างอ้วนๆขึ้นกอดเหมือนประจำ
 “ป๋มนึกว่าคุณลุงจะไม่มาเเล้วซะอีก”
 “ขอโทษนะครับลุงมาช้าไปหน่อย” เขาพูดแล้วเงยหน้ามองผม
 “เตรียมตัวเสร็จหรือยังหอมพี่จะได้พาไป”
 “เอ่อ….เสร็จแล้วครับ”
 หลังจากนั้นเราสามคนก็เดินทางไปโรงพยาบาล อึดอัดเล็กน้อยเพราะผมกับพี่หมอยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย มีแต่หมูหันที่ชวนพี่หมอคุยไปเรื่อย……ทั้งยังบอกพี่หมออีกว่าวันจันทร์นี้ก็จะเข้าโรงเรียนแล้ว……อายุเท่าหมูหันควรจะเข้าเรียนอนุบาล3 ขวบได้แล้วแต่ผมยังไม่ได้บอกพี่หมอเลย
 พี่หมอมองหน้าผมคล้ายจะถามอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด……
 หลังจากมาถึงโรงพยาบาลพี่หมอก็พาผมกับหมูหันไปที่ห้องตรวจ คุณหมอประจำตัวของหมูหันเปลี่ยนเป็นหมอใหญ่ที่เชี่ยวชาญด้านนี้แทนพี่หมอ……หลังจากมองการตรวจร่างกายของหมูหันพี่หมอก็หันมาคุยกับผม
 “หอมน่าจะตรวจร่างกายตัวเองบ้างนะ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับแข็งแรงดี”
 “แต่อย่างน้อยก็น่าจะตรวจหน่อยนะ”
 “ไม่เป็นไรจริงๆครับ”
 พี่หมอพยักหน้าเบาๆ
 หลังจากตรวจร่างกายหมูหันเสร็จพี่หมอก็ยืนคุยแลกเปลี่ยนกับหมอใหญ่ ส่วนผมกับหมูหันกำลังเดินไปรอข้างนอกโรงพยาบาล
 “ร่างกายป๋มแข็งแรง”
 “ครับๆแข็งแรงมาก” ฟอดดดดด ผมก้มลงหอมแก้มตุ้ยนุ้ย
 หมูหันยิ้มหน้าบาน เดินจูงมือผมไปเรื่อยๆตามทางในโรงพยาบาล
 “แม่น่าจะนอนโรงพยาบาลสักหน่อย”
 “ฉันไม่ยอมนอนหรอกน่าเบื่อจะตาย…..แล้วลินดานี่จะไปเอายานานขนาดไหนเนี่ย” เสียงของผู้ที่กำลังเดินมาทำให้ผมหยุดชะงัก เสียงนี้จำได้…..เสียงของคนที่ผมไม่อยากจะได้ยินมากที่สุด ผมหลบสายตาพยายามจูงมือหมูหันเลี่ยง
 “อ้าว นี่แกเองเหรอไม่เจอกันนานนี่” น้ำเสียงคุณนายยังเหยียดผมเหมือนเดิม
 พี่คิงส์มองผมสายตาไม่ต่างจากคุณนาย
 ผมไม่ตอบอะไรแต่พยายามเลี่ยงไม่อยากคุย
 “เดี๋ยว…..” เธอมองไปที่หมูหันอย่างสงสัย ขมวดคิ้วมองพิจารณาบางอย่าง
 “ผมขอตัวครับ”
 หมับ!
 “จะไปไหน” พี่คิงส์จับแขนผมไว้
“ปล่อยผม”
“ไม่ปล่อย เจอหน้าฉันทำไมต้องหนี”
 “ผมไม่ได้หนีแค่ไม่อยากเจอหน้า”
 “ทำไม หน้าฉันมันเป็นอะไร……ไม่เจอกันนานคิดถึงฉันไหมล่ะ ฉันชักเบื่อพวกผู้หญิงมาสนุกกันรำลึกความหลังไหม”
 “ตาคิงส์เลิกทำแบบนี้สักทีแกคิดจะเอามันอีกหรือไง!” คุณนายไม่พอใจทำท่าจะมากระชากแขนผมให้ออกจากพี่คิงส์ทั้งๆที่ผมเป็นฝ่ายถูกจับ
 “ปล่อย!” ผมสะบัดแขนจนหลุดจากมือหนา แล้วรีบอุ้มหมูหันหนี แต่เขากลับยังไม่ปล่อยผมง่ายๆยังจับแขนผมไว้
 “นี่คุณ!”
 “เล่นตัวชะมัดถ้าเมื่อก่อนเป็นแบบนี้ไม่ทำตัวง่ายฉันคงไม่เบื่อหรอก”
 ผมเม้มปากแล้วใช้กำปั้นตบไปที่ใบหน้าของเขา แม้จะไม่โดนจังๆแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายเจ็บ
 “เลวที่สุด! คุณนี่มันเลวจริงๆ! นี่ผมลดตัวไปรักคุณได้ยังไงตั้งหลายปี ทั้งๆที่คุณมันชั่ว!”
 “กล้าทำร้ายฉันหรือฮะ!” เขาบีบคางผมแน่น ผมเจ็บแต่ก็ร้องไม่ออกและเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณนายแย่งหมูหันไปจากผม
 “หมูหัน!” ผมเรียกแต่ดูเหมือนหมูหันจะยังงงๆอยู่ คุณนายอุ้มหมูหันพลางใช้สายตามองใบหน้าอย่างละเอียดก่อนจะเบิกตากว้างเหมือนกับตกใจบางอย่าง
 “เอาลูกผมคืนมา!” ผมพยายามจะแกะมือที่บีบคางผมออก พยายามดิ้นสุดแรง
 “จะดิ้นไปถึงไหน น่ารำคาญ!”
 ตุบ!เขาผลักผมจนล้ม
 “คิดว่าฉันอยากจับนักหรือไง บังเอิญเจอกันก็อยากสนองให้บ้างเท่านั้นเพราะตอนที่จากกันเห็นนายร้องไห้แทบกราบเท้าฉัน แต่พอจะมอบความหวังดีให้ยังจะเล่นตัวอีก”
“ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น! เอาลูกผมคืนมา!” ผมลุกจะไปแย่งหมูหัน แต่กลับถูกพี่คิงส์ผลักจนล้มไปอีก
 “ลูกนายแม่ฉันไม่อยากได้หรอก…..แม่เอาลูกคืนเขาไป”
 คุณนายยังมองลูกผมไม่วางสายตา ไม่มีท่าทีจะปล่อยเหมือนกับว่าเริ่มรู้อะไรบางอย่าง
 หมูหันมองหน้าพี่คิงส์ก่อนจะเริ่มร้องไห้ เพราะคงเริ่มจำได้ว่าพี่คิงส์เคยตวาดและยิ่งร้องไห้หนักเมื่อมองผมที่ยังคงนั่งกับพื้นเพราะเจ็บข้อเท้า
 “แม่! แม่! ฮือๆๆ ฮึก…ก….” ทำมือเหมือนจะให้ผมอุ้ม
 “อุ้มๆ ฮึก..ก..อะ..อุ้ม”
 “หมูหัน” ผมพยายามลุกทั้งๆที่เจ็บข้อเท้า
 “คะ…คืนลูกมาให้ผม”
 “แม่คืนเด็กนี่ให้เขาไป”  พี่คิงส์เริ่มไม่สบอารมณ์หนักขึ้น หยิบบุหรี่มาดูดลวกๆ เหมือนพี่เขาไม่ชอบเสียงเด็กมากๆอารมณ์ถึงหงุดหงิดเต็มที
 “เดี๋ยวก่อนสิขอแม่ดูหน้าเด็กนี่ชัดๆอีกที”
 “แม่! แม่ฮับ! ฮึก..ก…ก” หมูหันพยายามดิ้น
 “เลิกร้องไห้สักที รำคาญ!”
 เขาตวาดลูกผมอีกแล้ว ผมรวบรวมแรงยื้อหมูหันออกมาจากคุณนาย
 “นี่แก! กล้าดียังไงมาผลักฉัน” คุณนายโวยวาย
 “คุณนั่นแหละมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับลูกของ…….” ไม่ทันที่ผมจะพูดจบร่างของผมก็ถูกพี่คิงส์ดึงแล้วเหวี่ยงลงพื้นอย่างจัง
ตุบ!
 อึก!
ดีที่ผมโอบหมูหันไว้จึงทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ผมกลับเจ็บจนลุกไม่ขึ้น เหมือนหัวจะมึนๆด้วย
“แม่! แม่! คนใจร้ายทำร้ายแม่! ฮือๆๆ ออกไปนะ” หมูหันร้องไห้สะอื้นพยายามปกป้องผมไว้
 ผมพยายามลุกขึ้นแต่เจ็บหัวมากๆ เหมือนเลือดจะออกด้วย สายตาพร่าเลือนมองไปที่ใบหน้าคนทำและใบหน้าคุณนาย พี่คิงส์ทำท่าจะมาช่วยผมแต่เสียงหนึ่งดังขึ้นเสียงก่อน
 “หอม!” พี่หมอตะโกนลั่นแล้วรีบวิ่งมาหาผมแล้วช้อนตัวผมขึ้น
 “เกิดอะไรขึ้น หอม!” เขารีบอุ้มผมทันที
 “ฮือๆ คุณลุง คนใจร้ายทำร้ายแม่” หมูหันกอดขาพี่หมอแน่นแล้วชี้ไปที่พี่คิงส์และคุณนาย
 “พวกคุณทำอะไรหอม!”
 “ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ” คุณนายเชิดหน้า
 พี่คิงส์ทำท่าจะตอบแต่พี่หมออุ้มผมไปก่อน
 พี่หมอคงอยากจะเข้าไปถามให้ชัดเจนแต่เพราะเลือดผมเริ่มออกมากขึ้น พี่หมอจึงรีบพาผมไปรักษาทันที ส่วนหมูหันก็วิ่งร้องไห้ตามมา


……………

 “วุ่นวายชิบ” คิงส์สบถ เขาหงุดหงิดและไม่ได้ตั้งใจให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ จะรีบไปช่วยแต่ก็ได้แต่ยืนอึ้งจนกระทั่งมีคนมาและนั่นเขาคงไม่จำเป็นอีกแล้ว…..
 “แม่ไปยุ่งกับเด็กนั่นทำไม”
 “แกไม่ได้สังเกตบ้างหรือไงว่าเด็กนั่นเหมือนแกตอนเด็กๆ ไม่ผิดเพี้ยน”
 คิงส์ถึงกับทำบุหรี่หล่นลงพื้น
 “ว่ายังไงนะครับ เหมือนผม”
 “ใช่…ถึงจะอ้วนกว่าแกเยอะไปหน่อยแต่ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็กๆ ฉันจำได้ดีเด็กนั่นเหมือนแกตอนเด็กมาก”
 คิงส์ขมวดคิ้ว…….คำพูดในตอนนั้นหวนกลับมาอีกครั้ง
ผมท้องครับพี่คิงส์
“ไม่มีทาง…ผมจะตรวจสอบเรื่องนี้เอง”
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-06-2017 00:48:13
โอ๊ยยย พระเอกเลวอะไรขนาดนี้เนี่ยะ เฮ้ออออ. เลวได้ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-06-2017 00:56:25
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 25-06-2017 01:23:49
ไม่โอเคกับความเ-ี้ย
นายเอกยังไงก็เป็นเพศชาย
ไปอัพกล้ามบ้างไรบ้างเถอะ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-06-2017 02:17:33
ไม่ไหวจริงๆนะถ้าจะให้คนแบบนี้เป็นพระเอก เป็นแค่คนทำให้หมูหันเกิดมาได้แค่นั้นพอ ชีวิตหอมไม่สมควรจะต้องมากลับไปกินของเหน่าของเสียแบบนี้อีก ปล่อยให้_ันและครอบครัวจมอยู่กับความโสมมต่อไปเถอะ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 25-06-2017 07:42:48
พระเอกแย่มาก
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-06-2017 08:32:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 25-06-2017 09:48:59
อีพี่คิง(ลี่?) ถ้าเอ็งจะเป็นคนที่มีความสาระ(เลว) ขนาดนี้ อย่าไปยุ่งกะหอมเลยเหอะ  :m31:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 25-06-2017 10:46:31
 :katai5: :katai5:เราจะเอาพี่หมอ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-06-2017 11:31:33
คิงส์ เ-ี้ย มากกกกกก
เลิกกับหอมแล้วยังทำร้ายร่างกายเขาอีก
นังคุณนาย ก็สันดานเลว ถูกผัวสวมเขาให้แล้ว
กับลูกสะใภ้ที่ยั่วยวนพ่อผัวตัวเอง คงหวังทรัพย์สินสินะ
เลวสุดๆทั้งครอบครัว

สงสัยบ้านคิงส์ลี่กับบ้านหอมอยู่โซนเดียวกันเลยไปรพ.เดียวกัน  :katai1:
งั้นคงเจอกันไปตลอดแหละ

หอม น่าไปแจ้งความนะ
ทั้งหมูหัน ทั้งตัวเองถูกขัดขวางเหนี่ยวรั้ง ถูกใช้กำลังโดยมิชอบ

เห็นด้วยกับ คห.ข้างบนบอกหอมอ่อนแอจริง
ไม่มีเรี่ยวแรง อะไรนิด อะไรหน่อยก็ล้ม นี่ขาก็แพลงอีก
ออกกำลังกายบ้าง จะได้แข็งแรง มีแรงปกป้องลูก

น่าสงสารหมอ รักหอมข้างเดียว
หมอดีกว่าคิงส์มากๆ หอมคบกับหมอเถอะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 25-06-2017 12:43:22
ครอบครัวตั่วเฮียสุดๆ


แค่คิดก็ขยะแขยงแล้ว
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 25-06-2017 15:29:21
ครอบครัวยอดแย่  อย่าให้หมูหันไปอยู่กับครอบครัวแบบนั้นนะ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 25-06-2017 18:09:57
เอาพี่คิงไปแล้ว ไม่ใช่จะเอาหมูหันไปอีกหรอกนะ
หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-06-2017 19:56:22
เวอร์ชั่นนี้หอมดูจะมีความกล้ามากกว่าเวอร์ชั่นก่อน มันเป็นเรื่องที่ดีนะ

แต่แบบ..ความเลวของครอบครัวคิงส์นี่ยังอยู่ครบเลย
พ่อผัวลูกสะใภ้เล่นชู้กันในบ้าน
แม่จอมเหยียดหยามไม่เห็นหัวคน
คิงส์นิสัยเ-ี้ยไม่เปลี่ยน  :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: ลูกรักของเเม่ *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 25-06-2017 20:24:35
เวอร์ชั่นนี้หอมดูจะมีความกล้ามากกว่าเวอร์ชั่นก่อน มันเป็นเรื่องที่ดีนะ

แต่แบบ..ความเลวของครอบครัวคิงส์นี่ยังอยู่ครบเลย
พ่อผัวลูกสะใภ้เล่นชู้กันในบ้าน
แม่จอมเหยียดหยามไม่เห็นหัวคน
คิงส์นิสัยเ-ี้ยไม่เปลี่ยน  :เฮ้อ:

เนื้อหาต่างกันนิดเดียวเองค่ะ 
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 25-06-2017 23:02:37
ดราม่าทุกทิศทางจริงๆ โอยยยยย พระเอกควรโดนจัดหนัก
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 26-06-2017 00:59:00
อย่าทำให้นายเอกปัญญาอ่อน  ขอแค่นี้คครับ  แล้วจะติดตามอ่านแบบยาวๆแน่ๆ  เพราะถ้านายเอกไม่ปัญญาอ่อนนิยายแนวนี้จะมันมากกกก
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 26-06-2017 14:23:36
คือครอบครัวนี่เลวทั้งหมดเลยสินะ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: pawara123 ที่ 26-06-2017 16:46:25
ขอจบแบบดราม่าเลย พระเอกชั่วแบบนร้ไม่เอานะ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 6 {25/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: MorethanMore ที่ 26-06-2017 17:38:59
พระเอกจริงหรอ คิงส์นี่พระเอกจิงหรอ หอมทำไมอ่อนแอจังวะ ทำไรเป็นบ้างปะ นอกจากร้องไห้ กับกอดขาผช ไม่ให้ทิ้งไปมีคนอื่น นี่ถามเลยจากใจ คือแบบ หอม เคยทำอะไรได้บ้างไหม จิตใจยังอ่อนแอ ร่างกายชั่งไม่ต้องพูดเลย
หัวข้อ: ตอนที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 26-06-2017 19:17:33
ปวดหัว…..คือความรู้สึกแรกที่ตื่นขึ้นมา…..สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าของพี่หมอและมือหนาที่กุมมือผมเอาไว้
“หอม!”
“พะ…พี่”
“เป็นยังไงบ้าง…..ปวดหัวหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้า
“ผมเป็น….อะไรเหรอครับ….แล้วที่นี่…..”
“ค่อยๆพูดก่อนเถอะ……ดื่มน้ำไหม”
ผมพยักหน้า  พี่หมอปรับเตียงให้ผมดื่มน้ำจากนั้นก็ปรับเตียงให้กลับสภาพเดิม
“ที่นี่โรงพยาบาล….หอมหลับไป2วันเต็มๆเลยนะ”
"เกิดอะไรขึ้นครับ”
“พี่ต้องถามหอมมากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงและผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”
ผมจับหัวตัวเองที่มีผ้าพันจนรอบ นึกออกแล้วพวกเขานั่นเอง
“หมูหันล่ะครับ!”  ผมรีบลุกขึ้นแต่ถูกพี่หมอกดตัวไว้
“อย่าเพิ่งลุกสิ หมูหันอยู่กับแม่ของหอมไปตลาดกัน เดี๋ยวคงจะมา”
 ผมถอนหายใจเมื่อนึกถึงคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้  “พวกเขา…..เป็นตัวซวยในอดีตของผมน่ะครับ…..สามีกับแม่สามี”
พี่หมออึ้งค้าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอารมณ์โกรธ
“แล้วพวกเขามาทำกับหอมแบบนี้เนี่ยนะ….ถ้าพี่ไม่ไปเห็นเขาจะทำร้ายหอมมากกว่านี้รู้ไหม แจ้งตำรวจดีกว่าพี่ว่า…”
“ช่างเถอะครับไม่อยากขึ้นศาลสู้คดีให้ยุ่งยาก”
“หอม….”
“ผมไม่อยากมีเวรมีกรรมกับพวกเขาครับ ไม่อยากยุ่งด้วยอีกแล้ว แต่ที่ผมห่วงคือลูกผมกลัวว่าพวกเขาจะพาหมูหันไป…”
 มือหนากุมมือผมแล้วบีบเบาๆ “พี่ไม่ยอมให้พวกนั้นเอาหมูหันไปเด็ดขาด”
 “ขอบคุณครับ…..”
 “หอม…..คือ…..”
 “ครับ?”
 พี่หมอมีสีหน้ากังวลเหมือนมีบางอย่างอยากจะบอกแต่แววตาและท่าทางกลับไม่อยากที่จะทำ คล้ายหากบอกผมจะกลัว….แม้แต่พี่หมอเองก็กลัวเช่นกัน
 “มีอะไรเหรอครับ”
 “ตอนที่หอมสลบพี่ขอให้หมอตรวจร่างกายหอมด้วย…..พี่ไม่อยากบอกเเต่หอมต้องรู้.....”พี่หมอกัดฟันแน่น
 “แล้ว…..”  ผมถามแต่อีกใจนึกหวั่นจนไม่กล้าฟังคำตอบ
 พี่หมอสูดหายใจแล้วกุมมือผมแน่นขึ้น  “อวัยวะภายในของหอมเริ่มเสื่อมลง”
 ผมนิ่ง น่าจะเรียกว่าอึ้งและงงในเวลาเดียวกัน
 “เพราะหอมแบกรับการท้องที่ผิดธรรมชาติทำให้อวัยวะภายในผิดเพี้ยนตาม โดยเฉพาะหัวใจที่ทำงานผิดปกติ”
 ผมกระพริบตาปริบๆคล้ายฟังเรื่องโกหก
“แต่หอมไม่ต้องกลัวนะ หมอที่นี่จะรักษาเต็มที่แต่จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป”
 “อวัยวะภายในเสื่อมลง….ไม่ใช่แค่หัวใจใช่ไหมครับ….ข้างในของผมมันกำลังจะตายใช่ไหม….” ผมถามเสียงสั่น
พี่หมอนิ่งก่อนจะพยักหน้า...เขาเองคล้ายผ่านการร้องไห้อย่างหนักเพราะนัยน์ตาเเดงช้ำ
"เเล้วเเม่กับพ่อผมรู้ไหมครับ"
 "รู้"
 ผมนอนมองเพดานหายใจลึกๆ....เนิ่นนานกว่าจะพูด....จุกจนเกินจะร้องไห้....ร้องไห้ไม่ออก
 “พี่บอกผมตั้งแต่แรกแล้วว่าคนที่ท้องแบบนี้ไม่มีใครรอด แต่ผมกับลูกรอด…….แค่ลูกผมมีชีวิตอยู่และผมได้รอดมาถึงตอนนี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ”
 “ทำไมพูดแบบนี้.....หอมต้องสู้ห้ามท้อ....หอมต้องอยู่กับพี่และทุกคนอีกหลายๆปี” พี่หมอเสียงสั่นจ้องตาผมไม่ลดละ จนผมต้องพยักหน้ารับ
 “แม่!” เสียงเรียกทำให้ผมและพี่หมอหันไปมอง
 “หอมฟื้นแล้วเหรอลูก” แม่กับหมูหันเข้ามาในห้อง มือเต็มไปด้วยถุงผลไม้และนม
 “ปวดหัวหรือเจ็บตรงไหนไหม” แม่วางของแล้วรีบมาหา
 “ไม่มีครับ”
 “แล้วเกิดอะไรขึ้นทำไมลูกบาดเจ็บ…ถามคุณหมอพิสุทธิ์ก็ไม่รู้”
 ผมมองไปที่พี่หมอก่อนจะเอ่ยกับแม่  “มีคนวิ่งชนน่ะครับแล้วผมก็เลยล้ม”
 พี่หมอจะขัดแต่พอเห็นสายตาผมก็ไม่ได้ขัดอะไร
 “เฮ้อ…จริงๆเลย” แม่ลูบหัวผมก่อนจะนำผลไม้ไปล้างเพื่อจะมาปอก
 “แม่ฮับ…”
 “ว่าไงหมูหัน”
 “แม่หลับนานมากเยยฮับ ขี้เจียด”
ผมยิ้ม  “ว่าแม่ขี้เกียจเหรอ เราไปจำคำนี้มาจากไหนฮึ”
“คุณจายสอนกั๊บ”
ผมมองหน้าลูกแล้วนึกถึงเรื่องที่พี่หมอบอก จิตใจของผมก็เริ่มห่อเหี่ยวขึ้นมา ผมคงไม่ได้เห็นหมูหันตอนโตเป็นหนุ่มแล้วสินะ ไม่เห็นอนาคตที่สดใสของลูก….ยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อแกได้มากนักเลย….น้ำตาผมจู่ๆก็ไหลออกมามันหวิวบอกไม่ถูก….แต่ก็รีบเช็ดเพื่อไม่ให้ลูกสงสัย
“หมูหัน….ลองพูดชัดๆให้แม่ฟังได้ไหม แม่อยากเห็นหนูโตไปอีก”
 “จั๊ดๆ”
‘….’
 “พูดเสร็จแย้วกั๊บ”
 “หึๆ” ผมยิ้มแล้วดึงแก้มยุ้ย  “กวนแม่นะครับ”
 …………………………………………………………….
จากนั้น2วันผมก็กลับบ้านได้ ส่วนหมูหันไปเรียนอนุบาลวันแรก พ่อผมไปส่งเพราะไปทางเดียวกับที่ทำงานพอดี ดูท่าทางหมูหันจะตื่นเต้นมากที่จะได้ไปโรงเรียน
 “ดีนะที่สมองไม่ได้รับกระทบกระเทือน” แม่พูดเมื่อเอาผ้าพันแผลออกปรากฎรอยแผลเป็นข้างๆหน้าผาก
 “ต่อไปเดินเลี่ยงๆคนหน่อยนะลูก”
 “ครับแม่”
 “เดี๋ยวแม่ไปหลังบ้านนะจะเก็บมะลิไปร้อยมาลัยเสียหน่อย”
 “ผมช่วยไหมครับ”
“ช่วยให้เสียดอกมะลิน่ะหรือ” แม่หัวเราะ เพราะเวลาผมช่วยทีไรดอกมะลิจะเสียหายทุกที......จากนั้นแม่ก็ไปหลังบ้านเพื่อร้อยมาลัยส่วนผมก็ได้แต่นั่งๆนอนๆจนกระทั่งมีเสียงรถยนต์จอดหน้าบ้านพร้อมกับเสียงกดกริ่ง ผมลุกออกไปดู เห็นใครบางคนยืนอยู่หน้ารั้ว
 “มาหา….”ผมไม่ทันจะพูดจบก็ต้องกลืนคำพูด
 “คุณมาที่นี่ทำไม”
 พี่คิงส์มองผมอย่างเดือดแค้น ในมือถือเอกสารบางอย่าง
 “ไม่อยากมานักหรอกแต่ฉันมีเรื่องจะพูดกับนาย”
 “ผมไม่มี ออกไปจากหน้าบ้านผม”
 “เปิดประตู”
 “ไม่ คุณจะเข้ามาทำไม”
 “ถ้าไม่เปิดฉันจะปีนเข้าไป”
 ประตูรั้วของผมเป็นแค่รั้วไม้เตี้ยๆ ไม่ยากที่เขาจะทำตามที่พูด ผมยังคงนิ่งจนกระทั่งเขาปีนเข้ามาจริงๆ
 “ออกไป! คุณจะเข้ามาทำไม”
 ฟึ่บ!
 เอกสารในมือพี่คิงส์เขวี้ยงมาที่หน้าของผมอย่างแรง
 “อ่านซะ! เอกสารพวกนี้มันบอกว่าเด็กนั่นเป็นลูกของฉัน!”
 ผมเบิกตากว้าง เขารู้!
 “ทำไมไม่บอกฉันว่าเด็กนั่นลูกของฉัน นายเอาเขามาทำไม คืนฉันมา!”
 “คืนเหรอ! เขาคือลูกของผม! ตอนแรกคุณไม่ใช่หรือไงที่ไม่ยอมรับว่าผมท้องแล้วคุณจะมาเรียกร้องอะไร!”
“ลูก? เหอะ! นี่นายคิดว่านายเป็นแม่เด็กนั่นหรือไง รู้ไว้นายมันแค่ที่ฝากท้องไม่ได้มีสายเลือดอะไรเกี่ยวข้องเลย  ทั้งไข่ก็ของผู้หญิงอื่น อสุจิมันก็ของฉัน มีอะไรบ้างที่เกี่ยวกับนาย!”
 ผมสะอึกเป็นจริงดังว่าไม่มีอะไรที่ผมเกี่ยวข้องกับหมูหันเลยเป็นแค่ที่ฝากท้องจริงๆแต่ถึงอย่างนั้นผมก็อุ้มท้องเขามาและเลี้ยงดูตลอด3ปี
 “ผมเป็นคนคลอดเขา….แต่คุณแค่พูดกับเขาถึง10คำยังไม่ถึงเลยนอกจากตวาดเขาตลอด นี่น่ะเหรอจะมาทวง”
 “เอาเด็กนั่นมา เอาลูกฉันมาก่อนที่ฉันจะโมโหไปมากกว่านี้”
 “ผมไม่ให้! คุณมันไม่มีสิทธิ์”
 “แต่ฉันเป็นพ่อมีสายเลือดเดียวกัน!”
 หมับ!
 เขาบีบแขนผม “เอาลูกฉันมา!”
 ผมแกะมือเขาออกแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย   “ไม่ให้! อย่ามาหน้าด้าน”
เพี๊ยะ!
 เขาตบผมและเหวี่ยงผมจนล้ม
 อึก!
 “เจ็บ” ผมจับแขนตัวเองที่รองรับน้ำหนักทั้งตัวผมเอาไว้
 ผมหยิบก้อนหินขนาดพอมือจากพื้นดิน  “เข้ามาสิอย่าหาว่าไม่เตือนคุณเข้ามาในบ้านผม ผมมีสิทธิ์อ้างป้องกันตัวได้”
 “หึ อย่างนายหรือจะกล้า”
 “ลองไหมล่ะ”
 เขาเดินเข้ามาใกล้ผมอีก
แทนที่ผมจะขว้างแต่กลับถอยห่าง
“ขว้างสิ ปากดีนัก”
ผมเม้มปากแน่นอยากจะขว้างแต่ก็ไม่อยากมีเรื่องราวใหญ่โตถ้าเขาตายขึ้นมาผมก็ซวยสิ
“ขว้างสิกล้าไหมล่ะ”
“ฮึ่ย!” ผมทำตามที่เรียกร้องขว้างหินไปตรงหน้าแต่เขากลับหลบและคว้าแขนผมไว้
ผมใช้อีกมือที่ว่างตบแบบกำหมัดไปที่หน้าเขาอย่างจัง
“มึง!”
คางถูกบีบ
“อยากสลบอีกใช่ไหม!”
“เกิดอะไรขึ้น!” เสียงแม่ดังขึ้นแล้วรีบวิ่งมาทางนี้
“เธอคือ...หอม! ปล่อยหอมนะปล่อย!” แม่รีบยื้อเขาก็ปล่อยผมโดยดี
“เธอมาที่นี่ทำไม ออกไป!” แม่ตวาดลั่นแล้วมายืนข้างหน้าผม
“เธอทำร้ายหอมทำไม! ยังทำร้ายกันไม่พออีกหรือไง!”
“ผมก็ไม่อยากมานักหรอกแต่เอกสารนั่นมันบอกว่าเด็กนั่นมันลูกผม ผมจะเอาลูกคืน”
“ลูกคืนเหรอ”
 เพี๊ยะ!
 แม่ตบใบหน้าพี่คิงส์อย่างจัง
 “ยังจะมีหน้าพูดได้อีกเหรอว่าขอลูกคืน วันที่หอมบอกเธอว่าท้องเธอทำอะไร! เธอไล่หอมยังกับหมูกับหมาแล้ววันนี้จะมาขอลูกเหรอ! กลับไปก่อนที่ฉันจะโทรแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกและทำร้ายร่างกาย”
 พี่คิงส์ยังนิ่ง
“ไม่ไปใช่ไหม” แม่เดินเข้าไปในบ้านก่อนจะรีบเดินออกมาพร้อมกับมีด
 “จะไปไม่ไป อยากตายก็เข้ามา!”
เขาดูอึ้งนิดๆคงไม่เคยเห็นแม่เป็นแบบนี้เพราะปกติแม่จะเป็นคนใจดียิ้มแย้มแต่ครั้งนี้แม่โกรธมากจริงๆ มือไม้สั่นไปหมด
 “ฉันขอสู้ตายถ้าเธอยังก้าวเข้ามา!” น้ำเสียงและแววตาแม่เอาจริงอย่างมาก
 พี่คิงส์สบถ
 “แล้วจะมาใหม่…ที่ไปไม่ใช่กลัว แต่แค่อยากให้เอาไปคิดคนที่ไม่มีสายเลือดเกี่ยวข้องอย่างพวกคุณ ไม่ควรที่จะเลี้ยงลูกของคนอื่น….แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” ประโยคสุดท้ายสายตาส่งมาทางผม จากนั้นเขาก็ขับรถออกไป
 ผมหอบหายใจแรงเพราะเริ่มรู้สึกว่าจะหายใจไม่ทัน ทั้งยังเจ็บที่หัวใจอีก ผมทรุดฮวบ
 “หอม! เป็นอะไรลูก” แม่ถามเสียงสั่นเข้ามากอด
 ผมส่ายหน้าจับตรงหัวใจ สูดหายใจลึกๆ ทั้งยังปวดหัว ปวดท้องไปหมด น้ำตามันไหลออกมาเองไม่ได้ร้องไห้เพราะเจ็บที่ร่างกาย แต่เจ็บใจ โมโห ที่ไม่สามารถทำอะไรได้
 “ฮึก..ก..ก  ผมจะไม่ยอม…..ไม่ยอมให้คนเลวๆแบบนั้นเข้าใกล้ลูกอีก เขาไม่มีสิทธิ์เเม้แต่จะเรียกตัวเองว่าพ่อ....ไม่สิทธิ์…”



+++++++++++++++++++++++++++
นิยายเราขัดใจยังไงก็ขออภัยด้วยนะ  :mew2:
เเนวพระเอกเลวๆ นายเอกอ่อนด๋อย คือเราชอบอ่ะเนอะ :katai5:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-06-2017 19:29:39
สงสารหอมจัง เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-06-2017 19:49:09
 :pig4:  รอวันกรรมนั้นคืนสนอง

ตั้งแต่อ่านนิยายมา ไม่เคยมีเรื่องไหนที่อยากให้นายเอกได้กับพระรองเท่าเรื่องนี้มาก่อนเลย
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-06-2017 19:54:24
คิงส์ลี่ ทุเรศมาก ใช้กำลังกับหอมตลอด

ตอนนี้มีหน้ามาเอาลูก เลี้ยงก็ไม่ได้เลี้ยง

ก่อนหน้านี้ไม่เชื่อ แถมไล่ แล้วขับรถจะชนด้วย เลวโคตรๆ

น่าจะมีหนทางรักษาหอม ช่วยหอม และจัดการไอ้ตัวซวย  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 26-06-2017 20:10:33
ขอให้หอมหายจากโรคต่างๆขอให้ร่างกายแข็งแรงอยู่ไปนานๆ :mew6: :mew6:ขอให้คิงส์หายจากโลก :call: :call:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 26-06-2017 20:43:09
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 26-06-2017 21:08:39
 :katai1:  ขัดใจกับคำว่าพระเอก  คือ ถ้าคุณวางพล๊อตขนาดนี้  บอกตามตรงว่ามันยากนะที่คุณจะหาทางลงให้พระเอกที่เลวขนาดนี้ 

จะเรียกว่าเลวยังคิดเลยว่าควรจะใช้คำว่าเดนมนุษย์แทนดีมั้ย   

ก็อย่างว่าแหละนะ พล็อตอมตะ  แต่.....  แต่อย่าลืมว่าอะไรที่เกินพอดีไปคนอ่านก็รับไม่ได้เช่นกัน

ติดตามจ๊ะ  จะรอดูว่าเดนมนุษย์ที่สันดานเหมือนตัวที่แย่งมาเกิดจะมีจุดจบยังไง จะได้รับบทเรียนมั้ยจะสมกับสิ่งที่เคยทำรึเปล่า

ปล.เอาใจช่วยคนเขียนนะ  พล๊อตกับนิสัยตัวละครมันกดดันคนเขียนในตัวเอง สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-06-2017 21:28:13
อย่าเรียกคิงว่าพระเอกเลย เสียชื่อพระเอกหมด :z6:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: pawara123 ที่ 26-06-2017 21:39:13
ขอให้เรื่องนี้ไม่มีพระเอก อินจัด
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 26-06-2017 21:53:53
ชีวิตรันทดไปอีก อีตาคิงนี่ก็เกินจะบรรยาย เหอๆๆๆๆ ปลดลงมาค่ะ ตำแหน่งตัวประกอบยังรู้สึกว่าให้คุณค่ามากไปเลย
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-06-2017 22:57:12
นี่มันจะเลวเกินไปไหมเนี่ย!
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 27-06-2017 01:50:37
ยัง ยัง ยังไม่สำนึก อย่าอ้างความเป็นพ่อเลย สำนึกความเป็นคนยังติดลบเลย  อย่าอ้างการเลี้ยงดู เพราะมีตัวอย่างครอบครัวที่ดีให้เห็นยังไม่ทำความเข้าใจเลย เราว่าครอบครัวหอมใช้ได้เลย ตัวเองคบกันมาห้าปีต้องรู้จักครอบครัวนี้บ้างแหละ ไม่หน้าชื่อคิงส์เลย ความหมายมันดีงามเกินไป
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 27-06-2017 10:47:20
อ้างสิทธิ์ทางกฏหมายไม่ได้เลยค่ะดอกทองคิงส์ ลูกเป็นสิทธ์ของแม่ ฟ้องยังไงมันก็ไม่ได้ลูกหรอก ละเลยลูกทั้งๆที่หอมก็บอกแล้ว ไม่ส่งเสีย เลี้ยงดู สืบดีๆก็ประวัติชู้ นอกใจ ประสาท หอมใกล้ตายแล้วใช่ป่ะ ดูปูๆเรื่องมาทางนี้
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 27-06-2017 12:30:55
ประเด็น คือ เด็กไม่มีเลือดของหอมเลยครับ.
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 7 {26/06/60}
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 27-06-2017 13:43:59
เหนื่อยกับไอ้พระรองคนนี้จริงๆ  จะรอวันที่มันตกอับ  เลวยันเล็บขบตระกูลนี้
หัวข้อ: ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 02-07-2017 13:24:18
“จะทำยังไงดีครับ….หมูหัน…เขาจะมาเอาหมูหันไป….” ผมพูดเสียงสั่น กลัวไปหมด….ใจไม่อยู่กับตัวกลัวว่าตอนนี้เขาอาจจะพาหมูหันตอนที่อยู่โรงเรียนไปแล้ว
 “หอม…อย่าคิดมากสิลูกไม่ดีต่อร่างกายลูกเลยนะ….”แม่เองก็กังวลไม่ต่างกันแต่แววตาบ่งบอกว่าเป็นห่วงผมมากกว่าเรื่องอื่นๆ
 “ผมไม่เป็นไรครับ….ผมจะไม่ยอมเป็นอะไรทั้งนั้น....ผมจะปกป้องลูก”
เสียงรถยนต์ของพ่อดังขึ้น ผมรีบไปรอรับหมูหันกับพ่อ
“แม่!”
ผมรีบรับกอดลูก
“สนุกมากเยยกั๊บ เพื่อนๆเยอะเยย”
ผมหอมฟอดใหญ่รู้สึกโล่งที่เห็นลูกกลับมา“ครับๆเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ แล้วแม่จะเอาขนมให้กิน”
“กั๊บป๋ม”
 แม่กับพ่อเดินไปอีกทางแม่คงจะบอกเรื่องในวันนี้
 ผมพาหมูหันไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เจ้าตัวก็ไม่ได้อยู่เฉยๆวิ่งเล่นไปทั่วห้อง
 “แม่ฮับ กล่องไรกั๊บ” หมูหันหยิบกล่องที่อยู่ใต้เตียงออกมา
 แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเพราะกำลังหาเสื้อผ้าอยู่
 “แฝน!” หมูหันพูดขึ้นแล้วชูแหวนให้ผมดู แหวนวงนี้คือ...
 “เก็บ! เก็บเดี๋ยวนี้เลยนะหมูหัน”
 “ไม่เอา ป๋มจ๊อบ แฝนสวยๆ”
 “เอามาให้แม่…”
 “ไม่…”
 “แม่นับ 1-3 ถ้าไม่ให้แม่จะตี”
 “ฮึก..ก..แต่ป๋มจ๊อบ”
 “เอามา แม่จะเอาไปทิ้ง”
 “ไม่ให้ ฮึก..ก..แม่จะทิ้งทำไม”
“1…”
หมูหันสะอื้นหนัก ยังไม่ยอมปล่อย
“2…”
ยังไม่ยอมปล่อย ยังคงกำแหวนที่พี่คิงส์ให้ผมในอดีตแน่น…ผมโมโหมากที่ลูกถือมันเอาไว้….มันไม่มีค่าที่ลูกผมจะไปแตะต้อง
“3…”
ผมหยิบไม้แขวนเสื้อออกมา ปกติผมไม่เคยตีลูกแบบนี้จะใช้แค่มือตีและไม่ตีจนเจ็บแต่วันนี้ผมโกรธ! เพราะไม่เชื่อฟังและยังไปยุ่งเกี่ยวกับแหวนที่ผมลืมมันไปแล้ว
“ฮึกๆ..ๆ..”
“คืนแม่มา”
“ไม่! ฮือๆๆ แม่ใจร้าย….ผมจ๊อบอันนี้ ฮึก..ก…”
“ห้ามชอบ! ห้ามยุ่งเกี่ยวกับมัน!”  ผมแย่งแหวนจากลูก หมูหันยังคงร้องไห้โฮแล้วลงไปดิ้นกับพื้น
“เอาคืนป๋มมา ฮือๆๆ”
ผมหยิบแหวนแล้วขว้างออกไปนอกหน้าต่าง
“อย่าให้แม่เห็นอีกว่าหยิบมันมา” ผมหยิบกล่องที่หมูหันเอามาจากใต้เตียงเพื่อที่จะนำไปทิ้งถังขยะ
“ใจร้าย! คนใจร้าย!”
“เพี๊ยะ” ผมใช้ไม้แขวนเสื้อตีขา หมูหันร้องไห้โฮ
ผมเองก็ร้องไห้เช่นกัน  “แม่ตีเพราะแม่ไม่ชอบ….แล้วคนใจร้ายไม่ใช่แม่แต่เป็นเจ้าของแหวนนั่น….”
“ฮึกๆ ป๋มเกลียดแม่!” หมูหันรีบวิ่งไปข้างล่าง
ผมได้แต่ทรุดฮวบกอดเข่าร้องไห้ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้ลูกเจ็บและร้องไห้แต่ผมไม่มีทางเลือก….ผมรีบนำกล่องเน่าๆนี่ไปทิ้งขยะทันที….
“หอม…”แม่เดินมาหาผมเมื่อผมเดินลงมายังชั้นล่าง
“ลูกตีหมูหันเหรอ…”
“ครับ..”
“ทำไมล่ะลูก ดูสิขาเป็นรอยเชียวเพราะอะไร”
“เขาไม่เชื่อฟังผม…..เอาแหวนของเขาคนนั้นไปเล่น”
“ป๋มจ๊อบ แม่ใจร้าย!”
“ใช่แม่ใจร้ายมากแต่แม่ทำเพื่อลูกนะ”
“ไม่ใช่! แม่ใจร้ายป๋มจะไปหาป้อ ป๋มอยากมีป้อป๋มไม่อยากมีแม่เเล้ว ป้อไม่ใจร้ายแบบนี้แน่ๆ ฮือๆๆ….”คำพูดของหมูหันทำให้ผมได้แต่ยืนนิ่ง เขาไม่ต้องการผมแต่ต้องการพ่องั้นเหรอ
“ต้องการ…พ่อ….อึก” ผมเจ็บปวดที่หัวใจไม่รู้เพราะอาการของโรคหรือเพราะคำพูด
“หอม! เป็นยังไงบ้าง” แม่รีบพยุงผมไปที่เก้าอี้
“หายใจลึกๆนะลูก......หมูหันขอโทษแม่เขาเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่!” พูดจบเจ้าตัวก็รีบวิ่งไปหาพ่อที่ห้องทำงานทันที
“เฮ้อ….” แม่ถอนหายใจ  “ลูกต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะหอมหมูหันยังเด็กไม่รู้เรื่องหรอก”
ผมก้มหน้าเหนื่อย…เพราะเขาคนนั้นคนเดียว..!
 ตอนกลางคืนผมก็ไปทำงานไม่ฟังคำคัดค้านของพ่อกับแม่ รั้นจะมาทำ…ตอนแรกผู้จัดการก็บ่นว่าขาดงานไปโดยไม่บอก แต่ผมก็ให้ใบรับรองแพทย์ไปจึงเงียบ
 ผมได้แต่ถอนหายใจยังไม่คืนดีกับหมูหันเลย……มองโทรศัพท์มีรูปลูกอยู่ อยากโทรไปคุยแต่ไม่กล้า
RrrrRRR
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น…..ผมรับสายเพราะตอนนี้ไม่มีลูกค้า ส่วนพนักงานคนอื่นไม่ต้องพูดถึงไปจับกลุ่มคุยกันในห้องพักแล้ว
“ครับพี่ฝน”
“หอมสะดวกคุยไหมจ้ะ”
“ครับ”
“….คือว่านะตอนกลางวันมีผู้ชายมาถามถึงหอมน่ะ”
“ผู้ชาย?”
“ใช่จ้ะ สูงมาก มีหนวด หล่อแบบดิบๆน่ะจ้ะ…..เอ่อ…แฮ่ม…ไม่ใช่ว่าพี่ชอบเขาหรอกนะ…..แต่เขามาถามหาหอมน่ะพี่เลยบอกว่าหอมทำงานกะกลางคืน ตอนนี้บางที…..”
ผมเงยหน้ามองเมื่อเสียงต้อนรับอัตโนมัติดังขึ้นและประตูเปิดออก
“……เขาอาจจะไปหาหอมก็ได้นะ”
ผมวางสายโทรศัพท์เมื่อคนที่เข้ามาคือ….
“มานี่!” เขากระชากแขนผมแล้วรีบพาไปขึ้นรถที่จอดอยู่ คนที่เห็นเหตุการณ์จะเข้ามาช่วยแต่พี่คิงส์ตะโกนบอกไปว่าเรื่องผัวเมียกันอย่ายุ่ง
“ช่วย….อุบ!”  ผมถูกปิดปากแล้วถูกผลักขึ้นรถ จะหนีแต่ประตูกลับถูกล็อคเอาไว้ และรถยนต์ก็เคลื่อนที่ออกไปทันที
“คุณจะทำอะไร จะพาผมไปไหน!”
“ฆ่าทิ้ง”
ผมนิ่งอึ้ง “วะ…ว่าไงนะ” ผมรีบกดโทรศัพท์แต่กลับถูกแย่งและขว้างไปเบาะหลัง
“คุณทำบ้าอะไร ปล่อยผมลง!”
 เขาไม่ตอบแต่ยังขับไปเรื่อยๆ
ผมพยายามจะลงแต่ประตูล็อค
“กลัวมากหรือไง แค่ตายจะกลัวอะไร”
“สกปรก! อยากได้หมูหันจนต้องฆ่าผมเลยหรือไง…ไม่มีปัญญามีลูกเองหรือไงเมียก็มี...หรืออสุจิเน่าๆของคุณมันไม่ทำงานแล้ว”
“หุบปาก!” มือที่ว่างของเขาบีบปากผมแน่น “อย่าให้กูโกรธอยากตายไวหรือไง”
“ตายเหรอ!” ผมแกะมือเขาออก "คุณคิดว่าผมจะตายคนเดียวหรือไง ถ้าอยากฆ่าผมก็ตายไปพร้อมกันเนี่ยแหละ!”
“จะทำ….เฮ๊ย!”
ผมแย่งจับพวงมาลัย
“หยุด!”
“อยากฆ่ากันนักใช่ไหมมาตายพร้อมกันดีกว่า”
“หยุด!”
เอี๊ยดดด
เสียงเบรกดังสนั่นถนน ดีที่ถนนโล่งจึงไม่มีรถขับตามมา…......ผมถอนหายใจรีบสำรวจตัวเองไม่มีอะไรเสียหาย จับหัวใจตัวเองดีที่ผมไม่ช็อคจนตายอาจเพราะผมเตรียมใจจะตายก็ได้
“มึง!”
“อึก!”
มือหนาบีบคอผม
“รู้ไหมกูเกือบตาย!”
“อึก!”  ผมพยายามแกะมือออกแต่แรงมันค่อยๆหายไป ผมไม่มีแรงจะยื้อเเล้วนี่เขาคิดจะฆ่าผมจริงๆเหรอ…เพราะผมมันบ้าเองที่เคยไปรัก….น้ำตาผมไหล…เจ็บใจที่ไปรักแล้วก็เจ็บเอง
เขาอึ้งเมื่อเห็นผมร้องไห้…..แววตาของเขาคล้ายมีผมสะท้อนในส่วนลึก…..แววตาเหมือนกับตอนที่ยังรักกัน….มือค่อยๆคลายคอผม….ใบหน้าของเราสองคนอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เซนก่อนจะลดระดับจนริมฝีปากแนบชิดกัน
ทำไมล่ะ….ทำไมถึงจูบผม….แล้วทำไมผมถึงยอมให้จูบ ริมฝีปากแค่ประทับเบาๆก่อนจะรุกล้ำ
“อึก!” ผมเจ็บเมื่อปากถูกกัด
เบาะถูกปรับจากนั่งเป็นนอน
“อื้อ!” ผมพยายามดันออกแต่มือกลับถูกจับประสานไว้ด้านบน ถูกจับเพียงมือหนามือเดียวผมก็ไม่สามารถดิ้นได้แล้ว
มือหนาของเขาอีกข้างสัมผัสยอดอก ผมพยายามจะดิ้นแต่ลมหายใจเริ่มหมดเพราะถูกแย่งอากาศ
“แฮ่กๆๆๆ” ผมหอบฮักเมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“ทำ…ทำบ้าอะไร”
 “นานๆทีมาระลึกความหลังหน่อยดีกว่า เห็นมึง กูก็อารมณ์พลุ่งพล่าน…..เมื่อก่อนกูขยะแขยง….แต่ทำไมพอเห็นใบหน้าของมึงใกล้ๆกูกลับอยากขึ้นมา….”
“ชั่ว! อยากไปคนเดียวเถอะ!” ผมลุกขึ้นแต่กลับถูกผลักไปอีก
“อย่าเล่นตัวให้มาก! กูรู้มึงยังอยากได้กูอยู่”
“ใครมันจะอยากได้ของไร้น้ำยา!....”
“อุก!” ผมถูกต่อยท้องจนตัวงอ
“แล้วจะได้รู้ว่ากูมีน้ำยาหรือไม่”
กางเกงผมถูกถอดออก ผมพยายามผลักแต่ก็ถูกต่อยซ้ำ ช่องทางข้างหลังมีบางอย่างจ่ออยู่…..ไม่!....ผมไม่อยากมีอะไรแบบนี้อีกแล้ว….ผมไม่ต้องการ
 “ไม่!!”
สวบบบบ
ผมอ้าปากค้าง  ทั้งเจ็บทั้งจุก เพราะจู่ๆก็ใส่เข้ามาทั้งที่ไม่มีตัวช่วย
“แน่นชะมัด” อีกฝ่ายกัดฟันพูด
“เจ็บ! ช่วยด้วย! ไม่เอา  อ๊ากกกกก”
เขาขยับเข้าออก…ไม่ฟังเสียงของผม….ทั้งยังกระแทกจนตัวผมสั่นและจุกจนร้องไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหล….
“แน่นดีนะกูชอบซะแล้วสิ…มึงชอบไหม”  เขาก้มลงถามผม  ผมได้แต่หลับตากัดฟันแน่น
“อ๊า!” ผมร้องลั่น เมื่อเขากระแทกอย่างแรง
“ตอบ!”
“ขะ….ขยะแขยง!  เอาออกไปไอ้สกปรก!”
 “อ๊ากกกก” ผมร้องลั่นเมื่อเขาจับขาผมแยกทั้งสองข้างแล้วรัวกระแทกไม่ยั้ง
 “ปากดีนักใช่ไหม จะให้ร้องครางไม่ออกเลย”
 “เจ็บ!“
 เสียงน้ำบางอย่างดังทุกครั้งที่ร่างกายผมถูกสอดใส่นั่นคงเป็นเลือด…..
 “ฮึก..ก…ก…”
 “ชอบจนร้องไห้หรือไง แฮ่กๆ..ๆ…”
 “กูเกลียดมึง ไอ้สารเลว!!”
 “เพี๊ยะ!” เขาตบหน้าผมอย่างแรง
 “คิดว่ากูชอบมึงหรือไงอีกระเทยที่กูเอามึงเนี่ยเพราะทำทาน….”
เขายังกระแทก….กระแทก…ก่อนจะปลดปล่อยเข้ามาในตัวผม….แต่ก็ยังไม่จบแค่นั้นเมื่อร่างกายผมยังคงสะท้านอยู่เพราะแรงกระแทกที่ไม่ลดละ ผมหลับตากัดฟันกรอด……ก่อนที่สมองผมจะเบลอและสลบไป
 ………………………………………………………………………..
 Part kings
 หลังจากที่ผมปลดปล่อยไปถึง 3 ครั้ง ผมก็ทรุดฮวบกับร่างที่นอนอยู่ มันสลบไปแล้วตอนไหนผมไม่รู้เพราะกำลังมีความสุข
 ทำไมผมถึงทำแบบนี้ผมเองก็ไม่เข้าใจตั้งใจจะแค่ลากมาทำให้กลัวเฉยๆเลยขู่ว่าจะฆ่า….แต่พอเห็นใบหน้าที่ร้องไห้แบบนั้นใกล้ๆ หัวใจผมกลับสั่น…รู้ตัวอีกทีผมก็ทำลงไปแล้ว…..ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมไม่สามารถที่จะมีsexกับมันได้แต่ทำไมครั้งนี้ผมถึงทำไป….มองใบหน้าซีดเซียวใกล้ๆ มีหยาดน้ำตาที่ไหลเพราะความเจ็บ
 ผมรีบลุกแล้วดึงแก่นกายออกเพราะผมจำได้ว่าตอนที่สอดเข้าไปมีเลือดไหล!
 ผมมองเลือดที่ไหลออกมาจากช่วงล่างของมันไม่หยุด….เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในตอนที่เรามีsexกันครั้งแรก ตอนนั้นมันเองก็เจ็บแต่กลับไม่ยอมให้ผมถอนออกแต่ครั้งนี้มันกลับให้ผมเอาออกไป
 ผมรีบใช้ทิชชู่เช็ดแก่นกายตัวเองแล้วรูดซิบกางเกง พิงตัวกับเบาะไม่รู้จะทำยังไงต่อไป…ทำไมถึงได้ทำอะไรบ้าๆแบบนี้…..ควรตัดขาดแต่ทำไมกลับพยายามต่อมันอีก
 “อือ….”
 ผมรีบหันไปมองแล้วช้อนตัวมันขึ้นมา
 ผมทำเกินไปใช่ไหม…..เลือดไหลออกขนาดนี้….มือผมสั่นไปหมดควรทำยังไง ผมเป็นห่วงทำไม…..จะทิ้งกลางทางก็ได้แต่ผมกลับกอดแน่น
 “พี่คิงส์….”
 ผมอึ้งอยู่นาน…ความรู้สึกนี้หัวใจผมคล้ายถูกเปิดออก….มันหวิวเหมือนกับคำพูดนี้มันทำลายกำแพงหัวใจผม….นานเท่าไรแล้วที่ผมไม่ได้ยินคำพูดนี้….....
 
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 8 {2/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 02-07-2017 14:00:28
 :m31: โอ๊ย อีคิงลี่ อีสารเลวเอ๊ย ถ้าคนเกลียดกันเค้าทำกันแบบนี้
สรรหาคำด่าไม่ถูกเลยเจงๆ  :beat:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 8 {2/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 02-07-2017 14:51:25
พระเอก คือ เพลียจิต
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 8 {2/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-07-2017 16:17:20
ไม่คำจะบรรยายความเลวพระเอก เลวเกินคน
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 8 {2/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-07-2017 16:25:03
เอือม หน่ายกับคิงส์ ไม่เคยทำดีกับหอมเลย
เอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง แถมปากหมาเน่าอีก
ไม่อยาก แต่กระแทกเข้าตัวหอม บอกว่าทำทาน
อย่างนี้น่าตัด ค-ย ทิ้งแล้วเหวี่ยงให้หมากินซะเลย
หอมไม่ได้บอกหรือทำท่าอยากได้ตัวเองซะหน่อย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 8 {2/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 02-07-2017 23:09:41
ทำร้ายน้องทำไมมมมมม
แค่นี้น้องก้ทรมานจะแย่แล้ว
หัวข้อ: ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 10-07-2017 19:24:38
Part Kings
มองใบหน้าซีดเผือดที่นอนหลับบนเตียง ผมนั่งทรุดตัวอยู่ข้างๆ…..ผมทำบ้าอะไรไป ทำไมต้องข่มขืนด้วย…ทั้งๆที่แก่นกายไม่ควรตั้ง แต่มันกลับผงาดสู้เสียอย่างนั้น….และตอนนี้ผมก็พาหอมมาที่คอนโดห้องเดิมที่หอมเคยอยู่
 นานเท่าไรแล้วที่ผมไม่ได้เห็นใบหน้ายามหลับแบบนี้ แม้แต่ตอนที่อยู่ด้วยกันก็นานครั้งที่ผมจะได้เห็น เพราะผมมักกลับดึก กลับมาก็ดื่มเหล้าไม่รู้สติ ตื่นขึ้นมาหอมก็ทำกับข้าวให้แล้ว
 แพขนตาไหวเล็กน้อย ผมผงะออกกลัวหากอีกฝ่ายตื่นแต่ก็ยังเงียบ
 “ตัวร้อนชะมัด…ชิส์!”  ผมอังหน้าผากคนที่ยังนอนแล้วรีบลุกเดินไปมาเหมือนงงทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้  แต่ทำไมใจต้องเต้นแรงด้วย…..ผมอายอะไรเห็นหมดทุกอย่างแล้วนี่แถมไม่มีความรู้สึกกับผู้ชายแต่ทำไม…..
 “โถ่เว้ย!” ผมลุกเดินลูบใบหน้าตัวเองอย่างแรง
 “เป็นเชี่ยไรวะไอ้คิงส์”
 rrrRrrr
 โทรศัพท์ผมดังขึ้น แค่ชื่อที่ปรากฏผมก็ไม่อยากที่จะรับแล้วแต่ถ้าไม่รับก็ยังรังควานไม่เลิก
 “มีอะไร”
 “พี่คิงส์ทำไมไม่กลับบ้านเลยคะเมื่อวานก็ไม่กลับ นี่มันสายแล้วนะไปอยู่กับใครอีก” ผมเบื่อจริงๆไม่อยากได้ยินเสียงเธอเลยสักนิด
 “มันก็เรื่องของฉัน”
 “พี่คิงส์หวังว่าจะไม่ได้อยู่กับเมียเก่าหรอกนะคะ”
 ผมชะงัก
“เธอพูดอะไร”
 “ก็คุณแม่บอกลินดาว่าเมียเก่าคุณมีลูก! คุณจะเอามันเข้าบ้านเหรอคะ”
 “ฉันจะทำยังไงมันก็เรื่องของฉัน”
 “พี่คิงส์...อือ….ลินดา…..” เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากปลายสาย
 “นั่นใครน่ะ”
 “คะ…คะ….”
 “นั่นเสียงใคร….เธออยู่กับใคร”
 “ปะ….เปล่าค่ะ….ก็ต้องอยู่คนเดียวสิคะ”
 ปลายสายมีพิรุธอย่างชัดเจนแต่ผมเบื่อที่จะถาม
 “วันนี้ฉันจะยังไม่กลับบ้าน”
 “แล้วพี่จะกลับ….”
 ติ๊ด
 ผมกดวางสายเบื่อเสียงเธอ เบื่อทุกอย่างที่เป็นเธอ ไม่รู้ทำไมตอนคบกันเป็นแฟนผมถึงไม่เคยเบื่อแต่พอแต่งงานกันกลับเบื่อซะงั้นแล้วที่แอบคบกันมาจะทำไปเพื่ออะไร
 “หมูหัน….” เสียงครางทำให้ผมหยุดนิ่ง “……หมูหัน….อย่าเอาหมูหันไป….ฮึก..ก….”
 ผมยืนมองอีกฝ่ายแล้วได้แต่ถอนหายใจผมควรจะทำยังไงต่อไป….ผมเอามือทาบหัวใจตัวเองทียังคงเต้นแรงผิดปกติเหมือนตอนที่มีอะไรกันเมื่อคืน รสสัมผัสทุกอย่างไม่จางหายไปสักนิด
 “หรือว่าเราจะยัง……”
ผมสะบัดหัวเอาความคิดออกแม้ความคิดนี้จะไม่จางหายไปเลย…….รีบเช็ดตัวให้อีกฝ่ายพยายามระงับหัวใจตนเอง…..เบื้องล่างเลือดออกมากแต่เริ่มแห้งกรังติดต้นขา ผมกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้สาเหตุแต่ที่แน่ๆคือโกรธตัวเอง
“อึก…เจ็บ…”
“ทนหน่อยนะ”
ค่อยๆเช็ดอย่างเบามือจนสะอาด  หาเสื้อให้ใส่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวของผม เพราะตัวเสื้อยาวมากทำให้ไม่ต้องใส่กางเกงเพราะถึงแม้จะใส่กางเกงก็คงไม่มีไซส์เล็กเท่าร่างคนนอนได้
“หมูหัน…..”
“เด็กนั่นชื่อหมูหันสินะ…..” ผมเกลี่ยผมที่ปกปิดใบหน้าอีกฝ่าย
 “หมูหัน…หึ….”ผมรีบเดินออกไปนอกห้องไม่ลืมที่จะล็อคประตูเผื่ออีกฝ่ายตื่นจะได้ไม่หนีออกมา ผมขับรถออกไปจากคอนโดแล้วตรงไปที่แห่งหนึ่ง….ตอนนี้ผมเริ่มคิดเกมส์บางอย่างออกแล้ว….
………………………………………………………………….
 Part Ton Hom
 “อืม….เจ็บ….”ผมค่อยๆลืมตาตื่น สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานสีเทาเลือนลาง…ผมนิ่วหน้าเพราะเจ็บไปทุกส่วนโดยเฉพาะเบื้องล่าง พยายามจะปรับสายตาให้ชินกับภาพเบื้องหน้าแต่เมื่อชินกับภาพที่เห็นก็ทำให้ผมรีบลุกทันที
 “โอ๊ย!”  เจ็บจนนั่งไม่ได้ทำให้ต้องทิ้งตัวนอนที่เดิม
 “ที่นี่มัน….ทำไมมาอยู่ที่นี่…” พยายามลุกอีกครั้งอย่างยากลำบาก แม้จะไม่ได้อยู่ที่นี่มาหลายปีแต่ผมจำห้องนี้ได้ดี!
 “อึก!” เปิดผ้าห่มมองสภาพตัวเองถึงกับผงะ ตอนนี้ผมใส่เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว เรื่องราวเมื่อคืนค่อยๆเข้ามาในหัว....ผมถูกข่มขืน!
 “ไอ้เลวนั่น! โถ่เว้ย! ขยะแขยง!” ผมกอดตัวเองแล้วรีบปัดสัมผัสนั้นทิ้ง รีบลุกเพื่อจะเดินออกไป กว่าจะเดินออกจากห้องนอนก็แทบกระอักเลือดแล้ว….
“ตื่นแล้วเหรอ” ทันทีที่เดินออกมาก็เจอเขายืนต้อนรับอยู่
 “คุณ! คุณทำแบบนี้ทำไม ทำร้ายกันไม่พอหรือไง บ้าอะไรขึ้นมาฮะ!”
 ฟุบ! ผมทรุดลงกับพื้นแต่เขากลับมารับตัวผมไว้
 “ปล่อย! อย่ามาแตะขยะแขยง!” ผมกรีดร้องดิ้นออกอย่างสุดแรง
 “หยุด!”
 “ปล่อย!”
 “แม่ฮับ!”
 เสียงเรียกทำให้ผมหยุดนิ่ง เบิกตากว้างเมื่อเห็นหมูหันเดินมาหา ยังอยู่ในชุดนักเรียนอยู่เลย…ทำไมหมูหันถึงมาอยู่ที่นี่
 “หมูหัน! ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่”
 “คุณลุงพามา” หมูหันชี้ไปที่เขา
 ผมใช้แรงทั้งหมดผลักเขาที่กำลังเผลอแล้วรีบเดินไปหาลูกแม้จะแทบทรุดก็ตาม
“หมูหันกลับ”
 “คิดจะไปทั้งอย่างนี้หรือไง” เขามองสภาพผมที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียว
 “คุณพาหมูหันมาที่นี่ทำไม”
 “มาเล่นเกมส์ไง”
 “ว่าไงนะ”
 “ฉันมีเกมส์มาเสนอนาย”
 เขาพูดบ้าอะไรจู่ๆพูดถึงเกมส์ทำไม
 “หมูหันแม่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเข้าใกล้คนแปลกหน้าอีก….ลูกจำไม่ได้หรือไงว่าคนนี้เคยตวาดลูกน่ะ”
“แต่คุณลุงใจดีแล้วกั๊บซื้อขนมให้ป๋มเยอะเลย”
ผมหยิบขนมที่อยู่ในมือลูก
“มะ..แม่ เอาคืนมานะ”
ผมขว้างขนมใส่หน้าพี่คิงส์ “เอาคืนไป”
“แม่ ฮึก…ก…”
“แม่บอกแล้วไงว่าห้ามเอาของจากคนแปลกหน้าทำไมเห็นแก่กินแบบนี้”
“ฮึก..ฮือๆๆ ใจร้าย! ทำไมแม่ใจร้ายอีกแย้ว ทั้งแฝนนั่นด้วย”
พี่คิงส์เดินมาหาหมูหันแล้วอุ้มไปปลอบ
“อย่าร้องนะครับ”
“เอาลูกผมคืนมา”
“นี่ลูกฉัน….”
“อึก” ผมไร้ข้อโต้แย้ง….ก็ลูกเขาจริงๆ….
“ฉันจะเอาลูกคืนฉันเป็นพ่อมีสิทธิ์เต็มที่…..นายมันแค่ที่ฝากท้อง คิดเอาว่าถ้าฟ้องศาลใครจะชนะ”
“คุณ….จะทำร้ายผมไปถึงไหน เมียคุณก็มีให้เขาผลิตลูกให้สิ อยากมีเมียเป็นผู้หญิงเพราะอยากมีลูกนี่แล้วมาแย่งลูกผมทำไม!”  ผมทรุดตัวร้องไห้อย่างหมดหวัง หากผมขาดหมูหันไปผมคงอยู่ไม่ได้จริงๆ
“เพราะแบบนี้ฉันถึงอยากให้นายเล่นเกมส์กับฉันไง”
ผมเงยหน้ามอง “เกมส์อะไร”
“นายกับลูกมาอยู่ที่นี่ซะ”
 “วะ..ว่าไงนะ”
“นายฟังไม่ผิดหรอก นายกับหมูหันมาอยู่ที่นี่กับฉัน”
 “เกมส์บ้าอะไรของคุณผมไม่อยากเล่น”
 “ถ้าเกมส์นี้นายชนะ ฉันจะไม่มายุ่งกับพวกนายอีก…..แต่ถ้านายแพ้ฉันจะพาหมูหันไปอยู่ด้วยและให้ลินดาเป็นแม่”
 ผมค่อยๆลุกยืน  “หมายความว่ายังไง”
 “2 เดือนมาอยู่กับฉันที่นี่ หลังจากนั้นให้ลูกเลือกว่าอยากอยู่กับใคร……ถ้าอยากอยู่กับนาย นายก็เอาไปฉันจะไม่ยุ่งแต่ถ้าลูกเลือกฉัน นายอย่ามายุ่งเกี่ยวอีก”
 ผมนิ่วหน้าไม่เข้าใจความคิดอีกฝ่ายทั้งๆที่เขาจะพาหมูหันไปก็ได้เพราะเป็นพ่อมีสายเลือดเดียวกันมีสิทธิเต็มที่แต่ทำไมกลับเสนอเรื่องแบบนี้และอีกอย่างหมูหันคงไม่เลือกคนแปลกหน้าแน่ๆแต่ทำไมยังเสนอเกมส์นี้อีก
 “ว่าไง 2 เดือนมาอยู่กับฉัน”
 ผมหลับตา ถอนหายใจเฮือกใหญ่……ทำไมผมยังต้องมายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกชาตินี้ทั้งชาติผมคงจะไม่สามารถหนีเขาไปได้เลยสินะนอกจากความตาย
 “ได้ผมตกลง”
 “หึ” เขายกยิ้ม ส่วนหมูหันหยุดร้องไห้แล้ว….ในมือมีขนมที่ผมโยนทิ้งอยู่
 “หมูหัน…แม่ขอโทษนะ”
 “แม่….”หมูหันเบะปากแล้วทำท่าจะให้ผมอุ้ม
 “แม่อุ้มไม่ไหวหรอกเราน่ะอ้วนมาก” พี่คิงส์บอกแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่แล้วเอาหนวดคลอเคลียจนหมูหันหัวเราะไม่หยุด ผมมองภาพได้แต่หลับตาลง….ไม่อยากให้ลูกมีความผูกพันกับเขาเลยสักนิด
 ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูทำให้พวกเราหยุดนิ่ง
 “คิงส์เปิดประตูให้แม่กับลินดาหน่อย”
 ผมหยุดชะงัก ส่วนพี่คิงส์ก็ตกใจไม่แพ้กัน
ก๊อกๆๆ “คิงส์! อย่าบอกนะว่าแกซุกใครไว้ แกมาเปิดเดี๋ยวนี้!”
“พี่คิงส์เปิดสิคะ!”  พี่คิงส์ถอยหายใจมองมายังผม
“ไม่ต้องห่วงฉันจะปกป้องนายเอง”
ผมรีบกอดลูกเอาไว้ไม่ได้ยินดีที่เขาบอกว่าจะปกป้องสักนิดเพราะตั้งแต่เมื่อก่อนผมไม่เคยได้รับการปกป้องจากเขาเลย
ประตูถูกเปิดออก
“กว่าจะเปิดนะ ไหนซ่อนใคร…อีกระเทย!” คุณนายกรีดร้องลั่นทันทีที่เห็นผม
“พี่คิงส์ ว๊ายยยย อะไรกันคะดูสภาพสิ” ผู้หญิงที่ชื่อลินดารีบปิดตาเมื่อเห็นสภาพผมที่มีแค่เสื้อเชิ้ตคุมเข่า
“แกมาทำอะไรที่นี่!” คุณนายทำท่าจะปรี่เข้ามาตบเงื้อมือเตรียมฟาด
 “แม่ครับ…..” พี่คิงส์มาขวางไว้
“แกมาหยุดฉันทำไม นี่แกกลับมาคบกับมันอีกแล้วงั้นเหรอ!”
“ใช่ครับ….”
“ว่าไงนะ!” คุณนายและลินดาประสานเสียงกัน
ผมมองไปยังพี่คิงส์ ตะลึงกับคำตอบ
“แม่ฮับ คนนี้คือใครเหรอกั๊บ”
คุณนายเลิกโวยวาย หันมามองหมูหัน “เด็กนี่….เอาหลานฉันมา!”  คุณนายจะเดินมาหาอีกแต่พี่คิงส์ก็ยังขวางไว้ ส่วนผมก็อุ้มลูกกอดไว้แน่น
“แม่ฮับ” หมูหันตัวสั่นแล้วซุกบ่าผมเพราะกลัว
“แกจะมาห้ามทำไมนั่นหลานฉันนะ!”
“ฟังนะครับ” พี่คิงส์เดินมาโอบบ่าผม “ตอนนี้เรากลับมาคบกันแล้วครับเพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งกับลูกเมียของผม”
 ผมจะค้านหากแต่เสียงกรี๊ดดังขึ้นก่อน
“พี่คิงส์! นี่มันบ้าอะไร จะเอาอีกระเทยนี่อีกเหรอ  ลินดาไม่ยอม ลินดาเป็นเมียพี่นะ เอาของเก่าเน่ามาเป็นเมียทำไม ลินดาไม่ยอม! กรี๊ดๆๆๆๆ” เธอกรีดร้องขนาดคุณนายยังเอามืดปิดหู
“ใช่ ตาคิงส์แม่ไม่ยอมนะ  ออกไปจากห้องนี้ซะอีกระเทย! ไปซะ! แล้วเอาหลานฉันมา”
ผมมองการกระทำของคนสองคนตรงหน้ารวมทั้งคำดูถูกทำให้ผมเม้มปากแล้วตัดสินใจบางอย่าง ก่อนจะซบบ่าพี่คิงส์
“เรารักกันครับคุณป้า! คุณคงไม่สามารถที่จะมาขัดขวางได้อีกแล้วนะครับ”
พี่คิงส์อึ้ง
 ส่วนอีกสองคนอึ้งเช่นกัน
“แก!” ลินดาเดินปรี่มาหาผม ผมให้พี่คิงส์อุ้มหมูหันส่วนผม…..
เพี๊ยะ!
ทุกคนอึ้งกับเสียงที่เกิดขึ้นและใบหน้าของเธอที่ไปตามแรงฝ่ามือผม
“กะ..แก ตบฉัน!”
“อยากโดนอีกไหม เห็นว่าเป็นผู้หญิงนะถึงตบ....ผมจำได้ดีตอนที่คุณแย่ง…”ผมกลืนคำพูด
“กะ…” ลินดาเตรียมกรีดร้อง
“ถ้ากรี๊ดผมจะต่อย”
เธอค้างแล้วรีบวิ่งไปกอดคุณนาย พี่คิงส์มองผมตาปริบๆ
“มันก็แค่เกมส์ครับผมไม่มีทางที่จะกลับไปรักคุณอีกไม่ต้องตกใจว่าผมทำบ้าอะไรลงไป...ถ้าเกมส์จบทุกอย่างก็จบ” ผมเอ่ยบอกให้ได้ยินแค่สองคน
 “อีกระเทย” คุณนายจะเข้ามา
แต่ผมเงื้อมือรอตบ  “ผมไม่สนเด็กหรือแก่หรอกนะครับ……..อ้อประกาศไว้เลยนะครับตั้งแต่วันนี้ผมจะกลับมาทวงทุกอย่างคืน…..คุณนายเตรียมรอวันชำระแค้นได้เลยนะครับ…” ผมบอกไปอย่างนั้นแต่ทวงคืนอะไรน่ะผมไม่ต้องการสักนิด ผมเพียงแค่ต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องลูกเท่านั้น….
หัวข้อ: ตอนที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 10-07-2017 19:25:25
“แล้วลูกก็ตอบตกลงไป”
“ครับ….”
ตอนนี้ผมได้แต่นั่งยอมรับชะตากรรมกับพ่อเเละแม่ที่มีสีหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจนหลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดที่ผมเล่าว่าผมต้องไปอยู่กับพี่คิงส์ 2 เดือน
“แม่ไม่ยอม ทำไมลูกต้องไปทำตามด้วยล่ะ เกมส์ไร้สาระ…..แม่ไม่ยอมให้ลูกแล้วก็หลานของแม่ไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายพรรค์นั้นอีก”
“พ่อก็ไม่เห็นด้วยนะ….จะขึ้นศาลสู้คดีจ้างทนายพ่อก็ยอม”
“ถ้าเกิดเราเเพ้เราจะไม่ได้หมูหันเลยนะครับ ผมเชื่อว่าเกมส์นี้ผมจะชนะหมูหันต้องเลือกผมอยู่แล้ว ทนไปแค่ 2 เดือนกับอิสระตลอดไปเลยนะครับ”
“เฮ้อ….เวรกรรมอะไรนักหนา” แม่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
พ่อกอดปลอบ  “น่าคุณทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
พวกเรายิ้มเศร้ามองหมูหันที่กำลังเล่นรถของเล่นอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
 ………………………..
 “ยอมไม่ได้นะพิศมัย ทำไมตาคิงส์ถึงกลับไปคบกับเมียเก่า” ลดาเอ่ยอย่างไม่พอใจเมื่อลูกสาวอย่างลินดาโทรไปบอกเธอถึงเรื่องราวทั้งหมด
 “ใจเย็นๆสิลดาฉันเองก็กำลังหาทางกำจัดอยู่”
 “มันไม่หยามไปหน่อยเหรอ เมียแต่งอยู่นี่ทั้งคนแต่กลับไปหาเมียเก่า แถมเป็นกระเทยผิดเพศอีก”
“ฉันไม่มีทางปล่อยให้มันมาเชิดหน้าได้หรอก เธอวางใจเถอะยังไงลินดาก็ต้องเป็นสะใภ้ที่นี่ต่อไป ฉันจะเล่นงานมันให้มันเจ็บเจียนตายเหมือนเมื่อก่อนเลย” พูดพลางหันไปมองลินดาที่สะอื้นไห้เงียบๆ
“แต่ลินดาหย่ากับคิงส์นานแล้วนะจดทะเบียนสมรสอีกรอบเถอะ เคล็ดน่ะช่างมันไปก่อน”ลดาพยายามพูดเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง
“ยังก่อน…..ยังไม่ถึงฤกษ์จดทะเบียนอีกครั้ง”
สองแม่ลูกกัดริมฝีปากแน่น ลดาระงับอารมณ์ก่อนจะขอตัวกลับ
 “เดี๋ยวหนูไปส่งที่รถค่ะแม่”
.......ทั้งสองเดินไปคุยกันที่รถยนต์
“เอาไงดีคะแม่ ทุกอย่างมันเริ่มบ้าไปหมดแล้วแบบนี้ทางที่จะได้สมบัติมันก็ยิ่งยากขึ้นนะคะ เมียเก่ากลับมาแถมหนูยังอยู่ในสถานะหย่าอีก”
 “เฮ้อ….อะไรนักหนานะ หนี้ของแม่อีกไม่นานก็จะถึงกำหนดส่งเเล้วด้วยสิ….ลูกต้องกำจัดมันออกไปนะ อย่าให้มันมาแย่งสมบัติ”
“แน่นอนค่ะ!”
“คงต้องหลอกล่อให้คุณโชคชัยรีบๆเขียนพินัยกรรมให้แล้วสิ”
“แต่เขาจะโง่เขียนให้เหรอคะ”
“มอมเหล้าเป็นไง เขียนตอนที่มึนๆนี่แหละ”
“แล้ว….ถึงจะเขียนพินัยกรรมไปถ้าเขายังอยู่”
“ก็กำจัดสิ”
ลินดาเบิกตากว้าง
“ไม่เพียงแค่พินัยกรรมนะที่จะให้เขาเขียน….แม่พอมีเส้นสายกับทางอำเภอบ้าง….”
“ยังไงคะแม่”
“เดี๋ยวก็รู้”
…………………………………………………………………………….
ตอนนี้ผมกับหมูหันยืนอยู่หน้าห้องที่ผมเคยอยู่แล้ว ถอนหายใจหลายครั้งและหลายครั้งจนในที่สุดก็ตัดสินใจจะเคาะประตูแต่ประตูกลับเปิดออกเสียก่อน
“เข้ามาสิ”
“คุณลุง” หมูหันยิ้มกว้าง พี่คิงส์ก็อุ้มกอด
ผมถือกระเป๋าขนาดใหญ่เข้าไปในห้องวางไว้ตรงโซฟา
“เราควรจะมีกฎในการใช้ชีวิต..ผมจะอยู่ส่วนผมคุณก็อยู่ส่วนคุณ…ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกัน”
 เขาพยักหน้า
 “ส่วนห้องผมจะนอนห้องเล็กกับหมูหัน”
 “แต่ฉันก็อยากนอนกับลูกเหมือนกัน”
 “หมูหันอยากนอนกับแม่ใช่ไหมครับ”
 “หรืออยากนอนกับพ่อครับ”
 ผมขมวดคิ้วไม่พอใจกับคำว่าพ่ออย่างมาก
 “นอนด้วยกันหมดเลยฮับ!” หมูหันยิ้มกว้าง
 “ไม่มีทาง….” ผมรีบตอบ
 “ถ้าอย่างนั้นเราควรผลัดวันเว้นวันแล้วกัน” เขาบอก
 ผมไม่พูดอะไรแต่ขอกุญแจห้องเล็กอีกฝ่ายแทน เขาก็ให้มาอย่างง่ายดาย
 ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนเล็ก  ปกติตอนที่ผมเคยอาศัยอยู่ที่นี่จะนอนแค่ห้องนอนใหญ่ ห้องนี้ส่วนมากจะใช้รับรองแขกมากกว่าหากไม่มีแขกห้องนี้ก็แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ทั้งสองห้องจะอยู่ติดกันมีเพียงกำแพงกั้นเท่านั้น
 จัดเสื้อผ้าใส่ตู้เสร็จ…..นั่งถอนหายใจบนเตียงไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้มาใช้ชีวิตที่นี่อีก
“เอิ้กๆๆฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะทำให้ผมรีบออกไปดู พี่คิงส์กำลังอุ้มหมูหันชูเหนือแขน ไม่รู้ว่าแขนพี่คิงส์แข็งแรงหรือหมูหันเบาไปถึงกล้าอุ้มขนาดนั้นแค่ผมอุ้มธรรมดาก็หนักแย่แล้ว
“แม่!”
ผมยิ้มให้ลูกแต่หน้ามุ่ยให้อีกคน
“เดี๋ยวแม่จะไปตลาดนะครับ วันนี้หนูอยากกินอะไร”
“ต้มจืดหมูครับ ใส่แครอทเยอะๆ”
ผมยิ้ม เห็นหมูหันอ้วนแบบนี้แต่ชอบกินผักนะครับ
“งั้นเดี๋ยวแม่ไปก่อนนะครับ”
พี่คิงส์มองหน้าผม
“แล้วของฉัน..”
“หากินเองสิครับ ต่างคนต่างอยู่”
ผมพูดแล้วเดินออกไปจากห้อง แค่หน้าก็ไม่อยากมองแล้ว
เลือกของในตลาดไปพลางๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับพี่หมอ”
“หอม….ไม่ได้อยู่บ้านเหรอ” ถามแบบนี้แปลว่าตอนนี้พี่หมออยู่ที่บ้านผม
 ผมนิ่ง….แล้วพูดบอกไปตามความจริงทั้งหมดซึ่งพี่หมอน่าจะรู้จากแม่บ้างแล้ว
 “ทำไมหอมถึงไปอยู่กับคนแบบนั้นครั้งที่แล้วเขาก็ทำร้ายหอม”
 “แต่เป็นทางเดียวที่ผมจะรั้งลูกไว้ได้” ผมเดินออกมาจากตลาดนั่งคุยโทรศัพท์ที่สวนสาธารณะ
 “แต่พี่ไม่ชอบวิธีนี้”
 “แล้วพี่จะให้ผมใช้วิธีไหน…..พี่ก็รู้ว่าผมอยากอยู่กับลูกให้มากที่สุดถ้าผมตาย….”
“หอม!” ปลายสายตวาด
“หอมจะต้องหาย….พรุ่งนี้พี่จะพาไปโรงพยาบาลนะครับ”
“ผม…..จะหายจริงๆเหรอครับ”
“หายสิ….บอกพี่นะครับว่าหอมอยู่ที่ไหนพรุ่งนี้พี่จะไปรับ…ส่วนเรื่องที่หอมอยู่กับเขา….พี่จะถือว่าทำเพื่อหอมและหมูหัน …แต่พี่ก็มีขีดจำกัดของพี่เหมือนกันถ้าพี่เห็นว่าไม่ดีพี่ก็จะไปรับหอมกลับมา…”
“ขอบคุณครับ” ประโยคท้ายทำให้ผมได้แต่รับคำเพราะพี่หมอท่าทางจะโกรธๆ
ผมบอกที่อยู่กับพี่หมอ เราคุยกันเรื่องอื่นนิดๆหน่อยๆจากนั้นก็กดปิดสายเพราะผมต้องรีบกลับไปทำอาหารเย็น
 หากถามผมว่ากลัวตายไหม ผมบอกได้เลยว่ากลัวมากๆแต่ที่ผมกลัวกว่านั้นคือผมจะตายไปทั้งๆที่เรื่องราวยังค้างคาแบบนี้ ผมต้องรีบทำให้สิทธิทุกอย่างในตัวหมูหันมาอยู่ที่ผม ถ้าผมตายพ่อกับแม่จะดูแลหมูหันเเทน
 ………กลับห้องได้ยินเสียงคุย
 “เรียกพ่อสิครับไม่ใช่ลุง”
 “พ่อ!”
 “เก่งมากคนดี….ฟอดดดด”
 ผมเดินปึงปังผ่านโซฟาไปยังห้องครัว
 “แม่กลับมาแล้ววววว” หมูหันเดินมากอดขา ผมก้มตัวรับกอดนั้น….
 “เดี๋ยวแม่ทำอาหารให้นะครับหนูไปนั่งเล่นก่อนนะ”
 “ครับผม!”
ผมหยุดชะงักเพราะหมูหันพูดไม่ผิดเพี้ยนแล้ว พูดชัดถ้อยชัดคำ
“ไหนเรียกคุณยายว่ายังไงฮึ”
“คุณยาย”
ผมยิ้มเมื่อก่อนยังเรียกคุณจายอยู่เลย
“เรียกแม่ฮับหรือแม่ครับ”
“แม่ครับ!” ลูกโตขึ้นแล้วจริงๆ…. อย่างน้อยผมก็อยู่ถึงตอนที่ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
ผมหอมฟอดใหญ่ “เก่งมากลูก”
ผมทำอาหาร ต้มจืดหมูสับ ไข่ตุ๋น สำหรับมื้อเย็นอย่างอารมณ์ดีทำของโปรดหมูหันหลายอย่างเป็นรางวัล เดี๋ยวค่อยโทรบอกพ่อกับแม่อีกทีว่าหลานน่ะพูดชัดแล้วนะถึงจะช้าไปกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันก็ตาม แต่ก็ต้องหงุดหงิดเมื่อตอนนี้เขามานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับผมด้วย
“น่ากินจังเลยหมูหัน….”
“ขอโทษนะครับเชิญคุณไปที่อื่นผมจะกินข้าวกับลูก”
“ก็กินไปสิ ฉันเป็นพ่อก็อยากมองลูกกิน”
ผมขมวดคิ้วไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้นมองเขานั่งป้อนข้าวหมูหันไปเรื่อยๆ
“อร่อยมากเลยครับ พ่อไม่กินด้วยหรอ”
“อือ…..พ่อยังไม่หิวครับ”
หมูหันมองชามตัวเองแล้วยิ้มก่อนจะตักข้าวจ่อปากพี่คิงส์
“กินสิครับฝีมือแม่อร่อยมากๆเลย”
“หมูหัน….” ผมปรามลูกส่งสายตาไม่พอใจ แต่เจ้าตัวกลับไม่รับรู้ซะงั้น
“ไม่เอาดีกว่าครับพ่อไม่อยากกิน”
ผมรีบยื้อมือลูก “นั่งกินดีๆครับ โตแล้วกินเองได้”
หมูหันทำปากยื่นแต่ก็นั่งกินโดยดี
สายตาพี่คิงส์มองผม ท่าทางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง
หลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จพี่คิงส์ก็เดินมาหาผมที่กำลังล้างจาน
“มีเรื่องจะคุยด้วย”
“อะไรครับ”
เขายื่นเงินมาให้ผม
“ค่าอะไรครับ”
“เลี้ยงดูหมูหัน ยังไงเขาก็ลูกฉันก็ควรมีเงินค่าเลี้ยงดู”
“ไม่จำเป็นครับ”
“นายทำงานอะไรพอที่จะเลี้ยงดูลูกฉันหรือไง”
“งานน่ะมี เเต่เพราะคุณไม่ใช่หรือไงที่ลากผมตอนเวลางาน จนตอนนี้ผมถูกไล่ออกไปแล้ว”
 “งั้นก็รับเงินนี่ไว้”
“ไม่จำเป็นผมเลี้ยงเขามาได้จนถึงตอนนี้ โดยไม่มีเงินคุณเลยยังเลี้ยงได้”
“งั้นตามใจ”
 เขาเดินกลับไปที่เดิม ผมได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า…..แค่วันเดียวที่ใช้อากาศร่วมกันผมยังทนแทบไม่ได้รู้สึกเหนื่อยที่อยู่ใกล้กันมากขนาดนี้ แล้วหากเป็นแบบนี้ต่อไป 2 เดือนนับจากนี้ผมจะเป็นยังไงต่อไป……….
หัวข้อ: ตอนที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 10-07-2017 19:26:06
ตอนเช้าพี่หมอมารับผมตามที่บอกไว้ ส่วนพี่คิงส์ไปส่งหมูหัน ที่โรงเรียนอนุบาล พี่หมอพาผมมารักษากับหมอคนเดียวกันที่ดูแลเคสของหมูหัน
 หลังจากตรวจร่างกายภายในผมก็รอผลตรวจอย่างใจจดใจจ่อ พี่หมอกุมมือไว้ให้กำลังใจตลอดเวลา
 “เป็นยังไงบ้างครับ” พี่หมอถามหมอใหญ่
 หมอใหญ่ทำหน้าตาเคร่งเครียด
 “ผลจากการตรวจอาการเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้วอวัยวะเริ่มทำงานแย่ลง…ไม่ทราบว่าร่างกายคุณมีอาการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้างครับ”
 ผมจับที่หัวใจตัวเอง  “ผมเริ่มปวดตรงหัวใจครับแต่ก็ยังไม่มากเท่าไร”
หมอใหญ่พยักหน้า
“พูดตามตรงนะครับถือว่ายากอย่างมากเพราะอวัยวะเริ่มทำงานแย่ลงพร้อมกัน หากทำการผ่าตัดหมอไม่มั่นใจว่าโอกาสรอดชีวิตมีกี่เปอร์เซ็น”
ผมใจวูบ…..
ส่วนพี่หมอก็หน้าเสียไม่ต่างกัน “หมอครับแล้วแบบนี้จะรักษาได้มากแค่ไหนครับ”
“มีตัวยาอยู่นะแต่ก็แค่รักษาตามอาการให้บรรเทาลงแต่ไม่หายขาด……แต่ต่างประเทศมีหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้พอควร หมออยากแนะนำให้คุณไปรักษาที่ต่างประเทศ”
“ต่างประเทศเหรอครับ”
“ใช่….”
“ถ้าผมไปผมจะหายไหมครับ”
“หมอบอกไม่ได้จริงๆ”
ผมหลับตาก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง “ถ้าอย่างนั้นผมไม่ไปครับ”
“หอม..”
“อืม….อยากให้ลองคิดก่อนนะครับค่อยตัดสินใจใหม่เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของคุณเองนะครับ”
 ……………………..
“หอมไปรักษาตัวที่ต่างประเทศเถอะ”
 เราสองคนนั่งอยู่ริมแม่น้ำในสวนสาธารณะ บรรยากาศที่นี่สดชื่นมากแต่จิตใจของผมกลับห่อเหี่ยวเสียเอง
 “แต่ถ้าผมไปก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะหายนี่ครับ”
 “แต่ยังมีโอกาสหอมจะรอวัน……” พี่หมอหยุดพูดแล้วมองไปยังแม่น้ำแทน
“พี่หมอ…..ผมก็อยากหายแต่ถ้าผมไปแล้วผมตายที่นั่น….ผมเอาเวลานั้นมาอยู่กับคนที่ผมรักไม่ดีกว่าเหรอครับ ทั้งพ่อ แม่ หมูหัน…..”
“แล้วก็เขาคนนั้นใช่ไหม”
“พี่หมอ…..”
“มีเขาคนนั้นที่รัก แต่ไม่มีพี่”
 “พี่กำลังพูดอะไรครับทำไมไปพูดถึงเขา”
 “ก็จริงนี่หอมยังรักเขาอยู่ถ้าไม่รักหอมไม่มีทางไปอยู่กับเขาตั้ง2เดือนหรอก”
 “ผมทำเพื่อลูก”
 “หอมแน่ใจเหรอว่าทำเพื่อหมูหัน…..คนเกลียดกันอยู่ด้วยกันได้ด้วยเหรอ หึ ตลกชะมัด”  พี่หมอลุกยืนไม่สบอารมณ์
 “พี่หมอ”  ผมจับมือพี่หมอไว้
 “กลับเถอะเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
 ………..ภายในรถยังคงเงียบ ปกติพี่หมอจะชวนคุยตลอด
 “โกรธผมเหรอครับ”
 ‘…..’
 “ผมทำเพื่อลูกจริงๆ”
 ‘…..’
 พี่หมอยังคงเงียบ ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเพราะก็อธิบายไปทั้งหมดแล้ว
 “สัญญากับพี่ได้ไหม….”
 ผมหันกลับมามองพี่หมอ “อะไรครับ”
“ว่าจะไม่รักเขาอีก”
“ผมจะรักเขาทำไมล่ะครับ”
 “อย่างน้อยไม่รักพี่แต่ก็อย่ากลับไปรักเขาอีกเลยแค่นั้นพี่ก็มีความสุขแล้วล่ะ…..ส่วนเรื่องรักษาพี่จะไม่ละความพยายามหรอกนะ หอมต้องรักษาตัวจะได้อยู่กับหมูหันไปนานๆ ไม่อยากเห็นลูกโตขึ้นกว่านี้หรือไง”
 ผมนิ่ง รู้สึกเหมือนน้ำตาเอ่อล้น  มือหนากุมมือผมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าผมจะหายไปในใจผมรู้สึกผิดต่อพี่หมอจริงๆถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้เราคงได้รักกันแล้ว
 หลังจากพี่หมอมาส่งผมที่คอนโดผมก็ได้แต่นั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะอาหาร ที่ตรงนี้คือที่ที่ผมอยู่ครั้งสุดท้ายก่อนจะออกไปจากห้อง วันที่ผมจัดเซอร์ไพซ์เล็กๆให้พี่คิงส์ตอนฉลองจบมหาลัย ยอมไม่ไปร่วมยินดีเพราะเกรงใจทนอยู่ห้องนี้แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องจบไป……
 ผมมองไปรอบๆ ตลอด3-4 ปี ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เว้นแต่สิ่งที่บอกว่าผมเคยอยู่กลับไม่มี แต่วันนี้ผมกลับมาที่นี่อีกครั้งในฐานะที่ต่างจากเดิม
 ผมถอนหายใจ……ผมกำลังทำอะไรอยู่  คนเกลียดกันอยู่ด้วยกันได้ด้วยเหรอ หึ ตลกชะมัด หวังว่าผมคงจะไม่ได้……..
 แกร็ก  เสียงเปิดประตูทำให้หันไปมอง
 หญิงสาวในชุดกระโปรงสีชมพูหวานเดินเข้ามา  เธอเชิดหน้าทะนงตนอย่างไม่พอใจ
 “หน้าด้าน” เธอด่าผมแล้วยิ้มแสยะ
 “คุณมีอะไร”
 ลินดาเม้มปาก  “ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือไงว่ามีอะไร เมื่อคืนพี่คิงส์ไม่กลับบ้านเพราะมาขลุกอยู่กับแกไง!”
“แล้วยังไง”
“นี่แกโง่หรือไงฉันน่ะเมียแกมันน่ะใครกล้าดียังไงมาเอาผัวฉัน”
“เอ่อ นี่คุณ…..แต่พี่คิงส์รักผมนะครับ จะผัวจะเมียก็อีกเรื่องแต่ตอนนี้เขาเลือกผมไม่ใช่คุณ”
“แก! อีกระเทย หน้าด้าน! ที่แกกลับมาคืนดีกับพี่คิงส์เพราะจะหวังมรดกใช่ไหม”
ผมขมวดคิ้ว เธอไปเอาความคิดบ้าๆนี่มาจากไหน
“คุณพูดอะไรของคุณ”
“อย่ามาตีหน้าเซ่อ แกต้องการสมบัติใช่ไหม!”
“นี่คุณ! จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว”
“หึ!”  เธอเดินมาหาผมแบบไม่กลัวสักนิด ผิดกับวันนั้นอย่างสิ้นเชิงที่กลัวผม
เธอหยิบของบางอย่างออกมาจากระเป๋า  เครื่องช็อตไฟฟ้า!
“แกออกไปจากชีวิตพี่คิงส์ซะ! ก่อนที่ฉันจะทำอะไรไปมากกว่านี้”
ผมยืนนิ่ง  จะว่าไม่กลัวก็ได้เพราะยังไงซะผมก็ผู้ชายต่อให้เธอเข้ามาทำร้ายผมก็เลี่ยงหรือสู้ได้อยู่แล้ว
“แกจะลองดีใช่ไหม ออกไป!”
“ไม่ออก”
“แก!” เธอพุ่งมาหา ผมรีบเบี่ยงตัวจับข้อมือเธอไว้แล้วใช้อีกมือแย่งเครื่องช็อตไฟฟ้าโยนทิ้ง ถึงเธอจะดิ้นแต่มีรึจะสู้แรงผมได้ถึงตัวจะใกล้เคียงกันก็เถอะ
“แก!”
“คุณเลิกทำแบบนี้เถอะ ไร้ประโยชน์! เพราะผมจะไม่ออกไปเด็ดขาด”
“กรี๊ดดดดดดดดด” เธอกรีดร้องแล้วทุบตีผม ผมที่ทนไม่ไหวเพราะเธอยังคงตบตีผมต่อเนื่อง จึงผลักเธอออก
โครมมม
เพราะผมผลักเธอออกตัวเธอจึงไปกระแทกโต๊ะอย่างแรง
“กะ….แก “เธอพยายามจะลุกแต่เลือดบางอย่างกำลังไหลออกมาจากส่วนล่างของเธอ  ผมยืนอึ้ง ส่วนเธอกรีดร้องทันที
“กรี๊ดดดดด เลือด! โอ๊ยเจ็บ! ฮือๆๆ ช่วยด้วย! มันจะฆ่าฉัน! ” ผมเลิ่กลั่กจะไปช่วยพยุงแต่เธอกลับปัดมือ ผมคว้าโทรศัพท์เพื่อโทรหารถพยาบาลแต่ประตูกลับถูกเปิดออกซะก่อน
“พี่คิงส์…..”
“ช่วยด้วยๆๆฮือๆๆ พี่คิงส์!”
“ลินดา! เกิดอะไรขึ้น!”  เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากส่วนล่างของเธอ
“ชะ..ช่วยด้วย ลินดาเจ็บ ฮือๆๆ”
พี่คิงส์มองผมตาขวางแล้วรีบอุ้มเธอออกไป
ส่วนผมได้แต่ยืนงง เกิดอะไรขึ้น นี่ผมผลักเธอแรงจนเธอบาดเจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ ตัวผมสั่นไปหมดยิ่งเห็นกองเลือดที่อยู่กับพื้น
เกิดอะไรขึ้น!
 …………………………………………………………………………….
“แท้ง!”  ลดาถึงกับเป็นลม ส่วนพิสมัยก็ตกใจไม่แพ้กัน
“แท้งได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นฮะคิงส์!! ลินดาแท้งได้ยังไง” ผู้เป็นแม่ของลินดาถามต่อ
 คิงส์สบถในลำคอ เขาแทบคลั่งไม่ต่างกันเมื่อรู้ว่าลูกของเขาที่ฟูมฟักกว่าจะได้มากลับมาแท้งแบบนี้!
 “ตาคิงส์! ตอบแม่มา”
 “ผมไม่รู้ ลินดาไปที่คอนโดผมตอนที่ผมไปถึงก็นั่งอยู่ที่พื้นแล้ว”
“นี่อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะอีกระเทยนั่น”
คิงส์ขมวดคิ้ว อารมณ์เขาตอนนี้แทบอยากจะกลับไปฆ่าคนที่รออยู่ในห้องให้คามือเดี๋ยวนี้เลย
“มันใช่ไหม เพราะมันใช่ไหม!”
“ผมไม่รู้…..ผมจะไปถามเขา ฝากดูแลลินดาด้วยครับ”
“ไล่มันออกไปเลยนะ! เพราะแกกลับไปคบกับมัน เห็นไหมแกเสียลูกแกไปแล้ว”
“ใช่คิงส์ แม่ไม่คิดเลยนะว่าคิงส์จะทำกับลูกแม่ได้ขนาดนี้  เอาคนอื่นมาหยามหน้าไม่พอกลับต้อง ฮือๆๆ เสียหลานไปแบบนี้อีก ฮือๆๆ”
“โถ่ ลดาฉันขอโทษจริงๆ” พิสมัยรีบปลอบต่อ
คิงส์ไม่รอช้ารีบกลับไปที่คอนโดทันที ได้ยินเสียงคนคุยกันในห้องแสดงว่าหมูหันกลับมาจากโรงเรียนอนุบาลแล้ว
“สวยไหมครับ” หมูหันพูดแล้วยื่นกระดาษบางอย่างให้กับหอม
“สวยมากเลยครับ”
ปัง! เสียงเปิดประตูทำให้พวกเขาสะดุ้งโดยเฉพาะคนที่ทำผิด!
“เอ่อ….คุณลินดาเป็นยังไงบ้าง”
คิงส์ไม่รอช้าเดินไปกระชากแขนแล้วบีบแน่น
“ยังจะมีหน้ามาถาม ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ”
“แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ผมแค่ผลักเบาๆ….”
“เบาเหรอ….ลูกฉันแท้งเบาไหม!”
หอมเบิกตากว้าง
“ทะ…แท้ง”
“ใช่! สะใจล่ะสิที่ฆ่าลูกของฉัน”
“ผะ..ผม โอ๊ยย” คิงส์บีบแรงจนอยากให้แหลกคามือ
“แม่ครับ….เป็นอะไรหรือเปล่า” หมูหันเอ่ยถามสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“หมูหันไปที่อื่นก่อน” หอมบอก
“แต่แม่….พ่อทำอะไรแม่ครับ เล่นไรกันหรอ”
“หมูหันเข้าไปในห้องก่อนลูก วาดรูปให้แม่นะ” หอมบอก หมูหันยังคงนิ่งก่อนจะพยักหน้าเดินเข้าไปในห้องนอนเล็ก
พลั่ก!!  ร่างสูงผลักหอมล้มอย่างแรง
“ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ถ้าผมรู้ผมจะไม่ทำ”
“หึ! มันสายไปแล้ว” คิงส์บีบคางอีกฝ่ายแน่น  “ลูกกูตายไปแล้ว! มึงได้ยินไหม”
"อึก!” มือหนาเลื่อนมาบีบคอ อีกฝ่ายไม่ได้ต่อต้านเหมือนอยากให้บีบ น้ำตาไม่ได้ช่วยให้ใจเย็นลงสักนิด
 “กูอุตส่าห์เริ่มเห็นใจมึงเลยเสนอเกมส์นี้ขึ้นมาแต่มึงกลับทำลายมันลง มึงไม่ต้องกังวลว่ากูจะหยุดเกมส์ เพราเกมส์จะดำเนินต่อไป กูจะทำทุกอย่างให้เกมส์นี้กูชนะ และมึงแพ้……” พูดจบคลายมือออกแล้วลากคนตัวเล็กกว่าเข้าไปในห้องนอนใหญ่แล้วล็อคกุญแจขัง
“คุณ! คุณจะทำอะไร” ปังๆๆ “ปล่อยผมนะ!”
คิงส์ยิ้มแสยะ  “อยู่ในนี้จนกว่ากูจะพอใจ ให้มึงสำนึกว่าฆ่าเด็กไป!”
เสียงจากในห้องหยุดลง
คิงส์กัดฟันกรอด ใจจริงอยากทำมากกว่านี้แต่เกรงว่าหมูหันจะกลัวตน
“แม่ล่ะครับ” หมูหันถือกระดาษวาดรูปออกมาจากห้อง
 “ไปบ้านคุณยายครับ”
“อ้าว…แล้วผม”
“อยู่ที่นี่กับพ่อไปก่อนนะ หิวไหมเดี๋ยวพ่อพาไปกินข้าวอร่อยๆข้างนอก”
“แต่แม่…..ผมอยากเจอแม่ อยากกินข้าวฝีมือแม่”
“อยู่กับพ่อนะ ต้องทำให้ชินเพราะต่อไปอาจจะไม่ต้องการแม่แล้ว!”
คิงส์พูดเสียงดังแล้วอุ้มหมูหันไปข้างนอก ทิ้งให้อีกฝ่ายอยู่ในห้องร้องไห้จมกับความผิดอยู่อย่างนั้น
หัวข้อ: ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 10-07-2017 19:26:59
ผมฆ่าคน….ผมฆ่าเด็กตาย..ผมไม่ได้ตั้งใจ
“ฮึกๆๆ” ผมกอดเข่าทรุดตัวร้องไห้อย่างหมดแรง ถ้าผมรู้ผมจะไม่ทำแบบนั้นจะยอมให้เธอช็อตไฟฟ้าเลยก็ได้
เจ็บตรงอก….เจ็บจนผมต้องกัดปากให้ความเจ็บนั้นมาเจ็บที่ปากแทน
“โอ๊ย อึก..!” ผมร้องไห้ไม่รู้ว่าเสียใจหรือเจ็บปวดกันแน่ ความเจ็บปวดทำให้รู้สึกเพลียและหลับไป
“สบายจริงนะมึง”
ผมค่อยๆลืมตา ยังไม่ทันจะได้ตื่นเต็มที่ก็ถูกกระชากให้ลุกจากพื้น
“จะ…จะทำอะ…”ผมถูกผลักลงบนเตียง
“คุณจะทำอะไร” ได้กลิ่นเหล้าจากพี่คิงส์
 “หึ” เขายิ้มแล้วคร่อมตัวผมไว้
 “คุณ!” ผมรีบลุกทั้งๆที่ยังเจ็บตรงอก
 “คิดจะหนีเหรอมึง มากูจะเอามึงให้ท้องแทนลูกกูที่เสียไป”
“ไม่! ปล่อยยยย”
“เล่นตัวนักนะมึง”
 ปึก! หมัดต่อยมาที่ท้องจนตัวงอ
“ยอมให้กูเอาดีๆดีกว่า” เขาถอดกางเกงตัวเองออกจับขาผมแยกแล้วกระชากกางเกงผมออกเช่นกัน
 ผมหลับตากัดฟันแน่นเมื่อสิ่งนั้นแทงพรวดเข้ามา
"โอ๊ยยยยย! “
เพราะฝืนเข้ามาทั้งๆที่ไม่มีอะไรช่วยจึงทำให้ผนังถูกเสียดสีอย่างเจ็บปวดจนผมต้องกรีดร้องออกมา
“เจ็บ!”
“เจ็บเหรอ ลูกกู เมียกู เจ็บกว่ามึงหลายเท่า ลูกกูตาย ลินดานอนโรงพยาบาลเจ็บหนักมีลูกไม่ได้อีกเพราะมึง!”
“โอ๊ยยยย” เขาบีบคอผม
“ฆะ..ฆ่าเลยสิ แค้นนักใช่ไหม”
“ไม่ฆ่าแต่จะทรมาน” พูดแล้วกระแทกมาไม่ยั้ง
ผมมองเพดานน้ำตาไหลอาบเเก้มไม่ขาดสาย…..เจ็บจนชาเหมือนไร้ความรู้สึก….เหมือนตัวเองนอนในที่สงบไม่มีใคร……ผมนอนนิ่งนาน….นานจนน้ำบางอย่างไหลทะลักเข้ามาในตัว
เขาไปแล้วเหลือเพียงความว่างเปล่า ผมยังคงนอนอยู่แบบนั้น ผมกำลังจะตายทั้งเป็นถ้าเป็นแบบนี้ปล่อยให้ตายไปเลยยังดีกว่า…….
 วันต่อมาผมถูกปล่อยออกมาจากห้อง  หลังจากนั้นพยายามคลานเข้าห้องน้ำและคลานกลับห้องนอนตัวเอง ผมนอนอยู่บนเตียงทั้งวัน ลืมตาอีกทีหมูหันก็นอนข้างๆผมแล้ว
หมูหัน…..ผมเกลี่ยผมลูกที่ปิดหน้าผาก
“ฮึกๆๆ”ผมจูบหน้าผากแล้วกอดลุูกเอาไว้  “คิมหันต์แม่รักหนูมากนะ….ฮึกๆๆ…แม่อยากอยู่กับหนูนานๆแต่แม่คนนี้เลวเกินไปที่จะให้มีชีวิตอยู่ต่อ……แต่แม่สัญญาว่าแม่จะใช้ชีวิตทั้งหมดเพื่อหนูนะลูก…..”
คืนนั้นผมกอดลูกไว้ กว่าจะหลับก็ช่างยาวนานเหลือเกิน
………………
 “แค่กๆๆ” ผมรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก
“แม่ไม่สบายหรอครับ”
“จ้ะ หนูอย่าเข้าใกล้แม่นะ”
“แต่ผมอยากกินข้าวของแม่นี่ครับ ไม่ได้กินมาหลายวันแล้ว” หมูหันขมวดคิ้วขณะนั่งเล่นรถ
“ไปกินข้าวข้างนอกกับพ่อดีกว่าจะได้ไปโรงเรียนเลย”
“ไม่เอาครับ ไม่เห็นอร่อยเลย…แม่ทำให้ผมหน่อยนะ..นะครับน๊า…” หมูหันจะเดินมาหาผมแต่กลับถูกดึงเอาไว้
“อย่าเข้าใกล้สิหมูหันเดี๋ยวติดเชื้อโรค”
ผมยืนนิ่ง…
“หมูหันไปกินข้าวข้างนอกเถอะเดี๋ยวติดหวัดเเม่นะครับนะ….”
หมูหันเม้มปาก คิ้วขมวด
“แม่สัญญาว่าถ้าหายแม่จะทำของอร่อยๆที่หมูหันชอบให้กินเยอะๆเลย”
‘…’
“ไม่งอนนะครับ”
หมูหันพยักหน้ารับ  ก่อนจะถูกพาไปโรงเรียน
ผมทรุดลงบนเก้าอี้…..ผมแทบจะยืนไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะเจ็บมากๆล้าไปทั้งตัว ตื่นขึ้นมาเหมือนเป็นไข้  ไอไม่หยุด ปวดหัวมากๆ
กินยาพอบรรเทาได้บ้างแต่ก็ยังเบลอๆ
RRrrRR
“คะ…ครับแม่”
“เสียงไม่ดีเลย เป็นหวัดเหรอลูก”
“ครับ….”
“เกิดอะไรขึ้นถึงเป็นหวัด ให้แม่ไปหาไหม”
“ไม่เป็นไรครับ….ผมไม่เป็นไร แค่กๆๆ”
“ไหวเหรอลูก…วันนี้พ่อเขาหยุดด้วยจะได้ไปเยี่ยมเลย”
“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่สบายเดี๋ยวจะติดหวัดน่ะครับ…..”   ผมบีบโทรศัพท์แน่นตัดสินใจที่จะบอกเรื่องของลินดาให้แม่ฟัง อยากบอกอยากระบาย
“แม่ครับ….”
“จ้ะ…..”
“ผม…ผม….แค่กๆๆ…..”  มือผมสั่น….
“หอม….”
“….ผมทำให้ลินดาแท้งลูกครับ….”
‘…..’
“ผะ…ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจผลักเขา ผมไม่รู้ ฮึก.ก..” ผมปล่อยโฮ ระบายให้แม่ฟังจะเชื่อหรือไม่เชื่อผมไม่ว่าแต่ผมอยากร้องไห้ระบายกับใครสักคน
‘…..’
“แม่ครับ…พูดอะไรกับผมหน่อยสิ อย่าเงียบ  ว่าผม ด่าผมก็ได้”
“เรื่องราวเป็นยังไงเล่าให้แม่ฟังได้ไหม”
ผมเริ่มเล่าเรื่องต่างๆให้แม่ฟัง แม่ก็เงียบรับฟัง………
“อย่าโทษตัวเองเลยลูก เขาต่างหากที่ทำตัวเอง เพราะทำผิดผลนั้นเลยไปตกที่ลูกตัวเองแทน ถ้าหอมไม่ป้องกันตัวเองอาจเป็นหอมก็ได้ที่ได้รับอันตราย”
“แต่ผม……รู้สึกผิดต่อเด็ก เขากำลังจะเกิดมาแต่ผมฆ่าเขา……”
“เพราะหอมไม่รู้…อีกอย่างฝ่ายนั้นผิดที่คิดร้ายต่อลูกแบบนี้ถ้ายังไงกลับมาบ้านไหมลูกอย่าเล่นเกมส์แบบนี้อีกเลย”
“ไม่ครับผมจะเล่นต่อ…แค่กๆๆ….”
“เฮ้อ…….แล้วคิงส์ว่ายังไงบ้าง”
ผมนิ่ง….หากบอกว่าเขาทำร้ายผมแม่ต้องให้กลับบ้านแน่ๆ
“เขา….ยังวุ่นๆกับโรงพยาบาล”
“ถ้าเขาทำอะไรลูกรีบกลับมาเลยนะแม่ทนไมได้หรอกที่เห็นลูกเจ็บแล้วเจ็บอีก”
“ครับ….”
“ถ้าอย่างนั้นเเค่นี้นะจ้ะ แม่โทรมาเพราะเป็นห่วง”
“ครับ…ผมรักแม่นะครับ”
“จ้ะแม่ก็รักลูกนะ  อ้อ เสาร์-อาทิตย์มาหาแม่กับพ่อบ้างนะ คิดถึงหมูหันจะแย่แล้ว”
“ครับแม่….”
หลังจากวางสายผมก็ได้เเต่นั่งนิ่ง อาการไข้เริ่มบรรเทา  ผมเลยออกไปข้างนอกเพื่อไปซื้อของมาทำอาหารเย็นให้หมูหัน
 เจอของในตลาดสดก็ได้แต่ถอนหายใจของทุกอย่างแพงขึ้นทั้งนั้น แถมตอนนี้ผมก็ตกงานอีก…….คงต้องรีบหางาน ผมเห็นใบปลิวประกาศรับสมัครพนักงานที่วางไว้หน้าร้านขายผัก
 “ป้าครับนี่งานอะไรเหรอครับเขียนแค่ว่าเงินดี”
 “ป้าก็ไม่รู้หรอก เห็นเด็กเเถวนี้มันเอามาแจก”
 “ผมขอใบนี้ได้ไหมครับ”
 “ได้จ้ะ เอาไปเถอะ”
 ผมหยิบใบปลิวประกาศอ่านไปตลอดทาง  รับทุกเพศ อายุ 18-25 ผมนับอายุตัวเองก็ประมาณ 23-24ปี ยังสมัครได้อยู่ แต่ไม่ได้บอกลักษณะงานเลยแค่บอกช่วงเวลาทำงานและสถานที่ทำงานเท่านั้น
 ผมมองท้องฟ้าตอนนี้อากาศเริ่มครึ้มหนักท่าทางฝนกำลังจะตก….ผมมองของในมือซึ่งส่วนหนึ่งเป็นของเยี่ยมไข้ เช่น ผลไม้ นม ต้องรีบไปก่อนที่ฝนจะตก
 เรียกวินมอตอร์ไซค์แม้อีกใจจะลังเลที่จะไป
 “ไปโรงพยาบาล…..ครับ”   ถ้าผมคิดไม่ผิดโรงพยาบาลแถวนี้มีแค่ที่เดียว และเป็นที่ที่ผมมารักษาตัวเพราะที่นี่ใกล้มากสุดและเครื่องมือครบครัน
 “คือคุณ ลินดา อยู่ห้องไหนครับ”
พยาบาลตรวจรายชื่อแล้วถามนามสกุลผมอีกครั้ง  ผมก็บอกนามสกุลพี่คิงส์ไปแต่กลับไม่พบนามสกุลนี้
หรือทั้งสองคนจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน
“ถ้าคุณลินดาที่เพิ่งเข้าโรงพยาบาลเมื่อ 3 วันก่อน อยู่ที่………”
ผมค่อยๆเดินไปยังห้องพิเศษที่ว่า….สูดอากาศหายใจเปิดประตูเข้าไปช้าๆ โชคดีที่ไม่มีใครคนอื่นอยู่ในห้องนอกจากคนที่นอนบนเตียงคนไข้
 ผมวางของเยี่ยมไว้บนโซฟา เดินไปหาคนที่นอนบนเตียงคนไข้ใบหน้าซีดเซียวเพราะเสียเลือดและเสียเลือดเนื้อเชื้อไขของตนไป ถึงแม้ผมจะเป็นผู้ชายแต่ผมเข้าใจดีว่ามันทรมานแค่ไหนเพราะตอนที่ผมท้องหมูหันผมเองก็กลัวว่าเขาจะจากไป…..
 “ผมขอโทษจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจ….…ผมไม่ขอให้คุณให้อภัยแต่ผมอยากจะขอโทษ…..” ผมยืนนิ่งอยู่นาน ทุกอย่างยังคงเงียบสงัด
ผมเดินไปหยิบจานและมีดเพื่อปอกผลไม้ให้และหวังว่าจะปอกเสร็จก่อนที่ใครจะมาแต่ระหว่างกำลังกังวลเสียงฝีเท้าหน้าห้องก็ดังขึ้นต้องลนลานรีบลุกไปหลบในห้องน้ำแทน…….
 เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาและหยุดลงข้างเตียง
 “ลินดา…”
 เสียงที่เอ่ยเป็นเสียงผู้ชายแต่ไม่ใช่เสียงพี่คิงส์....ผมค่อยๆแง้มประตูดูเขาคือคุณพ่อพี่คิงส์….
 “ลินดา..ลินดา”
 “อือ..อืม..”
 “ลินดา….”
 “คุณโชคชัย….”
 “ใช่ฉันเองเธอเป็นยังไงบ้าง”
 “เจ็บมากเลยค่ะ แถมต้องมานอนเหง็กแบบนี้อีก….. “
 “เเล้วลูก…..เป็นลูกที่เกิดจากคิงส์หรือลูกของฉัน….”
 ผมขมวดคิ้ว…..ลูกของฉัน?
 “ไม่รู้ค่ะแต่ไม่คิดว่าจู่ๆจะมีลูกซะได้แต่แท้งได้ซะก็ดีถ้าเกิดว่าเป็นลูกของคุณขึ้นมาเราจะซวยทั้งคู่นะคะ”
 ผมปิดปาก…..หรือว่าสองคนนี้…..
 “หึ…แล้วเธอไม่คิดว่าฉันจะให้เธอมาแทนพิสมัยหรือไง”
“ดะ…ได้เหรอคะ….”
 “แต่ตอนนี้คงเหมาะเท่าไร”
 “ตำแหน่งไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ที่ดินใบโฉนดต่างๆยกให้ลินดาไม่ได้เหรอคะ คุณเองก็ไม่ได้จดทะเบียนกับคุณแม่นี่คะ…นะยกให้ลินดานะ…..ไม่รักลินดาเหรอคะ….”
 “ตอนนี้ไม่ได้หรอก”
 “ฮึ่ย! อะไรก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้โน่นก็ไม่ได้….”
 “น่า รอหน่อยสิ……เงินฉันก็ให้เธอตลอดนี่”
 “แต่ลินดาอยากได้ของมากกว่านี่คะ เงินน่ะใช้ไปก็หมด….โอ๊ย...”
 “เป็นอะไรหรือเปล่า”
 “เจ็บท้องค่ะ….เพราะอีกระเทยนั่นคนเดียวเลย!!”
 “เอาน่า หอมไม่ได้ตั้งใจหรอก”
 “นี่คุณเข้าข้างมันเหรอคะ มันทำลินดาเจ็บนะคะ”
 “คงเป็นอุบัติเหตุล่ะสิหอมที่ฉันรู้จักไม่ได้เป็นคนแบบนั้นหรอก”
 “นี่คุณโชคชัย!”
 ผมยิ้มอย่างขอบคุณ พ่อพี่คิงส์ก็ยังเอ็นดูผมเสมอ
 “ลินดาจะหลับแล้วค่ะ…!”
 “โกรธฉันเหรอ”
 “โกรธสิคะ มันทำลินดาเจ็บคุณยังไปเข้าข้างมันอีก!”
 “ไม่เอาน่า จุ๊บ”   เขาก้มจูบซอกคอง้อคืนดี
“ฉันต้องกลับไปทำงานแล้ว เธอก็นอนพักให้มากๆจะได้หายดีแล้วเราจะได้สนุกด้วยกันอีก”
ลินดายังคงหน้างอ จากนั้นอีกฝ่ายก็ออกไปจากห้อง ส่วนผมรออยู่ในห้องน้ำสักพักจนกระทั่งทุกอย่างเงียบลงผมจึงออกมา ลินดาก็นอนหลับแล้ว การมาเยี่ยมครั้งนี้ทำให้ผมรู้ความลับอีกหลายอย่าง
“เธอนี่มันเลวจริงๆ….”
ผมเดินออกมานอกห้อง หงุดหงิดนึกเสียใจตัวเองที่รู้สึกผิดต่อเธอจนถ่อมาโรงพยาบาลทั้งที่เธอไม่เคยสนใจใยดีอะไรต่อลูกตัวเองที่ตายไปเลย….ทั้งยังได้รู้ความจริงว่าเธอเป็นชู้กับพ่อพี่คิงส์…..
แต่ถึงเธอจะไม่นึกเสียใจที่ลูกเธอตายแต่ผมยังคงนึกเสียใจที่ยังฆ่าเด็กไป…พรุ่งนี้ผมตั้งใจว่าจะไปทำบุญให้….
“หอม…..”
“อ้าวพี่หมอวันนี้เข้าเวรช่วงเช้าเหรอครับ”
“อืม….ว่าแต่หอมมาทำอะไรที่นี่เหรอ ระ…หรือหอมจะอาการทรุด!”
“ไม่ใช่หรอกครับ…แค่คนรู้จักป่วยน่ะครับ...จริงสิ…” ผมยื่นถุงผลไม้ให้
“เอาไว้ทานนะครับผมซื้อมาเยอะเลย”
“จะดีเหรอเยอะเเบบนี้”
“ดีสิครับ รักษาคนอื่นก็อย่าลืมบำรุงตัวเองด้วยนะครับ”
“ขอบใจมากนะ….หอมเองก็อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดีๆ จริงสิวันจันทร์หมูหันต้องมาตรวจที่นี่ใช่ไหมพี่คงไปรับไม่ได้นะเพราะต้องเข้าเวรแต่อาจเว้นช่วงมาหาหอมได้”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมพาลูกมาเองได้”
“คุณหมอคะ ถึงเวลาตรวจแล้วค่ะ”
พยาบาลเอ่ยเรียก
“พี่ไปก่อนนะครับ แล้วเจอกัน”
“ครับ”
หลังจากออกจากโรงพยาบาลผมเตรียมจะกลับไปที่คอนโด
RRrrRrr
สวัสดีครับ…ผมรับสายเมื่อเบอร์จากโรงเรียนอนุบาลปรากฎขึ้น
“เลิกเรียนไวเหรอครับ…ได้ครับแล้วผมจะไปรับนะครับ…” ผมรีบเรียกวินมอเตอร์ไซค์เพื่อไปโรงเรียนอนุบาลทันที
“แม่ครับ!”
ผมนั่งรอรับกอดของลูก
“เป็นยังไงบ้างครับวันนี้”
“สนุกมากเลย ผมเขียน A-Z เป็นแล้วด้วย”
“ว้าวววว!” ผมตาโตเพราะหมูหันเพิ่งจะ3ขวบเอง
ฟอดดดด “ลูกเเม่ฉลาดมากครับ มา..เดี๋ยวแม่จะพาไปซื้อขนมเป็นรางวัลดีไหม”
“ไม่เอาครับ อยากกินข้าวฝีมือแม่มากกว่า…..แม่หายป่วยแล้วใช่ไหมครับ…ทำให้กินหน่อยน๊า”
“หึ ครับผม”
ผมกำลังทำอาหารกลางวันให้หมูหันเพราะเจ้าตัวบอกว่าที่โรงเรียนกินไม่อิ่มและไม่อร่อยเท่าฝีมือผม  อ้อนเสียจริงแต่ที่ผมดีใจมากกว่านั้นคือลูกผมเริ่มมีความเป็นผู้ใหญ่บ้างแล้วเพราะไม่ค่อยดื้อ ซน มากเท่าเมื่อก่อน ให้รอกินข้าวเฉยๆก็ทำ ถ้าเป็นเมื่อต้องวิ่งให้วุ่น
“ว่าแต่ทำไมวันนี้โรงเรียนเลิกเร็วล่ะฮึ”
“คุณครูบอกว่าพรุ่งนี้วันแม่ครับ….”ผมหยุดมือ
 “วันแม่เหรอ”
“ครับ….คุณครูเลยจะเตรียมจัดงานวันนี้”
จะว่าไปวันนี้วันที่ 11 สิงหาคม พรุ่งนี้วันแม่แล้วเหรอเนี่ย
“คุณครูบอกว่าให้พาแม่ไปด้วยล่ะ แม่ไปอยู่กับผมพรุ่งนี้นะ”
ผมนิ่ง….ลืมไปสนิทที่ตัวเองไม่อาจจะอยู่ในสถานภาพที่เป็นแม่ได้ในสังคมกว้าง ฉะนั้นวันพรุ่งนี้ผมคงจะเป็นแม่ให้หมูหันไม่ได้
“แม่ขอโทษนะพรุ่งนี้แม่ไปไมได้”
“อ้า…ทำไมอ่ะครับ” หมูหันหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด
“คือ……” ผมรีบหยิบใบปลิวสมัครงาน “คือพรุ่งนี้แม่ต้องไปสมัครงานน่ะ เลยไปไม่ได้……”
หมูหันน้ำตาคลอ เบะปากแล้วสะอื้น
“ฮึกๆ..ๆ…แม่ก็ไม่ต้องไปสิ….ไปกับผมไม่ได้หรอ คุณครูบอกให้พาแม่ไปด้วย..ฮึกๆ…” เจ้าตัวร้องไห้โฮ
“แม่ขอโทษนะครับ” ผมรีบเช็ดน้ำตาให้
“ถ้าแม่ไม่ไปผมก็ไม่มีแม่…ฮือๆๆ แม่ไม่ไป..ฮึก”
ผมกอดลูก…ร้องไห้ไม่ต่างกันผมอยากไปมากๆ อยากไป….แต่อย่างที่รู้หากผมไปในฐานะแม่จะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่อายแต่ผมกลัวลูกจะมีปมด้อย
“ฟังนะคนดีของแม่…..ถึงแม่ไม่ได้ไปแต่แม่อยากให้หนูรู้ไว้ว่าแม่รักหนูมากนะ…..”
หมูหันเม้มปากพยายามไม่ร้องแต่น้ำตายังไหลตลอดเวลา
“แม่รักหนูนะ…..แม่ขอโทษจริงๆหนูให้อภัยแม่ได้ไหม”
หมูหันพยักหน้าแล้วสวมกอดผม….ผมหลับตารู้สึกเจ็บปวดใจมากๆที่ทำให้ลูกเสียใจขนาดนี้
หลังจากกินข้าวเสร็จหมูหันก็นอนหลับกลางวัน ผมโทรไปหาแม่เพื่อให้แม่ไปที่โรงเรียนกับหมูหันแทนผม
 “ได้จ้ะ แม่จะออกจากบ้านไปพร้อมพ่อเลย”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วหมูหันว่ายังไงบ้างล่ะ”
“ก็ร้องไห้ครับ…..ผมผิดต่อลูกจริงๆ”
“อย่าคิดมากเลยลูก…..แม่ก็คิดไว้แล้วว่าสักวันต้องเป็นแบบนี้…..ลูกต้องเข้มแข็งนะ”
“ครับ…..”
ผมวางสายเดินไปหาลูกที่ยังคงหลับสนิทบนเตียงนอน จูบหน้าผากและแก้มยุ้ย
“แม่รักหนูนะ…”
 …….ตอนเย็น
 พี่คิงส์กลับมาที่ห้อง เดินเข้ามาหาอย่างไม่สบอารมณ์เช่นเคย
 “มีความสุขจังนะมึง ฆ่าลูกกูไปทั้งคน”
ผมที่กำลังปอกผลไม้เพื่อแช่ตู้เย็น หยุดชะงัก
“ผมยอมรับผมผิดจริงๆพรุ่งนี้ผมจะไปทำบุญให้ลูกของคุณ”
“พูดง่ายนี่…..ไม่ลองมาเป็นกูบ้างล่ะ….”
“เเล้วคุณจะให้ผมทำยังไง…ผมไม่ได้ตั้งใจ….”
“อึก”  เขาบีบคอผม
“ทำแบบนี้ไง!”  เขาเปลี่ยนจากบีบคอแล้วมาบีบแขนผมแทนแล้วกระชากให้เข้าไปในห้อง เหวี่ยงลงบนเตียงอย่างแรง
ผมรีบลุกแต่ถูกผลักไปอีก
“ทำบ้าอะไร! เกลียดผมไม่ใช่หรือไงแล้วมาทำแบบนี้ทำไมฮะ!”
 ร่างสูงชะงัก
“ทำไม อยากมีอะไรกับผมมากนักหรือไงเวลาโมโหทีไรจะมาลงกับผมทุกที…….คุณยังรักผมอยู่หรือไง!“ผมตะโกนก้อง บ้าไปแล้วผมพูดไปได้ยังไงว่าเขายังมีใจรักผมอยู่
……นานกว่าเขาจะตอบ….นิ่งอึ้งไปซักพัก
“ใครบอก...คิดว่ากูพิศวาสมึงมากนักหรือไง…กูขยะแขยงมึง!!”
“งั้นก็อย่ามายุ่งกับผมเพราะผมก็ขยะแขยงคุณเหมือนกัน! ฮึก….ก…..แต่เพราะคุณไม่ใช่หรือไงที่มารักคนน่าขยะแขยงก่อน เพราะคุณไม่หรือไงที่บอกรักผมก่อน…..ฮึก…แล้วดูสิ่งที่คุณทำกับผมในตอนนี้กับตอนที่รักกัน......คุณเคยนึกถึงช่วงเวลานั้นบ้างหรือเปล่า…….”ผมปล่อยโฮจู่ๆเรื่องราวในอดีตก็เข้ามาในหัวช่วงเวลาที่รักกันกับช่วงเวลานี้เขาตรงหน้าช่างห่างไกลเหลือเกิน
เขานิ่ง….มองใบหน้าของผมท่าทางสับสน
“โถ่เว้ย!” เขาเดินออกไปข้างนอก
ผมปาดน้ำตาจะเดินออกนอกห้องนอนหากแต่ความเจ็บตรงหน้าอกทำให้ผมทรุดฮวบ
 “แค่กๆๆ” ผมจับตรงมุมปากก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อมีเลือดไหลออกมา พยายามจะลุกไปกินยาแต่ลุกไม่ไหว…เจ็บปวดภายในร่างกาย…ผมจะตายงั้นเหรอจะตายตอนนี้น่ะเหรอ...ไม่….ผมจะตายไม่ได้ผมยังไม่อยากตายตอนนี้…
ผมพยายามฝืนไปหยิบยาในห้องนอนของตัวเองแต่ก็ทำได้แค่คลานไปอย่างลำบาก พอออกมาจากห้องของพี่คิงส์ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อขาป้อมๆมาอยู่ตรงหน้า
“แม่….”ผมเงยหน้ามองหมูหัน
“แม่นอนทำไมครับ”
 ผมพยายามเช็ดเลือดเพื่อไม่ให้ลูกตกใจ
 “ปะ..เปล่า….คือ…อ่อก…” ผมกระอักเลือด ผมช็อคกับกองเลือดตรงหน้าจนเกือบตั้งสติไม่อยู่แต่เสียงเรียกทำให้ผมรีบเปลี่ยนสีหน้า
“แม่!”หมูหันรีบกอดผม
“แม่เป็นอะไรแม่มีเลือดออก” หมูหันพยายามจะพยุงผมให้ลุก น้ำตาไหลอาบแก้มป่อง
“อย่าร้องไห้สิคนดีของแม่…แม่แค่หกล้มเอง” ผมยิ้ม
“แม่ลุกสิๆ ฮึกๆ” หมูหันร้องไห้ตัวโยนรีบปะคองผม
ผมพยักหน้าพยายามฝืนลุกทั้งๆที่จะล้มทุกเมื่อแต่เพราะกลัวว่าลูกจะตกใจจึงฝืนเดินไปจนถึงห้อง เดินไปถึงเตียงก็ล้มตัวนอน หมูหันก็รีบหาผ้ามาเช็ดเลือด
“หมูหันหยิบยาให้แม่หน่อยครับ”
หมูหันทำตามที่บอกแล้ววิ่งไปเทน้ำใส่แก้วมาให้ผมโดยที่ไม่ได้บอก หลังจากกินยาเสร็จหมูหันก็รีบซุกมานอนตรงอกผม
“หมูหัน….”
“ผมกลัว….”
“กลัวอะไรฮึ”
“กลัวแม่เจ็บ แล้วก็กลัวบางอย่างแต่ผมไม่รู้ว่าคืออะไร….”
ผมกอดลูก  เด็กวัยนี้ยังไม่รู้จักความเป็นความตาย
“แม่แค่หกล้มเองลูก”
คืนนั้นผมนอนกอดปลอบลูกทั้งคืนและเผลอหลับไปทั้งๆที่อาการยังไม่ดีนัก
เช้าต่อมาผมแทบจะลุกจากเตียงไม่ไหว พ่อกับแม่มาถึง ถึงกับจะพาผมไปโรงพยาบาลแต่ผมค้านเพราะวันนี้เป็นวันแม่อยากให้พาหมูหันไปโรงเรียน และผมเองก็อยากนอนพักมากกว่าจะเคลื่อนย้ายไปไหน ตอนแรกพ่อจะลางานมาเฝ้าแต่ผมก็ค้านอยู่ดี สรุปผมเลยนอนอยู่คอนโดคนเดียว
นอนหลับไปสักพักแต่เพราะความเย็นตรงหน้าผากทำให้ผมค่อยๆลืมตา
“อือ…..”พยายามเพ่งมองแต่ก็เลือนลาง
“หอม…..”
เสียงนี้
“…พี่คิงส์”
“อืม….เป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรแล้วครับ”
“งั้นเหรอ ไข้นายเป็นๆหายๆหรือไง”
“อาจไม่หายตลอดชีวิตก็ได้นะครับ” ผมพูดกึ่งประชด พยายามฝืนลุกนั่ง ว่าแต่ทำไมเขาถึงมาดูแลผมแบบนี้
”คุณมีอะไรหรือเปล่า” ผมหยิบผ้าตรงหน้าผากออก มองข้างๆมียาลดไข้วางอยู่
เขายังนิ่ง…
“จะมาทรมานผมหรือครับ”
“ไม่ใช่” เขารีบตอบ แต่ท่าทีเขาเองก็ยังสับสนเช่นกัน
ผมกลืนน้ำลายหนืดคอ กระอักกระอ่วนใจไม่ต่างกัน
“นอนพักผ่อนให้มากๆล่ะกัน ส่วนเรื่องลินดา…..ฉันจะลืมมันไปซะ ถือว่าเรื่องต่างๆที่มันเกิดขึ้นเพราะฉันเริ่มเอง ฉันไปยุ่งกับนายก่อนทุกอย่างจึงโยงมั่วไปหมด ถ้าฉันเลือกลินดาแต่แรกบางทีฉันอาจจะมีลูกไปแล้วก็ได้….ตอนนี้เราก็แค่ทำตามเกมส์ว่าใครจะได้หมูหันไปจากนั้นเราก็ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก”
อกผมตื้อไปหมด เขากำลังจะบอกว่าที่เลือกผมแต่แรกมันผิดงั้นเหรอ….เขาไม่ควรมายุ่งกับผมตั้งแต่แรกใช่ไหม….เขาควรที่จะรักผู้หญิงมาก่อนไม่ใช่เลือกผู้ชายอย่างผมใช่หรือเปล่า
 พี่คิงส์เดินออกไปจากห้อง ทิ้งเพียงความว่างเปล่าและความเศร้าที่ก่อขึ้นในใจผม ทั้งๆที่เลิกกันมาเกือบ 4 ปีแล้ว แต่ทำไมผมยังเศร้าได้ขนาดนี้ ผมกอดเข่าซุกตัวร้องไห้….เมื่อไรผมจะหลุดพ้นจากเขาเสียที
หัวข้อ: ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 10-07-2017 19:27:48
พวงมาลัยวางลงบนมือผมพร้อมกับมือน้อยๆที่ก้มลงกราบ ผมกอดลูกพลางให้พรเท่าที่ผมจะนึกออก ส่วนผมเองก็ไม่ลืมที่จะไหว้เเม่ของผมเช่นกัน
“หอมเป็นยังไงบ้างลูก”
“ไม่เป็นไรครับแม่แค่เป็นหวัด” ผมโกหกออกไปทั้งๆที่อาการผมเริ่มแย่ทุกวัน
“แน่ใจหรือ…ไปพักที่บ้าน เสาร์-อาทิตย์นี้เลยไหม”
“ไม่ดีกว่าครับ…ผมไม่สบายไม่อยากเป็นภาระ”
“ภาระอะไรกัน พูดยังกับแม่เป็นคนอื่น”  แม่ลูบหัวผม
หมูหันทำเนียนมานอนตักผมซะงั้น แล้วกอดแน่นเลย
“หมูหันอ้อนแม่เขาทำไมฮึ”
“เดี๋ยวแม่จะหายไปครับ ผมกลัว”
แม่ผมทำหน้างงๆ แต่ก็อยู่คุยไม่นานเพราะแท็กซี่รออยู่ข้างล่าง
เหลือเพียงความเงียบ ผมลูบหัวลูกเบาๆ
“แม่ครับ….อย่าจากผมไปนะ ผมกลัวว่าแม่จะจากผมไป”
‘…..’
“ผมกลัวมากๆเลยล่ะ วันนี้ผมเห็นเพื่อนๆกอดแม่ตัวเอง แม้ผมจะมีคุณยายแต่ผมคิดถึงแม่มากๆเลย อยากกลับมากอดแม่กลัวแม่จะหายไป”
ผมมองใบหน้าที่มีน้ำตาคลอ แก้มป่องกลมมากขึ้นคล้ายพยายามกลั้นร้องไห้
“แม่…จะไม่ไปไหนทั้งนั้นหรือต่อให้แม่จากไปแม่จะโอบกอดหนูไว้ตลอดไป…….”
 …………………………..
3 วันต่อมา
Part Kings
คนเป็นแม่หากสูญเสียลูกไปต้องเสียใจเป็นธรรมดาแต่แปลกที่ลินดากลับไม่เสียใจเลยสักนิดที่ต้องเสียลูกไปถึงแม้จะตื่นขึ้นมาเอาแต่ด่าและโทษหอมก็เถอะ แต่กลับไม่มีน้ำตาให้ลูกสักนิด
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูบ่งบอกถึงเวลาว่าหมอจะมาตรวจอาการเหมือนทุกครั้ง หมอคนนี้ไม่ใช่หมอประจำที่เคยมาตรวจแต่ใบหน้ากลับคุ้นๆ เมื่อเขามองเห็นผมเขาก็ชะงักคล้ายรู้จักผมเช่นกัน
จากนั้นหมอก็ตรวจอาการเหมือนทุกครั้ง
“อาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะครับ อีก 2 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้แล้วครับ”
“ขอบคุณครับ”
หมอเดินออกไปจากห้อง ผมที่ไม่มีงานที่บริษัทของพ่อเท่าไรเพราะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งสำคัญจึงพอมีเวลามาเฝ้าไข้บ้าง
‘งั้นก็อย่ามายุ่งกับผมเพราะผมก็ขยะแขยงคุณเหมือนกัน! ฮึก….ก…..แต่เพราะคุณไม่ใช่หรือไงที่มารักคนน่าขยะแขยงก่อน เพราะคุณไม่หรือไงที่บอกรักผมก่อน…..ฮึก…แล้วดูสิ่งที่คุณทำ….ในตอนนี้กับตอนที่รักกันคุณเคยนึกถึงช่วงเวลานั้นบ้างหรือเปล่า…….’
ผมก้มหน้าซบกับมือ ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เคยกลับไปนอนห้องนั้นเลย …..พอได้ฟังคำพูดของหอมมันเหมือนตอกย้ำบางอย่างให้กับผม ผมรักหอมก่อน จีบก่อน แล้วสุดท้ายก็เลิกรักก่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะผมใช่ไหม…..
ผมหลับตาพิงโซฟานึกถึงใบหน้านั้นที่ร้องไห้หรือยามที่ร่างนั้นอยู่ภายใต้ร่างกายของผมหัวใจของผมยังคงเต้นแรงเหมือนตอนที่ยังรักกัน……ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไรผมถึงอยากพิสูจน์และเดิมพันครั้งสุดท้ายกับช่วงเวลา 2 เดือนเพื่อให้แน่ใจตัวเองแต่ทำไมเรื่องถึงกลับมาเป็นแบบนี้ได้
 “อือ…..” เสียงครางทำให้ผมเดินไปหาลินดา
“ลินดา…”
“อะ..อืม…คุณโชคชัย…..” ไม่พูดเปล่ายังเอามือคล้องคอผมอีก
ผมหยุดชะงัก ทำไมลินดาเรียกชื่อพ่อของผม
“คุณ….พี่คิงส์!” เธอท่าทางตกใจอย่างมากเมื่อลืมตาตื่น
“ลินดา….”
“พะ…..พี่คิงส์เฝ้าลินดาเหรอคะ จุ๊บ” เธอคล้องคอผมแล้วจูบปาก
“เมื่อกี้เธอเรียกชื่อพ่อของฉัน”
“อะ…เอ่อ คือ อ๋อ… ชื่อหมาที่ลินดาเลี้ยงไว้น่ะค่ะ มันชื่อโชคกับชัยค่ะ”
“แน่ใจนะ”
“ทำไมคะ พี่คิงส์พูดแบบนี้สงสัยอะไรเหรอคะ”
ผมถอนหายใจ “ช่างเถอะ แล้วร่างกายยังเจ็บตรงไหนบ้าง”
“เจ็บท้องน้อยหน่อยๆค่ะ ไม่เป็นไรมากแล้ว แต่….พี่คิงส์ไล่อีกระเทยไปแล้วใช่ไหมคะ”
“เปล่า”
“ทำไมคะ! มันทำลินดาเจ็บ แล้วลูกก็ตายนะคะ”
“ฉันอยากให้มันจบ…”
“พี่คิงส์!!”
“แต่ก็เพราะเธอเองไม่ใช่หรือไงที่ไปห้องนั้น”
“อ๋อ….เหอะ! พี่คิงส์ปกป้องมัน มันทำลูกของเราตาย ลินดาเจ็บเจียนตายพี่ก็ยังรักมัน ทำไมคะ! มันดีตรงไหน มันก็แค่ผู้ชาย ลินดาเมียพี่นะ ทำไม! กรี๊ดดดดด”
 “พอได้แล้วลินดา!”
“โวยวายอะไรกันเสียงไปถึงข้างนอกเชียว”  แม่ของผมและแม่ของลินดาเดินเข้ามาในห้องพอดี
“ลินดาโวยวายอะไรลูก”
“ตาคิงส์ทำอะไรน้องฮึ น้องถึงได้เป็นแบบนี้”
“ก็พี่คิงส์สิคะไม่ได้ไล่อีกระเทยนั่นออกไป แถมยังบอกให้เรื่องที่เกิดขึ้นผ่านๆไป ฮึก..ก..ก..”
“จริงหรือคิงส์”  แม่ลินดาเอ่ย ผมก็พยักหน้ารับ
“ตาคิงส์! นี่แกพูดอะไรออกมา เรื่องนี้ใหญ่โตลูกแกตาย หลานฉันก็ตาย เมียแกก็เจ็บ แกยังจะให้มันผ่านๆไปงั้นเหรอ! แจ้งความก็ไม่แจ้งไล่ก็ไม่ไล่ นี่แกจะหลงอะไรมันนักหนามันมีดีอะไรหรือแกโดนทำของใส่!” แม่ตวาดลั่นสีหน้าโกรธอย่างมาก
“เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะผมเอง….จุดเริ่มต้นมันเกิดจากผม ถ้าผมไม่รักเขา ไม่พาเขามาอยู่เรื่องก็คงไม่เกิด”
“งั้นก็ไล่มันออกไปสิ”
“ผมยังมีสัญญากับเขาอยู่”
“สัญญาอะไร……แกกับมันเล่นอะไรกัน”
“บอกไม่ได้ครับ เอาเป็นว่าผมขอจบเรื่องแค่เท่านี้”
“แกจะบ้าหรือไงฮะ ไอ้ลูกเวร!”  แม่ใช้มือตบตีผมแต่ไม่ทำให้ผมเจ็บมากมายเท่าไร
“พอเถอะครับแม่ผมเลือกแล้ว”
“คิงส์……แม่ขอเถอะนะ ลินดาเป็นเมียเธอ เธออย่าทำแบบนี้เลย…..” แม่ของลินดาเอ่ยขึ้น
“ผมขอโทษครับ…ทั้งสองคนมาแล้วงั้นผมขอตัว” ผมเดินออกมาจากห้องท่ามกลางเสียงไม่พอใจของทั้ง3คน   เดินออกมาจากห้องไม่นานก็เจอ หอม หมูหัน และ หมอคนที่มาตรวจเมื่อสักครู่ ท่าทางการคุยบ่งบอกถึงความสนิทสนม
“อาทิตย์หน้าลุงจะพาหมูหันไปเที่ยวดีไหม อาทิตย์นี้ไม่ว่างเลย”
 “จริงหรอครับ!”
“หมูหันอ้อนลุงหมอเกินไปแล้วนะ”
ผมเดินไปใกล้และนั่นทำให้หอมมองเห็นผมพอดีแต่เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย ส่วนหมอคนนั้นกลับมองผมตาเขม็งไม่พอใจ ผมพอเดาออกแล้วว่าทำไม…
“ไง….นี่แฟนใหม่มึงงั้นสิ” ผมหยิบบุหรี่จุดไฟแล้วสูบ
“นี่คุณมาสูบบุหรี่ต่อหน้าลูกทำไม” หอมรีบรั้งหมูหันให้อยู่ด้านหลัง
ฟู่!
“หมูหันมาหาพ่อสิ”
หมูหันจะเดินมาแต่หอมรั้งไว
“อย่าไปหมูหัน อย่าเข้าใกล้เดี๋ยวจะเป็นโรค”
“เหอะ!”
“คุณถ้าจะสูบบุหรี่เชิญไปสูบข้างนอกครับ โรงพยาบาลห้ามสูบบุหรี่” หมอหน้าหล่อแต่หล่อน้อยกว่าผมเอ่ยขึ้น ท่าทางไม่สบอารมณ์
“เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะสองผัวเมียคู่นี้” ผมทิ้งบุหรี่แล้วขยี้กับพื้น
“หากทำแบบนี้อีกผมจะเรียกรปภ.ให้พาคุณออกไปจากโรงพยาบาล”
“หึ…หอม ผัวมึงคนใหม่นี่ร้ายเอาเรื่องนะ แต่หน้าแม่งอ่อนว่ะ คงมีดีแค่เป็นหมอ ลีลาคงไม่เด็ดเหมือนกูใช่ไหม มึงถึงร้องทุกครั้งที่กูเอา”
คำพูดผมนี่หนักเอาเรื่องทำเอาหมอหน้าชา ส่วนหอมถึงกับตัวแข็งทื่อไปเลย
“คุณมันเลว” หอมปรี่จะมาหาผมแต่หมัดของใครบางคนกลับมาแทน
ปึก! ผมล้มกับพื้นเพราะหมัดของไอ้หมอปล่อยมาสุดแรงท่าทางมันจะโกรธมากๆ
“คุณทำอะไรหอม!”
“พี่หมอ! อย่าครับ”
“ถุย!” ผมถุยน้ำลายปนเลือด
“บอกมาว่าคุณทำอะไรหอม”
“กูก็เอามันไง!”
“พี่หมอ!” มันจะต่อยผมอีกแต่หอมห้ามไว้ “อย่านะครับ  พี่หมออย่า! คนแบบนั้นอย่าทำให้พี่หมอต้องแปดเปื้อนเลย  ไปเถอะครับ”
 “ปากดีนักนะมึงกลับไปกูจะเล่นให้หนักเลย”  หอมลากไอ้หมอไป หมูหันมองหน้าผมเหมือนจะเข้าหาแต่ก็วิ่งตามหอมไปเช่นกัน……..แล้วทำไมผมต้องโมโหแบบนี้ด้วย
 ..............................................
Part  Ton Hom
“พี่หมอไปทำแบบนั้นทำไมครับ”
“หอมห่วงมันเหรอ”
“ไม่ใช่ครับ ก็พี่หมอเป็นหมอแล้วไปทำร้ายเขาแบบนี้ คนทางโรงพยาบาลหรือคนไข้คนอื่นจะคิดไม่ดีนะครับ และเกิดเขาฟ้องร้องขึ้นมาพี่หมอจะเสียกับเสีย”
“ช่างเถอะ ให้พี่ได้ต่อยมันพี่ก็พอใจแล้ว…….ที่มันบอกจริงหรือเปล่า” พี่หมอมองตามองไม่ลดละ ผมก้มหน้า
“หอมบอกพี่….”
“เขา….ใช้กำลังกับผม….”
“มัน!” พี่หมอจะไปทำร้ายพี่คิงส์อีก แต่ผมรั้งไว้
 “โถ่เอ๊ย พอกันทีหอมออกมาจากที่นั่นซะ เลิกทำอะไรที่เหมือนเอาตัวเข้าแลกสักที พี่ยอมไม่ได้”
ฟุบ! พี่หมอดึงตัวผมไปสวมกอด กอดแน่นจนผมแทบหายใจไม่ออก
“พี่เสียใจมากรู้ไหมที่มันทำกับหอมแบบนี้ ออกมาเถอะ เลิกเล่นเกมส์บ้าๆเสียที”  พี่หมอผละผมออก จ้องมองใบหน้าผม
“ผม…..ขอโทษครับ…ผมเลิกไม่ได้ผมไม่อยากเสียลูกไป….ผมขอโทษ…” ผมมองหมูหันที่จับมือผมแน่น
“แล้วหอมคิดว่าพี่ทนได้เหรอที่มันทำแบบนั้นกับหอม….ทั้งๆที่พี่รักหอมขนาดนี้!” 
“คือ…..”
“พี่เคยคิดว่าถ้าหอมไม่รักพี่ พี่ก็จะตัดใจและขออยู่ข้างๆก็พอ แต่….พอมันพูดแบบนั้นพี่ทนไม่ได้! หอมยอมมันได้แต่แค่รับรักจากพี่ทำไมทำไม่ได้!”
“ผมไม่ได้ยอม”
“ก็เหมือนยอม…..เพราะหอมยังไม่ไปจากมันไง”
“พี่หมอ! เลิกดูถูกผมได้แล้ว ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะมีความคิดแบบนี้”
“พะ..พี่...” พี่หมอถอนหายใจ   
“พี่พอแล้วล่ะ…..พี่จะไม่เจอหอมสักพักพี่เหนื่อย……”
ผมยืนนิ่ง ตัวชาไปทั้งตัว…..
พูดจบพี่หมอก็เดินจากไป
“คุณลุง!” หมูหันวิ่งไปหา “ทะเลาะไรกันหรอ ทะเลาะกับแม่หรอครับ”
“ไม่ใช่หรอกครับ….ลุงไปก่อนนะ อาทิตย์หน้าคงพาไปเที่ยวไม่ได้แล้ว….”
“ฮึก..ก…ก”  หมูหันเบะปากแล้วร้องไห้หนักเมื่อพี่หมอเดินจากไป
“แม่ครับ ฮึก…ก…ทำไมล่ะ ทำไมไปเที่ยวไม่ได้แล้ว”
ผมยืนอึ้ง คำพูดที่คล้ายลาจากทำให้ผมถึงกับพูดรั้งไม่ออก…..พี่หมอกำลังจะจากผมไปใช่ไหม….นั่นสิใครจะทนอยู่กับคนอย่างผมได้…..ถ้าเป็นผมคงจากไปนานแล้วเพราะอยู่ก็ไม่รู้อยู่ในฐานะอะไร
ผมก้มหน้าไม่ให้เห็นน้ำตาที่ไหลอาบเเก้ม แต่ใครจะคิดว่ามือของคนที่เพิ่งเดินจากไปจะกลับมาแล้วขยี้หัวผมเบาๆ ผมเงยหน้ามองคนที่ยิ้มเศร้า
“หอมทำหน้าแบบนี้แล้วพี่จะไปจากหอมได้ยังไง…..”
“ฮึก..ก..ผมขอโทษ ผมขอโทษ” ผมสวมกอด พี่หมอก็ลูบหลังปลอบผม
พี่หมอถอนหายใจเฮือกใหญ่ “พี่อยู่ในฐานะอะไรก็ได้…แต่พี่เห็นหอมเจ็บไม่ได้เข้าใจไหม” ผมหลับตาแน่น รู้สึกผิดต่อพี่หมอเหลือเกิน…..ผมขอโทษจริงๆที่ผมรักพี่ไม่ได้
หลังจากนั้นเราสองคนก็ปรับความเข้าใจกันพี่หมอบอกให้ลืมเรื่องที่ผ่านมาเมื่อสักครู่แต่เขาจะไม่ให้อภัยพี่คิงส์แน่นอนและยืนยันว่าต้องการให้ผมออกจากคอนโดนั่นแม้ผมจะปฏิเสธก็ตาม
ผมกับหมูหันจูงมือกันเพื่อไปเรียกแท็กซี่แต่ก็เจอพี่คิงส์ที่เดินมาหาพอดีคาดว่าเขาคงตั้งใจเดินมาหาเพราะเขามีรถส่วนตัวคงไม่มายืนข้างถนนแบบผม
 “พ่อ!” หมูหันวิ่งไปหาหวังโผกอด แต่เขากลับปัดมือลูกทิ้ง
“คุณ!”  ผมรีบเดินไปหา
หมูหันหน้าเจือน มองมือตัวเองที่ถูกปัด
“คุณทำอะไรของคุณ ปัดมือลูกทำไม”
พี่คิงส์มองหน้าลูก “อย่าเอามือที่จับคนอื่นมาจับพ่อ ถ้าพ่อเห็นพ่อจะไม่แตะต้องลูกอีก!”  พูดจบก็เดินกระแทกไหล่ผมไป
หมูหันยืนอึ้ง  มองมือตัวเอง แล้วปล่อยโฮ…. “พ่อ!....”
“ไม่ร้องนะครับๆ” ผมกอดปลอบ   เขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
 

หัวข้อ: ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 10-07-2017 19:28:34
ผมเก็บกวาดห้องเสร็จ มองกระเป๋าเงินที่ตอนนี้เงินเหลือน้อยเต็มทน ผมคงต้องทำงาน….และคงต้องเป็นงานตอนกลางคืนเพราะช่วงเช้าต้องอยู่ดูแลลูก ผมหยิบใบปลิวรับสมัครงานขึ้นมาดู…..แม้ไม่รู้งานแต่บอกว่าเงินเดือนดีและทำตอนกลางคืนอีก พรุ่งนี้ผมคงต้องไปสมัคร…..
“หืม….” ผมมองกล่องเล็กๆ ไม่ใช่กล่องของผมนี่ มีเสียงดังขลุกขลิกข้างใน
“หมูหัน….นี่กล่องของหนูเหรอ”
หมูหันที่กำลังทำการบ้านรีบวิ่งมาทันที แล้วรีบแย่งไป   “ห้ามดูนะ”
“อะไรอยู่ในกล่องฮึ”
“ไม่บอก”
ซ่า! เสียงแบบนี้มัน
“ฝนตกเหรอเนี่ย!”  ผมรีบวิ่งไปเก็บผ้าที่ตากทันที จู่ๆฝนก็ตกลงมาซะงั้น
“ผ้าที่ตากไว้เปียกหมดเลย…เฮ้อ….”
ผมมองไปยังเจ้าตัวอ้วนที่ยังคงกุมกล่องเล็กๆนั่นไว้แน่น ของข้างในคงสำคัญมากล่ะสิ
“ฮัดชิ้ว!” หมูหันจาม   
“ไม่สบายเหรอลูก”  ผมใช้มืออังหน้าผาก  ตัวไม่ร้อนแต่จะมามัวให้รอเป็นไม่ได้
“ไปนอนเถอะ”
“ผมยังไม่ง่วง การบ้านยังไม่เสร็จด้วย”
ผมเดินไปหยิบผ้าพันคอไหมพรมให้ ผ้าพันคอผืนนี้ผมเป็นคนถักเองผมรับรองว่าต้องอุ่นแน่นอนเพราะถักหนาพอควร
“อุ่นไหมลูก”
“อุ่นครับ”
“ทำให้เสร็จแล้วเข้านอนเองเลยนะครับ เดี๋ยวแม่จัดการตรงนี้ก่อน”  หมูหันพยักหน้าเข้าใจแล้วทำการบ้านต่อ
เสียงเปิดประตูทำให้ผมหยุดชะงักแต่ก็ไม่ได้หันไปมอง แต่หมูหันรีบเดินมาแอบหลังผม
พี่คิงส์มองเราสองคน ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนตัวเอง
“พ่อน่ากลัว…..ผมกลัวพ่อแล้วล่ะ”
ผมถอนหายใจ  “อย่าไปสนใจคนแบบนั้นเลยลูก ถ้าลูกกลัวก็อยู่ห่างๆนะ”
 หลังจากนั้นเราสองคนก็เข้านอน หมูหันหลับแล้วผมที่กำลังเคลิ้มหลับพอได้ยินเสียงเคาะประตูทำให้ปลุกผมตื่นขึ้นมา
“มีอะไรครับ”
“หมูหันหลับหรือยัง”
“หลับแล้วครับ”
“ขอฉันเข้าไปดูหน่อยสิ”
ผมให้เข้าไป โดยผมยืนมองหน้าประตู เบือนหน้าหนีเมื่อเขาก้มลงจูบหน้าผากลูก
“หมูหันพ่อขอโทษนะ…..”
“คุณนี่มันจริงๆเลย อารมณ์เสียแล้วมาใส่กับลูกเนี่ยนะ หมูหันยังเด็กแกไม่ประสีประสารับรู้อารมณ์คุณหรอก ผมขอร้องล่ะถ้าคุณพาหมูหันไป แล้วทำแบบนี้คุณยกให้ผมเถอะ คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะเลี้ยงหรือเป็นพ่อสักนิด”
“ต้องให้ไอ้หมอเป็นพ่อใช่ไหมถึงจะมีคุณสมบัติพอ”
“ใช่….พี่หมอเหมาะที่จะเป็นพ่อหมูหันมากที่สุด”
“เหอะ น่ารังเกียจนอนกับกูแล้วไปนอนกับผัวอีก เฮ้อ…..สงสารมันจริงๆ”
“ถ้าจะมาชวนทะเลาะก็ออกไปเลย”
“ออกไปแน่ ก็ไม่อยากอยู่นาน”
เขาเดินออกไปจากห้องผมรีบปิดล็อคทันที  “บ้าชะมัด!”
……………………………………………………..
เช้าต่อมา
“เดี๋ยวพ่อไปส่งโรงเรียน”
หมูหันส่ายหน้าแล้วแอบด้านหลังผม
“ผมไม่ไปกับพ่อ พ่อน่ากลัว”
“หมูหัน…..”พี่คิงส์เสียงเย็น
“เดี๋ยวผมไปส่งลูกเอง ตอนเย็นคุณไปรับล่ะกัน” ที่ผมเสนอให้เขาไปรับเพราะสงสารหมูหันยังไงก็อยากให้คืนดีกันไม่อย่างนั้นหมูหันคงอยู่ที่นี่อย่างผวากลัวตลอด 
พี่คิงส์ขมวดคิ้วแต่ก็พยักหน้ารับ
วันนี้ผมไปส่งหมูหันที่โรงเรียนและก็ถือโอกาสไปสมัครงานเลย  สถานที่ทำงานอยู่ในซอยค่อนข้างลึกพอควร
เดินมาหยุดที่แห่งหนึ่งเขียนว่าร้านอาหาร…..หรือจะเป็นที่นี่ แต่เวลาทำงานเป็นตอนกลางคืนคงเป็นร้านอาหารโต้รุ่ง
ผมลังเลที่จะเข้าไป
“มาทำอะไรที่นี่เหรอจ้ะหนู” ป้าคนหนึ่งเอ่ยทัก
“เอ่อ  ผมมาสมัครงานตามใบปลิวนี้น่ะครับ”
ป้ายิ้มแบบมีเลศนัยทันที
“แหม…ป้านี่แหละจ้ะเจ้าของร้าน จะสมัครงานใช่ไหมมาข้างในเลยจ้ะ”
ผมยิ้ม ท่าทางเจ้าของร้านจะใจดี
เข้ามาในร้านดูจากการตกแต่งแล้วแปลกๆ เหมือนมีงานอะไรมากกว่า มีเครื่องดนตรี ของประดับระย้าเต็มไปหมด
“ที่นี่เป็นร้านอาหารที่มีดนตรีเล่นคลอไปด้วยน่ะจ้ะ”
“อ๋อครับ แล้วงานที่ว่าคืออะไรเหรอครับ”
“เด็กเสิร์ฟจ้ะ….นี่จ้ะ กรอกใบสมัครนี้นะ  ส่วนเงินเดือนป้าให้วันละ 400 จ้ะ แถมลูกค้าให้ทิปเยอะ ยิ่งอย่างพ่อหนุ่มหน้ามนแบบนี้ ได้คืนหนึ่งหลายพันแน่จ้ะ”
อาชีพเด็กเสิร์ฟได้เงินดีขนาดนี้เลยเหรอ
 “เริ่มทำงานตอน 4 ทุ่มนะจ้ะ กลับ 7 โมงเช้า แต่มีเวลาพักนะจ้ะพักยาวทั้งคืนก็ได้”
ผมขมวดคิ้วงานสบายเกินไปหรือเปล่า
“เริ่มงานคืนนี้เลยได้ไหม”
“ได้ครับ  ขอบคุณมากนะครับ”
“จ้า….อ้อ ยังไม่แนะนำตัวเลย ป้าชื่อป้าแต๋วนะ  พ่อหนุ่มชื่อต้นหอมใช่ไหม  ป้าดูในใบสมัคร”
“ครับ”
“จ้ะ เจอกันคืนนี้นะจ้ะ”
หลังจากที่สมัครงานเสร็จผมก็กลับบ้านเพื่อไปเยี่ยมแม่บ้าง ซื้อของติดมือไปพอประมาณตน
“อ้าวหอม” แม่ที่กำลังรดน้ำรีบเดินมาหาผม
“เข้ามาก่อนสิลูก”
“รดน้ำทำไมครับเดี๋ยวฝนก็ตก”
“มันเคยชินน่ะจ้ะ”
“ผมซื้อขนมและผลไม้มาฝากด้วยครับ”
“ซื้อมาทำไมให้เปลืองเงิน ตลาดอยู่แค่นี้แม่ไปซื้อเองก็ได้”
“เเม่ล่ะก็.....”
“แล้วลูกตกงานแบบนี้จะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะฮึ แม่ให้ก็ไม่เอา ทำอะไรนึกถึงหมูหันบ้าง”
“ผมรู้ครับ แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยมีเงิน ไหนจะค่าเช่าที่อีก แต่ว่าไม่ต้องห่วงนะครับผมได้งานแล้ว”
“งานอะไรเหรอ”
“เด็กเสิร์ฟน่ะครับ ทำช่วงกลางคืนเหมือนเดิม”
 “ไม่เป็นอะไรแน่นะ ไว้ใจได้หรือเปล่า”
“ครับ คุณป้าเจ้าของร้านท่าทางจะเป็นคนดีครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
แม่ยิ้มพยักหน้ารับ
คุยกับเเม่นานพอสมควรจนถึงช่วงเย็นผมก็กลับคอนโดเเต่พอเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงหมูหันร้องไห้ ผมรีบเดินเข้าไปทันทีหรือเขาจะทำร้ายลูกผมอีกแล้ว
“อย่ามายุ่งกับผมนะ ฮือๆๆ”   เจ้าตัวยุ่งรีบเข้ามากอดผมเมื่อเห็น
พี่คิงส์เกาหัวอย่างเซ็งๆ
“นี่มันอะไรครับแล้วหมูหันร้องไห้ทำไม”
พี่คิงส์ไม่ตอบ แต่หมูหันกลับตอบแทน
“ผมกลัว…ฮึก…ก….”
“จะกลัวอะไรนักหนา พ่อไม่ได้ตีสักหน่อย”
“ดูหน้าคุณซะก่อน หน้าตาเหมือนไปโกรธใครมา หมูหันยังเด็กก็กลัวน่ะสิ”  ผมอุ้มลูกไปที่โซฟา
พี่คิงส์ถอนหายใจสงบสติอารมณ์แล้วพูดกับหมูหัน
“หมูหัน….”
หมูหันยังคงกอดผมแน่น
“พ่อขอโทษนะ….”
‘…’
“พ่อมันงี่เง่าเอง ยกโทษให้พ่อได้ไหม พ่อสัญญาว่าจะไม่ปัดมือหนูอีก”
‘…’
“เอางี้ถ้าหายโกรธ เสาร์-อาทิตย์นี้พ่อพาไปเที่ยวทะเลเลยดีไหม”
“คุณลุงหมอก็บอกจะพาไปเที่ยว”
พี่คิงส์หยุดชะงัก
“ระหว่างพ่อกับไอ้หมอนั่น หมูหันจะเลือกใคร”
หมูหันขมวดคิ้วนึก
"ถ้าเลือกพ่อก็ไปกับพ่อ ให้แม่เขาไปกับไอ้หมอแทน”
ยังไม่วายที่จะหันมากัดผมอีกนะ
“ถ้าแม่ไปกับคุณลุงหมอผมก็จะไปด้วย”
พี่คิงส์สะอึก
“พ่องอนแล้วนะ หมูหันใจร้าย”  พี่คิงส์เดินปึงปังเข้าไปในห้อง ผมส่ายหน้าทำตัวเหมือนเด็กก็เป็นด้วย
หมูหันมองหน้าผม “ผม….จะทำไงดีครับ”
“ทำตามที่ลูกอยากทำเถอะ”
หมูหันลุกจากโซฟาแล้วเข้าห้องตามพี่คิงส์ไป คงจะไปง้อนั่นแหละ…..สองพ่อลูกเหมือนกันจริงๆ….
หลังจากยุทธการง้อไปง้อมาสำเร็จ ทั้งสองคนก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
"ผมอยากให้ช่วงกลางคืนคุณมาดูแลหมูหันเพราะผมจะไปทำงาน"
“ทำงาน? ทำงานอะไร”
“ไม่ต้องรู้หรอก ถ้าคุณรู้ผมคงโดนไล่ออกเร็วขึ้น” ผมเก็บจาน ชาม ไปล้าง ก่อนจะเตรียมตัวไปทำงานวันแรก กกหมูหันจนหลับก็เตรียมตัวไปเพราะต้องขึ้นรถเมล์ให้ทัน
“ดูแลหมูหันให้ดีด้วย ถ้าตื่นตอนกลางคืนคุณก็กกให้หลับเพราะจะงอแงมาก ผมจะกลับประมาณ7 โมงครึ่ง อาหารเช้าของหมูหันฝากคุณด้วย”
พูดจบผมก็เดินออกไป  ใช้เวลาเดินทางจากป้ายรถเมล์ไปถึงที่ทำงานประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อไปถึงก็ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมงาน
“เด็กใหม่เหรอ”
“ครับ”
“งั้นก็รีบไปแต่งตัวนะ เสื้อผ้ามีชื่อติดอยู่” ผู้หญิงคนหนึ่งบอก แต่การแต่งหน้าของการเป็นเด็กเสิร์ฟทำไมต้องแต่งจัดขนาดนี้
ผมใส่ชุดพนักงานอย่างข้องใจ
กางเกงสั้นไปหรือเปล่า  เสื้อก็ฟิตจนอึดอัดจนผมต้องปิดหน้าอกตัวเองเพราะมันทำให้เห็นหัวปุ่มเล็กๆบนหน้าอกของผม
“เอ่อ มีชุดที่ตัวใหญ่กว่านี้ไหมครับ” ผมถามพนักงานคนอื่นเเต่พอสังเกตดีๆแล้วทุกคนแต่งตัวเหมือนผมหมดเลย ผู้หญิงกระโปรงก็สั้น เสื้อก็รัดแต่ยังดีที่มีซับใน แต่ผมไม่มีอะไรเลย จึงทำให้เห็นข้างในปุ่มนูนๆอย่างชัดเจน
“เอาล่ะทุกคน ใกล้จะเปิดร้านแล้ว ลูกค้าขาประจำขาใหม่ขาจรกำลังจะมา บริการให้เต็มที่ล่ะ”
“ค่า/ครับ”
ผมเริ่มใจไม่ดีแปลกๆ เริ่มกังวลกับงานที่กำลังทำ
หลังจากนั้นไม่นานลูกค้าก็เริ่มมา ร้านเริ่มบรรเลงเพลงช้าๆ ไฟในร้านเปิดเป็นหลากสีคล้ายผับ พนักงานทั้งชายและหญิงเริ่มเสิร์ฟอาหารและ…..! คลอเคลียกับลูกค้า
“ยืนบื้ออะไรล่ะไปบริการลูกค้าสิ” เจ้าของร้านรีบผลักผมให้ออกไปจากห้องพัก
“แต่คุณป้าครับ….นั่นมัน….”
“อ้าว ก็งานไง ไปทำสิ…..”
“แต่มัน…”
“นี่ฉันจ้างเธอมาทำงานนะ ไม่ใช่ให้มาเก็บตัวแบบนี้ ถ้าอยากพักก็หาผู้ชายสักคนแล้วพากันไปซะสิ”
 ผมเบิกตากว้าง  ที่นี่คงไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดาแล้วจริงๆ
“โอ๊ะ เด็กใหม่เหรอ” ผู้ชายร่างท้วมหัวล้านเลื่อมกอดกระเป๋าเงินใบใหญ่เดินมาหา บ่งบอกความเป็นเสี่ยใหญ่ใจปล้ำอย่างดี
“ค่ะเสี่ยพต เนี่ยพนักงานใหม่”
“โห แจ่มๆ มาๆหนู มานั่งกับเสี่ย” เขาจับข้อมือผมแต่ผมดึงออก
“หอม….” เจ้าของร้านเหลือกตา
“ทำไมล่ะหนูมากับเสี่ยเถอะ เสี่ยให้เงินดีนะ…..อย่างหนูเสี่ยให้ทิปเยอะแน่นอน”
“ยะ…อย่ามายุ่งกับผม ผมขอลาออก” ผมจะเดินกลับเข้าไปในห้องพักแต่เสี่ยกลับรวบตัวผมไว้ได้
“ฮะๆๆ เล่นตัวแบบนี้ชักติดใจ”
“ปล่อยยยย” ผมพยายามแกะมืออ้วนเหี่ยวออก แต่มันกลับติดหนึบเหลือเกิน แม้พยายามจะศอกแต่กลับไม่เป็นผลสักนิด
“รุนแรงแบบนี้เสี่ยชอบ”
“นี่แม่แต๋ว ขอเปิดห้องหน่อยสิ”
“ได้ค่า” เจ้าของร้านเดินนำไป
“ปล่อยยย ช่วยด้วยยยย” ผมถูกแบกพาดบ่าแล้วพาไปที่ห้องหนึ่ง
พยายามทุบ ดิ้น และกัด แต่ทำไมมันถึงทนแบบนี้เพราะความอ้วนของมันหรือไง ตะโกนให้คนช่วยแต่กลับไม่มีใครสนใจสักนิด
ตุบ! ถูกโยนลงบนเตียง ผมรีบลุกแต่กลับถูกผลักลง
“ยะ…อย่าทำผมเลยนะ ผมขอร้อง”  ผมยกมือไหว้
“ไม่ได้หรอกหนู เสี่ยติดใจเธอซะแล้ว สวยๆขาวๆ หัวนมเย้ายวน แบบนี้ เสี่ยขอนะ”
ปึก! ผมใช้เท้ายันกลางลำตัวที่โด่ผ่านกางเกงอีกฝ่ายที่กำลังจะขึ้นคร่อมผมทันที เขากุมส่วนกลางลำตัวหน้าแดง ล้มจุกบนเตียง
“ขออีกทีเถอะ หนังเหนียวนักใช่ไหม”
 ปึก! ผมจัดการกระทืบที่เดิมซ้ำ
“โอ๊ะ! แหง็ก” เขาร้องก่อนจะสลบไป
“ตายหรือเปล่าเนี่ย”  ผมอังจมูกอีกฝ่าย ยังหายใจอยู่
ผมรีบเปิดประตูออกแล้วรีบวิ่งออกไปจากร้าน โชคดีที่ทุกคนมัวแต่สนใจตัวเองจึงไม่ได้สังเกตผมที่หนีออกมาเลย
......รีบวิ่งไปตามถนน
“โอ๊ย!” ผมสะดุดก้อนหินจนล้มลงข้างทาง
ปี๊นๆๆ เสียงบีบแตรรถทำให้ผมรีบลุกเพราะกลัวว่าจะถูกตามแต่เพราะเจ็บข้อเท้าจึงวิ่งไม่สะดวก
“เป็นอะไรหรือเปล่า!” ผมมองคนในรถที่ไขกระจกลง
“หอม!”
“คุณพ่อ” ไม่ใช่พ่อผมหรอกแต่เป็นพ่อของพี่คิงส์
“เกิดอะไรขึ้น” พ่อพี่คิงส์รีบมาพยุงผมที่ทรุดกองกับพื้น
“เกิดอะไรขึ้นทำไมหนูหอมถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วเจ็บมากหรือเปล่า”
“มะ…ไม่เป็นไรมากครับ”
“งั้นขึ้นรถเถอะ”
ฟุ่บ!
คุณพ่ออุ้มผมทันที ผมผวาเฮือกกอดคอ ถึงพ่อพี่คิงส์จะอายุเลยวัยกลางคนแล้วแต่ร่างกายกลับไม่เป็นแบบนั้น ร่างกายไม่เสื่อม แข็งแรงเกินวัย
 “เอ่อ…ขอบคุณครับ” เขาอุ้มผมไว้ฝั่งข้างคนขับ ก่อนที่เขาจะขับรถยนต์เคลื่อนออกไป
 “เกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูหอมถึงมาอยู่ที่นี่”
“ผม…..หนีงานมาน่ะครับ” ผมพูดพลางใช้มือปิดหน้าขาเพราะกางเกงสั้น พ่อพี่คิงส์ก็คงจะคาดเดางานผมได้บ้าง
“งานตอนกลางคืนอันตราย ดีที่ฉันมาเจอหนูโชคดีไป”
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ผมยกมือไหว้อีก
“ช่างเถอะอย่าขอบคุณบ่อยนักเลย”
“แล้วคิงส์ทำไมมันปล่อยให้หนูไปทำงานแบบนี้”
“เอ่อ….ผมอยากทำเองน่ะครับ ไม่อยากรบกวนค่าใช้จ่าย”
“งั้นตอนนี้หนูก็ไม่มีงานทำใช่ไหม”
“ครับ….”
“งั้นเอางี้ไหม หนูมาทำงานกับฉัน”
ผมเงยหน้ามอง  “งานอะไรเหรอครับ”
“หนูทำอาหารเป็นใช่ไหม ฉันส่วนมากมักไม่ค่อยมีเวลาทานอาหารกลางวัน หนูช่วยทำอาหารกลางวันไปให้ฉันที่บริษัทได้ไหม ฉันจะให้วันละ 500 เลย”
“เอ๊ะ” ผมขมวดคิ้วทำไมจู่ๆคุณพ่อพี่คิงส์ถึงให้ผมทำงานแบบนี้
“หนูคงแปลกใจล่ะสิ แต่ฉันเองก็อยากช่วยหนู ช่วยออกค่าเลี้ยงดูหลานฉันด้วย แต่ให้หนูเฉยๆหนูคงไม่รับหรอกฉันรู้ดี”
ผมพยักหน้าเบาๆ
“จะรับงานนี้ไหม หวังว่าอาหารกลางวันมื้อเดียวคงไม่ลำบากเธอนะ”
 “อะ..เอ่อ..ไม่เลยครับ ขอบคุณมากนะครับสำหรับงาน”
“ไม่เป็นไร”
รถยนต์มาส่งผมที่คอนโด
“ขอบคุณสำหรับวันนี้อีกครั้งนะครับ ผมขอตัว”
“เดี๋ยวก่อนสิ เบอร์ของหนูล่ะ เวลาส่งอาหารเราจะได้ติดต่อกันได้”
ผมบอกเบอร์โทรศัพท์ ส่วนพ่อพี่คิงส์ก็ให้เบอร์ผมเช่นกัน
“เจอกันพรุ่งนี้เลยนะ” พูดจบรถยนต์ก็เคลื่อนออกไป
ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ งานวันแรกล้มเหลวไม่เป็นท่าแต่กลับได้งานจากคุณพ่อพี่คิงส์แบบไม่คาดฝัน
หัวข้อ: ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 10-07-2017 19:30:15
“พี่ไม่อยากไปเลย ต้องไปดูงานต่างประเทศเกือบ 2 เดือน”
ผมยิ้มกับท่าทางงอแงเหมือนเด็กๆของพี่หมอ  คนอายุมากกว่ามาอ้อนแบบนี้ผมก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้จริงๆ
“ยิ้มอะไรครับ”
“แค่ขำน่ะครับ พี่หมอมีมุมน่ารักด้วย”
“ก็หอมไม่เคยสังเกตนี่  พี่ออกจะน่ารัก”  คนพูดยิ้มเห็นฟันขาวแถมยื่นหน้าทำแบ๊วอีก
“ทานข้าวกลางวันเถอะครับ ผมอุตส่าห์รีบมาตอนที่ยังร้อนๆเดี๋ยวเย็นหมดหรอกครับ”
“แล้วอีกกล่องนี่ของใครเหรอฮึ”
“เอ่อ….ของลูกค้าน่ะครับ”
“หอมทำข้าวขายเหรอ”
“..ประมาณนั้นครับ”
“ไม่เห็นบอกพี่เลย” พูดไปก็ตักข้าวเข้าปาก
“พี่งานยุ่งนี่ครับ อีกอย่างไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรด้วย หึ…” ผมยิ้มเมื่อข้าวติดปากพี่หมอ  ผมเพิ่งได้รู้ว่าตัวตนพี่หมอว่าไม่ได้ดูดีไปซะทุกอย่าง ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ได้รู้จักกันพี่หมอไม่ได้เพอร์เฟคคงเป็นเพราะผมไม่ได้สังเกต
“ข้าวติดปากแล้วนะครับ” ผมหยิบออกให้ แต่พี่หมอกลับคว้ามือผมไว้แล้วกินเม็ดข้าวต่อซะงั้น ผมดึงกลับแล้วตีมือพี่หมอ เห็นนิ่งอบอุ่น แต่ที่แท้จริงกลับนิสัยเด็กและลามกอีกต่างหาก
RrrrrRR เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น มองชื่อที่ขึ้นหน้าจอทำให้ผมมองดูนาฬิกาข้อมือ
“ฮัลโหลครับ ผมจะรีบไปนะครับ”
“มีธุระด่วนเหรอ”
“นิดหน่อยน่ะครับ ผมไปก่อนนะครับแล้วก็ทานให้หมดด้วยนะครับ”
“เดี๋ยว…”
“ครับ?”
“เมื่อพี่กลับมาจากต่างประเทศ เวลานั้นหอมก็จะออกมาจากห้องนั้นเเล้วใช่ไหม”
“ครับ….ก็ครบสัญญาแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะอยู่ต่อนี่ครับ”
“อืม….ถ้ามันทำอะไร โทรหาพี่ พี่จะกลับมาจากต่างประเทศทันที”
“แล้วจะรอนะครับ” ผมรับคำติดตลก
“พี่พูดจริงๆนะหอม”
“รู้แล้วครับ ดูสิกินเลอะเสื้อหมดแล้ว”
“เอ่อ…” พี่หมอมองเสื้อกาวน์ตัวเองที่เลอะ แล้วยิ้มเขินๆ
 “ผมไปนะครับ”
ผมรีบไปที่บริษัท คุณพ่อพี่คิงส์บอกว่าจะมีเลขามารับที่ชั้นล่างของบริษัท ผมที่ถือกล่องข้าวมาด้วยทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องยืนเหรอหรารออยู่ชั้น1
“เธอคือคนที่ท่านประธานนัดไว้ใช่ไหม”  เลขาหนุ่มใส่แว่นเอ่ยทัก
“คะ….ครับ”
“ตามผมมาสิ”  ผมเดินตามไปอย่างว่าง่าย ลิฟต์กดไปยังชั้นเป้าหมาย
“ท่านประธานรออยู่ในห้องทำงาน เธอเข้าไปเถอะ”  ผมกล่าวขอบคุณเมื่อถูกพามายังห้องประธานซึ่งมีพ่อพี่คิงส์ดำรงตำแหน่งอยู่
ก๊อกๆ
“เข้ามาสิ”
ห้องประธานบริษัทตกแต่งสมกับตำแหน่ง มองกล่องข้าวที่ถืออยู่บ่งบอกว่าไม่เหมาะสักนิด คนตรงหน้าควรจะไปทานอาหารราคาแพงมากกว่า
“นั่งสิ” พ่อพี่คิงส์เดินจากโต๊ะทำงานมานั่งลงบนโซฟา
“คือ…..ผมทำอาหารสุขภาพมาให้น่ะครับ ไม่รู้จะถูกปากหรือเปล่า…เอ่อ….คือ…ถ้าไม่ชอบผมเอากลับได้นะครับ”
“พูดอะไรกันฮึ มาฉันจะทานให้หมด”
ผมยิ้มรับ
คุณพ่อนั่งทานพลางชมไปตลอดว่าฝีมือดีเหมือนเดิม เมื่อทานเสร็จ แบงค์พัน 5 ใบก็ยื่นมาให้ผม
“อะไรเหรอครับ”
 “ฉันให้”
“แต่ตอนแรกบอกให้ 500 บาทนี่ครับ”
“หึ  ฉันอยากให้ รับไปสิ” มือหนายื่นมาจับมือผมแล้วยัดเงินให้
“คะ..คุณพ่อ เงินเยอะแบบนี้ผมรับไม่ได้หรอกครับแค่ค่าอาหารมื้อเดียว”
“อืม….แบบนี้ดีไหม วันไหนฉันหยุดงานหนูก็ไปเที่ยวกับฉัน ถือว่าเพิ่มงานให้กับหนู”
“เที่ยวเหรอครับ แต่ไม่ใช่งานนี่ครับ”
“งานสิ งานอยู่เป็นเพื่อนคนแก่อย่างฉันไง เฮ้อ…..หนูก็รู้ว่าครอบครัวฉันเป็นยังไง บางครั้งฉันก็เครียดนะแต่ไม่รู้จะทำยังไง”
คำพูดทำให้ผมรู้สึกสงสารท่านจริงๆ ตอนที่ผมคบกับพี่คิงส์ คุณนายรังเกียจผมมากมีแต่คุณพ่อที่ยอมรับและสนับสนุนตลอด
“ถ้าคุณพ่อเหงาผมจะอยู่เป็นเพื่อนนะครับ ส่วนเงินผมคิดว่ามันมากเกินไป”
“ไม่มากหรอกหนูรับไว้เถอะ หนูต้องดูแลหลานฉันนี่ถือว่าเป็นเงินให้กับหลาน” คุณพ่อจับมือผมแล้วยิ้ม นัยน์ตาที่ส่งมาเเฝงด้วยความหมายเเปลกๆ
“ฉันอยากให้…..ถ้าหนูอยากได้อะไรบอกฉันได้เลยนะฉันจะหามาให้”
“เอ่อ…ขอบคุณครับ” ผมชักมือกลับอย่างสุภาพ เเล้วไหว้ขอบคุณ
“ส่วนเรื่องที่ฉันให้หนูทำงานนี้อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ รวมถึงคิงส์ด้วย ฉันไม่อยากให้เรื่องแค่นี้ต้องทำให้เธอวุ่นวาย”
“ครับ…..”
"เด็กดี หึ"
  ………………………………………………….
หลังจากที่หอมกลับไปได้ไม่นานพิสมัยก็เข้ามาในห้องทำงานของสามี
“คุณหญิงมาทำอะไรที่นี่”
“ก็มาชวนไปทานข้าวไงคะ”
“ผมทานแล้วล่ะ”
“ทานแล้ว? อย่างคุณเนี่ยนะทานอาหารกลางวันตรงเวลา ปกติฉันมาทีไรยังไม่ทานเลย”
“ก็บอกว่าทานแล้วไง” พูดพลางเซ็นเอกสารไปเรื่อยๆ
พิสมัยนั่งลงบนโซฟา  “ฉันว่าฉันจะซื้อที่ดินแถวๆตลาดใหญ่น่ะค่ะ คุณคิดว่าไงคะ”
“ตลาดใหญ่?”  โชคชัยขมวดคิ้ว “ทำไมคุณถึงไปซื้อที่ตรงนั้น”
“ก็ฉันชอบนี่คะ ซื้อไว้ก็ไม่เสียหาย แถวนั้นคนอาศัยก็เป็นแค่คนเช่าที่เท่านั้น ถ้าเราไปคุยกับเจ้าของที่เสนอราคาแพงๆไป ฉันคิดว่าคงได้มาไม่ยาก”
“ที่แถวๆนั้นใช่ว่าจะถูกนะคุณ ทำอะไรนึกถึงอนาคตและประโยชน์เสียบ้าง”  คุณโชคชัยหยุดปากกาที่กำลังเซ็นเอกสารเหมือนคิดอะไรได้
“นี่คุณแถวนั้นมัน……อย่าบอกนะว่าจุดประสงค์คุณคือ……”
“ใช่ค่ะ ฉันจะซื้อที่แถวบ้านของพวกนั้น”
“คุณ….ทำไมถึงไม่เลิกอาฆาตกันสักที ครอบครัวต้นหอมเขาก็อยู่ส่วนเขามานานไประรานเขาทำไม”
“นี่คุณเข้าข้างมันเหรอ อีกระเทยนั่นมันกลับมาแล้ว ลินดาแท้งหลานก็เพราะมัน คุณยังจะไปเข้าข้างมันอีก ชอบมันหรือไง!”
“พอที! ถ้าจะมาด้วยเรื่องนี้คุณกลับไปซะ”
พิสมัยเบิกตากว้าง “นี่คุณ…คุณ…ได้...ไม่ให้ฉันซื้อที่แถวนั้นใช่ไหม งั้นฉันจะซื้อเเค่ที่ดินตรงบ้านพวกมัน!” พูดจบก็เดินปึงปังออกไปจากห้อง
“ให้ตายสิ” โชคชัยโยนปากกาลงบนเอกสารอย่างหัวเสีย
…………………………………………………
วันจันทร์พี่หมอก็ไปดูงาน พวกผมไม่ได้ไปส่งที่สนามบินเพราะพี่หมอขอไว้ว่ากลัวจะทำใจไปไม่ได้…ตลกเสียจริง
ก๊อกๆ  เสียงเคาะประตูทำให้ผมที่กำลังจะแต่งตัวหลังจากอาบน้ำเสร็จรีบใส่ผ้าคลุมอาบน้ำแล้วไปเปิดประตู
“คุณพ่อ” พ่อพี่คิงส์ยืนอยู่หน้าห้อง “เที่ยงแล้วเหรอครับ” ผมรีบหันหลังไปดูนาฬิกาในห้อง
“ยังหรอก   วันนี้ฉันออกมาพบลูกค้าข้างนอกเลยถือโอกาสมากินที่นี่เลยดีกว่า เอ่อ…..แล้วคิงส์อยู่ไหม”
“ไม่อยู่ครับ” คุณพ่อยิ้มออกทันที
ผมเชิญคุณพ่อนั่งที่โซฟา รินน้ำใส่แก้วให้ระหว่างรอทานอาหาร  ส่วนผมกำลังจะเดินเข้าไปแต่งตัวแต่ประตูกลับถูกเปิดออกอีกครั้ง
"หอม.....เรามีเรื่องต้อง...." พี่คิงส์หยุดพูดเมื่อเห็นคุณพ่อนั่งอยู่บนโซฟา
“พ่อ……มาทำอะไรที่นี่ครับ”
คุณพ่อถึงกับสำลักน้ำ
พี่คิงส์มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วมองไปยังคุณพ่อตาขวาง
 “พ่อมาทำอะไรที่นี่ครับ” พี่คิงส์มองผมที่อยู่ในสภาพผ้าคลุมอาบน้ำ แล้วถามคุณพ่อที่กำลังรีบเช็ดน้ำที่หก
“อ้อ ฉันก็มาหาแกไง”
ผมมองตาปริบๆ มาหาพี่คิงส์? ไหนตอนแรกบอกจะมาทานข้าว
“แน่ใจนะว่ามาหาผม”
“แกจะมาสอบสวนอะไรฉัน ก็แกไม่ค่อยได้ไปทำงานเลยน่ะสิ ฉันในฐานะพ่อของแกก็ต้องมาเตือน”
พี่คิงส์ถอนหายใจ แล้วไปนั่งฝั่งตรงข้าม “ผมลาออก ผมไม่ทำแล้วครับ”
“อะไรนะ”
“ผมบอกพ่อตั้งนานแล้วว่าผมไม่ทำงานตำแหน่งนี้ ผมขอลาออก”
ผมเลิกสนใจบทสนทนาพ่อลูกแล้วไปแต่งตัว หลังจากแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้องก็ไม่เห็นคุณพ่อแล้ว ผมเช็ดผมอย่างงุนงง คุณพ่อมาทำอะไรกันแน่
พี่คิงส์ลุกจากโซฟาเดินมาหาผม  “เรามีเรื่องต้องคุยกัน โรงเรียนอนุบาลโทรมาหาฉัน เขาบอกโทรหานายไม่ติด…..นายค้างค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าต่างๆแล้วยังไม่ได้จ่ายใช่ไหม”
ผมหยุดมือที่กำลังเช็ดผมแล้วเดินไปดูโทรศัพท์ มีสายไม่ได้รับจริงๆคงเพราะผมกำลังอาบน้ำ
“รู้แล้วเย็นนี้ผมจะไปรับลูกเอง แล้วจะไปจ่าย”
“นายมีเงินเหรอ ค่าเทอมก็แพงแล้ว ถ้านายไม่มีปัญญาส่งลูกเรียนโรงเรียนดีๆก็ควรที่จะเรียนอนุบาลทั่วไปไปก่อน”
“ผมมีปัญญา! ลูกของผม ผมมีปัญญาส่งเสีย”
“มีปัญญาเหรอ เหอะ! ตกงาน จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ อ๋อ…..หรือขอไอ้หมอคงเกาะมันกินล่ะสิ”
“นี่คุณ! เลิกคิดต่ำๆสักที เย็นนี้ผมจะไปจ่าย!”
“ค่าเทอม 3 พัน ค่าอาหารกลางวัน รวมถึงค่าสัพเพเหระต่างๆ นายมีปัญญาหรือไง”  ผมนิ่งงันเงินในกระเป๋าไม่ได้มีมากขนาดนั้น ส่วนเงินที่คุณพ่อให้ผมก็ขอลดเป็น 500 บาท แล้วต้องใช้จ่ายทุกวันทำให้เหลือเก็บไม่มากเงินตอนนี้จึงมีไม่มากพอจะจ่ายได้ทันที
“นายประมาณตนเองได้แล้วใช่ไหม ว่าไม่มีปัญญาเลี้ยงลูกของฉันได้ แค่เงินค่าเทอมตอนอนุบาลยังไม่มีปัญญา ถ้าหมูหันมาอยู่กับฉัน ฉันจะส่งแค่ไหนก็ไหวจะเรียนเมืองนอกก็ได้ทันที แต่ถ้าอยู่กับนายลูกฉันจะเป็นยังไง”
“อึก” ผมกัดฟันกรอด จริงดังว่านั่นแหละลำพังผมไม่มีปัญญาเลี้ยงลูกขนาดนั้น
“เดี๋ยวตอนเย็นฉันไปรับเอง แล้วจะจ่ายเงินนี่ให้ ส่วนนายเลิกหยิ่งสักที” พี่คิงส์หยิบกระเป๋าเงินก่อนจะหยิบแบงค์พันเท่าที่มีในกระเป๋ายื่นให้ผม
“เอาไปใช้…..ฉันไม่ได้ให้นายแต่ให้ลูก….”
ผมยังนิ่ง
ฟึ่บ! เงินถูกโยนใส่หน้า หล่นกระจายเต็มพื้น  “ไม่เก็บก็ตามใจแต่ถ้าลูกฉันอยู่อย่างอดๆอยากๆคงรู้สินะว่า 2 เดือนที่สัญญาไว้คงไม่จำเป็น” พูดจบเขาก็เดินออกไป  ผมยังคงนิ่ง
“อึก…” รู้สึกสมเพชตัวเองอย่างบอกไม่ถูก…..
…………………………………………………………………………….
“ง่วงแล้วเหรอ”
“ครับ….พี่หมอโทรมาซะดึกเลย”
“ขอโทษนะ พี่คิดถึงเลยลืมเวลาทางนั้นเลย”
“ผมก็คิดถึงพี่ครับ อย่าหักโหมมากนะครับ”
“อืม.…พี่ดูๆโรงพยาบาลที่จะพาหอมมารักษาแล้วด้วยนะ รวมทั้งเคสการป่วยของหอมพี่ก็เอามาปรึกษาต่อแพทย์ที่นี่ พวกเขาบอกว่าอยากให้พาหอมมารักษา…..
ผมนิ่งงัน
“หอม…..”
“ผม….ขอเวลาอีก 2 เดือนได้ไหมครับ ให้เรื่องทุกอย่างจบแล้วผมจะรักษา”
“พี่ดีใจที่หอมตัดสินใจแบบนี้ เเค่นี้ก่อนนะครับ รักษาตัวเองให้ดีๆนะ อย่าลืมทานยาเเละไปตามที่หมอนัดด้วย”
 “ครับ….”
ผมถอนหายใจยาว…..ผมควรที่จะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้วสินะ
………………………………………………………………..
วันนี้ข้าวกล่องของผมต้องเป็นหมันเพราะคุณพ่อไม่อยู่  ผมเลยต้องเดินออกมาค่อนข้างผิดหวัง  ผมยอมรับว่าเงินที่ผมใช้ในชีวิตประจำวันนั้นเงินของคุณพ่อมีส่วนอย่างมาก  ได้มาครั้งละ 500 ผมต้องเก็บอย่างน้อย 400 ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีเงินเก็บ คงใช้ไปวันๆ
แล้ววันนี้ผมก็ไม่ได้เงินส่วนนั้น….จะหวังแค่งานนี้คงไม่ได้  งานตอนกลางคืนก็อันตราย……..
เดินไปตามทางเรื่อยๆเหมือนคนสิ้นหวัง ผมเหนื่อย...ผมท้อไปหมด…มองหน้าจอโทรศัพท์มีรูปลูกอยู่ผมก็ยิ้มออกมา อย่างน้อยก็มีลูกคอยอยู่ข้างๆเสมอ หากวันใดไม่มีเขาผมคงอยู่ไม่ได้
รถยนต์จอดด้านข้างผม คนขับรถเดินลงมาแล้วรีบเปิดประตูให้เจ้านาย ร่างของคุณนายเดินลงจากรถพร้อมกับคนรับใช้คนสนิทที่ผมคุ้นเคยดี
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”
………………………………….
ตอนนี้ผมและคุณนายอยู่ในร้านอาหารจีนหรูแห่งหนึ่ง แบ่งเป็นห้องเหมาะสำหรับส่วนตัว การแต่งตัวของผมหากไม่เพราะว่ามากับคุณนายพนักงานคงไม่ให้เข้าแน่ๆ
อาหารถูกวางหลายจานแต่ผมก็ได้แต่นั่งก้มหน้า อึดอัด ไม่เคยอยู่กับคุณนายแบบนี้เลย ถึงอยู่ด้วยกันก็จะไม่ถูกเชิญให้มานั่งแบบนี้เพราะปกติผมแทบจะเป็นยิ่งกว่าเชื้อโรคสำหรับคุณนายเสียอีก
“ฉันก็ไม่อยากจะมานั่งคุยกับแกนักหรอกนะ แต่จะให้ไปยืนข้างถนนคุยกับแกคงไม่เหมาะกับคนอย่างฉัน”
“ผมเข้าใจครับ….”
“หึ บอกตามตรงนะ เรื่องลูกของแกน่ะ ตอนแรกฉันก็ไม่อยากได้ให้มาเป็นทายาทเท่าไรหรอกนะเพราะคงจะถูกจิตใจต่ำๆของแกปลูกฝัง แต่ในเมื่อแก! แกฆ่าหลานฉันตาย แกก็ต้องส่งลูกแกมา”
ผมเม้มปาก “คุณนายครับ คุณนายยังไม่ยกพี่คิงส์ให้ผมเลย แล้วผมจะยกลูกของผมให้คุณนายได้ยังไง”
“นี่แก! อย่ามายอกย้อน แกรู้อยู่เต็มอกว่าเด็กนั่นไม่ใช่ลูกแก แกมันแค่ที่เช่าเท่านั้น ไม่ใช่แม่! ตื่นสักที!”
“แต่ผมเลี้ยงลูกผมมา ในขณะที่สายเลือดแท้ๆไม่สนใจ ตอนที่ผมท้องผมบอกพวกคุณ แต่พวกคุณไม่เคยที่จะใส่ใจเลยทั้งยังไล่ผมเหมือนหมาข้างถนนแล้วตอนนี้จะมาอ้างสายเลือดทำไมครับ!”
ซ่า!  น้ำในแก้วคุณนายสาดใส่หน้าผมเต็มๆ
“อย่ามาขึ้นเสียงกับฉัน ฉันจะเอาหลานฉันคืน! ถ้าไม่ให้แกอย่าหวังว่าจะได้ไปจากตรงนี้เลย หึ”  พูดจบหันไปบอกกับเนียน คนรับใช้คนสนิท
“อย่าลืมสิครับว่าผมเป็นผู้ชาย เมื่อก่อนที่ผมไม่ตอบโต้พวกคุณก็เพราะคุณอยู่ในฐานะแม่สามีแต่ตอนนี้คนนอก!” ผมลุกขึ้นยืน
คนรับใช้ทำหน้าเลิ่กลั่ก
“เนียนจับมันไว้สิ”
“คะ…ค่ะ”
ผมสะบัดมือที่กำลังจะจับผมออก คนรับใช้แก่ๆกับแม่สามีที่แก่ไม่ต่างกันผมไม่มีทางแพ้หรอก
“เนียนจับมันสิ!”
เธอรีบจับผมไว้ ผมก็ยืนเฉยปล่อยให้จับ
เพี๊ยะ!  มือตบมาที่หน้าผมอย่างแรง
“หึ! ฉันไม่อยากตบให้เสนียดติดมือหรอกนะ แต่ในเมื่อแกยังไม่ยอมส่งหลานฉันคืนฉันก็จะ….”
“จะอะไรครับ ผมให้คุณนายตบผมได้แค่ครั้งเดียว ถ้าทำอะไรผมอีก ผมจะเอาคืน”
“วะ…ว่าไงนะ อีกระเทย ขู่ฉันเหรอ แกเป็นใครฮะ! มาขู่คนอย่างฉัน!!” คุณนายเหลือกตา ตัวสั่น  เงื้อมือจะตบอีกแต่ผมสะบัดร่างที่จับผมออกก่อนจะจับข้อมือได้
“แกจะทำอะไร! ปล่อยฉัน อีกระเทย”
“ปล่อยคุณนายนะ!”
ฟุ่บ! ผมปล่อยมือแต่คล้ายผลักออกมากกว่า จนคุณนายล้มลงกับพื้นคนรับใช้คู่ใจก็รีบไปช่วยทันที
“กรี๊ดดดด แก! ฉะ…ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
“เชิญครับ ตำรวจคงเชื่อหรอกนะครับว่าคนถูกทำร้ายจะเชิญคนทำร้ายมานั่งทานอาหารสุดหรูแบบนี้…..ขอบอกไว้ตรงนี้นะครับผมจะไม่ยกลูกให้ ต่อให้คุณนายจะใช้วิธีไหน ผมก็จะไม่ยกลูกให้กับพวกคุณเด็ดขาด!” พูดจบผมก็รีบเดินออกไปได้ยินเสียงกรี๊ดดังสนั่น
……………………………………………………………..
Part Kings
“แล้วก็นะ แมนคุงก็กระโดดยังกับซุปแมนเลย เอิ้กๆๆ” หมูหันเล่าเรื่องในโรงเรียนอย่างสนุก ผมที่กำลังขับรถพากลับคอนโดก็หัวเราะตามไปด้วย
“หมูหันมีเพื่อนเยอะเลยสินะ”
“เเน่นอนสิ เพราะผมน่ารักไง”  ผมลูบหัวลูกที่หัวเราะคิกคัก ลูกผมช่างน่ารักน่าเอ็นดู…….ไม่เคยคิดเลยว่าผมจะมีวันนี้ได้วันที่ผมได้มีลูกเหมือนกับคนอื่นๆ แม้จะเกิดจากคนที่ผมคิดว่าไม่น่าจะมีลูกให้กับผมได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงมีความสุขมาก แต่ตอนนี้….
“อืม…พ่อไม่เห็นเรียกชื่อผมเลยนี่ครับ”
“หืม ก็เรียกอยู่ตลอดนี่ หมูหัน….”
หมูหันทำแก้มป่อง  “ผมไม่ชอบชื่อนี้เลยอ่ะ  ชื่อนี้แม่ชอบเรียกเพราะผมอ้วนไงล่ะ”
ผมขมวดคิ้ว ลูกไม่ได้ชื่อหมูหัน? ตลอดมาผมไม่เคยรู้ชื่อลูกเลยงั้นรึ
“ไม่ใช่ชื่อของลูกเหรอ”
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ ผมน่ะชื่อ คิมหันต์ล่ะ”  พูดพลางกอดอกอย่างภาคภูมิใจ
 “คิม-หันต์”  ผมพึมพำกับชื่อนี้หลายครั้ง
“แม่บอกว่าผมเกิดหน้าร้อนล่ะ  ชื่อเท่ใช่ไหมล๊า”
คิมหันต์งั้นเหรอเป็นชื่อที่ดีจริงๆ……….
ขณะที่รถยนต์กำลังติดไฟแดงผมเก็บกระเป๋านักเรียนลูกให้อยู่เบาะหลังแต่เพราะลืมรูดซิบกระเป๋าจึงทำให้ของร่วงเต็มเบาะรถ
เจ้าตัวรีบเก็บทันที ผมเห็นกล่องใบเล็กๆกล่องหนึ่ง หยิบขึ้นมาดู ข้างในได้ยินเสียงขลุกขลักเมื่อเขย่า  ผมเปิดอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นของที่อยู่ข้างใน
แหวน….เป็นแหวนธรรมดาราคาถูก มีขายทั่วไป แต่ชื่อที่สลักตรงแหวนมีแค่วงเดียวและผมจำวงนี้ได้ดี
“อ๋า…เอาคืนมานะ ของผม”  หมูหันโวยวายจะเอาคืน
“หมูหันทำไมถึงมีแหวนนี่”
“ของผมเอามาๆ”
“พ่อถาม”
“ฮึกๆ...ๆ พ่ออย่าบอกแม่นะว่าผมเก็บแหวนไว้ ฮือๆๆ” หมูหันร้องไห้โฮผมรีบกอดปลอบ
“ร้องไห้ทำไม ผู้ชายไม่ร้องไห้ดิ”
หมูหันสะอื้น ผมก็ไม่ได้คาดคั้นต่อ และคืนแหวนใส่กล่องให้หมูหันตามเดิมแต่มือกลับสั่นอย่างประหลาดเพราะผมเห็นแหวนแห่งความทรงจำทำให้จิตใจผมสับสนมากขึ้นความรู้สึกคือมันตื้อในอก ช่วงเวลาในอดีตที่ผมกับหอมมีร่วมกันมันค่อยๆกลับคืนในห้วงความทรงจำอีกครั้ง ผมจอดรถข้างถนนคล้ายพักสายตาแต่ที่แท้จริงคือกำลังทบทวนจิตใจ
“หมูหัน…ตอนที่พ่อไม่อยู่หนูกับแม่ลำบากมากไหม”
หมูหันเอียงคอ “ลำบากคืออะไรหรอ”
เด็กคงยังไม่รู้จักคำว่าลำบากสินะ “เคยร้องไห้บ้างไหม”
“ผมหรอ...ประจำแหละก็แม่น่ะดุมากๆเลย มีครั้งหนึ่งผมหยิบแหวนนี่ไปล่ะแม่โกรธใหญ่เลยให้ผมเอาไปทิ้งแต่ผมไม่ทิ้งหรอก”
“ทำไมไม่ทิ้งล่ะ”
“ก็ผมชอบแหวนนี่..ผมรู้ว่าแม่น่ะก็ชอบมากๆไม่งั้นคงไม่เก็บไว้หรอก…”
ผมมองแหวนอย่างปวดใจ
“พ่อขอโทษ…..”
“ขอโทษผมทำไมหรอ…หรือพ่อทำอะไรผิดผมน่ะไม่โกรธหรอกแต่ถ้าพ่อทำแม่โกรธ….พ่อต้องไปขอโทษแม่นะ”
หมูหันยิ้มตาหยี
ผมยิ้มแล้วหอมแก้มป่องฟอดใหญ่…..นั่นสิผมต้องขอโทษแต่จะยกโทษให้ไหมนะ
หากแต่เสียงเคาะกระจกรถทำให้ผมหันไปมอง คนที่เคาะเป็นชายสวมแว่นตาร่างท้วมวัยน่าจะเกือบ60แล้ว แต่ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นทำให้ผมเบิกตากว้างแล้วรีบเปิดประตูออก
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ คือจู่ๆรถมีปัญหาแล้วโทรศัพท์แบตหมด...ไม่ทราบว่าขอรบกวน….”
“อาจารย์ทรงพล”
เพียงแค่ผมเรียกชื่ออาจารย์ก็หยุดชะงักแล้วพยายามเพ่งมองผมให้ชัด
“ผมคิงส์เองครับ”
“อ๋อ….”อาจารย์ร้องอ๋อยาวเชียว
อาจารย์ทรงพลเป็นอาจารย์สอนสังคมและเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้นของผมตอนม.6
“ฮ่าๆๆ จำอาจารย์ได้ด้วยรึ ไม่เจอกันนานเลยนะ สบายดีหรือเปล่า”
“สบายดีครับ อาจารย์ล่ะครับ”
“ก็อาการตามวัยนั่นแหละ ปีนี้ก็จะปลดเกษียณแล้วล่ะ ว่าแต่สภาพเธอนี่ดูไม่ได้เลยนะ พ่อหนุ่มหล่อประจำโรงเรียนทำไมหนวดเครารุงรังปกปิดใบหน้านัก”
“เอ่อ….”ผมจับคางตัวเอง เป็นอย่างที่อาจารย์บอกจริงๆ
“ว่าแต่เด็กในรถใครล่ะ”
“เอ่อ...ลูกผมเองครับ”
พอผมบอกอาจารย์แสดงสีหน้าตกใจและสลดลง
“เลิกกับหอมแล้วเหรอ” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความเศร้าใจ
ผมหยุดชะงัก อาจารย์จะถามก็ไม่แปลกเพราะเรื่องที่ผมกับหอมคบกันนั้นรู้ทั่วโรงเรียนและอาจารย์ทรงพลก็คอยให้คำปรึกษามาโดยตลอดเปรียบเสมือนพ่อที่คอยดูแลความรักของผมและหอม
“คือ….ยังรักกันดีครับ…..” ผมบอกอย่างปวดใจ
“จริงเหรอ…..”
 “คะ….ครับ….”
 “อาจารย์ดีใจที่พวกเธอรักกันจนป่านนี้” อาจารย์ตบบ่าผม  “พวกเธอผ่านอุปสรรคกันมาเยอะนะตอนสมัยเรียนกว่าคนอื่นจะยอมรับ….จำคำอาจารย์ได้ไหมตอนที่เธอเรียนจบว่าต่อให้เกิดอะไรขึ้นในความรักของพวกเธอ จงจำวันที่พวกเธอรักกันและผ่านอุปสรรคด้วยกันมาไว้”
ผมยืนแข็งทื่อ……..
เป็นแฟนกับพี่นะครับ พี่สัญญาว่าพี่จะรักหอมตลอดไป เชื่อใจพี่นะ  คำสัญญาเมื่อตอนขอคบกันดังขึ้นมาในหัว
“อย่าลืมวันนั้นเสียล่ะ….”
 “กรอดดด” ผมกัดฟันกรอดโกรธตัวเองตลอดมาผมทำเรื่องบ้าอะไรลงไป ทำเรื่องร้ายๆกับหอมไปมากมายทั้งที่สัญญาว่าจะรัก
หอมจะไม่เลิกรักพี่ ถึงหอมจะไม่เหมาะสมกับพี่เหมือนที่คนอื่นบอกแต่หอมจะไม่เลิกรักพี่เด็ดขาด
พี่สัญญาว่าจะรักหอมตลอดไป
หลังจากแยกกับอาจารย์ผมก็ขับรถกลับบ้านแต่น้ำตาผมมันไหลตลอดทาง หมูหันก็พลอยร้องไห้ไปด้วยซ้ำยังพยายามเช็ดน้ำตาให้ผมตลอด
“พ่อ….อย่า…ฮึก..ระ..ร้องไห้…ลูกผู้ชาย..ฮือ..ไม่ร้อง…ฮือออ”
กลับไปถึงคอนโดหมูหันก็ร้องไห้ไปกอดหอมที่กำลังพับผ่าพอดี เขาทำหน้าสงสัยที่ลูกร้องไห้ทำท่าจะว่าผมแต่ผมกลับพูดออกไปก่อน
“พี่ขอโทษ”
หอมนิ่วหน้าไม่เข้าใจ“ขอโทษอะไร…หรือคุณทำอะไรลูก”
“….พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา…ตลอดระยะเวลาที่พี่….ทิ้งหอมไป”
หอมนิ่งค้างนิ่วหน้ามองผมคล้ายไม่เข้าใจ ค่อยๆลุกยืนแล้วกุมขมับ
 “พี่ก้าวพลาดบางอย่างไป แต่พอพี่นึกถึงช่วงเวลาที่เราเพิ่งคบกัน พี่….”
“ขอโทษงั้นเหรอ เหอะ……ผมฟังจนชินแล้ว ครั้งที่แล้วก็ขอโทษที่รักผม…..” หอมเสียงสั่นเครือ  “คุณบอกเองไม่ใช่หรือไง คุณผิดเองที่เลือกผมก่อนถ้าคุณไม่เลือกผมคุณคงมีครอบครัวที่มีความสุขไปแล้ว…แล้วตอนนี้คุณจะมานึกถึงอะไรอีก!”
Part Hom
เขาขอโทษผมเพราะนึกถึงเรื่องในอดีตในตอนที่เราคบกัน แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะในเมื่อตอนนี้เราไม่ได้รักกันแล้วจะนึกให้มันเจ็บปวดขึ้นมาทำไม คำว่ารักในอดีต คำสัญญามันเชื่อไม่ได้…..
ผมกระพริบตาถี่ๆ ไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว  สะบัดทุกอย่างออกไปจากความคิดถึงในอดีต
“พอเถอะ..พอที..อยากขอโทษก็ขอโทษไปแต่ผมไม่อยากฟังอะไรแล้ว…”
“หอม”
“พอที!” ผมปิดหูหลับตาลงอย่างปวดใจ
“ผมไม่อยากฟัง!อย่ามาหลอกผมอีก ผมเหนื่อย! ไม่อยากฟังคำขอโทษจากคุณอีกแล้ว! ผมลืมคุณไปแล้ว!”
“ตลอดเวลาหอมคิดถึงพี่เพราะแหวนวงนี้บอกได้อย่างดี” พี่คิงส์หยิบแหวนวงหนึ่งให้ดูมันคือแหวนที่ผมทิ้งไปนานแล้วแต่ทำไม…..
 “หมูหัน!” หมูหันที่ยืนเช็ดน้ำตาข้างๆสะดุ้งเฮือกที่จู่ๆผมตะคอกใส่
 “ลูกเก็บมาเหรอ แม่ทิ้งไปแล้ว”
เจ้าตัวเอาแต่สะอื้น
“เก็บมาทำไม แม่บอกแล้วไงว่าอย่ายุ่งกับมันอีก แม่ไม่ชอบ  แม่เกลียด!”
“ฮึก...ก…ผมชอบนี่ ผมชอบ ฮือๆๆ” หมูหันร้องไห้
“แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำแบบนี้อีก ทำไมถึงไปเก็บมา อยากให้แม่ตีใช่ไหม”
“ฮึก..ก…ก…” ใบหน้าลูกมีแต่น้ำตาจนผมเองต้องเบือนหน้าหนีรู้สึกสงสารแต่ผมตัดสินใจที่จะทิ้งมันไปแล้ว ผมไม่อยากเห็นแหวนวงนี้อีก…..ผมไม่อยากเห็นแหวนวงแรกในชีวิตวงนี้……
“พอสักทีลูกไม่ได้ผิดอะไร” เขาดึงหมูหันไปใกล้ๆแล้วปลอบ
“ใช่ลูกไม่ผิดแต่คุณต่างหากที่ผิด! ส่งแหวนมา! ผมจะเอาไปทิ้ง”
 “พี่ไม่ให้หอมทิ้งเด็ดขาด”
“ผมจะทิ้งคุณมีสิทธิ์อะไรมาห้าม”
“สิทธิ์ที่เป็นคนให้ไง”
 “เหอะ!” จู่ๆน้ำตาผมก็ไหลออกมา  “คนให้เหรอ…..คนให้แบบคุณเนี่ยนะ! คุณให้ผมและคุณก็ทิ้งผมพร้อมแหวนวงนี้ ฮึกๆ..ๆ คุณทิ้งมันไปแล้ว แล้วคุณจะมายื้อมันทำไมอีก”
ฟุ่บ!
ร่างผมถูกดึงเข้าไปกอด
“พี่ขอโทษ….”
“ปล่อย!” ผมพยายามออกห่าง แต่อ้อมกอดแกร่งนั้นไม่ยอมปล่อย
“พี่สัญญาว่าพี่จะรักหอมตลอดไป”คำพูดทำให้ผมหยุดนิ่ง มันคือคำๆเดียวกันที่ผมได้ยินเมื่อนานแสนนานมาแล้ว……
“พอที….ผมไม่เชื่อคุณแล้ว….อึก…” ผมจับที่หน้าอกตัวเองรู้สึกปวดขึ้นมา
“จะ..เจ็บ” ผมทรุดฮวบลง
“หอม! เป็นอะไร”
“แฮ่กๆ จะ…เจ็บ”
“เจ็บ? เจ็บตรงไหน  มีแผลตรงไหน”
ผมกัดฟันกรอดก่อนจะผลักเขาที่ก้มถามผมอย่างร้อนลนออกไป
“ไม่ได้เป็นอะไร….ก็แค่หลอกเท่านั้น เชื่อล่ะสิ” ผมกัดฟันทั้งๆที่เจ็บปวดจนแทบทรุด
“ยะ..อย่ามายุ่งกับผม เราอยู่แค่ตามสัญญาถ้ามันจบ เราก็จบ….”
“แต่พี่อยากจะเริ่มใหม่”
“แล้วเมียคุณล่ะ!”
เขาอึ้ง…….พูดไม่ออกล่ะสิ
ผมค่อยๆฝืนเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ไม่ลืมที่จะมองไปทางหมูหันที่มองผมทั้งน้ำตา ผมเม้มปากแล้วเข้าไปพร้อมกับล็อคประตู ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรงเพราะเจ็บหน้าอก
เจ็บเพราะโรคหรือเจ็บเพราะเขากันแน่…..
“จะมารื้อฟื้นอะไรอีกเพราะคุณไม่ใช่หรือไงที่ทำลายสัญญานั้นลง……”
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 9-15 {10/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 10-07-2017 21:27:50
 :เฮ้อ: หน่วงจริงๆเลย :ling3:
ชีวิตหอมรันทดมาก สงสาหมูหัน ไม่ได้รู้เรื่องกับป
ผู้ใหญ่เลยแท้ๆ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 9-15 {10/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 10-07-2017 21:38:54
 :mew6: :mew6: o22 o22 :sad4: :o12:
ไม่ชอบพ่อคิงส์อ่ะเริ่มสงสัยแล้วว่าคิงส์นี่ใช่ลูกของพ่อคิงส์หรอ ถึงทำกับลูกแบบนี้ได้  แล้วไปยุ่งกับหอมอีกยิ่งเกลียดเลย. รู้สึกตอนนี้จะเกลียดพ่อคิงส์มากกว่าคิงส์อีกเริ่มสงสารคิงส์หน่อยๆแล้ว ถ้าคิงส์รู้นี่คงสะเทือนใจมาก กลัวหอมตายแต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้หอมตายจะได้หมดทุกข์ไปซะแต่ก็สงสารหมูหัน พ่อกับแม่แล้วก็พี่หมอด้วย แต่คุณนายก็น่าสงสารที่ถูกสวมเขาแต่เราก็ไม่ชอบคุณนายอยู่ดีบางทีถ้ารู้อาจจะทำให้คุณนายเข้าใจสิ่งต่างๆมากขึ้น ส่วนลินดากับแม่นี่คือไม่รู้จะใช้คำพูดอะไรแล้วเกินจะเยียวยา
#เรายังเชียร์พี่หมออยู่นะ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 9-15 {10/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ตีสี่ ที่ 10-07-2017 21:55:34
ตอนแรกที่อ่านเราก็ว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะจบแบบดีๆได้นะ ดีๆในที่นี้คือคิงส์กับหอมอยู่ด้วยกัน แต่พอมาลองๆคิดว่า มันเป็นกรรมของหอมที่เคยทำไว้ในชาติภพอื่น มันก็พอยอมรับได้อยู่ ตั้งแต่ที่เริ่มคบกันสมัยยังเด็กแล้ว เราว่าหอมโดนมารบังตาแน่ ดูแล้วครอบครัวหอมก็ดีนะ พ่อแม่นิสัยดีเชียวละ แต่หอมอ่อนแอผิดพ่อผิดแม่มากอ่ะ คบกับคิงส์ได้ แสดงว่าไม่ใช้สมองคิดเลยล่ะ ส่วนคิงส์ เลวทั้งตระกูลอยู่แล้ว คิงส์จะดีแปลกแยกก็ไม่ใช่ ทีสำคัญเป็นพวกโลเล ผีเข้าผีออก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ถ้าหอมไม่ป่วย เราว่ายังไงก็กลับไปดีกันไม่ได้ หรือต่อให้อนาคตคิงส์กลับมาอยู่กับหอม  เดี๋ยวสักพักมันก็ไปมีคนอื่นอยู่ดี สิ่งที่คิงส์ทำมันไม่ได้เป็นที่นิสัย
ปล. ด้วยความอินจากใจจริง
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 9-15 {10/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-07-2017 22:05:12
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 9-15 {10/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-07-2017 20:48:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 9-15 {10/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-07-2017 21:48:15
ตอนแรกที่อ่านเราก็ว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะจบแบบดีๆได้นะ ดีๆในที่นี้คือคิงส์กับหอมอยู่ด้วยกัน แต่พอมาลองๆคิดว่า มันเป็นกรรมของหอมที่เคยทำไว้ในชาติภพอื่น มันก็พอยอมรับได้อยู่ ตั้งแต่ที่เริ่มคบกันสมัยยังเด็กแล้ว เราว่าหอมโดนมารบังตาแน่ ดูแล้วครอบครัวหอมก็ดีนะ พ่อแม่นิสัยดีเชียวละ แต่หอมอ่อนแอผิดพ่อผิดแม่มากอ่ะ คบกับคิงส์ได้ แสดงว่าไม่ใช้สมองคิดเลยล่ะ ส่วนคิงส์ เลวทั้งตระกูลอยู่แล้ว คิงส์จะดีแปลกแยกก็ไม่ใช่ ทีสำคัญเป็นพวกโลเล ผีเข้าผีออก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ถ้าหอมไม่ป่วย เราว่ายังไงก็กลับไปดีกันไม่ได้ หรือต่อให้อนาคตคิงส์กลับมาอยู่กับหอม  เดี๋ยวสักพักมันก็ไปมีคนอื่นอยู่ดี สิ่งที่คิงส์ทำมันไม่ได้เป็นที่นิสัย
ปล. ด้วยความอินจากใจจริง

คิดเหมือน เห็นตรงเลยละ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 9-15 {10/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-07-2017 17:28:50
ดราม่ามาก!
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 9-15 {10/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 13-07-2017 19:53:06
อื้อหือ คือมันเกินพระเอกไปไกลมากนะ คือ ไกลมากตั้งเเต่ช็อตที่รู้ว่าเป็นลูกตัวเอง แต่ไม่ยอมรับแม่เว่ย คือบอกว่าลูกตัว แต่ไม่ไยดีคนอุ้มเลย ไม่คิดว่าผิดที่ไม่เคยดูเเล จะเเย่งไป บอกไม่มีสายเลือดเกี่ยวเลย คือ แค่นั้นก็หมอสิทธิ์ให้ความเป็นผัวเเล้วววว ให้ความเลวประดับแทน ถ้าจบแยบแฮปปี้นะ คือหมอรักษาหอม แล้วอีตาจั๊ดง่าวนั่นก็ฐานะพ่อของลูก จบ
หัวข้อ: ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:30:34
โชคชัยกำลังนั่งเซ็นเอกสารสำคัญบนโต๊ะทำงานในห้องส่วนตัวที่บ้าน เสียงเปิดประตูพร้อมกับร่างบางในชุดนอนวาบหวามบางแนบเนื้อเดินเข้ามาพลางกอดจากด้านหลัง
“หยุดทำงานเถอะค่ะ เรามาสนุกกันดีกว่านะคะ”
โชคชัยหยุดมือ
“ทำไมเข้ามาแล้วไม่เคาะประตู”
“ทำไมคะ จะเคาะอะไรอีก ลินดาเองนี่คะไม่ใช่คนอื่น  จุ๊บ”
“พอเถอะ ฉันจะทำงาน เธอออกไปก่อน”
“ไม่เอาน่า ตั้งแต่ลินดาออกจากโรงพยาบาลเราก็ไม่ได้สนุกกันเลยนี่คะ ไหนบอกว่าถ้าลินดาหายดีเราจะมาสนุกกันไงคะ”  มือเรียวค่อยๆล้วงเข้าไปในกางเกง แต่มือหนากลับหยุดไว้เสียก่อน
“ฉันบอกให้พอไง! ฉันจะทำงาน”
ลินดาหน้าเสีย เพราะปกติโชคชัยจะไม่เคยตวาดเธอแบบนี้สักครั้ง แล้ววันนี้เกิดบ้าอะไรขึ้นมา
“นี่คุณโชคชัย คุณเป็นอะไรเนี่ย ปกติก็จะเลือกลินดานี่คะ”
“แต่ฉันกำลังทำงาน เธอออกไปได้แล้ว”
เธอยังคงไม่ยอมแพ้จับมือหนามาสัมผัสหน้าอกอวบอั๋น  “นี่ไงคะที่คุณชอบ”
ฟึ่บ! คุณโชคชัยกระชากมือออก
“ฉันบอกว่าให้ออกไป ไม่ได้ยินหรือไง!”
ลินดาตัวสั่น เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนตรงหน้าเป็นขนาดนี้  เธอสั่นไปทั้งตัวอยากกรีดร้องเสียให้ได้
“แล้วคุณจะเสียใจ!” พูดจบร่างบางก็รีบเดินออกไปจากห้องทันที เหลือเพียงร่างที่นั่งกุมขมับก่อนจะหยิบโทรศัพท์มองชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของหอมแล้วยิ้มออกมาแทน
“ตายด้านหรือไงไอ้แก่เอ๊ย” ลินดาที่หัวเสียกำลังเดินกลับไปที่ห้อง แต่กลับเจอพิสมัยเสียก่อน
“เธอมาทำอะไรตรงนี้ดึกดื่นๆ”
“เอ่อ ลินดา…..ไปเดินเล่นข้างล่างแล้วกำลังจะกลับห้องน่ะค่ะ”
“เดินเล่น ตอนนี้เนี่ยนะ” พิสมัยขมวดคิ้วไม่พอใจ
“เอาเวลาเดินเล่นโทรตามตาคิงส์ให้กลับบ้านดีกว่าไหมฮะ! แล้วนี่แต่งตัวอะไร แต่งแบบนี้ออกไปข้างนอกจะไปให้พวกคนรับใช้มันข่มขืนหรือไงฮะ!”
“ขะ…ขอโทษค่ะคุณแม่…….”
“อะไรกัน ผัวไม่กลับบ้านคิดจะหาผัวคนรับใช้หรือไง กลับห้องไปได้แล้ว”
“ขอโทษค่ะ……”
พอกลับถึงห้องเธอก็ปาหมอน ปาทุกอย่างด้วยอารมณ์คุกรุ่น
“กรี๊ดดดดดดดด อีแก่เอ๊ย ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ ทั้งไอ้แก่ อีแก่ ทั้งไอ้บ้าหลงกระเทยอีก คอยดูเหอะสมบัติพวกแกฉันจะฮุบมาให้หมดเลย!”
 …………………………….
Part Hom
ตอนเช้าผมเดินออกมานอกห้องด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เมื่อคืนหมูหันนอนกับพี่คิงส์ผมจึงนอนคนเดียว เปิดประตูออกมาก็เจอทั้งสองคนนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารเเล้วคงเพราะวันนี้ผมตื่นสาย
หมูหันนั่งกินซีเรียลแทนข้าว พอผมเดินออกมาใบหน้าของหมูหันก็เหมือนจะร้องไห้ ดวงตาคลอ แล้วหันไปมองหน้าพี่คิงส์ คุยอะไรกันบางอย่างก่อนที่หมูหันจะค่อยๆเดินมาหาผมที่กำลังจะทำอาหาร
“แม่ครับ…ฮึก.ก…ก ผมขอโทษ ผมเด็กไม่ดี ผมจะไม่เก็บอีกแล้วผมจะทิ้ง แม่อย่าโกรธผมนะ ฮึก..ก”
ผมรีบสวมกอดหลับตาลงอย่างปวดใจเพราะทำให้ลูกเสียใจและคิดมากขนาดนี้  ลืมตาเห็นพี่คิงส์ยืนมองอยู่เราสองคนสบตากันก่อนที่จะเป็นผมที่เบือนหน้าหนี
“ไม่ร้องไห้นะครับ แม่ไม่โกรธหนูเลย”  ผมใช้มือปาดน้ำตาให้
“ฮึก…ก….” หมูหันยื่นแหวนให้ผม   ผมกุมมือลูกไว้แทน
“ถ้าหนูอยากได้แม่จะให้ มันเป็นของหนูแล้ว แม่ขอโทษที่ทำหนูร้องไห้นะครับ”
หมูหันเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียยกใหญ่เพราะคงคิดว่าผมจะโกรธตนเองมาก
วันนี้ผมกับพี่คิงส์ไปส่งหมูหันที่โรงเรียนพร้อมกัน พี่คิงส์บอกว่าวันหยุดนี้จะพาหมูหันไปทะเลผมเองก็ไม่ได้ขัดเพราะผมก็ทำให้หมูหันต้องเสียใจทั้งๆที่ลูกไม่รู้เรื่องเลยอยากจะขอโทษด้วยการพาไปเที่ยวเหมือนกัน
“ส่งผมข้างทางก็ได้ครับ คุณจะได้ไปที่อื่นสะดวก”
“หอมอยากไปไหน พี่จะไปด้วย”
 ผมมองคนพูด เขาสำนึกงั้นเหรอ ตอนนี้เนี่ยนะ
“ผมไม่รู้ว่าคุณไปเจออะไรมาจู่ๆถึงได้เปลี่ยนไป แต่ว่ามันสายไปแล้วจริงๆ จบสัญญาเราอย่าเจอกันเลยครับ”
“หอม….”
“ถ้าคุณยังเหลือความรู้สึกดีๆให้กับผมบ้าง คุณปล่อยผมกับหมูหันไปเถอะ ยกลูกให้ผม”
“พี่ทำไม่ได้….”
คำตอบที่ได้รับทำให้ผมเบือนหน้าหนีมองไปทางหน้าต่างแทน
“พี่จะไม่ยกหมูหันให้หอมเพราะทั้งหอมและหมูหันต้องอยู่กับพี่”
คำพูดที่เอ่ยออกมาทำให้ผมได้แต่มองหน้าคนพูดด้วยความไม่เข้าใจ…..หมายความว่ายังไงเขาพูดเหมือนกับ…..
“พอเถอะครับ มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว มันนานเกินไปสำหรับเรา ทั้งผมและคุณในตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”
พี่คิงส์ไม่พูดอะไรอีกแต่สีหน้าเศร้าสลดลงจนผมเองยังอดไม่ได้ที่จะปวดใจตามแต่มันสายเกินไปแล้วจริงๆสำหรับเรา…….
……………………………………………….
“น้ำสีฟ้า” หมูหันชี้ไปทางทะเลแล้วยิ้มร่า ทั้งยังวิ่งไปมาตรงชายหาดอย่างตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาเห็นทะเลแบบนี้
วันนี้พี่คิงส์พาผมและหมูหันมาทะเลในวันหยุด เดิมทีตั้งใจว่าจะไม่ค้างแต่เห็นท่าทางลูกแล้วคงต้องค้าง1คืน แต่เพราะไม่ได้จองห้องไว้จึงทำให้เราสามคนอยู่ในห้องเดียวกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“แม่ครับ นี่อะไรหรอครับ” หมูหันหยิบเปลือกหอยขึ้นชู
“เปลือกหอยน่ะ อย่าไปเก็บเอาไว้ที่เดิมดีกว่า” พี่คิงส์ตอบแทนเดินไปหาลูกแล้วอุ้มขี่คอ หมูหันก็หัวเราะชอบใจเพราะได้เห็นทะเลได้กว้างกว่าเดิม
 “สวยจัง…ผมช๊อบชอบล่ะ อยากอยู่ที่นี่นานๆเลย”
ผมยิ้มเมื่อเห็นหมูหันหัวเราะ  พี่คิงส์มองผมแล้วยิ้มตาม เราสองคนสบตากันนิ่ง
RrrRRr เสียงโทรศัพท์ทำลายบรรยากาศสงบ มองชื่อที่ขึ้นหน้าจอทำให้ผมเลี่ยงที่จะเดินไปรับที่อื่นและพี่คิงส์คงรู้ว่าใครโทรมาแววตาถึงได้เปลี่ยนไป
“ฮัลโหลครับพี่หมอ”
 “หอมทำไรอยู่เหรอ”
“เอ่อ….ก็เหมือนทุกวันน่ะครับ” เลี่ยงที่จะตอบว่ามาเที่ยวถ้าพี่หมอรู้คงเสียใจ
 ‘นี่คุณเลิกมาก่อกวนผมทุกวันจะได้ไหม บอกแล้วไงว่าจะรับเคสนี้รักษา’เสียงใครบางคนดังจากปลายสายท่าทางอารมณ์จะเสียมากๆ
“ใครพูดเหรอครับ”
“หมอเด็กน่ะ ฮ่าๆๆ”
“หา…”
‘นี่คุณอย่าดูถูกภาษาไทยที่ผมร่ำเรียนมานะอย่าคิดว่าผมจะฟังไม่ออก และผมไม่ใช่หมอเด็ก’
‘ก็คุณตัวเล็กนี่ นึกว่าเด็กประถม’
‘นี่คุณ! ถ้าไม่เลิกก่อกวนผมนะ ผมจะไม่รักษาคนไทยที่คุณบอกจริงๆด้วย’
 ผมนิ่งงง พี่หมอเนี่ยนะก่อกวน แปลกจริง ทั้งยังชวนอีกฝ่ายทะเลาะอีก
“พอดีพี่อยู่โรงพยาบาลน่ะมาคุยเรื่องรักษาอาการของหอมกับหมอที่เชี่ยวชาญที่นี่ หมอคิวปิดน่ะ ฮ่าๆๆ ชื่อตลกดีนะ”
‘นี่คุณยังไม่เลิกอีก!’
“แค่นี้ก่อนนะครับ ถ้าคุยนานกลัวว่าหอมจะได้ยินเสียงที่ไม่ดีผ่านหู…….”
‘นี่คุณ!’
ผมยิ้มท่าทางด้านโน้นกำลังสนุกเชียว แต่เมื่อหันกลับไปก็เจอสายตาที่มองเหมือนดูอยู่ตลอด แต่เขาก็ไม่ได้เข้ามาทำอะไรผม
อาหารเย็นจัดที่ริมหาด คล้ายปาร์ตี้เล็กๆที่ทางที่พักจัดให้ แขกที่นี่มีทั่งไทยทั้งต่างประเทศ สนุกสนานริมชายหาดพอควร
ผมแกะอาหารทะเลให้หมูหัน เจ้าตัวยิ้มแก้มปริ
“เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พี่คิงส์บอกแล้วเดินจากไป ผมกับหมูหันก็นั่งกินกันอย่างอร่อย ผมไม่ได้ทานของดีๆแบบนี้นานแล้ว
“ขอโทษนะครับ ไปเต้นรำกับผมได้ไหมครับ”
ผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยทัก เมื่อเพลงคลอเบาๆเหมาะสำหรับคู่รักบรรเลงขึ้น มีคู่รักหลายคนกอดกัน อิงแอบไปกับเพลง
“เอ่อ….ขอโทษด้วยนะครับ ผมเต้นไม่เป็น”
“ไม่เป็นไรครับ เต้นไม่ยากผมสอนได้…”
“ไม่ดีกว่าครับ ตอนนี้มือผมก็เปื้อนด้วย”
หมับ! เขาจับแขนผมและพยายามจะดึงให้ลุก
“หยุดนะ! จะทำอะไรแม่ผมน่ะ” หมูหันรีบเดินมากั้น เท้าเอวประจันหน้า
 “เจ้าหนู ฉันจะขอแม่เธอเต้นรำ”
“ไม่ให้! แม่ต้องเต้นกับพ่อเท่านั้น ออกไปเลยนะ”
เขาเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจแล้ว
“ถอยไป ฉันจะเต้นรำกับแม่แก!” เขาบีบแขนผมแรงก่อนจะกระชากไปเต้นรำ
“ปล่อยผม”  ผมขืนตัวแต่ก็ไร้ผล
ฟึ่บ
เขากอดเอวผม
“แค่เต้นรำเอง”
มือหยาบที่กอดเอวผมเริ่มไล้เข้าไปในเสื้อ
“คุณ!”
ปึก! หมัดเน้นๆอัดไปที่ใบหน้าของคนที่กอดผมอย่างจัง ตอนแรกผมจะล้มตามไปด้วยแต่แรงดึงจากเจ้าของหมัดกระชากตัวผมเข้าไปในอ้อมกอด
“อย่ามายุ่งกับเมียกู ไอ้สัด!””
“ชิส์! มะ…มึง!” เลือดออกจากจมูกเยอะพอควร
เขาทำท่าจะสู้ แต่เจ้าของที่พักรีบเอาคนมากันเอาไว้
“ใจเย็นๆกันนะครับ คุณลูกค้า”
“งั้นคุณเอาไอ้นี่ไปเก็บซะ ก่อนที่ผมจะอัดมันอีก”
“กูไม่ไป!”
“งั้นมึงเจอตีน!” พี่คิงส์จะเข้าไปอัดอีกแต่ผมและคนอื่นๆช่วยห้ามเอาไว้ สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็โดนลากออกไปแทน
 “เฮ้อ….”
“มันทำอะไรหอมบ้าง”
“อะ..เอ่อ เปล่าครับ”
“งั้นก็ดี…พี่แทบจะฆ่ามันตาย....”
ผมเพียงพยักหน้าจะเดินไปนั่งแต่แขนกลับถูกจับไว้
“อย่าเพิ่งนั่งมาเต้นรำกันสักเพลงสิ”
“เอ๊ะ เต้นรำ”
“ใช่”
“ไม่ดีกว่าครับ ผมเต้นไม่เป็น”
พี่คิงส์กอดเอวผมแล้วให้ใบหน้าผมซบกับอกแกร่งแทน พี่คิงส์ก็โยกตัวเบาๆ
“แค่ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆก็พอแล้วล่ะ”
หมูหันกระโดดชอบใจใหญ่ในมือมีของกินเต็มสองข้าง
ส่วนผมยังคงซบอกอีกฝ่ายนิ่ง ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน ผมควรจะผละตัวออกหากแต่ร่างกายกลับไม่ทำ เพราะนานเหลือเกินที่เราสองคนไม่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้นี้…ทั้งๆที่ได้รับแต่ความเจ็บปวดจากเขาแต่เวลานี้ผมกลับเลือกที่จะอยู่ใกล้ๆเขาต่อไป…ขอแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นจริงๆ…..
หัวข้อ: ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:31:12
“ผมจะนอนริมล่ะ”
ผมถอนหายใจเมื่อหมูหันบอกว่าจะนอนริม ถึงเตียงจะใหญ่นอนได้สบายสำหรับสามคนแต่การที่หมูหันบอกว่าจะนอนริมซึ่งนั่นก็หมายความว่าผมกับพี่คิงส์ต้องนอนติดกัน
“ไม่ดีกว่าครับ หมูหันนอนตรงกลางดีไหม”
“ไม่เอา อึดอัดอ่ะ”
ผมถอนหายใจ พี่คิงส์ที่อาบน้ำเสร็จออกมาพอดีและคงรู้ว่าผมกำลังปวดหัวเรื่องอะไร
 “ถ้าหอมไม่อยากนอนกับพี่ พี่ไปนอนเปลข้างนอกก็ได้ อากาศข้างนอกกำลังเย็นดีเหมือนกัน”พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องแต่งตัว ผมได้แต่ถอนหายใจ…รู้สึกปรับตัวไม่ทันกับอารมณ์ของเขาจริงๆ
ผมเตรียมผ้าห่มหมอนจะไปข้างนอก
“จะไปไหน” เขาเดินออกมาพอดี
“ผมไปนอนข้างนอกเองดีกว่าครับ คุณนอนกับลูกไปเถอะ”
“พี่ไปเอง หอมนอนกับลูกดีกว่า”
“ผมไปเอง”
“พี่จะไปนอนข้างนอก”
“ผมก็จะไป”
“ทำไมไม่นอนด้วยกันอ่ะครับ พ่อ แม่ หมูหัน นอนด้วยกันบนเตียง แฮร่” หมูหันยิ้มแล้วจับแขนของผมกับพี่คิงส์คนละข้าง
“นอนด้วยกันนะครับ ผมตื่นเต้นจัง ไม่เคยนอนพร้อมหน้ากันเลย เพื่อนผมยังนอนกับพ่อและแม่เลย”
ผมกับพี่คิงส์มองหน้ากัน
“นอนกันน๊า ครั้งเดียวก็ได้เพราะพ่อกับแม่ไม่เคยนอนด้วยกันเลย” หมูหันทำท่าจะร้องไห้
“อะ..เอ่อ คือหมูหัน….”
“พ่อกับแม่จะนอนด้วยกันนะครับ” พี่คิงส์พูดแล้วดึงผมไปกอด
“จริงหรอครับ เย่ๆๆ นอนด้วยกันๆๆ” หมูหันหัวเราะกระโดดไปมา แต่ท่าทางจะร้องไห้นั่นหายไปไหนแล้วล่ะ
กว่าตัวแสบจะหลับก็นานพอควร ตอนแรกจะอุ้มให้มานอนตรงกลางแต่ท่าทางอาจจะทำให้ตื่นผมเลยปล่อยให้นอนด้านข้างต่อไป ซึ่งนั่นทำให้ผมและพี่คิงส์นอนใกล้กันแทน
นานแล้วจริงๆที่เราไม่เคยนอนด้วยกันแบบนี้……นานแค่ไหนนะ….จำไม่ได้ด้วยสิ….ตอนนั้นเรายังรักกันใช่ไหมนะ…..ไม่สิตอนนั้นพี่คิงส์เลิกรักผมแล้ว….
 หมับ  มือหนาจับมือผมไว้ เราสบตากันแต่ผมเลือกที่จะดึงมือออกและนอนตะแคงไปหาหมูหันแทน
“ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้แล้วใช่ไหมพี่มารู้ตัวเอาป่านนี้นี่นะตอนเราคบกันพี่นอกใจและไปคบกับลินดา”
ผมกอดหมูหันแน่น …..
“พี่มันเลวจริงๆ พี่เคยคิดว่าถ้าพี่เจอลินดาก่อนหอมคงจะดีกว่านี้ ถ้าพี่แต่งงานกับลินดาคงมีความสุขมากๆ มี พ่อ แม่ ลูก พี่จึงทิ้งหอมไป………”
น้ำเสียงที่สารภาพออกมาทั้งเศร้าใจและโกรธตนเอง ผมได้แต่นอนนิ่งหลับตารับฟัง ทั้งๆที่เจ็บปวดไม่ต่างกัน
“แต่สุดท้ายมันไม่ใช่เลย พี่อยู่กับลินดาไม่มีความสุข  มันไม่ใช่ความรักพี่ก็แค่อยากมีลูกก็เท่านั้น ในใจพี่ว่างเปล่าเหมือนขาดอะไรไป แต่เมื่อได้เจอหอมอีกครั้งยิ่งพออยู่ใกล้พี่ถึงรู้ว่าพี่รักหอมมากที่สุด….”
“ฮึก…ก…ก...” ผมปิดปากพยายามกลั้นเสียงสะอื้น แต่พี่คิงส์คงรับรู้จึงดึงผมไปกอด
“พี่ขอโทษ….”
“ฮึกๆๆ พอเถอะครับ พอเถอะ….มันสายไปแล้วจริงๆ”
พี่คิงส์ดึงให้ผมหันหน้ามามอง มือหนาเช็ดน้ำตาให้กับผม นัยน์ตาพี่คิงส์มีแววไหววูบ
“สายไปแล้วจริงๆใช่ไหม”
ผมพยักหน้าทั้งน้ำตา
พี่คิงส์พยายามกลั้นน้ำตาไว้ “แต่ขอแค่ที่นี่ได้ไหมที่เราจะรักกัน พี่ขอร้องแค่ที่นี่เท่านั้นเมื่อกลับไปเราจะเป็นเพียงคนแปลกหน้าเหมือนเดิม….เรื่องสัญญาพี่ขอยกเลิกพี่จะยกหมูหันให้…..ในเมื่อเราสองคนไม่อาจจะกลับมารักกันได้แล้วจริงๆ”
น้ำตาผมไหลไม่ขาดสาย ไม่รู้ร้องไห้มากแค่ไหน ในคืนนั้นหัวใจผมเจ็บปวดร้าว….พี่คิงส์จูบหน้าผากผม พร่ำขอโทษและนอนกอดผมทั้งคืน……
……………………………………………………………………
เช้าต่อมาทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ผมพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด
“พี่ดูตารางแล้วนะ เรือจะออกจากที่นี่ตอน 8 โมงเช้า และจะกลับมาที่นี่ 3 โมงเย็น” พี่คิงส์พูดขณะที่เราเตรียมตัวเพื่อไปเที่ยวเกาะกัน
เรือออกตามตารางแต่ดูจากท้องฟ้าแล้วผมคิดว่าอีกไม่นานพายุต้องเข้าแน่ๆ
“หอมทำอะไร ขึ้นมาสิ” พี่คิงส์พูดขณะที่หมูหันเองก็อยู่ในอ้อมกอดและกำลังอยู่บนเรือ
เรือแล่นไปยังเกาะสำหรับท่องเที่ยว วิวสองข้างทางมีแต่น้ำทะเลสีฟ้าไม่มีพื้นดินจนดูน่ากลัว เห็นเพียงเกาะต่างๆที่ทั้งอยู่ใกล้และไกล
“ไปค้างคืนกันกี่คืนล่ะพ่อหนุ่ม”  ลุงที่เป็นผู้ช่วยเรือเอ่ยถามพี่คิงส์
“ไป-กลับน่ะครับไม่ได้ค้างคืน”
“อ้าว วันนี้เรือเที่ยวสุดท้ายมีแค่พวกข้านี่แหละเพราะพายุจะเข้า3-4วัน แต่วันนี้พวกข้าไม่ได้กลับฝั่งเพราะต้องอยู่งานแต่ง”
“เที่ยวสุดท้ายเหรอครับ?”  ผมถามบ้าง
“ใช่น่ะสิ พวกเอ็งคงต้องค้างที่นี่3-4วันล่ะนะเพราะกว่าพายุจะสงบคงไม่มีเรือลำใดออกจากเกาะหรือมาเกาะกันหรอก”
ผมกลับพี่คิงส์มองหน้ากัน ท่าทางจะเลือกช่วงเวลาผิดเสียแล้ว
โชคดีที่ยังมีเสื้อผ้าติดมาบ้าง ที่พักถึงจะไม่สบายเหมือนบนฝั่งแต่ก็น่าอยู่คล้ายๆบ้านหลังเล็กๆกระทัดรัด
“ไปงานแต่งกันไหม”
ผมเงยหน้ามองขณะใส่เสื้อกันหนาวให้หมูหันเพราะอากาศเริ่มเย็น
“จะดีเหรอครับ เราไม่ใช่ญาติของเจ้าบ่าว-เจ้าสาวนี่ครับ”
“นักท่องเที่ยวคนอื่นๆเขาก็ไปกัน แถมท่าทางทางเจ้าภาพเองก็อยากให้ไปร่วม ไปเถอะงานมงคลไม่ได้ไปทำร้ายใคร”
ผมมองหน้าหมูหัน เจ้าตัวยิ้ม  “ผมอยากไปครับ!”
สุดท้ายพวกเราก็ไปงานแต่งงานของชาวบ้านบนเกาะตอนแรกผมไม่อยากเข้าร่วมงานสาเหตุหนึ่งในนั้นคือเสื้อผ้าของพวกเราไม่เข้ากับงานแต่งสักนิด แต่ผิดจากที่คิดงานแต่งกลับสบายๆไม่ได้หรูหรา เจ้าบ่าว-เจ้าสาวใส่ชุดแต่งกายประจำถิ่น ไม่ได้พิธีรีตองมาก
“เขาทำไรกันหรอครับ” หมูหันยืนมองคู่บ่าวสาวที่กำลังเข้าพิธีรดน้ำสังข์
“เขาแต่งงานกัน”  พี่คิงส์ตอบ
“ทำไมต้องแต่งงานอ่ะครับพ่อ แต่งงานคือไรหรอ”
“เพราะรักกันไงครับถึงแต่งงานกัน เมื่อแต่งงานกันทั้งสองคนนั้นเขาก็จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยไง”
“งั้นพ่อกับแม่ก็เคยแต่งงานกันใช่ไหมครับ เพราะทั้งสองคนรักกันและอยู่ด้วยกัน”
ผมชะงัก….ส่วนพี่คิงส์ยิ้มรับนิ่งไม่ได้ตอบอะไร
เราจะแต่งงานกันได้ยังไง……และตอนนี้เราก็ไม่ได้รักกัน……ผมเม้มปาก
“ทั้งสองคนรบกวนหน่อยนะจ้ะ”  เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น “พอดีพิธีอยากให้มีเด็กๆด้วยน่ะจ้ะขอยืมแรงหนูน้อยไปช่วยหว่านดอกไม้ได้ไหมจ้ะ”
“เอ่อ….หมูหันยังเด็กน่ะครับเกรงว่าจะทำพิธีวุ่นเปล่าๆ”
“ไม่หรอกจ้า เด็กๆน่ะไร้เดียงสาป้าชอบ”
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่ขัดข้องนะครับ…...หมูหันคุณป้าใจดีขอแรงหมูหันช่วยโปรยดอกไม้ได้ไหมครับ”
“ดอกไม้หรอ โปรยๆ ผมอยากทำล่ะ” หมูหันกระโดดดีใจ ก่อนจะถูกพาไปยังพิธี
มือหนาเอื้อมมาจับมือของผม ผมขัดขืนละออกจากมือนั้น
 “อย่าทำแบบนี้เลยครับ เราตกลงกันแล้วนี่ครับว่าเราสองคนจบไปแล้ว”
“แต่พี่ขอแค่ที่นี่ได้ไหม ขอแค่ที่นี่ที่เราจะเป็นเหมือนคนรักกันเหมือนเมื่อก่อน”
“คงไม่ได้….”
 “แต่อย่างน้อยเราสองคนก็ควรทำเพื่อลูกบ้าง หมูหันคิดว่าเรารักกัน……..แค่3วันเท่านั้น หลังจากออกจากเกาะนี้ทุกอย่างจะเหมือนเดิม ต่างคนต่างไป…..แต่ขอตอนนี้ได้ไหมที่เรายังรักกัน…”
ผมนิ่วหน้าเพราะคำว่าทำเพื่อลูกมันทำให้ผมอารมณ์เสีย..พูดเหมือนผมไม่เคยทำเพื่อลูกเลยเขาต่างหากที่ไม่เคยทำ!
ฟึ่บ!
“รักกันๆ แต่งงานๆๆ” หมูกระโดดแล้วโปรยดอกไม้
“พ่อกับแม่รักกัน อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ ผมดีใจที่ตอนนี้มีพ่อ….ผมอยู่กับแม่มานานแล้วนึกว่าจะไม่มีพ่อแล้วซะอีก เพื่อนๆคนอื่นมีพ่อกันหมดเลย…..แต่ตอนนี้ผมมีพ่อ! ผมดีใจที่สุดเลย พ่อ แม่ ผม จะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ”หมูหันยิ้ม
ผมนิ่งงันอารมณ์โกรธพลันมลายหายไป
พี่คิงส์อุ้มหมูหันไปกอดและหอมทันที
“หนวดพ่ออ่ะ จักจี้ ฮ่าๆๆ”
พี่คิงส์เอาหนวดไซร้แก้มป่อง หากแต่หยุดลงแล้วกอดลูกแน่น
“พ่อขอโทษ…พ่อขอโทษจริงๆ”ผมรับรู้ได้ถึงเสียงสั่นเครือ
ผมหลับตาลงเบือนหน้าไปทางอื่น……
…………………………………………………………………………..
 “ถ้ากลับไป….พี่จะเลิกกับลินดา”
ผมมองใบหน้าคนพูดที่กำลังนั่งมองดูดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
เราสองคนนั่งชมวิวริมชายหาดมีขอนมะพร้าวไว้รองรับ ซึ่งตอนนี้หมูหันได้หลับลงไปแล้วหลังจากที่ตอนเช้าเล่นในงานแต่งงานกับเด็กๆท้องถิ่นจนเพลิน
 “ตลอดเวลาเกือบ4ปีที่พี่อยู่กับลินดาพี่ไม่เคยมีความสุขแม้ช่วงแรกๆจะรักแต่มันกลับหมดลง”
“แล้วคุณถามผู้หญิงหรือยังครับว่าเขาอยากเลิกหรือเปล่า คุณอย่าเอาความคิดของคุณไปตัดสินความรักของคนอื่น ตอนที่คุณทิ้งผมไปคุณก็ตัดสินเอง…..ผมไม่ได้ตัดสินที่จะเลิกรักด้วยซ้ำ……ทุกครั้งทำไมคุณต้องคอยตัดสินใจความรักเองตลอด”
”พี่ขอโทษ”
“ผมเบื่อคำขอโทษของคุณแล้ว….และมันช้าไปจริงๆ…..ผมคงทำได้แค่แนะนำความรักครั้งนี้ให้กับคุณเท่านั้น….เพราะผมไม่อยากให้ลินดาต้องมาเจ็บเหมือนกับผม…..ผมเป็นผู้ชาย ลินดาเป็นผู้หญิงผมเชื่อว่าเขาต้องอ่อนไหวมากกว่าผมแน่ๆ”
พี่คิงส์สูดอากาศหายใจเต็มปอด
“นั่นสินะ พี่ไม่มีสิทธ์ไปตัดสินความรักจากใคร เพราะครั้งหนึ่งพี่เคยตัดสินความรักผิดพลาด ทำให้ตอนนี้พี่ก็ได้แต่เสียใจเพราะความรักครั้งนั้นคงไม่สามารถจะกลับคืนมาได้แล้วจริงๆ”
ผมใจหายทำไมรู้สึกเสียใจที่ตัวเองพูดไปแบบนั้น….ผมกำมือแน่นกลั้นใจพูดต่อ…..
“ความรักก็เหมือนอากาศนั่นแหละครับ มันอยู่รอบๆตัวเรา…ถ้าใจเราไม่อยากรับรู้มันก็ไม่มีความหมายและจะสลายหายไป…”
“แต่สำหรับพี่แม้ความรักของเราจะสลายไปแต่เราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้อีกครั้ง….” 
ผมและพี่คิงส์มองหน้ากัน สายลมพัดพาอากาศหนาวเย็นมาสัมผัสกาย ผมกอดตัวเองเมื่อรับรู้ถึงอากาศรอบกายที่ค่อยๆก่อตัวและสัมผัสได้อีกครั้ง
หัวข้อ: ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:31:50
“ฉันมาเจรจาเรื่องหลานของฉัน” พิสมัยเอ่ยขึ้นขณะนั่งฝั่งตรงข้ามพ่อและแม่ของหอม เธอตั้งใจมาที่บ้านที่เธอไม่อยากมาเหยียบตั้งแต่เช้าเพื่อมายื่นข้อเสนอแกมขมขู่
“พวกคุณก็รู้ใช่ไหมว่าบ้านและที่ดินนี้พวกคุณแค่เช่าอยู่เท่านั้น”
มะลิแม่ของหอมขมวดคิ้วไม่พอใจ เธอเองก็ไม่คิดว่าจะได้มาประจันหน้ากับคนใจร้ายแบบนี้อีกเพราะยังจำได้ดีเหตุการณ์ในวันนั้นที่เป็นวันที่ทั้งเธอและลูกต้องเจอกับความอัปยศ
“ฉันรู้ค่ะว่าบ้านและที่ดินผืนนี้เป็นแค่ที่เช่าแล้วไม่ทราบว่าเกี่ยวอะไรกับการเจรจาของคุณ”
“หึ…..เนียนเอาเอกสารมาซิ”
เนียนคนรับใช้คู่กายรีบยื่นให้
“นี่เป็นเอกสารการซื้อขาย ถ้าฉันเซ็นซื้อไปเมื่อไรที่ที่พวกคุณอยู่ตอนนี้จะเป็นของฉัน”
มะลิและยศ มองหน้ากันเครียด
“อะไรครับคุณนาย ซื้อขายอะไร”
“ก็ฉันได้ไปเจรจากับเจ้าของที่นี่แล้วน่ะสิ ว่าจะซื้อบ้านหลังนี้”
“ต้องการอะไรกันแน่ถึงกับเล่นสกปรกแบบนี้”
“หลานฉันไง…..พวกคุณไปบอกไอ้ลูกกระเทยของพวกคุณว่าให้คืนหลานฉันซะ แล้วฉันจะยกเลิกการซื้อขายนี้”
“เลว! คุณมันเลวจริงๆ เพราะแม่เลวเเบบนี้ไงลูกถึงเลวไม่ต่างกัน!” มะลิยืนขึ้นชี้หน้าด่า ส่วนยศรีบปราม
“แก! กล้าดียังไงมาด่าฉัน”
“ทั้งสองคนใจเย็นๆก่อนเถอะนะ”
“คุณจะไปเย็นอะไรอีก พวกนี้มันขู่เรานะคะ”
“คุณนายพวกผมคงจะทำตามที่คุณบอกไม่ได้”
พิสมัยกัดฟันกรอด “ถ้าอย่างนั้นพวกแกก็เตรียมตัวย้ายออกจากบ้านหลังนี้ได้เลย! ไปกันเถอะเนียนอยู่ที่นี่มากเสนียดจะติดได้”
“รีบๆออกไปเลยนะ!” มะลิรีบตวาดหลัง
“ฉันไม่เคยคิดเลยนะคะคุณว่าเขาจะร้ายกาจขนาดนี้ เขาจะมายุ่งกับพวกเราอีกทำไม ทำไมชีวิตเราถึงไม่พ้นคนแบบนี้สักที ฉันเหนื่อย…..” พูดพลางทรุดกับพื้นอย่างหมดแรง
“มะลิ….”
“เราจะทำยังไงดีคะคุณ….บอกหอมไหมคะ….ในเมื่อยัยคุณนายเอาเรื่องนี้มาพูดนั่นก็หมายความว่า ต่อให้หอมจะเล่นเกมส์ชนะแค่ไหน เราก็ไม่ได้หมูหันอยู่ดี”
ยศพยักหน้า “ผมก็คิดแบบเดียวกัน…..เราไม่ยกหลานให้แน่ๆ แต่บ้านหลังนี้….”ทั้งสองคนยืนมองบ้านก่อนจะกอดกันร้องไห้กับความผูกพันที่มี
………………………………………………………………………..
“สัญญาณโทรศัพท์ที่นี่ไม่มีหรอกคุณ”
ผมเลิกมองหน้าจอแล้วเอ่ยขอบคุณ ลุงคงเห็นผมยกโทรศัพท์เหนือแขนหาสัญญาณมานานจึงได้เอ่ยบอก
“ว่าแต่พ่อหนุ่มอีกคนกับเด็กอ้วนๆนั่นไปไหนเสียแล้วล่ะ”
“เดินเล่นริมหาดน่ะครับ”
“อ้อ ยังไงก็รีบกลับมาที่พักนะเพราะพายุจะเข้าอีกแล้วล่ะ ส่วนโทรศัพท์มีใช้ได้อยู่1เครื่องนะอยู่ที่บ้านผู้ใหญ่บ้านน่ะ แต่ต้องรีบหน่อยเพราะพายุจะเข้า เดี๋ยวสัญญาณจะไม่ติด เดิมสัญญาณก็แทบจะไม่มี แต่ถ้ามีธุระสำคัญข้าว่าใช้บริการดีกว่านะ……”
“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นพาผมไปได้ไหมครับ”
“ได้ซี่ ตามข้ามาล่ะกัน”
เดินไปถึงที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเจอโทรศัพท์บ้านที่ว่าค่อนข้างเก่าแต่เห็นว่าเป็นเครื่องเดียวที่โทรติด
“ตามสบายนะคุณ เเต่ต้องกดเปิดสัญญาณนี่ก่อนนะถึงจะใช้ได้”
“ขอบคุณนะครับ” หลังจากนั้นผมก็กดเบอร์โทรหาแม่เพื่อบอกว่าตอนนี้ผมอยู่ที่เกาะและอาจจะออกจากที่นี่ไม่ได้1-2 วัน เผื่อทั้ง2คนจะติดต่อเพราะโทรศัพท์ผมใช้งานไม่ได้
“ฮัลโหลแม่ครับ ได้ยินผมไหม”
“ครืด..ด….นั่น..ใคร…คะ”
“หอมเองครับแม่”
“อ้าวหอม…ครืดด….เองเหรอลูก สัญญาณไม่ค่อยดีเลย”
“แม่ครับตอนนี้ผมอยู่ที่เกาะทะเลทางใต้นะครับ แล้วที่นี้พายุเข้าน่ะครับยังออกจากเกาะไม่ได้”
“ตายจริง…อันตรายนะลูก แม่เองก็โทรหาลูกเมื่อเช้าแต่โทรไม่ติดเลย”
“แล้วแม่โทรหาผมทำไมเหรอครับ”
 แม่นิ่งแล้วถอนหายใจ
“หอม…เมื่อเช้ายัยคุณนายมาที่บ้าน”
“คุณนาย…แม่พี่คิงส์เหรอครับ”
“ใช่จ้ะ”
“เขามาทำไมครับแม่ เขาทำร้ายพ่อกับแม่หรือเปล่าครับ” ผมบีบโทรศัพท์แน่น
“ก็ไม่เชิงหรอกลูก คือว่ายัยคุณนายนั่นยื่นข้อเสนอเรื่องหมูหันน่ะสิ ถ้าเราไม่ให้หมูหันเขาจะซื้อบ้าน ครืดดดด…เราออกไป…”
“อะไรนะครับแม่ผมไม่ค่อยได้ยิน ซื้ออะไรครับ?”
“ที่บ้าน......”
ติ๊ด…สัญญาณโทรศัพท์ขาดหายไปพร้อมกับร่างสูงของพี่คิงส์ที่ยืนยิ้มพร้อมกับหมูหัน
“คุณกดปิดสัญญาณโทรศัพท์ผมทำไม ผมกำลังคุยธุระกับแม่อยู่นะ”
“ขอโทษนะหอมมือพี่ไปโดนน่ะ”
ผมพ่นลมหายใจ แต่ก็ไม่ได้โกรธมากมายเพราะเรื่องที่บอกกับแม่ก็บอกแล้วคงแต่ยังค้างคากับประโยคของแม่
“ผมหิวข้าวจังเลยอ่าแม่พาไปกินข้าวหน่อยครับ”
“แล้วคุณล่ะจะไปไหม” ผมถาม
“เอ่อ เดี๋ยวพี่เข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวจะตามไป”
ผมพยักหน้าแล้วจูงมือพาหมูหันไปยังที่พัก
……………………………………………………………………….
“มันจะคืนคุณหนูให้เราไหมคะคุณนาย”  เนียนคนรับใช้คนสนิทเอ่ยถามขณะยกน้ำชาให้คุณนายที่นั่งในสวนหน้าบ้าน
 “ให้ไม่ให้ฉันก็จะเอาหลานฉันคืนอยู่แล้วล่ะ แกอย่าลืมสิว่าเรายังมีอีกแผนหนึ่ง หึ”
“จริงด้วยสิคะคุณนาย แบบนี้มันต้องเจ็บช้ำเหมือนตอนที่คุณนายไล่มันเหมือนหมาข้างถนนแน่ค่ะ”
พิสมัยยิ้มหยัน
รถยนต์คันงามเคลื่อนตัวเข้ามาในบ้าน แม้จะถูกต้นไม้บังไม่อาจเห็นได้ชัดแต่แค่สีรถก็รู้ว่าเป็นใคร
“คุณโชคชัยกลับมาทำไมตั้งแต่กลางวัน” พิสมัยวางถ้วยชาลงจะเดินไปหาแต่ต้องชะงักเท้าเมื่อร่างของหญิงสาวที่ลงจากรถพร้อมกันทำท่าจะจูบกับโชคชัย ทำให้พิสมัยถึงกับเบิกตากว้างปรี่เข้าไปหาด้วยจิตใจที่เตรียมจะพิโรธทุกเมื่อ
“ทำอะไรกัน! คุณโชคชัย ลินดา!”
ทั้งสองคนสะดุ้งเฮือก
“ฉันถามว่าทำอะไรกัน นี่พวก…แก...จะ…จูบกันเหรอ”   เธอแทบจะพูดไม่ออกเพราะโกรธจนอยากกรีดร้องเสียมากกว่า
“อะ...อะไรของคุณ คุณหญิง”
“จะอะไร คุณจะจูบกับลินดาใช่ไหม แล้วไปไหนด้วยกันมา!”
“นี่คุณ…..คิดไปถึงไหนแล้ว”
“ถึงไหนอะไร! คุณหักหลังฉันเหรอฮะ! แกลินดา!”  พิสมัยจะเข้าไปทำร้ายแต่โชคชัยขวางไว้
“คุณ! พอได้แล้ว ผมแค่บังเอิญผ่านหน้าบ้านลินดา แล้วเห็นลินดา…เอ่อ….จะขึ้นแท็กซี่เพราะคนขับรถไม่อยู่ ฉันก็เลยพากลับมาด้วย แล้วที่เห็นจะจูบคงเพราะใบไม้ติดที่หัวฉันต่างหากลินดาจึงหยิบออกให้ ถ้าไม่เชื่อก็ตามใจผมขี้เกียจต้องมาอธิบายกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง” พูดจบโชคชัยก็เดินเข้าไปในบ้าน
พิสมัยหน้าเสีย
ลินดาแอบยิ้มแต่ก็ต้องรีบทำหน้าเศร้า
“จริงหรือเปล่าที่คุณโชคชัยพูด”
“จริงค่ะ คุณแม่ หนูไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ ฮึกๆ”
“เฮ้อ…..งั้นฉันขอโทษด้วยแล้วกันเพราะฉันใจร้อนไป” พูดจบก็รีบเดินตามสามีไป
ลินดา กอดอก แสยะยิ้ม  “โง่จริงๆ”
……………………………………………………………………………
“ว้าวววววว กุ้งตัวใหญ่มากเลยครับ กุ้งๆๆ”
“นั่งทานดีๆครับ เดี๋ยวแม่แกะให้”
“ไม่เอา ผมแกะเองได้ โตแล้ว”
“อ่อ….งั้นเชิญเลยพ่อหนุ่ม” ผมยิ้มมองลูกที่เจ้าตัวตั้งใจแกะเปลือกกุ้ง
“ว้าววววว กุ้งน่าอร่อยเต็มไปหมดเลย”พี่คิงส์เอ่ยขึ้นเเล้วไปนั่งข้างๆหมูหันที่กำลังตั้งใจเเกะกุ้งตัวใหญ่
ผมมองพี่คิงส์ที่กำลังเเกะกุ้งเเข่งกับหมูหัน อยากถามพี่คิงส์เรื่องคุณนายเหมือนกันว่าไปบ้านผมทำไม
“คิ้วขมวดอีกแล้ว” นิ้วจิ้มมาที่หน้าผากของผม “ยิ้มหน่อยสิเหมือนเมื่อก่อน”
ผมจับหน้าผากตัวเองแต่ยังนิ่วหน้าต่อไป
หลังจากทานข้าวจนอิ่มเราก็รีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จแล้วเข้านอนเพราะพายุกำลังมา คลื่นทะเลคล้ายสึนามิขนาดย่อม เสียงฝนที่ตกกระทบหลังคาเสียงดังทำให้หมูหันมุดเข้าผ้าห่มทันที ผมยิ้ม แต่พอเงยหน้ามองก็สบตาพี่คิงส์ที่นอนด้วยกันแต่มีหมูหันขั้นกลาง
“นอนเถอะครับ พรุ่งนี้พายุอาจจะสงบแล้วเราจะได้ออกเดินทางเช้าๆ”
มือหนาเอื้อมมาสัมผัสแก้มของผม “พี่อยากอยู่ที่นี่นานๆ เพราะจากนี้ไปเราคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก”
“ถ้าพี่อยากเจอลูก ผมไม่ได้ปิดกั้นนะครับ หมูหันก็รักคุณ”
“แล้วหอมล่ะ…..รักพี่ไหม”
ผมเบนสายตาไปทางอื่น
“คำตอบก็รู้แล้วนี่นะ หอมหลับเถอะวันนี้เพลียทั้งวันแล้วนี่” พี่คิงส์พูดพลางเปิดผ้าดูหมูหันที่มุดหลับอยู่ในผ้า ก่อนจะอุ้มจัดท่าให้ลูกนอนดีๆ
ความมืดมาพร้อมกับความเงียบ ผมนอนไม่หลับ จิตใจผมสับสน ทำไมรู้สึกเจ็บที่น่าอกเมื่อเขาบอกว่าเราคงจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก….ทำไมต้องปวดใจ……
ครืนนนน เสียงลมดังขึ้นรุนแรงคล้ายสิ่งของด้านนอกพังทลาย ผมและพี่คิงส์รีบลุกจากที่นอนพลางเปิดไฟนีออนอย่างตื่นตระหนก
“กะ.เกิด….” ครืนนนน
ไม่ทันได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นภายในที่พักคล้ายมีใครมาเขย่าอย่างรุนแรง ทั้งผนังและไม้สั่นไหวจนผมต้องรีบกอดหมูหันเข้าอ้อมกอด พี่คิงส์เข้ามากอดผม
ไฟนีออนดับสนิททำเอาผมใจวูบแต่แสงไฟจากไฟแช็คพี่คิงส์ทำให้สว่างขึ้น
“ไม่ต้องกลัว” พี่คิงส์เอ่ยปลอบเมื่อตัวผมสั่นและหมูหันเริ่มร้องไห้ ผมซุกเข้าอ้อมกอดเขาเหมือนต้องการที่ปลอดภัย
ครืนนนนนน
ไม่รู้ว่าเสียงอะไรเกิดขึ้นรู้ตัวอีกทีผมก็กรีดร้องลั่นเมื่อจู่ๆหลังคาก็พังลงมาตรงเราสามคนพอดี พี่คิงส์กอดผมและลูกไว้แน่น
คล้ายหัวใจหยุดเต้นผมหอบหายใจถี่รู้สึกช็อค แขนก็กอดหมูหันที่ร้องไห้ดังลั่นแต่คนที่กอดผมตอนนี้กลับนิ่งคล้ายไม่มีตัวตน
“ฮือๆๆ แม่…ฮือๆ..ๆ..”
“หมูหันเป็นยังไงบ้างลูก” ผมรีบกอดปลอบแต่เพราะทุกอย่างมืดมิดจึงทำได้แต่เพียงกอดปลอบเท่านั้น หลังผมพิงอกกว้างจะยกมือไขว่คว้ารอบข้างแต่กลับติดสิ่งหนึ่งคล้ายไม้ที่อยู่ห่างจากศีรษะผมเพียงไม่กี่คืบเหมือนกับว่าติดค้างบางอย่างก่อนที่จะถูกศีรษะของผม
“พี่คิงส์” ผมเอ่ยเรียกคนที่นั่งซ้อนหลังผมอยู่แต่เขากลับนิ่ง ผมควานหาไฟแช็คและเมื่อหาเจอและจุดติด ผมก็เบิกตากว้าง เมื่อไม้ท่อนใหญ่รวมถึงสังกะสีบางส่วนพังลงมาแต่มันไม่หล่นมาทับผมและลูกเพราะพี่คิงส์เอาตัวเข้าบังไว้ทำให้ศีรษะของเขามีแต่เลือด
“พี่คิงส์!” ผมร้องลั่นเมื่อเลือดบนศีรษะไหลมาที่ไหล่เขาเยอะมาก ผมรีบใช้มือที่ว่างจับหน้าเขาเพื่อเรียกสติ
“พี่คิงส์! พี่คิงส์!” ตัวผมสั่นไปหมด หมูหันร้องไห้มากขึ้นแล้วเข้ากอดพี่คิงส์
“พ่อ! ฮือๆๆ”
“ช่วยด้วย!” ผมรีบลุกแล้วยกไม้และสังกะสีที่ทับศีรษะของเขาออกแต่เพราะมันหนักจึงยากลำบากพอสมควรยิ่งอยู่ในความมืดจึงเอาออกยาก
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
“หะ…หอม”
“พี่คิงส์!”
“ฮือๆๆ”
ผมเอาท่อนไม้ที่ทับออกให้จนหมดเขาทรุดตัวนอนลงทันทีผมรีบไปกอดเขาไว้แน่น
“หอมไม่เป็นอะไรนะ”
“ผมไม่เป็นอะไรแต่ พี่ ฮึก..ก…”
“พี่ไม่เป็นไร” เขาพูดอย่างอ่อนแรง
“พี่อดทนไว้นะ เดี๋ยวผมจะไปเรียกคนอื่นมาช่วย”
“มะ..ไม่ต้อง” เขาจับแขนผมแน่น “ไม่ต้องพี่ไม่ไหวแล้วปล่อยพี่ไปเถอะ”
“ไม่เอา! ฮึก…ก..ทำไมต้องยอมแพ้ด้วย”
“ปล่อยให้พี่ตายเถอะ คนอย่างพี่น่าจะตายไปตั้งนานแล้ว…ไม่ควรที่จะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อทำร้ายใครอีก….”
“ไม่เอา ถ้าพี่ตายแล้วหมูหันจะอยู่ยังไง”
“ฮือๆๆ พ่อ อ่าอย่าเป็นไรนะ”
พี่คิงส์ลูบหัวลูกที่กอดเขาร้องไห้
“ลูกต้องการพ่อนะ”
ผมไม่รู้ว่าสายตาเขายามที่ผมพูดประโยคนี้ไปเป็นอย่างไรแต่เขาจับมือผมแน่นก่อนจะละออก ผมรีบวิ่งไปหาคนมาช่วย ไม่นานชาวบ้านที่แตกตื่นกันอยู่แล้วก็เข้ามาช่วย พี่คิงส์ถูกนำส่งสถานพยาบาลอาการภายนอกไม่น่าเป็นห่วงนักมีแผลที่ศีรษะที่ไม่ค่อยลึกมากแต่หากกลับไปควรตรวจให้ละเอียดอีกทีและมีแผลถลอกฟกช้ำตามตัว
ผมถอนหายใจรู้สึกเหมือนหัวใจมันหล่นตุบออกมาเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรงยิ่งพี่คิงส์บอกว่าตัวเองไม่รอดผมก็ยิ่งขวัญเสียแต่ที่ไหนได้กลับไม่เป็นอะไรมากเท่าที่คิด หลังจากกล่อมลูกจนกลับบนเตียงพยาบาลก็มาดูพี่คิงส์ที่นอนอยู่ พอพี่คิงส์เห็นผมก็จะลุกแต่ผมห้ามไว้
“เป็นยังไงบ้างครับ”
“ไม่เป็นไร” เขายิ้มบางๆให้ผม
“ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมกับลูก...ขอบคุณจริงๆ”
“เป็นหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัวอยู่แล้ว”
ผมมองเขาแล้วร้องไห้
“อย่าร้องไห้เลยหอมเพราะตลอดเวลาพี่ไม่เคยได้ดูแลหอมและลูกเลย พี่มีโอกาสได้ทำแบบนี้พี่มีความสุขมาก…..ถ้าทั้งสองคนเป็นอะไรไปพี่คงอยู่ไม่ได้”
“พี่คิงส์..ฮึก..” เขาจับมือผมแน่น
“ถ้าไปจากที่นี่แล้วเราคงเป็นแค่คนอื่นกันสินะ”
ผมเพียงแต่ร้องไห้ไม่ได้ตอบกลับไปรู้สึกปวดหัวใจที่เมื่อได้ยินคำลา
“ถ้าเจอกันเราอย่าทักกันอีกเลยนะ ให้ทำเหมือนคนอื่นไกล..ให้ทำเหมือนกับว่าเราไม่เคยรู้จักกัน..เพราะพี่คงทำใจไม่ได้หากเจอหอมแล้วทำได้เพียงมอง…แต่เรื่องค่าใช้จ่ายของลูกพี่จะเลี้ยงดูแน่นอน”
“พ่อ!” เสียงร้องไห้โยเยทำให้ผมรีบลุกดูลูก หมูหันร้องไห้แล้วซุกเข้าอ้อมกอดผม
“พ่อ ฮือๆๆ พ่ออยู่ไหน”
ผมรีบอุ้มหมูหันมาหาพี่คิงส์เจ้าตัวก็กางแขนเข้าไปหาพ่อแต่เพราะพี่คิงส์ยังบาดเจ็บจึงเคลื่อนไหวไม่ได้มากนัก
“ฮึก..ก..พ่อเจ็บตรงไหนบ้างผมจะเป่าให้ ฮือออ”
“พ่อไม่เป็นไรครับ ขอบใจมากนะ”
“ผมกลัวว่าพ่อจะจากผมไป ไม่เอานะอย่าจากผมไป อยู่กับผมตลอดไปนะ”
ผมและพี่คิงส์มองหน้ากัน มือหนาคล้ายจะอยากจับมือผมไว้แต่ผมเอื้อมไปจับก่อน เขามองผมแววตาไม่อยากเชื่อว่าผมทำแบบนี้
“หอม”
ฟึบ ผมสวมกอดเขาอ้อมแขนของเขากอดผมตอบแน่นแล้วจูบเข้าที่แก้ม
หัวข้อ: ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:32:36
ตอนนี้พวกผมกำลังเดินเล่นที่ริมหาด ทั้งที่บอกให้พี่คิงส์นอนพักก็ไม่นอนรั้นจะมาเดินเล่นให้ได้ เศษซากต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อคืนยังคงปรากฎให้เห็น กิ่งไม้หัก ลำต้นโค่นล้ม ที่พักหลายแห่งพังลงมา
“พรุ่งนี้เราคงกลับบ้านได้แล้วล่ะ” ผมพูด
 “ผมไม่อยากกลับเลย…ที่นี่สวยมาก น้ำสีฟ้า ถ้ากลับไปต้องคิดถึงแน่ๆเลยเนอะ” หมูหันมุ่ยปาก ในมือก็ถือไม้ไว้เขี่ยทรายเล่น
ไม่กลัวเหรอ….
หมูหันหยุดนิ่ง “มะ…ไม่กลัวสักหน่อย…มีแม่….มีพ่อ….ผมไม่กลัวหรอก” พูดแล้วจับมือพี่คิงส์และผมไว้แน่น เราสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้มพร้อมกับก้มหอมแก้มลูกชายสุดน่ารัก
“งั้นเอาเป็นว่าวันนี้เรามาสร้างความทรงจำดีๆกันเถอะ”
 “อะไรหรอครับพ่อ”
“สร้างปราสาททรายดีไหม”
“เอาทรายสร้างหรอ”
“ใช่….มาช่วยพ่อสร้างดีกว่า”
หมูหันตาโตตื่นเต้น มาชวนผมให้สร้างด้วยกันแต่ผมขอนั่งดูสองคนช่วยกันทำดีกว่า  ผมยิ้มเมื่อสองพ่อลูกช่วยกันก่อปราสาททราย จากทรายกองหนึ่งเปลี่ยนรูปร่างเป็นปราสาททรายรูปทรงเบี้ยวไม่สวยนักแต่รอยยิ้มทั้งสองคนสำคัญกว่า……
“พ่ออย่าทำแบบนั้นสิ ไม่สวยเลย มาผมทำเองดีกว่า พ่ออยู่เฉยๆเลยนะ”
“หึๆ” ผมหัวเราะเพราะพี่คิงส์ทำปราสาทไม่สวยจนหมูหันดุ พี่คิงส์มองมายังผมชี้ไปทางหมูหันประมาณว่า ดูลูกสิ หลังจากสร้างปราสาททรายเสร็จเราสามคนก็ถ่ายรูปด้วยกันเป็นที่ระลึก
“อ๊ากกกก ฮ่าๆๆ พ่อปล่อยผมนะ” หมูหันดิ้นเมื่อถูกพี่คิงส์อุ้มแล้ววิ่งลงทะเลไปด้วยกัน
“แม่! เล่นน้ำกันเถอะ!  เอิ้กๆๆ”
ผมตะโกนบอกให้พี่คิงส์ระวังน้ำเข้าแผล..เฮ้อ..ทำไมเขาถึงทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้
 “อ๊ากกกก ฮ่าๆๆ” หมูหันร้องแล้ววิ่งมาทางผมดูสนุกสนานกันใหญ่
“พ่อแกล้งล่ะ บอกว่าปลาตัวใหญ่ๆจะมากินหมูไป ผมไม่ใช่หมูสักหน่อยนึงเนอะไม่กลัวหรอก ผมคิมหันต์ต่างหากล่ะ ปลาตัวใหญ่ๆไม่กินหรอกเนอะ” พูดเองเออเองซะงั้นไม่กลัวแต่วิ่งมาเนี่ยนะ
“หนีพ่อมานะตัวแสบ”
“พ่อหลอกอ่ะ เชอะ ผมไม่ใช่หมูนะปลาตัวใหญ่ไม่กินหรอก”
“แต่วิ่งร้องลั่นมาฟ้องแม่เชียวนะ” พี่คิงส์ขยี้หัวลูก
“เลิกเล่นเถอะครับ อีกอย่างพี่มีแผลนะครับทำไมถึงทำอะไรไม่รู้จักโตแบบนี้ คุณหมอเขาก็บอกว่าเเผลห้ามถูกน้ำ” ผมพูดร่ายยาวจนพี่คิงส์เอามืออุดหู ส่วนหมูหันบ่นใหญ่เลยว่าน้ำเค็ม หลังจากก่อปราสาททรายเสร็จ เล่นน้ำจบ ทั้งสองคนก็พักเหนื่อยด้วยการนอนอาบแดดโดยขุดหลุมฝังตัวเอง พี่คิงส์ก็ยอมเป็นตุ๊กตาให้หมูหันและผมฝังตัวด้วยทราย ส่วนหมูหันก็ชอบใจนอนตามพี่คิงส์บ้าง จนตอนนี้ทั้งสองคนเหมือนเต่านอนอาบแดดไม่มีผิด
“พ่อ แม่ เมฆก้อนนั้นเหมือนหน้าคนสามคนเลย คนแรกคือพ่อตรงกลางผมและอีกคนคือแม่เนอะ” ผมมองดูเมฆที่ว่าก็คล้ายๆ
“ผมสนุกมากๆเลย แล้วมากันอีกนะ”
 ……………………………………………….
เช้าต่อมาเราก็ออกจากเกาะ ตอนนี้พวกเรากำลังเดินทางกลับบ้านกัน
มือหนากุมมือผมไว้ ส่วนอีกมือก็ใช้ขับรถ ผมดึงมือกลับก็ยังจะจับอีก ทั้งๆที่ไม่ควรเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้
“พี่ดีใจนะที่เรากลับมาคบกันอีก”
“ครับ…..ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน”
“คบกันคือไรหรอครับ” หมูหันที่นั่งตักผมเอ่ยถาม
 “ก็…..รักกันไงครับ เหมือนกับคู่บ่าวสาว หมูหันจำได้ไหมล่ะ”  พี่คิงส์บอก
“อุว้าววววว พ่อกับแม่ก็จะแต่งงานกันใช่ไหมครับ แต่งงานอีกๆ”
ผมหน้าเศร้าผมกับพี่คิงส์จะแต่งงานกันได้ยังไงล่ะ
“แต่งไหมล่ะ”
“เอ๊ะ”
พี่คิงส์ยิ้มแล้วชะลอรถเพราะติดไฟแดง
“แต่งงานกันไหม เราสองคน”
ผมอึ้ง แต่งงาน?
“เรื่องแต่งงานไม่ว่าจะเพศไหนก็มีสิทธิ์….หอมนั่นแหละจะแต่งงานกับพี่ไหม”
ผมนิ่งจุกจนพูดไม่ออก
“พะ….พี่คิงส์ขอผมแต่งงานเหรอครับ”
“ใช่….เราแต่งงานกันนะ จุ๊บ”  พูดพลางจูบมือของผม
ผมรู้สึกจุกตื้นตันจนร้องไห้ออกมา “ฮึก..ก..พี่คิงส์” เราสองคนกอดกันหมูหันก็เข้ามากอดด้วย
ปี๊นๆๆ เสียงรถบีบแตรจากด้านหลังบ่งบอกถึงสัญญาณไฟเขียว  เราสองคนรีบออกจากภวังค์และเดินทางกลับคอนโด
หลังจากกลับมาถึงได้ไม่นานโทรศัพท์พี่คิงส์ก็ดังขึ้น
 “แม่พี่เขาโทรมาบอกพี่เรื่องหอม…...”พี่คิงส์พูดหน้าเศร้าแล้วมานั่งกอดผมจากด้านหลัง
ผมที่กำลังนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าชะงักนิ่งรู้สึกไม่ดีเมื่อพูดถึงคุณนาย…..ต่อให้ผมกับพี่คิง์รักกันมากแค่ไหนถ้าคุณนายไม่ยอม…….
“แม่พี่ตอนนี้เข้าใจเรื่องของเราแล้วนะ”
ผมเงยหน้ามอง
“เข้าใจ?”
 “ใช่ ท่านเข้าใจเราแล้ว ท่านยอมที่จะให้พี่รักหอม ท่านจะไม่ขัดขวางอีกแล้ว”
“จริงเหรอครับ……คุณนายน่ะเหรอ ยอมรับผมแล้ว”
“ใช่…ท่านบอกว่ายอมรับหอมแล้ว….แต่ต่อให้ไม่ยอมรับพี่ก็ไม่สน” ในน้ำเสียงคล้ายโกรธอย่างมาก
 ผมหยุดมือกระพริบตาปริบๆ “ไม่อยากเชื่อ….ละ….แล้ว…ลินดาล่ะ”
“พี่จะเลิก…”
“ผม…..ผมไม่อยากทำร้ายเขา”
“พี่ไม่ได้รักลินดาแล้วและลินดาเองบางทีก็อาจจะไม่ได้รักพี่เช่นกัน”
“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่รัก”
“คนเจ้าชู้น่ะเขาดูกันออก….”
ผมนิ่วหน้า “เจ้าชู้!?”
“แต่พี่เลิกแล้ว”
“ผมไม่เชื่อ…หวา พี่คิงส์ทำอะไรครับ”
“ก็ขาเจ็บพี่ก็จะอุ้มพาไปที่เตียงไงล่ะ”
“ผ้ายัง….แล้วเอาหน้ามาใกล้ทำไมล่ะครับ”
“ก็อยากจูบ” พี่คิงส์จะก้มลงจูบผม
“อย่าครับ หมูหันก็อยู่นะ”
“ขอแค่10 นาที” ไม่ให้ผมตกลงก็พาอุ้มเข้าไปในห้อง ทั้งยังบอกหมูหันที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์ให้นั่งดูคนเดียวไปก่อน
“พี่คิงส์…..”
“พี่รักหอมนะ นานแล้วที่ไม่ทำ”
“นานอะไรครับ ที่เกาะ อ๊ะ อย่ากัดสิครับ”   ฟันกัดเข้าที่ลำคอ ก่อนจะตามมาด้วยบทรักอันรุนแรงเร่งเร้าที่ต้องจบภายใน10 นาที เสียงครางดังอื้อในลำคอไม่อยากให้หมูหันได้ยิน แรงกระแทกไม่ยั้งเพราะเร่งรีบทำให้เตียงสั่นจนแทบหัก  10 นาทีที่ร่วมรักเหมือน 10 ชั่วโมง เพราะช่างเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินหลังจากเสร็จสิ้นภายในเวลา10 นาทีเราสองคนก็นอนพัก พี่คิงส์นอนหลับเพราะคงเพลียจากการขับรถด้วย
“จุ๊บ” ผมจูบหน้าผาก
ไม่อยากเชื่อว่าเราจะได้กลับมารักกันอีก
RrrRRR เสียงโทรศัพท์จากข้างนอกห้องทำให้ผมลุกไปรับ เบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นทำให้ผมลังเลที่จะรับ
“ฮัลโหลครับ”
“นี่ฉันเองนะ” เสียงจากปลายสายทำให้ผมตัวชาวาบ
“คุณ…นาย”
“ใช่ฉันเอง เบอร์เธอตาคิงส์ให้ฉันไว้”
“คะ….ครับ”
“บอกตามตรงนะฉันไม่อยากยอมรับเธอเท่าไร เเต่ในเมื่อชีวิตคู่ตาคิงส์ไม่มีความสุขเอาแต่ตามติดหนึบเธอตลอด ฉันเลยต้องยอมรับ…..ฉันยอมรับเธอ”
จากสั่นๆคล้ายหัวใจพองโต
“ยอมรับผม….จริงเหรอครับ”
“ใช่……ฉันให้อภัย แต่ยังไงวันพรุ่งนี้พาหลานมาให้อุ้มด้วยล่ะ”
“เอ๊ะ”
“ทำไมหวงหรือไง”
”ปะ…เปล่าครับ ผมดีใจที่คุณนายให้โอกาสและเข้าใจผม”
“หึ แค่นี้ละแล้วพรุ่งนี้ฉันจะรอ”
ติ๊ด
 ผมยิ้มรับ แปลว่าคุณนายให้ผมกับพี่คิงส์รักกันได้แล้วใช่ไหม ผมจะเดินไปหอมแก้มหมูหันด้วยความตื่นเต้นแต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
“ครับแม่”
“โทรติดสักที….. กลับมาแล้วใช่ไหมลูก”
“ครับแม่ได้พักหนึ่งเเล้ว….”
“มาที่บ้านได้ไหมลูก แม่กับพ่อมีเรื่องสำคัญจะบอกลูก โทรคุยคงไม่สะดวกเท่าไรเพราะเรื่องใหญ่จริงๆ”
“ได้ครับ ผมจะรีบไปนะครับ”  ผมไปปลุกพี่คิงส์ให้มาดูหมูหันเพราะผมจะไปบ้าน
“แล้วผมจะรีบกลับก่อนอาหารเย็นนะครับ”
ผมพูดแล้วออกไปจากห้อง
“เรื่องใหญ่งั้นเหรอ หรือจะเป็นเรื่องที่แม่เคยโทรบอกตอนนั้น”
ปี๊นๆ มายืนรอรถข้างทางได้ไม่นานรถยนต์คนหนึ่งก็เคลื่อนมาจอดข้างๆพร้อมกับบีบแตร
“หอมกลับมาตั้งเเต่เมื่อไร” พ่อพี่คิงส์รีบลงจากรถมาหา
“สวัสดีครับ......เพิ่งมาถึงวันนี้น่ะครับ”
“ฉันตกใจมากรู้ไหมที่ติดต่อหอมไม่ได้เลย ไหนบอกว่าจะไม่นอนค้างไงล่ะ”
"มีเหตุการณ์กระทันหันน่ะครับ เลยอยู่ค้างต่อ"
“เฮ้อ….ฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆ….จริงสิตอนนี้ฉันว่างไปทานข้างกลางวันกันไหม”
“คือผมต้องไปบ้านพ่อกับแม่น่ะครับ มีธุระด่วนน่ะครับ”
“อ้อ ฉันนี่มาผิดเวลาสินะ เดี๋ยวฉันไปส่งแล้วกัน”
 “เอ่อ…”
“ขึ้นรถเถอะ อย่าเกรงใจเลย”
ผมขึ้นรถตามที่คุณพ่อบอก
“ขอโทษนะครับที่ไม่ได้ทำอาหารกลางวันให้คุณพ่อเลย ผมไม่คิดว่าจะไปหลายวันขนาดนี้”
“หึ แค่ได้อยู่กับหนู ฉันก็มีความสุขแล้วล่ะ”
“ครับ?”
“เปล่าๆ ฮ่าๆๆ”
“ตะ....แต่พรุ่งนี้ผมไปบ้านคุณพ่อผมจะทำอาหารให้ทานนะครับ” ผมก้มหน้างุดด้วยความเขิน
“ไปบ้านฉัน?”  ทำไมคุณพ่อทำหน้าเหมือนไม่รู้เลย
“ก็...คุณแม่ยอมรับผมกับพี่คิงส์แล้ว ยอมให้เราคบกัน”
“ว่าไงนะ!” เอี๊ยดดดดดด รถเบรกกระทัน จนคันหลังบีบแตร แต่คุณพ่อกลับไม่ได้สนใจสักนิด
“ยอมรับ? ”
“เอ่อ...ครับ”
คุณพ่อขมวดคิ้วหน้าเสีย
“คุณพ่อไม่ชอบผมเหรอครับ”
“ไม่ใช่ๆ ชอบมาก แต่….” คุณพ่อไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ท่าทางเครียด หลังจากคุณพ่อส่งผมที่บ้าน ก็ขับรถไปทันที
 “หอม….”
ผมยกมือไหว้พ่อกับแม่ พวกท่านมีสีหน้าลำบากใจอย่างชัดเจนก่อนจะเล่าเรื่องที่ต้องการบอกให้ผมฟัง ทันที
 “ไม่จริงหรอกครับ ผมไม่เชื่อ” ผมพูดขึ้นเมื่อพ่อกับแม่บอกผมเรื่องคุณนาย ที่ให้เลือกว่าจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้หรือจะยกหมูหันให้
“หอม แม่จะหลอกลูกทำไม”
“คุณนายไม่มีทางยื่นข้อเสนอแบบนี้หรอกครับ”
“เป็นความจริงลูก” พ่อตบบ่าผม “เขามาหาพวกเราบอกแบบนี้จริงๆ”
“พ่อ…..แต่คุณนายบอกผมว่ายอมรับให้ผมกับพี่คิงส์รักกันแล้ว”
“ว่าไงนะ” แม่เบิกตากว้าง “รักกับคิงส์ หมายความว่ายังไง”
“คือ….”
“นี่ลูกกลับไปคบกันอีกเหรอ”
ผมก้มหน้างุด
“ทำไมทำแบบนี้! ไปคบกันอีกทำไมจำไม่ได้เหรอที่เขาทำให้ลูกเจ็บช้ำมากแค่ไหน ทำไมกลับไปรักกันอีก!”
 “คุณใจเย็นๆเถอะ”
“ฉันเย็นไม่ไหวแล้วค่ะ ดูลูกทำสิ” แม่เอ่ยทั้งน้ำตา
“ผมขอโทษ”
“จำได้ไหมวันนั้นวันที่เราถูกไล่เหมือนหมา ทำไมไม่จำ! ฮือๆๆ แม่เสียใจมากรู้ไหมที่ลูกทำแบบนี้”
“แม่ครับ ฮึกๆๆ ผมขอโทษแต่ผมรักเขาจริงๆ”
“พอที…….อยากทำอะไรเชิญเลย รู้ตัวอีกทีแม่กับพ่อคงนอนตายข้างถนน!” พูดจบแม่ก็เดินไปสวนหลังบ้านทันที
“แม่ครับ! แม่!”
“อย่าไปเลยหอมแม่เขากำลังโกรธ พูดไปก็เท่านั้นแหละลูก”
“ฮึกๆๆ พะ..พ่อ  ผมขอโทษ แต่ผม…..”
“เรื่องนี้พ่อไม่เข้าข้างลูกนะ …พ่อจะไม่โกรธอะไรลูกแต่แค่เสียใจ”
พ่อเดินจากไปเช่นกัน เหลือเพียงผมที่ทรุดตัวร้องไห้อยู่แบบนั้นพลางนึกถึงคำที่แม่บอกว่าคุณนายมาที่นี่ให้เลือกระหว่างบ้านและหมูหัน…แต่ทำไมพี่คิงส์ถึงบอกว่ายอมรับผมแล้ว
ผมกำมือแน่น  “หรือพี่คิงส์จะทำร้ายผมอีกแล้ว….ทำไมกัน…..”

หัวข้อ: ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:33:15
“อย่าเศร้าไปเลยพ่อกับแม่หอมต้องโกรธพี่เป็นธรรมดา” ผมนั่งนิ่ง หลังจากกลับมาจากที่บ้านผมแทบจะไม่อยากทำอะไร เพราะผมทำให้พ่อกับแม่ต้องเสียใจ
“ยิ้มหน่อยสิ….” พี่คิงส์กุมมือผม “พรุ่งนี้เราจะไปหาแม่พี่กันนะ แล้วจะคุยเรื่องแต่งงานด้วย”
ผมรู้สึกเครียด…เพราะมันต่างกับที่พ่อและแม่พูดเอาไว้….
“ไม่ดีใจเหรอ”
“เอ่อ….ดีใจครับ”
“พี่ก็ดีใจ แต่ก่อนหน้านั้นยิ้มก่อนเถอะ..นะ…”
 ผมยิ้มตามที่บอก พี่คิงส์จูบหน้าผากผม
“เราจะผ่านไปด้วยกันนะหอม จากนี้ไปเราจะอยู่ด้วยกัน…ตลอดไป….”
“ครับ…….”
 …………………………………………………………………….
“คุณเลิกกินเหล้าเถอะค่ะ เป็นอะไรคะเนี่ย กลับมาก็เอาแต่ดื่ม”
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
“คุณโชคชัย”
“น่ารำคาญ ไปให้พ้น”
“นี่คุณไปเจอเรื่องอะไรมาเนี่ยถึงได้ดื่มเอาดื่มเอา ปกติคุณไม่เคยเป็นแบบนี้นี่ยิ่งพรุ่งนี้ต้องไปทำงานอีก”
“เหอะ! เธอนี่มันจริงๆเลยนะ เอาแต่ใช้ฉัน ตัวเองไม่ทำงานเอาแต่ผลาญเงิน”
พิสมัยขมวดคิ้วเริ่มไม่พอใจ “แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ เงินก็เงินฉัน”
“เงินอะไร คุณทำงานเป็นด้วยเหรอ...ตั้งแต่แต่งงานกันก็มีแต่ผมที่ทำงานจนตั้งตัวได้! ส่วนคุณเอาแต่เงินที่ผมให้ไปผลาญเล่นการพนันกับเพื่อนคุณ อย่าคิดว่าผมไม่รู้…..ถ้าวันไหนผมตายไปคุณจะไม่ได้สักแดง!”
พิสมัยกำมือแน่น “ใช่ ฉันมันไม่ทำอะไรเลยแต่เมื่อคุณตายสมบัติก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี! รีบๆตายซะล่ะ!”พิสมัยพูดด้วยแรงโกรธ โชคชัยกำมือแน่นแทบจะปาแก้วทิ้ง
 ……………………………………………………………………………
“ไม่เห็นต้องตื่นเต้นอะไรเลยนี่ แค่ไปพบแม่พี่เอง”
 ผมถอนหายใจหลายครั้ง มือถือตะกร้าผลไม้อย่างดี ขณะที่กำลังเดินทางไปที่บ้านพี่คิงส์
 “ผมไม่เคยไปบ้านพี่คิงส์นานแล้วนี่ครับ แล้วครั้งนี้ไปเจอแม่พี่คิงส์อีก”
“เอาน่า…ไม่มีอะไรหรอก…พี่จะปกป้องหอมเอง…”พี่คิงส์บีบมือผมแน่น
รถเคลื่อนที่มาถึงบ้าน หัวใจผมเต้นรัว นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้มาเหยียบที่นี่เลย บ้านยังดูใหญ่โตเหมือนเดิม
ผมหลับตาสูดอากาศหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินลงจากรถ อีกมือถือตระกร้าอีกมือจูงหมูหันเข้าไปในบ้าน สายตาของคนรอบข้างมองมายังพวกผมอย่างแปลกใจ
“มาแล้วเหรอ”
“สวัสดีครับ….หมูหันไหว้ย่าสิลูก” หมูหันทำตาม
คุณนายยิ้มให้หมูหัน
“มาหาย่าสิ”
หมูหันมองหน้าผมยังไม่เดินไปหา
“มาหาย่าเถอะ ย่ามีของเล่นเยอะเลยนะ หนูอยากได้ไหม”
“ของเล่น! จริงหรอครับ”
“จริงสิจ้ะ มาเถอะ” หมูหันกำลังจะเดินไปแต่ผมกลับคว้าแขนไว้ก่อน รู้สึกไม่สบายใจมากะทันหันแต่คุณนายก็เดินเข้ามาพาหมูหันไป
 “หลานของย่า ฟอดดดด หน้าตาน่าเอ็นดูเชียวเหมือนตาคิงส์ตอนเด็กไม่มีผิด”
“เอ่อ คุณนายครับ ผมซื้อผลไม้มาฝาก…."
“เอากลับไป แล้วเเกก็ออกไปจากบ้านฉันซะ”
“ครับ?” ผมนิ่งงง
 “ยังจะโง่อะไรอีก! ฉันไล่แกไม่ได้ยินหรือไงตอนนี้หลานของฉันมาอยู่ที่นี่แล้วแกก็หมดประโยชน์…..”
ผมอึ้งจนพูดไม่ออก ทั้งงงทั้งอึ้ง หมายความว่ายังไง
“พี่คิงส์ ผมไม่เข้าใจ” ผมหันไปมองหน้าพี่คิงส์สีหน้าเขาดูปวดใจ
“หอมพี่ขอโทษแต่ฟัง….”
เพี๊ยะ!
“พี่หลอกผมอีกแล้ว!”ผมเอ่ยเสียงสั่นน้ำตาคลอ
“ไม่ใช่!”
“ใช่ ตาคิงส์หลอกแก! โดยร่วมมือกับฉัน โดยให้แกหลงรักตาคิงส์แล้วยอมพาหลานฉันมาที่นี่”
 “มะ…ไม่ ไม่! นั่นลูกผม เอาคืนมา พวกคุณมันเลว! ปล่อยลูกผมนะ”
“ไม่! นี่หลานฉันแกออกไปซะ”
 “เอาหมูหันคืนมา ได้โปรดเถอะ ผมกราบล่ะ ฮึก..ก…ก….”
“แม่คืนหมูหันมาเถอะ!”
“อะไรของแกคิงส์ นี่แผนเราสำเร็จแล้วนะเกิดบ้าอะไรขึ้นมา!”
“ผมมีเรื่องจะบอกแม่… ผมรักหะ….”
 คุณนายจะพาหมูหันขึ้นไปชั้นสองแต่ผมรีบขึ้นไปหาและยื้อไว้ได้ตรงบันได
  “กรี๊ดดดดดด อย่ามาแตะต้องฉันนะ คิงส์แกช่วยฉันเร็ว!”
ผมไม่รู้ว่าพี่คิงส์ทำอะไรรู้สึกแค่ว่าเขามาอยู่ข้างๆ ตอนนี้ทุกอย่างวุ่นวายมาก หมูหันร้องไห้ลั่น ผมยื้อลูกไว้แต่อีกใจก็กลัวลูกเจ็บจึงทำได้เพียงจับแขนลูกไว้เท่านั้น ส่วนคุณนายก็จิกเข้าเนื้อและตบตีผมอย่างแรง
“ปล่อยยยยย พวกคุณมันเลว พวกคุณทำร้ายผมอีกแล้ว ฮึก..ก..”
 “ปล่อยผมนะ ผมจะไปหาแม่ ฮือๆๆ คนใจร้ายอย่าทำร้ายแม่นะ ฮือๆๆ”
“หมูหัน…..ฮือๆๆ”
 “เสียงดังอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น!” คุณพ่อพี่คิงส์ที่อยู่ชั้นสองตะโกนขึ้นอย่างตกใจ
ในจังหวะนั้นคล้ายทุกคนถูกชะงักไว้แต่จู่ๆคุณนายก็ผลักผมทันที ผมที่ตั้งตัวไม่ทันผงะหลังจะหล่นหากแต่แขนของพี่คิงส์รั้งผมไว้และนั่นทำให้เขาเสียหลักและล้มลงไปแทน
ตุบๆๆๆ
“คิงส์!” พ่อพี่คิงส์ร้องลั่น
“กรี๊ดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกันจนไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร  ผมยืนอึ้งคาบันได้ พี่คิงส์ตกลงไปนอนแน่นิ่ง มีเลือดออกตรงหัว  ทั้งคุณพ่อ คุณนาย ลินดา และคนอื่นๆที่ยืนลุ้นอยู่ต่างกรูเข้าไปหา
“คิงส์! ฮือๆๆๆ เรียกรถพยาบาลสิ อีพวกโง่ ฮือๆๆ ”
คุณพ่อลงไปหาทั้งๆที่เหมือนยังไม่ส่างเมา  “คิงส์!”
 ผมรีบคว้าหมูหันมากอดเอาไว้
“แก! อีฆาตกรแกทำร้ายลูกฉัน ฮือๆๆๆ แก!” คุณนายจะเข้ามาหาผมแต่ถูกคุณพ่อกั้นไว้
“พอได้แล้วคุณหญิง เรื่องทั้งหมดเพราะคุณวางแผนบ้าๆไม่ใช่หรือไง”
“คุณโชคชัยคุณเข้าข้างมันเหรอมันผลักลูกเราตกจากบันได้นะ ฮือๆๆ”
“คุณต่างหากที่ผลักหอมแต่คิงส์มันช่วยหอมแล้วตกลงไปเอง”
คุณนายเบิกตากว้าง “นะ..นี่คุณ ไปเข้าข้างมันทำไม! บอกมาสิว่าคุณเข้าข้างมันทำไมฮะ!” พูดแล้วลงมือทุบอกสามีไม่ยั้ง
“เพราะผมรักหอมน่ะสิ!”  พูดแล้วจับแขนให้หยุด
ทุกคนอึ้ง ส่วนผมอึ้งไม่ต่างกัน คุณพ่อบอกว่ารักผม……ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม
 “คะ..คุณ” คุณนายถึงกับวูบลงไป
 “คุณหญิง!”
 “คุณนาย!” คนรับใช้คู่กายรีบมาประคอง
 ผมยังคงอึ้ง กอดลูกแน่นมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างไม่อยากเชื่อ
 ลินดามองมายังผม สายตาเธอเกรี้ยวกราด
 “หอมกลับบ้านไปเถอะ” คุณพ่อเอ่ย
 รีบทำตามที่บอก ขายังสั่นอยู่เลย สายตายังไม่ลืมมองพี่คิงส์ที่นอนสลบไม่ได้สติทั้งศีรษะยังมีเลือดออก…พี่คิงส์จะตายไหมแต่ก็สมแล้วเพราะเขามันเชื่อถือไม่ได้คนอย่างเขาควรจะตายตั้งแต่อยู่บนเกาะแล้ว!
 “พ่อ! หมูหันจะเดินเข้าไปหา” แต่ผมยื้อไว้
 “หมูหันกลับบ้านเขาไม่ใช่พ่ออีกแล้ว เขาทำร้ายเรามามากเกินทนแล้ว……”
พอกันทีผมจะไม่สนใจเขาอีกแล้ว ผมจะเลิกโง่เหมือนคำที่พวกเขาด่า  ผมเกือบไปแล้วจริงๆ เกือบที่จะเสียลูกไป………….
ผมพาหมูหันเดินไปตามทาง เสียงรถพยาบาลดังไปทั่วถนน
 “ผมอยากไปหาพ่อ พ่อมีเลือด ผมหลับ ฮึก..ก..”  หมูหันเบะปาก
“พ่อเขาทำร้ายเราอีกแล้ว ต่อไปนี้เราอย่าไปยุ่งกับเขาอีกนะ”
“ทำไมอ่ะครับ ไม่เอา ทำไมล่ะ ทำไมต้องไม่ยุ่งกับพ่อด้วย”
“เขาไม่ใช่พ่ออีกแล้ว เขาคือคนใจร้ายคนหนึ่งเท่านั้น”
“ไม่! เขาคือพ่อ ของผม  ฮึก…ก….ก….”
“หมูหัน….”
“ฮึกๆๆ ผมคิดถึงพ่อ……..”
ผมสวมกอดลูก เราสองคนนั่งร้องไห้ริมทางจนกระทั่งมีรถยนต์มาเทียบข้างๆ
รถคันนี้………
“หอมมาทำอะไรตรงนี้ลูก”
“พ่อ! ผมรีบกอดพ่อทันที”
“เกิดอะไรขึ้นทำไม....”
“เขาหลอกผมอีกแล้ว ผมโง่อีกแล้ว ผมขอโทษ ฮึกๆๆ ผมขอโทษ”
พ่อกอดผมแล้วตบบ่าอีกมือก็จับหัวหมูหันที่กอดขาพ่อร้องไห้เช่นกัน
 ………………………………………………………………..
“คุณยังจะมีหน้ามาอีกเหรอ ออกไป!” พิสมัยตะคอกเมื่อโชคชัยมายืนรอหน้าห้องฉุกเฉินเช่นกัน
“ออกไป! แกมันเลว!”
“คิงส์ก็ลูกผมเหมือนกัน แล้วคุณหญิงคุณหยุดเสียงดังได้แล้วรบกวนคนอื่น แล้วหัดอายซะบ้าง”
“อายเหรอ เหอะ! แกต่างหากที่ควรอาย! แกไปรักอีกระเทยมันทำไมฮะ กรี๊ดดดดดด”
 “คุณหญิง! เพราะคุณเป็นแบบนี้ไงผมถึงเบื่อ!”
 “แก!”
 เสียงเปิดประตูทำให้เสียงทุกอย่างเงียบ
 “คุณหมอลูกฉันเป็นยังไงบ้างคะ”
 “บริเวณศีรษะไม่น่าเป็นห่วงมากนักแต่ที่น่าเป็นห่วงคือกระดูกไขสันหลังซึ่งได้รับความกระทบกระเทือน และจะทำให้ช่วงล่างของคนไข้ไม่สามารถขยับได้ครับ......”
 ทันทีที่ได้ฟังคำตอบทุกคนได้แต่อึ้งพิสมัยถึงกับล้มฟุบกับพื้น
 “คุณนาย!” เนียนรีบดูอาการ
 “มะ..ไม่จริง”
 ลินดาปิดปาก เธอไม่อยากจะเชื่อ แบบนี้หมายความว่า คิงส์จะพิการ
 ส่วนโชคชัยยืนอึ้งไม่ต่างกัน  “ มะ…หมอครับ รักษาลูกผมด้วยนะครับ เท่าไรผมยินดีจ่าย”
 “ยังพอมีโอกาสหายนะครับเพราะได้รับกระทบกระเทือนไม่ถึงขั้นรักษาไม่ได้แต่ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่หายเมื่อไรนั้นหมอบอกไม่ได้จริงๆครับ”
 “ฮือๆๆ คิงส์! หมอคะช่วยลูกฉันด้วย ฉันทำใจไม่ได้ ฮือๆๆ ได้โปรดเถอะค่ะ”
 “ผมจะช่วยสุดความสามารถ ขอตัวนะครับ”
“ไม่จริง ไม่จริง คิงส์! ฮือๆๆ”
ลินดากัดเล็บแน่น  เธอรีบอาศัยจังหวะที่คนอื่นกำลังเสียใจรีบเดินออกไปข้างนอกแล้วโทรศัพท์หาแม่ของเธอทันที
“ว่าไงนะพิการเหรอ”
“ไม่เอานะคะ หนูไม่เอาแล้ว ไม่อยากอยู่กับคนพิการ แล้วคุณโชคชัยก็กำลังหลงอีกระเทยนั่นด้วยค่ะแม่”
“ว่าไงนะ โอ๊ยยย อะไรกันเนี่ย บ้าไปหมดแล้ว”
“หนูไม่เอาแล้วนะคะ อยู่บ้านนี้หนูเหมือนจะบ้า ทำไมไม่มีใครสนใจหนูเลย”
“ถ้างั้นเราเริ่มกันคืนนี้เลยไหม”
“อะไรคะแม่”
“ให้คุณโชคชัยเขียนไง”
“คะ…คืนนี้เลยหรือคะ” ลินดาเอ่ยเสียงสั่น
“ใช่”
“แล้วเราจะ…เอ่อ...ฆ่าไหมคะ”
“ฆ่าสิ เราต้องทำคืนนี้แล้ว…ไม่เช่นนั้นพวกที่ทวงหนี้จะฆ่าแม่นะลูก  ทำได้ใช่ไหม”
“คะ..ค่ะ  หนูทำได้”
“ดีมากลูก”
ลินดา กดปิดโทรศัพท์เธอสั่นไปทั้งตัว
“ฉันไม่มีทางเลือกในเมื่อทุกอย่างมันบีบคั้น”
หัวข้อ: ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:33:54
 ผมกลับมาถึงบ้าน แม่ที่เห็นผมกับหมูหันสภาพแบบนี้ก็เดาได้ทันที ท่านไม่ได้ว่าอะไรแต่กอดปลอบใจ
“หอมโทรศัพท์ดังตั้งนานแล้วนะลูก”
ผมที่นั่งเหม่อรีบขานรับ
ชื่อที่ปรากฎทำให้ลังเลที่จะรับ คุณพ่อพี่คิงส์………..
ฉันรักหอม
ดังอยู่พักหนึ่ง จนดับและโทรมาอีกหลายครั้งไม่มีท่าทีว่าจะไม่หยุดโทรมา ผมเลยต้องรับอย่างช่วยไม่ได้
“ครับ”
“หอม….”
“เอ่อ..ครับ”
“หนูคงไม่อยากจะคุยกับฉันแล้วสิ”
‘……’
“ฉันไม่ได้คิดกับหนูแบบนั้นหรอก”
“เอ๊ะ จะ..จริงเหรอครับ”
“ฉันรักหนูแบบลูกหลานน่ะ เพราะเหตุการณ์มันพาไปจริงๆ เลยพูดแบบนั้นไป หนูคงไม่รังเกียจฉันนะ”
“ไม่เลยครับคุณพ่อ…….”
 “หนูน่ะ ต่างจากคนที่ฉันเคยเจอมากรู้ไหม หนูใสซื่อ พอฉันอยู่ข้างๆแล้วมีความสุขมากๆ ฉันเลยอาจเผลอไปบ้าง และ……“
 ผมนิ่งรอฟัง
“เอ่อ …แค่นี้นะ ฉันอยากโทรมาอธิบาย แล้วก็ขอโทษแทนทั้งสองคนนั้นด้วย”
สายถูกตัด ผมได้แต่กุมขมับกับเรื่องต่างๆ
“ใครโทรมาหาเหรอลูก”
“ช่างเถอะครับ ฝนจะตกอีกแล้วเดี๋ยวผมช่วยเก็บผ้านะครับ”
 …………………………………………………………
ลินดามองเครื่องดื่มตรงหน้าแล้วยิ้มเยาะ เธอถือแก้วเหล้าชงอย่างดีเพื่อให้โชคชัยที่กำลังกุมขมับบนโต๊ะทำงาน
ก๊อกๆ “ลินดาเองค่ะ”
“เข้ามา”
“อย่าเครียดเลยนะคะ ดื่มนี่หน่อยดีกว่าจะได้กระฉับกระเฉงนะคะ”
“ฉันไม่มีอารมณ์ดื่ม”
“โถ่ คุณโชคชัยล่ะก็”
“นี่เธอสามีเป็นถึงขนาดนี้ ทำไมยังนิ่งเฉยอยู่อีก”
”ลินดาก็เศร้านะคะ นี่ไงคะเลยมาดื่มย้อมใจ คุณก็มาดื่มกับลินดาหน่อยนะคะ น๊า” ลินดาขยั้นขยอยื่นแก้วเหล้าให้ ความยั่วยวนต่อน้ำสีตรงหน้าทำให้โชคชัยคว้าไว้ ลินดาแสยะยิ้ม
“ดื่มเลยค่ะ”
 โชคชัยกลั้นใจดื่มไปหลายอึกจนกระทั่งเริ่มมึนเมา ลินดารีบหยิบกระดาษให้แล้วพูดกล่อมเพื่อให้โชคชัยเขียนพินัยกรรมให้
“เขียนให้หน่อยนะคะ เขียนว่าสมบัติทุกชิ้นยกให้ลินดา พร้อมกับลงลายเซ็นและวันที่หน่อยน๊า นะคะ”
คุณโชคชัยสะบัดหัว  “หอม…ให้เขียนอะไรนะ”
ชื่อที่เอ่ยออกมาทำให้ลินดานิ่วหน้าแต่ก็ต้องพยายามกลั้นอารมณ์โกรธไว้
“เขียนยกสมบัติให้ลินดาค่ะ”
 “ได้สิฉันจะเขียนให้เธอนะ”
มือหนาค่อยๆเขียนขณะที่สติแทบจะเลือนราง ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ทำทุกอย่างไปอัตโนมัติ  แม้จะเขียนไม่สวยเหมือนทุกครั้งแต่ก็พอรู้ว่าเป็นลายมือใคร ตอนแรกเกือบเขียนชื่อหอมลงไปแต่ลินดารีบบอกได้ทัน
ทันทีที่เซ็นเสร็จลินดาถึงกับหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยัดแก้วเกล้าให้คุณโชคชัยดื่มจนหมด และร่างนั้นก็ฟุบไปกับโต๊ะทำงานทันที
 “โง่! หึ ทีนี้สมบัติทุกชิ้นก็จะเป็นของฉัน” พูดพลางหันไปมองคนที่เธอว่าจ้างมาให้เป็นผู้ลงมือ
“เอาไอ้แก่นี่ไปฆ่าทิ้งซะ”
 …………………………………
เช้าต่อมา
ก๊อกๆ “คุณท่านคะ”
ก๊อกๆ “คุณท่านคะ”
ก๊อกๆ “คุณท่านคะ”
“มีอะไรเหรอ” เนียนได้ยินเสียงเด็กรับใช้ในบ้านเสียงดังก็เดินมาดู
“ป้าเนียน หนูเรียกคุณท่านหลายครั้งแล้วค่ะ แต่ไม่มีเสียงตอบรับเลย หนูจะเข้าไปทำความสะอาดน่ะค่ะ”เนียนขมวดคิ้วอาจเป็นเพราะคุณท่านจะดื่มหนักก็เป็นได้ เธอเลยเปลี่ยนมาเรียกเอง
ก๊อกๆ “คุณท่านคะ”
ก๊อกๆ
ไร้เสียงตอบรับ
“ดิฉันขออนุญาตเข้าไปนะคะ” เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบเพียงความว่างเปล่า คนรับใช้มองหน้ากันแต่ก็ไม่ได้สนใจนักเพราะคิดว่าเจ้านายตนอาจออกไปจากห้องแล้ว
“คุณโชคชัยยังไม่ตื่นอีกเหรอ”  พิสมัยเอ่ยขึ้นขณะเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล เนื่องด้วยความอิดโรยจึงทำให้แสดงความอ่อนล้า ดวงตาคล้ำผิดกลับเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ทราบค่ะ ในห้องไม่มีใครอยู่เลยค่ะ”
“อะไรนะ ออกไปไหนตั้งแต่เช้า หรือว่าจะไปหาอีหอม!” เพียงนึกความโกรธก็คล้ายพวยพุ่งออกมาดั่งไฟ เธอเม้มปากกำมือแน่น
“ชักจะมากไปแล้วนะ!”
เหล่าคนรับใช้ต่างก้มหัวด้วยความกลัว ไม่นานโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเมื่อกดรับต้องเบิกตากว้างและกรีดร้องสุดเสียง
“เกิดอะไรคะคุณนาย”
พิสมัยหายใจหอบแทบเป็นลม
“คุณโชคชัยถูกพบกลายเป็นศพ”
เพียงประโยคเดียวก็ทำให้ทุกคนตัวแข็งทื่อ ต่างก็ไม่อยากเชื่อ แต่พิสมัยตอนนี้เป็นลมล้มพับไปแล้ว ผู้ที่โทรมาบอกว่าพบศพแต่ไม่เอ่ยนามให้รู้ว่าผู้ใดโทรแจ้ง แม้สภาพศพจะใบหน้าเหวอะจนจำไม่ได้แต่เสื้อผ้าที่เธอเห็นประจำก็เป็นสิ่งยืนยันได้ดี
“ฮึก..ก..ทำไม..ทำไม…”
“ทางเราจะทำการตรวจ DNA อีกครั้งเพื่อให้แน่ชัดนะครับ”
“จะตรวจทำไมในเมื่อเป็นไอ้แก่อยู่แล้ว ฮือๆๆ”
“ส่วนชันสูตร….”
“อยากทำอะไรก็ทำ กรรมแล้วที่มันทำกับฉัน ฮึก..ก…สมน้ำหน้า” แม้จะเอ่ยวาจาไม่ใยดีแต่ความรู้สึกกับแตกสลายหยาดน้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งรินไม่หยุด
เพราะคู่ชีวิตได้ตายจากไปแล้ว……
สองวันต่อมา คิงส์ถูกย้ายเข้าห้องพิเศษแต่ยังไม่ฟื้นจนกระทั่ง……
“คิงส์….” พิสมัยเอ่ยเรียกเมื่อขนตากระพริบ
“อะ…อืม…นะ…น้ำ”
 เธอรีบหยิบแก้วและใส่หลอดให้ดื่ม
 “เป็นยังไงบ้างลูก”
“ปะ…ปวดหัว  เกิดอะไรขึ้น” คิงส์กุมศีรษะตัวเองที่มีผ้าพันแผล ปวดมากขึ้นเพราะเดิมทีเขาก็ได้รับบาดเจ็บบริเวณนี้อยู่แล้ว พยายามปรับสายตากับภาพเบื้องหน้า
“อย่าเพิ่งลุกลูก”
คิงส์จะลุกแต่กลับหยุดชะงัก
 “ทำไม…ทำไม ขาผมไม่รู้สึกอะไรเลย”
 พิสมัยน้ำตาคลอ เช่นเดียวกับเนียน เธอมองใบหน้าของลูกด้วยความเศร้า
 “มะ….แม่ ทำไมขาผม….”
“ฮึก…ก….ก เดี๋ยวลูกก็หายนะ”
“ไม่! ขาผมไม่รู้สึกอะไรเลย”  คิงส์เปิดผ้าออก มองขาตัวเองแล้วทุบลงไป
“คิงส์!”
“ผมไม่เจ็บ หมายความว่ายังไง ไม่จริง…ผมพิการแล้วใช่ไหม  ผมพิการแล้ว! ฮึก..ก..ก  ใช่ไหม…”
“คิงส์ใจเย็นลูกๆ ฮึก..ก…ก  แม่จะหาหมอเก่งๆมารักษา”
“ไม่! ผมมันพิการไปแล้ว รักษาไม่หายหรอก ไม่มีทาง …..หอมล่ะ หอมไปไหน”
“ไปพูดถึงมันทำไม!”
คิงส์หลับตา…... “ผมรักหอมผมไม่อยากเเย่งลูกจากหอมอีก…..”
พิสมัยเบิกตากว้าง จุกจนพูดไม่ออก
“วะ..ว่าไงนะ..พูดอะไรออกมา”
“ผมรักหอม ช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันทำให้ผมรู้ว่ายังรักหอมอยู่ วันนั้นที่ผมพาหอมไปผมตั้งใจที่จะบอกแม่และให้แม่ยอมรับหอมจริงๆ…..”
“มะ..ไม่จริง..โกหก”
 “ตอนที่ผมแต่งงานผมไม่รู้สึกมีความสุข แต่แค่ไม่นานที่ผมได้อยู่กับหอม อยู่กับลูก ผมมีความสุขมาก นานแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้…… และผมจะไม่ทำร้ายหอมอีก เราจะแต่งงานกัน”
“พอที! แกมันโง่ โง่เหมือนพ่อแก พ่อแกก็บอกรักมัน”
คิงส์ขมวดคิ้ว “พูดอะไรครับ”
“พ่อแกรักอีกระเทยนั่นเหมือนกัน รู้ไหมตอนนี้มันอยู่ไหน  ในโลงไง!”
“ไม่จริง!” คิงส์จะลุก
“แกจะไปไหน ขาแบบนั้นจะไปไหนอีก”
“ผมจะไปหาพ่อ”
“จะไปหามันทำไม พ่อแกอยู่ในห้องดับจิต จะไปดูร่างเน่าๆของมันหรือไง”
“ทำไมแม่พูดแบบนี้ พ่อตายไปทั้งคนนะ!”คิงส์ตวาดลั่นทั้งน้ำตา เขาซบมือร้องไห้โฮ
“ทำไมพ่อถึงตาย..ฮึก..ก….”
“จะไปรู้มันเหรอ” กัดฟันกรอดแต่เสียงสั่น
“พ่อแกตายเพราะรักมัน อีกหน่อยแกก็ต้องตายเพราะมัน”
“หอมไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย มีแต่เราที่ทำผิดมาตลอด..ตั้งแต่แรก”
“ปกป้องมันเข้าไป แกมันโง่!”
“ใช่ผมโง่ ผมทำร้ายหอมอีกแล้ว ผมทำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเกลียดผมแล้ว…..โถ่เว๊ย!!”
"แกเมื่อก่อนโง่ยังไงก็โง่แบบนั้น ฉันขัดขวางชี้ทางสว่างให้ดึงแกกลับมา เเต่แกกลับไปหามันในความมืดอีกหรือไง!”
“พอที! ผมไม่อยากฟังแล้ว ที่รู้ตอนนี้ผมไม่มีหอมอีกแล้ว เพราะแม่คนเดียว เพราะแม่ที่คิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ทั้งที่ให้ผมออกห่างก็ได้ แต่กลับบอกให้ผมหลอกให้หอมรัก! ”
“อ๋อ นี่แกโทษฉันเหรอ แกก็ตกลงไม่ใช่หรือไง! อย่ามาโทษฉันไอ้ลูกอกตัญญู! แกอย่าหวังจะไปใกล้ชิดมันเลย พิการเเบบนี้ใครจะเอา ขนาดเมียแกยังไม่โผล่หัวมาโรงพยาบาลเลย”
“ผมจะเลิกกับลินดา”
“อะไรนะ”
“ผมจะเลิกกับลินดา แล้วจะแต่งงานกับหอม”
 “ไอ้โง่!” พิสมัยทุบตีคิงส์ทันที เนียนรีบช่วยห้าม
“อย่าค่ะคุณนาย คุณคิงส์ป่วยอยู่นะคะ”
“แกมันโง่ กรี๊ดดดดดด คนรอบข้างฉันมันบ้าไปหมดหรือไง ทั้งแก ทั้งพ่อแก ทำให้ฉันเหนื่อยใจตลอด ฮึกๆๆ ทำไม…..”
“ผมขอโทษ…..ต่อไปนี้ให้ผมทำตามหัวใจตัวเองเถอะครับ สภาพผมก็แบบนี้แล้ว ขอแค่ครั้งสุดท้าย ผมเชื่อว่าหอมต้องเข้าใจผม”
“ไอ้โง่! ฮึก..ก…ก พิการอย่างแกไม่มีใครเอาแล้ว!”
 ……………………………………………………………..
 Part Hom
 ผมไปรับลูกจากโรงเรียนพอเข้าบ้านได้ไม่นานเจ้าตัวก็บอกว่าได้กลิ่นขนมอร่อยๆ ผมยิ้มแล้วจับแก้มกลมๆ
 “เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยกินขนมคุณยายนะ”
 “เย่!”
 เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมยิ้มรับเมื่อเบอร์นั้นคือ
 “ครับพี่หมอ……..สบายดีครับ……”
หลังจากนั้นก็คุยเรื่องต่างๆไปเรื่อย นานหลายสิบนาทีก็วางเพราะแม่เรียก แต่พอจะเดินเข้าบ้านเด็กส่งหนังสือพิมพ์ก็เอ่ยเรียก
 “พี่ครับๆ หนังสือพิมพ์ฉบับเย็นครับ พอดีวันนี้เหลือเลยให้”
“เด็กคนนี้คือเด็กที่ผมเคยให้ขนมกินบ่อยๆ”
“ขอบใจนะ กลับบ้านดีๆล่ะ”
“ครับ”
 ผมยิ้มแล้วเดินเข้าบ้านแต่ข่าวหน้าหนึ่งทำให้ผมหยุดชะงัก
 ข่าวรั่ว! สองพ่อลูกตระกูลดังเกิดเหตุร้ายพร้อมกัน ลูกชายสุดหล่อต้องพิการ ส่วนผู้เป็นพ่อถูกฆ่าตาย
 เกิดอะไรขึ้น……ผมยืนอึ้งอยู่นาน
 “หอมยืนทำอะไรลูก แม่เรียกนานแล้วนะ”
ผมมือสั่น…คุณพ่อ...


หัวข้อ: ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:34:30
“คุณคิงส์อย่าเครียดเลยนะคะ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ”
“กลับบ้านเหรอ….ถ้าฉันมีความสุขได้ก็ดีสินะ พิการแบบนี้ พ่อก็มาตายจากไป”
“ทำกายภาพบำบัดเดี๋ยวก็หายเเล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าคุณคิงส์สามารถหายได้ ส่วนคุณท่าน…ท่านไปสบายแล้วค่ะ..และเราต้องจับฆาตรกรได้แน่นอนค่ะ”
คิงส์พยักหน้า
เนียนเข็นรถเข็นกลับห้อง ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปทั้งสองคนก็ชะงัก
หอมกับหมูหันนั่งอยู่บนโซฟาเยี่ยมไข้
“หะ…หอม”
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ…เป็นการส่วนตัว” คำพูดบ่งบอกให้เนียนได้รับรู้ คิงส์เอ่ยบอกเนียนให้ออกไปก่อนส่วนตนก็เข็นวีชแชร์ด้วยตนเองค่อยๆเข้ามาข้างใน
“พี่ดีใจที่หอมมา พี่นึกว่าหอมจะเข้าใจผิดแล้วโกรธพี่แล้วซะอีก….หมูหันมาหาพ่อสิ” คิงส์ทำมือรอกอด แต่หมูหันก็ยังยืนนิ่ง
 หอมมองคนตรงหน้า หนวดเคราหายไปคงเพราะหมอโกนออกให้เลยทำให้หมูหันดูแปลกหน้าไปบ้างแต่สาเหตุจริงๆที่ลูกไม่เข้าไปหาเพราะคำพูดของหอมก่อนที่จะมาเยี่ยม
“ทำไมไม่มาหาพ่อล่ะ”
“พอได้แล้วล่ะ พวกเรามาที่นี่ไม่ได้มาทำอะไรแบบนี้ หมูหันเอานี่ไปคืนเขาซะ”
หมูหันมองคิงส์แล้วค่อยๆเดินไปหาอย่างกลัวๆกล้าๆ แล้วยื่นของบางอย่างให้
คิงส์ยิ้ม สัมผัสมือน้อยหากแต่ต้องนิ่งงันเมื่อวัตถุบางอย่างถูกวางบนมือ
แหวน….คิงส์เงยหน้ามองหมูหันอย่างไม่เข้าใจ
“เอาแหวนนี่มาให้พ่อทำไมฮึ หมูหันอยากได้ไม่ใช่เหรอ”
“ผมไม่เอาแล้วล่ะ”
“ทะ..ทำไมล่ะ อ้อ อยากได้วงใหม่ใช่ไหม ดะ...เดี๋ยวถ้าพ่อหายจะพาไปซื้อนะ เอาแบบที่หมูหันชอบ”
หมูหันส่ายหน้า
“ทำไมล่ะ งั้นไปตอนนี้ก็ได้”
“หมูหันมานี่”
หมูหันเม้มปากแล้วกลับไปหาหอม
“พวกเรามาที่นี่แค่เอาแหวนมาคืน”
“หอม…..”
“เราจบกันแค่นี้ ผมเลิกโง่แล้ว……เพราะโง่มาสองครั้งให้คุณหลอก ต่อไปก็อย่ามายุ่งกับพวกเราอีก”
“ไม่! พี่รักหอม รักหอมจริงๆ  เชื่อพี่เถอะ”
 “เหอะ! คนอย่างคุณมันเลว! ยังจะมาโกหกอะไรอีก! ที่คุณเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณทำตัวคุณเอง ผลกรรมมันมาอยู่ที่คุณแล้ว”
“พี่ยอมรับว่าเมื่อก่อนพี่เลว พี่ทิ้งหอมไป แต่ครั้งนี้พี่รักหอมจริงๆ เรากลับมาอยู่ด้วยกัน3คนเถอะนะ”
“เชิญไปหลอกคนอื่นเถอะ!” พูดจบหอมก็จูงมือหมูหันออกไปจากห้อง คิงส์รีบเข็นรถไปห้ามแต่ก็ไม่ทัน เขารีบลุกเพื่อรั้งแต่ล้มลงเพราะลืมว่าตนเองเดินไม่ได้
หอมหันกลับมามอง
“หอม อย่าทิ้งพี่ไป” คิงส์พยายามจะคลานไปหา
“ลาก่อนครับ…..”
“ไม่! หอม!”
ปัง
คิงส์ตะโกนอย่างเจ็บปวด “กลับมาหาพี่! พี่รักหอมจริงๆ! ฮึก… อ๊ากกกกกก”
“คุณคิงส์! เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมเป็นแบบนี้ มันทำร้ายคุณคิงส์เหรอคะ”
“หอมทิ้งผมไปแล้ว ทั้งๆที่ผมรักหอม…..พาผมไปที ผมจะอธิบายให้หอมฟัง”
“อย่าเลยค่ะ พอเถอะ คนแบบนั้นน่ะ คุณคิงส์อย่าไปคลุกคลีกับพวกชั้นต่ำเลยค่ะ”
“หอมไม่ได้ต่ำ ทั้งป้าเนียนและก็แม่เลิกดูถูกหอมสักที!”
เนียนเงียบทันที แล้วค่อยๆพยุงคนตัวใหญ่ไปที่เตียง โดยที่คิงส์ยังคงพร่ำเพ้อหาคนที่เพิ่งออกไปตลอดเวลา
……..อีกด้าน
พิสมัยยังคงวิ่งวุ่นไปมาระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลทั้งยังต้องจัดการเรื่องการตายของสามี ทุกอย่างรุมเร้าทั้งร่างกายและจิตใจ ราศีที่ดูเย่อหยิ่งจึงหายไปแทบหมด
“เป็นเมียภาษาอะไร ไปดูผัวสักวันจะตายหรือไงฮะ”
ลินดาที่กำลังดื่มน้ำส้มค่อยๆวางแก้วอย่างใจเย็น
“ลินดาไม่ค่อยว่างค่ะคุณแม่”
 “ไม่ว่าง เนี่ยเหรอไม่ว่างน่ะ”
“ค่ะ ต้องทำผม ทำเล็บ ทำหน้าด้วยนะคะ วันๆไม่ว่างเลยค่ะ”
“ลินดา! นี่เธอ”
RrrrRR เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดเสียก่อน พิสมัยกรอกสายพูด
“ว่าไงนะ มันมาโรงพยาบาลเหรอ ได้ฉันจะรีบไป” เธอกดวางสาย
“พรุ่งนี้คิงส์จะกลับจากโรงพยาบาล แล้วฉันจะมาจัดการเธอด้วยลินดา!” 
……………………………………..
 
“เห็นไหมฉันบอกแล้วว่ามันไม่เอาแกแล้ว ยังมาหยามหน้าแกถึงนี่ เป็นไงทีนี้ตาสว่างหรือยัง”
 “พอที ผมไม่อยากฟัง ที่หอมเป็นแบบนี้ก็เพราะผม….”
 พิสมัยเม้มปาก  “ปกป้องมันจริงนะ ฉันละเบื่อ! พรุ่งนี้ได้กลับบ้านล่ะ ฉันจะได้โล่งสมองบ้างสักที ”
 คิงส์พ่นลมหายใจ มองแหวนที่ถูกคืนมากับมือ เขาได้แต่นึกถึงใบหน้าของ เมีย และ ลูก  คิดถึงแต่เขาคงไม่มีวันที่จะได้เป็นครอบครัวเดียวกันอีกแล้ว
…..เช้าต่อมา
“นี่แกโทรตามมันแล้วใช่ไหม เวลาป่านนี้แล้วทำไมมันยังไม่มารับอีกฮะ”
“เนียนโทรตามคนขับรถแล้วนะคะแต่ตอนนี้โทรไปไม่รับสายเลยค่ะ”
“นี่จะให้ฉันรอไปถึงไหน ก็รู้นี่ว่าคิงส์จะออกจากโรงพยาลกี่โมง นี่มันเลยมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ กลับไปจะไล่ออก คอยดู!”
“กลับแท็กซี่เลยไหมคะ คุณนาย”
“ฉันไม่เคยขึ้น มันจะปล้นเราหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ผมว่ากลับแท็กซี่ก็ได้ครับ ผมอยากกลับไวๆ”
พิสมัยมองสภาพบุตรชายที่เอือมระอาเต็มทน แล้วพ่นลมหายใจ
“เอางั้นเหรอ...เนียนแกไปเรียกแท็กซี่ไป”
 “ค่ะคุณนาย”
“ให้ตายเถอะ ชีวิตนี้ฉันต้องขึ้นแท็กซี่จริงๆเหรอเนี่ย ไอ้คนขับรถจะไล่ออกให้หมดเลย ไร้ความรับผิดชอบเสียจริง”
หลังจากขึ้นแท็กซี่ไม่นานตัวรถก็มาถึงประตูรั้วของบ้าน เนียนเดินไปยังรั้วเพื่อบอกให้เปิดประตูหากแต่กลับไม่มีใครสนใจ
“อะไรเนี่ยเปิดประตูช้าจัง” พิสมัยเลื่อนกระจกลง
“คุณนายคะ ไม่มีใครเปิดประตูเลยค่ะ”
“ว่าไงนะ!  เดี๋ยวฉันจะจัดการโล๊ะออกให้หมด!” เธอรีบลงจากรถ
 “นี่! ทำไมไม่เปิดประตูให้พวกฉัน เปิด!” คนรับใช้ที่เฝ้าประตูหรือคนสวนต่างสะดุ้งโหยงหากแต่กลับไม่มีใครมาเปิดประตูรั้วให้
 “นี่พวกแก! อยากโดนไล่ออกนักใช่ไหม!”
 “จะไล่คนของลินดาออก ถามลินดาสักคำหรือยังคะคุณแม่” ลินดาเดินมาพร้อมกับลดาผู้เป็นแม่และคนใช้สองคนที่เดินถือร่มให้ ยืนประจันหน้ารั้วของอีกฟาก
 “เธอพูดอะไรของเธอ รีบๆให้มันเปิดประตูให้พวกฉันเข้าไปเร็วเข้า”
“อุ๊ย คงจะไม่ได้หรอกค่ะคุณแม่ ก็แบบว่าบ้านนี้ไม่รับคนนอกน่ะค่ะ”
“ว่าไงนะ นี่เธอพูดอะไร ใครคนนอก”
“ก็คุณแม่ไงคะ คนนอก”
“ฉัน!? พูดอะไรของเธอ  ลดาลูกเธอพูดอะไรกัน รีบๆสั่งคนให้เปิดประตูให้พวกฉันเข้าไปได้แล้ว”
“เอ่อ พิสมัย คือฉันก็อธิบายเป็นคำพูดไม่เก่งนะ แต่เอากระดาษนี่ไปอธิบายแทนล่ะกัน” พูดพลางยื่นเอกสารบางอย่างให้ พิสมัยหยิบมาอ่าน ก่อนจะเบิกตากว้าง ใบทะเบียนสมรสระหว่างโชคชัยและลินดารวมทั้งใบพินัยกรรมมอบทรัพย์สมบัติให้กับลินดา มีลายเซ็นโชคชัยพร้อม
“นะ..นี่มันอะไร”
“ใบทะเบียนสมรสและใบพินัยกรรมไงจ้ะพิสมัย”
“ทำไม…ทำไม…ลินดาถึง….พวกเธอเล่นบ้าอะไรกัน!”
“ไม่ได้เล่นค่ะคุณแม่ พูดง่ายๆ หนูเป็นเมียคุณพ่ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็คุณแม่อยากโง่ไม่จดทะเบียนสมรสทำไมล่ะคะ อ้อส่วนสมบัติทุกชิ้นเป็นของลินดาหมดแล้วนะคะยกเว้น…”พูดพลางโยนเครื่องเพชรและสมบัติส่วนตัวของพิสมัยให้
“มีแต่ของพวกนี้ที่เป็นของคุณแม่….หนูให้ล่ะกันเดี๋ยวจะอดอยากไปขอทานข้างถนน หึ” ยิ้มเยาะแต่ก็แอบเสียดายเพราะสมบัติที่เธอได้นั้นมีแต่ของโชคชัยเท่านั้น ส่วนสมบัติส่วนตัวก็ต้องคืนให้พิสมัยไปไม่อย่างนั้นคงมีเรื่องฟ้องร้องซึ่งเธอยอมคืนให้ดีกว่าปวดหัว
พิสมัยมองกล่องเครื่องเพชรและสมบัติต่างๆของเธอเช่นพวกเสื้อผ้าราคาแพงถูกโยนข้ามรั้ว เธอกัดริมฝีปากแน่น ตาแทบจะถลนด้วยความโกรธ  ฉีกกระดาษที่นำมาอ่านจนเหลือเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ
“พวกแกจะบ้าหรือไงอย่ามาหลอกฉัน คุณโชคชัยจะไปจดทะเบียนสมรสกับแกและมอบสมบัติให้พวกแกทำไม!”
“ก็ลินดาเป็นเมียรักนี่คะ”
พิสมัยหยุดชะงักค้างกลางอากาศ คำพูดทุกอย่างถูกส่งเข้ามาในรถ คิงส์ตัวชากับคำพูดต่างๆที่ได้ยินรวมถึงประโยคล่าสุดนี้ด้วย
“กะ..แกพูดอะไร”
“ตลอดมา ลินดากับคุณพ่อ xx กันไงคะ คุณแม่กับพี่คิงส์ก็โง๊โง่ ไม่รู้เลย อ้อ บอกด้วยก็ได้ ตอนลินดาท้องแล้วแท้งไป อาจจะเป็นลูกของคุณพ่อก็ได้นะคะ”
“กรี๊ดดดดดดด ปังๆๆๆๆ แก!!”  พิสมัยกรีดร้องเขย่าประตูจนอยากให้มันพังทลายตรงหน้า ลินดาและผู้เป็นแม่ผงะเล็กน้อย
 “พวกแก! ฉันจะฟ้อง ทุกอย่างมันไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันจะฟ้อง!”
“เชิญฟ้องได้เลยค่ะคุณแม่ระหว่างภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายกับอีแก่คนนอกใครกันที่จะได้สมบัติ”
ลดายกยิ้มแล้วเอ่ยต่อลูกสาว “พิสมัยเธอก็ไม่ได้มีทรัพย์สินร่วมกับคุณโชคชัยเลยสักนิดนี่ ก็เกาะเขากินมาตลอด หึ จะฟ้องเอาอะไรได้”
คำพูดที่ทำให้ร่างทั้งร่างสั่นชา ด้วยความโกรธ กรีดร้องดังสุดเสียง
 “พวกแก..พวกแกรวมหัวกันใช่ไหม! ลดาทำไมเธอถึงทำเเบบนี้กับฉัน  ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ ทำไม!”
“ขอโทษนะพิสมัย แต่ฉันก็ต้องอยู่รอดเธอก็รู้ว่าฉันก็เสียพนันไปเยอะแค่ไหน”
“แกก็เลยมาหลอกแล้วเอาสมบัติฉันไปใช่ไหม อีเลว!”
“ไปเถอะค่ะคุณแม่ เบื่ออีแก่แถวนี้” พูดจบทั้งสองคนก็เดินจากไปแล้วให้คนรับใช้ที่เธอเพิ่งจ้างมาโยนสมบัติเสื้อผ้าต่างๆของคิงส์และเนียนให้
“กลับมา! ฉันจะฟ้องแก ฉันจะจ้างทนายมาสู้!!”
หยาดน้ำตาแห่งความพ่ายแพ้ไหลออกมาจากดวงตาที่เคยเย่อหยิ่ง หากแต่ตอนนี้กลับไร้แสงสว่าง ร่างท้วมทรุดลงกับพื้นโดยมีเนียนคอยปลอบและร้องไห้ข้างๆ แต่ไม่ยอมแพ้รีบโทรหาทนายประจำตระกูล หากแต่คำตอบที่ได้รับทำให้เธอได้แต่ร้องไห้เพราะพินัยกรรมที่ลินดามีคือลายมือและลายเซ็นของโชคชัยจริงๆ
“แม่! อึก…”คิงส์ที่ได้ยินทุกอย่างก็เสียใจไม่ต่างกันเขากระเสือกกระสนลงมาจากรถ
“คุณคิงส์!” เนียนรีบไปรับ
 “แม่ครับ”
“คิงส์ ฮึก..ก..บอกเเม่ทีว่าไม่จริงใช่ไหม เราไม่ได้เสียทุกอย่างไปใช่ไหม”
 คิงส์เม้มปากจับมือของแม่ไว้แน่นแทนคำพูดเพราะเขาเองคงจะตอบไม่ได้ว่านี่คือเรื่องจริง
 “แม่ไม่อยากจะเชื่อ ฮึก..ก….ว่าเราได้เสียทุกอย่างไปหมดแล้ว ฮือๆๆ แม่เสียใจจริงๆที่รับนังอสรพิษเข้าบ้าน!”
 คิงส์กอดปลอบแม่ มองไปยังเบื้องหน้าเป็นบ้านที่เขาเคยอยู่ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะข้ามรั้วนี้ไปได้เลย ทำไมพ่อเขาต้องมอบมรดกให้คนพวกนี้
 “ออกมานะอีพวกสารเลว ออกมาฉันจะแจ้งตำรวจจับ ออกมา! เอาทุกอย่างของฉันคืนมา!!”
………. 3 เดือนต่อมา
 “ผลัดแป้งหรือยัง”
 “ครับผม”
 “กางเกงในล่ะใส่ยัง”
 “ครับผม”
 “งั้นใส่กางเกงกับเสื้อให้แม่ดูหน่อย”
 “ครับผม”
 หมูหันค่อยๆใส่กางเกง แม้เซเอียงจะล้มไปบ้างแต่ก็ใส่ได้ แต่…..
 “หวายยยย ทำไมคับซะแล้วล่ะ"  ผมมองกางเกงที่ติดกระดุมไม่ได้
“หมูหันลูกอ้วนขึ้นอีกแล้วนะ”
“เอ๊ะ” หมูหันขมวดคิ้ว แล้วแขม่วท้อง จ้องมองผมตาเขม็ง
 ผมใช้นิ้วจิ้มหน้าผาก
 “อย่าเจ้าเล่ห์นะ อ้วนก็อ้วนสิ แบบนี้แม่คงต้องไปซื้อกางเกงตัวใหม่ให้ที่ตลาดวันนี้แล้วล่ะ”
 หมูหันมู่ปากแล้วเลิกแขม่วท้องจนเม็ดกระดุมกระเด็นออกจากกางเกง ผมอ้าปาก ส่วนหมูหันปิดหน้า
 “หมูอ้วน!”
 “แม่ได้ยินไปตลาดๆ แล้วหมูอ้วนอะไร” แม่เปิดประตูเข้ามาในห้อง
 “แม่ดูสิครับ หลานชายแม่อ้วนจนติดกระดุมไม่ได้ แถมกระดุมยังกระเด็นจากกางเกงเลยครับ”
 “ฮ่าๆ ก็คนกำลังโตนี่นะ ฟอดดดดด” แม่ก้มลงหอมหมูอ้วน
 “เนอะ เนอะ อ้วนที่ไหน กำลังโตต่างหาก” ตัวอ้วนยังไม่ยอมแพ้
 “ปากดีนักนะเรา”
 “ว่าแต่แม่ได้ยินว่าหอมจะไปตลาดเหรอ”
 “ใช่ครับ ว่าจะไปซื้อกางเกงกับเสื้อให้หมูหันน่ะครับ เพราะใส่ไม่ค่อยได้แล้ว”
 “งั้นแม่ฝากซื้อขนมน้ำหน่อยนะ”  แม่พูดพลางยื่นเงินมาให้ แต่ผมกลับไม่รับ
 “เก็บไว้เถอะครับ ผมมีงานทำแล้วนะครับ”
 งานที่ว่าคืองานที่พี่ไหมพี่สาวของผมแนะนำให้ทำกับเพื่อนของพี่ เป็นงานพิมพ์เอกสารง่ายๆ เงินเดือนตามมาตรฐานรัฐ และมีวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ด้วย
 แม่พยักหน้าเข้าใจ
 ผมกำลังเตรียมตัวจะไปตลาดกับลูก ตลาดไม่ได้ไกลมากแต่ถ้าเดินไปก็ประมาณ 10 นาทีได้
 “เดินก็ระวังรถกันด้วยนะ” แม่พูดแล้วใส่หมวกให้หมูหัน
 “ซื้อของมาฝากยายเยอะๆด้วยล่ะ”
“ครับผม จะซื้อมาฝากคุณตาด้วย”
 แม่ยิ้ม
 ผมเปิดประตูออกไป ทันทีที่มองออกไปนอกรั้ว ผมกับแม่ถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เขาคนนั้นตอนนี้อยู่หน้าบ้านของผม……
หัวข้อ: ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:35:15
 “เดินดีๆสิครับหมูหัน” ผมรีบจับมือลูกเพราะเจ้าตัวชอบวิ่งนำก่อน และคนที่นี่ก็พลุกพล่านมาก
“แม่อ่ะ ผมก็อยากเดินแบบปกติบ้าง แม่จูงมือผมแบบนี้ถ้าแมนคุงมาเห็นผมจะเอาหน้าน่ารักไปไว้ที่ไหนล่ะ”
“แมนคุง? ใครเหรอ”
“อ้าว ผมไม่เคยบอกแม่หรอ แมนคุงที่กระโดดเหมือนซุปแมนไง เพื่อนที่โรงเรียน”
“แม่ไม่เห็นรู้เลย”
“งั้นผมคงบอกกับพ่อมั้ง”
ผมมองลูก  หมูหันไม่ได้ใส่ใจอะไรในคำพูดยังคงเดินแล้วมองของทั้งสองข้างทางต่อไปแต่เป็นผมเองที่อดหวั่นไม่ได้ที่เขาพูดถึงพ่อ….
“ไปร้านเสื้อผ้าก่อนนะเดี๋ยวแม่จะพาไปร้านขนม โอเคไหม”
“ครับผม”
ผมพาหมูหันเข้าร้านเสื้อผ้าราคาถูก แต่น่ารักเหมาะกับวัย
“อยากได้ตัวไหน”
“ตัวที่ใส่แล้วน่ารักจิ”
“อ่า งั้นคงไม่มี”
 “แม่อ่า….”
คนขายหัวเราะกับความน่ารักของเจ้าหมูอ้วน ผมซื้อไปหลายตัวพอสมควร คนขายก็น่ารักลดราคาให้ด้วย
พอออกจากร้านเสื้อผ้าก็ไปซื้อขนมที่หมูหันชอบเจ้าตัวก็เลือกอย่างมีความสุข หมูหันชอบกินเค้กมาก เพราะกินของแบบนี้เลยอ้วนแบบนี้ไง
 “ซื้อไปฝากคุณตา กับ คุณยาย ด้วยนะ” หมูหัน หันมาสั่งผมที่กำลังตักเค้กใส่กล่อง
 “จะกินคนเดียวล่ะสิ”
 “เปล่านะ”
 “เจ้าเล่ห์ อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะ คุณตากับคุณยายไม่ชอบกินเค้กสักหน่อย”
 หมูหันมู่ปาก ประมาณว่ารู้ทันแต่ผมก็ซื้อไปเยอะพอควร
 พอออกจากร้านขนมเค้ก พวกผมก็เดินไปยังร้านขนมไทยที่แม่ฝากซื้อ แต่แปลกร้านประจำกลับหยุดซะงั้น พวกเราเลยต้องเดินเข้าลึกๆไปอีก จนมาเจอร้านขนมร้านใหม่ที่ผมเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก
 “เอาลอดช่องและซาหริ่มอย่างละถุงครับ”
 “ได้จ้ะ”
 ผมเงยหน้ามอง ก่อนจะเบิกตากว้างคนขายเองพอเห็นผมก็ถึงกับผงะ  ปล่อยทัพพีตักขนมหล่นพื้นเสียงดัง
 ทำไมคนรับใช้คุณนายถึงมาขายขนมที่นี่!
 ในขณะที่ผมกำลังสงสัย ร่างของใครบางคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็เคลื่อนมา
 “มีอะไรเหรอเนีย…” พี่คิงส์เบิกตากว้างเมื่อเห็นผม แต่คงไม่เห็นหมูหันเพราะโต๊ะที่ตั้งหม้อขนมอยู่สูงกว่า และพี่คิงส์นั่งแบบนี้คงไม่อาจเห็นได้ แต่ที่ผมตกใจคือทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้!
 “หอม” พี่คิงส์ยิ้มกว้างแล้วเคลื่อนรถเข็นมาใกล้ๆโต๊ะที่วางหม้อแต่เพราะติดข้างหน้าจึงไม่อาจมาหาผมได้
 “พี่ดีใจที่เจอหอม”
 “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”
พี่คิงส์หน้าเสียก่อนจะฝืนยิ้ม “เกิดเรื่องมากมายน่ะ พวกเราเลยมาเช่าห้องอยู่แถวๆตลาดนี่”
 “ว่าไงนะ” เกิดเรื่องอะไรกันทำไมถึงต้องขนาดมาอยู่แบบนี้
 “หอมอยากกินอะไรกินเลยนะ พี่ไม่คิดเงิน ฝีมือเนียนอร่อยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พวกเราช่วยกันทำตั้งเเต่เช้ามืดเลย”
 “แม่คุยกับใครหรอครับ” หมูหันเงยหน้าถาม
 “นั่นเสียงหมูหันหรือเปล่า” พี่คิงส์ เลิ่กลั่กอยากลุกมอง
 “หมูหันไปเถอะลูก” ผมจะจูงหมูหันไปที่อื่น
 “หอม!” พี่คิงส์จะมาหาผมแต่มาไม่ได้เพราะติดหน้าร้านและร้านข้างๆต้องเดินมาหาเท่านั้น
 “หอม! อย่าเพิ่งไป ฟังพี่ก่อน”
 ผมพ่นลมหายใจแล้วหันไปตามคำขอ พี่คิงส์ยิ้ม
 “เลิกทำเหมือนผมโง่สักทีเถอะ”
 “ไม่ใช่ พี่รัก….”
 “พอเถอะ เบื่อ….ต่อให้คุณจะบอกรักผมกี่ครั้ง หัวใจผมมันด้านแล้ว”
 “พี่…..พี่จะเล่าทุกอย่างให้ฟัง ฟังพี่อธิบายได้ไหม เรื่องทั้งหมด…..”
 “แก…”
 ผมหันไปมองเสียงคนมาใหม่
 “คุณนาย…”
 คุณนายพอเห็นผมถึงกับเบิกตากว้าง ปิดใบหน้าตัวเอง
 “ยะ..อย่ามองฉันนะ ไปให้พ้น!”
 “แม่ครับ”
“คุณนายคะ”
คุณนายปิดหน้าตัวเองแต่ยังเดินมาหาผม   “ไปให้พ้น ไป! จะสมเพชฉันล่ะสิ แกน่ะ!” คุณนายมองเลิ่กลั่กก่อนจะคว้าหม้อขนม
“อย่านะคะคุณนาย”
“แม่ จะทำอะไรน่ะ เราต้องเอาไว้ขายนะครับ”
 หมับ
 ผมจับข้อมือคุณนายให้หยุด
 “แกจะทำอะไร”
 “หยุดได้แล้วนะครับ! ผมไม่รู้หรอกนะว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกคุณ แต่การที่คุณทำแบบนี้มันยิ่งทำให้คุณตกต่ำกว่าเดิม!”
 คุณนายเบิกตากว้าง ตัวสั่น
 “นี่แก นี่แก ดูถูกฉันเหรอฮะ ฉันไม่ได้ตกต่ำ!  ฉันคือคุณนายพิสมัย!”
 “พอทีเถอะครับเพราะตอนนี้คุณก็คือคนทั่วไปไม่ได้สูงศักดิ์เลิกยกตนข่มท่านสักทีเพราะมันทำให้ผมมองคุณสมเพชมากขึ้น”
 “แก กรี๊ดดดด”
 โครมมมม
 คุณนายโกรธมากปัดหม้อขนมทั้งหมดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด ท่ามกลางเสียงร้องห้ามของพี่คิงส์ และ เนียน  คนรอบข้างมุงดูเหตุการณ์ บางคนก็ถ่ายรูป อัดคลิปไว้
 “พอเถอะครับแม่ พอได้แล้ว…” พี่คิงส์ยกมือซบกับหน้า
 “ฮึก..ก..คุณนายคะ พอเถอะค่ะ”
 “แก! ฮือๆๆ ฉันไม่ได้ตกต่ำ ฉันยังเป็นคุณนาย รวยล้นฟ้า ฮึกๆๆ ฉันเป็นถึงคุณนาย!”
ขนมหกกระจายไปทั่วบริเวณ ร้านขนมเล็กๆร้านหนึ่งตอนนี้เหลือเพียงหม้อที่ว่างเปล่าหล่นเกลื่อนกลาด คุณนายทรุดลงกับพื้นแล้วร้องไห้โฮ  เนียนรีบมาพยุงแต่กลับถูกสลัดออก
 “ฉันไม่ได้ตกต่ำ  ฮือๆ ฉันคือคุณนายพิสมัย ฮือๆ”
 “คุณนายคะ”
 ผมมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างใจหาย
 “แม่ครับ” หมูหันเริ่มเบะปาก
 “หมูหัน!” พี่คิงส์เรียกเพราะคงเห็นหมูหันแล้ว
 หมูหันมองพี่คิงส์ก่อนจะไปแอบข้างหลังผม พี่คิงส์มองการกระทำของหมูหันใบหน้าบ่งบอกว่าผิดหวังอย่างมาก
 “มาหาพ่อเถอะนะ เราจะไปเที่ยวทะเล ก่อกองทราย เล่นเป็นเต่า กันอีก เหมือนที่ลูกชอบ” หมูหันเกาะขาผมแน่นไม่ยอมออกไปหา
 “หอม….เรามาอยู่ด้วยกันเถอะนะ พี่สัญญาว่าพี่จะเลี้ยงดูหอมกับหมูหันให้สบาย เชื่อพี่นะ”
 “หอม โทษทีนะพี่หาที่จอดรถนานไปหน่อย” คนมาใหม่ทำให้พี่คิงส์หยุดนิ่ง
 หมูหันรีบเข้าไปหาพี่หมอ พี่หมอก็เอาใจด้วยการอุ้มทันที
 “เกิดอะไรขึ้นเหรอหอม” พี่หมอมองเหตุการณ์อย่างงงๆ
 “ไม่มีอะไรหรอกครับ เราไปที่อื่นเถอะครับ"
 “อะ…อืม”
 พี่คิงส์ไม่ได้รั้งผมไว้คงเพราะพี่เขาคงรู้ตัวดีว่าไม่ควรจะเอ่ยเรียกผม ผมเม้มปากอยากจะหันกลับไปมองแต่ก็รีบเดินเพื่อให้ออกห่างจากที่นี่ให้ได้เร็วที่สุด
 หลังจากเดินตลาดเสร็จ ก็กลับบ้านหิ้วของเต็มสองมือโดยมีพี่หมอช่วยถือ  จะถามว่าพี่หมอมาได้ยังไง ผมเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันเพราะเมื่อเช้าทันทีที่เปิดประตูบ้านมองไปยังนอกรั้วก็เห็นพี่หมอยืนฉีกยิ้มให้แล้ว ถามก็บอกว่าดูงานไวกว่าที่คิดเลยได้กลับไว
“ตกใจหมดเลย มาไม่บอกไม่กล่าวกันเลยนะ” แม่พูดพลางจัดผลไม้ ขนมให้ทาน
 “อยากเซอร์ไพซ์น่ะครับ  ว่าแต่หมูหันอ้วนขึ้นหรือเปล่า” พี่หมอจิ้มพุงย้วย
 หมูหันส่ายหัวแล้วนั่งนิ่ง
 “ไม่กินขนมเค้กเหรอลูก”
 หมูหันยังส่ายหน้าต่อ แล้วเดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อกลับห้อง
 “เป็นอะไรเหรอหอม หมูหันไปเจออะไรมาเหรอถึงซึมแบบนี้” แม่ถาม
 ผมได้แค่ยิ้ม ไม่ได้ตอบอะไรไป
 “พี่หมอ วันนี้ทานข้าวด้วยกันนะครับ ไม่ได้ทานด้วยกันนานแล้ว”
 “ได้สิ รบกวนด้วยนะ”
 “เดี๋ยวแม่จะไปดูหมูหันหน่อยนะ ตามสบายนะจ้ะคุณหมอ”
 หลังจากแม่ไปก็เหลือแค่เราสองคน
 “ไม่เจอกันนานหอมซูบลงไปเยอะนะ”
 “ก็ครับ…เกิดเรื่องหลายเรื่องเลย…แต่ตอนนี้ผมฟื้นตัวแล้วครับ”
พี่หมอพยักหน้าแล้วพูดต่อเสียงเครียด “เดือนหน้าพี่นัดคิวกับหมอที่นั่นไว้แล้วว่าจะพาหอมไปรักษา”
 พี่หมอจับมือผมไว้ “แล้วหอมจะต้องหาย……”
 ผมพยักหน้า ใจจริงผมไม่อยากรักษาเพราะถ้าเกิดว่าผมไม่หายแล้วตายที่นั่น ผมคงจะเสียใจเพราะเวลาที่ควรจะอยู่กับครอบครัวผมกลับมาใช้เวลานั้นมานอนบนเตียงแทน……
หลังจากทานข้าวพี่หมอก็ขอตัวกลับ ส่วนผมกับแม่นั่งคุยกัน
 “เวรกรรมจริงๆ เฮ้อ……” แม่ถอนหายใจเมื่อผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง แม่ไม่ได้ซ้ำเติมแต่กลับสงสารด้วยซ้ำ
“มิน่า คุณนายนั่นถึงไม่ได้มาซื้อบ้าน เป็นแบบนี้นี่เอง จะมาซื้อบ้านเราแต่บ้านตัวเองตอนนี้กลับไม่มีอยู่ เวรกรรมจริงๆ”
“แต่ที่แปลกคือพวกเขากลับมาอาศัยอยู่แถวๆนี้”
“หรือเพราะคิงส์เขาอยากมาอยู่ใกล้ๆหอมล่ะลูก”
 “........เพราะที่นี่ค่าเช่ามันถูกกว่าที่อื่นมากกว่ามั้งครับ”
 แม่ถอนหายใจแล้วลุกไปดูหมูหันที่นอนหลับบนเตียงนอน
 “เพราะแบบนี้หรือเปล่าหมูหันถึงดูซึมๆไป คงเพราะเจอพ่อมาล่ะสิ” แม่ลูบผมที่ชื้นเหงื่อ
 “หอม…หมูหันยังเด็กนะลูก เขาเคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อ เขาเคยฝังใจว่ามีพ่อ ลูกจะไปห้ามไม่ให้เด็กไปคุย ไปกอด หรือแสดงว่ารัก มันห้ามไม่ได้นะลูก”
“ผมเข้าใจครับว่าหมูหันรักพี่คิงส์ แต่ผมต้องห้ามตอนนี้เพราะผมไม่อยากให้เขาเกิดผูกพันมากกว่านี้นะครับ”
 แม่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
 “แล้วเรื่องไปรักษาที่คุณหมอเขาคุยตอนทานข้าวล่ะ ลูกตัดสินใจยังไง”
 “ผม….ไม่อยากไปครับ….ถ้าผมไม่ไปแม่จะโกรธผมไหม”
 “โกรธสิ ลูกรู้ไหมบางคนเขาไม่มีแม้โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ แต่ลูกยังมีโอกาสนั้นทำไมลูกถึงไม่คว้ามันไว้ล่ะ  แม่ทนเห็นลูกต้องมาจากไป ไม่ได้หรอกรู้ไหม”
 “ครับ….ผมจะรักษา”
 แม่ยิ้มแล้วกอดผม
 ……………………………………………………………………..
 เนียนนั่งนับเงินที่ได้จากการขายขนมแล้วได้แต่ปลงตก ขาดทุน…….ที่จริงขนมขายได้พอควรอาจหมดได้ภายในครึ่งวัน หากแต่เกิดเหตุการณ์นั้นก่อนจึงทำให้ขาดทุนแบบนี้
 “ขาดทุนมากไหมเนียน”
 “เอ่อ…เยอะเลยค่ะคุณคิงส์ แบบนี้ทุนที่จะทำขนมขายจะยิ่งน้อยลงด้วยค่ะ”
 “ช่างมันสิ ไม่ขายก็ไม่อดตายหรอก คนอย่างฉันไม่ตายง่ายๆหรอกนะ” พิสมัยยังไม่ยอมแพ้เชิดหน้าต่อ หากแต่แก้วในมือที่มีน้ำสีใสทำให้คิงส์รีบเข็นรถไปหาผู้เป็นแม่แล้วแย่งจากมือ
 “แม่เริ่มเมาเเล้วนะครับ พอเถอะ”
 “เอามาฉันจะดื่ม ไอ้ของราคาถูกเเบบนี้ไม่ทำให้ฉันเมาหรอกนะ”
 “พอเถอะครับ….”
 “เอาคืนมา! ฉันจะดื่มแกจะเอาไปไหน”
 “ยิ่งแม่ดื่ม แม่ก็จะควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วเงินที่เอาไปซื้อเหล้าเนี่ย เอามาเป็นทุนขายขนมได้นะแม่”
“ฉันไม่ขาย! จะขายทำไม ฉันรวยอยู่แล้ว”
“ใช่! แต่มันเป็นเมื่อก่อน แม่ยอมรับความจริงได้แล้ว”
“ไม่มีทาง!”
“ไม่มีทางงั้นเหรอ..นั่นสิถ้าแม่ไม่ใช้เงินอย่างเบี้ยเราคงไม่ต้องมีชีวิตแบบนี้” คิงส์นึกถึงทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่นำไปเปลี่ยนเป็นเงินครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนหน้าที่จะมาใช้ชีวิตที่นี่เขามีเงินมากพอที่จะเช่าคอนโดหรูได้สบาย ยังพอมีกินได้อีกนานแต่แม่ของเขากลับใช้ชีวิตไม่ต่างจากเมื่อก่อน ใช้เงินจนหมดเสื้อผ้ายังเอาไปขาย จนสุดท้ายชีวิตก็ต้องกลายมาเป็นอย่างนี้
“แกโทษฉันเหรอ!”
“ใช่ ฮึก..ก..แล้วขนมนี่ เพราะเเม่ไม่ใช่หรือไงที่ทำให้เราขาดทุนแบบนี้”
 “โทษเมียแกสิเพราะมันยั่วโมโหฉันไง แล้วเห็นผัวใหม่มันไหม ท่าทางจะรวยเสียด้วย แกดูสารรูปตัวเองซะบ้าง!”
 คิงส์ถึงกับสะอึก กำหมัดแน่น ใช่เขาแพ้! แต่ถึงเขาจะรวยก็แพ้อยู่ดีเพราะหอมคงไม่เลือกเขาอีกแล้ว……..
 ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น เนียนรีบเปิดออก
 ปรากฎหญิงร่างท้วมเห็นก็พอเดาได้ว่ามีฐานะพอสมควร
 “มีอะไรเหรอคะ”
 “ค่าเช่า” พูดพลางยื่นมือรอรับ
 เนียนอึกอัก หันไปมองเจ้านายทั้งสองก่อนจะหันมาตอบ
 “คือ…..ยังขายของไม่ได้เลยค่ะ ขอผลัดเป็นอีก1อาทิตย์ได้ไหมคะ”
 “อะไรนะ! ไม่มีจ่ายเหรอ นี่มาเช่าฉันแค่เดือนเดียวก็คิดจะเบี้ยวค่าห้องฉันแล้วเหรอ”
 “เปล่านะคะ คือตอนนี้ไม่มีเงินเลยจริงๆค่ะ”
 “ ไม่มีเงิน? โอยตายล่ะ นี่รู้ไหมค่าเช่าฉันน่ะถูกที่สุดแล้ว แล้วคนที่เช่าก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำเหมือนพวกเธอทั้งนั้นแต่เขาก็ยังมีเงินจ่ายฉันทุกเดือน แต่พวกเธอเพิ่งมาเช่าแค่เดือนเดียวกลับคิดจะไม่จ่ายฉันแล้วเหรอ”
 “เปล่านะคะ ขอแค่อาทิตย์เดียวจริงๆค่ะ มีจ่ายแน่นอน”
 “อะไรนักหนา!” พิสมัยเดินมาประจันหน้าแทนเนียน
 “สายันต์สวัสจ้ะ คุณนายตกอับ ครั้งที่แล้วเพิ่งมาเจรจาจะซื้อที่แถวๆนี้ทำไมตอนนี้กลับไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าฉันล่ะ ตกอับเหลือเกินนะ หึ”
 “แก! ฉันไม่ได้ตกอับ! อย่างแกน่ะอย่าคิดว่าจะมารวยสู้ฉันได้นะก็แค่พวกเก็บค่าเช่ากระจอกๆ! ริทำตัวเป็นคุณนายไฮโซ”
“อีคุณนายตกอับ ยังจะมาด่าฉันได้อีกเหรอดูสารรูปตัวเองบ้าง ตอนนี้แกน่ะไม่ต่างอะไรกับแม่ค้าตลาดรู้ไว้ด้วย!”
 “แก!” พิสมัยจะปรี่เข้าไปตบแต่เนียนกันไว้
 “อย่านะคะคุณนาย “
 “แกจะห้ามฉันทำไมเนียน ปล่อย ฉันจะตบมัน!”
 “แม่หยุดเถอะ!”
 “พวกแกวันนี้ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าฉัน พรุ่งนี้เชิญออกไปได้เลยนี่ฉันสงสารแค่ไหนแล้วที่ให้ซุกหัวนอนได้คืนนี้! คนอย่างแกถ้าไม่เลิกหยิ่งในศักดิ์ศรีคงตายข้างถนนแหละย่ะ!” ประโยคสุดท้ายหันมาสาดน้ำลายใส่คุณนายตกอับ พูดจบก็เดินเชิดจากไป
 “แก!” พิสมัยจะไปหยิบขวดเหล้ามาปาแต่เนียนก็ห้ามไว้อีก
 “พอเถอะค่ะ คุณนาย”
 “แกจะมาห้ามฉันทำไม!” เธอผลักคนรับใช้ข้างกายจนล้ม
 “แม่! ทำไมแม่ต้องทำให้ทุกอย่างมันเลวร้ายลงด้วย แม่ก็รู้ว่าตอนนี้เราไม่เหลืออะไรแล้ว ทำไม ทำไมแม่ถึงไม่ยอมรับความจริงแล้วใช้ชีวิตตามที่เป็นอยู่”
 “เหอะ!” พิสมัยค่อยๆทรุดนั่งลงพื้น “ฮึก..ก..ฉันไม่ยอมใช้ชีวิตแบบนี้!”
 “คุณนายคะ…..อย่าร้องไห้เลยนะคะ เนียนจะทำทุกอย่างให้คุณนายกับคุณคิงส์สบายนะคะ”
 “เนียน..แกนี่มันโง่จริงๆ ทำไมไม่ทิ้งพวกฉันแล้วไปอยู่บ้านหลังนั้นเหมือนคนอื่นๆล่ะ มารับใช้คนอย่างฉันอีกทำไม”
 “ไม่ค่ะ เนียนไม่ทิ้ง คุณนายมีพระคุณต่อเนียนมาก เนียนก็เอ็นดูและรักคุณคิงส์มากเช่นกัน เนียนไม่ไปไหนหรอกค่ะ”
 “หึ แกนี่มัน ฮ่าๆๆ โง่จริงๆ ฮึก..ก…ก..“
คิงส์ได้แต่หลับตา เขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลยจริงๆ ทั้งที่เขาควรจะเป็นกำลังสำคัญแท้ๆแต่เขากลับเป็นแค่ตัวถ่วง เขาจิกขาตัวเองที่ยังพอรู้สึกเจ็บบ้างแต่น้อยเหลือเกิน………………..
 ………………………………………………………….
 “เก็บไปอย่าให้เหลือเลยนะ เสนียดมันติดห้องของฉัน”
 "ฉันก็ไม่อยากอยู่ที่แบบนี้หรอกย่ะ! คอยดูนะฉันจะไปประกาศที่อื่นว่าห้องของแกมันโสโครกแค่ไหน”
 “หนอย อีคุณนายตกอับ!”
 “แม่ไปเถอะครับ”
พิสมัยฮึดฮัดแต่ก็ยอมไปโดยดี ของมีเพียงกระเป๋าใส่เสื้อผ้ามือสองเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ทำขนมก็เช่าเขามาทั้งนั้น ตอนนี้ทั้งตัวมีแค่เงินไม่กี่ร้อย มีกระเป๋าเสื้อผ้าและคนสามคนที่ไปตามทางอย่างไร้จุดหมาย
 “ไม่ต้องห่วงนะคะ เนียนจะหาห้องเช่าให้ได้วันนี้แหละค่ะ” เนียนให้ทั้งสองคนรอตรงร้านอาหารริมทาง ส่วนตัวเองก็รีบไปหาห้องเช่า
 “สั่งอะไรคะ” เด็กที่ร้านเตรียมจดออเดอร์
คุณนายไม่สนใจในคำพูด
 “แม่ครับกินอะไรหน่อยเถอะ แม่ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
 คุณนายยังนิ่ง คิงส์มองออเดอร์ในมือแล้วคลำเงินในกระเป๋า ก่อนจะตัดสินใจสั่งอาหาร
 “ขอข้าวผัดไข่1จานครับ”
 เด็กจดทำหน้างงเพราะสั่งแค่จานเดียว แต่ก็ไม่ได้ค้านอะไร
 “ได้ค่ะ”
 “แล้วคิงส์ไม่กินเหรอ”
 “เอ่อ ผมไม่หิวน่ะครับ ตอนเช้าๆกินข้าวไม่ค่อยลง แม่กินเถอะครับ”
 “ฉันไม่กินหรอก”
 “แม่กินเถอะครับ เผื่อเราต้องหาห้องอีกนาน ผมอุตส่าห์สั่งแล้ว”
 คุณนายไม่ได้ตอบอะไรแต่พอข้าวมาเสิร์ฟก็นั่งกินโดยดี แม้จะไม่ยินดีก็ตาม
 หลังจากนั้นสักพักเนียนก็กลับมาพร้อมกับท่าทางผิดหวัง
 “เป็นไงบ้างเนียน” คิงส์เอ่ยถาม
 “หาไม่ได้เลยค่ะ ที่หาได้เราก็ไม่มีเงินจ่ายค่ามัดจำ”
 ทั้งสามคนนิ่งงัน
 “แล้ววันนี้เราจะนอนไหนล่ะ” คุณนายเอ่ยถามอย่างหมดอาลัยตายอยาก
 คิงส์หลบสายตา เม้มปากแน่น เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกัน
 “นี่พวกคุณ ลูกค้าคนอื่นฉันมาแล้วค่า มายืนมานั่งบังหน้าร้านนานแล้วนะคะ” เจ้าของร้านปากจัดเท้าเอวว่า
 คุณนายจะหันกลับไปสวนแต่ก็สงบปากเพราะเริ่มรู้บทเรียนบ้างแล้ว
“ไปเถอะค่ะ คุณนาย คุณคิงส์” เนียนรีบพาคิงส์และพยุงคุณนายไปตามทางเรื่อยๆ  อากาศเริ่มร้อนทั้งสามคนมาหยุดตรงฟุตปาธแล้วนั่งพัก
 “เดี๋ยวเนียนซื้อน้ำมาให้ดื่มนะคะ ทั้งสองคนรอตรงนี้นะคะ”
 “แม่ไหวไหมครับ”
 คุณนายพยักหน้าอย่างอ่อนแรง
 เคร้ง
 เสียงบางอย่างดังตรงหน้าของคนทั้งสอง คิงส์มองบนพื้นที่มีเศษเหรียญวางอยู่แล้วมองอย่างงงๆ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพราะอาจจะมีคนทำตกไว้แต่เขาก็ไม่พลาดโอกาสที่จะขอเก็บเศษเหรียญไว้เอง
 เคร้ง
 เคร้ง
 เศษเหรียญเริ่มกองตรงหน้าพวกเขามากขึ้น คิงส์ที่ไม่มีที่เก็บก็กองไว้ตรงหน้าและนั่นทำให้คนหลายคนที่เดินผ่านไปมาให้เงินเพิ่มมากขึ้น
 “ทำไมเขาเอาเงินมากองไว้ล่ะ” คุณนายเอ่ยอย่างสงสัย
 คิงส์ขมวดคิ้วมองกองเศษเหรียญตรงหน้า ก่อนที่คำตอบจะทำให้เขาจุกจนพูดไม่ออก...เขาพอรู้เเล้วว่าทำไม…..
 “เเปลกนะ จะเงินตกก็ไม่ใช่ ทำไมคนพวกนั้นถึงให้เงินเรา”
 “แม่ครับ…” คิงส์รู้สึกจุกในคอไม่กล้าจะพูดความจริง คุณนายมองคนเดินผ่านไปมาแล้วให้เงินพวกเขาอีก ก่อนจะเริ่มรับรู้ความจริงที่ทำให้ศักดิ์ศรีของตัวเองพังทลาย
 “เราเหมือนขอทานเหรอคิงส์" คุณนายพูดอย่างเลื่อนลอย
 "เราเป็นขอทานเหรอ ตอนนี้เราคือขอทานใช่ไหม!”
 “เเม่ครับ ไม่ใช่เราไม่ใช่”
“ดูสิใครๆก็ให้เงินเรา! เราเป็นขอทานไปแล้ว หะๆๆฮ่าๆๆ” คุณนายหัวเราะลั่นทั้งน้ำตา คิงส์อยากจะลุกไปปลอบแต่ก็ทำไม่ได้
 “แม่ครับ ใจเย็นๆ  เราไม่ใช่ขอทาน เราแค่มานั่งพักเฉยๆ”
 “แล้วพวกมันให้เงินเราทำไม พวกมันคิดว่าเราเป็นอะไร….ไม่! ไม่เอาแล้ว ฉันไม่เอาแล้ว ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! พอที!”
 “แม่..ฮึก..ก..”คิงส์ได้แต่มองสภาพแม่แล้วร้องไห้เท่านั้น ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกไปปลอบด้วยซ้ำ
 ……………………….
 “เอากี่ไม้หมูหัน”
 “สามครับคุณยาย”
 “พอเหรอ”
 “อือ งั้นสิบครับ แหะ”
 มะลิยิ้มกริ่มแต่ก็ตามใจหลานเพราะนานๆจะมารับหลานตอนกลับจากโรงเรียนเพราะส่วนมากคุณครูจะมาส่ง แต่วันนี้ติดภารกิจเลยมาส่งให้ไม่ได้
มะลิรับเงินทอนจากแม่ค้า แล้วยื่นเงินทอนให้หลาน
 “หมูหันเดี๋ยวหนูนำเงินนี่ไปให้คนกลุ่มนั้นนะ ใส่ลงไปในขันนะจ้ะ”
 หมูหันมองเศษเงินในมือแล้วพยักหน้ารับ แล้วเดินดุ่ยๆไปยังกลุ่มคนที่นั่งริมทาง แต่ตรงหน้ากลับไม่มีขันอย่างที่บอกเลย
 “ขันล่ะครับ”
 หมูหันเอ่ยถามกับคนที่นั่งเหม่อลอยบนรถเข็นส่วนอีกสองคนก็นั่งคอตกอยู่ข้างๆ
 คนนั่งรถเข็นที่ตอนนี้หนวดเครารุงรังค่อยๆหันหน้ามองตามเสียงที่คุ้นเคย ก่อนจะเบิกตากว้าง
 “คุณตา ขันอยู่ไหนล่ะครับ ผมจะให้เงินนะ”
“มะ…หมูหัน….หมูหัน!”
 หมับ! คิงส์คว้ากอดลูกไว้
 “คุณตาจะทำอะไรน่ะ”
 คุณนายและเนียนที่นั่งคอตกเงยหน้ามอง ก่อนทั้งสองคนจะเบิกตากว้างไม่ต่างกัน  มะลิรีบมาดูหลานแล้วแย่งออกจากอ้อมกอดคนแปลกหน้า แต่พอเห็นอีกสองคนที่นั่งอยู่ เธอก็ถึงกับอึ้ง
 “ทำไมพวกคุณมาอยู่ตรงนี้”สายตาเหลือบมองผู้ชายหนวดเครารุงรัง
 “นี่อย่าบอกนะว่านี่คือ คิงส์…..”
 “พะ..พ่อ” หมูหันมองใบหน้าที่แทบจะจำไม่ได้ แล้วเอ่ยเรียก
 คิงส์น้ำตาอาบแก้มเมื่อได้ยินคำเรียก
 “มาหาพ่อสิหมูหัน”
 หมูหันสายหน้า
 “ทะ…ทำไมล่ะ ทำไมไม่มาหาพ่อ”
 “แม่ไม่ให้ทำ”
 คิงส์หยุดชะงักแล้วพยักหน้าทั้งน้ำตา
 “อย่ามองฉันนะ ไปให้พ้น” พิสมัยรีบลุกไปเเอบข้างหลังลูก
 มะลิมองสภาพทั้งสามคนอย่างเวทนาเพราะสภาพไม่ต่างจากขอทานทั่วไป เสื้อผ้ามอมแมม ผมเพร่ากระเซิง หนวดเครารุงรัง แลไม่น่าคบหา หากแต่จิตใจที่เวทนาทำให้เธอเอ่ยคำนี้ออกไป
 “พวกคุณไปพักบ้านฉันก่อนเถอะนะ ฉันจะดูแลพวกคุณเอง”
 
หัวข้อ: ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:35:56
“อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ไป แกไปให้พ้น!” อดีตคุณนายยังคงหยิ่งในศักดิ์ศรี เธอต่อว่าพร้อมกับกุมหัวด้วยความอายแล้วยังคงแอบอยู่ด้านหลังบุตรชาย
มะลิถอนหายใจ มองสภาพทั้งสามคนอย่างเวทนา
 “เกิดอะไรขึ้นหรือคิงส์ทำไม….เอ่อ....”
 “……..อาทิตย์ที่แล้วพวกผมไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องน่ะครับ เลยถูกไล่ออกมา……..”
 “ตายจริง……..แล้วตอนนี้อาศัยกันที่ไหนล่ะ”
 คิงส์หลบสายตา  “ไม่มีหลักแหล่งน่ะครับ”
 มะลิยิ่งตกใจไปอีก ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ ……
“ไปอยู่กับฉันก่อนไหม”
 คิงส์ส่ายหน้า “ขอบคุณมากนะครับ แต่ผมคงไม่มีหน้าจะไป…….แค่ผมได้เห็นลูกตอนนี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ”
“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันคงช่วยได้แค่นี้นะ” พูดพลางยื่นเงินแบงค์สีม่วงให้
 “ตอนนี้ฉันมีแค่นี้เธอรับไว้เถอะนะ” คิงส์มองเงินในมือ น้ำตาคลอเขาพยักหน้าแล้วไหว้ขอบคุณ
 “ขอบคุณมากนะครับ คุณ….คุณน้าดีกับผมมากทั้งๆที่ผมทอดทิ้งทั้งหอมและหมูหัน….”
 “ใช่ว่าฉันหายโกรธนะ แต่เธอก็เป็นถึงพ่อของหมูหัน ฉันไม่อยากให้หลานต้องเศร้า” พูดพลางลูบหัวตัวอ้วน
 “หมูหันกอดพ่อเขาหน่อยเถอะลูก”
 “แต่แม่….”
 “ยายไม่บอกแม่หรอกจ้ะ”
 หมูหันมองคิงส์ยังคงลังเลที่จะเข้าหา หากแต่คิงส์มองสภาพตัวเองแล้วเอ่ยเสียงสั่น
“ไม่ต้องมากอดพ่อหรอก พ่อตัวเปื้อนน่ะ เดี๋ยวหนูจะเปื้อนด้วย”
 หมูหันมองพ่อที่ยิ้มแต่แฝงไปด้วยความเศร้าก่อนจะพุ่งเข้ากอดเต็มแรง
 คิงส์อึ้ง มือทั้งสองข้างค้างกลางอากาศก่อนจะโอบรัดแน่น “พ่อคิดถึงลูกมากนะ” พูดพลางหอมแก้มแล้วกอดแน่นราวกับว่าร่างอ้วนๆนั้นจะหายไป
 หมูหันซุกเข้ากับเอว  “ผมคิดถึงพ่อมากเลยล่ะ ฮึก..ก…ก…อยากก่อกองทราย อยากเล่นเต่า”
 มะลิมองสองพ่อลูกกอดกันร้องไห้ตัวเองก็อดที่จะน้ำตาคลอไม่ได้
พิสมัยค่อยๆเหลือบตามองเหตุการณ์
 คิงส์เช็ดน้ำตาให้ลูก “กลับบ้านได้แล้วนะตัวแสบ”
 “แล้วพ่อล่ะ”
คิงส์นิ่ง ก่อนจะยิ้ม “พ่อยังไม่กลับครับ”
 “พ่อไปอยู่กับผมได้ไหม”
 คิงส์ดึงลูกมากอดอีก “ขอบใจหนูมาก แต่พ่ออยู่ที่นี่ดีกว่า ถ้าคิดถึงพ่อมาหาพ่อนะ แต่พ่อคิดถึงหนูตลอดเวลาเลย พ่อนึกว่าจะไม่ได้กอดหนูแบบนี้อีกแล้ว…..คิมหันต์……”
 น้ำตาใสไหลลงอาบแก้มป่องครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าตัวเม้มปากแน่นกลั้นไว้
 คิงส์เช็ดน้ำตาให้ลูกอีก
มะลิจับมือน้อยไว้ “ไปกันเถอะหมูหัน เดี๋ยวแม่เขาก็จะกลับแล้วนะ”
 คิงส์เงยหน้ามองเมื่อได้ยินคำเอ่ยถึงอีกคน
 “หอมสบายดีไหมครับ”
 “สบายดีจ้ะ ได้งานทำแล้วล่ะเป็นงานจัดเอกสารง่ายๆน่ะจ้ะ ส่วนเงินเดือนก็พอส่งหมูหันเรียน”
คิงส์ยิ้มแล้วพยักหน้า เขาจำได้ดีตอนที่เขาบอกว่าหอมไม่มีปัญญาส่งลูกเรียนได้ แต่ตอนนี้เขาแค่ให้เงินลูกซื้อขนมยังไม่มีเลย
 “ไหว้พ่อเขาสิลูก เราจะได้กลับกัน”
 หมูหันทำตามที่บอก
 “ผมไปแล้วนะครับ”
 คิงส์ยิ้มแต่แฝงไปด้วยความเศร้า หากแต่ทั้งสองกำลังจะเดินจากไปร่างของเนียนที่โงนเงนมานานกลับล้มลงกะทันหัน
“เนียน!” คุณนายร้องลั่นรีบเข้าไปช่วย
 “ไข้ขึ้นสูงเชียว” มะลิอังหน้าผากแล้วมองจากสีหน้าที่ไร้เลือดฝาด
“เนียน ฟื้นมาสิ!”
 “ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย!”
 หลายคนรีบกรูมาเมื่อได้รับเสียงขอความช่วยเหลือและรีบพาส่งโรงพยาบาล
 คิงส์และหมูหันเลือกที่จะรออยู่บริเวณอื่นแทน ส่วนมะลิและพิสมัยนั่งใจจดใจจ่อรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
 “ใจเย็นๆนะคะ คงไม่เป็นอะไรมากหรอก” มะลิจับมือคนข้างๆไว้แต่กลับถูกปัดออก
 “อย่ามาแตะ! แกกำลังแช่งอยู่ล่ะสิ สะใจล่ะสิ!”
 “นี่คุณเลิกคิดอะไรที่เลวร้ายได้แล้ว ทำไมคุณถึงชอบมองคนอื่นแบบนี้ ฉันไม่ได้คิดร้ายอะไรกับคุณเลยนะมีแต่คุณที่คิดแบบนี้อยู่คนเดียว”
 คุณนายยังคงเชิดไม่ยอมมองหน้า
 “คุณเกลียดพวกฉันเพราะอะไรหรือแค่ลูกฉันเป็นผู้ชายแล้วไปรักกับลูกคุณ”
 “ใช่เพราะเป็นผู้ชาย”
“คุณจะบอกว่าความรักชาย-หญิงดีเหรอคะ ขอเดานะคะดูจากสถานการณ์ฉันไม่เห็นลูกสะใภ้คุณเลย…”
 “อย่าพูดถึงนังนั่นนะ!” พิสมัยตวาดลั่น กำมือแน่น ตัวสั่นด้วยความโกรธ แค่นี้มะลิก็เดาได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
 “แค่นี้คุณก็น่าจะรู้แล้วนะว่าความรักชาย-หญิงก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตคู่มีความสุข”
 “พูดได้พูดดีเลยนะ ซ้ำเติมฉันล่ะสิ”
 “ฉันไม่ซ้ำเติมคุณหรอก”
 “ทำไม...ทำไมแกถึงต้องทำตัวดีเป็นแม่พระ”
 “ฉันไม่ได้เป็นแม่พระหรอกนะคะ ที่ฉันดีกับคุณเพราะฉันไม่อยากจะมีเวรกรรมอะไรต่อพวกคุณอีก ชาติหน้าถ้ามีจริง ครอบครัวของฉันจะได้หลุดพ้นจากพวกคุณ   ฉันขออโหสิกรรมให้แล้วกันค่ะ”
 พิสมัยมองใบหน้ามะลินิ่ง
 เสียงเปิดประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก
 “นะ….เนียนเป็นยังไงบ้างคะ”
 “คนไข้แค่อ่อนเพลียเนื่องจากพักผ่อนน้อยและมีไข้น่ะครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอนพักที่นี่2-3วันก็กลับบ้านได้แล้วครับ”
 พิสมัยกล่าวขอบคุณ ร้องไห้อย่างดีใจก่อนที่หมอจะอนุญาตให้ไปเยี่ยมไข้ได้
 “เนียน…ฉันดีใจที่แกไม่ทิ้งฉันไป ฮึก..ก…ก” พิสมัยจับมือของคนที่นอนหลับไม่ได้สติ
 “คะ...คุณนาย” เนียนค่อยๆลืมตาตื่น
 “แกฟื้นแล้ว”
 “คุณนายทำไมเนียน…..”
 “แกนะแก จำไว้อย่าตายก่อนฉันนะ ฮึก..ก..ก”
“คะ….ค่ะ” เนียนพูดทั้งน้ำตา ซาบซึ้งในความหมาย
 หลังจากนั้นสักพักก็หมดเวลาเยี่ยม พิสมัยทำเพียงนั่งหน้าห้องเพราะไม่มีจุดหมายที่จะไปที่ใด มะลิมองคนที่เคยอ้วนท้วนแต่บัดนี้กลับซูบผอม ท่าทางน่าเวทนาอย่างยิ่ง
 “ถ้ายังไงคุณไปอยู่บ้านฉันก่อนก็ได้นะ เพราะถ้าคุณยังอาศัยอยู่แบบนั้นไม่คุณก็คิงส์คงได้ป่วยอีกแน่ๆ”
คนฟังยังคงนิ่ง
“คุณพิสมัย…ตอนนี้คุณน่าจะคิดได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร...อย่าทิฐิเหมือนเมื่อก่อน...เป็นคนใหม่เถอะนะคะ….เห็นแก่คิงส์เถอะค่ะ….”
พิสมัยเงยหน้ามองดวงตาคลอ
 “ให้ฉันไปอยู่ด้วยเหรอ…”
 “ใช่ค่ะ แต่…..ไม่ได้ให้ไปอยู่เฉยๆนะคะ คุณก็ต้องช่วยฉันทำมาหากิน หวังว่าคุณจะทำเป็นนะคะ”
พิสมัยมองคนพูดนิ่งงันก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วพูดด้วยแรงฮึด “คนอย่างฉันไม่มีอะไรทำไม่เป็นหรอกย่ะ” พูดพลางกอดอกเชิด
มะลิยิ้ม
คิงส์กับหมูหันที่เลือกจะรอข้างนอกตรงศาลาพักผ่อนมากกว่าจะเข้าไปเพราะไม่อยากเกะกะการทำงานของโรงพยาบาล ส่วนหมูหันก็ไม่อยากให้เข้าไปเพราะกลัวจะไปติดโรคจากในโรงพยาบาล
 “คุณยายไปนานจัง”
 “เดี๋ยวก็มา….”คิงส์พูดพลางหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋ากางเกง
 หมูหันมองแหวนที่ตนเองเคยเป็นเจ้าของแล้วตาโต
 “ลูกเก็บไว้เถอะนะ”
 หมูหันส่ายหน้า  “แม่บอกให้คืนพ่อ”
 “อย่าให้แม่รู้สิ เป็นความลับของของเราสองคนนะ”
 หมูหันตาลุกวาว แล้วยิ้ม ก่อนจะรับแหวนไว้
 คิงส์ยิ้มเมื่อมือน้อยๆรับมันไปอีกครั้ง
 “ผมจะไม่ให้แม่เห็นล่ะ ผมจะเก็บไว้อย่างดีเลย”
 เสียงฝีเท้าดังมาใกล้ มะลิกับพิสมัยเดินมาพอดี
 “เนียนเป็นยังไงบ้างครับแม่”
 “ไม่สบายน่ะ แล้วก็พักผ่อนน้อย”
 “เนียนคงเหนื่อยมากที่ต้องดูแลพวกเราตลอดเวลา” คิงส์พูดเสียงเศร้า
 “เอาล่ะเลิกพูดเรื่องหดหู่แล้วกลับบ้านกันเถอะ คิงส์น้าจะให้คิงส์กับแม่ไปอยู่บ้านน้าก่อนนะ”
 “อะ….เอ่อ….คือผม”
 “เธอก็ควรที่จะนึกถึงแม่เธอบ้างนะ อยากให้แม่เธอป่วยเหรอ”
คิงส์พูดไม่ออก
 “เอาเป็นว่าไปกันเถอะ ฉันโทรบอกคุณยศแล้วเขาก็ยินดี”
 คิงส์ยกมือไหว้ “ขอบคุณนะครับ”
 “จ้ะ ไปกันเถอะเดี๋ยวเรียกแท็กซี่กลับบ้านกัน”
 “พ่อจะไปอยู่กับผมหรอ” หมูหันตาโตกระโดดดีใจ
 คิงส์ยิ้มแต่ก็อดที่จะถอนหายใจไม่ได้ ถ้าเจอหอมเขาอยากจะอธิบายทุกอย่างแต่ไม่รู้เจ้าตัวจะฟังไหมเพราะตอนนี้คงมีใครมาแทนที่เขาไปแล้ว
………………………………


 Part Hom
 วันนี้ผมกลับจากที่ทำงานช้ากว่าปกติเพราะงานค่อนข้างเยอะ แอบสงสัยเล็กน้อยเพราะวันนี้หมูหันไม่ได้ออกมารับผม
 “กลับมาแล้วเหรอหอม”
 “ครับแม่….แล้วหมูหันไปไหนเหรอครับ”
 “เอ่อ…..ก็…..หอมแม่มีเรื่องจะบอกจ้ะ”
 “ครับ?”
 “คิๆๆ แพ้อีกแล้วล่ะ สู้ผมไม่ได้หรอก”
 ผมย่นคิ้วได้ยินเสียงหมูหันหัวเราะคิกคัก เล่นกับใคร? พ่อกลับมาจากที่ทำงานแล้วเหรอ
 “หมูหันเล่นกับใครครับแม่”
 “เอ่อ….”
ผมเดินเข้าไปในบ้านหาต้นตอของเสียง เห็นร่างที่นั่งอยู่บนรถเข็นร่างกายผมก็ชาไปทั้งตัว เขาคนนั้นมีหนวดเคราเต็มทั้งใบหน้ามากกว่าที่เจอเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ผมก็จำได้ทันทีว่าเป็นเขา
 “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่!” ผมเดินปรี่เข้าไปหา เขาเองก็อึ้งเมื่อเห็นผม
 “หอม…ฟังแม่ก่อนนะ แม่เป็นคนพาเขามาเอง ตั้งแต่วันนี้เขาจะมาอยู่ที่นี่”
 “ทะ…ทำไมครับ ไหนเเม่บอกว่าไม่อยากให้เขามาใกล้พวกเราแล้วทำไม….”
 “แม่อยากให้จบๆไปเถอะ อโหสิกรรมให้กัน แล้วช่วยเขาได้ก็ช่วย “
 “ไม่…ออกไปจากบ้านผมเดี๋ยวนี้” ผมหันไปคุยกับคนที่นั่งบนรถเข็น สายตาที่เขามองผมไม่ใช่แววตาน้อยใจหากแต่เป็นแววตารู้สึกผิด ผมเบือนหน้าไปทางอื่นไม่อยากมอง
 “หมูหันก็ดีใจที่พ่อเขา……...”
 “พอเถอะครับแม่ หมูหันไม่มีพ่อ” ผมจับแขนลูกให้ลุก
 “ขึ้นห้อง...”
 “ผมอยากเล่นกับพ่อ”
 “กลับห้อง! แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่มีพ่อแล้ว ห้ามไปยุ่งกับเขาอีก”
 “หอมอย่ารุนแรงกับลูกสิ” พี่คิงส์เอ่ยตำหนิ
 “อย่ายุ่งกับลูกของผม คุณก็แค่คนนอก”
 คิงส์หน้าเศร้า “ถ้างั้นพี่ออกไปจากบ้านนี้ดีกว่า หอมจะได้สบายใจ”
 “โอยยย ทั้งสองคนพอเถอะ หอมมาคุยกับเเม่ก่อน….”แม่จับมือลากผมออกไปที่สวน
 “แม่ครับทำไมพาเขามาล่ะ”
 “แม่ไปเจอเขาขอทานข้างถนนน่ะสิลูก”
ผมเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อ ขอทาน? พี่คิงส์น่ะเหรอ
“แม่ไปเห็นก็เวทนาเหลือเกิน หมูหันเป็นคนเจอน่ะแม่ให้เอาเศษเหรียญไปให้แต่ปรากฎว่าเป็นคิงส์และพวกคุณนาย”
 ผมถอนหายใจรู้สึกตกใจกับเรื่องที่ได้ยินมันเหลือเชื่อเกินไปกับคนที่รวยล้นฟ้ากลับมาตกอับแบบนี้….
 “หอม….เราเลิกที่จะทิฐิต่อกันเถอะ แม่เองก็ใช่ว่าจะหายโกรธนะแต่ไม่อยากมีเวรมีกรรมกันอีกแล้ว ช่วยๆกันไป”
 “จะช่วยถึงเมื่อไรครับหรือตลอดชีวิต”
 “ก็ถ้าเขามีทางไปน่ะหรือพอจะช่วยเหลือตัวเองไปตั้งต้นใหม่ได้ก็พอ”
 “แต่ผมจะไม่ให้หมูหันเข้าใกล้พวกเขานะครับ” ผมถอนหายใจอีกครั้งเตรียมหันหลังจะกลับเข้าบ้านหากแต่คนที่ปรากฎตรงหน้าทำให้ผมได้แต่ยืนนิ่ง
 คุณนาย…..
 ผมไม่ยกมือไหว้หากแต่เดินผ่านไปเท่านั้น…เเต่ท่าทางเขาเปลี่ยนไป ลดความทิฐิตัวเองไปเยอะ ทั้งเขาทำท่าจะอยากคุยกับผมอีก
 “หมูหันอาบน้ำหรือยัง”
 “ยังครับ”
 “งั้นขึ้นมาข้างบนเดี๋ยวแม่จะอาบน้ำให้”
 หมูหันมองพี่คิงส์แล้วเดินตามมา ผมไม่ได้มองพี่คิงส์เลยสักนิดเหนื่อยที่จะต้องมองหน้ากัน
 “เป็ดล่ะ 3 ตัวๆ” หมูหันเล่นเป็ดสีเหลืองที่ลอยไปมาในกะละมัง
 “หมูหัน…”
 “ครับ…” ตอบรับแต่ยังคงเล่นง่วนอยู่
 “แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปเข้าใกล้เขาอีก อย่าไปยุ่งด้วย”
“แต่ผม…”
 “ไม่มีแต่ ถ้าแม่เห็นลูกอยู่ใกล้เขาอีกแม่จะตีนะ”
 “เชอะ ถ้าแม่ตีจะฟ้องคุณตากับคุณยายล่ะ” พูดแล้วลุกจากกะละมังแล้ววิ่งทั้งที่ยังแก้ผ้าออกไปทันที
 “หมูอ้วนกลับมานะ!”
 …………………………………………………….
 “ว๊ายยยยย ไม่เอาน่า” ลินดาวิ่งหนีรอบเตียงเมื่อบรรดาผู้ชาย1ใน2วิ่งไล่จับแล้วอุ้มเธอขึ้นเตียง
 “ช้าๆก็ได้นะ ลินดาไม่หนีไปไหนหรอก” พูดพลางคล้องคอโน้มคนที่คร่อมตนให้มาจูบ อีกคนก็ไม่ยอมแพ้กำลังถอดส่วนล่างของเธอออก หากแต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดอารมณ์ทั้งสามก่อน
 “แม่…”
 “ลินดาเหรอลูก….ครืดดดด… ส่งเงินมาให้แม่หน่อยสิ พะ...พวกมันต้องรวมหัวโกงแม่แน่ๆเลย…ครืดดด…”
 ลินดานิ่วหน้า “ทำไมแม่ยังไม่เลิกเล่นพนันอีก กลับมาบ้านเถอะค่ะ!”
 “อะไรนะ….ครืดด….ที่ชายแดนไม่ค่อยมีสัญญาณเลยลูก”
 “หนูบอกให้เลิก!”
 “แม่ไม่ค่อยได้ยินเลย…ครืดดด… เอาเป็นว่าส่งเงินมาให้แม่นะพรุ่งนี้แม่….ครืด…จะข้ามชายแดนไปกดเงิน อย่าลืมส่งมานะแม่จะไปเล่นคืนมาให้หมดเลย”
 ติ๊ด
 ลินดานิ่งค้างเม้มปากแน่น…ต่อให้รวยแค่ไหนต่อให้เปลืองตัวเพื่อเศรษฐีกี่คนแต่ถ้าแม่เธอยังเป็นแบบนี้ชีวิตเธอคงไม่มีความสุข….
หัวข้อ: ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:36:35
ฟึ่บ! ผมโยนเสื้อผ้าให้กับคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น
 “เมื่อมาอยู่ที่นี่ก็ต้องทำงานไม่ได้อยู่ฟรี เสื้อผ้าพวกนี้เป็นของหมูหัน ของพ่อและก็ของแม่ผม คุณต้องซักให้หมดภายในวันนี้ บ้านผมมันจนไม่มีเครื่องซักผ้าหรอกนะครับ”
คนที่นั่งบนรถเข็นมองกองผ้าที่อยู่ตรงหน้าแล้วค่อยลงมือซักไม่ปริปากบ่น หากแต่ยังคงเงอะงะเพราะทำไม่เป็น ซ้ำยังใส่ผงซักฟอกไปเยอะเสียจนผมเริ่มไม่พอใจ
 “นี่คุณจะผลาญเงินบ้านผมหรือไง” ผมนิ่วหน้าจัดการเอาผ้าลงกะละมังแล้วขยี้สาธิต
 “ทำแบบนี้คงเป็นนะครับ”
 “พี่ทำเป็น ถึงจะทำครั้งแรกแต่พี่ทำได้” พูดแล้วยิ้มให้ผม แต่ผมก็กอดอกปั้นหน้าบึ้งใส่
 “งั้นก็ดีครับ ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีข้าวให้กิน บ้านผมไม่ใช่สถานสงเคราะห์ที่ให้อยู่ฟรีๆ ถ้าทำไม่เสร็จทั้งคุณและแม่คุณผมจะไม่ให้กินข้าวเช้า”
 พี่คิงส์พยักหน้า ก่อนจะเอ่ยถามอีก “แล้วของหอมล่ะ พี่จะซักให้นะ”
 “อย่ามายุ่งกับของของผม มีหน้าที่ซักอย่ามาพูดมาก” ผมหันหลังกลับแต่กลับถูกคำพูดรั้งเอาไว้
 “หอม…เรื่องของเรา...”
 “เหอะ คุณจะหลอกอะไรผมอีกล่ะ”
 “ไม่ใช่…..ทุกอย่างคือเรื่องจริงพี่รักหอมจริงๆ”
“ไม่อายตัวเองหรือไงที่มาพูดพล่ามแต่เรื่องโกหกอยู่ได้….ถ้าคุณพอตั้งตัวได้ก็รีบๆออกจากที่นี่ไปเถอะแค่นี้ผมก็สมเพชคุณเกินทน” ผมเดินออกจากตรงนั้น ผมเบื่อ…เบื่อที่จะต้องติดอยู่กับเรื่องแบบนี้ นานเท่าไรแล้วที่ผมหนีไม่พ้นเขาเลย ต้องจมปลักอีกแค่ไหน……แต่ทำไมผมถึงต้องเหลือความรู้สึกบางอย่างไว้ให้เขาอีก
 “แม่ครับ….ถ้าผมกินกระเทียมได้แม่ต้องให้ผมเล่นกับพ่อนะ” หมูหันที่กำลังกินข้าวจู่ๆก็เอ่ยขึ้น พ่อกับแม่มองหน้ากัน
 ผมมองลูกที่ทำท่าจะตักหมูทอดกระเทียมได้ทุกเมื่อ หมูหันเกลียดกระเทียมมาก มากขนาดที่ว่าหากกินไปคำเดียวจะไม่กินอะไรต่ออีกเลยแม้ของตรงหน้าจะเป็นของโปรดก็ตาม
 “หมูหัน…..อย่ามาต่อรองกับแม่นะ “
 “แม่อ่ะ….งั้นผมไม่กินข้าวแล้ว” พูดจบแล้วเดินไปหลังบ้าน
 “จะไปไหนกลับมากินข้าวต่อนะ…”ผมทำท่าจะลุก ถ้าไปหลังบ้านคงจะไปหาพี่คิงส์ที่กำลังซักผ้าแน่ๆ
 “หอม….” พ่อเอ่ยขัด “ให้หมูหันเขาไปเล่นกับพ่อเขาเถอะนะ”
 “พ่อครับ ผมให้พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ก็ดีแค่ไหนแล้วครับ แต่ทำไมต้องให้ลูกไปยุ่งกับเขาด้วย”
 “แค่วันนี้ก็ได้น่า…..”แม่ถอนหายใจ
 “พ่อกับแม่ก็เข้าข้างหลานจนเดี๋ยวนี้หมูหันไม่ค่อยเชื่อฟังผมเลย”
 “แม่ไม่อยากเห็นหลานแม่เสียใจนี่”
 “อ้อ ว่าแต่คุณพิสมัยไปไหนล่ะ ไม่มาทานข้าวหรือคุณ”
 “ไปเยี่ยมเนียนน่ะค่ะ พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ”
 “อ้าว ดีเลยสิ….”
 “อ้อ หอมเรียกคิงส์มากินข้าวได้แล้ว….”
“เขาไม่ว่างนี่ครับ”
 “ไม่ว่าง? ตอนแรกบอกเขายังไม่หิวไม่ใช่เหรอ”
 “หอม…..”พ่อส่งสายตามาหาผม ผมเลยต้องเดินไปเรียกตัวต้นเหตุ
 “ฮะๆๆ พ่ออ่า แสบตานะ คิๆๆ เอิ้ก…”
 เสียงนี้….
 ผมเดินไปตามเสียง ก่อนจะเบิกตากว้าง หมูหันเปียกไปทั้งตัวทั้งยังมีฟองผงซักฟอกติดอยู่อีก
 “ทำอะไรกันน่ะ!” ผมรีบปรี่ไปหาลูก หมูหันตกใจจนลื่นล้ม
 “หมูหันทำไมลูกถึงเปียกแบบนี้” ผมจับหมูหันให้ลุกแล้วหาน้ำล้างทันที
 “นี่คุณ คุณให้ลูกผมเล่นบ้าอะไร!”
 “พี่….พี่ขอโทษนะ”
 “ผมเล่นเองแหละ สนุกดีมีฟอง…”
 "หมูหัน! มาให้ทำโทษเลยนะ”
 “หอม! พี่ผิดเอง อย่าตีลูกเลยนะ”
 “คนนอกอย่ามายุ่ง!”
 “ฮึก” หมูหันเริ่มร้องโยเย เมื่อเห็นผมทำท่าจะตี
 “เงียบนะ”
 “ไม่ แม่ใจร้ายจะตีผม พ่อช่วยผมด้วย ฮึก”
 ผมเองก็ไม่อยากจะตีแต่เพราะอยากประชดทำให้มือผมเผลอตีไปจนได้
 เพี๊ยะ!
“โฮๆๆ!!”
 “หมูหัน!”  พี่คิงส์รีบลุกขึ้นมาแต่ก็ต้องล้มลงไปแล้วรีบคลานมาหาหมูหันที่ร้องไห้ตัวงอเพราะผมเผลอไปตีที่หน้าของลูก!
 “มะ….หมูหัน แม่ขอโทษนะ” ผมจะเดินไปหาแต่หมูหันก็ยิ่งร้องมากขึ้น
 “เกิดอะไรขึ้น!” แม่กับพ่อรีบมาดูเหตุการณ์
 “อะไรกันเนี่ยหอม หมูหันร้องทำไมลูก” แม่รีบไปปลอบหมูหัน
 ส่วนพ่อก็ประคองพี่คิงส์ให้อยู่บนรถเข็นเหมือนเดิม
 “หอม….พ่อว่าเราควรที่จะต้องคุยกันหน่อยแล้วนะ”
 ……………………………….
 “พ่อไม่เคยสอนให้ลูกเป็นคนแบบนี้ ทำร้ายหมูหัน….ทั้งเรื่องคิงส์อีก….”
 “ผมขอโทษครับ…..ผมขอโทษครับพ่อ”
 “เราพาพวกเขามาอยู่เพราะอยากช่วยเหลือแต่ลูกกลับทำให้เราเหมือนพาเขามาแล้วมาทรมาน เขาพิการ ไร้บ้าน ไร้ทุกอย่างทำไมลูกถึงต้องทำเเบบนี้กับเขาอีก พ่อเสียใจมากรู้ไหม”
 “แล้วที่เขาทำกับผมล่ะ…..”
 “พ่อรู้ลูกโกรธ...พ่อก็โกรธแต่ตอนนี้พ่อปล่อยวางทุกอย่างแล้วแค้นไปมามันหนักอก… เหมือนที่แม่บอกอโหสิกรรมให้กัน…….ถ้าลูกยังไม่เลิกที่จะทำแบบนี้พ่อก็คงหมดปัญญาที่จะสั่งสอน”
 หลังจากที่พ่อไปผมก็ได้แต่นั่งทรุดลงโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง ผมทำผิดต่อลูก….มือคู่นี้ที่ตีลงบนแก้ม
 “หอม…..”
 ผมเม้มปากแน่น หันไปมองตัวต้นเหตุ
 “สะใจมากไหมที่ทำให้ผมทำร้ายลูก สะใจมากใช่ไหมที่ทำให้ผมถูกพ่อต่อว่า”
“พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย พี่ขอโทษนะ…..”
 “ขอโทษเรื่องไหนล่ะความผิดของคุณมันมากเหลือเกิน! ถ้าอยากให้ยกโทษให้ก็รีบๆไปตายซะ! ไปเร็วๆได้ยิ่งดีไปให้พ้น!”
 เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรแต่ค่อยๆเข็นรถตัวเองแล้วจากไป ผมทรุดตัวลงรู้สึกหายใจไม่ออกมากระทันหัน ค่อยๆสูดลมหายใจอย่างช้าๆ
 “ฮึก..ก..ก…”ผมซบหน้าลงกับเข่า ผมไล่เขาไปแต่อีกใจผมก็ไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น ทำไมผมต้องทั้งรักทั้งเกลียดเขาด้วย…..ถ้าเขาไม่ใช่รักแรก รักที่ฝังใจมานานผมคงสามารถลืมเขาได้ไปนานแล้ว….
 ผมนั่งตรงนั้นอยู่นานจนเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินเข้ามา ผมเงยหน้ามองแล้วรีบเช็ดน้ำตาออก
 คุณนาย….
 ผมลุกจะไปที่อื่น
 “เดี๋ยว…ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
 “ผมไม่ว่างครับ….”
“ขอร้องล่ะฟังฉันหน่อยเถอะ” น้ำเสียงที่ฟังดูแปลกไปจากที่เคยพูดกับผม
 “มีอะไรเหรอครับ”
 “เรื่องแรกฉันอยากจะขอโทษเธอ”
 ผมหยุดชะงักเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง คุณนายน่ะเหรอจะเอ่ยขอโทษผม ผมไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม
 “ฉันขอโทษ….เรื่องทุกอย่างมันเป็นความผิดฉันเอง ถ้าฉันยอมรับเธอแต่แรกคงไม่เป็นแบบนี้ ตาคิงส์ก็ไม่เป็นแบบนี้ ฮึก..ก..ก..ยิ่งพอพวกเธอช่วยเหลือ ฉันก็ยิ่งรู้สึกผิดมาก ขอโทษจริงๆ…”
 ผมนิ่งงัน….ตอนนี้ผมควรจะทำยังไงให้อภัยหรือเปล่า ผมสับสนจนเอ่ยตอบไม่ถูก
 “ฉันไม่ขอให้เธอยกโทษให้หรอกนะ แต่คิงส์ยกโทษให้คิงส์ด้วย เขารักเธอจริงๆ…..”
 แววตาผมไหววูบ หมายความว่ายังไง รักผมจริงๆ???……
“เป็นแผนฉันเองที่ให้คิงส์หลอกให้เธอรัก แต่…ฮึก..ก..แต่ฉันไม่รู้เลยว่าเขา…เขารักเธอจริงๆ….”
 ผมตัวชาไปทั้งตัว พูดไม่ออก….รักผมเหรอ รักผมจริงๆเหรอ
 “กะ...โกหก…คุณโกหกใช่ไหม”
 “ตาคิงส์รักเธอ เขาบอกฉัน ฮึก...ก...ก…เขารักเธอจริงๆ...”
 ผมมือสั่น ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น
 “โกหก! ผมไม่เชื่อคุณ ผมไม่ใช่คนโง่อีกแล้วนะ”
 “เรื่องจริง! ฮึกๆ เชื่อฉันเถอะนะ” คุณนายลงไปทรุดกับพื้นคล้ายอ้อนวอน ผมรีบหันไปทางอื่น
 “เขารักเธอ….เขาคิดจะเลิกกับลินดาแล้วแต่งงานกับเธอนะหอม…ฮึก…”
 ผมปิดหน้าตัวเอง ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้น….เขารักผมจริงๆใช่ไหม….ผมหยุดคิดนึกถึงประโยคที่ผมเพิ่งพูดออกไปกับเขา
 “ขอโทษเรื่องไหนล่ะความผิดของคุณมันมากเหลือเกิน! ถ้าอยากให้ยกโทษให้ก็รีบๆไปตายซะ! ไปเร็วๆได้ยิ่งดีไปให้พ้น!” เมื่อกี้นี้ผมไล่เขาไป ผมไล่เขา…..
 ผมรีบวิ่งไปหาพี่คิงส์……หาทั่วบ้านก็ไม่เจอ อย่าบอกนะว่าเขาออกไปแล้วจริงๆ
 ผมมองประตูรั้วที่เปิดออกอย่างใจหายก่อนจะวิ่งออกไปทันที
 “พี่คิงส์! อยู่ที่ไหน!” ผมวิ่งอย่างไร้จุดหมาย ไม่รู้ทิศทาง ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ทำไมเหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดขึ้นพร้อมๆกันทำไมไม่ให้เวลาผมบ้างทำไมเราถึงไม่เข้าใจกันก่อนที่ผมจะไล่เขาไป ผมทรุดนั่งริมทางอย่างหมดหวัง
 “ฮึกๆ..ๆ..“ ผมเริ่มเหนื่อยกับโชคชะตา ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับผมทุกที! ให้มีความสุขบ้างไม่ได้หรือไง…..
 เสียงรถยนต์มาจอดตรงหน้า ก่อนที่คนบนรถจะเดินมาหาผมแล้วเอ่ยเรียก
 “หอม….”
ผมเงยหน้ามองทั้งน้ำตา “พี่หมอ...อึก...พี่หมอช่วยผมด้วย พี่หมอช่วยผมที”
 “อะไรหอมเป็นอะไร เจ็บตรงไหนเหรอ” พี่หมอถามอย่างร้อนลน
 “ตามหาพี่คิงส์ให้ที พี่คิงส์เขาหายไป ฮึก..ก…ผมขอร้องช่วยผมด้วย”
 พี่หมอนิ่งอึ้ง “ตามหาทำไม”
 “เขาหายไปจากบ้านผม เพราะผมแท้ๆเลย”
 “หมายความว่ายังไงเขามาอยู่บ้านหอมเหรอ”
 “ครับ….พี่ช่วยผมได้ไหม…ผมอยากเจอเขา”
 พี่หมอถอนหายใจแล้วพาผมขึ้นรถยนต์ไป “ทางที่พี่มาไม่เจอเขานะ คาดว่าคงต้องไปอีกทาง”
 พี่หมอยื่นผ้าเช็ดหน้า “อย่าร้องไหัเลยนะเดี๋ยวก็เจอเขาแล้ว….”
 ผมมองหน้าพี่หมอแล้วรู้สึกผิด “ผมขอโทษ….ขอโทษที่ต้องบอกว่าผมยังรักเขา ฮึก..ก..ก..ผมขอโทษ”
 พี่หมอไม่ได้พูดอะไรกลับมาแต่ยังคงขับรถต่อไปเรื่อยๆแต่ภายใต้แววตาที่นิ่งนั้นกลับไหววูบ….
 “ผม….น่ารังเกียจใช่ไหมครับ”
 “ไม่เลยสักนิด อย่าพูดดูถูกตัวเองแบบนี้อีกนะเพราะพี่จะโกรธ”
 ผมยิ้มรับ “ขอบคุณมากนะครับ”
 ผมมองไปข้างหน้าเห็นคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นก่อนจะเบิกตากว้าง
 “พะ..พี่คิงส์!” ผมชี้ไปข้างทางพี่หมอค่อยๆจอดรถเทียบ รถยังจอดไม่สนิทดีแต่ผมก็รีบลงไปทันที
 “พี่คิงส์…..”ร่างสูงในรถเข็นสะดุ้งเฮือก แล้วพยายามจะหนี
 “อย่าหนีผม! ผมรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้วแม่พี่บอกผมหมดแล้ว….”
พี่คิงส์หยุดนิ่งผมเดินเข้าไปหามองแผ่นหลังงอคุ้มที่ต่างจากในอดีตที่สง่าเสมอ
 “พี่รักผมใช่ไหม รักผมจริงๆใช่ไหม…..ไม่ได้หลอกผมอีกใช่ไหม พี่คิงส์…..”
 “พี่รักหอมนะ….แต่ถ้าหอมอยากให้พี่ไปให้พ้นๆพี่จะไปนะ…”
 “คุณอย่าเห็นแก่ตัวได้ไหม! ตอนนี้ผมรู้เรื่องหมดแล้วคุณยังหนีผมไปอีกเหรอ บอกผมได้ไหมว่าคุณยังรักผมอยู่จริงๆ ผมพร้อมจะรับฟังทุกอย่าง ฮึก..ก…”
 พี่คิงส์ค่อยๆเข็นรถให้มาเผชิญหน้า “หะ….หอม อยากฟังพี่จริงเหรอๆ”
 ผมพยักหน้า
 “พี่รักหอมจริงๆ พี่ขอโทษที่พี่ทิ้งหอมไปแต่ครั้งนี้พี่รักหอมจริงๆเชื่อพี่เถอะนะ ฮึก…ก….ถ้าหอมไม่เชื่อใจ พี่พร้อมจะไปทุกเมื่อแต่ดูแลแม่พี่กับเนียนได้ไหม”
 “ถ้ารักผม…..ก็กลับบ้านกับผม…..เราสองคนควรที่จะปรับความเข้าใจกันได้แล้ว”
 ผมค่อยๆย่อตัวแล้วทรุดกอด “กลับกันเถอะครับ…..”
 พี่คิงส์กอดผมแล้วซบตัวร้องไห้
 หลังจากกลับมาที่บ้านพี่หมอก็ขอส่งพวกผมแค่หน้าประตูรั้ว  พี่หมอยิ้มให้บางๆแล้วลูบหัวผม
 “ขอโทษนะครับ แต่ผมคิดว่าชีวิตนี้ผมคงมีได้เเค่รักเดียวจริงๆ ถ้ารักครั้งนี้หลุดลอยไปอีกผมก็คงไม่รักใครอีกแล้ว”
 “เป็นคำตัดขาดที่ทำให้พี่ปวดใจมากรู้ไหม”
 “ผมขอโทษ….ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่างนะครับ ผมรักพี่หมอได้แค่พี่ชายจริงๆ ผมเชื่อว่าพี่หมอต้องเจอคนที่รักพี่หมอและพี่หมอรักเขาแน่นอนครับ”
 พี่หมอยิ้มเศร้าก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย  “เรื่องผ่าตัดที่ต่างประเทศอีกไม่กี่วันแล้วนะ”
 “ผม…ขอเลื่อนได้ไหมครับ”
 “หอม…”
“ผมอยากที่จะสะสางเรื่องทุกอย่างก่อน ผมอยากจะช่วยพี่คิงส์....ทั้งเรื่องพินัยกรรมที่น่าสงสัยและขาของเขาด้วย….”
 “แล้วชีวิตตัวเองไม่ห่วงบ้างหรือไง…..ห่วงแต่คนอื่น”
 “ผมไม่เป็นไรแล้ว อาการก็…ไม่กำเริบอะไรแล้วนะครับ…ผมยังทนได้ นะครับพี่หมอขอเวลาผมอีกนิดนึง”
 “พี่ไม่อยากทำแบบนี้เลยรู้ไหมพี่อยากจะลักพาหอมไปรักษาทุกเมื่อแต่หอมคงเสียใจแน่…...”พี่หมอยิ้มแต่แฝงไปด้วยความเศร้าก่อนจะขับรถออกไป
 ผมมองจนรถลับสายตา “ขอโทษและขอบคุณมากนะครับสำหรับทุกอย่าง”
 ผมเดินเข้าไปในบ้านแต่กลับไม่เจอพี่คิงส์
 “พี่คิงส์….”ผมหาเขาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอจนได้ยินเสียงหลังบ้าน เห็นกำลังตั้งอกตั้งใจจะซักผ้าต่อ
 “ทำอะไรครับ”
 “พี่ยังซักผ้าไม่เสร็จเลย”
 “พอเถอะครับ ที่จริงผมควรต้องทำ”
 “ไม่เป็นไรพี่ทำได้” ไม่พูดเปล่ายังพยายามก้มที่จะซักทั้งๆที่ก้มยากแบบนี้
 “พี่คิงส์…..พอเถอะครับ”
 “ไม่เป็นไรพี่มาอยู่บ้านหอมพี่ก็ต้องทำงาน….”
 “มองตาผม” ผมจับใบหน้าพี่คิงส์ให้สบตาเขาพยายามจะหลบสายตา เขาเปลี่ยนไป…..ดูกลัวๆ
 “ทำไมพี่ถึง……”
“พี่ขอโทษ พี่ไม่กล้าที่จะสู้หน้าหอมอะไรได้อีกแล้ว   สะ…สภาพพี่กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ทั้งพี่ยังไร้บ้าน ไม่มีอะไรอีกแล้ว และพี่…เคยเป็นขอทาน พี่…”
 ผมถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นปล่อยให้พี่คิงส์นั่งอยู่แบบนั้นคนเดียว ก่อนที่ผมจะกลับมาพร้อมกับใบมีดโกน
 “หอม…..”
 “เดี๋ยวผมจะโกนหนวดให้นะครับ หนวดเครารุงรังหมดแล้ว”
 “ไม่เป็นไรหรอก พี่ทำเองนะ”
 “ผมอยากทำให้ครับ” ผมทาครีมและค่อยๆโกนหนวดเคราที่รุงรังออก นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่เคยทำแบบนี้ให้…นานมากจริงๆ
 หมับ…..มือผมถูกจับพี่คิงส์จ้องตาผมนัยน์ตาสื่อความหมายหลายอย่าง
 “อย่าจับสิครับเดี๋ยวจะถูกมีดบาดนะครับ” พี่คิงส์ทำตามแต่โดยดี ใช้เวลานานพอสมควรถึงโกนหนวดเสร็จ
 ใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่ได้เห็นมานานปรากฏขึ้นอีกครั้ง
 “หล่อเหมือนเดิมนะครับ”
 พี่คิงส์จับคางตัวเองที่ค่อนข้างเรียบเหมือนเดิมแม้จะมีรอยสากบ้างแต่ก็ดีกว่าเดิมมาก
 “ไม่ว่าพี่จะเป็นอะไรยังไง ต่อให้จน พิการ เป็นขอทาน พี่ก็คือพี่คิงส์…..เพราะฉะนั้นกลับมาเป็นคนเดิมเถอะครับกลับมาเป็นเสาหลักให้ผมและลูก”
 ฟึ่บ
 อุบ
 ลำแขนแกร่งฉุดผมเข้าอ้อมกอดก่อนจะฉกฉวยจูบอย่างกระหาย
 “พะ…พี่...อื้อ!”
 เนิ่นนานกว่าจูบที่ล้วงลึกนั้นจะผละผมออก
“แฮ่กๆๆ”
 “พี่ขอโทษนะเป็นยังไงบ้าง”
 “แฮ่กๆ จะ..จู่ๆ ก็จูบ..ผม…ผมก็ตกใจสิครับ”
 “พี่อยากจูบ นานแล้วที่พี่ไม่ได้ทำแบบนี้ พี่คิดถึงสัมผัสทุกอย่างของหอมนะ”
ผมยิ้มแล้วลูบไล้ใบหน้าอีกฝ่าย แต่เสียงแม่ดังขึ้นก่อน
 “หอม”
 “มะ....มีอะไรเหรอครับแม่”
 แม่มีสีหน้ากังวล “ลินดามาที่นี่”
 “ว่าไงนะครับ!” พี่คิงส์เป็นฝ่ายถาม ก่อนที่จะรีบพาตัวเองไปทันที
หัวข้อ: ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:37:14
“มาทำไม” พี่คิงส์ถามเสียงกร้าวเมื่อหญิงสาวในชุดหรูหราสวมแว่นตาดำยืนอยู่อีกฟากของรั้วบ้านขนาดเตี้ยและมีชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนยืนขนาบข้างอยู่ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่แค่คนติดตามธรรมดา
 “กว่าจะหาตัวเจอ ที่ไหนได้มาขลุกอยู่กับเมียเก่า”
 “แล้วจะหาตัวฉันทำไม! ยังจะหน้าด้านมาให้ฉันเห็นหน้าอีก” พี่คิงส์ต่อว่าทำเอาลินดาหน้าเสีย เพราะเธอคงไม่เคยโดนผู้ชายด่า
 “พิการแล้วยังปากดีอีกนะ ไอ้ง่อยเอ๊ย”
 พี่คิงส์กำหมัดแน่น ถ้าพี่เขาลุกได้คงต่อยคว่ำไปแล้ว
 “คุณมาทำอะไรที่บ้านผม” ผมเป็นฝ่ายถามเพื่อยุติทุกอย่างก่อนที่พี่คิงส์จะโมโหไปมากกว่านี้
 “อีกระเทย หึ! มึงนี่น่าสมเพช ถูกผัวทิ้งยังจะมาเลี้ยงดูมันอีกคนดีเหลือเกินนะมึงน่ะ!”
 “แล้วคนชั่วๆอย่างคุณมาทำอะไรหน้าบ้านคนดีๆแบบผมล่ะครับ”
“กะ..แก กรี๊ดด! แกนั่นแหละชั่ว!แกฆ่าลูกของฉันแกมันสารเลว!”
 ผมหยุดนิ่งกัดฟันกรอด ใช่ ผมผิดผมไม่เถียงและมันจะเป็นความผิดที่ติดตัวผมไปตลอดชีวิต…..
 หมับ มือหนากุมมือผมไว้แน่นก่อนจะหันไปถามลินดาอีก
 “สรุปเธอมาทำไม”
 “ฉันก็ไม่ได้อยากมานักหรอกนะ แต่จะเอาใบนี้มาให้ดู” พูดพลางให้หนึ่งในผู้ชายยื่นกระดาษให้พี่คิงส์
 “ฉันขายบริษัททิ้งไปแล้ว”
 พี่คิงส์อ่านเอกสารตัวสั่นเทิ้ม กำมือแน่นด้วยความโกรธ
“เธอ! สารเลว!”พี่คิงส์จะลุกแต่ก็ทำไม่ได้ ดวงตาเขาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา
“บริษัทนั่นพ่อฉันสร้างมันมากับมือแต่เธอกลับ!...” เขาโกรธจนพูดไม่ออกมือกำแน่นจนสั่นสะท้าน กัดฟันกรอด
“โกรธฉันเหรอแน่จริงแกลุกมาตบฉันสิไอ้ง่อย ฮ่าๆๆ” ลินดายิ้มแล้วหัวเราะหยันจนผมอยากจะเข้าไปตบเธอจริงๆ
 “รีบๆออกไปเลยนะ นางบ้า!” แม่ผมมาพร้อมกับขันน้ำในมือ
 “ออกไปจากหน้าบ้านฉันเลยนะ! ไป!”
 “นี่แก!”
 “ถ้าไม่ไปฉันจะสะ….”
 “กรี๊ดดดด”
เพี๊ยะ!
“อีลินดา!”
ยังไม่ทันที่แม่ผมจะพูดจบ คุณนายที่มาเห็นเหตุการณ์พอดีรีบเดินออกไปก่อนจะกระชากจิกหัวลินดาและตบจนเธอล้มลงทั้งยังตามคร่อมแล้วตบหลายต่อหลายครั้ง พวกผมอึ้งเพราะเหตุการณ์ไวมาก จะไปห้ามแต่แม่ก็รั้งไว้จึงทำได้แต่ดู โดยมีแม่ยืนเชียร์
 “กรี๊ดๆๆ ช่วยด้วย”
 “อีเลว อีลินดา กูจะตบมึงให้หายหน้าด้านเลย หน้าอย่างนี้ใช่ไหมที่แย่งผัวกูไป หน้าแบบนี้ใช่ไหมที่โกงสมบัติกู”
 เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
 “ช่วยด้วย ยืนบื้อทำไม กรี๊ดดด”
 ผู้ชายสองคนที่ยืนเงอะงะรีบเข้าไปดึงคุณนายออก พวกก็รีบไปช่วยคุณนายเช่นกัน
 “อีแก่!  แก ฉันจะแจ้งตำรวจ!” ลินดาที่ตอนนี้ใบหน้าแดงช้ำ ผมกระเซิง ถูกชายหนุ่มสองคนช่วยพยุง
 “เอาซี่ แจ้งเลยจะได้บอกเลยว่ามึงบุกรุก! มาก่อความวุ่นวาย!  พูดแล้วคันมืออยากตบอีก อีโสเภณี!”
 “กรี๊ดดดดดด”
 พี่คิงส์จับมือแม่ตัวเองไว้ “แม่ครับพอเถอะ”
 “คิงส์แม่ล่ะอยากตบหนังหน้ามันอีก”
 “อีกแก่!  ล่มจมยังไม่พอใช่ไหมฮะ”
 “ทำไม ล่มจมแล้วตบคนไม่ได้หรือไง”
 “แก! กรี๊ดดด! ฉันจะ....”
ซ่า!! พูดไม่ทันจบแม่ผมก็เอาน้ำในขันสาดทันที พวกผมอึ้งมองแม่ตาค้าง
ลินดาอึ้งกว่าสภาพเธอเปียกไปทั้งตัว ค้างนานก่อนจะกรีดร้องลั่น
 “กรี๊ดดดดดดด แกอีแก่ พวกมึง พวกมึง! ที่รักจัดการพวกมันซะ” หันไปบอกชายหนุ่มสองคน
 “เข้ามาสิครับผมจะได้แจ้งตำรวจ” ผมพูดแล้วยกโทรศัพท์ขู่
 ทั้งสองคนเลยหยุดชะงัก
 “ทำไมไม่เข้าไปล่ะ! กรี๊ดดดดด โถ่เอ๊ย ไร้ประโยชน์! ฝากไว้ก่อนเถอะพวกมึง!” พูดจบรีบขึ้นรถแล้วจากไป
 ผมถอนหายใจโล่งอก เมื่อเหตุการณ์สงบลง
 “ไม่เบานี่คุณ” คุณนายเอ่ยชมแม่
 แม่ยิ้ม “คุณนั่นแหละเยี่ยมกว่าเล่นซะนางนั่นหน้าบวมไปเลย”
 “หึ เธอก็ใช่เล่นนะ”
 ทั้งสองคนยิ้มให้กัน แล้วจับมือเป็นพันธมิตรโดยสมบูรณ์
 “แล้วมันมาทำไมเหรอคิงส์” คุณนายเอ่ยถาม
พี่คิงส์เม้มปากแน่นคอตก “มันขายบริษัทแล้วครับ”
คุณนายเบิกตากว้างน้ำตาคลอหน่วยแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร “ช่างเถอะตอนนี้แม่ปลงทุกอย่างแล้ว…ช่างมันเถอะนะ” พูดแล้วกอดพี่คิงส์แน่น
 พี่คิงส์พยักหน้ารับว่าตนเองไม่เป็นไร คุณนายหันมามองผมแล้วเดินมาหา
 “หอม….เรื่องที่ฉันพูด….กับเธอ….”
 ผมยิ้มแล้วจับมือคุณนาย “ครับ….ผมได้คุยกับพี่คิงส์แล้ว….เรากำลังปรับความเข้าใจกันครับ….”
 คุณนายยิ้ม
 แม่ก็ปริ่มตาม
 ส่วนพ่อที่เพิ่งมาหลังจากปลอบหมูหันก็เข้ามาโอบบ่าแม่แล้วยิ้ม
“ขอบใจเธอมากนะหอม...ขอบใจจริงๆ...ที่เข้าใจ….”
 …………………………………
 ผมมองหมูหันที่ยังคงเล่นรถของเล่นโดยที่ไม่สนใจผมสักนิด แม้ว่าผมจะพยายามขอโทษและชวนคุย
 “หมูหัน…..”
 “บรื้นนนนน”
 “แม่ขอโทษ......หนูเจ็บแก้มมากไหม”
 ยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจผม
 “แม่จะไม่ห้ามให้หนูเล่นกับพ่อแล้วนะ”
 หมูหันหันมามอง แก้มยังมีรอยแดงจนผมอดที่จะโทษตัวเองอีกไม่ได้
“จริงหรอครับ!”
 “จริงสิ”
 “เย่! งั้นผมหายโกรธล่ะ”
 ผมจับแก้มลูกแล้วจูบลงเบาๆ "แม่ขอโทษนะที่ทำหนูเจ็บ"
 “แค่นี้จิ๊บๆน่า  ลูกผู้ชายต้องอดทน!”
 เสียงรถเข็นทำให้ผมและหมูหันหันไปมอง
 “พ่อ!” หมูหันพุ่งไปกอดเต็มรัก “แม่ให้ผมเล่นกับพ่อแล้ว เย่ๆ!!”
 “แล้วจะเล่นอะไรกับพ่อล่ะฮึ”
 “ซุปเปอร์แมน!”
 “เล่นยังไงล่ะ”
“ก็นี่ไงทำแขนแบบนี้เอาผ้าคลุมมาผูกตรงคอแล้วก็ บิน!” หมูหันทำท่าวิ่งไปทั่ว 
 “พ่อขอโทษนะพ่อเล่นไม่ได้หรอก…พ่อ...วิ่งไม่ได้” พี่คิงส์ยิ้มเศร้า
 หมูหันทำหน้าผิดหวัง “แล้วทำไมพ่อไม่ลุกล่ะ”
 พี่คิงส์มีสีหน้าเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
 “คือพ่อ…”
 “มาเล่นกับตาดีกว่า” พ่อที่จู่ๆก็มา พูดพลางเอาผ้ามาคลุมหลัง
 “พ่อเขาไม่สบายน่ะ มาเล่นกับตาดีไหม”
 “อ้าว….พ่อไม่สบายหรอ” หมูหันเดินมาหาแล้วจับมือพี่คิงส์ “หายไวๆนะครับแล้วมาเล่นกับผม”
 พี่คิงส์นิ่งงันก่อนจะพยักหน้ารับปากอย่างจำใจ
 หมูหันยิ้มร่าแล้วไปเล่นกับพ่อของผม
 ผมโอบคอพี่คิงส์จากด้านหลังพลางปลอบโยน
 “เดี๋ยวพี่คิงส์ก็หาย….พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลเพื่อไปทำกายภาพบำบัดนะครับ…ผมจะลางานแล้วจะพาไป”
 “พี่ไม่หายหรอก..”
 “หายสิครับ พี่ต้องหาย…..พี่เห็นไหมครับสนามหญ้าตรงนั้น พี่ไม่อยากที่จะเหยียบย่ำมันอีกครั้งเหรอครับ….ถ้าพี่อยากสัมผัสมันพี่ต้องเข้มแข็งแล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน”
 มือหนาจับมือผมเเล้วจูบ ก่อนจะพยักหน้ารับ....
 หลังจากนั้นผมก็พาพี่คิงส์เข้ามาในบ้านเพื่อที่จะพามาทานอาหารเช้าที่ตอนนี้เป็นอาหารกลางวันสำหรับพี่คิงส์เรียบร้อยแล้ว
 ผมจับหน้าอกตัวรู้สึกปวดขึ้นมาดื้อๆจนแทบจะทำกับข้าวที่นำมาให้พี่คิงส์หล่น
 “น่ากินทั้งนั้นเลย หอมทำเหรอ”
“ปะ..เปล่าครับ แม่ทำน่ะครับ”
 “เหรอ อ้าวแล้วจานข้าวหอมล่ะ”
 “มะ….ไม่หิวน่ะครับ อะ..เอ่อ ผมขอตัว ขะ….เข้าห้องน้ำก่อนนะครับ…”ผมรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทรุดตัวลงเพราะไม่ใช่แค่ตรงอกที่เจ็บแต่ภายในร่างกายผมนั้นเจ็บไปหมด
 “อึก….อ่อก…พรวดดดด”
 ผมมองเลือดที่ทะลักออกมาจากปากและกระจายอยู่บนฝ่ามือของผมอย่างตะลึง
 “แค่กๆ..ๆ..มะ..ไม่จริง เเค่กๆ...ยังจะตายไม่ได้ ยังไม่อยากตายตอนนี้ ฮึก..ก..ก..”ผมกอดตัวเองพยายามฝืนทนอาการเจ็บปวด
 “จะ…เจ็บ” ภายในร่างกายปวดเหมือนทุกอย่างกำลังบิดเบี้ยว
 ก๊อกๆ..ๆ..
 “หอมเป็นอะไรหรือเปล่า จู่ๆก็วิ่งมา” พี่คิงส์เคาะประตูจนทำให้ผมสะดุ้งเฮือก
 พยายามฝืนตอบ “ปะ..เปล่าครับ แค่…แค่ปวดท้อง”
 “กินยาไหมพี่จะหาให้”
 “มะ..ไม่เป็นไรครับ ผม....สบายดี พี่ไปกินข้าวต่อเถอะเดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะนะครับ”
 “……งั้นพี่ไปกินข้าวนะ….ถ้าเป็นอะไรต้องบอกพี่นะ”
 “คะ..ครับ”
 หลังจากที่ข้างนอกเงียบสนิทแน่ใจว่าพี่คิงส์ไปแล้ว ผมก็ค่อยๆพยุงตัวเองอย่างลำบาก มองตัวเองในกระจกที่มีเลือดไหลตรงปาก เลือดกระจายเปื้อนเสื้อผ้าและลำคอ
 “ฮึก..ก…ก…ยังไม่อยากตายตอนนี้  ผมยังไม่อยากตาย….ขอให้ผมได้อยู่ดูลูกโตมากกว่านี้เถอะ….ขอให้ผมได้มีความสุขก่อน….”
 

หัวข้อ: ตอนที่ 27
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:37:57
 “โอ๊ยยย เบาๆสิแก้มฉันก็ระบมหนักกว่าเดิมสิ!”
“ขะ…ขอโทษค่ะคุณลินดา”
 “เพราะพวกมันแท้ๆ ฉันจะแก้แค้น! อูยยยยย”
 ชายหนุ่มสองคนเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมกัน  ลินดาสั่งให้คนรับใช้ออกไปก่อน
 “กว่าจะตื่นนะ”เธอพูดพลางกอดอกไม่พอใจ
 “ขอโทษนะครับลินดา”
 “อย่าโกรธพวกเราเลยนะ”
 “โกรธสิเมื่อวานไม่เห็นช่วยลินดาเลย ดูสิ ทั้งปากทั้งหน้าแหกไปหมดแล้วเนี่ย”
 “เอ่อ….ขอโทษนะครับ อย่าโกรธพวกเราเลยนะ” ทศพูดพลางซุกไซร้ลำคอขาว ส่วนริดก็ไถ่โทษโดยการพรมจูบแขนเรียว
ทศและริดมองตากันต่างฝ่ายต่างมองอย่างไม่สบอารมณ์เหมือนกับว่าหึงกันและกัน!
 ……………………………………………………………..
 วันต่อมา
 “หมอบีบตรงนี้รู้สึกไหมคะ”
 “รู้สึกนิดๆครับ” พี่คิงส์เอ่ยบอกหมอสาว
 หมอยิ้ม  "หากเป็นแบบนี้มีโอกาสหายนะคะ เพราะขายังมีความรู้สึกยู่…..ถ้ายังไงหมออยากให้คุณพาคนไข้มาทำกายภาพบำบัดทุกวันนะคะ"
"จริงเหรอครับ คุณหมอช่วยพี่คิงส์ด้วยนะครับ" ผมจับมือพี่คิงส์ยินดี พี่คิงส์ก็ยิ้มหน้าบาน
 “ค่ะ นี่ตารางการทำกายภาพบำบัดนะคะ ทำที่บ้านก็ได้ค่ะแต่ว่าพอถึงเวลาต้องมาที่โรงพยาบาลนะคะ”หลังจากนั้นหมอก็ให้พี่คิงส์เริ่มทำกายภาพบำบัด บุรุษพยาบาลช่วยพยุงให้พี่คิงส์นอนบนเตียง ก่อนที่หมอสาวจะเริ่มให้พี่คิงส์ทำตาม โดยให้ค่อยๆขยับขาเท่าที่จะทำได้ งอขา ขยับขา ผมมองการกระทำอย่างใจจดใจจ่อ แม้จะนานพอสมควรกว่าพี่คิงส์จะพยายามขยับขาได้แต่แค่นี้ก็มีหวังแล้ว
หลังจากทำกายภาพบำบัดเสร็จผมก็พาพี่เขากลับบ้าน
“นี่เธอเพิ่งหายป่วยนะ อย่าเพิ่งลุกมาจับโน่นทำนี่สิ” เสียงคุณนายเอ่ยขึ้นคงเพราะป้าเนียนที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลลุกมาทำอะไรบางอย่างแน่ๆ
 “คุณนายคะ เนียนหายป่วยแล้วค่ะ เนียนอยากทำอะไรเพื่อทุกคนบ้าง”
 “เธอเนี่ยนะ”
 “ให้เนียนทำอะไรบ้างนะคะ…ได้ไหมคุณมะลิ”
 “เเน่นะคะว่าหายดีแล้ว คุณแก่แล้วน่าจะพักนะคะ”
 “ต๊ายยย แก่ที่ไหนกันยังแข็งแรงดี”
 “งั้นเข้าครัวกันเลยค่ะ” พูดจบแม่กับป้าเนียนก็เข้าไปในครัว
 “มีอะไรหรือครับคุณนาย”
 “ก็เนียนน่ะสิ บอกว่าจะทำขนมขาย เฮ้อ….แก่แล้วก็น่าจะพักบ้างนะ”
 “งั้นเหรอครับ….เพิ่งออกจากโรงพยาบาลวันนี้เอง”
 “อ้อ หอม”
 “ครับ”
 “เมื่อกี้นี้เรียกฉันว่าอะไรนะ”
“คุณนายครับ”
 “เฮ้อ…นั่นสินะเธอเรียกฉันแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มคบกับตาคิงส์ใหม่ๆนี่นะ เพราะฉันเป็นคนบอกให้เรียก….หอม….ต่อไปนี้เธอไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณนายแล้วนะ เธอเรียกฉันว่าแม่เถอะ”
 ผมอึ้ง คุณแม่เหรอ…คุณนายให้ผมเรียก
 “เอ่อ…จะ….จะดีเหรอครับ ผม….”
 “หอมมาถึงขั้นนี้แล้วจะกลัวอะไรอีกล่ะฮึ ตอนนี้เธอเองก็เหมือนลูกของฉันคนหนึ่งนะ”
 “คุณนาย….”
 “เรียกใหม่”
 “คุณแม่…”
 คุณแม่กอดผมแล้วตบหลังเบาๆ
 "ฉันนี่โง่จริงๆที่เพิ่งรู้ตัวป่านนี้…..ทำให้เธอเสียใจมาหลายปี…..ถ้าฉันรู้ตัวเร็วกว่านี้ก็ดีสินะ เธอและลูกจะได้สบาย….ฉันคงมีความสุขได้มองหลานวิ่งเล่นในบ้านนานแล้ว”
 “คุณ…แม่…..”
 พี่คิงส์มองผมยิ้มให้เเล้วชูสองนิ้วสู้ๆ
 ………………………………………………….
 “ยิ้มอะไรเหรอหอม”  พี่แอนเจ้าของกิจการที่ผมทำงานด้วยเอ่ยทัก
“นิดหน่อยน่ะครับ”
 “แหนะ…คิดถึงที่รักอยู่ใช่ไหมล่ะ”
 “ก็…..”
 “ใช่ล่ะสิ”
 “พี่แอนก็….ชอบล้อผมอยู่เรื่อยเลย”
 “ก็จริงนี่” พูดพลางวางแก้วกาแฟให้ตรงหน้า
 “เดี๋ยวนี้หอมน่ะ ดูสดใสขึ้นมากเลยนะ เพราะคนรักอยู่ใกล้ใช่หรือเปล่า”
 “ก็คงเป็นอย่างงั้นมั้งครับ” ผมยิ้มรับ
แต่จู่ๆโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นชื่อที่ปรากฎที่หน้าจอทำให้ผมเบิกตากว้าง…
…………………………………………………………………………
 “ว่าไงนะ ออกไปจากที่นี่แล้วเหรอ”
 “เอ่อ…..ค่ะคุณลินดา ผู้ชายสองคนนั้นออกจากบ้านไปแล้วค่ะ”
 ลินดาอ้าปากค้าง จุกจนพูดไม่ออก  โดนหักหลังได้เจ็บแสบ!
 “ทำไมแกไม่ห้ามฮะ พวกแกด้วย ยืนเอ๋อทำไมไม่ห้าม!”
 เหล่าคนใช้สะดุ้งเฮือกไม่กล้าสบตา
 “กะ…” ลินดากำหมัดแน่นเล็บจิกเข้าเนื้อ “ทรยศฉันเหรอ ไอ้พวก……เอ๊ย! กรี๊ดดดดด”
“คะ..คุณลินดาคะ ตำรวจมาขอพบค่ะ!”
“อะไรนะ” ลินดาเบิกตากว้าง
ตำรวจหลายนายเดินเข้ามาในบ้าน ลินดาใจเต้นตึกตักด้วยความกลัวว่าจะถูกจับพิรุธได้
“มะ..มีอะไรคะ”
“ผลการตรวจ DNA ที่คุณต้องการให้ตรวจจากศพออกมาแล้วครับ…..ศพนั้นไม่ใช่ของคุณโชคชัยและตอนนี้มีคนนำคุณโชคชัยมาที่โรงพยาบาลแล้วครับ”
ลินดาเบิกตากว้างแทบถลนออกมา เนื้อตัวสั่น “มะ...ไม่จริง…”
 ………………………………………………………….
 “จริงเหรอหอม!” คิงส์ยิ้มอย่างดีใจจนน้ำตาไหลออกมาทำให้พิสมัยที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยถาม
 “หะ…หอมโทรมาทำไมเหรอคิงส์” ถามเพราะเห็นคิงส์ยิ้มทั้งน้ำตา
 “หอมโทรมาบอกว่า พ่อ..พ่อยังไม่ตายครับ!”
 “อะไรนะ….จริงเหรอ!” พิสมัยแทบสิ้นสติสามีของเธอยังไม่ตาย…เธอร้องไห้หนักกว่าลูกชายหลายเท่า
“ครับ...หอมบอกว่ามีคนใช้โทรศัพท์พ่อโทรหาว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่…”
จากนั้นคิงส์ก็เล่าตามที่หอมบอกทุกอย่าง ว่าโชคชัยเกือบถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของคนที่ลินดาจ้างแต่มีคนช่วยไว้ทันและด้วยความกลัวลินดาคนที่ถูกจ้างเลยขอร้องเขาโดยการนำเสื้อผ้าโชคชัยไปให้ศพไร้ญาติที่วัดหนึ่งสวมใส่แทนแล้วอ้างว่าเป็นศพโชคชัย….ตอนแรกเขาจะพาโชคชัยกลับบ้านแต่ทางเขาเกิดปัญหานิดหน่อยเลยพามาไม่ได้และตอนนี้โชคชัยอยู่โรงพยาบาลเพราะความเครียด
ทุกอย่างที่ร่ายออกมาจากปากคิงส์ทำให้พิสมัยร้องไห้โฮพร้อมกับกำมือแน่น
“อีลินดา!...มันนั่นเองที่เป็นฆาตกรตัวจริงทำไมมันเลวขนาดนี้!”
คิงส์เองก็คาดไม่ถึงว่าลินดาจะเลวขนาดนี้เช่นกันกล้าแม้กระทั่งสั่งฆ่าคน
 “คิงส์..ระ..เรารีบไปหาพ่อกัน…แม่อยากไปหาพ่อ ฮึก..ก..”
 “แม่ไม่โกรธพ่อเหรอครับ”
“แม่ไม่เชื่อว่าพ่อเขาจะทำร้ายเรา…ต้องเป็นแผนพวกมันแน่นอน”
คิงส์พยักหน้า “แต่หอมบอกว่าอยากไปด้วยน่ะครับ พวกเรารอหอมก่อนดีกว่าครับ”
“อืม….”
หัวข้อ: ตอนที่ 28
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:38:41
ลินดามองตัวเองในกระจกกระชับเสื้อคลุมแน่นเส้นเลือดที่ขมับตึงเปรี๊ยะด้วยความเครียด เธอเช็ดน้ำตาที่หลั่งออกมาดื้อๆ
 “ทำไมมันไม่ตาย…ทะ…ทำไม…” เธอกล่าวเสียงสั่น ในมือกระชับมีดสั้นแน่นเพราะวันนี้เธอตั้งใจจะไปสังหารโชคชัยให้ตายจริงๆ!
 RRrRRR เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  ลินดารีบกดรับ
 “แม่…แม่อยู่ที่ไหนเนี่ย ทำไมไม่กลับบ้านสักที…รู้ไหมว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว…”
 “ละ..ลินดา ชะ..ช่วยแม่ด้วย”
 “แม่อยู่ที่ไหน! เกิดอะไรขึ้น!”
 “ฮึก..ก..พวกมัน จับตัวแม่ไว้ มันบอกว่าถ้าแม่ไม่ให้เงินมัน มันจะไม่ปล่อยแม่ ฮึก..ก…ลินดาโอนเงินมาให้แม่นะ”
 “นี่แม่เล่นเสียอีกแล้วเหรอ….เสียเท่าไรอีก”
ลดาพูดตอบเสียงสั่นจำนวนเงินหลายหลักทำให้ลินดานิ่งค้าง
“ทำไมแม่เล่นเสียขนาดนี้!..หนูจะไปเอาเงินที่ไหน..ตอนนี้มันกลับมาแล้วมันยังไม่ตาย!..ทุกอย่างถูกระงับหมดเลย!”
“ชะ..ช่วยแม่ด้วย…ฮึก..ก...แม่กลัวนะ มันขู่จะฆ่าแม่ด้วยถ้าแม่ไม่จ่ายเงินภายในวันนี้”
 “วันนี้!?”  ลินดากำโทรศัพท์แน่น  “วันนี้หนูจะโอนไปให้ ถ้าทำสำเร็จ…”
 “ทำอะไรเหรอลูก….”
“ฆ่าคน..”
 “ว่าไงนะ! หนูจะฆ่าใคร”
 “....แม่…แม่รอนะ เดี๋ยวหนูจะโอนไปให้”
 “จ้ะๆ แค่วันนี้เท่านั้นนะ หนูโอนมาให้แม่นะ ว๊ายยยย” สายถูกตัดออกไป
 “แม่! แม่!  โถ่เอ๊ย!” ลินดากำมือแน่น
 ก่อนจะรีบพาตัวเองไปยังเป้าหมายทันที เมื่อพ้นสายตาเหล่าคนใช้ก็โทรบอกตำรวจเพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวของลินดา
 “ฉันมาขอเยี่ยมคุณโชคชัยค่ะ”
 พยาบาลสาวยิ้มรับ  “ถ้าอย่างนั้นเชิญด้านนี้นะคะ” ลินดาทำตามที่บอกและเดินตามพยาบาลสาวไปในตึกหนึ่งซึ่งแปลกเพราะว่าไม่มีคนไข้คนอื่นอยู่เลย เมื่อถึงหน้าห้องพยาบาลสาวก็เอ่ยอีกครั้ง
 “เวลาเยี่ยม 10 นาทีนะคะ” พูดจบพยาบาลก็เดินจากไป ลินดาเข้าไปในห้องมองไปที่เตียงที่มีร่างๆหนึ่งนอนหลับอยู่
เธอยิ้มแสยะ  “ไงคะคุณโชคชัย….ลินดาเองค่ะไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
 ‘…..’
 “ทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่ทำไมไม่ตายไปซะ!...ถ้าคุณไม่เย็นชากับฉันก่อนแล้วรีบยกสมบัติให้ฉัน…บางทีฉันอาจจะเก็บคุณไว้ก็ได้…แต่ไม่!….คุณกลับทำสิ่งที่ตรงข้ามทั้งหมด!...คนอย่างคุณต้องให้ฉันฆ่าอีกกี่ครั้งถึงจะตาย!”
 มือเรียวค่อยๆหยิบมีดออกมาจากเสื้อคลุม
 “ตายซะเถอะ!”
“หยุดอยู่แค่นั้นล่ะ คุณลินดา”
 ลินดาหยุดชะงัก ไม่ทันที่จะได้หันไปมอง ตำรวจก็เข้าชาร์ตทันที
 “กรี๊ดดดดด”
 เธอถูกจับตัวและถูกพาออกมาจากห้องนั้นทันที
 “ปล่อย! เกิดอะไรขึ้น! แกมาจับฉันทำไม!” ลินดาพยายามดิ้นจากการเกาะกุม
ลินดามองมือตัวเองที่กำลังจะถูกคล้องกุญแจมือ
“ผมขอจับคุณในข้อ….”
เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายดิ้นหนีและตัดสินใจแย่งปืนจากตำรวจอย่างสุดฤทธิ์และเธอก็ทำสำเร็จ
 “อย่าขยับไม่งั้นฉันยิงแน่!” เธอยกปืนขู่ ก่อนจะค่อยๆเดินหนีทั้งๆที่มือยังคงกวาดปืนไปทั่ว ตำรวจนิ่งเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในโรงพยาบาล ก่อนจะรีบติดตามเมื่อเธอวิ่งหนีออกไป
 “ฉันไม่ยอม ฉันจะต้องไม่ถูกจับง่ายๆแบบนี้”เธอจะวิ่งไปที่รถตัวเอง แต่กลับมีตำรวจเฝ้าอยู่
 เธอทรุดตัวแอบข้างตึก  “ช..ช่วยด้วย ใครก็ได้ ฮึก..ก…แม่…พ่อ…ช่วยลินดาด้วย” นึกขึ้นได้เธอก็รีบโทรหา แต่กลับปรากฎร่างของตำรวจที่เจอเธอเข้า
 ปัง!
 ลินดายิงทันทีเพราะความตกใจและกลัว
 “มะ..ไม่จริง” เธอมองร่างของตำรวจที่ล้มลง มองมือตัวเองที่เป็นคนลั่นไก
 “ฉะ..ฉันไม่ได้ทำ” เธอจะวิ่งหนีแต่ตำรวจหลายนายปรากฏตัวอีกครั้ง
 “หยุด! แล้ววางปืนลงซะไม่อย่างนั้นผมจะยิง!”
“ไม่!  ถ้าเข้ามา ฉันจะยิงเหมือนกับตำรวจคนนี้!” เธอยังพูดข่มขู่ ทั้งที่ในใจเธอสั่นกลัวแต่ยังยกปืนกวาดขู่ไปทั่ว
 “วางปืนลงซะ”
 “ไม่! อย่าเข้ามา! ฮึก..ก...ก” เธอยกปืนไปที่หมอเเละพยาบาลที่จะไปหาคนเจ็บ
 “คุณใจเย็นๆ ถ้าคุณมอบตัวตอนนี้โทษหนักจะกลายเป็นเบา…..คุณยอมให้หมอไปหาตำรวจที่นอนเจ็บเถอะครับ ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาคุณจะโดนข้อหาหนักกว่าเดิม”
 “ไม่! พวกแกจะหลอกฉันอีกล่ะสิเพราะอีกระเทยนั่นใช่ไหม เพราะพวกมันใช่ไหม!พวกมึงอยู่ไหนออกมาเลย อีตัววางแผนทั้งหมด พวกมึงออกมา!” ลินดากรีดร้องลั่น
 “วางปืนลงเถอะครับ….”
 “ไม่! ฉันไม่ยอมติดคุกง่ายๆไม่มีทาง! คนอย่างฉัน….ไม่มีวันมีจุดจบแบบนี้!”
 “คุณมอบตัวเถอะ คุณอาจจะพ้นผิดทนายจะช่วยคุณเอง….” ตำรวจยังคงเกลี้ยกล่อม
 ลินดาร้องไห้หนัก เธอสับสนไม่รู้จะทำยังไง เธอลดปืนลงช้าๆ ตำรวจค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอเมื่อเห็นเธอเริ่มลดปืนลง
 “มะ….ไม่….ฉัน….ไม่อยากติดคุก….ฉัน…..ฉันไม่ยอม!”
 ปัง! เธอยกปืนยิงทันที จนตำรวจนายนั้นล้มลง
 ปัง! และกระสุนนัดต่อมาคือกระสุนที่ทะลุผ่านร่างกายของเธอ
 ร่างของลินดาล้มลง  ตาค้าง…..
 “อัก..!  มะ..ไม่…ฉะ..ฉัน..ไม่อยากตาย….อัก!” เธอกระอักเลือดกระจายเต็มหน้าและลำคอ หมอและพยาบาลรีบวิ่งมาช่วยเธอ ลินดายังคงตาค้าง น้ำตาไหลตลอดเวลา
 ‘โตขึ้นลินดาจะเป็นคนดีค่ะ ลินดาอยากเป็นเหมือนพ่อที่ใครๆก็รัก’
 ‘พ่อดีใจนะที่หนูคิดได้ สัญญากับพ่อนะครับคนดี ว่าถ้าหนูโตขึ้นจะเป็นคนดีต่อสังคม ไม่ทำร้ายผู้อื่น’
“ค่ะ ลินดาสัญญาค่ะ”
 คำสัญญาในอดีตผุดขึ้นมาในหัว  หยาดน้ำตาหลั่งรินเมื่อสายเกินไป…..เธอมาคิดได้เมื่อวาระสุดท้ายกำลังจะมาถึง
 “หนูไม่ได้เป็นคนดีตามที่สัญญากับพ่อเลยค่ะ หนูกลายเป็นคนเลว…หนูขอโทษ….ถ้าหนูเจอพ่อ พ่อให้อภัยหนูนะคะ….”เสียงพึมพำจากปากค่อยๆขาดหายพร้อมกับหัวใจที่หยุดเต้น
 ……………………………………………………………………………………..
Part  Ton Hom
 พวกผมรออยู่ที่บ้านได้รับโทรศัพท์จากตำรวจถึงเรื่องราวต่างๆ ทุกคนต่างตกใจเมื่อรับรู้ถึงเหตุการณ์และรู้ว่าลินดาตายแล้ว……พวกผมไม่คิดว่าเรื่องราวจะร้ายแรงขนาดนี้
พวกเรารีบไปที่โรงพยาบาลทันที ได้เห็นตำรวจกำลังพิสูจน์หลักฐานและรอยเลือดสีเข้มที่ผมต้องเบือนหน้าหนี ก่อนจะรีบไปยังห้องที่ทุกคนอยากไปให้ถึงเร็วที่สุด
 “คุณโชคชัย!” คุณแม่ค่อยๆเดินไปหา มือปิดปากน้ำตาไหลไม่ขาดสายเมื่อมองคุณพ่อที่มองมาทางตนพอดี
 “คุณหญิง….”
 แค่เอ่ยเท่านั้น คุณแม่รีบเข้าไปสวมกอด
 “ตาแก่! หนังเหนียวจริงๆ ฮือๆๆ”
 ลำแขนแกร่งค่อยๆโอบกอดตอบ “แช่งผมเหรอ...หึ…ผมขอโทษ...ผมกลับมาแล้ว”
 ผมค่อยๆเข็นรถพี่คิงส์เข้าไปหา
 “พ่อ”
 “คิงส์…..หนูหอม….”
 “ยินดีต้อนรับกลับมานะครับ…” พี่คิงส์เอ่ยแล้วจับมือพ่อมาแนบกับแก้มตัวเอง
“พ่อขอโทษสำหรับทุกอย่าง…ผมขอโทษนะคุณหญิงเรื่องลินดา…ผมขอโทษจริงๆ…” คุณพ่อเอ่ยทั้งน้ำตาคุณแม่พยักหน้าแล้วหอมแก้ม
“ค่ะ….ทีหลังถ้าทำอีกฉันจับตอนจริงๆด้วย”
คุณพ่อหัวเราะแล้วชูนิ้วสาบาน
………………………………………………………….
 1 อาทิตย์ต่อมา
 พิธีศพของลินดาถูกจัดขึ้นเเละจบภายในวันเดียวแม้พวกผมจะพยายามติดต่อคุณลดาผู้เป็นแม่แต่กลับติดต่อไม่ได้จน3วันต่อมาถึงรู้สาเหตุนั้น ตำรวจตระเวนชายแดนพบศพของคุณลดาที่เสียชีวิตมาได้1อาทิตย์แล้ว สันนิษฐานว่าอาจโดนผู้มีอิทธิพลของประเทศเพื่อนบ้านฆ่าตาย
 กรรมช่างตามทันจนน่ากลัว แต่ผมก็คิดว่ามันหนักหนาเกินไป….อยากให้โอกาสพวกเขาบ้าง….ผมเชื่อว่าก่อนที่ทั้งสองคนจะตายต้องกำลังเสียใจที่ตนเองคิดผิดแน่ๆ…..ผมไม่ติดใจอะไรทั้งยังอโหสิกรรมให้และกรวดน้ำให้เสมอเวลาไม่สบายใจ
ส่วนพินัยกรรมคุณพ่อเล่าว่าตอนเขียนนั้นไร้สติ ทุกอย่างจึงเป็นโมฆะ ดังนั้นเรื่องทุกอย่างจึงจบลง คุณเเม่เเละพี่คิงส์ก็สบายใจที่รู้เรื่องราวจากปากคุณพ่อที่ไม่ได้ยกสมบัติให้ลินดา....บริษัทแม้ไม่อาจนำกลับคืนแต่ทุกคนต่างก็ตั้งมั่นที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่…. 
 “ดาวล่ะ ดาว!” หมูหันชี้มือเมื่อเห็นดาวตก ผมที่กำลังนั่งกอดลูกก็มองตามมือน้อยๆ
 “ถ้าเห็นดาวตกเขาให้ขอพรนะ”
 “จริงหรอ! งั้นถ้าเห็นอีกผมจะขอล่ะ”
 “ขอว่าอะไรฮึ หรือขอให้ได้กินขนมเยอะๆ”
 “ไม่ใช่สักหน่อยยย”
 “แล้วขออะไรล่ะ”
 “ขอให้พ่อและแม่อยู่กับผมตลอดไปเลย คุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณย่าด้วย“พูดแล้วหันมาซบอกผมซะงั้น ผมจูบหน้าผากลูกแล้วกอดไว้แน่น
 “หมูหัน…ถ้าแม่ไม่อยู่หนูต้องเข้มเเข็งนะ”
หมูหันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
 "แม่จะไปไหนหรอ..จะทิ้งผมหรอ”
 “เอ่อ..….”
 “ไม่เอา! แม่ห้ามไปไหนนะ ไม่งั้นผมจะโป้งจริงๆด้วย ไม่พูดด้วยอีกแล้วนะ”
 “หมูหัน”
 “ฮึก..ก..ก ไม่เอาๆๆ ไม่ฟังๆๆ” พยายามดิ้นจากอ้อมกอดของผม
 “ฟังแม่ก่อนนะ” ผมจับตัวลูกให้หันมามอง  “แม่ไม่ได้อยากไปไหนแต่ถ้าถึงเวลานั้นหนูต้องเข้มแข็งนะครับ”
 ‘….’
 “เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มเเข็งเหมือนที่หนูเคยพูดใช่ไหม”
 หมูหันน้ำตาคลอ ผมเองก็ไม่ต่างกัน
 “หนูชอบดาวใช่ไหม”
 หมูหันพยักหน้า
 “ถ้าแม่ไม่อยู่ หนูดูดาวบนท้องฟ้านะ..นั่นคือแม่  เเม่จะคอยมองดูหนูจากข้างบนนั้น”
 “แล้วถ้าผมอยากกอดแม่ล่ะ ผมจะทำยังไง…..”
 ผมรวบตัวลูกมากอดแล้วหอมเเก้มรักใคร่ “….นั่นสินะ…..”
 “ทั้งสองคนเข้าบ้านได้แล้วนะ” เสียงคุณแม่เรียก  ผมรีบเช็ดน้ำตาให้ตัวเองและลูก
 “มาทำอะไรในสวน ดึกๆแบบนี้ ยุงกัดตัวลายแล้วมั้ง เข้าบ้านเถอะ “
 “ครับ…”
 “หมูหันมานี่ลูก มาพาย่าเข้าบ้านหน่อย”หมูหันมองมาที่ผมคงเพราะกังวลแต่ก็ค่อยๆเดินไปจับมือคุณแม่
ผมและลูกมาอยู่บ้านพี่คิงส์ได้เกือบเดือนแล้วทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี พี่คิงส์เริ่มจะเดินได้บ้างโดยใช้ไม้ค้ำ แต่ถือว่าฟื้นตัวเร็วมากเมื่อเทียบกับผู้ป่วยคนอื่น
 “คณปู่!” หมูหันวิ่งไปหาคุณพ่อที่กำลังนั่งประดิษฐ์ของเล่นชิ้นใหม่ให้
 “ว้าวววววว  อะไรหรอครับคุณปู่”
 “ว่าวยังไงล่ะ ปู่ประดิษย์เองเลยนะ พรุ่งนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวที่ราบตรงภูเขา ที่นั่นมีลมสำหรับเล่น อากาศก็ดีเหมาะสำหรับจีบกันด้วย ฮ่าๆๆ”
 “เย่ๆๆ  ปู่สอนผมเล่นด้วยนะ”
 “ได้ซี่!”
 หมูหันวิ่งไปมาอย่างตื่นเต้น ท่าทางคงจะลืมเรื่องเมื่อกี้นี้แล้วล่ะ
 ผมยิ้มรับ ก่อนที่พี่คิงส์จะค่อยๆเดินมาหาผมอย่างยากลำบาก
 “ไปที่สวนอีกครั้งไหม”
 ผมพยักหน้ารับ
 “วันนี้ท้องฟ้าสวยดีนะ”
 “ครับ….สวยมาก…..” ผมค่อยๆพยุงให้พี่คิงส์นั่งบนเก้าอี้ เราสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม มือหนาเอื้อมมาจับมือของผม
 “พี่ดีใจที่วันนี้เรามีเรา…พี่รักหอมมากๆ”
 “ผมก็รักพี่ครับ……”
 พี่คิงส์สัมผัสใบหน้าของผม “พี่เลวมากที่ทิ้งหอมและลูก…แต่หอมก็ยังอยู่ข้างๆพี่ ….พี่สัญญาว่าจะดูแลหอมและลูกตลอดไป จะกลับมาเดินให้ได้เหมือนเดิม…เป็นสามีและพ่อที่ดี”
 “ไม่ต้องสัญญาผูกมัดหรอกครับ ขอแค่พี่คิงส์ทำมันด้วยหัวใจก็พอและรักผมรักลูก…ผมไม่ขออะไรอีกเลย…”
“แน่นอนสิ พี่ทำด้วยหัวใจอยู่แล้ว…”
 จุ๊บ  ริมฝีปากจูบลงบนฝ่ามือของผมอย่างแผ่วเบา
 “พี่จะไม่จากไปไหน หอมเองก็อย่า…..จากพี่ไหนเลยนะ……”
 ผมนิ่ง…..ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “…..ครับ…..”
 ………………………………………………………………………….
 หมอหนุ่ม ทรุดตัวลงบนโซฟาเมื่อกลับจากโรงพยาบาล เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความเหนื่อยล้า ….และหัวใจที่ยังไร้คนดูแล
 “ท่าทางเราจะไม่มีดวงด้านนี้จริงๆ คงต้องโสดไปตลอดชีวิตล่ะมั้ง”
 RRRrrRrrr เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาไม่อยากกดรับเแต่ก็ต้องเอื้อมมือไปรับอย่างยากเย็น แต่เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฎเขาก็ยกยิ้มทันที
 “ว่าไงครับ คุณหมอคิวปิด”
 “กว่าจะรับได้นะคุณ”
 “ผมเพิ่งถึงบ้านนี่ครับ..แล้วคุณหมอตัวเล็กโทรหาผมซะดึกทำไมครับ”
 “คิดว่าผมอยากโทรหาคุณนักหรือไง อีกอย่างประเทศผมยังเช้าอยู่เลย…..ที่โทรมาหาคุณเพราะเรื่องแฟนคุณไงที่บอกจะมารักษาไม่เห็นมาเลยนี่”
 หมอพิสุทธิ์เสยผมอย่างเหนื่อยใจ “หอมไม่ใช่แฟนผมหรอก”
 “อ้าว ไหนบอกว่าแฟน….ช่างเถอะ…แล้วสรุปเอ่อ คุณหอมเขาจะรักษาตัวไหม…..บอกไว้ก่อนเลยนะ ผมเองก็ไม่มั่นใจว่าจะหายไหมแต่อย่างน้อยก็อยากให้รักษา…”
 “ผมอยากให้เขาไปรักษาใจจะขาดแต่เขาดื้อจริงๆ” หมอหนุ่มกุมขมับเครียด
 “งั้นผมจะไปประเทศไทย จะไปพาตัวเขามาเอง”
 “หืม?”
 “ผมจะไปประเทศไทย คุณมารับผมที่สนามบินด้วยนะ เดี๋ยวโทรบอก”
 “มาเหรอ! ตอนไหน”
 “ตอนนี้”
 “ว่าไงนะ! นี่หมอตัวเล็ก” สายถูกตัดไปแล้ว หมอพิสุทธ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถึงจะตกใจแต่ก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะพาหอมไปรักษาตัวได้


 
หัวข้อ: ตอนที่ 29
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 15-07-2017 14:39:23
ตอนนี้คุณพ่อกำลังจะพาพวกผมไปเที่ยวที่ราบตรงภูเขาอย่างที่บอกเมื่อวาน แม้จะชุลมุนเล็กน้อยเพราะกะทันหันแต่ก็ถือว่าเตรียมของได้ทันเวลาพอดี
 “ปากเปื้อนแล้วนะ” ผมเช็ดปากให้หมูหันที่นั่งกินขนมถ้วยที่เมื่อเช้าแม่นำมาให้ เพราะกำลังจะนำไปขายพอดี หมูหันเลยได้โชคกินพุงกาง
 “ว้าวววว สวยจังเลยคุณปู่” หมูหันยื่นหน้าไปหาคุณพ่อที่กำลังขับรถและมีคุณแม่นั่งข้างๆ ข้างหน้าเป็นภูเขาลูกเตี้ยมีหญ้าสีเขียวขจีเหมาะสำหรับปิกนิกอย่างมาก
รถจอดอยู่ด้านล่างพวกผมจึงค่อยๆเดินขึ้นไป ผมและแม่มีหน้าที่ถืออาหารและจูงหมูเดิน ส่วนคุณพ่อก็พยุงพี่คิงส์ให้ขึ้นไปรับวิวแต่โชคดีที่ภูเขาไม่ได้ชันมากมายอะไรจึงพอพาพี่คิงส์ไปชมวิวได้
“สวยจัง…..”
 “เป็นสถานที่ที่พ่อเขาชอบพาแม่มาสมัยสาวๆน่ะจ้ะ”  คุณแม่หันมาบอกผม
 “คุณพ่อโรแมนติกมากเลยนะครับ”
 คุณพ่อหัวเราะ
 “คุณปู่มาสอนผมเล่นว่าวสักทีสิครับ”
 “โอ้ ปู่ลืมเลย มาๆ”
 ผมยิ้ม ก่อนจะส่งน้ำให้พี่คิงส์ “เหนื่อยไหมครับ”
 “ไม่เลย…ที่นี่สวยมากจริงๆ…เรามาแต่งงานที่นี่กันไหม”
 “ตะ….แต่งงานเหรอครับ”
 “ใช่….แต่งงาน พี่เคยบอกแล้วนี่ว่าเราจะแต่งงานกัน”
 “ฮึก…ก…ก…ผมนึกว่าพี่จะล้อเล่นเสียอีก….”
 “พี่ไม่ได้ล้อเล่น พี่พูดจริง…แต่งงานกับพี่นะครับ….นะหอม….”
 ผมพยักหน้าแล้วสวมกอด
 แชะ!  “หวานกันเชียวนะ” คุณแม่พูดพร้อมกับกล้องในมือ
 “แม่ล่ะก็ถ่ายทำไมไม่บอกผมก่อนล่ะ จะได้ให้ช็อตดีๆ”
 “อ้าว แม่ผิดซะงั้นล่ะ ว่าแต่ไม่มีแหวนเหรอฮึ ขอหอมแต่งงานทั้งทีทำไมไม่มีแหวนล่ะ” คุณแม่ทำเสียงดุจนพี่คิงส์หน้าเสีย
 “แหวนเหรอมีสิ!” หมูหันวิ่งมาแต่ไกลก่อนจะหยิบของบางจากกระเป๋า
“ผมพกติดตัวไว้ตลอดเวลาเลยล่ะ ผมคืนให้ครับแม่” หมูหันยื่นแหวนมาให้ แหวนวงนี้คือแหวนที่พี่คิงส์เคยให้ผมเมื่อนานมาแล้วและผมจำได้ว่าคืนให้กับพี่คิงส์ไปแล้ว….แล้วทำไมถึงอยู่ที่ลูกได้
 “หมูหันไม่เอาแล้วเหรอฮึ” พี่คิงส์ถาม
 “ไม่เอาแล้วล่ะ ผมอยากให้แม่สวมมากกว่า…ก็แหวนของแม่นี่นา”
ผมมองแหวนตรงหน้าแล้วปิดปากกลั้นเสียงร้องไห้ …..แหวนวงนี้แหวนของผม….แหวนชิ้นแรกที่พี่คิงส์ให้….แหวนในความทรงจำของสองเราตั้งแต่คบกัน……แหวนที่ผมเคยทิ้งมันไปและคืนให้แต่ตอนนี้มันกำลังจะกลับมาหาผม
“แต่งงานกับพี่นะครับหอม….” พี่คิงส์สวมแหวนให้ผมแล้วจูบหน้าผากปลอบโยน
 “ฮึก..ก..พี่คิงส์”
 คุณแม่กับคุณพ่อยิ้มรับก่อนจะถ่ายรูปพวกผมอีกครั้ง….
 การขอแต่งงานที่ทำให้ผมตื้นตันผ่านพ้นไป...เเต่ผมยังคงยิ้มเพราะมีความสุขพี่คิงส์บอกว่าอาทิตย์หน้าจะจัดงานเเต่งงานเพราะดูฤกษ์มาเรียบร้อยเเล้ว....
 พี่คิงส์นอนหนุนตักผม
 "หอม…."
 "ครับ…."
 "พี่ไม่คิดเลยนะว่าวันนี้จะมาถึงวันที่เรากลับมารักกันอีก….." มือหนาจับมือผมไว้ทั้งหอมทั้งจูบ ผมยิ้มแล้วก้มลงจูบหน้าผากพี่คิงส์
 "ฮ่าๆๆ พี่คิงส์ผมจักจี้นะอย่าเอาหนวดมาถูแก้มผมสิ"
 "ก็หอมอยากมาจูบพี่ก่อนทำไมฮึ"
 "ฮ่าๆ พี่คิงส์ขี้แกล้งจริงๆเลย  หน้าผมเจ็บไปหมดแล้วมั้งเนี่ย"
 พี่คิงส์ลุกนั่งแล้วจับหน้าของผมไว้ แล้วลูบไล้ไปทั่วหน้า  "หายเจ็บหรือยัง"
"หายแล้วมั้งครับ"
 พี่คิงส์มองหน้าผมก่อนจะค่อยๆโน้มหน้ามาแล้วกดจูบที่ปาก
  ลิ้นค่อยๆสอดเข้ามา…
 "แม่ครับๆ  ผมหิวขนมอ่ะ ขนมถ้วยคุณยายหมดหรือยังครับ"
 ผมรีบผละออก
 แต่พี่คิงส์หน้ามุ่ย
 "อ้าว แม่ลืมไว้ที่รถเลย เดี๋ยวแม่ไปเอาให้นะ" พี่คิงส์จับมือผมไว้ไม่ให้ไป
 "พี่คิงส์….ผมจะไปเอาขนมให้ลูกนะครับ"
"เฮ้อก็ได้…..." พูดพลางส่งสายตาให้ตัวอ้วน ก่อนที่พี่คิงส์จะค่อยๆปล่อยมือไป
 รถยนต์จอดอยู่ข้างล่างเนินเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึง
 “ผมไปด้วย…..”
 “ติดใจขนมคุณยายล่ะสิ” ผมเดินจูงมือลูกเพื่อไม่ให้กลิ้งล้ม ก่อนจะเปิดรถเพื่อหยิบตระกร้าขนม
 “อึก...”ผมจับตรงอกตัวเองก่อนจะทรุดตัวลง หายใจไม่ออก….
 “จะ…เจ็บ! แค่กๆ..ๆ…” ผมไอตัวโยนหลับตาแน่นเพราะจุกจนลุกไม่ขึ้น  เล็บจิกเบาะรถเป็นรอยลึกก่อนที่ผมจะทรุดนั่งในเบาะอย่างหมดแรง
 “แม่! แม่เป็นไรหรอ”
 “ปะ..เปล่า”
 “เลือดนี่ เลือด”
 ผมค่อยๆจับปากและจมูกที่มีความรู้สึกเย็นๆ
“มะ..ไม่ใช่”  ผมรีบหยิบขวดน้ำแล้วล้าง “ไม่ใช่…..ไม่ใช่เลือดนะครับ”  ผมปลอบลูกที่กำลังจะเบะปาก
“ไม่ใช่หรอ”
 “มะ…ไม่ใช่….”ผมพูดแต่เจ็บภายในร่างกายจนอยากจะร้องไห้ อวัยวะบิดคล้ายภายในจะฉีกขาด
 “มะ…แม่”
 “ไม่..มีอะไรไปหาพ่อกันเถอะนะ”  ผมยิ้มแล้วพยายามเดินให้ปกติที่สุดเพื่อเดินกลับไปหาพี่คิงส์
 “หอมดูนี่สิ ดอกไม้พี่เจอตรงนั้นสวยไหม” พี่คิงส์ใช้ไม้ค้ำเดินมาหาผมช้าๆ
 ผมมองภาพตรงหน้าอย่างพร่าเลือน มองเห็นตรงหน้าว่าพี่คิงส์กำลังเดินมาหาผมพร้อมกับดอกไม้สีสวยในมือ  ผมหลับตานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
 …ก่อนจะยิ้มรับแล้วค่อยๆเดินไปหาแต่…
 “แค่กๆๆ…อ่อก...ก….” ผมกระอักเลือดสีแดงสดกระจายเต็มตัวครั้งนี้เนิ่นนานจนผมคิดว่าเลือดในร่างกายผมคงหมดไปแล้ว ผมได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อผม เสียงกรีดร้องของแม่
 ตุบ!
 “หอม!ไม่! เกิดอะไรขึ้นลืมตามองพี่ ลืมตา!”
 “กรี๊ดดดด”
 ทุกคนดูชุลมุนไปหมด หมูหันร้องไห้โฮ พี่คิงส์รีบช้อนตัวผมแล้ววิ่งไปที่รถทันที
 ผมยิ้ม…พี่คิงส์เดินได้แล้วแต่ผม…
 “อัก!..แฮ่กๆๆ…ผมเจ็บ…ฮึก..ก..”
 “อดทนไว้นะครับ… ฮึก...ก…ก อย่าเป็นอะไรนะ อย่าทิ้งพี่…..”
 “พะ...พี่คิงส์….ดูแลหมูหันด้วยนะ…” ผมค่อยๆใช้มือสัมผัสใบหน้าก่อนที่มันร่วงหล่น
 “หอม! อ๊ากกกกกกกก”
 ………………………………………………………………………….
Part Kings
 ผมกำลังจะเสียหอมไป ผมกำลังจะเสียคนที่ผมรักไป….ผมนั่งหมดอาลัยเบื้องหน้าห้องฉุกเฉิน…ผมอยู่อย่างเลื่อนลอยกับความทรงจำที่หอมของผมมีแต่เลือด…
 “…อย่าจากพี่ไปเลยนะ….” ผมซบหน้ากับฝ่ามือตัวเอง
 ประตูถูกเปิดออก พ่อกับแม่เป็นคนที่เดินไปคุยกับหมออย่างร้อนลน
 “ลูกฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ”
 “อวัยวะภายในคล้ายหยุดทำงาน หมอไม่เคยเจอเคสแบบนี้ผ่าตัดไม่ได้เลยครับ….หมอพยายามแล้วจริงๆ….”
 ผมสั่นไปทั้งตัว….ตัวชาเมื่อได้ยินคำพูดของหมอ…..หมอจะบอกว่าหอมรักษาไม่ได้ใช่ไหม….หมอกำลังจะบอกว่าหอมกำลังจะตายใช่ไหม!
 “มะ….เมียผมนะหมอ! หอมเป็นเมียผมช่วยเมียผมด้วย!  อ๊ากกกก หอม!” ผมคลั่งจนพ่อต้องกอดไว้
 “คิงส์!”
 “ปล่อยผม พ่อ…..ช่วยหอมด้วยขอร้องล่ะหมอ ผมกราบล่ะ….”ผมก้มกราบแต่หมอก็ยังยืนยันคำเดิมว่าผ่าตัดไมได้ ทำอะไรไมได้เลย..นอกจากรอให้หอมจากไปทั้งอย่างนั้น
 “โถ่เว๊ย! กูมันโง่ ทำไมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหอมเลย!”
 ปึก!  ผมเอาหัวโขกกำแพง แม่หวีดร้องขณะที่ยังอุ้มหมูหัน
 พ่อรีบมาห้ามผม “ตั้งสติไว้สิคิงส์!”
 “ฮึก..ก…ก”  ทุกคนร้องไห้ หมูหันสะอื้นตัวโยนร้องหาหอมตลอดเวลา
 “หอม!" เสียงดังขึ้นพร้อมกับแม่และพ่อของหอมที่วิ่งมาพร้อมกับน้ำตา
“หอมล่ะอยู่ไหน ฮึก..ก..ก….”
ทุกคนเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินแต่ผมทำใจไม่ได้เลยขออยู่ข้างนอกก่อน ได้ยินเสียงร้องไห้ดังขึ้นเป็นระยะๆ ผมซบหน้าลงบนฝ่ามือ น้ำตาผมมันไหลตลอดเวลา จนตาผมแทบจะลืมไม่ขึ้น ทำไม…ทำไม…ผมไม่รู้เลยว่าหอมป่วย! หอมป่วยตอนไหน
 ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาหอมที่นอนไม่ได้สติบนเตียง ทุกคนกำลังร้องไห้แทบทรุด มองคนที่นอนหลับไม่ได้สติใบหน้าซีดเซียวจนผมแทบไม่อยากเชื่อว่าเราเพิ่งจะยิ้มให้กันและผมเพิ่งจะขอแต่งงานไป….
 “หะ…หอม…..พี่เองนะ….ทำไมไม่ฟื้นล่ะ….”ผมจับมือเรียวมาแนบกับแก้ม “จะจากพี่ไปเหรอ….เรากำลังจะแต่งงานกันนะ…ฮึก..ก….อย่าจากพี่ไปได้ไหม….อยู่กับพี่อย่าไปจากพี่…พี่ยังไม่ได้ไถ่โทษที่ทำกับหอมและลูกเลย….”
 “พะ…พี่….คิงส์…” เสียงแหบอ่อนโรย ทำให้ผมยิ่งบีบมืออีกฝ่ายแน่น
 “หอม!”
 ทุกคนต่างเรียกเมียของผม…
 “ทำไม..ผม…”
 “หอม..เจ็บตรงไหนไหมลูก”
 “แม่…พ่อ…”
 หอมพูดอย่างอ่อนแรง แล้วส่ายหัว
 ผมรู้ว่าหอมเจ็บมากเพราะมือนั้นบีบมือผมแน่นทุกครั้งที่พูด หอมเหนื่อยมาก..เหนื่อยจนผมคิดว่าหอมจะจากไปได้ตลอดเวลา
 “ทำไมไม่บอกพี่ว่าหอมป่วย….”
 “ผม…ขอ….โทษ…”
 หอมหันซ้ายขวา
 “หมูหันล่ะครับ”
 “หมอไม่ให้เข้ามาเพราะกลัวติดเชื้อน่ะ ตอนนี้พยาบาลอุ้มอยู่…”
หอมทำหน้าเสียดายก่อนจะนิ่วหน้าแล้วบีบมือผมด้วยความเจ็บ..แค่นั้นผมก็จูบมือ ร้องไห้อีกครั้ง….
 “อย่าจากพี่ไปเลยนะ…..อยู่กับพี่กับลูกต่อไปนะ…”
 “…..ครับ….”
 “หอมเเม่โทรหาคุณหมอพิสุทธ์แล้วนะลูก เขากำลังมา เขาพาหมอจากต่างประเทศมาด้วย….หอมรอก่อนนะลูก อย่าทิ้งพ่อกับแม่แล้วก็หมูหันไปนะ….ไม่อยากเห็นลูกโตไปมากกว่านี้หรือไง”
 หอมสะอื้นแล้วพยักหน้ารับ…..
 ไม่นานหมอพิสุทธิ์ก็มาพร้อมกับคนร่างเล็กหัวทองใส่แว่น
 “หอม!....หอมเป็นยังไงบ้าง”
 “พี่หมอ” หอมเอ่ยเรียกแล้วมองไปยังหมอตัวเล็ก
 “ผมหมอคิวปิดนะครับ…..ผมเพิ่งมาถึงไทยเมื่อกี้นี้เองพอได้ยินเรื่องคุณก็รีบมาเลย คุณต้องรีบไปรักษาตัวเดี๋ยวนี้เลยนะครับ….” พูดพลางตรวจเช็คอาการของหอม
 จากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเขาจัดการยังไง ไม่รู้อะไรเลย รู้เเค่ว่ามีการทำเรื่องย้ายการรักษาของหอมไปต่างประเทศแค่นั้นจริงๆ…หอมป่วยเป็นอะไรผมไม่รู้เลย
 หลังจากหมดเวลาเยี่ยม ทุกคนต่างปลอบใจกัน ส่วนผมเดินไปหาหมอตัวเล็กที่กำลังวิ่งวุ่นกับทางโรงพยาบาล
 “คุณหมอ…”
 “ครับ?”
 “เมียผมเป็นอะไรเหรอครับ”
 “เมีย….ภรรยาเหรอครับ อ้อ..คุณคือคนรักของคุณหอมเหรอครับ….มิน่าหมอนั่นถึงพูดแบบนั้น…..”ดูเขาจะตกใจมากและพึมพำบางอย่างกับตัวเอง
“คุณไม่รู้เหรอครับว่าคนรักของคุณป่วยเพราะอะไร…….เพราะเขาท้องยังไงล่ะครับ”
ผมสับสนไม่เข้าใจ “อะไรนะครับ?”
 “ที่คุณหอมเป็นแบบนี้เพราะเขาเคยท้องครับ ผู้ชายท้องไม่ได้อยู่แล้ว แต่คุณยังฝืนธรรมชาติอวัยวะภายในเลยรับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้จึงเป็นแบบนี้ ถึงผมจะเคยรักษาอาการผิดปกติของอวัยวะภายในร่างกายก็จริงแต่ไม่เคยรักษาเคสแบบนี้เท่าไรครับ เพราะรักษายาก...และไม่เคยมีใครหาย แต่ผมจะรักษาสุดความสามารถนะครับ” พูดจบหมอตัวเล็กก็ไปทำงานต่อ
 ผมใจวูบ…..หมายความว่าผมก็ยังไม่มีหวังใช่ไหม
 ผมขาอ่อนยวบแทบจะล้มไปกองกับพื้นแต่ค่อยๆพยุงตัวเองไปนั่งรอหน้าห้องฉุกเฉินเหมือนเดิม ขาผมยังไม่หายดีพอใช้งานหนักมันยิ่งล้าจนผมแทบจะยืนไม่ได้
 “ฮึก...พี่ขอโทษ…พี่ขอโทษ….” ผมกุมหัวตัวเอง เมื่อรู้สาเหตุ…..เพราะผมอยากมีลูกหอมถึงได้เป็นแบบนี้…เพราะผม….
 ร่างของใครบางคนกำลังจะเดินผ่านผมไป ผมเงยหน้ามองก่อนจะเอ่ยขึ้น
 “ช่วยหอมด้วย….ผมขอร้องล่ะ”หมอพิสุทธ์นิ่งงัน
 “คุณทำร้ายหอมมามาก….คุณเพิ่งมาสำนึกอะไรตอนนี้…..รู้ไหมหอมป่วยมานานมากแค่ไหน แล้วคุณทำอะไรบ้าง! คุณทิ้งหอม! ให้หอมเลี้ยงลูกจมอยู่กับโรคบ้าๆที่คุณเป็นคนทำให้มันเกิด! แล้วคุณ….คุณทำร้ายเขากี่ครั้ง…..”
 ผมไม่ตอบโต้นั่งฟังอย่างสำนึกผิด…ทุกอย่างเพราะผมเอง!
 “พรุ่งนี้เช้าหอมต้องไปรักษาตัวแล้ว….ถ้าหายก็คือหาย ถ้าไม่หาย……” หมอพิสุทธ์ไม่พูดอะไรต่อแล้วเดินจากไป ผมซบหน้ากับฝ่ามือจนกระทั่งมีมือน้อยๆมาจับมือเเขนผม
 ผมเงยหน้ามอง
 “พ่อ…”
 “หมูหัน…”
 “แม่นอนหลับหรอ..คุณยายบอกว่าแม่นอนอยู่ในห้องนั้น”
ผมพยักหน้าแล้วกอดลูก
 “ทำไมผมไปหาแม่ไม่ได้ล่ะ….ผมคิดถึงแม่นะ”
 ผมได้แต่กอดลูกไว้ตอบลูกไม่ได้…ได้แต่กอดเจ้าตัวเล็ก… จากนั้นแม่ผมก็พาหมูหันกลับบ้านเพราะท่าทางหมูหันจะเริ่มเพลียแล้วและพรุ่งนี้เช้าจะต้องไปส่งหอมที่สนามบินเพื่อไปรักษาตัว
 ผมยังคงนั่งรอหน้าห้องที่หอมรักษาตัว แม้คนอื่นจะให้พักผ่อนแต่ผมรอไม่ได้กลัวว่าถ้าเผลอหลับไปหอมจะ…
 “กาแฟหน่อยไหม” พ่อของหอมยื่นกาแฟให้
 “ขอบคุณครับ”
 “เธอไปพักหน่อยเถอะ….นั่งทั้งคืนแบบนี้ขาเธอไม่เป็นไรหรือ”
 “ไม่เป็นอะไรครับ”
 “อืม….ที่จริงหอมป่วยหนักมาได้พักหนึ่งแล้วล่ะนะแต่ก็ไม่ได้รักษา มีเรื่องมากมายเข้ามา…พ่อก็เพิ่งคุยกับหมอพิสุทธ์ว่าเขาจะพาหอมไปรักษาตัวตั้งนานแล้วแต่หอมยืนยันที่จะไม่ไปเพราะอยากช่วยเธอก่อน”
 ผมจุกจนพูดไม่ออก
 “เฮ้อ…..โทษใครไม่ได้นะต้องโทษหอมนั่นแหละรู้ว่าป่วยแต่ไม่รักษาตัว….แต่คนที่ผิดมากที่สุดก็คือพ่อที่รู้ว่าลูกป่วยแต่ก็ไม่เคยพาไปรักษาจริงจังเลย….”
 “คุณพ่อ…ผมต่างหากผมทำผิด…ผมมัน…”
 “ทั้งสองทานอะไรหน่อยเถอะ” แม่ของหอมเอ่ยขึ้น ใบหน้าเพลียและซีดอย่างเห็นได้ชัด ทั้งดวงตาผ่านการร้องไห้อย่างหนัก
 "อย่าเพิ่งโทษใครเลยนะ…..เราต้องเข้มแข็งแม่เชื่อว่าหอมเองก็หวังแบบนั้น…."
 ………………………………….
เช้าต่อมา ณ สนามบิน
“ตอนเช้าต้องแปรงฟันรู้ไหมครับ ไปโรงเรียนอย่าเล่นผาดโผนนัก กินข้าวให้ตรงเวลาด้วย อาบน้ำอย่าอาบนานนะเดี๋ยวจะเป็นหวัด” หอมบอกกับหมูหันเสียงขาดๆหายๆเพราะร้องไห้ไปพูดไป ทุกคนก็ได้แต่ยืนร้องไห้ไปตามๆกัน
 “แม่ไม่อยู่กับผมหรอแม่จะไปไหน” หมูหันเบะปาก
 “เดี๋ยวแม่มานะ….จำเรื่องดวงดาวได้ไหม ถ้าคิดถึงแม่มองดาวบนฟ้านะครับ”
 หมูหันพยักหน้าแล้วกอดหอมแน่น ร้องไห้โยเย
 “ฮึก..ผมจะมองดาวแทนแม่นะ..ฮึก..ก…และผมจะรอกอดแม่นะครับ”
 หอมเช็ดน้ำตาของตัวเองและลูก “แม่รักหนูมากนะ…ลูกรักของแม่”
 “ผมก็รักแม่ครับ” หอมยิ้มรับทั้งน้ำตาขณะนั่งอยู่บนรถเข็น
 “ทุกคนผมไปแล้วนะครับ…”หอมเอ่ยบอกทุกคนขณะที่กำลังจะไปขึ้นเครื่องพร้อมกับหมอตัวเล็กเพื่อรักษาตัวต่างประเทศ
 “หอม….” ผมจับมือมากุมไว้  “ต้องกลับมาหาพี่และทุกคนนะ…พี่จะรอ….”
 “ครับ....ผมจะกลับมา…..”
 ผมยิ้ม
มองร่างของหอมที่หมอตัวเล็กเข็นรถจากไป เราไม่ได้กอดไม่ได้จูบกันยามลา.....เพราะผมจะรอวันที่หอมกลับมา….หอมไม่ให้พวกผมตามไปด้วยเพราะหอมบอกว่าจะกลับมาหาทุกคนเอง….และผมจะรอจนถึงวันนั้น……
 ………………………….
 หลายวันแล้วที่หอมไปรักษาตัว หมอพิสุทธ์โทรมาบอกผมว่าวันนี้หอมจะทำการผ่าตัด ซึ่งตรงกับประเทศไทยเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งก็ผ่านมา3 ชั่วโมงแล้ว ผมกำลังรอโทรศัพท์ของผลการผ่าตัดแทบจะคลุ้มคลั่ง
“ว้าววว ดาววันนี้สวยจัง!” หมูหันชี้ไปบนท้องฟ้าขณะที่ผมกำลังนั่งกุมหัวด้วยความเครียด วันนี้หมูหันนอนช้าผิดปกติให้นอนก็ไม่นอนบอกแค่ว่าอยากดูดวงดาว
 “พ่อ! ดาวดวงนั้นสว่างจัง ดูสิๆ”
 ผมเดินไปมองดาวที่ลูกบอก ดาวดวงนั้นสว่างกว่าดาวดวงอื่น ทั้งสวย ทั้งยังส่องแสงจ้าจนผมหยุดสายตามอง
 “แม่บอกผมว่าถ้าแม่ไม่อยู่ให้ผมดูดาวแทนล่ะ…..งั้นผมจะเรียกดาวดวงนี้ว่าแม่หอมดีไหมครับ…” ผมยิ้มกับความไร้เดียงสา
 RRRrrrRR เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น   ผมรีบกดรับเมื่อปรากฏชื่อที่หน้าจอ
 “ฮัลโหลครับ”
 ……..
 “หมอพิสุทธ์?”
 “……….หมอคิวปิดโทรมาบอกผม…ว่า…....หะ…..หอม…..หัวใจหยุดเต้นระหว่างผ่าตัด…..”
 ‘……’
 “ฮึก….หอมตายแล้วนะ…..”
 ผมค้างนิ่ง….มือที่ถือโทรศัพท์อ่อนยวบทิ้งข้างตัว สมองผมว่างเปล่าทุกอย่าง…มันตื้อไปหมด…ผมมองหมูหันที่ยังคงเรียกดวงดาว ดวงนั้นว่าแม่โดยที่ไม่รู้เลยว่าหอมอาจจะกลายเป็นดาวดวงนั้นไปแล้ว…
 
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 10-29 {15/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-07-2017 19:43:21
 :hao5: :katai2-1: :katai1:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 10-29 {15/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-07-2017 20:32:25
ต้องมีปาฏิหาริย์ให้หอมบ้างสิ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 10-29 {15/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 16-07-2017 00:21:29
มาจบตอนได้โหดมากๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 10-29 {15/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-07-2017 01:27:42
ดราม่ามาก!
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 10-29 {15/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-07-2017 10:24:15
 :pig4:
หัวข้อ: ตอนที่ 30 (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Tastsu ที่ 16-07-2017 14:44:34
  ผมยังคงยืนอึ้งแบบนั้น มือสั่นไปหมด พยายามรวบรวมคำพูดไม่ให้สั่น
 “ขะ..ขอเบอร์ มะ….หมอคิวปิดให้ผมได้ไหม”
 หมอพิสุทธ์รับคำแล้วบอกเบอร์ที่ผมต้องการ ก่อนจะวางสายไป เขาเองก็ตกใจและเศร้าใจไม่ต่างกันฟังจากน้ำเสียงที่ดูล้าไปหมด
 “หมอคิวปิด  ผมคิงส์นะครับ”
 “คุณ…คุณคิงส์ ผมขอโทษ…ผมช่วยคุณหอมไม่ได้ เขาจากไปเวลา…..”
 “ผมขอคุยกับหอมได้ไหมครับ ได้โปรด….ให้เขาได้ยินเสียงผมกับลูก…..”
 “ดะ…ได้…ครับ…เชิญคุยได้เลยนะครับ….”
 ผมสูดอากาศเข้าเต็มปอดแต่น้ำตาผมมันกลับไหลออกมาแทน
 “หะ..หอม นี่พี่เองนะ……ตื่นได้แล้ว…..ไหนบอกว่าจะไม่จากพี่ไหน….ไหนบอกว่าจะอยู่กับพี่….กลับมาหาพี่เถอะนะ…..”
 ‘……’
 “มะ..หมูหันอยู่ที่นี่….กำลังมองดาวบนฟ้าที่หอมเคยบอก….มันสวยมากจริงๆ แต่พี่ไม่ต้องการดวงดาวพี่ต้องการหอมนะ กลับมาหาพี่และลูกเถอะ ฮึก….”
 ผมทรุดตัวร้องไห้ กุมหัวอย่างหมดหวัง
 “ฮึก…ก….พี่จะตายอยู่แล้ว พี่กำลังจะตายตามหอมแล้วรู้ไหม!  ตื่นขึ้นมาคุยกับพี่!กลับมาหาพี่เถอะนะ…”
 “พะ..พ่อ พ่อร้องไห้ทำไมหรอ”
 ผมร้องไห้หนักก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ลูก “คุยกับแม่หน่อยนะ”
 “แม่หรอ!” หมูหันรีบรับโทรศัพท์
“ฮัลโหลๆ แม่! คิดถึงจังเลย เมื่อไรแม่จะมาหาผมสักทีอ่า……”หมูหันคุยแล้วเดินไปดูดาวเช่นเดิม
“ดาววันนี้สวยมากเลยครับ มีดาวดวงนึงส่องแสงสว่างเหมือนแม่มากเลยล่ะ ผมเรียกว่าดาวแม่หอมล่ะ…”
 ‘…..’
 “ทำไมแม่ไม่คุยกับผมเลยล่ะ  ไม่คิดถึงผมหรอ…..ผมรอแม่กลับมากอดนะครับ…”
 ……………………………………………………
 หลายเดือนต่อมา
 เด็กน้อยขึ้นไปยังห้องนอน ที่ตนเคยนอนอยู่กับแม่….ใต้เตียงเป็นที่เก็บกล่องใบหนึ่งที่ตนชอบแอบเล่นเสมอ ภายในนั้นมีทั้ง ดอกไม้แห้ง อัลบัมรูปของพ่อและแม่ในสมัยก่อนย้อนไปถึงสมัยเรียน
 “แม่…” หมูหันมองรูปของเด็กผู้ชายหน้าหวานที่ยืนข้างผู้ชายร่างสูงในชุดนักบาส แล้วสัมผัสผ่านรูป
 น้ำตาเอ่อคลอแล้วซบกอด “ผมคิดถึงแม่….วันนี้ไม่เห็นมีเค้กเลย….วันเกิดผมวันนี้แล้วนะ…..”
 “หมูหันอยู่ไหนลูก ได้เวลาไปโรงเรียนแล้วนะ” เสียงคุณยายดังขึ้น หมูหันรีบเก็บรูปอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วเช็ดน้ำตาออก
 “อ้าวมาอยู่ในห้องนี่เองแล้วเป็นอะไรจ้ะทำไมตาแดงๆ” มะลิเอ่ยถามหลานก่อนจะพาไปหาสามีที่กำลังจะพาไปส่งโรงเรียน
 “หน้ามุ่ยทำไมฮึ วันนี้วันเกิดหลานนี่ ฮึบ!” ยศพูดพลางอุ้มหลานชาย
 “อย่าเล่นผาดโผนมากนักนะจ้ะ….”
 หมูหันพยักหน้าคำนี้จำขึ้นใจเพราะก่อนแม่จะจากไปย้ำเยือนตนอยู่
 “คุณตา คุณยาย......แม่.....ไม่มาหาผมแล้วจริงๆหรอ วันนี้วันเกิดผมนะ ฮึก….ผมจะ 4 ขวบแล้วนะ” พูดพลางยื่นชูนิ้ว3นิ้ว ผู้เป็นตาและยายมองหน้ากัน สีหน้าเศร้าแต่ก็ต้องปั้นยิ้ม
 “แม่หอมไปอยู่ในที่ที่ไกลมากเลยจ้ะเลยมาไม่ได้นะ”
“ฮึก..ก…ก็ผมคิดถึงนี่….ผมคิดถึงๆๆ!” หมูหันร้องไห้โฮแล้วดิ้น สองตายายมองหน้ากันเศร้า กว่าจะปลอบใจได้ก็นานพอควร
 “ฝากด้วยนะครับ….” ยศเอ่ยกับครูสาวที่ยืนต้อนรับ
 “วางใจได้เลยค่ะ”
 “หมูหันตอนบ่ายคุณยายจะมารับแทนนะ” ยศเอ่ยกับหลานแล้วขึ้นรถเพื่อไปทำงาน
 หมูหันเม้มปากแล้วเดินไปนั่งเล่นบนชิงช้า
 “หมูหันๆมาเล่นกัน เย่!” แมนคุงเพื่อนสนิทเอ่ยขึ้นแต่ท่าทางของเพื่อนทำให้แมนคุงสงสัยและเดินไปหา
 “ไม่สบายหรอหมูหัน” พูดพลางใช้หน้าผากชนหน้าผาก
 “เปล่าหรอก เราสบายดี”
 “อ้าว แล้วทำไมไม่มาเล่นกับพวกเราล่ะ”
 “เราไม่อยากเล่น…..”
 “มาเล่นกันเถอะนะ จะเศร้าไปทำไม….มาๆ….”
 “ไม่! เราจะนั่งอยู่ตรงนี้….เราจะไม่ไปไหน”
เพื่อนๆมองหน้ากันเมื่อหมูหันไม่ร่าเริง
 “เด็กๆเข้าห้องเรียนได้แล้วจ้ะ”
 “ค้าบบบ//ค่า”
 “หมูหันจ้ะเข้าห้องเรียนเถอะ”
 “ไม่! ผมจะนั่งตรงนี้”
 “เอ่อ..หมูหันจ้ะ”
 “ผมจะรอแม่ตรงนี้ถ้าแม่ไม่มาผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น….”พูดพลางเช็ดน้ำตาตัวเองแล้วก้มหน้านิ่ง
....................
 “อย่างนั้นเหรอครับ…ครับผมจะรีบไปครับ” คิงส์วางสายเมื่อครูอนุบาลโทรมาเรื่องหมูหัน   เขาที่นั่งโต๊ะผู้บริหารจำเป็นต้องรีบกลับเพราะลูก
 “เรไร ผมจะกลับบ้านก่อนนะ เอกสารผมจะเอากลับไปเซ็น ส่วนเรื่องประชุมกับนัดลูกค้าเลื่อนเป็นพรุ่งนี้นะ” พูดบอกกับเลขาสาวจนเธอได้แต่ยืนงงและปลงกับชีวิต
ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งก่อตั้งบริษัทเฟอร์นิเจอร์ได้ไม่นานบริษัทขนาดย่อมก็สามารถเติบโตได้พอสมควร  นอกจากความสามารถแล้วใบหน้าที่หลอเหลาทำให้สาวๆหลงใหลหากแต่เขามีลูกและคนรักที่ อยู่ในดวงใจอยู่แล้ว
 ร่างสูงเดินลงมาจากตึกบริษัท ขณะกำลังเดินออกมาจากตึกสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้เขาหยุดเดิน ก่อนที่จะยิ้มออกมา……
 ………………………………………………
 “เลิกดื้อได้แล้วนะ”
 “เราไม่ได้ดื้อนะ”
 “ไม่ดื้อที่ไหนล่ะ ก็หมูหันกำลังดื้อไม่เข้าเรียน” แมนคุงเอ่ย
 “เราเปล่านะ!”
 “ดื้อจริงๆ”
 “บ้าๆ แมนคุงบ้า เราไม่คุยกับแมนคุงแล้ว”
 แมนคุงทำหน้าช็อคเมื่อหมูหันบอกว่าจะไม่เล่นด้วย
 “หมูหัน….เราขอโทษนะ”
 “เชอะ”
 “รถคุณพ่อนี่ หมูหันจ้ะคุณพ่อมาแล้วนะ” ครูสาวเอ่ย
หมูหันยังคงไม่สนใจ
 “คุณพ่อสวัสดีค่ะ...อุ๊ย…” ครูสาวตกใจเมื่อมีคนเดินอยู่เคียงข้างคิงส์
 หมูหันยังเชิดไม่สนใจคิงส์ แต่เมื่อเสียงเพื่อนๆคนอื่นดังขึ้น คุยกันว่ามีคนสวยมากับพ่อด้วยเด็กน้อยก็รีบหันไปมองทันที ก่อนจะเบิกตากว้าง
ปรากฎใบหน้าสวยยิ้มให้ตนทั้งน้ำตา ผมที่เคยยาวประบ่าตอนนี้ยาวเกือบถึงหลัง.....ร่างกายผอมกว่าปกติ......ผิวที่เคยขาวเเต่ตอนนี้ซีดเซียวลงเเต่เขาก็จำได้.....
 “ฮึก..ก…” หมูหันค่อยๆเดินไปหา
 “แม่!” แล้วพุ่งเข้ากอด
หอมนั่งรอรับกอดแล้วหอมแก้ม
 “ฮึก...ก…ผมคิดถึงแม่ ผมคิดถึงแม่! ฮือๆ”
 “แม่อยู่นี่แล้วนะครับ….แม่กลับมาแล้วนะ….”
 ร่างอ้วนๆมืออวบๆกอดแน่นราวกับให้อ้อมกอดนี้ชดใช้กับอ้อมกอดที่หายไป
 “อย่าจากผมไปไหนอีกนะ….ผมคิดถึง…..”
 หอมยิ้มรับ ลูบหลังเบาๆ หอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่
 “แม่กลับมาแล้วนะครับ.....”
 จากนั้นหอมและคิงส์ก็ขอครูพาหมูหันกลับมาบ้านก่อน หมูหันร้องเพลงดีใจตลอดทาง ส่วนคิงส์กุมมือเรียวไว้แน่นกลัวว่าจะหายไป
 “พี่ตกใจมากเลยที่หอมมาหาพี่”
 “อยากเซอร์ไพซ์น่ะครับ…..”
 “พี่ดีใจมากจริงๆ เป็นการเซอร์ไพซ์ที่พี่ทั้งตกใจเเละดีใจจนร้องไห้เลยล่ะ” คิงส์กุมมือแน่นกว่าเดิม เขาทั้งยิ้มทั้งร้องไห้เมื่อหอมมาหาที่บริษัท ร้องไห้ไม่อายพนักงานและคนอื่นๆเลย
……………ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน
 Part Kings
 ผมร้องไห้หนักก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ลูก “คุยกับแม่หน่อยนะ”
 “แม่หรอ!” หมูหันรีบรับโทรศัพท์
 “ฮัลโหลๆ แม่! คิดถึงจังเลย เมื่อไรแม่จะมาหาผมสักทีอ่า……”หมูหันคุยแล้วเดินไปดูดาวเช่นเดิม
 “ดาววันนี้สวยมากเลยครับ มีดาวดวงนึงส่องแสงสว่างเหมือนแม่มากเลยล่ะ ผมเรียกว่าดาวแม่หอมล่ะ…”
 ‘…..’
 “ทำไมแม่ไม่คุยกับผมเลยล่ะ ไม่คิดถึงผมหรอ…..ผมรอแม่กลับมากอดนะครับ…”
 “คุณหอม!” เสียงโวยวายจากปลายสายดังขึ้น ผมรับโทรศัพท์จากลูก คำพูดของแต่ละคนฟังดูร้อนรน สายโทรศัพท์ถูกตัดคงเพราะกลัวจะไปรบกวนเครื่องมือของหมอแต่คำพูดที่ผมพอจับใจความได้คือ
 ‘คนไข้หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง’
 ผมกุมมือภาวนาขอให้คำพูดที่ผมได้ยินเป็นเรื่องจริง
 “หอม….กลับมาหาพี่และลูกเถอะนะ…พี่ขอร้อง”
 1 ชั่วโมงผ่านไป สายเรียกเข้าจากหมอตัวเล็กดังขึ้น ผมรีบรับอย่างร้อนรนหัวใจถูกบีบรอฟังปาฏิหาริย์
 “…….คุณคิงส์ คุณหอมหัวใจกลับมาเต้นอีกครั้งแล้วนะครับ!”
 “จะ..จริงเหรอ”
 “จริงๆครับ! ตอนนี้การผ่าตัดลุล่วงไปด้วยดี รอแค่ฟื้นตัวแต่อาจใช้เวลานานสักหน่อย….เเต่ปลอดภัยเเล้วนะครับ....”
 “ฮึก..ก…ขอบคุณมากครับ..ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ…”
“ไม่ใช่เพราะผมหรอกครับแต่เพราะพวกคุณต่างหากที่เป็นแรงใจให้คุณหอมสู้ต่อไปและอยากมีชีวิตอยู่ต่อ…”
 ……………………..
 Part Hom
 “ว่าแต่คุณหมอตัวเล็กไม่มากับหอมเหรอ”
 “มาครับ…ที่จริงพี่หมอเป็นคนไปส่งผมที่บริษัทพี่คิงส์ครับ แล้วพี่หมอกับหมอคิวปิดก็ไปเที่ยวกันต่อ”
 “อ๋อ…สองคนนี้มีซัมติงกันนี่นะ”
 ผมยิ้มเพราะในที่สุดพี่หมอก็มีความสุขสักที ไม่ต้องจมปลักอยู่กับผมอีกแล้ว
 “รถพ่อกับแม่พี่นี่ พวกท่านคงมาเพื่อจัดงานวันเกิดให้หมูหัน….พวกท่านต้องดีใจแน่ๆที่ได้เจอหอมแบบนี้” พี่คิงส์พูดอย่างตื่นเต้นเมื่อมาถึงบ้านผมแล้วเห็นรถของคุณพ่อกับคุณแม่จอดอยู่
 “นั่นสินะครับ”
 ผมและพี่คิงส์จูงมือหมูหันเข้าไปในบ้าน.....บ้านที่ผมจากไปมานาน…..ความรู้สึกคิดถึงแล่นเข้ามาในหัวใจเติมเต็มความสุขที่ขาดหายไป….
 “คุณโชคชัย ลืมของขวัญหมูหันหรือเปล่า” เสียงคุณแม่ดังขึ้น
 “ไม่ได้ลืมหรอกน่า”
 “คุณพิสมัยคะมาช่วยฉันในครัวหน่อยค่ะ”
 นั่นเสียงแม่ผมนี่ หัวใจผมเต้นรัวรู้สึกตื้อในอก นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้กอด….
 “อ้าวคิงส์……” คุณพ่อมองพี่คิงส์แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นผมอยู่ข้างๆ ท่านหยุดนิ่ง….
 “คิงส์มาแล้วหรือคุณ” คุณแม่เดินออกมาจากในครัว หยุดค้างเช่นกัน
 “คุณพิสมัยฉันบอกว่าอย่าอู้ไงคะ” แม่ผมเดินออกมาจากในครัว
ผมมองภาพตรงหน้าที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
 แม่หันหน้ามาทางผมพอดี ท่านหยุดนิ่ง…..เอามือปิดปากตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ
 “หะ..หอม!”
 “แม่ครับ….”
 เราสองคนกอดกัน  แม่ทั้งหอมทั้งจูบผม พร่ำบอกคิดถึงทั้งน้ำตา
 “กลับมาหาแม่แล้วสินะ...ขอบคุณ...ขอบคุณจริงๆ…ฮึก…ขอบคุณที่กลับมา….”
 “ผมคิดถึงแม่…คิดถึงทุกคน…ผมกลับมาแล้วนะครับ……..”
 กว่าจะพูดคุยกันพวกเราก็ร้องไห้กันจนตาแดงช้ำ พ่อผมพอรู้ว่าผมกลับมาก็ทิ้งงานแล้วมาหาทันที ทุกคนดูชื่นมื่นแม้จะต้องเสียน้ำตาก่อน
 ตอนนี้บรรยากาศเริ่มมืดแล้วเหมาะสำหรับเค้กวันเกิด
เพลงวันเกิดของหมูหันดังขึ้น ทุกคนพร้อมใจกันร้องจนจบ
 “อธิษฐานสิหมูหัน” ผมบอกลูก
 “ขอให้ทุกคนอยู่กับผมตลอดไป….มีพ่อ แม่ คุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณย่า คุณ…..”กว่าหมูหันจะเอ่ยชื่อหมดทุกคนก็มองหน้ากันแล้วขำ
 “เป่าเทียนเถอะลูก”
 “ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่”
 “เย่! เก่งมากหลานตา”
 เทียนดับแต่ความสุขกำลังจะเกิด ทุกคนหัวเราะยิ้มให้กัน ของขวัญที่ทุกคนคัดสรรสำหรับหลานถูกเปิดออกไม่น้อยหน้ากัน หมูหันหัวเราะชอบใจตลอดเวลา
 พี่คิงส์จับมือผมเดินแยกออกมาต่างหาก……..ริมฝีปากประทับจูบปากผมอย่างแผ่วเบาแล้วกอดไว้หลวมๆ
“คิดถึง...คิดถึง….คิดถึง…”คำว่าคิดถึงออกมาจากปากพี่คิงส์ครั้งแล้วครั้งเล่า
 “ผมก็คิดถึงพี่…..ผมคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้กอดพี่อีกแล้ว….”
 “รู้ไหม ตอนที่หมอโทรมาหาพี่ว่าหอมตายแล้ว พี่รู้สึกแบบไหน…..หัวใจของพี่มันเจ็บไปหมด….พี่อยากจะตายตามไปเลยรู้ไหมฮึ”
พี่คิงส์จับใบหน้าของผมแล้วจูบอีก   
 “อย่าทำแบบนี้อีกนะ….มีอะไรต้องบอกพี่ พี่ไม่เอาแล้วที่ต้องรู้เป็นคนสุดท้ายแบบนี้…..พี่ไม่อยากเสียหอมไป….”
 “ครับ…..ผมจะไม่ทำอีก….ผมเองก็กลัว….กลัวว่าจะจากพี่ไป….”
 “แอะ! ทำไรกันหรอ” หมูหันเดินมาหา
 “พ่อกับแม่มาแอบหวานอะไรตรงนี้ วันนี้วันเกิดผมนะต้องมาหวานกับผมสิ”
 “ครับๆ” ฟอดดด พี่คิงส์กดหอมแก้ม
 “ครั้งนี้วันเกิดผมแล้วครั้งหน้างานแต่งพ่อกับแม่ใช่เปล่า”
 ผมนั่งขยี้หัวตัวอ้วน “ใครบอกฮึ จำคำนี้มาจากไหน”
 “ก็วันที่พ่อขอแม่แต่งงานน่ะสิ ผมจำได้ขึ้นใจว่าทั้งสองคนจะแต่งงานกัน”
 “แล้วรู้ความหมายเหรอ”
 “ไม่รู้อ่ะ แหะๆ”
 “ความหมายก็แบบนี้ไงครับหมูหัน จ๊วบบบ”
 “หวา พะ..อุ๊บ! อื้อ!”
 ผมรีบผละตัวพี่คิงส์ออกเพราะจู่ๆก็จับผมจูบต่อหน้าลูกซะงั้น
 “แต่งงานก็ประมาณนี้แหละลูก”
หมูหันตาลุกวาว “โห งั้นทำอีกๆ”
 “พอได้แล้วนะพี่คิงส์…..”
 “ทั้ง3คนเข้าบ้านได้แล้วจ้ะ ยุงจะกัดเอานะ….” แม่เดินมาเรียก พวกผมก็ทำตามที่บอก หากแต่เสียงกระซิบข้างหูทำให้ผมหน้าแดง
 “กล่อมหมูหันให้หลับแล้วมาแต่งงานแบบหนักๆกันต่อนะ…..”
 ผมหันไปมองพี่คิงส์แล้วยิ้มเขิน
 วิ๊ง เเสงของท้องฟ้าทำให้ผมหันไปมอง ดาวบนท้องฟ้าดวงหนึ่งส่องเเสงสว่างกว่าดาวดวงอื่น ผมมองเเล้วยิ้มเหมือนกับว่าดาวดวงนั้นกำลังจ้องมองผม หากเเต่เพียงไม่นานมันก็หล่นลงเป็นดาวตก
 "ว้าว ดาวตกล่ะ ขอพรๆ"  หมูหันรีบกุมมือขอพรเเละพูดขึ้นเสียงดัง  "ขอให้ทุกคนอยู่กับผมตลอดไป!"
 ผมกับพี่คิงส์มองหน้ากัน.....ใช่พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป.....เเม้ถึงวันที่เราคนใดคนหนึ่งจะจากไปเเต่ความรักของเราจะยังคงอยู่ด้วยกันตลอดไปตราบนิรันดร์

++++++++++++++++++++++

ขอบคุณที่ติดตาม ทั้งคำติชมต่างๆนะคะ  :mew1:


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วางจำหน่ายเเบบหนังสือ

(http://www.mx7.com/i/1b0/GyBx0U.png) (http://www.mx7.com/view2/zZqwOGVGKFI3yYxC)

ลูกรักของเเม่ รอบตำหนิค่ะ
(ถ้าหมดเเล้วไม่รีปริ้นนะคะ ทำรอบเดียวค่ะ)
*ตำหนิธรรมดา ราคา 400 บาท
ดูสภาพ>>>http://tastsunovel.lnwshop.com/product/1
(กดสั่งในเว็บได้เลยค่ะ)
*ตำหนิหนัก ราคา 250 บาท

ดูสภาพ>>>http://tastsunovel.lnwshop.com/product/2
 (กดสั่งในเว็บได้เลยค่ะ)
*ค่าจัดส่ง
-พัสดุธรรมดา 30 บาท
-ลงทะเบียน 40 บาท
-ems 50 บาท
-เล่มต่อมา + 10
 
**ตอนพิเศษ
-คิงส์หอม behind the scenes
(scenes 1,2,3,love scene )
-หมูหัน story
(วัยเยาว์ story , วัยรุ่น story)
-รักไม่มีวันจบ (เเถมท้ายนิดหน่อย)
 
 วางจำหน่ายเเบบ e-book

 
(http://www.mx7.com/i/246/3D2vxT.png) (http://www.mx7.com/view2/zZqwQ6QpSZD7TcvY)

 
นิยายเเบบ e-book วางจำหน่าย 2 เรื่อง เเล้วนะคะ
ลูกรักของเเม่ >>>https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTQ3NjQ0NyI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6IjYwNDY4Ijt9




 
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-07-2017 15:10:16
แล้วปาฏิหาริย์ ก็เกิดกับหอม  :mew1:
เพราะทั้งคิงส์ ทั้งหมูหัน โทร ส่งเสียงเรียกร้องให้หอมกลับมา
แล้วทั้งสองครอบครัว ก็กลับมามีความสุข
ขอบคุณไรท์ ให้คนอ่านมีความสุข
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-07-2017 17:53:10
 :katai2-1: :katai2-1: :3123: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 16-07-2017 19:42:03
คิดว่าจะจบแบบดราม่าซะแล้ว ตกใจหมด5555555
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 16-07-2017 21:19:17
ดีใจแทนหมูหันมากๆ  ที่แม่กลับมา   ขอบคุณนักเขียนครับ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-07-2017 02:30:21
อ่านไปน้ำตาไหลไป
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-07-2017 20:13:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-07-2017 09:46:28
จบแล้ว ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 23-07-2017 00:57:25
ดีงามมมม แอบอยากให้ bad end 555  :z13: :-[
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 23-07-2017 10:14:30
เศร้า น้ำตาใหลด้วย ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่ให้ความบันเทิง
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-07-2017 10:59:48
สุดท้ายก็จบได้ด้วยดีนะคะ ขอบคุณคนแต่งมากค่ะ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 23-07-2017 13:06:24
 :fire: เกลียดคิง
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Shin Heeyoo ที่ 23-07-2017 15:59:27
เสียน้ำตาให้เรื่องนี้หนักมาก

ร้องไห้จนตาบวม ร้องจนปวดหัว

กว่าจะจบเรื่อง หมดทิชชู่เป็นม้วน

 :hao5:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 19-10-2017 00:20:27
อ่านรวดเดียวจบเลย
กว่าจะมาถึงจุดจบได้
ต้องผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะมาก
คิงส์สำนึกได้เพราะครูสินะ
กว่าจะรู้ก็เกือบจะสายไปแล้ว
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 19-10-2017 04:20:25
 :bye2:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-10-2017 07:23:27
ต่อมน้ำตากระจายเลย  :sad2:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 19-10-2017 19:44:34
 :hao5:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 20-10-2017 15:49:39
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 21-10-2017 16:27:46
ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้
นึกว่าจะจบแบบ bad end ซะแล้ว
อ่านไปน้ำไหลไป
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 21-10-2017 23:30:29
เกือบจะร้องให้แล้วนึกว่าหอมตาย แต่จบแบบมีความสุขนี่ก็แฮปปี้แล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำหูู้ปาโก๋ ที่ 29-10-2020 23:36:40
น้ำตาถ่วม
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 09-11-2020 21:30:58
น้ำตาซึมเลยครับ  ฮืออออ
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 15-11-2020 12:46:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 07-02-2022 02:30:14
จากนั้นก็เริ่มหันหลังให้หอมและเที่ยวผู้หญิงมากขึ้นจนไม่สามารถที่จะกลับมายุ่งกับร่างกายอีกฝ่ายได้อีก
จนเมื่อ 1 ปีก่อนแม่แนะนำลินดาลูกสาวของเพื่อนให้อีกครั้ง
แล้วหอมท้องกับใคร????
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 07-02-2022 02:41:05
คอยดูเถอะอีแก่! สักวันแกจะต้องเสียใจที่กล้าทำแบบนี้กับฉัน!
+1 เห็นด้วย จัดหนักไปเลย
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 07-02-2022 03:15:52
ใช่……ฉันให้อภัย แต่ยังไงวันพรุ่งนี้พาหลานมาให้อุ้มด้วยล่ะ
อีแก่นี่เข้าใจผิดแน่ๆ หอมต้องให้อภัยมึง ไม่ใช่นะอีแก่
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 09-02-2022 21:53:36
หมูหันนน  น่ารักเลยครับ
หัวข้อ: Re: ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 21-04-2022 23:30:32
“คอยดูเถอะอีแก่! สักวันแกจะต้องเสียใจที่กล้าทำแบบนี้กับฉัน!” เธอพูดแล้วรีบลุกไปโทรศัพท์ในที่ลับตาคน
จัดไป งานนี้ เชียร์ลินดาเต็มที่เลย
หัวข้อ: Re: >ลูกรักของเเม่< *Mpreg* (คิงส์xหอม) ตอนที่ 30 (ตอนจบ) {16/07/60}
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 11-06-2022 19:08:53

เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วเกลียดพระเอก  เลวแล้วเลวอีก  เข้าใจว่านายเอกรักมาก  แต่ควรจะฉลาดให้มากกว่านี้

ก็เป็นเรื่องอีกแนวที่ได้อ่าน ขอขอบคุณนักเขียนมากๆ นะ

 :pig4: :pig4: :pig4: