พิมพ์หน้านี้ - Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: neverFall ที่ 22-02-2016 01:25:25

หัวข้อ: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 22-02-2016 01:25:25
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************





-1-




‘เห้อ..หายไปไหนของเขา ทำไมยังไม่มาอีกนะ’ ร่างสูงสมส่วนขบคิดในใจ ปกติคนๆนั้นจะมาถึงห้องเรียนก่อนเวลาเรียนแต่วันนี้กลับมาช้า ทั้งๆที่อาจารย์เข้ามาเตรียมสไลด์สำหรับการสอนแล้ว วิชาที่เขาเรียนคือวิชาการบริหารอสังหาริมทรัพย์ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่เขาลงเรียนวิชานี้เพราะมันเกี่ยวของกับธุรกิจที่บ้านของเขา ที่สำคัญอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาบอกว่าวิชานี้ไม่ยากมากนัก เพราะเป็นวิชาเลือกเสรีสำหรับคณะอื่นๆด้วย ส่วนได้มาเจอคนๆนั้นเป็นเพียงแค่ผลพลอยได้ .. แค่นั้นเอง

เขาคนนั้นชื่อมิกหรือ ‘อติวิชญ์ เกียรติไพศาล’ เป็นสมบัติของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หนุ่มหล่อ รวย เรียนเก่ง เล่นกีฬาก็เก่ง เรียกได้ว่าเป็นเพอร์เฟ็คแมนของสาวน้อยหนุ่มน้อยทั้งมหาวิทยาลัย ต้นตระกูลของมิกเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเกียรติไพศาลแห่งนี้ ทั้งยังมีธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศอีกด้วย
   .
   .

นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เขาแอบชอบมิกหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าตอนเข้าปีหนึ่งใหม่ๆจะมีกิจกรรมสานสัมพันธ์กันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่หอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัย ในวันนั้นปีหนึ่งทุกคนจะต้องแต่งกายเรียบร้อยแต่เขาลืมใส่เน็คไทมา เขาไม่อยากถูกทำโทษต่อหน้าคนอื่นจึงคิดที่จะไม่เข้าไปในหอประชุม ดันไปเจอกับมิก มิกให้เขายืมเน็คไทใส่เข้าไปในหอประชุม ส่วนมิกก็โดนรุ่นพี่ทำโทษโดยการให้รอด้านนอกจนกว่าจะพักเที่ยง เขารู้สึกผิดกับมิกจึงอยากขอโทษและคืนเน็คไทให้มิก แต่หลังจากพักเที่ยงก็ไม่เจอมิกอีกเลยไม่ได้คืนเน็คไทให้เจ้าตัว เมื่อเขามารู้ทีหลังว่ามิกเป็นทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยก็อดคิดไม่ได้ว่ามิกคงไม่ได้คิดมากอะไรกับเรื่องโดนทำโทษ แต่ตัวเขาเองก็ยัง ..รู้สึกผิดอยู่ดี


          ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ผิวแทนก้าวเข้ามาในห้องเรียน เสื้อนักศึกษาแบบพอดีตัวหรือหุ่นของมิกล่ำเกินไปก็ไม่รู้ ชายเสื้อในกางเกงสแลคพอดีตัวแบบนั้น ผู้ชายอะไรน่ามองเป็นบ้า

          “เข้ามาแล้วก็หาที่นั่งค่ะนักศึกษา อาจารย์จะเริ่มสอนแล้ว” เสียงอาจารย์ประจำวิชาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยืนเก้กังมองหาที่นั่ง มิกหันมาเห็นที่นั่งว่างข้างๆเขาจึงรีบเดินตรงเข้ามาหา ด้วยความที่ห้องเรียนวิชานี้มีที่นั่งจำกัดแค่สามสิบที่นั่งพอดีกับจำนวนนักศึกษาที่เรียนพอดี จึงไม่แปลกที่มิกจะเลือกมานั่งข้างๆเขา เพราะเป็นที่ว่างที่สุดท้ายแล้ว

“ขอโทษนะ ที่ตรงนี้ว่างหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามเขา เห้อ..ตื่นเต้นชะมัด ทำไมต้องเหลือที่ว่างข้างๆเขาด้วยนะ

“อะ..เอ่อ ว่างครับ” เขาตอบไปเบาๆ เขินนะเนี่ย มานั่งข้างๆกันแบบนี้

“ขอโทษนะ ขอยืมยางลบหน่อยได้ไหม พอดีไม่ได้พกมาน่ะ”

“ได้สิ เอาไปใช้ก่อนได้เลย เลิกเรียนค่อยคืนก็ได้” มิกจะสังเกตไหมนะว่าเสียงเขาต้องเกร็งขนาดไหน

“ขอบใจนะ เดี๋ยวเราคืนให้”

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเพื่อนๆของมิกก็เข้ามาชวนคุย ตัวเขาเองเห็นว่ามิกคุยกับเพื่อนอยู่จะพูดแทรกขอยางลบคืนก็เกรงใจ เลยคิดว่าผลัดไปก่อน พรุ่งนี้ก็ต้องเรียนด้วยกันอีกวัน เพราะวิชานี้เรียนสองวันคือวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ อีกอย่างมันก็แค่ยางลบเขาเลยไม่ได้ซีเรียสอะไรมากนัก
   .
   .

ใกล้เวลานัดทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนๆของเขาแล้ว เขามีเพื่อนสนิทที่คณะอยู่สองคน คนแรกคือโอม เขาสนิทกับโอมตั้งแต่มัธยมปลาย เพราะเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน โอมเป็นหนุ่มตาหวาน คิ้วเข้ม ตัวเตี้ยกว่าเขานิดหน่อยแต่มักจะโดนมีมี่ล้อว่าไอ้เตี้ยอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนอีกคนคือมีมี่ รู้จักกันตอนเปิดเทอมวันแรก เธอเป็นสาวยิ้มสวย สูงร้อยหกสิบปลายๆ ที่สำคัญเป็นผู้นพเชียร์ของมหาวิทยาลัยปีนี้อีกต่างหาก

ตัวเขานั้นคือ กายหรือ ‘กันต์ธีร์ ศุภวิจักร’ ครอบครัวของเขามีเพียงพ่อและย่าเท่านั้น คุณปู่ของกายเป็นมหาเศรษฐีหนุ่มใหญ่จอมเจ้าชู้มีภรรยาหลายคน ย่าของกายเป็นภรรยาคนที่สามที่มีอายุน้อยกว่าปู่ถึงสามสิบสองปี ย่าเป็นเพียงเด็กรับใช้ในบ้านของคุณปู่

เมื่อย่าท้องพ่อของเขา ภรรยาหลวงของคุณปู่ก็ขับไล่ย่าของกายออกจากบ้าน ปู่จึงให้เงินจำนวนหนึ่งกับโฉนดตึกเล็กๆแห่งหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญให้ย่าและพ่อของเขา เมื่อย่าคลอดพ่อของเขา ย่าจึงแบ่งเงินที่ได้มาไว้สำหรับส่งพ่อเรียนหนังสือ อีกส่วนหนึ่งนำไปปรับปรุงตึกเพื่อทำเป็นอาคารสำหรับพักอาศัยขนาดสิบห้าชั้น ให้ชั้นที่สองกับสามเป็นที่พักสำหรับย่าและพ่อทั้งชั้น มีห้องครัว ห้องรับแขกครบคัน ส่วนชั้นที่สี่ถึงสิบห้าก็เปิดให้ผู้อื่นเช่าเป็นรายได้จุนเจือครอบครัว
         
“นั่งคิดอะไรอยู่ เหม่อเชียว พวกเราเดินมาใกล้ๆยังไม่รู้ตัวอีก” เสียงมีมี่ปลุกกันต์ธีร์จากภวังค์

“นั่นสิ คิดถึงคนในห้องเรียนหรือเปล่า” โอมแซวเขาด้วยน้ำเสียงติดตลก

“เจอหน้ากันแล้วยังคิดถึงกันเหรอ ฮิฮิ” เพื่อนๆของเขารู้ว่าเขาแอบชอบใครในคณะสถาปัตย์ฯ และมักจะล้อเขาเรื่องของมิกเสมอ

“คนมีความรักก็งี้แหละมี่ ห่างกันหนึ่งนาทีก็คิดถึงแล้ว ฮ่าๆๆ”

“พูดอย่างกับว่าพวกแกไม่มีความรักงั้นแหละ”

“ก็ใช่ฉันกับโอมมีความรัก แต่ไม่ได้แอบรักแบบแกไงกาย”

“เห้อ พอพูดแล้วก็อยากจะถาม มึงไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างเหรอ อย่างทำความรู้จักกับมิกอะ” โอมมักจะคอยส่งเสริมให้เขาทำความรู้จักกับมิกแต่เขาไม่กล้านี่นา เขามันคนป๊อดอย่างที่เพื่อนว่าจริงๆนั่นแหละ

“ก็คนมันป๊อดนี่โอม คงจะได้รู้จักหรอก นี่ก็ปีกว่าแล้วด้วย” นั่นสินะ นี่ก็เกือบสองปีแล้ว แอบรักมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เห้อ..คิดแล้วก็เศร้า

“วันนี้ได้คุยกันนิดหน่อย” กายบอกเพื่อนอย่างตื่นเต้น

“คุยกันว่าอะไรบ้าง” มีมี่ก็ถามกลับอย่างตื่นเต้น

“เขามาขอยืมยางลบ เราก็เลยให้ยืมใช้ นี่ยังไม่ได้คืนเลย”

“ว้าว คืบหน้ามานิดนึง แต่ก็ดีอย่างน้อยมิกก็มายืมยางลบแก”

“เดี๋ยวก่อนนะ เขามายืมยางลบมึงได้ไงวะกาย ไหนมึงบอกว่าเค้าชอบนั่งหลังห้องไง หรือวันนี้นั่งใกล้กัน”

“ก็วันนี้ที่ข้างๆกูว่าง แล้วมิกเขามาสายเลยมานั่งข้างกูไง”

“แหมๆ คืบหน้าเหมือนกันนะเนี่ย เอ้อ ไหนๆก็ได้คุยกันแล้วแกก็คืนเน็คไทมิกไปซะสิ” โอ๊ะ ใช่แล้ว ลืมไปสนิทเลยว่าเขายังเก็บเอาไว้ พรุ่งนี้คงต้องเอามาคืนแล้ว

“เออ เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อ กูหิวแล้วอะ กินอะไรกันดี” โอมเอ่ยชวนพวกเราไปทานข้าว สงสัยคงจะหิวมาก

“กินที่ตึกคณะนี่แหละ พวกแกมีเรียนต่อนี่นา” ตารางเรียนของพวกเราจะว่างวันพฤหัสฯ กันต์ธีร์เรียนคนละสาขากับโอมและมีมี่ วิชาที่เรียนตอนเช้าจึงมีเพื่อนจากคณะที่ไม่ค่อยสนิทกันไปเรียนด้วยไม่กี่คน ส่วนวิชาของทั้งคู่นั้นเรียนตอนบ่าย

หลังจากทานข้าวเสร็จกันต์ธีร์ก็แยกย้ายกับเพื่อนๆ เขาว่าจะแวะไปซื้อของที่ ‘ดิ เอ็ม’ สักหน่อย เพราะเมื่อตอนกินข้าวมีมี่บอกเขาว่าน่าจะมีของฝากติดมือไปให้มิกด้วย เพราะยืมเน็คไทเจ้าตัวไปซะนานเชียว

‘ดิ เอ็ม’ เป็นห้างสรรพสินค้าหรูหราขนาดใหญ่มาก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง ห้างฯแห่งนี้ขายของแทบจะทุกอย่างตั้งแต่ของที่แพงที่สุดจนถึงของที่ถูกที่สุด มีร้านรวงต่างๆมากมายให้จับจ่ายใช้สอย เขาตรงที่ร้านขนมที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นวัยหนุ่มสาวสมัยใหม่ ที่มักจะมาทานขนมหรือกาแฟที่ร้านนี้ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยแล้ว การตกแต่งร้านยังสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับลูกค้าที่เข้ามาในร้านอีกด้วย กันต์ธีร์เลือกซื้อคุกกี้รสช็อคโกแลตชิพ ซึ่งไม่หวานมากมิกน่าจะทานได้

Tru..Tru..Tru..

“ฮัลโหล ครับพ่อ โทรมามีอะไรหรือเปล่า”

“กาย ลูกเลิกเรียนหรือยัง มารับพ่อหน่อยได้ไหม”

“แล้วรถพ่อล่ะครับ” รถพ่อของเขาหายไปไหน ทำไมถึงต้องให้ไปรับ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
   
“เจอคนบ้าขับรถชนท้ายน่ะสิ กว่าจะเคลียร์ได้ เล่นเอาพ่อปวดหัวไปหมด”

“ครับ ตอนนี้กายอยู่ ดิ เอ็ม ซื้อของเสร็จแล้วกำลังจะกลับ ให้กายไปรับพ่อที่ไหน” เสียงรอบข้างของพ่อดังแข่งเข้ามาในสาย ซึ่งกันต์ธีร์เดาว่าคงเป็นอู่ซ่อมรถสักแห่งนั่นแหละ

“ดีเลย พ่ออยู่ศูนย์ฯใกล้ๆกับห้างฯ ลูกน่าจะรู้จัก”

“ได้ครับ เดี๋ยวถึงแล้วกายจะโทรหาพ่อนะ สวัสดีครับ” วางสายจากพ่อแล้วก็รีบกลับไปที่รถของตัวเองเพื่อออกไปรับพ่อ หลายคนคงสงสัยว่าแม่ของกันต์ธีร์หายไปไหน พ่อเล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่เป็นแฟนกันตอนมัธยมปลาย ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นแม่จึงพลาดตั้งท้องเขา พ่อบอกจะรับผิดชอบ จะดูแลและเลี้ยงดูแม่เพราะพ่อรักแม่ แต่แม่ ..ขอเลิกกับพ่อ

แม่ของเขายังรักความสนุก ความสดใสของวัยรุ่นและยังอยากเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แม่เลยตัดสินใจทำแท้งแต่พ่อของกันต์ธีร์ขอร้องให้แม่เก็บเขาไว้และสัญญาว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกันอีก

หลังจากที่แม่คลอดกันต์ธีร์แล้วนำเขามาให้พ่อ แม่ก็หายไปจากชีวิตพ่อ ไม่มีการติดต่อ ไม่เคยได้ยินข่าวคราวหรือสอบถามสารทุกข์สุขดิบกันเลยนับแต่บัดนั้น พ่อเลี้ยงกันต์ธีร์ด้วยความรัก พ่อบอกเสมอเขาคือชีวิตของพ่อ พ่อรักเขามากที่สุด เขาเองก็รักพ่อที่สุดเหมือนกัน รักย่าด้วย เพราะเราเหลือกันสามคนนี่นา
   .
   .

[Mick’s Part]

“โทษทีว่ะมิก ตอนพวกกูมาที่นั่งแม่งไม่พอ แล้วมึงก็มาสายพวกกูเลยไม่รู้จะทำยังไง” โก้ เพื่อนของอติวิชญ์เอ่ยขึ้นขณะกำลังเดินออกจากตึกคณะเพื่อไปหาอะไรกิน เขาลืมอะไรไปหรือเปล่านะ

อติวิชญ์มีเพื่อนสนิทสามคน คนแรกคือโก้ หนุ่มหล่อบ้านรวย เจ้าของห้างฯดิ เอ็ม คนที่สองคือเจมส์ หนุ่มหล่อ หุ่นนักกีฬา เวลาว่างรับงานถ่ายแบบ ส่วนคนสุดท้ายคือไปป์เพื่อนตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม ที่บ้านของไปป์เป็นหุ้นส่วนบริษัทของพ่อเขา

“เออน่า กูไม่ได้คิดมากอะไรอยู่แล้ว มึงก็รู้กูเป็นคนง่ายๆ” ตอบพลางเดินเลี้ยวเข้าโรงอาหาร มองหาที่ว่างเพื่อจะนั่งกินข้าว ในใจยังรู้สึกตงิดว่าลืมอะไรสักอย่าง

“โต๊ะนั้นว่าง เดี๋ยวกูกับโก้จะไปซื้อข้าวให้ มึงนั่งจองโต๊ะกับไปป์นะเจมส์” อติวิชญ์บอกเพื่อนก่อนจะหันไปชวนโก้ไปซื้อข้าว

“ใจเว่ยเพื่อน กูเอาข้าวผัดกุนเชียงนะ” อาหารโปรดตลอดการของไปป์ ตอนนี้กินมาสามวันติดแล้ว

“กูเอาเหมือนไปป์” เจมส์ตอบแบบไม่ต้องคิด ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ทั้งสองคนนี้ชอบสั่งกับข้าวเหมือนกันอยู่แล้ว บางครั้งเจมส์ก็ให้ไปป์คิดเมนูที่จะกินในแต่ละวันให้

“งั้นกูเอาเหมือนพวกมึงละกัน ขี้เกียจคิด” โก้พูดพลางมองหน้าเขา ถามว่าจะกินอะไร

“เออๆ กินเหมือนพวกมึงละกันง่ายดี” อติวิชญ์กล่าวตัดบท ก่อนจะเดินออกไปซื้อข้าวกับโก้

ระหว่างที่นั่งทานข้าว อยู่ๆอติวิชญ์พูดขึ้นมาเสียงดังกลางโต๊ะทานข้าว เขานึกออกแล้วว่าวันนี้ลืมอะไร

“กูคิดออกแล้วว่าวันนี้กูลืมอะไร”

“อะไรวะ” ทั้งสามถามกลับมาพร้อมกัน

“กูลืมคืนยางลบให้คนที่นั่งข้างๆกูวันนี้” เสียงทุ้มตอบ แล้วตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ

“โหย กูก็นึกว่าอะไร มึงค่อยไปคืนเขาพรุ่งนี้ก็ได้นี่นา อีกอย่างนะมันแค่ยางลบเองนะมึง” โก้เสนอแนวให้เพื่อนของเขา อติวิชญ์เป็นคนง่ายๆที่ชอบทำบางเรื่องให้เป็นเรื่องยาก เขาไม่ชอบติดค้างใครแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยก็ตาม

“เออเนอะ คืนพรุ่งนี้แล้วกัน”

“รีบกินสิพวกมึง ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วนะ วันนี้’จารย์แมวจะควิซก่อนเรียนด้วย” ไปป์พูดจบก็หยิบน้ำขึ้นดื่มก่อนจะลุกไปเก็บจาน

หลังเลิกเรียนทั้งสี่หนุ่มแยกย้ายกันกลับบ้าน ระหว่างอติวิชญ์ขับรถกลับ ก็เผลอนึกถึงยางลบกับเจ้าของยางลบ หวังว่าพรุ่งนี้คงจะไม่ลืมคืนอีกนะ..
   .
   .


มีต่อ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 1] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 22-02-2016 01:28:45
[Guy’s Part]

เมื่อกลับถึงบ้านกันต์ธีร์ก็เข้าครัวไปหาคุณย่าผู้เป็นที่รักของเขา ตึกแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่อีกครั้งหลังจากที่เขาเกิดมา เพราะย่าของเขาอยากให้เขาอยู่อย่างสบาย โดยชั้นล่างจะมีห้องครัว ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และมีห้องนอนแม่บ้านหนึ่งห้อง ส่วนชั้นบนจะมีสามห้องนอนและห้องทำงานของพ่อ

“ย่าครับ กายกลับมาแล้ว มีอะไรให้กายช่วยหรือเปล่า” เดินเข้าไปกอดเอวย่าก่อนจะหอมแก้มย่าหนึ่งฟอดใหญ่

“งั้นช่วยย่าจัดโต๊ะกับข้าวหน่อยนะ วันนี้ย่าลงมือทำกับข้าวหลายอย่างเลย” ย่าของเขายังสวยอยู่เลย ทำอะไรก็กระฉับกระเฉง ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ว่าอายุเข้าใกล้วัยเกษียนแล้ว

บรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวเป็นไปอย่างเรียบง่ายและอบอุ่น ทุกคนพูดคุยกันอย่างมีความสุข หัวข้อที่คุยกันมักจะเป็นเรื่องของกันต์ธีร์ทั้งนั้น โดยเฉพาะเรื่องแฟนของเขา พ่อกับย่าชอบบอกให้เขาพาแฟนมาทานข้าวที่บ้านเสมอ

“เมื่อไหร่ลูกจะพาแฟนมาแนะนำให้พ่อกับย่าสักทีล่ะ” เสียงทุ้มของพ่อเอ่ยถามขณะที่กำลังทานข้าว

“พ่อครับ กายยังไม่ได้ชอบใครสักหน่อยนะ” เขาชะงักก่อนจะเงยหน้ามาตอบพ่อเสียงอ้อมแอ้ม

“นั่นสิ ย่าก็อยากจะเห็นนะ”

“ครับๆ ถ้ามีเมื่อไหร่กายจะพามาให้รู้จักนะ” เขาตอบเสียงอ่อย

“แฟนของลูกจะเป็นแบบไหนหรือจะเป็นใครก็แล้วแต่ พ่ออยากให้ลูกรู้ไว้ว่าพ่อรับได้ ย่าก็รับได้ อะไรที่ลูกทำแล้วมีความสุข พวกก็พร้อมที่จะสนับสนุน” พ่อของเขาพูดเหมือนกับว่าคนที่เขาชอบเป็นผู้ชายงั้นแหละ

“เอ่อ ..เดี๋ยวค่อยพูดเรื่องกันใหม่นะครับพ่อ ทานข้าวกันต่อดีกว่า” ถึงพ่อจะพูดยังไง เขาก็ไม่กล้าบอกอยู่ดี เขากลัวทำให้พ่อกับย่าผิดหวังในตัวเขา อีกอย่างหนึ่งเขาก็อายนะที่จะบอกพ่อกับย่าน่ะ

“เอ้อ ตาจักร รถที่เข้าอู่จะได้วันไหนนะ” ย่าเป็นคนเปลี่ยนบทสนทนาเพื่อให้คลายความอึดอัดลง

“ได้วันศุกร์หน้าครับแม่ กายช่วงนี้ให้พ่อไปส่งก่อนนะ” มหาวิทยาลัยของเขาอยู่แถบชานเมือง ไม่มีขนส่งมวลชนเข้าถึงเท่าไหร่นัก ถ้านึกศึกษาคนไหนบ้านไกลก็จะพักหอในเพื่อความสะดวก ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ทางมหาวิทยาลัยถึงจะมีรถบัสคอยรับส่งให้ถึงสถานีรถไฟฟ้า

หลังจากทานข้าวเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันเข้านอน พรุ่งนี้ไปเรียนห้ามลืมคืนเน็คไทให้มิกเด็ดขาด เอามาเก็บตั้งปีกว่าๆ หวังว่ามิกจะไม่โกรธนะ มีขนมไปไถ่โทษด้วยนี่นา…




To Be Continue..

สวัสดีครับ ผมเป็นตามอ่านนิยายมานาน หลายเรื่องด้วย
วันนี้อยากลองจับปากกาแต่งนิยายเป็นของตัวเองดูบ้าง
ใครมีข้อเสนอแนะหรือติชมอะไร บอกได้เลยนะครับ ยินดีรับฟังทุกข้อเสนอ
แล้วเจอกันตอนต่อไปนะครับ ^_^
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 1] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: PingPong_Hunlay ที่ 22-02-2016 01:54:53
ติดตามๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 1] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-02-2016 04:57:06
ชื่อเรื่องแปลกดี อิอิ รออ่านตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 1] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-02-2016 08:51:57
จะได้คุยกันจริงจังซะที... ใช่มะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 1] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Anong2013 ที่ 22-02-2016 09:28:11
มาม่าไหมครับ เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 1] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 22-02-2016 09:56:09
 :ling3:

เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 1] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 22-02-2016 10:02:43
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 1] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 22-02-2016 10:58:37
กาย หนุ่มขี้อายยยยยย  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 22-02-2016 21:56:14


-2-





วันนี้พ่อของกันต์ธีร์มาส่งที่คณะสถาปัตย์ฯ ก่อนจะพาย่าของเขาไปตรวจสุขภาพประจำเดินที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย

เขาเข้าไปในห้องเรียนเพื่อนดูว่าอติวิชญ์มาเรียนหรือยัง เมื่อพบว่ายังไม่มาจึงออกไปรอข้างนอก

ร่างสูงใหญ่เดินมาพร้อมกับเพื่อนๆอีกสามคน แต่ละคนหน้าดีกันทั้งนั้น นี่เขาคัดหน้าตาเข้ากลุ่มหรือไงนะ

“เอ่อ นี่” ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าห้องเรียน กันต์ธีร์ก็เรียกเอาไว้เสียก่อน

หนุ่มหล่อทั้งสี่คนหันมามองอย่างสงสัยว่าเขาเรียกใคร ก่อนที่คนที่สูงที่สุดในกลุ่มจะเอ่ยถามออกมา

“เรียกพวกเราเหรอ”

“เราเอามาคืนน่ะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ไม่ได้คืนมันสักที” กันต์ธีร์ลุกขึ้นยืน เดินเอาเน็คไทและขนมไปให้อติวิชญ์

“เค้าไม่ได้พูดกับพวกเราว่ะเจมส์ งั้นพวกกูเข้าห้องเรียนก่อนนะมิก” เพื่อนอีกคนของอติวิชญ์พูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ก่อนจะชวนคนอื่นๆเข้าไปในห้องเรียน

“อะไรเนี่ย อ๋อเน็คไท” หลังจากเพื่อนๆเข้าไปในห้องแล้ว เขาจึงหันมาถามคนตรงหน้า

“จริงๆไม่ต้องคืนเราก็ได้ แค่เน็คไทเอง เราเองก็ไม่ได้คิดมากอยู่แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหลังจากรับเน็คไทมาคืน

“ไม่ได้หรอก เรารู้สึกผิด เลยมีขนมมาให้ด้วยร้านนี้อร่อยมากเลยนะ นี่คุกกี้รสช็อคฯชิพ หวังว่านายคงจะชอบ” นี่ขนาดรู้สึกผิดยังเก็บไว้เป็นปีเลยนะเนี่ย

“ยังไงก็ขอบใจนะ”

“อืม”

“เออนี่ เอายางลบไปคืนด้วย เมื่อวานเราลืมคืนให้ นายออกก่อนเลยให้ไม่ทัน” อติวิชญ์ว่าพลางหยิบยางลบออกมาจากกระเป๋า

“จริงๆไม่ต้องคืนเราก็ได้ แค่ยางลบเอง”

“ไม่ได้หรอก เรารู้สึกผิด แต่ไม่มีขนมมาไถ่โทษนะ” อติวิชญ์พูดด้วยน้ำเสียงติดตลกเหมือนจะล้อเลียนเขามากกว่า

“ขอบคุณนะ”

“ไม่เป็นไร ว่าแต่ชื่ออะไรเหรอ มาเรียกเราๆนายๆแล้วรู้สึกแปลกๆ” กำลังจะเดินออกไป อยู่ๆก็หันหน้ามาถามเขาซะได้

“กายครับ แล้วนายอะ” เขาอยากรู้จักเราหรือเปล่านะ รู้สึกดีชะมัด

“มิกนะ เจอกันข้างนอกทักได้” อติวิชญ์ยิ้มให้เขาด้วย ทำแบบนี้เหมือนให้ความหวังกันชัดๆ

“อะ อืม”
.
.

เลิกเรียนแล้วกันต์ธีร์กำลังเก็บของ เตรียมตัวออกจากห้องเรียน แต่เหลือบไปเห็นอติวิชญ์กำลังเดินมาตรงที่เขานั่งอยู่

“ไปแล้วนะ เจอกันโชคดี” ร่างสูงโบกมือลาเขา ก่อนจะเดินตามเพื่อนของเขาออกไปจากห้องเรียน

“อะ เอ้ออ โชคดีนะมิก” อะไรกันเนี่ย เดินย้อนกลับมาเพื่อมาบอกลาเขาเนี่ยนะ มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว


“กายๆ พวกเราอยู่นี่” หลังจากเดินลงมาถึงใต้ตึกคณะสถาปัตย์ฯ ก็เจอเพื่อนของเขานั่งรออยู่แล้ว

“พวกแกมาได้ยังไง คิดว่าจะรออยู่ที่ตึกบัญชีซะอีก” ตอนบ่ายพวกเขามีเรียนวิชาเดียวกันที่ตึกคณะ ถ้ามาทานข้าวทีนี่กว่าจะทานเสร็จไปเรียนไม่ทันแน่ๆ

“ก็เมื่อเช้าพวกกูเรียนกับ’จารย์สมฤดี บอกว่าวันนี้’จารย์บัญชาไม่มา เลยยกเลิกคลาสวิชาบัญชีวันนี้” โอมพูดด้วยน้ำเสียงลิงโลด พวกนี้มารอเขาถึงที่นี้คงจะชวนไปไหนล่ะสิ เดี๋ยวคงต้องโทร.บอกพ่อด้วย

“แล้วมาถึงนี่จะชวนไปไหนล่ะ”

“รู้ใจกูจริงจริ๊งเพื่อนเลิฟ จะชวนไปหาอะไรกินที่ดิ เอ็มน่ะ เสร็จแล้วก็เดินช็อปปิ้งกัน กูอยากได้รองเท้าใหม่”

“เออดีเลย ฉันก็อยากไปเดินดูเสื้อผ้าบ้าง เผื่อได้ชุดใหม่ๆสักสองสามชุด”

“ไปก็ได้ พวกนี้ชอบหาเรื่องเสียเงินตลอดเลย แต่มึงต้องส่งกูกลับบ้านด้วยนะโอม” ดีเหมือนกันเขาจะได้ไปดูกระเป๋าใหม่ด้วย ใช้กระเป๋าใบเดิมจนมันจะขาดอยู่แล้ว ซื้อใหม่พ่อก็ไม่ว่าหรอก ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาโทรหาพ่อดีกว่า

Tru..Tru..Tru..

“พ่อครับ เดี๋ยววันนี้กายจะไปซื้อของกับเพื่อนๆนะ โอมจะไปส่งกายกลับบ้าน พ่อไม่ต้องมารับนะ”

“แล้วจะกลับมาทานขาวที่บ้านหรือเปล่า” เสียงพ่อตอบกลับมา รอบข้างเหมือนมีคนคุยกันอยู่ สงสัยพ่อคงจะคุยธุระอยู่แน่ๆ

“คงทานจากที่นี่ไปเลยครับ พ่อทานกับย่าเลยนะ”

“โอเคลูก เดี๋ยวพ่อคุยธุระต่อก่อนนะ ค่อยคุยกันตอนเย็น” วางสายจากพ่อก่อนะจะหันไปชวนเพื่อนออกไปยังสถานที่ที่ตกลงกันไว้
.
.

[Mick’s Part]

วันนี้เขามีเรียนแค่ช่วงเช้าว่างช่วงบ่ายจึงตกลงกันว่าจะไปดูหนังกันสักเรื่อง ไอ้โก้บอกว่าขนมที่กายซื้อมาให้เมื่อเช้ามีขายที่ห้างฯของมัน แต่มันไม่เคยซื้อมากินเลยสักครั้ง มันอร่อยมาก รสหวานของแป้งคุกกี้ผสมกับรสขมนิดๆของช็อคโกแลตได้อย่างลงตัว เขาเลยว่าจะไปซื้อมาเก็บไว้ทานเป็นของว่างเวลาหิว
ระหว่างเดินเตร็ดเตร่อยู่ในห้างฯ เขาเหลือไปเห็นกายเดินมากับเพื่อนอีกสองคน กายสูงที่สุดในกลุ่มแต่จากการคาดคะเนคงจะเตี้ยกว่าเขาสักห้าหกเซนติเมตร เดินไปทักสักหน่อยจะได้ถามถึงร้านขนมนั่นด้วย

“กาย หวัดดี” อติวิชญ์เดินเข้าไปทักทาย ทำไมเพื่อนของกายต้องมองเข้าอย่างตกใจแบบนั้น ก็แค่เข้ามาทักทายตามประสาคนรู้จัก

“อ้าว หวัดดี มาซื้อของเหรอ” กายเองก็ดูตกใจไม่แพ้กัน อะไรกันเนี่ย ทำตัวแปลกกันจังพวกนี้

“อืม ขนมที่ให้เมื่อเช้าอร่อยดี เลยอยากมาซื้อไปเก็บไว้กินเล่นน่ะ ว่าแต่ร้านมันอยู่ตรงไหนเหรอ” ไอ้โก้ก็บอกเขาไปแล้วนะ แต่ไม่รู้ว่าจะถามจากกายอีกทำไม เขาแค่รู้สึกว่าอยากคุยกันมากกว่าแค่ทักทายกันเฉยๆ

“กูเพิ่งบอกมึงเองนะว่าร้านมันอยู่ชั้นสอง มึงความจำสั้นจัง” โก้แทรกขึ้นมาระหว่างที่พวกเขาคุยกัน อ้าว ไอ้นี้ทำไมต้องมาพูดตอนนี้ด้วยวะ

“อะ เอ่อ นี่เพื่อนเรานะ ไอ้ที่พูดมากๆนี่ชื่อโก้ ตัวสูงๆนั่นชื่อเจมส์ ส่วนตัวเตี้ยๆชื่อไปป์” เขาเปลี่ยนบทสนทนาด้วยการแนะนำเพื่อนให้กายรู้จัก

“หวัดดีครับ” ทั้งสามคนทักทายขึ้นมาพร้อมกัน

“ยินดีที่รู้จักนะทุกคน ผมกายครับ ส่วนนี้เพื่อนชื่อมีมี่กับโอม” กันต์ธีร์แนะนำเพื่อนให้เขารู้จักเช่นกัน เพื่อนผู้ชายของกันต์ธีร์ตาหวานมาก คิ้วเข้มอีกต่างหาก ส่วนเพื่อนผู้หญิงเขารู้จัก เพราะเป็นคนดังของมหาวิทยาลัย

“ยินดีเช่นกันค่ะ นี่คิดว่าจะคุยกันแค่สองคน ไม่แนะนำเราให้เพื่อนๆรู้จักซะแล้ว” คนที่ชื่อมีมี่ทักทายพวกเขาก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับโอมแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย ส่วนกายก็มีท่าทางอึดอัดยังไงก็ไม่รู้ แถมยังหน้าแดงๆอีกต่างหาก
.
.

[Guy’s Part]

“แล้วนี่ทานอะไรกันยังคะ ไปทานด้วยกันไหม” จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาเขาก่อนล่ะ อยู่ๆจะมาชวนกันแบบนี้ได้ยังไง
“ว้า เสียดายจัง พวกเรามาดูหนังกันน่ะ นี่ก็ใกล้ถึงเวลาหนังฉายแล้วด้วย โอกาสหน้าไม่พลาดแน่นอน” โก้ตอบพลางทำสีหน้าผิดหวัง

“แย่จัง ถ้าได้ไปด้วยกันคงมีคนมีความสุขมากแน่ๆเลย” มีมี่กำลังจะแกล้งเขาใช่ไหม ไม่ได้การแล้วรีบหาทางชิ่งดีกว่า ก่อนที่ความจะแตก

“งะ งั้นคราวหน้าแล้วกันเนอะ พวกเราก็ต้องรีบไปซื้อของเหมือนกัน เจอกันใหม่นะ บาย” ให้ตายสิตื่นเต้นชะมัด กันต์ธีร์รีบกล่าวตัดบทก่อนจะลากเพื่อนๆออกจากวงสนทนา แล้วเดินหายไปจากตรงนั้น เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าสี่คนนั้นจะทำหน้ายังไงตอนพวกเขาเดินออกมา ก็คนมันเขินนี่นาขืนอยู่ต่อมิกก็รู้สิว่าเขาชอบ

“แกนี่จะลากกันทำไม ฉันยังคุยไม่เสร็จเลยนะ”

“แกก็ดูสิมี่ หน้าแดงขนาดนั้น เราสงสารเพื่อนนะ ฮ่าๆ” พูดเสร็จก็หัวเราะ นี่แสดงว่าไม่ได้สงสารเขาจริงๆใช่ไหม เขาโกรธโอมกับมี่แล้ว

“ฮ่าๆ ไปหาอะไรกินกันเถอะ เดี๋ยวเพื่อนโมโหหิวไปซะก่อน โอ๋ๆ” มีมี่เดินมาเขย่าแขนง้อเขา อันที่จริงเขาไม่ได้โกรธอะไรหรอก แค่ยังไม่อยากให้มิกรู้ว่าเขาแอบชอบมิกอยู่ก็แค่นั้นเอง

“โอ๋ๆ เดี๋ยวกูเลี้ยงคุกกี้นะกาย ฮ่าๆ”

หลังจากทานข้าวเสร็จก็เดินซื้อของก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ โอมเป็นคนมาส่งเขาที่บ้าน ระหว่างที่อยู่บนรถเรื่องที่คุยกันก็ไม่พ้นเรื่องของเขากับมิก

“มึงคืบหน้าขึ้นนะเนี่ย กูว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมึงสมหวังแน่เลยกูฟันธง!” โอมหันมาพูดกับเขาขณะรถจอดติดไฟแดง

“กูก็อยากสมหวัง กูจะพยายามนะเว่ย”

“สู้นะมึง มึงเป็นเพื่อนที่กูรักมากที่สุด มึงรักใครชอบกูก็จะเป็นกำลังใจให้มึง เอาใจช่วยมึง มี่ก็ด้วย ต่อให้ผลลัพธ์มันจะเป็นยังไงพวกกูก็จะอยู่ข้างมึงเสมอ”

“ใจนะมึง มึงเป็นเพื่อนรักที่สุดของกูเลยนะโอม นี่กูพูดจากใจจริงเลยนะ ฮิฮิ”
“มึงนี่ก็ทำเป็นเล่น นี่กูจริงจังนะ” เขาเอี้ยวตัวหลบโอมที่เอื้อมมือมาจะตบหัวเขา ก่อนที่จะหลบพ้นก็..


ตุบ

“โอ๊ย” หัวเขาไปกระแทกกับกระจกรถ มันหันหน้ามาหัวเราะเยาะเขา

“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า ถ้าให้กูตบไม่เจ็บเท่านี้หรอก”

“เหี้ย หัวจะโนไหมวะเนี่ย ไอ้เพื่อนทรพี” เจ็บชะมัด ยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะเขาอีกนะ

“ทีกับเพื่อนนี่ทำเก่งนะ แต่กับไอ้มิกนี่หงอยเชียว ไอ้ป๊อดเอ๊ย ฮ่าๆๆ” เออ ตอกย้ำเขาเข้าไป เขามันคนป๊อดนี่ ไอ้บ้า!
.
.

“ถึงบ้านมึงละ รีบลงไปเลยไป ชิ่วๆ” รถของโอมมาจอดที่หน้าตึกพอดีเป๊ะ นี่ก็ห้าโมงเย็นแล้ว ผู้คนต่างเริ่มเตรียมตัวออกไปหาอะไรทานเพื่อปากท้อง เข้ามองเห็นรถของเขาจอดที่หน้าตึก
พ่อของเขาทำที่จอดรถไว้สองที่สำหรับรถสองคันที่หน้าตึก เพราะว่าเจ้าของตึกจะจอดตรงไหนก็ได้ อิอิ

“ไล่กูจังนะ ทำกูเจ็บหัวไม่สงสารกูเลย กูเดินยากนะมึง” ว่าพลางเอื้อมไปหยิบสัมภาระก่อนจะปลดล็อคประตูเตรียมก้าวลงจากรถ

“มันเกี่ยวกันตรงไหนวะ สมองกระทบกระเทือนเหรอ เลอะเลือนนะมึงเนี่ย”

“กูไม่สน ไปแล้วมึง บายเว่ย”

“เออ โชคดี เจอกันวันจันทร์” กันต์ธีร์ปิดประตูรถของเพื่อน ก่อนที่รถยนต์คันหรูจะเคลื่อนตัวออกไปถึงถนนใหญ่

“สวัสดีครับคุณกันต์ธีร์” ยามหน้าตึกทักทายเขา เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไป อยู่มาตั้งนานก็ไม่เลิกเป็นทางการกับเขาสักที
“เรียกผมว่ากายเฉยๆก็พอนี่หมู อยู่มาตั้งนานแล้วยังไม่ชินอีกเหรอ”

“ครับคุณกาย” เอ้อ แบบนี้ค่อยน่าฟังขึ้นหน่อย คนกันเองทั้งนั้นเรียกชื่อจริงแล้วรู้สึกแปลกๆ

เมื่อขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นสองก็เห็นพ่อกับย่ากำลังนั่งทานข้าวเย็นกันอยู่

“สวัสดีครับย่า สวัสดีครับพ่อ กายขอตัวเอาของไปเก็บก่อนนะ เดี๋ยวจะลงมาหา” ทักทายพ่อกับย่าเสร็จก็เดินไปขึ้นบันไดไปชั้นสาม เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสามจะมีทางแยก ฝั่งขวามือเป็นห้องนอนของพ่อกับห้องทำงาน ส่วนฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนของเขาและห้องนอนของย่า ระหว่างทางเดินจะมีโคมไฟระย้าห้อยลงมาจากเพดาน

พ่อตกแต่งให้เหมือนบ้านทุกอย่างให้ดูอบอุ่น แต่แฝงไปด้วยความเรียบหรูและมีความทันสมัยนิดๆ กายเคยถามพ่อว่าทำไมถึงไม่สร้างบ้าน พ่อตอบว่าจะได้คอยดูแลตึกนี้เองด้วย ไม่อยากจ้างคนอื่นดูแล อีกอย่างอยู่ใจกลางเมืองแบบนี้ เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก ซึ่งเขาเองก็เห็นด้วยถึงแม้มันจะอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยก็เถอะ

เก็บของเสร็จก็เดินลงมาหาพ่อกับย่าที่ห้องทานอาหาร

“อ้าว ลงมาแล้วเหรอ พ่อกับย่าทานข้าวเสร็จพอดี ไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่า” พ่อบอกเขาจะเดินนำไปที่ห้องรับแขก การตกแต่งเป็นแบบร่วมสมัย มีกลิ่นอายของความเป็นอังกฤษนิดๆ แสงไฟสีส้มส่องสว่างจากโคมไฟหรูบนเพดานเสริมให้ห้องนี้ดูอบอุ่นเสียจริง

“พอดีกายเปลี่ยนชุดด้วยน่ะครับ ว่าจะขึ้นไปยิมด้านบนดาดฟ้าสักหน่อย อยากไปว่ายน้ำด้วย” เขานั่งลงบนโซฟาด้านข้างของพ่อ

“กาย มานั่งข้างๆย่า นวดไหล่ให้ย่าหน่อย คุยเสร็จค่อยหยุดนะ” ลุกขึ้นย้ายที่มานั่งข้างย่า ก่อนที่จะลงมือบีบนวดไหล่ให้ย่า

“พ่อจะบอกว่าวันอาทิตย์นี้มีนัดทานข้าวกับผู้รับเหมาของพ่อ เขาเพิ่งประมูลโครงการใหม่ของพ่อได้ เลยอยากเลี้ยงตอบแทนล่ะมั้ง” พ่อคงเห็นกายทำหน้าฉงน แปลก! ผู้รับเหมาที่ไหนเลี้ยงเจ้าของโครงการมีแต่เราที่ต้องไปเลี้ยงเขาไม่ใช่เหรอ

“อ๋อครับ แล้วใครล่ะครับผู้รับเหมาของพ่อ”
“เกียรติไพศาลกรุ๊ป” สิ้นเสียงของพ่อเขา กันต์ธีร์ก็นิ่งไปชั่วขณะ เกียรติไพศาลนามสกุลของมิกนี่นา ขอปฏิเสธดีกว่า ไม่กล้าไปเจอ เห้อ..เขาก็ยังป๊อดอยู่ดี

“นวดต่อสิหลาน ย่าเมื่อยนะ” เสียงย่าปลุกเขาจากภวังค์ เขาจะขอปฏิเสธไม่ไปดีไหมนะ หาข้ออ้างว่าไม่ว่างยังไงดี

“ไม่ต้องปฏิเสธนะ เพราะพ่อไปโม้ไว้ว่าลูกเรียนที่มหาวิทยาลัยของเขา ลูกเขาก็เรียนรุ่นเดียวกับลูก อีกอย่างเขาเชิญย่าไปด้วย” ฮะ แล้วพ่อจะเอาเขาไปโม้ให้คนอื่นฟังทำไมเนี่ย แต่ก็ช่างมันเถอะ พอถึงวันนั้นก็นั่งเงียบไม่พูดกับใครเอาแล้วกัน ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้แล้วนี่

“เรื่องที่จะบอกก็มีเท่านี้แหละ เดี๋ยวพ่อจะขึ้นไปเคลียร์เอกสารต่อ พรุ่งนี้จะเข้าบริษัท” บริษัทของพ่อมีหุ้นส่วนอยู่ห้าคนเป็นเพื่อนของพ่อตอนเรียนมหาวิทยาลัย ร่วมลงทุนกันเปิดบริษัทบ้านและคอนโดฯขนาดไม่ใหญ่นัก เช่าตึกสำนักงานอยู่ที่ตึก ‘ดิ เอ็มไพร์’ บริษัทของพ่อไม่เน้นกำไรและปริมาณ แต่เน้นคุณภาพ จึงสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้มาก

ตึก ‘ดิ เอ็มไพร์’ เป็นการร่วมหุ้นกันระหว่างบ้านของมิกกับนายโก้ ตึกสูงระฟ้าตั้งอยู่ใจกลางเมือง หลายๆคนลงความเห็นว่าเป็นตึกที่หรูหราและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ณ ตอนนี้

เห้อ ..ยังไงเขาก็ต้องได้เจอกับมิกสินะ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ถึงจะไม่ได้เจอเจ้าตัวแต่ก็ต้องได้ยินเรื่องที่เกี่ยวข้องอยู่ดี เจอบ่อยๆได้ยินบ่อยก็คงจะหายตื่นเต้นไปเองนั่นแหละ

“ย่าครับ กายขอไปว่ายน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมานวดให้ต่อ” ลุกขึ้นก่อนจะรีบออกไปว่ายน้ำผ่อนคลายสักหน่อย

“เอ๊ หลานคนนี้นึกจะไปก็ไป ยายดาว! มานวดให้ฉันหน่อยเร็ว” ใช้ไม่ได้จริงๆ ย่ายังไม่หายเมื่อยเลยนะ






To Be Continue...


ตอบคุณ Anong2013 - เรื่องนี้ไม่ดราม่าแน่นอน คนเขียนก็ไม่ค่อยชอบดราม่าเท่าไหร่

เรื่องอัพแต่ละตอน จะพยายามมาอัพ 1-2วันต่อตอนนะครับ
ถ้ามีธุระจะมาแจ้งให้คนอ่านทราบก่อนนะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: xirainx@gamil.com ที่ 22-02-2016 22:10:57
ติดตามนะ


สนุกดี
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 22-02-2016 22:20:00
 :ling3:

โถ่ กายนี่นะ มีโอกาสงามๆแต่ดันขี้อายซะได้

งานนี้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายเจอหน้ากันแล้ว มองๆแลๆว่าที่ลูกเขย/ลูกสะใภ้ด้วยนะคะ 555555+

 :impress2:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 22-02-2016 22:52:31
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 22-02-2016 23:45:44
ดูอารมณ์ประมาณค่อยๆรักเลยนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 23-02-2016 02:10:39
มาติดตามค่า
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 23-02-2016 07:42:53
บิลค่า รออ่านๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 23-02-2016 18:46:32
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 23-02-2016 20:40:41
มิกดูเฟรนลี่มากกกกกกก
กายก็ดีนะไม่เข้าข้างตัวเอง
น่ารักทั้งคู่เลย~  :mew1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Anong2013 ที่ 23-02-2016 21:30:44
ดีจังเลยไม่มีมาม่า
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 24-02-2016 00:24:17
ต่อไวๆน้าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 2] [22.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 24-02-2016 00:28:06





-3-





ก๊อก.. ก๊อก.. ก๊อก

“กาย ตื่นได้แล้วลูก สิบโมงแล้วนะ เขานัดกินมื้อเที่ยงนะไม่ใช่มื้อเย็น” เสียงพ่อตะโกนเข้ามาในห้องนอน ทำให้เขารู้สึกตัวตื่นก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตู

“อื้อ พ่อ กายยังง่วงอยู่เลย แล้วอีกอย่างเขานัดวันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ” พ่อนี่ท่าจะลืมวันลืมคืน วันนี้มันวันเสาร์ต่างหาก

“ก็ใช่น่ะสิ วันนี้ไงวันอาทิตย์ นอนมากลืมวันลืมคืนหมดแล้วนะลูก” พ่อพูดน้ำเสียงติดตลก เขาเองสินะคนขี้ลืม

“ไม่อยากไปเลยอะพ่อ/ไม่ได้ รีบไปอาบน้ำแต่งตัว พ่อให้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง”

“เห้อ ก็ได้ครับ” แกล้งอาบน้ำนานๆดีไหม จะได้ไม่ต้องไป

“ถ้าครบหนึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่เสร็จพ่อจะให้ไปแบบที่ยังไม่เสร็จนั่นล่ะ” โหดร้ายที่สุด!
.
.

“พ่อ เดี๋ยวกายขับรถเองนะ” เขาบอกพ่อขณะเดินลงบันไดออกไปหน้าตึก พ่อรับคำก่อนจะยืนกุญแจรถให้เขา

“เขานัดที่ไหนเหรอครับ” เขาหันไปถามพ่อขณะที่นั่งประจำที่คนขับเรียบร้อยแล้ว

“ห้องอาหารของโรงแรมฟ้าสาง” เขาพยักหน้ารับก่อนที่ขับรถออกสู่ถนนใหญ่ รถยนต์คันหรูเคลื่อนที่ออกจากตัวตึกมุ่งหน้าไปยังสถานที่นัดหมาย ดีนะวันนี้รถไม่ติด ไม่อย่างนั้นคงไปถึงสายแน่ๆ

“เดี๋ยวกายไปหาที่จอดรถก่อน พ่อกับย่าขึ้นไปก่อนเลยครับ” เมื่อถึงที่หมายเขาจึงจอดรถส่งให้พ่อกับย่าลงที่หน้าตึก ก่อนที่เขาจะขับรถไปหาที่จอด

“ห้องอาหารอยู่ชั้นสามนะ” พ่อรับคำก่อนจะบอกที่ตั้งของห้องอาหาร

ได้ที่จอดรถเสร็จเรียบร้อย ก็เช็คความเรียบร้อยก่อนจะลงจากรถ วันนี้กันต์ธีร์ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนปักตัวอักษรจีที่อกด้านซ้ายกับกางเกงผ้าขายาวสีเบจ สวมรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม เสื้อผ้าสีอ่อนบวกกับผมสีน้ำตาลเข้มที่จัดทรงมาเป็นอย่างดี ทำให้คนที่เดินผ่านไปมามองเหมือนกับว่าเขาเป็นนักแสดงมาถ่ายละครซะอย่างนั้น

ระหว่างที่เดินเข้าไปรอลิฟต์ก็เล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย จึงไม่ทันสังเกตว่ามีคนมายืนรอลิฟต์เหมือนกัน เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกต้องหลีกทางให้คนในลิฟต์ออกมาก่อน กันต์ธีร์ก้าวเท้าถอยหลังไปชนกับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“โอ๊ะ ขอโทษครับ อะ อ้าวมิก มาทำอะไรเนี่ย” เขาเอ่ยถามขณะเดินเข้ามาในลิฟต์ คิดว่าอยู่ในห้องอาหารแล้วซะอีก วันนี้มิกแต่งตัวด้วยเสื้อคอปกพอดีตัวสีกรมท่า อกซ้ายปักยี่ห้อของเสื้อกับกางเกงยีนส์ทรงกระบอกเล็ก สวมรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม ผมสีดำสนิทที่ถูกจัดแต่งทรงมาอย่างดี เข้ากับคิ้วเข้ม ดวงตาคม ใครเห็นก็คงคิดว่าเป็นพระเอกหนังสักเรื่องแน่นอน

“มากินข้าวกับที่บ้าน กายอะ” ทำไมแขนถึงล่ำจังเลย อยากกัด อิอิ

“เหมือนกันแหละ” ตอบไปแค่นั้นแล้วก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือต่อ ทำไมในลิฟต์มีกันอยู่แค่สองคนล่ะ คนอื่นหายไปไหนหมด ทั้งสองคนยืนรอลิฟต์อย่างเงียบๆ เมื่อลิฟต์ถึงชั้นสามเขาจึงบอกให้อติวิชญ์ออกไปก่อน

“ถึงแล้ว มิกไปก่อนเลยเดี๋ยวที่บ้านจะรอ เราจะไปห้องน้ำก่อนน่ะ” เมื่อมิกออกไปแล้วเขาจึงเดินแยกไปทางห้องน้ำ ยืนรอสักพักให้มิกไปก่อนก่อนตามเข้าไป

พอถึงห้องอาหารเขาก็มองหาเห็นพ่อนั่งหัวโต๊ะตรงข้ามกับพ่อของมิก ยายนั่งขวามือของพ่อ ซ้ายมือของพ่อว่างอยู่แสดงว่าเขาต้องนั่งข้างๆมิกสินะ..

“พ่อครับ กายมาแล้ว” เดินเข้าไปทักทายพ่อที่โต๊ะ ก่อนที่จะนั่งลงที่เก้าอี้ด้านซ้ายมือของพ่อ

“อ้าวมาพอดีเลย สวัสดีคุณเขตต์กับคุณนภาพรสิลูก”

“สวัสดีครับ” เขายกมือไหว้ทั้งสองคน ก่อนที่เสียงทุ้มของคุณเขตต์จะเอ่ยขึ้น

“คุณเคินอะไรกัน เรียกลุงกับป้าก็พอ เพราะหลังจากนี้เราคงได้เจอกันบ่อยๆ จริงมั้ยจักร” คุณลุงเขตต์หันมาบอกเขาก่อนจะหันหน้าไปคุยกับพ่อ
“คุณเขตต์ว่าไง ผมก็ว่าตามนั้นครับ” พ่อตอบรับอย่างเสียไม่ได้

“นายก็เหมือนกันเรียกผมว่าพี่ก็พอ ผมชอบความเป็นกันเอง” พ่อรับคำลุงเขตต์ คุณลุงเขตต์ทำให้บรรยากาศลดความเป็นทางการลง ไม่เหมือนมาคุยธุรกิจกันแต่เหมือนเป็นครอบครัวมาทานข้าวกันมากกว่า

“ส่วนพี่ก็เรียกว่าพี่นภาก็พอค่ะ” เสียงภรรยาของลุงเขตต์ไพเราะมาก ท่าทางเป็นผู้หญิงใจดีเหมือนกับลุงเขตต์

“น้องกายเรียนที่เดียวกับมิกใช่ไหมคะ เรียนคณะอะไรเหรอคะ” คุณป้านภาหันมาถามเขาต่อ

“บัญชีครับ เอกบริหาร” บรรยากาศเริ่มเป็นกันเองมากขึ้น ตอนนี้อาหารเริ่มทยอยออกมาเสิร์ฟแล้ว

ที่โรงแรมฟ้าสางจะมีห้องอาหารสามชั้น โดยชั้นที่สี่จะเปิดเป็นห้องอาหารเช้าแบบฝรั่ง เปิดเวลาเจ็ดโมงเช้าถึงสิบโมง ชั้นที่สามจะเป็นห้องอาหารกลางวันแบบอิตาเลี่ยน เปิดเวลาสิบเอ็ดโมงถึงบ่ายสองโมง และชั้นที่สองจะเป็นห้องอาหารเย็นแบบไทย เปิดเวลาสี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม จึงทำให้มีลูกค้าทั้งที่พักกับโรงแรมและลูกค้าภายนอกเข้ามาทานอาหารอย่างไม่ขาดสาย

“น้องมิ้นท์ลูกสาวคนเล็กของป้าก็อยากเข้าคณะนี้เหมือนกัน ที่เกียรติไพศาลนี่แหละค่ะ มีคำแนะนำไหมคะ”

“ขอบคุณครับ.. ก็อ่านหนังสือเยอะๆครับ เตรียมตัวเยอะโดยเฉพาะคณิตศาสตร์กับภาษาอังกฤษครับ ถ้าตั้งใจน้องมิ้นท์ทำได้แน่นอนครับ” กันต์ธีร์หันไปขอบคุณพนักงานที่เสิร์ฟอาหารให้เขา ก่อนจะหันมาตอบเรื่องการสอบเข้าคณะบัญชีที่มหาวิทยาลัยเกียรติไพศาล

“หนูไม่ค่อยเก่งภาษาเลยค่ะพี่กาย มีวิธีง่ายๆแนะนำไหมคะ มีพี่ชายก็ไม่ค่อยจะแนะนำเลย” น้องมิ้นท์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแอบจิกกัดพี่ชายของตัวเองเล็กๆ

“พี่ก็สอนเถอะ จะมาว่าพี่ได้ไง” ผู้ชายอีกคนที่นั่งข้างมิกเอ่ยขึ้นมา ดูแล้วน่าจะเป็นพี่ชายคนโต

“มิ้นท์หมายถึงพี่มิกหรอก ไม่ใช่พี่ไมล์”

“ก็แล้วไป ฮ่าๆ เอ้อ พี่ชื่อไมล์ เป็นพี่ชายคนโต ส่วนข้างๆนี่มิกรุ่นเดียวกับกายนั่นแหละ” พี่ไมล์หันไปหัวเราะใส่น้องสาว ก่อนจะหันมาแนะนำตัวกับกันต์ธีร์ ส่วนมิกเขาน่ะรู้จักแล้ว รู้จักดีเลยด้วยซ้ำ

“สวัสดีครับพี่ไมล์” เขาหันไปทักทายพี่ไมล์ ก่อนจะยิ้มให้ขำๆให้มิก

“สวัสดีนะกาย เจอกันอีกแล้ว” มิกหันมาทักเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม คนอะไรแค่ยิ้มมุมปากยังหล่อขนาดนี้

“ทำไมพี่มิกพูดเหมือนเคยเจอกันแล้วเลย” น้องมิ้นท์มองหน้าเขากับมิกสลับไปมา

“อ๋อ ก็..” “พ่อขอขัดจังหวะหน่อยนะมิก เรามาทานข้าวกันก่อนไหม ระหว่างรอของว่างค่อยคุยกันต่อ” คุณลุงเขตต์ขอขัด เนื่องจากเห็นว่าอาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว ถ้าไม่เริ่มทานคงจะเย็นชืดหมดแน่ๆ
.
.

เมื่อทานอาหารเสร็จก็รอของว่างมาเสิร์ฟระหว่างนั้นผู้ใหญ่ก็คุยกันเรื่องธุรกิจ ส่วนสามหนุ่มหนึ่งสาวก็คุยกันเรื่องทั่วๆไป

“พี่มิก ยังไม่ได้บอกเลยว่าเคยเจอพี่กายที่ไหน” น้องมิ้นท์หันมาถามเรื่องที่ค้างคาใจตั้งแต่ก่อนทานมื้อเที่ยง

“ก็กายเขาไปเรียนวิชาเลือกของคณะพี่ไง เลยรู้จักกัน แล้วก็ตอนที่เข้ามาพี่เจอกายที่ลิฟต์ แต่ไม่รู้ว่ากายคือลูกของคุณอาจักร ตอนกายเข้ามาพี่ก็ตกใจเหมือนกัน ฮ่าๆ” มิกหันมามองหน้าเขาก่อนจะหัวเราะ แล้วก็หันไปคุยกับพี่ไมล์เรื่องผลกีฬาเมื่อคืน ส่วนเขากับน้องมิ้นท์ก็คุยกันเรื่องการเตรียมตัวก่อนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย

“คะแนนสอบรอบแรกออกมาแล้ว วิชาคณิตศาสตร์มิ้นท์ได้เจ็ดสิบสอง ส่วนภาษาอังกฤษยังไม่ถึงครึ่งเลยค่ะพี่กาย”

“คะแนนเลขดีแล้ว ส่วนภาษาอังกฤษก็ท่องศัพท์เยอะๆ ฝึกทำโจทย์แกรมม่าด้วย ครั้งที่สองก็ตั้งใจทำภาษาอังกฤษเพราะว่าเราสามารถเลือกใช้คะแนนครั้งที่มากที่สุดในสองครั้ง” การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกียรติไพศาลจะแบ่งการสอบเป็นสองรอบ โดยจะสอบทั้งหมดหกวิชา คือภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมและความรู้ทั่วไป

“อีกอย่างหนึ่งวิชาความรู้ทั่วไปทุกคณะต้องใช้หมด มิ้นท์อย่าลืมติดตามข่าวสารบ้านเมืองด้วยนะ” ถึงสัดส่วนคะแนนจะน้อยก็จำเป็นเหมือนกัน บางคนไม่ได้คณะที่หวังก็เพราะได้คะแนนวิชาวความรู้ทั่วไปน้อย

“พี่กายพอจะมีเวลาว่างสักวันไหมคะ มิ้นท์อยากจะปรึกษาเรื่องเรียนน่ะค่ะ” ระหว่างที่ทานของว่างน้องก็ถาม คงอยากจะเรียนคณะนี้จริงๆ เพราะดูกระตือรือร้นมากเลย

“ก็ว่างช่วงเสาร์-อาทิตย์นั่นแหละ แต่ยังไงเอาไลน์หรือเบอร์พี่ไปก่อนก็ได้ มีอะไรก็ปรึกษาได้”

“ขอบคุณมากค่ะ” น้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเข้าโปรแกรมสนทนาสีเขียวยอดฮิต ก่อนที่จะขอให้เขาพิมพ์ไอดีให้ ส่วนเบอร์ก็ทำการบันทึกไว้เรียบร้อย

“จะไปรบกวนเขาทำไม กายเขาอาจจะไม่ว่างก็ได้ ถามพี่ก็ได้ พี่ก็พอรู้บ้าง” มิกพูดขึ้นมา มันไม่ได้รบกวนเขาเลย มิกคงไม่อยากให้เขาเข้าไปยุ่มยามเรื่องของคนในครอบครัว

“ไม่ได้รบกวนหรอก น้องมิ้นท์ถามมิกเอาก็ได้ ก็คงได้คำตอบเหมืนกัน”

“เห้ย อย่าโกรธดิ เราแค่เกรงใจน่ะ เพิ่งรู้จักกันน้องเราก็รบกวนกายแล้วไง” เขาไม่ได้โกรธสักหน่อยแค่น้อยใจเฉยๆ

“อืม”

“ขอโทษนะครับ” มิกอ้อนเขาเหรอนี่ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาได้เห็นมุมนี้ของมิก ปกติเจอที่ห้องเรียนก็ชอบทำหน้าขรึมๆ กันต์ธีร์รู้สึกร้อนที่ใบหน้า นี่หน้าเขาแดงหรือเปล่านี่ ไม่ใช่แฟนกันสักหน่อยจะมาอ้อนเขาทำไม ไม่จำเป็นต้องมาง้อเขาด้วย

“พวกนายสองคนทำตัวเหมือนเป็นแฟนกันเลยเนอะ มีง้อมีงอนกันด้วย” พี่ไมล์ที่เงียบมาตั้งนาน อยู่ๆก็ปล่อยหมัดฮุกใส่เขา นี่เขาต้องหน้าแดงอยู่แน่ๆ ให้ตายสิ จะลุกตอนนี้ก็น่าเกลียด

“นั่นสิพี่ไมล์ มิ้นท์เห็นบรรยากาศสีชมพูอยู่รอบๆตัวมิ้นท์เลย แถมพี่กายยังหน้าแดงอีกต่างหาก” หมดกัน..

“นี่ก็พูดเวอร์ไป ก็เพื่อนกันทั้งนั้นแหละ” คงเป็นได้แค่เพื่อนสินะ

“ก็มันจริงนี่นา เพื่อนกันเฉยๆเขาไม่คุยกันมุ้งมิ้งแบบนี้หรอก” 

เพื่อนกันเฉยๆเขาไม่คุยกันมุ้งมิ้งแบบนี้หรอก…
“พอแล้ว เปลี่ยนเรื่องๆ” มิกตัดบท ก่อนที่มันจะเลยเถิดไปกว่านี้ เขาก็แค่รู้สึกไม่อยากพูดคำหยาบกับกายแค่นั้นเอง.. แค่นั้นจริงๆ
.
.

[Mick’s Part]

พอกลับถึงบ้านยัยมิ้นท์ก็พูดถึงแต่พี่กายว่าดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ สุภาพ หล่อแถมน่ารักอีกต่างหาก นี่ขนาดแค่เจอกันวันเดียวยังเป็นขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าได้เจอกันบ่อยๆจะเพ้อขนาดไหน

“พี่มิกว่าพี่กายหล่อไหม” หล่อ..

“พี่มิกว่าพี่กายน่ารักไหม”

“น่ารัก..”

“ฮิฮิ ชอบเขาเหรอ เพ้อจังพี่ชายหนู”

“เมื่อกี้ถามพี่ว่าไงนะ” เขาได้ยินไม่ถนัด กำลังคิดอะไรเพลินๆ

“หนูน่ารักไหม”

“ก็น่ารักสิ ชมแค่นี้เป็นบ้าไปเลยหรือไง” น้องสาวกระโดดโลดเต้นวิ่งขึ้นไปข้างบนห้องแล้ว แปลกคน ปกติไม่เห็นจะมีท่าทางแบบนี้เลย..
.
.

[Mint’s Part]

เข้าแอพพลิเคชั่นนกสีขาวบนพื้นหลังสีฟ้า อั๊พเดทข้อความลงไปดีกว่า เราต้องแบ่งปันความฟินให้คนอื่นได้รับรู้

‘เพื่อนที่ไหน เขาคุยกันมุ้งมิ้งแบบนี้’ หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนมากดหัวใจให้เยอะ บ้างก็มีส่งข้อความมาถามว่าหมายถึงใคร ฮิฮิ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ รอให้แน่ใจกว่านี้ก่อนแล้วจะมาแจกจ่ายความฟินนะคะทุกคน

คิดอะไรดีดีออกแล้ว.. สาวน้อยยกยิ้มอย่างมีเลศนัยถึงแผนการที่เตรียมไว้เพื่อสนองความต้องการของตัว

กรี๊ด! แค่คิดก็ฟินละค่า คุณผู้ชม ฮิฮิ

กดเข้าไปที่แอพพลิเคชั่นตัวเอฟสีขาวบนพื้นหลังสีน้ำเงิน ก่อนจะคลิกคำว่า ‘สร้างเพจ’
.
.





To Be Continue...



อาจจะเดินเรื่องช้าไปหน่อย แต่อยากให้เห็นพัฒนาการของตัวละครครับ
ติชมกันได้เลยนะครับ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-02-2016 01:37:48
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 24-02-2016 01:56:27
น้องมินท์ชงเข้มๆค่ะหนู สร้างเพจคู่จิ้นเลยค่ะ
 :-[
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 24-02-2016 14:22:02
 :hao7:

น่าไปดูพรรคน้องมินท์จริง มีคนอวยใกล้ตัวแบบนี้มิกก็มิกเถอะ หลงเสน่ห์กายเร้วววววว  :-[

หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-02-2016 15:06:43
น่าติดตาม ลุ้นๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 24-02-2016 15:54:35
อยากอ่านอีก อิอิ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 24-02-2016 22:46:08
น้องมิ้นเป็นสาววายรึป่าวนิ แล้วก็ครอบครัวของมิกดูสบายๆเป็นกันเองดีจัง อย่างนี้จะยินดีต้อนรับสะใภ้ชายหนุ่มน่ารักอย่างกายรึป่าวคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 25-02-2016 02:53:43
งุ้งงิ้งง :katai5:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 25-02-2016 06:52:41
น้องสาวมิกจะเป็นกามเทพน้อยสินะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 3] [24.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 25-02-2016 16:42:42




-4-





สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนการสอน สัปดาห์หน้าก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการสอบปลายภาค สำหรับกันต์ธีร์เขาเตรียมพร้อมกับการสอบปลายภาคพอสมควรแล้ว แต่สำหรับนักศึกษาคนอื่นที่ยังไม่พร้อมกับการสอบก็คงต้องเตรียมตัวกันหนักหน่อย

“กาย อธิบายตรงนี้อีกรอบได้ไหม กูยังไม่ค่อยเข้าใจเลย” โอมถามเขา ขณะที่พวกเรากำลังนั่งอ่านหนังสือกันอยู่ที่ใต้ตึกคณะ

“ตรงนี้ต้องดูที่รายรับหรือรายจ่ายก่อน แล้วค่อยวิเคราะห์แนวโน้มการได้กำไรขาดทุน จากนั้นค่อยอธิบายแนวทางการแก้ปัญหา กูว่าเรื่องนี้มันต้องเห็นโจทย์อะ ถึงจะรู้ว่าต้องทำยังไง แค่มึงเข้าใจหลักการมันก็ทำได้แล้ว”

“มันไม่ยากหรอกโอม อาจารย์เขาก็บอกแล้วว่ามันเป็นวิชาพื้นฐาน แกก็จำวิธีการแก้ปัญหาไปเพราะมันมีรูปแบบการแก้ปัญหาอยู่แล้ว” มีมี่ให้กำลังใจโอม

วันนี้ทุกวิชาปิดคอร์สหมดแล้ว พวกเราจึงมีเวลาว่างทั้งวันเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบปลายภาค ระหว่างที่อ่านหนังสือนั้นก็คุยกันด้วยกินขนมกันด้วย

“เออ ว่าจะทักตั้งแต่เช้าแล้ว นี่แกยังไม่ได้เล่นเฟสบุ๊คใช่ไหม” มีมี่เงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาถามกาย

“อืม ยังไม่ได้เล่นมาเป็นอาทิตย์”

“ถ้าอย่างนั้นแกก็คงยังไม่ได้เห็นของดี”

“เห็นอะไรวะ มี่” เป็นโอมบ้างที่เงยหน้าขึ้นจากชีทสรุปเรื่องที่เรียนมา

“เพจๆหนึ่ง นี่เอาไปดูแล้วจะตกใจ” มีมี่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เข้าไปที่แอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค

“ไหน กูขอดูก่อน” โอมฉวยหยิบโทรศัพท์ไปจากมือของกันต์ธีร์ ก่อนที่จะทำหน้าตกใจอย่างเกินความจำเป็น

“ตกใจขนาดนั้นวะ โอม” ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เขาก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาให้

“เห้ย! อะไรวะเนี่ย พวกแกคิดว่ามิกจะเห็นยังวะ” เขาเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพจสาธารณะปรากฏสู่สายตาเขาใช้ชื่อเพจว่า ‘Perfect Couple’ เป็นข้อมูลรูปภาพของชายหนุ่มสองที่ทำอิริยาบทต่างๆ บางภาพก็เป็นภาพเดี่ยวๆ บางภาพก็นำหลายๆภาพมาประกอบกันให้เป็นหนึ่งภาพ เขาจะไม่ตกใจขนาดนี้เลยถ้าหนึ่งในสองคนนั้นไม่ใช่เขา และอีกคนก็เป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากมิก ส่วนใหญ่ก็ได้มาจากอินสตาแกรมของเขาทั้งนั้น
ใครเป็นคนทำกันนะ

“ขนาดแกยังตกใจ แล้วมิกเขาจะไม่ตกใจเรอะ วันพฤหัสนี้เรียนวิชาเดียวกันนี่ ก็ไปคุยกันสิ”

“วิชานั้นปิดคอร์สไปแล้ว เดี๋ยวค่อยขอเบอร์จากน้องสาวมิกก็ได้ โทรไปคุยเอา” อยู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เบอร์ของใครก็ไม่รู้โทรมา

Tru.. Tru.. Tru..

“สวัดสีครับ” กันต์ธีร์กดรับ มีเสียงตอบกลับมาทำให้เขานั่งตัวแข็งทื่อ

“กายเหรอ มิกเองครับ สะดวกคุยไหม” เอ่อ

“สะดวกๆ มีอะไรเหรอ แล้วได้เบอร์มาจากไหน”

“ได้มาจากมิ้นท์ไง แล้วเรื่องเพจนั่นน่ะกายเห็นหรือยัง” นั่นไง จะโทรมาพูดอะไรหรือเปล่า เขาไม่ได้เป็นคนสร้างเพจนี้ขึ้นมานะ

“อะ เอ่อ เห็นแล้ว ทำยังไงดีอะ แจ้งลบได้หรือเปล่า”

“ขอโทษนะกาย คือมิกรู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ” รู้แล้ว แสดงว่าเป็นคนใกล้ตัวสินะ

“ใครเหรอ”

“เดี๋ยวจะบอกพาเจ้าตัวไปขอโทษด้วย อยู่ที่คณะหรือเปล่า จะเข้าไปหา”

“ฮะ! เอ่อ อยู่ๆใต้ตึกเลยนะ แล้วนี่ไม่มีเรียนเหรอ”

“ปิดคอร์สหมดแล้ว แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวไปหานะ”วางสายไปแล้ว

มิกจะมาหาเขาที่คณะ..
มิกจะมาหาเขาที่คณะ..

“เงียบทำไมเนี่ย แล้วเมื่อกี้ใครโทรมา” มีมี่ทักขึ้นมาหลังจากเขาวางสายแล้วเงียบไป ถ้ามิกมาเพื่อนต้องแซวอีกแน่ๆ พวกนี้ยิ่งชอบแกล้งอยู่ด้วย

“อะ อ๋อ เปล่าไม่มีไรหรอก เมื่อกี้เพื่อนโทรมา” โกหกไปก่อนแล้วกัน
.
.

“แก หันหลังไปดูสิว่าใครมา” ไอ้โอมหันหลังไปดูก่อนเขาอีก ตื่นเต้นทำไมคิดว่าใครจะมาหรือไง

“โอ้ว ของดีเลยแหละเพื่อน ตรงมาทางนี้ด้วยนี่หว่า” ก็ใช่น่ะสิเมื่อกี้โทรมา บอกว่าจะมาหาที่นี่ มิกพาน้องมิ้นท์มาด้วย อย่าบอกนะว่านี่คือตัวการตั้งเพจนี้ขึ้นมา

“สวัสดีค่ะพี่กาย สวัสดีค่ะพี่ๆ หนูชื่อมิ้นท์ค่ะ เป็นน้องสาวของพี่มิก”

“เอ่อ ผมขอยืมตัวกายสักครู่นะครับ เดี๋ยวมาส่งคืน” อะไรเนี่ย มาแล้วก็ไปแถมยังเอาเขาไปด้วยอีก ไม่เห็นหรือไงว่ากำลังอ่านหนังสืออยู่ แต่ไม่โกรธหรอก อิอิ

โอมกับมีมี่แต่พยักหน้าแล้วก็มองเพื่อนถูกลากห่างออกไป ก่อนจะหันมายิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย สงสัยเพื่อนเราจะสมหวังแล้วล่ะมั้งคราวนี้
.
.

“จะลากไปถึงไหนนี่ คุยตรงนี้ก็ได้มั้ง” กันต์ธีร์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเดินออกมาไกลเกินไปแล้ว

“อ่ะ ขอโทษครับ” แล้วทำไมต้องมาพูดครับกับเขานี่ สงสัยเพราะอยู่ต่อหน้าน้อง

“พี่กายคะ เรื่องเพจหนูขอโทษนะคะ หนูเป็นคนตั้งเองแหละมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ คือหนูชอบพี่สองคนอยู่ด้วยน่ะค่ะ เลยอยากลองทำอะไรดูบ้าง เดี๋ยวหนูจะกลับบ้านไปปิดเพจนี้ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ ขอโทษจริงๆ”

“พี่ไม่ได้โกรธหรอก ตัวพี่เองก็ไม่ได้คิดมากอยู่แล้ว พี่ชายน้องมิ้นท์นั่นแหละ จะเสียหายหรือเปล่าตั้งเพจแบบนี้ สาวๆก็หายหมดพอดี”

“สาวที่ไหนล่ะ ไม่มีหรอก” เสียงทุ้มเอ่ยแก้ต่างให้ตัวเอง อติวิชญ์เองเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย การที่จะคบใครหรือคุยกับใครเขาจึงเลิกคุยแค่ทีละคน ถ้าไม่ถูกใจกันก็ต้องเลิกรากันไป แต่แค่ตอนนี้ยังไม่มีใครเท่านั้นเอง

“มันก็แล้วแต่มิกนะ ส่วนเรื่องเพจพี่ว่าน้องมิ้นท์ปิดก็ดี พี่เข้าใจนะว่าน้องมิ้นท์จิ้น ถูกไหม? แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงนี่นา เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจมิกผิดพอดี”

“คนอื่นจะเข้าใจยังไงก็เรื่องของเขา เรารู้ตัวเองดี” รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม..
เขาไม่คิดมากเรื่องเพจนั่น เพราะเขารู้ตัวเองดีว่าเข้าไม่ได้เป็นอะไรกับเรา ไม่แม้แต่จะคิด

Tru.. Tru.. Tru..

“ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะ”
“ว่าไงโอม”

‘กุญแจรถอยู่ที่มึงปะ’

“อยู่ กูหยิบมาด้วย ทำไมเหรอ”

‘กูจะยืมชี๊ทของมึงไปอ่านก่อน พวกกูจะไปกันแล้ว จะเอามาคืนให้พรุ่งนี้กูกับมี่แยกกันแล้วมึงคุยธุระต่อเถอะ เจอกันพรุ่งนี้ บายเพื่อน’

“อืม” ดีเหมือนกันเขาจะได้กลับเลย ขืนอยู่ต่อเพื่อนคงได้เห็นอาการไม่ปกติของเขาเป็นแน่

“ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเรากลับแล้วนะ พี่ไปนะน้องมิ้นท์” หลังจากวางสายหันมาบอกลา พร้อมกับโบกมือให้น้อง เห้อ ยังไม่อยากกลับบ้านเลย คงต้องไปหาอะไรทำก่อนดีกว่า ไม่งั้นอย่างนั้นฟุ้งซ่านแน่ๆ
.
.


[Mick’s Part]

“ไม่ตามเหรอ ยังคุยกันไม่จบนี่นา” กันต์ธีร์เดินห่างจากเขาไปเรื่อยๆ เป็นไรก็ไม่รู้ อยู่ๆก็รีบไปเลย

“ยังยืนเฉยอยู่อีก รีบไปที่จอดรถเร็ว เห็นไหมพี่กายกำลังเดินไป” ร่างเพรียวเดินไปทางที่พวกเขาเดินมาเมื่อสักครู่ คงจะไปทานลานจอดรถ ไม่รอช้าน้องสาวลากแขนเขาตาไปเพื่อมองหาว่ารถของกายคือคันไหน

“นั่นไงๆ เบนซ์สีดำ ตามไปเลยพี่กายเขาไม่รู้หรอกว่าเป็นรถเรา” หลังจากที่ก้าวขึ้นรถ ประจำที่คนขับอติวิชญ์ก็ขับรถตามรถของกายออกไปจากมหาวิทยาลัย ซึ่งมันไม่น่าสงสัยอยู่แล้วว่ามีใครขับตามหรือไม่ ก็ใครๆเขาก็ออกจากมหาวิทยาลัยทางนี้กันทั้งนั้น

หลังจากตามได้สักพักเขาก็พอรู้ว่ากายกำลังจะไปที่ไหน คงจะไป ‘ดิเอ็ม’ สินะ ว่าแต่มาเดินคนเดียวนี่นะ แทนที่จะรอเพื่อนมาด้วยกัน

“รู้แล้วนี่ว่าเขาไปไหน พวกเราก็กลับบ้านกันเถอะ” เขาเอ่ยบอกน้องสาว

“มิ้นท์อยากซื้อของ ค่อยกลับก็ได้ นี่เพิ่งจะบ่ายโมงเอง”

“ก็ได้ๆ รีบซื้อรีบกลับนะ”

“ก็อยู่ที่ว่าของที่อยากได้มันอยู่ตรงไหน เพราะมิ้นท์ก็จำไม่ได้เหมือนกัน ต้องเดินหาอะ”
.
.

[Guy’s Part]

รถยนต์คันหรูคันหลังนี่มาทางเดียวกับกันต์ธีร์ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยแล้ว สงสัยคงจะมาเดินเที่ยวที่นี่ล่ะมั้ง ตอนแรกก็สงสัยแต่ตอนนี้เฉยๆ เพราะคิดว่าเรื่องบังเอิญมันเกิดขึ้นได้ อีกอย่างๆใครก็มาเดินซื้อของที่นี่กันทั้งนั้น

เขาเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้า คิดว่าเดินเล่นเรื่อยๆอาจจะได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านพอได้ซื้อของคงจะหายเศร้าซึมบ้าง แต่จะเครียดเพราะราคาของแทน แต่ก็ไม่เป็นไรอีกนั่นแหละเพราะพ่อเขารวย อิอิ

“ดูกระเป๋าสักใบดีกว่า” ก้าวขาเข้าไปในร้านกระเป๋าชื่อดัง พนักงานเข้ามาต้อนรับเขาก่อนจะเดินหายกัน ดีเหมือนกันไม่ต้องมาเดินตามให้ลำบากใจ อยากเดินเลือกคนเดียว
“ใบนั้นราคาสูงนะคะน้อง เป็นคอลเลคชั่นใหม่ด้วย ลองดูคอลเลคชั่นเก่าไหมคะ เพราะช่วงนี้มีโปรโมชั่นลดราคาอยู่ค่ะ เหลือราคาหลักพันเท่านั้นเองนะคะ” ระหว่างที่เขาหยิบกระเป๋าขึ้นมาดู ก็มีเสียงพนักงานผู้หญิงดังขึ้นมา เห็นเขาใส่ชุดนักศึกษาคงคิดว่าเขาไม่มีปัญญาซื้อล่ะมั้ง จะคิดแบบนั้นก็ตามใจ เขาเป็นคนไม่ชอบต่อล้อต่อเถียงกับใคร ชอบแสดงให้เห็นมากกว่า..ยกเว้นมิกไว้คนหนึ่งแล้วกัน

“เหรอครับ” ตอบรับไปแค่นั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าใบนั้นส่งให้พนักงานคนอื่นไปใส่กล่องเพื่อคิดเงิน แล้วก็เดินผ่านพนักงานหญิงคนนั้นไป คงไม่ได้รับการอบรมสินะว่าต้องมีใจบริการ ลูกค้าจะซื้อไม่ซื้อก็เรื่องของเขา

พอได้ของแล้วก็ออกมาทันที ไปร้านอื่นต่อดีกว่า กระเป๋าเงินใกล้ขาดแล้วคงต้องหาใบใหม่เอาไว้เปลี่ยน

“อ้าว พี่กาย มาซื้อของหรือคะ ได้อะไรบ้าง” บังเอิญเจอน้องมิ้นท์กับพี่ชายคนรองของเธอ

“ครับน้องมิ้นท์ เพิ่งได้กระเป๋าใบเดียวเอง พี่ว่าจะไปดูกระเป๋าเงินใหม่ด้วยน่ะ ขอตัวนะ” ขอทำตัวเสียมารยาทหน่อยแล้วกัน เสียใจอยู่ยังไม่อยากเจอ

“เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นดีเลยค่ะ เดี๋ยวมิ้นท์ไปช่วยเลือก ร้านข้างหน้านั่นกระเป๋าเงินผู้ชายสวยๆทั้งนั้นเลย” พูดจบก็ลากแขนเขาตรงไปที่ร้านพร้อมกับพี่ชายของเธอ

ระหว่างที่เลือกกระเป๋าเงินอยู่นั้น น้องก็มีท่าทางหลุกหลิกอย่างเห็นได้ชัด กันต์ธีร์เงยหน้ามามองอย่างสงสัยในที

“เดี๋ยวมิ้นท์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวเดียวนะคะ ลืมไปว่าปวดน่ะ แหะๆ พี่มิกช่วยเลือกไปก่อนนะ เดี๋ยวมาค่า” ว่าแล้วก็ปล่อยให้เขาอยู่กับอีกคนตามลำพัง ไปดูร้านอื่นดีกว่า วางกระเป๋าที่เลือกอยู่ลงไปบนชั้นวางเหมือนเดิมก่อนจะเดินออกจากร้าน จู่ๆก็มีเสียงทุ้มพูดขึ้นมา

“ใบที่วางลงไปเมื่อกี้สวยดี เหมาะกับกายนะ” ฮะ อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย ร่างเพรียวทำหูทวนลม ไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะหยิบใบอื่นมาดู เอ๊ะ! ไหนบอกว่าจะไปร้านอื่นไง แล้วหยิบใบอื่นมาดูทำไม

“ใบนี้ก็ดีแต่เราชอบใบนั้นมากกว่า” แล้วนี่จะเดินตามมาทำไม คนเขาไม่อยากพูดด้วยอยู่นะ

“ชอบก็ซื้อสิ มาบอกเราทำไม”
.
.
“นี่ เราให้” ยื่นถุงกระดาษของร้านมาให้ ข้างในมีกระเป๋าเงินใส่กล่องไว้อย่างดี

“ให้ทำไม” ทำอย่างกับรู้ว่าเขางอนเลยจะง้ออย่างนั้นล่ะ

“ขอโทษ .. ที่พูดไม่ดีเมื่อตอนเที่ยง” ช็อกครับท่านผู้ชม

“ไม่ได้โกรธสักหน่อย” แค่งอนเฉยๆ

“ไม่โกรธแต่งอน” เสียงทุ้มเอ่ยขำๆ บ้าสิ ทำอย่างกับเป็นแฟนกัน

“คุยอะไรกันคะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย”

“เปล่า” น้องมองหน้าพี่ชายแล้วยิ้มอย่างรู้ทัน

“พี่กายได้กระเป๋ายังคะ” แล้วก็หันหน้ามาถามกันต์ธีร์ด้วยสีหน้าอมยิ้ม หรือน้องมิ้นท์จะเห็นเขาทำหน้าแปลกๆอยู่ หน้าต้องแดงมากแน่ๆเลย

“อะ อ่อ .. ได้แล้วๆ เดี๋ยวพี่ว่าจะกลับแล้ว ได้ของครบแล้วน่ะ บังเอิญว่าคุณพ่อพี่โทรตามด้วย ไปนะ” หันไปโบกมือให้สองพี่น้องก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว จะใช้ดีไหมหรือจะเก็บใส่กล่องเอาไว้ดี ของขวัญจากมิกเชียวนะ ไม่ล่ะเขาตัดสินใจแล้ว ใช้อย่างทะนุถนอมแล้วกัน
.
.

[Mick’s Part]

“จะมีความสุขอะไรขนาดนั้น ขับรถเฉยๆก็มีความสุขเหรอ” น้องสาวของอติวิชญ์เอ่ยขณะรถติดไฟแดง

“เปล่านี่ พี่ก็ยิ้มไปเรื่อยนั่นแหละ” นึกถึงคนขี้งอนแล้วตลกดี บอกว่าไม่ได้โกรธแต่พอเขาให้ของจับไว้ไม่ยอมปล่อยเลย ดูๆไปกายก็ชอบทำตัวน่ารักนะนี่ เป็นคนหล่อที่ทำตัวมุ้งมิ้งได้เข้ากันจริงๆ

“นั่นแน่ มีอะไรบอกน้องมาเดี๋ยวนี้” น้องคาดคั้นต้องการคำตอบให้ได้ อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมาก แค่เพื่อนซื้อของขวัญให้กันก็เท่านั้นเอง
“พี่ก็แค่ซื้อกระเป๋าเงินให้กายเฉยๆ”

“ก็แค่นั้นแหละ .. ฮะ ซื้อกระเป๋าให้พี่กาย ซื้อให้เนื่องในโอกาสอะไร”

“ก็ขอโทษเรื่องเมื่อเที่ยงที่พี่พูดไม่ดี”

“ทุ่มสุดตัวเลยเนอะ ซื้อของขวัญง้อกันด้วย”

“ก็เพื่อนกันซื้อของขวัญให้กันไม่เห็นแปลก”



[Mint’s Part]

“เพื่อนมากเลยเนอะ” กรี๊ด รูปที่แอบถ่ายว่าฟินแล้ว พอมารู้ว่าซื้อของให้กันฟินยิ่งกว่า อย่างนี้เพจก็ไม่ต้องปิดแล้วน่ะสิ ดีใจที่สุดในโลกเลยค่ะ

“ก็เพื่อนน่ะสิ” ย่ะ เพื่อนก็เพื่อน

“ถ้าเพื่อนก็เลิกยิ้มได้แล้ว เห็นแล้วหมั่นไส้”

“นี่พี่ชาย ถึงเป็นมากกว่าเพื่อนน้องก็โอเคนะ รับได้ ยินดีมากด้วย” ก็แหงสิ ไม่อย่างนั้นจะทำเพจขึ้นมาทำไม ฮิฮิ

“เพ้อเจ้ออะไรของแก ยัยมิ้นท์”

“ไม่ได้เพ้อเจ้อ พูดความจริงนะ” กรี๊ด พี่ชายหน้าแดงด้วย ตั้งแต่เกิดมานับครั้งได้เลยเวลาพี่ชายเขิน เพราะเวลาเขินเขาจะชอบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่มันกลบหน้าที่แดงๆของพี่ไม่ได้หรอกนะ รู้ไว้ซะด้วย

“เอ้า ถึงบ้านแล้วลงไปเร็วๆเลยยัยลูกหมู” ไม่โกรธหรอกวันนี้ เพราะว่ามีความสุขมาก

ล้า.. ลา.. ลา
.
.

[Guy’s Part]

หลังจากที่กันต์ธีร์กลับถึงบ้าน เขาเข้าไปเก็บของที่ห้องนอน ก่นจะเปลี่ยนชุดไปออกกำลังกายที่ยิม เขาวางแผนว่าวันนี้จะออกกกำลังกายไม่หนักมาก เพราะอยากว่ายน้ำด้วย เดี๋ยวจะเพลียจนหมดแรงซะก่อน

กันต์ธีร์ใช้เวลานานพอสมควรกับการออกกำลังกาย มองไปที่นาฬิกาของยิมบอกเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว เขาจึงตัดสินใจไปล้างตัว แล้วเปลี่ยนชุดออกจากยิมกลับไปที่ห้อง เมื่อถึงห้องเจอพ่อกับย่านั่งดูข่าว ข้างๆมีพี่ดาวนั่งนวดแขนให้ย่าอยู่ ย่าของเขาชื่นชอบการนวดเป็นชีวิตจิตใจ เวลาว่างของท่านมักจะไปสปา ท่านชอบกลิ่นหอมของเทียนเพราะมันช่วยให้ท่านสดชื่น

ที่บ้านของเขามีแม่บ้านสองคนคือป้าเดือนกับพี่ดาวเป็นแม่ลูกกัน คุณย่าท่านอยากให้มีแม่บ้านที่กระฉับกระเฉงอีกสักคน เมื่อสี่ปีที่แล้วป้าเดือนเลยเสนอพี่ดาวมาอยู่ด้วย เพราะเพิ่งจบมัธยมฯหก คุณย่าเลยรับไว้เพราะเห็นว่าเป็นคนเก่าคนแก่

“มาแล้วเหรอลูก วันนี้นานเชียว จะฟิตหุ่นไปโชว์ใครหรือเปล่า” พ่อเขาชอบล้อเขาอยู่เรื่อยเลย ที่บ้านของเขามีพ่อกับย่า พ่อจึงเป็นทุกอย่างสำหรับเขาไม่ว่าจะเพื่อนหรือเป็นพี่ ซึ่งบางคนก็ยังคิดว่าพ่อเป็นพี่ชายของเขา

“เปล่าสักหน่อย กายก็แค่อยากหุ่นเฟิร์มเฉยๆ ไม่อยากจะย้อยเหมือนพ่อ”

“น้อยๆหน่อยลูกชาย พ่อยังฟิตและเฟิร์มอยู่นะ” ก็จริงอย่างที่พ่อเขาว่า เพราะพ่อยังออกกำลังกายสม่ำเสมอ พ่อรักษาหุ่นได้ดียิ่งกว่าเขาเสียอีก

“ก็ดีแล้วนะ ย่าว่าออกกำลังกายนั่นล่ะ ทำให้แก่ตัวไปไม่เจ็บไม่ไข้”

“ครับ เดี๋ยวกายขอตัวไปอ่านหนังสือก่อนนะ อาทิตย์หน้าก็สอบปลายภาคแล้ว”

“ตั้งใจนะหลานย่า” เขาเข้าไปกอดย่า หอมแก้มย่าสองฟอด ก่อนจะแอบไปหอมแก้มพ่อจากด้านหลัง
เย่! แกล้งพ่อคืนได้สำเร็จ

.
.

“ดึกแล้ว นอนดีกว่า” เหลือบมองนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน ก่อนจะเก็บชี๊ทสรุปโดยไม่ลืมขั้นหน้าเอาไว้ถึงช่วงที่อ่านค้าง ก่อนจะนอนไม่ลืมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจดูว่ามีใครโทรหาหรือส่งข้อความมาบ้างหรือเปล่า เพราะปกติเวลาอ่านหนังสือเขาชอบปิดเสียงปิดสั่นไว้

ไม่มีเบอร์โทร.เข้า เลยไล่จอดูไปเรื่อยในแอพพลิเคชั่นสนทนาสีเขียว มีข้อความของโอมที่บอกว่าจะเอาชี๊ทไปคืนพรุ่งนี้ ข้อความของมีมี่บอกว่าให้เจอกันใต้ตึกคณะตอนเที่ยง ปกติพวกเขาจะนัดอ่านหนังสือกันที่ร้านกาแฟแต่ว่าพรุ่งนี้อาจารย์นัดติวให้ก่อนสอบ

ถึงแม้ว่าจะปิดคอร์สเรียนแล้วแต่อาจารย์ของเขาก็มักจะใช้เวลาที่เหลือนักนักศึกษามาเพื่อทบทวนบทเรียนที่เรียนมาแบบหลักสูตรเร่งรัด เพื่อช่วยนักศึกษาบางคนที่ยังไม่เข้าใจในเนื้อหาบางส่วน


ครืด.. ครืด.. ครืด..

โทรศัพท์ของกันต์ธีร์สั่นเป็นสัญญาณเตือนว่ามีข้อความใหม่เข้าในถาดเข้า สิ่งที่น่าประหลาดเกิดขึ้นมีข้อความจากเบอร์ไม่คุ้นส่งมาหาเขาใจความแค่สามคำ ‘ฝัน ดี ครับ’ เขารีบเข้าไปตรวจดูว่าเคยมีเบอร์นี้โทรเข้าออกหรือไม่ แล้วเขาก็นึกอะไรออกนี่เป็นเบอร์ของมิกที่โทรหาเขาเมื่อตอนเที่ยง ตอนนั้นเสียใจจนลืมบันทึกชื่อเอาไว้

ไม่คิดไม่ฝันว่ามิกจะส่งข้อความมาหา ถ้าเป็นแบบนี้เขามีสิทธิ์เข้าข้างตัวเองได้ไหมว่ามิกก็มีใจให้เขาเหมือนกัน ทำเหมือนจะจีบเขายังไงก็ไม่รู้ รู้สึกว่าใบหน้าของเขาตอนนี้คงจะแดงมากแน่ๆ หุบยิ้มไม่อยู่เลย ถึงไม่ง่วงก็ง่วงล่ะเพราะอยากนอนหลับฝันดี

ฝันดีครับ…

“ฝัน ดี นะ” บอกกับตัวเองเบาๆ ยังไงคืนนี้ก็ฝันดีแน่นอน…



To Be Continue...



เอาตอนที่4มาเสิร์ฟแล้วครับ
พยายามแต่งให้ได้ยาว อยากให้คนอ่าน อ่านแบบจุใจ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
กดบวกหรือคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้หน่อยนะครับ
:o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 25-02-2016 17:19:03
เลิก > เลือก

****

มิกกกกกกกกกกกก ปากหนักนะเราอ่ะ โด่วเอ้ยยยยยย

แอบกระซิบบอกมิ้นท์ ไม่ต้องปิดเพจหรอกค้า หนุ่มๆเขาไม่เดือดร้อนนิ เจ้าตัวบอกเอง  :hao3:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 25-02-2016 18:38:34
น่ารักมุมิ
มิกดูจะชอบอยู่นาาา
รอดูเค้าจะจีบกันยังไง
 :mew4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 25-02-2016 18:54:53
น่ารัก มุ้งมิ้ง อิอิ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 25-02-2016 19:22:55
มีมิ้นท์สนับสนุนอยู่ที่ไปเข้าห้องน้ำคือแอบถ่ายรุป หรอออมิ้นท์ :hao3:

มิกเอ้ยยยิ้มอะไรน้อ เริ่มชอบแล้วดิ

รอตอนต่อไปปป :mew1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 25-02-2016 21:16:33
ฝันดี เช่นกัน
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 25-02-2016 21:22:00
แนะนำนะคะ ตอนใครตอนมันไปเลย สะดวกผู้เขียน แถมมันจะน่าอ่านกว่า อ่านแล้วไม่งง สนุกค่ะ รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 25-02-2016 21:55:26
สนุกมากๆๆๆ มุ้งมิ้ง ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 25-02-2016 22:07:11
น่ารักจังเลยค่ะ มุ้งมิ้งดี อิอิ
มาต่อไวๆ นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 25-02-2016 23:17:39
ยาว และเริสมากค่าาาาาาา
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 25-02-2016 23:29:31
เพื่อนกันเค้าไม่ซื้อของง้อกันหรก
เพื่อนกันเค้าไม่หน้าแดงหรอก!!  :katai2-1:
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
ยาวแค่ไหนก็ไม่พอ 555
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-02-2016 01:12:18
อร๊ายยย. ซื้อของง้อกันด้วยอะแก อิจมากๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-02-2016 10:08:34
เหมือนจะเป็นเพจสื่อรัก 555  งานดีมากค่ะน้องสาว
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-02-2016 11:57:01
ชอบน้องมิ้นท์ ฮ่าๆ ดันพี่ชายให้มีแฟนสุดๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 26-02-2016 13:55:34
น่ารักมุ้งมิ้งดี เป็นสุขต่อใจเรามาก  :-[
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 26-02-2016 19:59:34
บรรยากาศหวานๆลอยรอบตัวทั้งสองคน  :o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: thanapontigy ที่ 26-02-2016 21:19:48
มุ้งมิ้ง ชอบๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-02-2016 01:40:24
ก็เหมือนจะใจตรงกันอยู่นา มีซื้อเป๋าให้ด้วย มุ้งมิ้งๆ  :-[

น้องมินท์จัดการเลยค่ะ อัพรูปคู่ลงเพจเยอะๆ ความหวังอยู่ที่น้อง o13
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 27-02-2016 13:23:18
ขอบคุณทุกความเห็นเลยนะครับ
ตอนต่อไปจะมาต่อให้เย็นๆหน่อยนะครับ
รอหน่อยน้า

 :man1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-02-2016 14:03:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: toeyy ที่ 27-02-2016 18:39:16
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 4] [25.02.2016] [P.1]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 27-02-2016 20:07:05





-5-





“น้องมิ้นท์ ตัวแสบเอ๊ย” กันต์ธีร์สบถ ตอนนี้เขานั่งอยู่จอคอมพิวเตอร์ที่โชว์รูปคู่เขากับมิกยืนซื้อของอยู่ในห้างสรรพสินค้า ถึงแม้จะยืนหันหลังแต่เขาก็จำตัวเองได้อีกอย่างเพจนี้มันเป็นเพจคู่เขากับมิกนี่นา แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะเขาอดรู้สึกเขินไม่ได้ มองยังไงก็เหมือนคู่รักมาซื้อของด้วยกัน

กันต์ธีร์ไม่คิดที่จะปฏิเสธหากมีคนในเพจคิดว่าเขากับมิกคบกัน เพราะเขารู้ตัวเองดีว่าในชีวิตจริงมิกไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรในตัวเขา มีแค่เขาที่คิดไปเองคนเดียว แต่ตอนนี้ความรักในใจเขามันแทบปะทุออกมาแล้ว ถึงทีเขาคงต้องทำอะไรสักอย่าง อยากให้มิกได้รู้ว่าเขาชอบมิก ชอบจนอดทนไม่ไหวแล้ว

ถึงแม้มิกจะปฏิเสธไม่ว่าด้วยคำพูดหรือการกระทำ เขาอาจจะเสียใจนิดหน่อย แต่อย่างน้อยก็ได้ทำให้มิกรู้ว่าชอบ ดีกว่าปล่อยให้เวลาไปแล้วมานั่งคิดย้อนหลังว่าตอนนั้นทำไมไม่ทำ ตอนนั้นทำไมไม่พูดอะไร กันต์ธีร์ก็แอบหวังนิดๆว่ามิกจะมีใจให้เขาบ้างสังเกตจากการกระทำต่างๆ แต่ก็ไม่อยากคิดเข้าขางตัวเอง ..ลองสักตั้งจะเป็นอะไรไป ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว
.
.

สอบปลายภาคเสร็จแล้ว.. คุณย่าชวนไปไหว้พระที่จังหวัดเชียงใหม่ พ่อบอกให้เขาชวนครอบครัวลุงเขตต์ไปด้วย กันต์ธีร์ไม่มีทางปฏิเสธ ก็คงต้องโทรไปชวนมิกก่อน

“ฮัลโหลมิก คุยได้ไหม” เสียงทุ้มรับแทบจะทันทีที่เขาโทร.ไป

‘คุยได้ มีอะไรหรือเปล่า’

“สอบเสร็จหรือยัง”

‘เสร็จแล้ว จะชวนไปเที่ยวเหรอ’ มิกทำเสียงยียวน งั้นเขาลอง ‘อ่อย’ บ้างดีกว่า

“อื้อใช่ จะชวนไปไหว้พระที่เชียงใหม่”

‘จริงหรือ ไปได้ๆ จะไปวันไหน’ ถือว่าสำเร็จหรือเปล่า เพราะเสียงทุ้มตอบเขาแทบจะในทันทีที่ถาม

“จริงสิ แต่ว่า ..ชวนลุงเขตต์กับป้านภา พี่ไมล์แล้วก็น้องมิ้นท์ไปด้วยนะ”

‘ได้ๆ ทุกคนว่างหมด ..เราคิดว่าจะได้ไปกันแค่สองคนซะอีก’ เสียงทุ้มพูดในลำคอจนกันต์ธีร์แทบจับใจความไม่ได้เลยว่ามิกพูดอะไร

“ฮะ พูดว่าอะไรมุบมิบ”

‘เปล่า แล้วจะไปกันวันไหน จะได้เตรียมตัว’

“เดินทางเช้าวันศุกร์ ย่าอยากให้ขับรถไปกันเอง แต่ถ้าที่บ้านมิกไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ”

‘สะดวกสิ ไม่มีปัญหาหรอก’

“โอเค อย่าลืมบอกคุณลุงคุณป้านะ อ้อ ถ้าอยากกันไปสองคนค่อยมาชวนเราครั้งหน้านะ ครั้งนี้กับครอบครัวก่อน บายนะมิก” พูดจบก็ตัดบทวางสายไปเลย พูดเองก็เขินเอง ตอนพูดไม่ได้คิดอะไรแต่ตอนนี้คิดแล้ว วันศุกร์นี้จะทำยังไง ถ้าเจอหน้ากันคงต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ..ตอนนี้ร้อนหน้าชะมัด!
.
.

ในที่สุดวันศุกร์ก็มาถึง ครอบครัวของกันต์ธีร์รออยู่ที่บ้าน เพราะหลังจากวันนั้นลุงเขตต์โทร.มาบอกพ่อของเขาว่าจะมารับที่บ้าน ครอบครัวของมิกให้คนขับรถตู้ไป คุณป้านภาชวนอยู่เที่ยวต่อหลังจากไหว้พระเสร็จ คุณย่าของเขาไม่ปฏิเสธเพราะนานๆทีจะได้มาเที่ยวต่างจังหวัด

ยิ่งใกล้ถึงเวลามารับกันต์ธีร์ยิ่งตื่นเต้น เขารู้สึกเหมือนจะเป็นลมตลอดเวลา เริ่มไม่อยากไปแล้วสิ ..ไม่ได้ๆ ทำอะไรก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา สูดหายใจเข้าลึกๆ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง

“ไปกันลูก รถเขามารับแล้ว ไม่ลืมอะไรแล้วนะ” เสียงพ่อปลุกเขาจากภวังค์ ได้เวลาถูกเชือดแล้ว

“ไม่ลืมครับ ถ้าลืมค่อยไปซื้อเอาข้างหน้า”

“ลูกก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วทำไมไม่เตรียมไปให้พร้อมเลย” รู้สึกว่าช่วงนี้พ่อขี้บ่นจังเลย เห้อ..

“ไม่ลืมแน่นอนครับ ไปกันเถอะครับย่า ไม่สนใจคนแก่ขี้บ่นหรอก” ถ้าอยู่กับย่าพ่อทำอะไรเขาไม่ได้หรอก

“ว่าพ่อแก่เหรอ ยังหนุ่มยังแน่นนะ เดี๋ยวก็ตัดค่าขนมหรอก” เสียงพ่อบ่นไล่หลังเขามาติดๆ ไม่เป็นอะไรหรอก เขามีย่าอยู่ทั้งคน

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันหลานฉันเอง”

“โธ่แม่ครับ ต้องเข้าข้างผมสิ ผมเป็นลูกแม่นะ”

“แต่นี่หลานฉันนะ” เป๊ง! ย่าชนะ!
.
.

“สวัสดีครับพี่เขตต์ พี่นภา” ลุงเขตต์พยักหน้าให้พ่อของเขา แล้วหันยกมือไหว้คุณย่าของเขา

“สวัสดีครับคุณสุภางค์”

“สวัสดีค่ะจักร สวัสดีค่ะคุณสุภางค์” ป้านภาก็ทักทายเช่นเดียวกัน

“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า” กันต์ธีร์เองก็ไม่ลืมที่จะทักทายผู้ใหญ่เช่นเดียวกัน

“เรียกฉันว่าแม่ก็ได้ ไหนๆก็เป็นคนกันเอง” ย่าของเขาบอกลุงเขตต์กับป้านภา

“ครับ/ค่ะ”

“ส่วนหลานๆ เรียกฉันว่าย่าแล้ว คิดสะว่าฉันเป็นญาติผู้ใหญ่อีกคน”

“สวัสดีครับ/สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ” สามพี่น้องยกมือไหว้ทักทายย่ากับพ่อของกันต์ธีร์ ส่วนตัวเขายิ้มทักทายพี่ไมล์กับน้องมิ้นท์ แต่ก็ไม่ลืมอีกคน

“ทักทายกันเสร็จแล้วก็ขึ้นรถเถอะครับจะได้เดินทางกัน มิกช่วยกายขนกระเป๋าไปเก็บหน่อยลูก” คุณลุงเขตต์ชวนทุกคนขึ้นรถ ส่วนอติวิชญ์มาช่วยกันต์ธีร์ยกกระเป๋าไปเก็บที่ท้ายรถ ระหว่างที่เก็บก็ไม่ใครพูดอะไรถึงเรื่องวันนั้น อันที่จริงไม่ได้พูดกันเลยมากกว่า

รถตู้ออกจากเมืองหลวงมุ่งสู่จังหวัดเชียงใหม่ พอถึงเขตชานเมืองลุงเขตต์ก็ให้แวะปั๊มเพื่อซื้อขนมขบเคี้ยวไว้กินระหว่างทางเผื่อทุกคนจะหิว น้องมิ้นท์ชวนกันต์ธีร์ไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อ ส่วนคนอื่นๆไปเข้าห้องน้ำกัน

กันต์ธีร์เดินเลือกซื้อน้ำผลไม้ไปทุกคน ส่วนย่าของเขาอยากดื่มนมถั่วเหลือง แล้วก็ไม่ลืมซื้อกาแฟกระป๋องไปฝากคนขับรถของลุงเขตต์ด้วย เขาเลือกแซนด์วิชไปไว้ทานรองท้องและซื้อฝากทุกคนอย่างเหลือเฟือ ระหว่างที่เลิกอยู่เขาก็ถอยหลังไปชนคนที่ยืนเลือกอยู่ดานหลังเขา

“โอ๊ะ ขอโทษครับ อ้าวมิกเรากำลังซื้อขนมพอดีเลย แล้วน้องมิ้นท์ล่ะ”

“ซื้อเสร็จแล้วเลยออกไปแล้ว”

“แล้วกัน ไม่ยอมรอเราเลย แล้วนี่จะมาซื้ออะไร”

“พี่ไมล์ฝากซื้อหมากปลาเส้นน่ะ”

“ไปหยิบมาสิเดี๋ยวจ่ายรวมกันเลย” พูดจบก็เดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อชำระเงิน

“แซนด์วิชอุ่นไหมคะ คิดรวมเลยนะคะ” มิกเดินกลับมาพร้อมกับห่อปลาเส้นพอดี เขาวางรวมกับขนมที่กันต์ธีร์เลือกซื้อมา

“อุ่นครับ แล้วคิดรวมกันเลย กลับไปรอที่รถก็ได้คิดเงินเสร็จเดี๋ยวเราตามไป” ตอบคำถามพนักงานแล้วหันมาบอกคนข้างหลัง ไม่รู้จะมายืนรอทำไม

“ไม่อะ จะรอ”

“ตามใจ”

“ทั้งหมดสองร้อยสี่สิบเอ็ดบาทค่ะ” กันต์ธีร์หยิบกระเป๋าเงินมาหาเหรียญบาทแต่ไม่มีเลย เขาเป็นคนไม่ชอบรับเงินทอนเป็นเหรียญบาทจึงชอบจ่ายเงินตามจำนวนเศษแล้วค่อยรับเงินทอนเป็นธนบัตรหรือเหรียญห้าบาทสิบบาทแทน

“มิกมีเศษเหรียญบาทเปล่า ขอหน่อยดิ” อติวิชญ์หยิบเหรียทบาทออกมาจากกระเป๋ากางเกงส่งให้เขา
“รับเงินมาห้าร้อยหนึ่งบาทนะคะ เงินทอนสองร้อยหกสิบบาทค่ะ แซนด์วิชรอสักครู่นะคะ” กันต์ธีร์รับเงินทอนเสร็จก็มารอแซนวิชกับอติวิชญ์ ระหว่างนี้ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกันแค่ยืนรอแบบเงียบๆ

“แซนด์วิชได้แล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่ะ” เขารับถุงแซนด์วิช แล้วเดินนำอติวิชญ์ออกจากร้านไป พอถึงรถเขาก็แจกจ่ายขนมและน้ำให้กับทุกคน แล้วเดินเข้าไปที่นั่งหลังสุดเขาเลือกนั่งคนเดียว คุณป้านภานั่งข้างหลังคนขับคู่กับคุณย่าเขา คุณลุงกับพ่อนั่งคู่กันถัดมา ส่วนสามพี่น้องนั่งเรียงกันสามคนข้างหน้าเขา แต่แล้วจู่ๆมิกก็ย้ายมานั่งเบาะหลังกับเขา

“อ้าว ทำไมมานั่งนี่ล่ะ”

“พี่ไมล์จะนอน บอกว่าเรานั่งด้วยแล้วอึดอัด”

“อยากนั่งกับเราก็บอก ไม่ต้องเอาพี่ไมล์มาอ้างหรอก” ปฏิบัติการอ่อยกลับมาอีกครั้ง

“อืม อยากนั่งด้วย แล้วให้นั่งหรือเปล่า” เจอหมัดฮุกสวนกลับมาเต็มๆ

“ตามใจดิ รถที่บ้านมิกนี่” กันต์ธีร์ทำทีเป็นหลับที่เบาะฝั่งขวาสุด ส่วนอติวิชญ์มองเขาด้วยสายตาที่ไม่สามารถบอกความรู้สึกได้ ก่อนจะยกยิ้มุมปากเบาๆ ทั้งสองไม่ได้เอะใจเลยว่ามีใครบางคนกำลังหูผึ่งแอบฟังบทสนทนาของพวกเขา หึหึ คุยกันขนาดนี้เพจไม่มีความหมายเลย ตอนนี้ความรู้สึกอาจจะแน่ชัดแล้ว เหลือแค่ท่าทีที่แสดงออกยังยึกยักกันทั้งคู่

กันต์ธีร์รู้สึกตัวตื่นตอนที่ทุกคนหลับกันหมดแล้ว  มองออกไปข้างทางเริ่มเขาสู่เขตภูเขาสูง รอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้สูงต่ำเรียงรายกันไปตลอดข้างทาง เขามองนาฬิกาบอกเวลาบอกเวลาหนึ่งทุ่มคงใกล้ถึงแล้วเพราะออกมาตั้งแต่แปดโมงเช้า ถือว่าพี่สมคนขับรถของบ้านมิกขับรถเร็วพอสมควร

พอถึงบ้านพักของเขา  พ่อจัดการแบ่งห้องนอนโดยให้ลุงเขตต์กับป้านภาและน้องมิ้นท์นอนด้วยกัน พี่ไมล์นอนกับมิก เขานอนกับพ่อและย่า ส่วนพี่สมนอนห้องเล็กข้างล่าง ก็ถือว่าลงตัวล่ะนะ บ้านหลังนี้เป็นบ้านแบบสมัยใหม่สองชั้น มีสามห้องนอนและมีห้องน้ำในตัว ชั้นล่างมีห้องนอนเล็กสำหรับแขก มีหนึ่งห้องน้ำ มีห้องครัว ห้องทานอาหาร ห้องรับแขก ถือว่าเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง

คุณย่าของเขาซื้อบ้านพักไว้ที่นี่หนึ่งหลังเพราะท่านชอบมาไหว้พระที่จังหวัดเชียงใหม่ วัดที่จะไปนี้ลือเลื่องเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าใครที่อธิษฐานขอสิ่งต่างๆ ทุกอย่างที่ขอจะสัมฤทธิ์ผลโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ จึงไม่แปลกที่ประชาชนจะเลื่อมใสศรัทธา
.
.

กันต์ธีร์ตื่นนอนตอนเช้า..ได้ยินเสียงอาบน้ำของใครสักคน หลังจากบิดขี้เกียจได้สักพัก พ่อก็ออกมาจากห้องน้ำ

“พ่อ ย่าล่ะครับ”

“ย่าไปตลาดกับพี่นภา ซื้อของมาทำอาหารเช้า” ปกติย่าของเขาเป็นคนตื่นเช้าเสมอ ท่านชอบตื่นมาทำกับข้าวให้ลูกหลานทาน

“ลูกลองไปดูคนอื่นสิว่าตื่นหรือยัง ป่านนี้ย่าน่าจะกลับมาทำอาหารเช้าแล้ว”

“ครับ” รับคำแล้วเดินออกจากห้องนอน ไปที่ห้องนอนของลุงเขตต์ เคาะประตูสามครั้ง มีเสียงขานรับจึงเปิดเข้าไปพบน้องมิ้นท์นอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ ส่วนลุงเขตต์คงอาบน้ำ ทักทายกันพอสมควรแล้วจึงไปอีกห้องต่อ

ห้องนี้เคาะแล้วไม่มีเสียงตอบรับจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไป เห็นสองพี่น้องยังนอนหลับอุตุอยู่ กันต์ธีร์เดินเข้าไปเขย่าตัวมิกเบาๆหวังให้เจ้าตัวรู้สึกตัว

“มิกตื่นได้แล้วนะ ปลุกพี่ไมล์ด้วย คุณย่ากับป้านภาเตรียมอาหารเช้าอยู่ข้างล่าง” เมื่อเห็นร่างสูงขยับตัว ลืมตาขึ้นมามองเขา จึงเอ่ยบอกเบาๆ กำลังจะลุกออกไปแต่ก็ได้ยินเสียงทุ้มบอกอรุณสวัสดิ์

“อรุณสวัสดิ์นะกาย”

“อรุณสวัสดิ์มิก รีบลุกมาอาบน้ำนะ” เขาคงต้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วค่อยลงไปข้างล่าง เพราะขืนช้าเดี๋ยวไปวัดสายกันพอดี

อาบน้ำเสร็จแล้วกันต์ธีร์ก็ลงไปชั้นล่างพบพ่อ ย่า ลุงเขตต์และป้านภานั่งอยู่ก่อนแล้ว ทักทายกันพอหอมปากหอมคอย่าจึงให้เขาเข้าไปตักข้าวต้มกุ้งอาหารเช้าของวันนี้ ..ทานไปนั่งฟังผู้ใหญ่คุยกันไปก็สนุกดีเหมือนกัน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน” เสียงน้องมิ้นท์มาพร้อมร่างเพรียวเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร

“จ้ะ หนูมิ้นท์ไปตักข้าวต้มทานเองเลยนะ อยู่ในครัว” คุณป้านภาบอกกับลูกสาว เจ้าตัวทำท่าเคารพแบบทหารแล้ววิ่งเข้าไปในห้องครัว

“รับทราบค่ะ”

“แล้วเมื่อไหร่พี่ๆเราจะลงมาล่ะมิ้นท์” ลุงเขตต์ถามน้อง เพราะเห็นว่าลูกชายสองคนยังไม่ลงมาสักที

“มิ้นท์บอกแล้ว เดี๋ยวก็ลงมาค่ะ อุ๊ย!นั่นไง มาพอดีเลย”

“สวัสดีครับทุกคน” พี่ไมล์ทักทุกคนอย่างร่าเริง  ส่วนอีกคนก็ทักแบบเรียบตามประสา

“สวัสดีตอนเช้าครับ”

“รีบทานอาหารเช้า จะได้ออกไปไหว้พระกัน ตอนค่ำแม่อยากไปเดินตลาดค่ะ”

หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จทุกคนก็เดินทางไปวัดชื่อดัง วัดนี้ตั้งอยู่ภูเขาถ้ามองจากถนนขึ้นไปบนเขาก็จะมองเห็นแสงสีทองอร่าม สะท้อนกับแสงอาทิตย์  บรรยากาศในวัดเต็มไปด้วยผู้คนที่มาสักการะพระพุทธรูป วันนี้เป็นวันหยุดคนเลยเยอะเป็นพิเศษ ถึงทางวัดจะทำที่สักการะให้กว้างขวางมากขึ้นแต่ก็ไม่เพียงพอต่อจำนวนคนที่มาอย่างไม่ขาดสาย

ทุกคนต่างขอพรสิ่งที่ตัวเองอยากสมหวังรวมถึงตัวกันต์ธีร์ด้วย เขาขอให้ตัวเองและคนรอบข้างสุขภาพแข็งแรงอยู่กับเขาไปนานๆ ส่วนเรื่องความรักก็ขอให้สมหวังกับคนนี้แล้วกัน สาธุ~

ช่วงที่พวกเขามาตรงกับสัปดาห์ของวันมาฆบูชาพอดี ที่วัดเลยมีการจัดเป็นงานวัดตอนกลางวันมีกิจกรรมให้ทำบุญมากมายส่วนตอนกลางคืนจะจัดกิจกรรมให้ประชาชนที่มาได้ร่วมสนุกกันได้ทั้งบุญทั้งความสุขกลับบ้านกันอย่างถ้วนหน้า

พอตกเย็นพวกเขาก็ออกจากวัด มุ่งสู่ตลาดที่ชาวเชียงใหม่ชอบมาเดินกัน ผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ในตลาดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร้านรวงต่างๆมากมายทั้งของกินและของใช้ ทุกคนตกลงกันว่าจะแยกกันเดินแล้วมาเจอที่รถ พ่อกับลุงเขตต์ขอรออยู่ที่รถกับพี่สม พวกเราแยกกันเดินคนละซอย สาวๆเดินไปหาซื้ออาหารเย็น กันต์ธีร์ว่าจะเดินดูสายรัดข้อมือแฮนด์เมดเพราะเขาเคยได้ยินว่าที่ตลาดแห่งนี้มีขาย พี่ไมล์อาสาไปช่วยสาวๆถือของส่วนมิกไปเดินดูของคนเดียว ระหว่างที่กันต์ธีร์เดินเขาสังเกตเห็นคู่รักมากมายเดินตลาดทั้งคู่ชายหญิง ชายชายหรือแม้กระทั่งหญิงหญิงก็มี เขาคิดเสมอว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม ชายรักชายหรือหญิงรักหญิงไม่ใช่ความผิด เขายอมรับว่าเขาเป็นเกย์ เขาชอบผู้ชายและคนที่เขาชอบอยู่คือมิก ภาพคู่รักหยอกล้อกันบนถนนทำให้กันต์ธีร์อดยิ้มไม่ได้ จะบอกว่าอิจฉาก็ใช้เพราะเขาก็อยากมีบ้าง

เหมือนสววรค์มีตาถึงส่งคนนั้นมาให้เขา เขาเห็นมิกกำลังเดินมาทางนี้ ข้างหน้าเป็นร้านสายรัดข้อมือพอดีเขารีบเลี้ยวเข้าไปในร้านนั้น เดินดูของในร้านไปเรื่อยๆ มิกคงไม่ทันสังเกตเห็นเขา แต่ความจริงแล้วมิกเข้ามาอยู่ในร้านแล้วต่างหาก

“ใจตรงกันเนอะ” กันต์ธีร์พูดเบาๆกับตัวเอง

“เปล่า เราเห็นเลยตามเข้ามา” เห้ย จะสิงเขาอยู่แล้ว ออกไปยืนห่างๆไป

“ตามมาทำไม จะซื้อเหมือนกันเหรอ”

“อืม จะซื้อให้คนๆหนึ่งน่ะ” ซื้อให้ใครอีกล่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่าซื้อให้เรา กันต์ธีร์ได้แต่คิดในใจ

“เหรอ บอกได้หรือเปล่าว่าใคร จะได้ช่วยเลือก”

“ก็ตัวสูงๆหน่อยแต่ไม่สูงเท่าเรา ผิวขาวๆยิ้มสวยๆ ปกติเราเห็นเขาใช้แต่ของแพงๆเลยอยากซื้อสายรัดนี่ให้เขาใส่บ้าง” ใครกันนะที่มิกจะซื้อของให้ แต่เอ๊ะ! ตัวสูง คนๆนั้นเป็นผู้ชายเหรอ มิกจะซื้อของให้ผู้ชายเหรอ ทำไมล่ะ ทำไมไม่เป็นเขา เขาก็ขาว เขาก็สูงแถม(พ่อ)รวยอีกต่างหาก

“คนนั้นเป็นผู้ชายเหรอ”

“ใช่”

“อยากเห็นจังว่าเป็นใคร มิกมีรูปเปล่าขอดูบ้างสิ” หึหึ นี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ อติวิชญ์ได้แต่ขำในใจ คนอะไรบทจะซื่อก็ซื่อจังเลย

“ไม่มีหรอก รอดูตัวจริงก็ได้”
“เขาอยู่ที่เชียงใหม่เหรอ”

“ถ้าตอนนี้ล่ะก็ใช่” จะใช่เขาหรือเปล่า แต่ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง

“อือ เดี๋ยวเราช่วยเลือกแล้วกัน” หงอยทำไมล่ะนั่น ยังไม่รู้ตัวอีกว่าเป็นตัวเอง คิดไปไหนนี่

“สีน้ำตาลนี้ก็สวยดีนะ เราชอบ”

“อืม เอาอันนี้แหละ” หึหึ เข้าแผนเข้าแล้ว กันต์ธีร์ลิงโลดในใจ

“ที่ร้านเขารับสลักชื่อด้วยนะ เดี๋ยวเราไปรอข้างนอกแล้วกัน … เผื่อมิกจะให้เขาสลักชื่อเราจะได้ไม่เขิน”

“หึหึ กว่าจะรู้ตัวนะไอ่หมีเอ๊ย” ถ้าเขาหมีนายก็ยักษ์แล้วมิก ฮ่าๆ

“นี่จีบเราอยู่เหรอไอ่ยักษ์ ฮ่าๆ”

“คนเขาแสดงออกขนาดนี้คงคิดแค่เพื่อนมั้ง”

“ฮ่าๆ” ตัวเขาก็ได้แต่หัวเราะแก้เขิน ถ้าขอเป็นแฟนตอนนี้ก็ยอมเลยด้วยซ้ำ

“หัวเราะแล้วให้จีบเปล่า”

“จีบเรา ใจต้องป๋านะ”

“เหรอ พี่ครับขอเหมาหมดร้านนี้เลย คนนี้เขาอยากได้ ..แบบนี้ป๋าพอเปล่า” พูดจบก็หันไปบอกเจ้าของร้าน แล้วก็หันมากระซิบเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน

“เห้ย บ้าดิ อันเดียวก็พอแล้ว พี่ครับคนนี้เขาพูดเล่นนะ” แค่รู้ว่าโดนจีบอยู่กันต์ธีร์ก็ดีใจมากแล้ว ไม่ต้องป๋าเขาก็ยอม ยอมตั้งแต่แรกเลยด้วย ให้ตายเถอะศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เพิ่งกลับจากขอพรที่วัด ตอนเย็นถูกจีบเลย อย่างนี้แสดงว่ามิกชอบเขา เขาเองก็ชอบมิกแต่เขาไม่กล้าจีบมิกก่อนเพราะกลัวเงิบ ตอนนี้โดนจู่โจมจากเจ้าตัวก็ขอเล่นตัวหน่อยแล้วกัน

สักสองวันพอไหม…





To Be Continue…




มาแล้วตอนที่ 5
ช้าไปนิด เพราะเพิ่งถึงบ้าน

อ่านให้สนุกนะคร้าบ~~

หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 5] [27.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 27-02-2016 20:51:05
 สองวันานไปสองชั่วโมงพ่อ  อิอิอ

มิกคนจริงอะชอบปุ๊บจีบปั๊บ 
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 5] [27.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 27-02-2016 21:35:21
เล่นตัว 2 นาที พอจร้า 2 วัน นานไป๊ เดี๊ยมิก งอล ไม่จีบต่อนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 5] [27.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-02-2016 21:43:25
2วันนานไป 2วินาทีก็พอ >///<
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 5] [27.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2016 23:31:41
เอ่อมมม.   กายลูกเล่นตัวนานกว่านี้นิสนึงก็ได้ลูก.  2 วันเ็วไปคระลูกเอ๊ยยยย :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 5] [27.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 28-02-2016 00:57:19
รวดเร็วมากก

กายอ่อยไป มิกอ่อยโต้กลับ  :mew1:

มิ้นท์ฟินเลยสิเนี่ย  :impress2:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 5] [27.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-02-2016 01:10:13
อย่ามีดราม่าเลยนะครับ ^^"
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 5] [27.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 29-02-2016 23:22:22
อย่ามีดราม่าเลยนะครับ ^^"

ไม่มีดราม่าแน่นอน
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 5] [27.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 29-02-2016 23:24:58




-6-





ตึ๊ง!

เสียงลิฟต์บอกว่าถึงชั้นที่ต้องการแล้ว อติวิชญ์มาจอดรถที่หน้าตึกซึ่งเป็นบ้านของกันต์ธีร์ ยามหน้าตึกทักทายแล้วบอกให้ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสองเพื่อไปยังห้องรับแขก ประตูลิฟต์เปิดออกเห็นโถงเล็กๆมีประตูอยู่ทางขวามือ เมื่อเปิดเข้าไปพบกับห้องรับแขกเพดานสูง ตกแต่งอย่างหรูหราโอ่โถง ด้านซ้ายมือของห้องรับแขกมีบันไดทรงโค้งขขนาดใหญ่เพื่อขึ้นไปยังชั้นถัดไป

หลังจากทริปเชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อติวิชญ์ก็คิดว่าคงจะต้องจีบกันต์ธีร์อย่างจริงจังเสียที เขาชอบกันต์ธีร์และอีกฝ่ายก็มีทีท่าชอบเขาเช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่อ่อยกันขนาดนี้

“สวัสดีครับอาจักร” พ่อของกันต์ธีร์ก้าวออกมาจากซุ้มประตูทรงสูงคาดว่าน่าจะเป็นห้องรับประทานอาหาร

“อ้าวมิก มาถึงเมื่อไหร่ล่ะ”

“เมื่อสักครู่นี่เองครับ คุณย่าล่ะครับ ท่านไม่อยู่เหรอ”

“ออกไปสปาน่ะ เดี๋ยวอีกสักพักพ่อก็จะออกไปรับแล้วล่ะ” ‘พ่อ’ เหรอ ถึงจะเอะใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อาจักรคงอยากให้เกิดความสนิทสนม

“แล้วนี่มาหากายเหรอ”

“อ๋อใช่ครับ พอดีผมว่าจะชวนเขาไปช่วยซื้อของน่ะ เห็นว่าปิดเทอมว่างๆเหมือนกัน”

“คงอยู่บนห้องน่ะ ลองไปตามสิ ขึ้นบันไดไปห้องแรกซ้ายมือ”

“ผมขอตัวนะครับ” ก่อนจะลุกขึ้นไปยังห้องของเจ้าตัว สายขนาดนี้ยังไม่ออกจากห้อง คงจะนอนหลับล่ะสิ

“ตามสบายเลย”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เข้ามาเลยครับพ่อ”

“พ่อมีอะ.. อ้าวมิกมาได้ยังไงนี่”  เขาเห็นร่างสมส่วนเอี้ยวตัวหันหน้ามาทางประตูห้อง กันต์ธีร์คงกำลังนอนคว่ำเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ ว่าแล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียง

“จะมาชวนไปเที่ยว เห็นอยู่ว่างๆไง อาจักรเลยให้ขึ้นมาตาม”

“นี่คือมาชวนเดทเหรอ” ถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อแต่ดวงตาพราวระยับ

“ใช่ หรืออยากไปเดทที่อื่น เรามีให้เลือกสองที่คือเดทข้างนอกกับเดทในห้องนอนของกาย”

“งั้นเดทในห้องนอนดีกว่า” ทำน้ำเสียงยียวน หึหึ รู้จักเขาน้อยไปแล้ว

“เอาดิ ว่าแต่ห้องนอนร้อนเนอะ ขอถอดเสื้อหน่อยนะ”

“เห้ย เอาจริงดิ ล้อเล่นๆ” รีบลุกขึ้นมาห้ามเขาที่กำลังจะถอดเสื้อ เขารู้ทันหรอกแต่ก็แค่อยากจะแกล้งคนขี้อ่อยก็เท่านั้น

“งั้นก็รีบแต่งตัว จะชวนไปกินข้าว ดูหนังซื้อของด้วย หรือจะไปชุดนี้” กันต์ธีร์ใส่แค่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้น ปกติสำหรับคนวัยหนุ่มที่ชุดอยู่บ้านมักจะสบายมากๆ

“เออๆ ลงไปรอข้างล่างเลยไป” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ในห้องหนึ่ง ห้องนอนของกันต์ธีร์กว้างมีทางเดินเข้าไปที่คาดว่าจะเป็นห้องน้ำกับห้องแต่งตัว ประตูบานเลื่อนกันห้องนอนกับห้องแต่งตัวเอาไว้ เรียกว่าตกแต่งได้อย่างลงตัวสวยงามเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยเลยทีเดียว

“แล้วทำไมไม่ลงไปรอข้างล่าง”

“ขี้เกียจลง ไหนๆก็จะออกไปพร้อมกันอยู่แล้วนี่”

ทั้งสองคนเดินลงมาชั้นล่างเจอพ่อของกันต์ธีร์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ท่านหยุดอ่านหนังสือพิมพ์แล้วหันมาคุยกับพวกเขาแทน

“เสร็จแล้วเหรอ แล้วนี่จะออกไปไหนกัน”
“ก็คงไปดิเอ็มอะพ่อ ไปกินข้าวซื้อของอะไรแบบนี้” กันต์ธีร์ตอบพ่อของเขา

“ไปเดทกันเหรอ” ถามอย่างหน้าตาเฉย เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนกันต์ธีร์ก็ทำตาโตก่นจะปฏิเสธพัลวัน ซึ่งเขาคิดว่าทำแบบนั้นยิ่งมีพิรุธ ใครๆเขาก็รู้หมด

“ใช่ที่ไหนล่ะพ่อ เพื่อนกันไปเที่ยวด้วยกันแปลกตรงไหน”

“พ่อก็แค่ถามเล่นๆลูกจะตื่นตูมทำไม ทำตัวมีพิรุธนะ คบกันพ่อก็ไม่ว่าหรอก ดีซะอีกคนใกล้ตัวจะได้ดูแลง่ายๆหน่อย” คุณอาจักรปล่อยประโยคเด็ด ส่วนอีกคนก็ทำปากพะงาบๆ อติวิชญ์ได้แต่ขำในใจพ่อลูกคู่นี้แหย่กันแรงจริงๆ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธหรอก คุณอาพูดแบบนี้แสดงว่าเปิดทางให้เขาจีบลูกชายของท่านสินะ

“พ่อก็ ไปกันใหญ่แล้วคบกันที่ไหนล่ะ” “ผมกำลังตามจีบลูกชายคุณอาอยู่ครับ”

“บ๊ะ ให้มันได้อย่างนี้สิ ยอมรับกันแบบแมนๆ” กันต์ธีร์มองหน้าเขาอย่างด้วยสายดุ คงยังไม่อยากให้พ่อรู้แต่เมื่อคุณอาเปิดทางขนาดนี้เขาก็ไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดมือ

“พ่อเคยบอกแล้วไงว่าจะคบใครพ่อก็ไม่ว่า ขอแค่ลูกรักเขาและเขาก็รักลูก ถ้าลูกมีความสุขพ่อก็มีความสุขเหมือนกัน”

“พ่อไม่โกรธเหรอถ้ากายกับมิกคบกัน”

“ไม่โกรธ พูดแบบนี้หมายความว่าคบกันแล้วเหรอ”

“เปล่านะครับ กายแค่หมายถึงว่าพ่อไม่โกรธเหรอถ้ากายจะคบกับผู้ชาย”

“ไม่โกรธจริงๆ ไม่ต้องคิดมากดีซะอีกที่จะมีคนมาดูแลลูกต่อจากพ่อ”

“ขอบคุณนะครับพ่อ” กันต์ธีร์กอดพ่อของเขา ส่วนอติวิชญ์ได้แต่อมยิ้มรู้สึกดีที่พ่อกับลูกเข้าใจกัน แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าที่บ้านของเขาจะว่ายังไง ถึงพ่อกับแม่จะเป็นคนใจดีแต่เรื่องแบบนี้ก็คงต้องรอไปก่อน

“พอแล้วๆ ไปเดทกันได้แล้ว พ่อก็จะออกไปรับย่าแล้ว”

“ขอบคุณครับอา พวกผมไปแล้วนะครับ” เขาไปบอกลาพร้อมกับยกมือไหว้

“ขนาดนี้แล้วเรียกพ่อก็ได้มั้ง” คุณอา ไม่สิ คุณพ่อพูดกลั้วหัวเราะ

“ครับคุณพ่อ” “เห้ย! เรายังไม่ให้เรียกนะ เรียกอาเหมือนเดิมไปก่อน”

“มันทำแก้เขินไปอย่างนั้นแหละมิก ฮ่าๆๆ”
.
.

ระหว่างทางกันต์ธีร์พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด ชวนเขาคุยทุกเรื่องไม่ว่าจะลมฟ้าอากาศ เศรษฐกิจหรือข่าวซุบซิบดารา ถึงแม้ระยะทางมาที่ดิเอ็มจะไม่ไกลมากนักแต่เนื่องด้วยในเมืองใหญ่แบบนี้การสัญจรหนาแน่น การจราจรจึงแออัด ทำให้การเดินทางล่าช้า

หลังจากจอดรถเมื่อถึงที่หมายแล้ว ทั้งสองก็เดินเข้ามาข้างใน กันต์ธีร์ก็วางแผนว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง คงลืมตัวว่าวันนี้มาเดทกับเขา เขาได้แต่อมยิ้มในความน่ารัก(?)ของเจ้าตัว

“นี่เที่ยงแล้วเดี๋ยวไปจองตั๋วก่อน เอารอบสักสามโมงดีไหม จะได้มีเวลากินข้าวนานไม่อยากรีบกิน แล้วค่อยไปดูหนังพอหนังจบก็ไปเดินซื้อ…”

เขาเงียบฟังเสียงของกันต์ธีร์จัดการทุกอย่าง แบบนี้ก็ดีเหมือนกันมีจะได้ไม่ต้องคิดเอง

“เอ่อ..มิกโอเคไหม เราลืมไปว่าเผื่อมิกมีแผนจะทำอะไรเพราะมิกเป็นคนชวนเรามา” คงเห็นเขาเงียบไปนาน กันต์ธีร์เลยเอ่ยอย่างรู้สึกผิด เขาอยากจะบอกว่ารู้สึกดีมากที่มีคนมาคอยทำแบบนี้ให้

“แบบที่กายคิดนั่นล่ะดีแล้ว ไปดูรอบหนังกัน อยากดูเรื่องอะไร”

“ไปดูก่อนแล้วกัน”



“คนนั้นคุ้นๆว่ะเหมือนเพื่อนเราเลย” ระหว่างเลือกดูหนังอยู่ กันต์ธีร์เหลือบไปเห็นชายหนุ่มสองคนกำลังยืนซื้อตั๋วอยู่ รู้สึกคุ้นๆว่าเป็นเพื่อนของตัวเอง ส่วนอติวิชญ์ก็รู้สึกว่าอีกคนเหมือนเพื่อนตัวเองเช่นกัน

“เข้าไปทักดีกว่า” กันต์ธีร์หมายจะเดินไปทักเพื่อนแต่ถูกมือแกร่งจับแขนไว้ ก่อนจะหันมามองอย่างงงๆ

“อย่าเลย พวกเขาอาจจะไม่อยากเจอใครก็ได้  ค่อยไปถามนอกรอบเอาสิ”

“ก็ได้ๆ ว่าแต่คิดออกยังว่าจะดูเรื่องอะไร”

“ดูหนังแอคชั่นแล้วกันนะ ไปซื้อตั๋วกัน” รอให้เพื่อนของพวกเขาออกไปก่อนแล้วค่อยเข้าไปซื้อ อติวิชญ์คิดว่าถ้าเพื่อนอยากให้รู้ก็คงต้องบอกแล้ว เป็นแบบนี้แสดงว่ายังไม่อยากให้เพื่อนๆรับรู้

“กินอะไรดีล่ะ” ซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็ออกมาหาอะไรทาน ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะดูรอบบ่ายสามโมงจึงเหลือเวลาอีกมากกว่าจะถึงเวลาหนังฉาย

“บุฟเฟ่ต์นะ อยากกินอะ” กันต์ธีร์อยากทานบุฟเฟ่ต์ อติวิชญ์คิดว่าเจ้าตัวเป็นคนรักษาหุ่นซะอีก

“รักษาหุ่นไม่ใช่เหรอ ไม่กลัวอ้วนไง”

“ทำไมถ้าอ้วนจะเลิกจีบเหรอ” มาอีกแล้ว คงกะว่าจะให้เขาเขิน เปล่าเลยทำแบบนี้ก็เหมือนเปิดทางให้ เขาก็ยิ่งชอบสิ

“อ้วนก็ดีกอดอุ่นๆนะหมีน้อย”

“ฮึ่ย! ตามมานะกินร้านข้างหน้านั่น” ทำเสียงฮึดฮัดก่อนจะเดินนำเขาไปที่ร้านบุฟเฟ่ต์ที่เจ้าตัวอยากทาน

“กินร้านนั่นแสดงว่าอยากอ้วน อยากถูกกอดหรือไง”

“เออ” ฮ่าๆ อติวิชญ์รู้สึกสนุกชะมัดที่ได้แกล้งคน เหมือนจะทำเก่ง หึหึ เหนือฟ้ายังมีฟ้านะหนู


หลังจากทานเสร็จเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงทั้งคู่จึงตกลงกันว่าจะเดินย่อยอาหารรอหนังฉาย กันต์ธีร์ชวนเขาเดินดูของไปเรื่อยมาหยุดที่ร้านอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ร่างสมส่วนตรงไปที่แผนกผ้าม่านเจ้าตัวบ่นอยากได้ชุดผ้าปูที่นอนอันใหม่ แต่ดูท่าทางจะเลือกนานอติวิชญ์มองนาฬิกาใกล้ถึงเวลาหนังฉาย ส่วนอีกคนยังวุ่นอยู่กับการเลือกสีผ้าปูที่นอนถ้านานกว่านี้อาจเข้าไปไม่ทันจึงบอกให้รู้ตัวก่อน

“จะถึงเวลาหนังฉายแล้ว ดูจบค่อยมาดูใหม่ก็ได้”

“โอเค ไปกันเถอะ”

ระหว่างดูหนังอติวิชญ์สะกิดกันต์ธีร์แล้วแสดงท่าทางจะขอจับมือ กันต์ธีร์ทำหน้าเข้าใจก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกตัวเองดูหนังไป ฝ่ายอติวิชญ์ก็พอจะเข้าใจว่าเจ้าตัวคงยังไม่พร้อม ซึ่งเขาก็เข้าไม่ได้คิดมากมายอะไร ก่อนจะหันไปดูสนใจหนังในจอต่อ

อติวิชญ์รู้สึกว่าคนข้างๆเริ่มอยู่ไม่สุข ขยับตัวไปมาตลอดพอเขาหันไปมองเชิงถามก็หยุดขยับ พอหันกลับไปมองจอหนัง จู่ๆก็มีมือขาวๆมาแบอยู่ข้างหน้าเขา หันไปเห็นเจ้าของมือส่งสัญญาณให้เขาเอื้อมไปจับมือ เขาเลยแกล้งอ้อยอิ่งไม่ยอมจับสักที กันต์ธีร์คงทนไม่ไหวเลยจับมือเขาเองแล้วหันไปดูหนัง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิด ส่วนตัวอติวิชญ์ก็ได้แต่นั่งอมยิ้มกับอาการของคนข้างๆ

“เมื่อยมือเนอะ ใครก็ไม่รู้จับทั้งเรื่องเลย” อติวิชญ์หันไปกระซิบคนข้างระหว่างเดินออกจากโรงหนัง มืดขนาดนี้หวังว่าจะไม่มีคนเห็นนะ

“เอ้อ แล้วแต่เลยนะ” ว่าแล้วก็เดินนำเขาออกจากโรงหนังไป

เดินซื้อชุดผ้าปูที่นอนเสร็จแล้วกันต์ธีร์ชวนเขาไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นล่างสุด เจ้าตัวบอกว่าปิดเทอมมีเวลาว่างชอบทำอาหารทานเอง ระหว่างที่กันต์ธีร์เลือกซื้อของอติวิชญ์ก็สังเกตคนตรงหน้ารูปร่างดีสมส่วน หน้าตาหล่อเหลาที่มีเค้าของความน่ารักอยู่นิดหน่อย เรียนเก่งเล่นกีฬาได้ที่บ้านมีฐานะดีเรียกได้ว่าเป็นคนสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้

“จ้องขนาดนี้มาขอเป็นแฟนเลยไหม” เสียงทุ้มนุ่มปลุกเขาจากภวังค์ เจอกันต์ธีร์กำลังส่งยิ้มให้เขาอยู่

“เป็นแฟนกันนะ” กล้าท้าเขาก็กล้าทำเสมอ ใครก็บอกว่าอติวิชญ์เป็นคนจริง พูดคำไหนคำนั้นและทุกคำพูดที่ออกจากปากมักไม่มีคำว่าล้อเล่น
“เห้ย มาแรงนะเดี๋ยวนี้ ยังไม่เป็นเว่ย รอไปก่อน” อติวิชญ์รู้ว่าอีกฝ่ายเขินเพราะพูดจบก็เข็นรถเข็นหนีเขาไปที่อื่น
.
.

“ขอบคุณที่มาส่งนะ ส่งตรงนี้ก็พอ”

“จะขึ้นไปด้วย จะไปทักทายคุณย่ากับคุณ ‘พ่อ’ สักหน่อย”

“อยากทำอะไรก็ทำ ไอ้ยักษ์” กันต์ธีร์เดินนำอติวิชญ์ขึ้นตึกไปที่ลิฟต์เพื่อไปที่บ้านของเขา ที่บ้านของกันต์ธีร์ต้องการความเป็นส่วนตัวจึงต้องทำลิฟต์ขึ้นชั้นสองแทนการขึ้นบันได เพราะถ้าทำเป็นบันไดผู้คนอาจจะพลุกพล่านไปมาได้ แต่ลิฟต์นี้เป็นลิฟต์ส่วนกลางของตึกเพียงแต่ถ้าคนอื่นมาชั้นสองจะไม่มีกุญแจไขเข้าบ้านกันต์ธีร์เท่านั้นเอง

“พ่อครับกายกลับมาแล้ว ซื้อของสดมาด้วย” กันต์ธีร์ทักทายพ่อของเขาที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก

“อ้าวกลับมากันแล้ว ย่าเขากำลังทำมื้อเย็นอยู่ในครัวน่ะ มิกอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะ”

“ได้ครับ ผมกะว่าจะมาฝากท้องที่นี่อยู่พอดี”

“ดีๆ กินกันหลายๆคนสนุกดี”

สักพักกันต์ธีร์ก็ยกกับข้าวออกมาตั้งที่โต๊ะรับประทานอาหาร วันนี้ย่าทำกับข้าวหลายอย่างเหมือนรู้ว่าจะมีแขกมาร่วมวงด้วย ย่าบอกให้แม่บ้านจัดโต๊ะอาหารก่อนจะเรียกทุกคนมาทานข้าว

“มิกกินเยอะๆนะ วันนี้ย่าทำหลายอย่างเลย เห็นตาจักรบอกว่ามิกจะมากินมื้อเย็นที่บ้านเรา”

“ขอบคุณครับย่า”

ระหว่างที่ทานอาหารทุกคนก็พูดคุยกันเรื่องทั่วไปจนกระทั่งกันต์ธีร์พูดถึงเพื่อนแอบมีแฟนแล้วไม่ยอมบอก พวกเขาไปเจอที่ห้างฯแต่ไม่ได้เข้าไปทัก ย่าถึงวกกลับมาที่เรื่องของอติวิชญ์กับกันต์ธีร์

“แล้วสองคนนี้คบกันนานหรือยังล่ะ” กันต์ธีร์สำลักข้าวเฮือกใหญ่จนต้องหาน้ำดื่มกันจ้าละหวั่น

“แค่ก แค่ก ไม่ได้คบกันครับย่าเพื่อนกันเฉยๆ”

“ไม่ต้องมาหลอกย่า พ่อของหลานบอกย่าหมดแล้วว่าตามิกกำลังตามจีบหลานย่าอยู่”

“อย่างที่คุณพ่อบอกนั่นล่ะครับคุณย่า”

“ก็ดีที่ทำให้มันถูกต้อง คบกันอยู่ในสายตาผู้ใหญ่มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ แล้วหลานก็ไม่ต้องคิดว่าย่าจะโกรธ หลานชอบใครรักใครย่าก็รักด้วย ย่าก็เสียใจตรงที่ไปแอบคบกันไม่บอกให้ผู้ใหญ่รับรู้แต่ทั้งคู่ก็บอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ซึ่งก็ถือว่าดี ย่ามีอะไรจะสอนทั้งสองคน ความรักแบบนี้ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับได้ จะทำอะไรก็คำนึงถึงสังคมรอบข้างด้วย พวกเราต้องวางตัวให้ดีไม่ให้ใครมาตำหนิเราได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรย่ากับพ่อก็จะเป็นกำลังใจและที่พึ่งให้หลานเสมอ”

“ขอบคุณครับย่า กายรักย่าที่สุดเลย” กันต์ธีร์ยิ้มกว้างให้ย่าของเขา อติวิชญ์คิดว่าถ้าลุกขึ้นไปกอดกันกลางโต๊ะอาหารได้คงจะทำไปแล้ว

“ขอบคุณครับคุณย่า แต่ผมยังไม่ได้บอกครอบครัวผมเลย”

“ครอบครัวของมิกเขามีหน้ามีตาในสังคมจะทำอะไรก็คิดให้รอบคอบ ทุกปัญหามีทางแก้ไขเสมอ ถ้าไม่กล้าบอกให้ย่าหรือพ่อไปคุยให้ก่อนไหม”

“ย่าครับยังไม่รีบก็ได้ เอ่อ มิกเขาเพิ่ง เอ่อ จีบกายเองนะ”

“นั่นล่ะ ยังไงก็ต้องทำให้ถูกต้อง” “มาทานข้าวกันต่อดีกว่าลูก”

ทานมื้อเย็นเสร็จก็นั่งคุยกันสักพัก อติวิชญ์ก็ขอตัวกลับกันต์ธีร์อาสาลงมาส่งข้างล่าง อติวิชญ์เงียบไปตลอดทางจนถึงรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่หน้าตึก

“ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า ย่าก็พูดไปอย่างนั้นแหละ”

“หนึ่งเดือน!”

“อะไรหนึ่งเดือน”

“เราให้เวลาหนึ่งเดือน แล้วกายต้องตกลงคบกับเรา แล้วหลังจากนั้นก็จะพาไปเปิดตัวกับที่บ้าน”

“เห้ย มาบังคับกันได้ยังไงมันเป็นเรื่องของความรู้สึกนะ”

“พูดเหมือนกับว่าไม่ได้ชอบเรา”

“เอ่อ เปล่าสักหน่อย ส่วนเรื่องเปิดตัวอะไรนั่นไม่ต้องรีบก็ได้”

“หนึ่งเดือนที่เหลืออ่อยให้เต็มที่นะหมีน้อย เพราะหลังจากนี้จะไม่ปล่อยให้อ่อยเฉยๆแน่นอน”

“กลับบ้านไปเลยไปไอ้ยักษ์ ชิ่ว!”

“หึหึ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะโทรมานะ รอรับโทรศัพท์ด้วยถ้าไม่รับจะมาหาถึงบ้าน แค่ขับรถไม่เหนื่อยหรอก”

“ไปได้แล้ว~”

“ไปจริงๆแล้ว” เขาก้าวขึ้นรถประจำที่นั่งคนขับ ก่อนสตาร์ทรถเร่งเครื่องยนต์เคลื่อนที่ออกจากตึกมุ่งสู่ถนนใหญ่ทางกลับบ้านของเขา
.
.

“ผมกลับมาแล้วครับ” ทันทีที่ถึงบ้าน อติวิชญ์ก็ตรงไปที่ห้องรับที่ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวเขากำลังนั่งดูโทรทัศน์กันอยู่

“พี่ชายเป็นอะไรมากหรือเปล่า ยิ้มหน้าบานอย่างกับคนเมาเหล้าแน่ะ” น้องสาวทักเขาทันทีที่เห็นหน้าของเขา

“สงสัยลูกชายพ่อกับแม่จะมีความรักนะครับ” พี่ชายเขาก็ด้วย แถมยังทำหน้าล้อเลียนเขาอีกต่างหาก

“ใครกันนะที่ทำให้ลูกชายแม่เป็นแบบนี้ คุณว่าใครคะ” แม่หันไปถามพ่อของเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ผมก็อยากรู้ อยากเห็นหน้าแล้วนะนี่”

“หนูรู้ค่ะทุกคน แต่หนูไม่บอกนะ รอให้พี่เขาบอกเอง” หนูฟันธงเลยว่าเป็นคนที่หนูคิดแน่นอน ในที่สุดความฝันของหนูก็กำลังจะกลายเป็นความจริงในไม่ช้า ต้องเตรียมตัวฉลองหน่อยแล้ว

“ใครหรือมิ้นท์ บอกใบ้ให้พี่หน่อยสิ” พี่ชายคนโตคาดคั้นน้องสาว มาทำให้อยากรู้แบบนี้ได้อย่างไร

“บอกแล้วไงรอพี่มิกบอกเอง พ่อกับแม่คะ เดี๋ยวหนูขอขึ้นห้องก่อนนะคะ ฝันดีค่ะทุกคน” วันนี้พี่ชายมีความสุขน้องสาวก็มีความสุขเช่นกัน เห้อ ความรู้สึกฟินจริงๆกำลังจะเกิดขึ้น

“ผมก็ขอตัวขึ้นห้องนะครับ ฝันดีนะครับ” ตัวเขาเองก็ต้องขึ้นไปโทรศัพท์รายงานให้อีกคนรู้ว่าถึงบ้านแล้ว



อติวิชญ์หมายมาดไว้แล้วว่ายังไงกันต์ธีร์ก็ต้องคบกับเขา มาชอบเขาก่อนพอเขาชอบกลับก็ทำเป็นเขิน ถึงเวลาที่ต้องเดินหน้าแล้ว เขาไม่ได้หลงตัวเองเพียงแต่รู้ตัวว่าเขานี่ล่ะที่เหมาะสมกับกันต์ธีร์มากที่สุด นี่ล่ะถึงจะเรียกว่า ‘Perfect Couple’ แบบที่เพจของมิ้นท์น้องสาวเขาก่อตั้งขึ้นมา เรื่องอื่นๆปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต อย่างที่ย่าของกันต์ธีร์บอกเอาไว้ ทุกปัญหามีทางแก้เสมอ ส่วนเรื่องของเขากับกันต์ธีร์คนอื่นจะคิดอย่างไรเขาไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าเขาเหมาะสมกับกันต์ธีร์มากที่สุดในโลกแล้ว ยังไงก็หนีเขาไม่พ้นหรอกนะหมีน้อย




To Be Continue…


ตอนที่ 6 มาแล้ว
เนื้อเรื่องเอื่อยๆเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนหวังว่าทุุกคนจะชอบนะ


ถ้าเจอคำผิดตรงไหนบอกได้เลยนะครับ

ขอบคุณผู้อ่านทุกคนนะครับ


หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 29-02-2016 23:36:52
มารอดูคนเขินค่ะ
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 29-02-2016 23:47:44
คุณพ่อ คุณย่าของกายเปิดทางแล้ว เหลือแต่ฝั่งของมิกสินะ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 01-03-2016 01:16:49
รักคุณพ่อกับคุณย่าของกายจัง :-[
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 01-03-2016 01:24:17
น่ารักมากกกกกก
ขออย่าให้มีดราม่าเลยนะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-03-2016 07:11:20
ไม่รีบบบบ

คู่นี้จีบกันแบบนี้ดีแล้วค่า :3

...

อืมมม ที่บ้านพระเอกเราน่าจะไฟเขียวเหมือนกัน(เดามั่ว อิอิ)
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-03-2016 12:32:41
น่ารักจริงๆ เลย #อิจฉา
หวังว่าครอบครัวของมิกจะรับได้ ไม่มีปัญหากับกายนะครับ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-03-2016 23:26:57
บ้านกายเปิดทางให้ก็สบายไปทางหนึ่งล่ะ

เขาจีบกันน่ารักนะ  // รอผ่านหนึ่งเดือน  :hao6:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 03-03-2016 21:14:13
 o13
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 03-03-2016 23:33:55
คนนึงก็ขี้อ่อย
อีกคนก็รุกแรงงงงงง

 :hao7:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 04-03-2016 14:34:09
พระนายเรื่องนี้เค้าถือคติ #อ่อยมาอ่อยกลับไม่โกง ใช่มั้ยคะ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-03-2016 09:47:11
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 6] [29.02.2016] [P.2]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 06-03-2016 21:49:00




-7-




ความสัมพันธ์ของกันต์ธีร์และอติวิชญ์คืบหน้าไปอย่างช้าๆ ต่างฝ่ายต่างไม่ก้าวก่ายกันเพราะคิดว่าการจู้จี้กับอีกฝ่ายมากเกินไปจะทำให้เกิดความอึดอัดใจได้ หลังจากที่คุยกันวันนั้นเวลาล่วงเลยไปเกือบเดือนจนใกล้ถึงวันเปิดเทอมแล้ว อติวิชญ์คิดว่าจะขอกันต์ธีร์เป็นแฟนในวันเปิดเทอมวันแรกถือว่าเป็นเรื่องตื่นเต้นให้เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัว



วันนี้อติวิชญ์ชวนเขาออกไปทานข้าวเหมือนเดิม ตั้งแต่ที่บอกว่าจะจีบคราวนั้นการทานข้าวด้วยกันก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว หลังจากทานข้าวเสร็จก็ทำกิจกรรมหลายอย่างเหมือนที่คนเป็นแฟนทำกันเพียงแต่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเท่านั้นเอง

กันต์ธีร์กำลังเล่นแอพพลิเคชั่นรูปภาพยอดฮิตเพื่อติดตามความเป็นไปของเพื่อนๆหรือคนที่รู้จัก รูปภาพชายหนุ่มยืนหันข้างกำหลังหลับตาพร้อมกับทำท่าเหมือนกับสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปอย่างเต็มปอด ชื่อบัญชีผู้ใช้เป็นของเพื่อนเขาและคนในรูปก็เป็นเพื่อนของเขานั่นละ เขาเลื่อนลงมาอ่านข้อความ เห็นข้อความของมีมี่ทำนองว่าไปก็ไม่ชวน จะไปก็ไม่บอกจะฝากซื้อของ ส่วนเขาก็แต่ส่งข้อความแซวตามประสาเพื่อนสนิท

Tru.. Tru.. Tru..

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นระหว่างที่กำลังท่องโลกโซเชียล คิดไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเพื่อนอีกคนของเขาและก็คงจะพูดเรื่องที่อินสตาแกรมแน่นอน

“ฮัลโหล ว่าไงมี่” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยรับสายของเพื่อนตัวเอง

‘แกเห็นไอจีโอมหรือยัง’ เสียงหญิงสาวดังผ่านโทรศัพท์เข้ามา น้ำเสียงตื่นเต้นเหมือนมีเรื่องสำคัญแต่กันต์ธีร์รู้ว่าตอนนี้มีอยู่เรื่องเดียวนั่นล่ะที่สำคัญที่สุดตอนนี้

“เห็นแล้ว”

‘มันไปตอนไหนนี่ ไม่บอกเพื่อนเลย’

“มันคงมีความลับน่ะ เราก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน”

‘นั่นสิเนอะ จริงๆฉันก็แค่อยากฝากซื้อของน่ะ ฮิฮิ เออว่าแต่แกอยู่ไหนนี่’ ว่าแล้วไม่มีผิด พวกเขาไม่เคยคิดมากเรื่องของเพื่อนๆ ถึงจะสนิทกันแค่ไหนบางครั้งเพื่อนก็ยังอยากมีเวลาส่วนตัวบ้างแม้แต่ตัวเขาเอง ส่วนตัวกันต์ธีร์เองก็ไม่เคยโกรธเพื่อยหากเพื่อนมีความลับส่วนตัวที่ไม่อยากบอกหรือไม่พร้อมที่จะบอก

“ไปกินข้าวข้างนอกมา กำลังกลับบ้าน”

‘ไปกับนายมิกอีกล่ะสิ เมื่อไหร่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการคะเพื่อน’ กันต์ธีร์ไม่เคยมีความลับกับเพื่อนๆอยู่แล้ว เรื่องของเขากับอติวิชญ์ทุกคนสนับสนุนให้คบกันเพราะรู้ว่าเขาชอบอีกฝ่ายมากขนาดไหน ไม่ใช่ว่าไม่อยากคบกันแต่แค่อยากเรียนรู้นิสัยใจคอของอีกฝ่ายก่อน ถึงจะชอบขนาดไหนแต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็คงต้องขอลา

“ก็เรื่อยๆนะ แบบนี้ก็โอเคดี”

‘จ้าๆ ไม่รีบก็ไม่รีบเพิ่งได้ทำความรู้จักกันไม่นานนี่เนอะ เพื่อนว่าไงเพื่อนก็ว่าตามค่ะ’

“ใช่ ก็เลยเรื่อยๆน่ะ” ฝ่ายอติวิชญ์ก็เหลือบมาของเขาทุกครั้งที่เขาตอบเพื่อนไป พอเขาหันกลับไปถามก็ได้แต่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

‘ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กวนเวลาสวีทกันแล้ว อิจฉาคนมีความรัก บายนะเพื่อน’

“บาย” หลังปิดเทอมได้ไม่นานมีมี่ก็กลับมาโสดอีกครั้ง เจ้าตัวเล่าว่าคนที่คุยกันอยู่ไม่โอเค รู้สึกเข้ากันไม่ได้เลยก็เลยต้องยุติความสัมพันธ์ อีกฝ่ายเป็นเพื่อนของพี่รหัส เมื่อเจ้าตัวรู้ว่าไม่โอเคก็ไม่อยากที่จะยืดความสัมพันธ์เพราะถ้าหากยืดเยื้อต่อไปอาจทะเลาะกันแล้วมองหน้ากันไม่ติดเปล่าๆ เลยรีบหยุดตั้งแต่รู้ตัวว่าไม่ใช่ จากกันด้วยดีดีกว่าทะเลาะกันแล้วจบไม่สวย

“ใครโทรมาเหรอ” เสียงทุ้มถามเขาหลังจากที่วางสายของเพื่อน

“มี่ไง รู้อยู่แล้วยังจะถามนะ”

“ก็ถามแกล้งไปอย่างนั้นล่ะ”

“อือ มี่มันโทรมาคุยเรื่องโอมน่ะ”

“อันนี้เราไม่ได้ถามนะ เล่าทำไม” อติวิชญ์กำลังกวนเขาอีกแล้ว

“ก็จะบอกแค่นี้ล่ะ”

“เห้ย ล้อเล่น เปิดเรื่องมาแล้วก็เล่าดิ เผื่อมีอะไรจะได้ให้คำปรึกษา” อีกฝ่ายเอื้อมมือมาจับแขนเขา ‘หึหึ แค่จับมือจับแขนไม่เสียหายหรอก อีกอย่างอยู่กันแค่สองคนบนรถไม่ต้องอายใครด้วย’ กันต์ธีร์คิดในใจก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องของเพื่อนให้ฟัง

“มันก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เดี๋ยวนี้โอมมันชอบทำตัวมีความลับน่ะ อย่างล่าสุดนี่ก็ไปญี่ปุ่นไม่บอกเพื่อนสักคำ มี่มันบ่นใหญ่เลยว่าอยากฝากซื้อของ” กันต์ธีร์คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับอติวิชญ์ทุกเรื่องของกันต์ธีร์สำคัญเสมอแม้จะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวคิดว่าเล็กน้อยก็ตาม

“อ่อ เขาก็คงอยากมีเวลาส่วนตัวกับคนรู้ใจของเขาล่ะมั้ง”

“ก็รู้ แต่ปกติมีอะไรก็บอกกัน จะมีแฟนก็ไม่มีใครว่าเลยแต่กับคนนี้ไม่ยอมบอกเพื่อนเลย”

“เอาน่า เดี๋ยวเขาพร้อมก็คงบอกนั่นล่ะ เขาอาจจะกลัวเพื่อนไม่พร้อมเข้าใจเขาหรือเปล่า”

“พูดเหมือนรู้ว่าเพื่อนเรามันคบใครอยู่อย่างนั้นล่ะ”

“เปล๊า! เราก็เดาๆตามประสาผู้ชายน่ะ” เสียงสูงขนาดนี้มีพิรุธแน่นอน แต่เขาก็ไม่อยากคาดคั้น รอเพื่อนของเขาบอกเองก็ได้ แต่เอ๊ะ! อติวิชญ์พูดเหมือนว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายอย่างนั้นล่ะ

“แล้วเราไม่ใช้ผู้ชายหรือไง”

“เห้ย ไม่ได้หมายความแบบนั้น เราหมายถึงตามสัญชาตญาณเราน่ะ”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ร้อนตัวนะเราน่ะ ฮ่าๆๆ”

“หึหึ” เสียงในลำคออีกแล้ว ก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวเขา ชอบจังเลยนะผมของเขานี่
.
.
วันมะรืนนี้ก็จะถึงวันเปิดเทอมแล้ว อติวิชญ์กะว่าจะขอกันต์ธีร์เป็นแฟนในวันนั้น หวังว่าคงจะไม่มีอะไรผิดพลาด ทุกวันนี้ก็เหมือนเป็นแฟนกันอยู่แล้ว แต่เขาอยากทำอะไรให้มันมั่นคงถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เขาอยากให้อีกฝ่ายมั่นใจในตัวเขา เพราะถ้าเขาคบใครก็อยากให้เป็นหนึ่งเดียวในใจเขา เขาเองก็อยากอีกฝ่ายเป็นหนึ่งเดียวในใจเขาเช่นกัน การขอเป็นแฟนเหมือนเป็นการแสดงว่าเขาจะไม่เปลี่ยนใจจากกันต์ธีร์

Tru… Tru… Tru…

“เออ ว่าไงวะเจมส์” เสียงทุ้มกรอกลงไปในสายโทรศัพท์

“เปิดเทอม ‘ตี้กันหน่อยไหมเพื่อน”

“กูไม่ว่างว่ะ วันหลังแล้วกันนะ”

“มึงนัดกับแฟนมึงหรือ แล้วก่อนเปิดเทอมล่ะมึง”

“ยังไม่ใช่แฟนเว่ย แล้วเพื่อนรักมึงกลับจากญี่ปุ่นแล้วไง กลับมามันก็คงอยากสวีทกับแฟนมันล่ะมั้ง”

“เออว่ะ จริงด้วย คู่นี้แม่งมาแรงชิบหาย แซงคู่มึงไปแล้ว”

“เออ”

“ไปแอบแซ่บกันแล้วค่อยมาบอกเพื่อน”

“แต่เพื่อนอีกฝ่ายเขายังไม่รู้นะเว่ย ว่าเพื่อนเรากินเพื่อนเขาแล้ว”

“แหม่ คงรู้หรอกมึง เล่นปิดเงียบขนาดนั้น ถ้ามันไม่หลุดปากกับเรา พวกเราจะรู้ไหม”

“เออ”

“เรื่อง ‘ตี้วันหลังแล้วกัน ดีนะที่กูมาชวนมึงคนแรก แผนนี้พับเก็บไปก่อน บายเว่ย” พูดจบเพื่อนของเขาก็วางสายไป ส่วนเขาต้องเตรียมของให้เรียบร้อยสำหรับเซอร์ไพรส์วันศุกร์นี้
.
.

เปิดเทอมวันแรกอาจารย์ยังมาสอนอะไรมาก บางท่านแจกแค่เอกสารประกอบการเรียนเท่านั้นก็เลิกคลาส กลุ่มของกันต์ธีร์นั่งเล่นอยู่ที่ใต้ตึกคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มีเรื่องให้คุยกันมากมายเพราะปิดเทอมไปไม่ค่อยได้เจอกันเลย ยิ่งใกล้ช่วงที่ใกล้เปิดเทอมมีใครบางคนหนีไปเที่ยวไม่ยอมบอกเพื่อน

“ไหนๆ ของที่แกจะเอามาขอขมาฉันไอ้โอม” เสียงเพื่อนสาวของเขาดังขึ้นมาทวงหาของขวัญจากการไปเที่ยวต่างประเทศของโอม

“เออ เอานี่ ไม่รู้จะซื้ออะไรมาให้เลยซื้อพวกเครื่องสำอางมากฝาก”

“ดีงามพระรามแปดเลยค่ะคุณเพื่อน”

“สนุกสินะมึง แต่เวลาของมึงหมดแล้วโอม หึหึ” กันต์ธีร์พร้อมที่จะซักฟอกเพื่อนให้ขาวสะอาด

“อะไรของมึงวะกาย”

“ก็ไม่อะไร แค่อยากรู้ว่าไปเที่ยวนี่ใครถ่ายรูปให้วะ”

“เอ่อ ก็ คนแถวๆนั่นล่ะ กูไปคนเดียวจะให้ใครถ่ายให้วะ”

“หรือคะเพื่อน ถึงแกจะให้ของฉันแต่แกก็ไม่รอดหรอก”

“กูไปคนเดียวจริงๆ”

“แล้ววันนั้นไปดูหนังกับใคร กูคุ้นหน้าเขาจังเลย ไปญี่ปุ่นกับคนนี้เหรอ” กันต์ธีร์ไม่เห็นหรอกว่าคนนั้นเป็นใคร เขาแค่อยากจะแกล้งเพื่อนว่าเขาเห็นหน้าคนนั้นก็เท่านั้น เพื่อนของเขาทำหน้าตกใจแบบสุดขีด ตั้งแต่เกิดมากันต์ธีร์ไม่เคยเห้นเพื่อนตกใจขนาดนี้มาก่อนเลย

“วันไหนวะมึง” แต่เพื่อนเขายังทำเป็นกลบเกลื่อนเหมือนไม่มีอะไร

“หลังปิดเทอมที่แล้วได้ไม่นาน วันที่กูไปดูหนังกับมิก” ตัวกันต์ธีร์เองก็พูดอะไรแบบไม่ได้คิดไว้ก่อนเหมือนกัน โอมกับมีมี่หันไปมองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

“แหมๆ อีคู่นี้ก็ใช่ย่อย เดทกันทุกวัน แล้วบอกไม่ใช่แฟนกัน”
 
“อย่าเพิ่งวกมาที่เราสิมี่ ฟอกไอ้โอมก่อน”

“ค่ะๆคุณเพื่อน”

“เอ่อ มึงเห็นเหรอวะกาย”

“เห็น แต่ขี้เกียจเข้าไปทัก หมั่นไส้ทำตัวลับๆล่อๆ”

“มึงก็น่าจะรู้ว่าเขาดัง เป็นลูกเจ้าของดิเอ็มนะมึง ไปเดินห้างเขาก็ต้องทำแบบเพื่อนกันน่ะ”

“นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงคบกับโก้” เขาแค่หลอกถามจากมันแต่ไม่คิดว่ามันจะยอมเผยไต๋ออกมาแบบนี้ ปกติโอมไหวพริบจะตาย ทำไมรอบนี้ถึงดูหลุดๆได้นะ

“อ้าว ไหนมึงบอกว่ามึงเห็นแล้วไง”

“เปล่า กูหลอกถามมึงเฉยๆ”

“มึงแม่ง กูก็ว่ามึงรู้แล้วเลยไม่อยากปิด”

“โอม แกก็คิดมากแค่คบกับลูกเจ้าของห้างฯ”

“ไม่ต้องคิดมากเลยมั้งมี่ มีแต่คนรู้จัก” กันต์ธีร์เข้าใจเพื่อนของเขาดี มันคงรู้สึกอึดอัดเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงลูกเจ้าของห้างดิเอ็ม ใครๆก็ต้องจับตามองเป็นธรรมดา ถ้ามีข่าวว่าคบกับผู้ชายมันอาจจะดูไม่ดีแต่ถ้าอีกฝ่ายจริงจังกับเพื่อนเขาก็ดี เขาคิดเสมอว่าจะทำอะไรต้องดูสิ่งแวดล้อมรอบข้างด้วยจะคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้ โอมมันก็คงคิดแบบเขาถึงยังไม่อยากให้ใครรับรู้เรื่องของตัวเอง แต่ถึงยังไงถ้าคบกันแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ดีที่สุดแล้ว

“เออแล้วพวกแกคบกันนานยัง”
“เปิดเทอมปีสองอะ”

“โห ก็นานแล้วเหมือนกันนะนี่ ถึงว่าสิตอนปีสองแกชอบทำตัวลับๆล่อๆ แต่พวกแกก็เนียนเนอะ ฉันจำได้ว่าพวกเราเคยไปเจอโก้ที่ห้าง แกสองคนยังทำเป็นทักทายเหมืนคนเพิ่งรู้จักกันเลย”

“ก็นั่นล่ะ อันที่จริงก็กลัวเพื่อนๆโกรธน่ะที่คบผู้ชายเลยไม่กล้าบอก”

“เดี๋ยวก่อนพวกฉันจะโกรธแกทำไม ดูไอ้กายสิมันยังบอกชอบผู้ชายเลย”

“เออ ก็เราลืมคิดตรงนั้นน่ะมี่”

“วกมาที่เราอีกแล้วนะมี่” ‘สงสัยรายต่อไปจะเป็นเรา’ กันต์ธีร์คิดในใจก่อนจะทำเป็นชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง

“แล้วแกล่ะกายคบกันมิกหรือยัง คุยกันนานแล้วนะ”

“ยัง ก็รอเจ้าตัวขออยู่”

“มึงจะรอทำไมวะ มึงเป็นผู้ชายขอก่อนไม่เสียหายหรอก”

“กูไม่กล้า กูป๊อดมึงก็รู้ เผื่อโดนปฏิเสธมาจะทำไง”

“กายแกคิดมาก เขาแสดงออกขนาดนี้ ไม่มีทางเงิบหรอก”

“เออแล้วพวกมึงโจ๊ะกันยังวะ” โอมถามขึ้นมาระหว่างคุยกับมีมี่อยู่ ไอ้นี่ชอบหยายคายตลอดเลย

“ไอ้บ้า แกจะถามทำไมวะ เรื่องคนสองคน เออว่าแต่พวกโจ๊ะกันยัง” มีมี่ก็อีกคน เห็นสวยๆแบบนี้ก็ชอบทำตัวห้าวไม่ พูดอะไรตรงแบบสุดๆ บางครั้งเขาเองยังตกใจกับคำพูดของเพื่อนว่าไม่อายหรือไง พูดเรื่องแบบนี้กับเพื่อนๆ ด้วยความที่พวกเขาสนิทกันพูดกันเลยไม่แปลก แต่ถ้าคนอื่นได้ยินมันดูไม่ดีเลย

“เบาๆสิ ยังไม่โจ๊ะ” กันต์ธีร์ได้แต่ขำในใจ เพราะตัวเขาเองก็เป็นแบบเพื่อนนั่นล่ะ ถึงจะปากกล้ายังไงเวลาอยู่ต่อหน้าอติวิชญ์เขาก็ยังปอดแหกอยู่ดี ทำได้เพียงหยอกนิดๆหน่อยๆเท่านั้น

“ไอ้มิกช้าว่ะ รอนานอะไรขนาดนั้นจะห้าเดือนละมั้ง”

“ก็ดีแล้วนี่ แกน่ะว่าแต่เขาโก้ของแกล่ะ ทะนุถนอมแกหรือจัดตั้งแต่วันแรก ฮิฮิ”

“เห้ย ไม่เกี่ยวกันๆ ถามแต่ไอ้กายโน่น” เพื่อนชายของกันต์ธีร์ทำหน้าแดงก่อนปฏิเสธพัลวัน ท่าทางแบบดูก็รู้แล้วว่าแฟนเพื่อนของเขาทะนุถนอมขนาดไหน หึหึ

“ฮ่าๆ/ฮ่าๆ”
.
.

หลังเลิกเรียนอติวิชญ์แยกย้ายกับเพื่อนก่อนไปรับกันต์ธีร์ที่คณะพาณิชฯ วันนี้เขาตั้งใจแล้วว่าทุกอย่างจะต้องดำเนินไปด้วยดีไม่มีอะไรติดขัด ทันทีที่รถเขาเข้าไปจอดก็เห็นอีกฝ่ายบอกลาเพื่อนๆ พูดคุยอะไรกันนิดหน่อยก่อนเจ้าตัวจะเบะปากแล้วเดินมาทางเขา

“โทษทีวันนี้ช้า มัวแต่ไปดูปีสองแนะแนวน้องปีหนึ่งอยู่”

“ไม่เป็นไร เพิ่งมา ก็เห็นอยู่”

“อื้อ น้องมิ้นท์น่ารักมากเลย อยากได้เป็นสายรหัส”

“ไม่เอาหวง เดี๋ยวมัวแต่ไปดูหลานรหัส”

“นั่นน้องนะ” อติวิชญ์ทำเป็นเงียบก่อนจะขับรถออกจากตึกเพื่อไปทานข้าวกับเย็นกับกันต์ธีร์

“ทำเป็นขรึมนะไอ้ยักษ์” เขาชอบให้กันต์ธีร์เรียกเขาว่ายักษ์เพราะมันเหมือนเป็นชื่อพิเศษที่อีกฝ่ายตั้งให้เขาโดยเฉพาะ เพราะมีคนเดียวที่เรียกเขาแบบนี้

“เอ้อ คิดไงให้น้องอยู่หอใน”

“ก็เห็นอยากอยู่เอง ของพ่อกับแม่ว่าจะกลับบ้านทุกอาทิตย์” น้องสาวของเขาเพิ่งจะสอบเข้าได้คณะเดียวกับกันต์ธีร์ เจ้าตัวดีใจมากขอพ่อกับแม่อยู่หอในแล้วแลกกับการให้ไปรับกลับบ้านทุกอาทิตย์ไม่ให้กลับบ้านเอง ซึ่งน้องสาวของเขาก็ยินดีกับข้อแลกเปลี่ยนนั้น โชคดีที่กันต์ธีร์เรียนคณะเดียวกันกับน้องเขา จะได้คอยดูแลน้องสาวของเขาด้วยเพราะยังไงกันต์ธีร์ก็เสมือนเป็นพี่ชายอีกคนของน้องเขาแล้ว

“กลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนไหม จะใส่ชุดนักศึกษาไปกินข้าวหรือ” เสียงทุ้มเอ่ยถามกันต์ธีร์ วันนี้วันสำคัญเขาก็อยากให้อีกฝ่ายแต่งตัวหล่อๆ

“มาแปลก ปกติก็ใส่ชุดนี้ไปกินไม่ใช่หรือไง”

“ก็ใช่แต่วันนี้เปิดเทอมวันแรกไงเลยอยากฉลองเปิดเทอม โทรจองโรงแรมฟ้าสางไว้”

“ฉลองทำไมก็แค่เปิดเทอม”

“เอาน่า ฉลองนิดเดียวเอง”

“ตามใจ ถ้าอย่างนั้นก็กลับบ้านเปลี่ยนชุด แล้วมิกจะใส่ชุดนักศึกษาไปหรือไง”

“อ๋อ เราเอามาเดี๋ยวไปอาบน้ำเปลี่ยนที่บ้านกายไง” อติวิชญ์วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว เขาจัดของเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเตรียมชุดมานอนที่บ้านกันต์ธีร์ เขาบอกพ่อกับแม่เอาไว้แล้วว่าจะมาค้างที่นี่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ พ่อกับแม่ของเขาไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ท่านกลัวว่าจะไปรบกวนครอบครัวคุณอาจักร ซึ่งเขาเองก็รับรองว่าไม่รบกวนแน่นอน

“ครับไอ้ยักษ์”

“ครับหมีน้อย ฮ่าๆ”

เมื่อถึงบ้านของกันต์ธีร์ อติวิชญ์ก็หยิบสัมภาระที่เตรียมมาขึ้นไปที่บ้านของกันต์ธีร์ เขายังไม่ได้บอกอีกฝ่ายว่าวันนี้เขาจะมาค้างที่นี่ ค่อยบอกหลังจากขอเป็นแฟนแล้วกัน

“พ่อครับ ย่าครับ กลับแล้ว” กันต์ธีร์สงเสียงเรียกทักทายพ่อกับย่า วางของที่ห้องรับแขกก่อนจะเดินเข้าทักที่ห้องทานอาหาร

“อ้าวลูก มากินข้าวกันไหม พ่อคิดว่าวันนี้ลูกจะกลับดึก” พ่อของกันต์ธีร์ทักทายเขาก่อนจะชวนทั้งคู่ทานมื้อเย็น แต่ว่าวันนี้เขาคงขอเสียมารยาทปฏิเสธผู้ใหญ่ทั้งสอง

“ขอบคุณครับพ่อ แต่ว่าวันนี้ไม่ดีกว่า พอดีกายแค่กลับมาเปลี่ยนชุด มิกเขาชวนไปทานข้าวข้างนอกแต่ต้องแต่งตัวดีดีไปน่ะครับ”

“แหม่ ไอ้ลูกเขย จะขอลูกพ่อแต่งงานหรือไง นี่นัดดินเดอร์ใต้แสงเทียนใช่ไหม”

“เย้ย พ่ออะ พูดอะไรครับ แค่ทานข้าวเฉยๆนั่นล่ะ” “คุณพ่อรอฟังข่าวดีได้เลยครับ” เขาแค่แกล้งกันต์ธีร์เล่นเท่านั้น แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงก็ไม่ต่างจากการขอแต่งงานหรอก เพียงแค่ขอเป็นแฟนไปก่อนเท่านั้นเอง

“ฮ่าๆๆ พ่อถูกใจจริงๆ”

“พ่ออะ เดี๋ยวกายไปเก็บของก่อนนะครับพ่อ ไปนะครับย่า”

“จ๊ะๆ แล้วตามิกจะใส่ชุดนี้ไปเหรอลูก ย่าว่ายืมชุดพ่อเขาใส่ไหม”

“ไม่เป็นไรครับคุณย่า ขอบคุณมากครับ พอดีผมเตรียมมาด้วยน่ะครับ ว่าจะขอยืมรีดผ้าสักหน่อย”

“โอ๊ย ไม่ต้องๆ ดาวมาเอาชุดตามิกไปรีดให้หน่อย ส่วนเราก็ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าซะ เดี๋ยวให้ดาวเอาชุดขึ้นไปให้” สาวใช้บ้านของกันต์ธีร์มารับเสื้อผ้าของเขาไปรีดให้ เสียงทุ้มเอ่ยขอบคุณก่อนจะขอตัวขึ้นไปหากันต์ธีร์ข้างบน

หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วทั้งคู่ก็ออกมาจากบ้านก่อนจะตรงไปที่โรงแรมฟ้าสาง

“จองไว้กี่โมงล่ะ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามเขาระหว่างที่รอรถติดไฟแดง วันนี้วันสุดสัปดาห์การจราจรบนท้องถนนติดขัด โชคดีที่อติวิชญ์จองไว้ตอนสามทุ่มทำให้เหลือเวลาการเดินทางเหลือเฟือ ที่สำคัญเวลานี้ครัวที่โรงแรมจะปิดแล้วแต่เขาขอไว้เป็นกรณีพิเศษเพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว อีกอย่างเขากลัวกันต์ธีร์จะเขินเมื่อมีแขกคนอื่นทานอาหารกันอยู่ ตัวของเขาเองก็อายเหมือนกันที่จะทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนหมู่มาก

“สามทุ่ม ยังไงก็ทัน”

“ทันที่ไหนล่ะ ครัวเขาปิดสองทุ่มไม่ใช่หรือไง”

“เราบอกเขาไว้แล้ว เขาจะเตรียมไว้ให้” กันต์ธีร์หันมามองเขาหมายว่าจะจับพิรุธ อติวิชญ์ตั้งใจขับรถอย่างขะมักเขม้น เพียงแค่ไม่หันไปสบตาก็จับพิรุธเขาไม่ได้แล้ว

“รถติดขนาดนี้จะถึงกี่โมงนี่” เสียงกันต์ธีร์บ่นตลอดทาง จราจรติดขัดตลอดทางไปโรงแรมฟ้าสาง อติวิชญ์เองก็กลัวจะไม่ทัน ถ้าเกิดไปช้าทางโรงแรมอาจจะคิดว่าเขาไม่ไปแล้วก็เป็นได้ จะโทรไปบอกตอนนี้ก็กลัวกันต์ธีร์จะจับได้ ได้แต่ภาวนาให้รถเลิกติดเร็วๆ

“ตื่นเต้นอะไรนี่ ยังไม่สองทุ่มเลยยังไงก็ทัน อยากโดนขอแต่งงานเร็วเหรอ”

“ก็อยากให้ขอแล้วนี่… เห้ย บ้าสิ หิวเฉยๆ” กันต์ธีร์ปฏิเสธเสียงแหว โมโหกลบเกลื่อนอาการเขินอายที่ถูกจับได้

“หึหึ อดทนก่อนนะหมีน้อย”

“มีหน้าที่ขับรถก็ขับไปอย่าพูดมากนะไอ้ยักษ์”

ทันทีที่จอดรถเสร็จกันต์ธีร์ก็บ่นขึ้น รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้อีกฝ่ายขี้บ่นขึ้นเล็กน้อยแต่เขาก็ยังรับได้ คงกลัวว่าจะมาไม่ทันน่ะสิ ตัวเขาเองก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน

“เกือบไม่ทันแล้วอีกสิบห้านาทีเอง แล้วทำไมวันนี้รถติดนักก็ไม่รู้”

“เอาน่าถึงแล้วนี่ไง รีบเข้าไปกันเถอะ”

“อติวิชญ์ที่จองห้องอาหารเอาไว้น่ะครับ” เมื่อถึงเสียงทุ้มก็แจ้งกับทางพนักงานต้อนรับของโรงแรมเรื่องห้องอาหารที่เขาจองเอาไว้ ถ้ามากว่านี้อาจจะไม่ทันจริงๆก็ได้

“รอสักครู่นะคะ พนักงานกำลังจัดโต๊ะให้ค่ะ เชิญคุณอติวิชญ์ขึ้นไปรอเลยก็ได้ค่ะ”

ในห้องอาหารมีเพียงแสงเทียนสว่างไสวจากโต๊ะที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างของโรงแรม มีเพลงคลาสสิกเปิดคลอเบาๆ พนักงานจัดโต๊ะอาหารเสร็จก็หันมาเชิญทั้งสองเข้าไป ก่อนจะไปเตรียมหยิบอาหารสำหรับมื้อเย็นที่แสนโรแมนติกนี้
“กลับตอนนี้ทันไหมมิก อายว่ะ ขนาดมีแค่โต๊ะเดียว” กันต์ธีร์เอ่ยขึ้นมาอย่างติดตลก เขารู้ว่าเจ้าตัวก็ดีใจที่เขาชวนมาทานอาหารค่ำที่บรรยากาศดีแบบนี้

“ไม่ทัน แล้วคิดว่าเราไม่อายหรือ ก็อายเหมือนกันนั่นล่ะ”

“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารนะครับ อาหารจานหลักวันนี้คือสเต็กเนื้อแกะ ทานคู่กับสปาเก็ตตีล็อบสเตอร์ มีเครื่องเคียงเป็นซีซ่าร์สลัดครับ” เมื่อบริกรชายเดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารกันต์ธีร์ก็ทำตาโตใส่เขา มื้อนี้เขาอยากให้มันพิเศษที่สุดจึงทุ่มไม่อั้นกับเมนูอาหาร

“นี่กะจะให้กลิ้งกลับใช่ไหม”

“เดี๋ยวให้ขี่หลังกลับ ถ้ากายเดินไม่ไหว” อ้วนกว่านี่เขาก็ยกไหว หึหึ เขารู้ว่าอีกฝ่ายดูแลหุ่นของตัวเองซึ่งเขาเองก็ดูแลหุ่นเหมือนกัน แต่มื้อนี้ยังไงก็ต้องดีที่สุด ค่อยไปบริหารร่างกายเอาไขมันออกทีหลังยังทัน เพราะหลังๆมานี้เขาทั้งคู่ไม่ค่อยได้ไปออกกำลังกายเลย นานๆครั้งถึงไปยิมที หลังจากนี้กันต์ธีร์คงจะชวนเขาไปบ่อยขึ้นแน่ๆ

“เอาของว่างมาเสิร์ฟเลยนะครับ” อติวิชญ์หันไปบอกพนักงานให้นำของว่างมาเสิร์ฟ เป็นโค้ดลับของเขาที่สั่งพนักงานเอาไว้

“ยังมีอีกเหรอ กินไม่ไหวแล้วนะ” กันต์ธีร์เริ่มบ่นออดแอดใส่เขาแล้ว ท่าทางเจ้าตัวคงจะทานไม่ไหวแล้วแน่ๆ

“ไม่เยอะหรอก นิดเดียวเอง”

พนักงานเดินถือจานของหวานมาหนึ่งอย่าง เขารู้มาว่ากันต์ธีร์ชอบทานเค้กช็อกโกแลตมากและเขาก็รู้ว่าต่อให้อิ่มขนาดไหนเจ้าตัวก็ยังทานของโปรดได้อย่างแน่นอน

เมื่อเสิร์ฟของว่างเสร็จพนักงานก็หายไปอีกครั้งก่อนจะกลับมาพร้อมกับกล่องเหล็กสองกล่องมาวางที่ด้านขวามือของเขา กันต์ธีร์มองกล่องอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ยอมจับมัน ส่งสัญญาณให้เขาเปิดกล่องนั้นก่อน ฝั่งเขาเองก็มีหนึ่งกล่องเช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นเปิดพร้อมกันนะ”

“ก็ได้” ต่างคนต่างเปิดกล่องเหล็กนั้นออกมา ภายในเป็นสายหนังรัดข้อมือสลักชื่อของเขาสองคนเอาไว้ เส้นเชือกที่ทำเป็นที่มัดถูกทำขึ้นอย่างดีเพื่อป้องกันการหลุดหรือขาด หนังที่ใช้ทำแผ่นสลักก็เป็นหนังแท้อย่างดีที่สั่งทำขึ้น ถึงจะเป็นเพียงแค่สายรัดข้อมือแต่เขาอยากให้เป็นสายรัดที่ดีที่สุดสำหรับกันต์ธีร์แฟนของเขา

“กายเป็นแฟนกับมิกนะ” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยิบสายรัดข้อมือที่สลักชื่อของเขา ‘MICK’ มาผูกสวมให้กันต์ธีร์ เจ้าตัวเขินได้แต่ทำตัวแข็งทื่อ เขาเองก็สั่นไม่แพ้กัน

“สวมให้เราด้วยสิ” กันต์ธีร์รับคำเบาๆก่อนจะนำสายรัดมาผูกสวมให้เขา โดยสลักชื่อเอาไว้ว่า ‘GUY’

“เขินหรือ มือสั่นเชียว”

“ไม่เขินก็คงเป็นก้อนหินแล้วมิก” ถึงจะเป็นเวลาแบบนี้แต่เขาก็อยากให้กันต์ธีร์ผ่อนคลาย ลดอาการตื่นเต้นลงบ้าง เพราะนี่ก็ช่วยให้เขาผ่อนคลายได้เช่นเดียวกัน

“ตกลงเราเป็นกันจริงๆแล้วใช่ไหม”

“อื้ม”

“ขอบคุณครับกาย”

“ขอบคุณเหมือนกันครับมิก”

“แหวนค่อยเอานะ เดี๋ยวทำงานเก็บเงินซื้อให้”

“ให้แค่นี้ก็ดีใจแล้ว” ภายใต้แสงเทียน ชายหนุ่มทั้งสองคนนั่งมองหน้ากันต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กัน ทั้งสองรู้ดีว่าหลังจากวันนี้ไปทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น อาจจะมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปและบางอย่างจะคงอยู่เหมือนเดิมแต่ไม่ว่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป ความมั่นคงที่ทั้งสองมีให้กันจะยังคงอยู่แข็งแรงดุจหินผา แสงจันทร์ที่สาดส่องบนท้องฟ้าในยามนี้เป็นเสมือนพยานรักของพวกเขา นับจากนี้ไปอติวิชญ์และกันต์ธีร์เป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการแล้ว…





To Be Continue…

ตอนที่ 7 มาแล้ว ขอโทษที่หายไปนาน

ยาวจุใจพอไหมเอ่ย .. หวังว่าผู้อ่านทุกคนจะชอบกันนะครับ

ปล.หากเจอคำผิด บอกได้เลยนะครับ

หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-03-2016 22:01:23
ในที่สุดดดดดดดดด

คู่นี้เหมือนเจอกันแปปๆก็ขอเป็นแฟน

แต่เหมือนทั้งคู่คิดดีแล้ว ไม่ได้เป็นแฟนเพราะแค่อยากได้เฉยๆ

งานนี้สาววายฟิน~
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 06-03-2016 22:20:28
หวานน้ำตาลหยดมากเลย
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-03-2016 22:45:01
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-03-2016 23:18:07
ขอเป็นแฟนกันได้น่ารักดีค่ะ
แต่จากนี้ไปพอเปิดตัว คงมีมารผจญมาแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 06-03-2016 23:45:41
กว่าจะได้เป็นแฟน ดูใจกันนานพอสมควร ดีแล้วคะ รักกันนานๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 06-03-2016 23:56:59
เป็นแฟนกันแล้วเย้ๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 07-03-2016 05:01:48
สามสี่ทุ่มขอเป็นแฟน
พอกลับถึงบ้านเดี๋ยวก็ได้เป็น...  :oo1: ... มั้ยน้อออ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-03-2016 07:17:58
 :katai2-1: มิกขอกายเป็นแฟนแล้ว  :-[   เอ่อ.....คนอ่านสมหวัง กว่ากายป่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 07-03-2016 10:07:47
เค้าเป็นแฟนกันแล้ว เย้!!!!
รักกันนานๆน้า  :-[
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 07-03-2016 19:43:52
โอ้ยยยยย...คือดีอะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 09-03-2016 17:34:30
ตามอ่านทันแล้ว
ในที่สุดก็ได้เป็นแฟนกัน น่ารักจังเลย  :katai2-1:
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 10-03-2016 00:27:15
เป็นแฟนกันสักที ฟู่ว
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-03-2016 01:30:33
เป็นแฟนกันแล้ว ดีใจมาก เหมือนอยู่ในเหตุการณ์เลย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 7] [06.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 10-03-2016 03:25:49
เป็นแฟนกันแล้ว กรี๊ดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 10-03-2016 23:17:46



-8-





‘เป็นประเด็นร้อนอีกแล้วนะคะ เมื่อทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยดัง ควงหนุ่มปริศนาดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันสองต่อสอง วงในเขาบอกมาว่าเป็นลูกชายเจ้าของตึกกลางเมืองล่ะค่าคุณผู้ชม แหม! ต่างคนต่างไฮโซแบบนี้เงินทองจะไปไหนได้ค้า~ ถ้ามีอัพเดตยังไงเราจะมาแจ้งให้ทราบทันทีที่นี่ที่เดียวเลยล่ะค่ะ’ เสียงพิธีกรสาวในรายการข่าวบันเทิงกำลังพูดถึงข่าวของทายาทนักธุรกิจชื่อดัง
.
.

“นี่มันอะไรกัน ลูกไปกับใครคะ แล้วทำไมถึงไปกันสองคน ลูกกับเขาคบกันหรือคะ” แม่ของอติวิชญ์ถามขึ้นหลังจากที่เธอและสามีกลับจากงานเลี้ยงของสังคมไฮโซ เธอไม่ได้รู้เรื่องจากข่าวแต่ที่งานมีนักข่าวมารุมสัมภาษณ์เธอและสามีเต็มไปหมด

ตั้งแต่กลับมาพ่อของอติวิชญ์ยังไม่พูดด้วยสักคำ เขาไม่คิดว่าวันนี้จะมาเร็วขนาดนี้เพิ่งได้เป็นเมื่อวันศุกร์และนี่ก็เพิ่งวันอาทิตย์ เขาไปนอนบ้านของกันต์ธีร์สองวันคือวันศุกร์และวันเสาร์ ตื่นเช้าวันอาทิตย์เพื่อกลับมาเก็บของที่บ้าน เหตุการณ์ที่บ้านของแฟนเขาก็ไม่มีอะไรมากแค่นอนกอดกันเท่านั้น เจ้าตัวบอกว่าอยากขอเล่นตัวสักหน่อยซึ่งตัวอติวิชญ์เองก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เขารอได้เสมอ อีกอย่างตัวเขาเองก็ไม่ได้รีบเพราะรู้ว่ายังไงก็มีเวลาให้ทำอีกเยอะ

แต่ปัญหาที่ต้องแก้ตอนนี้คือจะบอกพ่อกับแม่ของเขาว่าอย่างไร คงมีมือพนักงานมือดีแอบถ่ายเขากับกันต์ธีร์เป็นแน่ เขารู้ว่าแม่ต้องเข้าใจเขาแน่แต่กับพ่อเขามักจะเดาใจท่านไม่ค่อยถูก เรื่องเกิดขึ้นแล้วมีแต่ต้องยอมรับความจริง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาและกันต์ธีร์ต้องผ่านมันไปให้ได้

“แล้วคุณจะไม่พูดอะไรเลยหรือคะ” นภาหันไปถามคนเป็นสามีที่ตอนนี้ใบหน้าเรียบเฉย ไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ในอารมณ์แบบไหนหรือคิดอะไรอยู่

“ผมไม่มีอะไรจะพูดหรอก ผมรู้สึกผิดหวังในตัวลูก”

“มีอะไรกันหรือคะ คุณพ่อคุณแม่” เสียงน้องสาวเขาถามขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวและพี่ชายคนโตเข้ามาในห้องนั่งเล่น

“ลูกยังไม่เห็นข่าวหรือ ว่าพี่ชายลูกไปเดทกับหนุ่มนิรนาม”

“อ๋อ เห็นแล้วค่ะ หนูว่าจะถามพี่เขาอยู่พอดีว่าคบกับพี่กายอยู่หรือ”

“มิ้นท์รู้ได้อย่างไรว่าเป็นกาย” เสียงพี่ชายคนโตถามขึ้นมาอย่างสงสัย

“แหมพี่ไมล์ก็ ในข่าวใบ้มาขนาดนี้ไม่รู้ก็บ้าแล้ว อีกอย่างนะมิ้นท์พอดูออกตั้งนานแล้วว่าสองคนนี้เขาชอบกันอยู่ แล้วตกลงคบกันแล้วหรือพี่มิก” เขาพยักหน้าเชิงตอบรับน้องสาว ก่อนที่เธอจะทำท่าทางดีใจออกมาให้เห็น จนอดพี่ชายคนโตอดไม่ได้ถึงกับต้องถาม

“ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นยัยมิ้นท์”

“พี่ไมล์ไม่เข้าใจหรอก เอาเป็นว่ามิ้นท์เข้าใจพี่มิกก็พอแล้วก็เป็นกำลังใจให้นะคะ”

“ลูกมิ้นท์คะ ไม่ใช่อารมณ์ที่จะมาพูดเล่นนะคะ เห็นไหมคุณพ่อกำลังเครียดอยู่”

“หนูไม่ได้เล่นค่ะ จริงจังนะคะแม่”

“นี่ลูกสนับสนุนให้พี่ชายเป็นเกย์หรือ อยากให้พี่เขามีแฟนเป็นผู้ชายหรือไง” จู่ๆพ่อของอติวิชญ์ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเรียบเฉียบเหมือนกับใบหน้ายิ่งทำให้บรรยากาศอึมครึมยิ่งขึ้น อติวิชญ์กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกเลยที่เคยคิดไว้ว่าจะผ่านไปให้ได้แต่เมื่อถึงเวลากลับรู้สึกเสียใจ เขาไม่คิดว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วอย่างนี้

“คุณพ่อคะ ความรักไม่มีเพศนะคะ มันไม่มีกำหนดตายตัวว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงอย่างเดียวนี่คะ แล้วหนูว่ามันก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลยนี่คะที่มีแฟนเป็นผู้ชาย หนูสนับสนุนค่ะ”

“นั่นสิครับพ่อสมัยนี้แล้ว ขอแค่น้องเป็นคนดีก็น่าจะพอแล้วนี่ครับ” พี่ชายของอติวิชญ์ช่วยเสริมทัพอีกแรง เขารู้สึกซาบซึ้งใจที่พี่น้องของเขาเข้าใจเขา

“พ่อผิดหวังในตัวลูกจริงๆนะมิก”

“คุณคะอย่าโกรธลูกเลยนะ ยังไงสะเขาก็เป็นลูกเรานะคะ คุณโกรธเกลียดลูกคุณลงคอหรือคะ”

“คุณจะไม่ให้ผมโกรธได้อย่างไร ก็เห็นอยู่ว่าเมื่อเช้านักข่าวมาถามว่าอะไรบ้าง”

“ผมขอโทษครับพ่อที่ทำให้ผิดหวัง” อติวิชญ์ได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตาผู้เป็นพ่อ ถึงแม้เขาจะเตรียมรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้เอาไว้แล้วแต่เมื่อเจอกับตัวจริงๆเขารู้สึกเหมือนเจอทางตันหาหนทางที่จะก้าวออกจากอุโมงค์ความรู้สึกนี้

“พ่อขอให้เลิกกันได้ไหม” “เอ๊ะ! คุณคะไหนว่า..” เพราะมัวแต่ก้มหน้ารับความผิดอติวิชญ์จึงไม่เห็นว่าพ่อของเขาหันไปขยิบตาให้แม่เป็นเชิงส่งสัญญาณ

“ถ้ามีทางเลือกให้สองทา..” “เลือกไม่ได้ครับต่อให้มีมากกว่าสองทางผมก็เลือกไม่ได้ ผมไม่มีวันเลิกกับกายเด็ดขาด ผมขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังแต่ผมจะแสดงให้เห็นว่าผมกับกายคบกันไม่ใช่เรื่องผิดและจะไม่สร้างความเสียหายให้พ่อกับแม่แน่นอนครับ” อติวิชญ์เงยหน้าตอบผู้เป็นพ่อทันทีเขาจะไม่ยอมเลิกกับกันต์ธีร์แน่ๆ และเขาก็จะพิสูจน์ให้พ่อกับแม่เห็นถึงความรักของเขากับกันต์ธีร์และทำให้ท่านยอมรับให้ได้

“จะไม่ลองฟังทางเลือกดูหน่อยหรือ พ่อกับแม่น่ะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอล่ะ”

“ขอโทษนะครับพ่อ แต่ครั้งนี้ผมขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวผมเองนะครับ” อติวิชญ์แสดงถึงความตั้งใจแน่วแน่ของเขา ในเมื่อเขาเลือกแล้วต้องยอมรับผลที่ตามมา

“ไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไรแต่พ่อขอเสนอทางเลือกแล้ว ถือสะว่าฟังผ่านเฉยๆแล้วกัน..

ทางเลือกแรกคือให้มิกพากายมาเจอพ่อกับแม่และครอบครัวเรา..

ทางเลือกที่สองคือให้พ่อกับแม่ไปเจอครอบครัวของกายที่บ้านเขา..

แต่ดูท่าทางแล้วลูกพ่อคงไม่เลือกสักทางก็ไม่เป็นไรนะ ฮะๆ”

จากอารมณ์เสียใจเปลี่ยนมาเป็นอารมณ์ตกใจก่อนจะมีอาการของคนดีใจตามมาเมื่อประมวลผลคำพูดของพ่อเสร็จ อติวิชญ์มองหน้าพ่อกับแม่ของเขาที่ส่งยิ้มมาให้ก็เกิดความรู้สึกอยากจะตะโกนดังๆด้วยความดีใจ นี่เขาโดนพ่อกับแม่ต้มสะเปื่อยเลยไม่รู้พี่ชายกับน้องสาวร่วมกันแกล้งด้วยหรือเปล่า

“ผมขอเลือกสองทางเลยได้ไหมครับพ่อ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื้นเต้นและเต็มไปด้วยความดีใจอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“เย่ๆ หนูดีใจด้วยนะพี่มิกหนูฟินมากๆเลย พ่อกับแม่ต้มหนูกับพี่ไมล์สะเปื่อยเลยค่ะ หนูคิดว่าจะจริงจัง หนูเกือบร้องไห้แล้วรู้ไหม” น้องสาวของอติวิชญ์พูดด้วยความใจและตื้นตันใจที่ความรักของพี่ชายไม่มีอุปสรรคแล้ว

“พี่ไม่โดนต้มนะมิ้นท์เพราะพี่แอบเห็นพ่อส่งซิกให้แม่ ฮ่าๆ ดีใจด้วยนะไอ้น้องชาย”

“ขอบคุณครับทุกคน”

“ถ้ามิกจะเลือกสองทาง ถ้าอย่างนั้นพ่อเลือกให้แล้วกันข้อสองนะพ่อกับแม่จะไปเยี่ยมครอบครัวกาย ไปกันหมดนี่เลย”

“ดีค่ะคุณ จะได้คุยอะไรให้เป็นกิจจะลักษณะ ฉันชอบให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้”

“ผมขอบคุณมากนะครับพ่อกับแม่ ผมมีความสุขที่สุดเลย เอ่อแต่ว่าพ่อกับย่าของกายเขารู้เรื่องแล้วครับ”

“ถึงอย่างไรก็ต้องไปพบปะกันอยู่ดี พ่อจะได้คุยเรื่องอื่นๆด้วย”

“ผมรักพ่อกับแม่นะครับ”

“แม่ก็รักลูก ลูกรักใครแม่ก็รักด้วยแม่จะเป็นเพศไหนก็แล้วแต่แม่ขอแค่ให้ลูกเป็นคนดี แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและมีความสุขก็พอ”

“พ่อก็เหมือนกัน ขอแค่ลูกพ่อเป็นคนดีพ่อก็พอใจแล้ว เรื่องเมื่อกี้พ่อผิดเองนั่นล่ะ พ่อแค่อยากลองพิสูจน์ว่าลูกจิตใจเข้มแข็งแค่ไหน ซึ่งลูกแสดงให้พ่อเห็นแล้วว่าลูกพร้อมที่จะก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับลูกและกาย”

“ขอบคุณครับพ่อแม่ ผมดีใจที่พ่อกับแม่เข้าใจและอยู่เคียงข้างผม ผมรักพ่อกับแม่นะ” อติวิชญ์เข้าไปกอดท่านทั้งสองอย่างรักใคร่ ในชีวิตขอแค่พ่อกับแม่เข้าใจ เขาก็พร้อมจะเผชิญทุกปัญหาที่จะผ่านเข้ามา

“เคลียร์จบแล้ว ไปทานข้าวกันดีกว่าเดี๋ยวให้แม่บ้านจัดโต๊ะเลยนะ”

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของครอบครัวก็กลับมามีความสุขอีกครั้งหลังจากผ่านสถานการณ์ตรึงเครียดมา ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนชีวิตของอติวิชญ์ก็ว่าได้ ร่างสูงใหญ่เชื่อแล้วว่าปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นขอแค่เพียงคนที่รักพร้อมจะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้ เขาสามารถแก้ปัญหาและก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้อย่างแน่นอน



‘คุณเขตต์คะ ขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมคะ’ พิธีกรสาวจากรายการข่าวบันเทิงเข้ามาขอสัมภาษณ์เขาและภรรยาในงานเลี้ยงผู้ถือหุ้นของบริษัท

‘เชิญเลยครับ’ ‘มีข่าวเม้าท์มาว่าลูกชายของคุณควงหนุ่มไปดินเนอร์กันสองต่อสองแล้วหนุ่มคนนั้นเป็นใครพอจะทราบไหมคะ’

‘ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นใครครับ’

‘แต่มีคนบอกว่าเป็นทายาทของแกรนด์พาเลซนี่คะ’

‘ถึงเขาจะเป็นทายาทของใคร มาจากไหนแต่ถ้าเป็นคนที่ลูกผมรัก ผมก็ไม่มีปัญหา ลูกรักชอบอะไรก็คอยสนับสนุนเขา เพียงแต่ขอให้เขาเป็นคนดีของสังคมก็พอ’ ภรรยาของเขาเริ่มมีทีท่าอึดอัดกับการถามซอกแซกของพิธีกรสาวคนนี้ จึงเอ่ยจัดบทก่อนจะขอตัวไปที่อื่นแต่สาวเจ้าก็ยังคงรั้งไว้ด้วยการถามคำถามต่อไป

‘แล้วอย่างนี้..’ ‘ผมว่าถ้าเจอผมก็ถามเรื่องของผม ธุรกิจของผมดีกว่าไหม ส่วนเรื่องของลูกๆผมคุณคงต้องไปถามเจ้าตัวเอาเองนะ’

แล้วพิธีกรสาวหน้าเจื่อนแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ทำทีสนใจเรื่องธุรกิจของเขาแทนและพูดถึงเรื่องมหาวิทยาลัยที่ต้นตระกูลของเขาก่อตั้งขึ้น

.
.

“กาย พ่อกับแม่รู้เรื่องของเราแล้วนะ” หลังจากวันนั้นผ่านไปเหตุการณ์ทุกอย่างก็กลับมาสงบเหมือนเดิม แต่อติวิชญ์รู้สึกว่ามีใครสักคนแอบถ่ายรูปเขากับกันต์ธีร์ไปลงเพจ ‘Perfect Couple’ บ้างหรือลงหนังซุบซิบดาราบ้าง ซึ่งเขาเองก็แปลกใจว่าจะเอาไปลงทำไมในเมื่อพวกเขาไม่ใช่ดารา แล้วตั้งนานก็ไม่สนใจเพิ่งจะมาสนใจอะไรกันตอนนี้

วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันที่อติวิชญ์มารับกันต์ธีร์ที่บ้านก่อนจะไปมหาวิทยาลัยพร้อมกันตอนนี้เพื่อนๆที่คณะของเขาและกันต์ธีร์ต่างก็รู้ถึงความสัมพันธ์นี้ ตัวเขาเองไม่ได้เปิดเผยหากแต่ไม่ได้ปกปิดถ้ามีใครมาถาม เพียงแค่ไม่ชอบเป็นที่สนใจของคนมากๆก็เท่านั้น

“นี่มิก วันลังผลัดกันบ้างนะ” จู่ๆแฟนของเขาก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จนอติวิชญ์อดหันไปถามด้วยความตกใจไม่ได้

“ผลัดอะไรกัน เรายังไม่ได้มีอะไรกันเลยนะ”

“หมกมุ่นหรือไง หมายถึงว่าวันหลังให้เราไปรับบ้าง รถจอดไว้เฉยๆจนจะเป็นเศษเหล็กแล้ว”

“เห้ย ไม่ต้องหรอกเราอยากขับรถให้แฟนเรานั่ง”

“ถ้าอยากขับให้นั่งก็เอารถเราไปขับบ้างสิ วันไหนจะไปรับจะบอก พอเราไปรับมิกค่อยขับ นะ”

“ก็ได้ แฟนว่าดีมิกก็ว่าดี”

“ไอ้ยักษ์”

“ครับหมีน้อย” “ขับรถเงียบๆไปเลยไป”

“เออว่าจะถามหลายครั้งแล้ว ไม่ชอบให้เรียกว่าหมีน้อยหรือ”

“ถามแบบนี้อยากให้ชอบไหมล่ะ” เปลี่ยนโหมดมาอ่อยเขาสะงั้น ขนาดเป็นแฟนกันแล้วกันต์ธีร์ก็ยังชอบพูดจาแบบนี้กับเขา ซึ่งอติวิชญ์มองว่าน่ารักดี เพราะเวลาเจอเขาอ่อยกลับเจ้าตัวจะเงียบแก้เขิน

“ไม่ชอบคำนี้ไม่เป็นไร แต่เราอยากให้ชอบถ้าเราเรียกว่าแม่หมีนะ หึหึ” ‘คิดจะให้เราเขินล่ะสิ เร็วไปสิบปีนะหนู ไปฝึกหาวิธีมาใหม่นะ หึหึ’ อติวิชญ์ได้แต่คิดในใจอย่างขำๆ

“ไปกันใหญ่ละ จริงไม่ได้ไม่ชอบแต่มันเขินไง ฮะๆ” เขาชอบกันต์ธีร์ตรงนี้ล่ะ ถึงแม้จะเขินแค่ไหนแต่เจ้าตัวก็มักจะพูดความรู้สึกของตัวเองทุกครั้ง ซึ่งเขารู้สึกว่ามันเป็นการแสดงออกถึงลักษณะนิสัยอย่างหนึ่งของกันต์ธีร์ที่ดูเป็นคนจริงใจมีอะไรก็พูดกันตรงๆ และอติวิชญ์ก็อดไม่ได้ที่จะแหย่ให้เจ้าตัวพูดอะไรออกมา

“เขินอันไหนหมีน้อยหรือแม่หมี”

“ทั้งสองอันนั่นล่ะ โอย ฟังเพลงดีกว่า” “หึหึ”

“แวะซื้อแซนวิชด้วย ไม่อยากกินข้าว”

“ได้ครับแฟน” ร่างสูงใหญ่รับคำก่อนจะตีไฟเลี้ยวจอดรถรออีกคนลงไปซื้อแซนวิชสำหรับอาหารเช้า หายไปไม่นานร่างสมส่วนก็กลับมาพร้อมถุงใหญ่หนึ่งถุง หึหึ บอกให้เขารักษาหุ่นแต่ชอบให้ทานอะไรเยอะๆแล้วไม่ไปออกกำลังกายนี่นะ ถึงเวลาที่ต้องจัดตารางชีวิตใหม่แล้ว

“อ่ะนี่ของมิก เรากลัวไม่อิ่ม” “ขอบคุณครับ แต่เยอะขนาดนี้ไม่อิ่มสิแปลก ฮ่าๆ ได้แบ่งเพื่อนอีกแหงๆ โดยเฉพาะไอ้เจมส์กับไอ้ไปป์”

“เอ้อลืมบอก พ่อกับแม่บอกว่าจะไปบ้านกายวันเสาร์นี้นะ ไม่มีธุระที่ไหนใช่เปล่า”

“ไม่มีหรอก เดี๋ยวเราบอกพ่อกับย่าให้ ย่าคงทำอาหารต้อนรับแน่ๆ”

“โอเค ถึงพอดีเลย ตั้งใจเรียนนะเดี๋ยวตอนเย็นมารอ”

“ขอบคุณครับ มิกก็ตั้งใจเรียนนะ”

ชีวิตคู่ของอติวิชญ์และกันต์ธีร์ไม่มีอะไรหวือหวามากนัก วันธรรมดาตื่นเช้าไปเรียนตอนเย็นเลิกเรียนก็ไปทานข้าวก่อนกลับบ้าน วันหยุดก็หากิจกรรมที่คนเป็นแฟนเขาทำกันส่วนใหญ่ก็ดูหนังหรือไม่กันต์ธีร์ก็ชวนเดินซื้อของ รายนั้นชอบให้ตัวเองเสียเงินแต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเขาก็จ่ายทุกที
.
.

“ลงมารับหน่อย รออยู่ข้างล่าง” อติวิชญ์โทรตามแฟนของเขาให้ลงมารับเพราะวันนี้ทั้งสองครอบครัวมีนัดทานข้าวกัน ร่างสูงใหญ่ใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีกรมท่ากับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มพอมาอยู่บนตัวอติวิชญ์แล้วยิ่งทำให้น่ามองเข้าไปใหญ่ ยิ่งสวมกับรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มทำให้ร่างสูงใหญ่ดูเหมือนนายแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสารแฟชั่นสักฉบับ

“ลุงเขตต์ ป้านภา สวัสดีครับ” เมื่อลงมาถึงก็ทักทายกันพอหอมปากหอมคอก่อนที่เจ้าของบ้านจะชวนขึ้นไปบนบ้าน

“ขอโทษด้วยครับที่แต่งตัวไม่สุภาพ พอดีกำลังช่วยคุณย่าทำมื้อเที่ยงน่ะครับ” ร่างสมส่วนของกันต์ธีร์สวมเสื้อกล้ามสีตุ่นกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่า ทรงผมยุ่งนิดๆทำให้ดูเซกซี่ขึ้นมาเป็นกอง

“ไม่เป็นไรค่ะ อ้อแล้วก็เรียกว่าพ่อกับแม่ได้แล้ว ลุงกับป้าที่ไหนกันคะ”

“ครับคุณพ่อ คุณแม่” จากนั้นทั้งหมดก็คุยกันเรื่องทั่วไป พ่อของอติวิชญ์ถามถึงเรื่องบ้านที่กันต์ธีร์อาศัยอยู่ตอนนี้ พ่อมีความเห็นว่าอยู่แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ ส่วนแม่ของเขาก็ชอบการตกแต่งของบ้านกันต์ธีร์

“มิ้นท์เพิ่งเคยเห็นผิวในร่มผ้าพี่กาย ทำไมขาวโอโม่แบบนี้คะ พี่มิกกลายเป็นคนดำเลย ฮ่าๆ”

“อาจจะเป็นเพราะพี่ไม่ค่อยโดนแดดล่ะมั้ง ส่วนมิกเขาชอบกีฬากลางแจ้งนี่นา พี่ว่าผิวแทนๆก็ดูดีออก”

“ขาวๆแบบกายก็ดู ดูสุขภาพดีเพราะมีเลือดฝาด”

“อ้าวแล้วสองคนนี้จะมาอวยกันเองทำไมล่ะ พี่รู้แล้วว่าเป็นแฟนกันนะ ฮ่าๆ” พี่ชายกับน้องสาวของอติวิชญ์ชอบสร้างบรรยากาศรอบตัวให้มีความสนุกสนานอยู่เสมอ แต่เขารู้ว่าตอนนี้กันต์ธีร์กำลังเขินกับประโยคที่พี่ชายของเขาพูด เพราะเจ้าตัวเปลี่ยนเรื่องเป็นถามไถ่เรื่องเรียนของน้องสาวเขาแทน

“ถึงแล้วครับ เชิญทุกคนที่ห้องทานอาหารเลยนะครับ คุณย่าคงทำมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว ผมขอตัวไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนะครับ”

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเสมือนครอบครัวใหญ่มาทานข้าวด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างถามถึงสารทุกข์สุกดิบของกันและกัน พ่อและแม่ของอติวิชญ์พูดถึงเรื่องที่เขาและกันต์ธีร์คบกันท่านอยากให้ผู้ใหญ่รับรู้ตรงกันถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ก็อยากทำให้ถูกต้อง ซึ่งพ่อและย่าของกันต์ธีร์ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วจึงถือว่าจบลงด้วยดีทำให้เขาทั้งสองคนสบายใจขึ้นเปราะหนึ่งอย่างน้อยครอบครัวของพวกเขาก็เข้าใจ

หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ อติวิชญ์ชวนกันต์ธีร์ไปดูหนังแต่เนื่องจากวันนี้ครอบครัวของเขามาพร้อมกันด้วยรถตู้ ทั้งคู่เลยต้องใช้รถของกันต์ธีร์โดยมีเจ้าของร่างสูงใหญ่อาสาเป็นคนขับให้ เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้าทั้งสองคนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นคนดังไปสะงั้น เพราะมีสาวๆหลายคนเข้ามาขอถ่ายรูปกับพวกเขาบ้าง บางคนก็ขอถ่ายรูปคู่ของพวกเขาบอกว่าจะเอาไปลงเพจ ร่างสูงใหญ่เกรงว่าอีกฝ่ายจะอึดอัดเพราะตัวเขาไม่มีปัญหาถ้าหากคนอื่นๆแค่เข้ามาขอถ่ายรูปแต่ถ้าถึงขั้นตามก็คงต้องมีอึดอัดกันบ้าง

“ไปดูรอบหนังกันเถอะ” กันต์ธีร์พูดขึ้นก่อนที่ร่างสมส่วนจะเดินนำเขาออกไป

“ไม่อึดอัดหรือที่เขามาขอถ่ายรูป”

“ไม่อะ ไหนๆหลายๆคนก็รู้แล้วอีกอย่างมันก็สนุกดีนี่นา ฮ่าๆ”

“ก็ดีแล้วเรากลัวกายรำคาญไง เราเองไม่คิดมากอยู่แล้ว”

“อื้อ ดูรอบหนังกัน วันนี้กินป๊อปคอร์นด้วยดีกว่า”

“เพิ่งกินข้าวมาจะกินไหวหรือ ไม่กลัวอ้วนแล้วหรือไง”

“ถ้าอ้วนแล้วจะไม่รักหรือไง” ร่างสูงใหญ่จำได้ว่าตอนที่ขอเป็นแฟนเขาไม่ได้พูดคำนี้ออกมา พูดตอนนี้คงไม่สายเกินไป คำว่ารักพูดตอนไหนก็ได้ถ้าซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกรักจริงๆ

“รักสิ แล้วแม่หมีล่ะรักพ่อหมีไหม” อติวิชญ์รู้ว่ากันต์ธีร์แค่อยากแกล้งอ่อยเขาเท่านั้น เขาก็เลยแกล้งอ่อยกลับแต่กลับกลายเป้นว่าเมื่อพูดออกไปเขาเองนั่นล่ะที่เขินกับประโยคคำถามที่ถามออกไป

“หวายๆๆๆ พ่อหมี~ พูดเองเขินเองอะเด้ ฮ่าๆ”

“แม่หมีก็รักพ่อหมีนะ” ร่างสมส่วนเอ่ยขึ้นเบาราวกับเสียงกระซิบ โอเค! ยกนี้เขาแพ้ ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ต่อหัวใจกันไป

“ดูรอบนี้แล้วกันนะ ไปซื้อป๊อบคอร์นกันเถอะ ..เมื่อกี้เราก็เขินเหมือนกันว่ะมิก” สังเกตได้จากใบหน้าที่ขึ้นสีของกันต์ธีร์ ร่างสูงใหญ่ใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนจะเดินตามอีกคนที่นำไปซื้อป๊อปคอร์นก่อนแล้ว ความรู้สึกของอติวิชญ์ที่มีให้กันต์ธีร์มากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเขาไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ รู้แค่ว่าตอนนี้เขารักกันต์ธีร์รักทุกอย่างในตัวของกันต์ธีร์และเขารู้ว่ากันต์ธีร์ก็รักเขาเช่นเดียวกัน

‘หมดข้อสงสัยระหว่างไฮโซม.และไฮโซก. เมื่อมีภาพมายืนยันถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าเกินเพื่อนแน่นอน และดูเหมือนผู้ใหญ่จะไฟเขียวแล้ว ชะนีทั้งหลายเริ่มอยู่ยากขึ้นอีกแล้วนะท่านผู้อ่านทั้งหลาย’ ข้อความปรากฏในเพจซุบซิบดาราเพจหนึ่ง ถึงทั้งสองคนจะไม่ใช่ดารานักแสดงแต่ตอนนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักของคนหลายคนสะแล้ว หวังว่าจะไม่นำเรื่องน่าปวดหัวมาให้นะ



To Be Continue…



ตอนที่ 8 มาแล้ว มาช้าเกินสองวันตลอดเบยยยย

นิยายเรื่องนี้สบายๆเรื่อยๆนะครับ อาจจะไม่หวือหวามากนัก
หวังว่าผู้อ่านจะชอบนะครับ
เรื่องนี้กะว่าจะเขียนไปเรื่อยๆ ยังไม่กำหนดตอนจบนะ
ติดตามอ่านกันเยอะๆนะครับ :monkeysad:

ปล. เจอคำผิด(เหมือนเดิม) บอกได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 10-03-2016 23:48:34
พ่อของมิกเนี่ยทำลุ้นนะเนี่ย 555 :hao3:

รอตอนต่อไปปปป  :mew1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 11-03-2016 00:17:39
ครอบครัวไฟเขียวแล้ว สงสัยปัญหาจะมาจากคนอื่นล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-03-2016 01:01:13
ตกใจ คิดว่าพ่อมิกจะไม่ยอมซะแล้ว
ที่ไหนได้ แกล้งลูก 5555555
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-03-2016 01:19:26
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-03-2016 02:09:07
ลุ้นพ่อมิกจะแย่ กลัวจะดราม่าครอบครัวเสียแล้ว ^^"
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 11-03-2016 06:33:17
เบื่อพวกคนที่จะมาทำตัวน่ารำคาญจริง

เขาเป็นแฟนกันแล้ว ไมแลพวกลื้อหรอกย่ะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 11-03-2016 10:23:51
ถถถ พ่อแม่แกล้งอะเราใจหายตามเลย...แต่น่ารักอะพ่อหมีแม่หมี
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-03-2016 10:31:38
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 11-03-2016 16:58:13
พ่อของมิกทำเอาลุ้นจริงๆ ทั้งสองครอบครัวน่ารักมากๆค่ะ  :-[ และที่ชอบมากๆเลย  ฉายา พ่อหมี และ แม่หมี เห้ยแบบ มันน่ารักมุ้งมิ้ง ตอนหน้าส่งตัวเข้าหอเลยเถอะ เราอยากอุ้มลูกหมีและ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 11-03-2016 21:53:45
 :z13:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 8] [10.03.2016] [P.3]
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 12-03-2016 03:49:47
ขำชะนีอยู่ยาก55555
ไม่เป็นไรค่ะเห็นผู้ชายรักกันเราก็มีความสุข5555555
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.1] [12.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 12-03-2016 21:11:40



-9.1-




บรรยากาศรอบๆตัวของกันต์ธีร์เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากที่มีข่าวซุบซิบเรื่องของเขากับอติวิชญ์ จากเดิมที่มีแต่เพื่อนๆตอนนี้ก็มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีเพื่อนๆเยอะขึ้น ส่วนแฟนคลับที่รู้จักก็คงจะมีแต่น้องมิ้นท์น้องสาวของอติวิชญ์ เธอยังคงคลั่งไคล้พวกเขาทั้งคู่เหมือนเดิม แต่ถึงจะมีคนรู้จักหรือสนใจมากขึ้นทั้งสองก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเดิม

วันนี้เป็นกันต์ธีร์ที่ไปรับอติวิชญ์ที่บ้านเพราะว่าทั้งคู่ตกลงกันไว้แล้วจะผลัดกันไปรับ ไม่อย่างนั้นรถยนต์คันหรูของกันตีร์คงได้กลายเป็นเศษเหล็กเข้าสักวัน

“กาย วันนี้เรามีธุระกับที่บ้าน เลิกเรียนแล้วพ่อคงให้คนมารับ ขอโทษนะครับพอดีมันกระทันหันน่ะ พรุ่งนี้วันเกิดด้วยนี่นาเดี๋ยวเราไถ่โทษให้พรุ่งนี้นะ”

“อื้อ ก็ได้ถ้าอย่างนั้นเลิกเรียนแล้วเรากลับเลยนะ”

“ขอบคุณครับ เดี๋ยวเราขับรถไปคณะเราแล้วกายค่อยเอารถไปคณะกายนะ”

“ได้สิ ไม่มีปัญหาหรอก”

“ขอบคุณครับแม่หมี ไปเรียนแล้วนะ”

“อื้อ ตั้งใจเรียนแล้วกัน” กันต์ธีร์มองร่างสูงใหญ่ลงจากรถแล้วเดินเข้าตึกคณะของตนเองไป เมื่อพ้นสายตาจึงขับรถไปที่คณะของตัวเองบ้าง ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่าแต่วันนี้ดูเหมือนแฟนของเขาดูท่าทางมีความสุขเป็นพิเศษ

ถึงจะบอกว่าไม่มีปัญหาแต่ในใจก็รู้สึกตงิดๆอยู่เหมือนกัน ใช่! วันนี้น่ะไม่มีปัญหาหรอก เขาไม่ชอบเซ้าซี้เพราะกันต์ธีร์เชื่อเสมอว่าอติวิชญ์จะไม่โกหกเขา แต่เมื่อพูดถึงวันเกิดร่างสูงใหญ่ทำเหมือนกับว่าเป็นแค่วันๆหนึ่งเท่านั้นเอง แม้ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไปแต่ในใจก็อดน้อยใจไม่ได้ สำหรับตัวกันต์ธีร์วันเกิดของแฟนเสมือนเป็นที่สำคัญมากๆวันหนึ่งเลยก็ว่าได้ พอได้เห็นว่าแฟนของตัวเองทำเหมือนไม่ใส่ใจมันก็ต้องมีอารมณ์น้อยใจกันบ้างเป็นธรรมดา

ช่างมันเถอะ! ต้องพยายามไม่คิดมาก..

ร่างสมส่วนของกันต์ธีร์ก้าวขึ้นตึกคณะไปยังห้องเรียนที่นัดกับเพื่อนๆเอาไว้แล้ว เพื่อนๆที่ไปก่อนจองที่เอาไว้ให้เขาแล้ว เขานั่งลงก่อนจะหบินสมาร์ทโฟนขึ้นมาเล่นโซเชียลไปเรื่อยๆระหว่างรออาจารย์เข้าสอน สำหรับเพื่อนๆพอเจอกันทุกวันคุยกันทุกวันเลยเหมือนกับว่าไม่มีอะไรจะคุย ยกเว้นมีเรื่องอะไรแปลกใหม่มาสู่กันฟังบ้าง ตัวอย่างเช่นวันนี้เพื่อนทั้งสองของกันต์ธีร์ก็ก้มหน้าเล่นสมารท์โฟนของตัวเองไป แต่แปลกที่วันนี้ทั้งสองคนเงียบผิดปกติ

“นี่ดูอะไรกันอยู่ ขอเราดูบ้างสิ”

“อ่อ ก็ไม่ได้ดูอะไร๊! โซเชียลไปเรื่อยเปื่อยนั่นล่ะแก” แล้วทำไมเพื่อนของเขาต้องตอบเสียงสูงขนาดนั้น คนโกหกมักจะขึ้นเสียงสูงส่อแววพิรุธให้เห็น มีความลับอะไรกันทำไมถึงบอกเขาไม่ได้

“แล้วมึงล่ะโอม ทำอะไร”

“กูแชทกับแฟนกูไง” นี่ยิ่งโกหกใหญ่เลย กันต์ธีร์แอบเห็นว่าเพื่อนของเขาไม่ได้เข้าแอพพลิเคชั่นสนทนาด้วยซ้ำ
แต่ถ้าเพื่อนมีความลับที่ไม่อยากบอกเขาก็ไม่อยากเซ้าซี้ “เออ” ว่าแล้วร่างสมส่วนก็หันมาสนใจสมาร์ทโฟนของตัวเองบ้าง ก่อนจะวางลงที่เดิมเพราะไม่มีอะไรน่าสนใจเลย

ทำไมวันนี้น่าเบื่อได้ขนาดนี้นะเพื่อนก็ทำตัวแปลกๆ แฟนยิ่งทำตัวแปลกเข้าไปใหญ่ปกติมีอะไรก็จะบอกเขานี่นา แต่แค่ธุระทางบ้านทำไมถึงบอกไม่ได้ กันต์ธีร์ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจจนถึงเวลาเลิกเรียน

“มึงไปไหนต่อเปล่ากาย ไปหาอะไรกินกัน” เพื่อนชวนเขาออกไปหาอะไรทานหลังเลิกเรียนแต่กันต์ธีร์กำลังงอนเพื่อนๆอยู่รวมถึงแฟนตัวเองด้วย วันนี้ทั้งวันไม่มีการส่งข้อความหรือโทรศัพท์มาหาเลยส่วนเพื่อนก็ถามคำตอบคำจะไม่ให้งอนได้อย่างไร

“ไม่อะ พวกมึงไปเหอะกูอยากกลับบ้านไปนอน” พูดด้วยน้ำเสียงสะบัดนิดๆเพื่อบอกให้รู้ว่ากำลังโกรธอยู่ ปกติกันต์ธีร์แทบจะไม่เคยโกรธเพื่อนเลยด้วยซ้ำ เคยโกรธแค่ครั้งเดียวคือตอนที่โอมแอบเอาเบอร์ของเขาไปให้ใครก็ไม่รู้โดยที่ไม่บอกก่อน คนนั้นโทรศัพท์มาตามตื๊อเขาทุกวันบอกไปแล้วว่าไม่ชอบก็ยังจะตื๊อจนเขาหัวเสียและโกรธโอมไปด้วยที่ไปให้เบอร์สุ่มสี่สุ่มห้า

แต่โกรธได้ไม่ถึงวันเจ้าตัวก็มาง้อแล้วเขาก็หาย กันต์ธีร์รักเพื่อนไม่เคยคิดที่จะโกรธเพื่อนนานๆเพราะมีอะไรก็ต้องเคลียร์กันถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็คงต้องเกิดความบาดหมางใจกันเปล่าๆ คราวนี้กลับไม่มีการง้อจากเพื่อนของตัวเอง ร่างสมส่วนจึงเดินออกไปโดยไม่ฟังคำรั้งของเพื่อน ก่อนจะขับรถกลับไปด้วยจิตใจขุ่นมัว

“กลับมาแล้วครับ ย่าล่ะครับ”

“ไปเข้าห้องน้ำน่ะ”

“ครับ เดี๋ยวกายขึ้นไปเก็บของก่อนนะ” วันนี้กันต์ธีร์รู้สึกได้ว่าตนเองอารมณ์ไม่ดีนักจึงคิดว่าจะไปออกกำลังที่ยิมให้ร่างกายเพื่อลดความตรึงเครียดลงหน่อย หลายๆครั้งที่อารมณ์ไม่ดีเขามักจะไปออกกำลังกายเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง จะได้ลืมเรื่องเครียดที่เจอมาทั้งวัน

“สวัสดีครับย่า”

“หลานแต่งตัวอย่างนี้จะไปยิมหรือ กลับมาเหนื่อยๆแทนที่จะพักผ่อนสะก่อนนะ”

“กายเบื่อๆน่ะครับ อยากหาอะไรทำ เดี๋ยวกายขอไปยิมด้านบนนะครับ”

“จ้ะๆ ตามสบายเถอะ”

“อ้อลูกชายครับ อย่าเกินสองทุ่มนะวันนี้ลุงเขตต์จะมารับไปกินมื้อเย็น” “ได้ครับ ไปแล้วนะ” ด้วยความที่กันต์ธีร์เป็นคนไม่คิดมาก เข้าใจว่าครอบครัวของมิกทำธุระเสร็จคงจะมารับพวกเขาไปทานข้าวด้วยกัน อย่างน้อยก็อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งล่ะนะ

“ลูกชายแกแปลกๆนะตาจักร”

“ก็คงงอนแฟนเขานั่นล่ะครับแม่”

เมื่อถึงยิมกันต์ธีร์เปลี่ยนใจไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำแทนเพราะถ้าได้แช่อยู่ในน้ำเย็นๆคงอารมณ์ดีขึ้น ร่างสมส่วนสวมกางเกงว่ายน้ำสีกรมท่าช่วยขับผิวที่ขาวอยู่แล้วให้ขาวขึ้นไปอีกบวกกับกล้ามเนื้อที่สวยไม่มีไขมันส่วนเกิน ผิวกายขาวเนียนไม่มีรอยขีดข่วนหรือรอยแผลเป็นให้เห็นแม้แต่น้อย ทำให้กันต์ธีร์กลายเป็นที่สนใจของคนที่มาว่ายน้ำ

กันต์ธีร์ชินกับสายตาของผู้คนที่มองเวลาที่เขามาว่ายน้ำ ซึ่งมันก็คงเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่ชอบสังเกต ร่างสมส่วนลงสระก็ว่ายท่าประจำที่ตนเองชอบ เขาชอบน้ำพอได้ลงมาว่ายน้ำทำให้สดชื่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก วันนี้คนยังไม่ค่อยเยอะทำให้ไม่ต้องคอยว่ายหลบใคร พอว่ายไปได้สักพักเขาก็หยุดพักเหนื่อยที่ขอบสระ กันต์ธีร์คิดไว้แล้วว่าวันนี้จะน้ำอย่างเดียวให้ใกล้ถึงเวลานัดเลย

“สวัสดีครับคุณ มาคนเดียวหรือครับ” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา หุ่นดี ใส่กางเกงว่ายตัวจิ๋วหมายจะโชว์เรือนร่างให้คนอื่นชม กันต์ธีร์มองออกว่าผู้ชายคนนี้เป็นเกย์และเขาก็คิดว่าชายหนุ่มรู้ว่าเขาเป็นเกย์เช่นกัน

“ใช่ครับมาคนเดียว”

“แฟนหายไปไหนล่ะครับ”

“อ๋อเขาไม่ได้มาด้วยครับ รอมารับที่นี่ตอนว่ายเสร็จ” กันต์ธีร์โกหกแต่ก็มีความจริงอยู่ครึ่งหนึ่ง เขารู้ว่าจุดประสงค์ของการเข้ามาทักทายของชายหนุ่มคนนี้คืออะไร ซึ่งเขาเองก็มีแฟนแล้วและไม่ชอบที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้แฟน เขาไม่อยากมีปัญหากับอติวิชญ์เพิ่งคบกันได้ไม่นาน การที่มีปัญหาการนอกใจหรือมือที่สามถือว่าร้ายแรงที่สุดสำหรับเขา “ขอตัวไปว่ายต่อนะครับ สวัสดี”

กันต์ธีร์สังเกตเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นยังมองมาทางเขาอย่างโจ่งแจ้งราวกับว่าจะให้คนอื่นรู้ว่ากำลังอยากจะสานสัมพันธ์กับเขา เขาไม่สนใจกับสายตาคู่นั้นอีก ว่ายไปได้สักระยะหนึ่งร่างสมส่วนก็ขึ้นจากสระเพื่อไปดูนาฬิกาว่าใกล้ถึงเวลาหรือยังปรากฏว่านาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มครึ่ง กันต์ธีร์จึงรีบไปล้างตัวที่ห้องอาบน้ำก่อนจะแต่งตัวแล้วไปเตรียมตัวทานมื้อเย็น

“ไหนว่าแฟนจะมารับไงครับ ทำไมรีบออกมาล่ะไม่รอเขาก่อนหรือ” กันต์ธีร์ไม่ได้สังเกตว่าหมอนี่ตามเขามาจากสระว่ายน้ำ ให้ตายเถอะ! คนอะไรพูดไม่รู้เรื่องเลย

“เดี๋ยวก็มาแล้วครับ คุณอยากเห็นหรือไง”

“ใช่ครับอยากเห็น” “กาย!” เสียงทุ้มเรียกชื่อเขาเสียงดัง กันต์ธีร์รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของใคร..



To Be Continue..



เอาตอนที่ 9.1 ไปอ่านกันก่อนนะ ส่วนที่เหลือ ดึกๆจะมาต่อให้ครับ

คนเขียนคิดถึงคนอ่านไม่อยากหายไปนาน อิอิ

ติชมกันได้นะคร้าบบบ..
:L1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.1] [12.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 12-03-2016 21:35:38
ดึกแล้ว มาต่อไวๆนะค้าาาาาา

**

กันต์ธีร์สังเกตเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นยังมองมาทางเขาอย่างโจ่งแจ้งราวกับว่าจะให้คนอื่นรู้ว่ากำลังอยากจะสานสัมพันธ์กับเขา ร่างสมส่วนไม่สนใจกับสายตาคู่นั้นอีก ว่ายไปได้สักระยะหนึ่งร่างสมส่วนก็ขึ้นจากสระเพื่อไปดูนาฬิกาว่าใกล้ถึงเวลาหรือยังปรากฏว่านาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มครึ่ง ร่างสมส่วนจึงรีบไปล้างตัวที่ห้องอาบน้ำก่อนจะแต่งตัวแล้วไปเตรียมตัวทานมื้อเย็น

ท่อนนี้ ใช้คำว่า "ร่างสมส่วน" ถี่มว้าก อ่านแล้วมันหงิดๆอ่ะค่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.1] [12.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-03-2016 21:59:26
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.1] [12.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 12-03-2016 22:28:46
งานจะเข้าปะเนี๊ย....555  พอมีข่าวเปิดตัวก็มีคนเข้าหาเลยโว้ย
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.1] [12.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 13-03-2016 00:08:52
ดึกแล้ว มาต่อไวๆนะค้าาาาาา

**

กันต์ธีร์สังเกตเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นยังมองมาทางเขาอย่างโจ่งแจ้งราวกับว่าจะให้คนอื่นรู้ว่ากำลังอยากจะสานสัมพันธ์กับเขา ร่างสมส่วนไม่สนใจกับสายตาคู่นั้นอีก ว่ายไปได้สักระยะหนึ่งร่างสมส่วนก็ขึ้นจากสระเพื่อไปดูนาฬิกาว่าใกล้ถึงเวลาหรือยังปรากฏว่านาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มครึ่ง ร่างสมส่วนจึงรีบไปล้างตัวที่ห้องอาบน้ำก่อนจะแต่งตัวแล้วไปเตรียมตัวทานมื้อเย็น

ท่อนนี้ ใช้คำว่า "ร่างสมส่วน" ถี่มว้าก อ่านแล้วมันหงิดๆอ่ะค่ะ  :katai1:

เพิ่งสังเกตเหมือนกัน แหะๆ แก้ไขแล้วนะครับ

ขอบคุณที่แนะนำนะครับ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 13-03-2016 00:11:56



-9.2-





“ป๋าครับ ทำไมมาช้าจังผมรอตั้งนาน” กันต์ธีร์ทำทีเข้าไปออดอ้อน คนที่มาเรียกไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพ่อของเขาเอง ขอโทษครับพ่อแต่ช่วยไปก่อนนะ

“รีบไปเถอะเดี๋ยวสาย” “ไปครับไป” กันต์ธีร์รีบลากพ่อของตัวเองออกจากที่แห่งนี้ ผู้ชายคนนั้นคงจะพักที่ตึกนี้ขออย่าให้เจออีกเลยนะ เบื่อพวกชอบตื๊อ~
“หึหึ แล้วเจอกันอีกนะครับกาย”



“เล่นอะไรของลูก ไอ้คนนั้นมันมาเกาะแกะลูกหรือ”

“นิดหน่อยครับ ช่างเถอะคงไม่เจอกันอีกแล้วล่ะ”

“รีบไปอาบน้ำเลยจะถึงเวลาแล้ว ถ้าพ่อไม่มาตามคงไม่ได้มาสินะโทร.หาก็ไม่ยอมรับสาย”

“ขอโทษคร้าบ กายปิดเสียงไว้น่ะ”
.
.

“สวัสดีครับพี่ไมล์ มารับผมหรือ” และแล้วความสงสัยก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อลงมาข้างล่างทำไมถึงเป็นพี่ชายของแฟนเขาที่มารับแล้วแฟนเขาล่ะหายไปไหน แต่ก็ยังมองโลกในแง่ดีว่าอีกฝ่ายคงจะรออยู่ที่ร้านอาหาร

“ใช่แล้วไปกันเถอะ คุณย่าคุณอาขึ้นรถเลยครับ”

เมื่อถึงร้านอาหารก็ยิ่งสร้างความสงสัยให้กันต์ธีร์เข้าไปอีก เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าแต่ขาดแค่อติวิชญ์แฟนเขาคนเดียว ชักจะมีพิรุธมากขึ้นแล้วนะ!

“สวัสดีครับทุกคน มิกล่ะครับคุณพ่อ” หลังจากที่ผู้ใหญ่ของทั้งสองรับรู้กันต์ธีร์ก็ต้องเรียกว่าพ่อแม่ของแฟนว่าคุณพ่อคุณแม่

“พ่อก็ยังไม่เห็นเลยกาย โทร.หาก็ไม่ยอมรับสาย ไม่รู้จะเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาชักจะเป็นห่วงแล้วสิ เมื่อกี้ลองเอาโทรศัพท์ของตัวเองโทร.ไปหาก็ไม่มีใครรับสาย ไปอยู่ที่ไหนของเขากันนะ

“อย่างเพิ่งเครียดเลยไม่มีอะไรหรอกค่ะลูกกาย แม่ว่าเราทานข้าวกันดีกว่านะ”

“เชื่อหนูค่ะพี่กาย ไม่มีอะไรหรอก”

“ครับๆ”

มื้อเย็นสำหรับวันนี้มาทานกันดึกมากกว่าจะทานกันเสร็จก็ปาไปสี่ทุ่มกว่าๆแล้ว จู่ๆพ่อของกันต์ธีร์ก็อยากทานของหวานทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ค่อยชอบหวานสักหน่อย ทำไมวันนี้ทุกคนแปลกๆกันหมดเลย บ้านโน้นก็ติดต่อลูกชายไม่ได้แต่ยังทำเฉยๆ ฝั่งครอบครัวเขาก็ไม่เห็นตกใจกันเลย ชักไม่ชอบมาพากลแล้ว

กันต์ธีร์รู้สึกว่าตัวเองเริ่มง่วงพอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน นี่ก็ห้าทุ่มเศษแล้วๆ อาจเป็นเพราะว่าวันนี้ทานเยอะไปหน่อยร่างสมส่วนขยับตัวเพื่อยืดเส้นยืดสายให้หายง่วง

“ทุกคนคะมิ้นท์ว่าได้เวลาแล้วนะคะ เดี๋ยวไปส่งคุณย่าคุณอาแล้วก็พี่กายอีกนะคะ ที่สำคัญมิ้นท์ง่วงแล้วค่ะ แหะๆ”

“ยัยมิ้นท์เอ๊ย กินแล้วก็นอนระวังอ้วนแล้วกัน”

“พี่ชายอย่าว่าน้องสิคะ มิ้นท์ไม่อ้วนง่ายๆหรอก” สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนโต๊ะอาหารได้เป็นอย่างดีสำหรับพี่น้องคู่นี้

“ย่าง่วงหรือยังครับ” ระหว่างทางกลับบ้านกันต์ธีร์มองนาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มห้าสิบนาทีแล้ว อีกสักพักใหญ่คงจะถึงบ้าน

“ยังหรอก ย่ายังไม่ง่วง”

“ถ้าง่วงย่านอนก่อนก็ได้ครับถึงแล้วเดี๋ยวกายปลุก”

“ไม่เอาๆ จะให้ย่ามาหลับๆตื่นๆทำไม ตอนนี้ยังไม่ง่วง”

“คร้าบๆ” กันต์ธีร์ยังคงโทรหาอติวิชญ์แต่ก็ยังไร้การตอบรับจากอีกฝ่าย จากที่เป็นห่วงเริ่มจะกลายเป็นโกรธเนื่องจากไปไหนก็ไม่บอกกล่าวทำให้เป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดอันตราย คอยดูนะถ้ากลับมาจะไม่พูดด้วยหลายๆวันดัดนิสัยไปเลยมีอะไรก็ไม่ยอมบอกกัน

“ลูกรีบขึ้นไปเปิดบ้านรอเลย เดี๋ยวพ่อพาย่าตามขึ้นไป ป่านนี้พี่ดาวคงนอนแล้วไม่ต้องไปปลุกเขาหรอก”

“ครับๆ” หลังจากที่พี่ชายคนโตของบ้านเกียรติไพศาลมาส่ง พ่อของกันต์ธีร์ก็ชวนขึ้นมาพักก่อนแต่กลายเป็นว่ารถอีกคันของบ้านเกียรติไพศาลก็ตามมาเช่นเดียวกัน พอทุกคนตามขึ้นมาเขาก็รีบเปิดบ้านต้อนรับแขกยามดึกแต่เมื่อเปิดเข้าไปภายในบ้านกลับเงียบสงัดไม่เปิดไฟสักดวง

“ดาวนี่ใช้ไม่ได้เลย รู้ว่าฉันยังไม่กลับทำไมไม่เปิดไฟเอาไว้”

“เดี๋ยวกายเปิดเองครับพ่อ” กันต์ธีร์อาสาไปเปิดไฟที่ห้องรับแขกให้ จู่ๆก็เกิดแสงสว่างที่โถงบันได ร่างสูงใหญ่ของอติวิชญ์เดินลงมาจากบันได ในมือถือเค้กก้อนใหญ่ปักเทียนเป็นตัวเลขยี่สิบเอ็ด แล้วก็มีเสียงร้องเพลงวันเกิดคลอขึ้นมาเบาทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ร่วมร้องเพลงวันเกิดให้เขา เพื่อนรักของกันต์ธีร์สองคนเดินออกมาจากห้องทานอาหารในมือมีกล่องของขวัญคนละกล่อง เขารู้ว่าทำไมวันนี้ทุกคนแปลกๆไปคงจะเตรียมงานวันเกิดให้เขานั่นเอง

“แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ทเดย์… แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูกาย~” ร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดตรงหน้าเขา กันต์ธีร์ไม่เคยรู้สึกดีใจและตื้นตันใจมากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ความขุ่นเคืองทั้งหมดที่สะสมมาตั้งกลางวันหายเป็นปลิดทิ้ง ทำแบบนี้เขายิ่งรักคนตรงหน้ามากขึ้นอีกหลายเท่า

“สุขสันต์วันเกิดครับกาย อธิษฐานก่อนค่อยเป่าเทียนนะ” กันต์ธีร์หลับตาอธิษฐาน ‘ขอให้เรากับมิกรักกันตลอด’ ไม่รู้ว่าขอมากไปหรือเปล่าแต่เขาต้องการอย่างนั้นจริงๆ

“สุขสันต์วันเกิดนะแก มีความสุขมากๆนะคะ ขอโทษที่วันนี้เมินอะ มัวแต่หาของขวัญไม่รู้จะหาที่ไหนเลยต้องเปิดเน็ตมือถือหา”

“มีความสุขมากๆนะมึง รักกับผัวนานๆนะ” “มิกยังไม่ใช่ผัวกู!” กันต์ธีร์ก้มกระซิบเบาๆให้โอมได้ยิน

“หึหึ กูว่าไม่เกินคืนนี้หรอก” “ไอ้บ้านี่!”

“สุขสันต์วันเกิดนะหลานย่า มีความสุขมากๆนะ คิดสิ่งใดก็สมปรารถนา กับมิกก็อย่าร้อนใส่กันหนักนิดเบาหน่อยชีวิตคู่มันจะดีขึ้นเอง”

“สุขสันต์วันเกิดนะลูกพ่อ พ่อดีใจที่ลูกเกิดมาเป็นลูกของพ่อ ลูกเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตพ่อเลยรู้ไหม ส่วนของขวัญอยู่ในบัญชีแล้วนะ โฮะๆ”

ทุกคนต่างเข้ามาอวยพรวันเกิดให้กันต์ธีร์ วันเกิดปีนี้ถือเป็นวันเกิดที่พิเศษที่สุดสำหรับเขาเลยก็ว่าได้ เพราะปกติจะชวนเพื่อนมาฉลองกันที่บ้านพร้อมกับย่าและพ่อของเขา แต่วันนี้แฟนของกันต์ธีร์ทำงานวันเกิดให้เขารู้สึกขอบคุณจริง ขอบคุณทุกคน

“โอ๋ๆไม่ร้องนะพี่กาย แต่เมื่อกี้มิ้นท์ว่าเหมือนคุณย่าอวยพรคู่แต่งงานเลยค่ะ ฮิฮิ”

“หนักนิดเบาหน่อยนะไอ้น้องทั้งสอง ฮ่าๆ”

หลังจากจบงานวันเกิดนาฬิกาบอกเวลาตีสองทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับ เพราะพรุ่งนี้ตื่นเช้ามาทุกคนต่างมีหน้าที่ของตัวเองกันทั้งนั้น อติวิชญ์จะนอนค้างที่บ้านเขาคืนนี้แล้วค่อยตื่นไปเรียนพร้อมกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กคงต้องให้พี่ชายคนโตไปส่งที่มหาวิทยาลัยแทน

“คิดนานหรือยังว่าจะทำให้เราแบบนี้” อาบน้ำเสร็จแล้วทั้งสองก็มานอนคุยกันบนเตียง อติวิชญ์ขยันสร้างความประทับใจให้เขาเสมอๆ แบบนี้จะไม่ให้รักก็คงไม่ได้แล้ว

“ก็คิดไว้หลานวันนั่นล่ะ เพราะต้องเตรียมกับคนอื่นๆด้วย” ตอบพลางกระชับกอดร่างสมส่วนของกันตืธีร์เข้ามาแนบอก เขารู้สึกได้ถึงไออุ่นที่ถ่ายทอดอยู่ที่แผ่นหลังและกำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา



‘คุณพ่อครับ วันเกิดของกายผมขอรบกวนคุณพ่อใช้บ้านนี้เป็นสถานที่จัดงานได้ไหมครับ’ อีกสามวันจะถึงวันเกิดของกันต์ธีร์แล้ว อติวิชญ์อยากจะทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับแฟนตัวเองอยากให้อีกฝ่ายรักและประทับใจในตัวเขา

‘ได้เลยๆ ปกติเราก็จัดกันที่นี่นะ’

‘ถ้าอย่างนั้นคืนก่อนวันเกิดกายผมขอรบกวนคุณพ่อพากายออกไปข้างนอกได้ไหมครับ ผมจะได้เตรียมสถานที่ พอดีผมเตรียมกับที่บ้านไว้แล้วด้วยครับ’

‘ไม่มีปัญหาพ่อจะพยายามถ่วงเวลาให้แล้วกัน เอาให้กลับถึงบ้านหลังเที่ยงคืนนะ’

‘ขอบคุณมากครับ’


‘มีมี่ เราจะทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กายน่ะ พอจะช่วยอะไรเราหน่อยได้ไหม’

‘ได้เลย จะให้ช่วยยังไงหรือ’

‘คือเราจะให้กายออกไปข้างนอกแล้วกลับมาหลังเที่ยงคืน ระหว่างที่กายอยู่ข้างนอกก็เตรียมงานที่บ้านกายให้เสร็จ’

‘ดีเหมือนกัน เราจะได้ให้ของขวัญคืนนั้นเลย ตอนนี้ยังไม่มีของขวัญเลย โอมก็ยังไม่มี เดี๋ยวเราไปเตรียมกับโอมให้เองนะ’

‘ขอบคุณครับ’ ‘ยินดีค่ะ’



‘พ่อครับแม่ครับ วันที่ยี่สิบสองกันยา พ่อกับแม่ชวนที่บ้านกายเขาไปทานข้าวข้างนอกได้ไหมครับ แล้วกลับดึกๆ ผมจะทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กาย’

‘บ๊ะ! ไอ้ลูกชายพ่อ โรแมนติกเหมือนกันนี่หว่า’

‘ได้ค่ะลูก แล้วบอกพ่อของกายหรือยัง’

‘บอกแล้วครับ เดี๋ยวท่านจะช่วยอีกแรง’

เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ววันที่ยี่สิบสองอติวิชญ์ก็มาเตรียมสถานที่จัดงานวันเกิดที่บ้านของกันต์ธีร์ โดยมีพี่ดาวคนรับใช้ในบ้านคอยอำนวยความสะดวกให้ เขาต้องการให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดเพราะนี่ถือเป็นของขวัญสุดพิเศษที่เขาจะมอบให้กับอีกฝ่าย

‘พี่ดาวครับ เดี๋ยวผมจะขึ้นไปชั้นสอง ยังไงพี่ดาวช่วยปิดไฟชั้นล่างให้ด้วยนะครับ’

‘ได้ค่ะน้องมิก’



“ไม่อยากเชื่อว่ามิกจะทำเองทั้งหมด”

“เพื่อกายเราทำได้อยู่แล้ว เอ้อ มีของขวัญให้ด้วยนะ” อติวิชญ์หยิบกล่องเล็กสีดำออกมาสองกล่อง ภายในบรรจุแหวนทองคำขาวลักษณะเกลี้ยงไม่มีลวดลายเหมือนกันทั้งสองวง

“อะไรนี่” “สุขสันต์วันเกิดครับแม่หมี”

“ไหนบอกจะทำงานเก็บเงินซื้อให้ไง”

“รอไม่ไหวแล้วเลยเอาเงินในบัญชีซื้อให้ก่อน” ว่าแล้วมือใหญ่ก็หยิบแหวนออกจากกล่องมาสวมให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของกันต์ธีร์ “อ่ะ ใส่ให้เราบ้างสิ” กันต์ธีร์จับมือใหญ่ขึ้นมาก่อนจะบรรจงสวมแหวนที่นิ้วเดียวกัน

“ขอบคุณนะสำหรับของขวัญ วันเกิดมิกที่ผ่านมาเราไม่ได้ให้อะไรเลย”

“ไม่เป็นอะไรหรอก ตอนนั้นเรายังไม่ได้คบกันนี่นา ให้ย้อนหลังก็ได้” ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าหล่ออย่างเสน่หา คิ้วเข้มดก ดวงตาเรียวจมูกรั้นนิดๆบวกกับริมฝีปากบางสีสด ทำให้กันต์ธีร์น่ามองเป็นไหนๆ อีกฝ่ายก็มองตอบมาด้วยสายตาหวานซึ้ง ใบหน้าคมเข้มโน้มลงไปจนปลายจมูกสัมผัสกันก่อนที่ริมฝีปากของทั้งสองจะประกบกันอย่างช้าๆ

จากการจูบที่เนิบนาบก็เร่งจังหวะเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ ริมฝีปากหนาขบเม้นริมฝีปากบางอย่างหยอกล้อ ก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปสำรวจในโพรงปากหวานลิ้นทั้งสองเกี่ยวกระวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใครต่างฝ่ายต่างดูดดุนซึ่งกันและกัน

“อือห์ พอก่อน..เหนื่อย” ก่อนเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกมาก่อน ปากสีสดเห่อแดงเมื่อผ่านสมรภูมิมาเสียงลมหายใจหอบบ่งบอกว่าเจ้าตัวหายใจตามอีกฝ่ายไม่ทัน

“ที่จริงมีของขวัญอีกหนึ่งอย่างที่ยังไม่ได้ให้กาย”

“อะไรหรือ”
“ของขวัญคือ …
กล้วยของพ่อหมีไง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างหยอกล้อ สำหรับกันต์ธีร์เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นแฟนกันถ้าเราจะแสดงความรักผ่านทางร่างกาย คงไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาอายกันแล้ว

“งั้นขอแม่หมี ..กินกล้วยพ่อหมีทั้งหวีเลยแล้วกัน” รู้สึกได้ว่าเสียงของตัวเองแหบลง เขาก็แค่อยากทำให้มันเซกซี่ขึ้นเท่านั้นเอง

“หึหึ รู้ตัวเปล่าว่าโคตรเซกซี่เลยว่ะ”

“ก็พอรู้นะ” สิ้นคำร่างใหญ่ก็โถมใส่ร่างกายของกันต์ธีร์ ริมฝีปากของทั้งประกบกันไม่ปล่อย ราวกับถ่ายทอดพลังงานให้แก่กัน ร่างทั้งสองกอดเกยกันราวกับจะหลอมรวมเป็นร่างเดียว

“อือห์” “อ่าห์” แล้วอารมณ์รักของทั้งคู่ก็ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น..
.
.
.

“นี่ถือว่าเราเป็นพ่อหมีแล้วกายเป็นแม่หมีจริงๆแล้วใช่ไหม” เสร็จสิ้นกิจกรรมเพิ่มพูนความรักทั้งสองก็นอนกอดเกยกันเตียงกว้าง ร่างกายของกันต์ธีร์เมื่อยขบทั้งที่เขาก็ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ดูเหมือนร่างใหญ่ที่อยู่ข้างๆเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน

“ก็คงต้องใช่สิ”

“ตอบแบบไม่มั่นใจถ้าอย่างนั้นขอพิสูจน์อีกรอบ” อติวิชญ์เริ่มกิจกรรมเข้าจังหวะอีกครั้ง ร่างสมส่วนของกันต์ธีร์ก็ตอบรับตามจังหวะเหล่านั้น ไฟรักก็ลุกกระพือโหมขึ้นอีกครั้งและไม่มีทีท่าว่าจะดับได้ง่ายๆ



To Be Continue…



ฉากวาบหวิวแต่งได้เท่านี้จริงๆ พิมพ์ๆลบๆหลายรอบมาก
หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ

อขบคุณคร้าบ
:L2:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-03-2016 00:21:57
ตัดจบมันเลย!
ตัวประก่งตัวประกอบไม่ต้องออกโรงแล้ววว

*** อิจฉาคู่อินเลิฟจริงเชียว


(กลายเป็นว่ากายเนื้อหอมมากขึ้นด้วยแฮะ งี้ต้องให้มิกตามประกบตลอดเลยมั้งงงง)

หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 13-03-2016 00:22:45
พ่อหมีแม่หมีเข้าหอกินกล้วยกันแล้วจ้า~~\
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 13-03-2016 00:52:51
ใสๆอย่างนี้โอเค น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก  อิจฉาแม่หมีจริงวุ้ย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 13-03-2016 01:21:59
มิกโรแมนติกอ่ะ :katai2-1:
พ่อหมีแม่ฟมีเค้ากินกล้วยกันแล้ว แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 13-03-2016 01:22:28
แม่หมีอิ่มกล้วยเลยทีนี้   :laugh:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-03-2016 01:43:39
อร๊ายย ย เสียตัววันเกิดเลยเหรอเนี่ยะะะ. อิจมากๆเลยขอบอก
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 13-03-2016 01:55:17
หวานเว่อร์คร่าาาา
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-03-2016 03:10:01
เรื่องนี้น่ารัก เพิ่งเห็นค่า ติดตาม ๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-03-2016 03:16:35
แล้วรู้ไหม เราขอเดานะว่าหลังจากคืนนี้ไปแล้ว กายจะเนื้อหอมมากขึ้นกว่าเก่า มิกเตรียมคุมดีๆ เลย
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-03-2016 06:12:43
 :katai2-1:  อือ ฉาก nc ายไปไหนนนนน   :hao7: :katai1: คืนฉากนี้ให้คนอ่านน้าาาา :heaven
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 13-03-2016 09:24:30
หลังจากนี้กายก็จะมีผู้ชายมาจีบเยอะขึ้นไหมนะ ฮ่าๆๆ อยากเห็นมิกหึง
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 9.2] [13.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 13-03-2016 10:48:47
เป็นพ่อหมีแม่หมีกันจริงๆแล้วสินะ หลังจากนี้มิกคงหวงกายน่าดู  :hao3:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 16-03-2016 15:55:55




-10-





“ไงมึง ท่าทางแปลกๆนะวันนี้” ทันทีที่นั่งลงที่โต๊ะประจำในห้องเรียน โอมก็หันมาจับผิดเขาทันที หมอนี่หูตาไวชะมัด หลังจากที่กันต์ธีร์ผ่านศึกเมื่อคืนมาก็มีอาการเมื่อยขบบ้าง แขนขาไร้เรี่ยวแรงโดยเฉพาะช่วงสะโพกใครที่โดนครั้งแรกแล้วไม่เจ็บนี่ขอคาราวะเลย

“แปลกตรงไหน กูปกติเถอะ” ถึงจะเมื่อยไปบ้างแต่เขาก็รู้สึกว่าไม่ได้แสดงที่ท่าให้คนอื่นรู้ขนาดนั้นนี่นา

“แค่จะนั่งเก้าอี้ยังต้องเล็งขนาดนั้น โคตรปกติเลยเพื่อน เจอจัดหนักมาล่ะสิเมื่อคืน”

“ก็ธรรมดานะ”

“กูว่าไม่ธรรมดามั้งเอาสะเพื่อนกูสะโพกคราก” “ก็เท่าแขนอะมึง”

“เหี้ย! จริงเปล่านี่ ถ้าอย่างนั้นมึงต้องโดนบ่อยๆนะจะได้ชิน”

“รู้มากนะมึงอะ โอ๊ะลืมไปมึงเคยผ่านมาก่อนนี่เนอะ แล้วตอนนั้นมึงเป็นยังไงบ้างล่ะชินหรือยัง” กันต์ธีร์รับฟังเอาไว้เพราะเพื่อนของเขาก็เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านนี้เหมือนกัน “สัส!”

“ฮ่าๆ”

“แล้วตกลงเท่าแขนจริงเปล่า”

“มึงจะบ้าเหรอ กูล้อเล่น”

“คุยอะไรกันคะเก้ง” เพื่อนสาวที่เพิ่งมาถึงนั่งลงทางด้านขวาของกันต์ธีร์

“มาช้าว่ะมี่ ..แล้วทำไมเรียกเก้งล่ะ”

“ออกจากบ้านสายอะวันนี้ ..ก็เพื่อนเปิดตัวหมดแล้วนี่นาเหลือฉันเป็นชะนีคนเดียวในกลุ่มนี่”

“ตลกแล้วมี่” “ขำๆน่าโอม”

“แล้วแกล่ะกายเป็นไงบ้างเมื่อคืน มีจัดหนักต่อเหรอหลังจากที่พวกฉันกลับ”

“อะไรของแกวะมี่” “ไม่ต้องมาไขสือ ตอนออกจากบ้านไม่ได้เช็คหลังหูเหรอ”

“ไหนวะๆ ..โอโห ไอ้มิกนี่มันแน่นอนจริงๆ ทำในที่ลับสะด้วย”

“จริงเปล่านี่ กูเช็คแล้วนะ” กันต์ธีร์คลำปกปิดบริเวณหลังใบหูขวาของเขา ‘มิกนะมิกบอกว่าให้ทำต่ำกว่าคอ ยังฝ่าฝืนอีก’ ได้แต่เข่นเขี้ยวแฟนหนุ่มในใจ แล้วเมื่อไหร่มันจะหายล่ะนี่

“สองสามวันก็หายแล้วมึง อีกอย่างไม่ต้องอายหรอกใครๆเขาก็รู้ว่าพวกมึงอะผัวเมียกัน”

“ผัวเมียบ้าอะไรล่ะ แฟนก็พอ”

“จ้ะๆแฟนก็แฟน” ไอ้โอมได้ทีขี่แพะไล่ตลอด อย่าให้ถึงที่เขาบ้างแล้วกัน!

“แกหล่อขึ้นอะกาย”

“ตรงไหนวะมี่”

“ก็ดูมีออร่าอะ ผุดผ่องอะเข้าใจไหม”

“แหม่ ก็คนมีผัวแล้วนี่มี่” “ไอ้โอม!”

“แกก็เลิกล้อมันสักที แต่ฉันว่าแกดูดีขึ้นจริงๆนะ สงสัยจะจริงที่เขาว่าพอโดนแล้วจะมีออร่าเปล่งประกาย ฮ่าๆๆ”

“แกก็ไม่ต่างกับไอ้โอมเลยมี่” “โอ๋ๆ แซวเล่นน่าเพื่อน” บทสนทนาเป็นอันต้องจบเท่านี้เมื่ออาจารย์ประจำวิชาเข้ามาและเริ่มทำการสนทันที ระหว่างที่กันต์ธีร์จดเลคเชอร์ตามที่อาจารย์สอน เขาก็รู้สึกการสั่นที่กระเป๋ากางเกง มือเรียวหยิบสมาร์ทโฟนออกมาหน้าจอแสดงข้อความจากแอพพลิเคชั่นสำหรับคู่รัก อติวิชญ์ส่งข้อความมาหา

‘เลิกเรียนแล้วเดี๋ยวไปกินข้าวเที่ยงด้วย พวกเพื่อนไปด้วยนะมันบอกอยากเปลี่ยนบรรยากาศ’

“เดี๋ยวมิกจะมากินข้าวกับพวกเรานะ ผัวมึงก็มานะโอม ฮ่าๆๆ” หลังเลิกเรียนทั้งสามคนกำลังเดินไปที่โรงอาหารของคณะ มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความบอกอติวิชญ์ว่าให้ไปเจอกันที่โรงอาหารถ้าถึงก่อนก็ฝากจองโต๊ะให้ด้วย

“พูดกันอยู่นั่นล่ะ ฉันไม่มีอย่างพวกแกนะ” “ไม่มีหรือไม่อยากมีกันแน่วะมี ฮ่าๆ”

“ฮัลโหลว่าไงมิก ..อ๋อโอเค นี่อยู่ข้างล่างแล้ว” กันต์ธีร์รับโทรศัพท์ของอติวิชญ์ปลายสายบอกว่าที่นั่งชั้นล่างเต็มให้ขึ้นมาชั้นสองได้เลย วันนี้ที่นั่งจะเต็มก็ไม่แปลกเพราะเวลานี้ใครๆก็ลงมาทานข้าวเที่ยงกันทั้งนั้นถึงแม้ทางมหาวิทยาลัยจะมีช่วงเวลาพักถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

“ไปข้างบนกันข้างล่างไม่ว่าง”

“คนแม่งเยอะ ทำไมใครๆชอบมากินข้าวที่นี่วะ”

“ก็มาส่องสาวไงมึง นั่งอยู่นั่นไง”

“อุ๊ย ผู้ชายล้วนฉันเป็นชะนีหนึ่งเดียวจะโดนอะไรไหมนี่”

“เว่อร์”

“มากินกันไกลเนอะ” ทันทีที่ถึงโต๊ะกันต์ธีร์ก็เปิดฉากแซวกลุ่มของอติวิชญ์ ปกติเขาจะแยกไปทานข้าวกับอติวิชญ์แต่วันนี้เพื่อนๆของร่างสูงใหญ่กลับตามมาด้วยแต่พอเห็นเพื่อนอติวิชญ์ก็เลยคิดว่าฝ่ายนั้นคงอยากมาหาโอมเพื่อนเขาบ้าง

“ไอ้มิกมันคิดถึงอยากเห็นหน้าไง”

“แล้วใครวะที่บอกว่า ‘ไหนๆมึงก็ไปหากายแล้วกูไปหาไอ้โอมด้วยดีกว่า’ หรือกูหูแว่ววะ”

“เออกูเอง กูยอมรับ”

“ฮ่าๆ แค่นั้นล่ะ”

“หยุดเถียงกันก่อนค่ะ ไปซื้อข้าวกันเถอะกายฉันหิวแล้ว” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มเอ่ยตัดบทสนทนา ขืนปล่อยให้เถียงกันคงไม่ได้ทานกันพอดีวันนี้

“อืม ไปสิ มิกจะกินอะไรจะซื้อให้เลย” กันต์ธีร์หันไปถามร่างสูง หลังจากที่คบกันก็กลายเป็นเรื่องปกติที่บางครั้งอติวิชญ์จะทานอะไรเหมือนเขา เจ้าตัวบอกว่าขี้เกียจคิดหรือบางทีเป็นเขาเองที่ขี้เกียจคิดอย่างเช่นวันนี้

“กายจะกินอะไร”

“ไข่เจียว”

“เอาเหมือนกัน เดี๋ยวไปซื้อน้ำให้น้ำเปล่ากับน้ำแข็งนะ”

“อื้อ” ทั้งคู่คงลืมไปว่าวันนี้มาทานข้าวกับเพื่อนๆถึงคุยกันอยู่แค่สองคน โดยไม่ได้สังเกตสายของเพื่อนๆที่มองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย

ระหว่างที่ทานข้าวกันต์ธีร์สังเกตคู่ของเพื่อนสนิททั้งสองคนคบกันเหมือนเพื่อนกันมากกว่าหรืออาจจะเป็นเพราะว่าคบกันมานานแล้วความสนิทสนมเลยมีมากขึ้น สำหรับตัวเขาการกระทำบางอย่างของอติวิชญ์ยังส่งผลให้เขาเขินได้อยู่เสมอ

“อ้าวน้องกาย สวัสดีครับ” เสียงทุ้มแทรกขึ้นมาระหว่างทานอาหาร กันต์ธีร์หันไปพบว่าเป็นชายหนุ่มน่าตาดี เขาคือคนที่เจอกันที่สระว่ายน้ำ ไม่คิดว่าหมอนี่จะเรียนอยู่ที่นี่ด้วย

“ไม่คิดว่าจะเจอกันอีกนะครับ บังเอิญจริงๆเลย” ยังไม่ทันได้ตอบก็ชวนคุยมาอีกหนึ่งประโยค กันต์ธีร์หันไปมองอติวิชญ์ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม เขาผิดเองที่ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับร่างสูงเพราะคิดว่าให้พ่อช่วยเป็นไม้กันหมาแล้วคงจะไม่เจอกันอีก

“พี่รู้นะครับว่าวันนั้นคือคุณพ่อของน้องกายใช่ไหม จริงๆแล้วยังไม่มีแฟน” นั่นสิเนอะ เขาก็ลืมคิดไปว่าพ่อมีหน้ามีตาในสังคมไม่น้อย คงต้องมีใครหลายๆคนที่รู้จักท่านแน่ แต่ถ้าจะรู้ขนาดนี้ก็ต้องรู้สิว่าเขามีแฟนแล้วจะมาตู่เอาเองแบบนี้ไม่ได้

“มีแล้วครับ นั่งอยู่ข้างๆกันนี่ไง” กันต์ธีร์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบพูดขนาดนี้แล้วหวังว่าคงจะเข้าใจนะ

“อ้าวหรือครับ พี่คิดว่าเป็นแค่เพื่อนกันสะอีก”

“โหพี่ ใครเขาก็รู้กัน หรือพี่จะมากวนตีน มาทำให้คนอื่นเขาเข้าใจผิดกัน” โอมออกตัวปกป้องเพื่อนของตัวเอง ขนาดเพื่อนเขาบอกว่ามีแฟนแล้วมันยังไม่หยุดอีกต่อให้ไม่รู้จักกันแต่เขาบอกว่ามีแฟนแล้วก็ควรหยุดยกเว้นมีเจตนาไม่บริสุทธิ์

“อ้าวมึง ทำไมพูดแบบนี้วะ”

“ก็สมควรถูกด่า ขนาดเจ้าตัวเขาพูดขนาดนี้ยังหน้าด้านหน้าทน” นายโก้เพื่อนของอติวิชญ์พ่วงตำแหน่งแฟนของโอมเอาไว้ด้วยพูดขึ้นมาอย่างเสียงดัง

“กูเป็นรุ่นพี่พวกมึงนะ”

“แล้วยังไงเป็นรุ่นพี่แล้วกูกระทืบไม่ได้หรือวะ”

“เดี๋ยวพวกมึงโดนแน่”

“พอได้หรือยัง หรือจะให้กูกระทืบมึงตรงนี้” อติวิชญ์พูดขึ้นมาแฝงด้วยน้ำเสียงเหี้ยมร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นประจันหน้ากับรุ่นพี่เหี้ย กันต์ธีร์เพิ่งเคยเห็นแฟนในอารมณ์นี้ปกติอติวิชญ์เป็นคนใจดีเจ้าตัวไม่เคยโกรธเขาเลยสักครั้งตั้งแต่คบกันมา

“Kเอ๊ย!” รุ่นพี่หลบตาก่อนมันจะเดินไปออกอย่างรวดเร็วแล้วสบถเสียงดัง อติวิชญ์นั่งลงกินข้าวแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กันต์ธีร์หันหน้าไปมองแฟนหนุ่มเจ้าตัวยิ้มให้แล้วก้มลงทานข้าวต่อ เพื่อนๆทุกคนเลยเงียบและรีบทานข้าวให้เสร็จ
.
.

“ไม่ไปเรียนหรือ”

“ยัง เคลียร์กันก่อน”

กันต์ธีร์กับอติวิชญ์แยกตัวออกมาหลังจากทานข้าวเสร็จ ร่างสูงใหญ่เงียบตลอดทางจนมาถึงม้าหินบริเวณสวนหย่อมใกล้กับคณะ กันต์ธีร์จึงเปิดฉากสนทนาขึ้น

“ขอโทษที่ไม่ได้บอกเพราะไมได้คิดอะไรแล้วก็เห็นว่าพ่อช่วยไปแล้ว”

“…” ไม่มีเสียงตอบรับจากก้อนหินตรงหน้า

“ยังโกรธอยู่หรือ ขอโทษนะคราวหน้าถ้ามีอะไรจะบอกให้หมดทุกเรื่องเลย” ท่าทางจะโกรธหนักเพราะเจ้าตัวได้แต่นั่งเงียบ เขาเองก็ไม่คิดว่าเรื่องเล็กแค่นี้อีกฝ่ายจะโกรธแต่ก็รู้สึกดีเพราะเหมือนกับอติวิชญ์เอาใจใส่เขาแม้จะแค่เรื่องเล็กน้อย

ตอนนี้เป็นเวลาที่ทุกคนเข้าเรียนกันหมดส่วนกลุ่มของกันต์ธีร์ไม่มีเรียนตอนบ่ายเขาเลยรอมิกที่จะกลับพร้อมกัน โอมคงรอโก้ที่ไหนสักที่ส่วนมีมี่คงจะกลับบ้านไปแล้ว ร่างโปร่งมองซ้ายมองขวาเมื่อไม่เห็นใครเลยยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มอติวิชญ์อย่างเร็วแล้วผละออก “หายโกรธเถอะนะ”

“คิดว่าแค่นี้จะหายโกรธหรือ” ร่างสูงใหญ่ขยับตัวเล็กน้อยแล้วหันมาทางเขา ก่อนที่มือหนาจะรั้งต้นคอแล้วโน้มหน้าเข้าหา ริมฝีปากบางประกบลงที่ริมฝีปากสีส้มสุขภาพดีเนิ่นนานเกือบนาทีก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะผละออก มองกันต์ธีร์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มดวงตาเป็นประกาย

“นี่หลอกกันหรือ”

“ไม่ได้หลอกตอนแรกก็เคืองที่มีอะไรแล้วไม่ยอมบอกกัน แต่หายตั้งแต่ที่กายบอกว่าแฟนนั่งอยู่ข้างๆแล้ว”

“แล้วมันต่างกันตรงไหนมิกหลอกให้เราง้ออยู่ตั้งนาน”

“หึหึ ก็ต้องหากำไรบ้างสิ”

“ไอ้ยักษ์เจ้าเล่ห์เอ๊ย”

“โกรธพ่อหมีหรือครับแม่หมี ฮ่าๆๆ” คำนี้คงเป็นคำต้องห้ามสำหรับกันต์ธีร์ไปอีกนานถึงอติวิชญ์จะชอบใช้คำนี้เรียกเขาอยู่บ่อยครั้งแต่มันก็อดเขินไม่ได้สักที ถ้าโดนเรียกบ่อยๆอาจจะชินก็ได้ล่ะมั้ง

“พอๆแยกๆ ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวรออยู่ใต้คณะ”

“ไม่ทันแล้ว เลิกสามโมงนี่สองโมงกว่าละ ไปเดินเที่ยวกันดีกว่า” ร่างสูงโทร.หาเพื่อนแล้วบอกว่าจะไม่เข้าไปเรียนแล้ว กันต์ธีร์จับใจความได้ว่าวันนี้ไม่มีอะไรมากนักเพราะอาจารย์ของอติวิชญ์หมดเวลาการสอนไปกับการเล่าเรื่องอื่นสะส่วนใหญ่

“มีคนมาตามจีบแบบนี้เราต้องตามไปเฝ้าเปล่านี่”

“เว่อร์ ไม่ขนาดนั้นหรอกคงไม่มีแล้วล่ะ”

ทั้งคู่เดินทางมาถึงร้านขนมชื่อดังบรรยากาศร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ความอร่อยของขนมนั้นเป็นที่เลื่องชื่อเลยทีเดียว ถ้ามาช้ากว่านี้คงต้องต่อคิวกันอีกยาวแน่ๆ ระหว่างรอขนมก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาอติวิชญ์มือหนาหยิบมารับสาย จับใจความได้ว่าเป็นเพื่อนที่ชื่อเจมส์โทร.มา

“เออๆ กูขอถามกายก่อน เดี๋ยวส่งข้อความไปบอกนะ”

“หืม มีอะไรทำไมพูดถึงเรา”

“มีพี่ที่รู้จักไอ้เจมส์อะเขาทำหนังสือ แล้วอยากได้เราไปสัมภาษณ์ลงคอมลัมน์คู่รัก กายว่ายังไงสัมภาษณ์เปล่า”

“ก็ได้นะ แล้วต้องทำยังไงบ้าง”

“ก็มีถ่ายแบบด้วยนิดหน่อย กับสัมภาษณ์นั่นล่ะ”

“แล้วมิกอยากทำไหมล่ะ”

“ถ้ากายโอเคเราก็โอเค”

“เป็นหนังสือสำหรับผู้ชายใช่ไหม เพราะถ้าเป็นหนังสือทั่วไปเขาคงอยากสัมภาษณ์คู่รักชายหญิงมากกว่าล่ะมั้ง”

“อืม กินเถอะขนมมาแล้ว เดี๋ยวค่อยบอกไอ้เจมส์” กันต์ธีร์แค่คิดว่าหากลงบทสัมภาษณ์คนอื่นจะได้เลิกยุ่งกับเขาเสียที ให้รู้กันไปเลยว่าเขามีคนที่รักอยู่แล้วผลพลอยได้ก็คือคนที่หวังจะเข้าหาอติวิชญ์จะได้ไปพ้นๆให้หมด
ส่วนเรื่องที่จะมีคนรู้จักมากขึ้นนั้นเขาไม่ได้หวังอยู่แล้ว เพราะกันต์ธีร์คิดแค่ว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นเพียงคนธรรมดาที่มีโอกาสได้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักให้คนอื่นๆได้อ่าน เพราะความรักเกิดขึ้นกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน รสนิยมทางเพศเป็นแบบไหนต่างก็สามารถมีความรักได้ทั้งนั้น เขาเพียงแค่อยากนำเสนอแง่มุมความรักของผู้ชายกับผู้ชายด้วยกัน

“เราบอกไอ้เจมส์แล้วนะ พี่เขานัดวันเสาร์นี้ที่สำนักพิมพ์แล้วก็ถ่ายรูปที่นั่นเลย”

“โอเคได้” รับคำแล้วก็ทานขนมต่ออย่างเอร็ดอร่อย ร่างสูงลุกขึ้นแล้วบอกว่าจะไปตักน้ำเพิ่มให้ซึ่งเขานั่งหันหลังให้กับที่ตักน้ำดื่ม กันต์ธีร์พยักหน้าให้ก่อนจะทานขนม

ร่างโปรงรู้สึกถึงการสั่นของสมาร์ทโฟนก่อนจะหยิบขึ้นมาดูโปรแกรมรูปภาพซึ่งอัพเดตล่าสุกเป็นรูปผู้ชายหันข้างกำลังตักขนมทานมองยังไงก็คือตัวเขาแต่นั่นไม่น่าตกใจเท่ากับคำบรรยายใต้ภาพ ‘กินคนเดียวไม่แบ่งเลยนะแม่หมี’ กันต์ธีร์เงยหน้าขึ้นเห็นอติวิชญ์กำลังยิ้มให้เขาอยู่

“ไปถ่ายตอนลุกไปเอาน้ำใช่ไหม”

“เป็นไงรูปโอเคไหม”

“ก็โอเค แต่ดูแคปชั่นสิ”

“แสดงความเป็นเจ้าของไง คนอื่นจะได้เลิกมายุ่งแม่หมีของเราสะที”

“ยอมๆ เอาสะไปต่อไม่ถูกเลยนะพ่อหมี ฮ่าๆๆ”

“จั๊กกะจี้ดีเนอะพ่อหมีแม่หมี ฮ่าๆ”

“ใครพาเรียกล่ะ”

“อิ่มยังหรือจะสั่งเพิ่ม”

“พอแล้วๆ ไปคิดเงินเลยอยากกลับแล้ว” ถ้าขืนสั่งมาอีกเขาได้เป็นหมีจริงๆแน่  คงต้องออกกำลังกายกันอย่างหนักล่ะคราวนี้

“วันนี้ไปนอนด้วยนะ”

“อื้อ”



To Be Continue…
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 16-03-2016 16:07:33
พ่อหมี แม่หมี  :o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 16-03-2016 16:31:25
มะไหร่แม่หมีจะมีลูกอ่ะคะ?  :hao7:

“อ้าวพี่น้องกาย สวัสดีครับ” << น่าจะเหลือแค่ น้องกาย ป่ะคะ??
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 16-03-2016 17:31:16
 มีงอนง้อกันด้วยน่ารักกกก พ่อหมีแม่หมี:mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 16-03-2016 18:41:59
อิจ ระดับ 10
#พ่อหมีแม่หมี
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-03-2016 19:59:39
อุ๊ยยย หึงโหดดด
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-03-2016 20:04:04
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 16-03-2016 20:31:14
น่ารักนะ..เข้ากั๊นเข้ากัน
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-03-2016 21:12:58
วันนี้ไปนอนด้วยนะ
ง่ายๆอย่างนั้นเลยนะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 16-03-2016 21:59:34
มะไหร่แม่หมีจะมีลูกอ่ะคะ?  :hao7:

“อ้าวพี่น้องกาย สวัสดีครับ” << น่าจะเหลือแค่ น้องกาย ป่ะคะ??

ขอบคุณคร้าบ..แก้แล้ว
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 16-03-2016 22:00:44
วันนี้ไปนอนด้วยนะ
ง่ายๆอย่างนั้นเลยนะ

เป็นแฟนกันแล้วอะไรก็ง่ายหมดแหละ  :impress2:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 16-03-2016 22:04:19
วันนี้ไปนอนด้วยนะ
ง่ายๆอย่างนั้นเลยนะ

เป็นแฟนกันแล้วอะไรก็ง่ายหมดแหละ  :impress2:

 :fire: นึกว่ามาต่ออีกตอน แง้ๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 10] [16.03.2016] [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-03-2016 22:10:11
น่ารักจังคู่นี้  :L1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 17-03-2016 00:40:15




-11-





วันนี้ตรงกับวันนัดสัมภาษณ์อติวิชญ์มารับเขาที่บ้านก่อนจะเดินไปยังสำนักพิมพ์เพื่อสัมภาษณ์ตามที่ตกลงกันไว้เมื่อมาถึงก็เจอกับบุคคลที่นัดไว้ เธอเป็นหญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงผมสั้นประบ่า แต่งตัวตามสมัยนิยม กันต์ธีร์อดแปลกใจไม่ได้ว่านึกยังไงถึงมาทำงานกับนิตยาสารผู้ชาย

“พี่พิมพ์สวัสดีครับ/สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ เดี๋ยวตามพี่มาเลยนะเราจะสัมภาษณ์ไปก่อนแล้วค่อยไปถ่ายรูปกัน” การสัมภาษณ์พิมพ์จะถามคำถามแล้วให้ทั้งคู่ตอบโดยจะมีเครื่องบันทึกเสียงเอาไว้ด้วยเพื่อสะดวกต่อการนำบทสัมภาษณ์ไปใช้ บทสัมภาษณ์ก็ไม่มีอะไรมากส่วนใหญ่ก็จะถามว่าเจอกันได้ยังไง คบกันมานานหรือยังแล้วก็ถามถึงเคล็ดลับการดูแลชีวิตคู่ให้คบกันยืนยาว

“เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่จะพาไปที่สตูฯนะ วันนี้อาจจะเสียเวลาหน่อยเพราะมีนายแบบมาถ่ายปกด้วย” พอมาถึงสตูดิโอถ่ายแบบก็พบกับทีมงานที่ช่วยกันทำงานอย่างขะมักเขม้น หญิงสาวบอกว่ากำลังถ่ายปกนิตยสารเล่มเดียวกับพวกเขา

นายแบบหนุ่มที่กำลังโด่งดังอยู่ ณ ขณะนี้กำลังยืนโพสท์ท่าอย่างชำนาญ และอย่างที่รู้กันว่านิตยสารสำหรับผู้ชาย นายแบบที่ขึ้นปกมักจะเปลือยอกเพื่ออวดรูปร่างที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนักเพื่อให้รูปร่างที่สวยงาม นายแบบคนนี้เองก็เช่นกันเขามีรูปร่างที่สวยงามมัดกล้ามเยงตัวกันสวยงามจนคนที่ออกกำลังกายอย่างกันต์ธีร์จะอดชื่นชมไม่ได้ว่านายแบบคนนี้มีวินัยในการออกกำลังกายมาก

“โอเคครับพักก่อน แล้วค่อยมาถ่ายกันต่อครึ่งหลังนะ” เสียงตากล้องบอกให้หยุดพักก่อนที่จะไปดูรูปที่ถ่ายได้จากจอคอมพิวเตอร์ ส่วนนายแบบคนนั้นคงจะภูมิใจในร่างกายตนเองไม่น้อยถึงไม่ยอมหาอะไรมาปกปิดแม้ว่าจะหยุดการถ่ายไปแล้ว

“พี่หนึ่ง หนูพาน้องเขามาถ่ายแล้วที่สัมภาษณ์ลงหนังสือเรา”

“โอเค ให้เขาไปแต่งหน้าทำผมเลยเสื้อผ้าก็เอาชุดที่ใส่มานั่นล่ะดูดีแล้ว” พูดจบก็หันกลับไปดูภาพต่อ ส่วนนายแบบคนนั้นก็เดินเปลือยอกมาทางที่กันต์ธีร์และอติวิชญ์ยืนอยู่

“สวัสดีครับต้นนะครับ” คงจะเป็นลักษณะนิสัยของคนที่ทำงานในวงการบันเทิงที่มักจะมีอัธยาศัยดี ท่าทางขี้เล่นและเป็นกันเองทำให้เขาลดความอึดอัดลงบ้าง

“ครับ ผมกายครับ”

“แล้วอีกคนล่ะครับ”

“มิก”

“ได้ยินมาว่าจะมีคู่รักคนดังมาถ่ายต่อจากผม ไม่คิดว่าจะเป็นพวกคุณนะครับ เห็นว่ามีคนสนใจเยอะอยู่เหมือนกัน ผมก็ติดตามอยู่”

“ขอบคุณครับ พวกผมก็คนธรรมดานี่ล่ะ ไม่ดังหรอกครับ”

“แต่พวกคุณก็หุ่นดีนะนี่ เผลอๆดีกว่าผมอีก”

“ไม่หรอกครับ ไม่ได้ออกกำลังกายประจำน่ะ” แล้วมีก็มีคนมาเรียกให้พวกเขาไปแต่งหน้าส่วนนายแบบนั่นก็ไปถ่ายต่อให้เสร็จ พอถึงคิวของทั้งสองตากล้องก็แนะนำให้ทำท่าที่สบายๆเพราะนี่ไม่ใช่การถ่ายแฟชั่น ระหว่างนั้นนายแบบหนุ่มก็มาป้วนเปี้ยนอยู่ที่กันต์ธีร์ชมว่าหุ่นดีบ้างล่ะ ผิวสวยบ้างล่ะ ทำให้อติวิชญ์ที่อยู่ข้างๆเริ่มเกิดอาการหงุดหงิดขึ้น ส่วนกันต์ธีร์ก็ได้แต่ภาวนาให้เสร็จเร็วๆจะได้ออกจากสตูดิโอนี่สักที

“เสร็จแล้วครับ เอ่อ มิก กายพี่ขอให้ช่วยอีกอย่างได้ไหม”

“ช่วยอะไรหรือครับ”

“คือในเล่มนี่จะมีถ่ายแฟชั่นฤดูร้อนด้วยแล้วถ้าจะให้นายต้นถ่ายคนเดียวพี่ว่ามันดูไม่สนุกเท่าไหร่”

“เอ่อจะดีหรือครับพี่” กันต์ธีร์รู้สึกถึงลางร้ายกำลังมาเยือนเขา อติวิชญ์คงจะไม่เต็มใจแน่ๆ

“คงไม่สะดวกครับพี่” และก็เป็นอย่างที่เขาอติวิชญ์ปฏิเสธแน่นอน

“ถือว่าพี่ขอแล้วกัน วันพุธนี้เล่มต้องเสร็จแล้ว ถ่ายพรุ่งนี้ไปเช้าเย็นกลับไม่นานหรอก เดี๋ยวเพิ่มค่าตอบแทนให้อีก”

“ก็ได้ครับขอแค่ครั้งเดียวนะครับพี่” นิสัยอย่างหนึ่งของแฟนเขาคือเป็นคนขี้สงสาร ถ้ามีใครกำลังเดือดร้อนอติวิชญ์พร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ

“ขอบคุณมากมาพรุ่งนี้เจอกันที่นี่ ไปรถตู้กัน”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพวกผมขับรถไปเอง”

“เอาแบบนั้นก็ได้ เจอกันพรุ่งนี้ที่หาดนะ”

“อย่าโกรธแล้วกันนะพรุ่งนี้อะ” ระหว่างกลับบ้านกันต์ธีร์ก็เตือนอติวิชญ์ให้อารมณ์เย็นถ้าหากเจอเหตุการณ์ที่ไม่ชอบใจพรุ่งนี้ เขาจะพยายามไม่สนใจนายต้นเพื่อไม่ให้อติวิชญ์อารมณ์ขุ่นมัว

“ยังไม่รู้”
.
.

บรรยากาศการถ่ายแบบไม่มีอะไรมากนักแค่ทำเหมือนเพื่อนมาเที่ยวด้วยกันที่ชายหาด ตากล้องบอกให้ใส่ความสนุกเยอะๆ แม้แดดจะร้อนแค่ไหนก็ต้องสนุก ด้วยความเป็นมืออาชีพของนายแบบที่ชื่อต้นการถ่ายแบบจะผ่านไปได้ด้วยดี .. ถ้าไม่ติดว่าอติวิชญ์ทำหน้าบูดตลอดเวลา กันต์ธีร์รู้สาเหตุเพราะนายแบบนี่ชอบลากเขาไปกอดคอกันสองคนจะออกห่างแค่ไหนก็โดนลากไปอยู่ดี

“มิก ทำหน้าให้สดชื่นหน่อย ตอนนี้เรากำลังสนุกท้าแดดกันอยู่” “ครับ” รับคำไปแล้วร่างสูงใหญ่เพียงแค่เลิกทำตาขวางแต่กันต์ธีร์ไม่ได้รู้สึกถึงความสดชื่นตรงไหน ถ้าเป็นแบบนี้คงเสร็จช้าแน่ๆไม่ได้การแล้วเขาต้องทำอะไรสักอย่าง

“พี่หนึ่งครับผมขอพักสักครู่ได้ไหม มันร้อนน่ะครับ”

“โอเค พักสิบนาทีนะ” ร่างโปร่งรีบพาอติวิชญ์ไปพักในร่มให้ใจเย็นลง เขารู้ว่าอีกฝ่ายหึงแต่นี่มันเป็นงาน อีกอย่างถ่ายด้วยกันก็น่าจะรู้ว่ามันไม่มีอะไรให้หึงเลย ..นอกจากนายนั่น

“ถ้าอย่างนั้นต่อไปเราจะอยู่กลางเอง จะล็อกคอมันเอาไว้เลย”

“เอาอย่างนั้นก็ได้”

“พร้อมถ่ายต่อกันหรือยังคะ” ทีมงานสาวเดินเข้ามาถามเนื่องจากพวกเขาพักกันเกินสิบนาทีแล้ว ร่างสูงใหญ่หันไปพยักหน้าให้ทีมงานก่อนจะเดินออกไปที่ลานถ่ายแบบ

“คุณจะอยู่ตรงนี้หรือ” “ใช่” เสียงทุ้มแทบจะตอบทันทีเมื่อนายต้นถามจบ กันต์ธีร์ได้แต่ส่ายหน้าอย่างขำๆ อะไรจะขนาดนั้นปกติก็มีเหตุผลนี่นา ทำไมเดี๋ยวหลุดง่ายนักก็ไม่รู้



การถ่ายแบบเป็นไปได้อย่างราบรื่นถึงอติวิชญ์จะไม่ยิ้มกว้างหรือหัวเราะอย่างสนุกสนานแต่ก็ไม่มีหน้าบูดให้เห็น พอไม่มีนายแบบมือปลาหมึกมากวนเขาก็ถ่ายได้สบายใจขึ้น .. เอ๊ะแต่เดี๋ยวก่อน จู่ๆกันต์ธีร์ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ทำไมนายต้นถึงมองแฟนเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้มขนาดนั้น แล้วท่าทางที่โพสท์นั้นกำลังจะทำให้เขากลายเป็นส่วนเกิน หมอนั่นทำเหมือนกับว่ามาเที่ยวแบบคู่รักอย่างนั้นล่ะ

‘หรือว่าที่จริงแล้ว.. หนอยไอ้ต้น!’ กันต์ธีร์ได้แต่เข่นเขี้ยวในใจก่อน ก่อนจะตัดสินใจคว้าคอร่างสูงใหญ่มาแล้วชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ ไหนๆก็ไหนๆแล้วทำให้เหมือนเป็นคู่รักมาเที่ยวเลยแล้วกัน อติวิชญ์หันมามองเขาแบบงงๆก่อนจะยิ้มให้

“ดีมากเลยมิก เอายิ้มแบบเมื่อกี้” หึหึ ยิ้มให้เข้าได้แค่คนเดียว ลองหันไปยิ้มให้ไอ้บ้านั่นสิมีเรื่องแน่

“กอดคอสองข้างเลย เหลือถ่ายอีกนิดหน่อยพี่อยากได้แบบเพื่อนสนิทมากๆเลย” ร่างสูงใหญ่ก็ทำตามที่ตากล้องสั่ง และการถ่ายแบบครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นแต่ภายในใจของกันต์ธีร์ขุ่นมัวยิ่งนัก เขารู้สึกอยากระบายใส่ใครสักคนโดยเฉพาะไอนายแบบนั่น น่าระรื่นเชียวนะ!

“ทางเราจะมอบชุดคอลเล็กชันนี้ให้กับนายแบบเป็นของขวัญไปด้วยเลยนะคะ” ทีมงานนำชุดที่ใส่ถ่ายแบบวันนี้มามอบให้พวกเขา ชุดที่ได้มามีคนละสองชุดคือชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้น อีกชุดคือชุดที่ใส่อยู่ซึ่งเป็นกางเกงว่ายน้ำแบบกางเกงขาสั้น

“ขอบคุณมากครับ”

“อยู่เที่ยวต่อก่อนไหม แต่ขอไปเปลี่ยนชุดก่อน จะไปพร้อมกันเลยเปล่า” อติวิชญ์หันมาชวนอยู่เที่ยวต่อ ไหนๆก็ได้มาทะเลแล้วเที่ยวสักหน่อยกลับเย็นหน่อยก็ได้ เพราะใช้เวลาเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงแค่สองชั่วโมงครึ่งเท่านั้นและก็เพิ่งบ่ายโมง

“ก็ได้ มิกไปเปลี่ยนก่อนเถอะ ขอเก็บของก่อนแล้วกัน” พอพ้นร่างสูงใหญ่กันต์ธีร์ก็หันไปมองหาว่านายแบบนั่นอยู่ที่ไหน ก่อนจะเห็นว่ายืนคุยกับทีมงานที่ริมหาด พอสบายใจแล้วก็หันมาเก็บของต่อ

.

.

ผ่านไปสิบนาทีก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของร่างสูง แค่ไปเปลี่ยนชุดทำไมถึงใช้เวลานานนัก ..สัญชาตญาณบอกให้กันต์ธีร์มองหาอีกคนแล้วก็พบว่าไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ร่างโปร่งรีบเก็บของใส่กระเป๋าแล้วถือออกไปทั้งที่ยังใส่เพียงกางเกงว่ายน้ำ ตอนนี้เขารู้สึกกระวนกระวายใจจนไม่สนอะไรแล้วทั้งนั้น บริเวณห้องน้ำเงียบสงัดที่นี่แบ่งแค่ห้องน้ำชายหนึ่งห้อง หญิงหนึ่งห้องและตอนนี้ห้องน้ำชายก็มีคนใช้อยู่.. และบทสนทนาก็ทำให้ใจของเขาเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมา ความร้อนพุ่งขึ้นสู่ใบหน้ากันต์ธีร์รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังโกรธและเสียใจมาก

‘ผมชอบคุณนะ และผมก็รู้ด้วยว่าคุณชอบผมไม่อย่างนั้นพอหลังจากที่เราได้ยืนข้างกันคุณไม่อารมณ์ดีขึ้นขนาดนั้นหรอก’

‘ที่ผมทำเป็นชอบกายเพราะแค่อยากแกล้งเล่นเท่านั้น คุณคือแบบที่ผมชอบ ยิ่งตอนที่คุณกอดคอผมผมรู้แค่ว่าอยากอยู่ในอ้อมกอดของคุณตลอดไป’

‘ความรักแบบเรามันฉาบฉวยแบ่งๆกันใช้มันไม่มีอะไรเสียหายมีแต่ได้กับได้ ผมรู้ว่าที่ผ่านมาคุณก็มีคนเข้าหาเยอะ อีกหน่อยคุณก็คงจะเบื่อแล้วก็ทิ้งกายใช่ไหม’

เขาไม่ได้ยินของแฟนเขายินเพียงเสียงของอีกคนแต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน เขาไม่คิดว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้วันที่อติวิชญ์นอกใจเขา เขารู้สึกเสียใจที่หลงเชื่อไปกับคำพูดสวยหรูของอีกฝ่าย อาจจะจริงอย่างที่หมอนี่พูดก็ได้ว่าอีกหน่อยก็คงเบื่อและทิ้งเขา

‘ผมจะขย่มจนทำให้คุณลืมกายไปเลย แล้วคุณจะอยากกลับมาหาผมอีก’

.

.


‘งั้นก็ลองทำดูสิ’

เหมือนแผ่นดินกำลังจะแยกออกจากกันแล้วเขากำลังจะตกลงไปโดยไม่สามารถยึดเกาะอะไรเอาไว้ได้เลย เสียงของอติวิชญ์เขาจำได้ดี ทำไมถึงพูดออกมาแบบนั้นแสดงว่าถ้าใครมาเสนอให้ก็สนองหมดเลยสินะ กันต์ธีร์ไม่เคยคิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะเป็นแบบนี้ในความรู้สึกโกรธ เสียใจยังมีความรู้สึกผิดหวัง ผิดหวังตัวเองที่ยอมให้อติวิชญ์หลอกจนเขาเชื่อสนิทใจ

หลายคนอาจจะเคาะประตูหรือพังเข้าไปถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้แต่สำหรับกันต์ธีร์เขาอยากรู้ว่าทั้งคู่จะทำอะไรต่อจากนี้แล้วถ้าหากออกมาเจอเขายืนอยู่หน้าประตูอติวิชญ์จะมีข้อแก้ตัวอย่างไร อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะกล้ามองหน้าเขาหรือไม่ จะรู้สึกผิดหรือไม่ที่ทำกับเขาแบบนี้

‘พลั่ก’ เสียงเหมือนร่างกายกระแทกกับประตู หึ! คงจะถึงใจมากเลยสินะถึงได้รุนแรงกันถึงเพียงนี้ เวลาผ่านไปได้ไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดออก ร่างสูงใหญ่เดินออกมาความโกรธแทบจะทำให้เขาพุ่งไปทำร้ายร่างกายตรงหน้าแต่เขาก็ยังยั้งช่างใจไม่อยากจะใช้ความรุ่นแรง อย่างไรก็ตามก็ตามกันต์ธีร์ก็อยากจะรู้เหตุผลก่อนว่าทำไมอติวิชญ์ถึงกับแบบนี้






“เห้ย! กายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“หึ! ทำไมเสร็จเร็วล่ะ เราจับเวลาดูแค่สองนาทีเอง”

“เสร็จอะไร”

“เราได้ยินหมดแล้วที่คุยกันในห้องน้ำ ไปต่อกันให้จบเถอะเสร็จเมื่อไหร่ค่อยมาคุยกัน เดี๋ยวเราไปรอที่อื่นจะได้ทำกันสะดวกๆ” กันต์ธีร์เดินหนีออกมา จากตอนแรกที่ตั้งใจจะถามหาเหตุผลแต่พอร่างสูงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นความโกรธมันก็ประทุขึ้น เขาคงต้องไปหาที่สงบจิตใจสะก่อน เขาไม่สนหรอกว่าอีกฝ่ายจะตามมาไหม

.
.

“กายหยุดก่อนมาคุยกันก่อน มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ กายกำลังเข้าใจผิด” อติวิชญ์วิ่งตามมาง้อ เขารู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังเข้าใจเขาผิดและเขาอยากจะอธิบายให้เข้าใจ

“เข้าใจผิดว่ายังไง เราได้ยินมาเต็มสองหู” เขารู้ว่ากันต์ธีร์โกรธเป็นใครเขาก็โกรธถ้ามาได้ยินอะไรแบบนี้ ร่างสูงพยายามเข้าใกล้แต่ร่างโปร่งก็เดินหนีตลอด ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่กันต์ธีร์คงจะไม่ให้อภัยเขาแน่ๆ มือใหญ่คว้าที่ต้นแขนของอีกฝ่ายก่อนจะลากมาทางห้องน้ำที่เกิดเรื่อง

“ลากมาทำไม จะให้เรามาดูหนังสดหรือไง”

“ใช่” กันต์ธีร์กำลังมีอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัดก่อนสะบัดแขนให้หลุดจากการจับกุมแล้วเดินหนี แต่ก็ถูกลากมาอีกจนได้

“ก่อนจะโกรธเข้าไปดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น” เมื่อเดินเข้าไปเห็นนายแบบหนุ่มกำลังยืนห้ามเลือดจากปากที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล เมื่อหันมาเห็นพวกเขาก็ทำท่าขยาดแล้วจะเดินหนีออกมา แต่ร่างใหญ่ก็ขวางเอาไว้ไม่ให้ออก “ฟื้นแล้วหรือ คิดว่าจะสลบนานกว่านี้”

“มิกทำอะไรเขา”

“ก็หลังจากที่เราพูดประโยคนั้นออกมา มันก็จะเข้ามาหาเราเลยโดนต่อยปากไปหนึ่งที ตอนแรกเห็นเลือดแล้วก็เป็นลมไป ไม่คิดว่าจะฟื้นเร็วขนาดนี้”

“แล้วทำไมต้องทำร้ายร่างกายกันด้วยล่ะ” เสียงทุ้มนุ่มเริ่มอ่อนลง คงพอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องน้ำ

“ที่ต่อยก็เพราะมันพูดดูถูกความรักของเรา มันดูถูกกายเราโกรธเลยพลั้งต่อยมันไป” ท่าทีของกันต์ธีร์ดูใจเย็นขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆหมอนั่นแต่ก็ทิ้งระยะห่างพอสมควร

“ขอโทษที่เขาต่อยคุณนะครับ ฟันคงจะโยกหรือหักแน่เลย” อติวิชญ์หลุดขำออกมาเขารู้ว่ากันต์ธีร์พูดด้วยความหวังดีแต่พอฟังดูแล้วเหมือนว่าพูดจากถากถางอีกฝ่ายมากกว่า

“แต่เรื่องที่คุณทำวันนี้ผมไม่ยกโทษให้หรอกนะ และผมก็จะจำเอาไว้ว่าคนอย่างคุณน่ะมีนิสัยอย่างไร หวังว่าคงจะไม่ได้มาเจอกันอีกนะ ไปเถอะมิก” ร่างโปร่งเดินนำเขาออกไปโดยให้เขาถือกระเป๋าตามไปด้วย ชายหนุ่มรีบวิ่งตามแฟนของเขาไปที่ชายหาด

“จะเล่นน้ำหรือ”

“อือ อยากแช่ให้อารมณ์เย็นลงน่ะ”

“ยังไม่หายโกรธอีกหรือครับ”

“หายแล้วแต่โกรธหมอนั่นมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับมิกของเรา” เขาไม่รู้ว่ากันต์ธีร์พูดออกมาด้วยความเผลอหรือไม่ แต่ก็อดดีใจไม่ได้ว่าอีกฝ่ายหึงเขา ถ้าไม่รักกันก็คงไม่หึงไม่หวงกันหรอก

“พ่อหมีก็เป็นของแม่หมีคนเดียวนั่นล่ะ”

“อย่ามาตู่ใครพ่อหมีใครแม่หมี”

“ก็คนแถวนี้น่ะสิ จะเป็นใครล่ะ”

“พอแล้ว กลับดีกว่าอยากไปนอนวันนี้ออกตั้งแต่เช้ายังต้องมาเจอคนบ้าอีก ปวดหัว” ร่างสมส่วนขึ้นจากทะเลก่อนจะเดินทางที่รถจอดอยู่ แต่แล้วก็รีบเดินกลับมาที่เขาและลากไปที่ห้องน้ำแทบไม่ทัน “ไปไหนน่ะ ไม่เปลี่ยนชุดก่อนหรือ”

ถึงจะโกรธยังไงกันต์ธีร์ก็ยังมีมุมน่ารักให้เขาเห็นเสมอ ไม่สิ กันต์ธีร์ทำอะไรสำหรับเขาก็ดูน่ารักไปสะหมดและที่สำคัญเวลามีอะไรเจ้าตัวมักจะใช้เหตุผลและไม่เคยโกรธเขาข้ามวันเลยสักครั้งถึงแม้เราจะมีเรื่องให้ทะเลาะกันน้อยก็เถอะ ดีกับเขาขนาดนี้จะให้เขามีคนอื่นได้อย่างไรแค่นี้ก็ไปไหนไม่รอดแล้ว

.
.

“กลับไปนอนบ้านไป” ทันทีที่ถึงบ้านกันต์ธีร์ก็รีบลงจากรถแล้วไล่เขากลับบ้าน ระหว่างที่กลับบ้านอติวิชญ์ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เพราะนั่งเงียบมาตลอดทางพอชวนคุยก็หันมาตอบปกติแล้วก็เงียบอีก ทำเหมือนกับว่าจะโกรธเขาแต่ก็ไม่ได้โกรธ

“ของเราอยู่ในกระเป๋ากายนะ จะกลับยังไงนอนนี่ล่ะ”

“ของแค่นิดหน่อยเอง เดี๋ยวแยกแล้วจะใส่กระเป่าคืนให้”

“ไม่เอาวันนี้จะนอนนี่”

“ตามใจ พูดเหมือนวันอื่นไม่ได้นอนนี่อย่างนั้นล่ะ”

“ก็อยากนอนกับแฟนนี่”

“ถ้าพ่อกับแม่บ่นอย่ามาว่าเราแล้วกัน”

“เขาจะบ่นทำไม ชอบสะอีกที่เรามาอยู่กับกาย ท่านแค่อยากให้กายไปบ้านบ้าง”

“ไปพรุ่งนี้เลยดีไหมอยู่ทั้งอาทิตย์เลย”

“ดีมากเลยครับ ฮ่าๆๆ” ร่างโปร่งเดินนำเขาเข้าไปในตึก อติวิชญ์สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบอีกแล้วคิดอะไรอยู่กันนะรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีเลย

“คิดอะไรอยู่ เห็นเงียบมาตั้งแต่บนรถแล้ว” หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ก็เตรียมตัวนอนแต่กันต์ธีร์ก็ยังคงทำหน้าครุ่นคิด มีอะไรให้คิดหนักหนาแต่รอบนี้มีการสะบัดหัวด้วยเหมือนไล่อะไรออกไปสักอย่าง

“สงสัยว่าเมื่อตอนบ่ายที่มิกบอกว่าไม่โดนแตะต้องเลยมันเป็นไปไม่ได้”

“กะ..ก็ไม่ได้แตะจริงๆ”

“สารภาพมา”

“ก็ได้ๆ มันจับของเราแล้วก็ซุกไซ้ซอกคอเราด้วย ได้ยินเสียงประตูไหมล่ะ นั่นล่ะมันผลักเราแล้วก็เข้ามาซุกไซ้”

“ไม่ต้องละเอียดขนาดนี้ก็ได้มั้ง อยากให้โกรธหรือไง”

“เปล่านะ ก็บอกให้สารภาพนี่”

“หึ มันมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับมิกแล้วยังมีหน้ามาพูดอีกนะว่าจะขย่มให้ลืมเราไปเลย คิดหรือว่าเราจะยอมให้ทำแบบนั้น” ร่างสูงใหญ่รู้สึกถึงลางร้ายกำลังจะมาเยือนเขาในไม่ช้านี้

“ถอดเสื้อออก” เสียงทุ้มสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ถอดทำไมจะนอนแล้ว”

“บอกให้ถอดก็ถอดสิ” เมื่อเขาถอดเสร็จร่างโปร่งก็เคลื่อนตัวมาคร่อมทับร่างกายเขาไว้ ก่อนที่ริมฝีปากสีส้มจะฉกลงมาที่ซอกคอของเขา ทำไมจู่ๆกันต์ธีร์ถึงเปลี่ยนไปปกติจะมีเขาที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนแต่มาวันนี้อีกฝ่ายเริ่มก่อนมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้น “ใจเย็นๆ นี่เป็นอะไรนี่”

“ไม่บอก” ขยับตัวขึ้นพร้อมกับถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เห็นร่างกายเซ็กซี่ในแบบผู้ชาย ผิวขาวเนียนเมื่อถูกแสงไฟยิ่งขาวขึ้นไปอีก ก่อนที่จะพูดประโยคเด็ดออกมาจนทำให้เขาแทบหยุดหายใจ

“อยากจะรู้นักว่าถ้าหากเราขย่มมิกอยู่ ยังจะกล้าไปให้คนอื่นขย่มอีกไหม” ตั้งแต่คบกันมาเขาเพิ่งเคยเห็นกันต์ธีร์ในอารมณ์นี้หรือเพราะแรงหึงถึงทำให้คนเราเปลี่ยนไป แต่ถ้าหึงแรงๆแล้วจะเป็นแบบนี้อติวิชญ์อยากจะทำให้อีกฝ่ายหึงวันละหลายๆรอบ เพราะคนที่ได้กับได้มีแต่เขาเท่านั้น

“นี่รู้ตัวไหมนี่ว่าทำอะไรอยู่”

“รู้สิ แสดงความเป็นเจ้าของไง” ให้ตายเถอะ สุดยอดเป็นบ้าไม่อยากจะเชื่อว่าแฟนของเขาจะเซ็กซี่ได้ขนาดนี้

“หึหึ”

.
.

“เมื่อคืนเซ็กซี่มากเลยรู้ตัวเปล่า” เหตุการณ์เมื่อคืนยังตรึงตาตรึงใจเขา กว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบเช้า โชคดีที่วันนี้มีเรียนสายเลยได้พักผ่อนกันเยอะหน่อย ไม่อย่างนั้นกันต์ธีร์คงอารมณ์บูดเป็นแน่

“รู้ ฮ่าๆๆ” อติวิชญ์ชอบนิสัยร่าเริงและมองโลกในแง่บวกของกันต์ธีร์ ที่เจ้าตัวมักจะทำให้มันเป็นเรื่องตลกได้อยู่เสมอ เขารู้ว่าอีกฝ่ายยังคงเขินอายแต่ของแบบนี้เขินอายไปก็ไม่มีประโยชน์สู้แสดงออกให้ว่ารักกันมากขนาดไหนดีกว่า

“ขอแบบนี้อีกนะ นะครับ”

“พอๆขับรถไป จอดข้างหน้าด้วยจะซื้อแซนวิช”

“ได้ครับแม่หมี”



To Be Continue…



มาต่อให้แล้วตอนที่ 11

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและมาคอมเม้นท์นะครับ
ขอโทษที่ไม่ได้ตอบทุกข้อความนะครับ ..แต่อ่านหมดนะ


ขอให้สนุกกับการอ่านนะคร้าบ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 17-03-2016 00:46:51
หึงค่อนข้างแรงเลยนะเนี่ย แต่พอกลับจากหาดมาก็น่ารักกกก :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 17-03-2016 00:59:34
พ่อหมี แม่หมี
เราเองยังจั๊ก กะ จี้ เลย :haun5:

ว่าพ่อหมีหึงโหดแล้วนะ แม่หมีก็ใช่ย่อย หึงทีนี่ขย่- จนเหนื่อย  :laugh3:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 17-03-2016 02:12:30
แหมมมมมม พ่อหมีแม่หมี น่ารักทั้งคู่เลยค่ะ
ว่าแต่ถ้ามีลูกหมีก็ดีนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 17-03-2016 03:44:13
ครอบครัวหมีๆนี่น่ารักมากกกก :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-03-2016 03:51:58
คำเรียกชื่อนี่น่ารักมุ้งมิ้งจัง ^^
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-03-2016 07:40:04
เห็นกายหึงละรู้สึกดี 555555

จะมีกขค.เข้ามาอีกไหมนะ? (เดาว่ามีแหง)


เอาตอนต่อไปอีกๆๆๆๆ อยากอ่านต่อเรื่อยๆเลย ><
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-03-2016 08:02:13
กายหึงแรงสุดๆ  มิกอึ้งเลยดิ  5555

แค่คงชอบแหงๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-03-2016 10:16:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 17-03-2016 10:57:43
อุ้ย แซ่บลืม...... :hao6:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-03-2016 15:15:05
 :katai2-1: ชอบ กายแสดงความเป็นเจ้าของ   :laugh: แต่ให้คนอ่านรู้ขั้นตอนด้วย น่าจะทำให้คนอ่านมีความสุขด้วยนะ   :hao5:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 17-03-2016 16:25:24
กายร้อนแรงน่าดู  คึคึ

 :z1:    :z1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 17-03-2016 19:17:00
น้องกาย...หนูเริ่ดมาก
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-03-2016 19:30:50
แสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้ มิกก็กำไรเห็นๆ เลย
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-03-2016 19:39:33
อร๊ายย กายขย่มเองซะเลย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 17-03-2016 21:15:48
โอ๊ยยยยย!! เขินแทน กายขย่มเองซะด้วย งื้ออออ!!
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-03-2016 21:16:09
แม่หมีนี่หึงแรงเนอะ 555555555
ร้อนแรงขนาดนี้มิกคงไปไหนไม่รอด :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Wtftt ที่ 17-03-2016 23:43:08
กรี๊ดดดดดดดดดด กายมิกนี่เด็ดเผ็ดมันจริงๆ ฮือ น่ารักจัง รอต่ออีกนะคะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 18-03-2016 07:02:14
:katai2-1: ชอบ กายแสดงความเป็นเจ้าของ   :laugh: แต่ให้คนอ่านรู้ขั้นตอนด้วย น่าจะทำให้คนอ่านมีความสุขด้วยนะ   :hao5:

คนเขียนไม่เก่งด้านนี้จริงๆครับ

แล้วก็ไม่อยากเน้นฉาก nc เท่าไหร่ แหะๆ :o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-03-2016 07:26:10
โอมมมม


จงมาต่อๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: ้Sin.7 ที่ 18-03-2016 19:55:32
เอือกกกกก!!!! นอนจมกองเลือดตายอย่างสงบ  :jul1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 18-03-2016 20:47:46
นี่ขนาดไม่ได้ลงรายละเอียดเรายังเขินขนาดเน้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนที่ 11] [17.03.2016] [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 23-03-2016 08:13:54
มีใครเห็นมิกกายบ้าง แอบไปสวีทที่ไหนฟร้า :call:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6]
เริ่มหัวข้อโดย: neverFall ที่ 25-03-2016 22:33:36





-12-





บรรยากาศที่ร้อนอบอ้าวเต็มไปด้วยผู้คนที่มาแสดงความยินดีกับเหล่าบัณฑิตที่จะเข้าพิธีรับมอบใบปริญญาบัตร วันนี้ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของกันต์ธีร์เพราะเขาสำเร็จการศึกษาตามที่ตั้งใจไว้ ส่วนคณะของอติวิชญ์นั้นเรียนหลักสูตรห้าปีซึ่งจะเข้ารับมอบในปีถัดไป ครอบครัวของเขากับครอบครัวของอติวิชญ์มาร่วมแสดงความยินดีด้วยขาดก็แต่พ่อและพี่ชายคนโตของอติวิชญ์ที่ต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัด หลังที่จากที่พี่ชายคนโตของครอบครัวเรียนจบก็มาช่วยธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว

ถึงแม้วันนี้บรรยากาศจะร้อนอบอ้าวแต่การที่ได้เห็นรอยยิ้มดีใจของคนที่รักก็ทำให้เขาอดภูมิใจไม่ได้ที่เขาไม่ทำให้พ่อกับย่าผิดหวังรวมถึงอติวิชญ์แฟนของเขาด้วย กันต์ธีร์เดินไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆหรือคนรู้จักที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างมากมาย

“ร้อนไหม”

“ร้อนสิ ถามแปลกๆ ปีหน้ามิกก็จะเป็นแบบนี้ล่ะ”

“ฮ่าๆ ครับๆ” ระหว่างที่ถ่ายรูปอยู่ก็มีเสียงประกาศให้บัณฑิตทุกคนไปรวมตัวกันหน้าหอประชุมเพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีรับมอบใบปริญญาบัตร

“เขาเรียกแล้ว เดี๋ยวเราไปเตรียมตัวแล้วนะ”

“ก่อนไปขออะไรอย่างได้ไหม”

“ขออะไร”

“จบแล้วเราย้ายไปอยู่ด้วยกันนะ”

“เดี๋ยวจะออกมาตอบนะ แต่จริงๆก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วนี่ ..ผมเข้าไปก่อนนะครับทุกคน” ตอบคำถามอติวิชญ์ก่อนจะหันไปบอกทุกคน กันต์ธีร์โบกมือให้ร่างสูงใหญ่ก่อนจะเดินแยกไปที่ลานหน้าหอประชุมเพื่อเตรียมตัว อติวิชญ์มองร่างโปร่งเดินไปจนสุดสายตา

อาจจะถึงเวลาแล้วที่ทั้งสองจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตคู่อย่างสมบูรณ์แบบ…



.
.
.
.
.



“เหม่ออะไรอยู่ วันนี้เจ้าแฝดเปิดเทอมวันแรก เดี๋ยวก็สายหรอก” เสียงทุ้มปลุกให้กันต์ธีร์ตื่นจากภวังค์ หันไปมองคนรักที่แต่งตัวด้วยชุดสูทสุภาพยืนยิ้มให้อยู่ จะว่าไปเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบสิบปีแล้วหลังจากที่ตกลงย้ายไปอยู่กับอติวิชญ์ ทั้งสองคนก็กลายเป็นคุณพ่อวัยสามสิบเอ็ดปีที่มีลูกชายที่น่ารักสามคน เหตุการณ์ที่ทำให้ได้เลี้ยงลูกชายทั้งสามนั้นเกิดจากวันเกิดครบยี่สิบเจ็ดปีของกันต์ธีร์ทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น กันต์ธีร์ฝันเห็นคนนำเด็กผู้ชายสามคนมาห่อใส่ผ้าแล้วนำมาวางทิ้งไว้ที่โคนต้นไม้ใหญ่ ในความฝันนั้นเขาเดินเข้าไปอุ้มห่อผ้าขึ้นมาหวังจะนำไปคืนคนนั้นแต่ก็ต้องตื่นขึ้นมาก่อน ซึ่งความฝันนั้นฝันทุกวันจนกระทั่งกลับมาถึงประเทศไทย กันต์ธีร์จึงชวนอติวิชญ์ไปบริจาคของช่วยเหลือเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า

เหมือนโชคชะตาลิขิตเอาไว้ บ้านเด็กกำพร้าที่ไปบริจาคของนั้น เขาได้พบกับเด็กผู้ชายวัยสามขวบนั่งเล่นกับน้องน้อยแฝดทารกอยู่ในบ้านของเล่นหลังเล็กๆ กันต์ธีร์เห็นดังนั้นจึงเข้าไปเล่นด้วยแล้วเกิดอาการคุ้นเคยและถูกชะตาอย่างประหลาด เมื่อไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่พบว่าเด็กทั้งสามถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านได้ประมาณหกเดือนที่แล้ว พร้อมกับหลักฐานการเกิดและขวดนมที่บรรจุนมแม่ไว้เต็มขวดสองขวด คาดว่าจะเป็นของเด็กทารก เขาอดแปลกใจไม่ได้ว่าคนที่นำลูกมาทิ้งยังดูรักและดูแลลูกดีขนาดนี้ ทำไมถึงนำมาทิ้งไว้ที่สถานที่แห่งนี้

กันต์ธีร์แทบจะรอไม่ไหวที่จะรับเด็กๆเป็นบุตรบุญธรรม เขาอดสงสารไม่ได้ที่เด็กตัวแค่นี้จะต้องใช้ชีวิตที่นี่จนเติบใหญ่ เพราะสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นก็มีแต่เด็กโตไม่เหลือเด็กเล็กหรือวัยเดียวกันเลย ใบสูติบัตรของเด็กมีเพียงชื่อและมารดาผู้ให้กำเนิด ทางเจ้าหน้าที่เคยลองพยายามติดต่อไปยังมารดาแต่ก็ไม่มีทางที่จะติดต่อได้เลย กันต์ธีร์และอติวิชญ์จึงทำเรื่องขอรับเลี้ยงทั้งสามคนเป็นบุตร ใช้เวลาร่วมเดือนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ส่วนเรื่องการให้นมทารกนั้นตอนแรกกันต์ธีร์ก็กลัวจะเป็นปัญหาเพราะว่าเด็กไม่ได้กินนมแม่แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าหลังจากที่หมดนมแม่ก็ชงนมผงให้กินตลอดซึ่งเด็กก็ไม่มีปัญหาอะไร

หลังจากที่รับเลี้ยงเด็กๆแล้วทั้งคู่จึงพาเด็กๆไปตรวจสุขภาพอีกครั้งเพื่อดูว่าร่างกายจะมีโรคภัยหรือภาวะต่างหรือเปล่า แต่ผลออกมาเป็นว่าเด็กๆปกติดีทุกอย่างและมีพัฒนาการสมวัย สร้างความสบายใจให้กับทั้งคู่ได้เป็นอย่างมาก

“นี่เสร็จแล้ว ลงไปกันเลย” ระหว่างที่แต่งตัวร่างโปร่งก็คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา อดีตสอนให้เขาเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ถึงแม้ความรักจะไม่มีอุปสรรคหนักหนาสาหัสแต่ความไว้ใจและเชื่อใจกันถือเป็นหัวใจสำคัญในการครองชีวิตคู่ไม่ให้มีปัญหาบาดหมางกัน อีกทั้งยังมีเจ้าตัวน้อยสามคนที่เขาต้องดูแลให้ความรักความอบอุ่นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตให้กับลูกทั้งสาม

“ไปกินข้าวกันก่อนเดี๋ยวค่อยไปส่งลูกพร้อมกัน” เสียงทุ้มเอ่ยตามมาหลังจากที่ออกจากห้องนอนเพื่อไปยังห้องทานอาหารที่ลูกหมีทั้งสามรวมถึงพ่อและย่าของกันต์ธีร์รออยู่ก่อนแล้ว

“หมีมาช้าจังฮะ ผมจะไปเรียนนะฮะ” เด็กชายปัณณวิชญ์หรือปั้น ลูกชายคนโตของกันต์ธีร์และอติวิชญ์ อายุเจ็ดขวบวันนี้เป็นวันที่เจ้าตัวจะเข้าเรียนชั้นประถมหนึ่งเป็นวันแรกเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ กันต์ธีร์อดยิ้มไม่ได้เมื่อรู้สึกว่าลูกชายอายุเท่านี้แต่ลักษณะการพูดจาเหมือนเด็กโตแล้ว

“ช่ายฮับ หนูหิวแต่อยากรอหมีก่อน/หนูก็เหมือกัน” การออดอ้อนแบบนี้เป็นใครไม่ได้นอกจากเจ้าลูกหมีแฝดของเขา คนพี่ชื่อเด็กชายปุณณัตถ์หรือญี่ปุ่น ส่วนคนน้องชื่อเด็กชายปาณัสม์หรือเจแปน เห็นออดอ้อนแบบนี้แต่ความซนไม่มีใครเกินเหมือนจับปูใส่กระด้งเลยล่ะ สองแฝดก็จะเข้าเรียนชั้นอนุบาลหนึ่งโรงเรียนเดียวกับพี่ชาย

กันต์ธีร์หันไปยิ้มขำให้กับอติวิชญ์ เขาไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นอย่างไรกับการไปโรงเรียนวันแรกของแฝดเพราะตอนไปส่งลูกชายคนโตร้องไห้จะกลับบ้านท่าเดียว จนต้องเสนอข้อแรกเปลี่ยนว่าถ้าเลิกเรียนแล้วจะพาไปทานไอศกรีมถึงหยุดร้อง ดีหน่อยที่ครูประจำชั้นรายงานว่าแค่มาเรียนวันแรกก็เข้ากับเพื่อนๆได้ดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ

“โอเคครับ หมีก็มาแล้วนี่ไง รีบกินเลยจะได้ไปโรงเรียน”

“คุณตาฮะ ผมจำได้ว่าคุณตาชอบกินไข่ ผมให้คุณตากินสองฟองเลยฮะ”
“ฮ่าๆ ตัวแค่นี้รู้จักเอาใจตาแล้วหรือ โตขึ้นคงมัวแต่เอาใจสาวๆจนลืมตาล่ะมั้ง” ลูกชายคนโตมีความจำเป็นเลิศและชอบที่จะอ้อนคุณตาของตัวเองเสมอ นายจักรอดยิ้มไม่ได้ รู้สึกเอ็นดูหลานชายทุกคนที่รู้จักอ้อนผู้ใหญ่ มีหลานที่น่ารักแบบนี้ไม่รักก็คงแปลกไปแล้ว

“ไม่ลืมตาหรอก ผมรักคุณตามากๆ รักคุณทวดด้วย รักป๋ากับหมีด้วยฮะ” ปากหวานตั้งแต่เด็กแบบนี้โตขึ้นคงจะกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมน่าดู

“คุณทวดฮับหนูให้กุ้งนะ/เอาของหนูด้วยๆ” ส่วนเจ้าแฝดก็ชอบอ้อนผู้ใหญ่ไม่ต่างจากพี่ชาย ถ้าเห็นพี่ทำเจ้าตัวก็จะทำตาม กันต์ธีร์ได้แต่อมยิ้มไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของลูกชายทั้งสามคน

“พอแล้วๆ ทวดกินไม่ไหวแล้ว” ย่าของกันต์ธีร์แม้วัยจะเข้าใกล้เลขเจ็ดแล้วแต่ก็ยังมีร่างกายที่แข็งแรง เดินเหินยังสะดวกอยู่และด้วยความที่ย่ามีลูกเร็วและพ่อของเขาก็มีลูกเร็วจึงทำให้ยังดูไม่แก่มาก ท่านเคยพูดแบบติดตลกว่า ‘มีลูกเร็วก็ดีอยู่อย่างคือได้เห็นลูกมีหลานมีเหลนและได้อยู่ดูเขาเติบใหญ่’ ซึ่งก็จริงสำหรับกันต์ธีร์แต่ถ้าหากมีลูกในเวลาที่ยังไม่พร้อมก็ลำบากอยู่เหมือนกัน

“รีบกินนะเด็กๆ เดี๋ยวสายป๋าไม่ไปส่งนะ” บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความสุข ภาพครอบครัวที่อบอุ่นกำลังนั่งทานอาหารและพูดคุยกัน ถ้าหากใครมาเห็นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามและมีความสุขไปกับภาพเหล่านี้

“ป๋าฮะ วันนี้ไปส่งน้องก่อนนะ ผมอยากไปส่งน้องด้วย”

“ได้เลยครับลูกชาย” เสียงทุ้มตอบรับลูกชายตัวน้อย กันต์ธีร์มองภาพนั้นก็ยังนึกประหลาดใจไม่หายเมื่อลูกชายคนโตโตขึ้นกลับมีใบหน้าที่คล้ายกับอติวิชญ์บางส่วนอาจจะด้วยสีผิวที่ไม่ขาวเท่าน้องๆ อีกทั้งลักษณะนิสัยที่ถอดแบบกันมาของอติวิชญ์และลูกชายคนโต ทำให้เจ้าตัวยิ่งเหมือนอติวิชญ์เข้าไปใหญ่ ส่วนแฝดได้ผิวที่ขาวมากแบบเขา และนิสัยที่ต่างจากพี่ชายอย่างสิ้นเชิงกันต์ธีร์ได้แต่หวังว่าลูกหมีแฝดจะหายซนบ้างเมื่อโตขึ้น

“หนูอิ่มแล้ว ไปกันเลยฮับ” แฝดพี่วางช้อนทานข้าวต้ม ก่อนจะปีนลงจากเก้าอี้แล้วเดินไปไหว้คุณทวดและคุณตาของตัวเอง

“สวัสดีฮับคุณทวด คุณตา” แฝดน้องก็ไม่น้อยหน้าปีนลงจากเก้าอี้ทานข้าวแล้วเดินไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองเช่นเดียวกัน ก่อนจะวิ่งไปใส่รองเท้าที่เตรียมไว้อยู่หน้าบ้าน

“พี่ปั้นอิ่มยังครับลูก เอาแซนวิชไปกินบนรถอีกไหม” กันต์ธีร์หันไปถามลูกชายคนโต ที่ข้าวต้มในถ้วยพร่องไปไม่มากถ้าเทียบกับเจ้าแฝดรายนั้นไม่ชอบทานข้าว ..ทานแต่ขนม! เขากลัวลูกชายไม่อิ่มเพราะปกติเจ้าตัวทานข้าวหมดตลอด

“อิ่มแล้วฮะ แต่ว่าขอแซนวิชด้วยก็ได้” เสียงเล็กๆตอบอ้อมแอ้มเป็นอันสรุปว่ายังไม่อิ่ม เขาส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเดินเข้าไปในครัวรีบทำแซนวิชอย่างง่ายให้ลูกชาย เป็นไส้ทูน่าที่เจ้าตัวโปรดปรานที่สุด

.
.

การไปส่งลูกชายไปโรงเรียนถือไม่ว่าไม่มีปัญหาเพราะเจ้าแฝดไม่ร้องไห้สักแอะ เมื่อไปเจอเพื่อนๆวัยเดียวกันก็วิ่งเข้าใส่ทันที ลูกหมีแฝดเข้ากับเพื่อนๆได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัยและไม่มีอาการงอแงให้เห็น ส่วนลูกชายคนโตก็อย่างที่รู้กันว่าอยากไปเรียนมากขนาดไหน

“ดีที่เจ้าแฝดไม่งอแง ไม่อย่างนั้นกายไม่ได้เข้าออฟฟิศแน่ๆ” ตั้งแต่เรียนจบกันต์ธีร์ก็เข้ามาสานต่อกิจการของบิดาร่วมกับทายาทของหุ้นส่วนคนอื่นๆ อติวิชญ์ไม่ได้สืบทอดกิจการของครอบครัวเพราะอยากทำธุรกิจของตัวเองเลยให้พี่ชายคนโตสืบทอดต่อไป ส่วนตัวเองก็มาทำบริษัทออกแบบและตกแต่งภายในรวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกันต์ธีร์อีกด้วย

“ไม่ต่างกันหรอกมั้ง เหมือนลูกจะปล่อยให้มิกไปทำงานอย่างนั้นล่ะ”

“ฮ่าๆ ก็จริงเนอะ”

“ไปส่งด้วยแล้วกัน ขี้เกียจขับรถเอง”

“ได้ครับแม่หมี จะแวะหาอะไรกินอีกไหม”

“ไม่เอาแล้ว แล้ววันนี้ไม่มาออฟฟิศเราหรือ”

“มะรืนนี้ก็ต้องเข้ามาประชุมเรื่องโครงการใหม่อยู่แล้ว อีกอย่างให้เราไปดูบริษัทเราบ้างสิครับคุณ ขืนเจ๊งขึ้นมาจะทำอย่างไร”

“ก็มาทำที่บริษัทเราไง”

“อันนั้นมันคืองานนอก เขาเรียกว่าจ๊อบพิเศษ ต้องหาเงินหลายๆทางสิเดี๋ยวไม่พอเลี้ยงลูกเมีย”

“เว่อร์”

“หึหึ” แม้เวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วที่ทั้งคู่คบกันมา แต่อติวิชญ์ก็ยังไม่เลิกหยอดเขาเหมือนตอนที่คบกันใหม่ๆ กันต์ธีร์ยังรู้สึกขัดเขินทุกครั้งที่เจ้าตัวพูดจาทำนองนี้ใส่ ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งรู้สึกขวยเขินเข้าไปใหญ่

“วันนี้แฝดเลิกบ่ายสาม พี่ปั้นเลิกสี่โมง มารับเราตั้งแต่บ่ายสามแล้วกัน”

“แล้วข้าวเที่ยงล่ะ ไปกินด้วยกันเปล่า”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกินแถวนี้ล่ะ เจอกันตอนเย็นเลย”

“ได้ครับ เจอกันตอนเย็นนะ”

“อือ ขับรถดีดีแล้วกัน” กิจวัตรประจำวันของทั้งคู่คือต่างคนต่างทำงาน  ปกติจะขับรถไปกันคนละคันเพราะทำงานกันคนละที่จะได้ไม่ต้องไปรับไปส่งกันไปมา จะมีเพียงบางครั้งที่อติวิชญ์ต้องไปส่งกันต์ธีร์อย่างเช่นวันนี้ บางวันเจอกันตอนพักกลางวันเพื่อทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ตอนเย็นเจอกันที่บ้านทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว

ถึงแม้จะต่างคนต่างทำงานแต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยละเลยซึ่งกันและกันต่างก็เติมความรักให้แก่กันในแบบที่คู่รักพึงกระทำ อีกทั้งยังมีลูกๆให้คอยดูแลเป็นเหมือนโซ่คล้องใจให้ทั้งความรักแน่นแฟ้นเข้าไปอีก กันต์ธีร์อยากดูแลลูกชายทั้งสามให้เติบโตเป็นคนดีมีชีวิตที่ดีและได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อยากเห็นความสำเร็จในชีวิตของลูกๆและเขาเชื่อว่าอติวิชญ์เองก็คิดไม่ต่างกัน

ความรักของเขาและอติวิชญ์ใครๆต่างก็เรียกว่าเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ แต่ในความสมบูรณ์แบบนั้นก็ยังมีความไม่สมบูรณ์แบบอยู่ด้วย อุปสรรคต่างๆที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตทำให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้ว่าทุกอย่างบนโลกไม่ได้มีอะไรที่สมบูรณ์แบบไปสะหมด ดังเช่นชีวิตของทุกคนที่ไม่ได้ดำเนินไปด้วยกลีบกุหลาบแต่จะมีขวากหนามหรืออุปสรรคมาขว้างกันเป็นเหมือนบททดสอบให้เราได้แก้ปัญหา และทุกปัญหามีทางแก้เสมอขอแค่มีสติและรอบคอบ ทุกปัญหาจะคลี่คลายได้เสมอ

ความรักก็เช่นกันเดียวกันในหนทางของชีวิตคู่ก็มักจะมีอุปสรรคขวากหนามให้คนรักก้าวข้ามผ่านมันไป การไว้เนื้อเชื่อใจกันเป็นส่วนช่วยในการประคองชีวิตคู่ไม่ให้เกิดความบาดหมางกัน เหนือสิ่งอื่นใดการให้เกียรติซึ่งกันและกันก็จะช่วยให้ชีวิตคู่ราบรื่นและไม่มีอุปสรรคใดมาขัดขวางได้…



THE END…



มาแล้ว ขอโทษที่หายไปนานนะครับ

ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ขอน้อมรับความผิดไว้ตรงนี้เลย

ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วเนื้อเรื่องที่แต่งเอาไว้จบเพียงเท่านี้ ต่อไปจะเป็นส่วนของตอนพิเศษ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้มาจนจบนะครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-03-2016 22:38:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 25-03-2016 22:48:27
 :a5:


 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-03-2016 23:00:16
 :3123: :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-03-2016 23:47:55
จบซะแล้ว ขอตอนพิเศษต่อได้ไหมคะ ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ 555555 ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-03-2016 00:05:41
katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: thanksssssssss
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 26-03-2016 00:15:17
จบแล้วอ่ะ มีลูกด้วยยย ลูกๆน่ารักมากกก หวานกันจริงๆพ่อหมีแม่หมีเนี่ย  :mew1:

รอตอนพิเศษน้าาา
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Wtftt ที่ 26-03-2016 00:24:23
งื้ออออออออ มีลูกด้วยอะ น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 26-03-2016 01:40:28
แฮปปี้เอนดิ้ง แฮปปี้แฟมิลี่มากๆค่ะ พ่อหมี แม่หมี และลูกหมี ไม่ใช่หนึ่ง แต่มีถึงสาม! น่ารักจริงๆค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ รอติดตามตอนพิเศษค่า
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 26-03-2016 01:45:49
น่ารักจังเลยยยยยย ลูกๆก็น่ารัก นึกถึงแฝดสาม แทฮัน มินกุก มันเซ ขึ้นมาทันที
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 26-03-2016 03:05:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 26-03-2016 06:36:29
ลูกหมีน่ารักอ่ะะะ พ่อหมีกับแม่หมีก็หวานกันไม่เปลี่ยน งื้ออ
รอตอนพิเศษนะค้าา  :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-03-2016 07:24:42
รออ่านตอนพิเศษจ้า
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-03-2016 12:52:03
จบแล้วอ่ะ มีลูกสามคนด้วย ครอบครัวสุขสันต์ ^^
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-03-2016 13:32:37
 :mew1: รอตอนพิเศษ น้าาา :katai2-1:
ชอบบบบ สามพี่น้อง   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-03-2016 19:16:40
 :a5: จบซะแล้วอ่ะ
รอตอนพิเศษนะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 28-03-2016 19:19:26
แฮปปี้เอ็นดิ้ง ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมว
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 28-03-2016 20:12:47
ขอบคุณค่ะ^^
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 28-03-2016 22:57:12
อยากให้มีรวมเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ปุกปิกกุกกิกไปตามสไต ที่ 29-03-2016 09:17:50
เปนนิยายวายที่น่ารักมั่กๆมากเลย
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 29-03-2016 23:59:21
น่ารักมากเลยยยยยยยย

 :impress2:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 15-04-2016 00:22:18
น่าร๊ากกกกกกมากกกกกกกกกกกกกกก
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pupuzaa ที่ 15-04-2016 02:49:29
ชอบครอบครัวหมีหมีที่สุดเลยยยย
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 15-04-2016 10:20:17
พ่อหมี แม่หมี น่าร๊าคคคคคค
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 16-04-2016 01:56:54
 :mew1:
คู่นี้น่าร๊ากกกก. ชอบอ่ะ ดูมีเหตุผลไม่ง้องแง้งมาก
อยากอ่านเวอร์ชันที่ลูกๆโตแล้วจังเลย
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 16-04-2016 08:56:24
สนุกมากค่ะ อยากให้แต่งต่อยาวๆ ชอบนะ แต่อยากให้ดูมีเหตุการณ์อะไรมากกว่านี้อีกนิดด  o13
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 17-04-2016 05:32:16
ละมุน :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-04-2016 02:21:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 25-04-2016 07:10:31
ขอบคุณนะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 28-04-2016 00:56:52
อ่านรวดเดียวจบเลยค่า น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 28-04-2016 14:15:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
 :3123: :3123: :3123:
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Rosnest ที่ 28-04-2016 21:28:43
ฟิน   :hao6: มีลูกด้วยน่าร๊าก  :hao3:

ถ้ามีผลงานต่อๆไปจะติดตามไปน้า  :laugh:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่า o13   :bye2:



หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-04-2016 20:57:10
น่ารักมากค่ะ ชอบสุดตอนกายหึงเนี่ยล่ะ หึๆๆๆ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 02-05-2016 14:21:52
เรื่องนี้ น่ารักมาก ออกแนวใสๆเนอะ ซึ่งปกติ เราไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้เท่าไหร่ :hao6:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 04-05-2016 19:14:37
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 18-05-2016 14:09:32
เป็นเรื่องที่มีความแฮปปี้เอนดิ้งมาก

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 28-08-2016 14:02:57
หวานละมุนมากกกก เค้ามีลูกด้วยกันด้วยยยย :ling1: ฟินค่าาา
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 31-08-2016 18:07:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Perfect ♂ ❤ ♂ Couple [ตอนจบ] [25.03.2016] [P.6] // จบแล้วย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 24-10-2016 23:51:09
เป็นเรื่องที่น่ารักมาก
ทั้งพ่อหมีแม่หมีและก็ลูกหมีน่ารักทุกคนเลย
ชอบที่สุดคงจะเป็นบรรดาคุณพ่อคุณแม่
น่ารักที่สุดเลย
รออ่านตอนพิเศษอยู่นะคะ