พิมพ์หน้านี้ - (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: treenature ที่ 25-04-2017 22:29:01

หัวข้อ: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 25-04-2017 22:29:01
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง
เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเว็บบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง
ของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิต
ที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่า
เรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็ปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมล์ของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผู้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน
 ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ
เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ Webmaster , administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเว็ป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเว็บอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็ป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณา
เป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่
หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเว็บไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาตเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก
เมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ)
จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอฝากเรื่องสั้นที่เขียนค่ะ
 เรื่องสั้นของพัฒน์กับโอ๊ต   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45179.msg2935010#msg2935010)  จบแล้ว
 ป๊าครับผมจะไม่ดื้อ   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48725.msg3175741#msg3175741) จบแล้ว
 นกขมิ้น   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50546.msg3248290#msg3248290) จบแล้ว
 รับจ้าง   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51944.msg3307037#msg3307037) จบแล้ว
 วิชารัก101   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52313.msg3324640#msg3324640) ยังไม่จบ
 แพ้   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53033.msg3354694#msg3354694) จบแล้ว
 เป็นเช่นรัก  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53915.msg3383044#msg3383044) ยังไม่จบ
 ❤|ตรรกะ|เวลา|ปูปา|ความรัก|❤  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57177.msg3549583#msg3549583) ยังไม่จบ
 April fools me  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59627.msg3623185#msg3623185) จบแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 25-04-2017 22:29:57
สงกรานต์ปีนี้ผมเก็บเด็กหลงได้ตัวหนึ่ง
คนที่ทำให้เดือนเมษายนมีความพิเศษ

ผมเลิกเล่นน้ำสงกรานต์ตั้งแต่อายุสิบห้า เพราะ...
ข้อที่หนึ่งผมไม่ค่อยชอบการเปียกทั้งที่ยังใส่เสื้อผ้าอยู่ มันชื้นและจะทำให้คัน
ข้อที่สองซึ่งดูย้อนแย้งนิดหน่อย คือ สงกรานต์เป็นอะไรที่ผมรู้สึกว่าตัวเองโป๊มากเกินไป
โป๊ทางอารมณ์น่ะ แบบว่า สัมผัสกับความสนุกสนานจนสุดเหวี่ยงของผู้คนมากเกินไป ซึ่งผมกระอักกระอ่วนยังไงไม่รู้
เอาเป็นว่า
ผมไม่ชอบสนุกแบบเปียกๆ
เทศกาลแบบนี้สำหรับคนวัยสามสิบแปดย่างสามสิบเก้าของผม คือการอยู่ในห้องที่เปิดแอร์ที่ยี่สิบเอ็ดองศา ดูดน้ำอัดลมเย็นๆ ทยอยอ่านหนังสือที่กวาดมาจากงานสัปดาห์หนังสือตั้งแต่ปีที่แล้ว
รอให้สงครามน้ำข้างนอกสงบ แล้วค่ำๆก็ออกไปหาอะไรกินที่หน้าปากซอย
ป้าร้านประจำจะกลับถิ่นสักอาทิตย์ก็ไม่เป็นไร เซเว่นอีเลฟเว่น ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง

ใกล้จะหกโมงสี่สิบแล้ว หนังสือในมือสนุกดี แต่ว่าท้องร้องเสียจนอาจลืมตัวฉีกเอาหน้าต่อไปมากินก่อนจะอ่านจนจบ
ตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือเลยเพราะกะฝากท้องกับร้านสะดวกซื้อเต็มที่ เห็นทีออกไปคราวนี้ต้องตุนของอย่างอื่นเข้าตู้บ้างน่าจะดี

เลิกเล่นน้ำกันยังวะ

ผมยืนเท้าเอว พูดกับตัวเองเบาๆที่ประตูหน้าบ้าน คิดเคืองอากงอยู่หน่อยๆ ที่ดันซื้อบ้านแถวนี้ อากงคงคิดไม่ถึงว่าหลายปีให้หลัง ไม่ไกลจากบ้านนัก ถนนเส้นนั้นมันได้กลายเป็นศูนย์กลางการปิดถนนเล่นน้ำ

ถ้าอากงรู้และยังอยู่ตอนนี้ คงพูดว่า

"ดีสิ กงจะออกไปดูสาว"

อากงของเขาอินดี้ สวมแว่นตาและไว้หนวดเครายาวทรงผู้เฒ่าเต่า และชอบหายไปจากบ้านนานๆ แวะกลับมาด้วยของฝากแปลกๆ เช่น ของฝากจากกระบี่ ดาลัด ไอวอรีโคสต์ หรือ วานูอาตู
ผมเคยถามว่าไปทำไม
กงบอกว่า สนุกดี
วานูอาตู นี่อยู่ที่ไหน
กงบอกว่า ให้ถามกูเกิลแมพ
ไปทำอะไร
กงตอบว่า ตามรอย เจมส์ คุก

เอาที่กงสบายใจเลย

ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นอากงที่บ้านนี้คือสองปีมาแล้ว
แรกๆก็ร้อนใจ หลังๆก็แค่ทำใจ

กงเคยยิ้มแล้วพูดว่า "ชีวิตกงเต็มอิ่มแล้ว"

โอเค กง เอาที่กงสบายใจ และผมหมายความตามนั้นจริงๆ ไม่ติดค้าง ไม่ทุกข์ร้อน
เราอาจจากกันในแบบนี้ ซึ่งผมว่ามันดีกว่าการที่ผมต้องเซย์กู้ดบายอากงผ่านการจุดธูปหน้ารูปถ่ายเป็นไหนๆ

แต่ก็ยังคิดถึงบ้าง บ่นถึงบ้าง แค่นี้ก็พอ


ผมหยิบถุงผ้าดิบใบใหญ่และกุญแจบ้าน วางโทรศัพท์ไว้ในที่ปลอดภัย เพราะข้างนอกนั่นอาจทำให้เงินเกือบสามหมื่นของผม ไร้ค่าภายในชั่วนาที มีความเป็นไปได้สูงที่ พวกนั้นจะเลิกเล่นนำ้กันแล้ว แต่อาจยังมีแก็งค์เด็กที่พ่อแม่เรียกเข้าบ้านเป็นสิบรอบแล้วยังไม่ยอมเลิกก็ได้ ผมเป็นพวกไม่ชอบความเสี่ยงใดๆทั้งสิ้น

งั้นเปลี่ยนจากรองเท้าแตะอาดีดาส เป็นช้างคู่ดีกว่า

ฟ้าเป็นสีเหมือนควันจากท่อไอเสียรถบัสที่การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงมีปัญหา แต่ยังแอบมีแสงที่ส้มเข้มๆเหลือบหลบอยู่ตามก้อนเมฆใหญ่
ไอแดดยังระอุผ่านพื้นถนน เมษาก็คือเมษา ถึงเดือนอื่นจะร้อนแค่ไหน เมษาก็ชนะเลิศ ทางเดินระหว่างซอยเงียบล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ปิดร้าน ออกต่างจังหวัด
 
ผมถึงที่หมายโดยปลอดภัย
เซ็งนิดหน่อยที่อาหารในตู้แช่เหลือไม่มากนัก

อะไรว้า ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมด เกี๊ยวซ่าก็ไม่มี

ขณะที่ผมยืนลังเลว่า จะซื้อไข่พะโล้ยางมะตูมดีหรือเปล่า เหลืออันสุดท้ายแล้วด้วย
ก็มีคนหยิบมันไปต่อหน้าต่อตาผม
เด็กอ้วนอายุสักเก้าขวบเดินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้จากไป
ผมได้แต่แอบส่งสายตาพิฆาตให้เจ้าเด็กอ้วนที่ชิงไข่ของผมไป แล้วเลิกคำนวณโซเดียมในอาหาร หรือแคลลอรี่บลาบลา  แล้วหยิบของที่มีอยู่อย่างละกล่อง

เลือกมากไม่ได้ เดี๋ยวอด

ถุงผ้าดิบของผมหนักใช่ย่อย เนื่องจากตุนทั้งอาหาร น้ำ และเบียร์นิดหน่อย

ฟ้ามืดแล้วจริงๆ ถึงแม้ว่าสำหรับกรุงเทพแล้ว มันไม่มีทางมืดเท่าท้องฟ้าที่ต่างจังหวัด

นอกจากฝนตกไม่ทั่วฟ้าแล้ว ฟ้ายังมืดไม่เท่ากันอีกด้วยละมั้ง เป็นวิทยาศาสตร์หรือเปล่านะ

ผมเดินหอบถุงผ้าไปพลาง คิดนั่นนี่ไร้สาระไปพลาง
เมื่อผ่านซอกพื้นที่ระหว่างทาวน์เฮ้าส์ของอาซิ้มคนหนึ่งที่เพิ่งจากไปอย่างสงบ

ไม่น่าเลย
หูฝาดแน่ๆ
เสียงร้องไห้
ขาผมเดินเร็วขึ้น
ใจก็เริ่มตั้งต้นบทสวด

นำมอไตซือ นำมอ...อะไรสักอย่าง...ลืมเฉย

อาซิ้มไม่ต้องทักกัน

ผมก้าวยาวขึ้น ตาไม่มองข้างทาง แม้จะเห็นเงาตะคุ่มทางหางตา

เกือบพ้นแล้ว
แต่ก็ไม่

อากงช่วยด้วย

ในเมื่อคิดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ทัน ก็นึกถึงอากงเนี่ยแหละ

มีมือรั้งชายเสื้อผมไว้
ผมพยายามกลั้นเสียงร้องกรี๊ด
 
กูจะมาหลุดสาวต่อหน้าผีไม่ได้

หลับตาแน่น เริ่มแผ่เมตตา
แผ่จนจบ มือก็ยังกำเสื้อไม่ปล่อย และได้ยินเสียง
สูดน้ำมูก


.
.
.
ผมพลาดอะไรไป
ทำไมผมถึงพาเจ้านี่เข้าบ้านกันนะ
อาจเป็นเพราะ พอหันไปเห็นเจ้าเด็กนี่ร้องไห้ น้ำตารื้น ก็เกิดทำอะไรไม่ถูก
ปลอบไม่เป็น
เลยพากลับมาตั้งหลักที่บ้าน
มันยังร้องไห้ไม่หยุด ทั้งที่เนื้อตัวเปียกชื้น มือถือปืนฉีดน้ำ
หน้าตามอมแมมไปด้วยแป้ง แต่เห็นรอยวาดเป็นหนวดแมวข้างละสามเส้น ชัดเจน
ผมปลอบตัวเอง ว่านึกเสียว่าเก็บลูกหมาลูกแมวหลงมาก็แล้วกัน ท่าทางแบบนี้คงไม่ใช่มิจฉาชีพหรอก
เด็กนี่ ไม่มีความพยายามจะหยุดร้องไห้เลยสักนิด ผมนั่งมองน้ำตากับน้ำมูกมันจนหิว เลยหยิบเอาของที่ซื้อมาไปเวฟ
เลือกข้าวผัดกะเพรา กับโบโลน่าพริก สำหรับตัวเอง ส่วนไอ้เด็กหลง ท่าทางจะชอบของจืดๆ เลยเวฟ ข้าวผัดหมู ไปเผื่อ

อาหารปลอบขวัญได้ดีกว่าคำพูดร้อยพัน

ตอนนี้ ผมเชื่ออย่างนั้น

ไอ้ที่ร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่เมื่อกี้ ตอนนี้นั่งนิ่ง ตามองตามกล่องข้าวในมือผมแทบไม่กระพริบ

ผมวางสิ่งบรรเทาทุกข์ ลงตรงหน้าเด็กผู้ชายตัวผอมกระหร่อง เห็นกลืนน้ำลาย
ตามองที่กล่องข้าว แล้วเงยมองผมตาแป๋ว

"กินสิ"

ผมปลดล็อคเดดแอร์ระหว่างเรา พร้อมๆกับนึกขึ้นได้ ว่าตั้งแต่เจอกัน จนพามาบ้าน เรายังไม่ได้พูดอะไรกันเลย เด็กคนนี้เอาแต่ร้องไห้ มือกำชายเสื้อผมแน่น เดินตามมาแบบคนต้องการที่พึ่ง
เด็กตรงหน้ายิ้มแบบซาบซึ้ง แล้วยกมือไหว้

"ขอบคุณครับ"

ตอนนี้ผมนึกเทียบคนตรงหน้ากับสิ่งมีชีวิตอะไรก็ตามที่ยังเป็นเบบี๋ มันมีความน่ารักแบบนั้นเลย

ลูกหมา ลูกแมว ลูกลิง ลูกหมีแพนด้า ลูกเพนกวิน เออ แต่ลูกจระเข้ ไม่น่ารักนี่นา

เรานั่งกินข้าวกันเงียบๆ

ต้องชวนคุยหรือเปล่า ผมคิดพลางตักข้าวเข้าปาก

เคี้ยวไปได้สักหน่อย ก็คิดขึ้นได้ว่าเดี๋ยวคงต้องถามชื่อก่อน

ข้าวผัดหมูหมดแล้ว ไม่น่าจะอิ่ม

ประโยคที่สองที่ผมพูดกับแขกคนแรกของบ้านในรอบปี ก็เลยกลายเป็น

"ช่วยตัวเองนะ"

ไอ้เด็กนั่นทำหน้าตื่น จากที่ผมพูดโดยไม่คิดอะไร กลายเป็นต้องตบหน้าผากตัวเองแปะๆ

"หมายถึง ไปดูของกินในครัว อยากกินอันไหนอีกก็อุ่นเอาเองนะ"

ผมพูดรวดเดียวไม่เว้นหายใจ เพื่อปรับเรท ฉ 18 กลับมาเป็น เรท ท ที่เหมาะสมกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย


เมื่อท้องอิ่ม
ก็ได้เวลาของเกมถามตอบ

"ชื่ออะไรน่ะเรา"

เด็กที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุข แกะแป้งที่แห้งกรังอยู่บนผมตัวเองออกทีละนิด "ชื่อเสือดาวฮะ"

ผมถอนหายใจเฮือก

"แนะนำตัวแบบนี้ตอนเด็กๆก็คงน่ารักดีหรอกนะ" ผมเป็นโรคแอนตี้คนชื่อแปลกๆน่ะ หมั่นไส้อย่างประหลาด

น้องเสือดาว ช้อนตามองผม มีค่าเท่ากับคำถามว่า ผมไม่น่ารักจริงๆเหรอครับ

ท่าทางแบบนั้น ทำให้ผมนึกถึงลูกแมวตัวจ้อยตาโต
อีกแล้วนะ ผมเทียบเจ้าเด็กตรงหน้ากับหมาแมว และสัตว์โลกอีกแล้ว
เออ มันชื่อเสือดาวนี่นะ สัตว์ชัดๆ

"ในสารคดีบอกว่า เสือดาวสามารถอยู่ได้ในอุณหภูมิ 43 องศา ในทะเลทราย หรือ -25 องศา ในรัสเซียได้ อยู่ที่สูงถึง 5,200 ม.บนเทือกเขาหิมาลัย" เสือดาวเล่าถึงเสือดาวด้วยน้ำเสียงเหมือนคนพากย์รายการสำรวจโลก

"แปลว่า ทน ถึก ว่างั้น?" ระดับความหมั่นไส้ของผมยังไม่ลดลง

เด็กที่คิดว่าชื่อของตัวเองเท่มาก ทำหน้าง้ำ

"แล้วคุณชื่ออะไร"

"ถัง"

เสือดาวรีบตะปบปากของตัวเองไว้ แต่ผมก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะเยาะนั่นอยู่ดี

"ทำไม ชื่อพยางค์เดียว มันตลกตรงไหน"

"เพื่อนผมก็ชื่อพยางค์เดียวเยอะแยะ อาร์ท มาร์ค หมู ตั้ม แต่ไม่มีใครใช้ชื่อในหมวดภาชนะ"

แม่ง ล้อเลียนชื่อผู้ใหญ่!

"ถ้วย ถัง กะละมัง หม้อ" จู่ๆเด็กเสือดาวก็พูดขึ้นมา

"มีพี่ชื่อถ้วย"

"จริงดิ แล้วมีน้องอีกสองคน ชื่อ กะละมัง กับหม้อ ด้วยไหมครับ"

ผมไม่น่าช่วยมันมาเลย ปล่อยมันนั่งร้องไห้ ให้อาซิ้มมาหลอกมัน ท่าจะดี แต่ทำไมผมต้องตอบมันด้วยล่ะ

"เคยเลี้ยงหมาชื่อ กะละมัง"

เด็กที่ยิ้มตาหยี และนั่งหลังค่อมนิดๆ ยืดตัวตรง ทำตาโตขึ้นนิดหน่อย ไม่ต้องทำท่าตั้งใจฟังแบบนั้นก็ได้มั้ง

"อีกตัวชื่อหม้อใช่ไหม"

"เปล่า"

"อ้าว ทำไมล่ะฮะ ก็ไม่ครบทีมสิ"

"กะละมังโดนรถชนตาย เลยไม่คิดจะเลี้ยงหมาที่ชื่อหม้ออีก"

ไหล่ของเสือดาวลู่ลง "เสียใจด้วยนะครับ"

อ่อนไหวอะไรขนาดนั้น

"อยู่ชั้นไหน" เปลี่ยนเรื่องดีกว่า

"ม.5ครับ"

"โตป่านนี้แล้วยังนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น" ได้โอกาส ผมก็เอาคืนนิดหน่อยที่บังอาจล้อชื่อผม

เด็กเสือดาวทำไหล่ลู่ลงยิ่งกว่าเดิม "ไม่ชอบอยู่คนเดียว"

ผมอยากจะทำเสียงเหมือนพากย์สารคดีดูบ้าง จะพูดว่า

"เสือดาวเป็นสัตว์ทนร้อนหนาว แต่ไม่ทนกับความเหงา"

"มาเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนแล้วเงินกับโทรศัพท์หายน่ะครับ"

ก็น่าอยู่หรอกนะ คนแน่นเสียขนาดนั้น

"แถมยังพลัดหลงกับเพื่อนอีก"

ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วยื่นมือถือตัวเองให้

เสือดาวได้แต่มองมันนิ่ง

"เอ้า รับไปสิ แล้วโทรหาเพื่อน"

แต่เสือดาวก็ยังนิ่ง

"ผมจำเบอร์เพื่อนไม่ได้"
"อ้าว งั้นโทรหาพ่อหรือแม่ก็ได้"

"มีแต่พี่ชาย" เสียงเครือและเริ่มมีน้ำตาคลอ

เอิ่ม ได้โปรดอย่าดราม่าเลย ผมปลอบใครไม่เป็น

"นั่นแหละ โทรให้พี่มารับสิ" ผมตัดสินใจมองข้ามความเศร้านี้ไป

"พี่ไปเมืองนอก กลับอีกทีวันที่ 20"

"อ้าว" ผมยังอุทานคำเดิม มันมีคำอุทานที่สร้างสรรค์กว่าคำนี้บ้างไหม "งั้นโทรหาใครก็ได้ คนที่จะมารับกลับบ้านได้น่ะ"

...

อะไรกัน เงียบอีกแล้ว

"อย่าบอกนะว่า จำเบอร์ใครไม่ได้เลย"

เหมือนเสือดาวพยายามจะหดตัวเองให้เล็กลง แล้วแก้ตัวเสียงเบา ว่า "ใครเค้าจำเบอร์กันล่ะ กดเลขครั้งเดียวตอนบันทึกไว้ในมือถือเท่านั้นแหละ"

"แต่เบอร์สำคัญๆก็ต้องจำไว้บ้าง อย่างเบอร์พ่อแม่ เอ่อ หมายถึงญาติเช่นพี่ชาย หรือไม่ก็เพื่อนสนิท"

"เบอร์ตัวเองยังจำไม่ค่อยได้เลย" เด็กตรงหน้าสารภาพออกมา

ผมถอนหายใจ "แต่ก็คงไม่ถึงขนาดจำบ้านตัวเองไม่ได้ล่ะมั้ง เดี๋ยวไปส่ง"

"คือ..." คนเป็นเด็กเกิดอาการอ้ำอึ้ง เหมือนกำลังจะสารภาพอะไรอีกสักอย่าง

"กุญแจบ้านหายไปพร้อมซองกันน้ำที่ห้อยคอไว้"

ผมเริ่มมองเห็นความยุ่งยากชัดขึ้นเรื่อยๆ

เสือดาวเม้มปากจนมันเป็นสีแดงปลั่ง แล้วตัดสินใจเล่าทั้งหมด

"พี่ๆที่ทำงานบ้านก็ลากลับต่างจังหวัดหมดเลย ไปที่บ้านตอนนี้ก็เข้าบ้านไม่ได้"

"งั้นก็โทรเรียกช่างกุญแจ" ผมยังพยายามหาทางออก

"หยุดเทศกาลแบบนี้ ไม่น่าจะมีที่ไหนเปิดเลย"

"งั้นก็..." ผมคงจะพยายามหาทางแก้ปัญหานี้ต่อไป ถ้าไม่สังเกตเห็นว่า เสือดาวกำลังสั่นนิดๆเพราะความหนาว ถึงเนื้อตัวจะไม่ได้เปียกโชก แต่เสื้อผ้าชื้นๆก็คงทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบาย

"ไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วค่อยมาคุยกันต่อ"

เสือดาวทำท่าอิดออด

"อย่าดื้อน่า ฉันไม่เคยเลี้ยงเด็ก"

"ผมกำลังเกรงใจ ไม่ได้จะดื้อ"

"เกรงใจก็รีบลุก โซฟาเปียกหมดแล้ว เศษแป้งก็หล่นเต็มไปหมด"

นี่ผมยังไม่ทันดุเลยนะเฮ้ย เจ้าเสือดาวนี่ตาแดงอีกแล้ว บ่อน้ำตาตื้นเหมือนผู้หญิงที่มีฮอร์โมนไม่ปกติ


"อาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะหาชุดไว้ให้" นั่นเสียงผมหรือเสียงใคร ทำไมฟังดูอ่อนลงเหมือนกำลังง้อเด็ก

สีหน้าแบบนั้นของคนขี้แยคลายลงและยอมลุกไป



หลังอาบน้ำ


"คุณถังฮะ ผมขอยืมใช้คอมได้ไหม"

"ทำอะไร"

"เข้าเฟสบุ๊คฮะ"

"จำรหัสได้เหรอ"

เสือดาวผงกหัวงึก

ทำให้ผมนึกค่อนขอดว่า ทีรหัสเข้าเฟสบุ๊คล่ะจำได้
ดูเหมือนเสือดาวจะเดาได้จากสีหน้าของผม

"ก็ผมเล่นเฟสบุ๊คทุกวัน"

เออ ใช่ซี้ นี่มันยุคของเด็ก gen z (generation z) นี่นะ คน gen x อย่างผมจะไปเข้าใจอะไร

"ใช้มือถือนี่แล้วกัน" อย่างน้อย คนยุคผมก็ยังมีสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดล่ะนะ

เด็กหลงที่น่าจะใช้โทรศัพท์เอาไว้แชทมากกว่าการใช้ฟังชั่นโทรออก  กดโทรศัพท์ผมยุกยิกอยู่หลายนาที ในที่สุด ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมสีหน้าเกรงใจ

"เพื่อนผมจะมารับพรุ่งนี้นะฮะ วันนี้เค้าติดธุระนิดหน่อย แล้ว เอ่อ คืนนี้..."

หลังจากข้อความนี้ เสือดาวก็ดูลังเลว่าจะพูดดีหรือเปล่า ปากเผยอแล้วกลับเม้มลง ผมจ้องมองท่าทีเหล่านั้น ดูเหมือนว่าเด็กที่ชื่อไม่สมกับตัวสักนิดไม่กล้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ แต่ดวงตาที่ช้อนมองนั้นร้องขอชัดเจน

เหมือนตัวอะไรสักอย่างที่แหงนมองหมูปิ้งในมือของผม

ผมคิดอยู่เป็นนาที การพาคนแปลกหน้าเข้าบ้านมันก็มากเกินไปแล้วสำหรับคนอย่างผม

แต่
มันมีอะไรบางอย่างที่ยุบยิบอยู่ข้างในนี้
มันบอกผมว่า
อยากให้เด็กคนนี้อยู่ตรงนี้ และเหตุผลคงไม่ใช่แค่มีเด็กหลงมา และดูน่าสงสาร มันมีอะไรมากกว่านั้นที่ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้

"อือ" ผมอนุญาต

คำพูดสั้นๆของผม มีผลขนาดนั้นเลยเหรอ
เด็กนี่ยิ้มกว้าง เห็นฟันกระต่าย
และแค่ยิ้มของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ก็ไม่ควรทำให้รู้สึกว่าหัวใจเต้นหน่วงไปหนึ่งจังหวะ แบบนี้

น่ารัก

.
.
.

ผมคิดว่าได้แก้ปัญหาไปหมดแล้วในวันนี้
แต่ว่าผมคิดผิด
เสือดาวไม่ยอมนอนคนเดียว ในขณะที่ผมไม่เคยนอนร่วมเตียงกับคนอื่น

"คุณถัง ผมนอนห้องนั้นไม่ได้จริงๆ" ตอนแรกผมยกห้องของอากงให้เขา

ท่าทางเหมือนจะแย่ให้ได้ถ้าต้องนอนคนเดียว

"พื้นนะ" ผมเสนอ

"ไม่เอา" นั่น! เผลอตัวทำปากยื่นด้วย

"ฉันชอบนอนคนเดียว"

เสือดาวเงียบไปเลย อะไรกันพูดแค่นี้ต้องเสียใจด้วยเหรอ

"แต่บนเตียงคุณมีหมอนข้าง"

"แล้ว?" ผมเลิกคิ้ว รอดูว่าเสือดาวจะโน้มน้าวผมยังไง

"คืนนี้คุณคิดว่า ผมเป็นหมอนข้างของคุณจะได้ไหม"

ผมนึกถึงภาพตัวเองกอดเด็กคนนี้ไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และเอาขาอีกข้างหนึ่งก่ายเกยไว้บนสะโพก ไม่ออกเลย


เราตกลงกันได้ในที่สุด เสือดาวได้นอนบนเตียงเดียวกับผม และได้หมอนข้างของผมไปแทนการกอดกันนอน

ผมแอบถอนหายใจ ระบายอะไรที่ไม่คุ้นเคย อย่างน้อยการเสียสละหมอนข้าง ก็ยังดีกว่าที่ต้องนอนกอดเด็กคนนี้ไว้ทั้งคืน

ผมไม่เคยเข้าใจ ว่าคนที่นอนซบ นอนกอดกันทุกคืน ไม่อึดอัดบ้างหรือไง การนอนใกล้กันมากๆ เป็นการแย่งอากาศกันหายใจ เราต้องสูดดมลมหายใจและคาร์บอนไดออกไซด์ของกันและกันไปทำไม

ห้องมืด แต่แสงไฟยังลอดมาตามหน้าต่าง
เสือดาวกอดหมอนข้างไว้ ผมรับรู้ได้ว่า เขาพยายามนอนให้นิ่งที่สุด
เขานอนไม่หลับ อาจเพราะแปลกที่ หรือกังวลใจเรื่องของที่หายไป
แปลกดี
เป็นคนนอนไม่หลับที่ไม่กระสับกระส่ายหรือดิ้นไปมา

ผมเลือกจะปล่อยความไม่สบายใจของเด็กคนนี้ไว้อีกครั้ง แล้วพลิกตัวตะแคงหันหลัง เพื่อข่มตานอน ผมคุ้นกับเตียงของผม แต่เกร็งนิดหน่อยกับการมีเพื่อนร่วมเตียง

เวลาที่เราต้องอดทนกับอะไรๆ เวลามักเดินช้ากว่าที่ควร
ผมชอบนับเลขเพื่อจับเวลาอยู่ในใจ
น่าจะผ่านไปแค่ราวๆห้านาที แต่เหมือนนานสักห้าร้อยนาที แขนของผมเริ่มเป็นเหน็บ
ผมนอนท่าเดิมต่อไปไม่ไหว พลิกตัวกลับมา ผงะเล็กน้อยที่พบว่า เสือดาวนอนกอดหมอนข้างด้วยท่าใหม่
เขาจ้องมองแผ่นหลังของผมอยู่นานเท่าไหร่แล้ว

ขยับตัวตอนไหนกัน ไม่รู้สึกเลย

ตากลมนั่นส่องประกาย แม้จะอยู่ในความมืด
เมื่อเจอกันครั้งแรก ผมรู้สึกว่าเขายังเด็กมาก แต่ตอนนี้ยิ่งดูเด็กลงไปอีก เมื่อนอนงอตัวซุกอยู่กับหมอนข้างอย่างนี้

"นอนไม่หลับ?" ผมจะถามทำไมกัน ทั้งๆที่เห็นตาโตๆ กระพริบปริบๆ

เสือดาวพยักหน้า

"อายุเท่าไหร่" ผมชวนคุย ในเมื่อนอนไม่หลับ และอึดอัดกับความแปลกหน้า ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องลดระยะห่างนี้ลง

"สิบหก"

ให้ตาย!

ผมสบถในใจ อายุน้อยกว่าที่กะไว้ สองสามปีเลยเหรอเนี่ย

"ฉันอายุสี่สิบสอง"

"โห"

อะไรกัน ไอ้การอุทานคำนี้มันหมายถึงอะไร

"ถ้าพ่อยังอยู่ พ่อจะอายุสามสิบแปด"

เออ เอาเล้ย เรียกลุงเล้ย

*หมายเหตุ คำว่า ลุง และ ป้า เป็นคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและรับชม (treenature,2017)

ผมประชดชะตาและความชรา ผ่านสีหน้าคล้ายกำลังเคี้ยวเนื้อเหนียวๆ

"ลุงถัง"

แต่อะไรคือการเรียกลุง ด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ ไม่มีวี่แววของการล้อเลียน เป็นการเรียกราวกับไม่แน่ใจว่าจะเรียกแบบนี้ได้หรือเปล่า

ก่อนหน้าสักสองสามวินาที ผมตั้งใจไว้ว่า ถ้าเจ้าเด็กตรงหน้า มันเรียกผมว่า ลุง ผมจะอัญเชิญมันกลับไปนอนที่ห้องของกง

"อือ" แล้วอะไรคือการที่ผมขานรับราวกับเป็นหมาแก่เซื่องๆ

"ผมนอนไม่หลับ"

"นับเลข"

"ลองแล้ว"

"นับแกะ"

"ผมสับสนว่าตัวไหนคือแพะ ตัวไหนคือแกะ"

อะไรของเด็กสิบหกกันเนี่ย

"แล้วทำยังไงถึงจะง่วง"

เหมือนได้กุญแจปลดล็อค เด็กนี่หลอกให้ผมถาม เพื่อที่จะขยับเข้ามาใกล้ แล้วเอื้อมมือมาจับตัวผมไว้

ผมกลายเป็นหมอนข้างใบที่สอง มือของเสือดาวพาดผ่านหมอนข้างมาวางอยู่ตรงเอวของผม

ไออุ่นๆแผ่ออกมา แขนนั้นมีน้ำหนักแต่ผมไม่รู้สึกว่าหนัก ผมจับเวลาว่าตัวเองจะรู้สึกรำคาญและขยับห่างจากท่านอนนี้ในนาทีที่เท่าไหร่

ระหว่างนี้ก็เล่นเกมจ้องตากัน

และแล้ว

ตาคู่นั้นปิดปรือและหลับไปในที่สุด

การมีใครอีกคนนอนข้างกัน ไม่แย่เท่าไหร่

นี่ผมนับเลขถึงนาทีที่เท่าไหร่แล้วนะ

------

เรื่องสั้น (ที่พยายามจะให้มันสั้นจริงๆ) เรื่องนี้เขียนขึ้นด้วยความตั้งใจจะใช้เป็นของขวัญวันสงกรานต์ค่ะ เนื่องจากตามธรรมเนียมแล้วทุกเทศกาลควรมีอะไรพิเศษๆมาลงน่ะค่ะ

เริ่มเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่วันท้ายๆของช่วงหยุดยาว จนจะเลยเดือนเมษายนแล้วก็ยังไม่สามารถจบมันลงได้

กลัวว่าถ้าช้าไปกว่านี้ จะต้องเปลี่ยนชื่อเป็น May fools me เสียก่อนเลยรีบมาลงไว้ดีกว่า

สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ (ช้าไปมากแล้วป้าเอ้ย)

@tonswind
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-04-2017 22:50:20
คิดถึง...เอพริล ฟลู มี ดีกว่า ถัง-เสือ หรือ เสือ-ถังเป็นไหนๆ 555  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-04-2017 23:08:33
เรื่องราวจะเป็นยังไงกันแน่นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-04-2017 17:50:02
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 26-04-2017 18:39:22
+1 เป็ดคะ

รอตอนต่อไป  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: บูมพอส ที่ 27-04-2017 01:03:56
ตามจ้าาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 27-04-2017 04:44:47
โอ้โห...ลุงถัง  อายุมากเกินรอบเลยแฮะ!
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 28-04-2017 13:28:54
ลุงถังงงงง ว้ายๆ เด็กน้อยน่ารักเนอะลุง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 28-04-2017 15:23:19
ลุงๆๆ อย่าคิดไม่่ซื่อกับเด็กน้าา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 01-05-2017 07:19:44
April fools me

ผมตื่นในเวลาเดิม ตามนาฬิกาของร่างกาย ทุกอย่างเมื่อลืมตาดูเป็นปกติ จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่าวัตถุนิ่มๆในอ้อมแขนนี่ ไม่ใช่หมอนข้าง
เกิดความขัดเขินอย่างประหลาด และรู้สึกว่าเตียงร้อนๆ จนต้องรีบลุกออกมา

หลังล้างหน้าล้างตา สติก็สว่างเต็มร้อย เลยได้มีโอกาสยืนมองคนที่ตอนนี้ดิ้นมานอนกลางเตียงและยึดหมอนข้างของผมเอาไว้
แล้วค้นพบว่า จังหวะหายใจของคนที่หลับลึกนั้นทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย
เสือดาวย่นจมูกเล็กน้อยเมื่อแสงแดดเริ่มแยงตา ถูแก้มกับหมอนข้างเบาๆแล้วผ่อนลมหายใจยาว
ผมอมยิ้ม ดูแล้วเพลินดี
แต่พอเจ้าเด็กนี่เริ่มขยับตัว และส่งเสียงอือเบาๆ ท่าทางเหมือนใกล้ตื่นนอน
ผมก็แทบจะกระโดดออกมาจากห้อง รีบเร่งและทุลักทุเลเพราะต้องวิ่งแบบย่องๆไม่ให้เกิดเสียงดัง
จะให้เด็กมันตื่นมา เจอว่าผมยืนมองมันหลับอยู่ด้วยสีหน้าเคลิ้มๆได้ยังไงกัน

เป็นเอามากนะคุณถัง ผมส่ายหัวให้กับความเพี้ยนของตัวเอง

กำลังจะเดินเข้าครัว ก็ได้ยินเสียงตึงตังมาจากชั้นบน
เสือดาววิ่งหน้าตาตื่นลงมา
ผมฟู หน้าตาเยินๆ
พอเราสบตากันที่ตรงปลายบันได เสือดาวก็คงนึกขึ้นได้ว่า ที่ทำเมื่อกี้มันดูแตกตื่นเกินไป

"ผมนึกว่าคุณไม่อยู่" ทำเสียงแบบคนเสียฟอร์ม

ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมเราต้องรู้สึกเหงาตอนที่ตื่นมาแล้วพบว่าไม่มีคนนอนข้างๆ
เราก็แค่ลืมตาขึ้น แล้วก็ลุกจากที่นอนเท่านั้นเองไม่ใช่หรือ ง่ายๆ

ยอมรับเลยว่า ผมคิดว่าเจ้าเสือดาวนี่ โอเวอร์เกินไป หมั่นไส้นะ แต่ก็สงสารด้วย ตอนที่วิ่งลงมาแล้วเห็นว่าผมยืนอยู่ ก็ทันเห็นแววดีใจแวบหนึ่ง

"ถ้าตื่นมาแล้วไม่เจอ ก็แสดงว่าออกไปข้างนอก แต่เดี๋ยวเดียวก็จะกลับมา"

เสือดาวมองหน้าผมตาปริบๆ ดูไม่ออกว่าเข้าใจหรือเปล่า

"ตื่นแล้วเลยจะลงมาหาอะไรให้กิน"  ผมจึงเลือกจะพูดไปเรื่อยๆ คิดว่าน่าจะต้องอธิบายเหตุผลของการที่ไม่อยู่รอ บนเตียง ให้อีกฝ่ายเข้าใจ

ทำไมกัน ช่างเถอะ แค่อยากให้เข้าใจไว้

"วันนี้ปากซอยคงเล่นน้ำกันอีก ยังพาออกไปหาอะไรกินข้างนอกไม่ได้นะ แต่ว่ามีของตุนไว้บ้าง"


"มีไข่ตุ๋น ไข่พะโล้ แล้วก็ไข่ต้ม อยากกินอันไหน"

"คุณเลือกให้ได้ไหมฮะ" 

ผมขมวดคิ้วยุ่ง เช้านี้เปิดตัวด้วยเกมทายใจเหรอเนี่ย

"ไข่ตุ๋น" แต่ผมก็ทาย

เสือดาวยิ้ม แก้มป่องจนน่าหยิกและบิดให้แตก

ผมได้หนึ่งแต้ม

"ไปล้างหน้า แปรงฟันสิ เดี๋ยวอุ่นไว้ให้"

เสือดาวยังยืนนิ่ง จนกระทั่งผมบอกว่า "เดี๋ยวรอกินพร้อมกัน"  จึงยอมเดินกลับขึ้นไปข้างบน

ผมคิดว่าผมได้คะแนนเพิ่มอีกหนึ่งแต้ม และมีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไป

ความเหงาของเสือดาวน่ะเดาไม่ยากหรอก มันเด่นกว่านิสัยอื่นๆเลย

ทำไมถึงเหงาขนาดนี้ล่ะ

เรานั่งกินมื้อเช้าเบาๆ ด้วยเมนูไข่คนละแบบ

ผมมีคำถามมากมายเกี่ยวกับเด็กสิบหกที่เก็บได้กลางซอยคนนี้

แต่ไม่รู้ว่า จะทำให้สะเทือนใจหรือเปล่า

ถ้าเด็กสามสี่ขวบร้องไห้ ผมคิดว่าผมคงปลอบเขาได้ง่ายกว่าการปลอบเด็กอายุสิบหก แค่ชวนดูนก ดูท้องฟ้า ดูใบไม้ไหว ก็คงพอจะทำให้หยุดร้องได้
แต่ถ้าเสือดาวร้องไห้ ผมไม่รู้จริงๆว่า จะหันเหความสนใจเขาไปทางไหน
ถ้าอย่างนั้น ผมจะไม่ถาม

"ลุงถัง"

เสือดาวเรียกผมด้วยน้ำเสียงนี้อีกแล้ว
พอได้ยิน ก็หงุดหงิดไม่ลงเสียที
เออ ก็ได้ ลุง ก็ลุง ก็เราห่างกันตั้ง ยี่สิบห้าปีเลยนี่นะ

"หือ"

"ขอยืมมือถืออีกทีได้ไหมฮะ ผมจะย้ำกับเพื่อนอีกทีให้มารับ"

สามนาทีแรก เสือดาวเข้าใช้เฟซบุ๊ค และกดยุกยิก ด้วยหน้าตาปกติ แต่หลังจากอ่านอะไรสักอย่าง ที่เดาว่าน่าจะเป็นข้อความจากเพื่อนของเขา หน้าตาก็เริ่มไม่ค่อยดีนัก

"เพื่อนผมจะมารับช้ากว่าที่นัดไว้ครับ เพราะเมื่อคืนเขาไปพัทยายังไม่กลับ"

หน้าตาแย่จัง

เป็นอีกครั้งที่ผม ปล่อยให้เสือดาวมีสีหน้าแบบนั้น

ผมไม่รู้จะปลอบยังไงจริงๆ

ตลอดทั้งวัน เสือดาวแทบไม่ได้ย้ายที่ไปไหน

นั่งตรงโซฟา ตำแหน่งที่มองเห็นประตูบ้านชัดที่สุด

รอคอย

และหงอยลงเรื่อยๆ

เสือดาวปฏิเสธมื้อกลางวัน และยังยึดเอาโซฟาเป็นที่อยู่ ผมจึงเลือกที่จะไปนั่งในครัวบ้าง อ่านหนังสือในสวนบ้าง
เวลาเดินไปเรื่อยๆ
หนังสือในมือไม่สนุกสักเท่าไหร่ ทั้งๆที่เมื่อสองคืนก่อน ผมยังติดมันงอมแงม
วันนี้ พออ่านไปได้สักสองสามหน้า ก็จะเผลอคิดถึงเด็กชายที่อยู่ในบ้าน
นึกถึงท่าทางที่ชะเง้อมองประตูบ้าน สักพักหนึ่งก็นั่งหลังตรง กอดหมอนอิงเอาไว้ หันมองนู่นนี่รอบบ้าน แล้วก็หันมองหน้าบ้านอีกครั้ง
ทั้งหมดที่เสือดาวทำ มันรบกวนผม
ทั้งการรอ ความคาดหวัง และน่าจะต้อง

ผิดหวัง

เพราพัทยาไม่ได้ไกลจากกรุงเทพขนาดนั้น

ดูเหมือนการมารับเสือดาวจะไม่ใช่สิ่งสำคัญลำดับแรกๆ สำหรับเพื่อนคนนั้น

ผมโมโหเพื่อนของเขา


จนมาถึงมื้อเย็น
ผมบังคับให้เขาร่วมโต๊ะอาหาร
ส้อมในมือของเสือดาว กวาดเส้นสปาเกตตีไปมาเป็นรูปเลขแปด

เด็กตรงหน้าผมดูเศร้า

มันมากเสียจนผมละเลยความรู้สึกของเขาไม่ได้อีกต่อไป

"อยากกลับไวๆเหรอ"

เสือดาวเพียงเงยมองผม ใช้ตากลมๆนั้นตอบคำถามแทนคำพูด

"เขาบอกจะมากี่โมง"

"เที่ยงครับ"

ซึ่งนี่ก็เกินเวลามาห้าชั่วโมงแล้ว

"ทำไมถึงอยากกลับไวๆล่ะ ไหนบอกว่าเข้าบ้านไม่ได้ พอเพื่อนมารับแล้วจะไปไหน"

"ก็ว่าจะไปอยู่บ้านเพื่อนก่อนน่ะครับ รอวันที่ 20 ให้พี่ชายกลับมาก่อน"

ผมเดาได้เลยว่า ถึงไปอยู่บ้านเพื่อน เสือดาวก็ต้องอยู่คนเดียว เพื่อนของเขาไม่สนใจเขาสักเท่าไหร่

"เพื่อนคงติดธุระอะไรอยู่ ยังไงค้างที่นี่อีกคืนก็ได้"

ผมพูดอะไรผิดหรือไง มองกัน เหมือนค้นหาอะไร

"เกรงใจลุง"

"แค่เลี้ยงข้าวไม่กี่มื้อ ไม่เปลืองอะไรมากมายนักหรอก"

"แต่...ดูเหมือน"

เสือดาวเงียบไป

อะไรกัน ดูเหมือนอะไร พูดต่อสิ  ผมคิดเสียงดัง แต่กลับไม่ถามว่าทำไม

แล้วพรมนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ

เสือดาวถูกบังคับให้พูดในที่สุด "ลุงดูเหมือน ไม่ชอบใจที่มีผมอยู่ในบ้าน"

ตาของเขาหม่น

แย่ล่ะ ผมคงแสดงท่าทีมากไป จนเด็กคิดไปแบบนั้น

ไม่ใช่นะ ผมคิดเสียงดังอีกแล้ว

"ฉันอยู่คนเดียวจนชิน พอเสือดาวมาอยู่ด้วยก็เลยทำตัวไม่ถูก แต่ไม่ใช่รังเกียจ"

เสือดาวก้มลงจ้องมองช้อนในมือ

เขาไม่เชื่อที่ผมพูด และกำลังรู้สึกแย่ลงกว่าเดิม

ผมพยายามย้อนคิด ว่าผมแสดงอะไรออกไปบ้าง
ระยะห่างที่ตัวผมคิดว่า มันเป็นระยะปกติ คงดูห่างเหินมากเกินไปสำหรับเสือดาว

ไม่สบายใจเลยที่เขารู้สึกแย่ เพราะคิดว่าผมเย็นชา

อยากให้เด็กเสือดาวเข้าใจให้ถูกต้อง

ผมแค่ต้องการให้มันเคลียร์ แค่ไม่ชอบความเข้าใจผิด

เท่านั้นเอง

ไม่เกี่ยวกับหน้าตาที่ใกล้ร้องไห้เต็มที และไม่เกี่ยวกับปากบางๆที่พยายามเม้มไว้ไม่ให้มันสั่น

ความจริงแล้ว ผมไม่ชอบทำอะไรโดยไม่วางแผน
ก่อนทำทุกอย่าง ต้องคิดก่อน

แต่ว่า
ครั้งนี้ ผมกลับทำมันทันที โดยที่สมองฝั่งเหตุผลยังไม่ทันสั่งห้ามอะไร

ผมลุกขึ้น เรียกชื่อของเขา "เสือดาว"
เพื่อให้เขาเงยหน้ามองผม
ตากลมจ้องมองมาที่ผมที่กำลังเดินอ้อมโต๊ะไปหา

ผมโน้มตัวลง สบตาคู่นั้น แล้วกอดเสือดาวเอาไว้

"ยังคิดว่ารังเกียจกันอยู่ไหม" ผมถาม

เสือดาวทำตัวแข็งอยู่ในอ้อมแขน ราวสักสี่สิบวินาที ค่อยเอนหัวลงซบกับอกของผม

หลังหยุดยาว คงต้องไปตรวจโรคหัวใจสักหน่อยแล้ว มันเต้นเร็วไป

-โปรดติดตามตอนต่อไป(ที่อาจมาช้าสักหน่อย)-

แล้วก็กลายเป็น May fools me จนได้ หรือบางที อาจต้องใช้ชื่อว่า April fools me in May

สวัสดี 1 พฤษภา ค่ะ

ขอบคุณที่อ่านนะคะ

#apfoolsme

@tonswind
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-05-2017 09:00:18
ลุงถังชักจะแปลกๆ เอ็นดูเสือดาวแล้วหล่ะเซ่  :hao6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 02-05-2017 16:02:07
เสือดาว... :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 03-05-2017 22:13:55
April fools me

ผมค่อนข้างช็อคกับเรื่องเมื่อกี้
ผมทำอะไรลงไป
ระหว่างผมกับเสือดาวมีบางอย่างไม่ถูกที่ถูกทาง
ผมไม่ได้ไร้เดียงสากับสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงแต่มันไม่ควรเกิดกับเด็กชายอายุสิบหก
เป็นไปได้ไหมว่า มันอาจเป็นสัญชาตญาณของการปกป้อง
ไม่ได้เป็นความต้องใจ หรือหลงใหลในแบบนั้น
ผมพยายามเถียง หรือเอาตรงๆคือพยายามแถ
ผมควรจะเป็นคุณลุงผู้มีน้ำใจช่วยเหลือ
บทบาทของผมต้องมีแค่นั้น

ความวิตกกังวลว่าตัวเองกำลังจะอยู่นอกเส้นศีลธรรมของผม เหมือนแมงหวี่ที่บินว่อน
ปัดออกยังไงก็กลับมาสร้างความรำคาญอีก น่าหงุดหงิด

"ลุงถัง"

ผมหันมองตามเสียงเรียก

"ลุงทำหน้าเครียดๆอีกแล้ว"

"เหรอ" ผมไม่เคยรู้ตัวว่า ตัวเองทำหน้าแบบไหนตอนที่กำลังทะเลาะกับคนในความคิด

"ลุงไม่ชอบผมหรือเปล่า"

"หา?"  ผมกระพริบตาปริบ คำถามนี้หมายความแบบไหน
 
ชอบ แบบไหนกัน

"ไม่" ผมตอบทันที

เสือดาวหน้าเสีย

คำตอบของผมมันก็คลุมเครือพอๆกับคำถามของเขา

ไม่ หมายถึง ไม่ชอบ หรือ ไม่ ที่ย่อมาจาก ไม่ได้ไม่ชอบ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คิดว่า ต้องปฏิเสธไว้ก่อน จะหมายความแบบไหนก็เถอะ

แล้วเจ้าเด็กคนนี้ ไปซ้อมทำหน้าเศร้าสร้อยแบบนั้นมาจากไหน
เห็นแล้วใจไม่ดีทุกทีเลย

ตอนนี้เรานั่งอยู่บนโซฟาข้างๆกัน เสียงทีวีดัง แต่ผมไม่สนใจฟัง ผมขยับตัวเข้าใกล้จนต้นขาของเราสัมผัสกัน

"เข้าใจหรือยัง" ผมถาม

เสือดาวก้มมองขาของเราสองคน แล้วพยักหน้าพร้อมยิ้มน้อยๆ

คนที่รังเกียจกัน เขาคงไม่นั่งด้วยกันในแบบนี้

ผมบอกแล้วว่าปลอบใครไม่เป็น การทำแบบนี้จึงน่าจะทำให้เสือดาวเข้าใจง่ายที่สุด

แต่มันไม่ดีกับผมเท่าไหร่

ขาที่แนบชิดกันร้อนขึ้นแบบวูบวาบ

ผมมองทีวีนิ่ง พยายามทำเหมือนว่า โฆษณาอาหารหมาในทีวีนั่นน่าสนใจมาก ต้องนิ่งเข้าไว้ เด็กจะต้องไม่รู้ว่ากำลังเขิน

จบจากโฆษณาก็เป็นรายการสารคดีเกี่ยวกับเซี่ยงไฮ้

ภาพฉายให้เห็นสถานที่ต่างๆ และสถาปัตยกรรมสวยงาม ผมนั่งดูผ่านๆ แล้วเกิดสงสัยว่าทำไมเสือดาวถึงเงียบไป
เมื่อชะโงกหน้าไปดู เลยพบว่า เสือดาวร้องไห้
เอ๊า นี่ผมทำอะไรผิดไปล่ะ นี่ก็คิดว่าปลอบ(ในแบบของผม)จนได้ผลแล้วนะ

"เป็นอะไร"

เขาชี้ไปที่ทีวี "พี่ของผมจะย้ายไปอยู่ที่นั่น ตอนนี้ก็กำลังไปจัดการธุระอยู่ที่นั่น"

"ไปทำงานใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็คงไปไม่กี่ปีหรอก"

เสือดาวส่ายหัว "พี่จะแต่งงาน แล้วรับปากพ่อตาว่าจะเข้าไปสืบทอดกิจการ"

"ก็ตามไปอยู่ด้วยสิ"

เสือดาวส่ายหน้า ดูอัดอั้นแต่ก็ไม่พูดออกมา

ผมไม่รบเร้า ปล่อยให้ความอยากรู้ตกหล่นไปบ้าง

"แล้วคนที่บ้านมีใครอีก" ผมถามนำเพื่อจะปลอบว่า ยังไงเสือดาวก็คงมีคนอื่นๆเหลืออยู่

"มีป้าน้อม ลุงชื่น แล้วก็น้าหวิน"

ผมเดาว่านี่น่าจะเป็นกลุ่มคนทำงานในบ้านที่เสือดาวเคยพูดถึง ว่ากลับไปต่างจังหวัดกันหมดในช่วงเทศกาล

"แล้วก็เพื่อนๆ" ผมพยายามเพิ่มจำนวนคนให้เยอะขึ้น

"ผมมีเพื่อนไม่มาก"

อืม ยากจัง

"แล้วก็มีฉัน"

นั่นไง!! ผมตกหลุมที่ตัวเองขุดเสียแล้ว

เสือดาวหันมามอง

ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละน่า ผมเบือนหน้าหลบปิดกั้นคำถามมากมายจากดวงตาคู่กลม

เสือดาวเผยอปากนิดหนึ่ง ทำท่าจะถามอะไรออกมา

อย่าถามเลย
เพราะผมไม่รู้จะโกหก หรือแถไปทางไหน
เพราะอย่างนั้น ผมเลยโอบเขาไว้ กดหัวของเขาเบาๆ ให้เอนมาซบกันไว้

บทสนทนาชะงักลง ทว่าบางอย่างงอกเงย

เป็นผมเองที่ยอมให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น

.
.
.
สี่ทุ่มนิดๆ
เพื่อนของเขาไม่มาจริงๆ เพราะเสือดาวบอกไปทางแชทว่า เขาจะอยู่ที่บ้านผมจนถึงวันที่ 20
เสือดาวบอกว่า เพื่อนเขาซักใหญ่ว่าผมเป็นใคร ไว้ใจได้หรือ
ความรู้สึกเป็นห่วง ของเพื่อนคนนั้นทำงานช้าไปเกือบๆยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะ

ความเป็นห่วงของเพื่อนหยุดลง เมื่อผมตัดสินใจถ่ายนามบัตรของผม ส่งไปให้เป็นตัวประกัน

หลังจากที่เสือดาวแชทกับเพื่อนแล้ว ก็ยังมีท่าทางเหมือนเสือหงอย ผมเลยชวนเขาไปเดินเล่น

การเดินเล่นของผมก็คือการเดินไปเซเว่น ทั้งๆที่มีเสบียงเต็มตู้แล้วนี่ล่ะ
คนเรามีวิธีเยียวยาตัวเองไม่เหมือนกัน สำหรับผมแล้ว เซเว่นมันเปิดเสมอ และไม่ค่อยทำให้ผิดหวัง
ดังนั้น การได้ยินเสียง

ติ๊งต่อง เซเว่นอีเลฟเว่น สวัสดีค่า

ก็มักทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น

ตอนนี้ผมกับเสือดาวเดินอยู่ในซอย มุ่งหน้าไปสู่ความสบายใจ (ซึ่งก็คือเซเว่น)
เขาเดินมองนั่นนี่ จนเหมือนพาแมวหรือหมาหลงถิ่นมาสำรวจโลก จนเกือบเหยียบขี้หมาสดใหม่ ผมเลยต้องดึงเสื้อยืดเอาไว้ คอยกระตุกแขนเสื้อของเขาแทนสัญญาณให้ระวังกับระเบิด หรือแผ่นฟุตบาทที่ไม่เรียบ

เซเว่นในวันนี้ดีกว่าเมื่อวาน มีของเยอะสมกับเป็นร้านสะดวกซื้อ
เสือดาวเลี่ยงไปยืนรอ หลบมุมอยู่ตรงนิตยสาร ผมรู้ว่าเขาเกรงใจเรื่องเงิน เลยลากเขาไปหน้าชั้นขนม บอกให้หยิบได้ตามชอบใจ
เสือดาวส่ายหน้า

"เวลาผู้ใหญ่ให้อะไร ห้ามปฏิเสธ" ผมสอนเสียงดุ

ขอใช้อำนาจของการมีอายุห่างกันสักนิดเถอะ

จริงๆคำสอนนี้มันก็ไม่ถูกสักเท่าไหร่ แต่ก็ใช้กับเสือดาวได้ผล

เราหอบของกินจากเซเว่นกันคนละถุง และของใช้ที่คิดว่าจำเป็นสำหรับการมีแขกมาพักที่บ้านอีกนิดหน่อย โชคดีที่เซเว่นสาขานี้มีชั้นในพร้อมใช้ขายด้วย
เสือดาวหน้าแดงนิดๆ ตอนที่ผมให้เขายืนเลือกชั้นใน ส่วนผมก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วหยิบไปจ่ายเงิน

เรานั่งดูทีวีกัน ทำตัวคล้ายๆมีปาร์ตี้ ด้วยขนมและน้ำอัดลมพอประมาณ
รายการสารคดีเพิ่งจบไป เสือดาวน่าจะชอบดูรายการประเภทนี้มากเป็นพิเศษ มือล้วงถุงขนมโดยที่ตาแป๋วๆนั่นแทบไม่ละไปจากหน้าจอ ผมแกล้งเขาหลายหนโดยเลื่อนถุงขนมออกจากตำแหน่งเดิมตอนที่เขากำลังตั้งใจดู นกยูง มันเป็นนกยูงคองโกที่ตัวเล็กกว่าในสายพันธุ์อื่นๆพบในทวีปแอฟริกา ได้ชื่อตามแม่น้ำคองโกที่เป็นที่อยู่ และมีคู่เดียวตลอดชีวิต

ผมหัวเราะที่เขาควานหาขนมในอากาศ ส่วนเสือดาวหันกลับมาทำหน้าเบ้ใส่

ถัดจากสารคดี เป็นหนังสยองขวัญ

ตุ๊กตาตัวนั้นสั่งเด็กผู้หญิงให้ฆ่าคน

ก็สนุกดี คราวนี้ผมตั้งใจดู โดยไม่คอยแกล้งเสือดาว
รู้ตัวอีกทีก็เกือบจบเรื่องว่า
เสือดาวลงนอนบนตักของผม น้ำตารื้นจนน่าสงสาร เบียดเข้าใกล้พุงของผม เกือบทุกทีที่มีฉากเขย่าขวัญ

เขากลัว แต่ก็อยากดู

ผมไม่กลัว และไม่อยากให้หนังจบเร็ว

--โปรดติดตามตอนต่อไป--

ข้อมูลเกี่ยวกับสารคดี นำมาจากทวิตเตอร์ของรายการสำรวจโลกนะคะ

ขอบคุณที่อ่านค่ะ

#apfoolsme

@tonswind
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 03-05-2017 22:49:56
เรื่อยๆมาเรียงๆแต่ก้อสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง #คุณเจนมิได้กล่าว
ลุงถังน่ารักอ่ะ..อยากได้  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 04-05-2017 01:14:19
โอ้ยยย ดีอ่ะะะ เขินนนน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-05-2017 19:04:07
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 05-05-2017 19:33:39
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 07-05-2017 11:10:10
April fools me

นี่เป็นคืนที่สองที่ผมมีคนนอนร่วมเตียง
เสือดาวพอใจจะนอนท่าเดิม คือกอดหมอนข้างและผมไว้พร้อมกัน
คืนนี้ผมทำตัวเป็นหมอนข้างที่ดี ไม่โวยวาย
"ลุงถัง" เขาน่าจะง่วงแล้ว เพราะพูดเสียงยานคาง

"อะไร"

เราปิดไฟคุยกันในความมืด

"ผมไม่อยากให้พี่ชายต้องห่วงแล้ว ถ้าผมไปเซี่ยงไฮ้กับพี่ พี่จะต้องแบ่งเวลามาให้ผมอีก"

"แล้วอยู่ทางนี้คนเดียวได้เหรอ ขี้เหงาขนาดนี้" ผมถามตรงๆ

"ก็...น่าจะได้นะฮะ"

ผมไม่พูดอะไรต่อ ประโยคของเสือดาวเมื่อครู่ มันสัมผัสได้ถึงความพยายามที่จะไม่เหงา

อย่างน้อยเขาก็พยายามแล้วล่ะนะ

"ลุงถัง" เสือดาวเรียกอีก อาจเพราะผมเงียบนานเกินไป

"หลังจากวันที่ยี่สิบ ผมมาหาลุงอีกได้ไหม"

ผมอมยิ้ม ถึงแม้ว่าจะมืดแล้วแต่ก็กลัวว่าเสือดาวจะจับความดีใจของผมได้

"ได้สิ"

.
.
.


ครึ่งเช้าวันนี้เรานั่งๆนอนๆอยู่ในบ้าน เสือดาวช่วยผมรดน้ำต้นไม้ จากนั้นก็ลงไปนอนคว่ำอยู่บนพื้นกับหนังสือสองสามเล่ม เป็นหนังสือภาพสัตว์ในแอฟริกาที่อากงซื้อกลับมาตอนไปเที่ยว
ท่าทางจะชอบสัตว์มากเลย
แล้วผมก็นึกอยากรู้จักเสือดาวให้มากกว่านี้ อยากรู้ทุกๆอย่างของเขาในเวลาเพียงห้าวันที่เหลือ

"ไปข้างนอกกัน"

.
.
.
เราเริ่มต้นที่ร้านต้นไม้เจ้าประจำของผม โชคดีที่ไม่ได้ปิดในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้

"เลือกให้ต้นนึงสิ" ผมหันไปหาเสือดาว

เขาจึงค่อยๆเดินดูต้นโน้นต้นนี้ทีละต้น ในที่สุดก็หยิบติดมือมากระถางหนึ่ง

ค่อนข้างเซอร์ไพรส์

มันเป็นต้นใบเตย

"ผมชอบกลิ่นใบเตย" เสือดาวเฉลย

ผมพยักหน้า แล้วสั่งเพิ่มอีกห้ากระถาง  สวนที่มีกลิ่นใบเตยก็คงจะผ่อนคลายดี

จากนั้นเราก็ไปห้างแถวๆบ้าน

ก่อนลงจากรถ ผมบอกเสือดาวว่า วันนี้ขี้เกียจคิด ช่วยเลือกทุกอย่างให้ด้วย
ตากลมๆ จ้องผมอยู่ครู่ใหญ่

อย่ามาจับพิรุธกันสิ

ผมทำหน้านิ่งๆต่อไปไม่ไหว จึงเอื้อมมือไปปิดตาของเขาเอาไว้ ทาบมันลงบนเปลือกตาทั้งสองข้าง

เขาไม่ได้เบี่ยงหน้าหลบ กลับนั่งนิ่งและพยายามจะกระพริบตาปริบๆ ขนตาขยับโดนฝ่ามือของผม คันยุบยิบ

เสือดาวหยุดกระพริบตาแล้ว เขาหลับตาลง

"เลิกสงสัยได้หรือยัง"

"มือลุงร้อนจัง" เสือดาวดันตอบไปอีกเรื่อง

"ตกลงวันนี้จะเลือกให้ทุกอย่างใช่ไหม" ผมเองก็พูดคนละเรื่องกับเขา

เสือดาวพยักหน้า ผมจึงเลิกปิดตาเขา

แต่เจ้าเด็กนี่กลับคว้ามือของผมไว้ แล้วแนบลงที่แก้มป่องๆ

บางอย่างแล่นปราด

"มือลุงร้อนดี ผมชอบ"

ผมรีบลงจากรถ เก็บประโยคหนึ่งเอาไว้ในใจ

ฉันก็ชอบแก้มเย็นชืดของเธอเหมือนกัน
.
.
.
เราเริ่มต้นกันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต

"ของใช้ในบ้านหมดหลายอย่าง" ผมบอกเขา และเข้าประจำตำแหน่งพนักงานรถเข็น

เสือดาวเผลอทำปากยื่น กับภาระที่ผมโยนให้

"ลุงถังแกล้งผม"

"แกล้งยังไง"

"ก็การต้องเลือกของให้คนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่วัน มันกดดันนะ ผมจะรู้ได้ยังไงว่าลุงชอบอะไรบ้าง"

ปากที่ยื่นนั่นมันงอนขึ้นจนผมสงสัยว่า ริมฝีปากบนจะยื่นไปติดปลายจมูกได้ไหม

"ก็เลือกแบบที่เสือดาวชอบสิ"

"แต่ว่า ผมไม่ได้เป็นคนที่ใช้ของพวกนี้นี่"

"เลือกเถอะ ฉันจะใช้ของที่เธอชอบนั่นแหละ" ผมเผลอจ้องเขาในแบบที่ ออกจะเปิดเผยความในใจมากไปสักหน่อย

เสือดาวอึ้งอยู่สักห้าวินาที แล้วเบือนหน้าหนี

ผมอยากจะโขกหัวตัวเองเข้ากับชั้นวางสบู่ใกล้ๆ หวังว่าเด็กสิบหกคงยังไม่เข้าใจ ความรู้สึกพวกนี้


ของทั้งหมดที่เสือดาวเลือก ไม่มียี่ห้อไหนที่ผมเคยใช้มาก่อน ทั้งแชมพู สบู่ ยาสีฟัน และอื่นๆ

แต่อย่างน้อย เราก็ชอบกินนมช็อกโกแล็ตยี่ห้อเดียวกัน ผมมองแกลลอนนมแล้วอมยิ้ม

ถ้ามีใครมองอยู่ คงเห็นเป็นภาพผู้ชายที่สติไม่ค่อยดี ส่งกระแสจิตคุยกับขวดนม

เสือดาวเองก็อาจคิดแบบนั้น "ผมเห็นลุงซื้อยี่ห้อนี้ที่เซเว่น"

มันทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาจริงๆ
อย่างน้อยเขาก็สังเกตผมอยู่เหมือนกัน

"แล้วเสือดาวชอบไหม"

เด็กพยักหน้า ทั้งที่ตายังจ้องมองกันอยู่

"งั้นคืนนี้เราจัดปาร์ตี้นมกัน" มันคงสนุกดี

"แต่ไม่ดูหนังน่ากลัวแล้วนะ" เสือดาวคงไม่อยากลงนอนบนตักผมอีก

"โอเค งั้นเราไปเลือกดูแผ่นสารคดีกันไหม น่าจะเข้ากันกับนมช็อคโกแล็ต"

เสือดาวหัวเราะ ตาของเขาหยีลง เห็นลิ้นแดงๆและฟันซี่เล็ก และแก้มปลั่งสีขึ้นนิดหน่อย

ในนาทีนี้ ผมบอกตัวเองว่า ผมมีความสุข
.
.
.
ในมุมที่ขายแผ่นสารคดี
เสือดาวเลือกแผ่นสารคดี เพนกวินจักรพรรดิ์

"ทำไมเลือกเรื่องนี้ล่ะ" ผมชวนคุย ตอนที่เรากำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน

"ผมอยากรู้ว่าเพนกวินจักรพรรดิ์จะเหมือนเพนกวินคองโกไหม"

"เพนกวินคองโกน่าจะตัวเล็กกว่านะ" ผมเดา

"ผมอยากรู้เรื่องคู่ของมัน"

"หือ"

"ว่าจะมีรักเดียวตลอดไปเหมือนกันหรือเปล่า"

ถนนข้างหน้าค่อนข้างพลุ่งพล่าน ผมจึงไม่มีเวลามองให้แน่ใจว่าเสือดาวมองผมด้วยสายตาแบบไหนกันแน่
.
.
.

ทุกๆฤดูหนาวแบบอาร์กติก เหล่าเพนกวินจักรพรรดิ์จะหาคู่เพื่อผสมพันธุ์ ตัวที่เคยมีคู่อยู่แล้ว จะพยายามตามหาคู่เดิมของมันแม้จะจากกันไปหนึ่งปี หลังจากที่ตัวเมียจะออกไข่แล้วฝากไว้ให้ตัวผู้ยืนกกไว้ที่ขานานสองเดือน แล้วตัวเมียจะออกทะเลเพื่อหาอาหารให้ตัวเองและให้ลูก เมื่อเพนกวินตัวเมียกลับมา ก็จะตามหาลูกและคู่ที่ปะปนอยู่ในหมู่เพนกวินนับร้อย ด้วยการฟังโทนเสียง แต่มีเพียง 15 คู่ในร้อยคู่ที่สามารถหากันจนเจอ และในรอบปีที่ 3 จะมีเพียงห้าคู่ในร้อยคู่ที่หากันเจอ หากไม่เจอในรอบปีถัดไป เพนกวินก็จะหาคู่ใหม่

เสือดาวตั้งใจดูสารคดี สลับกับการยกแก้วนมขึ้นดื่ม ไม่มีท่าทางง่วงเลย จนสารคดีจบตอนสักห้าทุ่ม ก็ไถลตัวไปกับโซฟา ขยี้ตาจนแดง

ผมเดินไปที่บันได แล้วค่อยหันไปเรียก "ปะ"
เด็กก็เดินตามขึ้นมา

นี่เป็นวิธีการที่ผมใช้เรียกหมา ตอนที่มันยังอยู่ ซึ่งใช้ได้ผลกับเสือดาวด้วย

คืนนี้พระจันทร์สวย แรกๆเสือดาวก็กอดหมอนข้างเหมือนเดิม สักพักหนึ่งก็เขี่ยหมอนข้างทิ้งแล้วกลิ้งมาหา เอาคางเกยลงบนท้องของผม

"ลุง"

"เล่นอะไร" ผมทำเสียงดุ แต่เสือดาวกลับไม่ใส่ใจ

คางที่วางอยู่บนพุงของผมขยับขึ้นลง ตามจังหวะหายใจ ผมเลยพยายามไม่หายใจแรงเกินไป

ตานั่นแวววาวในความมืด

"ถ้าผมเป็นเพนกวินจักรพรรดิ์ ผมจะพยายามหาคู่ของตัวเองให้เจอทุกปี"

ฟังคล้ายกับเสือดาวกำลังพูดเพ้อเจ้อ แต่ผมกลับเข้าใจความนัยที่แฝงในนั้น

ผมยิ้มแล้วยกมือลูบหัวของเสือดาว ผมเส้นเล็กและนิ่ม ลูบแล้วเพลิน

ภายในสามวัน กลับมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับผม ถ้ามันเป็นนิยาย ก็ต้องจัดไว้ในหมวดแฟนตาซี
ความรู้สึกบางอย่างระหว่างผมกับเสือดาว ไม่ควรเกิดขึ้นได้ในเวลาเท่านี้
แปลกกว่านั้นคือดูเหมือนเด็กมันจะรู้ตัวด้วยว่า ระหว่างเรามันอาจไม่ใช่ความสัมพันธ์ของคนแปลกหน้า

"แต่หาไม่เจอเลยจนครบสามปีล่ะ" ผมแกล้งถาม

เขากดคางลงกับพุงของผมจนเจ็บ "คู่ของผมก็ควรต้องพยายามหาผมให้เจอเหมือนกัน แต่ถ้าครบสามปีแล้วไม่เจอจริงๆ ผมก็จะไม่หาคู่ใหม่หรอก"

"อย่าเพิ่งแน่ใจไป" อะไรก็เปลี่ยนได้ทั้งนั้น โลกที่ผมผ่านมาสี่สิบเอ็ดปีสอนผมแบบนั้น

เสือดาวนิ่วหน้า "งั้นเป็นเพนกวินคองโกดีกว่า เค้าบอกว่า มันมีคู่เดียวตลอดชีวิตเลย"

"เป็นเสือดาวนั่นแหละ"

ผมมองเขา มันมืดก็จริง แต่ก็พอจะสื่อสารกัน เห็นเขาชัดเท่าที่แสงสลัวจะยินยอม

"เป็นเสือดาว..." ผมพูดซ้ำอีกครั้ง "ของลุงถัง"

--โปรดติดตามตอนต่อไป--

ขอบคุณที่อ่านค่ะ


ข้อมูลเรื่องเพนกวินจักรพรรดิ์ ดัดแปลงจากคุณ mata ค่ะ

@tonswind
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-05-2017 15:16:09
อ่านแล้วอมยิ้ม  อ่านแล้วเขิน..นนนนนนน
เป็นเสือดาว..ของลุงถัง #ตายสงบศพสีชมพู  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-05-2017 17:27:49
ลุงถังงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 07-05-2017 17:54:45
"เป็นเสือดาว..." ผมพูดซ้ำอีกครั้ง "ของลุงถัง"  :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 07-05-2017 17:54:54
ลุงงงงง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 07-05-2017 21:49:21
ลุงงงง เด็กเสือดาวยังเป็นของลุงถังม่ายล่ายยย

นั่นเด็กนะลุงงงง 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 08-05-2017 05:36:03
ลุงกินเด็กแรงมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 08-05-2017 20:42:14
 ลุงถังคะ..น้องเพิ่งจะ 16 คงต้องรออีก 3 ปี++ ถึงจะได้เป็น'ของลุงถัง' จริงๆนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 09-05-2017 10:57:04
งื้อออ คิดถึงเสือดาวว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 7 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 10-05-2017 23:31:13
ลุงงงงงงง

ไม่ทันไรก็จะให้น้องเป็นเสือดาวของตัวเองแล้วหรือ? อื้อหือออออออ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 13 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 13-05-2017 20:42:21
April fools me

ที่ผมพูดเมื่อคืน มันก็คล้ายๆกับการประกาศความเป็นเจ้าของ
เสือดาวไม่มีท่าทางตระหนก ทำไมกันนะ

ผมว่า ผมตื่นเช้าตามปกติ แต่เมื่อลืมตา กลับเห็นเสือดาวนั่งกอดเข่ามองผมอยู่บนเตียง
ชุดนอนแขนยาวที่รุ่มร่าม ควรทำให้รู้สึกรำคาญหรือขัดหูขัดตา
ควรจะ แต่ไม่ได้เป็นแบบนั้น
ชุดนอนหลวมๆกับเสือดาวไปกันได้ดี ผมอยากให้เขาอยู่ในชุดนี้ทั้งวันด้วยซ้ำ
เด็กเอาแต่มองผม ไม่ถึงกับจ้องเขม็ง จังหวะกระพริบตาของเขาเป็นปกติ ผมเองก็เลิกมองเขาไม่ได้ ขณะที่ขนตาสีน้ำตาลเข้มๆหลุบลง มันสวยดี และตาโตที่สะท้อนแสงวาวๆ ก็ดึงดูดมาก

"ทำไมตื่นเช้า"

"เมื่อวานลุงตื่นก่อน ผมตื่นมาแล้วไม่เห็น"

"วันนี้เลยตื่นขึ้นมาเฝ้าไว้?"

เขากระพริบตาเร็วขึ้นนิดหนึ่ง
ผมแปลท่าทางนั่นได้ว่า เขายอมรับและติดจะเขินนิดหน่อยด้วย แก้มขึ้นสีจางๆ คนผิวขาวจะเสียเปรียบในเรื่องนี้
ผมมองเขาด้วยสายตาที่เผยความรู้สึกมากขึ้น
สีที่แก้มกระจายลามไปอย่างรวดเร็ว เลือดลมสูบฉีดดีสมเป็นเด็กวัยรุ่น
เขาหลบสายตา

"เข้าใจที่ฉันพูดเมื่อวานหรือเปล่า"

คราวนี้เสือดาวซุกหน้าลงกับเข่า "เข้าใจครับ" เสียงเขาอู้อี้

"ไม่ตกใจกับความรู้สึกของฉันสักหน่อยหรือ"

เขาเงยหน้ามองผมอีกครั้ง "ตอนที่ผมหลงอยู่ในซอยเมื่อวันก่อน ผมขอให้เจอลุง"

ผมเลิกคิ้ว "หมายถึง ให้เจอคนมาช่วยน่ะหรือ"

"ไม่ใช่ครับ ผมขอให้เจอคนที่รักผม"

ผมกลั้นหายใจ กลัวว่าถ้าเผลอปล่อยลมหายใจออก เรื่องพวกนี้จะไม่ใช่เรื่องจริง

ความรู้สึกที่เหมือนมีกระดิ่งกับดาวระยิบระยับ เต็มหัวใจและตัวของผม

มันเรียกว่า ความรัก ได้หรือยังก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ใจตอนนี้ ผมตกลงไปในหลุมนั้นแล้ว


"ตอนนั้น...ผมเหมือนถูกโยนให้ลอยไปในที่ๆหมุนเร็วจี๋ ไม่รู้อยู่ตรงไหน ไม่รู้จะตกลงตรงไหน"

มันคงเป็นช่วงเวลาที่พี่ชายเขากำลังจะแต่งงาน เด็กคงเข้าใจว่าความรักทั้งหมดของพี่ชายที่เลี้ยงเขามาเป็นของเขาทั้งหมด
ไม่เคยเผื่อใจ
แล้วก็ยังถูกทิ้งไว้คนเดียวอีกในวันสงกรานต์อีก

หลงทางทั้งจากข้างในและข้างนอก

แล้วผมก็เจอเขาเข้าพอดี

พอดี แต่ไม่ บังเอิญ

เพราะความบังเอิญไม่มีในโลก อากงเคยพูดแบบนี้บ่อยๆ
คิดถึงอากงเหมือนกัน

อากงส่งเด็กคนนี้มาอยู่เป็นเพื่อนผมใช่ไหม

คิดว่าต้องไปหากฏหมายเกี่ยวกับการพรากผู้เยาว์มาอ่านเสียหน่อย ว่าต้องเตรียมเงินประกันตัวไว้สักเท่าไหร่
.
.
.

เวลาผ่านไปเร็ว โดยเฉพาะวันหยุด สำหรับผมขอเพิ่มว่า โดยเฉพาะวันที่มีเด็กคนหนึ่งวนเวียนอยู่ใกล้ๆ
ผมนึกขึ้นได้ว่า น่าจะต้องจัดการกับโทรศัพท์และกระเป๋าเงินที่หายไปของเสือดาว
เราจึงไปเที่ยวห้างกันอีกวัน
อายัดบัตรบางใบของเขา และไปขอซิมใหม่
ผมมีโทรศัพท์ที่ไม่ได้ใช้อยู่เครื่องหนึ่ง ให้เสือดาวยืมใช้ก่อน จริงๆก็ตั้งใจยกให้เลย แต่เสือดาวไม่ยอม เขาบอกว่า พี่สอนไว้ว่าไม่ให้รับของจากใครๆง่ายดายนัก จะเป็นคนเคยตัว จะติดการเรียกร้อง สุดท้ายจะกลายเป็นคนที่ไม่น่ารัก

ฟังแล้วก็รู้สึกว่าเขายิ่งน่ารักขึ้น
เอาเป็นว่า เสือดาวได้โลกโซเชียลของเขาคืน พอเปิดโทรศัพท์ไม่ทันไร เสียงแจ้งเตือนมากมายก็ดังขึ้น
เสือดาวก้มหน้ากดโทรศัพท์พร้อมๆกับเดินไปด้วย ห้างในวันหยุดคนไม่เยอะก็จริง แต่ก้มขนาดนั้น ถ้าเป็นรถยนต์ก็ชนไปแล้วล่ะ
ผมเลยเดินเข้าประชิด

"ส่งโทรศัพท์มาหรือจะส่งมือข้างหนึ่งมาให้ฉัน"

ผมแกล้งขู่
เสือดาวเงยหน้ามอง แบบงงๆว่าเขาทำผิดอะไร
คราวนี้ผมทำเสียงเหมือนโจรปล้นร้านทองแบบที่ได้ยินในหนัง

"ส่งโทรศัพท์มาถ้าไม่อยากอาย"

เขายังงงอยู่ประมาณสองสามวินาที สังเกตได้จากแววตามึนๆนั่น ต่อจากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา พร้อมยื่นมือมาให้

"ไม่อายครับ จูงมือผมหน่อย"

เขาวางมือของเขาลงบนมือของผม มันไม่ได้ช้าแบบภาพสโลว์โมชั่นในหนัง แต่ผมจำมันได้ทุกการเคลื่อนไหว
เมื่อมือเราแตะกัน ไม่เห็นมีไฟฟ้าช็อตแบบที่ใครๆเขาพูดกัน เราแค่มีความสุข
เราเดินจูงมือกันครั้งแรกในวันที่ 17 เมษายน
จับมือกันกลางห้างแบบนี้ คนอื่นๆอาจมองว่า
เหมือนพ่อกับลูก
เหมือนลุงกับหลาน
หรืออะไรก็แล้วแต่
ผมว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากกว่าที่จะอาย
ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ ถ้าจะหมายถึงผิดตามกฏหมาย อย่างน้อยก็จนถึงคืนนี้...

ผมจูงมือข้างหนึ่งของเขา เดินนำหน้าหนึ่งก้าวแล้วออกเดิน ส่วนเสือดาวก้มหน้าซ่อนยิ้ม แล้วกดตอบแชทด้วยมือข้างเดียว
ผมเดินนำและจูงเขาไปเรื่อยๆ แต่เสือดาวกลับหยุดเดินแล้วกระตุกมือผม

"หือ" ผมหันไปหา

"พี่ชายผมบ่นใหญ่เลย ที่เขาติดต่อผมไม่ได้ ผมเล่าให้ฟังว่าผมหลงทางมาเจอลุง และเข้าบ้านไม่ได้ แล้ว..."

เขาเงียบไปดูลำบากใจที่จะพูด

ผมเลิกคิ้ว แล้วเดาว่า "พี่ของเสือดาวคงอยากจะคุยกับฉัน"

เสือดาวพยักหน้า "สะดวกไหมครับ" เขาถามเสียงเบา

ผมยิ้ม "สะดวกครับ" แล้วยื่นมือไปขอโทรศัพท์

แต่เสือดาวนิ่งไป เหมือนวีดีโอถูกกดปุ่มพอส

อ้าว ผมพูดอะไรผิดไปหรือ

"เสือดาว" คราวนี้ผมกลับเป็นฝ่ายกระตุกมือข้างที่เรายังจับกันไว้

"ลุงยิ้มแล้วและพูดเพราะมากด้วย" เสือดาวดูเบลอๆ

ผมเขินนะ แต่ก็ต้องเก๊กไว้ก่อน "อยากให้ยิ้มบ่อยๆไหมล่ะ"

เขาพยักหน้าขึ้นลงแรงกว่าทุกที

ผมโน้มเข้าหานิดหนึ่ง แล้วพูดเสียงนุ่มๆ "ต้องไม่ดื้อ"

เสือดาวเบลอหนักกว่าเดิม จากนั้นหน้าก็แดง แล้วหลบตา

แบบนี้เข้าข่ายล่อลวงแล้วหรือยังนะ

ผมขำ แล้วหยิบเอามือถือของเขามาถือไว้

"ต้องติดต่อพี่ชายทางไหน โทรหรือว่าจะใช้แชท" ผมถาม

เสือดาวรวบรวมสติแล้วบอกว่า "โทรผ่าน viber หรือเฟซบุ๊คแมสเซนเจอร์ก็ได้ฮะ"

ผมขมวดคิ้ว แล้วส่งโทรศัพท์คืนให้
ก็ทำไม่เป็นสักอย่าง รู้สึกล้าหลังเล็กน้อย

เสือดาวอมยิ้ม ทำให้ผมยิ่งรู้สึกเหมือนเป็นคุณปู่ ไม่ใช่แค่คุณลุง

เขากดนั่นนี่ยุกยิกแล้วส่งมาให้ผม

"เฟซไทม์ฮะ"

หะ...อะไรอีกล่ะ ผมอุทานในใจ แต่ต้องทำหน้าเหมือนรู้จักไว้ก่อน
อย่างน้อยก็รู้แหละน่า ว่าต้องไม่ยกโทรศัพท์แนบหู
ปรับสีหน้าเข้าโหมดจริงจัง แล้วเอ่ยทักไปอย่างสุภาพ

"สวัสดีครับ"

ปลายทางอีกฝั่ง เป็นผู้ชายตี๋ๆ ที่เหมือนจะตากแดดจนผิวคร้ามเข้ม เขาตอบกลับว่า

"ขอบคุณที่ช่วยเหลือเสือดาวนะครับ ผมเป็นพี่ชายของเขา" ผู้ชายคนนั้นกล่าวอย่างสุภาพแต่แฝงด้วยการประเมินท่าทีและระแวดระวัง

ผมเข้าใจเขา มีน้องชายแบบเสือดาวก็ควรจะ หวงและห่วงกว่าปกติ

ผมค้อมหัวเล็กน้อย งานนี้ไม่มีหวั่นหรือคิดถอย อยากได้ลูกเสือต้องเข้าถ้ำเสือ

"ยินดีครับ"

"ยังไงพรุ่งนี้ผมจะโทรไปตามแม่บ้านให้กลับจากต่างจังหวัดเร็วหน่อย จะได้มาเปิดบ้านให้เสือดาว"

"ให้เขาอยู่กับผมก่อนก็ได้ครับ"

คราวนี้แหละเหมือนมีกระแสไฟแล่นเปรี๊ยะๆมาจากหน้าจอมือถือ

ถ้าหวงขนาดนั้น ก็ไม่ควรทิ้งเขาไปเมืองนอกนะครับคุณพี่ชาย ผมนึกค่อนขอด

"ผมมีความจำเป็นทางนี้" ฟังดูเหมือนแก้ตัวนะเนี่ย หรือว่าผมเผลอแสดงสีหน้าออกไป

"ผมยินดีดูแลเสือดาวระหว่างนี้ครับ และรับประกันเรื่องความปลอดภัย"

"อาจดูเสียมารยาท แต่ผมคงต้องขอดูบัตรประชาชนและนามบัตรของคุณ และรบกวนช่วยแชร์โลเคชั่นบ้านของคุณมาให้ผมด้วยนะครับ"

เอาทะเบียนบ้านกับโฉนดที่ดินไปด้วยเลยไหมล่ะ ผมคิดขณะที่ยิ้มสู้กล้อง "ได้ครับ เดี๋ยวผมแชร์ให้เมื่อถึงบ้านนะครับ ตอนนี้เราอยู่ข้างนอก"

พี่ชายเขาดูเบาใจขึ้นบ้าง

"คงต้องรบกวนให้เสือดาวอยู่ที่บ้านของคุณอีกสักระยะ ผมจะบินกลับไปวันที่20น่ะครับ แล้วจะไปรับเขากลับเอง"




"ครับ" ผมยังยิ้มแบบผู้ชายใจดีไร้พิษสง
.
.
.
พี่ชายเขาไม่ยอมวางสายง่ายๆ เขาซักนู่นนี่ และขอคุยกับเสือดาวอีกเกือบครึ่งชั่วโมง
การตอบคำถามทำให้เราเริ่มหิว
จึงเลือกเดินเลี้ยวเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น
เราลงนั่งเงียบๆคนละฟากโต๊ะ แล้วสั่งเมนูโปรดให้อีกฝ่ายกิน
เสือดาวได้กินปลาอินทรีย์ และผมได้กินปลาแซลม่อน

ขณะที่อาหารพร่องไปเกินครึ่ง

"ลุงถัง"

"หือ"

"ขอชื่อเฟซหน่อยสิฮะ ผมจะส่งคำขอเป็นเพื่อนไป"

ผมนั่งนึกตั้งนาน เพราะไม่ได้ใช้มาเป็นปี
ผมบอกชื่อเฟซ แต่เสือดาวกลับแบมือขอ

"อะไร ก็บอกไปแล้วไง"

"เอามือถือลุงมาด้วยฮะ เดี๋ยวผมล็อกอินแล้วกดรับเพื่อนให้เลย" ตอนนี้ผมรู้สึกเป็นคุณปู่อย่างแท้จริง

ผมกระแทกมือถือใส่มือเจ้าเสือที่ทำหน้าตาล้อเลียน

แล้วเราก็เป็นเพื่อนกัน
จากนั้นก็ได้ถ่ายเซลฟี่คู่กันครั้งแรก โดยมีปลาอินทรีย์และแซลม่อนเป็นพยาน

-โปรดติดตามตอนต่อไป ซึ่งหวังว่าจะเป็นตอนจบเสียที-

ขอบคุณที่อ่านนะคะ

@tonswind

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 13 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-05-2017 23:20:24
โว้ว..วววววววว น่ารักแท้ๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 13 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 14-05-2017 02:51:12
มีความเตรียมการจะคว้าลูกเสือมาครอบครองด้วย /แซว 5555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 13 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-05-2017 04:19:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 13 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 14-05-2017 10:58:38
เสือดาวลุงถังน่ารักเหมือนเดิม  :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 13 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-05-2017 22:09:06
เตรียมเงินค่าปรับให้พร้อมนะลุง 5555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 17-05-2017 13:16:22
April fools me

เพื่อนในเฟสบุ๊คของผมทักมา ว่าแอบไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่

ผมตอบไปว่า "ห้าวันก่อน"

พวกเขาคิดว่าผมเล่นมุก

ก็ปล่อยให้เข้าใจแบบนั้นแหละ

สำหรับผม โลกโซเชียลห่างไกลออกไป ถ้าหากจัดลำดับแล้ว ผมยังแคร์สายตาคนเดินผ่านไปมามากกว่าเพื่อนในโซเชียล
ดิจิตัลสำหรับผมมันเป็นแค่ภาพแบนๆ
ต่างกับเด็กในวัยของเสือดาว ที่แทบจะมีชีวิตอยู่ในนั้น

เสือดาวติดมือถือ เขาก้มหน้าอยู่กับมัน ตั้งแต่ผมขับรถออกจากห้าง
ผมหงุดหงิด
อาจมากจนเกินไป อาจเพราะผมไม่ติด จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องใช้มันตลอดเวลา 
พอรถติดไฟแดง เลยคว้ามือเขามาทั้งสองข้าง
พูดให้ถูกคือ ผมกระชากมือของเสือดาวมาทั้งสองข้าง โทรศัพท์ตกลงบนตักของเด็ก
เขาตกใจจากนั้นก็มีน้ำตารื้น
พอเห็นน้ำตา ผมก็เลยคิดได้ว่า น่าจะรุนแรงเกินไป

เลยพูดดีๆกับเขา "ตอนนี้อยู่ด้วยกัน"

สิ่งที่ไม่ได้พูดออกไปคือ สนใจแต่ฉันก็พอ
ไม่กล้าพูดหรอก มันดูเป็น คนแก่เอาแต่ใจ

เสือดาวจ้องหน้าผม จ้อง จ้อง พร้อมน้ำตาที่หยดเผาะ
 ทำเอาผมขับรถต่อไปไม่ไหว จอดหลบ แล้วหันมองเขาอย่างร้อนรน

"เสือดาว"

ผมเรียกด้วยเสียงที่คิดว่านุ่มนวลที่สุด แต่เขากลับสะดุ้งนิดๆ
ผมอาจโตมากับอากงที่พูดเสียงดังล้งเล้งใส่กันจนเคยชินมากเกินไป
ผมกระแอมเพื่อให้คอโล่ง แล้วลองเรียกเขาใหม่ด้วยเสียงที่เบาลงกว่าเดิม

"เสือดาวครับ"

ดีขึ้นนะ
เขาไม่ตกใจ เงยมองกันนิดหนึ่งก่อนก้มหน้าลง หยดน้ำตาจึงตกลงเป็นแนวดิ่ง มันร่วงลงมาไม่หยุด เปื้อนเป็นดวงที่กางเกงสีเทาๆนั่น
ยอมแพ้ ผมยอมแพ้จริงๆ

"เสือครับ ลุงถังขอโทษ"

นิ่ง

"เสือดาวครับ ลุงถังเสียงดังไปหน่อย กระชากมือแรงไป คราวหน้าจะไม่ทำแล้ว"

เขายอมเงยหน้ามาสบตากัน ขนตาเปียก น้ำตาเลอะอยู่แถวแก้ม

"อย่าดุ ตกใจ" เขางอน

ผมไม่รู้ว่า อะไรในท่าทีนั้นบอกผม แต่ผมเข้าใจไม่ผิดแน่ๆ

"ไม่ได้ดุ" ผมแก้ไข

"ดุ" เขาเถียง

"ยังไม่ทันดุอะไรเลย" ผมยังพยายามให้เขาเข้าใจ

ผมเคยดุลูกน้อง ยอมรับว่าตัวเองในโหมดนั้น โหดพอควร
ถ้าดุกันจริงๆ เสือดาวอาจร้องไห้จนน้ำตาท่วมรถ
ผมไม่ได้พกชูชีพไว้ในรถเสียด้วย

"ดุ"

แก้มของเขาพองขึ้น คงเป็นกลไก คล้ายแมวที่พองขนสู้
ท่าทีแบบบนั้นบอกผมว่า ถ้าเขาเถียงไม่ชนะ ผมอาจประสบอุทกภัยใหญ่กว่านี้

"ครับ ดุก็ดุ"

แก้มเขายุบลง ตากลมๆเหลือบมองผมแล้วเมินหนี

"ก็เอาแต่เล่นมือถือ"

เหตุผลของผมคงยังไม่มากพอ เขาถึงยังไม่ยอมเบือนหน้ากลับมามองกัน

"ก็ตอนนี้อยู่ด้วยกัน"

ดูเหมือนเสือดาวอยากได้ยินอะไรที่มากกว่านี้

ประโยคที่ผมอุตส่าห์ซ่อนไว้ จึงต้องถูกดึงออกมาใช้

"ลุงถังอยากให้เสือดาวสนใจกัน"

คิดว่าผมง้อเด็กสำเร็จไหม


ตลอดทางที่ขับรถกลับบ้าน
มือข้างหนึ่งของเสือดาววางอยู่ที่หน้าขาของผม
ส่วนมือถือถูกล็อคหน้าจอแล้ววางอยู่บนตักของเขาอย่างเดียวดาย


คืนนี้เราเข้านอนเร็ว
เมื่อดับไฟ จึงเห็นแสงไฟจากโทรศัพท์วาบขึ้นเป็นระยะ
สังคมออนไลน์คงกำลังตามหาเสือดาว
เขารีบหันตะแคงหนีจากโทรศัพท์ที่โต๊ะข้างเตียง แล้วซุกหน้าลงกับอกของผม
ท่าทางเหมือนคนที่เสพติดอะไรสักอย่างแล้วพยายามหักห้ามใจ

ผมกลั้นหายใจ หวังโง่ๆว่ามันจะทำให้หัวใจของผมเต้นช้าลงสักสองสามจังหวะ
มันโง่จริงๆนั่นแหละ เพราะผมถูกจับได้ในเวลาไม่นาน

"หัวใจลุงเต้นเร็วจัง"

"ปกติ" ผมผ่อนลมหายใจแล้วตอบเสียงนิ่ง ขอมีฟอร์มสักหน่อยเถอะ

โทรศัพท์ส่งแสงวาบๆไม่หยุด การปิดเสียงไม่ได้ช่วยอะไร


"ไปดูโทรศัพท์หน่อยไหม" ผมถาม


เขาซุกหน้าลงลึกในอกของผมเป็นคำตอบ


"งั้นปิดนะ" ผมขอความเห็น


เขาถูหน้ากับอกของผมหนึ่งครั้ง นั่นคงจะแทนการพยักหน้า

ผมเอื้อมมืออ้อมตัวของเขาไปเพื่อจะหยิบมือถือเจ้าปัญหา
พี่ชายของเขาส่งข้อความมาเยอะมาก
ดูเหมือนพี่ชายเขาจะเริ่มสงสัย แต่ก็ไม่กล้าถามตรงๆ เสือดาวและผมก็ตอบคำถามทั้งหมดแล้ว แต่ไม่คิดจะบอกอะไรตรงๆเหมือนกัน
เพราะจริงๆแล้ว ระหว่างผมกับเสือดาว มันยังเป็น ความรู้สึก แต่ยังไม่ใช่ความสัมพันธ์ ตอนนี้เราแน่ใจว่ารู้สึกอย่างไร และพอใจจะเคลื่อนที่กันไปอย่างช้าๆ

ระหว่างที่คว้ามือถือขึ้นมา ผมก็เกิดกังวลว่า นี่ผมกำลังกะเกณฑ์หรือบังคับเสือดาวมากเกินไปหรือเปล่า
ผมไม่ได้ต้องการให้เขาเลิกสนใจมือถือ แค่อยากให้ติดมันน้อยลงเท่านั้น

"แค่ไม่อยากให้จ้องมันตลอดเวลา ไม่ได้ให้เลิกใช้มัน" ผมพูดลอยๆ

เสือดาวเงยหน้าขึ้นมามอง รอฟังต่อ

"เรามีเวลาอยู่ด้วยกันอีกสองวัน เลยอยากให้ใช้มันด้วยกัน"

คืนนี้ฟ้ามืด ผมจึงมองไม่เห็นความรู้สึกของเขา

ผมยกมือขึ้นลูบหลังของเขาช้าๆ
เป็นกุศโลบายกล่อมให้เขาเชื่อ
วินาทีแรก เสือดาวตัวเกร็ง จากนั้นก็คลายลงราวกับเชื่องแสนเชื่อง

"ไม่ได้สั่ง ไม่ได้ห้าม แต่ขอให้สนใจกัน"

ผมกระซิบข้างหูของเขา การกระทำนี้ไม่ได้เพื่อกล่อมให้เชื่อ
นี่มันเป็นความเกินเลยของผมเอง
นาทีนี้ ผมอาจเหนื่อยเกินไปที่จะห้ามตัวเอง
ใบหูของเขาเย็น ผมแตะริมฝีปากลงไป ไม่เคยคิดว่ากระดูกอ่อนส่วนนี้ของคนเราจะดึงดูดกันได้ขนาดนี้
เขาขยุ้มมือกับเสื้อนอนของผม
ผมผละริมฝีปาก ถูจมูกของผมกับใบหูของเขา

"ลุงถังก็ขี้เหงาเหมือนกัน" เสือดาวปล่อยให้ผมสัมผัสใบหูของเขาอยู่อย่างนั้นไม่คิดป้องกันตัวเองเลย

ผมอยากจะเถียง ว่าไม่ได้เหงาเสียหน่อย แต่ถ้าปฎิเสธออกไป เสือดาวอาจไม่ยินยอมให้ผมใกล้ชิดเขาได้เท่านี้ งั้นผมจะแกล้งเป็นคนขี้เหงาก็ได้ แลกกับการได้อยู่ใกล้ๆกันแบบนี้
หรือ อาจเป็นไปได้ว่าผมอาจซ่อนความเหงาของตัวเองไว้ลึกสุดลึก
จนกระทั่งเสือดาวมาปลดกุญแจให้มัน

-ขออภัยที่สั้นค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไป-
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
@tonswind
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-05-2017 17:10:18
คุก คุก คุก ลุงถังท่องไว้ให้ขึ้นใจ 555   :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 17-05-2017 22:51:49
April fools me ตอนจบ

เวลาของวันที่ 18 เมษา ผ่านไปเร็ว เราอยู่บ้าน เดินไปเซเว่น แล้วกลับมานอนเกยกัน
เขาใช้ตักของผมแทนหมอน และอ่านหนังสือภาพสัตว์ในแอฟริกาเล่มเดิม
ส่วนผมที่นั่งพิงหมอนใบโต ก็หยิบสมุดขึ้นมา เริ่มต้นบันทึกเรื่องของเสือดาว นับตั้งแต่วันสงกรานต์ที่เราได้เจอกัน
ผมอายุสี่สิบสองแล้ว ใครจะรู้ วันหนึ่งผมอาจความจำเสื่อม

แต่ผมไม่อยากลืมเขา

ผมเขียนไปเรื่อยๆ เวิ่นเว้อ เพ้อเจ้อ เรื่อยเปื่อย ในแบบของผม

รู้ตัวอีกที เสือดาวก็มายืนอยู่ข้างหลังโซฟาที่ผมนั่ง เอาคางเกยไว้กับบ่าของผม

เขาอ่านตามที่ผมเขียนอย่างเงียบๆ

ผมอมยิ้ม และยอมให้เขาอ่าน ก็นี่มันเรื่องของเขานี่นา เขาควรมีสิทธิ์รู้
แต่ขอแกล้งสักหน่อย

"ห้ามอ่าน"

 เสือดาวยื่นริมฝีปากล่าง ทำหน้าบู้บี้  "ก็ลุงเขียนถึงผม"

"แต่คนเขียนก็มีสิทธิ์จะไม่อนุญาตให้อ่าน"

เสือดาวทำหูทวนลม ตายังจับจ้องที่สมุดบันทึกของผม "ทำไมผมรู้สึกเหมือนลุงเขียนถึงลูกหมาลูกแมว มากกว่าเขียนถึงผม" 

ผมหันมองเขา ใบหน้าเราใกล้แค่คืบ

ผมจึงเก็บค่าทรัพย์สินทางปัญญาจากแก้มของเขา

ตามกฎหมายแล้ว การหอมแก้มเด็กอายุ 16 ยังไม่นับเป็นการกระทำอนาจารใช่ไหม

.
.
.
หลังมื้อเย็น เขาออกไปรดน้ำต้นไม้ในสวน และดูแลต้นใบเตยเป็นพิเศษ เสร็จแล้วก็มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆผม

"ลุงถัง"

"หือ"

"หลังวันที่ 20 ผมยังมาที่นี่ได้ใช่ไหม"

เขาน่าจะเคยถามผมแล้ว แค่อยากได้ความมั่นใจ

ผมไม่ตอบ ชวนเขาลุกขึ้น จูงมือไปที่สวนหน้าบ้าน

"ใต้กระถางใบนี้มีกุญแจบ้าน" ผมชี้ให้เขาดู "มันจะอยู่ตรงนี้ในเดือนคู่ แล้วย้ายไปอยู่กระถางนั้นในเดือนคี่" ผมชี้ไปที่ต้นมะลิอีกฝั่งหนึ่ง

"ที่บ้านผมใช้แบบกดรหัส"

ทันสมัยไปอีก

"รหัสคือวันเกิดของผม"

ยังมีอีกมากที่ผมไม่รู้เกี่ยวกับเขา และผมอยากรู้หมดทุกอย่าง แบบค่อยเป็นค่อยไป


"แล้วเสือดาวเกิดวันไหน"

"วันที่ 13 เมษาครับ" มีทั้งเศร้าและสุขปนเปกันอยู่ในสายตานั้น

"ปีนี้ เลยเป็นวันเกิดที่ต้องหลงทางสินะ ของหายอีกต่างหาก ถือว่าฟาดเคราะห์ก็แล้วกัน"

ผมปลอบได้ดีที่สุดเท่านี้

"ตอนแรกก็แย่มาก เพราะเป็นวันเกิดปีแรกที่อยู่คนเดียว เลยตามเพื่อนมาเที่ยว ยิ่งแย่ไปใหญ่ตอนที่หาเพื่อนไม่เจอ แต่พอเจอลุง ผมว่า ปีนี้ผมโชคดีแล้ว"

"ทำไมล่ะ"

"ลุงเป็นของขวัญของผม"


ผมมั่นใจว่า ตัวเองหน้าแดง รู้สึกได้ถึงไอร้อนผ่าวที่สองแก้ม
เรายืนมองกัน เปิดเผยทุกอย่างผ่านสายตา

"ค่อยๆให้มันเป็นไป" ผมเตือนทั้งเขาและตัวเอง "เราเป็นผู้ชายที่อายุห่างกัน 26 ปี"

เสือดาวพยักหน้าช้าๆ

"ลุงจะรอผมไหม"

เขาเป็นเด็กสิบหก ที่ไม่มีความตื่นตระหนกในเรื่องความรักเลย เขาปักใจไว้กับผม ละทิ้งโอกาสของความรักในอนาคตกับคนวัยเดียวกัน

"ทำไมถึงเชื่อว่าเป็นฉัน"

"หัวใจผมบอก"

มันฟังดูน้ำเน่า ใช่ไหม
แต่คุณไม่มีทางคิดแบบนั้นถ้าเห็นแววตาของเขาตอนพูดประโยคนี้
เสือดาวเชื่อแบบที่เขาบอกผม แน่วแน่ว่าเป็นผม ด้วยหลักคิดที่หลายคนคงไม่เห็นด้วย

หัวใจใหญ่ที่สุด

ถ้านี่คือการลงทุน เสือดาวกำลังลงหมดหน้าตัก โดยไม่สนใจจะกระจายความเสี่ยง

แล้วผมจะไม่สู้ได้ยังไง

หัวใจของคนที่จะรักกันควรใหญ่เท่ากัน

"ลุงจะอยู่ตรงนี้" ผมรับปาก

"และไม่มีใคร" เสือดาวรุกคืบ เผยความเอาแต่ใจออกมา ด้วยหน้าตาคาดหวัง

ผมหัวเราะทั้งๆที่น้ำตากำลังจะไหล "และไม่มีใคร"

ผมจดไว้ในสมุดบันทึกว่า ในวันที่ 18 เมษา เวลาประมาณที่ยังพอมีแสงแดดสีส้มหลงเหลือ
 
ผมเผลอบอกรักเขาไปแล้วผ่านคำว่า 'รอ' และ 'ไม่มีใคร'
.
.
.

ความสุขวิ่งเร็วกว่าอย่างอื่นเสมอ

บ่ายโมงสี่สิบห้านาทีของวันที่ 20 เมษา พี่ชายของเขาก็มารับ

พี่ของเขาดูเคร่งเครียด อาจเป็นสัญชาตญาณที่ทำให้เขาไม่ชอบผม

ก็ไม่ว่ากัน

ใครกันจะชอบคนที่ไม่รู้ว่าจะมาทำร้ายจิตใจน้องชายของเขาหรือเปล่า
เขาขอคุยกับผมตามลำพัง
และเขาถามสิ่งที่สงสัย
ผมตอบว่าใช่
พี่ชายของเขาอึ้งไปเป็นนาที

"น้องชายผมค่อนข้างพิเศษกว่าคนอื่น ในเรื่องทักษะของชีวิตเขาเหมือนเด็กไม่กี่ขวบ ในบางสภาวะอารมณ์เขาก็นิ่งและมุ่งมั่นจนมากไป"

ผมเป็นผู้ฟังที่ดี และเห็นด้วยว่า เขาแปลกกว่าเด็กคนอื่น อย่างแรกคือเขาน่ารักกว่าเด็กคนอื่นมาก

"ผมขอให้คุณหยุดรู้สึกแบบนั้นกับเขา"

"เพราะอะไรครับ"

"เพราะคุณจะทำให้เสือดาวเสียใจ"

"คุณด่วนตัดสินเราเกินไป"

"ป้องกันมันง่ายกว่าซ่อมแซม"

ก็ถูกของเขา แต่ "คุณกำลังทำมันอยู่"

"อะไร" ชายตรงหน้าขมวดคิ้ว

"คุณกำลังทำให้เสือดาวเสียใจ เพราะคุณไม่ให้ผมรักเขา"

เขาอ้าปากเหมือนจะเถียง แต่กลับปิดมันสนิทในเวลาต่อมา

"คุณบอกเองว่า น้องของคุณเป็นคนมั่นคงกับบางอย่างมากๆ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาได้รักผม และให้ผมได้รักเขา"

ผมหว่านล้อม ในใจก็นึกเสียดาย ที่กลายเป็นพี่ชายของเขาที่ได้ยินคำสารภาพรักแบบเป็นทางการจากผมเป็นคนแรก แทนที่จะเป็นเสือดาวของผม

"ผมแค่ขอให้เวลาเป็นคำตอบ"

พี่ชายของเขานิ่งไปนาน นานจนผมเริ่มอึดอัด

วันนั้นพี่ชายพาเขากลับไปโดยไม่พูดอะไรอีก

ผมก็ไม่เร่งเร้า ก็ผมเองที่เป็นฝ่ายขอเวลา

ดังนั้นผมก็ต้องให้เวลาเช่นกัน

เสือดาวเหลียวมองผม ผ่านหน้าต่างของรถ
เราสบตากัน จนรถแล่นหายไป




ชีวิตคนกรุงเทพกลับเข้าสู่ความยุ่งเหยิงอันปกติ
ผมไม่เจอเสือดาวอีกเลย แต่เห็นเขาผ่านเฟสบุ๊ค
เขาไม่เคยทักมา ผมก็ไม่คิดจะทักไป
หลังจากที่เขากลับไปบ้านแล้ว มันคงมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
การไม่ติดต่อของเสือดาว คงมีเหตุผล ผมจะเคารพ และอดทน

เมษายนผ่านไปแล้ว มันเป็นเดือนที่หลอกให้ผมหลงกล ตกอยู่ในความรัก หาทางออกไม่ได้
.
.
.
.
.

เย็นวันที่ 16 พฤษภา ผมพาร่างเยินๆของตัวเองกลับบ้าน
การจราจรในวันเปิดเทอมน่าสยองขึ้นทุกปี
ผมอยู่บนถนนนานจนเพลีย

ผมเผลอหลับไปบนโซฟา
รู้สึกตัวตื่นอีกที เพราะได้ยินเสียงโทรทัศน์
ผมเอาแต่จ้องมองดูแผ่นหลังและหัวทุยๆนั่นจนแน่ใจ

มีเสือดาวนั่งอยู่ตรงพื้น หลังพิงโซฟา ดูสารคดีช้างแมมมอธ

เด็กในชุดนักเรียนนั่นหันมายิ้มให้ผม

"ลุงตื่นแล้ว ไปเซเว่นกัน"

ผมยิ้ม แล้วคว้าตัวเขามากอดเอาไว้

มีเด็กหลงมาในเดือนพฤษภาอีกแล้ว

พฤษภาคงไม่ใจร้ายกับผมใช่ไหม

--จบ--

ขอบคุณที่อ่าน ที่คอมเมนท์ ที่ให้กำลังใจในทุกวิธีค่ะ

#apfoolsme

ค่ะ
เป็นเช่นรัก และ วิชารัก101 รบกวนรออีกสักหน่อยนะคะ
หลังจากวันนี้ สถานการณ์น่าจะดีขึ้นค่ะ
@tonswind

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: megatef4 ที่ 18-05-2017 04:11:08
งื้ออ น่ารักแบบน่ารักมากๆ ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆค่ะ  อยากอ่านต่อเลย น้องเสือดาวน่ารักกก ลุงรถถังก็ดูใจอ่อนกับน้อง มองเห็นอนาคตเลยนะลุง 5555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 18-05-2017 05:48:15
จบแล้ว..ใจหาย ขอตอนพิเศษด้วยค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: Minoru88 ที่ 18-05-2017 08:24:24
น่ารักมาก
อบอุ่นกับความรักของลุงและเสือดาว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-05-2017 14:40:31
น่ารักกกกก อบอุ่นมากกกก ขอตอนพิเศษบ้างได้ไหมคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-05-2017 22:12:23
น่ารักกกกกก เสือดาวน่ารักจังเลยลูก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 20-05-2017 20:00:36
น่ารักง่าขอตอนพิเศษสักนิดสักหน่อยนะคะ  :m1: :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 21-05-2017 20:47:42
ในหัวมีคำว่าคุกคุกคุกเต็มไปหมดดด
น่ารักมากกกกกค่ะ
กลัวจบดราม่าแต่สุดท้ายน้องเสือก็กลับมาหาลุงจนได้  :hao5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 22-05-2017 01:40:53
  :L2: :pig4: :L2: 
ขอบคุณคนเขียนสำหรับเรื่องราวความรักของคนต่างวัย(มากกกก)
...เอาใจช่วยลุงถังกับน้องเสือดาวให้ มีความมั่นคงต่อกันตลอดไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: marine893 ที่ 22-05-2017 02:25:47
น่ารักจังเลยค่ะ อ่านไปก็ยิ้มไป ไอ คุก คุก คุก ไป  :hao7:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: Gottomon ที่ 06-10-2017 23:57:21
น่ารักจริงๆเลย ชอบตอนท้ายมากๆ
อดยิ้มไม่ได้เลย ขอให้พฤษภาไม่ใจร้ายกับลุงเนอะ
น้องเสือน่ารักมากๆ น่าแกล้งเป็นที่สุด
ลุงจีบกะเอาไว้ให้ช่วยดูแลตอนแก่ใช่มั้ย อิอิ ล้อเล่น
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆนะคะ
ปล.อยากอ่านตอนพิเศษแรงมากค่ะ ><
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-10-2017 20:50:09
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 11-10-2017 07:39:42
งื้ออออ  น่ารัก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60
เริ่มหัวข้อโดย: uzosou ที่ 12-10-2017 09:34:34
ชอบมากกกกกกกกกกกก ฮืออออ ลุงน่ารักมาก

เราชอบสำนวนการเขียนของคุณมาก มันค่อยเป็นค่อยไปแต่ไม่น่าเบื่อ

ตอนน้องเสือดาวบอกชื่อแอบช็อคนิดนึงแบบเด็กไรวะชื่อแปลกจัง

แต่ด้วยความน่ารักของน้อง ชื่ออะไรก็ดีลู้กกกกกกกกกกก ><

หลงเด็กตามลุงไป 5555

อยากอ่านตอนพิเศษแบบเสือดาวเรียนมหาลัย ลุงไม่ต้องพรากผู้เยาว์แล้ว 55555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me ตอนพิเศษแบบสั้นมากๆ
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 12-10-2017 21:43:23
ตอนนี้เคยลงไว้ในtw เมื่อนานมาแล้วค่ะ
พอมีคนขอตอนพิเศษเลยไปขุดของเก่าขึ้นมาขาย
 :hao3:

The documentary

มีเด็กในชุดนอนแต่ไม่ยอมนอน นั่งอยู่หน้าทีวี กับช่องสารคดีที่ฉาย 24 ชั่วโมง
การเตือนครั้งที่หนึ่งเกิดขึ้นตอนสี่ทุ่มสามสิบเก้า

“เสือดาว นอนได้แล้วครับ”

เด็กยังนั่งนิ่งตาจ้องแทบไม่กระพริบ ดูสิ่งมีชีวิตในเกาะกาลาปากอส

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
ลุงไปยืนบังจอไว้ เสือดาวก็เบี่ยงตัวออกดูยีราฟที่กำลังจะคลอดลูก และนั่งกอดหมอนเอียงขวาสี่สิบองศา เพื่อดูทีวีจากช่องว่างที่ลุงบังไม่มิด
ลุงเห็นความมุ่งมั่นกับยีราฟมากขนาดนั้น เลยยอมแพ้ ให้ดูต่ออีกนิดก็ได้

เที่ยงคืนยี่สิบสาม
ลุงตัดสินใจอุ้มเสือดาวพาดบ่า ปวดแปล๊บเล็กน้อยแต่ความโมโหมีมากกว่า
ทิ้งทีวีที่กำลังเป็นเรื่องราวของปลาสเตอร์เจียนในฤดูวางไข่ให้เปิดไว้อย่างนั้น

แปดโมงเช้าของวันถัดไป มีเด็กจบมัธยมปลายคนหนึ่งนอนคลุมโปง ไม่ยอมพูดจา
ลุงถังพยายามง้ออยู่นาน เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลแน่ๆ เลยคิดว่าจะไปยกทีวีขึ้นมาเปิดสารคดี ล่อเด็กน่าจะดีกว่า

พลิกตัวลงจากเตียง ก้าวข้ามเสื้อนอนลายชิปแอนด์เดลที่หล่นอยู่ทางซ้าย และกางเกงนอนลายเดียวกันที่ถูกโยนสุมไว้ด้วยกัน
พลางคิดว่า

หวังว่า ตอนนี้ช่องจะรีรันเรื่องปลาสเตอร์เจียน

--จบ--
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-10-2017 22:28:58
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 12-10-2017 23:31:06
ถึงจะอ่านในทวิตเตอร์แล้ว..แต่เค้าก้อตามมาอ่านอีกน๊า   :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-10-2017 07:30:46
ตอนล่าสุดนี่อยากให้มีต่ออีกนิดดดด  :hao7:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 14-10-2017 13:38:37
อะไรยังไง ลุงกินเด็กเหรออออ o22
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 18-10-2017 18:57:30
เพิ่งเห็นเรื่องนี้
ชอบมากกกกกก ฟินอ้ะ
ตอนล่าสุดนี่ลุงกินเสือดาวไปแล้วใช่ป่าว  :mew3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 22-10-2017 12:02:33
เป็นอมตะแล้วนะคะลุงถัง ได้กินเด็กแล้ว  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: poommy_TY ที่ 03-11-2017 18:04:42
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ ฮืออออ ละมุนมากกกก
น้องเสือดาวลูกแม่!!!!!! ขอบคุณนะคะ ชอบมากเลย แต่งได้ดีมากๆทุกอย่างเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: Gottomon ที่ 03-11-2017 18:55:38
กรี๊ดดด ลุงถังกินเสืออ :hao6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 03-11-2017 20:03:26
เสือดาวน่ารัก ลุงถังละมุนมาก :กอด1:
ตอนพิเศษนี่คือ ลุงถังกินเสือใช่มั้ย  :hao6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 11-11-2017 18:42:27
ลุงกินเด็กกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษสั้นๆ ตอน the documentary 12 ตุลา 60
เริ่มหัวข้อโดย: เมียงู ที่ 13-01-2018 09:11:09
อย่างน้อยก็จบแฮปปี้  ขอบคุณคนแต่งด้วยค่ะ เป็นนิยายที่น่ารักและอบอุ่นมากเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 3 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 03-04-2018 17:52:20

เมษาปีนี้ ฝนตกมากกว่าปกติ
เสือดาวเลือกไม่ถูกว่าชอบเดือนเมษายนแบบไหนมากกว่ากัน
แต่ที่ชอบโดยไม่ต้องมีตัวเลือก คือเสือดาวชอบอยู่บ้าน
จริงๆคือชอบดูทีวีอยู่ที่บ้าน สารคดียังคงเป็นรายการโปรด


ไม่เชื่อหรือ?

ความจริง…ชอบมากขึ้นมาอีกหน่อย คือชอบดูรายการนี้ที่บ้านของลุงถัง นอนกลิ้งบนโซฟาใหญ่ สบายทั้งวัน


ยังไม่เชื่อกันอีกหรือ?


โอเค ยอมรับก็ได้ ที่ชอบมากที่สุด ไม่ใช่การอยู่บ้านดูทีวี แต่เป็นการได้อยู่กับลุงถังต่างหาก
การมีลุงถังทำให้เสือดาวมีความสุข
เป็นความสุขที่เสือดาวอธิบายรายละเอียดปลีกย่อยไม่ได้ รู้แต่ว่าทุกอย่าง ทุกกรณีที่มีลุงอยู่ใกล้ๆ มันทำให้รู้สึกดี

อย่างวันนี้ ลุงไปทำงานแต่เช้า
ฝากรอยจูบที่หัวเหม่งไว้ให้ใจเต้น
ไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่
ลุงทำแบบนี้ เสือดาวยิ่งกระวนกระวายแปลกๆ
เลยคิดว่า พอลุงกลับมาจากทำงาน เสือดาวจะเอาคืนบ้าง

จูบตรงไหนดี
ถึงจะทำให้ลุงใจเต้นแรง

ย้อนกลับไปคิดว่า ที่ผ่านลุงถังอ่อนไหวกับอะไรบ้าง
เสือดาวตกอยู่ในภาพความคิดของตัวเอง
ยิ่งคิดยิ่งร้อน
ยิ่งเขินแต่ก็ยังเห็นภาพเป็นฉากๆ

แย่จริง

เขายกมือปิดหน้า

ถ้ามากกว่า จุ๊บเหม่ง จะทำให้ลุงใจเต้นได้หรือเปล่า

เมื่อใกล้เวลาเลิกงาน เสือดาวเริ่มนั่งไม่ติดที่ แม้แต่สารคดีวาฬนำร่อง ที่อยากดูมานาน ก็ดึงความสนใจเอาไว้ไม่ได้

ทำไมต้องตื่นเต้น

เสือดาวเริ่มเดินวนที่หน้าประตูบ้าน
พักหนึ่งก็นึกขึ้นได้ว่าควรอาบน้ำอีกสักหน

น้ำช่วยผ่อน ความวิตกไปได้มาก
เสือดาวที่อยู่ใต้น้ำฝักบัว
เงยหน้าให้สายน้ำแรงๆปะทะกับใบหน้าและผิวกาย

จู่ๆก็คิดได้ว่า เราไม่เคยอาบน้ำด้วยกันเลย

หรือวันนี้จะอาบน้ำอีกสักรอบพร้อมกับลุงดีนะ


ดูเหมือนแผนที่เสือดาวตั้งใจไว้จะมีอุปสรรคเสียแล้ว

ฝนฟ้าคะนองใกล้เวลาห้าโมงเย็น

เสือดาวนั่งหันหน้าออก มองเม็ดฝนที่พรูลงตามร่องหลังคา
หนักจน คิดว่า อีกสักเดี๋ยว น้ำคงท่วมซอย
กอดหมอนอิงแน่นเข้า
พลางคิดว่า ป่านนี้ลุงจะถอนหายใจไปกี่หนแล้วบนถนนลาดพร้าว
ไม่นาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“เด็กชาย” ลุงชอบเรียกเขาแบบนี้ ทั้งๆที่ปีหน้าเขาก็จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว

“รถติดมากใช่ไหมฮะ” เสือดาวเดาถูกแน่ๆ

“ไม่ขยับจากจุดเดิมมาสักสี่สิบนาทีแล้วล่ะ หิวหรือยัง” ลุงถังเริ่มเป็นห่วง เพราะทุกเย็น

เขาจะเป็นคนเตรียมอาหารเย็น ทำบ้าง ซื้อบ้าง

“หิว” เสือดาวยอมรับ ทั้งอาหาร และลุง

ปลายเสียงแปร่งๆ จนลุงถังจับสังเกตได้

“หือ?” มันค่อนข้างเหลือเชื่อที่ลุงถังเข้าใจ

แต่เชื่อเถอะ เพราะเขาเข้าใจจริงๆ

มันใช่เวลาจะมาทำเสียงเซ็กซี่ใส่หรือไง

เขาคิดพลางเริ่ม มองหาทางขยับรถไปให้ได้อีกนิด

เส้นอื่นจะติดมากหรือเปล่านะ

เขาเบี่ยงรถไปอีกเลน

“รอนะ” กรอกประโยคสุดท้าย ก่อนตั้งใจหาทางซอกแซกหนีจากตรงนี้

รถเคลื่อนเข้าจอดในบ้าน ตอนสามทุ่มสิบนาที

เร็วที่สุดที่พอจะทำได้แล้ว สำหรับฝนที่ตกหนักขนาดนี้

วายป่วง

ลุงถังสบถในใจเป็นร้อยรอบ

เกลียดฝนในกรุงเทพจริงๆ

ในบ้านเปิดไฟสว่าง

เขาเดินเข้าบ้าน พลางคิดว่าคงถึงคราวต้องซื้อมือถือใหม่ แบตหมดเร็วจนไม่สามารถโทรกลับมาบอกเสือดาว ว่าที่บอกให้รอ
เปลี่ยนเป็น กินข้าวไปก่อนเลย แต่อย่างอื่นต้องรอเหมือนเดิม

ร่มเปียกๆ กางอยู่บนพื้นหน้าชานบ้าน
เสือดาวคงฝ่าฝนออกไปซื้ออะไรกินที่เซเว่นปากซอย

กลิ่นชีสและเนยลอยยั่วน้ำย่อย
คงกำลังอุ่นของกินอยู่ในครัว
ช่วงนี้เสือดาวออกจะ คลั่งไคล้ อาหารทุกอย่างที่ใส่ชีส
สำหรับเขามันออกจะเลี่ยนๆ และไม่ค่อยดีต่อสุขภาพของคนเริ่มสูงวัย
แต่ถ้าเด็กชอบ เขาจะกินด้วยก็ได้

มีคนยืนอยู่ตรงนั้น มีหยดน้ำไหลระหลังคอขาว
เปียกมะล่อก
ฝนคงแรงมากจนร่มกันไม่อยู่

ลุงถังสวมกอดลูกเสือของเขาจากด้านหลัง
ไม่รู้ว่าเพราะกลิ่นชีส กลิ่นฝน หรือกลิ่นกายคนตรงหน้ากันแน่ที่ทำให้ใจระส่ำ

“หิว” เสือดาวบ่นเสียงอู้อี้

เดี๋ยวสิ  ลุงถังห้ามนอกบทเด็ดขาด

เสือดาวคิดพลางพยามเบี่ยงปากออกจากการถูกครอบครอง
ลำดับของแผนการที่เสือดาวอุตส่าห์วางไว้ ล่มไม่เป็นท่า
จริงๆเขาควรเป็นคนเริ่มต้น
คิดไว้แล้วว่า จะจูบตรงไหนก่อน จากหมายเลขหนึ่งไปหมายเลขสอง

ช่างแผนเถอะ

แม้จะหัวเสียนิดหน่อยที่ไม่ได้ทำสิ่งที่คิดไว้ แต่ใจอีกฝั่งกลับยินยอมและยินดี เมื่อลุงถังจับเอาขาเปลือยของเขาพาดไปกับเอวของลุง

เสือดาวน้อยเกือบทรงตัวไม่อยู่ การยืนขาเดียวมันลำบาก
ต้องตั้งใจทรงตัว ทั้งที่มือที่ลูบลึกเข้าไปที่ตรงนั้นทำให้วอกแวกมากๆ

“หิว” เสือดาวยังคงบ่น แต่เสียงพร่าเหลือเกิน


นาทีนี้ การเลือกว่าควรป้อนอะไรให้เสือดาวก่อนดี เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก

“อยากกินอะไรก่อน” ชายอายุมากกว่ากระซิบถาม

มือขวาวิ่งวนอยู่ที่บั้นท้ายแน่น
แกล้งกรีดมือตามแนวยาว เสือดาวทำเสียง ฮื่อ และเกร็งแก้มก้นเข้าชิด
ลุงถังใช้อีกมือขยับเนคไทของตนให้คลายออก
ปากก็ก้มลงสำรวจร่องรอยน้ำฝนที่แก้ม

ตกลงจะให้เลือกจริงหรือเปล่า

เสือดาวเองก็เลือกไม่ถูก เสียงประท้วงของท้องดังโครกคราก แต่บางอย่างในอกและกึ่งกลางตัวก็ปะทุ
ผะผ่าว
ผิวกายกระหายสัมผัส อยากให้ลุงลูบไปให้ถ้วนทั่ว
หิวทั้งหมด

แซนวิสแฮมชีสและผักโขมอบชีส วางบนเคาน์เตอร์ด้านหลังเสือดาวนี้เอง
เมื่อคนเป็นเด็กเลือกไม่ได้
เขาที่มีวุฒิภาวะมากกว่าจึงตัดสินใจแทนให้
.
.
.
อา…
ลุง…
ชีสนั้นมันอุ่นร้อน
เหนียวหนืดและยืดยาว


เป็นการกินที่ทำให้ให้อิ่มแล้วก็กลับมาหิวไม่รู้จบ

ถูกหลอกล่อเสียแล้วเสือน้อย
ทำให้ลืมความหิวแบบหนึ่งเสียสิ้น

like a fool

-จนกว่าจะพบกันใหม่-

#Apfoolsme
@tonstreenature
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 3 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 03-04-2018 19:00:01
เสือดาวน่าเอ็นดู..ส่วนชีสที่ลุงถังเลือกน้าน..นนนนนนนน  :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 15-04-2018 13:04:06
13 เมษายนปีนี้ลุงถังไม่ได้พาเสือดาวไปเล่นน้ำที่ไหน

สำหรับลุงถังและเสือดาว วันนี้มันกลายเป็นวันสำคัญ

ไม่มีการคุยกันว่า วันนี้พิเศษยังไงหรือจะมีงานเลี้ยงกันแบบไหน
แค่ตื่นเช้ามา มองตาแล้วยิ้มให้กัน แค่รู้สึกว่าแดดวันนี้มันอุ่นดี แสงที่ส่องลงเตียงนอนดูสวยกว่าวันไหนๆ
เสือดาวใช้ตากลมแป๋ว มองอ้อนจนได้จูบบางๆมาหนึ่งจูบ
วันนี้คนอายุน้อยกว่าออกจะนัวเนียมากกว่าที่เคย
เสือน้อยไล่ริมฝีปากไปตามรอยเครารอบปลายคาง ถูไถให้ปลายหนวดครูดไปมากับแก้มใสของตน
ลุงถังงับเอาริมฝีปากล่างของเสือซนไว้ ในจังหวะที่ปากของเสือดาวกำลังเคลื่อนผ่าน
ดูดดึงจนเจ้าของริมฝีปากร้องประท้วง
ทั้งสองเล่นกันอยู่บนเตียงอีกพักใหญ่ จึงค่อยพากันลงมาหาอะไรกิน

พากันเดินไปปากซอย
ปีนี้ลุงถังไม่กลัวน้ำ เขายังคงไม่คิดจะถือขันไปสาดใคร แต่ถ้าจะโดนสาดบ้าง ก็คิดว่าไม่เป็นไร
สงกรานต์สำหรับเขา มันไม่ได้น่าหงุดหงิดอีกต่อไป

ขอบคุณที่เล่นน้ำกัน ขอบคุณที่พาเสือดาวมาหา

ตอนที่ลุงพาเดินผ่านที่ตรงนั้นที่เคยมีเด็กนั่งร้องไห้ เสือดาวก็อมยิ้ม ลุงถังเองก็กระชับมือที่จูงกันไว้แน่นเข้า
ใครจะคิดว่า คนเราสามารถเก็บคนรักได้ง่ายๆตามซอกตึก
ถึงแม้ปีนี้เสือดาวจะไม่ใช่เด็กหลง แต่ลุงก็ยังคงจูงมือเอาไว้  ขณะพากันไปหาของกินที่เซเว่น อีเลฟเว่น

ลุงถังกับเสือดาวมาเดทกันที่เซเว่นบ่อยๆ ก็แค่เดินคุยกันไปตามทางเดินระหว่างชั้นขนม
ยืนเถียงกันเรื่องปริมาณน้ำตาลหน้าตู้เย็น
เป็นอย่างนี้บ่อยจนพนักงานอิจฉา แล้วก็กลายเป็นความเคยชิน
พี่ๆเซเว่นแซวจนเสือดาวเลิกเขิน

คราวนี้ เสือดาวไม่หยิบอะไรที่มีชีสเลย ลุงถังเลยหยิบมักกะโรนีผักโขมออกมากล่องหนึ่ง วางลงในตระกร้า เสือดาวก้มลงมองตาม แล้วหลบตาลุงเป็นพัลวัน

ลุงถังหัวเราะ และยังแกล้งซ้ำ “เบื่อชีสแล้วเหรอ”

เสือดาวหมุนตัวหนีช้าๆ พยายามไม่ให้มีพิรุธ ซ่อนแก้มที่แดงผ่าวจากสายตาลุง

ก่อนตอบเบาๆ “เจออันที่อร่อยกว่าแล้ว”

“อ่อ” ลุงถังตอบกลับได้แค่นั้น พอคิดตามจนเข้าใจแล้วก็เขินจนต่อบทสนทนาไม่ถูก

ทั้งคู่กลับถึงบ้านในสภาพที่พอดูได้
ไม่โดนแป้ง เปียกเล็กน้อยเป็นบางจุด โชคดีที่ไม่เจอแก๊งค์ที่เล่นกันแบบบ้าคลั่ง จนพูดกันไม่เข้าใจ

ก่อนกินข้าวลุงถังพาเสือดาวอาบน้ำอีกรอบ การนั่งกินข้าวด้วยตัวที่เปียกชื้นคงไม่สบายตัวสักเท่าไหร่
เสือดาวต้องมีขี้ไคลเยอะมากแน่ๆ เดือดร้อนลุงถังต้องช่วยอาบนานไปหน่อย

ห้องชั้นล่างมีกลิ่นอาหารอวล
ถังชะงักเท้าที่บันไดขั้นที่สาม ทำสัญญาณให้เสือดาวเงียบไว้
ก่อนขึ้นไปอาบน้ำ เขาไม่ได้อุ่นอะไรทิ้งไว้นี่นา
ต้องมีคนเข้าบ้านของเขา

โจร?

ไม่มีโจรที่ไหนอุ่นอาหารไว้ให้เจ้าของบ้านหรอก
ถ้าไม่นับเสือดาว ก็มีอีกสองคนที่รู้ตำแหน่งเก็บกุญแจบ้าน

ในครัวมีหม้อต้มจืดหม้อใหญ่ แต่ไร้เงาคนทำ

ถังค่อนข้างแน่ใจว่าเป็น ถ้วย พี่ชายของเขา แต่อีกเสี้ยวของหัวใจก็หวังลึกๆว่าจะเป็นอีกคน
ต้มจืดที่ใส่ผักแปลกๆพวกนี้ มันทำให้นึกถึง
ถังเดินไปดูที่ห้องรับแขกอีกครั้ง
ไม่มีใคร แม้แต่เสือดาวก็ไม่อยู่

“เสือ…” ถังชะงัก เมื่อเห็นใครนั่งอยู่ตรงนั้นในห้องทีวี

ส่วนเสือของเขานั่งพับเพียบอยู่บนพื้น
ชายชราเคราขาวราวผู้เฒ่าเต่ายิ้มร่า แล้วกวักมือเรียก

“อาถัง กงมาแล้ว”

ถังลืมไปเสียสนิทว่าตนเองอายุ 42 แล้ว ขณะสาวเท้ายาว ตรงเข้ากอดชายชราคนนั้น

“กง” เขาพูดได้แค่นั้นเพราะร้องไห้จนคิดอะไรไม่ออก

ดีใจเหลือเกิน
คิดถึงเหลือเกิน


ชายชราหัวเราะเบาๆ “ขี้แยตั้งแต่เด็กจนแก่เลยนะอาโซ้ยตี๋”

ถังปาดน้ำตา เขาขยับขึ้นนั่งตัวตรง ไม่อายหรอก ดีใจจนยอมให้ล้ออีกกี่ครั้งก็ได้ เพราะอากงอยู่ตรงนี้แล้ว
เขาหันไปหาเสือดาวที่นั่งพับเพียบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่เงียบๆ

“เสือดาว มาหวัดดีกง” ถังบอกให้เด็กน้อยขยับมาใกล้

เสือดาวคลานเข้ามา กราบที่ตัก

น่ารักและรู้งาน

อากงลูบหัวแล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก

“ลื้อมันเข้าใจหานะอาถัง”

“กงรู้เหรอ”

“กงได้ยิน”

“ได้ยินไร” ลุงถังเหงื่อแตก

“จะให้พูดตรงนี้?”

“กงไปไหนมา” สกิลการเปลี่ยนบทสนทนาของถังนั้นไม่เนียนเอาเสียเลย

“มานี่มา” กงสนใจฟังที่ไหน หันไปเรียกเสือดาวที่ขยับออกไปนั่งห่างๆอีกแล้ว

”ชื่อเสือดาวเหรอ”

“ใช่ฮะ”

“ไม่เหมือนเสือดาว”

เจ้าของชื่อย่นจมูก “แต่ผมทนร้อนทนหนาวได้นะ”

แน่หรือ?

“มันเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่มาดากัสการ์” อากงทำท่าครุ่นคิด

เสือดาวตาโตแล้วกระดึ้บเข้าใกล้กว่าเดิม

“อากงเคยไปมาดากัสการ์ด้วยเหรอครับ”

นี่ถ้ามีหาง คงกำลังกระดิกดิ๊กๆ

“เคยสิ ไปอยู่ตั้งปีกว่า เบื่อแล้วก็เลยแวะกลับมานี่ล่ะ”

“อากงเคยเห็นลีเมอร์ไหมฮะ” ตอนนี้เสือดาวนั่งเกาะขาเกาะเข่าอากงแล้วล่ะ

อากงหัวเราะร่า เงยขึ้นสบตาถัง

กงเข้าใจแล้วว่า ลื้อเสียท่าให้เด็กคนนี้เพราะอะไร


ระหว่างกินข้าวกับต้มจืดแสนอร่อยฝีมืออากง จู่ๆอากงที่บ่นเรื่องอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่ถังซื้อมาว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ ก็ถามขึ้นว่า

“ลื้อให้สินสอดเขาเท่าไหร่”

ถังเกือบสำลัก

“ยังไม่ได้แต่งงานกัน” ถังพูดเบาๆ

“เสียชื่อหมด พาลูกเขามาอยู่บ้านเฉยๆได้ยังไง”

“ผมขอมาอยู่เองครับ ผมเหงา พี่ชายไปอยู่เมืองจีน”

อากงส่ายหน้า “ไม่ได้ๆ ไหนโทรหาพี่ชายหน่อย ถามว่าเขามีแพลนกลับไทยหรือเปล่า”

อากงพูดจริง และไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ง่ายๆ

เสือดาวถึงกับออกอาการเลิ่กลั่ก

“โทรเถอะ” ถังกระซิบบอกเด็ก

เขาไม่ได้คิดว่า จะพาถังมาอยู่ด้วยกันเฉยๆหรอก แต่ก็ยังขอดูไปเรื่อยๆก่อน คิดว่ายังมีเวลา
แต่สำหรับอากงแล้ว การมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากการร่วมหอลงโลง

อากงขอเป็นคนพูดสายกับพี่ชายของเสือดาว น่าจะมีรายละเอียดอะไรยืดยาว เห็นแยกไปคุยที่หน้าบ้าน
เสือดาวบอกไม่ถูกว่าตนเองรู้สึกอย่างไร
ใจมันเต้นตึกตักไม่หยุด ไม่สามารถคุมมือให้อยู่นิ่งได้
ไม่ใช่ว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ลึกๆข้างในก็แอบยิ้มอยู่
แต่มันกระวนกระวายแปลกๆ
จึงแอบมองดูลุงถัง ที่ยังคงนั่งกินข้าวได้ปกติ

ลุงไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ
หรือลึกๆแล้วไม่พอใจกับอะไรแบบนี้


หลังจากเก็บล้างทุกอย่างแล้ว เสือดาวก็เดินหงอยๆเข้าไปที่ห้องทีวี
ลุงถังไม่อยู่ตรงนั้น มีแต่อากงนั่งอยู่
อากงไม่น่ากลัว ดูใจดี
เสือดาวจึงไปนั่งใกล้ๆ อากงกำลังดูสารคดี แบบเดียวกับที่เสือดาวชอบดูเลย

ในทีวีเป็นเรื่องโพล่าแบร์
แต่ความกังวลบางอย่างทำให้เสือดาวรู้สึกว่ามันไม่สนุก
อากงเหลือบมอง แล้วชวนคุย

“ตรงนั้นเรียก แทร์รา อินค็อกนิตา เป็นดินแดนลึกลับ”

เสือดาวเริ่มสนใจสิ่งที่อากงพูด เด็กอายุสิบแปดปี สิบเอ็ดเดือน ทำเพียงเขยิบเข้านั่งใกล้อากงวัยหกสิบเจ็ด เอียงตัวเข้าหาเพื่อตั้งใจฟัง

“กงเคยไป แต่อยู่ได้ไม่นาน มันหนาว แถมยังแพงมาก ทวีปแอนตาร์กติกาน่ะใหญ่เท่าประเทศอเมริกาได้มั้ง”

“อากงเจอเพนกวินไหมฮะ”

“อาเดลี” อากงหันมายิ้ม แล้วหยิบมือถือขึ้นมาค้นรูป

มือถืออากงเป็นรุ่นล่าสุด ในขณะที่ลุงถังยังใช้รุ่นที่ออกมาเมื่อสามปีก่อนอยู่เลย

“ส่วนนี่ก็ เพนกวินชินสแตรป”

“อันนี้ปลาวาฬใช่ไหมฮะ” ตอนนี้เสือดาวเอาโทรศัพท์อากงไปถือ เปิดดูรูปไปเรื่อยๆ หูก็ฟังอากงเล่าการเดินทางที่ผ่านมา


นานเท่าไหร่ไม่รู้
ภาพที่ถังเดินเข้ามาเห็นคือ เสือดาวนอนหนุนตักอากงของเขา
หลับสนิท
ถังปลีกตัวไปคิดอะไรเงียบๆพักใหญ่
ใต้ท่าทีที่ดูปกติ มีก้อนความเครียดหนักอึ้ง
เมื่อทุกอย่างตกตะกอน จิตนิ่ง จึงได้คำตอบที่แท้จริง
ถังเดินเข้ามานั่งที่พื้น จ้องมองหน้าคนหลับ ลูบหัวแผ่วเบา

มันรักของมัน

อากงดูออก แต่ก็ต้องถาม

“อาโซ้ยตี๋คิดยังไง”

ถังยังคงมองหน้าคนหลับ ขณะตอบคำถาม

“ตอนแรกไม่แน่ใจเหมือนกัน คิดว่าควรดูนานกว่านี้อีกหน่อย พอเขาเข้ามหาวิทยาลัย เขาจะเจอคนอีกเยอะ อาจได้เข้าใจว่าอันไหนคือความรัก”

“กลัวโดนทิ้ง ว่างั้น” อากงมองทะลุ คำถามนี้เล่นเอาถังจุกอยู่เหมือนกัน

“ก็ใช่” คำยอมรับอ้อมแอ้ม

“นิสัยไม่ชอบความเสี่ยงน่ะ อย่าเอามาใช้กับความรักเลย ตี๋ต้องมองตอนนี้ ไม่ใช่มัวแต่กลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิด ตรงนี้ ตอนนี้ ถามตัวเองดูว่ารักเขาไหม”

ถังยังคงมองมาที่เสือดาว ลมหายใจสม่ำเสมอนั่นทำให้มองได้ไม่เบื่อ อยากเห็นทุกท่าทางของเด็กคนนี้ไปนานๆ

“มาก” เสียงเบาแต่มั่นคง

มีคนนอนอมยิ้ม

“เท่านั้นก็พอแล้วอาถังเอ้ย อย่าลีลา เดี๋ยวมันจะหลุดลอยไป”

ความวุ่นวายเริ่มขึ้นจากตรงนั้น
เพราะอากงไม่ชอบอะไรเล็กๆ

“เล่นใหญ่เข้าไว้” อากงลูบเคราแล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก

พี่ชายของเสือดาว บินด่วนมาถึงเมืองไทย ในอีกสองวันต่อมา
และเป็นครั้งแรก ที่เสือดาวได้เจอ ลุงถ้วย ที่ดูร่าเริงและเจ้าเล่ห์กว่าลุงถังสักสิบเท่า

หลายอย่างโกลาหล ถึงแม้จะเป็นงานภายใน
มีสินสอด มีพานอะไรไม่รู้อีกหลายพาน
มีคนเพียงสิบคนในพิธีนั้น

แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ร่วมงาน
ในนาทีที่ เสือดาวนั่งอยู่บนพื้นคู่กับลุงถัง พยายามฟังว่าอากงพูดอะไรกับพี่ชายของเขา

แต่หูอื้อเหลือเกิน ฟังไม่ค่อยเข้าใจเลย
ได้ยินแค่เพียงบางท่อน

“…ต่อไปนี้ กงขอให้เสือดาวเป็นคนในครอบครัวกง…มาอยู่เป็นคู่กับหลานกง…”

แล้วอะไรอีกนะ นอกจากหูอื้อแล้ว ตายังพร่าไปหมด

ทำไมลุงนิ่งจัง

ผู้ชายที่นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าและจ้องหน้าเขานิ่งอยู่นี้

ยังไม่พูดอะไรกับเขาเลย

เต็มใจหรือเปล่า เสือดาวดีพอสำหรับลุงหรือยัง

จู่ๆก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา
ข้างในนี้เริ่มปวดหนึบๆ

รู้ตัวอีกที ก็ตอนที่ลุงถังกระตุกแขนเบาๆ

“เสือดาวยื่นมือมาสิ”

เสือดาวมองการเคลื่อนไหวนั้นช้าๆ ลุงยิ้มให้เขา ก่อนค่อยสวมแหวนนั่น

มือลุงสั่นและเย็น

ลุงยังคงไม่พูดอะไร แต่มีน้ำตาไหล

พอแล้ว

เสือดาวไม่ต้องการความมั่นใจมากไปกว่านี้อีก

รู้แล้ว
ไม่ต้องพูดก็ได้


ลุงลูบแหวนและนิ้วมือของเสือดาวไปมา

ขอให้มันอยู่ที่นิ้วนี้ แทนคำทั้งหมดที่รู้สึก

เสือดาวเพิ่งรู้ตัว ว่าที่ตาพร่า เพราะน้ำตามันไหล

ตามพิธีเขาอนุญาตให้กอดกันหรือเปล่า
แต่เสือดาวขอกอดลุงของเขาไว้หน่อยได้ไหม
ไม่ทันได้ขออนุญาตใคร
เสือดาวก็โผเข้ากอดลุงของเขาเอาไว้แน่น

สุดท้ายก็สะอื้นฮักอยู่ในอ้อมกอดนั้น

นี่อาจเป็นเจ้าบ่าวที่ขี้แยที่สุดที่เคยมีมา

15 เมษายน 2561

พิธีวิวาห์หนึ่งเกิดขึ้น
จากนั้นก็จบลง
แต่ความรักระหว่างลุงถังและเสือดาวยังคงมีอยู่
มากขึ้น เหนียวแน่น

รักเดือนเมษายนจังเลย

ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นสักขีพยาน

จากลุงถังและเสือดาว

April fools me.

#apfoolsme

@tonstreenature
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 15-04-2018 13:47:45
น่ารัก..ชอบครอบครัวลุงถัง  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 15-04-2018 14:38:24
ลุงอบอุ่นจังเลยค่ะ กงด้วย เป็นครอบครัวที่น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: Madpinkie ที่ 15-04-2018 16:46:08
งืออออ ดีจัง ฉากลุงถังมือสั่นนี่ขนลุกเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 15-04-2018 19:14:16
อบอุ่นมากเลย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: 15magnitude ที่ 15-04-2018 19:50:42
ลุงถังน่ารักมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae123 ที่ 15-04-2018 20:41:53
ชอบอากงจังเลย
บุปปัปสู่ขอเลยจ้าา 555+
น่ารักๆๆๆมากๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 15-04-2018 21:45:17
ดีใจกับเสือดาว&ลุงถังทำไมอยากใช้คำว่าน่าเอ็นดูกับลุงถังก็ไม่รู้อากงเจ๊งมากค่ะสู่ขอแล้วทำพิธีเลยอิอิ..
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-04-2018 00:15:48
ลุงถังน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 16-04-2018 12:40:36
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักและอบอุ่นใจ

อากงน่ารักมาก

 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 16-04-2018 14:15:46
 :o8: น่ารักจังเลยยย  ดีใจที่ลุงถังกะเสือดาวได้แต่งงานกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 16-04-2018 16:30:48
กงมาสั้นๆแต่เด็ดขาดมาก จับแต่งงานมันซะเลย  :hao6:

น้องเสือดาวโตขึ้นแล้วน่ารักจัง ไม่อยากให้ลุงถังแก่เลย อยากให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 18-04-2018 03:30:45
อยากรู้เรื่องราวตอนน้องโตขึ้นอีก ต้องรอสงกรานต์ปีหน้าเลยแน่ๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-04-2018 19:32:21
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 18-04-2018 20:18:54
อากงสุดยอด  o13 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-08-2018 19:41:55
ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: ongard25 ที่ 05-11-2018 21:08:18
ฮืออออ เขินอ่ัะ เสือดาวหนูน่ารักมากเลยยยยบ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 18-01-2019 22:25:40
อายุห่างกันมากก แต่ก็น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 07-03-2019 14:45:47
ดีจัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 31-05-2020 21:22:36
 :o8: กงน่ารักกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) April fools me จบ 17 พ.ค 60 / พิเศษเมษา 15 เมษา 61
เริ่มหัวข้อโดย: casson ที่ 05-06-2020 11:54:00
เนื้อเรื่องมันละมุนมากๆค่ะ

ชอบสำนวนของคุณนักเขียนมากๆ  :pig4: