พิมพ์หน้านี้ - เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: xiaoai ที่ 02-06-2017 12:16:02

หัวข้อ: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 02-06-2017 12:16:02
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

โปรย


Warning! My Daddy เสี่ยครับ เปย์ผมมาก รักผมหนัก ระวังหมดตัว

ผมวนเวียนอยู่ในโลกกลางคืนตั้งแต่จำความได้
เคยเห็นทั้งเด็กดริ้งค์หรือเด็กขายมาก็มากมาย
มีตั้งแต่พวกขัดสนจนตรอกจริง ไปจนถึงคนที่แค่อยากสบาย เลยแลกศักดิ์ศรีและร่างกายไปกับสิ่งที่เอาไว้ใช้หนี้ได้
 
เท่าที่เห็น อนาคตพวกเขานั้นส่วนใหญ่ถ้ายังไม่ถูกทิ้งก็อยู่ดีกินดี ใช้ของแบรนด์ แต่ถ้าอย่างหนักก็โดนเมียหลวงสาดน้ำกรดใส่หรือไม่ก็โดนอุ้มไปรุมโทรม
 
ผมที่เคยแต่เฝ้ามองความเป็นไป แล้วจัดการปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อยู่วงนอก ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมี 'เสี่ย' เป็นตัวเป็นตนมาติดพันกะเค้าด้วย
 
ยิ่งเสี่ยที่ว่า โหดหื่นเป็นหนึ่ง หล่อล่ำเป็นสอง กระเป๋าหนักเป็นสาม เอาเงินตบหน้าทีใครก็ยอมศิโรราบ
 
 
อา...
 
 
แต่คุณเสี่ยครับ
 
 
ผมน่ะ
 
 
 
ไม่ได้เคี้ยวง่ายๆ หน่ายก็ทิ้งนะคุณ
 
 
 
 
 
Talk
 
สวัสดีค่ะ เรา Xiaoai
ชื่อเรื่องยาวอะไรเบอร์นั้น555
กะอัพสองเรื่องคู่กันถ้าว่าง เรื่องนี้เขียนเอามันสสสส์
นายเอกโคตรสตรอง พระเอกโคตรสตรอง
อารมณ์เมะชนเมะ มาปะชะดะกันระเบิดเป็นโกโก้ครั้นซ์
 
ขอบคุณนะคะที่แวะมาค่า
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ - บทนำ -
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 02-06-2017 12:29:44
เสี่ยครับ
บทนำ


โครมมม! เพล้ง!

“กรี๊ดด!”

เสียงร้องแสบแก้วหูพร้อมเสียงแก้วแตกเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในสถานบันเทิงทั่วไป แต่ไม่ใช่กับที่นี่ สถานบันเทิงชั้นสูงที่มีชื่อว่า ‘คลับอีรอส’ ที่ซึ่งรวบรวมคนกระเป๋าหนักไว้กับความหรูหราเท่าที่จะหาได้ในมหานคร เสียงนั้นเรียกสายตาของบรรดาแขกเหรื่อและเหล่าเด็กบริการทั้งชายหญิงให้หันไป

“...”

กลางห้องโถงตกแต่งอย่างหรูหรา เหมือนเมื่อครู่จะมีการกลั่นแกล้งระหว่างสาวให้บริการชั้นสูงสองคน คนหนึ่งผลักอีกฝ่ายให้ล้มลงขณะเสิร์ฟเครื่องดื่มเพราะเธอกำลังจะแย่ง ‘เสี่ย’ ของตน

แต่กลับกลายเป็นว่าถาดเจ้ากรรมกลับกระเด็นไปข้างแขกบริเวณวีไอพีคนหนึ่ง เครื่องดื่มบนนั้นจึงกระเซ็นไปโดนสูทราคาแพงของเขา ถึงเเม้จะเป็นเพียงด่างดวงเล็กๆ แต่เจ้าหล่อนคนทำถึงกับหน้าซีด ตัวสั่นริก ยามเหล่าบอดี้การ์ดร่างใหญ่ของเขาทำท่าจะลุกขึ้น

ผู้เสียหายยกมือขึ้นห้าม ผมแอบผิวปากขณะสำรวจเขา

เขาไม่ใช่แขกที่เคยมาที่นี่ เพิ่งมาวันนี้ก็ได้เรื่อง ยามหรี่ตามองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหัวใจพองโต ตั้งแต่ปลายผมที่เซตเป็นทรงอย่างดีจรดรองเท้าหนังเงาวับของเขา ผมประมาณว่าไม่ต่ำกว่าห้าล้านบาท

“ขอทางหน่อยครับ”

ผมเอ่ยเสียงเรียบให้กับคนที่ขวางทาง ก่อนเดินเข้าไปแทรกกลางสถานการณ์อย่างทุกที เมื่อผมขยับตัว เหล่าบริกรชายหญิงก็รู้งานพอที่จะเลิกยืนตะลึงแล้วเข้ามาเก็บกวาด

“ผมขออภัยในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วยครับ” ผมโค้งอย่างชำนาญ ก่อนยื่นผ้าสีขาวสะอาดทำจากหนังสัตว์อย่างดีเกินกว่าจะเป็นผ้าขี้ริ้วให้เขา ทั้งๆ ที่หน้าที่ของมันก็เหมือนกัน

ดวงตาสีเขียวอมฟ้าน้ำทะเลของเขาหลุบมองลงมา หน้านิ่งราวรูปสลักอันเป็นส่วนผสมลงตัวระหว่างเอเชียและยุโรปไม่มีอารมณ์ใดแสดงออกมา ไม่กระทั่งรับผ้าไป สูทนั้นแพงหูฉี่ แต่ส่วนที่เปื้อนก็เป็นเพียงจุดน้อยๆ เท่านั้น

เขายังนิ่ง ผมเลยเสนอต่อไปอย่างคล่องแคล่วด้วยรอยยิ้มบางๆ “ทางเรายินดีรับผิดชอบโดยการส่งสูทของท่านไปซักรีดให้ รวมถึงไม่คิดค่าเครื่องดื่มและให้บัตรกำนัลของคลับตอบแทนครับ”

“เป็นเมเนเจอร์หรือเรา”

เสียงทุ้มต่ำน่าฟังแสนมีเสน่ห์นั้นทำให้คิ้วผมกระตุกเล็กน้อย ‘เรา?’ ใช้คำนี้กับผมเนี่ยนะ อย่างกับว่าเอ็นดูผมนักหนาล่ะ

“ครับ” แต่ภายนอกผมตอบรับอย่างสุภาพ ท่าทางเกรงอกเกรงใจ

“อายุเท่าไหร่ ยี่สิบหรือยัง”

“ยี่สิบสี่ครับท่าน”

ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ไม่เคยมีใครถามผมแบบนี้ น่าสนุกดีเหมือนกัน ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา ดวงตาสีเขียวอมฟ้านั้นเป็นโทนเย็น แต่กลับเร่าร้อนจนทำให้อากาศในห้องอ้าวไปได้ มันมองอย่างจาบจ้วงราวกับจะค้นหาลึกลงไปใต้เสื้อผ้า ทุกสัดส่วน ทุกตารางนิ้ว ทำให้รู้สึกเหมือนผมกำลังเปลือยต่อหน้าเขา

คาดหวังว่าผมจะหน้าแดง หลบตา?

โอ้ไม่ ผมยิ่งจ้องกลับด้วยสายตาสุภาพแบบเดิม ประมาณว่าไม่รับรู้ประกายร้อนแรงในดวงตาคู่นั้น

เขาก้าวเข้ามาประชิดโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว แต่ผมไม่ได้ตกใจจนผงะออก ยังคงยืนยิ้มอยู่ที่เดิม ร่างสูงโน้มลงมา จมูกโด่งเป็นสันแทบแตะใบหูของผม ลมหายใจของเขาร้อนมันเป่าถูกส่วนอ่อนไหว ผมรู้สึก แต่ไม่แสดง เขากระซิบเบาๆ เสียงแหบพร่าลง ต้องยอมรับว่าเซ็กซี่และทำให้หัวใจเต้นแรงแม้ผมไม่นิยมผู้ชายด้วยกัน

“ถ้าจะรับผิดชอบ ก็ไปเช็ดเสื้อให้ฉันข้างบน”

เอ่ยจบเขาก็ผละออกไป ก่อนจะเดินไปชั้นบนโดยไม่รอคำตอบจากผม พอแผ่นหลังกว้างใหญ่ผละไป ลูกน้องคนสนิทก็รีบร้อนเข้ามากระซิบ “พี่...ผมรู้พี่ไม่... แต่แขกคนนั้นเขาเป็นหุ้นส่วนหลักกับท่านประธานใหญ่ครับ เขาคือคุณกันต์ธีร์”

“คุณกันต์ธีร์ เหมวิวัฒณ์?” ผมเลิกคิ้ว ขณะดันแว่นกรอบสีดำสี่เหลี่ยมขึ้น แอบเหลือบมองก็พบว่าเหล่าผู้คนในคลับต่างกลับไปสนใจเรื่องของตัวเองต่อเรียบร้อย ส่วนแม่สาวคนนั้นก็ถูกพาไปจัดการหลังร้าน

“ครับ ผม... คือผมจะว่าไงดี...เขาเล็งพี่แน่ๆ...ถ้าพี่รู้จัก พี่ก็ต้องเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเขา”

ผมตบบ่าลูกน้องไปสองที “อืม ไม่ต้องห่วง ฝากดูข้างล่างด้วย”

กันต์ธีร์ เหมวิวัฒณ์ คือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เศรษฐีที่ไต่เต่าขึ้นมาจนติดหนึ่งในร้อยผู้มีทรัพย์สินสูงสุดในประเทศด้วยวัยเพียงสามสิบห้า มีหน้าตาแบบลูกครึ่งไทยบริติชที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ผิวขาวจัด ตาสีฟ้าอมเขียว แต่มีผมเส้นเล็กสีดำสนิทไม่นับรูปร่างราวกับนายแบบและบุคลิกสง่าน่าเกรงขาม ใกล้เคียงคำว่าเพอร์เฟ็กซ์ในสายตาหลายๆ คน

ผมระบายยิ้มกับตัวเอง เอ่ยฝากฝังงานอีกเล็กน้อยก่อนจะถอยสูทตัวนอกออกแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเปิดไว้เป็นห้องพักผ่อนสำหรับคนอยากค้างคืนหรือต้องการความเป็นส่วนตัว บอดี้การ์ดหน้าประตูสองคนค้นตัวผมอย่างละเอียด พอพบว่าไม่มีอะไรอันตรายก็ปล่อยผ่านเข้าไปในห้อง

พอผมเข้าไปในห้อง ผู้ชายที่รออยู่ก่อนไม่คิดจะให้ผมพูดจาทักทายหรือเช็ดสูทให้ เขาดึงรวบร่างผมแล้วผลักลงไปนอนยังเตียง ค่อนข้างรุนแรงอยู่แต่เพราะความนิ่มของผ้านวมหลังผมจึงไม่เป็นอะไรนัก ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามตามมาทาบทับ ประทับจูบรุนแรงลงบนริมฝีปากผม แว่นตาถูกดึงออกไปวางข้างหัวเตียง

รสเหล้าราคาแพงรุนแรงแทรกเข้ามาในโพรงปากพร้อมลิ้นร้อนที่อุกอาจ ผมเปิดปากให้อย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่ ปล่อยให้น้ำใสแลกเปลี่ยนกันไปมา ไม่เพียงลิ้นเขาที่บดเบียดอย่างชำนาญ ทั้งส่วนล่างของลำตัวและฝ่ามือก็ลูบไล้ปลุกเร้า

ยอมรับว่าขนาดผมไม่เมาก็ยังเผลอมึนฤทธิ์สุราไปด้วย เขาจูบเก่ง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ยับยั้งอารมณ์หรือทะนุถนอมใดๆ ทั้งสั้น ทั้งดูดดุนทั้งขบกัดเอาแต่ใจ จนผมต้องสะกิดให้เมื่อเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด เขาถึงยอมผละออก เราทั้งคู่หอบประสานกัน ปากผมบวมเจ่อ ใบหน้าเริ่มแดงขึ้น

“เราน่ารัก” เขายิ้ม ปรากฏลักยิ้มบนข้างแก้มอย่างคาดไม่ถึง มือเริ่มยุ่งวุ่นวายกับเข็มขัดของผม ในขณะที่ตอนนี้เสื้อท่อนบนหลุดลุ่ยไปเมื่อไหร่ไม่ทราบ เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ยิ่งทำให้ทุกส่วนแนบชิดกัน จนรู้สึกถึงความเป็นชายที่ทาบทับอยู่บนตัว มันคล้ายกับอสูรร้ายที่รอการปลดปล่อย “ชื่ออะไร”

“พยัคฆ์ครับท่าน”

“เหมือนแมวมากกว่า” เขาว่า ยิ้มกว้างขึ้นอีก จมูกก็เริ่มซุกไซ้ไปยังต้นคอ เม้มขบกัดทำรอย “เรียกฉันว่าเสี่ย”

“ครับ แฮ่ก เสี่ย”

เขาคำรามฮือในลำคออย่างพอใจ มือดึงเข็มขัดที่แสนแกะยากของผมออกไปได้แล้ว เขาเบือนหน้าขึ้นมาหมายจะจูบอีก ขณะที่ตะปบเข้าที่จุดยุทธศาสตร์ของผมเต็มไม้เต็มมือ ผมรีบใช้มือขึ้นกันระหว่างริมฝีปากของเราแล้วดิ้นขลุกขลัก ทำให้เสี่ยหมาดๆ ของผมขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดใจ ยิ่งรุกเร้าจนต้องครางแผ่ว ความแข็งขืนที่กระแทกซ้ำๆ บอกได้ว่าเขาอยากขนาดไหน

อา ได้ฤกษ์ พูดซะทีสินะ

“เสี่ย เสี่ยครับ หยะ หยุดก่อน”

“หือ?” เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ไอ้เสียงกระเส่านั่นแกล้งไปงั้น แต่ถ้าเรียกสายตาเขาได้ก็โอเค

ผมแสร้งทำสีหน้าอับอายและสำนึกผิด ยกมือปิดหน้า ขณะเอ่ยตะกุกตะกักว่า

“เสี่ยทำให้ผมรู้สึกดีมาก...”

เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงว่าแล้วไง

“แต่จริงแล้วๆ ...ผมมีเชื้อเอชไอวีครับ เสี่ยจะกล้าต่อไหม”




Talk
เสี่ยจะใส่ถุงไหม เสี่ยจะไปต่อไหม
55555555555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-06-2017 12:50:46
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 02-06-2017 14:25:12
 :laugh:555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Chompussru ที่ 02-06-2017 15:18:27
มาว่ะๆๆ นานๆจะมีเรื่องโดนใจ 555 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Kanyanat ที่ 02-06-2017 15:40:10
มาไม้นี้เสี่ยจะว่ายังไงต่อหละเนี่ย   :katai2-1: :katai4:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 02-06-2017 15:45:27
เสี่ยจะเอาไงละทีนี้ 555  :ling1:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 02-06-2017 15:52:38
เยี่ยมมมม...เสี่ยจะไปต่อมั้ยคร่ะ :katai3:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: bear_boo ที่ 02-06-2017 17:23:05
 :hao6: :hao7:เข้ามาลุ้นค่ะว่าจะไปต่อม้ายย55555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: The Empress ที่ 02-06-2017 20:49:46
แง อัพอีกกก
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 02-06-2017 22:01:57
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 02-06-2017 22:46:58
 :laugh: :laugh:  น้องแมว มาซะเสี่ยหดเลยค่ะ 55555555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: nnjoggy ที่ 03-06-2017 23:15:06
ยอมแพ้ตั้งแต่ชื่อเรื่องละ 5555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 03-06-2017 23:34:49
เสี่ยโดนลูบคมแล้ว
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 03-06-2017 23:41:12
มีความเผ็ชชชชชชช พยัคฆ์สู้ๆ เสี่ยสู้ตายยยยยย เสี่ยไว้ลายสู้ตายสู้ๆ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ 1 - เสี่ยเอาคืน
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 03-06-2017 23:59:11
เสี่ยครับ
1 - เสี่ยเอาคืน
 
หลังจากสารภาพความเท็จกับคุณกันต์ธีร์ ผมก็ได้เห็นสีหน้าเหวอรับประทานของคนที่ได้ชื่อว่า 'เสี่ยมาเฟีย' อย่างเขาเป็นบุญตา แต่ต้องยอมรับว่าหน้าหลุดก็ยังหล่อจนน่าหมั่นไส้เช่นเดิม

เวลานั้นผมกลั้นขำแทบตายภายใต้ใบหน้าเครียดขึงจริงจัง เขาถามย้ำด้วยดวงตาแทบหลุดออกจากเบ้า คิ้วเข้มขมวดตรง คงสร่างเมาแทบในทันที

"ล้อเล่นใช่ไหม"

ผมทำท่าเหมือนจะร้องไห้ "ปะ เปล่าครับ ผมพูดจริง ตอนนี้กำลังรักษาอยู่ เพราะกินยาต้านไว้เลยไม่แสดงอาการ แต่ถ้าเสี่ยไม่รังเกียจ..."

ไม่ต้องรอให้ดราม่าเสนอตัวต่อ เขาผลักผมออกอย่างแรงแทบกระเด็นตกเตียง สบถหยาบคายอย่างหัวเสีย ตะโกนบอกบอดี้การ์ดให้มาลากผมออกไป

ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำก็ขยี้ผมตัวเองขณะพึมพำ "ทำไมไม่บอกแต่แรกวะ!"

ก็นะ คงขยะแขยงไม่ใช่น้อย

หลังจากโดนเตะโด่งออกจากห้อง ผมถึงกับต้องวิ่งลงมาชั้นล่าง ท่ามกลางสีหน้าลูกน้องที่แตกตื่น

"พี่... คอพี่..."

พวกนั้นทำหน้าเหมือนเห็นผี ผมซึ่งหน้าตึงยกมือขึ้นห้ามก่อนก้าวพรวดไปยังห้องน้ำส่วนตัวของผมเอง เมื่อสังเกตดูแล้วว่าไร้คนใกล้ๆ ก็ระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่น

ผมกุมท้องทรุดตัวลงเกาะขอบอ่าง นานมากแล้วที่ไม่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ขันขนาดนี้ ต้องยกความดีความชอบให้คุณกันต์ธีร์จริงๆ

น้ำตาผมซึมออกมานิดหน่อย ยามลุกขึ้นส่องหน้าตนในกระจก ผมหายใจยาวผ่อนอาการขำกับสภาพที่คล้ายคนถูกเมคเลิฟมาหมาดๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่ไปถึงไหน บ่งบอกว่าเสี่ยเขาเครื่องแรงจริงๆ

จะโทษผมที่เป็นเอดส์ จะไปฟ้องท่านประธาน จะอะไรก็เท่ากับประกาศความอับอายของตนออกไปทั้งนั้น ผมยิ้มกว้างขึ้นอีก บันเทิงใจอย่างยิ่ง

ผมใช้น้ำลูบหน้าลวกๆ พยายามทำให้ยิ่งดูโทรมกว่าเดิม แตะดวงตาก็นึกได้ว่าลืมแว่นไว้ในห้อง เอาเถอะ อย่างไรก็ไม่ใช่แว่นสายตา อีกทั้งเสี่ยคงไม่คิดจะแตะต้องมัน

ผมก้มหน้าห่อไหล่ออกมาส่งเขา เสี่ยกันต์ธีร์เหลือบมองนิดหนึ่ง สีหน้าบึ้งตึงขณะกระชากสูทที่ผมว่าจะซักให้ไป เอ่ยเสียงเยียบเย็น "ไม่ต้อง"

จากนั้นก็ขึ้นแลมโบกินีสีดำคันหรูจากไปในความมืดมิด

เดียว ลูกน้องคนสนิทเห็นผมก้มหน้าใช้มือปิดตา แถมไหล่สั่นก็รีบเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง "พี่พยัคฆ์ พี่โอเคนะ”

ผมเอามือออก เงยหน้าขึ้น

"พี่ขำอะไรของพี่เนี่ย!?"

เดียวว่าอย่างไม่เข้าใจ ผมที่กลั้นขำไม่อยู่ก็เลยว่ากลั้วหัวเราะ

"อย่ารู้เลย ต่อไปคุณกันต์ธีร์คงไม่มาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง"

แต่ต่อมา... คำพยากรณ์นั้นผิดไปถนัด



สามอาทิตย์ถัดมา เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีแม้แต่เงาของคุณกันต์ธีร์ให้เห็น เรื่องในวันนั้นมีเพียงคำตำหนิเล็กน้อยเรื่องพฤติกรรมเด็กของในคลับอีรอสที่ทะเลาะกันมาจากเบื้องบน กระทั่งร่องรอยบนตัวผมก็จางลงจนแทบมองไม่เห็น

วันหนึ่งเวลาตีห้าวันเสาร์ขณะกำลังเก็บกวาดใกล้ปิดคลับ จู่ๆ ผมก็จามออกมาเบาๆ เหมือนมีน้ำมูกจึงทำจมูกฟุดฟิด

"โฮ้ พี่พยัคฆ์ป่วยเป็นกะเขาด้วยเหรอ นึกว่าพี่เป็นคนเหล็กซะอีก" เดียวแซวอย่างติดตลก คนอื่นๆ หัวเราะตาม ผมมุ่นคิ้วเล็กน้อย แปลกใจอยู่เหมือนกัน

"คงคราวนั้นแน่ที่โดนลูกค้าจามใส่หน้า…"

"ยังไงก็ดูแลตัวเองดีๆ นะครับ ถ้าพี่ป่วยพวกผมลำบากแน่ ใครจะคอยเคลียร์เวลามีเรื่อง"

"พวกนายมันห่วงตัวเองนี่หว่า" ผมว่าด้วยเสียงออกแนวน้อยใจ ได้เสียงหัวเราะฮากลับมาอีก แม้อยู่ในฐานะผู้จัดการคลับกลางคืนไฮโซ แต่สังคมการทำงานอยู่กับแบบพี่น้อง นี่คือสิ่งที่ผูกใจคนทำงานและทำให้ผมแน่ใจว่าจะไม่มีการ 'ขาย' หรือ 'หักหลัง' กันเกิดขึ้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่มีบ่อยในโลกที่เร้นหลบซ่อนจากกฎหมาย

หลังจากบอกลาเรียบร้อย ผมก็ขับรถญี่ปุ่นสีดำออกจากลานจอดรถ ถึงรายได้จะค่อนข้างมาก แต่ผมเลือกใช้ของระดับราคาปานกลาง นิสัยผมไม่ชอบเป็นจุดสนใจเพราะมันจะนำพาปัญหาต่างๆ จากคนอื่นเข้ามาในชีวิต

ขับมาถึงหน้าคอนโดกลางเก่ากลางใหม่ของผม ผมก็เห็นผู้หญิงในชุดเดรสสีดำเกาะอกสะพายกนะเป๋าหลุยส์คนหนึ่งยืนรออยู่ตรงหน้า ขณะหรี่ตาครุ่นคิดจะจอดดีหรือไม่ เธอก็เห็นผมเสียก่อน ท่าทางคงมาหาผมนี่เอง

ผมถอนใจออกมาหนึ่งที จอดรับเธอขึ้นมา แล้วเลือกขับไปที่ลานจอดรถด้านหลัง ถึงคอนโดแห่งนี้คนอยู่ไม่มากและมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ผมเลือกเซฟตัวเองดีกว่า

"สวัสดีครับ คุณอลิตา"

"ไม่ใช่น้องแอนแล้วเหรอคะ" หญิงสาวสวยเหยียดมุมปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด กลิ่นน้ำหอมอบอวลทำให้ผมเวียนหัวจึงเลือกเชิญเธอลงมาคุยกันนอกรถ

อลิตาอิดออดเล็กน้อย แต่ก็ยอมลงไปโดยดี ผมกอดอกพิงรถตัวเอง มองเธอยิ้มๆ ซึ่งนั่นไม่ทำให้อารมณ์สาวเจ้าดีขึ้น

"มีธุระอะไรรึเปล่าครับ"

"มีค่ะ มีแน่" ตาคู่กลมเคยดูใสซื่อ แต่ตอนนี้แต่งแต้มด้วย...เขาเรียกอะไรนะ การแต่งหน้าแบบสโมคกี้อาย รวมถึงเรือนร่างสวมชุดสั้นเน้นสัดส่วนกับส้นสูงสีดำ บอกได้ว่าเธอสลัดคราบไร้เดียงสาออกไปแล้ว

"มองอะไร อยากเหรอ"

"ก็... ผู้ชายมองผู้หญิงสวยก็ไม่ได้แปลว่าอยากทุกคนนะครับ แค่ชื่นชมเฉยๆ"

"หึ ของเคยๆ กัน" อลิตามองผม หายใจเข้าลึกๆ จนอกอิ่มขยับขึ้นลง "ฟังให้ดี แอนจะพูดครั้งเดียว"

ผมมองเธอ คู่นอนชั่วคราวระยะหนึ่งคนนี้จะมาไม้ไหนอีก ผมล่ะลุ้นจริงๆ

"แอนท้อง"

อ้อ...

"แล้ว...?"

"ลูกของพี่นั่นแหละ อย่าทำหน้าไม่รู้เรื่อง" เธอว่าเสียงเย็น แต่เริ่มแสดงอาการหัวร้อน มือสองข้างกำหากันแน่น ผมพยักหน้าเข้าใจเนิบๆ

"ผมป้องกันทุกครั้งนะ เว้นแต่ว่านั่นไม่ใช่ลูกผมหรือคุณท้องกับไขมัน"

"ทุเรศ!!!" อลิตาร้องลั่น ก่อนหยิบกลุ่มที่ตรวจครรภ์ออกมาปาใส่หน้าผม ทั้งห้าอันมันเป็นสองขีดทั้งหมด ผมเริ่มมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาขึ้น

"ไม่เชื่อ? ก็ดี แอนไม่คิดว่าพี่จะเชื่ออยู่แล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ แอนยังมีของขวัญอีกอย่าง" ดวงตากร้าวนั้นมีน้ำอุ่นใสไหลลงมา ร่างบอบบางสั่นไปทั้งร่าง ผมเริ่มขมวดคิ้ว เล่นใหญ่ไปไหมนั่น

ผมหันไปปิดปากจามเบาๆ สองที ก่อนหันมาเมื่ออลิตาหัวเราะลั่นเหมือนคนเสียสติ

"เฮ้อ... อะไรกัน ทำงานหนักจนภูมิต้านทานหายหมดเหรอคะ อยู่กับแอนยังไม่เคยเห็นพี่ป่วยเลยนะ"

ผมเริ่มนิ่วหน้า เธอจะพูดอะไร

"เอ้า! ของขวัญ พ่อแม่ลูกครอบครัวสุขสันต์!!" อลิตาปากระดาษที่ถูกขย้ำเป็นก้อนใส่หน้าผมอีก ยามคลี่ออกมาผมถึงกับเบิกตากว้าง หลุดจากความใจเย็นที่มี

ผลตรวจเลือด...เป็นบวก

ผมดูอีกแผ่นและอีกแผ่น เธอไปเทสมาสามโรงพยาบาลให้ผลเดียวกันหมด

"ผมป้องกันทุกครั้ง..." ผมเงยหน้าขึ้นย้ำเสียงแข็ง อลิตาเหมือนสติหลุดไปแล้ว "พรุ่งนี้ไปตรวจกัน จะได้รู้ไปเลย"

"เหรอคะ..."

จู่ๆ หญิงสาวก็กลับมายิ้มหวานทั้งๆ ที่เมคอัพถูกน้ำตาละลายไหลเปื้อน ทำเอาผมขนลุกทั้งแขน สังหรณ์ใจไม่ดี
อลิตาควักปืนพกออกมา จ่อทางผมอย่างมาดร้าย จะวิ่งเข้าชาร์ทก็ไม่ได้ เพราะเธอเคยเป็นถึงอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษ ก่อนถูกเด้งเพราะข้อหามีสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา

ผมตระหนกตกใจ ได้แต่ยกมือสองข้างขึ้น แล้วถอยออกมาจากรถ น้ำลายในคอเหนียวหนืด เหงื่อซึมตามไรผม หัวใจเต้นระรัวยิ่งกว่ากลอง

"ใจเย็นแอน ใจเย็นๆ …"

"ลูกจ๋า เดี๋ยวหนูค่อยตามไปเจอพ่อในนรกนะ รักนะคะ" แอนยิ้มกว้าง กระซิบเบาขณะลูบท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยจนหากไม่สังเกตคงไม่รู้ ทันใดนั้นตาแดงก่ำก็กร้าวขึ้น มองจ้องเขม็งมายังผม ปืนเลื่อนมายังกลางศีรษะ

"บายค่ะ คุณพ่อ"

ปัง!

สองแขนผมกระตุกขึ้นกันตามสัญชาตญาณ สองข้างผงะถอยแทบล้ม หากไม่มีร่างของใครบางคนอยู่ด้านหลัง ผมลืมตา ไม่มีความเจ็บปวด มีเพียงแขนแกร่งที่โอบรัดร่างปวกเปียกไว้

พร้อมกับน้ำเสียงคุ้นหูที่โน้มลงมากระซิบใกล้ๆ ว่า

"ละครสนุกไหม แมวน้อยของเสี่ย"
 

หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-06-2017 00:04:15
 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Kkfu ที่ 04-06-2017 00:24:45
อื้อหืออออออ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-06-2017 15:12:47
ว้าว
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 04-06-2017 16:57:52
โอ๊ยยยยย โดนเสี่ยเอาคืนแล้ว
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 04-06-2017 18:39:56
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 04-06-2017 20:39:05
สนุกดี
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-06-2017 22:23:04
น่าสนุกอ่ะ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 06-06-2017 00:45:18
รอตอนต่อไปจ้า เปลี่ยนหัวเรื่องหน่อยก็ดีเน้อ เวลาอัพแล้วจะได้รู้ อิอิ ขอบคุณจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: MorethanMore ที่ 06-06-2017 17:39:20
อื้อหื้มมมมมมมมมมม


เล่นใหญ่มากเสี่ยแสบมาก

ว่าแต่คลับนี่ค้องทำอย่างว่าทุกคนเหรอคะ?
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 06-06-2017 20:42:00
โฮ่!!! เสี่ยยยย!! :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: skyberry ที่ 09-06-2017 22:19:53
จำไว้อย่าเล่นกับเสี่ย 555555555555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 10-06-2017 02:16:07
เสี่ยเล่นใหญ่มากอ่ะ :pigha2:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: คุณจัตวา ที่ 10-06-2017 07:01:52
เล่นใหญ่จนใจจะวายเบยทีเดียว :hao7:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-06-2017 00:42:00
เล่นใหญ่พอกัน  :hao7:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 14-06-2017 07:44:36
ความเล่นใหญ่นี้ พอกันทั้งคู่อะ เอ็นดู 555555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 14-06-2017 08:15:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 14-06-2017 08:33:28
อะหูยยยย แซ่บ รู้ทันกันแบบนี้สิดี
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 14-06-2017 09:11:29
ร้ายกาจทั้งคู่เลย แสบจริงๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-06-2017 09:26:40
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Jessiebier ที่ 14-06-2017 19:41:12
สนุกจัง รอเสี่ยจัดการพยัคฆ์ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-06-2017 13:59:43
ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: 14th-friedegg ที่ 15-06-2017 18:41:02
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากคะ
คุณแอนเล่นใหญ่มาก 55
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: NoteZapZa ที่ 15-06-2017 22:53:28
ยกรางวัลออสก้าให้คุณแอนเลยค่ะ  ความเล่นใหญ่นี้ ไม่มีใครยอมใครจริงๆๆ  งานนั้นมันส์พระยะคะ  555 รอตอนต่อ :hao3:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 16-06-2017 00:58:38
ขอโทษนะคะ ต้องเป็น sugar daddy. หรือเปล่าคะ พวกเสี่ยๆ แบบนี้ แฮ่ ผิดขออภัยนะคะ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 16-06-2017 09:52:08
อุทานมาเลย เล่นใหญ่มาก ใจหายใจคว่ำ นังแอนนี่ก็นะ เห้อม
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 16-06-2017 10:39:45
สนุกมาก  เอาอีก :ling1:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 16-06-2017 21:07:30
 :mc4:ี
รอเรื่องนี้ รอน้าาาา มาอัพไวๆนะ ; w ; / ส่งกำลังใจ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 16-06-2017 21:47:19
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 18-06-2017 22:05:47
รอออออออ :katai5:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 18-06-2017 23:03:59
กรี๊ดดดดดด ปักรอค่าาา แอร้ยย รักเลย  :-[ :-[
หัวข้อ: (1/7/60)Warning!My daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว2-เสี่ยบุกห้อง
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 01-07-2017 00:24:04
เสี่ยครับ
2 – เสี่ยขึ้นห้อง

   “ละครสนุกไหม แมวน้อยของเสี่ย”

   ความตระหนกอย่างรุนแรงเมื่อครู่เร่งให้อะดรีนาลีนพุ่งพล่านและทำให้ประสาทโต้ตอบตื่นเต้นจนเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างเร็วกว่าเดิมสักสองเท่า แต่ตอนนี้กลับลดฮวบลงฉับพลัน ความรู้สึกเฉียดตายเปลี่ยนเป็นความรู้สึกคล้ายถูกกำปั้นซัดหน้าท้องจนจุกแทน ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงกระซิบนั้น ผมยิ่งเหมือนโดนสตั้นไปหลายวินาที

   หญิงสาวสวยเจ้าของบทดราม่าที่สมควรได้รับรางวัลตุ๊กตาทองคำหัวเราะลั่นออกมา ปืนในมือที่ยิงออกมาเป็นกระดาษริ้วและสายตารุ้งตกรอบตัวผมเหมือนว่าเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ เรือนร่างได้สัดส่วนนั้นงอตัวลงเพราะกำลังปลดปล่อยอารมณ์ขำขันระคนสะใจอย่างบ้าคลั่ง ส่วนเสี่ยกันต์ธีร์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะรับเป็นลูกคู่

   ผมอ้าปากค้าง แทบไม่เชื่อหูกับตาของตัวเอง

   “หึๆ”

   ผู้ชายข้างตัวหัวเราะเมื่อเห็นผมช็อกนิ่งค้างไป มือปลาหมึกยิ่งได้ใจที่จะแอบจับนู่นนี่อย่างแนบเนียน แต่อย่าคิดว่าผมไม่รู้สึก แค่โมโหเกินกว่าจะทำอะไร

   “พวกคุณ...”

   “เซอร์ไพรซ์!”

   อลิตากับคุณกันต์ธีร์ว่าเสียงแจ่มใสออกมาพร้อมกัน

   ผมรู้สึกถึงความร้อนแทบไหม้บนใบหน้า อุณหภูมิร่างกายพุ่งริ้ว พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนพันธนาการแต่ดูท่าจะไม่ง่าย เมื่ออีกฝ่ายตัวสูงใหญ่กว่าผม และจากท่าทางคงชำนาญศาสตร์การต่อสู้ประชิดตัวไม่แขนงใดแขนงหนึ่งจึงไม่เปิดช่องว่างให้ แม้เจ้าตัวจะยังขำอย่างสะใจไม่หยุด

ฟัค!!!

   คนอย่างผมถูกปั่นหัวง่ายๆ แบบนี้งั้นเหรอ รู้ถึงไหนอับอายถึงนั่น!

   “ฮะ ฮ่าๆๆ! พะ พี่” อลิตาพยายามหยุดขำอย่างยากลำบาก ผมรู้สึกอยากต่อยเจ้าหล่อนก็คราวนี้ แม้รู้ว่าหนึ่งต่อหนึ่งตัวเองจะน่วมไม่มีชิ้นดีก็ตาม “พี่พยัคฆ์... ใครจะรู้ว่าพี่น่ารักขนาดนี้ ต๊าย กลัวจนหน้าซีดเชียว น่าเอ็นดูจริงๆ”

   “อลิตา!” ผมแค่นเสียงลอดไรฟัน มองด้วยสายตาเอาเรื่อง ที่คิดว่าต้องเขียนชื่อแม่ตัวแสบนี่ไว้ในบัญชีดำ แต่กลับต้องเปลี่ยนคลองสายตาเมื่อถูกผู้กำลังกอดรัดจากข้างหลังใช้มือลวนลามลูบไล้หน้าอกอย่างหน้าไม่อาย

   “คุณ...!”

   นานเท่าที่ไม่ได้หัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนน้ำตาเล็ดเช่นสามอาทิตย์ก่อน ผมเองก็ไม่ได้โกรธจนหน้าดำหน้าแดงพูดไม่ออกมาเท่าๆ กัน นี่ยังมีหน้ามาฉวยโอกาสอีกเรอะ

   “ไงล่ะ ไหนว่ามีเชื้อเอช-ไอ-วี หืม?”

   เสียงทุ้มทรงเสน่ห์ยามนี้กระซิบข้างหูอย่างจงใจให้ขนลุกซู่ทั่วร่าง เจือความล้อเลียนอย่างบันเทิงใจไม่ปิดบัง นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ผมปั่นป่วนจึงต้องขบฟันกำมือแน่น รีบดึงสีหน้าและขวัญของตัวเองที่หลุดหายไปกลับมาให้เร็วที่สุด แม้ว่าในอกจะคล้ายมีรูโหวงๆ อยู่ก็ตาม

   “ทั้งหมดนี่พวกคุณร่วมมือกันสินะ”

   ผมว่าอย่างอดกลั้น ฝืนยิ้มออกมา พยายามทำเสียงให้สุภาพและชักสีหน้าเหมือนไม่รู้สึกกับอาการปล่อยไก่ของตนเองเมื่อครู่ ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมากจนลมหายใจเข้าออกแรงกว่าปกติ

   เสี่ยกันต์ธีร์เลิกคิ้วยิ้มมุมปากทำหน้ายียวน ใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบที่ได้ส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างสองเชื้อชาติยิ่งน่าซัดให้ดั้งหักเมื่อยังก้มใช้ปลายจมูกไล้ไปตามเรือนผมและลำคอของผมอย่างไม่สนสิ่งใด แม้ว่าจะมีสายตาเป็นประกายเต้นระลิกอลิตามองมา

   “คุณสืบประวัติผม จ้างอลิตาเล่นละคร ยังไม่นับทำใบรับรองแพทย์กับที่ตรวจครรภ์ปลอมขึ้นมา...”

   “พี่ลืมไปอย่างนึง” อลิตาว่าเสียงใส กะพริบตาคล้ายสาววัยรุ่นซื่อๆ “คุณกันต์ธีร์ลงทุนขนาดจ้างคนให้จามใส่หน้าพี่ให้เป็นหวัด จะได้เชื่อว่าภูมิคุ้มกันต่ำลงเลยนะคะ”

   “คราวหน้าไม่จ้างคนให้อาเจียนใส่ผมเลยล่ะ”

   ผมเข่นเขี้ยวอย่างอดไม่ได้ เหลือบตามองผู้ชายที่กอดผมแนบชิดราวกับเป็นคนรักกันอย่างไรอย่างนั้น เขาเพียงยักไหล่ ใช้มือเกาคางผมเบาๆ อย่างถือดี ว่าด้วยเสียงทุ้มๆ แหบพร่า “ทีนี้ก็หายกันแล้วไง”

   คราวนี้พอไม่เมาแล้วได้อยู่ในระยะใกล้ ผมยิ่งเห็นว่ารูปหน้าของผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ร้ายกาจอย่างไม่น่าให้อภัย เมื่อแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตคอปกสีดำสบายๆ เห็นช่วงลำคอและสัดส่วนรูปร่างแข็งแรงได้ชัดเจน พร้อมฉีดน้ำหอมกลิ่นเบาบางแต่ให้ความรู้สึกลึกลับเย้ายวน

   แต่เสียใจ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายไง

ส่วนแม่ตัวดี ใครจะคาดว่าการมองผู้ชายสองคนแนบชิดจะทำให้เธอดูมีความพึงพอใจระลิกระลี้ได้ หรืออาจจะสะใจล้วนๆ เพราะเป็นผม ผมก็ไม่อยากจะไปเดาให้เสียเวลา รู้แค่ว่าต้องเอาคืนแน่นอน

   “เสี่ยครับ...” ผมเอ่ยเสียงเข้ม รู้ว่าดวงตาตัวเองคงเป็นประกาย แผ่จิตสังหารออกไปอย่างรุนแรงแน่ ผมขยับตัวถอยออกด้วยความรำคาญและอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก ทว่าอีกฝ่ายกับยิ่งได้ใจกว่าเดิม ดวงตาวิบวับสีหายากนั่นน่าควักออกมาจริงๆ

   “แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้ แสดงว่าคราวก่อนก็แกล้งเสียวอีกล่ะสิ ไม่เคยนอนกับผู้ชายใช่ไหม”

   ผมอาจจะนับได้ว่าเป็นสุภาพบุรุษที่หน้าหนาคนหนึ่ง แต่คำไร้ยางอายพวกนี้เสียดแทงหูยิ่งกว่าโดนด่าด้วยคำหยาบซะอีก
 
   “เสี่ยแคร์ด้วยเหรอครับ”

   “ไม่” เขาหัวเราะหึๆ “สนแค่ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้นอนกับเรา?”

   ตรงมาก

แต่ก็ดี ผมก็ไม่คิดว่าที่เขาปั่นหัวผมเพราะจะมาแกล้งเล่นๆ แล้วจากไปเฉยๆ อยู่แล้ว

   “แล้วถ้าผมไม่สนล่ะครับ”

   “เดี๋ยวได้รู้กัน อยากดูคลิปตลกเมื่อกี้ไหมล่ะ พอดีให้ลูกน้องอัดไว้ด้วย ถ้าอยากดู... ก็ไปดูกันบนคอนโด”

   ผมไม่คิดว่าเขาจะพลาดอัดคลิปน่าอนาถของผมไว้ด้วยอยู่แล้ว ผมไม่ถือว่ามันเป็นของแบล็กเมล์ด้วยซ้ำ แต่เป็นเรื่องที่ว่ากันด้วยศักดิ์ศรี

คนอย่างผม ปกติไม่หาเรื่องวุ่นวายให้ตัวเอง แต่ถ้ามีคนหาเรื่องมาให้ผมถึงที่ นั่นก็อีกประเด็น

เสี่ยกันต์ธีร์ครับ... ในเมื่อสนใจผมขนาดนี้ ผมจะตอบแทนความพยายามคุณแล้วกัน

เมื่อเห็นว่าดิ้นรนอย่างไรก็เปล่าประโยชน์ จึงตัดสินใจเปลี่ยนสีหน้าฉับพลันยิ่งกว่านักแสดงสลับหน้ากาก

“เปล่า” ผมเอียงหน้าหันไปให้ได้องศา จนปลายจมูกเฉียดจมูกโด่งของอีกฝ่าย เหลือบมองอลิตาที่ยืนกอดอกอยู่ ก่อนกระซิบด้วยเสียงพร่าไม่แพ้เขา “แค่อยากได้ความเป็นส่วนตัว ผมว่าเราต้องคุยกันสักหน่อย”

“โอ้โห” อลิตาเลิกคิ้วสูง ยิ้มมุมปาก “งั้นเชิญคุณผู้ชายคุยกันส่วนตัวนะคะ แต่ถ้าเสี่ยมีอะไรให้รับใช้ก็เรียกแอนได้ทุกเมื่อค่ะ”
ท่าทางอ้อเซาะน่ารักแบบนั้น ผมไม่อยากคิดเลยว่าแกล้งเล่นละครฉากเดียวนี่เธอได้ไปเท่าไหร่ ตอนคบเป็นคู่ขาผม อลิตาก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่เคี่ยวลากดินอยู่ ถ้ายอมเสียเวลามาทำอะไรแบบนี้เสี่ยกันต์ธีร์คงยอมจ่ายไม่อั้น

เสี่ยกันต์ธีร์ดีดนิ้วเปาะเดียว ก็คล้ายมีรถหรูคันหนึ่งมาจอดข้างๆ ที่อลิตายืน คนที่ลงมาน่าจะเป็นลูกน้องของเสี่ยกันต์ธีร์ เขาเดินมาเปิดประตูให้อลิตาเดินเข้าไป ก่อนไปเธอยังไม่วายลดกระจกลงมาพร้อมบอกว่า

“เสี่ยขา จุดอ่อนของพี่พยัคฆ์คือหัวนมด้านซ้ายกับต้นขาอ่อนด้านขวานะคะ อ้อ! พี่พยัคฆ์ชอบให้คนทำออ...”

“อลิตา!”

“คิก” เจ้าหล่อนหัวเราะไม่รู้สึกรู้สา “อ้อ โนสปอยเลอร์ดีกว่า เดี๋ยวเสี่ยจะหมดสนุก”

“ขอบคุณสำหรับข้อมูล ว่างๆ ไว้เจอกัน”

เสี่ยกันต์ธีร์ยังมีหน้ายิ้มกว้างยกมือโบกลา ผมล่ะหมดปัญญาจะพูดเรื่องความน่าไม่อายนี่จริงๆ

รถคันนั้นแล่นออกไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือผมกับผู้ที่มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยมาเฟีย’ ในวงการใต้ดิน แม้ฉากหน้าจะเป็นนักธุรกิจลูกครึ่งผู้ร่ำรวยมหาศาลก็ตาม

“แล้ว...”

ผมอาศัยจังหวะคลายตัวจากพันธนาการที่อึดอัดจนร้อน จัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ ก่อนจะกวาดสายตามองทั่วบริเวณรอบหนึ่ง เห็นคนที่ยืนอยู่ประมาณสองสามคน แต่ไม่ได้หันมาทางนี้ แต่ด้วยเสื้อผ้ากับมาดก็เดาได้ว่าเป็นบอดี้การ์ด

“ผมชอบความเป็นส่วนตัว” ผมย้ำอีกครั้ง ก่อนสบตาคู่สวยนั้น “หวังว่าคนไม่มีใครไปรบกวนหน้าห้องนะครับ ห้องผมไม่ได้เก็บเสียง”

“ก็ได้” เสี่ยกันต์ธีร์หรี่ตา “แต่แน่ใจนะ ว่าจะให้ฉันขึ้นห้อง ครั้งนี้จะไม่มีการออมมือแล้ว”

“ครับ” ผมปั้นยิ้มที่ดูก็รู้ว่าเราสองคนกำลังดูเชิงกันอยู่ หากเป็นในหนังคงมีกระแสไฟฟ้าแล่นระหว่างตาซึ่งกันและกัน “ไปคุยเฉยๆ”

“แล้วถ้าไม่คุยเฉยๆ ล่ะ”

“ถ้าเสี่ยเป็นผู้ชายที่ขนาดผู้ชายแท้ๆ อย่างผมยังต้านทานไม่ได้” ผมยืดตัวไปกระซิบข้างหูเขา “เสืออย่างผมจะยอมเป็นแมวน้อยให้เสี่ยเลยครับ”



   หลังจากนั้น เสี่ยกันต์ธีร์เดินไปบอกกับเหล่าลูกน้องว่าให้เฝ้าและรออยู่ชั้นล่าง

เราสองคนขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่ผมอยู่อย่างเงียบๆ ก่อนเหยียบย่างไปตามทางเดิน แม้ผมไม่ได้จ้องมองเขา แต่ผมก็รู้ว่าคุณกันต์ธีร์ใช้ดวงตาที่คมเฉียบนั่นสำรวจกวาดไปทุกบริเวณ ฝีเท้าแผ่วเบานุ่มนวลและรักษาระยะห่างระหว่างผมไว้พอประมาณ

ภายนอกชายคนนี้อาจดูสบายๆ ใช้มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงและผิวปากเบาๆ ขณะเดินตามผมมา แต่แท้ที่จริงแล้วกลับระแวดระวังเกินกว่าจะเปิดช่องว่างใด

ผมอยู่ในโลกกลางคืน การที่พอมีศิลปะการป้องกันตัวอยู่บ้างนั้นย่อมปลอดภัยมากกว่า ถึงไม่ได้เชี่ยวชาญมาก แต่ถ้าเป็นแค่กุ๊ยหรือคนธรรมดาเข้ามาสักสามสี่คนผมก็พอไหวโดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวเท่าไหร่ และนอกจากหุ่นที่เสริมบุคลิกภาพและสร้างเสน่ห์แล้ว ผมยังมั่นใจในสมรรถภาพทางร่างกายว่าแข็งแรงกว่าคนปกติอยู่หลายส่วน

ผมเคยสัมผัสกับ ‘เจ้าพ่อ’ และ ‘มาเฟีย’ ในคราบผู้กุมอำนาจทางด้านต่างๆ มาบ้าง นั่นทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นว่าสมญาเสี่ยมาเฟียไม่ใช่แค่เรื่องเล่าลือกันในโลกมืด ในยุคสมัยที่บอดี้การ์ดและรถกันกระสุนยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันตัวเอง คุณกันต์ธีร์คงไม่ใช่แค่นักธุรกิจหน้าตาหล่อที่มือไวใจเร็วและนั่งนับเงินไปวันๆ แน่นอน

“รกหน่อยก็ขอโทษนะครับ ผมไม่ค่อยกลับมาที่นี่”

ผมหันไปยิ้มหวานให้คุณกันต์ธีร์ เจ้าตัวเมื่อเห็นสีหน้าผม ก็หยอดกลับมาด้วยสายตาหยาดเยิ้มไม่แพ้กัน หัวเราะเสียงทุ้มอย่างมีอารมณ์ขัน

“ขอแค่เตียงกับโซฟาไม่รกก็พอ ไม่สิ จะเคาท์เตอร์ครัวหรือในห้องอาบน้ำก็ยังได้”

“ผมว่ามันจะไม่สะดวกสำหรับการ ‘คุย’ กันน่ะสิ” ผมโคลงศีรษะแล้วหัวเราะเบาๆ ในลำคอกลับไป

เขากำลังกดดันผม ผมรู้ แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้จะดีกว่า ผมเปิดประตูห้องแล้วผลักเข้าไป คอนโดสามห้องค่อนข้างปลอดโปร่ง ไม่ได้จัดแต่งอย่างหรูหราอะไร ออกจะโล่งไม่ค่อยมีเฟอร์นิเจอร์มาก หากมีก็เป็นแบบเรียบๆ สไตล์โมเดิร์น ทั่วห้องมีหนังสือนิตยสารที่ผมอ่านค้างไว้แล้ววางสะเปะสะปะตามที่ต่างๆ อยู่บ้าง

ในส่วนห้องครัวด้านซ้ายมือมีพวกของขบเคี้ยวและเครื่องดื่มที่วางอยู่บ้างตามประสา แต่สิ่งที่เตะตาที่สุดตั้งแต่เข้ามา เห็นจะเป็นยกทรงลายเสื้อดาวบนโซฟาสีดำกับกล่องถุงยางอนามัยที่ใช้ไปแล้วสองในสามในห้องหลักหน้าโทรศัพท์จอแบน ผมเดินเข้าไปเก็บมันให้พ้นทาง พลางนึกไปว่ามันมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่

“ใช่เล่นนะเรา”

“บางทีผมอาจจะ ‘สำส่อน’ จนมีเอชไอวีจริงๆ ก็ได้ ไม่กลัวเหรอครับ”

ผมโยนยกทรงที่นึกหน้าเจ้าของไม่ออกตัวนั้นลงถังขยะ การโยนแทบเรียกได้เป็นการเขวี้ยงข้ามหัวคุณกันต์ธีร์อย่างไร้มารยาท แต่นอกจากเขาไม่โกรธอารมณ์เสียแล้วยังดูเหมือนถูกใจผมขึ้นไปอีก “พาผู้หญิงมาบ่อยๆ ล่ะสิ แต่หลังจากนี้คงไม่มีสาวคนไหนได้เหยียบเข้ามาแล้วล่ะ แมวน้อย”

ว่ากึ่งหยอกล้อเล่นกึ่งเอาจริง ก่อนจะผละจากเคาท์เตอร์ครัวที่เอนพิงอยู่แล้วเข้ามาใกล้ผม
บอกตามตรง เขารับมือยากมาก แทบจะมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ เงาสูงใหญ่กว่าเข้ามาใกล้ ทำให้แสงสีส้มสลัวของห้องมืดครึ้มลง หากจะก้าวถอยก็ใช่ที่ ผมเลยยืนอยู่ที่เดิมคล้ายท้าทาย

“ถุงยางไม่ต้องทิ้งนะ” เมื่อถึงตัว มือใหญ่กว่าแต่ค่อนข้างสากก็จับรวบมือผมกับกล่องสีดำ

จมูกสัมผัสได้ถึงน้ำหอมกลิ่นน่ารำคาญใจนั้นอีกครั้ง ยอมรับว่าเมื่ออยู่กันสองคนในห้องเงียบๆ ที่บรรยากาศค่อนข้างจะเป็นใจ หัวใจก็อดไม่ได้ที่จะเต้นแรง ไม่ว่าจะด้วยความหวาดหวั่น ความกลัว หรือความรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงอันตราย

ผมเองสงบใจมาตลอดตั้งแต่เข้าห้อง ตอนนี้ยังเริ่มปั่นป่วนอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อมืออีกข้างเริ่มป้วนเปี้ยนแถวเข็มขัด นี่ในหัวผู้ชายคนนี้คิดแต่เรื่องอย่างว่ารึไง?

“ผม... อื้อ”

ริมฝีปากนุ่มหยุ่นและชุ่มชื้นประกบเข้ามา ตอนแรกผมขืนตัวออกเล็กน้อยเพราะไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ถูกโอบรัดร่างให้แนบแน่นขึ้น ถึงได้ปล่อยตัวโอนอ่อนไม่ต่อต้าน การจูบแรกๆ ยังอ่อนโยนคล้ายดูเชิงยั่วหยอกเหย้าคล้ายบอกว่าจะออมแรงให้ผมที่ดูท่าทางไม่ประสีประสา

ระหว่างจุมพิตดวงตาของเราสบประสานกัน ผมไม่หลับตา เขาก็ไม่หลับตา ดวงตาร้อนแรงทะลุทะลวงตรงข้ามกับการละเมียดละไมยังริมฝีปากเบาๆ ผมจะอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วหัวเราะหึออกมา

ผมสอดลิ้นเข้าไปในปากเขาอย่างรุกราน เป็นสัญญาณว่าผมไม่ได้ไร้เดียงสาเป็นลูกแมวเชื่องๆ อย่างที่เขาปรามาส ชั่ววูบดวงตาสีเขียวอมฟ้าน้ำทะเลของเขาเวลานี้เป็นประกายประหลาดใจคล้ายระลอกคลื่นโดดเด่นขึ้นในเงา ต้องยอมรับว่าสวยมากจริงๆ

ทว่าพริบตาเดียวก็กลับมาเป็นทะเลเพลิงลุกโชนยิ่งกว่าเดิม มือแข็งแกร่งกระหวัดเอวผมแล้วเหวี่ยงกดลงบนโซฟาก่อนร่างสูงใหญ่จะตามมาทาบทับโดยริมฝีปากดูดติดกันไม่มีช่องว่าง เสียงแลกเปลี่ยนน้ำเหลวใสซึ่งกันและกันดังอยู่ในหู ลมหายใจสอดประสานเริ่มจุดไฟให้มาคุ

เมื่อผมรุก เขาก็ไม่คิดจะรับ ครางเสียงต่ำอย่างพอใจในลำคอ สองลิ้นผสานพัวพันกันจนโพรงปากร้อนผะผ่าวไม่ต่างจากร่างกายของผู้ชายที่เริ่มรู้สึกได้ถึงกระแสความต้องการที่หลั่งไหลในกระแสเลือดพร้อมๆ กัน

ผมไม่เคยคิดว่าปากผู้ชายด้วยกันจะรู้สึกดี เห็นอย่างนี้ ผมนั้นค่อนข้างจะเรื่องมากเรื่องคู่นอน ถ้าเป็นการจุมพิตกันอย่างเร่าร้อนและพูดถึงความพึงพอใจแค่สองประการนี้ ผมให้เขาเกรดเอเลยเอ้า

ร่างกายสนิทแนบชิด ถึงมีเสื้อผ้ากั้นก็แทบเหมือนไม่มีเมื่อรับรู้ถึงความแข็งแรงหลายส่วนที่บดเบียดแทบแทรกผสานร่างเข้ามาอย่างไม่เคยเป็น มือใหญ่ข้างหนึ่งพยุงใบหน้าผมให้เอียงได้องศาแล้วระดมจูบอย่างหื่นกระหาย ส่วนอีกมือสอดล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีขาว ลูบไล้กล้ามเนื้อท้องและแผ่นอกเรียบ

สัมผัสเหล่านั้นเมื่อมาจากมือสากทว่าร้อนกว่ามือไหนที่เคยจับต้องตัวให้ความรู้สึกไม่คุ้นชิน ไม่ได้น่าขยะแขยงเกินทานทนอย่างที่เคยคิด ผมไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วผมเป็นเกย์หรือเพราะผู้ชายที่กำลังโจมตีผมอย่างไม่ลดละตอนนี้เชี่ยวชาญเรื่องการปลุกปั่นความกระสันของคนอื่นเช่นเสี่ยกันต์ธีร์กันแน่

เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มโลภมากเกินไปและผมก็หอบหายใจกระชั้นแล้วจึงใช้ฟันขบเม้มริมฝีปากเขาไว้เบาเป็นเชิงห้ามปราม อีกฝ่ายคล้ายรู้ จึงผละออกไปอย่างเสียดาย ไม่วายจุมพิตข้างมุมปากหนึ่งทีเบาๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงเห็นว่าดวงตาคลื่นทะเลนั้นเยิ้มด้วยความใคร่

ริมฝีปากที่ขึ้นสีแดงคลี่ยิ้มออกมา ทั้งเส้นผมสีดำสนิทที่เซทอย่างดีตกลงมายังหน้าผากประปรายตัดกับผิวขาวละเอียดของเขาคงฆ่าสาวเล็กสาวใหญ่มานับไม่ถ้วน ไม่ต้องนับผิวที่เส้นเลือดเริ่มหล่อเลี้ยงให้ยิ่งน่ามองและเสียงพร่าแผ่วๆ ที่กระซิบถามขณะใช้จมูกดุนดันแถวหลังใบหู

“เคลิ้มรึยัง?”

“ยังครับ”

“แน่ใจ?”

“เห็นผมเคลิ้มไหมล่ะ”

อีกฝ่ายยิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ่งดูถูกใจหนักเข้าไปอีก ทันใดนั้นก็ตะปบลงบนเป้ากางเกงผมอย่างอาจหาญ ผมสะดุ้งร่างกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะดึงมือเขาเอาไว้ก่อน แสร้งขมวดคิ้วทำสีหน้าไม่พอใจ

“ไหนว่าจะคุยกันเฉยๆ ไงครับ”

“นี่เราแกล้งโง่หรือไม่รู้จริงๆ ฮะ”

“อ่า” ผมครางเสียงเบาออกมา ขนาดดึงไว้มือหนึ่ง อีกมือก็ยังไม่วายจะลูบขาอ่อนผมตามที่อลิตาว่า “ผู้ชายที่เอะอะก็จับขึ้นเตียงนี่ไร้เสน่ห์สิ้นดีเลย เสี่ยรู้ไหมครับ” 

“ไม่รู้” เสียงทุ้มงึมงำขณะกำลังสาละวนกับซอกคอของผม ง่ายๆ ก็คือความหื่นขึ้นหน้าจนไม่รู้เรื่องมากกว่า ผมเองชักไม่สบายตัว ถ้าปล่อยเลยเถิดอาจกู่ไม่กลับ จึงใช้ปากกัดปลายจมูกอีกฝ่ายเบาๆ และดูท่าจะได้ผมเมื่อเสี่ยกันต์ธีร์ชะงักแล้วเหลือบตาขึ้นมอง
ผมอาศัยจังหวะนั้นยื่นริมฝีปากเขาไปหอมแก้มเขาแล้วละไปถึงข้างหูอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายดูร่างแข็งเกร็งขึ้นมาในทันที ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะให้ผลต่างกันหรือเปล่า แต่ก็น่าจะต้องลองดู

“แล้วระดับเสี่ยกันต์ธีร์ที่อยากได้อะไรก็ย่อมได้ คนแทบจะถวายร่างกายให้อย่างคุณ” ผมเว้นวรรคเล็กน้อย แฝงความท้าทายลงไปในน้ำเสียง “คงไม่อับจนถึงกับต้องใช้กำลังบังคับข่มขืนผู้จัดการบาร์เล็กๆ หรอกมั้งครับ?”

“ฮ่าๆๆๆ!”

คนตัวใหญ่หัวเราะลั่นจนโซฟาสั่นสะเทือน ยกมือขึ้นหยิกแก้มผมอย่างไม่เบาจนร้องโอ้ย ก่อนจะผละออกไปนั่งข้างๆ แล้วใช้มือแต่งกายให้เรียบร้อย แม้เสื้อผ้าเขาจะหลุดลุ่ยไปเพียงเล็กน้อยถ้าเทียบกับผมที่เสื้อเชิ้ตถูกปลดกระดุมออกจนหมดเมื่อไหร่ไม่ทราบ เข็มขัดก็ถูกปลดออกพร้อมกางเกง เห็นขอบบ็อกเซอร์สีดำอยู่เลาๆ

สาบานได้ว่าผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ คราหน้าคงต้องระวังมากกว่านี้หลายเท่า

“เอ้า อยากคุยนักก็คุย จะคุยอะไรล่ะ” เสี่ยกันต์ธีร์ประชดแกมขำ ผมที่ลอบปาดเหงื่อด้วยความโล่งใจค่อยจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ หายใจเข้าออกสักสองสามทีเหมือนพยายามทำอานาปานสติ อีกฝ่ายทำสีหน้าคล้ายเอ็นดูและจ้องทุกอิริยาบถเหมือนมองสาวน้อยที่ตัวเองเลี้ยงต้อย

“มองอะไรครับ”

“ตั้งแต่มีเด็กมา ไม่เคยเจอใครน่าสนใจเท่าเรา”

“ขอบคุณครับ ผมล่ะดีใจจริงๆ”

เมื่อเรียบร้อยเข้าที่ ผมก็ถอยห่างออกจากเขาเล็กน้อย เหมือนเสี่ยกันต์ธีร์ก็รู้ จึงระงับชั่งใจถอยไปแล้วทิ้งระยะห่างออกไปในระดับคนที่จะสนทนาแบบปกติเช่นกัน

“คุณลงทุนให้คนมาติดตามถึงผมสามอาทิตย์ สำหรับประธานบริษัทธุรกิจนำเข้าของแบรนด์เนมและเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เช่นคุณ ผมแปลกใจที่คุณกันต์ธีร์มีเวลาว่างมาเล่นสนุกกับผมขนาดนั้น”

“ถ้าฉันถูกใจใคร ฉันก็ยินดีจะสละเวลามาเล่นด้วยบ้าง”

“ครั้งแรกที่เจอกัน... คุณบอกให้ผมเรียกว่าเสี่ย” ผมยกมือขึ้นวางประสานไว้บนตัก มองเขาไม่หลบตา “ผมคิดไปว่าคืนนั้นคุณแค่เมาเลยอยากหาคนอยู่ด้วยและบังเอิญผมอยู่แถวนั้น แต่รู้สึกว่าผมจะคิดผิด”

“ว่าต่อสิ ฉันชอบฟังเสียงเธอ” ยังคงว่าอย่างอารมณ์ดี ผมนึกวาดหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความแค้นของเขาไว้ในใจ แต่ภายนอกปั้นหน้ายิ้มตาเสี้ยวพระจันทร์

“คุณคงรู้ว่าผมเป็นชายแท้ เป็นเสือผู้หญิงที่ไม่เคยจริงจังกับใคร ไม่ชอบเรื่องวุ่นวายและไม่มีใครที่สำคัญในชีวิต คนอย่างผมอยู่ด้วยผลประโยชน์ ที่ไม่ใช่แค่ใช้เงินตบหน้าผม ผมก็ลื่นไถลลงไปแทบเท้าคุณ”

“อ่าฮะ”

“พูดตรงๆ ก็คือ ผมไม่ได้ขาดแคลนเงินขนาดต้องลดตัวไปเป็นเด็กให้ใคร โดยเฉพาะยิ่งอีกฝ่ายที่เป็นผู้ชายด้วยกัน” ผมว่าเสียงนุ่ม คอยสังเกตทุกปฏิกิริยาบนใบหน้าเขา

“ที่ผ่านมา ผมพอรู้ว่าคุณเลี้ยงแต่ลูกกวาง กระต่ายน้อย หรืออย่างมากก็จิ้งจอกเจ้าเล่ห์”

“แต่ถ้าครั้งนี้คุณดึงดันอยากจะลองเลี้ยงเสือ...”

“นอกจากจะต้องฝึกให้เชื่อง ยังต้องใจกล้ามากพอ เข้าใจผมไหมครับ?”


100%
พะย้ากกกกกกกก
ชอบนางมาก ระวังเสือกัดนะเสี่ย 55555
ความเห็นที่ถามถึง Sugar daddy นะคะ ใช้แบบนั้นก็ได้ แต่เสี่ยวอ้ายเคยเห็นมีการใช้ Daddy เป็นคำย่อด้วยค่ะ  เลยเลือกใช้ แค่นี้ก็ชื่อเรื่องก็ยาวเฟื้อยละ ฮา
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

   
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 01-07-2017 01:38:58
เสี่ยหื่นมาก :hao6: :hao6: :hao6: หนูช๊อบชอบ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 01-07-2017 02:27:30
มาต่อไวๆน้าาาา 
พ่อแมวน้อยเสี่ยแซ่บมากกกก :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-07-2017 03:58:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 01-07-2017 06:15:04
พะยักของเรานี่ออตจริงๆ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-07-2017 08:00:55
ฟาดฟันกันน่าดูเลยยยย
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-07-2017 08:01:14
อูยยยย~แซ่บ!
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: dereel_nx ที่ 01-07-2017 09:37:04
เอาแล้วๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 01-07-2017 10:16:06
แอร้ยยยย เริ่ดค่ะ สนุกมาก ;w; กรี๊สสส /กลิ้งตกหอตาย  :m2: :m2: ขอบคุณที่มาตอค่ะ นึกว่าจะหายไปซะแล้วเชียว
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 01-07-2017 10:25:50
แซ่บบบบ งืืืืืืือออออออ ❤
มาต่อไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 01-07-2017 10:43:30
น่าสนุกๆ เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: MorethanMore ที่ 03-07-2017 01:14:45
แซ่บปูเสื่อรอ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 03-07-2017 09:35:15
จะเลี้ยงเสือต้องใจกล้า
ไม่กลัวเจ็บ
ไม่กลัวถูกกิน
เสี่ยสู้ๆ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 03-07-2017 10:50:43
มีความเผ็ชทั้งคู่เลย แสบไม่แพ้กัน ชอบ 55555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Pnomsod ที่ 03-07-2017 12:39:26
แซ่บไปอีกกกกก
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 03-07-2017 15:49:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 03-07-2017 22:56:41
อ่านเพลินเลยค่ะ แล้วก็พบว่าจบตอนแล้ว
เสือหรือจะสู้เสี่ย ><
รู้สึกว่าจะร้อนแรงกันทั้งคู่นะคะ
แค่คุณแมวเหมียวมีสติมากกว่าเลยพอจะกลับมาเจรจากันได้ หรือจริงๆแล้วเสี่ยยังไม่เชี่ยวพอเลยทำให้เตลิดไม่ได้  -..-
แบบนี้ต้องพิสจน์อีกรอบนะ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 04-07-2017 09:21:44
อ่านเพลิน ติดตามๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: thareewans ที่ 15-09-2017 20:46:04
ไรต์หายไปไหนคะ รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 16-09-2017 00:31:17
อื้อหือ...... เป็นการโดนเอาคืนที่.......พูดไม่ออก......
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 16-09-2017 10:05:47
เสือกับสิง ประทะกัน เมะชนเมะ มันฟินมากคุณขา
นางทันกัน ไม่น้อยหน้ากัน ติดตามตามติด
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: silalaeng ที่ 26-09-2017 15:10:27
ว้าว!!! นี่แหละเมะชนเมะของจริง  แล้วเสี่ยจะใช้วิธีไหนทำให้เสือกลายเป็นแมวละเนี่ย :hao6:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 26-09-2017 17:31:22
รู้สึกเสี่ยจะเจอคนที่ใช่
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: thareewans ที่ 07-10-2017 10:28:23
วอนไรต์เตอร์อัพตอนใหม่หน่อยค่าาาา
รอเรื่องนี้นะคะ ชอบมากก
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: silalaeng ที่ 22-10-2017 19:26:49
รออ่านอยู่นะไรท์ อย่าแล่อยค้างนานละ เราจะรอไรท์อยู่ทีท่าน้ำทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ อัพตอนที่3 -เสี่ยชวนกินข้าว-(13/11/60)
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 13-11-2017 02:13:34
เสี่ยครับ
3 – เสี่ยชวนกินข้าว

หลังจากที่ท้าทายคุณกันต์ธีร์ไป เจ้าตัวก็ยิ่งยิ้มกว้างรับคำท้า ตาสีสวยยิ่งเป็นประกายถูกใจ แต่พอดีมีโทรศัพท์ธุระเร่งด่วนเข้ามาขัดจังหวะ จึงต้องกลับไปสะสางงานตามประสานักธุรกิจเงินล้าน

"โชคดีครับ ขอให้สนุกกับการทำงาน"

ผมเดินออกไปส่ง อีกฝ่ายมองด้วยสายตาเสียดายขณะยืนเท้าแขนอยู่ยังกรอบประตู ใช้นิ้วยื่นมาเกลี่ยผมปรกหน้าผากของผมเล่น

"อดกินเราอีกแล้วสิ"   

"อยากได้ของดีต้องใจเย็นสิครับ"

จบคำ คุณกันต์ธีร์ก็ก้มลงมาจุมพิตหนักๆ หนึ่งทีแล้วผละออก แม้จะจูบกันมาแล้ว แต่ผมไม่ชินกับการจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้จริงๆ

ผมผงะออกเล็กน้อย เหลือบมองข้างห้อง โชคดีที่ยังไม่มีใครอยู่ ไม่งั้นคงเป็นขี้ปากคนไปอีกนาน ผิดกับคนที่ไม่สนใจใครที่ยืนยิ้มร่าอยู่ ว่าด้วยเสียงทุ้มนุ่มๆ

"เดี๋ยวเย็นนี้เสี่ยมารับไปทานข้าวนะครับ"

ผมปิดประตูหลังร่ำลากันเรียบร้อย แต่คำพูดสุดท้ายยังก้องอยู่ในหู

นะครับ...

ในฐานะที่เป็นเสือผู้หญิงมาก่อน ประโยคเมื่อกี้กับสีหน้าท่าทางคงทำให้ผู้หญิงหลายคนเขินตัวแตก

ผมอดไม่ได้ที่จะเอนตัวพิงกำแพง ทั้งยิ้มและถอนใจออกมาพร้อมกัน

ผู้ชายคนนี้ ช่างกระตุ้นสัญชาตญาณการล่าของผมจริงๆ



   หลังจากที่เขากลับไปแล้ว ผมจึงลากสังขารไปอาบน้ำ เมื่ออยู่ในเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นแบบสบายๆ แล้วจึงเอนตัวลงบนเตียงที่ปูด้วยผ้าสีดำสนิท ปกติเวลานี้ แม้จะง่วงแค่ไหน แต่เหตุการณ์เมื่อครู่กลับทำให้ผมรู้สึกตาสว่าง

   ผมคว้าโน้ตบุ๊คสีขาวมาวางไว้บนตัก เปิดเครื่องและหยิบโทรศัพท์มือถือมาโทรออกไปด้วย

   [โทรมาหาพ่อมึงเหรอ! บ้านไม่มีนาฬิการึไงไอ้เวร]

   เสียงตะโกนดังลั่นมาจากปลายสาย ขนาดผมที่ยกโทรศัพท์ออกจากหูอย่างรู้ผลลัพธ์อยู่แล้วยังได้ยินชัดเจน เสียงเครือๆ บอกได้ว่าคงเพิ่งนอนได้ไม่นาน ซ้ำยังเมาหัวราน้ำแบบทุกที ผมหัวเราะกึกๆ แล้วกรอกเสียงนุ่มๆ ลงไป

   “โทษนะ เผอิญว่าพ่อผมก็เจ้านายคุณนั่นแหละ”

   [ห๊ะ...]

   คล้ายอีกฝ่ายใช้เวลาประมวลผลสักพักก่อนที่จะค่อยครางออกมาอย่างกับว่ามีเจ้าหนี้โทรมาทวงเงิน

   [พยัคฆ์... แกมีธุระอะไร]

   “ห่างเหินกับผมจังคุณอา” ผมเย้าอีกฝ่าย ก่อนจะเข้าธุระเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายแกล้งตัดสายไปเสียก่อน “ช่วยสืบประวัติคนๆ หนึ่งให้ผมหน่อย”

   [ฉันไปเป็นขี้ข้าแกตั้งแต่เมื่อไหร่วะ]

   “ถือว่าผมขอร้อง”

   ผมจงใจแสร้งใส่เสียงหนักใจลงไป อีกฝ่ายคล้ายเงียบไปสักพัก จึงสบถออกมา จินตนาการได้ว่าคงขยี้หัวตัวเองอยู่อย่างงุ่นง่าน ไม่รู้ว่าผมที่บางอยู่แล้วจะร่วงอีกสักกี่เส้น [เออๆ ! ไปมีเรื่องอะไรมาอีกล่ะ บอกแล้วว่าให้หางานหาการดีๆ ทำแล้วเป็นผู้เป็นคนเสียที...]

   “ผมไม่ขำกับมุกอาหรอกนะ” กระนั้นผมก็หัวเราะหึๆ ในลำคอออกมาอย่างอ่อนใจในความไร้เดียงสาของคนที่อายุมากกว่า แล้วเปลี่ยนเรื่อง “เมาค้างขนาดนี้ ก็ใช่ว่าคุณอาจะงานยุ่ง”

   [มีงานเลี้ยงสำคัญต่างหาก คนใหญ่คนโตคะยั้นคะยอให้ดื่ม] ปลายสายงึมงำในลำคอ

   “ผมว่าคุณคงเป็นโรคตับตายมากกว่าจะตายด้วยกระสุน”

   [ถ้าฉันเป็นโรคตับตาย แกก็ติดเอดส์ตายล่ะวะ]

   “แช่งกันอย่างนี้ผมเสียใจแย่” คำว่าติดเอดส์ตายช่างเหมาะเจาะกับสถานการณ์ตอนนี้จริงๆ ผมจึงเน้นย้ำด้วยเสียงที่เข้มจริงจังขึ้น “รู้จักกันต์ธีร์ เหมวิวัฒน์ไหมครับ”

   [...] คู่สนทนาเงียบไปคล้ายกำลังประมวลความคิด ก่อนที่จะเอ่ยช้าๆ [อย่าบอกนะว่าไปมีเรื่องกับคนๆ นี้]

   “ตรงกันข้ามต่างหาก”

   [ตรงข้าม?]

   “เขาอยากได้ผมไปอยู่ใต้อาณัติเพราะเห็นว่าหน่วยก้านดี”

   ผมจงใจใช้คำเลี่ยงๆ คุณอาผู้อาวุโสและใสซื่ออย่างไม่เข้ากับหน้าตาคนนั้นคงเข้าใจไปเป็นอย่างอื่น เสียงของเขาจึงไม่ได้ตกใจเท่าที่ควร

   [ฉันไม่อยากยุ่งกับชีวิตแกนักหรอกนะ แต่ถ้าจะให้เตือนล่ะก็ อยู่ห่างๆ เขาไว้ดีกว่า ชื่อเรียก ‘เสี่ยมาเฟีย’ ของเขาไม่ได้มีไว้เรียกสนุกปาก]

   “แต่ถ้าเขาอยากได้อะไรแล้ว เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะลามือง่ายๆ นั่นแหละผมถึงอยากหาวิธีรับมือเขา”

   [เออ... อยู่ดีไม่ว่าดีจริงๆ อยากได้ข้อมูล ‘เชิงลึก’ ใช่ไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้ส่งไปให้]

   “ขอบคุณ...ครับ”

   อีกฝ่ายตัดสายก่อนที่ผมจะพูดคำว่าขอบคุณจบด้วยซ้ำ ผมมองมือถือในมือยิ้มๆ แล้วอดส่ายหน้าไม่ได้ ก่อนที่จะวางมือถือข้างตัวแล้วหันมาสนใจหน้าจอโน้ตบุ๊คที่เลื่อนผ่านตาเมื่อครู่

   เหมวิวัฒน์ กรุ๊ป

   หน้าจอเว็บไซต์หรูหราที่ดีไซน์ตกแต่งอย่างทันสมัยทำให้คนที่เข้ามารู้ได้ถึงความมีระดับของบริษัท ผมอ่านคร่าวๆ แล้วก็พบว่าเป็นบริษัทนำเข้าของแบรนด์เนมหลายยี่ห้อและมีอสังหาริมทรัพย์จำพวกห้างสรรพสินค้าและคอนโดมิเนียมอยู่ในเครือตรงตามความรู้เดิมที่รู้มา รวมถึงยังเป็นหุ้นส่วนกับประธานใหญ่เจ้าของธุรกิจคลับนี้ที่ผมเป็นผู้จัดการ

   แค่คิดว่าเขามีทรัพย์สินทั้งหมดเท่าไหร่ ผมก็อดรู้สึกสะท้านหน่อยๆ ไม่ได้

   อีกทั้งหากพูดถึงตระกูลเหมวิวัฒน์ เป็นตระกูลไฮโซที่ค่อนข้างรักษาความเป็นส่วนตัวโดยไม่ออกสื่อบันเทิง ไม่มีข่าวคาวหรือข่าวกอสซิป แต่เป็นที่รู้กันว่าให้การสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ในด้านวงการมายาอย่างชัดเจน

เกี่ยวกับด้านการเมืองก็ไม่มีการก้าวเข้าไปโดยตรง แต่ก็มีการให้การสนับสนุนอย่างโดดเด่นเช่นกัน

   ส่วนประวัติคุณกันต์ธีร์ มีแค่การศึกษาคร่าวๆ และไม่มีสิ่งใดอีก กระทั่งไซส์ส่วนตัวที่จะเชื่อมโยงหาได้ก็ไม่มี

   ผมปิดโน้ตบุ๊ค พับลงแล้ววางยังข้างหัวเตียง เดินไปดึงม่านปิดแสงจากพระอาทิตย์ยามเช้าที่กำลังขึ้น แล้วกลับมาล้มตัวลงนอน

   เที่ยวนี้ ผมคงเล่นกับของแข็งเข้าจริงๆ

   บางอย่างในตัวผมคล้ายคำรามออกมาเบาๆ เป็นความรู้สึกที่ผมไม่ชินชา

   มันเป็นความตื่นเต้น การท้าทาย ความอยากเอาชนะและแรงขับเคลื่อนของสัญชาตญาณดิบเถื่อนชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นยามตกอยู่ในสถานการณ์อึดอัดใจและอันตรายจนยากจะอธิบาย



   ผมตื่นราวๆ เย็นมาทำกิจวัตรส่วนตัว สิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างหนึ่งก็คือไม่ว่าผมจะใช้ชีวิตไม่ตรงตามนาฬิกาชีวิตแค่ไหนสภาพผมก็ไม่เคยทรุดโทรมจนถึงกับดูไม่ได้

   รสนิยมของเสี่ยกันต์ธีร์เป็นที่รู้มาว่าได้ทั้งหญิงและชาย แต่ตามข่าวลือ เขามักจะชอบคนที่มีลักษณะเป็นลูกกวาง กระต่ายน้อย หรืออย่างมากก็จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ที่พอเคียงข้างแล้วถูกรัศมีของเขาเข้าปกครองทันที

   ถึงผมจะไม่อาจเทียบเขาได้ แต่พอยืนข้างกันแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะเหมาะตามรสนิยมของเขา มาคิดอีกทีก็แปลกที่เขาดันถูกใจผู้จัดการบาร์อย่างผมทันทีที่ได้เจอกัน

   มือถือของผมดังขึ้นด้วยเบอร์แปลก แต่พอรับแล้วกลับเป็นเสียงทุ้มของคนที่นึกหน้าออกทันที

   [ตื่นหรือยังแมวน้อย]

   คุณกันต์ธีร์นี่ตายยากจริงๆ

   “ตื่นแล้วครับ” ผมไม่ถามว่าเขาได้เบอร์มายังไง ในเมื่อเบอร์ผู้จัดการบาร์ของผมเป็นของสาธารณะอยู่แล้ว

   [อย่าลืมนัดคืนนี้นะ]

   “นัดอะไรเหรอครับ”

   [นัดเมคเลิฟ]

   “เอ เผอิญผมนัดคนอื่นไว้น่ะสิ ของคุณขอคราวหลังได้ไหม”

   [บอกแล้วไงว่าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนได้เข้าห้องเราอีก] อีกฝ่ายหัวเราะด้วยเสียงนุ่มทรงเสน่ห์ ผมสามารถนึกภาพรอยยิ้มกรุ่มกริ่มกับตาวาววับได้ทันที [นัดดินเนอร์คืนนี้ ฉันอุตส่าห์จองโต๊ะไว้ ถ้าต้องกินคนเดียวคงเหงาแย่]

   แม้คำพูดกวนๆ จะดูสบายๆ เป็นกันเอง แต่ผมที่ค่อนข้างเจนจัดในโลกกลางคืนก็เข้าใจความหมายของเขา

   ‘ห้ามปฏิเสธ หากไม่อยากมีเรื่องตามมา’

   แล้วเผอิญว่าผมยังฝังใจกับละครคราวที่แล้วไม่หาย อีกอย่างการถอยหนีโดยไม่สู้ทั้งๆ ที่ถูกกระตุกหนวดแล้ว ย่อมไม่ใช่วิสัยของผม

   “ครับ แล้วคุณกันต์ธีร์เป็นฝ่ายเลี้ยงใช่ไหม”

   [ไม่เลี้ยงแล้วจะเรียกว่าเสี่ยเหรอ?]

   ผมละเกลียดเสียงวางภูมิอย่างคนมีตังค์จริงๆ

   “ขอผมทราบได้ไหมว่าที่ไหน จะได้ขับรถไปถูก”

   [รู้ก่อนก็ไม่เซอร์ไพรซ์น่ะสิ เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปรับเอง]

   “งั้นเตรียมเงินกับเครดิตการ์ดไว้ให้พร้อมด้วยครับ ด้วยความหวังดี”

   [ไม่ต้องห่วง ถ้าเธออยากกินอะไร ฉันมีเงินจ่ายทั้งหมด]

   ผมกระตุกยิ้ม “คำไหนคำนั้นนะครับ”

   ในใจของผมวางแผนชั่วร้าย ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเงินของเขาจะละลายได้เหมือนน้ำหรือเปล่า ถ้าผมจะสั่งมาสักยี่สิบสามสิบจานแล้วชิมทีละคำต่อจาน

   [แน่นอน อย่าลืมแต่งตัวหล่อๆ นะ]

ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะในลำคอ ผมจึงต้องไปงัดสูทราคาแพงสีดำสนิทออกมาจากส่วนลึกในตู้ รวมทั้งเซทผมและผูกไทอย่างดี เป็นชุดเต็มยศที่ผมไม่ค่อยได้สวมเท่าไหร่ แต่ในเมื่อจะไปประชันกับเขา ผมก็ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาและขี้ปากของชาวบ้าน
คุณกันต์ธีร์ส่งคนขับเฟอร์รารี่สีแดงวาววับแสบตามารับผมราวสองทุ่ม ผมนั่งข้างหลัง คนขับเป็นคนเงียบขรึมและปิดปากสนิทตลอดทาง แอร์เย็นๆ ในรถทำให้ผมรู้สึกไม่สบายตัวแต่ต้องเสแสร้งว่าผมไม่ยี่หระต่อการเผชิญหน้านี้

รถวิ่งผ่านทางด่วนยามค่ำคืน แสงสีพร่างพราวบนตึกสูงระฟ้าที่รายล้อมดูบาดสายตา ก่อนจะชะลอที่หน้าร้านภัตราคารกึ่งบาร์ระดับห้าดาวที่มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านบน

ผมแอบมองกระจกรถเพื่อสำรวจใบหน้าตัวเอง พบว่าไม่มีอะไรต้องเพิ่มเติมอีกและเห็นแววที่สะท้อนถึงความเป็นตัวเองมากกว่ายามปกติที่ถูกปกปิดด้วยรอยยิ้มจอมปลอมของผู้จัดการคลับ

แต่แล้ว... รถกลับขับผ่านภัตราคารหรูนั้นเข้าไปในซอยมืดข้างๆ

ผมอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเฟอร์รารี่มูลค่าหลักล้านเข้ามาในซอยเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ว่าคุณกันต์ธีร์จะเอาผมมาฆ่าข่มขืนหรอกนะ
รถสีแดงขับซอกแซกผ่านไปตามตรอกซอยต่างๆ จนในที่สุดก็จอดในลานจอดรถที่เต็มไปด้วยรถธรรมดาทั่วไป ไม่ต้องพูดถึงว่าโดดเด่นเตะตาชวนขโมยขนาดไหน

“ถึงแล้วครับ”

คนขับรถเดินลงมาเปิดประตูให้ผม ผมเดินลงมาอย่างงงๆ ก่อนที่จะพบกับคุณกันต์ธีร์

คนตัวสูงเจ้าของดวงตาสีฟ้าอมเขียวที่เล่นกลับแสงไฟและเรียกสายตาของผู้คนรอบข้างได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่แทนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแพงหูฉี่แบบครั้งก่อนๆ ที่เจอกัน ครั้งนี้คุณกันต์ธีร์กลับแต่งกายด้วยเสื้อผ้าลำลอง แม้จะเป็นแบรนด์เนมหัวจรดเท้า แต่เสื้อเชิ้ตสีเทาและกางเกงยีนส์แบบสบายๆ ก็ไม่แปลกจากรอบกายนัก

คนตรงหน้ากลั้นหัวเราะจนต้องอมยิ้มขณะมองผมหัวจรดเท้าก่อนที่จะเดินเข้ามาหา แล้วเอาแขนวางบนไหล่เหมือนสนิทกันมานาน ก้มลงกระซิบ

“หล่อจริงๆ”

ผมที่แข็งค้างเป็นก้อนหินไปแล้วรับรู้ถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นบนใบหน้า อยากจะถีบคนข้างๆ ให้ติดเฟอร์รารี่
คนรอบตัวมองพวกเราไม่ละสายตา มองคุณกันต์ธีร์เพราะหล่อ ส่วนที่มองผมไม่ได้เป็นเพราะหล่อแบบนั้น

“คุณ...”

ผมเค้นเสียงรอดไรฟัน ตาวาววับขึ้น เส้นเลือดในขมับคล้ายจะปูดขึ้น

“มาสิ ฉันอุตส่าห์จองโต๊ะไว้ ป้าครับขอข้าวต้มปลาสองที่”

ดินเนอร์ที่ว่า คือร้านข้าวต้มรอบดึกข้างทางถ้วยละสามสิบห้าบาทในถนนคนเดิน


100%
เสี่ย 2 – พยัคฆ์ 1
ตอนนี้โนคอมเมนต์ค่ะ 555555555อิเสี่ยเว้ยยยยย
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: nkl31 ที่ 13-11-2017 23:44:09
โว้ยยย เสี่ยยย ทำแมวน้อยแค้นมากๆระวังจะอดกินนะคะ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-11-2017 00:23:14
 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 14-11-2017 09:09:43
หึหึ หึหึหึหึ  หึหึหึหึหึหึหึหึหึ  o11 o11 o11 o11
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่2(1/7/60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 14-11-2017 11:11:22
ไรท์​~~~~~!!!!!!  กลับมาเถอะค่ะ รีดให้อภัยแล้ว(?)​~~~5555​ :hao7:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ อัพตอนที่4 -เสี่ยเสียใจ- !!(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 08-12-2017 14:20:07
เสี่ยครับ
4 – เสี่ยเสียใจ



   “ได้ค่ะ อุ้ย”

   คุณป้าเจ้าของร้านที่ดูเหมือนเพิ่งเปิดร้านข้าวต้มรอบดึกเงยหน้าขึ้น พอมองเห็นคุณกันต์ธีร์ก็อุทานออกมา ก่อนมองเลยมายังผม

   “อ้าว หนูเสือ มาๆ มานั่ง ไม่ได้เจอตั้งนาน!”

   เสียงเรียกอย่างคนคุ้นเคยกันเรียกสติผมกลับมา แอบเหลือบเห็นคุณกันต์ธีร์เลิกคิ้วแล้วยิ้มกับชื่อเรียกนั้น ผมสะกดอารมณ์อยากฆ่าคนทั้งมวล ถอดเสื้อสูทพาดแขนไว้แล้วเดินเข้าไปหาพร้อมยิ้มตาหยี แม้ว่าสายตาของคนแถวนั้นพุ่งมาอย่างน่ารำคาญไม่เลิก

   “สวัสดีครับคุณป้า พอดีช่วงนี้ผมไม่ว่างเลย แล้วเป็นไงบ้างครับ”

   “โอ้ย ก็เรื่อยๆ ตามประสา โธ่ พ่อคุณ ไม่ได้เจอกันแปบเดียวเป็นหนุ่มแล้ว แล้วนี่เพิ่งไปไหนมาล่ะ แต่งซะหล่อเชียว เอาซะป้าล่ะอายร้านตัวเองไปเลย”

   “พวกผมว่าจะพากันไป ‘เที่ยว’ ต่อน่ะครับ” คุณกันต์ธีร์ที่ยืนอยู่สบายๆ ตอบแทรกขึ้นมาแทน ก่อนที่จะยกมือไหว้คุณป้าเจ้าของร้านอย่างนอบน้อม “สวัสดีครับ ผมชื่อกันต์ธีร์”

   ใบหน้ายิ้มแย้มสุภาพทรงภูมิดูเปล่งเสน่ห์ยากที่จะไม่เผลอเคลิ้ม ผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นพอดียังหันมองแทบคอเคล็ด แต่สำหรับผม นั่นทำให้ต้องขบเคี้ยวเขี้ยวฟันพร้อมกำมือระงับตนเอง คุณป้าเจ้าของร้านที่ตอนเด็กๆ ผมมาบ่อยๆ ดูลุกลนตื่นเต้น

   “ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้องไหว้ แล้วเอ่อ...” คุณป้ามองสลับระหว่างผมกับคุณกันต์ธีร์ เป็นเชิงถามว่าเขาคือใคร

   “เป็นผะ-”

   “เพื่อนของคุณลุงที่เป็นญาติห่างๆ ครับ” ผมตัดบทก่อนที่เขาจะพูดอะไรโง่ๆ ออกมา โดยไม่ลืมเน้นเสียงคำว่า ลุง ให้ชัดๆ คุณกันต์ธีร์จึงทำหน้าประมาณว่า ‘เพื่อนลุงเลยเหรอ?’ ซึ่งผมอดส่งสายตาทิ่มแทงใส่เขาไม่ได้

   เพื่อนลุงยังน้อยไปด้วยซ้ำ ไอ้คุณเสี่ยกันต์ธีร์

   “หื้อ ยังเป็นหนุ่มหล่ออยู่เลย”

   “พอดูเป็นพี่ชายของ ‘หนูเสือ’ ได้ไหมครับ”

   “โอ้ย ทำไมจะไม่ได้ละคะ พอเดินคู่กันแล้วป้านึกว่าดารา”

   “งั้นเดี๋ยวผมไปนั่งก่อนนะครับ จะได้ไม่ขวางทางคนอื่น”

   ผมตัดบทหน้ายิ้มอีกครั้งพร้อมดึงแขนเสี่ยกันต์ธีร์มาอย่างไม่เกรงใจ ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอน้อยๆ ก่อนร่างสูงใหญ่กว่าจะเดินตามมาแต่โดยดี

   ภายในร้านข้าวต้มเป็นร้านสองห้องเพดานสูงที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายปลอดโปร่ง โดยมีพัดลมติดไว้แต่ไม่มีแอร์ รูปภาพรอบๆ เป็นรูปภาพมงคลตามสไตล์คนจีน เช่นรูปปลาคาร์ฟ รูปม้าในกรอบไม้

   เพียงเพิ่งเปิดคนก็เริ่มทยอยเข้ามา ถือว่าร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ในแถบนี้ร้านหนึ่งมาตั้งแต่ก่อนจนถึงตอนนี้

   ผมจำไม่ได้แล้วว่ามาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แต่โดยรวมแล้วร้านไม่ได้เปลี่ยนไปนัก พอได้มาอีกครั้งก็อดนึกถึงความรู้สึกเก่าๆ ครั้งยังเป็นเด็กไม่ได้

   “ไม่ยักรู้ว่าเสี่ยกันต์ธีร์เจ้าของธุรกิจร้อยล้านจะรู้จักกินข้าวต้มรอบดึกกับเขาด้วย”

   ผมเหน็บแนมเสียงเย็น ใช้นิ้วดึงเนคไทที่ผูกไว้อย่างดีให้ร่นลง แล้วจึงขยี้ผมที่เซทเสยเรียบเนี้ยบให้ดูเซอร์ขึ้น

   คุณกันต์ธีร์คล้ายจ้องท่าทางนั้นไม่กะพริบตา ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ไม่แล้วพูดด้วยท่าทางสบายๆ

   “ฉันรู้มาว่าเป็นร้านโปรดเธอ แล้วเธอไม่ค่อยมีโอกาสได้มากินเท่าไหร่ ดังนั้นสั่งได้ไม่อั้นเลยนะ”

   “ทำการบ้านมาดีนะครับ แต่ถ้าเป็นเดทแรก ผมบอกเลยว่าคุณสอบตกแน่ๆ”

   คุณกันต์ธีร์ทำตาใสซื่อหน้าตาย ซึ่งพอหน้าเข้มๆ นั่นทำแล้วน่าคว่ำโต๊ะใส่อย่างมาก “ใครกันนะบอกว่าใช้เงินฟาดหัวก็ไม่ได้ พอพามากินอย่างเป็นกันเองก็ไม่ถูกใจ หรือข้าวต้มคุณป้าจะไม่ถูกปาก?”

   พอนึกทวนไป เขาเองก็ไม่ได้พูดว่าจะพาไปภัตราคารหรูห้าดาวจริงๆ ผมอดนึกเจ็บใจตัวเองไม่ได้ ว่าคนตรงหน้าจะเป็นเสี่ยทั่วไปที่ไม่มีลูกล่อลูกชนแล้วใช้เงินเข้าว่าอย่างเดียว

   อีกทั้งเขาสืบประวัติผมมาละเอียดขนาดไหนไม่รู้ แต่รู้ถึงขนาดร้านอาหารที่ผมคุ้นเคยและประทับใจมากที่สุด แม้ระยะหลังๆ จะไม่ได้มากินก็ตาม

รสชาติฝีมือคุณป้าเป็นสิ่งที่จะว่าอร่อยกว่าอาหารหลักพันก็เกินไป แต่ในข้าวต้มร้อนๆ ถ้วยหนึ่งนี้กลับทำให้ผมรู้สึกสะดวกใจที่จะกินมากกว่าอาหารสิ่งไหน

ในความเป็นจริง ถ้าเขาไม่แกล้งผมแล้วพามาดีๆ ผมอาจจะพอคล้อยตาม แต่ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายแหย่ก่อน ก็อย่าหวังว่าผมจะตามเกม คิดอย่างนั้นผมถึงสวมหน้ากากรอยยิ้มอ่อนบางและใช้เสียงสุภาพเป็นกันเองอีกครั้ง

   “จะไม่ถูกปากได้ยังไงล่ะครับ กลัวแต่ลิ้นคนรวยอย่างคุณจะกินไม่ได้มากกว่า ผมล่ะเกรงใจจริงๆ”

   “เรายังต้องทำความรู้จักกันอีกเยอะ” คุณกันต์ธีร์หัวเราะหึๆ ในลำคอ “แล้วเธอจะรู้ว่ามีเสี่ยนี่ดียังไง โดยเฉพาะถ้ามีเสี่ยที่หล่อ สปอร์ต ใจดีอย่างเสี่ยกันต์ธีร์”

   “ก็อย่าให้ผมผิดหวังแล้วกันครับ”

   “แน่นอน”

ไม่นานนักอาหารและเครื่องดื่มก็มา น่าแปลกใจอยู่เหมือนกันที่เขากินได้โดยคุ้นชินและไม่ดูเก้อกระดาก แถมยังชมเรื่องรสชาติให้ฟังอย่างที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นความจริงใจไม่กี่ครั้งที่เขาพูดออกมา

“อร่อยดีนะ”

“คุณทานได้ผมก็ดีใจ”

ผมรับคำสั้นๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ รู้ว่าคนตรงหน้าใช้ดวงตาทะลุทะลวงจ้องมองมา ถ้วยข้าวต้มกระเบื้องสีขาวดูธรรมดาไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อข้าวร้อนๆ แตะลิ้นและเลื่อนผ่านลำคอ ผมก็ไม่ได้ที่จะระลึกถึงความหลัง ความละมุนลิ้นและไออุ่นเหมือนจะซึมซาบไปถึงหัวใจด้วย

กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้มา...

ในหัวพลันคิดอะไรออก จึงวางช้อนลงทั้งที่ยังกินไปไม่ได้ถึงครึ่ง ก่อนใช้กระดาษเช็ดปาก แล้วดื่มน้ำ คล้ายกับว่ากินเสร็จแล้ว

“...เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“เปล่าครับ”

“ดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่”

“ผมอยากรู้ว่าคุณกันต์ธีร์รู้เรื่องเกี่ยวกับผมแค่ไหน” ผมมองไปรอบๆ ห้อง พึมพำเบาๆ “แทบไม่เปลี่ยนเลย”

“ถ้าเกี่ยวกับที่พามากิน รู้ว่าแต่ก่อนเธอชอบร้านนี้มาก แต่พอย้ายออกไปอยู่คอนโดก็ไม่ค่อยได้มาอีก”

ผมคลี่ยิ้มเศร้าๆ “อยู่ดีๆ ผมคงไม่ได้เลิกมาทานที่ร้านที่ชอบที่สุดเพราะอยู่ไกลออกไปนิดหน่อยหรอกครับ”

“เธอ... มีเรื่องอะไรรึเปล่า”

รอยยิ้มยั่วและขี้เล่นของคุณกันต์ธีร์หายไป เป็นสีหน้าจริงจังและดูเป็นห่วงมากขึ้น ผมถอนหายใจ วางเงินไว้เท่ากับที่กินแล้วลุกขึ้น

“ขอบคุณที่มาส่งนะครับ มื้อนี้อร่อยมาก”

“เดี๋ยว!”

   ผมเดินออกไปหน้าร้าน ยกมือไหว้คุณป้าที่กำลังยุ่งอยู่ไวๆ ก่อนที่จะรีบสาวเท้า คุณกันต์ธีร์พรวดพราดตามมา แต่ต้องจ่ายเงินก่อนจึงช้าไปก้าวหนึ่ง

   ผมก้าวถึงถนนทำท่าจะโบกแท็กซี่ แต่แขนก็ถูกคว้าไปด้วยคนที่ตัวสูงใหญ่กว่า

   “พยัคฆ์”   
   
   ภายใต้ท้องฟ้าสีดำและหมู่ตึก ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่ามกลางผู้คนมากมายพลุ่งพล่าน คุณกันต์ธีร์ เหมวิวัฒน์ เป็นผู้ชายที่โดดเด่นอยู่ในท้องคลื่นแห่งแสงสีอย่างชัดเจน ยิ่งยามแสดงสีหน้าจริงจังแล้ว ยิ่งทำให้ดวงตาสีฟ้าอมเขียวชัดแจ้งย้อแสงยามค่ำคืน

   มือใหญ่แต่มีนิ้วเรียวยาวอย่างผู้ดีกำรอบข้อมือผมไว้ค่อนข้างแน่น เสียงเรียกดุนั้นก็ไม่คล้ายกับจะเป็นบุคลิกที่ผมเคยเจอ

   ผมจึงจำต้องหันไปเผชิญหน้าอย่างเสียมิได้

   “ว่าไงครับ”

   “มาคุยกันก่อน”

   เสียงเฉียบขาดไม่ให้ผมมีสิทธิ์ปฏิเสธ ผมเดินตามเขาไปโดยดี เห็นแผ่นหลังและเสี้ยวหน้าเหลี่ยมสันได้รูปกำลังก้าวยาวไปผ่านผู้คนมากมาย ส่วนมือที่กำรอบข้อมือผมได้ผ่อนคลายลงแล้ว แต่รู้ได้ว่าไม่อาจสะบัดหนีได้

   “นั่งคุยกันในรถ”

   เขาเปิดประตูให้ผม ตัวผมที่อยู่ข้างหน้าก็เข้าไปอย่างว่าง่าย ก่อนอีกฝ่ายจะตามเข้ามา โดยไม่ลืมสั่งให้คนขับรถเฝ้าไว้ ซึ่งบริเวณที่จอดรถนี้ได้ย้ายเข้ามาในที่จอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งดูมีราคา

   ผมเหลือบสายตารอบๆ ท่วงท่าระวังตัวมากขึ้น ไหล่ทั้งสองแข็งแกร่งอย่างเห็นไดชัด สีหน้าของคุณกันต์ธีร์ที่ไร้รอยยิ้มทำให้อะดรีนาลีนในตัวผมเพิ่มปริมาณขึ้น เสี่ยมาเฟียไม่ใช่ชื่อเรียกเล่นๆ ของเขาจริงๆ แม้ว่าผมจะรู้ลึกๆ ว่านี่ยังไม่ถึงครึ่งของตัวตนที่แท้จริงของเขาก็ตาม

   “...”

   ผมก้มหน้านิ่ง คุณกันต์ธีร์ถอนใจเบาๆ เอื้อมมือมาแตะที่ไหล่ของผม

   “มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน แต่อย่าเดินหนีไปอย่างนั้น”

   เสียงเขาอ่อนลงหลายส่วน

   ก่อนที่มือจะเลื่อนมายังศีรษะ ลูบเบาๆ ปลอบประโลม โดยไม่มีรังสีคุกคามอย่างคราวที่อยู่ในห้องของผม

   “โอเคไหม?”

   นิ้วชี้เชยคางผมขึ้นให้ประสานสายตากับเขา หัวใจผมคงกระตุกด้วยความหวั่นไหวแล้ว ถ้าผมเป็นผู้หญิง

   “...ก็ได้ครับ”

   คุณกันต์ธีร์ผละออกไปนั่งข้างๆ เว้นระยะห่างไว้ให้ “เธอเพิ่งกินไปนิดเดียว อยากไปที่ไหนต่อไหม”

   “แล้วแต่คุณกันต์ธีร์เถอะครับ”

   เจ้าของรถหรูพยักหน้าก่อนจะออกไปสั่งคนขับรถ

   ตลอดทางผมนั่งนิ่งเงียบแล้วเอนศีรษะมองหน้าต่าง คุณกันต์ธีร์เองก็ไม่เอ่ยอะไร แต่ผมเห็นจากกระจกที่สะท้อนว่าเขาเหลือบสายตามามองเป็นระยะๆ

   คราวนี้เฟอร์รารี่คันเด่นเตะตาเข้าไปจอดในภัตราคารกึ่งบาร์ระดับห้าดาวซึ่งอยู่ด้านหน้าซอย สถานที่ที่ผมคิดว่าคุณกันต์ธีร์จะพามาในตอนแรก

   เขาพาผมขึ้นลิฟต์มายังชั้นดาดฟ้าของอาคาร สายลมพัดโชยได้กลิ่นหอมเย็นของบรรยากาศ ในยามค่ำคืนตกแต่งไฟสีส้มและสีเหลืองนวลสวยงาม เวลานี้มีดนตรีสดให้ฟังเคล้าไปเบาๆ และยังมีคนไม่มากนัก

   คุณกันต์ธีร์เลือกมุมหนึ่งที่เป็นส่วนตัว พื้นถูกปูด้วยหญ้าเทียม มุมโซฟาสีดำและสีขาวแบบโมเดิร์นรวมถึงเทียนหอมบนโต๊ะกระจกทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองมากขึ้น

   “อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”

   “ถ้าคุณกันต์ธีร์อยากทานอะไร ผมทานได้หมดครับ”

   คุณกันต์ธีร์โคลงศีรษะแล้วสั่งมาประมาณสี่ห้าเมนู ก่อนถามถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

   ผมซึ่งเป็นผู้จัดการบาร์คุ้นชินกับบรรยากาศอย่างนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องแอลกอฮอล์ผมถือว่าเป็นคนคอทองแดงอย่างหาตัวจับอย่างคนหนึ่ง เวลาลูกค้ามาท้าดื่มหรือเล่นเกม ผมมักจะเป็นคนที่อยู่รั้งท้ายและไม่เคยเมาจนเรื้อนแม้แต่ครั้งเดียว

   “Frozen Margarita ครับ”

   คุณกันต์ธีร์เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะสั่ง “Negroni”

   ว่ากันว่าเครื่องดื่มบ่งบอกตัวตนของคนที่ดื่มได้ Negrori คือหนึ่งในค็อกเทลคลาสสิกที่มีชื่อเสียงชนิดหนึ่งของโลก มีรสชาติที่เข้มข้นและทำให้เมาได้ไม่ยาก มีส่วนผสมคือ Dry gin, Dry vermouth, Campari ผิวส้มและน้ำแข็ง

   ส่วนของผม Frozen Margarita ใช้เครื่องดื่มที่มี Tequila เป็นส่วนผสมหลักมาแช่จนเป็นเกล็ดหิมะแล้วใส่ในแก้วค็อกเทล ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายแต่ก็มีฤทธิ์แรง พอเครื่องดื่มและอาหารมาถึง คุณกันต์ธีร์ก็เอ่ยขึ้น

   “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น”

   ผมถอนใจหนักๆ ออกมา สายลมพัดเส้นผมปลิวไป ยิ่งจับใจอารมณ์ในเวลานี้ ลดมือถือที่กดดูอะไรฆ่าเวลาเล่นลง

   “ผมไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อน” ผมหันมาสบตาคนตรงหน้า “และหวังว่าคุณกันต์ธีร์คงไม่เอาไปบอกใคร”

   “เรื่องนั้นเธอไม่ต้องห่วง”

   “ผมเกิดมาโดยมีแม่คนเดียว ส่วนพ่อทิ้งไปผมโดยไม่ไยดีก่อนจะคลอด ช่วงแรกแม่ไม่อาจรับผิดชอบผมได้ จึงยกผมให้ครอบครัวหนึ่งดูแล จนในที่สุดบ้านนั้นก็มีลูก ผมจึงกลับมาอยู่กับแม่ในบ้านเล็กๆ ที่นี่ จำได้ว่าตอนนั้นบางทีก็อดมื้อกินมื้อ ก็ลำบากเหมือนตามข่าวปัญหาสังคมทั่วไป”

   “แต่ถึงอย่างนั้น แม่ก็ดิ้นรนทำงานรับจ้างคนเดียวจนผมได้เข้าเรียนหนังสือตามเกณฑ์  ความสุขอย่างหนึ่งของเราคือการได้กินข้าวต้มร้านคุณป้าด้วยกัน ซึ่งแม่ผมจะชอบมาก ไม่เคยเบื่อ แม่ส่งเสียผมเรียนถึงมหาวิทยาลัย จนเมื่อผมอายุ 20”

   ผมเว้นวรรค ถึงคุณกันต์ธีร์จะสืบสาวเรื่องราวของผมมาไม่น้อย แต่บางเรื่องก็ใช่ว่าจะสามารถรู้ได้ โดยเฉพาะคนที่มีพื้นเพซับซ้อนและถูกบิดเบือนข้อมูลไปจากความเป็นจริงอย่างผม

   “วันหนึ่งที่นั่งกินข้าวต้มด้วยกันเหมือนเคย... จู่ๆ แม่กลับลุกพรวดขึ้นอย่างร้อนรน บอกว่าจะรีบข้ามถนนไปหาคนๆ หนึ่ง ซึ่งผมมารู้ที่หลังว่าคือพ่อซึ่งเดินอยู่ในฝูงชนที่ถนนตรงข้าม”

   คิ้วเข้มของคุณกันต์ธีร์ขมวดมุ่น แทบไม่สายตาละไป ตั้งใจฟังทุกถ้อยคำของผม

   “ผมก็อยากห้าม เพราะแม่ดูรีบร้อนอย่างไม่มีสติ แต่แล้ว...”

   ร่างสูงใหญ่ตรงหน้าเม้มปากเล็กน้อยและคล้ายกลั้นหายใจตามผม

   “มีรถของคนเมาผ่าด่านมา... แล้วชนแม่เข้าจังๆ”

   ผมยกมือขึ้นปิดใบหน้าแล้วเอียงศีรษะลง

   “แม่ตายคาที่... ต่อหน้าผม”

   เสียงผมสั่น บังคับตัวเองให้ไม่มีก้อนสะอื้นออกมาจึงต้องกลืนหนึ่งคำลงคอ ก่อนพูดต่อช้าๆ ด้วยสายตาที่เพ่งนิ่งอยู่กับเปลวเทียนหอมที่ไหววูบ

“ไม่ใช่ความผิดของคุณป้าเจ้าของร้านเลย แต่เป็นเพราะผมเองไม่อาจทำใจกลับไปได้”

“...”

“คุณกันต์ธีร์ก็ไม่รู้ ผมคงไม่โทษคุณ คิดอีกทีก็คงดีที่ได้เจอคุณป้าแล้วเห็นว่ายังสุขภาพแข็งแรงดี”

“ฉัน...” เจ้าของตาสีฟ้าอมเขียวเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ก่อนที่จะกระดกเครื่องดื่มสีอำพันในมือลงคอ สบตากับผม แล้วว่าด้วยเสียงนุ่มลึก “ขอโทษเธอแล้วกัน”

ผมไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จะปากเขา แต่คนตรงหน้ามีคุณสมบัติหลายอย่างในการกุมใจคนจริงๆ โดยไม่ศักดิ์แต่จะมีหน้าตาและเงินทอง เขารู้ว่าเวลาไหนควรเอ่ยอะไรถึงแก่คนอื่น

“บอกแล้วว่าผมไม่โทษคุณ” ผมหัวเราะเบาๆ โคลงแก้วค็อกเทลในมือ “ผมไม่ได้ต้องการให้คุณสงสารหรือรู้สึกผิดด้วย ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

“ครั้งหน้าจะไม่มีแบบนี้อีก”

“แบบนี้?”

“ฉันเห็นว่าเธอน่าหยอกเลยแกล้งนิดหน่อย ไม่คิดว่าจะไปสะกิดแผลใจเข้า เอาเป็นว่าครั้งหน้าจะไถ่โทษให้ เธออยากได้อะไร ไปไหน ฉันจะทำให้”

“ในฐานะอะไรล่ะครับ?”

“ไม่ใช่ในฐานะเสี่ยก็ได้ เอาเป็นว่าในฐานะที่ทำเธอเสียความรู้สึกแล้วกัน”

“ผมแปลกใจที่คุณยอมให้ผมมากขนาดนี้”

“ฉันแคร์คนที่ฉันสนใจ”

คำนั้นไม่มีท่าทีกระลิ้มกระเหลี่ย เป็นเพียงคำพูดของผู้ใหญ่คนหนึ่งที่หนักแน่นอบอุ่น พอมาจากคนตรงหน้าที่นั่งด้วยท่าประสานมือแล้วโน้มตัวมาแล้ว ผมจึงอดไม่ได้ที่จึงหลุบตาลงพึมพำ นิ้วหมุนแก้วไปมาช้าๆ

“อย่าดีกับผมมาก เดี๋ยวผมจะใจอ่อนจนเป็นแมวน้อยซะคืนนี้”

“ฉันไม่เอาเปรียบเธอหรอก”

แสงสี เพลงเศร้าๆ แอลกอฮอล์ อาหารรสเลิศ ลมเย็นอ่อนโชย ฟ้าสีเข้มกระจ่างและทัศนียภาพของเงาตึกสูงโดยรอบ จะมีอะไรเป็นใจกว่านี้อีก เขาเองก็ดูท่าจะเป็นสุภาพบุรุษในค่ำคืนนี้

“แต่จะให้เปิดห้องก็ได้นะ”

อืม เกือบดีแล้ว ไม่ขาดคำจริงๆ

“เจตนาบริสุทธิ์” คุณกันต์ธีร์ยกมือสองข้างขึ้น ว่าหน้าตาเฉยเมื่อผมตวัดสายตามอง “คนเศร้าส่วนมากไม่ควรอยู่คนเดียว”

“หึ ผมอยู่ได้เชื่อสิ” ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะกระดกรวดเดียวหมดแก้ว “ผมเริ่มง่วงแล้ว ขอกลับเลยได้ไหมครับ?”

“ง่วงหรือเมากันแน่?”

“ผมคอแข็งกว่าคุณเยอะ” เหน็บอีกฝ่ายไปเบาๆ ในที่สุดรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาแบบลูกครึ่งก็กลับมา “คออาจแข็งกว่า แต่อย่างอื่นคงแข็งไม่เท่า”

“รู้ได้ไงครับ” ผมเย้า ลุกขึ้นแล้วเสยผมที่ปรกหน้าผากไปด้านหลัง ยกเสื้อนอกขึ้นถือพาดบ่า

“เดี๋ยวไปส่ง”

“ขอผมกลับคนเดียวแล้วกัน มีเรื่องที่ต้องคิด”

“แต่...”

“นะครับ”

“เอางั้นก็ได้” คุณกันต์ธีร์ยอมในที่สุด แต่ก็เดินตามไปส่งถึงที่เรียกแท็กซี่

“กลับดีๆ ล่ะ”

“พูดเหมือนผมดูแลตัวเองไม่ได้อย่างนั้นแหละ” ผมหัวเราะกึกๆ ในท่าทางดูกังวลเกินไปของเขา “ขอบคุณครับ เพื่อนของคุณลุงที่เป็นญาติห่างๆ”

คุณกันต์ธีร์แยกเขี้ยว ต้องยอมรับว่าน่าเอ็นดูไม่น้อย “แก่ไป คราวหน้าบอกว่าเป็นพี่ก็ได้”

“ไม่ไหวมั้ง ยังไงก็ฝันดีนะครับ”

“อือ ฝันดี ถ้าว่างแล้วจะโทรไป”

ผมเข้ามานั่งในแท็กซี่บอกจุดมุ่งหมาย ขณะรถเคลื่อนออกไป ก็พบว่าคุณกันต์ธีร์ก็ยืนดูจนสุดสายตา

พอนั่งรถผ่านมาได้สักพัก ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความไปหาเขา ซึ่งส่งไปไม่ถึงห้าวินาที มือถือที่ถืออยู่ก็สั่นครือเพราะมีสายเข้า

ผมกดตัดสาย ก่อนจะหลุดหัวเราะก๊ากออกมาจนแท็กซี่หันมองด้วยสีหน้าแปลกๆ

“ฮ่าๆๆๆ!”

ผมกดปิดเครื่องชั่วคราว กลั้นหัวเราะจนปวดท้อง ข้อความที่ผมเพิ่งส่งไปคือ

‘Just kidding I don’t even know who my mom is’
‘But don’t forgot your promise xx’

พร้อมแนบรูปหน้าที่อินจัดจนจริงจังของเขา ซึ่งเกรงว่าถ้าทำหน้าอย่างนี้มากๆ ตีนกาคงมาเยือนในเวลาอันใกล้




100%
ไปค่ะรูก อย่ายอมเขา ไม่ต้องบอกว่าเสี่ยวอ้ายทีมใคร 55555
แมทซ์นี้ เสี่ย 2 – พยัคฆ์ 2 ! ขอบคุณที่ยังติดตามกันค่ะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 08-12-2017 14:58:47
ทีมพยัคฆ์ค่ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-12-2017 15:19:13
ระวังเสี่ยเอาคืน
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 08-12-2017 16:07:04
 :hao7: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 08-12-2017 18:01:51
โถ่ เสี่ย โดนหนูเสือเอาซะ~~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-12-2017 23:21:29
 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-12-2017 05:07:50
55555 พี่เสือออ ร้ายเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 09-12-2017 05:58:03
เสือมันร้ายนะคะหัวหน้า :ruready :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 09-12-2017 07:44:21
 o22 ..............
 :laugh: :laugh: :m20:
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 09-12-2017 08:23:43
ทำไมร้ายกับเสี่ย 55555
แต่เสี่ยดูชอบ เอ็นดูเสือจริงนะ คือยอมเล่นด้วย สรรหาวิธีมาแก้แค้น
เดี๋ยวเถอะคราวหน้าเจออีกแน่
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 09-12-2017 10:33:54
ร้ายพอกัน
เสี่ยรีบทำคะแนนนำเร้ววววว
นุ่งแมวเหมียวตีตื้นล้าวววว

หยักจิขยี้ตาแรงๆ
ในที่สุดเสี่ยวอ้ายก็มาต่อ!
555555555555555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-12-2017 18:05:50
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 09-12-2017 20:30:27
เสี่ยน่าสงสารรร55555
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: nkl31 ที่ 09-12-2017 22:15:00
หนูเสือร้ายยยยยยย เสี่ยต้องรีบทำคะแนนนะคะ
หลอกกันได้ลงคอ นี่เศร้าไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่4(8/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 11-12-2017 06:53:05
น้องเสือทำให้เราหวาดระแวงว่าจะมาไม้ไหนอีกน้า
เรื่องไหนจริง เรื่องไหนเล่น ไม่รู้เลย ท่าทางเสี่ยน่าจะต้องทำใจและเอาคืนแบบจริงจังค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Warning! my daddy เสี่ยครับ อัพตอนที่5 -เสี่ยล่อเสือ- !!(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 11-12-2017 14:34:39
เสี่ยครับ
5 – เสี่ยล่อเสือ

   น่าเสียดายที่โชคไม่เข้าข้างคุณกันต์ธีร์เอาเสียเลย

   ผมหัวเราะเบาๆ กับตัวเองเมื่อคิดอย่างนั้น เพราะก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้แก้แค้นผมในคราวล่าสุด ประธานใหญ่ของบริษัทเหมวิวัฒน์กรุ๊ปคนนั้นมีธุระด่วนจะต้องบินไปมัลดีฟส์แบบกะทันหันเสียก่อน

   ที่ผมรู้ คงต้องยกความดีความชอบให้กับ ‘นักสืบจำเป็น’ ที่นั่งอยู่กับผมในมุมหนึ่งของคอฟฟี่เลานจ์บรรยากาศสบายๆ ใจกลางย่านธุรกิจ รอบข้างตกแต่งเรียบหรูด้วยโทนไม้สีดำแดงและรายล้อมด้วยวิวแบบพาโรนามาบนตึกสูง

   ผมอาจจะมีใช้ของที่ราคาไม่สูงนักในชีวิตประจำวันหากเทียบกับรายได้ แต่การกินเที่ยวดื่มนั้นถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

   หลังจากพบว่าสำรวจว่าที่นี่เป็นส่วนตัวมากพอ บทสนทนาจึงเริ่มขึ้น

   “เอ้านี่ ข้อมูลที่แกอยากได้!”

   ชายวัยกลางคนที่คาบบุหรี่กลิ่นฉุนแรงกึ่งโยนกึ่งกระแทกแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะกลม ตาขวางๆ สีดำสนิทประกอบกับใบหน้าบึ้งตึงที่มีริ้วรอยอยู่อย่างไรก็ไม่เป็นมิตร และไม่สมกับที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของประชาชน

   “ขอบคุณครับอาพจน์  เดี๋ยวผมเลี้ยงกาแฟตอบแทนแล้วกัน” ผมหยิบแฟ้มนั้นมาพลางยิ้มหวาน ยิ่งเห็นเส้นเลือดปูดข้างขมับของขี้โมโห ผมล่ะกลัวว่าเขาจะเส้นเลือดในสมองแตกตายไปสักวันหนึ่ง

   “หุบยิ้มเสแสร้งของแกซะ เห็นแล้วรำคาญลูกตา”

   “เพราะปากร้ายอย่างนี้น่ะสิ อายุปูนนี้แล้วถึงยังต้องนอนกอดคานอยู่”

   “ฉันเลือกที่จะโสดเองโว้ย” คนตรงหน้าพ่นควันสีขาวขุ่นมัวด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ พึมพำกับตัวเอง “น่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากไปตั้งแต่แรก ถ้ารู้ว่าแกโตมาแล้วจะกวนส้นตีนขนาดนี้”

   “คุณอาทำเด็กน่ารักๆ อย่างผมไม่ลงหรอก”

   “น่าลักไปฆ่าน่ะสิ”

   “เกรี้ยวกราดมากระวังผมบางนะครับ”

   “ยังไม่บางเว้ย!”

   อาพจน์ หรือ ร้อยตำรวจเอกประพจน์คนนี้เป็นที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เกิด หรือตอนผมแยกตัวออกมาอยู่หอเพื่อเรียนมหาวิทยาลัยก็ได้เขานี่แหละเป็นคนส่งเสีย แม้ว่าตาแก่ผมบางปากร้ายคนนี้จะไม่ค่อยพูดจาดีๆ หรือแสดงความรักด้วยคำพูด แต่ผมก็รู้ดีว่าเขาเป็นคนที่ผมพึ่งพาได้มากที่สุด

   การทำงานในโลกกลางคืนอย่างสงบสุข อย่างน้อยถ้ามีแบ็กดีก็ช่วยได้เยอะ

   ผมไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบประคบประหงม ดังนั้นผมจึงเรียนรู้ว่าโลกนี้ซับซ้อนและโหดร้ายกว่าที่คิด การตัดพ้อต่อว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้ทำให้ผมมีชีวิตสุขสบายขึ้น นอกจากจะลงมือทำและรับความเสี่ยงเอง

เพราะอย่างนั้น รู้ทั้งรู้ผมถึงเลือกเส้นทางในการทำงานกลางคืนที่เป็นสีเทาเข้มเกือบจะดำนี้ สาเหตุหลักก็เพราะว่า ‘เงิน’ หรือ ‘สิ่งที่เอาไว้ใช้หนี้และซื้อความสุขได้’

แต่อย่างว่า ถ้ามีเงินแล้วคุณภาพชีวิตบัดซบ จะมีไปเพื่ออะไร

นั่นทำให้ผมเป็นผู้เฝ้าดูอยู่วงนอกและเคลียร์ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มาตลอด จนเมื่อไม่นานมานี้ที่จู่ๆ ปัญหาที่ได้ชื่อว่า ‘เสี่ยกันต์ธีร์’ ก็เพิ่งเข้ามาในชีวิตผม

   ข้อมูลในมือผมเป็นแฟ้มหนาเหมือนใบสั่งรายการสินค้า แต่พอเปิดดูคร่าวๆ แล้วข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวเขาจริงๆ ดูเหมือนจะมีอยู่ไม่กี่แผ่น เพราะนอกนั้นคล้ายเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับตระกูลเหมวิวัฒน์และทรัพย์สินที่ครอบครอง มีมากกว่าที่ผมสืบค้นด้วยตัวเองเกือบเท่าตัว

   “รวยจริงๆ”

   “รวยฉิบหายเลยล่ะ” คนตรงหน้าว่า ใช้นิ้วที่คีบบุหรี่ชี้มายังข้อมูลเหล่านั้น “มีบางส่วนที่เป็นของประธานบริษัทคนก่อนซึ่งก็คือพ่อของเขาทำไว้ แต่ในส่วนคุณกันต์ธีร์คนนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการเป็นประธานบริษัท ดีลธุรกิจสัมปทานใหญ่ๆ รวมทั้งให้การสนับสนุนวงการต่างๆ รวมไปถึงราชการ”

   ยอมรับกันอย่างหน้าด้านดีกว่า คำว่า ‘สุจริต’ ในแต่ละวงการหายากยิ่งกว่าอะไร

   “แล้ว... คุณเจอสิ่งที่ดูไม่ชอบมาพากลรึเปล่า”

   “ไม่เจอ”

   “จริงดิ”

   “เออ” ร้อยเอกเน้นเสียงอย่างหงุดหงิด “เสี่ยมาเฟียคนนี้มีแต่ข่าวลือไม่ดี แต่ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง”

   ผมอดเลิกคิ้วสูงไม่ได้ คนตรงหน้าจึงเสริม

   “จะมีก็แต่ผิดศีลธรรมแต่ไม่ผิดกฎหมาย อย่างเช่น... ฆ่าคู่แข่งธุรกิจให้ตายทั้งเป็นด้วยการบีบคั้น ตลบหลัง ลวงข้อมูล ยืมมือคนอื่นจัดการ อะไรแบบนั้น”

   ผมได้ยินก็หลุดหัวเราะออกมา “แสดงว่าเขาฉลาด”

   “ฉลาด แล้วก็โหดเหี้ยมกว่าที่เห็น ถ้าเจอเขาแล้วรู้สึกว่าเขาเป็นแค่เสี่ยโง่ๆ ที่ดูแล้วโคตรหล่อแสดงว่าแกยังอ่อนหัด”

   “คุณอาประเมินผมต่ำอยู่เรื่อย”

   “แกมันอวดดีแล้วก็ไม่ระวังตัว แล้วเขาไปถูกใจแกได้ยังไงกัน”

   “พอดีเขามาที่คลับ เด็กในคลับทะเลาะกันแล้วผมเข้าไปห้าม อยู่ๆ เขาก็ถูกใจผมเลยชวนให้ไปทำงานด้วย”

   “แค่นั้น?”

   ความจริงแล้วชวนให้เป็นเด็กเสี่ย... ผมไม่อยากโกหกหรอก แต่กลัวแต่ว่าคนตรงหน้าจะช็อกไปเสียก่อน “ใช่ แต่เขาตื้อน่าดู ถึงขนาดมารับผมไปกินข้าวด้วยกัน”

   “กับอีกแค่ผู้จัดการบาร์เล็กๆ เนี่ยนะ?”

   ผมพยักหน้า “หรือบางที... คุณกันต์ธีร์อาจจะอยากได้ข้อมูลของคลับที่ผมจัดการอยู่ ใครจะรู้”

   “ไม่ได้หวังตูดแกแน่นะ”

   ผมที่ดื่มกาแฟเข้าไปแล้วต้องค่อยๆ กลืนลงคอ ดื่มเสร็จก็กระแอมไอเบาๆ เพื่อไม่ให้สำลัก เหลือบสายตามองเขาอย่างไม่อย่างเชื่อว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากคนหัวโบราณแบบนั้น

อาพจน์พูดต่อด้วยท่าทีจริงจังเคร่งเครียด “เขาเป็นไบเซ็กซ์ชวล ฉันรู้!”

   “อาก็คิดมาก หลานอาไม่ได้น่าเอาขนาดนั้น ที่มาถามเพราะว่าผมแค่อยากหาทางหนีทีไล่ไว้เฉยๆ”

   “อย่าให้มีเรื่องจนฉันต้องเดือดร้อนแล้วกัน” คำพูดของนายตำรวจตรงหน้าดูเย็นชาและไม่รักษาน้ำใจ แต่ผมรู้ว่าลักษณะการพูดปากอย่างใจอย่างแบบนี้ต่อให้เขาจะตายแล้วก็คงรักษาไม่หาย

“เออ... อีกอย่าง ‘คุณพฤกษ์’ ยังค่อนข้างจะไม่กินเส้นกับเขา ตอนนี้มีคดีเกี่ยวกับเหมวิวัฒน์กรุ๊ปที่ถูกสืบลับๆ อยู่หลายคดี” ผมได้ยินก็ชะงักไป ก่อนตอบรับช้าๆ

“...ขอบคุณที่บอกครับ”

“ไปล่ะ จ่ายเงินด้วย”

   ชายรูปร่างสูงหมุนข้อมือดูนาฬิกาแล้วลุกพรวดไปโดยไม่รอคำตอบ ผมยังคงนั่งอยู่ เท้าคางอย่างใช้ความคิดขณะยกข้อมูลในมือขึ้นมองผ่านสายตา

   ‘คุณพฤกษ์’ ที่อาพจน์พูดถึงเป็นหนึ่งในชื่อที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินเมื่อพูดถึงคุณกันต์ธีร์

   เขาเป็นผู้ชายที่ผมคล้ายจะมองเห็นแต่เงาของแผ่นหลังมาตลอด สิ่งที่ทำได้คือเฝ้าดูอยู่ไกลๆ แล้วไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง กระทั่งชื่อหรือหน้าตาของผมเขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ผิดกับผมที่รู้จักเขาดี

   ผมถอนใจ วางข้อมูลนั้นลงแล้วนวดขมับ

“หวังว่าคงเบื่อผมในเร็ววันนะครับเสี่ยกันต์ธีร์”

   ผมไม่อยากอะไรข้องเกี่ยวกับอะไรที่นำพาความยุ่งยากมาให้ชีวิตอยู่แล้ว ยิ่งคนที่เกี่ยวข้องกับพ่อแท้ๆ ผู้ให้กำเนิดแต่กลับไม่รู้จักลูกชายตัวเองคนนั้นผมยิ่งควรถอยห่างออกมา




   เวลาผ่านไปราวห้าวันหลังจากที่ได้รับข้อมูลของเขา ก็มีข้อความเด้งขึ้นมาบนจอมือถือของผม หากคุณกันต์ธีร์กำลังเห่อที่จะเล่นกับผม ตอนนี้ก็นับว่ายังไม่ออกจากช่วงระยะเวลานั้น

   ‘มัลดีฟส์สวยมาก’

   ผมมองดูภาพบรรยากาศโรงแรมริมทะเลแล้วหลุดหัวเราะออกมาอย่างอ่อนใจไม่ได้ แม้ว่าดิสกับชื่อของคนส่งมาจะน่ารำคาญใจและคงระบุตัวไม่ได้ หากว่าผมจะแคปไว้ประจานหรือแบล็กเมล์

   เขานี่ทำให้ผมประหลาดใจได้ไม่หยุดจริงๆ

   ใครใช้ให้คุณกันต์ธีร์ตั้งชื่อว่า ‘อยากกินหนูเสือ’ แล้วตามด้วยข้อความว่า ‘พร้อมเปย์’ พร้อมเอารูปผมตอนใส่แว่นที่กำลังนั่งทำบัญชีอยู่มาขึ้น หรือคิดว่าไม่ใช่แอคเคาท์จริงจะทำยังไงกับรูปชาวบ้านก็ได้

   ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระทำของคุณเสี่ยนี่ตรงข้ามกับคำพูดของอาพจน์ว่าเขาอันตรายจริงๆ

   ข้อความยังคงเด้งรัวๆ ทำให้มือถือในกระเป๋ากางเกงของผมสั่นเหมือนจะเป็นการประท้วงที่อ่านแล้วไม่ตอบ จนผมต้องหยิบขึ้นมาดูแม้อยู่ในเวลางาน

   ภาพรีสอร์ทแบบบ้านบนน้ำทะเลสีฟ้าสวยในมุมต่างๆ ถูกส่งมา ไหนจะภาพอาหาร เกมกีฬา สาวสวยหุ่นเซ็กซี่ในชุดบิกินี่ยั่วน้ำลายที่เดินกรีดกรายไปมา

   ‘อิจฉาล่ะสิ’

   ‘ถ้ายังอ่านแล้วไม่ตอบจะส่งชุดบิกินี่ไปก่อกวน’

   ตามด้วยภาพบิกินี่ตัวเล็กจิ๋วลายเสือที่วางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่สไตล์ริมหาด ป้ายราคาที่ติดอยู่ไม่สอดคล้องกับขนาดของมันเลยสักนิด

   ‘ผมแจ้งจับคุณข้อหาก่อกวนทางเพศได้ไหมครับ’ ในที่สุดผมก็พิมพ์ตอบกลับไป

   ‘นี่ก็อยากแจ้งจับเราข้อหาหลอกลวงปอกลอกทรัพทย์เหมือนกัน’

   ‘อันนั้นคุณสมยอม’

   ‘ใครกันนะ วันก่อนโดนแค่จูบก็เคลิ้ม แถมเชิญชวนผู้ชายเข้าห้องก่อน’

   ‘ไปทำงานแล้วนะครับ ขอตัวก่อน’

   ก่อนที่จะกดส่งประโยคตัดบท อยู่ดีก็มีเสียงร้องดังขึ้นพร้อมกับหน้าของใครบางคนที่ชะโงกเขามาใกล้

   “แน่! คุยกับใครครับพี่พะ—โอ้ย!”

   เดียวลูกน้องคนสนิทโผล่พรวดมาไม่มีบอกกล่าว ทำให้ปฏิกิริยาตอบโต้ของผมทำงานโดยอัติโนมัติ ศอกแข็งๆ ส่วนเป็นกระดูกของผมจึงกระแทกหน้าเขาไปจังๆ ถึงไม่แรงนักแต่ก็ทำให้เซแล้วผงะออกไปหลายก้าว

   “แค่นี้ทำไมต้องโหดด้วย!”

   “นายทำฉันตกใจทำไมล่ะ” ผมหัวเราะแล้วเก็บโทรศัพท์ก่อนเข้าไปหาคนสำออย “เลือดไม่ออกใช่ไหม”

   “ไม่ออกแต่โคตรเจ็บ” เดียวเป็นผู้ชายที่ตัวเล็กบางกว่าผมเล็กน้อย ย้อมผมทองและเจาะหูห้ารู ด้วยหน้าติ๋มๆ ทำให้ดูก็รู้ว่าค่อนข้างปอดแหกและไม่มีพิษมีภัย แต่พอสวมชุดพนักงานคลับแล้วก็นับว่าดูดีอยู่พอสมควร รวมทั้งยังเอาใจเก่งและช่างคุย จึงมีลูกค้าหลายคนที่ชื่นชอบเขาไม่น้อย โดยเฉพาะสุภาพสตรีวัยชรากระเป๋าหนัก

   คลับอีรอสของผมแห่งนี้เน้น ‘ผู้หญิง’ ไว้บริการ ‘ผู้ชาย’ มากกว่า แต่ก็มีชายให้บริการไว้ด้วยประมาณสามสี่คน ส่วนสตาฟด้านอื่นๆ มักจะไม่ออกไปกับแขก ยกเว้นจะเป็นความพึงพอใจเชิงชู้สาวของเจ้าตัว

   ถึงที่นี่จะอยู่กันอย่างครอบครัว ทว่ามีกฎว่าแต่ละคนมักไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกัน เว้นแต่ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงคลับ ส่วนการที่เดียวถือวิสาสะชะโงกดูมือถือผมได้นับว่าเป็นความสนิทประสาพี่น้องที่มีมากกว่าคนอื่น

   “ปกติผมไม่ค่อยเห็นพี่พยัคฆ์เล่นมือถือตอนทำงานเลย แถมยังยิ้มไปด้วยอีกต่างหาก อย่าบอกนะว่าพี่มีแฟนแล้ว”

   ผมส่ายหน้ากับคำกระเซ้าปนตัดพ้อนั้น “พอดีมีโรคจิตส่งข้อความมาก่อกวนเฉยๆ”

   “แต่ดูหน้าพี่ก็รู้ว่าไม่ใช่นา...”

   “ยุ่ง” ผมดีดนิ้วใส่หน้าผากคนตรงหน้า เดียวร้องอูยกุมหน้าผากแล้วทำหน้าตาน่าสงสาร ผมจึงโบกมือไล่กึ่งเล่นกึ่งจริงจัง “ไปทำงานไป วันนี้ลูกค้าเยอะ”

   “ครับๆ คุณผู้จัดการ”

   กลางโถงกว้างประดับด้วยแชนเดอเลียคริสตัลหรูล้อกับแสงไฟ เสียงดนตรีเย้ายวนดังมาจากด้านหนึ่งของเวที วันนี้เป็นดนตรีคลาสสิกที่เหล่านักแสดงสวมหน้ากากสีดำ สูทและชุดราตรียาวผ่าเผยให้เห็นเนินอกและเรียวขารำไร

นักเปียโนสาวผู้มีผมสีดำเกล้าสูงในชุดราตรีสีแดงฉานตัดกับผิวขาวนวลดูจะโดดเด่นกว่าคนอื่น แต่ความสามารถในการจรดปลายนิ้วลงกับเครื่องดนตรีของเธอก็ดึงผู้คนให้อยู่ในห้วงเสียงเพลงได้มากกว่าสัดส่วนเรือนร่างอวบอิ่มวับแวมนั้น

   คลับอีรอสเป็นสถานบันเทิงที่รู้กันว่ามีขายเรื่องอย่างว่า แต่ไม่ได้ไร้คลาสขนาดให้นัวเนียกันเรี่ยราดหากไม่เปิดห้องซึ่งเป็นโรงแรมด้านบน อีกทั้งยังมีช่วงเวลาที่จัดการแสดงสดหลากหลายประเภท ที่บางครั้งผู้คนก็มาเพื่อคลายเครียดและเสพสุขจากการมองและฟังสิ่งสวยงาม

   ผมที่คอยเดินต้อนรับ ทักทายและตรวจสอบความเรียบร้อยยังอดไม่ได้ที่เหลือบสายตามอง ตรงช่วงหนึ่งของจังหวะบรรเลงที่แสงสีทั้งมวลตกลงที่ร่างเจ้าหล่อน ยิ่งเห็นความเปล่งปลั่งของผิวกาย

   หน้ากากสีดำครึ่งหน้ายิ่งขับให้ดวงตาคู่คมสวยมีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา ในเสี้ยวเวลานั้น นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเธอก็สบกับผม

   คล้ายว่ามีเปลวไฟดวงเล็กเต้นเร่าอยู่ภายในนั้น ผมรู้สึกว่ามีประจุไฟฟ้าบางอย่างแล่นในร่างเพียงชั่วครู่

   ริมฝีปากแดงฉานอวบอิ่มส่งยิ้มเชิญชวนให้ผม ในขณะที่มือก็พริ้มเร่งเร้าจังหวะท่อนสำคัญของดนตรี

   ผมหรี่ตา ไม่ได้ยิ้มกลับไปแต่ก็ไม่ละสายตาไปจากนักเปียโนสาวคนนั้นเช่นกัน

   หลังจบการแสดง คนกระเป๋าหนักมากมายตรงไปให้ช่อกุหลาบและหวังจะพาเธอคนนั้นไปต่อ แต่เธอปฏิเสธอย่างไว้เชิงและสุภาพ ก่อนที่จะเดินมาทางผม

   “คุณเป็นผู้จัดการของที่นี่ใช่ไหมคะ?”

   “ครับ”

   เสียงของหวานและเบานั้นน่าฟัง พนันได้ว่าสามารถปลุกความเป็นสัตว์ร้ายในตัวผู้ชายส่วนมากได้ไม่ยาก เมื่อมองใกล้ๆ ยิ่งเห็นว่าตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าของเธอถูกตกแต่งอย่างประณีตเข้ากลับโครงหน้ารูปไข่ที่ดูอ่อนหวาน แต่ก็ยั่วเย้า

   “แพรวพรรณค่ะ คุณละคะ?”

   “พยัคฆ์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ผมระบายยิ้มให้ บัญชีของคลับในวันนี้ดูไม่น่าสนใจไปถนัด

   “แพรวอยากรู้จักคุณมากกว่านี้ แต่ถ้าคุณไม่ว่าง ก็ไม่เป็นไรค่ะ”

   นับตั้งแต่ครั้งที่พบเสี่ยกันต์ธีร์ ผมก็แทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร แถมครั้งนี้ยังเป็นคู่นอนเกรดเอที่ตรงมาตรฐานของผม ไหนคุณกันต์ธีร์จะไม่อยู่ที่นี่ให้วุ่นวาย ถือว่าเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ

“เกรงว่าผมอาจจะต้องให้คุณรอหลังคลับปิด...”

“ไม่เป็นไรค่ะแพรวรอได้”

“ขอโทษด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ แต่คิดวิธีไถ่โทษที่ทำให้สุภาพสตรีรอไว้ก็พอ”

แพรวพรรณก้มลงกระซิบข้างหูของผม เพียงครู่เดียวก็ผละออก แล้วเดินจากไป แต่กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงแบบกลิ่นหวานอ่อนๆ แต่เซ็กซี่ทำให้ผมต้องปรายตามองตามแผ่นหลังขาวเนียนนั้น

ผมยิ้มกริ่ม นับเงินแล้วผิวปากเบาๆ ไปด้วย เจ้าเดียวคนเดิมยังไม่วายเข้ามาแซว

“โห คราวนี้เล่นคุณแพรวนักดนตรีคลาสสิกอัจฉริยะคนนั้นเลยเหรอพี่”

เจ้าตัวบุ้ยใบ้ไปยังสาวนักเปียโนที่นั่งอยู่บริเวณแขกวีไอพีกับเหล่านักดนตรีร่วมงาน ผมยกมือขยี้ศีรษะเจ้าคนชอบยุ่ง “ยุ่งทุกเรื่อง”

“พี่ด่าผมเสือกอ่ะ”

“หรือไม่จริง”

“เอ๊า ก็พี่ชายทั้งคน เดี๋ยวผมเร่งเด็กๆ ให้รีบเก็บร้านเลยพี่ ไม่อยากขัดขวางคนกำลังมีความสุข หึๆ”

เดียวทำได้อย่างว่าจริงๆ มีเด็กในคลับเข้ามาแซวผมอยู่ประมาณสองสามคน คงเพราะผมไม่ได้ออกไปไหนกับใครมานานด้วยส่วนหนึ่ง หลังเดินออกมาก็พบกับคุณแพรวพรรณกำลังรออยู่ในห้องผู้จัดการหลังร้านท่ามกลางไฟสลัว เธอค่อยๆ ถอดหน้ากากและเอียงคอน้อยๆ

“ถ้าช้ากว่านี้แพรวว่าจะหนีกลับไปแล้วเชียว”

ท่าทีกระเซ้าเหย้าแหย่ของเธอมีชั้นเชิง ดวงหน้าของเธอไร้ตำหนิทุกส่วน ทั้งดวงตาคมเฉี่ยว จมูกโด่งเล็ก และริมฝีปากอิ่ม เมื่อตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้น ผมจึงอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปใกล้ๆ ใช้หลังมือลูบผ่านหัวไหล่เปลือยเปล่าของเธอของแผ่วเบา
“ถ้าคุณหนีไปผมคงผิดหวัง เพราะตั้งใจคิดวิธีขอโทษคุณเอาไว้แล้ว”

แพรวพรรณหัวเราะคิก “แพรวก็อยากรู้ว่าจะเป็นเสือสมชื่อรึเปล่า คุณพยัคฆ์”

ผมไม่ตอบแต่ก้มลงจุมพิตเธอ

แพรวพรรณไม่คล้ายจะตกใจ แต่ตอบรับผมอย่างเร้าร้อนไม่แพ้กัน ทำให้รู้ว่าเธอไม่ใช่สาวน้อยไร้ประสบการณ์
ริมฝีปากประกบกันไร้ช่องว่าง บ่งบอกว่าค่ำคืนนี้คงเร่าร้อนเป็นทะเลเพลิง ขณะผมลิ้มรสและโอบประคองไหล่บอบบางแบบผู้หญิงไว้ จู่ๆ กับมีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในหัว

ถ้าเป็นคุณกันต์ธีร์ เขาคงไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยนขนาดผม คงจะรุกเร้าจนอีกฝ่ายหอบตัวโยน

ผมอดคิดอย่างนั้นไม่ได้ แต่ก็รีบไล่ความคิดเพี้ยนๆ นั้นออก แล้วสนใจกับหญิงสาวในอ้อมกอดแทน

   ร่างกายที่แนบชิดบดเบียดเริ่มร้อนวาบ ผมไล่ละริมฝีปากลงไปตามลำคอขาวนวลของเธอ กระแสเลือดพลุ่งพล่านด้วยความกระหายอยากของผู้ชาย ตอนนี้มีแค่อยากกลืนกินเธอทั้งเป็น

   “อา...” แพรวพรรณครางแผ่วเสียงหวานเมื่อมือหนึ่งของผมกอบกุมหน้าอกของเธอ ประท้วงทั้งๆ ที่เริ่มหอบและนวลแก้มขึ้นสีระเรื่อ “ใจเย็นสิคะพยัคฆ์”

   “?”

   “เปิดโรงแรมดีไหมคะ แพรวมีที่ที่อยากไป ทำกันในนี้แพรวรู้สึกไม่เร้าใจพอ”

   อันที่จริงห้องผู้จัดการของผมก็ไม่ได้ตกแต่งอย่างแย่นัก จัดว่าค่อนข้างหรูหราด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อเธอว่าอย่างนั้น ผมจึงเลือกที่จะตามใจ แต่ยังไม่ปล่อยแขนขณะใช้ปลายจมูกไล้ตามแก้มเนียน

   “ทนไหวเหรอครับ”

   “อย่าแกล้งแพรวสิคะ”

   เจ้าหล่อนใช้สองแขนดันแผ่นอกผม หลุบตาเขินอายอย่างอิดออด ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นจริตแต่ผมก็อดรู้สึกชมชอบไม่ได้

   “ตามใจคุณผู้หญิงเลยครับ” ว่าอย่างนั้นแล้วปล่อยให้เธอผละออก เห็นจากผิวขาวๆ ที่เริ่มขึ้นสีของเธอ แพรวพรรณเองก็มีอารมณ์กับผมไม่น้อยเหมือนกัน

   ผมขับรถพาเธอมายังโรงแรมแห่งหนึ่ง ดูจากความหรูหราแล้วก็น่าจะราคาแพงไม่น้อย แพรวพรรณยักคิ้วขณะใช้นิ้วไล้ตามคางของผมก่อนลงจากรถ “แพรวจ่ายเองค่ะ อ๊ะๆ อย่าปฏิเสธเชียว ไหนๆ คุณก็อุตส่าต์ตามใจแพรวแล้ว”

   “ครับผม”

ผมอดคิดไม่ได้ว่ากับเธอคนนี้คงไม่ใช่แค่วันไนท์แสตนด์ ผมชอบความท้าทาย เร้าใจ และแพรวพรรณก็ดูจะเป็นผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกเช่นนั้นกับผมได้ ติดแต่ว่าอาจจะต้องซ่อนเธอจากเสี่ยกันต์ธีร์หน่อยเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา

แพรวพรรณไปติดต่อห้องยังเคาท์เตอร์ ก่อนที่จะนำกุญแจและคีย์การ์ดมาให้ด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไป

“คุณไปก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวแพรวตามไป”

“มีอะไรรึเปล่าครับ”

“มีสายเข้าค่ะ น่ารำคาญจริงๆ”

“...” ผมรู้ว่าไม่ควรเสียมารยาทถาม แพรวพรรณเห็นสายตาผมจึงตอบ “แฟนเก่าค่ะ ตื้อไม่เลิกซะที!”

ผมพยักเพยิดไป “มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”

แพรวพรรณรีบส่ายศีรษะ “ไม่ต้องหรอกค่ะ เกรงใจ แพรวขอโทษจริงๆ เดี๋ยวจะตามไปนะคะ ขอแค่สิบนาที”

ดูเหมือนว่าเธอแค่ประชดแฟนเฉยๆ โดยการมานอนกับผู้ชายคนอื่น ผมเองก็ถามไปอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ไม่แน่ใจว่าเธอจะหนีผมไปรึเปล่า แต่ผมก็เลือกที่จะเดินไปที่ห้องตามคำขอ เพราะหากพลาดจริงๆ ผมอาจโทรเรียกคนอื่นมาแทน

ห้อง 913

ผมใช้คีย์การ์ดและกุญแจเปิดเข้าไป แต่ทันใดนั้นร่างก็ถูกดึงเข้าไปติดกำแพงพร้อมกับมีอีกร่างหนึ่งที่สูงใหญ่กว่าเข้ามาทาบทับ ล็อกแขนสองข้างติดกำแพง เวลาเพียงไม่กี่วินาทีต่อมา ผมถึงจะตระหนักได้ว่าความซวยมาเยือนอีกแล้ว

“ไม่อยู่แปบเดียว เป็นเด็กไม่ดีเลยนะหนูเสือ”

“คุณกันต์ธีร์...”




   
100%
หนูเสือจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป555 ตอนที่แล้วพิมพ์ forget เป็น forgot ด้วย รีบไปหน่อย
ขอบคุณคอมเมนต์ที่เป็นกำลังใจให้นะคะ ถ้าอยากหวีดในทวีตสามารถใช้แท็ก #เสือกับเสี่ย ได้ค่า เพราะชื่อเรื่องมันยาวเกินไป เอ๊อะ  :katai5:
   
   
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-12-2017 16:02:48
เสืออย่าเสียท่าน้าาเราเชียร์
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: thareewans ที่ 11-12-2017 16:50:01
โอ้ยยยยอยากอ่านคอนที่เสี่ยได้กินหนูเสืออะ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 11-12-2017 18:22:11
หนูเสือของเสี่ย :hao7:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: nkl31 ที่ 11-12-2017 18:56:23
หนูเสือของเสี่ย ซวยแล้วว ตะหงิดใจตั้งแต่ขอให้พาไปโรงแรมละ เสี่ยมันร้ายยย หนูเสียอย่าไปยอมนะ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-12-2017 19:05:46
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 11-12-2017 21:58:20
ใครจะเหมาะสมกันเท่าสองคนนี้ ความเจ้าเล้ห์ความร้ายนี่ไม่มีใครยอมใคร
เสี่ยจะได้กินเสือมั้ย ท่าทางจะเคี้ยวยากนะเสี่ย
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 11-12-2017 22:23:22
เนื้อเรื่องชอบนับแต้มกันไปมา
55555555

#ทีมเสี่ยกันต์ธีร์
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Occava ที่ 13-12-2017 16:53:43
โอ้ยยยยย  เสืออออ :katai1:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 17-12-2017 11:04:51
รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว :hao3:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 17-12-2017 18:42:41
หนูเสือซวยแหละ เสี่ยลงทุนจ่างคนมาล่อเสือออกจากถ้ำขนาดนี้เชียว
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 17-12-2017 21:25:51
ลุ้นค่าาาา
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Somporn ที่ 17-12-2017 21:29:42
ลุ้นอีกแรงงงง งับ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 17-12-2017 22:38:04
หุๆ หนูเสือโดนจับได้~~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-12-2017 23:07:25
จะรอดไหม?
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-12-2017 23:21:43
เสี่ยแผนสูงงงงจีจี
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 18-12-2017 03:04:00
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 21-12-2017 21:19:46
เสี่ยจะทำไรต่อน๊าาา
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่5-เสี่ยล่อเสือ(11/12/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Trystan ที่ 07-01-2018 14:06:54
รอ อยู่น้า มาต่อเร็วว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 17-03-2018 15:00:42
เสี่ยครับ
6 – เสี่ยลงโทษ

   “ไหนว่า... อยู่มัลดีฟไงครับ”

   ผมเอ่ยกระเซ้ากึ่งติดตลก พยายามรักษาสีหน้าสบายๆ เอาไว้ แม้ตามไรผมจะเริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมา ทั้งๆ ที่อยู่ในห้องสวีตหรูหราที่เปิดแอร์เย็นช่ำ

   “พอดีคิดถึงหนูเสือเลยรีบกลับมา” กลิ่นน้ำหอมของเขาวันนี้เป็นกลิ่นที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันเข้มข้น ซาบซ่า เป็นกลิ่นเย็นๆ แต่พอสูดดมแล้วกลับรู้สึกถึงกระแสความร้อนในตัว

   ดวงหน้าเจ้าของฉายาเสี่ยมาเฟียอยู่ห่างจากผมเพียงนิด จนได้สัมผัสได้ถึงลมหายใจกลิ่นมิ้นท์ ซึ่งเข้ากับเขาอย่างประหลาด

   “แต่ดูสิ พอไม่อยู่แปบเดียวกลับเอาผู้หญิงขึ้นห้อง เสี่ยเสียใจนะครับ”

   เสี่ยเขาน่ะโคตรตอแหลเลยล่ะ ผมบอกได้ว่าเขาดีใจซะอีกที่ผมกินเบ็ด จะได้หาทางลงโทษได้เต็มที่

   “หืม ความจริงแล้วผมรู้ว่าเธอเป็นนางนกต่อของคุณ เลยกะมาเซอร์ไพรซ์นี่แหละ”
   “จะบอกว่าแผนสูงกว่าว่างั้น”

   คุณกันต์ธีร์หัวเราะเสียงนุ่มในลำคอ ดวงตาสีฟ้าอมเขียวยิ่งเป็นประกาศถูกอกถูกใจ

   ร้อนแรงและอันตราย... ราวกับจะกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัว

   เขาเป็นผู้ชายที่ตาสวยมากจริงๆ

   อยู่ๆ ผมก็รู้สึกเกลียดตัวเองไม่น้อย ที่ว่าผมเป็นผู้ชายชอบความท้าทายและชีวิตโลดโผน ดูเหมือนว่า... ชายตรงหน้านี่แหละจะมีสิ่งที่ผมต้องการ

   ถ้าผมเป็นเกย์ คงเสร็จเขาไปตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้ว แถมยังยินดีจะต่อกับเขาอีกหลายครั้งด้วย

   “คุณกันต์ธีร์...”

   คนที่ยกตัวเป็นเสี่ยจู่โจมเข้ายังซอกคอของผม ริมฝีปากขบเม้มและดูดดุนอย่างเนิบนานหยอกเย้าอย่างชำนิชำนาญ ใบหน้าที่เคยเกลี้ยงเกลาแต่ตอนนี้มีไรหนวดเคราขึ้นน้อยๆ สัมผัสระเรื่อลากผ่านผิว ทำให้ผมรู้สึกจั๊กจี้จนต้องหดคอ แต่คุณกันต์ธีร์ก็รุกไล่เข้ามาอย่างไม่ลดละ สองมือยังตรึงสองข้อมือผมไว้ข้างกำแพง

   “ผมจั๊กจี้...”

   ปากผมว่าขณะกลั้นขำ แต่นั่นก็แค่ปกปิดความรู้สึกบางอย่างที่กำลังพลุ่งพล่านขึ้นไว้

คุณกันต์ธีร์คงจ้างแม่สาวนักเปียโนนั่นให้ยั่วและปลุกปั่นอารมณ์ของผมด้วยแน่ๆ

แล้วอย่างที่เดียวว่า ตั้งแต่มีคุณกันต์ธีร์เข้ามาพัวพันในชีวิต ผมก็ไม่ได้มีอะไรกับใครอีกมาสักพักใหญ่ๆ ซึ่งตามปกติแล้วผมก็มักจะไปเรื่อยตามภาษาผู้ชายกลางคืน ถึงไม่มั่ว แต่ก็ไม่ได้ขาดแคลน

ระหว่างที่ซุกไซ้วุ่นวายกับลำคอและกกหู ขาและลำตัวของเขาก็เบียดแทรกเข้ามา ให้ผมยิ่งต้องอ้ากางขาออก

ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน ยิ่งกำลังคิดจะเดินเครื่องกับแพรวพรรณอยู่แล้ว ยิ่งอยู่ในช่วงที่ตื่นตัวไวต่อการถูกกระตุ้น

“อืม...”

ริมฝีปากที่มีกลิ่นมิ้นท์จางๆ ประกบเข้ามา ลิ้นอุ่นแต่ชื้นแฉะเคลื่อนไปตามโพรงปาก ผมเองไม่คิดจะเอียงหน้าหลบให้เสียชั้นเชิง จึงบังคับลิ้นให้ประสานจังหวะกับเขาด้วยเช่นกัน

คุณกันต์ธีร์คำรามในลำคอเบาๆ เมื่อผมเอียงหน้าให้ได้องศาแล้วยื่นหน้าไปแนบริมฝีปากให้ชิดจนไร้ช่องว่าง เสียงจูบแลกลิ้นดังก้องไปในความเงียบ อุณหภูมิระหว่างร่างกายทั้งสองเพิ่มขึ้นจนลืมความเย็นของแอร์ไป

ทันใดนั้นคุณกันต์ธีร์ก็ผละริมฝีปากออก ปล่อยมือผมก่อนที่จะรวบเอวแล้วแบกขึ้นบนบ่าเขา

“เห้ย”

ผมหลุดร้องออกมาไม่ดังนัก เมื่ออยู่บนบ่าที่ไม่มั่นคง ผมเองถึงไม่อ้วนแต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวจะเบา อีกฝ่ายพาผมไปไม่กี่ก้าวก่อนเหวี่ยงลงบนเตียงนุ่มแล้วเขามาทาบทับ

“คุณ– อื้ม”

ริมฝีปากนุ่มหยุ่นดูดกลืนเสียงของผมเข้าในลำคอ ตักตวงรสจูบเหมือนไม่รู้จักพอ

เอาเป็นว่าเขาจูบเก่ง ผมรักษาลมหายใจ ระหว่างปล่อยให้เขาบดขยี้ริมฝีปากตามใจชอบก็คิดหาทางหนีทีไล่

แต่ชั่วแวบหนึ่งผมเสียสมาธิ เพราะถูกเขากัดริมฝีปากล่างแล้วดึงเบาๆ ทันใดนั้นแขนทั้งสองข้างของผมก็ถูกรวบขึ้น ก่อนที่จะ...

เคร้ง!

ผมผละออกจากจูบแล้วเหลือบตามองขึ้นทันที

ที่ข้อมือถูกกุญแจมือล็อกไว้กลับหัวเตียง หมดทางหนี ผมหลุบตากลับมามองคุณกันต์ธีร์ที่ยิ้มชั่วร้ายและถอดสูทตัวนอกสีเทาเข้มออก ค่อยปลดๆ เนคไทออกไป ปลดกระดุมที่ข้อมือทั้งสองข้างแล้วพับแขนเสื้อขึ้น

ฉิบหาย

“ผมไม่ได้มีรสนิยมอย่างนี้นะครับ ขอบอกก่อน”

ผมยังรักษารอยยิ้มไว้บนใบหน้า ยังรักษาน้ำเสียงให้ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อน

แต่ที่บังคับไม่ได้ นั่นคือจังหวะหัวใจที่เต้นตุบอยู่ในอกจนกว่าว่าผู้ชายตรงหน้าจะได้ยิน

“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะ”

คนข้างบนกระซิบเสียงพร่า แล้วหอมแก้มผมแผ่วเบา มือแตะที่กุญแจข้อมือพร้อมหัวเราะหึๆ “ไม่ต้องห่วง ซื้ออย่างดีมา บาดผิวน้อย สร้างรอยมาก”

“อย่างที่ผมเคยบอก ไหนๆ ไม่ได้เจอกันนาน เราควรนั่งคุยกันสักหน่อย”

“ตอนนี้อยากคุยก็คุยสิ ฉันจะฟัง” ปลายจมูกโด่งซุกลงยังลำคอของผม ก่อนที่จะไล่ลง คุณกันต์ธีร์ใช้ริมฝีปากปลดกระดุกของผมทีละเม็ด

ทีละเม็ด ทีละเม็ด

จนเมื่อหมด และใบหน้าเขาอยู่ต่ำเกือบถึงเป้ากางเกงของผม ทำให้ผมไม่อาจเงียบเสียงได้อีกต่อไป

“เสี่ยครับ” เสียงที่ผ่านลำคอสั่นพร่าเล็กน้อยทั้งๆ ที่พยายามนิ่งขรึมอย่างที่สุด ลมหายใจเริ่มสะดุด คิ้วขมวดลง ไม่อาจแสร้งปั้นสีหน้าสบายๆ ได้อีกต่อไป “นี่ไม่เข้าข่ายบังคับขืนใจเหรอครับ อย่างนี้ก็ขี้โกงน่ะสิ”

คุณกันต์ธีร์เงยหน้าขึ้น ก่อนที่จะเอื้อมมือมาเกลี่ยสาบเสื้อของผมให้เปิดออก เผยให้เห็นผิวและจุดบนหน้าอกชัดเจน

มือใหญ่ทาบทับลงมา หยาบอย่างไม่คุ้นผิวต่างจากมือผู้หญิง แต่สัมผัสที่แตะลงแสนนุ่นนวล เหมือนกลัวจะทำให้ผิวผมช้ำ

แต่ผมรู้ เขากำลังยั่วอารมณ์ผม

นิ้วแสร้งปัดผ่านจุดสีอ่อนอย่างไม่ตั้งใจให้ผมขบฟันเบาๆ ก่อนที่จะทาบลงยังอกซ้าย

“นี่หนูเสือกลัวหรือตื่นเต้นกันแน่”

ผมอยากจะจิ้มตาเขาให้บอดไปทั้งสองข้างจริงๆ

“ไม่ชอบครับ”

ผมตอบไม่ตรงคำถาม คุณกันต์ธีร์หัวเราะแล้วใช้หลังมือลูบแก้มผมเบาๆ

“วันนี้จะไม่ให้สึกหรอสักอย่าง เว้นแต่เราจะขอเอง เชื่อสิ”

ให้ผมขอเอง เขาฝันอยู่รึเปล่า?

“ปล่อยผมก่อนดีกว่าครับ”

“เดี๋ยวค่อย”

เอ่ยเสร็จเจ้าตัวก็คว้าหมับเข้ากลางเป้ากางเกงของผม

“...!”

“โอ๊ะ โทษที มือเผลอไปโดน” ก่อนที่จะยกมือขึ้นเหมือนมีเจตนาบริสุทธิ์ใจ แต่รอยยิ้มกับตาพราวระยับดูจะตั้งใจยั่วโมโหผมมากกว่า

ผมอยากจะถีบเขาติดกำแพงผนังห้องนู่น คุณกันต์ธีร์ใช้มือลูบไล้ไปตามต้นขาของผม แล้วพรมจูบผ่านเนื้อผ้า ก่อนกัดเบาๆ บริเวณต้นขาด้านขวา

“ฮ่า”

กระแสไฟฟ้าบางอย่างไหลไปทั่วร่าง ผมจึงหลุดร้องครางอย่างกลั้นเสียงไม่อยู่พร้อมกับที่ขากระตุกจนเสี่ยกันต์ธีร์ต้องใช้มือจับไว้ไม่ให้โดนเตะ ก่อนจะสบตาผมเป็นเชิงเหนือกว่า

ทำไมเขาถึงรู้ว่าตรงนี้...

‘เสี่ยขา จุดอ่อนของพี่พยัคฆ์คือหัวนมด้านซ้ายกับต้นขาอ่อนด้านขวานะคะ’

อลิตา...!

“ไม่เมื่อยเหรอ เกร็งไปทั้งตัวเชียว”

“ถ้าเสี่ยอยากรู้ ลองให้ผมล็อกเสี่ยกับหัวเตียงบ้างไหมครับ”

“อย่าขู่สิ”

ผมแยกเขี้ยว รู้ว่าร่างกายร้อนรุ่ม ผิวหน้าและลำคอ รวมถึงใบหูคงขึ้นสีแดง ภายใต้กางเกงเริ่มอึดอัดขึ้น แต่อีกฝ่ายไม่คิดจะถอดเสื้อผ้าให้เขา

แล้วผมก็ไม่ต้องการให้เสี่ยกันต์ธีร์รู้ด้วยว่าผมกำลังมีอารมณ์

“จะทำอะไรก็รีบทำเถอะครับ อย่าลีลา”

ผมจ้องเข้าไปในตาสีฟ้าอมเขียวคู่นั้นอย่างท้าทาย ถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่าผมคงห้ามไม่ได้ แต่เขาคงต้องคิดถึงผลที่จะตามมาให้ดี

สีหน้าที่ผมแสดงไป ผมคาดหวังว่าเขาคงแสยะยิ้มแล้วลงมือปู้ยี่ปู้ยำผมตามคำท้า หรือไม่ก็หมดอารมณ์แล้วไปหาเด็กคนอื่นมากินแทน

แต่คุณกันต์ธีร์กลับนิ่งไปสักพัก ก่อนหัวเราะเสียงดังจนตาหยี แรงสะเทือนสั่นไปทั่วเตียงตลอดจนร่างผม เขาก้มลงจูบหน้าผากผมหนึ่งที แล้วปลดกุญแจด้านหนึ่งที่หัวเตียงออก

ยังไม่ทันที่ผมจะได้เป่าปากดีใจ อีกฝ่ายกับล่ามกุญแจข้อมืออีกข้างไว้ที่ข้อมือตนเองแทน ก่อนที่จะโยนกุญแจเข้าในกระเป๋ากางเกงตนเอง

“นี่เสี่ย...”

ผมอ้าปากขมวดคิ้วมุ่น เขาจะมาไม้ไหนอีก

“โซ่นี่สั้นนิดเดียว ถ้าฉันจะอาบน้ำ เธอก็คงต้องอาบพร้อมกัน”

“...”

“ไม่สึกหรอหรอกมั้ง ยังไงก็ผู้ชายด้วยกัน”

“กับผู้ชายอย่างเสี่ย ผมว่าผมขาดทุนเต็มๆ”

“ฉันสิขาดทุน เพราะฉันหุ่นดีกว่าเธอ”

“เอาที่สบายใจครับ”

ผมพ่นลมหายใจแล้วยิ้ม แต่แล้วเสี่ยกันต์ธีร์กลับปลดโซ่ให้แล้วโบกมือไล่ผมไปอาบน้ำเสียอย่างนั้น

พอผมมองด้วยสายตาแปลกๆ เขาก็ว่า “เดี๋ยวจะอดใจไม่ไหว จับเรากินในห้องน้ำ”

ห้องอาบน้ำหรูหราเป็นอ่างจากุชซี่และเห็นวิวเบื้องนอก แต่ผมไม่มีอารมณ์สุนทรีย์มากนัก ด้วยเพราะสำรวจเห็นรอยจ้ำๆ อยู่ตามหน้าอกและหน้าท้อง

ให้ตายสิ คุณกันต์ธีร์ เหมวิวัฒน์ถือเป็นคนที่รับมือได้ยากที่สุดในชีวิตผมจริงๆ

จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงหรืออะไร หากจะให้ยอมรับตรงๆ ก็คือรู้สึกดี

แต่แค่ความรู้สึกมันตอบกันไม่ได้ว่าผมชอบแนวนี้ เพราะนี่ก็แค่ฟอร์เพลย์เท่านั้น หากว่าเก่งเป็นเพศไหนคงไม่ต่าง
ต้องใช้เวลาจัดการส่วนล่างของผมให้สงบลงพักหนึ่ง ผมจึงค่อยสวมเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวออกมา เสี่ยกันต์ธีร์ที่เปิดโน้ตบุ๊คนั่งทำงานอยู่ผิวปากหลิ่วตา

“เซ็กซี่”

“ไปอาบน้ำเถอะครับ เหม็นแล้ว”

“เหม็นที่ไหน ออกจะหอม” ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาพอใจนักหนาเมื่อได้หยอกล้อเล่นกับผม แต่เอาเถอะ ผมว่าก็ไม่เลวร้ายนักหรอก

คุณกันต์ธีร์ใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก ก็แต่งตัวออกมาจากห้องน้ำด้วยกางเกงขายาวตัวเดียว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อสมบูรณ์ไม่มากไม่น้อยที่ผ่านการออกกำลังมาอย่างดี เขาเดินไปเปิดไฟหัวเตียงสีส้มอ่อนจาง ปิดไฟห้อง ก่อนที่จะทิ้งตัวลงข้างๆ ผมซึ่งนอนกลิ้งบนเตียงทั้งที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ

“อ่อยเหรอ?”

“เสี่ยไม่ได้เตรียมชุดให้ผมนี่ครับ” ผมว่าแล้วพลิกตัวหนี อีกคนเข้ามากอดจากข้างหลังแล้วกระซิบ

“เราน่ารัก”

“รู้ตัวครับ”

อีกฝ่ายเบนหน้าผมไปจุมพิตเบาๆ ซึ่งผมสาบานได้ว่าไม่เคยเจอความรู้สึกที่มีคนตัวใหญ่กว่าเข้ามานอนกอดต่างหมอนข้างอย่างนี้มาก่อน

ทั้งกลิ่นลมหายใจ กลิ่นน้ำหอมที่คล้ายจนอวลอยู่ กลิ่นกายของเขา ผสมกันจนผมรู้สึกมึนหัว จนเผลอโอนอ่อนเล็กน้อยไปตามน้ำเสียงกับถ้อยคำอ่อนโยนนั้น

“วันนี้ขอนอนกอดได้ไหม” เสี่ยกันต์ธีร์เอาคางมาเกยไหล่ผม ถามเสียงอ้อนๆ

“ถามทำไมครับ”

“อยากรู้ความสมัครใจ”

“ไม่...”

หมับ

“ถามหรือไม่ถามก็ไม่ได้ต่างกันเลย” ผมหัวเราะในลำคอ ถึงจะรู้ว่าในสถานการณ์อย่างนี้เขามีสิทธิ์จะจับผมกดได้ทุกเมื่อ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่า ศึกครั้งนี้ไม่ได้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้

วงแขนแข็งแรงกระชับเอวผมไว้ ลมหายใจสม่ำเสมอเป่ารดต้นคอ เสี้ยวหน้าผสมไทยและยุโรปค่อยๆ จมสู่ห้วงนิทรา

ผมค่อยๆ หลับตาลง

กระแสความเปล่าเปลี่ยวไหลมากับความอบอุ่นระหว่างร่างกายและความเย็นของแอร์ คุณกันต์ธีร์ไม่ได้มีทีท่าจะรุกรานผมอีก

“เหงาไหม?”

ผมเอี้ยวหน้าไปหันไปตามเสียงแผ่วเบา คล้ายว่าคนเอ่ยจะละเมอออกมา

ผมหันกลับมา มองไป ผ่านไปพักใหญ่ๆ ก็งึมงำตอบในคอเหมือนกัน

“นิดหน่อยครับ”



ตอนนี้ละมุนเบาๆค่ะ
//กลับมาอัพหลังหนีไปนาน 5555 ขอบคุณที่ติดตามกันค่า
ใช้ แฮชแท็ก #เสือกับเสี่ย ได้ที่ทวิตเตอร์เด้อ

ที่จัดหน้าไม่สวยเพราะเว็บค่อนข้างค้างนะคะ555


   


หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-03-2018 15:55:14
นึกว่าจะได้ขอเลือดมาสำรอง
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 17-03-2018 16:43:22
รอวนไปค่ะ :katai5:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-03-2018 19:29:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 17-03-2018 23:37:31
เสี่ยก็ลูกล่อลูกชนเยอะเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-03-2018 23:49:26
เหนือกว่าเสือก็มีเสี่ยนี่แหละ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 18-03-2018 01:09:13
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:  ละมุนี~~~~~~
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 18-03-2018 07:08:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 18-03-2018 08:38:48
ชอบในความเล่นใหญ่ของเสี่ยจริงๆ

หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: thareewans ที่ 18-03-2018 09:35:36
ชอบเรื่องนี้มากกกก หนูเสือกับเสี่ย
เมะชนเมะ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 18-03-2018 10:21:28
แสบพอกันเลย
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 18-03-2018 11:29:35
ละมุนนนน
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 18-03-2018 15:22:39
นี่ถ้าไม่ลองคลิ๊กเข้ามาอ่านคงเสียใจแย่   เเซ่บมากทั้งเสือทั้งเสี่ย

เค้าเข้าใจเล่นกันนะคะ just kidding !!!!    55555555555

เสี่ยจะเลี้ยงเสือก็ต้องงั้นทุกวิธีมาใช้แบบนี้แหละค่ะทั้งไม้อ่อนไม่เเข็ง

ต้องระวังเสือตะปบหรือเตลิดหนีไปพร้อมๆกันด้วย  สูสีจริงๆอยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่าาา
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 18-03-2018 21:34:47
เสี่ยนี่ท่าทางจะถูกใจหนักมากนะคะ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Trystan ที่ 19-03-2018 12:55:05
เสี่ยก็ยอมเสือจัง ก็นะคนเขารักของเขา  :hao3:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 19-03-2018 15:07:57
ดีงาม เสี่ยมีความขี้เล่นมาก
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 20-03-2018 08:12:15
คิดถึงเรื่องนี้มากกกกกกกกก
ไปติดแฮชแท็กดีก่าาาาาา
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 20-03-2018 14:04:17
คิดถึงเสือกับเสี่ยของเขามากๆเลยค่า แง้ ดีใจที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่6-เสี่ยลงโทษ(17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: nkl31 ที่ 21-03-2018 17:35:02
เสี่ยขาาาา เสี่ยละมุนมากก
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 22-03-2018 02:15:40
เสี่ยครับ
7 – เสี่ยใกล้ชิด

   แสงแดดส่องผ่านผ้าม่านโปร่งเข้ามารบกวนเปลือกตาที่กำลังปิดสนิทอยู่ ร่างกายในยามเช้ายังเฉื่อยชา ทำให้รู้สึกไม่อยากขยับออกจากเตียงนอนระดับพรีเมี่ยมนี้ และเหมือนว่าแขนขาผมยังเคลื่อนไหวไม่ได้ดั่งใจ เพราะกำลังถูกทับด้วยบางอย่างหนักๆ อยู่บนตัวอย่างไม่คุ้นชิน

   เคยนอนค้างคืนกับผู้หญิงแค่บางคน แต่ผมมักไม่ชอบให้เธอเหล่านั้นเป็นฝ่ายกอด หรือถ้าหากจะกอดกันนอนจริงๆ ผมมักเป็นฝ่ายกอดเองซะมากกว่า ความรู้สึกเวลานี้จึงแปลกพิกลจนหลุดจากความสะลึมสะลือได้เร็วกว่าปกติ

   “อืม”

   เสียงนุ่มทุ้มต่ำดังอยู่เบื้องหน้า ผมลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะพบกับใบหน้าอีกฝ่ายที่แทบจะประกบชิดกันอยู่แล้ว

   จำได้ว่าเมื่อคืนผมนอนหันหลังให้คุณกันต์ธีร์... แถมผมก็ไม่ใช่คนดิ้นเก่งขนาดทำเสื้อคลุมอาบน้ำหลุดจากไหล่อย่างนี้ด้วย เป็นเขานั่นแหละที่คงหาเศษหาเลยจากผมบ้างตอนหลับ

   ผมไม่ใช่คนหลับลึก และเมื่อวานก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรมาก คุณกันต์ธีร์คนนี้นอกจากจะเป็นนักธุรกิจแล้ว ถ้าเขาเปลี่ยนไปเอาดีด้านเป็นโรคจิตลักหลับผมว่าก็คงรุ่งอยู่เหมือนกัน

   แขนข้างหนึ่งของเขาพาดทับตัวผมอยู่ ผมยังไม่ขยับตัว นิ่งมองสำรวจเขาในระยะใกล้

   เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาสมวัย ด้วยดวงหน้าผสมระหว่างยุโรปและไทยอย่างดี สัดส่วนร่างกายดูสมชายชาตรี อีกทั้งยังมีกรุ่นไอหายากและแปลกประหลาด หมายถึงดูอบอุ่นแต่แฝงด้วยเสน่ห์ดิบๆ อยู่ภายใน เวลายามหลับเหมือนทะเลสงบเงียบไร้คลื่นลม แต่หลายคนที่อยู่ใกล้คงสัมผัสได้ว่าหากเขาเกรี้ยวกราดขึ้นมาคงไม่ใช่เรื่องดี

   ผิวพรรณของเขาไม่ได้เรียบสวยไร้ตำหนิไปซะหมด มีริ้วรอยบ้างแต่ดูไม่ขัดตา ยิ่งเสริมเสน่ห์แห่งความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้นไปอีก

   ผมไม่ใช่คนคิดมาก แต่ก็ไม่ใช่คนคิดน้อย ดังนั้นจึงคิดไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขาในอนาคต

   ตอนนี้เขายังคงสนุกกับการไล่จับเสืออย่างผม และผมเองก็สนุกกับการทั้งหนีทั้งแว้งกัดใส่เขา

   แต่วันนี้... พอเห็นเขาในสภาพหลับใหลใกล้ๆ ผมชักเริ่มไม่สนุก แล้วอยากเดินลงจากเตียงและกลับบ้านตอนนี้เสียเลย

   ‘เหงาไหม’

   เพราะผมชักเริ่มรู้สึกว่า... เกมนี้ไม่ได้จบกันที่พอเขาได้ผม เขาชนะ พอผมถูกเขาเอา ผมก็แพ้

   ทันใดนั้น มือที่แนบตรึงติดสะโพกของผมคลึงแน่นขึ้นขัดจังหวะความคิด แล้วขยับดึงผมเข้าไปกอด ผมขี้เกียจดิ้นรนวุ่นวาย เลยปล่อยร่างกายโอนอ่อนตามแรงไปโดยดี

   ก่อนที่จะรู้ว่าไม่ควรปล่อยตามเลยเพราะคิดว่าเขาหลับอยู่

   “!”

   เป็นธรรมชาติของผู้ชายที่จะถูกปลุกเร้าได้ง่ายในตอนเช้า ผมเองตอนนี้สวมเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำ ส่วนคุณกันต์ธีร์ก็ใส่กางเกงผ้าสีเทาอยู่ตัวเดียว

   ส่วนนั้นของเขากับผมแตะแนบกัน มีเพียงผ้ากั้น

   ผมผลักอกเขาออกเต็มแรงอย่างไม่ไว้น้ำใจ ไม่สิ ที่ไม่ถีบก็ไว้น้ำใจมากแล้ว

   คุณกันต์ธีร์แกล้งผงะออกไป ก่อนที่จะทำเป็นตกใจตื่นขึ้น

   “เฮ้ย!”

   สีหน้าดุๆ มองมาที่ผม ผมกะพริบตาปริบ ทำหน้าเหลอหาไม่รู้เรื่องเหมือนยังเมาขี้ตาอยู่

   “หนูเสือผลักเสี่ย ตกเตียงไปมีตังค์จ่ายค่ารักษาให้ไหม”

   ดูพูดเข้า เห็นก็รู้ว่าร่างกายเขาแข็งแรงกว่าผมตั้งไม่รู้เท่าไหร่

   “เอ่อ ผมเพิ่งตื่นครับเลยยังงงๆ แล้วก็ไม่ชินที่มีคนนอนด้วย ขอโทษครับ”

   “ไม่ใช่ว่าตื่นอยู่แล้วเหรอ”

   “ผมเพิ่งตื่นพร้อมกับเสี่ยนี่แหละครับ”   

   “เมื่อกี้เจ็บ เป็นรอยเลยดูสิ”

   “ผมไม่ตั้งใจ”

   “งั้นก็ไถ่โทษ”

   “...”

   “ไม่งั้นก็จ่ายค่าประกันมา นี่หัวจรดเท้าอย่าให้บอกว่ากี่พันล้าน”

   “เดี๋ยวผมนวดคลายเจ็บให้ไหมครับ”

   “หืม”

   ดวงตาสีฟ้าอมเขียวเป็นประกายขึ้นมา ผมยิ้มเอาใจ “แต่ถ้าให้นวดชุดนี้คงไม่เหมาะ เสี่ยหาชุดใหม่ให้ผมหน่อยสิ”

   “ได้เลย”

   “เอาชุดปกตินะครับ ถ้าเป็นชุดประหลาดๆ ผมคงไม่กล้าออกไปไหนกับเสี่ยอีก”

   ได้ยินเสียง ‘ชิ’ เบาๆ จากปากคุณกันต์ธีร์ จากเสียงรับปากที่กระตือรือร้นเกินพอดีของเขา คงไม่พ้นคิดจะจับให้ผมใส่ชุดคอสเพลย์วิตถารแน่นอน

   คุณกันต์ธีร์โทรบอกให้ลูกน้องไปเอาชุดมาให้ผม ก่อนที่จะเข้าไปอาบน้ำก่อน ขณะที่ผมกำลังนั่งรอชุด

   คนที่เข้าไปในห้องน้ำแล้วกลับโผล่หน้าออกมา “ความจริงเราก็ควรช่วยเสี่ยอาบน้ำด้วยนะ”

   “คงไม่ดีมั้งครับ ผมตาไม่ค่อยดีแล้วก็ซุ่มซ่าม เดี๋ยวจะไปฟาดไปถีบโดนอะไรในห้องน้ำอีก”

   ผมเอ่ยขณะเล่นโทรศัพท์มือถือ ส่งสายตาเป็นเชิงท้าและขยับยิ้มมุมปาก อีกฝ่ายหัวเราะแล้วกลับเข้าไปในห้องน้ำแต่โดยดี ไม่วายส่งเสียงออกมาให้ได้ยินแว่วๆ “เมื่อไหร่จะเชื่องนะ”

   ใช้เวลาไม่นาน ลูกน้องของคุณกันต์ธีร์ก็นำชุดมาให้ผม เป็นชุดที่ผมเห็นแล้วเลิกคิ้ว

   เสื้อเป็นเสื้อยืดแขนสั้นคอวีสีขาวสกรีนลายอักษรหลวมๆ กางเกงยีนส์ขาดเป็นริ้วสีน้ำเงินเข้ม และรองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่สีขาวพื้นนีออนที่นิยมในหมู่วัยรุ่น จำได้ว่าเดียวเคยมาโม้ถึงให้ฟัง แล้วโอยครวญถึงราคาสองหมื่นปลายๆ ของมัน ว่าแพงนักหนาแต่ก็อยากได้

   กางกางในสีแดงเลือดหมูรัดทรวดทรงทำให้ผมถอนหายใจ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเขาเลือกจีสตริงสีแดงแปร๊ดให้ผมก็แล้วกัน

   “ไง ถูกใจไหม”

   “ผมใส่เสื้อผ้าเดิมก็ได้ครับ”

   “ตั้งใจเอามาให้เราถึงนี่แล้ว ตามมารยาทก็ไม่ควรปฏิเสธนะ” คุณกันต์ธีร์ออกมาในสภาพท่อนผมเปียกแล้วสวมผ้าขนหนูสั้นๆ ผืนเดียวเดินเข้ามาใกล้ ท่าทางกลั้นขำอย่างน่าหมั่นไส้ ผมเหล่มองเขาก่อนตอบ

   “งั้นหวังว่าคุณกันต์ธีร์คงไม่อายนะครับ เวลามีใครถ่ายภาพผมติดกับคุณไป”

   “ไม่อาย จะเก็บไว้ใส่กรอบในห้องนอนซะอีก”

   ระดับเขาน่ะ ถึงมีคนแอบถ่ายเพื่อไปเขียนข่าวกอสซิป นักข่าวคนนั้นคงถูกเด้งออกก่อนจะได้ส่งให้บรรณาธิการพิจารณา เพราะเป็นอันรู้กันว่ามีไม่มีใครกล้าเขียนถึงตระกูลเหมวิวัฒน์นอกจากจะเป็นข่าวที่เป็นทางการเช่นการให้เงินสนับสนุนหรือไปเปิดงานอีเวนต์ต่างๆ ของวงการบันเทิง

   ผมจำต้องเอาชุดนั้นเขาไปในห้องน้ำ แล้วจัดการอาบน้ำแต่งตัวออกมา

   “น่ารักดี”

   คุณกันต์ธีที่นั่งอ่านนิตยสารอยู่ยังโซฟามุมห้องเอ่ยทัก สายตาที่ทอดมองมาดูพออกพอใจ

   “ถ้าคุณกันต์ธีร์ชอบคนอายุน้อย ก็ควรจะเลือกคนที่เด็กกว่าผม”

   “ความจริงเราก็เด็ก แต่ชอบทำตัวแก่แดด”

   คิ้วผมกระตุกขึ้น “ยี่สิบสี่ก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วครับ ด้วยความเคารพ”

   อีกฝ่ายยิ้มกว้างขึ้น ยักไหล่ไม่โต้ตอบอะไรแล้วก้มลงอ่านหนังสือ ก่อนเอ่ยเป็นเชิงให้รับรู้ว่า “อีกเดี๋ยวอาหารเช้าจะมา ตอนนี้ตามสบายนะ”

   เมื่อวานเขายังจับผมตรึงกับหัวเตียงด้วยกุญแจมือแล้วทำท่าจะกลืนกินทั้งเป็นอยู่ ตอนนี้บรรยากาศกลับกลายเป็นสบายๆ ผ่อนคลายไป ผมไม่ได้ถามซักไซ้ แต่คิดว่าคงเป็นหนึ่งในวิธีทางเกมจิตวิทยาของเขาที่จะทำให้ผมยังไม่ต่อต้านเขาและเขาเองก็รุกไล่อย่างไม่เสียชั้นเชิง ซึ่งต้องยอมรับว่ามันได้ผลจริงๆ

   ผมเดินมาส่องกระจก ต้องถอนใจอีกครั้ง

   ภาพที่สะท้อนกลับมาเหมือนเด็กมัธยมปลายหรือไม่ก็เป็นเด็กมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ผิดจากสไตล์เสื้อผ้าปกติของผมโดยสิ้นเชิง ซึ่งผมมักจะใส่เสื้อผ้าที่เนี้ยบและเรียบๆ มักเป็นโทนสีเคร่งขรึม เช่น ดำ ขาว เทา น้ำเงิน กรมท่า ไม่มีลวดลาย ส่วนกางเกงก็ไม่มีกางเกงขาดแม้แต่ตัวเดียว ถึงเป็นกางเกงยีนส์ก็จะเป็นสีและทรงสุภาพ

   ไอ้เด็กเฟี้ยวตรงหน้านี่มันใครกัน

   “มานี่สิ”

   คุณกันต์ธีร์กวักมือเรียก ผมเดินไปอย่างว่าง่ายแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

“ใส่แต่สูทไม่เบื่อรึไง”

คนพูดยิ่งยิ้มกว้าง ขนาดเขาเองยังแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตคอปกสีขาว กางเกงผ้าเนื้อดีขายาวสีดำ ผมล่ะอยากจะถามเขาว่าทำไมไม่ใส่เสื้อฮาวายกางเกงเลซะบ้าง

“ปกติผมก็ไม่ใส่สูทครับ แต่ก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้”

“งั้นต่อไปก็แต่งหลายๆ แบบ น่ารักจะตาย”

เขาพูดคำว่าน่ารักออกมาบ่อยจนผมชักสงสัยว่าเขาชมผมเหมือนชมลูกหมาลูกแมวรึเปล่า คุณกันต์ธีร์วางแก้วกาแฟหอมกรุ่นลง ก่อนที่จะขยับนิ้วเป็นเชิงให้ก้มหน้า ผมเอี้ยวลงอย่างเสียมิได้ ก่อนที่จะถูกเขาดึงข้อมือเข้าไป

มือใหญ่แต่นิ้วเรียวยาวสวยขยี้ผมของผมจนยุ่ง เมื่อผมหดตัวและขมวดคิ้ว เขาค่อยปล่อยมือแล้วหัวเราะ

ได้ยินเสียงเคาะประตู พร้อมกับบริกรชายนำรถเข็นอาหารเช้ามาให้สองชุด เมื่อเปิดออกมาแล้วของคุณกันต์ธีร์เป็นสลัดอกไก่พริกไทยดำ ส่วนของผมเป็นข้าวต้มกุ้ง พร้อมขนมปังธัญพืช น้ำส้มคั้น และผลไม้จำนวนหนึ่ง

ผมชอบกินกุ้ง... แต่แน่นอนว่าผมกับอาหารเช้าไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เพราะว่าผมทำงานกลางคืน ส่วนใหญ่ตอนกลางวันก็จะนอนยาวๆ มีตื่นมากินอาหารกลางวันกับเย็นบ้างนานๆ ที

“ผมไม่ค่อยกินอาหารเช้าน่ะครับ”   

จู่ๆ คุณกันต์ธีร์ก็มีสีหน้าจริงจังขึ้น “รู้ไหมว่ากินอาหารเช้าช่วยทำให้สมองทำงานได้เต็มที่ แถมยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ”
“ผมยังแข็งแรงดีครับ ไม่ต้องห่วง”

“ดื้อ”

“หรือถ้าจะให้กิน... คงกินไม่ลง”

“เอาล่ะ ลองก่อน”

   ประธานแห่งเครือบริษัทเหมวิวัฒน์กรุ๊ปใช้สายตาและน้ำเสียงบีบบังคับผมเป็นครั้งแรก ด้วยเรื่องให้กินข้าวเช้า

   เห็นอีกฝ่ายจ้องมานิ่งๆ ไม่มีรอยยิ้ม ทั้งยังไม่ยอมละสายตาไปไหน ในที่สุดผมก็ต้องยกธงข้าวยอมแพ้ นั่งลงแต่โดยดี

   “ส่วนใหญ่แล้วอาหารที่นี่จะสะอาด แต่รสชาติจะถูกปากหรือเปล่าก็ค่อยว่ากัน”

   ผมพยักหน้าอย่างขอไปที บางครั้งก็กรุ่นๆ ในใจเหมือนกันที่ไม่อาจขัดขืนเขาได้โดยตรง ถึงผมจะรู้ว่าการขัดใจเขาเพราะเรื่องเล็กน้อยจะทำให้ผมเดือดร้อนอย่างไม่เข้าท่า แถมเรื่องที่เขาบังคับก็เป็นเรื่องที่ดีต่อผมจริงๆ ก็เถอะ

   ผมเสยผมที่ปรกหน้าผากขึ้น นั่งลงตรงข้ามเขาแล้วตักข้าวต้มกุ้งขึ้นแล้วเป่า ก่อนเอาเข้าปาก

   อร่อยกำลังดี รสพริกไทยเพิ่มความอยากอาหารได้จริงๆ ผมรู้สึกเจ็บใจไม่น้อย แต่ก็ชักสีหน้าเรียบเฉย ตั้งหน้าตั้งตากินต่อไปโดยไม่สนใจสายตาที่มองมา

   “อร่อยไหม”

   “ครับ... ก็ดี”

   คุณกันต์ธีรห์หัวเราะหึ ก่อนที่ชี้ไปที่ปากตัวเอง

   “ป้อนทีสิ”

   “...”

   “อ้อ อย่าลืมเป่าให้ด้วย”

   “สลัดอกไก่จะเข้ากับข้าวต้มกุ้งเหรอครับ”

   “ฉันอยากลองชิม”

   อีกฝ่ายเริ่มรำคาญ ผมเองก็อึ้งรับประทานเหมือนกัน แต่สุดท้ายเลยเลือกที่จะแกล้งเขาด้วยการอัดกุ้งตัวเบ้อเริ่มเขาไปเต็มคำแล้วเป่าสองสามที ก่อนป้อนเข้าปากเขาทั้งที่ยังร้อน

   คุณกันต์ธีร์ก็ยังฝืนอ้าปากกินเข้าไปเต็มคำ แต่ก็ยังมองผมด้วยสายตาเคืองๆ ผมกลับเป็นฝ่ายยักยิ้มขึ้น

   “อร่อยไหมครับ”

   คนบอกให้ป้อนยังตอบไม่ได้เนื่องจากมีกุ้งอยู่เต็มปาก ใช้เวลาเคี้ยวสักพักแล้วกลืนลงคอ ก่อนที่จะยกน้ำส้มขึ้นดื่มดับร้อน ผมแกล้งยิ้มซื่อแล้วเอียงคอน้อยๆ

   “หนูเสือจะฆ่าเสี่ยด้วยกุ้งรึไง”

   “ก็เห็นเสี่ยอยากกินนี่ครับ” ผมยังคงทำหน้าเหลอหลา แต่คราวนี้คุณกันต์ธีร์ไม่ปล่อยให้ผมลอยนวล

   “เออ อร่อย ไหนๆ ก็ไหนๆ อ้าปากสิ ฉันจะป้อนสลัดให้ชิมบ้าง”

   “ผม...”

   ยังไม่ทันตอบตกลง อีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาบีบแก้มไว้ ก่อนที่จะใช้ส้อมจิ้มสตรอว์เบอร์รี่ในจานใส่ปากตัวเอง แล้วก้มมาป้อนผมด้วยปากต่อปาก

   รสชาติหวานของผลไม้และน้ำสลัดคลุกเคล้าเข้ามาผ่านรสสัมผัส พร้อมลิ้นคล่องแคล่วที่สอดผ่านเข้ามา โอ้เอ้ลัดเลาะอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะขยับกลับไป

   “ฉันว่าหวาน”

   “ก็นิดหน่อยครับ”

   ผมยิ้มกระตุก ก่อนจะเคี้ยวสตอรว์เบอร์รี่ในปากช้าๆ ไม่ได้เขินอายและหลบสายตา ท่าทางคุณเสี่ยเองก็ชอบที่จะเปลี่ยนบรรยากาศบนโต๊ะอาหารให้กลายเป็นร้อนแรงเหมือนกัน

   “แต่หนูเสือคงหวานกว่า”   

   “ผมไม่หวานหรอก” ผมปฏิเสธ “ส่วนใหญ่คนอื่นบอกว่าผมเผ็ด กินแล้วลิ้นพองซะมากกว่า”

   “งั้นคงต้องลองว่าจะลิ้นพองจริงไหม”

   ผมหัวเราะในลำคอแล้วก้มหน้าก้มตาลงกินข้าวต้มกุ้งต่อให้หมด อากาศแห่งความร้อนอ้าวลอยเอื่อยอยู่ระหว่างผมกับเขาในแอร์เย็น แม้จะทำแค่นั่งกินข้าวด้วยกันเฉยๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่า คนๆ นี้ชักอันตรายต่อผมขึ้นทุกที



   วันนี้ผมไม่มีงานที่คลับ ส่วนคุณกันต์ธีร์ที่คงวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้วก็เคลียร์งานในช่วงเช้า จึงบอกว่าจะพาผมไปเที่ยวด้วยกัน และเขาเองก็เหมือนจะรู้ธุระของผมไปซะหมดเลยพูดดักหน้าไว้ว่า รู้แล้วว่าผมไม่มีนัดอะไร

   หรือถึงมี นัดของเขาก็สำคัญกว่า เผื่อว่าผมจะแสร้งพูดนัดปลอมขึ้นมาเฉยๆ

   “มีที่ที่อยากไปรึเปล่า”

   “แล้วแต่คุณกันต์ธีร์เลยครับ”

   “คุณกันต์ธีร์ก็แล้วแต่หนูเสือเหมือนกัน จำได้ไหม คราวก่อนโน้นที่เราหลอกว่าแม่โดนรถชน ฉันสัญญาว่าจะพาไปที่ไหนก็ได้ที่เราอยากไป”

   พอโดนเขาย้อนคำ ผมเลยนึกถึงที่ๆ คนอย่างเขาไม่น่าจะไป หรือไม่น่าอยากจะไปขึ้นมา

   “คุณกันต์ธีร์ชอบสัตว์รึเปล่าครับ”

   “ก็...” อีกฝ่ายเว้นไปพักหนึ่ง “เฉยๆ ชอบบ้างบางชนิด”

   “อย่างเช่น?”

   “หมา แมว พวกสัตว์เลี้ยง อ้อ มีอย่างหนึ่งที่ชอบมากเป็นพิเศษ ก็คือ เสือ”

   ขอให้ได้มีโอกาสเถอะ ช่วงนี้เขาอาจยังไม่เบื่อ แต่ผมว่าสักพักก็คงเลี่ยนตัวเองไปเอง

   “ผมว่าผมมีที่ๆ อยากไปแล้วล่ะครับ”

   “ที่ไหน”

   “สวนสัตว์ดีไหมครับ น่าสนุกดี มีเสือเยอะด้วย”



   เป็นอันว่าคุณกันต์ธีร์ เหมวิวัฒน์ ประธานเครือเหมวิวัฒน์กรุ๊ปให้เกียรติพาผู้จัดการบาร์เล็กๆ อย่างผมไปเที่ยวสวนสัตว์ ด้วยเพราะเป็นวันหยุด หลายๆ ครอบครัวจึงพากันพาลูกหลานมาเที่ยว ส่งเสียงดังโวยวายไปทั่วบริเวณ

   ระหว่างรอเข้าแถว... อันที่จริงเขาจะให้คนแซงคิวเลยก็ได้ แต่ไม่รู้มีสปิริตแรงกล้าอะไรสักอย่าง เจ้าของสมญาเสี่ยมาเฟียคนนี้ถึงยังยืนต่อแถวรออย่างอดทนกับผมโดยดี

   “ร้อนนะครับว่าไหม”

   ขนาดผมเองที่เป็นคนหาเรื่องมาเดือดร้อนยังต้องกระพือคอเสื้อ ผู้ชายตัวสูงใหญ่กว่าข้างๆ ที่สวมแว่นกันแดดมีหรือที่จะไม่เหงื่อท่วมตัวเพราะแดดประเทศไทย

   “นิดหน่อย”

   ยังคงวางฟอร์ม จนผมอดลอบยิ้มไม่ได้

   “ถ้าเสี่ยไม่อยากเข้าก็ไม่เป็นไรครับ ผมเองยังไงก็ได้อยู่แล้ว”

   “ฉันยังไม่ได้บอกว่าไม่อยากมา”

   อีกฝ่ายหน้าตึงเสียอย่างนั้น ผมพยักหน้าเออออตามเขาไป ระหว่างผมกับเขา จากสายตาคนภายนอกคงเหมือนลุงพาหลานวัยรุ่นมาเที่ยวสวนสัตว์ หรือไม่ก็หลานพาลุงที่มาจากประเทศมาเที่ยวดูสัตว์ประเทศไทย

   หลังจากจ่ายเงินค่าตั๋วเสร็จ ทั้งผมกับเขาก็ขึ้นไปนั่งยังรถพ่วงไฟฟ้าเล็กๆ ที่จะนำพาไปรอบสวนสัตว์ วิทยากรสาวเอ่ยเสียงใสต้อนรับพร้อมกับเริ่มบรรยายถึงกรงของสัตว์ต่างๆ ที่ผ่าน

   คุณกันต์ธีร์ไม่พูดอะไรนอกจากปาดเหงื่อ เช็ดเหงื่อ ดื่มน้ำเย็นและกระพือเสื้อ

   ดูจากผิวของเขา เดิมคงขาวมากอยู่แล้ว แต่สังเกตได้จากผิวที่สม่ำเสมอ คงเป็นคนที่ทำงานอยู่แต่ในร่ม ไปไหนมาไหนก็ไม่เคยได้ออกแดด

   “คุณกันต์ธีร์ร้อนรึเปล่าครับ”

   “ร้อน... แต่ก็ไม่มาก สนามกอล์ฟร้อนกว่านี้”

   แต่เขาไม่ได้บอกว่าที่สนามกอล์ฟมีรถกอล์ฟกับมีแคดดี้เดินถือร่มตามทุกฝีก้าว    

   ผมเคยบอกว่าเขาดูเป็นผู้ใหญ่สมวัย แต่ก็มีส่วนที่ชอบเอาชนะและไม่ชอบเสียหน้าเหมือนเด็กๆ อยู่เหมือนกัน

   “ครับ ไม่ร้อนมากก็ดี” ผมหัวเราะเบาๆ จริงๆ แล้วก็ร้อนไม่แพ้เขา แต่ความสะใจมีมากกว่าจึงกลายเป็นเย็นใจไปเสีย

   จนเมื่อวนรอบหนึ่งแล้วจะลงจากรถ แม่สาววิทยากรกลับคล้ายจะสะดุดล้ม เป็นผมที่รั้งตัวเธอไว้ได้ทัน

   “ขะ ขอบคุณค่ะ!”

   ดวงหน้าเล็กๆ รูปไข่ของเธอขึ้นสี ใบหน้าตกแต่งด้วยเครื่องสำอางไม่มาก กลิ่นแป้งที่ใช้เองก็เป็นแป้งเด็ก ประกอบด้วยผมสั้นทรงบ๊อบและแว่นทรงกลม จริงๆ แล้วเธอก็น่ารักใช่เล่น แถมยังดูไร้เดียงสาและซื่อบริสุทธิ์

   หุ่นเองก็... เอ็กซ์ไม่เบา

   “อะแฮ่ม”

   เสียงกระแอมไอเข้มๆ ดังมา ผมปล่อยมือจากเธอ พบกับดวงตาสีอ่อนที่กำลังหรี่ตาและส่งสายตาเป็นสัญญาณบางอย่างมา

   วิทยากรสาวเดินแยกจากไป ผมมองตามหลังอย่างติดจะเสียดาย คุณกันต์ธีร์ก้าวเข้ามาข้างๆ ก่อนก้มกระซิบ

   “เดี๋ยวหนูเสือจะได้กลับเข้าฝูงก็วันนี้แหละ”




พยัคฆ์เอ๊ยย เดี๋ยวเสี่ยเขาจัดการหนูจริงๆ นะ 555555
ขอบคุณที่ติดตามกันและไปสกรีมในทวิตเตอร์ที่ #เสือกับเสี่ย นะคะ อยากบอกว่าเสี่ยวอ้ายตามอ่านอยู่นะเออออ
   
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-03-2018 02:32:18
ไม่สนอากาศเมื่องไทยเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 22-03-2018 06:14:52
เสีียหยอดเก่ง น้องเสือก็รับมือได้ไม่แพ้ สนุกจริงๆ ไม่อยากให้เสื้อได้แอ้มง่ายๆเลย
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 22-03-2018 08:16:58
หมั่นไส้คนอยากกินเสือเหลือเกินค่ะ หึ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: nkl31 ที่ 22-03-2018 13:59:31
อยากอ่านมุมมองเสี่ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ꧁SuN꧂ ที่ 27-03-2018 22:02:04
 :hao7:อยากอ่านต่อแล้วคาบบบบบบบบบ :hao7:
 :z13:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ꧁SuN꧂ ที่ 27-03-2018 22:03:10
 :hao7:อยากอ่านต่อแล้วคาบบบบบบบบบ :hao7:
 :z13:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 28-03-2018 09:45:24
เสี่ยเหมือนเด็กอ่ะ 5555555
อยากอ่านตอนพี่เสือกินเหยื่อสาวสวยยย
ผช.เผ็ชๆ แบบพี่เสืออออ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 28-03-2018 11:00:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่7-เสี่ยใกล้ชิด(22/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 28-03-2018 17:09:12
 :hao6:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13//61)
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 13-04-2018 02:02:37
เสี่ยครับ [Yaoi]
8 – เสี่ยสายเปย์

   “ไม่รู้เราคิดอะไรถึงเลือกมาเที่ยวสวนสัตว์ตอนนี้”

   “เสี่ยบอกว่าชอบเสือมาก ที่ๆ จะเจอเสือได้ก็คือสวนสัตว์นี่แหละ”

   ผู้ชายรูปร่างสูงดูโดดเด่นออกจากบรรดาคนรอบข้างออกปากบ่นออกมาทันที เมื่อหลบแดดเข้ามาอยู่ใต้เงาร่มไม้ ใหญ่ๆ ผมจึงอดไม่ได้ที่ยกคำพูดเขามาย้ำ คุณกันต์ธีร์เอื้อมมือมาบิดแก้มโดยไม่บอกกล่าว ถึงจะเจ็บหน่อยๆ แต่ก็ไม่อาจลบรอยยิ้มเย้ยออกไปจากใบหน้าผมได้

   “ชอบเสือนี่หมายถึงหนูเสือไง แกล้งโง่ไปได้”

   เขาพูดโดยไม่สนใจลูกเด็กเล็กแดงหรือบรรดาผู้คนที่เดินผ่านไปมา ผมฟังแล้วก็ยักไหล่ จะว่าชินแล้วก็ไม่เชิง ก่อนก้มลงดูแผ่นพับเพื่อดูว่าตัวเองอยู่ที่ไหน

   สวนสัตว์แห่งนี้มีพื้นที่ร้อยกว่าไร่ มีสัตว์อยู่ประมาณหนึ่งพันกว่าตัวแม้จะเป็นสวนสัตว์กลางกรุง ผมเองจำได้อย่างเลือนรางว่าครั้งล่าสุดที่มาสวนสัตว์คือตอนอายุประมาณสิบสองเห็นจะได้ โดยคนที่พามาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นการทัศนศึกษากับโรงเรียนนี่เอง

   เมื่อนึกถึงอดีตวัยเยาว์ รอยยิ้มของผมจึงจางลง จากรอยยิ้มย่ามใจกลายเป็นรอยยิ้มเบาบาง

   ครั้งหนึ่งคนอย่างผมก็เคยเป็นคนธรรมดาสามัญ มีชีวิตไม่หวือหวานัก มองโลกอย่างสดใสและมีความสุขกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ เป็นเด็กชายพยัคฆ์ที่ตื่นเต้นกับการเห็นช้าง ม้า สิงโต ฮิปโปเตมัส แล้วยังตกใจแทบตาถลนเวลาเห็นว่ายีราฟตัวใหญ่ขนาดไหน แถมยังมีลิ้นสีน้ำเงินอีกต่างหาก

   ทันใดนั้นความเย็นชื้นก็กระทบผิวต้นคอจนสะดุ้ง พอเหลียวกลับไปก็เห็นชเวปส์มะนาวโซดาสองกระป๋องในมือเสี่ยกันต์ธีร์

   “เอาไปสิ”

   ผมรับมาแล้วเปิดฝาดื่ม ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาแอบแวบไปซื้อมาตอนไหน “ขอบคุณครับ”

   รสชาติซ่าและเปรี้ยวนิดๆ ช่วยให้สดชื่นขึ้นไม่น้อย ผมเอ่ยพอเป็นมารยาทต่อว่า

   “ชอบดื่มชเวปส์เหรอครับ”

   คุณกันต์ธีร์กลับส่ายศีรษะ ก่อนจะกระดกดื่มสองสามอึก “แต่รู้ว่าหนูเสือชอบ”

   “ทำการบ้านมาดี” ผมยักคิ้วให้เขา ตาสีฟ้าอมเขียวดูพร่างพรายประหลาดในร่มเงาไม้ เขาคล้ายจะกลับมามีอารมณ์ดีอีกครั้ง แม้ว่าอากาศจะร้อนปานจะแผดเผาก็ตาม

   ผมขอยืนยัน ถ้าผมเป็นผู้หญิง ผมคงเสร็จเขาไปนานแล้ว

 “แต่ซื้อให้ผมแล้วเสี่ยเองก็ไม่เห็นต้องดื่มตามนี่ครับ”

   “อยากลองอะไรใหม่ๆ รสชาติเองก็สดชื่นไม่เลว”

   คุณกันต์ธีร์เสยผม มือข้างหนึ่งลดกระป๋องเครื่องดื่มลงจากริมฝีปาก หากพูดกันตรงๆ แล้วท่าทางและรูปร่างหน้าตาแบบเขาสามารถไปเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายโฆษณาได้ไม่ยาก สีหน้าและหยาดเหงื่อที่ไหลลงเองก็เพิ่มเสน่ห์และแรงดึงดูดประหลาดที่อยากจะละสายตา

   “แล้วนี่คิดได้รึยังว่าอยากไปไหนต่อ”

   “ไปดูสัตว์เลี้ยงด้วยนมไหมครับ ใกล้ๆ นี่เอง”

   ผ่านซุ้มประตูที่เขียนว่าส่วนแสดงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเข้าไป เป็นทางเดินระแนงไม้วางตัวเป็นระเบียบทอดยาวไปเบื้องหน้า ก่อนจะยกพื้นสูงขึ้นเพื่อให้สามาชมสัตว์ที่ถูกเลี้ยงในส่วนต่างๆ บางส่วนก็เป็นพื้นระดับที่สามารชมสัตว์ผ่านกระจก

   ด้วยชีวิตประจำวันและงาน ไม่ต้องพูดถึงว่าผมลืมความรู้สึกที่เดินเอ้อระเหยดูสัตว์ไปแล้วนานแค่ไหน

   ส่วนตัวแล้ว ผมเองไม่รักไม่เกลียดการดูสัตว์เท่าไหร่ ส่วนประธานธุรกิจพันล้านและมีสมญาเสี่ยมาเฟียเช่นคุณกันต์ธีร์นี่ไม่ทราบ แต่เมื่อเหลือบไปมองแล้วเห็นว่าเขาเองก็มีท่าทีสนใจและไม่ได้เบื่อหน่ายหรือหงุดหงิดงุ่นง่านเพราะร้อนอีก กลับทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย

   สัตว์ที่ผมเห็นแล้วรู้สึกว่าหน้าตาแปลกๆ อาจทั้งดูสวยแปลกตา หรือดูกวนประสาทจนถูกโฉลกก็มีอยู่หลายชนิด เช่น โคอาล่า ลีเมอร์ พวกลิงค่าง ลามะ เมียร์แคท เก้ง เลียงผา บางตัวก็อดเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปไม่ได้ โดยเฉพาะลิงแสมที่กำลังหาเหากันอยู่ ผมถ่ายรูปแล้วส่งไปให้เดียวและพิมพ์ล้อไปว่าหน้าเหมือนกันไม่ผิด

   “หือ แอบแชทกับชายอื่นตอนเดทอยู่เหรอ” เสี่ยกันต์ธีร์ที่เดินเคียงมาเงียบๆ เอ่ยขึ้นขณะชะโงกดูมือถือผม

   “หรือเสี่ยจะให้ผมแชทกับผู้หญิง”

   “ไม่ให้แชทกับใครเลยได้ไหมล่ะ”

   “ถ้าอย่างงนั้น เสี่ยคงต้องยึดมือถือผมแล้วล่ะครับ” อีกฝ่ายทำหน้าประมาณว่าถ้ายึดได้ก็อยากยึด ก่อนเปรยด้วยน้ำเสียงสบายๆ จนผมเพิ่งตระหนักได้ว่า ผมลดการระวังตัวลงมากแค่ไหน

   “เคยพาผู้หญิงมาเดทที่สวนสัตว์ไหม”

   ผมแปลกใจเล็กน้อยที่เขาถามขึ้นมา แต่ถ้าพูดถึงท่าทีหึงหวงจากคุณกันต์ธีร์แล้วล่ะก็ ขนาดตอนฝันกลางวันผมยังไม่เคยฝัน เขาในตอนนี้คล้ายอยากจะรู้จักผมให้มากขึ้นกว่าเดิมมากกว่า

   “ไม่เคยครับ ส่วนใหญ่ผมจะพาไปเดินห้าง นั่งชิลล์ที่บาร์ ภัตราคาร หรือไม่ก็โรงแรม”

   “มีแฟนมาแล้วกี่คนล่ะเรา”

   “ผมไม่เคยมีแฟน”

   “หืม” เสี่ยกันต์ธีร์กะพริบตา โคลงศีรษะน้อยๆ ด้วยท่าทางครุ่นคิด “แน่ใจเหรอ อย่างเราเนี่ยนะไม่เคยมีแฟน”

   “แน่ใจครับ” ผมระบายยิ้ม มองไปยังคู่สามีภรรยาด้านหน้าที่คนเป็นพ่ออุ้มลูกสาวตัวน้อยๆ ไว้ในอ้อมแขน “ผมไม่นับคู่ควงหรือเซ็กซ์เฟรนด์เป็นแฟน”

   “ร้ายจริงๆ” คุณกันต์ธีร์หัวเราะเสียงนุ่ม แต่ฟังดูแล้วเหมือนจะพอใจอยู่ในที “แล้วผู้หญิงไม่เคยคิดเกินเลยกับเรารึไง”

    “ก่อนที่จะติดต่อสานสัมพันธ์กัน ผมจะตกลงกันชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นสถานะไหน อีกอย่าง ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากจริงจังกับผู้จัดการบาร์กลางคืนอย่างผมหรอกครับ เพราะมันแน่อยู่แล้วว่าผมไม่ใช่คนรัก พ่อของลูกหรือสามีที่ดี อ้อ แล้วผมก็ไม่อยากเพิ่มประชากรไร้คุณภาพให้ประเทศด้วย”

   ผมหัวเราะลงท้าย นี่อาจเป็นประโยคที่ยาวที่สุดนับแต่ได้คุยกับเสี่ยมา คำพูดและน้ำเสียงของผมมีลักษณะเป็นกึ่งล้อเล่น แต่ผมหมายความตามสิ่งที่ว่าจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจประชดประชันหรือตัดพ้อให้เสี่ยกันต์ธีร์รู้สึกสงสาร

ซึ่งเหมือนจะบอกคุณเสี่ยมาเฟียคนนี้กลายๆ ไปด้วย

   ว่าผมเองไม่ใช่คนที่หลงใหลละเมอเพ้อพกไปกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรัก’

   คุณกันต์ธีร์พยักหน้าตาม เอ่ยเนิบๆ

   “ถ้าเป็นเราตอนนี้ก็พอเข้าใจ แต่เมื่อก่อนล่ะ ตอนเด็กกว่านี้ ไม่มีป๊อบปี้เลิฟเลยรึไง”

   “เผอิญว่าผมค่อนข้างจะแก่แดดและกร้านโลกแต่เด็กน่ะครับ”

   “แต่ก็อาจจะมีผู้หญิงดีๆ มาชอบเราบ้าง หรือไม่เราก็ไปแอบชอบใครสักคน”

   ผมรู้ว่าระดับเสี่ยกันต์ธีร์สามารถสืบข้อมูลประวัติของผมมาได้ไม่มากก็น้อย แต่เพราะท่าทางของเขาดูกระตือรือร้นที่จะถามถึงอดีตของผม คงเพราะว่าข้อมูลของในทะเบียนราษฏ์หรือในฐานข้อมูลของราชการนั้นธรรมดาเกินไป

   หรือความสัมพันธ์ของผมกับใครหลายคน ก็มักจะเป็นแบบผลประโยชน์และความสัมพันธ์แบบผิวเผินเสียมาก คนที่พอรู้จักตัวตนจริงๆ ของผมคงมีแค่อาพจน์ที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เล็ก และนายตำรวจรายนั้นก็ระวังตัวแจเกินกว่าจะพูดเรื่องอะไรๆ ให้กับคนแปลกหน้า

   จะว่าไปแล้ว ผมไม่ใช่บุคคลลึกลับอะไรเลยถ้าเทียบกับคุณกันต์ธีร์ แต่เรื่องส่วนตัวของผมไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากเปิดเผยนักมากกว่า

   “ถ้ามีผู้หญิงดีๆ หรือผู้หญิงที่ดูแล้วจริงจังกับความรักมาชอบ ผมก็จะปฏิเสธแบบสุภาพครับ พอเวลาผ่านไปสักพัก พวกเธอก็มักจะนึกเสียดายว่าทำไมถึงเคยชอบผม... มาถึงโซนเสือแล้วครับ”

   ผมชี้นิ้วให้ดูป้ายว่าเข้าสู่โซนเสือแล้ว

   ส่วนจัดแสดงเป็นกรงขนาดใหญ่ที่อยู่ระดับเดียวกับคนเดิน เห็นเป็นน้ำตกและป่าจำลองดูเป็นธรรมชาติ เสือชนิดแรกที่เจอคือ ‘เสือจากัวร์’ ที่มีลายสีดำอยู่บนขนสีน้ำตาลทอง

   ในเวลานี้พวกเสือมักนอนเอกเขนกอย่างเกียจคร้านอยู่ตามเงาร่มไม้ คุณกันต์ธีร์อมยิ้มแล้วยกมือถือขึ้น

   “ไปถ่ายคู่กับเสือหน่อยสิ ทุกตัวเลย จะได้เทียบว่าเราเป็นเสืออะไร”

   ...เล่นเป็นเด็ก

   รอยยิ้มของเขาลดวัยลงสักสิบปีเห็นจะได้

   ผมหัวเราะหึๆ แต่ก็เดินไปยืนหน้ากรงคู่กับเสือในมุมต่างๆ ที่เขาบอกให้เดินไป

   “มีท่าทางหน่อยสิ” คนถ่ายรูปส่งเสียงมาขณะขมวดคิ้ว เมื่อผมทำหน้าเฉยๆ และไม่ออกท่าทางอะไร

   “ท่าไหนล่ะครับ”

   คุณกันต์ธีร์ทำท่าคิด ก่อนที่จะดีดนิ้วเปาะ “ทำหน้าเหมือนเสือตัวที่เราไปถ่ายด้วยไง”

   “ไม่ล่ะครับ” ผมปฏิเสธทันควัน ชักสงสัยว่าตัวเองพาน้องชายวัยประถมมาเที่ยวสวนสัตว์อยู่รึเปล่า

   “เดี๋ยวพาไปเลี้ยงข้าว”

   “ไม่ใช่ว่าต้องเลี้ยงอยู่แล้วเหรอ”

   รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นจากการย้อนคำของผม “งั้นจะพาไปช้อปปิ้งด้วย”

   บริเวณใกล้ที่ห้างสรรพสินค้าและย่านการค้าหรูอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าราคาสูงมากจนผมจะมาซื้อเฉพาะของที่ต้องสวมเพื่อออกงานสำคัญเท่านั้น

   “จะซื้อของให้ผม?”

   “แน่นอน ถ้าได้รูปที่ฉันพอใจนะ”

   “ตอนนี้ผมกำลังเก็บเงินซื้อ Rolex รุ่น Oyster perpetual 34 อยู่” ผมระบายยิ้ม สบตาเขาหยั่งเชิง “บอกเฉยๆ นะครับคุณกันต์ธีร์”

   นักธุรกิจผู้ติดอันดับระดับประเทศยกมือกอดอก ท่าทางเหมือนกำลังดีลงานไม่ผิดเพี้ยน

   “งั้นถ้าได้รูปเด็ดๆ ฉันยินดีซื้อให้ฟรีๆ ว่าไงเรา”

   “ไม่ถามราคาก่อนเลยเหรอครับ”

   “ฉันรู้ว่าไม่แพงเกินเงินในกระเป๋า”

   “หลักล้านเลยนะครับเรือนนั้น”

   จู่ๆ คุณกันต์ธีร์ก็ก้าวเข้ามาใกล้ผม แล้วยื่นมือมาบีบปลายจมูกโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว พอเขาดึงมือออกไป รู้สึกได้เลยว่าต้องขึ้นสีแดง

“เด็กขี้โกหก ฉันรู้ว่ารุ่นนั้นราคาไม่ถึงสองแสน”

นอกจากเป็นเสี่ยมาเฟีย เหมือนเขายังมีงานอดิเรกเป็นการจำราคานาฬิกาอีกต่างหาก

“อูย” ผมแสร้งร้องเจ็บ ก่อนจะแลบลิ้น “ผมแค่จำผิดนิดหน่อยเอง”

ไม่ทราบว่าการแสร้งทำตัวแบ๊วๆ ใสๆ ที่ต่างจากผมในยามปกติไปทำให้เขาเอ็นดูมากขึ้นรึไงไม่ทราบ คุณกันต์ธีร์เลยเล่นบทใหญ่ใจป๋า ดึงบัตรออกมาแล้วโชว์ให้ผม

“วันนี้รูดได้เต็มที่ ถ้าเราได้ไปด้วยกันต่อ โอเค?”

“ผมไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้นนะครับเสี่ย”

“ไม่เห็นแก่เงิน” ร่างสูงกว่าจู่ๆ ก็ก้มลงมาชิดข้างหูผม “งั้นก็เห็นแก่เสี่ยหน่อย”

ลมหายใจร้อนเป่ารดใบหู อากาศเองก็ร้อนอยู่แล้ว พอร่างกายของผู้ชายสองคนมาอยู่ใกล้กันจึงทวีอุณหภูมิ ตอนนี้ผมกับคุณกันต์ธีร์อยู่ในมุมลับตามุมหนึ่งและยังไม่มีใครเดินผ่านมา ดวงตาสีฟ้าอมเขียวตรงหน้าผมเหมือนเต้นเป็นระลอกคลื่น

เขาใช้ปลายจมูกแตะแก้มผม ขยับยิ้มแล้วเอ่ยทั้งๆ ที่ริมฝีปากสัมผัสผิวหน้า

“นะครับ”

เสียงนุ่มนวลอบอุ่นเหมือนเย้าหยอก แต่ก็แฝงด้วยความต้องการบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ เขาผละออกไปโดยที่ผมไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย แล้วขยิบตาให้และเอื้อมมือมาจูงผม

“ปะ ถ่ายรูปกันหนูเสือ”

ผมถอนใจ ยิ้มอ่อนจาง “ครับ ถ่ายก็ถ่าย”

บางที การมากับคุณเสี่ยเองก็สนุกแบบแปลกๆ เหมือนกัน



“ฮ่าๆๆ!”

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ผมเพิ่งรู้ว่าไม่ควรรับปากไหลตามน้ำไปเสียทุกอย่าง เมื่อผมบอกว่าจะทำท่าตามเสือชนิดต่างๆ โดยลืมไปว่าสัตว์พวกนี้แม่งก็เป็นแมวตัวใหญ่ธรรมดาในเวลากลางวัน

ระหว่างถ่ายรูปผมเห็นคุณกันต์ธีร์พยายามกลั้นขำด้วยหน้านิ่งๆ และบอกว่าโอเค เมื่อชมส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเสร็จ ผมและเสี่ยกันต์ธีร์ก็ได้ไปดูส่วนอื่นๆ คือสัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์น้ำ สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ตลอดจนชมการจัดแสดง

หลังจากนั้นผมกับเขาถึงได้มานั่งรับประทานอาหารกันในภัตราการกลางห้างหรูและหลุดพ้นความร้อนปานจะมอดไหม้ ระหว่างรออาหาร คุณกันต์ธีร์ก็เป็นคนเปิดรูปผมคู่กับเสือเหล่านั้นออกมาเลือก

เป็นภาพที่... ผมคิดว่ากำลังสงสัยว่าตัวเองทำไปได้ยังไง อากาศร้อนคงละลายสมองผมด้วยแน่ๆ

“หึๆ ดูภาพนี้สิ หนูเสือตาเหล่”

“ก็เสือมันทำตาเหล่นี่ครับ” ผมว่า “เสี่ยจะลบก็ได้นะ ถ้าไม่ถูกใจ”

“ใครจะลบ ตลกจะตาย”

ภาพที่ว่าเป็นภาพ ‘เสือปลา’ ที่เดินเข้ามาดูคนด้วยความสงสัย รูปร่างหน้าตาของเสือปลาคล้ายแมวบ้านแต่ตัวโตกว่า มีลายสีน้ำตาลแกมดำสั้นๆ เรียงเป็นแนวตามตัว ผมเห็นมันทำตาเหล่ เลยทำตาม ปรากฏว่าผมเองออกจะเล่นใหญ่เกินหน้าเกินตามันจนดูเหมือนคนปัญญาอ่อนไป

“ภาพนี่ก็ดี”

ภาพต่อไปเป็นภาพเสือโคร่งกำลังใช้เท้าเกาหน้า จะให้ผมเอาเท้าเกาก็คงไม่ได้ ผมเลยใช้มือเกาแก้มแทน แต่สีหน้าดูไม่ยินดียินร้ายกับอะไร

“แต่... ภาพนี้เหมาะที่สุด”

ภาพที่เสี่ยกันต์ธีร์ว่าเหมาะ คือภาพที่ผมอ้าปากหาวพร้อมๆ กับเสือโคร่งสีขาวที่อยู่ด้านหลัง แต่เป็นการหาวที่ไม่ได้แกล้งทำ เพราะจังหวะนั้นผมเกิดอยากหาวขึ้นมาพอดี ลักษณะการหาวก็อ้าปากหวอแล้วหลับตาขมวดคิ้ว ไม่รู้น่าประทับใจตรงไหน

“ทำไมถึงคิดว่าผมเหมือนเสือโคร่งขาวล่ะครับ”

“ดูดี เซ็กซี่ น่ารัก น่าเอ็นดู”

“หืม แต่เสือตัวอื่นก็น่ารักนะครับ”

“เดี๋ยวสิ ยังพูดไม่จบ” ก่อนที่เจ้ามือจะเอ่ยจบ พนักงานเสิร์ฟก็นำอาหารออกมาเสิร์ฟ ภัตราคารแห่งนี้เป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งผมเองทานไม่บ่อยนักเพราะราคาแพง แต่รู้สึกว่าส่วนใหญ่จะมีรสชาติถูกปากอยู่พอสมควร

สำหรับอาหารฝรั่งเศสในภัตราคารจะรับประทานเป็นลำดับ มี 6 คอร์สโดยเริ่มจาก  aperitif หรือออร์เดิร์ฟ  แล้วเป็น entré ซึ่งมักจะเป็นซุป  ตามด้วยอาหารจานหลักที่เป็นเนื้อสัตว์ ต่อด้วยสลัดแล้วตามด้วยเนยแข็งสารพัดชนิด ปิดท้ายด้วยของหวานหรือผลไม้พร้อมกับกาแฟ  ส่วนขนมปัง ไวน์ และน้ำแร่จะมีเสิร์ฟตลอดเวลาที่กินอาหาร

“ที่สำคัญ คือไม่เหมือนใคร อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนที่ฉันคิดว่าจะหาได้จากการไปคลับบาร์”

   คุณกันต์ธีร์ว่าด้วยเสียงแผ่วเบาคล้ายเอ่ยกับตนเอง แล้วจิบ Dry Martini ซึ่งมีลักษณะเป็นเครื่องดื่มค็อกเทลใส ผสมจาก Gin และ Dry vermouth ถือเป็นเครื่องดื่มคลาสสิกที่บาร์เทนเดอร์ทุกคนควรรู้จัก

ท่วงท่าและน้ำเสียงที่กล่าว ทำให้ในหน้าอกของผมรู้สึกหวิวแปลกๆ แม้ยังไม่จิบแอลกอฮอล์ ก่อนที่พักหนึ่งความรู้สึกนั้นจะหายไป

   “คุณกันต์ธีร์หมายถึง...?”

   “อย่างน้อยก็ไม่มีใครเคยปฏิเสธฉัน แล้วยิ่งไม่มีใครปฏิเสธด้วยการบอกว่าตัวเองมีเชื้อเอชไอวี”

   ขณะยกแก้วคนตรงหน้าก็ชี้นิ้วมายังผม หัวเราะหึๆ ในลำคอ สีหน้าราวกับรู้สึกขันๆ ทั้งเจ็บใจและถูกใจอยู่ในทีเดียวกันเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น ผมเองก็ยิ้มบางขึ้นตาม ยก Vodka gimlet  ที่เกิดผสมจากระหว่าง Vodka ผสมกับน้ำมะนาว ให้รสชาติสดชื่นและยังได้กลิ่นวอดก้าขึ้นชัดเจน

   “ผมเองก็แปลกใจเหมือนกันที่ตัวเองยังนั่งทานอาหารกับคุณอยู่ตอนนี้”

   “ต่อไปจะได้ทานในที่ที่ดีกว่านี้อีก”

   เขาขยับยิ้มกริ่มแพรวพราว ใช้ปลายรองเท้าสอดเข้ามาในขากางเกงของผมใต้โต๊ะ โชคร้ายที่มีผ้าปูโต๊ะผืนยาวสีน้ำเงินคลุมอยู่จึงไม่ต้องห่วงว่าใครจะหันมาเห็นเข้า

   ผมหลุบตาลงเพียงชั่วแวบ ก่อนเงยหน้าขึ้นยื่นปลายเท้าไปถูกเข้ากับขาเขาเบาๆ ด้วยเช่นกัน

   “สะกิดเท้าผมเเบบนี้มีอะไรรึเปล่าครับ”

   “ขยันยั่วนักนะ”

   อีกฝ่ายแยกเขี้ยวก่อนจะหดเท้ากลับไป อาหารค่อยๆ ทยอยมาเสิร์ฟทีละคอร์ส ดวงตาสีฟ้าอมเขียวของเขาคล้ายสังเกตการเคลื่อนไหวของผมทุกท่วงท่า หากเป็นคนที่ไม่เคยมาก่อนคงประหม่าเอามาก

   “มารยาทบนโต๊ะอาหารฝรั่งเศสของเรานี่เนี้ยบจริงๆ เรียนมาจากไหน”

   คุณกันต์ธีร์เอ่ยชม เมื่อก่อนที่พบจะไปดื่มน้ำได้ใช้ผ้าซับปากก่อน เพื่อไม่ให้ขอบแก้วเปื้อนเป็นคราบ

   “ทำงานกับคนรวยก็ต้องฝึกสิครับ ผมเองเป็นเมเนเจอร์คลับ ถ้าทำไม่ดีลูกน้องคงเอาเป็นตัวอย่างไม่ได้”

   ผมตอบเลี่ยงๆ ยิ้มๆ เห็นแวววูบไหวชวนประหลาดแวบหนึ่งในดวงตาคู่สวยนั้น

   “ใครฝึกให้ล่ะ”

   “ก่อนเป็นเมเนเจอร์ ผมเคยเป็นบาร์เทนเดอร์กับเด็กเสิร์ฟในภัตราคารมาก่อน...”

   “ภัตราคารที่ไหน”

   “คุยแต่เรื่องของผม คุณกันต์ธีร์ไม่เบื่อแย่เหรอครับ”

   “ไม่เลย ยิ่งคุยยิ่งอยากรู้ ว่าอะไรทำให้เรากลายเป็นคนเซ็กซี่ได้ขนาดนี้”

   เขายิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไร้พิรุธ ผมหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนตอบอย่างสุภาพระคนมีอารมณ์ขัน

   “ถ้าคุยกันแล้วเสี่ยไม่ทานเลยเนี่ย ผมกลัวว่าจะไม่ได้ไปซื้อนาฬิกาน่ะสิ”

   “เข้าใจบ่ายเบี่ยงนะ”

   อีกฝ่ายเอื้อมมือมาหยิกแก้มของผมอย่างหมั่นเขี้ยว ถึงผมจะค่อนข้างโครงหน้าชัด มีสันกราม และไม่ค่อยมีแก้ม แต่เหตุใดไม่ทราบอีกฝ่ายถึงได้ชอบหยิกนัก และแน่นอนว่าแต่ละครั้งก็เจ็บต้องขมวดคิ้วและหดคอ

   “แค่เห็นคุณไม่ได้ทานเสียที เดี๋ยวจะหิวเอา”

   “ครับๆ หนูเสือ”

   คนตัวใหญ่รับคำก่อนก้มหน้าก้มตาลงรับประทานอาหาร ผมมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ จู่ๆ คำพูดของอาพจน์ก็ดังขึ้นมาในความคิด

   ‘ฉลาด แล้วก็โหดเหี้ยมกว่าที่เห็น ถ้าเจอเขาแล้วรู้สึกว่าเขาเป็นแค่เสี่ยโง่ๆ ที่ดูแล้วโคตรหล่อแสดงว่าแกยังอ่อนหัด’

   อาพจน์ครับ ผมไม่เคยคิดว่าเขาโง่เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าจะเรื่องหล่อโคตรๆ และรวยโคตรๆ จะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ



   หลังจากจ่ายบิลราคาที่ผมเห็นแล้วแอบเบิกตากว้างในใจไป ผมก็ได้ไปเดินห้างกับคุณกันต์ธีร์ต่อ และได้ไปลองนาฬิการาคาเจียดสองแสนนั้นกับข้อมือจริงๆ คงเป็นเพราะการแต่งตัวของผมต่างจากคุณกันต์ธีร์ชัดเจน พนักงานเลยไม่แปลกใจ คิดว่าคุณกันต์ธีร์คงพาน้องหรือหลานมาเลือกนาฬิกา

   นาฬิการุ่นที่ผมบอกกับเสี่ยกันต์ธีร์ เป็นรุ่น Automatic movement ที่มีสายเป็นสแตนเลสสตีลสีเงิน ผมเลือกหน้าปัดเป็นสีน้ำเงินเข้ม ตัวเรือนดูเรียบหรูไม่จัดจ้านเกินไป

   “สวย เหมาะดี แต่เรือนนี้จะเหมาะกว่ารึเปล่า”

   คุณกันต์ธีร์เองก็เป็นคนชอบดูนาฬิกา ที่ข้อมือเขาอย่างต่ำก็หลักล้าน ดังนั้นแค่สองแสนคงขนหน้าแข้งไม่ร่วง ผมหันไปตามที่อีกฝ่ายว่า

   รุ่นนี้มีลักษณะคล้ายๆ กับรุ่นที่ผมเลือก แต่ไม่มีตัวเลขที่หน้าปัด เปลี่ยนเป็นมาร์คเกอร์ชั่วโมงบอกเวลาเรียบๆ สายสีเงินทำจากสแตนเสสสตีลผสมกับทองคำ เป็นคุณสมบัติที่เรียกว่า Rolesor หรือสลับทอง เพิ่มความทนทานและยิ่งดูทรงภูมิ

   หน้าปัดเป็นโรเดียมเข้มสีดำ มองแล้วคนที่ชอบนาฬิกาคงเกิดกิเลสได้ไม่ยาก แต่พอเหลือบไปมองราคาแล้ว ผมจึงอดมุ่นหัวคิ้วไม่ได้

   “รุ่นนี้สวยก็จริง แต่แพงกว่ารุ่นที่ผมเลือกตั้งเกือบเท่าตัว”

   “แค่สามแสนนิดๆ เอง ถ้าอยากได้จะซื้อให้”

   ‘แค่’?

   ผมคงไม่ผิดใช่ไหมที่หมั่นไส้คนรวย

   “ไม่ล่ะครับ ความจริงแค่อยากมาดูเฉยๆ ไม่อยากได้หรอกครับ”

   ผมยักไหล่ คุณกันต์ธีร์อ้าปากน้อยๆ ก่อนที่จะบีบแก้มของผมไม่เบานัก

   “โกหกว่าเก็บเงินซื้ออีกแล้วเรอะ!”

   “โอ่ยๆ”

   “ฮึ่ย เรานี่จริงๆ เลย”

   พอเขาปล่อยมือ ผมเลยได้โอกาสแก้ตัวว่า “ผมเก็บเงินซื้ออยู่จริงๆ ครับ แต่ของที่เก็บเงินเองกับของที่ได้มาง่ายๆ มันมีคุณค่าทางจิตใจต่างกัน”

   “หือ” เรียวคิ้วเข้มบนดวงหน้าสมบูรณ์แบบกดลง “จะบอกว่าของที่ฉันซื้อให้ไม่มีค่า?”

   “เปล่าครับ” ผมกะพริบตาใส “อย่างเช่น ถ้าผมง่าย ไปกับใครก็ได้ คุณคงไม่ชอบใช่ไหม”

   “เข้าใจย้อนคนอื่น” อีกฝ่ายค่อยเผยยิ้ม เอามือมาขยี้ผมของผมจนยุ่ง “ตกลงไม่เอา?”

   “ไม่ล่ะครับ”

   “แน่นะ”

   ผมพยักหน้าหนักแน่น ส่งสายตาชัดว่าไม่ได้เล่นตัวเพื่อให้เขาเอ่ยเอาอกเอาใจ คุณกันต์ธีร์พยักหน้า ก่อนที่ผมกับเขาจะเดินออกจากร้าน

   คงเป็นเพราะผมกับเขาไม่ได้มีจุดหมายอื่นนอกจากนาฬิกา เดินเที่ยวและพูดุคยเรื่อยเปื่อยสักพักก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรทำต่อ ประจวบเหมาะกับที่มือถือของคุณกันต์ธีร์ซึ่งนิ่งสนิทมาตลอดวันดังขึ้นมา

   “อืม รู้แล้ว เดี๋ยวจะโทรไปทีหลัง”

   เสียงที่กรอกลงยังมือถือเคร่งและดุไร้แววหยอกล้อต่างจากที่พูดคุยกับผมโดยสิ้นเชิง ดูท่าแล้วคงเป็นสายด่วน อีกฝ่ายวางสายแล้วเดินตรงมาหาผม ท่าทีผ่อนคลายลงมาก

   “อยากไปที่ไหนอีกไหม”

   ผมส่ายหน้า พวกเราต่างไม่มีของติดไม้ติดมือกลับไป ครั้งนี้เสี่ยกันต์ธีร์อาสาไปส่งโดยไม่ให้โอกาสผมได้ปฏิเสธ โดยเขาเป็นคนขับรถเองและมีผมนั่งอยู่ข้างๆ รถที่ใช้เป็นรถเบนซ์ราคาสูงแต่ไม่หรูหรามากนัก ทำให้ผมสังเกตได้ว่า เขาอยากให้การมากับผมครั้งนี้เป็นส่วนตัวมากที่สุด

   “วันนี้สนุกไหม”

   “สนุกครับ แล้วคุณกันต์ธีร์ล่ะ”

   “ดี” เขาเอ่ย แล้วขยายความพร้อมหันมามองตาผม “ดีจนอยากเก็บเราไว้เล่นด้วยในบ้าน”

   เขาหยอกกึ่งเล่นกึ่งจริง แต่ความหมายก็ไม่วายเป็นเรื่องใต้สะดือ ได้ยินแล้วผมก็หัวเราะกึกๆ

   “เล่นกันนอกบ้านก็ได้มั้งครับ”

   “ชอบ Outdoor ก็ไม่บอก”

   “ชอบครับ แต่ต้องเป็นส่วนตัวพอนะ คุณกันต์ธีร์ก็คงไม่ปลื้มถ้ากลายเป็นไลฟ์สดไป”

   “รถฉันก็ส่วนตัวพอนะ เจลพร้อมถุงยางพร้อม” คนขับว่า ไม่วายชี้ไปที่ช่องเก็บของ แต่ผมไม่คิดจะเอื้อมมือไปตรวจสอบตามคำพูดเขา เลยยิ้มมุมปากแล้วก้มลงเล่นมือถือแทน

   คุณกันต์ธีร์เปิดเพลงคลอเบาๆ เป็นเพลง ‘Stranger Things’ ของ Kygo ร่วมกับ OneRepublic

   We turned our back on the ordinary from the start
   We looked for stranger things
   ‘Cause that’s just who we are
   Found me the edge of something beautiful and loud
   Show me the sky falling down   

   เราหันหลังให้กับความธรรมดาตั้งแต่แรก
   เรามองหาสิ่งแปลกประหลาด
   เพราะนั่นแหละคือสิ่งที่เราเป็น
   พบฉันได้ในที่สักแห่งที่สวยงามและมีเสียงกังวาน
   ให้ฉันได้ชมยามท้องฟ้ากำลังร่วงหล่นลงมา

   “...”

   ผมเหม่อมองออกนอกหน้าต่าง เวลานี้เป็นยามเย็นที่ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม ดูท่าคงจะมีฝนตกหนัก กันต์ธีร์เปรยขึ้นมา
   เพลงนี้คล้ายว่าเหมาะกับผมและเขาอย่างประหลาด

   ทันใดนั้นก็ได้คุณกันต์ธีร์เปรยขึ้นมาเหมือนอยู่กลางใจ “ครั้งหน้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่ไหนสักที่กัน”

   “นี่เพลงบิ้วอารมณ์ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ”

   “ไม่ปฏิเสธแสดงว่าตกลง”

   “ผมเคยปฏิเสธได้ด้วยเหรอ”

   “ไม่” อีกฝ่ายหัวเราะหึๆ เวลาผ่านไปไม่นาน ยานยนต์สีดำเงาก็วิ่งฝ่าความมืดมาถึงคอนโดผมทันก่อนที่จะฝนตก
 
   “ขอบคุณที่พาเที่ยวแล้วก็จ่ายค่ามื้ออาหารให้นะครับ”

   “แค่นี้?”

   “?”

   คุณกันต์ธีร์เลิกคิ้วกลับ ทั้งผมและเขาต้องจ้องหน้ากันนิ่งๆ พักหนึ่ง จนเมื่อเมื่อสังเกตเห็นเขาขยับริมฝีปากเล็กน้อย ผมจึงรู้ว่าเขาต้องการอะไร

   ผมเหลือบสายตามองรอบๆ ก่อนจะก้มลงไปประทับจุมพิตเบาๆ ลงบนริมฝีปากเขา จังหวะแรกอุ่นนิ่งเหมือนแตะริมฝีปากกันเฉยๆ เขาเองก็ไม่ได้ขยับ แต่เมื่อผมจะผละออกอีกฝ่ายกลับเอื้อมมือมาจับหน้าแล้วใช้ลิ้นแทรกเข้ามา

   กลิ่น Dry Martini เจือจางปนกับกลิ่นลมหายใจของผมที่เป็น Vodga gimlet

   เขาจูบผมอย่างกระหาย โถมร่างรุกเข้ามาจนตัวผมติดกับประตูรถ ความร้อนทวีอย่างรวดเร็วจากเลือดที่สูบฉีดขึ้นยังใบหน้าและลำคอ

   ครั้งนี้ผมเอาใจเขาด้วยการให้เขาจัดการแทรกลิ้นกระหวัดเกี่ยวตามใจ แต่เมื่อมือใหญ่ลูบหน้าอกและทำท่าจะปลดกระดุม ผมจึงส่งเสียงประท้วง คุณกันต์ธีร์โอ้โลมโต้ตอบกลับมา แต่แอลกอฮอล์แค่นี้ไม่อาจพรากสติของผม สุดท้ายเขาจึงถอนจูบออกไปอย่างติดจะเสียดาย

   พวกเราหอบ เลือดเรื่อขึ้นบนผิวหน้า ในรถอ้าวขึ้นถนัด เขาไม่มีรอยยิ้ม เห็นเพียงดวงตาสีฟ้าอมเขียวที่โดดเด่นขึ้นมา

   ผมยิ้มเผล่แล้วใช้มือแตะริมฝีปากเขาอย่างไว้เชิง

   “ใจเย็นครับ เดี๋ยวฝนตกแล้วเสี่ยจะกลับลำบาก”

   “ใครสน” อีกฝ่ายว่าเสียงพร่า เหมือนน็อตหลุดอยู่กลายๆ มือยังค้างอยู่ที่สะโพกและกระดุมเม็ดที่สามนับจากบนของผม

   “วันนี้ร้อนมาก ถึงเหงื่อแห้งแล้วแต่ก็ยังเหนียวตัวอยู่ดี ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่”

   คุณกันต์ธีร์ยังนิ่ง

   “ผมเคยมีเซ็กซ์แต่กลับผู้หญิงตัวนิ่มๆ หอมๆ ครับด้วยความเคารพ”

   “เฮ้อ”

   สุดท้ายอีกฝ่ายก็ยอมล่าถอยในที่สุดแล้วขยี้ศีรษะตัวเอง แต่ยังเอื้อมมือมาบีบแก้มผมแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

   “ความจริงวันนี้ฉันก็ไม่ได้ตัวเหม็น”

   “แต่ก็ไม่ค่อยถูกสุขอนามัยเท่าไหร่ ผมหมายถึงตัวผมนะครับ” ผมยิ้มตาหยี คุณกันต์ธีร์พยักเพยิด

“รีบลงไปเถอะ ก่อนที่เสี่ยจะกินหนูเสือจริงๆ”

ผมไม่รอให้เขาเตือนซ้ำก็อัปเปหิตัวเองลงมา คุณกันต์ธีร์โบกมือลายิ้มๆ แต่ดูก็รู้ว่ายังมีความขัดใจเล็กน้อย “ไว้เจอกันใหม่ ฝันดีนะครับหนูเสือ”

“ครับ เสี่ยก็ฝันดี”



นับแต่วันนั้น เสี่ยกันต์ธีร์ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรผมมาอีก ผมเองก็ทำงานตามปกติ จนกระทั่งเช้าวันที่สาม ได้มีพัสดุมาส่งในส่วนรับของที่คอนโด จ่าหน้าผู้รับเป็นชื่อผม

เมื่อเปิดออก กลับพบนาฬิกาสลับทองราคาสามแสนกว่าเรือนนั้นที่คุณกันต์ธีร์บอกว่าเหมาะกับผม มีโน้ตเล็กๆ เขียนด้วยลายมือบรรจงไว้ว่า

‘รุ่นนี้ชื่อ Dayjust 41 มีความหมายว่างดงามและคงทนผ่านวันเวลา ถือว่าเป็นที่ระลึกการเดทแล้วกัน :)’




13 หน้า!!!
หวังว่าจะอ่านกันจนตาแฉะนะคะ 5555 อาจมีคำผิดเยอะหน่อยเพราะยังไม่เช็ค
ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามกันและคอยกระตุ้นเสี่ยวอ้ายค่ะ ฮา
   
   
   
   
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 13-04-2018 02:24:34
หนูเสืออ้อยเสี่ยจังคะะะะ 
เสี่ยใจเย็นๆนะ อย่าเพิ่งกินน้องงงงง  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-04-2018 03:05:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-04-2018 07:34:05
เสี่ยเข้าหาแบบหื่นๆอ่ะ ขาดความอบอุ่นไปนิด ถ้าเราเป็นเสือก็คิดหนักเหมือนกันแหละ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 13-04-2018 09:06:03
ง่าาาาา   มาต่อแล้วดีใจค่ะ   เสี่ยเวลาน็อตหลุดนิดๆนี่ก๊าวใจมากเลย  หนูเสือจะได้กลายเป็นเเมวจริงๆล่ะนะ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 13-04-2018 15:35:13
โอ้ย เสี่ย เปย์หนักมากไรมาก หาโอกาสจะรวบหัวรวบหางจริงจัง สู้ๆครับ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 13-04-2018 19:48:11
เปย์หนักเว่อร์ ชอบความท้าทายของเสือน้อยมาก
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-04-2018 20:31:39
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ꧁SuN꧂ ที่ 16-04-2018 00:32:31
 :katai4:อยากอ่อนต่อแล้วค๊าบบบบบ
 :hao7:อัอนอ้อนอ้อน
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 16-04-2018 10:55:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-04-2018 13:23:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 16-04-2018 14:19:10
หนูเสือแอบน่ารักนะเนี่ย ชอบตรงถ่ายรูปทำท่าตามเสือในสวนสัตว์ น่าเอ็นดู ฮาาาา
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่8-เสี่ยสายเปย์(13/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: R.michi ที่ 30-04-2018 03:02:38
หนูเสือ.....น้องน่ารักจังเล้ยยย
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: xiaoai ที่ 08-05-2018 01:11:17
เสี่ยครับ [Yaoi]

9 – เสี่ยเดินเกม



บนตึกสูงระฟ้า ในห้องกระจกเปิดมุมมองกว้างหรูหรา สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของมหานครอันแสนคึกคักและยุ่งเหยิงเบื้องล่างตัดได้ชัดเจน สิ่งแรกที่สะดุดตาผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดประตูไม้สีดำเข้ามา ไม่ใช่โคมไฟพิเศษที่ดีไซน์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสทอดตัวยาวบนผนัง หรือตู้ปลาอะควาเลี่ยมสีฟ้าซึ่งฝังอยู่ยังอีกด้านของห้อง



แต่เป็นเจ้าของห้องซึ่งมักนั่งอยู่ยังโต๊ะทำงานที่ไม่เคยว่างเปล่า ทว่าก็ไม่เคยไม่เป็นสัดส่วนเช่นกัน



แฟ้มเอกสาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไฮเท็ครายล้อมชายในชุดสูทอยู่ พานพาให้เกิดอากาศแห่งความนิ่งเงียบและกดดันลอยเอื่อยๆ



ทุกอย่างบนตัวของเขาเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งดูเหมือนความเป็นเพอร์เฟ็กซ์ชั่นนิสตนี้จะแผ่รัศมีออกไปครอบคลุมทั่วห้องด้วย



“คุณกันต์ธีร์ครับ”



ชายวัยห้าสิบเจ็ดผู้เพิ่งเข้ามาค้อมเคารพอย่างนอบน้อมแล้วยืนนิ่ง สายตาเจ้าของห้องยังจดจ้องกับเอกสารในมือ ไม่ได้มองมา เพียงแต่พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงอนุญาตให้เดินเข้าไปรายงานได้



“คุณหนูธนัชญา ฝากผมมาเรียนถามว่าท่านมีเวลาว่างช่วงไหนในวันพรุ่งนี้”



“ไม่มี” ท่านประธานเหลือบตามองแวบหนึ่ง คนสนิทขมวดคิ้ว ก้มลงดูเอกสารในมืออีกครั้ง เจ้านายจึงคลี่ยิ้มบางๆ “จริงๆ ก็มี แต่มีอย่างอื่นที่อยากทำมากกว่าดินเนอร์กับลูกสาวนักการเมือง”



“งั้นสำหรับหม่อมราชวงศ์คีติกา...”



“ดีลเรื่องการเปิดตัวแบรนด์ผ้าไหมส่งออกจบไปแล้วนี่ ผมไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร”



คนรายงานกระแอมไอเล็กน้อย เริ่มมีสีหน้าลำบากใจ ‘กันต์ธีร์ เหมวิวัฒน์’ กลับหัวเราะเบาๆ กับใบหน้าสุขุมมีริ้วรอยที่เริ่มเครียดตึง เอนตัวพิงพนักเก้าอี้เพื่อรอฟัง



“แล้วคุณหญิงสวนาถ...”



“คุณอยากให้ผมลงเอยกับแม่ม่ายที่สนใจแต่เครื่องเพชรและกระเป๋าแบรนด์เนม?”



คนแก่กว่าถอนใจเบาๆ บ่นในคองึมงำ



“ผมคงแก่เกินกว่าจะทำงานให้คุณแล้วกระมัง อาทิตย์ที่แล้วผมต้องทนฟังสาวๆ หรือไม่ก็หนุ่มๆ ของคุณบ่นจนสายแทบไหม้”



“ผมเชื่อว่าคุณปฏิเสธคนเก่งยิ่งกว่าใครที่ผมเคยรู้จัก คุณลุงภพ” กันต์ธีร์หัวเราะในลำคอ “อีกอย่าง เรื่องแต่งงานผมต้องคิดดีๆ พ่อผมที่พักผ่อนอยู่เองคงไม่แทรกแซงหรอกใช่ไหม?”



“สิทธิ์ขาดในการกระทำทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณกันต์ธีร์ครับ ไม่ต้องห่วง ผมเพียงแต่เสนอว่า คุณควรมีใครเป็นตัวเป็นตน ผมจะได้มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากรับโทรศัพท์ถามเวลาว่างของคุณ”



ธีภพมีหน้าที่เป็นทั้งเลขาและผู้คุ้มครองให้แก่ประธานคนปัจจุบันของเครือเหมวิวัฒน์กรุ๊ปคนนี้ เขาแม้อายุห้าสิบเจ็ด แต่ยังแข็งแรงและมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเพิ่งสี่สิบต้นๆ เท่านั้น



เครือเหมวิวัตฒน์เจริญรุ่งเรืองมานานแล้ว และยิ่งพุ่งทะยานในยุคของคุณกันต์ธีร์คนนี้ เขาเป็นคนมีความสามารถ มีเสน่ห์ และที่สำคัญที่ต่างจากบิดาอย่างชัดเจนคือ ‘ไม่มีความปราณีที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจ’



ขนาดคนแก่อย่างเขาอยากพักผ่อนบ้าง อีกฝ่ายยังไปลากเขามาจากบ้านพักหลังงามที่มีลูกหลานวิ่งเล่นให้มาทำงานได้ นับประสาอะไรกับคนอื่นเล่า



แล้วบรรดาผู้หญิงมากมาย นอกจากจะเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาที่ครึ่งหนึ่งได้จากแหม่มผู้ดีชาวยุโรปผู้เป็นมารดา บิดาของคุณกันต์ธีร์เองก็หล่อเหลาและเจ้าชู้นัก เป็นเจ้าสัวที่มีภรรยาห้าคน แต่ก็บริหารภรรยาแต่ละคนให้ทำงานต่างหน้าที่ และคุณกันต์ธีร์ก็คือลูกชายคนแรกของภรรยาหลวงที่ก้าวผ่านทุกคนขึ้นสู่บัลลังก์เหมวิวัฒน์



คงไม่ต้องบอกว่าเขาคนนี้ไม่ธรรมดาแค่ไหน



“ช่วงนี้ผมกำลังเล่นกับหนูเสืออยู่”



‘หนูเสือ’ คือชื่อเรียกของผู้จัดการคลับหรูแห่งหนึ่ง แรกๆ ธีภพก็คิดว่าคุณกันต์ธีร์เล่นด้วยไม่นานก็คงเบื่อ จากนั้นเขาก็จะถูกสั่งให้ไปตัดขาดและมอบเงินก้อนสุดท้ายให้ยุติความสัมพันธ์ และถ้าหากดื้อด้านก็จัดการขั้นเด็ดขาดซะ แต่ไปๆ มาๆ ดูเหมือนรายนี้จะนานกว่ารายอื่น และคุณกันต์ธีร์เองยังไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อง่ายๆ



“แล้วโดนกัดบ้างรึยังล่ะครับ”



“หลายทีแล้ว เจ็บๆ คันๆ ดี” อีกฝ่ายหัวเราะ ตาสีฟ้าอมเขียวคู่นั้นเป็นประกายมีชีวิตชีวาอย่างที่ธีภพไม่ได้เห็นมานาน



“รายนี้ท่าจะถูกใจมากนะครับ”



เขาเองถึงเป็นคนแก่ แต่เรื่องถูกตาต้องใจในเพศใดของเจ้านายไม่ใช่เรื่องที่กระอักกระอ่วนอันใด เพราะเขาถูกฝึกให้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่สมบูรณ์แบบมาเนิ่นนานแล้ว



“ก็แค่ถูกใจในที่ดินตรงนั้น เหลืออีกที่เดียวก็จะสร้างแกรนด์โฮเทลตามแปลนได้”



คนไม่ยอมรับยักไหล่ โยนรูปถ่ายในแต่ละมุมของ ‘คลับอีรอส’ ลงบนโต๊ะ ธีภพค่อยเปิดยิ้มบ้าง



“อย่างนั้นไปคุยกับคุณภูดิศตรงๆ ไม่ดีกว่าหรือครับ”



ธุรกิจกลางคืนส่วนใหญ่มักมีเครือข่าย คลับอีรอสนี้เองก็เป็นหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ใต้การคุ้มครองของ ‘ภูดิศ อัศวภักดิ์’ ของเจ้าของอัศวภักดิ์กรุ๊ป เครือข่ายธุรกิจที่ใหญ่ไม่แพ้เหมวิวัฒน์ ภายนอกทั้งสองบริษัทดูเหมือนจับมือกันเป็นพันธมิตร แต่ความจริงแล้วต่างขับเคี่ยวฟาดฟันกันในสนามรบแห่งธุรกิจเรื่อยมา



“คุณว่าเหมือนผมเลี้ยงข้าวเขาสักมื้อ แล้วเขาจะใจดีโอนให้อย่างนั้นล่ะ” กันต์ธีร์เอ่ยกลั้วหัวเราะ “เมื่อวันก่อนเขายังให้คนปลอมเป็นผู้บริโภคไปร้องเรียนยื่นเรื่องเข้าตรวจช้อปสินค้านำเข้าของเราอยู่เลย หึ”



“ถ้าได้พื้นที่ตรงนั้น ผมเชื่อว่าเราคงตบหน้าเขาได้ฉาดใหญ่ แต่... ‘หนูเสือ’ ของคุณเองก็ไม่ได้ง่ายๆ นี่ครับ ผมเกรงว่าที่คุณเอาตัวเองไปเสี่ยงเองอาจจะไม่คุ้ม”



“คุ้มสิ” ดวงตาสีฟ้าอมเขียวเล่นล้อกับแสงไฟ “ดูอย่างไรผมก็มีแต่คุ้มกับคุ้ม เพราะสุดท้าย ผมจะได้ทั้งเสือมาดูเล่น และได้ทั้งที่ดินที่ราคาจะมีแต่ขึ้นกับขึ้นนั่น”



“ครับ ถ้าคุณว่าอย่างนั้นผมก็ไม่ขัด”



ธีภพว่าอย่างนั้น แต่ลึกๆ แล้วไม่ใช่ว่าเขาจะไม่กังวล



เพราะ... เมื่อวันก่อนเขาแอบเห็นว่าเจ้านายเก็บตั๋วเข้าชมสวนสัตว์อันหนึ่งไว้ในกระเป๋าสตางค์ใบโปรดที่ระลึกจากคุณหญิงใหญ่ซึ่งถูกสั่งทำขึ้นในต่างประเทศด้วยราคาสูงลิบ แต่ตามปกตินิสัยแล้ว คุณกันต์ธีร์จะไม่ยอมให้มีสิ่งใดในกระเป๋าสตางค์ใบนั้นนอกจากรูปมารดา ธนบัตรเรียบกริบ และบัตรเครดิตใบสำคัญอย่างเด็ดขาด





30%

คัมแบ็คแล้วค่า !!! เอาไปแค่นี้ก่อนเด้อ เดี๋ยวเสี่ยวอ้ายมาต่อให้ ช่วงยังนี้ช็อตๆ เบลอๆ หลังสอบค่ะ

ปล. ยังไงก็ไม่เทเรื่องหนูเสือกับเสี่ยแน่นวล เพียงแต่อัพช้าไปบ้างเท่านั้นแหละ (ฮา! )



สองสามวันมานี้อากาศค่อนข้างร้อน หากนอนอืดอยู่แต่ในคอนโดคงต้องเปิดแอร์ทั้งวัน แต่ช่วงนี้โชคดีที่ผมได้ผู้ช่วยผู้จัดการคลับตำแหน่งใหม่จากส่วนกลางมาช่วยงาน ชื่อว่า ‘ทัพพ์’ เขาผิวคล้ำร่างใหญ่เหมือนบอดี้การ์ด แต่สุภาพ ท่าทางเป็นงานเป็นการและไม่ค่อยพูดมากสักเท่าไหร่ ทำให้ผมพอมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น



ความจริงแล้ว... ผมไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดคิดว่าจู่ๆ ท่านประธานจะเป็นห่วงเป็นใยผมว่าทำงานหนักเกินไปเลยใจดีส่งคนมาช่วย



เขาคงรู้ว่าที่คลับอีรอสมีเรื่องไม่ปกติ หรือถ้าให้ผมเดา เป็นผมนี่แหละที่มีเรื่องไม่ปกติ



ถ้าคุณกันต์ธีร์ถูกใจเด็กหรือพนักงานทั่วไปสักคนในคลับ ทัพพ์เองคงไม่ถ่อมาให้เสียเวลา แต่โชคดีที่การจับตามองนั้นไม่อึดอัดขนาดที่ถูกตามไปทุกหนทุกแห่ง มีเพียงดูงานเรื่อยๆ อย่างแนบเนียนตามประสาผู้ช่วยที่ควรทำระหว่างที่อยู่ในคลับเท่านั้น



คุณกันต์ธีร์รู้รอบด้านแค่ไหน นายใหญ่ของผมเองก็ไม่แพ้กัน ผมรู้ว่าเครือเหมวิวัฒน์และอัศวภักดิ์จับมือเป็นพันธมิตร แต่ใครๆ ก็รู้ว่าไม่มีมิตรและศัตรูถาวรในโลกนี้



ส่วนเจ้าของนาฬิการาคาสามแสนตัวต้นเรื่องนั้นกลับทำเพียงส่งข้อความมาก่อกวน ผมเองก็ตอบบ้างประปราย มีทั้งข้อความถามว่ากินอะไรบ้าง หรือไม่ก็ข้อความบอกฝันดี ดูเหมือนเป็นความสัมพันธ์ที่กำลังพอดี



ความสัมพันธ์ที่กำลังพอดี...



ผมอดหัวเราะหึๆ ให้กับความคิดนั้นไม่ได้ ความสัมพันธ์ของผมกับเสี่ยกันต์ธีร์นี่จะเรียกว่าเป็นอะไรผมก็ยังสงสัย



คงเป็นความสัมพันธ์มูลค่าสามแสนแสนมั้ง



เมื่อวันนี้มีเวลาว่าง ผมจึงถือโอกาสมาออกกำลังกาย เพราะช่วงนี้เหมือนว่าจะรู้สึกเหนื่อยง่ายและไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าเท่าไหร่



ฟิตเนสที่ผมเป็นสมาชิกวีไอพีเป็นฟิตเนสที่ค่อนข้างมีระดับ ถึงแม้ไม่ได้ถือบัตรวีไอพีระดับสูงสุด แต่ที่ชั้นสี่แห่งนี้ก็มีพื้นที่กว้างขวางเป็นสัดส่วน มีเครื่องออกกำลังกายหลากหลาย มีเทรนเนอร์ อีกทั้ง... ยังมีของสวยงามให้มองขณะออกกำลังกาย



อย่างเช่นผู้หญิงผมน้ำตาลที่กำลังยืดกล้ามเนื้อกับเทรนเนอร์อย่างตั้งใจถัดไปจากลู่วิ่งไฟฟ้าของผมไม่มาก



นับตั้งแต่แพรวพรรณ ก็มีเธอนี่แหละที่ผมสะดุดตาเข้าอย่างจัง



สาวหน้าคม คิ้วเข้มตาเฉี่ยว มัดรวบผมสีน้ำตาลเข้มที่ตัดลอนปลายไว้สูงทำให้เห็นโหนกแก้มชัด ริมฝีปากสีแดงอิ่มหอบหายใจ



เธอสวมสปอร์ตบราสีดำและกางเกงขาสั้นแนบเนื้อสีเดียวกันทำให้เห็นความเต่งตึงสมบูรณ์ทุกสัดส่วน อกสวย เอวคอด สะโพกกระชับ ผิวสีแทนมีหยาดเหงื่อ ยามขยับแล้วดูเข้มแข็งและเซ็กซี่



“น้ำลายไหลแล้วหนูเสือ”



“!”



ผมดึงสายตาที่เหล่ไปกลับมา คุณกันต์ธีร์กำลังวิ่งอยู่ข้างๆ ผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เหงื่อที่หยดซึมบอกได้ว่าเขาไม่ได้เพิ่งมา การถูกเขาจับได้ว่ากำลังจ้องผู้หญิงเหมือนจะจับเธอกินโดยที่ไม่ทันรู้ถึงการมาของเขาทำให้ผมเสียศูนย์เล็กน้อย ทว่าก็ทักออกไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าปกติ



“สวัสดีครับคุณกันต์ธีร์”



เจ้าของชื่อสวมเสื้อเชิ้ตออกกำลังกายสีกรมท่าและกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน รองเท้าสีดำแดงเรียบๆ ทั้งหมดตัดกับผิวขาวจัดของเขา รวมทั้งการปล่อยผมอย่างสบายๆ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์อันตรายแผ่ออกมาและดูดิบกว่าปกติ



ถึงจะไม่รู้ราคาแต่ผมคิดว่าไม่มีอะไรที่คนๆ สวมแล้วจะไม่ดูมีราคาแพง



“สวัสดี” อีกฝ่ายยิ้มกว้าง ตาเป็นประกายล้อเลียน “คนนั้นชื่อคุณเอื้อ... เอื้อการต์ ไฮโซเจ้าของห้องเสื้อตัดสูทสตรี ถ้าชอบจะติดต่อให้เอาไหม?”



เห็นเขาแหย่มาอย่างนั้น ผมจึงยิ้มท้าทาย



“ถ้าคุณแนะนำให้ ผมก็ยินดี”



“งั้นมาสิ”



เขากดปุ่มหยุดวิ่งแล้วเอียงศีรษะเชิญชวน



เขาจะมาไม้ไหนอีก



ผมเลิกคิ้วน้อยๆ กดปุ่มคูลดาวน์ เสร็จแล้วจึงตามเขาไป



“สวัสดีครับคุณเอื้อ”



“อ้าว สวัสดีค่ะคุณกันต์” คุณเอื้อการต์ยืนขึ้นแล้วยกมือทักทายคุณกันต์ธีร์อย่างสนิทสนม ใบหน้าสวยเคร่งเมื่อครู่เมื่อยิ้มแย้มขึ้นมายิ่งมีเสน่ห์ พอเข้าใกล้แล้วผมรู้สึกได้ถึงทั้งความร้อนจากร่างกายของตัวเองและเธอที่เกิดจากการออกกำลังกาย



กลิ่นหอมอ่อนจางแบบกลิ่นดอกไม้ลึกลับน็อคสติผมน้อยๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนเสมามองผม ผมจึงส่งยิ้มกลับ ไม่ซ่อนประกายในดวงตาของตัวเอง



“นี่พยัคฆ์ครับ” คุณกันต์ธีร์เอ่ยแล้วเว้นเล็กน้อย “แฟนผม”



“หืม เที่ยวนี้หล่อดีนะ” คุณเอื้อการต์ไม่มีท่าทีประหลาดใจ เพียงแต่หัวเราะน้อยๆ ส่งสายตาแซวอย่างเป็นมิตร



เฮ้ย!



ผมหันขวับ ตาแข็งกร้าวขึ้นมาแต่ประสาทโต้ตอบยังรวดเร็ว แสร้งหัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติ



“โธ่ ลุงกันต์ธีร์ครับ ทำไมไปอำคุณเอื้อเขาอย่างนั้นล่ะ พ่อผมก็แค่ฝากคุณดูแลผมเท่านั้นเอง”



หน้าหญิงสาวคนกลางมีเครื่องหมายคำถามขึ้น ผมสบตาสีฟ้าอมเขียวที่ส่งประกายวูบมาให้ ก่อนที่จู่ๆ คุณกันต์ธีร์จะคว้าเอวผมเข้าไปกอด



“นอนด้วยกันแล้วยังไม่ใช่แฟน? เด็กเดี๋ยวนี้ร้ายนะครับว่าไหม เล่นกับหัวใจผมได้”



ผมแทบจะอ้าปากค้างน้อยๆ ไหนใครว่าคนๆ นี้ห่วงภาพลักษณ์ตัวเองยิ่งกว่าอะไรไง!



นอนด้วยกันก็จริง แต่ ‘นอน’ ที่ว่าคือนอนเฉยๆ คำสองแง่สองง่ามนี่ยังไงคนก็เข้าใจเป็นอย่างอื่น



“ก็... ดูท่าจะแสบไม่เบานะคะ น่าเอ็นดู” หญิงสาวสวยหัวเราะ สีหน้าเข้าอกเข้าใจอย่างที่ผมอยากจะเอ่ยปากอธิบาย แต่ไม่ทันได้เอ่ยอะไรก็มีเสียงเรียกเธอเจื้อยแจ้ว



“คุณแม่ค้าบ”



เด็กผู้ชายสองคนโผล่มาแล้วกระโดดเข้ากเกาะแข้งเกาะขาเธอ



ที่แท้ก็มีลูกแล้ว!



ผมหรี่ตาตวัดใส่คุณกันต์ธีร์อีกรอบ เห็นอีกฝ่ายกลั้นขำอยู่ภายใต้ริมฝีปากที่บิดน้อยๆ



“สวัสดีคุณอากันต์กับแฟนเร็ว”



“สวัสดีครับคุณอากันต์ สวัสดีครับคุณแฟนของอากันต์”



“สวัสดีเจ้าตัวเล็ก เป็นไงบ้าง”



คุณกันต์ธีร์คลี่ยิ้ม อุ้มเจ้าเด็กแฝดสองคนที่หน้าตาเหมือนกันราวกับลอกพิมพ์เดียวกันมาขึ้นมาทีเดียวสองคน รัศมีแห่งความอบอุ่นเป็นคนรักครอบครัวสาดออกมาจนผมแสบตา อยากจะหาแว่นกันแดดสักอันมาสวม



“สบายดีค้าบ แต่อากันต์ไม่แวะมาหาเลยอ้ะ” เด็กด้านขวาว่าเจื้อยแจ้ว



“อากันต์ไม่ว่าง”



“แต่พ่อบอกว่าอากันต์ติดแฟน” คราวนี้เป็นเด็กแก่แดดด้านซ้าย คุณกันต์ธีร์แสร้งทำหน้าประหลาดใจอย่างน่าต่อย ก่อนเหลือบมองมาที่ผมที่อยากจะออกไปจากตรงนี้เต็มแก่ “แหม ก็แฟนอากันต์น่าติดนี่ ดูสิ หล่อจะตาย ใช่ไหมภูพิงค์ ภูพาน”



“หล่อค้าบ แต่หน้าดุจัง” เด็กสักคนที่ไม่รู้ว่าชื่อภูพิงค์หรือภูพานว่าขึ้นมา ผมที่ไม่คุ้นชินกับการจัดการกับเด็กจึงทำได้เพียงยืนกระตุกยิ้มเย็นๆ



“อ้าว อย่าไปว่าแฟนอากันต์สิ ขอโทษด้วยนะคะ” คุณเอื้อขอโทษผม ทำให้ผมอดใจอ่อนแล้วคลายสีหน้าลงไม่ได้



“ไม่เป็นไรครับ น้องยังเด็ก”



ก่อนที่คุณกันต์ธีร์จะบอกลาทั้งครอบครัวและเดินพาผมออกมาจากห้องฟิตเนส



“เดี๋ยวนี้เด็กยอมรับคนรักเพศเดียวกันเร็วนะครับ”



ผมอดประชดประชันขณะที่เช็ดเหงื่อที่ล็อกเกอร์ส่วนตัว แต่คนอีกคนในห้องกลับถือวิสาสะเดินเข้ามาด้วย



ห้องล็อกเกอร์ส่วนตัวนี้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า และมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำในตัว ค่าสมัครของการ์ดวีไอพีจึงค่อนข้างแพงกว่าปกติ



“คุณเอื้อเธอสอนลูกว่าความรักเป็นเรื่องไม่มีเพศ” คุณกันต์ธีร์ขยับยิ้ม



“ความอยากเรื่องอย่างว่าก็เหมือนกันใช่ไหมครับ?”



ผมกอดอกพิงกำแพงแล้วสบตาเขา อีกฝ่ายยักไหล่



“ไม่รู้สิ”



“อ้อ?”



คนตัวใหญ่กว่าเดินเข้ามา ไม่กี่ก้าวเงาของเขาก็ทาบทับร่างของผม ไอร้อนจากไอเหงื่อ กลิ่นกายของผู้ชาย ทำให้ผมมึนหัวเล็กน้อย



“ก่อนนี้หน้านี้บอกว่าผมเป็นเด็กเสี่ยไม่ใช่เหรอครับ ไหงวันนี้เป็นแฟนได้”



“ความหมายก็เหมือนกันนั่นแหละ” ทั้งๆ ที่ทั่วร่างชื้นด้วยเหงื่อทั้งคู่ คุณกันต์ธีร์กลับยื่นใบหน้าเข้ามาจุมพิตซอกคอของผมแผ่วเบา “แค่ตอนอยู่ด้วยกัน ได้ยินเราเรียกเสี่ยแล้วมันชวนใจสั่น”



“หึ”



ผมหัวเราะกับเหตุผลเอาแต่ใจนั้น



“แล้วทำไมไม่ใส่นาฬิกาเรือนนั้น?”



เสียงของเขาเหมือนงึมงำอยู่ในลำคอเมื่อกับซุกไซ้เรื่อยไปบนผิว ทวีความร้อนให้เพิ่มขึ้น ขณะที่มือใหญ่กว่าจะจับข้อมือผมทั้งสองตรึงกับกำแพง



“มันแพงน่ะครับ จะใส่ก็กลัวหายหรือโดนขโมย”



คุณกันต์ธีร์หัวเราะ เป่าลมหายใจรดกกหูของผมจนเริ่มปั่นป่วนน้อยๆ



“งั้นวันหลังจะซื้อที่ถูกกว่านี้ อยากได้อะไรล่ะ”



“ตอนนี้อยากจะอาบน้ำครับ คุณกันต์ธีร์ช่วยหลบไปหน่--! ”



ริมฝีปากบดเบียดจุมพิตลงมา ก่อนลิ้นร้อนชื้นจะเคลื่อนหาครอบครัวทุกพื้นที่ในโพรงปาก ผมเองจูบตอบ ยอมรับว่าช่วงนี้ผมห่างหายเรื่องอย่างว่าไปนาน การได้ระบายความเกรี้ยวกราดผ่านทางริมฝีปากของคนอื่นก็ไม่เลว ถึงแม้ว่าคนๆ จะเป็นคุณกันต์ธีร์ก็เถอะ



พวกเราเปลี่ยนมุมใบหน้า ดึงริมฝีปากออก ก่อนจะประกบเข้าหากันซ้ำๆ แลกเปลี่ยนความกระหายที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น จนเมื่อจู่ๆ คุณกันต์ธีร์ก็อุ้มผมขึ้นโดยแขนสอดผ่านขาทั้งสองและประคองที่สะโพก ผมสะดุ้ง หาที่เกาะอัตโนมัติซึ่งก็คือไหล่กว้างของเขา



“คุณกันต์...ธีร์...”



ผมหอบน้อยๆ อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นจูบผมอีก คราวนี้เหมือนว่าจะรุนแรงจนทำให้ริมฝีปากล่างช้ำ



ตาสีฟ้าอมเขียวของเขาส่อแววสั่นสะเทือนด้วยแรงปรารถนา กระซิบเสียงพร่า



“อยากอาบน้ำ งั้นก็ไปอาบน้ำกัน”







แผนหนึ่งของเสี่ยก็คือล่อให้หนูระแวงผู้หญิงและอดๆ อยากๆ นี่แหละค่ะ มาดูกันว่าจะได้ผลรึเปล่า 55555

ปล.ถ้าบทไหนครบร้อยเปอร์เซ็นต์จะไม่มีเปอร์เซ็นต์ตามหลังชื่อตอนนะคะ ไม่อยากให้เกะกะเด้อ




หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม30%(8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-05-2018 18:27:07
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: imetvxq ที่ 09-05-2018 14:50:49
ชอบความเผ็ดแสบของคู่นี้ม้ากกกกมากกกกกกก
เป็นกำลังให้คนเขียนนะคะ <3
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-05-2018 18:36:43
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-05-2018 20:25:27
มวยถูกคู่จริงๆ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 09-05-2018 23:17:32
เสี่ยกับเสือนี่ร้ายพอกัน เหมาะสมกันที่สุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 10-05-2018 19:06:04
เสี่ยนี่แผนสูงจริง
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 10-05-2018 19:34:46
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-05-2018 19:59:39
 :laugh:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ꧁SuN꧂ ที่ 09-06-2018 16:58:02
มาต่อไวๆนะคับ :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ꧁SuN꧂ ที่ 09-06-2018 16:59:16
มาต่อไวๆนะคับ o13 o13
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 10-06-2018 14:13:38
รอออออ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Nongsea13 ที่ 01-11-2019 17:07:08
ไหนว่าจะไม่ทิ้งกันไงคะ  ทำไมหายไปปีกว่าแล้ว
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 02-11-2019 16:01:17
......รอค้าบบบบ
หัวข้อ: Re: เสี่ยครับ เปย์ผมหนัก รักผมมาก ระวังหมดตัว อัพตอนที่9-เสี่ยเดินเกม(9/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Nongsea13 ที่ 14-10-2022 15:16:15
 :katai1:  มา 3 รอบแล้วก็ยังอยู่ที่เดิม  ไม่มาต่อให้จบเหรอคะ